Delete test_asr.csv
Browse files- test_asr.csv +0 -35
test_asr.csv
DELETED
@@ -1,35 +0,0 @@
|
|
1 |
-
name_file,origin
|
2 |
-
audio_070.mp3,ดูคำตอบครับ ฎีกา ๓๔๙/๒๕๖๑ วินิจฉัยว่า “ผู้อุทธรณ์จะต้องยื่นคําร้องภายในกําหนดเวลายื่นอุทธรณ์ จะต้องยื่นคําร้องขออนุญาตให้รับรองว่าให้อุทธรณ์ภายในกำหนดเวลาที่จะยื่นอุทธรณ์นะครับ
|
3 |
-
audio_071.mp3,ต่อไปคำถามที่ ๒๖ โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพร้อมเพื่อสอบคําให้การจําเลย ไม่มาในวันนัดพร้อมเพื่อสอบคําให้การจําเลย กําหนดวันนัดสืบพยาน โจทก์ ศาลพิพากษายกฟ้อง ชอบหรือไม่
|
4 |
-
audio_072.mp3,ทวนคำตอบครับ ฎีกาที่ ๑.๗๔๖๓/๒๕๖๐ วินิจฉัยว่า “ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา ๑๖๖ วรรคหนึ่ง กําหนดว่า ถ้าโจทก์ ไม่มาตามกําหนดนัด ให้ศาลยกฟ้องเสีย ซึ่งคําว่ากําหนดนัดนั้น หมายถึง กําหนดนัดไต่สวนหรือ กําหนดนัดพิจารณา กําหนดนัดไต่สวนนั้นหรือ กําหนดนัดพิจารณา วันนัดพร้อมเพื่อสอบคําให้การจําเลยและกําหนดวันนัดสืบพยานโจทก์
|
5 |
-
audio_073.mp3,จึงมิใช่วันนัดพิจารณาหรือนัดสืบพยานโจทก์ ไม่เข้าหลักเกณฑ์มาตรา ๑๖๖ วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา ๑๘๑ ที่ ศาลยกฟ้องเพราะโจทก์ไม่มาตามกําหนดนัดดังกล่าวจึงเป็นการไม่ชอบ เอาแล้วครับฎีกานี้กลับหลักคำพิพากษาฑีกาที่ ๗๘๔๖/๒๕๕๙ ซึ่งเคยวินิจฉัยว่าการสอบคําให้การตามมาตรา ๑๗๒ วรรค สอง เป็นการพิจารณาอย่างหนึ่ง การที่โจทก์ไม่มาตามวันนัดสอบคําให้การศาลชั้นต้นยกฟ้องได้ตาม มาตรา ๑๖๖ ประกอบมาตรา ๑๘๑
|
6 |
-
audio_074.mp3,ต่อไปเป็นคำถามข้อที่ ๒๗ คดีที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดก่อนวันที่พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งฉบับที่ ๒๗ พ.ศ. ๒๕๕๘ มีผลบังคับ
|
7 |
-
audio_075.mp3,ในชั้นบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึด ผู้ซื้อทรัพย์สินและเจ้าพนักงานบังคับคดีโอนทรัพย์สินที่ขายอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้ซื้อแล้ว ต่อมาผู้ซื้อยื่นคำขอฝ่ายเดียวต่อศาลขอให้ออกหมายบังคับคดีให้จำเลยและบริเวณออกไปจากที่ดินและปลูกสิ่งสร้าง หากศาลชั้นต้นยกคำร้อง ผู้ร้องจะขออนุญาตยื่นอุทรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาตามมาตรา ๒๓๓ ทวิได้หรือไม่
|
8 |
-
audio_076.mp3,ฎีกาที่ ๔๙๗๖/๒๕๖๑ วินิจฉัยว่า ศาฃแวขงสุพรรณบุรีได้มีคำพิพาษาและคดีถึงที่สุดก่อนที่ พรบ.แก้ไขเพิ่มเติม ป.วิ.แพ่งฉบับที่ ๒๗ พ.ศ. ๒๕๕๘ มีผลใช้บังคับเมื่อ ๘ พ.พย. ๕๘ แต่การที่ผู้ร้องเป็นผู้ซื้อทรัพย์สินและเจ้าพนักงานบังคั��คดีโอนทรัพย์สินที่ขายอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้ร้องแล้วยื่นคำขอฝ่ายเดียวต่อศาลขอให้ออกหมายบังคับคดีเพื่อบังคับจำเลยและบริวารของจำเลยที่ไม่ยอมออกจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
|
9 |
-
audio_077.mp3,เป็นการยื่นฟ้องกล่าวหาจำเลยและบรืวารของจำเลยขึ้นใหม่ ตาม ป.วิแงมาตรา ๓๓๔ บัญญัติไว้เป็นพิเศษ เมื่อวันที่ ๗ ก.ย. ๖๐ ภายหลัง พรบ.ดังกล่าวมีผลบังคับแล้วซึ่ง ป.วิ.แพ่งมาตรา ๒๔๔/๑ ที่แก้ไขเพิ่มเติมบัญญัติให้คำพิพากษาของศาลอุธรณ์เป็นที่สุด และการฎีกาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุธรณ์จะกระทำได้เมื่อได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา ตามมาตรา ๒๔๗ ที่แก้ไขใหม่ ดังนั้นคดีจึงไม่อยู่ในบังคับที่จะนำ ป.วิ.แพ่งมาตรา ๒๒ภ ทวิเดิม ที่ถูกยกเลิกไปแล้ว โดย พรบ.ดังกล่าวมาใช้บังคับได้
|
10 |
-
audio_078.mp3,"คำถามข้อที่ ๒๘ ถามว่าศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกกระทงละ ๑ ปี ศาลอุทรณ์พิพากษาแก้โดยให้ลงโทษปรับด้วยกระทงลงไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท แต่ให้รอการลงโทษและคุมปะพฤติจำเลยไว้ โจทก์จะฎีกาขอให้ไม่รอการลงโทษจำคุกแก่จำเลยได้หรือไม่"
|
11 |
-
audio_079.mp3,"ฎีกาที่ ๓๗๓๐/๒๕๖๑ วินิจฉัยว่าศาลชั้นต้นลงโทษจำคำจำเลย ๓ กระทง กระทงละไม่เกิน ๑ ปีรวมจำคุก ๑๕ เดือนแต่ไม่รอการลงโทษ ศาลอุทรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษปรับตัวด้วยกระทงละไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท แล้วรอการลงโทษจำคุกและคุมประพฤติจำเลยไว้ จึงเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทรณ์ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินกระทงละ ๒ ปี และปรับไม่เกินกระทงละ ๔๐,๐๐๐ บาท จึงหามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อาญามาตรา ๒๑๙ โจทก์ฎีกาขอให้ไม่รอการลงโทษเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง"
|
12 |
-
audio_080.mp3,ต่อไปคำถามข้อที่ ๒๙ คดีที่มีการร้องสอด แล้วต่อมาโจทก์ถอนฟ้องจำเลยไป หลังจากนั้นศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อมา หากโจทก์เป็นฝ่ายชนะคดี ศาลพิพากษาบังคับให้เป็นไปตามคำขอของโจทก์หรือเพียงแต่ยกคำร้องสอด
|
13 |
-
audio_081.mp3,ตรงคำตอบ ฎีกาที่ ๔๓๒/๒๕๖๐ วินิจฉัยว่า ผูเร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความฝ่ายที่สามเป็นปฏิปักษ์ต่อโจทก์ตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา ๕๗ อนุ ๑ แม้โจทก์จะได้ถอนฟ้องจำเลยไปหลังจากนั้น แต่ศาลชั้นต้นก็ดำเนินกระบวนการพิจารณาต่อมาในฐานะที่โจทก์กับผู้ร้องสอดพิพาทกันในที่ดินพิพาท ��ังนี้ เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายชนะคดีและคำขอของโจทก์ที่เดิมของบังคับจำเลยขอให้เพิกถอนโฉนดที่ดินพิพาทนั้นอยู่ในสภาพที่เปิดช่องให้บังคับแก่ผู้ร้องสอดผู้เก็บรักษาโฉนดที่ดินไว้ จึงชอบที่จะบังคับให้เป็นไปตามคำขอของโจทก์ มิใช่แต่เพียงยกคำร้องสอดของผู้ร้องสอดที่งสามเท่านั้น
|
14 |
-
audio_082.mp3,ต่อไปคำถามข้อที่ ๓๐ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยประเมินผลการปฏิบัติงานของโจทก์ มีคำสั่งย้ายและตัดสิทธิประโยชน์ต่างๆที่โจทก์เคยได้รับโดยมิชอบ ทำให้โจทก์เสียหายขาดโอกาสความก้าวหน้าประโยชน์ต่างๆและให้ใช้ค่าเสียหาย จำเลยฟ้องแย้งว่า โจทก์ร้องเรียนจำเลยไปยังหลายหน่วยงาน เป็นการจงใจทำให้จำเลยเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ขอให้ใช้ค่าเสียหาย ดังนี้ฟ้องแย้งเกี่ยวกับฟ้องเดิมหรือไม่
|
15 |
-
audio_083.mp3,มีคำตอบฎีกา ๘๑๒๒/๒๕๕๙ วินิจฉัยว่า ตามฟ้องโจทก์นั้น ศาลต้องพิจารณาการกระทำของฝ่ายจำเลยว่าชอบด้วยกฎหมาย หรือระเบียบข้อบังคับหรือไม่ และการประเมินผลงานและการย้ายโจทก์เป็นการละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ ส่วนตามฟ้องแย้งของจำเลยเป็นการอ้างข้อเท็จจริงขึ้นมาใหม่ว่า การร้องเรียนนของโจทก์เป็นการละเมิดต่อจำเลย แม้ฟ้องเดิมจะมีคดีอันเกืดจากม฿ลละเมิดรวมอยู่ด้วย แต่ประเด็นตามฟ้องแย้งและฟ้องเดิมไม่เกี่ยวข้องกันไม่อาจพิจารณารวมกันได้ ฟ้องแย้งและฟ้องเดิมไม่เกี่ยวข้องกัน
|
16 |
-
audio_084.mp3,ต่อไปข้อ ๓๑ ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การ โดยไม่ได้ยื่นเสียก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า ๗ วัน อันเป็นการเพิ่มเติมคำให้การขึ้นใหม่ในประเด็นอายุความตามที่จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีไว้แล้ว ดังนี้จะถือเป็นการแก้ไขรายละเอียดเล็กน้อย หรือมีเหตุอันสมควรที่ไม่อาจยื่นคำร้องได้ก่อนนั้นหรือเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือไม่
|
17 |
-
audio_085.mp3,มีคําพิพากษาฎีกาที่ ๖๙๕๑ ถึง ๖๙๕๒/๒๕๖๐ วินิจฉัยว่า “จําเลยขอแก้อายุความจากเดิม ๒ ปี เป็น ๕ ปี และ ๒ ปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๙๓/๓๓ และ ๑๙๓/๓๔ อันเป็นการเพิ่มเติมคําให้การขึ้นใหม่ แม้จะอยู่ในประเด็นแห่งอายุความ แต่โจทก์ก็สามารถกระทําได้แต่แรก
|
18 |
-
audio_086.mp3,แต่หาได้กระทําไม่ กลับปล่อยให้ล่วงเลยเวลาแล้วจึงยื่นคําร้องขอแก้ไขคําให้การ มี���ักษณะเป็นการตั้งประเด็นขึ้นใหม่ทั้งฉบับ มิใช่เป็นการแก้ไขรายละเอียดเล็กน้อยและมิใช่กรณีมีเหตุอันสมควรที่ไม่อาจยื่นคําร้องได้ก่อนนั้น ทั้งประเด็นเรื่องอายุความไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย อายุความไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย จึงต้องยื่นก่อนวันชี้สองสถานถือก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า ๗ วัน ม.๑๘๐
|
19 |
-
audio_087.mp3,คำถามข้อ ๓๒ คนไร้ความสามารถทำหนังสือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นฟ้องคดีอาญาต่อศาลเป็นการกระทำโดยมีอำนาจหรือไม่ หรืเป็นเพียงข้อบกพร่องที่สามารถแก้ไขให้บริบูรณ์ได้หรือไม่ คนไร้ความสามารถทำหนังสือมอบอำนาจให้ผู้อื่นฟ้องคดีต่อศาลนะครับ คดีอาญา ตรงคำตอบ ฎีกา ๓๗๒๗/๒๕๖๑ วินิจฉัยว่า เป็นการกระทำโดยโจทก์ซึ่งเป็นคนไร้ความสามารถไม่มีอำนาจที่จะกระทำได้ ต้องให้ผู้อนุบาลเป็นผู้ทำการแทนตาม ป.วิ.อาญามาตรา ๓ อนุ ๒ และมาตรา ๕ อนุ ๑
|
20 |
-
audio_088.mp3,กรณีไม่ใช่เป็นเรื่องบกพร่องในเรื่องความสามารถของโจทก์และจำต้องแก้ไขข้อบกพร่องนั้นให้บริบูรณ์ภายในกำหนดเวลาอันสมควร ตาม ป.วิ.อาญามาตรา ๕๖ ประกอบ ป.วิ.อาญามาตรา ๑๕ เพราะโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องมาแต่ต้นแล้ว ศาลชอบที่จะยกฟ้องโจทก์ กรณีนี้ไม่ใช่ข้อบกพร่องเรื่องความสามารถแต่เป็นกรณีที่เป็นไม่มีอำนาจฟ้องมาแต่ต้นนะครับ
|
21 |
-
audio_089.mp3,คำถามข้อที่ ๓๓ โจทก์เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยฟ้องขอเพิกถอนการให้ที่ดินรวม ๓ แปล กล่าวหาว่าจำเลยดูหมิ่นโจทย์ผู้ให้อย่างร้ายแรง อันเป็นการประพฤติเนรคุณ จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยมิได้ประพฤติเนรคุณต่อโจทก์และที่ดินบางโฉนดไม่ใช่ที่ดินขิงโจทก์แต่เป็นทรัพย์มรดกของมารดาจำเลย ดังนี้ การพิจารณาสิทธิในการอุทรณ์ในข้อเท็จจริง จะต้องแยกคำนวณราคาที่ดินพิพาทแต่ละแปลงหรือคำนวณรวมกันตามราคาประเมินทั้ง ๓ แปลงหรือเป็นคดีเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัวหรือไม่
|
22 |
-
audio_090.mp3,คำถามมี ๓ ประเด็นคือ ต้องแยกคำนวณราคาที่ดินแต่ละแปลงหรือไม่ หรือคำนวณรวมกันหรือเป็นคดีเกี่ยวเนื่องสิทธิในครอบครัวหรือไม่ มาดูตรงคำตอบ ๙๙๒๔/๒๕๖๐ วินิจฉัยว่าเป็นคดีพิพาทเกี่ยวด้วยกรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นคดีมีทุนทรัพย์และต้องแยกพิจารณาทุนทรัพย์ที่��ินแต่ละแปลงออกต่างหากจากกัน ส่วนคดี ส่วนคดีเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณ มิใช่คดีเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัวจึงต้องห้ามคู่ความอุทรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงจาม ป.วิ.แพ่งมาตรา ๒๒๔ วรรคหนึ่ง
|
23 |
-
audio_091.mp3,คำถามข้อที่ ๓๔ การถอนฟ้องคดีแพ่ง วินิจฉัยว่าศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้ถอนฟ้องได้ฌฉพาะก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาเท่านั้น เพราะมาตรา ๑๗๕ วรรคหนึ่งกำหนดว่า ก่อนจำเลยยื่นคำให้การโจทก์อาจถอนฟ้องได้โดยยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเพื่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ฯ
|
24 |
-
audio_092.mp3,เพราะตามมาตรา ๑๗๕ วรรค ๑ ก่อนจำเลยยื่นคำให้การโจทก์อาจถอนฟ้องได้โดยการยื่นคำบอกกล่าวเป็นหนังสือ และตามวรรค ๒ กำหนดว่าภายหลังจำเลยยื่นคำให้การแล้วโจทก์อาจยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเพื่อนุญาตให้ถอนฟ้องได้การยื่นคำให้การก็ต้องกระทำในระหว่างที่ศาลชั้นต้นพิจารณานั้นเอง
|
25 |
-
audio_093.mp3,ต่อไปเป็นข้อ ๓๕ คำของผู้เสียหายที่เปิกความในชั้นพิจารณาและให้การชั้นสอบสวนว่า จำเลยเคยลักทรัพย์ของผู้เสียหายมาก่อนหน้านี้ จำเลยเคยลักทรัพย์ของผู้เสียหายมาก่อนหน้านี้ จะนำมารับฟังเป็นพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่ลักทรัพย์ในคดีที่ถูกฟ้องได้หรือไม่ ก็คือเอาการกระทำความผิดครั้งก่อนมาวินิจฉัยว่าเป็นคนร้ายในคดีนี้ได้ไหม
|
26 |
-
audio_094.mp3,ฎีกาที่ ๔๑๗/๒๕๖๑ วินิจฉัยว่า ไม่อาจนำมารับฟังเป็นผลร้ายแก่จำเลย เพราะว่าเป็นพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้กับความประพฤติในเสื่อมเสียของจำเลยต้องห้ามตาม ป.ว.อาญามาตรา ๒๒๖/๒
|
27 |
-
audio_095.mp3,คำถามข้อที่ ๓๖ ถามว่าคดีอาญา ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา อันนี้โจทก์ฎีกานะครับ จำเลยยื่นคำร้องขอให้การรับสารภาพจะกระทำได้ไหม ระว่างพิจารณาของศาลฎีกาจำเลยยื่นคำร้องขอให้รับสารภาพ จะกระทำได้หรือไม่ ฎีกาที่ ๑๖๘/๒๕๖๑ วินิจฉัยว่าการแก้ไขคำให้จำเลยสามารถยื่นคำร้องได้ก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาเท่านั้น
|
28 |
-
audio_096.mp3,คือขอแก้ไขคำให้การต้องการศาลชั้นต้นพิพากษาเท่านั้นแต่อย่างไรก็ดีการที่จำเลยขอให้การรับสารภาพในชั้นฎีกาถือได้ว่าจำเลยยอมรับข้อเท็จจริงโดยไม่โต้แย้งที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิด แม้จพกระทำไม่ได้เป็นการแ��้คำให้การไม่ได้แต่ว่าถือว่าจำเลยยอมรับข้อเท็จจริงโดยไม่โต้แย้งที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิด
|
29 |
-
audio_097.mp3,ต่อไปคำถามข้อที่ ๓๗ คำให้การสอบสวนเพิ่มเติม พนักงงานสอบสวนไม่ได้จัดหาทนายความให้ผู้ต้องหาตาม ป.วิ.อาญามาตรา ๑๓๔/๑ วรรคหนึ่ง จะทำให้คำให้การในชั้นสอบสวนในครั้งแรกที่ชอบด้วยกฎหมายนั้นเสียไปด้วยหรือไม่ ฏีกาที่ ๕๕๘๐/๒๕๖๐ บอกว่าไม่เสียไป วินิจฉัยดังนี้ ไม่ได้ทำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยในครั้งแรกที่ชอบด้วยกฎหมายแล้วนั้นเสียไปด้วยแต่อย่างใด เพียงแต่ทำให้การเพิ่มเติมไม่อาจรับฟังเป็ยพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลยเท่านั้นตาม มาตรา ๑๓๔/๔ วรรคท้าย
|
30 |
-
audio_098.mp3,คำถามข้อที่ ๓๘ หนังสือสัญญาขายฝากที่ดินระบุราคาขายฝากและสินไถ่ไว้และผู้ขายฝากได้รับเงินจากผู้รับซื้อฝากเป็นการเสร็จแล้ว ผู้ขายฝากจะนำพยานบุคคลมาสืบว่า ราคาขายฝากที่แท้จริงมิใช่ตามที่ระบุในหนังสือสัญญาขายฝากและได้รับเงินตามสัญญาขายฝากไม่เต็มจำนวนได้หรือไม่
|
31 |
-
audio_099.mp3,คำตอบฎีกาที่๑๕๖/๒๕๖๑ วินิจฉัยว่า “โจทก์ฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมการจดทะเบียนที่ดิน พิพาทระหว่างจําเลยที่ ๑ และที่ ๒ มิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องร้องขอให้บังคับหรือไม่บังคับตามสัญญาให้ ฟ้องเพิกถอนนิติกรรมการจดทะเบียนที่ดินไม่ได้บังคับตามสัญญาให้ ที่โจทก์กับจําเลยทั้งสองเป็นคู่สัญญา
|
32 |
-
audio_100.mp3,ต่อไปเป็นคำถามข้อที่ ๔๑ ประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย กําหนดว่า ในการเรียกให้ชําระหนี้และ ติดตามทวงถามให้ชําระหนี้ ผู้ประกอบธุรกิจต้องมีหนังสือแจ้งเตียนผู้บริโภคที่ผิดนัดชําระหนี้ ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒๐ วัน ก่อนดําเนินการบังคับชําระหนี้ตามกฎหมาย ผู้ประกอบธุรกิจจะนําพยานบุคคลมาสืบโดยมิได้นําหนังสือทวงถามมาแสดงต่อศาลได้หรือไม่
|
33 |
-
audio_101.mp3,"มีฎีกาที่ ๑๕๖/๒๕๖๑ วินิจฉัยว่า “ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าวเป็น ข้อเท็จจริง ไม่ใช่บทบัญญัติของกฎหมายที่ ป.วิ.แพ่ง.มาตรา ๙๔ บังคับให้ต้องมีพยาน เอกสารมาแสดง ไม่ใช่บทบัญญัติของกฎหมายที่ ป.วิ.แพ่ง.มาตรา ๙๔ บังคับให้ต้องมีพยาน เอกสารมาแสดงสามารถนําพยานเอกสารมาแสดง แม้โจทก์จะมิได้นําหนังสือทวงถามมาแสดงต่อศาล ก็รับฟ���ง พยานบุคคลแทนพยานเอกสารได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา ๙๔(ก) นะครับ"
|
34 |
-
audio_102.mp3,ต่อไปเป็นคำถามข้อที่ ๔๒ โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลแขวง เรียกค่าเสียหายในมูลละเมิดเป็นเงินจํานวนไม่เกิน พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันทําละเมิดเป็นต้นไปจนกว่าจะ ชําระเสร็จ ดังนี้ ต้องนําดอกเบี้ยซึ่งคิดคํานวณนับแต่วันทําละเมิดจนถึงวันฟ้องมารวมเป็น จํานวนเงินที่ฟ้องด้วยหรือไม่ ต้องนําดอกเบี้ยซึ่งคิดคํานวณนับแต่วันทําละเมิดจนถึงวันฟ้องมารวมเป็น จํานวนเงินที่ฟ้องด้วยหรือไม่ ต้องนําดอกเบี้ยที่คํานวณนับแต่วันทําละเมิดจนถึงวันฟ้องมารวมด้วยมั้ยนะครับ
|
35 |
-
audio_103.mp3,ต่อไปคําถามข้อที่ ๔๓ ศาลชั้นต้นพิพากษาจําคุกจําเลย ๒ กระทง กระทงละ ๑ ปี โดยมีผู้พิพากษาลง ลายมือชื่อในคําพิพากษาเพียงคนเดียว คําพิพากษาศาลชั้นต้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|