title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
แม้แบกอายุ โค้ชหระ หวังช้างศึกยู-19 โกยประสบการณ์ที่บรูไน
วันที่ 21 เม.ย.61 ความเคลื่อนไหวของทัพนักเตะทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ซึ่งล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ออกเดินทางไปยังกรุงบันดาร์เซรีเบกาวัน ประเทศบรูไน ทำการแข่งขันฟุตบอลในรายการ Hassanal Bolkiah Trophy for Asean Youth Football Tournament 2018 เรียบร้อยแล้ว,สำหรับทีมงานชุดดังกล่าว ยังคงนำทัพโดย โค้ชหระ อิสระ ศรีทะโร ในตำแหน่งเฮดโค้ช พร้อมด้วยแข้งตัวหลักอย่าง สิทธิโชค ภาโส, พิทักษ์ ภาภิรมย์ และ ณัฐวุฒิ ชูติวัตร เป็นต้น,ซึ่งก่อนออกเดินทาง กุนซือช้างศึกยู-19 เปิดใจว่า เราก็เก็บตัวมาตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน น้องๆ ชุดนี้ก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งเราก็ต้องดูฟอร์มการเล่นอีกครั้งว่าเวลาไปแข่งในระดับเวทีนานาชาติ จะเป็นอย่างไร,สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นประโยชน์สำหรับตัวนักเตะอย่างมาก แม้จะเป็นแค่การเจอกับทีมในระดับอาเซียนด้วยกันเอง แต่ว่าเราก็เป็นรองเขาเรื่องอายุ เป้าหมายในทัวร์นาเมนต์ เราเองก็ต้องการเอาชนะให้ได้ทุกเกมการแข่งขัน และสามารถทำได้ตามคอนเซปต์ที่เราวางไว้ ทั้งการขึ้นเกมจากแนวรับ, การครองบอล, ปฏิกิริยาเมื่อเราเสียบอลแล้วต้องทำอย่างไร, การเปลี่ยนเกมรุกเป็นเกมรับ และการไล่กดดัน เป็นต้น,สุดท้ายก็ขอฝากแฟนบอลชาวไทยทุกคน พวกเราก็จะพยายามทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด และหวังว่าเราจะได้รับเสียงเชียร์จากแฟนคนไทย และคอยติดตามผลงานของพวกเราอย่างสม่ำเสมอ,สำหรับทีมชาติไทยยู-19 รอบแรกถูกจับสลากให้อยู่ในกลุ่ม เอ ร่วมกับ ติมอร์ฯ ยู-21, เมียนมา ยู-21 และ บรูไน ยู-21 (เจ้าภาพ) โดยจะออกสตาร์ตนัดแรกพบกับ เมียนมา ยู-21 ในวันที่ 24 เมษายนนี้.
ช้างศึกยู-19 เหินฟ้าสู่บรูไนเรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมลงฟาดแข้งในทัวร์นาเมนต์พิเศษ ด้าน โค้ชหระ หวังลูกทีมเล่นตามแท็กติกและโกยประสบการณ์ให้มากที่สุด แม้จะแบกอายุบู๊กับทีมร่วมอาเซียน
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
ทีมชาติไทยยู-19,ช้างศึก,โค้ชหระ,อิสระ ศรีทะโร
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1261251
ตร.หาดใหญ่ล่อซื้อยาจากอดีตพลทหาร ก่อนรวบตัวคาเครื่องแบบพร้อมเพื่อน
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 ส.ค. พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผกก.สภ.หาดใหญ่ พร้อมด้วยตำรวจชุดฝ่ายปราบปรามยาเสพติดหาดใหญ่ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายอรรถวุฒิ อุไรรัตน์ อายุ 26 ปี อดีตทหารเกณฑ์ และนายศักราช ชาภักดี อายุ 23 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และขนาด 11 มม. 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ใบกระท่อม 26 มัด กัญชา 80 กรัม เตาแก๊สปิกนิก และอุปกรณ์เสพยาจำนวนหนึ่ง ,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองมีพฤติการณ์ค้ายาเสพติด จึงได้วางแผนล่อซื้อกัญชาจำนวนหนึ่ง และนัดส่งของกันที่หน้าโรงเรียนดังแห่งหนึ่ง เส้นทางสายหาดใหญ่-สนามบินใน ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายอรรถวุฒิ อุไรรัตน์ ได้สวมเครื่องแบบทหารยศนายสิบ ติดป้ายชื่อว่า วรากร มุสิกะไชย นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟีโน่ ทะเบียน งฉษ 867 สงขลา โดยมี นายศักราช ชาภักดี เป็นคนขับขี่ ขับเข้ามาจอดเทียบข้างรถของเจ้าหน้าที่ซึ่งคอยซุ่มอยู่ จากนั้นผู้ต้องหาได้โทรศัพท์ติดต่อสายตำรวจให้มารับของ เจ้าหน้าที่จึงได้ออกจากรถแสดงตัวเข้าจับกุม ตรวจค้นพบอาวุธปืนขนาด 11 มม. 1 กระบอก และกัญชา 8 ก้อน จึงควบคุมตัวทั้งสองไปตรวจค้นที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ บ้านบางศาลา ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่,จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน กัญชา และใบกระท่อมอีก 26 มัด เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา-ใบกระท่อม) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีต่อไป.
ตร.หาดใหญ่ล่อซื้อยาจากอดีตทหารเกณฑ์ แต่งชุดนายสิบ มากับเพื่อน ส่งยาให้เจ้าหน้าที่ ถูกรวบไว้ได้ทั้ง 2 คน พร้อมอาวุธปืน 2 กระบอก กัญชา และใบกระท่อม ควบคุมตัวส่งดำเนินคดี
null
ล่อซื้อ,จับยาเสพติด,อรรถวุฒิ อุไรรัตน์,ศักราช ชาภักดี,นัดส่งยาหน้าโรงเรียน,ถนนสายหาดใหญ่-สนามบิน,สวมเครื่องแบบทหารส่งยา,กิตติชัย สังขถาวร,ผกก.สภ.หาดใหญ่,ใบกระท่อม 26 มัด,กัญชา 80 กรัม,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/content/686047
วิทยุชุมชน 1.2 พันราย แห่ตีทะเบียนวันแรก
95% ยอมจดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. คณะทำงานด้านกิจการวิทยุกระจายเสียงชุมชน คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ได้จัดประชุมชี้แจงร่างประกาศ เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตประกอบการกิจการวิทยุชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียงชุมชน) และชี้แจงขั้นตอนการเตรียมการเพื่อลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ประกอบกิจการวิทยุชุมชน ขึ้นที่ห้องประชุมแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคาร 9 ศูนย์การประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างเวลา 09.30-17.00 นพ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะทำงานด้านกิจการวิทยุกระจายเสียงชุมชน ในคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เปิดเผยภายหลังการจัดประชุมชี้แจงว่า ยอดผู้มาขึ้นทะเบียนวิทยุชุมชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในวันแรก มี 1200 ราย ตามเป้าที่ตั้งไว้สำหรับการเปิดขึ้นทะเบียนครั้งนี้ มีทั้งกลุ่มวิทยุชุมชนจริงๆ และกลุ่มวิทยุธุรกิจท้องถิ่น ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้เปิดให้ผู้ประกอบการทุกประเภทเข้ามาขึ้นทะเบียนได้ และใช้ใบอนุญาตชั่วคราวในการทดลองออกอากาศเป็นระยะเวลา 300 วัน หลังจากนั้นการให้ใบอนุญาตถาวรและแบ่งประเภทการประกอบกิจการอย่างชัดเจน จะต้องรอคณะกรรมการกิจการสื่อสารแห่งชาติ (กสทช.)การขึ้นทะเบียนครั้งนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีจุดลงทะเบียนถึง 50 จุด ใช้เวลารายละ 2 ชั่วโมงจึงขึ้นทะเบียนเสร็จ แต่มีบางกลุ่มที่เสีย ผลประโยชน์ ทั้งกลุ่มการเมืองและสมาคมต่างๆ ที่ยังคอยขัดขวางไม่ให้มีการขึ้นทะเบียน เพราะเกรงว่าจะเสียประโยชน์ พ.อ.นที กล่าวคณะกรรมการฯ จะดำเนินการขึ้นทะเบียนวิทยุชุมชนอีก 3 ครั้ง ในต่างจังหวัด คาดว่าจะมีผู้ขึ้นทะเบียน 95% ของวิทยุชุมชนทั้งหมด 4000-5000 สถานี หากไม่ดำเนินการ ขึ้นทะเบียนภายใน 30 วันที่กฎหมายประกาศใช้จะถือว่ามีความผิดทั้งนี้ การจัดประชุมชี้แจงร่างประกาศดังกล่าวและตั้งโต๊ะลงทะเบียนครั้งต่อไปจะจัดในวันที่ 22 มิถุนายน 2552 ที่ จ.เชียงใหม่ ต่อมาวันที่ 29 มิถุนายน 2552 ที่ จ.ขอนแก่น และวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้สนใจลงทะเบียนภายในงาน เตรียมเอกสารดังนี้ 1.สำเนาบัตรประชาชน 2.สำเนาทะเบียนบ้าน 3.สำเนาหนังสือจัดตั้งนิติบุคคล/กลุ่มคน 4.หนังสือมอบอำนาจและสำเนาบัตรประชาชน (กรณีผู้แทนนิติบุคคล/กลุ่มบุคคล) 5.รูปถ่ายหน้าตรงไม่ใส่หมวก ไม่สวมแว่นขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป และ 6.แผนที่ตั้งสถานีและรูปถ่ายสถานีที่มา: เรียบเรียงจากเดลินิวส์ โพสต์ทูเดย์
วิทยุชุมชนแห่ขึ้นทะเบียนวันแรก 1200 ราย พ.อ.นที ชี้กลุ่มที่เสียผลประโยชน์ ทั้งกลุ่มการเมืองและสมาคมต่างๆ ยังขัดขวาง เพราะเกรงเสียประโยชน์ แจงเตรียมเดินสายต่อเชียงใหม่-ขอนแก่น-สงขลา อีก 3 ครั้ง คาด
ไอซีที
กทช.,กสทช.,คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์,พ.อ.ดรนที ศุกลรัตน์,วิทยุชุมชน,วิทยุธุรกิจ
https://prachatai.com/journal/2009/06/24704
นายกฯ ยัน คุมเมอร์สได้ ไม่ขัดบ้านเลขที่ 111-109 ร่วมสภาปฏิรูป
นายกฯ ประชุม สสว. ชี้ ทุกธุรกิจเอสเอ็มอี ต้องขึ้นทะเบียนทั้งหมด ห่วง เมอร์ส ขอคนอย่าตระหนก ยัน คุมได้ ไม่ขัด กมธ.ร่าง รธน.ปรับแก้ร่างฯ แรกเปิดประตูบ้านเลขที่ 111-109 เข้าร่วมสภาขับเคลื่อนฯ อย่าตื่นเต้น หลังไทยถูก ไอเคโอ ปักธงแดง ,วันที่ 19 มิ.ย. เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ครั้งที่ 2/2558 โดยมี พล.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เข้าร่วมประชุม,ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวก่อนการประชุมว่า ในการแก้ปัญหาและสนับสนุนเอสเอ็มอี จำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลปัญหาให้ชัดเจน เพื่อรัฐจะได้กำหนดเป้าหมาย แนวทางช่วยเหลือได้ชัดเจน โดยเฉพาะเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพ ทั้งอุปกรณ์ เครื่องมือ และบุคลากรมีฝีมือครบถ้วน แต่ประสบปัญหาขาดเงินทุน เพื่อช่วยฟื้นฟูเอสเอ็มอีเหล่านั้น ให้กลับมาตั้งตัวได้อีกครั้ง สำหรับวาระการประชุมในวันนี้ จะมีการเสนอและรายงานความคืบหน้า การดำเนินโครงการสำคัญ ปี 2558 เช่น โครงการศูนย์ให้บริการเอสเอ็มอีครบวงจร หรือ SME One-stop service และการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี,ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรม รายงานการจัดงานมหกรรมซื้อของไทยใช้ของดี ไทยแลนด์อินดัสตี้ เอ็กซ์โป 2015 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 22-27 กันยายนนี้ รวมถึงรายงานสถานการณ์วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ใน 4 เดือนแรก ตั้งแต่ มกราคม ถึง เมษายน 2558 และการประมาณการเศรษฐกิจเอสเอ็มอี ปี 2558-2559 นอกจากนี้จะมีการรายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้เข้าไปร่วมลงทุน,จากนั้น เวลา 12.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุม สสว. ถือว่าเป็นการประชุมที่ได้น้ำได้เนื้อ เพราะเราเริ่มมาตลอดในเรื่องการทำงานทุกรูปแบบ ปรับการบริหารจัดการใหม่ทั้งหมด จัดกลุ่ม สสว.ให้สามารถกำหนดว่าจะช่วยเหลือกันอย่างไร นำเอสเอ็มอีทั้งหมดเข้าสู่ระบบให้ได้ทั้งระบบภาษี และระบบนิติบุคคล โดยมีการจดทะเบียนนิติบุคคล ซึ่งผู้ประกอบการต้องขึ้นทะเบียนทั้งหมด รวมจำนวน 2,700,000 ราย และต้องมาดูว่า มีประเภทไหนบ้าง 1. ขยายไปต่างประเทศได้ไหม 2. จะขยายในประเทศได้หรือไม่ 3. ธุรกิจที่มีอยู่แต่ขาดเงินทุน ถ้าปล่อยต่อไปอาจจะล้มละลายหรือปิดตัวลงก็ต้องไปดู 4. คือกิจการที่ปิดไปแล้ว ซึ่งในส่วนนี้มีความสำคัญเพราะอาจจะยังมีศักยภาพอยู่ แต่ที่ผ่านเป็นเพราะการบริหารจัดการที่ไม่ดี ก็จะไปดูว่าอันไหนที่พอจะฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้าง จะได้ตรงกับสิ่งที่เราต้องการในเรื่องการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร เครื่องมือ ความทันสมัยใช้คนให้น้อยลง รวมถึงการบริหารจัดการทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้ สสว.จะชี้แจงอีกครั้ง,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับการจัดงานที่จะต้องทำให้โลกได้รับรู้ว่า เราได้ทำอะไรไปบ้างปีนี้ จะมีการพบปะผู้ประกอบการกับคู่ธุรกิจด้วยกัน ในเรื่องของสสว. ทั้งในเรื่องของการผลิต การตลาดสิ่งเหล่านี้เรากำลังจะจัดอยู่ โดยองค์การค้าอุตสาหกรรมเข้าร่วมในปีหน้า จะเป็นเรื่องการจัดระดับชาติ ซึ่งปีนี้ประเทศมาเลเซียเป็นคนจัด ซึ่งในปีหน้าเราจะจัดเองว่าเรามีอะไรบ้าง เราจะได้รู้ แต่ในระหว่างนี้ตนได้บอกว่า อยากให้มีการจัดงานในลักษณะนี้ เพราะจะต้องขับเคลื่อนเอสเอ็มอี เราให้ได้ เพราะเป็นส่วนหลักในการส่งออกของเรา วันนี้ถ้าเอสเอ็มอีเข้มแข็ง ผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณภาพมากขึ้น ราคาสูงขึ้น มันถึงจะกลับมาในเรื่องของรายได้ของจีดีพี เราก็ต้องเสริมเอสเอ็มอีไปด้วย อีกอันหนึ่งตนบอกว่า เราต้องมองในภาพของโซเชียลบิสซิเนส คือ การประกอบธุรกิจเพื่อสังคม อันนี้ตนจับใส่เข้าไปอีกอัน เอสเอ็มอีภาคเอกชนเราก็ดูแลไปแล้ว ตอนนี้เราก็จะดูแลภาคเกษตรกรรมด้วย คือเอาสหกรณ์ทางการเกษตร หรือรัฐวิสาหกิจชุมชนมาอยู่ตรงนี้ด้วย เพื่อจะหาเงินทุนให้เขา แล้วเขาก็จะนำมาประกอบการ แต่เป็นในลักษณะที่นำผลกำไรมาเพื่อแบ่งปัน โดยให้เขามีแหล่งที่จะไปซื้อจากเกษตรกรโดยตรง ทำแทนพ่อค้าคนกลาง เขาจะได้สร้างของเขาเอง เพื่อที่เขาจะเข้มแข็งขึ้นด้วย โดยมี 3 ช่องทาง 1.โซเชียลบิสซิเนส 2. เอสเอ็มอี 3. ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นห่วงโซ่ต่อกันในวันหน้า วันนี้เราจะต้องสร้างความเข้มแข็งในทุกอัน ถ้าไม่เข้มแข็งเพียงพอก็ไปไม่ได้ เพราะจะทำให้ทั้งหมดต่ำลงทุกอัน,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษวันนี้ ต้องชี้แจงอีกครั้งว่า เรามีศูนย์ โอเอสเอส คือศูนย์ที่ให้วันสต็อปเซอร์วิสทำงานร่วมกับศูนย์ดำรงธรรม รวมถึงช่องทางหารือร่วมกันกับเอสเอ็มอี เพราะฉะนั้น ต่อไปเอสเอ็มอี จะมีช่องทางที่จะรวมกันมา เราจะได้สักทีไม่อย่างนั้นจะมาบอกว่าช่องทางไม่มี ไปธนาคารโดยตรงก็ไม่ได้ ก็เริ่มกันตรงนี้แล้ว เราเปิดช่องทางให้เขา เงินทุนตนได้ขอความร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์ว่า ขอให้ดูแลธุรกิจโซเชียลบิสซิเนส และดูแลธุรกิจเอสเอ็มอีกด้วย ส่วนหนึ่งรัฐก็จะมีมาตรการให้ แต่ปัญหาของเรา คือ เมื่อเราไปธนาคาร เขาจะดูเรื่องเอ็นพีแอลเหมือนกัน ถ้าไม่เข้มแข็งพอ ก็ให้ไม่ได้ รัฐก็ต้องมาดูว่าจะทำอย่างไร บางทีก็ต้องเข้าใจกันนะ ถ้าทุกคนบอกว่าต้องการเงินไปแล้วจะต้องได้เลยมันทำไม่ได้ ต้องแสดงให้เห็นว่า ท่านเข้มแข็งหรือไม่เข้มแข็ง ต้องเริ่มจากไปขึ้นทะเบียน สสว. วันนี้รัฐตั้งศูนย์จดทะเบียนทางเว็บไซต์ ส่วนเรื่องการปรับโครงสร้างการทำงานก็ค่อยๆ เดินหน้าไป,พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึง กรณีที่พบโรคเมอร์สในประเทศไทย ซึ่งสื่อต่างชาติให้ความสนใจว่า เราไม่สนใจหรือ ตนสนใจไปตั้งนานแล้ว ให้เตรียมการไปตั้งแต่ต้น เราเป็นผู้นำในการแก้ไข ป้องกันในเรื่องโรคระบาดร้ายแรงมาตลอด โรคไข้หวัดนก โรคซาร์ส เราก็ทำ คราวที่แล้วก็เรื่องอีโบลา เราก็ได้รับคำชมเชย ตนได้บอกไปแล้วโรงพยาบาล 69 แห่ง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ดูเรื่อง โรคซาร์ส โรคไข้หวัดนก วันนี้ก็ต้องมาดูเรื่องโรคเมอร์สด้วย วันนี้บุคลากร อุปกรณ์ เพียงพอหรือไม่ ที่กักกันโรคพอหรือไม่ ตรงนี้มันถึงจะเรียบร้อย และสามารถจะเช็กได้ เพราะเราสร้างการรับรู้มาโดยตลอด โรคอะไรป้องกันตัวอย่างไร เช็กที่ไหน วันนี้พอเขามา เขารู้ตัวเขาเอง ซึ่งโรงพยาบาลเอกชนมาเช็กโรคหัวใจ ทุกทีเขาก็มา แต่ครั้งนี้เขารู้สึกแปลกใจ โรงพยาบาลจึงแจ้งไปที่สาธารณสุข แล้วก็พาไปโรงพยาบาลบําราศนราดูร ซึ่งเรื่องนี้เราควบคุมได้ เราต้องสอบต่อไปว่า เขานั่งแท็กซี่มากี่คัน มีคนเกี่ยวข้องกี่คน แล้วตรวจสอบว่าขึ้นเครื่องบินมาจากไหน เครื่องบินลำนั้นมีใครบ้าง นี่คือสิ่งที่เราทำทั้งระบบอยู่แล้ว ขอให้เข้าใจว่า รัฐบาลให้ความห่วงใย แต่ที่ยังไม่อยากพูดไป เพราะอยู่ในห้วงของการกักกันโรค ยังตรวจสอบไม่พบ พอพบตอนเย็นก็รีบบอกเลย แต่ยังไม่อยากให้ตื่นตระหนก และเราก็ให้ความสำคัญ ถ้าใครสงสัยว่าโรคนี้มีอาการอย่างไร ก็ไปสถานที่เหล่านี้ เขารับทุกที่ ช่วยกันระมัดระวังด้วย มันไม่ได้ติดกันง่ายๆ,เมื่อถามว่า มั่นใจว่าจะคุมได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มั่นใจหรือไม่มั่นใจ อยู่ที่ความร่วมมือ มาถามตนแบบนี้อีกแล้ว ตนสั่งได้ไหม ตนสั่งเชื้อโรคได้ไหม มันอยู่ที่ทุกคน ซึ่งคนไทยทุกคนจะต้องระมัดระวังตัวเอง เมื่อรู้หรือสงสัยก็ต้องมาหาหน่วยงานราชการ ตนสั่งเชื้อโรคไม่ได้,พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวต่อ ถึงการปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญที่ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กำลังดำเนินการปรับแก้ในขณะนี้ว่า ก็ปรับกันไป ในส่วนของตน ขอดูตอนที่เขามีการปรับแก้แล้ว เสนอขึ้นมา เพราะสิ่งเหล่านี้ มีผลกระทบต่อประเทศในวันข้างหน้า โดยให้ทุกคนช่วยกันคิดว่า จะทำอย่างไรให้ได้เป็นไปตามสิ่งที่ตน และประเทศต้องการ และจะได้เป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่ มันก็ควรจะมีส่วนหนึ่งที่เป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ อีกส่วนหนึ่งก็ต้องให้มีการปฏิรูปได้ ส่วนจะเขียนออกมาอย่างไร ตนไม่รู้ หรือจะให้ผมเขียนเองล่ะ ผมเขียนไม่กี่มาตราหรอก,เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ปลดล็อกนักการเมืองเป็นการเปิดประตูปรองดองใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ใช้คำว่า ปรองดอง ส่วนเขาจะเปิดประตูก็เปิดประตูไป อะไรที่ลงโทษไปแล้ว ลงโทษเพียงพอหรือยัง ถ้าลงโทษเพียงพอแล้ว ก็มาพิจารณาดูว่าจะทำอย่างไรต่อไป อีกอย่างหนึ่งอยากให้ทุกคนมองว่า คนที่ถูกลงโทษไม่ใช่เป็นคนเลวตลอดชีวิต เมื่อเขารับโทษไปแล้วก็ต้องมาดูว่า เพียงพอหรือยัง เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือไม่ ถ้าวันข้างหน้าเขายังไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอีก ก็ลงโทษใหม่อีกได้ เขาก็ผิดใหม่อยู่ดี คนที่ผิดแล้ว เราให้โอกาสแล้ว แล้วเขาแก้ไข เรียกว่า การกลับตัวเป็นคนดี เหมือนกับการลงโทษของกระทรวงยุติธรรม อย่าไปมองว่า เมื่อเข้าคุกไปแล้ว จะต้องเป็นคนเลว มีคนดีๆ เยอะแยะไป เว้นแต่มันเลวจนต้องกลับเข้าไปใหม่ก็ถือเป็นอีกพวกหนึ่ง,เมื่อถามว่า ยังมีสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และ 109 ที่สามารถจะมาร่วมทำงานในสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศได้บ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้ ผมไม่มี ยังไม่ได้คิด เฉพาะที่มีอยู่ก็เยอะอยู่แล้ว ทำไมต้องเอากลับมาอีก เท่าที่ออกกันก็คงมีการเตรียมการที่จะไปเป็นรัฐบาลหน้า แต่ตอนนี้ ก็ขอให้ส่งความคิดเห็นมา ผมยินดีรับทั้งหมด พร้อมเปิดเวทีให้คุย อย่างเมื่อคืนวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้พูดคุยกับ สปช. ก็ดูสิว่า ทั้งสองคนเขาคุยกันแล้วรู้เรื่องกันหรือไม่ อีกคนเตรียมการปฏิรูป แต่อีกคนที่เป็นนักการเมืองเก่าตอบว่า อย่างไร อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้จะพยายามสร้างความรับรู้ให้มากขึ้นว่า วันข้างหน้าจะมีการปฏิรูปกันหรือไม่ ใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาล ทุกคนก็ต้องเตรียมตัวเอง และตอบคำถามให้ได้ สื่อเองก็ต้องไปตั้งคำถามกับอีกฝ่ายว่า มีนโยบายว่าจะทำอะไรบ้าง จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้อย่างไร คิดอย่างไร ลงทุนอย่างไร แล้วเอามาเปรียบเทียบกับรัฐบาลของตนว่า ใครจะใช้ได้มากกว่ากัน และรัฐบาลใหม่ก็ควรจะต้องดีกว่ารัฐบาลของตน,เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า คนเหล่านี้อย่าเพิ่งแต่งตัวรอ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ตั้ง ทุกอย่างให้รอดูตามขั้นตอน,นายกฯ บ่นน้อยใจสื่อ ฟังรายการทุกวัน แต่ไม่เคยคล้อยตาม หยิบแต่ส่วนที่ผิดไปมโนต่อ ระบุปัญหาภัยแล้ง รัฐแก้ทุกด้าน หารือ ฉัตรชัย ทบทวนแผนบริหารจัดการน้ำ,นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวเชิงน้อยใจ ถึงรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ที่ออกอากาศทุกคืนวันศุกร์ว่า ถ้าไม่อยากฟังก็ไม่ต้องฟังฉันหรอก ที่บอกว่า ฟังก็ไม่เห็นจะคล้อยตาม สิ่งที่ฉันพูดสักที ฟังกันทำไม ฟังแล้วเอาไปมโนต่ออย่างนั้นหรือ ตรงไหนผิด ตรงไหนมันไม่ดี จะเลือกเอาที่มันดีๆ บ้างก็ไม่ได้ วันนี้หลายอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องกีฬาได้เหรียญทอง นักท่องเที่ยวก็มาเข้าเที่ยวประเทศไทยจำนวนมาก,นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนเรื่องที่ไม่ดีอย่างเช่น ปัญหาฝนแล้งก็กำลังแก้ปัญหาอยู่ ซึ่งยืนยันอีกครั้งว่า ตนไม่ได้ทอดทิ้งเกษตรกร ทุกอย่างนำมาคลี่ดูทั้งหมด และได้พูดคุยกับ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ แล้ว ในเรื่องการบริหารจัดการน้ำว่า ที่ได้ดำเนินการขุดแหล่งน้ำเป็นการรองรับน้ำฝนในฤดูกาลปกติ แต่ขุดไปแล้ว ก็ดันไม่มีฝน แต่ก็จำเป็นต้องขุดไว้รองรับ ส่วนปัญหาเร่งด่วนในพื้นที่ที่มีความเดือดร้อน ก็ต้องมาคิดกันว่า จะทำอย่างไรให้ข้าวอยู่ได้ และต้องเร่งสร้างการรับรู้ให้มากขึ้น หลังจากที่เราได้รณรงค์ เรื่องการปลูกข้าวนาปีไปแล้ว เพราะถ้าปล่อยให้ทำข้าวนาปรัง ก็จะเกิดความเดือดร้อนเสียหาย และต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ยังไม่ได้ทำการปลูกด้วย จากที่เคยทำนาได้ปีละ 2 ครั้ง ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา สาเหตุหนึ่งต้องยอมรับว่าเกิดจากปัญหาโลก และสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง วันนี้โทษใครไม่ได้ ต้องโทษคนไทยทุกคนที่รักษาป่าของบ้านเราไว้ไม่ได้ ป่าหายไปถึง 26 ล้านไร่ ภาคเหนือ กลายเป็นเขาหัวโล้น เกือบทั้งหมด ทำให้ความชุ่มชื่นไม่เกิด ความจริงแล้ว ตนสั่งให้นำเครื่องบินไปบินเพื่อทำฝนเทียม ตั้งแต่ก่อนเข้าฤดูฝน แต่ฝนไม่ตก เพราะไม่มีเมฆ เนื่องจากความชื้นไม่เกิด ไม่เหมือน กทม.ที่มีความชื้นสูง เรื่อง จากมีประชากรมาอยู่รวมกันจำนวนมาก,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีเว็บไซต์องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) เผยแพร่ข้อมูลมาตรฐานการบินของสมาชิกทั่วโลก พบว่าในส่วนของไทยมีการปักธงแดง แสดงถึงมาตรฐานความปลอดภัยของไทย ข้อบกพร่องและมีนัยสำคัญ (เอสเอสซี) ว่า ได้รับการชี้แจงจาก นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เดินทางกลับมาจากประเทศเยอรมันแล้วว่า ทุกอย่างเป็นไปตามเดิม ซึ่งได้มีการปักธงแดงปักอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้เผยแพร่ ออกผ่านเว็บไซต์ จากนั้นก็ได้รับการชี้แจงว่า มีความจำเป็นที่ต้องเสนอออกมา แต่ขณะนี้ ก็ไม่มีประเทศใดห้ามการบินของเรา อย่างไรก็ตาม โดยลึกๆ ได้มีการพบปะกับเจ้าหน้าที่ขององค์กรเหล่านี้แล้ว เขาบอกว่า มันจำเป็นและเห็นใจ รวมทั้งเข้าใจในเจตนารมณ์ของเรา ตนให้ความสำคัญในเรื่องนี้ โดยให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ไปชี้แจงกับเขาโดยตรง,เขาก็พอใจนะ และบอกว่าขอดูไปสักระยะหนึ่งก่อน อย่าเพิ่งไปให้มันมีปัญหา ไปพูดมากเกิน เดี๋ยวก็ขัดข้องหมองใจกันอีก แทนที่จะได้ เลยไม่ได้ อย่าไปตื่นเต้น ผมบอกแล้วว่า อะไรที่เป็นความบกพร่องของเราก็ต้องรับว่า เราทำบกพร่องหรือเปล่า แล้วจะแก้ไขอย่างไร นั้นคือ สิ่งที่พวกเรา และสื่อมวลชนต้องช่วยกันสร้างความรับรู้ว่า เราได้มีการแก้ไขตรงไหน ไม่ว่าจะเป็นกฎหมาย หรือการบริหารงานที่ผ่านมา ความพอเพียง หรือไม่พอเพียงของเจ้าหน้าที่ และการจัดตั้งสายการบินขึ้นมาใหม่มากเกินไป ปัญหาที่เกิดไม่ได้อยู่ในสมัยของผม แต่ผมแก้ทั้งหมด และไม่โทษใคร คิดเอาเองว่า ใครทำไว้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว,ปัญหาการประมงผิดกฎหมาย หรือ ไอยูยู ก็เช่นนั้น อย่าไปกังวล ถึงอย่างไร เขาก็ยังไม่ให้เราในตอนนี้ เพราะต้องดูไปก่อน ระยะ 3-6 เดือน ว่าได้ผลจริงหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ในหลักการเราทำครบแล้ว และอย่าไปโทษกัน รัฐบาลนี้เป็นคนแก้ทั้งหมดที่มีปัญหา,หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังกล่าวถึง กรณีการประสานขอตัว นายเอกภพ เหลือรา หรือ ตั้ง อาชีวะ ผู้ต้องหาในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของไทย ซึ่งหลบหนีไปยังประเทศนิวซีแลนด์ จนล่าสุดมีกระแสข่าวว่า ทางการนิวซีแลนด์ จะไม่ส่งตัวกลับมา เพราะถือเป็นคดีทางการเมือง ขณะนี้นิวซีแลนด์ ยังไม่ได้ตอบมา ซึ่งก็แล้วแต่เขา ถ้าจะตอบก็ตอบมา บางทีเขาก็เข้าใจยาก ในเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพราะกฎหมายนี้ เขาไม่มี ส่วนใหญ่เขาใช้กฎหมายสิทธิมนุษยชนเป็นหลัก แต่บ้านเราก็ คือ บ้านเรา ฉะนั้น เมื่อมันหนีไปข้างนอก ก็แสดงว่ามันไม่ใช่คนไทยแล้ว ก็อยู่เมืองไทยไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เราได้ประสานไปยังทุกประเทศที่มีผู้หลบหนี รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็ขึ้นอยู่ว่าเขาจะจับมาส่งหรือไม่,เราไม่ได้ปล่อยปละละเลยหรอกนะ มันปล่อยปละไม่ได้ ทางกระทรวงยุติธรรม เขาดำเนินการแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ก็ทำไป แต่ปัญหาไม่ใช่ว่า สั่งวันนี้แล้วเขาจะส่งกลับมาวันนี้ มันไม่ได้ โจรวันนี้ยังจับได้ไม่หมดเลย ในประเทศยังตามจับกันอยู่เลย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ ประชุม สสว. ชี้ ทุกธุรกิจเอสเอ็มอี ต้องขึ้นทะเบียนทั้งหมด ห่วง เมอร์ส ขอคนอย่าตระหนก ยัน คุมได้ ไม่ขัด กมธ.ร่าง รธน. ปรับแก้ เปิดประตูบ้านเลขที่ 111-109 เข้าร่วมสภาขับเคลื่อนฯ อย่าตื่นเต้น หลังไทยถูก ไอเคโอ ปักธงแดง
null
โรคเมอร์ส,MERS,ไวรัสเมอร์ส,โรคติดต่อ,ระบาด,สาธารณสุข,สธ.,รายแรกของไทย,ไวรัส,ข่าวทั่วไทย,ข่าวสาธารณสุข,นายกฯ,บ้านเลขที่111-109,กมธ.ร่างรธน.,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/506231
ช้างศึก ยู-19 ถล่ม บรูไน 6-0 ลิ่วตัดเชือก ศึกชิงแชมป์อาเซียน
วันที่ 28 ส.ค. การแข่งขันฟุตบอลเยาวชน 19 ปี ชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ยู-19 แชมเปียนชิพ 2015 ที่สนามลาว เนชั่นแนล สเตเดียม กรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ในกลุ่มเอ นัดที่ 3 ทีมชาติไทย ซึ่งมีอยู่ 6 แต้มเต็มจากการชนะรวด 2 นัด พบกับทีม ชาติบรูไน อันดับสุดท้ายซึ่งยังไม่ชนะใครและถูกยิงไปแล้วถึง 12 ลูก,เริ่มเกมในครึ่งแรกเป็นฝ่ายทีมช้างศึก จูเนียร์ ที่เปิดเกมรุกเข้าใส่บรูไนแบบพับสนามบุก และมีโอกาสทักทายก่อนในนาที 12 เมื่อ สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ ปั่นฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ บอลกำลังจะพุ่งเบียดเสาเข้าประตู แต่ถูกนายทวารบรูไน ปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด,จากนั้นนาที 21 ทีมชาติไทย มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการยิงไกลกว่า 30 หลาของ สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ กัปตันทีมในเกมนี้ บอลพุ่งแสกหน้าผู้รักษาประตูบรูไนเข้าไป,ต่อมาในนาที 26 ไทยได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 จากการโหม่งเข้าประตูตัวเองของ มูฮัมหมัด บิน อับดุล กานี ,และในช่วงท้ายครึ่งแรกนาที 41 ไทยมีโอกาสลุ้นประตูอีกครั้ง จากการลากเข้ากลางมาซัดด้วยขวาของ สิริภพ สะอาดเอี่ยม แต่บอลเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้หมดครึ่งแรก ไทย ออกนำ บรูไน 2-0,เริ่มเกมในครึ่งหลังเกมยังคงตกอยู่ในการครอบครองของเหล่าไอ้หนูทีมชาติไทยเช่นเดิม และมาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 3-0 ในนาที 53 เมื่อ สุขสันต์ มุ่งเป้า ดึงจังหวะรอกองหลังทีมบรูไน ก่อนไหลออกขวาให้กับ ภัทรพล จันทร์สุวรรณ ยิงเข้าไป,จากนั้นนาที 55 ไทยเกือบได้ประตูอีกครั้ง เมื่อ สุขสันต์ มุ่งเป้า ไหลบอลเข้ากลางให้กับ วิศรุต อิ่มอุระ ยิงด้วยขวาข้างถนัดบอลไปชนเสาสองกระดอนออกไปอย่างน่าเสียดาย,ถึงนาที 72 ไทยได้ประตูเพิ่มเป็น 4-0 จากการหลุดเข้าไปยิงยัดเสาแรกของ วิศรุต อิ่มอุระ ,ในนาที 83 ทีมไทยหนีห่างออกไปเป็น 5-0 เมื่อ สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ ไหลบอลทะลุช่องมาให้กับ ศุภชัย ใจเด็ด หลุดเข้าไปบวกสกอร์ให้กับทัพช้างศึก จูเนียร์,และในนาที 89 ไทยมาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะเป็น 6-0 จากการปั่นเสียบเสาสองอย่างสวยงามของ วิศรุต อิ่มอุระ และเป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในเกมนี้ ,ทำให้ทีมชาติไทย ไล่ถล่มเอาชนะ บรูไน ไปอย่างขาดลอย 6-0 เก็บเพิ่มเป็น 9 คะแนนเต็ม จาก 3 นัด ขึ้นไปยึดจ่าฝูงคืนจากกัมพูชา พร้อมกับการันตีการเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในนัดสุดท้ายของรอบแรก ทีมชาติไทยจะลงสนามชี้ชะตาวัดแชมป์กลุ่มกับทีมชาติกัมพูชา ในวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคมนี้. ,รายชื่อ 11 ผู้เล่นของทั้งสองทีม,ทีมชาติไทย : ทาโร่ ประสานการ(GK), อาทิตย์ การสังเวช, กฤตนัย มุขธระโกษา, สุขสันต์ มุ่งเป้า, สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ(C), วิศรุต อิ่มอุระ, ภัทรพล จันทร์สุวรรณ, ศฤงคาร พรหมสุภะ, มีโชค มหาศรานุกูล, ศุภชัย ใจเด็ด, สิริภพ สะอาดเอี่ยม,ทีมชาติบรูไน : มูฮัมหมัด จาริดี, ไฟซุดดิน นาซูตัน, โมฮัมหมัด บิน รอสลัน, ฮาซิก อาซิม, โมฮัมหมัด อับดุล กานี, นาเซอร์รุดิน บิน อิสมาอิล, โมฮัมหมัด อัล ชาห์เรซาน, มาร์ติน บิน คัลลิดเดน, โมฮัมหมัด บิน ซิซา, นูรูลฮาดี ยูซูฟ, โมฮัมหมัด อัซรี  อัสปาร์  
ทีมช้างศึก ยู-19 ยังคงฟอร์มแรงอย่างต่อเนื่อง ไล่ถล่มเอาชนะ บรูไน ไปแบบไม่ไว้หน้า 6-0 เก็บ 9 แต้มเต็ม พร้อมกับตีตั๋วเข้าสู่รอบตัดเชือก ศึกชิงแชมป์อาเซียน 2015 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
null
ฟุตบอลเยาวชน 19 ปี ชิงแชมป์อาเซียน,ผลบอล,เอเอฟเอฟ ยู-19 แชมเปียนชิพ 2015,กลุ่มเอ,นัดที่ 3,ทีมชาติไทย,ทีมชาติบรูไน,สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ,มูฮัมหมัด บิน อับดุล กานี,สิริภพ สะอาดเอี่ยม,ภัทรพล จันทร์สุวรรณ,วิศรุต อิ่มอุระ,ศุภชัย ใจเด็ด,สุขสันต์ มุ่งเป้า,รอบตัดเชือก,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/521456
พาณิชย์ จ่อ ปรับเป้าส่งออกทั้งปีเหลือ 0% จากเดิม 1.2%
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2558 พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ส.ค.นี้ จะประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อพิจารณาทบทวนเป้าหมายการส่งออกของไทยในปี 58 ใหม่ หลังจากที่ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไปหารือกับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก และผู้ส่งออกสินค้าต่างๆ แล้ว ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่า อัตราการขยายตัวในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 0% หรือไม่เติบโตจากปีก่อน มีมูลค่าประมาณ 227,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 7.3 ล้านล้านบาท จากเดิมที่คาดจะขยายตัว 1.2% จากปีก่อน,อย่างไรก็ตาม แม้การส่งออกไทยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ขยายตัวติดลบ 4.84% ยังดีกว่าหลายประเทศ ที่มีอัตราการติดลบมากกว่าไทย และที่สำคัญไทยยังสามารถรักษาส่วนแบ่งในตลาดต่างๆ เอาไว้ได้ ซึ่งจะต้องรักษาเอาไว้ให้ได้ต่อไปถือเป็นแผนที่กระทรวงจะให้ความสำคัญ,สำหรับกรณีที่เอกชนเรียกร้องให้คณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ (พกค.) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาการส่งออก และจัดทำมาตรการผลักดันการส่งออกนั้น ตนจะติดตามให้ เพราะคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติจัดตั้งไปแล้ว.
รมว.พาณิชย์ ประชุมผู้บริหาร เตรียมพิจารณาเป้าหมายส่งออกใหม่ จ่อปรับลดเหลือ 0% จากเป้าเดิม 1.2% เผย มั่นใจมาตรการที่จะดำเนินการ ให้ส่งออกครึ่งปีหลังกลับมาเป็นบวกได้ หลัง 6 เดือนที่ผ่านมา ส่งออกยังลบ 4.84%
null
ฉัตรชัย สาริกัลยะ,กระทรวงพาณิชย์,การส่งออกของไทย,การส่งออกของไทยปี 58,การขยายตัว,สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ,คณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ,พกค.,ครม.,ส่วนแบ่งทางการตลาด,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/516132
ภาคเหนือ-อีสานคึกคัก นักท่องเที่ยวแห่ชมทะเลหมอก-สัมผัสอากาศหนาว
วันนี้ (5 พ.ย.2560) ดอยช้าง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย สามารถมองเห็นทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.เชียงราย ระบุว่าปีนี้ห้องพักกว่า 16000 ห้อง หลายแห่งถูกจองเต็มจนถึงต้นปีหน้า คาดจะมีนักท่องเที่ยวกว่า 3 ล้านคน เงินสะพัดกว่า 28000 ล้านบาทเช่นเดียวกับที่ จ.เชียงใหม่ ประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้โอกาสช่วงวันหยุด ไปสัมผัสอากาศหนาวเย็นบนดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง และดอยอ่างขาง อ.ฝาง ซึ่งมีดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายชนิด เจ้าหน้าที่คาดหลังจากนี้จะมีนักท่องเที่ยวมากขึ้น และขอความร่วมมือรักษาความสะอาดจ.พิษณุโลก อากาศแปรปรวนเช้าวันนี้มีฝนตกโปรยปราย เจ้าหน้าที่เตือนประชาชนระมัดระวังการสัญจร เพราะถนนลื่นและมีหมอกหนาศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือรายงาน มวลอากาศเย็นอีกระลอก แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้ วัดได้ 8.9 องศาเซลเซียส ที่กิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ไปที่ภาคอีสานนักท่องเที่ยวขึ้นชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น บนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้อุณหภูมิวัดได้ที่ 18 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัวและหมู่คณะ เพื่อพักค้างคืนสัมผัสอากาศหนาวเย็นเช่นเดียวกับที่ ภูห้วยอีสัน อ.สังคม จ.หนองคาย นักท่องเที่ยวไปชมทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นเหนือลำน้ำโขง ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นอุณหภูมิยอดภู ประมาณ 18 องศาเซลเซียสที่จ.บึงกาฬ มีลมพัดแรงและอากาศเริ่มเย็น โดยเฉพาะตอนเช้าริมฝั่งแม่น้ำโขงเกิดหมอกปกคลุม ชาวบ้านมาออกกำลังกายกลางแจ้ง พร้อมชมทัศนียภาพที่สวยงามของแม่น้ำโขงขณะที่ จ.บุรีรัมย์ มีผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ เข้ารักษาที่โรงพยาบาลของรัฐ และคลินิกเอกชน มากขึ้นกว่าร้อยละ 20 โดยเฉพาะโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ มีผู้ป่วยวันละไม่ต่ำกว่า 1000 คน และอาจเพิ่มสูงขึ้น หากสภาพอากาศหนาวเย็นลงมากกว่านี้
บรรยากาศการท่องเที่ยวภาคเหนือและอีสานคึกคัก โดยเฉพาะที่ดอยช้าง จ.เชียงราย มีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นมาชมความสวยงามของทะเลยามเช้าหมอก และสัมผัสอากาศหนาวจำนวนมาก
ภูมิภาค
ทะเลหมอก,เที่ยวภาคเหนือ,อากาศหนาว,เชียงใหม่,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/267464
ตามล่ารถชนแล้วหนี ชายนครพนมวัย 52 ดับคาที่ ตร.เร่งดูวงจรปิดล่าตัว
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 1 เมษายน 2561 พ.ต.ท.สมพร ไวแสน สารวัตรเวร สภ.หลักสิลา อ.ธาตุพนม จ.นครพนม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนแล้วหนี มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณถนน ชยางกูร นครพนม – ธาตุพนม เขตบ้านดงขวาง ต.แสนพัน ฝั่งมุ่งหน้าไปยัง อ.ธาตุพนม จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ร่วมกับ ทีมอาสากู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม ร่วมตรวจสอบ ชันสูตรศพ โดยในที่เกิดเหตุพบสภาพศพเป็นชาย นอนเสียชีวิตจมกองเลือด บนถนน มีรอยถูกชน กระเด็นจากจุดเกิดเหตุไกล ประมาณ 30 เมตร สภาพศพสวมกางเกงขาสั้น สีเทา และเสื้อยืดสีเทา มีบาดแผลกะโหลกศีรษะเปิด สมองกระจายเต็มพื้นถนน ทราบชื่อภายหลังคือ นายทองฤทธิ์ โมรัตน์ อายุ 52 ปี ชาวบ้าน หมู่ 6 ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบ เก็บหลักฐาน ประกอบการดำเนินคดี ก่อนนำให้ญาติไปบำเพ็ญกุศล,นอกจากนี้ใกล้ที่เกิดเหตุยังพบชิ้นส่วนรถยนต์ สันนิษฐานว่า จะเป็นรถยนต์เก๋ง โตโยต้า ไม่ทราบรุ่น สีขาว เนื่องจากมีชิ้นส่วนกันชนหน้า บางส่วน และไฟตัดหมอก ตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ คาดว่าจะตกหลังเกิดเหตุ และขับหลบหนีไป ซึ่งทางตำรวจจะได้เร่งสืบสวนติดตาม คนขับรถมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมฝากแจ้งไปยังประชาชน ที่พบเห็น แจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทันที,เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุขณะผู้เสียชีวิต กำลังจะข้ามถนนไปอีกฝั่ง แต่ขณะเดินข้ามไปถึงกลางถนน ได้มีรถยนต์คันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็ว ก่อนพุ่งชนอย่างแรง ทำให้ผู้เสียชีวิต กระเด็นไปไกลจากจุดที่ชน กว่า 30 เมตร ทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที่ ซึ่งสาเหตุเชื่อว่ามาจากการขับรถเร็ว บวกกับถนน ดังกล่าว ไม่มีไฟส่องสว่าง ทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ ที่ใช้ความเร็ว ไม่ใช้ความระมัดระวัง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง และจุดดังกล่าว มีการเกิดอุบัติเหตุบ่อย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และ เสียชีวิตมาหลายครั้ง ชาวบ้านในพื้นที่เคยเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง ดำเนินการแก้ไข ติดไฟส่องสว่าง แต่ยังไม่รับการแก้ไข,20180402_3
สุดสยอง! โชเฟอร์เก๋งตีนผีซิ่งชนคนข้ามถนนดับคาที่ สมองเละเกลื่อน ตำรวจนครพนมเร่งล่าตัวมาดำเนินคดี ฝากชาวบ้านพบเห็นแจ้งเบาะแส
ข่าว,ทั่วไทย
ชนแล้วหนี,รถชนคนตาย,อ.ธาตุพนม,นครพนม,รถเก๋งชนคนตาย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1244951
แม่งงเด้? เจอลูกสาวถาม โอบามาไปไหน? หนูอยากให้ทรัมป์ไปอยู่ที่อื่น
เมื่อ 26 พ.ค. สื่อต่างประเทศพากันทึ่งกับความชื่นชอบการเมืองของ เทย์เลอร์ เด็กหญิงอเมริกัน วัยเพียง 5 ขวบ ที่แม้แต่ผู้เป็นแม่ยังงง กับคำถามของลูกสาวตัวน้อย ที่ถามเธอด้วยคำถามเครียดๆ เกี่ยวกับ เรื่องการเมือง ระหว่างที่สองแม่ลูกกำลังอยู่บนรถยนต์ โดยแม่เป็นคนขับ และลูกสาวนั่งอยู่บนเบาะหลัง พร้อมกับรัดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย จนผู้เป็นแม่ได้นำคำถามที่ลูกสาวถามและคลิปสั้นๆมาโพสต์บนทวิตเตอร์ tabgeezy ,คำถามแรก ที่เด็กหญิงเปิดฉากถามแม่ คือ บารัค โอบามาไปอยู่ไหน? และบ้านประธานาธิบดีอยู่ที่ไหน? ไม่เพียงเท่านั้น ลูกสาวยังถามแม่ด้วยสีหน้าและท่าทางจริงจังว่า ทำไมพวกเราต้องเปลี่ยนประธานาธิบดีด้วยนะแม่ แล้วทำไมเขาต้องไปด้วย? เขาไปอยู่ที่ไหนแล้ว? ขณะที่ ฝ่ายแม่ก็พยายามตอบคำถามลูกสาวอย่างใจเย็นถึงเหตุผลที่โอบามาต้องออกจากทำเนียบขาว ว่า เป็นเพราะประธานาธิบดีสหรัฐฯ สามารถดำรงตำแหน่งได้แค่เพียง 2 สมัยเท่านั้น,แล้ว ทำไมฮิลลารี (คลินตัน) ไม่ได้เป็นประธานาธิบดี ทำไมเธอถึงแพ้ล่ะแม่ เด็กหญิงตัวน้อยยังไม่ลดละตั้งคำถามเรื่องการเมืองกับแม่ รวมทั้งคำถามว่า ทำไมพวกเขาจึงให้โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากแม่ได้อธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้ทรัมป์ชนะ ซึ่งเมื่อเด็กหญิงเทย์เลอร์ได้ยินคำตอบของแม่ เธอถึงกับยกมือขึ้นอย่างเซ็งสุดๆ พร้อมกับร้องถามว่า แล้วทำไมเขาต้องอยู่ที่นั่นด้วย จนแม่ต้องถามลูกสาวกลับบ้างว่า แล้วลูกต้องการให้เขาไปอยู่ที่ไหนล่ะ เทย์เลอร์ตอบว่า หนูต้องการให้เขาไปอยู่ที่อื่น และไม่ต้องการให้เขาอยู่ในเทกซัส,ชมคลิป ,ที่นี่
หญิงมะกัน งงเลย เจอลูกสาววัย 5 ขวบคอการเมืองสุดๆ ถามแม่อย่างจริงจังมาก บารัค โอบามา ไปอยู่ที่ไหนทำไมต้องเปลี่ยนประธานาธิบดี แถมยังไม่พอใจที่ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่สหรัฐฯ อยากให้ไปอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่ทำเนียบขาว
ข่าว,ต่างประเทศ
บารัค โอบามา,โดนัลด์ ทรัมป์,เด็กหญิงมะกัน ชอบโอบามา,เด็กหญิง 5 ขวบ ชอบการเมือง,เด็กหญิงสหรัฐฯ ไม่ชอบทรัมป์
https://www.thairath.co.th/news/foreign/953485
เอกชนมอบของบรรเทาความเดือดร้อนปชช.ช่วง COVID-19
วันนี้ (20 พ.ค. 2563)พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร รับมอบถุงยังชีพ 200000 ถุง จากนายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)นายชูชาติกล่าวว่า สืบเนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เชิญชวนนักธุรกิจในประเทศไทย ร่วมมือกันช่วยเหลือประเทศไทยและร่วมเป็นทีมประเทศไทย ในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อประชาชนจำนวนมากดังนั้นจึงได้จัดสรรถุงยังชีพ 200000 ถุง เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งถุงยังชีพประกอบด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง มูลค่าถุงละ 300 บาท รวมเป็นเงิน 60 ล้านบาท โดยมอบผ่าน รมว.มหาดไทย 147000 ถุง เพื่อมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ นำไปมอบให้กับประชาชนที่เดือดร้อนและมอบผ่านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 53000 ถุง เพื่อนำไปมอบให้ประชาชนตามชุมชนต่างๆ โดยมอบหมายให้บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดสรรสิ่งของและส่งไปยังทุกจังหวัดเพื่อส่งมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนต่อไป ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 25 พ.ค.นี้พล.อ.อนุพงษ์กล่าวขอบคุณที่ได้ร่วมช่วยเหลือประชาชนคนไทย ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมนำถุงยังชีพจำนวนดังกล่าวส่งมอบให้แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ และผู้พิการ เพื่อใช้ในการดำรงชีพช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ตามวัตถุประสงค์ผู้มอบต่อไป
รมว.มหาดไทย และ ผู้ว่าฯกทม. รับมอบถุงยังชีพ 200000 ถุง จากบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วง COVID-19
การเมือง
COVID-19
https://news.thaipbs.or.th/content/292696
ชาวพุทธร้องเรียนขอตรวจสอบการเงินโครงการก่อสร้างรูปหล่อหลวงปู่ทวด
พุทธศาสนิกชนจำนวนมาก และตัวแทนสำนักงานพระพุทธศาสนาเชียงใหม่ เข้ารับฟังการชี้แจงจากพระใบฏีกาเทียนชัย สุภทโทร เจ้าอาวาสวัดแม่ตะไคร้ ตำบลทาเหนือ อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ กรณีมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบโครงการก่อสร้างรูปหล่อหลวงปู่ทวดความสูงกว่า 19 เมตร ซึ่งมีประชาชนร่วมบริจาคเงิน กว่า 9 ล้านบาท แต่การก่อสร้างไม่คืบหน้า และเงินในบัญชีวัดเหลือไม่ถึง 2 ล้านบาทด้านเจ้าอาวาสวัดแม่ตะไคร้ ชี้แจงว่า โครงการก่อสร้างรูปหล่อหลวงปู่ทวด มีงบประมาณก่อสร้างมากกว่า 50 ล้านบาท โดยได้เริ่มวางศิลาฤกษ์เมื่อปี 2551 มีอาจารย์หนู กันภัย นักสักยันต์ชื่อดังร่วมดำเนินการ แต่ภายหลังได้ถอนตัวไปเมื่อปี 2553 ทำให้ต้องเดินหน้าก่อสร้างตามลำพังส่วนเงินที่ได้รับบริจาครวมกว่า 9 ล้านบาท ได้นำไปจ่ายคืนแก่ผู้ที่ให้กู้ยืมเงิน และ ร้านค้าวัสดุก่อสร้างต่างๆ ที่ติดค้างอยู่กว่า 6 ล้านบาทขณะที่พระครูวินิจ สุภาจารย์ เจ้าคณะอำเภอแม่ออน มีคำสั่งให้เจ้าอาวาสวัดแม่ตะไคร้ นำหลักฐานการใช้จ่าย มาแสดงต่อคณะกรรมการวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล และ ตัวแทนจากสำนักงานพุทธศาสนา เพื่อความโปร่งใส หลังจากนั้นจะมีการชี้แจงต่อประชาชนผู้ร่วมบริจาคเงินอีกครั้ง
เจ้าคณะอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ให้เจ้าอาวาสวัดแม่ตะไคร้นำหลักฐานทางการเงินมาแสดง หลังกลุ่มชาวพุทธร้องเรียนให้ตรวจสอบโครงการก่อสร้างรูปหล่อหลวงปู่ทวดที่ไม่มีความคืบหน้า ขณะที่เงินบริจาคกว่า 9 ล้านบาท เหลือไม่ถึง 2 ล้านบาท
ภูมิภาค
การเงิน,จังหวัดเชียงใหม่,วัดแม่ตะไคร้,หลักฐาน,เจ้าคณะอำเภอแม่ออน,เจ้าอาวาส,โครงการก่อสร้างรูปหล่อหลวงปู่ทวด
https://news.thaipbs.or.th/content/116206
หิ้วหนุ่ม 20 ทำแผนจี้ชิงเงิน 7.2 ล้าน อดีตพนักงานรถขนเงิน ยังหลบหนี
เมื่อเวลา 08.00 น. พ.ต.อ.นภดล กาญจนพันธุ์ ผกก.สน.หนองค้างพลู พร้อมพนักงานสอบสวน สน.หนองค้างพลู และฝ่ายสืบสวน นำตัวนายจิรายุส สวนมิ อายุ 20 ปี หนึ่งในผู้ต้องหา ใช้อาวุธปืนชิงถุงเงิน บริเวณหน้าห้างบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า สาขาพุทธมณฑลสาย 3 ตัดเพชรเกษม แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. จากพนักงานขนเงินของบริษัท BRINKS ได้เงินไป 7,270,000 บาท เพื่อประกอบคำรับสารภาพ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลความปลอดภัยตลอดการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ,พ.ต.อ.นภดล กล่าวว่า พนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้งหมด 4 จุด 1. บริเวณจุดเกิดเหตุภายในห้าง ทั้งจุดที่จอดรถจักรยานยนต์เพื่อดักรอและจุดที่เข้าไปใช้อาวุธปืนชิงถุงเงิน รวมถึงเส้นทางหลบหนี จุดที่ 2 ห้องเช่าที่มีการนำเงินของกลางบางส่วนไปเก็บ 3. จุดที่ทิ้งอาวุธปืนของกลาง และจุดสุดท้าย ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายนำรถจักรยานยนต์ไปปลอมแปลงสีและหมายเลขทะเบียน,อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ จะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในคดีที่ผู้ต้องหารายดังกล่าวเคยก่อเหตุลักทรัพย์ในรถขนเงินที่จอดบริเวณห้างเซ็นทรัล เวสเกต ก่อนจะมีการส่งมอบตัวผู้ต้องหาคืนสน.หนองค้างพลู เพื่อให้พนักงานสอบสวนนำตัวส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดตลิ่งชันในช่วงบ่ายต่อไป.
ตำรวจหนองค้างพลู หิ้วตัว หนุ่ม 20 ทำแผนร่วมกับอดีตพนักงาน จี้ชิงเงิน 7.2 ล้าน ก่อนส่งต่อตำรวจบางใหญ่ ทำแผนฉกเงินรถขนเงิน 6 ล้านกว่า เมื่อปี 60
ข่าว,อาชญากรรม
ชิงเงินรถขนเงิน,จี้รถขนเงิน,หนุ่ม 20 ทำแผนจี้รถขนเงิน,อดีตพนักงานรถขนเงิน,ชิงเงิน 7 ล้าน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1508045
ผู้นำทั่วโลกไว้อาลัย จอห์น แมคเคน
วันนี้ (26 ส.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนรถบรรทุกศพนายจอห์น แมคเคน อดีตสมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐฯ วัย 81 ปี เคลื่อนออกจากไร่ในเมืองเซโดน่า รัฐแอริโซนา ที่นายจอห์นเป็นเจ้าของ และเสียชีวิตหลังป่วยเป็นมะเร็งสมองนานกว่า 1 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วันเขาตัดสินใจยุติการรักษาขณะที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวิตข้อความถึงครอบครัวของแมคเคน โดยแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และแสดงความเคารพในตัวแมคเคน นอกจากนี้ ยังมีทั้งผู้นำและอดีตผู้นำทั่วโลกร่วมแสดงความไว้อาลัย เช่น นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ชื่นชมแมคเคนว่า เป็นผู้รักชาติและมีความกล้าหาญ จัสติน ทรูโด ประธานาธิบดีแคนาดา และนักการเมืองจากหลายประเทศ ร่วมทวิตข้อความไว้อาลัยให้กับการจากไปของแมคเคน ที่เคยเข้าร่วมรบในสงครามเวียดนาม ในฐานะนักบินของกองทัพเรือ โดยเครื่องบินของเขาถูกยิงตก ทำให้เขาถูกจับและตกเป็นเชลยสงครามนานถึง 5 ปี ก่อนที่จะผันตัวมาลงสนามการเมืองแมคเคนเป็นสมาชิกวุฒิสภา 6 สมัย และเคยเป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกันในปี 2551 ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับซาราห์ เพลิน ที่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี โดยคู่แข่งคนสำคัญในขณะนั้นคือ บารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต
ผู้นำและนักการเมืองทั่วโลก ร่วมไว้อาลัยให้กับจอห์น แมคเคน อดีตสมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐฯ วัย 81 ปี หลังเสียชีวิตจากมะเร็งสมอง
ต่างประเทศ
จอห์นแมคเคน,จอห์น,สหรัฐฯ,สหรัฐอเมริกา,สหรัฐ
https://news.thaipbs.or.th/content/274222
เอ-ไทม์ มีเดีย กับกลยุทธ์ 360 Media Solutions
เปิดรับคนมีไฟเป็นดีเจหน้าใหม่,ยังมีคนฟังวิทยุอีกหรา? คำถามธรรมดาที่ต้องการคำตอบ สมโรจน์ วสุพงศ์โสธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด ผู้บริหาร 3 คลื่นวิทยุดังในเครือ เอ–ไทม์ มีเดีย กรีนเวฟ 106.5 เอฟเอ็ม, อีเอฟเอ็ม 94, ชิล ออนไลน์ เผยถึงภาพรวมของสื่อวิทยุในช่วงครึ่งปีแรก พร้อมยืนยันว่าวิทยุกลายเป็นสื่อที่เหมือนเพื่อนที่ติดตามชีวิตประจำวันของผู้บริโภค วันนี้วิทยุและวิทยุออนไลน์ในเครือเอ-ไทม์ มีเดีย ผ่านจุด Disruption และ Transformation ไป 2-3 ปีแล้ว,เราพร้อมขยับตัวไปสู่โมเดลธุรกิจ A-Time Media Solutions 360 องศาที่เป็นมากกว่าวิทยุ เราอยู่ในยุค digital transformation ที่สร้าง online platform มารองรับไลฟ์สไตล์คนฟัง ช่องทางการรับฟังสู่เว็บไซต์ สมาร์ทโฟน แอปพลิเคชัน รวมถึงโซเชียลมีเดีย อย่าง facebook, youtube และผลิตคอนเทนต์ต่างๆให้ตรงกับความต้องการของผู้ฟัง ครึ่งปีหลังเรายังเน้นหนักที่การพัฒนาคอนเทนต์ ทั้งแฉข่าวเช้า, Club Friday, จันทร์ช็อคโลก, ใต้โต๊ะทำงาน และพุธทอล์คพุธโทร ปีที่ผ่านมาได้รับรางวัลและมียอดวิวรวมสูงถึง 200 ล้านวิว ก็กำลังจะต่อยอดไปสู่รูปแบบ Online Exclusive Content,เรายังมีโปรเจกต์ DJ New Face เปิดรับสมัครดีเจหน้า ใหม่ถ้าคุณมีฝันอยากเป็นดีเจเหมือนซุปตาร์ดีเจ อาทิ ดีเจต้นหอม, ดีเจบุ๊ก–โกะ, ดีเจมะตูม, ดีเจเผือก โอกาสมาถึงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพศอะไร ขอเพียงคุณมีความสามารถและผ่านเกณฑ์คัดเลือก อายุ 18 ปีขึ้นไป ส่งคลิปผลงานการจัดรายการวิทยุความยาว 45 นาที ไม่ จำกัดรูปแบบ จะเดี่ยวหรือคู่ ส่ง Inbox แนบประวัติส่วนตัวมาที่ Face book : EFM Station อีกด้านคือการพัฒนา Online Platform ขยายการรับ ฟังไปได้ทั่วประเทศและทั่วโลก,เรามีผู้ฟังทางออนไลน์และยอดดาวน์โหลด Application มากที่สุดในประเทศไทย 5.5 ล้าน ID ต่อยอดสู่ความบันเทิงรูปแบบใหม่ๆ แอปเวอร์ชันใหม่กำลังจะเปิดตัวต้นเดือน ก.ค.นี้ ฟังก์ชันที่ฟังเพลงจากทั้ง 3 คลื่นเอ-ไทม์ มีเดีย, Channel ใหม่ล่าสุด Cover Night by GreenWave รวมลิสต์เพลงคัฟเวอร์, รวมรายการ Super Talk ทุกรายการของเอ-ไทม์ มีเดีย มาให้ดูแบบเรียลไทม์ และ QR Code รับสิทธิพิเศษแบบ Level Up นำไปลุ้นแลกรับของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ในส่วนของโชว์บิส A-time Showbiz 10 กว่าปีที่ผลิตคอนเสิร์ตมาแล้วนับร้อย ปี 2562 มีการร่วมงานกับ Partner ใหม่ๆ ครึ่งปีหลังนี้จะมีอีก 3 คอนเสิร์ต The Lyrics of Love : Greatest hits Of Dee Boyd ของ 2 ค่ายเพลง (GMM & Love is) (13-14 ก.ค.), Green concert หมายเลข 22 The Lost Rock Songs (7-8 ก.ย.) กับบริษัทแก่น ป๋าเต็ด ยุทธนา บุญอ้อม และ คอนเสิร์ตท้ายปี 22 ปี โบ สุนิตา (พ.ย.).
ยังมีคนฟังวิทยุอีกหรา? คำถามธรรมดาที่ต้องการคำตอบ สมโรจน์ วสุพงศ์โสธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด ผู้บริหาร 3 คลื่นวิทยุดังในเครือ เอ–ไทม์ มีเดีย กรีนเวฟ 106.5
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
สมโรจน์ วสุพงศ์โสธร,เอ ไทม์ มีเดีย,หาดีเจหน้าใหม่,DJ New Face,คนฟังวิทยุ,ซุปตาร์ดีเจ,ความบันเทิงรูปแบบใหม่,นักร้อง
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1600641
ไทยพาณิชย์ แจกทุนสตาร์ทอัพ
นายธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด ในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป,ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ใส่เงินลงทุนเข้ามา 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,760 ล้านบาท และภายในปีนี้บริษัทจะนำเงิน 1 ใน 3 ของเงินลงทุน ไปลงทุนในกองทุนสตาร์ทอัพต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จ และเป็นกองทุนที่คิดค้นผลิตภัณฑ์บริการทางการเงินใหม่ ที่นำมาใช้ในธนาคารไทยพาณิชย์,นายธนากล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เงินลงทุนของบริษัทที่มีอยู่ทั้งหมดจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ลงทุนในกองทุนสตาร์ทอัพในต่างประเทศสัดส่วน 40% ร่วมลงทุนในบริษัทต่างชาติอีก 60% ซึ่งบริษัทจะเลือกเข้าไปลงทุน จะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เช่น ร่วมลงทุนกับบริษัทไอบีเอ็ม และร่วมลงทุนกับสตาร์ทอัพในเมืองไทย 350 ล้านบาท โดยเงินร่วมลงทุนในประเทศไทยมีจำนวนน้อย ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ให้นโยบายไม่ต้องการกำไรที่มากมาย ขอให้ไม่ขาดทุน มั่นใจว่าใน 6 เดือน หรือ 1 ปี จะมีเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในธนาคารไทยพาณิชย์ และเร็วๆนี้ จะมีเรื่องการลงทุนเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทที่มีซีอีโอธนาคารไทยพาณิชย์เป็นประธาน ถ้าเห็นชอบกับการลงทุนในต่างประเทศครั้งนี้ก็จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆมาให้ใช้ โดยบริษัทยังเตรียมเปิดโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพรุ่นที่ 1 ภายใต้ชื่อ Digital Ventures Accelerator (DVA) ซึ่งผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับเงินทุนให้เปล่าจำนวน 300,000 บาท เปิดรับสมัครถึงสิ้นเดือน ส.ค.นี้.
บริษัทต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมธนาคารผ่านการลงทุน และการค้นคว้านวัตกรรมใหม่ๆ ด้านเทคโนโลยีการเงิน เพื่อนำมาใช้ในธนาคารไทยพาณิชย์ หรือลูกค้าของธนาคารได้ใช้นวัตกรรมการเงินใหม่ เพื่อรองรับ
null
ข่าวเศรษฐกิจ,ธนา เธียรอัจฉริยะ,ธนาคารไทยพาณิชย์,ทุนสตาร์ทอัพ,เงินลงทุน,กองทุนสตาร์ทอัพ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/content/669501
ไทยตอนบนฝนเพิ่ม ในช่วงเย็นถึงค่ำ กทม.มีโอกาสเกิดฝน 12 %
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ,ทีมข่าวไทยรัฐ, ร่วมกับ ,The Weather Company, ของสหรัฐอเมริกา รายงานสภาพอากาศเช้านี้ ทางตอนบนของประเทศยังคงมีฝนเพิ่มขึ้น จากการตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียม พบว่า กลุ่มเมฆฝนยังคงปกคลุมหนาแน่นบริเวณตอนบนของประเทศ ในภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ซึ่งเกิดจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พัดนำความชื้นเข้าปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงเย็นถึงค่ำ ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงขึ้น พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาสมทบ ในบริเวณภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้จึงทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกเพิ่มขึ้นในระยะนี้ , ,ทั้งนี้ จากปริมาณความชื้นสะสมในวันนี้ พบว่าบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออก มีปริมาณความชื้นสะสมมากที่สุดเกินกว่าร้อยละ 80 ซึ่งเมื่อมีการสะสมความชื้นในชั้นบรรยากาศมาก ความชื้นเหล่านี้จะลอยตัวขึ้นไปก่อตัวกลายเป็นกลุ่มเมฆฝนฟ้าคะนอง ทำให้ทั้ง 2 ภาคมีโอกาสเกิดฝนมาก,สำหรับการคาดการณ์ปริมาณฝนตั้งแต่ตอนบนถึงตอนกลางของประเทศวันนี้ พบว่า กลุ่มฝนจะเริ่มก่อตัวตั้งแต่ช่วงสายของวันนี้ โดยจะตกปานกลางถึงหนักครอบคลุมในบริเวณพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน แถวๆนครสวรรค์ ภาคอีสานตอนบน ไล่ยาวลงมาทางจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา ปราจีนบุรี ไปครอบคลุมพื้นที่ภาคตะวันออก โดยจะตกไปจนถึงช่วงเที่ยง,ส่วนในช่วงบ่ายกลุ่มฝนจะยังกระจายตัวครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลางฝั่งตะวันตก ไล่ยาวลงมาถึงจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรีด้วย และตกบางส่วนในจังหวัดนครราชสีมาด้วย และช่วงบ่ายแก่ๆกลุ่มฝนจะขยับเข้ามาครอบคลุมบริเวณพื้นที่ภาคกลาง ช่วงเย็นกลุ่มฝนจะยังคงตกปานกลางถึงหนักบริเวณภาคเหนือตอนบน และตกปานกลางในจังหวัดอยุธยา สระบุรี และนครราชสีมา และจะซาลงในช่วงดึก,ส่วนสถานการณ์ฝนทางภาคใต้ วันนี้จะเริ่มก่อตัวในช่วงสายเป็นแนวยาวฝั่งอันดามันตั้งแต่ตอนกลางจนถึงตอนล่างของภาค ส่วนช่วงเที่ยงจะขยับขึ้นไปตกเพิ่มในจังหวัดชุมพร ช่วงบ่ายจะยังคงตกในจุดเดิม แต่จะตกหนักขึ้นที่จังหวัดตรัง และสตูล ช่วงบ่ายแก่ๆจนถึงเย็นจะตกเพิ่ม อาทิ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ส่วนช่วงค่ำจะไปตกหนักตกเน้นในจังหวัดตรัง,อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิความร้อน จากฝนที่ตกลงมาค่อนข้างมากในวันนี้ ทำให้ภาคเหนือ และภาคอีสานตอนบน อุณหภูมิลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ภาคกลางตอนล่างยังคงร้อนระอุ,สภาพอากาศแยกเป็นรายภูมิภาค,ภาคเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง น่าน ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส,ภาคอีสาน มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส,ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุพรรณบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี และนครสวรรค์ อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 40 องศาเซลเซียส,ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ตามบริเวณชายฝั่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร,ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร,ภาคใต้ฝั่งอันดามัน มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร,กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย โดยวันนี้มีโอกาสเกิดฝนร้อยละ 12 ในช่วงเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39 องศาเซลเซียส.
ไทยตอนบนฝนเพิ่ม ก่อตัวตั้งแต่ช่วงสาย เหนือ-ตะวันออก มีปริมาณความชื้นสะสมมากสุด มีโอกาสเกิดฝนมาก ส่วนภาคใต้ตกหนักที่ตรัง-สตูล ขณะที่ภาคกลางตอนล่างยังร้อนระอุ กทม.-ปริมณฑล โอกาสเกิดฝนช่วงเย็น 12 %…
ข่าว,ทั่วไทย
พยากรณ์อากาศ,อากาศ,พยากรณ์อากาศวันที่ 9 มิ.ย.,ฝนตกหนัก,ไทยตอนบน,ฝนเพิ่ม,The Weather Company,อุณหภูมิ,อากาศรายภูมิภาค,ข่าวพยากรณ์อากาศ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/503876
คลอปป์ จัดเต็ม เปิดใจขี่พญาหงส์ตบเรือใบร่วง ตะลึงกับบาร์ซา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 10 เม.ย. ว่า เยอร์เกน คลอปป์ กุนซือของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ยอมรับว่าเกมที่เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ในศึกแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมเลกสอง คือค่ำคืนที่ยากลำบาก แต่การตอบสนองที่ยอดเยี่ยมแบบทันทีของลูกทีมทำให้กลับมาเอาชนะพร้อมกับผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศต่อไป,มันเป็นค่ำคืนที่ค่อนข้างยากลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเริ่มเกมอีกครั้ง คลอปป์ กล่าวผ่านบีทีสปอร์ต,ประตูที่เราเสิร์ฟให้กับพวกเขามันมหัศจรรย์จริงๆ ผมคาดหวังอะไรบางอย่าง แต่ผมชอบการตอบสนองทันทีหลังจากเสียประตูไป,ซิตี้เทหน้าตักเสี่ยงเต็มเหนี่ยวเท่าที่ทำได้ เราต้องพึ่งโชคเล็กน้อยและมีวินัยในเกมรับ ผมไม่อาจจะแฮปปี้หลังจากพักครึ่ง พูดตรงๆ เลย,เป๊ป กวาร์ดิโอลา เสี่ยงหมดหน้าตักและมันเป็นการตัดสินใจของเขาและมันอาจเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง มันเป็นเรื่องง่ายที่จะพูดในภายหลัง พวกเขาสามารถยิงได้สองหรือสามประตูในครึ่งแรกแต่มันชัดเจน 100 เปอร์เซ็นต์ว่าหากเราแย่งบอลได้เราก็จะมีโอกาส,จังหวะสุดท้ายในครึ่งแรกคือการเล่นเคาน์เตอร์แอตแทคของเรา และนั่นก็คือวิธีที่เรายิงได้สองประตู มันไม่ได้เพอร์เฟกต์หรอก แต่มันเกี่ยวกับผลการแข่งขัน คาแรกเตอร์ สภาพจิตใจ ต่อสู้เพื่อผลการแข่งขันอย่างแท้จริง เราเล่นเกมรับได้ดี มันไม่ใช่เกมที่ดีที่สุดของเรา แต่เราสมควรที่จะได้รับมันตอนจบการแข่งขัน,นอกจากนี้ คลอปป์ ยังพูดถึงการที่บาร์เซโลนาตกรอบด้วยว่า, ผมเดินขึ้นบันไดและบางคนก็บอกเรื่องนี้กับผม ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องโจ๊กนะ,ไม่ใช่ไม่ได้เคารพโรมา พวกเขาเสียซาลาห์ไปและเขาเข้าไปรอบรองชนะเลิศ ก็นั่นแหละ,การแข่งขันแบบนี้มันค่อนข้างยุติธรรมดี เอาจริงๆ ผมคิดว่ารอบชิงอาจจะเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ บาร์เซโลนา แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ตกรอบไปแล้ว,แต่ยังมีอีกสองทีมที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงในรอบชิงชนะเลิศเพิ่มจากโรมาและเรา เราจะได้เห็นกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องคิดในตอนนี้.
เยอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่ของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล เปิดใจหลังพาทีมโค่นเรือใบตกรอบ 8 ทีมแชมเปียนส์ลีก
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก,เยอร์เกน คลอปป์,ลิเวอร์พูล
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/eufa/1253537
หม่อมหมู อ้อนผู้สูงอายุ จัดรถทำฟันเคลื่อนที่เป็นของขวัญ
เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า เนื่องในวันที่ 13 เมษายน ของทุกปี เป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ และตรงกับวันขึ้นปีใหม่ไทย หรือที่เรียกกันว่าวันสงกรานต์ กรุงเทพมหานครได้จัดกิจกรรมในโอกาสวันผู้สูงอายุมาโดยตลอด ซึ่งได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้สูงอายุ เพราะผู้สูงอายุเป็นผู้ที่มีคุณค่าต่อสังคมเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่ได้ทำคุณประโยชน์แก่บ้านเมืองและสังคม และมีศักยภาพพอที่จะประสิทธิ์ประสาทความรู้ ประสบการณ์ให้แก่ลูกหลาน ให้กับอนุชนคนรุ่นหลัง ถือว่าผู้สูงอายุเป็นแหล่งความรู้ เป็นแหล่งภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง,พร้อมระบุ กรุงเทพมหานครได้จัดกิจกรรมดูแลผู้สูงอายุอย่างครบวงจร ไม่ว่าเรื่องสุขภาพ สภาพแวดล้อมทางสังคม หรือทางด้านเศรษฐกิจ และขยายการมีส่วนร่วมของชุมชน พัฒนาอาสาสมัครสาธารณสุขในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ พร้อมเปิดศูนย์บริการเวชศาสตร์ฟื้นฟูผู้สูงอายุ โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน รวมทั้งพัฒนาชุมชนต้นแบบการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว ตลอดจนเพิ่มความสะดวกในการดำเนินชีวิตให้แก่ผู้สูงอายุ ด้วยการเพิ่มบริการแท็กซี่สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการที่ใช้วีลแชร์เป็น 30 คัน รวมถึงติดตั้งลิฟต์ที่สถานีรถไฟฟ้า BTS เพิ่มเป็น 100 ตัว พร้อมทั้งสนับสนุนให้ผู้สูงอายุได้รับสิทธิที่พึงได้อย่างเท่าเทียม เป็นธรรม และทั่วถึง เพื่อรับมือสังคมผู้สูงอายุที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย,นอกจากนี้ ในปีนี้กรุงเทพมหานครมีของขวัญสำคัญให้แก่ผู้สูงอายุ คือ รถทันตกรรมเคลื่อนที่สำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งภายในรถมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุ หรือผู้พิการที่ต้องใช้วีลแชร์ และจะจัดรถเช่นนี้เพิ่มขึ้น เพราะเป็นรถที่สำนักอานามัยกรุงเทพมหานครเป็นผู้ออกแบบเอง ในส่วนเรื่องของตา เรื่องของต้อกระจก จะช่วยดูแลผู้สูงอายุเพิ่มอีก,ภาครัฐจะไม่มีทางดูแลผู้สูงอายุได้อย่างทั่วถึงนะครับ ดังนั้น เราต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของพี่น้องชาวชุมชน และการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครต่างๆ ที่จะช่วยเป็นหูเป็นตา คอยให้คำแนะนำผู้สูงอายุในระดับชุมชน ในระดับครัวเรือน ดังนั้น เราจึงเน้นเรื่องการเผยแพร่ความสำคัญของการดูแลผู้สูงอายุ ให้สังคมในภาพรวมได้รับรู้และเข้าใจมากขึ้น เพราะการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ขอบคุณมากนะครับ
หม่อมหมู ย้ำกทม.เล็งเห็นความสำคัญผู้สูงอายุ จัดกิจกรรมดูแลครบวงจร มอบของขวัญรถทำฟันเคลื่อนที่ ยอมรับภาครัฐดูแลผู้สูงอายุไม่ทั่วถึง ต้องอาศัยชุมชนช่วยกันดูแล
ข่าว,ทั่วไทย
วันผู้สูงอายุ,สุขุมพันธุ์ บริพัตร,รถทำฟัน,รถทันตกรรม,คนชรา,หม่อมหมู,ผู้ว่ากทม.,ดูแลผู้สูงอายุ,13เมษา,ของขวัญผู้สูงอายุ,กทม.,ข่าวกทม.,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/492824
ใบเฟิร์น ไม่รู้จัก อองตวน งงตามจีบ (คลิป)
ขอบคุณที่เป็นแฟนคลับ ตอนนี้ยังไม่อยากมีใคร,เนื้อหอมแบบเห็นๆ ต้องยกให้สาว ,ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์, ที่ถูกจับตาว่ามีนักมวยหนุ่ม ,อองตวน ปินโต, ชอบมาคอมเมนต์แซวหวานในไอจี แถมยังมีหนุ่ม ,ไป่ ทาคน, นายแบบฮอตชาวพม่าที่ปลื้มใบเฟิร์นสุดๆก็ได้มาร่วมงานใกล้ชิด เจอ ,ใบเฟิร์น, งานเฉลิมฉลอง ,คอตตอน เดย์ 2019 ,ถามข่าวกับอองตวนมีการแซวกันไปมาในไอจีด้วย? ,เฟิร์นพูดเลยว่าเฟิร์นไม่เคยรู้จัก ไม่เคยคุย แล้วก็ไม่ได้ฟอลโลเค้าด้วยซ้ำ,เราไม่เคยไปคอมเมนต์กลับ มีแต่เค้ามาแซวใช่มั้ย? ,ไม่เคยค่ะ เฟิร์นไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวด้วย,คนจับโยงว่าแคปชันที่เราลง เค้าก็เอาไปลงในไอจีเค้า เหมือนเป็นการตอบโต้กัน? ,คือแคปชันเสี่ยว หนูเล่นกับผู้จัดการของหนู สุดท้ายถ้าใครจะไปเขียนแคปชันอะไรที่ดูเหมือนต่อกันอะไรรึเปล่า หนูก็ไม่ทราบ เป็นสิทธิ์ของเค้า แต่โดยส่วนตัวไม่เคยรู้จักกันเลย มารู้อีกทีตอนเป็นข่าว ทุกคนแท็กมา ก็งงว่าคืออะไร เกิดอะไรขึ้น,เหมือนเค้าเมนต์เราบ่อยมาก ได้อ่านบ้างมั้ย? ,คอมเมนต์จะขึ้น ถ้าเกิดว่าหนูฟอลโล ใครค่ะ,ล่าสุดเค้าออกมาให้สัมภาษณ์ว่าชอบเรา ปลื้มเรา เราตรงสเปก เราได้อ่านมั้ย? ,อ่านแล้วค่ะ เหมือนเค้าก็บอกว่า เค้าเป็นแฟนคลับ เราก็ขอบคุณค่ะ,คิดว่าเค้ามาแรงแบบจู่โจมมั้ย? ,ก็แรงตรงที่เป็นข่าวทุกๆที่เลย,จริงๆถ้าเค้าเดินหน้าจีบเราจะว่ายังไง? ,ไม่มี ไม่มีทาง,ไม่มีทางเลยเหรอ? ,ไม่ หนูก็ยังไม่ได้อยากมีตอนนี้ แล้วก็ไม่ได้รู้จักกันค่ะ,แฟนคลับเราก็บอกว่าให้อยู่ไกลๆ อย่ามายุ่งกับเรา เค้าปกป้องเรา? ,ก็เห็นเหมือนกันค่ะ แต่ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ,หลายคนบอกให้เราหนีไป? ,ก็สงสารเค้านะคะ (หัวเราะ),เค้าไม่ใช่สเปกเราเหรอ? ,เราไม่มีสเปก ไม่ได้อยากมีด้วยแหละ,นอกจาก คอมเมนต์ มีไดเรกต์ข้อความมาบ้างมั้ย? ,ไม่มีค่ะ,กับ ไป่ ทาคน นายแบบพม่าก็ได้เจอกัน ได้ทำงานร่วมกันแล้ว? ,ก็ทำงาน ก็ดีใจที่ได้เป็นพรีเซนเตอร์ของเซเว่นด้วย ซาลาเปาค่ะ,เค้าไม่มีเข้ามาบอกเหรอว่าเค้าชอบ? ,ไม่ค่ะ ไม่มีเลย,ก่อนหน้านี้เค้าพูดออกสื่อว่าเค้าคลั่งไคล้ใบเฟิร์นมาก? ,ตอนทำงานก็ปกติเลยค่ะ,เค้าไม่เกร็งเลยใช่มั้ยเวลายืนใกล้ประกบเรา? ,ก็ไม่นะคะ ปกติมากๆ มีแต่ผู้กำกับบอกว่าแอ็กชันแบบนั้น แบบนี้ ด้วยเวลามันจำกัด,ไม่มีขายขนมจีบ ซาลาเปา เพิ่มใช่มั้ย? ,ไม่มีเลยค่ะ ไม่มี นี่ก็อีกคนหนึ่งที่ไม่ได้รู้จัก ไม่ได้คุย ไม่ได้มีการติดต่อเป็นการส่วนตัวอะไรเลย,แต่แฟนๆก็เชียร์กันเยอะนะ? ,ก็ขอบคุณแฟนๆที่เชียร์ค่ะ แต่จริงๆแล้วมันไม่มี อะไร เฟิร์นเห็นหลายกระแส ทั้งบอกว่าพวกหนูไปเดตกันบ้าง หรือจะมีหนังด้วยกันบ้าง คือทุกอย่างมันก็ไม่ได้เป็นความจริงเลยค่ะ,หนุ่มๆก็เข้ามาจีบเยอะทำไมเราไม่สนใจ หรือมีใครกันซีนรึเปล่า? ,คืออาจจะด้วยเราทำงานทุกวัน แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่เจอใครในการทำงานแล้วเราอยากจะต้องไปชอบกันทุกคน มันก็เป็นเรื่องของเวลาที่หนูอยากทำงาน ทำงานให้ดีเฉยๆค่ะ,ไม่หวั่นไหวกับใคร? ,เหมือนมันบังคับให้เกิดขึ้นไม่ได้ค่ะ,หรือว่าตอนนี้หัวใจเราตายด้าน? ,ว้ายไม่ตายๆ แต่ว่ามีความสุขกับการทำงาน มือสั่นเลย(หัวเราะ),ถ้าเจอคนที่หวั่นไหวแล้วจะทำยังไง? ,ก็วิ่งเข้าหา (ยิ้ม), มีแล้วเหรอ? ,ไม่มี ก็สมมติไง.
เนื้อหอมแบบเห็นๆ! ต้องยกให้สาว ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ที่ถูกจับตาว่ามีนักมวยหนุ่ม อองตวน ปินโต ชอบมาคอมเมนต์แซวหวานในไอจี
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก,อองตวน ปินโต,ไป่ ทาคน,อองตวนจีบใบเฟิร์น,คอมเมนต์,ความรักดารา,โสด,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1691355
คกก.มติลดโทษ จ่าจำปา เหลือคุก 7 วันแจงดูที่เหตุผล ปัดทำตามกระแสสังคม
โฆษกกองทัพภาคที่ 4 เผย ผลการพิจารณาทบทวนโทษ จ่าจำปา โต้เถียงผู้ว่าฯตรังที่ด่านเคอร์ฟิว ให้ลดโทษจาก 45 วันเหลือ 7 วัน ชี้ พิจารณาตามเหตุผล ไม่เกี่ยวกระแสสังคม เจ้าตัวสำนึกที่ผิดวินัยทหารเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 เม.ย.63 พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 /โฆษกกองทัพภาคที่ 4 เปิดเผย กรณีที่กองทัพภาคที่ 4 ได้ชี้แจงเหตุผลในการลงโทษกำลังพลพร้อมกำชับดูแลครอบครัว กวดขันวินัยและตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอย่างรอบด้าน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รายละเอียดดังที่ทราบแล้วนั้น ว่า ในการนี้ คณะกรรมการของกองทัพภาคที่ 4 ได้เข้าทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้วยการสอบสวนผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วย ผู้ถูกสั่งลงโทษ ผู้บังคับบัญชาโดยตรง เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ณ ด่านตรวจในวันเกิดเหตุ พยานบุคคลและพยานแวดล้อมอื่นๆ อย่างรอบด้าน โฆษกกองทัพภาคที่ 4 กล่าวต่อว่า จากข้อมูลทั้งหมดสามารถสรุปได้ว่า ถึงแม้พฤติกรรมและการแสดงออกของ จ่าสิบเอกพีรศักดิ์ จำปา จะเข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.วินัยทหาร ฐานใช้กิริยาวาจาไม่สมควรและไม่ปฏิบัติตามนโยบายและคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ได้สั่งการให้ทหารทุกคนปฏิบัติให้เป็นแบบอย่างที่ดี ประพฤติและปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดต่างๆ ตามที่ได้ออกประกาศไว้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติตามมาตการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตามนโยบายรัฐบาลและส่วนราชการในพื้นที่อย่างเคร่งครัด หากผู้ใดฝ่าฝืนก็จะมีโทษสถานหนักพล.ต.ปราโมทย์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาถึงเหตุผล และความจำเป็นที่ต้องไปดูแลมารดาซึ่งป่วยหนัก และต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ประกอบกับ จ่าสิบเอก พีรศักดิ์ ได้สำนึกผิดว่าได้กระทำผิดวินัยทหารจริง และที่ผ่านมาได้เป็นผู้ที่ปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเทเสียสละ ส่งผลดีต่อทางราชการและไม่เคยกระทำความผิดวินัยร้ายแรงมาก่อน จึงเป็นเหตุอันควรให้ลดโทษจำขังกำหนด 7 วันตั้งแต่ 17-23 เม.ย.นี้ ณ เรือนจำ มทบ.43 ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โฆษกกองทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงผลการทบทวนการลงโทษจ่าจำปาว่า การทบทวนการสั่งลงโทษในครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นเพราะกระแสสังคมมากำหนด แต่เป็นไปตามขั้นตอนของการปกครองบังคับบัญชาตามลำดับชั้นของหน่วยทหาร ที่จะต้องดำเนินการอย่างรอบด้าน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับกำลังพลทุกระดับอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งนี้ เพราะวินัยทหารใช้บังคับกับกำลังพลทุกระดับ โดยไม่มีข้อยกเว้นพล.ต.ปราโมทย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น ผู้บังคับบัญชาได้ใช้ดุลยพินิจอย่างเหมาะสมแล้วว่า มีเหตุผลสมควรต่อการลดโทษ สำหรับการดูแลมารดาที่เจ็บป่วย ยังคงให้ทีมแพทย์ของหน่วยทหารเข้าดำเนินการอย่างต่อเนื่อง พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการรักษาพยาบาลตามห้วงเวลาให้ดีที่สุด โดยได้เน้นย้ำให้ผู้บังคับหน่วยทุกระดับ กวดขันวินัยกำลังพลอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งให้ปฏิบัติตามมาตรการ นโยบาย ระเบียบและคำสั่งที่เกี่ยวข้องของรัฐบาล ส่วนราชการและกองทัพบก ในเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 อย่างเคร่งครัด จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ.
โฆษก กองทัพภาคที่ 4 เผย ผลการพิจารณาทบทวนโทษ จ่าจำปา โต้เถียงผู้ว่าฯตรังที่ด่านเคอร์ฟิว ให้ลดโทษจาก 45 วันเหลือ 7 วัน ชี้ พิจารณาตามเหตุผล ไม่เกี่ยวกระแสสังคม เจ้าตัวสำนึกที่ผิดวินัยทหาร
ข่าว,ทั่วไทย
จ่าจำปา,กองทัพภาคที่ 4,ลดโทษจ่าจำปา,จำคุก 7 วัน,ทหารเถียงผู้ว่าฯ,พีรศักดิ์ จำปา,การลงโทษกำลังพล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1828404
หวั่นไวรัสโคโรน่า จีนห้ามขายสัตว์ป่าทั่วประเทศ-ฮ่องกงแบนคนจากหูเป่ย
ทางการจีนประกาศห้ามขายสัตว์ป่า ซึ่งเชื่อว่าเป็นพาหะของไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่ทั่วประเทศ ขณะที่ฮ่องกงห้ามคนจากมณฑลหูเป่ยเข้าฮ่องกงแล้วสำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค. 2563 กระทรวงการเกษตร กรมป่าไม้ และคณะกรรมการตรวจสอบความปลอดภัย (CSRC) ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลตลาดของจีน ออกแถลงการร่วมกัน ประกาศห้ามเลี้ยง ขนส่ง หรือซื้อขายสัตว์ป่าทั่วประเทศ ไม่ว่าจะในตลาด ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และร้านค้าออนไลน์คำสั่งแบนดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค.เป็นต้นไป และจะมีผลไปจนกว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่ 2019 จะยุติทั้งนี้ ไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่เริ่มปรากฏในเมืองอู่ฮั่นเมื่อช่วงเดือนธันวาคม โดยเชื่อว่าต้นตออยู่ที่ตลาดปลาซึ่งมีการขายสัตว์ป่าผิดกฎหมาย เช่น งู หรือค้างคาว ที่อาจมีเชื้อปนเปื้อน โดยจนถึงตอนนี้จำนวนผู้ป่วยทั้งหมดอยู่ที่ 2082 รายทั่วโลก เกือบทั้งหมดอยู่ในจีน ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 56 คนแล้วทั้งหมดอยู่ในจีนอีกด้านหนึ่ง สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงประกาศห้ามไม่ให้ชาวจีนจากมณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองอู่ฮั่น อันเป็นศูนย์กลางการระบาดของไวรัสโคโรน่า เข้ามาในฮ่องกง ตั้งแต่วันจันทร์นี้ (27 ม.ค.) เป็นต้นไป หลังจากเจ้าหน้าที่ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะตัวนี้แล้ว 8 ราย.
ทางการจีนประกาศห้ามขายสัตว์ป่า ซึ่งเชื่อว่าเป็นพาหะของไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่ทั่วประเทศ ขณะที่ฮ่องกงห้ามคนจากมณฑลหูเป่ย เข้าฮ่องกงแล้ว
ข่าว,ต่างประเทศ
ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสอู่ฮั่น,ไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่,ห้ามขายสัตว์ป่า,ฮ่องกง,มณฑลเหอเป่ย,เมืองอู่ฮั่น
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1756976
ตร.เลยรวบผัวเมียมาเลเซีย คาดเอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อายึดทรัพย์ตรวจสอบ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 มี.ค.63 พล.ต.ต.วิบูลย์ วงศ์ก้อม ผบก.ภจว.เลย สั่งการให้ พ.ต.ต.ธีรุตม์ ใจเหล็ก สวป.สภ.ด่านซ้าย ปรก.กก.สส.ภ.จว.เลย ประสานไปยัง ร.ต.อ.กิตติ แผ่นหิน รอง สว.สส.สน.บึงกุ่ม นำหมายจับของศาลจังหวัดเลย จ.34/2563 ลงวันที่ 29 ก.พ.63 จับกุม นายคาซูน ตุง อายุ 29 ปี และนางสาวโอคริสต์ ตุง อายุ 33 ปี สองผัวเมียชาวมาเลเซีย ที่บ้านหลังหนึ่งในซอยนวมินทร์ 42 แยก 27 ต.คลองกุ่ม อ.บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร ข้อกล่าวหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตัวเป็นบุคคลอื่น หรือโดยทุจริต หรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ที่เกิดความเสียหายแก่ประชาชนพร้อมกับตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน เป็นเงินสดไทย 9700000 บาท (เก้าล้านเจ็ดแสนบาท) เงินดอลลาร์สหรัฐฯ จำนวนหนึ่ง ภายในตู้เซฟในบ้าน รถเบนซ์รุ่น GLS 250 D สีดำ ทะเบียน ฆฏ 9966 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ฮัมเมอร์ สีดำ ทะเบียน 7 กถ 9966 กรุงเทพมหานคร บ้านตึกราคาหลายล้านบาท และทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง รวมแล้วกว่า 30 ล้านบาท นำตัวพร้อมของกลาง มาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองเลยส่วนสาเหตุสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 ก.พ.63 นางสาวชนิฎาภรณ์ ภูจำเนียน ผู้เสียหาย เข้าร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.พศวัต จันทร์ดุ้ง พงส.สภ.เมืองเลย ว่าได้สั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากบริษัทแห่งหนึ่งเป็นเงิน 3000 บาท แต่ไม่ได้รับสินค้าจึงเข้าแจ้งความ จน พงส.ได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนมีส่วนเกี่ยวข้อง จึงขออนุมัติหมายศาลออกหมายจับ จนสามารถติดตามตัวจับกุมสองผัวเมียชาวเมเลเซียได้ที่บ้านพัก และทำการยึดทรัพย์กว่า 30 ล้านบาทเบื้องต้น ผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 2 คนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมทั้งร้องขอทนายความ ทั้งนี้ ทาง ผบก.ภ.4 จะมีการแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้.
ตร.นำหมายจับรวบผัวเมียชาวมาเลเซีย คาดเอี่ยวแก็งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวมกว่า 30 ล้านบาท ด้านผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ก่อนส่งตัวมาที่ สภ.เมืองเลย ทั้งนี้ ทาง ผบก.ภ.4 จะมีการแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้
ข่าว,อาชญากรรม
แก๊งคอลเซ็นเตอร์,จับผัวเมีย,ชาวมาเลเซีย,ยึดทรัพย์​,สภ.ด่านซ้าย,เลย,ฉ้อโกงประชาชน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1784170
คุยกับนักนิติศาสตร์สากล: กระบวนการยุติธรรมทางอาญาที่เป็นอยู่และที่ควรจะเป็น
ดูเหมือนว่าไม่มีชิ้นส่วนไหนเลยที่ไม่ส่งผลให้กระบวนการยุติธรรมไม่เป็นอย่างที่ควรจะเป็นช่วงนี้เราได้เห็นการใช้กฎหมายแบบสองมาตรฐานอยู่เป็นเนืองนิจ หลายคนอดเปรียบเทียบไม่ได้ว่าถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดาถูกกล่าวหาในข้อหาเดียวกันผลลัพธ์คงจบลงที่คุกไปแล้วปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้กฎหมายแบบสองมาตรฐานเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยมาโดยตลอด การลงโทษทางอาญามักเกิดกับคนขาดมากกว่าคนมี ไม่ใช่เพียงผลลัพธ์ปลายทางหรอก อาจกล่าวได้ว่ากระบวนการยุติธรรมทางอาญาของไทยมีปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่วิธีคิดของผู้มีอำนาจและผู้คนในสังคมซึ่งสะท้อนออกมาผ่านกฎหมายที่ถูกตราขึ้นใช่ที่ว่าไม่มีกระบวนการยุติธรรมทางอาญาของประเทศใดที่มีความสมบูรณ์แบบ และเพราะเหตุนี้เราจึงต้องทำให้กระบวนการยุติธรรมทางอาญาของไทยเป็นไปตามหลักการสากลที่ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วให้ได้มากที่สุด แน่นอนว่ายากเนื่องจากข้อจำกัดต่างๆ นานา ตั้งแต่ระดับยิบย่อยจนถึงระดับโครงสร้าง แม้กระทั่งตัวเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหานี้ประชาไท สนทนากับ สัณหวรรณ ศรีสด ที่ปรึกษากฎหมายโครงการเอเชีย-แปซิฟิค คณะกรรมการนิติศาสตร์สากล เพื่อเห็นภาพปัญหาให้กว้างที่สุดอย่างย่นย่อที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อย่างที่บอก มันเริ่มต้นจากความคิด ความรู้สึกของผู้คนในสังคม ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีการใช้กฎหมายที่มีโทษทางอาญาจำนวนมากและเกินจำเป็น เกิดสภาพที่เรียกว่า Overcriminalization สัณหวรรณกล่าวว่าสังคมไทยยังเห็นดีเห็นงามกับการลงโทษหนักอย่างการจำคุกหรือการประหารชีวิต ด้วยความเชื่อว่ายิ่งโทษหนักเท่าไหร่ คนก็จะยิ่งเกรงกลัวการกระทำผิดมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งขัดกับแนวคิดทางอาชญวิทยาในปัจจุบัน แล้วก็สะท้อนผ่านกฎหมายต่างๆ ที่ออกมาสัณหวรรณไม่ได้ปฏิเสธโทษจำคุก แต่แนวคิดของเรื่องนี้คือการฟื้นฟูผู้ที่กระทำความผิดให้กลับคืนสู่สังคม ไม่ได้วางอยู่บนทฤษฎีตาต่อตาฟันต่อฟันอย่างที่คนส่วนใหญ่คิด นอกจากนั้น ยังมีการลงโทษรูปแบบอื่นๆ แทนการจำคุกที่ควรนำมาใช้ในบางที่จะมีโปรแกรมเลยว่าถ้าคุณทำผิดแบบนี้ การทำสาธารณประโยชน์ของคุณต้องทำตามโปรแกรมนี้ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เขาทำผิด เช่น ถ้าทำร้ายร่างกายคนจากการบันดาลโทสะ เขาอาจจะให้ไปนั่งทำงานในโรงพยาบาลคอยช่วยเหลือคนนานเท่าไหร่ แต่พอเราจะใช้วิธีการทำสาธารณประโยชน์ก็เจอปัญหาว่าเจ้าหน้าที่ไม่พอบ้าง งบไม่พอบ้าง ก็เลยต้องเอาคนโทษหนักโทษเบามารวมกัน แล้วก็ทำเหมือนกัน กลายเป็นว่าการทำงานสาธารณประโยชน์ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับความผิดนั้นเราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่ากฎหมายร่างโดยผู้แทนราษฎร มันเป็นการสะท้อนความต้องการของคนในแต่ละที่ ดังนั้น ถ้าเราอยู่ในสังคมที่ยังอยากให้มีการใช้โทษที่มีความรุนแรงอยู่ เชื่อในทฤษฎีตาต่อตาฟันต่อฟัน รูปแบบของการออกกฎหมายที่ทำให้คนมีความสุขหรือว่าพึงพอใจมันก็จะสะท้อนออกมาทางกฎหมายไม่เพียงเท่านั้น ความรู้สึกของสังคมยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของกระบวนการยุติธรรมทั้งโดยตรงและโดยอ้อม โดยเฉพาะกระแสสังคมจากสื่อต่างๆ ที่โถมการตัดสินไปอีกด้านหนึ่งและต้องการรู้คำตอบอย่างรวดเร็วย่อมส่งผลกดดันต่อการทำสำนวนอย่างเลี่ยงไม่ได้การทำงานสืบสวนสอบสวนต้องรวดเร็ว แต่รวดเร็วไม่ได้หมายถึงว่าไม่ละเอียดถี่ถ้วน คือมันต้องรวดเร็วในระดับที่มีความละเอียดถี่ถ้วนตามหลักวิชาชีพ แต่ทุกวันนี้อาจเป็นไปได้ยาก ต่อให้ไม่ใช่ตัวเจ้าหน้าที่เองก็อาจเป็นเจ้านายหรือหัวหน้าที่บอกว่าคดีนี้เป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจ ดังนั้น ต้องรีบทำขณะเดียวกัน การที่ประชาชนไม่รู้สิทธิ์ของตนเองก็เป็นปัญหา เช่น บางคนไม่รู้ว่าสิ่งที่กระทำเป็นความผิด เป็นการสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิด ขณะที่กฎหมายมีบทสันนิษฐานว่าทุกคนต้องถือว่ารู้กฎหมาย แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ หลายครั้งไม่ใช่ความผิดของประชาชนที่ไม่รู้กฎหมาย แต่เพราะกฎหมายเองก็ไม่ได้เขียนไว้ชัดเจน ทั้งที่ตามหลักระหว่างประเทศ กฎหมายใดๆ ที่ไปจำกัดสิทธิของประชาชน กฎหมายนั้นต้องมีความละเอียดชัดเจนพอให้คนควบคุมการกระทำของตนเองได้ ทั้งที่กฎหมายเกือบทุกฉบับเป็นการจำกัดสิทธิของประชาชน ทั้งต้องยอมรับด้วยว่ากฎหมายบางฉบับนักกฎหมายก็ยังต้องเวลากว่าจะเข้าใจ และต่อให้เข้าใจก็ไม่ได้แปลว่าศาลจะตีความเหมือนกันเมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา สิทธิสำคัญของประชาชนคือการมีทนายความ แต่สัณหวรรณยอมรับว่าไม่ใช่ทนายจะเตรียมตัวทำคดีมาอย่างรัดกุมถี่ถ้วนทุกคน ซึ่งการเตรียมตัวไม่ดีส่งผลต่อการสู้คดีอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในหลายกรณียังมีทนายที่แนะนำลูกความไม่ให้ให้การในชั้นสอบสวน แต่ไปให้การในชั้นศาลแทน สัณหวรรณเห็นว่าเป็นปัญหาเพราะสำนวนถูกเตรียมมาตั้งแต่ชั้นสอบสวน เมื่อไปถึงชั้นศาลต่อให้เรียกพยานมาซัก แต่ก็จะถูกจำกัดมาแล้วในระดับหนึ่งจากสำนวนในชั้นสอบสวน ดังนั้น ทิศทางของคดีจะถูกจำกัดลงมาก แต่หลายครั้งที่ทนายให้คำแนะนำลักษณะนี้เป็นเพราะไม่เชื่อในกระบวนการในชั้นสอบสวน หรือในคดีบางประเภททนายความก็ไม่มีความเชี่ยวชาญพอก็ทำให้ประสบปัญหาในการต่อสู้คดี เช่น พยานหลักฐานที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีอย่างในกรณี 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ใช้หลักฐานโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่ทนายไม่มีความเชี่ยวชาญ ต่อให้เตรียมตัวก็ยังยากขณะที่ตำรวจจะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมากขึ้น เพราะตำรวจเริ่มแบ่งเป็นหน่วยเฉพาะในส่วนกลาง ดังนั้น ตำรวจจึงจัดเตรียมข้อมูลได้ค่อนข้างพร้อม เมื่อขึ้นไปถึงชั้นอัยการ อัยการก็แบ่งเป็นหน่วยเฉพาะทางและมีความเชี่ยวชาญอีกเช่นกัน ต่างจากทนายที่อาจไม่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านศาลไทยใช้ระบบที่เรียกว่าผสม แต่ในกระบวนการศาลจะมีความเป็นระบบกล่าวหาก็คือจะไม่ทำอะไร นั่งเป็นกรรมการมากกว่า แล้วให้ทนายกับอัยการเป็นคนซักพยาน ข้อมูลที่ได้จากการซักพยานของทนายและอัยการจึงสำคัญมาก ถ้าทำการบ้านมาไม่สมดุลกัน ข้อมูลที่ออกมาก็จะไม่สมดุลกัน จริงๆ เรามีกฎหมายที่ให้อำนาจศาลในการซักและเรียกพยาน แต่อาจจะเรียกว่าเป็นวัฒนธรรมด้วยที่ศาลส่วนใหญ่ไม่ค่อยใช้อำนาจตามกฎหมายนั้นเท่าไหร่อีกประเด็นหนึ่งที่น่าเป็นห่วงคือคดียาเสพติดที่ทนายมักแนะนำให้ลูกความสารภาพ ซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่ปกติของทนาย เนื่องจากโทษสูงสุดในคดียาเสพติดคือประหารชีวิต การสารภาพจะได้รับการลดโทษลงเหลือจำคุกตลอดชีวิตหรือน้อยกว่านั้น เรื่องนี้จะเป็นปัญหากับผู้ที่ไม่ได้กระทำความผิด เพราะการต่อสู้คดีจนถึงที่สุดโดยไม่รับสารภาพก็อาจถูกตัดสินประหารชีวิต หากศาลเชื่อว่าจำเลยทำผิดจริง แต่ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งกฎหมายยาเสพติดของไทยก็เป็นปัญหาและมีลักษณะ Overcriminalization ด้วยในส่วนของพยาน ปัจจุบันเราใช้ประจักษ์พยานน้อยลง คือพยานผู้เห็นเหตุการณ์ สมัยก่อนใช้เยอะมาก เดี๋ยวนี้ที่ใช้น้อยลงหลักๆ เลยก็คือความจำของคนมันสับสน บางครั้งไม่ได้สั้น แต่เราผสมมันกับประเด็นอื่นๆ พอเราถาม คำให้การพยานมันก็จะขยับไปเรื่อยๆ และที่สำคัญคือพยานของไทยกว่าจะขึ้นศาลใช้เวลานาน ความทรงจำก็ยิ่งน้อยลง เพราะในชั้นตำรวจ พยานไปให้การ ตำรวจจดไปก็ไม่ได้ challenge กลับมาก ในศาลจะถูก challenge หลังผ่านไปแล้วเกือบปี ความทรงจำก็จะเลือนลางต่อให้เห็นเหตุการณ์ติดตา แต่เราไม่ได้สังเกตทุกอย่าง พอถึงเวลาจริงๆ การที่เราพึ่งพาพยานผู้เห็นเหตุการณ์มากก็ค่อนข้างน่าห่วง แต่มันจะไม่ค่อยเป็นปัญหาถ้าเกิดว่ากระบวนการสืบสวนของไทยในขั้นแรกๆ เก็บข้อมูลของพยานผู้เห็นเหตุการณ์มาได้อย่างครบถ้วนอีกประเด็นหนึ่งในเรื่องพยานคือได้มาโดยดัดแปลงข้อมูลหรือเปล่า เพราะการที่เราจดทุกอย่างลงในสำเนาสอบสวนโดยเป็นคำทางการ ถ้าบางครั้งเป็นพยานที่เป็นตาสีตาสาพอออกมาเป็นคำทางการ เขาก็อาจไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมด เพราะมันเป็นคำกฎหมายและต่อให้อ่านตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่อาจจะเข้าใจได้ง่ายขนาดนั้น แล้วเขาจะต้องเซ็นรับรองในสิ่งที่เขาพูด ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหาอยู่พอสมควรคือพอไปถึงชั้นศาลพอโดนซัก เขาก็บอกว่าจดผิดหรือฟังไม่รู้เรื่องหรือเขาพูดอีกอย่างหนึ่งสัณหวรรณอธิบายว่าระหว่างที่พนักงานสอบสวนซักถามพยานก็จะทำการพิมพ์คำให้การไปด้วย ซึ่งไม่ตรงกับคำพูดแบบคำต่อคำ บางครั้งจึงเกิดกรณีที่พยานปฏิเสธว่าไม่ได้พูดอย่างที่พนักงานสอบสวนใส่ลงไปในสำนวน แต่จุดนี้สามารถแก้ได้ด้วยการที่บันทึกภาพและเสียงในชั้นสอบสวนตั้งแต่ขั้นแรกๆ ที่พยานยังพอจดจำเหตุการณ์ได้และสังเกตอาการกิริยาว่าตอบอย่างมั่นใจหรือไม่ในส่วนของพนักงานสอบสวน โดยหลักการแล้วคือการตรวจสอบความเป็นไปได้ทั้งหมดในหนึ่งคดี แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พนักงานสอบสวนมีอคติหรือมีข้อสรุปไว้แล้วจากประสบการณ์หรือความเชื่อ ก็น่ากังวลว่าสำนวนการสอบสวนจะเอนเอียงไปตามนั้นสิ่งที่น่ากังวลที่สุดสำหรับการสอบสวนคือสิ่งที่เรียกว่า confirmation bias หรือการหาข้อมูลไม่ใช่เพื่อพิสูจน์ความเป็นไปได้ทั้งหมด แต่เพื่อยืนยันความเชื่อของตนเอง เพราะเขาเป็นคนเดียวที่มีอำนาจในการเรียกคนนั้นคนนี้มาเป็นพยานเพิ่มเติม อัยการไทยตอนนี้ก็ยังไม่มีอำนาจลงมาตั้งแต่แรก กว่าเขาจะได้ข้อมูลก็ทีหลังแล้ว ดังนั้น เราจะมั่นใจได้อย่างไร แน่นอนเรามีตำรวจดีๆ เยอะแยะที่พยายามดูความเป็นไปได้ทั้งหมด บางครั้งไม่ใช่เขาเป็นคนไม่ดี แต่เขาไม่รู้ตัว เหมือนเขาคิดไปแล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ด้วยประสบการณ์สัณหวรรณจึงสนับสนุนให้เป็นแนวปฏิบัติสำหรับตำรวจที่ทำสำนวนคดี โดยวางความเป็นไปได้ทั้งหมดในสำนวนเพื่อที่จะเรียกพยานหลักฐานมาพิสูจน์ความเป็นไปได้ทั้งหมด และแจกแจงในสำนวนให้อัยการและศาลรับรู้ อย่างไรก็ตาม การทำแบบนี้ก็มีอุปสรรคเรื่องเงื่อนเวลาในการปิดคดีที่อาจถูกบีบจากผู้บังคับบัญชาหรือสังคมที่ต้องการรู้คำตอบและดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว ทำให้พนักงานสอบสวนไม่สามารถตรวจสอบความเป็นไปได้ทั้งหมดของคดี อีกทั้งตำรวจไทยยังมีหน้าที่ความรับผิดชอบหลากหลาย ไม่สามารถทุ่มเวลากับคดีใดคดีหนึ่งเป็นการเฉพาะได้หลายครั้งที่คุยกับตำรวจ ตำรวจก็บอกว่าแบบนี้มันยากที่เขาจะทำสำนวนที่ดีและตอนนั้นที่คุยเรื่อง confirmation bias และควรพิสูจน์ทุกๆ ความเป็นไปได้ ตำรวจบอกว่าทำได้เพียงแต่เวลาที่จะให้เขาทำคดีอย่างเดียวอยู่ที่ไหนข้อเสนอที่ว่าควรแยกพนักงานสอบสวนให้เป็นหน่วยงานอิสระ สัณหวรรณเห็นว่าหากทำได้ก็ดีเพราะทุกวันนี้มีประเด็นเรื่องการตรวจสำนวนโดยผู้กำกับในสถานีตำรวจซึ่งอาจกระทบกับความอิสระในการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวน อีกเหตุผลหนึ่งก็เพื่อดึงคนที่มีความสามารถเข้ามาในสายงานนี้ เพราะการแยกออกไปจะทำให้มีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพการงานได้มากกว่าถามว่าควรมีระบบอะไรมาตรวจสอบถ่วงดุลการทำสำนวนของพนักงานสอบสวน สัณหวรรณตอบว่าจริงๆ คืออัยการ จึงมีคำพูดว่าอัยการควรร่วมตั้งแต่แรกหรือไม่ เพราะว่าอัยการเองก็อยากร่วมด้วย อัยการบางคนก็ไม่อยากร่วมเพราะงานเยอะ แต่อัยการหลายคนอยากร่วมเพราะคนที่ต้องเอาสำนวนไปว่าความในศาลคืออัยการ กฎหมายไม่ได้กำหนดให้อัยการเข้าไปร่วมนั่งฟังการสอบสวนด้วย อัยการจะรู้ว่าข้อต่อสู้คืออะไร แต่เขาไม่เคยได้สำนวนเลยจนกว่ามันจะถึงจุดที่พนักงานสอบสวนทำเสร็จ ถ้าทำเสร็จเร็ว เขาก็มีเวลามาก แต่ถ้าทำเสร็จช้าจะหมดช่วงฝากขัง เขาก็ต้องรีบฟ้องศาล เขาก็พูดเองว่าบางทีก็ต้องส่งไปเท่าที่มีดีกว่าปล่อยคนผิดแล้วมีปัญหาจึงต้องรีบส่งก่อนหมดช่วงฝากขังตรงนี้ทำให้เราเกิดความสงสัยในใจเพราะตามหลักการกฎหมายแล้วต้องสันนิษฐานก่อนว่าผู้ต้องหาเป็นผู้บริสุทธิ์สัณหวรรณกล่าวต่อว่าแต่อัยการบางคนก็พูดเองว่าอัยการไม่ควรเข้ามาร่วมสอบสวนตั้งแต่แรกเพราะว่ามันเป็นการให้อัยการมา check and balance ข้างบน ไม่ใช่ว่ามาทำด้วยกันตั้งแต่แรกแล้วขึ้นไปเป็นแท่ง แต่สุดท้ายก็ประสบปัญหาว่าไม่มีเวลา check and Balance อยู่ดี พนักงานอัยการถ้าจะแก้ต่อให้มีเวลา สิ่งที่เขาทำได้คือส่งให้พนักงานสอบสวนสอบสวนเพิ่มเติม ไม่สามารถลงมาล้วงลูกเองได้ เพราะถือว่าเป็นเส้นแบ่ง ส่วนใหญ่ในต่างประเทศพนักงานอัยการมีส่วนร่วมตั้งแต่แรก แล้วไป check and Balance กันในศาลกับทนายของอีกฝั่ง เพราะเขาถือว่าเป็นทีมเดียวกัน ส่วนทนายอีกฝั่งหนึ่งก็สู้ให้เต็มที่ การออกแบบอย่างนี้ก็อาจมีข้อบกพร่องอยู่ ของเราก็มีแบบของเราหนึ่งในหลักการสำคัญระหว่างประเทศว่าด้วยการสืบสวนสอบสวนคือการสืบสวนสอบสวนในที่เกิดเหตุหรือ crime scene investigation ผู้ที่เข้าถึงที่เกิดเหตุคนแรกควรเป็นนักนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เจอเหตุการณ์ต้องกั้นที่เกิดเหตุไว้หากรู้ว่าเหยื่อในเหตุการณ์เสียชีวิตแล้ว จะสามารถเข้าไปได้เพื่อช่วยคนที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น เนื่องจากพยานหลักฐานทุกอย่างที่จะนำไปพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ต้องปนเปื้อนน้อยที่สุด ต้องถูกคนสัมผัสและเดินผ่านน้อยที่สุด ทั้งยังต้องถูกเก็บไปโดยเร็วที่สุดและถูกวิธีที่สุด ทว่า ปัญหาในทางปฏิบัติ ผู้ที่ไปถึงที่เกิดเหตุคนแรกกลับเป็นเจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัครกู้ภัยแต่ปัญหาจริงๆ คือต่อให้เป็นตำรวจก็ไม่สามารถเก็บได้เพราะเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ จริงๆ ควรเป็นนักนิติวิทยาศาสตร์ที่เราก็มีน้อย แล้วก็เข้าถึงช้า วิธีเข้าถึงของนักนิติวิทยาศาสตร์ก็คือตำรวจไปก่อน แล้วตำรวจค่อยเรียก ทั้งที่จริงๆ ควรจะเป็นทีมที่ไปด้วยกัน ในบางพื้นที่มีที่ไปด้วยกันเป็นทีม โดยเฉพาะในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ในบางพื้นที่เขาไม่ได้ไปด้วยกันเป็นทีม รวมถึงหมอนิติเวช ในหลายประเทศพาหมอนิติเวชไปที่เกิดเหตุด้วย เพราะเขาจะช่วยดู ช่วยเก็บข้อมูลได้ซึ่งจะช่วยคดีได้มาก แต่เราขาดแคลนหมอนิติเวช ส่วนนักนิติวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในพื้นที่ใหญ่ๆ พื้นที่ห่างไกลก็ขาดแคลนเรื่องนี้เคยมีการเสนอว่านักนิติวิทยาศาสตร์และแพทย์นิติเวชควรเป็นหน่วยงานอิสระหรือไม่ เนื่องจากเป็นกลไกสำคัญและเป็นหนึ่งในพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือที่สุด แต่ปัจจุบันยังอยู่ภายใต้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) อีกหน่วยหนึ่งอยู่กับกระทรวงยุติธรรม ขณะที่แพทย์สังกัดกับกระทรวงสาธารณสุขแต่ว่าโมเดลนี้ก็น่าสนใจเพราะมาตรฐานระหว่างประเทศและในหลายๆ ประเทศ พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จะไม่ถูกตรวจโดยที่เดียว ญาติสามารถเอาไปตรวจได้ มันจะมีพวกองค์กรอิสระที่คอยดูหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พอญาติได้ข้อมูลแล้วไม่เชื่อก็ไปตรวจกับอีกที่หนึ่งได้ เป็นความคิดเห็นที่ 2 แล้วเอามายันกันในศาลว่าวิธีการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ของใครดีกว่ากัน มันเป็นการพัฒนาคุณภาพนิติวิทยาศาสตร์ด้วย เพราะมีการแข่งขันในระดับหนึ่ง ดังนั้น เขาก็จะต้องทำให้เทคโนโลยีของเขาดีที่สุด การตรวจเที่ยงตรงที่สุด และถ้าคลางแคลงใจก็จะมีที่สำหรับ Double check ถ้าไม่ตรงกันก็ไปคุยกันในศาล ศาลอาจจะหาความคิดเห็นที่ 3 ก็ได้ เพื่อดูว่าของใครน่าเชื่อถือที่สุดสัณหวรรณแสดงทัศนะเพิ่มเติมว่าหน่วยงานด้านนิติวิทยาศาสตร์และนิติเวชไม่ควรอยู่ภายใต้ สตช. ยกตัวอย่างในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความคลางแคลงใจระหว่างคนในพื้นที่กับเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์หรือแพทย์ที่อยู่ในสังกัดของรัฐเป็นผู้ชันสูตร ญาติจะไม่เชื่อใจอย่างในกรณีของอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงที่หมดสติระหว่างถูกควบคุมตัวในค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี โดยทางเจ้าหน้าที่บอกว่าลื่นล้มในห้องน้ำ ผู้ตรวจชันสูตรเป็นแพทย์จากโรงพยาบาลอิงคยุทธที่เป็นทหารและอยู่ในระบบบังคับบัญชา ต่อให้ปฏิบัติงานตามจรรยาบรรณอย่างเต็มที่ก็ไม่ได้ทำให้ความคลางแคลงใจของครอบครัวหรือของคนในพื้นที่หมดไปตามหลักระหว่างประเทศก็ไม่ต้องการให้เกิดความคลางแคลงใจนี้ ผู้ตรวจชันสูตรจึงควรเป็นแพทย์ที่มีความเป็นอิสระและเป็นกลางทั้งในเชิงความเป็นจริงและในเชิงสถาบัน การที่จะไม่ให้แพทย์นิติเวชผ่าชันสูตรจะต้องออกเป็นคำพิพากษาว่าทำไมถึงปฏิเสธ แต่ของไทยหลายครั้งเสียชีวิตในห้องขังแล้วชอบส่งไปโรงพยาบาลตำรวจ แต่ข้อจำกัดอย่างหนึ่งคือเราไม่ค่อยมีหมอนิติเวชด้วย เราไม่มีหมอที่เชี่ยวชาญด้านนี้มากทำให้ส่งไปได้ไม่กี่ที่ แล้วหลายที่ที่ส่งไปก็เกี่ยวข้องกับองค์กรที่ส่งมา อย่างโรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลพระมงกุฎ แม้จะมีหมอนิติเวชเก่งๆ แต่ผลที่ออกมาบางครั้งอาจไม่ได้รับการยอมรับจากคนในพื้นที่ แต่ส่วนใหญ่ศาลจะรับค่อนข้างหมดขอให้เป็นแพทย์เขียนมาพูดถึงเรื่องกระบวนการยุติธรรมทางอาญาเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเอ่ยถึงกรณีในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาใหญ่อยู่ที่ว่าบางครั้งข้อมูลในชั้นตำรวจได้มาในระหว่างถูกคุมขังตามกฎหมายพิเศษ ซึ่งในอดีตศาลไม่รับฟัง แต่ปัจจุบันศาลเริ่มรับฟังในบางคดี ซึ่งหากยึดตามหลักประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาอย่างเคร่งครัดไม่ควรรับฟังได้ เพราะในขั้นตอนการคุมขังไม่ได้ผ่านขั้นตอนของศาล ไม่มีการออกหมายจับ หรือช่วงที่จะต่ออายุการคุมขังตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ผลัดละ 7 วัน เจ้าหน้าที่ก็สามารถร้องขอต่อศาลโดยไม่จำเป็นต้องนำผู้ถูกควบคุมตัวไปยังศาลเพื่อให้ผู้พิพากษาซักถามแต่อย่างใดยิ่งไม่ต้องพูดถึงสิทธิในการเข้าถึงทนาย แม้กระทั่งการพบญาติก็ยังเป็นเรื่องยาก ปัจจุบัน เมื่อศาลเริ่มรับฟังมากขึ้น แม้ไม่ใช่พยานหลักฐานหลัก แต่นำมาประกอบก็ตาม ก็ยังถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเนื่องจากบางครั้งการนำพยานหลักฐานจากการใช้กฎหมายพิเศษมาประกอบไม่ใช่สิ่งที่ผู้ถูกควบคุมตัวพูด แต่เป็นคำพูดของพยานซัดทอดแล้วเจ้าหน้าที่ก็อาจจะกันคนนั้นไว้เป็นพยาน แต่เรามีพยานซัดทอดที่ได้มาด้วยวิธีการที่ไม่เป็นไปตามปกติ ไม่ได้ผ่านกระบวนการตามวิอาญา มีการใช้ข้อมูลอย่างการพาไปที่สถานที่เกิดเหตุและไปค้นพบข้อมูล พวกนี้มันควรจะได้เหมือนกันในกระบวนการกฎหมายอาญาตามปกติในขั้นของตำรวจแต่ปัจจุบันมันมาจากขั้นที่มีการร้องเรียนว่าถูกบังคับหรือถูกทรมาน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า เพราะไม่มีการสืบสวนสอบสวนในเคสแบบนั้น ส่วนใหญ่เขาก็แค่มาร้องเรียนหน่วยงานต่างๆ อาจเพราะไม่มีกฎหมายต่อต้านการซ้อมทรมานด้วยจึงทำให้ไม่มีคดี ถ้าข้อมูลได้มาจากการถูกบังคับจริง ข้อมูลมันก็ควรใช้ไม่ได้ แต่ถ้ามีการรับฟังขึ้นมาก็น่ากังวลเพราะเคสในสามจังหวัดแต่ละเคสเดี๋ยวนี้เป็นเคสก่อการร้ายที่มีโทษประหารชีวิตในส่วนของศาลหรือสถาบันตุลาการ เราอาจตั้งคำถามได้ตั้งแต่เรื่องสิทธิในการประกันตัวของผู้ต้องหา สัณหวรรณ์กล่าวว่าการไม่ให้ประกันควรเป็นกรณีที่ผู้ต้องหาเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานเท่านั้น ส่วนในกรณีอื่นๆ อาจใช้การทำแบบประเมินความเสี่ยงในการหลบหนีก่อน ถ้าความเสี่ยงต่ำจึงปล่อยตัวโดยให้ใช้วิธีมารายงานตัวแทนการจำคุกหรือใช้วงเงินประกันตัว ซึ่งทำให้คนยากจนเข้าไม่ถึงสิทธิการประกันตัวได้ แม้ว่าในกฎหมายจะไม่ได้ระบุว่าต้องใช้เงินในการประกันตัวก็ตาม ขณะที่ในต่างประเทศจะเน้นปล่อยตัวเพราะถือว่าผู้ถูกกล่าวยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่เป็นแนวปฏิบัติของศาลเพราะว่าของไทยเวลาเราจะอุทธรณ์ฎีกายังต้องหาหลักทรัพย์ไปวางเหมือนกับเป็นแนวความเชื่อ ทั้งที่การอุทธรณ์กับฎีกาก็เป็นสิทธิ เหมือนกับว่าจะมีจ่ายแน่ๆ หรือเปล่าถ้าจะไปอุทธรณ์ ฎีกา ให้เอาหลักทรัพย์ไปวางก็มี หรือว่าในการประกันตัวบอกว่าไม่มีพฤติกรรมหลบหนี อะไรคือไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ก็นี่ไงวางเงินไว้ขนาดนี้ ใครจะหนี อาจจะเป็นความคิดของคนทำแนวปฏิบัติ ณ เวลานั้น ซึ่งปัญหาก็จะมาตกกับคนที่ไม่สามารถหาเงินได้ประเด็นผู้พิพากษาคณากร เพียรชนะ ก็เป็นอีกกรณีหนึ่งที่สถาบันตุลาการถูกตั้งคำถามว่า มีการทบทวนคำพิพากษาโดยผู้บังคับบัญชาหรือไม่ เพราะตามหลักแล้วคำพิพากษาจะต้องถูกทบทวนโดยศาลที่สูงขึ้นไป เมื่อกล่าวว่าผู้พิพากษามีความเป็นอิสระ แต่ยังต้องมีหัวหน้ามาช่วยทบทวนคำพิพากษา ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเปลี่ยนคำพิพากษาไม่ได้ แต่การที่ผู้พิพากษามีความเห็นไม่ตรงกับผู้บังคับบัญชาย่อมเกิดแรงกดดันกับตัวผู้พิพากษาถ้าอยากจะให้มีการทบทวนจริงๆ เรื่องข้อกฎหมายก็ยังพอเข้าใจได้ ถ้ามองว่าผู้พิพากษาศาลชั้นต้นอาจจะเป็นผู้พิพากษาใหม่ ในบางประเทศแก้ปัญหานี้โดยการให้ผู้พิพากษาอาวุโสมานั่งเป็นองค์คณะร่วมกับผู้พิพากษาศาลชั้นต้นตั้งแต่แรก แต่การทบทวนข้อเท็จจริงหรือวิจารณญาณบางส่วนจะค่อนข้างเสี่ยงเพราะตัวหัวหน้าไม่ได้มานั่งอยู่ในห้องระหว่างไต่สวน ไม่ได้เห็นลักษณะท่าทางของพยาน การพูดจาหรือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทำให้รูปแบบการทบทวนในลักษณะนี้ค่อนข้างมีปัญหา แล้วปกติของศาลไทยพอขึ้นไปศาลสูง ศาลสูงก็ไม่กลับมาดูข้อมูลพวกนี้ ดังนั้น ถ้าศาลสูงจะกลับคำพิพากษาก็มีปัญหาอยู่เหมือนกันมีการเสนอว่าควรจะมีการอัดวีดีโอไปเลยในขั้นพิจารณาโดยเฉพาะศาลสูง เพราะว่าตามหลักระหว่างประเทศควรจะเป็นศาลสูงไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาที่มาทบทวน ถ้าศาลสูงจะมาทบทวนก็จะได้มีวีดีโอด้วยว่าเขามีอากัปกิริยาอย่างไร หรือไม่คุณก็ต้องเรียกตัวเขาไป แต่ปัจจุบันก็ยังเป็นปัญหาอยู่เพราะยังทำงานกับตัวเอกสารที่มาจากศาลชั้นต้นเสียมากกว่าทำงานกับเอกสารมากกว่านั่งบนบัลลังก์ในห้องไต่สวน แต่ศาลระดับสูงมีอำนาจกลับคำพิพากษาได้คดีวิสามัญกรณีสงครามยาเสพติดศาลชั้นต้นกับศาลอุทธรณ์ตัดสินให้ลงโทษตำรวจ แต่ศาลฎีกากลับคำตัดสิน ญาติก็ผิดหวังมาก เขาบอกว่าคุณไม่ได้มาดูสำนวนตั้งแต่แรก ทำไมชั้นเดียวจึงตัดสินกลับได้ทุกชั้น เราเอาระบบอาวุโสด้วยเพราะผู้พิพากษาอาวุโสจะไปอยู่ศาลฎีกา ดังนั้น จึงต้องอิงตามศาลฎีกาตามหลักการระหว่างประเทศระบุว่าให้มีอย่างน้อย 1 ศาลข้างบนในการทบทวน ซึ่งวิธีการดีไซน์ 2 ชั้นไม่ได้จำเป็นเสมอไปว่าชั้นแรกจะเป็นของคนอายุน้อยในองค์คณะผู้พิพากษาอาจจะมีผสม แล้วชั้น 2 อาจจะเป็น senior หมดก็ได้ แต่ของเรามี 3 ชั้นซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เหมือนมีโอกาสมากขึ้นอีกชั้นหนึ่งในการให้คนมาช่วยทบทวน แต่ในเวลาเดียวกันถ้า 2 ศาลเห็นเหมือนกันแล้ว ศาลที่ 3 เห็นอีกด้านหนึ่ง ก็มีคนพูดอยู่เหมือนกันว่ามันดูไม่สมดุลเลย เหมือนมี 2 คนบอกว่าต้องทางนี้ แต่คนอายุมากสุดบอกว่าทางนี้ เราก็เลยต้องไปทางนี้จะเห็นได้ว่าโครงสร้างและวัฒนธรรมในสถาบันตุลาการมีผลต่อกระบวนการยุติธรรมทางอาญา อีกทั้งยังเป็นสถาบันปิดที่คนภายนอกแทบไม่รู้อะไรเลย แม้กระทั่งเวลาที่มีการตั้งกรรมการสอบก็มีความเป็นเอกเทศมาก ประชาชนไม่สามารถมีส่วนร่วมรับรู้ใดๆ ได้นอกจากนี้ สถาบันตุลาการก็ดูจะมีระบบป้องกันตัวเองไม่ให้สาธารณะวิพากษ์วิจารณ์ (กรณีศาลรัฐธรรมนูญเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด) สัณหวรรณกล่าวว่าในคดีอาญาปัจจุบันสามารถวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาได้โดยใช้ข้อต่อสู้ว่าวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต แต่มีการกระทำบางอย่างในพื้นที่เขตศาลที่ยังเป็นปัญหาเมื่อไม่นานมานี้มีร่างข้อคิดเห็นทั่วไปของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ มาดูเรื่องเสรีภาพในการชุมนุม เขาตีความคำนี้ว่าไม่ควรมีการกำหนดเขตห้ามชุมนุม รวมถึงในบริเวณศาล แต่ปัจจุบันบริเวณศาลถือว่าละเมิดหมดเลย ไปชุมนุม ไปทำนั่นทำนี่ไม่ได้ ตอนนี้มันยังเป็นร่างอยู่แต่ถ้าออกมาก็น่ามานั่งดูเหมือนกันว่าการที่เราบอกว่าการทำกิจกรรม การแสดงออกบางอย่างในบริเวณศาล ถ้าเราห้ามอาจจะเป็นการขัดแย้งกับการตีความของไอซีซีพีอาร์ (กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง-International Covenant on Civil and Political Rights: ICCPR) ในอนาคตอันใกล้ในส่วนของการลงโทษและฟื้นฟูผู้กระทำผิด สัณหวรรณยกกรณีโทษประหารในสังคมไทยว่าการที่บอกว่าคนนี้ควรถูกประหารชีวิตหมายถึงต้องการตัดคนคนนี้ออกจากสังคมไปตลอดกาล แต่ประเด็นเบื้องข้อหนึ่งคือสาธารณชนกลัวว่าคนดังกล่าวจะออกมากระทำความผิดซ้ำ ทว่า ปัญหาการกระทำความผิดซ้ำอาจไม่ได้อยู่ที่โทษไม่ร้ายแรงพอ แต่เป็นเพราะระบบไม่สามารถฟื้นฟู ปรับเปลี่ยน ผู้กระทำผิดให้กลับสู่สังคมได้หรือเปล่า อัตราการกระทำผิดซ้ำของไทยจึงค่อนข้างสูงเคยคุยกับนักโทษเหมือนกันว่าเรียนเป็นยังไง เขาก็บอกว่าบางเรือนจำก็ไม่ได้เรียนง่ายเพราะมันมีคิว ไม่ใช่ว่าทุกคนที่อยากเรียนแล้วจะได้เรียน รูปแบบการเรียนการสอนในเรือนจำก็ยังมีปัญหาอยู่เพราะว่าหลายคนอยากเรียน แต่เขาไม่สามารถเรียนได้เต็มที่ ห้องสมุดที่มีหนังสือก็น้อย ต้องคอยคนบริจาค แล้วอาจจะเป็นหนังสืออะไรก็ไม่รู้ ทุกครั้งที่เข้าไปในเรือนจำเคยถามเขาว่าอยากได้อะไร เขาก็บอกว่าหนังสือเพราะเขาไม่มีอะไรทำ เขาก็จะยืมหนังสือไปนั่งอ่านฆ่าเวลา แต่ก็ไม่ค่อยมีหนังสือดีๆ เพราะก็แย่งกันส่วนเรื่องฝึกอาชีพจะเห็นว่ามีรูปแบบการฝึกอาชีพไม่กี่อย่าง ซึ่งปัจจุบันอาจจะไม่ใช่อาชีพที่เลี้ยงตัวเองได้อีกแล้ว ทำแห ทำอวน มันไม่ใช่อาชีพที่ตลาดต้องการ ทำเฟอร์นิเจอร์ แต่ปัจจุบันคนก็ไปซื้อตามห้างแล้ว เข้าใจว่าเรือนจำแต่ละที่ก็มีความท้าทายในการหางบประมาณและบุคลากรมาสอน แล้วเขาก็เอาคนเข้าคุกเยอะไป ทำให้เขาไม่สามารถจัดการทั้งเรื่องการเรียนการสอนและการฝึกอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ออกแบบมาให้คนที่ออกมาแล้วใช้ชีวิตประกอบอาชีพได้จริงๆขณะที่ในบางประเทศที่ประสบความสำเร็จ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะมีผู้ต้องขังน้อยทำให้ควบคุมมาตรฐานและคุณภาพการบำบัดฟื้นฟูและปรับเปลี่ยนคนได้ แต่ของไทย แม้ทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะพยายามทำ แต่ก็ประสบความสำเร็จได้ยากเพราะผู้ต้องขังล้นคุก อีกทั้งการไม่ให้ประกันตัวก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้ถูกกล่าวหาจำนวนมากต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำตั้งแต่ย่อหน้าแรกถึงย่อหน้านี้แสดงให้เห็นว่า กระบวนการยุติธรรมทางอาญาของไทยมีจุดที่ต้องแก้ไขตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ รวมถึงวิธีคิดของสังคมในการลงโทษผู้กระทำความผิด ระบบกฎหมายที่ทำให้เกิดภาวะ Overcriminalization ซ้ำหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็กันตัวเองออกจากสังคมและปิดกั้นการวิพากษ์วิจารณ์ หากใช้แว่นขยายส่องดูในแต่ละขั้นลงไปอีก เราคงเห็นอะไรอีกมาก แต่การจะทำเช่นนั้นก็ยากเกินกว่าที่จะบรรจุไว้ในบทสัมภาษณ์เพียงชิ้นเดียว
พูดคุยกับ สัณหวรรณ ศรีสด นักกฎหมายจากคณะกรรมการนิติศาสตร์สากลว่าด้วยกระบวนการยุติธรรมทางอาญาของไทย ตั้งแต่รากฐานความคิดของคนในสังคม ตัวเรา ทนายความ ต้นน้ำถึงปลายน้ำของกระบวนการยุติธรรม
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
กระบวนการยุติธรรม,สัณหวรรณ ศรีสด,คณะกรรมการนิติศาสตร์สากล,กระบวนการยุติธรรมทางอาญา,พนักงานสอบสวน,อัยการ,สถาบันตุลาการ,กฎหมายพิเศษ,ทนายความ,Overcriminalization,ราชทัณฑ์
https://prachatai.com/journal/2019/12/85574
พญ.แพรวพรรณ บุณยรัตพันธุ์ หมอรุ่นใหม่ สร้างคุณค่าในการดำเนินชีวิตด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น
ความรู้สึกนี้สะท้อนออกมาจากการทำงานของ คุณหมออิ๊ก-พญ.แพรวพรรณ บุณยรัตพันธุ์ หนึ่งในคุณหมอรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจในการทำงาน มีเจตนารมณ์อันแรงกล้าที่จะใช้กำลังความสามารถ และไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อช่วยเหลือผู้ที่เข้ามารับการรักษาพยาบาล,คุณหมออิ๊ก คุณหมอผิวหนังที่เป็นแพทย์ชำนาญการพิเศษ สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เธอเล่าถึงความฝันในวัยเยาว์ถึงอาชีพที่มีเกียรตินี้ว่า ตอนเด็กก็เหมือนคนทั่วไปที่ยังไม่รู้ว่าอยากเรียนอะไรดี รู้แต่ว่าชอบวิทยาศาสตร์ เลยคิดที่จะเรียนหมอ ได้ช่วยเหลือคนด้วยทั้งที่บ้านไม่มีใครเป็นหมอเลย คุณพ่อคุณแม่ (พอ-ชุมสาย บุณยรัตพันธุ์) ก็ทำงานบริษัท มีแต่คุณปู่รับราชการพัฒนาชุมชน ท่านก็สนับสนุน นอกจากนี้ โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ที่คุณหมออิ๊กเรียนก็ปลูกฝังคุณธรรมเซอร์เวียม การรับใช้สังคม เธอจึงสอบเข้าเรียนที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จากนั้นก็ได้ไปเป็นแพทย์ใช้ทุนที่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ก่อนที่ไปเรียนต่อจนจบ American Board of Antiaging and Regenerative Medicine และแพทย์เฉพาะทางสาขาจิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริพยาบาล ตอนนี้ คุณหมออิ๊ก นอกเหนือจากรับราชการแล้ว ยังเป็นคุณหมอที่โรงพยาบาลกรุงเทพด้วย,อิ๊กเลือกเรียนบอร์ดเชี่ยวชาญโรคผิวหนัง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเรารักสวยรักงาม ใครที่คิดว่าเรียนหมอผิวหนังจะสบาย ไม่จริง เพราะไม่ได้มีแค่ความสวยงาม มีอะไรน่าสนใจมาก เราต้องมีความสังเกต ต้องมองอาการภายนอกให้ออกว่าภายในคนไข้เป็นอะไร เพราะอาการออกมาทางผิวหนังบ่งบอกได้ เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก พอมาทำงานที่โรงพยาบาลโรคผิวหนังจริงๆ มีคนไข้กลุ่มใหญ่มากนะคะ เป็นโรคผิวหนัง มะเร็งผิวหนัง อิ๊กมองว่าโรคเกี่ยวกับผิวหนังมีผลกระทบกับชีวิตและจิตใจของคนไข้ค่อนข้างมากนะคะ เพราะเขาจะขาดความมั่นใจในการใช้ชีวิต ถ้าเรารักษาโรคหายแล้ว ก็เหมือนได้ช่วยรักษาจิตใจให้เขาด้วย,ชีวิตการทำงานแม้จะมีประสบการณ์มากมาย แต่ คุณหมออิ๊ก บอกว่า ตอนนี้แม้จะเป็นหมอผิวหนังเต็มตัว แต่ก็ต้องเรียนรู้พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ การเรียนรู้ไม่มีวันจบ เราต้องอัปเดตเทคโนโลยี, งานวิจัยต่างๆ หรือแม้กระทั่งเคสคนไข้เองก็ตาม เหล่านี้ล้วนเป็นองค์ความรู้ที่นอกเหนือจากตำราเรียน,อิ๊กจบมาทำงานมา 10 ปี การเป็นแพทย์เป็นงานที่ท้าทาย และสร้างความภูมิใจทั้งตัวเองและครอบครัว อย่างเวลาคนในครอบครัวเป็นอะไร เราสามารถให้คำแนะนำเขาได้ แล้วเวลามีอะไรฉุกเฉินเขาก็นึกถึงเราก่อนและงานนี้ยังทำให้เรามีโอกาสช่วยเหลือคนอื่น การที่คนไข้หายจากโรคแล้วเขากลับมาบอกเราว่าเขาหายแล้ว แค่นี้อิ๊กก็ถือว่าประสบความสำเร็จในชีวิต มีความสุขแล้วค่ะ อิ๊กมองว่าความสำเร็จในชีวิตของแต่ละคน และแต่ละช่วงเวลาไม่เหมือนกัน แล้วความสำเร็จในแต่ละจุด ก็ยังมีช่องว่างที่จะให้เราได้พัฒนาตัวเองได้อีก ซึ่งการได้อยู่อย่างมีคุณค่า มีคุณประโยชน์ ในสังคมของตัวเอง ทำให้อิ๊กรู้สึกว่า มันเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขจริงๆ,แนวคิดของคุณหมอรุ่นใหม่ที่สร้างสรรค์ให้สังคมเราน่าอยู่.
การทำงานสร้างคุณค่าในชีวิต ยิ่งได้มีโอกาสทำงานช่วยเหลือผู้อื่น สร้างประโยชน์แก่สังคม ย่อมต้องสร้างความสุขใจเป็นอย่างยิ่ง
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
แพรวพรรณ บุณยรัตพันธุ์,หมอรุ่นใหม่,หมอผิวหนัง,แพทย์ชำนาญการพิเศษ,สถาบันบำราศนราดูร
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/hisoceleb/1535776
คาด มิตต์ รอมนีย์ คว้าชัยผู้แทนรีพับลิกันในฟลอริด้า
รัฐฟลอริด้าเป็นรัฐที่ 4 ของการจัดเลือกตั้งเพื่อเฟ้นหาตัวแทนพรรครีพับลิกันไปแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 6 พ.ย.นี้ ซึ่งพรรคเดโมแครตมีผู้แทนพรรคอยู่แล้ว คือ นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่หวังชิงตำแหน่งเป็นสมัย 2หากใครชนะในรัฐฟลอริด้านี้จะมีคะแนนถึง 55 แต้ม จาก 1144 แต้ม ทั้งนี้จากผลสำรวจล่าสุดปรากฏว่า นายมิตต์ รอมนีย์ อดีตผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเสตต์ มีคะแนนนำห่างคู่แข่งขันอีก 3 คน โดยนายนิวต์ กิงกริช อดีตประธานสภาคองเกรส มาเป็นอันดับ 2สำหรับประชาชนในรัฐฟลอริด้าก็เชื่อว่า นายรอมนีย์จะชนะเช่นกัน ทั้งนี้เพราะฟลอริด้าเป็นรัฐที่ต้องการคนมาเยียวยาปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งการว่างงาน กว่าร้อยละ 9 และปัญหาตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซา ซึ่งนายรอมนีย์ถูกมองว่าจะเป็นผู้มาแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้
ชาวอเมริกันในรัฐฟลอริด้า จะออกมาเลือกตั้งผู้แทนพรรครีพับลิกันไปแข่งขันเลือกตั้งประธานาธิบดีใน วันนี้ตามเวลาในสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่า นายมิตต์ รอมนีย์ จะชนะ
ต่างประเทศ
บารัก โอบามา,ประธานาธิบดี,พรรครีพับลิกัน,ฟลอริด้า,มิตต์ รอมนีย์,สหรัฐ
https://news.thaipbs.or.th/content/63105
น้ำเอ่อท่วมซุปเปอร์ฯ ห้างดัง ปิดชั่วคราว-เร่งระบาย (ชมคลิป)
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม กรณีที่มีการแชร์ภาพน้ำท่วม ภายในซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท ช่วงที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งต่อมาพบว่า เป็นภาพของ ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาสุขุมวิท 19 ,ทั้งนี้ จากการสอบถามไปยัง ฝ่ายประชาสัมพันธ์บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ได้รับการชี้แจงว่า เนื่องด้วยในบ่ายวันนี้ได้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่สุขุมวิท ทำให้มีปริมาณน้ำฝนสูงมากกว่าปกติ ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ร้านท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาสุขุมวิท 19 ซึ่งตั้งอยู่ชั้นใต้ดินของตัวอาคาร จึงได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว,อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางฝ่ายบริหารสาขาได้ดำเนินการนำเครื่องสูบน้ำ เข้าไปในพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำออกเกือบหมดแล้ว โดยในวันนี้ได้ปิดให้บริการ เพื่อทำความสะอาดพื้นที่ ตรวจสอบความปลอดภัย และตรวจสอบสินค้าอย่างละเอียด สำหรับสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางบริษัทฯ จะไม่นำสินค้ามาจำหน่ายโดยเด็ดขาด  ,ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาสุขุมวิท 19 จะสามารถเปิดให้บริการลูกค้าได้ตามปกติ ในวันพรุ่งนี้ 25 มีนาคม 2558 ในเวลา 08.00 น. แต่อาจมีสินค้าจำหน่ายไม่ครบทุกรายการ ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าจากสาขาใกล้เคียงได้.
หลังฝนตกอย่างหนักต่อเนื่องในพื้นที่สุขุมวิท ส่งผลน้ำเอ่อท่วมท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาสุขุมวิท 19 ที่ตั้งอยู่ชั้นใต้ดินห้างดัง ทำให้ต้องปิดบริการชั่วคราว เพื่อเร่งระบายน้ำ ด้าน ท็อปส์ฯ ยัน จะไม่นำสินค้าที่เสียหายมาวางจำหน่าย
ข่าว,ทั่วไทย
ฝนตก,น้ำท่วม,ท็อปส์ มาร์เก็ต,ระบายน้ำ,สูบน้ำ,สินค้า,สุขุมวิท,ปิดให้บริการชั่วคราว,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์,น้ำท่วมห้าง,ห้างสรรพสินค้า,ซุปเปอร์มาร์เก็ต
https://www.thairath.co.th/news/local/488859
ได้เวลาเปียก บุรีรัมย์ จัดงานสงกรานต์ GU งานช้าง 13-14 เม.ย.นี้
ชื่อดังอย่างเต็มอิ่ม,วันที่ 9 เม.ย. 59 บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด และ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ร่วมกับ บริษัท ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (เครื่องดื่มตราช้าง) พร้อมด้วยพันธมิตรที่เหนียวแน่นอย่าง โทรศัพท์มือถือไอ-โมบาย, รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า, กลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์, โรงแรมและรีสอร์ทเครืออมารี, เครื่องดื่มโค้ก, ผลิตภัณฑ์อาหารซีพี, เมืองไทยประกันชีวิต, เครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์, ทรู คอร์ปอเรชั่น, สายการบินแอร์เอเชีย, ผลิตภัณฑ์ยูโร่เค้ก, ผลิตภัณฑ์เจเล่บิวตี้, โรงพยาบาลสมิติเวช, ผลิตภัณฑ์เจเพรส, 3K แบตเตอรี่, พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์, ผลิตภัณฑ์นมพาสเจอรไรซ์ ตราซีพี-เมจิ, บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย จำกัด, บริษัท เอ.พี ฮอนด้า จำกัด, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันจัดงานปีใหม่ไทย ประเพณีสงกรานต์ ภายใต้ชื่องาน บุรีรัมย์ สงกรานต์ GU งานช้าง ระหว่างวันที่ 13-14 เมษายนนี้,ทั้งนี้ ฝ่ายจัดงาน บุรีรัมย์ สงกรานต์ GU งานช้าง ทุ่มทุนมหาศาลเนรมิตพื้นที่หน้าสนาม ไอ-โมบาย สเตเดียม จ.บุรีรัมย์ และ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ จัดงานเอาใจชาวไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ไทยอย่างยิ่งใหญ่,งานดังกล่าวจะจัดขึ้นบริเวณลานหน้าสนามไอ-โมบาย สเตเดียม ระหว่างวันที่ 13-14 เมษายนนี้ เริ่มตั้งแต่เที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน ซึ่งในเวทีกลางจะได้พบกับฟรีคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังหลากหลายหมุนเวียนขึ้นสร้างสีสัน โดยวันที่ 13 เมษายน พบกับ วงบิ๊กแอส, เบน ชลาทิศ, สแตมป์ อภิวัชร์, วงโปเตโต้, ปาน ธนพร ส่วนวันที่ 14 เมษายน พบกับ จ๊ะ อาร์สยาม, ตั๊กแตน ชลลดา, ไผ่ พงศธร, ใบเตย อาร์สยาม, หญิงลี ศรีจุมพล และ กระแต, กระต่าย อาร์สยาม,พร้อมกันนี้ในวันที่ 15 เมษายน จะมีการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก คู่บิ๊กแมตช์ ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี เวลา 18.00 น.,นอกจากนี้ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เตรียมเปิดแทร็กรถแข่งมาตรฐานระดับโลก ให้ผู้ที่สนใจในความเร็วทั้งแบบ 4 ล้อ และ 2 ล้อ ได้ลงไปสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ระดับโลก ด้วยกิจกรรมแทร็กเดย์ เริ่มจากวันที่ 13-14 เมษายน เป็นคิวของรถยนต์ ส่วนวันที่ 15-16 เมษายนนี้ เป็นคิวของชาวไบค์เกอร์ผู้มีใจรักในความเร็ว
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผนึกกำลัง สนามช้างฯ จับมือ เครื่องดื่มตราช้าง และพันธมิตรหลัก ร่วมจัดงานใหญ่ต้อนรับปีใหม่ไทย บุรีรัมย์ สงกรานต์ GU งานช้าง 13-14 เม.ย.นี้ ชวนชาวไทยสาดความสุข และสนุกสุดมันส์กับคอนเสิร์ตจากศิลปิน
null
บุรีรัมย์,บุรีรัมย์จัดสงกรานต์,บุรีรัมย์ สงกรานต์ GU งานช้าง,สงกรานต์ 59,สงกรานต์บุรีรัมย์,สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต,บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/603634
ปชป.เสวนาแก้ปัญหาน้ำรัฐบาลผิดพลาด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงการบ้านที่ได้ให้นายกรัฐมนตรีไว้ 10 ข้อ ก่อนการลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาน้ำท่วมต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ พบว่ารัฐบาลยังต้องทำการบ้านอย่างหนัก เนื่องจากไม่มีความชัดเจน ทั้งกรณีการจ่ายเงินเยียวยา 5000 บาท ที่จ่ายได้เพียงร้อยละ 49 และ เงินชดเชย 20000 - 30000 บาท จ่ายได้เพียงร้อยละ 2 - 3 เท่านั้นส่วนการกำหนดพื้นที่รับน้ำ และฟลัดเวย์ยังเป็นเพียงการระบุตัวเลข ที่ไม่มีคำตอบว่าจะใช้พื้นที่ใดบ้าง หรือมีกติกาการชดเชยอย่างไร นอกจากนี้ ยังไม่พบว่ามีโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนจนต้องตราพระราชกำหนดกู้เงิน 350000 ล้านบาท ตามที่รัฐบาลให้เหตุผล พร้อมทั้งคาดหวังว่าในปีนี้รัฐบาลจะบริหารจัดการแก้ไขปัญหาอุทกภัยตามหลักวิชาการขณะที่ผู้เข้าร่วมเสวนา ให้คะแนนนายกรัฐมนตรีสอบตกจากการลงพื้นที่ครั้งนี้ เนื่องจากหลายปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข หรือตอบคำถามให้เกิดความชัดเจนได้ ขณะเดียวยังมีความกังวลถึงการบริหารน้ำที่ผิดพลาด อาจจะทำให้เกิดปัญหาน้ำแล้งอย่างหนัก โดยเฉพาะการปล่อยน้ำในช่วงต้นปีนี้มีปริมาณมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ขณะที่การซ่อมแซมประตูระบายน้ำและเขื่อนก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข
พรรคประชาธิปัตย์จัดเวทีอภิปราย ตรวจการบ้านทัวร์น้ำท่วม คนไทย ได้อะไร เพื่อตรวจสอบการแก้ไขปัญหาน้ำของรัฐบาล โดยนักวิชาการด้านบริหารจัดการน้ำ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้แทนคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย และตัวแทนประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยร่วมเสวนาแสดงความคิดเห็นให้คะแนนนายกรัฐมนตรีสอบตกในการลงพื้นที่
การเมือง
น้ำท่วม,ปชป.,ประชาธิปัตย์,ฟลัดเวย์,รัฐบาล,เสวนา
https://news.thaipbs.or.th/content/67104
รั่วไหลอื้อ กมธ.ปฏิรูปสื่อ เตรียมออก พรบ.คุม รบ.ซื้อโฆษณา
นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการปฏิรูปสื่อสารมวลชน กล่าวถึงการจัดทำกฎหมายควบคุมการซื้อสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ของภาครัฐว่า ในการประชุมครั้งที่ผ่านมา มีการหารือเพื่อเตรียมผลักดันให้รัฐบาลออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมการซื้อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ของภาครัฐ โดยเรื่องนี้เป็นการเคลื่อนไหวร่วมกันของภาคีเครือข่ายองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ทีดีอาร์ไอ และอีก 4 องค์กรสื่อคือ สมาคมนักข่าวฯ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาคมนักข่าววิทยุและสภาวิชาชีพวิทยุโทรทัศน์,จากผลการวิจัยทีดีอาร์ไอพบว่า หน่วยงานภาครัฐใช้งบประมาณในการซื้อสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานหรือองค์กร ตกปีละ 8,000-10,000 ล้านบาท ยังไม่รวมถึงการจัดงานอีเวนต์ต่างๆ ของกระทรวงทบวง กรมหรือหน่วยงานของภาครัฐ พบว่าเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่มีประสิทธิภาพ รั่วไหล ซ้ำยังสร้างปัญหาให้สื่อขาดความเป็นอิสระในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณชน ที่ผ่านมามักจะมีคำขู่ทั้งจากรัฐบาล และนักการเมืองมาตลอดว่า ถ้าไม่เชียร์รัฐบาล รัฐมนตรีก็จะถอนการซื้อพื้นที่โฆษณาและประชาสัมพันธ์ในสื่อนั้นๆ ทำให้ส่งผลกระทบต่อสื่อบางแห่งและมีปัญหาในการนำเสนอข่าวสารต่อสังคม,ดังนั้น องค์กรภาคีเครือข่ายจึงเห็นร่วมกันว่าควรจะมี พ.ร.บ.การโฆษณาประชาสัมพันธ์ของภาครัฐ พ.ศ….เพื่อให้การดำเนินการซื้อสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ภาครัฐ ให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใสตรวจสอบได้ โดยเน้นสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ในข้อมูลที่ประชาชนควรรับรู้ รับทราบ และห้ามมิให้มีภาพและเสียงของบรรดานักการเมือง รัฐมนตรี หรือข้าราชการระดับสูงที่คุมหน่วยงานนั้นๆ เพื่อแอบแฝงประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของตัวเองเหมือนอดีตที่ผ่านมา รวมทั้งให้หน่วยงานของรัฐเปิดเผยข้อมูลการใช้งบประมาณในการซื้อสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ว่าแต่ละปีได้ใช้งบประมาณไปจำนวนเท่าใด เป็นงบของหน่วยงานใดบ้าง โดยต้องรายงานต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินทุกปี,ทั้งนี้ กรรมาธิการปฏิรูปสื่อฯ ได้พิจารณารัฐธรรมนูญ50 มาตรา45 ที่บัญญัติถึงเรื่องการใช้งบโฆษณาประชาสัมพันธ์เข้าพิจารณาด้วยพบว่า ยังมีการแทรกแซง ครอบงำสื่อ จึงเห็นด้วยว่าควรจะมีกฎหมายดังกล่าวออกมาควบคุมการใช้งบประมาณของภาครัฐให้รัดกุมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจะมีการหารือในที่ประชุมกรรมาธิการปฏิรูปสื่อฯ ให้ถือว่าเป็นกฎหมายที่เร่งด่วนที่สำคัญอันจะนำไปสู่การปฏิรูปสื่อสารมวลชน ผลักดันเสนอเป็นกฎหมายต่อรัฐบาลและ สนช.ต่อไป,รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าขณะนี้เตรียมมีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองสิทธิเสรีภาพและส่งเสริมมาตรฐานผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ  หลังจาก นายมีชัย ฤชุพันธ์ ฐานะประธานคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 1 ได้หารือกับ สปช. สายสื่อมวลชนแล้วเห็นว่าควรมีการนำร่างกฎหมายดังกล่าวที่ยกร่างมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่ผ่านมา มาพิจารณาปรับปรุงเพื่อให้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพในการควบคุมกันเองของสื่อมวลชน รวมถึงพิทักษ์ประโยชน์ให้กับสื่อมวลชน,โดยล่าสุดเรื่องดังกล่าวถูกนำเสนอเข้าสู่คณะอนุ กมธ. จัดทำข้อเสนอแนะในการตรา หรือแก้ไขกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ที่มี นายเจษฎ์ โทณะวณิก เป็นประธานคณะแล้ว และจะมีการพิจารณาปรับปรุงรายละเอียดบางบทบัญญัติให้มีความทันสมัยกับสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากนั้นแล้วในประเด็นสิทธิ เสรีภาพสื่อมวลชนที่จะกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่,เบื้องต้นมีข้อสรุปคือ จะคงเจตนารมณ์และสาระหลักเหมือนในรัฐธรรมนูญ 2550 แต่จะเพิ่มประเด็นการใช้เสรีภาพอย่างรับผิดชอบ นอกจากนั้นในส่วนของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่เป็นกลไกกำกับดูแลสื่อมวลชน จะพิจารณาให้รวมเป็นคณะกรรมการชุดเดียวกัน เพื่อให้การกำกับดูแลอย่างมีประสิทธิภาพกว่าปัจจุบันที่พบว่า กสทช. ได้แยกเป็นคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.)และทำให้มีปัญหาต่อการทำงาน.
กรรมาธิการปฏิรูปสื่อ เตรียมผลักดันออก พ.ร.บ.ควบคุมรัฐบาลซื้อสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ หลังผลวิจัยทีดีอาร์ไอ ชี้ที่ผ่านมา ใช้งบปีละ 8พัน-หมื่นล้านบาท แต่ไร้ประสิทธิภาพ และรั่วไหล
null
กรรมาธิการปฏิรูปสื่อ,ประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์,เตรียมออก,พระราชบัญญัติ,ควบคุม,รัฐบาล,ซื้อ,สื่อโฆษณา,ประชาสัมพันธ์,ภาครัฐ,ไร้ประสิทธิภาพ,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/467704
คำชะโนดคุมเข้มไวรัสโคโรนา ล้างมือก่อนส่องเลข เผย 2527 ขายดีเกลี้ยงแผง
เมื่อวันที่ 1 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริเวณแผงจำหน่ายลอตเตอรี่หน้าเกาะคำชะโนด บ้านโนนเมือง หมู่ที่ 11 ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ว่า ที่เกาะคำชะโนดถือว่าเป็นแหล่งรวมแผงจำหน่ายลอตเตอรี่ที่มีผู้ค้าแม่ค้ามาลงทะเบียนขอจำหน่ายลอตเตอรี่ประมาณสามร้อยกว่าแผง ที่ว่าเยอะเหมือนกัน สำหรับวันนี้ทางกรรมการบริหารคำชะโนด ก็ยังให้เจ้าหน้าที่คุมเข้มสำหรับการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวที่จะเข้ากรายไหว้ปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา ทั้งขาเข้าและขาออกต้องใช้เจลทามือฆ่าเชื้อโรค ก่อนเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวสำหรับคนชอบเสี่ยงโชคส่วนมากแล้วพอเข้าไหว้ขอพรขอโชคลาภแล้ว เดินออกจากเกาะส่วนมากจะมาแวะที่แผงจำหน่ายลอตเตอรี่ ส่วนมากแล้วจะมาถามตัวเลข 2527 ส่วนมากต้องผิดหวังไม่มีขาย ไม่ทราบตัวเลขดังกล่าวเป็นเลจดังมาจากไหน คอหวยบางคนไม่ถามหัวตัวเลขถือว่าเสี่ยงโชคให้แม่ค้าพ่อค้าหยิบให้เลย ขึ้นอยู่กับดวงของใครของมันยิ่งวันนี้เป็นวันของนักเสี่ยงโชคขอให้ทุกคนโชคดี.
เกาะคำชะโนด จ.อุดรธานี ในวันหวยออกคึกคักเช่นเคย โดยตอนนี้คุมเข้มไวรัสโคโรนาป้องกันการแพร่เชื้อ นักท่องเที่ยวที่จะเข้ากราบไหว้ต้องใช้เจลทามือฆ่าเชื้อโรคก่อน ขณะที่เลข 2527 ขายดีเกลี้ยงแผง
ข่าว,ทั่วไทย
ไวรัสโคโรน่า,เลขเด็ด,คำชะโนด,อุดรธานี,ขอเลขเด็ด,ปู่ศรีสุทโธ,หวย
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1761545
เด็ดๆทั้งนั้น คลอปป์ ได้งบก้อนโต คว้าแข้งเจ๋งเข้ารังหงส์แดง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 23 พ.ค. ว่า เยอร์เกน คลอปป์ ผู้จัดการทีม หงส์แดง ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะได้งบเสริมทัพจาก เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป เจ้าของสโมสร ในช่วงซัมเมอร์นี้ สูงถึง 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,467 ล้านบาท),สำหรับ ลิเวอร์พูล ใช้งบประมาณในการเสริมทัพในช่วงต้นฤดูกาลไป 70 ล้านปอนด์ อย่างไรก็ตามรายงานข่าวล่าสุดจาก เดอะ เทเลกราฟ ระบุว่า หลังจากที่หงส์แดงสามารถคว้าโควตากลับไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ ทำให้กุนซือชาวเยอรมนี จะได้เงิน 100 ล้านปอนด์ สำหรับการเสริมทัพช่วงซัมเมอร์นี้,รายงานข่าวยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กองหลังของเซาแธมป์ตันยังคงเป็นเป้าหมายหลักของลิเวอร์พูล ซึ่งคาดว่ามีค่าตัวสูงถึง 50 ล้านปอนด์ และถ้าดีลนี้ลุล่วงจะทำลายสถิติค่าตัวสูงสุดของสโมสรทันที หลังเคยคว้า ซาดิโอ มาเน มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ นอกจากนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกของโรมา, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ปีกของอาร์เซนอล และ นาบี เกอิตา ดาวเตะของ ไลป์ซิก ก็เป็นที่สนใจของ คลอปป์ เช่นกัน
เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป เจ้าของสโมสรลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวจะให้งบเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้กับ เยอร์เกน คลอปป์ กุนซือคนเก่ง สูงถึง 100 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
ลิเวอร์พูล,เยอร์เกน คลอปป์,เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป,พรีเมียร์ลีก
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/949927
สม รังสี ประกาศกร้าวไม่ล้มเลิกกลับกัมพูชา
วันนี้ (9 พ.ย.2562) สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า นายสม รังสี อดีตหัวหน้าพรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา หรือ ซีเอ็นอาร์พี เดินทางถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียแล้ว โดยเขากล่าวกับผู้สนับสนุนที่มารออยู่ที่สนามบินว่า จะใช้เวลาอยู่ในประเทศมาเลเซีย 2-3 วัน จึงไม่สามารถเดินทางกลับกัมพูชาเพื่อเข้าร่วมงานฉลองวันชาติ ภายในวันนี้ ( 9 พ.ย.) ได้เมื่อเดินทางมาถึงสนามบิน เขาถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของมาเลเซียนำตัวไป ก่อนจะปล่อยตัวในเวลาต่อมา โดยเขากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าได้รับเชิญให้เดินทางไปเยือนรัฐสภาของมาเลเซีย ในวันที่ 12 พ.ย.นี้ ซึ่งถือเป็นการเยือนแบบส่วนตัวเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา นายสม รังสี ถูกการบินไทยปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเดินทางมาสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเจ้าหน้าที่สายการบินแจ้งกับผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชาว่า ทางสายการบินได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทย ไม่ให้นายสม รังสี ขึ้นเครื่องบินลำนี้ ซึ่งนายสม รังสี ระบุว่า เขาจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจและจะหาวิธีอื่นเพื่อเดินทางกลับกัมพูชาให้ได้
นายสม รังสี อดีตหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านกัมพูชา เดินทางถึงสนามบินในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียแล้ว พร้อมยืนยันจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจและจะหาวิธีเดินทางกลับกัมพูชาให้ได้
ต่างประเทศ
สม รังสี,กัมพูชา,มาเลเซีย
https://news.thaipbs.or.th/content/285936
ใช้สวนลุมฯจัดงานกาชาด 15-24 พ.ย. 100 ไร่จากทั้งหมด 360 ไร่
เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ,ที่ศาลาว่าการ กทม. นพ.พิชญา นาควัชระ รองปลัด กทม., เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมการออกร้าน ,กรุงเทพมหานคร, ในการจัดง,านกาชาดประจำปี 2562, ว่า ,สภากาชาดไทย,กำหนดจัดงานกาชาด ประจำปี 2562 ระหว่างวันที่ 15-24 พ.ย.62 เวลา 10.30-22.00 น. ที่สวนลุมพินี โดยใช้พื้นที่สวนลุมพินีประมาณ 100 ไร่ ในการจัดงาน จากทั้งหมด 360 ไร่ ทั้งนี้ ระหว่างการจัดงาน กาชาดประชาชนสามารถมาออกกำลังกายได้ตามปกติ,นพ.พิชญากล่าวว่า ในปีนี้ กรุงเทพมหานคร ออกร้าน จำนวน 2 ร้าน โดยตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามสนามเด็กเล่น 1 ร้าน พื้นที่ 600 ตร.ม. และฝั่งด้านหน้าสนามเด็กเล่น 1 ร้าน พื้นที่ ขนาด 432 ตร.ม. สามารถเข้าได้ทางประตูด้านถนนวิทยุ ภายในร้านจะตกแต่งด้วยโทนสีเหลืองและขาว สอดคล้องกับ แนวคิดงานกาชาด เย็นศิระ เพราะพระบริบาล : เกิดสายธาร แห่งการให้ที่งดงาม มีการแสดงนิทรรศการดนตรีไทย-สากล เล่นเกมและจับสลากชิงของรางวัลมากมาย รวมถึงมีการจำหน่าย สินค้าของดี 50 เขต ด้วย นอกจากนี้ กทม. โดยกลุ่มเขตกรุงธนใต้ จะจัดขบวนรถเฉลิมพระเกียรติเพื่อส่งเข้าประกวด เป็นการแสดง ความสามารถของครูศิลปะจากโรงเรียนสังกัด กทม. ในพื้นที่เขตหนองแขม ภายใต้แนวคิดการจัดงานกาชาดและแสดงถึง อัตลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร,ด้านการเตรียมความพร้อมในการจัดงานกาชาดประจำปี 2562 มีการวางแผนและเตรียมพร้อมแล้วทั้งหมด เช่น การเตรียม พร้อมรถสุขา การรักษาความสะอาดและการดูแลอำนวยความ สะดวกให้แก่ประชาชนผู้มาร่วมงาน โดยได้มอบหมายหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ กทม. ขอความร่วมมือประชาชนที่จะมาร่วมงานเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ งดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เนื่องจากพื้นที่จอดรถมีน้อยโดยสามารถเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง รถไฟฟ้า BTS และ MRT.
สภากาชาดไทยกำหนดจัดงานกาชาด ประจำปี 2562 ระหว่างวันที่ 15-24 พ.ย.62 เวลา 10.30-22.00 น.
ข่าว,ทั่วไทย
งานกาชาด,สภากาชาดไทย,สวนลุมพินี,พิชญา นาควัชระ,กรุงเทพมหานคร,งานกาชาดประจำปี 2562
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1688396
ชมภาพ-คลิปเต็มๆ เจ ทัช ย้อนความทรงจำ วัยรุ่นยุค 90 จำกันได้มั้ย?
แถมทั้ง เจ และ ทัช ยอมรับด้วยว่าทั้งคู่คือเพื่อนรักกัน แต่เพราะความเป็นคู่แข่งในยุคนั้น จึงทำให้น้อยคนนักจะได้เห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกัน,พอมาเจอกันบนคอนเสิร์ตมีภาพเก่าๆ เจ้าตัวถึงกับแฟนว่าสมัยก่อนตัวเองหล่อเหมือนโตโน่ปะทะ หมาก ปริญ (ฮ่า) งานนี้ บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ เก็บความน่าประทับใจนั้นมาฝากกันแบบเต็มๆ,ซึ่งหากย้อนเวลาไปกว่า 25 ปีที่แล้ว ราวปี พ.ศ.2534 มี 2 หนุ่มศิลปินหน้าใหม่ของ 2 ค่ายที่ทรงอิทธิพลที่สุดในยุคนั้นอย่าง อาร์เอส โปรโมชั่น และ แกรมมี่ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เขาทั้งคู่คือ ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง และ เจ เจตริน วรรธนะสิน ,ทั้งคู่มาในแนวเพลงที่ใกล้เคียงกัน พูดง่ายๆ ถ้า เจ เจตริน คือ เอ็มซี แฮมเมอร์ เมืองไทย ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง ก็คือ ไมเคิล แจ็กสัน เมืองไทยเช่นกัน เจ มีเพลง ฝากเลี้ยง อ๊ะๆๆ อ๊าว อะ อาว อะ อะ อะ อาว อะ อ๊าว ทัช ก็มี เท้าไฟ มามาจากไหนเธอจะเป็นใครไม่สำคัญหรอก ,เจและทัช ถูกวางให้เป็นศิลปินคู่แข่งกันอย่างเต็มตัว ถ้าเป็นยุคนี้ก็คงจะมีแฮชแท็ก #ทีมเจ #ทีมทัช ภาพของทั้งคู่คือศิลปินคู่ขนาน ไม่มีเส้นทางมาบรรจบกันแน่นอน ถ้ามีทัช ต้องไม่มีเจ กราฟการแข่งขันรุนแรงขนาดที่ถ้าใครเป็นแฟนคลับ เจ เจตริน ต้องไม่ชอบ ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง ใครเป็นแฟน ทัช ต้องไม่ชอบ เจ,แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งทางฝั่งแกรมมี่ทำได้ดีกว่า แม้จะมีคลื่นลูกใหม่เข้ามาแทนที่ลูกแล้วลูกเล่า แต่เพลงของ เจ เจตริน ก็ไม่หายไปตามกาลเวลา เขายังโด่งดัง พูดง่ายๆ ผลงานของ เจ ยังสร้างเม็ดเงินทำมาหากินได้ถึงทุกวันนี้ คอนเสิร์ตแต่ละครั้งของอดีตแรปเปอร์คุณพ่อลูก 4 เพียงแค่เปิดจำหน่ายบัตร ก็เต็มทุกที่นั่งภายในไม่กี่นาที,ขณะที่ ทัช เองเส้นทางชีวิตเขากลับไม่เหมือน เจ เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ชื่อเสียงของเขาเริ่มหายไปตามกาลเวลา ถ้าจะบอกว่าหายเพราะข่าวที่ไม่สู้ดีก็คงจะพูดได้ไม่เต็มปาก เนื่องจากฝั่ง เจ เจตริน เองก็เคยมีข่าวขนาดขึ้นหนังสือพิมพ์หน้า 1 มาแล้วเช่นกัน ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าค่ายต้นสังกัดของ ทัช ยังทำได้ไม่ดีเท่าค่ายอโศกที่มีความสามารถในการบริหารจัดการศิลปินและเพลงเก่าๆ ให้โด่งดังได้แม้เจเนอเรชั่นจะเปลี่ยนไป,ทุกวันนี้บทเพลงตั้งแต่ 25 ปีของ เจ กลายเป็นตำนาน ฐานแฟนๆ แข็งแรงขนาดเปิดคอนเสิร์ตเมื่อไหร่คนก็พร้อมแย่งกันกดซื้อบัตร ฝั่ง ทัช ที่มีเพลงโด่งดังเหมือนกันเมื่อ 25 ปีที่แล้ว แต่บทเพลงเหล่านั้นกลับไม่สามารถถูกนำมาสร้างรายได้ให้เขาได้ ทัช หายไปมีเพียงผลงานเพลงลูกทุ่งออกมาให้ได้ฟังแบบกล้อมแกล้ม,การที่ เจ เจตริน ดึงคู่แข่งเก่าแก่อย่าง ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง กลับมาขึ้นเวทีคอนเสิร์ต จึงเป็นภาพที่แสนจะน่าประทับใจ เพราะเมื่อถึงเวลาคนที่ไม่ลืม ทัช และอยากให้ทุกคนจดจำเพื่อนเขาคนนี้ได้ กลับเป็น เจ เจตริน คู่แข่งที่ฟาดฟันกันมา.
ปลุกตำนานที่ยังมีชีวิต กับเจ้าพ่อเพลงแดนซ์ เจ ทัช ล่าสุดในคอนเสิร์ต J-DNA เจ ทัช ขึ้นเวทีด้วยกันจนกลายเป็นภาพที่น่าประทับใจ
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
เจ เจตริน,ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง,เจ ทัช,วัยรุ่นยุค90,คอนเสิร์ต
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1008342
ไม่เห็นด้วยแจกเงินเที่ยว
เพราะถ้าผมไม่นั่งนับก่อน หรือนับไปแค่ 10 หรือ 100 ผมมั่นใจว่าอารมณ์คงไม่คลี่คลายแน่ๆ อันอาจจะทำให้ผมเขียนหนังสือด้วยการใช้ถ้อยคำที่รุนแรง หรือเกรี้ยวกราด อันเป็นแนวทางการเขียนที่ผมไม่เคยปฏิบัติมาก่อนในชีวิตนี้,ปรากฏว่าอารมณ์ผมดีขึ้นมากเมื่อนับมาถึง 9,826 ครั้ง สติสัมปชัญญะกลับมาเหมือนเดิมสามารถที่จะเขียนคอลัมน์วันนี้ได้อย่างใจเย็น ไม่โมโหโทโส มีแต่ความเมตตากรุณาอยู่ในใจ,เรื่องที่ทำให้ปรอทของผมพุ่งปรี๊ด ไม่ใช่เพราะอุณหภูมิรอบๆตัวที่ขึ้นไปถึง 40 องศาเซลเซียส เมื่อวานนี้หรอกครับ,แต่เป็นเรื่องจากข่าวที่หนังสือพิมพ์ทุกฉบับรายงานตรงกันว่า กระทรวงการคลังจ่อชงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายๆมาตรการเพื่อเข้า ครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา,สรุปว่าจะแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจอีกประมาณ 2 หมื่นกว่าล้านบาท,แจกด้วยการเติมเงินเข้าไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน 3 กลุ่ม ประมาณ 7,000 ล้านบาท,มีทั้งแจกให้ผู้ปกครองที่มีลูกหลานกำลังเรียนคนละ 500 บาท ต่อบุตร 1 คน เพื่อไปซื้อชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน แจกให้เกษตรกรคนละ 1,000 บาท เพื่อไปซื้อปุ๋ยในการทำการเกษตร และแจกแก่คนพิการเพิ่มจากเดิมอีกเดือนละ 200-300 บาท สำหรับคนพิการที่ลงทะเบียนไว้ประมาณ 100,000 คน,แม้ผมจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับการแจก แต่ก็เอาเถอะ ดูเหตุดูผลว่าแจกเพื่อการเรียนของลูกคนจน แจกซื้อปุ๋ยให้ชาวนา หรือเพิ่มเงินสวัสดิการให้คนพิการก็พอจะยอมรับได้,จนกระทั่งอ่านมาถึงช่วงที่ 2 ที่บอกว่าจะกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทย ใน 2 โครงการ โดยโครงการแรก ยิ่งเที่ยว ยิ่งเท่ ช่วยเปย์ เมืองรอง นั้น จะแจกเงินให้ประชาชนตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป คนละ 1,500 บาท ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท,ใครก็ได้ที่อายุเกิน 18 ปีมาลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์เลย จะแจกให้ใน 10 ล้านคนแรก ที่ระบุว่าจะไปเที่ยวจังหวัดเมืองรองที่ไม่ใช่จังหวัดที่ตัวเองอยู่อาศัย,ผมอ่านมาถึงตอนนี้ก็ปรี๊ดแตกเลย จนต้องนับ 1 ไปถึง 9,826 อย่างที่ว่าอารมณ์จึงสงบลง นึกปลง นึกโทษตัวเองว่าวาสนาน้อยเหลือเกิน เขียนหนังสือติงท่านรัฐมนตรีคลังไปหลายครั้ง แต่ท่านไม่ฟังเราเลย,เรียนท่านว่าอย่าแจก ท่านก็ยังแจกอยู่อีก,อุตส่าห์เขียนทวงบุญคุณว่าเงินภาษีอากรเหล่านี้เป็นของประชาชนนะ เป็นหยาดเหงื่อของคนไทยนะ กว่าเขาจะหาได้แต่ละบาท เพื่อเสียภาษีนั้นเหนื่อยสายตัวแทบขาดนะ,จึงขอความเห็นใจจากท่าน ถ้าจะแจกก็ขอให้แจกอย่างระมัดระวังและขอให้นึกอยู่เสมอว่าถ้าเป็นเงินของท่านเอง ท่านจะแจกอย่างนี้หรือไม่?,อะไรไม่อะไรผู้แจกเป็นกระทรวงการคลังเองด้วย จะไม่ผิดหลักความเป็นนักการคลังไปหรือ ผมไม่รู้นะว่านักการคลังรุ่นใหม่เป็นอย่างไร แต่รุ่นผมนั้นอาจารย์ท่านสอนว่านักการคลังต้องกระเหม็ดกระแหม่หน่อย,แม้ทุกวันนี้โลกจะเปลี่ยนกระทรวงการคลัง ไม่ควรเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ ไม่ควรกระเหม็ดกระแหม่จนเกินเหตุ แต่ก็ควรต้องรักษามาตรฐานของกระทรวงการคลังไว้บ้าง,ที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องแสดงถึงการรู้ค่าของเงิน และให้ความเกรงใจแก่ประชาชนจำนวนมากที่ต้องเสียภาษีอากรบำรุงแผ่นดิน,นี่ท่านกลับเอาไปแจกง่ายๆแถมแจกให้เที่ยว จะเมืองหลัก เมืองรองก็คือเที่ยว เอาไปเทียบกับแจกคนพิการ แจกซื้อสมุด ซื้อหนังสือ ช่วยเกษตรกร คนละความรู้สึกเลยนะครับ,แม้จะอ้างว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็ต้องดูให้ลึกว่ากระตุ้นแบบนี้จะได้ผลไหม? ผมไม่คิดว่าจะได้ผล มีแต่จะเสียเงินเปล่าๆ เหมือนอย่างที่กระตุ้นมาไม่รู้ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง,ผมส่งต้นฉบับก่อนที่จะทราบว่า เรื่องเข้า ครม.หรือไม่ และครม. อนุมัติหรือไม่แต่ก็ขออนุญาตบันทึกให้ปรากฏไว้ว่ายังไงๆ ผมก็ไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดนี้ ไม่ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน ครม.ก็ตาม.,ซูม
ผมนั่งนับหนึ่งไปจนถึงเกือบหมื่นแล้วกระมังครับ ก่อนที่จะเขียนคอลัมน์วันนี้ เพื่อให้อารมณ์อันขุ่นมัวของผมคลี่คลายลงเหลือระดับปกติ ก่อนที่จะหยิบปากกา
null
แจกเงิน,แจกเงิน 1500,แจกเงินเที่ยว เมืองรอง,มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ,บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ,เหะหะพาที,ซูม
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1552793
ยะลาหวั่นเหตุระเบิดซ้ำ สั่งเพิ่มกำลังลาดตระเวน พื้นที่ ร.ร.จุดเสี่ยง
เมื่อเวลา 07.40 น. วันที่ 7 ก.ย. ที่บริเวณหน้า ร.ร.บ้านท่าสาป หมู่ 1 ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา จ.ยะลา และโรงเรียนพื้นที่เสี่ยงอีกหลายโรง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ชรบ. ตลอดจนกำลังภาคประชาชน ได้สนธิกันวางกำลังออกไปดูแลความปลอดภัยให้แก่คณะครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนผู้ปกครองที่จะเดินทางไปยังโรงเรียนอย่างเข้มงวด บริเวณหน้าโรงเรียน และโดยเฉพาะตามเส้นทางที่คณะครูจำเป็นต้องเดินทางผ่าน มีกำลังวางเป็นระยะๆ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินให้แก่บุคลากรทางการศึกษา ภายหลังเกิดเหตุ คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดที่หน้าโรงเรียนบ้านตาบา ต.ตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้ผู้ปกครองและบุตรที่เป็นนักเรียนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย เหตุเกิดเมื่อเช้าวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา,ด้าน พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองยะลา ได้สั่งการให้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายออกสืบสวนหาข่าวและคอยเฝ้าระวังตามบริเวณหน้าโรงเรียนต่างๆ คอยสอดส่องพฤติกรรมของกลุ่มคนร้าย หรือบุคคลเป้าหมายที่อาจแฝงตัวเข้ามาลักลอบก่อเหตุ พร้อมสั่งการให้ พ.ต.ต.หาญพล รามด้วง สวป.จัดชุดสายตรวจตั้งด่านตรวจลอยตามเส้นทางเชื่อมต่อกับชานเมือง โดยกำชับให้ตรวจค้นยานพาหนะเป้าหมายที่ถูกปล้น และถูกแจ้งหายโดยเข้มงวด,ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.ภ.จ.ยะลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานเจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครอง ร่วมออกกันไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้เพิ่มกำลังคุมเข้มโรงเรียนในเขตล่อแหลมทั้งในตัวเมืองและรอบชานเมือง โดยให้เพิ่มความระมัดระวังดูแลป้องกันตนเองด้วย ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มคนร้าย โดยเฉพาะในช่วงเช้าก่อนโรงเรียนทำการสอน ให้เพิ่มกำลัง และดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย ทั้งในและรอบนอกของโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยง นอกจากนี้ ได้มีการเพิ่มการดูแลความปลอดภัยเป็นกรณีพิเศษ ตั้งแต่การลาดตระเวนเส้นทาง การวางกำลังไว้เป็นจุดๆ รวมถึงการใช้ ทหาร อส. และกำลังภาคประชาชน ดูแลบุคลากรตลอดการเรียนการสอนด้วย เพื่อไม่ให้คนร้ายสามารถเข้าไปก่อเหตุร้ายในภายในโรงเรียน.
ยะลาหวั่นเกิดเหตุระเบิดซ้ำ ผู้การตำรวจสั่งเพิ่มกำลัง รปภ.ร.ร.พื้นที่เสียง จุดล่อแหลม ยันต้องวางกำลังตำรวจ ทหาร อส.เข้มงวดดูแลการเรียนการสอนทั้งวัน พร้อมส่งชุดลาดตระเวนเส้นทาง วางกำลังตามจุดต่อเนื่อง
null
วางระเบิด,ระเบิดใต้,วางระเบิดโรงเรียน,โรงเรียนบ้านตาบา,ตากใบ,จำลอง สุวลักษณ์,ผกก.สภ.เมืองยะลา,อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์,ผบก.ภ.จ.ยะลา,เฝ้าระวังหน้าโรงเรียน
https://www.thairath.co.th/content/714773
คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ใครมีสิทธิ์เรียกค่าเสียหาย
สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ สัปดาห์นี้พักเรื่องข่าวไว้ก่อนนะครับ สัปดาห์นี้มาคุยกันในเรื่องข้อกฎหมายเกี่ยวกับคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญากันบ้างครับ ปัจจุบันมีคำพิพากษาฎีกาที่เพิ่งกลับหลักเดิม ซึ่งแนวคำวินิจฉัยของคำพิพากษาศาลฎีกาฉบับล่าสุด ได้วางบรรทัดฐานไว้ชัดเจน เป็นประโยชน์ในการศึกษาหลักกฎหมาย และประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการได้รับความเสียหายในทางแพ่ง เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุได้รับอันตรายแก่ ชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือได้รับความเสื่อมเสียต่อเสรีภาพในร่างกาย ชื่อเสียง หรือได้รับความเสียหายในทางทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการกระทำความผิดของจำเลย,เมื่อมีการกระทำความผิดในทางอาญาเกิดขึ้น ผู้เสียหาย ผู้เป็นบิดามารดา ภรรยา บุตร หรือทายาทโดยธรรม แล้วแต่กรณี ย่อมมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยได้ แต่จะมีสิทธิ์ได้รับค่าเสียหายหรือค่าทดแทนมากน้อยเพียงใด ศาลจะวินิจฉัยตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เรื่องค่าสินไหมทดแทน เพื่อละเมิด มาตรา 438 ถึง มาตรา 448,ทั้งนี้ ในกรณีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยในข้อหาความผิดต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน ชื่อเสียง หรือเสรีภาพ ผู้เสียหาย ผู้เป็นบิดามารดาโดยชอบด้วยกฎหมาย ภรรยา บุตร หรือทายาทโดยธรรม แล้วแต่กรณี สามารถยื่นคำร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายเข้าไปในคดีอาญาได้ โดยไม่จำเป็นต้องยื่นฟ้องเป็นคดีใหม่ และไม่ต้องชำระค่าฤชาธรรมเนียมศาลอีกด้วย ซึ่งปกติหากจัดหาทนายไปยื่นฟ้องแพ่งเอง ผู้เป็นโจทก์ในคดีแพ่งจะต้องชำระค่าขึ้นศาลอัตราร้อยละสองของทุนทรัพย์ที่ฟ้องคดี แต่หากยื่นคำร้องเข้าไปในคดีอาญา ซึ่งมีพนักงานอัยการเป็นโจทก์ กรณีนี้ไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลครับ,ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1 ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ ถ้าผู้เสียหายมีสิทธิที่จะเรียกเอาค่าสินไหมทด แทนเพราะเหตุได้รับอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือได้รับความเสื่อมเสียต่อเสรีภาพในร่างกายชื่อเสียง หรือได้รับความเสียหายในทางทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการกระทำความผิดของจำเลย ผู้เสียหายจะยื่นคำร้องต่อศาลที่พิจารณาคดีอาญาขอให้บังคับจำเลยให้ค่าสินไหมทดแทนแก่ตนก็ได้,โดยตามแนวคำวินิจฉัยของศาลฎีกาฉบับเดิม ผู้ที่จะมีสิทธิ์ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการ รวมถึงมีสิทธิ์ยื่นคำร้องขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44 / 1 นั้น จะต้องเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัยเท่านั้น คือ จะต้องไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดของจำเลย เช่น ไม่ได้มีส่วนประมาทร่วม หรือไม่มีส่วนในการร่วมทะเลาะวิวาท เป็นต้น,อ้างอิงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8793/2556 ,เมื่อข้อเท็จจริงว่าผู้ตายมีส่วนประมาทยุติไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ผู้ตายจึงมิใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย โจทก์ร่วมซึ่งเป็นบุตรของผู้ตายไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ รวมทั้งมีผลให้คำร้องขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตาม ป.วิ.อ. มาตรา 44/1,ต่อมาในปี 2560 ได้มีคำพิพากษาฎีกาฉบับ(ประชุมใหญ่) ได้วางบรรทัดฐานในการวินิจฉัยเรื่องดังกล่าวไว้ โดยวินิจฉัยว่า แม้ผู้เสียหายจะไม่ใช่ผู้เสียหายทางนิตินัยในคดีอาญา แต่ก็เป็นผู้เสียหายในทางแพ่งได้ จึงมีสิทธิ์ยื่นคำร้องขอค่าเสียหายทางแพ่งมาในคดีอาญาได้,เทียบเคียง คำพิพากษาฎีกาที่ 5400/2560 (ประชุมใหญ่),ผู้เสียหายที่มีส่วนในการกระทำความผิดด้วย แม้ไม่ใช่ผู้เสียหายในทางนิตินัยในคดีอาญาก็ตาม แต่ก็เป็นผู้เสียหายในทางแพ่งจึงสามารถยื่นคำร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งมาในคดีอาญาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1 ได้,ส่วนการกำหนดค่าสินไหมทดแทน ให้พิจารณาว่าฝ่ายผู้เสียหายมีส่วนทำให้เกิดความเสียหายขึ้นมากน้อยเพียงใดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 223 ประกอบด้วย,สุดท้ายนี้ หวังว่าข้อมูลที่ผมได้นำเสนอแก่ท่านในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ และจะเป็นประโยชน์มากกว่านี้ หากช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้ต่อๆ ไป เพื่อให้ประชาชนรู้ถึงสิทธิตามกฎหมายของตนเองครับ,สำหรับใครที่มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องราวดีๆ อยากแบ่งปันประสบการณ์ เมลมาหาผมได้ที่ คุยกับคนดัง ,[email protected], ได้เลยครับ,Facebook: ,ทนายเจมส์ LK
สัปดาห์นี้พักเรื่องข่าวไว้ก่อนนะครับ สัปดาห์นี้คุยกันในเรื่องข้อกฎหมายเกี่ยวกับคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญากันบ้างครับ ปัจจุบันมีคำพิพากษาฎีกาที่เพิ่งกลับหลักเดิม ซึ่งแนวคำวินิจฉัย
คนดังนั่งเขียน,ข่าว
คดีแพ่ง,คดีอาญา,กฎหมาย,ทนายเจมส์,คนดังนั่งเขียน,กฏหมาย
https://www.thairath.co.th/news/local/1499001
ขาสั่นพั่บๆ เที่ยวหวาดเสียว สะพานกระจกเมืองฉงชิ่ง กล้าไปไหม?
ยิ่งใหญ่กว่าใครก็พี่จีนนี่แหละ สำหรับการก่อสร้าง สะพานทางเดินกระจก งานช้างระดับโลก ณ เมืองฉงชิ่งประเทศจีน เป็นสะพานทอดยาวออกไปกลางอากาศ เพื่อชมทัศนียภาพความงดงามของธรรมชาติ ป่าเขียวขจี ทิวเขาสลับซับซ้อนอันเป็นเสน่ห์ของเมืองฉงชิ่ง,ไทยรัฐออนไลน์, เห็นว่าในเมืองฉงชิ่งตอนนี้มี 2 สะพานกระจกขนาดใหญ่ทางเดินยาวเหยียด ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้หลั่งไหลมาชม ทางการเมืองฉงชิ่งก็เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางไปสัมผัสความเสียวไส้แบบเวิลด์คลาสนี้,อย่ารอช้า เราจะพาไปสำรวจกัน,1. สะพานกระจกรูปเกือกม้า,แห่งแรกที่จะพาไปชมคือ สะพานกระจก Glass Skywalk In Chongqing อันนี้ทำออกมาเป็นรูปตัวยู หรือรูปเกือกม้า มีความยาวประมาณ 26.68 เมตร เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมท้าความสูงในช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2015 ที่ Longgang National Geological Park ในเขต Yunyang ของเมืองฉงชิ่ง,2. สะพานกระจกรูปตัว A,ส่วนอีกหนึ่งแห่ง ก็เป็น Glass Skywalk In Chongqing เช่นกัน แต่อันนี้เขาสร้างเป็นสะพานกระจกเป็นรูปตัว A สะพานกระจกแห่งนี้ถูกเรียกอีกอย่างว่า Sky Corridor เป็นทางเดินรูปตัว A ที่ยื่นออกไปจากหน้าผาที่บริเวณจุดชมวิวภูเขา Wansheng ในป่าหิน Wansheng Ordovician Park,ก่อสร้างให้ยื่นออกไปจากหน้าผาไกลถึง 80 เมตร น่าจะทุบสถิติ Guinness Book of World Records สำหรับสะพานกระจกในโลกนี้ได้เลย เพราะว่ากันว่ามันเป็นทางเดินที่มีความยาวเป็น 3 เท่าของ Grand Canyon Skywalk ในสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว,ที่มา : ,BestDestinationsToTravel,, ,ChinaNews,, ,shanghaiist,, ,chinadaily
สะพานทางเดินกระจก เที่ยวฉงชิ่ง สะพานกระจก ฉงชิ่ง สะพานกระจกรูปเกือกม้า เราพาไปดูกัน
ไลฟ์สไตล์,ท่องเที่ยว
สะพานกระจก จีน,ท่องเที่ยว,สะพาน กระจก ฉงชิ่ง,สะพานกระจกรูปเกือกม้า,เที่ยว ฉงชิ่ง
https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/abroad/1257964
ศูนย์เด็กเล็กฯ จ.ยโสธร ปิดร.ร.ซ้ำ หลังพบเด็กป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปากอีก
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านกระจาย อ.ป่าติ้ว ในจ.ยโสธร ต้องปิดเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสองสัปดาห์ หลังพบเด็กป่วยโรคมือ เท้า ปาก รวม 13 คน รักษาหายแล้ว 10 คน ส่วนที่เหลือ ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ ส่วนหลายจังหวัดทางภาคใต้ ยังคงพบผู้ป่วยมือเท้าปากต่อเนื่อง ทำให้โรงเรียนหลายแห่งประกาศปิดเรียน เช่น โรงเรียนรักษ์วิทยา อ.ปราณบุรี และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในต.อ่าวน้อย และต.ศาลาลัย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ด้านครู ครูอนุบาล โรงเรียนมารีย์รักษ์ จ.เชียงราย นำน้ำยาฆ่าเชื้อ ทำความสะอาดเครื่องเล่น และเครื่องใช้ในโรงเรียน เพื่อป้องกันการระบาดของโรคมือ เท้า ปากพญ.มาลินี สุขเวชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยสถานการณ์โรคมือ เท้า ปาก ว่า ขณะนี้สั่งปิดโรงเรียนในสังกัดแล้ว 22 แห่ง ส่วนที่ปิดบางชั้นเรียนมี 12 แห่ง สำหรับมาตรการการควบคุมโรคนั้น คือ เมื่อพบเด็กติดเชื้อ ให้แยกตัวออกมาทันที รวมทั้งรักษาความสะอาดสภาพแวดล้อม เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรค โดยเน้นเฝ้าระวังในศูนย์เด็กเล็กก่อนวัยเรียน โรงเรียนชั้นอนุบาล และสวนสนุกตามห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้าต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้สำนักงานเขตติดตาม และประเมินสถานการณ์ในชุมชน ซึ่งมั่นใจว่า จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยใช้มาตรการเดียวกับการควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ผ่านมา
ศูนย์เด็กเล็กฯ ยโสธร ปิดเป็นครั้งที่ 2 หลังพบเด็กป่วยเป้นโรค มือ เท้า ปาก ขณะที่หลายพื้นที่เฝ้าระวังโรค โดยที่โรงเรียนหลายแห่ง เร่งทำความสะอาด และให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันตัวเองกับเด็กนักเรียน
สังคม
ทำความสะอาด,ปิดโรงเรียน,ระบาด,เด็กป่วย,โรคมือเท้่าปาก
https://news.thaipbs.or.th/content/98968
ปาฐกถาปรีดี พนมยงค์ 2559: สังคมที่เป็นประชาธิปไตย: คุณค่า ความหวัง
นอกจากนี้ยังนำเสนอเรื่องการสร้างสังคมประชาธิปไตยผ่าน 1. การสร้างดุลยภาพของการใช้อำนาจรัฐกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน 2. สำรวจแนวคิดประชาธิปไตยสมบูรณ์ของปรีดี พนมยงค์ และ 3) การสร้างทัศนะสังคมที่เป็นประชาธิปไตย/สังคมประชาธิปไตย24 มิ.ย. 2559 ที่สถาบันปรีดี พนมยงค์ กรุงเทพมหานคร มีการปาฐกถาปนีดีพนมยงค์ ประจำปี 2559 ในโอกาสครบรอบ 84 ปี การอภิวัฒน์สยาม 24 มิถุนายน 2475 หัวข้อ สังคมที่เป็นประชาธิปไตย: คุณค่า ความหวัง โดย วรรณภา ติระสังขะ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเริ่มต้นวรรณภานำเสนอว่า สังคมไทยนั้นยังคงอยู่ท่ามกลางกระแสของการต่อสู้ว่า อะไรคือความเป็นประชาธิปไตยที่เหมาะสมสำหรับประเทศของเรา สังคมไทยเรายังคงกำลังเปลี่ยนผ่าน และแสวงหาจุดสมดุลเพื่อมุ่งไปสู่สังคมที่เป็นประชาธิปไตย เราคงต้องกลับมาถามตัวเองอีกครั้งว่า เรายังมี ความหวัง ต่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมที่เป็นประชาธิปไตยหรือไม่นับตั้งแต่การอภิวัฒน์สยาม คือ การเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญมาแล้วเป็นเวลาถึง 84 ปี ที่เราจะหวนคิด ทบทวน และตั้งคำถามกับตัวเองถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับสังคมไทย ณ วันนี้ว่า ตลอดระยะเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงสู่ประชาธิปไตยราจะเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถนำพาสังคมนี้ ไปสู่สังคมที่เป็นประชาธิปไตยได้หรือไม่ อย่างไร?ข้าพเจ้าเชื่ออย่างแรงกล้าว่า การเปลี่ยนผ่านสังคมไทยไปสู่การเป็นสังคมที่เป็นประชาธิปไตยนั้นยังต้องอาศัยปัจจัยอีกหลายๆ ปัจจัย ที่ทำให้ประเทศนั้นๆ สังคมนั้นๆ ก้าวผ่านไปสู่สังคมที่ดีขึ้นได้โดยการปาฐกถาของวรรณภา นำเสนอมุมมองว่า การสร้างสังคมที่เป็นประชาธิปไตยสามารถทำผ่าน 1) การสร้างดุลยภาพของการใช้อำนาจรัฐกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน 2) ผ่านการสำรวจแนวคิดประชาธิปไตยสมบูรณ์ของปรีดี พนมยงค์ และ 3) ผ่านการสร้างทัศนะสังคมที่เป็นประชาธิปไตย / สังคมประชาธิปไตย (Democratic Society)ในการสำรวจแนวคิดประชาธิปไตยสมบูรณ์ของปรีดีนั้น วรรณภาเสนอว่า คุณลักษณะของประชาธิปไตยในแต่ละมิติของปรีดี สามารถอธิบายความประกอบด้วย 1) ประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของสังคมการเมือง ประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจจต้องเอื้ออำนวยให้ราษฎรส่วนใหญ่ของสังคมไม่ตกเป็นทาสหรืออยู่ภายใต้บงการของคนส่วนน้อยที่อาศัยอำนาจผูกขาดทางเศรษฐกิจของสังคม2) ประชาธิปไตยทางการเมือง เกี่ยวข้องโดยตรงกับกฎหมายรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายแม่บทในการปกครองประเทศ โดยหัวใจสำคัญสามารถพิจารณาได้จากประเด็นสิทธิเสรีภาพของราษฎรว่ามีอยู่มากน้อยเพียงใด และสามารถปฏิสัมพันธ์ต่อรองอำนาจในระบบการเมืองในระดับใด3) ทัศนะทางสังคมที่เป็นประชาธิปไตย ถือเป็นอีกมิติหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งอันเนื่องด้วยเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมทางการเมืองหรือวิถีปฏิบัติประจำวันของพลเมืองภายในสังคม โดยวัฒนธรรมทางการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยเช่นว่านั้น จะเป็นพลังผลักดันให้สังคมก้าวหน้าไปสู่ระบบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ กล่าวอีกนัยหนึ่ง การที่สังคมใดๆ ประกอบด้วยประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจและประชาธิปไตยทางการเมืองแต่หากขาดซึ่งทัศนะทางสังคมที่เป็นประชาธิปไตยแล้วย่อมไม่สามารถนำพาไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ได้อย่างแท้จริงในตอนท้ายวรรณภาเสนอว่า การเปลี่ยนผ่านสังคมไทยไปสู่การเป็นสังคมที่เป็นประชาธิปไตยนั้น ผ่านการต่อสู้มาอย่างยาวนาน ความพยายามทบทวนถึงพลวัตการเปลี่ยนแปลงทางสังคมการเมือง การปฏิรูปการปกครอง การปรับเปลี่ยน เพิ่มเติมแก้ไข การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญในอดีตและปัจจุบันของไทยที่กำลังดำเนินอยู่นั้น ดูจะประสบกับความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า และไม่สามารถสถาปนาคุณค่าของระบอบประชาธิปไตยให้สามารถหยั่งรากลึกในสังคมได้ ด้วยความล้มลุกคลุกคลานทางการเมืองที่ว่านั้น การสร้าง ประชาธิปไตยสมบูรณ์ ตามแนวคิดของปรีดี พนมยงค์ จึงจำเป็นต้องมีการออกแบบโครงสร้างและสถาบันทางการเมืองที่สอดคล้องเหมาะสมกับบริบทของสังคมไทย โดยมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศทั้งในทางนิตินัยและพฤตินัย และคุณค่าของรัฐธรรมนูญนั้นจะต้องมุ่งสถาปนาความเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคของประชาชน รวมถึงความสัมพันธ์เชิงอำนาจระหว่างองค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รัฐสภา รัฐบาล องค์กรตุลาการ องค์กรอิสระ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พรรคการเมือง ภาคประชาสังคม ให้มีความสอดคล้องเหมาะสม ระบบกฎหมายภายใต้หลัก นิติรัฐ เพื่อให้ทุกองคาพยพในสังคมการเมืองถูกตรวจสอบ ถ่วงดุลซึ่งกันและกัน ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อให้โครงสร้างอำนาจรัฐได้สัดส่วนและได้ดุลยภาพเป็นเบื้องต้นประการต่อมา การสถาปนาระบอบประชาธิปไตยสมบูรณ์ได้นั้นจำเป็นต้องมีประชาธิปไตยในทางเศรษฐกิจ กล่าวคือสังคมไทยต้องวางรากฐานทางเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย มีระบบเศรษฐกิจที่ดีในระดับหนึ่ง มุ่งขจัดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติเพื่อให้ทุกคนมีโอกาส สามารถเข้าถึงแหล่งทรัพยากรทางเศรษฐกิจ การศึกษาที่มีคุณภาพ สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และอำนาจทางการเมืองในมิติอื่นๆ ได้อย่างเท่าเทียมและเสมอภาคกัน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น เมื่อสังคมประกอบด้วยระบบบเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวยแล้ว ย่อมส่งผลให้สังคมมีความเป็นชุมนุมที่เข้มแข็ง มีความตื่นเต้นทางการเมือง มีจิตสาธารณะ ให้ความสำคัญแก่ประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัวและสิ่งที่สำคัญที่สุด เพื่อการก่อร่างสร้างสังคมให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ได้นั้น ขึ้นอยู่ที่พวกเราทุกคนในฐานะที่เป็นสมาชิกของสังคมสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันอุดมคตินั้นให้เกิดขึ้นจริง นั่นคือ การสร้างทัศนะทางสังคมหรือวัฒนธรรมที่เป็นประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นจริงในจิตใจของเราทุกคน การตระหนักรู้ ยึดมั่นถือมั่น และสมาทานอย่างซื่อตรงต่อความเป็นประชาธิปไตยนั่นเองจึงไม่แปลกเลยหากจะกล่าวว่า เราทุกคนล้วนเป็น คำตอบ ที่เป็น ความหวัง ที่ทำให้สังคมที่เป็นประชาธิปไตยเกิดขึ้นได้จริงในสังคมไทย
วรรณภา ติระสังขะ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปาฐกถาปรีดี พนมยงค์ ประจำปี 2559 ทบทวนว่าเรายังมี ความหวัง ต่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมที่เป็นประชาธิปไตยหรือไม่
การเมือง
การอภิวัฒน์สยาม,การเปลี่ยนผ่าน,การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475,คณะราษฎร,ประชาธิปไตย,ประชาธิปไตยสมบูรณ์,ปรีดี พนมยงค์,ปาฐกถาปรีดี พนมยงค์,มัลติมีเดีย,เหตุการณ์ 24 มิถุนายน 2475
https://prachatai.com/journal/2016/06/66506
ภูเก็ตประดับโคมไฟจีน รับเทศกาลกินเจ ราคาผักขยับขึ้นเล็กน้อย
เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่ จ.ภูเก็ต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามแผงขายพืชผักชนิดต่างๆ ในตลาดสดเทศบาล 1 และตลาดดาวน์ทาวน์ ถ.ระนอง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้มีพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนต่างมาเลือกซื้อหาผักชนิดต่างๆ เพื่อนำไปประกอบอาหารเจขายและบริโภคในครัวเรือนในช่วงประเพณีถือศีลกินผัก ซึ่งจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 13-21 ต.ค.โดยในเวลา 17.09 น. วันที่ 12 ต.ค.แต่ละศาลเจ้าใน จ.ภูเก็ต ที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักประจำปีจะมีการประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ ยกเสาโกเต้ง เพื่ออัญเชิญตะเกียงเทวดาทั้ง 9 ขึ้นสู่ยอดเสา เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นประเพณี,สำหรับปีนี้พบว่าราคาผักชนิดต่างๆ มีราคาขยับขึ้นกว่าช่วงปกติ เช่น ผักกาดขาว ผักบุ้ง ผักคะน้า กะหล่ำปลี มีการปรับราคาขึ้น 5-12 บาท แต่ราคาผักที่ได้รับความนิยมทั่วไปในช่วงประเพณียังคงมีราคาขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ไม่ส่งผลกระทบกับผู้บริโภค ขณะที่เต้าหู้ทอดยังคงขายในราคาปกติ ชิ้นละ 10 บาท ซึ่งถือว่าเป็นอาหารยอดฮิตในช่วงประเพณี ทั้งนี้ บริเวณ ถ.ระนอง ซึ่งเป็นถนนวันเวย์ และเป็นถนนสู่ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบเก้ง ศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุดและมีเหล่าม้าทรงชายหญิงมากที่สุดใน จ.ภูเก็ต ได้เริ่มมีการปิดถนน เพื่อให้บริการร้านค้าขายอาหารเจ ขนมเจชนิดต่างๆ โดยจะให้คนเดินเท้าจับจ่ายซื้ออาหาร-เสื้อผ้าขาวที่มีขายอยู่เป็นจำนวนมากเหมือนเช่นทุกๆ ปีที่ผ่านมา,ขณะเดียวกัน บริเวณริมถนนแต่ละศาลเจ้าจะมีร้านค้าขายอาหารเจ-เสื้อผ้าขาวจำหน่ายแทบทุกศาลเจ้าที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักประจำปี ทำให้แต่ละศาลเจ้าจะแน่นไปด้วยประชาชนที่สวมใส่เสื้อผ้าสีขาวเดินจับจ่ายหาอาหารเจ-ขนมเจกันเป็นจำนวนมาก และในส่วนของเทศบาลนครภูเก็ตได้นำโคมไฟจีนสีแดงห้อยอยู่ตามถนนหนทางสายหลัก เพื่อสร้างสีสัน และความสวยงามให้กับประเพณี โดยบริเวณวงเวียนสุรินทร์ วงเวียนสุริยะเดช เทศบาลนครภูเก็ตได้นำตุ๊กตาจีนและโคมไฟมาประดับประดา เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายภาพกันในยามค่ำคืน ขณะเดียวกันในวันที่ 11 ต.ค.ก่อนประเพณี 1 วัน ชาวภูเก็ตมักนิยมงดอาหารคาว-หวานที่มีส่วนผสมจากเนื้อสัตว์กันแล้ว โดยเรียกว่า ล้างท้อง.
คึกคัก!! ใกล้เทศกาลกินเจ ปชช.และผู้ที่จะถือศีล เริ่มออกจับจ่ายสินค้า และซื้อผักต่างๆ ไปตุน ทำให้ราคาผักขยับราคาเล็กน้อย ขณะที่เทศบาลนครภูเก็ต ประดับโคมไฟจีน ตามถนนสายหลัก เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศประเพณี
ข่าว,ทั่วไทย
กินเจภูเก็ต,เทศกาลกินเจ,ถือศีลกินเจ,ยกเสาโกเต้ง,อัญเชิญตะเกียงเทวดา,ราคาผักปรับขึ้น,เทศบาลนครภูเก็ต,วงเวียนสุรินทร์ วงเวียนสุริยะเดช,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/news/local/531581
ช่วยกันลดความรุนแรง ณวัฒน์ หวังให้คนเข้าใจ
คลาร่า โซซา น่าจะสวยโดนใจแฟนนางงามอยู่บ้างนะ,รู้ๆ กันไปนานหลายปีแล้ว อีกเป้าหมายหนึ่งของการสร้างเวที มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล Miss Grand International คือการหยุดยั้งสงครามและความรุนแรงในทุกๆ รูปแบบ (Stop the War and Violence) บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปคุยตรงเว่อร์ กับประเด็นนี้กับ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ผู้อำนวยการกองประกวด มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล Miss Grand International  , , ทำเวทีมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล Miss Grand International มาหลายปีแล้ว อีกจุดประสงค์ใหญ่คือ ยุติสงครามและความรุนแรงทุกรูปแบบ แต่ในสังคมโลกทุกวันนี้กลับตรงข้าม เพราะยังมีความรุนแรงเกิดขึ้นเรื่อยๆ ในหลายจุดทั่วโลก แสดงว่าเวที มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ที่จัดๆ มาหลายปี ก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย,เราไม่ได้บอกว่าเราจะไปหยุดสงครามตั้งแต่แรกนะครับ แต่เราอยากจะนำเสนอให้คนได้ตระหนักถึงผลของสงคราม ช่วยกันลดความรุนแรง และควรยอมกันบ้างในบางกรณี ไม่ใช่เอะอะก็ใช้ความรุนแรง หรือไม่พอใจก็ใช้การต่อสู้ จนก่อให้เกิดสงคราม แต่สงครามมันไม่สามารถยุติได้จากองค์กร มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล หรอกครับ หรือไม่สามารถยุติได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่ง,สงครามมีมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ เมื่อสมัยโรมัน 3,000 กว่าปีที่แล้ว ในปัจจุบันมันก็ยังมีสงครามอยู่ตลอดไป ไม่ว่าสงครามที่ใช้อาวุธและการเงิน เพราะเชื่อสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดการต่อสู้ทางอำนาจ เพราะฉะนั้นตราบใดที่คนยังมีอำนาจ และประเทศต่างๆ ยังแสวงหาอำนาจมากกว่าประเทศอื่น สงครามก็ยังมีอยู่,ที่เราหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาพูด เพื่อให้คนนึกขึ้นได้บ้างว่า จริงๆ แล้วปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลก ล้วนมาจากสงคราม ไม่ว่าจะปัญหาความยากจนจากปัญหาของสงครามมาก่อน ปัญหาการศึกษาก็มาจากสงคราม ปัญหาสาธารณสุขก็มาจากสงคราม,เพราะฉะนั้นสงครามคือจุดเริ่มต้นของปัญหา ให้แค่ได้รู้ ได้แค่ตระหนักและเข้าใจ ผมว่าอย่างน้อยให้แค่ตระหนักและเข้าใจ ผมก็ถือว่าได้ช่วยแล้ว แต่ว่าการยุติสงครามชาตินี้ยันชาติหน้า คงทำไม่ได้หรอกครับ โอเค รู้เรื่อง แยกย้าย.
เปิดมิติใหม่ของการรับมง ตื่นเต้นแรงจนเป็นลมพับคาเวทีไปแล้วกับ มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล Miss Grand International 2018 คนใหม่
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
miss grand international2018,รับมงเป็นลมคาเวที มิสแกรนด์,หยุดยั้งสงครามและความรุนแรง,ณวัฒน์ อิสรไกรศีล,กอสซิป
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1405097
องค์กรคนพิการกะเทาะบทเรียนรจัดการภัยพิบัติสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ พบข้อบกพร่องเพียบ
ที่บ้านราชวิถี สถาบันสร้างเสริมสุขภาพคนพิการ (สสพ.) ร่วมกับ มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ สำนักงานส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ (พก.) สมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทยและภาคีเครือข่ายจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในหัวข้อ ระบบการจัดการภัยพิบัติสำหรับคนทุกคน เพื่อร่วมการสร้างสังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการและรับมือต่อเหตุการณ์ภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต นายวิริยะ นามศิริพงศ์พันธ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการกล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมาทุกคนกลายเป็นผู้ประสบภัยเท่ากันหมด ซึ่งจากการดำเนินงานของศูนย์ TTRS พบเรื่องร้องเรียนผ่านหมายเลข 1414 ว่ามีคนพิการจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ของน้ำท่วมได้ จึงทำให้พลาดการช่วยเหลือในหลายเรื่อง ทั้งการรับบริจาคสิ่งของและการเข้ามาให้การช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามนอกจากปัญหาของคนพิการแล้วปัญหาการให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมาและเข้าไม่ถึงการช่วยเหลือด้วยเช่นกัน ทั้งผู้สูงอายุและคนพิการจำนวนมากถูกเลือกปฏิบัติ ดังนั้นเพื่อการทำให้สังคมมีความอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน โดยไม่ตกหล่นคนพิการหรือคนสูงอายุ จึงจำเป็นที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อที่จะดูแลประชากรกลุ่มนี้ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการกล่าวว่า ตนมีข้อเสนอที่อยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการในการวางระบบเพื่อเตรียมตัวรับกับสถานการณ์ภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในครั้งต่อไป โดยรัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการจัดทำข้อมูลต่างๆ เหล่านี้เพื่อจะได้ช่วยคนพิการได้ทันคือ 1. การทำแผนที่ โดยต้องทำข้อมูลว่าคนพิการประเภทไหนอยู่ในพื้นที่ไหนบ้าง 2. ต้องวางระบบด้านการสื่อสารสำหรับคนพิการโดย ต้องทำให้คนพิการสามารถสื่อสารกับหน่วยงานที่จะเข้ามาช่วยเหลือได้ 3. การรับรู้ข้อมูล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้ามาชี้แจงและบอกข้อมูลทุกของสิทธิทุกอย่างที่คนพิการจะต้องได้รับรู้ อาทิค่าชดเชยเรื่องการซ่อมแซมบ้าน 5000-20000 บาทเขาจะรับได้ที่ไหนจะต้องดำเนินการอย่างไร และบ้านอย่างไหนที่จะรับค่าชดเชยได้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้คนพิการจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงเพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ชัดเจนในเรื่องนี้ 4. จะต้องมีการจัดตั้งศูนย์ติดตามผลว่า คนพิการที่ติดต่อเข้ามาขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับความช่วยเหลือตามที่ร้องขอหรือไม่ 5. ศูนย์พักพิงที่ให้บริการ ต้องให้บริการคนพิการในทำนองเดียวกันกับหน่วยที่ให้บริการคนพิการโดยเฉพาะ โดยต้องเน้นความเท่าเทียมกันไม่ว่าคนพิการจะได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานใดก็ตาม ด้านนายสุเมธ พลคะชา ผู้ประสานงานโครงการศูนย์ช่วยเหลือคนพิการและครอบครัวผู้ประสบภัยจากเหตุน้ำท่วม มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ กล่าวว่า ในการเตรียมการจัดตั้งศูนย์พักพิงให้กับผู้อพยพ ทั้งจากหน่วยงานรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรจะมีการพิจารณาถึงการจัดตั้งสถานที่และสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับคนพิการในทุกประเภทด้วย ซึ่งรัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนว่า คนพิการในแต่ละประเภทจะต้องใข้สิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง อาทิคนพิการที่ต้องใช้เตียง หรือต้องมีทางลาดทางชันให้กับคนพิการที่ต้องใช้วีลแชร์ จัดสถานที่ให้คนที่เป็นโรอัมพฤกษ์อัมพาตอยู่ใกล้ห้องน้ำ เขียนป้ายบอกถึงการใช้สถานที่ต่างๆให้ชัดเจนสำหรับผู้พิการทางการได้ยิน หรือจัดสถานที่ให้คนที่มีอากาทางจิตอยู่กับครอบครัวในห้องที่เป็นสัดส่วนเฉพาะ ทั้งนี้ปราการด่านแรกที่จะทำให้คนพิการเข้าถึงความช่วยเหลือได้ในครั้งต่อ ๆ ไปก็คือครอบครัว ครอบครัวของคนพิการจะต้องรู้และจะต้องเข้าใจถึงความพิการของคนในครอบครัวตนเองและจะต้องเตรียมการในการจัดทำข้อมูลไว้อย่างละเอียดเพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อให้เข้ามาทำการช่วยเหลือต่อไปได้ รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการวางแผนดูแลในเรื่องนี้และ ต้องสร้างความตระหนักว่า คนพิการเป็นกลุ่มหนึ่งของสังคม เราควรช่วยเหลือให้เขาอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี นายยงยุทธ บริสุทธิ์ นายกสมาคมคนหูหนวกฯ กล่าวว่า สำหรับคนที่บกพร่องทางการได้ยินนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการจัดเตรียมล่ามภาษามือเพื่อให้ข้อมูลข่าวสารกับคนที่บกพร่องทางการได้ยิน และควรจะมีล่ามภาษามือลงไปกับทีมช่วยเหลือเพื่อที่จะได้ทราบความต้องการของคนที่บกพร่องทางการได้ยินได้อย่างชัดเจน การจัดระบบล่ามอาสาสมัครที่ช่วยเหลือคนพิการในยามภัยพิบัติถือเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งเพราะในประเทศนิวซีแลนด์และประเทศญี่ปุ่นเมื่อเกิดกรณีภัยพิบัติขึ้นมาจะมีล่ามภาษามือออกมายืนแปลพร้อมกับการให้ข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องการทำแบบนี้จะทำให้คนที่บกพร่องทางการได้ยินเข้าถึงข้อมูลในการช่วยเหลือและวางแผนในการเตรียมตัวรับกับภัยพิบัติได้ ที่ผ่านมาการเข้ามาช่วยเหลือคนพิการของหน่วยงานทีเกี่ยวข้องมีปัญหาอย่างมากเพราะคนที่บกพร่องทางการได้ยินไม่สามารถรับทราบข้อมูลได้ สื่อมวลชนเกือบทุกที่ก็ไม่มีล่ามภาษามือที่จะคอยบอกข้อมูลให้ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการจัดตั้งล่ามอาสาสมัครไว้ให้บริการกับคนบกพร่องทางการได้ยิน และล่ามอาสาสมัครเหล่านี้จะต้องประสานงานกับหน่วยงานในท้องถิ่นอาทิ อบจ.อสม. เพื่อเข้าให้ถึงข้อมูลของการช่วยเหลือคนพิการทุกประเภท ด้านพญ.วัชรา ริ้วไพบูลย์ ผู้อำนวยการสถาบันสร้างเสริมสุขภาพคนพิการ (สสพ.)กล่าวว่า สิ่งที่จำเป็นอีกอย่างในการช่วยเหลือคนพิการในสถานภารณ์ภัยพิบัติคือจะต้องมีองค์กรหรือหน่วยงานที่ชัดเจนขึ้นมาทำข้อมูลและเป็นศูนย์กลางในการเป็นเครือข่ายที่ให้การช่วยเหลือเพื่อกระจายความช่วยเหลือให้ลงไปสู่คนพิการอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ในกรณีที่สังคมกำลังช่วยกันในการถอดบทเรียนเพื่อทำวางแผนในการรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในครั้งต่อไป สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือครอบครัวของคนพิการและคนพิการเองจะต้องเตรียมตัวในการจัดการตนเองภายในบ้าน และจะต้องรวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือกันในกลุ่มที่สำคัญที่สุดคือจะต้องมีศูนย์เฉพาะทางที่มีการจัดการองค์ความรู้อย่างชัดเจน ทั้งเรื่องของการช่วยเหลือ การเดินทาง ซึ่งจะต้องมีการจัดทำแผนที่คนพิการโดยระบุรายละเอียดลงไปให้ชัดเจนว่าคนพิการในแต่ละพื้นที่นั้นมีกี่คนและมีเป็นคนพิการประเภทไหนอย่างไรบ้าง รวมถึงจะต้องเก็บข้อมูลให้ละเอียดและลงลึกด้วยว่า การดูแลคนพิการในแต่ละประเภทเป็นอย่างไรอาทิคนพิการบางรายที่เป็นอัมพาตและต้องใช้สายสวนปัสสาวะข้อมูลตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่เราจะต้องดำเนินการให้เป็นระบบเพื่อให้ง่ายสะดวกและเป็นประโยชน์ต่อการเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือคนพิการในครั้งต่อไปด้วย ผู้อำนวยการสถาบันสร้างเสริมสุขภาพคนพิการ (สสพ.)กล่าว
เตรียมดันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนที่คนพิการและคู่มือการจัดตั้งศูนย์พักพิงสำหรับคนพิการ และการสื่อสารเพื่อให้ข้อมูลสำหรับคนพิการอย่างเป็นระบบ นายกสมาคม คนหูหนวกเสนอ ระบบล่ามอาสาสมัครเข้าให้ข้อมูลคนหูหนวกทุกสถานการณ์
สังคม
คนพิการ,จัดการระบบภัยพิบัติ,ผู้สูงอายุ,พัฒนาคุณภาพชีวิต,สมาคมคนหูหนวก
https://news.thaipbs.or.th/content/52420
พลภูมิ หนุน นร.แสดงออก อย่าใช้ท่าทางไม่น่ารักโต้ตอบ ขอครูฟังพูดด้วยเหตุผล
วันที่ 19 ส.ค. 2563 นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนักเรียนร่วมกันชู 3 นิ้ว ขณะเคารพธงชาติ และมีครูเข้ามาขัดขวาง ทำให้นักเรียนบางส่วนโต้ตอบด้วยท่าทางที่ไม่น่ารัก ว่า ในมุมของนักเรียน การแสดงออกตามสิทธิของตัวเองเป็นสิ่งที่ดี การชูกระดาษ การชู 3 นิ้ว ไม่ใช่เรื่องผิด ไม่มีกฎข้อห้ามในโรงเรียน สามารถแสดงออกมาได้ แต่ไม่ควรโต้ตอบครูบาอาจารย์ที่อบรมสั่งสอนด้วยท่าทางที่เกรี้ยวกราด รุนแรง รวมทั้งไม่ควรแสดงออกถึงครูบาอาจารย์ผ่านทางโซเชียลมีเดียในประโยคที่ไม่น่าฟัง นักเรียนควรวางตัวให้ดี อย่าก้าวร้าว อย่าเอาอารมณ์มาทำลายจุดยืนของตัวเอง และในส่วนของครูอาจารย์ การใช้อำนาจข่มขู่คุกคามเด็กปิดกั้นการแสดงออก จะยิ่งทำให้เขามองท่านในทางลบ ต้องไม่ใช้อำนาจไปสั่ง แต่รับฟังพูดคุยด้วยเหตุผล เขาจะไว้ใจท่าน รับฟังท่านจุดที่สำคัญอย่างยิ่ง อย่าลืมว่าโลกหมุนเร็ว เด็กๆ เขาหมุนตามกระแสในยุคของเขา การจะเอาบริบทเก่าๆ มาตัดสินไม่ได้อีกแล้ว เพราะโลกมันไม่ได้หมุนย้อนกลับ ครูบาอาจารย์อย่าขวางทางเขา อย่าเอาความนิยมส่วนตัวของท่านมาตัดสินเด็กเหล่านั้น มิเช่นนั้นแล้ว ท่านที่เคยสร้างศรัทธาได้ดี ศรัทธาเหล่านั้นอาจหายไปเพียงแค่การกระทำและคำพูดเพียงไม่กี่คำ เราอย่าให้สถานการณ์บ้านเมืองมาทำลายความเคารพรัก ความเอ็นดู ความเห็นอกเห็นใจ รอยยิ้ม รอยน้ำตา และเสียงหัวเราะที่เคยมีให้กัน.
พลภูมิ หนุนนักเรียนแสดงออกตามสิทธิ แต่ไม่ควรโต้ตอบด้วยท่าทางไม่น่ารัก แนะครูอาจารย์รับฟังพูดคุยด้วยเหตุผล
ข่าว,การเมือง
ชู3นิ้ว,นักเรียนชู 3 นิ้ว,พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ,แฟลชม็อบ,ชุมนุมประชาธิปไตย​,ชู 3 นิ้วในโรงเรียน
https://www.thairath.co.th/news/politic/1913439
เคล็บลับทรงงานบน รองเท้าส้นสูง แบบไม่เมื่อยของ เจ้าหญิงเคท
ถือเป็นอีกหนึ่ง ,แฟชั่นไอคอน, ในยุคนี้ สำหรับ ,เจ้าหญิงเคท มิดเดิลตัน, ดัสเชสแห่งแคมบริดจ์ พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม แห่งราชวงศ์อังกฤษ ที่มักจะออกงานเคียงคู่พระสวามีด้วยฉลองพระองค์ที่สง่างามเสมอ,นอกจากผู้คนจะสนใจกับพระกรณียกิจที่ทรงทำร่วมกับพระสวามีแล้ว ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ผู้นี้ ยังถูกขนานนามว่า ,แฟชั่นไอคอนจากราชวงศ์, เพราะทุกครั้งที่เจ้าหญิงเคทปรากฏกาย ก็มักจะถูกจับจ้องตั้งแต่เสื้อผ้า หน้า ผม รวมถึง ฉลองพระบาทส้นสูง ที่พระองค์มักจะใส่ออกงานอยู่เป็นประจำ,ด้วยการที่พระองค์ต้องทรงงานอยู่บน, รองเท้าส้นสูง, ตลอดทั้งวัน จึงทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่าพระองค์ทำได้อย่างไร? ทำไมถึงไม่มีทีท่าว่าจะเมื่อย ดังนั้นวันนี้ ,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ, จะพาคุณไปหาคำตอบนี้กัน,นิตยสาร ,Vanity Fair, ของประเทศอังกฤษ ออกมาเปิดเผยว่า การที่เจ้าหญิงเคทสามารทรงงานบน รองเท้าส้นสูง ได้ตลอดทั้งวัน เป็นเพราะพระองค์มีเคล็ดลับบางอย่างในการใส่รองเท้าส้นสูง,ด้วยความที่พระองค์โปรดปรานการสวมใส่,รองเท้าส้นสูง,ที่ทำจากหนัง จึงมักจะใส่แผ่นรองด้านในรองเท้าของ Alice Bow ไว้ด้านในเสมอ เพื่อรองรับน้ำหนัก ให้เกิดความนุ่มสบายเท้าตลอดทั้งวัน แถมยังมีข้อดีคือนำไปใส่กับรองเท้าส้นสูงแบรนด์ไหนก็ได้ และแน่นอนว่าแฟนตัวยงของแบรนด์นี้อย่างเจ้าหญิงเคทนั้น ทรงซื้อมาใส่เองแถมยังซื้อหลายคู่เสียด้วย,วันนี้เราเอาเคล็ดลับการใส่รองเท้าส้นสูงของเจ้าหญิงเคทมาฝาก ทั้งนี้ถ้าสาวๆ คนไหนสนใจไม่อยากเมื่อย ,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ, ก็เห็นว่าในประเทศไทยมีขายอยู่หลายแบรนด์ ลองหาซื้อกันดูเผื่อจะได้เดินสวยๆ บนรองเท้าส้นสูงได้ทั้งวันบ้าง
ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จะมาบอกเคล็ดลับการทรงงานทั้งวันบน รองเท้าส้นสูง ของ เจ้าหญิงเคท ว่าทำอย่างไรถึงไม่เมื่อย
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
รองเท้าส้นสูง,เจ้าหญิงเคท,สุขภาพ,รองเท้า,เคท มิดเดลตัน
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/hisoceleb/1525231
จีนชี้ ยอดผู้ป่วยไวรัสโคโรนาพุ่งพรวดในวันเดียว เพราะตรวจด้วยวิธีใหม่
สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานเมื่อ 13 ก.พ. 2563 ว่า คณะกรรมการสุขภาพมณฑลหูเป่ยเปิดเผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ หรือ โควิด-19 มากถึง 242 ราย และมีผู้ป่วยรายใหม่อีก 14840 รายในวันพุธที่ผ่านมา จนกลายเป็นสถิติใหม่การพบผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยมากที่สุดภายในวันเดียวคณะกรรมการฯ ระบุว่า การที่จำนวนตัวเลขพุ่งพรวดจากสถิติเดิมหลายเท่าตัว เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ในหูเป่ยใช้วิธีการใหม่ในการวินิจฉัยโรค โดยใช้เครื่อง ซีทีสแกน ทำให้โรงพยาบาลสามารถแยกผู้ป่วยได้เร็วขึ้น จากเดิมที่ใช้วิธีตรวจกรดไรโบนิวคลีอิก (RNA) ซึ่งต้องรอหลายวันกว่าจะรู้ผล นอกจากนี้ ตัวเลขยังเพิ่มขึ้นจากการทบทวนข้อมูลเก่า และการกระเมินผู้ต้องสงสัยติดเชื้อที่ทำก่อนหน้านี้ด้วย ซึ่งหากใช้วิธีเดิม ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ในวันพุธจะอยู่ที่ 1508 รายเท่านั้นคณะกรรมการฯ เผยอีกว่า ที่พวกเขาตัดสินใจเปลี่ยนวิธีวินิจฉัยเพราะ ความเข้าใจในโรคปวดบวมที่เกิดจากไวรัสโคโรนาตัวนี้ลึกมากขึ้น รวมทั้งมีประสบการในการรักษาและวินิจฉัยมากขึ้น ซึ่งความเปลี่ยนแปลงนี้หมายความว่า คนไข้จะได้รับการรักษาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และสอดคล้องกับการจำแนกผู้ป่วยที่มณฑลอื่นๆ ใช้อย่างไรก็ตาม นาย วิคเตอร์ ชิห์ ผู้เชี่ยวชายด้านการเมืองจีนจากโรงเรียนยุทธศาสตร์และนโยบายโลก ที่เมืองซาน ดิเอโก แสดงความกังขาในความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ โดยระบุว่า การที่จำนนผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยพุ่งพรวด ทำให้เกิดคำถามในเรื่องความโปร่งใสของรัฐบาลจีนการปรับเปรี่ยนข้อมูลในวันนี้ พิสูจน์ชัดว่า พวกเขามีชุดตัวเลขในการยืนยันผู้ติดเชื้อ 2 ชุดมาตลอด มิเช่นนั้น รัฐบาลคงไม่สามารถเพิ่มจำนวนผู้ป่วยรายใหม่มากขนาดนี้ในวันเดียวได้ นายวิคเตอร์กล่าว สิ่งที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจที่สุดในตัวเลขใหม่นี้คือ ผู้ป่วยรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นนั้นอยู่ในเมืองอู่ฮั่น แล้วถ้าเมืองอื่นๆ ของหูเป่ยยังไม่ได้เปลี่ยนวิธีตรวจโรคล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น?
ทางการมณฑลหูเป่ยระบุว่า จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ เพิ่มขึ้นหลายเท่าในวันพุธ เพราะเจ้าหน้าที่ตรวจด้วยวิธีการใหม่ที่ให้ผลเร็วขึ้น
ข่าว,ต่างประเทศ
ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,โควิด-19,COVID-19,วิธีการใหม่,เมืองอู่ฮั่น,ไฮไลต์ไวรัสโคโรน่า
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1771123
รีวิวทำ อาหารคลีน เมนูสุขภาพแบบง่ายๆ แถม ลดน้ำหนัก (คลิป)
อาหารคลีน, และเทรนด์ ,ลดน้ำหนัก, ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ ,ผู้หญิง, สวยๆ อย่างเราไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงค่ะ เพราะถ้าไม่รักและหมั่นคอยดูแลสุขภาพของตัวเองแล้วล่ะก็เราจะมีสุขภาพที่ดีได้อย่างไรกัน?,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ, จึงขอเปิดครัว งัดเมนูเด็ด ที่ทั้งดีต่อสุขภาพของคุณ ,ผู้หญิง, สูตร,อาหารคลีนลดน้ำหนัก, สุดแสนจะอร่อย และแซ่บเว่อร์ ไม่จำเจ น่าเบื่อหน่ายมาฝากคุณสาวๆ กัน ถ้าพร้อมที่จะหุ่นสวย สุขภาพดีไปด้วยกันแล้วล่ะก็ เตรียมอุปกรณ์ และเครื่องปรุงให้พร้อมเลยค่ะคุ๊ณณณ,ข้าวผัดไรซ์เบอร์รี่ธัญพืช,เรามาเริ่มเมนูแรกกันเลยดีกว่าค่ะ สาวๆ เตรียมรายการเครื่องปรุงให้พร้อมดังต่อไปนี้นะคะ,1. ข้าวไรซ์เบอร์รี่ 1 ถ้วย,2. ธัญพืช 1/2 ถ้วย,3. น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา,4. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา,เมื่อเตรียมเครื่องปรุงครบเรียบร้อยแล้ว เรามาเข้าสู่ขั้นตอนในการทำอาหารกันเลยดีกว่า ,1. สาวๆ จ๋า ยกกระทะขึ้นเตาแล้ว ตั้งไฟให้กระทะร้อน ,2. จากนั้นเทน้ำมันมะกอกลงไป เมื่อน้ำมันร้อนได้ที่แล้ว ,3. ใส่ธัญพืชที่มีลงไปได้เลยค่ะ ผัดให้เข้ากัน ,4. ตามด้วยข้าวไรซ์เบอร์รี่ คลุกเคล้าให้ข้าวและธัญพืชเข้ากัน,5. เติมซีอิ๊วขาวเพื่อเพิ่มรสชาติสักนิด,6. สุดท้ายผัดต่ออีกหน่อยให้แห้งและมีกลิ่นหอม ,7. เพียงเท่านี้ก็ตักใส่จานเตรียมรับประทานได้เลย,เห็นแบบนี้อร่อยนะคะซิส ไม่อยากจะเม้าท์ ฟาดเรียบ,อกไก่ต้ม + พริกเกลือ,เราจะมีเพียงข้าวผัดไรซ์เบอร์รี่ธัญพืชจานเดียวไม่ได้ค่ะ เพื่ออรรถรสของอาหารมื้อนี้ ขอเพิ่มรสชาติความอร่อยอีกสักหน่อยด้วยอกไก่ต้ม+พริกเกลือก็แล้วกัน และเหมือนเช่นเคยค่ะ เตรียมเครื่องปรุงให้พร้อมนะจ๊ะ จะได้ความอร่อยแบบนัวๆ,1. อกไก่ 1 ชิ้น,เริ่มที่ต้มไก่ก่อนเลยก็แล้วกันเนอะสาวๆ ซึ่งทำง่ายมากแบบเว่อร์ๆ ค่ะขอบอก,1. เตรียมภาชนะจากนั้นต้มน้ำให้เดือด ,2. ใส่อกไก่ที่เตรียมไว้ลงไป,3. ต้มนาน 7-8 นาที คอยดูด้วยนะคะ อย่าให้สุกนานเกินไปนะ เดี๋ยวเนื้อไก่จะแข็งเอา รับประทานไม่อร่อย เนื้อไม่นุ่มเมื่อลิ้นสัมผัสไม่รับผิดชอบนะคะ,4.เมื่อเช็กดูว่าสุกแล้วก็ยกขึ้นแล้วหั่นให้ชิ้นพอดีคำ ใส่จานไว้รอได้เลยจ้า,มีอกไก่แล้ว เรามาตำน้ำจิ้มพริกเกลือเพิ่มความแซ่บกันหน่อย มาค่ะอรรถรสทั้งหมดของอาหารมื้อนี้อยู่ตรงนี้ค่ะคุณ เอ้าๆ เตรียมเครื่องปรุงสิจ๊ะ,1. พริกขี้หนู 10 เม็ด,2. มะนาว 1/2 ลูก,3. กระเทียม 5-6 กลีบ ,4. น้ำต้มสุก 1/4 ถ้วย,5. เกลือ 1/4 ช้อนชา,เตรียมครก เตรียมสากให้พร้อมนะจ๊ะ,1. เริ่มจากใส่พริกและกระเทียม โขลกให้แหลกพอประมาณ,2. ตามด้วยเกลือ บีบมะนาว และเติมน้ำต้มสุกเล็กน้อย จากนั้นใช้สากคนให้เข้ากัน,3. ตักน้ำจิ้มใส่ถ้วย เพียงเท่านี้ก็ได้น้ำจิ้มพริกเกลือสูตรเด็ดแสนแซ่บเว่อร์แล้วจ้า,บอกเลยว่าเมนูอาหารคลีนมื้อนี้ อร่อย แซ่บ ดีต่อสุขภาพแน่นอนจ้า หากลองทำแล้ว มาบอกรีวิวให้เค้าฟังบ้างนะตัวเอง แต่ที่แน่ๆ หากสาวๆ ไม่อยากพลาดเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับ ,สุขภาพ, ติดตาม ,Thairath Women, ไว้นะคะ เรามีสิ่งที่น่าสนใจรอคุณสาวๆ อยู่เพียบ,อ่านเพิ่มเติม :,- ,3 ไอเดียอาหาร แคลอรีต่ำ ของ เมจิ อโณมา กินนอกบ้านก็ผอมได้,- ,เช็กตัวเอง ลดน้ำหนัก ผิดวิธีหรือไม่ ชี้ต้นเหตุปัญหา สุขภาพ,- ,5 อาหารบั่นทอนสุขภาพคนทำงานวัย 30+ เสี่ยงโรคร้ายถ้าไม่หยุดกิน
ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ มีเมนู อาหารคลีน สำหรับคุณ ผู้หญิง ที่แสนจะทำง่ายมาฝากค่ะ บอกเลยว่าสูตรนี้อร่อยเหาะ แถม ลดน้ำหนัก ได้อีกด้วย
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
อาหารคลีน,สุขภาพ,ลดน้ำหนัก,ผู้หญิง,รีวิวอาหาร
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/health/1531028
ร.ร.บ้านต้นปริง จัดมื้อกลางวันตามหลักโภชนาการ
นักเรียนโรงเรียนบ้านต้นปริง ต.ควนลัง อ.นาหม่อม จ.สงขลา เข้าแถวรอคิวรับอาหารกลางวัน โดยวันนี้ทางโรงเรียนจัดเมนูปลาดุกผัดเผ็ด ไข่เจียว และมังคุด โดยมีคุณครูผู้ควบคุมดูแลอาหารกลางวัน คอยควบคุมปริมาณโภชนาการที่เหมาะสมให้กับเด็กๆ หลังทางโรงเรียนบ้านต้นปริงได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการส่งเสริมสุขภาพเด็กวัยเรียน ด้วยการขยับและกินผักผลไม้ เพื่อให้เป็นไปตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ที่มีมูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อพัฒนา (EDF) เป็นผู้จัดโครงการ และได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพ (สสส.) จากนั้นทางโรงเรียนจะให้ตัวแทนนักเรียนที่เข้าร่วมอบรม เป็นผู้นำมาขยายผลและสร้างองค์ความรู้ต่อยอดให้กับเพื่อนๆ ในโรงเรียนการจัดโครงการ ส่งเสริมสุขภาพเด็กวัยเรียนด้วยการขยับและกินผักผลไม้ ของมูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา (EDF) ได้มีการเชิญตัวแทนครูผู้ดูแลโครงการอาหารกลางวัน แม่ครัว รวมถึงตัวแทนเด็กนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดสงขลา เขต 1 เข้าร่วม เพื่อให้ความรู้ด้านโภชนาการ ที่เหมาะสำหรับนักเรียนแต่ละช่วงวัย รวมถึงการออกกำลัยกายเพื่อลดภาวะโรคอ้วนในเด็กและติดตามผลโรงเรียนที่เคยเข้าร่วมโครงการ เพื่อทบทวนการทำงานที่ผ่านมา ลักขณา เสริมสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนต้นปริง เล่าว่า ก่อนโรงเรียนจะเข้าร่วมโครงการกับนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา (EDF) ทางโรงเรียนจะยึดโปรมแกรมของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นเกณฑ์ พบนักเรียนหลายคนมีภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานทางโรงเรียนจึงจัดรายการอาหารกลางวันให้เหมาะสม โดยนำวัตถุดิบต่างๆ เช่น ปลาดุกที่เลี้ยงไว รวมถึงมังคุดที่ปลูกไว้จากสวนหลังโรงเรียนมาเป็นอาหารกลางวันนอกจากทางโรงเรียนจะทำอาหารกลางวันแล้ว ยังทำอาหารเช้าให้กับนักเรียนอีกด้วย เนื่องจากผู้ปกครองส่วนใหญ่เป็นชาวสวนยาง บางส่วนนั้นไม่มีเวลาดูแลเรื่องอาหารเช้า นักเรียนหลายคนจึงบริโภคขนมขบเคี้ยว น้ำหวาน น้ำอัดลม เป็นอาหารเช้า ทำให้เด็กไม่ได้รับอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ รวมถึงยังเป็นการช่วยนักเรียนที่ยากจน และส่งเสริมการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพนักเรียน
ตัวแทนครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านต้นปริง จ.สงขลา ร่วมโครงการ ส่งเสริมสุขภาพเด็กวัยเรียน ด้วยการขยับและกินผักผลไม้ ส่งเสริมสุขภาพเด็กในวัยเรียนและความรู้ด้านโภชนาการตามหลักเกณฑ์ของอนามัยโลก
สังคม
ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,มื้อกลางวัน,อาหารกลางวัน
https://news.thaipbs.or.th/content/273594
2SIDED | นักบิน ตกงาน เตะฝุ่น ติดในกะลา เลือกมาก หรือ ต่างชาติไม่รับ (คลิป)
ใครๆ ก็อยากเป็น นักบิน อาชีพอันหอมหวานน่าดึงดูด หลายคนที่มีความฝันต่างพาเหรดเดินลากกระเป๋า หวังขึ้นนั่งประจำการขับเคลื่อนอากาศยานสู่ท้องฟ้า แต่ไฉน ณ เวลานี้ กว่า 600 ชีวิต ต้อง ตกงาน เดินเตะฝุ่น ไม่แม้แต่จะมีโอกาสได้ทำตามฝัน ,นักบิน ไม่มีโอกาสตกงาน,นักบิน ขาดแคลน วิกฤติอุตสาหกรรมการบิน,ประเทศไทยผลิต นักบิน ป้อนตลาดไม่พอ,ช่วง 1-2 ปีก่อน ประโยคข้างต้นแพร่กระจายทุกหน้าสื่อตั้งแต่ต้นปียันท้ายปี แต่มาวันนี้มันเปลี่ยนไป จากที่เคยแห่แหนลากกระเป๋าเข้าเรียนโรงเรียนการบิน หวังจบมาได้ทำอาชีพในฝัน กลับต้องเดินเตะฝุ่น ตกงาน กว่า 600 คน เสียเงินเรียนหลักล้าน จบมาเคว้งคว้าง ยึดอาชีพเสริมหารายได้แทน,ปัญหาเหล่านี้ วิกฤติที่ว่านี้ มันเกิดจากอะไร?,บ้างว่า นักบินไทย ถูก นักบินต่างชาติ แย่งงาน,บ้างว่า นักบินไทย เลือกงาน ไกลไม่ทำ เล็กไม่ทำ,บ้างว่า โรงเรียนการบิน มากเกินจำเป็น ผลิต นักบิน จนล้นตลาด,หรือว่ามันถึงคราว อิ่มตัว ของตลาดนักบิน?,ขณะที่ อีกฝั่งมองต่าง ตลาดนักบิน ไม่ได้อิ่มตัว ทั่วโลกยังขาดแคลน ,แต่ที่ นักบินตกงาน ไม่ใช่ไม่หางาน แต่ออกไปบินต่างประเทศไม่ได้,เหมือนติดอยู่ใน ,,ชะตาชีวิต นักบินไทย จะเป็นอย่างไร?,ใครจะช่วยพวกเขาได้ หรือพวกเขาต้องเป็นฝ่ายดิ้นรนเอง?,หาทางออกใน ,2SIDED, กับ ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, จาก 3 ผู้คร่ำหวอดแวดวงการบิน จุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย, กัปตันสนอง มิ่งเจริญ นายกสมาคมนักบินไทย และ ปิยะ เคลือบมาศ Flight Operations Director (Thai Summer Airways),เก็บตกนอกรันเวย์,กัปตันสนอง, : กลุ่มนักบินตกงานมีนัยสำคัญ คือ ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2559 มีนักบินตกงานประมาณ 30 คน ขณะที่ ปี 2560 ขึ้นมาประมาณ 100-160 คน และปี 2561 เยอะที่สุด ประมาณ 170 คน ส่วนปี 2562 ที่เพิ่งจบ มีประมาณ 150 คน ฉะนั้น 3 ปีให้หลัง รวมกันแล้วประมาณ 500 คน,นายปิยะ, : จริงๆ ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร 4-5 ปีที่แล้ว ก็เป็นแบบนี้มาครั้งหนึ่ง ไม่ทราบว่า วันนั้นมีการพูดถึง มีการแก้ไขหรือไม่ 5 ปีผ่านไป ยังเหมือนเดิม มันเหมือนสะพานแคบๆ คนมาออกันอยู่ที่คอสะพาน แทนที่จะเปิดโอกาสให้ไปเลียบสะพานบ้าง ติดไฟแดงบ้าง เลี้ยวซ้ายอ้อมไป,กัปตันสนอง, : อยากให้ชะลอรับนักบินต่างชาติ แทนที่จะเอานักบินต่างชาติเข้ามา ให้เปิดรับสมัครนักบินไทย ไม่ใช่การลดมาตรฐานสายการบิน ถ้านักบินไทยมีคุณสมบัติพร้อมหรือครบถ้วนให้พิจารณารับสมัครงานผ่านการสอบคัดเลือก,นายปิยะ, : ทุกคนอยากทำงาน การเป็นนักบินอยากโลดแล่น อยากผจญภัย อยากเรียนรู้ เป็นไปไม่ได้ที่จะมาเลือกงาน,นายจุฬา, : นักบินไทยต้องเต็มใจไปทำงานต่างประเทศ นักบินไทยบางครั้งไม่อยากออกไปทำงานต่างประเทศ ต้องไปหาตลาดอื่น บินเครื่องบินเล็กก่อน สะสมประสบการณ์เก็บชั่วโมง เครื่องบินเล็ก ณ ปัจจุบัน ใช้คนต่างชาติเยอะเหมือนกัน เพราะหาคนในบ้านเราไม่ได้,กัปตันสนอง, : จีนขาดแคลนนักบิน ไลเซนซ์ไทยในปัจจุบันไม่ได้รับอนุญาตให้ไปทำงาน ถ้าสามารถเข้าไปเจรจาจะทำให้นักบินที่มีประสบการณ์บางส่วนเข้าไปทำงานในจีนได้ เมื่อนักบินกลุ่มนี้ออกจากสายการบินในไทยก็จะเกิดที่ว่าง เกิดอัตราจ้างเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ,นายจุฬา, : นักบินต้องมองตลาดงานในต่างประเทศ ปัจจุบัน ที่ได้ไลเซนซ์ที่สามารถบินภายใต้ของไทยมี 25 ราย แต่ใน 25 ราย เครื่องบินที่บินกันประจำมีแค่ไม่กี่ราย ที่เหลือเป็นนักบินประเภทเครื่องบินเล็ก รับจ้างบิน ดังนั้น นักบินต้องมองตลาดพวกนี้เป็นทางเลือกอีกทางเลือกหนึ่ง ปัจจุบัน พูดง่ายๆ ว่า ถ้าไปทำสายการบินใหญ่ๆ ตลาดแคบนิดนึง ความต้องการเขายังมีไม่เยอะ,นายปิยะ, : เขาไม่ได้ไม่รับไลเซนซ์ที่ออกโดย ICAO แต่ไม่รับไลเซนซ์ที่ออกโดยรัฐบาลไทย ทุกภาคส่วนทำหน้าที่ได้ดีมากแล้ว อยากให้ทางรัฐเป็นตัวกลางเข้ามาช่วย วิสัยทัศน์สำคัญมาก ถ้าวิสัยทัศน์ยังไม่มี ลำบาก น่าจะอยู่ในกะลา กะลาไทยแลนด์.,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, รายงาน,ข่าวอื่นๆ, :,THE INVISIBLE LOSS EP.3 คิดถึง เสียสละ ทหารชายแดนใต้ ตายไม่กลัว,2 SIDED | ปมหนังไทยซ้ำซาก ผี ตลก กะเทย พระ คนนิยม หรือไม่พัฒนา?,นักรบผลิตฝน เหินเวหาฝ่าก้อนเมฆ ภารกิจไม่มีวันหยุด ทุ่มเท จำเป็น อำลา,2SIDED | ปัญหาและทางออก GAME ศิลปะ หรือ อาชญากรรม,โค้ชชิ่งบุฟเฟต์ เปิดร้านต้องไม่เจ๊ง ทริกปั้นกำไร ทำให้ ลูกค้ารู้สึกชนะ
ใครจะคิดอาชีพเท่ๆ อย่าง นักบิน ที่หลายๆ คนอยากเป็น มาวันนี้ถึงคราวตกที่นั่งลำบาก ตกงาน กันระนาว มันเกิดอะไรขึ้น? เลือกงาน หรือ ต่างชาติไม่รับ
สกู๊ปไทยรัฐ
นักบิน,นักบินตกงาน,การบิน,อาชีพ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,ข่าวเด่น
https://www.thairath.co.th/scoop/1679703
ปารีณา โพสต์พาดพิงอดีตนายกฯ อ้างโยงเหตุระเบิดป่วนกรุง
น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยตั้งค่าเป็นสาธารณะ ภายหลังเกิดเหตุระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า โดยกล่าวพาดพิงถึงอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งว่าเป็นคนไม่ดี รวมถึงข้อความในทำนองกล่าวหาโยงเหตุระเบิดด้วย ทั้งนี้ เมื่อเวลา 17.47 น. วันนี้ พบว่ามีผู้แชร์โพสต์ดังกล่าวออกไปมากกว่า 2,500 ครั้งแล้ว.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,- ,รู้จัก ระเบิด แนะวิธีเอาตัวรอด เมื่อเจอสถานการณ์ฉุกเฉิน,- ,รวบ 2 ผู้ต้องสงสัย ซุกระเบิดเก๊หน้า สตช. เปลี่ยนชุดหนีลงใต้,- ,ด่วน เสียงดังคล้าย ระเบิด เจอวัตถุต้องสงสัยหลายจุด ทั่วกรุง,- ,ด่วน ระเบิด วัตถุต้องสงสัย ป่วนกรุง ไม่ถึง 24 ชม. อัปเดตหลายจุดแล้ว,- ,ประมวลภาพ เหตุระเบิดหลายจุดทั่วกรุง มีคนเจ็บ อีโอดีเร่งสอบ,- ,พบระเบิดป่วนกรุง นัดบึมพร้อมกัน พนักงานกวาดขยะเจ็บ2 เชื่อสร้างสถานการณ์ (คลิป),- ,บิ๊กตู่ สั่งสอบสวนเหตุระเบิด เข้มปลอดภัย ขอช่วยแจ้งหากพบสิ่งผิดปกติ,- ,โซเชียลผุดแฮชแท็ก #ระเบิด ส่งกำลังใจเหตุบึมป่วนกรุง ทำผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บ,- ,ประวิตร สั่งเร่งหาตัวมือระเบิดและผู้อยู่เบื้องหลังลงโทษโดยเร็วที่สุด,- ,สรุปนาทีระทึกเจอระเบิดหลายลูกป่วน กทม.,- ,ผบ.ทบ. ซัดกลุ่มเดิมๆ เบื้องหลังป่วนกรุง ดักคอฝ่ายการเมืองอย่ากล่าวหารัฐ,- ,อนุพงษ์ สั่งผู้ว่าฯทั่วประเทศดูแลพื้นที่ ฝาก จนท.พบผิดปกติให้รีบแจ้ง,- ,กอ.รมน. ยันไม่มีประกาศพื้นที่ควบคุมพิเศษ ส่งหน่วยมั่นคงลงทุกจุดแล้ว
ปารีณา โพสต์พาดพิงอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง อ้างเกี่ยวโยงเหตุระเบิดป่วนหลายจุดในพื้นที่ กทม.วันนี้
ข่าว,การเมือง
ระเบิด,ระเบิดป่วนกรุง,บึมป่วนกรุง,วางระเบิด,ปารีณา ไกรคุปต์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1628935
เกมอัปยศ
มันถูกต้องแล้วหรือ,หากใครได้ดูเกมถ่ายทอดสด จังหวะที่ เซร์คิโอ รามอส กองหลังเรอัล มาดริด เข้าแย่งบอลกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แล้วมีแขนเกี่ยวกันจนล้มลงไปทั้งคู่ ดูยังไงก็ไม่ใช่การเข้าแย่งบอลแบบ 50-50,รามอสเจตนาที่จะใช้แขนเกี่ยวซาลาห์ให้เสียหลักเพื่อไม่ให้เข้าถึงบอล และโชคร้ายที่ซาลาห์ล้มลงกับพื้น โดยเอาไหล่ลงไปกระแทกกับพื้นสนาม ส่งผลให้เจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 31,จะดูภาพช้ากี่รอบ ยังไงรามอสก็เจตนาทำฟาวล์เพื่อให้คู่ต่อสู้ได้รับบาดเจ็บ เพราะซาลาห์ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนทีม ไม่มีซาลาห์สักคน หงส์แดงก็ไร้พิษสง,นับตั้งแต่ไม่มีซาลาห์ ทรงบอลหงส์แดงเปลี่ยนไปทันที จากพับสนามบุก กลับกลายเป็นว่าต้องลงมาตั้งรับ เพื่อนร่วมทีมหงส์แดงออกอาการแกว่ง เพราะไร้ตัวจักรสำคัญอย่างซาลาห์,ขณะที่ทัพราชันชุดขาวหายใจโล่งปอด เพราะเก็บตัวอันตรายของคู่แข่งออกจากเกมไปได้แบบเนียนๆ,โชคร้ายตกเป็นของลิเวอร์พูล และ ซาลาห์ แน่นอนว่า โชคดีตกเป็นของรามอส และ เรอัล มาดริด,นี่ยังไม่นับรวมที่ยูฟ่าส่งผู้ตัดสินมือสมัครเล่นลงมาควบคุมเกม ทำให้นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2018 ดูจะไม่ใสสะอาดเท่าที่ควรจะเป็น,ไม่รู้ว่าบรรทัดฐานของความถูกต้องอยู่ตรงไหน แต่ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ฟุตบอลที่เล่นด้วยความสวยงามและสัตย์ซื่อ ก็จะพ่ายแพ้ต่อฟุตบอลที่เล่นด้วยเล่ห์เหลี่ยมและกลโกงที่จะเอาชนะคู่แข่ง โดยไม่สนใจถึงสปิริตนักกีฬาที่ดีอีกต่อไป,JUPITER
ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2018 นัดชิงชนะเลิศ จบลงไปแล้วด้วยชัยชนะของ เรอัล มาดริด แต่มันเกิดข้อถกเถียงถึงความไร้สปิริตของการเป็นนักกีฬาอาชีพ ที่เจตนาทำให้เพื่อนร่วมอาชีพต้องได้รับบาดเจ็บ
null
ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก,เรอัล มาดริด,เซร์คิโอ รามอส,โมฮาเหม็ด ซาลาห์,ลิเวอร์พูล
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/eufa/1292431
เดชดำรงค์ ฟิตเต็มถัง พร้อมขึ้นศึกสังเวียนเดือด 18 ส.ค.นี้
ครูรงค์ เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค อดีตแชมป์โลกรุ่นสตรอว์เวท เตรียมความพร้อมก่อนขึ้นสังเวียนเดือด พบกับ โรบิน คาตาลัน ไทยรัฐทีวี ถ่ายทอดสด 18 ส.ค.นี้   ,  ,วันที่ 13 ส.ค. 60 ครูรงค์ เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค ได้รับชัยชนะจากการแข่งขันครั้งล่าสุด จากการชนะน็อก เอเดรียน มาเธียส คู่ต่อสู้ชาวอินโดนีเซีย เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยเดชดำรงค์ กล่าวว่า ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกของการคว้าตำแหน่งสูงสุดในรุ่นสตรอว์เวท ของการแข่งขันวัน แชมเปียนชิพ, ,ในการต่อสู้ การชนะหรือแพ้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของเกม ซึ่งเป็นของคู่กันอยู่แล้ว สิ่งที่ทำให้ผมพยายามอย่างหนักคือ จิตวิญญาณนักสู้ของผม ผมไม่เคยปล่อยให้
อุปสรรคใดๆ มาขวางทาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจิตใจ หรือร่างกายก็ตาม ผมเกลียดการแพ้ แต่ความพ่ายแพ้นั้นเป็นแรงจูงใจให้ผมพัฒนาทักษะ และกลับมาแข็ง
แกร่งกว่าเดิม เดชดำรงค์ กล่าว,อดีต
แชมป์มวยลุมพินีหลายสมัย และแชมป์มวยในตำนานคนนี้ ได้ผันตัวเองมาสู่วงการศิลปะป้องกันตัวแบบผสม เมื่อปี 2014 ซึ่งเขาได้คว้าแชมป์โลกรุ่นสตรอว์เวท ปี 2015 
จากการตัดสินชนะอย่างเป็นเอกฉันท์ในการขึ้นชกกับ รอย โดลิเกซ นักสู้ชาวฟิลิปปินส์ และต่อด้วยชัยชนะจากการขึ้นชกกับ ยาโก ไบรอัน ก่อนจะพ่ายแพ้ให้กับ โยชิตากะ ไนโตะ นักสู้ชาวญี่ปุ่น,
,เดชดำรงค์ กล่าวอีกว่า ในฐานะแชมป์โลกบนสังเวียนวัน แชมเปียนชิพ คนหนึ่ง ผมภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนประเทศไทย ในเวทีการแข่งขันระดับโลกนี้ ผมต้องการแสดงให้แฟนชาวไทยเห็นว่า นักสู้ชาวไทยเป็นนักสู้ระดับโลก ผมอยากจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทย ให้บรรลุเป้าหมายเหมือนกับที่ผมได้ฝึกซ้อมมาอย่างหนักหน่วงเพื่อให้ได้ชัยชนะนี้,
ปัจจุบัน เดชดำรงค์ ในวัย 38 ปี ใช้เวลาในการพัฒนาทักษะของเขาที่ Evolve MMA ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเขาเป็นครูสอนมวยไทยที่มีลูกศิษย์นับถือ และยังเป็นสมาชิกของ
 Evolve Fight Team เขาได้สร้างชื่อเสียงและประวัติศาสตร์มายาวนาน แต่เขายังคงไขว่คว้าเพื่อนำชัยชนะมาอีกครั้ง เขารู้สึกได้ว่าชัยชนะระดับโลกครั้งที่สองนี้อยู่ใกล้แค่เอื้อม 

,ผมรู้สึกดีมาก ผมฝึกซ้อมอย่างหนักสำหรับการขึ้นชกที่จะถึงนี้ ผมรู้ว่าผมต้องเอาชัยชนะกลับคืนมาให้ได้ ผมรู้สึกได้ว่าผมเตรียมพร้อมแล้ว ผมมั่นใจ และจะสู้อย่างสุดฝีมือเพื่อให้ได้ชัยชนะกลับคืนมา เดชดำรงค์ กล่าว, ,เดชดำรงค์ เจ้าของสถิติ (7-2) จะกลับมาคว้าชัยในการแข่งขันวัน แชมเปียนชิพ ที่ ONE: QUEST FOR GREATNESS ที่สนามกีฬาเนการา กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยเขาจะพบกับ โรบิน คาตาลัน เจ้าของสถิติ (6-2) ชาวฟิลิปปินส์ ในการแข่งขันรุ่นสตรอว์เวท ครั้งที่ 3, ,นอกจากนี้ ไฮไลต์ของการแข่งขันครั้งนี้ ยังเป็นการป้องกันแชมป์โลกของ มารัต กาฟูรอฟ หรือ คอบรา นักสู้ชาวรัสเซีย เจ้าของสถิติ (15-0) ในรุ่นเฟเธอร์เวท ซึ่งจะมาขึ้นชกป้องกันแชมป์กับ มาร์ติน งูเยน คู่ต่อสู้จากออสเตรเลีย เจ้าของสถิติ (8-1) ซึ่งรายการนี้ ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ถ่ายทอดสด วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม เริ่มเวลา 21.00 น. เป็นต้นไป
ครูรงค์ เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค อดีตแชมป์โลกรุ่นสตรอว์เวท เตรียมความพร้อมก่อนขึ้นสังเวียนเดือด พบกับ โรบิน คาตาลัน ไทยรัฐทีวี ถ่ายทอดสด 18 ส.ค.นี้
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค,ครูรงค์,วัน แชมเปียนชิพ,ศึกสังเวียนเดือด,ไทยรัฐทีวี
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1036445
บราซิลติดโควิดทะลุ 7 แสนราย สธ.ยอมเผยยอดรวมหลังถูกโวยหนัก
สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของบราซิลเปิดเผยในวันจันทร์ที่ 8 มิ.ย. 2563 ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ 15654 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมดเพิ่มเป็น 707412 รายแล้ว ขณะที่มีผู้เสียชีวิตอีก 679 ศพในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้งหมดเป็น 37134 ศพกระทรวงสาธารณสุขบราซิลยอมเปิดเผยยอดรวมของผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตของโควิด-19 บนเว็บไซต์ของพวกเขา หลังจากลบไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยประธานาธิบดี ชาอีร์ โบลโซนาโร อ้างว่าไม่ได้สะท้อนสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่คนไข้ส่วนใหญ่ไม่ได้ป่วยแล้ว จนทำให้เขาถูกโจมตีอย่างหนักจากหลายฝ่ายทั้งนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่เปิดเผยในวันจันทร์นับว่าต่ำกว่าวันก่อนหน้านั้น แต่บราซิลยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ และมีผู้เสียชีวิตเป็นอันดับ 3 รองจากสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร.
กระทรวงสาธารณสุขบราซิลกลับมาเปิดเผยยอดรวมของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศอีกครั้ง โดยล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นจนเกินกว่า 7 แสนรายแล้ว
ข่าว,ต่างประเทศ
โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรนา,โควิดบราซิล,ยอดผู้ติดเชื้อ,ชาอีร์ โบลโซนาโร,ไฮไลต์ไวรัสโคโรน่า
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1863998
โพล 90.8% ให้ปรับออกรัฐมนตรี กปปส.
ชี้มัวแต่แย่งเก้าอี้กัน ปชป.สยบศึกภายในเทพไท ลั่น ส.ส.ให้ 2 เดือนต้องเห็นความเปลี่ยนแปลง อู๊ดด้า มั่นใจเคลียร์ได้ กก.บห.ไม่แฮปปี้ ตั้งเป้าปั่นผลงานจับต้องได้ พรรคเป็นเอกภาพ โฆษก พท.เฉ่ง บิ๊กตู่ ทำงานลมโชยเผาเวลาไปวันๆทั้งที่เผชิญมหาวิกฤติ เหน็บ สมคิด สารภาพถอดใจคนไทยฟังยิ่งสิ้นหวัง สวนดุสิตโพล เผยชาวบ้านเอือมระอา แม้ รบ.ทำดีปราบโควิด แต่แก้ปัญหาเศรษฐกิจเหลว ซัดถึงเวลาต้องปรับ ครม. รมต.ก๊วน กปปส.อ่วม ซูเปอร์โพล ชี้ร้อยละ 90.8 ไล่ส่งไร้ผลงาน มัวแต่ขัดแย้งแก่งแย่งเก้าอี้วงสัมมนารัฐมนตรีและ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ปิดฉากลง โดยที่ ส.ส.ได้ระบายความอึดอัดคับข้องใจต่อการบริหารงานของทีมผู้บริหารพรรค นำโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยแกนนำพรรครับข้อเสนอปรับปรุงการบริหารงาน พร้อมทั้งให้ ส.ส.มีส่วนร่วมประเมินผลงานของรัฐมนตรีจุรินทร์ เร่งปั่นผลงาน–เอกภาพ ปชป.เมื่อเวลา 10.30 น. ที่เกาะเสม็ด จ.ระยอง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการสัมมนารัฐมนตรีและ ส.ส.ของพรรคนอกสถานที่ว่า เป็นเรื่องดีที่ได้แลกเปลี่ยนความเห็นการเมือง ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง จะหาโอกาสจัดเช่นนี้บ่อยขึ้น เพราะทุกคนช่วยกันระดมความคิดเห็นได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจะช่วยกันพาพรรคไปข้างหน้าไปสู่การพัฒนา เป็นที่ยอมรับของประชาชนมากขึ้น ข้อสรุปที่เห็นตรงกัน คือประชาชนและสมาชิกพรรคทั้งประเทศ อยากเห็นผลงานของพรรคปรากฏเป็นรูปธรรมและความเป็นเอกภาพภายในพรรค ซึ่งสำคัญทั้งสองข้อ ทุกคนพยายาม ร่วมมือร่วมใจ เพื่อให้เดินไปสู่เป้าหมายนี้ แต่ราย ละเอียดขอให้เป็นเรื่องภายในว่าจะดำเนินการอย่างไรให้ ส.ส.ประเมิน รมต.–ทำโพลวัดเรตติ้งนายจุรินทร์กล่าวอีกว่า สำหรับการประเมินผลงานรัฐมนตรีของพรรค จะมีกระบวนการประเมินเป็นการภายใน และการสำรวจความเห็นของประชาชนที่มีต่อการทำงานของรัฐมนตรีและ ส.ส.พรรค เพราะทุกคนถือว่าเป็นคนที่ประชาชนให้โอกาสมาทำงาน คะแนนรวมของรัฐมนตรีและ ส.ส.รวมถึงสมาชิกคนสำคัญของพรรคสุดท้ายจะกลายเป็นคะแนนรวมของพรรค ที่ประชาชนจะตัดสินใจลงคะแนนให้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคกำลังดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมืองตั้งตัวแทนประจำจังหวัด เพื่อให้พรรคส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ครบทุกเขตตามกฎหมาย หากไม่มีตัวแทนจังหวัดหรือไม่มีสาขาพรรคอยู่ในเขตใดเขตหนึ่ง ไม่สามารถส่งผู้สมัครได้โดยนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ตั้งเป้าทำให้ครบถ้วนภายในเดือน ส.ค.และจะพบปะกับสมาชิกทุกภูมิภาค เป็นหน้าที่ของผู้บริหารและรัฐมนตรีของพรรค ต้องรวบรวมความคิดเห็นเพื่อประกอบการดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายโอ่สมัครทุกภาคคืบ 70–80 เปอร์เซ็นต์เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลประกาศความชัดเจนการเลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว ประชาธิปัตย์พร้อมแล้วหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า พรรคทำทั้ง 2 ด้าน ป้องกันพื้นที่ที่มี ส.ส.และทำพื้นที่ที่ยังไม่มี ส.ส. เพียงแต่จะประกาศให้เป็นข่าวหรือไม่ รวมถึงกรุงเทพฯ เดินหน้าเป็นลำดับ กำหนดทิศทางยุทธศาสตร์ทั้งหมดไว้ กำหนดเป้าหมายพื้นที่ไว้เกือบ 70-80 เปอร์เซ็นต์ของทุกภาคแล้วว่าใครจะเป็นผู้สมัครของพรรค ส่วนอดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ย้ายพรรค ได้สอบถามนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.และรองหัวหน้าภาค กทม.ทราบว่ามีส่วนหนึ่งได้ย้ายออกไปแล้วก่อนที่ กก.บห.ชุดใหม่เข้ามา แต่พยายามหาคนใหม่คืบหน้าประมาณร้อยละ 70 ที่มีผู้สมัครชัดเจนแล้ว แม้แต่ ส.ก.จะเดินสายไปพื้นที่ต่างๆร่วมกับรัฐมนตรีและ ผู้บริหารพรรค และคนรุ่นใหม่ของพรรค ในการทำพื้นที่สร้างความนิยม ไปจัดยุวประชาธิปัตย์ จัดอบรมอุดมการณ์ประชาธิปไตยกินได้ เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังให้กับพรรคต่อไป รวมถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มีการดำเนินการตามลำดับต่อไปมั่นใจเคลียร์ได้ กก.บห.ไม่แฮปปี้เมื่อถามว่าล่าสุดมีข่าวว่ามีกรรมการบริหารพรรคบางส่วนไม่พอใจที่จัดสัมมนาเฉพาะรัฐมนตรีและ ส.ส.พรรค นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เป็นการสัมมนาระหว่าง ส.ส.และรัฐมนตรีของพรรควงหนึ่ง ก่อนหน้านี้ กก.บห.มีการประชุมไปแล้ว และในการประชุมใหญ่คงได้พบพร้อมกันอีกวงหนึ่ง หากบุคคลใดไม่เข้าใจจะทำความเข้าใจ เรื่องนี้เป็นเพียงกระแสข่าว ไม่มีตัวตนที่แท้จริงว่าเป็นใครอย่างไร แต่ทุกคนเป็นเจ้าของพรรค มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น หากอะไรไม่เข้าใจอยู่บ้างจะได้ชี้แจงให้เข้าใจ คิดว่าพรรคฟังเหตุผลกัน พรรคประชาธิปัตย์ต้องมีผลงาน จับต้องได้เป็นรูปธรรม บวกความเป็นเอกภาพ ทุกคนทราบแล้วว่าอะไรเป็นอย่างไรคึก ให้ 2 เดือนต้องเห็นเปลี่ยนแปลงนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นนิมิตหมายที่ดี ส.ส.พรรคและรัฐมนตรีได้เข้าร่วมพูดคุยกันเกือบครบ 100% ได้เปิดอกคุยกันตรงไปตรงมา ส.ส.ทุกคนได้ระบายความรู้สึก นำเสนอปัญหาต่างๆให้รัฐมนตรีและผู้บริหารพรรคได้รับทราบ ไม่มีการโกรธหรือ ปัญหาติดใจกัน พูดจบก็จบกัน เป็นสิ่งงดงามของพรรคประชาธิปัตย์และความเป็นประชาธิปไตยภายในพรรค ไม่มีพรรคใดทำได้แบบนี้ พอใจข้อสรุปเมื่อผู้บริหารพรรครับข้อเสนอและจะนำไปแก้ไขโดยเร็วในกรอบเวลาที่กำหนดไว้ เช่น 1.จะทำโพลสำรวจกระแสความนิยมพรรคทุกระดับภายใน 1 เดือน 2.จะประเมินผลการทำงานของรัฐมนตรีทุกคนภายใน 2 สัปดาห์ 3.จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบการสื่อสารของพรรคใหม่ทันที โดยเฉพาะสื่อโซเชียลมีเดียทั้งหมด 4.จะสนับสนุนการทำงานในพื้นที่ของ ส.ส.ทุกคนเต็มที่ ส่วนข้อเสนอทำพรรคให้กลับมาเป็นพรรคขนาดใหญ่และเป็นพรรคขั้วการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้า แม้ไม่ได้รับคำตอบเป็นรูปธรรมชัดเจน แต่ ถ้าหากเงื่อนไข 4 ข้อที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ยืนยันต่อที่ประชุมปฏิบัติได้เป็นจริงทุกข้อ โจทย์การกอบกู้พรรคให้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิมก็เป็นไปได้สูง ตนไม่ได้ติดใจในคำตอบต่อข้อเสนอ เรื่องการจะทำพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นพรรคขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ และหวังว่าภายใน 1-2 เดือน จะเห็นความเปลี่ยนแปลงตามข้อเสนอของวงสัมมนาแน่นอนราเมศ ติง ธนกร ควรฟังความเห็นต่างนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่กล่าวถึงรัฐบาลในเวทีเสวนาวิชาการ ถือเป็นการวิพากษ์วิจารณ์เชิงแลก เปลี่ยนความเห็นโดยปกติทั่วไป แต่นายธนกรไม่ควรพาดพิงมายังพรรค การเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคได้สู้ตามกระบวนการ เราไม่ใช้อำนาจรัฐ ไม่ใช้อำนาจเงิน ปฏิบัติตามหลักการและแนวทางการเมืองสุจริต พรรคประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้ง เราต้องสนับสนุนคนที่เป็นหัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ จะให้ไปสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คงไม่ใช่ เมื่อผลเลือกตั้งออกมาทุกอย่างเดินหน้าต่อไป ปัจจุบันสังคมไม่อยากเห็นการเมืองที่มีแต่ความขัดแย้ง เรื่องความคิดเห็นอาจไม่ตรงกัน ติติงกันด้วยเหตุด้วยผล แต่ถ้าสุมไฟอยู่เรื่อยไป ประชาชนและสังคมคงไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยเฮียล้าน ร่วม ก้าวไกล เชื่อมาถูกทางนายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร อดีตสมาชิกสภา กทม. 5 สมัย อดีตสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการตัดสินใจย้ายมาร่วมงานกับพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นว่า ต้องยอมรับว่าทุกพรรคมีนโยบายต้องการช่วยเหลือประชาชนทั้งหมด แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือการใช้โซเชียลมีเดีย ต้องยอมรับว่าจุดนี้พรรคก้าวไกลทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมาเป็นตัวสะท้อนถึงความสำคัญของเรื่องนี้เป็นอย่างดี ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับการใช้สิทธิเลือกตั้งของวัยรุ่นจำนวนมาก ผลลัพธ์จึงออกมาเป็นอย่างที่เห็น ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลโดยตรงในสนามการเมือง ไม่ว่าระดับชาติหรือท้องถิ่น หากเราไม่ปรับตัวเป็นเรื่องยากในการเลือกตั้งครั้งต่อๆไป ช่วงก่อนจะตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคก้าวไกล มีหลายพรรคติดต่อมาเหมือนกันเหน็บ ปชป.ค่ายเก่าหลงลืมยุ่งเป็น รบ.ขณะที่พรรคต้นสังกัดเก่าก็ไม่ได้สนใจพวกเรามากนัก อาจเป็นเพราะเราเป็นนักการเมืองท้องถิ่นตัวเล็กๆ ประกอบกับการที่พวกเขาอาจยุ่งกับการเป็นรัฐบาลอยู่ อาจลืมเราไปบ้าง ขณะเดียวกันเราอยู่กันแบบถ่อมตัวในพื้นที่ ไม่ได้มีตำแหน่งรัฐมนตรีหรือตำแหน่งใหญ่โตอื่นๆ ก่อนที่เราจะนำเรื่องมาหารือกันในครอบครัวและได้ข้อสรุปออกมาอย่างที่เห็น ว่าควรมาอยู่พรรคก้าวไกลน่าจะเหมาะสมกว่าเจอตอกกลับย้ายมากี่พรรคแล้วน.ส.ศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร อดีตสมาชิกสภา กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ลาออกย้ายไปสังกัดพรรคก้าวไกล พาดพิงถึงพรรคประชาธิปัตย์ว่า พรรคต้นสังกัดเก่า ไม่ได้ดูสนใจพวกเรามากนัก อาจจะเป็นเพราะเราเป็นนักการเมืองตัวท้องถิ่นตัวเล็กๆในสายตา พรรคอาจจะยุ่งกับการเป็นรัฐบาลอยู่ ก็อาจลืมเราไปบ้างว่า การย้ายสังกัดพรรคของแต่ละคน ล้วนมีเหตุผลแตกต่างกัน นายสุทธิชัยเองเคยย้ายพรรคสังกัดมาแล้วหลายพรรคจนจำไม่ได้ว่าอยู่พรรคใดมาบ้าง คงมีเหตุผลส่วนตัวที่บางครั้งเจ้าตัวอาจไม่สามารถอธิบายออกมาได้ทั้งหมด และพรรคประชาธิปัตย์ไม่จำเป็นต้องให้เหตุผลว่าเหตุใดทำไมนายสุทธิชัยจึงย้ายพรรค เพราะเราเคารพการตัดสินใจของนายสุทธิชัย แต่ที่พาดพิงลักษณะเช่นนี้ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญใส่ใจในสมาชิกทุกคน ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกหรือผู้สมัครรับเลือกตั้งระดับใด ล้วนถือว่าทำงานให้พรรคและเป็นบุคลากรที่มีคุณค่าของพรรคทุกคนที่ร่วมลงแข่งขันในทุกสนามพปชร.โต้ บิ๊กตู่ กับนโยบายอุ้มเป็น รบ.น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุพรรคพลังประชารัฐ ได้เป็นรัฐบาลเพราะนโยบายความสงบเท่านั้นว่า นโยบายความสงบเป็นเพียงส่วนหนึ่งของนโยบายพรรคพลังประชารัฐ และเป็นสิ่งที่ประชาชน ต้องการอย่างมาก ยังมีอีกหลายปัจจัยทำให้พลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาล ทั้งการเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ จากผลงานที่เป็นที่ประจักษ์ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำรัฐบาลชุดก่อน อย่างนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รถไฟฟ้าทั่วกรุง ปลดหนี้นอกระบบคืนทรัพย์สินให้ลูกหนี้ ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ยังเปิดกว้างทางความคิด ไม่เลือกเป็นความคิดของพรรคใด สิ่งใดที่ดีมีประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน นำมาประยุกต์ใช้ในการบริหารประเทศ และนโยบายพลังประชารัฐสอดคล้องเพื่อสานต่อเป็นรูปธรรม นายอภิสิทธิ์แสดงความเห็นครั้งนี้ อย่างตรงไปตรงมา ถือเป็นความงดงามในระบอบประชาธิปไตย เสนอความเห็นที่แตกต่างกัน และวิพากษ์–วิจารณ์กันได้จ่อชง ครม.ปลดล็อกกระท่อมพืช ศก.นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐกล่าวว่า นโยบายการปรับพืชกระท่อมพ้นบัญชียาเสพติดว่า ตามที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรมและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เร่งปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดอยู่ในขั้นตอนเปิดรับแสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กระทรวง ยุติธรรม เป็นเวลา 15 วัน คาดช่วงต้นเดือน ส.ค.จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไปจะเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจชุมชนและวิถีชีวิตชุมชน พืชกระท่อมมีหลักฐานการใช้เป็นสมุนไพรในครัวเรือนมาตั้งแต่อดีต ใช้บำรุงกำลัง แก้ปวดท้อง แก้ปวดเมื่อย จึงไม่ใช่ยาเสพติด ควรส่งเสริมให้ปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ โดยมีมาตรการป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนยุ่งเกี่ยว ใช้เป็นยาบำรุงอย่างเดียว ทำเป็นผลิตภัณฑ์ต้องขออนุญาต อย.ก่อน เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกรที่จะส่งเสริมให้ปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ โดยต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนและเยาวชนพท.ฉะผู้นำทำงานลมโชยเผาเวลาทิ้งนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ส่งสัญญาณพร้อมปรับ ครม. แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะปรับเมื่อใดว่า พล.อ.ประยุทธ์คง พ.ร.ก.ฉุกเฉินแต่ทำงานเหมือนไม่มีสถานการณ์ฉุกเฉิน ยังขี่ม้าเลียบค่าย เดินสายทำงานแบบสังคมลมโชยเผาเวลา ทั้งที่วิกฤติโควิด-19 ลามเศรษฐกิจ เป็นมหาวิกฤติโลกซ้อนวิกฤติประเทศ เหมือนนั่งดูหนังสยองขวัญแล้วมาเฉลยหักมุมตอนท้าย แต่ละเป้าหมายที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประกาศภายในปี 2561 คนจนจะหมดไปจากประเทศ แต่พอเกิดปัญหาบอกว่าอยากรู้ตัวเลขเศรษฐกิจต้องถาม พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจสมคิด หมดสภาพ ปชช.ฟังยิ่งสิ้นหวังแถมนายสมคิดยังสารภาพถอดใจมาหลายปีแล้ว ประชาชนฟังแล้วสิ้นหวังสถานการณ์วิกฤติขนาดนี้ รัฐบาลต้องเร่งออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ขณะนี้ไม่เพียงแต่เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจดับยกแผง แต่หาคนมาขับเคลื่อนยังไม่สามารถหาได้เลย ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีเขียนได้ แต่แผนงานฟื้นฟูเยียวยาเศรษฐกิจระยะสั้น 3 เดือน 6 เดือน 1 ปีจะแก้วิกฤติอย่างไร กลับไม่มีให้เห็น หรือ พล.อ.ประยุทธ์จะบริหารประเทศแบบเน้นเขียนจดหมาย และเดินสายขอให้คนช่วยไปตลอด นายอนุสรณ์กล่าวชาวบ้านระอาชี้ถึงเวลาปรับ ครม.วันเดียวกัน สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง ประชาชนคิดอย่างไร? กับกระแสข่าวการปรับ ครม. จากกลุ่มตัวอย่าง 1269 คน สำรวจระหว่างวันที่ 8-11 ก.ค. พบว่าผลงานของรัฐบาลที่เข้าตาประชาชนมากที่สุด คือการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ร้อยละ 50.80 ส่วนผลงานที่ยังไม่พอใจต้องปรับปรุง คือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ร้อยละ 61.15 ทั้งนี้ภาพรวมประชาชนพอใจกับผลงานของรัฐบาลในการแก้ปัญหาโควิด-19 ร้อยละ 67.38 และเมื่อสอบถามถึงประเด็นการปรับ ครม.ประชาชนเห็นว่าถึงเวลาแล้ว ร้อยละ 67.85ยี้ รมต.สาย กปปส.ไล่ส่งไร้ผลงานด้านสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่องผลกรรมข่าวปรับคณะรัฐมนตรี กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชน 2203 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 5-11 ก.ค.พบว่าเมื่อสอบถามความพอใจของประชาชนต่อกลุ่มรัฐมนตรีที่เคยเป็นแกนนำกปปส.พบว่าร้อยละ 86.6 พอใจค่อนข้างน้อยถึงไม่พอใจเลย ขณะที่ร้อยละ 13.4 พอใจค่อนข้างมากถึงมากที่สุด และเมื่อถามถึงเหตุผลที่ไม่พอใจกลุ่มรัฐมนตรีที่เคยเป็นแกนนำ กปปส.พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 66.7 ระบุสร้างความขัดแย้ง วุ่นวาย แก่งแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีบนความทุกข์ยากของประชาชน ร้อยละ 59.6 ระบุไม่มีผลงานที่โดนใจ ทำงานไม่ตรงความต้องการของประชาชน ร้อยละ 56.3 ระบุไม่ทำตามอุดมการณ์ที่เคยประกาศไว้ เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อการปรับ ครม.ในส่วนของรัฐมนตรีที่เคยเป็นแกนนำ กปปส.โดยเสียงส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 90.8 ระบุควรปรับออก ขณะที่ร้อยละ 9.2 ระบุควรอยู่ต่อกกต.ฉุน นิพิฏฐ์ จ่อแจ้งความหมิ่นฯผู้สื่อรายงานจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ในการประชุม กกต.สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติให้สำนักงาน กกต.แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ฐานหมิ่นประมาทต่อพนักงานสอบสวน กรณีเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. นายนิพิฏฐ์แถลงข่าวหลังยื่นฟ้องอาญา 7 กกต.ที่ยกคำร้องทุจริตเลือกตั้ง ส.ส.เขต 2 จ.พัทลุง ปรากฏเป็นข้อความทางสื่อทำนองการพิจารณาของ กกต.ไม่มีมาตรฐาน มีพฤติกรรมยิ่งกว่าชุด พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน กกต.และการยกคำร้องทุจริตเลือกตั้ง ส.ส.พัทลุง อาจส่งผลถึงขั้นยุบพรรคหนึ่งได้ น่าจะเกี่ยวข้องกับการที่หัวหน้าพรรคการเมืองนั้นเป็นประธานหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.) ของสำนักงาน กกต.ด้วย เป็นการแถลงข่าวเกินความจริงในคดี ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ทำให้ กกต.เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยสำนักงานฯอยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารหลักฐานและคาดว่าจะมีการไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนในสัปดาห์นี้พร้อมส่งคำโต้แย้งปัดสมคบโกง ลต.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ที่ประชุม กกต.ยังเห็นชอบกับร่างคำแถลงของ กกต.ที่โต้แย้งคำฟ้องยืนยันการพิจารณายกคำร้องทุจริตเลือกตั้ง ส.ส.เขต 2 จ.พัทลุง ยึดตามพยานหลักฐานและถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อยื่นต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางในวันจันทร์ที่ 13 ก.ค. ก่อนศาลจะมีคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณาพิพากษาหรือไม่ ในวันดังกล่าวเวลา 13.30 น.ทั้งนี้นายนิพิฏฐ์ได้ยื่นฟ้อง 7 กกต.ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่ชอบกล่าวหาว่า กกต.สมคบคิดใช้อำนาจโดยทุจริต ใช้ดุลพินิจตาม อำเภอใจไม่มีข้อเท็จจริงเหตุผลรองรับ มีเจตนาช่วยเหลือ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ และพรรคภูมิใจไทย ให้ชนะการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 2 จ.พัทลุงนิพิฏฐ์ บ่ยั่นฟ้องมาฟ้องกลับนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี กกต.ระบุฟ้องหมิ่นประมาทหลังยื่นฟ้องเอาผิด กกต.ฐานประพฤติผิดต่อหน้าที่ตามมาตรา 157 ว่า ถ้า กกต.คิดว่าเสียหายสนับสนุนให้ฟ้องได้ ต่างคนต่างใช้สิทธิ์กันโดยสุจริต เพราะแต่ละคนก็รู้ว่าใครทำอะไรไว้อย่างไร ไม่มีปัญหา ส่วนที่อ้างว่าพาดพิงถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานหลักสูตร พตส.ให้ลองฟ้อง และผู้ที่ฟ้องต้องอธิบายว่าพูดถึงใคร เพราะคิดเอาเองหรือไม่ เพราะตนไม่ได้ระบุชื่อใคร และ กกต.ชุดนี้เพิ่งมาใหม่ คงยังไม่รู้ว่าตนเองเป็นผู้บรรยายหลักสูตร กกต.เกือบทุกรุ่น กกต.ชุดนี้ไม่รู้จักตน แต่ตนรู้จัก กกต. มีอะไรอยู่ในมือมากกว่าที่คิด บางเรื่องไม่สามารถพูดข้างนอกได้ ต้องพูดในศาล หากคิดจะฟ้องตนก็อย่าประมาท และขอให้คิดถึงประเด็นร้ายที่สุดว่าต้องเจอกับอะไรในศาล ยืนยันว่าไม่ได้ขู่ แต่ชีวิตนี้อยู่กับการเป็นนักกฎหมายมาตลอดฮึ่มสร้างบรรทัดฐานเพื่อสังคมผมเห็น กกต.มาเกือบทุกยุค เป็นนักการเมืองมา 28 ปี เห็นการใช้อำนาจตั้งแต่ กกต.ยุคแรกถึง กกต.ชุดปัจจุบัน จนรู้ว่าแต่ละชุดใช้ดุลพินิจอย่างไร เปรียบเทียบได้ ที่ผ่านมาไม่เคยตัดสินใจฟ้อง กกต.ชุดใดเลย แต่ครั้งนี้ตัดสินใจฟ้อง กกต. เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดแล้ว เพื่อสร้างบรรทัดฐานให้ทุกคน และสังคมได้ประโยชน์ วันที่ 13 ก.ค. จะเดินทางไปศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อรับฟังการพิจารณานัดแรกเวลา 13.30 น. นายนิพิฏฐ์กล่าวปิยบุตร ขึ้นเหนือปูพรมท้องถิ่นเมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมสหกรณ์การเกษตร อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าพร้อมนายชำนาญ จันทร์เรือง และ น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เดินทางพบปะผู้สนใจลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่นในภาคเหนือ เตรียมพร้อมรับมือกับการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้น โดยมีประชาชน นักศึกษาและผู้สนใจลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่นจากพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย พะเยาและแพร่ เข้ารับฟังการบรรยายเรื่อง คณะก้าวหน้ากับการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยนายปิยบุตรกล่าวว่า มาพบประชาชนภาคเหนือ เตรียมความพร้อมรับมือการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้น ที่ผ่านมายังไม่เป็นประชาธิปไตย รัฐบาลยังไม่มีการกระจายอำนาจ เป็นการรวมศูนย์อำนาจตั้งแต่ยึดอำนาจตั้งแต่ปี 2557 ทุกอย่างจึงต้องมีคำสั่งจากส่วนกลางมาที่ท้องถิ่น แต่ว่าการสั่งการอำนาจที่แท้จริงมันอยู่ที่ท้องถิ่น ดังนั้นท้องถิ่นต้องจัดการบริหารด้วยตัวเอง การกระจายอำนาจจากประชาธิปไตยกับการกระจายอำนาจจากเผด็จการจึงแตกต่างกันหวังพลิกโฉมใหม่เลือกตั้งสนามเล็กนายปิยบุตรกล่าวอีกว่า คณะก้าวหน้าเล็งเห็นความสำคัญของการเลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อหวังจะเข้ามาปรับการเมืองท้องถิ่นในรูปแบบใหม่ เพื่อเปลี่ยนภูมิทัศน์ของการเมืองในระดับท้องถิ่น เราหวังจะใช้การเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ให้ประชาชนมาใช้สิทธิเปลี่ยนเป็นการมาเลือกนโยบาย และนำการสื่อสารสมัยใหม่มาใช้รณรงค์เลือกตั้งท้องถิ่นที่คาดว่าจะเกิดขึ้นปลายปีนี้ จึงต้องมาเตรียมความพร้อมรับมือการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้น โดยเปิดกว้างให้ทุกคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันลงสมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นกับคณะก้าวหน้า มีนโยบายการเลือกตั้งท้องถิ่นหลักๆ คือไม่ใช้เงิน ไม่ใช้อิทธิพล ต้องทำงานอยู่บนความต้องการของท้องถิ่น ยึดมั่นหลักประชาธิปไตย ไม่มีประวัติอาชญากรรม โดยเปิดกว้างให้ทุกคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน อาทิ เชื่อมั่นในประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน หลักความเสมอภาค การมีส่วนร่วมการออกแบบและกำหนดนโยบายท้องถิ่น รวมถึงจัดการงบประมาณแบบมีส่วนร่วมและโปร่งใส เราหวังว่าจะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสมาลงเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นด้วยบิ๊กตู่ ปลื้มไทยขึ้นชั้น รบ.อิเล็กทรอนิกส์นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยินดีที่ไทยได้รับการจัดอันดับที่ 57 จากผลการจัดอันดับดัชนีรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (E-government Development Index : EGDI )ปี 2563 ขององค์การสหประชาชาติ จากเดิมลำดับที่ 73 ในปี 2561 ดีขึ้น 16 อันดับ เป็นการ ประเมินความพร้อมการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศต่างๆ เพื่อให้เห็นถึงทิศทางการพัฒนาทางอิเล็กทรอนิกส์ และสะท้อนความสามารถของภาครัฐในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการให้บริการประชาชน ประเมินทุก 2 ปี จาก 193 ประเทศ ที่เป็น สมาชิกองค์การจาก 3 ปัจจัย ได้แก่ การให้บริการออนไลน์ โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม และทุนมนุษย์ ทั้งนี้ นายกฯขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมตั้งใจทำงานจนทำให้การจัดอันดับของไทยดีขึ้น อย่างต่อเนื่อง เป็นผลสำคัญจากการปฏิรูปประเทศที่ปรากฏผลเป็นรูปธรรม รวมทั้งตามแผนแม่บทของยุทธศาสตร์ชาติ ด้านที่ 6 การปรับสมดุลและ พัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐข้องใจจุดยืน สุภรณ์ สลายเสื้อแดงนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงกรณีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็น ประธานพิธีคืนป้ายหมู่บ้านเสื้อแดงและมอบป้ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนฯเรารักประเทศไทย ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติกลุ่ม GMS อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อ 11 ก.ค. มีนายอานนท์ แสนน่าน อดีต ประธานเครือข่ายหมู่บ้านคนเสื้อแดงแห่งประเทศไทย เป็นตัวแทนคืนป้ายหมู่บ้านเสื้อแดงว่า เวทีดังกล่าวนายสุภรณ์ปราศรัยกับแกนนำว่าจะไม่มีสีเสื้ออื่นๆ นอกจากสีธงชาติ เพื่อรวมพลังคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน คำพูดดังกล่าวดูสวยหรูมากแต่เวลาอยู่นอกเวที เมื่อเผชิญหน้าแกนนำเสื้อแดงที่ไม่คิดแปรพักตร์ ไม่คิดคืนป้ายเสื้อแดง นายสุภรณ์กลับเฉไฉตอบว่าการเมืองเป็นเอกสิทธิ์แต่ละคน ใครจะยืนหยัดจุดเดิมอย่างไร จะไม่ก้าวล่วง และไม่เคยรังเกียจคนเสื้อแดง ดูแล้วย้อนแย้งกับการเคลื่อนไหวผลักดันให้คืนป้ายหมู่บ้านเสื้อแดง ดังนั้น การจัดกิจกรรมคืนป้ายหมู่บ้านเสื้อแดงจึงเป็นข้อสงสัยว่า ถ้าหมดยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้วนายสุภรณ์และพวกจะยังคงไว้ซึ่งอุดมการณ์สมานฉันท์ตามแนวทาง พล.อ.ประยุทธ์ไม่คิดแปรพักตร์อยู่อีกหรือไม่พิธา นำทีมก้าวไกลหาเสียงปากน้ำวันเดียวกัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยแกนนำพรรค นำทีมงานพรรคก้าวไกลเดินสายแนะนำนายอิศราวุธ ณ น่าน ผู้สมัคร ส.ส. เขต 5 จ.สมุทรปราการ ในนามพรรคก้าวไกล โดยในช่วงเช้าลงพื้นที่รณรงค์หาเสียงบริเวณตลาดบางพลีน้อย วัดบางพลีน้อย และหมู่บ้านทรัพย์มั่นคง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ นายพิธากล่าวว่า ตนและ ส.ส.พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่รณรงค์เลือกตั้งซ่อมสมุทรปราการ เขต 5 ที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 9 ส.ค. ขอให้พี่น้องชาวจังหวัดสมุทรปราการ เขต 5 ให้โอกาสนายอิศราวุธ ณ น่าน ได้รับใช้พี่น้องประชาชน เป็น ส.ส.คนที่ 55 ของพรรคก้าวไกล ที่จะมาช่วย พวกเราทำงานขับเคลื่อนนโยบายในรัฐสภา รวมไปถึงจัดสรรงบประมาณที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเปลี่ยนจากงบประมาณการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ มาเป็นการใช้งบประมาณเพื่อส่งเสริมรัฐสวัสดิการ และลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียมในสังคมนายอิศราวุธกล่าวว่า ขอโอกาสพี่น้องประชาชน ในพื้นที่เขต 5 จ.สมุทรปราการ ให้โอกาสได้เข้าไปเป็นตัวแทนกระบอกเสียงของพี่น้องประชาชน ในฐานะ ส.ส. ร่วมตรวจสอบและถ่วงดุลในฐานะพรรคฝ่ายค้าน พัฒนาแก้ไขปัญหา
จุรินทร์ รีบสงบศึกใน รับการบ้าน ส.ส.ทำโพลเช็กเรตติ้งพรรคภายใน 1 เดือน ประเมินผลงาน รมต.ใน 2 สัปดาห์ ซัพพอร์ต ส.ส.ลุยพื้นที่ โละระบบการสื่อสารใหม่หมด
ข่าว,การเมือง
ข่าวหน้า1,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์,พรรคก้าวไกล,เทพไท เสนพงศ์,สุทธิชัย วีรกุลสุนทร,ข่าววันนี้
https://www.thairath.co.th/news/politic/1887769
วิรไท มองลงทุนภาคเอกชนน่าห่วง จี้ปฏิรูประบบราชการ
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. นายวิรไท สันติประภพ ว่าที่ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุในการสัมมนา เศรษฐกิจไทยจะเดินหน้า อย่างไร ว่า ไทยกำลังเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้าง มีหลายเรื่องต้องได้รับการแก้ไข ไม่ว่าการลงทุนที่ยังอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง โครงสร้างภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่เติบโตขึ้นมากแต่ไม่มีประสิทธิภาพ ความสามารถในการแข่งขันของประเทศลดลง มีปัญหาหนี้ครัวเรือนและความเข้มแข็งของภาคครัวเรือนในชนบท รวมถึงปัญหาคอร์รัปชัน และระบบอุปถัมภ์,ทั้งนี้ มี 2 เรื่องสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขเป็นลำดับแรกๆ เพื่อช่วยวางรากฐากของประเทศในอนาคต และยกระดับเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าได้อย่างมั่นคง คือ 1.ส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชนให้เพิ่มขึ้น เนื่องจากมองว่าหลายดัชนีที่เป็นเครื่องชี้เกี่ยวกับภาคการลงทุนของเอกชน อยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง การลงทุนที่แท้จริงของไทยเป็นประเทศเดียวที่ยังไม่กลับไปเติบโตได้เหมือน ก่อนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 39 ขณะที่การลงทุนของหลายประเทศแถบนี้กลับมาเติบโตมากขึ้นแล้ว,การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่เข้ามาในช่วงหลังนี้ ส่วนใหญ่เป็นการเข้ามาซื้อกิจการในประเทศ ไม่ใช่การตั้งฐานการผลิตใหม่หรือต่อยอดการผลิต จึงไม่ได้มีผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศมากนัก,ส่วนเรื่องที่ 2 ต้องรีบแก้ไข คือ การปฏิรูประบบราชการและรัฐวิสาหกิจ เพราะบทบาทของภาครัฐมีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจไทย และบทบาทของรัฐวิสาหกิจก็มีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ แต่ในปัจจุบันกลไกภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่ควรจะต้องปรับให้เล็กลงกลับใหญ่ ขึ้นแต่มีประสิทธิภาพลดลง.
วิรไท ชี้ศก.ไทย ต้องแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างหลายเรื่อง ทั้งลงทุนอยู่ในระดับต่ำ ภาครัฐ-รัฐวิสาหกิจโตไม่มีประสิทธิภาพ ความสามารถแข่งขันลดลง หนี้ครัวเรือนพุ่ง แนะเร่งส่งเสริมลงทุน ปฏิรูประบบราชการ
null
ความสามารถแข่งขัน,ปฏิรูประบบราชการ,ส่งเสริมการลงทุน,ปัญหาเชิงโครงสร้าง,วิรไท สันติประภพ,เศรษฐกิจไทย,หนี้ครัวเรือน,ว่าที่ผู้ว่าแบงก์ชาติ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวเศรษฐกิจ
https://www.thairath.co.th/content/513395
รู้ยัง ยกเลิกเคอร์ฟิว ทั่วราชอาณาจักร เริ่มตั้งแต่ 5 ทุ่มคืนนี้
ภายหลังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ มีมติยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน หรือ ยกเลิกเคอร์ฟิว โดย ศบค. ระบุว่าจะเริ่มมีผลวันที่ 15 มิ.ย. 2563 รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 4 ประกอบด้วยกิจการและกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติแบบวิถีใหม่ (New Normal) ให้มากขึ้น เพื่อเป็นการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศทั้งนี้ หลายคนยังสงสัยว่าการยกเลิกเคอร์ฟิวจะเริ่มในเวลาใดนั้น ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 10) ระบุเรื่องนี้ไว้ว่า การยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน เพื่อเป็นมาตรการผ่อนคลายและบรรเทาผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน จึงให้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานทั่วราชอาณาจักรเฉพาะเหตุอันเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่เวลา 23.00 นาฬิกา ของวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2563ขณะที่การบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปตั้งแต่ วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2563 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2563 ขณะที่การผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 4 ตามข้อกำหนดฯ ระบุว่าตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. 2563 เป็นต้นไปอย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งปิดสถานที่ไว้เป็นการชั่วคราว เมื่อผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ เจ้าของหรือผู้จัดการสถานที่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการที่ทางราชการกำหนดและจัดระเบียบและระบบต่างๆ แล้ว ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี มีอำนาจสั่งให้เปิดดำเนินการในสถานที่ดังกล่าวได้.(อ่านต้นฉบับ)
ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ระบุ ยกเลิกเคอร์ฟิว ทั่วราชอาณาจักร มีผลตั้งแต่ 5 ทุ่มคืนนี้ ส่วนกิจการและกิจกรรมในระยะที่ 4 เริ่มเปิดได้ 15 มิ.ย.
ข่าว,การเมือง
ยกเลิกเคอร์ฟิว,เคอร์ฟิว,ผ่อนคลายมาตรการระยะ 4,ผ่อนคลายระยะ4,ยกเลิกเคอร์ฟิว 5 ทุ่มคืนนี้,ราชกิจจานุเบกษา
https://www.thairath.co.th/news/politic/1868813
ธรณ์เสนอคุมเพดานนักท่องเที่ยว 6 ล้านคนต่อปี-แก้ล้นเกาะทางทะเล
วันนี้ (19 ม.ค.2561) ทีมข่าวไทยพีบีเอส เกาะติดปัญหานักท่องเที่ยวล้นเกาะ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา ที่ผ่านมาแม้ผู้ประกอบการจะพยายามแก้ด้วยการจัดลำดับการเที่ยวตามจุดต่างๆ ให้ไม่ตรงกัน แต่ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ทำให้การแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ไม่ได้ผลมากนัก การเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน นักท่องเที่ยวจะต้องซื้อทริปจากผู้ประกอบการ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบไปเช้า-เย็นกลับ โดยแต่ละบริษัทจะมีโปรแกรมที่แตกต่างกันออกไปอย่างบริษัทที่ทีมข่าวเดินทางไปด้วยวันนี้ เริ่มต้นโปรแกรมที่เกาะ 8 ซึ่งเป็นที่ตั้งของหินเรือใบ จุดขายสำคัญของสิมิลันพบว่า บริเวณชายหาดของเกาะ 8 นักท่องเที่ยวค่อนข้างหนาแน่น มีเรือเข้าออกตลอดเวลาจากการสอบถามนายธนกร รัตนภูมิ มัคคุเทศก์ ได้ข้อมูลว่า นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนักท่องเที่ยวทั้งหมดของวันนี้ เพราะแต่ละบริษัท พยายามจัดโปรแกรมสลับให้นักท่องเที่ยวไม่กระจุกตัวอยู่เฉพาะบริเวณหน้าหาดแต่ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่ค่อนข้างมากเฉลี่ยวันละ 4000 -5000 คน ทำให้การแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ไม่ได้ผลมากนักขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดข้อจำกัดในการให้บริการ อย่าง ห้องน้ำ หรือ จุดรับประทานอาหาร บนเกาะ 4 ไม่เพียงต่อจำนวนนักท่องเที่ยวพร้อมกันนี้ผู้ประกอบการยังเรียกร้องให้มี มาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณจุดดำน้ำเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะการควบคุมไม่ให้นักท่องเที่ยวเหยียบย่ำแนวปะการัง จากการสำรวจยังพบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งซื้อทัวร์ราคาถูกผ่านเว็บไซต์และบริษัทของจีน โดยการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวโซนยุโรปและคนไทย ลดลงอย่างเห็นได้ชัดที่ผ่านมาหลายฝ่ายมีข้อเสนอให้จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว เพราะหวั่นจะกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังไม่สามารถทำได้จริง ทำให้ผู้ประกอบการชาวไทยหลายราย เรียกร้องให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ ไม่ว่าจะเป็นการปราบปรามการทำทัวร์แบบนอมินี การจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และนโยบายส่งเสริมทางท่องเที่ยว ที่สามารถกระจายนักท่องเที่ยวออกสู่แหล่งท่องเที่ยวรองได้ขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน นายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรมีนักวิชาการ ซึ่งติดตามปัญหาทางทะเลและปะการังมาต่อเนื่อง เสนอแนวทางรักษาทะเลไทยอย่างยั่งยืน ด้วยการกำหนดเพดานนักท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานทางทะเล ไม่ให้เกินปีละ 6 ล้านคน จากปัจุจบันที่มีปีละ 4.8 ล้านคนนอกจากนี้ การเสนอติดตั้งระบบติดตามเรือรับส่งท่องเที่ยว รวมถึงปิดเกาะบางแห่ง เพื่อฟื้นฟูปะการังที่เสียหาย ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 77 ของพื้นที่ทางทะเล ที่มีปะการังรวม 1.4 แสนไร่ โดยตั้งเป้าให้ความเสียหายที่จะเกิดกับปะการังลดลงน้อยกว่าร้อยละ 50 ภายในระยะเวลา 5 ปีนายธรณ์ กล่าวว่า นักท่องเที่ยววันละ 5000 คนต้องมีคนเหยียบปะการัง แอบหยิบทรัพยากรกลับไป เพราะลำพังเจ้าหน้าที่แค่ 30 คนดูแลไม่ทั่วถึง นอกจากนี้จำนวนนักท่องเที่ยวที่มากเกินจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งขยะ นำเสียที่ลงทะเล เรือวิ่งเขาวิ่งออกก็ต้องมีปัญหาคราบน้ำมันรั่วไหล อย่างไรก็ตามแม้เสนอนำนักท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวรอง แต่ก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาต้นทางตามหมู่เกาะต่างๆ เนื่องจากเป็นเป้าหมายแรก ที่นักท่องเที่ยวตั้งใจเลือกไปเป็นอันดับแรก
นักวิชาการ เป็นห่วงปัญหานักท่องเที่ยวล้นเกาะท่องเที่ยวทางทะเล เสนอกำหนดเพดานตัวเลขไม่เกิน 6 ล้านคนต่อปีเที่ยวเกาะทางทะเล คุมระบบติดตามเรือ และปิดเกาะบางแห่งเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยว
สิ่งแวดล้อม
เกาะสิมิลัน,พังงา,อุทยานแห่่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน,นักท่องเที่ยว,กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช,นายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์,ทะเล,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/269470
เงิบอีก เพจทหารปฏิรูปฯ ใส่ไข่ อ้างเหตุ ตร.นำตัว พ่อเฌอ ไปเพราะกัน ถูกประชาทัณฑ์
เพจทหารปฏิรูปประเทศไทย นำภาพของประชาไท ไปใส่ใข่ อ้างเหตุ ตร.นำตัว พ่อเฌอ ขณะเดิน พลเมืองรุกเดิน ไปเพราะกัน ถูกประชาทัณฑ์ แถมมโนด้วยว่าระหว่างทางถูก ตะโกนด่า สาบแช่ง ทั้งที่เดินด้วยความสงบเมื่อเวลา 13.27 น. เฟซบุ๊กแฟนเพจ ซึ่งมีการกดไลค์ 1.8 แสนไลค์ โพสต์ภาพนายพันศักดิ์ ศรีเทพ ผู้เดินรณรงค์เรียกร้องยุติการนำพลเมืองขึ้นศาลทหาร ภายใต้ชื่อกิจกรรม พลเมืองรุกเดิน ขณะถูกควบคุมตัวมายัง สน.ปทุมวัน เพจ ทหารปฏิรูปฯ ยังโพสต์ข้อความบรรยายประกอบ ระบุว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นการสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมือง เพื่อดึง องค์การสหประชาชาติ หรือ UN เข้ามาแทรกแซงภายในประเทศ อ้างว่าชอบระบอบประชาธิปไตยนอกจากนั้น เพจทหารปฏิรูปฯ ยังระบุด้วยว่าเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำตัวนายพันศักดิ์ มาที่ สน.ปทุมวัน เนื่องจาก ระหว่างทางมีแต่เสียงตะโกนด่า สาบแช่ง และมีคนรอประเคนไม้หน้า 3 ที่ทัดดอกไม้ และไข่เน่าจากที่สูงตลอดเวลา จนตำรวจต้องไปเอารถไปรับ ควบคุมตัวที่ สน.ปทุมวัน ก่อนจะโดนประชาทัณฑ์ตายไปเสียก่อน ขบวนการล้มเจ้าจึงรอดตายหวุดหวิด เพจทหารปฎิรูปฯ ระบุนอกจากนี้ เพจทหารปฏิรูปฯ ยังวางกติกาสำหรับผู้แสดงความเห็นในเพจท้ายโพสต์ดังกล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวประชาไท ระบุว่า ภาพนายพันศักดิ์ที่เพจทหารปฏิรูปฯ โพสต์ เป็นภาพที่ถ่ายและอัพโหลดครั้งแรกบนเฟซบุ๊กแฟนเพจประชาไท รวมทั้ง ผู้สื่อข่าวประชาไท ซึ่งตามบันทึกภาพการเดินของนายพันธ์ศักดิ์ ตั้งแต่หน้าโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนนทบุรี จนหน้าสถานีจำหน่ายนำมันปตท. แยกบางพลู ตลอดเส้นทางไม่พบการตะโกนด่าหรือเสียงสาบแช่งแต่อย่างใด รวมทั้งการเดินเป็นไปด้วยความสงบวีดีโอคลิปจังหวะที่นายพันศักดิ์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว ไม่มีการพูดถึงสาเหตุตามที่เพจทหารปฏิรูปฯ กล่าวอ้างแต่อย่างใด แม้กระทั่ง เวลา 10.25 น. ที่ สน.ปทุมวัน พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งตามมาชี้แจงกรณีเหตุควบคุมตัว ในฐานะผู้บังคับบัญชาในท้องที่ ยังไม่มีการกล่าวถึงแต่อย่างใดสำหรับ นายพันธ์ศักดิ์ เขาเป็นพ่อของนายสมาพันธ์หรือ เฌอ เด็กหนุ่มที่ถูกยิ่งเสียชีวิตช่วงสลายการชุมนุมเสื้อแดง พ.ค.53 นายพันศักดิ์ นายอานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นายวรรณเกียรติ ชูสุวรรณ หรือ กึ๋ย อาชีพขับแท็กซี่ และ นายสิริวิชญ์ เสรีวิวัฒน์ หรือจ่านิว นักศึกษาม.ธรรมศาสตร์ และสมาชิกกลุ่มศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย (ศนปท.) ทั้งหมดถูกแจ้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ส่วนอานนท์นั้นโดนแจ้งข้อกล่าวหาผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เพิ่มเนื่องจากมีการโพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงทหารระหว่างถูกควบคุมตัวโดยตำรวจหลังงานเลือกตั้งที่(รัก)ลัก 14 ก.พ.ที่ผ่านมา
เพจทหารปฏิรูปประเทศไทย นำภาพของประชาไท ไปใส่ใข่ อ้างเหตุ ตร.นำตัว พ่อเฌอ ขณะเดิน พลเมืองรุกเดิน ไปเพราะกัน ถูกประชาทัณฑ์ แถมมโนด้วยว่าระหว่างทางถูก ตะโกนด่า สาบแช่ง ทั้งที่เดินด้วยความสงบ
การเมือง,ไอซีที
ความเงิบ,ทหารปฏิรูปประเทศไทย,พลเมืองรุกเดิน,พันศักดิ์ ศรีเทพ,เงิบ,เฟซบุ๊กแฟนเพจ
https://prachatai.com/journal/2015/03/58386
สภาองค์การนายจ้าง ถก ILO เตรียมรับแรงงานเวียดนามทะลักเข้าไทย
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2559 ที่โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด การสัมมนาเพื่อส่งเสริมกระบวนการจัดหางานและจ้างงานที่เป็นธรรม ในการนำเข้าแรงงานเวียดนามเข้ามาทำงานกับนายจ้างในประเทศไทย ซึ่งจัดโดย สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย (ECOT ) ร่วมกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) , ,นายแม๊กซ์ ทูนอน (Max Tunon) ผู้แทนองค์การแรงงานระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การนำเข้าแรงงานข้ามชาตินายจ้างควรจะดูแลในเรื่องนำเข้าแรงงาน การย้ายถิ่นของแรงงานข้ามชาติ ซึ่งทั้ง 4 สัญชาติ พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ปัญหาที่พบตอนนี้ คือ ไม่ทราบความต้องการแรงงานว่ามีมากน้อยเท่าไร แต่ละสาขามีความต้องการเป็นอย่างไร ซึ่งจำนวนของแรงงานเป็นตัวหลักสำคัญในการนำไปพัฒนานโยบายการนำเข้าแรงงานที่ถูกต้องของแต่ละภาคส่วน , ,ผู้แทนองค์การแรงงานระหว่างประเทศ กล่าวอีกว่า การลงนามข้อตกลงเพื่อทำกรอบในการนำเข้าแรงงาน ทำให้เกิดการหารือระหว่างคนที่เกี่ยวข้อง ทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง และภาครัฐ ซึ่ง ILO เห็นว่าการที่ ECOT (สภาองค์การนายจ้าง) ซึ่งเป็นตัวแทนฝั่งนายจ้างเป็นตัวแปรที่สำคัญในการหารือ และวางกรอบที่กว้างขึ้น เพื่อเป็นตัวให้ข้อมูลและนำไปสู่ภาคปฏิบัติในที่สุด , ,การหารือทำให้มีการคุยกันทุกฝ่าย ให้เรารู้ถึงความต้องการของแรงงานว่าต้องการเข้ามาแบบไหน จะมาภายใต้ MOU หรือแบบถือบัตรสีชมพู รวมถึงการลักลอบเข้ามา ซึ่งจะทำให้เราได้ทราบถึงปัจจัยว่า อะไรที่ทำให้แรงงานตัดสินใจเข้ามาทำงานในช่องทางเหล่านั้น ผู้แทนองค์การแรงงานระหว่างประเทศ กล่าว , ,นายแม๊กซ์ กล่าว การทำค่าใช้จ่ายเป็นศูนย์ (ZERO FEE) สำหรับแรงงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ซึ่งภายใต้อนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศ ก็มีกว่า 32 ประเทศ ที่ได้ลงสัตยาบรรณในเรื่องนี้ เช่น ยูเออี ซาอุฯ และอีกหลายๆ ประเทศ ที่ได้รับหลักการไปแล้ว ซึ่งเรื่องค่าใช้จ่ายเป็นศูนย์ได้หรือไม่นั้น ภาคเอกชนก็ต้องเคลื่อนตัวด้วย โดยภาครัฐต้องมีส่วนเข้ามาสนับสนุนเพื่อไม่เป็นภาระของแรงงาน ซึ่งในภูมิภาคนี้ประทศไทยน่าจะเป็นตัวนำร่องในการทำให้เกิดค่าใช้จ่ายของแรงงานเป็นศูนย์ได้ โดยผลักภาระไปไว้ที่นายจ้าง เพราะนายจ้างเป็นผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเห็นได้จากภาคอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปสัตว์น้ำ และอุตสาหกรรมอีเลกทรอนิกส์ โดยหากอุตสากรรมภาคเหล่านี้ทำได้ แรงงานก็จะไปสู่ตลาดอุตสาหกรรมนี้โดยอัตโนมัติ,ด้าน ดร.อารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า การนำเข้าแรงงานภายใต้บันทึกความเข้าใจทวิภาคี MOU ระหว่างไทยกับเวียดนาม ว่าหาก MOU นำไปสู่ภาคปฏิบัติแล้วจะทำให้เราทราบภึงความต้องการทั้งนายจ้างและลูกจ้าง เพื่อทำให้ปัญหาการลักลอบเข้ามาทำงานลดลง ซึ่งกรณีที่ทำกับเวียดนามนั้น จะเป็นตัวอย่างในการนำร่องการนำเข้าแรงงานอย่างถูกต้องตามหลักสากล โดยภาคการก่อสร้างในบ้านเราทุกวันนี้ เวียดนามไม่ได้อยู่ในระบบการก่อสร้าง เพราะบ้านเขาก็มีความต้องการเช่นกัน โดยภาคก่อสร้างเป็นแรงงานระดับล่าง แต่หากเป็นแรงงานฝีมือ อัตราค่าจ้างก็จะผันตามระดับฝีมือ ที่ผ่านมา แรงงานเวียดนามไม่ได้สนใจในการทำงานภาคก่อสร้างนี้ในบ้านเรา เพราะอุตสาหกรรมก่อสร้างบ้านเขาก็มีความต้องการไม่น้อย และค่าจ้างของเขาก็อยู่ในอัตราที่สูง รายละเอียดตรงนี้เขาต้องการความชัดเจนตรงค่าแรงงานเพื่อนำไปสู่การพัฒนาฝีมือ โดยความต้องการของไทยในขณะนี้เรามีความต้องการในการก่อสร้างในระบบราง และโครงการก่อสร้างในต่างประเทศ ตรงนี้นายจ้างฝั่งเวียดนามก็จะนำข้อมูลกับไปหารือกับแรงงานฝั่งเขา การที่เราจะนำร่องการจัดส่งแรงงานตามเอ็มโอยูนี้เราต้องมีความชัดเจนในเรื่องสัญญาจ้าง และค่าบริการต่างๆ , ,ในภาคการก่อสร้างที่ผ่านมาเราเปิดให้ลงทะเบียนแรงงานต่างด้าว ไม่มีแรงงานชาวเวียดนามมาลงทะเบียนเลย ความมุ่งหวังของเราก็คือหากเวียดนามเข้ามาก็จะอยู่ในภาคของการประมง ซึ่งการว่าจ้างที่จะให้เกิดความเป็นธรรมก็จะต้องฝึกอบรมก่อนเข้ามาทำงาน และมีตัวแทนที่ชัดเจนทั้งสองฝ่าย ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามกรอบ ภายในกรกฎาคมนี้ จะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง และในต้นเดือนกันยายน แรงงานชุดแรกก็น่าจะเดินทางเข้ามาทำงานได้ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว,ขณะที่ นายสุเมธ มโหสถ รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่าการสัมมนาในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริม และสร้างความเข้าใจต่อกระบวนการจัดหางาน และจ้างงานแรงงานเวียดนามที่เข้ามาทำงานกับนายจ้างในประเทศไทยตาม MOU ที่ประเทศไทยและเวียดนามได้ลงนามร่วมกันไปแล้ว โดยการสัมมนาจะระบุถึงกลไกการติดตามและส่งต่อ กรณีการจัดหางานที่ไม่เป็นธรรม และการละเมิดสิทธิแรงงาน ซึ่งนำไปสู่เป้าหมายร่วมกันเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการด้านแรงงานให้ถูกต้อง ได้มาตรฐาน ขจัดปัญหาหลอกลวง และการเอารัดเอาเปรียบเพื่อประโยชน์ของแรงงานต่างด้าว และนายจ้าง ผู้ประกอบการ รวมทั้งเป็นการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ,นายสุเมธ กล่าวอีกว่า แรงงานต่างด้าวเป็นต้นทุนที่สำคัญในระบบการผลิต แรงงานที่มีคุณภาพย่อมส่งเสริมให้การผลิตได้คุณภาพ มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับ การที่จะได้มาซึ่งแรงงานต่างด้าวที่มีคุณภาพนั้น ประกอบด้วยปัจจัยหลายประการ ทั้งกระบวนการนำเข้าที่ถูกต้องตามกฎหมายสภาพการจ้าง สภาพการทำงาน สิทธิ และสวัสดิการที่มีความเหมาะสม และเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และการเข้าถึงบริการของรัฐ เร่งสร้างโอกาส อาชีพ และรายได้ที่มั่นคงแก่ผู้ที่เข้าสู่ตลาดแรงงาน ซึ่งหมายรวมถึงแรงงานข้ามชาติที่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ อันนำมาสู่นโยบายของกระทรวงแรงงานในการคุ้มครองแรงงานต่างด้าวทั้งระบบ,นายสุเมธ ยังกล่าวอีกว่า การคุ้มครองแรงงานต่างด้าวทั้งระบบนั้น ต้องมุ่งเน้นทั้งการบริหารจัดการ การกำหนดมาตรฐาน การจ้างการป้องกันการลักลอบการทำงาน การบังคับใช้กฎหมาย การปรับระบบฐานข้อมูลการประชาสัมพันธ์ และสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อให้แรงงานต่างด้าวทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้กับนายจ้างและแรงงาน ให้เข้าถึงการบริการได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง เน้นการดำเนินการที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อเป้าหมายที่จะนำแรงงานกลุ่มนี้ไปสู่แรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างแท้จริง ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ซึ่งการสัมมนาจะเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการจัดหางาน และจ้างงานแรงงานเวียดนามเข้ามาทำงานกับนายจ้างในประเทศไทย และจะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้กระบวนการจ้างแรงงานเวียดนามเข้ามาทำงานในประเทศไทยประสบความสำเร็จ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งระบบเศรษฐกิจ,ด้านนายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล ประธานสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ECOT ในฐานะสมาชิกองค์การนายจ้างระหว่างประเทศ และตัวแทนภาคีฝ่ายนายจ้างของประเทศไทย ที่ทำงานร่วมกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ได้รับฟังความคิดเห็นของสมาชิกในเรื่องนโยบายของรัฐบาลที่ได้ทำ MOU ร่วมกับรัฐบาลประเทศเวียดนาม เพื่อนำเข้าแรงงานในสาขาก่อสร้างและประมง ซึ่งจากการรับฟังความคิดเห็นของสมาชิก ECOT เล็งเห็นว่า MOU ที่เพิ่งเริ่มนำสู่การปฏิบัตินี้อาจจะยังไม่สามารถตอบสนองปัญหาการขาดแคลนแรงงานของภาคธุรกิจได้ ECOT จึงได้ขอรับการสนับสนุนจาก ILO และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) เพื่อจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการของภาคีฝ่ายนายจ้างครั้งนี้,เราได้เชิญตัวแทนภาคธุรกิจ ภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญจาก ILO และ IOM มาร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้ MOU นี้สามารถตอบสนองความต้องการของนายจ้างได้ โดยข้อสรุปที่ได้จากการสัมมนาเชิงปฏิบัติการครั้งนี้จะได้นำเสนอกระทรวงแรงงาน เพื่อหาแนวทางไปสู่การปฏิบัติจริงในอนาคตอันใกล้นี้ ประธานสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย กล่าว,ประธานสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย กล่าวอีกว่า การสัมมนาในวันนี้จะไปสู่การพูดคุยถึงความต้องการที่แท้จริงของทั้งนายจ้างและลูกจ้าง แต่ทั้งนี้ก็ต้องนำข้อเท็จจริงที่เป็นองค์ประกอบทั้งหมดขึ้นมาหารือกัน โดยเฉพาะความต้องการของแรงงานชาวเวียดนาม ที่ต้องการเข้ามาทำงานอย่างถูกต้องในภาคอื่นๆ ที่ไม่ใช่กฎหมายของไทยเปิดช่องไว้ โดยเราเปิดช่องไว้เพียงอุตสาหกรรมการก่อสร้าง และประมง แต่ในข้อเท็จจริง แรงงานชาวเวียดนามมาฝังตัวอยู่ในภาคบริการของประเทศเราจำนวนมาก ถ้าเราเอามาทำให้ถูกต้อง ก็จะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งแรงงานเองก็ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ผู้ประกอบการเองก็มีความชัดเจนว่าจะต้องทำอย่างไร เราต้องยอมรับว่าแรงงานเวียดนามนั้น เป็นแรงงานที่มีฝีมือ มีทักษะ เพราะเวียดนามเองมีการพัฒนาส่งเสริมทั้งทักษะและการศึกษา ซึ่งผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมที่เปิดโรงงานอยู่ที่เวียดนามเองเขาพอใจในการทำงานของคนเวียดนาม และเมื่อเขาเปิดโรงงานที่เมืองไทยเขาก็อยากได้แรงงานจากเวียดนาม แต่กฎหมายยังไม่เปิดช่อง ซึ่งเราก็จะนำข้อหารือในวันนี้ทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนไปนำเสนอภาครัฐ.
สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ILO จัดสัมมนาเตรียมรับแรงงานเวียดนามทะลักเข้าไทยเพื่ออุดช่องว่างปัญหาความไม่เป็นธรรม และการละเมิดสิทธิแรงงาน พร้อมอำนวยความสะดวกกับนายจ้างชาวไทย ขณะที่ ILO มองว่าไทยน่าจะเป็นประเทศนำร่อง
null
แรงงานเวียดนาม,การจัดหางาน,การว่าจ้างงาน,รงงานนำเข้า,แรงงานระหว่างประเทศ,สัมมนา,อนุสัญญาแรงงาน,แม๊กซ์ ทูนอน,ผู้แทนองค์การแรงงานระหว่างประเทศ,อารักษ์ พรหมณี,อธิบดีกรมการจัดหางาน,เอกสิทธิ์ คุณานันทกุล,ประธานสภาองค์การนายจ้าง,สุเมธ มโหสถ,รองปลัดกระทรวงแรงงาน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/content/649159
รู้เท่าทันเมื่อถูกงูพิษกัด
เพราะการให้เซรุ่มแก่ผู้ถูกงูพิษกัดจะต้องเป็นเซรุ่มงูพิษที่ตรงกับสายพันธุ์งู ที่กัดด้วย สยาม เซอร์เพนทาเรียม-พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เรื่องงู จึงได้จัดโครงการนำเข้าเซรุ่มงูพิษ สายพันธุ์ต่างประเทศ เพื่อใช้ในการรักษาผู้ที่โดนพิษงูสายพันธุ์ต่างประเทศเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งนำร่องโครงการด้วยการส่งมอบ ให้กับสถานเสาวภา และโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 เพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยที่ได้รับพิษจากงูในกรณีฉุกเฉิน และพร้อมกันนี้ก็ได้เชิญ 2 นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีผลงานด้านการวิจัยและการรักษาผู้ที่โดนพิษงู จนได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ได้แก่ รศ.ดร.สกอตต์ เอ ไวน์สตีนน์ และ ดร.อาหมัด คาลดุล อิสมาอิล มาให้คำแนะนำบุคลากรทางการแพทย์ของไทยด้วย,รศ.ดร.สกอตต์ กล่าวว่า งูเป็นสิ่งมีชีวิตที่มักจะซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบๆ และไม่ค่อยใช้พื้นที่เดียว กันกับมนุษย์ แต่โอกาสที่วิถีชีวิตของมนุษย์และงูจะมาเชื่อมกันได้นั้นขึ้นอยู่กับภูมิประเทศที่อาศัย สภาพแวดล้อม และชนิดของงู เช่น คนเมือง จะมีโอกาสถูกงูกัดน้อยกว่าคนในชนบท ปัญหาสำคัญคือประเทศที่มีปัญหางูพิษกัดมากที่สุด เป็นประเทศที่ขาดแคลนเซรุ่มสำหรับใช้รักษา ดังนั้นบางประเทศการถูกงูพิษกัดจึงเป็นปัญหาที่ร้ายแรงมาก เช่นในเมียนมา ศรีลังกา แอฟริกา ฯลฯ ขณะที่ ดร.อาหมัด ได้ให้คำแนะนำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับผู้ที่ถูกงูพิษกัดว่า คนส่วนใหญ่เมื่อถูกงูพิษกัดจะกลัวและตกใจ บางคนมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น หน้ามืด เป็นลม ใจสั่น หายใจไม่ออก เหงื่อออก ปวดท้อง หรือช็อกได้ อาการต่างๆ เหล่านี้อาจเกิดจากความกลัว หรือเป็นผลจากสารคัดหลั่งต่างๆ ที่อยู่ในพิษงู ดังนั้น เมื่อโดนงูกัดจึงควรควบคุมสติ และให้รีบทำความสะอาดแผลที่ถูกงูกัดด้วยยาฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ หรือ ทิงเจอร์ไอโอดีน ไม่ควรนำเอาสมุนไพรใดๆ มาใส่แผล เพราะจะยิ่งทำให้แผลสกปรก อาจเกิดการติดเชื้อ หรือเป็นบาดทะยักได้ และอวัยวะของร่างกายที่ถูกงูกัด เช่น ขาหรือแขน ควรจะเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด สามารถนำไม้กระดานหรือกระดาษแข็งๆ มารองหรือดามไว้ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ได้ผลดีพอๆ กับการขันชะเนาะแน่น ถ้าจะขันชะเนาะต้องใช้ผ้า โดยรัดเหนือตำแหน่งที่ถูกงูกัด ให้แน่นพอที่จะใช้นิ้วมือ 1 นิ้ว สอดระหว่างผ้ากับผิวหนังที่รัดได้ จุดมุ่งหมายของการรัดแบบนี้เพื่อบังคับให้ส่วนที่ถูกกัดเคลื่อนไหวน้อยที่สุด และถ้าเป็นไปได้ให้นำเอาซากงูที่กัดไปด้วย เพื่อที่แพทย์จะได้รู้ว่าเป็นงูชนิดใด จะได้วิเคราะห์และวางแผนการรักษาได้ถูกต้อง ทันเวลา,สำหรับพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เรื่องงูหนึ่งเดียวในเมืองไทย สยาม เซอร์เพนทาเรียม นอกจากจะจัดแสดงงูหลากหลายสายพันธุ์ ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ในรูปของนิทรรศการมัลติมีเดีย และนิทรรศการเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยที่ถูกงูพิษกัดอีกด้วย ผู้สนใจเข้าชมได้ที่เว็บไซต์ ,www.siamserpentarium.com,  หรือโทร. 0-2326-5800.
ในแต่ละปีมีจำนวนผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุจากงูพิษกัดเป็นจำนวนมาก และหนึ่งในปัญหาสำคัญที่ส่งผลต่อการช่วยชีวิตผู้ป่วยที่ถูกงูพิษกัด คือการขาดแคลนเซรุ่มงูพิษ
ข่าว,ทั่วไทย
สกอตต์ เอ ไวน์สตีนน์,อาหมัด คาลดุล อิสมาอิล,ประสบอุบัติเหตุ,งูพิษกัด,สภาพแวดล้อม,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/969227
ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง 3 ส.ส.แจง คดีเสียบบัตรคนอื่น
ลงมติ ยี้กมธ.ป.ป.ช. ทะเลาะไม่เลิกภาพทีวีมีอีก ถาวร ชักบัตรเข้า-ออกเครื่องลงคะแนน เจ้าตัวอ้างช่องเสียบบัตรไม่พอ ขู่ฟ้องดะใครทำเสียหาย สุพัชรี แฉเพิ่ม ส.ส.พัทลุง เขต 1 บินลงหาดใหญ่แต่ดันมีชื่อโผล่กดโหวต วิษณุ ออกตัวต้องหาตัวคนผิดมาลงโทษ ทำงบฯเสียหายต้องรับโทษหนัก ขึงขังอาจไปจบที่ศาลฎีกานักการเมือง ส.ว.ผวาสั่งเก็บบัตรไว้ที่ตัวตลอด ฝ่ายค้านยังยึกยักญัตติซักฟอก กมธ.ป.ป.ช.กลายเป็นเวทีตลาดสด ชวน ร่วมสังเกตการณ์ยังไม่เกรงใจ สิระ กร้าวใส่ เสรีพิศุทธ์ เดี๋ยวเจอถอนหงอกตอนแก่ ลุงตู่ โผล่เซอร์ไพรส์ปลุกเด็กต้านเฟกนิวส์ในที่สุดศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติรับคำร้องของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ส.ฝ่ายค้าน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ พร้อมแจ้งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และ 4 ส.ส. ยื่นคำชี้แจงภายในวันที่ 4 ก.พ.นี้ศาล รธน.รับตีความ พ.ร.บ.งบฯเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 29 ม.ค. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมปรึกษาพิจารณาคดีกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของ ส.ส. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) จำนวน 3 คำร้อง ว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องของนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และคณะ 109 คน คำร้องนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย และคณะ 84 คน และคำร้อง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย และคณะ 77 คน โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของนายวิรัช และนายสมพงษ์ไว้พิจารณาวินิจฉัย ทั้ง 2 ประเด็นมีประเด็นที่ต้องพิจารณาเป็นประเด็นเดียวกัน จึงให้รวมทั้งสองเรื่องเข้าด้วยกันสั่งเลขาสภาฯ-3 ส.ส.ทำคำชี้แจงพร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ร้องทราบและให้ผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ และนายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ยื่นคำชี้แจงเป็นหนังสือพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ภายในวันที่ 4 ก.พ. ขณะที่คำร้องของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ศาลไม่รับ คำร้องเนื่องจากไม่เข้าหลักเกณฑ์เนื่องจากมีลายมือชื่อของผู้เสนอความเห็นซ้ำกับคำร้องนายสมพงษ์จำนวน 30 คน จึงทำให้จำนวน ส.ส.ที่เข้าชื่อเสนอ ความเห็นตามคำร้องนี้มีจำนวนไม่ถึง 1 ใน 10 ของ จำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาหรือ 75 คน กรณีจึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญมีภาพ ถาวร ชักบัตรเข้า-ออกผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ มีการเผยแพร่สกู๊ปเรื่องปัญหาเสียบบัตรแทนกันของ ส.ส.ของสถานี โทรทัศน์ช่อง 7 สี ปรากฏภาพนายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ในลักษณะใช้มือขวาดึงบัตรใบหนึ่งออกจากช่องเสียบบัตรลงคะแนน และใช้มือซ้ายเสียบ บัตรลงคะแนนอีกใบเข้าไปในช่องเสียบบัตร คล้ายๆกับเป็นการเสียบบัตรลงคะแนนมากกว่าหนึ่งใบ ทำให้ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกันหรือไม่เจ้าตัวยันช่องเสียบบัตรไม่พอต่อมานายถาวรแถลงชี้แจงว่า ยืนยันว่าไม่ได้เสียบบัตรแทน แต่เป็นเพราะห้องประชุมจันทรามีเพียง 250 ที่นั่ง ทำให้จุดเสียบบัตรไม่พอต่อจำนวนส.ส. ที่นั่งดังกล่าวเป็นที่ประจำของนายประกอบ รัตนพันธุ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แต่บังเอิญช่วงที่ลงมตินายประกอบไม่ได้อยู่ที่นั่งแต่มีบัตรเสียบคาไว้ ตนจึงดึงบัตรของนายประกอบออก และเสียบบัตรของตนเพื่อลงมติ จังหวะนั้นนายประกอบเดินเข้ามาพอดี ไม่ได้ลงคะแนนแทนใคร เป็นนักกฎหมายและนักการเมืองมา 20 ปี รู้ว่าอะไรเป็นอะไร จะทำอะไรระมัดระวังตัวอยู่แล้ว หากใครเอาข้อมูลไปเผยแพร่ในทางที่เสียหายจะฟ้องหมิ่น ประมาท หรือหากใครนำไปแชร์ในโลกออนไลน์จะฟ้องเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย เมื่อถามว่ากรณีนี้เหมือนเป็นการเอาคืน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายถาวรตอบว่าคงสันนิษฐานไม่ได้ แต่ผู้นำเสนอเรื่องดังกล่าวเป็นสื่อของรัฐ คิดว่าเขาคงทำตามหน้าที่สุพัชรี แฉแต้มผี ส.ส.พัทลุง เขต 1ที่รัฐสภา น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าจากการตรวจสอบการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบฯ2563 เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2563 พบว่า ส.ส.พัทลุง เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมสภาฯในวันดังกล่าว แต่ปรากฏว่ามีชื่อลงมติในร่าง พ.ร.บ.งบฯ จากการตรวจสอบพบว่า ส.ส.คนดังกล่าวมีไฟล์ทบินช่วงเวลา 20.50-22.50 น. สายการบินนกแอร์ เดินทางจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา จึงขอให้สภาฯตรวจสอบกรณีดังกล่าวด้วย เพราะ ส.ส. ทำงานอยู่บนภาษีของประชาชน เมื่อถามว่าจะยิ่ง ทำให้รอยร้าวระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยร้าวขึ้นหรือไม่ น.ส.สุพัชรีตอบว่า ไม่ได้มาในนามพรรค แต่มาในนามส่วนตัว ตามที่ประชาชนร้องเรียน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับ ส.ส.ที่ น.ส.สุพัชรีระบุไม่ได้อยู่ห้องประชุมช่วงลงมติร่าง พ.ร.บ.งบฯ คือ นายภูมิศิษฐ์ คงมี ส.ส.พัทลุง เขต 1 พรรคภูมิใจไทยวิษณุ ออกตัวจี้สอบหาคนผิดที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมทางออกไว้แล้ว จะเป็นอย่างไรตนไม่ควรพูด เพราะฝ่ายค้านออกมาเตือนว่าไม่ให้พูดชี้นำ ยังไม่ได้ประเมินหากศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณาจะใช้เวลาเท่าใด แต่เราคิดให้ยาวไว้ก่อน เข้าใจว่าสัปดาห์หน้าสำนักงบประมาณจะเสนอมาตรการรองรับบางอย่างเข้ามา เขาต้องรอฟังศาลฯก่อน ทางออกคิดไว้มากกว่า 3 ทาง คนที่เคยเป็นรัฐบาลจะรู้ว่ามีวิธีการอยู่ สิ่งที่รัฐบาลต้องระวังคือเรื่องวินัยการเงินการคลัง ที่พูดมาทั้งหมดคือทางแก้เรื่องงบประมาณ ไม่เคยพูดว่าการเสียบบัตรแทนกันไม่ใช่ปัญหาร้ายแรง ต้องไม่ละเลยการตรวจสอบหาผู้กระทำผิดในเรื่องนี้ คนทำผิดทำไมจึงยังลอยนวลอยู่คนกดบัตรแทนต้องรับผิดชอบเมื่อถามย้ำว่า หมายถึงคนที่กระทำผิดเสียบบัตรแทนกันใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ฮูเอฟเวอร์ ใครก็ตามที่เป็นต้นเหตุจะต้องรับผิดชอบ จนถึงขณะนี้ เราไม่เคยรู้เลยว่าสภาฯสอบกันไปแล้วอย่างไร ได้ความ อย่างไร และยังต้องสอบจนกระทั่งได้ความบางทีอาจจะช้า เห็นหรือไม่จากคดีที่เราชอบอ้างกันเมื่อปี 2556-2557 ที่เสียบบัตรคนหนึ่งหลายใบ มาถึงวันนี้เราก็ยังไม่ได้ยินข่าวเรื่องการลงโทษ กี่ปีมาแล้วล่ะ นั่นแสดงว่าการสอบอาจจะช้า เมื่อถามว่าคนที่เสียบบัตรแทนกันจนทำให้ พ.ร.บ.งบประมาณล่าช้า ต้องเป็นผู้รับผิดชอบใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า คนเสียบบัตรแทนกันนั้นผิด แน่นอนว่าเขาต้องรับผิดชอบในเมื่อเป็นต้นเหตุ แม้ไม่เกิดความเสียหายก็ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำนั้น และเมื่อเกิดความเสียหายขึ้นต้องเป็นความรับผิดชอบอีกหลายเท่า ขณะเดียวกันต้องเตรียมมาตรการป้องกันในอนาคต ต้องระวังเดี๋ยวจะเกิดเหตุอย่างนี้กับกฎหมายอื่นอีก เมื่อถามย้ำว่า คนผิดต้องรับผิดชอบอย่างไร รองนายกฯตอบว่า รับผิดชอบก็คือรับผิดชอบ สุดจะแจกแจงได้อาจไปจบที่ศาลฎีกานักการเมืองเมื่อถามว่าจะมีการฟ้องเอาผิดทางแพ่งด้วยหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่แน่ใจ ไม่ได้บอกว่าสภาฯ ต้องรีบมีคำวินิจฉัย แต่สภาฯต้องสอบข้อเท็จจริง กำลังบอกว่าต้องมีการดำเนินคดี เมื่อมีผลออกมาอย่างไรต้องดำเนินการฟ้อง จะเป็นใครฟ้องก็ได้ ตัวอย่างกรณีนายนริศร ทองธิราช อดีต ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย สภาฯต้องดำเนินการสอบให้จบแล้วส่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อไป เรื่องนี้อาจต้องฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือจะเป็นคดีอาญาธรรมดา หรืออะไรก็แล้วแต่ เมื่อถามว่าต้องเอาผิดกับ ส.ส.ที่เสียบบัตรแทนกันทุกคนใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่ว่าใครที่เกี่ยวข้องสมรู้ร่วมคิด วางแผน เมื่อถามว่าแสดงว่าจะมีผลกระทบถึงสมาชิกภาพของ ส.ส.เหล่านั้นด้วยใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า แอทดิเอ็น นั่นคือจุดหมายปลายทางที่ต้องนำไปสู่อย่างนั้นแต่ระหว่างที่ยังไม่ถึงขั้นนั้นผมก็ตอบไม่ถูก ตอนนี้เอาสั้นๆ ยังไม่มีเหตุที่ต้องไปขยายอะไร ตอนนี้ต้องดำเนินการให้ได้ตัวออกมา ดีแล้วที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ไปยื่นให้ ป.ป.ช.สอบอีกทางเทพไท ชี้ 5 แนวทางผ่าทางตันนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แม้เรื่องจะอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ แต่รัฐบาลในฐานะผู้รับผิดชอบงบประมาณแผ่นดิน ต้องหาวิธีการหรือแนวทางแก้ไข ให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.งบฯโดยเร็วที่สุด เพราะล่าช้ามา 4 เดือนแล้ว ขณะนี้มีข้อเสนออยู่ 5 แนวทาง คือ 1.การออกเป็น พ.ร.ก.เพื่อบังคับใช้ พ.ร.บ.งบฯ 63 ไปก่อน 2.นำร่าง พ.ร.บ.งบฯที่ได้รับการแก้ไขแล้วเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณา 3 วาระรวด โดยตั้งคณะกรรมาธิการเต็มสภา กรณีนี้ ต้องขอความร่วมมือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วย 3.นำร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 ที่เพิ่งผ่านการลงมติไป กลับมาลงคะแนนใหม่ในวาระ 2 เฉพาะมาตราที่มีปัญหา และลงมติวาระ 3 อีกครั้ง 4.นำร่าง พ.ร.บ. งบฯ 63 ที่เป็นร่างเดิม เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ เพื่อเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ แต่คงเป็นไปไม่ได้จะทำให้เสียเวลาอีกมาก 5.แนวคิดของนายวิษณุ เครืองาม คือนำรัฐธรรมนูญมาตรา 143 มาใช้แก้ปัญหา แต่ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และไม่เข้าเงื่อนไขตามมาตรา 143ส.ว.เข้มให้เก็บบัตรไว้ที่ตัวตลอดนายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) แถลงว่า ที่ประชุมได้หารือปัญหา ส.ส.เสียบบัตรลงคะแนนแทนกันในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานวิปวุฒิสภา เห็นควรจะต้องกำหนดมาตรการป้องกันมิให้เกิดการใช้บัตรลงคะแนนโดยไม่ชอบในการประชุมวุฒิสภา โดยที่ประชุมวิปวุฒิสภาพิจารณาแล้วเห็นว่าควรมอบบัตรออกเสียงลงคะแนนให้ ส.ว.ทุกคนเป็นผู้รับผิดชอบบัตรของตนเอง และควรให้ทุกคนนำบัตรออกจากเครื่องลงคะแนนทุกครั้งที่ออกจากห้องประชุมอนค.จ่อฟ้อง ณฐพร เล่นไม่เลิกที่รัฐสภา นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ แถลงว่า พรรคอนาคตใหม่เตรียมยื่นฟ้องดำเนินคดีนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 101 กรณีแจ้งความเท็จต่อ กกต. กลั่นแกล้งชงเรื่องยุบพรรคอนาคตใหม่ แม้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ล้มล้างการปกครองไปแล้ว แต่ยังไม่ยอมหยุด เหมือนพยายามหาเรื่องไม่สิ้นสุด เพื่อให้พรรคอนาคตใหม่เสียหาย หลังจากนี้พรรคอนาคตใหม่จะดำเนินคดีพวกนักร้องทุกคนที่ชอบกลั่นแกล้ง พวกเราจะไม่ทนเพราะเราเหลือทนแล้ว ไม่ใช่ว่าจะมาทำอะไรกับเราได้ทุกอย่างนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พรรคจะรอคัดลอกคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่ระบุว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่มีความผิดฐานล้มล้างการปกครอง เมื่อคัดลอกเสร็จแล้วจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดยื่นเอาผิดนายณฐพร ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 101 มีโทษจำคุก 5 ปี หรือปรับหนึ่งแสนบาท นับจากนี้พรรคอนาคตใหม่จะไม่ทน ไม่ถอย จะตอบโต้ผู้กลั่นแกล้งพรรคอนาคตใหม่ฝ่ายค้านยึกยักญัตติยื่นซักฟอกวันเดียวกัน นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า จะยื่นญัตติภายในวันที่ 31 ม.ค.นี้ เพราะมีข้อมูลสำคัญที่ไม่อยากให้ตกหล่นไปในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องกรณีการเสียบบัตรแทนกันของ ส.ส.ในการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 ไว้วินิจฉัย จะได้นำมาประกอบการพิจารณาประเด็นและบุคคลที่ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ฝ่ายค้านต้องการให้การอภิปรายเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.กำแพงเพชร ในวันที่ 23 ก.พ.นี้ ก่อนปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 29 ก.พ.ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า ยืนยันว่าวันที่ 30 ม.ค. ฝ่ายค้านจะสรุปและมีคำตอบให้กับสังคมแน่นอน ไม่ได้ล่าช้า เราพูดไปแต่ต้นว่าจะอภิปรายหลังช่วงตรุษจีน ยังอยู่ในกรอบเวลา พรรคร่วมฝ่ายค้านมีถึง 7 พรรค การทำงานร่วมกันเพื่อให้มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ต้องใช้เวลาชวน สังเกตการณ์ กมธ.ป.ป.ช.ช่วงสายที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ.ป.ป.ช. เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณากรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม นำ ครม.กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ โดยเชิญนายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส เลขาธิการ ครม. กับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เข้าชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากนายธีระพงษ์แจ้งขอเลื่อน ขณะที่นายพรเพชรให้เลขาส่วนตัวโทรศัพท์แจ้งว่าไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ ทั้งนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุมด้วย โดยนั่งหัวโต๊ะข้างๆ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แต่บรรยากาศการประชุมเริ่มปั่นป่วนตั้งแต่ต้น เมื่อทั้งนายไพบูลย์ นิติตะวัน นายสิระ เจนจาคะ และ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ กมธ.ฯ จากพรรคพลังประชารัฐ พยายามฟ้องนายชวน ถึงการทำหน้าที่ของประธานกมธ.ที่ผ่านมาเอ๋ โวยวายไม่เกรงใจใบมีดโกนผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการถกเถียงเริ่มกลายเป็นการปะทะคารม แม้นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ เลขานุการ กมธ.ป.ป.ช. พยายามห้ามปราม แต่ น.ส.ปารีณาไม่สนใจ กล่าวสวนทันทีว่า อยากขอให้ประธานฯ ถอนคำว่าเสือกด้วย ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์สอบถามนายชวนว่า มีอะไรจะกล่าวกับที่ประชุมหรือไม่ นายชวนแจ้งว่า ขอให้ที่ประชุมดำเนินการประชุมไปตามระเบียบวาระปกติ พร้อมนั่งฟังนิ่งๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จึงแจ้งดำเนินการตามระเบียบวาระต่อ แต่การประชุมยังเป็นไปอย่างตะกุกตะกัก เกิดการปะทะคารมระหว่าง 3 ส.ส.พปชร. กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์อยู่ตลอดเวลา จน น.ส.ปารีณาลุกจากเก้าอี้เดินไปฟ้องนายชวนขอให้เร่งตรวจสอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แต่นายชวนยังคงนิ่งฟังโดยไม่ได้กล่าวอะไรสิระ โดนลูบคมถึงควันออกหูบรรยากาศยิ่งทวีความดุเดือดขึ้น เมื่อเข้าสู่วาระตรวจสอบผลกระทบจากประชาชนที่ได้รับจากโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่หาดกะตะน้อย ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต นายอิทธิพร สังข์แก้ว รองนายกเทศมนตรีตำบลกะรน ในฐานะผู้ยื่นเรื่องตรวจสอบ ระบุว่า นายสิระหนีไม่ยอมรับเรื่องตรวจสอบโรงแรมดังกล่าวที่สร้างอาคารคร่อมลำรางสาธารณะ ทำให้เกิดการโต้เถียงกับนายสิระพักใหญ่ จนนายสิระกล่าวเสียงดังพร้อมสีหน้าที่เริ่มแดงก่ำว่า ผมไม่ใช่เพื่อนเล่นคุณ ขอให้ประธานฯ ควบคุมอย่าให้บุคคลภายนอกมากล่าวล้อเล่นกับ กมธ.ฯแบบนี้ แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวตัดบทให้ กมธ.ฯทำหน้าที่ตามวาระต่อไปกร้าว เดี๋ยวเจอถอนหงอกตอนแก่ขณะที่นายชวนยังคงนั่งรับฟังเฉยๆ ได้แต่อมยิ้มและก้มดูเอกสารในมือ การโต้เถียงอย่างดุเดือดดำเนินไปกว่า 10 นาที โดยนายสิระพยายามเรียกร้องให้ถอนคำว่า หนี แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังทำเป็นไม่สนใจและตัดไมค์นายสิระเป็นระยะ ทำให้นายสิระกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ปากอย่างนี้ เดี๋ยวมีคดีอีก ตอนแก่ก็ต้องไปเจอกันที่ศาล แม้ท่านจะอายุมากกว่าผม แต่ผมจะถอนหงอกท่าน โดยไม่มีใครสนใจนายชวนที่นั่งสังเกตการณ์อยู่นิ่งๆ แต่ก็ถอนหายใจเป็นระยะ ก่อนที่นายชวนขออนุญาตออกจากห้องประชุมโดยไม่ได้กล่าวอะไรทั้งสิ้นชวน กรีดบรรยากาศดีไร้ฝุ่น 2.5นายชวนให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ตั้งใจมาเยี่ยมและให้กำลังใจ กมธ.ทุกคณะ เพราะภารกิจของกมธ.จะเป็นประโยชน์ต่อการดูแลปัญหาประชาชน และบ้านเมือง กมธ.ป.ป.ช.ถือว่ามีปัญหาบ่อยจึงต้องการมาสังเกตการณ์ อยากให้กำลังใจ ต้องหาทางทำงานร่วมกัน หาก กมธ.มีปัญหากันเองไม่สามารถทำความเข้าใจกันได้ จะทำให้การทำงานไม่ราบรื่น มีปัญหาต่อการแก้ปัญหาตามข้อร้องเรียนของประชาชน เมื่อถามว่าบรรยากาศการประชุม กมธ.เป็นอย่างไร นายชวนตอบว่า ไม่ขอออกความเห็นต่อบรรยากาศที่เกิดขึ้น เพราะเห็นอยู่ว่าอากาศดี ไม่มีฝุ่น PM 2.5ลุงตู่ โผล่เซอร์ไพรส์เอาใจเด็กเวลา 09.00 น. ที่หอศิลป์วัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เข้าร่วมรับฟังข้อเสนอและการประกาศเจตนารมณ์ตามข้อคิดเห็นของสภานักเรียน ที่มีตัวแทนนักเรียนจากทั่วประเทศร่วมกิจกรรม เป็นการสร้างเซอร์ไพรส์แก่เด็กๆ เพราะไม่ได้แจ้งให้ทราบมาก่อน ทำให้เด็กบางคนถึงกับร้องไห้ด้วยความดีใจ จากนั้นนักเรียนได้ประกาศเจตนารมณ์ 4 ข้อร่วมกัน คือ 1. ส่งเสริมให้นักเรียนเลิกใช้ถุงพลาสติก 2. ส่งเสริมจิตอาสาเพื่อสร้างสังคมแห่งความสุข 3. ส่งเสริมให้เด็กไทยรู้ทันก่อนแบ่งปันข่าวปลอม (เฟกนิวส์) และ 4. ส่งเสริมแนวทางป้องกันจากการถูกข่มเหง (บูลลี่) ด้านนายกฯกล่าวว่า ทั้ง 4 ข้อตรงนโยบายรัฐบาล ทุกคนเป็นกำลังสำคัญพัฒนาประเทศ รวมพลังสร้างชาติเป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้องตามหลักสากล มีชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่อยู่คู่กับประเทศไทยมายาวนานปลุกต้านเฟกนิวส์ทำลายชาติพล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญต้องมีภูมิต้านทาน เรียนรู้คิดเป็นกระบวนการ บางข่าวเขียนบิดเบือนให้คนคล้อยตามเป็นสเต็ป หลายๆคนรู้จักลุงก็เห็นจากเฟกนิวส์มาเยอะ มีทุกวัน ทำให้สังคมไม่สงบเรียบร้อย การบริหารบ้านเมืองยิ่งลำบาก อย่าไปเชื่อมาก ที่จริงลุงใจดีไม่ใช่คนขี้โมโห แต่บางครั้งทำงานต้องจริงจังหน่อย วันนี้ที่ลุงและอาๆ ทำเพื่อพวกเรา ลุงไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว หวังคนรุ่นใหม่ที่เป็นอนาคตของประเทศ ประเทศไทยอยู่มากี่ร้อยปี กี่รัชกาลแล้วกว่าจะเป็นประชาธิปไตย วันนี้เรามีฐานรากที่ดี ถ้าใครทำให้หลักชัย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อ่อนแอลงและแตกความสามัคคี ประเทศจะไปไม่ได้ ลุงเข้ามาก็เพื่อมาดูแลพวกเราเป็นการชั่วคราว ก็ต้องมีวันจากไปอยู่แล้ว แต่อย่างไรต้องอยู่ด้วยกันในประเทศไทย ช่วงท้ายนายกฯได้ร่วมร้องเพลงและถ่ายรูปกับนักเรียน พร้อมทำมือเป็นสัญลักษณ์ต้านเฟกนิวส์พีระวิทย์ มั่นใจไม่หลุด ส.ส.อีกที่รัฐสภา นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่า รู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่ได้กลับมาเป็น ส.ส.อีกครั้ง ก่อนหน้านี้ได้ไปบนที่วัดสะตือ อ.ท่าเรือ จ.พระนคร-ศรีอยุธยา ต้องนำคณะกลองยาวไปถวายแก้บน จะอยู่กับกลุ่มกิจสังคมใหม่ ยืนยันจะอยู่ฝั่งรัฐบาลและสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์มั่นใจว่า จะไม่หลุดจากตำแหน่ง ส.ส.อีก เพราะคำร้องใบเหลืองของนายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ศาลฎีกานัดไต่สวนในเดือน มี.ค. คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือน จึงมั่นใจศาลจะตัดสินเสร็จสิ้นหลังวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งจะครบกำหนด 1 ปี ตามกฎหมายการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหมอธีทัชฐ์ ยื่นลาออก พปชร.ช่วงเที่ยงที่สำนักงาน กกต. น.สพ.ธีทัชฐ์ เกียรติลดารมย์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นหนังสือขอลาออกการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ น.สพ.ธีทัชฐ์กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งกับผู้ใหญ่ในพรรค แค่อยากสร้างพรรคที่มีแนวทางใหม่ หากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบตนก็พร้อมจะเป็นผู้นำให้กับคนรุ่นใหม่ หากพรรคอนาคตใหม่ไม่ถูกยุบก็เชื่อว่าจะสามารถทำงานร่วมกันได้ หลังจากนี้ขอเป็นฝ่ายค้านอิสระนอกสภา จะตรวจสอบทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจตนพร้อมให้ข้อมูลฝ่ายค้าน แต่มองว่าเดินยุทธศาสตร์ผิด เนื่องจากไปมุ่งโจมตีกลุ่มรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ทั้งที่ควรเล่นงานรัฐมนตรีที่มีคดีความอยู่ใน ป.ป.ช. และในศาล เพื่อชี้ให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้มีคนไม่ดีอยู่ในรัฐบาล และเป็น ส.ส.ในสภา พร้อมกับกล่าวขอโทษนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช หลังกล่าวหาว่าโยกงบประมาณจากหน่วยงานอื่นไปเพาะชำกล้าไม้ รวมทั้งเรื่องขึ้นเงินเดือนให้ภรรยาตัวเอง และเรื่องการซื้อขายตำแหน่งจำนวน 600 ล้านบาทด้วยปชป.เคาะดินเนอร์ทอล์กหาทุนที่ห้องประชุมชั้น 3 อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อพิจารณาตั้งสาขาพรรค อนุมัติเงินสนับสนุน รับทราบจำนวนสมาชิกพรรคที่เพิ่มขึ้นประจำเดือน ม.ค. มียอดรวม 1738 คน และมีสมาชิกลาออกรวม 29 คน นอกจากนี้ยังหารือถึงการจัดงานดินเนอร์ทอล์ก ระดมทุนเข้าพรรค เบื้องต้นจะจัดที่โรงแรมเซ็นทราราแกรนด์ ในวันที่ 21 มี.ค. ราคาโต๊ะละ 5 แสนบาทเพชรภูมิ ลุยเลือกซ่อมแทนพ่อที่หอประชุม อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ ลูกชาย พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีต ส.ส.กำแพงเพชร เขต 2 เดินทางไปลงสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กำแพงเพชร เขต 2 โดยมีนายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง และ ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐมาให้กำลังใจ เนื่องจากไม่มีผู้สมัครรายอื่นมาสมัครนายเพชรภูมิได้รับหมายเลข 1 เป็นเลขประจำตัวหาเสียง นายเพชรภูมิเปิดเผยว่า มั่นใจว่าจะได้รับเลือกตั้ง ประชาชนในพื้นที่รู้จักดี ลงพื้นที่กับพ่อมาตลอด จะชูนโยบายเรื่องน้ำ เนื่องจากเขต 2 เป็นพื้นที่ขาดแคลนน้ำเพาะปลูกพท.ขอบายหวังล้างตาที่ปากน้ำผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า มีการพูดคุยกันอย่างกว้างขวางของ ส.ส.ในพรรค ว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กำแพงเพชร เขต 2 เพราะมองว่าไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หรือต้องนำมาคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ เพราะเป็นการเลือกตั้งซ่อมที่ไม่ได้เกิดจากการทุจริตคอร์รัปชัน และเห็นว่าควรเอาเวลาไปเตรียมความพร้อมทวงพื้นที่คืนในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สมุทรปราการ เขต 5 ที่จะมีผลต่อจำนวน ส.ส.ในทางการเมืองอย่างมีนัยสำคัญ และยังจะส่งผลต่อการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย หากมีการเลือกตั้งก่อนวันที่ 24 มี.ค.
ศาล รธน.มีมติรับตีความร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ พร้อมสั่งเลขาสภาฯ-3 ส.ส. ฉลอง-ภริม-สมบูรณ์ ทำคำชี้แจงภายใน 4 ก.พ.
ข่าว,การเมือง
ศาลรัฐธรรมนูญ,คดีเสียบบัตร,ถาวร เสนเนียม,วิษณุ เครืองาม,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ข่าวหน้า1,ข่าววันนี้
https://www.thairath.co.th/news/politic/1759625
แม่ใจสลาย น้องเมาหนัก คว้ามีดแทงลำคอพี่ชายแท้ๆ ดับคาร้านขนมปัง
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.60 ร.ต.ต.หญิง กฤตยาภรณ์ โสหนองบัว รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งมีเหตุการทำร้ายร่างกายกันที่บ้านแห่งหนึ่งในร้านทำขนมปัง เขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จึงรุดไปตรวจสอบ,ทั้งนี้ พบเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายเอก (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุแทงพี่ชายคือนายนันท์ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี อาการสาหัส โดยคมมีดตัดเส้นเลือดใหญ่ที่ข้างลำคอด้านซ้ายขาด โดยแพทย์กำลังให้การช่วยเหลือ,นางแก่น (นามสมมติ) อายุ 50 ปี แม่ของนายเอก และนายนันท์ ให้การว่า นายเอก ชอบดื่มเหล้า ก่อนเกิดเหตุได้เดินถือมีดบางปลายแหลม เข้ามาในร้านทำขนมปังของตน ซึ่งขณะนั้นนายนันท์ กำลังช่วยตนทำขนมปังอยู่ ระหว่างนั้นนายนันท์ เห็นนายเอก ถือมีดมาใกล้ตน จึงพูดว่า เอามีดปลายแหลมมาจะแทงแม่หรือ,ทั้งนี้ นายเอก ไม่ตอบ แต่เอี้ยวตัวไปด้านขวามือแล้วใช้มีดปลายแหลมแทงนายนันท์ ที่ลำคอติดกับกระดูกไหปลาร้าด้านซ้ายมือ แล้วถอนมีดออก ปรากฏว่ามีดงอ ทำให้นายเอกทิ้งมีด แล้วเข้าไปยืนที่มุมห้อง มองดูพี่ชายนอนหมดสติจมกองเลือดที่พื้นของร้าน ตนได้แต่ยืนตะลึง พร้อมร้องไห้เสียงดังและร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน ตลอดเวลาที่นายเอก เมาเหล้าเมายา จะชอบมาหาเรื่องกับพี่ชายตลอด,อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา พยายามฆ่ากับนายเอก และจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนนายนันท์ พี่ชายนั้น ล่าสุดได้รับการยืนยันจากโรงพยาบาลว่า เสียชีวิตแล้ว 
หัวอกแม่แหลกสลาย! ลูกคนเล็กวัย 28 ปี เมาหนัก เดินถือมีดมาใกล้แม่ ก่อนใช้มีดแทงพี่ชายคนโตวัย 30 ปี เข้าที่ลำคอด้านซ้ายจนเส้นเลือดใหญ่ขาด เสียชีวิต กลางร้านขนมปังเมืองร้อยเอ็ด
ข่าว,ทั่วไทย
น้องทำร้ายพี่,ทำร้ายพี่ชาย,แทงพี่ชาย,ร้อยเอ็ด,เมายา
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/970627
ซาลาห์มาแล้ว
ในศึกมหากาพย์ลูกหนังครั้งนี้,อาการเจ็บหัวไหล่จากศึกบอลถ้วยยุโรป มาจนถึงตอนนี้ ดีขึ้นเป็นลำดับ และน่าจะกลับมาฟิตเต็มร้อยทันลงเล่นบอลโลกนัดแรกอีกด้วย,ไม่ว่าจะเป็นแฟนบอลอียิปต์ทั้งประเทศ รวมทั้งแฟนบอลหงส์แดง ลิเวอร์พูล ทั่วโลก ต่างเอาใจช่วยให้ซาลาห์กลับมาช่วยทีมชาติอียิปต์ ได้ทันในนัดแรก เพราะต้องพบกับศึกหนักอย่างทีมชาติอุรุกวัย,ผลการแข่งขันในนัดแรกสำคัญมาก เพราะจะชี้ชะตาทันทีว่าจะได้ไปต่อในรอบต่อไปหรือไม่ หากอียิปต์ชนะได้ อีก 2 ที่เหลือจะเล่นสบายมากขึ้นทันที,ถ้าซาลาห์ลงเจออุรุกวัย เขาจะได้วัดฝีเท้ากับ หลุยส์ ซัวเรซ อดีตแข้งหงส์แดงรุ่นพี่อย่างแน่นอน ซึ่งนัดนี้ถือเป็นบิ๊กแมตช์ของกลุ่มเออย่างแท้จริง,ตอนนี้ ทัพนักเตะจากดินแดนมัมมี เดินทางถึงประเทศรัสเซีย เรียบร้อยแล้ว แฟนบอลอียิปต์เฉพาะกิจในเมืองไทย อดใจรอนิดเดียว เพราะคู่นี้หวดกัน 1 ทุ่ม วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน ตามเวลาในบ้านเรา,ส่วนแฟนบอลหงส์แดงทั้งในเมืองไทยและทั่วโลก จะเชียร์ซาลาห์หรือซัวเรซ ก็แล้วแต่ชอบกันเลย ไม่ผิดกฎแต่อย่างใด,JUPITER
อีกไม่กี่อึดใจ ฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย จะบรรเลงเพลงแข้งกันแล้ว และหนึ่งในนักเตะที่ถูกจับตามองมากที่สุดคนหนึ่ง หนีไม่พ้น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่แฟนบอลกว่าครึ่งค่อนโลกอยากเห็นเขายิงกระจาย
null
สังคมกีฬา,ฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย,โมฮาเหม็ด ซาลาห์,ทีมชาติอียิปต์,ซาลาห์
https://www.thairath.co.th/sport/worldcup/1304464
เหน็บแรง สาวกแฉ เมสซี ยิงฟรีคิก ปี 2017 เข้ามากกว่่า โด้ ยิง 2 ปี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 12 ม.ค. ว่า แฟนพันธ์ุแท้อันดับ 1 บนโลกทวีตเตอร์ของ ลีโอเนล เมสซี ซุปเปอร์สตาร์ของบาร์เซโลนา เหน็บแรงใส่ คริสเตียโน โรนัลโด คู่ปรับจาก ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด เชิงยิงฟรีคิกกระจอกงอกง่อยสู้แข้งรักของเขาไม่ได้,ตั้งแต่เปลี่ยนปฏิทินเป็นปี 2017 มา 12 วันเมสซีก็ซัดฟรีคิกใส่คู่แข่งไปแล้วถึง 3 ลูกโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมล่าสุดที่ยิงฟรีคิกใส่ แอธเลติก บิลเบา พร้อมกับพาบาร์เซโลนาต้นสังกัดเอาชนะไปได้ 3-1 ตบเท้าเข้ารอบควอเตอร์ไฟนอลของศึกโกปาเดลเรย์ได้สำเร็จ,และประตูนี้ทำให้ เมสซี มีสถิติการยิงฟรีคิกเป็นประตู 26 ลูกเทียบเท่ากับ โรนัลด์ คูมัน ตำนานแข้งของบาร์เซโลนาเป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่ แอคเคาท์ @messi10stats ซึ่งถือเป็นแฟนคลับอันดับ 1 ผู้กดติดตาม 10 ล้านกว่าคนบนโลกทวีตเตอร์ของเมสซี จะไม่รอช้าแซวใส่ โรนัลโด ทันที ด้วยข้อความสั้นๆแต่ได้ใจความว่า ประตูจากลูกฟรีคิก โรนัลโด สองลูกตั้งแต่ปี 2015 ส่วนเมสซี สามลูกตั้งแต่ปี 2017 พร้อมกับรูปภาพ เมสซี หัวเราะแบบเป็นบ้าเป็นหลัง โดยล่าสุดก็มีคนกดเลิฟหลายต่อหลายคนพร้อมกับคอมเมนต์มากหน้าหลายตา
แอคเคาท์แฟนคลับ ลีโอเนล เมสซี อันดับ 1 บนโลกทวีตเตอร์ เหน็บ คริสเตียโน โรนัลโด คู่ปรับว่าแข้งรักของพวกเขายิงฟรีคิกในปี 2017 ไปแล้ว 3 ลูกมากกว่าที่เจ้าโด้ยิงได้ตั้งแต่ปี 2015 เสียอีก
null
ลาลีกา,บาร์เซโลนา,ลีโอเนล เมสซี,คริสเตียโน โรนัลโด,ข่าวกีฬา
https://www.thairath.co.th/content/834774
พ่วงเบรกไม่อยู่ ลงเขาช่องตะโก ชนระนาว 6 คันรวด อ้างคันหน้าเบรกกะทันหัน
เมื่อเวลา 09.30 น. ของวันที่ 14 ก.ค. 61 พ.ต.ท.นพพิมาน เกลียววานิชย์ สารวัตรสอบสวน สภ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัย อป.พร.ทัพราช และเจ้าหน้าที่อุทยานตาพระยา ว่า เกิดอุบัติเหตุรถชนกันบนเขาช่องตะโก บริเวณโค้งพังกำไร ต.ทัพราช อ.ตาพระยา ถึง 6 คันรวด รถขึ้นลงไม่ได้ จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตาพระยา และหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูจุดตาพระยา,ที่เกิดเหตุพบรถพ่วง 18 ล้อ ทะเบียน 80-5613 มุกดาหาร บรรทุกไม้ท่อนมาเต็มคัน ชนติดอยู่กับรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน บว-9491 ราชบุรี สภาพรถกระบะพังยับเยินทั้งคัน ห่างจากรถพ่วงประมาณ 50 เมตร ทางลงเขาช่องตะโก พบรถกระบะอีก 3 คัน สภาพถูกชนพังยับเยินเช่นเดียวกัน ประกอบด้วย รถกระบะมาสด้า สีน้ำเงิน ทะเบียน บม-3394 บุรีรัมย์ รถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ สีดำ ทะเบียน บท-4651 ยโสธร และรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน บย-8512 บุรีรัมย์ ,จากการสอบถาม นายอุไร สมร่าง อายุ 43 ปี ชาวบุรีรัมย์ เจ้าของรถกระบะมาสด้า สีน้ำเงิน เล่าว่า ขับรถมาจาก จ.บุรีรัมย์ จะไปบรรทุกแกลบที่ อ.ตาพระยา ขณะจอดติดรถคันหน้าอยู่ ตนเองก็เปิดไฟกะพริบให้รู้ว่าข้างหน้าไปไม่ได้ แต่รถพ่วงวิ่งลงมาจากเขาเร็วมาก พุ่งเข้าชนรถตนเองเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ก่อนพุ่งไปชนรถคันข้างหน้า ,ด้าน นายภูวนัย สังขภัณฑ์ อายุ 36 ปี ชาวยโสธร เจ้าของรถกระบะอีซูซุ สีดำ ให้การว่า ตนเองมาจาก จ.ยโสธร จะเดินทางไปซื้อเสื้อผ้าที่ตลาดโรงเกลือ ขณะจอดติดรถคันข้างหน้าอยู่ได้ยินเสียงชนดังสนั่น เมื่อหันไปรถพ่วงก็พุ่งเข้าชนรถของตนเองกระเด็นไปฟาดไหล่เขาแล้วหงายท้องรถแหลกไปทั้งคัน จากนั้น นายภูวนัย ยกมือไหว้เจ้าป่าเจ้าเขาเนื่องจากรถยับเยินหนักแต่ตนเองและคนในรถไม่มีใครเป็นอะไร พร้อมทั้งวอนให้ช่วยแก้ไขถนนช่องเขาตะโก เพราะลำบากมาก ,ด้านนายพนม โคกโค อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ที่ 6 ต.ป่าไร่ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร คนขับรถพ่วง 18 ล้อ ให้การว่า ตนเองจะเอาไม้ดังกล่าวไปส่งที่อำเภอปลวกแดง จ.ระยอง พอวิ่งลงเข้ามาเห็นรถคันหน้าเบรกกะทันหัน ตนเองเบรกไม่อยู่ จึงพุ่งเข้าชนรถข้างหน้าไป 5 คัน,ขณะที่ นายสถาพร สุนาพรม อายุ 52 ปี คนขับรถกระบะโตโยต้า ทะเบียน บย-8512 บุรีรัมย์ กล่าวว่า ตนจะไปทำธุระที่อรัญประเทศ พอขับรถมาถึงที่เกิดเหตุมีรถพวงวิ่งสวนขึ้นมาเหมือนจะขึ้นเขาไม่ไหว ในขณะเดียวกันรถพ่วงบรรทุกไม้มาเต็มคันก็เบรกไม่อยู่จึงได้ชนรถกระบะ 4 คันรวด อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.นพพิมาน รีบประสานรถยกเข้าดำเนินการ เพื่อเปิดให้รถวิ่งผ่านได้ ซึ่งต้องใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมงจึงสามารถยกรถออกมาจากที่เกิดเหตุได้หมด.
พ่วงบรรทุกไม้ ลงเขาช่องตะโก จ.สระแก้ว อ้างรถหน้าเบรกกะทันหันเบรกไม่อยู่ ชนรถจอดติดบนถนนรวม 6 คัน โชคดีไม่มีผู้เสียชีวิต
ข่าว,ทั่วไทย
รถชน,เขาช่องตะโก,รถพ่วง,อุบัติเหตุ,สระแก้ว,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1334473
หนุ่มม้งซาบซึ้ง ได้พระราชทานอภัยโทษ 6 ครั้ง เดิน 400 กม. ถวายพระพรในหลวง
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 59 ที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเพชรบูรณ์ สาขาหล่มสัก นางราตรี เอียดคง ผู้อำนายการสำนักงานคุมประพฤติเพชรบูรณ์ สาขาหล่มสัก พร้อมด้วย นายสมยศ รอดแช่ม นายอำเภอหล่มสัก จัดขบวนเดินเทิดพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้แก่ นายวิโรจน์ แซ่หว้า อายุ 36 ปี ชาวม้งบ้านเข็กน้อย หมู่ 11 ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ อดีตนักโทษชายในคดีค้ายาเสพติด ซึ่งถูกศาลตัดสินประหารชีวิต,ทั้งนี้ เมื่อราวปี 2543 นายวิโรจน์ แซ่หว้า ถูกเจ้าหน้าที่ ปปส.จับกุม พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 98,000 เม็ด ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และถูกศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต แต่จำเลยให้การรับสารภาพจึงได้ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกตลอดชีวิต ถูกส่งคุมขังที่เรือนจำกลางจังหวัดพิษณุโลก ระหว่างถูกจำคุกนั้นได้ประพฤติตนเป็นนักโทษชั้นดี ได้รับพระราชทานอภัยโทษ 6 ครั้ง ก่อนได้รับการปล่อยตัวออกมาหลังจากถูกจำคุกนาน 15 ปี 6 เดือน,ภายหลังได้รับอิสรภาพ นายวิโรจน์ แซ่หว้า เกิดสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเมตตาให้ตนเองได้มีโอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดีอีกครั้ง จึงอยากถวายความจงรักภักดี และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ จึงได้บอกแก่ นางราตรี เอียดคง ผอ.คุมประพฤติฯ ว่าอยากเดินเท้าเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งเป็นระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร เพื่อลงนามถวายพระพรพระเจ้าอยู่หัว และจะเข้าร่วมโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติครบ 70 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ ประจวบเหมาะกับวันสถาปนาครบรอบ 24 ปี กรมคุมประพฤติ และครบรอบ 125 ปี กระทรวงยุติธรรมอีกด้วย,ทาง นางราตรี เอียดคง ผอ.สนง.คุมประพฤติฯ จึงตอบรับและดำเนินการร่วมกับหน่วยงานราชการหลายฝ่าย เพื่อส่งเสริมสนับสนุนในความมุ่งมั่นในการทำความดีของนายวิโรจน์,ด้าน นายวิโรจน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลงเดินทางผิด เกือบเอาชีวิตไปทิ้งอย่างไร้ค่า ระหว่างถูกจำคุกจึงคิด และสำนึกผิดในสิ่งที่ได้กระทำมา ตั้งใจว่าหากมีโอกาสได้รับอิสรภาพอีกครั้งจะขอทำแต่ความดี ไม่หวนกลับคืนไปหาสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ให้สมดังที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอภัยโทษหลายครั้ง จนได้รับอิสรภาพอีกครั้ง รู้สึกมีความสุขที่สุดที่ได้กลับคืนสู่อ้อมอกของครอบครัว หลังจากรอคอยนานกว่า 15 ปี ตนตั้งใจเดินถวายพระเกีรยติ และลงนามถวายพระพรแด่ในหลวงที่กรุงเทพฯ ด้วยความตั้งมั่นเต็มร้อย จะใช้เวลากี่วันกี่คืนก็จะทำให้สำเร็จ โดยมีข้าราชการบางคนมอบเงินช่วยเหลือสนับสนุนค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายระหว่างทางด้วย,นอกจากนี้ นางหว้า แซ่ลี และ นายซ้ง แซ่หว้า บิดาและมารดาได้นำรถกระบะติดตาม เตรียมอาหารและน้ำไว้ให้ คอยช่วยเป็นกำลังใจให้ลูกชายทำได้สำเร็จสมดังที่ตั้งใจไว้. 
หนุ่มม้งเข็กน้อย หลงเดินทางผิดค้ายาเสพติด ศาลตัดสินประหาร แต่สารภาพเหลือจำคุกตลอดชีวิต ทำความดีจนได้รับพระราชทานอภัยโทษ 6 ครั้ง ถูกปล่อยตัวกลับสู่ครอบครัว มุ่งมั่นขอเดินเท้า 400 กม. ไปถวายพระพรในหลวงที่กรุงเทพฯ
ข่าว,ทั่วไทย
เดินเท้า,เดินเท้า400กม.,หนุ่มม้ง,พระราชทานอภัยโทษ,อภัยโทษ 6 ครั้ง,ถวายพระพรในหลวง,เดินจากเพชรบูรณ์,วิโรจน์ แซ่หว้า,บ้านเข็กน้อย,สำนักงานคุมประพฤติเพชรบูรณ์,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,เพชรบูรณ์
https://www.thairath.co.th/news/local/590769
ดีไซเนอร์ซุปตาร์ ป๋อง ซีเบท หมดหวังจะมีลูก รอนาน 12 ปีแล้ว
เมืองไทยมาหลายปีมากๆ เหล่าซุปตาร์น้อยใหญ่ บรรยายไปไม่หมด เยอะสุดพลัง ต่างสวยสะพรึงตะลึงตา ต่างมั่นใจในการสวมใส่ชุดเป๊ะปังของ ป๋อง ซีเบท เคยมีแฟชั่นโชว์ชุดเผ็ดร้อนไปแล้วหลายครั้ง ดาราที่เคยใส่ชุด ป๋อง ซีเบท ออกงานก็โดนติชมไปเยอะแยะ ล่าสุดไม่สุดท้ายกับแฟชั่นโชว์สุดฮือฮา บนเวทีนางงามน้องใหม่มาแรงน่าจับตาอย่างยิ่ง เวทีมิสควีนออฟยูนิเวิร์สบิวตี้ไทยแลนด์ ,Miss Queen of Universe Beauty Thailand 2016,ป๋อง ซีเบท มีความสามารถในการดีไซน์ชุดที่ไม่ธรรมดา ซึ่งจะเด่นดังเป็นที่เม้าท์มอยมากๆ ในเรื่องการชอบออกแบบชุดโป๊ๆ วาบหวิวเกินลิมิต แลดูหวาดเสียว ให้ดาราใส่ไปออกงาน ไม่หรอก อย่าคิดอย่างนั้นเลย หรือจะคิดแบบนั้นก็ได้นะ (หัวเราะ) เพราะเราชอบออกแบบชุดโป๊ๆ แรงๆ อยู่แล้ว ดาราที่เลือกมาใส่ชุดของเราจะรู้ดีว่าถ้าอยากจะแซ่บจริง ก็ต้องชุดของ ป๋อง ซีเบท จริงๆ เราออกแบบชุดให้เข้ากับงานในแต่ละงานมากกว่า จะชุดไหนก็แล้วแต่ ป๋องกล้าท้าให้ด่าเลย เป็นอารมณ์ในการออกแบบชุดนั้นๆ มากกว่า อยากให้มองเป็นอารมณ์แฟชั่นจริงๆ เรื่องโป๊ ไม่โป๊ ถ้าเป็นการใส่ชุดในชีวิตประจำวัน เดินออกไปโทงๆ มันโป๊ แต่ถ้ามันเป็นแฟชั่น อย่าไปมองว่ามันโป๊ หรือต่ำ ไม่แพง เพราะความเป็นแฟชั่นหรือศิลปะ มันอยู่ที่จินตนาการของแต่ละคน มันอยู่ที่รสนิยมของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน,เราอย่าเพิ่งตัดสินจากคำพูดจากคนอื่นๆ ที่เราฟังมาอีกจากที่หนึ่ง อย่าเพิ่งให้ร้าย อย่าเพิ่งใส่ร้ายป้ายสี เพราะป๋องไม่เคยใส่ร้ายป้ายสีใครนะ ถ้าใครมาใส่ร้ายป้ายสีเรานะ จะสาปให้ส่ิงที่เขาว่าเรา เป็นไปเองอีกตลอดเจ็ดชั่วอายุคนเลย (ยิ้มแรง) เหมือนกระจกกระท้อนตัวเขาเอง เราเป็นคนตรงไง ไม่ให้ร้ายใคร ไม่ทำร้ายใคร แต่เป็นคนแค้นไปจนวันตายนะ (ยิ้ม),ป๋อง ซีเบท เป็นอีกคนที่รักและรู้ใจมาอย่างยาวนานกับ ควีนออฟแดนซ์ Queen of Dance ติ๊นา คริสติน่า อากีล่าร์ นักร้องรุ่นใหญ่ เคยออกแบบชุดสวยให้ติ๊นามาเยอะแยะหลายปีทีเดียว และติ๊นานี่แหละเป็นแรงบันดาลใจสุดยอดในการริเริ่มตั้งใจอยากจะเป็นดีไซเนอร์ของ ป๋อง ซีเบท ตอนนี้พี่ติ๊นา น่าจะมีแฟนแล้วหรือไม่อย่างไรนะ? ไม่นะ (ยิ้ม) เขาไม่เอาแล้วแหละ วัยนี้แล้ว แต่ถ้ามันมีที่โดนจริงๆ ก็เอาไปแล้วแหละ สูงวัยใจตรงกันรอนานหน่อย ก็มีแต่งงานกันได้นะ? ใช่ๆ ตรงนั้นอยู่ที่ความพึงพอใจแล้วแหละ ว่าจะแต่งหรือไม่แต่ง,ดูบุคลิกภายนอกของ ป๋อง ซีเบท หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเกย์ ตุ๊ด แต๋ว แน่นอน  เพราะจากจริตดูจะเปรี้ยวล้นคล้ายๆ กลุ่มชาวสีรุ้งชายรักชาย แต่ความเป็นจริงแล้ว ป๋อง ซีเบท มีภรรยาอยู่กินด้วยกันมานานแล้วมากๆ ถึง 12 ปี เป็นสาวใสชาวฮ่องกงชื่อ ริคโค่ เคยคิดอยากจะมีลูกด้วยกันมากๆ ใช่ๆ เคยอยากมีลูก แต่ความเป็นจริงที่สุดในตอนนี้นะ คือการรับเด็กมาเลี้ยงดีกว่า เพราะคุยๆ กันอยู่ ซึ่งตอนนี้เราก็ทำเป็นลักษณะให้เงินเด็กกับองค์กรเด็กที่ต่างประเทศไปก่อน คือที่ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ก็ให้ทุกๆ เดือน,องค์กรนี้ก็จะให้จัดสรรให้ทุนเด็กต่อเนื่องเป็นเวลา 2-3 ปี พอเด็กโตขึ้นแล้วก็จะหมุนเวียนเปลี่ยนไปให้เด็กคนอื่นเรื่อยๆ ไป ป๋องกับแฟนก็ส่งเงินไปเลี้ยงดูเด็กๆ มาประมาณ 6 คน ก็เกือบ 10 ปีแล้ว ให้ต่อเนื่องนะ ทุกเดือนเลย ทุกปีใหม่เด็กก็จะเขียนการ์ดปีใหม่มาขอบคุณเรา ว่าขอบคุณนะ หนูจะเป็นเด็กดี อะไรต่างๆ นานา เหมือนคุณครูให้เด็กเขียนมาขอบคุณเรา ซึ่งเป็นคนให้เงินทุนเขา (ยิ้ม)  ,เรื่องของเรื่องคือ ริคโค่แฟนเราเป็นชาวฮ่องกง ที่เราไปให้เงินกับเด็กเหล่านี้ เพราะแฟนเป็นคนเริ่มต้นให้ก่อน เราเลยไปทำตามแฟนด้วย อยากจะเป็นผู้ให้บ้าง ในเมืองไทยป๋องก็ทำๆ อยู่แล้ว เวลาว่างๆ ก็แวะไปตามศูนย์ต่างๆ แต่ว่าเราไม่ส่งเงินเลี้ยงดูเป็นคนๆ เหมือนที่เราส่งเงินไปตามต่างประเทศ จริงๆ ทุกวันนี้เราก็เลี้ยงคนที่อยู่รอบๆ ตัวอยู่แล้ว จึงไม่ได้คิดว่าจะไปเลี้ยงใครอย่างจริงจัง,จริงๆ ก็เคยคิดอยากจะมีลูกเป็นของตัวเองแหละ เราก็เชื้อแข็งแรง แต่ภรรยาตั้งท้องไม่ได้ เราเคยไปทำกิฟต์แล้วสี่รอบ ตัวร่างกายแฟนไม่แข็งแรงด้วย ตอนนั้นนะก็มีวิธีการอุ้มบุญ ที่หมอยืนยันแล้วว่าสามารถทำได้ เพราะเขาสามารถผลิตไข่ได้แต่ไม่สามารถอุ้มไข่ได้ แต่ตอนนี้อารมณ์ที่อยากจะมีมันหมดไปแล้วไง เพราะเราเคยดิ้นรนที่อยากจะมีลูก ไปทำกิฟต์มาแล้ว 4 ครั้ง ก็ใช้หมอระดับต้นๆ ของเมืองไทยเลยแหละ มันเคยทำไปแล้ว เสียทั้งเงิน เสียความรู้สึก เสียเวลา ทำต่อครั้งก็หลายแสนนะ ประมาณ 2-3 แสน หนึ่งเลยพอตกลงทำกิฟต์แล้ว แฟนต้องไปฉีดยาบำรุงที่สะโพกทุกวัน ฉีดเป็นเวลาด้วย พอฉีดบ่อยๆ เขาก็เจ็บไง จากไข่พอเป็น 4-6-8-10 กราฟมันสวยขึ้นๆ พอถึงเวลาหนึ่งมันหลุดไง ทำให้เขาเสียความรู้สึกทางใจ ก็เลยคิดว่าไม่มีก็ได้,ตอนนี้ก็เลยหันมาเลี้ยงน้องหมาแทน ป๋องเป็นคนชอบน้องหมา ก็มีน้องหมาเป็นลูกแทน เพราะซื่อสัตย์ รักเราจริง จงรักภักดีด้วย และก็ไม่พูดมากด้วย เป็นลูกที่ไม่เถียงเราด้วยนะ มีแต่เห่าๆ (หัวเราะ) อะไรประมาณนั้น จริงๆ เคยมีน้องหมามากที่สุด เคยมีอยู่ 8 ตัว แต่ตอนนี้เหลืออยู่ 4 ตัว ก็ทยอยๆ เสียไปตามวันเวลา ทีละตัวสองตัว เพราะเราเป็นคนที่เลี้ยงหมาที่อายุยืนมาก (ยิ้ม).
เปรี้ยวจัดเป็นที่ 1 แซ่บแตกเป็นที่ 1 มีแต่ชุดเน้นทรวดทรง แรงชัดโป๊หนักจัดกันไป ป๋อง ซีเบท ณรงค์วิทย์ ทองเนตร ดีไซเนอร์ชื่อดังระดับประเทศ แห่งห้องเสื้อซีเบท Zibeth เป็นดีไซเนอร์แถวหน้าของ
null
ป๋อง ซีเบท,ณรงค์วิทย์ ทองเนตร,Zibeth Thailand,ป๋อง zibeth,ป๋อง ดีไซเนอร์,ป๋อง ติ๊นา,มิสควีนออฟยูนิเวิร์สบิวตี้ไทยแลนด์,Miss Queen of Universe Beauty Thailand 2016,ป๋อง ริคโค่,ป๋อง ซีเบท อยากมีลูก,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/738606
รถตู้รับส่งนร.ที่พิจิตร ชนกระบะหวิดไฟคลอกทั้งคัน เจ็บนับสิบราย
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 18 พ.ค.2561 ร.ต.อ.พีรพัฒน์ ฟุ้งเจริญศักดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ดงป่าคำ จ.พิจิตร ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถตู้รับส่งนักเรียนชนกับรถกระบะ เกิดไฟลุกไหม้หมดทั้งคัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ที่บริเวณหลัก กม.43-44 ถนนพิจิตร- โพธิ์ประทับช้าง หมู่ 1 ต.ดงกลาง อ.เมืองพิจิตร ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.ดงป่าคำ และกู้ภัยหลายหน่วยงานกำลังช่วยกันลำเลียงคนเจ็บส่วนใหญ่เป็นนักเรียนและคนขับรถยนต์ทั้ง 2 คัน รีบนำส่ง รพ.พิจิตร ทั้งหมด จำนวน 12 ราย ในที่เกิดเหตุพบรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีฟ้า ทะเบียน นข 429 พิจิตร จอดอยู่กลางถนนสภาพไฟไหม้วอดทั้งคัน ห่างจากรถตู้คันดังกล่าวประมาณ 10 เมตร พบรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ สีดำ ทะเบียน กค 3898 พิจิตร สภาพด้านหน้าพังยุบ,จากการสอบสวน นายสิริชัย ชาญณรงค์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136/3 หมู่ 2 ต.โพธิ์ประทับช้าง คนขับรถตู้รับส่งนักเรียนคันกล่าวที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณต้นคอ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้รับนักเรียนจาก 4 โรงเรียน ได้แก่ ร.ร.พิจิตรพิทยาคม ร.ร.สระหลวงพิทยาคม ร.ร.อนุบาลพิจิตร และ ร.ร.ยอแซฟ จำนวน 14 คน เพื่อกลับบ้านที่ อ.โพธิ์ประทับช้าง ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุมีรถกระบะวีโก้ สีดำ ทะเบียน กค 3898 พิจิตร มีนายจเด็จ สุวรรณฉาย อายุ 68 ปี ขับสวนมาด้วยความเร็วชนประสานงา ทำให้เกิดประกายไฟลุกไหม้ ตนได้ตะโกนบอกนักเรียนที่นั่งมาให้ออกมาจากรถตู้ นักเรียนได้กระโดดลงหนีตาย ได้รับบาดเจ็บจำนวน 10 คน แพทย์กำลังรอดูอาการ ส่วน นายจเด็จ คนขับรถกระบะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ยังพูดไม่ได้,ต่อมา นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผวจ.พิจิตร พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเยี่ยมนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บที่ รพ.พิจิตร พร้อมทั้งกำชับให้แพทย์ช่วยดูแลอาการนักเรียนอย่างใกล้ชิดด้วย.
รถตู้รับส่งนักเรียนชนประสานงากับกระบะ จนไฟลุกไหม้วอดทั้งคัน ช่วงหลัก กม.43-44 ถนนพิจิตร-โพธิ์ประทับช้าง คนขับและนักเรียนเจ็บ 12 คน นำส่ง รพ.พิจิตร ด้านผู้ว่าฯ รุดเยี่ยมอาการคนเจ็บแล้ว
ข่าว,ทั่วไทย
รถตู้รับส่งนักเรียน,รถตู้ประสานงากระบะ,พิจิตร,รถนักเรียนชนกระบะ,รถตู้ไฟไหม้,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1285572
เช็ก ชี้ เชลซี กำลังก้าวสู่ยุคใหม่หลังคว้าแชมป์ลีก
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 1 พ.ค. ว่า ปีเตอร์ เช็ก นายทวารของทีมเชลซี เชื่อ การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014-2015 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่นำพาทีมสิงโตน้ำเงิน ก้าวสู่ความสำเร็จยุคใหม่ภายใต้นักเตะพลังหนุ่ม และการสร้างทีมของโชเซ มูรินโญ,หลังจากบุกไปเอาชนะเลสเตอร์ ซิตี้ ได้ถึงถิ่น ในเกมนัดกลางสัปดาห์ ทำให้เชลซีต้องการอีกเพียงแค่ 3 แต้มจาก 4 นัดสุดท้าย ก็จะสามารถคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 4 ในรอบ 10 ปี ได้สำเร็จ และเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกของกุนซือชาวโปรตุกีส ในการหวนกลับมาคุมทีมเป็นคำรบที่ 2 ตั้งแต่ปี 2013,ด้าน เช็ก นายทวารร่างโย่ง ที่ตกเป็นตัวสำรองของ ติโบต์ คูร์ตัวส์ อย่างถาวรในฤดูกาลนี้ ได้ออกมาแสดงความมั่นใจว่า การคว้าแชมป์ลีกจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่นำทีมดังแห่งกรุงลอนดอน ก้าวสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง,เราเคยคว้าแชมป์ลีกได้ครั้งสุดท้ายในปี 2010 ซึ่งมันเป็นเวลาที่นานมากสำหรับการห่างเหินความสำเร็จ และนี่คือจุดสำคัญสำหรับรอยต่อของความสำเร็จระหว่างนักเตะยุคเก่า กับผู้เล่นยุคใหม่ของทีม มีเพียงผม จอห์น เทอร์รี และดิดิเยร์ ดร็อกบา เท่านั้น ที่อยู่กับทีมมาอย่างยาวนานในรอบทศวรรษ ผมสามารถพูดได้เลยว่าเชลซี จะก้าวขึ้นสู่ยุคใหม่ที่ยอดเยี่ยม ด้วยการคว้าแชมป์อย่างเด็ดขาดในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้,ทั้งนี้ โชเซ มูรินโญ เคยพาทีมสิงโตน้ำเงิน คว้าแชมป์มาแล้วก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง คือในปี 2005 และ 2006 ส่วนในครั้งล่าสุดที่ทำได้ในปี 2010 นั้น มาจากฝีมือการคุมทีมของ คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือมากฝีมือชาวอิตาลี
ปีเตอร์ เช็ก นายทวารมากประสบการณ์ของทีมเชลซี เชื่อมั่น การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการก้าวสู่ยุคใหม่ของทีมพลังหนุ่ม ภายใต้การคุมทีมคำรบสองของกุนซือชาวโปรตุกีส
null
ปีเตอร์ เช็ก,เชลซี,พรีเมียร์ลีก,โชเซ มูรินโญ,แชมป์พรีเมียร์ลีก 2014-2015,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์,สิงโตน้ำเงิน
https://www.thairath.co.th/content/496308
เจาะโจทย์ยาก ช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง ไขปมลึก จ่าแซม อดีตซีลสุดแกร่งเสียชีวิต
หลัง จ.อ.สมาน กุนัน จ.อ.สมาน อดีตซีล นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ ดำน้ำหฤโหด 12 ชั่วโมงจนหมดสติขณะดำน้ำกลับจากวางขวดอากาศ เข้าสนับสนุนการทำงานภายในถ้ำหลวง จากโถง 3 ไปสามแยก และเสียชีวิต เมื่อช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 6 ก.ค. 61,ทั้งที่ หน่วยซีล หรือ ชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองยุทธการ ของกองทัพเรือ ซึ่งถือว่าเป็นผู้แข็งแกร่ง เพราะผ่านการฝึกที่แสนหฤโหด ขึ้นชื่อในเรื่องการดำน้ำ และเป็นนักทำลายใต้น้ำชั้นครู อีกทั้งมีคู่บัดดี้ดำน้ำ แต่กลับเกิดเหตุการณ์สุดเศร้าเช่นนี้ จาก,คาร์บอนไดออกไซด์สะสมในถ้ำหลวงอาจอยู่ในภาวะเสี่ยง เตือนนักดำน้ำห้ามถอดหน้ากาก, ที่ทีมข่าวนำเสนอไปแล้ว,การดำน้ำในถ้ำ ยากกว่าดำน้ำปกติอย่างไร มีสัญญาณใดเตือนเมื่อตกอยู่ในสภาะขาดอากาศหายใจ, วันนี้ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ได้พูดคุยกับ ,นาวาเอกคมสัน วุฒิประเสริฐ, แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ใต้น้ำ กองเวชศาสตร์ใต้น้ำและการบิน กรมแพทย์ทหารเรือ มาอธิบาย เพราะถึงแม้การดำน้ำจะมีสถิติของความปลอดภัยในระดับสูง แต่การจะหลีกเลี่ยงอันตรายที่เกิดจากการดำน้ำก็เป็นสิ่งจำเป็นต้องเรียนรู้,โดย นาวาเอกคมสัน เริ่มอธิบายถึงสาเหตุของการเสียชีวิตใต้น้ำจากการดำน้ำในระดับภาคพลเรือนทั่วๆ ไป สถิติพบมากที่สุด คือ โรคประจำตัว ,ซึ่งโรคหัวใจเป็นอันดับหนึ่ง แต่ผลสรุปของนิติเวชก็จะสรุปว่าจมน้ำตาย เพราะเจอน้ำในปอด แต่เหตุที่นำไปสู่การจมน้ำจริงๆ ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด,และในสังคมดำน้ำของพลเรือนทั่วๆ ไป ที่ทำเป็น สปอร์ต ไดร์วิ่ง สคูบ้า หรือคนที่จะดำน้ำได้ ต้องเรียนให้ได้ใบประกาศนียบัตร หรือบัตรอนุญาตให้ดำน้ำก่อน โดยสถาบันการสอนดำน้ำ ,จะมีการตรวจสุขภาพเฉพาะแรกเข้าที่จะไปเรียนเท่านั้น ซึ่งระบบการเรียนการสอนการดำน้ำ จะมีเอกสารให้เซ็นรับรองตัวเอง ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นโรคดังต่อไปนี้ เช่น หอบ หืด ลมชัก โรคหัวใจ,อีกทั้งโรงเรียนจะขอใบรับรองแพทย์เพื่อเป็นหลักประกันว่า สามารถสอนดำน้ำได้ซึ่งจะรับรองครั้งเดียว แต่หากมีกรณีถ้าผู้สอนรู้มาก่อนว่าคนที่จะสอนเคยผ่าตัดหัวใจ เคยมีอุบัติเหตุ เกี่ยวกับสมอง อาจไม่มั่นใจก็ร้องขอให้ไปตรวจร่างกายและใบรับรองจากแพทย์เวชศาสตร์ใต้น้ำ ,ซึ่งเมื่อเรียนจบและได้ใบประกาศนียบัตร จะดำน้ำอีก 10-20 ปี ได้โดยที่จะเจ็บป่วยหรือไม่นั้น ก็สุดแล้วแต่เจ้าตัวสามารถทำได้โดยไม่ต้องขอใบรับรองแพทย์ยืนยันกับใครอีก,แต่สำหรับกลุ่มนักดำน้ำที่เป็นภาคราชการ ทหาร นักดำน้ำอาชีพ ที่ต้องดำลึกๆ ,จะมีการตรวจสุขภาพประจำปีตามวงรอบ ทุกๆ 6 เดือน หรือปีนึงตรวจที มาตรฐานสุขภาพจะเข้มงวดกว่า, โดยแพทย์เวชศาสตร์ใต้น้ำต้องทำการตรวจสอบประวัติว่าเคยเจ็บป่วย เข้า รพ. ด้วยกรณีใดบ้าง มีการผ่าตัด หรือเคยให้ยาที่จะมีผลไปเสริมฤทธิ์ กับการเปลี่ยนแปลงทางสรีระวิทยาใต้น้ำหรือเปล่า ทำให้สมรรถภาพการดำน้ำลดลง ด้านการตรวจสุขภาพของหน่วยซีล มีการตรวจประจำทุกปี,ก็จะมีการงดดำ จนกว่าสมรรถภาพร่างกาย ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อกลับมาแล้ว สามารถเทสต์ทดสอบร่างกายผ่าน ก็สามารถกลับไปดำต่อได้, นาวาเอกคมสัน อธิบายข้อแตกต่างสุขภาพภาคพลเรือน กับหน่วยซีล,ภารกิจดำน้ำช่วย 13 ชีวิตออกจากถ้ำในครั้งนี้ นาวาเอกคมสัน อธิบายว่า โดยปกติสภาพพื้นที่การดำน้ำ มีหลักๆ 5 แบบ คือ 1.ทะเล 2.ทะเลสาบ 3.ใต้น้ำแข็ง 4.คลอง 5.ถ้ำ,ซึ่ง ถ้ำ เป็นโจทย์ยากที่สุดของนักดำน้ำ เนื่องจากในถ้ำหลวงแสงสว่างเข้าไม่ถึง และภายในถ้ำถูกแบ่งเป็นซอกหลืบเล็ก บางจุดมีความกว้างเพียง 40 ซม. ต้องมีสุขภาพแข็งแรง เพราะต้องสามารถปลดหรือลากอุปกรณ์ใต้น้ำ ลอดตัวผ่านช่องแคบๆ เมื่อเจอเหตุการณ์คับขัน,สำหรับอุบัติเหตุที่นักดำนำภาคพลเรือน หรือหน่วยซีลอาจเกิดเหตุการณ์ดังกรณี จ.อ.สมาน นาวาเอกคมสันอธิบายว่า เหตุของการทำให้หมดสติใต้น้ำนั้นมีหลายสาเหตุ หลายกรณี เช่น อากาศปนเปื้อน อากาศหมด สำลักน้ำ ตกใจ, นาวาเอกคมสันกล่าว,ด้านปัญหาอากาศหมด สามารถตรวจสอบได้ทุกเมื่อขณะดำน้ำ เนื่องจากมีอุปกรณ์ pressure guage ซึ่งห้อยอยู่ที่คอถัง เป็นสายยาวต่อจากคอถังมาอยู่ที่ข้างตัว เป็นตัววัดความแรงดันอากาศที่เหลืออยู่ในถังว่ามีเท่าไหร่ ,โดยปกติถังอากาศทั่วๆ ไปจะอัดอากาศอยู่ประมาณ 200 บาร์ เมื่ออยู่ในระดับเส้นขีดแดงซึ่งมีอากาศอยู่ที่ประมาณ 50 บาร์ ควรยุติการดำและดำขึ้นผิวน้ำ,อัตราการใช้อากาศจะเปลี่ยนแปลงไปตามการหายใจและความลึก ถ้าเหนื่อยมาก หายใจถี่ เร็ว อากาศก็จะหมดไว,หัวใจสำคัญของการดำน้ำ คือความปลอดภัย หากเมื่อรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ไม่สบายตัวก็ไม่ควรฝืนดำต่อ, นาวาเอกคมสันชี้แนะ,ทั้งนี้อุปกรณ์ดำน้ำทั่วไปจะมีถังอากาศเพียง 1 ใบอยู่ได้ประมาณ 1 ชม. แต่การดำในถ้ำหลวงที่สลับซับซ้อน บางจุดมีพื้นที่เข้าถึงยาก ต้องมีอุปกรณ์พิเศษช่วย เช่น ถังอากาศที่อยู่ได้ 2-3 ชั่วโมง, อุปกรณ์ช่วยหายใจแบบพิเศษที่ไม่ทำให้เกิดฟองอากาศจนน้ำขุ่น และหมุนเวียนอากาศกลับมาใช้ใหม่ได้, หน้ากากคลุมทั่วใบหน้า, ไฟฉายใต้น้ำมากกว่า 1 ตัว, เชือกโรยตัว และเชือกกำหนดระยะ ซึ่งต้องมีคุณสมบัติทั้งลอยน้ำและจมน้ำ และบัดดี้ดำน้ำ, นาวาเอกคมสันกล่าว,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
การดำน้ำในถ้ำ ยากกว่าดำน้ำปกติอย่างไร มีสัญญาณใดเตือนเมื่อตกอยู่ในสภาวะขาดอากาศหายใจ ฟังคำตอบจาก นาวาเอกคมสัน วุฒิประเสริฐ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ใต้น้ำ และการบิน กรมแพทย์ทหารเรือ
สกู๊ปไทยรัฐ
นาวาเอกคมสัน วุฒิประเสริฐ,ถ้ำหลวง,13ชีวิตติดถ้ำหลวง,ทีมหมูป่า โค้ชเอก,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/scoop/1329102
สภาเห็นชอบตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทางบริหารจัดการการชำระหนี้ กยศ.
ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2562 ที่ผ่านมา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางในการบริหารจัดการการชำระหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กำหนดให้ กมธ. ชุดดังกล่าวมีจำนวน 49 คน แบ่งเป็นสัดส่วนของคณะรัฐมนตรีจำนวน 12 คน พรรคเพื่อไทย 10 คน พรรคพลังประชารัฐ 9 คน พรรคภูมิใจไทย 4 คน พรรคอนาคตใหม่ 6 คน พรรคประชาธิปัตย์ 4 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน พรรคเสรีรวมไทย 1 คน พรรคประชาชาติ 1 คน พรรคเศรษฐกิจใหม่ 1 คน พร้อมกำหนดกรอบเวลาดำเนินงาน 60 วัน สำหรับญัตติดังกล่าว ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ต่างเล็งเห็นถึงปัญหาเกี่ยวกับกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และเสนอเป็นญัตติจำนวน 10 ญัตติ ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา โดยผู้เสนอญัตติและคณะ อาทิ นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ นายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ ส.ส.ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย ที่ระบุถึงความสำคัญในการเสนอญัตติดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าการดำเนินการกองทุน กยศ. ซึ่งมีผู้กู้กว่า 5.6 ล้านราย แต่มีการชำระหนี้ร้อยละ 40 มีจำนวนผู้ผิดนัดเกือบ 3 ล้านคน คิดเป็นจำนวนเงินที่ยังไม่ได้รับการชำระกว่า 4 แสนล้านบาท จึงต้องการให้สภาทำการศึกษาหาแนวทางแก้ไขให้รอบด้าน ทั้งการศึกษาหาแนวทางให้กับกองทุนให้ได้รับการชำระหนี้ การหาทางออกให้กับลูกหนี้มีโอกาสใช้หนี้ให้กับกองทุนภายใต้ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่อาจทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง โดยเฉพาะการที่ลูกหนี้ส่วนใหญ่ยังไม่มีงานทำ ขณะที่ นายสฤษดิ์ บุตรเนียน ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคภูมิใจไทย อีกหนึ่งในผู้เสนอญัตติระบุว่า พรรคได้ทำการศึกษาและมีแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยการเสนอ ร่าง พ.ร.บ.กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่) พ.ศ. โดยมีสาระสำคัญ อาทิ กำหนดให้ผู้กู้ยืมเงิน ภายหลังที่สำเร็จการศึกษาแล้วอาจเลือกทำงานให้รัฐแทนการชำระเงินกู้ยืมที่ได้รับไปตามสัญญากู้ยืมได้ นอกจากนี้ ผู้เสนอญัตติหลายคนแสดงความเห็นว่าควรมีการตัดดอกเบี้ยปรับออกไปด้วย ทั้งนี้ ภายหลังการเสนอญัตติ ส.ส.ต่างอภิปรายแสดงความเห็นด้วยให้มีการตั้ง กมธ.ศึกษาหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว อาทิ นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า กยศ. ช่วยให้เยาวชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการศึกษา และช่วยสร้างบุคลากรขึ้นมาพัฒนาประเทศแล้วเป็นระยะเวลาหลายปี แต่การที่เยาวชนที่เคยกู้ยืมจำนวนกว่า 2 ล้านราย ที่ยังไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ ส่วนหนึ่งเนื่องจากความต่างทางฐานะ การประสบปัญหาหนี้สินครัวเรือน หากจะมีการพักชำระหนี้อย่างน้อย 3-5 ปี หรือการทำให้เงินกู้ดังกล่าวปลอดดอกเบี้ย รวมถึงตัดดอกเบี้ยปรับออก จะสามารถช่วยผู้ที่ติดหนี้กับ กยศ.ได้ ขณะเดียวกัน นายจิรเดช เสนอแนะให้มีการยกเลิกข้อกำหนดให้มีผู้ค้ำประกัน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางที่ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย เสนอ รวมทั้งมองว่าในอนาคตควรมีการยกเลิกกองทุน กยศ. แต่เปลี่ยนเป็นการให้เรียนฟรีต่อเนื่องถึงระดับอุดมศึกษา เพราะการลงทุนทางการศึกษานับเป็นการลงทุนแบบถาวรให้ประเทศ ขณะที่ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคอนาคตใหม่ ที่เห็นด้วยให้มีการจัดตั้ง กมธ. เพื่อช่วยหาแนวทางจัดการปัญหาดังกล่าว รวมทั้งควรจัดให้มีมาตรการที่ขยายผลไปถึงกระทรวงศึกษา ในการจัดการศึกษาได้เบ็ดเสร็จถึงระดับอุดมศึกษาวันเดียวกันนี้ (20 ธ.ค.) มติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร 354 เสียง ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ 49 คน กรอบเวลาศึกษา 60 วัน ด้านประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุ มอบเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรศึกษาล่วงหน้าเพื่อเตรียมการสำหรับใช้พื้นที่รัฐสภาใหม่ให้เหมาะสมในอนาคต
ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางบริหารจัดการการชำระหนี้ กยศ. รวมทั้ง
การเมือง,สังคม,การศึกษา,คุณภาพชีวิต
สภาผู้แทนราษฎร,กมธ. วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางในการบริหารจัดการการชำระหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา,กยศ.
https://prachatai.com/journal/2019/12/85621
มด มาวินได้จูบ ไนกี้ กวาง วางแผนแต่อด
กวาง-ดาริน, อุตส่าห์วางแผนมอมเหล้าพระเอก ,ไนกี้-นิธิดล, ในละคร ,เพลิงรักไฟมาร, แต่สุดท้ายกลายเป็นโดนนางเอก, มด-ณปภัช, ปาดหน้าไปกินเฉยเลย,ในฉากที่ ,อรดี (กวาง), มอมเหล้า ,วิษธร (ไนกี้), หวังปิดจ๊อบรวบหัวกินหาง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมเมาซักทีเลยใช้ไม้ตายแกล้งเมาดิบจน ,วิษธร, ต้องหาม จังหวะนี้ ,อรดี, แกล้งซุกไซ้นัวเนียจนเสียหลักล้ม ,วิษธร, ทับอยู่บนตัว ,อรดี, ทีนี้หญิงสาวเลยคลุกวงใน แต่พอดี ,ภัทร์ธีรา, เข้ามาขัดจังหวะเพราะจะเอาเอกสารมาให้ชายหนุ่มเซ็น ,วิษธร, ลุกขึ้น รีบแก้ตัวไม่มีอะไร แล้วเข้าประชิดตัว ,ภัทร์ธีรา, แย่งเอกสารในมือ เลยกลายเป็นได้จูบแทน ส่วนนังร้าย ,อรดี, ก็ได้แต่นอนอารมณ์ค้างเติ่งไป,ตอนซ้อม ผกก.บอก ,กวาง, ว่าขอเล่นใหญ่ไฟกะพริบเลยนะ ส่วนคู่ของ ,ไนกี้, กับ ,มด, ก็ขอจูบจริง สรุปแล้วงานนี้ ,ไนกี้, กำไร 2 ต่อ โดน,กวาง, ปล้ำก่อนจะมาจูบ ,มด, ด้าน ,กวาง, ก็แซวตัวเองขำๆว่า อุตส่าห์อ่อยพระเอกแต่โดนนางเอกมาตัดหน้าซะงั้น รมณ์เสีย (ฮา),พอถ่ายจริง ,กวาง, ใส่เต็มที่ ทำท่าเมาดิบซะเนียนนัวเนียกับ ,ไนกี้, จนล้มลงไปนอนบนโซฟา ขณะที่กำลังโน้มคอ ,ไนกี้, มาจูบ ,มด, ก็โผล่เข้ามาขัดจังหวะ ,ไนกี้, เด้งตัวขึ้นยืนทันทีรีบแก้ตัวจนลิ้นพันกัน แล้วทำเป็นเข้าไปแย่งเอกสารในมือ ,มด, แย่งไปแย่งมาปากดันไปจูบปาก ,มด, ซะงั้นตามชมได้คืนนี้ ทางช่อง 8.
ชีวิตนังร้ายช่างอาภัพ ดูตัวอย่าง กวาง-ดาริน อุตส่าห์วางแผนมอมเหล้าพระเอก ไนกี้-นิธิดล ในละคร เพลิงรักไฟมาร แต่สุดท้ายกลายเป็นโดนนางเอก มด-ณปภัช ปาดหน้าไปกินเฉยเลย!
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
เพลิงรักไฟมาร,ไนกี้ นิธิดล,กวาง ดาริน,มด ณปภัช,ละคร
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1001212
ปชป.เดือด อันวาร์ สาวไส้ ซัด พวกปัญญาอ่อน รมต.ไร้กระเเส -ส.ส.ประท้วงดะ
รมต.เจ้ากระทรวง สมาชิกประท้วงดะ -จุรินทร์ เตือนพาดพิงพรรคอื่นเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 ก.ค. ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถ.วิภาวดีรังสิต หลักสี่ กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการจัดการประชุมใหญ่สามัญพรรคประชาธิปัตย์ ประจำปี 2563 บรรดาแกนนำพรรค ส.ส. อดีต ส.ส. และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ ทยอยเดินทางเข้าร่วมประชุมอย่างคึกคัก ขณะที่ นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ที่ได้เดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซด์ฮาร์เล่ย์ ได้ถือหมวกกันน็อกมาด้วย พร้อมกับใส่โชว์ให้ผู้สื่อข่าวดู อ้างว่า ต้องพกหมวกกันน็อกมา เพราะกลัวโดนรุมในช่วงที่ตนเองจะแสดงความเห็นในช่วงวาระการประชุมเปิดแผนยุทธศาสตร์ แต่สุดท้ายนายอันวาร์ก็ถอดหมวกกันน็อกออก ไม่ได้ใส่เข้าร่วมประชุมแต่อย่างใดต่อมาเวลา 10.10 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเปิดการประชุม โดยมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมดำเนินการตามระเบียบวาระ อาทิ รายงานรายได้ประจำปีของพรรค และแผนยุทธศาสตร์พรรค เป็นต้น ช่วงหนึ่งนายจุรินทร์ ตอบคำถามนายชนะ รุ่งแสง นักการเมืองอาวุโสของพรรค ที่ถามว่า พรรคมีคนดี คนเก่ง ทำหน้าที่ และภารกิจอย่างภาคภูมิสมเกียรติมากน้อยเพียงใด ว่า มั่นใจว่าพรรคโตต่อไปได้ในอนาคต แต่ต้องวิเคราะห์ว่ามีปัจจัยใดบ้าง นอกเหนือจากอุดมการณ์ต้องมีผลงาน ความเป็นเอกภาพ ยืนยันพรรคมีอุดมการณ์อยู่ตามที่บรรพบุรุษพรรคสร้างไว้ แต่ด้วยโลกเปลี่ยน การเมืองเปลี่ยน อุดมการณ์ต้องบวกความทันสมัย ผลงานต้องเกิดจากการกระทำจริง ไม่ใช่คำพูด เข้าร่วมรัฐบาลวันนี้เพิ่งครบขวบปี ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ แม้เราจะมุ่งมั่นในอุดมการ์เพียงใด สร้างผลงานแค่ไหนถ้าขาดความเป็นเอกภาพ ก็ใช่ว่าจะนำพรรคไปสู่ความสำเร็จได้ เพราะความไม่เป็นเอกภาพคือตัวบั่นทอนพรรค ความเป็นเอกภาพทำคนเดียวไม่ได้ ขอให้ทุกคนจับมือ เป็นนำหนึ่งใจเดียวกัน เดินไปสู่อนาคตของพรรคร่วมกันต่อมา บรรยากาศในที่ประชุมเริ่มดุเดือดเนื่องจาก นายยอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี และรองเลขาธิการพรรรค ยกปัญหาต่างๆ มานำเสนอ ในรูปแบบพาวเวอร์พอยท์ ชำแหละปัญหาต่างๆ ของพรรคประชาธิปัตย์เป็นข้อๆ อาทิ มีแนวโน้มตกต่ำลงต่อเนื่อง ไม่มีวี่แววพลิกฟื้น เปลี่ยนโอกาสเป็นวิกฤติ แพ้เลือกตั้งสูญเสียที่นั่ง กทม.จนเหลือศูนย์ เหตุแห่งความตกต่ำมาจากประชาชนผิดหวัง ไม่สามารถลบล้างข้อครหาตราบาปเรื่องดีแต่พูด เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้เพื่อนได้ ภาพพจน์ของรัฐบาลเห็นชัดกันอยู่ว่า ดีหรือไม่ดี ทั้งกรณีของฌอน บูรณหิรัญ และม็อบเยาวชน เป็นพรรคร่วมรัฐบาล เราได้ทำหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตยแล้วหรือไม่ หรือว่าพรรคทำตามสั่ง เดิมพรรคก็ตกต่ำอยู่แล้ว แต่พอร่วมรัฐบาล ภาพลักษณ์จะเป็นอย่างไรต่อ ตนประกาศว่า ไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้นใน ครม. ไม่ต้องกังวลว่าจะแย่งของใคร มีข่าวลือที่เป็นเรื่องปัญญาอ่อน ตนไม่ใช่คนชั่ว ไม่ได้เป็นคนเก่งเหมือนกับคนที่เอามาพูด พวกนั้นเป็นคนที่เก่งแต่การนินทาลับหลัง แต่ตนต้องการไม่ให้พรรคเลือดไหล ทุกวันนี้หลายคนรู้ว่า พรรคตกต่ำ แต่ไม่เคยเสนอทางแก้ ใครออกมาเสนอก็โดนใส่ร้ายนายอันวาร์ กล่าวว่า รัฐมนตรีของพรรคทำงานเต็มที่แต่ไม่มีกระแส มีประเด็นหน้ากากอนามัย และสินค้าขาดตลาดช่วงโควิด ยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ในขณะที่พรรคล้มเหลว ตกต่ำในช่วงการเลือกตั้ง แต่นายจุติ ไกรฤกษ์ อดีตเลขาธิการพรรค กลับได้เป็นรัฐมนตรี ทั้งที่ภาคเหนือได้เพียงที่นั่งเดียว กระทรวงสาธารณสุข โดยนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข มีหลายคนบอกว่าทำงานเหมือนข้าราชการประจำ ส่วนกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีช่วยไม่มีพื้นที่ เพราะรัฐมนตรีแอ็กชั่นแรง ทั้งที่นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ก็ทำงานแต่ไม่มีกระแส ส่วนกระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.และรองหัวหน้าพรรค ทำโพลก่อนการเลือกตั้งมาว่า ตนไม่ผ่าน และลงสมัครเขตเลือกตั้งไม่ได้ และกรณีนี้เกิดขึ้นเช่นเดียวกับอีกหลายคน ซึ่งเป็นการทำโพลเพื่อคัดเลือกคนมาลงสมัครรับเลือกตั้งผิด เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พรรคแพ้การเลือกตั้งขณะที่ นายจุรินทร์ แย้งว่า นายอันวาร์ เป็น ส.ส. และรองเลขาธิการพรรค เวลาพูดอะไรต้องใช้ดุลยพินิจ ไม่ควรพาดพิงพรรคอื่น หรือคนอื่น ต้องไตร่ตรองว่าควรหรือไม่ควร แต่นายอันวาร์ยืนยันว่า สิ่งที่พูดเป็นไปตามข่าว จากนั้นนายอันวาร์จึงเปลี่ยนภาพสไลด์จากเพื่อไทย และก้าวไกล ที่แม้จะเป็นพรรคใหม่แต่คนเลือก เป็นคำว่า พรรคประชาธิปัตย์ควรแก้ที่คน ไม่ใช่แก้ที่โลโก้ พร้อมกล่าวต่อว่า ต้องทำให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นที่หวังและพึ่งได้ ยึดมั่นสัญญากับประชาชนและยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย พรรคจะเติบโตได้ต้องมีเนื้อหา และการสื่อสารที่เข้าถึง ถ้าวันหนึ่งประชาชนหันหลังให้เรา เราก็ไม่มีอำนาจนั้น ประชาธิปัตย์ หมายถึง ประชาชนคงไว้ซึ่งอำนาจอธิปไตย เราต้องคงสิ่งนี้ไว้ อำนาจอธิปไตย คือ อำนาจของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชนผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่นายอันวาร์แสดงความคิดเห็นนั้น บรรดาส.ส.ต่างลุกขึ้นประท้วงเป็นระยะ ว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นเรื่องในอดีต และเป็นเรื่องของกรรมการบริหารชุดที่แล้ว ไม่ควรมาพูดถึงคนที่ได้คะแนนน้อย และสิ่งที่พูดไม่อยู่ในประเด็น และยังมีสมาชิกพรรคอีกหลายคนลุกขึ้นประท้วงปกป้องหัวหน้าพรรค และเชื่อมั่นว่าพรรคจะกลับมายิ่งใหญ่ตามแนวทางของหัวหน้าพรรค.
ปชป.คึก อันวาร์ เดือด สาวไส้กันเอง ซัด พวกปัญญาอ่อนหาว่าอยากเป็นรมต. ขณะก่อนหน้า พก หมวกกันน็อก กลัวโดนรุม ด้าน จุรินทร์ ลั่น ปลุกความเป็นเอกภาพพรรค รมต.คนกันเองไร้กระเเส เป็นลูกไล่
ข่าว,การเมือง
พรรคประชาธิปัตย์,ปชป.,อันวาร์ สาและ,จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์,ประชุมใหญ่พรรค,ส.ส.ปัตตานี ปชป.,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1892727
เปลี่ยนเลขบ้านใหม่ถนนสุทธิสาร
หลังเปลี่ยนชื่อถนนเป็นอินทามระ-กทม.เร่งหารือกรมการปกครอง,เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ว่าที่ร้อยตรีภาณุพงษ์ สุทธิสาร ผอ.สำนักปกครองและทะเบียน กทม. เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาเปลี่ยนชื่อถนนสุทธิสารวินิจฉัยเป็นถนนอินทามระว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ได้มอบหมายให้สำนักงานกฎหมายและคดีหารือกับเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองสูงสุด ถึงแนวทางการปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการเปลี่ยนชื่อถนนว่ามีแนวทางอย่างไร เช่น หากศาลให้ กทม.เปลี่ยนชื่อถนนโดยไม่ต้องสำรวจความคิดเห็นประชาชน กทม.จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง หรือศาลให้สำรวจความคิดเห็นก่อนมีการเปลี่ยนชื่อถนน กทม.ต้องเตรียมข้อมูลอย่างไรบ้าง โดยที่ประชุมวันนี้ ได้หารือถึงการเตรียมข้อมูล และแผนรองรับทั้ง 2 กรณี นอกจากนี้ จะหารือกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ว่าการเปลี่ยนชื่อถนนสายนี้จำเป็นต้องปรับเรียงบ้านเลขที่ใหม่หรือไม่,ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมา กทม.เคยเปลี่ยนชื่อถนนหรือซอยหรือไม่อย่างไร ผอ.สำนักปกครองฯกล่าวว่า มีการดำเนินการเช่นนี้ค่อนข้างมาก สืบเนื่องจากมีการฟ้องร้อง หรือการร้องเรียน ทั้งนี้ กทม.จะกำหนดชื่อใหม่และวงเล็บชื่อเดิม อาทิ ซอยมหาดไทย ที่ประชาชนเรียกจนคุ้นเคย ตามทะเบียนที่กำหนดใหม่คือซอยลาดพร้าว 122 (มหาดไทย) หรือซอยนานา คือ สุขุมวิท 3 (นานา), ซอยเสือใหญ่อุทิศ คือ รัชดาภิเษก 36 (เสือใหญ่อุทิศ)
ว่าที่ร้อยตรีภาณุพงษ์ สุทธิสาร ผอ.สำนักปกครองและทะเบียน กทม. เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาเปลี่ยนชื่อถนนสุทธิสารวินิจฉัยเป็นถนนอินทามระ
ข่าว,ทั่วไทย
ภาณุพงษ์ สุทธิสาร,อินทามระ,อัศวิน ขวัญเมือง,สุทธิสารวินิจฉัย,คำสั่งศาล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1032109
ระวังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างศาลขอข้อมูลส่วนตัว หลอกโอนเงินผ่านเอทีเอ็ม
เมื่อวันที่ 8 พ.ย.60 นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดสงขลาได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก ว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพโทรศัพท์แอบอ้างตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรม หรือเจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดสงขลา เพื่อขอข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือข้อมูลการเงิน ซึ่งที่ผ่านมา พบพฤติกรรมในลักษณะนี้มาหลายครั้ง เช่น แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ศาลอาญาบ้าง หรือเจ้าหน้าที่จากศาลอื่นๆ ทั้งในรูปแบบระบบเสียงอัตโนมัติและบุคคลเป็นผู้โทรศัพท์ กลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้มักอ้างว่าเหยื่อได้รับหมายศาล แต่ไม่สามารถส่งหมายได้ ทำให้เหยื่อที่ได้รับโทรศัพท์ติดต่อส่วนใหญ่ตกใจ และกดหมายเลขเพื่อติดต่อกับมิจฉาชีพดังกล่าว เพื่อขอรับความช่วยเหลือ หลังจากนั้นมิจฉาชีพก็จะเสนอตัวเข้าไปให้ความช่วยเหลือ โดยหลอกลวงว่าจะตรวจสอบข้อมูลให้ บางรายหากหลงเชื่อ ก็อาจถูกหลอกให้ทำธุรกรรมผ่านเครื่องกดเงินสดอัตโนมัติ (ATM) หรืออินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง โดยให้โอนเงินเข้าบัญชี จึงขอเตือนไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านว่า อย่าหลงเชื่อ เพราะศาลยุติธรรมไม่มีนโยบายในการขอข้อมูลส่วนบุคคลผ่านระบบดังกล่าว,ในส่วนของการกระทำความผิดนั้น ศาลจะพิจารณากฎหมายเพื่อดำเนินการต่อไป ขณะที่ประชาชนผู้เสียหายหากถูกหลอกแล้วก็สามารถแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่มีการกระทำผิดเกิดขึ้นได้ทันที ซึ่งการกระทำลักษณะนี้หากได้ทรัพย์สินของผู้เสียหายไปก็เข้าข่ายฉ้อโกง.
โฆษกศาลยุติธรรม เผยศาลจังหวัดสงขลารับเรื่องร้องเรียนจำนวนมาก ย้ำ อย่าหลงเชื่อศาลไม่มีนโยบายถามข้อมูลส่วนตัว ปชช.แจ้งความได้ทันที
ข่าว,อาชญากรรม
แก๊งคอลเซ็นเตอร์,หลอกโอนเงิน,โฆษกศาลยุติธรรม,ศาลจังหวัดสงขลา,แอบอ้าง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1120415
จิตใจทำด้วยอะไร? โซเชียลแชร์ล่า ปาเจโร่ ชนอัด จยย.กระเด็น เหยียบซ้ำก่อนซิ่งหนีไม่ไยดี (คลิป)
เมื่อวันที่ 16 มี.ค.60 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Atiphat-Sirinawaphat Noom ได้โพสต์ข้อความร้องเรียนสังคมออนไลน์ หลังจากที่น้องชายประสบอุบัติเหตุรถชน ระบุข้อความว่า ที่ผมโพสต์นี่ไม่ได้ต้องการอะไรนะครับ ขอแค่คุณมารับผิดชอบในการกระทำของคุณ ผิดถูกดูในคลิปนะครับ คุณขับรถมาเหมือนถนนเส้นนี้เป็นของข้าคนเดียว มารับผิดชอบน้องผมด้วยครับ ลูก 2 ละต้องมาพิการอีก การกระทำของคุณอยากให้เขาตายเหรอ ซึ่งอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 14 มี.ค.60 บริเวณถนนเรียบน้ำปิง ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ รถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ ชนประสานงากับรถจักรยานยนต์ หลังจากเกิดเหตุ รถยนต์คันดังกล่าวได้เหยียบซ้ำและขับหนีไป โดยที่ไม่ลงมาดูเหตุการณ์ ส่วนคนขับจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บสาหัส,หลังจากมีการเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ผู้คนที่ได้ชมคลิปต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมการขับขี่ของรถยนต์คันดังกล่าว รวมทั้งช่วยกันแชร์ตามหาผู้กระทำผิดจำนวนมาก ขณะที่ทีมข่าว สายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ ได้สอบถามไปยัง นายอธิภัทร ศิรินวภัทร พี่ชายที่โพสต์คลิปน้องชายถูกกระบะชนแล้วหนี เปิดเผยว่า ในขณะเกิดเหตุมีผู้เห็นเหตุการณ์ว่ารถกระบะคันดังกล่าว ขับชนจักรยานยนต์แล้วไม่จอดลงมาดู แต่กลับขับเหยียบไปเลย ทำให้น้องชายได้รับบาดเจ็บสาหัส ยังคงนอนรักษาตัวในห้องไอซียู แพทย์ ระบุว่า ต้นขาหัก 2 ท่อน ต้องผ่าตัด 2 ครั้ง หลังเกิดเหตุเมื่อช่วง 5 ทุ่ม ของวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา และเมื่อวานนี้ พ่อของผู้ประสบเหตุ ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ล่าสุดตำรวจได้เบาะแสคนที่ขับรถชนแล้ว เนื่องจากมีพยานบุคคลในที่เกิดเหตุจดหมายเลขทะเบียนไว้ให้
โลกโซเชียลแห่แชร์คลิปตามล่าคนขับปาเจโร่ ชนประสานงาจักรยานยนต์ร่างกระเด็น แถมเหยียบซ้ำก่อนซิ่งหนีไปแบบไม่ไยดี
ข่าว
ปาเจโร่,จักรยานยนต์,ชนแล้วหนี,เชียงใหม่,โซเชียล
https://www.thairath.co.th/news/886696
อวยกันเอง พี่ริดจ์ ยก น้องลิ่ง หนึ่งในแข้งพรสวรรค์ที่สุดในโลก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 25 มิ.ย. ว่า ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ศูนย์หน้าทัพ สิงโตคำราม อังกฤษ อวย ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกรุ่นน้องของทีม คือหนึ่งในนักเตะที่มีพรสวรรค์มากที่สุดคนหนึ่งของโลก,ราฮีม สเตอร์ลิง ถูกวิจารณ์อย่างหนักกับฟอร์มการเล่นในศึกยูโร 2016 หลังทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังตลอด 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม,อย่างไรก็ตาม สเตอร์ริดจ์ ที่เคยค้าแข้งกับ สเตอร์ลิง สมัยยังค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล ก่อนจะถูกขายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวมโหฬาร 50 ล้านปอนด์ ยังเชื่อมั่นในฝีเท้าของรุ่นน้องรายนี้และยกให้เป็นหนึ่งในแข้งที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในโลก,มันเป็นเรื่องของเวลาก่อนที่คุณจะเห็นเกมของเขาก้าวไปสู่ระดับหนึ่ง และผมแน่ใจว่ามันจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้,เขาไม่ได้กังวลอะไรมากเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้คนพูด เขาต้องกังวลเกี่ยวกับเกมของเขา นั่นคือทุกอย่างที่เขาทำเคยทำมา เขาทำงานหนักมากในสนามซ้อมและเขาคือหนึ่งในนักเตะที่มีพรสวรรค์มากที่สุดคนหนึ่งของโลก,เราเห็นนักเตะที่เล่นให้กับชาติต่างๆ แต่คุณไม่สามารถเอ่ยชื่อนักเตะอายุ 21 ปีที่เล่นในทีมชุดใหญ่ในเกมระดับสูงสุดได้อย่างที่ราฮีมทำ สเตอร์ริดจ์ กล่าว,สำหรับ อังกฤษ จะหวดกับ ไอซ์แลนด์ ในรอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้ายยูโร 2016 วันจันทร์นี้
อวยกันหน่อย! ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ออกโรงยกย่อง ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกรุ่นน้องคือหนึ่งในแข้งที่มีพรสวรรค์ที่สุดในโลก
null
ยูโร 2016,อังกฤษ,สิงโตคำราม,ดาเนียล สเตอร์ริดจ์,ราฮีม สเตอร์ลิง,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/647274
ตร.นครปฐม คุมตัวหนุ่มเจ้าของเฟซบุ๊กป่วนห้างดัง พบถูกแฮกแต่เจอฉี่ม่วง
เมื่อเวลา 16.30 น.ของวันที่ 11 ก.พ.63 พ.ต.ท.ยงลิต ศุภผล รอง ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พร้อมชุดสืบสวน ได้เข้าเชิญตัวนายตนนท์ หรือมาร์ค สันฐิติรัตน์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/2 หมู่ 3 ต.ห้วยจระเข้ อ.เมืองนครปฐม เชิญตัวมาสอบสวน ถึงกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ใช้ชื่อตอนมีดีทุกคน ตอนหมดยืมกูอีก มีการโพสต์ภาพถืออาวุธปืนสงครามซ้อมยิง พร้อมเขียนข้อความกำกับ ว่า คิวต่อไปเซ็นทรัล ศาลายา ได้ข่าวว่าศาลายามียาเยอะ เตรียมยามาเยอะๆนะจ๊ะ และมีการส่งต่อไปกันในสังคมออนไลน์จำนวนมาก สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน กลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นมาอีก ทำให้มีการวิจารณ์กันอย่างหนาหู เตือนบุตรหลานไม่ให้ออกไปศูนย์การค้าฯ เพราะกลัวเหตุเกิดอันตรายจากนั้น พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้มอบหมายให้ กก.สส.ภ.จว.นครปฐม กก.สส.4 บก.สส.ภ.7 และสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม ออกตรวจสอบเฟซบุ๊ก ดังกล่าวจนทราบชื่อจริงและที่อยู่ จึงได้เชิญตัวมาสอบสวน ที่ ภ.จว.นครปฐม ในการสอบสวนนายตนนท์ ให้การปฎิเสธ โดยอ้างว่ามีคนนำเอาชื่อเฟซบุ๊กของตัวเองไปใช้ และถูกปลอมเฟซบุ๊ก โดยเมื่อก่อนเคยใช้เฟซบุ๊ก ชื่อว่า ตอนมีดีทุกคน ตอนหมดยืมกูอีก แต่ต่อมาได้เปลี่ยนเฟซบุ๊กใหม่มี2 บัญชี ได้แก่ ใครจะรู้ สิ่งที่ฉันเป็น และอีกเฟซบุ๊ก คือ มีงลองมาเป็นกู แล้วมึงจะเข้าใจจากนั้น ตร.ได้ตรวจสอบในเฟซบุ๊กที่โพสต์ พบว่า เฟซบุ๊กที่เขียนข้อความข่มขู่ห้าง เปิดใช้ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ก.พ.63 โดยในขณะที่ ตร.เชิญตัวนายตนนท์ มาสอบปากคำอยู่นี้ ยังมีการโพสต์โต้ตอบกัน ทั้งๆ ที่นายตนนท์ยังถูกสอบถามอยู่ สอบถามนายตนนท์ ได้เปิดเผยว่า เคยทำงานอยู่ที่ชลบุรี เมื่อ 5 ปี ก่อน เคยมีเรื่องการโกงหรือหลอกลวงขายอะไหล่รถยนต์ทางเฟซบุ๊ก และยังมีการทำธุรกิจกับเพื่อนที่ชลบุรีด้วย มีผู้เสียหายจำนวนมาก เลยหนีปัญหาปิดเฟซบุ๊กกลับมาอยู่บ้านที่นครปฐม โดยปฎิเสธข้อกล่าวหา แต่ไหนๆ ก็มาถึงแล้ว ตร.จึงนำตัวไปตรวจสอบปัสสาวะ ผลฉี่เป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหาในเบื้องต้น เสพยาเสพติด และให้ชุดสืบสวนออกติดตามหาผู้โพสต์ในเฟซบุ๊กตัวจริง นำตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว.
ตร.นครปฐม เชิญตัวหนุ่มหลายเฟซบุ๊กสอบ หลังมีการโพสต์ข้อความข่มขู่ก่อเหตุป่วนห้างดังย่านศาลายา สอบแล้วพบไม่ใช่เจ้าตัวโพสต์ แต่ถูกแฮกบัญชีไปก่อเหตุ เลยจับตรวจฉี่เจอฉี่ม่วงโดนดำเนินคดีตามกฎหมาย
ข่าว,อาชญากรรม
โพสต์เฟซบุ๊ก,โพสต์ข่มขู่,สภ.เมืองนครปฐม,ตำรวจนครปฐม,แฮกเฟซบุ๊ก,ห้างดังย่านศาลายา,ฉี่ม่วง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1769228
2 พี่น้องขี่จยย.ประลองความเร็ว เกี่ยวกันเองล้ม กระบะขับสวนทับดับคาที่
เมื่อกลางดึกของวันที่ 26 ต.ค. 62 ร.ต.อ.ปัญญา อามาตย์เสนา รองสว.สภ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุทางถนน สาย บางปะหัน-ป่าโมก จึงเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา,ทั้งนี้ พบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาย มีบาดแผลที่ใบหน้า และลำตัวอยู่ในลักษณะนอนคว่ำหน้าจมกลองเลือด ทราบชื่อต่อมาคือ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย คือ นายบี (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังพบกันชนรถกระบะสีขาว ห่างออกไปอีก 300 เมตร พบรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำอยู่กลางถนน 1 คัน ส่วนอีก 1 คัน ตกลงไปในพงหญ้าไหล่ทางถนน,นายบี เล่าว่า ตนกับน้องชายขับรถจักรยานนต์มาคนละคัน เพื่อจะขับกลับบ้าน โดยขับมาตามเส้นทางสายบางปะหัน-ป่าโมก ซึ่งเป็นลักษณะรถวิ่งสวนเลน จังหวะนั้นตนกับน้องชายขี่แข่งกันมา เกิดเสียหลักเกี่ยวกันเองจนรถล้มทั้งคู่ รถจักรยนต์ที่น้องชายขับล้มไถลตกลงไปในพงหญ้าข้างทาง แต่ตัวน้องชายตกอยู่กลางถนนอีกเลน,กระทั่งถูกรถกระบะลักษณะยกสูง สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน วิ่งมาชนซ้ำแล้วลากไปไกลกว่า 300 เมตร เสียชีวิตคาที่ ส่วนรถกระบะคันที่ชนขับหลบหนีไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะหัน จะทำการสอบสวนผู้บาดเจ็บอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุและติดตามรถกระบะคันดังกล่าว.
2 พี่น้องขี่จยย.ประลองความเร็ว เกี่ยวกันเองล้มกลางถนน ขณะที่กระบะขับสวนทางมาทับ เกี่ยวไปไกล 300 เมตร ดับคาที่ 1 ราย
ข่าว,สังคม
ประลองความเร็ว,ขี่รถแข่งกัน,แว้น,อยุธยา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1691158
ห้ามใช้ 2 สารเคมีโดยเด็ดขาด ผู้ครอบครองต้องรีบส่งคืนฝ่าฝืนโทษหนัก
มนัญญา ย้ำ 1 มิ.ย.63 ห้ามใช้ คลอร์ไพริฟอส-พาราควอต เด็ดขาด เกษตรกรที่มีในครอบครองต้องส่งคืนร้านค้าใน 90 วัน ส่วนร้านค้าต้องส่งคืนผู้ผลิต ผู้นำเข้าภายใน 120 วัน ขณะที่ผู้ผลิต ผู้นำเข้าต้องแจ้งปริมาณครอบครองภายใน 270 วัน ฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับน.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติในการห้ามใช้ (แบน) สารเคมีการเกษตร ให้กับหน่วยงานของกรมวิชาการเกษตร ว่า ตามนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ประกาศให้คลอไพริฟอส และพาราควอต เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ซึ่งห้ามการผลิต การนำเข้า การส่งออก การนำผ่าน หรือการมีไว้ในครอบครอง โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.63 จึงขอให้เกษตรกร ผู้ค้า ผู้จัดจำหน่าย ส่งคืนสารดังกล่าวให้กับร้านค้าที่ซื้อมาภายใน 90 วัน ส่วนไกลโฟเซต กำหนดให้จำกัดการใช้ ซึ่งกรมวิชาการเกษตร เป็นผู้ดูแลและรวบรวมดำเนินการต่อไปด้าน น.ส.อิงอร ปัญญากิจ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวว่า เมื่อประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2563 โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ได้ประกาศให้พาราควอต และคลอร์ไพริฟอส เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 (วอ.4) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.63 นั้น จะทำให้ใบทะเบียน ใบอนุญาตผลิต และใบอนุญาตครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 สิ้นสุดลงทันทีดังนั้น ผู้ที่มีพาราควอตและคลอร์ไพริฟอสไว้ในครอบครองก่อนวันที่ 1 มิ.ย.63 ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของกรมวิชาการเกษตร ดังนี้ 1.เกษตรกรต้องส่งคืนสารเคมีทั้ง 2 ชนิดให้ร้านค้าที่ซื้อมาภายใน 90 วัน หรือไม่เกินวันที่ 29 ส.ค.นี้ 2.ร้านค้าจัดจำหน่าย ต้องส่งคืนผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า และแจ้งปริมาณต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ภายใน 120 วัน หรือไม่เกินวันที่ 28 ก.ย.นี้ 3.ผู้ผลิตและผู้นำเข้าต้องแจ้งปริมาณต่อพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร เพื่อรวบรวมแจ้งปริมาณวัตถุอันตรายตามแบบ วอ./วก.5 ภายใน 270 วัน หรือไม่เกิน วันที่ 25 ก.พ.64 จากนั้นจะมีการกำหนดวัน วิธี และสถานที่ในการทำลาย โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นผู้ควบคุมการทำลายนอกจากนี้ ยังได้กำหนดแนวทางดำเนินการ เกี่ยวกับการจัดการ 2 สารเคมีดังกล่าวของผู้ครอบครองตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม โดยให้ปฏิบัติตามประกาศอย่างเคร่งครัด ผู้ฝ่าฝืน จำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมทั้งได้สร้างการรับรู้ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เกษตรกรผู้ใช้ ผู้รับจ้างพ่น ผู้ขาย ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก ผ่านช่องทางการรับรู้ต่างๆ ทั้งของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ เว็บไซต์ สารวัตรเกษตรอาสา เป็นตันขณะเดียวกัน ได้มอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติสำหรับสารเคมีเกษตรที่เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 และวัตถุอันตรายที่จำกัดการใช้แก่สารวัตรเกษตรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในเครือข่ายของสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 (สวพ.5) ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบในภาคกลาง และภาคตะวันตก 19 จังหวัดด้วย ทั้งนี้ จากการสำรวจร้านจำหน่ายสารเคมีใน 19 จังหวัด 3158 ร้าน จากทั่วประเทศ 16005 ร้าน พบว่ามีพาราควอต ประมาณ 700 ตัน จากทั่วประเทศ ประมาณ 8562 ตัน คลอไพริฟอส ประมาณ 103 ตัน จากทั่วประเทศประมาณ 697 ตัน และไกลโฟเชต ประมาณ 528 ตัน จากทั่วประเทศ ประมาณ 9019 ตัน.
มนัญญา ย้ำ 1 มิ.ย.63 ห้ามใช้ คลอไพริฟอส-พาราควอต เด็ดขาด เกษตรกรที่มีในครอบครองต้องส่งคืนร้านค้าใน 90 วัน ส่วนร้านค้าต้องส่งคืนผู้ผลิต
ข่าว,เศรษฐกิจ
พาราควอต,คลอร์ไพริฟอส,แบนสารเคมี,สารเคมีการเกษตร,แบนสารเคมีทางการเกษตร,สารเคมีกำจัดศัตรูพืช,ข่าววันนี้
https://www.thairath.co.th/news/business/1859149
ส.ว่ายน้ำดัน โปโลน้ำหญิง ชิงทองซีเกมส์อีกหลัง หลังโดนเจ้าภาพหั่นทิ้ง
สมาคมกีฬาว่ายน้ำฯ ประสานฟิลิปปินส์อีกรอบ หวังให้ โปโลน้ำหญิง กีฬาความหวังของไทย กลับมาบรรจุในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 เดือน ธ.ค.นี้ อีกครั้ง หลังเจ้าภาพตัดออกไปจากการประชุมมนตรีซีเกมส์ โค้ชตึก ธนาวิชญ์ โถสกุล เลขาธิการสมาคมฯ ทำหนังสือถึงเจ้าภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยอมรับไม่ใช่แค่โปโลน้ำหญิงที่ถูกหั่นออกไป กระโดดน้ำ ยังเหลือชิงแค่ 4 เหรียญทอง จากเดิมแข่งกัน 10 กว่าเหรียญทอง ส่วนระบำใต้น้ำก็ถูกตัดไปเลย ด้านว่ายน้ำ มีชิง 38 เหรียญทอง,ความเคลื่อนไหวการเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทย เพื่อเข้าร่วมมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-10 ธ.ค.นี้ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าเจ้าภาพไม่ได้บรรจุ โปโลนํ้าหญิง กีฬาความหวังของทัพนักกีฬาไทย เกี่ยวกับเรื่องนี้ โค้ชตึก นายธนาวิชญ์ โถสกุล เลขาธิการสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ยอมรับว่าไม่ใช่แค่โปโลน้ำหญิงเท่านั้นที่ถูกตัดออกไป เหลือแข่งขันเพียงแค่โปโลน้ำชาย ในส่วนของ กระโดดน้ำก็เหลือชิงแค่ 4 เหรียญทอง จากเดิมที่แข่งขันกันกว่า 10 เหรียญทอง ส่วนระบำใต้น้ำก็ ถูกตัดไปเลย ด้านว่ายน้ำจากปกติชิง 40 เหรียญทอง ก็มีเพียง 38 เหรียญทอง,กรณีของโปโลน้ำหญิงสมาคมไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ประสานฟิลิปปินส์ไปอีกรอบแล้ว เพื่อหวังให้กีฬานี้กลับมาบรรจุในซีเกมส์ครั้งนี้อีกครั้ง หลังจากเจ้าภาพตัดออกไปจากการประชุมมนตรีซีเกมส์ ครั้งล่าสุด โดยสมาคมได้ทำหนังสือถึงเจ้าภาพ เป็นที่เรียบร้อย ส่วนผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร คงต้องรอต่อไป แน่นอนว่าสมาคมจะทำอย่างเต็มที่ที่สุด นายธนาวิชญ์กล่าว,อนึ่ง สำหรับมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-10 ธ.ค.นี้ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เจ้าภาพจัดแข่งขันที่เมืองคาปาส จังหวัดคลาร์ก ชิงชัยถึง 56 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กีฬาหลัก กรีฑา, ว่ายน้ำ (ว่ายน้ำ-กระโดดน้ำ, โปโลน้ำ),กีฬาโอลิมปิก ได้แก่ เอเชียนเกมส์สปอร์ต ยิงธนู, แบดมินตัน, เบสบอล/ซอฟต์บอล, บาสเกตบอล, บิลเลียด, โบว์ลิ่ง, มวยสากล, แคนู/เรือประเพณี, หมากรุก, จักรยาน, ลีลาศ, ฟันดาบ, ฟุตบอล, กอล์ฟ, ยิมนาสติก, แฮนด์บอล, ฮอกกี้, ฮอกกี้น้ำแข็ง, สเกตน้ำแข็ง, ยูโด, คาราเต้, ปัญจกีฬาสมัยใหม่, มวยไทย, ปันจักสีลัต, โปโล, เรือพาย, รักบี้ 7 คน, เรือใบ/วินด์เซิร์ฟ, เซปักตะกร้อ, สเกตบอร์ด, ยิงปืน, ซอฟต์เทนนิส, สควอช, กระดานโต้คลื่น, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, เทนนิส, ไตรกีฬา, วอลเลย์บอล, ยกน้ำหนัก, มวยปล้ำ, วูซู,ส่วนกีฬาเลือกในกลุ่มที่ 3 ประกอบด้วย อาร์นิส, อี-สปอร์ต, ฟลอร์บอล, ยูยิตสู, คิกบ็อกซิ่ง, คูราช, ลอนโบว์/เปตอง, เน็ตบอล, ออบสตรักเคิล คอร์ส (วิ่งผ่านอุปสรรค), แซมโบ/โววีนัม, ฮอกกี้ใต้น้ำ, เวกบอร์ด.
สมาคมกีฬาว่ายน้ำฯ ประสานฟิลิปปินส์อีกรอบ หวังให้ โปโลน้ำหญิง กีฬาความหวังของไทย กลับมาบรรจุในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 เดือน ธ.ค.นี้ หลังเจ้าภาพตัดออกไปจากการประชุมมนตรีซีเกมส์
กีฬา,กีฬาอื่นๆ
โปโลน้ำหญิง,ซีเกมส์ 2019,โค้ชตึก,ธนาวิชญ์ โถสกุล
https://www.thairath.co.th/sport/others/1482373
ตูน วิ่งเข้าทับสะแก แจมร้องเพลงแสงสุดท้าย ยอดบริจาค 336 กว่าล้าน
แหม่ม-จินตหรา, ท็อป ดารณีนุช ร่วมวิ่งจนถึงเส้นชัยในเซตสาม รวมระยะทางกว่า 14 กม. ยอดบริจาคทะลุ 336 ล้านบาท,เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 พ.ย. นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม และคณะ ออกวิ่งในเซตที่สาม จากจุดตั้งต้นที่วัดอ่างทอง ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ วิ่งขึ้นถนนเพชรเกษม โดยมีจุดสิ้นสุดปลายทางที่ร้านคุณต้น ต.แสงอรุณ อ.ทับสะแก ระยะทางกว่า 14 กิโลเมตร ซึ่งตลอดเส้นทางมีประชาชนเข้าแถวเป็นระเบียบ รอมอบเงินบริจาคเข้าโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยขณะวิ่งผ่านโรงพยาบาลทับสะแก ได้มีบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ มารอให้กำลังใจ ซึ่งตูนได้เข้าทักทายและแจกลายเซ็น,นอกจากนี้ ได้มีคนพิมพ์ภาพตูนที่โหลดจากอินเทอร์เน็ต พร้อมข้อความให้กำลังใจ มายืนเชียร์ โดยเมื่อตูนวิ่งผ่านมาเห็น ได้เข้าไปพูดแซวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า รูปนี้ไม่ใช่ผมนะเป็นคนหน้าเหมือน คนในภาพเป็นอีกคนไม่ใช่ผม ก่อนที่ตูนจะหัวเราะ แล้วถ่ายภาพกับประชาชน และเดินไปรับเงินบริจาคจากประชาชนที่เหลือต่อไป,ด้าน น.ส.นนทรี ภิรมย์เจียว เภสัชกรโรงพยาบาลทับสะแก กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมากเพราะเงินที่ได้นำไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลที่ขาดแคลน ต้องยอมรับว่าอุปกรณ์การแพทย์มีราคาสูง ทำให้โรงพยาบาลส่วนใหญ่ขาดแคลน โครงการนี้จะช่วยเติมเต็มให้แต่ละโรงพยาบาลได้นำเครื่องมือเหล่านี้ไปใช้รักษาคนที่กำลังต้องการการรักษาได้จะส่งผลดีในระยะยาว,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ตูนวิ่งผ่านตัวอำเภอทับสะแกซึ่งเป็นย่านชุมชน ได้มีประชาชนหลายพันคน มายืนรอต้อนรับและบริจาคเงิน และมีการเล่นดนตรีร้องเพลงวงบอดี้สแลมเป็นการต้อนรับ กระทั่งตูน วิ่งมาถึงเพลงแสงสุดท้าย ได้ดังกระหึ่มขึ้น ทำให้ตูนอดใจไม่ไหวต้องเข้าไปร่วมร้องเพลง และยังช่วยปรับแอมในวงดนตรีเพื่อให้เสียงดีขึ้น สร้างความประทับใจให้กับกลุ่มนักดนตรี และชาวบ้านทับสะแกที่รอฟัง และส่งเสียงกรี๊ดให้กำลังใจ,จากนั้นเวลา 13.00 น. ตูน พร้อมหมอก้อง สรวิชญ์, ท็อป ดารณีนุช, แหม่ม จินตหรา, วุฒิ ภราด้า และ ก้อย รัชวิน ได้วิ่งเข้าเส้นชัยที่ ร้านอาหารคุณต้น ซึ่งยังคงมีประชาชนมารอบริจาคเงิน อาทิ ร้านอาหารคุณต้น 130,000 บาท และโรงเรียนอรุณวิทยา 31,999 บาท เป็นต้น ขณะที่ยอดบริจาค 336 กว่าล้านบาทแล้ว,ต่อมาในการวิ่งเซตที่ 4 ตูนและคณะ ออกวิ่งจากร้านอาหารคุณต้น อ.ทับสะแก มายังจุดจอดรถใกล้กับ โรงเรียนห้วยยางวิทยา ต.ห้วยยาง ระยะทาง 10 กิโลเมตร โดยได้แวะที่สภ.ห้วยยาง เพื่อรับมอบเงินจากน.ส.สุขตา เนตรงามผ่อง อายุ 68 ปี จำนวน 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นผู้บริจาคล้านแรกของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นแวะพัก โดยมีแฟนคลับ มายืนต้อนรับ,สำหรับเซตที่ 5 เริ่มจากจุดจอดรถใกล้โรงเรียนห้วยยางวิทยา ไปยังสหกรณ์โคนมไทยเดนมาร์ก บ้านเนินดินแดง ระยะทาง 13 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของวันที่ 26 พ.ย. รวมระยะทาง 60 กิโลเมตร.
ตูน บอดี้สแลม วิ่งเข้าทับสะแก อดไม่ได้ร่วมแจมร้องเพลงแสงสุดท้าย มีหมอก้อง-สรวิชญ์, แหม่ม-จินตหรา, ท็อป ดารณีนุช ร่วมวิ่งจนถึงเส้นชัยในเซตสาม รวมระยะทางกว่า 14 กม. ยอดบริจาคทะลุ 336 ล้านบาท
ข่าว,ทั่วไทย
ตูน,ตูนวิ่งเข้าทับสะแก,ยอดบริจาคก้าวคนละก้าว,ตูนวิ่งวันที่ 26 พ.ย.,ทับสะแก,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1136727
รถคีบอ้อย ขับไปคีบมัน พวงมาลัยมีปัญหาพลิกทับร่างลุง 63 ดับอนาถ
เวลา 15.00 น.วันที่ 4 พ.ค. ร.ต.อ.สุชาติ จรัสวรสุนทร รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร พร้อมหน่วยกู้ภัยข่าวภาพ ไปตรวจที่เกิดเหตุกลางไร่มันสำปะหลัง หมู่ 4 ต.คลองแม่ลาย อ.เมืองกำแพงเพชร พบรถคีบอ้อยยี่ห้อฟอร์ดตกจากถนนดินลงมาที่กลางไร่ ทับร่างนายหน่าย สอนพวง อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 4 ต.คลองแม่ลาย เสียชีวิตในสภาพศพนอนคว่ำหน้า ถูกรถคีบอ้อยทับตั้งแต่ช่วงแผ่นหลังลงไป,สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายหน่ายได้ขับรถไถของนางน้ำวน นิราพันธุ์ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน และมีศักดิ์เป็นน้องภรรยา หลังจากที่คีบหัวมันสำปะหลังได้สักพัก ได้ขับจะไปเข้าอู่ซ่อมเนื่องจากพวงมาลัยมีปัญหาบังคับไม่ค่อยได้ โดยขับมาตามทางดินมี ด.ช.ธนวัฒน์ นิราพันธุ์ อายุ 8 ขวบ ลูกชายผู้ใหญ่บ้านนั่งมาด้วย ถึงที่เกิดเหตุรถได้เกิดเสียหลักลงข้างทาง แล้วพลิกตะแคงทับนายหน่ายติดอยู่ใต้ท้องรถ ส่วน ด.ช.ธนวัฒน์ กระเด็นออกมาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย,หลังตรวจที่เกิดเหตุแล้ว ได้ใช้ลวดสลิงผู้กับรถบรรทุกสิบล้อแล้วดึงให้รถคีบอ้อยพลิกขึ้นมา จากนั้นนำศพออกมาจากใต้รถ หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ชันสูตรศพ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า คงเป็นเพราะพวงมาลัยรถขัดข้องบังคับไม่ได้ จนพลิกตะแคงทับคนขับตายคาที่ดังกล่าว. 
ลุงวัย 63 ปี ขับรถไปคีบมันสำปะหลังในไร่ แต่พวงมาลัยมีปัญหาเลยขับกลับจะไปซ่อม เกิดพลิกตะแคงทับเสียชีวิตอยู่ใต้รถ ลูกชายผู้ใหญ่บ้านวัย 8 ขวบ นั่งไปด้วยร่างกระเด็นออกมา รอดตาย
ข่าว,ทั่วไทย
รถคีบอ้อยคว่ำ,รถคว่ำทับคนขับ,รถไถคว่ำ,กำแพงเพชร
https://www.thairath.co.th/news/local/north/931593
สมัชชามนตรียุโรปออกรายงาน อันตรายของการสอดแนมประชาชน
อีกทั้งยังเป็นการใช้ทรัพยากรสิ้นเปลืองเปล่าประโยชน์เพราะไม่สามารถป้องกันเหตุก่อการร้ายได้จริง27 ม.ค. 2558 สมัชชารัฐสภาแห่งคณะมนตรียุโรป (Parliamentary Assembly of the Council of Europe หรือ PACE) เปิดเผยรายงานระบุว่า การสอดแนมประชาชนในวงกว้าง (Mass Surveillance) ถือเป็นภัยต่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรที่ควรจะนำมาใช้ป้องกันการก่อการร้ายจริงๆคณะกรรมการด้านกิจการกฎหมายของสมัชชารัฐสภาแห่งคณะมนตรียุโรปเปิดเผยรายงานดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาระบุว่าโครงการสอดแนมในวงกว้างและในเชิงรุกล้ำแบบที่กระทำโดยสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (NSA) ถือว่า เป็นภัยต่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ซึ่งเรื่องนี้เคยถูกเปิดโปงโดยเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตคนทำงานหน่วยข่าวกรองที่หลบหนีออกจากสหรัฐฯ มาได้หลายปีแล้วการสอดแนมละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานตามที่รับรองในอนุสัญญายุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชนซึ่งรับรองสิทธิในด้านต่างๆ เช่นสิทธิความเป็นส่วนตัว เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น สิทธิในการได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม และเสรีภาพในการนับถือศาสนาสมัชชา PACE ระบุว่าสิทธิดังกล่าวเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญของประชาธิปไตย การละเมิดสิทธิเหล่านี้โดยไม่มีการตรวจสอบควบคุมอย่างเหมาะสมตามระบบยุติธรรมถือเป็นภัยต่อหลักนิติธรรมรายงานขององค์กรยุโรประบุอีกว่าโครงการสอดแนมยังเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีค่าไปในทางที่สิ้นเปลืองและไม่ทำให้เกิดผลดีต่อความมั่นคงมากนักการสอดแนมในวงกว้างไม่แสดงให้เห็นว่าจะส่งผลต่อการป้องกันการก่อการร้ายได้ ซึ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านข่าวกรองยืนกรานไว้ในตอนนั้น การสอดแนมกลับเป็นการนำทรัพยากรที่ควรจะนำไปใช้ในการป้องกันการก่อเหตุไปใช้ในการสอดแนมวงกว้างแทน ทำให้บุคคลที่เป็นอันตรายกระทำการได้อย่างอิสระ PACE ระบุในรายงานนอกจากนี้หน่วยงานสอดแนมยังกระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงทางอินเทอร์เน็ตโดยการเจาะ ประตูหลัง ซึ่งหมายถึงการพยายามเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ผ่านระบบรับรอง การกระทำเช่นนี้สร้างความอ่อนแอให้กับระบบออนไลน์และอาจจะถูกกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสนำไปใช้ถ้าหากเครื่องมือเช่นนี้ซึ่งถูกพัฒนาโดยสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรตกไปอยู่ในกำมือของรัฐบาลเผด็จการอาจจะส่งผลให้เกิดหายนะได้ สมัชชา PACE ระบุในรายงานคณะกรรมการด้านกิจการกฎหมายของ PACE เรียกร้องให้มีการเก็บข้อมูลบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอมในกรณีที่ ศาลอนุญาตให้หมายค้นถ้าหากมีเหตุผลให้ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เรียกร้องให้มีการคุ้มครองผู้เปิดโปงการสอดแนมอย่างผิดกฎหมาย ให้มีศาลและรัฐสภามีอำนาจควบคุมหน่วยข่าวกรองมากกว่านี้ ให้ ประมวลกฎหมายการข่าวกรอง มีการนิยามลักษณะของพันธกิจร่วมกันซึ่งทำให้หน่วยสืบราชการลับเลือกจะเข้าร่วมด้วยได้ อีกทั้งยังเรียกร้องให้มีการสอบสวนผู้ใช้ระบบปฏิบัติการสอดแนมในวงกว้างภายใต้อำนาจของอนุสัญญายุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชนสมัชชา PACE แสดงความกังวลอีกว่าการสอดแนมในวงกว้างอาจจะส่งผลให้เกิด กฎหมายลับ ศาลลับ และการตีความกฎหมายลับแบบลับๆ ตามมาสโนว์เดนเคยกล่าวในการประชุมผ่านวิดีโอกับสมาชิกสมัชชา PACE เมื่อช่วงเดือน เม.ย. ปีที่แล้วว่า องค์กร NSA ตั้งเป้าหมายสอดแนมองค์กรเอ็นจีโอและกลุ่มประชาสังคมทั้งในและนอกสหรัฐฯก่อนที่ ระบบการสอดแนมในระดับอุตสาหกรรม จะเติบโตต่อไปเรื่อยๆ จนควบคุมไม่ได้ พวกเราจะต้องปฏิบัติการเพื่อทำให้การสอดแนมอยู่ภายใต้หลักนิติธรรม PACE ระบุในรายงานไม่มีใครที่ปลอดภัยและไม่มีอะไรที่ปลอดภัยจากการถูกถ้ำมองโดยประเทศของตัวเอง แม้กระทั่งตัวหน่วยข่าวกรองจากต่างชาติเองก็ไม่ปลอดภัย PACE ระบุในรายงานMass Surveillance Endangers Fundamental Human Rights: Report Common Dreams 26-01-2015
รายงานของสมัชชารัฐสภาแห่งคณะมนตรียุโรประบุ การสอดแนมประชาชนเป็นวงกว้าง เช่นการสอดแนมอินเทอร์เน็ต ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานหลายด้าน
ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน,ไอซีที
NSA,การสอดแนมมวลชน,สมัชชารัฐสภาคณะมนตรียุโรป,สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ,อินเทอร์เน็ต
https://prachatai.com/journal/2015/01/57636
พาณิชย์ ปิ๊งไอเดียทาบ ผู้สาวขาเลาะ เป็นพรีเซ็นเตอร์ช่วยแก้ ลำไยราคาตก
พาณิชย์ รับมือลำไยออกสู่ตลาดเดือนส.ค.นี้ ประสานโมเดิร์นเทรดและห้างสรรพสินค้า รับซื้อผลผลิตกระจายผ่าน 2,800 สาขาทั่วประเทศ พร้อมให้พาณิชย์จังหวัดระบายผลผลิตไปภาคอีสาน ภาคใต้ รวมถึงเร่งดันส่งออก ด้าน สนธิรัตน์ ปิ๊งไอเดีย ทาบ ลำไย ไหทองคำ เป็นพรีเซ็นเตอร์ช่วยโปรโมตอีกแรง,นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่และห้างสรรพสินค้า ได้แก่ เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี, แม็คโคร และท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต รวมกว่า 2,800 สาขาทั่วประเทศ เตรียมรับซื้อผลผลิตลำไยจากแหล่งผลิต เช่น ลำพูน เชียงใหม่ ที่จะออกสู่ตลาดมากในเดือนส.ค. เพื่อนำไปจำหน่ายในสาขาของห้าง โดยจะเร่งกระจายผลผลิตให้ได้โดยเร็ว ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้ขายผลผลิตได้ราคาดี และกระจายผลผลิตไปยังผู้บริโภค,นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดในภูมิภาคที่ไม่มีลำไย เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ ให้จัดหาสถานที่จำหน่ายลำไย เช่น ตลาดและร้านค้าที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมการค้าภายใน เช่น ตลาดต้องชม ตลาดกลาง และฟาร์ม เอาท์เล็ต ที่มีอยู่กว่า 300 แห่งทั่วประเทศ และยังขอให้กรมการค้าภายในส่งเสริมให้ผู้รวบรวมผลไม้ (ล้ง) และวิสาหกิจชุมชนที่มีศักยภาพกว่า 500 ราย เข้าไปช่วยกระจายผลผลิตด้วย,ส่วนการหาตลาดส่งออกรองรับผลผลิตลำไย ขณะนี้มีผู้ซื้อลำไยจากต่างประเทศเริ่มเดินทางเจ้ามาเจรจาซื้อขายลำไยแล้ว เช่น จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ที่มีข่าวดีที่รัฐบาลได้ออกใบอนุญาตนำเข้าให้แก่ผู้นำเข้ารายใหญ่ ทำให้เริ่มสั่งซื้อลำไยเพื่อส่งออกไปยังอินโดนีเซียแล้ว นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายลำไย โดยจะเน้นการขายผ่านทางออนไลน์ ทางเว็บไซต์ ,www.eastfruit.org, หรือ ,www.thaicommercestore.com, ซึ่งเว็บไซต์นี้นอกจากจะซื้อขายได้แล้ว ยังสามรถค้นหาข้อมูลสถานการณ์ผลผลิตได้ด้วย,ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ในการทำตลาดลำไยปีนี้ มีแนวคิดที่จะทาบทามนักร้องลูกทุ่ง ลำไย ไหทองคำ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในการจัดกิจกรรมโปรโมตลำไย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไยที่ขณะนี้ผลผลิตกำลังทยอยออกมา โดยรูปแบบการจัดกิจกรรมจะเหมือนกับการเชิญนักร้องชื่อดัง ทอม รูม 39 ในฐานะหน้ากากทุเรียนมาร่วมเปิดตัวการจัดกิจกรรมโปรโมตทุเรียนที่กระทรวงพาณิชย์จัดขึ้นก่อนหน้านี้,การจัดกิจกรรมโปรโมตลำไย กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดตัวไปแล้วที่ศูนย์การค้าพารากอน ซึ่งได้สั่งให้กรมการค้าภายในไปจัดกิจกรรมลักษณะนี้มาอีก 4-5 ครั้ง โดยจะเชิญลำไย ไหทองคำ มาร่วมโปรโมตด้วย,ขณะเดียวกัน กระทรวงฯ มีแผนผลักดันให้ร้านค้าของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่มีอยู่ประมาณ 20,000 แห่งทั่วประเทศ และร้านค้าของชุมชนเคหะ ที่มีอยู่ประมาณ 600 แห่ง ร่วมมือในการนำลำไยจากเกษตรกรมาขายในร้านค้า ซึ่งจะทำให้ลำไยมีช่องทางในการจำหน่ายได้เพิ่มขึ้น
พาณิชย์ รับมือลำไยออกสู่ตลาดเดือนส.ค.นี้ ประสานโมเดิร์นเทรดและห้างสรรพสินค้า รับซื้อผลผลิตกระจายผ่าน 2,800 สาขาทั่วประเทศ พร้อมให้พาณิชย์จังหวัดระบายผลผลิตไปภาคอีสาน ภาคใต้ รวมถึงเร่งดันส่งออก ด้าน สนธิรัตน์ ปิ๊งไอเดีย
ข่าว,เศรษฐกิจ
ลำไย ไหทองคำ,ลำไยราคาตก,กระทรวงพาณิชย์,อภิรดี ตันตราภรณ์,สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1018121
กลุ่มนักกฎหมายสิทธิฯ จี้ ตร.เผยรายชื่อ-สถานที่ควบคุม ผู้ถูกหมายจับตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
กลุ่มนักกฏหมายสิทธิมนุษยชน ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้เปิดเผยรายชื่อและสถานที่ควบคุมตัวของผู้ที่ถูกจับตามหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังเหตุการณ์เข้าสลายการชุมนุม นปช.วันที่ 3 มิ.ย.2553กลุ่มนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน มีจดหมายเปิดผนึก ถึงรักษาการผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้เปิดเผยรายชื่อ และสถานที่ควบคุม ของผู้ถูกจับตามหมายจับและควบคุมตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548เนื้อหาในจม. เปิดผนึกระบุว่า จากการสลายการชุมนุมโดนการใช้กำลังทหารและอาวุธสงครามของรัฐบาลเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมานั้นส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และในเวลาต่อมาศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกหมายจับและควบคุมบุคคลที่สงสัยว่าจะเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินในจม.กล่าวถึงข้อมูลจากเว็บไซต์ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางว่ามีหมายจับภายในเขตกรุงเทพฯ และในเขตสำนักงานตำรวจภาค 1 จำนวน 99 หมาย แต่ไม่มีรายชื่อของผู้ถูกจับและไม่ระบุสถานที่ควบคุมบุคคลดังกล่าว ตลอดจนไม่มีการรายงานถึงจำนวนและสถานที่ของผู้ถูกควบคุมตัวหรือมีหมายจับในสำนักงานตำรวจภาคอื่น ๆ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนแก่ผู้ถูกจับและญาติมิตรที่ไม่อาจทราบถึงสภาพความเป็นอยู่ของผู้ถูกจับ และไม่ทราบว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ทางกลุ่มนักกฏหมาย ทนายความและคนทำงานด้านสิทธิมนุษยชน ตามที่ระบุชื่อในจม. ได้แสดงความห่วงใยโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติต่อผู้ถูกจับกุมในลักษณะที่อาจมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ต้องได้รับความคุ้มครองตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights) ที่ประเทศไทยมีพันธกรณี โดยสิทธิมนุษยชนตามหลักการดังกล่าวสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาจากหลักการและเหตุผลดังกล่าว กลุ่มนักกฏหมายสิทธิมนุษยชนจึงเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกาศสถานที่ควบคุมบุคคลดังกล่าวที่อยู่ในอำนาจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกพื้นที่ที่ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้ญาติและทนายความสามารถติดต่อได้ทันที กลุ่มนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน วันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ขอให้เปิดเผยรายชื่อ และสถานที่ควบคุม ของผู้ถูกจับตามหมายจับและควบคุมตามพระราชกำหนดการบริหาร ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 รักษาการผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายหลังจากรัฐบาลได้เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ด้วยการใช้กำลังทหารและอาวุธสงครามเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง โดยได้รับการประณามและแสดงความห่วงใยจากประชาสังคมโลก อันเป็นที่ทราบกันทั่วไปนั้น ต่อมารัฐบาลโดยศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกหมายจับและควบคุมบุคคลที่สงสัยว่าจะเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจากการเวปไซด์ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีรายงานว่ามีหมายจับและควบคุมดังกล่าว ภายในเขตกรุงเทพมหานครและในเขตสำนักงานตำรวจภาค 1 จำนวน 99 หมาย แต่ไม่ปรากฏรายชื่อของผู้ถูกจับและไม่ระบุสถานที่ควบคุมบุคคลดังกล่าว ตลอดจนไม่มีรายงานของสำนักงานตำรวจภาคอื่นๆ ที่อยู่ในเขตท้องที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ว่ามีจำนวนผู้ถูกจับตามหมายและถูกควบคุมอยู่ที่ใด เช่นกัน ซึ่งการไม่ทราบรายชื่อผู้ถูกจับและการไม่แจ้งสถานที่ควบคุมผู้ถูกจับ ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน แก่ผู้ถูกจับและญาติมิตร ที่ไม่อาจทราบได้ว่าผู้ถูกจับ จะมีชีวิตอยู่หรือไม่ และไม่ทราบสภาพความเป็นอยู่ด้วย กลุ่มนักสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยนักกฎหมาย ทนายความและบุคคลที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชน ผู้มีชื่อท้ายจดหมายนี้ขอแสดงความห่วงใยต่อผู้ถูกจับกุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติต่อผู้ถูกจับกุมในลักษณะที่อาจมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานและต้องได้รับความคุ้มครองตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights) ที่ประเทศไทยมีพันธกรณี โดยเฉพาะมีสิทธิได้รับหลักประกันขั้นต่ำดังต่อไปนี้ ข้อ 7 ห้ามการซ้อม ทรมาน หรือปฏิบัติใดๆอย่างโหดร้ายไร้มนุษยธรรม ข้อ 9 ข้อ 2 ย่อย ต้องได้รับแจ้งถึงเหตุผลในการจับกุม ในขณะถูกจับกุม และจะต้องได้รับแจ้งถึงข้อหาที่ถูกจับ กุมโดยพลัน ข้อ 3 ย่อย มีสิทธิได้รับการพิจารณาคดีภายในเวลาอันสมควร หรือได้รับการปล่อยตัวไป มิให้ถือเป็นหลัก ทั่วไปว่าจะต้องควบคุมบุคคลที่รอการพิจารณาคดี ข้อ 14 มีสิทธิมีทนายความที่เลือกเอง หากไม่มี รัฐต้องจัดหาให้ ต้องได้รับการสันนิษฐานว่าไม่มีความผิด และมีสิทธิให้การหรือไม่ให้การด้วยความสมัครใจหรือไม่ให้การด้วยความสมัครใจ ต้องได้รับการพิจารณา คดีอย่างเปิดเผย รวดเร็ว โดยสื่อมวลชนสามารถเข้าสังเกตการณ์ได้ สิทธิมนุษยชนตามหลักการดังกล่าวสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จากหลักการและเหตุผลดังกล่าว กลุ่มนักสิทธิมนุษยชน จึงขอเรียกร้องต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนี้ 1. ขอให้ประกาศรายชื่อผู้ถูกจับกุมต่อสาธารณะ และประกาศสถานที่ควบคุมบุคคลดังกล่าว ที่อยู่ในอำนาจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกพื้นที่ที่ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้ญาติและทนายความสามารถติดต่อได้ทันที เพื่อป้องกันข้อครหาว่า รัฐบาลซ้อมทรมานผู้ถูกจับ และหากผู้ถูกจับเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บต้องได้รับการรักษา พยาบาลอย่างเหมาะสม ณ วันที่ 3 มิถุนายน 2553 น.ส.เยาวลักษ์ อนุพันธุ์ ทนายความ นายพิทักษ์ เกิดหอม นักกฎหมาย นายศราวุฒิ ประทุมราช ทนายความ น.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความ น.ส.ปรานม สมวงศ์ นักกฎหมาย นายนรินทร์ พรหมมา นักกฎหมาย
กลุ่มนักกฏหมายสิทธิมนุษยชน ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้เปิดเผยรายชื่อและสถานที่ควบคุมตัวของผู้ที่ถูกจับตามหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังเหตุการณ์เข้าสลายการชุมนุม นปช. วันที่ 3
สิทธิมนุษยชน,สังคม
International Covenant on Civil and Political Rights,กลุ่มนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน,จดหมายเปิดผนึก,พ.ร.ก.ฉุกเฉิน,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
https://prachatai.com/journal/2010/06/29866
ตกลงคลิปเก็บหวยอยู่ไหน? ทนายตั้ม ถามย้ำ ถ้าไม่มีต้องรับกรรมทั้งทีม
เมื่อเวลา 09.07 น. วันที่ 19 เม.ย. 61 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ถึงกรณี,หวย 30 ล้าน, ที่ปัจจุบันเรื่องราวยังไม่ถึงตอนจบ ว่า ข่าวว่าพยานเซียนผู้หยั่งรู้ทุกเรื่อง คงไม่ได้โชว์ฝีมือแล้วเพราะรู้มากเกิน มันสมองความจำเหนือนักศึกษาแพทย์ รู้ขนาดเจ๊เซี้ยมขายหวยเลขอะไรให้ใครบ้าง บอกให้หมดเลยครับว่าเจ๊แกขายหวยอะไร หวยรัฐหรือหวยเอกชน ให้เจ๊เอาหลักฐานมาโชว์ที่ศาลได้เลย ถ้าเจ๊ร่ำรวยจากหวยเอกชนก็ต้องให้ คสช. จัดการและต้องตรวจสอบการเสียภาษีตามกฎหมายด้วย,นับว่าเป็นความโชคดีที่พยานเซียนและครอบครัวคงจะไม่เดือดร้อนแล้ว และผมอยากเตือนพวกถั่วงอกด้วย มีคนเคยคิดแบบท่าน และได้รับผลไปแล้ว แต่ละคนคิดว่ามันง่าย โดยที่ไม่รู้ว่าคนอื่นเขามีดีอะไรบ้าง ถึงวันนั้นแล้วจะงง,สำหรับรายที่งอกมาเรื่อยๆ และเข้าใจผิดคิดว่าได้รับความคุ้มครองนั้น ผมบอกเลยว่าหากทุกอย่างเป็นเท็จและเบิกความเท็จ ผมจำเป็นต้องฟ้องทั้งอาญาและแพ่งครับ เมื่อท่านยอมเสี่ยง ท่านก็ต้องยอมรับชะตากรรมที่จะเกิดขึ้น,ผมไม่อยากโต้กับคำถามยั่วที่ไร้สาระ ตอนนี้ขอถามกลับเรื่องเดียวคือ คลิปที่ครูบอกว่าเห็นคุณลุงเก็บหวยนั้น อยู่ที่ไหน? ชาวบ้านเขาอยากดู ถ้าไม่มีก็รีบรับมาเลยว่าพลาดไปแล้ว และเรื่องคลิปนี้ผมต้องถามทุกศาลแน่ ถ้ามีก็เอา 30 ล้านไป ถ้าไม่มีก็ต้องรับกรรมทั้งทีม,ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ
ทนายษิทรา โพสต์ผ่านแฟนเพจ เตือนพยานใหม่หวย 30 ล้าน ที่งอกขึ้นมาเรื่อยๆ อย่าเข้าใจผิดว่าได้รับการคุ้มครอง ถามย้ำ คลิปก้มเก็บอยู่ไหน ลั่น ถ้าไม่มีต้องรับกรรมทั้งทีม
ข่าว,สังคม
หวย 30 ล้าน,ทนายษิทรา,ษิทรา เบี้ยบังเกิด,ทนายตั้ม,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1259267
ประชาชนร่วมถวายน้ำสรงพระศพเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
บรรยากาศการถวายน้ำสรงพระศพต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง มีประชาชนเดินทางมาร่วมพิธีกันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา โดยทุกคนบอกว่าทราบซึ้งในพระกรุณาธิคุณที่ทรงประกอบพระกรณียกิจเพื่อปวงชนชาวไทยมาโดยตลอดขณะที่นางปรานี มีสวัสดิ์ หนึ่งในผู้ที่มาร่วมถวายน้ำสรงพระศพ บอกว่ารู้สึกเสียใจเพราะถือเป็นการสิ้นพระชนม์ของพระราชวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งเธอได้คอยติดตามข่าวสาร และเฝ้ารอรับเสด็จพระราชวงศ์ทุกพระองค์มาโดยตลอดสำหรับพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพจะมีขึ้นเป็นประจำทั้งกลางวัน กลางคืน กำหนด 100 วัน ขณะที่สำนักนายกรัฐมนตรีออกประกาศให้หน่วยงานราชการ และสถานศึกษาลดธงครึ่งเสา 15 วัน เพื่อแสดงความไว้อาลัยต่อการสิ้นพระชนม์ และในวันจันทร์นี้ (1 ก.ค.) จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ เพื่อเตรียมความพร้อมการจัดพระราชพิธีพระศพให้สมพระเกียรติ
ประชาชนจำนวนมากต่างเดินทางมาร่วมถวายน้ำสรงพระศพต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี อย่างเนืองแน่น
สังคม
ถวายน้ำสรงพระศพ,ประชาชน,ประชุมคณะรัฐมนตรี,พระราชพิธีพระศพ,เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
https://news.thaipbs.or.th/content/25484
เด็กนักเรียนในสหรัฐฯเดินประท้วง ทรัมพ์
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เมื่อวานนี้ (11 พ.ย.2559) ตามเวลาท้องถิ่น นักเด็กเรียนหลายร้อยคนทั่วสหรัฐฯ ลุกออกจากห้องเรียนมาชุมนุมกันตามท้องถนน เพื่อประท้วงนายโดนัลด์ ทรัมพ์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่กลุ่มเด็กนักเรียน 250 คน จากโรงเรียนมัธยมเซาท์ ในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ลุกออกจากห้องเรียน และเดินขบวนอย่างสงบ ไปตามท้องถนนมุ่งหน้าสู่ย่านใจกลางเมือง เพื่อแสดงพลังต่อต้านนายโดนัลด์ ทรัมพ์ ที่คว้าชัยชนะในการเลือกต้้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เช่นเดียวกับในเมืองเดนเวอร์รัฐโคโลราโด ที่นักเรียนหลายร้อยคนพากันเดินออกจากห้องเรียน ไปชุมนุมประท้วงต่อต้านนายทรัมพ์ตามท้องถนน ส่วนที่เมืองเทย์เลอร์สวิล รัฐยูทาห์ เด็กนักเรียนหลายสิบคน จากโรงเรียนมัธยมปลายสองแห่ง ออกมาชุมนุมถือแผ่นป้ายที่มีข้อความต่อต้านนายทรัมพ์เช่นกัน ทั้งนี้ นับตั้งแต่ทรัมพ์ ชนะการเลือกตั้ง มีการชุมนุมประท้วงต่อต้านเกิดขึ้นในอย่างน้อย 10 เมือง ตั้งแต่เมืองบอสตันไปจนถึงเมืองเบิร์กลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยผู้ประท้วงพากันตะโกน ไม่ต้องการให้ทรัมพ์ เป็นประธานาธิบดี
ลุกลามถึงกลุ่มนักเรียนมัธยมในสหรัฐฯ หลายร้อยคน ออกมาร่วมประท้วง ทรัมพ์นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีคนใหม่
ต่างประเทศ
ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,โดนัลด์ ทรัมพ์,ประธานาธิบดี,สหรัฐอเมริกา,ประท้วง
https://news.thaipbs.or.th/content/257666
ขอโทษที่เคยมีส่วนทำพัง ต้น ดีเซมเบอร์ เข้าร่วมม็อบประชาชนปลดแอก
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 16 ส.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ บริเวณโดยรอบอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ยังคงมีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมกันอย่างคึกคัก พร้อมทั้งชูป้ายต่างๆ เช่น ไม่เอาเผด็จการ ให้มันจบที่รุ่นเรา อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ยุบสภา และร่างรัฐธรรมนูญใหม่ไม่เอื้อเผด็จการ พร้อมแสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงการชุมนุมในครั้งนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบดูแลความเรียบร้อยโดยรอบบริเวณ ก่อนที่แกนนำจะประกาศยุติการชุมนุมประชาชนปลดแอกในเวลา 22.41 น.ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก Pattara Choomthong หรือ ต้น Dezember มือกีตาร์วงดนตรีร็อกเมทัล โพรเกรสซีฟเดธเมทัลชื่อดังของเมืองไทย โพสต์ภาพการเข้าร่วมชุมนุมกลุ่มประชาชนปลดแอกที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมข้อความระบุว่าตั้งใจมาเพื่อแก้ไขที่พลาดไปในกาลก่อน เมื่อไม่สามารถแน่นอน ที่จะย้อนเวลาไป คงมีแต่วันข้างหน้าไม่รอช้า มาขับไล่เผด็จการพินาศไปประชาธิปไตยจงเจริญขอมีส่วนร่วมเล็กๆเพื่อผลักดันประเทศชาติให้พ้นจากอำนาจมืดที่มองเห็นTon Dezember ขอโทษที่เคยมีส่วนทำพังสำหรับนายภัทร ชุมทอง หรือต้น ดีเซมเบอร์ เคยเข้าร่วมการชุมนุม กปปส. ก่อนที่เจ้าตัวจะประกาศจุดยืนมาสนับสนุนระบอบประชาธิปไตย
ต้น ดีเซมเบอร์ มือกีตาร์วงดนตรีร็อกเมทัล โพรเกรสซีฟเดธเมทัลชื่อดังของเมืองไทย เข้าร่วมม็อบประชาชนปลดแอก พร้อมขอโทษที่เคยมีส่วนทำพัง ขณะที่เมื่อเวลา 22.41 น. แกนนำประกาศยุติการชุมนุมแล้ว
ข่าว,อาชญากรรม
ม็อบปลดแอก,ม็อบ 16 สิงหา,ชุมนุม 16 สิงหาคม,ชุมนุมนักศึกษา,แฟลชม็อบ,ต้น ดีเซมเบอร์,ต้น Dezember,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1911671
เลือกตั้ง2562 : เชียงใหม่เตรียมพร้อม 2590 หน่วยเลือกตั้ง
วันนี้ (23 มี.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการหาเสียงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. ใน จ.เชียงใหม่ น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ผู้ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดประตูเมืองเชียงใหม่มั่นใจในฐานเสียงพรรคเพื่อไทยใน จ.เชียงใหม่ และถึงแม้ว่าจะมีอดีต ส.ส.ของพรรคย้ายไปลงสมัครพรรคอื่นก็ไม่ส่งผลต่อคะแนนเสียง แต่ทางพรรคเพื่อไทยก็เดินหน้าหาเสียงกับประชาชนต่อเนื่องขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ผู้สมัครที่ถือว่าเป็นคู่แข่งคนสำคัญกับพรรคเพื่อไทยในเขตเลือกตั้งที่ 4 คือง นางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ ก็ลงพื้นที่หาเสียงโค้งสุดท้ายเช่นกันที่อ.สันทราย แม้ว่านางกิ่งกาญจน์ จะย้ายมาจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็เคยเป็น ส.ส.พรรคไทยรักไทย ซึ่งในเขตนี้มีนายวิทยา ทรงคำ พรรคเพื่อไทยเป็นคู่แข่งคนสำคัญขณะที่การเตรียมความพร้อมของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จ.เชียงใหม่ ซึ่งวันนี้กำหนดจ่ายบัตรลงคะแนนหีบบัตรลงคะแนน สายรัดหีบบัตร และอุปกรณ์ที่ใช้ในหน่วยเลือกตั้ง โดยจะจ่ายอุปกรณ์ทั้งหมดให้เสร็จภายในวันนี้ ทั้ง 2590 หน่วยเลือกตั้งนายเกรียงไกร พานดอกไม้ ผู้อำนวยการ กกต.ประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนและชี้เบาะแสการทุจริตซื้อเสียงและเจ้าหน้าที่กระทำการทุจริต ในจ.เชียงใหม่ แล้ว 14 เรื่อง ไต่สวนเสร็จสิ้นไปแล้ว 1 เรื่อง และส่งเรื่องให กกต.ส่วนกลางชี้มูลแล้วสำหรับการนับคะแนนวันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.) คาดว่าจะเริ่มได้เวลาประมาณ 18.00 น. เพราะหลังปิดหีบเลือกตั้งจะต้องตรวจนับผู้มาใช้สิทธิ์ และจำนวนบัตรลงคะแนนให้เรียบร้อยก่อนจะเริ่มนับคะแนน หากไม่ตรงกันจะต้องรายงานให้ สำนักงาน กกต.ทราบก่อน ว่าจะให้นับคะแนนต่อได้หรือไม่ขณะที่คุณภาพอากาศใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลายพื้นที่ก็ยังพบปัญหาฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) เกินค่ามาตรฐานหลายจุด ทั้งใน ต.ช้างเผือก พบค่าสูงถึง 162 และ ต.ศรีภูมิ มีค่าสูง 137 และเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ หลายคนใส่หน้ากากอนามัยป้องกันตลอดเวลา
จ.เชียงใหม่ เตรียมความพร้อม 2590 หน่วย เลือกตั้ง รับผู้ใช้สิทธิ์ 24 มี.ค. กกต.เชียงใหม่ เผย รับเรืองร้องเรียนทุจริตแล้ว 14 เรื่อง
การเมือง
เลือกตั้ง2562,เชียงใหม่,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/278646
หนุ่มตัดปาล์มผงะ ขาคนโผล่ แหวกหญ้าดูเจอศพ รีบซิ่ง จยย. แจ้งผู้ใหญ่บ้าน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 พ.ย. ร.ต.อ.อนันต์ พานิชกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุ พบศพคนถูกยิงเสียชีวิต ทิ้งศพหมกพงหญ้าพื้นที่ทำเหมืองแร่ยิปซัมใน ต.ทุ่งใหญ่ จึงไปสอบสวนพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีชา ปัญญาเลิศ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ พ.ต.ท.ชัยภัทร ศรีเรือง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ดร.ก่อเกียรติ ทองนุ่น สวป. พ.ต.ต.สมนึก สุวรรณวงศ์ สว.สส. ร.ต.ท.ชัยยันต์ อิทธิศักดิ์สกุล สายตรวจรถยนต์ 191 ตำรวจสืบสวนนอกเครื่องแบบ นพ.กันตภณ ขอพลอยกลาง แพทย์เวร รพ.ทุ่งใหญ่ และมูลนิธิศรัทธาสามัคคี,ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณลานกว้าง ทางเข้าพื้นที่ทำเหมืองแร่ยิปซัม พบศพนายวิรัตน์ หรือเอก สิงห์สิทธิ์ อายุ 36 ปี ชาวสวนยาง สภาพนอนหงายหน้าอยู่ในพงหญ้ารก มีหนอนไต่ยั้วเยี้ยที่ใบหน้าและตามร่างกาย ที่หัวไหล่มีบาดแผลถูกจ่อยิงด้วยปืนลูกซอง 1 นัด กระสุนเจาะเข้าเป็นกระจุกหมอนรองกระสุนฝังอยู่ในเนื้อบริเวณบาดแผล เจ้าหน้าที่ดึงออกมาเก็บเป็นหลักฐาน,ในที่เกิดเหตุ พบรองเท้าแตะสีดำตกอยู่ 1 คู่ ใกล้กันพบหลักฐานเป็นก้นบุหรี่จำนวน 4 มวน ไฟแช็กสีม่วง 1 อัน และซองบุหรี่เปล่าตกอยู่ 1 ซอง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานในการสืบหาตัวคนร้าย,สอบสวน นายวิระ จิตรนาวี ผู้ที่มาพบศพเป็นคนแรกกล่าวว่า ตอนสิบเอ็ดโมงขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านมาตัดผลปาล์ม มาถึงกำลังจะลงมือตัดปาล์มก็เหลือบไปเห็นขาคนโผล่ออกมาจากพงหญ้ารก จึงเข้าไปดูถึงกับตกใจพบว่าเป็นศพผู้ชายนอนเสียชีวิตจนขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลไปทั่ว ด้วยความตกใจกลัวรีบวิ่งไปขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้กลับบ้านไปแจ้งนายเลิศชาย ชูชาติ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ก่อนจะแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ,ด้าน นางอมรรัตน์ สิงห์สิทธิ์ ภรรยาผู้ตาย หลังทราบข่าวรีบรุดมาดูที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงพบรองเท้าแตะสีดำตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ถึงกับมั่นใจว่าเป็นของ นายวิรัตน์ สามี จากนั้นก็เดินเข้าไปดูที่ศพยิ่งมั่นใจเต็มร้อย เนื่องจากผู้ตายหายออกจากบ้านไปนาน 2 วัน จนเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เดินทางมาแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ทุ่งใหญ่ กระทั่งมาพบเป็นศพถูกฆ่าทิ้งในพงหญ้าห่างจากบ้านราว 2 กม.,สาเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า น่าจะถูกคนร้ายลวงออกมาจากบ้านกลางดึก เพื่อมาพูดคุยตกลงในเรื่องอะไรบางอย่าง แล้วเกิดผิดใจตกลงกันไม่ได้ ก่อนคนร้ายชิงลงมือใช้ปืนลูกซองจ่อยิงในระยะเผาขนจนขาดใจตาย หรือไม่ก็เรื่องโกรธแค้นส่วนตัว หลังสอบปากคำภรรยาผู้ตายที่ให้รายละเอียดไว้กับเจ้าหน้าที่ ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่กระจายกำลังติดตามตัวผู้ต้องสงสัยที่อยู่ด้วยกันในคืนก่อนเกิดเหตุ ที่ผู้ตายจะหายตัวไป แต่ทั้ง 3 คน ให้การปฏิเสธ และไม่มีพิรุธอะไร จึงได้ปล่อยตัวกลับไป.
หนุ่มสวนยางเมืองคอนชะตาขาด ถูกคนร้ายลวงออกจากบ้าน ใช้ปืนลูกซองจ่อยิงทิ้งหมกพงหญ้าพื้นที่ทำเหมืองแร่ยิปซัม ผ่านไป 2 วัน คนตัดปาล์มมาเจอศพ ตกใจรีบบึ่งมอไซค์แจ้งผู้ใหญ่บ้าน
ข่าว,อาชญากรรม
ฆ่าโหด,จ่อยิง,หนุ่มสวนยาง,นครศรีธรรมราช,เหมืองแร่,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1126222
เผาแล้ว สาวถูกฆ่าทิ้งเหวภูเก็ต พี่สาวน้ำตานอง ฝากเป็นอุทาหรณ์เลือกคู่ (คลิป)
ฆ่าทิ้งเหว,ในป่าลึกที่ภูเก็ต พี่สาวขอบคุณทุกฝ่ายที่ยื่นมือช่วยตามหาน้องสาวจนพบ ส่วนคดีความให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ฝากเป็นอุทธาหรณ์การเลือกคู่ครองในชีวิต ต้องมีสติ,เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 12 ก.ค. ที่ศาลาวัดไชยธาราราม หรือวัดฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพ น.ส.พิชชา นามผดุง อายุ 35 ปี สาวที่ถูกคนร้ายฆ่าห่อเสื่อ โยนทิ้งเหวในป่าลึกริม ถ.เหมืองเจ้าฟ้า ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบร่างเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยได้ตั้งบำเพ็ญกุศลทางศาสนามาตั้งแต่เมื่อค่ำวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา เพียง 1 วัน และมีกำหนดที่จะฌาปนกิจในช่วงเวลา 13.00 น. วันนี้,โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าของญาติมิตร ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่มาร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย และเมื่อถึงเวลา ญาติและเพื่อนๆ น.ส.พิชชา ได้ช่วยกันเคลื่อนศพจากศาลาสวดไปยังเมรุภายในวัดก่อนจะมีพิธีบังสุกุล จากนั้นได้ร่วมกันฌาปนกิจ โดยญาติจะนำเถ้ากระดูกกลับไปยังบ้านเกิดที่ จ.กำแพงเพชร เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป,ด้านนางบังเอิญ อ่อนโคราช อายุ 40 ปี พี่สาว น.ส.พัชชา กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สื่อมวลชน ผู้บริหารท้องถิ่น ที่ยืนมือเข้ามาช่วยเหลือในทุกๆเรื่อง รวมถึงขอบคุณไปยังประชาชนทั่วประเทศ ที่ให้กำลังใจครอบครัว หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จะเป็นอุทธาหรณ์ให้กับคนจำนวนมากในการเลือกคู่ครองและมีสติในการใช้ชีวิตร่วมกัน จากนี้ไปที่เหลือเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายบ้านเมือง,ขณะที่การสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด หลังจากศาล จ.ภูเก็ต อนุมัติออกหมายจับ นาย Papke Nico อายุ 36 ปี สัญชาติเยอรมัน แฟนหนุ่มของ น.ส.พิชชา เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและซ่อนเร้นศพ โดยพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง เจ้าของคดีได้นำหมายจับของศาล จ.ภูเก็ต และบันทึกการจับกุมเข้าแสดงต่อ นาย Papke ที่ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.วชิระภูเก็ต หลังใช้คัตเตอร์ปาดคอตัวเองจนได้รับบาดเจ็บขณะที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและชุดสืบสวน สภ.ฉลอง เข้าตรวจสอบ จนกระทั่งพบตัวนาย Papke โดยบังเอิญแล้วนั้น,ซึ่งในชั้นจับกุมนาย Papke ได้ให้การปฏิเสธ จึงได้ควบคุมตัวไว้ 48 ชม. ซึ่งระยะเวลาการควบคุมตัวจะสิ้นสุดในวันที่ 13 ก.ค.นี้ หลังจากนั้นถ้าแพทย์ลงความเห็นให้นาย Papke ออกจากโรงพยาบาลได้ พนักงานสอบสวนจะต้องนำตัวนาย Papke ไปขออำนาจควบคุมจากศาล เพื่อยื่นคำร้องขอฝากขัง-ผัดฟ้องต่อศาล และนำตัวนาย Papke ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ฉลอง ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.
เผาแล้ว สาวกำแพงเพชรถูกฆ่าทิ้งเหวในป่าลึกที่ภูเก็ต พี่สาวขอบคุณทุกฝ่ายที่ยื่นมือช่วยตามหาน้องสาวจนพบ ส่วนคดีความให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ฝากเป็นอุทธาหรณ์การเลือกคู่ครองในชีวิต ต้องมีสติ
ข่าว,อาชญากรรม
ฆ่าทิ้งเหว,ภูเก็ต,สาวกำแพงเพชร,แฟนเยอรมัน,ฌาปนกิจ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1002412
แอร์พอร์ตลิงก์ เด้งรับเหตุระเบิด งัดมาตรการสแกนกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร
เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2562 นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงก์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 2 สิงหาคม 62 ได้เกิดเหตุการณ์ระเบิดหลายจุดในเขตกรุงเทพมหานคร บริษัทฯ จึงได้เน้นย้ำมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งบริษัทฯ ได้ปฏิบัติมาโดยตลอดในการให้บริการแก่ผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนในการใช้บริการ,โดยมีมาตรการ ได้แก่ การเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสัมภาระผู้โดยสารบริเวณสถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี การเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลและวัตถุต้องสงสัยที่เข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าและบริเวณสถานีรถไฟฟ้า, เพิ่มกำลังพลชุดสุนัขตรวจวัตถุระเบิด (K9) เพื่อเข้าตรวจสอบวัตถุระเบิดภายในระบบรถไฟฟ้าและขบวนรถไฟฟ้า,นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มการตรวจใต้ท้องรถยนต์ และท้ายรถยนต์ที่จะเข้ามาในลานจอดรถสถานีรถไฟฟ้ามักกะสันด้วย,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,- ,รู้จัก ระเบิด แนะวิธีเอาตัวรอด เมื่อเจอสถานการณ์ฉุกเฉิน,- ,รวบ 2 ผู้ต้องสงสัย ซุกระเบิดเก๊หน้า สตช. เปลี่ยนชุดหนีลงใต้,- ,ด่วน เสียงดังคล้าย ระเบิด เจอวัตถุต้องสงสัยหลายจุด ทั่วกรุง,- ,ด่วน ระเบิด วัตถุต้องสงสัย ป่วนกรุง ไม่ถึง 24 ชม. อัปเดตหลายจุดแล้ว,- ,ประมวลภาพ เหตุระเบิดหลายจุดทั่วกรุง มีคนเจ็บ อีโอดีเร่งสอบ,- ,พบระเบิดป่วนกรุง นัดบึมพร้อมกัน พนักงานกวาดขยะเจ็บ2 เชื่อสร้างสถานการณ์ (คลิป)
หลังเกิดเหตุระเบิดหลายจุดในกรุงเทพฯ ล่าสุด รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงก์ เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสัมภาระผู้โดยสาร และบุคคลต้องสงสัยบริเวณสถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี และกำลังสุนัขตรวจระเบิด
ข่าว,เศรษฐกิจ
ระเบิดป่วนกรุง,วางระเบิด,แอร์พอร์ต ลิงก์,รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงก์,ตรวจค้นสัมภาระ,รักษาความปลอดภัย,บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1628758
หมายจับอีก 3 ราย คดี ม.112 เอี่ยว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์
ผบช.น.ยันเตรียมออกหมายจับเพิ่มตร.เครือข่ายอดีตผบช.ก. คดีบ่อนรัชดาฯ ยันมีข้อมูลและพยานหลักฐานชัดเจน ประสานต้นสังกัดพิจารณาโทษผกก.ปอศ.หลังเสนอหมายจับ24 ธ.ค. 2557 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น.เปิดเผยถึงกรณีบ่อนย่านรัชดา ที่มีกระแสข่าวออกมาว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว และได้อนุมัติขอหมายจับนั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติม ยืนยันว่าเป็นข้าราชการตำรวจ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าสังกัดใด หน่วยใด หากพบเบาแสะหรือข้อมูลที่ชี้ชัดจะดำเนินตามกฎระเบียบและกฎหมายทันที เพราะขณะนี้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลและพยานหลักฐานในการทำสำนวนแล้ว เพราะจะกล่าวหาใครลอยๆไม่ได้ คาดว่ามีข้อมูลพอที่จะออกหมายจับเพิ่มแน่นอน ส่วนกรณีออกหมายจับตามภาพสเก็ตซ์ 4 ใบ เป็นคนๆเดียวกัน 2 ใบ คือ ชายไม่ทราบชื่อ 2 ใบ และน.ส.กสิณา (สงวนนามสกุล) อีก 2 ใบ ซึ่งเป็นหมายจับของศาลธัญบุรี และศาลทหาร ที่มีความผิดมาตรา 112 ในพื้นที่สภ.คลองหลวงว่า เบื้องต้นได้ควบคุมตัวน.ส.กสิณา เพื่อนสาวคนสนิทของนายณรงค์ อัครพงษ์ปรีชา เครือข่ายอดีตผบช.ก.ไปฝากขังที่ศาลธัญบุรีแล้ว ส่วนผู้ต้องหาเป็นชายอีก 2 รายนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไปผบช.น. กล่าวว่า ส่วนกรณีการติดตามตัว พ.ต.อ.วรพจน์ พืชผล ผกก.ปอศ. ได้ออกหมายจับไปแล้ว จึงสั่งให้ชุดติดตามนำตัวมาดำเนินคดี เบื้องต้นยังไม่ได้รับการประสานจากต้นสังกัดว่าให้ผกก.คนดังกล่าวออกจากราชการ ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวจะต้องอยู่ในการพิจารณาของทางต้นสังกัดทั้งนี้หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดบช.น. กระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมาย และสอบสวนวินัยร้ายแรงทันที เว้นแต่ไม่ได้อยู่ในสังกัดบช.น. ซึ่งจะต้องให้ต้นสังกัดของข้าราชการตำรวจเป็นผู้พิจารณาขณะที่ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(โฆษก สตช.) กล่าวถึงกรณีการออกหมายจับเครือข่าย พล.ต.ท. พงศ์พัฒ์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(อดีตผบช.ก.) เพิ่มเติมอีก 4 ราย โดยยืนยันว่าทั้งหมดมีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับบ่อนการพนันชื่อดัง ย่านพระราม 9 รวมถึงมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายการพนันออนไลน์ใหญ่ที่สุดในประเทศ ประกอบด้วยนายตำรวจยศ พ.ต.อ. 2 นาย สารวัตร 1 นาย และรองสารวัตรอีก 1 นาย พนักงานสอบสวนต้องรวบรวมพยานอย่างแน่นหนา คาดว่าภายในวันนี้จะออกหมายจับทั้งหมดได้ส่วนการติดตามตัว พ.ต.อ. วรพจน์ พืชผล ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(ปอศ.) ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้ โดยต้นสังกัดได้ทำหนังสือให้ดำเนินการออกราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งคณะกรรมสอบสวนทางวินัยร้ายแรงทั้งนี้ มีรายงานว่าพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้ขออนุมัติหมายจับศาลทหาร ให้จับกุม น.ส.กสิณา (สงวนนามสกุล) เลขหมายจับ ก.152/2557 ในข้อหา ม.112 และความผิดต่อชีวิตและเสรีภาพ และวันเดียวกัน ศาลจังหวัดธัญบุรีได้อนุมัติหมายจับ น.ส.กสิณา (สงวนนามสกุล) ในข้อหา ม.112 อีกหนึ่งหมายเลขหมายจับ 934/2557 และหมายจับชายไทยตามภาพสเกตช์ไม่ทราบชื่อนามสกุลอีก 2 ราย เลขหมายจับที่ 935/2557 และ936/2557 เนื่องจากผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกับคดีการข่มขู่ให้ผู้เสียหายถอนตัวจากการสัมปทานโรงน้ำแข็งในตลาดไทท้องที่ สภ.คลองหลวง นอกจากนี้ น.ส.กสิณา ยังเป็นเพื่อนสาวคนสนิทของนายณรงค์
ผบช.น.ยันเตรียมออกหมายจับเพิ่มตร.เครือข่ายอดีตผบช.ก. คดีบ่อนรัชดาฯ ยันมีข้อมูลและพยานหลักฐานชัดเจน ประสานต้นสังกัดพิจารณาโทษผกก.ปอศ.หลังเสนอหมายจับ 24 ธ.ค.
เศรษฐกิจ
ตำรวจ,ประมวลกฏหมายอาญามาตรา 112,พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์,ม.112. ณรงค์ อัครพงษ์ปรีชา
https://prachatai.com/journal/2014/12/57125
ถนนใน จ.ฉะเชิงเทรา พังหลังซ่อมน้ำท่วม
ถนนภายในหมู่บ้านตั้งแต่หมู่ที่ 6 - หมู่ที่ 15 ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นถนนลาดยางแอสฟัลติกคอนกรีต สายเลียบคลอง15 ( ฝั่งตะวันตก) มีความเสียหายหลายจุด บางจุดผิวถนนหลุดล่อนเป็นทางยาว และกว้างเกือบเต็มพื้นผิวการจราจร ทำให้ผู้ที่สัญจรผ่านไปมา โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษด้านนายมนชัย โซ๊ะเฮง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงน้ำรักษ์ เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา ตำบลบึงน้ำรักษ์ ถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่ จึงได้สำรวจความเสียหายด้านโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมจัดทำแผนงานขอรับการช่วยตามโครงการช่วยเหลือฟื้นฟู เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ไป 12 โครงการ รวมทั้งโครงการซ่อมแซมถนนลาดยางผิวจราจรแอสฟัลติกคอนกรีต สายเลียบคลอง 15 (ฝั่งตะวันตก) ที่มีความกว้าง 5 เมตร ยาว 12945 เมตร วงเงินงบประมาณ 28.6 ล้านบาทซึ่งหลังได้รับการอนุมัติโครงการ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว ได้ใช้วิธีตกลงราคาพิเศษ กับห้างหุ้นส่วนจำกัด ทับทิมทองกิจโยธา ผู้รับเหมา ในวงเงิน 27.28 ล้านบาท โดยสิ้นสุดโครงการ เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่หลังเปิดใช้ถนนได้เพียงเดือนเศษ ก็เกิดความชำรุดเสียหายกับถนนสายนี้ขณะที่นางกุลสตรี บากาประเสริฐ หัวหน้าส่วนโยธา องค์การบริหารส่วนตำบลบึงน้ำรักษ์ ซึ่งเป็น 1 ในคณะกรรมการตรวจการจ้าง กล่าวว่า ได้ควบคุม และตรวจสอบงานอย่างใกล้ชิด เป็นไปตามหลักวิชาช่าง งานก่อสร้าง ซึ่งความชำรุดเสียหายที่เกิด ได้วิเคราะห์หาสาเหตุร่วมกันกับผู้รับเหมาว่าน่าจะมาจากความผิดปกติของเนื้อยางที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไป เนื่องจากช่วงนั้นมีความต้องการยางแอสฟัลติกค่อนข้างมาก จึงจำเป็นต้องสั่งมาจากหลายแห่ง คุณภาพอาจจะแตกต่างกัน หรืออาจเกิดจากการอ่อนตัวของพื้นผิวถนน จากน้ำที่ท่วมขังบนผิวถนนเป็นเวลานานซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นผู้รับเหมา และบริษัทผู้ขายยางได้รับปากจะดำเนินการแก้ไขในส่วนที่เสียหายให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน
ชาวบ้านตำบลบึงน้ำรักษ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ร้องเรียนให้สื่อมวลชนช่วยตรวจสอบถนนลาดยางที่สร้างเสร็จ และใช้งานได้เพียงเดือนเศษพังเสียหาย โดยนายก อบต.บึงน้ำรักษ์ ระบุว่าถนนสายนี้ เป็น 1 ใน 10 โครงการฟื้นฟูเยียวยาหลังน้ำลดของรัฐบาล ที่นายอำเภอบางน้ำเปรี้ยวเป็นคู่สัญญากับบริษัทรับเหมาโดยวิธีตกลงราคาพิเศษ วงเงินกว่า 27 ล้านบาท
ภูมิภาค
ฉะเชิงเทรา,ซ่อม,ตรวจสอบ,ถนน,น้ำท่วม,พัง
https://news.thaipbs.or.th/content/102777
จ่อหมายจับ พระสนิทวงศ์ เรียก 2 ครั้ง ยังไม่รายงานตัว
เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 3 มี.ค. ที่ บก.ตชด.ภ.1 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินทางมาประชุมประเมินสถานการณ์และแนวทางปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อติดตามจับกุมตัวพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร คดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกรมการปกครอง เข้าร่วมประชุมด้วย,พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวก่อนการประชุมเพียงสั้นๆ ว่า กรณีเตรียมดำเนินการกับ พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว,พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวว่า แม้ว่าที่ผ่านมา พระสนิทวงศ์จะปรากฏตัวให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอยู่เป็นประจำก็ตาม แต่กรณีของพระสนิทวงศ์แตกต่างจากนายอัยย์ เพชรทอง ซึ่งถูกดีเอสไอควบคุมตัวมาสอบปากคำ เพราะนายอัยย์มีพฤติการณ์กระทำผิดมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่นายอัยย์ยังฝ่าฝืนและเข้ามาในพื้นที่บริเวณวัดพระธรรมกาย เมื่อเจ้าหน้าที่พบเห็น จึงต้องเข้าทำการควบคุมตัวดังกล่าว,จากนั้นเวลา 10.10 น. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เดินทางออกจาก  บก.ตชด.ภ.1 ทันที หลังเข้าร่วมประชุมประเมินสถานการณ์ตรวจค้นวัดพระธรรมกายในช่วงเช้า โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง โดยอธิบดีดีเอสไอปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น เมื่อถูกซักถามถึงกรณีพระสนิทวงศ์,ต่อมาเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ และโฆษกดีเอสไอ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า จากกรณีที่ พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผอ.สำนักองค์กรสื่อสารวัดพระธรรมกาย ไม่มาปรากฏตัวแถลงข่าวเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา โดยส่วนตัวตนไม่ทราบสาเหตุ แต่ยืนยันว่า ดีเอสไอยังไม่ได้มีการควบคุมตัวพระสนิทวงศ์แต่อย่างใด พร้อมย้ำว่า พระสนิทวงศ์ ถูกออกหมายเรียกแล้ว 2 ครั้ง ฐานฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. หากไม่เข้ามารายงานตัว เจ้าหน้าที่ก็จะต้องดำเนินการออกหมายจับต่อไป,ส่วนการดำเนินการความผิดฐานยุยง พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ออกหมายเรียกกลุ่มบุคคลซึ่งเป็นอดีตการ์ดในการชุมนุมทางการเมืองในอดีตที่ผ่านมา และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องรวม 30 คน โดยฝ่ายกฎหมายได้แจ้งความดำเนินคดีกลุ่มบุคคลที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ไว้ที่ สภ.คลองหลวง จำนวน 16 คดี สภ.คลองห้า 14 คดี และกองปราบปรามอีก 2 คดี คดีทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากที่มีการประกาศใช้กฎหมายมาตรา 44 เข้ามาดำเนินการกับวัดพระธรรมกาย ทั้งนี้ยืนยันว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่จะเข้าเคลียร์พื้นที่บริเวณตลาดกลางคลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จในวันนี้  โดยเจ้าหน้าที่จะห้ามทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้อง รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดให้ออกจากพื้นที่ทั้งหมด เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนเข้าพื้นที่ควบคุม ซึ่งการเข้าเคลียร์พื้นที่ดังกล่าว จะส่งผลให้การทำงานของเจ้าหน้าที่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้มากขึ้น,การออกหนังสือเรียก 4 ผู้ประกอบการและผู้สนับสนุนในส่วนของเต็นท์ ที่เข้ามาทำการติดตั้งภายในพื้นที่ควบคุมพิเศษ ตามประกาศ คสช.ที่ 5/2560 เพื่อให้เข้ามาชี้แจงเหตุผลว่า ขณะนี้ได้มีผู้ประกอบการเดินทางเข้ามารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่แล้ว 2 ราย ส่วนอีก 2 ราย ยังไม่ได้รับการประสาน ทั้งนี้การออกหนังสือเรียกมานั้น เพื่อทำความเข้าใจถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งให้นำเต็นท์ที่มีการติดตั้งไว้ในบริเวณตลาดกลางคลองหลวงออกจากพื้นที่ทั้งหมดด้วย หากไม่มารายงานตัวก็จะต้องมีการดำเนินการตามกระบวนการต่อไป พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าว,เมื่อเวลา 11.15 น. ที่ตลาดกลางคลองหลวง พระสงฆ์จำนวนมากได้นั่งสวดมนต์ล้อมรอบบริเวณรอบเต็นท์ หลังจากมีกระแสข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จะสนธิกำลังเข้ารื้อถอนเต็นท์ทั้งหมดในตลาดกลางคลองหลวง,ด้านพระปลัดเสกสรรค์ อัตตทโม พระสงฆ์วัดพระธรรมกาย เผยต่อสื่อมวลชนว่า ได้รับกระแสข่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ทหารและดีเอสไอได้มีการดำเนินการกดดันเจ้าของเต็นท์ เพื่อจะเข้ามารื้อถอนเต็นท์ภายในตลาดกลางคลองหลวงแห่งนี้ พระและศิษยานุศิษย์วัด จึงเป็นห่วงและมานั่งขวางกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่รื้อถอนเต็นท์ เรามาสวดมนต์ปฏิบัติธรรม  ไม่มีจุดประสงค์อื่นใดๆ หากว่าทางเจ้าหน้าที่รื้อเต็นท์ไป ทางพระและญาติโยมที่มาร่วมทำบุญจะลำบาก จึงขอวิงวอนเจ้าหน้าที่อย่าสร้างเงื่อนไขใดๆ เราแค่มานั่งสวดมนต์บูชามหาธรรมกายเจดีย์ เนื่องจากหลวงพี่บวชที่วัดพระธรรมกาย แต่หากว่ามีการรื้อเต็นท์จริงๆ ทางพระและศิษย์ก็จะยังคงนั่งสวนมนต์อยู่ภายในตลาดแห่งนี้ จนกว่าจะเข้าวัดพระธรรมกายได้ เพราะพวกเราคิดถึงวัดของเราที่ร่วมกันสร้างมา.
ทรงศักดิ์ รองอธิบดีดีเอสไอ เผยจ่อหมายจับ พระสนิทวงศ์ ฐานฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. หลังเรียก 2 ครั้ง ยังไม่รายงานตัว ยันเคลียร์พื้นที่บริเวณตลาดกลางคลองหลวงให้เสร็จภายในวันนี้
ข่าว,ทั่วไทย
ธรรมกาย,ธัมมชโย,จับ ธัมมชโย,ออกหมายจับ,พระสนิทวงศ์
https://www.thairath.co.th/news/local/873141
หิ้ว วิศวกรยุ่น ฝากขัง คดีขนชิ้นส่วนระเบิด ขึ้นเครื่อง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 11 พ.ค. 61 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ได้ควบคุมตัว นายฮิราโน ทาเครุ ชาวญี่ปุ่น ลูกครึ่งอเมริกัน อายุ 28 ปี อาชีพวิศวกร อยู่ชมรมสะสมอาวุธ ผู้ต้องหาคดี มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในครอบครอง, พายุทธภัณฑ์หรือวัตถุอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานหรือบุคคลไปกับอากาศยาน, นำเข้ายุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งเเต่วันที่ 11-22 พฤษภาคม,โดยคดีนี้ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานดอนเมือง ตรวจพบวัตถุ ต้องห้าม ในกระเป๋าเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ขณะทำการเอกซเรย์กระเป๋าที่ช่องเอกซเรย์ เจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัวพร้อมกระเป๋าเดินทางมาทำการสอบสวนที่ สน.ดอนเมือง ส่วนย่อย จับกุมผู้ต้องหาเป็นชาวญี่ปุ่น ชื่อ Mr Hirano takeru อายุ 28 ปี หนังสือเดินทางประเทศญี่ปุ่นเลขที่ TK 6983130 จึงเเจ้งข้อหา มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในครอบครอง, พายุทธภัณฑ์หรือวัตถุอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานหรือบุคคลไปกับอากาศยาน, นำเข้ายุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม,ในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหา ให้การว่าได้เดินทางจากญี่ปุ่นมาท่องเที่ยวที่เวียดนาม และได้พบเห็นชิ้นส่วน ซองกระสุนปืน AK หรือ อาก้า และซองกระสุนปืน M16 เห็นว่าสวยดีเลยซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึก และได้ยังเดินทางมาประเทศไทยโดยก่อนขึ้นเครื่องได้สอบถาม สายการบินแล้วทางสายการบินตอบว่า สามารถนำชิ้นส่วนของอาวุธเหล่านี้ขึ้นเครื่องได้ จึงได้นำขึ้นเครื่องเข้ามายังประเทศไทย โดยนั่งเครื่องมาลงที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง ตั้งแต่วันที่ 25เมษายน 2561 และท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทย จนถึงวันนี้ ตนถึงกำหนดกลับญี่ปุ่นแล้ว จึงได้นำชิ้นส่วนซองกระสุนเหล่านี้ กลับไปเป็นที่ระลึกที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย แต่มาถูกจับเสียก่อน.
ตำรวจ สน.ดอนเมือง นำตัว วิศวกรหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน มาขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีมีเครื่องยุทธภัณฑ์ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ข่าว,อาชญากรรม
วิศวกรยุ่น,ฝากขัง,วิศวกรหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน,ยุทธภัณฑ์,ฮิราโน ทาเครุ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1278876
NISSAN ประกาศความพร้อมผลิตรถขับอัตโนมัติและไม่ปล่อยมลพิษ
CEO จอมโปรเจกต์ คาร์ลอส กอส์น แจงแนวทางเทคโนโลยีใหม่ของ Nissan และความร่วมมือสู่เป้าหมายลดการปล่อยมลพิษและความรุนแรงอุบัติเหตุบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ด้วยระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ในการควบคุมอีกต่อไป เผย 5 แนวทางหลัก ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกับองค์การสำรวจอวกาศ NASA บูรณาการอย่างไร้รอยต่อร่วมกับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติรถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf และการทดสอบครั้งแรกของระบบรถยนต์ที่ไร้คนขับของ Nissan,คาร์ลอส กอส์น ประธานบอร์ดและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Nissan Motor ได้แสดงปาฐกถาเกี่ยวกับความสำเร็จของเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ในอนาคต เพื่อลดการปล่อยมลพิษและการลดความรุนแรงของอุบัติเหตุบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ภายในงาน คอนซูมเมอร์ อิเล็กโทรนิก โชว์ (Consumer Electronics Show CES) – หรืองานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกประจำปี 2017 ณ ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา,คาร์ลอส กอส์น แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า Nissan ไม่ได้สร้างสรรค์เทคโนโลยีในแบบเดียวกับที่คนอื่นๆ ทำ หรือเก็บไว้สำหรับรถยนต์รุ่นสูงสุดแต่เราทำจากจุดเริ่มต้นเพื่อให้ความมั่นใจว่า เทคโนโลยีที่ดีสุดนี้มีการพัฒนาขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์ของการขับขี่ที่ดีกว่าให้กับทุกๆ คน ซึ่งนี่ไม่ได้เป็นวิธีการของ Nissan ที่จะสร้างรถในอนาคตเพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นวิธีที่เราจะสามารถเป็นผู้ผลิตรถยนต์สำหรับอนาคตอีกด้วย,กอส์น ประกาศ 5 แนวทางหลักสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีการเคลื่อนที่อัจฉริยะหรือ Nissan Intelligent Mobility ที่จะทำให้บริษัทบรรลุการพัฒนาไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ที่เสริมความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้ที่ใช้ท้องถนนร่วมกัน หรือ Intelligent Driving การขับเคลื่อนที่ให้พลังสะอาดและไร้ซึ่งมลพิษหรือ Nissan Intelligent Integration,1. เพื่อเร่งเวลาของการพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติให้ใช้ได้จริงในอนาคตอันใกล้ มร. กอส์น ประกาศความสำเร็จการร่วมพัฒนาเทคโนโลยีที่เรียกว่า Seamless Autonomous Mobility (SAM) หรือ การเคลื่อนที่อัตโนมัติแบบไร้รอยต่อที่พัฒนาจากเทคโนโลยีของแบบเดียวกับองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกาหรือ Nasa (NASA) ซึ่งเป็นพันธมิตรของ SAM โดยเป็นการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence - AI) สำหรับการสนับสนุนเพื่อช่วยให้ยานพาหนะสามารถดำเนินการตัดสินใจในสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงและสร้างการเรียนรู้ในระบบปัญญาประดิษฐ์นี้สำหรับเทคโนโลยีอัจฉริยะนี้จะช่วยให้รถยนต์แบบไร้คนขับจำนวนมากสามารถอยู่ร่วมกับรถยนต์ที่ยังใช้คนขับรถได้เร็วมากยิ่งขึ้น เป็นส่วนหนึ่งของการผสานเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมของนิสสันอีกด้วย,2.เพื่อขยายความสำเร็จของระบบขับขี่อัตโนมัติไปสู่ขั้นต่อไป มร.กอส์น ประกาศว่าในช่วงแรก นิสสันจะเริ่มต้นการทดสอบในประเทศญี่ปุ่นในปีนี้ ด้วยการกำหนดเป้าหมายของการพัฒนายานพาหนะแบบไร้คนขับสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์โดยทำงานร่วมกับ บริษัท ชั้นนำด้านอินเทอร์เน็ตของญี่ปุ่นอย่าง DeNA ซึ่งนิสสันจะมุ่งเน้นการทดสอบเพื่อก่อให้เกิดความสมบูรณ์แบบของเทคโนโลยีนี้และคาดหวังว่าในอนาคตการทดสอบจะขยายเพื่อครอบคลุมการให้บริการเชิงพาณิชย์ในช่วงของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงโตเกียวจะเป็นเจ้าภาพในปี 2020,3.นอกจากนี้ เพื่อสร้างความก้าวหน้าของระบบขับขี่อัตโนมัติ มร.กอส์น ยังได้ประกาศแผนการที่จะสร้างความเป็นผู้นำของนิสสันในเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าด้วยการเปิดตัวนิสสันลีฟ รุ่นใหม่ในเร็วๆ นี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญของการขับเคลื่อนที่ให้พลังสะอาดและไร้ซึ่งมลพิษของนิสสันหรือ Intelligent Power โดยรุ่นต่อไปของรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดของโลกอย่าง ลีฟ จะได้รับการติดตั้งเทคโนโลยี ProPILOT หรือระบบขับขี่อัตโนมัติ ที่ปัจจุบันออกแบบมาเพื่อสำหรับใช้บนไฮเวย์สำหรับการขับช่องทางเดินรถเดียว (automated single-lane highway driving),4.สำหรับการเชื่อมต่อของรถที่รวมระหว่างการขับขี่ที่เสริมความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้ที่ใช้ท้องถนนร่วมกัน กับการผสานเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคม มร.กอส์น ยังประกาศว่าภายใต้พันธมิตร Renault-Nissan จะยังคงความต่อเนื่องกับความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ในการพัฒนาเทคโนโลยีการเชื่อมต่อสำหรับรถยนต์ในอนาคตโดย มร. โอกิ เรดซิค รองประธานอาวุโสของพันธมิตร Renault-Nissan ด้านการเชื่อมต่อ (Ogi Redzic - Alliance SVP of Connected Cars) ได้สาธิตให้เห็นถึงวิธีการที่ เทคโนโลยีที่เป็นระบบผู้ช่วยเหลือส่วนบุคคล (personal assistant) อย่างไมโครซอฟท์ Cortana ช่วยทำให้การขับขี่มีประสิทธิภาพและราบรื่นมากขึ้น โดย Cortana เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่พันธมิตร Renault-Nissan และ Microsoft ค้นคว้าร่วมกัน,5. มร.กอส์น กล่าวเสริมว่า ในปัจจุบันนโยบายและสภาพแวดล้อมของการกำกับดูแลจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของทั่วทุกมุมโลก โดย มร.กอนส์ ยังประกาศความร่วมมือกับโครงการ 100 เมืองที่คงทนยั่งยืน หรือ 100Resilient Cities (100RC) ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มโดยองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรอย่างมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ในการช่วยให้แต่ละเมืองสามารถสร้างความยืดหยุ่นรอบด้านเพื่อความท้าทายการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพสังคม และเศรษฐกิจ ทั้งนี้นิสสันถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่ประกาศความร่วมมือกับโครงการ 100RC โดยจะช่วยให้เมืองวางรากฐานสำหรับระบบขับขี่อัตโนมัติ รถยนต์ไฟฟ้ารวมถึงบริการการเคลื่อนที่รูปแบบใหม่ๆ,Nissan ขอเชิญชวนภาคส่วนอื่นๆ ให้เข้าร่วมกับเรา ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีอี - คอมเมิร์ซ ผู้ให้บริการรถยนต์เพื่อการเดินทางในรูปแบบต่างๆ ผู้ประกอบการทั่วๆ ไปที่จะช่วยให้เราสามารถทดสอบและพัฒนายานพาหนะและบริการใหม่ๆ เพื่อให้นิสสันมั่นใจทุกๆ คนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดนี้และยังเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของทุกๆคน มร.กอส์น กล่าวในตอนท้าย.,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,[email protected],Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
CEO Nissan คาร์ลอส กอส์น ประกาศทิศทางเทคโนโลยีของ Nissan และความร่วมมือสู่เป้าหมายลดการปล่อยมลพิษและความรุนแรงอุบัติเหตุบนท้องถนนให้เป็นศูนย์
null
Nissan,Nissan Intelligent Mobility,Nissan Intelligent Integration
https://www.thairath.co.th/content/844891
3 ทหารบินตก ได้เป็นพลตรี จสอ.ยังโคม่า (คลิป)
ก่อนลำเลียงไปทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดอย่างสมเกียรติ เพราะถือว่าเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ส่วนกองทัพบกปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ชั้น และขอรับพระราชทานยศสูงขึ้น ได้เลื่อนยศเป็น พลตรี ทั้ง 3 นาย ขณะที่ จ.ส.อ.ช่างเครื่องผู้บาดเจ็บถูกย้ายไปรักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ หลังพบสัญญาณชีพไม่ค่อยดี กระดูกข้อมือขวาหัก กระดูกชายโครงร้าวและถูกไฟคลอกบริเวณใบหน้า หน้าอกจนถึงช่องท้อง,กรณีเครื่องบินตรวจการณ์แบบ CESSNA 182 หรือ U-17 จำนวน 6 ที่นั่ง กองกำลังนเรศวรตกบริเวณเทือกเขาพิกัด LB 956700 ใกล้บ้านห้วยทรายขาว ต.ห้วยผา อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เป็นพื้นที่ตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา ขณะบินลาดตระเวนทางอากาศเมื่อสายวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้นักบินและนายทหารเสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วย ร.ท.ณฤพล พุกทอง ร.ท.วโรจน์ แปลงกระโทก ทั้งคู่เป็นนักบินสังกัด พัน.บ.21 และ ร.ท.เขมราช ดวงแก้ว ผบ.มว.ปล.ที่ 1 ร้อย ร.1743 ฉก.ร.17 โดยศพผู้ตายยังเคลื่อนย้ายออกจากจุดเกิดเหตุไม่ได้ เพราะเป็นเวลามืดค่ำ ขณะที่ จ.ส.อ.นัฐชนันท์ เขื่อนแก้ว ส.ส่งกำลัง ร้อย ร.1743 ฉก.ร.17 ช่างเครื่อง บาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่ง รพ.ศรีสังวาลย์ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุเครื่องบินโหม่งโลกนั้น,เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 6 ก.ค. พ.อ.พิพัฒน์ ศรีทองพิมพ์ รอง ผบ.ฉก. กรมทหารราบที่ 17 กองกำลังนเรศวร นำกำลังทหาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิบรรเทาสาธารณภัย จ.แม่ฮ่องสอน และทีมแพทย์จาก รพ.ศรีสังวาลย์ กว่า 60 นาย เดินเท้าจากบริเวณตลาดการค้าจุดผ่อนปรนห้วยต้นนุ่น ต.ห้วยผา อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ไปยังหุบเขาบริเวณจุดเครื่องบิน U-17 ของกองทัพบกตกเพื่อกู้ศพนักบินและนายทหารรวม 3 ศพ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเดินเท้าร่วม 2 ชม. กว่าจะเข้าถึงที่เกิดเหตุ ห่างจากพรมแดนไทย-เมียนมา ประมาณ 4 กม.,เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ต้องโรยตัวลงไปนำศพขึ้นจากเนินเขาลึกประมาณ 6 เมตร นำมาพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล พร้อมนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป สวดถอนวิญญาณออกจากที่เกิดเหตุกว่าจะเสร็จพิธีใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมงเศษ จึงลำเลียงศพออกจากป่าได้ จากนั้นนำศพนายทหารทั้ง 3 นาย ไปยัง รพ.ศรีสังวาลย์ เพื่อแต่งศพก่อนนำไปยังท่าอากาศยานจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้ข้าราชการและนายทหารทำพิธีรดน้ำศพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าสลด ก่อนนำขึ้นเครื่องบินส่งศพไปยังกองบินที่ 41 จ.เชียงใหม่ ก่อนแยกย้ายไปทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด อย่างสมเกียรติ,เที่ยงวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตัดสินใจย้าย จ.ส.อ.นัฐชนันท์ เขื่อนแก้ว ทหารผู้บาดเจ็บจาก รพ.ศรีสังวาลย์ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์กองทัพบกไปรักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ หลังพบสัญญาณชีพไม่ค่อยดี กระดูกข้อมือขวาหัก กระดูกชายโครงร้าว และมีไฟคลอกบริเวณใบหน้า หน้าอกจนถึงช่องท้อง หลังเดินทางถึงทีมแพทย์นำเข้าห้องไอซียูรักษาเป็นการเร่งด่วน,พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ. กล่าวว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. แสดงความเสียใจต่อการสูญเสียในครั้งนี้ นับเป็นการเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่อย่างสมเกียรติ กองทัพบกจะให้การดูแลในทุกด้านอย่างเต็มที่และเหมาะสมที่สุดโดยเฉพาะการจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ การดูแลด้านสิทธิกำลังพลและการมอบเงินช่วยเหลือตามสิทธิของทางราชการ ในเบื้องต้นผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือโดยราว 1.6-1.9 ล้านบาท ตามสิทธิของแต่ละท่าน พร้อมกันนี้กองทัพบกได้ปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ชั้น และขอรับพระราชทานยศสูงขึ้นจะได้เลื่อนยศเป็น พลตรี วันเดียวกันจะมีการเคลื่อนย้ายศพ ร.ท.วโรจน์ กับ ร.ท.ณฤพลไปประกอบพิธี ทางศาสนา ที่ จ.ลพบุรี ส่วนศพ ร.ท.เขมราชจะเคลื่อนย้ายไปบำเพ็ญกุศลที่วัดเม็งรายมหาราช อ.เมืองเชียงราย,พล.อ.เฉลิมชัย ผบ.ทบ. กล่าวว่า เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่เราสูญเสียกำลังพล 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจของหน่วย ตามแผนป้องกันชายแดนของกองทัพภาคที่ 3 ด้วยการใช้เครื่องบินอากาศ บท.17 หรือ U-17 บินลาดตระเวนตามห้วงเวลาดูแลความมั่นคง หากมีการบุกรุก เขตแดน และภารกิจป้องกันยาเสพติด กับภารกิจการดูแลป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า ตนยืนยันสาเหตุเครื่องบินตกไม่ได้เกิดจากสภาพอากาศ แต่เครื่องอาจขัดข้อง แต่ยังหาสาเหตุไม่ได้ ทางศูนย์การบินทหารบกต้องดำเนินการหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ตนไม่ทราบในตรงนี้,เครื่องรุ่นดังกล่าวเราใช้งานมาตั้งแต่ปี 2524 มีจำนวน 9 เครื่อง ใช้งานไปด้วยดี และซ่อมไปด้วย ปัจจุบันสามารถใช้งานได้ 3 เครื่อง และที่ผ่านมาเราซ่อมบำรุงเครื่องตลอด 9 เครื่องก็ไม่มีปัญหาอะไร ผมจึงสั่งให้ศูนย์การบินทหารบกเร่งตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย ผบ.ทบ.กล่าวและว่า ส่วนการดูแลสิทธิของผู้ที่เสียชีวิตทั้ง 3 นาย ได้สั่งให้ปูนบำเหน็จ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศพิเศษ และสิทธิพิเศษต่างๆ เราต้องดูแลเต็มที่ รวมถึงดูแลครอบครัวด้วย การทำงานของทหารจะมีความเสี่ยงอันตราย ทั้งกรณีอดีตหน่วยซีลที่เสียชีวิตในภารกิจช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมีและเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้ ถือเป็นหน้าที่ของทหารที่จะต้องทำ แม้ว่าจะมีความเสี่ยง แต่ต้องทำด้วยความรอบคอบ,พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.แสดงความเสียใจกับครอบครัวของนายทหาร 3 นาย ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตรวจการณ์ U-17 กองกำลังนเรศวร ตกกลางป่าในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน สั่งการให้กองทัพดูแลเยียวยาครอบครัวของผู้สูญเสียอย่างดีที่สุด และจัดพิธีศพให้อย่างสมเกียรติ พร้อมเน้นย้ำว่าภารกิจทางทหารนั้นมีความเสี่ยงตลอดเวลา แต่เชื่อว่ากำลังพลทุกคนเต็มใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนเองเพื่อประชาชนและประเทศชาติ จึงอยากให้ครอบครัวของผู้สูญเสียจงภูมิใจในหน้าที่และความเสียสละ คนไทยทั้งประเทศจะยกย่องสดุดีในเกียรติคุณนี้ตลอดไป,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า สาเหตุเครื่องตกที่ จ.แม่ฮ่องสอน เกิดจากเครื่องยนต์ขัดข้อง ทำให้เสียการทรงตัว นักบินจึงนำเครื่องลงทันที เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ กองทัพบกได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อการสูญเสียบุคลากรของกองทัพบก แต่เราต้องมาดูว่า เครื่องบินลาดตระเวนรุ่นที่ตกมีทั้งหมดกี่ลำ เพราะเท่าที่ทราบอายุการใช้งานของเครื่องบินลาดตระเวนรุ่นดังกล่าว มีอายุการใช้งานมาแล้ว 37 ปี
เจ้าหน้าที่กู้ศพทหาร 3 นายประสบเหตุเครื่องบินตรวจการณ์ตกกลางหุบเขา จ.แม่ฮ่องสอน อย่างทุลักทุเล พร้อมนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป ทำพิธีนานร่วม 4 ชม. กว่าจะเคลื่อนย้ายศพออกมาได้สำเร็จ
ข่าว,ทั่วไทย
เครื่องบินตก,เครื่องบิน U-17,แม่ฮ่องสอน,เครื่องบินทหารตก,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1329277