title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
ธุรกิจเกมเมืองไทยไม่มีใครกำหนด นอกจาก เรา เท่านั้น
|
http://www.compgamer.com/home/343358,) เกี่ยวกับความต่อเนื่องในการรักษามาตรฐานของความยิ่งใหญ่ที่เคยทำได้ ที่กำลังถดถอยลงในช่วงปีที่ผ่านมา ก็มีกระแสรุมกระหน่ำซ้ำเติมจากเกมเมอร์ผู้ที่เคยมี Asiasoft ในหัวใจ ว่าทำไมทำอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วเรื่องแบบนี้มันอธิบายยากนะครับ ถึงแม้ว่าเราจะบอกว่าทำเพื่อลูกค้า เพื่อเกมเมอร์ หรือเพื่อวงการ แต่สุดท้ายมันก็ต้องมีนโยบายการหารายได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องเฉกเช่นที่เกมเมอร์หลายคนก็กำลังเป็นระหว่างการแบ่งเวลาเล่นกับทำงาน ซึ่งต้องเข้าใจในจุดนั้น เพราะนี่มันคือธุรกิจ ไม่ใช่การเล่นเพื่อเอาสนุกเหมือนอย่างที่หลายท่านคิด,ธุรกิจเกมบ้านเราบอกกันตรงๆ เลยว่า มันโตเร็วมาก เร็วจนขนาดที่ผมเองยังไม่คาดคิดเลยว่ามันจะมาได้ถึงขนาดนี้ แต่ก่อนสมัยยุคของเกมคอนโซลบอกเลยว่าโตยาก เพราะพวกแผ่นผีมีกันเกลื่อนเมือง ถึงแม้ผู้เล่นจะกว้างขวาง แต่รายได้มันไม่ได้ไปถึงมือของต้นทางอย่างผู้พัฒนาเลยแม้แต่แดงเดียว นอกจากร้านขายเกมเถื่อนที่กินกันจนอ้วนพุงกางกันเป็นแถบ เพราะความคิดที่อยากเล่นแต่ไม่ลงทุนของเกมเมอร์บ้านเรา,กลับกัน สมัยที่ยุคของเกมออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลในบ้านเรามากขึ้น แน่นอนว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างถูกต้อง เพราะไม่ต้องอาศัยการใช้แผ่น หรือต้องลงทุนอะไร ใช้เพียงแค่การเติมเงินเล่นรายเดือน (Air Time) หรือระบบซื้อขายไอเทม (Item Selling) เท่านั้น ที่เหลือเป็นหน้าที่ของผู้ให้บริการที่จะต้องมีแผน หรือนโยบายในการบริหารจัดการฐานลูกค้ากันเอง จะมีละเมิดกันบ้างก็เรื่องของพวกเซิร์ฟเวอร์เถื่อนที่เกมไหนดังเมื่อไรค่อยเจอกันก็แค่นั้นเอง,จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ถ้าจะให้ทำกราฟของธุรกิจเกมบ้านเรา คงจะพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง แผ่วบ้างอาจจะมี แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบมากมายนัก เพราะฐานลูกค้ายังเกาะกันเหนียวแน่น กลืนกินด้วยวัฏจักรของการเวียนว่ายตายเกิด นั่นคือมีคนเลิกก็ต้องมีผู้เล่นใหม่เพิ่ม เป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว ส่วนเกมเมอร์เองหน้าที่ก็คือเล่น และช่วยเหลือวงการด้วยการอุดหนุน เติมเงิน เพื่อสร้างรายได้ให้กับผู้ให้บริการ เมื่อเขาอยู่ได้เราก็มีเกมเล่น หลายครั้งนะครับที่ผมมักคิดว่าเติมไปทำไม เล่นฟรีก็ยังได้ แต่ลองมองมุมกลับ การเติมเงินของเราเล็กๆ น้อยๆ ไม่ต้องถึงกับมากมายขนาดที่ต้องอดมื้อกินมื้อ มันก็คือการช่วยเหลือและกระตุ้นวงการเกมบ้านเราวิธีหนึ่งเหมือนกัน,ทุกวันนี้หลายค่ายจะมีผู้เล่นที่เรียกว่า แฟนพันธุ์แท้ คือรักในตัวผู้ให้บริการ หรือรักในเกมที่เล่น พวกเขาเหล่านี้แหละครับที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจเกมของค่ายนั้นๆ ซึ่งพักหลังหลายเสียงมักบ่นเสมอว่า ผู้ให้บริการไม่เหลียวแลผู้เล่น การบริการห่วยแตก สนใจแต่ทำเงินมากกว่าสร้างความสัมพันธ์ ก็อย่างที่บอกตั้งแต่ต้น การทำธุรกิจเกมต้องมีรายได้ แต่หากทำทั้ง 2 อย่างควบคู่ อันนี้สิครับที่เรียกว่าบริหารเป็น และจะครองใจเกมเมอร์แบบไม่ยาก,อย่างเช่น Asiasoft พี่ผมเคยเขียนไปแล้วว่า กำลังถดถอย ความเป็นเบอร์หนึ่งมันหมดไปแล้ว นั่นเพราะการมาของหลายๆ ค่าย ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ Garena Thailand ที่ทำให้บัลลังก์ของ Asiasoft สั่นคลอน ถามว่าอะไรที่เป็นปัจจัยของการเปิดศึกในครั้งนี้ ตอบง่ายๆ นั่นคือ ความต้องการในการยืนอยู่แถวหน้าของวงการ ซึ่งทาง Garena Thailand ถึงแม้ว่าจะมีเงินถุงเงินถังจากนายทุกจากต่างประเทศ ก็ไม่ได้มีความได้เปรียบกว่า Asiasoft มากนัก เพราะถ้าหากจะทำกันจริงๆ เพียงแค่รายได้ของคนไทย ก็สามารถทำรายได้ขนาดพันล้านได้เช่นกัน แต่สิ่งที่ต่างกันนั่นคือ การบริหารคอมมูนิตี้ ที่ตอนนี้ทาง Garena Thailand เขาก็เน้นไปทาง E-Sports ที่คืนกำไรให้กับผู้เล่นด้วยการแจกเงินรางวัลหลักแสน ยอมเสียเม็ดเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเรียกแรงผลักดันอันมหาศาล ซึ่งแฝงมาด้วยคอมมูนิตี้ก้อนโตที่เราคาดการณ์ไม่ได้ด้วยซ้ำ ซึ่งผลที่ออกมาตอนนี้เห็นภาพชัดเจน ไม่ว่า Garena Thailand จะจัดอีเวนต์อะไรสักอย่าง เชื่อใจได้เลยว่าเกมเมอร์แน่นทุกตารางนิ้ว นั่นเพราะบุญกุศลที่เขายอมลงแรงลงทรัพย์มันย้อนกลับมาให้ผลที่ดีกับตัว Garena Thailand เอง,ส่วนทาง Asiasoft เอง ก็มีในส่วนที่ Garena Thailand ไม่มีเช่นกัน นั่นคือ การมีฐานผู้เล่นเกมแนว MMORPG อยู่ในมือ แน่นอนว่า Garena Thailand กำลังโหยหาในสิ่งนั้น และเป็นสิ่งเดียวที่ยังขาด หากจะให้ดีทาง Asiasoft เอง ก็ต้องรักษาฐานที่มั่นของตัวเองเอาไว้ นั่นคือ การใส่ใจผู้เล่นให้มากขึ้น คืนกำไรสู่เกมเมอร์ให้ได้ไม่ว่าวิธีไหนก็ตาม ซึ่งจุดนี้เองที่ Asiasoft กำลังพลาด เพราะหลายเกมครับที่ขึ้นชื่อว่าจะไปได้สวยในบ้านเรา แต่สุดท้ายเจอพิษสงของปัจจัยหลายๆ อย่าง ทำเอาผู้เล่นถึงกับร้องยี้ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาการเปิดที่หลายเกมมักถูกดองไว้ การจัดกิจกรรม หรือการส่งเสริมการเล่นในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการคุกคามจากพวกโปรแกรมช่วยเล่น บอทโปรต่างๆ ที่มักได้ยินเสมอว่า ไม่ค่อยใส่ใจในเรื่องของการปราบปราม ซึ่งจริงๆ อันนี้ก็ต้องเข้าใจนะครับ ว่าคนแก้โปรกับคนทำโปร คนทำมักเร็วกว่าเสมอ,ในขณะเดียวกัน ตอนนี้มีค่ายเกมหลายๆ ค่ายเปิดตัวขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นค่ายเกมจากต่างชาติเข้ามาลงทุนเอง เปิดเกมเอง ไม่ง้อขายเกมให้ไทยเหมือนแต่ก่อน ซึ่งตรงจุดนี้เองที่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเหมือนกัน เพราะไว้ใจได้ในเรื่องของการอัพเดตหลายๆ อย่าง แต่จุดอ่อนมีตรงที่จะทำอะไรแต่ละครั้ง จะมีขั้นตอนหลายขั้น เพราะต้องผ่านการตรวจสอบจากยานแม่ที่ต่างประเทศ หากเขาเข้าใจเกมเมอร์ไทยก็จะอนุมัติแบบไม่ยาก แต่หากไม่เห็นดีเห็นงาม หรือไม่เเห็นตรงกับเกมเมอร์ไทยเมื่อไร งานนี้ก็มีโอกาสยวบเอาง่ายๆ ที่เหลือก็แค่หวังพึ่งการตลาด หรือผู้มีสิทธิ์มีเสียงในสาขาที่ไทยเท่านั้นว่าจะโน้มน้าวใจ เกลี้ยกล่อมให้เขาเน้นอะไรบางอย่างที่ถูกใจเกมเมอร์ไทยให้ได้เท่านั้นเอง,หากมองภาพรวมตอนนี้ วงการเกมบ้านเรายังโตได้เรื่อยๆ ขอเพียงแต่ผู้ให้บริการแต่ละค่ายคอยปรับตัวเองให้เข้ากับยุคสมัยเท่านั้น การยึดถือปฏิบัติแบบเดิมมันก็ดี แต่บางทีมันใช้ไม่ได้ผลในยุคนี้ หลายค่ายเริ่มที่จะปรับเปลี่ยนแนวคิดแบบเดิม เปิดโอกาสแก่คนรุ่นใหม่ กับแนวคิดใหม่ๆ เพื่อหวังที่จะสร้างฐานที่มั่นคง ซึ่งการแข่งขันในเรื่องของธุกิจมันจะส่งผลดีกับผู้รับอย่างเราๆ แต่หากว่า การแข่งขันเป็นไปอย่างไม่ขาวสะอาด มีการเตะตัดขาหรือส่อที่จะจิ้มแทงกันข้างหลังจนเหลือเพียงแค่ใหญ่คับฟ้าแค่รายเดียว เชื่อเถอะว่าวงการนี้ก็จะถึงจุดจบ เพราะไม่มีใครที่จะมากระตุ้นให้คนที่อยู่สูงสุดพัฒนาตัวเองต่อไป สุดท้ายการแข่งขันไม่มี ถึงภาวะถึงจุดอิ่มตัว วันล่มสลายของวงการเกมบ้านเราก็จะมาเยือนเข้าสักวัน,ณ จุดนี้ เป็นช่วงที่วงการเกมบ้านเรากำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทุกอย่างอยู่ในมือเรา เราในที่นี้คือทุกฝ่าย เกมเมอร์ ผู้ให้บริการ ผู้พัฒนา และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์เจ้าต่างๆ รวมถึงสื่อทุกแขนง ต่างมีผลต่อการเติบโตทั้งสิ้น หากร่วมมือกัน ทำตามหน้าที่ของเราให้ดี ผมเชื่อว่าวงการนี้ยังอยู่ไปอีกนาน แต่ทุกอย่างก็อย่าเพิ่งประมาทกันไป เพราะความผันผวนทุกอย่างมันมีตัวแปร เราต้องคอยตามดูกันปีต่อปี ซึ่งตรงจุดนี้เราเข้าใจดี นั่งจับเข่าคุย และวิเคราะห์กับทุกปีเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดเกม ตอนนี้ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะฐานของคนเล่นเกมกำลังแตกสาขาออกไปยังเกมโมบาย ส่วนเกมออนไลน์ก็ยังคงได้รับความนิยม จะมีก็แต่กระแสของ MMORPG ที่นิ่งอยู่ตัวเดียว ก็หวังว่าปลายปีแบบนี้จะได้กระแสของเกมที่กำลังจะเปิดเข้ามาพยุงเกม MMO ไว้ ในฐานะที่อยู่ในวงการเกมมานาน ผมเองก็แค่อยากเห็นมันเติบโตต่อไป เพราะบอกตามตรงว่า หากวงการนี้ไปไม่รอด ผมคงต้องนั่งขายลูกชิ้นปิ้งตลาดนัดแถวบ้านเป็นแน่,ด้วยความนับถือ,########,แป๊ะยิ้ม_Compgamer
|
จากเมื่อครั้งก่อน ดันไปเขียนวิพากษ์วิจารณ์ Asiasoft เกี่ยวกับความต่อเนื่องในการรักษามาตรฐานของความยิ่งใหญ่ที่เคยทำได้ ที่กำลังถดถอยลงในช่วงปีที่ผ่านมา
| null |
เก๋าเกม,แป๊ะยิ้ม_Compgamer,Asiasoft,เอเชียซอฟท์,ธุรกิจ เกม,เกม เมืองไทย
|
https://www.thairath.co.th/content/463888
|
ตร. สภ.บ้านโพธิ์ กินข้าวฟรีตลอดวัน ผกก.แจกนมสดทุกจันทร์ เสริมสุขภาพ
|
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 24 เมษายน 2560 ที่ สภ.บ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ทุกวันจันทร์จะมีนมสดสวัสดิการจาก พ.ต.อ.ชาติ งานพิทักษ์ ผกก.สภ.บ้านโพธิ์ ประมาณ 40 ขวด มาวางแจกให้กับข้าราชการตำรวจที่ทำงานและประชาชน,พ.ต.อ.ชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนมสดที่นำมาแจกนั้นที่จริงเป็นนมสดของตำรวจน้องใหม่ที่เข้ามาประจำการที่ สภ.บ้านโพธ์ และอยากจะหารายได้เสริมให้กับตัวเอง จึงทำนมสดออกไปขายตามตลาดนัด และให้กับตำรวจในโรงพักด้วยกัน ในช่วงที่ว่างเว้นจากงาน ตนเห็นว่าตำรวจน้องใหม่มีความขยันและอยากจะช่วยเหลือเพิ่มรายได้ จึงตัดสินใจควักเงินส่วนตัวสั่งนมสดของตำรวจน้องใหม่ ให้นำมาวางไว้ที่จุดบริการชั้นหนึ่งของ สภ.บ้านโพธิ์ เพื่อให้ตำรวจและประชาชนได้รับประทาน,ประโยชน์ของนมสด ทำให้ร่างกายแข็งแรง สร้างความสดชื่นตื่นตัวดีกว่ากาแฟ นอกจากนี้เรื่องนมสดสวัสดิการแล้ว ยังมีเรื่องเครื่องซักผ้าสวัสดิการที่มีอยู่ 1 เครื่อง จะตั้งไว้ข้างโรงพักเพื่อให้ตำรวจทั้งโรงพักได้ใช้ โดยจะต้องหยอดเหรียญครั้งละ 30 บาท ซึ่งค่าน้ำค่าไฟผมจ่ายเอง ส่วนเงินที่เก็บได้ทั้งหมดจะมีคณะกรรมการนำเงินมาใช้จ่ายสร้างประโยชน์ให้กับโรงพัก อีกทั้งยังนำเงินไปใช้เรื่องโครงการอาหารกลางวันสำหรับตำรวจ ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนเป็นอาหารทั้งวัน เพื่อจะให้ตำรวจไม่ต้องไปหาซื้ออาหารรับประทานนอกโรงพัก ซึ่งสามารถลดรายจ่ายมากกว่าเท่าตัว ,พ.ต.อ.ชาติ กล่าวต่อว่า ต้องทำแบบนี้เพราะอยากให้ตำรวจที่นี่อยู่แบบพี่แบบน้อง มีความสามัคคี ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน มีอะไรก็ช่วยเหลือไม่คิดทิ้งกัน หากแก้ปัญหาที่มันใหญ่เกินตัวตนเอง เป็นหัวหน้าก็ต้องรับผิดแทนลูกน้อง และต้องหาทางออกให้ได้ เพื่อไม่ให้ลูกน้องต้องคิดมาก เพราะทุกคนทำงานต้องมีการผิดพลาดได้เสมอ
|
ผู้กำกับ ห่วงใยลูกน้อง-ประชาชน บริการนมสดทุกวันจันทร์ให้ผู้มาใช้บริการ สภ.บ้านโพธิ์ เผย นมทั้งหมดอุดหนุนลูกน้องในโรงพักสร้างรายได้ พร้อมเลี้ยงอาหารตำรวจฟรีตลอดวัน ลดค่าใช้จ่าย
|
ข่าว
|
นมสด,อาหารกลางวันฟรี,บริการนมสด,บ้านโพธิ์,ฉะเชิงเทรา
|
https://www.thairath.co.th/news/921637
|
สูญเสีย ยอดมวยหญิง หงส์ขาว ม.ราชภัฏจอมบึง แชมป์โลก WMO ผูกคอตาย
|
วันที่ 18 ธ.ค.61 พ.ต.ท.วินัย ลายละเอียด สว.สอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ไปตรวจสอบเหตุผูกคอเสียชีวิตที่หอพัก เลขที่ 194/2 ม.5 ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี พบว่าเป็นหญิงใช้เชือกไนล่อนผูกคอติดกับขอบประตูห้องพักด้านหลัง ในลักษณะท่ายืน โดยใช้เก้าอี้ต่อขาขึ้นไป ภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ พบแต่เพียงขวดเหล้าที่ยังมีเหล้าเหลืออยู่ครึ่งขวด กระติกน้ำแข็งแก้วน้ำและโซดาวางอยู่กับพื้นห้อง,ทราบชื่อผู้ตายคือ น.ส.นิติยาภรณ์ ศรีไสล หรือแนน อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 ม. 3 ต.สะอาดสมบูรณ์ อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด เสียชีวิตมาแล้วกว่า 12 ชั่วโมง เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชามวยไทยศึกษา ของ ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง นักมวยชื่อดังของมหาวิทยาลัยฯ ใช้ชื่อในวงการมวยว่า หงส์ขาว ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ต่อยมาหลายเวที เคยเป็นแชมป์ WMO ประเทศไทย World Must Thai Organization 2018 รุ่น 51 KG. ล่าสุดสามารถป้องกันแชมป์โลก WMO รุ่นฟลายเวท 52 กิโลกรัมไว้ได้,จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้นั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนข้างห้องที่เรียนด้วยกันในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นแยกย้ายกันกลับ จนรุ่งเช้าของวันที่ 17 ธ.ค. เพื่อนที่ดื่มเหล้าด้วยกันก็มาเคาะประตูเรียกเพื่อจะไปเรียนด้วยกัน แต่ไม่มีเสียงตอบ จึงได้ไปขอกุญแจสำรองจากเจ้าของหอพักมาเปิดห้องดูก็พบว่าเป็นศพไปแล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะเกิดจากอาการเครียดปัญหาส่วนตัว ประกอบกับดื่มเหล้าเข้าไปทำให้ตัดสินใจก่อเหตุฆ่าตัวตายดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และได้ติดต่อให้ญาติมาทำการรับศพต่อไป ,ด้าน ดร.ชาญชัย ยมดิษฐ์ นายกสมาคมมวยไทยศึกษามวยไทยนานาชาติ และประธานหลักสูตรปริญญาเอกมวยไทย ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง กล่าวถึงการสูญเสียชีวิตบุคลากรด้านการมวยไทยไปอีกคนหนึ่งที่ได้เคยสร้างชื่อเสียงแก่วงการมวยไทยระดับมหาวิทยาลัยและระดับประเทศ,หงส์ขาว ป็นเด็กมีนิสัยร่าเริง สนุกสนาน มีประวัติการชกมวยมาตั้งแต่วัยเด็ก พ่อ แม่ แยกทางกัน มีพี่น้อง 2 คน หงส์ขาวเป็นน้องคนเล็ก โดยฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี แต่มีความขยันตั้งใจเรียนในวิชาเอกด้านมวยไทยศึกษา และยังหาเงินเรียนด้วยตัวเอง เคยเป็นนักกีฬาติดทีมชาติไทยชกมวยรุ่น 51 กิโลกรัม ในกีฬาเอเชียนบริชที่ประเทศเวียดนาม ได้รับเงินรางวัลจำนวน 5 แสนบาท และนำมาใช้จ่ายในการเรียนที่ใกล้จบการศึกษาในปีสุดท้าย และเป็นนักกีฬาดีเด่นกรมอาชีวะ 3 ปีซ้อน ช่วงระยะที่ผ่านมาประมาณปลายพฤศจิกายนยังเคยขึ้นชกถ่ายทอดสดที่สนามเวทีมวยภายในห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง รุ่นฟลายเวท 52 กิโลกรัม สามารถป้องกันแชมป์โลก WBO ไว้ได้ และยังเคยเดินทางไปชิงแชมป์ที่ต่างประเทศมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงถือเป็นความสูญเสียนักมวยมือ 1 ของวงการมวยไทย ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ที่เป็นความหวังและเป็นอนาคตของทางมหาวิทยาลัยไป ซึ่งคาดว่าเด็กคนนี้จะมีโอกาสดีที่จะได้เดินทางไปสร้างชื่อเสียงให้กับวงการมวยในต่างประเทศ.
|
สุดช็อก หงส์ขาว ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง มวยหญิง แชมป์โลก WMO นักศึกษาชั้นปีสุดท้าย วิชามวยไทยศึกษา ตัดสินใจผูกคอตายคาห้องพัก ในสถานศึกษาที่ราชบุรี หลังดื่มสุรากับเพื่อน คาดเมา ด่วนตัดสินใจ
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
นักมวยหญิง,นักมวยผูกคอตาย,หงส์ขาว ม.ราชภัฏจอมบึง,แชมป์มวยหญิง,หงส์ขาวผูกคอตาย,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1447838
|
กรมการข้าวเสริมรู้ เยือนเฮยหลงเจียง ดูการผลิตข้าวอินทรีย์ครบวงจร
|
เสริมรู้ อธิบดีกรมการข้าว พร้อมคณะเดินทางไปศึกษาและดูงาน ตงเหอ หนงเย่อ ณ เมืองฉิงอัน มณฑลเฮยหลงเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นบริษัทผลิตข้าวอินทรีย์ครบวงจร และประสบความสำเร็จไม่น้อยกว่า 28 ปี เพื่อนำกลับมาต่อยอดในหน่วยงาน,นายประสงค์ ประไพตระกูล อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า การมาดูงานในครั้งนี้ เนื่องจาก บริษัท ตงเหอ หนงเย่อ จำกัด เป็นบริษัทที่ดำเนินการผลิตข้าวอินทรีย์ครบวงจร ซึ่งบริษัทนี้ได้มีการทำการตลาดข้าวอินทรีย์ประสบผลสำเร็จมาไม่น้อยกว่า 28 ปี ผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างชัดเจน ได้มีการเชื่อมโยงการผลิตข้าวอินทรีย์และการตลาดกับกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งตรงกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะให้การทำการเกษตรมีตลาดรองรับชัดเจน,นอกจากนี้ ยังได้มีการมีการควบคุมการผลิตข้าวให้มีมาตรฐาน และควบคุมการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว อย่างเข็มงวด ก่อนการแจกจ่ายให้เกษตรกรที่เข้าร่วมเป็นผู้ผลิต ตั้งแต่การปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยว พร้อมทั้งมีมาตรฐานการรับรองต่างๆ พร้อมกันนี้ยังได้มีการทำการตลาดในรูปแบบซื้อขายในระบบออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ,ผมดูแล้วเราสามารถนำมาปรับใช้ในโครงการอินทรีย์ 1 ล้านไร่ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้เราก็ยังสามารถปรับมาใช้กับการเชื่อมโยงการตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร นายประสงค์กล่าว.
|
เสริมรู้!! อธิบดีกรมการข้าว พร้อมคณะเดินทางไปศึกษาและดูงาน ตงเหอ หนงเย่อ ณ เมืองฉิงอัน มณฑลเฮยหลงเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นบริษัทผลิตข้าวอินทรีย์ครบวงจร และประสบความสำเร็จไม่น้อย
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
กรมการข้าว,ข้าวอินทรีย์,ผลิตข้าว,ตงเหอหนงเย่อ,ประสงค์ ประไพตระกูล,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1556211
|
ประยุทธ์ ใจหาย รมต.ไป 15 คน คสช.อีก 4 วอนอย่ามองเป็นศัตรู
|
ด้านวิษณุคาดเคลียร์ใบลาออกรมต.เสร็จใน 1-2 วัน,เมื่อวันที่ 7 พ.ค. เวลา 16.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม. โดยกล่าวทักทายสื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดีทันทีว่า ตื่นเต้นอะไรกันหรือ มีอะไรตื่นเต้นกันนักหนา เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่า ตื่นเต้นที่มีรัฐมนตรีลาออกถึง 15 คน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอบพร้อมยิ้มว่า ยังไม่ชินกันอีกหรือ,เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐมนตรีลาออกหลายกระทรวงจะมีผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันสุดท้ายที่ทำงานร่วมกัน ในการประชุมครม.เต็มคณะครบ ในวันเดียวกันนี้ ถือเป็นครั้งสุดท้าย ต้องลาออกไป สำหรับการมอบหมายกระทรวงที่ไม่มีรัฐมนตรีอยู่นั้น จะมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบในการบริหารรวมทั้งทำหน้าที่ขับเคลื่อน และรับผิดชอบเหมือนเดิม วันนี้ ครม.เหลือ 17 คน ยังประชุมได้ตามปกติ สำหรับการประชุมร่วมครม.และคสช. ยังสามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย ตราบใดที่ยังมีคสช.อยู่ยังประชุมได้ในช่วงที่มีความสำคัญ แต่ถ้าไม่สำคัญจะไม่ประชุม ไม่ต้องกังวลอะไร รัฐมนตรีที่เหลือยังบริหารงานต่อไปได้ ,เมื่อถามว่า การที่มีรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เข้าไปเป็น ส.ว. จะถูกครหาว่าเป็นเงาของคสช.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อย่ามองว่าบุคคลที่เข้าไปเป็นส.ว.เป็นศัตรูกับใคร ต้องมองว่าตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ทุกคนได้ทำงานอะไรมาบ้าง ดังนั้นในอนาคตวันข้างหน้าการวางพื้นฐานประเทศในทุกๆ ด้าน ควรจะต้องได้คนที่รู้เรื่องการทำงานในช่วงที่ผ่านมาเข้ามาอยู่ในส.ว.ด้วย เพื่อให้เกิดการดำเนินงานต่อไป สุดแล้วแต่รัฐบาลชุดต่อไปจะดำเนินการ เพราะส.ว.มีหน้าที่ในด้านกฎหมายเป็นหลัก ขอร้องว่าให้มองในทางสร้างสรรค์กันหน่อย หน้าที่ของทุกคน อย่ามองว่าทุกคนเป็นศัตรู เพราะคสช.ไม่เคยเป็นศัตรูกับใครเลย ,นายกฯ กล่าวอีกว่า 5 ปีไม่ใช่เวลาสั้นๆ วันนี้ผมรู้สึกใจหาย ได้เห็นหน้าเห็นตากันครบถ้วน หายไปหลายคน และวันนี้อยากจะขอร้องว่า สถานการณ์ความสงบเรียบร้อย ความมีมิตรไมตรีต่างๆ ในสังคมทุกระดับในสังคมที่ผ่านมา ไม่ว่าจะสังคมโซเชียลมีเดียได้ลดความรุนแรง ลดเฮตสปีดลงไป ถ้าเราทำได้อย่างนี้ต่อไปบ้านเมืองจะสงบเอง เพราะเรื่องความปรองดองเป็นเรื่องจิตใจของทุกคน ถ้าเรายึดมั่นในตัวเราเอง คิดเอาเองมันแก้ไขอะไรไม่ได้ แม้กระทั่งตัวผมเอง ผมยังเอาสิ่งที่ผมคิดและอยากจะทำมาทำเองไม่ได้ ต้องนำไปหารือในครม.และคสช.ทุกเรื่อง ว่าควรหรือไม่ควร ทำได้หรือไม่ได้ อย่างวันนี้จะเห็นได้ว่าประชุมตั้งแต่ 09.00 น. ทั้งคสช.และครม.ร่วมกัน จากนั้นเป็นการประชุมครม.จนเลิกในเวลา 15.00 น. ไปดูสถิติแล้วกันว่ามีรัฐบาลไหนประชุมแบบนี้บ้าง ต้องนำทุกเรื่องมาหารือกัน,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คสช.ที่ลาออก 4 คน ประกอบด้วย 1. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองหัวหน้า คสช. 2. พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองหัวหน้าคสช. ขณะที่อีก 2 คน คือ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ และรมว.ยุติธรรม รองหัวหน้าคสช. และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน และรองหัวหน้า คสช,ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีรัฐมนตรี 15 คน ขอลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเตรียมดำรงตำแหน่ง ส.ว. ว่าการประชุมครม.ครั้งต่อไปยังสามารถทำได้ตามปกติ เพราะเหลือรัฐมนตรีทำหน้าที่อยู่จำนวน 17 คน และจะยังมีการประชุมในสัปดาห์หน้า เนื่องจากยังมีเรื่องจากกระทรวงต่างๆที่ต้องเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. และยังไม่รู้ว่าจะจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้เมื่อใด,เมื่อถามถึงการมอบหมายงานแทนรัฐมนตรีที่ลาออกจากตำแหน่ง นายวิษณุ กล่าวว่า เนื่องจากใบลาออกของรัฐมนตรีที่ยื่นมายังไม่มีผล ขณะที่บางคนยังไม่ยื่นใบลาออก บางคนที่จะลาออกก็ยังไม่รู้เรื่อง ตนเข้าใจว่าทุกอย่างจัดการเสร็จเรียบร้อยภายใน 1-2 วันนี้ จากนั้นจะมอบหมายงานเป็นที่ชัดเจน ซึ่งที่ประชุมพูดคุยกันในเชิงหลักการว่า กระทรวงใดที่จะมีแค่ รมช. ไม่มี รมว. ให้ รมช.ดูแลทั้งกระทรวงได้ แต่ถ้ากระทรวงใดที่ไม่มีรมว.และรมช. ที่จากนี้จะมีจำนวน 8 กระทรวง ก็ขอให้แต่งตั้งผู้รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงนั้นต่อไป ซึ่งสามารถมอบหมายให้รองนายกฯหรือรมต.คนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาการ ยืนยันว่าต้องมีผู้รักษาการไม่ให้เกิดช่องว่าง สำหรับกรณีที่ครม.มีมติแล้วในวันนี้ คือการแต่งตั้งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ใช้อำนาจของรมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.
|
บิ๊กตู่ ใจหายรัฐมนตรีหายไป 15 คน คสช.ออกอีก 4 คน ยืนยันทำหน้าที่ได้ตามกฎหมาย วอนอย่ามอง คสช.ที่ไปเป็นส.ว.เป็นศัตรูใคร เพราะวันนี้เราได้ทำสถานการณ์สู่ความสงบเรียบร้อย บ้านเมืองจะสงบ
|
ข่าว,การเมือง
|
ครม.นัดสุดท้าย,รมต.ลาออก,คสช.,ส.ว.,นายกฯ,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1562483
|
พท.สับรบ.คสช. ไฟเขียว สามมิตร ชุมนุมแถลงโชว์ ข้องใจกกต.เมิน
|
แฉใช้ ขรก.เป็นเครื่องมือ ใครดูดได้เยอะตำแหน่งยิ่งสูง เย้ยดูดได้ดูดไปยังไงก็ชนะที่ 1 แถมจัดตัวผู้สมัครง่ายขึ้น พร้อมสาปส่งพวกทรยศอุดมการณ์ ตือ ไม่แปลกใจ ฉายภาพจิ๊กซอว์พรรคการเมืองสนับสนุน คสช. จี้เปิดตัวชัดๆ เล่นแฟร์ๆ อย่าใช้หลักศรีธนญชัยเอาเปรียบ มาร์ค ชี้ทำไม่เหมาะเอนเอียงเปิดช่อง ปัดข่าว อภิรักษ์ โดนดูด นิพิฏฐ์ เตือนไม่เป็นกลางระวังวุ่นวาย,ภายหลังการเปิดตัวโชว์ศักยภาพของกลุ่มสามมิตร ที่นำโดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตแกนนำกลุ่มการเมืองใหญ่ในพรรคไทยรักไทย นัดหารืออดีต ส.ส.กว่า 50 คน ที่สนามกอล์ฟไพเฮิร์สท ย่านรังสิต กทม. ทำให้มีเสียงค่อนขอดจากพรรคการ เมืองใหญ่ถึงรัฐบาล คสช.ว่าเลือกปฏิบัติ 2 มาตรฐาน,เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ออกมาปกป้องการเดินสายดูดทางการเมืองของกลุ่มสามมิตร ไม่ถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะไม่ได้รวมตัวกันเพื่อปั่นป่วนสร้างความวุ่นวายให้รัฐบาลว่า การแสดงความเห็นใดๆ ทางการเมืองนั้นประชาชนฟังอยู่ การพูดแบบนี้ประชาชนคิดได้ ส่งสัญญาณแบบนี้เป็นการรับลูกทำกันเป็นขบวนการหรือไม่ ฝ่ายหนึ่งเดินสายดูดเต็มที่ อีกฝ่ายก็กางปีกปกป้องคุ้มครองกันในทุกกรณี กลุ่มสามมิตรกำลังทำในสิ่งที่ห้ามพรรคการเมืองอื่นทำหรือไม่ มีการโน้มน้าวจูงใจโดยวิธีต่างๆเพื่อให้คนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค และทำโดยโจ่งแจ้ง เดินสาย ให้ข่าว เปิดหน้าโชว์ ชุมนุมกันเกิน 5 คน แถลงข่าวสนับสนุนใครเป็นนายกฯก็ทำได้ แต่พรรคเพื่อไทยแถลงประเมินผลงาน 4 ปีรัฐบาล คสช.ทำไม่ได้ จนแกนนำพรรคถูกดำเนินคดีถ้วนหน้า แต่กลุ่มสามมิตรไม่โดนและยังคงทำต่อไป เหมือนกติกาเขียนไว้บังคับใช้กับพรรคที่เห็นต่างฝ่ายเดียว เพียงเพราะกลุ่มสามมิตรประกาศหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อเท่านั้นหรือ,นายอนุสรณ์กล่าวด้วยว่า การย้ายพรรคของนักการเมืองเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนนักฟุตบอลย้ายสโมสร ซึ่งเปิดช่วงเวลาให้เจรจาได้ตอนที่ตลาดนักเตะเปิด ถ้าย้ายแล้วกองเชียร์ไม่พอใจก็ตามโห่นักเตะรายนั้นตลอดชีวิต การแอบไปเจรจากันก่อนหรือนอกช่วงเวลาจะถูกลงโทษ ทั้งตัวนักเตะและสโมสรจะถูกแบน ในขณะที่พรรคอื่นๆถูกห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง แต่กลุ่มหนุน คสช.ทำได้เต็มที่ ทั้งใช้เงิน ใช้งบประมาณมาล่อ ใช้คดีความมากดดัน ใช้ข้าราชการระดับสูงมาเป็นเครื่องมือในการดูด ใครดูดได้กลุ่มใหญ่ ในพื้นที่รับผิดชอบของใครได้ ส.ส.มาก ก็จะเป็นเกณฑ์ในการประเมินขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นไปอีก ประเทศใดที่มีข้าราชการวางตัวไม่เป็นกลาง ถามว่าประเทศชาตินั้นจะเกิดความยุติธรรม เกิดการพัฒนาได้อย่างไร เมื่อความยุติธรรมไม่มีความสามัคคีก็ไม่เกิด และเป็นที่น่าตกใจที่สิ่งเหล่านี้ประชาชนเห็นชัดเจน แต่ กกต.และหน่วยงานที่กำกับดูแลบังคับใช้กฎหมายไม่เห็น,นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ระบุการเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรไม่ใช่เรื่องการเมืองนั้น น่าแปลกใจเพราะชัดเจนว่าเป็นเรื่องการเมืองเพื่อสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ได้เป็นนายกฯต่อ การออกมาพูดของ พล.อ.ประวิตรถือเป็นเรื่องสองมาตรฐาน เพราะพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคที่มีผู้สนับสนุนอันดับหนึ่งไม่สามารถทำกิจกรรมอะไรได้เลย แถลงข่าวผลงาน คสช. 4 ปี ก็ถูกแจ้งความดำเนินคดี หรือแม้กระทั่งการติดต่อสื่อสารกับคนคุ้นเคย ยังถูก กกต.ตรวจสอบ แต่กลุ่มสามมิตรเดินสายดูด ส.ส.โจ๋งครึ่มกลับไม่มีความผิด อย่างไรก็ตาม เราไม่กังวลอยากดูดก็ดูดไป พรรค เพื่อไทยมีคนพร้อมลงสมัคร ส.ส.อยู่แล้ว มั่นใจประชาชนยังยึดมั่นอุดมการณ์ของพรรคไม่เสื่อมคลาย เลือกตั้งเมื่อไหร่เรามาอันดับหนึ่งแน่ เพราะเห็นได้จากเมื่อสัปดาห์ก่อนมีประชาชนในเขตบางกรวย จ.นนทบุรี เชิญตนไปเป็นเจ้าภาพงานศพ ทั้งๆที่เขต นั้นมี ส.ส.เพื่อไทยเป็นเจ้าของพื้นที่ เมื่อสอบถามเจ้าภาพงานศพบอกว่า ส.ส.ในพื้นที่คิดออกจากพรรค เลยเชิญตนไปแทน,นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีต รมช.พาณิชย์ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเคลื่อนไหวดูดส.ส.ของกลุ่มสามมิตร ว่า คนที่ไปมีทั้งที่เต็มใจ และถูกดูดด้วยเงื่อนไขคดีความและเห็นแก่เงิน ส่วนตัวมองว่าผู้ที่ย้ายพรรคไปมีโอกาสสอบตกเยอะ แต่เป้าหมายของเขาไม่ได้อยู่ที่คะแนนเขต แต่อยู่ที่คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ ตามระบบเลือกตั้งใหม่ที่ทุกคะแนนมีค่า แม้คนที่ไปไม่ได้เป็น ส.ส.แต่ได้เงินก้อนเขาก็พอใจ ส่วนจะกระทบกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ถ้าบอก ว่าไม่กระทบเลยคงไม่จริง ยอมรับว่ามีผลกระทบบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร เรามีคนที่มีความรู้ความสามารถพร้อมลงสมัครรับเลือกตั้งอยู่แล้ว และมองว่าเป็นผลดีกับพรรคเสียด้วยซ้ำ เพราะทำให้เราจัดพื้นที่เลือกตั้งง่ายขึ้น วันนี้ยังมีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนอยู่ รวมถึง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เดิมก็อยากมาลงเลือกตั้ง เขตในรอบนี้เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เรื่องนี้จึงไม่ทำให้หวั่นไหวอะไร,นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการดูดอดีต ส.ส.เข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ คนที่ไปล้วนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวและเงินที่เอามาล่อ หรือแลกกับการไม่มีคดี โดยหวังจะได้เป็นรัฐบาล เพราะกติกาที่เขียนโดย คสช.พรรคเพื่อไทยคงไม่มีทางเป็นรัฐบาล แต่การทำแบบนี้เป็นการทรยศต่ออุดมการณ์และประชาชน เพราะการสนับสนุนเผด็จการสืบทอดอำนาจนั้นไม่ใช่แนวทางของผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้ง แค่คิดก็ผิดแล้ว ส่วนตัวไม่สนใจเงินหรืออำนาจตำแหน่งใดๆ แม้จะต้องเสียเงินจ้างอยู่พรรคเพื่อไทยก็ยินดี และถึงแม้จะต้องเป็นฝ่ายค้านก็ยังน่าภาคภูมิใจกว่าไปสนับสนุนเผด็จการ ตอนนี้คิดว่าประชาชนกำลังเฝ้ารอวันเลือกตั้ง และจะเลือกพรรคเพื่อไทยอย่าถล่มทลายอย่างแน่นอน สิ่งที่ คสช.จะกลั่นแกล้งได้คือหาเรื่องยุบพรรคเพื่อไทยเหมือนหมาป่ากับลูกแกะ หลายคนจึงกลัวและย้ายพรรคเพื่อเอาตัวรอด ส่วนพวกเซลส์แมนที่เดินสายมาดูดนั้น ไม่ได้มีคุณค่าอะไร เป็นแค่การเคลื่อนไหวของคนทำมาหากินทางการเมือง ดูประวัติแต่ละคนล้วนแต่ดีๆทั้งนั้น ฉะนั้นอย่าไปให้ราคามากนัก เพราะเขาก็ทำกันเช่นนี้ตลอดเวลา แต่จะดูดได้ก็เฉพาะสิ่งปฏิกูลเท่านั้น,ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เปิดทางให้กลุ่มสามมิตรเดินสายชวนอดีต ส.ส.เข้าพรรคโดยไม่ขัดคำสั่ง คสช.ว่า ถือเป็นเรื่องปกติ ถ้าเป็นพรรคเพื่อไทย หรือพรรคอื่นทำก็ต้องถูกมองด้วยสายตาแบบหนึ่ง แต่หากเป็นพรรคพวกตนเองก็จะถูกมองด้วยสายตาอีกแบบหนึ่ง เขาถึงบอกกันว่าสองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม กรณีดังกล่าวยิ่งทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่ารัฐบาล คสช.มีพรรค การเมืองเพื่อมาสนับสนุนตัวเองให้เป็นรัฐบาลต่อ ถือเป็นแนวทางที่มีความชอบธรรม เป็นไปตามกติกา แต่ถ้าจะให้ชอบธรรมกว่านี้ รัฐบาล คสช.ควรประกาศตัวออกมาให้ชัดเจนเลยตั้งแต่วันนี้ว่าพร้อมที่จะลงสู่สนามเลือกตั้ง เสนอเป็นทางเลือกสำหรับประชาชน จะได้ไม่มีใครต่อว่าได้ ถ้าประกาศตัวชัดเจนประชาชนที่เห็นว่ารัฐบาล คสช.ทำงานเข้าตาก็พร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว เหมือนสมัยที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ตัดสินใจลาออกจาก ผบ.ทบ.เพื่อลงสนามเลือกตั้ง ก็ได้รับเสียงชื่นชม ไม่ใช่ใช้หลักศรีธนญชัยทางกฎหมาย เพื่อมาสร้างความได้เปรียบให้กับตนเอง,นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐเตรียมชักชวนนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมงานว่า ไม่เคยได้ยินข่าวดังกล่าว ก่อนหน้านี้ก็ได้พูดคุยกับนายอภิรักษ์ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่มีอะไร เมื่อถามว่า มีข่าวว่านายอภิรักษ์จะวางมือทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ตอบว่า เท่าที่ทราบคือนายอภิรักษ์ไปทำธุรกิจ ก็อยู่ที่ว่างานตรงนั้นเป็นอย่างไร นายอภิรักษ์บอกกับตนว่าช่วงนี้อาจจะไม่ค่อยเข้ามาที่พรรค เพราะว่ายังยุ่งเรื่องธุรกิจอยู่ เมื่อถามย้ำว่า ถ้านายอภิรักษ์ออกไปอยู่พรรคอื่นจะกระทบต่อพื้นที่ กทม.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ไม่มีปัญหาอะไรที่เรากังวล ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าอดีต ส.ส.กทม.ทยอยลาออกไปพรรคอื่น รองหัวหน้าพรรคที่กำกับดูแลพื้นที่ กทม.ก็บอกกับตนว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่มีอะไร,นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ระบุว่ากลุ่มสามมิตรออกมารวมตัวกันเกิน 5 คน ถ้าไม่ทำให้เกิดความวุ่นวายกับรัฐบาลก็สามารถทำได้ว่า ไม่ทราบว่าพวกเขาไปทำอะไรกัน เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย ถ้าทำตามกฎหมายก็ไม่มีปัญหา ถ้าทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ ส่วนจะเหมาะสมหรือไม่ที่ผู้ใหญ่ในรัฐบาลเปิดทางให้มีการเดินสายดูดนักการเมืองนั้น ตนอยากให้รัฐบาลทุ่มเททุกอย่างช่วยเหลือเด็กๆ ทีมหมูป่าไปที่ถ้ำหลวงมากกว่า,นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรขณะนี้ เป็นเพราะเขามั่นใจว่ากลุ่มคนที่เขาสนับสนุนคือผู้ที่มีอำนาจสูงสุด สามารถดูแลคุ้มครองเขาได้ จึงไม่กลัว ยิ่งมีอำนาจตามมาตรา 44 ด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ต้องพยายามเดินสายกลางไม่เลือกปฏิบัติ การพูดคุยกันห้ามยาก การดูดอาจเหมือนกับการซื้อเสียง ต้องห้ามทั้งสองฝ่าย การระบุว่าพรรคอื่นสามารถพูดคุยกันได้ แต่ห้ามด่ารัฐบาลนั้น ไม่ว่ารัฐบาลจะมาจากระบอบไหน การวิพากษ์วิจารณ์ทำได้ทั้งนั้น ตั้งแต่ยึดอำนาจมายังไม่มีคำสั่ง คสช.ห้ามวิจารณ์รัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจ มีเพียงห้ามให้สัมภาษณ์ที่รุนแรงกับสื่อ ควรเอากลางๆอย่าตึงเกินไป อย่าหย่อนเกินไป ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่าฝ่ายหนึ่งทำอะไรก็ได้ ขณะที่อีกฝ่ายทำอะไรไม่ได้เลย ความวุ่นวายในประเทศเกิดจากสิ่งนี้ ดังนั้น พล.อ.ประวิตรควรวางใจเป็นกลาง,นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลงานภาคเหนือ กล่าวว่า การที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม บอกว่าการเดินสายดูดนักการเมืองของกลุ่มสามมิตรไม่ผิดกฎหมาย ก็เป็นความเห็นของฟาก รัฐบาล คสช. เขาจะว่าอย่างไรแล้วแต่เขา การปรากฏรายชื่อส่วนใหญ่ที่จะไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ล้วนมาจากเครือข่ายเดิมของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนั้น เป็นสิ่งที่รัฐบาล คสช.ต้องคิดเอาเองเช่นกันว่าจะไว้วางใจได้หรือไม่ ขณะที่กลุ่มสามมิตรก็ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านเวทีการเมืองมา น่าจะคิดได้ถ้ายังจมปลักกับเรื่องไม่ดีประเทศชาติก็ไม่ดี เคยอยู่กับใครแล้วบ้านเมืองเป็นแบบไหนเขารู้แน่ แม้จะถูกตำหนิเรื่องเดินสายดูดบ้าง แต่ส่วนตัวไม่คิดกล่าวโทษเขา เพราะเป็นเรื่องปกติของการเมือง แต่ต้องมาดูว่าเขาจะสำนึกรักประเทศชาติมากแค่ไหน อายุเยอะกันแล้ว ควรคิดทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้บ้าง เดี๋ยวนี้บาปบุญคุณโทษเห็นกันเร็ว ถ้ายังทำแบบเดิมบ้านเมืองเสียหาย กฎหมายก็เข้ม กรรมก็ตามทันเร็ว มาช่วยกันทำความดีเพื่อประเทศชาติ ทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากดีกว่า เพราะคนเราตายไปเอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง,นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คณะกรรมการได้มีมติเพิ่มกลไกใหม่ ให้มีคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) ขึ้นมาอีกหนึ่งชุดเพื่อตอบโจทย์ในด้านแก้ทุกข์ของประชาชน ขณะเดียวกันก็ให้ประชาชนเป็นหูเป็นตาเพื่อให้ตำรวจประพฤติปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมด้วย ในกรณีที่บุคคลใดไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจอันมิชอบด้วยหน้าที่ หรือพบเห็นตำรวจประพฤติปฏิบัติไม่เหมาะสมและเสื่อมเสียแก่เกียรติศักดิ์ของตำรวจ กระทำผิดวินัยหรือละเมิดประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ ให้มีสิทธิร้องเรียนต่อ ก.ร.ตร. ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ร.ตร. กำหนด หลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวต้องไม่มีลักษณะเป็นการสร้างขั้นตอนโดยไม่จำเป็น และไม่เป็นการสร้างภาระแก่ประชาชนเกินสมควร,นายคำนูณกล่าวว่า ก.ร.ตร.จะมี 10 คน ประกอบด้วย 1.บุคคลผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมได้รับการคัดเลือกจากการประชุมร่วมกันของผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน 1 คน 2.อดีตผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์หรือเทียบเท่าขึ้นไป ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการข้าราชการตุลาการ (ก.ต.) 1 คน 3.อดีตอัยการพิเศษฝ่ายหรือเทียบเท่าขึ้นไป ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) 1 คน 4.อดีตข้าราชการตำรวจในตำแหน่งตั้งแต่ผู้บัญชาการหรือเทียบเท่าขึ้นไป ได้รับเลือกจากตำรวจชั้นสัญญาบัตรทั่วประเทศ 3 คน 5.ทนายความผู้มีอายุการทำงานไม่น้อยกว่า 20 ปี ได้รับการคัดเลือกจากสภาทนายความ 1 คน 6.ผู้แทนระดับจังหวัดของสภาองค์กรชุมชนตำบลคัดเลือกจากที่ประชุมระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบล 2 คน โดยอย่างน้อย 1 คนต้องเป็นสตรี 7.จเรตำรวจแห่งชาติเป็นกรรมการและเลขานุการ ก.ร.ตร. ทั้งนี้ ก.ร.ตร.มีวาระ 4 ปี ดำรงตำแหน่งได้วาระเดียว และให้คณะกรรมการคัดเลือกกรรมการตามข้อ 1-4 คนหนึ่งเป็นประธาน ก.ร.ตร.,พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาได้เผยแพร่รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ประจำปี 2561 ทริปรีพอร์ต 2018 โดยประเทศไทยได้รับการจัดอันดับดีขึ้นอยู่ที่เทียร์ 2 จากเดิมอยู่ที่อันดับ 3 โดยในปี 57 เมื่อรัฐบาลนี้เข้ามาจึงได้แก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ประกาศให้ปัญหาการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องเร่งแก้ไข ทำให้อันดับของไทยดีขึ้นเป็นลำดับ ทุกภาคส่วนทำงานกันอย่างหนัก แม้จะเป็นเรื่องยาก มีหลายปัจจัยเกี่ยวข้อง จนทำให้สหรัฐฯเห็นถึงความจริงจังในการแก้ปัญหา พร้อมประสานต่างประเทศร่วมแก้ไขอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อผลักดันให้เกิดผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นในอนาคต เพื่อความเสมอกันด้วยศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์,น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความคิดเห็นแย้งนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยมีประวัติร่วมมือกับ คสช.ล้มพรรคเพื่อไทยว่า อยากให้นายจุติและคนของพรรคประชาธิปัตย์ไปดูรูปในโซเชียลจะเห็นว่าคนของพรรคใดที่ห้อยนกหวีดร่วมกับ กปปส.ประท้วงและชัตดาวน์กรุงเทพฯ บอยคอตการเลือกตั้ง จนนำไปสู่การรัฐประหาร ส่วนที่นายจุติอ้างว่านายพิชัยไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจจริง ก็อยากให้บุคลากรทางเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาบอกว่านายพิชัยพูดไม่ถูกในประเด็นใด ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ประชาชนเดือดร้อนอย่างมาก แต่กลับไม่เคยเห็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ออกมาเป็นปากเสียงแทนประชาชน วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและ คสช.เลย แต่คนของพรรคเพื่อไทยอยู่เคียงข้างประชาชนมาตลอด โพลล่าสุดพรรคประชาธิปัตย์ก็ถูกพรรคอนาคตใหม่แซงหน้า จึงอยากให้พิจารณาตัวเองก่อนที่จะถูกพรรคใหม่พรรคอื่นแซงอีก อยากให้พรรคประชาธิปัตย์เรียนรู้จากพรรคเพื่อไทย ผลโพลสุดท้ายประชาชนยังเชื่อมั่นโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ,วันเดียวกัน ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธาน มูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นประธานเปิดงานโครงการช่วยชาวไร่สับปะรด โดยนำมาแจกจ่ายประชาชน พร้อมเปิดรับบริจาคเงินเพื่อซื้อสับปะรดในพื้นที่เพาะปลูกโดยตรงจากชาวไร่ในลอตต่อไป โดยมีประชาชนมาร่วมรับแจกจ่ายและบริจาคเงินสมทบจำนวนมาก โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า โครงการนี้เริ่มต้นจากมูลนิธิแพร่น้ำใจ ร่วมกับกลุ่มคนไทยช่วยชาวไร่ได้ช่วยรับซื้อสับปะรดมาจากจังหวัดลำปางในราคากิโลกรัมละ 4 บาท เพื่อช่วยพยุงราคา หลังประสบปัญหาราคาตกต่ำมาก เกษตรกรชาวไร่ขาดทุนเพราะไม่มีผู้รับซื้อ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู อดีต ส.ส.จังหวัดแพร่ ในฐานะประธานมูลนิธิแพร่น้ำใจ และนายนิคม เชาว์กิตติโสภณ อดีต ส.ว.จังหวัดลำปาง จึงอาสาทำในเรื่องนี้ เบื้องต้นสั่งซื้อมา 30 ตัน และจะนำเงินที่รับบริจาคนี้มาซื้อสับปะรดจากชาวไร่เพิ่มเติม เพราะยังมีเกษตรกรอีกจำนวนมากที่รอคอยการช่วยเหลือ จึงอยากให้รัฐบาลวางนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเป็นระบบ แม้จะมีหน่วยงานของรัฐ เช่น กองทัพ กรมราชทัณฑ์ หรือหน่วยงานอื่นๆเข้าไปรับซื้อ แต่ยังไม่เพียงพอ หากปล่อยทิ้งไว้ผลผลิตจะเน่าเสีย จึงขอเสนอให้รัฐบาลเร่งหารือกับบรรดาโรงงานแปรรูปสับปะรดเพื่อทำโครงการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรนำไปแปรรูป และจัดทำแผน การระบายสินค้าต่อไป เชื่อว่าใช้งบประมาณไม่มาก
|
เพื่อไทยสับรัฐบาล คสช.ไฟเขียวผ่านตลอด กลุ่มสามมิตร ชุมนุมแถลงข่าว โชว์เพาเวอร์เอิกเกริกเพราะเป็นขบวนการเดียวกัน แต่เพื่อไทยแค่แถลงข่าวยังผิด ข้องใจ กกต.นอนหลับไม่รู้นอนคู้ไม่เห็น
|
ข่าว,การเมือง
|
กลุ่มสามมิตร,พรรคเพื่อไทย,กกต.,สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1323678
|
สืบพยานนัดแรกคดี 112 ทอม ดันดี 4 ส.ค. ทนายแจงโดนแจ้งเพิ่มอีกคดีระหว่างถูกขัง
|
18 พ.ค.2558 ที่ศาลทหาร มีการนัดตรวจพยานหลักฐานนายธานัท ธนวัชรนนท์ หรือ ทอม ดันดี หลังจากที่เลื่อนมาแล้ว 3 ครั้งเนื่องจากจำเลยมีการเปลี่ยนทนาย จำเลยให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาและขอต่อสู้คดี ศาลทหารกำหนดวันสืบพยานนัดแรกในวันที่ 4 ส.ค.2558 เวลา 9.00 น.ทั้งนี้ศาลทหารแตกต่างจากศาลพลเรือนเนื่องจากไม่นัดสืบพยานต่อเนื่อง แต่นัดเป็นครั้งๆ ไปทนายความของทอม ดันดี กล่าวว่า คดีนี้เกิดขึ้นจากการกรณีที่มีคลิปของนายทอม ดันดี กล่าวปราศรัยเมื่อวันที่ 6 พ.ย.2556 จัดโดยสถานีวิทยุชุมชนของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ ปรากฏอยู่ในเว็บยูทูบ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เพิ่มอีก 1 ข้อหาเมื่อวันที่ 31 มี.ค.2558 ระหว่างที่จำเลยถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ โดยเจ้าหน้าที่อ้างถึงการเผยแพร่การปราศรัย 13 พ.ย.2556 ที่เวทีกลุ่มภาคีเครือข่ายประชาชน (ภปช.) ซึ่งถูกโพสต์ในยูทูบเช่นกัน จนกระทั่งกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) พบคลิปดังกล่าวในวันที่ 26 เม.ย.2557 จำเลยปฏิเสธข้อกล่าวหา และคดีนี้ยังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนทนายความระบุว่า นายทอม ดันดี ไม่ใช่ผู้โพสต์ในยูทูบ ไม่มีทักษะด้านคอมพิวเตอร์แต่อย่างใด จึงจะต่อสู้ในข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หากพิสูจน์ได้ว่าจำเลยไม่ใช่ผู้โพสต์คลิปปราศรัยลงยูทูบก็ย่อมไม่ผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และคดีนี้จะต้องโอนสู่การพิจารณาของศาลอาญาตามปกติ เพราะความผิดจากการปราศรัยนั้นเกิดขึ้นก่อนรัฐประหาร แต่เหตุที่ต้องขึ้นศาลทหารเพราะเจ้าหน้าที่อ้างว่าคลิปยูทูบปรากฏต่อเนื่องมาจนหลังการรัฐประหารซึ่งมีคำสั่งให้คดีความมั่นคงขึ้นศาลทหารผู้สื่อข่ายรายานว่า ทอม ดันดี ถูกจับกุมที่บ้านพักจังหวัดเพชรบุรีตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. 2557 ภรรยาของเขายื่นขอประกันตัวมาแล้ว 5 ครั้งแต่ศาลทหารไม่อนุญาตอ้างเหตุคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ในช่วงแรกคดีของเขาถูกส่งฟ้องศาลอาญา และถูกโอนมาให้ศาลทหารในเวลาต่อมา นอกจากนี้เขายังมีคดีที่ต้องขึ้นศาลทหารอีก 1 คดีคือ ฝ่าฝืนคำสั่งคสช. ไม่มารายงานตัวตามกำหนด ศาลพิพากษาแล้วให้จำคุก 6 เดือน ปรับอีก10000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปีปัจจุบันทอม ดันดี ถูกคุมขังอยู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาแล้ว 10 เดือนเศษ
|
ศาลทหารนัดสืบพยานนัดแรกคดี ทอม ดันดี วันที่ 4 ส.ค.ผิด 112-พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังติดคุกมาแล้วเกือบปี ทนายระบุเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าพบจำเลยที่เรือนจำแจ้งข้อหาเพิ่มอีกหนึ่ง จากคลิปปราศรัยที่ปรากฏในยูทูบ
|
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
|
ทอม ดันดี,ธานัท ธนวัชรนนท์,มาตรา 112,ศาลทหาร,สืบพยาน
|
https://prachatai.com/journal/2015/05/59338
|
อั้ม อธิชาติ โพสต์ความในใจสุดซึ้งถึง นัท มีเรียและคุณแม่
|
หลังจากที่คุณแม่จินดา เต็งมีศรี ได้จากนักร้อง-นักแสดงสาว นัท มีเรีย ไปอย่างไม่มีวันกลับเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ล่าสุด ลูกเขยอย่าง อั้ม อธิชาติ ก็ได้โพสต์ข้อความสุดซึ้งถึงคุณแม่จินดา และภรรยาสุดที่รักของตัวเองในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า ,ตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักผู้หญิงคนนี้ นัท มีเรีย @myriabenedetti ก็มีคุณแม่จินดา เต็งมีศรี อยู่ทุกลมหายใจ ดูแลคุณแม่อย่างเข้มแข็งมาโดยตลอด จะทำอะไร อยู่ที่ไหนก็ต้องโทรบอก โทรหา ไปอยู่กับคุณแม่ที่โรงพยาบาลทุกครั้ง,ถึงแม้คุณแม่จะไม่สบายทางกาย แต่จิตใจคุณนัทได้เติมเต็มให้คุณแม่ อย่างดีที่สุด ปรารถนาดีที่สุด ระลึกถึงบุญคุณของคุณแม่จินดาทุกลมหายใจของการเป็นลูก เป็นตัวอย่างของลูกคนนึง ที่พยายามตอบแทนพระคุณแม่อย่างหาที่สุดมิได้ คุณแม่เป็นผู้ให้ เป็นนักสู้ นักสร้างคน สัมผัสได้จากทุกคนในครอบครัวที่คุณแม่ได้ถ่ายทอดมา,วันนี้คุณแม่ได้จากไปแล้ว แต่เป็นการจากไปที่เป็นอิสระ จากการต่อสู้อย่างเข้มแข็งมาตลอดกว่า 11 ปี ขอให้บุญกุศล ทานกุศล ที่คุณแม่จินดาได้สะสมมา ส่งให้คุณแม่ได้มีครูบาอาจารย์นำทาง ได้อยู่ใต้ร่มพุทธบารมี ได้สู่ภพภูมิในบุญบารมีที่คุณแม่สะสมมา ลูกเป็ดน้อยของคุณแม่ ต่อจากนี้เป็นหน้าที่ของผม ไม่ต้องห่วงนะครับ ,หลังจากที่หนุ่มอั้มโพสต์ข้อความดังกล่าวไป ก็มีแฟนๆ เข้ามาแสดงความเสียใจ พร้อมกับให้กำลังใจนัท มีเรีย และบอกว่าทั้งคู่เป็นคู่ชีวิตน่ารักมากอีกคู่หนึ่ง
|
อั้ม อธิชาติ สามีของ นัท มีเรีย โพสต์ข้อความสุดซึ้ง บอกแม่ยายว่าต่อไปนี้จะเป็นหน้าที่ดูแลภรรยาเอง ไม่ต้องห่วง
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
อั้ม อธิชาติ,นัท มีเรีย,นัท มีเรีย แม่ตาย,นัท มีเรีย แม่เสียชีวิต,นัท อั้ม,อินสตาแกรมดารา
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1464744
|
นักวิชาการเชื่อยังไม่ปรับครม.เหตุหวั่นกระทบแก้รธน.
|
กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีก่อนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนช่วงปลายเดือนนี้ ทำให้เกิดการขับเคลื่อนภายในพรรคเพื่อไทย และเป็นเหตุให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณต่อการจัดระเบียบสมาชิกพรรคเพื่อไทย ถึงขั้นยุบสภา หากยังขาดเอกภาพต่อการเดินหน้าขับเคลื่อนภารกิจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการออกกฎหมายนิรโทษกรรมรองศาสตราจารย์ยุทธพร อิสรชัย คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เชื่อว่า การส่งสัญญาณยุบสภา เป็นเพียงการปรามให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยมีความเป็นเอกภาพ ที่จะทำภารกิจแก้ไขรัฐธรรมนูญ และออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้เป็นไปตามเป้าหมาย และจะยังไม่มีการปรับครม.ในช่วงนี้ เพราะการผลักดันกฎหมายทั้งสองฉบับต้องใช้เสียงข้างมากในสภาซึ่งการปรับครม. อาจสร้างความไม่พอใจให้กลุ่มการเมืองในพรรคได้ ดังนั้นนายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะกระทบต่อผลประโยชน์ทางการเมืองก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยปฏิเสธการปรับครม. โดยเชื่อว่าเป็นการปล่อยข่าว เพื่อลดทอนความน่าเชื่อถือของรัฐบาล โดยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกว่า การปรับครม. เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่มีการหารือกัน
|
ท่ามกลางกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรีในพรรคเพื่อไทย กระทั่งพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ส่งสัญญาณการยุบสภา ซึ่งนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ไม่เชื่อว่า จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีในช่วงนี้ เพราะอาจกระทบกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการออกกฎหมายนิรโทษกรรมที่เป็นเป้าหมายสำคัญ
|
การเมือง
|
ปรับครม. พรรคเพื่อไทย พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์
|
https://news.thaipbs.or.th/content/168906
|
เร่งสรุปบ่อบำบัดฯคลองด่านปลายปีนี้
|
กรุงเทพฯ-5 ต.ค.47 ก่อนหน้านี้กรมควบคุมมลพิษได้ว่าจ้างกลุ่มที่ปรึกษาปฎิบัติงานสำรวจและตรวจสอบการออกแบบและการก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย ตรวจสอบสภาพเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมทั้งวิเคราะห์และจัดทำทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการดำเนินโครงการออกแบบรวมก่อสร้างฯ กระทรวงทรัพยากรฯ รายงานว่า กรมควบคุมมลพิษได้ดำเนินการยื่นฟ้องคดีอาญากิจการร่วมค้าเอ็นวีพีเอสเคจีกับพวกในข้อหาฉ้อโกง โดยคดีดังกล่าวอยู่ในระหว่างการไต่สวนมูลฟ้องของศาล นอกจากนั้นยังอยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์คดีที่ยื่นฟ้องกิจการร่วมค้าฯ ต่อศาลแพ่ง เรื่องนิติกรรมเป็นโมฆะเพื่อเรียกเงินคืนตามหลักกฎหมายเพื่อลาภมิควรได้มีจำนวนทุนทรัพย์ 17045889431.40 บาท และ 121343887.19 เหรียญสหรัฐ รวมถึงฟ้องคดีแพ่งกับกลุ่มธนาคารผู้ค้ำประกันต่อศาลแพ่ง เรียกให้ชำระหนี้ตามหนังสือสัญญาค้ำประกันจำนวน 2203408730.50 บาท และ 19794781:16 เหรียญสหรัฐ ขณะนี้คดีดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างพิจารณา ส่วนกรณีการยื่นฟ้องเอาผิดข้าราชการหรืออดีตข้าราชการนั้น กรมควบคุมมลพิษ จะต้องยื่นฟ้องในคดีดังกล่าวเอง รวมถึงประเด็นที่กรมฯ คัดค้านการตั้งอนุญาโตตุลาการของฝ่ายกิจการร่วมค้า ซึ่งท้ายที่สุด ศาลแพ่งให้มีการแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการฝ่ายกรมควบคุมมลพิษ เนื่องจากศาลสั่งจำหน่ายคดีไปก่อนหน้านี้
|
กรุงเทพฯ-5 ต.ค.47 วันนี้คณะรัฐมนตรีรับทราบความคืบหน้าการแก้ปัญหาโครงการจัดการน้ำเสีย เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานว่า
|
สิ่งแวดล้อม
| null |
https://prachatai.com/journal/2004/10/646
|
ร่างแก้ไขกฎหมายสิ่งแวดล้อม 2535 สุ่มเสี่ยงเลี่ยงรัฐธรรมนูญ
|
จนไม่สามารถหาทางออกได้ ในที่สุดจะติดวกวนอยู่กับกับดักที่ตนเองสร้างขึ้นมา อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้นเพราะความดื้อดึงดันของรัฐบาลที่พยายามจะเอาอกเอาใจผู้ประกอบการนายทุน จนลืมนึกถึงม็อตโต้หาเสียงของตนเองที่เคยโฆษณาชวนเชื่อไว้ว่าแถมยังขัดแย้งต่อนโยบายที่รัฐบาลเคยแถลงไว้กับรัฐสภาเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ.2551 ที่ว่า จะเร่งแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินโครงการขนาดใหญ่อย่างจริงจัง ภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยสิ้นเชิงจะส่งเสริมให้ประชาชนมีโอกาสได้รับรู้ และเข้าถึงข้อมูลข่าวสารสาธารณะจากทางราชการ และสื่อสาธารณะอื่นได้อย่างกว้างขวาง เป็นธรรม และรวดเร็ว รวมทั้งให้กลไกภาครัฐเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทุกมิติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยคำว่าประชาชนมีส่วนร่วมในที่นี้ รัฐบาลคงหมายถึงประชาชนที่เป็นผู้ประกอบการ หอการค้า นายทุนอุตสาหกรรม สมาคมนายแบงค์เจ้าของนิคมอุตสาหกรรม หรือไม่ก็นักการเมืองหรือญาตินักการเมืองที่มีหุ้นอยู่ในบริษัทมหาชนต่างๆ เป็นแน่หาใช่ประชาชนที่ทนทุกข์ทรมานอยู่กับการได้รับผลกระทบจากมลพิษอุตสาหกรรม ต้องสูดดมกลิ่นเหม็น กลิ่นสารเคมี กลิ่นสารอินทรีย์ระเหยง่าย ที่เป็นสารก่อมะเร็ง อยู่ทุกวี่วัน โดยเฉพาะยามค่ำคืนที่ฝ่ายราชการเลิกงาน หรือหลับใหลไปแล้ว เพราะช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเวลาทองของการประกอบการอุตสาหกรรม ที่จะรีบเร่งการผลิต ปลดปล่อยสารพิษออกมาได้อย่างเต็มที่ เพราะแม้ชาวบ้านจะเดือดร้อน ก็ไม่สามารถไปร้องเรียนให้ใครมาตรวจสอบได้ยามวิกาล นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอยู่เสมอในพื้นที่มาบตาพุด-บ้านฉาง ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมาปัญหาเหล่านี้ ถามว่าหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องรู้ไหม คำตอบก็คือรู้ แต่รู้แล้วพูดไปก็สองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง สู้ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนดีกว่า เพราะพูดมากไปเดี๋ยวเจอตอ สู้อยู่เฉยๆ พอครบปีก็ได้แล้วขั้นสองขั้นสบายกว่ากันเยอะ ชาวบ้านจะเดือดร้อน ป่วย ล้มตายอย่างไรก็ช่างหัวประไร เพราะไม่ใช่ญาติโก โหติกา ที่ต้องไปทุกข์ร้อนด้วยชาวบ้านผู้เดือดร้อนเขาเฝ้าทนเห็นสภาพการลูบหน้าปะจมูกของข้าราชการเกียร์ว่างไม่ไหว จึงต้องลุกขึ้นมาทวงสิทธิโดยชอบตามรัฐธรรมนูญ จนต้องฟ้องร้องเป็นคดีต่อศาลปกครองกลาง ประจานให้สังคมโลกได้รับรู้กันไปเลยว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับสุขภาพอนามัยของประชาชน หรือสิ่งแวดล้อมเป็นตัวตั้ง หรือว่า ให้ความสำคัญกับกลุ่มนายทุนอุตสาหกรรมเป็นพระเจ้ากันแน่คำตอบที่ได้ก็คือ รัฐบาลเร่งแก้ไขกฎหมายสิ่งแวดล้อม ปี 2535 เพื่อที่จะได้ให้กลุ่มทุนอุตสาหกรรม 76 โรงงานในมาบตาพุด-บ้านฉาง และใกล้เคียง ได้ใช้เป็นเครื่องมือเดินออกจากกฎเหล็กคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองกลางเสีย โดยที่ไม่เคยรับฟังเสียท้วงติงของภาคประชาชนเลยว่า การใช้แนวทางดังกล่าว เป็นแนวทางที่ผิดและสุ่มเสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญ และจะยิ่งก่อปัญหาไม่รู้จักจบจักสิ้น หากยังดื้อดึงผลักดันกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาให้จงได้ทั้งๆ ที่ภาคประชาชน ประชาสังคม นักวิชาการจากมหาวิทยาลัย และหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันยกร่าง พรบ.องค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ พ.ศ ไว้ให้นานแล้วตั้งแต่ 30 กันยายน 2551 ที่ผ่านมาแต่รัฐบาลและคณะรัฐมนตรีก็หาได้สนใจไม่ กลับไปเชื่อถือข้าราชการที่เป็นต้นเหตุของปัญหานี้ โดยการทำตัวเกียร์ว่าง ไม่ยอมนำร่างกฎหมายองค์การอิสระฯ ไปดำเนินการต่อตามขั้นตอนของกฎหมายแต่กลับไปสุมหัว คิดอ่านกันเอง แล้วมีมติยกร่างแก้ไขกฎหมายสิ่งแวดล้อม 2535 ออกมาแทนถามว่า การแก้ไขกฎหมายสิ่งแวดล้อม 2535 มาตรา 51 ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาชงให้รัฐบาลให้ความเห็นชอบไปแล้วนั้น ผิดตรงไหน อย่างไร คำตอบมีอยู่ชัดๆ ดังนี้คือ1)ผิดเพราะการยกร่างการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว คณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการกันแบบงุบงิบ ปิดประตูห้องหารือกัน ไม่เคยเปิดโอกาสให้ประชาชนหรือผู้มีส่วนได้เสีย ได้มีโอกาสให้ความคิดเห็น ร่วมเสนอแนะได้เลย จึงเป็นการดำเนินการที่ผิดไปจากนโยบายของรัฐบาลที่โฆษณาชวนเชื่อว่า จะเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมขอถามหน่อย คณะกรรมการกฤษฎีกามีอำนาจหน้าที่เสนอความเห็นและข้อสังเกตต่อคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการให้มีกฎหมาย หรือแก้ไขปรับปรุง หรือยกเลิกกฎหมาย ภายใต้บทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ มาตรา 303 (1) คือ ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่รัฐบาลชุดแรกแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่ขณะนี้เวลาล่วงเกินไปกว่า 20 เดือนแล้ว คณะกรรมการกฤษฎีกา มัวทำอะไรอยู่2)ผิดเพราะการไปแก้ไขให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในการประกาศหรืออกกฎเกณฑ์ในการจัดทำการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นการก้าวล่วงต่ออำนาจของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่มีอำนาจประกาศหรือกำหนดกฎเกณฑ์ดังกล่าวอยู่แล้ว ตาม พรบ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 มาตรา 25 (5)ขอถามหน่อย คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติใหญ่กว่าคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ตรงไหน3)ผิดเพราะไปกำหนดให้การจัดทำการศึกษาและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) อยู่ในรายงานฉบับเดียวกัน ทั้งๆ ที่ทั้ง 2 เรื่องดังกล่าว มีกฎหมายหลักบัญญัติไว้คนละฉบับ (EIA ถูกบัญญัติไว้ในกฎหมายสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 2535 HIA ถูกบัญญัติไว้ในกฎหมายสุขภาพแห่งชาติ 2550) มีคณะผู้มีอำนาจออกกฎเกณฑ์ ระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องคนละคณะ แต่กลับนำมารวบอยู่ในกฎหมายสิ่งแวดล้อมฉบับแก้ไขนี้ฉบับเดียว มีรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรฯรักษาการตามกฎหมายคนเดียว ขอถามหน่อยว่า รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เอาไปวางไว้ตรงไหน เห็นกันชัดๆ แบบนี้ว่าขัดกฎหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญ แล้วยังจะดื้อดึงผลักดันกันต่อไปอีกหรือ4)ผิดเพราะการไปบังคับให้องค์การอิสระต้องพิจารณาให้ความเห็น EIA และ HIA ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วันนับแต่วันที่ได้รับรายงานฯ ถ้าไม่พิจารณาให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลา ให้ถือว่าให้ความเห็นชอบแล้ว ในขณะที่เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องให้องค์การอิสระให้ความเห็นก่อนการดำเนินโครงการเท่านั้น ไม่ได้กำหนดวันเวลาที่ตายตัว เพราะการให้ความเห็นต่อโครงการใดๆ ต้องมีกระบวนการรับฟังความเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียก่อน ไม่ใช่สักแต่ว่าหลับหูหลับตาให้ผ่านไปโดยเร็ว จะขาดตกบกพร่องก็หยวนกันอย่างไรก็ได้ขอถามหน่อยว่า ถ้าไม่ใช่จะให้ชาวบ้านเขาถามว่าพยายามเอื้อประโยชน์ต่อนายทุนอุตสาหกรรม แล้วจะให้ชาวบ้านเขาเชื่อว่ากำหนดเช่นนี้เพื่อประโยชน์ของใคร5)ผิดเพราะไปให้อำนาจและการตัดสินใจตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงขั้นสุดท้าย ไว้ที่คณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) ที่ส่วนใหญ่เป็นคนของนักการเมืองและคนสนิทของ สผ.ใช่หรือไม่ แม้หากองค์การอิสระฯ ไม่ให้ความเห็นชอบ หรือมีความเห็นที่แตกต่าง หรือมีความเห็นเพิ่มเติมจากรายงานฯ ที่ คชก. เคยเห็นชอบมาก่อนหน้านี้แล้ว ก็ยังจะคงให้ส่งเรื่องไปให้ คชก.ชุดเดิมพิจารณาให้ความเห็นชอบซ้ำอีกขอถามหน่อย แล้วจะให้มีองค์การอิสระฯไว้ไปหาอะไรทำไม เพราะเขียนกฎหมายให้อำนาจ คชก. มีอำนาจล้นฟ้าแบบนี้ ที่ผ่านมาเคยสำนึกรู้กันบ้างหรือไม่ที่ชาวบ้านเขาชุมนุม ประท้วง ปิดถนน เผาพริก เผาเกลือกันทั่วระแหงนั้น เป็นผลมาจากความน่าเชื่อถือ น่าชื่นชมยินดีในการพิจารณา EIA ของ คชก.มากเลยใช่ไหมขนาดสภาผู้แทนผ่านร่างกฎหมาย ไปให้วุฒิสภาตรวจกรอง หากวุฒิสภามีความเห็นที่แตกต่าง เขายังต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วมทั้งสองสภา เพื่อมาพิจารณาไกล่เกลี่ยหาทางออกร่วมกันเลย แล้วการแก้กฎหมายฉบับนี้ คชก. เป็นผู้วิเศษเยี่ยมยอดมากเลยใช่ไหม ความเห็นขององค์การอื่น จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้6)ผิดเพราะการไปกำหนดให้องค์การอิสระฯ แต่ละองค์การที่เป็นนิติบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ที่ต้องมีองค์ประกอบของเอ็นจีโอด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และผู้แทนสถาบันอุดมศึกษาที่จัดการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม หรือทรัพยากรธรรมชาติ หรือสุขภาพเท่านั้น จึงจะมีสิทธิมาจดทะเบียนเป็นองค์การอิสระฯต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ขอถามหน่อยว่า เอ็นจีโอสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ที่มีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยมาร่วมดำเนินการอยู่ในองค์กรเดียวกัน มีอยู่สักกี่องค์กร แบบนี้เขาไม่เรียกว่า พยายามปิดกั้นการเข้ามาช่วยให้ความเห็นของเอ็นจีโอและนักวิชาการในมหาวิทยาลัยแล้วจะให้เรียกว่าอย่างไร7)ผิดเพราะการแก้ไขกฎหมายหลัก แต่ไปใส่บทเฉพาะกาลในกฎหมายฉบับแก้ไข โดยให้อำนาจรัฐมนตรีในการแต่งตั้งองค์การอิสระฯขึ้นมาทำหน้าที่ไปพลางก่อนๆ ก่อนที่ยังไม่มีองค์การอิสระตามกฎหมาย ทั้งๆ ที่รัฐมนตรีไม่มีอำนาจหรือกฎหมายฉบับใด มาตราใด ให้อำนาจไว้ชัดเจน ก็ยิ่งจะเป็นการละเมิดกฎหมาย ละเมิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตราดังกล่าวขอถามหน่อยว่า ภาคประชาชน ประชาสังคม ควรที่จะน้อมรับสิ่งที่รัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหลายได้ปิดประตูห้องคิดกันเอง คุยกันเอง แล้วมีมตินำมาบังคับใช้กับคนทั้งประเทศได้ โดยขาดกลไกการมีส่วนร่วมของประชาชน ทั้งที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ชัดเจนในสิทธิข้อนี้ โดยเฉพาะในมาตรา 87 ไว้แล้วโดยที่ภาคประชาชนไม่ควรมาหัวแข็งคัดง้างใดๆ ทั้งสิ้นกระนั้นหรือ
|
ความลุกลี้ลุกลนของรัฐบาลต่อการแก้ไขปัญหามาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 กำลังจะกลายเป็นลิงแก้แห ในภูเขาวงกตที่นับวันจะก่อให้เกิดความยุ่งเหยิง ความขัดแย้ง
|
คุณภาพชีวิต,สิ่งแวดล้อม,สังคม
|
พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535,มาตรา 67,รัฐธรรมนูญ 2540,ศรีสุวรรณ จรรยา
|
https://prachatai.com/journal/2009/10/26314
|
ปาระเบิดหน้าเรือนจำกบินท์บุรี บึมสนั่นกลางดึก คาดแค่ข่มขู่
|
คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มากลางดึก ปาระเบิดใส่บริเวณหน้าเรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เป็นระเบิดสังหารแต่ยังไม่ทราบชนิด เพราะหาสลักไม่เจอ สร้างความเสียหายให้ศาลา และบ้านพักข้าราชการที่อยู่ใกล้เคียง คาดแค่ขู่ ไม่ได้มุ่งหมายเอาชีวิต ,เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 ส.ค. 58 พ.ต.ต.โสภณ พราหมณี สว.สส. สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมด้วยนายประสาน เจริญผล ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กบินทร์บุรี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังจากมีคนร้ายใช้วัตถุคล้ายระเบิดขว้างใส่หน้าเรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี ในเขตเทศบาลตำบลกบินทร์,จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบหลุมลึกประมาณ 5 นิ้ว กว้างประมาณ 50 เซนติเมตร อยู่ห่างจากตัวเรือนจำประมาณ 100 เมตร แรงระเบิดยังทำให้ศาลาพักร้อนที่อยู่บริเวณทางเข้าเรือนจำถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย รวมทั้งบ้านพักข้าราชการ ที่มีนายสมบัติ เขจอนดวง อายุ 49 ปี เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ชำนาญงาน อยู่ใกล้กับจุดระเบิดประมาณ 10 เมตร เป็นผู้พักอาศัย กระจกหน้าต่างถูกสะเก็ดระเบิดแตกเป็นรูได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต สำหรับวัตถุระเบิดที่คนร้ายใช้ขว้าง ยังไม่ทราบชนิด เพราะยังหาสลักนิรภัยยังไม่พบ แต่น่าจะเป็นระเบิดชนิดสังหาร,นายสมบัติ เขจอนดวง อายุ 49 ปี เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ ที่มีบ้านพักอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 02.00 น. ที่ผ่านมาได้มีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ไอ สีแดง-ดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซ้อนท้ายกันมาบนถนนทางเข้าเรือนจำ จากนั้นได้เลี้ยวรถกลับ ก่อนที่คนขี่จะจอดรถ ให้คนนั่งซ้อนท้ายขว้างระเบิดเข้ามาบริเวณทางเข้าเรือนจำ ระเบิดตกลงข้างศาลาพักร้อนและเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จากนั้นคนร้ายได้ขี่รถหลบหนีไปทางเทศบาลตำบลกบินทร์อย่างรวดเร็ว,อย่างไรก็ตาม นายสมบัติ กล่าวว่า เป้าหมายที่คนร้ายปาระเบิดใส่ ไม่น่าจะเป็นบ้านตน เพราะได้ย้ายเข้ามาทำงานที่เรือนอำเภอกบินทร์บุรีเป็นเวลานานกว่า 18 ปี ไม่เคยไปมีเรื่องกับใคร รวมถึงกับผู้ต้องขังในเรือนจำก็ไม่เคยมีปัญหา,ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นการข่มขู่ หรือปัญหาเรื่องส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ หรือความโกรธแค้นของผู้ต้องขังที่พ้นโทษออกไปแล้ว กับเจ้าหน้าที่คนใดคนหนึ่ง จึงนำระเบิดมาปาเพื่อเป็นการข่มขู่ มากกว่าจะเอาชีวิต ส่วนการติดตามคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้หาหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เพื่อติดตามมือปาระเบิดรายนี้มาดำเนินคดี พร้อมให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดปราจีนบุรี เข้าตรวจเก็บหลักฐานต่อไป.
|
คนร้ายขี่จยย.มากลางดึก ปาระเบิดใส่บริเวณหน้าเรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เป็นระเบิดสังหารแต่ยังไม่ทราบชนิด เพราะหาสลักไม่เจอ สร้างความเสียหายให้ศาลา และบ้านพักข้าราชการที่อยู่ใกล้เคียง คาดแค่ขู่ ไม่ได้มุ่งหมายเอาชีวิต
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ปาระเบิด,ระเบิดหน้าเรือนจำ,เรือนจำกบินทร์บุรี,ปราจีนบุรี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวทั่วไทย
|
https://www.thairath.co.th/news/local/518670
|
เหตุปะทะฝั่งเมียนมา ไม่กระทบการค้าชายแดนแม่สาย จ.เชียงราย
|
วันนี้ (27 มิ.ย.2558) บรรยากาศการค้าบริเวณตลาดชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังเป็นไปตามปกติ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางไปเลือกซื้อสินค้าอย่างคึกคัก แม้ก่อนหน้านี้ในสื่อสังคมออนไลน์จะมีการเผยแพร่ข้อมูลและภาพการเคลื่อนกำลังพลของทหารรัฐบาลเมียนมาและกลุ่มว้า ประชิดชายแดนไทย จนลือกันว่าอาจมีการปะทะในอีก 1-2 วันนี้นางผกามาศ เวียร์รา ประธานหอการค้าอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย และประธานสมาคมเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทย-เมียนมา จ.เชียงราย ระบุว่าเหตุปะทะระหว่างทหารเมียนมากับกลุ่มว้า จนทำให้ทหารว้าเสียชีวิต 3 นาย เกิดขึ้นจริงแต่เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกว่า 2 สัปดาห์ก่อนขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว หน่วยงานด้านความมั่นคงยังคงเฝ้าระวังซึ่งขณะนี้ยังไม่พบความเคลื่อนไหวใด ๆ ส่วนภาพกองกำลังทหารเมียนมากับกลุ่มโกก้างในเมืองปางซาง อยู่ห่างจากชายแดนไทยหลายร้อยกิโลเมตร แม้ทั้ง 2 กลุ่มจะปะทะกันก็จะไม่มีผลอะไรกับชายแดน
|
นักธุรกิจชายแดนในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ระบุว่าการค้าชายแดนยังเป็นปกติ แม้ก่อนหน้านี้จะมีการส่งต่อข้อมูลและภาพในสื่อสังคมออนไลน์ว่าจะมีการสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลเมียนมากับกลุ่มว้าในเร็ว ๆ นี้จนทำให้ประชาชนแตกตื่น
|
ภูมิภาค
|
ชายแดน,ว้า,เชียงราย,เมียนมา,แม่สาย,โกก้าง
|
https://news.thaipbs.or.th/content/3084
|
ลิซ่า คุณแม่ใกล้คลอด ห่วงลูกน้อยไม่ปลอดภัย หลังป่วย H1N1
|
พิธีกรและผู้ประกาศคุณแม่ยังสาว ลิซ่า อาลิซาเบธ แซ๊ดเลอร์ ได้แชร์เรื่องราวหลังจากที่ตนเองต้องไม่สบายเป็นไข้หวัดใหญ่ที่กำลังระบาดอยู่ในตอนนี้ ในขณะที่เธอกำลังตั้งท้อง 8 เดือน จนทำให้เป็นกังวลว่าเชื้อหวัดร้ายจะกระทบลูกน้อยในครรภ์ โดยสาวลิซ่าเปิดเผยเรื่องราวเพื่อให้บรรดาคุณแม่ใกล้คลอดเตรียมตัวรับมือกับโรคนี้ว่า,บันทึกวันแม่ 2017 มีเรื่องระทึก เมื่อคนท้อง 8 เดือน ต้องมาป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ เวอร์ชั่น 2009 เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ส.ค. 2017 ที่ผ่านมา ตื่นขึ้นมารู้สึกปวดเบ้าตา ปวดตัว และมีน้ำมูก ก็คิดว่าคงเป็นหวัดธรรมดาไม่มีอะไร พอไปทำงานเท่านั้นล่ะ พลังหดหายไปกว่า 50%,ตอนทำรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง และเหลือแค่ 20% ตอนทำเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ปวดร้าวไปทั้งตัวจนเกือบเดินไม่ได้ หัวใจเต้นเเรง หายใจลำบาก ปกติก็หายใจสั้นขึ้นอยู่แล้วเพราะท้องแก่ ตัดสินใจไป รพ.ทันที เพราะจะซื้อยากินเองคงไม่ดีแน่,คุณหมอกวาดเสมหะในคอและในจมูกไปตรวจ นอนรอตัวหนาวสั่นอยู่ 45 นาที ระหว่างรอก็แอบหาข้อมูลโรคไข้หวัดใหญ่กับคนท้อง อ่านแล้วยิ่งกังวล เพราะบางข้อมูลก็บอกอาจรุนแรงถึงขั้นแท้งได้ นอนไม่หลับล่ะค่ะทีนี้ นอนร้องเพลง เอามือเคาะท้องเช็กว่าลูกชายยังอยู่ดีไหม นางก็ตอบสนองดี ค่อยยังชั่ว,และแล้วผลตรวจก็ออกมาเป็น H1N1 เลยจ้า หมอบอกตอนนี้กำลังระบาด นี่ขนาดเราฉีดวัคซีนแล้วนะยังมีโอกาสติด 10% แล้วดิฉันก็ได้สิทธิ์นั้นทันที ถามหมอก่อนเลยว่ามีผลกับลูกในท้องไหม หมอบอกไม่มี โล่งใจไป ไม่ต้อง admit เอายาฆ่าเชื้อไวรัส Tamiflu ไปกิน กับยาแก้ปวด ยาแก้แพ้แบบที่ปลอดภัยกับคนท้อง,และพักผ่อนไปเลย 4-5 วัน ใส่หน้ากากอนามัยด้วย เพื่อไม่ให้ไปแพร่เชื้อต่อ และคอยนับลูกดิ้นด้วยอย่าให้น้อยกว่า 10 ครั้ง ก็ถือว่าหายห่วง วันนี้อาการดีขึ้นยังมีปวดตัวบ้าง น้ำมูกนิดหน่อย ลูกชายดิ้นโชว์สุดพลัง ตัวเองไม่ห่วง ห่วงลูกในท้องมากกว่า รักษาสุขภาพด้วยนะคะคุณแม่ทุกคน สุขใดไม่เท่าสุขภาพดีจริงๆ ค่ะ,บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ก็ขอให้สาวลิซ่าหายป่วยในเร็ววัน และขอให้ลูกชายตัวน้อยแข็งแรงด้วยนะคะ.
|
ลิซ่า อาลิซาเบธ เผยหลังป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ขณะที่กำลังตั้งท้องลูกคนที่ 2 หวั่นเชื้อหวัดกระทบลูกน้อยในครรภ์ ต้องเฝ้าจับตาดูการดิ้นของลูก
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
อาลิซาเบธ แซ๊ดเลอร์,ลิซ่า อาลิซาเบธ,ลิซ่า ท้องลูกคนที่ 2,ลิซ่า อลิซาเบธ ท้อง,ไข้หวัดใหญ่ H1N1,อินสตาแกรมดารา
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1037327
|
โผล่อีก หวยหายที่สามชุก ยาย 72 ร้องกองปราบ ทวงเงินรางวัล 6 ล้าน
|
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 ธ.ค.60 ที่กองปราบปราม น.ส.ประดับ จันทร์อ่วม อายุ 72 ปี ชาว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.หญิง จันทนา สาตะมาน สารวัตร (สอบสวน) กก.5 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 1 ธ.ค.60 เลข 451005 ที่ถูกรางวัลที่ 1 ได้หายไป ต่อมาทราบว่ามีคนนำสลากฯ ดังกล่าวไปขึ้นเงินรางวัล,จากการสอบสวน น.ส.ประดับ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ได้ซื้อลอตเตอรี่ฉบับดังกล่าวจากพ่อค้าหวยชื่อ นายเปี๊ยก ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ในงานวัด อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี แต่กลับทำลอตเตอรี่หายในงาน ต่อมาได้ให้โฆษกงานวัดประกาศหา แต่ไม่มีผู้พบเห็นสลากฯ ดังกล่าว จากนั้น น.ส.ประดับ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.สามชุก กระทั่งทราบว่ามี น.ส.พรทิพย์ ปาลวงษ์ ซึ่งเป็นคนสามชุกเป็นผู้พบ นำไปขึ้นเงินจากกองสลากฯ จำนวน 6 ล้านบาท,จากการลงพื้นที่ของตำรวจ กก.5 บก.ป. ตรวจสอบพบว่า หวยชุดดังกล่าว ผู้ค้าได้จองออนไลน์ทางตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย อีกทั้งยังเข้าให้การยืนยันกับเจ้าหน้าที่ กก.5 ว่า น.ส.ประดับ เป็นผู้ซื้อสลากฯ เลขที่ถูกรางวัลไปจริง และยังมีต้นขั้วเลขรางวัลดังกล่าวด้วย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ร้องไว้ ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป,รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ส่วนกรณีการตรวจสอบหาเจ้าของกรรมสิทธิ์สลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1 ธ.ค.2560 รางวัลที่ 1 เงินรางวัล 30 ล้านบาท ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ที่แท้จริง ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ และ นายปรีชา ใคร่ครวญ ข้าราชการครูโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี หลังทั้งคู่ได้ออกมาแสดงตัวเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งนั้น เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ได้สอบปากคำ ร.ต.ท.จรูญ อย่างละเอียด โดยใช้เวลาในการสอบปากคำนานร่วม 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ ข้อมูลที่ได้รับนั้นค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อแนวทางการสืบสวนค่อนข้างมาก,นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ ยังได้เตรียมประสานไปยังกองสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวสลากกินแบ่งรางวัลที่ 1 ของงวดดังกล่าวว่ามีจำนวนเท่าใด และมีผู้นำสลากฯ หมายเลขเดียวกันนั้นมาขึ้นเงินรางวัลแล้วกี่ราย เหลือสลากฯ หมายเลขเดียวกันที่ยังไม่ได้รับการขึ้นเงินรางวัลอีกกี่ใบ รวมถึงเพื่อตรวจสอบหาต้นขั้วที่แท้จริงของสลากฯ ชุดดังกล่าวว่ามาจากที่ใด ขณะที่ในส่วนของการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงบนสลากกินแบ่งดังกล่าวนั้นค่อนข้างทำได้ยาก เนื่องจากเป็นสลากกินแบ่งแบบชุด ถูกหุ้มด้วยพลาสติกอีกชั้น ก่อนที่จะมีการแกะออกเพื่อนำไปขึ้นเงินดังกล่าว จึงยากต่อการตรวจสอบหาลายนิ้วมือและดีเอ็นเอ.
|
ยังไม่หมดคราวนี้เป็นยายวัย 72 ปี จาก อ.สามชุก โร่ร้องกองปราบ ทำลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หาย แล้วถูกสาวสามชุกเก็บได้ ก่อนนำไปขึ้นเงิน 6 ล้านเฉย จนท.ลงพื้นที่พบหลักฐานสำคัญ พ่อค้ายันเจ้าตัวซื้อหวยไปจริง แถมมีหลักฐานต้นขั้ว
|
ข่าว,อาชญากรรม
|
หวยหาย,สามชุก,กองปราบ,รางวัลที่1หาย,ลอตเตอรี่,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/crime/1152143
|
ทิม ฟ้อง ต่าย เป็นโมฆะ จงใจส่งหมายเรียกผิดบ้าน ศาลนัดพิจารณาใหม่
|
วันที่ 14 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เมื่อเร็วๆ นี้ศาลได้รับคำร้องขอพิจารณาใหม่ของคดีดำที่ พ.2082/61 ที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ชุติมา ทีปะนาถ หรือต่าย จำเลย คดีฟ้องหย่าขออำนาจปกครองบุตร โดย น.ส.ชุติมา ร้องว่า ตามที่ศาลมีคำพิพากษาให้หย่า และให้อำนาจปกครองบุตรแก่โจทก์นั้น จำเลยไม่ทราบมาก่อนว่าถูกฟ้อง เพราะจำเลยไม่ได้มีถิ่นที่อยู่ตามที่โจทก์ส่งหมายและสำเนาฟ้อง จึงไม่จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ ไม่จงใจขาดนัดพิจารณา หากจำเลยมีโอกาสต่อสู้คดีก็จะมีโอกาสชนะคดีได้,ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่ง ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ตามที่โจทก์ฟ้องและส่งสำเนาฟ้องให้จำเลย ไปยังบ้านเลขที่ 24/31 อาคารคอนโดสิริเรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 24 กรุงเทพฯนั้น แม้จำเลยเคยย้ายมาอาศัยที่บ้านนี้เมื่อ 3 ส.ค.2552 แต่บ้านดังกล่าวเป็นของป้าจำเลย ที่ซื้อไว้ให้คนอื่นเช่า จำเลยไม่เคยอยู่จริง แต่จำเลยไปอยู่ที่ 353/62 อาคารคอนแดร์มณียา วิภาดี 20 กรุงเทพฯ โดยอยู่กับบุตรสาว โจทก์เองเคยพามารดาและน้องโจทก์ไปเยี่ยมลูกมาแล้ว ดังนั้นการที่โจทก์ส่งสำเนาคำฟ้องและหมายเรียกมาให้การไปที่คอนโดดังกล่าวจึงไม่ชอบ จำเลยจึงไม่ทราบว่าถูกฟ้อง เห็นว่าจำเลยไม่จงใจขาดนัดพิจารณา จึงให้พิจารณาคดีใหม่เป็นวันที่ 8 ก.ค. 62 เวลา 09.00 น.,ขณะเดียวกัน น.ส.ชุติมา ยังได้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองสวัสดิภาพ เป็นสำนวนคดีดำที่ คส.8/62 เรื่องขอคุ้มครองสวัสดิภาพ มี น.ส.ชุติมา เป็นผู้กล่าวหา และนายพิธา เป็นผู้ถูกกล่าวหา ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ระบุว่า คดีนี้เดิมศาลเยาวชนมีคำสั่งให้พิจารณาคดีใหม่ ที่นายพิธาได้อำนาจปกครองบุตรไปแล้ว แต่ระหว่างรอการพิจารณา บุตรสาว ยังอยู่กับนายพิธา จึงขอให้วิธีคุ้มครองสวัสดิภาพตามหมวด 5 กฎหมายวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว ให้ผู้กล่าวหา มีอำนาจปกครองบุตรไปก่อน,คดีนี้ศาลมีคำสั่งว่า ผู้กล่าวหาส่งสำเนาเรียกผู้ถูกกล่าวหามาไต่สวน แล้วไม่มาศาล ผู้กล่าวหาแถลงว่าฝ่าย นายพิธา ได้รับคำฟ้องและหมายเรียกไปเมื่อวันที่ 17 เม.ย.62 โดยชอบแล้ว และยื่นคำคัดค้านการขอคุ้มครองสวัสดิภาพของ น.ส.ชุติมา ขณะเดียวกันทนายความฝ่ายนายพิธา ขอเลื่อนคดี ศาลพิจารณาแล้วนัดไต่สวนใหม่วันที่ 22 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.ต่อไป.
|
ทิม ฟ้องหย่า ต่าย ขออำนาจเลี้ยงดูบุตร เป็นโมฆะ จงใจส่งหมายเรียกผิดบ้าน ศาลนัดพิจารณาใหม่อีกครั้ง
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ต่าย ชุติมา,ฟ้องหย่า,สิทธิดูแลลูก,พิธา ลิ้มเจริญรัตน์,ส.ส.อนาคตใหม่,ส่งหมายเรียกผิดบ้าน,ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1567390
|
สังคมจับฝ่ายค้านอภิปรายฯทุจริตนโยบาย จำนำข้าว
|
ในการอภิปรายครั้งนี้พรรคฝ่ายค้านมุ่งไปที่ตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแทนนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากเป็นผู้นำรัฐบาลและเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. ที่มีหน้าที่โดยตรงในการกำกับดูแลติดตามโครงการรับจำนำข้าวนายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาไทย (TDRI) ระบุว่า โครงการรับจำนำข้าวเป็นประเด็นที่สังคมเฝ้าติดตามหากฝ่ายค้านมีข้อมูลมากพอเชื่อว่า จะเกิดประโยชน์โดยเฉพาะประเด็นการทุจริตคอร์รัปชั่นที่เชื่อมโยงกับนักการเมืองโครงการรับจำนำข้าวถือเป็นหนึ่งในนโยบายประชานิยมด้วยการยกระดับราคาข้าวให้สูงกว่าราคาตลาด โดยมีเป้าหมายให้ชาวนามีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น โครงการรับจำนำข้าวใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 330000 ล้านบาท และคาดว่า โครงการรับจำนำข้าวรอบใหม่ปีการผลิต 2555/2556 ใช้งบประมาณอีก 405000 ล้านบาท รวมแล้วเกือบ 800000 ล้านบาท
|
การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจวางใจรัฐบาลประเด็นหนึ่งที่พรรคฝ่ายค้านนำมาเป็นเรื่องสำคัญ คือ โครงการรับจำนำข้าวที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนักวิชาการจำนวนไม่น้อยว่าสร้างความเสียหายให้ประเทศ
|
เศรษฐกิจ
|
จำนำข้าว,ซักฟอก,ฝ่ายค้าน,อภิปรายฯ
|
https://news.thaipbs.or.th/content/128552
|
ร็อบเบน จวกเปายับ ชี้เหมือนโดนปล้นกลางกรุงมาดริด
|
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 19 เม.ย. ว่า อาร์เยน ร็อบเบน แนวรุกคนสำคัญของทีมบาเยิร์น มิวนิก รุมสับการตัดสินของกรรมการในเกมที่พ่ายให้กับทีมเรอัล มาดริด 2-4 จนทำให้ต้องกระเด็นตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก อย่างน่าเสียดาย,ในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย เกมที่ 2 ทีมเสือใต้โดนพิษผู้ตัดสินที่ทำให้เสียประโยชน์ในหลายจังหวะ ทั้งการปล่อยลูกล้ำหน้าให้กับประตูของ คริสเตียโน โรนัลโด หรือการแจกใบแดงไล่ อาร์ตูโร วิดัล ช่วงท้ายเกม ส่งผลให้พ่ายไปในที่สุด 2-4 รวมผล 2 นัด 3-6,ซึ่งหลังจบเกม ร็อบเบน ได้ออกมาเหน็บแนมผู้ตัดสิน โดยบอกว่า รู้สึกเหมือนโดนปล้นชัยชนะอย่างสุดเจ็บปวด,คุณก็รู้ว่าผมคิดยังไง มันเป็นเรื่องน่าอัปยศ เพราะเกมนี้มันค่อนข้างยอดเยี่ยม ผู้คนทั้งโลกได้เห็นนักเตะจากสองทีมที่สุดยอดมาสู้กันบนสนาม,มันคงเป็นความสุขที่ดูเกมนี้ แต่สุดท้ายกลับถูกชี้ขาดด้วยความผิดพลาดในจังหวะสำคัญของกรรมการ ผมไม่ชอบที่จะวิจารณ์ผู้ตัดสินหรอก แต่บางทีคุณควรมองดูตัวเอง และพิจารณาดูว่ามันมีอะไรที่ผิดพลาดบ้าง ในกรณีนี้ไม่ใช่แค่จังหวะเดียว แต่มันเป็นหลายจังหวะสำคัญที่ตัดสินเกมเลยก็ว่าได้
|
อาร์เยน ร็อบเบน สุดอัดอั้นกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมที่พ่ายให้กับ เรอัล มาดริด จนกระเด็นตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก พร้อมชี้ว่าเป็นเหมือนการโดนปล้นชัยชนะเลยทีเดียว
|
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
|
อาร์เยน ร็อบเบน,บาเยิร์น มิวนิก,เรอัล มาดริด,ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก,ผู้ตัดสิน
|
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/eufa/917137
|
พ่อแม่กาฬสินธุ์ จัดแต่งงานเด็กแฝดชายหญิง หวังแก้เคล็ดรับโชค
|
วันที่ 29 มิ.ย. เมื่อเวลา 09.30 น. ที่บ้านเลขที่ 182 หมู่ที่ 3 บ้านหนองไผ่ ต.เสาเล้า อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ได้จัดพิธีแต่งงานเด็กฝาแฝด อายุ 1 ปี แฝดพี่ชื่อ ด.ช.ดลวัฒน์ สีหามาตร (น้องพอร์ช) และแฝดน้อง คือ ด.ญ.ขวัญกมล สีหามาตร (น้องพั้นซ์) ทั้งสองเกิด 25 มิ.ย. 2559 อายุ 1 ปี 4 เดือน พ่อ-แม่เด็กทั้งสอง คือ นายธีรยุทธ สีหามาตร - น.ส.ขวัญเรือน เขาภูเขียว เผยว่า พวกตนมีลูกคนแรกเป็นลูกสาว อายุ 5 ปี ต่อมา ก็เป็นแฝดชาย-หญิง รวมเป็น 3 คน ตระกูลนี้มีคุณยายเคยมีลูกแฝด การที่จัดงานแต่งงานให้กับลูกถือเป็นการรับโชค เพราะเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ที่คนเก่าคนแก่และชาวบ้านบอกว่า หากไม่จัดทำพิธีแต่งงานแล้วลูกจะมีอันเป็นไป เพราะชาติก่อนเขาเป็นคนที่รักกัน อาจไม่สมหวังเรื่องความรักจึงต้องฆ่าตัวตายไปด้วยกัน ก่อนตายได้อธิษฐานขอมาเกิดร่วมกัน ตามประเพณีถือว่า เขาได้แต่งงานกันก็แสดงว่าสมปรารถนาที่เขาทั้งสองได้ตั้งความหวังเอาไว้ และที่สำคัญทำให้พ่อแม่เกิดความสบายใจ ไม่ต้องคิดวิตกกังวล,ในงานมีการแห่ขันหมากมาสู่ขอ ผ่านประตูเงิน ประตูทอง สู่ขวัญผูกข้อต่อแขน วางเงินค่าสินสอด 9,999 บาท ทุกอย่างทำตามขั้นตอนของประเพณีของชาวอีสานทุกอย่าง รวมถึงส่งตัวเข้าเรือนหอ แขกเหรื่อที่มาในงานก็กินเลี้ยงกันอย่างมีความสุข ทำให้ผู้มาร่วมงานต่างชื่นชมยินดีด้วย.
|
พ่อและแม่ที่กาฬสินธุ์ จับลูกแฝดชายหญิง อายุ 1 ปี 4 เดือน แต่งงานกัน เชื่อเพื่อแก้เคล็ดรับโชคตามความเชื่อ ไม่งั้นอาจมีอันเป็นไป เพราะทั้งคู่ชาติที่แล้วเป็นแฟนกันแต่ไม่สมหวังในความรัก
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
แต่งงานเด็กแฝด,จัดพิธีแต่งงาน,แก้เคล็ดรับโชค,กาฬสินธุ์,ฝาแฝด,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/987796
|
พล.อ.อนันตพร ยืนยัน อดีตปลัด พม.เสียชีวิต ไม่ใช่ฆ่าตัดตอน
|
วันนี้ (2 ก.ค.61) พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนวินัยร้ายแรง อดีตปลัดและรองปลัดกระทรวง พม.พร้อมพวกรวม 26 คน ว่า ในวันพรุ่งนี้ (3 ก.ค.) นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ประธานคณะกรรมการสอบสวน จะส่งรายงานสรุปผลการสอบสวนดังกล่าว เนื่องจากมีเอกสารประมาณ 300 หน้า จึงขอตรวจสอบรายละเอียดให้ครบถ้วน ส่วนขั้นตอนจะให้ฝ่ายกฎหมายก่อนสรุปผลอีกครั้ง และหากข้อมูลครบถ้วนก็สามารถนำเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการสามัญ (อ.ก.พ.) เพื่อพิจารณาโทษ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในกลางเดือนกรกฎาคม ทั้งนี้ ไม่สามารถเปิดเผยผลการสอบสวนได้จนกว่าที่ประชุมจะมีมติเพื่อความเป็นธรรม พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การเลื่อนเวลา แต่การลงโทษใคร ต้องทำอย่างรอบคอบและเป็นไปตามกระบวนการขณะที่กรณีการเสียชีวิตของนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัดกระทรวง พม. ซึ่งเป็น 1 ในผู้ถูกกล่าวหานั้น พล.อ.อนันตพร ยืนยันว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการสอบสวนได้ทำตามหน้าที่ ไม่มีการลัดขั้นตอน หรือบีบคั้น อีกทั้งได้เปิดโอกาสให้ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องนำหลักฐานมาชี้แจงตามขั้นตอนส่วนกรณีที่ทนายความส่วนตัว น.ส.วาสนา ตะเภาพงษ์ หญิงคนสนิทระบุว่า นายพุฒิพัฒน์น้อยใจ และพยายามติดต่อผู้ใหญ่ในกระทรวงเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ถูกปฏิเสธ ยืนยันว่าไม่ทราบ ซึ่งตัวเองได้พูดคุยครั้งสุดท้ายกับนายพุฒิพัฒน์ถึงความจำเป็นก่อนมีคำสั่งโยกย้าย เปิดทางให้สอบสวนด้วยความโปร่งใส ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ไม่ขอแสดงความเห็นว่าเป็นการฆ่าตัดตอนเพื่อหวังทรัพย์สินตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจาก ปปง.อายัดทรัพย์ และพบว่าทรัพยสินส่วนใหญ่เกือบ 80 ล้านบาทของนายพุฒิพัฒน์ ไปอยู่ในความครอบครองของ น.ส.วาสนา ส่วนการตรวจสอบทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง ยืนยันจะดำเนินการต่อเนื่องและหากเกี่ยวข้องกับใครก็จะดำเนินการตามกฎหมาย
|
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนยุษย์ ย้ำว่าเป็นหน้าที่ของตำรวจต้องพิสูจน์หาความจริง ไม่ทราบเรื่องที่นายพุฒิพัฒน์น้อยใจผู้ใหญ่บางคน หลังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การเสียชีวิตว่าอาจจะเป็นการฆ่าตัดตอนเพื่อหวังทรัพย์สิน ไม่ให้สาวไปถึงใครบางคน
|
อาชญากรรม
|
ThaiPBS,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ทุจริต,ทุจริตคนไร้ที่พึ่ง,พม
|
https://news.thaipbs.or.th/content/273110
|
ดิวลึก แต่ไม่ลับ แข่งตั้งรัฐบาล ประชาธิปัตย์ ก็เนื้อหอม 2 ขั้ว รุมจีบ
|
ผู้สื่อข่าวรายงาน ความเคลื่อนไหวการจัดตั้งรัฐบาล แม้ยังไม่มีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นทางการจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่สองขั้วการเมืองคือ พรรคเพื่อไทยและพลังประชารัฐ ขับเคี่ยวช่วงชิงการจัดตั้งรัฐบาลเข้มข้น,ทั้งนี้ มีรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นอีกตัวแปรสำคัญ ที่ทั้งพรรคเพื่อไทยและพลังประชารัฐ ต่างทาบทามมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย ปรากฏว่า ในที่ประชุมหลังเมื่อเร็วๆ นี้ มีรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนหนึ่งรายงานที่ประชุมคณะผู้บริหารพรรคฯ ว่ามีตัวแทนพรรคพลังประชารัฐอย่างน้อย 3 คน คือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน โทรศัพท์มาทาบทามพรรคประชาธิปัตย์ให้ไปร่วมจัดตั้งรัฐบาล,นอกจากนั้น มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์คุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แล้ว แต่นายอภิสิทธิ์แจ้งว่า มอบให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคฯ รับผิดชอบรักษาการแทนแล้ว ขึ้นอยู่กับการหารือของกรรมการบริหารรักษาการตัดสินใจ,อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้ดูสูตรตัวเลขการตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐที่รวมตัวเลข ส.ส.ได้ 250 เสียงเปรียบเทียบกับขั้วพรรคเพื่อไทยและอนาคตใหม่ พบว่ารวมเสียงได้ 243 เสียงขาดเพียง 7 เสียง ทั้ง 2 ขั้ว จะมีจำนวน ส.ส.เท่ากัน เป็นเสียงปริ่มน้ำ ไล่เลี่ยกันจะเกิดปัญหาส่งผลกระทบเสถียรภาพของรัฐบาลในอนาคต จึงตั้งข้อสังเกตนี้ ให้ตัวแทนพรรคพลังประชารัฐไปแก้ไข ผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ให้คำตอบว่าจะเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะเกรงว่าอาจเกิดปัญหางูเห่าส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลในอนาคตแน่,อย่างไรก็ตาม ขณะเดียวกัน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่ง ได้รับการติดต่อทาบทามจากตัวแทนพรรคเพื่อไทยเช่นเดียวกัน โดยทางพรรคเพื่อไทย ได้เชิญชวนให้พรรคประชาธิปัตย์ร่วมจับมือกับขั้วเพื่อไทยและพันธมิตรโดยไม่มีเงื่อนไข พรรคประชาธิปัตย์ต้องการอยากได้งานกระทรวงใดก็แล้วแต่จะพิจารณา เพื่อให้ได้เสียง ส.ส.ข้างมากไปสู้กับเสียง 250 ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกฯ ในสภา โดยรองหัวหน้าพรรคคนดังกล่าวก็ยังไม่ได้ตกปากรับคำ แต่ได้รับปากเอาข้อเสนอไปพิจารณา.
|
พรรคประชาธิปัตย์แม้ได้ ส.ส.ต่ำร้อย แต่เนื้อหอมไม่เบา ถือเป็นอีก 1 พรรคสำคัญชี้เป็นชี้ตายในการแข่งขันจัดตั้งรัฐบาล ล่าสุด ทั้งบิ๊กเนมพลังประชารัฐ และเพื่อไทยส่งเทียบเชิญ
|
เลือกตั้ง
|
เลือกตั้ง62,ผลเลือกตั้ง,ตั้งรัฐบาล,พรรคประชาธิปัตย์,เลือกตั้ง
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1529560
|
หวิว ตกใจหลังเห็นสภาพ ต่าย อดีตนางเอกMV พร้อมร้องเพลงหาเงินช่วยเหลือ
|
หลังจากที่ตกเป็นข่าวที่ทำให้ใครหลายๆ คนได้ตกใจไม่น้อย กับอดีตนักแสดงภาพยนตร์อย่าง ต่าย มนัสนันท์ ปานดี ที่เคยต้องคดียาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง รวมถึงคดีลักทรัพย์อีกหลายครั้ง แถมเคยประสบอุบัติเหตุส่งผลด้านสุขภาพจิต กับสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเธอล่าสุด ที่ทำให้เพื่อนๆ ในวงการถึงกับช็อกไม่น้อย,ล่าสุด ณัฐพนธ์ วงษ์สนิท หรือ หวิว นักร้องจากค่ายอาร์เอส เจ้าของเพลง ,มือที่สามโดยไม่ได้ตั้งใจ, ที่สาวต่ายเล่นเป็นนางเอกเอ็มวี ได้เล่าถึงเรื่องนี้ใน ,รายการทุบโต๊ะข่าว, ว่า เมื่อ 14 ปีที่แล้ว ตนเคยร่วมงานกับต่าย ในฐานะนางเอกมิวสิกวิดีโอ ในตอนนั้นต่ายเป็นนางเอกที่สวย น่ารักสดใส นิสัยดี และเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมาก,ตอนที่มีข่าว ยอมรับว่าจำไม่ได้ว่าเป็นนางเอกเอ็มวีของตัวเอง จนกระทั่งมีเพื่อนส่งข้อความมาบอก และก็มีคนเข้ามาดูเอ็มวีเพลงนั้นเป็นจำนวนมากกว่าแสนวิวภายใน 2 วัน เนื่องจากคนตามเข้ามาดูจากข่าว,ยอมรับค่อนข้างตกใจมาก และเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเคยร่วมงานกันมา ต่ายเปลี่ยนไปมาก อยากเป็นกำลังใจให้ อยากช่วย โดยตนจะร้องเพลงระดมเงินทุน เพื่อให้ต่ายมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยตั้งใจจะมอบเงินทุนให้หลังจากที่ต่ายออกจากโรงพยาบาล เพื่อจะได้นำเงินไปใช้ประโยชน์ได้
|
อดีตนักร้องดัง หวิว ณัฐพนธ์ ยอมรับตกใจหลังเห็นสภาพของอดีตนางเอกเอ็มวี ต่าย มนัสนันท์ เปลี่ยนไปจนจำไม่ได้
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
ต่าย มนัสนันท์,ต่าย มนัสนันท์ เร่ร่อน,ดาราตกอับ,ดาราติดยา,หวิว ณัฐพนธ์,นักร้อง
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1513128
|
อาหารที่รับประทานแล้วมักจะอ้วน
|
ช่วงหลังๆ นี้ ผมได้มีโอกาสทำรายการอาหาร เลยมีความรู้เกี่ยวกับอาหารมากขึ้นตามเรื่องราวที่นำเสนอ อีกหนึ่งปัญหาของคนทั่วไปคือมักจะบ่นว่า รับประทานอะไรก็กลัวอ้วน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่จริงครับ เพราะคนเราจะอ้วนได้ก็ต่อเมื่อมีการรับประทานจำนวนมาก หรือรับประทานผิดประเภท สรุปแล้วน้ำหนักจะขึ้นหรือไม่ก็อยู่ที่วินัยในการรับประทานนั่นล่ะครับ วันนี้ผมเลยขอสรุปอาหารสัก 5 อย่าง ที่คนกลัวอ้วนควรหลีกเลี่ยง เพราะว่าจะทำให้น้ำหนักขึ้นเร็วอย่างผิดปกติ และไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย มาดูกันนะครับว่ามีอะไรบ้าง,1. ,น้ำอัดลม, น้ำอัดลมนั้นมีส่วนผสมที่สำคัญคือน้ำตาล ส่วนอื่นไม่มีสารที่เป็นประโยชน์ใดๆ ต่อร่างกายเลย ซึ่งเมื่อรับประทานเข้าไป ร่างกายจะเปลี่ยนน้ำตาลที่ได้รับกลายเป็นไขมันสะสม แต่เชื่อมั้ยครับว่าน้ำอัดลมนั้นเป็นสินค้าขายดีที่สุดในซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป และที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้น บางคนดื่มน้ำอัดลม กับมื้ออาหารทุกมื้อ ทำให้ยิ่งแย่ขึ้นไปอีก เพราะจะทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารมาก ระบบการย่อยอาหารในร่างกายก็สูญเสียคุณภาพไปด้วย,2. ,มันฝรั่งแผ่นทอดกรอบ, อาหารประเภทนี้เป็นอาหารที่ถูกปรุงแต่งโดยเฉพาะกรรมวิธีในการทอดในน้ำมัน นอกจากมีคาร์โบไฮเดรตแล้ว ยังมีน้ำมันซึ่งให้พลังงานที่สูงมาก และไร้ซึ่งประโยชน์ต่อร่างกาย รวมถึงให้แคลอรี่ ที่สูงถ้าเปรียบเทียบกับอาหารประเภทอื่น ร่างกายจึงเปลี่ยนจากคาร์โบไฮเดรต เป็นไขมัน และสะสมในร่างกาย,3. ,เฟรนซ์ฟราย, ก็คล้ายๆ กับมันฝรั่งชนิดแผ่น แต่จะมีสิ่งที่มากกว่า คือไขมันที่อยู่ในเฟรนช์ฟราย จะมีไขมันที่มากกว่าจึงทำให้ได้รับไขมันอย่างเต็มที่ที่ไม่มีประโยชน์ และคาร์โบไฮเดรตในจำนวนที่มากเกิน เฟรนช์ฟรายเป็นอาหารที่ให้แคลอรี่สูง ทำให้เป็นส่วนเกินในร่างกาย และทำให้คุณอ้วนง่ายที่สุดอีกหนึ่งประเภท,4. ,ขนมปังขาว, อาหารชนิดนี้ทำจากแป้งสาลีขัดสี ขบวนการขัดสีทำให้สารอาหารลดลง และกากใยอาหารลดลงตามไปด้วย จึงมีแต่คาร์โบไฮเดรตซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้อ้วน และการที่ขนมปังแบบขาวไม่มีกากใย จะทำให้เราอิ่มช้า และรับประทานในปริมาณที่มากขึ้น ระดับน้ำตาลในเลือดจะขึ้นๆ ลงๆ แบบรวดเร็วเกินไป จะทำให้เราเกิดนิสัยหิวเก่งตามระดับน้ำตาลยิ่งทำให้เราอ้วนง่ายมากขึ้น,5. ,ไก่ทอด, ถือเป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่น่าหลีกเลี่ยง นอกจากจะมากไปด้วยน้ำมันที่ทอดแล้ว วิธีการทอดยังผ่านอุณหภูมิที่สูงในระยะเวลาที่ยาวนาน และหากใช้น้ำมันที่ทอด ทอดหลายครั้งยิ่งไม่ถูกสุขลักษณะ และเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ในบางกรณีมีการนำไก่ไปชุบแป้งก่อนทอด ยิ่งทำให้อ้วนยิ่งขึ้น แนะนำว่าถ้าอยากรับประทานเมนูประเภทไก่ควรเป็น ไก่อบ ไก่ตุ๋น จะดีกว่า,นี่เป็นเพียงอาหาร 5 ประเภทที่ทำให้ร่างกายของเราอ้วนได้อย่างรวดเร็วและผิดปกติ ใครที่บ่นว่า อ้วนเกินทำอย่างไรจึงจะผอมลงและน้ำหนักได้สมดุลต่อร่างกาย ลองศึกษาตัวเองดูนะครับว่ายังคงรับประทานอาหาร 5 ประเภทข้างบนนี้อยู่หรือเปล่า,ขอให้ทุกท่านสุขภาพดีนะครับ,ณวัฒน์ อิสรไกรศีล
|
ช่วงหลังๆนี้ ผมได้มีโอกาสทำรายการอาหาร เลยมีความรู้เกี่ยวกับอาหารมากขึ้นตามเรื่องราวที่นำเสนอ อีกหนึ่งปัญหาของคนทั่วไปคือมักจะบ่นว่า รับประทานอะไรก็กลัวอ้วน
|
คนดังนั่งเขียน
|
คนดังนั่งเขียน,ณวัฒน์ อิสรไกรศีล,อาหารที่กินแล้วอ้วน,โรคอ้วน,ความอ้วน,ไขมันส่วนเกิน
|
https://www.thairath.co.th/content/478993
|
ทหาร ทลายแก๊งปล่อยเงินกู้ดอกสุดโหด ร้อยละ 40บาทต่อวัน
|
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 13 ส.ค.58 พ.อ.ธนศักดิ์ มิตรภานนท์ ผบ.กกล.รส.จว.อำนาจเจริญ ได้สั่งการให้ ร.ท.ธีระศักดิ์ สืบพรหม ชปพท.ร.6 พัน.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร 10 นาย เข้าตรวจค้นที่หมู่บ้านเอื้ออาทร หลังจากได้สืบทราบว่า มีแก๊งเงินกู้รีดดอกเบี้ยโหดร้อยละ 40 บาทต่อวัน ใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นที่พักรับส่งเงิน หลังจากตะเวนเก็บเงินกับลูกค้า เจ้าหน้าที่ทหาร จึงได้เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 121/148 และ 121/149 พบผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายอนันต์ เลิศธัญญา อายุ 32 ปี นายธนกฤต เลิศธัญญา อายุ 37 ปี ทั้งสองคนเป็นราษฎรจังหวัดจันทบุรี จากการตรวจค้นพบหนังสือสัญญาเงินกู้ รถจักรยานยนต์ 1 คัน รถเก๋ง 1 คัน สมุดบัญชีลูกค้าจำนวน 5 เล่ม และสมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 20 เล่ม มียอดเงินหมุนเวียนรวมกันไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ปืนอัดลม ที่ใช้เอาข่มขู่ลูกค้า 2 กระบอก ดาบยาว 1 เล่ม ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นนั้น ได้มีผู้ต้องหาอีก 1 คน ขับรถจักรยายนต์เพื่อนำเงินที่เพิ่งเก็บมาได้จากลูกค้ามาส่ง ทราบชื่อ คือ นายยุทธนา พานิชกุล อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดจันทบุรี เจ้าหน้าที่จึงรวบตัวผู้ต้องหาไว้,จากนั้นจึงได้ตรวจค้น พบเงินสด จำนวน 4,500 บาท สมุดบัญชีลูกค้า 1 เล่ม พ.อ.ธนศักดิ์ มิตรภานนท์ ผบ.กกล.รส.จว. อำนาจเจริญ เปิดเผยว่า ใน จ.อำนาจเจริญ ตอนนี้เริ่มมีแก๊งเงินกู้ ที่ใช้ชื่อเขมเพชรโดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด 10 สาย ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ทหาร สามารถจับกุมได้แล้ว คือ สายเขมเพชรเก้า ขณะนี้ยังเหลืออีก 9 สาย ที่เจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุม ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ที่เจ้าหน้าที่จับกุมได้นี้ ไม่ได้อยู่ในแก๊งของเขมเพชร,จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ตะเวนปล่อยเงินกู้ในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 40 บาทต่อวัน ซึ่งหากลูกหนี้เบี้ยวไม่จ่าย ก็จะนำปืนอัดลมไปข่มขู่ลูกค้า เพื่อให้ยอมจ่ายเงิน ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดอ้างว่า ยืมเงินจากคนที่รู้จักในจังหวัดจันทบุรี ดอกเบี้ยร้อยละ 10 บาท เพื่อนำมาปล่อยกู้ต่ออีกครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
|
เจ้าหน้าที่ทหาร อำนาจเจริญ บุกทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 40 บาทต่อวัน จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 3 คน พร้อมสมุดบัญชีรายชื่อลูกค้า สมุดบัญชีธนาคารกว่า 20 เล่ม เงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ทหาร,ทลายแก๊ง,ปล่อยกู้,ดอกเบี้ย,สุดโหด,ร้อยละ40บาทต่อวัน,อำนาจเจริญ,จับกุมผู้ต้องหา,เงินหมุนเวียน,ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท,ธนศักดิ์ มิตรภานนท์,ผบ.กกล.รส.จว.อำนาจเจริญ,บ้านเอื้ออาทร,จันทบุรี,สัญญาเงินกู้,แก๊งเงินกู้,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ภูมิภาค
|
https://www.thairath.co.th/news/local/518118
|
สาวเก่ง เอม บัณฑิต ม.อุบลฯ คว้าเกียรตินิยม ป.ตรี 4.00 จนจบหลักสูตร
|
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 ธ.ค. 60 นายเพลิน วิชัยวงศ์ นักประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เปิดเผยว่าอีกหนึ่งความภาคภูมิใจ บัณฑิตมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรคือ เอม นางสาวอทิตา เสนาใหญ่ บัณฑิตสู้ชีวิต สู่ความสำเร็จอีกก้าวทางการศึกษา จากเด็กบ้านนอกชีวิตธรรมดาฐานะยากจน พ่อแม่รับจ้างทั่วไป ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการศึกษา จนได้มาซึ่งปริญญาวิทยาศาสตร์บัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 1 ที่มีผลการเรียน 4.00 ตลอดหลักสูตร ภายใต้ทุนเรียนดีวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย ทุนศึกษาจนจบระดับ ป.ตรี-โท และเอก ซึ่งเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ปีการศึกษา 2559 กันเกรา รุ่นที่ 26 เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยมี พ่อ-แม่ ญาติพี่น้อง ครูอาจารย์ที่เคยสอน รุ่นน้องนักศึกษาร่วมยินดีในครั้งนี้ ณ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี,นางสาวอทิตา เสนาใหญ่ หรือ เอม อายุ 22 ปี บัณฑิตเกียรตินิยม อันดับ 1 บัณฑิตรุ่นแรกสาขาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี บุตรสาวของ พ่อสุวรรณ-แม่คำพัน เสนาใหญ่ อาชีพทำนา และรับจ้างทั่วไป ภูมิลำเนาบ้านหนองผือ ตำบลหนองผือ อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี,บัณฑิตเอม อทิตา เสนาใหญ่ กล่าวว่า รู้สึกดีใจ และภาคภูมิใจที่ได้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ในครั้งนี้ เป็นบัณฑิตแห่งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งตนไม่เคยคิดว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ด้วยฐานะทางบ้านยากจน หลังจบมัธยมศึกษาตอนปลายที่ โรงเรียนเขมราฐพิทยาคม อยากเรียนต่อในมหาวิทยาลัย สำหรับตนแล้วมันคือโอกาสสำคัญของชีวิต จบ ม.6 ยังจำคำที่แม่พูดได้ว่า ถ้าจะเรียนต่อ แม่คงจะมีเงินส่งเรียนน้อลูก คำพูดนี้ ทำให้ตนพยายามมากกว่าคนอื่น โดยหาแหล่งทุนการศึกษาที่สามารถส่งเรียนจนจบ ป.ตรี ได้ ช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว ตนเลือกสอบ และได้รับทุนจากโครงการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ (ทุนเรียนดีวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย) ให้เรียนต่อระดับปริญญาตรี-โท และเอก ระดับ ป.ตรี เลือกเรียนที่ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เพราะเชื่อมั่นในหลักสูตรการศึกษา ค่าใช้จ่ายไม่สูง ที่สำคัญอยู่ใกล้ครอบครัว ถึงแม้ว่าตนจะได้รับทุนในการศึกษา แต่ก็ด้วยจำนวนจำกัด อีกทั้งครอบครัวยังมีพี่สาวอีกคนที่กำลังเรียนทุนพยาบาลเช่นกัน จึงทำให้ครอบครัวจำเป็นต้องขายที่นาผืนสุดท้ายที่มีอยู่ส่งลูกเรียนอีกทางด้วย,ตนก้าวมาถึงจุดนี้ได้ต้องขอขอบคุณ พ่อ กับแม่ และครอบครัว ที่เป็นกำลังใจมาโดยตลอด ขอบคุณครู อาจารย์ที่ช่วยชี้แนะ ถ่ายทอดความรู้ ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่อยู่เคียงข้าง ดีใจที่วันนี้มาถึง ดีใจที่ทำความฝันของพ่อแม่ได้สำเร็จ วันนี้พ่อก็ยังต้องทำงานหนัก รับจ้างหาเลี้ยงครอบครัว ส่วนแม่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยครั้ง ตนสำนึกอยู่เสมอว่า ปริญญาที่ได้มาใบนี้ มาจากหยาดเหงื่อของพ่อกับแม่ ตนสัญญาว่าจะนำความสำเร็จ และความภาคภูมิใจให้กับท่าน ดูแลท่านให้ดีที่สุดในบั้นปลายของชีวิตให้จงได้ ซึ่งปัจจุบันตนกำลังศึกษาระดับ ป.โท ที่คณะวิทยาศาสตร์ สาขาพฤกษศาสตร์ ภาควิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อนาคตอยากเป็นนักวิจัย หรือ อาจารย์สอนด้านวิทยาศาสตร์ ในพื้นที่บ้านเกิดตนเอง พร้อมเป็นบัณฑิตที่ดีของประเทศชาติ พร้อมยึดมั่นเสมอว่า สิ่งที่ได้เรียนรู้ที่สำคัญที่สุด คือ เราต้องรู้จักแบ่งปัน ใช้ชีวิตให้มีความสุขและมีความหมาย บัณฑิตเอม อทิตา เสนาใหญ่ กล่าว
|
เอม บัณฑิต ม.อุบลฯ คว้าเกียรตินิยม จบ ป.ตรี 4.00 ตลอดหลักสูตร ขอบคุณพ่อแม่ที่ทำให้ตนได้มีวันนี้ ตั้งใจจะหาเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ให้ดีที่สุด
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
สาวเก่ง,จบป.ตรี 4.00,เอม อทิตา,อทิตา เสนาใหญ่,มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1155578
|
สถิติและเซ็กส์ กับคุณครูภาวนา
|
ในห้องเรียนสถิติบ่ายวันหนึ่งที่อากาศอบอ้าว ท่ามกลางนักเรียนที่ง่วงหงาวหาวนอน เพราะตัวเลขสถิติเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นค่ามัธยฐาน ค่ากลาง ค่าเฉลี่ย ค่าแปรปรวน ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความเชื่อมั่น นัยสำคัญ และอื่นๆ อีกมากมาย นักเรียนแปลความหมายถูกบ้าง ไม่ถูกบ้าง ไม่รู้แปลว่าอะไรบ้างคุณครูภาวนา เห็นว่า ถ้าจะสอนต่อ คงไม่รู้เรื่อง และนักเรียนคงหลับแน่ๆ คุณครูภาวนาก็เลยเอาเรื่อง 10 Surprising Sex Statistics หรือ 10 สถิติเกี่ยวกับเซ็กส์ที่น่าประหลาดใจ ที่เพิ่งอ่านเจอเมื่อวาน มาเล่าให้นักเรียนฟังครั้งที่แล้ว คุณครูภาวนาสอนเรื่องค่าเฉลี่ย โดยยกตัวอย่าง ขนาดจู๋ของคนไทยเฉลี่ย 10.1 เซนติเมตร ใหญ่กว่าจู๋สัญชาติเกาหลีใต้ และเล็กกว่าจู๋ญี่ปุ่นนั้น เด็กๆ สงสัยว่า แปลว่าอะไร จู๋คนไทยทุกคนยาว 10.1 เซนติเมตรหมดเลยหรือเปล่าคุณครูภาวนา อธิบายโดยใช้หลักการสถิติว่า เป็นค่าเฉลี่ย ณ ช่วงเวลาที่วัด นั่นคือ เอาขนาดความยาวของจู๋ของทุกคนที่ถูกถามในวันนั้นมาบวกกัน แล้วก็หารด้วยจำนวนจู๋ทั้งหมด ซึ่งการวัดขนาดความยาวอาจจะคลาดเคลื่อนได้ บางคนก็วัดตอนจู๋ไม่แข็ง บางคนวัดตอนแข็ง ซึ่งก็อาจจะมีตั้งแต่ 5 เซนติเมตร ถึง 15 เซนติเมตร ก็ได้ แต่ข้อมูลที่บอก บอกเพียงขนาดเฉลี่ย ไม่ได้บอกว่าจากกลุ่มตัวอย่างกี่คน อายุเท่าไหร่หรือวัยรุ่นหญิงไทยคลอดลูกเฉลี่ยวันละ 336 คน ก็เป็นค่าเฉลี่ยที่นับได้จากโรงพยาบาลที่เก็บตัวเลข ณ ปี 2553 ซึ่งข้อมูลจริงๆ อาจจะมากกว่า 336 ก็ได้สถิติเกี่ยวกับเซ็กส์ที่คุณครูภาวนา เอามาสอนเด็กวันนี้ มาจากเว็บไซต์ เรามาลองดูว่า 10 เรื่องเซ็กส์ที่เกี่ยวข้องกับสถิติมีเรื่องอะไรบ้าง และเรารู้มากน้อยแค่ไหน50% หรือครึ่งหนึ่งของทั้งผู้ชายและผู้หญิงจะติดเชื้อเอชพีวี (HPV) ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต ไม่ใช่เฉพาะผู้หญิงที่จะติดเชื้อนี้อย่างที่เข้าใจHPV มาจากคำเต็มๆ ว่า Human Papilloma Virus เป็นไวรัสที่จะทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก โดยที่ 90 % ของการติดเชื้อ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะกำจัดเชื้อนี้ออกไปในเวลา 2 ปี ส่วนอีก 10 % กำจัดไม่ได้ ถ้าเราเจอไวรัสเอชพีวีสายพันธุ์ที่ไม่อันตรายก็จะเป็นแค่โรคธรรมดา เช่น หูดที่อวัยวะเพศ แต่ถ้าติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่เป็นอันตรายก็จะเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก หรือ มะเร็งอื่นๆ (ข้อมูลจากศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค สหรัฐอเมริกา)คุณครูภาวนาเสริมว่า ปัจจุบันมีวัคซีนที่สามารถฉีดเพื่อป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกแล้ว โดยฉีด 3 เข็ม เข็มที่ 2 และ 3 ห่างจากเข็มแรก 2 และ 4 เดือนตามลำดับ องค์การอาหารและยาของอเมริกาแนะนำว่า ให้เริ่มฉีดเมื่ออายุประมาณ 11-12 ปี แต่อาจจะฉีดเมื่ออายุ 9 ปีก็ได้ เนื่องจากเด็กในช่วงอายุดังกล่าวยังไม่มีการติดเชื้อ HPV และช่วงดังกล่าวเด็กจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างเต็มที่แต่วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกจะสร้างภูมิต่อเชื้อ HPV ชนิด 6 11 16 และ 18 ดังนั้นถ้าใครยังไม่ได้รับเชื้อ 4 ตัวนี้ก็จะได้ประโยชน์จากการฉีดวัคซีน และใครที่ชอบเปลี่ยนคู่นอน จะมีโอกาสที่จะติดเชื้อไปแล้ว และอาจจะไม่ได้ประโยชน์จากการฉีดวัคซีนนี้2 ใน 3 หรือ 67% ของผู้หญิงที่คลอดลูกระหว่างปี พ.ศ. 2544 ถึง 2546 ท้องไปด้วย ทำงานไปด้วย และมากไปกว่านั้น 80% ของหญิงสาวรักงานเหล่านี้ กลับไปทำงานหลังจากคลอดลูกภายใน 1 เดือนหรือน้อยกว่าเรามาดูกันว่า ย้อนหลังไป 40 ปี คือปี พ.ศ. 2504 ถึง 2508 มีเพียง 44 % ของผู้หญิงที่ทำงานระหว่างท้อง และ 35% กลับไปทำงานหลังจากคลอดลูกภายใน 1 เดือนหรือน้อยกว่า (ข้อมูลจากสำมะโนประชากร สหรัฐอเมริกา)คุณครูภาวนา ถามนักเรียนว่า เราจะแปลตัวเลขนี้อย่างไร แปลว่า ผู้หญิงปี 2544-2546 แข็งแรงกว่าผู้หญิงปี 2504-2508 ขยันทำงานกว่า ชอบทำงานมากกว่าเลี้ยงลูก หรือความจำเป็นบังคับ หรือมีคนเลี้ยงลูกหรือสามีใช้สิทธิลาช่วยเลี้ยงลูกแทน หรือข้อมูลจากสำนักงานสถิติสาธารณสุขแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา ที่สำรวจชายและหญิงอายุระหว่าง 20 – 59 ปี พบว่า โดยเฉลี่ยผู้หญิงมีเซ็กส์กับคน 4 คน ขณะที่ผู้ชายมีกับ 7 คน ณ นับถึงเวลาที่ถามคำถามนี้คุณครูภาวนาได้ทีเสริมว่า ต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเซ็กส์นะคะ จะได้ไม่ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และท้อง ส่วนตัวเลขสถิติของนักเรียนคือเลขอะไร ไม่ต้องบอกครูก็ได้ แต่ทางที่ดี ไม่ต้องทำแต้มแข่งกัน จะดีกว่านะคะ2 ใน 3 ของนักเรียนระดับวิทยาลัยในอเมริกามีเซ็กส์กับเพื่อนมากกว่า 50% ของคนที่มีเซ็กส์กับเพื่อนบอกว่า มีเซ็กส์ได้ทุกรูปแบบ22.7 % บอกว่า มีเฉพาะการสอดใส่8 % ทำทุกอย่างยกเว้นการสอดใส่ (ข้อมูลจาก มหาวิทยาลัย Wayne State และ มหาวิทยาลัย Michigan State)คุณครูภาวนาย้ำอีกครั้งว่า ต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเซ็กส์นะคะ ไม่ว่าจะกับใคร จะได้ไม่ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และท้อง เราไว้ใจใครไม่ได้เลยนะคะในเรื่องนี้ ต่อให้เป็นเพื่อนก็เถอะ75 % ของผู้ชายถึงจุดสุดยอดระหว่างที่มีเซ็กส์ ขณะที่ผู้หญิงมีเพียง 29 %ผู้หญิงส่วนมากจะไม่ถึงจุดสุดยอดในการมีเซ็กส์แบบสอดใส่ แต่เป็นการถึงจุดสุดยอดโดยการกระตุ้นคลิตอริส (ข้อมูลจาก การสำรวจชีวิตทางสังคมและสุขภาพแห่งชาติ)นักเรียนสงสัย ทำไม และเพราะอะไร เก็บไปคุยกันต่อในห้องเรียนเพศศึกษาดีกว่า1 ใน 10 ของคู่แต่งงานบอกว่า โดยปกตินอนคนเดียว (ข้อมูล สมาคมการนอนหลับแห่งชาติ)นักเรียน : สงสัยว่านอนกรนเลยต้องแยกกันนอน ส่วนอีก 9 คน ต่างคนต่างนอนกรนก็เลยนอนด้วยกันได้ เพราะไม่รู้ว่าใครกรนโดยเฉลี่ย ผู้ชายจะมีเซ็กส์ครั้งแรก เมื่ออายุ 16.9 ปี ผู้หญิงแก่กว่าเมื่อ 17.4 ปีการศึกษาใหม่ๆ พบว่า ยีนอาจจะเป็นตัวที่ทำให้คน อยาก หรือ ไม่อยาก หรือ อยากมาก หรืออยากน้อย ที่จะมีเซ็กส์ในช่วงอายุน้อยๆ (ข้อมูล Kinsey Institute California State University)นักเรียน : จริงเปล่านี่ จะไปลองถาม คุณครูสอนชีวะ ดูราวๆ 5 % ของผู้ชายอายุ 40 ปี และ 15-25 % ของชายอายุ 65 ปี เคยมีประสบการณ์หย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ข้อมูลจาก National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases)นักเรียน : รุ่นพ่อกับปู่เลยนะนั่น ไปถามพ่อกับปู่จะอธิบายให้ฟังไหมนี่ ลองดูว่า เรื่องเพศ คุยกันได้ จริงหรือเปล่าจู๋ของอเมริกันชน ตอนแข็งตัวโดยเฉลี่ยยาว 5 – 7 นิ้ว และขนาดรอบจู๋ 4 - 6 นิ้ว (ข้อมูลจาก Kinsey Institute)นักเรียน : มันยาวกว่าไทยหรือเปล่าหว่า ต้องแปลงนิ้วเป็นเซ็น หรือ เซ็นเป็นนิ้ว แล้วเทียบดู ว่าแต่ 1 นิ้ว มีกี่เซ็นคุณครูภาวนา : 1 นิ้ว เท่ากับ 2.54 เซ็นนักเรียน : จู๋ของคนอเมริกัน ขนาด 12.7 - 17.8 เซ็น ใหญ่นะนี่ศตวรรษที่ 18 หญิงชาวรัสเซียสร้างสถิติโลก โดยการคลอดลูก 69 คนจากการตั้งท้อง 27 ครั้ง เป็นแฝดสอง 16 คู่ แฝดสาม 7 คู่ และแฝดสี่ 4 คู่ แต่สถิตินี้ก็ยังน้อยกว่ากษัตริย์โมร็อคโค ในปี 1721 ที่มีลูกสาว 342 คน และลูกชาย 700 คน ข้อมูลจาก Why Evolution Is True (Viking 2009)นักเรียน : คนสมัยก่อนสงสัยว่าง ถ้าอยู่ในประเทศไทยต้องไปเตะบอลจนเหนื่อยเลยนะนี่ ;)จากที่ง่วงๆ นักเรียนตาสว่าง และสนุกกับตัวเลขเหล่านี้ เมื่อหมดชั่วโมงสถิติที่ไม่น่าเบื่อ นักเรียนบอกคุณครูภาวนาว่า คราวหน้า ขอเรียนแบบนี้อีกนะครับ / ค่ะ
|
ในห้องเรียนสถิติบ่ายวันหนึ่งที่อากาศอบอ้าว ท่ามกลางนักเรียนที่ง่วงหงาวหาวนอน เพราะตัวเลขสถิติเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นค่ามัธยฐาน ค่ากลาง ค่าเฉลี่ย ค่าแปรปรวน ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
|
คุณภาพชีวิต,การศึกษา
|
พสุภา ชินวรโสภาค,เซ็กส์,เพศ,เพศศึกษา
|
https://prachatai.com/journal/2012/05/40315
|
โบอิ้ง 737 เซาท์เวสต์แอร์ไลน์เครื่องยนต์ระเบิด ลงฉุกเฉินที่ฟิลาเดเฟีย
|
เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2561 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเหตุระทึกกลางท้องฟ้าของสหรัฐอเมริกา เมื่อเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737-700 ของสายการบินเซาท์เวสต์เที่ยวบิน 1380 บินขึ้นจากจาก ท่าอากาศยานลากวาเดีย มหานครนิวยอร์ก ไป ท่าอากาศยานเลิฟฟิลด์ เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินในเมืองฟิลาเดเฟีย หลังเกิดเหตุเครื่องยนต์หมายเลข 1 ด้านซ้ายระเบิดกลางอากาศ ส่งผลให้ฝาครอบและชิ้นส่วนใบพัดเครื่องยนต์หลุดหายไป,รายงานข่าวยังระบุว่า จากแรงระเบิดทำให้เศษชิ้นส่วนกระเด็นไปกระแทกหน้าต่างข้างที่นั่งโดยสาร แถวที่ 17 ด้านซ้ายแตก ทำให้ห้องโดยสารสูญเสียความดันอย่างฉับพลัน มีผู้โดยสารสุภาพสตรีที่นั่งข้างหน้าต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะถูกดูดออกไปทางหน้าต่าง แต่มีคนที่นั่งข้างๆ ดึงร่างเอาไว้ทัน ส่วนผู้โดยสารคนอื่น ต้องใส่หน้ากากออกซิเจนเพื่อหายใจ ระหว่างที่เครื่องบินต้องลดระดับความสูงฉุกเฉินจากกว่า 30,000 ฟุต ลงมาที่ต่ำกว่า 10,000 ฟุต,กัปตันได้นำเครื่องบินไปลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานนานาชาติฟิลาเดียได้อย่างปลอดภัย รายงานจากเว็บไซต์ไฟลท์อแวร์ ระบุว่า เครื่องบินได้บินเข้าใกล้ทางตอนกลางของรัฐเพนซิลวาเนีย ก่อนจะเปลี่ยนไปลงลงจอดฉุกเฉินที่ฟิลาเดเฟีย,ด้าน สายการบินเซาท์เวสต์ แถลงการณ์ระบุว่า เที่ยวบิน 1380 มีคนบนเครื่องเป็นผู้โดยสาร 143 คนและลูกเรืออีก 5 คน กำลังนำทุกคนออกจาเครื่องเข้าไปยังอาคารผู้โดยสาร ทางสายการบินกำลังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และจะแจ้งให้ทราบภายหลังจากมีการยืนยันแล้ว,ด้านบริษัทโบอิ้ง ออกแถลงการณ์ผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า โบอิ้งรับทราบถึงเหตุเที่ยวบิน 1380 ของสายการบินเซาท์เวสต์แล้ว โดยเตรียมทีมเจ้าหน้าที่เทคนิค เพื่อสืบสวนสาเหตุของเหตุที่เกิดขึ้น ร่วมกับทางคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ เอ็นทีเอสบีแล้ว,สำหรับเครื่องบิน โบอิ้ง 737-700 ลำที่เกิดเหตุเริ่มใช้งานมาตั้งแต่ปี 2000 อายุรวมประมาณ 18 ปี.
|
ระทึกกลางฟ้า!! โบอิ้ง 737 ของสายการบินเซาท์เวสต์ ต้องร่อนลงฉุกเฉินที่ฟิลาเดเฟีย หลังเครื่องยนต์ด้านซ้ายระเบิด กระแทกหน้าต่างแตก คนบนเครื่อง 142 ชีวิตรอด แต่มีเจ็บสาหัส และตายที่รพ. 1 ราย
|
ข่าว,ต่างประเทศ
|
โบอิ้ง 737,สายการบินเซาท์เวสต์แอร์ไลน์,เครื่องยนต์ระเบิด,ลงจอดฉุกเฉิน,ฟิลาเดเฟีย,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1258307
|
งูเหลือมเลื้อยข้ามถนนถูกมอเตอร์ไซค์ขี่ทับ หนีมุดท่อถูกเหล็กเสียบแผลเหวอะ
|
เมื่อเวลาราว 23.00 น. วันที่ 7 ก.พ. 62 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ขอความช่วยเหลือเนื่องจากพบงูเหลือมขนาดใหญ่ลำตัวติดอยู่ระหว่างเหล็กท่อระบายน้ำ ไม่สามารถเลื้อยไปไหนได้ บริเวณริมถนนมิตรภาพ กิโลเมตรทื่ 3 สะพานกลับรถบ้านเอื้อวิทยา ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จึงเข้าไปตรวจสอบพร้อมด้วยอุปกรณ์ตัดถ่าง,ที่เกิดเหตุพบงูเหลือมขนาดใหญ่ มีความยาวกว่า 5 เมตร น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงได้นำอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าไปตัดเหล็กที่เสียบอยู่ที่ลำตัวและดึงงูออกมา ตรวจสอบบริเวณลำตัวพบว่ามีบาดแผลลึกขนาดใหญ่อยู่ที่ลำตัว 3 แห่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้นำงูเหลือมปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ,จากการสอบถาม นายน้ำตา ศรีอุตะ อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ. เล่าว่า เห็นงูเหลือมเลื้อยออกจากป่าข้างทางจะข้ามถนน เป็นจังหวะเดียวกับที่มีหญิงสาวขี่รถจักรยานยนต์ทับกลางลำตัวของงูเหลือม ทำให้งูเหลือมตกใจเลื้อยหนีพยายามมุดลงท่อระบายน้ำ แต่เนื่องจากท่อระบายน้ำที่มีเหล็กขาดกั้นอยู่ทำให้เหล็กเสียบเข้าที่ลำตัวจึงไม่สามารถหนีไปไหนได้ ตนจึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยให้เข้ามาช่วยเหลือ.
|
เจ้าหน้าที่กู้ภัยสระบุรี รุดช่วยงูเหลือมยาว 5 เมตร ลำตัวติดท่อระบายถูกเหล็กเสียบเป็นแผลเหวอะ รปภ. เห็นเหตุเผย ขณะเลื้อยข้ามถนนถูกมอเตอร์ไซค์ขี่ทับจึงเลื้อยหนีลงท่อ
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
งูเหลือม,งูติดท่อ,งูเหลือม 5 เมตร,รถทับงู,สระบุรี,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1491328
|
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.นครศรีธรรมราช เตรียมออกหมายจับแกนนำสวนยางพารา
|
ชาวสวนยางพาราชุมนุมปิดถนน และเส้นทางรถไฟ ในพื้นที่อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราชอย่างต่อเนื่อง เพื่อเรียกร้องให้รัฐแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ทำให้การสัญจรขึ้นล่องจากภาคใต้ถูกตัดขาดเป็นวันที่ 5 โดยล่าสุดกลุ่มเกษตรกรไร้ที่ดินทำกิน 14 จังหวัดภาคใต้ ที่ยึดสวนปาล์มน้ำมันที่หมดอายุสัมปทานของบริษัทเอกชนในจ.กระบี่ เตรียมเข้าร่วมชุมนุมกับเกษตรกรชาวสวนยางพารา โดยอ้างว่าความเดือดร้อนของชาวสวนยางพารา เป็นส่วนหนึ่งของความเดือดร้อนของเกษตรกร ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากนโยบายรัฐขณะที่นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจ.นครศรีธรรมราช ยื่นคำร้องต่อศาลจ.นครศรีธรรมราช เพื่อไต่สวนฉุกเฉิน และขอคำสั่งศาล เพื่อขอบังคับคืนพื้นที่สาธารณะ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมใช้เป็นพื้นที่ชุมนุมทั้ง 2 จุด คือที่แยกควนหนองหงส์ และแยกบ้านตูล อำเภอชะอวดส่วนพล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.นครศรีธรรมราช เรียกประชุมศูนย์ปฏิบัติการตำรวจ เพื่อสรุปข้อมูล และมอบหมายให้พนักงานสอบสวนที่ถูกเรียกตัวมา เร่งดำเนินการทำสำนวน เพื่อขออนุมัติหมายจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างน้อย 5 คนที่มีบทบาทเป็นแกนนำ คาดว่าจะแล้วเสร็จในค่ำวันนี้ (27 สค. 2556)สำหรับการรถไฟแห่งประเทศไทยแจ้งว่า วันนี้ (27 ส.ค.2556) ได้หยุดเดินรถในเส้นทางสายใต้ 5 ขบวนคือ รถเร็วกรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก รถด่วนพิเศษ กรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวิร์ธ รถด่วนพิเศษ กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก รถเร็ว กรุงเทพฯ-ยะลา และ รถด่วนพิเศษ กรุงเทพฯ-ยะลา ซึ่งจะออกจากสถานีหัวลำโพงเวลา 22.50 น. วันนี้ (27 ส.ค. 2556) ขณะที่ขาขึ้นจากสถานีปลายทางสุไหงโก-ลก จะเปิดให้บริการขนส่งผู้โดยสารถึงสถานีพัทลุงเท่านั้น
|
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.นครศรีธรรมราช เตรียมขออนุมัติหมายจับ แกนนำสวนยางพารา ที่พากลุ่มผู้ชุมนุมปิดถนนในอ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปิดถนนประท้วง
|
ภูมิภาค
|
ชะอวด,ชุมนุม,นครศรีธรรมราช,บ้านตูล,ประท้วง,ผู้บังคับบัญชา,ยาง,ยางพารา,สวนยางพารา
|
https://news.thaipbs.or.th/content/192151
|
กยศ. ปล่อยกู้นักเรียน 3.4 หมื่นล้าน
|
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า กยศ.ได้เตรียมวงเงินสำหรับให้ผู้ปกครองของนักเรียนและนักศึกษา กู้ยืมเพื่อนำไปใช้จ่ายดูแลบุตรหลานในการเปิดเรียนภาคการศึกษา 2563 เดือน ก.ค.นี้ จำนวน 34000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6000 ล้านบาท จากปีก่อนซึ่งปล่อยกู้อยู่ที่ 28000 ล้านบาท เพราะโควิด-19 แพร่ระบาด ผู้ปกครองบางรายขาดรายได้ เพราะออกไปทำมาหากินไม่ได้ ทำให้กระทบกับภาระค่าใช้จ่ายที่มีอยู่ และการที่กยศ.เพิ่มค่าครองชีพผู้กู้ยืมเพิ่มขึ้นอีกรายละ 600 บาทต่อเดือน ได้แก่ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากเดิม 1200 บาท เป็น 1800 บาทต่อเดือนสำหรับระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และปริญญาตรี จากเดิม 2400 บาท เป็น 3000 บาทต่อเดือน จะทำให้คนกู้มากขึ้น กยศ.จึงเตรียมวงเงินสำหรับปล่อยกู้ไว้เพิ่มในปีนี้ ส่วนการชำระหนี้ของผู้กู้ คาดว่าปีนี้จะมีการชำระหนี้น้อยกว่าปีที่ผ่านมา 20% ที่มีการชำระหนี้อยู่ที่ 32000 ล้านบาท เนื่องจากโควิด-19 ทำให้ผู้กู้มีเงินชำระหนี้ลดลง แต่คาดว่าในปีหน้าการชำระหนี้จะดีขึ้นตามเดิมนายชัยณรงค์ กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา มีมติเห็นชอบให้มีการปรับกำหนดการกู้ยืมในปีการศึกษา 2563 ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการเลื่อน เปิด-ปิดภาคเรียนของสถานศึกษา สำหรับสถานศึกษาทั่วไป ในภาคเรียนที่ 1 โดยขอให้ผู้กู้ยืมเงินรายใหม่ลงทะเบียนขอรหัสล่วงหน้า ได้ไปจนถึงวันที่ 31 ส.ค.นี้ ส่วนผู้กู้ยืมรายเก่าไม่จำเป็นต้องยื่นลงทะเบียน สามารถยื่นแบบขอกู้ยืมเงินผ่านระบบ e-Studentloan จนถึง 30 ก.ย.นี้ จากนั้นสถานศึกษาประกาศรายชื่อ ผู้ได้รับคัดเลือกให้กู้ยืมภายในวันที่ 31 ต.ค.นี้.
|
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า กยศ.ได้เตรียมวงเงินสำหรับให้ผู้ปกครองของนักเรียนและนักศึกษา กู้ยืมเพื่อนำไปใช้จ่าย
|
ข่าว,เศรษฐกิจ
|
กยศ.,กยศ. เงินกู้,กู้เงินเรียน,กู้เรียน,กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา,ยื่นกู้ กยศ.,ข่าววันนี้
|
https://www.thairath.co.th/news/business/1883657
|
สปสช.ยังไม่สรุป 63 คลินิกทุจริตงบฯ บัตรทอง
|
วันนี้ (15 ก.ค.2563) นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า หลังขยายผลตรวจสอบข้อมูลการจ่ายชดเชยค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคอีก 86 แห่ง แบ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชน 20 แห่ง และคลินิกเอกชน 66 แห่ง ในจำนวนนี้พบ 63 แห่งข้อมูลไม่ถูกต้อง เรียกเงินคืน 2473600 บาท แต่เมื่อแจ้งผลสอบมี 11 แห่งยื่นขออุทธรณ์ขณะที่ นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า เบื้องต้นตรวจพบคลินิก 63 แห่ง เบิกจ่ายไม่ถูกต้อง แต่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าทุจริตหรือไม่ ต้องตรวจสอบเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีเจตนาทำให้เกิดความผิดพลาดหรือไม่ โดย สปสช.เขต 13 กทม.วางแผนลงพื้นที่ทั้งหมด 63 แห่ง ระหว่างวันที่ 30 ก.ค. - 11 ส.ค.นี้ และวันพรุ่งนี้ (16 ก.ค.) จะนำเรื่องเสนอคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขตพื้นที่ กทม.เพื่อพิจารณาดำเนินการนพ.การุณย์ กล่าวอีกว่า ส่วนคลินิกชุมชนอบอุ่น 18 แห่งที่พบทุจริตงบบัตรทอง ได้ดำเนินการไปแล้ว 9 ส่วน เช่น ยกเลิกสัญญาหน่วยบริการ ดำเนินคดีตามกฎหมาย เรียกเงินคืน พร้อมกับประชุมคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงนัดแรกเมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีผู้ประกอบวิชาชีพอื่นเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ เพื่อส่งให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพและแพทยสภาดำเนินการเรื่องจรรยาบรรณวิชาชีพต่อไปส่วนกรณีอดีตผู้บริหาร สปสช.ซึ่งหมดวาระและไปดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาคลินิกเอกชน มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้และขัดกับระเบียบ สปสช.หรือไม่นั้น รองเลขาธิการ สปสช.ระบุว่า ไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่จะผิดกฎหมายอื่นหรือไม่คงไม่ใช่บทบาทของ สปสช. ต้องเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบเป็นผู้ดำเนินการ
|
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ยังไม่ระบุชัดว่าคลินิก 63 แห่ง เบิกงบประมาณบัตรทองเข้าข่ายทุจริตหรือไม่ เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบเพิ่มเติมสิ้นเดือน ก.ค.นี้
|
สังคม
|
ทุจริตงบบัตรทอง,คลินิกชุมชนอบอุ่น,ทุจริตเบิกจ่าย,สปสช.
|
https://news.thaipbs.or.th/content/294605
|
ศรีวราห์ รับมอบตัว 5 ผู้ต้องหาลักลอบขนระเบิด พาวเวอร์เจล
|
เมื่อวันที่ 3 พ.ค.61 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ทหารคุมตัว นายณัฎฐชัย ธนภัทรสัจพร, นางชเนตตี ธนภัทรสัจพร, นายโสภณ เติมพันธุนันท์, ร.ต.ท.ยุทธนา ชิตชลธาร และนายบุญเลิศ แน่นพิมาย ผู้ต้องหาตามหมายจับร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มาส่งมอบให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.,โดยเบื้องต้นหลังจากการรับตัวจากเจ้าหน้าที่ทหาร แพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจได้ตรวจร่างกายผู้ต้องหาตามขั้นตอน ซักถามประวัติสอบปากคำ และพิมพ์ลายนิ้วมือ,คดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ธัญบุรี ได้จับกุมผู้ต้อง 2 คน จากกรณีที่มีการลักลอบขนพาวเวอร์เจล ซึ่งใช้สำหรับการผลิตระเบิดไป อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ตำรวจควบคุมตัวและยึดได้ ก่อนขยายผลจับวิศวกรผลิตที่จังหวัดสระบุรี เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าผลิตจากโรงงานจริง,ทั้งนี้จากการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่พบว่า ผู้ต้องหาได้ลักลอบนำสารประกอบวัตถุระเบิดจากโรงงานในอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี มาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ มีทั้งจังหวัดภูเก็ต อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดตาก พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรียังได้ออกคำสั่งให้ปิดโรงงานดังกล่าวแล้ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทหารมีการไปนำชี้ที่เกิดเหตุพบว่าโรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตทำสารประกอบวัตถุระเบิดถูกต้อง แต่มีการดัดแปลงเกี่ยวกับเครื่องจักรที่ไม่ถูกต้อง จึงมีการสั่งให้ปิดโรงงานดังกล่าวแล้ว,ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติของนายณัฐชัย ระบุว่าเคยเป็นเซลส์ และมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องยุทธภัณฑ์ ก่อนหน้านี้เคยมีประวัติถูกแจ้งความในคดีลักทรัพย์นายจ้าง เมื่อปี 2558 โดยการลักปุ๋ยยูเรียไปส่งโรงโม่หินก่อนที่จะถูกดำเนินคดี,อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้กำชับพนักงานสอบสวนว่า ให้มีการสอบปากคำให้ถ้วนถี่ หากพาดพิงไปถึงใครก็จะดำเนินคดีทุกคน.
|
รอง ผบ.ตร.รับมอบตัว 5 ผู้ต้องหาลักลอบขนสารประกอบระเบิดพาวเวอร์เจล จากเจ้าหน้าที่ทหาร หลังขยายผลจับกุมตัวได้ที่จังหวัดสระบุรี
|
ข่าว,อาชญากรรม
|
ระเบิด,พาวเวอร์เจล,ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล,รับมอบตัว,กองปราบ,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/crime/1271992
|
ก้อง กรุณ ควงแฟนใหม่ไปอวยพร แฟนเก่า (เกรซ) แบบมิตรภาพดีๆมีให้เห็น
|
ตะลุ่งตุ้งแช่,หมวยแซบ หมวยแซบรายงานข่าวซ่าส์ ณ บัดนี้,เห็นเท่ๆ คูลๆ บนเวทีก็ไม่ใช่ว่าจะไม่กลัวอะไร ปอร์เช่–ศิวกร แร็ปเปอร์ประจำ 9x9 (ไนน์ บาย นาย) โปรเจกต์พิเศษโดย 4NOLOGUE (โฟร์โนล็อค) เพราะเจ้าตัวแอบกระซิบว่าผมเป็นโรคกลัวแมงมุม (Arachnophobia) เห็นแล้วขนลุกขนพองไปหมด เอ้า สาวๆ NIGHT (ชื่อแฟนคลับ) รู้อย่างนี้แล้วรีบส่งใจมาดูแลพี่ปอร์เช่ด่วน.,มาต่อกันที่คนนี้ที่เพื่อนๆพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หลับได้ทุกที่ ไม่ใช่ใครที่ไหน กัปตัน–ชลธร หนึ่งในเก้าหนุ่ม 9x9 (ไนน์ บาย นาย) โปรเจกต์พิเศษโดย 4NOLOGUE (โฟร์โนล็อค) งานนี้เพื่อนๆการันตีว่าเจ้าตัวหลับทุกที่ แม้แต่ในขณะที่ยืนอยู่หนุ่มกัปตันก็หลับได้.,เปิดตัวปังๆด้วย 3 ศิลปินตัวแม่ไปแล้วอย่าง นิว–จิ๋ว, ลุลา และ หญิง-รฐา สำหรับโปรเจกต์เฮอร์ คราวนี้ถึงคิวของน้องนุชคนสุดท้องอย่าง มาตัง-ระดับดาว สาวน้อยที่ความสามารถสวนทางกับอายุ ที่จะออกมาแชร์อีกหนึ่งมุมมองของความรัก ในเพลง เพิ่งรู้ตัว กับครั้งแรกของการเจอกันกับ เจี๊ยบ-สารภี.,แฟนๆแม่ยกเตรียมกรี๊ด วันเสาร์ที่ 22 ธ.ค. เด็กน้อย หนุมาน มารุติ หรือ อิซาน บานุชาลี มาร่วมแสดงเรื่อง บาจิราว ขุนศึกยอดนักรบ ทางช่อง 8 เวลา 10.20-11.30 น. ห้ามพลาด เดี๋ยวจะหาว่าไม่บอกนะจ๊ะ.,ต่อยอดความแรงแบบไม่หยุดยั้งสำหรับ EXO (เอ็กซ์โซ) เพิ่งปล่อยอัลบั้มรีแพ็กเกจชุดที่ 5 LOVE SHOT (เลิฟ ช็อต)ออกมาทางชาร์ตเพลงออนไลน์ต่างๆของเกาหลี, iTunes, Spotify, Apple Music เป็นต้น ซึ่งอัลบั้มรีแพ็กเกจชุดนี้ ประกอบไปด้วยเพลงจากอัลบั้มเต็มชุดที่ 5 DONT MESS UP MY TEMPO 11 เพลงบวกกับ 4 เพลงใหม่ ได้แก่ เพลงเปิดตัว Love Shot ในภาษาเกาหลี และภาษาจีน, เพลง Trauma, เพลง Wait รวมทั้งหมดเป็น 15 เพลง ที่จะมาดึงดูดแฟนๆ ได้มากยิ่งขึ้นไปอีก.,คนจริงต้องนี่ ตูน บอดี้สแลม รับหน้าที่เป็นพรีเซนเตอร์รณรงค์ใช้ถุงผ้า ไม่รับถุงพลาสติก ไป จ.ภูเก็ต แบรนด์เนมไม่ใช้ ตูน พกถุงผ้าแจกไปเองเลย รักษ์โลกลดโลกร้อน แจ๋วที่ซู้ดด.,ผ่างผ่างงง จัดปาร์ตี้วันเกิด เหล่าเพื่อนๆ เกรซ–กาญจน์เกล้า มาร่วมงานกันอบอุ่น รวมไปถึง ก้อง–กรุณ ควงแฟนใหม่ไปอวยพร แฟนเก่า (เกรซ) แบบมิตรภาพดีๆมีให้เห็น งานนี้โฟกัสกันที่ภาพหนุ่มตี๋ หล่อขาวออร่ากระจาย นั่งใกล้ เกรซ มีภาพคู่ในงานตั้งหลายใบ ทายกันใหญ่ว่าน่าจะใช่หวานใจคนใหม่ของเกรซแน่เลย.,หมวยแซบ
|
จัดปาร์ตี้วันเกิด เหล่าเพื่อนๆ เกรซ–กาญจน์เกล้า มาร่วมงานกันอบอุ่น รวมไปถึง ก้อง–กรุณ ควงแฟนใหม่ไปอวยพร แฟนเก่า (เกรซ) แบบมิตรภาพดีๆมีให้เห็น
| null |
เกรซ กาญจน์เกล้า,ก้อง กรุณ,ปาร์ตี้วันเกิด,ซุบซิบกับหมวยแซบ,หมวยแซบ
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1447108
|
ยอดรูดปื๊ด ห้าง-ซุปเปอร์ ทรุด
|
อยู่ที่ 165,000 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9% ใกล้เคียงกับตลาดรวมที่ปรับตัว 9-10% ส่วนยอดบัตรเครดิตใหม่อยู่ที่ 225,000 บัตร และมียอดบัตรเครดิตรวมอยู่ที่ 5 ล้านบัตร อย่างไรก็ตามในช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้,ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตยังเติบโตต่อเนื่องตลอดทั้งปีมั่นใจว่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมีอัตราการเติบโต 10-11%,หากดูรายละเอียดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต พบว่า อันดับ 1 ซื้อประกันภัย เติบโต 6.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อันดับ 2 ซุปเปอร์มาร์เกตและไฮเปอร์มาร์เกต เติบโตลดลง 13.5% อันดับ 3 น้ำมัน เติบโต 13.4% อันดับ 4 ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือน เพิ่มขึ้น 13.2% อันดับ 5 เดินทางท่องเที่ยว เพิ่มขึ้น 10% และอันดับ 6 ห้างสรรพสินค้าลดลง 1.5%,ทั้งนี้ ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตแยกรายหมวด ส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น มีเพียงหมวดของห้างสรรพสินค้าที่ปรับลดลง ซึ่งเกิดจากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ผู้ถือบัตรเครดิตไม่ใช้จ่าย ส่วนซุปเปอร์มาร์เกตและไฮเปอร์มาร์เกต ที่ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตลดลงมาก ในช่วง 6 เดือนแรก เกิดจากผู้ประกอบการไม่มีแคมเปญลดแลกแจกแถมให้กับลูกค้ารายใหญ่ เมื่อชำระค่าสินค้าผ่านบัตรเครดิต,ในช่วงครึ่งปีหลัง กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะออกบัตรเครดิตร่วมกับห้างทาคาชิมาย่า ที่จะเปิดให้บริการที่ไอคอนสยาม ในเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งจะช่วยหนุนให้จำนวนบัตรเครดิต และยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มวงเงินบัตรให้กับลูกค้ารายเดิม 400,000-500,000 ราย รายละ 30,000-50,000 บาท หลังจากนำปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาวิเคราะห์ข้อมูลการใช้จ่ายและพฤติกรรมการใช้จ่าย พบว่าลูกค้าในกลุ่มนี้ความเสี่ยงต่อการเป็นหนี้เสียน้อย.
|
นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรก มียอดลูกค้าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของเครือกรุงศรีทั้งหมด
|
ข่าว,เศรษฐกิจ
|
ฐากร ปิยะพันธ์,ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต,กรุงศรี คอนซูมเมอร์,ห้างสรรพสินค้า,ซุปเปอร์มาร์เกต
|
https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/1339771
|
ระทึก มาดามแป้ง ลุ้นผลแบ่งสายบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย
|
วันที่ 7 ธ.ค.60 มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ลุ้นผลแบ่งสายชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย หวังแข้งสาวไทยอยู่สายเบา เปิดทางไปเล่นฟุตบอลโลกสมัยที่สองติดต่อ ,โดยทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย 1 ใน 8 ทีม ที่ผ่านเข้ามาเล่นในการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่ประเทศจอร์แดน โดยทีมที่ผ่านเข้ารอบ มีดังนี้ จอร์แดน เจ้าภาพ, ญี่ปุ่น แชมป์เก่า, ออสเตรเลีย รองแชมป์, จีน อันดับ 3 เก่า, ฟิลิปปินส์ รองแชมป์กลุ่มเอ, เกาหลีใต้ แชมป์กลุ่มบี, ไทย แชมป์กลุ่มซี และ เวียดนาม แชมป์กลุ่มดี โดยจะมีการจับสลากแบ่งสายแข่งขัน ในวันที่ 9 ธันวาคม 2560 ที่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน,สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอฟซี ได้เปิดเผยการแบ่งโถจับสลาก ดังนี้,โถ 1 จอร์แดน, ญี่ปุ่น ,โถ 2 ออสเตรเลีย, จีน,โถ 3 เกาหลีใต้, ไทย ,โถ 4 เวียดนาม, ฟิลิปปินส์,ด้าน มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม กล่าวว่า เป็นหนึ่งเรื่องที่ทั้งทีมติดตามกันอย่างใกล้ชิด เพราะสายการแข่งขันสำคัญอย่างมาก มีผลอย่างยิ่งต่อการวางแผนทำงานของโค้ชและนักกีฬา รวมถึงแผนการเก็บตัวและอุ่นเครื่องก่อนจะถึงเดือนเมษายน ความคาดหวังแรกของเราคือ อยากเป็นที่ 2 ของกลุ่ม เพื่อเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก ซึ่งหากไม่ได้ก็ขอลุ้นการเป็นทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด จากการเพลย์ออฟเหมือนเมื่อปี 2014 ดังนั้นการได้อยู่สายที่ไม่หนักมากก็ย่อมเป็นผลดีกับเป้าหมายของเรา หรือถ้าได้อยู่สายบีซึ่งหนักแน่นอน เราก็จะได้วางแผนทำงานหนักกันต่อไป อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกฟุตบอล คงต้องรอลุ้นในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ค่ะ,สำหรับการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2018 รอบสุดท้าย จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 7-22 เมษายน ที่ประเทศจอร์แดน โดยจะคัดเอา 5 ทีมดีที่สุดของทวีปเอเชียไปเล่นฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2019 ที่ประเทศฝรั่งเศส
|
นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมคนสวยของ ชบาแก้ว ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ลุ้นผลแบ่งสายชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ในวันที่ 9 ธ.ค.นี้
|
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
|
มาดามแป้ง,นวลพรรณ ล่ำซำ,ชบาแก้ว,ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย,ฟุตบอลหญิง ชิงแชมป์เอเชีย
|
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1147140
|
สนามบินเบตงคืบ 93% คุยบางกอกแอร์เวย์ส-นกแอร์ เปิดเส้นทางบิน
|
วันนี้ (25 ส.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร นำสื่อมวลชนติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง จ.ยะลา เมื่อวานนี้นายโกศล แสงสุวรรณ นายช่างไฟฟ้าปฏิบัติงาน กรมท่าอากาศยาน เปิดเผยว่าโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2563 ขณะนี้การก่อสร้างทางวิ่ง ทางขับ ลานจอดเครื่องบิน พร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน รวมถึงอาคารที่พักผู้โดยสาร คืบหน้าแล้วร้อยละ 93ระยะเริ่มต้นจะทำการบินโดยเครื่องบินขนาดเล็ก เนื่องจากทางวิ่ง (รันเวย์) มีขนาดความยาว 1800 เมตร รองรับเครื่องใบพัด 72 ที่นั่ง โดยมีการประสาน 2 สายการบิน คือ บางกอกเอเวย์ส และนกแอร์ ส่วนสายการบินต่างประเทศนั้น เตรียมประสานสายการบินจากประเทศมาเลเซีย เพื่อเปิดเส้นทางการบินสู่เบตงส่วนการเปิดให้บริการ ทางสนามบินต้องประสานสำนักงานการบินแห่งประเทศไทย เพื่อขอใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะ ใบรับรองจัดการสนามบินสาธารณะ และเขตปลอดภัยในการเดินอากาศของสนามบินล่าสุดคณะรัฐมนตรีมีมติให้ขยายรันเวย์ รองรับการขนส่งและเครื่องบินขนาดใหญ่ของสายการบินต่าง ๆ เพื่อเพิ่มปริมาณผู้โดยสารและการคมนาคมที่สะดวกยิ่งขึ้นทำให้ผู้บริหารต้องประสานพูดคุยกับมาเลเซีย เกี่ยวกับข้อตกลงและการขอใช้น่านฟ้า เพื่อรองรับการใช้เครื่องบินขนาดใหญ่ในอนาคต ที่ต้องใช้น่านฟ้าบางส่วนของมาเลเซียในการวนเครื่องลงจอดสำหรับท่าอากาศยานเบตง คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบก่อสร้าง เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2558 กรอบวงเงิน 1900 ล้านบาท ในพื้นที่ 920 ไร่ ที่ ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเพิ่มความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ในการเดินทางมาท่องเที่ยว เช่น ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง บ่อน้ำพุร้อนเบตง
|
กรมท่าอากาศยาน เผยการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง จ.ยะลา คืบหน้าแล้วร้อยละ 93 คาดแล้วเสร็จกลางปี 2563 เบื้องต้นอยู่ระหว่างประสานบางกอกเอเวย์ส และนกแอร์ จัดเส้นทางบิน
|
เศรษฐกิจ
|
ท่าอากาศยานเบตง,ยะลา,สนามบิน,มาเลเซีย,บางกอกเอเวย์ส,นกแอร์
|
https://news.thaipbs.or.th/content/283346
|
คูตินโญ สุดแฮปปี้กับหงส์แดง ไม่คิดย้ายทีม
|
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 18 เม.ย. ว่า ฟิลิปเป คูตินโญ กองกลางทีมชาติบราซิล ของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยันเขาจะอยู่ค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์ต่อไป โดยไม่สนใจว่าต้นสังกัดจะได้ไปเล่นศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าหรือไม่ก็ตาม,สำหรับ คูตินโญ กลายเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางของ ลิเวอร์พูล โดยเฉพาะในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง ทำให้ตกเป็นที่หมายปองของ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ต้องการดึงไปร่วมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ อย่างไรก็ตาม คูตินโญ ยืนยันหนักแน่นว่าจะอยู่กับ ลิเวอร์พูล ต่อไป โดยไม่สนใจว่าทีมจะติดท็อปโฟร์ไปเล่นแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลหน้าหรือไม่ ,หัวใจของผมอยู่กับ ลิเวอร์พูล ผมเป็นผู้เล่น ลิเวอร์พูล ไม่เคยคิดถึงเรื่องเหล่านั้นเลย (ข่าวย้ายทีม) เพราะผมมีความสุขดีและต้องการจะอยู่ที่นี่ต่อไป เป้าหมายของเราที่มีอยู่เสมอ ตอนเริ่มต้นฤดูกาลคือการคว้าชัยชนะและกวาดทุกถ้วยรางวัล โควตาแชมเปียนส์ลีก ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมสำหรับเรา ตามหลักคณิตศาสตร์มันยังเป็นไปได้ ถึงแม้จะไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม เรายังมีเกมรอบรองชนะเลิศรายการที่ยิ่งใหญ่ และจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับสโมสรเรา คูตินโญ กล่าว
|
ได้ใจเดอะค็อป! ฟิลิปเป คูตินโญ มิดฟิลด์แซมบ้าของทีม ลิเวอร์พูล ยืนยันเขาจะอยู่ค้าแข้งกับทีมหงส์แดงต่อไป โดยไม่สนใจว่าต้นสังกัดจะได้ไปเล่นศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก หรือไม่ก็ตาม
| null |
พรีเมียร์ลีก,ลิเวอร์พูล,ฟิลิปเป คูตินโญ,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/493701
|
ล้างบางหลุมผี ถ่ายเลือดใหม่เพื่อทวงบัลลังก์แชมป์
|
ถึงเวลาต้องล้างบางทีมครั้งใหญ่จริงๆเสียทีสำหรับ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์พรีเมียร์ลีก 20 สมัย หลังชวดแชมป์ติดไม้ติดมือมา 2 ฤดูกาลติดต่อกันนับตั้งแต่ ป๋าเฟอร์กี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สละตำแหน่งบังเหียนเมื่อ 2 ปีืัที่แล้ว,ยักษ์ใหญ่สีแดงให้เมืองแมนเชสเตอร์ ประสบความสำเร็จมามากมายในยุคที่ ,เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน, บรมกุนซือมันสมองจอมเคี้ยวหมากฝรั่งคุมบังเหียน แต่ทว่าการลงจากบัลลังก์ของป๋าเฟอร์กี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทำไมถึงทำให้ ปิศาจแดง ที่อดีตเคยเป็นมหาอำนาจลูกหนังเมืองผู้ดี กลับเป็นแค่เงามืดเดินตามหลังยักษ์ใหญ่ทีมอื่นไม่ว่าจะเป็น ,สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี, แชมป์พรีเมียร์ลีกปีล่าสุด,,เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อริร่วมเมือง หรือแม้กระทั่ง ,ปืนใหญ่ อาร์เซนอล, ที่เพิ่งนั่งแท่นครองแชมป์เอฟเอคัพสูงสุดในเกาะอังกฤษไปหมาดๆ,ประเด็นแรกถูกตีความว่า กึ๋นของผู้จัดการทีมที่เข้ามาแทน ป๋าเฟอร์กี ไม่ดีพอ? หรือประเด็นที่สอง คือ ตัวนักเตะ ห่วยเกินไปที่จะเป็นผู้ท้าชิงลุ้นแชมป์ใดใด โดยเรื่องนี้ถูกถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งประเด็นแรกคือการเข้ามารับตำแหน่งกุนซือปิศาจแดง ของ ,เดวิด มอยส์, ยอดกุนซือเลือดวิสกี สืบสานต่อจาก ป๋าเฟอร์กี ในฤดูกาล 2013/14 ต้องบอกคำเดียวสั้นๆว่า สอบตก ทำทีมจากแชมป์พรีเมียร์ลีกจบเพียงอันดับ 7 ของตารางก่อนจะโดนปลดออกจากตำแหน่งโดยไม่ทันจบฤดูกาลด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมา สาวก อสูรแดง เหมือนได้ผุดขึ้นมาจากนรก หลังพบกับความหวังครั้งใหม่เมื่อ ,หลุยส์ ฟานกัล, เทรนเนอร์มากประสบการณ์ที่การันตีความยิ่งใหญ่มามากมาย เข้ามารับตำแหน่งหัวเรือคุมทิศอสูร ก่อนจะพาทีมจบอันดับ 4 เมื่อจบฤดูกาลพร้อมคว้าตั๋วไปเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอีกครั้ง ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายกับการเข้ามาคุมทีมครั้งแรกของกุนซือจอมแท็คติกรายนี้,ถึงแม้จะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้นั่นคือการคว้าตั๋วไปเล่นในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลหน้า แต่ถ้าถามว่า ระดับ ,ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, นั้นควรอยู่แค่จุดจุดนี้จริงหรือ? เจ้าของแชมป์พรีเมียร์ลีก มากที่สุด 20 สมัย พร้อมเงินพระคลังมากมายระดับหัวกะทิของยุโรป แต่ต้องไปแย่งกับทีมอื่นในลีกเพื่อแย่งพื้นที่ไปเล่นในฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ในแต่ละฤดูกาลแค่นี้จริงหรือ ? ถ้าเป็นอย่างนี้แฟนบอลที่กรีดเลือดออกมาเป็นอสูรแดงคงไม่มีวันยอมให้ทีมรักที่อดีตเคยผูกขาดกับการลุ้นแชมป์ลีกมาทุกปีต้องนั่งสลดเห็นทีมอื่นชูถ้วยฉลองแชมป์อย่างแน่นอน,ยังเหลือเวลาอีก 2 เดือนกว่ากับการเตรียมทีมในฤดูกาลใหม่ที่จะรูดม่านเปิดฉากขึ้นพร้อมแย่งบัลลังก์แชมป์คืนจากเชลซี ที่ปัจจุบันต้องยอมรับว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่งระดับแนวหน้าของยุโรป แต่ถึงอย่างไรใช่ว่า ปิศาจแดง จะเป็นรองไปซะหมด หากผู้จัดการทีม รู้จุดอ่อน จุดด้อย ในฤดูกาลที่ผ่านมา และพัฒนาปรับปรุง เติมความแข็งแกร่งให้มากไปกว่านี้ และนี่อาจทำให้ปิศาจแดงกลับมาผงาดในลีกสูงสุดผู้ดีอีกครั้ง,อย่างแรกต้องมีการล้างบางทีมครั้งใหญ่ ด้วยการโละนักเตะที่ได้รับโอกาสแต่โชว์ฟอร์มได้ห่วยบรมอย่างต่อเนื่อง อทิ ,จอห์นนี อีแวนส์, ปราการหลังโตแต่อายุ แต่ฝีเท้าอย่างกับอคาเดมี ,,ไทเลอร์ แบล็กเกตส์, เซนเตอร์จอมขุดบ่อน้ำมัน,,อัตนาน ยานูไซจ์, ปีกขี้เลี้ยง รวมไปถึง ,โรบิน ฟานเพอร์ซี, ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักกับฟอร์มการเล่นที่ตกลงไปพร้อมกับผมหงอกที่เพิ่มขึ้น ขณะพวกที่ไม่ค่อยได้ลงสนามอย่าง ,ราฟาเอล ดาซิลวา,อันเดรส ลินเดอร์การ์ด,นานี และ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ, ก็ควรที่จะถูกโละทิ้งไปให้หมดเพื่อเปิดทางแข้งใหม่ที่ย่างก้าวเข้ามา,อย่างที่สอง ต้องหาสตาร์ดังที่กำลังอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดีมาทดแทนจุดอ่อนของทีมในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผงกองหลังที่จัดได้ว่ารั่วซะยิ่งกว่าน้ำฝนกระแทกสังกะสีทะลุเสียดหยดลงมากลางบ้านเสียอีก ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหากได้ตัวแนวรับระดับโลกอย่าง ,แมตส์ ฮุมเมิลส์ หรือ นิโคลัส โอตาเมนดี, ที่ตกเป็นข่าวสัปดาห์ละ 2-3 รอบแล้วก็เงียบหายไปดั่งกับสายลม เข้ามาเป็นตัวยืนในแผงหลังตัวกลางของทีมให้ได้,รวมไปถึงตำแหน่งกองกลาง ซึ่งหากเทียบกับยักษ์ใหญ่ทีมอื่นต้องบอกว่า ปิศาจแดง ยังเป็นรองทุกกระบุง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวโฮลด์บอล หรือ ตัดเกม ที่ปิศาจแดงขาดตำแหน่งนี้ไปตั้งแต่ ,รอย คีน, อดีตกัปตันทีมจอมอหังการได้อำลาทีมไป ดังนั้นการเสริมทัพจุดนี้ถือว่าเป็นการเสริมที่ตรงจุดด้วยประการทั้งปวง โดย ,อิลคาย กุนโดกัน หรือ รัดจา เนียงโกลัน, คือ 2 ผู้เล่นตำแหน่งนี้ที่ปิศาจแดงมีโอกาสได้ตัวมากที่สุดในช่วงซัมเมอร์,ขณะที่ตำแหน่งกองหน้าต้องบอกว่ายังมีปัญหาเรื่องการจบสกอร์ไม่แพ้กัน โดยปัจจุบันเหมือนตัวยืนจะเหลือแค่ ,เวย์น รูนีย์, หอกกัปตันทีมเพียงคนเดียว หากวันใดเจ้าหมูพริ้วรายนี้ฟอร์มออกอ่าวไปหาปลาในทะเลลึก ส่งผลให้เกมวันนั้นการเจาะตาข่ายของปิศาจแดงจะกลายเป็นอัมพาตอย่างแน่นอน เนื่องจากตัวเปลี่ยนเกมในตำแหน่งกองหน้าต้องบอกว่าปัจจุบันไม่มีคนใดที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้เลย ทำให้ในช่วงซัมเมอร์นี้ทางปิศาแดง มีข่าวคราวกับดาวยิงชื่อดังทั่วยุโรปมากมายไม่ว่าจะเป็น ,กอนซาโล ฮิกัวอิน,เอดิสัน คาวานี, หรือ ,คาริม เบนเซมา, ซึ่งทั้ง 3 คนนี้ถือเป็นกองหน้าระดับโลก หากปิศาจแดงคว้าคนใดคนหนึ่งเข้ามาร่วมทีมจะทำให้ฤดูกาลหน้าเป็นฤดูกาลที่พร้อมเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งแชมป์กับยักษ์ใหญ่ทีมอื่นแน่นอน,BY บอล คอนโด
|
ถึงเวลาต้องล้างบางทีมครั้งใหญ่จริงๆเสียทีสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์พรีเมียร์ลีก 20 สมัย หลังชวดแชมป์ติดไม้ติดมือมา 2 ฤดูกาลติดต่อกันนับตั้งแต่ ป๋าเฟอร์กี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สละตำแหน่งบังเหียนเมื่อ 2 ปี
| null |
4สุดยอดพรีเมียร์ลีก,แมนฯยู,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,โฟร์แฟน,แมนยูฯ,ผีแดง
|
https://www.thairath.co.th/content/504270
|
ญอริส เปิดใจ อยู่ไก่ต่อเพราะ โปเช็ตติโน
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 3 ม.ค. ว่า ฮูโก ญอริส นายด่านเลือดน้ำหอมของ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส สารภาพว่าเคยพิจารณาที่จะออกจากถิ่นไวท์ฮาร์ทเลนเมื่อ 2 ปีที่แล้วแต่กลับเปลี่ยนใจเพราะการเข้ามาคุมบังเหียนของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน นายใหญ่คนปัจจุบัน,นายประตูวัย 29 ปีตัดสินใจขยายสัญญากับไก่เดือยทองออกไปอีก 5 ปีหลังการเข้ามาของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน เมื่อปี 2014 โดยล่าสุดเจ้าตัวสารภาพก่อนที่จะขยายสัญญานั้นเคยช่างใจที่จะย้ายออกจากลอนดอนเพราะต้องการที่จะประสบความสำเร็จมากกว่านี้,ผมเติบโตอย่างสมบูรณ์ที่นี่ ผมสามารถพูดได้ว่าตั้งแต่การเข้ามาของโปเช็ตติโนทำให้ผมค้นพบกับเป้าหมายใหม่ ฤดูกาลที่สองของผมที่นี่มันสนเหลือเกิน ผมรักษาฟอร์มการเล่นไว้ได้แต่โดยรวมนั้นมันมีช่องว่างมากมายเมื่อได้ต่อกรกับบรรดาทีมยักษใหญ่,ผมไม่รู้สึกว่าสโมสรนั้นข็งแกร่ง แต่มันออกไปทางไม่แน่นอนซะมากกว่า กับการเปลี่ยนโค้ชกลางฤดูกาลซึ่งไม่มีใครหรอกอยากจะเห็นในฟุตบอล แน่นอนซึ่งนั่นเป็นคำถามของผมมาโดยตลอดจนกระทั่งโปเช็ตติโนเข้ามา
|
ฮูโก ญอริส นายทวารจอมหนึบของ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส ยอมรับว่าที่ตัดสินใจค้าแข้งในถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลนต่อไปเพราะชายที่ชื่อว่า เมาริซิโอ โปเช็ตติโน
| null |
พรีเมียร์ลีก,ทอตแนมฮอทสเปอร์ส,ฮูโก ญอริส,เมาริซิโอ โปเช็ตติโน,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/557598
|
ทร. จัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 46 ดึงศิลปินร่วมดุริยางค์ราชนาวี
|
กองทัพเรือ สนองพระราชปณิธาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 46โดยใช้วงดุริยางค์ราชนาวี พร้อมแขกรับเชิญ ศิลปินแห่งชาติ และนักร้องดังเข้าร่วมการแสดงเมื่อเวลา 11.05 น. วันที่ 12 ส.ค.63 พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดการแสดง กาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 46 ปี 63 ณ หอดุริยางค์กองดุริยางค์ทหารเรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ โดยมี นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการเตรียมการจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 46 และ นาวาเอก ภาสกร สุวรรณพันธ์ ผู้บังคับกองดุริยางค์ทหารเรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ ในฐานะประธานอนุกรรมการฝ่ายดนตรี การจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 46กองทัพเรือร่วมกับสภากาชาดไทย กำหนดจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ตครั้งที่ 46 บรรเลงโดยวงดุริยางค์ราชนาวี วันที่ 24 ส.ค.63 ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ รายได้โดยไม่หักค่าใช้จ่ายทูลเกล้าถวายฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย อันเป็นการสนองในพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง องค์สภานายิกาสภากาชาดไทยที่จะให้การช่วยเหลือรักษาพยาบาลเพื่อนมนุษย์ผู้เจ็บป่วยทั้งมวลให้ได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข อีกทั้งเป็นการเผยแพร่ดนตรีแนวคลาสสิกให้เป็นที่แพร่หลายในหมู่ประชาชนชาวไทย ซึ่งกองทัพเรือก็ได้ดำเนินการตามพระราชปณิธาน ตั้งแต่ปี 2504 เป็นต้นมา โดยใช้ชื่อการแสดงว่า กาชาดคอนเสิร์ต และได้จัดแสดงเป็นประจำทุกปี จะมีเว้นบ้างตามสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยโดยวงดุริยางค์ราชนาวี นับได้ว่าเป็นวงซิมโฟนีออเคสตราแนวคลาสสิกชั้นนำวงหนึ่งของประเทศไทยที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จอย่างสูง ได้มีโอกาสบรรเลงในงานพระราชพิธี รัฐพิธี ตลอดจนงานสำคัญต่างๆ อยู่เป็นประจำสำหรับการแสดงกาชาดคอนเสิร์ตในปีนี้ได้รับเกียรติจากนักร้องรับเชิญ ประกอบด้วย อาจารย์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ (ศิลปินแห่งชาติ) อาจารย์ ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี (ศิลปินแห่งชาติ) เอ๊ะ จิรากร สมพิทักษ์ นิว - จิ๋ว / นภัสสร ภูธรใจ - ปิยนุช เสือจงพรู และน้องมิ้น ไมค์ทองคำ (มัณทิตา เดชปรียาวดี) ร่วมด้วยนักร้องวงดุริยางค์ราชนาวี อาทิ พันจ่าโท อินทัช ฤกษ์เย็น จ่าเอก ปรัชญา ธรรมโชติ จ่าเอก ธีรวัฒน์ แก้วศิริ จ่าเอก อภิชัย ดาวัลย์ จ่าโทหญิง ไตรสิกขา พึงชุ่มชื่น จ่าโทหญิง ไหมแพร ศิริสาร โดยมีกำหนดการแสดง ดังนี้ภาคแรก เป็นการบรรเลงบทเพลงคลาสสิก ในบทเพลง ภาคหลัง เป็นการขับร้องโดยนักร้องรับเชิญ นักร้องจากวงดุริยางค์ราชนาวี แบ่งออกเป็น 3 องก์ ประกอบด้วย - องก์ที่ 1 เทิดไท้องค์ราชา - องก์ที่ 2 ใต้ร่มพระบารมี - องก์ที่ 3 นาวีน้อมใจภักดิ์ทั้งนี้ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถบริจาคเงินโดยเสด็จพระราชกุศล บำรุงสภากาชาดไทย โดยไม่หักค่าใช้จ่าย ได้ที่สำนักงานคณะกรรมการจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต (ฝ่ายหารายได้) ซึ่งตั้งอยู่ที่ กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2475 3018 0 2475 4960 หรือหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ 08 0664 4891 หรือโอนเงินเข้าธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขา กองบัญชาการกองทัพเรือ บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี กาชาดคอนเสิร์ตกองทัพเรือ ครั้งที่ 46 เลขบัญชี 115 - 2 - 50045 - 8 หรือธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขา กองทัพเรือวังนันทอุทยาน บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี กาชาดคอนเสิร์ตกองทัพเรือ ครั้งที่ 46 เลขบัญชี 679 - 0 - 56835 – 2 กาชาดช่วยเรา เราช่วยกาชาด.
|
กองทัพเรือ สนองพระราชปณิธาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 46 โดยใช้วงดุริยางค์ราชนาวี พร้อมแขกรับเชิญ ศิลปินแห่งชาติ
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
กาชาดคอนเสิร์ต,กาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 46,กองทัพเรือ,ดุริยางค์ทหารเรือ,ทร.,ดุริยางค์ราชนาวี,ลือชัย รุดดิษฐ์,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1909060
|
เครือข่ายองค์กรอีสานแถลงต้านย้ายคณบดี นิติฯ มข. ชี้โยงเหตุช่วยเหลือสิทธิมนุษยชน
|
ในแถลงการณ์ระบุด้วยว่า เครือข่ายฯ มีข้อกังขาอยู่หลายประเด็น และตั้งข้อสังเกตว่าแนวทางการทำงานของคณบดีคนเดิมที่มุ่งปกป้องสิทธิมนุษยชน ส่งเสริมให้ชุมชนรักษาสิทธิของตนเอง และคอยยืนเคียงข้างชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อนเมื่อเกิดปัญหาการละเมิดสิทธิฯ ขึ้นนั้น เป็นมูลเหตุสำคัญสำหรับการถูกปลดในครั้งนี้ พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนผู้รักความเป็นธรรมได้ลุกขึ้นมาช่วยกันตรวจสอบพฤติกรรมของอธิการบดี มข.ด้วย 0 0 0 แถลงการณ์ ฉบับที่ 1 ประณามนายกิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี มข. ลุแก่อำนาจปลดคณบดีนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นมหาวิทยาลัยของประชาชนซึ่งได้มีคุณูปการต่อสังคมไทยหลายด้านในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การเปิดคณะนิติศาสตร์ ซึ่งเป็นสาขาเรียนใหม่ขึ้นในมหาวิทยาลัยขอนแก่นย่อมเป็นสิ่งที่ตอกย้ำความดีความงามและความก้าวหน้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น เนื่องจากคณะนิติศาสตร์ มข. ได้เปิดโอกาสให้เอกชนและภาคประชาชน คือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบโครงการพัฒนาของรัฐเข้ามาเรียนรู้วิชากฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง และนั่นเพราะคณะนิติศาสตร์ มข. มีนโยบายที่ทำงานใกล้ชิดกับชุมชนเพื่อเข้าใจสภาพปัญหาของชุมชน สิ่งที่เป็นรูปธรรมชัดเจนคือการเปิดศูนย์นิติธรรมและสิทธิมนุษยชน ขึ้น เพื่อเป็นหน่วยงานช่วยเหลือคดี เป็นที่ปรึกษากฎหมายและรับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนผู้เดือดร้อนและส่งต่อการช่วยเหลือคดีไปยังหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง สำหรับนายกิตติบดี ใยพลู ผู้มีส่วนกำหนดนโยบายของคณะนิติศาสตร์ ย่อมเป็นบุคคลที่ปกป้องการละเมิดสิทธิมนุษยชน และส่งเสริมให้ชุมชนรักษาสิทธิของตนเอง เมื่อชาวบ้านถูกจับกุมดำเนินคดีเนื่องจากการเรียกร้องสิทธิฯ นายกิตติบดี จะเป็นผู้ที่ออกหน้าประกันตัวชาวบ้านทันที ซึ่งเป็นเรื่องที่หาได้ยากมากในยุคที่ผลประโยชน์มาก่อนความถูกต้องเป็นธรรม เมื่อเผด็จการทางการศึกษา นายกิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น สั่งปลดด่วนนายกิตติบดี ใยพลู ไปเป็นอาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เพื่อปูทางให้ลูกน้องของตนเองเข้ามากุมอำนาจและแสวงหาผลประโยชน์ในคณะนิติศาสตร์ สิ่งที่สังคมตั้งคำถามและข้อสงสัย คือ ทำไมต้องปลด ? มีเหตุผลอะไร ?นายกิตติบดีมีความผิดอะไร? การปลดครั้งนี้เป็นมติสภามหาลัยหรือไม่ ?และที่มาของสภามหาลัยเป็นอย่างไร? มีสัดส่วนภาคประชาชนหรือไม่? แล้วในอนาคตคณะนิติศาสตร์จะยังคงยืนเคียงข้างประชาชนหรือไม่? จากพฤติกรรมของซากเดนอำนาจนิยมเผด็จการที่แฝงตัวในคราบนักการศึกษาที่กระทำการในครั้งนี้ ย่อมส่งผลสะท้อนต่อสังคมในวงกว้างที่เรียกร้องประชาธิปไตยและธรรมาภิบาลในขณะนี้ เราจึงขอเรียกร้องให้องค์กรประชาชนผู้รักความเป็นธรรม ช่วยกันตรวจสอบ ซากเดน ตัวนี้เพื่อให้สังคมไทยมีความถูกต้องเป็นธรรมต่อไป ด้วยจิตคารวะ เครือข่ายองค์กรประชาชนอีสาน 20 มิถุนายน 2554
|
20 มิถุนายน 2554 เครือข่ายองค์กรประชาชนอีสาน ร่อนแถลงการณ์ประณามอธิการบดี มข. ระบุใช้อำนาจเผด็จการสั่งเด้งคณบดีคณะนิติศาสตร์ให้ไปเป็นอาจารย์ประจำคณะมนุษศาสตร์และสังคมศาสตร์ เปิดทางให้คนของตนนั่งแทน
|
การเมือง,การศึกษา
|
การโยกย้าย,กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย,กิตติบดี ใยพลู,คณบดีคณะนิติศาสตร์,มหาวิทยาลัยขอนแก่น,เครือข่ายองค์กรประชาชนอีสาน,แถลงการณ์
|
https://prachatai.com/journal/2011/06/35569
|
เจอแล้ว ผู้โดยสารเรือล่มกลางทะเล จ.ตราด ทุกคนปลอดภัย
|
วันนี้ (9 พ.ค.2560) เวลาประมาณ 20.00 น.ได้รับรายงานจากสำนักข่าวตราดทีวีว่า เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือผู้โดยสารที่เกิดเหตุเรือล่มกลางทะเล จ.ตราด ทั้ง 24 คนได้แล้ว โดยทั้งหมดปลอดภัยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในเรือมีผู้โดยสารทั้งหมด 26 คน เป็นผู้โดยสาร 24 คน ซึ่งหาเจอแล้ว แต่คนขับเรือและพนักงานประจำเรือ ยังหาไม่พบ ทั้งนี้ เวลาประมาณ 19.00น. สมาคมกู้ภัยบุญช่วยเหลือจังหวัดตราด ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดเหตุเรือล่มและขอความช่วยเหลือ เรือลำดังกล่าวเป็นเรือยอร์ช รับนักท่องเที่ยวมาจากเกาะหมาก เบื้องต้นทราบว่าเป็นเรือของเจ้าของรีสอร์ท ไม่ทราบชื่อบนเกาะกง ประเทศกัมพูชา รับนักท่องเที่ยวมาจำนวน 20 คนขณะเรือแล่นมาใกล้ถึงสะพานท่าเทียบเรือแหลมศอก ต.อ่าวใหญ่ อ.เมืองตราด ห่างจากฝั่งประมาณ 3 กิโลเมตร เกิดน้ำไหลเข้าบริเวณท้ายเรือโดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนที่เรือจะค่อยๆ จมหายไป ระหว่างเกิดเหตุมีคนบนเรือ พยายามโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ แต่ติดต่อได้เพียงหมายเลข 191 ก่อนจะขาดการติดต่อไปในที่สุดหลังเกิดเหตุได้แจ้งขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ทัพเรือภาค 1 เกาะช้าง และกองบังคับการตำรวจน้ำ อ.แหลมงอบ นำเรือออกให้ความช่วยเหลือ พร้อมชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ
|
เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือผู้โดยสารเรือล่มกลางทะเล จ.ตราดได้แล้ว ทุกคนปลอดภัย แต่คนขับเรือและพนักงานประจำเรือยังหาไม่พบ เจ้าหน้าที่เร่งค้นหา 2 คนนี้ต่อไป
|
อาชญากรรม
|
ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,เรือล่ม,จ.ตราด,นักท่องเที่ยวปลอดภัย,เจอแล้ว,นักท่องเที่ยว
|
https://news.thaipbs.or.th/content/262329
|
เก๋งโพสต์คลิปโวย รถรับจ้าง สามล้อ จยย.มักง่าย ขับย้อนศรกันเป็นโขยง
|
แฟนเพจเฟซบุ๊กที่ชื่อ ตาเทพเจ้า-ภาพจากกล้องติดรถ,cctv ได้โพสต์คลิปวิดีโอของคนขับรถยนต์รายหนึ่ง บันทึกเหตุการณ์จากกล้องหน้ารถที่ถนนวังหลัง มุ่งหน้าแยกพรานนก ผู้ขับขี่ทั้งสามล้อ จักรยานยนต์ และรถสองแถว ไม่เคารพกฎจราจร พอเห็นว่าเลนของตัวเองรถติด แต่อยากไปให้เร็วขึ้น ก็ขับย้อนศรมาในเลนฝั่งตรงข้าม,ในคลิปเผยภาพขณะขับมาในเลนของตัวเองอยู่ดีๆ พอฝั่งตรงข้ามรถติด ก็เริ่มเห็นมอเตอร์ไซค์และรถ 3 ล้อสวนทางมา ขับตรงมาไม่นานก็เจอกับรถโดยสาร 4 ล้อเล็กอีกคันหนึ่ง จุดนี้รถโดยสารที่สวนเลนมากลับต่อว่าเจ้าของคลิป ว่าเลนทางซ้ายว่างให้เบี่ยงออกไป แต่เจ้าของคลิปไม่หลบให้ บีบแตรไล่ และจอดค้างอยู่แบบนั้น พอขับต่อมาได้แล้ว กลับต้องมาเจอกับรถโดยสาร 4 ล้อเล็กอีกคันหนึ่งที่สวนเลนมา จนทนไม่ไหวต้องเปิดกระจกตะโกนออกไปต่อว่า และสุดท้ายก่อนคลิปจะจบ ยังพบรถสองแถวขับสวนเลนไปฝั่งตรงข้ามอีกคันหนึ่งด้วย,หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ต่อไปเป็นวงกว้าง ก็เกิดกระแสวิจารณ์จำนวนมาก ส่วนใหญ่บอกว่ารถโดยสารมักง่าย ไม่ยอมรถติด จึงขับสวนเลนแบบนี้ ขณะที่บางรายระบุว่า เคยขับผ่านเส้นทางนี้ ก็มักจะเจอกับพฤติกรรมการขับรถสวนเลนเป็นประจำ นอกจากนี้ยังมีบางส่วนที่เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยเข้าไปจับกุมและกวดขันวินัยจราจรของกลุ่มคนขับรถโดยสารในย่านนั้นด้วย,ย้อนศรดีนัก ต้องเจอแบบนี้,ตาเทพเจ้า-ภาพจากกล้องติดรถ,cctv,ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก ,ตาเทพเจ้า-ภาพจากกล้องติดรถ,cctv,แท็กที่เกี่ยวข้อง,รถ,ขับสวนเลน,ย้อนศร,ย้อนศรดีนัก ต้องเจอแบบนี้,สามล้อ,มอเตอร์ไซค์,คลิป,คลิปเด็ด,คลิปดัง,จราจร,กฎจราจร,ขับรถ,ไม่เคารพจราจร,ข่าว,ข่าวโซเชียล,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐ,สายตรวจโซเชียล,ไทยรัฐออนไลน์,Thairath,ข่าวแนะนำ,Most Viewed
|
เก๋งโวย! สามล้อ จักรยานยนต์ รถสองแถว ไม่เคารพกฎจราจร พอเห็นว่าเลนของตัวเองรถติด แต่อยากไปให้เร็วขึ้น ก็ขับย้อนศรมาในเลนฝั่งตรงข้าม
| null |
รถ,ขับสวนเลน,ย้อนศร,ย้อนศรดีนัก ต้องเจอแบบนี้,สามล้อ,มอเตอร์ไซค์,คลิป,คลิปเด็ด,คลิปดัง,จราจร,กฎจราจร,ขับรถ,ไม่เคารพจราจร,ข่าว,ข่าวโซเชียล,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐ,สายตรวจโซเชียล,ไทยรัฐออนไลน์,Thairath
|
https://www.thairath.co.th/content/559605
|
ทำบุญครบรอบ 30 วัน อุทิศให้ 18 ศพ เหยื่อรถทัวร์ตกเหวเขาพลึง
|
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2559 ที่บริเวณที่พักริมทางเขาพลึง ถนนสายที่ 11 เด่นชัย-พิษณุโลก นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผวจ.อุตรดิตถ์ นางเนาวรัตน์ เอกภาพันธ์ นายกเหล่ากาชาด และ พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผกก.สภ.เมือง และทหาร หอการค้าญาติผู้เสียชีวิต ประชาชน ร่วมในพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถทัวร์ของบริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.999) ทะเบียน 32-1488 กรุงเทพฯ ที่พาผู้เกษียณอายุงานจาก บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน ) หรือ แคทเทลคอม มาประสบอุบัติเหตุตกลงเขาพลึงที่ลึกกว่า 150 เมตร ในหุบเขาหลักกิโลเมตรที่ 350 หมู่ที่ 7 ต.บ้านด่านนาขา อ.เมือง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีกจำนวน 20 ราย เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 59 เวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา และในวันที่ 23 ธันวาคม 59 ก็ครบ 30 วัน โดยมีการโยงสายสิญจน์จากที่เกิดเหตุมายังบริเวณที่พักริมทางเขาพลึงกว่า 4 กิโลเมตรที่ทำพิธีดังกล่าว,นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผวจ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า จังหวัดอุตรดิตถ์ได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ประสบอุบัติเหตุทั้งหมด โดยนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 9 รูป มาสวดมาติกาบังสุกุล ถวายภัตตาหารเพล และกรวดน้ำเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตตามประเพณีไทยแต่โบราณ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย โดยมีญาติผู้เสียชีวิตหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก ,ผวจ.อุตรดิตถ์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่จังหวัดอุตรดิตถ์ดำเนินการ คือ การป้องกันอุบัติเหตุจราจร ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว อาทิ การปรับปรุงผิวจราจร การติดป้ายเตือน ตั้งแท่งแบริเออร์บริเวณทางโค้ง และตั้งจุดตรวจจุดสกัดอย่างเข้มงวด เน้นเรื่องขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ที่เป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตในจุดนี้มากที่สุด และในส่วนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ซ่วง 7 วันอันตราย จะมีการประชุมศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ทางจังหวัดอุตรดิตถ์ในวันนี้ เวลา 14.00 น. จะได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติงาน ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้บรรลุเป้าหมายผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเป็นศูนย์ต่อไป.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,- ,นาทีชีวิต พยานเผยคลิป รถทัวร์ตกเหวเขาพลึง วิ่งมาเร็วก่อนหลุดโค้ง,- ,ตรวจซากรถทัวร์มรณะ หาเหตุตกเหวเขาพลึง 18 ศพ เบรก-ยางปกติ รอผลกล่องดำ,- ,สุดเศร้า ญาติรับ 18 ศพบัสตกเขาพลึง แม่ฝันฟันหักหมดปาก ก่อนเสียลูกชาย,- ,รถทัวร์ ผู้เกษียณอายุ กสท ตกเขาพลึงที่อุตรดิตถ์ สรุปดับ 18 เจ็บ 20
|
พ่อเมืองลับแลเป็นประธานในพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถทัวร์ตกเหวเขาพลึงครบ 30 วันทั้ง 18 ราย ด้านจังหวัดเล็งวางมาตรการป้องกันอุบัติเหตุทั้งระยะสั้นระยะยาว เพื่อลดยอดผู้เสียชีวิตอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
รถทัวร์ตกเหว,เขาพลึง,รถทัวร์ตกเหวเขาพลึง,ทำบุญอุทิศส่วนกุศล,อุตรดิตถ์
|
https://www.thairath.co.th/news/local/819741
|
“นานแค่ไหนก็จะรอ ขอเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์” เปิดใจ ประชาชนปักหลักรอร่วมพระราชพิธี
|
พื้นที่บริเวณโดยรอบสนามหลวงฝั่งถนนท่าพระจันทร์ จนถึงทางเข้าหอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งจัดให้เป็นศูนย์สื่อมวลชน ได้มีประชาชนจำนวนหลายร้อยคนเดินทางมาปักหลักเพื่อที่จะเข้าร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ แม้จะมีฝนโปรยปรายลงมาตลอดเวลา แต่ประชาชนก็ยังอดทนที่จะรอคอย แม้ว่าจะยังไม่ได้เปิดให้ประชาชนเข้าพื้นที่อย่างเป็นทางการ โดยตามกำหนดการจริง ฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผ่านเข้าพื้นที่อย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) ตั้งแต่เวลา 5.00 น. เป็นต้นไป ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่และจิตอาสาที่รับผิดชอบในบริเวณดังกล่าวจึงได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวไปอยู่นอกบริเวณจุดคัดกรอง เพื่อเข้ามาตามเวลาที่กำหนด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดโดยรอบบริเวณและดูแลเรื่องความปลอดภัยก่อนจะให้ประชาชนเข้ามาในบริเวณโดยรอบสนามหลวง อย่างไรก็ตาม ประชาชนบางส่วนได้ออกไปจากพื้นที่ดังกล่าวแล้ว แต่ยังมีประชาชนอีกส่วนยังคงสับสนและปักหลักอยู่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนอกจากนี้ยังมีประชาชนปักหลักอยู่บริเวณจุดคัดกรองทั้ง 9 จุดจำนวนมาก โดยจะมีการปักหลักค้างคืนด้วย ด้าน พล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า สำหรับประชาชนที่เดินทางมาจับจองพื้นที่ก่อนวันที่ 25 ตุลาคม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องให้ออกจากพื้นที่เพื่อเคลียร์พื้นที่ดูแลความปลอดภัยนั้น ฝ่ายความมั่นคงจะเป็นผู้พิจารณา แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องการจราจร ก็พร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยให้ พัชรา รุ่งโรจน์ ชาวจังหวัดนนทบุรี บอกกับ THE STANDARD ว่า ตั้งใจที่จะมาเข้าร่วมงานพระราชพิธีในวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) แต่คิดว่าคนอาจจะมาจำนวนมากเลยตัดสินใจมาในวันนี้ (24 ต.ค.) แทน เพราะอยากจะมาอยู่ใกล้พ่อให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็จะตั้งใจรอ ส่วนตัวนั้นได้น้อมนำเอาหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต เพราะเมื่อก่อนตนเองเป็นคนใช้เงินฟุ่มเฟือย ด้าน สำรวล เอมมา ชาวอำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี อายุ 54 ปี กล่าวด้วยความซาบซึ้งกับ THE STANDARD ว่า ก่อนหน้านี้ได้เดินทางมากราบพระบรมศพมากกว่า 40 ครั้ง เพราะอยากใกล้ชิดในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้มากที่สุด ภูมิใจที่เกิดในรัชกาลของพระองค์ เพราะพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ แต่มีความเรียบง่าย และทรงทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี แม้ในวันนี้จะไม่มีพระองค์แล้ว แต่เชื่อว่าพระองค์จะอยู่ในใจคนไทยทั้งประเทศ และที่เดินทางมาวันนี้ก็มาคนเดียว ไม่เคยพลาดที่จะร่วมงานพระราชพิธีที่เกี่ยวกับพระองค์ และเคยได้รับเสด็จพระองค์ครั้งแรกในชีวิตเมื่ออายุ 10 ขวบ ที่บ้านเกิดดอนเจดีย์ กัญญาวีร์ ปัญญามัง นักศึกษา อายุ 22 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร บอกกับ THE STANDARD ว่า ตั้งใจมาตั้งแต่เช้าเพราะกลัวจะไม่ได้เข้ามาในบริเวณที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ประชาชนเข้าร่วมงานพระราชพิธี เพราะว่าอยากเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ และเล่าเรื่องให้ลูกหลานฟังว่าเรามีพระราชาที่ทรงทำเพื่อประชาชน และเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย และเคยมากราบพระบรมศพแล้วหลายครั้ง เคยรอนานถึง 14 ชั่วโมงก็ไม่ย่อท้อ ภูมิใจมากที่ได้เกิดมาในรัชกาลที่ 9
|
พื้นที่บริเวณโดยรอบสนามหลวงฝั่งถนนท่าพระจันทร์ มีประชาชนจำนวนหลายร้อยคนเดินทางมาปักหลักเพื่อที่จะเข้าร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ แม้จะมีฝนโปรยปรายลงมาตลอดเวลา แต่ประชาชนก็ยังอดทนที่จะรอคอยตามกำหนดการจริง ฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผ่านเข้าพื้นที่อย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) ตั้งแต่เวลา 5.00 น. เป็นต้นไป พัชรา รุ่งโรจน์ ชาวจังหวัดนนทบุรี บอกกับ THE STANDARD ว่า ตั้งใจที่จะมาเข้าร่วมงานพระราชพิธีในวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) แต่คิดว่าคนอาจจะมาจำนวนมากเลยตัดสินใจมาในวันนี้ (24 ต.ค.) แทน เพราะอยากจะมาอยู่ใกล้พ่อให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็จะตั้งใจรอ
| null | null |
https://thestandard.co/kingrama9-people-wait-to-ceremony-funeral/
|
เวนเกอร์ สะใจปืนจมเรือ ทะยานชิงดำเอฟเอ ลั่นอเล็กซิสอยู่กับทีมต่อ
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 23 เม.ย.ว่า อาร์แซน เวนเกอร์ ขงเบ้งหน้าเหี่ยวของ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล สะใจสุดขีดหลังพาต้นสังกัดผงาดเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพได้สำเร็จ,ปืนใหญ่ พลิกแซงเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงต่อเวลา 2-1 จากประตูชัยของอเล็กซิส ซานเชซ ทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบชิงดำเอฟเอคัพไปทำศึกลอนดอนดาร์บีแมตช์กับเชลซีคู่ปรับตลอดกาล,หลังเกม เวนเกอร์ ให้สัมภาษณ์ผ่านทางบีบีซี ว่า ผมดีใจมาก มันเป็นเกมบิ๊กแมตช์ในวันนี้ มันเป็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมไปซะทุกอย่างเลยไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิคแต่รวมถึงสภาพจิตใจ เรากลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งมากขึ้นและท้ายที่สุดแล้วเราก็สมควรที่จะได้รับชัยชนะในเกมนี้,ฟอร์มของทีมยอดเยี่ยมมากในเกมวันนี้ เมื่อนักเตะพยายามทำให้ดีที่สุดออกมาและมุ่งมั่นอย่างเต็มที่คุณก็จะเอาใจช่วยพวกเขาเสมอ เราใกล้เคียงที่จะได้ประตูและจัดการพวกเขาได้ดีมาก เราเสียบอลและเสียประตูแต่เราแสดงให้เห็นถึงการตอบโต้ที่ถูกต้อง,นอกจากนี้เวนเกอร์ยังพูดถึง อเล็กซิส ที่จะหมดสัญญาในช่วงซัมเมอร์ 2018 แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการต่อสัญญาฉบับใหม่ว่า อเล็กซิส ซานเชซเป็นเหมือนกับทีม เขามีปัญหาที่จะเริ่มต้นและเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เขาเหมือนสัตว์ป่าพร้อมที่จะขย่ำเหยื่อเสมอ เขาจะไม่เคยยอมแพ้อะไรทั้งนั้น,เขาจะอยู่ที่นี่ในปีหน้าเพราะเขายังมีสัญญากับทีมและหวังว่าเราจะจัดการขยายสัญญาให้กับเขาได้นะ
|
อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือใหญ่ของอาร์เซนอล สะใจสุดขีดหลังโค่น เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมกับทะยานเข้ารอบชิงดำของศึกเอฟเอคัพ นอกจากนี้ยังลั่นว่า อเล็กซิส ซานเชซ ปีกตัวเก่งจะอยู่กับทีมต่อไปในปีหน้า
|
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
|
เอฟเอคัพ,อาร์เซนอล,อาร์แซน เวนเกอร์,อเล็กซิส ซานเชซ,แมนเชสเตอร์ ซิตี้
|
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/921200
|
ทอปกาปึ วังหลวงแห่งอาณาจักรออตโตมัน
|
เมืองอิสตันบูล ถือเป็นเมืองใหญ่สุดและเป็นอดีตเมืองหลวง แม้ปัจจุบันจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่ อังการา แล้วก็ตาม แต่อิสตันบูลก็ยังคงเป็นเมืองหลักที่สำคัญ และเป็นประตูสู่ประเทศตุรกี เพราะเมืองนี้ยังเป็นศูนย์รวมทางเศรษฐกิจ การค้า เมืองแฟชั่น การกีฬา รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ,อิสตันบูล นั้น ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของอาณาจักรโรมัน ชื่อว่า กรุงคอนสแตนติโนเปิล เมื่อประมาณ 1,700 ปีที่ผ่านมา เกิดความเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด ถือเป็นเมืองที่เป็นที่สุดของโลกในยุคนั้น จึงทำให้สถาปัตยกรรมต่างๆ ในอิสตันบูล ที่ยังคงอยู่ในปัจจุบัน สอดคล้องกับความเจริญในยุคการเป็นเมืองหลวงของโรมันตะวันออก เช่น อาคาร ลานกลางแจ้ง บ่อเก็บน้ำ หรือแม้กระทั่งโบสถ์เซนต์โซเฟีย เป็นต้น จวบจนถึงปี ค.ศ. 1453 ถึงได้เพลี่ยงพล้ำเสียดินแดนให้กับชาวออตโตมัน จึงได้ปรับเปลี่ยนหน้าตาของเมืองหลวงโรมันตะวันออกแห่งนี้ กลายเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรออตโตมันนั่นเอง,ในช่วงนี้กินระยะเวลากว่า 400 ปี ในการครอบครองของอาณาจักร ออตโตมัน จึงทำให้กรุงคอนสแตนติโนเปิล เปลี่ยนโฉมหน้าสถาปัตยกรรมแบบโรมัน กลายเป็นสถาปัตยกรรมแบบออตโตมันอยู่ทั่วไปตลอดทั้งเมือง และอาณาจักรออตโตมัน ก็ได้ล่มสลายลง เมื่อปี ค.ศ. 1923 และหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ และตอกย้ำความเป็นออตโตมันอย่างชัดเจน นั่นก็คือ พระราชวังทอปกาปึ,พระราชวังทอปกาปึ ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1459 โดยสุลต่านเมห์เม็ด ที่ 2 ที่ทรงพิชิตมีชัยชนะเหนือกรุงคอนสแตนติโนเปิล จากจักรวรรดิ ไบเซ็นไทน์ ได้ จึงรีบสร้างวังขึ้นอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ในช่วงนั้นยังเกิดความไม่สงบอยู่บ้างก็ตาม โดยทรงออกแบบพระราชวังให้เป็นลานกว้างๆ และแบ่งออกเป็นสี่ลานย่อยในพระราชวัง เพื่อแยกเป็นกลุ่มๆ ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน โดยพระราชวังแห่งนี้ เมื่อสร้างเสร็จเป็นที่พำนักของผู้คนและเจ้าหน้าที่ได้ถึง 4,000 คน ใช้พื้นที่บริเวณเนินเขาเตี้ยๆ คู่ขนานไปกับชายฝั่งทะเลและช่องแคบบอสฟอรัส พระราชวังทอปกาปึ มีการบูรณะหลายครั้ง เช่น ในปี ค.ศ. 1509 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ จึงมีการบูรณะ และในปี ค.ศ. 1665 ก็เกิดเพลิงไหม้จึงมีการบูรณะอีกครั้ง ภายในพระราชวังแห่งนี้ มีส่วนสำคัญๆ หลายส่วน นอกจากเป็นส่วนที่พำนักของเจ้าครองนครอาณาจักรออตโตมันแล้ว ยังมีมัสยิด โรงพยาบาล โรงอาหารขนาดใหญ่ โรงกษาปณ์ โรงเรียน และอื่นๆ อีกหลายส่วน พระราชวังทอปกาปึแห่งนี้ เริ่มหมดความสำคัญลงเมื่อปลายศตวรรษที่ 17 เนื่องจากสุลต่านพระองค์หลังๆ ได้มีการสร้างพระราชวังแห่งใหม่ และนิยมที่จะเสด็จไปประทับที่พระราชวังแห่งใหม่ ซึ่งเรียกว่า พระราชวังโดลมาบาเช่ อยู่บนฝั่งช่องแคบบอสฟอรัส และพระราชวังโดลมาบาเช่ แห่งนี้ สร้างคล้ายแบบพระราชวังในยุโรปที่ยิ่งใหญ่ และมีการจัดแต่งแบบทันสมัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายมากขึ้น รวมถึงสถาปัตยกรรมของพระราชวังแห่งใหม่ ก็ดูทันสมัยมากกว่า,จวบจนในปี ค.ศ. 1921 พระราชวังทอปกาปึ ก็ปิดฉากการเป็นพระราชวังเก่าลงอย่างสมบูรณ์แบบ กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1924 และให้อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ในปัจจุบันนั้น ถือเป็นหนึ่งสถานที่ที่คุณจะต้องไป เมื่อเดินทางไปท่องเที่ยวที่ อิสตันบูล โดยพระราชวังแห่งนี้ได้เปิดให้เข้าชมในหลายๆ ส่วน เพื่อแสดงถึงความรุ่งเรืองในอดีต และที่สำคัญในบางห้องได้แสดงถึงความรุ่งเรืองในสมัยอาณาจักรออตโตมัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้าวของเครื่องใช้ อาวุธต่างๆ และบางห้องแสดงถึงเครื่องราชสมบัติ และเพชรพลอยต่างๆ ที่มีมากมายในสมัยออตโตมันรุ่งเรือง,ถ้าใครยังไม่เคยไป อิสตันบูล ผมคิดว่าเมืองนี้เป็นอีกเมืองที่น่าสนใจแวะไปเยือนนะครับ แค่ดูพระราชวังทอปกาปึอย่างเดียว ก็คุ้มสุดคุ้มแล้ว
|
ถ้าพูดถึงประเทศตุรกี ผมเชื่อว่าคนที่ไปท่องเที่ยวมาแล้ว คงจะรู้สึกประทับใจไม่น้อย ด้วยความแตกต่างของอารยธรรม และสถาปัตยกรรม รวมถึงความเจริญในปัจจุบัน เป็นความผสมผสาน และยังเห็นได้ว่าทั้งหมดยังอยู่ร่วมกันในวันนี้
|
คนดังนั่งเขียน
|
คนดังนั่งขียน,ณวัฒน์ อิสรไกรศีล,ทอปกาปึ,อาณาจักรออตโตมัน,ประเทศตุรกี,เมืองอิสตันบูล,ท่องเที่ยว,ข่าว,ข่าวไลฟ์สไตล์,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/493978
|
ชูอู่ตะเภาเขตการค้าเสรีเต็มพิกัด
|
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ดังกล่าวเป็นเขตเสรีทางการเงิน ซึ่งผู้ประกอบการในพื้นที่สามารถทำธุรกรรมทางการเงิน โดยใช้เงินสกุลใดก็ได้ พร้อมทั้งให้สถาบันการเงินจากต่างประเทศเข้ามาเปิดสาขาเพิ่มเติม หรือ ตั้งจุดบริการลูกค้าในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก และจูงใจเอกชนเข้ามาลงทุนในพื้นที่ ปัญหาที่ยังติดขัดตอนนี้ คือ ปัจจุบันไทยมีกฎเกณฑ์ข้อหนึ่งบังคับให้การค้าขายสินค้าและบริการที่เกิดขึ้นในไทย ต้องเป็นเงินบาทเท่านั้น เรื่องนี้เป็นอุปสรรคที่สำคัญ จึงมีแนวคิดอยากจะทำให้เขตตรงนี้สามารถใช้เงินค้าขายเป็นสกุลอะไรก็ได้ เหมือนเราตั้งอยู่ในเกาะ เขตการค้าเสรีที่เป็นอิสระ เวลามีสินค้าเข้ามาหรือสินค้าออกไปอย่างเสรี เรื่องการเงินก็ต้องสอดรับกัน จะใช้เงินดอลลาร์ หยวน ปอนด์ ก็ได้ให้เกิดความคล่องตัว ซึ่งเรื่องนี้ได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.แล้ว และน่าจะได้ข้อสรุปไม่นานจากนี้,ทั้งนี้ นอกจากการอำนวยความสะดวกทางด้านการเงินแล้ว ทีมเศรษฐกิจยังจะสรุปรายละเอียดของการดำเนินโครงการอีอีซีในภาพรวม เสนอให้รัฐบาลเห็นชอบ ทั้งการจัดทำร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แผนด้านโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาพื้นที่ งบประมาณสำหรับการดำเนินโครงการต่างๆ และปัญหาอุปสรรคที่ต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะด้านกฎหมาย ซึ่งอาจมีกฎหมายบางฉบับที่ต้องใช้อำนาจพิเศษของรัฐบาลมาดำเนินการให้รวดเร็วขึ้น หรือบางฉบับอาจใช้,ขั้นตอนตามปรกติ,การบริการจัดการพื้นที่ เบื้องต้นจะทำใน 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง โดยได้พิจารณารูปแบบของเขตทดลองการค้าเสรี ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน มาปรับใช้กับพื้นที่อีอีซีของไทย โดยอาจเริ่มต้นที่มีสนามบินอู่ตะเภาก่อน ขณะที่แหลมฉบัง มาบตาพุด ก็มีความพร้อมตามมา.
|
ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลได้เตรียมเสนอแนวทางการอำนวยความสะดวกทางด้านการเงิน ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี ให้กับรัฐบาลพิจารณา พร้อมกับสรุปรายละเอียดการดำเนินโครงการภายใน 2 เดือนจากนี้ โดยเฉพาะการจัดให้พื้นที่
| null |
ข่าวเศรษฐกิจ,กอบศักดิ์ ภูตระกูล,อู่ตะเภา,เขตการค้าเสรี,อีอีซี,ฉะเชิงเทรา,ชลบุรี,ระยอง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐ
|
https://www.thairath.co.th/content/668501
|
อินเดีย ไว้อาลัยทหารเสียชีวิตจากเหตุปะทะจีน
|
วันนี้ (18 มิ.ย.2563) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาวอินเดียจำนวนมากเดินทางเข้าร่วมพิธีศพของทหารที่เสียชีวิตจากการปะทะกับทหารจีน บริเวณหุบเขากัลวาน ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทในแนวเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งพิธีศพดังกล่าวจัดขึ้นที่บ้านเกิดของทหารแต่ละนาย ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของญาติมิตรที่ต่างเรียกร้องให้ นเรนดรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ตอบโต้จีนขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงในเมืองทางตอนเหนือร่วมแห่โลงศพจำลองของ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ซึ่งถูกคลุมด้วยธงชาติจีน ก่อนที่จะนำไปเผาและทิ้งลงแม่น้ำ โดยการประท้วงต่อต้านจีนในลักษณะนี้จัดขึ้นต่อเนื่องในหลายเมืองทั่วอินเดีย ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มชาตินิยมที่มีสายสัมพันธ์กับพรรครัฐบาล เรียกร้องให้งดใช้สินค้าจีนและยกเลิกสัญญาต่างๆ ที่ทำกับบริษัทจีนทั้งหมดสื่อท้องถิ่นอินเดีย รายงานว่า หน่วยงานที่ดูแลด้านการรถไฟอินเดียตัดสินใจยกเลิกสัญญาที่ทำกับบริษัทสัญชาติจีน โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากมีขั้นตอนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอินเดีย ระบุว่า การอ้างกรรมสิทธิ์ของจีนเหนือพื้นที่บริเวณหุบเขากัลวานเป็นการกล่าวอ้างที่เกินจริงและไม่ถูกต้อง รวมทั้งขัดแย้งกับความเข้าใจที่ทั้ง 2 ฝ่าย ได้หารือร่วมกันและเห็นชอบที่จะจัดการปัญหาอย่างมีความรับผิดชอบ
|
กระทรวงการต่างประเทศอินเดียไม่ยอมรับการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่พิพาทตามแนวพรมแดนของจีน ขณะที่ชาวอินเดียจำนวนมากร่วมไว้อาลัยให้กับทหารที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะ
|
ต่างประเทศ
|
อินเดีย,ไว้อาลัย,ปะทะ,จีน
|
https://news.thaipbs.or.th/content/293768
|
อากาศวิปริต 4 นักปีนเขาแข็งตายคาแคมป์ บนยอดเขาเอเวอเรสต์
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทีมกู้ภัยชาวเชอร์ปา พบศพนักปีนเขา 4 คน เสียชีวิตอยู่ภายในเต็นท์หลังหนึ่งที่แคมป์พักที่สูงที่สุดบนยอดเขาเอเวอเรสต์ ของเทือกเขาหิมาลัย เมื่อคืนวันอังคารผ่านมา ทำให้ยอดผู้สังเวยชีวิตไปกับความพยายามพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกประจำฤดูปีนเขาปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 10 รายแล้ว,เฮมันตา ธากาล เจ้าหน้าที่จากสำนักงานการท่องเที่ยวของประเทศเนปาลเปิดเผยว่า ทีมกู้ภัยกลุ่มนี้ถูกส่งขึ้นไปเพื่อเก็บกู้ศพของนักปีนเขาชาวสโลวาเกียคนหนึ่งที่เสียชีวิตเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนจะพบศพของนักปีนเขาทั้ง 4 คน ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าพวกเขาเป็นใคร,ทั้งนี้ ศพนักปีนเขา 4 ศพล่าสุดถูกพบที่แคมป์หมายเลข 4 บนความสูง 8,000 ม. ในเส้นทางปีนเขาทิศใต้ ซึ่งเป็นแคมป์สุดท้ายก่อนจะไปถึงยอดเขาเอเวอเรสต์ที่ความสูง 8,850 ม. การเก็บกู้ศพจำเป็นต้องใช้ชาวเชอร์ปา ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการปีนเขาหลายคนขนย้ายศพลงมายังแคมป์หมายเลข 2 เพื่อใช้เฮลิคอปเตอร์ขนศพลงจากภูเขา,อนึ่ง ฤดูพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์เริ่มขึ้นในเดือนเม.ย.จนถึงสิ้นเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศอันโหดร้ายบนภูเขาแห่งนี้เหมาะสมแก่การปีนที่สุด แต่กระนั้น ทุกปีจะมีผู้ที่ต้องการมุ่งสู่จุดสูงสุดของโลกเสียชีวิตระหว่างทางประมาณ 6 คน
|
ทีมกู้ภัยชาวเชอร์ปา พบศพนักปีนเขา 4 คนอยู่ที่แคมป์สุดท้ายก่อนถึงยอดเขาเอเวอเรสต์ ทำให้ผู้ที่ต้องสังเวยชีวิตให้ยอดเขาแห่งนี้ประจำปี 2017 เพิ่มขึ้นเป็น 10 รายแล้ว
|
ข่าว,ต่างประเทศ
|
ยอดเขาเอเวอเรสต์,ยอดเขาสูงที่สุดในโลก,แข็งตาย,นักปีนเขา,เทือกเขาหิมาลัย
|
https://www.thairath.co.th/news/foreign/951258
|
LAMBORGHINI ผลิตหน้ากากอนามัยส่งให้ทีมแพทย์ในโรงพยาบาล
|
Automobili Lamborghini โรงงานประกอบรถซุปเปอร์คาร์ของแบรนด์กระทิงดุใน SantAgata Bologna ยุติสายการผลิตรถยนต์จากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 โดยหันมาเริ่มผลิตหน้ากากผ่าตัดและอุปกรณ์ป้องกันทางการแพทย์สำหรับใช้ดูแลรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส Covid-19 ในฐานะที่เป็นบริษัทรถยนต์ของอิตาลี ซึ่งเป็นประเทศที่เกิดการแพร่ระบาดอย่างหนัก การสนับสนุนหน้ากากอนามัยให้กับทีมแพทย์ในเมืองที่ต้องเผชิญกับเหตุฉุกเฉินทุกวันAutomobili Lamborghini ดัดแปลงแผนกเครื่องหนังของโรงงานผลิตรถสปอร์ตซุปเปอร์คาร์ใน SantAgata Bologna ซึ่งเคยทำหน้าที่เย็บเบาะ แดชบอร์ด คอนโซล และแผงประตูด้วยหนังคุณภาพสูง โดยหันมาเย็บหน้ากากอนามัยที่ใช้สำหรับการผ่าตัดรวมไปถึงหน้ากากพลาสติกใส สำหรับแพทย์และพยาบาลที่รับหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส COVID-19 และจะนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาล SantOrsola-Malpighi ในเมือง Bologna เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อที่มีอาการหนักเพิ่มขึ้นทุกวันโครงการให้ความช่วยเหลือกับทีมแพทย์และพยาบาลในอิตาลี ดำเนินการโดยบุคลากรของ Lamborghini ซึ่งเป็นช่างตัดเย็บที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเย็บหนังแท้สำหรับตกแต่งภายใน สามารถผลิตหน้ากากอนามัยได้ 1000 ชิ้นต่อวัน รวมไปถึงหน้ากากพลาสติกใสที่ผลิตได้วันละ 200 ชิ้น โดยใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ(3D printers) ภายในโรงงานผลิตคาร์บอนไฟเบอร์ของแผนกวิจัยและพัฒนารถสปอร์ต Lamborghiniความช่วยเหลือของแบรนด์กระทิงดุได้รับการอนุมัติและสนับสนุนจากมหาวิทยาลัย Bologna กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และศัลยกรรมจะตรวจสอบการตรวจสอบคุณภาพของอุปกรณ์การแพทย์ที่ทำโดย Lamborghini ก่อนส่งมอบไปยังโรงพยาบาลต่อไปStefano Domenicali ประธานและซีอีโอของ Automobili Lamborghini กล่าวว่า จากสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นในอิตาลี ทำให้ Lamborghini ต้องการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อทีมแพทย์และพยาบาลในโรงพยาบาล S. Orsola-Malpighi ซึ่งเป็นสถาบันที่ Lamborghini มีความสัมพันธ์ร่วมกันมานานหลายปี ในการส่งเสริมโครงการปกป้องสุขภาพของคนงาน และโครงการวิจัยเพื่อทำให้การทำงานในโรงงานมีสุขอนามัยที่ถูกต้อง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อิตาลี จะชนะการต่อสู้ครั้งนี้ ด้วยการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัทเอกชนและรัฐบาล เพื่อสนับสนุนแพทย์และพยาบาลซึ่งเปรียบเหมือนปราการด่านสุดท้ายในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดครั้งใหญ่.อาคม รวมสุวรรณE-Mail [email protected] https://www.facebook.com/chang.arcomhttps://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
|
แบรนด์ซุปเปอร์คาร์ Lamborghini ยุติสายการผลิตรถหรู หันมาเย็บหน้ากากแจกแพทย์และพยาบาลในเมือง SantAgata Bologna
|
ข่าว
|
โควิด-19,เชื้อไวรัสโควิด-19,แพร่ระบาด,Lamborghini,อาคม รวมสุวรรณ
|
https://www.thairath.co.th/news/1810764
|
ตร.กระทุ่มแบนคุมตัวหนุ่ม 19 ปี ทำแผน ควงปืนปลอมจี้เซเว่นฯ ชิงเงินพันบาท
|
เมื่อเวลาประมาณ 10.45 น. ของวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อม พ.ต.อ.พิภบ พัชรลภัส ผกก.สภ.กระทุ่มแบน นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.กระทุ่มแบนฯ คุมตัวนายหลวม (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ชาวบ้าน ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาชุมชน ซอยสุวรรณ พื้นที่ ม.6 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมของกลางเป็นชุดที่ผู้ต้องหาสวมใส่ในวันก่อเหตุ หมวก อาวุธปืนปลอมแบบอัดลมระบบแก๊ส ที่ใช้ก่อเหตุ 1 กระบอก แม็กกาซีนแบบอัดแก๊ส จํานวน 1 แม็กกาซีน และ กระเป๋าแบบสะพายอีก 1 ใบ โดยชักปืนปลอมขึ้นมาข่มขู่พนักงานร้านสาวในร้าน ให้เดินนำเข้าไปในร้านเพื่อเอาเงินที่อยู่ในเครื่องเก็บเงิน โดยพนักงานสาวเกรงว่าจะมีอันตราย จึงได้เปิดเครื่องเก็บเงินแล้วหยิบเงินจำนวน 1000 บาท ส่งมอบให้ เมื่อคนร้ายได้เงินแล้วก็วิ่งหลบหนีไปเมื่อวันที่ 10 ก.พ.63 ที่ผ่านมาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้หลบหนีไปบ้านเกิดที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ก่อนถูกตำรวจ สภ.โพธาราม จับกุมตัวในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ และถูกส่งตัวไปดำเนินคดีในชั้นศาลในความผิดฐานเสพยาเสพติดอยู่ในอำนาจศาลแขวงราชบุรีจนเมื่อครบกำหนดฝากขังแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน จึงได้ไปควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีต่อตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น ปลอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ ขณะที่ทางด้านผู้ต้องหาให้การรับสารภาพอ้างว่า ที่ลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์เพราะต้องการหาเงินเป็นค่ารถกลับบ้านทั้งนี้ หลังจากที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางตัวแทนของร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาชุมชน ซอยสุวรรณ ได้มอบกระเช้าของขวัญขอบคุณการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบนอีกด้วย โดยมี พ.ต.อ.พิภบ พัชรลภัส ผกก.สภ.กระทุ่มแบน เป็นผู้รับมอบ.
|
ตำรวจกระทุ่มแบน คุมตัวหนุ่มวัย 19 ปี ใช้ปืนปลอมจี้ชิงทรัพย์สาวเซเว่นฯ ได้เงินไป 1000 บาท อ้างหาเงินเป็นค่ารถกลับบ้าน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
จี้เซเว่น,ปืนปลอม,คุมตัวทำแผน,จี้ร้านเซเว่น,สภ.กระทุ่มแบน,สมุทรสาคร,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1777471
|
NGO-นักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตยร้องคืนอำนาจสูงสุดให้ ประชาชน จี้เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
|
ย่ำรุ่ง วานนี้ (24 มิ.ย.53) ที่บริเวณหมุดคณะราษฎร ลานพระบรมรูปทรงม้า ด้านหน้าสนามเสือป่า เครือข่ายนักพัฒนาเอกชนและนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตย อ่านแถลงการณ์ 78 ปี เปลี่ยนแปลงการปกครอง อำนาจสูงสุดของประเทศนั้นเป็นของราษฎรทั้งหลาย ในโอกาสการรำลึกวันครบรอบ 78 ปี ที่คณะราษฎรเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์สู่ระบอบประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475ประกาศจุดยืน 1.เชิญชวนเรียกร้องให้สังคมไทยก้าวไปข้างหน้าโดยยึดถือหลักการ อำนาจสูงสุดของประเทศนั้นเป็นของราษฎรทั้งหลาย ของคณะราษฎร เป็นหลักการที่มีความถูกต้องชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย ดังกล่าว เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง2.รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีที่มาและการใช้อำนาจขัดต่อหลักการ อำนาจสูงสุดของประเทศนั้นเป็นของราษฎรทั้งหลาย อย่างรุนแรง สังคมไทยจงร่วมกันรับรู้และเปิดเผยความจริงข้อนี้ และร่วมกันต่อสู้เพื่อให้รัฐบาลที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริงได้เข้ามาปกครองประเทศต่อไป3. การประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ของรัฐบาล ในสถานการณ์เฉพาะหน้านี้ คือรูปธรรมของการใช้อำนาจแบบเผด็จการเพื่อธำรงความมั่นคงของกลุ่มอำนาจเดิมที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลร่างทรง เรียงร้องให้ สังคมไทยร่วมกันต่อต้านการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ในการต่อสู้เพื่อให้อำนาจอธิปไตยกลับมาอยู่ในมือของประชาชนอย่างแท้จริง
|
เครือข่ายนักพัฒนาเอกชนและนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตย อ่านแถลงการณ์ 78 ปี เปลี่ยนแปลงการปกครอง อำนาจสูงสุดของประเทศนั้นเป็นของราษฎรทั้งหลาย ในโอกาสการรำลึกวันครบรอบ 78 ปี 24 มิถุนายน 2475
|
การเมือง,สังคม
|
การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475,พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน,เครือข่ายนักพัฒนาเอกชนและนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตย,แถลงการณ์
|
https://prachatai.com/journal/2010/06/30086
|
โค้ชอ๊อต ชมสาวไทยฟอร์มเยี่ยม เกมชนะโสมขาว
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 21 พ.ค. ว่า โค้ชอ๊อต เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ชมลูกทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หลังพลิกแซงเอาชนะเกาหลีใต้ ไป 3-2 เซต (19-25, 22-25, 29-27, 26-24,15-12) ในศึกวอลเลย์บอลหญิง โอลิมปิก 2016 รอบคัดเลือก) โดยหลังจบเกม โค้ชอ๊อต เกียรติพงษ์ รัชตะเกรียงไกร ระบุ ทีมไทยเล่นได้ดีจนชนะหนึี่งในทีมที่ดีที่สุดในโลกอย่างเกาหลีใต้ ขณะที่ ลี จุง ชุล กุนซือทีมชาติเกาหลีใต้ แฮปปี้ที่ทัพลูกยาวโสมขาวการันตีการไปโอลิมปิกครั้งที่ 11 ฉลองครบรอบ 100 ปีของสมาคมวอลเลย์บอลเกาหลีใต้,โค้ชอ๊อต กล่าวว่า นี่คือฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดจากลูกทีมของผม เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลก ผู้เล่นทุกคนของพวกเขามีประสิทธิภาพสูงมาก,ปลื้มจิตร์ ถินขาว กัปตันทีมชาติไทย กล่าวว่า เราพายามทำผลงานให้ดีที่สุดในแต่ละเกม มากกว่าที่จะโฟกัสเรื่องการไปโอลิมปิก,ลี จุง ชุล โค้ชทีมชาติเกาหลีใต้ กล่าวว่า เรามีความสุขมากที่ได้การันตีตั๋วไปเล่นในกีฬาโอลิมปิก เราบรรลุเป้าหมายของเราแล้ว ถ้ามองแง่นี้ก็ถือว่าเราได้รับผลตามที่ต้องการแล้ว ปีนี้ครบรอบ 100 ปี ของสมาคมวอลเลย์บอลเกาหลีใต้ ดังนั้นนีคือความสำเร็จที่สำคัญมากๆ,ลี เฮียว ฮี ผู้เล่นทีมเกาหลีใต้ กล่าวว่า มันเป็นเรื่องน่าเศร้ามากๆ ที่เราแพ้ในวันนี้ แต่ฉันมีความสุขที่เราการันตีตั๋วไปโอลิมปิกแล้ว,ขอบคุณภาพจาก http://worldoqt.japan.2016.women.fivb.com/
|
โค้ชอ๊อต เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ชมนักตบลูกยางสาวทีมชาติไทย ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หลังเอาชนะเกาหลีใต้ ไป 3-2 เซต ในศึกวอลเลย์บอลหญิง โอลิมปิก 2016 รอบคัดเลือก
| null |
วอลเลย์บอลหญิง,โค้ชอ็อต,เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร,โอลิมปิก 2016,วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย,เกาหลีใต้,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/623816
|
วุฒิสภาเริ่มการไต่สวนถอดถอนผู้นำสหรัฐอเมริกา
|
เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจอห์น โรเบิร์ตส์ ประธานศาลสูงสุดสหรัฐอเมริกากล่าวสาบานตนเพื่อรับหน้าที่ประธานในกระบวนการพิจารณาถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในชั้นวุฒิสภา อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์การเมืองของสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่าจะมีการกล่าวแถลงเปิดการไต่สวนในวันอังคารหน้า พร้อมด้วยวุฒิสมาชิกทั้ง 100 คน ที่เข้าร่วมพิธีสาบานตนเพื่อทำหน้าที่คณะลูกขุนการเปิดการไต่สวนครั้งนี้มีขึ้นในระหว่างที่สำนักตรวจสอบรัฐบาลของสภาคองเกรส ระบุว่า การสั่งระงับการให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ยูเครนของทำเนียบขาวเป็นการละเมิดกฎหมาย ที่สภาคองเกรสได้เห็นชอบและรับรองแล้วขณะที่ผู้นำสหรัฐอเมริกาปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ของเลฟ พาร์นาส ผู้ช่วยของรูดีย์ จูลีอานี ทนายความส่วนตัวของทรัมป์ ที่ระบุว่า ทรัมป์รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในยูเครนเป็นอย่างดี ซึ่งรวมถึงการโน้มน้าวให้ยูเครนสอบสวนฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของโจ ไบเดน คู่แข่งทางการเมืองคนสำคัญของทรัมป์ด้วย
|
วุฒิสภาสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นเปิดการไต่สวนพิจารณาถอดถอนโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของประเทศ
|
ต่างประเทศ
|
สหรัฐอเมริกา,กระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา,โดนัลด์ ทรัมป์,ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
|
https://news.thaipbs.or.th/content/288057
|
เคอร์ฟิวคืนสาม จับดำเนินคดี 810 ราย จงใจฝ่าฝืนออกจากบ้าน อ้างไปทำธุระ
|
เมื่อวันที่ 6 เม.ย.63 พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษก ตร. เปิดเผยภาพรวมสถานการณ์ในคืนที่สามหลังจากมีการประกาศเคอร์ฟิว ว่า ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี คืนที่ผ่านมาจะเห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจ และปฏิบัติตัวได้ถูกต้องภาพรวมของคืนที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ทหาร สาธารณสุข และอาสาสมัคร ได้สนธิกำลัง ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ชุดเคลื่อนที่เร็ว ทั่วประเทศ รวม 923 จุด ใช้กำลังพลรวม 17755 คน เพิ่มขึ้นจากคืนวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา จำนวน 87 จุด (คืนวันที่ 4 เมษายน จำนวน 849 จุด) มีการตรวจประชาชน จำนวน 22675 คน ตรวจยานพาหนะ 16841 คัน (คืนวันที่ 4 เมษายน ตรวจ ประชาชน 19312 คน ยานพาหนะ 14344 คัน)สำหรับผู้ที่ออกนอกเคหสถานนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีเหตุผลและความจำเป็น ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล คือ ผู้ที่มีหน้าที่ขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ที่ขนส่งผลผลิตทางการเกษตร ผู้ที่มีหน้าที่เข้าออกเวรทำงานผลัดกลางคืน ตามลำดับ ในส่วนพื้นที่อื่นนั้น เป็นผู้ที่มีหน้าที่ขนส่งผลผลิตทางการเกษตร ผู้ขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค และ ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ยังคงมีประชาชนที่จงใจฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด ออกนอกเคหสถาน โดยไม่มีเหตุผล จำนวน 1057 คน และรวมกลุ่ม ชุมนุม หรือมั่วสุมในลัษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ในเคหสถาน จำนวน 83 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมดำเนินคดี ทั้งหมด 810 ราย โดยส่วนใหญ่ยังคง เจตนาออกนอกเคหสถานโดยไม่มีเหตุอันสมควร เช่นอ้างว่าจะไปทำธุระ แต่พอถูกสอบถามโดยละเอียด ไม่สามารถตอบคำถามได้ ผู้ที่มาตั้งวงดื่มสุราในที่สาธารณะ ลักลอบเล่นการพนัน รวมกลุ่มขับขี่รถจักรยานยนต์ และเสพยาเสพติด ผลการปฏิบัติฝ่าฝืนออกนอกเคหสถาน 1057 คน รวมกลุ่มมั่วสุมในเคหะสถาน 83 ราย ดำเนินคดี 810 รายพล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้พ้นระยะเวลา 3 คืนของการประกาศเคอร์ฟิวแล้ว ต้องถือว่าหากยังมีการฝ่าฝืนอีกเจ้าหน้าที่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน ได้โปรดปฏิบัติตามข้อกำหนด และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทั้งนี้เพื่อควบคุม ป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคให้ได้โดยเร็ว และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องในการสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันและลดการแพร่ระบาด โดยบังคับใช้กฎหมายและปราบปรามผู้ที่ก่ออาชญากรรมอันเป็นการเอารัดเอาเปรียบและช้ำเติมประชาชนอย่างจริงจังขอเรียนว่า ขณะนี้ ศาลได้พิพากษาลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายแล้วทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ศาลแขวงดุสิต ศาลแขวงนครราชสีมา ศาลแขวงสงขลา ศาลแขวงเชียงใหม่ ศาลจังหวัดชัยนาท ศาลจังหวัดยโสธร ศาลจังหวัดปราจีนบุรี เป็นตัน โดยมีอัตราโทษตั้งแต่จำคุกกักขัง และปรับ รวมถึงมีข้อกำหนดเพิ่มเติมเช่นห้ามออกนอกเคหสถาน เป็นเวลา 7 วัน เว้นมีเหตุจำเป็น จึงขอให้พี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือด้วยโฆษก ตร.กล่าวว่า ผลการปราบปรามและบังคับใช้กฏหมายการจับกุมผู้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เฉพาะในวันที่ 5 เมย.เพียงวันเดียว มีการจับกุมทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและต่งจังหวัด จำนวน 8 คดี ผู้ต้องหา 9 คน ตรวจยึดของกลางหน้ากากอนามัย จำนวน 7930 ชิ้น เจลแอลกฮอล์ จำนวน 7280 ลิตร รวมผลการตรวจจับกุมตั้งแต่เดือน ก.พ.จนถึงปัจจุบัน จำนวน 306 คดี ของกลางหน้ากากอนามัย จำนวน 2524530 ชิ้น แอลกฮอล์ 707 ลิตร รวมมูลค่าของกลางกว่า 69 ล้านบาท การจับกุมผู้ที่โพสต์หรือส่งต่อข่าวปลอม สร้างความตื่นตระหนกให้แก่สังคม Fake News ที่เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 จนถึงวันที่ 5 เม.ย.63 มีจำนวน 23 คดี ผู้ต้องหา 29 คน การจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับประกาศ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ จนถึงปัจจุบัน มีการจับกุม จำนวน 29 คดี ผู้ต้องหา 81 คน โฆษก ตร.กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบังคับการตำรวจทางหลวง ขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนโดยในช่วงนี้ขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยไม่จำเป็น กรณีหากท่านมีความจำเป็นขอให้ศึกษาข้อมูล รวมถึงประกาศ คำสั่ง และข้อกำหนดของแต่ละจังหวัดก่อนเดินทาง เช่น ขณะนี้มี 10 จังหวัด ห้ามประชาชนเดินทางเข้าออก เว้นมีเหตุจำเป็นจริงๆ ประกอบด้วย แม่ฮ่องสอน น่าน ตาก ตราด ภูเก็ต สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ซึ่งแต่ละจังหวัดก็มีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ทั้งนี้หากท่านต้องการ สอบถามข้อมูล สามารถติดต่อได้ที่ โทรศัพท์สายด่วน 191 1599 และ สายด่วนกองบังคับการตำรวจทางหลวง 1193
|
เผยเคอร์ฟิวผ่าน 3 คืนดำเนินคดีแล้ว 810 ราย โฆษก ตร.ชี้ภาพรวมสงบเรียบร้อย แต่มีจงใจฝ่าฝืนบ้าง เตือนพวกยังปาร์ตี้ไม่สนโลก เจ้าหน้าที่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ไม่มีอะลุ่มอล่วย
|
ข่าว,อาชญากรรม
|
เคอร์ฟิว,ประกาศเคอร์ฟิว,โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ห้ามออกจากบ้าน,ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว,ปิยะ อุทาโย,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/crime/1813616
|
ผู้ค้าทุบแผงทิ้ง ปิดตามคำสั่ง! พาสำรวจตลาดรอบบ้านป้าทุบรถ หลังครบเส้นตายวันนี้
|
THE STANDARD เกาะติดรายงานข่าวกรณีป้าทุบรถ ตั้งแต่เหตุการณ์เริ่มต้นจากการแชร์คลิปขวานทุบรถสะเทือนโลกออนไลน์ จนนำไปสู่ปมปัญหาตลาดที่สร้างในเขตที่อยู่อาศัย อันเป็นสาเหตุใหญ่ที่นำมาสู่ปัญหาอื่นๆ ตั้งแต่การจอดรถกีดขวางหน้าบ้าน และความไม่สะดวกในแง่การอยู่อาศัย ซึ่งเจ้าของบ้านได้ฟ้องร้องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนับ 10 ปี หลังการออกมาแถลงข้อเท็จจริงของป้า เรื่องราวก็ถูกนำเสนอผ่านสื่อหลายสำนัก ทำให้ พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต้องลงไปตรวจสอบในพื้นที่ สั่งให้ นายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนวยการเขตประเวศ ตรวจสอบตลาดรอบบ้านป้าทั้ง 5 แห่ง โดยได้มีการเรียกเจ้าของตลาดเข้ามาพบ รวมทั้งได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหานี้ทั้งหมดด้วยกระทั่งในเวลาต่อมา ได้สั่งให้ 3 ตลาด ได้แก่ ตลาดสวนหลวง ตลาดรุ่งวาณิชย์ และตลาดร่มเหลือง ซึ่งไม่มีใบอนุญาตจัดตั้งตลาด ปิดทำการค้าขายทันทีภายใน 7 วัน โดยระหว่างนี้จะผ่อนผันให้ผู้ค้าได้ระบายขายสินค้าที่ค้างสต็อกอยู่ได้จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ส่วนอีก 2 ตลาด ได้แก่ ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ตและตลาดยิ่งนรา มีความผิดในการใช้พื้นที่ไม่ตรงกับใบอนุญาตที่ขอทำการพาณิชย์ จึงให้ไปปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องภายใน 7 วัน โดยห้ามขายสินค้าอาหารสดอย่างเด็ดขาด ซึ่งมีกำหนดเส้นตายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์เช่นกันสำรวจ 5 ตลาด ปิดขายของทั้งหมดแล้ว สุดเงียบเหงาจากการลงพื้นที่สำรวจตลาด บริเวณหมู่บ้านเสรีวิลล่า สวนหลวง ของทีมข่าว ซึ่งครบกำหนดเส้นตาย 7 วันในวันนี้ ตามที่มีคำสั่งให้แต่ละตลาดต้องดำเนินการ หากกางแผนที่โดยให้บ้านป้าทุบรถเป็นจุดศูนย์กลาง เราพบบรรยากาศทั้ง 5 ตลาดมีคำสั่งจากเขตประเวศมาติดบริเวณหน้าตลาดให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ละตลาดดังต่อไปนี้ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต: หากหันหน้าเข้าบ้านป้าทุบรถ จะพบว่าตลาดอยู่ทางด้านซ้าย ติดกับกำแพงของบ้านป้า มีนายยศนนท์ ลิ้มธรรมเลิศ เป็นเจ้าของ ได้มีการรื้อผ้าใบด้านหน้าตลาดออกทั้งหมด รวมทั้งมีการจัดการพื้นที่โดยรอบใหม่ โดยมีช่างเข้ามาทุบเอาแผงปูนที่ตั้งขายของออก ใช้เครื่องเจาะทำลายพื้นผิว และติดป้ายหน้าตลาดว่าห้ามมีการตั้งแผงขายของ โดยภายในบริเวณแผงขายของบางส่วนที่อยู่ในโซนของโครงสร้างเหล็กยังคงมีร้านอยู่จำนวนหนึ่ง ขณะเดียวกันกลุ่มแม่ค้าพ่อค้าบางส่วนจับกลุ่มพูดคุยกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และทยอยเก็บข้าวของออกผมขายมาสิบกว่าปี ขายดอกไม้ วันนี้เน่าหมด ก็ยังไม่รู้ว่าจะได้กลับมาขายเมื่อไร ก็อยากให้เห็นใจคนทำมาหากินด้วย เราทำอาชีพสุจริต จะให้ไปปล้นเขาหรือ ก็ไม่ใช่ แต่ขอทำมาหากิน ให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัวก็พอ ผู้ค้าชายสูงอายุ ที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อคนหนึ่งกล่าวตลาดยิ่งนรา: คือตลาดที่อยู่ถัดมาทางซ้ายของตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต พบว่าบริเวณโดยรอบถูกปิดล้อมด้วยแผงเหล็กล้อเลื่อน มีนายรังสรรค์ จรรยาวัฒนกุล เป็นผู้ถูกออกคำสั่งให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตามหนังสือที่เขตประเวศติดไว้ที่หน้าตลาด ขณะที่แผงขายของในโซนตลาดมีกลุ่มแม่ค้าบางรายเข้ามาประกอบอาหาร เช่น ปอกผลไม้ เตรียมขาย ซึ่งหากมองจากภายนอก ไม่พบการขนย้ายของออกไปมากนักเหมือนตลาดอื่นๆ หากแต่มีการกั้นและปิดไม่ให้มีการขายของได้แล้วตลาดรุ่งวาณิชย์: ถัดจากตลาดยิ่งนรามาด้านหน้า เป็นตลาดที่มีการนำเอาแผงเหล็กมากั้นปิดรอบบริเวณเช่นเดียวกัน มีนายธเนตร รุจิราวาณิชย์ เป็นเจ้าของ ในโซนของตลาดค่อนข้างจะโล่ง เนื่องจากมีการจัดเก็บแผงทั้งหมดออกไปเป็นจำนวนมาก ขณะที่ด้านหลังตลาดเจ้าหน้าที่ได้นำผ้าใบมาล้างทำความสะอาด ผมขายอยู่ข้างๆ ตลาดมานาน ก็ได้อาศัยอานิสงส์ของตลาดที่คนมีกำลังซื้อมาจับจ่ายหลายปี ทำให้มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว ต้องยอมรับว่าจากนี้ไปคงไม่เหมือนเดิม ก็ต้องปรับตัวหาที่ขายใหม่ พ่อค้าขายตับย่าง หมูปิ้ง บอกทีมข่าวตลาดสวนหลวง: หากหันหน้าเข้าบ้านป้า ตลาดจะอยู่ด้านขวา ซึ่งมีตลาดเดียว พบว่าวันนี้มีกลุ่มผู้ค้าจำนวนมากเข้าไปในพื้นที่ตลาด ช่วยกันทำความสะอาดในบริเวณโดยรอบตลาด ทั้งล้างและลอกท่อระบายน้ำ แต่ได้ติดป้ายที่ทำด้วยกระดาษ A4 มาติดหน้าตลาดห้ามการบันทึกภาพวิดีโอและภาพนิ่ง ซึ่งตลาดดังกล่าวมีนายสุรกิจ นามวรกานต์ เป็นเจ้าของตลาดร่มเหลือง: เป็นตลาดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านป้า ไม่มีโครงสร้างที่มีลักษณะเป็นอาคารหรือโรงเรือนแต่อย่างใด มีนายเกียรติรัตน์ สุวรรณวัฒนาสุข เป็นเจ้าของตลาด มีการนำเอาสังกะสีมากั้นล้อมตลาดที่เป็นพื้นที่โล่งไว้ รวมทั้งผ้าใบกางปิดทางเข้าออก ทีมข่าวได้รับอนุญาตให้เข้าไปถ่ายด้านใน พบว่ามีการนำเอาโครงสร้างเหล็กที่ทำเป็นแผงขายของมาตั้งกองรวมไว้ และเคลียร์พื้นที่ให้โล่งแล้ว สำหรับบรรยากาศที่บริเวณหน้าบ้านป้าทุบรถในวันนี้ ยังคงได้รับความสนใจจากประชาชนที่ขับรถและเดินผ่านไปมา บางรายยังลดกระจกเพื่อถ่ายภาพและสอบถามทีมข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บางรายไปถ่ายรูปที่หน้าบ้านป้า ขณะที่ผู้ค้าหลายรายต่างเดินทางมาดูตลาดที่ตนเองขายของ ซึ่งยอมรับว่าตกที่นั่งลำบากในการค้าขาย ขณะที่ซูเปอร์มาเก็ตที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านป้า ติดกับตลาดร่มเหลืองยังคงเปิดทำการปกติ มีเจ้าหน้าที่เทศกิจและเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอดส่องดูแลตามปกติ รอผลสอบข้อเท็จจริงวันนี้ ผอ.เขต หาพื้นที่ใหม่ให้ผู้ค้าได้ขายอย่างไรก็ตามจากนี้ คงต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องทั้งหมด ที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ลงนามแต่งตั้ง ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดนี้ ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ นายนิรันดร์ ประดิษฐกุล ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่สอง เคยดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และนายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการบังคับคดี สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งปัจจุบันเป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานครด้วยอีกตำแหน่งหนึ่ง โดยระบุให้รายงานผลสอบใน 7 วัน ซึ่งตรงกับวันนี้เช่นเดียวกัน โดยมีรายงานว่าจะมีการประชุมในช่วงบ่ายของวันนี้ด้านนายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนวยการเขตประเวศ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวานนี้ ถึงการแก้ปัญหาสำหรับผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบ สำนักงานเขตได้จัดสรรพื้นที่ค้าขายไปยังตลาดรถไฟ ถนนศรีนครินทร์ ตลาดนัมเบอร์วัน ย่านมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 ตลาดราชพฤกษ์ ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 35 ตลาดที่จัดสรรสามารถรองรับผู้ค้าได้รวม 600 คน ทั้งนี้ยังมีในส่วนของห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ที่เสนอพื้นที่โล่งจำนวน 18 ไร่ ให้รองรับกลุ่มผู้ค้าอีกด้วย คาดว่าจะสามารถรองรับผู้ได้รับความเดือดร้อนได้ วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคมนี้ สำนักงานเขตและผู้ค้าในตลาดจะทำกิจกรรม Big Cleaning Day เพื่อทำความสะอาดบริเวณโดยรอบสำหรับคดีเกี่ยวกับการฟ้องร้องระหว่างบ้านของป้าและตลาด ศาลปกครองกลางได้นัดไต่สวนคดีสิ่งแวดล้อมระหว่างนางสาวบุญศรี แสงหยกตระการ กับพวกรวม 4 คน ยื่นฟ้องผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กับพวกรวม 4 คน และมีนายสุกิจ นามวรกานต์ กับพวกรวม 7 คน เป็นผู้ร้องสอด กรณีนางสาวบุญศรีเห็นว่าผู้ว่าฯ กทม. กับพวกละเลยให้มีการก่อสร้างอาคารและตลาดในหมู่บ้านเสรีวิลล่า เขตประเวศ โดยผิดกฎหมาย ในวันที่ 2 มีนาคม เวลา 13.30 น.ในส่วนที่พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้เจ้าของบ้าน 2 ราย คือ นางสาวรัตนฉัตร แสงหยกตระการ อายุ 61 ปี และนางสาวราณี แสงหยกตระการ อายุ 57 ปี ผู้ก่อเหตุทุบรถมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา ได้มีการขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาออกไป ซึ่ง 3 ข้อหาได้แก่ ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตไปรับทราบข้อกล่าวหาเปิดเนื้อหาหนังสือคำสั่งเขตประเวศ ก่อนถึงเส้นตายวันนี้สำหรับสำเนาหนังสือคำสั่งที่ได้นำไปติดไว้ที่หน้าตลาดทั้ง 5 ตลาด มีรายละเอียดดังนี้ สำเนาหนังสือคำสั่ง ผอ.เขตประเวศ ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 เรื่อง คำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้แก้ไขหรือปรับปรุง ข้อความว่าเรียนเจ้าของตลาดร่มเหลือง ด้วยนายสมบัติ เครือกีรติธรรม ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล เจ้าพนักงานสาธารณสุข ตรวจสอบสถานประกอบกิจการของท่าน ตั้งอยู่อาคารไม่มีเลขที่ ซอยศรีนครินทร์ 55 พบว่าจัดตั้งตลาดประเภทที่ 1 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามมาตรา 38 พ.ร.บ. การสาธารณสุข 2535 ประกอบข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องตลาด พ.ศ. 2546 ออกคำสั่งให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตจัดตั้งตลาดพร้อมเอกสารหลักฐานที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตประเวศ ภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งนี้ หากครบกำหนดระยะเวลาไม่มายื่นคำขอรับใบอนุญาตให้ถูกต้องหรือเจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่ออกใบอนุญาตให้จะต้องหยุดการประกอบกิจการทันที หากฝ่าฝืนเจ้าพนักงานท้องถิ่นจะเข้าดำเนินการด้วยตนเอง หรือมอบหมายให้บุคคลอื่นบังคับใช้กฎหมายทั้งนี้ การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นมาตรา 45 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 25000 บาท ตลอดเวลาที่ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งตามมาตรา 80 แห่ง พ.ร.บ. การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 อนึ่ง หากท่านไม่พอใจคำสั่งนี้หรือเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม มีสิทธิ์อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง ขอแสดงความนับถือ ลงนาม นายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนายการเขตประเวศ ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เจ้าพนักงานท้องถิ่น
|
5 ตลาดรอบบ้านป้าทุบรถปิดตามคำสั่งของกรุงเทพมหานครแล้ว มีการเข้าเคลียร์พื้นที่ทำความสะอาด นำแผงเหล็กกั้น ขณะที่ผู้ค้ากังวลอนาคต ไม่รู้จะได้กลับมาขายหรือไม่วันนี้เป็นวันกำหนดเส้นตายให้ทุกตลาดจัดการตามคำสั่ง โดยปิด 3 แห่ง และ ทำให้ถูกต้อง 2 แห่ง ขณะที่ผลการสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดจากคณะกรรมการที่ผู้ว่าฯ กทม. ตั้ง จะได้ข้อสรุปวันนี้เช่นเดียวกัน
| null | null |
https://thestandard.co/demolish-market-in-car-destroy-area/
|
ตม.อรัญฯ รวบ 2 พระเวียดนามเข้าไทย ไม่มี นส.รับรอง หวั่นไปธรรมกาย
|
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 59 พ.ต.อ.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว นำกำลัง จนท.ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จ.สระแก้ว ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1201 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา และ พ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผกก.(สส) สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว เข้าทำการตรวจสอบ และคุมเข้มการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา และพระภิกษุกัมพูชา ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย โดยเฉพาะผู้ที่จะเดินทางไป กทม. จะมีการตรวจเอกสารการเดินทาง และสอบถามอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเดินทางไปร่วมสนับสนุนปกป้องที่ วัดพระธรรมกาย,ต่อมา เจ้าหน้าที่ตรวจพบพระภิกษุ 2 รูป ห่มจีวรสีเหลือง สะพายย่ามเหลือง เดินทางข้ามด่านพรมแดนอรัญประเทศ จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย เมื่อถึงอาคารตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าราชอาณาจักร พ.ต.ท.เบญจพล จึงแสดงตัวขอตรวจสอบเอกสารการเดินทาง พบว่าทั้ง 2 เป็นพระภิกษุชาวเวียดนาม ถือพาสปอร์ตสัญชาติเวียดนาม จากการสอบถามพระภิกษุทั้ง 2 รูป อ้างว่าจะเดินทางไปจำวัดที่วัดแห่งหนึ่งใน กทม. แต่ไม่ยอมบอกชื่อวัด เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารจากทางวัดที่อนุญาตให้พระภิกษุทั้ง 2 รูปไปจำวัดใน กทม. พระภิกษุชาวเวียดนามทั้ง 2 รูปไม่มีมาแสดง อ้างว่ายังไม่ได้ไปขออนุญาต เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้พระภิกษุชาวเวียดนามทั้ง 2 รูป ไปขอเอกสาร หรือหนังสือรับรองการอนุญาตของวัดที่จะไปจำวัดหรือพักค้าง มาแสดงควบคู่กับพาสปอร์ต ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของทางการไทย แต่พระภิกษุชาวเวียดนามทั้ง 2 รูป พยายามต่อรองขอเดินทางเข้าไปใน กทม. แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถฝืนกฎหมายและระเบียบของไทยได้ จึงแนะนำให้เดินทางกลับประเทศ ทั้งนี้ ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นพระภิกษุจริงหรือไม่ จึงปฏิเสธการเดินทางเข้าประเทศของพระภิกษุทั้ง 2 รูป
|
ด่าน ตม.อรัญประเทศ ตรวจเข้ม 2 พระเวียดนามเข้าไทย อ้างจะเดินทางไปจำวัดแห่งหนึ่งใน กทม. แต่ไม่มีหนังสือรับรองจากวัดในไทย จึงปฏิเสธห้ามเข้าประเทศ หวั่นไปร่วมสนับสนุนวัดพระธรรมกาย
| null |
ด่านอรัญประเทศ,พระเวียดนาม,พระเวียตนาม,ธรรมกาย,วัดธรรมกาย,ตม.อรัญฯ,ด่านพรมแดนประเทศ,หนังสือรับรอง,พระภิกษุ,ตม.สระแก้ว,ชายแดนไทย-เขมร,ชายแดนประเทศไทย,ข่าว,ข่าวสังคม,ข่าวทั่วไทย,ภูมิภาค,อรัญประเทศ,สระแก้ว,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐ
|
https://www.thairath.co.th/content/640088
|
รับแจ้งจัดตั้ง 4 พรรคการเมืองเพิ่ม
|
วันนี้ (6 เม.ย.61) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะรักษาการนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณารับรองคำขอจดจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ของกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่ได้เริ่มยื่นขอจดจัดตั้งซึ่งมีกลุ่มการเมืองมายื่นขอจดจัดตั้งแล้ว 98 พรรคการเมือง ทางสำนักงานได้มีการตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน คุณสมบัติของผู้ยื่นขอจดจัดตั้งขณะที่วานนี้ นายทะเบียนพรรคการเมืองได้ออกหนังสือรับแจ้งการจัดตั้งพรรคการเมือง เพิ่มกับอีก 4 พรรคการเมือง คือ พรรคสังคมประชาธิปไตยประชาชน ที่นายเยี่ยมยอด ศรีมันตะ เป็นผู้ยื่นคำขอ พรรคประชาชาติ ที่นายสุรพล นาควานิช ยื่นขอจัดตั้ง พรรคพลังพลเมืองไทย ที่นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ ยื่นขอจัดตั้ง และพรรคประชาภิวัตน์ ที่ยื่นขอจัดตั้งโดย พล.ต.ไชยนาจ ญาติฉิมพลี โดยก่อนหน้านี้นายทะเบียนออกหนังสือรับแจ้งการเตรียมการฯ (แบบ พ.ก. 7/2) แล้ว 9 พรรค คือ พรรคทางเลือกใหม่ พรรคกรีน พรรคประชานิยม พรรคพลังสยาม พรรคพลังชาติไทย พรรคเครือข่ายประชาชนไทย พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคพลังธรรมใหม่ พรรคประชาชนปฏิรูป รวมทั้งหมด 13 พรรค
|
นายทะเบียนออกหนังสือรับแจ้งการเตรียมการจัดตั้งพรรคอีก 4 พรรค พลังพลเมืองไทย ของ สัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ เดินหน้าจดทะเบียนต่อได้
|
การเมือง
|
พรรคการเมือง,จัดตั้งพรรค,เลือกตั้ง,กกต.,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS
|
https://news.thaipbs.or.th/content/271491
|
คนไทยยิ้มเลย ใบขับขี่ใช้ใน เยอรมนี-สวิส ได้ ไม่ต้องขอแบบสากล
|
,เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.62 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบกรอบเจรจาเพื่อจัดทำความตกลงทวิภาคี ว่าด้วยการยอมรับใบอนุญาตการขับรถภายในประเทศ ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสมาพันธรัฐสวิส ซึ่งจะเป็นแนวทางการเจรจาในการจัดทำความตกลงทวิภาคี ว่าด้วยการยอมรับใบอนุญาตการขับรถภายในประเทศ ระหว่างประเทศคู่ภาคี เพื่อช่วยสร้างความสะดวก รวมถึงเพื่อเป็นประโยชน์แก่ประชาชนชาวไทย ชาวเยอรมัน และชาวสวิส ทั้งกรณีของประชาชนชาวไทยที่ไปท่องเที่ยวในประเทศเยอรมนีและสมาพันธรัฐสวิส ตลอดจนกรณีของประชาชนชาวเยอรมันและชาวสวิสที่มาขับรถหรือพำนักในประเทศไทย โดยสามารถใช้ใบอนุญาตขับรถของประเทศตัวเองในการเช่ารถได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะมีความสะดวกมากกว่าการไปขอใบขับขี่สากล ,น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า โดยหลักการสำคัญของกรอบเจรจานี้ คือ ประเทศคู่ภาคีจะยอมรับใบอนุญาตการขับรถภายในประเทศ ที่ออกโดยรัฐบาลหรือหน่วยงานผู้มีอำนาจเท่านั้น อีกทั้งการใช้ใบอนุญาตการขับรถภายในประเทศภายใต้ความตกลงทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว จะเป็นการชั่วคราวนอกจากนี้ใบอนุญาตการขับรถภายในประเทศ ภายใต้ความตกลงนี้จะต้องมีภาษาอังกฤษกำกับโดยใช้แนวทางตามหลักการที่กำหนดไว้ของกรอบว่าด้วยประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งจะต้องไม่ขัดกับระเบียบภายในประเทศที่มีอยู่ รวมถึงตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเท่าเทียมและประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ.
|
ครม.เห็นชอบกรอบเจรจาเพื่อจัดทำข้อตกลงทวิภาคี ว่าด้วยการยอมรับใบขับขี่ไทยใน เยอรมนี-สวิส โดยไม่ต้องขอใบขับขี่สากล เพื่อความสะดวก เอื้อประโยชน์ประชาชนทั้ง 3 ประเทศ
|
ข่าว,การเมือง
|
ใบขับขี่,ครม.,ประชุม ครม.,เยอรมนี-สวิส,มติ ครม.,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1723986
|
ยุทธศักดิ์ เผยพรุ่งนี้เสนอยุทธศาสตร์แก้ปัญหาใต้ต่อนายกฯ-ยันไม่ใช้เคอร์ฟิว
|
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวว่า เมื่อวานนี้ ( 6ส.ค.) ได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าหารือเรื่องการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ โดยได้มีการประสานแผนเพื่อบูรณาการรวมทั้งการจัดตั้งศูนย์ในการประสานงาน ก่อนที่ในวันพรุ่งนี้ ( 8 ส.ค.) จะมีการเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งแผนดังกล่าวจะทำให้การปฏิบัติงานด้านการข่าวรวดเร็วและถูกต้องให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่รายละเอียดของแผนงานนั้นต้องให้นายกรัฐมนตรีเห็นชอบก่อนจึงจะมีความชัดเจน ทั้งนี้จะมีการประสานกับกระทรวงการการต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากต่างประเทศมีความสนใจปัญหาภาคใต้ด้วย นอกจากนี้จะให้ทางสำนักงบประมาณเข้ามาตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ของแต่ละกระทรวงอีกด้วยขณะเดียวกัน รองนายกฯ ยืนยันด้วยว่า ยุทธศาสตร์แก้ปัญหาภาคใต้จะไม่ใช้ความรุนแรง แต่จะเน้นการเข้าถึงมวลชนโดยใช้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอบต. เป็นหน่วยงานหลักเพื่อพัฒนาและสามารถดึงมวลชนเข้ามามีส่วนร่วมกับหน่วยงานของรัฐอย่างไรก็ตามการประชุมในวันพรุ่งนี้จะยังไม่มีการหารือเรื่องการประกาศใช้เคอร์ฟิวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งการประกาศใช้เคอร์ฟิวต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการในการเสนอเรื่องดังกล่าว
|
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เผยพรุ่งนี้ ( 8 ส.ค.) เสนอยุทธศาสตร์ต่อนายกฯถึงแนวแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมยืนยันจะไม่มีการหารือเรื่องการประกาศใช้เคอร์ฟิวในพื้นที่
|
การเมือง
|
ชายแดนใต้,นายกฯ,ยุทธศักดิ์,ยุทธศาสตร์,สถานการณ์ใต้,เคอร์ฟิว
|
https://news.thaipbs.or.th/content/103094
|
เรื่องถึงบิ๊กตู่ คนเชียงใหม่ร้อง ใช้ ม.44 จัดการร้านเหล้าใกล้มหาลัย
|
ช่วงบ่ายวันที่ 6 ธ.ค. หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีตัวแทน เครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายสถาบันอุดมศึกษารู้เท่าทันแอลกอฮอล์ภาคเหนือตอนบน และเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ มายื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ไปถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ทางนายกรัฐมนตรีใช้ ม.44 จัดระเบียบโซนนิ่งสถานบริการ ร้านเหล้า ที่จำหน่ายรอบสถานศึกษา และรอบวัดในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ ผวจ.เชียงใหม่ติดราชการ จึงมอบหมายให้ นายประจวบ กันธิยะ รอง ผวจ.ลงมารับหนังสือแทน,ทั้งนี้ ตัวแทนเครือข่าย 3 องค์กร กล่าวว่า หลังจากที่เกิดเรื่องทำร้ายร่างกายกันในร้านมาลินสกาย จนเป็นข่าวดังติดต่อกันมาหลายวันแล้ว สาเหตุมาจากมีการปล่อยปละละเลยให้มีการเปิดร้านขายเหล้าใกล้สถานศึกษา จนมีนักศึกษาเข้าไปเที่ยว และเกิดเรื่องขึ้น จึงอยากจะให้นายกรัฐมนตรี ใช้กฎหมาย ม.44 เข้าจัดระเบียบโซนนิ่งร้านเหล้ารอบสถานศึกษา และร้านเหล้ารอบวัดในตัวเมืองเชียงใหม่ด้วย,ทางด้าน นายประจวบ กันธิยะ รอง ผวจ.เชียงใหม่ หลังจากที่ได้รับหนังสือแล้ว ได้แจ้งว่าจะส่งไปถึงมือนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน ส่วนสถานบริการในจังหวัดเชียงใหม่ ยอมรับว่ามีมากกว่า 200 ร้าน และทางจังหวัดได้มอบหมายให้ทางอำเภอ จัดชุดจัดระเบียบสังคมออกตรวจกันในทุกคืนวันศุกร์และเสาร์อยู่แล้ว อาจจะมีเล็ดลอดสายตาของเจ้าหน้าที่ไปบ้าง แต่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานบริการ ก็สามารถร้องเรียนมายังศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัดได้ รวมถึงการจัดโซนนิ่งร้านเหล้ารอบสถานศึกษานั้น ทางจังหวัดได้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว,การเปิดร้านขายเหล้า ตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 นั้น ร้านขายเหล้ารอบสถานศึกษาในรัศมี 300 เมตร ที่เปิดใหม่ ไม่สามารถจะขออนุญาตเปิดได้ ส่วนร้านเดิมที่มีอยู่ก่อนกฎหมายนี้ ก็สามารถเปิดได้ต่อไป แม้ว่าจะอยู่ใกล้สถานศึกษาก็ตาม แต่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายคือ ห้ามเปิดเกินเวลา ห้ามจำหน่ายสุราให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้า และการพกพาอาวุธเข้าไปในสถานบริการ หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบ จะถูกจับและถูกสั่งปิดสถานบริการนั้นอย่างไม่มีกำหนด รอง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว,ขณะเดียวกัน ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 5 ทาง พล.ต.ต.พูนทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รรท.ผบช.ภ.5 ได้สั่งการให้ตำรวจเรียกเจ้าของสถานประกอบการร้านอาหาร ร้านเหล้าในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งหมดกว่า 270 ราย มาประชุมเพื่อทราบนโยบายและการบังคับใช้กฎหมาย ห้ามเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดคือเที่ยงคืน ห้ามจำหน่ายสุราให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี และห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ พร้อมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการในการให้บริการลูกค้า และไม่ให้มีการ์ดหรือนักเลงคุมร้านอาหาร ให้มีเฉพาะ รปภ.ดูแลลูกค้าเท่านั้น ห้ามมีเรื่องข่มขู่ทำร้ายลูกค้าที่มาใช้บริการ พร้อมกันนั้นยังขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการสถานบันเทิงให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดในร้านให้มากที่สุด เพื่อจะช่วยกันป้องกันปัญหาอาชญากรรมต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมา และผู้ประกอบการต้องช่วยกันสอดส่องดูแลปัญหาอาชญากรรม หากพบให้แจ้งเข้ามาทาง @ไลน์191 ได้ตลอดเวลา และยังกำชับเรื่องการติดไฟแสงสว่างที่จอดรถ ที่ลับตาคน และการทำประตูหนีไฟ ซึ่งผู้ประกอบการสถานบันเทิงที่มาร่วมประชุมในวันนี้ ต่างให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี.,อ่านเพิ่มเติม, ,ที่นี่
|
สถานบริการในเชียงใหม่วุ่น หลังการ์ดมาลินสกายตื้บลูกชายนายพล 3องค์กรบุกยื่นหนังสือขอบิ๊กตู่ใช้ม.44จัดโซนนิ่งร้านเหล้าใกล้สถานศึกษาให้ชัดเจน ส่วน ตร.ภาค 5 เรียกประชุมผู้ประกอบการกว่า 270 ร้าน กำชับมีรปภ.ได้แต่ห้ามมีการ์ดคุมร้าน
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ทำร้ายลูกนายพล,บอล กฤษณะ,ร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัย,เชียงใหม่,จัดโซนนิ่ง
|
https://www.thairath.co.th/news/local/803496
|
ภูมิปัญญาล้านนา+วิชาการ ทำนาประหยัดน้ำ 28%
|
ด้วยเหตุนี้กรมชลประทานจึงทำโครงการศึกษาทดลอง ทำนาเปียกสลับแห้งแกล้งข้าว มาตั้งแต่ปี 2555 จนเป็นที่ประจักษ์ช่วยประหยัดน้ำได้จริง จึงส่งเสริมให้ชาวนาในพื้นที่โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโก๋น ต.สันทราย อ.พร้าว จ.เชียงใหม่,ถึงใครจะบอกว่าเป็นเทคนิคจากต่างประเทศ แต่เมื่อนำมาให้ชาวนาภาคเหนือทำ ปรากฏว่ามันไม่ใช่ของใหม่ เป็นวิธีที่ชาวนาภาคเหนือทำมาตั้งนาน ชาวนารุ่นเก่ายังพอจำกันได้ แต่ชาวนารุ่นหลังจะไม่ค่อยรู้จักกัน เนื่องจากการปลูกข้าวแบบปล่อยให้น้ำแห้ง มักจะมีหญ้างอกขึ้นมา ชาวนาเลยไม่ชอบที่จะต้องมาถอนหญ้า จึงใช้วิธีขังน้ำให้ท่วมนาทั้งฤดู ปลูกข้าวใช้น้ำเปลืองจนติดเป็นนิสัยมาถึงทุกวันนี้ นายเจนศักดิ์ ลิมปิติ ผอ.โครงการชลประทานเชียงใหม่ พูดถึงการทำนาเปียกสลับแห้งแกล้งข้าวที่ใครคิดว่าเป็นของใหม่ แท้จริงแล้วชาวล้านนารุ่นเก่ารู้จักกันดี เพราะสภาพแวดล้อมบังคับให้ทำอย่างนั้น,เหมือนอย่าง นายสุพรรณ เปราะนาค ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยโก๋น บอกว่า ได้ทำนา เปียกสลับแห้งมานานนับสิบปีแล้ว เพราะนาของตัวเองอยู่ในพื้นที่ปลายน้ำ กว่าจะถึงเวลาจัดสรรน้ำมาถึงนาตัวเอง ต้องรอ 24 วันต่อครั้ง น้ำมาสูบเข้านา พอครบ 24 วัน น้ำจะแห้งพอดี ปรากฏว่าช่วยให้ผลผลิตข้าวดีกว่าการปลูกแบบเปลืองน้ำ จากที่เคยได้ข้าว 650 กก.ต่อไร่ เพิ่มเป็น 700 กก.,แต่นั่นเป็นการเรียนรู้แบบพื้นบ้าน ยังไม่ได้เติมความรู้ทางวิชาการลงไป อย่างที่กรมชลประทานได้ศึกษาวิจัยพบว่าการทำนาเปียกสลับแห้งแกล้งข้าว 2 ครั้ง จะให้ผลดีที่สุด,ดำนาแทนที่จะสูบน้ำเข้านาขังให้สูง 15-20 ซม. เปลี่ยนมาขังน้ำสูงแค่ 5 ซม. จากนั้นปล่อยให้น้ำระเหยแห้งไปเอง ทิ้งไว้แห้ง 14 วัน ถึงจะสูบน้ำเข้านาใหม่ แต่ก่อนจะเติมน้ำใหม่ ระหว่างที่นาแห้งดินแตกระแหงให้ใส่ปุ๋ย เพื่อปุ๋ยจะได้ลงใน ร่องดินแตกไปถึงราก แถมมีอากาศเข้าไปแทรกทำให้ต้นข้าวได้ปุ๋ยเต็มที่ ดีกว่าหว่าน ปุ๋ยทั้งที่ในนายังมีน้ำ ปุ๋ยละลายน้ำจะจับตัวอยู่บนผิวดิน รากดูดไปใช้ได้ไม่เต็มที่,ต้นข้าวอายุได้ 60 วัน แกล้งข้าวรอบสอง ทำนาให้แห้ง 14 วันอีกครั้ง และใส่ปุ๋ยตอนดินแตกระแหงเมื่อข้าวเริ่มตั้งท้อง คราวนี้ให้สูบน้ำเข้านา ขังน้ำให้สูง 7-10 ซม. เพราะเป็นช่วงที่ต้นข้าวต้องการน้ำและอาหารไปเลี้ยงลูกหรือเมล็ดข้าว,วิธีการนี้นอกจากจะช่วยประหยัดน้ำได้ถึง 28% จากที่เคยใช้น้ำไร่ละ 1,200 ลิตร จะเหลือ แค่ 860 ลิตร และเพราะรากดูดปุ๋ยได้ดี ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นมาเป็นไร่ละ 1,200 กก. แถมยังช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องสารเคมีได้ด้วย เพราะการทำให้นาแห้งน้ำนาไม่ชื้น เพลี้ยแมลงศัตรูข้าวไม่ชอบ ชาวนาเลยได้ลดต้นทุนค่ายาและค่าแรงฉีดพ่นไปโดยปริยาย.,ชาติชาย ศิริพัฒน์
|
แต่ละปีน้ำในอ่างเก็บน้ำที่กรมชลประทานกักเก็บ จะถูกจัดสรรเพื่อการบริโภคอุปโภค 5% ภาคอุตสาหกรรม 5% รักษาระบบนิเวศผลักดันน้ำเค็ม 20%เพื่อการเกษตร 70% เกือบทั้งหมดถูกนำไปใช้ทำนา
| null |
ชาติชาย ศิริพัฒน์,ทำนา,ภูมิปัญญา,ล้านนา,วิชาการ,ประหยัดน้ำ,อ่างเก็บน้อ,จัดสรร,สุพรรณ เปราะนาค
|
https://www.thairath.co.th/content/477408
|
ราคาทองคำถูก คนแห่ซื้อดันยอดนำเข้าทะลุ 3 แสนล้าน
|
ราคาทองคำช่วงนี้มีความผันผวนทั่วโลก รวมทั้งในไทย จนช่วงที่ผ่านมาราคาทั้งทองแท่งและทองรูปพรรณ ลดลงจนหลุดต่ำกว่าบาทละ 19,000 บาท ขณะนี้จึงเห็นปรากฏการณ์ ยิ่งราคาทองถูกก็ยิ่งขายได้มาก ท่ามกลางเศรษฐกิจกำลังเติบโต ล่าสุดมีสถิติจากกระทรวงพาณิชย์พบว่า มูลค่าการนำเข้าทองคำ 9 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น ทะลุ 3 แสนล้านบาท,นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ สมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า การนำเข้าทองคำช่วงนี้มีมูลค่าสูงขึ้น เป็นไปตามภาวะตลาด ที่พอราคาทองถูกลง ลูกค้าก็เข้าซื้อ ทั้งทองแท่ง และทองรูปพรรณ ร้านทองก็มีการนำเข้าเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันความต้องการซื้อทองส่วนใหญ่ซื้อเพื่อลงทุน เป็นทองแท่งมากกว่า จะได้ไม่เสียค่ากำเหน็จ ส่วนทองรูปพรรณ ก็ซื้อตามความต้องการใช้งาน ซื้อไปใส่ห้อยพระ จี้ หรือใช้งานแต่ง ปีใหม่ ตรุษจีน,จากการสำรวจของทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ย้อนไปปี 2557 ซึ่งภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว หลังวิกฤติการเมือง จนเกิดรัฐประหาร แม้ราคาทองคำแท่งถัวเฉลี่ยถูกกว่าบาทละ 20,000 บาท แต่ก็ไม่มีใครอยากลงทุน การนำเข้าทองคำจึงลดลง อยู่ที่ 214,404 ล้านบาท หลังจากมีการนำเข้าสูงถึงกว่า 5 แสนล้านบาทในปี 2554 ที่มีการเก็งกำไรอย่างหนัก จนราคาทองปี 2554 ผันผวนแพงขึ้นแบบก้าวกระโดด จากเดือนม.ค.-ก.พ.ราคาไม่ถึง 20,000 บาท พอเดือนพ.ย.ทะลุไปถึง 25,480 บาท จนหลายคนติดดอยอยู่ที่ราคานี้ ปี 2555 ทองยังแพง แต่ปี 2556 ทองถูกลงเรื่อยๆ, ,ปี 2558 ราคาทองคำถัวเฉลี่ยต่ำกว่า 20,000 บาททุกเดือนต่อเนื่องจากปี 2557 สูงสุดคือเดือนต.ค. ราคาบาทละ 19,565 บาท ต่ำสุดเดือนธ.ค.บาทละ 18,282 บาท มีมูลค่านำเข้าจึงเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 247,170 ล้านบาท,ปี 2559 มีมูลค่านำเข้าลดลง เพราะเศรษฐกิจยังไม่ส่งสัญญาณบวกนัก แม้ราคาทองคำแท่งถัวเฉลี่ย สูงกว่าบาทละ 2 หมื่นบาท ถึง 10 เดือน สูงสุดคือเดือนก.ค.บาทละ 22,226 บาท ต่ำสุดเดือนม.ค.บาทละ 18,768 บาท มูลค่านำเข้าทองคำก็ลดลงเหลือ 209,168 ล้านบาท,ปี 2560 สถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ นักลงทุน กลับมามองการลงทุนทองคำ โดยราคาทองคำแท่งถัวเฉลี่ยสูงกว่า 20,000 บาท ตลอด 10 เดือน สูงสุดเดือนเม.ย.บาทละ 20,702 บาท ต่ำสุดเดือนธ.ค.บาทละ 19,636 บาท มูลค่านำเข้าจึงเพิ่มขึ้นเป็น 376,787 ล้านบาท,ส่วนปีนี้เพียงแค่ 9 เดือนแรก ตั้งแต่ ม.ค.-ก.ย. นำเข้ามาแล้ว 306,949 ล้านบาท ถ้าเทียบกับช่วง 9 เดือนแรกของปีก่อนมีมูลค่า 249,840 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 22.86% ซึ่งตลอด 9 เดือนแรกของปีนี้ มีเพียงเดือนเดียวที่ราคาทองคำแท่งขายเกิน 20,000 บาท ส่วนที่เหลือเคลื่อนไหวอยู่ที่ 18,000-19,000 บาท สูงสุดคือเดือนม.ค.ถัวเฉลี่ยบาทละ 20,133 บาท ต่ำสุดเดือนก.ย.บาทละ 18,554 บาท,สำหรับ 10 แหล่ง และประเทศที่ไทยนำเข้าทองคำมากที่สุดคือ สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ สหรัฐอเมริกา แคนาดา เยอรมนี และจีน
|
ราคาถูก คนแห่ลงทุนทองคำแท่ง ซื้อทองรูปพรรณใส่ ดันยอดนำเข้าทองคำทะลุ 3 แสนล้านบาทแล้วภายใน 9 เดือนแรกของปีนี้ ลุ้นจบปี 61 ทุบสถิติสูงสุดในรอบ 5 ปี
|
ข่าว,เศรษฐกิจ
|
ราคาทองคำ,ทองแท่ง,ทองรูปพรรณ,นำเข้าทองคำ,ลงทุนทองคำ
|
https://www.thairath.co.th/news/business/stocks-gold/1402588
|
ไม่รับประกันคืนคลื่น 4 จีทัน แคทย้ำทำดีที่สุดแล้วแต่ยื้อเพราะถูกคลังท้วงติง
|
(มหาชน) หรือดีแทค เพื่อเจรจาระงับข้อพิพาทและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสัญญาสัมปทานให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว โดยมอบหมายให้คณะกฎหมายพิจารณารายละเอียดโดยเร็ว เพื่อจะได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเอ็มโอยูในอีก 1 เดือนข้างหน้า,สำหรับประเด็นการคืนคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 5 เมกะเฮิรตซ์ ให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อนำไปประมูล 4 จี และแคทขอใช้สิทธิ์ในคลื่นที่เหลืออีก 20 เมกะเฮิรตซ์ไปจนกว่าจะสิ้นสุดใบอนุญาตในปี 2568 นั้น ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ แต่เนื่องจากมีข้อท้วงติงจากกระทรวงคลังว่าการคืนคลื่นดังกล่าว ควรจะมีการแก้ไขสัญญาสัมปทานหรือไม่ ซึ่งแคทได้ทำหนังสือยืนยันไปยังกระทรวงการคลังว่า ไม่ต้องแก้ไขสัญญาสัมปทานแล้ว ฉะนั้นต้องรอหนังสือตอบกลับจากกระทรวงการคลัง เพื่อนำเสนอเรื่องให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) พิจารณาอีกครั้ง ก่อนนำเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติ การคืนคลื่น 5 เมกะเฮิรตซ์ จะทันตามระยะเวลาที่ กสทช.กำหนดไว้วันที่ 25 ก.ย.นี้หรือไม่นั้น ไม่สามารถยืนยันได้ เพราะกระบวนการในส่วนของแคทได้เสร็จสิ้นลงแล้ว แต่เมื่อมีการท้วงติงมา ก็ต้องยืนยัน โดยคลื่นย่านนี้ปล่อยว่างมานานมาก ไม่มีการใช้งาน ไม่ก่อประโยชน์ใดต่อประเทศชาติเลย เพราะฉะนั้นหากคืนคลื่นให้รัฐ ก็จะได้เงินราว 5,000-6,000 ล้านบาทจากการประมูล,นอกจากนั้น ที่ประชุมยังรับทราบความร่วมมือทางธุรกิจมือถือ 3 จีกับบริษัทเทสโก้ โลตัส โดยจะเป็นลักษณะการร่วมทุนในสัดส่วน 50:50 ขณะนี้ฝ่ายบริหารอยู่ระหว่างศึกษารูปแบบความร่วมมือที่เหมาะสม และรายละเอียดของผลตอบแทน คาดว่าภายในไตรมาส 4 น่าจะมีความชัดเจนและสามารถดำเนินการธุรกิจร่วมกันได้ในต้นปี 2559.
|
พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือแคท เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดแคท ได้เห็นชอบให้แคททำบันทึกความเข้าใจเบื้องต้นกับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด
| null |
สรรพชัย หุวะนันทน์,กสท โทรคมนาคม,คืนคลื่นความถี่,ประมูล 4 จี,ไม่รับประกัน,สัญญาสัมปทาน,ข่าว,ทีมข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
|
https://www.thairath.co.th/content/522341
|
ชาวบ้าน อ.เขาสมิง จ.ตราด เร่งอพยพไปที่สูง หลังระดับน้ำสูงขึ้น
|
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมอบถุงยังชีพให้ประชาชนในพื้นที่หมู่ 7 บ้านทุ่งกระบอก และหมู่ 3 บ้านเกาะลอย ตำบลสะตอ อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา ระดับน้ำที่บ้านทุ่งกระบอก เพิ่มสูงขึ้นถึง 3 เมตร เนื่องจากน้ำไหลมาจากคลองสะตอ ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพมาพักอาศัยชั่วคราวที่ศาลากลางหมู่บ้าน โดยมีบ้านเรือนกว่า 11 หลังถูกน้ำท่วมสูงขณะที่บ้านเกาะลอย พื้นที่หมู่ มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 10 หลัง และถูกน้ำล้อม รอบลักษณะติดเกาะทั้งหมู่บ้าน ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจรไปมา ขณะที่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ต้องจอดไว้ฝั่งตรงข้ามทางเข้าหมู่บ้าน โดยระดับน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตรขณะที่หลายจังหวัดภาคเหนือเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง หลังมีฝนตกติดต่อกันหลายวัน โดยเฉพาะการให้มิสเตอร์เตือนภัย ที่ต้องเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมที่จะแจ้งเตือนอพยพชาวบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัยได้ทันที ขณะเดียวกันสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในระยะนี้ส่วนที่สำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดกระบี่ ประกาศเตือนประชาชน ในพื้นที่เสี่ยง น้ำท่วม ดินโคลนถล่ม เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากที่ผ่านมา ดินได้อุ้มน้ำไว้เป็นจำนวนมาก เกรงว่าหากมีฝนตกลงมาอีก และอาจทำให้เกิดดินสไลด์จังหวัดนครราชสีมา สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่ง พบว่าปริมาณน้ำยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 31 ของความจุอ่าง ทำให้สำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา ออกมายืนยันว่า จังหวัดนคราชสีมา จะไม่ประสบปัญหาน้ำท่วมเหมือนในปี 2553 เนื่องจากอ่างเก็บน้ำทุกอ่างสามารถรองรับน้ำได้อีกจำนวนมาก
|
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหลายจังหวัด ประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากฝนที่ตกต่อเนื่อง ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ล่าสุดชาวบ้านบางส่วนต้องอพยพไปอยู่ในที่สูง หลังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีกเมื่อคืนที่ผ่านมา
|
ภูมิภาค
|
จันทบุรี,ตราด,น้ำ,น้ำท่วม,ระดับน้ำ,อพยพ,เขาสมิง
|
https://news.thaipbs.or.th/content/186124
|
ย้อนวันวิกฤติการณ์ รศ.112
|
ถ้าหากท่านได้รับภารกิจลับพิเศษ ก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องนำมาปฏิบัติในวันนี้ คือข้อความของข้าราชการชาวเดนมาร์ก พระยาชลยุทธโยธิน ซึ่งส่งถึงผู้บัญชาการเรือ Pallas ของอังกฤษ เพื่อขอกำลังสนับสนุนเมื่อฝรั่งเศสส่งกองเรือเข้าประชิดปากแม่น้ำเจ้าพระยาบันทึกของพระยาชลยุทธโยธิน ปลัดทหารเรือใหญ่ ที่ได้บันทึกไว้ในวิกฤติการณ์ รศ. 112 ถอดความโดย พล.ร.อ.วรงค์ ส่งเจริญ ผู้สนใจประวัติศาสตร์ไทยยุคล่าอาณานิคม แม้ถูกถอดความได้เพียง 1 ใน 10 ส่วนของเอกสารภาษาเดนมาร์กกว่า 300 หน้า หากให้ภาพ และแง่มุมทางประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับวิกฤติการณ์ที่สุ่มเสี่ยงต่ออธิปไตยของสยามในครั้งนั้นได้เป็นอย่างดีเหตุปะทะกันระหว่างฝรั่งเศส และสยามเกิดที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า อันเป็นผลมาจากการพยายามแสวงหาอาณานิคมของมหาอำนาจตะวันตก นับตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 ฝรั่งเศสได้เข้าครอบครองเวียดนาม ลาว และกัมพูชา หรือที่เรียกว่า อินโดจีน พร้อมกันนี้ ยังหวังครอบครองดินแดนที่อยู่ในอำนาจของสยาม เป็นผลให้มีการใช้ นโยบายการทูตแบบเรือปืน เพื่อกดดันบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นที่ตั้งของป้อมพระจุลจอมเก้า ที่เมื่อ 118 ปีที่แล้ว มีโอกาสได้รับใช้ประเทศชาติอย่างสมเกียรติในวิกฤติการณ์ รศ. 112 จึงเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ในเรื่องการรักษาอธิปไตยบนแผ่นดินไทย ในยุคล่าอาณานิคมเพียงครึ่งชั่วโมงที่หมู่เรือรบฝรั่งเศสกับทัพเรือไทยปะทะกันที่ปากอ่าวสยาม ในเย็นวันที่ 13 กรกฎาคม 2436 ฝ่ายไทยตั้งรับอย่างกำลังด้วยปืนเสือหมอบหรือปืนใหญ่อาร์มสตรอง ที่ใช้ประจำการในป้อมพระจุลจอมเกล้า 7 กระบอก หากแต่ไม่สามารถต้านแสนยานุภาพทางเรือของฝรั่งเศสได้ แม้ผลจะจบลงด้วยความสูญเสียของทั้ง 2 ฝ่าย แต่สยามต้องเสียค่าปฏิกรรมสงครามถึง 3 ล้านฟรังค์ และเป็นจุดเริ่มทำให้ไทยเสียอำนาจบนดินแดนบางส่วนที่เคยมีมาวิกฤติการณ์ รศ. 112 ไม่เพียงเป็นเครื่องเตือนใจ ให้เห็นถึงความหมายของการรักษาอำนาจอธิปไตยในยุทธการที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ยังทำให้เห็นถึงที่มาของปัญหาจากการขีดเส้นแบ่งระหว่างสยามกับเพื่อนบ้าน ที่ลุกลามจนกลายเป็นความกระทบกระทั่งระหว่างไทยกับกัมพูชาถึงปัจจุบัน ซึ่งหากย้อนศึกษาให้ลึกซึ้งก็อาจทำให้เห็นได้ว่า แท้จริงปัญหาอาจไม่ได้มาจากประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น หากแต่เป็นอดีตชาติมหาอำนาจจากแดนไกล
|
วิกฤติการณ์ รศ.112 สงครามระหว่างสยามกับฝรั่งเศส นับเป็นจุดสำคัญทำให้ไทยสูญเสียอำนาจบนดินแดนบางส่วนที่เคยมีมา มีหลักฐานบันทึกถึงเหตุการณ์นี้อยู่หลายชิ้น และเอกสารที่บันทึกโดยพระยาชลยุทธโยธิน ข้าราชการชาวเดนมาร์ก และถูกแปลเมื่อไม่นานมานี้ให้มุมมองเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
|
ศิลปะ-บันเทิง
|
ฝรั่งเศส,รศ.112,สงคราม,สยาม
|
https://news.thaipbs.or.th/content/22784
|
คสช.อุ้มแกนนำภาคประชาชนอุบล ลงกรุงเทพ ยังไม่ทราบชะตากรรม
|
ทหาร ตำรวจ พร้อมอาวุธครบมือ บุกค้นบ้านอดีต กกต.ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ยึดโทรศัพท์ หนังสือเดินทาง อ้างอำนาจ คสช.กฎอัยการศึกสั่งตำรวจคุมนั่งเครื่องลงกรุงเทพฯ ขาดการติดต่อกับครอบครัวนานเกิน12ชั่วโมง19 มิถุนายน 2557 เวลาประมาณ 11.30 น. ต.บุ่งไหม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร จำนวนประมาณ 30 นายพร้อมอาวุธครบมือ นำโดย พันเอกจิตร จันทรสว่าง ผบ.รด.มทบ 22 ได้อ้างอำนาจตามกฎอัยการศึก เข้าตรวจค้นบ้านของ นายประยุทธ ชุมนาเสียว (60ปี) ประธานสภาองค์กรชุมชน จ.อุบลฯ และอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง จ.อุบลฯ( กกต.)หลังการตรวจค้นภายในบ้านและบริเวณบ้านเป็นเวลาประมาณ1ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถค้นพบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ จึงได้ยึดหนังสือเดินทางของนายประยุทธ และโทรศัพท์มือถือจำนวนสองเครื่อง โดยได้บันทึกเป็นหลักฐานใส่กระดาษไว้ และได้ควบคุมตัว นายประยุทธ ชุมนาเสียว เดินทางลงกรุงเทพฯภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นสัญญาบัตรจำนวน2ราย โดยได้ขึ้นเครื่องบินที่สนามบินอุบลราชธานี เวลา14.00 น.เวลาประมาณ 21.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากคนใกล้ชิดของผู้ถูกควบคุมตัวว่ายังไม่ทราบว่าได้ถูกนำพาตัวไปที่จุดไหนหลังเหตุการรัฐประหารนายประยุทธได้ถูกเรียกให้ไปรายงานตัวที่ ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ โดยได้ถูกกักตัวไว้หนึ่งคืน และเมื่อได้ปล่อยตัวนายประยุทธยังต้องเดินทางไปรายงานตัวที่ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ซึ่งมีระยะห่างจากบ้านที่พักอาศัยประมาณ 10กม.ในตอนเช้าของทุกวัน
|
ทหาร ตำรวจ พร้อมอาวุธครบมือ บุกค้นบ้านอดีต กกต.ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ยึดโทรศัพท์ หนังสือเดินทาง อ้างอำนาจ คสช.กฎอัยการศึกสั่งตำรวจคุมนั่งเครื่องลงกรุงเทพฯ ขาดการติดต่อกับครอบครัวนานเกิน12ชั่วโมง 19
|
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
|
กฎอัยการศึก,คสช.,จิตร จันทรสว่าง,ประยุทธ ชุมนาเสียว,มทบ 22,รัฐประหาร,อุบลราชธานี
|
https://prachatai.com/journal/2014/06/54125
|
มทภ.4 กำหนด 4 เป้าหมายหลักแผนแนวทางเสริมสร้างสันติสุขปี 59
|
เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2558 ที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.รมน.ภาค 4 ประธานแถลงแผนเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ 2559 มีนายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการ ศอ.บต., พล.ต.เฉลิมพันธุ์ อจลบุญ รอง ผบน.รักษาราชการแทน ผบช.ศชต. ผวจ.4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะผู้บังคับบัญชาทหาร ตำรวจ ส่วนราชการ เข้าร่วมประชุม,พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงแนวทางในการดำเนินการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าจัดทำแผนเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ 2559 ขึ้น โดยยึดถือนโยบายรัฐบาล, คสช. และข้อสั่งการของผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น และ ปฏิบัติงานภายใต้กรอบการบูรณาการตามแผนปฏิบัติการการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลใน 7 กลุ่มงาน โดยการขับเคลื่อนงาน 7 กลุ่มงานลงสู่พื้นที่ จนถึงระดับหมู่บ้านผ่านศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าได้กำหนดเป้าหมายไว้ 4 ข้อ คือ การยุติความรุนแรงทุกรูปแบบ, การขจัดเงื่อนไขความขัดแย้งและเงื่อนไขหล่อเลี้ยงความรุนแรง, การทำให้ประชาชนทุกเชื้อชาติศาสนา อยู่ร่วมกันได้ภายใต้ความแตกต่าง มีความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและการขจัดปัญหาภัยแทรกซ้อนทุกรูปแบบ โดยงานสำคัญที่จะขับเคลื่อนดำเนินการโดยเร่งด่วน คือ การปฏิบัติการรุกทางการเมืองทุกรูปแบบเต็มพื้นที่ ควบคู่กับการป้องกันเหตุร้ายและบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ,ได้กำหนดงานแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในระดับพื้นที่ที่สำคัญ 14 งาน แบ่งเป็นงานด้านความมั่นคง 8 งาน ได้แก่ งานป้องกันเหตุร้ายในพื้นที่ งานป้องกันเหตุร้ายในเมืองเศรษฐกิจ 7 เมืองหลัก งานบังคับใช้กฎหมาย เน้นการรวบรวมหลักฐานของพนักงานสอบสวน, เร่งรัดการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงในแต่ละเหตุการณ์ และติดตามผลของคดี สำหรับการใช้กฎหมายพิเศษจะนำไปใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น การเสริมสร้างความเข้าใจหมู่บ้านเป้าหมาย การสร้างความเข้าใจและปรับความคิดความเชื่อกลุ่มผู้เห็นต่าง ใช้การจัดเวทีรับฟังความคิดจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรภาคประชาสังคมและภาคประชาชน รวมทั้งการสร้างเครือข่ายภาคประชาสังคมให้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านการใช้ความรุนแรงและสนับสนุนการแก้ไขปัญหาตามแนวทางสันติวิธีเพิ่มมากขึ้น การพาคนกลับบ้าน งานสนับสนุนการพูดคุยเพื่อสันติสุข การขจัดปัญหาภัยแทรกซ้อน ทั้งปัญหายาเสพติด, น้ำมันหลีกเลี่ยงภาษี ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ,สำหรับงานด้านการพัฒนา 6 งาน ได้แก่ งานอำนวยความเป็นธรรมและขจัดเงื่อนไขความขัดแย้ง งานแก้ปัญหายาเสพติด งานพัฒนาการศึกษา งานพัฒนาคุณภาพชีวิต เน้นการบูรณาการแผนงาน/โครงการและงบประมาณของส่วนราชการให้ตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด งานโครงการพระราชดำริ จะสนับสนุนการดำเนินการอย่างเต็มขีดความสามารถ ทั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรในพื้นที่,ส่วน การดำเนินการดังกล่าว กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จะใช้ศักยภาพของทุกหน่วยงานมาร่วมกันแก้ไขและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้และจะนำงบประมาณ เครื่องมือ อุปกรณ์พิเศษทุกชนิดที่จัดหามาใช้ประโยชน์ในการแก้ปัญหาให้คุ้มค่ามากที่สุด พร้อมทั้งจะเพิ่มมาตรการและการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้อยู่ในกรอบนโยบายของผู้บังคับบัญชามีความปลอดภัย และใช้การมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนและทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนงานให้สามารถเปลี่ยนผ่านจากขั้นที่ 2 ไปสู่ขั้นที่ 3 ตามกรอบระยะเวลาของ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรต่อไป.
|
แม่ทัพภาค 4 นำหน่วยงานในพื้นที่ภาคใต้ แถลงแผนแนวทางเสริมสร้างสันติสุข จชต.ปี 2559 เพื่อขับเคลื่อนงานใน 7 กลุ่มงานลงสู่พื้นที่ กำหนดเป้าหมาย 4 ข้อหลัก ยุติธรรม ขจัดความขัดแย้ง ทุกศาสนาอยู่ร่วมกันได้ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
แม่ทัพภาคที่4,วิวรรธน์ ปฐมภาคย์,ผอ.รมน.ภาค4,แผนเสริมสร้างสันติสุข,จชต.,การแก้ไขปัญหา จชต.,จังหวัดชายแดนภาคใต้,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
|
https://www.thairath.co.th/news/local/532273
|
ตร.ยิง โอ๊ด ภูเขาทอง แสบกรุงเก่า แบก M16 หวังถล่มคอนเสิร์ตล้างแค้น
|
เจ็บ,เมื่อเวลา 00.20 น. วันที่ 19 ก.พ. 60 ร.ต.อ.กัมพล อินทีวงศ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งว่ามีเหตุวัยรุ่นถูกยิง มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณถนนข้างวัดภูเขาทอง หมู่ 5 ต.ลุมพลี อ.พระนครศรีอยุธยา จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.นนทพัทธ์ ยอดแก้ว รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.มาโนช บุญส่ง สว.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา และกำลังทหารชุดรักษาความสงบ อ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุเป็นถนนรอบพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชใกล้กับวัดภูเขาทอง พบรถจักรยานยนต์ แบบคลาสสิกสีชมพู ยี่ห้อจีพีเอ็กซ์ วันวาน ทะเบียน 1 กฉ 8633 พระนครศรีอยุธยา ล้มคว่ำอยู่ ใกล้กันพบ นายสรศักดิ์ หรือโอ๊ด สุขสังวร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/3 หมู่ 1 ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ขาขวา เลือดไหลนองเต็มพื้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือปฐมพยาบาลแล้วรีบนำส่ง รพ.พระนครศรีอยุธยา,ห่างออกไปบริเวณริมถนน พบอาวุธปืน M16 สภาพดัดแปลงตกแต่ง มีกระสุนในแมกกาซีน 18 นัด ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน M16 จำนวน 1 ปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนร้ายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ชื่อนายเรวัตร แดงหลุ่ม หรือตู่ อายุ 28 ปี บ้านอยู่หมู่ 1 ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา หลบหนีไป,จากการสอบสวนทราบว่า ที่พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (ทุ่งภูเขาทอง) ได้มีงานคอนเสิร์ตของกลุ่มรถจักรยานยนต์ ชื่องานมีเลิฟ เอ็มเอสเอ็กซ์ ครั้งที่ 3 มีกลุ่มวัยรุ่นนำรถจักรยานยนต์จำนวนมากมารวมตัวกัน แต่เมื่อวัยรุ่นกลุ่มของนายสรศักดิ์ หรือโอ๊ด สุขสังวร ขี่มาถึงหน้างาน ปรากฏว่าทางผู้จัดงานไม่ให้เข้า จึงมีปากเสียงกันแล้วถูกไล่ให้กลับไป นายโอ๊ดกับเพื่อนๆ จึงพากันไปนั่งดื่มสุรากันที่บริเวณชุมชนข้างวัดภูเขาทอง แสดงความไม่พอใจที่ผู้จัดคอนเสิร์ตที่ไม่ให้เข้างาน ก่อนจะขี่รถไปเอาปืน M16 หวังไปยิงถล่มกลุ่มจัดงานคอนเสิร์ต โดยให้นายเรวัตร แดงหลุ่ม หรือตู่ เป็นคนขี่ แล้วนายโอ๊ดซ้อนท้ายมาพร้อมอาวุธปืน M16 มุ่งหน้าไปที่งาน ระหว่างทางใกล้งานพบตำรวจตั้งด่าน จึงรีบกลับรถหนี ตำรวจเห็นจึงไล่ตาม นายตู่เห็นจวนตัวจึงทิ้งรถวิ่งหนีเข้าป่า ส่วนนายโอ๊ดเห็นตำรวจวิ่งมา จึงยิงใส่ไป 1 นัด ถูกตำรวจยิงสวนกลับมา 1 นัด ถูกขาขวาได้รับบาดเจ็บ และถูกจับกุมดังกล่าว,ด้าน พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า นายสรศักดิ์ หรือโอ๊ด สุขสังวร ฉายา โอ๊ด ภูเขาทอง เพิ่งพ้นโทษออกมาได้ไม่นาน ในข้อหาปล้นรถจักรยานยนต์ และมาก่อเหตุจนถูกจับอีก เบื้องต้นตั้งข้อหาพกพาอาวุธปืน และมีอาวุธปืนสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ไปในชุมชนและทางสาธารณะ และจะได้ขยายผลที่มาของปืน M16 และติดตามตัวนายตู่ที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป ส่วนงานคอนเสิร์ตต้องขอให้หยุดการแสดง เพราะเกรงจะเกิดเหตุล้างแค้นกันอีก
|
โจ๋กรุงเก่าแบกปืน M16 หวังถล่มงานคอนเสิร์ตกลุ่มจยย.เลิฟ เอ็มเอสเอ็กซ์ หลังถูกห้ามเข้างาน เจอ ตร.กลับรถหนี เห็นจวนตัว คนขี่ทิ้งรถวิ่งเข้าป่า คนซ้อนท้ายเป็นจอมแสบ ฉายา โอ๊ด ภูเขาทอง เพิ่งพ้นคุกคดีปล้น ยิงใส่ ถูกยิงสวนบาด
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
โอ๊ด ภูเขาทอง,ยิงถล่มคอนเสิร์ต,จับโจ๋แสบ,จับปืนเอ็ม16,พระนครศรีอยุธยา
|
https://www.thairath.co.th/news/local/861642
|
ส่องร่างรัฐธรรมนูญ: ร่างแรกเสร็จแล้ว มี 261 มาตรา เหลือบทเฉพาะกาล
|
การเลือก ส.ว.แบบไขว้กลุ่ม จะทำให้เกิดปัญหา17 ม.ค. 2559 ายงานว่าการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. นอกสถานที่ เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา โดยที่ประชุมได้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว มีจำนวน 261 มาตรา ไม่นับบทเฉพาะกาล ซึ่งจะมีการปรับลดมาตราให้สั้นลง แต่ยังคงรักษาเนื้อหาไว้ ในส่วนของบทเฉพาะกาลนั้นจะพิจารณาต่อที่กรุงเทพมหานคร ขณะที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงภาพรวมการพิจาณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า จุดสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คือ สิทธิของประชาชน ซึ่ง กรธ.พยายามทำให้สิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจำกัดสิทธิ เป็นสิทธิที่ให้เกิดผลอย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ถ้วนหน้ากัน ส่วนเรื่องใดเป็นสิทธิที่มีข้อจำกัดจะเขียนไว้ในหมวดสิทธิเหมือนเดิม เพื่อให้รู้ว่าสิทธิดังกล่าวถึงจำกัดด้วยกฎหมาย ถือเป็นการเปลี่ยนแนวคิดที่หลายฝ่ายกังวลว่าหากไม่เขียนกำกับไว้ทำให้สิทธินั้นบกพร่อง เปลี่ยนเป็นอะไรที่ไม่เขียนห้ามไว้ก็ให้ทุกคนมีสิทธิทำได้ และเพื่อป้องกันไม่ให้การออกกฎหมายในภายหลังกระทบสิทธิพื้นฐาน หรือ เกินจำเป็นและในกรณีที่จะออกกฎหมายเพื่อจำกัดสิทธิต้องคำนึงถึงความจำเป็นเพื่อประโยชน์ของรัฐเป็นส่วนร่วม ต้องไม่กระทบต่อสิทธิมนุษยชน และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่คุ้มครองไว้ให้ ถือเป็นการวางหลักที่ชัดเจน พร้อมย้ำว่าการใช้สิทธิของบุคคลต้องคำนึงถึงหน้าที่ ผลกระทบต่อเกิดจากคนอื่น ต่อศีลธรรมอันดี และความมั่นคงของชาติ เพื่อไม่ให้ใช่แต่สิทธิโดยไม่นึกถึงหน้าที่จะทำให้สังคมเกิดกุลียุค รวมถึงในเรื่องของศาสนา โดยเฉพาะศาสนาพุทธ ที่มีการเรียกร้องให้กำหนดศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ซึ่งกรธ.ได้มีการเขียนบทบัญญัติบังคับรัฐมีหน้าที่ต้องคุ้มครองให้พ้นจากการบ่อนทำลายในทุกรูปแบบ ส่วนกระบวนการเลือกตั้ง ได้กำหนดให้ทุกคะแนนมีความหมาย เชื่อจะเป็นการเฉลี่ยความสุข และสิทธิ เพื่อให้คนที่มีเสียงข้างน้อยได้รับการเคารพนับถือ และดูแล ซึ่งในเรื่องดังกล่าวได้มีการนำมาใช้ในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เพื่อให้รับฟังเสียงส่วนน้อย โดยกำหนดไว้ว่า ถึงแม้เสียงข้างมากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้อย่างน้อยต้องมีเสียงข้างน้อยมีส่วนร่วมด้วย พร้อมย้ำว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่ได้กำหนดไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเป็นต้นเหตุของการทะเลาะเบาะแว้งกัน คือ การทุจริตการในบริหารงานไม่ว่าจะฝ่ายการเมือง หรือฝ่ายประจำ รวมถึงทำให้กลการในการทุจริตเกิดผลอย่างแท้จริง จึงได้กำหนดให้องค์กรอิสระมีมาตรฐานสูงขึ้น มีกลไกวิธีการทำงานที่คล่องตัวมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาองค์กรเหล่านั้นมักจะมีงานเกินตัว จนทำให้ผลการตรวจสอบเรื่องทุจริตล้าช้า ผู้คนไม่เกรงกลัว รวมถึงกำหนดกรอบเวลาในการทำงานให้ชัดเจนมากขึ้น และทำงานไม่ซ้ำซ้อนกัน นอกจากนี้นายมีชัย กล่าวว่า กรธ.ยังได้สร้างเรื่องการมีส่วนร่วมในการบริหารประเทศได้ โดยเฉพาะที่มา ส.ว. ซึ่ง กรธ.ไม่ต้องการให้วุฒิสภาอยู่ภายใต้อาหนัดนักการเมือง หรือ ฝ่ายการเมือง จึงเปิดให้ประชาชนสามารถสมัครเป็น ส.ว.ได้ ส่วนการปรองดองและการปฏิรูปนั้น กรธ.ได้กำหนดกลไกหลายด้านที่เอื้อต่อการปรองดองในหมวดต่างๆ อาทิ หน้าที่ของรัฐ สิทธิเสรีภาพ กลไกลในการเลือกตั้ง รวมถึงขณะนี้กำลังรอผลสรุปของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเขียนเรื่องอะไรไว้ในร่างรัฐธรรมนูญรายงานว่านายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. เปิดเผยว่า จุดสำคัญของการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คือ การกำหนดสิทธิของประชาชนให้เกิดผลอย่างจริงจัง สิ่งใดที่รัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนห้าม ให้ทุกคนมีสิทธิ์กระทำได้ พร้อมปรับเปลี่ยนถ้อยคำการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ด้วยการเขียนหน้าที่อำนาจ แทนคำว่า อำนาจหน้าที่ เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงหน้าที่มากกว่า และให้ความคุ้มครองศาสนาพุทธ ที่คนส่วนใหญ่นับถือมานาน และให้ความสำคัญกับทุกคะแนนเสียง ไม่ทิ้งคะแนนผู้แพ้ เพื่อให้เสียงข้างน้อยได้รับความเชื่อถือ กรณีนี้ได้นำไปใช้ในประเด็นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่ให้เสียงข้างน้อยต้องมีส่วนร่วม รวมทั้ง ระบุชัดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในประเด็นสำคัญ อาทิ สิ่งแวดล้อมเรื่องใหญ่ที่สุดคือ รัฐธรรมนูญจะแก้ไขปัญหาทุจริต ซี่งเป็นปัญหาเรื้อรังของประเทศ โดยได้สร้างกลไกการแก้ไขปัญหาทุจริตให้เข้มข้น สกัดคนโกงให้พ้นการเมือง และสกัดทุจริตต่อหน้าที่และเลือกตั้งพ้นจากการเมือง รวมถึงการให้คนที่ร่วมมือกันทุจริตจะพ้นจากหน้าที่ ทั้ง สภาและครม. ในกรณีอนุมัติโครงการไม่โปร่งใสจะพ้นตำแหน่งทั้งคณะ ดังนั้น จึงขอเรียกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่า เป็นรัฐธรรมนูญฉบับต่อต้านการทุจริต นายมีชัย กล่าวนายมีชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังพยายามเขียนให้ครอบคลุมถึงการทำประชานิยม ว่าจะสามารถทำได้แค่ไหน โดยจะกำหนดไว้ในกฎหมายวินัยการเงินการคลัง ซึ่งจะเป็นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ และจะเขียนให้แล้วเสร็จก่อนจะมีการเลือกตั้งนายมีชัย กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ร่างรัฐธรรมนูญยังไม่สมบูรณ์ เพราะยังไม่ได้พิจารณาในส่วนของบทเฉพาะกาลที่เพิ่งร่างเสร็จ และจะนำกลับไปพิจารณาอีกครั้งที่กรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า ไม่ใช่การนิรโทษกรรม แต่เป็นการยืนยันในสิ่งที่ คสช. และครม. ดำเนินการ ให้ใช้ได้จนกว่าจะมีคนมายกเลิก แต่จะไม่ให้การคุ้มครองการกระทำทุจริตยอมรับว่ามีคนพยายามบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ และไม่รับร่าง หากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ จะต้องโทษคนที่อธิบายต่อประชาชน จะโทษ กรธ.ไม่ได้ นายมีชัย กล่าวโดยร่างรัฐธรรมนูญในขณะนี้ มีจำนวน 261 มาตรา ยังไม่รวมบทเฉพาะกาล ซึ่งจะนำไปปรับแก้ให้กระชับและสั้นลงยังรายงานว่านายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง กล่าวว่า การที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กำหนดให้มีส.ว. 200 คนจาก 20 กลุ่มอาชีพ โดยเลือกกันแบบไขว้กลุ่ม รวมทั้ง กำหนดอำนาจหน้าที่ใหม่ โดยภาพรวมของที่มาน่าจะดี แต่วิธีการของการเลือกไขว้กลุ่ม น่าจะเป็นปัญหา และอาจจะทำให้ไม่สามารถคัดกรองคนดีมีความรู้ความสามารถมาเป็นส.ว.ได้ เพราะวิธีการแบบนี้จะทำให้เกิดการบล็อคโหวต แลกคะแนนกัน และอาจจะทำให้เกิดการใช้เงินซื้อคะแนนกันได้ ดังที่เคยปรากฏมาแล้วในองค์กรบางองค์กร ที่ให้มีการเลือกกันแบบนี้ และในที่สุดก็ทำให้ไม่ได้คนดีดังที่ต้องการ จึงไม่ควรจะมากำหนดวิธีการดังกล่าว เพราะเป็นสิ่งชำรุดในอดีต ที่ไม่ควรจะมีในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทางที่ดีน่าจะเอาวิธีการสรรหา ที่เคยใช้ก่อนหน้านี้ มาพิจารณาดูว่า มีจุดอ่อน จุดแข็ง จุดบกพร่อง อย่างไร และแก้ที่จุดนั้น ในอดีตน่าจะมีปัญหาอยู่ที่คณะกรรมการสรรหาว่าจำนวนน้อยไป ไม่หลากหลาย ไม่โปร่งใส ก็แก้ให้กรรมการสรรหามีจำนวนมากขึ้น หลากหลายมากขึ้น และวิธีการจะต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ ก็น่าจะแก้ปัญหาที่มาของ ส.ว. อย่างที่สังคมต้องการได้ เพราะการแก้ปัญหาใดๆ ในรัฐธรรมนูญ น่าจะเป็นการแก้ปัญหาในอดีต และสร้างความก้าวหน้าขึ้นมาใหม่ มิใช่ย่ำอยู่กับที่หรือถอยหลัง นายวันชัย กล่าวนายวันชัย กล่าวอีกว่า เท่าที่ติดตามการร่างรัฐธรรมนูญ ยังไม่เห็นความชัดเจนในกลไกที่จะทำให้การเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรมอย่างเป็นระบบ และเป็นความหวังของประชาชนคนไทยในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เพราะกลไกที่สำคัญที่จะทำให้การเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรมได้นั้น น่าจะอยู่ที่ 3 ส่วนคือ 1. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 2. ข้าราชการทุกระดับที่สนับสนุนในการเลือกตั้ง และ3. ภาคประชาชน ที่จะต้องมีส่วนช่วยส่งเสริมสนับสนุนควบคุมกำกับดูแลการเลือกตั้ง ทั้ง 3 ส่วนนี้จะต้องไปด้วยกัน ทำงานให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม เปลี่ยนวิธีการ เปลี่ยนแนวทาง และเปลี่ยนความคิดในการเลือกตั้งใหม่นายวันชัย กล่าวว่า กลไกในรัฐธรรมนูญจะต้องมีให้ทั้ง 3 ส่วนนี้ร่วมกันทำงาน เปลี่ยนจากแนวทางเดิมๆ ซึ่งจากร่างที่แถลงออกมานั้น ยังไม่เห็นอะไรใหม่ ที่จะเป็นกลไกในการแก้ไขเรื่องการเลือกตั้งได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ กรธ.จะต้องวางกลไกให้มีผล และเป็นความหวังของการเมือง ที่จะต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า หากทำไม่ได้ กลไกไม่มีก็จะล้มเหลว การเมืองก็จะกลับไปเป็นแบบเดิม กรรมาธิการขับเคลื่อนด้านการเมืองจะติดตามในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะถือว่าเป็นการปฏิรูปทางการเมืองที่สำคัญแม้ว่าทุกส่วนทุกองค์กร รวมทั้งรัฐธรรมนูญ และกลไกต่างๆได้วางไว้เพื่อการเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าไม่มีการปฎิบัติจริง เราก็จะไม่มีทางรู้ว่า เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งแล้ว การเลือกตั้งจะสุจริตเที่ยงธรรมจริงหรือไม่ ดังนั้น ก่อนเลือกตั้ง ส.ส.ควรจะมีการเลือกตั้ง อบต. อบจ. เทศบาลที่ค้างคาอยู่นี้เป็นโซนๆ หรือเป็นภาคๆ ไป เพื่อเป็นการซักซ้อมการเลือกตั้งอย่างการปฏิบัติจริง ว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหนเพียงไร จุดบกพร่องมีอยู่ตรงไหนก็แก้ไขเสีย เมื่อมีการทดลองจริง และมีกฎหมายจริง มีการปฏิบัติจริง เชื่อว่าถึงวันนั้นที่มีการเลือกตั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเข้าที่เข้าทาง แก้ไขเรื่องการเลือกตั้งได้อย่างแท้จริง นายวันชัย กล่าว
|
ที่ประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว มี 261 มาตรา ไม่นับบทเฉพาะกาล ซึ่งจะนำไปพิจารณาต่อที่กรุงเทพ มีชัย ชี้ร่าง รธน. ฉบับใหม่ เป็น รธน.ต้านทุจริต วันชัย หวั่น
|
การเมือง
|
กรธ.,การร่างรัฐธรรมนูญ,มีชัย ฤชุพันธุ์,รัฐธรรมนูญ,วันชัย สอนศิริ,ส่องร่างรัฐธรรมนูญ,ส.ว.
|
https://prachatai.com/journal/2016/01/63537
|
อนุทิน มอบน้ำมันกัญชาสูตร เดชา
|
เมื่อวันที่ 25 ก.ย.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รอง นายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังมอบใบรับรองหมอพื้นบ้านให้นายเดชา ศิริภัทร เป็นหมอพื้นบ้าน และมอบน้ำมันกัญชาสูตร อ.เดชา 5,000 ขวด ให้กับโรงพยาบาลศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมีนายยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว มาร่วมเป็นสักขีพยาน ว่า ขณะนี้การใช้กัญชาทางการแพทย์ เริ่มเป็นรูปร่าง และเห็นจริงจังมากขึ้น แต่ยังติดปัญหาเรื่องแพทย์แผนปัจจุบัน ยังไม่ค่อยกล้าใช้ คนไข้ก็ยังไม่ค่อยรับฟังความคิดเห็นของแพทย์ ว่าโรคที่ตนเป็นสมควรใช้หรือไม่,ส่วนยาตำรับแพทย์แผนไทยที่มอบให้โรงพยาบาลในวันนี้ ก็หวังว่าจะช่วยให้เกิดการใช้กัญชาทางการแพทย์แพร่หลายมากขึ้น หวังว่าใน อนาคต กัญชาทางการแพทย์จะสร้างรายได้และกลายเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ ทั้งนี้การผลักดันร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่) พ.ศ. และร่าง พ.ร.บ. สถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย พ.ศ. ของพรรคภูมิใจไทย ได้เสนอเข้ารัฐสภาแล้วเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ดังนั้นถือว่าตนและพรรคได้ทำหน้าที่ให้การผลักดันนโยบายกัญชาทางการแพทย์เป็นไปอย่างสมบูรณ์ ส่วนเรื่องการปลูกกัญชา 6 ต้นในระดับครัวเรือน ยังต้องรอความเข้าใจของ ประชาชนเกี่ยวกับกัญชา ว่าไม่ใช่ใช้เสพ แต่ใช้เพื่อการแพทย์ และขณะนี้ถือว่ากัญชาเสรีทางการแพทย์มาครึ่งทางแล้ว,นายอนุทินกล่าวว่า การจะดูว่าประชาชนมีความเข้าใจเรื่องกัญชาหรือไม่นั้น ดูจากผลการใช้กัญชาทางการแพทย์ ว่าไม่มีผลกระทบ และประชาชนก็ใช้เพื่อรักษาโรค หากมีความเข้าใจที่ตรงกันก็ค่อยมาดำเนินการเรื่องปลูกกัญชา 6 ต้น ควบคู่ไปกับพัฒนาสายพันธุ์กัญชา ที่ทำร่วมกันหลายหน่วยงานทั้งมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ ม.สงขลานครินทร์,น.ส.รสนา โตสิตระกูล กรรมการมูลนิธิสุขภาพไทย กล่าวว่า กฎหมายเรื่องกัญชาทั้ง 2 ฉบับ เชื่อว่าต้องใช้ระยะเวลาพิจารณานานกว่า 1 ปี ซึ่งในระหว่างนี้อยากให้มีการขยายระยะเวลานิรโทษกรรม เพื่อทำให้หมอพื้นบ้าน แพทย์แผนไทยประยุกต์ ได้มีโอกาสปลูกกัญชาและพัฒนาสายพันธุ์ เพื่อนำมาปรุงยารักษาคนไข้เฉพาะราย เป็นการดึงคนนอกระบบให้กลับมาในระบบ ส่วนคนป่วยก็ได้ใช้มากขึ้น และรัฐก็สามารถเก็บข้อมูลตรงนี้มาศึกษาต่อยอดได้อีก.
|
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รอง นายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังมอบใบรับรองหมอพื้นบ้านให้นายเดชา ศิริภัทร เป็นหมอพื้นบ้าน และมอบน้ำมันกัญชาสูตร อ.เดชา 5,000 ขวด
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
อนุทิน ชาญวีรกูล,เดชา ศิริภัทร,สุพรรณบุรี,กัญชา,พืชเศรษฐกิจใหม่,ปลูกกัญชา,รักษาโรค,สุขภาพ
|
https://www.thairath.co.th/news/local/1668973
|
ศาสดา-Drama-addict เคลียร์ดราม่าปมแรงงานพม่าร้องซูจีปรับสวัสดิการ
|
27 มิ.ย.2559 จากกรณี ออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ ประเทศพม่าซึ่งเดินทางเยือนประเทศไทยในช่วงวันที่ 23-25 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยในโซเชียลเน็ตเวิร์คมีการเผยแพร่ข้อเรียกร้องสวัสดิการของกลุ่มแรงงานข้ามชาติต่อซูจี พร้อมการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม เช่นเพจ โพสต์ภาพ 12 ข้อเรียกร้องดังกล่าว พร้อมข้อความว่า สยาม เป็นเอกราช หาใช่เมืองที่ ผู้ใดจะมาเอารัดเอาเปรียบ นอกจากนี้ยังมีผู้เข้ามาแสดงความเห็นคัดค้านข้อเรียกร้องดังกล่าว รวมทั้งมีเพจอีกหลายแห่งโพสต์ในลักษณะดังกล่าวเช่นกันจากนั้น 25 มิ.ย. ที่ผ่านมาเพจดังอย่าง โพสต์ข้อความถึงการปั่นกระแสให้คนเกลียดชัโดยมีรายละเอียดดังนี้จนถึงบัดนี้ เพจการเมืองหลายๆเพจก็ยังคงพวกหัวอ่อนก็ด่าซูจีกับแรงงโถ ไม่แปลกใจเลยทำไมถึงปลุกปั่ส่วนเรื่องประกันสังคมนั้น การที่แรงงานต่างด้าวใช้สิทถ้าดูรายละเอียดกันจริงๆ สิทธิที่แรงงานต่างด้าวมีนีแล้วข้อเรียกร้องของซูจีนั้ของเขาก็ได้ค่าแรงเต็มเม็ดเแล้วรู้มั้ยครับ นายหน้าที่ลักลอบพาแรงงานต่คนไทยนี่ไงครับไม่มีคนชาติไหนจะทำร้ายชาติอ้อ นี่ยังไม่รวมกรณีที่มีนายหนเอาจริงๆจ่าว่าจ่าพอเข้าใจไเพราะในใจลึกๆมันคงอยากได้ผขณะที่เพจ โพสต์ต่อกรณีดังกล่าววันนี้ (27 มิ.ย.59) โดยระบุว่า เรียกร้องยื่นต่อรายละเอียดที่เพจศาสดาโพสต์ อยากจะเขียนเรื่องข้อเรียกรผมคิดว่าจริงๆ แล้วถ้าอ่านดีอีเหี้ย ด้วยความเคารพ ไม่ทราบว่าข้อไหนมัน เกินไป ในสายตาของมึงวะ? อันนี้ถามจริงๆ ไม่ได้อีเดียต หรือโลกสวยอวยพม่าอะไรเลยนะหรือเรื่องการดูแลแรงงานไม่อยากจะบอกให้คนที่เอาแต่ด่าอีกข้อก็คือ โดยปกติแล้ว ตามกฏหมายระหว่างประเทศมันจะมีสิ่งที่เรียกว่า minimum standard of treatmentพูดง่ายๆ คือ ไม่ว่าเขาจะเป็นคนชาติอะไร สิ่งพื้นฐานที่สุดที่เขาควรจะได้รับการปฏิบัตสรุปก็คือ ไอ้ข้อเรียกร้องๆ ที่ยื่นต่อคนจำนวนนึงที่ทนกับข้อเรียกอย่ามาคึกอะไรกับอยุธยามากเ
|
ปมโวยแรงงานพม่าร้องปรับสวัสดิการกับ ออง ซาน ซูจี Drama-addict ชี้เป็นข้อเรียกร้องให้แรงงานเข้าสู่ระบบ กันนายหน้าหักหัวคิว เพจศาสดา
|
คุณภาพชีวิต,แรงงาน
|
Drama-addict,พม่า,ศาสดา,ออง ซาน ซูจี,แรงงานทาส,แรงงานพม่า
|
https://prachatai.com/journal/2016/06/66559
|
ศูนย์รักษ์สุนัขหัวหิน ต้นแบบแก้ไขปัญหาสุนัขจร-ธนาคารเลือดสุนัข พระเมตตาจากในหลวง รัชกาลที่ 9
|
วันนี้ (27 ต.ค. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงตระหนักดีถึงการให้โอกาสทางการแพทย์แก่สุนัขจรจัด จนนำมาสู่การจัดตั้งโครงการศูนย์รักษ์สุนัขหัวหิน ต้นแบบการแก้ไขปัญหาสุนัขจรและบริจาคเลือดปัจจุบันสถานการณ์สุนัขป่วยด้วยโรคที่ต้องเปลี่ยนถ่ายเลือด เช่น ภาวะติดเชื้อ หรือโรคพยาธิในเม็ดเลือด รวมถึงการผ่าตัดและอุบัติเหตุ ที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหิน พบปีละประมาณ 350 ตัว แต่กลับมีสุนัขที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายเลือดเพียงปีละประมาณ 100 ตัวเท่านั้น สะท้อนถึงปัญหาการขาดแคลนเลือดสุนัขเพื่อการรักษาด้วยน้ำพระราชหฤทัยและพระเมตตาของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชประสงค์ให้จัดตั้งศูนย์รักษ์สุนัขหัวหินขึ้นเมื่อปี 2546โดยได้พระราชทานเงินจากการจำหน่ายเสื้อพิมพ์ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ครอบครัวคุณทองแดงจำนวน 5 ล้านบาท แบ่งเป็นทุนในการก่อสร้างอาคาร 4 ล้านบาท ที่เหลืออีก 1 ล้านบาท เป็นทุนในการจัดตั้งมูลนิธิศูนย์รักษ์สุนัขหัวหินในพระบรมราชูปถัมภ์นอกจากนี้ ยังมอบให้เทศบาลเมืองหัวหินดูแลสุนัขจรจัดอย่างเป็นระบบ ทั้งการให้อาหาร รักษาสุขภาพ ฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ ทำหมันเพื่อควบคุมปริมาณ และเลี้ยงสุนัขให้อยู่กับธรรมชาติ ส่วนสุนัขที่แข็งแรงจะอยู่ในโซนสุนัขให้เลือดหรือธนาคารเลือดทุกสัปดาห์ทีมสัตวแพทย์โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหิน จะเข้าไปเจาะเลือดสุนัข หาตัวที่ไม่ติดโรค ไม่เป็นพยาธิ เกล็ดเลือดไม่จาง ซึ่งสามารถให้เลือดเพื่อนำไปช่วยชีวิตสุนัขตัวอื่นๆ ต่อไปได้ปัจจุบันมีสุนัขจรจัดที่อยู่ในการดูแลของศูนย์รักษ์สุนัขหัวหินเกือบ 1000 ตัว ซึ่งช่วยแก้ปัญหาสุนัขจรจัดในเมืองท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบการเสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตร การดำเนินงานที่ศูนย์แห่งนี้เมื่อปี 2557 ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังคงอยู่ในความทรงจำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงใส่พระราชหฤทัยและทรงมีพระเมตตาต่อสัตว์ ซึ่งเป็นแบบอย่างให้น้อมนำไปปฏิบัติเพื่อดูแลสุนัขเหล่านี้อย่างดีที่สุดโครงการนี้ นับเป็นต้นแบบการแก้ปัญหาสุนัขจรจัดอย่างเป็นระบบ ซึ่งปัจจุบันมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งมาศึกษาดูงาน เพื่อนำไปเป็นแบบอย่างการจัดการปัญหาในพื้นที่ทั้งนี้ จิตสำนึกในการดูแลสุนัขของผู้เลี้ยง โดยไม่ทอดทิ้งให้เป็นภาระของผู้อื่น และนึกถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ตามพระราชดำรัสจึงเป็นสิ่งสำคัญ
|
คุณทองแดงนับเป็นสุนัขทรงเลี้ยงที่คนไทยคุ้นเคยมากที่สุด นอกจากนี้ คุณทองแดงเป็นสุนัขจรจัดมาก่อน โดยในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงเรียกคุณทองแดงว่าพันธุ์เทศ ซึ่งย่อมาจากเทศบาล แต่นั่นกลับเป็นจุดเริ่มต้นให้สังคมไทยสนใจปัญหาสุนัขจรจัดมากขึ้น
|
ไลฟ์สไตล์
|
โครงการศูนย์รักษ์สุนัขหัวหิน,ต้นแบบการแก้ไขปัญหาสุนัขจรและบริจาคเลือด,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,คุณทองแดง,ธนาคารเลือดสุนัข,สุนัขทรงเลี้ยง,โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหิน,สุนัขจรจัด,สุนัขพันธุ์เทศ,พันธุ์เทศบาล,ทัศนีย์ ประกอบบุญ,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส
|
https://news.thaipbs.or.th/content/257112
|
เหล่าทัพเร่งสร้างความเชื่อมั่น หลังบึมราชประสงค์
|
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 27 ส.ค. พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สั่งให้เหล่าทัพเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ว่า เป็นการเน้นย้ำธรรมดา ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เคยพูดไว้ว่า เรื่องความมั่นคงเกี่ยวข้องกับทุกเรื่อง ถ้าความมั่นคงดีทุกอย่างก็สามารถไปได้ ดังนั้นทุกเหล่าทัพก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นต่างๆให้เกิดขึ้นกับคนในและนอกประเทศ ทั้งเรื่องความมั่นคง การรักษาความสงบเรียบร้อย ตลอดจนการดำเนินการต่างๆ ให้เป็นไปตามระเบียบตามกฎหมาย ซึ่งทางทหารก็มีส่วนช่วยในด้านที่เกี่ยวข้องรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องช่วยกัน,พล.อ.วรพงษ์ กล่าวถึง มาตรการรักษาความปลอดภัยในการใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ภายหลังการตรวจพบ เว็บไซต์หลักของหน่วยราชการ อย่างน้อย 3 แห่งในจังหวัดต่างๆ ของไทย ถูกแฮกโดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า ฟาลากาทีม (Fallaga Team) โดยระบุว่ามาจากตูนิเซีย ว่า ถือเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ ทุกหน่วยงานมีองค์ทำงานเรื่องนี้อยู่ ในส่วนของกองทัพก็เตรียมการป้องกัน โดยเฉพาะหน่วยงานด้านความมั่นคงที่มีข้อมูลเป็นจำนวนมาก และเป็นความลับ ต้องเข้มงวดในเรื่องนี้เป็นพิเศษ ไม่ต้องห่วงเจ้าหน้าที่ดำเนินการเต็มที่,ด้าน พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก ในฐานะรองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ทุกเหล่าทัพมีเจ้าหน้าที่เตรียมมาตรการป้องกันอยู่แล้ว พร้อมทั้งยอมรับว่า กลุ่มที่แฮกข้อมูล มีทั้งคนต่างประเทศและคนในประเทศของเราเอง.
|
ผบ.ทหารสูงสุด เร่งเหล่าทัพสร้างความเชื่อมั่น ด้านรักษาความปลอดภัย-บังคับใช้กฎหมาย หลังเหตุบึมราชประสงค์ เข้มป้องกันข้อมูลสำคัญด้านความมั่นคง หลังถูกแฮกเกอร์จ้องป่วน
| null |
ระเบิดราชประสงค์,ระเบิดแยกราชประสงค์,ระเบิดพระพรหม,ระเบิดสยาม,วรพงษ์ สง่าเนตร,ผบ.สส.,ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข,เสธ.ทบ.,กลุ่มแฮกเกอร์,ฟาลากาทีม,ภัยรูปแบบใหม่,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
|
https://www.thairath.co.th/content/521088
|
เพลิงไหม้กองซังข้าวโพดที่ จ.แพร่ ต่อเนื่อง ยังควบคุมไม่ได้
|
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2559 ร.ต.อ.วินัย ฐิติไชยตระกูล พนักงานสอบสวน สภ.ผ่าโทน อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ได้รับแจ้งว่าเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงที่บริเวณลานตากข้าวโพด บ้านไทรพร้าว หมู่ที่ 1 ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง,หลังจากได้รับแจ้งแล้ว ได้ร่วมกับ พ.ต.ท.มานพ ใจอุ่น สว.หน.สภ.ไผ่โทน และกำลังตำรวจในพื้นที่ ในที่เกิดเหตุเป็นลานตากข้าวโพด ของนางรำไพ เกิดปานทอง อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 95 ม.5 ต.แม่ยางฮ่อ อ.ร้องกวาง จ.แพร่ หลังจากที่รถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลร้องกวาง จาก อบต.ไผ่โทน และจาก อบต.ใกล้เคียง จำนวน 5 คัน เข้าไปถึง ก็ไม่สามารถดับได้เนื่องจากไฟที่ลุกไหม้ เป็นกองซังข้าวโพดนับ 10 กอง และได้ลุกลามไม่หยุด,นายพิเชษฐ์ ไพบูลย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้เดินทางไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และได้สอบถามนางรำไพ เจ้าของลานตากข้าวโพดว่าเกิดเหตุขึ้นมาได้ยังไง ทาง นางรำไพ ก็ให้การว่า ตนได้นำเครื่องโม่ข้าวโพดเข้ามาโม่ข้าวโพดในช่วงเวลา 13.00 น. วันนี้ ในขณะที่กำลังโม่ข้าวโพดอยู่ ได้เกิดสะเก็ดไฟกระเด็นออกมาจากเครื่อง และไปติดกับกองซังข้าวโพดที่แห้งและลุกขึ้นมาเป็นไฟจนไหม้ลุกลาม แต่รถดับเพลิงก็สามารถดับได้แล้ว จนกระทั่งต่อมาในช่วงเวลาเกือบ 2 ทุ่ม ได้เกิดประกายไฟลุกขึ้นมาอีกอย่างรวดเร็วและได้ไหม้ลุกลามไปยังกองซังข้าวโพด ที่มีประมาณ 10 กองอย่างรวดเร็ว จึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและรถดับเพลิงมาดับ แต่ก็ไม่สามารถดับได้เนื่องจากไฟที่ไหม้ได้ไหม้จากใต้กองซังข้าวโพดที่มีความร้อน ส่วนที่ไหม้แล้วก็เป็นเถ้าทำให้เมื่อฉีดน้ำก็จะเกิดเปลวไฟขึ้นมาอีก ต้องปล่อยให้ถึงรุ่งเช้าต้องใช้รถไถเกรดหรือรถแบ็กโฮมาเกรด จากนั้นก็ใช้น้ำฉีดไปด้วย,ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ขณะนี้ ได้มอบหมายให้ นายสหวิช อภิชัยวิรุสกุล นายอำเภอร้องกวาง รับผิดชอบและต้องให้รีบดำเนินการให้เสร็จภายในเช้าวันที่ 8 ก.พ.และสั่งการให้ทางพนักงานสอบสวน สอบสวนหาข้อเท็จจริงให้ได้ว่าเป็นการเผา หรือว่าอุบัติเหตุ เพราะหากปล่อยไว้แบบนี้ จะทำให้เกิดหมอกควันปกคลุมในพื้นที่ จะเกิดอันตราย หากพบว่า มีการเผากองซังจริง ให้ดำเนินคดีทันที สำหรับค่าเสียหายทางเจ้าของบอกว่าประมาณ 200,000 บาท.
|
เหตุเพลิงไหม้กองซังข้าวโพดที่ จ.แพร่ ด้าน ผู้ว่าฯ เต้น สั่งการ นายอำเภอ เร่งดับไฟให้ได้วันรุ่งขึ้น หลังเกิดเพลิงไหม้ลานตากข้าวโพดต่อเนื่องมาตั้งแต่เที่ยงวันจนถึงกลางดึก ยังไม่สามารถควบคุมไฟได้
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ไฟไหม้,เพลิงไหม้,ซังข้าวโพด,ไฟไหม้ซังข้าวโพด,ลานตากข้าวโพด,พิเชษฐ์ ไพบูลย์ศิริ,สหวิช อภิชัยวิรุสกุล,อ.ร้องกวาง,แพร่,สภ.ไผ่โทน,มานพ ใจอุ่น,ข่าวทั่วไทย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/news/local/574191
|
ยูกันดาเดือด นักรบชนเผ่าปะทะตำรวจ ดับ 55 ศพ
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พ.ย. ทางการประเทศยูกันดา ออกมาเปิดเผยว่า กองกำลังชนเผ่า 41 คน และตำรวจอีก 14 นาย เสียชีวิตในเหตุปะทะกันในภาคตะวันออกของประเทศ ขณะเดียวกัน ตำรวจจับกุมตัวราชาชนเผ่าหนึ่งในพื้นที่ติดชายแดนประธานสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์คองโก),เหตุปะทะกันเกิดขึ้นในแคว้นรูเวนโซรี ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งเกิดเหตุความไม่สงบมาตั้งแต่หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนก.พ. โดยตำรวจเผยเพียงว่า ผู้โจมตีต่อสู้เพื่อสร้างรัฐอิสระในพื้นที่แห่งนี้ พวกเขาใช้ระเบิดแสวงเครื่อง, ปืน และหอกในการโจมตีเจ้าหน้าที่ความมั่นคง และจนถึงตอนนี้พวกเขาจับกุมตัวผู้อยู่เบื้องหลังได้แล้ว 15 คน,อีกด้านหนึ่ง นายแพดดี อันคุนดา โฆษกกองทัพยูกันดา บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ชาร์ลส์ เวสลีย์ มุมเบเร ราชาชนเผ่า รูเวนซูรูรู ซึ่งสนับสนุนฝ่ายค้าน ถูกควบคุมตัวไปสอบปากคำ อย่างไรก็ตาม เขาไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการปะทะกันที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด,ส่วนกลุ่มฝ่ายค้านออกมากล่าวหารัฐบาลว่ากำลังเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นฐานเสียงสนับสนุนสำคัญของฝ่ายค้าน ด้วยการควบคุมกิจกรรมทางการเมือง,ทั้งนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอะไรเป็นชนวนเหตุให้เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่และนักรบชนเผ่า แต่สื่อท้องถิ่นระบุว่า เมื่อวันเสาร์ กลุ่มองครักษ์ของนายมุมเบเร โจมตีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงยูกันดากำลังลาดตระเวนที่เมืองคาเซเซ ทำให้เกิดการปะทะกันในที่สุด
|
นักรบชนเผ่าและเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศยูกันดา ปะทะกันอย่างรุนแรงในภาคตะวันตกของประเทศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึ 55 รายแล้ว
| null |
ยูกันดา,รูเวนโซรี,จับราชาชนเผ่า,เหตุความไม่สงบ,นักรบชนเผ่า
|
https://www.thairath.co.th/content/795487
|
ลุ้นหนัก น้ำทะลักเพชรบุรี มท.1 แจงแผนอพยพ
|
วันที่ 7 ส.ค. ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม คสช.เพื่อติดตามสถานการณ์บ้านเมือง โดยคาดว่าที่ประชุมจะมีการรายงานสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ในภาคอีสาน โดยเฉพาะบริเวณลุ่มแม่น้ำโขง และเขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ภายหลังจากเมื่อวานนี้ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำ ที่มีการสั่งการด่วน ให้ทุกเหล่าทัพจัดกำลังพลและเครื่องมือช่างเข้าไปช่วยสนับสนุนการแก้ปัญหาในพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบในการระบายน้ำออกจากเขื่อนแก่งกระจาน ให้ไหลลงสู่ทะเล,ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า มั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการและรับมือกับสถานการณ์น้ำในเขื่อนแก่งกระจานจังหวัดเพชรบุรี แม้ว่าจะมีน้ำล้นสปิลเวย์ หรือมีน้ำทะเลหนุนในช่วง 2 วันนี้ แต่สถานการณ์ไม่รุนแรง มีการระบายน้ำได้ โดยจะมี 4 อำเภอที่อาจได้รับผลกระทบบ้าง คือ อำเภอท่ายาง อำเภอบ้านลาด อำเภอเมือง และอำเภอบ้านแหลม,อย่างไรก็ตาม ตนกำชับให้ฝ่ายปกครองเฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมสำหรับการแจ้งเตือน ซึ่งตอนนี้ทางผู้ว่าราชการ และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ได้เตรียมการป้องกันทั้งกระสอบทรายและปั๊มน้ำ ซึ่งคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมาก มีเพียงบริเวณที่อยู่ใกล้น้ำเท่านั้น,ขณะที่การประเมินสถานการณ์หรือการเตรียมการอพยพ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันประเมินสถานการณ์ หากมีการอพยพ และมีชาวบ้านที่ไม่ยอมทิ้งบ้าน ทางกระทรวงมหาดไทยจะให้ความช่วยเหลือผู้ชายเฝ้าบ้านไว้ 1 คน และจะมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หรือ อส. ในพื้นที่คอยดูแล
|
นายกฯ ประชุม คสช. ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมเพชรบุรี ขณะที่ มท.1 มั่นใจรับมือสถานการณ์น้ำเขื่อนแก่งกระจานได้ เผยอาจกระทบพื้นที่ริมน้ำใน 4 อำเภอ คือ ท่ายาง บ้านลาด อ.เมือง บ้านแหลม
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
น้ำท่วม,น้ำท่วมเพชรบุรี,เพชรบุรี,แก่งกระจาน,แม่น้ำเพชรบุรี,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1349711
|
สลด ไฟช็อตหนุ่มวัย 20 ดับคาฝ้าเพดาน ขึ้นไปติดกล้องวงจรปิด
|
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 8 ส.ค. 59 ร.ต.อ.นิวัฒน์ แจงกระโทก รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุคนถูกไฟช็อตเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 9 ต.เชียงพิณ จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี เจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุ พบ นายสมศักดิ์ สุริยกมล อายุ 47 ปี เจ้าของบ้าน นำเจ้าหน้าที่ตรวจจุดเกิดเหตุ พร้อมระบุว่า ได้ว่าจ้าง บริษัทแห่งหนึ่ง มาติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้าน โดยมีช่างมา 2 คน โดยช่างเปิดฝ้าเพดานห้องโถงขึ้นไปเดินสายไฟ แต่ถูกไฟช็อตเสียชีวิตอยู่บนฝ้า จึงได้แจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ได้ทุบเจาะฝ้าเพดานขึ้นไปนำศพลงมา ทราบชื่อภายหลังว่า นายชาญชัย คำไพ อายุ 20 ปี จากการชันสูตรไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ที่ฝ่ามือซ้ายมีรอยไหม้ แพทย์ระบุเสียชีวิตจากไฟช็อต,นายพัทธาวรรณ ผาจวง อายุ 18 ปี เพื่อนร่วมงานให้การว่า ผู้ตายเป็นช่างติดตั้งกล้องวงจรปิดและติดตั้งอินเทอร์เน็ต มาทำงานได้ 3 วัน วันนี้ได้รับคำสั่งให้มาติดตั้งกล้องวงจรปิดที่บ้านดังกล่าว โดยผู้ตายได้ติดตั้งตัวกล้องเสร็จแล้ว และได้ขึ้นไปเดินสายสัญญาณกล้องบนฝ้าเพดาน ต่อมา ตนได้ยินเสียงผู้ตายร้อง โอ้ยๆๆ หลายครั้ง และดิ้นกระเสือกกระสนไปตามฝ้าเพดาน ตนคิดว่าผู้ตายถูกไฟช็อตแน่ จึงเรียกเจ้าของบ้านให้สับคัตเอาต์ไฟฟ้าลง และปีนขึ้นไปดู พบว่าผู้ตายนอนแน่นิ่งหายใจรวยริน แต่ไม่สามารถนำร่างลงมาได้ จึงได้แจ้งกู้ชีพและตำรวจ แต่ก็ช่วยชีวิตไม่ทัน,ร.ต.อ.นิวัฒน์ กล่าวว่า ผู้ตายขึ้นไปเดินสายสัญญาณกล้องวงจรปิดบนฝ้าเพดาน แต่เผลอไปจับถูกสายไฟฟ้าที่วางอยู่บนฝ้าเพดาน ทำให้ถูกไฟช็อตจนหมดสติ ประกอบกับบริเวณดังกล่าวเป็นที่อับ ยากแก่การเข้าไปช่วยเหลือได้ทันท่วงที อีกทั้งอากาศถ่ายเทไม่สะดวก ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงนำศพไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ต่อไป
|
ไฟช็อตช่างติดกล้องวงจรปิด ที่เพิ่งมาทำงานได้ 3 วัน เสียชีวิตบนฝ้าเพดานบ้านลูกค้า ขณะที่เพื่อนร่วมงานช่วยเหลือไม่ทัน เพราะไม่สามารถนำร่างลงมาจากฝ้าได้
| null |
ช่างถูกไฟช็อต,ไฟช็อตเสียชีวิต,ไฟดูดช่าง,ไฟดูดช่างติดกล้องวงจรปิด,ไฟดูดเสียชีวีต,ช่างติดตั้งกล้องวงจรปิด,อุดรธานี,ข่าว,ทั่วไทย,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/685121
|
กองทัพเรือแจงพลทหารผูกคอฆ่าตัวตาย ระบุเป็นโรคซึมเศร้า
|
เจ้าตัวไม่สามารถเข้าเวรยามได้ต้องเข้ารักษาตัว เคยกินยาเกินขนาดจนต้องรักษาตัวที่ห้องไอซียู เมื่อหายดีแล้วก็กลับไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกองร้อยพยาบาล ขณะรักษาตัวก็ได้ให้เพื่อนพลทหารคอยดูแล แต่มีช่วงเวลาหนึ่งที่เพื่อนพลทหารทำธุระส่วนตัวเพียงครู่เดียว กลับมาพบผูกคอเสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2561 ที่ผ่านมา รายงานว่า พล.ร.ท.เดชดล ภู่สาระ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงกรณีพลทหารรายหนึ่ง ของกองทัพเรือผูกคอตายที่ค่ายทหารในพื้นที่ จ.จันทบุรี ว่าทางกองทัพเรือขอแสดงความเสียใจกับญาติของพลทหารคนดังกล่าว และจะดูแลในเรื่องสิทธิกำลังพลให้ดีที่สุด โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นผู้ที่เสียชีวิตชื่อพลทหารเรวัต เพชรเรือง สังกัดอยู่ที่กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่1 กองพลนาวิกโยธิน โดยประวัติได้รับการรักษาที่กองร้อยพยาบาล ซึ่งจากการตรวจอย่างละเอียดของทางแพทย์ก็พบว่ามีอาการทางจิตเวช หรือโรคซึมเศร้า ซึ่งก่อนที่จะมาเข้ารับราชการทหารก็มีอาการอยู่แล้ว และต้องได้รับยาอย่างต่อเนื่อง และในการกินยาเพื่อรักษาหากกินไม่ต่อเนื่องก็จะทำให้อาการกลับมาอีกพล.ร.ท.เดชดล กล่าวว่า ทางต้นสังกัดของพลทหารเรวัต คือ ฉก.นย.182 บ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ซึ่งเป็นหน่วยที่ต้องออกภาคสนาม ทราบว่าพลทหารเรวัฒน์ ป่วยโรคซึมเศร้า และต้องได้รับยาอย่างต่อเนื่อง ทำให้พลทหารเรวัต ไม่สามารถเข้าเวรยามได้ ต้องเข้ารักษาตัว ซึ่งก่อนหน้านั้นได้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม พลทหารเรวัฒน์ เคยกินยาเกินขนาด ต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ไอซียู โรงพยาบาลสิริกิติ์ เมื่อหายดีแล้วก็กลับไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกองร้อยพยาบาล ซึ่งในขณะรักษาตัวที่กองร้อยพยาบาล ก็ได้ให้เพื่อนพลทหารคอยดูแล แต่มีช่วงเวลาหนึ่งที่เพื่อนพลทหารทำธุระส่วนตัวเพียงครู่เดียว พลทหารเรวัฒน์หายไป จนมาพบผูกคอเสียชีวิตแล้วโรคซึมเศร้าทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการจิตตก น้อยใจ หรืออาจจะมีการคิดและเข้าใจผิด สุดท้ายคิดฆ่าตัวตาย กำลังพลคนไหนป่วยเป็นโรคนี้บ้าง ทางหน่วยก็ไม่ทราบ จนอาการปรากฏ เมื่อพบแล้วทางต้นสังกัด จะส่งไปรักษาทุกคน ซึ่งการรักษาพยาบาลทุกครั้ง จะมีหลักฐานต่างๆไม่ว่าจะเป็นการส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล การส่งกลับมารักษาที่กองร้อยพยาบาล พล.ร.ท.เดชดล กล่าว
|
โฆษกกองทัพเรือเปิดเผยถึงกรณีพลทหารรายหนึ่งของกองทัพเรือผูกคอตายที่ค่ายทหารในพื้นที่ จ.จันทบุรี แพทย์พบว่ามีอาการทางจิตเวช เป็นโรคซึมเศร้า ก่อนเป็นทหารก็มีอาการอยู่แล้ว ต้องได้รับยาอย่างต่อเนื่อง
|
สังคม,คุณภาพชีวิต
|
พลทหารเรวัต เพชรเรือง,กองทัพเรือ,ฆ่าตัวตาย,โรคซึมเศร้า,ทหารเกณฑ์
|
https://prachatai.com/journal/2018/10/79324
|
ผีรอหน่อย รู้แล้ว 10 ทีมมีโอกาสเจอหงส์ เพลย์ออฟชปล.โผล่ของหนัก 4 ทีม
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 1 มิ.ย. ว่า หงส์แดง ลิเวอร์พูล ยักษ์หลับแห่งเกาะอังกฤษ จะเป็น 1 ใน 5 ทีมวางของศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบเพลย์ออฟ ฤดูกาลหน้า และมีโอกาสเจอ 10 ทีมในรอบเพลย์ออฟเพื่อคว้าตั๋วไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มต่อไป,หงส์แดง จะเป็น 1 ใน 5 ทีมวางของรอบเพลย์ออฟร่วมด้วย เซบีญา จากสเปน, นาโปลี จากอิตาลี, ดินาโม เคียฟ จากยูเครน และ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม จากเนเธอร์แลนด์ แต่ทั้งเคียฟ และ อาแจกซ์ จะต้องไปเล่นในรอบคัดเลือกรอบสาม ส่วน หงส์แดง, เซบีญา นาโปลี รวมถึง ฮอฟเฟนไฮม์ และ สปอร์ติง ลิสบอน ไม่ต้องเล่นในรอบที่สาม,ดังนั้น หงส์แดง จะมีโอกาสเจอกับ 8 ทีมที่ต้องไปเล่นในรอบคัดเลือกรอบที่ 3 ประกอบด้วย สเตอัว บูคาเรสต์ (โรมาเนีย), ยังบอยส์ (สวิตเซอร์แลนด์), นีซ (ฝรั่งเศส), วิคตอเรีย เพอร์เซน (เช็ก), ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย), อิสตันบูล บาซัคเซเฮอร์ (ตุรกี), คลับ บรูซ (เบลเยียม), เออีเค เอเธนส์ (กรีซ) รวมถึงอีกสองทีมที่ไม่ต้องเล่นรอบคัดเลือกแต่ไม่ได้เป็นทีมวางอย่าง สปอร์ติง ลิสบอน (โปรตุเกส) และ ฮอฟเฟนไฮม์ (เยอรมนี),ทั้งนี้หากดูจาก 10 ทีมที่หงส์แดงมีโอกาสได้เจอแล้วถือว่ามี 4 ทีมที่น่าจะเป็นของแข็งสำหรับหงส์แดงประกอบไปด้วย สปอร์ติง ลิสบอน จากโปรตุเกส, ฮอฟเฟนไฮม์ จากเยอรมนี, นีซ จากฝรั่งเศส และ ซีเอสเคเอ มอสโก จากรัสเซีย โดยการจับสลากประกบคู่รอบคัดเลือกรอบสามจะมีขึ้นในวันที่ 14 ก.ค. ส่วนผลจับสลากประกบคู่รอบเพลย์ออฟจะมีขึ้นในวันที่ 4 ส.ค. ที่เมือง Nyon ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
|
รู้แล้ว 10 ทีมที่มีโอกาสเจอกับ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ในศึกเพลย์ออฟแชมเปียนส์ลีก โดยมีทีมแข็งที่หงส์แดงมีโอกาสเจอถึง 4 ทีม
|
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
|
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก,หงส์แดง,ลิเวอร์พูล,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,เพลย์ออฟ แชมเปียนส์ลีก
|
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/eufa/960077
|
ครูหนุ่มอุดรฯ นอนตายในห้องพักครู ตร.คาดหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
|
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 8 ต.ค.61 ร.ต.ท.หญิง นฤมล กัวซือกุ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง มีผู้เสียชีวิตภายในห้องพักครู อาคารอุตสาหกรรม โรงเรียนประจักษ์ศิลปาคาร ถนนรอบเมือง เขตเทศบาลตำบลหนองบัว จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี เจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งเสริมธรรมอุดรธานี รุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุเป็นอาคารปูนชั้นเดียว ภายในห้องพักครูพบศพ นายสุรศักดิ์ พันธ์คำ อายุ 42 ปี พนักงานราชการ ตำแหน่งครูสอนวิชาอุตสาหกรรม นอนเสียชีวิตที่พื้นในชุดลูกเสือครึ่งท่อน จากการตรวจที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ชันสูตร ตามร่างกายไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย แพทย์สันนิษฐานหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน,สอบสวนนายสักโก กงซุย อายุ 37 ปี เพื่อนครู ให้การว่า โรงเรียนปิดเทอมแล้ว แต่ครูได้มาฝึกอบรมผู้กำกับลูกเสือ และพักอยู่ในโรงเรียน หลังพักรับประทานอาหารกลางวัน ผู้ตายขอตัวมาพักผ่อนที่ห้องพักครู ซักพักตนได้เดินตามมา เห็นผู้ตายปูเสื่อนอนกับพื้น ขณะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ตนเห็นผู้ตายมีอาการชักเกร็งมือเท้าหงิกงอ ตนจึงถามว่าเป็นอะไร แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ กระทั่งผู้ตายหยุดเกร็งแล้วก็เงียบไป ด้วยความตกใจตนจึงเรียกเพื่อนครูด้วยกันมาดู พบว่าเสียชีวิตแล้ว ตนจึงแจ้งผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ,ด้าน ร.ต.ท.หญิง นฤมล กัวซือกุ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าผู้ตายมีร่างกายแข็งแรงดี สันนิษฐานเบื้องต้นว่า น่าจะเกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน จึงนำศพไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อรอญาติมารับศพนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ต่อไป.
|
เพื่อนครูช็อก!! ครูหนุ่มสอนวิชาอุตสาหกรรม กลายเป็นศพนอนเสียชีวิตในห้องพักครู สภาพชุดลูกเสือครึ่งท่อน ตำรวจคาดหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เผยผู้ตายเป็นคนแข็งแรง
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน,ครูหนุ่มอุดรฯ,นอนตาย,อุดรธานี,ห้องพักครู,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1393014
|
กสม. แนะสื่อบันทึกภาพ-เสียงแหล่งข่าวโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นการละเมิดสิทธิฯ
|
กสม. ชี้กรณีสื่อโทรทัศน์บันทึกภาพและเสียงแหล่งข่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการละเมิดสิทธิฯ แนะ กสทช. ส่งเสริมสื่อให้ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมและจรรยาบรรณสื่ออย่างเคร่งครัด5 มี.ค. 2563 ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบการทำงานของสื่อโทรทัศน์ กรณีบันทึกภาพและเสียงของผู้ร้องสองรายไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการนำเสนอข่าวการบริหารงานและการปฏิบัติหน้าที่โดยขาดหลักธรรมาภิบาลของอาจารย์สังกัดมหาวิทยาลัย โดยปรากฏภาพและเสียงของผู้ร้องทั้งสองซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยดังกล่าว ขณะให้ข้อมูลกับทีมข่าวในวันที่เดินทางไปขอเข้าพบอธิการบดีหรือผู้แทนของมหาวิทยาลัย ซึ่งต่อมาได้มีการเผยแพร่ ส่งต่อ และบันทึกซ้ำภาพข่าวอย่างแพร่หลายในสื่อออนไลน์ ทำให้ผู้ร้องทั้งสองได้รับความเสียหายและถูกละเมิดสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว โดยผู้ร้องทั้งสองได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และสำนักงาน กสทช. ได้ส่งเรื่องร้องเรียนไปยังสื่อโทรทัศน์ผู้ถูกร้องและสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เพื่อพิจารณาตรวจสอบ และได้รับแจ้งผลจากสื่อโทรทัศน์ผู้ถูกร้องว่า การนำเสนอหรือเผยแพร่ข่าวดังกล่าวมิได้มีส่วนใดเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือกระทบกระเทือนสิทธิมนุษยชนของผู้ร้องทั้งสอง และยืนยันว่าได้ปฏิบัติงานโดยคำนึงถึงมาตรฐานทางจริยธรรมวิชาชีพ ส่วนสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยแจ้งว่า ไม่มีข้อมูลประกอบที่จะนำไปสู่การพิจารณาตามกระบวนการรับเรื่องร้องเรียน สำนักงาน กสทช. จึงไม่อาจดำเนินการใดๆ ต่อไปได้ นั้นวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธมนุษยชนแห่ชาติ กล่าวว่า กสม. ได้ตรวจสอบและพิจารณาคำร้องประกอบข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้ให้การรับรองและคุ้มครองบุคคลทุกคนในสิทธิความเป็นอยู่ส่วนตัว รวมถึงสิทธิในเกียรติยศและชื่อเสียง การนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ประโยชน์จะกระทำมิได้ เว้นแต่เป็นการกระทำเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้ ขณะที่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน ย่อมมีเสรีภาพในการเสนอข่าวสาร แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ดังที่คู่มือจริยธรรมและการกำกับดูแลกันเองในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ของสำนักงาน กสทช. ได้วางหลักไว้ว่า ผู้ประกอบวิชาชีพกระจายเสียงและโทรทัศน์ต้องเปิดเผย และซื่อสัตย์ต่อบุคคลซึ่งเป็นแหล่งข่าวหรือผู้ให้สัมภาษณ์ที่ตกเป็นข่าว โดยแจ้งให้ทราบเรื่องการบันทึกเทป ชื่อรายการ วันและเวลาในการออกอากาศ หากมีความจำเป็นต้องปิดบังในการหาข่าวหรือข้อมูลต้องสามารถให้เหตุผลและพิสูจน์ได้ว่าทำไปเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือมีความจำเป็นทางกฎหมาย และหากมีความจำเป็นต้องบันทึกเทปลับเพื่อให้ได้บรรยากาศตามเนื้อหา ก่อนนำไปออกอากาศ ควรขอความเห็นชอบจากบุคคลที่ถูกบันทึกเทปดังกล่าวดังนั้น การที่ทีมข่าวในสังกัดผู้ถูกร้องไม่ได้ดำเนินการแจ้งขออนุญาตเพื่อทำการบันทึกภาพและเสียงของผู้ร้องทั้งสองเพื่อนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ ทั้งที่ผู้ร้องทั้งสองถือเป็นแหล่งข่าวหรือผู้ให้สัมภาษณ์ ย่อมเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการประกอบวิชาชีพ แม้จะอ้างว่ามีการตั้งกล้องถ่ายภาพอย่างเปิดเผยโดยไม่มีการปิดบังซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้ และไม่ได้มีการทักท้วงแต่อย่างใด ก็ยังไม่เพียงพอที่จะแสดงว่า ผู้ร้องทั้งสองทราบและอนุญาตให้บันทึกภาพและเสียงของตนเพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณะเช่นกัน อีกทั้งหากทีมข่าวในสังกัดผู้ถูกร้อง ดำเนินการแจ้งขออนุญาตทำการบันทึกภาพและเสียงของผู้ร้องทั้งสองแล้ว แต่ได้รับการปฏิเสธ ไม่อนุญาตให้ทำได้ ผู้ถูกร้องย่อมสามารถใช้วิธีการทางเลือกอื่นที่เหมาะสมและพอสมควรแก่เหตุแทนได้ กสม. จึงเห็นว่า การละเลยไม่แจ้งขออนุญาตทำการบันทึกภาพและเสียงของผู้ร้องทั้งสองคนก่อนนำไปเผยแพร่ เป็นการใช้เสรีภาพในการเสนอข่าวสารของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อที่เกินสัดส่วนกับเหตุผลความจำเป็น และกระทบต่อสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว และสิทธิในเกียรติยศและชื่อเสียงของบุคคล อันขัดต่อหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพตามที่รัฐธรรมนูญให้การรับรองและคุ้มครองไว้ และแม้ว่าภายหลังสื่อโทรทัศน์ผู้ถูกร้องจะได้ลบโพสต์คลิปวิดีโอรายการข่าวดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ยูทูปแล้ว แต่ยังพบคลิปวิดีโอข่าวดังกล่าวซึ่งมีผู้บันทึกไว้แล้วแชร์ในสื่อออนไลน์อื่นๆ ทำให้ปัจจุบันผู้ร้องทั้งสองยังคงได้รับความเสียหาย การกระทำของสถานีโทรทัศน์ผู้ถูกร้อง จึงถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้ร้องทั้งสองด้วยเหตุนี้ กสม. ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2563 จึงมีข้อเสนอแนะว่า (1) สถานีโทรทัศน์ผู้ถูกร้องควรเยียวยาจิตใจของผู้ร้องทั้งสองที่ได้รับผลกระทบเพื่อแสดงความรับผิดชอบ เช่น การประสานงานกับเว็บไซต์และผู้เกี่ยวข้องเพื่อลบโพสต์วิดีโอข่าวดังกล่าวออกจากระบบอินเทอร์เน็ต และ (2) สำนักงาน กสทช. ควรดำเนินการส่งเสริมกลไกการกำกับดูแลกันเองทางวิชาชีพ เพื่อควบคุมให้การประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนเป็นไปตามมาตรฐานทางจริยธรรมและจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ โดยประสานความร่วมมือกับสื่อโทรทัศน์ต่าง ๆ ให้ปฏิบัติงานตามคู่มือจริยธรรมและการกำกับดูแลกันเองในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์อย่างเคร่งครัดด้วย ตามรายงานผลการตรวจสอบที่ 70-71/2563 ประธาน กสม. กล่าว
|
กสม. ชี้กรณีสื่อโทรทัศน์บันทึกภาพและเสียงแหล่งข่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการละเมิดสิทธิฯ แนะ กสทช. ส่งเสริมสื่อให้ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมและจรรยาบรรณสื่ออย่างเคร่งครัด5 มี.ค.
|
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
|
สื่อมวลชน
|
https://prachatai.com/journal/2020/03/86653
|
นักวิชาการ เตรียมยื่นหนังสือสนับสนุนรัฐบาล ให้ นาซ่า ใช้ อู่ตะเภา ยืนยันเกิดประโยชน์
|
การเสวนาหัวข้อ นาซ่า จะมาทำอะไรที่อู่ตะเภา ซึ่งจัดโดยคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และ มหาวิทยาลัยศิลปากร รศ.เสริม จันทรฉาย อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า โครงการวิจัยศึกษาองค์ประกอบเมฆและภูมิอากาศ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นการศึกษาและปฏิบัติการทางด้านวิทยาศาสตร์ที่ใหญ่และซับซ้อนมากที่สุดของนาซ่า ซึ่งการทำงานจำเป็นต้อง ประสานงานหลายฝ่าย ทั้งจากดาวเทียมหลายดวง บอลลูนสำรวจอากาศ เครื่องบินวิจัย สถานที่ปฏิบัติงานภาคพื้นดิน และมหาสมุทรดังนั้น สนามบินอู่ตะเภา มีความเหมาะสมทางภูมิศาสตร์ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติงานภาคพื้นดิน เนื่องจากมีรันเวย์ที่ยาวไม่มีการบินมารบกวน และสามารถรองรับนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากได้ นอกจากนี้ ยังเห็นว่าโครงการนี้ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการวิจัยศึกษาเกี่ยวกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน และช่วยพยากรณ์อากาศในอนาคตได้ว่าน้ำจะท่วม หรือแห้งแล้งจะเพียงใดด้านนริศรา ทองบุญชู คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง อธิบายว่า มลพิษฝุ่นละออง สามารถลอยไปบนชั้นบรรยากาศ ที่สูงกว่าในระดับชั้นฝุ่นละอองที่ตรวจสอบได้ จึงจำเป็นต้องมีความสำรวจเพิ่มเติมเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่แม่นยำ ซึ่งโครงการนี้ เป็นเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนให้ความสนใจ จึงเป็นโอกาสดีที่นักวิทยาศาสตร์จะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้แบบก้าวกระโดด ต่อยอดองค์ความรู้ใหม่ ๆ จากนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก และไม่เห็นว่าการวิจัยจะส่งผลกระทบหรือผลเสีย จึงขอให้ทุกฝ่ายให้โอกาสกับนักวิทยาศาสตร์ไทยได้เข้าร่วมศึกษาวิจัยโครงการนี้ โดยอย่าโยงไปสู่ประเด็นทางการเมืองนอกจากนี้ จากประสบการณ์ที่เข้าร่วมสำรวจชั้นบรรยากาศกับองค์การนาซ่า ก็ไม่เห็นว่า จะมีอุปกรณ์ล้วงลับข้อมูลด้านความมั่นคงแต่อย่างใด มีเพียงท่อดูดอากาศที่ใช้เก็บตัวอย่างเมฆและฝุ่นที่ต้องการทำการศึกษาติดที่นอกตัวเครื่องบินเท่านั้นขณะที่ บุศราศิริ ธนะ อาจารย์ประจำภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยชี้แจงถึงกรณีที่นาซ่าต้องเข้ามาศึกษาวิจัยในช่วงนี้ เนื่องจากเป็นช่วงมรสุมเข้าทำให้การรวบรวมข้อมูล และการวิจัยมีความละเอียดมากที่สุด พร้อมยืนยัน ประเทศไทยยังขาดข้อมูลจากชั้นอากาศ มีเพียงข้อมูลทางด้านดาวเทียมและภาคพื้นดินเท่านั้น ทำให้ข้อมูลไม่ชัดเจน โครงการนี้จึงจะช่วยให้การพยากรณ์อากาศของไทยแม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งนี้ ในวงเสวนา ยังมองว่า หากรัฐบาลไม่ยินยอมให้นาซ่าทำการวิจัย จะทำให้ไทยเสียผลประโยชน์ และประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียนที่อนุมัติโครงการแล้ว เช่น กัมพูชา อินโดนิเซีย สิงคโปร์ เสียโอกาสที่จะทำวิจัยร่วมกับโครงการ และนำองค์ความรู้ที่ได้มาจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ทั้งในระดับประเทศและภูมิภาคส่วนข้อกังวลเรื่องการจารกรรมข้อมูลความมั่นคง มองว่าเป็นเรื่องล้าสมัย และในวันพรุ่งนี้ (26 มิ.ย.) ตัวแทน จะเข้ายื่นหนังสือต่อเลขานายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีการทบทวนพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง ก่อนนำเข้าสู่มติคณะรัฐมนตรี
|
ตัวแทนนักวิชาการ เตรียมยื่นหนังสือต่อเลขานายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทบทวนพิจารณาโครงการค้นคว้าวิจัยในประเทศไทย โดยใช้พื้นที่สนามบินอู่ตะเภาเป็นสถานีวิจัยชั่วคราว พร้อมยืนยัน โครงการดังกล่าว เป็นผลดีด้านการศึกษาสภาพการเปลี่ยนแปลงทางอากาศทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค
|
วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
|
นาซ่า,วิจัย,อู่ตะเภา
|
https://news.thaipbs.or.th/content/93581
|
ผ้าพันคอขนสัตว์ Nights Watchเกมออฟโธรนส์ ดัดแปลงจากหนังแกะ อิเกีย
|
เครดิตภาพ เฟซบุ๊ก,อิเกีย ไม่ปล่อยโอกาสหลุดลอยรีบออกโฆษณาบนหน้าเฟซบุ๊ก อธิบายวิธีตัดหนังแกะให้เป็นผ้าพันคอขนสัตว์ แบบเดียวกับ Nights Watch ในซีรีส์ทีวีสุดดัง เกม ออฟ โธรนส์ หลังหัวหน้าฝ่ายเครื่องแต่งกายของซีรีส์ดังเปิดเผย,เมื่อ 17 ส.ค. 60 บุญธง ก่อมงคลกูล ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำประเทศเบลเยียม รายงาน ความคลั่งใคล้ในรายการซีรีส์ทีวี เกม ออฟ โธรนส์ เป็นจุดเด่นที่ช่วยกระตุ้นสินค้าของห้างอิเกีย เมื่อหัวหน้าฝ่ายเครื่องแต่งกายของรายการ เปิดเผยว่า ผ้าพันคอขนสัตว์ที่พี่น้องสองคนทำหน้าที่ยามตอนกลางคืน หรือ Nights Watch ดัดแปลงมาจากหนังแกะที่มีวางขายทั่วไปในห้างอิเกีย
ปรากฏว่า หลังจากมีข่าวแพร่สะพัดกระจายไปทั่ว บริษัท อิเกีย ห้างขายเฟอร์นิเจอร์ยักษ์ใหญ่ของสวีเดน ไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป รีบจัดทำโฆษณาออกเผยแพร่บนหน้าเฟซบุ๊ก อธิบายวิธีการตัดหนังแกะให้เป็นผ้าพันคอขนสัตว์แบบเดียวกับ Nights Watch ด้วยตนเอง
,ทั้งนี้ หลังจาก ภาพถ่ายการร่วมงานวันชาติเบลเยียมของเจ้าหญิงแคลร์ พระชายาเจ้าชายโรลองต์ ที่ทรงสวมพระมาลา ซึ่งมีรูปทรงคล้ายคลึงกับชามสลัดอิเกีย และโดนชาวเน็ตล้อเลียนว่า ทรงใช้ชามสลัดที่วางขายอยู่ในห้างอิเกียมาทำเป็นหมวกแล้ว ทางห้างอิเกียก็ได้ปล่อยโฆษณาชามสลัดรูปทรงคล้ายหมวกที่เจ้าหญิงแคลร์แห่งเบลเยียมทรงสวมในงานวันชาติเบลเยียม วันที่ 21 กรกฎาคม
|
อิเกีย ไม่ปล่อยโอกาสหลุดลอยรีบออกโฆษณาบนหน้าเฟซบุ๊ก อธิบายวิธีตัดหนังแกะให้เป็นผ้าพันคอขนสัตว์ แบบเดียวกับ Nights Watch ในซีรีส์ทีวีสุดดัง เกม ออฟ โธรนส์ หลังหัวหน้าฝ่ายเครื่องแต่งกายของซีรีส์ดังเปิดเผย
|
ข่าว,ต่างประเทศ
|
เกม ออฟ โธรนส์,ผ้าพันคอขนสัตว์,ผ้าพันคอขนสัตว์Night's Watch,อิเกีย,หนังแกะ
|
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1040900
|
ฐิสา ยอมรับสนิท ปั้นจั่น มากขึ้น ไม่ซีเรียสคนจะเลิกติดตามหากคบกัน (คลิป)
|
มาร่วมงาน Hairworld Run Fun Fest Day (แฮร์เวิลด์ รัน ฟัน เฟส เดย์) รวมพลังช่างผม และคนรักผม รวมตัวจัดซื้อ วิกผม ให้ผู้ป่วยมะเร็ง ณ Lifestyle Hall ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ได้เจอนางเอกสาววิกหมอชิต ฐิสา วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร นักข่าวเลยถามถึงเรื่องที่มีกระแสชาวเน็ตแอนตี้หากเจ้าตัวจะคบกับนักร้องนักแสดงหนุ่มเข้ม ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย หลังจากที่ปั้นจั่นแสดงความคิดเห็นทางการเมืองจนเกิดกระแสดราม่าด้วย,กรณีปั้นจั่นก็มีคนลามเข้าไปต่อว่าในไอจีเราเหมือนกัน?, ,ก็เห็นค่ะ แต่โดยส่วนตัวเราก็ไม่ได้คิดมากอะไรค่ะ เพราะเราก็เข้าใจว่ามันก็อาจจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้กับการที่จะมาถึงเรา ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ได้เกี่ยวอะไร,ได้อ่านบ้างมั้ย?, ,จริงๆ ก็ไม่ได้อ่านทุกคอมเมนต์นะคะ จะเห็นแค่แรกๆ หรือจังหวะที่เข้าไปดู แต่ปกติก็ไม่ได้อ่านทุกคอมเมนต์อยู่แล้ว,แฟนคลับก็เป็นห่วงเราเพราะได้รับผลกระทบไปด้วย?, ,เชื่อว่าหลายๆ คนเข้าใจนะคะ และต้องขอบคุณที่เขาเป็นห่วง แต่โดยส่วนตัวเราโอเค หมายถึงมันไม่ได้กระทบกระเทือนจิตใจเรา เรารู้สึกว่าจัดการกับความรู้สึกนั้นได้ เราไม่เป็นไรค่ะ,พอมันกระทบถึงเรา ปั้นจั่นว่ายังไงบ้าง?, ,โดยส่วนตัวเรื่องแบบนี้เราจะไม่ค่อยคุยกัน เขาก็ขอโทษที่มากระทบถึงเราค่ะ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นเราก็เข้าใจทุกอย่าง,มีคอมเมนต์ว่าไม่อยากให้เราคบกับปั้นจั่น?, ,คือเรื่องหลายๆ อย่างที่บอกไปเราอาจจะไม่อยากตอบในส่วนนั้น แต่ว่าเรื่องนี้ก็ค่อยๆ ว่ากันไป เพราะโดยส่วนตัวเราก็ยังไม่เคยบอกว่าสรุปแล้วอะไรยังไงค่ะ,ถึงขั้นมีบอกว่าถ้าเราคบกันจริงๆ เขาจะเลิกติดตามเรา?, ,อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้อ่านทุกคอมเมนต์ค่ะ,เป็นแฟนคลับเราส่วนนึงด้วยที่ยื่นข้อเสนอนี้?, ,ก็คงไม่ได้รู้สึกอะไรยังไงค่ะ เข้าใจได้ เพราะเรื่องแบบนี้มันก็มีตั้งแต่แรกแล้วค่ะ หมายถึงว่าเวลามีข่าวกับใครก็มักจะมีแบบนี้ออกมาเสมออยู่แล้ว ก็เลยคิดว่ามันคงเป็นเรื่องปกติที่เราเจอ,คิดว่ารุนแรงไปมั้ยที่บอกจะเลิกติดตามเรา?, ,อาจจะเป็นเพราะมีข่าวอะไรแบบนี้กันทั้งคู่ด้วยมั้งคะ ก็เลยอาจจะดูรุนแรง แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสมากค่ะ,ทำให้เราถอยห่างออกจากเขามากขึ้นมั้ย?, ,เรื่องข่าวหรือเรื่องส่วนตัวเราไม่ค่อยได้ยุ่งกันอยู่แล้วค่ะ,มันมีรูปที่เราจับมือกันออกมา คนเลยคิดว่าเราเปิดตัวแล้ว?, ,โอ๊ย ไม่ๆ (หัวเราะ) อย่าเพิ่งคิดว่าเปิดตัว คือขนาดก่อนหน้านี้พี่ๆ ถามว่าทำไมถึงไม่ลงรูปคู่ ก็เพราะว่าบางทีเราลงอะไรไปคนก็จะคิดกันไปอย่างอื่นได้ รูปนี้ก็อาจจะเป็นอีกแบบนึงที่คนอาจจะคิดเป็นอย่างอื่นได้ ก็อย่าเพิ่งคิดกันไปก่อนค่ะ,ความหมายของรูปเรา เราตั้งใจโพสต์ถึงเขามั้ย หรือจริงๆ ไม่ได้เกี่ยว?,จริงๆ ช่วงก่อนหน้านี้มันก็มีเรื่องอะไรหลายอย่างด้วยค่ะ มันไม่ได้เกี่ยวกับพี่เขาด้วย มันเป็นเรื่องของเราเองด้วยค่ะ พี่เขาเราก็ให้กำลังใจส่วนนึง แต่เรื่องของเรา เราก็มีส่วนที่ให้กำลังใจคนรอบข้างเรา ให้กำลังใจเราด้วยส่วนนึงค่ะ คือมันหลายๆ อย่าง เราเลยถือว่าเป็นการให้กำลังใจหลายอย่างในเวลานั้นด้วยค่ะ,สรุปคือก็ส่งกำลังใจให้เขาด้วย?,คือเราก็ให้กำลังใจเขานอกรอบอยู่แล้วค่ะ,แรงแอนตี้ในฝั่งเขาที่ส่งมาถึงเรา สร้างความกดดันให้เรารู้สึกว่าไม่ต้องเปิดตัวมากขึ้นมั้ย?,จริงๆ เรื่องอะไรแบบนี้เราไม่ค่อยซีเรียสมากอะไรอยู่แล้วค่ะ อย่างที่ทุกคนเจอแหละ ไม่ว่าจะใครก็ตาม มันก็มีทั้งคนที่เชียร์และไม่เชียร์เป็นเรื่องปกติค่ะ แต่สุดท้ายเราก็ต้องกลับมามองว่าเราจะไปต่อหรือไม่ไปต่อ สุดท้ายขึ้นอยู่กับตัวเราเองและเขาเอง คือทุกคนมีสิทธิ์ที่จะพูดหรือคอมเมนต์ เราไม่เคยว่าอะไรเลย,แล้วสถานะวันนี้มันเป็นยังไง?,ก็ยังค่อยๆ คุยกันเหมือนเดิมค่ะ ยังไม่ได้ระบุอะไรชัดเจน อย่างที่เราบอกไปทุกรอบแหละ อยากค่อยๆ คุยกันไปช้าๆ ดีกว่า เพราะว่าอนาคตมันก็ไม่แน่นอนค่ะ,สรุปแล้ว ณ ตอนนี้เรายังโอเคกับเขามั้ย?,คือจริงๆ เราเป็นคนไม่ค่อยติดตามข่าวตั้งแต่แรกแล้ว คุยกันไปเรื่อยๆ ดีกว่าค่ะ อย่างที่บอกไปคือยังไม่ได้สรุปอะไรยังไงค่ะ รอให้มันชัดเจนกว่านี้ก่อนดีกว่าว่าจะไปต่อหรือไม่ไป,ปั้นจั่นก็บอกว่าเปอร์เซ็นต์มันค่อนข้างจะมาทางเขาพอสมควร?,ถ้าถามว่าสนิทกันมากขึ้นมั้ย มันก็คงต้องสนิทมากขึ้นเนอะ พอคุยกันมากขึ้นก็ได้รู้จักกันมากขึ้น แต่ถ้าหมายถึงว่าจะพัฒนาเป็นยังไง มันก็เป็นเรื่องของอนาคตอีกทีค่ะ,มีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้นจริงๆ มั้ย?,อืมมันก็ดีขึ้น แต่ว่าเราก็ยังไม่ฟันธงว่าจะสรุปว่าเป็นแบบไหนดีกว่า,พอถามเรื่องความสัมพันธ์เหมือนตอบแบบกึ่งรับกึ่งสู้?,เอ่อคือถ้าเป็นส่วนตัวเรา เราไม่ได้อยากปิด แต่ว่าเราสามารถพูดเท่าที่เราพูดได้มากกว่า เพราะบางทีมันยังไม่ถึงเวลาหรือเราอยากใช้เวลามากกว่านี้ด้วย ไม่ใช่เราจะกล้าๆ กลัวๆ ทุกอย่างเราใช้ชีวิตปกติมากค่ะ แต่เราอยากให้มันแน่นอนมากที่สุดก่อนดีกว่า ก่อนที่จะพูดอะไรออกไป เพราะว่าบางทีแค่เราพูดออกไปนิดเดียว ทุกวันนี้ขนาดเราว่าเราชัดเจนแล้วนะ คนก็ยังสามารถตีความในอะไรต่างๆ ได้ เราก็ไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจผิดไปค่ะ.
|
ฐิสา วริฏฐิสา ไม่คิดมากคนดราม่ากรณีปั้นจั่น และจะเลิกติดตามหากคบกัน มองเป็นเรื่องปกติที่มีทั้งคนเชียร์และไม่เชียร์ เผยเรื่องนี้ไม่ได้กระทบจิตใจ และต่างคนต่างไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัว
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
ฐิสา วริฏฐิสา,ปั้นจั่น ปรมะ,ฐิสา ปั้นจั่น,ฐิสา วริฏฐิสา ความรัก,ปั้นจั่น ปรมะ ดราม่าการเมือง,ดารา
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1606706
|
จุดเทียนร้องปล่อย คนอยากเลือกตั้ง - อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ แจง ตร. ไม่ละเมิดสิทธิฯ
|
24 พ.ค.2561จากที่กลุ่มประชาชนในนาม กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง จัดการชุมนุวานนี้ (23 พ.ค.61)Banrasdr Photo รายงานว่า เมื่อ18.00 น.ที่ลานวิคตอรี่พอยท์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ณัทพัช อัคฮาด และ เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล พร้อมเพื่อนร่วมกันยืนสงบนิ่งประมาณ 5 นาที เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวกลุ่มคนอยากเลือกตั้งทั้งหมดที่ถูกจับกุมต่อมา ณัทพัชและพะเยาว์ มารดา เดินเท้าไป สน.พญาไท เพื่อจุดเทียนร่วมกับประชาชนและมารดาของลูกเกด ชลธิชา ที่มารอเยี่ยมและให้กำลังใจ โดยตำรวจเข้ามาเก็บเทียนทันทีหลังจุดครบสิบห้าเล่มตามจำนวนของคนที่ถูกคุมขังขณะที่วันเดียวกัน (23 พ.ค.61) รายงานว่า ปิติกาญจน์ สิทธิเดช อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวถึงกรณี ที่ สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และฮิวแมนไรท์วอช ออกแถลงการเรียกร้องขอให้ปล่อยตัว กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ทั้ง 14 คน อย่างไม่มีเงื่อนไขโดยทันที ซึ่งทั้งหมดถูกดำเนินคดียุยงปลุกปั่น และละเมิดคำสั่ง คสช.ที่ห้ามการชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน ว่า ขณะนี้ในส่วนของคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามระบบแล้ว และ ข้อหาที่ทางตำรวจแจ้งดำเนินคดี ก็เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ได้ใช้สิทธิยื่นร้องศาลปกครองเพื่อขอจัดการชุมนุมแล้ว แต่ศาลยกคำร้อง ตามหลักการอยู่ร่วมกันต้องเคารพสิทธิของสังคมส่วนรวมด้วย และเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายในสังคมจะต้องเรียนรู้ หลักการการอยู่ร่วมกันในสังคม และเคารพสิทธิมนุษยชน ว่า จะอยู่ร่วมกันในลักษณะไหนทางกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ก็ใช้สิทธิตามกฎหมายแล้ว และเมื่อทำผิดกฎหมายอื่นก็ต้องถูกดำเนินคดี ในขณะที่ตำรวจก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หากไม่สามารถควบคุมการชุมนุมได้ประเทศก็จะกลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯกล่าว พร้อมระบุว่า การปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจในวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน เข้าใจว่าการออกมาเรียกร้องของทุกคน ทุกฝ่ายก็ล้วนทำตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละองค์กร ทั้งนี้ ไม่ว่าการจะออกมาเรียกร้อง หรือ กระทำการใดๆ ก็ต้องเคารพสิทธิและกฎหมายของประเทศนั้นๆ ด้วย
|
จุดเทียนร้องปล่อย คนอยากเลือกตั้ง - อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ ขอองค์กรระหว่างประเทศเคารพสิทธิและกฎหมายของประเทศนั้นๆ ยันการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจไม่ได้ละเมิดสิทธิมนุษยชน ซ้าย :
|
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
|
คนอยากเลือกตั้ง,ปิติกาญจน์ สิทธิเดช,อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
|
https://prachatai.com/journal/2018/05/77099
|
ฟ้องศาลศึกผู้ว่าการรฟม. รณชิตร้อง2ศาล-บอร์ดยังเดินหน้าสรรหายันเปล่ากีดกัน
|
บ่ายวันเดียวกัน พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะบอร์ด รฟม. นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการ รฟม.ได้แถลงชี้แจงกรณีดังกล่าว โดย พล.อ.ยอดยุทธกล่าวว่า การสรรหาผู้ว่าการ รฟม. เป็นไปตามกระบวนการ ศาลยังไม่มีคำสั่งใดๆจึงยังไม่ต้องหยุดกระบวนการสรรหา ปัญหาของ รฟม.คือมี พ.ร.บ.รฟม.ซึ่งแตกต่างจากหน่วยงานอื่น กรณีที่ตำแหน่งผู้ว่าการ รฟม.ว่าง จะต้องตั้งรองผู้ว่าการที่อาวุโสสูงสุด ในขณะที่หน่วยงานอื่นสามารถแต่งตั้งรองผู้ว่าการหรือบอร์ดทำหน้าที่รักษาการผู้ว่าการได้ ขณะนี้บอร์ดจึงได้ตั้งคณะทำงานในการแก้ พ.ร.บ.รฟม.ในประเด็นนี้,นายพงษ์ภาณุกล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2557 ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อยืนยันคุณสมบัติแต่ละราย แต่ยังได้รับคำตอบไม่ครบ ดังนั้น จึงยังไม่สามารถประกาศชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติได้ และยังไม่มีการตัดสิทธิ์ผู้สมัครทั้ง 7 ราย ในขณะที่ได้กำหนดไว้ให้แสดงวิสัยทัศน์ในวันที่ 5 มกราคม 2558 ไว้แล้ว จึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องรอผลตรวจสอบคุณสมบัติ และไม่ถือว่าผิดขั้นตอนแต่อย่างใด ส่วนกรณีกำหนดผู้สมัครต้องไม่เป็นรักษาการผู้ว่าการฯ ในวันสมัครนั้น ไม่ได้กีดกันใครทั้งสิ้น เพราะรักษาการผู้ว่าการฯสามารถลาออกจากรักษาการฯ และมาลงสมัครสรรหาได้โดยไม่ผิดกฎหมายของ รฟม.
|
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.57 มีรายงานข่าวว่า นายรณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร ในฐานะรักษาการ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการ รฟม. 4 คน
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
รณชิต แย้มสอาด,ผู้ว่าการ รฟม.,ยื่นฟ้อง,คณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการ,พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์,เพิ่มศักดิ์ สัจจะเวทะ,สุนทร ทรัพย์ตันติกุล,พิเชษฐ์ คงศรี,ยอดยุทธ บุญญาธิการ
|
https://www.thairath.co.th/news/local/471928
|
กอ.รมน.ชี้แจงเปลี่ยนถังแก๊สชายแดนใต้ จากถังเหล็กเป็นถังคอมโพสิตพลัสเพื่อความปลอดภัย
|
วันนี้ (3 ส.ค.2558) พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่าตามที่ปรากฏเป็นข่าวให้มีการเปลี่ยนถังบรรจุแก๊สชนิดคอมโพสิตพลัสเพื่อป้องกันผู้ก่อเหตุนำถังแก๊สแบบเหล็กไปประกอบระเบิดในพื้นที่ชายแดนภาคใต้นั้น กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าได้จัดประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจและเร่งรัดดำเนินการแล้ว โดยสรุปได้ว่าให้บริษัทผู้ประกอบการนำถังแก๊สคอมโพสิตมาใช้แทนถังเหล็ก โดยการทยอยเปลี่ยนทดแทนตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2558 ถึงวันที่ 30 ก.ย.2559 ซึ่งบริษัท ปตท. พร้อมดำเนินการได้แล้ว ในส่วนของบริษัทอื่นๆ หากไม่สามารถดำเนินการได้ให้ทำบันทึกข้อตกลงมอบหมายให้ผู้ประกอบการรายอื่นดำเนินการแทน และให้ทยอยเรียกคืนถังเหล็กจากผู้บริโภคให้เสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย.2559 และให้มีการควบคุมการเคลื่อนย้ายถังแก๊สเหล็กเข้าและออกนอกจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ให้มีการควบคุมสถานีบริการบรรจุแก๊สและสถานีบริการแก๊สรถยนต์เพื่อไม่ให้มีการลักลอบบรรจุน้ำแก๊สข้ามแบรนด์ และไม่ให้มีการบรรจุแก๊สลงถังแก๊สหุงต้มในสถานีบริการแก๊สรถยนต์ ตั้งแต่ 1 ส.ค.2558 เป็นต้นไปสำหรับคุณสมบัติของถังเหล็กที่ใช้กันทั่วไปจะมีน้ำหนักมาก แข็งแต่เปราะ เคลื่อนย้ายยาก เป็นสนิม อายุการใช้งานอย่างมาก 10-15 ปี แต่ข้อดีคือราคาถูกเมื่อนำมาบรรจุระเบิดด้วยความแข็งแต่เปราะ ตัวถังเองจะกลายเป็นสะเก็ดชั้นดีนอกจากสะเก็ดที่บรรจุภายในการระเบิดจะสร้างความเสียหายวงกว้างส่วนถังแก๊สคอมโพสิตราคาสูงกว่า น้ำหนักเบากว่า ใช้งานได้ 20 ปีขึ้นไป ไม่เป็นสนิม แต่คุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับการระเบิด เคยทดสอบโดยหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด หน่วยเฉพาะกิจอโณทัยพบว่ายิงทะลุแต่ไม่ระเบิด สะเก็ดระเบิดขนาดเล็ก ตัวถังเองเป็นลักษณะฉีกขาด ทำให้การกระจายไม่กว้าง เวลาที่ระเบิดทำงานอาจจะมีอุณหภูมิสูงถึง 3000-5000 องศาเซลเซียส ตัวถังส่วนหนึ่งจะละลายไปก่อน ลดความสูญเสียได้
|
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงการเปลี่ยนถังแก๊สในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อป้องกันการนำไปประกอบระเบิดสร้างความเสียหายในพื้นที่
|
ภูมิภาค
|
##@กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า,ข่าวภูมิภาค,ความไม่สงบชายแดนใต้,จังหวัดชายแดนใต้,ถังแก๊สคอมโพสิต,ทันข่าว 15.00,เปลี่ยนถังแก๊ส##@
|
https://news.thaipbs.or.th/content/4088
|
ดีเอสไอสนธิกำลัง ทบ.-สหรัฐฯจับขบวนการค้ายาเสพติดภาคเหนือ ยึดยาไอซ์ 10 กก.
|
ยาไอซ์ 10 กิโลกรัม เป็นของกลางที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ยึดได้จากรถยนต์ของนายวัฒนา ปานทอง และนายตุ้ย คำวงค์ ที่รับจ้างลำเลียงมาส่งให้กับสายลับที่ห้างค้าปลีกย่านรัตนาธิเบศร์ขณะที่ชุดสืบสวนของกองทัพไทยและตำรวจปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา หรือ ดีอีเอ ได้เข้าจับนายอุ่นเรือน แสงเจริญ นายบุญ ใจแก้ว และ น.ส.นันกานต์ กันศรีธนาพานิช ซึ่งเป็นคนที่นัดดูเงินและนายหน้าติดต่อซื้อขายยาเสพติด ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านรัชดาภิเษกจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่าได้รับค่าจ้างไม่กี่หมื่นบาท ในการลำเลียงยาเสพติดมาจากภาคเหนือ และกระจายสู่ผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่กรุงเทพฯซึ่งระยะเวลาประมาณ 2 เดือนที่เจ้าหน้าที่ได้ติดตามพบว่ามีการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างการขยายผลจับผู้ที่อยู่เบื้องหลังเพิ่มเติม เบื้องต้นแจ้งข้อหา มียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต
|
ดีเอสไอ ร่วมกับกองทัพบกและ ดีอีเอ จากสหรัฐอเมริกา จับขบวนการค้ายาเสพติดเครือข่ายภาคเหนือได้ของกลางยาไอซ์ 10 กิโลกรัม พร้อมผู้ต้องหา 5 คน หลังใช้เวลาติดตามมานานกว่า 2 เดือน
|
อาชญากรรม
|
ดีอีเอ,ดีเอสไอ,ยาเสพติด,รัชดาภิเษก,รัตนาธิเบศร์,สหรัฐ
|
https://news.thaipbs.or.th/content/109546
|
สรรเสริญ ติง นปช. ที่ถูกจับไม่มีสิทธิ์ติดต่อสื่อสารหรือเล่นเฟซบุ๊กได้
|
หลังมีการเผยแพร่รูปการเข้าเยี่ยม นปช. ในเฟซบุ๊ค รวมถึงความเคลื่อนไหวของหน้าเฟซบุ๊คแกนนำบางคน สรรเสริญ ออกมาติงผู้ถูกกล่าวหาไม่มีสิทธิ์ติดต่อสื่อสารหรือเล่นเฟซบุ๊กได้สืบเนื่องจากการมอบตัวของแกนนำเสื้อแดง และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปที่ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี หลังจากนั้นบรรดาเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้เผยแพร่ภาพการควบคุมตัวของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และแกนนำ นปช. ที่มีคนไปเยี่ยมให้กำลังใจ รวมถึงเมื่อวาน (20 พ.ค.) พบถึงความเคลื่อนไหวบนหน้าเฟซบุ๊คของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อนั้น พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) จึงแถลงเมื่อบ่ายวันที่ 21 พ.ค. 2553 ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจ รายละเอียดต่าง ๆ คงต้องถามตำรวจ แต่ตามกฎระเบียบเมื่อถูกควบคุมตัว จะไม่สามารถติดต่อพูดคุย แม้กระทั่งเล่นเครือข่ายสังคมออนไลน์ อย่างเฟซบุ๊กหรือติดต่อกับใครได้ มิเช่นนั้นจะมีประโยชน์อะไรต่อการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะ ผอ.ศอฉ. ก็ได้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วว่า ให้ดำเนินการทุกอย่างด้วยความรอบคอบ ส่วนเรื่องที่ว่าจะมีการอนุญาตให้มีการเข้าเยี่ยมจากบุคคลภายนอกหรือไม่ หรือ ระหว่างที่ถูกควบคุมตัวจะอยู่ในสถานที่ใดนั้น ถือเป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ เพื่อเป็นผลประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวน โฆษก ศอฉ.กล่าว
|
หลังมีการเผยแพร่รูปการเข้าเยี่ยม นปช. ในเฟซบุ๊ค รวมถึงความเคลื่อนไหวของหน้าเฟซบุ๊คแกนนำบางคน สรรเสริญ ออกมาติงผู้ถูกกล่าวหาไม่มีสิทธิ์ติดต่อสื่อสารหรือเล่นเฟซบุ๊กได้ ภาพการเข้าเยี่ยมแกนนำ นปช.
|
การเมือง,ไอซีที
|
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ,สรรเสริญ แก้วกำเนิด,เฟซบุ๊ก
|
https://prachatai.com/journal/2010/05/29675
|
จับแล้ว หนุ่มควงมีดแทงแม่ค้าร้านชำ หลังหนีมาหลับ อ้างไม่รู้ ทำเพราะเมา
|
,จากเหตุการณ์เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 21 ส.ค.62 ที่ผ่านมา มีคนร้ายใช้อาวุธมีดบุกเข้าไปในร้านขายของชำ ทำร้าย นางสมศรี มหาเขต อายุ 62 ปี แม่ค้าร้านขายของชำ ชื่อร้านป้าติ๋ม ตั้งอยู่เลขที่ 143/3 หมู่ 1 ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง ได้รับบาดเจ็บที่คอและมือด้านซ้าย ก่อนคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น,ต่อมาเวลา 17.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.คำพันธ์ ขวัญทอง สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองระยอง พร้อมชุดสืบสวนสืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปนอนพักอยู่ในอาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องพักหลังโรงน้ำแข็ง พีพี ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง จึงนำกำลังไปที่อาคารดังกล่าว พบผู้ต้องหานอนอยู่ จึงเข้าจับกุม ทราบชื่อคือ นายนะธี ทองวันไพร อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 173 หมู่ 2 ต.บ้านใหม่สุขเกษม อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย โดยผู้ต้องหามีสภาพมึนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง เมื่อพบตำรวจมีอาการตกใจกลัว ตำรวจจึงได้สอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และถามว่าเอามีดที่ใช้ลงมือไปทิ้งไว้ที่ใด ผู้ต้องหาบอกว่า ไม่รู้จำไม่ได้และไม่ยอมพูดอะไรมาก นอกจากนี้ข้างตัวพบกระเป๋าสะพาย 1 ใบ ภายในมีเอกสารและขวดเหล้าขาว 40 ดีกรี จำนวน 4 ขวด อีกทั้งพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 สีแดง-ขาว หมายเลขทะเบียน คงม 367 ระยอง ซึ่งเป็นรถที่ใช้ก่อเหตุจอดอยู่ด้วย มีหมวกกันน็อคสีดำ 1 ใบ วางอยู่ในตะกร้าหน้ารถ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นพาตัวผู้ต้องหาไปค้นหาอาวุธมีดในที่เกิดเหตุแต่ไม่พบ ,จากการสอบถาม นายชาญ ทองวันไพร อายุ 60 ปี พ่อของผู้ต้องหา เล่าว่า บุตรชายชอบกินเหล้าขาวเป็นประจำ และจะไปซื้อเหล้าขาวที่ร้านป้าติ๋ม ขณะเกิดเหตุตนไม่ทราบว่า บุตรชายไปก่อเหตุแล้วเข้ามานอนหลับ เนื่องจากตนก็ไปทำงาน บุตรชายเคยทำงานหลายแห่งแต่ทำไม่ทน เดี๋ยวเข้าเดี๋ยวออก ล่าสุดเพิ่งออกจากงาน บางครั้งก็จะมานอนพักกับตนที่ห้องพักโรงน้ำแข็งดังกล่าว บางครั้งก็ไปนอนบ้านแฟน แต่ไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด,เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ที่ทำไปไม่ทราบเนื่องจากเมา และอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุจะพกไว้ในกระเป๋าสะพายเป็นประจำ ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา 2 ข้อ พยายามชิงทรัพย์ผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นในการจับกุม และพกพาอาวุธมีดเข้าไปในเมืองหมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
|
ตำรวจเมืองระยอง บุกรวบหนุ่มขี้เมา ใช้มีดแทงแม่ค้าร้านชำเจ็บ คาห้องพักหลังโรงน้ำแข็ง หลังหนีมาหลับ เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพ อ้างทำเพราะเมา โดนตำรวจแจ้ง 2 ข้อหา หิ้วตัวดำเนินคดี
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
แทงกัน,แทงแม่ค้า,แทงแม่ค้าร้านชำ,หนุ่มขี้เมาแทงแม่ค้า,แม่ค้าร้านชำถูกแทง,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1643051
|
ไทยพาณิชย์ ปรับเพิ่มประมาณการจีดีพีไทยปีนี้ 3.4% ชี้ส่งออกฟื้นตัวชัด
|
เมื่อวันที่ 17 ก.ค. นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุ ได้ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 3.4% จากเดิม 3.3% หลังคาดว่าการส่งออกในปีนี้จะฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป จีน และกลุ่มประเทศ CLMV มีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าส่งออกที่จะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มดังกล่าว ได้แก่ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งมีสัดส่วนราว 30% ของการส่งออกรวม EIC จึงได้ปรับประมาณการการส่งออกของไทยปีนี้เพิ่มเป็น 3.5% จากเดิมที่คาดไว้ 1.5% ในประมาณการครั้งก่อน,อย่างไรก็ตาม กำลังซื้อภายในประเทศยังชะลอตัวจากสภาวะตลาดแรงงานที่ซบเซา และรายได้เกษตรกรที่มีแนวโน้มลดลงในครึ่งปีหลัง โดยประเมินว่า เศรษฐกิจในประเทศช่วงครึ่งปีหลัง จะได้แรงหนุนจากการเดินหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากงบกลางของภาครัฐ ซึ่งจะช่วยให้กำลังซื้อปรับตัวดีขึ้นได้โดยเฉพาะในต่างจังหวัด,ทั้งนี้ธุรกิจส่วนใหญ่ยังคงไม่เพิ่มการจ้างงาน แม้การส่งออกจะขยายตัวได้ดีในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากการฟื้นตัวของการส่งออกนั้นไม่ได้เกิดในส่วนที่ใช้แรงงานมากนัก เช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งออกได้เพิ่มขึ้นมาก แต่กลับมีต้นทุนแรงงานเพียง 4% ของต้นทุนรวม,ขณะเดียวกันภาคธุรกิจยังคงชะลอการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร เช่น การก่อสร้างและการลงทุนในเครื่องมือเครื่องจักร ส่วนหนึ่งมาจากการที่ธุรกิจขนาดใหญ่หันไปลงทุนในรูปแบบของการควบรวมกิจการมากขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยสัดส่วนของเงินลงทุนเพื่อควบรวมกิจการต่อเงินลงทุนระยะยาวทั้งหมดเพิ่มขึ้นจาก 11% มาอยู่ที่ 42% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการเปลี่ยนพฤติกรรมดังกล่าว ทำให้ความต้องการในการใช้ปัจจัยการผลิตใหม่รวมถึงการจ้างงานมีแนวโน้มที่จะขยายตัวน้อยลง,อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังมีความเสี่ยงที่ต้องจับตา 3 ประการ 1.กำลังซื้อครัวเรือนที่ชะลอตัว ทั้งจากรายได้เกษตรกรที่มีแนวโน้มลดลงตามทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และรายได้ครัวเรือนนอกภาคเกษตรที่อาจไม่ได้ถูกปรับขึ้นหากตลาดแรงงานยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งกระทบกับการใช้จ่ายของกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง-น้อยที่มีภาระหนี้ครัวเรือนสูงแล้ว,2.ค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับคู่ค้าบางราย การเคลื่อนไหวของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมามีการแข็งค่าเมื่อเทียบกับบางสกุล เช่น จีน อินโดนีเซีย และเวียดนาม หากเงินบาทยังคงแข็งค่าต่อไป จะทำให้ความสามารถด้านการแข่งขันของสินค้าบางประเภทเสียเปรียบด้านราคา เช่น อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ชิ้นส่วนโทรศัพท์ ยางพารา และข้าว,3.ตลาดการเงินโลกมีความเปราะบางเพิ่มขึ้น ราคาสินทรัพย์ทางการเงินได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งพันธบัตร หุ้น สกุลเงินในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งเงินบาทไทยอาจได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และการเริ่มลดขนาดงบดุลในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ ตลาดการเงินโลกยังมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศที่คาดเดาได้ยาก ทั้งความไม่แน่นอนในการบริหารรัฐบาล และนโยบายต่างประเทศของนายโดนัลด์ ทรัมป์, ความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี และความไม่สงบในภูมิภาคตะวันออกกลาง,การลงทุนภาคเอกชนในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากเอกชนเริ่มขยับขยายการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตใหม่ จากที่ผ่านมาธุรกิจส่วนใหญ่ไม่มีการเพิ่มการจ้างงาน โดยคาดว่าการลงทุนภาคเอกชนปีนี้จะเติบโตได้ราว 1.4% จากไตรมาส 1/60 ที่ติดลบ ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะอยู่ที่ 3.1% โดยการลงทุนภาครัฐจะเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันการขยายตัวของ GDP,นอกจากนี้ได้ปรับประมาณการค่าเงินบาทสิ้นปีนี้ โดยมีแนวโน้มแข็งค่ามากขึ้นเป็น 35.00-35.50 บาท/ดอลลาร์ จากเดิม 36.00-36.50 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงตามความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ในเอเชีย รวมทั้งไทยที่ส่งผลให้เงินทุนเคลื่อนย้ายไหลเข้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของไทยมีแนวโน้มต่ำกว่าคาด ทำให้มีการปรับประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยปีนี้ลงมาอยู่ที่ 1% จากเดิม 1.4%.
|
ไทยพาณิชย์ ชี้ส่งออกฟื้นตัวชัด ปรับเพิ่มประมาณการจีดีพีไทยปีนี้ 3.4% มอง ศก.ในประเทศครึ่งปีหลัง จะได้แรงหนุนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ช่วยกำลังซื้อ ตจว.กระเตื้อง จับตาความเสี่ยงรายได้ครัวเรือน บาทแข็ง และตลาดเงินโลกยังเปราะบาง
|
ข่าว,เศรษฐกิจ
|
ส่งออกฟื้นตัว,ประมาณการจีดีพีปี 60,หนี้ครัวเรือน,กำลังซื้อในประเทศ,ความเสี่ยงเศรษฐกิจไทย,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/business/1007309
|
ครม.เห็นชอบ ยุทธศาสตร์ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ลงทุน 2 ล้านล้านบาท
|
นายชัติชาติ สิทธิพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง 2 ล้านล้านบาท จะเน้นพัฒนาระบบขนส่งทางราง โดยใช้งบประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท หรือ ร้อยละ 80 ของเงินลงทุนทั้งหมด ส่วนที่เหลือร้อยละ 10 จะนำไปพัฒนาระบบขนส่งทางน้ำ ซึ่ง เชื่อมั่นว่า ยุทธศาสตร์นี้จะทำให้การเดินทางเชื่อมต่อยังภูมิภาคต่างๆ คล่องตัวขึ้น และทำให้ต้นทุนการขนส่งของประเทศลดลงและวันที่ 7-10 มีนาคม 2556 รัฐบาลจะจัดนิทรรศการ เพื่อชี้แจงและให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน รวมถึงจะมีเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินโครงการ ช่น รถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง รถไฟฟ้า 10 สาย กรุงเทพ -ปริมณฑล และมอเตอร์เวย์ เชื่อมจังหวัดต่างๆ โดยคาดว่าในสัปดาห์หน้า จะมีการนำเสนอร่างพระราชบัญญัติ ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา จากนั้นเสนอที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ได้ประมาณปลายเดือนมีนาคม
|
คณะรัฐมนตรี เห็นชอบยุทธศาสตร์ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของกระทรวงคมนาคม กรอบการลงทุน 2 ล้านล้านบาท โดยงบประมาณในจำนวนนี้กว่าร้อยละ 80 จะลงทุนในระบบขนส่งทางราง
|
การเมือง
|
ครม.,ยุทธศาสตร์,ระบบขนส่งทางราง,โครงสร้างพื้นฐาน
|
https://news.thaipbs.or.th/content/150221
|
นักข่าวพลเมือง: บ.นิเด็ค อยุธยา ประกาศปิดกิจการลอยแพสหภาพ
|
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2554 ที่ผ่านมา สหภาพแรงงานนิเด็ดประเทศไทย ได้ประชุมร่วมกับประธานกลุ่มผู้ใช้แรงงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและใกล้เคียง นาย อุดม ไกรราช และนาย สมเกียติ ลอยโต รองประธานกลุ่มฯ ณ.ที่ทำการกลุ่มผู้ใช้แรงงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อหาทางช่วยเหลือพนักงานประมาณ 600 คน ของบริษัท นิเด็ค อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด วังน้อย อยุธยา เนื่องจากบริษัทประกาศจะปิดกิจการทั้งหมด และได้มีการโยกย้ายพนักงานบางส่วนไปยังโรงงานต่าง ๆ ของเช่นบริษัท นิเด็ค อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) สาขาโรจนะและบริษัท นิเด็คอีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด. รังสิต ปทุมธานี แต่ยังมีพนักงานอีกประมาณ 200คนที่ทางบริษัท บอกว่าไม่สามารถหาส่วนงานที่เหมาะสมได้ นางสาว ดวงใจ โพธิ์พิฑูรย์ ประธานสหภาพแรงงานฯ เล่าว่า พนักงานที่เหลือส่วนใหญ่เป็นกรรมการ และสมาชิกสหภาพแรงงานทั้งหมด ซึ่งทางบริษัทของกลุ่มนิเด็คไม่อ้างว่ายังหางานที่เหมาะสมให้ ทำไม่ได้ โดยเห็นผลนี้ตนมองว่าอาจเป็นเพราะทางบริษัทไม่ต้องการให้มีสหภาพแรงงานมากกว่า เพราะเหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นกับบริษัท นิเด็คแบริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ระยอง มาแล้ว ในการประกาศเปิดรับสมัครใจลาออกจ่ายค่าชดเชยให้มากกว่ากฎหมายคุ้มครองแรงงาน พอออกยังไม่หมดประกาศปิดกิจการ ส่วนกรรมการสหภาพแรงงานก็ฟ้องขออำนาจศาลเลิกจ้าง ซึ่งไม่ทราบว่าปิดกิจการเพราะเจ๊ง หรือต้องการจัดการกับอะไรกันแน่ นายอุดม ไกรราช ประธานกลุ่มผู้ใช้แรงงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยาฯ กล่าวว่า ทางกลุ่มฯได้ทำหนังสือไปยังกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อให้ภาครัฐเข้าไปตรวจดูเจตนาการกระทำของบริษัท นิเด็คอิเล็คโทรนิคว่า พนักงานที่เหลือส่วนใหญ่เป็นกรรมการสหภาพแรงงานและสมาชิกสหภาพแรงงานทำไมถึงไม่มีส่วนงานที่เหมาะสมหรือเป็นการตั้งใจที่จะไม่ต้องการพนักงานส่วนนี้กันแน่
|
บริษัทนิเด็ค อีเล็คโทรนิคส์ อยุธยา เรียนแบบ NTN นิเด็ค ระยอง ประกาศปิดลอยแพสหภาพแรงงาน บอกหางานที่เหมาะสมให้ทำไม่ได้กว่า 200 คน ประธานกลุ่มตั้งคำถามบริษัทมีปัญหาหรือไม่ต้องการพนักงานส่วนนี้กันแน่
|
คุณภาพชีวิต,แรงงาน,เศรษฐกิจ
|
สหภาพแรงงานนิเด็ดประเทศไทย
|
https://prachatai.com/journal/2011/04/34096
|
รมว.อุตฯคาดเพลิงไหม้โรงงานมาบตาพุด จากสารเคมีรั่วไหลระหว่างปิดซ่อม
|
ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยืนยันว่า จากการตรวจสอบระบบรักษาสภาพแวดล้อม ทั้งน้ำ และสภาพอากาศอยู่ในภาวะปกติ ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด มีอุปกรณ์ตรวจวัดอากศระบบอัตโนมัติ ตลอด 24 ชั่วโมงโดยติดตั้งทั้งภายในนิคมฯและรอบๆนิคม รวมถึงชุมชนที่อยู่ใกล้ด้วย แต่เพื่อความไม่ประมาทก็สั่งให้ตรวจสอบระบบการรักษาความปลอดภัยในทุกโรงงานของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดรมว.อุตสาหกรรม บอกอีกว่า จะต้องตรวจสอบสาเหตุของการระเบิดครั้งนี้ว่าเป็นเพราะโรงงาน บีเอสที อิลาสโตเมอร์ส จำกัด ได้รับรางวัลการดูแลสิ่งแวดล้อมดีเด่นประจำปี 2554 และได้รับรางวัลความปลอดภัยดีเด่น แต่เชื่อว่าสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้ อาจมีจากการรั่วไหลของสารเคมีที่เป็นวัตถุไวไฟ ซึ่งอยู่ระหว่างการปิดซ่อมบำรุงอุปกรณ์รมว.อุตสาหกรรม บอกว่า ทางบริษัฯ ระบุชัดเจนว่าพร้อมรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ โดยขณะนี้ มีผู้เสีนชีวิตแล้ว 12 คน และรักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวน 25คนในจำนวนนี้ 3 คน ยังคงรักษาตัวในห้องผู้ป่วยวิกฤติหรือ ไอซียู พร้อมกันนี้เชื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ และ ประชาชนในพื้นที่
|
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุ สาเหตุเบื้องต้นของเหตุเพลิงไหม้ในนิคมอุตสหากรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง เกิดจากสารเคมีที่เป็นวัตถุไวไฟรั่วไหลระหว่างการปิดซ่อมบำรุงอุปกรณ์ พร้อมกันนี้ยืนยันว่า จากการตรวจสอบสภาพสิ่งแวดล้อมอยู่ในภาวะปกติแล้ว
|
ภูมิภาค
|
บีเอสที,มาบตาพุด,ระยอง,รั่วไหล,สารเคมี,อุตสาหกรรม,โรงงาน
|
https://news.thaipbs.or.th/content/83222
|
แนะนำ 3 แท็บเล็ตยั่วใจให้เสียเงินในช่วง Black Friday
|
ตามปกติในวันศุกร์ช่วงแบล็กฟรายเดย์ของต่างประเทศ จะเป็นวันที่ผู้คนออกมาช็อปปิ้งจับจ่ายหาซื้อของขวัญสำหรับคนในครอบครัว หรือคนที่เป็นที่รัก โดยแต่ละห้างร้านและแบรนด์สินค้าต่างๆ ก็นำเอาโปรโมชั่นที่คิดว่าเด็ดที่สุด ออกมายั่วยวนให้คนต้องควักกระเป๋าซื้อ แน่นอนว่าสินค้าหมวดไอทีก็เป็นที่หมายตาของบรรดานักช็อป เพราะเพิ่งผ่านพ้นช่วงที่ค่ายผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ต่างๆ เปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ไปไม่นาน ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ เลยขอแนะนำ แท็บเล็ต 3 ตัวเด็ดที่ทางเว็บไซต์ Mashable เก็งไว้ว่าจะเป็นดาวเด่นน่าจับตา และจะเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด ในช่วงวันศุกร์ที่จะถึงนี้ด้วย เพื่อเป็นข้อมูลให้คนที่อยากซื้อใช้เอง หรือให้เป็นของขวัญได้ตัดสินใจกันง่ายขึ้น,1. Amazon Fire HDX,หากคุณเป็นคนที่ประทับใจกับประสิทธิภาพของแท็บเล็ต คินเดิล ของอเมซอน ในฐานะที่เป็นอีบุ๊กรีดเดอร์ที่ดีที่สุด แต่ก็อยากใช้เพื่อท่องอินเทอร์เน็ต และใช้เพื่อความบันเทิงด้วย นี่คงเป็นแท็บเล็ตที่ตอบสนองความต้องการของคุณได้กับ Amazon Fire HDX มันต่างไปจากคู่แข่งในตลาด และมันมากับจอภาพแบบ HD ขนาด 8.9 นิ้ว ขนาดเต็มไม้เต็มมือ พลังประมวลผลด้วยโปรเซสเซอร์แบบควอดคอร์ 2.5GHz แรม 2GB กับความจุภายในเครื่อง 16GB พร้อมทั้งบริการคลาวด์สตอเรจที่ไม่จำกัดพื้นที่ของอเมซอน มีกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ,นี่เป็นตัวเลือกแรกสำหรับคนที่ไม่อยากเหมือนใคร ในราคาหมื่นนิดๆ ข้อควรรู้ เมื่อปีที่แล้วบนเว็บไซต์ www.amazon.com เสนอส่วนลดสูงสุด 140 เหรียญสหรัฐฯ ใน 1 วันก่อนถึงแบล็กฟรายเดย์ ดังนั้น คนที่อยากได้ ต้องทำหูตาไวเผื่อว่าจะมีลดราคาอีกรอบจะได้ไม่พลาด,2. Samsung Galaxy Tab S,สำหรับคนที่มีกำลังจ่ายเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย ตัวเลือกที่สมเหตุสมผลคงหนีไม่พ้น Samsung Galaxy Tab S แท็บเล็ตหน้าจอ Super AMOLED ความละเอียด 2560 x 1600 ขนาด 10 นิ้ว เทคโนโลยี Adaptive Display ที่ช่วยปรับปรุงการแสดงผล ให้ดีที่สุดในทุกๆ สถานการณ์ ไม่ว่าผู้ใช้จะใช้งานขณะอยู่กลางแจ้งหรือในที่มืด ก็สามารถรับชมภาพที่สมจริง คมชัด และอ่านสิ่งต่างๆ บนหน้าจอได้ง่ายกว่าเดิม ขณะที่ ตัวเครื่องมีความบางเพียง 6.6 มิลลิเมตร น้ำหนักที่เบาเพียง 467 กรัม มาพร้อมหน่วยประมวลผล 8 คอร์แบบ Exynos 5 Octa (1.9 GHz ควอดคอร์ + 1.3 GHz ควอดคอร์) ความจุภายในเครื่องขนาด 16GB มันเป็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุด กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แถมยังมากับระบบปฏิบัติการใหม่ 4.4.2 Kitkat พร้อมการเชื่อมต่อแบบ WiFi อยู่ได้นานด้วยแบตเตอรี่ ขนาด 7,900 mAh,หากคุณไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ของแอปเปิล หรือระบบปฏิบัติการไอโอเอส ที่เป็นตัวเลือกที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ในราคาค่าตัวที่ 499.99 เหรียญสหรัฐฯ และต้องบอกว่า ซัมซุง เองก็ลดราคาแท็บเล็ตในวันแบล็กฟรายเดย์ลง 100 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับรุ่น 16GB WiFi ใครที่สนใจต้องรีบหน่อย,3. Apple iPad Air 2,สำหรับคนที่เงินไม่ใช่ปัญหา หรือแฟนพันธุ์แท้แอปเปิล ไม่มีเหตุผลอื่นให้ต้องมองข้าม Apple iPad Air 2 ไปได้ นี่คือแท็บเล็ตตัวล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว ถือเป็นตัวเลือกที่ง่ายที่สุดหากต้องการของสักชิ้นที่ทำให้คนได้รับยิ้มออก ด้วยราคาค่าตัวที่เริ่มต้นที่ 499 เหรียญสหรัฐฯ ก็ทำให้ได้แท็บเล็ตทรงประสิทธิภาพไปใช้งานแล้ว ด้วยพลังการประมวลผลของโปรเซสเซอร์ A8X พร้อมจอภาพที่สวยงามแบบเรตินาดิสเพลย์บนจอภาพ (2,048 x 1,536) ความละเอียด 3.1 ล้านพิกเซล บนความบางเพียง 6.1 มม. พร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น Touch ID ที่เพิ่มความปลอดภัยในการยืนยันผู้ใช้งาน หากคุณพร้อมจะจ่ายเพื่อของดีๆ สักชิ้น ก็กำเงินไปซื้อที่วอลมาร์ต 500 เหรียญ หรือ 16,900 บาทสำหรับคนไทย เพื่อซื้อมันไปจากแอปเปิลสโตร์.,ที่มา : ,mashable
|
ไทยรัฐออนไลน์ ขอแนะนำ แท็บเล็ต 3 ตัวเด็ดที่ทางเว็บไซต์ Mashable เก็งไว้ว่าจะเป็นดาวเด่นน่าจับตา และจะเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด ในช่วงวันศุกร์ Black Friday กับ 3 ตัวเลือก 3 ระดับราคา
| null |
แท็บเล็ต,Amazon Fire HDX,Black Friday,Samsung,Galaxy Tab S,Apple,iPad Air 2,ไอแพดแอร์ 2,แอปเปิล,ซัมซุง,ข่าวไอที,แบล็กฟรายเดย์
|
https://www.thairath.co.th/content/465108
|
แบงค์ ธิติ กลับจากญี่ปุ่นแล้ว เผยเข้าตรวจเชื้อ COVID-19 กักตัว 14 วัน
|
หลังจากที่นาดาว บางกอก ได้โพสต์แจ้งมาตรการของบริษัทเกี่ยวกับเชื้อไวรัส COVID-19 โดยได้ให้ข้อมูลเรื่องดังกล่าวกับนักแสดงในสังกัดที่จะเดินทางไปยังที่ประเทศที่เสี่ยงแล้ว และให้นักแสดงแต่ละคนตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะยังคงเดินทางไปตามที่ตั้งใจไว้ หรือยกเลิกการเดินทาง และขอให้งดการรวมพลแฟนคลับนักแสดงในงานอีเวนต์ต่างๆ ในช่วงนี้ พร้อมทั้งชี้แจงถึงกรณีที่นักแสดงหนุ่มหน้าใส แบงค์ ธิติ มหาโยธารักษ์ เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นกับครอบครัว ว่านักแสดงหนุ่มตัดสินใจเดินทางกลับก่อนกำหนดในวันนี้ พร้อมทั้งจะเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดและเฝ้าระวังล่าสุด แบงค์ ธิติ ได้โพสต์ชี้แจงในไอจีส่วนตัวถึงเรื่องดังกล่าว โดยบอกว่า ผมและครอบครัวได้เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่นก่อนกำหนด ขอบคุณทุกๆ คนที่เป็นห่วงนะครับ ตอนนี้ผมและครอบครัวได้เข้ารับการตรวจ COVID-19 อย่างละเอียดตามขั้นตอนของทางโรงพยาบาลพญาไท 2ผมอยากจะขอรับผิดชอบต่อสังคม โดยการ Self Quarantine เป็นเวลา 14 วัน เพื่อคอยเช็กอาการอย่างต่อเนื่อง และลดความเสี่ยงกับคนอื่นๆ เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างมาก ทั้งต่อตัวผมเอง และทางบริษัท นาดาว ผมจึงอยากจะขอโทษลูกค้าทุกๆ ท่านที่โดนผลกระทบ ทั้งงานอีเวนต์ งานโฆษณา กองละคร ที่จำเป็นต้องเลื่อนออกไป และขอโทษแฟนๆ ที่ทำให้เป็นห่วงอย่างมากครับซึ่งหลังจากนั้นก็มีทั้งคนในวงการบันเทิง ตลอดจนแฟนๆ ส่งกำลังใจให้ แบงค์ ธิติ และครอบครัว เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งบอกว่าขอให้ไม่เป็นอะไร ถือซะว่าพักผ่อน และบอกว่าจะซัพพอร์ตเสมอ.
|
แบงค์ ธิติ โพสต์ชี้แจงในไอจีส่วนตัว หลังตัดสินใจเดินทางกลับจากญี่ปุ่นพร้อมครอบครัวก่อนกำหนด ยืนยันเข้าตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19 และเตรียมกักตัว 14 วัน พร้อมทั้งขอโทษทุกคนที่ได้รับผลกระทบ
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
แบงค์ ธิติ,แบงค์ ธิติ มหาโยธารักษ์,ไวรัสโคโรนา,โควิด-19,COVID-19,ข่าวบันเทิง,อินสตาแกรมดารา
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1782120
|
เกิดเหตุลอบวางระเบิดหลายจุด อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ตร.เจ็บ 5 นาย
|
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (31 มี.ค.2559) เกิดเหตุลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ทำให้ตำรวจภูธรยะหริ่งบาดเจ็บ 5 นาย นำตัวส่งโรงพยาบาลยะหริ่ง มีรายชื่อ ดังนี้1.ร.ต.ท.ประภาส สร้อยสุนทร ถูกสะเก็ดได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าและศีรษะ 2.ร.ต.ท.นฤนาท หนูอุไร ถูกสะเก็ดได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนและขา3.ร.ต.ท.นพวงศ์ ชุมแก้ว ถูกสะเก็ดได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนและขา4.ส.ต.ท.เบญจรงค์ แก้วนวน ถูกสะเก็ดได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าและศีรษะ5.ส.ต.ต.ณัฐวุฒิ ศรีพรหมทัศน์ ถูกสะเก็ดได้รับบาดเจ็บบริเวณน่องทั้งนี้ เหตุดังกล่าวมีการลอบวางระเบิดในพื้นที่ต่าง ๆ ดังนี้ จุดที่ 1 หน้าตู้ ATM ธนาคารออมสิน จุดที่ 2 เพิงขายเนื้อวัว ตลาดนัด ริมถนนโกมุท จุดที่ 3 หน้าธนาคาร ธ.ก.ส. จุดที่ 4 ร้านขายน้ำชา ถนนหน้าวัง จุดที่ 5 หน้าร้านขายของชำ ถนนหน้าวัง จุดที่ 6 ทางแยก ถนนหน้าวังล่าสุดในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง สนธิกำลังเข้าปิดกั้นพื้นที่รอบเมืองยะหริ่ง และไม่ให้ประชาชนออกนอกบ้าน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนเพราะอาจมีระเบิดหลงเหลือ และปิดเส้นทางทั้ง 4 มุมเมืองไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องผ่าน เพื่อเร่งตรวจสอบวัตถุระเบิดที่อาจตกค้าง ส่วนการตรวจสอบระเบิดที่ผู้ก่อเหตุลอบนำมาวางส่วนใหญ่พบว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุในท่อเหล็กขนาด 4 นิ้ว น้ำหนัก 8 - 10 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือส่วนความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดรถตำรวจ สถานีตำรวจภูธรจะแนะ จ.นราธิวาส ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 3 นาย ล่าสุดกำลังฝ่ายฝ่ายความมั่นคง เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่หมู่ 6 บ้านบาโงกูโบ ต.บองอ อ.ระแงะ สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน คือ นายพาลิ ยะโก๊ะ จึงได้ส่งตัวไปสอบสวนขยายผล ที่ศูนย์ซักถามค่ายอิงคยุทธ จ.ปัตตานีด้านตำรวจสายตรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ออกตรวจสอบบริเวณหน้าธนาคาร และตู้เอทีเอ็ม ในเขตเทศบาลนครยะลา เพื่อตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย หรือวัตถุระเบิด ซึ่งผู้ก่อเหตุอาจลอบนำมาก่อเหตุในเขตเมือง โดยเฉพาะในวันนี้ ซึ่งเป็นวันสิ้นเดือน จะมีข้าราชการและประชาชนมาใช้บริการตู้เอทีเอ็มเพื่อเบิกเงินเดือนจำนวนมากขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดสงขลาร่วมกันซ้อมแผนรักษาความสงบเรียบร้อยเมืองหาดใหญ่ โดยเป็นการซ้อมแผนเผชิญเหตุพร้อมกัน 2 จุดคือ หน้าห้างไดอาน่าหาดใหญ่ และ บริเวณถนนเสน่หานุสรณ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความตื่นตัว พร้อมรับสถานการณ์
|
กลางดึกที่ผ่านมา (31 มี.ค.2559) เกิดเหตุลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ทำให้ตำรวจบาดเจ็บ 5 นาย
|
ภูมิภาค
|
วางระเบิด,ยะหริ่ง,ปัตตานี,ระแงะ,นราธิวาส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews
|
https://news.thaipbs.or.th/content/251376
|
ทั่วไทยมีฝนมากขึ้น อาจมีน้ำป่าไหลหลากในบางพื้นที่
|
ฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ต้องระวังน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม สาเหตุนั้นมาจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยในช่วงนี้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ทั่วประเทศมีฝนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะด้านตะวันตกของประเทศ ที่เป็นด้านรับลมมรสุม จะมีฝนตกหนัก ในภาคเหนือให้ระวังฝนตกหนักที่จังหวัดตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ส่วนภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งอันดามัน จะมีฝนตกหนักด้วย เมื่อวานนี้ได้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งสิ่งที่ตามมาก็คือน้ำป่า ส่งผลกระทบแล้วในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มีเด็กชาวพม่าเสียชีวิตหนึ่งคนและสูญหายอีกหนึ่งคนจากสถิติน้ำป่าและดินโคลนถล่ม ในภาคเหนือมักเกิดขึ้นช่วงต้นฤดูฝน แต่เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีฝนตกน้อยกว่าค่าปกติถึงร้อยละ 23 ทำให้ไม่มีเหตุน้ำป่าดินถล่มที่รุนแรง แต่ตั้งแต่นี้ไปต้องเฝ้าระวังมากขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคใต้ วิธีการสังเกตว่าอาจเกิดน้ำป่า คือระดับน้ำในแหล่งน้ำเพิ่มขึ้น น้ำเปลี่ยนเป็นสีขุ่น และมีเศษไม้ กิ่งไม้ และดินไหลมากับน้ำนอกจากนี้สำหรับภาคใต้ คลื่นลมในทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
|
น่าจะเป็นข่าวดีของพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง เพราะวันนี้จะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน และการกระจายตัวของฝนที่ทั่วประเทศ แต่จะมีฝนตกหนักบริเวณด้านตะวันตกของประเทศ
|
สังคม
|
ดินโคลนถล่ม,ตะวันตกเฉียงใต้,น้ำป่าไหลหลาก,ปริมาณ,ฝน,มรสุม,เพิ่มขึ้น
|
https://news.thaipbs.or.th/content/174182
|
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.