title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
ปีศาจของกาลเวลา : การรื้อฟื้นงานเสนีย์ เสาวพงศ์ในยุคแสวงหา-ประจักษ์ ก้องกีรติ
แต่เราฝันที่จะเห็นสาย สีมาเป็นพันเป็นหมื่นคน ซึ่งจะลุกขึ้นยืนหยัดต่อสู้กับสิ่งที่เขาเห็นว่าไม่ยุติธรรมด้วยความมั่นใจ… (ยศขณะนั้น) ที่ตนเองมีอำนาจควบคุมอยู่เบื้องหลัง สังคมไทยก็ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เป็นยุคที่น้ำไหลและไฟสว่าง ทว่าสติปัญญาหยุดนิ่งและอับเฉาลงเป็นที่ทราบกันดีว่าจอมพลสฤษดิ์ปกครองสังคมด้วยอำนาจเผด็จการรวมศูนย์เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ปฏิเสธการดำรงอยู่ของสถาบันทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยทั้งหลาย (แม้แต่เปลือกนอก) ประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญ ยุบเลิกรัฐสภาและพรรคการเมืองทั้งหมด และเรียกการปกครองของตนว่า ประชาธิปไตยแบบไทย หรือที่นักวิชาการท่านหนึ่งเรียกว่าระบบ พ่อขุนอุปถัมภ์แบบเผด็จการ นอกจากนั้นคณะปฏิวัติยังได้สั่งปิดหนังสือพิมพ์และนิตยสารหลายฉบับ พร้อมทั้งกวาดล้างจับกุมนักหนังสือพิมพ์ นักเขียน นักการเมือง และบุคคลอีกหลายอาชีพที่เคยมีบทบาทแสดงความคิดเห็นหรือเคลื่อนไหวทางการเมืองในทศวรรษก่อนหน้า อาทิ อุทธรณ์ พลกุล ทองใบ ทองเปาด์ ทนง ศรัทธาทิพย์ อิศรา อมันตกุล สนิท เอกชัย กรุณา กุศลาศัย อุดม สีสุวรรณ เจริญ สืบแสง เทพ โชตินุชิต ประวุฒิ ศรีมันตะ จิตร ภูมิศักดิ์ ฯลฯ คนที่รอดพ้นจากการถูกจับกุมบ้างหลบลงใต้ดิน บ้างก็ลี้ภัยการเมืองอยู่ต่างประเทศ (เช่นกุหลาบ สายประดิษฐ์) บางคนหันไปประกอบอาชีพอื่น (เช่น คำสิงห์ ศรีนอกหรือลาว คำหอม และ สุภา ศิริมานนท์) เปลี่ยนแนวการเขียนจากเดิม หรือไม่ก็ยุติบทบาทการขีดเขียนลงชั่วคราว ในบรรดาคนเหล่านี้มีศักดิชัย บำรุงพงศ์ เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ เจ้าของนามปากกาเสนีย์ เสาวพงศ์ ซึ่งขณะนั้นปฏิบัติราชการอยู่ที่สถานทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินารวมอยู่ด้วยพฤติกรรมที่ทำลายสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของพลเมืองดังที่คณะปฏิวัติทำเป็นเผด็จการอย่างมิต้องสงสัย ไม่มีความชอบธรรมที่ใครจะมาแก้ต่างให้ อย่างไรก็ตาม หากมองพ้นออกไปจากประสบการณ์ของไทย เปรียบเทียบเหตุการณ์นี้กับพฤติกรรมของเผด็จการในลาตินอเมริกาหรืออินโดนีเซียเมื่อขึ้นครองอำนาจที่กวาดล้างสังหารพลเมืองของตนอย่างโหดเหี้ยมแล้ว ต้องนับว่าเสนีย์ เสาวพงศ์ และปัญญาชนไทยท่านอื่นๆ มีชะตากรรมที่ดีกว่า แม้จะทุกข์ทรมานจากการถูกคุมขังในคุก ต้องลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ หรือยุติการเขียนหนังสือ แต่ก็ยังสามารถรอดชีวิตจากอำนาจเผด็จการจะเข้าใจชะตากรรมของปัญญาชนไทยภายใต้อำนาจเผด็จการทหารอย่างไรดีเมื่อศึกษาพฤติกรรมของรัฐเผด็จการไทยในสมัยจอมพลสฤษดิ์ที่ปฏิบัติต่อปัญญาชน พบปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ ซึ่งผู้เขียนอยากจะอธิบายว่ารัฐเผด็จการมิได้มุ่งที่การกำจัดชีวิตของพวกเขาเป็นสำคัญ (มิได้หมายความว่าไม่มีปัญญาชนฝ่ายค้านถูกสังหารเลยในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ดังที่เราทราบกันดีในกรณีของครอง จันดาวงศ์ ทองพันธ์ สุทธิมาศ และรวม วงศ์พันธ์) หากมุ่งจำกัดเสรีภาพมิให้คนเหล่านี้ได้มีโอกาสผลิตงานสู่สาธารณะได้อย่างเปิดเผย ตัดโอกาสและช่องทางไม่ให้ได้สื่อสารทางความคิดกับสังคมเป็นด้านหลัก ซึ่งส่งผลกระทบทางลบต่อพัฒนาการทางภูมิปัญญาของสังคมไทยอย่างลึกซึ้งยาวไกล สารของจอมพลสฤษดิ์ชี้แจงกับประชาชนถึงเรื่องการคุมขังผู้ต้องหาคอมมิวนิสต์ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2503 ดูจะสะท้อนความคิดเบื้องหลังพฤติกรรมของคณะปฏิวัติได้พอสมควร จอมพลสฤษดิ์ชี้แจงว่าตามที่มีการร้องเรียนจากผู้ต้องขังว่าได้ถูกคุมขังนานเกินควร และดูประหนึ่งว่าเป็นการกลั่นแกล้ง ประวิงขังโดยไม่มีกำหนดแน่นอนนั้น ขอให้ประชาชนเข้าใจว่าบุคคลที่เป็นคอมมิวนิสต์มีความฉลาดหลักแหลม เจ้าถ้อยหมอความ รู้จักหลบเลี่ยงกฎหมาย หากจะปล่อยไว้ก็จะก่อกรรมเป็นภัยกับประเทศชาติและประชาชน ฉะนั้น แม้อำนาจของคณะปฏิวัติมิได้ปลิดชีวิตของปัญญาชน แต่ได้ริบผลงานทางปัญญาของพวกเขาให้หายไปจากตลาดหนังสือ พรากพวกเขาออกจากสังคม ทำให้พวกเขาปลาสนาการไปจากพื้นที่สาธารณะที่พวกเขาเคยมีบทบาทอยู่อย่างแข็งขัน ความหวาดกลัวต่ออำนาจมืดยังทำให้นักเขียนจำนวนหนึ่งจำต้องเซ็นเซอร์ความคิดและอำพรางตัวตนด้วย แม้บางคนจะยังคงผลิตผลงานยึดมั่นตามอุดมการณ์ของตน เช่น บรรดานักโทษการเมืองในคุกลาดยาว แต่ก็ผลิตได้ภายใต้ข้อจำกัด คือ มิอาจเผยแพร่ผลงานของตนต่อสาธารณะ ได้แต่เสพและเผยแพร่อ่านกันเองในวงจำกัด ใช้เวลาอีกหลายปีกว่าที่สาธารณชนจะได้สัมผัสงานเหล่านั้น (เช่น บทเพลงและบทกวีจำนวนมากของจิตร ภูมิศักดิ์ ที่แต่งขณะอยู่ในคุก)ทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการทำลายปัญญาชนสาธารณะให้หมดไปจากสังคมไทย ด้วยการแยก ปัญญาชน ออกจาก สาธารณะ โดยอาศัยอำนาจเผด็จการวันเวลาผ่านไป ชื่อเสียงเรียงนามของนักคิดนักเขียนหัวก้าวหน้าพร้อมทั้งผลงานของพวกเขาก็ค่อยๆ เลือนหายไป ไม่เป็นที่รู้จักของคนรุ่นหลัง รัฐเผด็จการทำลายความทรงจำของสังคมลงอย่างแนบเนียน ทำให้คนรุ่นหลังถูกตัดขาดจากอดีต ดังที่ข้อเขียนของ ทวีปวร ที่ตีพิมพ์ในหนังสืออนุสรณ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. 2513 สะท้อนยุคสมัยนั้นไว้ว่า:- บางที คำบรรยายถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐเผด็จการ-นักเขียน-ความทรงจำของสังคม ที่น่าสนใจที่สุดอาจจะปรากฏในข้อเขียนของเสนีย์ เสาวพงศ์ที่เขียนขึ้นต่างกรรมต่างวาระลงคอลัมน์ หยดหนึ่งของกาลเวลา ช่วงปี พ.ศ. 2510-11 นั่นเอง (ขอให้สังเกตชื่อคอลัมน์) ในประเด็นรัฐเผด็จการกับนักเขียน เขาชี้แจงว่ามีเหตุผลหลายประการที่งานประพันธ์ชิ้นหนึ่งๆ จะไม่ปรากฏนามของผู้เขียน อาจจะเพราะความถ่อมตัวของนักเขียน หรือไม่ก็ด้วย สภาพแวดล้อมอาจจะเป็นความปลอดภัยกว่าหากผู้สร้างไม่ปรากฎตัวตนในยุคสมัยที่มีการผูกขาดทางปัญญา สำหรับความคิดต่อเรื่องเวลา เขากล่าวว่าแม้คนเราจะมีปฏิทินเวลาที่ยอมรับร่วมกัน แต่เราแต่ละคนก็ยังสงวนความสำคัญของกาลเวลาอันมีความสำคัญเฉพาะตัวไว้ในความทรงจำ วันเวลาที่ขมวดเป็นเงื่อนไว้ในอารมณ์และสร้างปมไว้ในความรู้สึก ดังนั้นเขาสรุปว่า ชีวิตของคนเรามีค่าอยู่ที่ความหลังอย่างหนึ่งและความหวังอีกอย่างหนึ่ง ความหลังที่ทำไว้ดีย่อมก่อให้เกิดความหวังต่ออนาคตที่กำลังจะมาถึงแต่เราก็พบว่า ในความเป็นจริง สังคมไทยต้องใช้เวลากว่า 1 ทศวรรษหลังการยึดอำนาจของคณะปฏิวัติเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2501 ที่ชีวิตและผลงานของนักเขียนฝ่ายก้าวหน้าจะถูกขุดค้นและรื้อฟื้นกลับขึ้นมาให้คนรุ่นหลังได้สัมผัส เมื่อนั้นเองที่ตัวตนของนักเขียนค่อยๆ เผยออกจากที่กำบังอำพราง อดีตได้เชื่อมต่อกับปัจจุบัน และความหลังได้กลายมาเป็นความหวังอีกครั้งหนึ่งผลงานจากยุค 2490 ทำให้นักศึกษาและปัญญาชนรุ่นหลังพบว่าความคิดต่อต้านท้าทายอำนาจเคยมีในสังคมไทยอยู่แต่เดิม การได้สัมผัสงานเหล่านี้ให้ทั้งรากทางความคิดและแรงบันดาลใจในการต่อสู้ทางการเมืองแก่พวกเขา ในบรรดางานทั้งหมดที่ถูกรื้อฟื้น เป็นไปไม่ได้หากจะไม่กล่าวถึงงานของเสนีย์ เสาวพงศ์ นักเขียน-นักการทูตผู้โด่งดังจากยุคเฟื่องฟูของศิลปะเพื่อชีวิตในทศวรรษ 2490
เราซึ่งเป็นคนรุ่นหลังเองก็กำลังรอกาลเวลาเหมือนกับที่เสนีย์รออยู่ เราไม่เพียงฝันที่จะเห็นสาย สีมา หรือคนแบบเดียวกับเขาเพียงไม่กี่คน ผุดลุกขึ้นมาเพื่อที่จะถูกกระแทกให้ล้มคว่ำลงและถูกลืมเลือนไป
การเมือง
null
https://prachatai.com/journal/2005/07/21258
#NotATarget พระ อิหม่าม โรงเรียน โรงพยาบาล ไม่ควรมีใครตกเป็นเป้าหมายความรุนแรง
#NotATarget #ไม่ใช่เป้าหมาย ย้ำทุกฝ่ายเคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ23 ม.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากเหตุความรุนแรงที่เข้มข้นขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ตั้งแต่เริ่มปีใหม่มา ไม่ว่าจะเป็นกรณีการบุกยิงป้อมชุดรักษาการหมู่บ้านวัดรัตนานุภาพเป็นเหตุทำให้พระภิกษุมรณภาพ การยิงโต๊ะอิหม่ามรือเสาะเสียชีวิตใน จ.นราธิวาส และยิงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครชุดคุ้มครองตำบลประจัน เหตุเกิดที่โรงเรียนบ้านบูโกะจ.ปัตตานี ทำให้มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครเสียชีวิต4ราย รวมไปถึงกรณียึดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกาหนั๊วะ จ.นราธิวาส เพื่อใช้เป็นฐานยิงโจมตีใส่ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) กาลิซา พร้อมจับกุมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลขังไว้เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.61 นั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ในโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเฟสบุ๊คเริ่มมีปฏิกิริยาโดยการโพสต์ภาพ ทั้งผู้นำศาสนา ศาสนสถาน นักเรียน โรงเรียนและโรงพยาบาล พร้อมข้อความว่าNot A Target หรือ ไม่ใช่เป้าหมาย โดยระบุว่า ไม่ควรที่จะมีใครตกเป็นเป้าหมายของความรุนแรง โดยเฉพาะเป้าหมายอ่อน (Soft Target) ไม่ควรที่จะมีใครตกเป็นผู้ต้องสงสัย โดยขาดพยานหลักฐาน ถูกคุมตัวโดยพลการ ไม่ควรที่จะมีใคร ตกเป็นเหยื่อของการซ้อมทรมาน ทั้งทางกายภาพ และจิตใจ โดยให้ได้มาซึ่งข้อมูล และไม่ควรเกิดเหตุบังคับให้บุคคลสูญหาย อีกต่อไปร่วมรณรงค์แคมเปญ Not A Target หรือ ไม่ใช่เป้าหมาย เพื่อสื่อสารไปยังองค์กร หน่วยงาน หรือกลุ่ม ติดอาวุธ ให้ตระหนักถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นผลเสียต่อการทำงานการเมือง และเคารพ กม. IHL หรือ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law) พร้อมร่วมผลักดันให้การแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ / ปาตานี เป็นวาระแห่งชาติ ด้วยการแชร์ภาพ กลุ่มเป้าหมายอ่อน สถานที่ที่ไม่ควรเป็นพื้นที่ของความรุนแรง พร้อมเขียนคำว่า#NotATarget #ไม่ใช่เป้าหมาย
โซเชียลฯ รณรงค์ #NotATarget พระ อิหม่าม ศาสนสถาน ตลาด โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ ไม่ควรมีใครตกเป็นเป้าหมายความรุนแรง ชวนแชร์ภาพกลุ่มเป้าหมายอ่อน สถานที่ที่ไม่ควรเป็นพื้นที่ของความรุนแรง พร้อมเขียนคำ
สิทธิมนุษยชน,ความมั่นคง
กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ,NotATarget,ไม่ใช่เป้าหมาย,ชายแดนใต้
https://prachatai.com/journal/2019/01/80668
พานทองแท้ และพวก รับทราบข้อกล่าวหาฟอกเงินคดีปล่อยกู้กรุงไทย
วันนี้ (18 ต.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจกเอกสารชี้แจงสื่อมวลชนว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร นางเกศินี จิปิภพ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน และนายวันชัย หงษ์เหิน ที่ถูกชี้มูลว่าเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางการเงิน กรณีอดีตผู้บริหารธนาคารกรุงไทยอนุมัติเงินกู้ บมจ.กฤษดามหานคร เข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอแล้วเมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) โดยก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวนมีหมายเรียกไปที่บ้านของทั้ง 4 คน ให้มารับทราบข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ในวันที่ 24 ต.ค.2560สำหรับคดีนี้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีหนังสือถึงดีเอสไอ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2559 โดยส่งข้อมูลและแจ้งผลการยึดอายัดทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิดกรณีผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน อนุมัติสินเชื่อให้แก่ บมจ.กฤษดามหานคร โดยมิชอบ และขอให้ดีเอสไอตรวจสอบบุคคลที่รับโอน หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินอันเป็นทรัพย์สิน 4 คน ที่พบมีการโอนเงินจำนวน 10 ล้านบาท และจำนวน 26 ล้านบาท โดยมิชอบ ซึ่งดีเอสไอได้รับไว้เป็นคดีพิเศษ ต่อมาพนักงานอัยการและพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณาพยานหลักฐานแล้วเห็นชอบร่วมกันว่ามีพยานหลักฐานและให้ดำเนินคดีกับทั้ง 4 คน
นายพานทองแท้ ชินวัตร และพวกรวม 4 คน เข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอแล้วเมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฟอกเงินคดีปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย
การเมือง
ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ฟอกเงิน,พานทองแท้,พานทองแท้ ชินวัตร,คดีปล่อยกู้กรุงไทย,กรุงไทย,ชินวัตร,ปล่อยกู้
https://news.thaipbs.or.th/content/267022
ไม้ไผ่ท่อนเดียว ปมหนุ่มโมโหเดือด ยิงแม่เลี้ยง น้องสาว ดับคาที่ 2 ศพ
เมื่อวันที่ 14 ก.ค.61 พ.ต.ท.มล.กษิภัทร จรูญโรจน์ สว.(สอบสวน) สภ.ตกพรม อ.ขลุง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ หน่วยกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ว่า เกิดเหตุยิงกันบริเวณบ้านเลขที่ 5 ม.3 ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง จ.จันทบุรี มีผู้เสียชีวิต 2 ราย หลังได้รับแจ้ง ได้พร้อมกับ พ.ต.ท.สมชาย ม่วงคำ สารวัตรใหญ่ สภ.ตกพรม, พ.ต.ท.ดร.ธนภัทร กิตติวงษา สวป.สภ.ตกพรม ตำรวจสืบสวน ภ.จว.จันทบุรี, แพทย์เวร รพ.ขลุง ตลอดจนกำลังเจ้าหน้าที่กู้ชีพขลุงมูลนิธิ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ร่วมเดินทางตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุห่างจากถนนเข้ามาอยู่ภายในโรงจอดรถ พบศพของนางเชื้อ พวงผกา อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/3 ม.5 ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง จ.จันทบุรี นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนพื้น สวมเสื้อแขนยาวสีดำ ผ้าถุงสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ดั้งจมูก กระสุนทะลุท้ายทอย 1 นัด ใกล้กันพบศพของ น.ส.มารยาท กระต่ายวงษ์จันท์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/2 ม.3 ต.บ่อเวฬุ สภาพศพนอนหงายเสียชีวิต ขาพาดกับท่อนไม้ไผ่ สวมเสื้อแขนยาวสีเขียว กางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่หน้าผากจำนวน 2 นัด กระสุนทะลุศีรษะด้านหลัง ตรวจสอบในที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านพักที่อยู่ติดกับจุดเกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ตกอยู่ 1 ปลอก จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน,จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ที่ลงมือก่อเหตุคือ นายกวี กระต่ายวงษ์จันท์ อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน และมีตำแหน่งเป็น ผช.ผญบ.(ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน) ฝ่ายรักษาความสงบ หมู่ 3 หลังเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปพร้อมอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ที่ใช้ก่อเหตุ พร้อมกับปืนลูกซองยาวอีก 1 กระบอก หลังรับทราบเบาะแส ทางตำรวจได้วิทยุแจ้งสกัดจับคนร้าย และกระจายกำลังไปตรวจสอบที่สวนและบ้านคนใกล้ชิด,จากการสอบสวนของ พ.ต.ท.มล.กษิภัทร จรูญโรจน์ สว.(สอบสวน) น.ส.นิศาชล อายุ 25 ปี ลูกสาวของ นายกวี มือปืน ได้ให้การว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองอยู่ในบ้าน โดยที่นายกวี บิดา ได้เดินไปที่โรงจอดรถ เพื่อจะขับรถยนต์ออกไปทำธุระ ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียง นายกวี บิดา มีปากเสียงทะเลาะกับ นางเชื้อ ซึ่งเป็นแม่เลี้ยง และมีศักดิ์เป็นย่าของตน และ น.ส.มารยาท น้องสาวเลี้ยง (ลูกติดนางเชื้อ) ที่มีศักดิ์เป็นอา เรื่องที่ นางเชื้อ เอาท่อนไม้ไผ่ไปวางอยู่ในโรงจอดรถ ทำให้ นายกวี ต่อว่าเรื่องกีดขวางการจอดรถ พร้อมกับเอาท่อนไม้ไผ่ไปทิ้ง จากนั้น น.ส.มารยาท ได้กลับไปเอาไม้มาวางไว้ที่เดิม ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายต่างส่งเสียงด่าทอ ขุดคุ้ยเรื่องเก่ามาทวงบุญคุณ,จนทำให้ นายกวี บันดาลโทสะ ชักอาวุธปืนพกสั้นลูกโม่ .38 ที่พกติดตัวออกมาจ่อยิง น.ส.มารยาท จำนวน 2 นัด และหันไปยิง นางเชื้อ แม่เลี้ยง อีก 1 นัด ในระยะเผาขน จนทำให้ทั้ง 2 คน ล้มลงเสียชีวิต ท่ามกลางลูกหลานที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยหลังเกิดเหตุ นายกวี ได้เดินกลับมาที่บ้าน พร้อมกับคัดปลอกกระสุนออกจากลูกโม่ จากนั้นได้เดินเข้าไปหยิบอาวุธปืนลูกซองยาว ประจำตำแหน่ง ผช.ผญบ. ที่อยู่ในบ้าน ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซีบีอาร์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลบหนีไป พร้อมกับตะโกนใส่ลูกหลาน จะไปฆ่าตัวตาย ,ต่อมา พ.ต.ท.สมชาย ม่วงคำ สารวัตรใหญ่ สภ.ตกพรม ได้ประสานญาติสนิทโทรศัพท์ติดต่อให้นายกวีเข้ามอบตัว พร้อมกับได้วิทยุสั่งการให้ตำรวจชุดจับกุมที่ออกติดตาม ถอยห่างออกมาจากสวนผลไม้ พื้นที่ บ้านเซ ท้ายเขื่อนคีรีธาร ต.บ่อเวฬุ ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุไม่ไกลมากนัก หลังสืบทราบว่า นายกวี หลบหนีไปกบดาน โดยล่าสุดได้รับรายงานว่า ทางญาติได้เข้าไปรับ นายกวี พร้อมกับอาวุธปืนของกลาง เพื่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตกพรม เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
โมโหดุ! ผช.ผู้ใหญ่บ้านจันทบุรี ทะเลาะแม่เลี้ยงกับน้องสาว แค่ไม้ไผ่ท่อนเดียวขวางที่จอดรถ บันดาลโทสะ ชัก .38 ยิงดับทั้งคู่ ก่อนขี่ จยย.หนีพร้อมปืน ล่าสุด ญาติเข้าเกลี้ยกล่อม เพื่อพามอบตัว
ข่าว,อาชญากรรม
ยิงดับ 2 ศพ,ยิงแม่เลี้ยง,จันทบุรี,ไม้ไผ่,โมโหเดือด,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1334418
ชาวบ้าน จ.กระบี่ เฝ้าระวังสวนปาล์มหวั่นถูกยึด
เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. หมู่ 7 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ พร้อมอาวุธครบมือ ตั้งจุดสกัดที่บริเวณทางเข้าสวนปาล์มน้ำมันของบริษัทเอกชนที่หมดอายุสัมปทาน เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มเกษตรกรไร้ที่ดินทำกิน 14 จังหวัดภาคใต้เข้ายึดสวนปาล์มน้ำมันชาวบ้านอ้างว่ามีสวนปาล์มน้ำมัน และยางพาราของชาวบ้านจำนวนมากติดกับสวนปาล์มน้ำมันของเอกชน จึงเกรงว่าจะมีการลุกลามเข้ายึดพื้นที่ของชาวบ้าน จนอาจทำให้เกิดความยัดแย้งขึ้นขณะที่ตำรวจภูธรปลายพระยาเตรียมออกหมายจับแกนนำ 3 คน ที่นำชาวบ้านในนามกลุ่มผู้เรียกร้องที่ดินทำกิน จ.กระบี่ กว่า 1000 คน บุกเข้าไปสร้างที่พักชั่วคราวหลายร้อยหลัง ภายในสวนปาล์มน้ำมันบนพื้นที่กว่า 2000 ไร่ ของบริษัท ยูนิวานิช เขต อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ หลังหมดสัมปทานลงเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาตัวแทนกรมป่าไม้อ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จึงไม่สามารถอนุญาตให้บุคคลใดเข้าไปครอบครองได้
ชาวบ้าน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ จัดชุดรักษาความปลอดภัยเฝ้าระวังสวนปาล์มน้ำมัน และสวนยางพาราของตัวเอง เนื่องจากเกรงว่าถูกกลุ่มผู้เรียกร้องที่ดินทำกินเข้ายึดพื้นที่เพราะความเข้าใจผิด
ภูมิภาค
กระบี่,ชาวบ้าน,ปาล์ม,ปาล์มน้ำมัน,ยาง,ยางพารา,สวนปาล์ม,เฝ้าระวัง
https://news.thaipbs.or.th/content/188333
กฤษฎีกา รับ ก.ม.ท้องถิ่นเสร็จไม่ทัน เม.ย.นี้ อ้างวันหยุดเยอะ
เมื่อวันที่ 24 เม.ย.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับ ว่า มีความก้าวหน้า โดยพิจารณาไปแล้ว 87 มาตรา จาก 130 มาตรา แต่ 87 มาตรา ดังกล่าวเป็นไปด้วยความยุ่งยาก เพราะ กกต.ต้องการกำหนดกระบวนการดูแลการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม มีการกำหนดรายละเอียดขั้นตอน และกำหนดข้อห้ามการกระทำต่างๆ ภายในหน่วยเลือกตั้งและบริเวณเลือกตั้งจำนวนมาก ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาจะต้องพิจารณาว่าประเด็นเหล่านี้จะปฏิบัติได้หรือไม่ จะปฏิบัติอย่างไร และมีโทษอะไรที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามคงไม่สามารถเสร็จภายในเดือน เม.ย.ได้ เนื่องจากมีวันหยุดจำนวนมาก,เมื่อถามถึงกรณีกระทรวงมหาดไทยเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ปรับแก้คุณสมบัติผู้ลงสมัครเป็นผู้บริหารในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เคยเกี่ยวข้องกับการทุจริต เพื่อไม่ให้ลงสมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งต่อไป นายดิสทัต กล่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ปรับคุณสมบัติเหล่านี้ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการประมวลเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในเรื่องการกระทำการทุจริตเอาไว้อยู่แล้ว ดังนั้นมันถูกเขียนในร่างกฎหมายตั้งแต่ต้น,นอกจากนี้ นายดิสทัต กล่าวถึงความคืบหน้าการปฏิรูปตำรวจ ว่า คณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ที่มี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานประชุมครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมพิจารณาภาพรวมตำรวจในปัจจุบันทั้งหมดว่า มีภารกิจมากเกินไปหรือไม่ ควรจะลดลงเหลือแค่ไหน จะมีการปรับลดภารกิจของตำรวจลงเฉพาะเท่าที่ควรจะมี นอกจากนี้ในเรื่องอำนาจสอบสวนยังคงอยู่กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เหมือนเดิม เพราะที่ประชุมมองว่าตำรวจมีความเชี่ยวชาญงานสอบสวน ส่วนที่มีข้อเสนอให้แยกงานสอบสวนเฉพาะเรื่องให้กับหน่วยงานต้นสังกัดที่เป็นเจ้าของกฎหมายฉบับนั้นๆ ตรงนี้จะเป็นเรื่องพิเศษที่จะพิจารณาในรายละเอียดภายหลัง ตอนนี้คณะกรรมการฯ จะพิจารณาภารกิจหลักของตำรวจคือ การบังคับใช้กฎหมายในส่วนที่เกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อยและการมีโทษทางอาญาก่อน.
กฤษฎีกา รับ ก.ม.ท้องถิ่นเสร็จไม่ทัน เม.ย.นี้ ชี้เหตุวันหยุดเยอะ แจงกำหนดคุณสมบัติต้องห้ามนักการเมืองท้องถิ่นใหม่ เพื่อสอดคล้อง รธน. เผยคงงานสอบสวนอยู่กับ สตช.
ข่าว,การเมือง
ดิสทัต โหตระกิตย์,เลขาฯกฤษฎีกา,กฤษฎีกา,กฎหมายท้องถิ่น,เลือกตั้งท้องถิ่น,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1264114
ผู้นำฝ่ายค้าน ขอ รบ.เคร่งครัด บริหารงบฯ สู้โควิด-19 ตอก ยังไม่เห็นแผน
ผู้นำฝ่ายค้าน เสนอ รบ.ต้องเคร่งครัด บริหารงบประมาณ และใช้เงินอนาคตของ ปชช.อย่างมียุทธศาสตร์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด เหน็บ ตอนนี้ยังไม่เห็นแผนดังกล่าว ต่างจาก สิงคโปร์วันที่ 8 เม.ย. นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ ยืนยัน ฝ่ายค้านจะเฝ้าติดตามการทำงานของรัฐบาล ในการต่อสู้กับโควิด-19 ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่กำลังคุกคามโลกและประเทศไทย โดยชี้ให้เห็นว่า ตนเองยังไม่เห็นแผนการใช้งบประมาณ ช่วยพี่น้องประชาชนอย่างไร จากผู้นำไทย ต่างกับผู้นำสิงคโปร์วันนี้เรามีโจทย์ใหญ่สำคัญ 2 ประการที่ กำลังคุกคามโลกและประเทศไทย คือ 1) วิกฤติ โควิด-19 การติดเชื้อและความเจ็บป่วยที่กำลังก่อผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพของผู้คนทั้งโลกอย่างรุนแรง รวดเร็ว การขยายตัวในปริมาณและพื้นที่ในวงกว้างระดับโลก จนคาดเดาไม่ได้ว่า รัฐบาลแต่ละประเทศจะสามารถจัดการและประคับประคองสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ให้ประชาชนในประเทศของตนเผชิญอันตรายและสูญเสียน้อยที่สุดได้อย่างไร 2) วิกฤติ เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการระบาดของไวรัส โควิด-19 อันเป็นผลที่ตามมาและจะก่อผลสะเทือนที่ขยายวงกว้างไปทั้งโลก สถานการณ์เศรษฐกิจของแทบทุกประเทศไม่สามารถดำเนินไปในทิศทางเดิมได้อีก เกิดปัญหาตามมาเป็นลูกโซ่ ทั้งปัญหาแรงงาน การยุติการลงทุน การท่องเที่ยว การเดินทางสื่อสารระหว่างกันของประชาชนมีแนวโน้มว่าจะก่อให้เกิดวิกฤติที่ทับซ้อนเข้ามาคุกคามประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยด้วยวิกฤติทั้งสองนี้ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงโลกครั้งใหญ่ และมีผลกระทบต่อทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกชนชั้น มากเกินกว่าจะคาดคิด หากรัฐบาลหรือผู้นำประเทศใดไม่มีศักยภาพมากเพียงพอที่จะสามารถกอบกู้วิกฤติครั้งนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ ผลที่ติดตามมาจะส่งผลเสียหายต่อประชาชนในประเทศนั้นอย่างรุนแรงยิ่งสถานการณ์ดังกล่าว คือ ข้อท้าทายภาวะการนำที่มีศักยภาพ ที่ไม่ใช่เพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแต่เพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นการทดสอบวิสัยทัศน์ การคิดเชิงยุทธศาสตร์ในอนาคตว่า ผู้นำมีความสามารถในการนำความรู้ด้านการบริหาร ประสานกับความรู้เฉพาะทางจากวิชาชีพที่เชี่ยวชาญ การจัดการงบประมาณและทรัพยากรทุกด้านที่จำเป็น มีความเป็นผู้นำที่สามารถสื่อสารอย่างน่าเชื่อถือในสถานการณ์ฉุกเฉิน และสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในประเทศของตนอย่างไรจากวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ เราได้เห็นความโดดเด่นในการแก้ไขปัญหาของผู้นำหลายประเทศ ที่แสดงถึงศักยภาพการบริหารประเทศภายใต้ภาวะวิกฤติ ซึ่งมีความชัดเจน เด็ดขาด ตรงไปตรงมา มองเห็นภาพรวมทั้งระบบในการแก้ไขปัญหา ทำให้คนทั้งประเทศมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจ สามารถทำให้ผู้คนพร้อมที่จะมีส่วนร่วมกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่กำลังเผชิญผู้นำประเทศต่างๆ ทั่วโลก กำลังก้าวเข้าสู่บททดสอบสำคัญ ถึงความสามารถในการบริหารประเทศยามวิกฤติ และต่างกำลังพยายามใช้ทุกวิถีทางในการบริหารจัดการประเทศของตน ให้ก้าวพ้นปัญหา และเลือกใช้มาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ และร่วมประคับประคองประเทศให้พ้นวิกฤติผมขอยกตัวอย่างประเทศใกล้บ้านเราอย่าง เช่น สิงคโปร์ วันนี้เขารับมือกับวิกฤติโดยบริหารงบประมาณของประเทศ จำนวนมากถึง 3 หมื่นกว่าล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำมากระตุ้นและเตรียมรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น โดยมุ่งรับมือกับความถดถอยทางเศรษฐกิจของโลก ที่กำลังจะมาถึง และเตรียมรับมือกับวิกฤติที่เป็นผลกระทบจากการระบาดที่ร้ายแรงของ โควิด-19 โดยใช้นโยบาย 3 ประสาน คือ นโยบายการเงินการคลัง นโยบายสาธารณสุข ที่สู้กับการระบาดของโรค และนโยบายการช่วยเหลือดูแลหน่วยธุรกิจต่างๆ ทุกระดับของประเทศ พร้อมกับการประคับประคอง เยียวยาประชาชนและคนยากคนจนของสิงคโปร์ให้อยู่รอดได้ นั่นเพราะเขาให้ความสำคัญกับทรัพยากรมนุษย์ในฐานะที่เป็นพลังสำคัญสำหรับการฟื้นฟูและผลักดันให้ประเทศกลับคืนสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว ด้วยการใช้ศักยภาพและทรัพยากรที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเท เตรียมรับมือและฟื้นฟูประเทศ เพื่อเตรียมก้าวเข้าสู่บริบทใหม่ทางเศรษฐกิจของโลกในอนาคตอันใกล้ที่กำลังจะมาถึงอย่างไรก็ตาม สถานการณ์สร้าง ผู้นำ ฉันใด สถานการณ์ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความล้มเหลวของ ผู้นำ ได้ฉันนั้น เมื่อมองกลับมาที่สถานการณ์ของประเทศไทยเราในวันนี้ จึงเป็นบททดสอบสำคัญต่อ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ว่ามีศักยภาพเพียงพอในการเป็นผู้นำในยามวิกฤติหรือไม่ และจะสามารถนำพาประเทศของเราให้ก้าวข้ามพ้นวิกฤติได้หรือไม่ อย่างไร ซึ่งผมได้เคยบอกกล่าวไปแล้วว่าในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน เราพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลอย่างเต็มที่หากแต่วันนี้ เรายังไม่เห็นถึงความชัดเจนของรัฐบาล ในนโยบายสำคัญด้านการเงินการคลัง ว่า มีแผนจะจัดการ ปรับเปลี่ยนการใช้งบประมาณปี 2563 อย่างไร เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติทั้งทางชีวิต สุขภาพ การป้องกันตนเอง และการเร่งเยียวยาชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อย ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก รวมทั้งหน่วยเศรษฐกิจ บริษัท ห้างร้านในระดับต่างๆ ที่ต้องมีมาตรการการดูแลไม่ให้เสียหายมากจนเกินไป เพราะส่งผลผูกพันกับพนักงาน แรงงานจำนวนมหาศาล รวมถึงกลุ่มเกษตรกรในภาคการผลิต ที่ขาดการดูแลและประกันรายได้ รัฐบาลควรมีแผนการเตรียมความพร้อมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในมิติต่างๆ ของประเทศ คู่ขนานไปกับการแก้วิกฤติสุขภาพ โดยควรกำหนดทิศทางให้ชัดเจนว่า จะมีนโยบายเตรียมพร้อมเศรษฐกิจของประเทศในทุกภาคส่วนอย่างไร เพื่อให้ประชาชนเห็นแนวโน้มและจังหวะก้าวของชีวิตในอนาคต พร้อมกับการเตรียมการรับมือเศรษฐกิจครัวเรือนของตนอย่างมีความหวังนอกจากผมจะยังไม่เห็นความชัดเจนในการปรับงบประมาณปี 2563 แล้ว ผมยังมีความเป็นห่วงต่อการที่รัฐบาลเตรียมการจะขอออกพระราชกำหนดสำคัญทางการเงิน โดยเฉพาะพระราชกำหนดกู้เงิน ซึ่งหากไม่มีการจัดการที่มีคุณภาพ เราอาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการนำเงินเก็บก้อนใหญ่อันเป็นเงินในอนาคตของประเทศ มาใช้อย่างขาดหลักประกัน ผมพร้อมสนับสนุนหากรัฐบาลนำเงินจำนวนนี้ไปใช้ในการแก้ไขปัญหาของประเทศและพี่น้องประชาชนอย่างมีแผน อย่างเป็นระบบ ครบถ้วนรอบด้าน ทั่วถึง และโปร่งใส อันจะเป็นผลต่อการเยียวยาชีวิตให้กับคนไทยทุกชนชั้น ทั้งแผ่นดินแต่วันนี้ ผมยังไม่เห็นแผนการใช้งบประมาณที่ชัดเจนเลยครับผมขออนุญาตส่งเสียงเตือนรัฐบาลอย่างจริงจัง เพราะนี่คือ เรื่องสำคัญอย่างยิ่งของประเทศผมอยากเห็นการบริหารประเทศ ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันเวลาและเท่าทันสถานการณ์ไม่อยากเห็นการบริหารงาน ที่ไร้ทิศทาง ไร้ยุทธศาสตร์ ทำลายอนาคต ทำลายโอกาสของประเทศ และทำลายความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องประชาชน ผมและพรรคร่วมฝ่ายค้าน รวมทั้งประชาชนคนไทยจะเฝ้าติดตามการบริหารงานของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิดและหวังว่าเสียงสะท้อนของพวกเรา จะนำไปสู่การสร้างการมีส่วนร่วม ที่รัฐบาลพึงรับฟัง เพื่อให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ ไปได้อย่างดีสมพงษ์ อมรวิวัฒน์หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร8 เมษายน 2563
ผู้นำฝ่ายค้าน เสนอ รบ.ต้องเคร่งครัด บริหารงบประมาณ และใช้เงินอนาคตของ ปชช.อย่างมียุทธศาสตร์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด เหน็บ ตอนนี้ยังไม่เห็นแผนดังกล่าว ต่างจาก สิงคโปร์
ข่าว,การเมือง
โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรนา,สมพงษ์ อมรวิวัฒน์,ผู้นำฝ่ายค้าน,เพื่อไทย,แผนใช้งบประมาณ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1814984
อส.ทหารพราน โรมรันพันตูสู้งูเหลือมเขมือบไก่ชน ก่อนจับปล่อยคืนธรรมชาติ
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านอาสาสมัครทหารพราน สมบูรณ์ ยาระศรี อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ 5 บ้านโคกกลาง ตำบลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร หลังรับแจ้งว่าเจ้าของบ้านได้จับงูเหลือมขนาดใหญ่ที่เลื้อยเข้ามากินไก่ชนที่เจ้าของบ้าน เลี้ยงเอาไว้ภายในเล้าไก่ติดกับดอนปู่ตาประจำหมู่บ้าน,ที่เกิดเหตุเป็นเล้าไก่ติดกับดอนปู่ตาประจำหมู่บ้าน พบงูเหลือมขนาดใหญ่ถูกจับไว้ในกรง ความยาวลำตัว 3.50 เมตร น้ำหนักกว่า 20 กิโลกรัม ขณะที่ชาวบ้านช่วยกันจับงูออกมาจากกรง งูเหลือมตัวดังกล่าวได้สำรอกไก่ชน 1 ตัวที่กินเข้าไปออกมากองกับพื้น ,อาสาสมัครทหารพรานสมบูรณ์ เจ้าของไก่ชนที่ถูกงูเหลือมกิน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาตนได้ยินเสียงไก่ร้องผิดปกติจึงรีบนำไฟฉายไปส่องดูที่เล้าไก่ที่อยู่ติดกับดอนปู่ตาประจำหมู่บ้าน และพบว่ามีงูเหลือมขนาดใหญ่กำลังกินไก่ชนของตนเข้าไปจำนวน 1 ตัว ตนจึงพยายามเข้าไปจับด้วยมือเปล่า แต่งูเหลือมตัวดังกล่าวก็พยายามจะเลื้อยหนี โดยตนใช้เวลาอยู่ประมาณ 30 นาที จึงจับได้ก่อนจะนำไปใส่กรงเหล็กเอาไว้เพื่อเตรียมนำกลับไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป,เจ้าของไก่ชนที่ถูกงูเหลือมกิน กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยพบว่ามีไก่ชนของตนที่เลี้ยงเอาไว้หายไปหลายตัว และตนเชื่อว่าต้องเป็นงูเหลือมอย่างแน่นอนที่เข้าไปลักกินเนื่องจากพบร่องรอยว่าเป็นงูอย่างแน่นอนจนกระทั่งวันนี้มาพบตัวจึงจับไปปล่อยในที่ปลอดภัยต่อไป.
อส.ทหารพรานวัย 53 ปีที่ยโสธร เข้ายื้อยุดโรมรันพันตูสู้กับงูเหลือมไซส์บิ๊กยาว 3.5 เมตร ขณะแอบเขมือบไก่ชนใกล้ดอนปู่ตาหมู่บ้านในเล้า 1 ตัวช่วงเช้ามืด ก่อนจะลากมาขังในกรงรอปล่อยคืนธรรมชาติ
ข่าว,ทั่วไทย
งูเหลือมกินไก่ชน,อาสาสมัครทหารพราน,ยโสธร,จับงูเหลือม,อ.คำเขื่อนแก้ว,โรมรันพันตู,ดอนปู่ตา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1600548
เปิดโพสต์ เซนติเมตร วันส่งท้ายปีเก่า กับความตั้งใจในปี 2019 ก่อนเสียชีวิต
จากกรณี นายจตุรภัทร เข็มนาค หรือ เซนติเมตร พิธีกรรายการดัง ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยรถยนต์ที่เซนติเมตรนั่งมาชนกับรถอีกคันจนตกคลอง จมน้ำนานหลายนาที อาการโคม่า ก่อนเสียชีวิต เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. ของวันนี้ (3 ม.ค.) ส่วนเพื่อนอีกคน คือ นายศุภกิจ เกิดซ้ำ อายุ 30 ปี ชาว กทม. หรือ โจ้ ผู้จัดการ เน๊กซ์ ทู นอร์มอล ร้านมัลติแบรนด์ในเครือเซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป ซึ่งนั่งมาด้วยกัน เสียชีวิตที่โรงพยาบาล เหตุเกิดบริเวณสะพานข้ามคลองชลประทานทางเข้าวัดอุโมงค์ ถ.คันคลองชลประทานเชียงใหม่ 700 ปี ต.สุเทพ ในตัวเมืองเชียงใหม่ เมื่อเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ของคืนวันที่ 2 มกราคม 2562 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น,ทั้งนี้ นายจตุรภัทร หรือ ,เซนติเมตร, ได้โพสต์ข้อความไว้ในเฟซบุ๊ก เมื่อวันส่งท้ายปีเก่า เมื่อ 31 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยระบุถึงความตั้งใจที่จะปรับปรุงตัวเองในเรื่องการมาสาย เพื่อไม่ให้กระทบกับงาน ทั้งยังบอกด้วยว่า ปี 2561 เป็นปีที่ทุกอย่างเกิดขึ้นเยอะมาก ทั้งร้ายสุดๆ ดีมากๆ แต่ส่วนตัวถือว่าโอเค เพราะตัวเองเป็นคนที่อยู่กับปัจจุบัน และถ้าทำอะไรไม่ดีไว้กับใคร ก็ขอโทษด้วย.,,- ,สุดยื้อ เซนติเมตร พิธีกร ล้นตู้ เสียชีวิตแล้ว รถชนตกคลองที่เชียงใหม่,- ,หลับให้สบายนะ เพื่อน-แฟนคลับ โพสต์อาลัย เซนติเมตร,- ,ญาติเศร้า รับศพ เซนติเมตร กลับบ้านเกิด บำเพ็ญกุศล,- ,เผยภาพวงจรปิด นาทีชน ก่อนซีอาร์วีพุ่งตกน้ำ เซนติเมตร กับเพื่อนดับ (คลิป)
เปิดโพสต์ เซนติเมตร วันส่งท้ายปีเก่า บอกเป็นปีที่มีทั้งเรื่องดี และร้าย แต่ก็โอเค เพราะเป็นคนที่อยู่กับปัจจุบัน และความตั้งใจที่จะปรับตัวในปี 2019 ก่อนมาเสียชีวิต
ข่าว,สังคม
เซนติเมตร,รถตกคลอง,เชียงใหม่,โพสต์สุดท้าย,ความตั้งใจปี 2019,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1460498
วิษณุ แย้ม ไม่มีประชามติรอบ 3
เมื่อวันที่ 11 ก.ย.58 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการทำประชามติว่า ความจริงในรัฐธรรมนูญชั่วคราว ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมถือว่าชัดเจนแล้ว ให้ยึดเสียงข้างมากของผู้ออกมาใช้สิทธิ์ คงไม่ต้องแก้ไขอะไร แต่ถ้ามีประเด็นอื่นจำเป็นต้องแก้ ก็จะแก้ผสมไปด้วยเพื่อให้เกิดความชัดเจน หลังจากวิพากษ์วิจารณ์กัน และถ้าต้องแก้คือคำถามที่ใครๆ ชอบถามว่า หากทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 ไม่ผ่านจะทำอย่างไร เพราะไม่ควรมีการทำประชามติครั้งที่ 3 อีก เพราะถ้าทำอีก จะมีคำถามตามมาว่า ใจคอจะเสียเงิน 3 พันล้านบาทไปเรื่อยๆ หรืออย่างไร ประเทศเราไม่ได้รวยขนาดนั้น,เมื่อถามว่า ถ้าประชามติไม่ผ่าน เป็นไปได้หรือไม่ ให้หยิบรัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่งมาเป็นตัวตั้ง นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นไปได้ จะได้ว่าเสร็จเลยทีเดียว เพราะเมื่อไม่มีการทำประชามติอีก ก็ต้องมีมาตรฐานอะไรสักอย่างออกมา เพื่อตอบประชาชนได้ว่าทำไมไม่ทำประชามติ ส่วนจะหยิบมากี่ฉบับนั้น เวลานี้ยังตอบไม่ได้,เมื่อถามว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรก กำหนดห้าม กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 2 ปี ในส่วนของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญต้องกำหนดห้ามเช่นเดียวกันหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช้ต้องคุณสมบัติเดียวกัน ตามที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดให้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่าห้ามคนร่างดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2 ปี จึงกลายเป็นภาระของคนที่ร่างรัฐธรรมนูญต้องเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับถาวร และฉบับที่ กมธ.ยกร่างฯ ได้ร่างขึ้นก็ได้เขียนกำหนดไว้ แต่เมื่อร่างไม่ผ่านผู้ที่เป็นกมธ.ยกร่างฯ ก็ถือว่าไม่ถูกห้าม เพราะร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน
วิษณุ แย้มไม่มีประชามติรอบ 3 หากร่างรธน.ฉบับ 2 ไม่ผ่านอีก เผย เตรียมแก้รธน.ชั่วคราว หยิบ รธน.ฉบับหนึ่งขึ้นตั้ง ส่วน คกก.ยกร่างฯ ต้องเว้นวรรคการเมือง 2 ปี
null
วิษณุ เครืองาม,การทำประชามติ,ทำประชามติรัฐธรรมนูญ,ร่างรัฐธรรมนูญ,แก้รัฐธรรมนูญ,คณะกมธ.ยกร่างฯ,เว้นวรรคการเมือง 2 ปี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/524571
ผู้ค้าเชื่อเปลี่ยน ถังแก๊สเหล็ก เป็น คอมโพสิตพลัส ไม่ช่วยลดบึ้มใต้
วันนี้ (30 ม.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงงานบรรจุแก๊สหุงต้มเกือบทุกแห่งใน จ.ยะลา ยังคงบรรจุแก๊สใส่ถังที่ทำจากเหล็ก แม้กองทัพภาคที่ 4 จะมีคำสั่งห้ามนำถังแก๊สเหล็กขนาด 15 กิโลกรัม รวมทั้งขนาดเล็กกว่านั้น เข้ามาใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษ ปรับไม่เกิน 40000 บาท จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่ได้เปลี่ยนถังแก๊สเหล็กมาเป็นถังคอมโพสิตพลัสนายบรรหาร ประจักษ์เลิศวิทยา ผู้ประกอบการจำหน่ายถังแก๊สหุงต้ม กังวลว่า คำสั่งเร่งด่วนดังกล่าวจะกระทบต่อผู้ใช้และผู้ประกอบการ เนื่องจากชาวบ้าน ร้อยละ 80 เลือกใช้ถังแก๊สเหล็ก ที่บรรจุแก๊สได้ 15 กิโลกรัม ขณะที่ถังแก๊สคอมโพสิตพลัส บรรจุได้เพียง 11 กิโลกรัม ทำให้ต้องเปลี่ยนถังแก๊สบ่อยขึ้นและไม่สะดวก รวมถึงมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม พร้อมเสนอให้รัฐออกมาตรการจูงใจในการเปลี่ยนถังแก๊ส เช่น การเพิ่มถังแก๊สคอมโพสิตพลัสให้ชาวบ้านอีก 1 ถัง หากนำถังเหล็กไปเปลี่ยนแก๊ส อย่างไรก็ตาม ไม่เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะป้องกันเหตุลอบวางระเบิดได้ เพราะผู้ก่อเหตุสามารถดัดแปลงวัสดุอีกหลายชนิด เพื่อนำมาประกอบระเบิดแทนถังแก๊สส่วนผู้ประกอบการจำหน่ายถังแก๊สหุงต้ม จ.นราธิวาส กล่าวว่า นโยบายดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ เนื่องจากไม่มีเงินซื้อถังแก๊สใหม่ ขณะที่ผู้ประกอบการร้านค้าและร้านจำหน่ายอาหาร ก็ต้องนำแก๊สมาเปลี่ยนปล่อยขึ้น เพราะถังแก๊สคอมโพสิตพลัสบรรจุได้ 11 กิโลกรัม ทำให้ร้านอาหารบางแห่งสามารถใช้แก๊สเพื่อปรุงอาหารจำหน่ายได้ 7 วันเท่านั้น
ผู้ประกอบการจำหน่ายแก๊สหุงต้ม จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส ระบุคำสั่งเปลี่ยนถังแก๊สหุ้งต้มที่ทำจากเหล็กมาเป็นถังคอมโพสิตพลัส ไม่สามารถป้องกันเหตุระเบิดได้ หวั่นผู้ประกอบการและชาวบ้านมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
ภูมิภาค
ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,จังหวัดชายแดนใต้,ระเบิด,3จังหวัดชายแดนใต้
https://news.thaipbs.or.th/content/259895
เพจ หมาเฝ้าบ้าน เปิดชื่อ ประวิตร โผล่ดูงานต่างประเทศ 48 ล้านในฐานะที่ปรึกษากรมอุทยานฯ
เพจ ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน เปิดรายชื่อ พล.อ.ประวิตร โผล่ดูงานต่างประเทศ เยอรมนี บราซิล และอาร์เจนตินา ในฐานะที่ปรึกษากรมอุทยานแห่งชาติฯ งบกว่า 48 ล้าน13 มิ.ย.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (12 มิ.ย.2562) เฟสบุ๊คเฟนเพจเปิดเผยข้อมูลเอกสาร ระบุว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ปรากฎในทัวร์นอก 48 ล้าน ระบุว่า เอกสารดังกล่าวเป็นรายชื่อที่ปรึกษากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่เดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศ ในโครงการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการสัตว์ป่าและการจัดการท่องเที่ยวในพื้นที่คุ้มครองอย่างยั่งยืนย้อนไปเดือนเมษายน 2557 คณะที่ปรึกษากรมอุทยานแห่งชาติฯ จัดทริปใหญ่ออกศึกษาดูงานที่ประเทศเยอรมนี บราซิล และอาร์เจนตินา ช่วงวันที่ 1-14 เม.ย. 2557 ซึ่งทริปนี้ใช้งบประมาณจากเงินรายได้ของอุทยานแห่งชาติฯ ขออนุมัติไปทั้งสิ้น 48400000 บาท รายงานระบุว่า ตอนแรกตั้งของบประมาณไป 65 ล้าน ก่อนลดมาเป็น 50 ล้าน จนได้รับอนุมัติที่ 48.4 ล้านบาท เดิมทีกำหนดการประเทศแรกที่จะไปคือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ต่อมาเปลี่ยนเป็นเยอรมนี พร้อมกับเปลี่ยนกำหนดการจากเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม เป็นเดือนเมษายนทั้งนี้ รายชื่อบรรดาที่ปรึกษาที่ยกคณะกันไปพบเป็นนายทหารและนายตำรวจยศใหญ่เพียบ ทั้งคณะมีจำนวน 35 คน เดินทางไปจริง 28 คน ซึ่งบรรดานายพลตามรายชื่อส่วนใหญ่เป็นกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ที่ พล.อ. ประวิตร เป็นประธาน และรายชื่อลำดับที่ 1 ในทริปนี้ก็คือ พล.อ.ประวิตรขณะที่วันนี้ เพจดังกล่าวโพสต์เอกสารที่เป็นบันทึกพาคณะปรึกษากรมอุทยานฯ กลุ่ม พล.อ.ประวิตรทัวร์เยอรมัน บราซิล อาร์เจนตินา ใช้เงินรายได้อุทยานฯ เบา ๆ 48 ล้าน ขนบรรดานายพลไปศึกษาการอนุรักษ์อุทยานและบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวก็นับว่าคุ้มค่า พร้อมทั้งท้ายว่ามีต่อตอนต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อปี 2559 พล.อ.ประวิตร เคยมีประเด็นที่จับตาเรื่องเช่าเหมาลำเครื่องบินไปฮาวาย ซึ่งใช้งบประมาณจำนวนมากจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม แต่อย่างไรก็ตามต่อมาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่าคดีการเช่าเครื่องบินเหมาลำของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ไปประชุมที่รัฐฮาวายประเทศสหรัฐอเมริกา คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2560 แล้ว เห็นว่าพยานหลักฐานจากการแสวงหาข้อเท็จจริงประกอบการรายงานการตรวจสอบของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไม่ปรากฏว่ามีการกระทำผิดระเบียบแต่อย่างใด จึงมีมติไม่รับไว้ดำเนินการไต่สวนตามระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช.
เพจ ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน เปิดรายชื่อ พล.อ.ประวิตร โผล่ดูงานต่างประเทศ เยอรมนี บราซิล และอาร์เจนตินา ในฐานะที่ปรึกษากรมอุทยานแห่งชาติฯ งบกว่า 48 ล้าน 13 มิ.ย.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (12
การเมือง
ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,เที่ยว
https://prachatai.com/journal/2019/06/82940
สหรัฐฯ เตือนชาวอเมริกันในอิรักอพยพ หวั่นเขื่อนแตกในเมืองโมซูล
สาเหตุจากที่เคยขาดช่วงการซ่อมบำรุงเพราะถูกกลุ่มไอซิสยึดครอง ในขณะที่ทางการอิรักประเมินว่ามีโอกาสที่เขื่อนจะทลายอยู่ 1 ใน 10001 มี.ค. 2559 สำนักข่าวอัลจาซีรารายงานว่า ทางการสหรัฐฯ เตือนประชาชนชาวอเมริกันให้เตรียมพร้อมออกจากประเทศอิรักเนื่องจากมีโอกาสที่เขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำใกล้กับเมืองโมซูล ทางตอนเหนือของประเทศมีโอกาสพังทลายถึงแม้เจ้าหน้าที่ทางการอิรักจะไม่ได้ให้ความสำคัญต่อความเสี่ยงในเรื่องนี้มากนัก แต่ทางการสหรัฐฯ ได้ประกาศเตือนภัยประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีการประเมินความเสี่ยงว่าเขื่อนในเมืองโมซูลที่เป็นเมืองที่อยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มก่อการร้าย ไอซิส หรือ ไอเอส อาจจะจมอยู่ใต้ผืนน้ำ 21 เมตรภายในหลายชั่วโมงหลังจากเกิดเหตุเขื่อนพังทลาย นอกจากนี้ยังอาจจะส่งผลกระทบต่อเมืองอื่นๆ ที่อยู่ตามกระแสน้ำแม่น้ำ ไทกริส ทิกริต ซามาร์รา รวมถึงเมืองหลวงอย่างกรุงแบกแดดภายใน 24-72 ชั่วโมงข้อความในคำเตือนความปลอดภัยของทางการสหรัฐฯ ระบุว่า พวกเขายังไม่มีข้อมูลที่จะสามารถเจาะจงเวลาได้ว่าจะเกิดเหตุเขื่อนพังทลายขึ้นเมื่อใด แต่จากที่มีสัญญาณเตือนมากมายทำให้พวกเขาต้องเตือนภัยผู้คนให้เตรียมตัวอพยพซึ่งเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการรักษาชีวิตคนจำนวนมากกลุ่มก่อการร้ายไอซิสยึดครองเขื่อนนี้ตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค. 2557 ทำให้เกิดความหวาดกลัวว่าพวกเขาจะระเบิดเขื่อนแห่งนี้จนเกิดน้ำท่วมโมซูลและแบกแดดคร่าชีวิตผู้คนหลายแสนคน ถึงแม้ว่าในอีก 2 สัปดาห์หลังจากนั้นกองกำลังรัฐบาลอิรักจะสามารถยึดครองเขื่อนกลับมาได้ แต่ปฏิบัติการซ่อมบำรุงที่หยุดชะงักไปก็อาจจะก่อให้เกิดกรณีเขื่อนพังได้ก่อนหน้านี้เคยมีการทำสัญญากับบริษัทสัญชาติอิตาลีให้ดำเนินการซ่อมแซมเขื่อนอย่างเร่งด่วนหลังจากที่มีรอยร้าวในโครงสร้างนับตั้งแต่ที่มีการก่อสร้างเมื่อราว 30-40 ปีที่แล้ว ทำให้ต้องมีการอัดฉีดอยู่อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้โครงสร้างมั่นคงฮุสเซน ฮาหมัด หัวหน้าวิศวกรฝ่ายซ่อมบำรุงเขื่อนโมซูลเคยให้สัมภาษณ์ต่ออัลจาซีราว่าเขื่อนแห่งนี้ไม่ได้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเขาระบุว่า ในช่วงทศวรรษที่ 1980 บริษัทต่างชาติเคยซ่อมบำรุงเขื่อนด้วยการขุดเจาะและเสริมเขื่อน และส่งต่อกระบวนการเหล่านี้ให้พวกเขาเราจะได้รับปูนซิเมนต์และรถขุดจำนวนมาก แต่เราก็ต้องการอะไหล่สำรองสำหรับเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการซ่อมบำรุงต่อไปด้วยอย่างไรก็ตามในช่วงต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมารัฐมนตรีด้านทรัยากรน้ำของอิรักกล่าวไว้ว่า มีโอกาสเพียง 1 ใน 1000 เท่านั้นที่เขื่อนจะพังทลาย และจะแก้ปัญหาด้วยการสร้างเขื่อนใหม่หรือการติดตั้งกำแพงคอนกรีตเสริมภายในUS warns citizens to evacuate Iraq if Mosul dam bursts Aljazeera 01-03-2016
ทางการสหรัฐฯ ประกาศให้ชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ในอิรักเตรียมอพยพหลังจากที่เขื่อนในเมืองโมซูลมีโอกาสพังทลายจนทำให้เกิดอันตรายจากอุทกภัยได้ในหลายเมืองรวมถึงเมืองหลวงกรุงแบกแดด
คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ,สิ่งแวดล้อม
สหรัฐอเมริกา,อิรัก,เขื่อน,เขื่อนแตก,โมซูล
https://prachatai.com/journal/2016/03/64372
ผี-หงส์ซวย เผยแล้ว ราชัน จะเอาไงต่อวันที่ไม่มี โด้ อยู่ในทีม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 17 ก.ค. ว่า ราชันชุดขาวเรอัล มาดริด จะไม่หาตัวตายตัวแทนมาสืบทายาทของ คริสเตียโน โรนัลโด สตาร์เบอร์ 1 ของทีมที่ย้ายไปเล่นให้กับ ม้าลาย ยูเวนตุส,โรนัลโด เจ้าของดาวซัลโวตลอดกาลของเรอัล มาดริด เพิ่งจะย้ายไปเล่นให้กับ ม้าลาย อย่างเป็นทางการ 4 ปีด้วยค่าตัว 100 ล้านยูโรเมื่อวานนี้,แม้ว่าราชันชุดขาวจะตกเป็นข่าวต้องการได้ตัว เนย์มาร์, แฮร์รี เคน, เอเดน อาซาร์ด หรือ คีเลียน เอ็มบัปเป คนใดคนหนึ่งมาเป็นตัวแทนของ โรนัลโด แต่สุดท้ายพวกเขาเลือกที่จะไม่ทุ่มเงินคว้าสตาร์มาร่วมทีม,เป็นที่เข้าใจว่า ราชันชุดขาว ยังพอใจกับขุมกำลังของทีมตอนนี้ที่นำทัพโดย เกเรธ เบล, คาริม เบนเซมา, มาร์โก อเซนซิโอ รวมถึงเพิ่งได้เจ้าหนูนรกแตกมาอย่างวินิเซียส จูเนียร์ ด้วย,ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาจะไม่ขายสตาร์ในแนวรุกออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์นี้เพิ่มเติม ทำให้ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ให้ความสนใจ เกเรธ เบล หรือ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่สนใจมาร์โก อเซนซิโอ ต้องแห้วไปตามระเบียบ
สื่อดังเปิดเผยว่า ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด จะไม่หาตัวตายตัวแทนของ คริสเตียโน โรนัลโด ซุปตาร์เบอร์ 1 ของทีมในซัมเมอร์นี้
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
เรอัล มาดริด,ลาลีกา,เกเรธ เบล,คริสเตียโน โรนัลโด
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/1336477
ตรวจค้นบ้าน วิกรม กรมดิษฐ์ ไม่พบนกเงือก
จากกรณี มีการวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ระหว่างกลุ่มนักอนุรักษ์ และแฟนคลับของนายวิกรม กรมดิษฐ์ ซีอีโอ บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น หลังจากที่ก่อนหน้านี้เพจเฟซบุ๊ก Vikrom Kromadit วิกรม กรมดิษฐ์ โพสต์ภาพตนเองที่มีนกเงือกสีน้ำตาลอยู่ด้านหลัง จนมีการตั้งคำถามถึงการเอาสัตว์ป่ามาไว้ที่บ้าน ,ต่อมาเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 15 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กว่า 10 นาย นำหมายค้นศาลอาญารัชดา เข้าตรวจค้น อาคารกรมดิษฐ์ เลขที่ 2126 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. เป็นอาคารสูง 6 ชั้น ลักษณะโฮมออฟฟิศ ชั้นบน มีบ้านทรงไทยขนาดใหญ่ หลังของนายวิกรม และพี่น้องในตระกูล มีสวนป่า ปลูกต้นไม้ปกคลุมทั่วบริเวณ ใช้เวลาตรวจค้นกว่า 4 ชม. โดยเจ้าหน้าที่มีการนำภาพถ่ายดังกล่าว มาเปรียบเทียบพบว่าเป็นจุดเดียวกัน แต่ไม่พบนกเงือกตัวดังกล่าวที่ปรากฏในภาพ,เมื่อตรวจสอบโดยรอบ ไม่พบสัตว์คุ้มครองหรือสัตว์ผิดกฎหมายชนิดใด ขณะที่นายวิฑูรย์ กรมดิษฐ์ น้องชายของนายวิกรม ให้การว่า วันนี้นายวิกรมไม่อยู่ เนื่องจากเดินทางไปทำธุระที่นิคมอมตะนคร จ.ชลบุรี แต่ปกติแล้วนายวิกรม จะพักอยู่ที่นี่ ซึ่งตนต้องขอสอบถามนายวิกรมและพนักงานว่านกตัวดังกล่าวที่ปรากฏในภาพถ่ายนั้น บุคคลใดเป็นผู้ครอบครองหรือไม่ และมีที่ไปที่มาอย่างไร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ทำบันทึกการเข้าตรวจค้นดังกล่าว และจะต้องตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมประสานให้นายวิกรมเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปทส. เพื่อให้เข้ามูลเกี่ยวกับนกตัวที่ปรากฏในภาพถ่ายดังกล่าว ก่อนจะดำเนินการต่อไป.
จนท.กรมอุทยานฯกว่า 10 นาย นำหมายค้นศาลอาญารัชดา เข้าตรวจค้น บ้าน วิกรม กรมดิษฐ์ หลังมีภาพปรากฏผ่านเฟซบุ๊ก กับนกเงือก เบื้องต้น ไม่พบนกเงือกตัวดังกล่าว
null
นกเงือก,สัตว์ป่า,สัตว์ป่าสงวน,กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช,เอาสัตว์ป่าไว้บ้าน,ตรวจสอบบ้าน,วิกรม กรมดิษฐ์,วิฑูรย์ กรมดิษฐ์,ไม่พบสัตว์คุ้มครอง,สัตว์ผิดกฎหมาย,นิคมอมตะนคร,โซเชี่ยลเกาะกระแส,เพชรบุรีตัดใหม่,ห้วยขวาง,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,โพสต์ภาพพร้อมนกเงือก,สัตว์สงวน
https://www.thairath.co.th/content/639679
รถหลุดโค้งชนต้นไม้พลิกคว่ำไฟลุกท่วม เสียชีวิต 3 คน
วันนี้ (14 พ.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักชนต้นไม้เกาะกลางถนนนิมิตรใหม่ เขตคลองสามวาแล้วเกิดเพลิงลุกไหม้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุมาจากขับรถเร็วแล้วเสียหลักหลุดโค้งจนไปชนต้นไม้อย่างรุนแรงจุดเกิดเหตุเป็นช่วงถนนที่มาจากถนนลำลูกกา มุ่งหน้าไปทางมีนบุรี และเป็นทางโค้ง รถยนต์เสียหลักชนกับต้นไม้ริมถนนจนหัก 2 ต้น และป้ายเหล็กบอกทางหักเสียหาย แล้วเสียหลักไปที่กลางถนน จากนั้นก็มีไฟลุกไหม้ที่ห้องเครื่องแล้วค่อยๆ ลุกลามไปทั้งตัวรถนายคมเพชร อินทรสิทธิ์ ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เห็นคนติดอยู่ภายในรถมีคนขับและผู้โดยสารรวม 3 คน หมดสติอยู่ในรถ คนที่ขับรถผ่านมาพยายามช่วยเหลือออกมาได้ 1 คน ส่วนอีก 2 คน ต้องรอให้ไฟดับถึงนำร่างออกมาได้หลังจากเกิดเหตุถูกไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน บริเวณด้านหน้าของรถมีรอยการชนเข้ากับต้นไม้อย่างรุนแรง จนกระโปรงหน้ายุบเข้าไป รวมทั้งชิ้นส่วนของรถยนต์หลายชิ้นก็กระจายอยู่ตามถนนส่วนต้นไม้ที่อยู่บนทางเท้าริมถนนมีรอยชนแรงกระแทกกับรถยนต์คันดังกล่าวอย่างแรง และมีร่องรอยการปีนขึ้นบาทวิถีของรถคันนี้ตั้งแต่ทางโค้งจนมาชนกับต้นไม้ ขณะที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบทะเบียนรถว่า ผู้ใดเป็นเจ้าของ เนื่องจากยังไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ขับขี่ และเอกสารประจำรถก็เสียหายทั้งหมด พบเพียงเป็นบัตรประชาชน ระบุชื่อ น.ส.ปรีชญา ลิ้มประเสริฐ อายุ 18 ปี พักอยู่ในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานีส่วนสาเหตุ คาดว่าเกิดจากขับรถมาด้วยความเร็วก่อนจะเสียหลักหลุดโค้งพุ่งชนต้นไม้ ทำให้รถเกิดพลิกตะแคงและไฟไหม้เบื้องต้น ตำรวจได้ส่งศพทั้ง 3 คน ไปตรวจอัตลักษณ์บุคคล และสาเหตุการเสียชีวิต ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ และประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบสภาพรถเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้
เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักชนต้นไม้เกาะกลางถนนนิมิตรใหม่ เขตคลองสามวา เสียชีวิต 3 คน เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุมาจากขับรถเร็ว
อาชญากรรม
อุบัติเหตุ,นิมิตรใหม่,คลองสามวา
https://news.thaipbs.or.th/content/280011
ธ.ก.ส.เล็งแจงขั้นตอนพักชำระหนี้ให้เกษตรกรที่โดนน้ำท่วม
พื้นที่การเกษตร รวมถึงบ่อเลี้ยงปลาในหลายจังหวัดภาคอีสานที่ติดกับแม่น้ำมูลและแม่น้ำชี ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะจังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดอุบลราชธานี มีเกษตรกรได้รับผลกระทบกว่า 17000 คน ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในแต่ละพื้นที่ จะเร่งเข้าไปชี้แจงขั้นตอนพักชำระหนี้ 3 ปีโดยไม่คิดดอกเบี้ย รวมถึงเงินทุนฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรรายละ 100000 บาทชาวบ้านปากคลองเทศบาลตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เริ่มขนย้ายทรัพย์สินจากเพิงที่พักริมถนน กลับเข้าไปอาศัยภายในบ้านพัก หลังระดับน้ำเริ่มลดลงจนเกือบกลับสู่ภาวะปกติ เช่นเดียวกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเทศบาลนครนครสวรรค์เร่งทำความสะอาดแผงร้านค้า เพื่อเตรียมนำสิ่งของกลับเข้าไปขายตามปกติภายในวันนี้ (10 พ.ย.)นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร รับมอบสุขาเคลื่อนที่พลาสติกจำนวน 150 ชุด จากองค์การบริหารส่วนตำบลบางลาย อำเภอโพทะเล ซึ่งเป็นสุขาเคลื่อนที่ที่ชาวบ้านเคยได้รับบริจาคแต่ยังไม่ได้ใช้งาน ก่อนจะนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในขณะนี้นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่คัดแยกสิ่งของที่ได้จากการทำบุญตักบาตรตามโครงการ มช.ช่วยภัยน้ำท่วม พระสงฆ์และสามเณร 120 รูป โดยนักศึกษาจะคัดแยกสิ่งของก่อนใส่ลงถุงยังชีพนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยส่วนนายอำเภอเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย เป็นตัวแทนนายมหาเธร์ มูฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย มอบน้ำดื่มกว่า 60000 ขวด ให้กับรองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ก่อนนำส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่กรุงเทพมหานคร โดยชาวไทยและมาเลเซียที่อาศัยอยู่ในเกาะลังกาวียังจัดโครงการรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยในประเทศไทยอีกด้วยกลุ่มแม่บ้านตำรวจ สภ.รัตภูมิ จังหวัดสงขลา ร่วมกันทำน้ำพริกมะขามกุ้งสดน้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัม ก่อนจะส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่องค์กรภาคประชาชนในจังหวัดยะลาร่วมผลิตอีเอ็มบอลจำนวนกว่า 100000 ลูก ก่อนจะส่งไปปรับสภาพน้ำเน่าเสียในหลายจังหวัดนพ.ปรเมษฐ์ กิ่งโก้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง ระบุว่า ขณะนี้โรงพยาบาลระยองรองรับผู้ป่วยที่ส่งต่อมาจากกรุงเทพมหานคร ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ขณะนี้มีการส่งผู้ป่วยมาแล้ว 50 คน กลับบ้านไปแล้ว 21 คน ยังพักรักษาตัวอีก 29 คน และเป็นผู้ป่วยหนักจำนวน 10 คนครูและผู้ปกครองโรงเรียนจิรศาสตร์วิทยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เร่งทำความสะอาดโรงเรียนและอุปกรณ์การเรียน หลังผู้บริหารโรงเรียนยืนยันจะเปิดการเรียนการสอนในวันที่ 15 พ.ย.นี้ ด้านนายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ สั่งเลื่อนการเปิดเรียนไปเป็นวันที่ 21 พ.ย.นี้
ธ.ก.ส.เตรียมชี้แจงขั้นตอนการพักชำระหนี้ให้กับลูกค้าทั่วประเทศ และการช่วยเหลือเงินทุนฟื้นฟูอาชีพรายละ 100000 บาท
ภูมิภาค
ธ.ก.ส.,น้ำท่วม,เกษตรกร
https://news.thaipbs.or.th/content/45052
ประยุทธ์ ชี้พวกต้านแก้ ก.ม.บัตรทอง อาจจะมีคนเสียผลประโยชน์
ประยุทธ์ ชี้พวกต่อต้านแก้ ก.ม.บัตรทอง อาจจะมีคนเสียผลประโยชน์ ระบุจำเป็นบริหารต้องมีผู้บริหารมืออาชีพเข้ามาร่วมด้วย สรรเสริญ ยันไม่มีการลิดรอนสิทธิ์ในการดูแลบริการสุขภาพ20 มิ.ย. 2560 รายงานข่าวระบุว่า ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ 4 ภาคออกแถลงการณ์คัดค้านและแสดงออกไม่เข้าร่วมเวทีประชาพิจารณ์แก้ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ว่า การแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการงบประมาณในการดูแลประชาชนให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์มากที่สุด เพราะการดำเนินงานที่ผ่านมามีปัญหาอยู่บ้าง จึงจำเป็นต้องมีผู้ที่มีความสามารถด้านการบริหารเข้ามาด้วย และจะมีทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รายงานปัญหาข้อขัดข้องเกี่ยวกับเวทีประชาพิจารณ์จากกรณี (ร่าง) พระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่) พ.ศ. ซึ่งเป็น พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพฉบับใหม่ ให้ที่ประชุมครม. รับทราบเนื่องจากเป็นปัญหาร่วมกันของทุกหน่วย โดยพระราชบัญญัติประกันสุขภาพฯ ได้มีการใช้กฎหมายดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2545 โดยมุ่งเน้นการซ่อมสุขภาพหรือการรักษาเป็นหลัก จึงมีคำว่า 30 บาทรักษาทุกโรค โดยมีหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบคือกระทรวงสาธารณสุขในฐานะเป็นผู้บริการกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะผู้ซื้อบริการ ซึ่งการทำงานที่ผ่านมาทั้ง 2 หน่วยงานอาจจะไม่ได้ติดต่อประสานงานกันเท่าที่ควร แต่ปัจจุบันภายใต้การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้ กระทรวงสาธารณสุขกับ สปสช. ได้มีการติดต่อประสานงานระหว่างกันดีขึ้นโดยลำดับ รวมทั้งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เคยออกคำสั่งตามมาตรา 44 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 เพื่อแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องให้บางส่วนแล้วทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานที่ประชุมรับทราบว่า ในการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทุกภาคส่วนและหน่วยงานต่าง ๆ โดยได้มีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น 4 ครั้ง ในส่วนของภูมิภาค 3 ครั้ง และในส่วนของพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้เปิดรับฟังความคิดเห็นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามแม้ทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอน แต่ปรากฏว่ายังมีบุคคลบางกลุ่มพยายามที่จะล้มเวทีประชาพิจารณ์หรือการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าว นายกรัฐมนตรี จึงมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข ไปดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนทุกภาคส่วน โดยรัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข แจ้ว่า พรุ่งนี้ (21 มิ.ย.60) เวลา 09.00 น. ณ โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ ผู้ที่เกี่ยวข้องจะจัดเวทีเสวนาให้ความรู้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเชิบสื่อมวลชนทุกสาขาไปร่วมรับฟังด้วย โดยจะมีการนำ พ.ร.บ. ประกันสุขภาพฉบับเดิมกับร่าง พ.ร.บ.ประกันสุขภาพ ฉบับใหม่มาเปรียบเทียบชี้แจงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างกัน รวมถึงสิทธิประโยชน์และการดูแลต่าง ๆ ที่ประชาชาได้รับ อย่างไรก็ตาม ร่าง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ ฉบับใหม่ ไม่ได้มีการลิดรอนสิทธิ์ในการดูแลบริการสุขภาพต่าง ๆ ของประชาชนแต่อย่างใด ยืนยันประชาชนยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ในการรับบริการต่าง ๆ ด้านสาธารณสุขและบริการสุขเช่นเดิม
ประยุทธ์ ชี้พวกต่อต้านแก้ ก.ม.บัตรทอง อาจจะมีคนเสียผลประโยชน์ ระบุจำเป็นบริหารต้องมีผู้บริหารมืออาชีพเข้ามาร่วมด้วย สรรเสริญ ยันไม่มีการลิดรอนสิทธิ์ในการดูแลบริการสุขภาพ 20 มิ.ย. 2560
การเมือง,คุณภาพชีวิต
บัตรทอง,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ,สรรเสริญ แก้วกำเนิด,หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
https://prachatai.com/journal/2017/06/72027
แห่ชมคลิป ปรากฏการณ์พายุงวงช้างโผล่กลางอ่าวไทย ปากนคร-แหลมตะลุมพุก
เมื่อวันที่ 23 พ.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ได้เกิดพายุฝนพัดกระหน่ำในพื้นที่หลายอำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ในขณะที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม ในทะเลมีคลื่นลมแรง และเมื่อช่วงเย็นวันนี้ (22 พ.ค.60) ได้มีชาวโลกโซเชียลเข้าไปชมคลิปวิดีโอในเฟซบุ๊ก สุธิษา ถึงสงคราม ซึ่งเป็นลูกเจ้าของร้านอาหารซีฟู้ด สะพานตัวที ใน ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งสามารถบันทึกภาพขณะที่พายุงวงช้าง หรือนาคเล่นน้ำ ในทะเลอ่าวไทย ระหว่างอ่าวปากนคร กับแหลมตะลุมพุก ซึ่งเจ้าของเฟซบุ๊กใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายเอาไว้ได้ ความยาว 5 นาที 32 วินาที โดยมีชาวโลกโซเชียลเข้าไปชมและแชร์เป็นจำนวนมาก,จากการสอบถามเจ้าของเฟซบุ๊ก สุธิษา ถึงสงคราม ทราบว่าคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.40 น.ก่อนเกิดพายุงวงช้าง ได้มีลมพัดกระโชกและมีฝนตกหนัก ขณะที่กลุ่มเมฆดำทะมึนจับตัวกันเป็นก้อนใหญ่ ก่อนจะย้อยลงมาเป็นพายุงวงช้าง สร้างความแตกตื่นฮือฮาให้กับแขกที่นั่งรับประทานอาหารในร้านต่างนำโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพปรากฏการณ์ดังกล่าวเอาไว้ได้หลายคน ซึ่งปรากฏการณ์พายุงวงช้าง หรือคนโบราณเรียกว่า นาคเล่นน้ำ เกิดขึ้นนานเกือบ 10 นาที จึงกลับเข้าสู่สภาวะปกติ.
ทึ่ง!!! คลิปพายุงวงช้าง หรือนาคเล่นน้ำ โผล่กลางทะเลอ่าวไทยปากนครกับแหลมตะลุมพุก ซึ่งเจ้าของเฟซบุ๊กสามารถถ่ายไว้ได้ 5 นาทีกว่า โดยมีคนเข้าไปชมและแชร์จำนวนมาก
ข่าว,ทั่วไทย
นาคเล่นน้ำ,ฝนตก,สุธิษา ถึงสงคราม,นครศรีธรรมราช,พายุงวงช้าง
https://www.thairath.co.th/news/local/south/949562
ลาแล้วจ้า บาสตี้ ชิ่งผีโยกซบทีมดังเมเจอร์ลีก ชิคาโก ไฟร์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 21 มี.ค.ว่า สโมสรชิคาโก ไฟร์ ทีมดังแห่งศึกฟุตบอลเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ ของสหรัฐฯ จัดการรวบตัว บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ มิดฟิลด์ส่วนเกินชาวเยอรมัน ของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาร่วมทีมเรียบร้อยแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา,อดีตกองกลางดีกรีทีมชาติเยอรมนีชุดแชมป์โลก 2014 กลายเป็นแข้งนอกสายตาของ โชเซ มูรินโญ ทันทีหลังเข้ารับตำแหน่งนายใหญ่ปิศาจแดง ซึ่งถึงแม้จะแสดงความมุ่งมั่นจนได้รับโอกาสลงสนามอีกครั้งในเกมบอลถ้วย แต่สุดท้ายก็ยังไร้วี่แววในการลงเล่นอย่างต่อเนื่อง,กระทั่งล่าสุด สำนักข่าวชิคาโก ทรีบูน เผยว่า ชไวน์สไตเกอร์ ได้บินมาถึงแดนมะกันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับต้นสังกัดใหม่ พร้อมทั้งคาดว่าเจ้าตัวจะได้รับค่าเหนื่อยไม่น้อยกว่า 4.5 ล้านเหรียญ ในปี 2017 พร้อมทั้งสวมเสื้อหมายเลข 31 ลงเล่นในซีซั่นนี้,ด้าน เวลโก เพาโนวิช กุนซือใหญ่ของชิคาโก ไฟร์ กล่าวว่า ชไวน์สไตเกอร์ จะแสดงความเป็นผู้นำและตัวอย่างของการเป็นแชมป์ให้กับทุกคนได้เห็นในห้องแต่งตัว รวมถึงการทำงานหนักบนสนาม เพื่อให้เพื่อนร่วมทีมเห็นว่านักเตะในระดับโลกมีวิธีการคิดและแสดงออกอย่างไรบ้าง
บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ โบกมืออำลาม้านั่งสำรองในถิ่นโอลด์ แทรฟเฟิร์ด เพื่อย้ายไปหาความท้าทายใหม่ในศึกเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ ด้วยการตกลงใจเซ็นสัญญากับ ชิคาโก ไฟร์ ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์,บาสตี้,เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์,ชิคาโก ไฟร์,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/891392
โดนทั้งคู่ ตร.ปรับ 1 พัน มาริโอ้-แท็กซี่หัวร้อน ขับรถโดยประมาท
วันนี้ 9 ม.ค.61 นายอุดร สุทธิผล อายุ 37 ปี คนขับแท็กซี่ใช้หนังสติ๊กยิงลูกหินจากภายในรถแท็กซี่ของตนไปยังรถปอร์เช่ของนายมาริโอ้ เมาเร่อ นักแสดงชื่อดัง เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อรับทราบข้อหา ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อาจเกิดอันตรายแก่บุคคล หรือทรัพย์สิน ซึ่งมีโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท โดยพนักงานสอบสวนได้เปรียบเทียบปรับนายอุดร เป็นเงินจำนวน 1,000 บาท,ขณะที่นายอุดร ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน และระบุว่าไม่มีอะไรจะพูด,โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายอุดรได้เข้ารายงานตัวต่อนายสุกรี จารุภูมิ ผู้อำนวยการกองตรวจการขนส่งทางบก ก่อนจะรับสารภาพว่าได้กระทำผิดจริง ทางกรมการขนส่งทางบก จึงดำเนินการตามความผิด พ.ร.บ.รถยนต์ มาตรา 54 (4) โดยพิจารณาจากพฤติกรรม เห็นควรยึดใบอนุญาตขับรถของนายอุดรไว้เป็นเวลา 1 เดือน พร้อมส่งเข้าอบรมการเป็นผู้ขับรถที่ดีเป็นเวลา 3 ชั่วโมง,ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนได้ประสานนายมาริโอ้ เมาเร่อ ให้เข้ารับทราบข้อหาเดียวกัน ซึ่งทางผู้จัดการส่วนตัวแจ้งว่าวันนี้นายมาริโอ้ ยังไม่สะดวกมาพบพนักงานสอบสวน และจะมาพบในภายหลัง,ทั้งนี้ ในกรณีที่นายอุดรขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวปาดหน้าคู่กรณีไปมา ซึ่งเป็นการขับขี่ในลักษณะประมาทหวาดเสียว ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า ขับรถโดยประมาทและหวาดเสียว อาจจะทำให้เกิดอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินอื่น หลังจากสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และยินยอมให้เปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท.
หนุ่มแท็กซี่คู่กรณี มาริโอ้ เมาเร่อ เข้ารับทราบข้อหา ขับรถประมาท ตร.พญาไท ปรับ 1 พัน แถมโชเฟอร์หัวร้อนซวยอีก เจอขนส่งยึดใบขับขี่ 1 เดือน ส่งอบรมผู้ขับที่ดี ขณะที่ทางด้านพระเอกดังขับปอร์เช่ ยังไม่สะดวกมารับทราบข้อหาเดียวกัน
ข่าว,อาชญากรรม
มาริโอ้,มาริโอ้ เมาเร่อ,มาริโอ้ เมาเร่อ แท็กซี่,มาริโอ้ แท็กซี่,ขับรถโดยประมาท,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1172918
ยินดีด้วย หลี นา คลอดลูกสาวคนแรก ตั้งชื่อ เอลิซา
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 3 มิ.ย. ว่า หลี นา อดีตแร็กเก็ตสตาร์สาวจีน ดีกรีแชมป์แกรนด์สแลม 2 สมัย ได้ให้กำเนิดลูกสาวคนแรกเมื่อช่วงเวลา 02.25 น. ของวันพุธที่ผ่านมา หลังจากที่ได้ประกาศแขวนแร็กเก็ตไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา,หลี นา ถือว่าเป็นอดีตนักเทนนิสระดับแถวหน้าคนหนึ่งของจีน และสร้างสถิติเป็นนักเทนนิสชาวเอเชียคนแรกที่ได้แชมป์ระดับแกรนด์สแลม โดยเป็นแชมป์ เฟรนช์ โอเพ่น เมื่อปี 2011 ก่อนจะมาคว้าแชมป์ ออสเตรเลียน โอเพ่น และเคยขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วยการเป็นมือวางอันดับ 2 ของโลก,จนมาถึงเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา หลี นา ก็ได้ประกาศลาวงการเพราะมีปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่หัวเข่า ซึ่งในเวลาต่อมาในการแข่งขัน ออสเตรเลียน โอเพ่น เมื่อช่วงเดือนมกราคม แร็กเก็ตสาววัย 33 ปี ก็ได้ประกาศข่าวดีกับแฟนๆโดยบอกว่าเธอและ เจียง ชาง หรือ เดนนิส สามี และอดีตโค้ชของเธอ กำลังจะมีลูกน้อยคนแรก,ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลี นา ก็ได้ประกาศข่าวดีกับแฟนๆ ว่าตัวเธอได้ให้กำเนิดลูกน้อยคนแรกเป็นที่เรียบร้อย โดยตั้งชื่อว่า เอลิซา โดยใน เวยโป๋ สื่อสังคมออนไลน์ของจีน อดีตแร็กเก็ตสาวได้โพสต์รูปพร้อมข้อความว่า เจียง ชาง และ ฉัน อยากจะขอแนะนำให้แฟนที่น่ารักของฉันได้รู้จัก เอลิซา เรามีความสุขมากๆ และรักเธอที่สุด
หลี นา อดีตแร็กเก็ตสาวจีน ดีกรีแชมป์แกรนด์สแลม 2 สมัย ให้กำเนิดลูกสาวคนแรกเมื่อช่วงเวลา 02.25 น. ของวันพุธที่ผ่านมา โดยตั้งชื่อว่า เอลิซา
null
หลี นา,เทนนิส,เจียง ชาง,เดนนิส,เอลิซา,จีน,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/502807
ภูมิใจไทย เมินโพล ปัดรอเสียบร่วม รบ.มั่นใจตะวันออกมีลุ้นที่นั่ง ส.ส.
แต่เป้าคือแกนนำจัดตั้ง รบ. ลั่นหากร่วม รบ.แล้วขัดแย้ง ขอเป็นฝ่ายค้านดีกว่า,เมื่อวันที่ 7 มี.ค.62 พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ภายหลังที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวพรรคภูมิใจไทยมอบหมายให้ลงพื้นที่ภาคตะวันออก ที่ จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี พบว่า เราได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี และมีหวังที่จะโค่นแชมป์เก่าได้ในหลายเขต เนื่องจากประชาชนเบื่อหน่ายการเมืองแบบเก่า และพรรคภูมิใจไทยได้เสนอผู้สมัครคนรุ่นใหม่ รวมถึงมีนโยบายที่ชัดเจน จึงตอบโจทย์ประชาชนในทุกพื้นที่ ซึ่งมีความมั่นใจว่า พรรคภูมิใจไทยจะสามารถยึดพื้นที่ภาคตะวันออกได้ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และอาจมีแลนด์สไลด์ในบางเขต โดยจากการลงพื้นที่ จ.ระยอง เป็นที่ตื่นเต้นของคู่แข่ง ที่วิ่งวุ่นกันพอสมควร ซึ่งทำให้เห็นว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นตัวเลือกที่สำคัญ,เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่ภาคตะวันออกพรรคใหญ่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิม พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า ภาคตะวันออกมีประชาชนแตกต่างจากภาคอื่น เพราะมีทั้งประมง อุตสาหกรรมหนัก รวมถึงประชาชนทำอาชีพการท่องเที่ยว ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่มีนโยบายชัดเจน และนำเสนอก่อนพรรคอื่น รวมถึงผู้สมัครเข้าถึงประชาชนทำให้ค่อนข้างมั่นใจ และไม่มีความกังวลพรรคอื่นที่ครองพื้นที่เดิมว่า จะสามารถครองพื้นที่เดิมได้อีก เพราะหลังลงพื้นที่ปรากฏว่า ประชาชนบอกให้เดินที่อื่นบ้าง เนื่องจากตรงนี้ได้คะแนนอยู่แล้ว โดยทำให้เราไม่กลัวพรรคใหญ่,พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ ยังกล่าวว่า ผู้สมัคร ส.ส.ภาคตะวันออกส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ และทำงานในพื้นที่อยู่แล้ว มีความขยันทำการบ้านอย่างหนัก ทำให้โดดเด่นทั้งนโยบายและตัวบุคคล ส่วนโพลหลายสำนักที่ออกมามองว่า ประชาชนเบื่อหน่ายการเมืองแบบเก่า ภูมิใจไทยจึงใช้คนรุ่นใหม่ไปอธิบาย โดยไม่พูดถึงความขัดแย้ง ซึ่งหากพรรคได้รับเลือกจะทำตามนโยบายที่ได้นำเสนอกับประชาชนไว้,เมื่อถามว่า ที่ผ่านมีการตั้งข้อสังเกตพรรคการเมืองอื่นมาลอกนโยบายพรรคภูมิใจไทย พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า ประชาชนสามารถหาข้อมูลข่าวสารได้ง่าย และจะเห็นชัดเจนว่าพรรคภูมิใจไทยได้เสนอนโยบายก่อนเป็นพรรคแรกๆ เพราะนโยบายพรรคภูมิใจไทยทุกนโยบายเราได้ศึกษาทำวิจัย เพื่อเป็นแนวทางในการร่าง พ.ร.บ.ต่างๆ ดังนั้นพรรคอื่นคงตามไม่ทัน ซึ่งแค่ลอกนโยบายคงไม่พอ แต่ต้องบอกว่าจะทำเมื่อไหร่ อย่างไร และการก๊อบปี้เห็นว่า อาจทำให้ประชาชนไม่เชื่อถือด้วยซ้ำไป โดยอยากให้ประชาชนมองว่า ออกนโยบายมาแล้ว จะทำอย่างไรต่อ ซึ่งหากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล นโยบายของเราสามารถเดินหน้าได้ทันที เพราะมีร่างกฎหมายต่างๆ เตรียมพร้อมไว้แล้ว,เมื่อถามว่า ภูมิใจไทยมีเป้าหมายเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล แต่โพลหลายสำนักระบุว่า ภูมิใจไทยมีคะแนนไม่เพียงพอตั้งรัฐบาล พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า โพลมีการเก็บข้อมูลประชาชนไม่ครบถ้วน ซึ่งยังมีประชาชนอีกจำนวนมาก หรือเกือบครึ่งยังไม่ตัดสินใจ ดังนั้นโพลยังไม่สามารถสรุปได้ และตนเชื่อว่าโค้งสุดท้ายประชาชนจะเข้าไปศึกษานโยบายและแคนดิเดทนายกฯ ทำให้เชื่อมั่นว่าประชาชนจะเทคะแนนให้ภูมิใจไทย ส่วนจากนี้ก็จะมีกลยุทธ์ดาวกระจาย เดินถึงตัวประชาชนเพื่ออธิบายนโยบาย,เมื่อถามว่า หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่า ภูมิใจไทยรอเสียบพรรคร่วมรัฐบาล พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า ได้ยินมานาน ที่ปรามาสพรรคภูมิใจไทยเรื่องนี้ แต่หากดูกระแสข่าวจะเห็นว่า หัวหน้าพรรคมีกระแสนิยมมากขึ้น และสิ่งสำคัญหัวหน้าพรรคมีคุณลักษณะแก้ปัญหาปากท้องได้ เพราะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ ที่เป็นองค์กรลำดับต้นๆ ของประเทศ โดยเราเชื่อมั่นว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ไปเสียบ แต่จะเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล โดยไม่ขัดแย้งกับใคร รวมถึงหากร่วมรัฐบาลกับใครแล้วจะเกิดความขัดแย้ง ขอเป็นฝ่ายค้านดีกว่า ซึ่งเรื่องนี้ท่านหัวหน้าพรรคย้ำชัดเจนมาโดยตลอด ดังนั้นคำพูดว่ารอเสียบไม่เป็นความจริง
เศรษฐพงค์ มั่นใจภาคตะวันออก มี ส.ส.ภูมิใจไทย แน่ ชี้พรรคอื่นลอกนโยบายได้ แต่ทำไม่ได้เหมือน ภท. ไม่หวั่นโพลสำรวจได้ ส.ส.น้อย บอกมี ปชช.ยังไม่ตัดสินใจอีกมาก ปัดเป็นพรรครอเสียบร่วมรัฐบาล
เลือกตั้ง
เลือกตั้ง62,หาเสียง,ภูมิใจไทย,ภท.,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1513351
รวบแล้ว หนุ่ม 15 ปาดคอสาว ม.2 สาหัส อ้างถูกทำร้ายก่อน
กรณีแทงกันภายในบ้านที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา หลัง น.ส.เปิ้ล (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ถูก นายเก่ง (นามสมมติ) อายุ 15 ปี เพื่อนชายใช้มีดปาดคอ และกระหน่ำแทงตามร่างกายถึง 22 แผล เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 16 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา (,สาว ม.2 ถูกแฟนหนุ่ม15 จับปาดคอโดนแทงยับ 22 แผล สาหัสเป็นตายเท่ากัน,) ทาง พ.ต.อ.กิตติพัฒน์ พงษ์พนัส ผกก.สภ.บางปะกง ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.บัณฑิต ธรรมอนันต์ รอง ผกก.สส.สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จัดชุดสืบสวน สภ.บางปะกง ติดตามไล่ล่า,กระทั่งเวลา 20.00 น. ไปพบตัว นายเก่ง บริเวณหมู่ 18 ต.บางปะกง อ.บางปะกง โดยนำตัวมาสอบสวนที่ห้องสืบสวน ก็ให้การรับสารภาพว่า ได้ลงมือทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงจริง แต่ที่ทำลงไปเพราะตนถูกทำร้ายร่างกายก่อนจึงตอบโต้ โดยที่สาเหตุนั้นเกิดจากขณะที่นั่งเล่นกันอยู่ในห้องนอน มีการแลกมือถือกันดูเฟซบุ๊ก แล้วก็มีปากเสียงกัน ทำให้กลายเป็นเหตุบานปลาย,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ คุมตัวนายเก่ง ดำเนินคดีตามหมายจับในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น อีกทั้งมีการตรวจปัสสาวะพบว่าเป็นสีม่วง ซึ่งทางตำรวจจะพิจารณาคดีต่อไป.
ตร.ชุดสืบสวน สภ.บางปะกง ติดตามจับกุมตัวหนุ่มขี้ยาวัย 15 ปี มือมีดแทง-ปาดคอ สาว ม.2 สาหัสกว่า 22 แผล สารภาพถูกฝ่ายหญิงทำร้ายร่างกายก่อน โมโหจึงตอบโต้กลับ จนท.ตรวจพบฉี่ พบสีม่วง ดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่า
null
พยายามฆ่า,ปาดคอ,มีดแทงแฟน ม.2,ทำร้ายร่างกาย,เจ็บสาหัส,เสพยา,ฉี่ม่วง,บางปะกง,ฉะเเชิงเทรา,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/content/693769
20 ปี Thailand Energy Awards สุดยอดรางวัลพลังงานไทยระดับสากลที่อยากให้โลกเปลี่ยนไป (ในทางที่ดี) กับอุดมการณ์ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
แค่ ปิดไฟเมื่อไม่ใช้งาน วินัยเล็กๆ ที่คนตัวเล็กๆ อย่างเราอาจไม่เคยเฉลียวใจว่าสิ่งเหล่านี้จะสร้างผลกระทบจนเกิดวิกฤตพลังงานได้อย่างไร ถึงแม้วันนี้ประเทศไทยจะไม่เข้าข่ายเกิดวิกฤตพลังงานขาดแคลน แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่ควรนิ่งนอนใจ เพราะเราอาศัยอยู่บนโลกใบเดียวกัน หากส่วนใดส่วนหนึ่งของโลกเริ่มขาดแคลนพลังงาน ไม่ช้าก็เร็วผลกระทบต่างๆ จะตามมาอย่างแน่นอน แม้จะไม่มาในรูปแบบของการไม่มีไฟฟ้าใช้ก็อาจมาในรูปของเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ราคาน้ำมัน ราคาสินค้าแพงขึ้นนี่เป็นปัญหาที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน เล็งเห็นและมุ่งมั่นที่จะแก้ไข แต่การแก้ปัญหาที่ใหญ่และต้องใช้เวลาขนาดนี้ไม่ใช่หน้าที่ของใครหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เพราะนี่คือปัญหาที่ทุกคนมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยกันประหยัดพลังงานในบ้านของตัวเอง แม้แต่การปรับเปลี่ยนนโยบายในบริษัทหรือธุรกิจให้มีส่วนร่วมลดการใช้พลังงานก็ถือว่าได้มีส่วนร่วมแล้วและเพื่อให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์พลังงาน รวมถึงการใช้พลังงานทดแทน โรงงาน ภาคธุรกิจ หน่วยงานที่มีการส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านการอนุรักษ์พลังงานและการพัฒนาพลังงานทดแทน ผู้ผลิตและผู้พัฒนาโครงการด้านพลังงานทดแทน ไปจนถึงสถานประกอบการ โรงงาน ภาคธุรกิจต่างๆ ที่อยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์พลังงานและต้องการผลักดันให้เกิดการพัฒนาพลังงานทดแทนมากขึ้น กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน จึงจัดประกวด Thailand Energy Awards ขึ้นตั้งแต่ปี 2543 จนถึงวันนี้ซึ่งครบรอบ 20 ปี โดยรางวัล Thailand Energy Awards นับเป็นรางวัลเกียรติยศในภาคพลังงานที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของทุกภาคส่วนในการมุ่งไปสู่ทิศทางการเปลี่ยนแปลงด้านการใช้พลังงานของประเทศในอนาคต ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญที่จะส่งเสริมให้เกิดการต่อยอดด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้เกิดความมั่นคงในระบบพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ Thailand Energy Awards ถือเป็นการส่งมอบความสำเร็จของพลังงานไทยสู่อาเซียนโดยผ่านกระบวนการพิจารณารางวัลอย่างเข้มข้น รวมถึงการตรวจเยี่ยมชมผลงานจากสถานที่จริง ก่อนการตัดสินรางวัลในขั้นตอนสุดท้ายจากผู้ทรงคุณวุฒิครอบคลุมทุกด้านตัวอย่างผลงานของผู้ที่ได้รางวัลในปีที่ผ่านมา Thailand Energy Awards 2019 เช่น บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM รางวัลดีเด่นด้านอนุรักษ์พลังงาน ประเภทขนส่ง บริษัท เอไอเอ จำกัด รางวัลดีเด่นด้านอนุรักษ์พลังงาน อาคารเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ ประเภทอาคารสร้างสรรค์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) รางวัลดีเด่นด้านพลังงานทดแทน โครงการระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำและบนหลังคาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตน้ำประปา นิคมอุตสาหกรรมหนองแค บริษัท ไทยรุ่งเรืองพลังงาน จำกัด รางวัลดีเด่นด้านพลังงานทดแทน โครงการผลิตไอน้ำและไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพเพื่อใช้ในกระบวนการผลิตเอทานอล ฯลฯนอกจากผู้ประกอบการแล้ว ทางด้านสื่อมวลชนเองก็ได้รับการพิจารณาคัดเลือกในฐานะผู้มีบทบาทต่อการส่งเสริมและสนับสนุนวงการพลังงานของไทยให้รุดหน้าไปอย่างรวดเร็วในช่วงเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยสื่อมวลชนที่ได้รับรางวัล Thailand Energy Awards เช่น สื่อโทรทัศน์ รายการ Energy Cafe โดย บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล จำกัด รายการ กระจกหกด้าน โดย บริษัท ทริลเลี่ยนส์ แอนด์ ทรีไลอ้อนส์ จำกัด รายการวิทยุ คุยกับบัญชา โดย บริษัท เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด สื่อสิ่งพิมพ์ชั้นนำไม่ว่าจะเป็น ไทยรัฐ ไทยโพสต์ และสื่อเว็บไซต์อย่าง www.pantip.com ฯลฯเวทีการประกวด Thailand Energy Awards ยังขยายผลไปสู่เวทีการประกวดรางวัลด้านพลังงานในระดับอาเซียน ด้วยการคัดเลือกผู้ชนะการประกวด Thailand Energy Awards ด้านการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน เป็นผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วมประกวด ASEAN Energy Awards โดยในปี 2019 ได้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดเป็นจำนวน 28 ผลงาน และได้รับรางวัลจำนวน 23 ผลงาน ได้แก่ รางวัลชนะเลิศด้านพลังงานทดแทน ASEAN Best Practices for Renewable Energy Project Awards โรงไฟฟ้ามหาชัย กรีน พาวเวอร์ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และรางวัลชนะเลิศด้านการอนุรักษ์พลังงาน ASEAN Best Practices Awards for Energy Management in Buildings and Industries บริษัท ข้าว ซี.พี. จำกัด (โรงงานข้าวนครหลวง) ฯลฯกว่า 2 ทศวรรษ Thailand Energy Awards กับบทพิสูจน์พลังงานไทยในระดับสากลตลอด 20 ปีที่ผ่านมา มีผู้สมัครประกวดจำนวน 3465 ผลงาน มีผู้ที่ได้รับรางวัลจำนวน 951 ผลงาน และเป็นตัวแทนประเทศไทยไปชนะการประกวดระดับอาเซียนรวม 211 รางวัล ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้มากกว่ารางวัลคือผลงานที่นำไปใช้จริงมีส่วนช่วยประหยัดพลังงานรวมได้กว่า 9300 ล้านบาท ลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1.9 ล้านตันจากสถิติจะเห็นว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่ประเทศไทยได้รับรางวัลจากผลงานที่ส่งเข้าประกวดทุกปี และตลอด 20 ปีก็คว้ารางวัลมากที่สุดในอาเซียน ดูเหมือนเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าทุกภาคส่วนของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคอุตสาหกรรมจำนวนไม่น้อยที่ตระหนักและให้ความสำคัญเรื่องการอนุรักษ์พลังงานและผลักดันการใช้พลังงานทดแทนอย่างจริงจัง ในโอกาสครบรอบ 20 ปี เพื่อต่อยอดความสำเร็จและแสดงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยหรือหน่วยงานของไทยที่ได้รับรางวัล Thailand Energy Awards กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานจึงรวบรวมผลงานจากผู้ประกอบการและหน่วยงานกว่า 26 แห่งมานำเสนอผ่านนิทรรศการ เพื่อถ่ายทอดความสำเร็จให้แก่ผู้ที่สนใจได้เรียนรู้และเป็นแบบอย่างในการนำไปปรับใช้และสานต่อเจตนารมณ์เวทีการประกวด Thailand Energy Awards ที่ต้องการให้ตระหนักในเรื่องการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และกระตุ้นให้เกิดการคิดหาวิธีการใหม่ๆ หรือนวัตกรรมที่จะช่วยลดการใช้พลังงานหลักอย่างพลังงานฟอลซิลวันนี้คุณเองก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้ Thailand Energy Awards พร้อมที่จะนำคุณก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในอาเซียนอีกครั้ง โดยการสมัครเข้าร่วมประกวด Thailand Energy Awards 2020 ผู้ที่สนใจสามารถดูหลักเกณฑ์การประกวดและสมัครออนไลน์ได้ที่ www.thailandenergyaward.com/TH/register.php ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 20 ธันวาคม 2562พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
ปี 2562 การประกวด Thailand Energy Awards ครบรอบ 20 ปี กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน จึงรวบรวมผลงานนำเสนอผ่านนิทรรศการของหน่วยงานที่ประสบความสำเร็จบนเวที Thailand Energy Awards ตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อให้ความรู้และนำไปปรับใช้ พัฒนา รวมถึงต่อยอดให้ทุกภาคส่วนช่วยกันผลักดันการอนุรักษ์พลังงานและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ที่สำคัญยังเชิญชวนให้ผู้ประกอบการและหน่วยงานต่างๆ ส่งผลงานเข้าประกวด Thailand Energy Awards 2020 ภายในวันที่ 20 ธันวาคมนี้
null
null
https://thestandard.co/thailand-energy-awards-2020/
นายกฯ ลุย 1 ตำบล 1 โรงเรียนคุณภาพ หวังลดเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
พร้อมเดินหน้านโยบาย 1 ตำบล 1 โรงเรียนคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำระบบการศึกษาไทย เริ่มคลิกออฟ ปี 2562 ,เมื่อวันที่ 9 พ.ย.61 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวในรายการ ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน  ว่า รัฐบาลยินดีและพร้อมให้การสนับสนุนเต็มกำลัง เพื่อช่วยผลักดันให้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศต่อไป ที่พูดมาคือการนำพาประเทศของเราไปสู่วิสัยทัศน์ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ได้อย่างไร เพราะฉะนั้นก็กรุณาฟังในส่วนที่รัฐบาลพูด รัฐบาลทำไปมากมายหลายอย่าง อาจจะมีการพูดจากใครก็แล้วแต่ว่า จะทำนี่ทำโน้นโดยที่ไม่พูดถึงวิธีทำอันนั้นคือปัญหา เพราะถ้าเราไปคาดหวังผลสำเร็จ โดยที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร บางทีก็เกิดปัญหาเรื่องงบประมาณและความเร่งด่วนตามมา ตนจึงเห็นว่าในส่วนของแผนยุทธศาสตร์ชาติทั้งหมด จะตอบคำถามเหล่านี้ในสิ่งที่รัฐบาลทำแล้ว และพร้อมที่จะส่งต่อให้ทำต่อไป อย่างไรก็ตามเป็นที่น่ายินดี ในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมาสตาร์ทอัพได้ก่อให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจในหลากหลายมิติ ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของสตาร์ทอัพของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกรุงเทพฯได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่ดีที่สุดสำหรับสตาร์ทอัพ อันดับ 1 ในเอเชียและเป็นอันดับที่ 7 ของโลก,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงเรื่องการศึกษาว่า เรื่องผู้เรียน ผู้สอน ผู้บริหาร และสถานศึกษา ซึ่งหมายรวมถึงหลักสูตรและโครงสร้างพื้นฐาน ที่รอการปฏิรูปทั้งระบบ โดยอยู่ระหว่างการดำเนินการในลักษณะแผนแม่บทระยะยาว ซึ่งรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ก่อน เพื่อแก้ไขปัญหาโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีนักเรียนต่ำกว่า 50 คน โดยเฉพาะระดับประถมศึกษา  เนื่องจากโรงเรียนเหล่านี้ส่วนใหญ่มีครูแต่ไม่ครบชั้นหรือครู 1 คน ต้องรับภาระการสอนในหลายชั้นและหลายวิชา ส่งผลทางลบเรื่องคุณภาพการศึกษาต่อเด็กนักเรียน  อีกทั้งโรงเรียนที่อยู่ในท้องถิ่นชนบทห่างไกล นักเรียนส่วนใหญ่ก็ขาดโอกาสในการได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่มีคุณภาพ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ดังนั้นรัฐบาลจึงมีนโยบาย 1 ตำบล 1 โรงเรียนคุณภาพ หรือโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล ที่เน้นการพัฒนาโรงเรียนเหล่านั้นให้มีคุณภาพและได้มาตรฐาน เป็นการสร้างโรงเรียนให้มีความพร้อมในการจัดการเรียนการสอน มีผู้บริหารและครูที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งในปีงบประมาณ 2562 จะเริ่มดำเนินการขับเคลื่อนโรงเรียนระดับประถมศึกษาในระดับตำบลก่อน แล้วพัฒนาไปสู่โรงเรียนมัธยมศึกษาในระดับอำเภอ และโรงเรียนพื้นที่พิเศษ(Stand Alone)ถือเป็นการพัฒนาระบบการศึกษาไทยเชิงระบบ ทั้งนี้รัฐบาลได้กำหนดแนวทางการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพประจำตำบลไว้แล้ว โดยได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ เร่งพัฒนาคุณภาพโรงเรียนขนาดเล็ก ไปสู่โรงเรียนดีศรีตำบล การเพิ่มงบประมาณเงินอุดหนุนรายหัวให้นักเรียน
นายกฯ เผยรัฐพร้อมหนุนเต็มกำลัง ผลักดันวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม เป็นรากฐานพัฒนาประเทศ ชี้ยุทธศาสตร์ชาติจะตอบคำถามผลงาน รบ.ทั้งหมด ปลื้มไทยเป็นสตาร์อัพเบอร์ 1 เอเชีย อันดับ 7 โลก
ข่าว,การเมือง
รายการศาสตร์พระราชาฯ,รายการนายกฯ,นายกฯ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,การศึกษา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1417100
นอนหลับในรถ ทำไมถึงตาย? แนะ 5 วิธีนอนในรถอย่างถูกต้อง
เห็นแล้วก็อดสยองพองขนไม่ได้ กับข่าวการนอนในรถจนเสียชีวิต ตั้งแต่เด็กจนโต ,คาร์มิ, ได้ยินข่าวการเสียชีวิตในรถมาโดยตลอด และสถิติในประเทศไทย ปีหนึ่งๆ ก็มีคนเสียชีวิตจากเหตุการณ์แบบนี้นับไม่ถ้วน คุณๆ สงสัยกันมั้ย ทำไมนอนในรถจึงเสียชีวิต? ทั้งๆ ที่เราก็เปิดแอร์ และอากาศก็เย็นฉ่ำสบายอุราขนาดนั้น,วันนี้ ,คาร์มิ, มีความรู้และคำตอบมาฝากทุกคน และเมื่ออ่านจบ อยากให้ทุกคนตระหนักเหมือนกันว่า ,การนอนในรถ, มันเสียชีวิตได้จริงๆ เรามาช่วยกันปรับความคิดกันใหม่ ,ห้ามนอนในรถเด็ดขาด, บอกกันให้ถึงลูกถึงหลาน และจงจำกันให้ดี ,นอนในรถถึงตาย,เรื่องมันมีอยู่ว่า,การสตาร์ตเครื่องยนต์ในแต่ละครั้ง เครื่องยนต์จะปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซพิษออกมา ขณะที่รถยนต์วิ่ง ระบบแอร์ที่ถูกเปิดอยู่ จะดูดอากาศจากภายนอกเข้ามาหมุนเวียนอยู่ในรถตลอดเวลา,เช่นเดียวกับตอนที่เราเปิดแอร์เพื่อนอนหลับ ในขณะรถยนต์จอดแน่นิ่งอยู่กับที่ ไม่ได้วิ่งไปไหน ระบบแอร์ก็จะดูดอากาศจากด้านนอกเข้ามาสู่ห้องโดยสารเช่นกัน แต่ครั้งนี้จะเป็นอากาศที่มีก๊าซพิษผสมอยู่ด้วย ซึ่งขณะที่เรากำลังนอนหลับอยู่แบบไม่รู้สึกตัวนั้น ฝันร้ายกำลังคืบคลานมาเยือน เพราะเวลานั้นเรากำลังสูดควันพิษจากก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไปแบบเต็มๆ ก๊าซพิษเข้าสู่ร่างกายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆ สะสมอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเรานอนหลับไปนานเท่าไร แสดงว่าเราจะได้รับก๊าซพิษมากเท่านั้น,ทั้งนี้ เมื่อร่างกายได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในปริมาณมากๆ ก็จะเข้าไปรวมตัวกับฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง จนทำให้ก๊าซพิษมีปริมาณมากกว่าก๊าซออกซิเจนได้ถึง 200-250 เท่าตัว เป็นเหตุให้ความสามารถในการนำพาออกซิเจนของเม็ดเลือดแดง เพื่อไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายและสมองค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ ระบบประสาทเราจะเริ่มทำงานผิดปกติ หัวใจเต้นผิดจังหวะ และอาจหยุดเต้นได้ในที่สุด เมื่อร่างกายขาดออกซิเจนนั่นเอง,สำหรับอาการเมื่อเราสูดดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าสู่ร่างกาย แรกเริ่มจะทำให้มีอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย อาเจียน เมื่อได้รับปริมาณมาก ก็จะไม่รู้สึกตัว ระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตในที่สุด,คาร์มิ, อธิบายขนาดนี้แล้ว เห็นภาพรึยังทุกคน หลังจากนี้ช่วยเอาไปเล่าต่อ และแชร์เรื่องเหล่านี้ให้คนรอบข้างได้ฟังด้วย อย่างน้อยจะได้เป็นการป้องกันเบื้องต้น แต่ทีนี้หลายคนบอกว่าก็คนมันง่วง จะให้ทำอย่างไร? ขับก็ไม่ได้ เพราะเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ แล้วต้องทำอย่างไรดี?,มาค่ะคาร์มิ มีคำแนะนำดีๆ ที่คุณต้องนำไปปฏิบัติตามมาฝากกัน กับ 5 วิธีนอนในรถอย่างถูกต้อง เมื่อง่วงหรือจำเป็น (จริงๆ) เท่านั้น,1. ทำเลที่จอด, ,เอาเลยค่ะอันดับแรก เลือกทำเลที่จอดที่ปลอดภัย ไม่กีดขวางทางจราจร ไม่จอดในที่อันตราย และมีพื้นที่พอจอดอย่างเหมาะสม คือไม่ใช่ทางขึ้นเขาลงเนิน ไม่มีหุบเหว ไม่มีร่องน้ำคูคลอง หรือไม่มีเครื่องจักรทำงาน โดยเฉพาะเวลากลางคืน ที่จอดต้องไม่มืด มีแสงสว่างเพียงพอ จะปั๊มน้ำมัน หรือที่พักริมทางได้ยิ่งดี,2. ห้ามเปิดแอร์,ปิดไปเลยค่ะ ลืมไปเลยความเย็น ลืมไปเลยอุณหภูมิจากแอร์ เพราะมันจะทำให้คุณถึงตายได้ สรุปง่ายๆ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จะเข้าไปแทนที่ก๊าซออกซิเจนในรถ ทำให้เราขาดออกซิเจนในการหายใจ นี่แหละต้นเหตุการเสียชีวิต,3. ลดกระจกลง,คาร์มิห่วงมากๆ กับการที่บอกว่า ห้ามเปิดแอร์ แล้วไม่ได้บอกอีกว่า ต้องเปิดกระจก หรือลดกระจกลงด้วยนะ บางคนใสซื่อ บอกห้ามเปิดแอร์ ก็นอนมันอย่างนั้น มันก็จะดับอนาถนะคุณเอ๊ย อันนี้ก็ขาดอากาศหายใจตายอีกเช่นกัน ดังนั้นเปิดกระจกลงสักเล็กน้อย ถ้าอยู่ในที่ไม่คุ้นเคย แต่หากบริเวณนั้นปลอดภัยสำหรับคุณ ก็เปิดมันให้หมดทุกบาน แถมเปิดประตูอีกด้วยก็ย่อมได้,4. ล็อกรถให้ดี,อันนี้สำหรับที่ที่ไม่ปลอดภัย หรือไม่คุ้นเคย คือก่อนที่คุณจะหลับตานอน คุณจะต้องตรวจสอบให้ดี ว่าล็อกรถดีแล้ว ไม่อย่างนั้นอาจถูกชิงทรัพย์ ถูกขโมยทรัพย์สินไปได้ ตื่นมาจนเลยจ้า,5. เปิดพัดลมช่วย,อ้าวๆ ไม่ต้องงงพัดลมจากแอร์ไง เพียงคุณบิดกุญแจไปเปิดระบบไฟ ก็เปิดพัดลมได้แล้วจ้า อย่างน้อยก็ช่วยให้ได้อากาศจากภายนอกอีกหนึ่งทาง คุณจะได้รู้สึกหายใจได้สะดวกขึ้น ไม่อึดอัดมากเกินไป, แต่ย้ำอย่าเปิดแอร์นะ ,ง่ายๆ แบบนี้ แต่ทำให้คุณๆ มี วันพรุ่งนี้ เสมอ แล้วอย่าเผลอไผลไปหลับบนรถนานๆ เชียวละ ,คาร์มิ, ว่ายังไงมันก็ไม่ดี เอาแค่พอหายง่วง พอขับไหว แล้วก็ไปให้ถึงจุดหมายปลายทางกันเถอะค่ะ หรือยิ่งถ้ารู้ว่าต้องเดินทาง ก็จงเตรียมตัวเองให้พร้อม,เพราะครอบครัวและคนรักของคุณ ยังรอคอยการกลับมาของคุณเสมอ ,บาย,อ่านเรื่องราว คาร์มิ เพิ่มเติม พร้อมกับอัพเดท ฤกษ์ออกรถ ได้ ,ที่นี่, 
คาร์มิ มาไขข้อข้องใจ นอนหลับในรถทำไมถึงตาย? แนะวิธีนอนในรถที่ถูกต้อง! และคุณจะต้องนำไปปฏิบัติตาม
ข่าว,ยานยนต์
นอนหลับในรถ,นอนในรถ,วิธีนอนในรถ,นอนหลับบนรถ,คาร์มิ
https://www.thairath.co.th/news/auto/tips/1246792
คลุกวงในไทยลีก 23/04/62
ด้วยฝีมือของ วีเออาร์ ที่ปฏิเสธการยิงประตูของ ราฮีม สเตอร์ลิงไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ,ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยังร้อนแรงในเจลีกอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมายิงประตูแรกนำร่องให้ คอนซาโดเล ซัปโปโร ถล่มเอาชนะ โยโกฮามา เอฟ มารินอส ไปขาดลอย 3:0 เป็นแรงบันดาลใจ ของน้องๆ ที่อยากจะ เดินตามรอยพี่เจ,ตอนนี้ ก้องภพ สรงกระสินธ์ พร้อมทีมงาน 5 ต. อันมี ติ๋ว วีระยุทธ สวัสดี, เตี้ย สะสม พบประเสริฐ, ต้อม ณรงค์ สุวรรณโชติ, เต้ย พ.ต.ภาณุพงศ์ ผิวอ่อน และ ติณณ์ วุฒิธรรม พร้อมลุยเฟ้นหาเยาวชน 60 คน เดินตามรอยเจกับอิเดมิตสึ ญี่ปุ่น,ข่าวดีที่ต้องเขียนเมื่อ ไทยลีก ติด 5 อันดับแรก ค่าเฉลี่ยแฟนบอลลีกสูงสุดของประเทศในเอเชีย อันดับหนึ่งคือ ไชน่าลีก 22,594 คน ในขณะที่ ไทยลีก 5,180 คน เป็นรองแค่ ญี่ปุ่น, อิหร่าน, เกาหลีใต้,แต่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยังมี การบ้าน ที่จะต้องทำเกี่ยวกับจำนวนคนดูอีกมากมายเพราะช่วงที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กับคณะ เข้ามาบริหารไทย ลีก ค่าเฉลี่ยคนดูของปีที่แล้ว 4,444 คน ต่อนัด ถือว่าต่ำสุดในรอบ 6 ปีย้อนหลัง,เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังคงดำดิ่งอยู่ท้ายตารางเมื่อแพ้คาบ้านให้กับ การท่าเรือ เอฟซี 1:2 ก็อย่างที่เคยตั้งข้อสังเกตไว้ ถ้ายังแก้ปัญหา ขบเหลี่ยม กันในทีมไม่ได้ ยุน จอง ฮวาน คงจะเอาเกียรติประวัติ โค้ชยอดเยี่ยม มาทิ้งไว้ที่เมืองไทยเป็นแน่แท้,โรคสงกรานต์เป็นพิษ ระบาดกับทีมใหญ่ๆ อย่างน้อย 2 ทีม เมื่อ ตราด เอฟซี ทีมรองบ่อน บุกไปตีเสมอ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงบ้าน 1:1 และ ชัยนาท เอฟซี ที่ก่อนเล่นเป็นรองบานเบอะ แต่กลับพลิกล็อกชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้ 2:1 งานนี้ ขจร เจียรวนนท์ ร้อนใจ ในขณะที่ มาโน โพลกิง ร้อนก้น ,วีเออาร์,[email protected]
ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งนิรันดร์ (อีกแล้ว) เมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมเต็ง 1 ที่จะคว้า 4 ถ้วยในปีนี้ มีอันต้องตกกระป๋องถ้วยใหญ่ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ไปเรียบร้อยแล้ว
null
ชนาธิป สรงกระสินธ์,แมนเชสเตอร์ ซิตี้,ก้องภพ สรงกระสินธ์,แฟนบอล,คลุกวงในไทยลีก,วีเออาร์
https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/1550356
น.1 ชี้ต้องสอบพยานเพิ่ม อาจขอหมายศาลค้นซ้ำบ้าน ไอซ์ หีบเหล็ก
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 30 ม.ค.63 พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เผยถึงความคืบหน้าคดีที่ นายอภิชัย องค์วิศิษฐ์ หรือ ไอซ์ หีบเหล็ก อายุ 40 ปี ก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.วรินทร์ธรณ์ หรือ กุ๊กกิ๊ก ไชยเชษฐ อายุ 22 ปี ก่อนตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 59 ซอยเพชรเกษม 47 ย่านบ้านแค พบร่างผู้ตายถูกฝังดิน อาวุธปืน ยาเสพติด รวมถึงโครงกระดูกรวมกว่า 326 ชิ้น มีทั้งกระจัดกระจายและถูกยัดหีบเหล็กถ่วงน้ำจมอยู่ก้นบ่อหลังบ้าน ว่า จากพยานหลักฐานในตอนนี้ ยังพบว่ามีผู้เสียชีวิตภายในบ้านหลังดังกล่าว 3 ศพ ซึ่งก็ยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอในกระดูกที่พบ 2 ศพหลัง จากแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช ว่าผู้ตายเป็นใคร เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีญาติของ น.ส.ออย ที่คาดว่าจะเป็นศพที่ 3 มาแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนกระแสข่าวที่ว่า นายอภิชัย ได้ยิงคนงานชายชาวต่างด้าวแล้วฝังศพอำพรางใต้ต้นมะม่วงภายในบ้านนั้น ประเด็นนี้ก็ทำการตรวจสอบก่อน ซึ่งหากจะต้องเข้าพื้นที่เพื่อค้นหาอีกครั้งนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้เกิดความชัดเจน ทั้งนี้ นายอภิชัยได้ถูกแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว 4 ข้อหา ยังเหลือสำนวนคดีเกี่ยวกับโครงกระดูกที่พบ 2 ศพภายหลัง ซึ่งยังรอการแจ้งข้อกล่าวหา.
ผบช.น ขอเวลาสอบพยาน ชี้อาจต้องขอหมายศาลค้นซ้ำที่บ้าน ไอซ์ หีบเหล็ก หลังพบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ศพ ส่วนประเด็นยิงคนงานต่างด้าวแล้วฝังใต้ต้นมะม่วง ทางตำรวจกำลังหาหลักฐานเพื่อให้เกิดความชัดเจน
ข่าว,อาชญากรรม
ไอซ์หีบเหล็ก,ไอซ์ หีบเหล็ก,ข่าวไอซ์หีบเหล็ก,ไอว์หีบเหล็กบ้าน,ฆ่ายัดหีบ,อภิชัย องค์วิศิษฐ์,ผบช.น.,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1760241
ทักษิณ จัดรายการ Good Monday หวังแบ่งปันประสบการณ์ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลง
เชื่อทางรอดมีอย่างเดียวต้องปรับตัว รวมตัว และร่วมกันแข่งขัน14 ม.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ตแฟนเพจ ระบุว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้จัดรายการ Good Monday ซึ่งสามารถเข้ารับฟังได้ทางเว็บไซต์ เพื่อแบ่งปันประสบการณ์จากการได้พูดคุยกับผู้นำประเทศทั้งปัจจุบันและอดีต ผู้นำทางธุรกิจ นักวิชาการ นักเทคโนโลยีทั่วโลก ให้กับคนไทยท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วสำหรับรายการ Good Monday ตอน 001 ทักษิณ ได้พูดถึง เศรษฐกิจโลกในปี 2019 และ 2020 ที่จะกระทบกับรายย่อย การรับมือการพัฒนาทางเทคโนโลยี การใช้หุ่นยนต์แทนแรงงานมนุษย์ แนวทางการรักษาโรคโดยลดการใช้ยาที่สกัดจากสารเคมี และการออกแบบเศรษฐกิจใหม่ เพื่อรองรับสังคมของผู้สูงอายุ โดยมีรายละเอียดดังนี้สวัสดีครับ พี่น้องที่เคารพรักครับ วันนี้ผมจะมาเริ่มพบปะพูดคุยกับพี่น้องในวันจันทร์ ผ่านเว็บไซต์ของทักษิณ official เพื่อที่จะได้เล่าเรื่องราวที่ไปเที่ยวพบคนนั้นคนนี้ ไปดูงานตรงนั้นตรงนี้ เพื่อที่จะได้เอามาแบ่งประสบการณ์ให้พี่น้องคนไทย เพราะว่าโลกมันเปลี่ยนไปเร็วจริงๆวันนี้จะเริ่มต้นด้วยการที่ผมอวยพรปีใหม่ และแสดงความห่วงใยไปยังพี่น้องคนไทย เมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมา ก็มีหลายเรื่องที่อยากอธิบายต่อ ก็เลยจะขออธิบายว่า สิ่งที่ผมเป็นห่วงอันนึง ก็คือเรื่องเศรษฐกิจในปลายปีนี้ ต่อด้วยต้นปีหน้า คศ.2020 ดูตัวเลขดีนะ 2020 ทุกคนก็หวังว่าจะทำนู่นนี่สำเร็จ แต่บังเอิญว่ามันเป็นวัฎจักรของระบบการเงินโลกที่น่าจะมีปัญหา เศรษฐกิจโลกจะมีปัญหา จะอ่อนแอลง หรือว่าเกิดภาวะวิกฤต ซึ่งจะเป็นแรงกระแทกใหม่ต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งหนีไม่พ้นเพราะว่าเราคือส่วนนึงของโลก เราคงจะหนีภาวะนี้ไม่ได้ก็มีผู้รู้พูดกันว่าอาจจะเริ่มเกิดที่แถวยุโรปตะวันออกก่อน เพราะว่าเศรษฐกิจเขาอ่อนแออยู่แล้ว และธนาคารของประเทศเหล่านี้ก็เป็นธนาคารเล็กๆ อ่อนแอกัน ก็อาจจะมีปัญหากันพอสมควร ทางอเมริกา เศรษฐกิจอเมริกาปีหน้าก็น่าจะอ่อนตัวลงด้วยเช่นกัน ก็เลยเป็นห่วงประเทศไทยเรา วันนี้เรายังไม่ได้ปรับตัว และก็อ่อนแออยู่ด้วย โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานล่างเราอ่อนแอมาก ก็เลยคิดว่าถ้าโดนเที่ยวนี้ เราจะป้องกันกันอย่างไร ก็แสดงความกังวลไว้ก่อนแต่ที่สำคัญคือว่า ระบบการเงินโลกก็ดี ระบบเทคโนโลยีก็ดี หรือว่าวิธีการทำมาหากินด้วยโครงสร้างทางธุรกิจแบบใหม่ๆ ก็ดี มันเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปรับตัว ถ้าไม่ปรับตัวมันจะลำบาก เพราะว่าความเชื่อมโยงของโลกมีมาก บริษัทระดับโลกก็หากินข้ามชาติมาถึงประเทศไทย บริษัทระดับชาติของประเทศไทยก็หากินข้ามจังหวัดไปจนถึงชนบท เพราะฉะนั้นคนตัวเล็กๆ ในชนบทจะเริ่มทำมาหากินลำบากขึ้น คนตัวเล็กๆ ขนาดกลางก็เริ่มเหนื่อยขึ้น เพราะถ้าไม่ใหญ่จริงจะไปรอดยาก นั่นคือมิติที่จะเกิดขึ้นเพราะฉะนั้นมันมีทางเดียวคือ ต้องปรับตัวให้คนข้างล่างเนี่ยรวมตัวกันแข็งแรง เหตุการณ์มันถ้าเราคิดถึงเทคโนโลยีเนี่ย ก็จะเปรียบเทียบเหมือนสมัยก่อน IBM เป็นเจ้าโลกทางด้านคอมพิวเตอร์ เมื่อใหญ่มาก ก็แสดงความยิ่งใหญ่หนักเข้าไปอีก ด้วยการที่ทุกอย่างไม่เปิดให้ใครเข้ามาร่วม ตัวเองจะหากินคนเดียว ผลสุดท้ายคนตัวเล็กๆ บริษัทคอมพิวเตอร์เล็กๆ ก็จับมือกัน และใช้ระบบที่เรียกว่า ระบบเปิด รวมตัวกันแข่งกับ IBM จน IBM ทรุดเลย เจอคนตัวเล็กรุมหนักเข้า ต่อยหนักเข้า เพราะฉะนั้นผมเลยคิดว่าประเทศไทยวันนี้ จะทำยังไงถึงจะรวมตัวเล็กๆ ของเรา ไม่ใช่จะเอามารวมกัน แต่ว่าเอาเทคโนโลยีถักร้อยให้รวมกัน ให้บริษัทเล็กๆ เหล่านี้แข็งแรงได้อย่างเช่นเรื่องของที่ผมเคยคิดไว้เมื่อสมัยก่อน Brand Thailand คิดถึงเรื่องของระบบแอพพลิเคชั่น ที่มันจะทำให้เกิด Sharing Economy หรือเกิดการทำให้เอาสิ่งที่เรามีอยู่มารวมกันเหมือนเป็นบริษัทใหญ่ แต่ไม่ใช่บริษัทใหญ่ แต่เป็นต่างคนต่างทำมาหากิน ต่างคนต่างมีรายได้ แต่ใช้เทคโนโลยีร้อยรวมเข้าหากัน อันนี้จะต้องรีบต้องเกิด ถ้าไม่เกิดก็แข็งแรงสู้เขาไม่ได้อีกเรื่องนึงที่ผมได้พูดถึงไป ก็คือเรื่องตัวเทคโนโลยีที่พูดถึงหุ่นยนต์ หุ่นยนต์เนี่ยเค้าบอกว่าปี 2045 เค้าทำนายไว้ว่าหุ่นยนต์จะมีความฉลาดเท่ากับมนุษย์ ที่มีสมองเท่ากับสมองเฉลี่ยของโลก คือถ้าใครมีสมองต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ก็โง่กว่าหุ่นยนต์ ถ้าใครสมองฉลาดกว่าค่าเฉลี่ยก็จะเก่งกว่าหุ่นยนต์ นี่คือสิ่งที่เค้าทำนายไว้นะครับ เพราะว่าเค้าใส่โปรแกรมเข้าไปทำให้หุ่นยนต์เรียนรู้ได้ตลอดเวลา สามารถเรียนรู้ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพราะฉะนั้นในประเทศที่ไม่เจริญทางเทคโนโลยี ก็จะมองหุ่นยนต์เป็นตัวมาแย่งงานคนทำ แต่ส่วนประเทศที่มีความเจริญทางเทคโนโลยี เค้าก็จะมองว่าหุ่นยนต์มาช่วยทำให้คนสามารถไปทำงานที่สำคัญกว่า งานจำเจซ้ำซ้อน พวกงานประจำเนี่ยก็ให้หุ่นยนต์ทำก็ได้ นี่คือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเพราะฉะนั้นประเทศไทยเราควรจะต้องฝึกคนให้เป็นนายหุ่นยนต์ อย่ามานั่งรอให้หุ่นยนต์มาไล่เราออกจากงาน นั่นก็คือฝึกการใช้โปรแกรมด้าน AI หรือ artificial intelligence และฝึกการใช้หุ่นยนต์ บังคับหุ่นยนต์ให้ทำงานต่างๆ เพราะว่าแม้กระทั่งชาวนาเนี่ย อีกหน่อยหุ่นยนต์ก็จะมาหว่านข้าวเกี่ยวข้าวได้ ตัวนึงก็ไม่แพง เพราะฉะนั้นแล้วชาวนาของเราจะทำไง ก็ต้องฝึกดิ เราอย่าไปหนีมัน ต้องสู้กับมัน นั่นคือหลักของผม คืออย่าไปหนีอะไรเลย สู้กับมันดีกว่า ง่ายกว่า ง่ายกว่าหนีนะครับ เพราะฉะนั้นผมคิดว่าวันนี้ประเทศไทยต้องเตรียมความพร้อมตรงนี้อีกเรื่องที่ผมพูดในคำอวยพรของผมตอนปีใหม่เนี่ยก็พูดถึงเรื่องสุขภาพ เทคโนโลยีด้านสุขภาพ ตอนนี้มันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายนะครับ การมารักษาโรคที่อาการมันหรือรักษาโรคที่ปลายทางมันเนี่ย หรือที่เราทำๆ กันอยู่ทุกวันนี้ มันล้าสมัย แล้วมันก็สิ้นเปลือง แล้วก็ใช้เวลานาน แล้วก็ไม่ทำให้คนไข้ดีขึ้นโลกข้างหน้าเขาจะใช้ตัว DNA มาเป็นเครื่องมือประกอบ ในการวิเคราะห์ วิจัย เกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้น เช่นว่า ยกตัวอย่างเรื่องยา วันก่อนผมไปนั่งคุยกับอาจารย์ที่มาจาก Harvardเขามาทำวิจัยที่ฮ่องกง เขาบอกว่ายาเนี่ย ส่วนใหญ่เวลามันทำการทดลอง เขาเรียกว่า clinical trial หรือทดลองทางคลินิก ทดลองกับมนุษย์ก่อนที่จะออกใช้เนี่ย ปรากฏว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นยาทางด้านตะวันตก มันอาจจะใช้ไม่ได้สำหรับคนตะวันออกก็ได้เขาก็เลยเริ่มมาเอาข้อมูลเกี่ยวกับคนป่วยทางด้านเมืองจีน โดยเฉพาะจีน ตลาดจีนเป็นตลาดใหญ่ ก็เริ่มจากคิดว่ายาตัวไหนมันใช้ได้กับจีน แล้วต้องผสมส่วนยังไงถึงจะเหมาะกับคนเอเชีย เขาจะเริ่มใช้ยาเนี่ย โดยดูว่า DNA ของคนที่มาจากกลุ่มนี้ คนนี้ เป็นยังไง ถึงจะสามารถยา จนอีกหน่อยเขาเรียกกว่า personalized medicine คือเป็นยาที่เจาะจงเฉพาะคนที่มี DNA ประเภทนี้ ถึงจะกินยาตัวที่ถูกต้อง อะไรอย่างนี้ มันจะเริ่มมากขึ้นเพราะฉะนั้น DNA จะเป็นตัวที่มา แหล่งในการถูกใช้งานมากขึ้น เพื่อจะให้ยาเฉพาะเจาะจงสำหรับคน อาหารเฉพาะเจาะจงที่เหมาะกับ DNA ของเรา มันกำลังมาและอีกตัวที่มันอยู่ในโครโมโซมเรา ในมนุษย์เราเนี่ยมีโครโมโซมอยู่ 23 คู่ ตรงปลายโครโมโซมเนี่ยเขาเรียกว่า เทโลเมียร์ เทโลเมียร์ตัวนี้ มันมีความสั้นยาว หดได้ ยืดได้ ตามภาวะสุขภาพเรา เขาบอกว่าคนเกิดใหม่เนี่ย เทโลเมียร์มันจะมีความยาว สมมุติว่าเอ่อ ผมจำตัวเลขไม่ได้ หมื่นไมครอน หรืออะไรทำนองนี้ แต่ว่าสรุปแล้วก็คือว่า มันมีความยาวสุด แต่พอตายด้วยเชื้อโรคนะไม่ใช่ตายด้วยอุบัติเหตุ ตายเพราะเจ็บป่วยเนี่ย มันจะหดลงเหลือครึ่ง เพราะฉะนั้นเนี่ย ช่วงที่เรามีชีวิตอยู่เนี่ย เขาสามารถวัดความยาวของเทโลเมียร์เนี่ย เพื่อจะบอกว่า อ๋อ สภาวะร่างกายของเราเนี่ยดีหรือไม่ดีอย่างไร เผื่อเราจะได้ปรับวิถีชีวิต การอยู่ การกิน การออกกำลัง เพื่อให้ไอ้เทโลเมียร์ตัวนี้มันกลับมายาว มันก็คือสุขภาพเรากลับมาแข็งแรงขึ้นนะครับเพราะฉะนั้นก็การดูแลร่างกายเราเนี่ย มัน มันเปลี่ยนไป วิถีทางมันเปลี่ยนไปแม้กระทั่งว่า วันนี้การใช้ยาที่เป็นเคมีเนี่ย จะถูกใช้ลดลงนะครับ เนี่ยผมเพิ่งไปเมืองจีนกลับมา ไปเยี่ยมบริษัท บริษัทนึงทำ Lab ทางด้านยาเนี่ย ก็พบว่าเขาใช้ ไมโครปส์ หรือ เชื้อจุลินทรีย์เนี่ย มาทำยามากขึ้นแล้ว มาทั้งรักษามะเร็ง มาทั้งละลายลิ่มเลือดไม่ให้ข้น เติมเอาวิตามินซีให้เข้ากระดูกมากขึ้น เพื่อให้กระดูกเราแข็งแรง อะไรทำนองนี้นะครับ แล้วคราวต่อไปผมจะมาเล่าเรื่องที่ผมไปเมืองจีน ไปเห็นอะไรมาบ้างนะครับแล้วนอกจากนั้น ก็มาพูดถึงเรื่องของฟิสิกส์เนี่ยจะมาแทนยา เขาใช้การรักษาด้วยการใช้เครื่องมือทางฟิสิกส์ แทนที่จะมีการกินยาๆฉีดยา ตอนนี้จะเริ่มลดไป อย่างเช่น การเจ็บปวด ก็แทนที่จะใช้ยา ก็มาใช้เรื่องของเครื่องมือทำ shock wave ช็อคเวฟ มานวดมาอะไรแทนยามั่ง มันก็จะมีอะไรขึ้นมาหลายอย่างเนื่องจากวันนี้อาจจะพูดยาวไปละ ก็ขอสรุปว่า ต่อไปสุขภาพมนุษย์จะแข็งแรงขึ้น จะมียุคที่เรียกว่า มี Human Spare Parts ก็คือมีอะไหล่มนุษย์ มนุษย์เราเนี่ยเค้าบอกว่าอะไหล่ทุกชิ้นเนี่ยเปลี่ยนได้หมด ยกเว้นตัวสมอง ตัวหัวใจ ตับ ไต ไส้พุง เปลี่ยนได้หมด เพราะฉะนั้นยุคที่มันกำลังจะเข้ามาวันนี้ ก็คือยุคของการใช้ DNA การใช้ฟิสิกส์แทนยา การเปลี่ยนอะไหล่มนุษย์เพราะฉะนั้นมนุษย์จะมีอายุยืนยาวขึ้น เมื่อก่อนเราพูด 100 เป็นเรื่องตื่นเต้น ตอนนี้เค้าพูดถึง 120 เพราะฉะนั้นอยู่ยังไงให้มีคุณภาพ อยู่ยังไงไม่ให้เป็นภาระลูกหลาน นั่นคือสิ่งที่เราจะต้องดูแลกันเอง เพราะฉะนั้นสังคมไทยต้องเตรียมสังคมของคนสูงอายุไว้ ต้องปรับตัวอย่างแรงในเรื่องการออกแบบเศรษฐกิจธุรกิจ ออกแบบเศรษฐกิจประเทศ ออกแบบการดูแลผู้คน ออกแบบสวัสดิการของมนุษย์ทั้งหลายวันนี้ผมก็ขอกราบลาไปแค่นี้ แล้ววันหลัง ถ้าวันจันทร์ไหนผมว่าง ผมจะมาพูดกับพี่น้องสักครั้งนึง อาจจะเป็นจันทร์เว้นจันทร์ หรือว่าบางจันทร์ก็อาจจะติดกันแล้วแต่นะครับ จะพยายามเล่าอะไรให้ฟังให้เป็นความรู้ดีกว่านะครับ เรื่องที่ไม่สร้างสรรค์ก็ไม่ค่อยอยากเสียเวลาพูด เราพูดกันแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตพวกเราดีกว่า วันนี้ขอกราบลาแค่นี้ครับ
ทักษิณ ชี้เศรษฐกิจโลกในปี 2020 น่าห่วง ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังอ่อนแอ โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานล่าง คนตัวเล็กๆ ในชนบทจะเริ่มทำมาหากินลำบากขึ้น คนตัวเล็กๆ ขนาดกลางก็เริ่มเหนื่อยขึ้น ถ้าไม่ใหญ่จริงรอดยาก
การเมือง,เศรษฐกิจ,คุณภาพชีวิต,วิทยาศาสตร์
ทักษิณ ชินวัตร,Good manday
https://prachatai.com/journal/2019/01/80544
มนัญญา บุก กรมวิชาการเกษตร ยึดเอกสารปริมาณสำรอง 3 สารเคมี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 ก.ย.) ประกาศแบน 3 สารเคมีที่ใช้ในการเกษตร คือ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ซึ่ง น.ส.มนัญญาได้สั่งให้กรมวิชาการเกษตรรายงานสต๊อก 3 สารเคมีที่มีอยู่,แต่กลับยังไม่รายงานให้รับทราบ ทำให้ น.ส.มนัญญาต้องเดินทางไปที่กรมวิชาการเกษตร โดยไม่มีการบอกล่วงหน้าเพื่อทวงถามด้วยตัวเอง พร้อมได้ประกาศที่กรมวิชาการเกษตร ว่า ตนเอง น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ ที่กำกับดูแลกรมวิชาการเกษตร หากไม่เชื่อฟัง ก็ให้ใครที่มีอำนาจมาปลดตนเองออกจากตำแหน่งก่อน จะได้ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับการพิจารณาเรื่อง 3 สารเคมีอันตราย แต่ถ้ายังกำกับดูแลกรมวิชาการเกษตร ก็ต้องเชื่อฟัง และในที่สุด น.ส.มนัญญากล่าวว่า ได้รับเอกสาร,สต๊อกสารเคมีแล้ว,ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. น.ส.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้เดินทางมายังกระทรวงเกษตรฯเพื่อร่วมประชุม เพื่อเตรียมฟื้นฟูและเยียวยาน้ำท่วม โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการบุกสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร เพื่อทวงข้อมูลสต๊อกสารเคมีดังกล่าว น.ส.เสริมสุขไม่ได้ตอบอะไร แต่แสดงสีหน้าบึ้งตึงก่อนจะบอกว่า ไม่รู้เรื่อง ว่า น.ส.มนัญญาเดินทางไปทวงข้อมูลสต๊อกสารเคมี,นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเช่นกัน และยังไม่ได้รับรายงานถึงกรณีที่ น.ส.มนัญญาเดินทางไปทวงเอกสารสต๊อกสารเคมีด้วยตนเอง เพราะไม่มีการแจ้งล่วงหน้า จึงต้องสอบถามความเป็นจริงจาก,น.ส.เสริมสุขก่อน เพราะอาจมีเรื่องที่เข้าใจไม่ตรงกัน และต้องนัด น.ส.เสริมสุขเพื่อเข้าพบ รมช.เพื่อชี้แจงการทำงาน ในฐานะปลัด พ่อของน้องๆของอธิบดีและข้าราชการในกรม ยอมรับว่ากังวลเรื่องของความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน จะต้องพา น.ส.เสริมสุข เข้าพบ น.ส.มนัญญา เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข และเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ น.ส.มนัญญา สังกัด ได้ยืนยันไม่ให้มีการใช้สารพิษทางการเกษตรทั้ง 3 ชนิด เพราะมีคนเจ็บคนป่วยจากสารพิษเหล่านี้ ขณะที่ น.ส.มนัญญาก็ได้ประชุมร่วมกับเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง 686 องค์กร โดยระบุว่า การแบนสารพิษ 3 ชนิด จะจบ ภายในสิ้นปีนี้ พร้อมมีมาตรการทดแทนสารเคมี โดยใช้วิธีทางเลือกการทำเกษตรที่ปลอดภัย และจะสรุปความเห็นของคณะทำงานศึกษาผลกระทบ การใช้สารเคมี และลงนาม เพื่อส่งไปยังคณะกรรมการวัตถุอันตราย กระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาและมีมติต่อไป.
เวลา 10.00 น. น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางไปที่กรมวิชาการเกษตร หลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข
ข่าว,เศรษฐกิจ
มนัญญา ไทยเศรษฐ์,อนุทิน ชาญวีรกูล,กรมวิชาการเกษตร,เสริมสุข สลักเพ็ชร์,อนันต์ สุวรรณรัตน์,เอกสารสต๊อกสารเคมี,ทวงเอกสาร
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1662186
รักครั้งนี้ ใบเฟิร์น รับโดนหลอก เชื่อพ่อกลับไปคบก็โง่เต็มที (คลิป)
ทำเอาสาวอารมณ์ดี ใบเฟิร์น พัสกร ถึงกับฮาไม่ออก เผยจากใจว่ารู้สึกช็อก หลังมีสาวปริศนาออกมาแฉว่า หนุ่มหน้าตี๋ เจโม่ หวานใจคนใหม่ของ ใบเฟิร์น กำลังคบซ้อน เพราะยังไม่เลิกกับแฟนสาวของตัวเองที่คบกันมากว่า 10 ปี โดยผู้ที่ออกมาแฉนั้นเป็นน้องสาวของแฟนเจโม่ใบเฟิร์น ขอเปิดใจเคลียร์ครั้งแรกหลังอัดรายการคุยแซ่บShow ช่อง ONE 31 ที่สตูดิโอแกรมมี่ บอกเลยงานนี้ โดนหลอก เรื่องราวเป็นอย่างไร? วันที่ 14 ก.พ. วันนั้นตอนเย็นก็ไปทานข้าวกับพี่โม่ ก็เห็นว่าเขาโพสต์รูปที่ทุกคนเห็นกัน คงเป็นโพสต์เพราะวันวาเลนไทน์มั้ย คิดในใจนะ เค้าพูดว่าเป็นครั้งแรกที่เค้าโพสต์ ตอนแรกเราก็ลงสตอรี เพราะรู้สึกว่าเขาโพสต์ เราก็โพสต์ วันนั้นกลับไปบ้าน ก็เริ่มเช็กคอมเมนต์ก็ไม่มีอะไร มีแต่แซว เชียร์ จน 15 ก.พ. เริ่มเห็นคอมเมนต์ในไอจีเฟิร์นเป็นคอมเมนต์แปลกๆ ที่เป็นเชิงว่าไปเลิกกันก่อน เราก็เริ่มตกใจ งงก่อน แล้วก็ไปดูในไอจีพี่โม่ ปรากฏว่ามีคอมเมนต์ทำนองเดียวกัน คนเดียวกัน แต่ภาษารุนแรงกว่า เฟิร์นอินบ็อกซ์ไปถามเลยพอเราอินบ็อกซ์เค้าว่าไง? เอ่อก็อย่างที่เค้าพิมพ์คอมเมนต์มาประมาณนั้นเลยเราเองก็พูดอะไรไม่ถูก ได้แต่พูดไปว่า มันจริงเหรอคะ มันยังไงเหรอคะ ทางนั้นเค้าก็เริ่มเล่ารายละเอียดให้ฟัง ถ้าหากเราอยากรู้อะไรเพิ่ม ก็ให้ลองไปคุยกับน้องสาวเค้าดูก็คือคนที่โพสต์ และก็ให้เบอร์ติดต่อมา เราได้เบอร์ปุ๊บก็โทร.หาเค้า ทางเค้าเองก็เล่าให้ฟังตามสิ่งที่เค้าพิมพ์ไว้ ตอนนั้นทำได้แค่พูดคำว่า ขอโทษ ที่ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน รวมถึงฝากไปขอโทษผู้หญิงอีกคนด้วยเชื่อเลย 100 เปอร์เซ็นต์? ตอนนั้นปากคอมันสั่นไปหมด เคยเห็นนะเหตุการณ์อะไรแบบนี้ แต่พอมาเจอกับตัวเองมันก็ช็อก วินาทีนั้นคำเดียวที่เราคิดในใจก็คือ ชิบหายแล้ว คือเขาคุยกับเราดีมาก จริงๆเขาพยายามเตือนมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่เป็นเราเองที่ไม่เห็น เราก็เลยคิดว่ามันคงเป็นดวงของเราเองที่ทำให้เรื่องราวกลายเป็นแบบนี้คุยกับเจโม่ตอนไหน? พอวางหูไป เหมือนนางก็เริ่มรู้ ก็โทร.มาหาหนู เค้าก็ยอมรับ เค้าก็ยังคุยกันอยู่ เพียงแต่ว่าไม่ได้ไปมาหาสู่กันแล้ว เค้าขอโทษ เค้าไม่ได้แก้ตัวอะไรใดๆ เค้าไม่ได้พูดว่าคบซ้อน เค้าพูดแค่ มันก็เป็นตามนั้นเค้ายังคุยกันอยู่ แต่ว่าไม่ได้ไปเจอ ก็ห่างๆคิดว่าถูกหลอกมั้ย? มันแน่นอนอยู่แล้ว มันชัดอะ เราไม่รู้ว่าเจตนาเค้าตั้งใจหรืออะไร แค่วันนี้เราโดนกับตัวเอง ก็เสียใจนะเรากับเจโม่รู้จักกันได้ยังไง? พี่โม่เป็นเพื่อนในแก๊ง รู้จักกันไม่นานค่ะ เค้ากลับมาจากออสเตรเลียก็มาช่วยงานพี่ที่รู้จัก เค้าอยู่ร้านอาหาร เฟิร์นก็เจอเค้า ได้พูดคุยกัน เราก็รู้สึกดีกับเค้าเคยระแคะระคายมั้ย? ต้องบอกเลยว่าเฟิร์นกับพี่โม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง ไม่ทราบอะไรเลย เมื่อ 2-3 อาทิตย์ที่แล้ว เค้าก็พาเฟิร์นไปเจอครอบครัวนะ เจอครบเลย พ่อ แม่ พี่ชาย พี่สาว ทำให้เรารู้สึกไม่มีอะไรอะบทสรุปตอนนี้? พอวางหูจากพี่โม่ไป เราก็ประมวลกับตัวเอง รู้สึกว่ามันต้องถอยแล้วจริงๆ เค้าจะอยู่ยังไงก็เป็นเรื่องของเค้าเค้ามาง้อมั้ย? ง้อค่ะ เค้ายังติดต่อมา หนูก็ตอบเท่าที่ตอบได้ และคุยเท่าที่คุยได้ ตอนนี้หนูต้องเอาตัวหนูออกมาก่อน ถ้าถามหนูไม่ได้รู้สึกโกรธ เกลียดอะไรเค้า หนูรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันแย่ แต่หนูรู้สึกว่าเรารู้จักกันแค่ 4 เดือนเอง ซึ่งหนูกับพี่โม่ยังไม่ได้ตกลงว่าเราเป็นแฟนกันอย่างจริงจังคำพูดที่พ่อบอกว่าถ้ากลับไปคบกับเขาก็โง่เต็มที? ก็คงจะเป็นอย่างที่พ่อพูดนั่นแหละ (ยิ้ม)เรื่องนี้สอนอะไรเราบ้าง? หนูค่อนข้างมั่นใจนะ ว่าหนูไม่ได้ทำอะไรผิด กับเรื่องนี้ ถ้าสอนอะไรสักอย่าง ก็คงเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เราได้เจอ ช่วงนี้พักก่อน หากมีใครก็ต้องดูเยอะขึ้นค่ะ เอาจริงๆ เรื่องความรัก ไม่มีใครโง่ ไม่มีใครฉลาดนะยังเชื่อเรื่องความรักอยู่? เชื่อค่ะข่าววงในว่าทางผู้ชายเป็นบาร์โฮสใช้เราเป็นเครื่องมือให้เป็นข่าว? ไม่ทราบเลยค่ะ ไม่ต้องเช็กแล้วมั้ง ออกมาแล้ว.
ทำเอาสาวอารมณ์ดี ใบเฟิร์น พัสกร ถึงกับฮาไม่ออก เผยจากใจว่ารู้สึกช็อก หลังมีสาวปริศนาออกมาแฉว่า หนุ่มหน้าตี๋ เจโม่ หวานใจคนใหม่ของ ใบเฟิร์น
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ใบเฟิร์น พัสกร,เจโม่,ใบเฟิร์น เจโม่,ใบเฟิร์น เจโม่ เลิก,ใบเฟิร์น พัสกร แฟน,จาตุรงค์ มกจ๊ก,ข่าววันนี้,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1776508
วันวานยังหวาน Nintendo ประกาศวางขาย มินิซุปเปอร์ นินเทนโด แล้ว
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2560 นินเทนโด (Nintendo) ค่ายเกมชื่อดัง ประกาศวางจำหน่ายเครื่องเกมคอนโซล SNES Classic หรือ Super Nintendo Entertainment System Classic Edition อย่างเป็นทางการ สนนราคาเริ่มที่ 79.99 เหรียญสหรัฐฯ โดยภายในเครื่องมาพร้อมกัน 21 เกม ได้แก่ Super Mario World, Super Mario Kart, The Legend of Zelda: A Link to the Past, F-Zero, Super Metroid, Star Fox 2 (yes, the unreleased sequel), Street Fighter II Turbo, Super Punch-Out, Super Castlevania IV, Donkey Kong Country, Mega Man X,.Kirby Super Star, Final Fantasy III, Kirbys Dream Course, Star Fox, Yoshis Island, Super Mario RPG, Contra III, Secret of Mana, Earthbound และ Super Ghouls n Ghosts โดย SNES Classic มีกำหนดวางจำหน่าย 29 ก.ย.2560 นี้ในทวีปอเมริกาเหนือ,พร้อมกันนี้ นินเทนโด ญี่ปุ่น ได้ประกาศจำหน่าย นินเทนโด คลาสสิก มินิ ซุปเปอร์ นินเทนโด (Nintendo Classic Mini Super Nintendo) อันเป็นเครื่องเล่นเกมซุปเปอร์แฟมิคอมแบบย่อส่วน โดยเครื่องเกมซุปเปอร์แฟมิคอม เคยวางจำหน่ายเมื่อปี 1990 เป็นเครื่องเล่นเกมแบบ 16 บิต ที่ปรับปรุงคุณภาพเสียงและกราฟิกในเกมดีขึ้นกว่าเครื่องเล่นเกมแฟมิคอมรุ่นก่อนหน้าที่เป็นเครื่องเทคโนโลยี 8 บิต พร้อมกับจอย คอนโทรลเลอร์แบบเดิม ที่มี 4 ปุ่ม A, B, X, Y ด้านขวา และ 2 ปุ่ม L และ R ด้านบน ทั้งหมดนี้มาในเครื่องขนาดเท่าฝ่ามือ มาพร้อม 21 เกม วางจำหน่ายที่ญี่ปุ่น 5 ต.ค.2560 ราคา 7,980 เยน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม).
นินเทนโด ประกาศวางจำหน่าย เครื่องเกมคอนโซล SNES Classic หรือ ซุปเปอร์แฟมิคอมไซส์ มินิ ในทวีปอเมริกาเหนือ 29 ก.ย.2560 ส่วนในญี่ปุ่นมาในชื่อ มินิ ซุปเปอร์นินเทนโด ขายวันที่ 5 ต.ค.ปีนี้ ในราคาเครื่องละประมาณ 2,600 บาท
ข่าว,ต่างประเทศ
นินเทนโด,Nintendo,นินเทนโด คลาสสิค มินิ ซุปเปอร์ นินเทนโด,SNES Classic,ซุปเปอร์แฟมิคอม,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/foreign/985052
ชี้ บึมรถไฟเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเป็นก่อการร้าย-จนท.เจอระเบิดอีกลูก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเหตุระเบิดในอุโมงค์ระหว่างสถานีรถไฟใต้ดินเทคโนโลจิเชสกี อิสติจูด กับสถานี เซนนายา พลอสชาด ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ของประเทศรัสเซีย เมื่อเวลาประมาณ 14:30น. วันจันทร์ที่ 3 เม.ย. โดยล่าสุดจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 11 รายแล้ว ขณะที่จำนวนผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 45 คน แต่อาจเพิ่มขึ้นอีกเมื่อเวลาผ่านไป,เหตุระเบิดเกิดขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน อยู่ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แต่นายดีมิทรี เฟสคอฟ ออกมาปฏิเสธรายงานของสื่อท้องถิ่นที่ว่า ประธานาธิบดีปูตินมีกำหนดการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินในเส้นทางที่เกิดการระเบิด,ขณะที่นายกรัฐมนตรี ดีมิทรี เมดเวเดฟ แห่งรัสเซีย โพสต์แถลงการณ์ลงบนเว็บไซต์เฟซบุ๊กของเขา และเรียกเหตุระเบิดครั้งนี้ว่าเป็นการโจมตีก่อการร้าย ขณะเดียวกัน คณะกรรมการต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติ ของรัสเซีย แถลงว่า ตำรวจตรวจพบระเบิดอีกลูกหนึ่ง ที่สถานี เซนนายา พลอสชาด แต่ดำเนินการเก็บกู้เรียบร้อยแล้ว,ด้านผู้ว่าการเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประกาศให้มีการไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตเป็นเวลา 3 วันโดยเริ่มตั้งแต่วันอังคาร,อนึ่ง ก่อนหน้านี้นาย อันเดร เปรซดอมสกี โฆษกคณะกรรมการต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติ บอกกับสื่อท้องถิ่นว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนเชื่อว่าเหตุระเบิดเกิดจากอุปกรณ์ระเบิดที่ยังไม่อาจระบุชนิดได้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดกำลังหาสาเหตุของการระเบิดในครั้งนี้,ส่วนประธานาธิบดีปูตินได้แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมทั้งประกาศว่า กำลังประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานความมั่นคงกลาง (FSB) และตำรวจเพื่อหาเหตุผลเบื้องหลังการระเบิด โดยไม่ตัดความเป็นไปได้ใดๆ ออกไป รวมทั้งเรื่องการก่อการร้ายด้วย,ข่าวเกี่ยวข้อง,บึมสนั่นหวั่นไหว รถไฟใต้ดินที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ตาย 11 เจ็บอื้อ
นายกรัฐมนตรี ดีมิทรี เมดเวเดฟ ของรัสเซียระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า เหตุระเบิดที่ขบวนรถไฟใต้ดินในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นการก่อการร้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่พบระเบิดอีกลูกที่สถานีรถไฟใต้ดินอีกแห่งแต่เก็บกู้ได้แล้ว
ข่าว,ต่างประเทศ
เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก,ระเบิด,ก่อการร้าย,กู้ระเบิด,สถานีรถไฟใต้ดิน
https://www.thairath.co.th/news/foreign/904012
กำนันร้อง มวล. ไม่จ่ายค่าถมดิน
เมื่อวันที่ 20 ก.พ. นายกวี ศรีวิสุทธิ์ กำนัน ต.หัวตะพาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า โดยได้แบ่งงานให้กับผู้ถมดินรายย่อยในจำนวนที่ไม่เท่ากัน ตามแต่ความยากง่าย ในราคาตารางเมตรละ 25-28 บาท ผู้ถมดินเหล่านี้ได้ถมมาประมาณ 53% แต่ปรากฏว่าหลังจากทาง มวล.ได้ยกเลิกสัญญากับ บ.กิจการร่วมค้าพีวีที ส่งผลให้การทำงานของพวกตนต้องหยุด ชะงักไปด้วย ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุทางมหาวิทยาลัยได้เรียกพวกตนไปพูดคุยและประเมินค่าความเสียหายตามหลักฐานเป็นเงินกว่า 21 ล้าน 8 แสนบาท และทาง มวล.ยืนยันที่จะจ่ายค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้ จนถึงวันนี้ มวล.ยังบ่ายเบี่ยงไม่มีคำตอบที่ชัดเจนทำให้พวกตนและผู้รับเหมาถมดินรายเก่าต้องเดือดร้อนอย่างหนักต้องหมดเนื้อหมดตัว,ผมและพวกต้องออกมาร้องขอความเป็นธรรม ล่าสุดทราบมาว่าทาง จนท.สตง.ได้ออกมาระบุว่า ทาง มวล.ไม่ได้แจ้งกับสำนักงบประมาณว่ามีค่าถมดิน ตามสัญญาครั้งที่ 1 จริงอยู่ทำสัญญากับกิจการร่วมค้าพีวีที แต่การถมดิน มวล.ได้ประโยชน์เต็มๆ เป็นลาภ ที่ไม่ควรได้ อีกทั้งการว่าจ้างก่อสร้างศูนย์แพทย์ มวล. ทั้ง 2 ครั้ง อยากให้ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามา ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยและให้ความเป็นธรรมให้กับผมด้วย นายกวีกล่าว,กำนัน ต.หัวตะพานกล่าวด้วยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากขาดอธิการบดีตัวจริง วันนี้มีชุดรักษาการทำงานแทน ถูกฟ้องไปกว่า 20 คดี และเรื่องของตนกำลังเป็นคดีที่ 21 จึงร้องผ่านสื่อมวลชนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรรหาอธิการบดีตัวจริงลงมาแก้ปัญหา หากปล่อยไว้แบบนี้แก้ไม่เสร็จสิ้นอย่างแน่นอน อำเภอขาดนายอำเภอ 3 เดือนยังยุ่งยากมาก แต่ มวล.ขาดอธิการบดีมา 3 ปีแล้ว วุ่นไปใหญ่ มวล. มีนักวิชาการดีๆเป็นเลิศหลายคน แต่ผู้บริหารไม่กี่คนที่ทำไม่ดี ใครก็ได้ให้เข้ามาบริหาร จะได้หยุดปัญหาเสียที ข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.
ได้เข้าร้องเรียนกับทางศูนย์ดำรงธรรม จ.นครศรีธรรมราช เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีที่ตนได้ทำสัญญากับ บ.กิจการร่วมค้าพีวีทีในการว่าจ้างถมดินศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) ในวงเงิน 30 ล้านบาท
null
นครศรีธรรมราช,กวี ศรีวิสุทธิ์,ร้องเรียน,ถมดิน,มวล.,มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์,ไม่จ่ายค่าถมดิน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/content/580347
ใบตองแห้งออนไลน์: สันติวิธีกับความเป็นธรรม
อะไรคือความเป็นธรรมของอาจารย์ คงเขียนอธิบายเป็นภาษาสวยงามได้หลายหน้ากระดาษ แต่ไม่มีคำตอบให้กับคนที่เขารู้สึกว่าเกิดความไม่เป็นธรรมขึ้นจากรัฐประหารตุลาการภิวัตน์ จากการปล้นอำนาจที่เขาเลือกตั้งเข้ามา จากความยุติธรรม 2 มาตรฐาน ฯลฯความเป็นธรรมของอาจารย์จะเกิดได้อย่างไร ภายใต้อำนาจที่มีที่มาไม่ชอบธรรมนี่คือปัญหาของนักสันติวิธี ที่ออกมาเคลื่อนไหวใส่เสื้อขาวอยู่ตอนนี้ ผมยินดีและยอมรับความปรารถนาดีของนักสันติวิธีอย่างอาจารย์โคทม อาจารย์ปริญญา คุณสารี ที่พยายามห้ามทั้งม็อบเสื้อแดงและรัฐไม่ให้ใช้ความรุนแรง แต่ถามว่าแล้วคุณจะห้ามอยู่ได้อย่างไร ในเมื่อรัฐบาลยืนกรานไม่ยุบสภา ขณะที่ม็อบเสื้อแดงซึ่งมาทำ สงครามครั้งสุดท้าย มีมวลชนมากมายขนาดนี้ เขาก็คงไม่ยอมถอยง่ายๆนักสันติวิธีจึงมาถึงทางตัน เพราะมองไม่เห็น ไม่ตระหนัก ไม่รู้สึก ต่อความไม่เป็นธรรม ความไม่ชอบธรรม อันเป็นที่มาของรัฐบาลชุดนี้เมื่อวันอาทิตย์ผมเผอิญได้ดูรายการทีวีไทย ที่เชิญนักสันติวิธีทั้งหลายไปร่วมรายการ (มีจารย์พิชญ์ไปนั่งพูดอะไรให้ถูกหลักถูกใจอยู่ด้วย) อ.นิธิท่านพูดได้ชัดเจนที่สุดว่า ต้องหาทางลงให้ม็อบเสื้อแดง ไม่เช่นนั้นก็หลีกเลี่ยงความรุนแรงไม่ได้ ฉะนั้นต้องมีการเจรจาต่อรองข้อเรียกร้องอ.นิธิชัดเจนเพราะท่านบอกว่าอภิสิทธิ์ควรยุบสภาตั้งนานแล้ว รัฐบาลแม้ขึ้นมาโดยไม่ชอบธรรม แต่ท่านถือว่ายังดีกว่ารัฐประหาร กระนั้นหน้าที่สำคัญของรัฐบาลคือ จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ที่ทุกคนยอมรับโดยเร็ว ฉะนั้น อภิสิทธิ์ควรยุบสภาตั้งนานแล้วชัดเจนนะครับ ผู้ดีอังกฤษ ที่มาของคุณไม่ชอบธรรม ถ้าคุณชนะการเลือกตั้งโดยชอบธรรม ม็อบจะไม่มีสิทธิมาเรียกร้องให้คุณยุบสภาหรือลาออกคนที่ไม่ชัดเจนคือนักสันติวิธี ซึ่งมองไม่เห็นความรุนแรงเชิงโครงสร้าง ทั้งรัฐประหาร และตุลาการภิวัตน์ ที่กระทำกับคนอีกฝ่ายจนเขาเหลืออด กระนั้นเขาก็ยังเรียกร้องขอช่วงชิงอำนาจคืนผ่านกระบวนการประชาธิปไตย คือเลือกตั้งใหม่ถ้านักสันติวิธีมองไม่เห็น แล้วเอาแต่ถือพระปางห้ามญาติ ก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอกครับปัญหาของนักสันติวิธีคือส่วนใหญ่ก็เกลียดทักษิณกันทั้งนั้น และดีอกดีใจที่ได้อภิสิทธิ์เป็นนายกฯ แม้จะตะขิดตะขวงใจกันอยู่บ้างกับกระบวนการตั้งแต่รัฐประหาร แต่ก็รู้สึกว่าผลไม้พิษมันหอมหวาน นักสันติวิธีจึงแยกไม่ออกระหว่างบทบาทหน้าที่ตัวเอง กับทัศนะทางการเมืองของตัวเองอันที่จริงก็น่าสงสารนะครับ เช่นอาจารย์ปริญญา เป็นคนที่มีความจริงใจ ปรารถนาดี เป็นคนที่ไม่อยากให้เกิดความรุนแรงไม่ว่ากับสีไหนทั้งสิ้น แต่ความไม่ชัดเจนทำให้ออกอาการพะว้าพะวัง จะเป็นพวกนิติไกรพจน์ก็ไม่เชิง จะมาทางอาจารย์วรเจตน์ก็ไม่ใช่ สุดท้ายเลยโดนทั้งพวกพันธมิตรด่า โดนพวกเสื้อแดงด่า แถมยังโดนพวกสองไม่เอาด่าคำถามใหญ่สำหรับนักสันติวิธีคือ สถานการณ์จะยกระดับขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีใครยอมถอย แทนที่จะเอาแต่ชูพระปางห้ามญาติ คุณช่วยหาทางออกให้มีการเจรจา หรือพบกันครึ่งทางได้ไหมข้อเรียกร้องนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยนะครับ ถ้าอภิสิทธิ์มีที่มาชอบธรรม ขอย้ำ แต่ในเมื่อตัวอภิสิทธิ์เองก็เคยพูดว่าจะอยู่ไม่ครบเทอม ทำไมถึงจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ ที่จะให้คำมั่นว่าแม้ยังไม่ยุบสภาวันนี้ แต่จะยุบในอีก 3 เดือนหรือ 6 เดือน (เกินนั้นเสื้อแดงอย่ายอม)การต่อสู้แย่งชิงอำนาจผ่านการเลือกตั้งคือวิถีประชาธิปไตย ที่จะช่วยลดความรุนแรงนอกกติกา อย่ามาอ้างความเป็นธรรมเลื่อนลอยถ่วงเวลา อย่ามาอ้างปัญหาเศรษฐกิจ แบบกรณี 19 ก.ย. เพราะนี่ไม่ใช่การต่อสู้ครั้งสุดท้าย ความรุนแรงจะยังเกิดขึ้นต่อไปถ้าไม่บำบัดความอยุติธรรมแล้วก็ไม่ต้องอ้างการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ผมจะสนับสนุนให้แก้ไข แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะต้องแก้ทั้งฉบับ ต้องต่อสู้กันอีกยาว ที่จะแก้ 6 ประเด็นนะหรือ มาตรา 237 ไม่มีความหมายแล้ว ไม่มีควายที่ไหนส่งกรรมการบริหารลง ส.ส.เขตให้จับใบแดงยุบพรรค ปชป.ยังลดกรรมการบริหารเหลือแค่ 15 คนก่อนเพื่อนแน่นอนว่าเลือกตั้งแล้วความขัดแย้งยังอยู่ แต่การต่อสู้จะค่อยๆ เข้าไปอยู่ในกรอบ ถ้าคุณบอกว่ายุบสภาใน 6 เดือน ม็อบเสื้อแดงก็จะไม่มาอีกแล้ว แต่จะกลับไปเข้าสู่กระบวนการรณรงค์เลือกตั้ง (อย่างมากอาจจะมาไล่ กกต. เลียนแบบพันธมิตร ไม่ได้ยุนะ-ฮิฮิ)อย่างน้อย พรรคการเมืองใหม่ก็จะได้แจ้งเกิดเสียที ไม่ต้อง fly kite กันฟรีๆ อยู่แบบนี้ สนธิ ยะใส จะได้ประกาศนโยบายแก้ปัญหาความยากจนให้ประชาชน (ตามแนวทางลัทธิประเวศแข่งกับทักษิโณมิคส์-ฮิฮิ)แล้วอย่าไปกลัวล่ะว่าจะเข้าทางทักษิณ คุณอยากทำอะไรเขาอีก ต้องโทษจำคุกก็แล้ว ยึดทรัพย์ก็แล้ว พันธนาการที่ทำไว้กับทักษิณน่ะ ต่อให้ชนะเลือกตั้งเข้ามาก็แก้ไม่ได้ง่ายๆ มันต้อง ปฏิวัติประชาชน เท่านั้น อยากเห็นแบบนั้นไหมล่ะ อยากเห็นก็กดกันต่อไปพูดง่ายๆ ว่าถ้าผมเป็นทักษิณนะ ใจจริงก็ไม่อยากให้ยุบสภาหรอก แต่อยากให้มีอะไรเปรี้ยงปร้างในวันสองวันนี้ดีกว่า จริงไหม เลือกตั้งเดิมพันสูง แพ้ขึ้นมาจบเห่พูดอย่างนี้ไม่ใช่จะให้ขี่ม้าสามศอกไปบอกอภิสิทธิ์ว่ายุบสภาเหอะ ก็แล้วแต่ท่านทั้งหลายจะพิจารณาจังหวะเวลาที่เหมาะสม ผมแค่ฝากเตือนว่า หนึ่ง พระห้ามญาติช่วยไม่ได้ และสอง ยุบสภาเป็นทางออกที่ชอบธรรมและลดความรุนแรงหวังว่าคงไม่มีแต่ และคงไม่ใช่แค่ลำไม้ไผ่ในขณะที่เรียกร้องนักสันติวิธีให้มองเสื้อแดงว่าถอยไม่ได้ เสี่ยงต่อความรุนแรง ผมก็ไม่สามารถยุเสื้อแดงว่า ถอยไม่ได้ เพราะเสี่ยงกับความรุนแรง เสียเลือดเนื้อ และความพ่ายแพ้ถึงอย่างไรก็ต้องยึดการต่อสู้โดยสันติ สู้ยืดเยื้อ และไม่ใช่สงครามครั้งสุดท้ายมวลชนเสื้อแดงต้องพร้อมที่จะทำใจว่า ถ้าต่อสู้ถึงที่สุดแล้ว รัฐบาลดื้อรั้นไม่ยุบสภา คุณก็ต้องถอยได้ เพื่อกลับมาใหม่ เพื่อการต่อสู้ครั้งใหม่ ที่อาจได้รับชัยชนะที่เหนือกว่า อย่าคิดว่ากลับครั้งนี้ต้องแพ้เลยถ้าดูการเคลื่อนไหวตั้งแต่วันที่ 12-15 มี.ค. และอาจจะต่อเนื่องถึงวันที่ 16 มี.ค. ที่ประกาศกรีดเลือด ผมเห็นว่าเสื้อแดงขึ้นต้นได้สวย ไม่เพลี่ยงพล้ำ แม้ต้องเผชิญหน้ารัฐบาลสร้างภาพถูกจริตคนกรุงคนชั้นกลาง รวมทั้งสื่อ นักวิชาการ (สวมคราบ) ที่รุมกระหน่ำแทบข้างเดียวนั่นคือเสื้อแดงให้ภาพของมวลชนที่ฮึกเหิม มาด้วยใจ สู้ไม่ถอย มีความเป็นระเบียบพอสมควร มีจำนวนที่ทำให้ทุกฝ่ายต้องอึ้งทึ่งไปเลย แถมยังมี gimmick แบบยกขบวนแห่ ยกทัพเรือ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการสร้างภาพผีป่าจะมาปล้นเมืองของไอ้เทือกไอ้ไทแล้วคนละเรื่อง ทำให้รัฐบาลต้องถอยไปตั้งรับ ยืนกรานแต่ว่าจะไม่ออก ไม่ยุบ แล้วก็เที่ยวก่อกวนเล็กๆ น้อยๆ เช่น ขอหมายจับอริสมันต์ในวันก่อม็อบพอดี หรือพอจะกรีดเลือด ก็แห่กันออกมาโวยวายแปลกๆ เช่น จะติดเอดส์ติดเชื้อไวรัส หรือห้ามแพทย์พยาบาลเจาะเลือดเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมืองถือว่าผิดจรรยาบรรณ (สิทธิส่วนบุคคลของเขา แพทยสภาไปยุ่งอะไรวะ กลับไปทำมาหาเงินไป๊)การกรีดเลือดประท้วงเป็นประเพณีแต่โบราณ ไม่ใช่เรื่องของแพทยสภา พยาบาล หรือสภากาชาด ที่จะมาเที่ยวปากมากปากเมนท์ นี่ดีเท่าไหร่แล้วที่ไอ้เทือกไม่ส่งตีความว่าเลือดเป็นอาวุธหรือไม่ ยุ่งนัก เดี๋ยวยุให้ปาขี้เสียเลย (ฮา-แต่อย่าลืมนะครับ อารยะขัดขืน ถ้าทำต้องรับสารภาพ มอบตัว รับโทษจำคุก 10 วัน)กลับมาเข้าเรื่องว่า ภาพรวมใน 4-5 วันคืออะไร คือม็อบเสื้อแดงไม่ได้รับการต่อต้านจากชาวบ้านบางระจัน (ฮา) ตรงกันข้ามยังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคนกรุง ทั้งเสื้อแดง หรือไม่ใช่เสื้อแดงแต่เบื่อหน่ายรัฐบาลนี้ ซึ่งจำนวนไม่น้อยเป็นคนชั้นกลาง เช่นภาพในประชาไทวันเคลื่อนทัพไปราบ 11 มีคนมาโบกธงแดง ผ้าแดง ต้อนรับตลอดสองข้างทาง ตั้งแต่ยาม คนงาน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล คนขับรถเมล์ ไปจนกระทั่งพนักงานบริษัทผูกไท และคนทุกประเภทนี่คือชัยชนะแล้ว นี่แสดงให้เห็นพลังของเสื้อแดงที่ไม่ได้มีแค่อยู่ในม็อบ แต่อยู่ทั่วทุกหัวระแหงในกรุง และในประเทศนี้ รวมถึงผู้มีใจเป็นธรรมที่แม้ไม่ใช่เสื้อแดงก็มองเห็นความอยุติธรรม อำมาตย์ ผู้ดี สื่อ เห็นแล้วต้องตกใจว่าพวกเขาเหลือมวลชนอยู่แค่ไหน (เหลืออยู่ในโพลล์-ฮา)ฉะนั้น ถ้าเสื้อแดงยึดมั่นในการต่อสู้โดยสันติ ใช้มาตรการอารยะขัดขืน ที่ไม่ยกระดับไปสู่ความรุนแรง อย่างน้อยก็จะได้ชัยชนะในจิตใจประชาชน ซึ่งแม้จะเป็นชัยชนะที่เป็นนามธรรม แต่มีผลใหญ่หลวงในการต่อสู้ระยะยาว พร้อมกับลบภาพความรุนแรงเมื่อสงกรานต์ที่แล้ว ถ้าม็อบเสื้อแดงครั้งนี้สามารถกลับบ้านโดยสันติ ผู้คนก็จะลืมเหตุการณ์เมื่อสงกรานต์ และคุณจะมาใหม่อีกเมื่อไหร่ก็ได้มวลชนเสื้อแดงจึงต้องตระหนักว่า การเคลื่อนไหวจะต้องไม่ยกระดับสู่ความรุนแรง แต่คุณต่อสู้ยืดเยื้อได้ ยาวนานได้ แปรการต่อสู้นี้ให้มวลชนในกรุงเทพฯ เข้าร่วม ทั้งพี่น้องคนยากคนจน คนชั้นกลาง ซึ่งประเด็นสำคัญคือสร้างความเชื่อมั่นว่าพวกคุณจะม็อบโดยสันติ ไม่ยึดอนุสาวรีย์ ไม่บุกมหาดไทย คนชั้นกลางก็จะเข้าไปร่วมกับคุณมากขึ้นจะเป็นอะไรไปล่ะครับ ถ้าการต่อสู้จะยืดเยื้อไปอีกสักหน่อย ไม่ใช่อยู่แค่ 4 วัน อาจจะ 7 วันถึงวันแดงเดือด (แมนฯยูถล่มลิเวอร์พรุน ฮิฮิ) หรืออยู่ยาวไปกว่านั้น ใครมีธุระกลับก่อน ที่บ้านใครว่างก็มาเสริม (แต่ลำบากหน่อยนะ งานนี้ท่อน้ำเลี้ยงน้อย หลังทักษิณถูกยึดทรัพย์ สื่อพาดหัวว่ามีท่อน้ำเลี้ยงแค่ร้อยล้าน ลดราคาจากเมื่อก่อนที่พาดหัวหลายร้อยล้าน-ฮา)7 วัน 10 วัน ไม่ต้องถึง 193 วัน ไม่ชนะ ในทางข้อเรียกร้องก็กลับได้ เพราะ ชนะ ในขั้นตอนทางยุทธศาสตร์ คุณต้องเชื่อมั่นว่า ระบอบไม่เอาทักษิณ ที่ไร้ความชอบธรรม ไร้ประสิทธิภาพ ขัดแย้งในตัวมันเอง ไม่มีทางอยู่ได้ ไม่ใช่ว่าคุณกลับวันอาทิตย์นี้แล้วอภิสิทธิ์จะเสวยอำนาจอยู่ราบรื่นถึงปลายปีหน้า (ว่างจากการผลิตเมื่อไหร่ค่อยยกทัพกลับมาทางด่านเจดีย์สามองค์)ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้บอกไม่ให้กดดัน เพราะในการเคลื่อนไหว แกนนำต้องกำหนดมาตรการกดดันอยู่แล้ว จะมานั่งตบแปะอยู่เฉยๆ ได้อย่างไร ไม่มีใครรู้ว่าวันที่ 17 18 หรือวันต่อๆ ไปจะมีมาตรการอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องดูไปวันต่อวันเพียงแต่ถึงที่สุดคือในภาวะล่อแหลมของการตัดสินใจ จะต้องยึดแนวทางสันติ ไม่ก่อความรุนแรงก่อน เพราะรุนแรงก่อนก็แพ้ ต้องมองสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น และมองให้เห็นการต่อสู้ระยะยาว ซึ่งลำพังเสื้อแดงไม่สามารถเอาชนะอำนาจที่ครอบงำอยู่ได้ คุณต้องสร้างแนวร่วม คุณต้องมีคนชั้นกลาง คุณต้องมีพลังอื่นๆ คู่ขนาน อย่าให้ความรุนแรงทำลายแนวร่วม ทำลายอนาคตเพราะถ้าขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่เหมือนสงกรานต์อีก คราวนี้แพ้หนักเลยนะครับใบตองแห้ง15 มี.ค.53
หมอประเวศออกมาเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อความเป็นธรรมแห่งชาติ ชี้ยุบสภาไม่ใช่ทางออก กราบขอบพระคุณในความปรารถนาดี ข้อเสนอของอาจารย์ฟังเหมือนเข้าที แต่ไม่รู้เรื่องตามเคย (ฮา)
การเมือง
ทักษิณ ชินวัตร,สันติวิธี,เสื้อแดง,ใบตองแห้ง
https://prachatai.com/journal/2010/03/28291
8 ดาวรุ่งมวยไทยดวลเดือด ศึกมวยรอบไทยประกันชีวิต ครั้งที่ 13
วันที่ 11 พ.ย.60 สนามมวยเวทีลุมพินี ร่วมกับ บ.ไทยประกันชีวิต และ บ.เวิล์ดสปอร์ตกรุ๊ป ระเบิดศึก มวยรอบไทยประกันชีวิต ครั้งที่ 13 โดยมี 8 นักชกดาวรุ่ง เจอกันในแบบกติกาน็อกเอาต์ แพ้ตกรอบทันที ความมันส์และเร้าใจแบบนี้ ชมได้ทุกวันเสาร์ที่สนามมวยเวทีลุมพินี รามอินทรา หรือชมทางช่อง 9 MCOT HD. ศึกมวยไทยลุมพินี TKO. เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป,สำหรับนักมวยทั้ง 8 คน จะชกกันในพิกัด 122 ปอนด์ แบ่งออกเป็น 2 สาย ดังนี้,สาย เอ :, ศักดิ์ศรี ศักดิ์บุรีรัมย์ (ศึกเกียรติเพชร) พบ สรรชัย ส.จ.เล็กเมืองนนท์ (ศึกเกียรติเพชร), ธงสยาม ว.สุริยนต์ (ศึกรวมพลคนแปดริ้ว) พบ พรพิทักษ์ พิทักษ์เมืองแคน (ศึกเพชรสุภาพรรณ),สาย บี :, เฮอริเคน ส.เดชะพันธ์ (ศึกเพชรหนุ่มน้อย) พบ แก่นเพชร นาย่าปาร์ควิวขอนแก่น (ศึกวันชัยชนะ), ยอดภูหลวง เกียรตินครชล (ศึก ดร.น็อตมวยไทยซุปเปอร์ไฟต์) พบ ก้องยโส ท.เมืองหลังสวน (ศึกแสงมรกต),โดยผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมเข็มขัดแชมป์ ขณะที่รองแชมป์จะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท.
ศึก มวยรอบไทยประกันชีวิต ครั้งที่ 13 จับ 8 สุดยอดดาวรุ่งมวยไทยดวลกันในแบบน็อกเอาต์ เพื่อหาผู้ชนะรับเงินรางวัลกว่า 100,000 บาท ถ่ายทอดสดทางช่อง 9 เวลา 16.00 น. ตั้งวันที่ 11 พ.ย.เป็นต้นไป
กีฬา,มวย/MMA
เวทีลุมพินี,มวยรอบไทยประกันชีวิต,ช่อง 9 MCOT,ศึกมวยไทยลุมพินี TKO
https://www.thairath.co.th/sport/boxing-mma/1123485
กวีประชาไท: เรื่องเล่า
คุณเห็นเรื่องเล่าหรือเรื่องโกหกเมื่อเหตุการณ์ผ่านไปมีความจริงหลายมุมพลิกเหลี่ยมที่หนึ่งพลิกมุมที่สองยุคสมัยที่ใครๆ ก็ถือกล้องถ่ายภาพไว้ในมือตลอดเวลาเรื่องเล่ายังคงปรุงแต่งคุณเห็นเหลี่ยมมุมใดเมื่อเหตุการณ์ผ่านไปคุณเห็นเรื่องเล่าและวิธีการเล่าเรื่องไหมคุณใช้ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวที่มีมุมมองวางไว้อย่างไรในฐานข้อมูลที่สนามโล่งในวันฝนตกมีเหตุการณ์เกิดขึ้นคนส่วนหนึ่งพูดว่า.คนอีกส่วนหนึ่งพูดว่ามีคนพูดว่า ถ้าฝนไม่ตกก็จะไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมีคนพูดว่า ถ้าไม่มีคนแบบหนึ่งก็จะไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมีคนพูดว่า มีคนพูดว่า มีคนพูดว่า คุณเห็นเรื่องเล่าหรือเรื่องโกหกเมื่อเหตุการณ์ผ่านไปคุณเห็นฐานข้อมูลที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของบันทึกประวัติศาสตร์ในวันหนึ่งข้างหน้าหรือไม่คุณเห็นฐานข้อมูลที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของบันทึกประวัติศาสตร์ในวันนี้หรือไม่
คุณเห็นเรื่องเล่าหรือเรื่องโกหกเมื่อเหตุการณ์ผ่านไปมีความจริงหลายมุมพลิกเหลี่ยมที่หนึ่งพลิกมุมที่สองยุคสมัยที่ใครๆ ก็ถือกล้องถ่ายภาพไว้ในมือตลอดเวลาเรื่องเล่ายังคงปรุงแต่ง
วัฒนธรรม
กวีประชาไท,เรืองรอง รุ่งรัศมี
https://prachatai.com/journal/2017/08/72716
เปิดวอร์ สุรพศ สวน ว.วชิรเมธี 3 ประเด็น ปมทวีต ฆ่าเวลาบาปยิ่งกว่าการฆ่าคน ปี 53
สุรพศ โพสต์โต้ 3 ประเด็น ทั้งบริบทของข้อความขณะนั้น เสรีภาพทางความคิดเห็นและการแสดงออกและจุดยืนอยู่ตรงไหน หลัง ว.วชิรเมธี รับตำแหน่งผู้อุปถัมภ์ด้านสันติภาพฯ ของ UNHCR พร้อมแจง ปมทวีต ฆ่าเวลาบาปยิ่งกว่าการฆ่าคน ปี 53 ว่าเป็นแค่สอนให้เห็นคุณค่าของเวลา พร้อมต่อว่า นักวิชาการบางค่ายนำข้อความไปเขียนเลยเถิด25 พ.ย.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่สํานักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) มอบตำแหน่งผู้อุปถัมภ์ UNHCR (UNHCR Patron) แด่ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี)ในฐานะผู้อุปถัมภ์ UNHCR ด้านสันติภาพ และเมตตาธรรม ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันโดยสันติระหว่างผู้ลี้ภัย และชุมชนนานาชาติ หลังจาก ว.วชิรเมธี สนับสนุนแคมเปญ เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างนอก (Nobody Left Outside) ตั้งแต่ปี 2559 เพื่อเสริมสร้างการรับรู้ และระดมทุน แก่ผู้ลี้ภัยที่ขาดแคลนที่พักอาศัยจำนวน 2 ล้านคนทั่วโลก นั้น เกิดกรณีวิจารณ์ถึงพฤติกรรมในอดีตช่วงสถานการณ์สลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. ปี 2553 ที่ ว.วชิรเมธี ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์@vajiramedhi ว่า ฆ่าเวลาบาปยิ่งกว่าการฆ่าคน ในคืนวันที่ 9 เม.ย. 2553 ก่อนการเข้าสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. ในวันต่อมา (10 เม.ย.2553) จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่จำนวนมาก ซึ่งถูกมองว่าเป็นการสนับสนุนหรือสร้างความชอบธรรมให้แก่การแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงดังกล่าวนั้นต่อมา 16 พ.ย.2561 เฟสบุ๊กแฟนเพจ ซึ่งมียอดถูกใจกว่า 6 ล้าน เผยแพร่บทความชื่อว่าโดยใจความยืนยันว่าข้อความดังกล่าวที่เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์นั้น เพียงต้องการสอนให้เห็นคุณค่าของเวลาพร้อมทั้งวิจารณ์นักวิชาการบางคน ด้วยว่า ยกข้อความบางส่วนจากฉบับเต็มมาอ้างแล้วก็พูดขึ้นมาเองเลยว่า ผู้เขียนบทความนี้ เขียนหรือสอนกระตุ้นความรุนแรงเพราะสอนว่า การฆ่าคนไม่บาป ซึ่ง ว.วชิรเมธี ยืนยันว่าไม่มีใครเขียนเลยเถิดไปขนาดนั้นเลย บริบทก็ไม่ใช่ พร้อมระบุว่าช่วงขัดแย้งกลางเมืองในปี 2553จำได้ว่า ตนนี้เอง เป็นคนร่วมกันคิดกับพระไพศาล วิสาโล ว่าควรจะจัด บิณฑบาตความรุนแรง จากนั้นก็ไปชวนแม่ชีศันสนีย์ ท่านเจ้าคุณวัดพระราม 9มาแถลงข่าวร่วมกันที่อุทยานเบญจสิริมีสื่อมวลชนมาทำข่าวมากมาย ฐานข้อมูลในกูเกิลก็มีอยู่ และยืนยันว่า ตลอดชีวิตสมณะไม่เคยสอนใครให้ไปฆ่าใคร ไม่เคยสอนนอกพระธรรมวินัยล่าสุดวันนี้ นักวิชาการด้านศาสนา และเป็นหนึ่งในผู้เคยเขียนบทความวิพากษ์ ว.วชิรเมธี โพสต์ข้อความโต้ว่าประการแรก ที่ว่าข้อความ ฆ่าเวลาบาปกว่าฆ่าคน เป็นคำเปรียบเทียบที่มุ่งสอนให้คนเห็นค่าของเวลา ไม่ปล่อยเวลาสูญเปล่าด้วยความประมาทเท่านั้น ไม่ได้ต้องการจะบอกว่าฆ่าเวลาเป็นบาปจริงๆ และไม่ได้บอกว่าฆ่าคนไม่บาป หรือ ไม่ได้มีเจตนาส่งเสริมการฆ่าคนอย่างที่สื่อหรือนักวิชาการ บางค่าย (คำของ ว. วชิรเมธี) พยายามกล่าวหานั้นมีคำถามอย่างน้อย 2 คำถาม คือ (1) เจ้าของวาทกรรมเองไม่เฉลียวใจบ้างหรือครับว่าข้อความ ฆ่าเวลาบาปกว่าฆ่าคน มันมีปัญหาในการสื่อความหมายในตัวมันเองอยู่แล้ว เพราะมันอาจถูกตีความได้หลายความหมายซึ่งผู้พูดเองไม่สามารถควบคุมหรือกำหนดให้คนที่อ่านข้อความนี้เข้าใจตามเจตนาของตนเท่านั้นได้ ถ้าคิดในมุมนี้ ความบกพร่อง แรกสุดก็ย่อมมาจากผู้ประดิษฐ์วาทกรรมเองที่สร้างข้อความกำกวมเสนอต่อสาธารณะที่ทำให้ถูกตีความย้อนกลับไปเป็นผลเสียแก่ตัวเองได้และ (2) ทวิต ฆ่าเวลาบาปกว่าฆ่าคน มันปรากฏต่อสาธารณะวันที่ 9 เม.ย.2553 ใกล้กับช่วงสลายการชุมนุม 21 ศพ ในวันที่ 10เม.ย.2553 (ดู) ในบริบทเช่นนี้ ประกอบกับบทบาทก่อนหน้านั้นของ ว.วชิรเมธีที่ไปออกเอเอสทีวีบ้าง พูด เขียนในที่ต่างๆ บ้างใน ท่วงทำนอง ที่ตั้งคำถามกับฝ่ายเสื้อแดงที่ออกมาเรียกร้องการเลือกตั้ง มากกว่าที่จะตั้งคำถามกับฝ่ายที่อ้างอุดมการณ์อนุรักษ์นิยมสนับสนุนรัฐประหาร ย่อมมีความเป็นไปได้สูงมากที่คนจะตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์ทวิตดังกล่าว จากข้อเท็จจริงนี้ ทำไม ว. วชิรเมธีไม่หันไปตรวจสอบตัวเอง แทนที่จะกล่าวโทษฝ่ายที่ตีความวาทกรรมนั้นต่างจากที่ตนตั้งใจสื่อประการที่สอง ส่วนที่ ว.วชิรเมธี เขียนว่า นักวิชาการที่ทำงานลวกๆ ไม่สนใจข้อเท็จจริง มุ่งกล่าวหาคนอื่น เขาไม่ได้ทำร้ายคนอื่นที่กำลังกล่าวหาเท่านั้น แต่เขากำลังทำลายวงวิชาการของเขาเองด้วย ทำลายคนอ่านที่เสพงานเขาด้วย และทำร้ายหนักที่สุดก็คือ ทำร้ายทางปัญญาต่อคนที่เชื่อข้อมูลเท็จที่เขาสร้างมันขึ้นมา นี่เป็นข้อกล่าวหาที่แรง แต่เสียดายที่ผู้กล่าวหาไม่ได้ยกงานวิชาการตามที่กล่าวหานั้นมาเป็นหลักฐานประเด็นนี้หากมองในแง่เสรีภาพทางความคิดเห็นและการแสดงออก ถ้าหากว่ามีการนำเสนอข้อมูลที่เป็นเท็จหรือผิดหลักการที่ถูกต้องชอบธรรมออกมาจากนักวิชาการหรือบุคคลใดๆ ในฐานะ ปัจเจกบุคคล มันย่อมไม่มีอำนาจครอบงำ บังคับให้คนอ่านเชื่อได้เลย คุณภาพงานที่ห่วยของนักวิชาการคนนั้นย่อมถูกผู้อ่านตัดสินเอง หรือสังคมจะวิพากษ์วิจารณ์แซงค์ชั่นงานของเขาเองแต่ถ้าเป็นการบิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์ บิดเบือนข้อเท็จจริงและหลักการที่ถูกต้องชอบธรรมอื่นๆ โดยอำนาจเผด็จการ และนักบวชหรือผู้นำศาสนา องค์กรศาสนาใดๆ มันย่อมมีผลต่อการครอบงำ และบังคับยัดเยียดแก่ประชาชนมากกว่า ดังนั้นคนที่ยืนยัน หลักเสรีภาพ จึงต้องตั้งคำถามวิจารณ์อำนาจที่ครอบงำและบังคับยัดเยียดได้มากกว่าเป็นด้านหลักประการสุดท้าย เวลาที่ ว. วชิรเมธีบอกว่า ประชาชนขัดแย้ง สร้างความเกลียดชัง ฯลฯ ถามว่าในความขัดแย้งกว่า 10 ปี บรรดาพระสงฆ์เองก็มีทั้งแสดงความเห็นและเคลื่อนไหวทางการเมืองแบ่งเป็นสองฝ่ายไม่ใช่หรือ แล้ววาทกรรมที่ว่า กระชับพื้นที่คนเลว ขยายพื้นที่คนดี ใครเป็นคนประดิษฐ์ขึ้นในช่วงสลายการชุมนุมปี 2553 และหลังรัฐประหาร 2557 ว. วชิรเมธีไปออก รายการเดินหน้าประเทศไทย กล่าวว่า ค่านิยม 12 ประการคล้ายธรรมะในพุทธศาสนา (ดู) คำถามคือ เมื่อท่านยืนยันว่าตนเอง ไม่เคยสอนอะไรนอกธรรมนอกวินัย แล้วมีด้วยหรือครับที่พุทธะสอนให้เรายึดถือปฏิบัติในความเชื่อหรืออุดมการณ์อะไรก็ตามที่เราไม่มีเสรีภาพที่จะสงสัย ตั้งคำถาม วิจารณ์ ตรวจสอบได้ เพราะหลักกาลามสูตรคือหลักการที่ยืนยันเสรีภาพทางปัญญา ที่ให้เราสงสัยตั้งคำถามได้ทุกเรื่อง จนแน่ใจได้ด้วยการพิสูจน์ว่าจริงหรือถูกต้องแล้วจึงยอมรับแต่ใน ค่านิยม 12 ประการ ว. วชิรเมธีย่อมรู้อยู่แก่ใจว่ามันมี ป้ายห้ามถาม ห้ามสงสัย ห้ามวิพากษ์วิจารณ์ตรวจสอบ หรือมี ป้ายคำสั่ง ว่า เป็นคนไทยต้องคิดและเชื่ออย่างนี้เท่านั้น ไม่คิด ไม่เชื่อแบบนี้ก็ไม่ใช่คนไทย อยู่ในประเทศไทยไม่ได้ และปรากฏการณ์ละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนก็เห็นประจักษ์ชัดแจ้งกว่า 10 มาแล้วถามว่า ว.วชิรเมธี ยืนอยู่ตรงไหน อยู่บนจุดยืนที่สนับสนุนเสรีภาพและประชาธิปไตย หรือสนับสนุนเผด็จการในความขัดแย้งกว่า 10 ปีสำหรับบทความของว.วชิรเมธี ที่เผยแพร่ผ่าน เฟสบุ๊กแฟนเพจ เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา มีดังนี้ในรอบหลายปีที่สังคมไทยตกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง คนต่างกลุ่มต่างพวกที่มีความเห็นแตกต่างกัน ต่างก็ตกอยู่ในห้วงแห่งความโกรธ เกลียด ชิงชัง และต่างก็งัดเอาสารพัดวิธีมาทำลายกัน เพื่อพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งความคิดความเชื่อของตน ผู้คนทั้งประเทศถูกลากเข้าไปสู่ความขัดแย้งไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้าในท่ามกลางความขัดแย้งนั้น มีนักคิด นักเขียนมากมายเข้าร่วมวงด้วย บางคนก็เป็นนักคิดนักเขียนตัวจริงที่เป็นคนใจซื่อถือสัตย์ ปรารถนาดีต่อบ้านเมือง มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นเป็นที่ตั้ง แต่บางคนก็มีเจตนาชัดเจนในทางยุให้รำตำให้รั่วยั่วให้แย้ง แกล้งให้เป็นประเด็นจากเรื่องไม่เป็นเรื่องในขณะที่คนทั้งสังคมเบื่อหน่ายความขัดแย้ง พยายามหาวิธีสร้างสมานฉันท์เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติ แต่บางคนกลับพยายามทำทุกอย่างในทางตรงกันข้ามและพยายามสร้างเงื่อนไขให้คนขัดแย้งกันอยู่เสมอ บางคนทำดังหนึ่งว่า ถ้าประเทศไทยสงบสุขตัวเองจะหมดความหมาย ดังนั้นจึงต้องหาเรื่อง สร้างเรื่องเพื่อเบียดเบียนคนอื่นอยู่ตลอดเวลาอันยาวนาน เรื่องไม่มีก็ขยันสร้างขึ้นมา บางเรื่องขาดความสมเหตุสมผล ขาดบริบท ขาดความจริงรองรับทุกอย่าง ก็ยังดันทุรังจะให้เป็นเรื่องเสียให้ได้ที่เกริ่นมาข้างต้นนี้ก็เพื่อจะบอกว่ามีนักวิชาการ บางคน จาก บางค่ายพยายามจะสร้างเรื่องมาโยนใส่ผู้เขียนครั้งแล้วครั้งเล่าทั้งๆ ที่เรื่องที่สร้างขึ้นมานั้น ขาดความสมเหตุสมผลในตัวมันเองและตลอดชีวิตของผู้เขียนก็ไม่เคยมีพฤติกรรมเข้าเค้ากับที่พยายามจะหาเรื่องเลยแม้แต่น้อยนานมากแล้ว ผู้เขียนเขียนบทความชิ้นหนึ่ง จำได้ว่าชื่อ มายาการของหลอดด้าย เนื้อหาหลักยังจำได้แม่นเพราะเขียนเองกับมือ ประเด็นสำคัญของบทความนี้ก็คือ ต้องการ ชี้ให้เห็นคุณค่าของเวลาตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ทรงสอนว่าเราควรใช้เวลาแต่ละวันให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่าประมาทเวลา อย่าฆ่าเวลา การฆ่าเวลาต้องนับว่าเป็นบาปชนิดหนึ่ง (ไม่ใช่บาปจริงๆ แต่เป็นการเปรียบเทียบ) พอๆ กับการฆ่าคน จะพูดว่า ฆ่าเวลาบาปกว่าฆ่าคนก็ได้ (ไม่ได้หมายความว่า ฆ่าคนไม่บาป จุดเน้นอยู่ที่ ฆ่าเวลา ไม่ใช่เรื่อง ฆ่าคน อย่าลืมว่าประเด็นของเรื่องคือการใช้เวลาให้เกิดคุณค่า)ทำไมจึงกล่าวเช่นนั้น เพราะคนที่ขาดสติ มักจะฆ่าเวลาโดยไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัว มักจะพร่าผลาญเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ไม่รู้จักใช้เวลาแต่ละวินาทีให้เกิดคุณค่าแก่ชีวิต เขาแค่มีชีวิตอยู่ไปวันๆ ไม่รู้จักสิ่งที่เป็นแก่นสารของชีวิตที่แท้จริง เวลาแต่ละวันจะไหลผ่านเราเพียงครั้งเดียว ผ่านแล้วผ่านเลยชั่วนิรันดร์ ดังนั้น เราจึงต้องใช้เวลาแต่ละวันให้คุ้ม เหมือนที่พระพุทธองค์ท่านว่า อโมฆัง ทิวะสัง กะยิรา อัปเปนะ พหุเกนะ วา แปลว่า เวลาแต่ละวันอย่าให้ผ่านไปเปล่า ต้องได้อะไรบ้างไม่มากก็น้อย ขโณ โว มา อุปัจจะคา แปลว่า ขณะ (เวลา) อย่าผ่านไปเปล่า และ/หรือเหมือนกับที่อังคาร กัลยาณพงศ์ กวีซีไรท์ เขียนเตือนเอาไว้ว่าน้ำไหลอายุไขก็ใหลล่วงใบไม้ร่วงชีพก็ร้างอย่างความฝันฆ่าเวลาคือพร่าค่าคืนวันจะกำนัลโลกนี้มีงานใดเนื้อหาของบทความก็มีแค่นี้ แก่นมีแค่นี้ บริบทเป็นอย่างนี้ ต้องการชี้เรื่อง การเห็นคุณค่าของเวลาแม้เนื้อหาจะไม่ได้เหมือนกันทุกอย่าง แต่ผู้เขียนเป็นคนเดียวกัน เขียนเองกับมือ ประเด็นจึงไม่หลุดไปจากนี้ เรื่องก็มีแค่นี้ จำได้ว่า บทความนี้ ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ ก็เคยเอามาอ้างอิงลงในนิตยสารมติชนแบบเต็มเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบด้วยความชื่นชม ว่าพูดถึงคุณค่าของเวลาได้เป็นอย่างดีแต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง ก็มีนักวิชาการบางคน ยกข้อความบางส่วนจากฉบับเต็มมาอ้าง แล้วก็พูดขึ้นมาเองเลยว่า ผู้เขียนบทความนี้ เขียนหรือสอนกระตุ้นความรุนแรงเพราะสอนว่า การฆ่าคนไม่บาป (เรื่องเดิมเขาพูดเรื่อง ฆ่าเวลา ไปหยิบเรื่องฆ่าคนมาชูได้อย่างไร ไม่มีใครเขียนเลยเถิดไปขนาดนั้นเลย บริบทก็ไม่ใช่)เรื่องนี้ถ้ามันจะเป็นปัญหาตั้งแต่ต้นโดยตัวมันเอง บุคคลระดับอดีตรัฐมนตรี นักการศึกษาและนักเขียนชื่อดังท่านคงไม่นำมาอ้างอิงเป็นแน่เมื่อเกิดความขัดแย้งกลางเมืองในปี 2553จำได้ว่า ผู้เขียนนี้เอง เป็นคนร่วมกันคิดกับพระไพศาล วิสาโล ว่าควรจะจัด บิณฑบาตความรุนแรง จากนั้นก็ไปชวนแม่ชีศันสนีย์ ท่านเจ้าคุณวัดพระราม 9มาแถลงข่าวร่วมกันที่อุทยานเบญจสิริมีสื่อมวลชนมาทำข่าวมากมาย ฐานข้อมูลในกูเกิลก็มีอยู่คำถามก็คือ พระที่เป็นหัวหอกในการจัดบิณฑบาตความรุนแรง เพื่อเตือนสติสังคมไม่ให้เข้าไปสู่ความรุนแรง จะเป็นพระรูปเดียวกันกับที่สอนว่า ฆ่าคนไม่บาปเช่นนั้นหรือ จะเป็นพระรูปเดียวกันที่ส่งเสริมความรุนแรงกระนั้นหรือ ?นี่ยังไม่ต้องพูดว่า ผู้เขียนเป็นพระ มีวิถีชีวิตนักบวชในพระพุทธศาสนามาตลอด ไม่เคยมีประวัติในทางเข่นฆ่าราวีใครมาก่อน ข้อมูลพื้นฐานเช่นนี้ ไม่ต้องอ้างงานวิจัยให้ดูเท่ ใช้แค่ common sense เอาก็ได้ผู้เขียนเขียนหนังสือไว้หลายร้อยเล่ม บรรยายธรรมไว้หลายพันเรื่อง หาอ่าน หาฟังไม่ยากเลย ถ้าจะมีจิตวิญญาณนักวิชาการที่รักความจริงกันสักนิด ก็ควรจะไปหามาอ่าน มาฟัง หากมีเรื่องไหนส่อไปในทางส่งเสริมความรุนแรงจะบอกจะเตือนกันก็ได้ หรือมิเช่นนั้นจะโทรศัพท์มาถามก็ได้ เช็คข้อมูลให้แน่ ให้ชัด ให้จริง ฐานของงานวิชาการคือข้อมูล ไม่ใช่จินตนาการหรือมโน อนึ่ง ผู้เขียนเป็นบุคคลสาธารณะ ถ้ารักจะเอาความจริง ก็มานั่งคุยกันถามกันได้ทุกเมื่อแต่ที่ผ่านมา นักวิชาการบางคน บางค่าย ตั้งใจแต่จะหาเรื่องพระ มีความสุขกับการวิจารณ์พระ เห็นพระทั้งประเทศเงียบกริบ เวลาถูกว่าถูกถากถาง ก็คิดว่าตัวแน่ คิดว่าตัวฉลาดรอบรู้ และนานเข้าก็คิดว่า สิ่งที่ตนพูดเป็นความจริงไปเสียทั้งหมด ทั้งๆ ที่หลายต่อหลายเรื่องเป็นเพียงฟูมฟองของจินตนาการที่คิดเองเออเองผู้เขียนมั่นใจว่า ตลอดชีวิตสมณะไม่เคยสอนใครให้ไปฆ่าใคร ไม่เคยสอนนอกพระธรรมวินัย (ป.ธ.9) มีชีวิตอยู่ในที่แจ้ง ไม่ใช่ขุนขลังขมังเวทย์ และตั้งใจทำหน้าที่ของสมณะมาโดยตลอด แม้ไม่สมบูรณ์ ไม่บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนแท่งทองชมพูนุท นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาของปุถุชน ซึ่งก็วิจารณ์ได้ วิพากษ์ได้ สอนได้ เห็นต่างได้ แต่เราไม่ควรสับสนระหว่างเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ กับเสรีภาพในการใส่ร้ายป้ายสี ว่าเป็นเรื่องเดียวกันสังคมของเรามีปัญหาหมักหมมมากมาย เพราะมีนักวิชาการบางคนทำงานอย่าง สุกเอาเผากิน จ้องแต่จะสร้างตัวตนบนหน้าสื่อ โดยไม่คำนึงถึงแม้แต่ความจริงหรือจรรยาบรรณพื้นฐานของการเป็นนักวิชาการที่ดี ตัดสินคนอื่นง่ายๆ บริภาษคนอื่นง่ายๆ โดยไม่สนใจว่า สิ่งที่ตัวทำจะบั่นทอนสติปัญญาของประชาชนอย่างไร จะก่อให้เกิด ความเข้าใจผิด และ สร้าง ความเกลียดชัง ตกค้างไปสู่คนรุ่นหลังอย่างไรนักวิชาการที่ชอบทำงานลวกๆ ไม่สนข้อเท็จจริง มุ่งแต่จะกล่าวหาคนอื่นนั้น เขาไม่ได้ทำร้ายคนอื่นที่กำลังกล่าวหาเท่านั้น แต่เขากำลังทำลายวงวิชาการของเขาเองด้วย ทำลายคนอ่านที่เสพงานของเขาด้วย และทำร้ายหนักที่สุดก็คือ ทำร้ายทางปัญญาต่อคนที่เชื่อข้อมูลเท็จที่เขาสร้างมันขึ้นมา คนที่รักปัญญา รักความรู้ รักประเทศชาติบ้านเมืองและหวังจะเป็นนักวิชาการที่ดีนั้น เบื้องต้นที่สุด ต้อง รักความจริง เสียก่อน หากมองข้ามความจริง นึกจะพูดจะเขียนอะไรก็โพล่งขึ้นมา อาศัยแต่ความกล้าแสดงออกล้วนๆ คนอย่างนี้ นำพาชะตากรรมของประเทศไปได้ไม่ไกลหรอก สร้างงานที่ยิ่งใหญ่ก็คงไม่ได้ เพราะไม่ใส่ใจข้อเท็จจริงอันเป็นฐานของความคิดเสียแล้ว ที่เหลือจะเอาความน่าเชื่อถือมาจากไหน ?ใครก็ตามที่ชอบสร้างเรื่องกล่าวหาว่า อาตมาสอนให้คนใช้ความรุนแรงมาเข่นฆ่ากัน อาตมาขอถามกลับว่า เคยอ่านบทความฉบับจริง และ ฉบับเต็ม ที่อาตมาเขียนแล้วหรือยัง หรือว่านักวิชาการสมัยนี้ ใช้แค่ขยะข้อมูลบนโซเชี่ยลมีเดีย ก็ผลิตงานวิชาการได้แล้ว ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลัง อาตมาก็ใคร่จะกล่าวว่า เพราะเราทำงานกันอย่างสุกเอาเผากินและมักง่ายเช่นนี้เอง หลายปีมานี้ ประชาชนเขาถึงหันไปฟังหมอดูทำนายทายทักบ้านเมือง แทนที่จะฟังสติปัญญาจากนักวิชาการอย่างที่ควรจะเป็นข้อเขียนนี้ อาจพูดถึงนักวิชาการเยอะหน่อยแต่ก็พึงทราบว่า มุ่งถึงนักวิชาการบางคนที่ทำงานแบบมักง่ายเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับตัวจริงเสียงจริงทั้งหลายแต่อย่างใด(ว.วชิรเมธี)ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ข้อความของ ว.วชิรเมธี ที่ว่าว่า ฆ่าเวลาบาปยิ่งกว่าการฆ่าคน ซึ่งถูกทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์@vajiramedhi ในคืนวันที่ 9 เม.ย. 2553 ก่อนการเข้าสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. ในวันต่อมา (10 เม.ย.2553) จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่จำนวนมาก ซึ่ง วิจักขณ์ พานิช เขียนไว้ในบทความ บทเรียนของพุทธศาสนาในสังคมประชาธิปไตยเมื่อ มิ.ย.2555 ระบุว่า ข้อความดังกล่าวของ ว.วชิรเมธี ถูกลบออกไปในภายหลัง ทั้งนี้เหตุที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในขณะนั้นเนื่องจากถูกมองว่าเป็นการสนับสนุนหรือสร้างความชอบธรรมให้แก่การแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง เนื่องจากข้อความนี้เผยแพร่ช่วงเวลาที่ต่อมามีการเข้าสลายการชุมนุมสำหรับข้อความนี้ ในหนังสือ หนึ่งคนตาย ล้านคนตื่น ของ ว.วชิรเมธี ตีพิมพ์เมื่อปี 2555 หน้า 11 ว.วชิรเมธี ขยายความไว้ว่า เราเคยได้ยินพระท่านสอนอยู่บ่อยๆ ว่า การฆ่าสัตว์เป็นบาป แต่อาตมาอยากบอกว่า การฆ่าเวลาต่างหากที่เป็นบาปมหันต์ยิ่งกว่า เพราะเมื่อคุณฆ่าสัตว์ หากสำนึกได้ คุณก็อาจจะไปหาสัตว์มาปล่อยเอาบุญ แต่หากคุณฆ่าเวลาด้วยวิธีใดก็ตาม ถึงแม้คุณจะสำนึกผิดกลับมาเห็นคุณค่าของเวลา ทว่าก็ไม่สามารถย้อนเวลาที่ผ่านไปแล้วให้หวนคืนกลับมาได้อีก
สุรพศ โพสต์โต้ 3 ประเด็น ทั้งบริบทของข้อความขณะนั้น เสรีภาพทางความคิดเห็นและการแสดงออกและจุดยืนอยู่ตรงไหน หลัง ว.วชิรเมธี รับตำแหน่งผู้อุปถัมภ์ด้านสันติภาพฯ ของ UNHCR พร้อมแจง ปมทวีต
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
ฆ่าเวลาบาปกว่าฆ่าคน,UNHCR,ว.วชิรเมธี,สันติภาพ,สุรพศ ทวีศักดิ์
https://prachatai.com/journal/2018/11/79776
ผบช.น.รับจุดเกิดเหตุยิง 4 ศพเป็นบ่อนการพนัน
วันนี้ (6 ส.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการสอบสวนคดีการใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ภายในบ่อนการพนันที่พระราม 3 ซอย 66 จนมีผู้เสียชีวิต 4 คน เมื่อคืนวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมาเช้าวันนี้ พล.ต.ท.ภคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวก่อน เดินทางชี้แจงข้อเท็จจริงกับคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้สรุปผลการสอบข้อเท็จจริงแล้วสรุปได้ว่าสถานที่เกิดเหตุเป็นบ่อนการพนันจริงแต่จะเปิดลักลอบเล่นการพนันนานเท่าใดยังไม่แน่ชัดส่วนเรื่องมีกลุ่มบุคคลเข้ามารื้อกล้องวงจรปิดและช่วยกันขนย้ายอุปกรณ์การเล่นพนันออกจากสถานที่หลังเกิดเหตุนั้น ได้สั่งการให้ติดตามตัวมาดำเนินคดีฐานซ้อนเร้นทำลายหลักฐานขณะนี้พอทราบเบาะแสบุคคลกลุ่มนี้แล้ว สำหรับผู้ร่วมก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิตที่ยังหลบหนีไปนั้นจากการสืบสวนทราบว่าอาจจะมีมากกว่า 1 คน ซึ่งพอจะระบุตัวได้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอให้ศาลออกหมายจับอ่าน
ผบช.น.สรุปผลการสอบสวนเบื้องต้นเหตุยิงกันเสียชีวิต 4 ศพ เป็นบ่อนการพนันจริง เร่งติดตามตัวกลุ่มผู้รื้อกล้องเพื่อเอาหลักฐานและสอบปากคำ ส่วนมือยิงคาดว่าอาจมีมากกว่า 1 คน
อาชญากรรม
บ่อน,บ่อนพระราม3,ยิง4ศพ,นครบาล,ภคพงศ์
https://news.thaipbs.or.th/content/295223
บิ๊กเต่า สั่งเข้มสวนยางรุกป่า พุ่งเป้าฟันไม่เลี้ยงกลุ่มนายทุน
เมื่อวันที่ 16 ก.ค. พล.อ.สรุศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ปัญหานายทุนบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อปลูกยางพารา ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศเสื่อมโทรม และเกิดปัญหายางล้นตลาด ถือได้ว่าเป็นการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน เอาเปรียบคนประเทศชาติ เอาเปรียบคนไทยทั้งประเทศ หน่วยงานภาครัฐจึงจำเป็นต้องใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยที่ผ่านมาได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และบูรณการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบการบุกรุกครอบครองที่ดินในเขตป่า โดยตั้งเป้าหมายยึดคืนผืนป่าจากเดิมที่ประเทศไทยเหลือเพียง 102.4 ล้านไร่ ให้เพิ่มเป็น 128 ล้านไร่ หรือร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศภายใน 20 ปี ซึ่งปัจจุบันในปี 2560 สามารถยึดคืนผืนป่ากลับมาได้แล้ว 5.4 แสนไร่ และอยู่ระหว่างการดำเนินคดีอีกจำนวนหนึ่ง,ทั้งนี้ ได้มอบแนวทางการปฏิบัติของหน่วยงานเพื่อบังคับใช้กฎหมาย ตามแผนปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมี 3 มาตรการหลักในการดำเนินการ คือ 1. มาตรการดำเนินคดี โดยกำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัด ทส. เร่งรัดตรวจสอบการบุกรุกครอบครองพื้นที่ป่า และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้บุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่า โดยยึดตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 64/2557 และ 66/2557 รวมทั้งต้องไม่ให้ผลกระทบกับผู้ยากไร้อย่างเด็ดขาด 2. มาตรการควบคุมพื้นที่ โดยหลังจากที่ดำเนินการตรวจยึดทวงคืนผืนป่าและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดแล้ว จะต้องควบคุมพื้นที่ที่ได้ตรวจยึดมามิให้มีการเข้าทำประโยชน์จากทั้งผู้กระทำความผิดรายเดิมและรายใหม่ และ 3. มาตรการฟื้นฟูสภาพป่า เป็นการฟื้นฟูสภาพป่าที่ถูกบุกรุกให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้าลำธาร, ,นอกจากนี้ ได้ชี้แนะกลยุทธ์การปฏิบัติงานแบบ 3 เกาะติด และ 3 ปฏิบัติ ให้เจ้าหน้าที่นำไปประยุกต์ใช้เพิ่มเติม ทั้งในระดับประเทศและระดับพื้นที่ เพื่อให้การดำเนินการทวงคืนพื้นที่ป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผลตามเป้าหมาย ดังนี้ 1. เกาะติดพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ทุกระดับต้องหมั่นลงพื้นที่ตรวจสอบการกระทำความผิด ตั้งจุดตรวจจุดสกัด การลาดตระเวนป่า การดำเนินการตามแผนบินตรวจสภาพป่าและนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ตรวจสอบการบุกรุก 2. เกาะติดประชาชน โดยสร้างแนวร่วมการอนุรักษ์เริ่มจากเครือข่ายภาคประชาชนนำไปสู่เครือข่ายระดับประเทศ ลดความขัดแย้งในระดับพื้นที่ สร้างความสัมพันธ์เชิงบวกกับภาคประชาชนและภาคประชาสังคมอย่างแท้จริง และ 3. เกาะติดขบวนการ โดยต้องสร้างกลไกในการตรวจติดตามกลุ่มขบวนการนายทุนผู้กระทำความผิด รวมถึงการดำเนินการหาข่าวทางลับ ต้องรู้ความเคลื่อนไหวของขบวนการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า, ,ขณะที่กลยุทธ์ 3 ปฏิบัติ ประกอบด้วย 1. ปฏิบัติทันทีเมื่อเห็นว่ามีขีดความสามารถในการจับกุมดำเนินคดีได้ ให้ดำเนินการทันทีแต่หากเห็นว่ามีความเสี่ยงให้ขอความร่วมมือส่วนราชการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 2. ปฏิบัติการร่วมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและขอความร่วมมือปฏิบัติงานร่วมกันได้ และ 3. ปฏิบัติโดยใช้เครือข่ายภาคประชาชนคือการเสริมสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังภาคประชาชนในพื้นที่ป่าและบริเวณใกล้เคียงให้สามารถเป็นกาลังภาคประชาชนในการร่วมดูแลรักษาป่าได้, ,สิ่งที่ได้เน้นย้ำมากที่สุด คือ การดำเนินการอย่างเคร่งครัดกับกลุ่มนายทุนที่รุกป่า เพราะถือว่าเป็นพวกเห็นแก่ได้ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน เอาเปรียบประเทศชาติ บ้านเมือง และเอาเปรียบคนไทยทั้งประเทศ แต่สำหรับคนจนผู้ยากไร้ที่บุกรุกพื้นที่ป่า แม้จะถือว่ามีความผิดเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากเป็นผู้ยากไร้ ซึ่งรัฐบาลต้องดูแล จึงมีมาตรการผ่อนผันตามคาสั่ง คสช. ที่ 66/2557 อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้บุกรุกป่าภายหลังปี 2557 เป็นต้นไป รัฐบาลโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่า จะใช้มาตรการที่เข้มงวด ในการบังคับใช้กฎหมายและดำเนินคดีกับทุกคนโดยไม่มีการยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อให้สามารถทวงคืนผืนป่ากลับมาให้ได้ตามเป้าหมาย 128 ล้านไร่ ภายใน 20 ปี รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าว
บิ๊กเต่า สั่งเพิ่มมาตรการเข้มจัดการรุกป่าปลูกสวนยาง ตั้งเป้าทวงคืนผืนป่าเพิ่มเป็น 128 ล้านไร่ใน 20 ปี เผยยึดคืนมาได้แล้ว 5.4 แสนไร่ ย้ำผ่อนผันเฉพาะคนยากจน ลั่นไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม เอาหนักกลุ่มนายทุน
ข่าว,ทั่วไทย
สวนยางรุกป่า,บิ๊กเต่าสั่งเข้ารุกป่าทำสวนยาง,ทวงคืนป่า,นายทุนรุกป่า,ยึดคืนป่า,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/local/1006435
ศาลอุทธรณ์ลดโทษ สนธิ หมิ่น ภูมิธรรม จาก 2 ปี เหลือ 6 เดือน
ศาลอุทธรณ์แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลดโทษจำคุกนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ จำเลยที่ 5 ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ภูมิธรรม จากที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 2 ปี เหลือจำคุก 6 เดือน เตรียมยื่นฎีกา11 ก.ย. 52 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลดโทษจำคุกนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ จำเลยที่ 5 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 2 ปี เหลือจำคุก 6 เดือน และพิพากษายืนให้ปรับบริษัท ไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด ผู้ผลิตรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ จำเลยที่ 1 เป็นเงิน 200000 บาท และให้ยกฟ้อง นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล กรรมการ บจก.ไทยเดย์ฯ นายพชร สมุทวณิช กรรมการ บจก.ไทยเดย์ฯ นายขุนทอง ลอเสรีวานิช บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน บริษัท แมแนเจอร์ มีเดียร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน และเว็บไซต์ผู้จัดการ นายสุวัฒน์ ทองธนากุล กรรมการ บมจ.แมเนเจอร์ฯ นายมรุชัช รัตนปรารมย์ กรรมการ บมจ.แมเนเจอร์ฯ นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ กรรมการ บมจ.แมเนเจอร์ฯ และนายวิรัตน์ แสงทองคำ ผู้ดูแลเว็บไซต์ จำเลยที่ 2-4 และ 6-10คดีนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย เป็นโจทก์ฟ้อง สรุปว่าเมื่อที่ 25 พฤศจิกายน 2548 นายสนธิ จำเลยที่ 5 และ น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ ร่วมกันจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 10 ที่วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี มีเนื้อหาหมิ่นประมาทโจทก์ทำนองว่าเป็นอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ ไม่เคารพสถาบันกษัตริย์และระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งเกี่ยวข้องกับการจัดทำเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง โดยถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ของจำเลยที่ 1 และยังบันทึกเป็นวีซีดี และดีวีดี ออกเผยแพร่ รวมทั้งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ฉบับเสาร์-อาทิตย์ 26-27 และ 28 พฤศจิกายน 2548 และในเว็บไซต์ คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2550 ให้จำคุกนายสนธิ จำเลยที่ 5 เป็นเวลา 2 ปี ส่วนจำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคล ที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ด้วยการเผยแพร่วีซีดี และดีวีดี รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ พิพากษาให้ปรับเงิน 200000 บาท และให้ทำลายวีซีดี ดีวีดี รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ครั้งที่ 10 และหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันฉบับวันที่ 26-27 และ 28 พฤศจิกายน 2548 รวมทั้งให้โฆษณาคำพิพากษาลงในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันเป็นเวลา 3 วัน โดยให้จำเลยที่ 1 และ 5 เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด สำหรับจำเลยอื่นให้ยกฟ้องต่อมานายภูมิธรรมโจทก์ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2-4 และ 6-10 ด้วย ส่วนบริษัท ไทยเดย์ฯ จำเลยที่ 1 และนายสนธิ จำเลยที่ 5 ยื่นอุทธรณ์ ว่าการจัดรายการของจำเลยที่ 5 ไม่มีเจตนาใส่ร้ายโจทก์แต่เป็นไปเพื่อให้คำแนะนำและองค์ความรู้ต่อโจทก์ในฐานะที่เป็นคนรุ่นหลังและแก้ไขในสิ่งที่ได้กระทำผิดมาโดยให้ยึดหลัก หิริโอตตัปปะ และมัชฌิมาปฏิปทา และอุทธรณ์ขอให้ศาลลดโทษและค่าปรับด้วยศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า ที่จำเลยที่ 5 อ้างว่าโจทก์เป็นบุคคลสาธารณะและเคยกล่าวหาจำเลยที่ 5 ทำลายประชาธิปไตย และดึงสถาบันเบื้องสูงมาเกลือกกลั้วกับการเมือง จำเลยที่ 5 จึงมีสิทธิตอบโต้ด้วยการตั้งคำถามถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูงของโจทก์ ศาลเห็นว่าแม้โจทก์จะเป็นบุคคลสาธารณะและสามารถกล่าวถึงปูมหลังแต่การกล่าวถึงต้องเป็นการนำข้อเท็จจริงมาแสดงความคิดเห็น การกระทำของจำเลยที่ 5 เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องในอดีต ที่โจทก์เคยเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์ เมื่อก่อนวันที่ 6 ตุลาคม 2519 แต่เมื่อเหตุการณ์สงบโจทก์ก็ได้กลับเข้ามาศึกษาเมื่อปี 2522 ซึ่งหากโจทก์ยังฝักใฝ่พรรคคอมมิวนิสต์ตามที่จำเลยที่ 5 กล่าวอ้าง โจทก์ก็คงไม่ดำเนินกิจกรรมการเมืองที่มีระบบเลือกตั้ง
ศาลอุทธรณ์แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลดโทษจำคุกนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ จำเลยที่ 5 ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ภูมิธรรม จากที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 2 ปี เหลือจำคุก 6 เดือน เตรียมยื่นฎีกา 11 ก.ย.
การเมือง
ภูมิธรรม เวชยชัย,ศาลอุทธรณ์,สนธิ ลิ้มทองกุล,หมิ่นประมาท
https://prachatai.com/journal/2009/09/25789
เตรียมรับมือให้ดี ไทยตอนบนมีฝนมากขึ้น ตกหนักบางแห่ง ยาวถึง 13 พ.ค.
วันที่ 9 พ.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศลักษณะทั่วไป ระบุ ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ยังคงมีฝนฟ้าคะนองมากกว่าบริเวณอื่นๆ,สำหรับในช่วงวันที่ 9-13 พฤษภาคม 2561 บริเวณความกดอากาศสูงจะปกคลุมทะเลจีนใต้ และลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง,พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ จะมีฝนฟ้าคะนองมากกว่าบริเวณอื่นๆ สำหรับในช่วงวันที่ 9-13 พฤษภาคม 2561 ประเทศไทยจะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย,พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้,ภาคเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.,ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และนครปฐม อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.,ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร,กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
9-13 พ.ค. ไทยตอนบนมีฝนมากขึ้น ตกหนักบางแห่ง เตือนระวังอันตรายจากฝนตกสะสม ขณะที่ กทม. และปริมณฑล มีฝน 40%
ข่าว,ทั่วไทย
พยากรณ์อากาศ,กรมอุตุนิยมวิทยา,อากาศวันนี้,ฝนตก,อุณหภูมิวันนี้,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/1276601
สลด พ่อนอนกอดลูกหลับ มือไปปิดจมูก เด็กน้อยขาดอากาศเสียชีวิต
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 29 ก.ค. 58 พ.ต.ต.โสภณ คงทอง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ เข้าตรวจสอบภายในห้องรวมชั้น 4 ตึกหลังคลอด โรงพยาบาลกระบี่ ภายหลังรับแจ้งมีเด็กทารกมารักษาตัวที่โรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เป็นศพทารกเพศหญิง อายุ 1 เดือน 7 วัน เสียชีวิตอยู่บนเตียงผู้ป่วย โดยมีพ่อคือ นายโอ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ชาวบ้าน อ.เมืองกระบี่ กับแม่เด็ก นั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงในอาการโศกเศร้า,จากการสอบสวนแม่ของเด็กที่เสียชีวิต ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยลูกสาวและสามี นอนพักที่บ้าน ต่อมาลูกสาวได้นอนร้องไห้อยู่ในเปล จึงได้เอาลงจากเปลมานอนด้วย เพื่อตบสะโพกกล่อมให้หลับ โดยให้นอนอยู่ริมสุดติดฝาผนังภายในห้องนอน และสามีนอนข้างๆ ส่วนตนนอนถัดจากสามี จนกระทั่ง 6 โมงเช้า ลุกขึ้นมาเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน เห็นลูกในสภาพนอนแน่นิ่ง และสังเกตเห็นมีเลือดไหลออกทางจมูก โดยมือของสามีทับอยู่บนใบหน้า จึงรีบเอามือออก และปลุกสามีให้ตื่น ก่อนพาลูกส่งโรงพยาบาลรวมแพทย์ แต่ลูกสาวก็ยังไม่มีอาการตอบสนอง แพทย์จึงได้ส่งตัวต่อมาที่โรงพยาบาลกระบี่ ก่อนที่เด็กเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นลูกคนแรก,ขณะที่ นายโอ ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า ตนนอนหลับสนิททั้งคืน จนกระทั่งภรรยาปลุกจึงรู้ว่าแขนทับอยู่บนใบหน้าลูก จึงรีบนำลูกส่งโรงพยาบาล แต่ก็ช้าไป,เบื้องต้นแพทย์ลงความเห็นว่า เด็กเสียชีวิตจากสมองขาดออกซิเจนอย่างรุนแรง ทำให้ระบบการหายใจล้มเหลว ส่วนตามร่างกายไม่มีร่องรอยบาดแผลใดๆ,ขณะที่ พ.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า สาเหตุที่เด็กขาดอากาศหายใจ คาดน่าจะเกิดจากการที่พ่อของเด็กเผลอนอนเอามือไปทับจมูก และปากของเด็กเป็นเวลานาน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการชันสูตรศพ และสอบสวนอย่างละเอียด ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
พ่อแม่มือใหม่เพิ่งมีลูกคนแรกเป็นเด็กผู้หญิง อายุยังไม่ครบ 2 เดือน ลูกร้องเลยเอามานอนกล่อมจนหลับไปด้วยกัน ตื่นเช้าขึ้นมามือพ่อไปปิดจมูกลูกจนหมดสติรีบพาส่ง รพ. แต่ไม่ทัน แพทย์ลงความเห็นว่าสมองขาดออกซิเจน เด็กหัวใจล้มเหลว
ข่าว,ทั่วไทย
นอนกอดลูก,มือปิดจมูก,นอนทับลูก,โรงพยาบาลกระบี่,ขาดอากาศหายใจ,กระบี่,ข่าว,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/514922
สิ่งที่ ทาคุมิ มินามิโนะ ต้องทำเพื่อเปล่งประกายในทีมลิเวอร์พูล
การลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกของ ทาคุมิ มินามิโนะ ไม่ได้เป็นไปอย่างสวยสดงดงามเหมือนในนิทานสักเท่าไรทาคิ (ชื่อเล่นที่เขาถูกเรียกในยุโรป) ได้โอกาสเปิดตัวแบบไม่ทันตั้งตัวในเกมกับวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่สนามโมลินิวซ์ กราวด์ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลัง ซาดิโอ มาเน กองหน้าคนสำคัญของลิเวอร์พูลได้รับบาดเจ็บ และลงเล่นต่อไม่ไหว นั่นทำให้ เจอร์เกน คล็อปป์ นายใหญ่ตัดสินใจส่งเขาลงสนามทันที ซึ่งความจริงแล้วเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ เพราะปกติแล้วหากมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นในแนวรุก คนแรกที่จะได้โอกาสมักจะเป็น ดิว็อค โอริกิ ก่อนเสมอสตาร์ชาวญี่ปุ่นเพิ่งย้ายมาในช่วงปีใหม่แบบสุดเซอร์ไพรส์ และกลายเป็นปรากฏการณ์ มินามิโนะฟีเวอร์ เนื่องจากแฟนๆ ได้เห็นฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจในเกมที่ลิเวอร์พูลพบกับเรด บูล ซัลซ์บวร์ก มา 2 นัดมาแล้ว แถมย้ายมาด้วยค่าตัวสุดคุ้มค่าแค่ 7.25 ล้านปอนด์ แต่โอกาสลงสนามนัดแรกของเขาในเกมเอฟเอคัพ กับเอฟเวอร์ตัน เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับเกมฟุตบอลอังกฤษ และสไตล์การเล่นของลิเวอร์พูลโอกาสครั้งที่สอง และเป็นโอกาสครั้งแรกในเกมพรีเมียร์ลีกของมินามิโนะ หลายคนจึงแอบคาดหวังว่าเขาจะทำได้ดีขึ้นหลังจากที่ได้มีเวลาฝึกซ้อม และอยู่ในทีมมาเกือบครบหนึ่งเดือนแต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น ตลอดช่วงครึ่งแรกที่เขาได้ไปประจำการแทน มาเน มินามิโนะ ไม่สามารถสร้างจังหวะการเล่นที่อันตราย ไม่สามารถหาพื้นที่ หาช่อง หรือทำอะไรในแบบที่เขาเคยทำได้ในการสร้างสรรค์เกมให้กับสโมสรเก่าเลยในครึ่งหลังคล็อปป์ปรับตำแหน่งเล็กน้อยให้ลงมายืนที่กลางสนามแทน โดยสลับตำแหน่งกับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และช่วยให้ปรับตัวและมีส่วนร่วมกับเกมได้มากขึ้น แต่ก็ยังห่างไกลจากสิ่งที่แฟนๆ คาดหวังอยู่พอสมควรอย่างไรก็ดีสิ่งที่มินามิโนะ กำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะสตาร์หลายคนในทีมลิเวอร์พูลเองก็ต้องผ่านช่วงเวลาแบบนี้มาแล้วทั้งนั้นแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ตัวอย่างที่ ทาคุมิ มินามิโนะ ต้องศึกษาตัวอย่างแรกคือ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ฟูลแบ็กซ้ายที่ย้ายมาจากฮัลล์ ซิตี้ แบบไม่มีใครคาดคิดและคาดหวัง ดาวเตะทีมชาติสกอตแลนด์ได้โอกาสลงเล่นในเกมที่ 2 ของฤดูกาล 2017-18 ซึ่งลิเวอร์พูลเอาชนะคริสตัล พาเลซ ได้ 1-0 โดยทำผลงานได้น่าประทับใจ จนได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเกมแต่หลังจากนั้นโรเบิร์ตสัน ถูกดรอปเป็นตัวสำรองในอีก 2 นัดต่อมา ก่อนจะได้โอกาสลงเล่นในเกมถัดมากับเบิร์นลีย์ แล้วถูกดรอปพ้นทีมอีก 7 จาก 9 นัด โดยมี 2 นัดที่มีชื่อสำรอง แต่ไม่ได้โอกาสลงสนามช่วงนั้นเป็นช่วงยากลำบาก ที่แม้กระทั่งตัวของกัปตันวิสกี้เองยอมรับว่ารู้สึกไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งถึงวันที่ 2 ธันวาคม โรเบิร์ตสันได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง และได้ลงสนามครบ 90 นาที ในเกมที่ลิเวอร์พูลถล่มไบรท์ตัน 5-1 ก่อนจะกลายเป็นฟูลแบ็กซ้ายเบอร์หนึ่งของทีม และก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์ระดับโลกในเวลานี้อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เป็นอีกหนึ่งคนที่เจอกับเรื่องแบบนี้เหมือนกัน เมื่ออดีตดาวโรจน์ของวงการฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งย้ายมาจากอาร์เซนอล ได้โอกาสลงเล่นตัวจริง 3 นัด แต่หลังจากนั้นถูกดรอปเป็นตัวสำรองถึง 7 นัดหลังจากนั้นอ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน จึงค่อยๆ ปรับตัวเข้ากับทีมได้ และกลายเป็นคีย์แมนของทีม ก่อนจะได้รับบาดเจ็บร้ายแรงในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก กับโรมา ในเดือนเมษายน 2018 จนต้องพักการเล่นเกือบตลอดฤดูกาลต่อมา แต่สุดท้ายก็กลับมามีบทบาทในทีมอีกครั้งเวลานี้ตัวอย่างสุดท้ายสำหรับมินามิโนะคือ ฟาบินโญ กองกลางตัวรับทีมชาติบราซิล ที่ลิเวอร์พูลคว้าตัวมาจากโมนาโกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และได้มีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมแรกที่พบกับเวสต์แฮมทันที แต่หลังจากนั้นถูกตัดออกจากทีมในอีก 3 นัดต่อมา และมีชื่อเป็นตัวสำรองอีก 4 นัดกว่าที่ฟาบินโญ จะได้โอกาสลงเล่นตัวจริงก็ต้องรอถึงเดือนตุลาคม ในเกมที่ชนะคาร์ดิฟฟ์ 4-1 ที่แอนฟิลด์ ก่อนจะกลายเป็นกำลังสำคัญของลิเวอร์พูลในเวลาต่อมา โดยก่อนหน้าจะบาดเจ็บเมื่อกลางฤดูกาล กองกลางฮาร์ดแมนแซมบ้าได้รับการยกย่องว่าเป็นกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกไปแล้วจากตัวอย่างทั้ง 3 คนที่กล่าวมา อาการเล่นไม่ออกของมินามิโนะจึงไม่ใช่เรื่องแปลก และเขาอาจจะต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าที่จะเริ่มแสดงฝีเท้าที่โดดเด่นสมกับความคาดหวังของแฟนๆ ได้ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของการปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งเป็นลีกที่เล่นกันด้วยความเร็วสูง แตกต่างจากทุกลีกบนโลก ขณะที่อีกส่วนที่สำคัญกว่าคือการปรับตัวเข้ากับระบบการเล่นของลิเวอร์พูล ซึ่งมีรายละเอียดในการเล่นที่ซับซ้อนสิ่งที่มินามิโนะจำเป็นต้องทำคือ อดทนและเรียนรู้อย่างตั้งใจ ซึ่งเจ้าตัวก็พร้อมที่จะสู้เต็มที่ เพื่อตอบแทนความไว้วางใจของเจ้านายชาวเยอรมันผมรู้สึกได้ถึงความไว้ใจที่ผู้จัดการทีมมีต่อผม และผมก็อยากที่จะตอบแทนเขา มินามิโนะ กล่าว โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยพอใจกับผลงานของผมนัก (ในเกมกับวูล์ฟส์) ดังนั้นผมอยากจะทำให้ได้อย่างที่คนคาดหวังในตัวผมสภาพจิตใจของผมพร้อมที่จะลุย และสิ่งที่ผมคิดตลอดเวลาตอนนี้ คือการหาทางปรับตัวเข้ากับทีมให้ดี และมีส่วนในเกม ผมไม่รู้สึกกดดันอะไร ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าความคาดหวังในตัวผมมีแค่ไหน แต่ผมไม่มีอะไรต้องเสียสำหรับคล็อปป์ การได้เห็นสตาร์ทีมชาติญี่ปุ่นลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกนั้นถือว่าเป็น ก้าวที่ยิ่งใหญ่ แล้ว เราต้องคิดว่าเราจะทำอย่างไร เพราะเขาลงเล่นยาวกว่าที่เราคิด เกมเมื่อคืนวันพฤหัสฯ เป็นก้าวสำคัญของเขาคล็อปป์ ยังได้ชี้ให้เห็นถึง 4 จุดที่มินามิโนะแสดงให้เห็น และเขารู้สึกประทับใจนั่นคือ จิตใจที่แข็งแกร่ง การสู้เหมือนคนบ้า การพยายามปิดพื้นที่ และ ความสารพัดประโยชน์คืนนี้ (อาทิตย์ที่ 26 มกราคม) ลิเวอร์พูล มีคิวจะลงสนามพบกับชรูว์สบิวรี ในศึกเอฟเอคัพ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่ามินามิโนะจะได้โอกาสลงสนามร่วมกับกลุ่มนักเตะที่หายจากอาการบาดเจ็บ หรือต้องการการเคาะสนิมในสนามอย่าง เดยัน ลอฟเรน โจเอล มาทิป อดัม ลัลลานา ฟาบินโญ และดิว็อค โอริกิ รวมถึงดาวรุ่งอย่าง เคอร์ติส โจนส์ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ เนโก วิลเลียมส์ หรือไม่ เพราะจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกยังต้องลงสนามพบกับเวสต์แฮมในคืนวันพุธ และจะต้องพบกับเซาแธมป์ตันต่อในคืนวันเสาร์สิ่งที่แน่ชัดกว่าคือ ยังมีอีกหลายเรื่องที่มินามิโนะต้องเรียนรู้และต้องปรับตัว แต่ถ้าดูจากกรณีศึกษาของโรเบิร์ตสัน อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และฟาบินโญแล้ว แฟนลิเวอร์พูลยังมีความหวังจะได้เห็นผลงานที่ดีของซามูไรยอดนักเตะคนนี้ สิ่งที่ต้องทำไม่มีอะไรมากกว่าแค่อดทนรอเวลาเท่านั้นพิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์อ้างอิง:
ทาคุมิ มินามิโนะ ได้โอกาสลงสนามเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกกับวูล์ฟส์ แต่ไม่สามารถสร้างผลงานที่น่าประทับใจได้สิ่งที่มินามิโนะ กำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะสตาร์หลายคนในทีมลิเวอร์พูลเองก็ต้องผ่านช่วงเวลาแบบนี้มาแล้วทั้งนั้นเจอร์เกน คล็อปป์ กล่าวว่าการได้เห็นสตาร์ทีมชาติญี่ปุ่นลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกนั้นถือว่าเป็น ก้าวที่ยิ่งใหญ่ แล้ว
null
null
https://thestandard.co/takumi-minamino-liverpool/
พักปรึกษาเรื่องเปลี่ยนหน้า ตามลายแทงเที่ยวสบายสไตล์ หมอโทนี่ เจ้าพ่อความงาม
เป็นพรหมลิขิตหรือเป็นความบังเอิญอย่างไรไม่ทราบได้ เพราะว่ากันว่า คุณหมอหน้าใส นพ.วรพล สุขีวัฒนา หรือ ดร.โทนี่ เจ้าพ่อความงามที่ดังขึ้นชื่อมากที่สุดคนหนึ่งในวงการ ไทยรัฐออนไลน์จับตัวมาสัมภาษณ์ เพราะนอกจากเรื่องที่ว่า รู้มาว่าเขาเป็นนักท่องเที่ยวระดับเซียน วันหยุดยาว ถ้าคุณอยากตามหาลายแทงเที่ยว ด้านล่างมีคำตอบ,1. บอสตัน อังกฤษ - เป็นเมืองที่ไปเรียน น่าอยู่ ผู้คนมีการศึกษามาก เนื่องจากที่นี่มีมหาวิทยาลัยเยอะ ดังนั้นเมืองนี้ส่วนใหญ่จึงเป็นนักศึกษา ที่นี่มีรถไฟสายแรกๆ ของโลก ปัจจุบันถือว่าเป็นโครงข่ายในการเดินทางที่สะดวกมาก ทั้งบนดินใต้ดิน ในมุมเราชอบเสน่ห์บ้านเมืองและความเก่าแก่ ชอบอากาศที่หนาวของที่นี่ ซึ่งช่วงสปริง บอสตันก็จะสวยมีชีวิตชีวาอีกแบบ เป็นเมืองที่น่าประทับใจ,2. ประเทศญี่ปุ่น - ไปทีไรก็ชอบมากมาย ที่นี่ผู้คนน่ารัก มีระเบียบ อาหารน่าซื้อ ข้าวของ ขนมแพ็กเกจสวย แม้จะอร่อยไม่อร่อย แต่แพ็กเกจมันก็น่าซื้อ ตอนเราไปช่วงมีนาคมหนาวมาก ถ้าคนไม่ชอบอากาศหนาวแนะนำเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ซากุระมันจะบานช่วงแถวๆ นี้ เป็นอีกหนึ่งที่ที่แนะนำ,3. โมนาโก ประเทศฝรั่งเศส - ไปมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โมนาโกเป็นเมืองเล็กอันดับ 2 ของโลก ปกครองโดยฝรั่งเศส เป็นเมืองที่เศรษฐีเขาจะไปซื้อรีสอร์ตอยู่แถวนั้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของเรย์แบน เจ้าของ Versace และอื่นๆ อีกมากมาย เป็นเมืองเล็กๆ มีรถเมล์สายเดียว อากาศดี แนะนำให้ไปประมาณมีนาคม-เมษายน ,4. หัวหิน - ชอบที่นี่เพราะเป็นเมืองที่สงบ โดยเฉพาะตลาดหัวหินที่นี่มีข้าวเหนียวมะม่วงอร่อยมากๆ ส่วนใหญ่ไปหัวหินก็จะไม่ค่อยออกไปไหน อยู่ในโรงแรม เราชอบที่นี่มากกว่าพัทยาคนจะพลุกพล่าน ไม่เหมาะกับการไปพักผ่อน แนะนำถ้าไปก็ช่วงวันธรรมดาเพราะคนน้อย ที่นี่เหมาะจะไปกับคนรู้ใจ,5. เชียงใหม่ - เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะไปพักผ่อนสบายๆ สมัยก่อนที่บ้านอากงจะมีร้านอาหารชื่อ นิวครัวไทย เราก็จะไปตั้งแต่เด็กๆ ไปตลอด พอโตก็กลับไปเที่ยวเหมือนเดิม ที่นี่ทำให้เรารู้สึกว่าเวลาจะช้าลง คนขี่จักรยานเยอะมาก ธรรมชาติสวยงาม ที่เชียงใหม่ไปแล้วให้ไอเดียดีๆ ใหม่ๆ กับเราเสมอ ปิ๊งแล้วก็จะเขียนเก็บไว้ เป็นอีกสถานที่ดีๆ ที่แนะนำ,**4 เทรนด์หน้า ปีหน้า**,1. หน้าเรียว วีเชฟ 2. หน้ารูปหัวใจ 3. เทรนด์เปลือยผิว หรือ naked face โชว์ผิวไม่โบ๊ะ 4. ยกกระชับหน้า 8 จุด ,ประวัติ - นพ.วรพล สุขีวัฒนา หรือ ดร.โทนี่ จบแพทยศาสตร์บัณฑิตจาก ม.สงขลานครินทร์ และเรียนต่อเฉพาะด้านที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมกับเข้าคอร์สด้านผิวพรรณที่บอสตัน และมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ปัจจุบันเป็นเจ้าของดร.โทนี่คลินิก
เป็นพรหมลิขิตหรือเป็นความบังเอิญอย่างไรไม่ทราบได้ เพราะว่ากันว่า นพ.วรพล สุขีวัฒนา หรือ ดร.โทนี่ เจ้าพ่อความงามที่คนดังขึ้นมากที่สุดคนหนึ่งในวงการ
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
ดร.โทนี่,วรพล สุขีวัฒนา,โทนี่หมอศัลยกรรม,Dr.Tony,DrTony,ดร.โทนี่คริสตัน,ดร.โทนี่คือใคร,ท่องเที่ยว,ข่าวท่องเที่ยว,ไลฟ์สไตล์,ข่าวไลฟ์สไตล์​,ข่าวไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไทยรัฐไลฟ์สไตล์,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าว
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/502588
ครูหยุย ลั่น ขรก.เจอโทษหนัก เพิ่ม 3 เท่า หากเอี่ยวค้ามนุษย์
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 60 ที่รัฐสภา นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงภาพรวมการค้าประเวณีในสังคมไทยว่า ปัจจุบันมีอัตราน้อยลงเมื่อเปรียบเทียบ 30 ปีที่ผ่านมา เพราะถูกต่างชาติจับตาเรื่องปัญหาการค้ามนุษย์ แม้จะมีการลดระดับของไทยจากเทียร์ 3 เป็นเทียร์ 2 แล้วก็ตาม แต่ปัญหานี้ก็ยังเกิดขึ้น ล่าสุดหลังจากเป็นข่าวกรณีการซื้อบริการเด็กในจังหวัดแม่ฮ่องสอน สำหรับประเทศไทยเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ปัญหาการค้าประเวณีเด็กถือว่าหนักมาก มีเด็กถูกตกเขียวนับล้านคน จนมาเข้ายุคที่สองคือยุคค้าประเวณีเด็กที่สมัครใจ ยุคที่สามคือยุคการค้าประเวณีของเยาวชนชายที่สมัครใจ และยุคที่สี่ยุคการตั้งครรภ์ไม่พร้อมของเยาวชนหญิง ซึ่งต้องยอมรับว่าปัญหาการค้าประเวณีแก้ไขยาก เพราะในระยะหลังเกิดจากความสมัครใจของเยาวชน ทั้งนี้ กรณีของการค้าประเวณีโดยการถูกบังคับที่ประเทศไทยสถานการณ์ถือว่าดีขึ้นมาก แต่ที่น่าเป็นห่วงคือการสมัครใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่แก้ยาก,นายวัลลภ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยมีคนจาก 3 ประเทศ คือ ลาว เมียนมา และกัมพูชา ถูกนำมาค้าประเวณี พบว่าเด็กจากกัมพูชาจะถูกนำมาเป็นขอทานมากที่สุด ส่วนเด็กเมียนมาจะถูกนำมาค้าประเวณีมากที่สุด และเด็กจากลาวจะมีอายุน้อยที่สุดที่นำมาค้าประเวณี คือ ลาว ซึ่งมีอายุแค่ 12 ปี อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ขณะนี้มีคณะทำงานร่วมกัน 3 ส่วนประกอบด้วย 1. กระทรวงมหาดไทย โดยรองปลัดฯ ทำหน้าที่สืบสวนหาข้อเท็จจริง 2.เครือข่ายองค์กรปกป้องคุ้มครองเด็ก และ 3. กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งกำลังเก็บข้อมูลเชิงลึกอยู่ในหลายจังหวัด และเป็นข้อมูลทางลับ ขณะที่เรื่องของบทลงโทษ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 ระบุว่า หากผู้ใดนำเด็กอายุ 15-18 ปี แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ จะต้องโทษจำคุก 4-10 ปี และปรับตั้งแต่ 80,000-200,000 บาท หากผู้กระทำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ จะมีโทษเพิ่ม 3 เท่า มากกว่าปกติ
สนช.จับมือ 3 หน่วยงาน เร่งแก้ปัญหาค้าประเวณีเยาวชน ครูหยุย ชี้แก้ปัญหายาก เหตุเด็กสมัครใจค้าประเวณีมากขึ้น ลั่น ขรก.เจอโทษหนัก เพิ่ม 3 เท่า หากมีเอี่ยว
ข่าว,การเมือง
ค้ามนุษย์,ค้าประเวณี,ขายตัว,ค้าประเวณีเด็ก,วัลลภ ตังคณานุรักษ์
https://www.thairath.co.th/news/politic/928082
หวั่นเกิด พุทธศาสนิกชนแบบติ๊ก จี้วัดสร้างศรัทธา
เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา กองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จัดประชุมเจ้าอาวาสวัดที่ได้รับคัดเลือกเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น วัดพัฒนาตัวอย่าง และอุทยานการศึกษาในวัด ประจำปี 2558 โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธาน และมอบพัด โล่ ย่าม เกียรติบัตร แก่เจ้าอาวาสวัดที่ผ่านการคัดเลือก จำนวน 130 วัดด้วย,ทั้งนี้ นายชยพล พงษ์สีดา ที่ปรึกษา พศ. บรรยายพิเศษว่า ปัจจุบันวัดสูญเสียการเป็นศูนย์กลางของชุมชนไปแล้ว เหลือเพียงกิจกรรม ประเพณีบางอย่าง และการศึกษาสำหรับพระสงฆ์เท่านั้นที่ยังอยู่ในวัด จึงทำให้คนมีความผูกพันกับวัดน้อยลง การที่จะทำให้คนยุคนี้ผูกพันกับวัดต้องอาศัยการสร้างศรัทธา และพระสงฆ์มีส่วนสำคัญที่สุดที่จะทำให้เกิดความศรัทธาดึงให้คนเข้าวัด ปัจจุบันเกิดพุทธศาสนิกชนแบบติ๊กขึ้นมาแล้ว กล่าวคือ เป็นพุทธศาสนิกชนเวลากรอกข้อมูลส่วนตัว ที่จะให้ทำเครื่องหมายว่านับถือศาสนาใดเท่านั้น และในอนาคตจะเกิดขึ้นอีกแน่นอน หากวัดยังไม่สร้างศรัทธา จากการศึกษาข้อมูลพบว่าวัดที่จะมีคนเข้าอย่างต่อเนื่องจะมีลักษณะ 1.มีประวัติศาสตร์ มีโบราณวัตถุที่สำคัญ 2.มีพระสงฆ์เป็นจุดเด่น และ 3.วัดที่มีสถานที่ปฏิบัติธรรม ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วมองว่าวัดลักษณะนี้เป็นที่ต้องการมากในสังคมปัจจุบัน และจะสามารถสร้างความมั่นคงในศรัทธาต่อวัดได้มากที่สุด.
ปัจจุบันเกิดพุทธศาสนิกชนแบบติ๊กขึ้นมาแล้ว กล่าวคือ เป็นพุทธศาสนิกชนเวลากรอกข้อมูลส่วนตัว ที่จะให้ทำเครื่องหมายว่านับถือศาสนาใดเท่านั้น และในอนาคตจะเกิดขึ้นอีกแน่นอน หากวัดยังไม่สร้างศรัทธา จากการศึกษาข้อมูลพบว่าวัดที่จะมีคน
null
ข่าวการศึกษา,ข่าวศาสนา,สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์,ช่วง วรปุญฺโญ,ชยพล พงษ์สีดา,พุทธศาสนิกชนแบบติ๊ก
https://www.thairath.co.th/content/745931
เทพไท จี้ บิ๊กตู่ ใช้ พ.ร.ก.ลดราคาสินค้า ชี้ น้ำมันลงต่อเนื่อง แต่ของแพง
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ปชป. ชี้ 4 เหตุ น้ำมันลง ของแพงเหมือนเดิมจี้ บิ๊กตู่ ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ลดราคาสินค้าตามราคาน้ำมันวันที่ 1 เม.ย. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีราคาน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดได้ประกาศลดราคา มีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.ของวันที่ 1 เม.ย.นี้ว่า ทุกครั้งที่มีการประกาศลดราคาน้ำมันทุกคนก็จะดีใจ เพราะราคาน้ำมันเป็นดัชนีชี้วัดปัจจัยทางเศรษฐกิจหลายด้าน แต่ในวันนี้ เมื่อมีการประกาศลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดของทุกปั๊ม ประชาชนส่วนใหญ่กลับรู้สึกเฉยๆ ไม่ยินดี ยินร้าย กับการลดราคาน้ำมัน เพราะ1.ราคาน้ำมันได้ปรับราคาในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ทุกคนวิตกกังวล เรื่องการติดเชื้อจากโรคร้ายมากกว่าเรื่องใดๆ 2.ราคาน้ำมันได้ปรับลดราคาลงหลายครั้งในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.63 จนไม่ตื่นเต้นกับราคาน้ำมันที่ลดลงแล้ว3.ราคาน้ำมันถูกลงก็ไม่มีผล กับการเติมน้ำมันรถยนต์ของตัวเอง เพราะความจำเป็นในการใช้รถยนต์ในชีวิตประจำวันมีน้อยลง หลังจากถูกประกาศล็อกดาวน์ให้อยู่กลับบ้านไม่สามารถเดินทางออกจากบ้านได้และ 4.แม้ราคาน้ำมันลดลง แต่ค่ารถโดยสารสาธารณะคงเดิม ค่าขนส่งอื่นๆ ก็ไม่ได้ลดลงตามราคาน้ำมัน ราคาสินค้าทุกชนิดก็ราคาแพงเหมือนเดิม ทั้งที่น้ำมัน คือต้นทุนของการผลิตสินค้าทุกชนิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันดีเซลที่เคยมีราคาสูงลิตรละ 30 บาท ปัจจุบันราคาลิตรละ 20 บาท ราคาลดลงลิตรละ 10 บาท และมีแน้วโน้มว่าน้ำมันดิบในตลาดโลกจะลดลงมากกว่านี้อีก แต่ยังไม่เห็นสินค้าชนิดไหน ขอปรับลดราคาลงตามราคาน้ำมันเลย ก่อนหน้านี้เมื่อรัฐบาลประกาศปรับราคาน้ำมันสูงขึ้นครั้งใด ผู้ประกอบการรถทัวร์ โรงงานอุตสาหกรรม ก็จะโอดครวญขอขึ้นราคาค่าโดยสาร ราคาสินค้าโดยอ้างเรื่องต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมัน ยิ่งตอนนี้สถานการณ์บ้านเมือง มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พี่น้องประชาชนต้องหยุดอยู่กับบ้าน หยุดทำงาน ขาดรายได้ แต่ในขณะเดียวกันราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ค่าขนส่ง ค่ารถโดยสารสาธารณะยังคงเท่าเดิม จึงขอเรียกร้องมายังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ขอให้ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จทางการบริหารตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สั่งการให้กระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ ผลิตสินค้าค่าครองชีพ ค่าโดยสารรถสาธารณะ และค่าขนส่งทั่วไป เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพาณิชย์ ฯลฯ ได้แก้ไขปัญหาสินค้าราคาให้ถูกลงสอดคล้องกับราคาน้ำมันในปัจจุบัน และ มอบหมายให้ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ได้รับแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรี ให้เป็นประธานคณะกรรมการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ และประธานคณะกรรมการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 อีกตำแหน่งหนึ่ง นอกจากจะมีหน้าที่ควบคุมการกักตุนสินค้าแล้ว ก็ต้องหามาตรการควบคุม ปรับลดราคาสินค้าให้มีราคาเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชนด้วย ซึ่งในวันพรุ่งนี้(2เม.ย.) จะได้ยื่นหนังสือต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19ต่อไป นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ปชป. ชี้ 4 เหตุ น้ำมันลง ของแพงเหมือนเดิม จี้ บิ๊กตู่ ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ลดราคาสินค้าตามราคาน้ำมัน
ข่าว,การเมือง
โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสอู่ฮั่น,เทพไท เสนพงศ์,น้ำมันลงของแพง,สินค้าขึ้นราคา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1809676
พระชราเจอระเบิด ค.60 แกะมาทำเชิงเทียน บึมสนั่นใส่ตัว โชคดีเจ็บไม่หนัก
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 พ.ค. 60 นายครรชิต ดีหนองยาง นายอำเภอภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณที่พักสงฆ์ซำขี้เหล็ก หมู่ 4 ต.ดงรัก อ.ภูสิงห์ จึงได้สั่งการให้ นายสรศิริ จันดีบุตร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ร่วมกับสมาชิกอาสารักษาดินแดนอำเภอภูสิงห์ ที่ 19 เจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยทหารราบที่ 1631 ประสานผู้ใหญ่บ้านบ้านคูสี่แจ และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ในเขตป่าใกล้แนวชายแดน พบผู้ได้รับบาดเจ็บคือ พระประยูร แหวนเงิน อายุ 65 ปี ซึ่งจำพรรษาอยู่ที่ที่พักสงฆ์ซำขี้เหล็ก เป็นพื้นที่ป่าอยู่บนเขาใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ถูกสะเก็ดระเบิดมีบาดแผลตามลำตัวหลายแห่ง เจ้าหน้าที่ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วรีบนำส่ง รพ.ภูสิงห์ ส่วนที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบลูกระเบิด ค.60 สภาพเก่าตกอยู่บนพื้นดิน ชิ้นส่วนภายในระเบิดออกหมด,สอบถาม พระประยูร เผยว่า พบลูกระเบิดสภาพเก่าอยู่ในบริเวณที่พักสงฆ์ จึงนำมาแกะเพื่อจะทำเป็นแท่นจุดเทียนบูชาพระ โดยการใช้แท่งเหล็กกระแทกชิ้นส่วนด้านท้ายจนเกิดระเบิดขึ้น และสะเก็ดชิ้นส่วนภายในระเบิดออกมาถูกตามร่างกายได้รับบาดเจ็บ,ด้านปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ภูสิงห์ กล่าวว่า ที่พักสงฆ์แห่งนี้อยู่ในพื้นที่ป่าเขาใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ในอดีตเคยมีการสู้รบกันอาจจะยังมีลูกระเบิดหลงเหลืออยู่ ซึ่งหากระเบิดลูกนี้เกิดระเบิดออกทั้งลูกจะรุนแรงมากถึงขั้นเสียชีวิต จึงขอเตือนประชาชนที่อาจจะเข้าป่าหาของป่าเมื่อเจอลูกระเบิดหรือพบเห็นสิ่งของต้องสงสัยว่าจะเป็นวัตถุระเบิดอย่าได้เก็บมาเพราะจะเกิดอันตราย ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย.
พระศรีสะเกษอายุ 65 ปี เจอระเบิด ค.60 บริเวณที่พักสงฆ์ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา เก็บมาแกะชิ้นส่วนหวังทำเชิงเทียนบูชาพระ ใช้แท่งเหล็กกระแทกบึมคามือ สะเก็ดกระจายทั่วตัว โชคดีไม่เจ็บหนัก
ข่าว,ทั่วไทย
ระเบิด,ค.60,ระเบิด ค.60,พระแกะระเบิด,ศรีสะเกษ
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/933358
ปัญหาจากเจ้าหน้าที่รัฐ
ด้านการท่องเที่ยวของไทยโดยด่วน หลังจากเกิดอุบัติเหตุเรือนำเที่ยวล่มที่ภูเก็ต ผู้โดยสารเสียชีวิต 50 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน ซ้ำเติมด้วยกรณี รปภ.สนามบินดอนเมืองตบหน้าชาวจีน,อธิบดีกรมการท่องเที่ยวแถลงว่า ทางการได้ออกมาตรการความปลอดภัยหลายอย่าง เช่น เรือท่องเที่ยวที่ภูเก็ตทุกลำ ต้องถูกตรวจสอบรวมทั้งกัปตันเรือ และผู้โดยสาร แต่ถ้ายังไม่ได้ผลจะเสนอให้ใช้มาตรการเข้มงวดยิ่งขึ้น เช่น ห้ามเรือออกจากท่าในช่วงเดือนมรสุม ยอมรับว่าที่ผ่านมาเราเน้นถึงนักท่องเที่ยวเข้ามา แต่ไม่ได้สร้างมาตรฐานความปลอดภัย,จากเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวจีนทั้งสองเรื่อง ทำให้นักท่องเที่ยวจีนมาไทยลดลงทันที รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่า ในขณะนี้เป็นเสมือนหนึ่งว่าจีนชักใบเหลืองให้ไทย แม้ทางการจีนจะไม่ได้ประกาศเตือนอย่างเป็นทางการ แต่มีรายงานข่าวตามสื่อต่างๆของจีน เกี่ยวกับความไม่ปลอดภัย รวมทั้งเตือนให้ระวังถูกทำร้าย,จีนมีประชากรถึง 1.4 พันล้านคน นักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปประเทศต่างๆหลายสิบล้านคน มาประเทศไทยเมื่อปี 2560 กว่าสิบล้านคน จากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดราว 35 ล้านคน การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้ให้ประเทศสูงสุด ประเมินกันว่าหากนักท่องเที่ยวจีนหายไปประมาณ 1 ล้านคน ไทยจะสูญเสียรายได้ 4 หมื่นล้านบาท,รัฐบาลและทางราชการไทยจึงต้องรณรงค์เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะแก้ไขได้ง่ายๆ เพราะส่วนหนึ่งกลายเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อน เป็นเรื่องของอารมณ์ คนจีนบางส่วนอาจมีทั้งโกรธและกลัว บางคนอาจไม่พอใจที่รองนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งพูดถึงโศกนาฏกรรมเรือล่มที่ภูเก็ต ว่า เป็นเรื่องที่คนจีนทำกันเอง อาจจะมีส่วนจริง เช่น คนจีนอาจเกี่ยวข้องกับกิจการเรือท่องเที่ยว แต่คนจีนส่วนใหญ่ไม่รู้ความจริง,ต้องยอมรับด้วยว่าสาเหตุของปัญหาส่วนใหญ่มาจากเจ้าหน้าที่รัฐที่ภูเก็ตเนื่องจากความหย่อนยานในการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ตรวจสอบสภาพเรือและระบบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เหตุใดเจ้าหน้าที่รัฐจึงไม่เข้มงวด ส่วนที่ดอนเมืองเจ้าหน้าที่รัฐทำเอง,ซ้ำยังมีการเผยแพร่ข่าวตามสื่อของจีนอ้างว่านักท่องเที่ยวจีนที่มาทำวีซ่าเข้าประเทศที่ท่าอากาศยานไทย นอกจากจะเสียค่าธรรมเนียมรายละ 2,000 บาทแล้ว ยังต้องเสียค่าบริการพิเศษอีกรายละ 300 บาท หากต้องการบริการที่รวดเร็ว กล่าวโดยสรุปก็คือมีกลิ่นของการทุจริตคอร์รัปชันอยู่ด้วย เป็นปัญหาโลกแตกใครจะเป็นผู้แก้ปัญหา.
เข้าทำนอง วัวหายจึงล้อมคอก แต่เรื่องนี้เป็นเรื่อง เรือล่ม จึงเรียกหามาตรการป้องกัน แต่ก็ยังดีกว่านิ่งเฉย มีรายงานข่าวว่าทางการต้องเร่งกู้ชื่อเสียง
null
เจ้าหน้าที่รัฐ,เรือล่ม,เรือท่องเที่ยวภูเก็ต,นักท่องเที่ยวจีน,บทบรรณาธิการ
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1394714
กสทช.ทวงเงินค้ำประกัน ไทยทีวี ทิ้งไพ่ตายฟ้องศาลปกครอง (ชมคลิป)
พร้อมเร่งแผนยุติระบบทีวีอนาล็อก,นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (16 มิ.ย.) กสทช.จะทำหนังสือแจ้งไปยังธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เพื่อขอให้ชำระค่าประมูลทีวีดิจิตอลของบริษัท ไทยทีวี จำกัด เจ้าของช่อง 15 โลก้า ช่อง 17 ไทยทีวี งวดที่ 2 วงเงิน 285 ล้านบาท โดยขอให้หักจากหลักทรัพย์ค้ำประกันที่ไทยทีวีนำไปค้ำประกัน แต่ถ้าไทยทีวียืนยันยกเลิกการประกอบการทีวีดิจิตอล ก็ต้องรอที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (บอร์ด กสท.) อนุมัติแผนเยียวยาให้แล้วเสร็จก่อน รวมถึงต้องชำระเงินค่าประมูลในส่วนที่เหลือด้วยอีก 1,600 ล้านบาท รวมค่าปรับด้วย จึงจะถือว่าไทยทีวียุติการออกอากาศอย่างสมบูรณ์,เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ถือว่าครบ 15 วัน หลังจาก กสทช.ได้ทำหนังสือทวงค่าประมูลทีวีดิจิตอลไปยังไทยทีวีแล้ว และเมื่อไม่มาชำระค่าประมูลอีก ก็ต้องแจ้งไปยังธนาคารกรุงเทพในฐานะทำหนังสือค้ำประกัน เพื่อให้ชำระเงินแทน เป็นไปตามขั้นตอนการดำเนินการของ กสทช.,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมบอร์ด กสท. ที่มี พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. เป็นประธาน ไม่ได้มีการพิจารณาประเด็นของไทยทีวี เนื่องจากต้องรอผลการพิจารณาแผนการเยียวยาผู้บริโภคก่อน คาดว่าจะเสนอบอร์ด กสท.พิจารณาในครั้งหน้า โดยที่ประชุมในครั้งนี้ มีมติให้คืนเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 2% สำหรับทีวีระบบอนาล็อกให้ช่อง 3 และช่อง 7 ซึ่งเป็นการดำเนินการตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่ให้จัดเก็บเพราะซ้ำซ้อนและเป็นผู้ประกอบการภายใต้สัญญาสัมปทานเดิมด้วย,ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการหารือกันอย่างกว้างขว้าง โดยนายธวัชชัย จิตภาษนันท์ กรรมการ กสทช. ได้โต้แย้งว่า ก่อนจะคืนเงินก็ควรจะพิสูจน์รายได้ของช่อง 3 และช่อง 7 ก่อนว่า เป็นรายได้ที่เกิดขึ้นในระบบอนาล็อกจริงๆ มีมูลค่าเท่าใด และรายได้ที่เกิดในระบบดิจิตอลเท่าใด เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และภาครัฐก็ไม่เสียหายด้วย ขณะที่กรรมการคนอื่นๆเห็นว่า ควรจะคืนเงินให้ช่อง 3 และช่อง 7 ทันที เนื่องจากช่อง 7 ได้ชำระเงินค่าธรรมเนียมแบบมีเงื่อนไขว่า กสทช.ต้องคืนเงิน หากคืนช้า กสทช.จะต้องชำระค่าดอกเบี้ยคืนให้กับช่อง 7 ในอัตรา 7.5% อีกด้วย ดังนั้น ที่ประชุมจึงได้มีมติให้คืนเงินช่อง 3 วงเงิน 190 ล้านบาท และช่อง 7 วงเงิน 60 ล้านบาท,นายสุชาติ ชมกุล ทีมที่ปรึกษาทนายความ บริษัท ไทยทีวี จำกัด กล่าวว่า ตามขั้นตอนหลังจากครบกำหนดยืดเวลาชำระเงิน กสทช.ต้องทำหนังสือถึงธนาคารผู้เป็นคนออกหนังสือค้ำประกัน ซึ่งก่อนที่จะชำระเงินให้ กสทช. ธนาคารกรุงเทพต้องทำหนังสือถามมายังไทยทีวีก่อนว่ามีปัญหาอะไรจึงไม่ชำระเงิน ซึ่งไทยทีวีเชื่อว่ามีเหตุผลเพียงพอที่ธนาคารจะรับฟังและระงับการชำระเงินไว้ก่อน เพราะไทยทีวีมีเหตุผลที่จะไม่ขอจ่ายเงินประมูลต่อ หากไทยทีวีมีเหตุผลที่ดี ธนาคารก็อาจระงับการชำระเงินไปก่อน โดยเฉพาะหากข้อพิพาทอยู่ในกระบวนการของศาลแล้ว ก็ถือเป็นเหตุผลที่ดีในการระงับการชำระเงิน,ล่าสุด ไทยทีวีได้เตรียมฟ้องขอความเป็นธรรมต่อศาลปกครอง แต่กำหนดในการยื่นเรื่องยังไม่ชัดเจน เพราะต้องรอจดหมายจากธนาคารก่อน.
กสทช. ร่อนหนังสือถึงธนาคารกรุงเทพ ขอให้ชำระเงินแทนไทยทีวี 285 ล้านบาทตามหลักทรัพย์ค้ำประกัน ขณะที่ไทยทีวี ไม่หนี ไม่จ่าย เตรียมยื่นฟ้องศาลปกครอง ส่วนบอร์ด กสท.ไฟเขียวคืนเงินช่อง 3 และ 7 วงเงินรวม 250 ล้านบาท
null
ฐากร ตัณฑสิทธิ์,กสทช.,ไทยทีวี,เงินค้ำประกัน,ธนาคารกรุงเทพ,ฟ้องศาลปกครอง,ยุติระบบทีวีอนาล็อก,นที ศุกลรัตน์,ธวัชชัย จิตภาษนันท์,สุชาติ ชมกุล,ข่าว,ทีมข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/content/505342
แรมโบ้อีสาน อัด ฝ่ายค้าน สอบตก เย้ย อรุณร่วง-พท.-อนค.แทงหลังกันเอง
วันที่ 28 ก.พ. ที่รัฐสภา นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการทีมวอร์รูมนอกสภา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ในฐานะเลขาธิการวอร์รูมนอกสภาของ พปชร. ที่ได้ติดตามการอภิปรายมาโดยตลอด 4 วัน ขอสรุปยุทธการอรุณรุ่งของฝ่ายค้านว่า สอบตก กลายเป็น อรุณร่วง-อรุณรุ่งริ่ง เป็นการแสดงออกแบบท้าทาย เสียดสี ดราม่า ท้ายิง ไม่สมเกียรติ ไม่เป็นตัวอย่างแก่เยาวชน ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการอภิปราย ทั้งยังบริหารเวลาผิดพลาด ทะเลาะกันเองในทั้งฝ่ายค้านทั้งสมาชิกอดีตอนาคตใหม่ (อนค.) ไม่พอใจพรรคเพื่อไทย จนกระทั่งอภิปรายไม่ได้ เป็นความผิดพลาดของฝ่ายค้านเอง ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล แต่มีความพยายามจะใส่ร้ายว่ารัฐบาลปิดปาก เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง ตนขอเรียกร้อง นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ว่า ให้ไปตรวจสอบว่าใครที่มีความใกล้ชิดกับรัฐมนตรีช่วยท่านหนึ่ง แล้วพานักธุรกิจไปโกงเงินธนาคารอิสลาม 2 หมื่นล้านนายสุภรณ์ กล่าวว่า ตอนนี้เกิดยุทธการทำลายล้างผ่านโซเชียลมีเดีย โดยตนได้ถูกปลอมแปลงเฟซบุ๊กใส่ร้ายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้ง นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เอง ก็ถูกใส่ร้ายในทำนองเดียวกัน ซึ่งขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะตนอยู่ฝ่ายรัฐบาลจะไปกล่าวหาฝ่ายเดียวกันได้อย่างไร ทั้งนี้ในเวลา 14.00 น. วันที่ 28 ก.พ ตนจะไปแจ้งความดำเนินคดีวันนี้ ที่ ปอท.แจ้งวัฒนะ เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเป็นการใช้โซเชียลที่สกปรกที่สุด และขอเรียกร้องให้กระบวนการเหล่านี้หยุดการกระทำเสีย
แรมโบ้อีสาน อัด ฝ่ายค้าน สอบตก แถม พท.-อนค.แทงหลังกันเอง บริหารเวลาผิดพลาด โยนดาบให้ รบ. จี้ ศรัณย์วุฒิ ตรวจสอบ ใครโกง 2 หมื่นล้าน ธ.อิสลาม บ่าย 2 จ่อ แจ้งความเฟกนิวส์ ทำลายล้าง พปชร.
ข่าว,การเมือง
อภิปรายไม่ไว้วางใจ,อภิปรายไม่ไว้วางใจ 2563,ประชุมสภา,ลงมติไม่ไวว้างใจ,สุภรณ์ อัตถาวงศ์,อรุณร่วง,เพื่อไทย-อนาคตใหม่,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1782635
แข้งใหม่ยิงด้วย เชลซี บุกอัดฮัดเดอร์สฟิลด์ 3-0 ประเดิมชัยพรีเมียร์ลีก
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดเปิดซีซันใหม่ 2018-19 ประจำวันที่เสาร์ 11 ส.ค. เดอะ เทอร์เรียร์ส ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ เปิดสนามจอห์น สมิธ สเตเดียม รับการมาเยือนของ สิงโตน้ำเงิน เชลซี,เปิดฉากครึ่งแรกมาถึงนาทีที่ 34 เชลซี ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ วิลเลียน พาบอลไปสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายแล้วเปิดไปเสาสองให้ เอ็นโกโล ก็องเต ซัดด้วยซ้ายเข้าไป,จากนั้นนาทีที่ 45 เชลซี ได้จุดโทษ จากจังหวะที่ มาร์กอส อลอนโซ โดนทำฟาวล์ในเขตโทษ และเป็น จอร์จินโญ แข้งใหม่ป้ายแดง รับหน้าที่สังหารไม่พลาด พาเชลซี หนีเป็น 2-0 ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้,กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง ถึงนาทีที่ 80 เชลซี นำห่าง 3-0 เอเดน อาซาร์ด พาบอลลุยขึ้นมาก่อนไหลออกทางขวาให้ เปโดร โรดริเกซ หลุดไปยิงผ่านนายด่านของเจ้าถิ่นเข้าไปตุงตาข่าย,ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เชลซี บุกชนะ ฮัดเดอร์ฟิลด์ 3-0 ประเดิม 3 แต้มอย่างสวยงาม,ส่วนผลคู่อื่นมีดังนี้,นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แพ้ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ 1-2,บอร์นมัธ ชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 2-0,ฟูแลม แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-2,วัตฟอร์ด ชนะ ไบรจ์ตัน 2-0
สิงโตน้ำเงิน เชลซี บุกมาเอาชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 3-0 ประเดิม 3 แต้ม ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
เชลซี,ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์,พรีเมียร์ลีก,ผลบอล
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1352862
มท.สั่งยกเว้นขอสำเนาทะเบียนบ้าน-บัตร ปชช. ติดต่อราชการ
วันที่ 4 พ.ย. นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือด่วนมาก ที่ มท.0309.1/3784 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประะทศ และปลัดกรุงเทพมหานคร เรื่องการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนเกี่ยวกับการใช้สำเนาทะเบียนบ้าน และบัตรประจำตัวประชาชน ว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยแจ้งมติ ครม.วันที่ 11 ก.พ. 2546 เรื่องการอำนวยความสะดวกให้แก่ราษฎรฉบับเจ้าบ้านที่นายทะเบียนจัดทำมอบให้เจ้าบ้านยึดถือไว้เป็นเอกสารของทางราชการ,สำหรับกรณีที่มีความจำเป็นต้องได้หลักฐานสำเนาทะเบียนบ้าน ก็ให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนั้นจัดทำสำเนาขึ้นเอง เพื่อราษฎรไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการขอคัดสำเนาหรือถ่ายเอกสารทะเบียนบ้านอีก และขอให้จังหวัดและกรุงเทพมหานคร สั่งกำชับหน่วยงานในสังกัดทุกแห่งให้ถือปฏิบัติตามมติ ครม.ดังกล่าวโดยเคร่งครัด หากการปฏิบัติที่เคยดำเนินการอยู่เดิมไม่สอดคล้องกับมติ ครม. ขอให้แก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้องโดยเร็ว,กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่าปัจจุบันยังคงปรากฏปัญหาเรื่องการเรียกหลักฐานสำเนาทะเบียนบ้านจากประชาชนผู้ยื่นคำขอรับบริการเพื่อนำไป ประกอบเรื่องหรือเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยไม่ได้ปฏิบัติตามมติ ครม. ดังนั้นเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามมติ ครม. และเพื่อเป็นการคืนความสุขให้แก่ประชาชนให้ได้รับความสะดวกในการขอรับบริการ จากหน่วยงานของรัฐ โดยไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการถ่ายเอกสารทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัว ประชาชน,จึงขอให้จังหวัดและกรุงเทพมหานคร แจ้งนายอำเภอ ผู้อำนวยการเขต ปลัดเมืองพัทยา และปลัดเทศบาล (เฉพาะเทศบาลที่จัดตั้งสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลและให้บริการงานทะเบียนราษฎร) ถือปฏิบัติดังนี้,1. ให้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน รวมถึงงานของฝ่ายปกครองและงานอื่นๆ ให้ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด กรณีที่ระเบียบหรือหนังสือสั่งการกำหนดให้เรียกเอกสารสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน บัตรประจำตัวประชาชน พร้อมสำเนาจากประชาชนที่ยื่นคำร้องขอรับบริการ หรือกรณีเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นว่ามีความจำเป็นต้องได้สำเนาเอกสารทะเบียนบ้าน หรือบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการเสนอเรื่องต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมาย เพื่อพิจารณาสั่งการ หรือเพื่อการอื่นใดก็ตาม,ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่เรียกสำเนาภาพถ่ายเอกสารดังกล่าวหรือแนะนำให้ผู้ร้องไปขอคัดสำเนารายการทะเบียนบ้านหรือบัตร จากระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียม แต่ให้เจ้าหน้าที่คัดสำเนารายการทะเบียนบ้านหรือรายการบัตรประจำตัว ประชาชนจากฐานข้อมูลทะเบียนและบัตรในระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักทะเบียนบ้าน นั้นแทน โดยไม่ต้องลงชื่อรับรองเอกสารก็ได้,2. ให้อำเภอและท้องถิ่นพิจารณา กำหนดแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติมเพื่อเป็นมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนให้การบริหารประชาชนเป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็วและถูกต้อง สามารถลดภาระของประชาชนในการติดต่อราชการ โดยเฉพาะประเด็นการเรียกเอกสารประกอบการยื่นคำขอรับบริการในเรื่องต่างๆ,โดยถ้าเอกสารใดสามารถตรวจสอบได้จากเอกสารต้นฉบับที่จัดเก็บอยู่ที่หน่วยงานนั้น หรือสามารถตรวจได้จากระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักทะเบียน ก็ให้ยกเว้นการเรียกเอกสารดังกล่าวและให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบตรวจสอบข้อมูลที่จัดเก็บหรือมีอยู่ในหน่วยงานแทน เช่นงานบริการที่กำหนดให้เรียกสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านเพื่อตรวจสอบรายการบุคคลและที่อยู่ อาทิ การขอเลขที่บ้าน การขอทำบัตรประจำตัวประชาชน การขอจดทะเบียนรับรองบุตร การขอจดทะเบียนบันทึกฐานะครอบครัว เป็นต้น,ถ้างานดังกล่าวไม่มีขั้นตอนที่ต้องบันทึกหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการในทะเบียนบ้าน ก็สามารถยกเว้นการเรียกสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านจากผู้ยื่นคำขอ โดยใช้การตรวจสอบรายการบุคคลจากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรแทนได้.
กระทรวงมหาดไทย แจ้งสำนักทะเบียนทั่วประเทศยกเว้นขอสำเนาทะเบียนบ้านบัตร ปชช.ติดต่อราชการเพื่อไม่ให้เสียเวลาค่าใช้จ่ายถ่ายเอกสาร แนะหากจำเป็นให้ จนท.จัดทำขึ้นเอง
null
กระทรวงมหาดไทย,ครม.,ยกเว้น,สำเนา,ทะเบียนบ้าน,บัตรประชาชน,อภินันท์ ซื่อธานุวงศ์,ประหยัด,ค่าใช้จ่าย,สำเนาบัตรประชาชน,สำเนาทะเบียนบ้าน
https://www.thairath.co.th/content/461251
คอนเสิร์ตการกุศล
มะเร็ง เป็นโรคร้ายที่ต้องใช้เงินทุนในการรักษาค่อนข้างสูง และใช้ระยะเวลาในการรักษาค่อนข้างยาวนานพอสมควร ด้วยเหตุนี้ คุณป๊อก ทวิษย์ชญะ ตั้งสหรังษี เจ้าของค่ายเพลง classy records และเป็นนักแต่งเพลงที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการเพลงมากว่าสิบปี,จึงมีแนวคิดจัดตั้งกองทุนขึ้นมา เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการรักษานักแต่งเพลงที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง โดยใช้ชื่อกองทุนว่า Classy For Friends และเพื่อเป็นการระดมเงินมาเป็นกองทุนเริ่มต้น จึงได้จัดคอนเสิร์ตการกุศลขึ้น ชื่อว่า โรซาไลโคปิน Presents Care For Each Other.The Night To Remember Bee Gees. โดยจะมีเหล่าศิลปินนักร้องชื่อดังให้เกียรติมาร่วมร้องเพลงของวง Bee Gees ให้ได้ฟังกันการอย่างจุใจ,อาทิ คุณสุรสีห์ อิทธิกุล, คุณต้น สุชาติ ชวางกูร, คุณปั่น ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว, คุณชมพู-คุณปิง ฟรุตตี้, คุณป้อม ออโต้บาห์น, คุณซ้ง ธิติ พฤษ์ชอุ่ม, คุณฟอร์ด สบชัย ไกรยูรเสน, คุณอุ้ย รวิวรรณ จินดา, คุณมัม ลาโคนิคส์, คุณมะเหมี่ยว อิสรีย์ นำพาเจริญ, คุณชีพชนก ศรียามาตย์ เป็นต้น,บริเวณหน้างานยังมีกิจกรรมสนุกๆให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมด้วย ทั้งการจัดจำหน่ายและจัดประมูลในส่วนของของสะสมและของพรีเมียมที่เกี่ยวข้องกับวง Bee Gees ไม่ว่าจะเป็นนิตยสารหรือหนังสือ โมเดลต่างๆ โปสเตอร์ โปสต์การ์ด แผ่นเสียง แผ่นซีดี เทปเพลง และอื่นๆอีกหลายอย่าง,ซึ่งเงินรายได้ทั้งหมดที่ได้จากการจำหน่ายและประมูลครั้งนี้ จะนำเข้ากองทุน Classy For Friends โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ,กองทุนนี้ เป็นกองทุนแรกของประเทศไทย ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือนักแต่งเพลงที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ซึ่งระยะแรกนี้จะช่วยเหลือเฉพาะนักแต่งเพลงที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งก่อน,ส่วนในระยะต่อๆไปเมื่อกองทุนเติบใหญ่ขึ้นในอนาคต อาจจะมีการขยายไปช่วยเหลือนักแต่งเพลงที่ป่วยด้วยโรคชนิดอื่นต่อไป,จึงขอเชิญชวนท่านที่มีจิตกุศล มาชมคอนเสิร์ตครั้งนี้ ซึ่งจะมีขึ้นเพียงวันเดียวเท่านั้น คือ วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2561 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ประตูจะเปิดให้เข้าตั้งแต่เวลา 16.00 น.,ติดต่อซื้อบัตรได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา หรือโทร.08-1424-4453 หรือทางไอดีไลน์ : @classyrecords,วีระชัย ฉัตรใบโพธิ์,แจ๋วริมจอ,[email protected]
คอนเสิร์ตการกุศลขึ้น ชื่อว่า โรซาไลโคปิน Presents Care For Each Other.The Night To Remember Bee Gees. โดยจะมีเหล่าศิลปินนักร้องชื่อดังให้เกียรติมาร่วมร้องเพลง
null
คอนเสิร์ตการกุศล,ป๊อก ทวิษย์ชญะ ตั้งสหรังษี,classy records,ทีวีบันเทิง,แจ๋วริมจอ
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1356537
มงคลกิตติ์ แนะนายกฯ ปรับ ครม. เด้ง อุตตม ให้ มิ่งขวัญ นั่ง รมว.คลังแทน
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์, ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงข่าวถึงกรณีที่ นายปรีดา บุญเพลิง ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน ระบุว่า ไม่ได้อยู่ในกลุ่มนักชน โดย ,นายมงคลกิตติ์, กล่าวว่า ถือเป็นดุลพินิจของ นายปรีดา เพราะยังมีเยื่อใยกับกลุ่ม 10 พรรคเล็กเดิม ทำให้กลุ่มนักชนตอนนี้เหลือ 4 พรรค 7 เสียง ซึ่งจะมีการประชุมกันทุกวันจันทร์ที่บ้านของ นายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ซึ่งจะเริ่มประชุมในวันจันทร์หน้า (18 พ.ย.) เวลา 12.00 น.,ส่วนมีการตั้งข้อสังเกตว่าตั้งกลุ่มนักชนเพื่อเป็นตัวแปรต่อรองอำนาจระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล ในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น ขอชี้เเจงว่า กลุ่มนักชนเป็นการรวมกลุ่มคนที่มีความถนัดในแต่ละด้าน แม้พรรคพลังท้องถิ่นไท และพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย จะเป็นฝ่ายรัฐบาล แต่ก็ร่วมมือกันทำงานในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล หากรัฐบาลทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็จะไม่ยกมือฝืนความรู้สึกประชาชน การจะกล่าวอ้างอะไร อย่าอ้างประชาชนไปทุกอย่าง ส่วนนายกรัฐมนตรีหากทำดีก็ไม่ต้องกลัว,นอกจากนี้ ,นายมงคลกิตติ์, ยังกล่าวว่า ขณะนี้ยังต้องรอความชัดเจนจากฝ่ายค้านว่าจะมีประเด็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างไรบ้าง และมีใครบ้างที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากตนเองมีข้อมูลเพิ่มเติมก็จะส่งให้ฝ่ายค้าน หากข้อมูลที่ฝ่ายค้านได้มาไม่ถูกต้องก็พร้อมทักท้วง สำหรับการลงมติก็เป็นดุลพินิจของแต่ละคน แต่หากมีข้อมูลชัดเจนถึงการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดปกติ ก็เชื่อว่า นายชัชวาลล์ และนายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ก็คงไม่พร้อมยกมือไว้วางใจรัฐบาลได้เช่นกัน ,อย่างไรก็ตาม ,นายมงคลกิตติ์, ฝากไปยัง ,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ,นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า เมื่อมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ให้ถือโอกาสนี้ปรับคณะรัฐมนตรีในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 1-2 คน โดยเฉพาะให้ปรับ ,นายอุตตม สาวนายน, ออกจากรัฐมนตรีว่าการกะทรวงการคลัง และเสนอให้ตั้ง ,นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์, ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ มาเป็นรัฐมนตรีแทน เพราะแม้จะเป็นฝ่ายค้าน แต่มีความรู้ความสามารถ มีความเก่งด้านเศรษฐกิจ.
มงคลกิตติ์ ยัน หากรัฐบาลทำไม่ถูกต้อง ไม่ยกมือโหวตแน่ ฝากถึง บิ๊กตู่ ใช้โอกาสอภิปรายไม่ไว้วางใจปรับ ครม.ใหม่ เด้ง อุตตม ออกจาก รมว.คลัง หนุน มิ่งขวัญ ทำหน้าที่แทน
ข่าว,การเมือง
อภิปรายไม่ไว้วางใจ,มงคลกิตติ์,มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์,อุตตม สาวนายน,มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์,ประยุทธ์ จันทร์โอชา
https://www.thairath.co.th/news/politic/1704248
แจ้งข้อหาเพิ่ม พ่อเลี้ยงโหดเมืองสุโขทัย ทำร้าย ด.ญ.วัย 2 ขวบ
จากกรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กฯ และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ จ.สุโขทัย เข้าทำการช่วยเหลือ ด.ญ.น้อยหน่า (นามสมมติ) อายุ 2 ขวบ ที่ถูกพ่อเลี้ยงวัย 20 ปี เฆี่ยนตี กักขัง ทำร้ายร่างกาย จนชาวบ้านทนไม่ไหว แจ้งให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ โดยตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 3 เม็ด และตรวจปัสสาวะพ่อเลี้ยงโหดเป็นสีม่วง จึงดำเนินคดีครอบครองยาเสพติด และส่งตัวหนูน้อยให้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สุโขทัย,ล่าสุดเวลา 11.00 น. วันที่ 18 พ.ย. 59 นายประสิทธิ์ มะโนกิจ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สุโขทัย พร้อมด้วย นายภูตะวัน สุดจิตร์ เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สุโขทัย โดยทั้งสองคนในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 และในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ชินดนัย ทินันท์ตา รอง สว. (สอบสวน) สภ.ศรีสัชนาลัย เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกรณีการจับกุม นายเลอสรร พลมาก พ่อเลี้ยงหนุ่มวัย 20 ปี เพิ่มเติม ,นายประสิทธิ์ เปิดเผยว่า การเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ เนื่องจากตนและนายภูตะวัน เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ จ.สุโขทัย เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษพ่อเลี้ยงเด็ก ซึ่งเป็นผู้ต้องหาจากกรณีมีการจับกุมตัวไว้แล้วในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ โดยวันนี้ตนได้ร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมในข้อหา กระทำความรุนแรงในครอบครัวและความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ซึ่งได้ร้องทุกข์กล่าวโทษพร้อมทั้งให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนแล้ว,สำหรับเด็กหญิงลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบนั้น ขณะนี้อยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กฯ พร้อมทั้งได้พาตัวไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลศรีสัชนาลัยมาแล้วในวันเกิดเหตุ เด็กหญิงคนดังกล่าวสังเกตเห็นได้ชัดขึ้นว่า มีสุขภาพจิตดีขึ้น หน้าตาแจ่มใส ซึ่งต่างจากวันแรกที่มีอาการหวาดผวา ถือได้ว่าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด,ส่วนแนวทางดำเนินการในเบื้องต้นได้มีการติดต่อและแจ้งไปยังคุณยายของเด็กแล้ว ซึ่งทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และได้รับทราบว่า จะเดินทางเข้ามาหาเด็กยังบ้านพักเด็กฯ เพื่อทำการพูดคุยสอบถามเรื่องราวต่างๆ.
หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สุโขทัย เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสัชนาลัย กรณีพ่อเลี้ยงทำร้ายเด็กหญิงวัย 2 ขวบ แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม เผย ขณะนี้เด็กมีสุขภาพจิตใจดีขึ้นมาก
ข่าว,ทั่วไทย
พ่อเลี้ยง,ทำร้ายลูก,พ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกาย,ลูกเลี้ยงเจ็บ,หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว,พ่อเลี้ยงวัย 20 ปี,ประสิทธิ์ มะโนกิจ,แจ้งข้อหาเพิ่ม,ศรีสัชนาลัย,สุโขทัย
https://www.thairath.co.th/news/local/787171
สถานกงสุล เตือนคนไทยในฮ่องกง เลี่ยงพื้นที่ม็อบ 27-28 ก.ค.นี้
วันที่ 26 ก.ค.62 สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง แจ้งเตือนสถานการณ์การชุมนุมประท้วงเกี่ยวกับการปรับแก้กฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนของฮ่องกง ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ,Royal Thai Consulate-General, Hong Kong, ว่า ประกาศเตือนคนไทยในฮ่องกง สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง ได้รับรายงานว่าจะมีการจัดชุมนุมประท้วงในฮ่องกงในวันที่ 27-28 กรกฎาคม โดยมีรายละเอียด ดังนี้,1. วันที่ 27 ก.ค. 62 จะมีการเดินขบวนชุมนุมประท้วงตั้งแต่เวลา 15.00 น. จาก Shui Pin Tsuen Playground และสิ้นสุดที่สถานีรถไฟ MTR Yuen Long มีจุดประสงค์เพื่อต่อต้านความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 21 ก.ค.62,2. วันที่ 28 ก.ค. 62 จะมีการชุมนุมประท้วงตั้งแต่เวลา 15.00 น. จาก Charter Garden ย่าน Central และสิ้นสุดที่ Sun Yat Sen Memorial Park ย่าน Sai Ying Pun เพื่อประท้วงเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกง,ในการนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ จึงขอให้คนไทยในฮ่องกงและคนไทยที่จะเดินทางมาฮ่องกงเพื่อภารกิจต่างๆ ในช่วงวันที่ 27-28 ก.ค.62 โปรดพิจารณาหลีกเลี่ยงและระมัดระวังในการเดินทางมาในพื้นที่ชุมนุมประท้วงและพื้นที่ใกล้เคียง (วันที่ 27 ก.ค. 62 ที่ย่าน Yuen Long เขต New Territories) (วันที่ 28 ก.ค.62 ที่ย่าน Central/ ย่าน Sheung Wan/ ย่าน Sai Ying Pun) และเผื่อเวลาในการเดินทาง ทั้งทางรถยนต์ และรถไฟใต้ดิน MTR เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากการประท้วง เช่น การขนส่งมวลชนหยุดให้บริการ,อนึ่ง ผู้จัดการชุมนุมกล่าวว่าการชุมนุมประท้วงในวันเสาร์-อาทิตย์นี้จะเป็นไปอย่างสงบ อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ที่สถานการณ์จะยกระดับสู่เหตุรุนแรง สถานกงสุลใหญ่ฯ จึงขอให้คนไทยในฮ่องกงเพิ่มความระมัดระวังหากต้องเดินทางเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ จะติดตามสถานการณ์และรายงานความคืบหน้าสำคัญให้ทราบต่อไป.,Royal Thai Consulate-General, Hong Kong
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง แจ้งเตือนคนไทยระมัดระวัง หลังกลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมประท้วงแก้กฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน 27-28 ก.ค.นี้
ข่าว,สังคม
ฮ่องกง,ประท้วงฮ่องกง,ข่าวโซเชียล,สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง,ชุมนุมฮ่องกง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1623855
กกร.ข้ามช็อตขอ รัฐบาลใหม่ แก้ปัญหา
ได้แก่ ส.อ.ท., สภาหอการค้าแห่ง ประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย รวบรวมข้อมูลด้านเศรษฐกิจของแต่ละหน่วยงานเพื่อนำมาสู่การระดมความคิดเห็น (เวิร์กช็อป) และรวบรวมเป็นข้อเสนอภายในนาม กกร.เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่จะมีทั้งด้านการค้า การลงทุน การบริโภค ฯลฯ เพื่อยื่นต่อรัฐบาลใหม่ ประกอบการบริหารประเทศ โดยคาดว่าจะสรุปได้ในเดือน พ.ค.นี้,ทั้งนี้ ในส่วนของ ส.อ.ท.ได้รวบรวมข้อมูลแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อที่จะจัดทำข้อเสนอหรือสมุดปกขาวให้กับพรรคการเมืองแต่ละพรรคอยู่แล้วโดยจะยื่นกับ 5 พรรคก่อนนำร่อง ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และอนาคตใหม่ ที่ ส.อ.ท.เชิญมาในโอกาสประชุมสมาชิก ส.อ.ท.ปีนี้ในวันที่ 18 มี.ค.นี้,ขณะที่ในด้านเศรษฐกิจ นายสุพันธุ์กล่าวว่า กกร.ยังคงประมาณการการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้จะขยายตัว 4-4.3% ส่งออกขยายตัว 5-7% เงินเฟ้อ 0.8-1.2% โดยจะติดตามปัจจัยต่างๆ ใกล้ชิดทั้งทิศทางค่าเงินบาท และเศรษฐกิจโลกเพื่อประกอบการทบทวนตัวเลขทางเศรษฐกิจทั้งหมดอีกครั้ง ในการประชุม กกร.เดือน เม.ย.นี้ โดยภาคเอกชนและผู้ส่งออกมีความกังวลเรื่องค่าเงินบาทมากขึ้น เนื่องจากล่าสุดค่าเงินบาทกลับมาผันผวนอ่อนค่าลงมากสุดในภูมิภาคอาเซียน เฉลี่ย 2.4% จากก่อนหน้าแข็งค่าที่สุด เพราะเกิดจากการเก็งกำไรค่าเงินในอาเซียน โดยเอกชนเห็นว่าอัตราค่าเงินบาท ไม่ควรจะอ่อนหรือแข็งค่าเกิน 0.5% ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจโลกยอมรับว่ายังไม่ดีนัก ที่อาจเป็นผลลบต่อการส่งออกของประเทศไทย.
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า กกร.ได้มอบให้ฝ่ายเลขาธิการของ 3 สถาบัน
ข่าว,เศรษฐกิจ
สุพันธุ์ มงคลสุธี,สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย,ส.อ.ท.,ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ,อุตสาหกรรม,จีดีพี
https://www.thairath.co.th/news/business/1512955
จอน อึ๊งภากรณ์: เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว ทำไมเราไม่ทำสงครามกันละ?
ในขณะเดียวกันเหตุการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ทำให้นักกิจกรรมฝ่ายประชาธิปไตยหลายคนเริ่มท้อแท้ เพราะหมดหวังโดยสิ้นเชิงกับกระบวนการยุติธรรมที่เอียงจนใกล้จะหงายหลัง หมดหวังกับตำรวจที่ถูกศาลถอนเขี้ยว (แต่ผมว่าไม่จริงนะ) หมดหวังกับการต่อสู้แบบอหิงสา จึงเริ่มคิดถึงการแบ่งแยกประเทศ คิดถึงการต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธ เริ่มพยายามคำนวณดูว่า พวกเรา จะมีกำลังนักรบมาจากแหล่งใดบ้าง รวมพลได้ประมาณเท่าไรความจริงหากมีคนที่สมควรจะเรียกว่าเป็น พวกโลกสวย ก็น่าจะเป็นคนเหล่านี้ที่คิดเหมือนการแบ่งแยกประเทศเป็นเรื่องง่ายๆ การทำสงครามเป็นเรื่องโรแมนติก ผมขอแนะนำอย่างแรงนะครับนักประวัติศาสตร์ Ian Talbot และ Gurharpal Singh ได้บันทึกไว้ว่าเป็นเสมือนสงครามที่ต่างฝ่ายพยายามล้างเผ่าพันธุ์ฝ่ายตรงข้าม:There are numerous eyewitness accounts of the maiming and mutilation of victims. The catalogue of horrors includes the disembowelling of pregnant women the slamming of babies heads against brick walls the cutting off of victims limbs and genitalia and the display of heads and corpses. While previous communal riots had been deadly the scale and level of brutality was unprecedented. Although some scholars question the use of the term genocide with respect to the Partition massacres much of the violence manifested as having genocidal tendencies. It was designed to cleanse an existing generation as well as prevent its future reproduction.ส่วนใครที่สนใจเรื่องการทำสงครามกลางเมือง ผมขอแนะนำให้รีบหาเวลาไปศึกษาดูงานที่ประเทศซีเรีย เลบานอน หรือบอสเนียก็ได้ผมใคร่อยากขอเตือนว่าใครที่รู้ตัวว่าเป็นคนเสื้อแดง(หรือแม้แต่คนเสื้อขาว)อาศัยอยู่ในชุมชนของคนเสื้อเหลือง หากเกิดการปะทะกันระหว่างเสื้อเหลืองกับเสื้อแดงแบบนองเลือดครั้งใหญ่ในละแวกใกล้เคียงกันหรือทั่วประเทศ ขอให้เตรียมตัวย้ายครอบครัวออกไปทันที เพราะการอยู่ในชุมชนที่คิดต่างกันอาจไม่ปลอดภัยเสียแล้ว หรือถ้าเป็นคนเสื้อเหลือง(หรือแม้แต่คนเสื้อขาว)ที่อยู่ในชุมชนของคนเสื้อแดงก็ต้องเตรียมย้ายครอบครัวเช่นกันขอให้ลองนึกภาพการทำลายเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมที่จะเกิดขึ้นจากสงครามกลางเมือง กว่าจะรื้อฟื้นสภาพกลับมาใหม่ได้อาจใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ช่วงคนดังนั้นหากเราอยากรักษาวิถีชีวิตที่เราเคยชินไว้ให้คงอยู่ต่อไป และอยากให้ลูกหลานของเราอยู่ในสังคมที่สงบสุข เราจะต้องหลีกเลียงสงครามและการแบ่งแยกประเทศอย่างถึงที่สุดเลยเราจึงต้องมีความอดทนในการต่อต้านและต่อสู้กับความอธรรมด้วยสติปัญญาและสันติวิธีเท่านั้น ภารกิจที่สำคัญที่สุดคือการรวมพลังกันขัดขืนต่อความพยายามที่จะคว่ำระบอบประชาธิปไตยและการชิงมวลชนไปจากพวกอำนาจอธรรม ซึ่งเราจะทำได้โดยการต่อสู้แบบอหิงสา แบบมีเหตุมีผล แบบมีอารยธรรม และแบบไม่มองผู้คิดต่างเป็นศัตรู
ระยะหลังผมเพิ่งมารู้จักคำว่า โลกสวย และแปลกใจที่เสมือนเป็นคำด่า คำดูถูก คำต่อว่าคนอย่างผมซึ่งกำลังต่อต้านความเกลียดชัง ความรุนแรง การทำสงคราม ในท่ามกลางการต่อสู้เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตย
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
Gurharpal Singh,Ian Talbot,จอน อึ๊งภากรณ์,ประชาธิปไตย,สงคราม,สงครามกลางเมือง
https://prachatai.com/journal/2014/02/51901
ดื่มได้ไหม ฉลองได้ไหม? นี่คือคู่มือการปฏิบัติตัวช่วงงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่กำลังจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562 นี้ ถือเป็นครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้สัมผัสครั้งหนึ่งในชีวิต แต่เราควรปฏิบัติตนอย่างไร สามารถร่วมดื่มฉลองโอกาสอันเป็นมหามงคลครั้งหนึ่งในชีวิตครั้งนี้ได้หรือไม่?จากการสอบถามสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ พบว่า ร้านค้า บาร์ และร้านอาหารในละแวก ยังสามารถเปิดบริการปกติได้เช่นเคย ขณะที่บรรดาร้านค้าและผู้ประกอบการย่านสุขุมวิท ทองหล่อ และบริเวณรอบสถานที่จัดงานพระราชพิธี อาทิ รามบุตรี และท่าเตียน พบว่ายังไม่มีประกาศทางการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงวันดังกล่าว โดยร้านค้ายังยึดตามข้อกำหนดของกฎหมายที่งดจำหน่าย และจัดส่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกเหนือจากเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-00.00 น. และติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ทั้งพร้อมปฏิบัติตามหากมีประกาศเปลี่ยนแปลงขณะที่มติชนรายงานว่า พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2562 หลังจากประชุมคณะอำนวยการจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก กรุงเทพมหานคร ว่าสถานบริการและสถานบันเทิงในพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ ถนนข้าวสาร ถนนรามบุตรี ถนนพระอาทิตย์ ถนนตานี กทม. ขอความร่วมมือในการงดให้บริการระหว่างวันที่ 4-6 พฤษภาคมนี้ ซึ่งร้านค้าสามารถจำหน่ายสินค้าได้ตามความเหมาะสม โดย กทม. ไม่ได้ห้าม แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการต่างมีจิตสำนึก ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ยังต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งว่า ร้านค้า ร้านอาหารในพื้นที่ใกล้เคียงสามารถจำหน่ายแอลกอฮอล์ได้หรือไม่ในช่วงวันดังกล่าว ดังนั้น หากวางแผนออกไปเฉลิมฉลองช่วงวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562 นี้ แนะนำให้ติดตามข่าวสารกันสักนิด หรือโทร.เช็กเพื่อความชัวร์กับทางร้านก่อนไปเป็นดีอ่านเรื่อง BTS เตรียมให้บริการประชาชนขึ้นฟรี วันที่ 5 พฤษภาคม รับงานพระราชพิธี ตั้งแต่หกโมงเช้าถึงเที่ยงคืน ได้ที่นี่พิสูจน์อักษร: อ้างอิง:
คู่มือการใช้ชีวิตสำหรับประชาชนในช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ก่อนออกไปเฉลิมฉลองช่วงวันหยุดยาว วันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562 นี้
null
null
https://thestandard.co/royalcoronation-eat-drink/
พรเพชร การันตีคุณสมบัติตัวแทนศาล รธน.ไม่ขัดสเปกนั่ง กก.สรรหา
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 60 ที่รัฐสภา นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฏีกา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสรรหากรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ภายหลังการประชุม นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาคุณสมบัติของคณะกรรมการสรรหา กกต. โดยมีมติเอกฉันท์ตัดสิทธิ์ตัวแทนจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) และตัวแทนคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) จากการเป็นคณะกรรมการสรรหา กกต. เนื่องจากทั้งสองหน่วยงานส่งชื่อตัวแทนเป็นกรรมการสรรหาฯ มาให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาไม่ทันภายในเวลา 20 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด หรือส่งชื่อกลับมาเกินวันที่ 3 ต.ค. จึงถือว่ามีคุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญ ทำให้ขณะนี้เหลือคณะกรรมการสรรหา กกต. 6 คน แต่ยังสามารถดำเนินขั้นตอนสรรหาต่อไปได้ ส่วนคุณสมบัติตัวแทนศาลรัฐธรรมนูญ ที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ระบุว่า ขัดคุณสมบัติเนื่องจากพ้นตำแหน่งข้าราชการการเมืองไม่ถึง 10 ปีนั้น จากการตรวจสอบพบว่า นายเจริญศักดิ์ โรจนฤทธิ์พิเชษฐ์ ตัวแทนศาลรัฐธรรมนูญ มีคุณสมบัติถูกต้อง เพราะไม่เคยดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองมาก่อน,นายพรเพชร กล่าวต่อว่า ส่วนกำหนดวันรับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น กกต.นั้น จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.-10 พ.ย. 2560 ที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และอาคารสุขประพฤติ กทม.เชื่อว่าจะมีผู้สนใจมาสมัครพอสมควร ทั้งนี้ คุณสมบัติ กกต.ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดนั้น ไม่ถือว่ามีการกำหนดคุณสมบัติขั้นเทพ เป็นคุณสมบัติธรรมดา อย่างกรณีคณะกรรมการสรรหา กกต.ไม่ถือว่าคัดเลือกยาก เพียงแต่บางคนส่งชื่อมาช้าเกินไป,นายนัฑ ผาสุข เลขาธิการสำนักงานวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการคณะกรรมการสรรหา กกต. กล่าวว่า หลังจากมีข่าวตัวแทนศาลรัฐธรรมนูญ มีคุณสมบัติขัดต่อการเป็นกรรมการสรรหา กกต.นั้น สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทำหนังสือตรวจสอบไปยังสำนักงานเลขาธิการ ครม. ให้ตรวจสอบคุณสมบัติกรรมการสรรหา กกต.ทุกคน พบว่า นายเจริญศักดิ์ โรจนฤทธิ์พิเชษฐ์ ตัวแทนศาลรัฐธรรมนูญมีคุณสมบัติถูกต้อง เนื่องจากไม่เคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ อีกทั้งได้สอบถาม นายเจริญศักดิ์ ก็ยืนยันไม่เคยดำรงตำแหน่งดังกล่าวมาก่อนเช่นกัน
พรเพชร ตรวจสอบคุณสมบัติตัวแทนศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ขัดสเปกนั่ง กก.สรรหา กกต.ยืนยันไม่พบเคยดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง พร้อมตัดสิทธิ์ตัวแทน กสม.-คตง. จากการเป็นกรรมการสรรหาฯ ยกเหตุส่งรายชื่อเกินเวลาที่ รธน.กำหนด
ข่าว,การเมือง
พรเพชร วิชิตชลชัย,กกต.,สรรหา กกต.,คกก.สรรหา กกต.,คุณสมบัติ กกต.,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1101825
อุเทน ขย่ม รบ.ศรัทธาเสื่อม อำนาจล้นฟ้า แต่บริหารประเทศแบบมวยวัด
ต่อเนื่อง,เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 60 นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจากสำนักต่างๆ ที่ระบุว่า ความนิยมของรัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ว่า สาเหตุที่ประชาชนศรัทธาในรัฐบาลลดลงก็เพราะมองว่ารัฐบาล คสช.ที่มีอำนาจล้นฟ้าและพลังล้นเหลือ กลับบริหารประเทศแบบมวยวัด หลายปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ที่มีความผิดปกติขึ้นโดยตลอด อาทิในขณะนี้ที่ค่าเงินบาทแข็งตัวอย่างมาก จนเป็นที่สงสัยว่าเพราะเหตุใดธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ปล่อยให้ค่าเงินบาทแข็งตัวมากขนาดนี้ ไม่เพียงเท่านั้น ส่วนของตลาดทุนและตลาดหุ้น เพราะปล่อยให้มีการเอารัดเอาเปรียบรายย่อยกันอย่างหนัก รวมถึงกรณีที่ต่างชาติเทขายพันธบัตรรัฐบาลมูลค่ากว่า 2.5 พันล้านบาท เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นความไม่เชื่อมั่นประเทศไทยที่ลดลง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ไม่ทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ รับทราบ หรือได้รับข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องบ้างหรือไม่ เพราะหากปล่อยไว้เช่นนี้ ก็จะเกิดกระแสที่ไม่เป็นผลดีกับความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยเรา,นายอุเทน กล่าวต่อว่า ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่ห่วงชาติบ้านเมือง มีความเป็นห่วงว่า จากปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย จะยิ่งทำให้สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศย่ำแย่ลง โดยเฉพาะในส่วนของคนจน ที่ต้องเผชิญกับปัญหาข้าวยากหมากแพง สินค้าข้าวของที่แพงขึ้นแต่กำลังซื้อลดลง ซึ่งเป็นเพราะนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งแต่จะสร้างรายได้เพิ่ม ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่ตามมา จากคนส่วนใหญ่ที่ไม่มีรายได้หรือเงินประจำ ซึ่งตนได้ย้ำหลายครั้งแล้วว่า วิธีการที่จะกอบกู้สถานการณ์เศรษฐกิจของชาติได้นั้น คือการลดรายจ่าย มากกว่าการเพิ่มรายได้ ทั้งประชาชนทั่วไป เอกชน และรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งกำกับดูแลด้านต่างๆ ของประเทศ ไม่รู้จักคำว่าต้นทุนครัวเรือนและต้นทุนการผลิต ไม่เพียงแต่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้เท่านั้น ยังจะทำให้ประชาชนต้องเดือดร้อนมากยิ่งขึ้นด้วย,ในฐานะที่รัฐบาลมีหน้าที่บริหารบ้านเมือง และยังมีอำนาจมากขนาดนี้ต้องทำหน้าที่ของตัวเองในการแก้ปัญหาต่างๆ ให้ได้ ไม่ใช่โทษปัจจัยอื่นๆ หรือโทษแต่เรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต อย่าปล่อยให้คนมองว่ารัฐบาลนี้รำไม่ดีโทษปี่โทษกลองอีกเลย นายอุเทน กล่าว
อุเทน ชี้เหตุ ปชช.ศรัทธาเสื่อม เพราะ รบ.ทำงานแบบมวยวัด ทั้งที่มีอำนาจล้นฟ้า-พลังล้นเหลือ ห่วงค่าเงินบาทแข็ง-ต่างชาติเทขายบอนด์ ซ้ำเติมวิกฤติชาติ ย้ำแก้เศรษฐกิจต้องลดต้นทุนมากกว่าเพิ่มรายได้ อัด พณ.ปล่อยกลไกการค้าทำร้ายคนจน
ข่าว,การเมือง
อุเทน ชาติภิญโญ,พรรคคนไทย,เศรษฐกิจ,ค่าเงินบาท,เงินบาทแข็งตัว,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1051522
ตร.อุดรฯ พบมือถือไอ้หื่นถีบ จยย.บังคับสาวอมนกเขา ตกในที่เกิดเหตุ
กรณี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ชาว จ.อุดรธานี แจ้งตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี หลังถูกไอ้หื่นขี่ จยย.ประกบถีบรถล้ม ก่อนชกท้องลากเข้าไปข่มขืนใจด้วยการบังคับให้ใช้ปากอมนกเขาเพื่อสำเร็จความใคร่ โชคดีมีชาวบ้านปั่นจักรยานออกกำลังกายผ่านมา จึงวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ก่อนมาแจ้งตำรวจให้ช่วยตามล่าไอ้หื่นมาดำเนินคดี เหตุเกิดเช้าตรู่วันที่ 30 กรกฎาคม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ,ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ สารวัตรสืบสวนกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้ง ได้สอบสวนปากคำ น.ส.เอ ผู้เสียหาย และนำกำลังออกไปตรวจที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางเปลี่ยวเข้าหมู่บ้าน ริมทางมีป่ารก พบโทรศัพท์มือถือตกในที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้เสียหายชี้ยืนยันว่าเป็นโทรศัพท์คนร้ายที่เข้ามาตีสนิทขณะนั่งกินก๋วยเตี๋ยว เพราะจำซองใส่โทรศัพท์เป็นรูปดอกไม้สีแดงด้านหลัง ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือพบว่าเป็นโทรศัพท์ของข้าราชการทหารยศสิบตรี สังกัดค่ายแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี เมื่อไปสอบถามให้การปฏิเสธว่าโทรศัพท์หายขณะไปเที่ยวหลายวันแล้ว ,นอกจากนี้ ยังตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณเส้นทางที่คนร้ายขี่รถตาม น.ส.เอ และขี่หลบหนีหลังก่อเหตุ พบว่าเป็นรถฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ติดแผ่นป้ายทะเบียน แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ และจากการสืบสวนยังทราบว่าเจ้าของโทรศัพท์ที่ตกในบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัย ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ซึ่งตำรวจได้รวบรวมพยาน หลักฐาน ทั้งพยานบุคคล และผลการตรวจแพทย์ เพื่อรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย,พล.ต.ต.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะรู้ตัวว่าตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะตำรวจได้ติดต่อไปแล้ว แต่ยังให้การปฏิเสธ ตำรวจจึงต้องรวบรวมหลักฐานกล้องจากวงจรปิด ผลตรวจของแพทย์ ซึ่งจะสามารถระบุตัวผู้ต้องหาได้ ตำรวจจะได้รวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับ หากพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นทหารจะได้ประสานไปยังผู้บังคับบัญชาต่อไป. 
ตำรวจภูธรอุดรธานี นำทีมสืบลงพื้นที่ตรวจจุดที่คนร้ายถีบ จยย.สาววัย 42 แล้วบังคับอมนกเขา ล่าสุด พบมือถือคาดว่าเป็นของคนร้ายตกในพงหญ้า ผู้เสียหายยืนยันเป็นหนุ่มที่มานั่งตีสนิทในร้านก๋วยเตี๋ยว
ข่าว,ทั่วไทย
อุดรธานี,ไอ้หื่น,ถีบ จยย. ล้ม,วรณัฎฐ์ ผันผ่อน,บังคับอมนกเขา,มือถือคนร้าย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1606095
น.1 สั่งสอบ พนง.โรงแรม โยงรุมโทรมสาว 19 จ่อเอาผิดหากรู้เห็น
กรณี นักเรียนสาวโรงเรียนพาณิชย์แห่งหนึ่ง อายุ 19 ปี รู้จัก 4 วัยรุ่น ผ่านโลกโซเชียลก่อนนัดพบ จากนั้นถูกมอมยาพาไปรุมโทรม และเสียชีวิตในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางซื่อ กทม. เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ส.ค. ก่อนเจ้าหน้าที่ตามจับตัว ทั้งหมดให้การรับสารภาพ ส่งศาลดำเนินคดี ,ต่อมา เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ส.ค. ที่ห้องประชุม สน.บางซื่อ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน ผกก.สน.บางซื่อ พร้อมเจ้าหน้าที่ สน.บางซื่อ ใช้เวลาประชุมกว่า 1 ชั่วโมง พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า มีสั่งการให้ทางพนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติม รวมถึงให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาหลักฐาน กรณีพนักงานโรงแรมว่า มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นให้กลุ่มคนร้ายพาผู้ตายเข้าไปในห้องพักของโรงแรมมากน้อยเพียงใด หรืออาจจะปล่อยปละละเลย หากพบว่ามีความผิดก็จะแจ้งข้อหาไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในสังคมอีก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะหาข้อมูลในส่วนตรงนี้ ,ทั้งนี้ ตนสั่งการให้ ผกก.ทำหนังสือถึงผู้ประกอบการกิจการโรงแรมในพื้นที่ให้ช่วยป้องกันและเฝ้าระมัดระวังเหตุที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดทางเพศเพื่อไม่ให้เกิดคดีในลักษณะนี้อีก ,พล.ต.ท.ศานิตย์ เผยต่ออีกว่า จากลักษณะของกลุ่มคนร้ายที่เหมือนวางแผนไว้ก่อน และตอนพาผู้ตายเข้ามาก็อ้อมไปเข้าอีกทางของโรงแรม ซึ่งตรงจุดนี้สอบปากคำพนักงานโรงแรมไว้แล้ว และให้ทางชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลทั้งหมดเพื่อหาว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุอีกหรือไม่ หรือกลุ่มคนร้ายเคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาก่อนหรือไม่ ซึ่งข้อสงสัยใดก็ตามในทางคดีต้องมีคำตอบที่มีเหตุมีผล นอกจากนี้ จะเร่งผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ด้วย เบื้องต้น สารเสพติดที่พบมีเพียงกัญชาเท่านั้น ตนขอเรียนกับสื่อมวลชนว่า หากประเด็นใดกระทบกับผู้เสียชีวิตก็ขอไม่อนุญาตเปิดเผยให้สื่อมวลชนทราบ, พล.ต.ท.ศานิตย์ เผยอีกว่า นอกจากนี้ตนสั่งการให้ ผกก.ประสานไปยังแม่และญาติของผู้เสียชีวิตแจ้งความคืบหน้าในคดีดังกล่าวเรื่อยๆ ซึ่งก็เป็นไปตามกฎหมาย แต่ถ้าจะให้เปิดเผยข้อมูลในทางคดีทั้งหมด คงไม่ได้ เพราะจะกระทบกับสำนวน อาจจะเผยได้เพียงบางส่วน แต่ก็จะมีการประสานไปยังแม่และญาติของผู้เสียชีวิตเพื่อให้สบายใจ และมั่นใจว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่และตนยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย.
น.1 ประชุมคดีรุมโทรมสาวพาณิชย์ดับ สั่งสอบเพิ่มพนักงานโรงแรม มีส่วนรู้เห็น หรืออาจจะปล่อยปละละเลย หากพบมีความผิดจ่อแจ้งข้อหา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
null
รุมโทรม,สาว19,เด็กพาณิชย์,4ทรชน,ข่มขืน,ยาเลิฟ,หัวใจล้มเหลว,ศานิตย์ มหถาวร,พนักงานโรงแรม,ปล่อยปละละเลย,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/684053
แฟนสาวมือปืนไม่รู้มีแผนกราดยิงเข้าใส่ฝูงชนในงานคอนเสิร์ตกลางนครลาสเวกัส
วันนี้ (5 ต.ค.2560) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทนายความของนางมาริลู แดนลีย์ เปิดเผยแถลงการณ์ของนางแดนลีย์ว่า เธอไม่รู้ล่วงหน้าหรือพบสิ่งผิดสังเกตใดๆ ว่านายสตีเฟ่น แพ็ดด็อค จะก่อเหตุ โดยนางแดนลีย์ยังบอกด้วยว่าบุคลิกลักษณะของนายแพดด็อคนั้นเป็นคนสุภาพอ่อนโยนและดูแลเอาใจใส่เธอชนิดที่ดีมากนางแดนลีย์ มีอายุ 62 ปี ถือกำเนิดในฟิลิปปินส์ แต่ปัจจุบันถือสัญชาติออสเตรเลีย ซึ่งเธอเป็นภรรยาอยู่กินกับนายแพดด็อก อายุ 64 ปี มือปืนผู้ก่อเหตุกราดยิงงานคอนเสิร์ตกลางนครลาสเวกัส จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 58 คน และบาดเจ็บมากกว่า 500 คนขณะนี้นางแดนลีย์กำลังให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่เอฟบีไอในนครลอสแองเจลีส หลังสมัครใจเดินทางกลับจากฟิลิปปินส์ ซึ่งมีรายงานการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ว่าจนถึงขณะนี้ไม่พบว่านางแดนลีย์ล่วงรู้แผนการสังหารหมู่ของนายแพดด็อคแต่อย่างใด
ผลสอบปากคำแฟนสาวของนายสตีเฟ่น แพดด็อค พบว่าแทบไม่เป็นประโยชน์ต่อการควานหามูลเหตุจูงใจที่ทำให้นายแพดด็อคก่อเหตุกราดยิงเข้าใส่ฝูงชนที่มาชมงานคอนเสิร์ตกลางนครลาสเวกัส
ต่างประเทศ
แฟนสาวมือปืน,กราดยิง,คอนเสิร์ต,ลาสเวกัส,สหรัฐฯ,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/266671
ติวฟรีก่อนสอบ โครงการ MRT พาน้องพิชิต TCAS ปีที่ 10
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.61 นายณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด (บีเอ็มเอ็น) กล่าวว่า ได้เล็งเห็นความสำคัญด้านการศึกษาของเยาวชนไทย อยากให้ได้รับความรู้ทางวิชาการเพิ่ม เพื่อใช้ในการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย พร้อมแนะแนวคิดที่ดีสำหรับการดำรงชีวิตของเยาวชนไทย เตรียมเปิดรับน้องๆ สู่โครงการ MRT พาน้องพิชิต TCAS ปีที่ 10 ซึ่งน้องๆสามารถเข้าร่วมโครงการฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น,สำหรับโครงการ MRT พาน้องพิชิต TCAS เดิมมีชื่อว่า โครงการ MRT พาน้องพิชิต GAT สืบเนื่องจากที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย หรือ ทปอ. ได้สรุปการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาแบบใหม่ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 เป็นต้นไป คือ ระบบ TCAS โดยย่อมาจาก Thai University Central Admission System จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อโครงการดังกล่าว เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนสอบ อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนระบบการศึกษารูปแบบใหม่ของเยาวชนไทยในอนาคตต่อไป โครงการ MRT พาน้องพิชิต TCAS ปีนี้ ได้รับเกียรติจากคุณครูผู้ทรงคุณวุฒิและมากด้วยประสบการณ์ถึงสามท่าน ได้แก่ คุณครูสมศรี ธรรมสารโสภณ ที่จะมาแนะนำข้อสอบ GAT ภาษาอังกฤษ, คุณครูสุรเชษฐ์ พิชิตพงศ์เผ่า (คุณครูพี่ยู) จะมาชี้แนะเทคนิคการทำข้อสอบ GAT เชื่อมโยงและเพิ่มเติมด้วย PAT1 คณิตศาสตร์โดย คุณครูวิเศษ กี่สุขพันธ์ (คุณครูพี่เอ๋) พร้อมทั้งแขกรับเชิญพิเศษ ที่จะมาแนะแนวประสบการณ์ก่อนเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย,,โดยน้องๆ ที่สนใจสามารถเดินทางมาสมัครด้วยตนเอง ที่สถานีรถไฟฟ้า MRT โดยนำสำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรนักเรียนมาเพื่อลงทะเบียน สำหรับผู้ที่ไม่สามารถมาสมัครด้วยตนเอง สามารถให้เพื่อน หรือญาติพี่น้อง มาสมัครแทนได้ โดยจะเปิดรับสมัครในวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2561 ณ สถานีรถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน จุดรับสมัคร ด้านหน้า เมโทรมอลล์ (ฝั่งประตู 3 หรือฝั่งทางไปเซ็นทรัลลาดพร้าว) ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. และ วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม 2561 ณ สถานีรถไฟฟ้า MRT เพชรบุรี จุดรับสมัคร ด้านหน้า เมโทรมอลล์ (ฝั่งประตู 2 หรือใกล้ Starbucks) ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. และกำหนดติว ในวันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 06.30-18.30 น. ณ ห้องเพลนารี 1-3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ติวฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย น้องๆ ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ facebook.com/GatbyMRT
เปิดโครงการ MRT พาน้องพิชิต TCAS ปีที่ 10 ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนสอบ พร้อมสนับสนุนระบบการศึกษารูปแบบใหม่ของเยาวชนไทยในอนาคต
ข่าว,ทั่วไทย
MRT พาน้องพิชิต TCAS,ติวก่อนสอบ,การศึกษา,เตรียมสอบ,ติวเตอร์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1320635
อย.กู้ระบบสายด่วน 1556 สอบถามข้อมูลครอบครองกัญชา
วันนี้ (27 ก.พ.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข 3 ฉบับ เกี่ยวกับการนิรโทษผู้ครอบครองกัญชา มีผลบังคับใช้ ซึ่งผู้ครอบครอง 3 กลุ่ม คือ องค์กรวิจัย แพทย์ และผู้ป่วย ต้องแจ้งภายใน 90 วันทำให้ศูนย์บริการผลิตภัณฑ์สุขภาพเบ็ดเสร็จของ อย. ซึ่งเป็นผู้เปิดรับการแจ้งครอบครองใน กทม.วันแรก มีผู้โทรไปสอบถามข้อมูล และขอแบบฟอร์มการแจ้งไปที่ สายด่วน อย. หมายเลข 1556 กด 3 จนระบบล่มในช่วงเช้า แต่ขณะนี้สามารถใช้งานได้แล้วนพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการธิการ อย.กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการตรวจรับกัญชา โดยมีเจ้าหน้าที่ อย. สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาดูแล และจากการตรวจสอบเมื่อช่วงเช้า มีผู้มายื่นขอข้อมูลแล้ว 3 ราย สำหรับการยื่นครอบครอง หากเป็นผู้ป่วยให้นำใบรับรองแพทย์มาด้วย ซึ่งขณะนี้ไม่จำกัดโรค เพียงแค่มีใบรับรองแพทย์ และให้ระบุปริมาณการใช้ ส่วนผู้วิจัยให้นำโครงการวิจัยมายื่นด้วย
มีผู้สนใจขอแบบฟอร์มการแจ้งครอบครองกัญชาและถามข้อมูลไปยังสายด่วน อย.จำนวนมาก จนระบบล่มเมื่่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่สามารถใช้งานได้แล้ว
สังคม
กัญชา,อย.,สายด่วน,วิจัย,ใบรับรองแพทย์,ครอบครองกัญชา,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/278031
ฟ้อง ม.คริสเตียนให้คืนค่าเทอมนักศึกษา
ฝนมติสภาการพยาบาล-หลักสูตรไม่ผ่านเกณฑ์ ไม่มีสิทธิสอบใบวิชาชีพ,ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนนักศึกษาและผู้ปกครอง คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยคริสเตียน จำนวน 30 คน ได้ยื่นหนังสือถึง ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ร้องเรียนกรณีมหาวิทยาลัยเปิดรับนักศึกษาปีการศึกษา 2560 ขณะที่สภาการพยาบาลมีมติให้งดรับนักศึกษาปีการศึกษา 2560 โดย ดร.สุภัทร กล่าวว่า สกอ.ไม่มีสิทธิเข้าไปก้าวก่ายการบริหารงานของมหาวิทยาลัยได้ แต่จะหารือกับคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ เพื่อหาทางจำกัดจำนวนรับนักศึกษาในปี 2561 เพื่อให้สัดส่วนอาจารย์กับนักศึกษา เป็น 1 ต่อ 6 ตามที่สภาการพยาบาลกำหนด และจะส่งหนังสือไปถึงมหาวิทยาลัยให้เร่งดำเนินการ และจะหารือกับนายกสภาการพยาบาล เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะรุ่นนี้ ซึ่งต้องขึ้นกับคณะกรรมการสภาการพยาบาลว่าจะตัดสินใจอย่างไร,น.ส.ฉัตรสุดา โจมรัมย์ ตัวแทนนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ เปิดเผยว่า นักศึกษาคณะพยาบาล ปีการศึกษา 2560 มีประมาณ 180 คน หากสภาการพยาบาลไม่รับรองหลักสูตร แม้ว่าพวกตนจะเรียนจบได้รับปริญญาแต่ก็ไม่สามารถสอบขอรับใบประกอบวิชาชีพพยาบาลได้ หรือเป็นพยาบาลเถื่อน นักศึกษา 60 คนจึงลาออก และร้องเรียนต่อ สกอ. เพื่อให้ช่วยประสานกับทางมหาวิทยาลัยขอเงินเยียวยาค่าเล่าเรียนคืน เนื่องจากพวกตนต้องกู้เงินจาก กรอ. 90,000 บาท ขณะที่นักศึกษาบางส่วนจะขอเรียนต่อ หากแก้ปัญหาได้เพราะไม่อยากไปเริ่มเรียนใหม่,วันเดียวกัน ที่ศาลปกครองกลาง ตัวแทน นักศึกษาและผู้ปกครอง 2 ราย ก็ได้ยื่นฟ้อง ม.คริสเตียน ว่าเปิดรับหลักสูตรพยาบาลบัณฑิตปีการศึกษา 2560 และ 2561 โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากคณะกรรมการสภาการพยาบาล มีมติเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2560 ให้คณะพยาบาลศาสตร์งดรับนักศึกษาปีการศึกษา 2560 เนื่องจากมีอัตราส่วนอาจารย์ประจำหลักสูตรต่อนักศึกษาเต็มเวลาเทียบเท่า 1 ต่อ 15.39 เกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด คือ 1 ต่อ 6 มาก และแผนการสอนยังไม่ได้มาตรฐานตามเกณฑ์ที่สถาบันการศึกษาวิชาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ กำหนด เป็นเหตุให้นักศึกษาที่ผ่านการคัดเลือกปีการศึกษา 2560 ทุกคนไม่สามารถจะเข้ารับการสอบใบประกอบวิชาชีพพยาบาลจากสภาการพยาบาลได้ เพราะ ม. คริสเตียนฝ่าฝืนมติสภาการพยาบาลโดยขอให้ ม.คริสเตียนชดใช้ค่าเสียหาย.
ตัวแทนนักศึกษาและผู้ปกครอง คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยคริสเตียน จำนวน 30 คน ได้ยื่นหนังสือถึง ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.)
ข่าว,ทั่วไทย
ตัวแทนนักศึกษา,มหาวิทยาลัยคริสเตียน,สุภัทร จำปาทอง,คืนค่าเทอม,นักศึกษาคณะพยาบาล,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/local/1270476
ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีปล้นรถขนเงินที่เชียงใหม่
ตำรวจชุดสืบสวนคดีพยายามปล้นรถขนเงินธนาคารกรุงไทย ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เรียกประชุมลับ เพื่อเร่งคลี่คลายคดี โดยวันนี้เป็นการรวบรวมพยานหลักฐาน จากกล้องวงจรปิด ข้อมูลการสอบปากคำพนักงานขนเงิน เส้นทาง จุดจอดรถ รวมไปถึงขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย และการจัดตารางทำงานขณเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอีกส่วนหนึ่งได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อสืบสวนหาข่าวเพิ่มเติม โดยแกะรอยจากร่องรอยของยานพาหนะที่ผู้ก่อเหตุทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ มีทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ รวมถึงการติดต่อสื่อสารของกลุ่มผู้ก่อเหตุพล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ภาพรวมของคดีมีความคืบหน้ามากขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ตัดประเด็นที่น่ามีความเชื่อมโยงทิ้งไป ทั้งประเด็นคนในพื้นที่ คนในบริษัท หรือการนำเงินไปใช้หนี้พนันบอล คาดว่าจะมีความคืบหน้าคดีที่ชัดเจนขึ้นภายใน 1 - 2 วัน
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ระบุคดียิงรถขนเงินธนาคารกรุงไทย ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ มีความคืบหน้าไปพอสมควร โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าคดีจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นภายในอีก 1 - 2 วัน
ภูมิภาค
ตำรวจ,ปล้น,รถขนเงิน,เชียงใหม่
https://news.thaipbs.or.th/content/95648
ราชการกับงานวิจัย
www.nfs.gov,  ระบุปี 2559 สหรัฐฯให้งบประมาณในการวิจัยมากที่สุดในโลกคิดเป็นเงิน 496,585 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2.74% ของจีดีพี ขณะที่จีนทุ่มงบฯ คิดเป็นเงิน 408,829 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2.07% ของจีดีพี ให้กับงานวิจัย เจ้าแห่งเทคโนโลยีอย่างญี่ปุ่นเทงบฯ 170,003 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 3.29% ของจีดีพี,มาทางฟากฝั่งอาเซียน มาเลเซียมีงบประมาณใช้จ่ายเพื่อการวิจัย 10,637 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.30% ของจีดีพี ตามมาด้วยสิงคโปร์ให้งบฯ 10,102.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2.18% ของจีดีพี,ส่วนไทยให้งบฯ แค่ 0.63% ของจีดีพี คิดเป็นเงินประมาณ 6,947.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ,จึงไม่น่าแปลกใจ ที่นักวิจัยไทยส่วนหนึ่งเลยสมองไหลไปเป็นลูกจ้างต่างชาติ,นอกจากจะด้วยเหตุผล ค่าจ้างมหาศาลบวกกับสวัสดิการมากมาย รวมไปถึงความท้อแท้ในระบบราชการ ที่กฎระเบียบหยุมหยิม วิจัยไปไม่ได้ใช้ประโยชน์ บางครั้งขาดงบวิจัยต่อยอด,แม้จะมีงบประมาณน้อยก็ตาม แต่ยังมีนักวิจัยไทยอีกไม่น้อยที่ยังคงรังสรรค์ผลงานดีๆออกมา และถูกนำมาใช้ประโยชน์ได้จริงเป็นรูปธรรม ทั้งเชิงเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม,ข้อมูลสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ที่ผ่านมามีผลงานวิจัยได้รับทุนจาก สวก. สามารถทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมไปแล้วไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาท ก่อให้เกิดผลพวงตามมามากมาย ทั้งการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ความร่วมมือกับภาคการศึกษา และภาคเอกชน,สำหรับกรอบการวิจัย สวก. ประจำปีงบประมาณ 2563 จะเน้นไปที่ 7 คลัสเตอร์การเกษตรไฮไลต์ ได้แก่ ข้าว, ปาล์มน้ำมัน, อาหารเพื่อเพิ่มคุณค่าและความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคและการค้า, พืชสวนพืชไร่, สมุนไพรไทย, สัตว์เศรษฐกิจ และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ,แต่งานวิจัยไทยจะรุดหน้าเหมือนอารยประเทศได้แค่ไหน ดูเหมือนอุปสรรคใหญ่หลวงยังคงติดขัดอยู่กับเรื่องเดิมๆระบบราชการล้าหลัง ปรับตัวก้าวตามโลกไม่ทัน.,สะ–เล–เต
โลกยิ่งเปลี่ยนไว งานวิจัยยิ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ข้อมูลจาก www.nfs.gov ระบุปี 2559 สหรัฐฯให้งบประมาณในการวิจัย
null
งานวิจัย,สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร,สวก.,งานวิจัยไทย,งบประมาณ,หน้ามองฟ้า เท้าหยั่งดิน,สะ-เล-เต
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1558098
อุปทูตสหรัฐฯ ใช้เวทีคอบร้าโกลด์ ร้องไทยคืนประชาธิปไตย (ชมคลิป)
วันที่ 9 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก ร.ร.เตรียมทหาร จ.นครนายก ว่า พล.อ.วุฒินันท์ ลีลายุทธ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และนายแพทริค เมอร์ฟี่ อุปทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เป็นประธานร่วมในพิธีเปิดการฝึกร่วมผสมคอบร้าโกลด์ 15 โดยมีเอกอัครราชทูต หรือผู้แทนจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมในพิธี ได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยมีประเทศที่เข้าร่วมสังเกตการณ์และฝึกเพิ่มอีก 2 ประเทศคือ จีนและอินเดีย ซึ่งปีนี้เน้นการฝึกช่วยเหลือประชาชนเป็นหลัก,นายแพทริค กล่าวว่า การฝึกคอบร้าโกลด์ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2525 จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ได้พัฒนาจนกลายเป็นการฝึกซ้อมทางทหารระดับพหุภาคีในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยมีประเทศต่างๆ เข้าร่วมถึง 24 ประเทศ วิวัฒนาการของคอบร้าโกลด์ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างไร้องค์ประกอบ นับแต่ปี 2525 เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม จนกลายเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีพลวัตและความเชื่อมโยงมากที่สุดของโลก,นอกจากนี้ ยังมีความเปลี่ยนแปลงด้านความมั่นคงที่เราเผชิญร่วมกัน โดยปัจจุบันพายุไต้ฝุ่น และการก่อการร้ายเป็นภัยคุกคามที่พบเห็นได้มากกว่ารถถังและตอร์ปิโด ดังนั้น เราจึงปรับการฝึกในปีนี้ โดยให้ความสำคัญในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การรับมือกับภัยพิบัติ และวางแผนให้ความช่วยเหลือ,นายแพทริค กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโรคระบาดต่างๆ เช่น อีโบลา ไข้หวัดนก และไข้หวัดซาร์ส แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดความเสียหาย ความร่วมมือจึงเป็นหนทางเดียวที่จะรับมือภัยคุกคามข้ามชาติเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิผล การปรับเปลี่ยนเหล่านี้ทำให้มีความสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงที่เปลี่ยนแปลงไป ทว่า บางสิ่งยังคงเดิม นั่นคือ ความแน่วแน่มั่นคงของสหรัฐฯ ที่มีต่อเอเชีย ต่อสันติภาพ เสรีภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และประชาธิปไตย ตลอดจนความร่วมมือของเราในภูมิภาคนี้ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งเป็นมิตรประเทศมายาวนาน 182 ปี,การเยือนประเทศไทยโดยนักการทูตอาวุโสของสหรัฐฯ เมื่อไม่นานมานี้ ย้ำชัดเจนถึงมิตรภาพอันยาวนานระหว่างเรา รวมถึงการที่สหรัฐฯ ให้ความสนับสนุนคนไทยตลอดมา และหวังว่าประเทศไทยจะกลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว เพื่อให้สามารถฟื้นคืนความสัมพันธ์ทวิภาคีของเราได้อย่างเต็มศักยภาพ เราปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับพวกเราทุกฝ่าย ส่งผลให้จำต้องมีการปรับเปลี่ยนการฝึกคอบร้าโกลด์ปีนี้ ในยามที่ประเทศไทยกำลังดำเนินการกลับสู่การปกครอง โดยรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง อุปทูตสหรัฐฯ กล่าว,ด้าน พล.อ.วุฒินันท์ กล่าวว่า คอบร้าโกลด์เป็นสัญลักษณ์ความร่วมมือทางทหารที่มีการพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งกองทัพไทยมีความภาคภูมิใจที่มีส่วนขับเคลื่อนให้เกิดสันติภาพ และความมั่นคงในภูมิภาคนี้ ลักษณะที่โดดเด่นของ คอบร้าโกลด์ คือการมุ่งมั่นที่จะทำการฝึกในลักษณะที่เปิดเผย โปร่งใส ดำรงความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพมิตรประเทศ นอกจากนั้น ยังต้องการขยายความร่วมมือระดับพันธมิตรในการปฏิบัติการร่วมของกำลังเฉพาะกิจหลายชาติ ในการปฏิบัติการทางทหาร ที่มิใช่สงครามเป็นหลัก รวมทั้งจัดการฝึกด้านปฏิบัติการเพื่อมนุษยธรรมในโครงการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ด้วย
อุปทูตสหรัฐฯ ใช้เวทีคอบร้าโกลด์เรียกร้องไทยกลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว เพื่อฟื้นสัมพันธ์ทวิภาคี รับส่งผลให้จำต้องมีการปรับเปลี่ยนการฝึกในช่วงไทยกำลังกลับสู่การปกครอง โดยรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง
null
วุฒินันท์ ลีลายุทธ,รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด,แพทริค เมอร์ฟี่,อุปทูตสหรัฐอเมริกา,คอบร้าโกลด์,ประชาธิปไตย,สหรัฐอเมริกา,ข่าวการเมือง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/480097
ชาวไต้หวันประท้วงปลดนายกฯ หลังบริหารเศรษฐกิจล้มเหลว
การประท้วงในครั้งนี้นำโดยพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า หรือพรรค ดีพีพี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่อ้างว่ามีประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมประมาณ 150000 คน แต่ผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ที่สังเกตการณ์ชุมนุมประเมินว่ามีคนเข้าร่วมไม่ถึง 50000 คนข้อเรียกร้องของการประท้วงในครั้งนี้คือต้องการให้นายหม่า อิง จิ่ว ประธานาธิบดี สั่งปลดนายฌอน เฉิน ออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งปีที่แล้วอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ถึงร้อยละ 2 นอกจากนี้ผู้ประท้วงยังต้องการให้ทุกพรรคการเมืองหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดนโยบายรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและปรับปรุงระบบบำนาญใหม่ ในขณะที่บางกลุ่มแสดงความกังวลที่รัฐบาลจีนเข้ามาครอบงำสื่อของไต้หวัน ด้วยการซื้อกิจการสื่อนี่ถือเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในไต้หวัน นับตั้งแต่นายหม่า อิง จิ่ว ชนะการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วและได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อเป็นสมัยที่ 2 ซึ่งตอนนี้คะแนนนิยมในตัวนายหม่าลดลงต่ำมาก อยู่ที่ร้อยละ 15 เท่านั้น
ชาวไต้หวันที่ไม่พอใจการทำงานของประธานาธิบดี ได้ออกมารวมตัวประท้วงในกรุงไทเป เมื่อวานนี้ (13 ม.ค.) เพื่อเรียกร้องให้ปลดนายกรัฐมนตรี หลังการเติบโตทางเศรษฐกิจของไต้หวันเมื่อปีที่แล้ว(2555) โตไม่ถึงร้อยละ 2
ต่างประเทศ
นายกฯ,บริหาร,ประท้วง,ปลด,ล้มเหลว,เศรษฐกิจ,ไต้หวัน
https://news.thaipbs.or.th/content/139364
ยื่นหนังสือร้องกรณีค้นบ้านนักข่าวปัตตานี ตร.ปัดคนละหน่วยงาน
ให้รัฐชี้แจงอำนาจของเจ้าหน้าที่และสิทธิของประชาชนในเรื่องการตรวจ DNA ด้าน ผู้กำกับยันไม่ใช่ลูกน้องในสังกัด ไม่สามารถให้ความเห็นได้25 ก.ย. 2557 เมื่อเวลา 14.30 น. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพประมาณ 30 คน ได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อ พ.ต.อ.ต่วนเดร์ จุฑานนท์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี ในกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งอ้างว่ามาจากสถานีตำรวจภูธร (สภ.) เมืองปัตตานี 5 คน เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 56/44 ม.1 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นบ้านเช่นของนายทวีศักดิ์ ปิ ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุมีเดียสลาตันพร้อมเพื่อนอีก 3 คน เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2557 โดยไม่มีหมายค้น แต่อ้างการใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก และยังได้ขอเก็บตัวอย่างน้ำลายเพื่อนำไปตรวจหาสารพันธุกรรม (DNA)โดยหนังสือร้องเรียนดังกล่าว เป็นการยื่นในนามศูนย์ทนายความมุสลิมประจำจังหวัดปัตตานี ระบุโดยสรุปว่า การตรวจค้นดังกล่าวมีลักษณะการข่มขู่ คุกคามและบังคับให้ประทับลายนิ้วมือ และให้ลงชื่อกำกับในเอกสาร ซึ่งเป็นการใช้อำนาจกฎอัยการศึกโดยพลการ โดยไม่มีเหตุจำเป็น อีกทั้งมีการข่มขู่ด้วยวาจา แม้ไม่มีการเก็บตัวอย่างน้ำลายไปแต่อย่างใดการยื่นหนังสือดังกล่าว พ.ต.อ.ต่วนเดร์ จุฑานนท์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองปัตตานี เป็นผู้มารับหนังสือด้วยตัวเอง ซึ่งหลังจากรับหนังสือร้องเรียนดังกล่าวแล้ว พ.ต.อ.ต่วนเดร์ เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบการลงบันทึกประจำวันของ สภ.เมืองปัตตานี พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปตรวจค้นในวันดังกล่าวมาเป็นเจ้าหน้าที่จากกองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ขอยืนยันว่า ไม่ได้เป็นตำรวจของ สภ.เมืองปัตตานี จึงไม่ทราบเรื่องการตรวจค้นดังกล่าว และไม่สามารถให้ความเห็นใดๆ ได้ขณะเดียวกัน ทางองค์กรภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 กรณีนักกิจกรรมและนักสื่อสารเพื่อสังคมถูกคุกคามโดยเจ้าหน้าที่รัฐ เนื่องจากกรณีนี้ด้วย โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อโดยสรุป คือ 1.ให้เอกสารที่นายทวีศักดิ์ได้ลงชื่อไปนั้นเป็นโมฆะ 2.ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ชี้แจงเหตุผลในการตรวจค้นดังกล่าว และ 3.ขอให้หน่วยงานภาครัฐชี้แจงถึงอำนาจของเจ้าหน้าที่ในการเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจ DNA รวมทั้งสิทธิของประชาชนต่อเรื่องนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจตรงกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนต่อมาเวลาประมาณ 15.30 น.ทางเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพได้นัดหารือกันอีกครั้งที่สถานีวิทยุมิเดียสลาตันเพื่อกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหว โดยได้ข้อสรุปว่าจะขอคำตอบอย่างเป็นทางการเป็นเอกสารจาก สภ.เมืองปัตตานี และจะยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานีและเรียกร้องมิให้มีการคุกคามสื่อและนักกิจกรรมในพื้นที่ต่อไปอีกครั้งเนื้อหาแถลงการณ์ มีดังนี้เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2557 เวลาประมาณ 15.00 น.ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี จำนวน 5 นาย เดินทางไปยังที่พักอาศัยของนายทวีศักดิ์ ปิ ซึ่งเป็นนักกิจกรรมและนักสื่อสารเพื่อสังคมที่มีส่วนร่วมในการรณรงค์เพื่อเปิดพื้นที่ทางการเมืองสู่การลดพื้นที่ความรุนแรงโดยยึดหลักแนวทางสันติวิธี อีกทั้งยังเป็นสมาชิกองค์กรเครือข่ายประชาสังคมเพื่อสันติภาพ ซึ่งเจ้าหน้าที่อ้างเหตุผลว่าต้องการจะตรวจค้นยาเสพติดเพื่อจัดระเบียบหอพักนักศึกษา และได้อ้างว่าเป็นนโยบายเร่งด่วนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ. 2457เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มดังกล่าวได้ใช้ท่าทีข่มขู่ให้นายทวีศักดิ์ ปิ ลงชื่อยินยอมในเอกสารให้ตรวจเก็บเอกสารพันธุกรรม (DNA) นายทวีศักดิ์ ปิ จำเป็นต้องลงชื่อทั้งที่ไม่สมัครใจเพราะเกรงจะเกิดอันตรายกับตน แต่ในความเป็นจริงนั้น เจ้าหน้าที่ไม่ได้ตรวจเก็บ DNA ไปแต่อย่างใด แต่ได้นำเอกสารที่มีการลงชื่อแล้วดังกล่าวกลับไปด้วยจากเหตุการณ์ดังกล่าวทางเครือข่ายประชาสังคมเพื่อสันติภาพ มีความเห็นว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้เข้าข่ายการละเมิดและคุกคามต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของนักกิจกรรมแนวสันติ อีกทั้งยังอาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนที่ต้องการมีส่วนร่วมรณรงค์เปิดและขยายพื้นที่ทางการเมืองสู่การลดพื้นที่การใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของภาครัฐโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงที่ได้พยายามใช้นโยบายการเมืองนำการทหารให้เกิดผลเป็นรูปธรรมขึ้นเพื่อไม่ให้การคุกคามของเจ้าหน้าที่ต่อนักกิจกรรมที่มีบทบาทรณรงค์เปิดพื้นที่ทางการเมืองในครั้งนี้ กลายเป็นเหตุการณ์ในทำนองน้ำผึ้งหยดเดียวที่จะส่งผลทำให้ประชาชนหมดศรัทธาในแนวทางสันติวิธีซึ่งควรได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายแห่งรัฐ เครือข่ายประชาสังคมเพื่อสันติภาพจึงขอเรียกร้องดังต่อไปนี้1.เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบและให้ความเป็นธรรมต่อนักกิจกรรมและนักสื่อสารเพื่อสังคม ภาครัฐต้องดำเนินการเพื่อให้เอกสารที่นายทวีศักดิ์ได้ลงชื่อไปแล้วนั้นเป็นโมฆะเพื่อสร้างความโปร่งใสด้วยประการทั้งปวง2.ขอให้ทางเจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ชี้แจงถึงเหตุผลในการตรวจค้นจนถึงขั้นมีการบีบบังคับและข่มขู่ให้ต้องลงชื่อยินยอมให้ตรวจเก็บ DNA โดยที่นายทวีศักดิ์ไม่สมัครใจ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดในเจตนาที่แท้จริงของเจ้าหน้าที่3.ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการตรวจเก็บ DNA ของประชาชน ได้ชี้แจงถึงขอบเขตอำนาจของเจ้าหน้าที่ในการตรวจเก็บ DNA รวมทั้งขอบเขตสิทธิของประชาชนต่อเรื่องการให้เจ้าหน้าที่ตรวจเก็บ DNA โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่ยินยอม โดยให้มีรายละเอียดว่าในแต่ละกรณีมีฐานความชอบธรรมตามกฎหมายอย่างไร ทั้งนี้เพื่อสร้างความเข้าใจและมาตรฐานที่ตรงกันระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชนเครือข่ายประชาสังคมเพื่อสันติภาพ25 กันยายน 2557
เครือข่ายประชาสังคมเพื่อสันติภาพยื่นหนังสื่อร้องเรียนหัวหน้าโรงพักเมืองปัตตานี กรณีถูกตำรวจค้นบ้านผู้สื่อข่าวมีเดียสลาตันให้ชี้แจงเหตุผล พร้อมออกแถลงการณ์
การเมือง,สิทธิมนุษยชน,ความมั่นคง
กระบวนการยุติธรรม,ชายแดนใต้,สื่อมวลชน
https://prachatai.com/journal/2014/09/55726
พะเยาพบไฟป่าหลายจุดเสียหายวงกว้าง เสี่ยงค่าฝุ่นละอองพุ่ง
ช่วงค่ำคืนวันที่ 2 มีนาคม 2562 พบสถานการณ์ไฟไหม้ป่า ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายจุดในพื้นที่จังหวัดพะเยา ทำให้พื้นที่ป่าได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถทำการดับไฟได้ ถึงแม้จะมีมาตรการในการห้ามเผาโดยเด็ดขาด แต่ก็ไม่สามารถได้ผลตามที่ตั้งไว้,สภาพไฟป่าที่ลุกลามในพื้นที่อย่างน้อย 3 จุด ตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ บริเวณเขตพื้นที่เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าเวียงลอ หมู่ที่ 9 ตำบลห้วยลาน อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ยังคงทวีความรุนแรงและกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง และสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เป็นสภาพไฟป่าที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดพะเยา และยังไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ ถึงแม้จะมีการประกาศห้ามเผาโดยเด็ดขาด แต่ก็ยังคงมีไฟป่าเกิดขึ้นในพื้นที่หลายจุด โดยไฟป่าได้ลุกลามไปเป็นบริเวณกว้าง และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อปัญหาฝุ่นละอองและค่าหมอกควันกลับเพิ่มสูงขึ้นอีก,นอกจากนั้นไฟป่าดังกล่าวยังส่งผลทำให้พื้นที่ป่าไม้หลายร้อยไร่ได้รับความเสียหาย และจนถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถดับไฟได้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นสภาพภูเขาที่มีความสูงชัน รวมทั้งพื้นที่ป่ามีสภาพเชื้อเพลิงสะสมเป็นจำนวนมาก ขณะที่หลายพื้นที่ยังคงพบไฟป่าเกิดขึ้นหลายจุดอย่างต่อเนื่องในช่วงวันนี้
ไฟป่าหลายจุดที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของจังหวัดพะเยาตั้งแต่ช่วงเที่ยง ยังลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปดับได้ ทำให้เสี่ยงที่ปัญหาฝุ่นละอองจะกลับมาอีกครั้ง
ข่าว,ทั่วไทย
พะเยา,ไฟป่า,ค่าฝุ่นละออง,เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าเวียงลอ,หมอกควัน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1509546
บินไทยเตรียมเสิร์ฟเมนู เจ๊ไฝ
โดยในปีที่ผ่านมามีรายได้สูงถึง 8,000 ล้านบาท และปีนี้คาดว่าจะเติบโตเพิ่มเป็น 8,900 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4-5% ต่อปี,อย่างไรก็ดี พบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน นิยมอาหารที่เป็นเชิงไลฟ์สไตล์ มีความสร้างสรรค์ และมีเรื่องราว อธิบายถึงที่มาของอาหาร รวมทั้งยังมีกลุ่มที่นิยมอาหารเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น การบินไทยจึงทำแผนปรับปรุงบริการอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่ต้องเสิร์ฟบนเครื่อง ด้วยการนำเอาเชฟมิชลินสตาร์มาช่วยออกแบบเมนูอาหาร นำร่องในหลายเส้นทาง อาทิ กรุงเทพฯ-ปารีส,แผนปรับปรุงอาหารบนเครื่องที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพื่อเพิ่มความพิเศษ ตอบสนองความต้องการผู้โดยสารและโปรโมตอาหารไทยที่ทั่วโลกนิยม ในช่วงสัปดาห์นี้การบินไทยจะหารือร่วมกับเชฟมิชลินสตาร์ ด้านสตรีทฟู้ดของไทยรายหนึ่ง เพื่อเข้ามาร่วมออกแบบเมนูและนำสูตรอาหารพิเศษที่ไม่เหมือนใครมาเสิร์ฟบนเครื่อง,นอกจากนี้ การบินไทยยังเตรียมหารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และเกษตรกร เพื่อลงนามความร่วมมือจัดซื้อวัตถุดิบปลอดสารพิษ ทั้งข้าวอินทรีย์ ผัก และผลไม้ เพื่อตอบรับกับความนิยมของผู้บริโภคในด้านอาหารเพื่อสุขภาพ อีกทั้งภายใต้ความร่วมมือนี้ จะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร เศรษฐกิจฐานราก และสนับสนุนนโยบายความร่วมมือประชารัฐ,ด้านนางวรางคณา ลือโรจน์วงศ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายครัวการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนปรับปรุงเมนูอาหารบนเครื่อง เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่การบินไทยต้องการเจาะไลฟ์สไตล์ของผู้โดยสารผ่านเมนูอาหาร นอกเหนือจากการจับมือกับพันธมิตร ที่มีวัตถุดิบคุณภาพดีทั่วโลก การบินไทยยังเล็งเห็นถึงโอกาสในการสร้างประสบการณ์ด้านอาหารผ่านการนำสตรีทฟู้ด มิชลินสตาร์ มาเสิร์ฟ ซึ่งคาดว่าภายหลังทำความร่วมมือในสัปดาห์นี้แล้ว จะสามารถนำอาหารเสิร์ฟบนเครื่องได้ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ โดยจะนำมาเสิร์ฟในชั้นธุรกิจและชั้น 1,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รางวัลมิชลินสตาร์ มีร้านสตรีทฟู้ดเมืองไทยที่ได้ รับรางวัลนี้เพียงรายเดียว คือ ร้านเจ๊ไฝ ประตูผี ซึ่งได้รับดาวมิชลิน 1 ดาว เมื่อปี 2560 โดยอาหารเอกลักษณ์ของร้านคือไข่เจียวปู เป็นเนื้อปูส่งตรงจากสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ถือเป็นวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี ประกอบกับความพิถีพิถันในการปรุง ความชำนาญ และเทคนิคการประกอบอาหาร ทำให้เมนูไข่เจียวปูของร้านเจ๊ไฝ ประตูผี มีชื่อเสียงลือลั่น.
นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจครัวการบิน เป็นอีกหนึ่งส่วนที่สร้างรายได้ให้กับการบินไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ข่าว,เศรษฐกิจ
การบินไทย,อาหารบนเครื่องบิน,เจ๊ไฝ,ครัวการบิน,มิชลินสตาร์
https://www.thairath.co.th/news/business/1359639
ทร.แจงศาลปกครองสูงสุด คืนสิทธิซีพีประมูลอู่ตะเภา ทำลายระบบภาครัฐ
สูงสุด นำเรื่องเข้าที่ประชุมใหญ่ชี้ขาด ด้านตุลาการผู้แถลงคดีเสนอองค์คณะกลับคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้นเป็นคืนสิทธิ เหตุกระบวนตรวจรับเอกสารไม่ชัดเจน,เมื่อวันที่ 7 พ.ย.62 ศาลปกครองสูงสุดได้ออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีที่บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ซีพี กับพวก รวม 5 ราย ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก กรณีมีมติไม่รับซองข้อเสนอด้านแผนธุรกิจ และด้านราคาในการยื่นข้อเสนอประมูลก่อสร้างโครงการดังกล่าวเนื่องจากเห็นว่าบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด กับพวก มายื่นเกิน เวลาที่กำหนด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ศาลปกครองชั้นต้นได้มีพิพากษาให้ยกฟ้อง และบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด กับพวกได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด และศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ พิจารณาข้อเสนอด้านแผนธุรกิจและด้านราคาของ บริษัทธนโฮลดิ้ง ไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้เปิดโอกาสให้คู่กรณีได้แถลงสรุปปิดคดีเพิ่มเติม องค์คณะก็จะมีการประชุมเพื่อจะมีคำพิพากษาต่อไป ซึ่งยังไม่ได้มีการแจ้งว่าจะเป็นเมื่อใด,สำหรับการแถลงสรุปปิดคดีเพิ่มเติม น.ส.ปะราลี เตชะจงจินตนา ผู้ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทธนโฮลดิ้ง แถลงย้ำว่า สถานที่ยื่นข้อเสนอที่มีการกำหนดในเอกสารการคัดเลือกเอกชนของโครงการนี้ (RFP)ระบุชัดเจนว่าเป็นห้องรับรองกองบัญชาการกองทัพเรือ ไม่ใช่จุดลงทะเบียน ตามที่มีการนำมาอ้างและตัดสิทธิการยื่นข้อเสนอ ซึ่งโครงการนี้มีผู้ร่วมยื่นซองจำนวนมาก จึงมีการทยอยนำเอกสารมาทุกราย ซึ่งบริษัทธนโฮลดิ้ง ได้เข้ายื่นเอกสารครบถ้วนทุกรายการ และคณะกรรมการได้ตรวจรับไว้ทั้งหมด,พล.ร.ต.เกริกไชย วจนานนท์ เลขานุการคณะกรรมการคัดเลือกฯ แถลงแย้งว่า จุดลงทะเบียนบริเวณห้องรับรองกองบัญชาการกองทัพเรือ ถือเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่ยื่นข้อเสนอ และคณะกรรมการฯได้ยึดถือเรื่องเวลาเป็นสำคัญ โดยมีการกำหนดใน RFP ว่า เวลายื่นข้อเสนอคือ 09.00- 15.00 น. หากมายื่นหลังเวลา 15.00 น. จะไม่รับพิจารณา เพื่อปิดช่องไม่ให้มีการใช้ดุลพินิจเรื่องขยายเวลา และผู้ที่ปฏิบัติในสถานที่ดังกล่าวล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจใด หากมีการดำเนินการนอกหลักเกณฑ์,บริษัทธนโฮลดิ้งเป็นบริษัทที่มีสายสัมพันธ์กับบริษัทที่ได้สัมปทานโครงการก่อสร้างรถไฟ ความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งโครงการพัฒนา สนามบินอู่ตะเภา ก็ใช้หลักการและระเบียบวิธีการเดียวกัน มีเงื่อนเวลาเป็นหลักสำคัญ ซึ่งกลุ่มผู้ฟ้องก็ปฏิบัติได้แต่ทำไมในโครงนี้ถึงทำไม่ได้ การอ้างเรื่องจราจรติดขัด ถามว่าทำไมบริษัทที่เข้าร่วมประมูลอื่นทำได้ รวมทั้งมีข้อน่าสงสัยว่า เมื่อมาถึงจุดลงทะเบียนแล้วจริงอยู่ทุกบริษัทเอกสารไม่พร้อม แต่ก็ทยอยนำมาถึงสถานที่ยื่นข้อเสนอในเวลาถัดมาครบทั้ง 9 กล่อง มีบริษัทธนโฮลดิ้ง มีการทยอย นำมาถึง 3 ครั้ง ครั้งที่ 2 มาแค่ 7 กล่อง อีก 2 กล่อง ที่มาทีหลัง คือ แผนธุรกิจ และข้อเสนอด้านราคา ก็เพื่อประเมินคู่ต่อสู้ว่ายื่นราคาเท่าไร เพื่อที่ตัวเองจะได้แก้ไขเอกสาร แต่เกิดปัญหาจราจรเลยทำให้เอกสารมาถึงจุดลงทะเบียนในเวลา 15.09 น.,พล.ร.ต.เกริกไชย แถลงต่อไปว่า ถ้าศาลปกครองสูงสุดเห็นว่าเรื่องเวลาไม่ใช่สาระสำคัญ ก่อนหน้านี้ศาลปกครองสูงสุดก็เคยวินิจฉัยในคดีการประมูลก่อสร้างทางหลวงชนบท โดยตัดสิทธิ ผู้เข้าประมูลที่มายื่นซองช้าหลังกำหนดปิดรับซองไป 39 วินาที โดยกลับคำพิพากษาของศาลปกครองกลางในคดีนี้ ให้บริษัทธนโฮลดิ้งได้สิทธิเข้าประมูล เท่ากับเป็นการทำลายระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และอาจทำให้เกิดค่านิยมใหม่ว่าต่อไปใครจะมายื่นซองเวลาไหนก็ได้หากให้ผลตอบแทนกับรัฐสูง รวมทั้งอาจเกิดค่านิยมใหม่ ว่าแม้ทำผิดกฎ แต่มีเงินจ้างทนายเก่ง และให้ประโยชน์รัฐมาก ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้งาน เพราะเงินชดเชยความผิดได้ คดีนี้มีมูลค่าโครงการ 270,000 ล้านบาทรัฐบาลมีความตั้งใจจะให้เป็นสนามบินนานาชาติแห่งที่ 3 ผู้ที่เข้าร่วมประมูลอย่างถูกต้อง 2 รายได้มีหนังสือถึงคณะกรรมการคัดเลือกฯคัดค้านไม่ให้สิทธิบริษัทธนโฮลดิ้งกับพวกอีก ดังนั้น เพื่อให้เกิดความถูกต้อง โปร่งใสและยุติธรรม คณะกรรมการคัดเลือกฯ จึงยื่นเรื่องต่อประธานศาลปกครองสูงสุด ให้นำคดีนี้เข้าพิจารณาในที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดเพื่อวินิจฉัยชี้ขาด แต่ก็ขึ้นกับดุลพินิจของประธานศาลปกครองสูงสุดว่าจะเห็นอย่างไร,จากนั้นองค์คณะได้ให้นายเชี่ยวชาญ สุขช่วย ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองชั้นประจำตุลาการศาลปกครองสูงสุดในฐานะตุลาการผู้แถลงคดี แถลงความเห็นส่วนตนต่อคดีซึ่งไม่มีผลต่อการพิจารณาขององค์คณะ ว่า ตามข้อเท็จจริง ไม่ปรากฏว่ามีกระบวนการรับและตรวจเอกสารโดยวิธีการใดอย่างชัดเจน มีเพียงให้ผู้ประสงค์เข้าร่วมประมูลลงทะเบียนก่อนและให้ไปพักรอในห้องพัก ทำให้บริษัทธนโฮลดิ้งเพิ่มเอกสารบางรายการได้ นอกจากนี้ เมื่อบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด ยื่นเอกสารแล้วก็มีการตรวจรับโดยไม่มีการทักท้วง หรือออกใบรับอย่างมีเงื่อนไขให้แต่อย่างใด จึงเสนอให้องค์คณะศาลปกครองสูงสุดพิพากษากลับคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น.
กองทัพเรือ (ทร.) เดือดแจงศาลปกครองสูงสุด หากพิพากษาคืนสิทธิซีพีเข้าประมูลสนามบินอู่ตะเภา จะทำลายระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ สร้างค่านิยมใหม่ ทำผิดกฎได้ ถ้าให้ผลตอบแทนสูง ร้องประธานศาลปกครอง
ข่าว,เศรษฐกิจ
กองทัพเรือ,ศาลปกครองสูงสุด,สนามบินอู่ตะเภา,คืนสิทธิซีพี,ซีพี ออลล์,ประมูลสนามบินอู่ตะเภา,ตุลาการ
https://www.thairath.co.th/news/business/1699576
คณะทำงานด้านเด็กเรียกร้องปกป้องเยาวชนถูกเหมืองทองยื่นฟ้อง
จากกรณีที่บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเลยเพื่อขออนุญาตฟ้องเยาวชนในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยอ้างว่ามีเนื้อหาอันเป็นเท็จ ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย โดยการกล่าวพาดพิงว่าพบสารปนเปื้อนในลำน้ำฮวยจากการทำเหมืองแร่ ซึ่งปรากฎในรายงานข่าวของเยาวชนหญิงวัย 15 ปี ออกอากาศในช่วงนักข่าวพลเมือง ตอนนักสืบลำน้ำฮวย ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมาสถานพินิจฯจึงมีหนังสือเชิญเยาวชนและผู้ปกครอง รวมทั้งตัวแทนบริษัทเข้าให้ถ้อยคำ ทำให้ครอบครัวของเยาวชนรู้สึกเป็นกังวลเนื่องจากไม่คิดว่าการรายงานข่าวระหว่างออกค่ายทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มเยาวชนฮักบ้านเกิด จะทำให้ถูกฟ้องร้อง ทั้งนี้การฟ้องร้องเยาวชนในคดีหมิ่นประมาทถือเป็นคดีแรกที่เกิดขึ้นในจังหวัดเลย เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปพูดคุยกับครอบครัวของเยาวชน เพื่อเยียวยาสภาพจิตใจด้านนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยยืนยันว่า จะพยายามช่วยเหลือครอบเยาวชนเพื่อไม่ให้ถูกฟ้อง เพราะเชื่อว่าการรายงานข่าวของเยาวชนไม่มีเจตนากล่าวหา แต่อาจเกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ขณะที่คณะทำงานด้านเด็กซึ่งเป็นเครือข่ายองค์กรที่ปฏิบัติงานด้านเด็กและเยาวชน ออกแถลงการณ์ต่อกรณีการฟ้องดำเนินคดีกับเยาวชนของบริษัทดังกล่าวว่า การนำเสนอข่าวของเยาวชนดังเป็นไปตามหลักการสร้างการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน พร้อมทั้งเสนอให้หน่วยงานที่ทำหน้าที่คุ้มครองเด็กในจังหวัดเลยให้การคุ้มครองเด็กโดยไม่ถือว่าสิ่งที่เด็กทำเป็นความผิด และการกระทำของบริษัท ทุ่งคำ ที่มีการฟ้องเยาวชนเป็นรายแรก อาจละเมิดสิทธิและคุกคามเด็ก
คณะทำงานด้านเด็กออกแถลงการณ์เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาปกป้องหลังเยาวชนเยาวชนจังหวัดเลยในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาของบริษัทเหมืองแร่
สิ่งแวดล้อม
บริษัท ทุ่งคำ จำกัด,ลำน้ำฮวย,วิโรจน์ จิวะรังสรรค์,หมิ่นประมาท,เลย,เหมืองแร่
https://news.thaipbs.or.th/content/6838
แต่งอีกคนแล้ว พอล ภัทรพล แต่ง 11 พ.ย. ประกาศไม่อยากมีลูก
พอล ภัทรพล ศิลปาจารย์, หลังจากทำเซอร์ไพรส์ขอแฟนสาวนอกวงการ ,ฟอว์น ไปยดา มหิทธนันท์, แต่งงานไปเมื่อ 9 พ.ค. 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของหนุ่มพอลอายุครบ 40 ปีพอดี ได้เจอ พอล-ฟอว์น มาออกรายการ หม้ายตัวแม่ ที่ สตูดิโอ 5 ช่อง 9 อสมท เลยถามถึงเรื่องดังกล่าว,มีข่าวดีอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับการที่จะได้เริ่มต้นชีวิตคู่?,พอล ก็ดีครับ สนุกดี ตื่นเต้นเหมือนกัน มันก็ความสุขไปอีกแบบครับ,วางแผนเรื่องแต่งงานไว้นานหรือยัง?,พอล จริงๆ ผมว่าตั้งแต่ผมคบกับเขา ก็คิดมานานแล้วว่าคนนี้แหละที่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอดชีวิตเลย เพียงแค่หาจังหวะว่าเมื่อไหร่จะได้ขอเขาแบบเป็นทางการ,วันที่ไปขอเขาแต่งงาน ได้วางแผนอะไรไว้บ้าง?,พอล ผมว่าเรารู้กันอยู่แล้ว และด้วยความที่ฟอว์นไม่ชอบเซอร์ไพรส์ แต่ผมเป็นคนชอบเซอร์ไพรส์ ซึ่งเมื่อก่อนเคยทำมาหลายอย่างแล้ว อย่าง วันวาเลนไทน์ก็ซื้อดอกไม้ให้ ซึ่งเขาก็ว่า ซื้อทำไม เปลือง คือเขาเป็นคนนิสัยแบบนี้จริงๆ ครับ,เพราะฉะนั้นตอนจะขอก็เหมือนกัน เรารู้เลยว่าถ้าเราไปเตรียมอะไรเยอะแยะ เช่น ดนตรีเอย หรือการเซอร์ไพรส์อะไรต่างๆ เขาก็ไม่ได้ชอบตรงนั้นอยู่ดี เราเลยตัดสินใจเอาแบบเรียบๆ ง่ายๆ เลยก็คือ วันเกิดไปกินข้าวกันนะ และเราก็ได้ขอเขาในวันเกิด อยากให้เป็นสัญลักษณ์ว่า เขาเป็นของขวัญของเราที่ดีที่สุดเลยที่เราเคยได้รับมา,ฟอว์น ตอนที่เขาขอก็ตื่นเต้นเนอะ จริงๆ เหมือนเราแอบคิดอยู่แล้วว่าวันนั้นอาจจะมี แต่ก็อาจจะไม่ (หัวเราะ) คือที่พอรู้ก่อนเพราะเราได้มีการคุยมาสักพักหนึ่งแล้วค่ะ และเขาก็มีคุยกับคุณพ่อคุณแม่เราอยู่แล้ว,วันนั้นมีน้ำตาไหม?,ฟอว์น ไม่มีค่ะ,พอล เขาจะออกแนวขำมากกว่า จะเป็นแนวฮา ตัวจริงเขาเป็นคนตลกครับ,ตอนจะขอมีอาการตื่นเต้นไหม?,พอล ตื่นเต้นครับ ตอนบอกเลยว่าตอนแรกคิดว่าสบายมาก เรื่องแบบนี้ทำมาหลายครั้งแล้ว ผมหมายถึงเล่นละครนะครับ (ยิ้ม) ตอนเราเป็นพระเอกในทุกๆ เรื่องส่วนใหญ่ก็จะมีฉากขอแต่งงานในทุกรูปแบบ เราเลยคิดว่าเรามีโอกาสได้ซ้อมมาเยอะกว่าหนุ่มคนอื่นๆ แต่พอวันจริงปุ๊บผมยังไม่รู้เลยว่าจะเปิดกล่องแหวนทางไหน ทุลักทุเลพอสมควร แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับ,แผนที่เราเตรียมมาสำหรับตามที่ตั้งใจไว้ไหม?,พอล ภาพรวมถือว่าเข้าเป้า สำเร็จ แค่ดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ก็มีบ้าง อย่างดนตรีจริงๆ ต้องมาหลังจากที่เขาตอบตกลงแล้วนะ ซึ่งเอาเข้าจริงดนตรีมาก่อน แต่อันนั้นมันเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเรามาก เพราะผมว่าทุกอย่างมันคือองค์ประกอบที่ทำให้ความไม่สมบูรณ์มันสมบูรณ์นะ,หลังจากนี้ต้องเตรียมงานยังไง ได้ฤกษ์ยามวันแต่งแล้วหรือยัง?,พอล เราได้วันแล้ว ก็คือ 11/11 นั่นก็คือวันที่ 11 พ.ย. ปีนี้ครับ มีคนถามเราว่าไปดูฤกษ์ที่ไหนมา บอกเลยครับว่าฤกษ์สะดวก เพราะเรากางปฏิทินกัน 2 คน ว่าจะเอาวันไหนดี ก็สรุปเลือกวันเสาร์หรืออาทิตย์นี่แหละ,แต่เราไม่ได้มีงานเหมือนคนอื่น ไม่ได้จัดโรงแรมเหมือนคนอื่นเขา เราชอบอะไรที่เป็นสวนตัวงานเล็กๆ แล้วเราก็ได้มีการคุยกับทางคุณแม่ของฟอว์น แล้ว เขาก็เห็นด้วยว่างานเล็กๆ แบบนี้ โอเค ก็เชิญผู้ใหญ่ฝั่งเขาและฝั่ง มาทำพิธีเล็กๆ ร่วมกัน ส่วนเพื่อนๆ ที่เหลือเราก็มานัดกินข้าวกัน เป็นกลุ่มๆ กัน (แล้วงานปาร์ตี้ล่ะ?) เป็นที่บ้านผมเองครับ,งานจัดตอนไหน?,พอล เราคิดว่าจัดตอนบ่าย ทุกคนได้ตื่นสายๆ เราเป็นคนสบายๆ ทุกคนมาพร้อมเวลานั้น ฤกษ์สวมแหวนก็ยังไม่ได้คิดครับ เราเป็นแบบสบายๆ ให้ทั้งสองฝั่งสบายๆ ครับ,สินสอดล่ะ?,พอล ผมนี่ล่ะครับ (หัวเราะ) ไม่ใช่ๆ จริงๆ ได้มีการถามทางคุณพ่อคุณแม่ไปเหมือนกัน คุณพ่อคุณแม่ผมบอกเท่าไหร่ก็ได้ ท่านไม่ได้ซีเรียส เรื่องสินสอดยังไม่ได้คิด ยังไม่ได้เตรียม โดยส่วนตัวรู้สึกไม่ค่อยเชื่อเรื่องสินสอดว่าถ้าเยอะแปลว่ารัก น้อยแปลว่ารักน้อย ผมว่ามันไม่เกี่ยว แต่ถามว่ามีเพื่อให้ทางผู้ใหญ่สบายใจ เราก็ต้องทำ ส่วนตัวเท่าไหร่ขอไปคิดอีกทีแล้วกันครับ,หลายคนแซวว่าคู่เราเป็นคู่รักร้อยล้าน?,พอล คือผมเข้าใจ คนอื่นที่มองเข้ามา ข้อแรกเลย สิ่งที่คุณเห็นอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดก็ได้นะครับ แต่จริงๆ เราแฮปปี้ เราเน้นทั้งสองฝ่ายแฮปปี้ ส่วนตัวเลขเป็นเท่าไหร่ มันเป็นเรื่องรองมากๆ,ฟอว์น ฟอว์นว่าปัจจุบันผู้หญิงทุกคนเราไม่ได้อยากได้สิ่งของหรือเงินทอง โดยเฉพาะผู้หญิงปัจจุบันหาเงินเองได้ ซื้อของเองได้ สิ่งที่เราอยากได้คือความมั่นใจมากกว่า ความสงบสุขในใจ อยู่ด้วยกันตลอดไป มีคนคนนึงรักเราแบบไม่มีข้อกำจัดมากกว่า,จดทะเบียนไหม?,พอล ไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่ได้คิด จดไม่จดไม่ต่างสำหรับผมนะ,จะมีทายาทเลยไหม?,พอล ตอบได้เลยว่าไม่มี เราก็คิดเหมือนกัน ถึงได้อยู่ด้วยกัน ผมเองก็ไม่ได้อยากมีลูกตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่ชอบเด็กนะ ผมแค่รู้สึกว่าเรามีเด็กที่ไม่มีครอบครัว เยอะแยะเลย ก็ไม่รู้ว่าเราจะผลิตเพิ่มทำไม ส่วนในมุมของเขาก็ไม่ได้อยากมีเหมือนกัน คิดคล้ายกัน,ทำไมไม่อยากมี?,ฟอว์น เราติดห่วงค่ะ เราก็รู้ว่าถ้ามีก็ต้องรักเขาเยอะๆ เขาไปไหนเราก็จะห่วงนู่นห่วงนี่ ด้วยความที่ทุกปี พี่พอลก็ส่งเด็กเรียนอยู่แล้ว ให้การศึกษา ส่งเด็กเรียน ยังมีเด็กอีกหลายคนที่ยังขาดด้านนี้อีกเยอะ ที่เราช่วยเขาได้ และไม่ต้องห่วงด้วย ก็น่าจะเป็นอะไรที่ดีกว่า,ทางครอบครัวทั้งสองฝ่ายไม่อยากอุ้มหลาน?,พอล ทางฝ่ายผมมีหลานเรียบร้อยแล้ว 2 คน คุณแม่โอเคแล้วนะ จริงๆ ต้องขอเสริมอีกนิดนึง อีกเหตุผลนึง ที่ส่วนตัวเราเองไม่อยากมีลูก การเป็นพ่อแม่คนก็เป็นภาระ เป็นงานที่ใหญ่หลวงมาก ยาก และรู้สึกว่าเราคงเป็นได้ไม่ดี ก็ไม่เป็นดีกว่า แต่ยินดีเลี้ยงลูกเพื่อนนะ (ยิ้ม) บอกเพื่อนทุกคนแล้วว่า ถ้าไปเที่ยวเมืองนอก ติดงาน เอามาฝากเราได้,หลายคนอยากรู้จักเจ้าสาวของพอลมากขึ้น?,ฟอว์น เป็นบิสิเนส เดเวลอปเมนต์ ร้านอาหาร และมีโปรเจกต์ใหม่ด้วยกัน เกี่ยวกับการพัฒนา เดเวลอปเมนต์ จะเป็นคนทั่วไป หรือ องค์กร ผู้ประกอบการ,ความรักครั้งนี้เกิดจากการร่วมงานกัน?,พอล ไม่นะ เริ่มต้น ไม่คิดว่าเราจะทำงานร่วมกันด้วยซ้ำไป เราแค่ชอบเขา เจอกันที่งานไหนสักงานนึง มากกว่าหนึ่งงานแน่ๆ และเรามีเพื่อนของเพื่อนที่รู้จักกันหลายคน พอเจอเขาก็ชอบเขา ก็ไปส่องในเฟซบุ๊กเขา อยู่หลายปี ค่อยติดต่อทักเขาไป,เจอแล้วประทับใจพอลเลยไหม?,ฟอว์น ครั้งแรกน่าจะยังไม่ทันสังเกตเนอะ เจอกับแว้บๆ ตามงานอีเวนต์คนเยอะมาก ถามว่าเขาจีบนานไหม ก็นานนะ แล้วไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเขาจีบ เขามาคุยในฐานะเพื่อน,ระยะเวลาในการศึกษาดูใจ?,พอล ประมาณ 5 ปีนะ,สำหรับคู่เราถือว่าเป็นคู่ที่หวานมั้ยตลอดเวลาที่คบกัน 5 ปี?,พอล ก็มีบ้าง เราเป็นคู่ที่เข้าใจกันมากกว่า เราแทบไม่เคยทะเลาะกันเลยตั้งแต่คบกันมา มีทะเลาะกันเรื่องเดียวคือเรื่องกิน คือเกี่ยงกันว่ากินอะไรดี ช่วยคิดหน่อยนี่คือทะเลาะที่สุดแล้วของเรา นอกนั้นไม่มี ผมว่าเราเป็นคู่ที่เข้าใจกัน เราเป็นมากกว่าคนที่รักกัน เราเป็นเพื่อนที่สนับสนุนซึ่งกันและกันด้วย อยู่ด้วยกันทั้งยามดียามร้าย ก็ไม่รู้ว่าเรียกว่าหวานมั้ย โดยรวมเราเป็นคู่ที่มีความสุขแล้วกัน,ฟอว์นประทับใจอะไรในตัวพอลถึงเลือกให้เขาเป็นคู่ชีวิต?,ฟอว์น เขาเป็นคนนึงที่มีหัวใจที่ดี เขาเป็นผู้ให้ ฟอว์นชอบที่เขาเป็นคนสุภาพ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เขาก็ยังเหมือนเดิม เขาอยู่กับเราในวันที่ดีที่สุดและก็แย่ที่สุดเขาก็ยังอยู่กับเรา ที่สำคัญประทับใจที่เขาเป็นคนที่รักคุณแม่มาก และด้วยความที่เราก็รักครอบครัว ฟอว์นก็รู้สึกว่าคุณแม่เขาก็รักเรา ครอบครัวเราก็รักเขา,พอลล่ะทำไมถึงต้องเป็นผู้หญิงคนนี้?,พอล เขามีหลายคุณสมบัติครับ แน่นอนเลยคือเขาเป็นคนดี จิตใจดี ไม่เคยพูดร้ายถึงใครเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบมาก เขาเป็นคนห่วงใยคน พูดถึงเพื่อนในทางที่ดี ปฏิบัติกับพ่อแม่อย่างดี เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คนรอบตัวเขาเล็กๆ น้อยๆ เขาดูแลหมด เป็นคนไม่งี่เง่า เขาเป็นคนที่คอยสนับสนุนเราตลอดไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร จะดีจะแย่เขาก็ยังอยู่กับเรา ผมจะชอบเรียกเขาว่า sunshine ก็คือพระอาทิตย์ขึ้น เวลาอยู่กับเขาเรารู้สึกเหมือนช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เป็นแสงสว่างให้เรา.
เตรียมตัวเป็นว่าที่เจ้าบ่าวอีกคนของวงการบันเทิงปลายปีนี้แน่นอนแล้วสำหรับอดีตนักแสดง-พิธีกรหนุ่ม พอล ภัทรพล หลังจากทำเซอร์ไพรส์ขอ ฟอว์น ไปยดา แต่งงานเมื่อ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
พอล ภัทรพล,ฟอว์น ไปยดา มหิทธนันท์,พอล ภัทรพล แต่งงาน,พอล ภัทรพล แฟน,พอล ภัทรพล ฟอว์น,กอสซิป
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1287757
เดือดกรุงมาดริด โด้นำทัพ ราชัน เปิดบ้านซัด ตราหมี ตัดชปล.เลกแรก
(อังคาร 2 พ.ค.) เกมนี้ เรอัล มาดริด จะส่งคริสเตียโน โรนัลโด กับ คาริม เบนเซมา ลงวัดความคมในการทำประตูกับอองตวน กรีซมันน์ และเฟอร์นันโด ตอร์เรส คู่หัวหอกของแอตฯมาดริด เริ่มเตะ 01.45 น. ถ่ายทอดสดทางทรูบีอินสปอร์ต 1,ศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรปถ้วยใหญ่ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2016-17 เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว โดยคืนนี้ (อังคาร 2 พ.ค.) จะเป็นเกมตัดเชือกนัดแรก คู่ระหว่าง ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด แชมป์เก่า จะเปิดรังซานติอาโก เบอร์นาบิว ทำศึกสายเลือดปะทะ ตราหมี แอตเลติโก มาดริด รองแชมป์เก่า เริ่มเตะเวลา 01.45 น. ถ่ายทอดสดทางทรูบีอิน สปอร์ต 1 (676),ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศด้วยการเอาชนะ เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิก ยอดทีมแห่งเมืองเบียร์ ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 6-3 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ขณะที่ ตราหมี แอตเลติโก มาดริด พิชิต จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลงได้ด้วยสกอร์รวม 2-1 ในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ,สำหรับเกมนี้ ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ทีมของซีเนอดีน ซีดาน กุนซือชาวฝรั่งเศส อาจจะไร้กาเร็ธ เบล ปีกทีมชาติเวลส์ ที่มีอาการบาดเจ็บ แต่ยังมีคริสเตียโน โรนัลโด กองหน้าทีมชาติโปรตุเกส กับคาริม เบนเซมา หัวหอกทีมชาติฝรั่งเศส ลงล่าตาข่าย พร้อมทั้งมีโทนี โครส, ลูกา โมดริช และอิสโก ช่วยกันปั้นเกมรุก,ส่วนทางด้าน ตราหมี แอตเลติโก มาดริด ภายใต้การคุมทัพของดีเอโก ซิเมโอเน เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ จะจัดเฟอร์นันโด ตอร์เรส, ยานนิก คาร์ราสโก และอองตวน กรีซมันน์ เป็นสามประสานแดนหน้า คอยฉีกแนวรับราชันชุดขาว,สำหรับแนวโน้มเกมนี้ คาดว่าทั้งสองทีมจะเปิดเกมรุกแลกหมัดกันอย่างสนุก แต่เชื่อว่า เรอัล มาดริด จะเป็นฝ่ายเบียดเอาชนะแอตฯมาดริดได้อย่างหวุดหวิด กุมความได้เปรียบก่อนในนัดแรก
ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด แชมป์เก่า จะเปิดรังซานติอาโก เบอร์นาบิว ทำศึกสายเลือดรับมือ ตราหมี แอตเลติโก มาดริด รองแชมป์เก่า ในศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก คืนนี้
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก,เรอัล มาดริด,ราชันชุดขาว,ตราหมี,แอตเลติโก มาดริด
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/eufa/928496
รวมตัวร้องศาลฯ จี้ปรับเหลื่อมล้ำเพดานเงินเดือน ขรก.
เมื่อวันที่ 1 ส.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานศาลปกครอง ตัวแทนภาคีเครือข่ายข้าราชการพลเรือนไทย สหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย และสหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทย ประมาณ 200 คน นำโดย น.ส.มัลลิกา ลุนจักร์ ประธานสหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทย และนายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย เดินทางมาให้ถ้อยคำต่อศาลปกครองกลาง ตามหมายเรียกเพื่อให้การข้อเท็จจริง ในคดีที่ น.ส.มัลลิกา และพวก 113 ราย ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ และพวกรวม 9 ราย กรณีความเหลื่อมล้ำของเงินเดือนและค่าตอบแทนอื่นๆ รวมทั้งความเจริญก้าวหน้าในอาชีพข้าราชการพลเรือนสามัญที่แตกต่างจากข้าราชการกลุ่มอื่นๆ, โดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีสั่งการเร่งด่วนหรือคำสั่งในฐานะหัวหน้า คสช. เพื่อแก้ปัญหาระบบค่าตอบแทนของข้าราชการทุกประเภท และขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งที่ผู้ถูกฟ้องและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กระทำการที่ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียม เกิดความเหลื่อมล้ำเรื่องเงินเดือนขึ้น และขอให้เพิกถอน กฎ ระเบียบ ที่เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนระบบบริหารงานบุคคลจากระบบจำแนกตำแหน่งตามระดับ (ซี) ไปสู่ระบบการจำแนกประเภทตำแหน่ง(แท่ง) ของข้าราชการประเภทต่างๆ รวมทั้งขอให้ยุติเรื่องเพดานเงินเดือนของข้าราชการทุกประเภท และขอให้ตั้งคณะกรรมการกลางอิสระว่าด้วยค่าตอบแทนรัฐขึ้นมาพิจารณา เพื่อปรับโครงสร้างอัตราเงินเดือนและค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐทั้งระบบ ,นอกจากนี้ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีเยียวยาความเสียหาย และเชิดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการใช้อำนาจทางปกครอง เลือกปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมาย และละเว้นละเลยหรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร,โดย นายบุญญฤทธิ์ กล่าวว่า ภาคีเครือข่ายข้าราชการพลเรือนไทยได้ร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แก้ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำของเงินเดือน และเงินตอบแทนอื่นๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทางกลุ่มจึงฟ้องคดีต่อศาลปกครอง เพราะเชื่อว่าศาลปกครองจะให้ความยุติธรรมได้ ทั้งนี้ไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไรนั้น ทางกลุ่มก็พร้อมยอมรับ
ปลัดอำเภอ-พยาบาล รวมตัวให้ถ้อยคำศาลปกครอง ปมฟ้อง นายกฯ-ขุนคลัง เรื่องความเหลื่อมล้ำเงินเดือน-ค่าตอบแทน
null
เงินเดือน ขรก.,ปรับเงินเดือน,มัลลิกา ลุนจักร์,ศาลปกครอง,ร้องศาลปกครอง,เพดานเงินเดือน,ความเหฃื่อมล้ำ,ปลัดอำเภอ,พยาบาล,สหพันธ์ปลัดอำเภอฯ,สหภาพพยาบาลฯ,ค่าตอบแทน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/678512
ทริกเลือก กางเกงยีนส์ ให้เหมาะกับหุ่น
แฟชั่น, สุดแสนมิกซ์แอนด์แมตช์ง่าย ที่คุณผู้หญิงควรมีติดตู้เสื้อผ้า ซึ่งเกริ่นมาขนาดนี้แล้วก็ขอดูมือสาวๆ ที่มี ติดตู้ไม่ต่ำกว่า 2 ตัวหน่อยค่ะ ก็ถ้าจะให้พูดถึงเรื่องนี้ ,Thairath Women, เข้าใจคุณสาวๆ ดีอย่างลึกซึ้งเลยทีเดียวค่ะ เพราะส่วนตัวแล้วก็เป็นอีกหนึ่งผู้หญิงที่ชื่นชอบ และหลงรักกางเกงยีนส์เป็นอย่างมากเหมือนกัน ชนิดที่ว่าเจอแบรนด์ดังคลอดคอลเลกชั่นใหม่เมื่อไร ก็ต้องควักเงินจ่ายอยู่ร่ำไปทุกที,แต่ถึงจะหลงรัก และชื่นชอบกางเกงยีนส์ขนาดไหน คุณสาวๆ ก็ต้องเผื่อใจไว้หน่อยนะคะ ว่ากางเกงยีนส์ในแต่ละทรง ก็ไม่ได้เกิดมาเพื่อเราเสมอไป ฉะนั้นในวันนี้ ,Thairath Women, จะแนะนำวิธีการเลือก ,กางเกงยีนส์, ให้เหมาะกับรูปร่างของคุณกัน และไม่ว่าคุณสาวๆ จะมีหุ่นแบบใด ไอเทมสุดคลาสสิกอย่างกางเกงยีนส์จะเข้ามาช่วยเสริมลุคให้มายซิสทุกคนดูดีขึ้นได้อย่างแน่นอน ,อันดับแรก อยากให้เพื่อนๆ เริ่มสำรวจสรีระร่างกายของตัวเองกันก่อน เพื่อที่คุณสาวๆ จะได้เลือกทรงของกางเกงยีนส์ให้เหมาะกับหุ่นของตัวเอง ว่าแล้วก็ส่องกระจกดูซิ เรือนร่างของคุณนั้นเป็นรูปทรงไหนกัน?,หุ่นของคุณเป็นแบบไหน? ,หุ่นทรงตรง,สาวๆ ที่เรือนร่างไร้ทรวดทรงไหล่ เอว และสะโพกดูเท่าเทียม เสมอกันไปหมดนั้น คุณคือผู้หญิงที่มีหุ่นทรงตรง หรือหุ่นทรงกระบอกค่ะ ซึ่งรูปร่างอาจจะดูแมนไปสักหน่อย แต่ไม่ต้องกังวลไปนะ เพราะคุณสามารถเลือกทรงกางเกงยีนส์ที่เสริมบุคลิกให้กับตัวเองได้,หุ่นทรงลูกแพร์,คุณผู้หญิงที่มีหุ่นทรงลูกแพร์ ถึงแม้ช่วงบนอย่างไหล่ และหน้าอกจะมีขนาดเล็ก แต่ข้อดีของสาวๆ หุ่นนี้ก็คือการมีเอวที่เล็กคอด และสะโพกผายน่ามองนั่นเอง ถือเป็นผู้หญิงที่มีส่วนเว้า ส่วนโค้งสวยงามกำลังดีเลยแหละ ,หุ่นทรงแอปเปิ้ล,หุ่นทรงแอปเปิ้ล คือสาวๆ ที่มีเรือนร่างด้านบนมีขนาดใหญ่ พูดให้เห็นภาพก็อย่างเช่น ไหล่กว้าง หน้าอกบิ๊กบึ้ม และช่วงเอวหนาค่ะ แต่ส่วนล่างอย่างช่วงสะโพกและขา จะมีขนาดที่เรียวเล็กกว่าด้านบนนั่นเอง มองง่ายๆ ก็รูปทรงสามเหลี่ยมเลยค่ะ,หุ่นทรงนาฬิกาทราย,ผู้หญิงคนใดมีหุ่นทรงนาฬิกาทราย คุณคือสตรีที่น่าอิจฉาที่สุดในสามโลก ด้วยความบาลานซ์ของสรีระ สัดส่วนช่วงเอวที่คอดเล็ก หน้าอกและสะโพกเท่ากัน ซึ่งเป็นหุ่นที่เซ็กซี่ และเพอร์เฟกต์มาก,ทรงกางเกงยีนส์,Skinny Jeans,กางเกงยีนส์กางเกงขาเดฟสุดฟิตเข้ารูปที่เราคุ้นชิน อีกหนึ่งทรงกางเกงยอดนิยมของสาวไทย ด้วยเป็นทรงกางเกงที่หาซื้อได้ง่าย และแมตช์กับเสื้อผ้าได้ทุกสไตล์นั่นเอง,Bootcut Jeans,กางเกงยีนส์ขาม้า ทรงกางเกงที่มีลักษณะช่วงต้นขาจะพอดีกับตัว และช่วงปลายขาบานออกเล็กน้อย ซึ่งกางเกงยีนส์ขาม้าได้รับความนิยมอย่างมากเมื่อช่วงปี 60s แต่แฟชั่นในปีนี้กางเกงยีนส์ทรงนี้วนกลับมาเป็นเทรนด์ฮิตประจำปีนะจ๊ะ,Bell-Bottom Jeans,มาถึงกางเกงยีนส์ขากระดิ่งกันบ้าง ซึ่งเป็นทรงกางเกงที่มีขาบานมากที่สุด อาจจะมีความคล้ายคลึงกับกางเกงยีนส์ทรงขาม้า ที่จะฟิตในช่วงสะโพกและค่อยๆ บานออกตั้งแต่ช่วงเหนือเข่าลงมา แต่ต่างอยู่ตรงที่กางเกงทรงขากระดิ่งจะมีความกว้างในช่วงปลายขาที่มากกว่าขาม้านั่นเอง อาจจะไม่ใช่กางเกงทรงฮิต แต่มีติดตู้เสื้อผ้าไว้ก็ไม่เสียหายนะคะ,Straight Cut Jeans,กางเกงยีนส์ที่มีลักษณะขาตรงลงมาเป็นระนาบเดียวกันทั้งตัว ไม่มีการเข้ารูปกับช่วงขาเกิดขึ้นแบบนี้ เรียกว่ากางเกงยีนส์ขากระบอกหรือขาตรง ซึ่งจะเป็นกระบอกเล็ก หรือกระบอกใหญ่ ก็ขึ้นอยู่กับการดีไซน์ของเหล่านักออกแบบกันไป ซึ่งสาวๆ ที่ชอบความคลาสสิกกางเกงยีนส์ทรงนี้บอกเลยว่าเหมาะเป็นอย่างมาก,Tips : เลือกยีนส์ให้เหมาะกับหุ่น,เมื่อสาวๆ เริ่มทำการสำรวจสรีระร่างกายของตัวเองจนเข้าใจดีแล้ว แถมยังรู้จักกางเกงยีนส์ทรงต่างๆ ก็จะเป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก หากคุณสาวๆ มาตามกันต่อ ว่าหุ่นของคุณควรเลือกสวมกางเกงยีนส์แบบใดถึงจะช่วยเสริมลุค เสริมบุคลิกให้ตัวเองดูดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งทริกก็ไม่ยากเลยค่ะซิส ตามมาทางนี้รัวๆ,หุ่นทรงตรง,สาวหุ่นตรง ไหล่ เอว สะโพก เท่าเทียมกันไปหมด แต่ไม่ต้องเสียใจ เพราะหุ่นของคุณสามารถใส่กางเกงออกมาสวยทุกทรง โดยเฉพาะกางเกงที่มีดีเทลกระเป๋าๆ เยอะๆ หรือกางเกงทรงกระบอกหลวมๆ เพราะกางเกงทรงนี้จะช่วยพรางหุ่นให้คุณดูไม่ผอมแห้งจนเกินไปนั่นเอง,หุ่นทรงลูกแพร์,คุณสาวๆ หุ่นทรงลูกแพร์ ไหล่นิด หน้าอกหน่อย เอวคอดเล็ก แต่สะโพกผายน่ามอง คุณควรใส่กางเกงยีนส์ทรงขาม้า หรือกางเกงทรงขากระดิ่งที่มีดีเทลเป็นเอวสูงค่ะ เพราะกางเกงทรงเหล่านี้จะช่วยให้ขาของคุณสาวๆ ดูเล็กลง และช่วยเน้นช่วงขาและสะโพกให้ดูเพรียว เข้ารูปน่ามองมากยิ่งขึ้นนั่นเอง,ไหล่กว้าง หน้าอกบิ๊กบึ้ม ช่วงเอวหนา แต่ส่วนล่างอย่างช่วงสะโพกและขามีขนาดที่เรียวเล็ก ลองเลือกสวมใส่กางเกงยีนส์อย่างทรงกระบอกที่เอวไม่สูงหรือต่ำจนเกินไปดูสิคะ รับรองว่าช่วยเสริมลุคให้คุณดูดีได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียวค่ะ,หุ่นทรงนาฬิกาทราย,สุดท้ายที่สาวๆ หุ่นทรงนาฬิกาทราย คุณขา คุณช่างเกิดมามีบุญเหลือเกินค่ะ ซึ่งหุ่นสุดจะเพอร์เฟกต์แบบนี้ เลือกใส่กางเกงยีนส์ทรงไหนก็รอดอยู่แล้ว แต่จะให้ดีการเลือกใส่กางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ กางเกงยีนส์ทรงขากระบอกเล็กสีเข้มก็เป็นการช่วยให้เห็นส่วนเว้า ส่วนโค้งของสรีระได้อย่างชัดเจน ซึ่งส่วนนี้เพิ่มความเซ็กซี่ได้แบบทวีคูณเลยค่ะ,เมื่อสาวๆ รู้ทริกดีๆ แบบนี้แล้ว ก็ไปตามหาไอเทมกางเกงยีนส์มาแมตช์ให้เข้ากับหุ่นให้ไวเลยนะคะ จะไปเป๊ะปังทุกวัน และทุกๆ รันเวย์ที่ก้าวเดิน ที่สำคัญติดตามเรื่องราว ,แฟชั่น, และ ,ผู้หญิง, อื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ ,Thairath Women, นะคะ บัยส์.,ใส่ยีนส์ให้เก๋ เท่ก่อนใคร เลือกยีนส์ให้เหมาะกับตัวคุณ เลือกช้อปได้ก่อนใคร ,ส่วนลด konvy,บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ,แค่ดื่มน้ำให้ถูกวิธี ก็ ลดน้ำหนัก ลงได้,Girl Crush สไตล์ แฟชั่น ลิซ่า BLACKPINK ที่คุณก็แต่งตามได้,ม่วงลาเวนเดอร์-เหลืองมัสตาร์ด 5 สีมาแรง แต่งตามสุดอินเทรนด์
คุณจะสนุกกับการมิกซ์แอนด์แมตช์มากยิ่งขึ้น เมื่อ Thairath Women มีทริกในการเลือก กางเกงยีนส์ ให้เหมาะกับรูปร่างมาแนะนำ แล้วคุณจะหลงรักไอเทมสุดคลาสสิกชิ้นนี้มากกว่าเดิม
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
แฟชั่น,เทรนด์แฟชั่น,เทรนด์แฟชั่น2019,กางเกงยีนส์,แต่งตัว,สไตล์การแต่งตัว
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/fashion/1593523
นิวซีแลนด์เตรียมรำลึก 1 ปีแผ่นดินไหวที่เมืองไครซ์เซิร์ซ
ชาวนิวซีแลนด์ในเมืองไครซ์เชิร์ช เตรียมจัดพิธีรำลึก 1 ปีเหตุแผ่นดินไหว 6.3 ริคเตอร์ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554 ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงแก่อาคาร และสิ่งปลูกสร้างทั้งเมือง รวมทั้งทำให้ตึกถล่มจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 184 คน แม้เหตุการณ์จะผ่านไปแล้ว 1 ปี แต่ชาวเมืองหลายคนยังคงขวัญผวาเมื่อนึกถึงวันที่เกิดแผ่นดินไหวขึ้นเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาเพิ่งมีการเปิดเผยผลการสอบสวนสาเหตุที่ทำให้อาคารสถานีโทรทัศน์ซีทีวีพังถล่ม โดยพบว่าอาคารดังกล่าวสร้างไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยที่บังคับใช้ ณ ปีที่ก่อสร้าง ทำให้ไม่สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวรุนแรงที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนก่อนแผ่นดินไหวครั้งหายนะ การถล่มของอาคารสถานีซีทีวี ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในเหตุแผ่นดินไหวครั้งนั้น เพราะอาคารดังกล่าวแบ่งให้โรงเรียนสอนภาษาเช่าทำการ ซึ่งผู้เสียชีวิตมีทั้งอาจารย์ชาวนิวซีแลนด์ และนักเรียนต่างชาติ รวมถึงคนไทยด้วย
ชาวนิวซีแลนด์เตรียมจัดพิธีรำลึก 1 ปีแผ่นดินไหวเมืองไครซ์เชิร์ช ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 184 คน
ต่างประเทศ
นิวซีแลนด์,รำลึก,แผ่นดินไหว,ไครซ์เซิร์ซ
https://news.thaipbs.or.th/content/67374
โปรโมเตอร์ เส้นทางมวยเส้นใหม่ของ บัวขาว บัญชาเมฆ
จากบทบาทนักมวย บทบาทเจ้าของค่ายมวย และล่าสุด แม้จะได้ชื่อว่า มีบทบาทเป็นโปรโมเตอร์อย่างเต็มตัวแล้ว แต่ บัวขาว บัญชาเมฆก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ด้วยการฝึกซ้อมอยู่ที่ค่ายบัญชาเมฆของตัวเอง ย่านพระราม 9 เหมือนเช่นที่ผ่านมาบัวขาวบอกว่าการเป็นทั้งนักมวยและโปรโมเตอร์ในเวลาเดียวกันอาจต้องเหนื่อยกว่าโปรโมเตอร์คนอื่นๆ เพราะนอกเหนือจากการฝึกซ้อมบนเวทีผ้าใบแล้ว นอกสังเวียนเค้าก็ยังต้องศึกษาความรู้เพิ่มเติมจากผู้มีประสบการณ์อย่างรอบด้าน โชคดีที่มีผู้ใหญ่คอยให้การสนับสนุน ซึ่งก็ทำให้เค้ามีความสุขมาก เพราะสามารถทำให้ความฝันของตัวเองเป็นจริงได้อีกหนึ่งอย่าง แม้จะยอมรับว่าตื่นเต้นไม่น้อยกับบทบาทใหม่นี้ก็ตามการตัดสินใจเดินหน้าเป็นผู้จัดหรือโปรโมเตอร์ บัวขาวยอมรับว่ายากและซับซ้อนกว่าที่คิดมาก ยิ่งเป็นมวยไทยรายการใหญ่ที่เพียงทัวร์นาเม้นท์แรกก็ใช้งบประมาณหลายล้านบาทก็ยิ่งต้องวางแผนให้ดี แต่สิ่งที่ทำให้บัวขาวมีแรงฮึดก็คือ ความตั้งใจที่เค้าอยากจะพิสูจน์ให้เห็นว่า โปรโมเตอร์ต้องสามารถสร้างความยุติธรรมกับนักมวยได้ในทุกเรื่องแม็ก เวิลด์ แชมป์เปี้ยน เป็นรายการมวยไทยที่ใช้นักชกไทยและต่างชาติเข้าร่วมการแข่งขัน รูปแบบคล้ายไทยไฟท์ โดยปีนี้มีทั้งหมด 5 ทัวร์นาเม้นท์ ซึ่งนอกจากทัวร์มาเม้นท์แรก ที่จังหวัดสุรินทร์บ้านเกิดของบัวขาวในวันที่ 6 พฤษภาคมแล้ว อีก 4 ทัวร์นาเม้นท์ บัวขาวเล็งเป้าไปที่ อังกฤษ ญี่ปุ่น รัสเซีย และกรุงเทพมหานคร โดยบัวขาวจะขึ้นชกโชว์เพื่อสร้างสีสันเท่านั้น เนื่องจากหากลงแข่งขันอย่างเป็นทางการอาจจะผิดสัญญากับไทยไฟท์ที่บัวขาวมีสัญญายาวไปจนถึงปลายปี 2014 และตามคิวที่วางไว้ บัวขาวซึ่งเป็นแชมป์ไทยไฟท์มา 2 สมัย จะต้องขึ้นชกไทยไฟท์ 2013 ไฟต์เดือนตุลาคมด้วยทั้งนี้ บัวขาวยืนยันว่าสัญญาของเค้ากับไทยไฟท์ ไม่มีผลต่อการมาทำหน้าที่ผู้จัดอย่างแน่นอน และเค้าจะพยายามทำให้มวยไทย แม็กซ์ เวิลด์ แชมป์เปี้ยน เป็นที่ยอมรับไม่แพ้ไทยไฟท์ ซึ่งขณะนี้มีสปอนเซอร์เข้ามาสนับสนุนแล้วอย่างน้อย 4 ราย และได้วางแผนล่วงหน้าสำหรับมวยรายการนี้ไว้ถึง 3 ปีเลยทีเดียว
การเป็นโปรโมเตอร์ ถือเป็นอีกหนึ่งความฝันของนักมวยไทยชื่อดังลำดับต้นๆของเมืองไทย อย่างบัวขาว บัญชาเมฆ เพราะเป็นงานท้าทายและสร้างความคาดหวังให้กับเจ้าตัวที่จะทำให้มวยรายการนี้เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ที่สำคัญเค้าอยากใช้ประสบการณ์อันเลวร้ายในอดีต มาสร้างความยุติธรรมให้กับนักมวยทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันอีกด้วย
กีฬา
บัวขาว บัญชาเมฆ,โปรโมเตอร์
https://news.thaipbs.or.th/content/164100
ดีเอสไอให้กำลังใจภรรยา บิลลี่ รับปากหาคนผิดมาลงโทษ
ความคืบหน้ากรณีดีเอสไอพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันการเสียชีวิตของนายพอละจิ รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ที่หายตัวไปนาน 5 ปีวันนี้ (5 ก.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการ ลงพื้นที่ที่บ้านป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เพื่อพบกับ น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยาของบิลลี่ โดยให้กำลังใจและแจ้งผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการมึนอ พูดคุยกับ พ.ต.ท.กรวัชร์ โดยกังวลว่าดีเอสไอจะถูกอำนาจที่มองไม่เห็นแทรกแซงกระบวนการทำงาน จึงอยากให้ดีเอสไอทำคดีนี้อย่างเต็มที่ขณะที่ พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ดีเอสไอจะไม่จบการทำงานแค่พบบิลลี่ แต่จะทำให้ถึงที่สุดและเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ โดยช่วงบ่าย พ.ต.ท.กรวัชร์ มีกำหนดเดินทางไปที่ สภ.ป่าเด็ง ซึ่งคาดว่าจะมีการแถลงความคืบหน้าของคดีอีกครั้ง
พ.ต.ท.กรวัชร์​ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ ลงพื้นที่ให้กำลังใจภรรยา บิลลี่ พร้อมสืบสวนสอบสวนทางคดีเพิ่มเติม ยืนยันจะทำงานให้ดีที่สุดและนำตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้
อาชญากรรม
ดีเอสไอ,บิลลี่,แก่งกระจาน,มึนอ
https://news.thaipbs.or.th/content/283805
ผู้ว่าฯกทม.ค้างคืนสนามฟุตซอล ติดตามคืบหน้าก่อสร้างก่อนส่งมอบ
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มานอนค้างที่สนามบางกอกฟุตซอลอารีน่า เพื่อตรวจดูการทำงาน และให้กำลังใจ เลี้ยงอาหารทีมงานกว่า 3400 คน ที่ร่วมกันก่อสร้างสนาม ความคืบหน้าขณะนี้การวางระบบน้ำ ไฟ แอร์ เตรียมพร้อมใช้งาน รวมถึงที่นั่ง หลังคา ได้ติดตั้งครบทั้งหมด เหลือเพียงพื้นสนามที่จะเดินทางมาถึงเมืองไทยในวันที่ 25 ตุลาคม และใช้เวลาอีก 3 วันในการปู จะเสร็จ แต่ภูมิทัศน์ภายนอกอาจไม่สวยงามเหมือนในแบบแต่จะมีการปรับในช่วง 2 วันสุดท้ายคณะฟีฟ่าชุดใหญ่จะเดินทางมาถึงกรุงเทพมหานครในวันเสาร์นี้(20 ต.ค.)เพื่อตรวจสนามและตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะใช้สนามบางกอกฟุตซอลอารีน่าแข่งขันในฟุตซอลโลกหรือไม่ นอกจากนั้นในวันพรุ่งนี้(17 ต.ค.)นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตซอลโลก พร้อมกับ สมาคมฟุตบอลจะเดินทางไปตรวจความพร้อมอาคารนิมิตบุตร กับ อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมากที่จะใช้ในพิธีเปิดวันที่ 1 พฤศจิกายน
ก่อนส่งมอบสนามบางกอกฟุตซอลอารีน่าที่หนองจอก 4 วัน จะมีการส่งมอบให้กับฟีฟ่า เรื่องระบบภายในอาคารในวันที่ 20 ตุลาคม แต่พื้นสนามจะต้องรอนำเข้ามาจากต่างประเทศในสัปดาห์หน้า
กีฬา
คืบหน้า,ค้างคืน,ติดตาม,ผู้ว่าฯกทม.,สนามฟุตซอล,ส่งมอบ
https://news.thaipbs.or.th/content/118792
มติครม.อนุมัติเงิน 3200 ล้าน สร้างเขื่อนรอบ 6 นิคมฯ
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติงบประมาณ 3200 ล้านบาท เพื่อทำเขื่อนป้องกันนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 6 แห่ง โดยรัฐบาลออกงบประมาณ 2 ใน 3 และนิคมฯ ออกอีก 1 ส่วน ตามข้อเสนอของกระทรวงอุตสาหกรรม คาดว่าอีกไม่เกิน 2 เดือนจะมีเขื่อนป้องกันรอบนิคมที่สูง และแข็งแรงทั้งนี้คณะรัฐมนตรีอนุมัติพื้นที่แก้มลิง เพื่อกักน้ำ 2.1 ล้านไร่ เก็บน้ำได้ 5100 ล้านลูกบาตรเมตร อยู่ในเขตชลประทาน 900000 ไร่ นอกเขตชลประทาน 1.2 ล้านไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำมาก และน้ำท่วมเป็นปกติ เกษตรกรจะไม่เพาะปลูกหน้าน้ำ โดยยังไม่ได้มีการหารือเรื่องการประเมินตัวเลขค่าชดเชย โดยจะให้ผู้ว่าราชการไปคุยกับประชาชนในพื้นที่ ส่วนพื้นที่ทิ้งน้ำ ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณ 610 ล้านเพื่อปรับโครงสร้างพื้นฐาน ให้สามารถควบคุมน้ำได้ทั้งเข้า และออก เช่นประตูระบายน้ำ ซึ่งจะช่วยกักเก็บน้ำได้ 5100 ล้านลูกบาตรเมตรอย่างแน่นอน โดยงบประมาณดังกล่าวเป็นเงินกู้ตาม พ.ร.ก.กู้เงินพัฒนาประเทศ 3.5 แสนล้านบาท นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีแบ่งงานให้รัฐมนตรีทั้ง 35 คน ติดตาม และควบคุมการบริหารจัดการน้ำเป็นรายจังหวัด ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยไม่เกิน 2 สัปดาห์ นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ติดตามปัญหาเรื่องการกักเก็บน้ำ ซับน้ำ และระบายน้ำ รายจังหวัดตั้งแต่ ภาคเหนือตอนบน-ภาคกลางตอนล่าง
ปลอดประสพ เผยมติครม.อนุมัติเงิน 3200 ล้านบาท เพื่อสร้างเขื่อนป้องกันนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 6 แห่ง โดยภาครัฐออกให้ 2 ส่วน และนิคมอุตสาหกรรมออกอีก 1 ส่วน คาดว่าไม่เกิน 2 เดือนจะแล้วเสร็จ
การเมือง
คณะรัฐมนตรี,นิคมอุตสาหกรรม,น้ำท่วม,ปลอพประสพ สุรัสวดี,เขื่อน
https://news.thaipbs.or.th/content/89361
วิษณุ เชื่อมือ สุวพันธุ์ จัดการคดี ธัมมชโย เพราะเคยดูแล พศ.
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 22 ธ.ค. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม เข้าพบเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ว่า ไม่ได้มอบหมายงานอะไร ตนเป็นแค่รักษาการ แต่ได้ปรารภปัญหาในช่วงที่รักษาการ 2 สัปดาห์ ได้ยินจากเจ้าหน้าที่ในกระทรวงมาบ่นให้ฟัง ก็เล่าต่อให้ นายสุวพันธุ์ ฟังเพื่อนำไปแก้ปัญหา แต่ไม่ขอบอกว่าคืออะไร,เมื่อถามว่า นายสุวพันธุ์ ได้ขอคำปรึกษาข้อกฎหมายคดีพระธัมมชโยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี ท่านรู้ดีกว่าตน ปัญหาเรื่องนี้ไปคาบเกี่ยวกับตำรวจเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จะไปบอกว่าเป็นหน้าที่กระทรวงยุติธรรม เพราะดูแลดีเอสไอก็ไม่ใช่ เพราะดีเอสไอมีคดีแค่ 2 คดี นอกนั้นเป็นของตำรวจ ตนก็ดีใจว่า นายสุวพันธุ์ เคยกำกับดูแล พศ. ก็จะดึง พศ.ไปประสานกับกระทรวงยุติธรรมได้มากขึ้น,ขออย่าไปตำหนิว่าที่แล้วมาไม่ได้ทำอะไร ท่านทำเยอะ ของอย่างนี้ไม่ต้องบอกกัน ไม่ต้องโฆษณา ถ้าไม่ทำ นายกฯ คงตำหนิไปนานแล้ว แต่นายกฯ ไม่เคยตำหนิเลย นายกฯ เข้าใจว่าได้ทำอยู่.
วิษณุ เชื่อมือ สุวพันธุ์ แก้ปมคดี ธัมมชโย เพราะเคยกำกับดูแล พศ. จะได้ไปประสานกับกระทรวงยุติธรรมได้มากขึ้น วอนอย่าไปตำหนิว่าไม่ได้ทำอะไร
null
ธัมมชโย,ธรรมกาย,จับ ธัมมชโย,วิษณุ เครืองาม,สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ
https://www.thairath.co.th/content/819105
จับกลางห้าง หนุ่มตกงาน วิ่งราวทองร้านออโรร่า
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 21 ก.พ. พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งว่า มีคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวสร้อยข้อมือทองคำ จากห้างเพชรทอง ออโรร่า ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี พัทยาใต้ ถนนสุขุมวิท ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดย รปภ.และเจ้าหน้าที่ประจำห้างฯ ช่วยกันจับตัวคนร้ายไว้ได้ หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ,เมื่อไปถึง พบเจ้าหน้าที่ประจำห้างฯ ได้ช่วยกันควบคุมตัวคนร้าย ทราบชื่อต่อมาคือ นายมงคล บัวผัน อายุ 25 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 111 ม.7 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พร้อมด้วยของกลางสร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาท จำนวน 2 เส้น มูลค่า 115,000 บาท,โดยมี น.ส.นวพร พลจาร อายุ 22 ปี พนักงานขายของห้างเพชรทอง ออโรร่า ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะร้านกำลังใกล้จะปิด คนร้ายได้มาเลือกซื้อสร้อยข้อมือถึง 2 รอบ โดยรอบแรกมาทำทีเลือกซื้อ แต่ทำท่าว่าไม่ถูกใจ จากนั้นเดินออกจากร้านไป ทิ้งช่วงประมาณ 20 นาทีก็ย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง โดยทำลักษณะเดิม เลือกซื้อสร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาท 2 เส้น เส้นแรกคนร้ายได้สวมเข้าที่ข้อมือ ส่วนอีกเส้นวางอยู่บนเคาน์เตอร์ พอสบโอกาสก็คว้าสร้อยข้อมือวิ่งหลบหนีไป ตนจึงร้องตะโกนให้เจ้าหน้าที่ของห้างช่วยกันจับกุม จนสามารถรวบตัวไว้ได้ดังกล่าว,ด้าน นายมงคล บัวผัน ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ ว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง สาเหตุเพราะไม่มีเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยหนัก ประกอบกับปัจจุบันตกงาน ด้วยความคิดชั่ววูบจึงลงมือก่อเหตุ เบื้องต้นตำรวจได้ตั้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์ ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
หนุ่มชาวหนองคาย มาอยู่พัทยากลายเป็นโจรวิ่งราวทรัพย์ ทำทีไปเลือกซื้อสร้อยข้อมือในร้านทองกลางห้างฯ เข้าไป 2 รอบ สวมไว้ 1 เส้น แล้วคว้าอีกเส้นที่วางไว้วิ่งหนีแต่ไม่รอด ถูก รปภ.ตะครุบไว้ได้ อ้างแม่ป่วยและตัวเองตกงาน
ข่าว,ทั่วไทย
วิ่งราวทอง,ชิงทอง,จับชิงทอง,ตกงานชิงทอง,บิ๊กซีพัทยา,พัทยา,ชลบุรี,ไทยรัฐ,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าว
https://www.thairath.co.th/news/local/482778
เล็งขยาย 6 เดือน ตรวจพิสูจน์แรงงาน 3 สัญชาติ
วันนี้ (20 ธ.ค.2560) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตรวจความคืบหน้าศูนย์ออกเอกสารรับรองบุคคลสัญชาติเมียนมาจังหวัดสมุทรปราการ ที่ศูนย์การค้าอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นศูนย์ที่ปรับใหม่จากศูนย์ฯ เทพารักษ์ โดยนำเอาชุดเคลื่อนที่เข้ามาเพิ่มเติมก่อนจะย้ายเครื่องมือทั้งหมดจากศูนย์ฯเทพารักษ์ ให้แล้วเสร็จในเดือนม.ค.2561 ช่วยพิ่มเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน อำนวยความสะดวกแก่นายจ้าง ลูกจ้าง และสร้างความคล่องตัวแก่ผู้มาใช้บริการให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นพล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ศูนย์แห่งนี้ สามารถเดินทางมาสะดวกทั้งทางรถยนต์ และรถไฟฟ้า จากการตรวจติดตาม พบว่าการจัดระบบดีขึ้น แต่จะปรับให้ดียิ่งขึ้นไปกว่านี้ โดยจะต้องมีการใช้บัตรคิวเดียวกันในทุกขั้นตอน จากเดิมใช้เวลาในการดำเนินการ 13-14 ชั่วโมง จะเหลือเพียงไม่เกิน 6 ชั่วโมงนอกจากนี้ กระทรวงแรงงาน จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี ให้ขยายระยะเวลาการดำเนินการตรวจพิสูจน์สัญชาติเมียนมา กัมพูชา และลาว ไปอีก 6 เดือน เพื่อยืดหยุ่นให้นายจ้างนำลูกจ้างต่างด้าว ที่ยังไม่ได้มาดำเนินการตรวจพิสูจน์สัญชาติ เร่งรีบมาดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เตรียมนำเสนอครม. ขยายระยะเวลาการตรวจพิสูจน์แรงงานสัญชาติเมียนมา กัมพูชา และลาวอีก 6 เดือน เพื่อยืดหยุ่นให้นายจ้างนำลูกจ้าง เข้าระบบการตรวจพิสูจน์สัญชาติ
สังคม
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว,กระทรวงแรงงาน,เมียนมา,สัญชาติ,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,สมุทรปราการ
https://news.thaipbs.or.th/content/268696
ทูตมะกัน ย้ำสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ หลังเลือกตั้งปธน. ยังแน่น ไม่ว่าใครชนะ
เมื่อวันที่ 3 พ.ย.59 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์ เอกอัครราชทูตประเทศสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยภายหลังเข้าพบ ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า นายกลิน ได้มาเยี่ยมเยือนพร้อมแสดงความอาลัยร่วมกับประชาชนคนไทยอีกครั้งหนึ่งในยามที่คนไทยมีความเศร้าโศก ต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถือเป็นความรักและความผูกพันที่มีกันมาของทั้งสองประเทศ และที่สำคัญคือความผูกพันที่สหรัฐฯ ที่มีต่อพระองค์ท่าน,       ,ด้าน นายกลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์ กล่าวว่า ตนมาในนามรัฐบาลสหรัฐฯ และในนามส่วนตัวด้วย ต้องขอบคุณที่ต้อนรับอย่างดีในยามที่ประเทศไทยอยู่ในความยากลำบากเช่นนี้ พร้อมมาร่วมแสดงความอาลัยทั้งในนามรัฐบาลและในนามส่วนตัว และ ม.ล.ปนัดดา ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลที่ช่วยอธิบายถึงความเป็นมาของประเทศไทยในช่วงแรกๆ ที่ตนมาประจำการที่นี่ จึงเกิดความรู้สึกว่าจะต้องมาแสดงความอาลัยให้ได้ก่อนที่จะหมดช่วงการแสดงความอาลัยภายใน 30 วัน,       ,ทั้งนี้สิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำได้ในฐานะทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย คือการสร้างความสัมพันธ์และให้เกียรติกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระองค์ได้สร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาแล้วถึง 12 คน และเพื่อเป็นเกียรติต่อพระองค์ท่าน จะสร้างความสัมพันธ์ต่อไปเพื่อเป็นเกียรติแด่พระองค์ท่านที่ได้ทำมาแล้ว บนพื้นฐานที่พระองค์ได้ทำไว้,       ,นายกลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์ กล่าวถึงทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐฯ หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า ทางเทคนิคยังให้ความเห็นไม่ได้ ต้องหลังเลือกตั้งให้รู้ผลใครแพ้ใครชนะก่อน แต่เชื่อว่าความสัมพันธ์ที่ฝังรากลึกยาวนานของทั้งสองประเทศ ไม่ว่าใครจะได้รับเลือกตั้งก็ยังคงมีต่อไปและยังพัฒนาให้แข็งแกร่งมากขึ้นด้วยซ้ำไป ไม่ว่าใครจะได้รับเลือกตั้งก็ตาม มันเป็นความสัมพันธ์ที่ผ่านมาสิบชั่วอายุคนแล้ว และจะยังคงดำเนินต่อไปในอนาคต ความสัมพันธ์ ความเป็นหุ้นส่วน ความเป็นมิตรของทั้งสองประเทศ เป็นสิ่งที่หามูลค่าไม่ได้ มีความล้ำค่ามาก ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในความร่วมมือด้านความมั่นคง การบังคับใช้กฎหมาย ที่ร่วมมือกันมาโดยตลอด จนไปถึงความร่วมมือด้านสาธารณสุขและการแพทย์ ความร่วมมือด้านธุรกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนและประชาชน,       ,ส่วนกรณีที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย ได้มีการแจ้งเตือนจะมีการก่อเหตุรุนแรงในลักษณะคาร์บอมบ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น ขณะนี้ สหรัฐฯ ยังไม่มีการแจ้งเตือนคนของสหรัฐฯ ที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยใดๆ ทั้งสิ้น และไม่ได้รู้สึกกังวล ได้มีการติดตามข่าวสารจากทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยที่มีการประกาศ แต่ก็ไม่ได้มีความกังวลอะไร.,       
ทูตสหรัฐฯ แสดงความไว้อาลัยต่อการสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในนามรัฐบาลสหรัฐฯ-ส่วนตัว ยันสร้างสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อเป็นเกียรติแด่ ในหลวง ร.9
null
ทูตสหรัฐฯ,ในหลวง,รัชกาลที่ 9,กลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์,ถวายความอาลัย,ไทย-สหรัฐฯ,ความสัมพันธ์,สหรัฐอเมริกา
https://www.thairath.co.th/content/772921
ระวังการเมืองจะทำโรดแม็ปพัง
เป้าเล็กไปสู่เป้าใหญ่ คือการดิสเครดิต ตัวบุคคลในรัฐบาลและผลงานของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชัน จริยธรรม ความซื่อสัตย์ สุจริต และธรรมาภิบาล,กลุ่มคนที่ออกมาเคลื่อนไหว ไม่ได้ผูกติดกับเสื้อแดงหรือเสื้อเหลือง หรือความขัดแย้งในอดีต แต่ดูเหมือนจะเป็นความขัดแย้งของ ขั้วอำนาจใหม่ อาจจะให้คำจำกัดความของ ขั้วอำนาจใหม่ จากเรื่องของผลประโยชน์และศัตรูร่วมกัน ไม่ได้จำแนกจากกลุ่มความขัดแย้งเดิม หรือเป็นกองหนุนเดิมของกลุ่มการเมืองใด,แต่เป็นการรวมตัวของกลุ่มเคลื่อนไหวการเมืองไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เอา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ไม่เอา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย,ที่ถูกมองว่าเป็นขั้วอำนาจใหม่,เพราะฉะนั้นความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากจุดเล็กๆ จึงไม่ใช่ระหว่าง ทหารกับนักการเมือง ไม่ใช่เสื้อแดงกับเสื้อเหลือง หรือไม่ใช่ นปช. กับ กปปส. โดยตรง,แต่เป็นการรวมการเฉพาะกิจที่มีเป้าหมายเดียวกัน,การเกิดเสื้อแดงขึ้นมาขับเคลื่อนทางการเมืองก็เพราะมีเสื้อเหลือง มาล้มรัฐบาลไทยรักไทย มี กปปส.ขึ้นมาไล่รัฐบาลเพื่อไทย มี นปช.ขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลประชาธิปัตย์ ล้วนแต่มีจุดกำเนิดเดียวกัน,คือการชิงอำนาจการเมือง,ถ้าวันนี้ ความเคลื่อนไหวทางการเมือง จะกลับไปสู่การชิงอำนาจทางการเมืองอีกระลอก วิกฤติการเมือง ก็จะกลับมาเหมือนเดิม การชิงอำนาจทางการเมืองก็จะกลับไปสู่บริบทเก่าๆ,และไม่ว่าใครจะชนะหรือแพ้ ก็ไม่เป็นผลดีกับประเทศทั้งสิ้น ผลเสียก็คือ ประเทศไทยจะติดหล่มจมปลัก ไปตลอดกาล ประเทศไทยจะล้าหลังลงทุกๆสิบปี,ดังนั้น ภารกิจหลักและเป็นภาระที่หนักของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะทำอย่างไรให้ บรรยากาศของการชิงอำนาจทางการเมือง สะเด็ดน้ำ และไม่เป็นเหยื่อของการชิงอำนาจเสียเอง,การเคลื่อนไหวทางการเมือง ประกอบด้วย การแสวงหาผลประโยชน์แฝงมากมาย หาประโยชน์จากความขัดแย้ง จากอำนาจและตำแหน่ง มีนักลากตั้ง มีนักฉวยโอกาส ที่ไม่อยากให้ประเทศกลับสู่ภาวะปกติ,เพราะเกรงว่าจะเสียผลประโยชน์และอำนาจที่มิควรได้,เรื่องเหล่านี้ไม่ได้วัดที่หน้าตาหรือต้นทุน ไม่ได้วัดที่การสร้างภาพ สร้างกระแส หรือเป็นคนที่มีหน้ามีตาในสังคม แต่วัดจากพฤติกรรมและการกระทำ ถ้ารัฐบาล คสช.เอาไม่อยู่ ก็อย่าไปถามหาโรดแม็ปให้เมื่อยตุ้ม.,หมัดเหล็ก,[email protected]
ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ในเวลานี้ต้องจับตาเป็นพิเศษ การขับเคลื่อนของกลุ่มการเมืองต่างๆ เป็นกระบวนการมากขึ้นตามลำดับ เป้าหมายอยู่ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยตรง
null
คาบลูกคาบดอก,หมัดเหล็ก,ระวังการเมืองจะทำโรดแม็ปพัง,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,โรดแม็ป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1189520
อึ้ง ทึ่ง สยิว 5 ปรากฏการณ์โซเชียลครองเมือง ปี57
วันเวลาหมุนผ่านไปไวยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ต 3 จี บนมือถือ เผลอแป๊บเดียวก็จะข้ามปีเปลี่ยนศักราชใหม่อีกครั้ง แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านเลยไปเร็วแค่ไหน เรื่องราวบนโลกโซเชียลฯ ทุกวันนี้กลับหมุนเร็วยิ่งกว่า คุณเชื่อมั้ยล่ะ? ลองนึกทบทวนถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาในรอบปีกันหน่อยดีกว่า อะไรเป็นกระแสฮอตฮิตโดนใจชาวโซเชียลฯ จนถึงขนาดทำให้เกิดกระแสการแชร์และพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์,ดูสิว่า เรื่องที่เรานึกถึง กับเรื่องที่คุณนึกไว้ในใจ มีเรื่องไหนที่คิดเหมือนกันหรือเปล่า?,Ice Bucket Challenge,ถ้าไม่ยกให้กระแสทำบุญแบบหนาวๆ ของไอซ์บัคเก็ตชาเลนจ์เป็นที่ 1 ในโลกโซเชียลฯ ก็ไม่รู้ว่ากระแสไหนจึงจะสมควรได้รับตำแหน่งไป เพราะกระแสฮิตเทน้ำแข็งราดตัวนี่ไม่ได้โด่งดังแค่ในประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เป็นกิจกรรมส่งต่อบุญไปทั่วโลก เริ่มต้นจากในต่างประเทศที่ต้องการจัดแคมเปญการกุศล หาเงินช่วยเหลือกลุ่มผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) จากนั้นเราจึงได้เห็นการทำไอซ์บัคเก็ต และถ่ายคลิปลงอินเทอร์เน็ต พร้อมติดแฮชแท็ก #IceBucketChallenge ก่อนจะส่งต่อคำท้าไปยังคนที่คุณต้องการชวนเข้าร่วมกิจกรรมบุญนี้อีก 3 คน ส่วนกระแสที่ทำให้ไอซ์บัคเก็ตฮิตในไทยนั้น ก็เป็นเพราะผู้คนทุกแวดวงต่างพากันทำบุญแบบหนาวๆ นี้ ทั้งศิลปิน นักแสดง ไม่เว้นแม้แต่นักธุรกิจ และประชาชนคนทั่วไป แถมยังมีการทำสถิติรวมคนทำไอซ์บัคเก็ตแบบหมู่ด้วย เรียกว่าอิ่มบุญทั่วทุกโซเชียลฯ สำหรับกิจกรรมนี้,ข่มขืน=ประหาร,กรณีนี้ไม่ต้องส่งต่อให้ใครมาร่วมกิจกรรม ก็ดูเหมือนคนไทยส่วนใหญ่จะพร้อมใจลงสิทธิ์ ออกเสียงไปในทิศทางเดียวกันทั้งนั้น จากเหตุสะเทือนใจที่เด็กหญิงวัยเพียง 13 ปี หายตัวไปอย่างลึกลับจากรถไฟ จนพบว่ากลายเป็นศพเปลือยอยู่ริมป่าหญ้าข้างทางรถไฟ เพราะเคราะห์ร้ายถูกฆาตกรใจโฉดฆ่าข่มขืน ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายออกมาเคลื่อนไหวพร้อมกันแบบไม่ต้องนัดหมาย เพราะต้องการให้บทลงโทษแห่งการกระทำที่เลวทรามนี้รุนแรงและสาสมกับความโหดเหี้ยมที่เกินมนุษย์เช่นนี้ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลกโซเชียลฯ นอกจากคำสาปแช่งให้คนผิดต้องตกนรกหมกไหม้ ยังมีการเชิญชวนเพื่อล่ารายชื่อให้ออกกฎหมายตัดสินประหารชีวิตผู้กระทำผิดลักษณะดังกล่าว ซึ่งงานนี้เจ้าแม่วงการนางสาวไทยอย่าง บุ๋ม ปนัดดา ถึงกับสวมบทบาทตัวตั้งตัวตี ผลักดันกฎหมายดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมด้วยตัวเอง,มือถือใหม่ มาแล้วจ้า…,พลาดไม่ได้เลยช่วงมีมือถือรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด เพราะกว่าที่แต่ละรุ่นจะเผยโฉมออกมาได้ก็มักจะมีกระแสข่าวลือ ข่าวลวง ข่าวหลอกออกมาว่อนเต็มโซเชียลฯ โดยเฉพาะ 2 รายใหญ่อย่างซัมซุงและแอปเปิล ที่ดูเหมือนว่าจะมีข่าวลือล่องลอยบนอินเทอร์เน็ตมากที่สุดในแต่ละผลิตภัณฑ์ ที่เพิ่งเห็นกระแสแรงๆ อยู่ไม่นานนี้ก็ต้องยกให้กาแล็คซี่ โน้ต 4 กับไอโฟน 6 ไอโฟน 6 พลัส คุณสมบัติใหม่ๆ ดีไซน์แบบไหน ราคาเท่าไหร่ มีกระแสลวงล่วงหน้านานนับปี นี่ขนาดทั้ง 3 รุ่น เพิ่งเปิดตัวออกมาได้ไม่นาน ก็มีข่าวลือรุ่นใหม่หลุดออกมาอีกแล้ว ทำเอาคุณลูกค้าทั้งหลายถึงกับบ่นว่า ผมนี่ซื้อไม่ทันเลยครัช,บอลไทยฟีเวอร์,คว้าชัยคืนความสุขให้คนไทยทั้งประเทศมาหมาดๆ กับทีมชาติไทยชุดซูซูกิคัพ ภายใต้การฝึกสอนของนักเตะดาวค้างฟ้าอย่าง ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งเทพบุตรลูกหนังของชาวไทยเพิ่งกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอนพร้อมฐานะแชมป์อาเซียนเมื่อไม่กี่วันมานี้ แต่ระดับความแรงที่เกิดขึ้นบนโซเชียลฯ นั้นต้องเรียกได้ว่าแรงทะลุมิติของจริง ยิ่งวันที่ทีมชาติไทยลงฟาดแข้งกับทีมชาติมาเลเซีย ที่สนามบูกิตจาลิล ประเทศมาเลเซียนั้น คนไทยต่างพร้อมใจกันเชียร์ติดขอบจอและติดขอบโซเชียลฯ กันสุดเสียง โพสต์เชียร์ ลุ้นมันส์ ตั้งแต่ต้นการแข่งขันยันจบ แถมยังพากันชื่นชมความหล่อ เท่ ฟิตแอนด์เฟิร์มของเหล่านักเตะไทยกันอย่างคลั่งไคล้ โดยเฉพาะชาริล ชัปปุยส์ ที่ทำให้สาวแท้สาวเทียมพากันเรียกร้องละเมอหา จนเกิดเป็นแฮชแท็ก ผอ สระอัว ของผู้หญิงทั้งประเทศ,ปรากฏการณ์คลั่งมุกกี้,มีดีกว่าโชว์นม โชว์สัดส่วน โด่งดังเพียงข้ามคืนกับเน็ตไอดอลมุกกี้ สาวผมสั้นหน้าเกาหลี ยิ้มหวาน พูดจาฉะฉาน เน็ตไอดอลที่ถือว่าเนื้อหอมหลายสำนักข่าวตอมเพื่อขอสัมภาษณ์กันมากมาย ที่สุดก็มาจูบปากกับไทยรัฐออนไลน์มีโอกาสได้สัมภาษณ์เปิดหัวใจมุกกี้ที่แรก ,(ผู้หญิงที่คนมองว่าแรงส์? เปิดตัว มุกกี้ เน็ตไอดอลหน้าเกาหลีสุดเซ็กซี่ที่แรก (ชมคลิป), สร้างความฮือฮาและอิจฉาให้กับหนุ่มทั้งประเทศ จนกลายเป็น ปรากฏการณ์มุกกี้ฟีเวอร์ ยาวนานแรงดีไม่มีตกมาจนกระทั่งวันนี้ ทั้งงานโฆษณา ละคร ออกรายการทีวีชื่อดังอย่างวู้ดดี้เกิดมาคุย งานพรีเซนเตอร์ต่อแถวกันอย่างมากมาย ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดดัง ซึ่งเราฟันธงว่าจะโด่งดัง เนื้อหอม เป็นสาวที่หนุ่มๆ อยากกอดอีกแสนนาน เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ในปี 2557 ที่น่าจดจำ และทำให้ฝันดี.
ในรอบปี 2557 มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่เรื่องราวอะไรที่ฮอตฮิตเป็นกระแสร้อนฉ่าอยู่ตามโลกโซเชียลฯ บ้าง ไทยรัฐออนไลน์ หยิบมาทวนความจำคุณอีกครั้ง ก่อนจะหมดปี…
null
ทีเด็ด โซเชียล 57,ข่าวเด็ด โซเชียล,กระแสฮอต ปี57,รวมฮิต ปี57,Ice Bucket Challenge,ไอซ์บัคเก็ต ชาเลนจ์,ข่มขืน ประหาร,กาแล็คซี่ โน้ต4,ไอโฟน6,ไอโฟน6พลัส,บอลไทย,ชัปปุยส์,มุกกี้
https://www.thairath.co.th/content/471277
เปิดตัวหนังสือ: ศาลรัฐประหาร เมื่อศาลไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็น 1 ใน ผู้เล่นทางการเมือง
ศาลไม่ใช่องค์กรที่เป็นกลางและไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ศาลเป็นผู้เล่นทางการเมือง มีบทบาททางการเมืองผ่านการตัดสินคดี การตรวจสอบถ่วงดุลกับศาลจึงต้องเริ่มจากการถอดรื้อความศักดิ์สิทธิ์ของศาล ทำให้ศาลลงมาอยู่ในระนาบ เดียวกันกับองค์กรทางการเมืองอื่นๆ การวิจารณ์ การใช้อำนาจตอบโต้ และการประท้วงศาลนั้น เป็นเรื่องปกติของสังคมประชาธิปไตยที่แต่ละองค์ สามารถใช้อำนาจตอบโต้ถ่วงดุลกันเพื่อหาจุดดุลภาพแห่งอำนาจ ปิยบุตร แสงกนกกุลข้อความข้างต้นปรากฎเด่นชัดบนปกหลังในงานวิชาการที่ชื่อว่า ศาลรัฐประหาร ตุลาการ ระบอบเผด็จการ และนิติรัฐประหาร ของ ปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ งานวิชาการเล่มดังกล่าวตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน และได้มีการจัดงานเสวนาเปิดตัวหนังสือไปเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2560 ที่ห้องประกอบ หุตะสิงห์ อาคารอเนกประสงค์ 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ปิยบุตร เป็นหนึ่งในวิทยากรในวงเสวนา เขาไม่ได้พูดถึงเนื้อหาในหนังสือเล่มดังกล่าวมากนัก หากแต่ต้องการจะสื่อสารว่า เพราะอะไรจึงต้องเขียนหนังสือเล่มดังกล่าวขึ้นมา ต้นสายปลายเหตุเกิดจากอะไร และเขามองเห็นอะไรในอำนาจตุลาการของประเทศไทยปิยบุตร เล่าที่มาของหนังสือเล่มดังกล่าวว่า เกิดขึ้นหลังจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดยในช่วงหลังจากนั้นเป็นต้นมาพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็น สิทธิเสรีภาพของประชาชนได้ถูกจำกัดลงเรื่อยๆ และเห็นว่าในฐานะนักวิชาการควรจะทำงานทางความคิดโดยหาช่องทาง เผยแพร่ผ่านสื่อออกไป จึงได้มีโอกาสเขียนบทความเชิงวิชาการลงในมติชนสุดสัปดาห์เรื่อยมา จนกระทั่งได้นำบทความที่ตีพิมพ์ลงในมติชนมารวมเล่มภายใต้โครงเรื่องเดียวกัน โดยเล่มแรกได้ตีพิมพ์ไปเมื่อปี 2559 คือ รัฐธรรมนูญ ประวัติศาสตร์ข้อความคิด อำนาจสถาปนา และการเปลี่ยนผ่านเขาเล่าต่อไปว่า ตอนที่เริ่มเขียนบทความในหนังสือเล่มล่าสุดเขาคิดอะไรอยู่ โดยเล่าย้อนไปถึงช่วงที่ยังเป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปิยบุตรเล่าว่า เข้าเรียนในช่วงปี 2540 สมัยนั้นเป็นยุคที่อยู่ในกระแสธงเขียวปฏิรูปการเมือง พร้อมกับเป็นช่วงวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง คนในรุ่นนั้นทุกคนจะอิน สนใจเรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องการปฏิรูปการเมือง เนื่องจากจะเกิดกฎหมายใหม่ๆ ขึ้น และมีองค์กรใหม่ๆ เกิดขึ้น จึงเป็นเรื่องที่คนเรียนมหาวิทยาลัยในช่วงเวลานั้นสนใจปิยบุตร อธิบายต่อไปถึง บรรยากาศการเรียนการสอนในคณะนิติศาสตร์ว่ามีความโบราณ มีลักษณะที่เป็นรูปแบบ ขนบ จาจีตสูง และเป็นคณะที่มีจุดมุ่งหมายที่จะผลิตนักกฎหมายเพื่อออกไปประกอบอาชีพ มากกว่าที่จะสอนให้ผู้เรียนได้ตั้งคำถามกับสิ่งที่เรียนผมก็ถูกฝึกมาให้เชื่อในตัวกฎหมาย ศรัทธาในตัวกฎหมาย เคารพกฎหมาย และการถกเถียง วิพากษ์ วิจารณ์กัน ก็มีการวิพากษ์กันในเรื่องของกฎหมาย เช่นตัดสินแบบนี้คุณมีความเห็นทางกฎหมายอย่างไร ทำไมถึงไม่ให้ความเห็นทางกฎหมายอีกอย่างหนึ่ง มีความสม่ำเสมอในการให้เหตุผลไหม คำพิพากษาฎีกาต่างจากครั้งก่อนหน้าเพราะอะไร ทำไม่ศาลจึงกลับแนวคำพิพากษา เราก็จะพูดถกเถียงกันเรื่องนี้ ไปได้ไกลที่สุดเราก็อาจจะพูดกันเรื่องว่ากฎหมายนี้มีแรงบรรดาลใจมาจากอะไร สภาพสังคมเป็นอย่างไรถึงเขียนกฎหมายแบบนี้ ประเทศอื่นเขาเป็นอย่างไร เราถึงเขียนกฎหมายตามเขามา การเรียนการสอนมันเป็นแบบนี้ มันไม่ท้าทายตัวกฎหมายที่มันเกิดขึ้นอยู่ ไปได้ไกลที่สุดอาจจะเป็นไปในทางนิติปรัชญาเช่น ความยุติธรรมคืออะไร กฎหมายคืออะไร ก็แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะถือหางกฎหมายสำนักไหน เราไปได้ไกลสุดแค่นี้ ปิยบุตรกล่าวเขาเล่าต่อไปว่า หลังจากเขาเรียนได้ไม่นานก็ได้อ่านงานด้าน นิติปรัชญามากขึ้น แต่การเรียนการสอนนิติปรัชญาของธรรมศาสตร์ก็ให้น้ำหนักกับสำนักกฎหมายธรรมชาติ (Natural Law School) มากกว่าสำนักกฎหมายบ้านเมือง (Positive Law School) ซึ่งเขาเห็นว่ามีความจงใจ พูดถึงสำนักกฎหมายบ้านเมืองสิ้นสุดแค่ศตวรรษที่ 17-18 ทั้งๆ ที่สำนักกฎหมายบ้านเมืองในศตวรรษที่ 19 20 21 เป็นพวกที่สนับสนุนประชาธิปไตย ตรงกันข้ามกับนักกฎหมายสำนักธรรมชาติ ที่เชื่อในพระเจ้า เชื่อในการมีอยู่ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรบางอย่าง นักกฎหมายที่เชื่อในสำนักธรรมชาติหลายต่อหลายคนกลับฝักใฝ่เผด็จการ โดยเขายกตัวอย่างสั้นๆ ว่ามีนักกฎหมายสำนักธรรมชาติจำนวนมากที่สนับสนุนพรรคนาซีของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์อย่างไรก็ตามทั้งสองสำนักมันมีข้อวิจารณ์กันทั้งคู่ แต่การเรียนการสอนวิชานิติปรัชญาที่ธรรมศาสตร์มันเหมือนกับ มวยปล้ำ มีการแบ่งเป็นธรรมะ อธรรม แม้อาจารย์จะไม่ได้พูดตรงๆ แต่เรียนไปเรียนมามันรู้สึกว่าฝ่ายสำนักกฎหมายบ้านเมืองมันอยู่ฝ่ายอธรรม ขณะที่ฝ่ายสำนักกฎหมายธรรมชาติอยู่ฝ่ายธรรมะ แต่เอาเข้าจริงๆ สุดท้ายเรียนกันไปไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่น ผมก็เห็นว่านักกฎหมายที่เรียนจบกันออกไป หรือแม้แต่อาจารย์เองก็ด่าสำนักกฎหมายบ้านเมืองกันอยู่ทุกวัน แต่พอเผด็จการมาเมื่อไหร่ก็ไปรับใช้อำนาจ ไม่เห็นมีใครที่ออกวิพากษ์วิจารณ์ว่า กฎหมายที่ทหารใช้กันอยู่ในทุกวันนี้ ถ้ามองในมุมของสำนักธรรมชาติมันต้องเถียงแล้วใช้ไหมว่านี่มันไม่ใช่กฎหมาย แต่นี่ไม่มีใครพูดเลย พูดกันง่ายๆ คุณพูดเรื่องสำนักกฎหมายธรรมชาติเอาไว้แค่โม้กันในห้องเรียนเท่านั้น ในปฎิบัติไม่เคยเกิดขึ้น ปิยบุตร กล่าวเขาเล่าต่อไปว่าได้ตั้งคำถามกับเรื่องดังกล่าวเรื่อยมา จนกระทั่งได้อ่านงานของ จรัญ โฆษณานันท์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งได้มีการเขียนเรื่องนิติปรัชญาโดยพูดถึง นักคิดใหม่ๆ มากขึ้น ประกอบกับการอ่านงานของ สมชาย ปรีชาศิลปะกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกี่ยวกับเรื่องนิติศาสตร์แนววิพากษ์ เลยทำให้เห้ฯว่าสิ่งที่เรียนอยู่ไม่ได้มีเพียงแค่นั้น แต่มีอะไรที่ลึกไปกว่าสิ่งที่ได้เรียนพื้นฐานผมเป็นคนชอบเรื่องการเมืองอยู่แล้ว จึงพยายามหาแง่มุมทางนิติศาสตร์เข้าไปมองในทางการเมืองว่าจริงๆ แล้วข้างหลังมันเป็นอย่างไรกันแน่ พยายามอ่านศึกษาค้นคว้า เพราะวิเคราะห์ทางกฎหมาย วิเคราะห์ปฎิบัติการของศาล ในแง่ของกระบวนการความคิด ในแง่ของกระบวนการเมืองที่มันอยู่เบื้องหลังของศาลว่ามันคืออะไรกันแน่ จนไปเรียนต่างประเทศก็ได้มีโอกาสค้นคว้างานทางประเทศเยอะขึ้นๆ แต่ก็นั้นแหละถ้างานที่นักนิติศาสตร์เป็นคนเขียน เขียนให้ตายวิจารณ์ให้ตายอย่างไร มันก็ยังอยู่ในกรอบอยู่ ไปได้ไกลที่สุดซึ่งพวกนิติศาสตร์เองเขาก็ยังไม่ยอมรับกันก็คือสำนัก critical legal studies ซึ่งนำโดย Roberto Unger ปรากฎว่าในแวดวงนิติศาสตร์ก็ประณามเขาว่า คุณสอนกฎหมายแบบนี้ได้อย่างไร เพราะสอนไปคุณจะบ้าเหรอ มันกลายเป็นภาวะสูญญะนิยม คุณสอนไปมันทำให้คนไม่เชื่อในกฎหมาย สอนจนคนมันตั้งคำถามว่าสุดท้ายแล้วกฎหมายมันคืออะไร และมันไม่มีอะไรเลย ในแวดวงก็อัปเปหิเขาออกไป แต่เอาเข้าจริงแล้วเขาสามารถให้มองมุมในทางการเมือง ในทางวิพากษ์ วิจารณ์เข้าไปในตัวกฎหมาย ได้มากยิ่งขึ้น ปิยบุตร กล่าวปิยบุตรเห็นว่า นักกฎหมายที่ถูกฝึกมาในทางกฎหมายจะยึดติดความเป็นรูปแบบนิยมของตัวเอง เขายกตัวอย่างให้เห็นชัดคือให้ดูว่ามีเพื่อนสมัยมัธยมคือใดบ้างที่เรียนต่อนิติศาสตร์ ให้สังเกตว่า 4 ปี ผ่านไปเรายังสามารถคุยกับเพื่อนคนนั้นรู้เรื่องอยู่หรือไม่ถ้าท่านมีเพื่อนที่เรียนกันมาตอนมัธยมและพอเขาเข้าไปเรียนกฎหมายปุ๊บ 4 ปีหลังจากนั้นท่านจะเริ่มคุยกับมันไม่รู้เรื่องแล้ว เพราะเขาจะมีวิธิการพูดมีคำศัพท์แปลกๆ ใหม่ๆ และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่คือความจงใจของแวดวงนิติศาสตร์ที่จะทำให้วิชานิติศาสตร์ถูกสงวนไว้กับพวกเขาเท่านั้น แล้วนิติศาสตร์มันมีอำนาจในการเอากฎหมายไปใช้ ไปตีความ และมีแต่คนเรียนนิติศาสตร์เท่านั้นที่พวกขาดกันอยู่ โอเคละเขาอาจจะทะเลาะกันบ้างในแวดวง เห็นต่างเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่การทะเลาะกันทั้งหลายทั้งปวงก็เป็นไปเพื่อที่จะแย่งชิงว่าใครเป็นผู้ผูกขาด หรือผู้ที่จะบอกวากฎหมายคืออะไร ซึ่งคนที่อยู่นอกแวดวงจะถูกเขี่ยออกไป มากที่สุดก็บอกว่าคุณไม่ได้เรียนกฎหมายคุณไม่รู้เรื่อง หรือคุณก็พูดไปสิ เขียนไปสิ แต่คุณไม่ได้พูดในสิ่งที่เรียกว่ากฎหมาย นี่คือศิลปะวิทยาการของพวกนิติศาสตร์ที่จะผูกขาดความรู้ทางกฎหมายไว้กับพวกของตัวเอง ปิยบุตร กล่าวปิยบุตร เล่าว่าเขาอ่านงานหลายประเภท และได้รับอิทธิพลทางความคิดมาจากนักคิดหลายคน เช่น คาร์ล ชมิทท์ โรเบิร์ตโต้ อังเกอร์ ฌาร์ค ดาริดา อันโตนีโอ เนกรี ประกอบกับการอ่านของนักรัฐศาสตร์จำนวนหนึ่งที่เข้ามาศึกษาบทบาทของศาลสำหรับวิชาการของเขาเองนั้น มีจุดประสงค์เพื่อต้องการพิสูจน์ว่า การเมือง และกฎหายมันเป็นคู่ขัดแย้งกัน และเราถูกทำให้เชื่อว่า การเมือง เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายค้าน ภาคประชาชน NGOs ส่วน กฎหมาย เรื่องเหล่านี้ศาลจะเป็นผู้จัดการ โดยสิ่งต่างๆ มีกรอบของกฎหมายอยู่ หากมีข้อพิพาทเกิดขึ้นเมื่อไหร่ มันจะถูกส่งมาให้ศาลและศาลจะชี้ขาดข้อพิพาทนั้นในนามของกฎหมายปกติเรามักจะมองกันว่า การเมืองมีอะไรก็ว่ากันไป หากมีข้อพิพาททางกฎหมายขึ้นมาเมื่อไหร่ศาลเป็นผู้วินิจฉัยในนามของกฎหมาย แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วเนี่ยเราแยกการเมืองกับกฎหมายออกได้ชัดเจนขนาดนั้นจริงหรือเปล่า ผมเห็นว่ามันไม่มีทางปิยบุตร กล่าวเขาอธิบายต่อไปว่า กฎหมายไม่อาจแยกออกจากระบบการปกครอง โดยยกตัวอย่างให้เห็นถึงเรื่องระบบกรรมสิทธิ์ โดยกฎหมายในลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นได้หากอยู่ภายใต้การปกครองของระบอบคอมมิวนิสต์ หรือแม้แต่นิติกรรม สัญญา เสรีภาพที่มนุษย์จะสามารถทำนิติกรรม และสัญญาได้ ก็ขึ้นอยู่กับระบอบเสรีประชาธิปไตย ฉะนั้นสิ่งที่เราเรียกว่าเป็นกฎหมายสากล มันก็เป็นไปตามระบอบการปกครองนั้นเอง ซึ่งโลกในปัจจุบันได้ยอมรับในระบอบเสรีประชาธิปไตยปิยบุตรชี้ให้เห็นต่อไปว่า หลักการพื้นฐานกว้างๆ ที่ได้รับการยอมรับตามระบอบเสรีประชาธิปไตย ได้ถูกแปลงสภาพมาเป็นหลักกฎหมายเช่นเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หลักความพอสมควรแก่เหตุ คือหลักที่ว่าด้วยการที่รัฐจะจำกัดเสรีภาพของบุคคลก็จำกัดให้พอสมควรแก่เหตุ โดยหลักการเหล่าก็ได้ถูกแปลงสภาพให้กลายเป็นข้อกฎหมาย เขียนลงในรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่นๆ ซึ่งเมื่อเขียนแล้วก็จะกลายเป็นถ้อยความที่กว้างๆ เป็นนามธรรม ซึ่งสุดท้ายแล้วองค์ที่ทำหน้าที่วินิจฉัยชี้ขาดก็ต้องนำเอาถ้อยคำเหล่านั้นมาตีความอีกอย่างไรเป็นการละเมิดศักดิ์ความเป็นมนุษย์ อย่างไรไม่ละเมิด อย่างไรเป็นการละเมิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และอย่างไรไม่ละเมิด มันเป็นช่วงเวลาที่ผมเรียกว่า เป็นช่วงเวลาแห่งการใช้ดุลพินิจในการตัดสินใจ ดังนั้นต่อให้คุณบอกว่ากฎหมายมันเป็นบรรทัดฐานไล่ลงมาเป็นลำดับชั้น สืบทอดมาจากชั้นบนๆ ลงมาเรื่อยๆ แต่วันที่คุณเอากฎหมายไปใช้ไปตีความ ความเป็นการเมืองมันก็เกิดขึ้นอยู่ดี คือคุณต้องอธิบายว่ามันคืออะไร ปิยบุตร กล่าวเขาอธิบายต่อไปถึง กฎหมายมหาชนว่า เป็นกฎหมายที่ว่าด้วยเรื่องของอำนาจรัฐ โดยเป็นการยอมรับว่ารัฐมีอำนาจ แต่จะทำอย่างไรให้มีการใช้อำนาจรัฐอย่างมีกรอบมีเกณฑ์ กติกา จึงเกิดความคิดเป็นกฎหมายมหาชนขึ้นมา เพื่อตีกรอบทางกฎหมายเข้าไปจำกัดการใช้อำนาจของรัฐ รัฐจะมีอำนาจทำเพื่อประโยชน์ส่วนร่วมของประเทศชาติ แต่ก็ต้องอยู่ภายใตกรอบกติกาที่วางเอาไว้หากเรามองในมิตินี้ ฝ่ายบริหารเจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติการฝ่ายนิติบัญญัติ ก็คือผู้ใช้อำนาจในการกระทำการอะไรบางอย่าง ส่วนศาลก็ใช้อำนาจในอีกประเภทหนึ่งคือการตรวจสอบการใช้อำนาจว่า อำนาจที่ฝ่ายบริหารได้ใช้อยู่ในกรอบของกฎหมายหรือเปล่า ทีนี้มันเป็นไปได้อย่างไรทำไมเราถึงบอกว่า พวกรัฐบาล รัฐสภา พวกเจ้าหน้าที่ พวกนี้ใช้อำนาจ คุณว่าว่ามันเป็นเรื่องการเมือง แต่พอศาลใช้อำนาจตัวเองเหมือนกัน ไปตรวจสอบไอ้คนเหล่านี้คุณบอกศาลใช้อำนาจตามกฎหมาย ทั้งๆ ที่เราต้องอิงกับมัน มันคืออำนาจทั้งนั้นแหละ และในขณะที่ศาลไปตรวจสอบคนอื่น คำถามที่ตามมาคือแล้วใครตรวจสอบศาล ทั้งที่เอาเข้าจริงๆ รากเหง้าของอำนาจทั้งหมดมันมาจากก้อนเดียวกันคือ สิ่งที่เราเรียกมันว่าอำนาจอธิปไตย เพียงแต่แบ่งฟังก์ชั่นภาระกิจกันไปทำ แต่ทำไมศามันถึงดันขึ้นมาสูงเด่นกว่าคนอื่น ปิยบุตร กล่าวปิยบุตรกล่าวต่อไปว่า ทุกวันนี้คนเรียนนิติศาสตร์ ถูกสอนให้จำมาตลอดว่า Judicial Review คือศาลต้องมีอำนาจตรวจสอบการใช้อำนาจขององค์กรอื่นๆ เช่นรัฐสภาตรากฎหมายมา ก็มีศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบว่าขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ เจ้าหน้าที่ต่างๆใช้อำนาจ ศาลก็สามารถตรวจสอบได้ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยไอเดียเรื่อง Judicial Review ไม่ได้เกิดขึ้นมาเองแต่มีเส้นทางการเดินทางการต่อสู้ในทางการเมืองมา กว่าจะได้มาเป็นที่ยอมรับว่าในรัฐที่เป็นนิตรัฐจะต้องมีเขากล่าวต่อไปว่า Judicial Review เป็นสิ่งที่เพิ่งสร้างขึ้น โดยย้อนกลับไปเพียงสองร้อยถึงสามร้อยปีก็จะพบที่มา เขาระบุว่าในสมัยของการปฏิวัติฝรั่งเศสไม่ได้มีแนวคิดว่าจะให้อำนาจแก่ศาลมาตรวจสอบการทำงานของฝ่ายการเมือง เนื่องจากศาลในเวลาถูกมองเป็นอภิสิทธิ์ชน และคนฝรั่งเศสให้คุณค่ากับกฎหมายมากกว่า ขณะที่สหรัฐอเมริกาก็ได้มีการถกเถียงกันมาตลอดว่าหากรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ แล้วใครจะเป็นคนมาตัดสินว่ากฎหมายที่รัฐสภาตราขึ้นมาขัดหรือไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ มีการเถียงกันมาตลอดฝ่ายหนึ่งเห็นว่าเป็นอำนาจศาล อีกฝ่ายเห็นว่าไม่ควรเป็นอำนาจศาล จนท้ายที่สุดเกิดคดี Marbury v. Madison ซึ่งเป็นการยืนยันว่าสุดท้ายศาลจะเป็นผู้ตรวจสอบว่ากฎหมายที่รัฐสภาตราขึ้นมานั้นขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่เขาเล่าต่อไปถึงเบื้องหลังของคดี Marbury v. Madison ว่า เป็นเรื่องการเมืองล้วนๆ มันคือการแย่งชิงการแต่งตั้งผู้พิพากษาในศาลฎีการะหว่างพรรคเดโมเครต กับพรรครีพับลิกัน ซึ่งพรรครีพับลิกันเป็นพรรคที่รัฐบาลกลาง ไม่อยากให้รัฐบาลกลางมีอำนาจมา ขณะที่เดโมเครตต้องการให้รัฐบาลกลางมีอำนาจมาก พวกนี้มันเห็นต่างกันมาโดยตลอดตั้งแต่วันก่อตั้งประเทศ เขาก็มองว่าศาลฎีกานี่แหละที่จะพิทักษ์หลักการพวกนี้ไว้ เขาก็ชิงกันตั้งศาลฎีกากันจนนาทีสุดท้าย ระหว่างช่วงส่งต่ออำนาจของประธานาธิบดีจากคนที่สองสู่คนที่สาม ได้มีการชิงตั้งประธานศาลฎีกากันในช่วงเวลาเที่ยงคืน จนที่สุดเกิดเป็นคดีความขึ้นมา ปิยบุตร อธิบายต่อไปว่าหลังจากเกิดกรณี Marbury v. Madison ที่สหรัฐอเมริกา ทางประเทศฝั่งยุโรปก็ได้มีการคิดถึงเรื่องดักกล่าวขึ้นมาว่า จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดการปกครองโดยผู้พิพากษา (Government by judge) จึงเกิดเป็นสองสำนักคิดขึ้นมา แนวคิดแรกเห็นว่า ควรมีศาลรัฐธรรมนูญ โดยออกแบบให้ศาลมีที่มาจากการเมืองคือการที่ให้รัฐสภาเป็นผู้เลือกตุลาการขึ้นมา แล้วแยกออกมาเป็นศาลใหม่ ไม่ให้อยู่กับระบบศาลเดิม ให้ทำหน้าที่เพียงแค่การพิจารณากฎหมายว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขณะอีกแนวคิดหนึ่งเห็นว่า แนวคิดแบบแรกเป็นเรื่องเฟ้อฝัน ไม่มีทางที่ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่เล่นการเมือง โดย คาร์ล ชมิชท์ เจ้าของแนวคิดเห็นว่า ควรให้เป็นอำนาจของประธานาธิบดีเพียงคนเดียวที่จะชี้ขาดว่าอะไรขัดหรือไม่ขัดรัฐธรรมนูญ แต่สุดท้ายแล้วปรากฏว่าแนวคิดแรกกลายเป็นสิ่งยอมรับกัน และกระจายและใช้กันทั่วโลกตอนนี้ ทั้งหมดนี้ทำให้เห็นว่าแนวคิดแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาเอง แต่มีการสู้กันมาตลอด และไม่ได้ต้องเป็นแบบนี้เสมอไป ขณะที่ประเทศไทยเวลาจะนำโครงสร้างเหล่านี้มาใช้ก็จะนำเข้าเพียงอย่างเดียว ไม่มีการอธิบายถึงบริบทและที่มาที่ไปของแนวคิดนั้นๆเขากล่าวต่อไปว่า หากจะพูดถึงศาลรัฐธรรมนูญ เยอรมันก็เป็นประเทศต้นแบบที่สำคัญ ซึ่งไทยไปลอกเยอรมันมาเยอะพอสมควรในเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ คำถามคือทำไมจึงไม่ใช้แนวทางแบบประเทศฝรั่งเศส อาจจะเพราะว่าวิธีคิดของเยอรมันไม่เหมือนฝรั่งเศส ฝรั่งเศสบ้าปฏิวัติ เปลี่ยนระบอบไปมาตลอด ขณะที่ยอรมันเรียบสงบ สาเหตุหนึ่งเพราะพระมหากษัตริย์เห็นเพื่อนบ้านมีการเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่ปรับตัวก็จะอยู่ไม่ได้ จึงค่อยๆ ปรับตัวและลดอำนาจตัวเองลงมาเรื่อยๆ เยอรมันจึงมีพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด จนมาจบเมื่อปี 1917 แล้วก็เข้าสงครามโลกวิธีคิดที่ต้องการลดทอนอำนาจตัวเองของรัฐ ได้ใช้กฎหมายมาเป็นเครื่องมือ จึงเกิดแนวคิดเรื่องนิติรัฐ ในรูปแบบของเยอรมันว่า รัฐยอมเอาตัวเองลงไปอยู่ภายใต้กฎหมาย แล้วจึงต้องมีศาลมาใช้ตรวจสอบว่าอำนาจขัดกับกฎหมายหรือไม่ สร้างไอเดียสิทธิขั้นพื้นฐานเพื่อที่จะประกันสิทธิให้ทุกคน ปิยบุตร กล่าวปิยบุตร เล่าต่อไปว่า ประเทศเยอรมันมาสะดุดนิดเดียว ในช่วงที่ ฮิตเลอร์ ขึ้นมาครองอำนาจ หลังจากฮิตเลอร์หมดอำนาจ เยอรมันได้ทำรัฐธรรมนูญใหม่ เกิดความคิดเรื่อง Milatant Democracy โดยมีต้นกำเนิดจาก Karl Loewenstein ซึ่งเห็นว่า ระบอบประชาธิปไตยให้สิทธิเสรีภาพกับทุกคน แต่ต้องมีระบบป้องกันตัวเองด้วย เพราะเสรีภาพเกิดขึ้นได้เพราะประชาธิปไตย แต่จะนำเอาสิทธิเสรีภาพไปทำลายระบอบประชาธิปไตยไม่ได้ จึงออกแบบรัฐธรรมนูญให้มีระบบป้องกันตัวเอง ซึ่งจะเห็นได้ว่าประเทศเยอรมันมีการยึดถือคุณค่าบางอย่างรวมกันด้วยเหตุนี้หลายคนก็พูดว่า ศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับระบอบประชาธิปไตย ไม่มีไม่ได้ แต่กรณีของเยอรมันพูดกันตรงไปตรงมามันเป็นกรณียกเว้น พวกประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายก็ไปหยิบเอาโมเดลของเยอรมันมา ผมลองเช็คดูมีร้อยกว่าประเทศที่จะทำรัฐธรรมนูญก็จะเอาศาลรัฐธรรมนูญเอามาด้วย แต่ถามว่ามันมีศาลรัฐธรรมนูญที่ประสบผลสำเร็จจริงๆ กี่ประเทศ น้อยมาก ตรงกันข้ามคือคุณ import ศาลรัฐธรรมนูญไปใช้ มันเพี้ยนเต็มไปหมด และศาลรัฐธรรมนูญถูกทำให้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ปิยบุตร กล่าวเขายกตัวอย่างประเทศที่มีศาลรัฐธรรมนูญ และกำลังประสบปัญหาต่อไปโดยระบุถึง ประเทศโปแลนด์ ซึ่งกำลังทะเลาะกันเรื่องตั้งศาลรัฐธรรมนูญ พรรคการเมืองสองพรรคชิงกันตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ปาเลสไตน์ เริ่มทดลองเอาศาลรัฐธรรมนูญมาใช้ก็ประสบปัญหาเหมือนกัน ฝ่ายที่สนับสนุนยัสเซอร์ อาราฟัต ก็ตั้งเอาพวกตนเองเป็นศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมด ตุรกี เมื่อก่อนศาลรัฐธรรมนูญเป็นพวกรัฐฆราวาส แต่พอการเมืองเปลี่ยนเปลงไปมีการตั้งพวกตนเองมาเป็นศาลรัฐธรรมนูญหมด ประเทศไทยก็อยู่ในลักษณะนี้เช่นเดียวกันปิยบุตร อธิบายต่อไปว่า หากในสมัยของฮิตเลอร์มีศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่แน่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับใช่ระบอบเผด็จการ เนื่องจากศาลที่มีอยู่ในเวลานั้น แม้ฮิตเลอร์ยังไม่ได้เข้าไปเปลี่ยนแปลงตัวผู้พิพากษามาก ก็พร้อมที่จะรับใช้ฮิตเอลร์ทั้งสิน จนกลายเป็นกรณีที่ใช้ศึกษากับมาถึงปัจจุบันกับการตัดสินให้คนยิวต้องติดคุก หากมีศาลรัฐธรรมนูญอยู่ในเวลานั้นจริง ก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่าจะสามารถต้านทานอำนาจของฮิตเลอร์ได้ หากต่อต้านฮิตเลอร์ไม่นานก็จะถูกจัดการ เขาย้ำอีกครั้งว่าองค์กรที่เรียกว่าศาลนั้น สิ่งที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดคือการเมือง เพียงแต่หน้าฉากพยายามทำตัวเป็นเหมือนผู้พิทักษ์หลักกฎหมายเราลองดูรัฐบาลที่เป็นเผด็จการ ที่รัฐบาลเผด็จการมันสามารถครอบงำศาลได้ และศาลก็กลายเป็นมีหน้าที่ช่วยรัฐบาลเผด็จการ เช่นใครซ่าต่อต้านเผด็จการ ศาลก็ตัดสินเอาไปเข้าคุก เผด็จการออกอะไรมาศาลก็จะบอกว่าถูกเสมอ ตัวอย่างที่พบเห็นในปัจจุบันเพื่อนบ้านเรานี่เอง นี่เอง กัมพูชา ศาลใช้อำนาจตัดสินฝั่งตรงข้ามกับรัฐแบบจัดเต็มด้วยคดีหมิ่นประมาท คดีก่อการร้าย คดีหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านเป็นกบฏ จนต้องถูกยุบพรรค แล้วถ้าพรรคถูกยุบกรรมการถูกตัดสิทธิ์ ถามว่าฮุนเซนต้องยุบเองไหม ไม่ต้องเพราะว่าศาลช่วยตัดสินให้เรียบร้อย ไม่รู้ลอกประเทศเรามาหรือเปล่า สิงคโปรที่บอกว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตย แต่เอาเข้าจริงเป็นประชาธิปไตยแบบไม่เสรี เลือกตั้งกี่ครั้งก็เป็นพรรคเดียวชนะ เวลาที่ฝ่ายค้านซ่ามากๆ ผู้นำรัฐบาลเขาไม่ต้องไปจัดการกันเอง เขาไปฟ้องคดีหมิ่นประมาท เสร็จแล้วศาลก็จัดเต็มเลยลงโทษให้จ่ายค่าเสียหายจนล้มละลาย จากนั้นก็หมดสิทธิ์รับสมัครเลือกตั้ง ปิยบุตร กล่าวปิยบุตร ยังยกตัวอย่างต่อไปถึงกรณีของมาเลเซีย ซึ่งมีการใช้กฎหมายหรือการใช้คดีแปลกๆ เช่น กฎหมายที่ห้ามร่วมเพศกันทางทวารหนัก แล้วก็ใช้เรื่องนี้จัดการ อันวาร์ อิบราฮิม ทั้งหมดนี้ตัวอย่างของรัฐเผด็จการ หรืออำนาจนิยมที่กำลังครอบงำ แต่กรณีที่รัฐบาลไม่ได้ครอบงำตัวศาล จะเกิดปัญหาขึ้นแล้ว เพราะศาลจะเข้ามาตรวจสอบรัฐบาล ถ้ารัฐบาลมีอุดมการณ์ความคิดชุดหนึ่ง ศาลมีอีกชุดหนึ่ง ก็จะเกิดการปะทะกันเขากล่าวต่อไปว่า บางประเทศศาลอาจจะ Anti-Populist(ประชานิยม) หรือบางทีอาจจะ Populist เอง กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญของไทยมีการคุ้มครองสิทธิคนพิการ ที่ระบุว่าบุคคลที่สมัครเป็นผู้พิพากษาหากมีร่างการไม่สมประกอบ จะไม่รับ ศาลวินิจฉัยว่าข้อความดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ยังวินิจฉัยเรื่องผู้หญิงที่จดทะเบียนสมรสจะถูกบังคับให้ใช้นามสกุลของสามี อันนี้ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งดูก้าวหน้ามากความก้าวหน้าของศาลรัฐธรรมนูญไทยไปได้ไกลสุด ถ้าหากไม่เจอกับประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เรื่องการแสดงความคิดเห็น พอกฎหมายมาตรา 112 คุณสมยศสู้คดีนี้มาจนถึงศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญ 9-0 ตัดสินว่าประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แสดงว่าสิทธิที่คุณบอกจะพิทักษ์รักษาสิทธิต่างๆ มันมีเพดาน พอคุณไปเจอกับอะไรบางอย่าง สวิซต์ไฟของสิทธิเสรีภาพก็จะดับทันที ปิยบุตร กล่าวทั้งหมดที่ปิยบุตรได้กล่าวไปนั้น เป็นที่มาของหนังสือ ซึ่งมีวัตถุประสงค์คือ ต้องการถอดรื้อความศักดิ์สิทธิ์ของศาล เพราะโดยธรรมชาติศาลจะมีลักษณะศักดิ์สิทธิ์กว่าองค์กรอื่นๆ อยู่แล้ว ซึ่งหนังสือเล่มนี้ต้องการทำลายความเชื่อและมายาคติที่ว่าศาลเป็นกลาง และเป็นอิสระ ศาลเป็นองค์วินิจฉัยชี้ขาดไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งถูกปลูกฝังไว้อย่างยาวนาน เพื่อที่จะนำไปสู่การจัดการดุลยภาพของอำนาจในการเมืองไทยเสียใหม่ ลด ละ เลิก สิ่งที่เราเรียกกันว่าตุลาการภิวัฒน์ ซึ่งจะนำไปสู่ศาลซึ่งอนาคตจะกลายไปเป็นเครื่องมือ หรือกลไก เป็นองค์กรที่สำคัญในระบอบประชาธิปไตยได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่ศาลที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ในช่วงท้าย ปิยบุตรได้กล่าวว่า ศาลที่เป็นผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ศาลเป็นผู้ปกป้องประชาธิปไตย ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นมาแต่ไหนแต่ไร แต่เพิ่งถูกสร้าง เป็นกลไกที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อถ่วงดุลอำนาจนิติบัญญัติ เพราะสติปัญญาของมนุษย์ยังออกแบบไม่ได้ มันไม่รู้จะเอาองค์กรอะไรมาตรวจสอบ ก็เลยคิดขึ้นมา แต่ในการศึกษาเชิงประจักษ์ Empirical study ก็จะพบว่าศาลนั้นมีบทบาททางการเมือง ศาลมีผลประโยชน์ มีอุดมการณ์กำกับอยู่ บางทีศาลก็ไปช่วยนักการเมือง เมื่อนักการเมืองจะชี้ขาดเรื่องสำคัญๆ แต่ในทางกลับกันอาจทะเลาะกับการเมืองก็ได้ ถ้าศาลเป็นกลไกของรัฐอีกรัฐหนึ่งที่ซ้อนตัวอยู่ด้านหลัง รัฐบาลจะออกนอกแถว ศาลก็เอาไม้มาหวดๆ ให้เข้าที่ผมคิดว่าเราต้องวิจารณ์ ตรวจสอบ ถ่วงดุลและตอบโต้ศาลทั้งในทางนิติศาสตร์ และวิชาอื่น ในทางนิติศาสตร์คุณต้องเอานิติวิธีตอบโต้ออกไป เพราะขนาดเราเอาวิชานิติศาสตร์มาใช้แบบที่คุณใช้ยังพบว่าคำพิพากษาของคุณมีปัญหา มีความไม่สม่ำเสมอ เช่นเดียวกันมันต้องใช้วิชาอื่นด้วย เช่น ในทางรัฐศาสตร์เพื่อศึกษาบทบาททางการเมืองของศาล สังคมวิทยาหรือศาสตร์เชิงสังคมวิทยาไปศึกษา initial behavior ว่าพฤติกรรมของศาลคืออะไร อย่างในงานที่อาจารย์สมชายกำลังทำอยู่ ไปขุดโคตรเง้าศักราชของตุลาการแต่ละคน คุณมาจากไหน เป็นใคร เรียนจบที่ไหน หรืออีกอย่างหนึ่งคืองาน ethnography คือเข้าไปฝังตัวอยู่กับเขาแล้วดูว่าเขาทำอะไรกัน ทำไมถึงตัดสินเช่นนี้ ทำไมมีทัศนคติแบบอนุรักษ์นิยม หรือทำไมเวลาเข้าไปในศาลถึงตัวสั่น รู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์อะไรบางอย่าง เขามีวิธีการทำงานอะไรของเขาบางอย่างอยู่ ปิยบุตร กล่าว
ปิยบุตร แสงกนกกุล เปิดตัวหนังสือวิชาการเล่มใหม่ ศาลรัฐประหาร วิพากษ์ถอนรากถอนโคนอำนาจตุลาการ คืออำนาจทางการเมือง ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ย้ำตุลาการเป็น 1 ในผู้เล่นทางการเมือง
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
ตุลาการ,ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม,ปฏิรูปศาล,ปิยบุตร แสงกนกกุล,รัฐประหาร,ศาล,ศาลรัฐธรรมนูญ,ศาลรัฐประหาร,เผด็จการ
https://prachatai.com/journal/2017/10/73669
ไอจีแทบแตก แต้ว ณฐพร โพสต์ภาพในชุดเกาะอก อวดผิวขาวเนียน
สวยแซ่บขึ้นทุกวันเลยทีเดียว สำหรับนางเอกดัง แต้ว ณฐพร ยิ่งในช่วงโควิด-19 ที่กำลังระบาด ทำให้ดารานักแสดงคนดังหลายคนต้องเก็บตัวอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน ก็หาอะไรทำ เช่น เต้น ทำอาหาร หากิจกรรมทำ รวมไปถึง แต้ว ที่โชว์สเตปเต้นได้ทุกท่าทุกแนวจริงๆ ทำเอาหลายคนที่ไม่เคยเห็นเธอในมุมนี้ตาค้างกับความเซ็กซี่มากแต่ก็ยังมิวายถูกดราม่าอยู่บ่อยครั้ง ทั้งจับผิดในเรื่องการแต่งตัว ท่าเต้น และรักครั้งใหม่ แต่ แต้ว ก็ไม่ได้เก็บมาคิดแต่อย่างใด ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ เพราะยังมีหลายคนที่ให้กำลังใจและคอยซัพพอร์ตนางเอกสาวคนนี้เสมอล่าสุด แต้ว ได้เผยภาพในชุดเกาะอกลายสกอต ที่ตนเองได้ไปร่วมถ่ายแฟชั่นให้กับนิตยสารแฟชั่นชื่อดัง ซึ่งภาพที่ออกมาสวยและแซ่บมาก ทำเอาแฟนๆ ต่างเข้าไปชื่นชมในอินสตาแกรมแทบแตกกันทีเดียว ทุกคนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สวยมาก.ภาพจากอินสตาแกรมtaewaew_natapohn a_tiwakorn
สวยและแซ่บมาก แต้ว ณฐพร เผยภาพในชุดเกาะอกลายสกอต หลังไปร่วมถ่ายแบบให้กับนิตยสารแฟชั่น ทำเอาไอจีแทบแตก คนต่างเข้ามาคอมเมนต์ชมแบบรัวๆ
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
แต้ว ณฐพร,แต้ว ณฐพร เซ็กซี่,แต้ว ณฐพร ถ่ายแบบ,ข่าวบันเทิง,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1855478
ตร.คุมตัว 10 ชายต้องสงสัย สอบปากคำคดีฆ่า 2 สาวลาว
ความคืบหน้ากรณี พบศพ 2 สาวจาก สปป.ลาว ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะนำศพมาทิ้งไว้ในป่าละเมาะ ระหว่าง บ้านกุดหว้า-หนองห้าง ตำบลหนองห้าง อำเภอกุฉิรารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยจากการชันสูตรของเจ้าหน้าที่พบว่า ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะเสียชีวิตทั้งสองราย และมีญาติจาก สปป.ลาว เข้ามายืนยันกับตำรวจแล้วว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสองคน คือ นางกองคำ อายุ40 ปี และนางจันทร์สมร อายุ 26 ปี เป็นชาวไชยบุรี แขวงสะหวันนะเขต,ล่าสุด วันที่ 3 กันยายน 2559 เจ้าหน้าที่ ชุดสืบสวนทั้ง สภ.กุฉินารายณ์ ชุดเฉพาะกิจตำรวจภูธรกาฬสินธุ์และชุดสืบสวนจาก ภาค 4 ซึ่งเป็นทีมคลี่คลายคดีออกเป็น 4 ชุด เร่งไล่ล่าคนร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยจัดกำลังลงพื้นที่แกะรอย และตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่า สองสาวจาก สปป.ลาว เข้ามายังฝั่งไทย ไปยังตลาดสดเทศบาล 1 จังหวัดมุกดาหาร และเข้ามาในพื้นที่ อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากเชื่อว่า ผู้ลงมือสังหารมีไม่ต่ำกว่า 3 คน และน่าจะเป็นคนที่รู้จักพื้นที่อำเภอกุฉินารายณ์ เป็นอย่างดี ทั้งนี้จนท.ตร.ให้น้ำหนักปมสังหาร เรื่อง ขัดแย้งธุรกิจมืด ยาเสพติด และฆ่าชิงทรัพย์ แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นชู้สาว ออกไป,ด้าน พ.ต.อ.ประสิทธิ์ จำปาทุม ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ กล่าวว่า ปมสังหารครั้งนี้ ต้องใช้เวลาสืบสวนเพราะ ผู้ตายทั้งสองเดินทางข้ามฝัางจาก สปป.ลาว มายังฝั่งไทย เมื่อ 28 ส.ค.59 ถึงฝั่งไทยช่วงเวลาบ่ายๆ และเชื่อว่าน่าจะถูกกักตัวและถูกฆ่าในวันนั้นเลย ซึ่งชุดสืบสวนฯ ยังคงตามแกะรอย พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองและตามเส้นทางในจังหวัดมุกดาหาร พร้อมเข้าหาข่าวกับกลุ่มผู้ต้องสงสัย ใน อำเภอกุฉินารายณ์,ด้าน พ.ต.อ.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี รอง ผบก.ภ.จ.กาฬสินธ์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าคดี ตอนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้แล้ว จำนวน 10 คน อยู่ในขั้นตอนของการสอบปากคำ ส่วนรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้มากนัก,อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางข้ามฝั่งมาจาก สปป.ลาว เข้าให้ปากคำกับตร. พร้อมกับยืนยันตัวบุคคล และขอประสานนำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ที่ฝั่ง สปป.ลาว ซึ่งทางตำรวจจะได้ประสานไปยังนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่นเพื่อให้ญาติเดินทางไปรับศพตามความประสงค์ ต่อไป.
ตร.สภ.กุฉินารายณ์ กาฬสินธุ์ ควบคุมตัว 10 ชายผู้ต้องสงสัย สอบปากคำ คดีฆาตกรรมโหด 2 สาว สปป.ลาว หมกป่ากาฬสินธุ์ บอก ยังเปิดเผยมากไม่ได้ เกรงเสียรูปคดี
null
ฆาตกรรมโหด,2 สาว สปป.ลาว,คุมตัว,ชาย10คน,สอบปากคำ,สภ.กุฉินารายณ์,กาฬสินธุ์,ไชยบุรี,สะหวันนะเขต
https://www.thairath.co.th/content/711588
รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ชม ราชทัณฑ์ รับมือ ผบ.เรือนจำติดโควิด-19 ได้ดี
ไม่ควบคุม เสี่ยงปอดอักเสบจากติดเชื้อโควิดถึงชีวิตวันที่ 1 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล ในการแถลงข่าวศูนย์โควิด-19 นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีผู้ป่วยปอดอักเสบที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ว่า ผู้ป่วยปอดอักเสบส่วนใหญ่มีอาการปอดอักเสบ ปกติ วันที่ 8-10 แต่บางคนบอกวันที่ 5-10 วัน จากอาการเล็กน้อย ก็จะอาการจะรุนแรงขึ้น แล้วยิ่งผู้ป่วยมีโรคเบาหวานที่ไม่ได้ควบคุมแล้ว อาการยิ่งหนักจนเสียชีวิตส่วนกรณีที่ ผู้บัญชาการเรีอนจำ จ.นครนายก ติดเชื้อโควิด-19 นพ.ธนรักษ์ กล่าวอีกว่า ก่อนอื่น ต้องขอชื่นชมทางกรมราชทัณฑ์ ที่มีการเตรียมพร้อมและประสานงานกับกรมควบคุมโรค มาตลอด กรณีผู้บัญชาการเรือนจำท่านหนึ่ง ติดเชื้อโควิด-19 เท่าที่คุยกัน เท่าที่ผมได้รับรายงานมา จนท.ท่านนี้ไม่เคยเข้าไปในพื้นที่เรือนจำ แต่ทำงานอยู่ด้านนอกเรือนจำเท่านั้น ทำให้เราค่อนข้างสบายใจว่าไม่น่าจะเข้าไปแพร่เชื้อในเรือนจำแต่อย่างใด ส่วนผลการตรวจและรายละอียดทั้งหมด ขออนุญาต พรุ่งนี้จะทำการแถลงนะครับส่วนกรณีพบผู้เดินทางกลับมาจากอินโดนีเซีย 19 ราย มีรายงานสงสัยติดเชื้อโควิด-19 นั้น ตอนนี้มีผู้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศเข้ามามาก พอเราเจอผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ถ้ามีอาการไข้ แล้วสงสัยติดเชื้อแล้ว เราจะตรวจเชื้อเร่งด่วน แล้วเก็บตัวผู้สงสัย รอผลที่สนามบินในพื้นที่ที่มีการเตรียมไว้รอผลการตรวจเลย หากคนไข้ที่มีอาการตรวจผลเป็นบวก ก็จะส่งไป รพ. หากมีผลเป็นลบจะส่งเข้ากักตัวเลยครับทั้งอยากเชิญชวนคนไทยมาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคุณ ปฏิบัติตามมาตรการ เว้นระยะห่างทางสังคม ด้วยการอยู่บ้าน อยู่ห่าง อยู่รอด เพื่อคนไทยทั้งประเทศ ทำให้ประเทศไทยอยู่รอดจากเหตุการณ์นี้ไปได้.
รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ชม กรมราชทัณฑ์ เตรียมพร้อมรับมือโควิด-19 ดีเยี่ยม เผย ผบ.เรือนจำนครนายก ติดเชื้อจริง แต่ยังดี ไม่เคยเข้าไปในพื้นที่เรือนจำ แต่ทำงานอยู่ด้านนอก-ป่วยเบาหวาน
ข่าว,การเมือง
โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสอู่ฮั่น,กรมควบคุมโรค,ธนรักษ์ ผลิพัฒน์,ปอดอักเสบ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1809928
วิษณุ วอนเคารพศาล ขอคดีจบ อย่าทวีตโต้กันอีกเลย
เมื่อวันที่ 1 ก.ย.60 ที่ห้องวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษเรื่อง ทิศทางกระบวนการยุติธรรมไทยต่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งมีผู้เข้าฟัง ประกอบด้วย ทูตต่างประเทศ คณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงการต่างประเทศ และนักศึกษาหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง,โดย นายวิษณุ กล่าวตอนหนึ่งว่า การปฏิรูปประเทศจะไม่สำเร็จถ้าไม่มียุทธศาสตร์ชาติที่เป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศ การกำหนดยุทธศาสตร์ชาติปรับเปลี่ยนได้ตามการเปลี่ยนแปลงของโลก ต้องอยู่บนความจริง สถานการณ์โลก ความเป็นไทย หลักนิติธรรม และกรอบเป้าหมายของสหประชาชาติ ขณะที่กระบวนการยุติธรรมมี 4 มิติ คือ กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ทางแพ่ง ทางปกครอง ทางรัฐธรรมนูญ ซึ่งทั้งหมดจำเป็นต้องเข้ามาร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาคน ด้านการลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเป็นธรรมให้คนในสังคม เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมโดยตรง รัฐธรรมนูญปัจจุบันบัญญัติว่ารัฐต้องจัดให้มีการบริหารงานยุติธรรมในทุกด้าน จึงต้องปรับปรุงงานด้านกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ ให้คนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างสะดวกและง่าย รวดเร็ว เสียค่าใช้จ่ายถูก อีกทั้งต้องกำหนดเวลาของการดำเนินคดีทุกขั้นตอนอย่างชัดเจนว่าจะใช้เวลากี่เดือน กี่ปี ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่คณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมต้องไปคิดว่าจะทำรูปแบบออกมาเป็นอย่างไร ,นายวิษณุ กล่าวต่อว่า รัฐบาลทราบว่านับวันมีคดีขึ้นศาลเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.2559 มีการร้องคดีต่อศาลทั่วประเทศ โดยในศาลชั้นต้นมี 175,000 คดี ศาลสามารถตัดสินได้ 140,000 คดี ที่เหลือไปพอกในปีถัดไป ศาลอุทธรณ์มี 50,000 คดี สามารถตัดสินได้เสร็จ 40,000 คดี คดีขึ้นศาลฎีกา 20,000 ตัดสินคดีเสร็จ 11,000 คดี ซึ่งทำให้ต้องมีการปรับปรุง ปฏิรูป โดยควรเปลี่ยนให้จบแค่ชั้นศาลอุทธรณ์แล้วให้เหลือแต่คดีที่จำเป็นจริงๆ ให้ถูกส่งไปถึงศาลฎีกา อย่างไรก็ตาม กระบวนการยุติธรรมเป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องยุติลงได้อย่างน่าเชื่อถือ และเกิดความพึงพอใจ แต่ไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจ ย่อมมีคนที่ไม่พอใจผลตัดสิน ซึ่งเราก็ปล่อยเขาไป ,นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ไม่อยากอ้างถึงมงแต็สกีเยอหรือเชคสเปียร์ แต่เชคสเปียร์เป็นผู้ประพันธ์เรื่อง เวนิสวานิช ที่เป็นเรื่องพ่อค้าทะเลาะกัน โดยพระเอกที่เป็นพ่อค้าไปกู้ยืมเงินจากพ่อค้าชาวยิวหน้าเลือด ที่ชื่อไชล็อก แต่พระเอกถูกฟ้องเพราะไม่มีเงินใช้หนี้ ไชล็อกจึงบอกกับศาลว่ามีเงื่อนไขว่าเฉือนเนื้อหนัก 3 ปอนด์เป็นการใช้หนี้ แต่ทนายความของพระเอกบอกว่าเฉือนก้อนเนื้อได้ แต่ห้ามมีเลือด มิฉะนั้นถือว่าผิดสัญญา ซึ่งศาลเห็นชอบ ทำให้ไชล็อกร้องว่าไม่ยุติธรรมเลย พระเอกจึงพูดว่า โธ่ยิว เมื่อพูดถึงความยุติธรรม จงกำหนดจดจำให้ด้วยว่าในกระแสยุติธรรม ยากจะหาความเกษมเปรมใจ ซึ่งนี่แปลว่าเมื่ออ้างถึงความยุติธรรม แล้วยากที่ทุกคนจะหาความถูกใจได้ทั้งหมดไม่ได้ ดังนั้นเมื่อคดียุติจบในศาลแล้ว อย่าได้ทวิตเตอร์กันอีกเลย ขอให้จบกันเท่านี้
วิษณุ ชี้ยุทธศาสตร์ฯปรับเปลี่ยนได้ ตามกระแสโลก แต่ต้องอยู่บนหลักความจริง สร้างความเป็นธรรมให้สังคม ระบุกระบวนการยุติธรรมไทยยังเชื่อถือได้ ขออย่าทวีตโต้กันอีกเลย เมื่อคดีจบในศาล ควรยุติกันเท่านี้
ข่าว,การเมือง
วิษณุ เครืองาม,กระบวนการยุติธรรม,กฎหมาย,ศาล,ตุลาการ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1057015
นักวิชาการด้านเด็ก เรียกร้องนายกฯเป็นเจ้าภาพแก้ไขปัญหาท้องไม่พร้อม
นักวิจัยโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ เปิดเผยปัญหาสุขภาวะเด็กแรกเกิดถึง 5 ปีในประเทศไทย ใน 6ด้าน ได้แก่ ปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ภาวะผิดปกติแต่กำเนิดอย่างธาลัสซีเมีย ภาวะพร่องไทยรอยด์ฮอร์โมน และกลุ่มอาการดาวน์ ซึ่งเป็นอาการเป็นผิดปกติที่พบในอัตราค่อนข้างสูง พัฒนาการผิดปกติ ภาวะพร่องโภชนาการและภาวะโภชนาการเกิน ภาวะผิดปกติทางสายตาและการได้ยิน และคุณภาพของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ที่ยังขาดความปลอดภัยและไม่ได้มาตรฐาน โดยเรียกร้องให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพในการแก้ปัญหาท้องไม่พร้อมด้วยตัวเอง เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างจริงจังและเป็นระบบมากขึ้น เหมือนกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐอเมริกา ที่ขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้เป็นนโยบายระดับประเทศด้วยตัวเองส่วนปัญหาภาวะผิดปกติแต่กำเนิดอย่างธาลัสซีเมีย ภาวะพร่องไทยรอยด์ฮอร์โมน กลุ่มอาการดาวน์ ภาวะพร่องโภชนาการและภาวะโภชนาการเกิน รวมถึงภาวะผิดปกติทางสายตาและการได้ยิน นักวิจัยที่ทำเรื่องนี้ เสนอให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ขยายสิทธิประโยชน์และปรับระบบบริการในเรื่องของการคัดกรองและการรักษาให้ครอบคลุมมากขึ้น ขณะที่การพัฒนาศูนย์เด็กเล็กให้ได้มาตรฐานนั้นนักวิจัย เสนอให้กระทรวงมหาดไทย โดยองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก ทั้งเรื่องความปลอดภัยของโครงสร้าง การสนับสนุนเงินทุน และการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นักวิชาการด้านเด็กเรียกร้อง ให้นายกรัฐมนตรี ลงมาเป็นเจ้าภาพในการแก้ปัญหาท้องไม่พร้อมด้วยตัวเอง เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง พร้อมทั้งเสนอให้ภาคีที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในกลุ่มเด็กแรกเกิด ถึง 5 ปี ในอีก 5 ด้าน
สังคม
ท้องไม่พร้อม,นักวิชาการ,นายก,เด็ก,แก้ไข
https://news.thaipbs.or.th/content/69098