title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
ศาลให้ประกัน หนุ่มแอบถ่ายใต้กระโปรง แพทริเซีย กู๊ด
ตร.สน.ลุมพินี คุมตัวหนุ่มแอบถ่ายใต้กระโปรง แพทริเซีย กู๊ด นางเอกสาวชื่อดัง ขณะร่วมงานอีเวนต์ ไปฝากขังผัดแรก ญาติยื่นขอปล่อยชั่วคราว ศาลอนุญาตประกันตัวไประหว่างสอบสวน โดยตีราคาประกัน 1.5 แสนบาท,จากกรณี แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด นางเอกลูกครึ่งชื่อดัง พร้อม พีช พชร จิราธิวัฒน์ นักแสดงชื่อดังและแฟนหนุ่ม เดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินี หลังช่วงค่ำเมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) ไปร่วมงานแสดงแฟชั่นโชว์ที่ห้างดัง ย่านราชประสงค์ ซึ่งบรรยากาศภายในงานนั้เต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก ก่อนจะเริ่มเดินแฟชั่นโชว์มีคนสังเกตเห็นมีผู้ชายรูปร่างท้วมคนหนึ่ง ที่เดินอยู่ภายในงานแอบถ่ายใต้กระโปรง แพทริเซีย เจ้าหน้าที่ รปภ.จับกุมตัวไว้ได้ ก่อนเข้าแจ้งความตำรวจดำเนินคดี,วันนี้ (23 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้คุมตัว นายณัฐวุฒิ วงศ์วัฒนากรชัย ผู้ต้องหาใช้กล้องแอบถ่ายใต้กระโปรง แพทริเซีย กู๊ด ไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งวันที่ 12 พ.ย. ถึงวันที่ 24 พ.ย. 2561 ในข้อหา กระทำอนาจาร,หลังผู้ต้องหาสารภาพใช้กล้องซุกซ่อนในรองเท้า และทำทีเป็นสื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพนางเอกสาว โดยเบื้องต้นยังไม่ได้มีการนำคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่ ขณะที่การตรวจสอบไม่พบประวัติการรักษาอาการป่วยทางจิต และก่อเหตุในลักษณะนี้มาก่อน,แต่ผู้ต้องหามีการเตรียมอุปกรณ์มาพร้อม โดยเจาะรูรองเท้าเพื่อติดกล้อง ก่อนเข้าไปส่องใต้กระโปรง เมื่อได้ภาพจะเดินออกมานอกพื้นที่ เพื่อกดออฟเรกคอร์ด และกลับเข้าไปบันทึกภาพซ้ำ เบื้องต้นทางตำรวจแจ้งข้อหา กระทำอนาจาร ก่อนคุมตัวมาขออำนาจศาลฝากขังในวันนี้,ด้าน พ.ต.อ.อัครวุฒ ธานีรัตน์ ผกก.สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า หลังจากจับกุมตัวมาได้ พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ เป็นไอโฟน 5 รุ่นเก่า ที่มีหน่วยความจำน้อย และไม่มีการเชื่อมสัญญาณอินเทอร์เน็ต จากการตรวจสอบพบเพียงแค่ 1 คลิปเท่านั้น มีความยาวเกือบ 30 นาที ตั้งแต่ตัวผู้ต้องหาเอาโทรศัพท์ใส่ในรองเท้า และเดินออกมาจากห้องน้ำเข้ามาในงาน ก่อนจะมาถ่ายที่บริเวณใต้กระโปรงของ น.ส.แพทริเซีย และถูกจับได้,โดยนายณัฐวุฒิ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าชื่นชอบดาราคนนี้มาก และเป็นแฟนคลับจึงถ่ายคลิปเก็บไว้ดูเอง อย่างไรก็ดีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหา กระทำการอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี ผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยบุคคลนั้นอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถขัดขืนได้, กระทำอนาจาร หรือกระทำการใดๆ ต่อผู้อื่น ข่มเหง คุกคามหรือกระทำการใดให้ได้รับความอับอายอันเป็นลักษณะ ส่อไปในทางล่วงเกินทางเพศ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 278, 397 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ,ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้ว ไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้,ขณะที่ ญาติ นายณัฐวุฒิผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ นายณัฐวุฒิ ประกันตัวไประหว่างสอบสวน โดยตีราคาประกัน 1.5 แสนบาท.
ตร.สน.ลุมพินี คุมตัวหนุ่มแอบถ่ายใต้กระโปรง แพทริเซีย กู๊ด นางเอกดัง ขณะร่วมงานอีเวนต์ ไปฝากขังผัดแรก ญาติยื่นขอปล่อยชั่วคราว ศาลอนุญาตประกันตัวไประหว่างสอบสวน โดยตีราคาประกัน 1.5 แสนบาท
ข่าว,อาชญากรรม
แพทริเซีย กู๊ด,แอบถ่าย,กล้องแอบถ่าย,ให้ประกันตัว,ฝากขัง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1428266
เปิดใจผู้ค้ารายย่อย ทำไมต้องขายหวยเกินราคา 80 บาท
เป็นประเด็นดังขัดใจผู้คน เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ออกมายืนยันว่ามาตรการแก้ปัญหาขายสลากฯ เกินราคาได้ผล จากการตรวจสอบไม่พบการขายเกินราคา 80 บาท ข้อมูลที่ทางกองสลากฯ เปิดเผย สวนทางกับประสบการณ์ของผู้คนโดยทั่วไปที่สนใจเสี่ยงโชค ซึ่งยืนยันกันเต็มโลกออนไลน์ว่าการขายสลากฯ เกินราคายังเป็นเรื่องปกติ พบเห็นได้โดยทั่วไป วันนี้ (13 พ.ย.) THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจแผงลอตเตอรี่ย่านคอกวัว ถนนราชดำเนิน แหล่งรวมยี่ปั๊วขายส่งลอตเตอรี่ชื่อดัง ที่นี่มีทั้งผู้ค้ารายย่อย และคนทั่วไปเดินเลือกหาเลขเด็ดในดวงใจหวังลุ้นเสี่ยงโชคงวดวันที่ 16 พ.ย. นี้ ที่แยกคอกวัว เราพบผู้ค้ารายย่อยกลุ่มใหญ่ กำลังง่วนกับการจัดเรียงลอตเตอรี่ใส่แผงไม้เตรียมเดินเร่ขาย เมื่อเดินเข้าไปพูดคุยจึงทราบว่าพวกเขาเดินทางมาจากหมู่บ้านแห่งหนึ่งของตำบลวังสะพุง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย มากันกี่คนครับคุณป้า? เราถาม มากันทั้งหมู่บ้าน มีแต่คนแก่มาไม่ไหว ถ้ามาไหวก็คงมา ป้าตอบพร้อมเสียงหัวเราะ คุณป้าจากวังสะพุง ทำอาชีพเดินขายลอตเตอรี่ในกรุงเทพฯ มากว่า 30 ปีแล้ว คุณป้าเล่าว่า ที่เมืองเลยมีแต่คนขายหวยแต่ไม่มีคนซื้อ ตัวเองมารับสลากฯ ที่คอกวัว จากนั้นก็เดินเร่ขายแถวเทเวศร์ ที่วังสะพุงชาวบ้านขายหวยกันทั้งหมู่บ้าน กระจายกันไปทั่วประเทศตั้งแต่เหนือจรดใต้ คุณป้ากับสามีทำอาชีพขายลอตเตอรี่เลี้ยงชีพ เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. มารับสลากฯ เร่ขาย พอหวยออกวันที่ 16 ก็กลับบ้านไปทำไร่ทำนาต้นตอขายเกินราคา ยี่ปั๊วขายส่งก็เกิน 80 บาทแล้ว ขายใบเท่าไหร่ครับ ? ใบละ 100 จ้า คุณป้าตอบเสียงอ่อย คุณป้าเผยว่า ต้นทุนเฉลี่ยของลอตเตอรี่นั้น ถ้าเป็นหวยชุดไม่เคยต่ำกว่า 90 บาท ถ้าต่ำกว่า 90 ก็จะเป็นหวยเล่ม หรือลอตเตอรี่ใบเดียว เลขชุดสำหรับรายย่อยจะมีชุดละ 3 ใบบ้าง 5 ใบบ้าง แต่ถ้าเป็นเลขชุด 10 ใบจะเป็นผู้ค้าแผงใหญ่หน่อย ซึ่งเลขชุดจะขายดีกว่าเพราะคนนิยมซื้อเป็นชุด ที่สำคัญคนขายเองก็ได้กำไรดีกว่าด้วย สำหรับเลขชุดนั้น ต้นทุนที่รับจากยี่ปั๊วมา คือถ้าเป็นชุด 3 ใบ ต้นทุนอยู่ที่ใบละ 92 บาท ถ้าเป็นชุด 5 ใบก็แพงขึ้นมาอีก ตกใบละ 95 บาท รับมาต้นทุนเท่านี้ เดินขายใบละ 100 บาท ก็แทบไม่ได้อะไรอยู่แล้ว ถามว่าขายได้ไหม ก็พอขายได้บ้าง เพราะขายมานานก็มีลูกค้าประจำ ก็ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจว่าเรารับมาแพง แต่บางคนเขาไม่เข้าใจ เขาต่อว่าเราก็มี เราก็ต้องเฉยๆ ไป เพราะเราผิดจริง ถ้ามีปัญหาเราก็ไม่ขายเสี่ยงถูกล่อซื้อเจอปรับ 5000-10000 บาท คุณป้าวังสะพุงเล่าต่อว่า เฉลี่ยงวดหนึ่งขายได้กำไร 3000 บาท ต้องมากับสามี 2 คนถึงจะคุ้มค่า เพราะจะได้กำไรต่องวดที่ 6000 บาท แต่ถ้าหักต้นทุนค่าเดินทางและกินอยู่ในกรุงเทพฯ ก็จะเหลือกำไรจริงๆ ไม่ถึง 6000 บาท ปัญหาคือยี่ปั๊วเขาส่งเรามาเกิน 80 บาทอยู่แล้ว เราอยากได้โควตาเป็นของเราเอง ราคาโควตาอยู่ที่ 70 บาท 40 สตางค์ เรามาเดินขาย 80 บาทสบายๆ เลย เราก็ไม่เหนื่อยด้วย ไม่ต้องขายแบบหลบๆ ซ่อนๆ คุณป้าจากวังสะพุง เปิดใจ คุณป้าจากวังสะพุงบอกด้วยว่า เงินที่นำมาลงทุนก็กู้ ธกส. (ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) เพราะตัวเองเป็นเกษตรกรเลยเป็นสมาชิก ธกส. อยู่แล้ว หรือไม่ก็กู้เถ้าแก่ซึ่งคิดดอกเบี้ย 200 บาท ต่อเงินต้น 10000 บาท เดินเร่ขายก็กลัวถูกล่อซื้อ เพราะถ้าถูกจับแต่ละครั้งต้องเสียค่าปรับ 5000-10000 บาท ถ้าโดนก็ร้องไห้โฮเลย เพราะกำไรต่องวดเราก็ได้ไม่ถึง 5000 บาท ถ้าถูกจับก็ต้องขอผ่อนผันกับเถ้าแก่ งวดหน้าก็ต้องมาขายใช้หนี้เขาอีก แม่ค้าลอตเตอรี่จากวังสะพุงเปิดใจเปิดขั้นตอนกองสลากฯ ซื้อตรงต้นทุน 70.40 บาท ไม่ต้องผ่านยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว ที่ประชุมสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ด) มีมติให้สำนักงานสลากฯ จำหน่ายสลากฯ โดยกำหนดราคาคู่ละ 70.40 บาท สามารถทำได้ 2 รูปแบบ คือ 1. การซื้อตรง ซึ่งคือสลากฯ ที่เหลือจากการจัดสรรโควตา (74 ล้านฉบับ) โดยแต่ละงวดมีสลากฯ เหลือประมาณ 1 ล้านฉบับ และ 2. การจองซื้อ คือสลากฯ ที่สำนักงานสลากฯ จะพิมพ์เพิ่มตามจำนวนที่จองไว้สำหรับงวดถัดไป โดยผู้สั่งซื้อจะได้รับการจัดสรรก็ต่อเมื่อมียอดสั่งจองครบทุก 10000 เล่มคู่ หรือ 1 ล้านฉบับ หากไม่ครบก็ไม่มีการพิมพ์สลากฯ เพิ่มตามคำสั่งจอง ธนาคารกรุงไทยจะโอนเงินคืนพร้อมค่าธรรมเนียมภายในวันสุดท้ายของการจอง ทั้งนี้ ผู้ค้าสลากฯ รายย่อยที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการนี้ ต้องลงทะเบียนซื้อหรือจองซื้อสลากฯ ล่วงหน้า ผ่านสาขาของธนาคารกรุงไทย 1200 แห่งทั่วประเทศ ตู้ ATM และระบบ Netbank (อินเทอร์เน็ต) รวมทั้งเว็บไซต์สำนักงานสลากฯ (www.glo.or.th) สำหรับการจองซื้อขั้นต่ำ 5 เล่มต่อราย (1 เล่มมี 100 ฉบับ) สูงสุดไม่เกิน 50 เล่มต่อราย ภายใต้ โครงการซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นโครงการเรือธงในการแก้ปัญหาขายสลากฯ เกินราคาของ คสช. เริ่มตั้งแต่ปี 2558 ผู้ค้ารายย่อยเผยโควตา 5 เล่ม ในทางปฏิบัติขายไม่พอเลี้ยงชีพ ผู้ค้ารายย่อยย่านคอกวัว เปิดใจกับ THE STANDARD ว่าทุกครั้งที่มีการเปิดให้รับตรงก็ไปทุกครั้งแต่ไม่เคยได้ อีกทั้งปัญหาคือการให้โควตาซื้อตรงกับรายย่อยเพียง 5 เล่ม (500 ใบ) ซึ่งในทางปฏิบัติไม่เพียงพอต่อการขายให้ได้กำไรเลี้ยงชีพ เนื่องจากขั้นต่ำที่จะได้กำไรพออยู่ได้คือ 10 เล่ม (1000 ใบ) ดังนั้นในทางปฏิบัติรายย่อยก็ต้องไปรับจากยี่ปั๊วอีก 5 เล่ม ในต้นทุนที่แพงกว่า 80 บาทมาคละกันขาย ดังนั้นราคาขายปีกรายย่อยก็เกินกว่า 80 บาทอยู่ดี ผู้ค้ารายย่อยเผยอีกว่า ในความเป็นจริงแม้จะได้โควตาตรง 5 เล่ม แต่ก็ต้องไปรับเลขชุด (ซึ่งขายดี) จากยี่ปั๊วมาขายด้วยอยู่ดี เพราะโควตาตรงของรายย่อยไม่มีเลขชุด สุดท้ายก็ขายกันเกิน 80 บาทอยู่ดี และลูกค้าประจำก็เข้าใจ ส่วนคนที่ไม่เข้าใจก็ไม่ขายให้ ขณะที่โควต้าจองซื้อกับธนาคารกรุงไทย หรือที่รายย่อยเรียกกันว่า หวยกด (เพราะต้องไปกดจองที่ตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย) ผู้ค้ารายย่อยเผยว่า สมมติต้องไปกดจองวันที่ 15 แต่ในความเป็นจริงต้องไปรอคิวกันตั้งแต่ 1 ทุ่มของวันที่ 14 ช่วงหลังในบางพื้นที่มีปัญหามาเฟียมาข่มขู่แย่งกด เพื่อนผู้ค้าเคยไปเฝ้ารอกดหวยตู้ย่านอ่อนนุช ถึงขั้นถูกวัยรุ่นแทงบาดเจ็บกันมาแล้ว ช่วงหลังหลายคนกลัวไม่กล้าไปกดกันอีกกองสลากฯ เตรียมแก้กฎหมายลงโทษพ่อค้าคนกลาง ต้นตอหวยแพง พลตรีฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงปัญหาการขายสลากฯ เกินราคา ว่าเกิดจากการที่ผู้ได้รับโควตาสลากฯ นำไปขายต่อให้พ่อค้าคนกลาง เพื่อรวมชุดและนำไปจำหน่ายต่อในราคาแพง ขอเรียนว่า เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีการกำหนดบทลงโทษเกี่ยวกับพ่อค้าคนกลาง หรือผู้ที่มีพฤติกรรมที่ทำให้ราคาสลากฯ บิดเบือนไปจากที่ควรจะเป็น สำนักงานฯ จึงได้เสนอประเด็นการกำหนดบทลงโทษผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ในร่างพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงในปัจจุบัน ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ยืนยันว่าการจำหน่ายสลากฯ ของสำนักงาน เป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ หากพบการกระทำที่เป็นการทุจริต ขอทุกท่านอย่างได้นิ่งเฉย โปรดแจ้งที่ศูนย์รับแจ้งเรื่องราวร้องทุก 0 2345 1466 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สำหรับการรณรงค์ไม่ซื้อสลากฯ เกินราคา 80 บาทนั้น สำนักงานฯ ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือในการร่วมรณรงค์กับมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน อย่างไรก็ตาม หากได้รับความร่วมมือจากคนสำคัญที่สุดคือ ประชาชนทุกท่านร่วมรณรงค์ไม่ซื้อสลากฯ เกินราคาอย่างเด็ดขาด การแก้ไขปัญหาดังกล่าวก็จะสัมฤทธิ์ผลอย่างรวดเร็วและกว้างขวางครอบคลุมทั่วประเทศเกิดประโยชน์แก่ทุกคน
ผู้ค้ารายย่อยเปิดใจ ไม่อยากขายเกินราคาเพราะเสี่ยงถูกจับ แต่ต้องทำเพราะต้นทุนที่รับจากยี่ปั๊วสูงถึงใบละ 90 บาทกองสลากฯ เปิดให้รายย่อยซื้อสลากฯ โดยตรงในราคาทุน 70.40 บาท แต่ในทางปฏิบัติยังมีอุปสรรคมากมายที่รายย่อยต้องเผชิญต้นตอของสลากฯ แพงส่วนหนึ่งคือมีการนำโควตาไปขายให้พ่อค้าคนกลางเพื่อรวมชุด ซึ่งกองสลากฯ เตรียมเพิ่มบทลงโทษเพื่อปิดช่องโหว่นี้
null
null
https://thestandard.co/why-sell-lottery-overpriced/
อานันท์ รับ กฎหมายหมิ่นฯ รุนแรงไป เสนอแก้กระบวนการฟ้องร้องและบทลงโทษ
แนะควรแก้ไขที่กระบวนการฟ้องร้องและบทลงโทษให้เหมาะสม เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2554 ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย มีการเปิดตัวหนังสือชีวประวัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฉบับภาษาอังกฤษโดยสำนักพิมพ์ Editions Didier Millet ชื่อ King Bhumibol Adulyadej: A Lifes Work โดยมีอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ เป็นที่ปรึกษากองบรรณาธิการ ซึ่งในงานดังกล่าวได้รับความสนใจแก่ชาวต่างชาติและผู้สื่อข่าวต่างประเทศเป็นอย่างมาก อานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษากองบรรณาธิการหนังสือเล่มนี้ กล่าวว่า งานเขียนซึ่งมีความยาวกว่า 500 หน้านี้ เป็นการรวบรวมบทความและข้อเท็จจริงที่ผ่านการถกเถียงระหว่างผู้เขียนที่หลากหลายโดยประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญไทยและต่างประเทศ โดยเขาหวังว่าจะสามารถให้ข้อมูลที่เป็นอิสระ เป็นกลางและรอบด้านแก่ผู้อ่านมากที่สุด หนังสือดังกล่าวยังได้รวบรวมประเด็นอันเป็นที่ถกเถียงอยู่ในปัจจุบัน เช่น กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และการสืบรัชทายาทด้วย ธีรวัต ณ ป้อมเพชร อดีตอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ จุฬาฯ หนึ่งในคณะกรรมการที่ปรึกษากองบรรณาธิการ กล่าวในงานแถลงข่าวว่า หนังสือเล่มนี้เป็นการรวมบทวิเคราะห์ทางประวัติศาสตร์ การเมือง และวัฒนธรรมในช่วงการปกครองสมัยรัชกาลที่ 9 โดยตั้งใจให้เป็นคล้ายหนังสืออ้างอิงเชิงประวัติศาสตร์นิพนธ์ของรัชกาลที่ 9 ที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านชาวต่างชาติที่ต้องการเข้าใจประเทศไทยดีขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของงาน ผู้สื่อข่าวถามว่า อานันท์เห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนสากล เนื่องจากหนังสือดังกล่าวได้ระบุถึงปัญหาของกฎหมายอาญาม. 112 ด้วย ซึ่งอดีตนายกฯ ได้ตอบว่า แท้จริงแล้วกฎหมายนี้ต้องพิจารณาในบริบทของประเทศไทย ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันกษัตริย์ไทยกับประชาชนเป็นเอกลักษณ์จากที่อื่นๆ ในโลก อย่างไรก็ตาม เขาเห็นว่า การบังคับใช้ของกฎหมายนี้รุนแรงเกินไปโดยเฉพาะในแง่ของการฟ้องร้องที่เปิดโอกาสให้ใครก็ได้สามารถกล่าวโทษ ทั้งนี้ เขาเสนอแนะว่า อาจมีการตั้งหน่วยงานที่ทำหน้าที่สั่งฟ้องโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันไม่ให้กฎหมายดังกล่าวถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง รวมถึงพิจารณาลดบทลงโทษให้ผ่อนคลายลงกว่าเดิมด้วย ผู้สื่อข่าวจากนิตยสารฟอร์บส์ ได้ถามอานันท์ว่า คิดว่ากรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเช่น คดี อากง หรือคดี โจ กอร์ดอน จะทำให้ความรับรู้ของต่างชาติเกี่ยวกับสถาบันไปในทางลบ ซึ่งแตกต่างจากสิ่งที่หนังสือเล่มนี้ได้พยายามนำเสนอหรือไม่ ซึ่งเขาได้ตอบว่าไม่ได้สนใจมากนักว่าสื่อต่างชาติจะมองอย่างไร เขาเพียงต้องการให้หนังสือเล่มนี้นำเสนอข้อมูลที่เป็นกลาง และให้คนอ่านได้ตัดสินด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์ ได้ตั้งคำถามในงานแถลงข่าวว่า จริงหรือไม่ที่หนังสือเล่มนี้ตั้งใจพิมพ์ออกมาเพื่อต้านกับหนังสือต้องห้าม The King Never Smiles ของพอล แฮนด์ลีย์ ซึ่งเป็นชีวประวัติของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งอานันท์ได้ตอบว่า หนังสือเล่มนี้มิได้มีวาระแอบแฝงใดๆ เพียงแต่เป็นการผลิตเนื้อหาที่น่าสนใจและรอบด้านเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์เพิ่มขึ้นให้กับสาธารณะเท่านั้น
เปิดตัวหนังสือKing Bhumibol Adulyadej: A Lifes Work ที่สมาคมนักข่าวตปท. อานันท์ ปันยารชุน ยอมรับ กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมีปัญหาการใช้ที่รุนแรงเกินไป
ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน,วัฒนธรรม
Editions Didier Millet,King Bhumibol Adulyadej: A Life’s Work,กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ,ธีรวัต ณ ป้อมเพชร,สถาบันกษัตริย์,อานันท์ ปันยารชุน
https://prachatai.com/journal/2011/11/38077
ชาวบ้านช่วยจับปลาขายราคาถูกให้คนในชุมชนสู้วิกฤต COVID-19
เมื่อวานนี้ (27 เม.ย.2563) ที่สระน้ำชุมชนบ้านสระผักโพด ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นายสนอง รวมครบุรี ผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้าน ได้จัดกิจกรรมจับปลาในสระน้ำ เพื่อจำหน่ายนำเงินไปสมทบทุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ให้กับหมู่บ้านเนื่องจากสระน้ำของหมู่บ้านเริ่มแห้งขอดจากสถานการณ์ภัยแล้ง จึงจัดกิจกรรมจับปลาเพื่อไปจำหน่ายให้กับชาวบ้านในราคาถูกกว่าท้องตลาด ได้นำกลับไปทำอาหารรับประทานในครอบครัว ลดภาระค่าใช้จ่ายยามที่เศรษฐกิจกำลังชะลอตัวอยู่ในขณะนี้เดิมทีคณะกรรมการจะเปิดสระน้ำที่กำลังแห้งขอด ให้ประชาชนทั่วไปได้นำอุปกรณ์เข้ามาจับปลาและจำหน่ายบัตรเหมือนเช่นที่อื่นๆ เคยทำ แต่เนื่องจากช่วงนี้อยู่ในช่วงสถานการณ์โรค COVID-19 ระบาด ไม่อยากให้มีกิจกรรมที่เป็นการรวมตัวของคนหมู่มากตามนโยบายของรัฐบาลทั้งนี้ จึงได้ปรับเปลี่ยนให้ชาวบ้านในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นอาสาสมัครเข้ามาทำการจับปลา ลดการรวมตัวของผู้คนแล้วนำขึ้นมาจำหน่ายให้กับชาวบ้านที่สนใจ ซึ่งปลาที่จับขึ้นมาได้ มีเป็นจำนวนมาก มีทั้งปลาช่อน ปลาฉลาด และปลาสลิด ขายให้กับชาวบ้านในราคากิโลกรัมละ 50 - 100 บาท แล้วแต่ชนิดของปลาโดยปลาฉลาดและปลาสลิด จะจำหน่ายในกิโลกรัมละ 50 บาท ส่วนปลาช่อนก็จะจำหน่ายตามขนาดของปลา กิโลกรัมละ 80 - 100 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด ส่วนเงินรายได้จะนำไปสมทบทุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ของหมู่บ้านที่จำเป็นต่อไป
ชาวบ้านสระผักโพด จ.นครราชสีมา ช่วยกันจับปลาจากสระน้ำแห้ง นำมาขายราคาถูกกว่าท้องตลาด เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19
ภูมิภาค
โควิด-19,โควิด19,COVID-19,COVID19,ไวรัสโคโรนา 2019,ไวรัสโคโรนา,นครราชสีมา,ครบุรี,บ้านสระผักโพด
https://news.thaipbs.or.th/content/291767
องอาจ สับร่างฯ สืบอำนาจ ผุดแผนยุทธศาสตร์ฯ ส.ว.ลากตั้ง
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.59 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการพิจารณาเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบในร่างรัฐธรรมนูญ ที่จะมีการทำประชามติว่า ขอให้ประชาชนผู้มีสิทธิ ควรดูจากเนื้อหาสาระมากกว่าวาทกรรม แต่ขณะนี้มีการสร้างตรรกะเทียมขึ้นมาเพื่อโน้มน้าวประชาชนว่า ถ้าอยากให้ คสช.หมดอำนาจเร็ว ก็ควรไปเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญนี้ เพื่อที่จะมีการเลือกตั้งเร็ว ส่วนถ้าอยากให้ คสช.อยู่นานๆ ก็ให้ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนไม่เห็นด้วย เพราะคิดว่าต้องดูที่เนื้อหาสาระก่อนจะตัดสินใจว่าจะเห็นชอบหรือไม่ ส่วนความเป็นห่วงเรื่องความวุ่นวายในวันออกเสียงประชามติ ซึ่งมีหลายประเทศออกแถลงการณ์เตือนพลเมืองของตนเองที่อาศัยในประเทศไทยนั้น ถือเป็นเรื่องของแต่ละประเทศ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าจะมีความวุ่นวาย เพียงแต่เสียดายว่า การถกแถลงในเรื่องรัฐธรรมนูญก่อนวันออกเสียงประชามติ เป็นเรื่องที่ฝ่ายเห็นต่างมีโอกาสแสดงความเห็นน้อยกว่า กรธ. ที่พูดแต่ข้อดี ทำให้ประชาชนไม่ได้ข้อมูลอย่างครบถ้วน,ส่วนกรณีที่มีกลุ่มการเมืองออกมาระบุว่า เป็นเพราะ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงต้องรับร่างรัฐธรรมนูญนั้น นายองอาจ กล่าวว่า ไม่ควรพิจารณาจากความชอบ หรือไม่ชอบตัวบุคคลเป็นการส่วนตัว หรือคิดว่าคนที่ชอบ ไม่เห็นชอบในร่างนี้ต้องพิจารณาในทางตรงกันข้าม นอกจากนี้ ตนยังเห็นว่าคำถามพ่วงที่ให้ ส.ว.สรรหา 250 คน มีส่วนในการเลือกโหวตนายกรัฐมนตรีโดยอ้างเหตุผลว่า เพื่อให้การปฏิรูปประเทศเป็นไปอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นเพียงเหตุผลลวง แต่ข้อเท็จจริงเป็นความพยายามที่จะให้ ส.ว.มีส่วนในวังวนของดุลอำนาจทางการเมือง ซึ่งทำให้ถูกมองว่า ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. เป็นเรื่องการสืบทอดอำนาจใช่หรือไม่,นายองอาจ กล่าวต่อว่า โดยข้อเท็จจริงแล้ว ครม.ที่มาหลังการเลือกตั้ง ก็ไม่ได้เป็นผู้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติ เพราะคนทำ คือ ครม.ชุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. โดยในมาตรา 275 กำหนดให้ ครม.ปัจจุบันจัดทำกฎหมายแผนยุทธศาสตร์ให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปี นับจากร่างรัฐธรรมนูญประกาศใช้ อีกทั้งหน้าที่ ส.ว.ที่แท้จริงควรทำเพียงแค่ตรวจสอบ ครม.ชุดใหม่ว่า ได้ทำการปฏิรูปตามที่ร่างรัฐธรรมนูญหมวด 16 กำหนดไว้หรือไม่ ไม่ควรเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกนายกฯ เพราะการเลือกนายกฯ ควรมาจาก ส.ส.ที่มาจากประชาชนโดยตรง และการให้ ส.ว.เข้ามาเลือกนายกฯ จะทำให้เข้ามาสู่ในวังวนความขัดแย้งทางการเมือง ขัดกับร่างรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า ส.ว.ต้องไม่อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง.
องอาจ ห่วงปมสร้างตรรกะเทียมเหนือเหตุผล ตัดสินร่าง รธน. สวน กปปส. อ้าง ทักษิณ ไม่รับร่างฯ จึงรับแทน วอนใช้ดุลพินิจ โต้ข้ออ้าง ส.ว.โหวตนายกฯ เพื่อปฏิรูปต่อเนื่องแค่เหตุลวง แท้จริงหวังสืบทอดอำนาจ
null
ร่างรัฐธรรมนูญ,ประชามติ,สืบทอดอำนาจ,องอาจ คล้ามไพบูลย์,ผลประชามติ,รับ-ไม่รับร่างฯ,เนื้อหาร่างฯ,วาทกรรมการเมือง,ความวุ่นวาย,ออกเสียงประชามติ,กลุ่มป่วนประชามติ,ความสงบเรียบร้อย,คำถามพ่วง,ส.ว.โวตนายกฯ,ที่มา ส.ว.,ส.ว.สรรหา,ส.ว.250 คน,ประชาธิปัตย์,แผนยุทธศาสตร์ชาติ,ความขัดแย้ง,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/681591
หวานชื่น มิกกี้ แต่ง เจนี่ ไม่รู้อนาคตจะเป็นไงแต่สัญญาจะรักให้ดีที่สุด (คลิป)
หลังจากที่ในช่วงเช้าได้มีพิธีแต่งงานของนางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ และแฟนหนุ่ม มิกกี้ นนท์ อัลภาชน์ ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งบรรยากาศในงานเป็นไปด้วยความเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นของคนในครอบครัวและเพื่อนพ้องที่สนิทของทั้งคู่ที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในการเริ่มต้นชีวิตคู่ของเจนี่และมิกกี้,และในช่วงบ่ายของวันนี้ เจนี่และมิกกี้ ก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ที่สตูดิโอเบเนดิกต์ ถึงวันสำคัญของทั้งคู่ โดยได้เล่าบรรยากาศในช่วงเช้าให้ฟังว่า,มิกกี้ ราบรื่นทุกอย่าง ตั้งแต่เช้า ตั้งแต่เลี้ยงพระ จนถึงสวมแหวน ทุกอย่างก็ราบรื่น จนถึงแขกก็ไม่ได้ล้นจนเกินไป,เจนี่ ก็มีพิธีหมั้น รดน้ำ จดทะเบียนแล้วก็งานแต่งค่ะ มีแขกมาร่วมงานประมาณ 500 คนค่ะ กำลังดี,เปลี่ยนนามสกุลมั้ย?,เจนี่ เปลี่ยนค่ะ,มิกกี้ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร,เมื่อเช้าซึ้งกัน ตื่นเต้นกันขนาดไหน?,มิกกี้ จริงๆ ก็ตื่นเต้นกันตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว จนถึงเมื่อเช้าก็ยังตื่นเต้น เหมือนฝัน แล้วก็แฮปปี้,เจนี่ จริงๆ ทุกอย่างมันเหมือนผ่านไปเร็วมาก ช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านไปเร็วเสมอ แป๊บเดียวก็ต้องเปลี่ยนชุดแล้ว วันนี้เปลี่ยนชุดไป 4 ชุดค่ะ เพื่อนๆ ก็มาแต่เช้ากับหลานๆ วันนี้มีแต่คำอวยพรค่ะ,คุณแม่ฝากฝังอะไรบ้าง?,มิกกี้ คุณแม่เจนี่ฝากฝังให้ดูแลเจนี่ให้ดีๆ ค่อยๆ คุยกันถ้ามีอะไร ใจเย็นๆ นับ 1 ถึงล้าน,คำมั่นสัญญาอะไรให้กันบ้าง?,เจนี่ ก็ยังไม่ได้พูดคำมั่นสัญญา พรุ่งนี้จะมีอีกพิธีด้วยค่ะ จัดที่สมุยค่ะ เป็นพิธีฉลองมงคลสมรส,มิกกี้ จัดงานแต่งเหมือนกัน เหมือนเราเลี้ยงกันมากกว่า จะมีเพื่อนๆ เราไปกัน,พิธีวันนี้รดน้ำสังข์ผู้ใหญ่ให้คำอวยพรอะไรบ้าง?,เจนี่ ผู้ใหญ่ทุกคนอวยพรให้มีความสุขกันมากๆ ดูแลกันดีๆ,วางแผนครอบครัวยังไง จะมีน้องเลยมั้ย?,เจนี่ ตอนนี้ถ่ายแรงเงา 2 อยู่นะคะ คิดว่าหลังจากหมดจากละคร อยากมีอยู่แล้ว ไม่คาดหวังว่าจะมีกี่คน คือขอให้มาคนแรกก่อน ตอนแรกอยากได้ผู้ชายเพราะชอบบรู๊คลินค่ะ แต่พอเห็นพี่บีน่า เค้าเป็นเด็กขี้อ้อนค่ะ เจนี่เป็นคนที่แพ้เด็กขี้อ้อน ตอนนี้อะไรยังไงก็ได้ ชายก็ได้หญิงก็ได้ค่ะ รอให้ละครจบก่อนนะคะ,เรือนหอ?,มิกกี้ ตอนนี้อยู่บ้านเจนี่เป็นหลัก แต่เรือนหอกำลังสร้างที่ซอยอารีย์ บ้าน ณ ป้อมเพชรครับ น่าจะเสร็จประมาณสิ้นปีครับ,เรื่องสินสอดหลายคนสนใจว่าอะไรยังไง?,มิกกี้ เรื่องสินสอดผมไม่แน่ใจตัวเลขกะรัตครับ เป็นผู้ใหญ่จัดการ มีแหวน 4 วง มี 3 วงเป็นแหวนของคุณแม่ที่จัดการมา อีกวงมีแหวนบรรพบุรุษประจำตระกูล ณ ป้อมเพชร ครับ ที่เค้าส่งต่อกัน,เจนี่ คุณแม่ก็ตามใจค่ะ ใส่ที่เราสบายใจ แต่จริงๆ เจนี่มิกกี้จะใส่แบบเกลี้ยงๆ มากกว่า เพราะเราใส่ออกกำลังกาย,ธีมงานวันนี้?,เจนี่ งานวันนี้เป็นกันเอง สบายๆ พี่น้องและครอบครัว ส่วนพรุ่งนี้จะเป็นแนวพี่น้องที่จะสนิทๆ จะออกแนวปาร์ตี้หน่อยๆ ค่ะ,หลังแต่งงานชีวิตเราจะเปลี่ยนไปมั้ย?,เจนี่ คือจริงๆ เจนก็คาดหวังนะคะ อยากจะมีลูกเป็นของตัวเอง มีครอบครัวที่ดีค่ะ ก็ไม่ได้วางอะไรไว้ไกลมาก เพราะเจนเองก็มีครอบครัวที่มั่นคงพอสมควรค่ะ เจนว่าปล่อยไปตามสเตป ไปตามธรรมชาติดีกว่า,ก็คือทำงาน ทำหน้าที่ที่ดีที่สุดของตัวเองให้ดีทุกวัน แต่ถ้าเกิดมีน้องเสร็จแล้วก็รับต่อ คือเจนเป็นคนที่อะเลิร์ต พออะเลิร์ตแล้ว เราอยากทำงานค่ะ เป็นคนที่อยู่เฉยไม่ได้,มิกกี้ ได้ครับผม ได้หมดเลย ตามใจเค้าหมดเลย แต่จริงๆ งานในบางงานเค้าค่อนข้างเครียด ถ้ามีน้องก็ไม่อยากให้ทำอะไรที่เครียดมาก,จะรับงานเบาลงมั้ย?,มิกกี้ น่าจะยาก เพราะเค้าอะเลิร์ตและแอ็กทีฟตลอดเวลา เบางาน เบาเรื่องออกกำลังกายน่าจะยาก ก็คอยช่วยกันดูแลแล้วกัน อันไหนที่เยอะไป อันไหนที่ช่วยได้ ก็จะคอยดูแล เค้าก็ฟังเรานะครับ เห็นเค้าเป็นคนที่เก่ง เหมือนเป็นผู้นำตลอดเวลา แต่เค้าเป็นคนที่ให้เกียรติและเคารพ เวลาที่เราพูดอะไรเค้าก็ฟัง แล้วก็เอาไปปรับใช้,ฮันนีมูนที่ไหน?,เจนี่ ยังคิดอยู่ค่ะ เราสองคนเป็นคนชอบทะเลอยู่แล้ว เราถึงอยากไปจัดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ที่สมุย ถ้าเกิดฮันนีมูนก็คงจะเลือกทะเลอีกเช่นเคย ถ้าใครมีก็แนะนำหน่อยนะคะ เพราะอยากจะไปที่ที่ไม่เคยไปและที่แปลกใหม่สวยๆ,วุ้นเส้น เป็นคนได้ดอกไม้?,เจนี่ เค้าจับได้แม่นมาก คือโยนมาก็จับได้เลย แต่งต่อแน่ เจนี่ก็บอกว่า เพื่อน แต่งแน่ (ยิ้ม),มีคำสัญญาอะไรต่อกัน?,เจนี่ เมื่อวานเจนี่ก็ถามมิกกี้แล้วว่าอาทิตย์หน้าเราจะเป็นแบบนี้รึเปล่า คือเราจะเป็นอะไรยังไง เจนว่าความรู้สึกของเจนกับมิกเอง เราไม่ต้องมานั่งบอกว่า อาทิตย์หน้าฉันจะเป็นอย่างนี้ หรือใครก็ตาม,เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง เจนี่ว่าแค่ความรัก หรือความเข้าใจที่เรามีให้กันทุกวันนี้ การใช้ชีวิตอย่างมีสติและประคับประคองกันไป มันดีที่สุดค่ะ สัญญาแต่บางคนทำไม่ได้ก็มี ถือว่าวันนี้คือวันที่ดีที่สุดดีกว่า,มิกกี้ ก็ไม่ได้สัญญาอะไรกันไว้ คือในทุกๆ วันเราก็จะรักกันให้มากที่สุดครับ เพราะเราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง เราก็คุยกัน รักกันให้มากที่สุดครับ,เจนี่ เจนเคยบอกเค้าถ้าเกิดเราสองคนงอนกัน อย่างอนกันเกิน 24 ชม. ค่ะ อันนี้เป็นข้อแนะนำสำหรับทุกคนนะคะ คือมิกเค้าเป็นเหมือนเพื่อน เหมือนแฟน และเป็นคุณสามี การที่เราทะเลาะ หรือว่างอนกันแล้วมันมีอุบัติเหตุ มันจะเสียใจเวลาย้อนกลับมาไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราต้องดีกันก่อน เร็วที่สุดยิ่งดี,มีอะไรอยากจะบอก?,มิกกี้ จริงๆ ผมบอกรักเค้าทุกวันอยู่แล้ว เช้า กลางวัน เย็น ผมอยากจะบอกเค้าว่า ผมจะรักเค้าและดูแลเค้าให้ดีที่สุดตลอดชีวิต,เจนี่ ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ที่ทำให้เจนเองมาเจอกับมิกกี้ ขอบคุณความรัก ความเข้าใจ แล้วก็ทุกสิ่งทุกอย่าง เบบี๋เป็นเบบี๋ ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่มิกกี้นะคะ ที่รักแล้วก็เอ็นดูเจนี่ที่เป็นเจนี่เอง,และสุดท้ายขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่อยู่กับเจน ณ วันนี้นะคะ เจนเองดีใจนะคะที่มันเป็นวันที่สำคัญที่สุดในชีวิต เพราะฉะนั้นทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้เป็นคนสำคัญสำหรับเจนทุกคนค่ะ.
เจนี่ ควง มิกกี้ แต่งหวานชื่น เผยจดทะเบียนสมรสแล้ว ใช้นามสกุลฝ่ายชาย ส่วนเรื่องมีทายาทขอถ่ายละครให้เสร็จก่อน อุบตอบเรื่องสินสอด แต่มีแหวนแต่งงาน 4 วง และแหวนประจำตระกูลอีก 1 วง
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ แต่งงาน,เจนี่ แต่งงาน,เจนี่ มิกกี้ แต่งงาน,เจนี่ มิกกี้,ดาราแต่งงาน,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1399790
แกะรอยเส้นทางปล้นเงินนักธุรกิจ 60 ล้านบาท
คดีนี้เริ่มจากนายณรงค์ชัย ลูกน้องคนสนิท นำเงินสดมาจากญี่ปุ่นทั้งหมด 196 ล้านเยน หรือ 60 ล้านบาท ส่งให้กับนายเกียรติพงษ์ และนายจิรภัสส์ ใส่ในรถกระบะฟอร์ดเรนเจอร์สีส้ม และรถยนต์ BMW สีขาว อ้างว่าจะเดินทางไปกับผู้หญิงคนหนึ่ง จากนั้นรถทั้งสองคันออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อมุ่งหน้าไปที่คอนโดมิเนียม โดยนำเงินไปเก็บไว้ตามคำสั่งของนายภัทริศ เจ้าของเงิน และผู้เสียหายในคดีรถทั้ง 2 คันที่ถูกบันทึกได้จากกล้องวงจรปิดทางเข้าออกของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คือหลักฐานสำคัญ ประกอบนายณรงค์ชัยมีพิรุธกรณีไม่เดินทางกลับพร้อมกัน ทำให้ตำรวจจำกัดกลุ่มผู้ก่อเหตุแคบลงตำรวจสืบสวนแกะรอยตามเส้นทางและพบรถทั้ง 2 คันเดินทางถึงคอนโดมิเนียมในช่วงเวลา 23.00 น. จากนั้นไม่เกิน 10 นาที มีรถกระบะฟอร์ดสีส้ม กลับออกมาเพียงคันเดียวเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบรถกระบะของผู้เสียหายเพื่อหาลายนิ้วมือแฝง จากการตรวจภายในรถยังพบกุญแจพร้อมคีย์การ์ดคอนโดมีเนียมที่เกิดเหตุ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน จากการรวบรวมหลักฐานของตำรวจ สันนิษฐานว่า มีผู้ก่อเหตุประมาณ 5-7 คน ในจำนวนนี้มีนายศรายุทธ พี่เขยของนายณรงค์ชัย ได้เช่าห้องพักในคอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุ เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา สอดคล้องกับหลักฐานที่เจ้าหน้าที่พบคีย์การ์ดภายในรถกระบะฟอร์ด คาดว่านายณรงค์ชัยใช้คีย์การ์ดของห้องพักนายศรายุทธ ดำเนินการวางแผนก่อเหตุ ขณะนี้ตำรวจควบคุมตัวผู้หาได้ 5 คน จากทั้งหมด 7 คน ที่ถูกออกหมายจับแล้ว
ตำรวจสันนิษฐานว่า คดีทำร้ายและปล้นเงินของนายภัทริศ แต้รัตนชัย นักธุรกิจซื้อขายเครื่องประดับ เครื่องเพชรและทองคำแท่งส่งประเทศญี่ปุ่น จำนวน 196 ล้านเยน หรือ 60 ล้านบาท ภายในลานจอดรถคอนโดมิเนียมรัชดา พาวิลเลี่ยน น่าจะเป็นฝีมือคนใกล้ชิดผู้เสียหายตั้งแต่แรก เพราะทราบความเคลื่อนไหวของการเคลื่อนย้ายเงินสดอย่างดี
อาชญากรรม
ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ปล้นเงิน,ปล้นเงินนักธุรกิจ,ปล้น 60 ล้าน
https://news.thaipbs.or.th/content/266696
วิเคราะห์การเมือง : แค่เชือดโชว์ แก้บน
โดนัลด์ ทรัมป์, เบียดแย่งซีนไปหมด,เสียงดวลปืนฉากบู๊ล้างผลาญ เดิมพัน ,แบนสารพิษ, แลกตัวประกัน ,สิทธิภาษี GSP, ระอุเดือด,จังหวะกลบเสียงรัวกลองเชิดฉิ่งโหมโรงของ ,ลิเก, คณะ 7 พรรคฝ่ายค้าน นำทีมโดยพรรคเพื่อไทย จ่อปิดวิกศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในเดือนธันวาคมส่งท้ายปลายปี,ถึงตรงนี้ยังเงียบฉี่ วิกลิเกยังไม่คึกคักเท่าที่ควร,ทั้งๆที่สถานการณ์คืบหน้ามาถึงขั้น ,เสี่ยคลอสเตอร์ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์, ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปิดห้องประชุมกรรมการบริหาร ทีมยุทธศาสตร์ และขุนพลฝีปากกล้าของ ,นายใหญ่, ดูไบ,ลงวัน ว.เวลา น. ยื่นญัตติในวันที่ 12 ธันวาคม อภิปรายให้เสร็จก่อนวันที่ 20 ธันวาคม,แพลมไต๋ ปล่อยชื่อ ,ผู้โชคดีทางบ้าน, ที่จะถูกลากขึ้นเขียง,โชว์โพยเหยื่อเชือดเรียกกระแส นำโดยพระเอกเบอร์หนึ่งอย่าง บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ตามด้วย บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ เดอะโอ๋ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม,ล็อกเป้าเบอร์ต้นๆ เลือกตัวจี๊ดระดับแกนสำคัญของครม.,แต่จับอารมณ์สังคมก็ยังไม่ตื่นเต้นตามเกมแห่ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจซักเท่าไหร่,ล่าสุด เสี่ยคลอสเตอร์ ก็เลยต้องจัดการ ชงเอง ปล่อยชื่อมวยเบอร์เก๋า ล็อกเป้ากระบี่มือหนึ่งอย่าง จอมยุทธ์กวง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ พ่วงเข้ามาอยู่ในโพยเรียกแขก,หวังดึงความสนใจคนดู แห่วิกลิเกศึกซักฟอกของฝ่ายค้าน,ที่น่าจะจัดเป็นแค่รายการ เชือดโชว์แก้บน,ตามไฟต์บังคับ การรักษาสิทธิตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ปีละครั้ง ถ้าพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ดำเนินการก็จะถือว่าสละสิทธิ์ เท่ากับปล่อยให้เสียของไปฟรีๆ 1 ปี,งานนี้จึงไม่มีอะไรมากไปกว่าอาการ หึง สิทธิตามรัฐธรรมนูญ,ซึ่งเป็นอะไรที่สังเกตได้ ในหมู่ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านเอง นอกจากพรรคเพื่อไทย หันไปพรรคอื่นก็ไม่ได้กระตือรือร้นกับการเปิดเวทีลิเก เชือดโชว์แก้บน โดยเฉพาะคนของทีม อนาคตใหม่ ที่ต้องเจอกับมรสุมแรงเสียดทานที่กระแทกเข้าใส่แทบหายใจไม่ทัน,ผลแห่งการกระทำ กำลังไล่ล่า ไม่รู้ชะตากรรมจะจบลงเมื่อไหร่ อย่างไร,เอาเข้าจริงฝ่ายค้านก็ไม่ได้พร้อม แท็กทีมกันพึ่บพั่บ,ประกอบกับตามเงื่อนไขสถานการณ์รัฐบาล ประยุทธ์ภาค 2 ก็เพิ่งบริหารเต็มไม้เต็มมือมาได้ไม่กี่เดือน เลือกตั้งแล้วกว่าจะตั้งรัฐบาลได้ ไหนจะต้องเจอจังหวะสะดุดปมกฎหมาย,ยื้อกันอยู่หลายยก กว่ารัฐบาลจะตั้งหลักทำงานได้ ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ก็ยังเพิ่งอยู่ในชั้นคณะกรรมาธิการฯ ยังไม่ผ่านวาระ 2 วาระ 3 กว่าจะเบิกจ่ายได้ก็ปาเข้าไปต้นปีหน้า,ว่ากันตามฟอร์ม ในมุมความผิดพลาดเชิงบริหารของรัฐบาล มันจึงยังไม่ถึงระดับความสมเหตุสมผลของฝ่ายค้านในการเปิดเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซักฟอก ครม.ของ พล.อ.ประยุทธ์,จุดที่ประชาชนยังไม่อินด้วย เพราะไม่มีกระแส โดยเฉพาะหัวเชื้อทุจริตแบบจั๋งๆ,ตามเหลี่ยมที่อ่านไต๋ เดาทางได้ ในมุมของ บิ๊กตู่ มันหนีไม่พ้นยุทธศาสตร์ถล่มเป้าใหญ่ เจาะยางกัปตันทีม ตั้งข้อหาบริหารเศรษฐกิจที่ล้มเหลว และการปล่อยปละละเลยในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน,เป้า เลื่อนลอย เน้นหลอกด่ากันมากกว่า,ขณะที่ บิ๊กป๊อก ก็น่าจะแกะรอยตาม เสือซุ่มสิงห์เงียบ ที่มีข่าวลือวับๆแวมๆมาเป็นระยะ ล่าสุดเป็นปมร้อนการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าบีทีเอส ประกอบกับขุมข่ายพี่น้อง 3 ป. ที่โดนฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตในคิวอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563,พี่ใหญ่-พี่รอง-น้องเล็ก แท็กทีม รวบงบฯ ไว้มากสุด,ส่วน เดอะโอ๋ ก็มาตามลายแทงขุมทรัพย์ ตามน้ำกระแสเกมรื้อเขย่าขุมทรัพย์เมกะโปรเจกต์,แต่ที่แทบไม่ต้องอ่านเกมให้ยากเลย มวยเบอร์เก๋าที่จัดมาเรียกคนดูอย่าง สมคิด นั่นชัดเจน เป็นอารมณ์แค้นฝังหุ่นไม่เลิกของ นายใหญ่ ดูไบ ที่จองเวร ผู้แปรพักตร์ อดีตคนกันเองที่หักดิบกันมา,ตามสถานะ จอมยุทธ์กวง คือ ห้องเครื่อง สำคัญของรัฐบาล บิ๊กตู่,ดูแล้วก็หวังได้แค่ลูกฟลุก แหย่ไปยั่วมา อารมณ์ สมคิด พานเบื่อเซ็ง ถอนสมอ,เรือเหล็กเดินต่อลำบาก ถึงจุดอับปางได้.,ทีมข่าวการเมือง
โดนหนังคาวบอยของตัวเอกในคราบผู้ร้าย โดนัลด์ ทรัมป์ เบียดแย่งซีนไปหมด เสียงดวลปืนฉากบู๊ล้างผลาญ เดิมพัน แบนสารพิษ แลกตัวประกัน
ข่าว,การเมือง
สมพงษ์ อมรวิวัฒน์,พรรคเพื่อไทย,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,จอมยุทธ์กวง,ศึกซักฟอก,ฝ่ายค้าน,วิเคราะห์การเมือง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1692805
ใกล้สูญพันธุ์ รู้จัก หมีขอ สัตว์สุดเชื่อง คนใจร้ายเชือด ปรุงยาโด๊ป
ยังคงเป็นกระแสที่สังคมให้ความสนใจ หลังจาก เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค รวบปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันกับ 2 อส. และทีมงานรวม 12 คน พร้อมปืนไรเฟิลติดกล้องล่าสัตว์หวงห้าม ใช้รถออฟโรด 6 คัน ตะลุยเข้าไปในอุทยานฯ หลังกลับออกมาตรวจพบซากหมีขอที่ตัดแยกเป็น 4 ขา แต่ผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ล่า,ทางด้าน นายชัยชาญ เลาหศิริปัญญา อดีตเลขาธิการสมาคมป้องกันทารุณกรรมสัตว์ เผยกับทีม ,ข่าวเจาะประเด็น ,ว่าการที่คนเหล่านั้นเข้าป่าล่า หมีขอ เชื่อว่าอาจจะนำชิ้นไปปรุงเป็นยาอายุวัฒนะ เนื่องจากเป็นความเชื่อของบุคคลว่า หากผู้ชายได้กินจะช่วยเรื่องสมรรถภาพทางเพศได้,ตั้งแต่ทำงานมายังไม่เคยได้ยินเรื่อง การล่าหมีขอ เพราะมันล่าไม่ยาก ไม่เหมือนการล่าพวก เสือดำ ช้าง หรือ กระทิง ที่จะล่ายากกว่า เป็นที่โปรดปรานของพวกนักล่า จริงๆ หมีขอ ไม่ควรเป็นสัตว์ที่จะถูกล่าเพราะมันเชื่อง ไม่ดุร้าย แล้วก็ใกล้จะสูญพันธุ์แล้วในไทย, นายชัยชาญ กล่าว,ทั้งนี้ , จะพาไปรู้จัก หมีขอ สัตว์หน้าหมีที่ไม่ใช่หมี ซึ่งมีอีกชื่อว่า หมีกระรอก เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม แม้จะมีหน้าตาคล้ายหมีแต่เป็นสัตว์จำพวกชะมดและอีเห็น โดยมีลักษณะหางยาวเป็นพวงคล้ายกระรอก ขนตามลำตัวค่อนข้างยาวสีดำและหยาบ สีขนบริเวณหัวอาจมีสีเทา หูกลมบริเวณขอบหูมีสีขาว หางที่ยาวสามารถใช้เกาะเกี่ยวต้นไม้ได้เป็นอย่างดี,สำหรับ หมีขอ เป็นสัตว์หากินในเวลากลางคืน อาศัยและหากินตามลำพัง แต่ในบางครั้งอาจอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเล็กๆ ประกอบไปด้วยแม่และลูก ในเวลากลางวันจะอาศัยโพรงไม้เป็นที่หลับนอน กินอาหารจำพวกผลไม้และสัตว์ที่มีขนาดเล็ก ทั้งแมลงและสัตว์เลื้อยคลาน,ส่วนที่มาของคำว่า หมีขอ มาจากการที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับหมี ประกอบกับมีพฤติกรรมเมื่อพบปะมนุษย์ แม้แต่จะเป็นหมีขอที่เป็นสัตว์ป่าแท้ๆ ก็มักจะไม่เกรงกลัว แต่จะมีพฤติกรรมอยากรู้อยากเห็น และจะยื่นขาหน้าไปเหมือนแบมือขอของ คล้ายสุนัขที่ถูกฝึกมาแล้ว เมื่อมีใครยื่นอะไรให้ก็จะคว้าแล้ววิ่งหายไปในพงไม้ ส่วนชื่อ หมีกระรอก ก็มาจากขนหางที่เป็นพวงฟูเหมือนกระรอก ในปัจจุบัน หมีขอ เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535.
ชอบแบมือขออาหาร! ชัยชาญ คาดคนล่า หมีขอ ไปปรุงยาอายุวัฒนะ เพื่อช่วยสมรรถภาพทางเพศ พร้อมเปิดที่มาชื่อหมีขอ สัตว์หน้าหมีที่ไม่ใช่หมี นิสัยเชื่องไม่ดุร้าย เสี่ยงใกล้สูญพันธุ์
ข่าว,ทั่วไทย
หมีขอ,อุทยานแห่งชาติไทรโยค,ล่าสัตว์,ชัยชาญ เลาหศิริปัญญา,ข่าวร้อน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1393624
ใบหน้าของชายที่โดนแสงแดดข้างเดียว 28 ปี แสงแดดทำร้ายมากกว่าที่คิด
เมื่อเร็วๆ นี้เว็บไซต์ของ Independent สื่อชั้นนำของอังกฤษได้เผยแพร่รูปถ่ายของชายชราคนหนึ่งซึ่งมีผิวหน้าข้างซ้ายเหี่ยวย่นกว่าข้างขวา เพื่อย้ำเตือนถึงพิษภัยจากการสัมผัสกับรังสี UV ในแสงแดดเป็นเวลานาน โดยภาพดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ (New England Journal of Medicine) เมื่อปี 2012ชายในรูปมีอาชีพขับรถบรรทุกมานาน 28 ปี ส่งผลให้ใบหน้าข้างหนึ่งของเขาต้องสัมผัสกับแสงแดดต่อเนื่องเป็นเวลานาน และจากการศึกษาพบว่า ใบหน้าของเขาเกิดสิวผู้สูงอายุ (Favre-Racouchot syndrome) หรือ ภาวะแก่แดด (Dermatoheliosis) ซึ่งเป็นความผิดปกติของสิวหัวเปิดจำนวนมากที่เกิดจากการตากแดดเป็นเวลานานและในเคสของชายชราผู้นี้ถือเป็น Unilateral Dermatoheliosis หรือภาวะแก่แดดข้างเดียว เพราะตอนที่ขับรถ ใบหน้าข้างซ้ายของเขาจะสัมผัสกับรังสีอัลตร้าไวโอเลต เอ (UVA) ที่ทะลุผ่านกระจกรถและกระทบผิวหนังโดยตรง ขณะที่ใบหน้าข้างขวาไม่ถูกแดด ดังนั้นจึงไม่ได้รับอันตรายมากนักอย่างที่ทราบกันว่ารังสี UVA สามารถทะลุก้อนเมฆ กระจก หน้าต่าง และผ่านเข้าสู่ผิวหนังกำพร้าและหนังแท้ของมนุษย์ได้ แตกต่างจากรังสี UVB ที่ไม่สามารถทะลุกระจก ดังนั้นเราจึงสามารถหลีกเลี่ยงรังสี UVB ที่มีช่วงคลื่นสั้นได้ง่าย แต่หลบรังสี UVA ได้ยากแม้จะอยู่ภายในอาคารก็ตาม และข่าวร้ายจาก Skincancer.org ก็คือ รังสี UV ในแสงแดดที่ทะลุผ่านชั้นบรรยากาศลงมาถึงพื้นผิวโลกจะมี UVA มากถึง 95% ส่วน UVB จะมีเพียง 5% เท่านั้นวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ระบุด้วยว่า นอกจากริ้วรอยเหี่ยวย่นแล้ว การสัมผัสรังสี UVA เป็นเวลานาน ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังอีกด้วย สำหรับชายชราผู้นี้ แม้ว่าจะเกิดภาวะแก่แดดข้างเดียวแล้ว แต่แพทย์ยังคงแนะนำให้เขาทาครีมกันแดดและใช้ยาทากลุ่มวิตามินเออยู่เสมอ นอกจากนี้ยังแนะนำให้เขาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อเฝ้าระวังมะเร็งผิวหนังอีกด้วยแล้วคุณล่ะ ก่อนออกจากบ้านทาครีมกันแดดหรือยัง?อ้างอิง:
การที่ผิวหนังสัมผัสกับรังสี UVA เป็นเวลานานต่อเนื่อง จะเพิ่มความเสี่ยงเกิดภาวะแก่แดด (Dermatoheliosis) ในวัยชราSkincancer.org ระบุว่า รังสี UV ในแสงแดดที่ทะลุผ่านชั้นบรรยากาศลงมาถึงพื้นโลกจะมี UVA มากถึง 95%
null
null
https://thestandard.co/unilateral-dermatoheliosis/
ผบ.ทบ.ยันไม่มีคำสั่งคุกคามพรรคอนาคตใหม่ ชี้หน้าใหม่แค่ออกตัวหวือหวา
ผบ.ทบ.ตอบคำถามนักข่าวยืนยันไม่มีคำสั่งไปคุกคาม ยิ่งคุกคามยิ่งเพิ่มคะแนนสงสารให้คู่ตรงข้าม แต่อาจเป็นการเก็บข้อมูลของหน่วยข่าว ตามปกติ ระบุเข้าใจพรรคใหม่อาจออกตัวหวือหวา เรียกคะแนนความเห็นใจ 5 มิ.ย.2561 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวกถึงกรณีพรรคอนาคตใหม่ออกแถลงการณ์ว่าถูกเจ้าหน้าที่รัฐตามประกบ ว่า ขณะนี้เป็นการเปิดตัวพรรค ซึ่งจะมีพรรคการเมืองอยู่ 2 กลุ่ม คือ พรรคที่จัดตั้งมานานแล้ว มีโอกาสเป็นรัฐบาล พรรคพวกนี้จะมีผลงาน ขณะที่อีกกลุ่มคือพรรคพรรคตั้งใหม่ซึ่งตรงนี้ไม่เคยมีผลงานทางการเมือง จึงมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ตรงนี้หลายพรรคการเมืองใหม่ พยายามกำหนดแนวทางการดำเนินงานของพรรค อาจจะหวือหวา เรียกร้องความสนใจอะไรบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่มีประเด็นปัญหาอะไร ทาง คสช.ก็ไม่ได้ไปกดดันใคร เพราะเราเข้าใจดีว่าบทบาทของเราควรจะทำอะไรมากน้อยแค่ไหน หากผลการเลือกตั้งออกมาก็ต้องยอมรับ เพราะทุกวันนี้เราเรียกร้องการเลือกตั้ง เมื่อการเลือกตั้งผ่านไปแล้วผลออกมาอย่างไรก็เป็นไปตามนั้นเมื่อถามย้ำว่าการที่พรรคอนาคตใหม่ออกแถลงการณ์แบบนั้นข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ในทางปฏิบัติไม่ได้มีการสั่งการให้ดำเนินการในลักษณะนั้น ไม่มีใครไปทำอะไร ถ้ามีหลักฐานว่ามีเจ้าหน้าที่คุกคามสามารถถ่ายรูปแล้วก็แจ้งได้เลย เราจะลงโทษตามกรอบ โดยสำนึกพื้นฐานอาจจะมีบ้างหน่วยข่าวอยากรู้ใครทำอะไร เป็นพื้นฐานของหน่วยข่าว แต่ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องไปคุกคามผมเข้าใจดีพรรคอนาคตใหม่ยืนทิศทางที่ตรงข้ามกัน ถ้าเรายิ่งใช้อำนาจเผด็จการก็เป็นการเพิ่มคะแนนนิยมให้เขา เราไม่ทำอยู่แล้ว ผมยืนยันว่าการคุกคามปัจจุบันไม่เกิดผลประโยชน์ แต่ไปเพิ่มคะแนนบวกให้กับฝ่ายที่กล่าวหาว่าถูกคุกคาม เราระมัดระวังตนเอง และเราก็เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร อย่างที่บอกพรรคการเมืองใหม่ๆ ก็ต้องหาแนวทางที่หวือหวา คะแนนความเห็นใจ จริงเท็จ ไม่รู้พูดให้สื่อรับฟังได้ ถือเป็นทิศทาง แต่สื่อก็อย่าไปตามข่าวในทุกประเด็นที่คิดว่าต้องใช่ ผบ.ทบ.กล่าวทั้งนี้ เมื่อกลางดึกวันที่ 4 มิ.ย. พรรคอนาคตใหม่ออกแถลงการณ์ระบุว่ามีการคุกคามติดตามไปที่บ้านของสมาชิกผู้ก่อตั้งพรรคที่ไปร่วมประชุมพรรคที่ มธ.ศูนย์รังสิต เรียกร้องให้รัฐยุติการลุแก่อำนาจ ()
ผบ.ทบ.ตอบคำถามนักข่าวยืนยันไม่มีคำสั่งไปคุกคาม ยิ่งคุกคามยิ่งเพิ่มคะแนนสงสารให้คู่ตรงข้าม แต่อาจเป็นการเก็บข้อมูลของหน่วยข่าว ตามปกติ ระบุเข้าใจพรรคใหม่อาจออกตัวหวือหวา เรียกคะแนนความเห็นใจ 5
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
การคุกคาม,ผบ.ทบ.,พรรคอนาคตใหม่,หน่วยข่าว,แถลงการณ์
https://prachatai.com/journal/2018/06/77292
ผู้ว่าฯ อุบลฯ ยืนยัน ข่าวน้ำท่วมมีผู้เสียชีวิตแล้ว 34 คน ไม่จริง
วานนี้ (13 ก.ย.2562) นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี แถลงข่าวสรุปสถานการณ์อุทกภัย โดยในช่วงหนึ่งได้มีการกล่าวถึงกระแสข่าวทางโซเชียลมีเดีย ที่ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์อุทกภัยในจังหวัดอุบลราชธานี ไปแล้ว 34 คนนั้น จากตรวจสอบข้อมูลพบว่าไม่เป็นความจริง จึงขอให้พี่น้องประชาชน หยุดแชร์ข่าวดังกล่าว เพื่อเป็นการป้องกันข่าวลวงต่างๆที่เกิดขึ้น โดยประชาชน สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการได้ที่แฟนเพจ ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลข่าวสารของทางราชการที่เชื่อถือได้ขณะที่ วันนี้ (14 ก.ย.2562) (ปภ.) รายงานสถานการณ์สาธารณภัยจากอิทธิพลพายุโซนร้อน โพดุล และอิทธิพลพายุโซนร้อน คาจิกิ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. - 14 ก.ย. ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย ในพื้นที่ 32 จังหวัด 179 อำเภอ 932 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ 407069 ครัวเรือนบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายบางส่วน 3818 หลัง มีผู้เสียชีวิต 32 คน
นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ยืนยัน กระแสข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ ที่ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมใน จ.อุบลราชธานี 34 คน ไม่เป็นความจริง ขอให้ประชาชนหยุดส่งต่อ เพื่อป้องกันข่าวลวง และขอให้ติดตามข่าวสารจากเพจทางราชการที่เชื่อถือได้
ภัยพิบัติ
น้ำท่วม,น้ำท่วมอีสาน,น้ำท่วมอุบลฯ,น้ำท่วมอุบลราชธานี,อุบลราชธานี,Saveubon,ผู้ว่าราชการจังหวัด,ผู้เสียชีวิต
https://news.thaipbs.or.th/content/284206
ยอมแล้วจ้า เรือใบ ได้หลังบ้านใหม่ค่าตัวระห่ำเป็นรองแค่ฟานไดค์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 29 ม.ค. ว่า เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกกำลังได้สมาชิกใหม่ร่วมก๊วนในอีกไม่กี่อึดใจหลังทาง แอธเลติก บิลเบา ยืนยันว่าได้ค่าฉีกสัญญาของ อายเมริค ลาปอร์เต กองหลังทีมชาติฝรั่งเศสแล้ว,เป็นที่เข้าใจว่าค่าฉีกสัญญาครั้งนี้ที่เรือใบสีฟ้ายอมจ่ายให้กับบิลเบาอยู่ที่ 65 ล้านยูโร หรือราวๆ 57 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นค่าตัวอันดับ 2 ในตำแหน่งกองหลังที่แพงที่สุดเป็นรองแค่ เวอร์จิล ฟานไดค์ ที่ลิเวอร์พูลซื้อมาจากเซาแธมป์ตันในราคา 75 ล้านปอนด์คนเดียว,อีกทั้งตัวนักเตะก็ยืนยันแล้วว่ากำลังเดินทางมายังเมืองแมนเชสเตอร์ซึ่งคาดว่าเจ้าตัวจะเข้ามาตรวจร่างกายและเปิดตัวเป็นนักเตะใหม่อย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า,อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าในเกมนัดต่อไปที่เรือใบสีฟ้าจะพบกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน วันพุธนี้ ทางลาปอร์เตจะยังไม่พร้อมแต่คาดว่าในสุดสัปดาห์อาจได้เห็นดาวเตะวัย 23 ปีรายนี้ลงสนามเปิดตัวเรือใบสีฟ้าเป็นเกมแรก
โหดแค่ไหนถามใจเธอดู!!! หลังมีการยืนยันแล้วว่า เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมเปิดตัวหลังบ้านรายใหม่โดยมีค่าตัวทรงพลังเป็นรองแค่ เวอร์จิล ฟานไดค์ กองหลังของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล คนเดียวเท่านั้น
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ซิตี้,อายเมริค ลาปอร์เต,แอธเลติก บิลเบา
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1190372
เขื่อนวังร่มเกล้า แหล่งท่องเที่ยวใหม่ของ อ.ทัพทัน อุทัยธานี
เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.อุทัยธานี มีแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ คือ เขื่อนวังร่มเกล้า โดยสถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักของประชาชนในพื้นที่อำเภอทัพทัน และอำเภอใกล้เคียงของจังหวัดอุทัยธานีไปแล้ว เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ ถ้าช่วงใดมีน้ำมาก จะทำให้น้ำเอ่อล้นสปิลเวย์ไหลลงสู่โครงการแก้มลิงอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ที่มีพื้นที่กว่า 3,600 ไร่ อยู่ในพื้นที่ตำบลหนองหญ้าปล้อง สามารถกักเก็บน้ำได้กว่า 24.6 ล้านลูกบาศก์เมตร การไหลล้นขอบสปิลเวย์มีความยาวกว่า 100 เมตร เป็นจุดสนใจแก่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเล่นน้ำ การถ่ายรูป เพราะสถานที่ดังกล่าวได้รายล้อมไปด้วยภูเขา ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอทัพทันไปแล้วในขณะนี้,แต่ละวันนั้นจะมีนักท่องเที่ยวผลัดเวียนมาเล่นน้ำไม่ต่ำกว่า 1,000 คน บางรายนำบุตรหลานมาลงเล่นน้ำเพื่อคลายร้อน มีคาราวานรถคลาสสิกนำรถมาถ่ายรูป และยังมีพ่อค้าแม่ค้านำอาหารมาเปิดขาย สร้างรายได้เป็นอย่างมาก,อย่างไรก็ตาม การที่มีเด็กลงไปเล่นน้ำนั้น อาจจะไม่ทราบว่ากระแสน้ำในจุดใดที่ไหลแรง ทางเจ้าหน้าที่ปกครอง ตำรวจ ทหาร ได้จัดเจ้าหน้าที่ไว้คอยดูแล และช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่อาจเกิดอุบัติเหตุจากการลงเล่นน้ำ ไว้อย่างแน่นหนา โดยตั้งกฎห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือขวดน้ำที่ทำจากแก้ว และอลูมิเนียม เข้ามาดื่มกินในสถานที่ดังกล่าว หวั่นอาจเกิดการทะเลาะวิวาท ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้กำหนดเวลาการเข้าตัวเขื่อนไว้เป็นเวลาอีกด้วย.
แนะนำ เขื่อนวังร่มเกล้า แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี มีน้ำไหลล้นขอบสปิลเวย์ มีความยาวกว่า 100 เมตร เป็นจุดสนใจแก่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเล่นน้ำ การถ่ายรูป มีคนมาพักผ่อนหย่อนใจไม่ต่ำกว่าพันคนต่อวัน
null
เขื่อนวังร่มเกล้า,ต.หนองหญ้าปล้อง,อ.ทัพทัน,อุทัยธานี,สถานที่ท่องเที่ยว,แหล่งท่องเที่ยว,เล่นน้ำ,โครงการแก้มลิง
https://www.thairath.co.th/content/770061
มอนทรีออลแชมป์เมืองดีสุดสำหรับ นศ.
ผลการจัดอันดับ เมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา โดย คิวเอส เบสต์ สติวเดนท์ ซิตี้ส์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก คิวเอส เวิลด์ ยูนิเวอร์ซิตี้ แรงกิ้งส์ ประจำปี เผยแพร่เมื่อ 14 ก.พ. ปรากฏว่าในปีนี้เมืองมอนทรีออลในแคนาดา ครองอันดับ 1 แทนกรุงปารีสในฝรั่งเศส ที่เคยได้แชมป์ 4 ปีติดต่อกัน แต่ปีนี้หล่นลงมาอยู่ที่อันดับ 2 ส่วนอันดับ 3-10 คือกรุงลอนดอน, โซล, เมลเบิร์น, เบอร์ลิน, โตเกียว, บอสตัน, มิวนิก และแวนคูเวอร์ ซึ่งอันดับ 10 นี้อยู่ในแคนาดาเช่นกัน,ในเอเชีย ฮ่องกงติดอันดับ 11 ร่วมกับโตรอนโตในแคนาดา สิงคโปร์ติดอันดับ 14 เกียวโต โอซากา และโกเบในญี่ปุ่นติดอันดับ 17 ไทเปอันดับ 21 เซี่ยงไฮ้อันดับ 25 นครนิวยอร์กในสหรัฐฯ ติดอันดับ 19 และซิดนีย์ในออสเตรเลีย ติดอันดับ 13 การจัดอันดับนี้ใช้หลายปัจจัยในการวัด รวมทั้งคุณภาพของมหาวิทยาลัย ที่พักสำหรับนักศึกษา ความเป็นสากล ระดับความอดทนอดกลั้นของชาวเมือง มลภาวะ และความปลอดภัย ผลการจัดอันดับล่าสุดอาจเป็นประโยชน์ต่อตลาดการศึกษาของแคนาดาที่จะดึงดูดนักศึกษาจากนานาชาติ โดยเฉพาะถ้ารัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ปรับเปลี่ยนนโยบายรับนักศึกษาครั้งใหญ่ แคนาดายังได้เปรียบที่หลายมหาวิทยาลัยเปิดสอนหลักสูตรทั้งภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส,ด้านโฆษกเมืองมอนทรีออลเผยว่า มีนักศึกษาจากนานาชาติเพิ่มขึ้นมาก ส่วนใหญ่มาจากจีน อินเดีย ฝรั่งเศส และอิหร่าน.
เมืองมอนทรีออลในแคนาดา ครองอันดับ 1 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา ตามผลการจัดอันดับของ คิวเอส เบสต์ สติวเดนท์ ซิตี้ส์ แทนที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสซึ่งเคยเป็นแชมป์ 4 ปีซ้อน
null
เมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา,มอนทรีออล,แคนาดา,จัดอันดับ,ปารีส
https://www.thairath.co.th/content/859357
อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศมะกันไม่เลือกทรัมป์
พล.อ.โคลิน เพาเวลล์ สมาชิกพรรครีพับลิกัน ซึ่งเคยคุมกองทัพสหรัฐฯ ทำสงครามอ่าวเปอร์เซียเมื่อปี 2534 ภายใต้อดีตประธานาธิบดีจอร์จ บุช และต่อมาดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ภายใต้อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู.บุช รุ่นลูก ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น เมื่อ 7 มิ.ย.ว่า ตนจะสนับสนุนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ยิ่งเป็นการชูกระแสในกลุ่มพรรครีพับลิกันและบรรดาผู้นำในกองทัพสหรัฐฯที่ออกมาวิจารณ์การบริหารประเทศของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งเหตุการณ์การประท้วงเรื่องความยุติธรรมของคนผิวสีทั่วประเทศและทั่วโลก ปัญหาวิกฤติโควิด-19 และปัญหาเศรษฐกิจที่ฟุบตัวอย่างรุนแรงทั้งนี้ เพาเวลล์ซึ่งไม่โหวตเลือกประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันเมื่อปี 2559 ช่วงที่ทรัมป์เป็นตัวแทนพรรคกล่าวว่า ทรัมป์โกหกทุกเรื่อง ทำตัวห่างออกจากกฎหมายรัฐธรรมนูญ และเป็นอันตรายต่อประชาธิปไตยของชาวอเมริกัน ก่อนหน้านี้ นสพ.นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่า อดีต ปธน.บุช ก็จะไม่โหวตให้กับทรัมป์ รวมถึงสมาชิกพรรคอีกหลายคนที่เคยไม่โหวตให้ทรัมป์เมื่อปี 2559 และมีการตั้งกลุ่มขึ้น รวมถึงกลุ่มใหม่ที่เรียกว่า Republican Voters Against Trump ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อนเริ่มออกแคมเปญทางสื่อออนไลน์ด้วยงบ 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ.
พล.อ.โคลิน เพาเวลล์ สมาชิกพรรครีพับลิกัน ซึ่งเคยคุมกองทัพสหรัฐฯ ทำสงครามอ่าวเปอร์เซียเมื่อปี 2534 ภายใต้อดีตประธานาธิบดีจอร์จ บุช และต่อมาดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ
ข่าว,ต่างประเทศ
เลือกตั้งสหรัฐ,เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ,โดนัล ทรัมป์,โคลิน เพาเวลล์,อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ,โจ ไบเดน,ข่าววันนี้
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1864003
บช.น.ประชุมเตรียมกิจกรรม Bike for dad ตรวจโรงแรมทั้งเส้นทาง-ซ้อมรับเหตุฉุกเฉิน
วันนี้ (18 พ.ย.2558) พล.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมการถวายความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในกิจกรรมปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปั่นเพื่อพ่อ Bike For Dad ในวันที่ 11 ธ.ค.ว่า การซ้อมใหญ่จะมีขึ้นวันที่ 22 พ.ย. และ 29 พ.ย.เป็นการซักซ้อมความพร้อมในการดูแลสถานการณ์ทุกรูปแบบ เช่น หากเกิดอุบัติเหตุหรือมีเหตุฉุกเฉินจะมีการรับมือกับสถานการณ์นั้นๆ อย่างไร พร้อมการตรวจสอบบุคคลที่เข้าพักในโรงแรมที่อยู่ใกล้กับเส้นทาง ในการจัดกิจกรรมเพื่อความปลอดภัย รวมทั้งจะมีการจัดทำความสะอาดครั้งใหญ่ หรือบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ก่อนวันงานอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อให้ภาพรวมการจัดกิจกรรมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยที่สุดนอกจากนี้ยังขอความร่วมมือประชาชน ในการแจ้งเบาะแสเหตุอาชญากรรม ไม่ว่าจะเป็นการพบเจอบุคคลต้องสงสัย หรือสิ่งผิดปกติต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็ว
ตำรวจเรียกประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรมปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ Bike for dad โดยเน้นการถวายความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
สังคม
Bike for Dad,ซ้อมใหญ่,ประชุม,ปั่นจักรยาน,ปั่นเพื่อพ่อ,ไบค์ ฟอร์ แด๊ด
https://news.thaipbs.or.th/content/6140
กวีประชาไท: ไม้หนึ่ง ก.กุนที กวีประชาทิพย์
ล่วงลับแล้วไปเป็นประชาทิพย์เป็นดวงดาว พราวระยิบ บนฟากฟ้าเป็นเนินดิน ถิ่นลำธาร เป็นลานหญ้าเฝ้าปกปักรักษาประชาชนตายแล้วเกิด ตายแล้วเกิด ไม่มีหยุดไม้หนึ่งทรุด ไม้หนึ่งรับ นับท่วมท้นคมกระสุนสามารถปลิดชีวิตคนแต่ไม่อาจปิดถนนแห่งเสรีเมื่อสถาบันประชาชนสถาปนาต่างรู้ว่าประชาชนคือคนนี้ผู้ทุกข์ยากมากมายในปฐพีล้วนสร้างโลกอัปรีย์ให้โสภาณ ที่นั่น บางเราในนครต่างบอดใบ้นั่งนอนบนความบ้าบางรูปทรงมวลสารจัดวางมาสร้างมายาเล่ห์กลจำนนใจกวีลุก เดินจากเขียงสับเป็ดวิหารน้อยนกระเห็จไปแห่งไหนไปสู่ฟ้าแสงทองผ่องอำไพหรือมหาชลาลัยผู้ทุกข์ระทมกวีต้อง มีสำนึกทางการเมืองใช่ประเทืองเปลืองอัตตามาคลุมห่มนั่งมโนฟุ้งฝันกลางสายลมจ่อมจมเงาความคิดปิดโลกจริงเป็นกวีประชาทิพย์หน่วยเล็กๆสร้างปลุกเสกจากผีกวีสิงคือวิญญาณประชาธิปไตยที่แท้จริงประชาชนบูชาหิ้งกวีกานต์ล่วงลับแล้วไปเป็นกวีประชาทิพย์ไม้หนึ่งสิบ ร้อยพัน หมื่นแสนล้านกระจายสิงทั่วสากลจักรวาลเฝ้าพิทักษ์ปณิธานวีรชน.หลับให้สบายนะพี่Homo erectus
ล่วงลับแล้วไปเป็นประชาทิพย์เป็นดวงดาว พราวระยิบ บนฟากฟ้าเป็นเนินดิน ถิ่นลำธาร เป็นลานหญ้าเฝ้าปกปักรักษาประชาชน ตายแล้วเกิด ตายแล้วเกิด ไม่มีหยุดไม้หนึ่งทรุด ไม้หนึ่งรับ
การเมือง,วัฒนธรรม
Homo erectus,กวีประชาไท,ไม้หนึ่ง ก.กุนที
https://prachatai.com/journal/2014/04/52892
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ลุยปราบของเถื่อน ลุ้นปีหน้า ไทยหลุด PWL
กรมทรัพย์สินทางปัญญา จับมือ เจ้าของพื้นที่ กทม. ตั้งเป้ากวาดล้างสินค้าเถื่อน ห้ามให้เช่าพื้นที่ขายของปลอม พร้อม ลุยจับเต็มที่ โชว์ 8 เดือน จับแล้ว 5,913 พันคดี ยึดของกลางเฉียด 3 ล้านชิ้น ลุ้น ปีหน้า ไทยมีสิทธิ์หลุดพีดับเบิลยูแอล ,วันที่ 11 พ.ย. 58 นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมได้จัดทำแผนการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว โดยได้ขอความร่วมมือเจ้าของพื้นที่ เช่น กรุงเทพมหานคร การรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ไม่สนับสนุนให้ใช้พื้นที่จำหน่ายสินค้าละเมิด เพราะพบว่าผู้ค้าได้เช่าพื้นที่เหล่านั้นจำหน่ายสินค้าละเมิดจำนวนมาก และกระจายออกไปจากจุดจำหน่ายเดิม ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง ที่มีการละเมิดมาก และกรมฯ ได้เข้มงวดจับกุมจนการละเมิดลดลง และบางพื้นที่แทบจะไม่มีการวางจำหน่ายแล้ว,สำหรับผลการจับกุมสินค้าละเมิดในช่วง 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) ของปี 58 ทั้งการจัดชุดจรยุทธ์ออกจับกุมทุกวัน การจัดชุดระดมกวาดล้างในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ การจัดชุดตรวจสอบพื้นที่สีแดง และการจัดชุดปฏิบัติการพิเศษ สามารถจับกุมได้ 5,913 คดี ยึดของกลางได้ 2,918,973 ชิ้น การเข้มงวดปราบปรามไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม แต่ยังมีผลดีต่อการพิจารณาสถานะด้านทรัพย์สินทางปัญญาของไทย ตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ ที่ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาด้วย,ได้พูดคุยกับทูตสหรัฐฯ ซึ่งท่านเห็นว่าที่ผ่านมา ไทยดำเนินการตามประเด็นที่สหรัฐฯ ห่วงได้ครบถ้วน ทั้งการปราบปราม การแก้ไขกฎหมาย การเร่งรัดจดสิทธิบัตร และการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมาย ได้แก้กฎหมายป้องกันการแอบถ่าย การป้องกันการละเมิดทางอินเทอร์เน็ตแล้ว หวังว่าไทยจะหลุดจากบัญชีประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (พีดับเบิลยูแอล) ในปีหน้า นางนันทวัลย์ กล่าว,อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญา กรมฯ จะเสนอให้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นวาระแห่งชาติ มีการจัดลำดับความสำคัญในการดำเนินการ ระบุหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้มีซุปเปอร์ บอร์ดในการขับเคลื่อนงานต่างๆ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธาน นอกจากนี้ ยังจะรณรงค์ปลูกจิตสำนึกไม่ซื้อ ไม่หา ไม่ใช้ของปลอมให้กับนิสิต นักศึกษา และประชาชนต่อเนื่อง เช่น ทำป้าเตือนนักท่องเที่ยวที่สนามบินนานาชาติห้ามนำสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าเข้าไปในยุโรป ติดป้ายรณรงค์ต่อต้านสินค้าปลอมบนรถไฟฟ้า ทำลายของกลางที่คดีถึงที่สุดแล้ว เป็นต้น.
กรมทรัพย์สินทางปัญญา จับมือ เจ้าของพื้นที่ กทม. ตั้งเป้ากวาดล้างสินค้าเถื่อน ห้ามให้เช่าพื้นที่ขายของปลอม พร้อม ลุยจับเต็มที่ โชว์ 8 เดือน จับแล้ว 5,913 พันคดี ยึดของกลางเฉียด 3 ล้านชิ้น ลุ้น ปีหน้า ไทยมีสิทธิ์หลุดพีดับเบิลยู
null
กรมทรัพย์สินทางปัญญา,จับของเถื่อน,จับของผิดกฎหมาย,ของเถื่อน,สินค้าเถื่อน,ละเมิดลิขสิทธิ์,ของปลอม,นันทวัลย์ ศกุนตนาค,ทรัพย์สินทางปัญญาไทย,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์,สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์,ของก๊อบ,ของก๊อบปี้
https://www.thairath.co.th/content/538745
นักรัฐศาสตร์ นักกฎหมาย พรรคสามัญชน และคนค้าเนื้อ ชี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คืออำนาจที่ไม่จำเป็น
วันที่ 30 เม.ย. นี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ พ.ร.ก.การบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งประกาศมาตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 2563 เพื่อแก้ไขปัญหาการแร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะมีผลบังคับใช้ กระนั้นก็ตามช่วงสัปดหา์ที่ผ่านมา มีทั้งกระแสข่าวว่าจะมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือ ประกาศสถานการณ์การฉุกเฉินต่อเพียงบางจังหวัดที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในแต่ละวันเท่านั้น ขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลอาจจะประกาศยืดอายุสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดให้ได้อย่างมั่นใจก่อน จากนั้นจะค่อยๆ ผ่อนปรน ปลดล็อคมาตรการต่างๆคำตอบจากรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปยังเดินทางมาไม่ถึง อย่างเร็วอาจจะต้องรอดูทิศทางภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 28 เม.ย. ว่าจะมีการเคาะ สั่ง ชี้ ออกมาอย่างไร แต่สิ่งที่ไม่ต้องรอเวลาคือเสียงของผู้คนต่อกรณีดังกล่าวประชาไทสัมภาษณ์ นักรัฐศาสตร์ นักกฎหมาย หัวหน้าพรรคการเมือง และคนค้าเนื้อสเต็กเดลิเวอรี่ ทุกคนตอบไปในทิศทางเดียวกันว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินคือ อำนาจที่ไม่จำเป็นในสถานการณ์นี้รองศาสตราจารย์ยุทธพร อิสระชัย สาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ระบุว่า การประกาศใช้ พ.ร.กฉุกเฉิน นั้นจะต้องดูว่า วัตถุประสงค์หลักของกฎหมายมีไว้เพื่ออะไร ซึ่งสำหรับประเทศไทยมีกฎหมายดังกล่าวไว้เพื่อจัดการกับสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้อำนาจพิเศษของฝ่ายบริหารเขาชี้ว่า กรณีการควบคุมโรคระบาดโควิด-19 ถือเป็นครั้งแรกที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่โดยหลักการแล้วการที่จะให้รัฐบาลมี Emergency Power จะต้องเกิดขึ้นภายใต้ภาวะที่ไม่มีกลไกอื่น หรือไม่มีมาตรการอื่นใดแล้วที่จะจัดการกับสถานการณ์ได้ หรือมีเรื่องที่เร่งด่วนจำเป็นจริงๆ แต่สำหรับประเทศไทยเวลานี้มีกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมโรคติดต่ออยู่แล้ว ฉะนั้นการใช้กฎหมายพิเศษ อาจจะไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นมากนัก ดังนั้นเมื่อสถานการณ์ทุกอย่างเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อ รวมทั้งการสร้างความเข้าใจต่อปัญหาของโรคระบาดให้กับประชาชน ได้เห็นตรงกันว่าจะช่วยการยับยั้งการแพร่ระบาดได้อย่างไร ก็ไม่จำเป็นที่จะใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อเพราะกลไกอื่นๆ ที่มีอยู่ก็สามารถทำงานได้วันนี้เราเห็นได้ว่า เมื่อมีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มันไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของการจัดการปัญหาในทางระบาดวิทยาอย่างเดียว แต่หลายพื้นที่มีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเข้าไปจัดการปัญหาศีลธรรมวิทยาด้วย เช่น การจับกุมบ่อนการพนัน การจับกุมยาเสพติด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีกฎหมายในภาวะปกติแล้วทั้งนั้นในการดำเนินการกับผู้กับทำความผิด ยุทธพร กล่าวยุทธพร กล่าว่อว่า คำตอบสำหรับการแก้ปัญหาไม่ใช่เรื่องของการใช้กฎหมายพิเศษ เพราะประเด็นสำคัญคือ กลไกของรัฐ ที่มีความเป็นรัฐราชการ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้การแก้ไขปัญหาโรคระบาดมีอุปสรรค เช่นก่อนหน้านี้เห็นได้ชัดว่ามีลักษณะไร้ความเป็นเอกภาพ มีความล่าช้าไม่ทันสถานการณ์ และหลังมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมีการประกาศมาตรการต่างๆ ออกมา ก็ก่อให้เกิดการตีความอย่างมากมาย และกว้างขวางว่าสุดท้ายแล้วควรจะทำอะไร เช่นมีการตั้งด่านตรวจในหลายพื้นที่ และการเป็นการจับกุมผู้คนที่ต้องออกมาทำงาน ทั้งหมดเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่กฎหมาย แต่อยู่ที่กลไกรัฐ และระบบราชการ และความเป็นรัฐราชการแบบนี้ ในระยะยาวหากไม่มีการแก้ไขก็คงไม่สามารถตอบโจทย์การจัดการสถานการณ์ได้การจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีก ก็อาจจะทำได้ในระดับหนึ่ง แต่ในระยะยาวหากมีการระบาด second wave หรือการระบาดครั้งที่สอง การควบคุมกำกับสถานการณ์จะทำได้ดีหรือไม่ นี่เป็นข้อจำกัดของกลไกรัฐ ก่อนหน้านี้จะเห็นได้ว่าความไม่เป็นเอกภาพ มีการแก้ไขเพียงเฉพาะหน้าเท่านั้น เช่น การตั้ง ศบค. ขึ้นมา ก็ทำให้ปัญหาความไม่เป็นเอกภาพต่างๆ ที่เกิดขึ้นลดน้อยถอยลง แต่หลังจากนี้ไป ถ้าวันหนึ่ง ศบค.ไม่มีอยู่แล้ว และยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน ปัญหาความไม่เป็นเอกภาพก็จะกลับมาเหมือนเดิม ทั้งหมดนี้ก็เห็นชัดว่า การใช้กฎหมายฉุกเฉินไม่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ และไม่มีความจำเป็นน้อยกว่าการปรับปรุงกลไกการแก้ปัญหาของรัฐ ยุทธพร กล่าวขณะเดียวกัน ยุทธพร มองว่าสถานการณ์การระบาดที่ช่วงหลังพบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อลงลดไปนั้น มีความเกี่ยวข้องกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการประกาศเคอร์ฟิว เพียงแค่ส่วนหนึ่ง เพราะเรื่องของการจัดการปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีองค์ประกอบ 3 ส่วนด้วยกัน คือ กลไกของรัฐ/บรรดากฎหมายต่างๆ ส่วนที่สองคือ บุคลากรทางการเเพทย์/ระบบสาธารณสุข ส่วนที่สามคือ การให้ความร่วมมือของประชาชน ซึ่งทั้งสามส่วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การจัดการกับโรคระบาดเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นเราคงไม่สามารถพูดได้ว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากการมีมาตรการที่ดีของรัฐ มีความเข้มงวด หรือมีกฎหมายที่เข้มข้น มีการปฏิบัติที่เอาจริงเอาจังของรัฐแต่เพียงอย่างเดียว ตรงนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยุทธพร กล่าวเขาระบุต่อไปถึง การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่าปัจจัยหนึ่งคือการรวบอำนาจให้รัฐบาลมีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งภาวะเช่นนี้ เกิดขึ้นจากโครงสร้างอำนาจตามรัฐธรรมนูญ 2560 ที่เอื้อให้เกิดรัฐบาลผสมที่พรรคร่วมอยู่หลายพรรค โดยการเป็นรัฐบาลผสม เป็นปัญหาพิ้นฐานอีกประการหนึ่ง ไม่น้อยไปกว่าการเป็นรัฐราชการ เพราะความเป็นรัฐบาลผสมมักจะทำให้เกิดการต่อรองทั้งภายในพรรค และระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งในช่วงต้นที่ไทยพบผู้เชื้อรายแรกๆ ก็พบว่ามีความขัดแย้งภายในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาล เช่น มีการดิสเครดิตเรื่องการจัดการหน้ากากอนามัย รวมทั้งมีการทำงานที่ไม่สอดรับกันระหว่างกระทรวง มีลักษณะต่างคนต่างทำ ซึ่งสุดท้ายแล้วกลายเป็นปัญหาซ้อนเข้าไปในปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่อีกทีพิชญ์ ชีวะสาคร เจ้าของร้าน Beef B4 U Die ร้านค้าเนื้อสเต็กเดลิเวอรี่ ซึ่งเป็นธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ต่อมาตรการที่เข้มงวดของรัฐระบุว่า ด้วยข้อมูลต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดลง และจำนวนผู้ที่รักษาหายแล้วที่เพิ่มขึ้น เห็นว่า รัฐบาลควรผ่อนปรนมาตรการต่างๆ เพราะคนในสังคมไทยหลายคนได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐโดยตรง หากมีการเปิดให้คนออกไปทำมาหากินได้ตามปกติก็จะทำให้ความเดือดร้อนต่างๆ ได้บรรเทาลด อย่างไรก็ตามการผ่อนปรนก็ต้องการสร้างความเข้าใจร่วมกัน หรือมีข้อตกลงร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขอนามัย รวมทั้งยังจำเป็นที่รักษาระยะห่างทางสังคมอยู่เขากล่าวต่อว่า แม้ธุรกิจของตนเองจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ทั้งยังมียอดการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น แต่ก็พบว่ามีผู้ประกอบการกิจการโรงแรม ร้านเบเกอร์รี่ ร้านอาหาร บาร์เบียร์ ฯลฯ ได้รับผลกระทบตามลำดับ ทั้งจำนวนลูกค้าลดลง ไปจนถึงไม่สามารถเปิดสถานประกอบการได้ ซึ่งหลายคนก็ต้องปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจของตัวเองเพื่อที่จะอยู่รอดในช่วงเวลานี้ หรือบางรายก็หยุดธุรกิจที่ทำอยู่และต้องรอจนกว่ารัฐจะผ่อนปรนมาตรการอย่างที่ผมเห็นธุรกิจชาบู จากเดิมที่ต้องไปนั่งกินที่ร้าน ตอนนี้ก็ต้องเปลี่ยนมาทำเป็นเดลิเวอรี่ และเพียงแค่ส่งขออย่างเดียวไม่พอ ถ้าสั่งชุดชาบูทางร้านก็จะแถมหม้อชาบูไปให้ด้วย หลายธุรกิจก็ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบของตัวเองไป ด้านหนึ่งคิดว่า บางทีสถานการณ์นี้มันเป็นแนวทางที่จะพลิกรูปแบบธุรกิจให้ขยายไปอีกช่องทางหนึ่งได้ พิชญ์ กล่าวพิชญ์ ชี้ว่า การผ่อนปรนควรจะเปิดให้สถานประกอบการต่างๆ สามารถดำเนินกิจการได้ เช่น ร้านเหล้า ร้านเบียร์ ผับ บาร์ หรือสถานบันเทิง ควรเปิดได้ แต่ให้กำจัดเวลาปิด หรืออย่างน้อยที่สุดร้านอาหารสามารถเปิดให้คนเข้าไปนั่งกินภายในร้านได้ เพื่อให้เขาสามารถอยู่ได้ และการเปิดร้านแบบนี้ไม่ได้ช่วยเพียงเจ้าของธุรกิจเท่านั้น แต่เป็นการช่วยลูกจ้าง เช่น พ่อครัว แม่ครัว เด็กเสิร์ฟ รวมไปถึงกลุ่มคนที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตเช่น ผู้ส่งวัตถุดิบ หรือกระทั่ง นักร้อง นักดนตรี ที่เคยทำงานตามร้านอาหาร หากผ่อนปรนมาตรการนี้ได้ ก็จะช่วยให้คนหลายๆ คนกลับมามีรายได้อีกครั้ง แต่ทั้งหมดนี้ทำอยู่ในใต้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมเจ้าของร้าน Beef B4 UDie ระบุด้วยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่มีการรายงานในแต่ละวันนั้น เป็นเรื่องที่ยังน่าสงสัย เพราะยังไม่มั่นในว่าการทำงานของรัฐเป็นการตรวจเชิงรุกมากน้อยเพียงใด หากมีการตรวจที่น้อยนั้นหมายความว่า สามารถกำหนดขอบเขตจำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละวันได้ แต่อย่างไรก็ตามโลกนี้อาจจะต้องอยู่กับโรคระบาดโควิด-19 นี้ไปอีกอย่าง 1-2 ปี จนกว่าจะมีการคิดค้นวัคซีนต้านเชื้อขึ้นมาได้ ภายใต้สถานการณ์แบบนี้รัฐจำเป็นต้องสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมโรค และการพยุงเศรษฐกิจ โดยเริ่มต้นด้วยเรื่องง่ายๆ คือ การใช้เงินให้ถูกทางผมมองว่า เขาใช้เงินผิดทีผิดทางหลายต่อหลายครั้ง ทำอะไรที่มันไม่เข้าท่า ขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ ไข่แพงเหรอ ไม่เป็นไรเดี๋ยวรัฐไปซื้อมาขายเอง มีการกักตุนหน้ากากเหรอ ไม่เป็นไรเดี๋ยวรัฐไปซื้อมากระจายเองมันไม่ใช่เปล่าวะ ใช่เหรอ สิ่งที่รัฐบาลควรจะทำคือ การแก้ไขปัญหาในระดับมหภาค ไม่ใช่มาทำอะไรแบบจุลภาคแบบนี้ โอเคปากท้องประชาชนมันต้องแก้ไขจริง แต่ถ้าคุณไม่ไปแก้ที่ระดับมหาภาค เดี๋ยวมันก็กลับมาเป็นปัญหาอีก แล้วล่าสุดที่มีการร่างจดหมายถึงมหาเศรษฐี ผมถามว่า ถูกแล้วเหรอ เอางี้แล้วกันผมคงไม่ฉลาดอาจหาญเพียงพอที่จะไปบอกว่ารัฐต้องทำอะไร แต่ขออย่างเดียวคือ รัฐบาลช่วยทำอะไรที่มันเข้าท่าหน่อยได้ไหม ผมคิดว่าผมใช่คำพูดที่เบาที่สุดแล้วนะ พิชญ์ กล่าวยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือไอลอว์ เผยว่า ตั้งแต่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมา จนถึงเวลานี้ ซึ่งกำลังจะมีการพิจารณาว่าจะยืดอายุสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปหรือไม่ ก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาลว่า เพราะเหตุใดจึงจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ ทั้งที่ประเทศไทยมี พ.ร.บ.โรคติดต่อ ซึ่งเพียงพอต่อการควบคุมโรคติดต่ออยู่แล้ว เพราะมีอำนาจในการสั่งปิดร้านอาหารสถานบันเทิง ถ้ารัฐบาลต้องการอำนาจในการห้ามการรวมตัวของคนก็สามารถใช้กฎหมายนี้ได้ และก่อนหน้าที่จะมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก็มีการใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.โรคติดต่ออยู่แล้วเขากล่าวต่อว่า สิ่งที่แตกกันระหว่าง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ คือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีอำนาจที่เพิ่มขึ้นมาอย่าง 3 อย่าง 1.อำนาจในการตั้งวอร์รูมเพื่อจัดการปัญหาโดยเฉพาะอย่าง ศบค. ซึ่งเป็นอำนาจที่กระทรวงต่างๆ จะต้องมาขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นไปได้ว่าความเป็นรัฐบาลผสม ที่ อำนาจด้านการสาธารณสุข และอำนาจด้านการพาณิชย์ ต่างอยู่ในมือของพรรคร่วมรัฐบาล อาจจะทำให้การบริหารจัดการปัญหาไม่คล่องตัว นายกรัฐมนตรีก็อาจจะต้องการรวบอำนาจในการตัดสินใจกลับมาที่ตัวเอง 2.การประกาศเคอร์ฟิว ซึ่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อไม่สามารถทำได้ และ 3.พ.ร.บ.โรคติดต่อไม่มีการยกเว้นความผิดของเจ้าหน้าที่ แต่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีข้อยกเว้นเรื่องความรับผิดของเจ้าหน้าที่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่เราไม่แน่ใจว่าส่วนไหนกันแน่ที่รัฐบาลนี้ต้องการ หากเป็นสองข้อแรกคือ การรวบอำนาจ และเคอร์ฟิว สามารถใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง แทนได้ โดยสามารถจัดตั้งศูนย์บริหารราชการส่วนการขึ้นมารวบอำนาจเข้ามา และสามารถประกาศเคอร์ฟิวได้ ดังนั้นถ้าดูตามตัวบทอย่างเดียวคือ อำนาจพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินคือ การยกเว้นการรับผิดของเจ้าหน้าที่ และตัดอำนาจศาลปกครอง ยิ่งชีพ กล่าวยิ่งชีพ กล่าวด้วยว่า วันที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็มีการประกาศย้ำไปด้วยว่า ให้ประกาศหรือคำสั่งที่ออกโดย พ.ร.บ.โรคติดต่อ ที่ประกาศไปก่อนแล้วให้อยู่ภายใต้ข้อกำหนดของประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย ทุกวันนี้ประกาศต่างๆ จึงมีลักษณะที่ทับซ้อนกันเขากล่าวต่อว่า ถึงเวลานี้ควรจะตั้งคำถามได้แล้วว่า การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการประกาศเคอร์ฟิว จำเป็นต้องมีหรือไม่ แม้ช่วงที่ผ่านมาจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันจะเพิ่มขึ้นในลักษณะที่น้อยลง แต่ก็ไม่ถูกพิสูจน์ว่า สิ่งเหล่านี้เป็นเพราะการประกาศเคอร์ฟิวหรือไม่ ตรงนี้รัฐบาลยังไม่มีคำอธิบาย หรืออาจน้อยที่สุดรัฐบาลควรพิจารณาว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และเคอร์ฟิวทั่วราชอาณาจักร จำเป็นจริงๆ หรือไม่ เพราะในหลายจังหวัดไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาระยะหนึ่งแล้วปัญหาสำคัญที่สุดของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คือความยากในการตรวจสอบ อย่างกรณีเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เราเห็นการจับกุมคนไร้บ้านที่เชียงใหม่ ฐานฝ่าฝืนมาตรการเคอร์ฟิว รวมทั้งการห้าม และดำเนินคดีกับคนที่นำอาหารมาแจกคนไร้บ้าน หรือคนที่กำลังเดือดร้อน อำนาจเหล่านี้มีการใช้ไปโดยถูกต้องหรือไม มันอาจจะถูกต้องก็ได้ เจ้าหน้าที่อาจจะรักษากฎหมายเป็นไม้บรรทัด หรืออาจจะไม่ถูกต้องชอบธรรรม และคนที่ใช้อำนาจก็ควรจะถูกตรวจสอบ ถ้าไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การกระทำลักษณะนี้จะถูกตรวจสอบ… แต่เมื่อขึ้นชื่อว่ามี พ.ร.ก.ฉุกเฉินหนุนหลังอยู่ ก็ทำให้เจ้าหน้าที่กล้าใช้อำนาจมากขึ้น และเมื่อศาลเห็นว่ามี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็อาจจะหลีกเลี่ยงที่จะตรวจสอบว่าการกระทำต่างๆ สมควรแก่เหตุหรือไม่ ยิ่งชีพ กล่าวผู้จัดการไอลอว์ กล่าวต่อว่า การดำเนินการจับกุมประชาชนในช่วงเคอร์ฟิวนั้น อาจจะเป็นการดำเนินการที่ผิดวัตถุประสงค์ เพราะการเคอร์ฟิวโดยหลักการแล้วต้องการให้คนอยู่บ้าน ลดกิจกรรมต่างๆ ให้มากที่สุด ถ้ามีการดำเนินการกับคนที่ฝ่าฝืนแล้วสั่งให้เขากลับเข้าบ้านไปก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แต่หากมีการจับกุม ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน ซึ่งเป็นเวลาที่ศาลปิด เจ้าหน้าที่ก็ต้องนำต้องผู้ถูกจับกุมไปขังรวมกัน ตอนเช้าก็ต้องนำตัวไปศาล ตำรวจ พนักงานอัยการ ศาล ก็ต้องทำงานเพิ่มึ้นกลายเป็นว่าแทนที่จะลดกิจกรรมต่างๆ ให้น้อยลง กลับเป็นการเพิ่มกิจกรรมมากกว่า ทั้งยังได้ผลตรงกันข้ามกับวัตถุประสงค์ของการประกาศเคอร์ฟิว และหากมีการนำคนเข้าไปขังในเรือนจำจะมีมาตรการกักตัวก่อนเข้าเรือนจำได้ดีแค่ไหน ซึ่งนั้นหมายความว่าเป็นการเอาคนเข้าไปรวมอยู่ในที่เดียวกันจำนวนมากแทน ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้นไปอีกตัวอย่างในฝรั่งเศส กฎหมายเข้าชัด ถ้าเกิดมีคนฝ่าฝืนออกนอกบ้านช่วงเคอร์ฟิว ครั้งแรกก็จะปรับก่อน ครั้งที่สองปรับสูงขึ้น และครั้งที่สามถ้ายังทำซ้ำอยู่ก็จะมีโทษจำคุกเข้ามาเกี่ยวข้อง และค่าปรับก็สูงขึ้นไปอีก แต่กฎหมายไทยไม่ว่าคุณจะฝ่าฝืนกี่ครั้ง ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรที่ทำให้ฝ่าฝืน ก็ได้รับโทษแบบเดียวกันยิ่งชีพ สรุปว่า เวลานี้ยังไม่เห็นว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และการเคอร์ฟิวเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดแพร่ระบาดของโรคลดลง และไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน หากรัฐบาลจะต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก ก็ต้องบอกเหตุผลที่จำเป็น และมีความเป็นวิทยาศาสตร์แต่ถ้ารัฐบาลไม่ประกาศยืดอายุสถานการณ์ฉุกเฉินต่อ และหันกลับมาใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ ความจำเป็นในการใช้อำนาจ เพราะแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันในแง่ของการระบาด ซึ่งต้องให้คนที่อยู๋ในพื้นที่เป็นผู้วิเคราะห์ และตัดสินใจ ว่าควรมีการดำเนินมาตรการเข้มข้นแค่ไหนหลายประเทศที่สถานการณ์หนักกว่าเรา โดยเฉพาะยุโรปที่มีคนตายจำนวนมาก เขาก็กำลังอยู่ในช่วงที่ค่อยๆ ปลดล็อคทีละนิด เช่น เดนมาร์กเริ่มจากเปิดโรงเรียนอนุบาลก่อน เพราะเวลาผู้ใหญ่ทำงานที่บ้าน แล้วเด็กอยู่ที่บ้านด้วย มันไม่สามารถทำงานที่บ้านได้ ถ้าจะให้ผู้ใหญ่ทำงานที่บ้านได้ ก็ต้องเปิดสถานที่รับเลี้ยงเด็ก โดยเอาทรัพยากรของรัฐทุ่มลงไปมากขึ้น เพื่อที่ทำให้โรงเรียนอนุบาลให้ปลอดภัย แต่ก็มีทั้งคนเห็นด้วยและคนไม่เห็น ซึ่งเป็นดีเบตที่เกิดเป็นปกติของแต่ละสังคม คือในภาวะที่ต้องมีความเด็ดขาดเรื่องการควบคุมโรค มันต้องคิดถึงชีวิตผู้คนที่ต้องเดินไปข้างหน้าด้วย และรัฐบาลไม่ควรคิดเรื่องเหล่านี้เพียงฝ่ายเดียว แต่ต้องรับฟังประชาชน ยิ่งชีพ กล่าวเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ หัวหน้าพรรคสามัญชน ระบุว่า การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำตั้งแต่แรก เพราะสามารถใช้กฎหมายปกติได้อยู่แล้ว และหากอ้างเรื่องความไม่เป็นเอกภาพ ครม. ก็สามารถตั้งวอร์รูมขึ้นมาบริหารจัดการสถานการณ์โดยเฉพาะได้ และก่อนหน้านี้ก็สามารถใช้ พ.ร.บ.โรคต่อ ในการจัดการสถานการณ์ได้ อีกทั้งเครือข่าย อสม. ก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพพอสมควร โดยไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจพิเศษอะไรที่ไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะมันมีส่วนที่ไปกดทับสิทธิและเสรีภาพของประชาชนมากเกินไป มีการใช้อำนาจโง่ๆ เช่น ไปสกัด ไปห้ามการแจกข้าวของของประชาชน แล้วก็อ้างฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ผมว่ามันเป็นอำนาจที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ชาวบ้านที่ต่อสู้เรื่องประเด็นสิ่งแวดล้อม ประเด็นเรื่องที่อยู่ที่ทำกิน ก็ถูกสกัดกั้นการแสดงออก โดยอ้างว่าเป็นการควบคุมยับยั้งการแร่ระบาดของโควิด ชาวบ้านไม่สามารถรวมตัวกันไปยื่นหนังสือร้องเรียน หรือคัดค้านต่อหน่วยงานราชการ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าห่วง เลิศศักดิ์ กล่าวหัวหน้าพรรคสามัญชน กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ซ้ำเติมประชาชนเพิ่มขึ้นไปอีก คือการถูกจับกุมข้อหาฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ที่ผ่านมามีโทษทั้งจำคุก โทษปรับตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น และนอกจากนี้ยังทำให้ประชาชนเสียประวัติ เพราะเวลาจะไปสมัครงานอะไร หากถูกพบว่าเคยถูกดำเนินคดี ส่วนมากก็จะไม่ได้งาน สิ่งที่เกิดขึ้นมาในช่วงนี้มันเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เป็นการใช้อำนาจที่มากเกินไปเขากล่าวต่อด้วยว่า ต่อให้ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลไม่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ความกระตือรือร้นของประชาชน ความสามารของบุคลากรทางการเเพทย์ก็สามารถที่จะควบคุมสถานการณ์ได้ และในเวลานี้รัฐบาลควรเปิดให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตตามปกติที่สุดได้แล้ว เพราะเดือน มี.ค. - เม.ย. เป็นช่วงแรกๆ ที่ประชาชนถูกชะลองาน ถูกหยุดงาน ขาดรายได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้มีจำนวนมหาศาล และคาดว่าเงินเก็บในกระเป๋าของแต่ละคนไม่น่าจะอยู่รอดเกินไปกว่า 2 เดือนนี้ และหากเดือน พ.ค. หากยังคงมาตรการแบบเดิมไว้ ทุกอย่างจะแย่ลง เพราะเงินในกระเป๋าของคนเริ่มหมดแล้วตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาคิดว่า ควรจะใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อหรือไม่ มันเลยจุดนั้นแล้ว สิ่งที่รัฐบาลควรคิดคือ จะทำอย่างไรให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่อาจจะมีบางอาชีพที่ต้องพักไว้ก่อนเพราะไม่สามารถจัดการเว้นระยะห่างทางสังคมได้ แต่ในทุกอาชีพที่สามารถเว้นระยะห่างทางสังคมได้ ก็ควรจะเปิดให้ประชาชนกลับมาทำมาหากินได้ ส่วนเรื่องระบบขนส่งมวลชน รัฐก็ต้องคิดวิธีที่จะไม่ทำให้ผู้คนไปอยู่รวมกันในสถานที่และเวลาเดียวกัน เช่น ออกมาตรการสับเปลี่ยนเวลาเลิกงาน เวลาเข้างาน เลิศศักดิ์ กล่าวแม้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะไม่มีสมาชิกพรรคการเมืองจากพรรคสามัญชนเข้าไปเป็น ส.ส. หรือผู้แทนของประชาชน แต่เลิศศักดิ์ เห็นว่า การรีบเปิดให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงเวลาวิกฤตินี้ จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะสะท้อนปัญหาของประชาชน และร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยข้ออ้างที่เกรงว่าจะทำให้ ส.ส. ติดโรคโควิดเป็นเหตุที่ฟังไม่ขึ้น เพราะรัฐสภาย่อมมีมาตรการป้องกัน และรักษาระยะห่างทางสังคมได้เป็นอย่างดีไอ้การที่บอกว่าถ้ารีบประชุม ส.ส. กลัวว่าจะทำเสี่ยงต่อการติดเชื้อมันไร้สาระ สิ่งที่คุณกลัวกันจริงๆ คือ กลัว ส.ส. เขาจะพูดมากกว่า การเปิดให้ตัวแทนของประชาชนไปพูดในสภาย่อมทำให้ประชาชนรู้สึกว่าเขายังมีเสียง และยังมีอีกหลายเรื่องที่ถูกปิดลับ มีหลายเรื่องที่ประชาชนยังสงสัย เพียงลำพังแค่การตั้งถามในโซเชียลมีเดีย ไม่เพียงพอที่จะทำให้ได้คำตอบ แต่การถามในสภาฯ คือภาคบังคับที่รัฐบาลจะต้องตอบคำถาม เลิศศักดิ์ กล่าว
นักรัฐศาสตร์ชี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องความไร้เสถียรภาพของรัฐบาล ไม่ใช่ทั้งหมดของการจัดการปัญหาโรคระบาด แนะระยะยาวควรจัดการปัญหารัฐราชการ-รัฐบาลเบี้ยหัวแตก
การเมือง,สิทธิมนุษยชน,คุณภาพชีวิต
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน,ไวรัสโควิด-19,เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์,ยิ่งชีพ อัชฌานนท์,ยุทธพร อิสระชัย,พิชญ์ ชีวะสาคร 
https://prachatai.com/journal/2020/04/87394
วอนดูแลให้สมเกียรติ อดีตทีมชาติ แม้เป็นเพียงฮีโร่พระรองโอลิมปิก
ณ วินาทีนี้ เสียงปรบมือ เสียงโห่ร้องชื่นชมยินดี อีกทั้งแสงจากสปอร์ตไลท์ทุกดวง กำลังสาดฉายไปยัง นักกีฬาทีมชาติไทย ที่ประสบความสำเร็จ ในกีฬาโอลิมปิก ริโอเกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิล,หากแต่ในอีกมุมหนึ่งเหล่านักกีฬา ที่พลาดคว้าเหรียญในการแข่งขันกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ รวมถึง บรรดาเหล่าฮีโร่พระรอง ในฐานะนักกีฬาทีมชาติไทย ที่สามารถคว้าเหรียญเงินและเหรียญทองแดง จากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในอดีตล่ะ,ณ เวลานี้ พวกคุณลืมเลือนพวกเค้าไปตามกาลเวลาแล้วหรือยัง? แล้วพวกเค้าเหล่านั้น ได้รับการดูแล ให้สมกับ เกียรติ ของนักกีฬาทีมชาติ แล้วหรือไม่? แม้พวกเค้าเหล่านั้น อาจจะยังไปไม่ถึงที่สุด ของ เหรียญรางวัลแห่งมวลมนุษยชาติ ก็ตาม, ,วันนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะพาทุกท่านไปสอบทาน กับ บรรดาอดีตฮีโร่พระรองเหล่านั้นกันดู เพื่ออัพเดตชีวิตในปัจจุบัน หลังผ่านการกรำศึกรับใช้ประเทศชาติ มาเป็นเวลานาน และทั้ง 3 ท่านนี้ ใช้ครึ่งชีวิตที่ผ่านมาสร้างเหรียญรางวัลให้กับประเทศชาติ รวมกันเป็นร้อยๆ เหรียญ   ,เอาล่ะ งั้น เราไปเริ่มต้นที่กีฬา ที่ร้อนแรงที่สุดใน ริโอ เกมส์ ครั้งนี้ กีฬายกน้ำหนัก, ,นาวาโทหญิงเกษราภรณ์ สุตา อดีตนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ผู้สร้างประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญทองแดง ในกีฬาโอลิมปิก ปี 2000, เหรียญรางวัลแรก จาก กีฬายกน้ำหนัก นับตั้งแต่สยามประเทศ เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเป็นต้นมา,และเป็นจุดเริ่มต้น ของการทำให้กีฬาชนิดนี้ โด่งดังเป็นพลุแตกบนผืนแผ่นดินของเรา ,อัพเดตชีวิตปัจจุบัน ,ปัจจุบัน รับราชการ ในตำแหน่งหัวหน้าแผนกวิชาการกองการกีฬา กองทัพเรือ มีหน้าที่สอนวิชาพละศึกษา และดูแลเรื่องการเช่าศูนย์ออกกำลังกาย ของกองทัพเรือค่ะ อดีตฮีโร่สาว เริ่มต้นการสนทนากับทีมข่าวฯ ,บทบาทฮีโร่พระรอง เหรียญทองแดง กีฬาโอลิมปิก,  ,เวลามีประชาชนเข้ามาชื่นชมยินดี ส่วนตัวไม่รู้สึกน้อยอกน้อยใจอะไรนะคะเพราะแม้คนส่วนหนึ่งอาจจะชื่นชมยินดีกับผู้ที่ได้เหรียญทองมากกว่า แต่ก็รู้สึกถึงความภูมิใจในตัวเอง และเชื่อมั่นว่า คนไทยก็ชื่นชมเราไม่ได้แตกต่างกัน,อีกอย่าง เราคงไปบังคับให้ใครมาชื่นชมเฉพาะเรา ได้หรอก จริงไหมคะ?,ทุกเหรียญที่ได้จากกีฬาโอลิมปิก สุดยากยิ่ง ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้,แต่อย่างไรก็ดีอยากฝากถึง แฟนๆ กีฬาชาวไทย นิดนึงว่า ในช่วงหลังๆ มานี่ นักกีฬาไทยของเราประสบความสำเร็จ ได้เหรียญรางวัลในกีฬาโอลิมปิกกันได้มากขึ้นๆ ทำให้อาจมีส่วนหนึ่ง อาจเผลอไผลไปคิดว่า,ได้แค่เหรียญทองแดงโอลิมปิกมา มันก็งั้นๆ แหละ  ,เพราะแท้จริงแล้วการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก มันเป็นการแข่งขันกีฬาระดับโลก ใช่ว่าใครจะเข้าไปแข่งขันได้ง่ายๆ คู่แข่งที่มาแข่งขันด้วย ก็เป็นนักกีฬาที่เก่งๆ จากทั่วทุกมุมโลก เพราะฉะนั้น ไม่ว่าใครก็ตาม ที่คว้าเหรียญใด เหรียญหนึ่งมาได้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยสักนิด…,โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเก็บตัวก่อนไปแข่งขัน บอกได้เลยว่า เหนื่อยมากกกก (เสียงสูง)ต้องเก็บตัวฝึกซ้อมกันทีหลายเดือน ต้องสู้กับจิตใจตัวเอง รับผิดชอบให้อยู่ในกฎ ในระเบียบ ที่เข้มงวดตลอดเวลา เพราะฉะนั้น อย่านำโอลิมปิก ไปเปรียบเทียบ กับ การได้เหรียยญรางวัลในระดับเอเชียนเกมส์ หรือ ซีเกมส์ เพราะมันมีความแตกต่างกันคนละโลกเลย,เงินอัดฉีด อดีต เทียบ ปัจจุบัน  ,ในอดีตก็ต้องถือว่าน้อยค่ะน้อยนะหากนำมาเทียบกับปัจจุบัน,บรรดานักกีฬาทีมชาติรุ่นเก่าๆ ยังพูดกันแบบติดตลกเลยว่า เฮ้ย… หากย้อนอดีตไปได้ก็คงดีนะ จะได้มีคนแบบ คุณตัน โออิชิ มาอัดฉีดเงินเป็นสิบล้านๆ ให้ แบบรุ่นน้องๆ บ้าง (หัวเราะ) เพราะระดับแค่ 1-2 ล้าน ที่พวกเราเคยได้กันในอดีต นี่ ปัจจุบันกลายเป็นอยู่ในระดับเงินอัดฉีดเอเชียนเกมส์ ไปแล้ว คงเอามาเทียบกันไม่ได้ (เสียงสูง) นาวาโทหญิงเกษราภรณ์ กล่าวอย่างอารมณ์ดี ,รายได้ในฐานะนักกีฬาทีมชาติไทย ,สมัยก่อน เวลาเก็บตัว จะได้รับเงินเบี้ยเลี้ยง เดือนละประมาณ 2,000-2,500 บาท แต่ได้รับสวัสดิการ กินฟรี อยู่ฟรี และรักษาพยาบาลฟรี ซึ่งสมัยนั้นก็อยู่ได้ตามอัตภาพ,ส่วนเวลาไปแข่งขัน นี่คือโอกาสทองเลยก็ว่าได้,ตอนนั้น ได้แชมป์โลกมา เต็มที่ได้สูงสุดก็หลักแสนบาท ที่ได้เยอะสุดก็ช่วงคว้าเหรียญทองแดงจากกีฬาโอลิมปิกได้มาประมาณหลักล้านบาท พอมีรายได้ไปใช้หนี้ใช้สิน และสร้างกิจการธุรกิจเล็กๆ ให้กับตัวเองและครอบครัว มาจนถึงทุกวันนี้,การดูแลจากทางราชการ ในฐานะนักกีฬาทีมชาติ ,ส่วนตัวโชคดีที่ช่วงเป็นนักกีฬาทีมชาติ ได้รับความเมตตาจากกองทัพเรือให้เข้ารับราชการ เมื่อสร้างผลงานให้กับประเทศชาติมาต่อเนื่อง ก็ได้รับความดีความชอบ เลื่อนขั้นมาเป็นลำดับ จนกระทั่งปัจจุบัน ได้เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรในที่สุด,กระทุ้ง ผู้ใหญ่บ้านเมืองเมตตา ให้นักกีฬาทีมชาติ มีชีวิตสมเกียรติ ในฐานะสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ    , ,อยากให้หน่วยงานราชการ โดยเฉพาะกองทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เห็นใจและความเมตตาบรรดาน้องๆ นักกีฬาทีมชาติทุกคน,ช่วยรับพวกเขาเหล่านั้นไปรับราชการเถอะค่ะ,เขาจะได้มีอาชีพที่มั่นคงและมีเกียรติในสังคม สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย ,อย่าง พี่สง่า วังคีรี อดีตนักยกน้ำหนักทีมชาติไทย,หากไม่ได้สื่อมวลชนในสมัยนั้น เป็นกระบอกเสียงช่วยเหลือ ก็คงยังต้องใช้ชีวิตแบบยากลำบากอยู่ เพราะเอาเข้าจริงๆ นักกีฬา เค้าก็คงไม่สามารถไปขออะไรกับใครได้ เพราะส่วนใหญ่ มีความรู้สึกละอายอยู่ในใจว่า เป็นถึงนักกีฬาทีมชาติไทย จะไปขอโน่นขอนี่กับใคร ได้อย่างไรกัน?,(สง่า วังคีรี เธอคือใคร? ทดไว้ในใจกันสักแป๊บ เดี๋ยว ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะให้คำตอบในรายงานชิ้นนี้ ต่อไปแน่นอน)  ,ฉะนั้น จึงอยากขอฝากไปถึงบรรรดาผู้ใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้โปรดให้ความเมตตาสงสาร กับ บรรดานักกีฬาทีมชาติทุกคนด้วย เพราะที่ผ่านมา นักกีฬาทีมชาติไทยหากประสบความสำเร็จได้เหรียญรางวัลมา โดยเฉพาะหากเป็นกีฬาโอลิมปิก ก็ถือว่าดีไป ผู้ใหญ่มักจะเข้าไปโอบอุ้มให้ความช่วยเหลือ แต่สำหรับคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ ต้องยอมรับเลยว่า พวกเค้าเหล่านั้น ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในช่วงที่ถึงวัยต้องปลดระวาง,คนอายุเฉียด 40 ปี เล่นกีฬาอย่างเดียวมาเกือบครึ่งชีวิต หลังหมดเขี้ยวเล็บ ต้องออกไปหางานทำด้วยตัวเอง แถมแบกเกียรติ ของ คำว่า อดีตนักกีฬาทีมชาติไทยเอาไว้ จะให้เขาไปทำงานที่ไม่สมเกียรติ, มันก็คงดูไม่ดีนัก, นาวาโทหญิงเกษราภรณ์ กล่าวทิ้งท้ายฝากความหวังถึงรัฐบาล ,เอาล่ะ ที่ติดค้างไว้ สง่า วังคีรี เธอผู้นี้คือใคร?,หากใครยังจำคราบรอยน้ำตา ที่เธอร่ำไห้ผ่านสื่อจนเป็นข่าวครึกโครมเมื่อหลายปีก่อน เพื่ออ้อนวอนร้องขอทางราชการเหลียวแล ช่วยเพียงให้เธอ ได้บรรจุเข้ารับราชการ หลังอำลาชีวิตการรับใช้ชาติมาเป็นเวลาหลายสิบปี คุณน่าจะระลึกถึงเธอผู้นี้ได้,สิบเอกหญิงสง่า วังคีรี อดีตนักยกน้ำหนักทีมชาติไทย, ซึ่งตลอดชีวิตการรับใช้ชาติ สามารถสะสมเหรียญรางวัลต่างๆ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมานับไม่ถ้วน ปัจจุบันรับราชการเป็นทหาร ตำแหน่งครูพละ สังกัด มทบ.33 ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่,แต่ด้วยรักในความสามารถ ทางสมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทยจึงทำหนังสือ ให้มาช่วยงานของสมาคมฯ ที่ โรงเรียนหอพระ จ.เชียงใหม่ โดยทำหน้าที่สอนกีฬายกน้ำหนัก และประจำห้องพยาบาล เพื่อคอยจัดหาดาวรุ่งช้างเผือก ป้อนให้กับสมาคมฯ,โดย ไตรรัตน์ บุญสุข ขุนพลเสื้อกล้ามสู้ศึกริโอเกมส์ 2016 คือ ผลผลิตล่าสุดจากฝีมือการปลุกปั้นของหญิงแกร่งผู้นี้ ,สิบเอกหญิงสง่า เริ่มต้นเล่าถึงอดีตยุคบุกเบิกของกีฬายกน้ำหนักในประเทศไทย ว่า ,สมัยก่อนกีฬายกน้ำหนัก เป็นกีฬาที่คนไทยไม่ค่อยให้ความสนใจนัก การคัดเลือกนักกีฬามารับใช้ชาติ ทำได้ยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักกีฬาหญิง หายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก,คนที่มาเล่นกีฬานี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกคนยากคนจน เพราะคนรวยที่ไหน จะปล่อยให้ลูกมาลำบาก ยกน้ำหนัก ตั้งแต่เช้าจรดเย็นจริงไหม?,แต่แล้วจากกีฬาที่ใครต่างเบือนหน้าหนี ก็มาถึงจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ เมื่อ ,เกษราภรณ์ สุตา, คว้าเหรียญทองแดงจากโอลิมปิกปี 2000 ได้ และยิ่งมาบูมเอาสุดขีด ในโอลิมปิกปี 2004 ที่ประเทศกรีซ เมื่อขุนพลเสื้อกล้ามสาว นำโดยป๊อปสตาร์ อย่าง ,ปวีณา ทองสุก และ อุดมพร พลศักดิ์, พิชิตเหรียญทองได้สำเร็จ,เงินอัดฉีด และ แรงเชียร์ ที่มหาศาลจากประชาชนชาวไทย ทำให้มีเยาวชนสนใจมาเล่นกีฬายกน้ำหนักมากขึ้นกว่าสมัยที่พี่บุกเบิกไว้มาก ,หญิงแกร่งอดีตทีมชาติ กล่าวด้วยน้ำเสียงปีติยินดี ,ด้วยเหตุนี้ เมื่อมองไปที่เงินอัดฉีดจึงแตกต่างจากสมัยก่อน มากถึงมากที่สุด ,ตลอดเวลาที่พี่ รับใช้ชาติ มาประมาณ 11 ปี เคยเหรียญแชมป์โลกมา ได้เงินอัดฉีด 50,000 บาท เหรียญซีเกมส์ ได้สูงสุด 1 แสนบาท นี่ก็ถือว่าเต็มที่แล้ว ส่วนเงินเบี้ยเลี้ยงช่วงเก็บตัว ได้เดือนละประมาณ 2,000-2,500 บาท ไม่เหมือนสมัยนี้ ที่ได้กันที หลัก 10 ล้านขึ้นไป,เขี้ยวเล็บผุกร่อน ถึงคราวต้องปลดระวาง อยากรับราชการก็ยังยาก,สมัยก่อนต้องยอมรับว่า นักกีฬาทีมชาติ หลังถึงวัยที่ต้องสิ้นสุดการรับใช้ชาติ หากเป็นคนที่พอมีชื่อเสียง หรือ มีผลงานในระดับโอลิมปิก ก็อาจได้แรงหนุนช่วยให้ได้งานรับราชการดีๆ ได้ แต่หากเป็นนักกีฬา ที่ไม่มีชื่อเสียงนัก ส่วนใหญ่ก็ต้องดิ้นรนช่วยเหลือตัวเอง,แต่แน่นอนการจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยเริ่มจากการไปหางานทำ ในวัยเฉียด 40 ปี เป็นเรื่องที่ยากเอามาก ๆ,สมัยพี่….สมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทย ยังไม่โด่งดังเป็นที่รู้จักมากมายเหมือนยุคนี้ การไปร้องขอตามหน่วยงานราชการต่างๆ เพื่อให้ช่วยเหลือนักกีฬาในสังกัด ก็มักไม่ค่อยได้รับความสนใจนัก ก็พูดได้เลยว่า การไปหางานทำ ก็เป็นไปตามสภาพ ที่สุด ตอนนั้น เมื่อดิ้นรนจนสุดแรง ก็ได้งานเป็นลูกจ้างชั่วคราว ทำงานอยู่เทศบาลเมืองเชียงใหม่,ทำอยู่ 10 ปี ได้เงินเดือน 4,100 บาท ยังจำได้ขึ้นใจ มาจนถึงวันนี้,ช่วงนั้น ชีวิตลำบากมาก เพราะมีพ่อและแม่ที่ชราแล้ว ต้องคอยดูแล ความหวังตอนนั้น อยากแค่ได้บรรจุเข้ารับราชการ เพื่อจะได้เบิกค่ารักษาพยาบาลให้กับพ่อแม่ ให้มันสมศักดิ์ศรีที่ครั้งหนึ่ง เรา ได้เคยเป็นถึงนักกีฬาทีมชาติ ….แต่ก็ยังทำไม่ได้, อดีตหญิงแกร่งผู้รับใช้ประเทศชาติมาหลายสิบปี น้ำเสียงขาดห้วงพร้อมกับสะอึกในอก เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในช่วงนั้น,แต่โชคดี … ณ ห้วงเวลาแห่งความวิกฤติของชีวิตในครั้งนี้ มีแสงสว่างเรืองรอง สาดฉายเข้ามา จนทำให้อดีตนักกีฬาทีมชาติผู้นี้ ได้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา มาตลอดหลายสิบปี,โชคดี ที่ในเวลาต่อมา ….บรรดาน้องๆ ยกน้ำหนักทีมชาติ ประสบความสำเร็จ ได้เหรียญรางวัลในกีฬาโอลิมปิก ตั้งแต่ ปี 2000 เป็นต้นมา ทำให้กีฬาประเภทนี้ เป็นที่สนใจในวงกว้าง บรรดาสื่อมวลชนและสปอนเซอร์ต่างๆ พร้อมในกันไปให้การสนับสนุน ,เมื่อเวลา น้องเหล่านี้ ไปออกสื่อ ก็จะถามหาถึงบรรดานักกีฬารุ่นพี่เก่าๆ ที่หายหน้าหายตาไป จนที่สุดสื่อมวลชนจึงไปพบว่า ชีวิตของพี่กำลังลำบาก จนเป็นข่าวครึกโครมไปในช่วงนั้น,หลังเป็นข่าวออกไป ประมาณ ปี พ.ศ.2548 ชีวิตของพี่ก็เริ่มดีขึ้นมีผู้หลักผู้ใหญ่ เมตตาสงสาร เข้ามาให้ความช่วยเหลือ จนกระทั่งได้รับราชการสมเกียรติของนักกีฬาทีมชาติ ดั่งที่ตั้งใจไว้ในที่สุด ซึ่งตอนนั้น หากไม่ได้เป็นข่าวออกไป ชีวิตของพี่ก็คง ยังทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวต่อไปจนถึงตอนนี้ ที่อายุจะครึ่งร้อยเข้าไปแล้วแน่นอน,สมัยนั้น นักกีฬาทีมชาติ หากประสบความสำเร็จได้เหรียญรางวัลมา อยากไปทำงานรับราชการอะไรก็ได้สมใจนึก,แต่หากไม่ประสบความสำเร็จ ไม่มีผลงานมา ก็ต้องยอมรับในโชคชะตาของตัวเองไป สำหรับพี่ เคยคิดอยู่เหมือนกันนะว่า คงเกิดมาเร็วไปเพราะฉะนั้น ได้เท่าที่ได้ทุกวันนี้ ก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว อยู่ทำงานสร้างเด็กขึ้นมาเพื่อรับใช้ชาติต่อไปดีกว่า,อย่างไรก็ดี อยากให้รัฐบาล ช่วยดูแลสวัสดิการให้กับบรรดาอดีตนักกีฬาทีมชาติให้มากขึ้น เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้น ได้มีชีวิตความเป็นอยู่ ,สมกับเกียรติในฐานะนักกีฬาทีมชาติ,สุดท้าย ยอดนักยกน้ำหนักยุคบุกเบิกแห่งสยามประเทศ ขอฝากไปถึงนักกีฬารุ่นน้องว่า อยากให้น้องๆ เก็บออมเงินรางวัลที่ได้รับจากความสำเร็จ มากันให้ดีๆ เพราะเงินทองมันหายาก ชีวิตนักกีฬา เหนื่อยยากกันมาทุกคน กว่าที่จะประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้น อย่าได้ใช้ชีวิตแบบประมาท,ต้องไม่ลืมว่า ชีวิตนักกีฬายกน้ำหนักนั้น อยู่ได้เต็มที่ก็ที่อายุประมาณ 35-38 ปี เท่านั้น,เอาล่ะ ท้ายที่สุด เราไปที่กีฬาขวัญใจมหาชน กีฬาที่คนไทยฝากความหวังการได้เหรียญทุกครั้งในกีฬาโอลิมปิก มวยสากลสมัครเล่น  ,ซึ่งผู้ที่จะมาถ่ายทอดประสบการณ์ในครั้งนี้ คือ ,สิบเอกวรพจน์ เพชรขุ้ม, ,อดีตสุดยอดนักชกทีมชาติไทย ผู้พิชิตเหรียญเงิน ในโอลิมปิกปี 2004, ปัจจุบัน รับราชการทหาร อยู่ ร.23 พัน 1 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา,น้อยใจไหมคนไทยให้ความสำคัญที่เฉพาะเหรียญทองโอลิมปิก ,ไม่น้อยใจครับ เพราะกีฬาโอลิมปิก คือ กีฬาระดับโลกและเป็นกีฬาของมวลมนุษยชาติ แค่การได้เข้าร่วมแข่งขันก็ถือว่า เป็นเกียรติและโชคมหาศาลอย่างยิ่งแล้ว เพราะฉะนั้น การได้เหรียญใดเหรียญหนึ่งมาครอบครอง ก็ถือว่าเป็นกำไรของชีวิต,เพราะเอาเข้าจริงๆ มันก็แค่ละครฉากหนึ่งในชีวิตเท่านั้น พอละครจบ ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไป อย่าไปยึดติดอะไร,สิบเอกวรพจน์ พูดให้ได้คิด ,หากแต่,วอนรัฐ เอาอย่างต่างประเทศ ดูแลและให้เกียรตินักกีฬาทีมชาติ ตลอดชีวิต ,ช่วงหนึ่ง ผมเคยไปทำหน้าที่ฝึกสอนมวย อยู่ที่ยิมแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา เลยได้เห็นว่า, บรรดานักกีฬาทีมชาติสหรัฐ ที่สามารถคว้าเหรียญในกีฬาโอลิมปิกได้ จะได้รับการดูแล ยกย่อง ให้เกียรติ และได้รับสวัสดิการที่ดีมาก จาก รัฐบาล แม้จะเลิกเล่นในนามทีมชาติไปแล้วก็ตาม,… ซึ่งจะแตกต่างจากบ้านเรา ที่มักเห่อกันแต่เฉพาะช่วงที่ได้เหรียญกลับมาใหม่ ๆ จนกระทั่งมีคำพูดในหมู่นักกีฬา อยู่บ้างเหมือนกันว่า ,ตีเหล็กต้องรีบตีตอนร้อนๆ ช่วงที่ได้เหรียญมาใหม่ๆ อยากได้อะไร ก็ให้รีบๆ ขอไป เพราะหากไฟเย็นแล้ว ตียังไงก็ไม่ไปแล้ว จะขออะไรก็อาจจะยากสักหน่อย,เงินอัดฉีด เหรียญเงิน โอลิมปิก,ผมว่ามันอยู่ที่คนนะว่าจะบริหารจัดการอย่างไร?,เพราะแน่นอน คนที่ได้เหรียญทอง ย่อมได้รับการสนับสนุนมากกว่า ซึ่งมันก็เป็นจังหวะชีวิตของเค้า เราก็ดีใจด้วย แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เราจะบริหารเงินที่ได้มาอย่างไรให้มันงอกเงยมากกว่า ,อย่างผมเอง ได้อัดฉีดมารวมประมาณ 10 ล้านนิด ก็เอาไป ลงทุนทำธุรกิจ สร้างรีสอร์ต ร้านอาหาร และซื้อที่ทางไว้ทำสวนทำไร่ เมื่อบวกกับที่ ได้รับเงินเดือน ในฐานะที่ได้รับใช้ชาติ จนคว้าเหรียญเงิน กีฬาโอลิมปิกมาได้ เดือนละ 1 หมื่นบาท เป็นระยะเวลา 20 ปี และเงินสนับสนุนจากบริษัทโอสถสภา ที่ให้เป็นเงินเดือนจนถึงเกษียณ อีกจำนวนหนึ่ง ชีวิตตอนนี้ก็อยู่ได้แบบสบายๆ ,เตือนรุ่นน้องอย่าหลงระเริง ได้เงินมาต้องมีสติ คิดก่อนใช้, ,สุดท้าย อดีตนักชกเหรียญเงินโอลิมปิก ขอฝากเตือนบรรดานักกีฬารุ่นน้อง ว่า ช่วงที่ประสบความสำเร็จ ได้เหรียญรางวัลจากกีฬาโอลิมปิกมา ช่วงแรกๆนี้ จะเป็นช่วงเนื้อหอม ไปไหนก็มีคนอยากเข้าใกล้ อยากมาเอาอกเอาใจ ฉะนั้นอย่าหลงระเริง มีเงินมีทอง ต้องมีสติ เงินที่ได้มาต้องพยายามบริหารจัดการให้มันงอกเงย ให้มันมากยิ่งขึ้นให้ได้,เพราะช่วงเวลานี้ มันก็แค่ ละครบทหนึ่งของชีวิต ก็เท่านั้น,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน ,ทีมข่าวเฉพาะกิจ
อย่าหลงลืมพวกเค้า เหล่าพระรองฮีโร่โอลิมปิก ช่วยดูแลและให้เกียรติ ให้สมกับคำว่า อดีตนักกีฬาทีมชาติไทย
null
โอลิมปิก,โอลิมปิกเกมส์ 2016,โอลิมปิก 2016,ริโอเกมส์,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,โอลิมปิก ริโอเกมส์ 2016,อดีตนักกีฬาทีมชาติไทย,นาวาโทหญิงเกษราภรณ์ สุตา,วรพจน์ เพชรขุ้ม,สง่า วังคีรี,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าว,ข่าวกีฬา
https://www.thairath.co.th/content/686827
นายกฯ ออกสาร ซัดผู้ไม่หวังดีบิดเบือนข้อมูล หวังทำ ปท.ขัดแย้ง ไม่สงบสุข
ป้องกันไม่ให้ประเทศกลับไปวุ่นวายอีก,เมื่อวันที่ 1 เม.ย.62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกสารแจกจ่ายสื่อมวลชนว่า,สถานการณ์ในบ้านเมืองเราขณะน้ี ประชาชนทุกหมู่เหล่าสามารถดำรงวิถีชีวิต ประกอบอาชีพ ทำมาหากินได้อย่างเป็นปกติสุข แต่ยังคงมีผู้ไม่หวังดี บางคน บางกลุ่ม ได้พยายามบิดเบือนข่าวสารข้อเท็จจริงในหลายๆ ประเด็น มีการใช้โซเชียลมีเดีย และใช้บุคคลบางกลุ่มเข้ามาปลูกฝังแนวคิดที่ไม่ถูกต้องแก่ประชาชนทั่วไป เพื่อมุ่งหวังให้บ้านเมืองเกิดความไม่สงบ และบ่อนทำลายสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์,ทั้งน้ีรัฐบาลและ คสช.รับทราบสถานการณ์มาโดยต่อเนื่อง และได้บังคับใช้กฎหมายปกติอย่างเคร่งครัด โดยให้กระบวนการยุติธรรม และหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการไป มิได้ใช้อำนาจพิเศษมาดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้องอาศัยความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกคนช่วยกันสอดส่องดูแล ผู้ปกครองควรต้องเอาใจใส่ลูกหลานของตน และบุคคลใกล้ชิด ครูอาจารย์ควรต้องอบรมบ่มนิสัย ดูแลลูกศิษย์อย่างเข้าถึง ข้าราชการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาและครอบครัว สิ่งสำคัญคือการรับรู้ข่าวสารจะต้องมีการพิจารณาอย่างมีเหตุมีผล ศึกษาให้ดี หากพวกเราทุกคนร่วมมือร่วมใจ ช่วยกันปกป้องบ้านเมืองไม่ให้สั่นคลอนหรือกลับไปสู่ความวุ่นวายได้ ประเทศชาติจะไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นายกฯ ออกสาร ชี้ผู้ไม่หวังดีบางกลุ่มใช้โซเชียลฯ บิดเบือนข้อเท็จจริง หวังทำบ้านเมืองไม่สงบ ย้ำเป็นการบ่อนทำลายสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จี้ผู้ปกครอง ผู้บังคับบัญชาอบรมบ่มนิสัย
เลือกตั้ง
เลือกตั้ง62,สารนายกฯ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกฯ,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1534821
ตร.ชลบุรี รวบแก๊งลักรถ จยย. เตรียมส่งขายกัมพูชา
,วันที่ 29 ต.ค. 58 พ.ต.ท.ชาญ ปานมณี สวป.สภ.หนองขาม พร้อมด้วย ร.ต.อ.สุบวร ยัติสาร รอง สวป. ทำหน้าที่ หัวหน้าชุดปราบปรามพิเศษ นำกำลังชุดปราบปรามพิเศษ และตำรวจอาสาจำนวน 10 นาย ไปยังถนนสายหนองขาม-บายพาส ซอย 5 หมู่ 1 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา พบ รถยนต์ปิกอัพยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีขาว ตอนเดียว ตีตู้ทึบ ทะเบียน กธ 2932 กทม. จอดอยู่ในมุมมืด และมีชาย 2 คน กำลังจะยกรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น MSX สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขึ้นท้ายรถ จึงขอตรวจค้น และตรวจสอบหมายเลขเครื่องรถจักรยานยนต์ พบว่า รถคันดังกล่าวมี นายสิทธิเดช บุญทรง อายุ 36 ปี ได้แจ้งหายไว้ในช่วงหัวค่ำของวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา ขณะจอดรถจักรยานยนต์ไว้ที่ตลาดไร่หนึ่ง หลังธนาคารกรุงไทย สาขาเครือสหพัฒน์ ซึ่งหลังจากทำธุระกลับมา พบว่า รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หายไป จึงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ทางตำรวจจึงควบคุมตัวทั้ง 2 คน มาสอบสวน,นายฉัตรชัย ปวงศิริ อายุ 22 ปี ฉายา เจ ขอบอ่าง ชาวบ้าน ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา ให้การว่า ตนเองได้ขโมยรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่น MSX สีน้ำเงิน คันดังกล่าว มาจากตลาดไร่หนึ่ง และนำรถมาจอดรอบรรทุกไปส่งขายยังชายแดนกัมพูชา ซึ่งมี นายอุทัย เพชรเสนา อายุ 35 ปี เจ้าของรถยนต์มารับไป นายอุทัย กล่าวว่า ได้รับการสั่งการจาก นายเอ (ไม่ทราบนามสกุล) ชาวจังหวัดสระแก้ว ให้ขับรถจากอำเภออ้อมน้อย จังหวัดสมุทรสาคร มารับรถจักรยานยนต์ จากนายฉัตรชัย เพื่อนำไปส่งที่ชายแดนด้านจังหวัดสระแก้ว นำรถเข้าไปเก็บในโกดัง ก่อนส่งต่อไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งทำมาหลายครั้งแล้ว โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 4,500 บาท โดยเงินค่าจ้าง นายเอ จะโอนเข้าบัญชีหลังเสร็จงาน,ด้าน นายฉัตรชัย ได้ให้การตำรวจอีกว่า ได้ก่อเหตุในพื้นที่ สภ.หนองขาม มาหลายครั้งแล้ว โดยเน้นลักรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่น MSX ที่จะได้ค่าจ้างคันละ 13,000 บาท ซึ่งเมื่อวันที่ 24 ต.ค. ได้ขโมยรถ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น MSX สีขาว ที่จอดอยู่ที่หน้าร้านเกม กลางซอยพระพรหม ซึ่งวงจรปิดหน้าร้านเกมนั้น สามารถจับภาพการก่อเหตุในครั้งนี้ไว้ได้ ส่วนรถที่ขโมย แล้วแต่จะมีออเดอร์ เช่น รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่น Zoomer X รุ่นใหม่ล่าสุด ให้ราคา 17,000 บาท รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่น Zoomer X รุ่นเก่า ให้ราคา 10,000 บาท รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่น MSX ให้ราคา 13,000 บาท รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ไอ และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ ระบบหัวฉีดให้ราคา 4,000-6,000 บาท แล้วแต่สภาพรถ,ขณะที่ ประเทศกัมพูชา ต้องการรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่น Zoomer X รุ่นใหม่ล่าสุด เป็นอย่างมาก ถ้าส่งข้ามไปขายจะได้ราคาคันละ 55,000 บาทต่อคัน ส่วนเงินได้ค่าจ้าง จะนำไปซื้อยาบ้ามาเสพ โดยจะเสพวันละ 4-6 เม็ดอย่างน้อย ทั้งนี้ ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจปัสสาวะ พบมีสารเสพติด จึงแจ้งข้อหา นายฉัตรชัยว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ส่วนนายอุทัย เจ้าของรถปิกอัพ ได้แจ้งข้อหารับของโจร จากนั้น จึงควบคุมตัวทั้ง 2 ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองขาม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ตร.หนองขาม ชลบุรี จับกุม 2 ผู้ต้องหา แก๊งลักรถ จยย. เตรียมนำรถเก็บเข้าโกดัง ก่อนส่งขายต่อประเทศกัมพูชา สารภาพ ทำมาแล้วหลายครั้ง ได้ค่าจ้างตามสภาพรถ เผย นำเงินที่ได้ไปซื้อยาบ้าเสพ ด้าน จนท.จึงแจ้งข้อหานำตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
ข่าว,ทั่วไทย
ลักรถ จยย.,แก๊งลักรถ จยย.,แก๊งลักรถ,ชลบุรี,ส่งขายเขมร,ส่งขายกัมพูชา,ชายแดนไทย-กัมพูชา,รถหาย,ถูกขโมย,ชายแดนสระแก้ว,ขโมยรถ,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/535584
วิกฤตอากาศแปรปรวนในต่างประเทศ
ฝนที่ตกหนักทางภาคใต้ของปากีสถานทำให้เกิดอุทภัยรุนแรงมีชาวบ้านได้รับผลกระทบถึง 1000000 คน โดยเฉพาะในจังหวัดสินธุ ชาวบ้านประมาณ 50000 คนต้องอพยพหนีน้ำเข้าไปอยู่ศูนย์ช่วยเหลือของทางการ หน่วยงานภัยพิบัติแห่งชาติของปากีสถานต้องระดมความช่วยเหลือไปให้กับผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน ล่าสุดสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของปากีสถานคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกลงมาอีกในอีกไม่กี่วันนี้สำหรับปากีสถานยังคงอยู่ระหว่างการฟื้นตัวจากภัยพิบัติน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอุทกภัยที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนถึง 18 ล้านคน และ มีผู้เสียชีวิตไปถึง 20000 คนส่วนความรุนแรงของพายุฝนที่พัดถล่มเทศกาลดนตรีกลางแจ้งในเมืองฮัสเซลต์ ห่างจากกรุงบรัสเซลส์ไปทางตะวันออกประมาณ 80 กิโลเมตร ทำให้ผู้เข้าชมประมาณ 60000 คน แตกตื่นหนีพายุ มีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 2 คน และ ได้รับบาดเจ็บกว่า 70 คนขณะที่ในอังกฤษเกิดฝนตกหนักในเมืองบอร์นมัธ เมืองตากอากาศริมฝั่งทะเลทางภาคใต้ทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมถนน เจ้าหน้าที่ต้องปิดการสัญจรในถนนบางสายที่น้ำท่วมถึงฝากระโปรงรถ เนื่องจากท่อระบายอุดตัน มีรายงานว่า ฝนที่ตกลงมาในวันเดียวมีปริมาณเท่ากับฝนที่ตกถึงสองสัปดาห์ส่วนคลื่นความร้อนที่ยังคงแผ่ปกคลุมพื้นที่ทางภาคใต้ของจีนส่งผลให้อุณหภูมิในรครฉงชิ่งพุ่งสูงเกือบ 40 องศาเซลเซียส ร้อนจัดถึงขนาดตอกไข่บนฝากระโปรงรถไข่ยังสุก ขณะที่ในมณฑลอันฮุยและหูเป่ย โรงพยาบาลต่าง ๆ แน่นขนัดไปด้วยผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากอากาศที่ร้อนอบอ้าว ขณะที่การใช้กระแสฟ้าเพิ่มสูงจากการเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อคลายร้อนทำให้ต้องปิดไฟส่องสว่างบางจุดในเมือง เพื่อให้กระแสไฟฟ้าเพียงพอกับความต้องการนอกจากคลี่นความร้อนแล้วจีนยังเผชิญกับคลื่นใหญ่ในแม่น้ำเชี่ยนถัง ในเมืองหางโจวทางภาคตะวันออก ที่สูงถึง 27 เมตร ถาโถมเข้าสู่ฝั่ง โดยแม่น้ำเชี่ยนถังเป็นที่รู้จักกันดีว่า เป็นแม่น้ำที่มีคลื่นใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงและมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลมาดูปรากฎคลื่นสูงกันอย่างเนืองแน่น
ช่วงนี้หลายประเทศต้องเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้าย ทั้งอุทกภัยรุนแรงในปากีสถาน น้ำท่วมในอังกฤษ พายุฝนพัดถล่มเวทีคอนเสิร์ตในเบลเยี่ยม และ คลื่นความร้อนในจีน
ต่างประเทศ
คลื่นความร้อน,จีน,ปากีสถาน,อังกฤษ,อากาศแปรปรวน,เบลเยี่ยม
https://news.thaipbs.or.th/content/29035
Formula 1 ปี 2021 กับกฎกติกาที่จะพา F1 เข้าสู่ยุคใหม่
การแข่งขันกีฬาทุกประเภทนั้นจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนตามยุคตามสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาความเร็ว หรือกีฬามอเตอร์สปอร์ต ที่มีรูปแบบการแข่งขันวัดผลชนะกันแบบเสี้ยววินาทีจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากที่จะต้องปรับกฎ การแข่งขัน กติกา ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่จะมีใช้กันในปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการแข่งขันรถยนต์ล้อเปิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างการแข่งขันรถ Formula 1 ชิงแชมป์โลกหรือที่ขึ้นชื่อว่าเป็นกีฬาที่มีการแข่งขันทางด้านเทคโนโลยีทางด้านยานยนต์มากที่สุดในโลกโดยในปี 2021 ถือว่าจะเป็นยุคสมัยใหม่ที่ Formula 1 จะมีการปรับเปลี่ยนกฎ กติกา การแข่งขันให้สอดคล้องกับโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกวันๆ และในบทความนี้ จะนำเสนอกฎ และกติกาการแข่งขัน ในศึกการแข่งขัน Formula 1 ในฤดูกาลปี 20211. ทรงรถใหม่ที่แข็งแกร่งขึ้นPhoto: Formula 1ในปี 2021 นั้นทรงรถของรถ Formula 1 จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของรถอีกครั้ง เพื่อให้สามารถรับกับล้อยางขนาด 18 นิ้ว ที่จะเริ่มต้นใช้ในปี 2021 นอกจากนี้ด้วยขนาดปีกหน้าและหลังที่ถูกออกแบบมาไม่ให้ซับซ้อนจนเกินไปเหมือนหลายปีที่ผ่านมา รวมทั้งระบบช่วงล่างรถ ด้านท้าย และพื้นรถที่มีการออกแบบใหม่ทั้งหมดPhoto: Formula 1นอกจากนี้ ผลจากการเปลี่ยนทรงรถใหม่ มีการคาดการณ์กันไว้ว่าจะมีโอกาสเพิ่มการแซงบนสนามแข่งมากขึ้น เนื่องจากรถปี 2021 อากาศที่ไหลผ่านตัวรถที่เป็น Dirty Air จะลดลง จึงทำให้รถแข่ง Formula 1 จะทำให้แรงกดของรถหรือ Downforce ในขณะที่เข้าโค้งเพิ่มมากขึ้นไปด้วยPhoto: Formula 1แต่เมื่อมีการแซงกันมากขึ้นแล้ว ข้อเสียก็ต้องมี จากข้อมูลของสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ โดย Nikola Tombazis หัวหน้าแผนกรถที่นั่งเดี่ยวให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่างเว็บไซต์ Autosport ว่า ตามข้อมูลแพ็กเกจของรถปี 2021 นั้นอาจจะทำเวลาต่อรอบเฉลี่ยช้าลง 3.5-4 วินาที ต่อรอบกันเลยทีเดียว2. ยุคเริ่มต้นของ Salary Cap ใน Formula 1เนื่องจากการแข่งขันรถ Formula 1 ที่ผ่านมา มีเพียงแค่ 6 ครั้งเท่านั้นที่ทีมระดับกลางหรือทีมระดับเล็ก ซึ่งไม่ใช่ทีม Mercedes Ferrari หรือ Red Bull สามารถคว้าตำแหน่งบนโพเดียมได้ ดังนั้นตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไป ทีมแต่ละทีมจะถูกจำกัดงบประมาณในการทำรถอยู่ที่ 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ทีมระดับกลางและระดับล่างที่อยู่ในวงการนั้นสามารถแข่งขันกับทีมใหญ่เหล่านี้ได้ซึ่งการจำกัดงบประมาณนี้จะไม่รวมกับเงินเดือนของวิศวกร นักขับ การประชาสัมพันธ์ และทีมงานที่ทำหน้าที่ดูแลรถในแต่ละสนามPhoto: Formula 13. โอกาสสำหรับนักแข่งซีรีส์รองหลายคนมีความฝันที่อยากจะขับรถแข่งระดับ Formula 1 แต่จะมีกี่คนที่จะไปถึงจุดจุดนั้นได้? สำหรับนักแข่งซีรีส์รองอย่าง Formula 2 และ Formula 3 หลายคนนั้นมีความสามารถที่จะก้าวขึ้นมาสู่รถ Formula 1 ได้ แต่กลับไม่ได้รับโอกาสนั้น เพราะการแข่งขันในการแย่งที่คนขับในรถ Formula 1 นั้นมีสูงมากดังนั้นทาง Formula 1 จึงออกกฎใหม่ที่จะใช้สำหรับปี 2021 ว่าทุกทีมจะต้องส่งนักแข่งที่ไม่ได้แข่งอยู่ใน Formula 1 อย่างน้อย 1 คนลงสนามในช่วงซ้อมก่อนการแข่งขันสนามใดก็ได้อย่างน้อย 2 ครั้งต่อฤดูกาลเพื่อเปิดโอกาสให้นักแข่งซีรีส์รองเหล่านี้ได้มีโอกาสที่จะได้ขับรถ Formula 1 มากยิ่งขึ้น และได้เรียนรู้วิธีขับรถ Formula 1 ไปด้วย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับโอกาสที่จะมีในอนาคตNyck De Vries แชมป์ Formula 2 คนล่าสุดที่ไม่ได้ไปต่อใน Formula 1 เนื่องจากการแข่งขันชิงเก้าอี้ F14. ตารางกระชับขึ้นเนื่องจากการแข่งขันรถ Formula 1 นั้นมีการแข่งขันกันทั่วโลก ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ อาจทำให้เป็นอันตรายทั้งในและนอกสนามได้ โดยตั้งแต่ปี 2021 กำหนดการและตารางการแข่งขันจะกระชับลง เช่น ปกติการจัดงานสัมภาษณ์ก่อนการแข่งขันจะมีในวันพฤหัสบดีของสัปดาห์การแข่งขันแต่ในปี 2021 นี้ จะจัดขึ้นก่อนและหลังช่วงซ้อมในวันศุกร์ การทดสอบรถก่อนเปิดฤดูกาลที่จัดขึ้นในฤดูหนาวของทวีปยุโรปจากก่อนหน้านี้จะมี 2 ครั้ง ครั้งละ 3 วัน จะถูกปรับให้เหลือแค่ครั้งเดียว5. ห้ามปรับรถหลังซ้อม เพิ่มความท้าทายของทีมงานจากเดิมนั้นการแข่งขัน Formula 1 จะไม่ให้นักขับปรับแต่งรถได้อีกหลังจากที่การแข่งขันจัดอันดับจะเริ่มต้นขึ้น แต่ในปี 2021 การแข่งขันจะยิ่งเพิ่มความท้าทายมากยิ่งขึ้น โดยจะไม่อนุญาตให้นักขับหรือวิศวกรของแต่ละทีมทำการปรับรถได้หลังช่วงซ้อมวันเสาร์จะจบลง6. ของเดิมในปี 2021กฎที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงก็ยังมีเช่นกัน เครื่องยนต์จะยังใช้เครื่องยนต์ขนาดความจุ 1600 CC V6 Turbo พร้อมระบบ Hybrid เหมือนเดิม และระบบพับปีกหลัง Drag Reduction System หรือ DRS เพื่อลดแรงลากและลดแรงกดของตัวรถนั้นจะยังถูกนำมาใช้อยู่เหมือนเดิมต่อไปในปี 2021เนื่องจากการแข่งขัน Formula 1 เป็นการแข่งขันที่ควบคู่กันระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร ดังนั้น การแข่งขันรถ Formula 1 นั้นจะส่งผลกับเทคโนโลยีอุตสาหกรรมรถยนต์ส่วนบุคคลด้วย คำถามคือการเปลี่ยนกฎการแข่งขันรถ Formula 1 ชิงแชมป์โลกในครั้งนี้ อุตสาหกรรมรถนั่งส่วนบุคคลจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนกฎมากน้อยเพียงใด?คำตอบสำหรับคำถามนี้คือ คงไม่มากนัก เพราะหากเราดูการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี รถยนต์โดยส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับเครื่องยนต์เป็นหลัก ซึ่งหลังจากมีการประกาศกฎ กติกา ออกไป เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร V6 Turbo Hybrid จะยังถูกใช้งานตามเดิมซึ่งเครื่องยนต์ดังกล่าวมีการใช้มาตั้งแต่ปี 2014 แล้ว การเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์ในครั้งนั้นของ Formula 1 ทำให้เครื่องยนต์ที่มีขนาดความจุเล็กนั้น สามารถที่จะมีความแรงเท่ากับเครื่องยนต์สมรรถนะสูงได้ อีกทั้งยังประหยัดเชื้อเพลิงได้มากขึ้นด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไป และอาจจะได้รับผลกระทบโดยตรงนั้นก็คือ การออกแบบดีไซน์รถยนต์ของแต่ละค่ายจะมีความเรียบง่ายมากขึ้น แต่ก็ยังใช้ประโยชน์จากการไหลเวียนของอากาศได้สูงสุดพิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์อ้างอิง:
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2019 ทางสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ หรือ FIA ได้ประกาศกฎการแข่งขันใหม่สำหรับรถแข่ง Formula 1 ในปี 2021ความเปลี่ยนแปลงสำคัญนอกจากรูปทรงรถที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการแซงในสนามแล้ว ยังมีการบังคับใช้ การจำกัดงบประมาณในการทำรถอยู่ที่ 175 ล้านดอลลสาร์สหรัฐ​นอกจากนี้นักขับในรุ่นรองลงมาจะได้โอกาสสัมผัสรถ Formula 1 ในรอบซ้อมของทีม Formula อย่างน้อย 2 ครั้งต่อฤดูกาลการเปลี่ยนกฎครั้งนี้ของ Formula มีหัวใจสำคัญอยู่ที่การลดช่องว่างระหว่างทีม เพื่อสร้างการแข่งขันที่คาดเดาได้ยากขึ้น
null
null
https://thestandard.co/formula-1-2021/
หมอระวี แนะ ลดช่องว่าง-ความเหลื่อมล้ำ บุคลากรการแพทย์ เสริมทัพ สธ.
หมอระวี แนะ สธ.เร่งลดความเหลื่อมล้ำของบุคลากรทางการแพทย์ หลังเครือข่ายบุคลากรฯ เรียกร้องการปฏิรูป เชื่อถ้าเร่งแก้ปัญหา จะมีกองทัพ สธ.ที่มั่นคงสร้างความอุ่นใจกับประชาชนทั่วประเทศเมื่อวันที่ 16 เม.ย.63 นพ.ระวี มาศมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ทางพรรคพลังธรรมใหม่ ได้รับแถลงการณ์ฉบับ 2/2563 ของเครือข่ายบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข เรียกร้องการปฏิรูปที่เป็นธรรม 31 องค์กร มีเนื้อหาที่สำคัญ คือ การขอบคุณรัฐบาลที่ดำเนินการบรรจุข้าราชการจำนวน 45654 อัตรา ส่งผลต่อขวัญและกำลังใจบุคลากรสาธารณสุข ที่รอคอยการบรรจุมานับ 10 ปีแล้ว นอกจากนี้ทางเครือข่ายยังเรียกร้องเพิ่มเติมอีกหลายประการ เช่น การปรับปรุงระเบียบ นิยาม หลักเกณฑ์ ค่าตอบแทนที่เหมาะสม เสมอภาคของบุคลากรสาธารณสุขทุกวิชาชีพ ทุกสายงาน การบรรจุเป็นข้าราชการให้ครอบคลุมทุกวิชาชีพ ฯลฯนพ.ระวี กล่าวต่อว่า จากข้อเรียกร้องจะเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ในกระทรวงสาธารณสุขยังมีช่องว่างความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรมซ่อนอยู่ลึกๆ ซึ่งในสถานการณ์โลกที่คาดว่าจะมีดิสรัปชั่นหลังโควิดระบาดอย่างมากมาย ดังนั้นการเตรียมความพร้อมของกองทัพสาธารณสุขให้มีความพร้อม ขวัญกำลังใจที่จะต่อสู้กับวิกฤติทุกสถานการณ์ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขต้องรีบพิจารณาข้อเสนอเหล่านี้ สิ่งใดทำได้สิ่งใดปรับปรุงได้ ก็ควรรีบดำเนินการ เพื่อปลุกขวัญและให้กำลังใจบุคลากรทุกฝ่ายงาน ที่ทำงานสนับสนุนบุคลากรหลัก จะทำให้กองทัพสาธารณสุขไทย จะไม่ใช่มีเพียงกองทัพเสื้อขาวอย่างเดียว แต่จะกลายเป็นกองทัพหลากสี ไม่ว่าจะเป็นเสื้อขาว เสื้อฟ้า (เจ้าหน้าที่สาธารณสุข) และสีอื่นๆ เป็นกองทัพสาธารณสุขที่มั่นคง สร้างความอุ่นใจกับประชาชนทั่วประเทศ
หมอระวี แนะ สธ.เร่งลดความเหลื่อมล้ำของบุคลากรทางการแพทย์ หลังเครือข่ายบุคลากรฯ เรียกร้องการปฏิรูป เชื่อถ้าเร่งแก้ปัญหา จะมีกองทัพ สธ.ที่มั่นคง สร้างความอุ่นใจกับประชาชนทั่วประเทศ
ข่าว,การเมือง
ระวี มาศมาดล,หมอระวี,บุคลากรการแพทย์,กระทรวงสาะารณสุข,สธ.,ความเหลื่อมล้ำ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1822903
เก่ง สวย ทึ่ง บินเดี่ยวรอบโลกกว่า 70 ประเทศ มิ้นท์ มณฑล ผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวเท่ๆ ได้
เดี่ยวเที่ยวรอบโลกมาแล้วกว่า 70 ประเทศ ในระยะเวลาเพียง 4 ปี และได้เขียนบล็อกสร้างแรงบันดาลใจให้กับสาวๆ มาแล้วมากมาย …,มิ้นท์-มณฑล กสานติกุล ,สาวน้อยหน้าใสที่หลงรักการเดินทาง และการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ เธอเป็นเจ้าของ,เพจบล็อก I Roam Alone และหนังสือ I Roam Alone, ที่รวบรวมเรื่องราวการเดินทางคนเดียวของเธอจากหลากหลายประเทศ ทั้งยุโรป และเอเชีย โดยเธอได้แรงบันดาลใจมาจากความคิดของเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ที่ว่า ถ้าฉันเป็นผู้ชาย ฉันจะแบกเป้ไปเที่ยวคนเดียวแล้วล่ะ ซึ่งเธอก็ตั้งคำถามมาตลอดว่า แล้วยังไงอะ? จากความคิดเล็กๆ กับเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้นั้น ทำให้เธอเริ่มต้นออกเดินทาง และพิสูจน์ว่ามันไม่จริงเลย ขอเพียงแค่คุณมี ความกล้า ที่จะออกจากกรอบเดิมๆ เท่านั้นก็พอ, ,I Roam Alone เป็นการเดินทางเที่ยวรอบโลกของผู้หญิงคนเดียว ที่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้หญิงสาวหลายๆ คนกล้าออกเดินทางมากขึ้น และข้ามพ้นข้อจำกัดในชีวิตอย่างที่เธอเคยผ่านมาแล้ว ไทยรัฐออนไลน์พบเธอที่งาน ME by TMB และมีโอกาสได้นั่งแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ,พาร์ต 1 : จุดเริ่มต้นของการเดินทางคนเดียว,เราเริ่มเดินทางคนเดียวตั้งแต่อายุ 23 ปี จำได้ว่าทริปแรกที่เราไป คือ หมู่เกาะอะซอเรส (Azores) กลางมหาสมุทรแอตแลนติก ประเทศโปรตุเกส เราไปอยู่ที่นั่นประมาณ 3 อาทิตย์ มันเป็นการเที่ยวคนเดียวครั้งแรกของเรา ตอนนั้นเรากลัวมากนะ แต่ก็ได้มิตรภาพดีๆ กลับมาเยอะเลย ได้ทั้งเพื่อน และประสบการณ์การใช้ชีวิต,เธอย้อนเล่าให้เราฟังว่า จริงๆ แล้วเธอเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกตอนอายุ 16 ปี โดยคุณแม่ส่งไปเรียนภาษาที่อังกฤษเป็นเวลา 3 อาทิตย์ช่วงปิดเทอม ตอนนั้นถึงเธอจะร้องไห้คิดถึงบ้านตลอด แต่มันก็คือก้าวเล็กๆ ก้าวแรกในการใช้ชีวิตต่างแดนของเธอ หลังจากนั้นจนถึงช่วงมหาลัย เธอก็มีโอกาสได้ไปสเปน 3 เดือนเต็มเพื่อเรียนภาษาอีกครั้ง และนี่ก็เป็นเหมือนบททดสอบครั้งแรกที่เธอผ่านมา เธอเจอเรื่องที่ดีก็เยอะ และเรื่องร้ายก็มีไม่น้อย ทว่าแต่ละเรื่องราวก็เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำของเธอ และจากการเดินทางครั้งนั้นก็ทำให้เธอเรียนรู้ที่จะพึ่งตัวเอง หัดดูแลตัวเอง และอยู่คนเดียวให้เป็น …,หลังจากเรียนจบมหาลัย แล้ว กลายมาเป็นนักเดินทางได้ยังไง ?,หลังจากเรียนจบเราได้มีโอกาสไปเรียนต่อปริญญาโทที่เมืองมาดริด ประเทศสเปนอีกครั้ง พอเรียนไปได้สักพักเราก็เริ่มเที่ยวแบกเป้ผจญภัยไปกับเพื่อนๆ เพราะว่าเด็กยุโรปเนอะก็ต้องเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ เราก็ไปนอนรวมกันเป็นสิบๆ ทำอาหารกินเองบ้างเพื่อความประหยัด แน่นอนว่าความสบายที่เราเคยมีหายไป แต่มันได้ความสนุกกลับมาแทน เราได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ คนท้องถิ่นหลายๆ คน เลย ซึ่งมันถือเป็นประสบการณ์ที่มากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตเลยล่ะ,แต่ละทริปๆ จบไปพร้อมกับความสนุกสนาน และประสบการณ์ที่วิเศษสุด ทีนี้ก่อนที่เราจะเรียนจบปริญญาโท อยู่ในช่วงทำธีสิส เราก็นึกอยากทำอะไรสนุกๆ ขึ้นมา เพราะว่าตอนนั้นเป็นช่วงที่เรียนหนักมาก เราก็เลยรู้สึกอยากหาอะไรทำเพื่อผ่อนคลายตัวเอง เราก็เลยจองตั๋วไปหมู่เกาะอะซอเรส (Azores) เลยอย่างที่บอก ซึ่งนั่นเป็นทริปที่เราเริ่มต้นเดินทางคนเดียวจริงๆ โดยไม่มีเพื่อนเลย พอไปถึงแล้วเราก็ค่อยโทรบอกคุณแม่ทีหลัง (หัวเราะ),เราได้อะไรจากการเดินทางคนเดียวบ้าง ?,การเดินทางคนเดียว มันทำให้เราดูแลตัวได้นะ มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น มีประสบการณ์การใช้ชีวิตเพิ่มขึ้น ซึ่งอะไรแบบนี้มันหาในตำราเรียนไม่ได้ ที่สำคัญเราได้มีเพื่อนใหม่ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ๆ มากขึ้น ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเรื่องต่างๆ ที่เคยเจอมาด้วยกัน,ทริปหลังจากนั้นได้ไปที่ไหนมาอีกบ้าง ?,โห … เยอะแยะไปหมดเลย ไปออสเตรีย สโลเวเนีย สวิตเซอร์แลนด์ เอกวาดอร์ ไปอยู่ประเทศละ 3 อาทิตย์ได้ คือตั๋วถูกเราก็ไปเลย หรือถ้าเป็นช่วงโปรโมชั่นก็ตัดสินใจไปเลย เราจะคอยเช็กตั๋วเครื่องบินอยู่ตลอด เราเช็กตั๋วหลายที่นะ เว็บที่เราจะใช้ก็มี edreams, Skyscanner และ lastminute,เทคนิคการบริหารเงิน หรือการแบ่งจ่ายใช้เงินในการเที่ยวแต่ละที่ ?,อาจเป็นเพราะเราไม่ชอบช็อปปิ้ง ไม่กินอาหารแพงๆ ด้วยมั้ง เวลาเดินทางก็จะคอยประหยัด นอนโฮสเทลคืนละ 10 ดอลลาร์ มันก็เลยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้บ้าง เราพยายามใช้เงินรวมทุกอย่างทั้งตั๋วเครื่องบิน ที่พัก อาหาร ค่าเที่ยวต่างๆ จะอยู่ที่ 50,000 บาทต่อเดือน บางเดือนเราไม่ค่อยได้ใช้เงินเลยก็มีนะ,เงินที่เราใช้ไปเที่ยวแต่ละที่ ส่วนหนึ่งมาจากเงินของคุณแม่ที่ส่งให้เราไปเรียนด้วย คุณแม่เป็นผู้สนับสนุนหลักเลย ให้เงินเดือนทุกเดือน และส่วนหนึ่งมาจากงานพิเศษที่เราทำ เพราะตอนที่เราเรียนอยู่สเปนก็ได้ไปลองทำงานพิเศษอยู่ที่โน่น เป็น See Walking Tour เป็นไกด์พานักท่องเที่ยวตามโฮสเทลเที่ยว คล้ายๆ งานฟรีแลนซ์หน่อย คือวันไหนที่เราอยากไปทำงานเราก็ไป ตอนเช้าก็ไปรับกรุ๊ป พาเดินเที่ยวรอบมาดริด แล้วก็รับทิปหลังจากเสร็จงาน ครั้งหนึ่งก็ได้เยอะอยู่เหมือนกันนะ ถ้าเราหวานๆ หน่อย ครั้งหนึ่งก็ได้ประมาณ 5-6 พันเลย ทำงานแค่ 2 ชั่วโมงเอง พอตกกลางคืนก็มีพากรุ๊ปไปเที่ยวด้วย คือช่วงนั้นเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยเลย นั่นก็เลยเหมือนเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เราเห็นชีวิตการเดินทางเยอะขึ้น จนรู้สึกว่ามันเป็นความชอบ เริ่มรู้ว่านี่คือสิ่งที่เราต้องการจริงๆ และเริ่มคิดว่าอยากจะเดินทางไปทุกๆ ที่ถ้าเป็นไปได้ …,พาร์ต 2 : เดินทางมาหลายประเทศจนกลายเป็นอาชีพ ,เริ่มต้นมาทำบล็อกท่องเที่ยว I Roam Alone ได้ยังไง ?,ตอนนั้นไม่ได้คิดหรอกว่า เราจะทำอาชีพ นักเดินทาง จนกลายมาเป็น บล็อกเกอร์ท่องเที่ยว เหมือนตอนนี้ เราแค่คิดว่าอยากเดินทาง ยังอยากเที่ยว-หาประสบการณ์ใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ จนตอนนั้นเรียนจบปริญญาโท นั่นคือจุดเปลี่ยน เรากลับมาที่ไทยในขณะที่ยังรู้สึกว่าตัวเรายังอยากเดินทางอยู่เลย แต่ทุกคนจะคิดว่าจบแล้วต้องกลับมาทำงานกับที่บ้าน หรือไม่ก็เป็นอาจารย์ (เพราะว่าเราจบด้านวรรณกรรมสเปนมา) เราก็รู้สึกแบบยังไม่อยากทำเลย ทีนี้สังคมก็เริ่มกดดัน ญาติๆ ก็เริ่มถามว่าเมื่อไหร่จะทำงาน ตอนนั้นเราก็เลยหลงวิ่งไปสมัครงานอยู่พักหนึ่งนะ 3-4 เดือน แต่ก็ต้องขอบคุณมากที่เขาไม่รับเรา เราก็เลยตัดสินใจบอกคุณแม่ว่า เราขอเดินทางได้ไหม ขอ 1 ปี ถ้าเราทำให้เป็นอาชีพไม่ได้ เราจะยอมกลับมาทำธุรกิจที่บ้าน ใช้ชีวิตแบบคนปกติเลย ตั้งแต่วันนั้นมันก็เลยเป็นจุดเริ่มต้น โดยการเริ่มเขียนบล็อกเลย แต่จริงๆ อันนี้คุณแม่เป็นคนบังคับนะ เพราะท่านบอกว่า ถ้าอยากจะเดินทางก็ต้องทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ซึ่งก็ต้องขอบคุณคุณแม่จริงๆ ที่บังคับให้เราทำในวันนั้น,เราเริ่มต้นเขียนบล็อกเดินทาง โดยเริ่มจากเขียนเว็บเองก่อน ลองคิดดูนะ จากเด็กอักษรฯ มาทำบล็อก ตอนนั้นยอมรับเลยว่า มันเป็นอะไรที่ยากสำหรับเรามาก เราเขียนเว็บไม่เป็นเลย ไม่เข้าใจเลย แต่ถ้านี่มันคือหนทางสู่การใช้ชีวิตที่เราชอบ เราก็ต้องทำ ตอนนั้นเรานั่งร้องไห้เขียนเว็บอยู่ประมาณ 2 เดือน ทำเองทุกอย่าง จากที่ไม่เคยอ่านพวกโค้ดต่างๆ ก็มานั่งไล่ไปทีละอันๆ แกะไปเรื่อยๆ จนเว็บออกมาเรียบร้อยในที่สุด เราก็ภูมิใจนะที่ทำมันออกมาสำเร็จด้วยความตั้งใจของเราทั้งหมด และทีนี้ในช่วงนั้นเราทำเว็บไปพร้อมๆ กับเขียนทริปการเดินทางที่ผ่านๆ มา เมื่อเว็บเสร็จ เราก็เริ่มเอาลงบล็อกเลย เพราะมันคือสิ่งที่เราชอบ คือสิ่งที่เราต้องการ เราก็เลยเขียนแบบเต็มร้อย ให้สองร้อยเลย (หัวเราะ) จากนั้นพอเราเริ่มเดินทางมากขึ้น เราก็เลยเริ่มโปรเจกต์บล็อก ที่ชื่อว่า ,I Roam Alone, ซึ่งตอนนี้ทำมาได้ 2 ปีแล้ว ,แต่ละประเทศที่ไปเยือน มีการวาง point ไหมว่าจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับอะไรบ้าง ?,ไม่มีเลยนะ เราเขียนแบบเป็นตัวเองเลย คือการเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ ให้คนอ่านบล็อกรู้สึกว่า เขาแพ็กกระเป๋าบินไปกับเรา แล้วเขาจะเห็นสิ่งที่เราเห็น รู้สึกอย่างที่เรารู้สึก คือมันจะเป็นคำพูดที่เขียนในแบบสไตล์ตัวเอง มันจะไม่มีเป็นข้อมูลแน่นปึ้กอะไรขนาดนั้น คือใครที่อยากจะหาข้อมูลการท่องเที่ยว ข้อมูลของ Lonely Planet คัมภีร์นักเดินทาง เขาทำได้ดีกว่าเรามาก ถ้าอยากรู้ข้อมูลแน่นจริงๆ ทุกซอกทุกมุมของแต่ละประเทศนั้นๆ ให้ไปหาดูเล่มนั้นจะดีกว่า เพราะบล็อกที่ทำขึ้นของเรา มันคือประสบการณ์การเดินทางจริงๆ ที่อยากให้คนอ่านได้เห็น ได้สัมผัสว่า การเดินทางคนเดียวจริงๆ มันเป็นยังไง หน้าตามันเป็นยังไงเท่านั้นเอง,แพลนกำหนดการลงบล็อก ?, เราไม่มีแพลน หรือเป็น Routine ในการลงเลย จะลงตามอารมณ์ จนมาถึงตอนนี้เราไม่นับตัวเองเป็นบล็อกเกอร์แล้วนะ เรานับตัวเองเป็นนักเขียน และนักเดินทางมากกว่า คือบล็อกเกอร์จะรับรีวิวโน่นนี่ แต่เราไม่รับเลย,จุดประสงค์ในการทำบล็อกท่องเที่ยวคืออะไร ?,จุดหมายสำคัญของเรา คือ แบ่งปันประสบการณ์ … อยากให้สาวๆ ได้เห็นภาพว่า การเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียวมันเป็นอย่างไร อันตรายหรือไม่ เวลาเจอคนแปลกๆ ต้องทำอย่างไร ต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง จะแต่งตัวอย่างไร หรือการเลือกโฮสเทลนอนที่ไหน อย่างไรดี เผื่อวันหนึ่ง … ถ้าใครตัดสินใจแบกเป้เที่ยวคนเดียวเหมือนกับเราแล้ว อย่างน้อยก็พอจะมีข้อมูล มีคำปรึกษา-คำแนะนำ หรือมีเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการเดินทางแบบผู้หญิงคนเดียวไว้บ้าง,อย่างตอนนี้จะมีน้องๆ เขียนอีเมลเข้ามาปรึกษาเยอะว่า จะไปที่นี่ ที่นั่น จะต้องเตรียมตัวทำอะไรบ้าง เราก็จะคอยเตือนเขาว่า ในประเทศนี้ๆ ต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง เช็กที่พักที่ไหนได้ เลือกที่พักยังไง การเดินทางควรจะเอาเป้อะไรไป หรือเทคนิคการหาเพื่อนที่โน่น มันจะเป็นการให้คำแนะนำ เพื่อให้เขาปลอดภัยเวลาที่อยู่ที่โน่นมากที่สุด เพราะเราผ่านมาหมดแล้ว มันเป็นประสบการณ์ตรงของเราเลย ส่วนเขาจะทำตามรึเปล่าอันนี้ก็แล้วแต่เขาเหมือนกัน บางทีเขาเข้าไปอ่านในเพจบล็อกของเรา มันก็เลยเป็นเหมือนปากต่อปากกันอีกที ,และหนังสือที่เขียน I Roam Alone เริ่มมาทำช่วงไหน ?,หลังจากท่องเที่ยว และเขียนบล็อกไปได้สักพักประมาณเดือนกว่าๆ ก็มีสำนักพิมพ์ติดต่อมา จะขอเอาเรื่องราวการเดินทางของเราไปตีพิมพ์ เราก็ดิวกับเขามาเรื่อยๆ ติดต่อกับสำนักพิมพ์ตลอด พอผ่านไป 2 เดือน หนังสือก็กำลังจะเสร็จแล้ว นี่เราก็มองว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นว่า เราทำมันได้แล้วอะ เรากำลังจะมีหนังสือเป็นของตัวเองแล้ว ข้างในมันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางของเรานะ จากนั้นเราก็เดินทางมาเรื่อยๆ ตอนนั้นเรายังทำงานไม่เยอะนะ เพราะมันยังเป็นเหมือนช่วงพิสูจน์ตัวเองอยู่ เหมือนเราต้องทำให้สุด เราก็เลยตัดสินใจไปแอฟริกา 2 เดือนหลังจากนั้น แล้วก็ไปอเมริกาใต้ กับอเมริกากลาง 8 เดือน ไปแบ็กแพ็กเที่ยวคนเดียว,นอกจากทำบล็อกท่องเที่ยวแล้ว ยังมีโปรเจกต์อื่นๆ อีกไหม ?,พอกลับมา … ด้วยความที่มันเป็นเรื่องใหม่มากในสังคมไทย กับการที่ผู้หญิงเดินทางคนเดียวเที่ยวรอบโลก เพราะตอนนั้นเหมือนผู้หญิงยังไม่ค่อยเดินทางคนเดียว ยิ่งเป็นต่างประเทศด้วย ยิ่งแทบจะไม่มี มันก็เลยเหมือนจุดพลุ คนก็เลยเห็นเยอะ หลังจากทริป 8 เดือนนั้น ก็มีรายการทีวีติดต่อเข้ามา ตามไปถ่ายเราถึงที่คิวบาเลย แล้วก็เริ่มมีงานทีวี งานโฆษณาที่เกี่ยวกับการเดินทาง-ท่องเที่ยว งานสัมภาษณ์ งานอีเวนต์ ทั้งหมดที่เกี่ยวกับการเดินทาง โปรเจกต์ส่วนตัวก็มีที่คนอื่นเขามาขอจองไว้ จากจุดนั้นมาจุดนี้เกือบปี คือ เงินที่หาได้ตอนนี้ใช้จ่ายทริปเก่าได้หมดแล้ว แล้วก็มีสำหรับเดินทางทริปต่อไปด้วย,พาร์ต 3 : ประเทศสุดประทับใจ และเสน่ห์ของแต่ละประเทศ,ทำบล็อกเดินทางมาแล้วกว่า 70 ประเทศ ประเทศไหนที่รู้สึกประทับใจมากที่สุด ?,เราประทับใจทุกที่เลยนะ แต่ที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นทวีปอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ ตั้งแต่เม็กซิโกลงมาเลย คือคนประเทศเขาน่ารัก เป็นที่ที่คนเขาไม่กลัวกัน เราไปแล้วรู้สึกดีมากๆ จริงๆ อย่างที่กรุงเทพฯ เวลาไปนั่งรถไฟฟ้า เราจะไม่กล้าคุยกับคนข้างๆ ที่เราไม่รู้จัก แต่ทวีปนั้นจะไม่เป็นแบบนี้เลย อยากจะคุยก็คุยได้เลย แล้วเขาก็คุยกับเรากลับด้วย ไปนั่งปุ๊บเขาก็คุยกับเราแล้ว ฉะนั้นมันจะเหมือนกับว่า เราไม่ได้เดินทางคนเดียว หรือต้องอยู่คนเดียวในขณะเดินทางที่ทวีปนั้นๆ,เวลาเราไปแต่ละที่ เราไม่ได้ต้องการอยากจะไปถ่ายรูปกับอะไร แต่เราไปเพื่อเอาประสบการณ์กับคน เพราะอย่างที่บอก มันไม่ได้มีในอยู่ตำรา หรือไกด์บุ๊กที่ไหนเลย นั่นไม่ได้หมายความว่า เราไปปารีสแล้วไม่ไปหอไอเฟลนะ เราก็ไป แต่เราจะให้ความสนใจกับการเดินบนถนน การคุยกับคนมากกว่า เพราะเราอยากได้ประสบการณ์จากการเดินทางมากกว่า,แต่ละที่ที่ไปมีเสน่ห์แตกต่างกันยังไงบ้าง ?,อย่างประเทศ เม็กซิโก คนเขาจะรื่นเริงนะ ขึ้นรถไปเขาก็จะคุยกับเราตลอด ชิลี ก็เหมือนกัน เราไปฉลองวันเกิดที่โน่นด้วย แล้วก็มีคนมาฉลองวันเกิดให้ เพราะรู้ว่าเราเดินทางคนเดียว มันจะเป็นเรื่องของคนมากกว่าสำหรับการเดินทางของเรานะ,ประเทศต่อไปที่คิดไว้ว่าจะไป ?,อาจจะพาคุณแม่ไปจอร์แดน อันนี้คือมอบเป็นของขวัญวันเกิดให้คุณแม่เลย อยากไปเฉยๆ คุณแม่ก็อยากไปด้วย ส่วนการเดินทางของตัวเองน่าจะเป็นช่วงต้นปี มีตั๋วแล้วด้วย มีแพลนจะกลับไปอเมริกาใต้อีกครั้ง ที่โคลอมเบีย และเวเนซุเอลา เราชอบมนตร์เสน่ห์ของที่นั่น พวกเขาดูมีความสุขในขณะที่พวกเขาไม่มีอะไร แล้วมันเป็นที่ที่ทำให้เราตกหลุมรักการเดินป่า รู้สึกเหมือนเป็นรักแรกของเราเลย … 8 เดือนที่เราได้ไปอยู่ที่นั่น มันทำให้เราโตขึ้นเยอะมากเลย ที่นั่นทำให้เราค้นพบความสุขอย่างแท้จริง,พาร์ต 4 : คำแนะนำก่อนการเดินทางรอบโลกคนเดียว ,ก่อนการเดินทางมีการศึกษาหาข้อมูลเยอะไหม ?,ช่วงเริ่มเดินทางแรกๆ หาข้อมูลเยอะมาก เพราะเรายังไม่ชัวร์ ยังไม่มั่นใจในการตัดสินใจเท่าไร จองทุกอย่างไปหมด แต่พอหลังจากเดินทางมาได้เกือบครึ่งปี เราก็ปีกกล้าขาแข็งล่ะ เดี๋ยวนี้ก็ไป แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ไปแบบไม่ต้องวางแผนเลยก็ได้ แต่นั่นก็เพราะเรามีประสบการณ์อยู่แล้วนะ คือเรารู้แล้วว่า พอเกิดอะไรขึ้นปุ๊บเราจะต้องทำยังไงต่อไป สมองเราจะประมวลผลเร็วมาก ว่าเราจะต้องทำอะไรๆ บ้าง,เทคนิคการฝึกภาษาให้คล่อง ?,ไม่จำเป็นนะ เพราะอย่างคนเกาหลีที่เราไปเจอที่สเปน และอเมริกา เขาก็เดินทางรอบโลกคนเดียวเหมือนกัน พูดอังกฤษแทบไม่ได้ สเปนนี้คือไม่ได้เลย เขาพูดได้แต่เกาหลี ถ้าถามว่าทำไมเขาถึงกล้ามาคนเดียว ? แน่ล่ะว่า เขาต้องเช็กข้อมูลก่อนมาเยอะอยู่แล้ว ทว่าเหนือสิ่งอื่นใด คือเขากล้าที่จะพูด กล้าที่จะสื่อสารแม้ว่าเขาจะพูดผิดพูดถูก และกล้าที่จะก้าวออกมาจากกรอบเดิมๆ อันนี้มันขึ้นอยู่ที่ใจมากกว่านะว่าคุณกล้าก้าวข้ามมารึยัง,มีวิธีสื่อสารอย่างไรเมื่อพูดกันคนละภาษา ?,ก็ทำได้หลายอย่างนะ เช่น วาดรูปให้เขาดู การส่งเสียง การชี้ ทำได้หมดเลย นี่คือวิธีการเอาตัวรอดสำหรับใครที่พูดภาษาไม่เก่ง และไปอยู่เมืองนอกตัวคนเดียวเลยนะ,ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง หากผู้หญิงตัวคนเดียวจะท่องโลกกว้าง ?,อย่างแรกเลยต้องเตรียมใจให้พร้อม เพราะว่าคุณจะได้ไปเจอ ได้ไปสัมผัสสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยเจอ ผู้คนใหม่ๆ การเดินทางใหม่ๆ สภาพแวดล้อมใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคย และก็ต้องเริ่มจากก้าวเล็กๆ เรามองว่าการที่จะเดินทางรอบโลกคนเดียว ก้าวมันคงใหญ่มากนะ และเราคงจะเหนื่อย จะดีกว่าไหม ถ้าเริ่มมองที่ก้าวเล็กๆ ก่อน แล้วฝันใหญ่ๆ ค่อยๆ หาประสบการณ์ จากก้าวเล็กๆ ก้าวแรก โดยคุณอาจจะเริ่มเดินทางจากประเทศใกล้ๆ อย่างประเทศเพื่อนบ้านก่อนก็ได้ ขยับขึ้นเป็นเอเชีย ต่อด้วยยุโรป อังกฤษ อเมริกา…อย่าเพิ่งท้อ คุณจำไว้ว่าก้าวแรกสำคัญที่สุดนะ แค่คุณก้าวมันออกไปก่อน แล้วมันจะมีก้าวที่ 2 3 4 ตามมา,ก้าวแรกไม่จำเป็นว่าคุณจะตั้งเป้าเดินทางทั้งปีเลย คุณค่อยๆ เรียนรู้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ก็ได้ เพราะอย่างเรากว่าจะเรียนรู้เดินทางมาได้ขนาดนี้ ก็เดินทางกับคนอื่นมาเยอะพอสมควร ก่อนจะเริ่มหันมาเดินทางคนเดียวดูบ้าง จาก 3 อาทิตย์ ก็เป็นเดือน จาก 1-2 เดือน ก็เป็น 8 เดือน คือทุกอย่างมันมีสเต็ปของมัน ไม่มีหรอกนะที่คนเราจะมาปริญญาเอกเลย,ถ้าเป็นเรื่องเงิน คุณจะต้องพกบัตร 2 ใบ 2 ธนาคาร เพราะบางครั้งมันก็จะมีธนาคารที่ใช้ไม่ได้ และมีธนาคารที่ใช้ได้ วงเงินขั้นต่ำในบัตร ? อย่างของเราในบัตรเอทีเอ็ม จะพกอยู่ไว้อยู่แค่ 2-3 หมื่น แล้วคุณแม่ก็จะคอยโอนมาเรื่อยๆ คือเราจะพยายามไม่ให้วงเงินเยอะกว่านั้น เพราะเราเคยโดนแฮกมาแล้วรอบหนึ่ง เราก็เสียใจหนักเลยว่ามันนี่เราหายไปไหน,สิ่งที่ควรระวังในการเดินทางสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียว ?,ระวังตัวเองอยู่ตลอดเวลาให้เหมือนในกรุงเทพฯ คือเราโชคดีนะที่ประเทศเราค่อนข้างอันตราย (หัวเราะ) เวลาไปอยู่ที่โน่นเราก็ระวังตัวเหมือนกับเราอยู่ที่นี่ล่ะ กลางคืนไม่ออกข้างนอก เวลาเข้าถึงโฮสเทลก็ไม่ควรดึกมากเกินไป หรืออย่างสมมติเราบินลงมา ก็ไม่ควรจะเลือกไฟลท์ดึกที่บินมาถึงกลางคืน แล้วก็ที่สำคัญ อย่าประหยัดเรื่องความปลอดภัย คือปกติที่นอนโฮสเทลมันถูกอยู่แล้ว แต่เราจะเลือกโฮสเทลที่ดี คือ ถูกแต่ว่าดี โฮสเทลจะมีความถูกหลายระดับ มันจะมีความถูกที่แบบรีวิวแย่มาก แต่ถูกจริง กับที่มันแพงขึ้นมา 100 บาทต่อคืน แต่มีความปลอดภัยกว่า เราจะไม่พยายามประหยัดเรื่องความปลอดภัยนะ เพราะเราค่อนข้างเซฟตัวเองในเรื่องนี้เลยล่ะ ไม่เมา ห้ามเมาเลย และเวลาเข้าถึงโฮสเทลก็ต้องถามก่อนว่า ที่ไหนควรเดิน ที่ไหนไม่ควรเดิน เพราะเราก็เป็นเหมือนนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่ไม่รู้เส้นทาง และเป็นเมืองที่ใหม่สำหรับเรา … แค่นั้นเอง,ความยากในการเดินทางสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียว ?,คือเราต้องระวังตัวเยอะกว่า เราจะพลิ้วมากกับผู้ชาย หรือไว้ใจผู้ชายต่างแดนมากเกินไปไม่ได้เท่านั้นเอง ด้วยความที่เรามีประสบการณ์การเดินทางมา 4 ปีแล้ว ตอนนี้เราคิดว่ามันง่ายนะ คือในขณะที่มันดูยากทว่ามันก็ง่าย มันจะมีข้อดี-ข้อเสีย ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย ถ้าเป็นผู้ชายคนเดียวก็สามารถจะเดินทางโบกรถเที่ยว ทำอะไรบ้าๆ บอๆ ก็ได้ แต่ว่าผู้หญิงทำไม่ได้แบบนั้น ในขณะที่ผู้ชายจะไม่ค่อยมีคนช่วย ส่วนเราที่เป็นผู้หญิงจะมีคนเข้ามาช่วยอยู่ตลอด เขาจะเอ็นดูเรานะ เพราะเขาเห็นเราเป็นผู้หญิงคนเดียวเดินทางมาต่างแดน,ผู้หญิงหลายคนอาจคิดว่าการเดินทางคนเดียวเป็นเรื่องยาก และไม่กล้าออกไปเผชิญโลกใบใหม่ เราจะเปลี่ยนทัศนคติมุมมองตรงนี้ยังไงบ้าง ?,จริงๆ เราค้นพบว่า ,ความกลัว, มันเกิดจากจินตนาการภายในของเราเองนะ ยิ่งผู้หญิงจะจินตนาการกว้างไกลมาก ตั้งคำถามกับมันในหลายๆ เรื่อง เช่นว่า ไปแล้วจะเป็นยังไง กลัวนี่กลัวนั่น และคำว่า ถ้า จะเกิดขึ้นในหัวเยอะมาก ห่วงโน่นห่วงนี่-ไปหมด แล้วจินตนาการเหล่านั้นก็จะหยุดเราให้ไม่กล้าเผชิญสิ่งใหม่ๆ เพราะฉะนั้นคุณแค่กลั้นใจ และเอาชนะความกลัวให้ได้ รับรองเลยว่า ความกลัวของคุณจะลดน้อยลงเรื่อยๆ อย่าให้ความกลัวมาถามหาเรา แต่เปลี่ยนให้มันเป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องระวังตัวมากขึ้นดีกว่า,เธอพูดทิ้งท้ายว่า เวลาจะทำอะไร หรืออยากจะไปเป็นฟรีแลนซ์ 1. คุณจะต้องเป็นตัวเองก่อน หลายๆ คนอาจมีไอดอล แต่เธอเป็นคนไม่มีไอดอล เพราะหากเธอรู้สึกว่าจะต้องทำแบบคนนั้น คนนี้ มันถึงจะประสบความสำเร็จ มันจะกลายเป็นว่าเธอไม่ใช่ตัวเธอเลย หลายๆ คนยอมเปลี่ยนตัวเอง เพื่อแลกกับเงิน และชื่อเสียง ทว่าไม่ได้มองว่าจะทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง สิ่งไหนที่มันใช่ตัวตนเราจริงๆ หรือสิ่งไหนคือสิ่งที่เราชอบจริงๆ หลายคนมองข้ามทุกสิ่งที่ชอบ และไปโฟกัสตรงที่ความสำเร็จ ดูเงิน ดูผลตอบแทนที่ได้กลับมาอย่างเดียว ซึ่งมันจะกลายเป็นว่าเราเปลี่ยนตัวตนของเราไป มันไม่ได้มาจาก passion ข้างในจริงๆ ความรู้สึก-ความชอบของเราจริงๆ ทีนี้พอทำไปสักพัก มันก็หมด และสุดท้ายคนเขาก็รู้ ในทางกลับกัน ถ้าหลายคนทำอะไรที่ออกมาจากตัวตนจริงๆ มาจาก passion ข้างใน มันก็จะทำให้เกิดโปรเจกต์ใหม่ขึ้นมา, ,ฉะนั้นแล้วทำความคิดของตัวเองให้แตกต่างก่อน แล้วมันจะเกิดผลงานที่แตกต่างตามมา สุดท้ายแล้ว คนเขาจะเห็นความจริงใจในการทำงานของเรา และเงินกับชื่อเสียงก็จะตามมาเอง อย่างไรก็ดี เราอาจหันมาถามตัวเองก่อนว่า ,อะไรคือหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต แล้วเราได้ทำอะไรให้กับสิ่งที่เราให้ความสำคัญที่สุดมากน้อยแค่ไหน ?
ใครว่าต้องเป็นผู้ชายเท่านั้นถึงจะทำอะไรลุยๆ กล้าทำอะไรบ้าบิ่น แบกเป้เที่ยวต่างถิ่นต่างแดนคนเดียวได้ วันนี้ไทยรัฐออนไลน์จะพาไปทำความรู้จักกับสาวน้อยมหัศจรรย์วัย 27 ปี ที่จะทำให้คุณเปลี่ยนความคิด เพราะเธอได้บิน
null
มณฑล กสานติกุล,I Roam Alone,เที่ยวรอบโลก,บินเดี่ยวรอบโลก,หมู่เกาะอะซอเรส,อุปกรณ์ก่อนเดินทาง,ฟรีแลนซ์,นักเดินทาง,อเมริกากลาง,อเมริกาใต้,เทคนิคฝึกภาษา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์
https://www.thairath.co.th/content/529922
เทสล่า สะเทือนหนัก สงครามการค้า สหรัฐฯ-จีน
เพราะภาษีนำเข้ารถหรูที่ถูกปรับเพิ่มขึ้น จะทำให้ราคารถเทสล่าในจีน ขยับขึ้นไปโหดยิ่งขึ้น,โดยปกติราคาเทสล่ารุ่น Model S 100D จำหน่ายอยู่ในสหรัฐอเมริกาที่ราคาคันละ 94,000 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 3 ล้านบาท) ขณะที่ราคาจำหน่ายในจีน อยู่ที่ประมาณ 148,000 เหรียญ (ราว 4.7 ล้านบาท) หากภาษีถูกปรับเพิ่มขึ้น ราคาย่อมจะต้องขยับขึ้นไปอีก,บรรยากาศการค้าโลกที่กำลังตึงเครียดจากนโยบาย ประเทศข้า ต้องมาก่อน ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เมื่อทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม กระทบชิ่งสินค้าจากจีนไปเต็มๆ ทำให้ล่าสุด ทางการจีนประกาศมาตรการขึ้นกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 128 รายการ สูงสุดถึง 25% เพื่อเป็นการตอบโต้ โดยจีนให้เหตุผลว่า เป็นการปกป้องผลประโยชน์และสร้างสมดุลจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ,ต่อผลกระทบดังกล่าว นักวิเคราะห์ระบุว่า เทสล่า (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของอเมริกา จะเป็นค่ายรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด นอกจากนั้นเป็นรถหรูจากเยอรมันอย่างเบนซ์และบีเอ็มดับเบิลยู,ปัจจุบัน จีนถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ของค่ายรถอเมริกัน ตั้งแต่ฟอร์ด จีเอ็ม และไครสเลอร์ ในฐานะ 3 บิ๊กแห่งดีทรอยต์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีพันธมิตรเป็นบริษัทจีน อย่างจีเอ็มมีโรงงานผลิตรถที่ออกวางจำหน่ายในจีนเป็นการเฉพาะ การปรับภาษีนำเข้าสินค้าจากอเมริกา จึงไม่มีผลเท่าใดนัก เพราะรถที่ขายผลิตในจีน,แต่สำหรับในกรณีของเทสล่า รถที่จำหน่ายในจีนเป็นรถนำเข้า ซึ่งหากจีนปรับขึ้นภาษีจริง เทสล่าจะต้องเสียภาษีนำเข้าเพิ่มในอัตรา 50% ของราคา จากปัจจุบันเสียภาษีที่ 25%,สอดคล้องกับที่อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสล่า เคยบ่นเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่กำลังเกิดขึ้น ลำเอียงและไม่ยุติธรรมต่อบริษัทอเมริกัน,เนื่องจากตลาดจีนนั้น สำคัญกับเทสล่ามาก รายได้จากยอดขายในจีน กินสัดส่วนเป็นอันดับ 2 รองจากตลาดสหรัฐฯ โดยเทสล่ามีคลังสินค้าขนาดใหญ่อยู่ในปักกิ่ง รองรับคำสั่งซื้อจากเศรษฐีจีนที่มีล้นหลาม,ปัจจุบันตลาดจีนมียอดขายประมาณ 2,000 ล้านเหรียญ (64,000 ล้านบาท) ส่วนตลาดสหรัฐฯมียอดขายที่ 6,000 ล้านเหรียญ (192,000 ล้านบาท) ส่วนที่ตลาดหลักอีกแห่งคือนอร์เวย์ มียอดขายต่ำกว่า 1,000 ล้านเหรียญ (32,000 ล้านบาท),ขณะที่ค่ายรถคู่แข่งอย่างเมอร์เซเดส เบนซ์และบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งส่งออกรถที่ผลิตจากโรงงานในอลาบามา และเซาท์แคโรไลนา ในสหรัฐอเมริกาไปขายยังจีน ก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ถือว่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเทสล่า โดยราว 12-13% ของเทสล่ารุ่น Model S และ X ถูกส่งไปขายในจีน ส่วนบีเอ็มและเบนซ์ขายอยู่ราว 2-4%.
บรรยากาศทางการค้าที่กำลังขมึงเกลียวระหว่างสหรัฐอเมริกาและนานาประเทศ โดยเฉพาะจีน อาจกลายเป็นหอกดาบทิ่มแทงค่ายรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติอเมริกันอย่างเทสล่าตรงๆ
ข่าว,ไอที
บทความไซเบอร์เน็ต,ไทยรัฐไซเบอร์เน็ต,กำแพงภาษีสินค้า,เทสล่ารุ่น Model S 100D,ภาษีนำเข้ารถยนต์
https://www.thairath.co.th/news/tech/1250296
เปิดมุมมองสะท้อนบทบาท ฮีโร่อาเซียนแบบใด เชื่อมความเข้าใจระหว่างกัน
วันนี้ (12 มี.ค.56) ที่ ร้านหนังสือริมขอบฟ้า มุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นิตยสารสารคดี ได้จัดงานเสวนา Sarakadee talk # 1 ในหัวข้อ My ASEAN Hero : ก้าวข้ามความขัดแย้งสู่ประชาคมอาเซียน โดยมีวิทยากรร่วมเสวนา ได้แก่ นายดุลยภาค ปรีชารัชช์ อาจารย์ประจำโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ม.ธรรมศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์การเมืองพม่า นายโซ อ่อง ตัวแทนประชาชนพม่า Forum Democracy in Burma นายสิทธา เลิศไพบูลย์ศิริ อาจารย์พิเศษประจำโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ม.ธรรมศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์การเมืองอินโดนีเซีย และนางมรกตวงศ์ ภูมิพลับ อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มธ. ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์การเมืองเวียดนาม ซึ่งดำเนินรายการโดย นายสุเจน กรรพฤทธิ์ นักเขียนประจำกองบรรณาธิการนิตยสารสารคดี เพื่อให้คนไทยเรียนรู้ประวัติศาสตร์อาเซียนผ่านบุคคลสำคัญของชาตินายโซ อ่อง ตัวแทนจากประเทศพม่า กล่าวว่า ในประเทศพม่านั้นไม่ได้มีนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเพียงแค่นางอองซาน ซูจีเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายคน เช่น นายมิน โก ผู้นำนักศึกษาพม่า ในช่วงที่นักศึกษาทำการประท้วงรัฐบาล ซึ่งเขาเป็นผู้ก่อตั้งองค์กรอิสระ หลังจากติดคุก โดยที่เขามีความเชื่อว่า หากพม่าขาดซึ่งความคิดเห็น ความอิสระทางความคิดแล้ว ประชาชนก็ไม่อาจจะเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ ขณะนี้ นายมิน โกยังได้เขียนวรรณคดี บทกวีสะท้อนสังคมพม่าด้วย ทั้งนี้ นายโซอ่องยังตั้งข้อสังเกตว่า ระบอบประชาธิปไตยในพม่าจะพัฒนาต่อไปอย่างไร ถ้ายังยึดติดกับอองซาน ซูจีตัวแทนจากประเทศพม่ายังกล่าวอีกว่า ฮีโร่ในสังคม จะต้องนึกถึงเยาวชนเป็นหลักว่า ต้องการให้เด็กเหล่านั้นเติบโตขึ้นในรูปแบบไหน และเป็นอย่างไร ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ทั้งนี้ ไม่ต้องการฮี่โร่ที่ถูกกำหนดมาด้วยอำนาจของรัฐ นอกจากนี้แล้ว ฮีโร่จะต้องเป็นผู้ที่นึกถึงหลักสิทธิมนุษยชน และต่อสู้เพื่อสิทธิอย่างแท้จริงสอดคล้องนายดุลยภาค ที่ระบุว่า ในอดีต วีรชน หรือฮีโร่นั้นสามารถช่วยพัฒนาประเทศชาติได้ เช่น พระเจ้าอโนรทา นอกจากนี้แล้ว ชนชั้นนำในพม่ายังมีการเลือกใช้วีรชนที่เป็นคุณต่อรัฐบาลในการครองอำนาจ รวมถึงโฆษณาผ่านสื่อ เพื่อเกลี้ยกล่อมประชาชน และสิ่งสำคัญที่ผู้นำพม่าพัฒนามาโดยตลอด คือ การขยายแสงยานุภาพของกองทัพให้ยิ่งใหญ่ โดยยึดแบบกองทัพบุเรงนองที่แกนกลางสร้างชาติ เพื่อเรียกความภาคภูมิใจและความจงรักภักดีต่อชาติ นอกจากนี้แล้ว นายดุลยภาค มองว่า ฮีโร่และทรชนอาจเป็นคนเดียวกันได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละบุคคลขณะที่นางมรกตวงศ์ กล่าวว่า โฮจิมินต์ คือ ผู้เขียนประวัติศาสตร์ว่าใครจะเป็นวีรบุรุษ หรือวีรสตรี โดยวิกฤตสงครามและเศรษฐกิจนั้นจะนำมาซึ่งวีรบุรุษ ขณะเดียวกันโฮจิมินต์สะท้อนว่า ทุกคนในเวียดนามสามารถเป็นฮีโร่ได้ เนื่องจากไม่มีการกีดกันเรื่องเพศ รวมถึงชนชั้น ทั้งนี้ นางมรกตวงศ์ตั้งข้อสังเกตว่า ในภูมิภาคอาเซียนนั้น มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่ต้องมีฮีไร่ และการมีฮี่โร่นั้นมีไปเพื่อวัตถุประสงค์ใด ซึ่งหากเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับภูมิภาคก็สมควรจะมี นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่สามารถดึงทุกคนในแต่ละประเทศมาร่วมกัน และเป็นฮีโร่ไปพร้อม ๆ กัน ส่วนนายสิทธา เปิดเผยว่า ในประเทศฟิลิปปินส์มีวีรบุรุษหลายคน เช่น โฮเซ ลีซาว ซึ่งถูกบรรจุอยู่ในแบบเรียนทุกระดับชั้น โดยในช่วงสงครามเย็นก็ตั้งคำถามว่า โฮเซ ลีซาว ไม่ได้จับอาวุธ แต่ใช้ปากกาเขียนหนังสือ เพื่อเรียกร้องเกี่ยวกับการปฏิรูปและปฏิวัติ ทั้งนี้ นายสิทธา ระบุว่า การเกิดขึ้นของ ฮีโร่อาเซียน นั้น ควรมีการเรียนรู้ร่วมกัน สร้างแรงบันดาลใจให้แก่กัน เพื่อก่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ซึ่งจะส่งผลให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ
นักวิชาการอาเซียน เปิดวงคุย ฮีโร่อาเซียน ควรเป็นแบบใด จึงสร้างสันติภาพอยู่ร่วมกัน ชี้ ฮีโร่ ต้องเห็นแก่ส่วนรวม-พัฒนาประเทศ รวมถึงเป็นตัวกลางเพิ่มความเข้าใจระหว่าง 10 ประเทศ เพื่อให้เรียนรู้ตัวตนซึ่งกันและกัน
สังคม
Asean,อาเซียน,ฮีโร่,เสวนา
https://news.thaipbs.or.th/content/153599
สปีชอำลาสุดท้ายของ โอบามา การกลับมาที่สถานที่เริ่มต้นของผู้นำผิวสีคนแรกของสหรัฐอเมริกา
การกล่าวสุนทรพจน์อำลาตำแหน่งเป็นครั้งสุดท้ายในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาของนายบารัค โอบามา ในช่วงเช้าวันนี้ (11 ม.ค.2560) ตามเวลาในประเทศไทย เกิดขึ้นที่แมคคอมิค เพลซ (McCormick Place) ห้องประชุมที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือในนครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ มีผู้เข้าฟังการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้กว่า 18000 คน โอบามาเลือกที่นี่เป็นเป็นที่กล่าวอำลาตำแหน่ง เพราะต้องการกลับมาที่จุดเริ่มต้นของเขาและมิเชล โอบามา สุภาพสตรีหมายเลข 1 มากกว่ากล่าวอำลาตำแหน่งในทำเนียบขาวโอบามา กล่าวว่า เขาเดินทางมาที่ชิคาโกเป็นครั้งแรก เมื่อตอนอายุ 20 ปี เพื่อแสวงหาตัวตนและยังคงคนหาความหมายของชีวิตต่อไป โอบามาย้ำว่าสหรัฐอเมริกาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยฝีมือของประชาชนธรรมดาๆ ที่เข้ามามีส่วนร่วมและรวมพลังกัน และในขณะที่โอบามากำลังกล่าวสุนทรพจน์อยู่ในช่วงนี้ ก็มีเสียงจากผู้สนับสนุนบอกว่าขอให้อยู่ต่ออีก 4 ปี ได้ไหม ซึ่งโอบามาตอบกลับไปว่าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ นอกจากนี้ผู้นำสหรัฐอเมริกายังได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับรัสเซียที่ดูจะฝากถึงนายโดนัลด์ ทรัมพ์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ โดยตรงอีกด้วย โอบามาบอกว่าคู่แข่งอย่างรัสเซียหรือจีน ไม่สามารถเทียบชั้นกับสหรัฐอเมริกาได้ นอกจากเราจะยอมแพ้ในจุดยืนของตนเองสิ่งที่ทำให้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาถึงกับต้องหลั่งน้ำตา คือ ตอนที่กล่าวถึงมิเชล โอบามาและลูกสาวทั้ง 2 คน รวมถึงนายโจ ไบเดน รองประธานาธานาธิบดี ด้วย เขากล่าวว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมา มิเชล โอบามา ไม่เพียงแต่เป็นภรรยาและเป็นแม่ของลูกๆ ทั้ง 2 คน เท่านั้น แต่เธอยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา พร้อมกับกล่าวชมภรรยาว่าทำหน้าที่สตรีหมายเลข 1 ได้เป็นอย่างดีสร้างความภูมิใจให้แก่เขาและชาวอเมริกันเป็นอย่างมากและจะเป็นต้นแบบสำหรับคนรุ่นถัดไปที่จะดำเนินรอยตาม โอบามายังกล่าวชื่นชมลูกสาวทั้ง 2 คน ว่าสามารถปรับตัวได้ดี ท่ามกลางแสงสปอร์ตไลท์ที่ส่องถึงพวกเธอในระหว่างที่โอบามาอยู่ในตำแหน่งผู้นำประเทศนอกจากนี้ยังกล่าวชื่นชมนายโจ ไบเดน รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาว่า นอกจากจะเป็นรองประธานาธิบดีที่ดีเยี่ยมแล้ว ไบเดนยังเป็นพี่ชายของเขา และมิตรภาพระหว่าง 2 ครอบครัวเป็นสิ่งที่น่ายินดีสำหรับโอบามาสำหรับสถานที่กล่าวสุนทรพจน์อำลาครั้งสุดท้ายของโอบามาในวันนี้ ยังเป็นสถานที่เดียวกันกับที่โอบามาเคยประกาศชัยชนะและสร้างประวัติศาสตร์ในการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2551 ประธานาธิบดีโอบามาเดินทางมาที่นครชิคาโก ด้วยเครื่องบินแอร์ฟอร์ซ วัน ซึ่งถือเป็นเที่ยวบินที่ 445 และเป็นเที่ยวบินสุดท้ายกับการเดินทางด้วยเครื่องบินประจำตำแหน่ง สำหรับบัตรเพื่อเข้าฟังโอบามากล่าวสุนทรพจน์นั้นมีการแจกฟรี แต่แล้วก็มีการนำไปจำหน่ายทางออนไลน์ ด้วยสนนราคาใบละ 36000 บาท
บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 44 กล่าวอำลาตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเช้าวันนี้ ที่นครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ พร้อมกับย้ำว่าหลังดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐอเมริกา มา 8 ปี เขายังเชื่อมั่นว่า สหรัฐอเมริกาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยแรงสนับสนุนจากประชาชนธรรมดา
ต่างประเทศ
สุนทรพจน์โอบามา,โอบามา,ObamaFarewell,อเมริกา,ข่าวต่างประเทศ
https://news.thaipbs.or.th/content/259447
เปิ้ล นาคร เล่าวินาทีลุ้นอาการเมียรัก อยู่ๆ ชัก ตัวเกร็ง
เพิ่งจะลงรูปพาครอบครัวไปลันล้าที่ทะเลกันหมาดๆ แต่ล่าสุด คุณพ่อลูก 4 ,เปิ้ล นาคร ศิลาชัย, ก็โพสต์รูปภรรยา ,จูน กษมา, นอนอยู่โรงพยาบาล พร้อมข้อความยาวเหยียดที่บรรยายอาการป่วยของภรรยาว่ามีอาการ ชัก เกร็ง ไข้ขึ้นสูง แบบไม่ทราบสาเหตุจนต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลด่วน,จูนมีอาการเจ็บแปล๊บที่ปลายเท้ามาหลายวันละ แต่จูนคิดว่าน่าจะหาย ก็เลยไปเที่ยวเสม็ดกัน แต่เปล่าเลย อาการยิ่งกำเริบ ขาข้างซ้ายกระตุกทุกๆ 2 นาที จนขาชาไม่รู้สึก แต่เธอก็ทนเลี้ยงลูก เล่นน้ำกับลูก แต่เธอแอบอัดยาแก้ปวดไป 10 กว่าเม็ด,ก็ไม่ดีขึ้น จนมาวันนี้ขึ้นรถกลับกรุงเทพฯ อาการจู่ๆ ก็กำเริบ ขากระตุกหนักขึ้นลามมาด้านขวา จนตัวเกร็งปากกัดตลอดเวลา ขาจูนกระตุกแรงแบบไม่เคยเห็นมาก่อน ป๊าใช้เวลาอัดรถจากเกาะเสม็ดถึงโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ 2 ชั่วโมงกว่า,จูนกระตุกหนักขึ้นแบบชักและร้องไห้ตลอดทาง ตัวเกร็ง ไข้ขึ้น กัดปากตัวเอง อาการน่ากลัวมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ป๊าได้แต่เหยียบ เหยียบ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ แล้วเราก็ถึงโรงพยาบาล ทุกอย่างเตรียมรอไว้หมดแล้ว,จูนเข้าห้องฉุกเฉิน ฉีดยา เจาะเลือด สารพัด จูนได้แต่นอนกระตุก ชักเกร็งไปหมด แล้วจูนก็บอกให้พี่เปิ้ลไปส่งลูกกลับบ้าน จูนอยู่กับหมอได้ พรุ่งนี้คงต้องลุ้นกันว่าหมอจะบอกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของ 4 ออ,หลังจากที่เปิ้ล นาคร โพสต์วินาทีชีวิตของภรรยา ก็มีบรรดาเพื่อนพี่น้องในวงการ รวมถึงแฟนคลับเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจสาวจูนและเปิ้ลกันมากมาย ทางบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ก็ขอเอาใจช่วยให้แม่จูนของ 4 ออ หายป่วยไวๆ นะคะ.
เปิ้ล นาคร เล่าเหตุการณ์ระทึกขณะพา จูน ส่งโรงพยาบาล หลังอีกฝ่ายมีอาการชัก เกร็ง ไข้ขึ้นสูง
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
เปิ้ล นาคร,จูน กษมา,เปิ้ล จูน,จูน เมียเปิ้ล ป่วย,อินสตาแกรมดารา,กอสซิป
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1239132
ไอซิสปล่อยพลเรือน 270 คน ที่ลักพาตัวจากเมืองทางตะวันออกซีเรียแล้ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค. กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (เอสโอเอชอาร์) เปิดเผยว่า กลุ่มติดอาวุธ รัฐอิสลาม หรือ ไอซิส ได้ปล่อยตัวพลเรือน 270 คนจากทั้งหมดเกือบ 400 คน ที่พวกเขาลักพาตัวไปจากจังหวัด เดียร์ อัล-ซอร์ ทางตะวันออกของประเทศซีเรียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว,นายรามี อับดุลเราะห์มาน ผู้อำนวยการของเอสโอเอชอาร์ ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในอังกฤษ ระบุว่า ผู้ที่ถูกปล่อยตัวเป็นผู้หญิง, เด็กอายุต่ำกว่า 14 และชายอายุเกิน 55 ปี โดยถูกปล่อยตัวที่หมู่บ้าน อัล-บากาลิยาห์ ทางเหนือของเมืองเดียร์ อัล-ซอร์,ทั้งนี้ สถานการณ์การต่อสู้ในจังหวัดเดียร์ อัล-ซอร์ รุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยกลุ่มไอซิสบุกโจมตีเมือง เดียร์ อัล-ซอร์ ซึ่งเป็นเมืองเอกของจังหวัดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สังหารผู้คนอย่างน้อย 135 ราย นอกจากนี้ยังลักพาตัวประชาชนจากเขตบาลิเกีย และพื้นที่อื่นๆ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองไปอีกเกือบ 400 คน,พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดเดียร์ อัล-ซอร์ ถูกไอซิสควบคุมเอาไว้มานานกว่า 1 ปี แต่ฐานทัพอากาศของกองทัพยังคงอยู่ในมือของรัฐบาลซีเรีย
ไอซิสดำเนินการปล่อยตัวผู้หญิง เด็ก และคนชรา จำนวน 270 คน จากตัวประกันเกือบ 400 คน ที่พวกเขาลักพาตัวไปจากจังหวัดทางตะวันออกของซีเรีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
null
กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนในซีเรีย,เอสโอเอชอาร์,กลุ่มติดอาวุธ,รัฐอิสลาม,ไอเอส,ไอซิส,ปล่อยตัวประกัน,ลักพาตัว,เดียร์ อัล-ซอร์,ซีเรีย,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/565718
มิลานเปิดตัว 4 แข้งใหม่เสริมทัพ
เอซี มิลาน แชมป์กัลโช่ เซเรียอาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เปิดตัว 4 นักเตะใหม่ ประกอบไปด้วย ฟิลิปป์ แมกเซส กองหลังทีมชาติฝรั่งเศส ทาเย่ ทาอิโว่ กองหลังทีมชาติไนจีเรีย และอัลแบร์โต้ พาลอสชี่ กับสเตฟาน เอล ชาราวี่ สองนักเตะชาวอิตาเลี่ยน โดยมัสซิโม่ อัลเลกรี้ โค้ชเอซี มิลาน ให้สัมภาษณ์ว่ารู้สึกพอใจกับนักเตะในทีมขณะนี้ที่สำคัญทีมได้นักเตะใหม่เข้ามาเสริมทีมอีก 4 คนขณะที่อาเดรียโน่ กัลลิอานี่ รองประธานสโมสรเอซี มิลาน หวังให้ทีมทำผลงานได้ดีในกัลโช่ เซเรียอา รวมไปถึงฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้า หลังจากเมื่อฤดูกาลที่แล้ว มิลานทำได้เพียงเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้นส่วนนาโปลี ทีมอันดับ 3 ในศึกกัลโช่ เซเรียอาฤดูกาลที่แล้วเปิดตัวอ๊อคคาน อินแลร์ กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ที่ย้ายมาจากอูดิเนซ โดยอินแลร์สร้างสีสันในการเปิดตัวด้วยการสวมหน้ากากรูปสิงโต ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับสื่อมวลชนเป็นอย่างมากจนได้รับเสียงตบมืออย่างล้นหลาม
เอซี มิลาน เปิดตัว ฟิลิปป์ แมกเซส กองหลังทีมชาติฝรั่งเศส ทาเย่ ทาอิโว่ กองหลังทีมชาติไนจีเรีย และ อัลแบร์โต้ พาลอสชี่ กับ สเตฟาน เอล ชาราวี่ จากอิตาลี มาเสริมทัพฤดูกาลนี้
กีฬา
ทาเย่ ทาอิโว่,ฟิลิปป์ แมกเซส,ฟุตบอล,สเตฟาน เอล ชาราวี่,อัลแบร์โต้ พาลอสชี่,เอซี มิลาน
https://news.thaipbs.or.th/content/22624
กรมการพัฒนาชุมชน ยกระดับสินค้า OTOP สู่มาตรฐาน มผช.หนุนท่องเที่ยวชุมชน
นางสาวณัฐนิช อินทสระ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ผนึกกำลัง กระทรวงอุตสาหกรรม ยกระดับสินค้า OTOP กลุ่มปรับตัวสู่การพัฒนา ให้เป็นที่ยอมรับ ได้มาตรฐาน (มผช.) จากการที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินการขับเคลื่อนชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ซึ่งเป็นแนวคิดพัฒนา OTOP รูปแบบใหม่ โดยเน้นการดึงนักท่องเที่ยวเข้าสู่ชุมชน ให้ประชาชนได้ขายสินค้าในชุมชนของตนเอง โดยนำเสน่ห์ ภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม มาแปลงเป็นรายได้ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดรายได้กระจายภายในชุมชน แต่ผลิตภัณฑ์ชุมชนส่วนใหญ่ยังขาดการพัฒนาในด้านคุณภาพและการออกแบบให้ตรงกับความต้องการของตลาด เป็นสาเหตุให้ไม่สามารถจำหน่ายในราคาที่สูงมาก เนื่องจากนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคทั่วไปยังขาดความเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์,ฉะนั้น เพื่อให้สินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนมีคุณภาพมาตรฐาน สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน จึงจัดทำโครงการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ OTOP กลุ่มปรับตัวสู่การพัฒนา (กลุ่ม D) ภายใต้โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ขึ้น เพื่อให้สินค้า OTOP ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจไทย มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ โดยมีเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ OTOP กลุ่มของใช้ ของฝาก ของที่ระลึก จำนวน 5,000 ผลิตภัณฑ์ (5,000 ราย) ทั่วประเทศ ให้ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือ มผช.,ทั้งนี้ กรมการพัฒนาชุมชน ได้ขอความร่วมมือให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการต่อยอด โดยนำผลิตภัณฑ์ OTOP กลุ่มปรับตัวสู่การพัฒนา (กลุ่ม D) ที่ได้รับการพัฒนาจากกรมการพัฒนาชุมชน เข้าสู่การรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างดำเนินการออกใบขอรับการตรวจประเมินคุณภาพเบื้องต้น (มผช.ป) โดย กรมการพัฒนาชุมชน จะเป็นผู้รวบรวมรายงานผลการทดสอบผลิตภัณฑ์ รวมทั้งส่งเอกสารประกอบการยื่นคำขอที่ถูกต้อง ครบถ้วน ให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ดำเนินการพิจารณาออกใบรับคำขอ มผช.ป. และเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งสองหน่วยงานได้เห็นชอบร่วมกันในการทำงานที่ใกล้ชิดทั้งในส่วนกลางและในระดับพื้นที่ โดย สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด จะขับเคลื่อนเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ OTOP กลุ่มปรับตัวสู่การพัฒนา ได้รับการรับรอง มผช. ต่อไป เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งมั่นยกระดับพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนให้มีศักยภาพ เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค รวมทั้งเป็นการเชื่อมโยงให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนของไทยไปสู่ตลาดที่กว้างมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ.
กรมการพัฒนาชุมชน ยกระดับสินค้า OTOP สู่มาตรฐาน มผช. เพิ่มช่องทางขาย หนุนท่องเที่ยวชุมชน สอดรับนโยบาบรัฐบาลนำผลิตภัณฑ์ชุมชนไทยมุ่งสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ข่าว,ทั่วไทย
กรมพัฒนาชุมชน,โอทอป,สินค้าโอทอป,มผช.,ท่องเที่ยวชุมชน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1548100
ศิลปินรวมใจ Bike For Mom
ถือเป็นวันสำคัญหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ที่ประชาชนทั่วประเทศรวมตัวแสดงพลังในกิจกรรม BIKE FOR MOM ปั่นเพื่อแม่ 2015 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี นาถ เจริญพระชนมพรรษา 83 พรรษา งานนี้ คนบันเทิง ก็ไม่น้อยหน้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งอย่างคึกคัก เริ่มจากแก๊งนักร้องจาก แกรมมี่ นำโดย พลพล, มอส–ปฏิภาณ, หนุ่ม กะลา, พั้นช์–วรกาญจน์, แก๊งเดอะสตาร์ ตูมตาม, แก้ม, กัน, ตั้ม, สิงโต โดยเฉพาะ แก้ม สาวคนเดียวที่ท้าสู้แดดแซวตัวเองว่าก่อนมาขาวกว่านี้ที่ดำเพราะปั่น ส่วน ตั้ม เพิ่งหายจากไข้เลือดออกก็ยังใจสู้ ยังมีศิลปินลูกทุ่ง อาทิ หญิงลี–ธิดารัตน์, เปาวลี–พรพิมล, ไผ่–พงศธร และ พี สะเดิด ส่วนค่าย อาร์เอส นำโดย มด–ณปภัช มีคุณแม่มาซ้อนท้ายเป็นกำลังใจ พร้อมด้วย แบล็คแจ็ค, กั๊ก เล้าโลม, แบงค์–อธิกิตติ์, กุ้ง–สุธิราช,ลูลู่ ลาล่า อาร์สยาม, บ่าววี,ขณะที่หล่อขั้นเทพ โดม–ปกรณ์ ลัม พร้อมสาว เมทัล หวานใจ และคุณพ่อ หรั่ง ร็อคเคสตร้า ก็ไม่พลาดร่วมปั่น ด้านช่อง 3 นำโดยผู้ประกาศข่าว อาทิ กิตติ สิงหาปัด และดารารุ่นใหญ่ สุเชาว์ พงษ์วิไล, แจ๊บ–เพ็ญเพ็ชร, ต๊อก–ศุภกร, เอ็กซ์–จตุรงค์ ไปถึงรุ่นเยาว์ น้องยอร์ช–ยงศิลป์ และ อุ๋ย–นนท์ทรีย์ ผู้กำกับดัง แก๊งเวิร์คพอยท์นำโดย อาร์ม–กรกันต์ และ นัท–ณัฎฐ์ กิจจริต และศิลปินไมค์ทองคำ อีกทั้งยังมี โจอี้ บอย, ติ๊ก ชีโร่ ขาลุย,ฟิตสุดๆยกให้ดาราวิก 7 สี นำโดยนางเอกดัง แพนเค้ก–เขมนิจ พระเอกหนุ่ม นิว–วงศกร พร้อมด้วย โน้ต–วัชรบูล, เขต–ธาราเขต, หมู–ธีรภัทร์, อั๋น–ชยพล, ต่าย–ชัชฎาภรณ์, ปรัชญ์–ปรมิณ, เอี๊ยม–วรรษพร และทัพผู้ประกาศข่าวนำโดย หนุ่ม–อนุวัต งานนี้ แพนเค้ก มาแบบพร้อมมากอุปกรณ์ หมวก แว่น ปิดหน้ามิด แถมยังเนรมิตจักรยานสีชมพูฟรุ้งฟริ้งมีชื่อ Pancake ที่สำคัญได้กำลังใจแน่นจาก คุณแม่หน่อย และ สารวัตรหมี หวานใจ พี่หมี ห่วงว่าร้อนจะเป็นลมคอยเช็กความปลอดภัยแต่ แพนเค้ก ก็ฟิตสุดๆปั่นได้ไกลรวม 22 กม. ด้าน นิว–วงศกร พระเอกขาวผ่องบล็อกกันแดดเอาผ้าปิดหน้ามิด ฟิตปั่นจากจุดสตาร์ตมาถึงช่อง 7 เหนื่อยไม่เบา มากันหลากหลายแบบนี้ถึงจะปั่นใกล้หรือไกลไม่สำคัญ ขอแค่ทุกคนมี ใจ ก็พอ
ถือเป็นวันสำคัญหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ที่ประชาชนทั่วประเทศรวมตัวแสดงพลังในกิจกรรม BIKE FOR MOM ปั่นเพื่อแม่ 2015
null
ศิลปินรวมใจ Bike For Mom,คนบันเทิง,แก๊งเดอะสตาร์ ตูมตาม,แก้ม,กัน,ตั้ม,สิงโต,อาร์เอส,ปกรณ์ ลัม,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/content/519108
สลด นศ.ปี4 โดดแม่น้ำปิง จดหมายระบุเครียด
ตก 1 วิชา ทําให้ไม่จบ-ต้องซํ้าชั้น,สลดสาวนักศึกษา มช.กระโดดแม่น้ำปิงฆ่าตัวตายอนาถ ทิ้งจดหมายลาตายในห้องพักมีข้อความทำนอง เครียดปัญหาการเรียน ขณะที่เพื่อนนักศึกษาระบุ ผู้ตายเรียนชั้นปี 4 คณะวิทยาศาสตร์ แต่สอบไม่ผ่านวิชาหนึ่ง เลยต้องลงทะเบียนเรียนซ้ำอีกปี ทำให้จบไม่พร้อมเพื่อน อาจทำให้เครียดหมดทางออก ตัดสินใจฆ่าตัวตายหนีปัญหาอย่างน่าเศร้าใจ,นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยชื่อดังกระโดดน้ำฆ่าตัวตายรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ธ.ค. ร.ต.อ.หญิงมนต์ริสสา บุญก้ำ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองเชียงใหม่ นำกำลังตำรวจและแพทย์เวร รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ไปชันสูตรศพ น.ส.ฉัตรอรุณ ขอดเรือนแก้ว อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 11 ต.แม่เจดีย์ใหม่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย และเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลังกระโดดแม่น้ำปิงฆ่าตัวตายใกล้กับสะพานนครพิงค์ ถนนวังสิงห์คำ ต.ศรีภูมิ เมื่อตอนดึกคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางน้ำเทศบาลนครเชียงใหม่ และนักประดาน้ำระดมกำลังงมค้นหาจนพบศพในสภาพสวมเสื้อคอกลมแขนยาวสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงวอร์ม สีน้ำเงินแถบสีแดง ไม่สวมรองเท้า ตามลำตัวไม่พบบาดแผลถูกทำร้าย แพทย์ลงความเห็นเสียชีวิตมาแล้ว 8-12 ชม. จึงนำศพส่งภาควิชานิติเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อผ่าพิสูจน์ให้แน่ชัดอีกครั้ง,จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงประมาณทุ่มเศษของวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีชาวบ้านพบกระเป๋าสะพายสีดำของผู้หญิง พร้อมกับรองเท้าแตะสีขาว 1 คู่ วางอยู่บริเวณท่าลงแม่น้ำปิง ข้างสะพานนครพิงค์ ฝั่งทิศใต้ ตรวจสอบแล้วไม่เห็นเจ้าของด้วยความสงสัยชาวบ้านแจ้งตำรวจไปตรวจสอบกระเป๋ากับรองเท้า ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ เดินทางไปตรวจสอบในกระเป๋าพบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ระบุชื่อ น.ส.ฉัตรอรุณ ขอดเรือนแก้ว อายุ 23 ปี และเบอร์โทร.ติดต่อญาติ จึงแจ้งญาติมาพบ จนทราบว่า น.ส.ฉัตรอรุณเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไปตรวจสอบหอพักย่านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่า น.ส.ฉัตรอรุณหายไปจึงประสานเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำลงงมค้นหาจนพบศพดังกล่าว,ต่อมาเจ้าหน้าที่และญาติร่วมตรวจค้นในห้องพักของผู้ตาย พบจดหมายลาตายเขียนด้วยลายมือของ น.ส.ฉัตรอรุณ มีข้อความเขียนทำนองเครียดปัญหาการเรียน ขณะเดียวกันตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบเบาะแสในเชิงลึกพบข้อมูลว่าผู้ตายสอบไม่ผ่านวิชาหนึ่ง ทำให้เรียนไม่จบพร้อมเพื่อน ปีนี้ต้องลงทะเบียนเรียนเป็นปีที่ 5 ทั้งที่ผู้ตายเรียนหลักสูตร 4 ปี แต่เพราะสอบไม่ผ่านเพียงวิชาเดียว ต้องมาลงทะเบียนเรียนซ้ำอีก จากพยานหลักฐานเจ้าหน้าที่ประมวลเหตุการณ์ลงความเห็นว่า ผู้ตายคงเครียดปัญหาการเรียน จนหมดทางออกตัดสินใจกระโดดแม่น้ำปิงฆ่าตัวตายในที่สุด,ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อกับผู้บริหารของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อขอทราบข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาที่ผู้ตายเรียนไม่จบ เพราะสอบไม่ผ่านวิชาหนึ่งนั้น ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อผู้บริหารของสถาบันได้ อีกทั้งผู้บริหารบางคนตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง มีเพียงเพื่อนนักศึกษาหลังทราบข่าวร้าย พากันไปดูศพผู้ตายที่ภาควิชานิติเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ กันหลายสิบคน บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าสลด เพื่อนแต่ละคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สาเหตุเชื่อผู้ตายคงเครียดปัญหาการเรียนแน่นอน ซึ่งรายละเอียดของคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนให้แน่ชัดอีกครั้ง
สลดสาวนักศึกษา มช.กระโดดแม่น้ำปิงฆ่าตัวตายอนาถ ทิ้งจดหมายลาตายในห้องพักมีข้อความทำนอง เครียดปัญหาการเรียน ขณะที่เพื่อนนักศึกษาระบุ ผู้ตายเรียนชั้นปี 4 คณะวิทยาศาสตร์ แต่สอบไม่ผ่านวิชาหนึ่ง
ข่าว,อาชญากรรม
นักศึกษากระโดดน้ำ,ฆ่าตัวตาย,นักศึกษาปี4,กระโดดแม่น้ำปิง,ข่าวหน้า 1,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1439288
เนปาลช้ำหนัก เจอดินไหวซ้ำ-อาฟเตอร์ช็อก 6.3 ดับเพิ่ม 68 ศพ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่เนปาลเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันอังคารที่ 12 พ.ค. เพียง 2 สัปดาห์หลังประเทศแถบภูเขาแห่งนี้เผชิญแผ่นดินไหวระดับ 7.8 เมื่อวันที่ 25 เม.ย. โดยแผ่นดินไหวระลอกล่าสุดสร้างความเสียหายเพิ่มเติมให้แก่อาคารบ้านเรือน และทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 68 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกราว 1,261 คน,ตามรายงานของสำนักสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) แผ่นดินไหวใหญ่ครั้งที่ 2 มีขนาด 7.3 แมกนิจูด จุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 15 กม. อยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางตะวันออกเฉียงเหนือเพียง 76 กม. และเพียงครึ่งชั่วโมงต่อมา ก็เกิดอาฟเตอร์ช็อก ความรุนแรง 6.3 แมกนิจูด ในพื้นที่เดียวกันนี้,แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดมีขนาดใกล้เคียงกับแผ่นดินไหววันที่ 25 เม.ย. แต่เมื่อเทียบในเชิงการปล่อยพลังงาน แผ่นดินไหวครั้งก่อน ถือว่ามีขนาดใหญ่กว่าถึง 3 เท่า และรุนแรงกว่าถึง 5.6 เท่า,อย่างไรก็ตาม ถึงแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดในเนปาลจะเบากว่า แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่สร้างความเสียหาย โดยนายคามาล สิงห์ บาม โฆษกตำรวจชาวเนปาล เปิดเผยว่า จนถึงคืนวันอังคารพวกเขาพบผู้เสียชีวิตในประเทศแล้ว 50 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,260 คน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังสามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากซากตึกที่พังถล่มเพราะแผ่นดินไหวครั้งใหม่ได้อีกหลายสิบคน,ความเสียหายยังกระจายออกไปยังประเทศข้างเคียง โดยสำนักข่าว ซินหัว ของจีน รายงานว่า มีผู้หญิงรายหนึ่งในทิเบตเสียชีวิตหลังจากมีหินร่วงลงมาจากภูเขามาทับรถของเธอ ขณะที่นายคัลดีป ธัตวาเลีย โฆษกกระทรวงมหาดไทยอินเดียเผยว่า พบผู้เสียชีวิตในประเทศอย่างน้อย 17 ราย,แผ่นดินไหวครั้งใหม่ยังสร้างความเสียหายต่อจิตใจของชาวเนปาล ที่ยังไม่หายหวั่นวิตกจากแผ่นดินไหว 7.8 เมื่อ 25 เม.ย. ชาวกรุงกาฐมาณฑุและพื้นที่อื่นๆ ตัดสินใจอาศัยอยู่ภายในเต็นท์กลางแจ้งต่อไป หลายคนไม่แน่ใจว่าจะได้กลับบ้านของพวกเขาอีกหรือไม่,ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เกิดดินถล่มที่เขตสินธุปัลโชค ทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักอยู่แล้วจากแผ่นดินไหวเมื่อเดือนก่อน บ้านเรือนหลายหลังในหลายชุมชนพังถล่มลงมา ด้านประชาชนที่เมืองลุคลา ซึ่งเป็นหน้าด่านสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ เร่งเดินทางไปยังสนามบินทันทีหลังเกิดแผ่นดินไหว เพื่อหาพื้นที่โล่งแจ้ง ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าเป็นที่ปลอดภัยที่สุดในขณะนี้,อนึ่ง เมื่อวันอังคาร นาวาเอก คริส ซิมส์ แห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ ออกมายืนยันว่า มีเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งเข้าร่วมสนับสนุนในปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ในเนปาล หายไป 1 ลำ ขณะที่พันเอก สตีฟ วอร์เรน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯระบุว่า เฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวเป็นรุ่น ยูเอช-1 ฮิวอี้ (UH-1 Huey) หายไปพร้อมนาวิกโยธิน 6 นาย และเจ้าหน้าที่ของเนปาลอีก 2 คน โดยจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมของเฮลิคอปเตอร์ลำนี้
เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในประเทศเนปาลซ้ำเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตามด้วยอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงถึง 6.3 แมกนิจูด ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 68 ราย รวมทั้งในอินเดียและทิเบต
null
แผ่นดินไหว,เนปาล,แผ่นดินไหวเนปาล,ช่วยเหลือ,คนไทย,เหยื่อแผ่นดินไหว,ค้นหาผู้รอดชีวิต,อาฟเตอร์ช็อก,เฮลิคอปเตอร์หาย,แผ่นดินไหวซ้ำ,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์,#NepalReport,#ไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/content/498441
13 นักกีฬาสควอชไทย พร้อมสู้ศึกซีเกมส์ มุ่งเป้าเหรียญทอง
วันที่ 17 มิ.ย. 60 นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะนายกสมาคมกีฬาสควอชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานแถลงข่าวการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่มาเลเซีย วันที่ 19-31 สิงหาคม และพิธีเปิดสิงห์ สควอช ไทยแลนด์ แชมเปียนชิพ 2017 ชิงแชมป์ประเทศไทย วันที่ 16-18 มิถุนายน ที่สนามกีฬาสควอช โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย,นายชลิตรัตน์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาสควอชฯได้จัดให้มีการแข่งขันสิงห์ แชมเปียนชิพ 2017 ชิงแชมป์ประเทศไทย เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี โดยมีสิงห์ คอร์เปอเรชั่น เป็นผู้สนับสนุน มีนักกีฬาทีมชาติชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่ประเทศมาเลเซีย เข้าแข่งขัน รวมทั้งนักกีฬาจากสโมสรต่างๆ ทั้งนักกีฬาไทยและต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทย รวมทั้งมีการอบรมหลักสูตรพื้นฐานผู้ตัดสินอีกด้วย หลังจากนี้จะมีการจัดการแข่งขันที่แบ่งเป็นระดับดิวิชั่นและจัดการแข่งขันในระดับอาเซียน เป็นครั้งแรกในปี 2560 นี้,สำหรับความพร้อมของนักกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 เรามีนักกีฬา 13 คน แยกเป็นชาย 7 คน หญิง 6 คน รวม 9 ประเภท ในการแข่งกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ เราได้ 2 เหรียญทองแดง จากชายคู่และหญิงคู่ มาครั้งนี้หวังผลงานไม่ต่ำกว่าครั้งที่แล้ว เป้าหมายสูงสุดอยากได้เหรียญทอง โดยนักกีฬาฝึกซ้อมที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ส่วนผู้ฝึกสอนทีมชายคือ เทอรี ชีทแทม อดีตนักกีฬาระดับทีมชาติจากออสเตรเลีย ส่วนทีมหญิงมี ครูยิ้ม พีรพล พูลศิริ เป็นผู้ฝึกสอน คู่แข่งมีเจ้าภาพ มาเลเซีย และสิงคโปร์ ส่วนไทยสูสีกับอินโดนีเซีย เพราะฉะนั้นตั้งเป้าไว้ที่ประเภทคู่ โดยในการเก็บตัวฝึกซ้อมครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่การฝึกซ้อมเป็นระบบมากขึ้น ในอนาคตอาจจะย้ายไปเก็บตัวตามภูมิภาคต่างๆ ที่มีสนามสควอช เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศการเก็บตัว นายชลิตรัตน์ กล่าว ,ด้าน ครูยิ้ม เปิดเผยว่า ตอนนี้ทีมหญิงมีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บ แต่ไม่น่าเป็นห่วง น่าจะหายทันตอนแข่ง ส่วน เทอรี กล่าวว่า การฝึกซ้อมตอนนี้มีความพร้อมมาก คาดว่าช่วงแข่งขันซีเกมส์จะเป็นช่วงที่พีคที่สุดของนักกีฬาไทย,สำหรับรายชื่อนักกีฬาสควอช ชุดซีเกมส์ 13 คน มีดังนี้ ชาย 7 คน ณัฐกิตติ์ จิวาสุวรรณ, ภูวิศร์ พูนศิริ, ฉัฏฐพร จันทนยิ่งยง, อนล ภัทรประสิทธิ์, พศวีร์ สันติวิสุทธิ์, อภิรมย์ ณ นคร, กฤติน จินดามัง ส่วนหญิง 6 คนอนันตนา ประเสริฐรัตนกุล, ภาณิษา สุวรรณรัตน์, ทัศดาว ธำรงลาภ, สุวิภา กิจวิจารณ์, ปรางหทัย พงษ์พัฒน์, ปวัณรัตน์ ธนสารศิลป์
สมาคมกีฬาสควอชแห่งประเทศไทยฯ เปิดตัว 13 ขุนพลชาย-หญิง สู้ศึกกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่ประเทศมาเลเซีย ตั้งเป้าขอคว้าเหรียญทอง
กีฬา,กีฬาอื่นๆ
นักกีฬาสควอช,ซีเกมส์,ชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา,สมาคมกีฬาสควอชแห่งประเทศไทย,สิงห์ สควอช ไทยแลนด์ แชมเปียนชิพ
https://www.thairath.co.th/sport/others/975850
2 หนุ่มซ้อนจยย. ชนกระบะออกจากปั๊มน้ำมันอย่างจัง เสียชีวิตทั้งคู่
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 8 ส.ค. 2563 ร.ต.อ.สมเกียรติ บุญมีจิว รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะและมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บนถนนพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ ขาออกเมือง บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน ต.ดอนทอง ไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ แบบ 2 ประตู สีทอง ทะเบียน บษ 2185 พิษณุโลก สภาพประตูฝั่งคนขับยุบพังเสียหายอยู่กลางถนน ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำแดง ทะเบียน 1 กณ 4708 กำแพงเพชร สภาพล้มคว่ำพังเสียหายยับเยินพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 2 ราย ทราบชื่อคือ นายเข้ม มีอำนาจ อายุ 20 ปี และนายฟลุ๊ค (ไม่ทราบนามสกุล) ทั้งคู่มีภูมิลำเนาอยู่ จ.ชัยภูมิ สภาพศพมีบาดแผลฉีกขาดฉกรรจ์ที่ใบหน้า ลำคอ มีแผลถลอกตามร่างกายหลายแห่ง นอนจมกองเลือดอยู่ใกล้ๆ กัน ตำรวจจึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างส่งให้แพทย์ชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ส่วนคนขับรถกระบะคู่กรณีทราบชื่อคือ นายธงชัย บัวเผื่อน อายุ 40 ปี อยู่ ต.อรัญญิก อ.เมืองพิษณุโลกตำรวจสอบสวน นายเทพฤทธิ์ มีอำนาจ อายุ 34 ปี พี่ชายของนายเข้ม ผู้เสียชีวิต ทราบว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสองคนทำงานรับจ้างก่อสร้างบริเวณใกล้เคียงกับ อบต.บ้านป่า พอเลิกงานได้พากันขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาซื้อของเพื่อกลับไปรับประทานกันในที่พักคนงาน ตนก็รออยู่ไม่เห็นมาเสียทีเลยขี่รถจักรยานยนต์ออกมาตามก็พบว่าน้องชายกับเพื่อนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปแล้วด้าน นายธงชัย บัวเผื่อน คนขับกระบะ ให้การว่า หลังเลิกงานตนเองขับรถกระบะแวะมาเติมน้ำมันที่ปั๊ม เมื่อเติมเสร็จได้ขับรถตรงออกมาเพื่อข้ามถนนมาอีกฝั่งบริเวณจุดยูเทิร์นกลับรถ ไม่ได้สังเกตว่ามีรถจักรยานยนต์ขับขี่มาด้วยความเร็วสูง จึงทำให้รถจักรยานยนต์พุ่งชนเข้ากับรถของตนอย่างจังเสียงดังสนั่น เมื่อลงรถมาดูก็พบว่าคนขับรถจักรยานยนต์และคนซ้อนท้ายเสียชีวิตแล้ว จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจทาง 191 เพื่อให้มาตรวจสอบ ตำรวจจึงได้เชิญตัวนายธงชัยไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองพิษณุโลก และจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนศพจะมอบให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.
สองหนุ่มซ้อนรถจักรยานยนต์ออกมาซื้อของ ระหว่างทางพุ่งชนรถกระบะที่ขับตรงออกจากปั๊มน้ำมันมาบริเวณจุดยูเทิร์น จนเสียชีวิตทั้ง 2 ราย
ข่าว,ทั่วไทย
จักรยานยนต์ชนกระบะ,อุบัติเหตุ,ทางกลับรถ,ปั๊มน้ำมัน,พิษณุโลก,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1906623
หนุ่มยิงตัวดับคาบ้าน พี่สาวเช็กภาพวงจรปิดจากมือถือ เอะใจนอนไม่ขยับ
,เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 12 ม.ค.62 ร.ต.ท.กฤษณะ ชนิดไทย รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางปะอิน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตด้วยการยิงตัวตาย 1 ราย ภายในบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 1 ต.บ้านแป้ง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์,ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสร้างใหม่ 2 ชั้น ยกใต้ถุนสูง ตรวจสอบภายในห้องรับแขก บริเวณโซฟา พบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายวิวัฒน์ รอบคอบ อายุ 37 ปี โดยสภาพศพนั่งอยู่บนโซฟา ลำตัวเอียงไปด้านข้าง ที่ขมับขวา พบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .357 มีเลือดไหลนองจำนวนมาก ที่โต๊ะรับแขก พบกระสุนปืน ขนาด .357 จำนวน 5 นัด มีขวดสุราเหลืออยู่เกือบครึ่งขวด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง แก้วและขวดน้ำดื่ม,ที่พื้นบ้านระหว่างเท้าผู้เสียชีวิต พบอาวุธปืนขนาด .357 ตกอยู่ 1 กระบอก ภายในลูกโม่ พบปลอกกระสุนปืนจำนวน 1 ปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน,จากการสอบถาม นายประมวล กลันทกสุวรรณ อายุ 50 ปี พี่เขยของผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่บ้านละแวกใกล้เคียง ทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นช่างรับเหมาระบบไฟฟ้าตามบริษัท แต่เพิ่งลาออกจากงานมาไม่ถึงสัปดาห์ และบ้านหลังเกิดเหตุก็เพิ่งจะสร้างเสร็จ โดยมีบ้านพี่สาวและญาติปลูกอยู่ติดๆ กัน ผู้เสียชีวิตปกติเป็นคนร่าเริงดี ไม่เคยบ่นหรือเล่าปัญหาอะไรให้คนในครอบครัวฟัง แต่ทราบว่ากำลังเก็บเงินเตรียมที่จะแต่งงานในเร็วๆ นี้,เมื่อช่วงเย็นเมื่อวานยังไปรับประทานอาหารที่บ้านของตนกับพี่สาว ก่อนจะแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน จนช่วงสายที่ผ่านมา พี่สาวของนายวิวัฒน์ ได้เปิดดูภาพจากกล้องวงจรปิดผ่านมือถือ ก็แปลกใจว่า ทำไมน้องชายยังนั่งตะแคงเหมือนคนนอนท่าเดิม ไม่ขยับไปไหน จึงรีบมาดูที่บ้าน ก็พบว่าน้องชายใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตแล้ว,ซึ่งตนสันนิษฐานว่า นายวิวัฒน์ น่าจะเกิดความเครียด หรือน้อยใจแฟนสาวที่ทำงานอยู่ไกลกัน แต่ก็ไม่น่าคิดสั้นแบบนี้เลย เพราะรู้มาว่าผู้ตายลาออกจากงาน เตรียมจะเดินทางไปทำงานกับแฟน และทราบว่าแฟนสาวจะกลับมาพรุ่งนี้ เพื่อมารับนายวิวัฒน์ไปทำงานด้วยกัน,ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าผู้ตายนั่งดื่มสุราเพียงคนเดียวภายในบ้าน จนช่วงเวลาประมาณ 05.30 น. ได้เดินไปสวมเสื้อ ก่อนนั่งลงที่โซฟาแล้วบรรจุกระสุนปืน ใส่ไปในลูกโม่จำนวน 1 นัด แล้วก็นั่งดื่มสุราต่อ จนเวลาผ่านไป ได้หยิบอาวุธปืนขึ้นมา 2 ครั้ง จ่อที่ศีรษะแล้ววางอาวุธปืนลง ก้มหน้าคิดอะไรสักพัก ก่อนยกมาจ่อ พร้อมลั่นไกยิงตัวเองจนเสียชีวิตดังกล่าว,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่าผู้เสียชีวิตมีความเครียดเรื่องส่วนตัว และน้อยใจแฟนสาวที่อยู่ห่างกัน แต่อย่างไรก็ตาม จะทำการสอบสวนญาติพี่น้องและแฟนสาวอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.
พบศพหนุ่มวัย 37 ปี อดีตช่างรับเหมาระบบไฟฟ้า ยิงตัวดับคาบ้าน พี่สาวเช็กภาพวงจรปิดจากมือถือ เอะใจนอนไม่ขยับ รีบมาดู พบเป็นศพแล้ว คาดเครียดเรื่องส่วนตัว พบเก็บเงินเตรียมแต่งแฟนสาวเร็วๆ นี้
ข่าว,ทั่วไทย
ยิงตัวตาย,อดีตช่างไฟ,เครียดส่วนตัว,ฆ่าตัวตาย,วงจรปิด,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1468209
หนุ่มหึงโหด ทุบหัวสาวขายบัตรเครดิตดับ อ้างถูกด่าบุพการี
วันที่ 2 ก.พ. 58 พ.ต.อ.ชัยพร บุญเจริญ ผกก.สน.อุดมสุข เปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุม นายประเสริฐ โพธิ์ขำ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ภายหลังจากตำรวจ สน.อุดมสุข รับแจ้งพบศพ น.ส.พรชนก กล้าหาญ อายุ 26 ปี พนักงานขายบัตรเครดิต ธนาคารแห่งหนึ่ง ถูกคนร้ายทุบด้วยของแข็งก่อนรัดคอ นอนเสียชีวิตภายในแมนชั่นแห่งหนึ่งในซอยทุ่งเศรษฐี แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ,จากการสอบสวน นายประเสริฐ ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ตนลงมือทำลงไป เนื่องจากบันดาลโทสะ ที่ผู้ตายโทรศัพท์ไปคุยกับเพื่อนชายอยู่บ่อยครั้ง เมื่อตนห้ามก็ไม่ฟัง จนหนักเข้าก็ทะเลาะกันมากขึ้น ถึงขั้นถูกผู้ตายด่าบุพการี จึงใช้ดัมเบลล์ทุบเข้าที่ด้านหลังศีรษะ ก่อนใช้มือบีบคอ และใช้สายไฟของเครื่องหนีบผมรัดคอผู้ตายจนเสียชีวิต,อย่างไรก็ตาม ตนสำนึกผิด จึงเขียนจดหมายตัดพ้อสาเหตุที่ต้องลงมือฆ่า แล้วก็ใช้สายไฟเส้นเดียวกันรัดตัวเองให้ตายตาม แต่ปรากฏว่าไม่เป็นผล จึงหลบหนีไปหลบอยู่บ้านคนงานสวนลำไย ที่ จ.ลำพูน กระทั่งถูกจับได้ดังกล่าว และได้มีการแถลงผลการจับกุมในวันนี้ ( 2ก.พ.) จากนี้เจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป.
ตำรวจ สน.อุดมสุข ทำการจับกุมหนุ่มหึงโหด ฆ่าสาวขายบัตรเครดิต สารภาพโมโหผู้ตายชอบคุยโทรศัพท์กับชายอื่นและด่าบุพการี จนเดือดคว้าดัมเบลล์ทุบหัว แล้วใช้สายไฟรัดคอดับคามือ
ข่าว,ทั่วไทย
สน.อุดมสุข,อุดมสุข,ไทยรัฐออนไลน์,หึงโหด,อาชญากรรม,ฆ่าสาวขายบัตรเครดิต,กสิกรไทย,ข่าว,ฆ่าผู้อื่น
https://www.thairath.co.th/news/local/478678
กระทิง พัก คอสตา เรียก โมราตา คัดยูโร
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 27 พ.ค. ว่า กระทิงดุ ทีมชาติสเปน เรียก อัลบาโร โมราตา หัวหอกทีม ม้าลาย ยูเวนตุส สโมสรแชมป์ลีกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี เข้าร่วมทีมอุ่นเครื่องกับ คอสตา ริกา ในวันที่ 11 มิถุนายนนี้ ก่อนจะลงสนามทำศึกรอบคัดเลือก ยูโร 2016 กับ เบลารุส ในอีก 3 วันถัดมา,บิเซนเต เดล บอสเก เทรนเนอร์ทัพ กระทิงดุ ได้ตัดสินใจเรียก โมราตา มาร่วมทีมหลังซัด 2 ประตูสำคัญพา ยูเวนตุส เข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ขณะที่ ดิเอโก คอสตา กองหน้าตัวเก่งของ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ไม่มีชื่อเนื่องจากยังไม่ฟิตเต็มร้อย เช่นเดียวกันกับ ฆวน มาตา กองกลางของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ทั้งนี้ ผู้เล่นของ บาร์เซโลนา และ ยูเวนตุส จะได้เข้าร่วมแคมป์ทีมชาติช้ากว่ากำหนดเนื่องจากมีโปรแกรมดวลกันในรอบชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีก ในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ ทำให้ เดล บอสเก กางแผนสำรองเรียก 5 ดาวรุ่งมาเตรียมความพร้อมได้แก่ จอนนี กาสโตร,รูเบน ดูอาร์เต,ฆวนมี,โฆเซ กายา และ ซาฮุ.,รายชื่อทีมชาติสเปน,ผู้รักษาประตู :, อิเกร์ กาซิยาส, ดาบิด เด เคอา, เซร์คิโอ ริโก,กองหลัง :, ฆวนฟราน, เดเนียล การ์บาฆาล, เคราร์ด ปิเก, มาร์ค บราตา, เซร์คิโอ รามอส, ฆอร์ดี อัลบา, ฆวน เบร์นาต, มิเกล ซาน โฆเซ, ,กองกลาง :, เซร์คิโอ บุสเกตส์, โนลิโต, โกเก, ซานติ กาซอร์ลา, อันเดรส อิเนียสตา, เซส ฟาเบรกาส, อิสโก, อเลกซ์ วิดัล, บิโตโล, ดาบิด ซิลบา,กองหน้า :, อัลบาโร โมราตา, ปาโก อัลคาเซร์, เปโดร โรดริเกวซ
กระทิงดุ ทีมชาติสเปน เรียก อัลบาโร โมราตา หัวหอก ม้าลาย ยูเวนตุส เข้าร่วมทีมอุ่นเครื่องกับ คอสตา ริกา ก่อนจะทำศึก ยูโร 2016 รอบคัดเลือกับ เบลารุส ขณะที่ ดิเอโก คอสตา แข้งจอมดุไม่มีชื่อในทีม…
null
ยูโร 2016,สเปน,กระทิงดุ,คอสตา ริกา,เบลารุส,อุ่นเครื่อง,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/501503
วิเคราะห์ ทิศทางผู้ท้าชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ก่อนจะประชุมใหญ่วันที่ 15 พ.ค.นี้ แคนดิเดตหัวหน้าพรรคทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกรณ์ จาติกวณิช รักษาการรองหัวหน้าพรรค นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดแสดงวิสัยทัศน์นอกรอบต่อสมาชิก เพื่อพิจารณาประกอบการตัดสินใจลงมติไปแล้วแนวทางของผู้ท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแต่ละคน แม้ยังไม่ฟันธงชัดแต่ 3 ใน 4 คน คือนายกรณ์ นายอภิรักษ์ และนายพีระพันธุ์ มองเห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะนำพาพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ โดยส่งสัญญาณผ่านการแสดงวิสัยทัศน์นอกรอบโดยเฉพาะนายอภิรักษ์ และนายพีระพันธุ์ ที่ประกาศว่าจะไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีหากได้ร่วมรัฐบาล และมีเพียงนายจุรินทร์เท่านั้น ที่ไม่แสดงท่าทีใดๆ เกี่ยวกับการตัดสินใจร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลแต่จุดร่วมที่ปรากฏในวิสัยทัศน์ของผู้ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็คือการแสดงเจตนาที่จะฟื้นฟูและสร้างความเข้มแข็งให้กับพรรค หลังจากพ่ายแพ้การเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 และสิ่งที่ผู้อาวุโสของพรรคอย่างนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ หรือในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่ง แสดงความเป็นห่วงคือเรื่องความขัดแย้งและปัจจัยภายนอกที่พยายามเข้ามาครอบงำขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อีกคน เชื่อมั่นว่า การพิจารณาเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่จะไม่ทำให้พรรคเกิดการแบ่งฝ่ายกัน และชี้ว่า การตัดสินใจทางการเมือง จะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลกับฝ่ายใด ขึ้นอยู่กับมติพรรคโดยคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่จะชี้ขาดการลงมติเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในที่ประชุมใหญ่ วันที่ 15 พ.ค.นี้ ถ้ากางข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ จะเห็นว่า อำนาจการลงมติของคณะกรรมการบริหารพรรคนั้น น้ำหนักคะแนนอยู่ที่สัดส่วนของ ส.ส. ถึงร้อยละ 70 และ ส.ส.ของพรรคจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด มีจำนวน 52 คน เมื่อเทียบจากตัวบุคคล จะมี ส.ส.เขต 33 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 19 คน โดย ส.ส.เขตส่วนใหญ่เป็น ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ ขณะที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ก็เป็นบุคลากรในระดับแกนนำพรรค ผู้อาวุโสของพรรค และส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์
แคนดิเดตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 4 คน ได้แสดงวิสัยทัศน์กับสมาชิกพรรคแล้ว และจะเป็นไปตามกำหนดการว่า ที่ประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 พ.ค.นี้ จะได้รู้ว่าใคร คือหัวหน้าพรรคคนใหม่ตัวจริง
การเมือง
จุรินทร์,อภิรักษ์,พีระพันธุ์,กรณ์,ประชาธิปัตย์
https://news.thaipbs.or.th/content/279965
ส่องความหล่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง 62 อำนาจทางเพศผ่านสายตาที่ชวนคุณเข้าคูหากาใจเขา
ในสนามการเลือกตั้ง 2562 ที่คนไทยรอกันมานามนมนั้น ประเด็นหนึ่งที่ผู้คนให้ความสนใจคือบรรดา หน้าตา ของผู้สมัครรับเลือกตั้งและสมาชิกพรรคที่พร้อมเพรียงกันมาร่วมช่วงชิงพื้นที่สื่อและที่นั่งในสภา ซึ่งไม่ได้หมายถึงหน้าตาทางสังคมแต่อย่างใด แต่กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจกันมากคือ หน้าตา อันหมายถึงบุคลิกภาพและความหล่อเหลาของบุคคลเหล่านั้นเราค้นพบว่าในยุคที่เราใช้โซเชียลมีเดียกันอย่างแพร่หลายกว่าเมื่อก่อน เทคโนโลยีการสื่อสารทำให้เราได้เห็นภาพของผู้สมัครรับเลือกตั้งและสมาชิกพรรคอย่างกว้างขวางขึ้น รู้จักตัวตนของเขามากขึ้นผ่านสื่อหลักและสื่อส่วนตัว เราได้เห็นตั้งแต่ไลฟ์สไตล์ของเขาที่อยู่นอกเหนือจากการรับบทผู้ท้าชิงที่พูดปราศรัยอย่างเข้มข้นและดุเดือด ไปจนถึงชีวิตรักและชีวิตครอบครัว หรือแม้แต่การได้เห็นผู้แทนเหล่านั้นในลุคอื่นๆ ที่ไม่ใช่เพียงใส่สูทผูกไทให้ดูน่าอึดอัดใจ อย่างเช่นที่เราได้ชื่นชมความหล่อเหลาและสุภาพของ ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ กันมาตั้งแต่สมัยที่คุณน้าของเขายังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อหลายปีก่อน หรือการมาถึงของ เอก-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ผู้คนต่างหลงใหลในภาพกล้ามล่ำๆ ของเขาและวิถีการออกกำลังกายที่ปล่อยออกมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราไม่ได้ต้องการให้คุณรู้สึกว่าเรากำลังละลาบละล้วงทางเพศแต่อย่างใด แต่เราต้องการสำรวจรูปร่างหน้าตาของพวกเขาที่มีผลต่อการรับรู้ของประชาชน หรือส่วนที่ทำให้ผู้คนสนใจในตัวพวกเขาต่างหากPhoto: Instagram @thanathorn.igแท้จริงแล้วคำว่า ความหล่อ เป็นเรื่องปัจเจกบุคคลมากๆ หมายถึงทุกคนต่างมีนิยามและความหมายของความหล่อในแบบของตัวเองที่แตกต่างกันทั้งเชื้อชาติ ศาสนา สีผิว หรือลักษณะทางกายภาพ คำถามที่เกิดขึ้นเล็กน้อยคือทำไมสังคมถึงให้ความสนใจ ความหล่อ หรือ เรือนร่าง ของเพศชายอย่างอัตโนมัติ เช่น การมีอยู่ของโพสต์จากเพจในเฟซบุ๊กที่รวบรวมภาพความหล่อของพวกเขา หรือการที่ประโยค เอากับผมไหม? จากปากธนาธรกลายเป็นความหมายสองแง่สองง่ามที่หลากหลายกลุ่มนำไปแซวกันจนเป็นเรื่องสนุก ปัจจัยทั้งหมดนั้นไม่ใช่แค่เพราะเราอยู่ในช่วงเลือกตั้งที่ต้องเห็นพวกเขาตามสื่ออย่างต่อเนื่อง พวกเขาจึงถูกพูดถึงในแง่มุมต่างๆ แต่เราอาจหมายรวมถึง อำนาจทางเพศ ที่ถูกปลูกฝังกันมานานในสังคมที่ทำให้ประเด็น ความหล่อ กลายเป็นที่สนใจอำนาจทางเพศที่เรากำลังกล่าวถึงคืออำนาจของเพศชายในสังคมที่ชายเป็นใหญ่ (Patriarchy) การที่เพศชายนั้นยังคงมีอำนาจเหนือเพศอื่นๆ ในสังคม รวมไปถึงคอนเซปต์ของเพศชายในกลุ่มคนหลากหลายทางเพศส่วนหนึ่งที่ยังคงแบ่งความเป็นชายเป็นหญิงในเพศวิถีของตนอีกด้วย (อาทิ การแบ่งแยกเกย์รุก และเกย์รับ) ที่ทำให้เพศชายได้รับการยอมรับมากกว่าเพศอื่นเสมอในแง่ของการเป็นผู้นำ และความหล่อดังกล่าวที่ผู้คนเห็นคือ ภาพแทน หนึ่งของอำนาจนั้น เพราะการที่ผู้ลงสมัครเลือกตั้งสักคนหนึ่ง มีบุคลิกภาพที่ดี มีเครื่องหน้าแบบที่สังคมนิยม นั่นเท่ากับพวกเขาจะได้รับความสนใจในทันที เพราะสิ่งที่เราได้เห็นผ่านสายตาก่อนเป็นลำดับแรกเสมอคือ ร่างกาย (Body) ก็เหมือนเวลาเราชี้ชวนให้เพื่อนเราดูคนอื่น คนนั้นหล่อจัง คนนี้หุ่นดีจัง นั่นแหละ และยิ่งถ้าเขาคนนั้นที่พวกเราคิดว่าหล่อ พ่วงมาด้วยภาวะของความเป็นผู้นำ อดทน กล้าหาญ เข้มแข็ง สิ่งเหล่านี้นับเป็นสูตรสำเร็จของเพศชายที่สังคมเข้าใจ ยิ่งสร้างพลังของอำนาจทางเพศนี้ให้แข็งแรงยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งหากลองมองในทางกลับกัน หากคุณได้พบเห็นผู้แทนผู้หญิง ผู้แทนเกย์ ผู้แทนเลสเบี้ยน หรือผู้แทนทรานส์ที่มีภาวะความเป็นผู้นำ มีบุคลิกภาพที่ดึงดูดคุณแบบนั้นบ้าง แน่นอนว่าอำนาจทางเพศของพวกเขาก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยงานวิจัยเรื่อง Halo Effects and the Attractiveness Premium in Perceptions of Political Expertise ของ คาร์ล แอล. พาลเมอร์ และโรลฟ์ ดี. ปีเตอร์สัน ในปี 2016 ได้อธิบายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหน้าตาและภาพลักษณ์ของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งไว้ว่า ความน่าสนใจที่เกิดขึ้นในภาพของผู้แทนที่คุณเห็นในสื่อของพวกเขาจะมีกลไกคล้ายกับการที่เราเปิดหน้าหนังสือสักเล่มแล้วเลือกมองภาพก่อนที่จะเริ่มอ่านข้อความ เพราะสิ่งนั้นคล้ายกับจุดดึงดูดสายตาให้คุณสนใจ และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับภาพของผู้แทนที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง เราจะสนใจในภาพลักษณ์และตัวตนของเขาก่อนที่จะเริ่มสนใจว่าเขากำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ และภาพที่นำเสนอนั้นส่วนใหญ่มักจะเป็นภาพของมนุษย์ที่คล้ายคลึงกัน ต้องมีความน่าเชื่อถือและความจริงใจ ซึ่งล้วนเป็นภาพของผู้แทนในสภาที่อยู่ในอุดมคติของประชาชน ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว หมายความว่าเราตัดสินใจลงคะแนนให้ผู้แทนผ่านสายตามากกว่านโยบายของพวกเขาหรือเปล่า คำตอบคือแล้วแต่คุณจะเป็นคนตัดสินใจ แน่นอนว่าการเมืองในประเทศไทย เราใส่ใจกับการเลือกพรรคที่รัก ไม่มักพรรคที่ชังกันมาเสมอ ฉะนั้นการมาถึงของผู้สมัครรับเลือกตั้งหน้าใหม่ๆ จึงเป็นความน่าสนใจที่น่าจับตามองในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าจะมีแรงกระเพื่อมใหม่ๆ เกิดขึ้นหรือไม่จากนโยบายของพวกเขาแต่เราขอข้ามผ่านนโยบายที่คุณต้องไปศึกษาและหาข้อมูลกันอีกที แล้วมาโฟกัสเพียงแค่ใบหน้าอันหล่อเหลา และสิ่งที่ว่าที่ผู้ลงสมัครเลือกตั้งเหล่านี้ต้องการนำเสนอตัวตนผ่านสายตาให้เราเห็น มาดูกันว่า ณ สนามเลือกตั้งที่รอคอยกันมากว่า 8 ปีเต็ม มีหนุ่มๆ คนไหนถูกพูดถึงอยู่บ้างPhoto: Instagram @thanathorn.igธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจหนุ่มวัย 40 ปีที่เข้ามาลงสมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีภายใต้สังกัดพรรคสีส้ม อนาคตใหม่ มีหลายๆ คนอ้างอิงความหล่อเหลาของเขาเหมือนดาราญี่ปุ่น ซึ่งจากการสังเกต เราค้นพบว่าธนาธรน่าจะเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งคนแรกๆ ที่ถูกกระทำให้กลายเป็น วัตถุทางเพศ (Sex Object) ด้วยการมีข้อความล่วงละเมิดทางเพศ หรือการนำเอาภาพของเขาไปปะติดกับโลโก้ของค่ายหนังโป๊เกย์ญี่ปุ่น ซึ่งอาจมองได้ว่าเป็นความไม่เหมาะสม หรือในอีกแง่หนึ่งคือการเกิดภาพจำของตัวเขาจากกรณีดังกล่าว แต่ความน่าสนใจในความหล่อของเขามีมากกว่านั้น ด้วยไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจทั้งการเป็นนักธุรกิจ เล่นดนตรี ออกกำลังกายเอ็กซ์ตรีม ปั่นจักรยาน และการไม่มีมาดของเขามากนัก สังเกตเห็นได้จากการโพสต์รูปในอินสตาแกรมส่วนตัวที่เผยให้เห็นอิริยาบถต่างๆ ที่เรียบง่าย จึงทำให้ธนาธรเป็นหนุ่มหล่อผู้ก่อตั้งพรรคคนแรกๆ ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากPhoto: Instagram @paritwพริษฐ์ วัชรสินธุหนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งไฟแรงที่น่าชื่นชมทั้งในเรื่องทัศนคติและความเป็น คนรุ่นใหม่ ที่น่าสนใจ ด้วยวัยเพียง 27 ปี รอยยิ้มและความคมเข้มของใบหน้าเป็นสิ่งที่เราสามารถจดจำเขาได้ตั้งแต่ครั้งแรกๆ แถมความโชคดีของพริษฐ์คือการที่เขาอยู่ในหน้าสื่อมานานหลายปี เราจึงพอจะรู้จักเขาในฐานะอื่นๆ มาบ้าง ทั้งเป็นหลานชายของอดีตนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือการที่เขาคบหาดูใจกับอดีตคนรักอย่าง ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ นางเอกจากวิกพระรามสี่ โดยพริษฐ์เองเดินหน้าสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ในชื่อกลุ่ม New Dem ซึ่งมีความน่าสนใจในการดึงเอาจุดเด่นของกลุ่มคนรุ่นใหม่ออกมาตั้งคำถามกับค่านิยมเดิมๆ ของสังคมที่สืบทอดกันมาPhoto: Instagram @eggkanawatคณวัฒน์ จันทรลาวัณย์อีกหนึ่งหนุ่มจากบ้านประชาธิปัตย์ที่มีดีกรีเป็นอดีตนักแสดงมาก่อนจากภาพยนตร์เรื่อง เฟรนด์ชิพ เธอกับฉัน เมื่อปี 2551 ปัจจุบันคณวัฒน์เป็นตัวแทนลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 7 ประกอบไปด้วยเขตบางซื่อและเขตดุสิต ความน่าสนใจของหมอเอ้ก คณวัฒน์ คือการนำเสนอประเด็นการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับกัญชา ในฐานะที่เขาเองก็เป็นนายแพทย์ จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญในงานศึกษาวิจัยพืชชนิดดังกล่าว นับว่าเป็นจุดแข็งที่น่าสนใจ พ่วงด้วยดีกรีของการเป็นนายแบบและนักแสดงมาก่อน เราพบว่าทุกภาพในอินสตาแกรมส่วนตัวของเขานั้นน่ามองไปเสียหมดPhoto: Instagram @klaothamatas และชาติกล้า สำเนียงแจ่มเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์หนึ่งในแกนนำจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งเราขอข้ามในส่วนของนโยบายพรรคหรือกิจกรรม การเดินคารวะแผ่นดิน อันเป็นภาพจำของพรรคนี้ไปก่อน เรากลับพบว่าเขตรัฐเป็นอีกคนที่น่าสนใจในแง่การใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่มีการปกครองสองรูปแบบทั้งเสรีนิยมและเผด็จการ จากการที่เขาเติบโตมาในสังคมของสหรัฐอเมริกาและจีน ด้วยวัยเพียง 29 ปี บวกกับรูปร่างหน้าตาที่น่ามอง นี่จึงเป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่น่าสนใจในการเลือกตั้งครั้งนี้หรือครั้งต่อๆ ไปPhoto: Instagram @wayots6 และ THE STANDARDวาโย อัศวรุ่งเรืองอดีตคนคว้าดาวจากเวที เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 6 (ปีเดียวกันกับ กัน-นภัทร อินทร์ใจเอื้อ โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ และริท-เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช) ในกรณีที่คุณเคยชมรายการดังกล่าวจะพบว่าหมอเก่ง วาโย เป็นผู้ชายไม่กี่คนที่ ตกรอบแรก ในการประกวดของรายการนี้ ไม่ใช่เพราะเขาไม่มีเสน่ห์ แต่เขาอาจไม่ได้เป็นผู้เข้าประกวดในแบบที่ผู้ชมตามหา ปัจจุบันวาโยในวัย 32 ปีรับหน้าที่รองโฆษกประจำพรรคอนาคตใหม่ ทั้งยังมีดีกรีการศึกษาการันตีถึง 6 ใบในหลากหลายสาขา ทั้งด้านแพทยศาสตร์บัณฑิต นิติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ กฎหมายการแพทย์ และบริหารธุรกิจ นับเป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่มีความรอบรู้และน่าจับตามองมากกว่าความน่ารักและความหล่อตามแบบสมัยนิยมที่เขาเป็นPhoto: Instagram @pongkasem_sพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐปิดท้ายด้วยอีกคนที่ก้าวออกจากหน้าจอตู้สู่สนามการเมือง พงศ์เกษมคืออดีตผู้ประกาศข่าวที่ไปปรากฏตัวมาแล้วหลายช่อง ตั้งแต่ช่อง 9 ช่อง 7 และงานสุดท้ายก่อนลาออกมาร่วมการเมืองอย่างผู้ประกาศข่าวช่องวัน นอกเหนือจากบุคลิกภาพที่ถูกเทรนมาเป็นอย่างดีเพื่อออกหน้ากล้อง สิ่งที่เชื่อมือเขาได้คือการพูดจาที่น่าฟัง ฉะฉาน และชัดเจน โดยพงศ์เกษมนั้นเข้าสู่เกมการเมืองนี้ในฐานะโฆษกพรรคไทยรักษาชาติที่เหลือก็อยู่ที่คุณแล้วว่า 24 มีนาคมนี้จะเข้าคูหากาใจคนไหน?พิสูจน์อักษร: อ้างอิง:
คำว่า ความหล่อ เป็นเรื่องปัจเจกบุคคลมากๆ หมายถึงทุกคนต่างมีนิยามและความหมายของความหล่อในแบบของตัวเองที่แตกต่างกันทั้งเชื้อชาติ ศาสนา สีผิว หรือลักษณะทางกายภาพงานวิจัยเรื่อง Halo Effects and the Attractiveness Premium in Perceptions of Political Expertise ของ คาร์ล แอล. พาลเมอร์ และโรลฟ์ ดี. ปีเตอร์สัน ในปี 2016 ได้อธิบายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหน้าตาและภาพลักษณ์ของผู้ลงสมัครเลือกตั้งไว้ว่า ความน่าสนใจที่เกิดขึ้นในภาพของผู้แทนที่คุณเห็นในสื่อ มีกลไกคล้ายกับการที่เราเปิดหน้าหนังสือสักเล่มแล้วเลือกมองภาพก่อนที่จะเริ่มอ่านข้อความธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ น่าจะเป็นผู้ลงสมัครเลือกตั้งคนแรกๆ ที่ถูกกระทำให้กลายเป็น วัตถุทางเพศ (Sex Object) ด้วยการมีข้อความล่วงละเมิดทางเพศ หรือการนำเอาภาพของเขาไปปะติดกับโลโก้ของค่ายหนังโป๊เกย์ญี่ปุ่น ซึ่งเราอาจมองได้ว่าเป็นความไม่เหมาะสม หรือในอีกแง่หนึ่งคือการเกิดภาพจำตัวเขาจากกรณีดังกล่าว
null
null
https://thestandard.co/thailandelection2562-eyes-attractive-candidates/
มาร์ค ย้ำไม่ถึงจุดต้องมี รบ.เฉพาะกาล เชื่อยังเดินหน้าเลือกตั้งได้
ต่อไปได้,เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ก.พ. 2562 ที่แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ซ.ศูนย์วิจัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข้อเสนอของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ที่ระบุขอให้มีการตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลเพราะหวั่นจะเกิดความขัดแย้งซ้ำรอยในอดีต ว่า บรรยากาศบ้านเมืองในขณะนี้อาจจะมีความสับสนอยู่บ้าง จึงมีการออกมาเสนอเรื่องการตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล แต่ตนยังไม่เห็นเหตุผลอะไรที่ต้องมาถึงจุดนั้น เพราะขณะนี้การเลือกตั้งยังเดินหน้าต่อได้ จึงขอให้ทุกฝ่ายทำตามกติกาเพราะประชาชนคาดหวัง ว่าจะมีการเลือกตั้งตามกำหนด ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่เสียสมาธิให้ความสำคัญคือ ทำอย่างไรให้การเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนได้ใช้เป็นโอกาสทำให้บ้านเมืองเดินหน้าและคุณภาพชีวิตดีขึ้น และยอมรับว่า ขณะนี้มีข่าวลือออกมาค่อนข้างมาก จึงขอให้ประชาชนและสังคมไทยกลั่นกรอง อย่าหวั่นไหว ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์แสดงออกให้ประชาชนได้เห็น ว่าอย่าไปหวั่นไหวขอให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองไปแล้วบ้านเมืองก็จะเดินหน้าไปได้ เพราะข่าวลือก็คือข่าวลือ ,ส่วนกรณีที่ นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ดูแลพื้นที่อีสาน ไม่พอใจที่ถูกจัดลำดับบัญชีรายชื่อลำดับที่ 40 และโพสต์ลงในกลุ่มไลน์ ส.ส.พรรคว่า เป็นเรื่องภายในของพรรค โดยการพิจารณาบัญชีรายชื่อในส่วนของพรรคพิจารณาจากหลายปัจจัยและไม่ได้มีอะไรเป็นตัวนำ หรือเน้นเรื่องกลุ่มทุนตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ แต่เป็นการพิจารณาอย่างรอบด้านปรึกษาผู้ใหญ่ในพรรคก่อนที่จะตัดสินใจ ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ทุกคนพอใจ แต่เชื่อว่าในที่สุดทุกคนจะเดินหน้าไปด้วยกัน เพราะทุกคนล้วนมีบทบาทในการช่วยงานของพรรค และยังเชื่อว่านายวิฑูรย์อยู่ในลำดับที่จะได้เป็น ส.ส โดยเชื่อว่ากรณีที่เกิดขึ้นไม่ทำให้เกิดปัญหาภายในกระทบกับพื้นที่อีสาน.
มาร์ค ย้ำไม่ถึงจุดต้องมีรัฐบาลเฉพาะกาล ยังเดินหน้าเลือกตั้งได้ เชื่อจัดลำดับบัญชีรายชื่อ ส.ส. พรรคไม่บานปลาย พร้อมขอให้สังคมไทย อย่าหวั่นไหวต่อข่าวลือที่ปล่อยออกมา เชื่อบ้านเมืองจะเดินหน้า
เลือกตั้ง
เลือกตั้ง62,ประชาธิปัตย์,บัญชีชื่อส.ส.,รบ.เฉพาะกาล,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1493546
บอร์ดอิตาเลียนไทย ยังไม่มีมติ เปรมชัย ล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่
วันนี้ (9 ก.พ.2561) มีรายงานว่าคณะกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ไอทีดี เรียกประชุมตั้งแต่วันแรกหลังจากเกิดเหตุการณ์จับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต เพื่อหารือว่าจะดำเนินการกับเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการประชุมในทุกวันนายเปรมชัย เดินทางมาร่วมประชุมเฉพาะวันแรก และหลังจากนั้นไม่ได้มาเข้ามาร่วมประชุมอีกทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทยังไม่มีการสรุปผลการประชุมว่าจะดำเนินการกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไรนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีการเสนอให้ขึ้นแบล็กลิสต์ บริษัท อิตาเลียนไทย ในการทำสัมปทานกับรัฐ หลังเจ้าหน้าจับกุมนายเปรมชัยนั้น ขณะนี้คงยังไม่ถึงขั้นนั้น เร็วไปที่จะพูด เพราะไม่ได้ผิดในนามของบริษัท แต่เป็นการทำผิดของส่วนบุคคล การสัมปทานกับรัฐต้องไปประมูลในบริษัทนี้มีหลายหุ้นส่วนดังนั้นจะไปเอาผิดทั้งบริษัทไม่ได้ เพราะคนอื่นไม่ได้รู้เรื่องด้วย กรณีนี้อาจเป็นไปได้ว่าบริษัท อิตาเลียนไทย อาจจะปรับเปลี่ยนผู้บริหารออกไปก็ได้ แน่นอนเรื่องนี้ต้องสอบในแง่ของธรรมาภิบาลของบริษัทว่ามีอะไรที่พัวพันกันหรือไม่ แต่เร็วไปที่เราจะพูดว่ามีความพัวพันกันแล้วซึ่งกรณีนี้ได้ถูกทวงถามจากนางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุนอยู่เหมือนกันที่เห็นว่า บริษัทนี้เป็นกิจการที่ได้รับงานใหญ่จากภาครัฐ ถ้าภาครัฐเห็นความสำคัญของการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมและการกระทำที่ไม่ผิดต่อกฏหมาย ก็ควรส่งความกดดันไปยังกิจการ เพื่อให้ความศักดิ์สิทธิ์ของกฏหมายยังคงอยู่ และมีความเป็นธรรมเมื่อเทียบกับกรณีอื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้นและหากผู้บริหารระดับสูงของกิจการใดๆ กระทำผิดต่อกฏหมายอื่นๆ เป็นการส่วนตัว ที่ไม่ใช่ผิดกฏหมายหลักทรัพย์ ผลกระทบต่อบริษัทน่าจะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการของบริษัทนั้นๆ ว่าจะพิจารณาผู้บริหารรายนั้นๆ อย่างไรให้เหมาะสม โดยคำนึงถึงความเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อชื่อเสียงของกิจการจนอาจส่งผลต่อการทำธุรกิจ ซึ่งเสียงสะท้อนจากสาธารณชนจะมีส่วนกดดัน
คณะกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ยังไม่มีข้อสรุปประธานบริษัทกับพวกลักลอบล่าสัตว์ป่าสงวน แม้จะมีความเคลื่อนไหวและเสียงเรียกร้องจากสาธารณชนให้ผู้บริหารแสดงความรับผิดชอบ
เศรษฐกิจ
อิตาเลียนไทย,ล่าสัตว์ป่า,ทุ่งใหญ่,เปรมชัย กรรณสูต,ล่าสัตว์,ทุ่งใหญ่นเรศวร,บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน),ไอทีดี,ประชุม,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/270068
อำนาจนิยมมหาวิทยาลัยในกางเกงขาวอำพราง
กางเกงขาว เป็นที่รู้จักกันในฐานะจุดเด่นของเครื่องแบบพิธีการของนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดังที่เคยได้กล่าวอ้างถึงความเป็นรัฐนาฎกรรมในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาแล้วในบทความนี้ สำหรับผู้ที่ยังนับตัวเองว่าเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อย่าเพิ่งโวยวายไปว่าผู้เขียนหาเรื่องโจมตี หรือไม่รักก็ออกไป ฯลฯ ซึ่งไม่ว่าท่านจะเห็นต่างไปจากความเห็นของข้าพเจ้าก็ดี หรือเห็นสอดคล้องก็ดี ขอให้พิจารณาเรื่องที่จะนำเสนอต่อไปนี้เป็นอุทาหรณ์ กล่าวคือ ถึงจะจั่วหัวว่าเป็นเรื่องของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่เอาเข้าจริงแล้วมันเกี่ยวโยงกับเรื่องอำนาจนิยมในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งจะเรียนที่ไหน คำนำหน้าเป็นนักศึกษาหรืออะไรก็ต้องเจอเหมือนกันทั้งนั้นวันนี้ (30 กรกฎาคม 2560) เพจสำหรับประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับนิสิตชั้นปีที่หนึ่ง เผยแพร่ภาพพร้อมข้อความ เชิญชวนให้นิสิตรุ่นใหม่แต่งกายด้วย เครื่องแบบพิธีการ มาในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนสำหรับนิสิตชั้นปีที่ 1 ทั้งที่ในปัจจุบันเครื่องแบบดังว่ามานี้ไม่มีในข้อบังคับใด ๆ ที่ออกโดยมหาวิทยาลัยซึ่งประกาศนี้ไม่น่าจะครอบคลุมถึงนิสิตระดับบัณฑิตศึกษา แน่นอนว่าโดยสามัญสำนึก พิธีกรรมทำนองนี้มันไม่ควรจะครอบคลุม แต่ที่นี่คือมหาวิทยาลัยอันเก่าแก่คับฟ้าคับดิน นิสิตระดับปริญญาโทปริญญาเอกก็ ถูกเชิญชวน ให้ไปเข้าพิธีถวายบังคมเหมือนกัน โดยจัดให้อยู่ในรูปแบบเดียวกันกับนิสิตปริญญาตรี คือ พิธีกรรมเป็นส่วนพ่วงท้ายพิธีการปฐมนิเทศ ส่วนที่ต่างคือ พี่ แต่งกายสุภาพมาเรียนก็แต่งกายตามนั้นถวายบังคม ไม่ต้องแต่งเครื่องแบบกางเกงขาว หรือราชปะแตนแต่ประการใดจากการตรวจสอบอย่างผ่าน ๆ พบว่าในทางปฏิบัติรุ่นพี่จำนวนมากกล่าวในทำนองว่า นิสิตทุกคน ต้องแต่งกายแบบนี้ (และหมายความว่าต้องมาร่วมงาน) เงื่อนไขของการวิพากษ์วิจารณ์พิธีกรรมถวายสัตย์ฯ ในรอบนี้จึงมีดังต่อไปนี้1. พิธีการนี้ มีการบังคับเข้าร่วมเกิดขึ้น (สนใจสภาพที่เกิดจริงมากกว่าที่ประกาศเป็นลายลักษณ์อักษร)2. พิธีการนี้ ครอบคลุมนิสิตทุกระดับของจุฬา ฯ3. พิธีการนี้ นอกจากจะมีการบังคับให้เข้าร่วมเกิดขึ้นแล้ว ยังผลักภาระให้แก่ผู้ปกครองในการหาซื้อกางเกงพิธีการสีขาวแล้วการบังคับเข้าร่วม หรือแค่โน้มน้าวให้เข้าร่วมมันผิดตรงไหนหรือ?คำตอบ ตอบแบบตามกฎหมายเลย คือ เพราะเป็นสิทธิที่มหาวิทยาลัยในฐานะผู้จัดงานจะทำได้ และที่ไหน ๆ เขาก็มีการปฐมนิเทศกันทั้งนั้น ปัญหาคือสิ่งที่เขาไม่มีกัน คือ การถวายบังคมอะไรในลักษณะนี้ (ไม่นับโรงเรียนนายร้อยหรือสถาบันที่พยายามจะมีอัตลักษณ์พิเศษต่างๆ ฯลฯ) สำหรับจุฬาฯ เคยมีกรณีพิพาทกันใน พ.ศ. 2512 เรื่องเล่าย่อๆ ก็มีอยู่ว่า (ย้ำว่าเป็นแค่เรื่องเล่าที่จำมาผิดๆ ถูกๆ ซึ่งไม่ตรงกับNITAD) ผู้นำนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์มีปัญหากันกับนิสิตอีกหลายคณะ เนื่องด้วยแย่งกันถือธงในพิธีปฐมนิเทศ ผู้นำนิสิตวิศวกรรมศาสตร์ซึ่งสมมติตนว่าเป็นคณะผู้นำไม่ยอมเด็ดขาดที่จะให้คณะอื่นได้ถือธงมหาวิทยาลัยกับเขาบ้าง กรรมการสโมสรนิสิตคนอื่นจึงพร้อมใจกันลงมติให้เปลี่ยนแนวปฏิบัติผู้ถือธงมหาวิทยาลัย ปัญหาในความสัมพันธ์ที่มีมาแต่ก่อนสะสมจนทำให้สโมสรนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ประกาศถอนตัวจากสโมสรนิสิตจุฬาฯ จนนำมาสู่ความพยายามจัดงานนิทรรศการวิชาการ (ซึ่งในปัจจุบันคือ จุฬาฯ วิชาการ และจุฬาฯ เอ็กซ์โป) ที่แยกจากส่วนกลาง ในชื่อ นิทรรศการวิชาการทางวิศวกรรม (NITAD : นิทัศน์?) ปัญหาเรื่องนี้คงลุกลามใหญ่โต เพราะน่าจะกระทบไปถึงเรื่องที่กินข้าวในโรงอาหารด้วย คนที่จะคบหากันข้ามคณะก็คงคุยกันไม่ได้ (นี่เป็นเพียงการสันนิษฐาน) และกระทบไปถึงแนวปฏิบัติการรับเสด็จพระราชดำเนินด้วย เมื่อนิสิตคณะวิศวฯ หมอบกราบ แต่คณะอื่นไม่ได้ทำเช่นนั้นก็คงมีเสียง อะไรบางอย่าง ไม่แปลกอะไรที่เรื่องนี้จะทราบถึงเบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในที่สุด เพราะเรื่องนี้ไม่ได้ลงในหนังสือพิมพ์ หรือออกวิทยุโทรทัศน์ มาถึงก็ได้สดับตรับฟังแล้ว แล้วทำให้นึกถึงว่า แต่ละคนที่เกี่ยวข้องไม่ได้คิดถึงประโยชน์แท้จริงของตัว ถึงทำให้เกิดอลวนได้แต่ว่ามีสิ่งหนึ่งทีได้สดับตรับฟังมาแล้วก็ไม่เรียบร้อย แล้วน่าจะขจัดได้ด้วยความเข้าใจดี การเสด็จพระราชดำเนินมาทรงดนตรีเป็นการส่วนพระองค์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในคราวนั้นจึงมีพระบรมราโชวาทที่กล่าวถึงปัญหาเรื่องการหมอบกราบ แต่ไม่ได้เท้าความไปถึงความขัดแย้งที่มีมาก่อนหน้านั้น มีพระราชกระแสถึงพระบรมราชโองการในรัชกาลที่ 5 ซึ่งทรงยกเลิกธรรมเนียมหมอบกราบ (เฉพาะกับไพร่ที่ไม่ต้องหมอบกราบเบื้องหน้ามูลนาย) แต่ไม่ได้ทรงยกเลิกการหมอบกราบในที่เฝ้าฯ เจ้านาย รัชกาลที่ 9 ทรงตักเตือนขยายความต่อไปอีกหลายประการ ทรงตีความว่าการหมอบกราบไม่ใช่การกดขี่ข่มเหงกัน แต่ใจความสำคัญ คือ การหมอบกราบนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของสิทธิเสรีภาพในปัจจุบันที่บุคคลจะพึงทำได้ ทรงเห็นว่า จากนั้นทรงวินิจฉัยต่อไปว่าการที่มีผู้มาขอพระราชทานธงใหม่ ไม่โปรดพระราชทาน ทรงเห็นว่าเป็นเรื่องสิ้นเปลือง จากนั้นพระราชทานการแสดงดนตรีต่อไปการหมอบกราบด้วยความจริงใจเป็นเรื่องดี แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ ก้าวหน้า อะไรอยู่แล้ว ในกรณีที่ยังนับถือศรัทธาในประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็ควรศึกษาความเป็นไปในเรื่องนี้จากพระราชดำรัส แน่นอนว่าการศึกษาจากบันทึกพระราชกระแสต่างๆ ยังสอดคล้องกับค่านิยม 12 ประการของรัฐบาลด้วยผู้เขียนจึงเห็นว่าการบังคับเข้าร่วมในกิจกรรมที่มีการหมอบกราบ ไม่ควรบังคับกัน (นอกเหนือไปจากกิจกรรมโดยทั่วไปที่ไม่ต้องมีการบังคับอยู่แล้ว)ก็ถ้ามีการบังคับกันจริง ควรแยกว่าความรับผิดชอบที่กล่าวมานี้เป็นของใคร?พิธีปฐมนิเทศของนิสิตทุกระดับจัดขึ้นโดยสำนักบริหารกิจการนิสิต โดยมีการแบ่งหน้าที่กันเป็นอย่างดี ในการตกลงกันตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฝ่ายทุนและสวัสดิการนิสิตรับผิดชอบเป็นการทั่วไป ส่วนสโมสรนิสิตเป็นผู้รับผิดชอบการประชาสัมพันธ์ให้นิสิตมาเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงการสรรหาผู้ปฏิบัติงานพิธีการบางส่วน นั่นหมายความว่าหากเกิดปัญหาขึ้นในพิธีนี้ ผู้ควรรับผิดและรับชอบจึงมีสองกลุ่ม ได้แก่กลุ่มที่เป็นคนทำงานและกลุ่มที่เป็นนิสิตผู้รับคำสั่งมา (แต่โดยที่น่าจะมีวิจารณญาณแล้ว ก็ยังไม่ไตร่ตรองอะไรให้รอบคอบ)กลุ่มนิสิต ที่อ้างถึงในที่นี้เป็นขอบเขตที่กว้างมาก คือ ตั้งแต่นิสิตผู้ปฏิบัติงานระดับสูงสุดในวันจริง คือ นายกสโมสร เรื่อยเรียงไปจนถึงระดับล่างสุดของโครงสร้างนี้ คือ นิสิตสัมพันธ์ – พี่เชียร์คณะ สมมติว่านี่เป็นคดีที่ไต่สวนในศาลที่นูแรมบวร์ก คงมีคนถูกไต่สวนเป็นร้อย ๆ คน รวมกันทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัย ผู้บริหารที่เป็นอาจารย์ ผู้บริหารของนิสิต นิสิตที่อยู่ในระดับรองลงไป ฯลฯผิดจริง ถ้าอิงตามพระราชดำรัส แต่อย่าให้มันถึงขั้นเป็นคดีอะไรเลยเพราะมันแค่ผิดในทางวัฒนธรรม ที่ไม่ได้ศึกษาคำผู้ใหญ่เท่านั้น กลับตัวกลับใจแล้วก็ก้าวเดินต่อไปได้ ไม่ได้มีอะไรยากยกเว้นแต่รู้ข้อมูลแล้วยังดื้อ อันนี้ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี? ไม่ปฏิบัติตามพระราชดำรัสนี่ควรมีโทษสถานไหนหรือ? โดยเฉพาะกับจุฬา ฯ ซึ่งมีในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นพระบรมราชูปถัมภก (องค์อุปถัมภ์) ด้วยแล้วนั้นไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ เพราะไม่เคยเรียนในระดับบัณฑิตศึกษา แต่เห็นว่าไม่ควร เพราะ1. ในระดับปรัชญา : บรรยากาศของมหาวิทยาลัยที่ควรจะเป็น คือ พื้นที่ที่เปิดให้มีเสรีภาพทางความคิด เสรีภาพในที่นี้ หมายถึงความเป็นกลางจริง ๆ ที่มหาวิทยาลัยจะไม่สร้างเงื่อนไขอะไรให้สมาชิกของสถาบันนั้น ต้องตกอยู่ภายใต้การครอบงำของอุดมการณ์บางอย่างทั้งนี้ ไม่เคยมีการทดลองในทางวิชาการ ว่าถ้าไม่มีการถวายบังคมสักสิบปีแล้วจะเกิดอะไรขึ้น งานวิจัยของเราจะฟอร์มดีขึ้นหรือไม่ หรือมีและมันสัมพันธ์กับแนวโน้ม Ranking ของจุฬา ฯ ที่มีปัญหาหรือเปล่า2. ในระดับการจัดกิจกรรมนิสิต : คนพวกนี้ถวายบังคมไปก็ไม่ได้อะไรเกิดขึ้น จุดประสงค์เริ่มแรกของมันคือการปฐมนิเทศ ให้มีการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่เท่านั้นเอง ระดับป.โท ป.เอก กันแล้ว อายุอานามก็มาก ยังต้องเรียนปรับตัวใหม่กันอีกหรือ?3. ในระดับผู้เข้าร่วมกิจกรรม : สิ่งที่ควรระแวดระวังในเบื้องหน้าของชีวิตบัณฑิตศึกษา คือ การทำวิทยานิพนธ์ สิ่งที่ควรจะคิดมากกว่า คือ จับทุกคนอบรม Endnote ระบบการอ้างอิง โปรแกรมอ้างอิงอัตโนมัติ การใช้ที่สำนักงานวิทยทรัพยากรอุตส่าห์ไปซื้อมา ทักษะการนำเสนอพาวเวอร์พอยต์ที่ดี หรือโปรแกรม E – Theses ที่ใช้กันสุดจะยากเย็น หรือจะทำเป็นคูปองให้ไปอบรมกันตามใจชอบก็ยังดีกว่ายกเว้นแต่ถ้ามองว่าการทำพิธีอะไรพวกนี้เป็นขวัญกำลังใจในการเรียน นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่มันใช่หน้าที่มหาวิทยาลัยหรือ?4. อย่าลืมว่ากิจกรรมมีหน้าที่ในการหาเพื่อน (พ่อแม่ของผู้เขียนก็รู้จักกันตอนเรียน ป. โท) ถ้าเราไปตัดตอนกิจกรรมนี้สงสัยทารกจำนวนมากคงจะไม่ได้เกิด (จริง ๆ ควรมีตั้งแต่เรียนปริญญาตรีด้วยซ้ำ) อนึ่ง คนแก่เขาหาเพื่อนกันตามหลักสูตรอบรมต่าง ๆ เช่น วปอ. (วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร) วตท. (วิทยาลัยตลาดทุน) ซึ่งหาเพื่อนได้จริง เพราะช่วยเกื้อกูลกันในทางธุรกิจได้ด้วย หรือของจุฬา ฯ ก็มี หลักสูตรภูมิพลังแผ่นดินถ้าแก่ตัวลงแล้วไม่มีเพื่อนจริงก็เป็นเรื่องน่าสงสาร แต่มันช่วยไม่ได้ และไม่ใช่หน้าที่มหาวิทยาลัย ที่ผ่านมาถือเป็นความโชคดี ผู้เขียนก็โชคดีที่ได้เกิดมาเช่นเดียวกันกางเกงพิธีการสีขาวเคยเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแบบพิธีการ (ไม่ใช่เครื่องแบบพระราชพิธี) ของนิสิตระดับปริญญาตรี แต่ได้ถูกยกเลิกไปตั้งแต่ พ.ศ. 2553 โดย ข้อบังคับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่าด้วยว่าด้วยเครื่องแบบ เครื่องหมาย และเครื่องแต่งกายของนิสิต พ.ศ. 2553สาระสำคัญอยู่ในข้อ 10 ของข้อบังคับเครื่องแบบพิธีการสำหรับนิสิตชาย มีลักษณะเช่นเดียวกันกับเครื่องแบบปกติสำหรับนิสิตชาย โดยให้ผูกเนคไทมีตราพระเกี้ยวตามแบบของมหาวิทยาลัยและเครื่องแบบปกติของนิสิตชายตามข้อ 6 (2)กางเกงขายาวแบบสากล ทำด้วยผ้ากรมท่าหรือสีดำ ไม่มันแวววาว ไม่มีลวดลาย ห้ามใช้ผ้ายีน ผ้าสักหลาด ผ้าลูกฟูกก็ในเมื่อมีหลักเกณฑ์เช่นนี้อยู่แล้ว การที่มหาวิทยาลัยสั่งให้นิสิตแต่งเครื่องแต่งกายอื่นที่นอกเหนือไปจากเครื่องแบบที่กำหนด เพื่อใช้ในกิจกรรมเพียงกิจกรรมเดียวย่อมเป็นเรื่องฟุ่มเฟือยกว่าปกติวิสัย บางคนอาจเถียงว่า ก็ถ้าต่อไปต้องใส่เครื่องแบบนิสิตพระราชพิธีหรือเครื่องแบบปกติขาวของข้าราชการก็จะได้มีเก็บไว้ใส่ได้ ผู้เขียนขออนุโมทนาในกรณีที่ท่านเรียนมหาวิทยาลัยโดยรอบเอวไม่ขยายเลย และยินดีกับท่านด้วยที่ท่านสามารถขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำนิสิตที่มีศักดิ์สูงพอที่จะใส่เครื่องแบบที่มีชุดราชปะแตนได้ (ยกเว้น นิสิตในชมรมประสานเสียงที่ได้ใส่กันอยู่แล้ว - คือจริงๆ ใครจะใส่ก็ใส่ได้หมด แต่ไม่มีใครเขาใส่กัน เพราะมีแต่พวกผู้ปฏิบัติงานที่มีโอกาสได้ใส่) นั่นหมายความว่าคนที่ได้ใช้ประโยชน์จากกางเกงขาวแบบนี้มีน้อยนัก หลายคนก็ยกให้รุ่นน้องต่อไป บางคนก็เก็บไว้โดยไม่ได้ยกให้ใครถามว่า จริง ๆ แล้วในข้อกฎหมาย มหาวิทยาลัยมีอำนาจสั่งให้นิสิตแต่งกายเป็นอย่างอื่นนอกเหนือจากที่มีข้อกำหนดอยู่แล้วได้หรือไม่ คำตอบ คือ ทำได้ เพราะ และถ้าเรามองว่าเสื้อเชิ้ตกางเกงขาวเป็นชุดสุภาพ ชุดแบบนี้ก็ไม่มีประกาศรองรับอยู่ดี แต่ที่ผ่านมานิสิตทั่วไปก็ไม่เคยรับทราบหรือเคยเห็นกำหนดการ – คำสั่งของมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเป็นการประกาศแบบไม่เป็นทางการโดยตลอด คือ กิจการนิสิตสั่งผ่านสโมสรนิสิต ให้สโมสรไปประชาสัมพันธ์เช่นนั้น หรือไม่ก็ประกาศไปเองเลยเพราะที่ผ่านมาก็ทำกันแบบนี้จนเป็นประเพณีไปแล้ว ความลักลั่นที่เกิดขึ้นชวนให้เราคิดได้ว่า1. ระบบการบริหารงานของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ จริง ๆ แล้วมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน (มีผู้ใช้ประสบการณ์ส่วนตัวมาเปรียบเทียบให้ฟังว่าดีกว่ามหาวิทยาลัยในต่างจังหวัด) ที่แน่ ๆ ก็คือ ไม่มีการประสานงานกันอย่างชัดเจน ตามหลัก เรื่องที่กระทบกับวิถีชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ควรจะมีการปรึกษาหารือกับประชาคมสาธารณะก่อนด้วยซ้ำไป (และไม่ใช่การเรียกนายกสโมสรหรือประธานสภามาตั้งเป็นกรรมการ เพื่อให้ได้ชื่อว่าได้ถามความเห็นนิสิตแล้ว ประเด็นนี้ สะท้อนข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งในสังคมนิสิตจุฬา ฯ คือ ผู้นำสโมสรนิสิตจุฬา ฯ ไม่ได้ยึดโยงอะไรกับนิสิตมานานมาแล้ว)2. ถ้าเราให้น้ำหนักกับกางเกงขาวในฐานะวัตถุทางวัฒนธรรม การใส่กางเกงเช่นนี้มางานต้องเกิดขึ้นก่อนข้อบังคับฉบับล่าสุดแน่นอน การประกาศบังคับใช้กฎระเบียบแบบนี้ หมายความว่ามหาวิทยาลัยกำลังแทรกแซงพื้นที่ทางวัฒนธรรมของประชาคมของตนเอง ดังนั้น ที่ผ่านมา มันก็ไม่แปลกอะไรที่ผู้ปฏิบัติงานจำนวนมากรู้สึก เฉยๆ กับข้อบังคับนี้ เพราะมันแปลกแยกไปจากวิถีชีวิตของเขา ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ได้มีแค่กางเกงสีขาวที่ได้รับผลกระทบ แต่มันลากยาวไปถึง1) กระโปรงทรงสอบยาว นิสิตหญิงชอบใส่กันโดยเฉพาะพวกพี่เชียร์ ผู้เขียนเคยไปสอบถามเพื่อนว่าเหตุไรจึงชอบนัก คำตอบที่ได้คือ ใส่แล้วมันสวย ไม่มีเหตุผลอะไรลึกซึ้งไปกว่านั้น2) เนคไท ซึ่งตามข้อบังคับระบุไว้ว่าให้นิสิตใส่เนคไทตาม แบบของมหาวิทยาลัย แต่ข้อบังคับก็ไม่ได้แนบท้ายมาว่าจะเอาเนคไทแบบไหน นั่นหมายความว่าแบบที่ใส่ ๆ กันอยู่ ทั้งเนคไทรูปเกียร์ เนคไทติดเข็มพระเกี้ยวเงินอันเล็ก ๆ เนคไทติดติ้งรุ่น ฯลฯ ย่อมเป็นเครื่องแต่งกายที่กฎระเบียบไม่รองรับ เพียงแต่ว่าอนุโลมให้ใส่ไปก่อนเท่านั้นเอง (และมีขายในสหกรณ์จุฬา ฯ แทบทุกสาขา)ในกรณีที่ไม่นิยมการแต่งชุดนิสิตไปเรียนอยู่แล้ว จะไม่พบปัญหาเช่นนี้เลย อย่างนิสิจคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ (เพราะจะเจอเรื่องอื่นแทน) และปัญหาต่อมาคือในแต่ละคณะก็บังคับใช้กฎแบบนี้ไม่ตรงกัน ตีความไม่เหมือนกันจนชวนงงการที่กฎระเบียบไม่มีประสิทธิภาพในการบังคับใช้ก็ชวนให้คิดอีกว่าเป็นเพราะเหตุใด ซึ่งจริง ๆ แล้วอาจมีเหตุผลที่ลึกซึ้งกว่าเหตุผลที่ได้สันนิษฐานไว้แล้วก็เป็นได้ แต่ในที่นี้ขอคิดเอาไว้ก่อนว่าเป็นเพราะความคิดเองเออเองของผู้ร่างซึ่งมีอยู่ไม่กี่คน แต่พยายามไปกะเกณฑ์วิถีปฏิบัติของคนทั้งแคมปัส ซึ่งสะท้อนวิธีคิดแบบอำนาจนิยมในมหาวิทยาลัยแบบไทย ๆ ส่วนวิธีการตีความกฎหมายเป็นเรื่องของคนที่ทำงานแบบตามอำเภอใจ ไม่ได้ใช้ความรู้ที่เป็นวิชาการอะไรกางเกงขาวก็คงมีที่มาของมัน เพราะเราพบว่าปรากฏอยู่ในพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเครื่องแบบนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2498 (ซึ่งไม่มีผลบังคับใช้แล้วตามบทเฉพาะกาลของ พ.ร.บ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2551 แต่ฝ่ายกิจการนิสิตก็ยังอ้างถึงอยู่เนือง ๆ) แล้วมหาวิทยาลัย (และผู้ที่ร่างข้อบังคับนี้ขึ้นมา) จะให้ความเป็นธรรมแก่นิสิตปริญญาตรีตาดำ ๆ (ซึ่งเอาเข้าจริงก็ไม่เห็นมีใครแคร์ข้อบังคับนี้อยู่แล้ว) ซึ่งต้องสวมใส่มันอย่างไรได้บ้าง จุฬา ฯ ในปีหลัง ๆ ที่เริ่มมีการให้ทุนแก่นิสิตที่มีฐานะไม่ดีในนาม ทุนจุฬา ฯ ชนบท นั่นหมายความว่ามีสัดส่วนของนิสิตที่มีครอบครัวฐานะไม่ดี – ปานกลางในมหาวิทยาลัยมากขึ้น จุฬา ฯ ไม่ใช่มหาวิทยาลัยคนรวยอย่างที่เข้าใจกัน คนจำนวนมากทำตัวให้ดูรวยเฉย ๆ แต่จุฬา ฯ จะผลักภาระให้แก่ผู้ปกครองหรือให้แก่ทุน (ในกรณีที่นิสิตได้รับ) ได้อย่างไร ?ยกเว้นว่าถ้าบ้านรวยอยู่แล้วจะซื้อแจกคนทั้งคณะก็คงไม่มีใครบ่นว่าอะไร แต่ถ้าคนไม่มีเงินแล้วไปซ้ำเติมเขา ก็ถือว่าคนที่ทำงานนี้มีหัวใจที่มืดดำ (ตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยมีประกาศจากงานกิจการนิสิตส่วนกลางว่าเปิดให้มีการให้ยืมกางเกงแต่ประการใด)สำหรับผู้เขียน อำนาจนิยมในมหาวิทยาลัยไม่ใช่เรื่องแย่ขนาดนั้นตราบเท่าที่ไม่ได้ละเมิดสิทธิเหมือนมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคเหนือแต่มันก็ทำให้คุณค่าของมหาวิทยาลัยบกพร่องลงไปหลายส่วน เพราะทำให้การดำรงอยู่ของมันขาดนัยยะสำคัญต่อสังคม คือ เมื่อขนาดเป็นมหาวิทยาลัยยังกดขี่กัน พอเรียนจบก็จะใช้ความรู้ที่ตัวเองมีไปส่งเสริมภาวะอะไรที่มันไม่ดีอยู่แล้วให้มันทรงพลังขึ้นอีกซึ่งก็ต้องยอมรับสภาพจริงที่ว่าค่านิยม ความคิดบางอย่างที่บัณฑิตรุ่นใหม่ไม่สืบเนื่องต่อจากค่านิยมเก่า ก็เพราะแค่ตัวเองไม่ชอบ ซึ่งเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล ไม่ได้มีสำนึกอะไรที่เป็นอุดมการณ์ชัดเจนการเปลี่ยนแปลงสังคมในทางที่ดีขึ้นควรเริ่มต้นในทุกที่ แต่ในกรณีที่มีความดีเป็นแบบเฉพาะของตนเอง อะไรที่เชื่อมั่นศรัทธาก็จงทำต่อไปด้วยความกล้าหาญทางจริยธรรม ถ้าท่านเชื่อว่ากิจกรรมทั้งหมดที่กล่าวมามันเป็นเรื่องที่ดี ก็ทำต่อไป ถ้ามีข้อบกพร่องก็ควรออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันด้วยความอดกลั้น ปัญหา ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงอาจถูกมองว่าไม่ได้มีข้อเสียก็ได้ และทำให้การตีความของทุกเรื่องที่กล่าวมาพร้อมจะมีการเชือดเฉือน ตอบโต้ ต่อรอง และชิงไหวชิงพริบตลอดเวลารวมทั้งอาจเป็นบทเรียน เพื่อการพัฒนา เพื่อการวิพากษ์ ให้กับมหาวิทยาลัยอื่น และกับเพื่อนมนุษย์ร่วมสังคมไทยได้ด้วย ซึ่งเคยกล่าวไว้ในบทความที่แล้ว ว่าพิธีการถวายบังคมได้มีการแพร่กระจายไปยังสถาบันอุดมศึกษาในต่างจังหวัด เช่น บุรีรัมย์ พิษณุโลก ฯลฯ (ถ้าเข้าใจผิดต้องขออภัยด้วย)ในประวัติศาสตร์โลก คุณสมบัติของผู้นำที่ดีคือการรับฟังความเห็นต่าง แม้ในวัฒนธรรมไทยก็กำหนดอยู่ในทศพิธราชธรรมเช่นเดียวกัน ในสมัยจารีต ผู้นำแทบทั้งนั้นเป็นฝ่ายขวา แต่มหาราชในอุดมคติก็ไม่ได้โง่หรือบ้ามุทะลุดุดัน หนำซ้ำยังสามารถรับฟังความเห็นทุกด้านเพื่อปรับปรุงการทำงานได้ เฉกเช่น จักรพรรดิถังไท่จง จักรพรรดิอัคบาร์ พระเจ้าจองโจ หรือแม้แต่ในหลวงรัชกาลที่ 5 ผู้พระราชทานกำเนิดมหาวิทยาลัยควรตั้งคำถามว่าสังคมแบบไหนที่เอื้อให้เกิดนิสิตเด็ก ๆ ที่มีวัฒนธรรมใจแคบและไม่รับผิดชอบแต่คิดว่าจุฬา ฯ คงไม่มีคนแบบนั้น เพราะมหาวิทยาลัยเราเป็นเสาหลักของแผ่นดิน จึงหวังว่า ผู้นำ ที่มีส่วนในประเด็นปัญหาดังกล่าวจะแสดงตนออกมา อาจจะไม่ต้องรับผิดชอบหรอก แต่ตอบอะไรบ้างก็ดี ให้เขารู้บ้างว่ายังมีสปิริตเหลืออยู่เหมือนอย่างเพลงเกียรติภูมิจุฬาฯ ที่ร้อง ๆ กัน แต่เคยมี ซึ่งถูกยกเลิกไปตั้งแต่ พ.ศ. 2553 โดย ข้อบังคับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่าด้วยว่าด้วยเครื่องแบบ เครื่องหมาย และเครื่องแต่งกายของนิสิต พ.ศ. 2553 ดู http://www.cca.chula.ac.th/edocuments/images/files/rules/2553/rules53_02.pdf โดยคำบอกเล่า คณะวิศวกรรมศาสตร์มีค่านิยมภายในคณะที่ที่เน้นอาวุโสเหมือนกันกับคณะอื่น แต่มีจุดต่างที่สำคัญที่สุด คือ เชื่อว่าคณะของตนเป็นคณะที่ปลูกฝังภาวะผู้นำ และเชื่อกันเช่นนั้นอย่างจริง ๆ จัง ๆ ธงมหาวิทยาลัย เป็นธงที่หายสาบสูญไปแล้ว คำบอกเล่า คือ ปักเป็นรูปพระเกี้ยว บนผ้าสักหลาด ด้ามจับเป็นไม้ เป็นสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยก่อนที่จะนิยมใช้ พระเกี้ยวงานบอล ซึ่งเป็นงานประณีตศิลป์ลอยตัว ทั้งนี้ พระเกี้ยวเป็นของพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ฯ บรมนาถบพิตร พระราชทานในปีเดียวกันกับที่มีข้อพิพาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ฯ บรมนาถบพิตร วันทรงดนตรี วันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2512 ใน 70 ปีจุฬา ฯ รำลึกอดีต (กรุงเทพ ฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2531) หน้า 184. เรื่องเดียวกัน หน้า 185. มีปัญหาจริงในแง่ที่หนึ่ง คือ อันดับตกลงมาเรื่อยนับตั้งแต่มีการจัดอันดับเป็นต้นมา แง่ที่สอง คือ การโต้เถียงกันในประเด็นที่ว่ามีปัจจัยข้อใดที่ส่งผลต่อคะแนน และการวัดแบบนี้เป็นธรรมแล้วหรือไม่ อย่างไร ในแง่ที่สาม คือ ควรมีการวัดอันดับอะไรแบบนี้หรือไม่ เพราะการวัดผลแบบนี้เหมาะกับมหาวิทยาลัยทางวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทางสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ไม่มีทางจะได้อันดับสูงกว่า ยกเว้นแต่มหาวิทยาลัยนั้นจะเปิดสอนในทุกสาขา แล้วก็ต้องโดดเด่นพร้อมกันในทุกสาขาที่เปิดนั้น เช่น MIT Harvard U. และ ฯลฯ ดู ชัยชาญ ปรางค์ประทานพร นวคุณ สาณศิลปิน และชลเทพ อมรตระกูล นิสิตนิทัศน์ ประวัติจุฬา ฯ ฉบับนิสิต (กรุงเทพ ฯ : สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2559) ดู Pasuk Phongpaichit Nualnoi Treerat and Chris Baker Very Distinguished Alumni: Thai Political Networking Access from : https://englishkyoto-seas.org/2016/04/vol-5-no-1-pasuk-et-al/ [31 July 2017] พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเครื่องแบบนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2498 ใน ประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2459 - 2509(กรุงเทพ ฯ : จุฬาลงกรณ์มหหาวิทยาลัย 2510) หน้า 542.
กางเกงขาว เป็นที่รู้จักกันในฐานะจุดเด่นของเครื่องแบบพิธีการของนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดังที่เคยได้กล่าวอ้างถึงความเป็นรัฐนาฎกรรมในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาแล้วในบทความนี้ จุฬาฯ ขออีกหน่อยละกัน:
สิทธิมนุษยชน,การศึกษา
กางเกงขาว,จุฬาลงกรณ์,นายฉันท์แก่นที่ 2,อำนาจนิยม,เครื่องแบบนักศึกษา
https://prachatai.com/journal/2017/08/72637
ข่าวดี 8 เดือนไทยลดขยะถุงพลาสติก 1300 ล้านใบ
วันนี้(23 เม.ย.2562)พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาหลังจากรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก ถือว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จได้ผลเป็นที่พอใจ โดยลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วในตลาดสด และในห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อได้ 1300-1500 ล้านใบ หรือประมาณ 2686 ตันส่วนโฟมลดลงครึ่งหนึ่งจากปริมาณการใช้ทั้งประเทศหลังผู้ประกอบการและผู้ผลิตโฟมหันมาใช้ชานอ้อย เข้าสู่กระบวนการผลิตจำหน่ายแทนโฟม จึงเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรณรงค์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้โฟมในการจับจ่ายสินค้าในตลาดสด ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศอย่างจริงจังมากขึ้นพล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาขยะพลาสติกและโฟมให้สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐหลังคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่าง Road Map การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561-2573 ด้านการจัดการขยะพลาสติกแบบบูรณาการของหน่วยงาน ทั้งการลดและเลิกใช้พลาสติก โดยใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปีนี้ จะเลิกใช้พลาสติก 3 ชนิด คือ พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม พลาสติกผสมสารอ๊อกโซ่ และพลาสติกผสมสารไมโครบีทนอกจากนี้จะเดินหน้าเน้นการใช้นวัตกรรม มาผลิตบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมใช้ทดแทนโฟมและพลาสติก โดยต้องไม่มีส่วนผสมของสารเคมี ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้ประสบความสำเร็จเร็วขึ้นในการที่ประเทศไทยจะเลิกใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง ถือเป็นความท้าทายของไทยและในฐานะประธานอาเซียนของไทยปีนี้ด้วย
ทส.เผยไทยลดการใช้ถุงพลาสติก ช่วง 8 เดือนได้กว่า 1300 ล้านใบ เตรียมรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกในกลุ่มแม่บ้าน พร้อมเร่งใช้นวัตกรรม มาผลิตบรรจุภัณฑ์ใช้ทดแทนโฟมและพลาสติก ขณะที่เล็งเลิกลาสติกหูหิ้ว กล่องโฟม หลอดพลาสติกในปี 2565
สิ่งแวดล้อม
ถุงพลาสติก,ขยะ,กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/279487
ออสเตรเลีย-มาเลเซีย-จีน ยุติการค้นหา MH370 หลังค้นหานานกว่า 3 ปี
วันนี้ (17 ม.ค.2560) รัฐบาลออสเตรเลีย มาเลเซียและจีน ประกาศยุติการค้นหาซากชิ้นส่วนของเครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลนส์ เที่ยวบินที่ MH370 หลังจากทำการค้นหาพื้นที่ 120000 ตารางกิโลเมตร บริเวณตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เครื่องบินลำดังกล่าวหายสาบสูญไปพร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือรวม 239 คน เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2557 เนื่องจากไม่พบหลักฐานชิ้นใหม่ที่จะช่วยระบุตำแหน่งของเครื่องบินที่หายสาบสูญไปได้ขณะที่บทวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ชิ้นใหม่เมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมาชี้ว่า เครื่องบินลำนี้อาจจะประสบเหตุตกทางตอนเหนือของพื้นที่ค้นหา แต่รัฐบาลออสเตรเลียและมาเลเซียตัดสินใจไม่ขยายพื้นที่ค้นหาเพิ่มเติม เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดเพียงพอ หลังจากใช้งบประมาณในการค้นหาไปแล้ว 135 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4765 ล้านบาท ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาด้านสมาชิกครอบครัวของผู้โดยสารและลูกเรือออกมาแสดงความไม่พอใจที่ทางการประกาศยุติการค้นหา พร้อมทั้งระบุว่า การตัดสินใจในครั้งนี้แสดงถึงความไม่รับผิดชอบ ซึ่งภารกิจการค้นหาดังกล่าวจัดเป็นหน้าที่ต่อผู้โดยสารที่ใช้บริการเครื่องบินทั้งหมด เพื่อจุดประสงค์ด้านความปลอดภัยในการสัญจรทางอากาศ
สมาชิกครอบครัวของผู้โดยสารและลูกเรือที่หายสาบสูญไปพร้อมกับเครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลนส์ เที่ยวบินที่ MH370 ซึ่งหายสาบสูญไปตั้งแต่ปี 2557 ออกมาแสดงความไม่พอใจ หลังประเทศที่เกี่ยวข้องตัดสินใจยุติการค้นหาที่กินเวลานาน 3 ปี
ต่างประเทศ
เครื่องบินตก,มาเลเซียแอร์ไลนส์,MH370,ออสเตรเลีย,มาเลเซีย,จีน,สาบสูญ,มหาสมุทรอินเดีย,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/259584
ฝึกสมาธิเบื้องหลังความสำเร็จ รัชนก
จากผลงานอันโดดเด่นของรัชนก อินทนนท์ ในปีนี้ ทำให้เธอถูกคาดหมายว่าจะคว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่งจากการแข่งขัน โอลิมปิก ที่บราซิล ซึ่งในมุมมองของ ภัททพล เงินศรีสุข ผู้ฝึกสอนไม่รู้สึกแปลกใจมากนักกับการขึ้นมือ 1 เพราะเชื่อว่า น้องเมย์ มีศักยภาพดีพอ แต่รู้สึกประหลาดใจที่โอกาสครั้งนี้มาถึงไวกว่าที่คิด โดย โค้ชเป้ เชื่อว่า จุดเปลี่ยนน่าจะมาจากการฝึกสมาธิ ทำให้เธอสามารถรักษาฟอร์มการเล่นจนเป็นมาตรฐานนอกจากนี้ โค้ชเป้ ยังมองว่า แนวทางการเล่นของน้องเมย์แทบไม่มีจุดอ่อนเนื่องจากเป็นนักแบดที่มีสไตล์การเล่นหลากหลาย ทั้งการตีดุดัน เน้นทิศทาง และรับเหนียวแน่น ทำให้เธอสามารถปรับเปลี่ยนวิธีตามจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ที่เธอเจอ ซึ่งในการแข่งขันโอลิมปิกที่กำลังจะมาถึง โค้ชเป้ มองว่า น้องเมย์ มีลุ้นคว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่งให้กับประเทศไทยได้อย่างแน่นอน
ในมุมมองของผู้ฝึกสอน เชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้ น้องเมย์ คว้าแชมป์ได้อย่างต่อเนื่อง มาจากการฝึกสมาธิ จนทำให้เธอรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองไว้ได้
กีฬา
รัชนก อินทนนท์,โอลิมปิก,บราซิล,ภัททพล เงินศรีสุข,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,น้องเมย์,แบดมินตัน
https://news.thaipbs.or.th/content/251759
เส้นทางขึ้น-ลงเขาอุปสรรค ตูน วิ่งโค้งสุดท้ายก่อนถึงเชียงราย
วันนี้ (18 ธ.ค.2560) นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม และทีมนักวิ่ง ทำเวลาวิ่งเข้าเส้นชัยหรือเซตสุดท้ายได้ดี แม้จะวิ่งขึ้นเนินและลงเขา รวมระยะทาง 52 กิโลเมตร โดยตูนสามารถทำลายสถิติของตัวเองวิ่งครบ 4 เซ็ตในเวลา 13.30 น. หรือใช้เวลาวิ่งเฉลี่ยเซ็ตละ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้นนายพิชัย ปาพันธ์ นักกายภาพบำบัดชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ ระบุถึงสาเหตุที่ทำให้วิ่งได้เร็ว ว่า การวิ่งในสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบาย โดยมีอุณหภูมิที่ 17-18 องศาเซลเซียส จะทำให้วิ่งทำเวลาได้ ไม่เหนื่อยง่าย จึงทำให้การเร่งเก็บระยะเป็นผลดีกับทีมงาน รวมถึงจะได้พักเร็วขึ้นด้วยการวิ่งผ่านช่วงชุมชนไม่แออัด รวมทั้งชาวบ้านให้ความร่วมมือ ต้อนรับอย่างเป็นระเบียบ ก็ทำให้การวิ่ง 2 วันใน จ.ลำปาง ตูนไม่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่มีชาวบ้านมาส่งเสียงเชียร์ตลอดเส้นทางเพื่อให้กำลังใจทีมก้าวคนละก้าว รวมทั้งร่วมกันบริจาคเงินสมทบโครงการตั้งแต่ก้าวแรกที่ ตูน บอดี้สแลม วิ่งเข้าสู่ อ.เถิน จ.ลำปาง ต้องเจอกับสภาพถนนเป็นเนินขึ้น-ลงเขา ทำให้ทีมก้าวต้องปรับลดระยะทางให้เหลือเพียง 50 กิโลเมตรต่อวัน จากปกติวิ่ง 60-70 กิโลเมตรต่อวัน เพื่อถนอมสุขภาพของตูน นายประชารัตน์ แช่จู หัวหน้าทีมสำรวจเส้นทางโครงการก้าวคนละก้าว ระบุว่า ตั้งแต่ อ.สามเงา จ.ตาก อ.เถิน และ อ.ง้าว จ.ลำปาง นับเป็นเส้นทางขึ้น-ลงเขา ไม่ต่ำกว่า 200 กิโลเมตรที่ทีมวิ่งต้องเจอ ดังนั้นเมื่อสำรวจเส้นทางเสร็จแล้ว ทีมแพทย์และนักวิ่งจะต้องประชุมร่วมกันเพื่อประเมินความพร้อมแม้แต่นักวิ่งอาชีพ หรือโค้ชออกกำลังกายอย่างนายสาธิก ธนะทักษ์ ยังยอมรับว่า ถนนภาคเหนือเป็นเส้นทางปราบเซียน หากไม่ได้ซ้อมวิ่งขึ้น-ลง บันไดมาก่อนก็จะบาดเจ็บได้ง่าย และหากหยุดวิ่งรับเงินบริจาคในช่วงลงเนินก็มีความเสี่ยงที่ตูนจะได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากต้องหยุดกระทันหัน ส่วน จ.ส.อ.อนุรักษณ์ แก้วชะโน หนึ่งในนักวิ่งและทีมเซฟตี้ทีมก้าวคนละก้าว เปิดเผยกับไทยพีบีเอสว่า การปรับระยะทางมาที่ 50 กิโลเมตร ทำให้ช่วยเซฟตูนได้มาก ขณะนี้นักวิ่งในทีมยังไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ จะมีก็เพียงป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจเท่านั้น ซึ่งไม่มีอะไรที่น่ากังวลโค้งสุดท้าย 7 วันที่เหลือ ตูนมีเวลาพักเพียง 1 วันเท่านั้น และต้องเก็บระยะให้ได้อย่างน้อยกว่า 50 กิโลเมตร ห้ามบาดเจ็บระหว่างทาง เพื่อให้ไปถึงเส้ยชัยที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ให้ทันตามกำหนดในวันที่ 25 ธ.ค.2560
การวิ่งเข้าสู่ จ.ลำปาง ของ ตูน บอดี้สแลม และทีมก้าวคนละก้าว ต้องเผชิญทั้งทางขึ้น-ลงเขา แต่ปรากฏว่าวันนี้ (18 ธ.ค.) ทีมวิ่งทำเวลาได้ดีในเซตสุดท้าย ขณะที่ทีมกายภาพบำบัด รพ.นครพิงค์ จ.เชียงใหม่ ระบุว่าสภาพอากาศที่เย็นสบายจะส่งผลดีต่อการวิ่ง
สังคม
ตูน บอดี้สแลม,โครงการก้าวคนละก้าว,วิ่ง,ลำปาง,นักกายภาพบำบัด,วิ่งการกุศล,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/268628
ขู่วางระเบิดร้านขายของกรุงเก่า แลกเงิน 5 พัน ตร.รวบทันควัน 2 ผู้ต้องหา
เมื่อเวลา 12.30 น วันที่ 28 ก.ย. พ.ต.อ.กิติศักดิ์ เกตุอร่าม ผกก.สภ.เสนา พ.ต.ท.ชาญชัย สงศิริ สว.(สอบสวน) สภ.เสนา ได้รับแจ้งจาก นางประคอง ยรรประยูร 47 ปี เจ้าของร้านน้องเจตุ๊กตา จำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ด ทั้งปลีกส่ง และเป็นสำนักงานลิเกแพรเพชรรุ่งเรือง เลขที่ 71/20 ม.2 ต.สามกอ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ว่ามีคนร้ายให้คนขี่รถ จยย.รับจ้างมาส่งจดหมาย มาขู่วางระเบิดในร้าน หากไม่จ่ายเงินให้จำนวน 5,000 บาท วางไว้ตรงข้าม สำนักงานเทศบาลตำบลเจ้าเจ็ดเก่า,นางประคอง ยรรประยูร 47 ปี เจ้าของร้าน กล่าวว่า ตนเองเปิดร้านขายของตามปกติ จากนั้นได้มีคนขี่ จยย.รับจ้างเอาจดหมายมาส่งให้ จ่าหน้าซองเขียนคำว่า ด่วนที่สุด  เปิดดูภายในซองจดหมายพบแผ่นกระดาษ 1 แผ่น เขียนด้วยปากกาดำ ข้อความว่า กรุณาเก็บเป็นความลับ เดี๋ยวจะตายห่ากัน กรุณาให้ความร่วมมือ มิให้เกิดความสูญเสียในร้าน แถวโซนของเล่นกับโซนกางเกง มีระเบิดอยู่โซนละลูก ตั้งสติอ่านแล้วคิด มันเป็นเรื่องจริง ผมขอเงินแลกกัน แค่ 5,000 บาทอย่าตุกติก คนอย่างผมอยู่ในร้านเห็นความเคลื่อนไหวทุกอย่าง ตำรวจไม่เกี่ยว เงินแค่นี้ผมให้เวลาแค่ 3 นาที ให้เด็กในร้านขับมอเตอร์ไซค์เอาไปฝากไว้ที่พ่อค้าขายไก่ย่าง ตรงทางเข้าเทศบาลเจ้าเจ็ด ย้ำ 3-5 นาที เมื่อเดือนที่แล้ว 3 ศพ ตึกระเบิดที่ปทุมก็ผมนี่แหละ ไม่ได้ขู่ 3-5 นาที ไม่มาผมกดจริงๆ ห่อกระดาษใส่ถุงให้ดี จะล็อกรหัสทันที แล้วจะโทรไปบอกว่าระเบิดอยู่ตรงไหน หวังว่าคงให้ความร่วมมือนะ เงินแค่ 5,000 บาท เศษเงินของคุณชัดๆ แค่นี้ ไม่มากดจริงๆ เมื่อกดแล้วอีก 5 นาทีจะทำ 1 ลูก แล้วอีก 5 นาที ลูกที่ 2 จะระเบิด ให้คิดว่าเป็นเรื่องจริง โจรอย่างผมตรัสแล้วไม่คืนคำ,หลังอ่านจดหมายจบ จึงรีบแจ้งตำรวจ พร้อมประสานงาน ทหาร-ปกครอง ร่วมกันวางแผน นำเงินจำนวน 5,000 บาท พร้อมทั้งถ่ายเอกสารเอาไว้ นำไปวางเอาไว้ ตามที่นัดหมายคือ ร้านไก่ย่าง ตรงทางเข้าเทศบาลเจ้าเจ็ด จากนั้นคนร้ายได้โทรศัพท์ เข้ามาที่เบอร์ร้านขอเปลี่ยนสถานที่เป็นตู้โทรศัพท์เก่า หน้าเทศบาลเทศบาลเจ้าเจ็ด ระหว่างนำเงินไปวาง ได้มี นายอานนท์ บูรณจินดา 36 ปี บ้านเลขที่ 53/1 ม.4 ต.เจ้าเจ็ด อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เข้ามาหยิบเงิน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดักซุ่มอยู่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมตัว พร้อมกับควบคุมตัว นายมานพ การสมเนตร์ อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 50/8 ม.7 ต.เจ้าเจ็ด อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา คนขี่รถ จยย.รับจ้างที่นำจดหมายมาส่ง ทำการสอบสวน สภ.เสนา พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยฝ่ายทหารร่วมกันปิดกันพื้นที่ในร้านโดยเฉพาะในโซนขายของเล่น และจำหน่ายเสื้อผ้า เพื่อเข้าตรวจสอบหาวัตถุต้องสงสัย แต่ไม่พบความผิดปกติ พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลัง ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างไร,จากการสอบสวน นายอานนท์ บูรณจินดา 36 ปี ให้การรับสารภาพว่า มี นายเปียก ไม่ทราบนามสกุล ที่รู้จักกันเมื่อครั้งที่ทำงานอยู่โรงงานเดียวกัน โทรศัพท์ให้ไปเอาเงินที่ตู้โทรศัพท์ จะมีคนเอามาวางไว้ให้ แล้วนายเปียก จะมาเอาเงินที่ตนภายหลัง ตนจึงออกไปเอาเงิน และมาถูกจับกุมตัวดังกล่าว ส่วนเรื่องการข่มขู่ว่างระเบิด ตนเองไม่ทราบรายละเอียด และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น,นายมานพ การสมเนตร์ อายุ 50 ปี คนขี่รถ จยย.รับจ้าง อ้างว่าตนเองอยู่ที่วินหน้าวัดเจ้าเจ็ด ต.เจ้าเจ็ด อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา มีชายไม่รู้จัก และไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน มาว่าจ้างให้ขี่เอาซองจดหมายมาส่งให้กับเจ้าของร้านน้องเจ ตุ๊กตา ในราคา 20 บาท จึงขี่มาส่ง ไม่รู้ว่าในซองจดหมายมีเนื้อหาข้อความอะไร ปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของทั้งคู่ และจะทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วน นายเปียก ผู้ที่เขียนจดหมายข่มขู่ อยู่ระหว่างการออกติดตามเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี 
คนร้ายส่งจดหมายขู่วางระเบิดร้านขายส่งตุ๊กตา จ.อยุธยา ระบุให้นำเงิน 5 พัน วางไว้ที่ตู้โทรศัพท์เก่า สำนักงานเทศบาลตำบลเจ้าเจ็ด จ.อยุธยา แลกกับการไม่กดระเบิด ตำรวจรวบตัวผู้ต้องหาทันควัน 2 ราย
ข่าว,ทั่วไทย
ขู่วางระเบิด,ร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ด,จดหมายขู่วางระเบิด,รวบ2ผู้ต้องหา,อยุธยา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1083799
ทีดีอาร์ไอ ชี้ ผังเมือง บอกอนาคตประเทศ แนะถึงเวลาจัด โซนนิ่ง พื้นที่เกษตร
การวางผังเมืองเป็นการกำหนดทิศทาง คาดการณ์อนาคตการเติบโตของประเทศทั้งในระดับประเทศ ภาค อนุภาค และจังหวัด ซึ่งมีความสำคัญและเป็นสิ่งที่สาธารณชนควรรู้ แต่ที่ผ่านมายังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนสำหรับประเทศไทยว่าจะก้าวไปในทิศทางใด เปิดเผยว่า จากการที่มีส่วนเข้าไปศึกษาเกี่ยวกับการจัดทำผังประเทศและผังภาคของประเทศ ไทยในอีก 50 ปีข้างหน้า โดยทีดีอาร์ไอได้มีส่วนทำการศึกษาผังภาคภาคอีสาน ผังกลุ่มจังหวัดชายแดน (มุกดาหาร สกลนคร นครพนม และสระแก้ว) และกลุ่มจังหวัดร้อย-แก่น-สาร-สินธุ์ (ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม และ กาฬสินธุ์) พบข้อน่าห่วงใยหลายประการ โดยเฉพาะด้านการเกษตรซึ่งจะมีการแข่งขันกันใช้ที่ดินค่อนข้างสูง ควรมีการจัดโซนนิ่งพื้นที่เพาะปลูกสำหรับพืชเกษตร 3 ส่วนหลักคือ พืชอาหาร พืชอาหารสัตว์ พืชพลังงาน ซึ่งควรมีการจัดสรรพื้นที่เพาะปลูกที่เหมาะสมและสมดุล ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและควรเน้นเป็นเกษตรปลอดภัยโครงการศึกษาเพื่อจัดทำกรอบการพัฒนาและแผนปฏิบัติการพัฒนาเมืองชายแดน มุกดาหาร สกลนคร นครพนม และสระแก้ว โครงการวางผังข้อมูลของกลุ่มจังหวัด ร้อย-แก่น-สาร-สินธุ์ คือ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ เป็นกรณีตัวอย่างของการศึกษาเพื่อการวางผังกลุ่มจังหวัดและเมืองชายแดน สำหรับอนาคตประเทศว่าควรดำเนินการในทิศทางใดจึงสอดคล้องกับศักยภาพเฉพาะของ แต่ละพื้นที่ มีการจัดทำแผนทั้งระยะสั้น (5 ปี) และแผนระยะกลาง (10-15 ปี )ที่ลงลึกถึงข้อมูลที่จำเป็น จัดทำฐานข้อมูลและกำหนดทิศทางการพัฒนาในรายละเอียดในส่วนของทีดีอาร์ไอดำเนินการในด้านเศรษฐกิจ ประเมินและมองทิศทางในอนาคต พบว่าต้องเป็นเศรษฐกิจแบบสีเขียวและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (clean and green) คือ เศรษฐกิจสร้างสรรค์และปลอดภัย มีการจัดโซนนิ่งจัดพื้นที่สำหรับอุตสาหกรรมไม่ให้กระจัดกระจายโดยทำในลักษณะ นิคมอุตสาหกรรมหรือศูนย์อุตสาหกรรมขนาดเล็ก มีการจัดการสภาพแวดล้อมไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อม มีการจัดโซนนิ่งพื้นที่ทางการเกษตรที่ชัดเจน ไม่ใช่ปล่อยไปตามธรรมชาติที่ใครมีที่ดินแล้วอยากทำอะไรก็ได้จนกระทบต่อโครง สร้างในการใช้ที่ดินซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อการเกษตรและเกษตรกรในภาพรวมในระยะ ยาวดร.ยงยุทธ กล่าวว่า จากการศึกษาในภาคอีสานทั้งกลุ่มจังหวัดชายแดนและกลุ่มจังหวัด ร้อย-แก่น-สาร-สินธุ์ ทำให้เห็นแนวทางการพัฒนาบนพื้นฐานศักยภาพของพื้นที่ โดยเน้นการประพิจารณ์จากประชาชนในพื้นที่ว่าต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไร ในพื้นที่ในช่วงเวลาต่างๆ ทำให้ได้ภาพรวมด้านเศรษฐกิจ ที่ยังเน้นพื้นที่ปลูกข้าว อ้อย และยางพารา ซึ่งการปลูกยางพาราในภาคอีสานปัจจุบันมีความน่าวิตกและเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า อาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้งที่ยาวนาน จนอาจทำให้ยางที่มีอายุการปลูก 2-3 ปี ยืนต้นตายนับแสนไร่ได้ และอาจส่งผลกระทบไปยังนโยบายใหม่ๆ ของรัฐที่จะเพิ่มพื้นที่ปลูกยางอีกกว่า 8-9 แสนไร่ในหลายพื้นที่ของภาคอีสานยางพาราเข้ามาในช่วงหลังและขยายตัวอย่างรวดเร็วจนมีภาพรวมของภาคอีสานมี พื้นที่ยางพาราราว 1.5 ล้านไร่แล้ว แต่การปลูกยางพาราในภาคอีสาน แม้มีการคัดเลือกพันธุ์ที่เหมาะสม แต่เมื่อเจอกับสภาพดิน (ไม่อุ้มน้ำ) และปัญหาความแห้งแล้งที่ยาวนาน (ต่างจากภาคใต้) ยางพาราเป็นพืชไม่มีรากแก้วจึงไม่สามารถดูดซับน้ำใต้ดินได้ลึกมากนัก ในกรณีที่มีภาวะแห้งแล้งมากกว่าปกติ อีกทั้งการกระจายของฝนก็ยังสู้ภาคใต้ไม่ได้นอกจากนี้ การแข่งขันกันในเรื่องการผลิตพืชอาหาร พืชอาหารสัตว์ และพืชพลังงาน ต้องมีการจัดการให้สมดุล เพราะการมีพืชชนิดใด ชนิดหนึ่งมากๆ ย่อมมีผลกระทบต่อใช้ประโยชน์จากพืชอื่น จึงต้องมีการวางแผนการจัดแบ่งพื้นที่การปลูกพืชอาหารและพืชพลังงานให้สมดุล ไม่ใช่ใครมีที่ดินแล้วอยากปลูกอะไรก็ปลูกโดยดูราคาในปัจจุบันเป็นหลัก แล้วก็ไปเสี่ยงต่อภาวะผลผลิตล้นตลาดราคาถูกเอาเองในอนาคตหรืออาจจะเกิดการ ขาดแคลนผลผลิตพืชบางตัวเช่นพืชอาหารสัตว์อย่างไรก็ตาม พื้นที่ปลูกพืชหลักของภาคอีสานคือ ข้าว มันสำปะหลังและอ้อยจะยังถูกแย่งพื้นที่กันเอง และต้องแข่งกับยางพาราและปาล์มดร.ยงยุทธ กล่าวว่า การศึกษามีการกำหนดยุทธศาสตร์ตามศักยภาพความโดดเด่นของพื้นที่ในด้านต่างๆ เช่น เน้นการเป็นประตูการค้า อุตสาหกรรมที่สนับสนุนสินค้าที่จะส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รวมไปถึงอินโดจีน และจีนตอนใต้ เน้นการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ภาคเกษตรยังเป็นส่วนสำคัญใหญ่สุดและควรสนับสนุนไว้ พร้อมกับแก้ปัญหาที่เป็นอุปสรรค ได้แก่ ภาวะน้ำแล้งและน้ำท่วม ไม่มีแหล่งน้ำเพียงพอสำหรับเกษตร และปัญหาสภาพดินเสื่อมคุณภาพและดินเค็มสิ่งที่งานศึกษาเสนอ คือ ฐานรายได้ของคนยังต้องเน้นเรื่องความแข็งแกร่งในด้านเกษตรเป็นหลัก ส่วนอุตสาหกรรมมีไม่มากและไม่เน้นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เน้นเรื่องการบริการและการค้าชายแดนเป็นหลัก เรื่องการท่องเที่ยวในอีสาน ควรส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ให้มีการพักค้างแรมในพื้นที่และสนับสนุนการท่อง เที่ยวเชื่อมโยงระหว่างในพื้นที่และพื้นที่ข้างเคียงจัดรูปแบบการท่องเที่ยว ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เวลาท่องเที่ยวได้เต็มวัน เต็มเวลา ซึ่งจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ เช่น การท่องเที่ยวอิงธรรมชาติ การทำเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เป็นต้นหากมองลึกในด้านเศรษฐกิจ จะเป็นอุตสาหกรรมการค้าและบริการเป็นหลัก ต้องมีการปรับโครงสร้างการผลิตพอสมควร เช่นการเกษตรต้องปรับใช้พืชพันธุ์ดีในการปลูก ไม่ว่าจะเป็น ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง เน้นการทำเกษตรปลอดภัยมากขึ้น เพิ่มขีดความสามารถของเกษตรกร อุตสาหกรรมในภาคอีสานควรเป็นอุตสาหกรรมเอสเอ็มอี ผลิตสินค้าที่มีน้ำหนักเบา สะดวกในการขนย้าย เน้นส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านดร.ยงยุทธ กล่าวว่า ในแง่การแข่งขันซึ่งประเทศไทยส่งออกสินค้าจำนวนมากมีสัดส่วนสูงราว 68 % ของจีดีพี แต่มีปัญหาประสิทธิภาพการแข่งขันที่ถดถอยลงไปมาก เมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศ จุดอ่อนอยู่ที่เรื่องโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีค่อนข้างต่ำ เราติดอยู่ในประเทศกำลังพัฒนามานานมากแล้ว แต่การก้าวไปสู่ประเทศพัฒนาแล้วได้ต้องมีการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ที่ใช้จุดแข็งสิ่งที่เรามี คือ ฐานการผลิตด้านเกษตรเป็นตัวนำ เช่น เราส่งออกข้าวออกมากที่สุดในโลกโดยเฉพาะข้าวคุณภาพดี อย่างข้าวหอมมะลิ ไทยจะต้องใช้เทคโนโลยีในการปรับปรุงพันธุ์ข้าวและ พัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าข้าวให้มากขึ้นทีนี้ก็มีปัญหาว่าในแง่ผังประเทศควรกำหนดว่าพื้นที่ปลูกข้าว 80 ล้านไร่นั้น จะต้องอนุรักษ์ไว้หรือไม่ ซึ่งขณะนี้พื้นที่ปลูกข้าวถูกรุกรานหลายอย่าง เราเสนอว่าในแง่ผังเมืองควรมีการจัดโซนสำหรับการปลูกข้าวเฉพาะ ต่อไปเราควรต้องมาคิดกันเรื่องพื้นที่ปลูกข้าวอย่างจริงจัง ว่าพื้นที่ตรงไหนเหมาะสมกับการปลูกอะไรดร.ยงยุทธ กล่าวว่า สำหรับการจัดทำโซนนิ่งดังกล่าว หากทำตามแผนที่วางไว้ก็จะเป็นผลดีกับประเทศและเรื่องนี้สามารถทำได้ตลอด ตามขีดความสามารถที่จะรองรับ แม้บางช่วงจะมีปัญหาการเมืองมาสะดุดทำให้ล่าช้า แต่ก็ต้องทำต่อไป สำหรับในระยะ 10-15 ปีข้างหน้า สิ่งที่น่าจะเปลี่ยนไปแน่ๆ และต้องมีการจัดการให้สมดุลคือ การแบ่งพื้นที่สำหรับเป็นแหล่งผลิตพืชอาหารคน อาหารสัตว์ และพืชพลังงานทั้งนี้ในประเทศไทยมีหน่วยงานที่ทำเรื่องการกำหนดผังประเทศ ผังภาค และอนุภูมิภาคคือ สภาพัฒน์ฯ และกรมโยธาธิการและผังเมือง ส่วนใหญ่สภาพัฒน์ฯ จะเน้นในภาพรวมระดับประเทศ ขณะที่กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย มีการทำผังประเทศ ผังภาค ผังอนุภูมิภาค และผังกลุ่มจังหวัด ซึ่งปัจจุบันมีการดำเนินการความก้าวหน้ามากที่สุด โดยเป็นการมองไปในอนาคตข้างหน้าถึง 50 ปีซึ่งหน่วยงานทั้งสองนี้ควรจะต้องร่วมมือกันกำหนดทิศทางของประเทศในระยะยาว ก่อนที่จะสายเกินแก
การวางผังเมืองเป็นการกำหนดทิศทาง คาดการณ์อนาคตการเติบโตของประเทศทั้งในระดับประเทศ ภาค อนุภาค และจังหวัด ซึ่งมีความสำคัญและเป็นสิ่งที่สาธารณชนควรรู้
คุณภาพชีวิต,การศึกษา
การจัดทำโซนนิ่ง,การพัฒนา,การวางผังเมือง,ทีดีอาร์ไอ,ผังกลุ่มจังหวัดชายแดน,ผังภาคภาคอีสาน,สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย
https://prachatai.com/journal/2011/03/33424
กลับไปหา กระดานชนวน ช่วยเด็กป.1บ้านนอก อ่านออก-เขียนได้ทุกคน
   ,เมื่อวันที่7ต.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ โรงเรียนบ้านแกนาคำ ต.โคกก่อง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี มีการจัดการเรียนการสอนโดยให้นักเรียนใช้กระดานชนวนแบบโบราณ ซึ่งทางโรงเรียนจะแจกกระดานชนวนให้นักเรียนเป็นสมบัติส่วนตัวตั้งแต่ระดับอนุบาล พร้อมกับสอหินที่ทำขึ้นเพื่อใช้เขียนกับกระดานชนวนโดยเฉพาะ ทำให้เด็กๆสนุกสนานกับการเขียนคำและวาดภาพบนกระดานส่วนตัว เฉกเช่นนักเรียนที่ได้รับการแจกแท็บเล็ตจากรัฐบาล,ทั้งนี้ สภาพแวดล้อมภายในโรงเรียน มีการจัดการเรียนการสอน ในหลักสูตร BBL (Brain-based Learning) หรือ โครงการพลิกโฉมโรงเรียน มุ่งเป้า ป.1 อ่านออกเขียนได้ใน 1 ปี ที่เป็นนโยบายหลักในการพัฒนาเด็กนักเรียนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ โดยบริเวณโรงเรียนบ้านแกนาคำ มีการแยกอาคารเรียน โรงอาหาร สนามเด็กเล่น สนามฟุตบอลได้อย่างลงตัว ด้วยการทาสีสีสันสดใส มองดูแล้วสบายตา,นอกจากนี้ ภายในอาคารเรียน มีการเขียนแบบเรียนภาษาไทย อาทิ พยัญชนะไทย วรรณยุกต์ เสียงสูงเสียงต่ำ คำควบกล้ำ ที่บริเวณพื้นทางเดินในอาคารเรียน เพื่อเป็นสื่อการเรียนการสอนให้กับเด็กนักเรียน เท่ากับว่าทุกตารางนิ้วในโรงเรียน นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง และตลอดเวลา,นายศุภลักษณ์ อุปลาบัติ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแกนาคำ เปิดเผยว่า โรงเรียนบ้านแกนาคำ เปิดสอนในระดับอนุบาลถึง ป.6 ทางโรงเรียนได้ตระหนัก ถึงความสำคัญ ของนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่มุ่งเน้นพลิกโฉมโรงเรียน ป.1 ต้องอ่านออกเขียนได้ใน 1 ปี จึงมีแนวคิดในการนำหลักสูตร BBL (Brain-based Learning) มาประยุกต์ใช้ โดยเริ่มต้นจากการ ใช้สีสันในการเรียนรู้ เน้นสีเย็นสบายตา ซึ่งสีต่างๆ จะไปช่วยในการกระตุ้นสมองของเด็กนักเรียน ส่งผลให้สมองเกิดการพัฒนาตามวัยอันสมควร แต่ไม่ได้ใช้สีที่ฉูดฉาด เพราะสีที่ฉูดฉาด จะทำร้ายสมองของเด็ก,พร้อมกันนี้ ทางโรงเรียนยังมีโครงการจัดการเรียนการสอน แบบลดภาวะโลกร้อนอีกหนึ่งกิจกรรม คือการเรียนการสอนไม่ใช้ปากกา ดินสอ สมุด ยางลบ น้ำยาลบคำผิด ด้วยการการนำเอากระดานชนวนแบบโบราณ ดินสอหิน และใช้เศษผ้าแทนแปรงลบกระดาน มาฝึกทักษะในการเขียนหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นการคัดลายมือสวย การคำนวณเลข การวาดภาพ ซึ่งนักเรียนจะได้ฝึกทักษะในการใช้ลายเส้น มีสมาธิในการเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งเป็นการใช้ทรัพยากรที่ไม่มีผลในการทำลายสภาพแวดล้อม อีกด้วย,เพราะกระดานชนวนสามารถเขียนแล้วลบทิ้ง เขียนใหม่ได้ เมื่อนักเรียนเขียนตามคำบอกของครู หรือคำนวณตัวเลข ตรวจเสร็จแล้วก็สามารถลบทิ้ง ใช้งานใหม่ได้ ไม่เปลืองกระดาษที่เมื่อใช้เสร็จก็จะกลายเป็นขยะไป โดยกิจกรรมนี้ทางโรงเรียนได้ดำเนินการมา 3 ปีแล้ว และเด็กนักเรียนของโรงเรียนเรา สามารถอ่านออกเขียนได้ทุกคน ผอ.โรงเรียนบ้านแกนาคำ กล่าว.
ไม่มีแท็บเล็ตให้ใช้ นักเรียนป.1โรงเรียนในอ.สำโรง จ.อุบลราชธานี ได้รับแจกกระดานชนวนคนละ1แผ่นพร้อมดินสอหิน ใช้ขีดเขียนคำนวณเลข เขียนแล้วลบเขียนใหม่ไม่ต้องเปลืองยางลบ ช่วยลดโลกร้อน ครูใหญ่คุย นักเรียนที่ี่นี่อ่านออกเขียนได้ทุกคน
ข่าว,ทั่วไทย
กระดานชนวน,ใช้กระดานชนวน,นักเรียน,โรงเรียนบ้านแกนาคำ,อ่านออกเขียนได้,ลดโลกร้อน,สำโรง,อุบลราชธานี,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/news/local/530482
พชร์ อานนท์ เผยภาพ แน็ก ชาลี พระเอกหนังใหม่ แต่คนโฟกัสผิดจุดเต็มๆ
เชื่อว่าแฟนๆ ของพระเอกหนุ่มติสต์, แน็ก ชาลี ไตรรัตน์, คงจะจำกันได้ดีกับวีรกรรมความฮาของเจ้าตัวเมื่อเจ้าตัวตกบันไดหน้าศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง แต่ไม่เจ็บตัวๆ และบอกว่าแค่เหมือนมีอะไรมาสะกิดหำอันใหญ่และทรงพลัง จนกลายเป็นเรื่องฮาๆ ที่หลายคนได้อ่านที่เจ้าตัวเล่าผ่านไอจีและขำมาก ประกอบกับความสามารถในการรีวิวสินค้าที่ฮาไม่เหมือนใคร ทำให้เจ้าตัวก็กลายเป็นหนุ่มฮอตที่หลายคนชื่นชอบในความฮา มีคนจ้างงานและจ้างรีวิวสินค้าเยอะมาก,ล่าสุด ,พชร์ อานนท์, ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง โพสต์ภาพ, แน็ก ชาลี, ในชุดเสื้อสีส้ม สูทและกางเกงสีเหลือง พร้อมทั้งเขียนข้อความว่า พระเอกของผม เรื่องอะไรต้องรอดู ครบทุกอารมณ์ซี้ด แต่ดูเหมือนว่าหลายคนจะโฟกัสที่ช่วงล่างของ ,แน็ก, ที่ดูจะมีอะไรเตะตา และคอมเมนต์แซวว่า, แน็ก, พกห่อหมกมาด้วย บ้างก็แซวว่าเอาอะไรมายัด แต่ที่พีคมากเห็นจะเป็น ,นิกกี้ ณฉัตร, ที่คอมเมนต์แบบตรงไปตรงมาว่า หำใหญ่จิง และมีชาวเน็ตเข้ามาบอกว่านี่ก็คิดในใจเหมือนกันแต่ไม่กล้าพิมพ์ ฯลฯ, , ,ส่วนผลงานใหม่ของ ,แน็ก, ที่มาร่วมงานกับ, พชร์ อานนท์, จะครบทุกอารมณ์ซี้ดจริงๆ รึเปล่า อันนี้คงต้องรอชมกันนะจ๊ะ อิอิ.
พชร์ อานนท์ โพสต์ภาพ แน็ก ชาลี พร้อมทั้งบอกว่าเป็นพระเอกของตน เรื่องอะไรต้องรอดู ครบทุกอารมณ์ซี้ด แต่ดูเหมือนคนจะโฟกัสผิดจุดแบบเต็มๆ
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
แน็ก ชาลี,พชร์ อานนท์,แน็ก ชาลี ผลงาน,แน็ก ชาลี ภาพยนตร์,อินสตาแกรมดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1720581
ผบช.ก.ยอมรับ คดีฉ้อโกงหวย30ล้านคำชะโนด มีตำรวจร่วมขบวนการ
วันที่ 12 มี.ค. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาให้ข้อมูลกับทีมข่าวไทยรัฐทีวีว่า ขณะเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับนางเรวดี หาแก้ว หรือป้าติ้น เมื่อช่วงปี 2559 ที่แจ้งความดำเนินคดีกับนางสุดารัตน์ น้อยนิด หรือป้าดา ตอนนั้นได้พบเจอกับหมวดโค้ก ซึ่งขณะนั้นเป็นพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจนครบาลประเวศ และเป็นผู้รับผิดชอบในคดีที่ป้าติ้วแจ้งความกับป้าดา แต่มีความไม่ชอบมาพากลเนื่องจากทั้งสองคนมีความสนิทสนมกันผิดปกติ โดยมีการนัดกินข้าวกันหลายต่อหลายครั้ง รวมทั้งมีการนัดตนเองไปพูดคุยถึงการต่อสู้คดีถึง 2 ครั้ง ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง จนตนได้มาเห็นเอกสารสำคัญทางคดีทุกอย่างรวมถึงสำนวนการสอบปากคำของนางสุดารัตน์ ที่อยู่ในมือของนางเรวดี อีกทั้งยังมีเอกสารลับที่กองสลากส่งให้กับทางตำรวจ หลังร้องขอไปว่าสลากฯงวดวันที่ 1 เมษายน 2559 มีใครไปขึ้นเงินรางวัลบ้าง และกองสลากตอบกลับมาว่า งวดนั้นมีคนถูกสลากกว่า 100 คน แต่เอกสารทั้งหมดไปตกอยู่ในมือของนางเรวดี ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียทางคดีด้วย,นายอัจฉริยะ ยังบอกกับทีมข่าวไทยรัฐทีวี ว่า นอกเหนือจากเอกสารการลับทางราชการ ยังมีเอกสารการสอบปากคำของคนขายลอตเตอรี่ที่วัดลาดบัวขาว ที่นายอัจฉริยะอ้างว่า หมวดโค้กและนางเรวดีได้นัดแนะกันบังคับให้คนขายลอตเตอรี่เซ็น โดยมีการทำเอกสารสอบปากคำไว้ก่อนที่จะเรียกตัวมาสอบ ซึ่งคนขายลอตเตอรี่ได้มายอมรับกับตัวเองในภายหลังว่ามีการบังคับให้เซ็นในบันทึกคำให้การที่ทำขึ้นเองจริง แต่ตัวคนขายลอตเตอรี่ขณะนี้เสียชีวิตแล้ว เหลือเพียงภรรยาที่รับรู้เรื่องราวทุกอย่างด้วยเท่านั้น,นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังบอกอีกว่า เคยถามถึงสาเหตุที่เอกสารสำนวนไปตกอยู่ในมือของนางเรวดี หมวดโค้กอ้างว่าฝากเอกสารให้นางเรวดีส่งให้กับตำรวจกองปราบ แต่นางเรวดีแอบเปิดดูและคัดลอกไป แต่ขณะนั้นตำรวจกองปราบไม่ได้รับผิดชอบในคดี และหมวดโค้กไม่สามารถตอบได้ว่าตำรวจกองปราบคนไหนเป็นคนขอดู ซึ่งการกระทำลักษณะนี้ทำให้มีผลต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก ศาลจึงรับฟ้องคดีนางสุดารัตน์ และกระทำในลักษณะปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยในวันที่ 14 มีนาคมนี้ นายอัจฉริยะพร้อมด้วยนางสุดารัตน์ จะไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามเพื่อดำเนินคดีกับหมวดโค้กในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอีกด้วย,ด้าน พลตำรวจโทฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยอมรับว่าคดีนี้ พบมีตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยพฤติกรรมของตำรวจและกลุ่มผู้ก่อเหตุ มีความผิดที่ชัดเจนกว่าคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ที่กาญจนบุรี แต่ข้อมูลนี้ไม่พบว่ามีพ่อค้า แม่ค้า หรือ ยี่ปั๊ว เข้ามาเกี่ยวข้องเหมือนอย่างกรณีที่กาญจนบุรี แต่คดีดังกล่าวเป็นขบวนการสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อหลอกลวง และแอบอ้างการเป็นเจ้าของรางวัลที่ 1 ซึ่งชุดทำงานอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเอาผิดต่อไป.
อัจฉริยะ แฉหมดเปลือก หมวดโค้ก รับผิดชอบคดีป้าดาถูกแจ้งฉ้อโกงหวย 30 ล้าน เมื่อปี 59 แอบเอาสำนวนและเอกสารลับทางคดีให้ ป้าติ้น บช.ก.ยอมรับ คดีนี้มีตำรวจร่วมขบวนการจริง
ข่าว,ทั่วไทย
หวย30ล้าน,หวย 30 ล้าน,หวย 30 ล้านคำชะโนด,ตำรวจโกงหวย,ป้าติ้น,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1225957
จำคุก 18 ปี-ชดใช้เงินคืน สุชาย-วิโรจน์ ทุจริตปล่อยกู้ กฤษดามหานคร
ศาลฎีกา พิพากษาจำคุก สุชาย-วิโรจน์ 18 ปี ให้ชดใช้เงินคืนกว่า 9 พันล้าน คดีทุจริตกรุงไทย ปล่อยกู้ กฤษดามหานคร สมัย ทักษิณ จำเลยอื่น 12 ปี คืนเงินกว่าหมื่นล้าน ขณะ ทักษิณ ยังหลบหนี จำหน่ายคดีออกสารบบชั่วคราว จนกว่าได้ตัว,เมื่อวันที่ 26 ส.ค.2558 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก ร.ท.สุชาย เชาว์วิศิษฐ จำเลยที่ 2 ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงไทย ในขณะนั้น นายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 12 ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการอนุมัติสินเชื่อ ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรของรัฐ หรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 ซึ่งเป็นบทหนักสุด จำคุกคนละ 18 ปี,ทั้งนี้ จากกรณีเมื่อปี 2546 ได้มีการอนุมัติสินเชื่อ 9 พันกว่าล้านบาท ให้กับบริษัทในเครือบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) ที่มีสถานะอยู่ในกลุ่มลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคาร ซึ่งมีการอ้างว่าจะนำเงินไปรีไฟแนนซ์หนี้สินกับสถาบันการเงินอื่น และซื้อที่ดินทำโครงการเกี่ยวกับที่ดินอื่นอีก แต่ภายหลังมีการนำเงินไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัว โดยไม่ได้มีการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวอย่างแท้จริง โดยศาลมีคำพิพากษาให้พวกจำเลยต้องร่วมกันชดใช้เงินคืนให้ธนาคารกรุงไทย ผู้เสียหาย,   ,นอกจากนี้ ศาลยังมีคำพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 5, 8-11 และ 13-17 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารที่เป็นกรรมการอนุมัติสินเชื่อ และกลุ่มเอกชนที่ทำการขอสินเชื่อ อีกคนละ 12 ปี โดยศาลให้จำเลยซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ทำการขออนุมัติสินเชื่อโดยทุจริต คืนเงินให้กับธนาคารกรุงไทย กว่า 10,000 ล้านบาท ส่วนจำเลยที่ 23-27 ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทเอกชนที่กระทำผิด ให้จำคุกคนละ 12 ปี และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 6-7 ซึ่งเป็นกรรมการฝ่ายสินเชื่อ,อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำเลยที่ 1 ที่หลบหนี ศาลให้ออกหมายจับมาดำเนินคดี  โดยให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว จนกว่าจะได้ตัวมา
ศาลฎีกา พิพากษาจำคุก สุชาย-วิโรจน์ 18 ปี ให้ชดใช้เงินคืนกว่า 9 พันล้าน คดีทุจริตกรุงไทย ปล่อยกู้ กฤษดามหานคร สมัย ทักษิณ จำเลยอื่น 12 ปี คืนเงินกว่าหมื่นล้าน ขณะ ทักษิณ ยังหลบหนี จำหน่ายคดีออกสารบบชั่วคราว
ข่าว,ทั่วไทย
คดีกฤษดามหานคร,จำคุกสุชาย เชาว์วิศิษฐ,วิโรจน์ นวลแข,ธนาคารกรุงไทย,ทุจริต,ชดใช้หมื่นล้าน,ทักษิณ ชินวัตร,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/520950
ตำรวจจีนเปิดเส้นทางสัญจรหลังแผ่นดินไหวในเนปาล
กองกำลังตำรวจจีนใช้รถเครนรื้อถอนสิ่งกีดขวางและซากปรักหักพังบนทางหลวงที่เชื่อมระหว่างกรุงกาฐมาณฑุของเนปาลกับนครลาซา เมืองหลวงเขตปกครองตนเองทิเบต เพื่อให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครชาวจีนนำสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปแจกจ่ายให้กับชาวเนปาลที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ประสบภัยได้สะดวกมากขึ้นรายงานล่าสุดระบุว่า ทางหลวงสายนี้กลับมาใช้สัญจรได้ตามปกติแล้ว และในวันพรุ่งนี้ (18 พ.ค.2558) ทางการจีนจะส่งโรงพยาบาลสนาม 2 แห่ง พร้อมกับเจ้าหน้าที่ไปยังเนปาลเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากแผ่นดินไหวทางหลวงสายนี้ถูกดินถล่มปิดเส้นทางหลังจากแผนดินไหวรุนแรงเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2558 โดยปฏิบัติการซ่อมบำรุงดำเนินไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากเกิดอาฟเตอร์ช็อคกว่า 200 ครั้งขณะที่เจ้าหน้าที่จากสภากาชาดสากลและสภาเสี้ยววงเดือนเดินทางลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายจากแผ่นดินไหวรอบ 2 ซึ่งซ้ำเติมความเสียหายจากแผ่นดินไหวรอบแรก สถานการณ์ในเนปาลขณะนี้ถือว่าอยู่ในสภาวะฉุกเฉิน ผู้ประสบภัยจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครได้เร่งแจกจ่ายน้ำดื่ม อาหาร และเวชภัณฑ์ไห้ชาวเนปาลตามพื้นที่ประสบภัยอย่างเต็มความสามารถ สภากาชาดสากลเรียกร้องขอความช่วยเหลือเพิ่มเป็นมูลค่า 93 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากมีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากขึ้นหลังเกิดแผ่นดินไหวรอบ 2 เมื่อสัปดาห์ก่อนยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดเพิ่มเป็น 117 คน บาดเจ็บ 2609 คน เมื่อรวมกับผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวในครั้งแรก มีจำนวนมากกว่า 8600 คน ความรุนแรงของแผ่นดินไหวยังทำให้เกิดดินถล่มในหลายพื้นที่ของเนปาลและสร้างความเสียหายให้กับอาคารหลายพันแห่ง รวมทั้งศาสนสถานและอนุสาวรีย์อีกหลายแห่งรัฐบาลเนปาลประเมินว่า การฟื้นฟูประเทศจะต้องใช้งบประมาณกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากบ้านกว่า 750000 หลังถูกทำลายจากแผ่นดินไหว
สภากาชาดสากลขอเงินบริจาคเพื่อช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล ขณะที่ตำรวจจีนเปิดเส้นทางสัญจรหลังแผ่นดินไหว
ต่างประเทศ
nepalearthquake,จีน,ถนน,ทิเบต,ผู้ประสบภัย,เนปาล,แผ่นดินไหว
https://news.thaipbs.or.th/content/1957
กรณ์ ชื่นชม พล.อ.ประยุทธ์ แก้เศรษฐกิจถูกทาง-ขอให้เสริมเรื่องสื่อสาร
ทั้งยังมีนโยบายที่ดินตรงกับแนวทาง โฉนดชุมชน ของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. กรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.กระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โพสต์บทความหัวข้อ นายกฯ กับการเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจ ลงในเฟซบุ๊คของเขา โดยการโพสต์บทความ เกิดขึ้นหลังจากที่เขาร่วมฟังปาฐกถาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวข้อ เศรษฐกิจดิจิตอล พลิกโฉมประเทศไทย โดยเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดงานสัมมนาโพสต์ทูเดย์ ฟอรั่ม เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. โดยบทความของกรณ์ มีรายละเอียดังนี้อาทิตย์ที่ผ่านมาท่านนายกฯ ได้แสดงบทบาทสำคัญทางด้านเศรษฐกิจถึงสามครั้ง ทุกครั้งมีผลทางบวก และสะท้อนให้เห็นว่าไม่มีนายกฯ คนไหนที่ปล่อยงานทางด้านนี้ได้ครั้งแรกคือที่ท่านออกมาเบรคข้อเสนอเรื่องการเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม ท่านกล่าวถูกต้องว่าขณะนี้ปัญหาหลักของเศรษฐกิจไทยคือประชาชนขาดกำลังซื้อ ดังนั้นเราต้องลดค่าใช้จ่ายให้ชาวบ้าน ไม่ใช่เพิ่มครั้งที่สองคือท่านออกมาให้ความชัดเจนว่าท่านจะไม่เพิ่มความเข้มงวดในกฎหมายธุรกิจต่างด้าว โดยที่ท่านกล่าวตามสไตล์ท่านว่า ไทยยังต้องการนักลงทุนต่างชาติ ดังนั้นท่านจะไปสร้างปัญหาทำไมครั้งที่สามคือการปาฐกถาเรื่อง Digital Economy ซึ่งผมได้มีโอกาสไปนั่งฟังเอง นอกจากท่านพูดได้สนุกมาก (เรียกเสียงหัวร่อได้ตลอด 45 นาที) เรายังสามารถจับวิธีคิดทางด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของท่านอย่างชัดเจนแนวคิดของท่านอยู่ในโลกความเป็นจริงไม่มีการขายฝัน และท่านปฏิบัติตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในทุกๆ เรื่อง เช่น1. ความหมายของ เศรษฐกิจพอเพียง ท่านกล่าวว่า:ใครมีน้อยก็ใช้น้อย ใครมีมากก็ใช้มาก ถ้าใครมีน้อยเราก็ช่วยให้้เขามีมาก เขาจะได้ใช้มากๆ2. เรื่องการลงทุนท่านพูดถึงโครงการรถไฟเส้นทางหนองคาย-มาบตาพุดว่า:เป็นรถไฟความเร็วปานกลาง 160 กิโลต่อชั่วโมง ลองนั่งไปก่อน ถ้านั่งเร็วเกินไปยังไม่ทันได้คุยกันเลยถึงแล้ว ไม่สนุก อยากเร็วก็นั่งเครื่องบินเอา3. ส่วนเรื่อง Digital Economy ท่านบอกว่าสนับสนุนเต็มที่ เพราะจะช่วยให้ผู้ประกอบการรายเล็กเข้าถึงตลาดได้มากขึ้น ท่านบอกว่า:ประชาชนรู้แต่การผลิต แต่ไม่รู้การค้าขาย ก็เลยยังจนอยู่4. ท่านจะพูดถึงประชาชนในทุกเรื่อง ไม่พูดถึงวงเงิน ไม่พูดถึงตัวเลข แต่ก็ไม่ ประชานิยม ตัวอย่างที่ดีคือท่านพูดเรื่องปัญหาที่ทำกินว่า :-ไม่มีที่ดินมาแจกใครแน่ แต่จะให้ใช้ร่วมกัน เหมือน kibbutz นั่นแหละ ก็ลองทำดูผมเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ ว่าไปแล้วก็ไม่ต่างกับ โฉนดชุมชน ของคุณอภิสิทธิ์ และเป็นที่ยอมรับอยู่แล้วเพราะแรงงานเกษตรไทยเป็นแสนๆ คนเคยผ่านชีวิตใน kibbutz ที่อิสราเอล มาแล้วทั้งสิ้นการสื่อสารสำคัญครับ และที่ผ่านมาการสื่อสารทางเศรษฐกิจยังหลวมไปบ้าง ท่านนายกฯ ลงมาตบให้เข้าที่อย่างนี้ ผมว่าได้ผล
กรณ์ จาติกวณิช ชี้ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจสามครั้ง ทุกครั้งมีผลบวก ทั้งเรื่องเบรคภาษีมูลค่าเพิ่ม-ไม่แก้ กม.ธุรกิจต่างด้าว-ปาฐกถา ศก.ดิจิทัล ล้วนเป็นแนวทางไม่ขายฝัน ยึดเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจ
กรณ์ จาติกวณิช,คิบบุตซ์,นโยบายที่ดิน,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ปัญหาเศรษฐกิจ,พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว,ภาษีมูลค่าเพิ่ม,รถไฟความเร็วปานกลาง,เศรษฐกิจดิจิทัล,โฉนดชุมชน
https://prachatai.com/journal/2014/12/56891
รวบเฒ่าหึงโหด ยิงดับชู้เมีย ยัวะหลานในไส้ บุกยิงตายอีก 1 ฉุนเหตุตีลูก
แจ้งข้อหาดำเนินคดี,จากเหตุการณ์ที่ ,นายอำนาจ พรศักดิ์ประเสริฐ, อายุ 62 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองเบอร์ 12 ยิง นายปรีชา แก้วรักษา อายุ 50 ปี คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างเสียชีวิต บริเวณหน้าสถานีอนามัยสาย 4 หมู่ที่ 10 ซอยเพชรเกษม 114 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และยิงนายภานุพงษ์ สงวนถิ่น อายุ 32 ปี บาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณสระว่ายน้ำหมู่บ้านสินสมบูรณ์ แต่เนื่องจากผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยเหตุดังกล่าวขึ้น เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา,ความคืบหน้าวันนี้ (6 ต.ค.) หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูธรกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้ออกสืบจับไปเมื่อคืนและขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาครที่ จ.390/2562 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลงวันที่ 5 ต.ค.62 แล้วนั้น ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.วันนี้ ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ศรีลาภะมาศ ผกก.สภ.กระทุ่มแบน, พ.ต.ท.พีระ อัศวพิบูลย์ผล รอง ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.ท.สุกฤษฎ์ วิศิษฐ์ชนะชัย รอง ผกก.สส.สภ.กระทุ่มแบน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.สมุทรสาคร กับ ตำรวจสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน ได้ร่วมกันเข้าจับกุมตัว นายอำนาจ พรศักดิ์ประเสริฐ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/1467 หมู่บ้านสิวารัตน์ 3 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร มือปืนที่ก่อเหตุพร้อมของกลางเป็นรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีแดง หมายเลขทะเบียน ตท 2810 กรุงเทพมหานคร และอาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด เบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก ไว้ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งบริเวณซอยเอกชัย 81 เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร,จากการสอบสวนเบื้องต้น นายอำนาจ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองมีอาชีพเป็นคนขับรถส่งน้ำแข็ง ส่วน นายปรีชา ที่ถูกยิงตายบริเวณหน้าสถานีอนามัยสาย 4 มีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง โดยก่อนหน้านี้ นายปรีชา ได้ขี่จักรยานยนต์รับจ้างมารับส่งภรรยาของตนเป็นเวลา 4-5 ปีแล้ว ซึ่งตนเกิดความสงสัยว่า ทั้งสองคนมีพฤติการณ์ชู้สาว จนกระทั่งจับได้จึงเกิดความคับแค้นใจและลงมือก่อเหตุดังกล่าว,ส่วน นายภานุพงษ์ สงวนถิ่น อายุ 32 ปี ที่ถูกยิงบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลนั้น เป็นหลานชายของตน มีนิสัยชอบโวยวายและชอบทำร้ายลูกของตน อีกทั้งยังทำลายทรัพย์สินภายในบ้าน ด้วยความโมโหที่มีอยู่แล้ว พอหลังจากก่อเหตุยิง นายปรีชา จึงได้กลับไปยิง นายภานุพงษ์ อีกคน จากนั้นก็หลบหนีไปซ่อนตัวที่บ้านน้องชายในพื้นที่เขตบางขุนเทียน กทม.จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวไว้ได้ในที่สุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายอำนาจ พรศักดิ์ประเสริฐ มาสอบปากคำพร้อมกับตั้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกระทุ่มแบนควบคุมตัว นายอำนาจ ที่ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต 2 ศพ บริเวณหน้าสถานีอนามัยสาย 4 หมู่ที่ 10 ซอยเพชรเกษม 114 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
ตำรวจรวบมือปืนวัย 62 ก่อเหตุยิงหนุ่มใหญ่ วัย 50 ดับ เหตุแค้นใจเป็นชู้กับเมีย-ยิงหลานในไส้ดับอีกราย ฉุนชอบทำร้ายลูกตัวเอง ก่อนหลบหนีซุกบ้านน้องชายย่านบางขุนเทียน ตร.หิ้วสอบปากคำ
ข่าว,อาชญากรรม
หึงโหด,ยิงคนตาย,ฆ่าคนตาย,เฒ่าโหด,จับมือปืน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1676498
ย้ำชัดๆ อีกครั้ง www.เราไม่ทิ้งกัน.com ปิดเมนู ลงทะเบียน แล้ว
ย้ำอีกครั้งเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.comปิดลงทะเบียนแล้ว ขณะที่กลุ่มยื่นทบทวนสิทธิ์-ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ผ่านการพิจารณารวม 7 แสนราย เตรียมจ่ายเงินงวดแรกพรุ่งนี้จากกรณีรัฐบาลเปิดมาตรการเยียวยาลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ นอกระบบประกันสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) จะได้รับเงินสนับสนุนรายละ 5000 บาทต่อเดือน โดยต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์www.เราไม่ทิ้งกัน.comวันที่ 23 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์www.เราไม่ทิ้งกัน.com ซึ่งเปิดให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2563 ได้ปิดเมนู ลงทะเบียน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมาสำหรับกรณี ผู้ที่ขอ ยื่นทบทวนสิทธิ์ ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 1.7 ล้านคน ทางกระทรวงการคลังได้เริ่มทยอยคัดกรองข้อมูล และพบว่าขณะนี้มีผู้ที่ได้รับการผ่านสิทธิ์ จากข้อมูลที่ท่านได้ส่งมาโดยไม่ต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและจะทำการโอนเงินจำนวน 2 แสนราย ซึ่งจะเริ่มจ่ายเงินในวันศุกร์ที่ 24 เม.ย.นี้ส่วนกลุ่มที่ ขอข้อมูลเพิ่มเติม 6.3 ล้านคนนั้น ขณะนี้กระทรวงการคลัง ได้ทยอยตรวจสอบข้อมูลสำหรับผู้ที่ส่งข้อมูลมา ล่าสุดได้พิจารณาผ่านสิทธิ์แล้วจำนวน 5 แสนราย ซึ่งกระทรวงการคลังจะเริ่มจ่ายเงินงวดแรกในวันศุกร์ที่ 24 เม.ย.นี้เช่นกัน รวมจะจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์อีก 7 แสนคน.
ย้ำอีกครั้ง เว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ปิดลงทะเบียนแล้ว ขณะที่กลุ่มยื่นทบทวนสิทธิ์-ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ผ่านการพิจารณารวม 7 แสนราย เตรียมจ่ายเงินงวดแรกพรุ่งนี้
ข่าว,เศรษฐกิจ
เราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนรับเงิน 5000,www.เราไม่ทิ้งกัน.com,วิธีรับเงิน5000,โควิด-19,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1828054
วัยรุ่นอายุ 17 ปีถูกไล่ยิงกว่า 20 นัด เสียชีวิตย่านบางชัน
เหตุเกิดบริเวณถนนพระยาสุเรนทร์ ใกล้ซอยถนนพระยาสุเรนทร์ 20-22 ตำรวจตรวจสอบพบนายณัฐวุฒิ โพธิ์ศิริ อายุ 17 ปี นอนเสียชีวิตริมฟุตบาท ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีขาว จอดอยู่ และพบปลอกกระสุนปืนกว่า 20 นัด ตกอยู่บริเวณใกล้เคียง สอดคล้องคำให้การของพยานที่ระบุว่าขณะที่นายณัฐวุฒิขับรถจักรยานยนต์มา มีรถยนต์โตโยต้าวีออส สีดำไม่ทราบหมายเลขทะเบียนขับมาใกล้ และคนในรถใช้อาวุธปืนไล่ยิงต่อเนื่อง จนนายณัฐวุฒิ ถูกกระสุนปืนเสียชีวิต เพื่อนของของนายณัฐวุฒิ ให้ข้อมูลกับตำรวจฝ่ายสืบสวนเบื้องต้นว่า เมื่อวานนี้(12 ก.พ.)เพื่อนสนิทผู้ตายมีปัญหาทะเลาวิวาทกับชาวพม่าที่ทำงานบ่อนแห่งหนึ่งหลังตลาดใหม่พระยาสุเรนทร์ และมีคนในบ่อน ชื่อ นายสา เข้ามาทะเลาะวิวาทซ้ำ กลุ่มเพื่อนตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้นายณัฐวุฒิถูกทำร้ายพล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ซึ่งตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง เชื่อว่าน่าจะมีปัญหาขัดแย้งส่วนตัว ส่วนจะสืบเนื่องจากเหตุทะเลาะวิวาทตามข้อมูลที่เพื่อนของผู้ตายให้หรือไม่ จะมีการสืบสวนขยายผลต่อ แต่ปฏิเสธให้ข้อมูลการตั้งบ่อนการพนันในพื้นที่นครบาลบางชัน
เกิดเหตุไล่ยิงวัยรุ่นอายุ 17 ปี เสียชีวิตบริเวณซอยพระยาสุเรนทร์ 20-22 เพื่อนผู้เสียชีวิตให้ข้อมูลว่าสาเหตุน่าจะมาจากเหตุทะลาะวิวาทในบ่อนการพนัน ที่อยู่ในพื้นที่นครบาลบางชัน แต่ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ที่มาตรวจที่เกิดเหตุยังไม่ให้ข้อมูลเรื่องบ่อนการพนันตามที่เพื่อนผู้เสียชีวิตกล่าวอ้าง
อาชญากรรม
ณัฐวุฒิ,ถูกไล่ยิง,บางชัน,พระยาสุเรนทร์,วัยรุ่น,อายุ 17 ปี,ฮอนด้าเวฟ,เสียชีวิต
https://news.thaipbs.or.th/content/146608
ภาษาสก๊อย ความวิบัติทางภาษาไทย จริงหรือ ?
ตัวอย่างของ ภาษาสก๊อย ถ้าหากให้อ่านคงจะต้องใช้เวลานานอย่างมากกว่าจะทราบความหมาย แต่คำนี้แปลว่า สมาคมนิยมสก๊อย ภาษาสก๊อย เป็นภาษาเฉพาะของกลุ่มแฟนเพจใช้พยัญชนะที่มีอยู่ในภาษาไทยที่ไม่ค่อยมีการใช้ เช่น ฬ แทน ร ล ใช้ ฒ แทน ม ใช้ ญ แทน ย และใช้เทคนิคของแป้นพิมพ์ที่มีปุ่ม shift และ caplock เข้ามาเป็นตัวช่วย แม้จะไม่มีหลักเกณฑ์ทางภาษาที่ชัดเจนแต่มีผู้ชื่นชอบกดไลค์แล้วกว่า 30000 คนไม่เพียงแต่แฟนเพจสมาคมนิยม สก๊อย แต่ยังมีผู้พัฒนาเว็บไซต์ให้สามารถพิมพ์ภาษาไทยให้สามารถแปลภาษา สก๊อย และสามารถแปลภาษา สก๊อย กลับเป็นภาษาไทยได้ นอกจากนี้แอพลิเคชั่นแชทกับบอทยอดนิยมอย่าง ซิมซิอิ ยังถูกเลียนแบบเป็น ซิมสก๊อย เบต้า ที่สามารถพิมพ์โต้ตอบเป็นภาษาสก๊อยได้ด้วยนายกิจมาโนชญ์ โรจนทรัพย์ อาจารย์ผู้สอนวิชาภาษาไทยเชื่อว่า ภาษาสก๊อย ไม่ได้ทำให้ภาษาไทยวิบัติเหมือนที่หลายฝ่ายกังวลแต่ ภาษาสก๊อย เป็นเพียงภาษาเฉพาะกลุ่มของวัยรุ่นที่จะได้รับความนิยมช่วงสั้น ๆครูลิลลี่ บอกอีกว่า ขณะนี้เด็กไทยขาดทักษะการอ่าน ขาดการวิเคราะห์ และอาจใช้คำที่ไม่ถูกต้องแล้ว ปัจจุบันยังมีเรื่องการใช้อวัจนะภาษา ที่หลายคนใช้มากเกินไปรวมถึงใช้ไม่ถูกต้องด้วยขณะที่ตามเว็บไซต์ก็มีผู้แสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ถึงการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมและยังทำให้เกิดการอ่าน การเขียนแบบผิด ๆ ซึ่งวัยรุ่นบางส่วนที่ ไทยพีบีเอส ได้สอบถามมาเกี่ยวกับภาษาสก๊อย บอกว่า ภาษาสก๊อย ไม่ถึงขั้นทำให้ภาษาวิบัติเพราะเป็นการใช้สื่อสารเฉพาะกลุ่ม และ เน้นความสนุกสนานมากกว่าที่จะนำมาใช้ได้ในชีวิตจริงด้านนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์) กล่าวว่า เรื่องภาษาสก๊อย มองได้หลายด้าน เพราะภาษาเป็นการสื่อสารที่มนุษย์เข้าใจร่วมกันหากมองในด้านบวกเป็นการพัฒนาของภาษาให้เป็นลูกเล่น แบบถอดรหัสเล่นสนุก เป็นการสื่อสารระหว่างกันหากมองในด้านลบแสดงให้เห็นว่า คนรู้คำน้อยอ่านหนังสือน้อย จึงต้องมาสร้างคำใหม่ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงในระยะยาว
ทุกปีในช่วงสัปดาห์วันภาษาไทยแห่งชาติหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะออกมาแสดงถึงความกังวลเรื่องการใช้ภาษาไทย โดยเฉพาะการใช้ภาษาไทยในโลกออนไลน์ ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาษาสก๊อย หรือมีผู้เรียกว่า ภาษาสันสก๊อย ในเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ได้รับความนิยมมีผู้กดไลค์มากกว่า 30000 คน แม้ความนิยมจะเริ่มลดลงเนื่องจากมีผู้เผยแพร่วิธีการเล่น รวมถึงมีเว็บไซต์ที่สามารถแปลภาษา สก๊อยได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาไทย เชื่อว่า ภาษาสก๊อย จะไม่ทำให้ภาษาไทยวิบัติได้เพราะได้รับความนิยมในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
สังคม
ภาษาสก๊อย,ภาษาไทย,เฟซบุ๊ก,โลกออนไลน์
https://news.thaipbs.or.th/content/101002
บ้านหัวทำนบ นครราชสีมา ถนนลาดยางตอนนี้มีสภาพเป็นหลุมเป็นบ่อ ชาวบ้านเดือดร้อน
ชาวบ้านเดือดร้อนมาก โดยเฉพาะนักเรียนที่ต้องใช้เส้นทางนี้ไปโรงเรียน วอน อบจ.นครราชสีมาซ่อมแซมให้หน่อย,ปั๊มน้ำเสีย บริเวณ ทางลอดใต้ทางรถไฟ ของโครงการรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น บ้านหัวบึง ต.มะค่า อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา หลังจากฝนตกทำให้ มีน้ำขังเต็มทางลอด ไม่สามารถระบายน้ำออกไปได้ เพราะ เครื่องสูบน้ำเสีย ชาวบ้านต้องอ้อมไปใช้เส้นทางอื่นที่ไกลกว่าแทน การรถไฟแห่งประเทศไทยแก้ไขด่วน,บูรณะด่วน ชาว หมู่บ้านสันดอยงาม หมู่ 16 ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ต่างพากันเศร้าสลด เพราะฝนตกหนักหลายวันติดต่อกัน ทำให้เจดีย์โหย่วีโจ ที่สร้างด้วยแรงศรัทธาของชาวปกากะญอ ตั้งอยู่ที่อาศรมพระธรรมจาริกบ้านป่าโหย่วีโจ ถล่มพังลงมาเสียหายอย่างหนัก อยากให้ทาง จังหวัดหาทางบูรณะให้ด้วย,ขวางทาง ที่ปาก ซอยราษฎร์บูรณะ 4 ถนนราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ ช่วงประมาณ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป มักจะมี รถขายส้มตำไก่ย่าง มาจอดใกล้ปากซอย 3 คัน ทำให้รถเข้า–ออกลำบาก อีกทั้งควันจากการย่างไก่ยังรบกวนประชาชนที่ผ่านไปมาด้วย ฝาก สนง.เขตราษฎร์บูรณะช่วยมาดูแลที,ไม่จอดป้าย รถเมล์ครีมแดง ขสมก. สาย 26 หมายเลขข้างรถ 280015 วิ่งจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปมีนบุรี พอมาถึงป้ายสะพานลอยฝั่งตรงข้าม ธ.ทหารไทย สำนักงานใหญ่ เขตจตุจักร เวลา 11.33 น.วันที่ 11 ก.ย. นี้ คนขับไม่ยอมจอดป้ายให้ผู้โดยสารผู้สูงอายุลง อ้างว่าจะออกเลนขวา ต้องไปลงป้ายหน้าไกลมาก พฤติกรรมแบบนี้ ขสมก.อบรมทีเถอะ,[email protected],โทร.0-2127-1000 กด 2,แฟกซ์ 0-2272-1333,จันทร์-เสาร์ 09.00-17.00 น. เว้นวันอาทิตย์
พังแล้ว บริเวณทางเข้า บ้านหัวทำนบ ต.หนองบุนนาก อ.หนองบุนนาก จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นถนนลาดยาง ตอนนี้มี สภาพเป็นหลุมเป็นบ่อขนาดใหญ่ เวลาฝนตกน้ำขัง ใช้เดินทางลำบากมาก เป็นแบบนี้มานานแล้ว
null
ถนนพัง,ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ,เจดีย์โหย่วีโจ,ราษฎร์บูรณะ 4,รถเมล์ไม่จอดป้าย,รถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น,ห้องร้องทุกข์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/1660941
เด็กชายในเงา วรรณกรรมเยาวชนสร้างสรรค์ถูกนำมาทำเป็นละครโทรทัศน์
หวังให้เข้าใจความรู้สึกของเด็กพิการที่ไม่ต้องการแค่ความสงสาร แต่ขอโอกาสเพื่อพัฒนาตนเองตามศักยภาพ ความรู้สึกจากใจของตวงทิพย์ ยุวชิต นักเขียนผู้พิการเจ้าของผลงานสร้างสรรค์ เด็กชายในเงา นำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์เพื่อครอบครัว โดย ภีมพ์กมล ประเสริฐวงศ์ ถ่ายทอดความรักระหว่างพี่น้อง และสร้างแรงบันดาลใจผ่านการสู่ชีวิตผู้พิการจนได้รับการยอมรับ พิธีบวงสรวงเปิดกล้องละคร มีนักแสดงมาร่วมกันพร้อมหน้า ป๊อก ปิยธิดาตั๊ก นภัสกร โอ อนุชิต และนักแสดงอีกหลายคนในเรื่อง พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมปิยธิดา วรมุสิก นักแสดง กล่าวว่า มันสอนพ่อแม่ สอนวิธีการเลี้ยงลูก สอนให้เข้าใจเด็กพิการ สอนให้รู้ว่าควรปฏบัติกับเค้าอย่างไร การเป็นคนพิการเนี่ยบางที่โอกาสในสังคมมันได้หน่อยไปนิดนึง เพราะฉะนั้นการให้โอกาสเค้าเข้าสังคมก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะว่าเค้าก็เป็นบุคคลหนึ่งบุคคลเหมือนกันภีมพ์กมล ประเสริฐวงศ์ ผู้กำกับละคร เด็กชายในเงา กล่าวว่า แต่เป็นคีย์หนึ่งเพื่อเราจะได้แสดงให้เห็นว่าความรักอบอุ่น ความตั้งใจ ถ้าเราล้มเลิกความตั้งใจตั้งแต่วันนี้เราจะไม่เจอความสำเร็จในวันข้างหน้า ในขณะเดียวกันเราควรมีความ เราควรมีความเข้าอกเข้าใจคนอื่น เราอย่ามองตัวเองที่เราคิดอย่างไรอย่างเดียวนภัศกร มิตรเอม นักแสดง กล่าวว่า เด็กคนนึงหรือสองคนเค้าอาจจะเหมือนกัน เค้ามีความต่างในบางอย่าง หรือแม้แต่ครอบครัว คุณแม่อย่างนึงคุณพ่ออย่างนึง ทั้งคู่เลี้ยงลูกเหมือนกัน แต่สุดท้ายทั้งคู่มองลูกไม่เหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้วอะไรทำให้เค้าเหมือนกัน ความรักความเข้าใจความเอาใจใส่ นั่นคือการมองในมุมเดียวกันติดตามละครแนวโรแมนติกดราม่าเรื่อง เด็กชายในเงา เร็วๆ นี้ ทางไทยพีบีเอส
จากวรรณกรรมเยาวชนสร้างสรรค์ เด็กชายในเงา ถูกนำมาทำเป็นละครโทรทัศน์ ผ่านวีรกรรมการสร้างการยอมรับของเด็กคู่แฝดที่ผู้พี่เป็นผู้พิการ ทางไทยพีบีเอส เร็วๆ นี้
ศิลปะ-บันเทิง
บวงสรวง,ผู้พิการ,ละคร,วรรณกรรม,เด็กชายในเงา,เปิดกล้อง
https://news.thaipbs.or.th/content/113688
หนุ่มใหญ่หายตัวลึกลับ ป่าดอยเวียงหล้า เมียโร่แจ้งความ หวั่นโดนอุ้ม
วันที่ 22 เม.ย. พ.ต.อ.สันติ สุภา ผกก.สภ.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 เม.ย.61 เวลา 14.30 น. ได้มี นางอรณา ทิพาคำ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ม.2 ต.เมืองปอน. อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เข้ามาพบ ร.ต.อ.ปรานต์ ขาสัก รอง สว.(สอบสวน)ฯ แจ้งว่า สามี ชื่อ นายการุณ วันสว่าง อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 236 ม.6 ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม ได้ขับขี่ จยย.ฮอนด้าดรีม สีแดง ไม่ติดป้ายทะเบียน ออกจากบ้านแล้วหายไป หลังจากนั้นได้โทรมาบอกว่า ถูกกลุ่มบุคคลประมาณ 10 คน พร้อมอาวุธปืน ควบคุมตัวไว้ขณะที่เข้าไปในป่า อช.ดอยเวียงหล้า ขณะนี้ยังไม่ทราบพิกัดที่แน่ชัด และหลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้มาแจ้งขอความช่วยเหลือให้ จนท.ตำรวจช่วยตามหา,จึงได้นำชุดสืบสวน สภ.ขุนยวม ประสานเจ้าหน้าที่ทหารพราน 3605 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ปกครอง ประชุมร่วมกันและออกค้นหา บริเวณดอยเวียงหล้า ม.3 บ้านแม่สุริน ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม เบื้องต้น เช้าวันนี้ พบรถ จยย.ฮอนด้าดรีม สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ของ นายการุณ วันสว่าง ในบริเวณป่าห้วยแห้ง เขต อช.ดอยเวียงหล้า จึงเริ่มมีเบาะแสขึ้นมาบ้าง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมสนธิกำลังระดมค้นหาในป่าละเมาะแต่ก็ยังไม่พบ จากนั้นจึงได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่เพิ่ม ซึ่งก็ยังไม่พบร่องรอยใดๆ เพิ่มอีก,ทั้งนี้ พ.ต.อ.สันติ สุภา ผกก.สภ.ขุนยวม กล่าวถึงกรณีนี้ว่า พอได้รับทราบข่าวว่า มีคนหาย ก็ได้รีบประสานงานหาข้อเท็จจริง เพื่อออกทำงานค้นหา ส่วนประเด็นที่ภรรยาผู้สูญหายแจ้งไว้ว่า ถูกกลุ่มบุคคลพร้อมอาวุธปืนควบคุมตัวไว้ จนท.เร่งหาสอบสวนข้อเท็จจริง เบื้องต้น ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว และได้ร่วมกับ จนท.หลายฝ่ายออกติดตามหาผู้สูญหายในป่าดอยเวียงหล้า ต่อไป
สามีเข้าป่าแล้วหายตัวไป ภรรยาโร่แจ้งความขอ ตร.ช่วยตามหาด่วน หลังมีโทรศัพท์ข่มขู่ ถูกกลุ่มบุคคลพร้อมอาวุธปืนควบคุมตัวไว้ ขณะที่เข้าไปในป่า อช.ดอยเวียงหล้า จ.แม่ฮ่องสอน
ข่าว,ทั่วไทย
หนุ่มใหญ่หายตัว,สามีเข้าป่าหายตัวลึกลับ,ภรรยาแจ้งความ,โทรศัพท์ข่มขู่,แม่ฮ่องสอน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1262177
พานทองแท้ โพสต์แขวะ บิ๊กตู่ หลังถูกติงปมแจกปฏิทินปีใหม่ แม้ว-ปู
เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2559 นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ,ไม่ว่า ปฏิวัติ หรือ ปฏิรูป ต่างก็ต้องชิดซ้าย,เมื่อเจอ ปฏิกิริยา ของท่านผู้นำ ต่อ,ปฏิทิน แม้ว-ปู เจ้าปัญหา ครัช,ผมไม่ได้ว่าแจกปฏิทิน มันผิดหรือถูกนะ แต่มันเหมาะสมมั๊ย ไม่ได้ปิดกั้นอะไรทั้งสิ้น แต่ผมถามว่าความถูกต้องมันอยู่ตรงไหนจะเอาไปบูชากันหรือไง เอ้ออคนดีๆ ตั้งเยอะตั้งแยะ ถ้าคิดว่าไม่ผิดจริงก็กลับมา จะทำปฏิทินให้อีกหลายๆ เล่ม,นี่คือคำพูดของผู้นำประเทศไทยคนปัจจุบัน พูดถึงการแจกปฏิทินที่มีรูป อดีตผู้นำประเทศชายและหญิง ซึ่งนายทหารรุ่นพี่ของตน และตัวเองได้กระทำการปฏิวัติรัฐประหาร และยึดอำนาจจากเขามาครับ,ตอนท้ายคำพูด ท่านผู้นำยังกระแนะกระแหน ไปถึงคุณพ่อผมด้วยว่า ถ้าคิดว่าไม่ผิดก็กลับมา จะทำปฏิทินให้อีกหลายๆ เล่ม เฮ้อออนี่แหละวุฒิภาวะผู้นำคนปัจจุบัน ของประเทศไทยของเรา,ผิดไม่ผิดวัดกันตรงไหนครับ ทหารเอารถถังออกมาปฏิวัติ อ้างว่ารัฐบาลทุจริตมโหฬาร แล้วก็ตั้งคนแบบ แก้วหน้าม้า ป้ามหาภัย ฯลฯ มาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบความผิดฯ จะมีใครเชื่อบ้างว่าคนจำพวกนี้ จะให้ความเป็นธรรมกับคุณพ่อผมจริงๆ,ผมว่าท่านอย่ามัวแต่กระแนะกระแหนผู้อื่นเลยครับ เอาแค่การกระทำของตัวเองก็พอ ถามว่าเมื่อลงจากตำแหน่งแล้ว ตัวท่านเองกล้าให้ตรวจสอบหรือเปล่า อย่าอ้างเป็นธรรมเนียมของการปฏิวัติ ว่าคนดีเสียสละเพื่อชาติแล้ว เลยต้องนิรโทษกรรมตัวเองไว้ในรัฐธรรมนูญ,ก็เพราะเขียนกันมาแบบนี้แหละ ทหารถึงชอบปฏิวัติกันนัก กี่ยุคกี่สมัยมาแล้ว จะมีสักกี่คนที่หลังจากปฏิวัติแล้ว ยังเป็นทหารนับขวดกันอยู่ ส่วนใหญ่นับแบงก์กันไม่หวาดไม่ไหวมากกว่า,ถ้าคิดว่าท่านทำถูก กล้าไหมละครับ สั่งเนติบริกรไม่ต้องเขียนนิรโทษท่านผู้นำ ไว้ในรัฐธรรมนูญ แสดงภาวะผู้นำ ด้วยการกล้าทำ-กล้ารับ ผิดถูกว่ากันไปตามตัวบทกฎหมาย อำนาจมีล้นฟ้า ไม่ได้ทำผิด แล้วจะกลัวอะไรสั่งเลย,ถ้ากระบวนการยุติธรรมปกติ ตัวเองยังไม่กล้าเผชิญ ผมว่าเลิกกระแนะกระแหนคนที่โดนหน่วยงานพิเศษ ที่เผด็จการตั้งขึ้นมาเล่นงานดีกว่าครับ, ,ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง อายเขาเปล่าๆ ครับ,https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=961895183858915&substory_index=0&id=186006744781100
พานทองแท้ โพสต์เฟซบุ๊ก อัด ประยุทธ์ หลังถูกติงกรณีการแจกปฏิทินปีใหม่รูปทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ แซววุฒิภาวะผู้นำประเทศไทย ท้าหากลงจากตำแหน่งกล้าให้ตรวจสอบ และสั่งเนติบริกรไม่ต้องเขียนนิรโทษฯ หรือไม่ หากคิดว่าทำถูกแล้ว
null
ปฏิทินยิ่งลักษณ์,ปฏิทินทักษิณ,พานทองแท้,พานทองแท้ ชินวัตร,บิ๊กตู่,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,แจกปฏิทิน,ปฏิทินทักษิณ-ยิ่งลักษณ์,ข่าวการเมือง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,พานทองแท้โพสต์เฟซบุ๊ก,ปฏิวัติ
https://www.thairath.co.th/content/558679
บิ๊กตู่ประกาศเลือกตั้งปีหน้า
เมืองหลวงสหรัฐฯ หลังจากที่ได้ร่วมหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาวแล้วว่า ในปีหน้าเราจะประกาศวันเลือกตั้งออกมา โดยไม่มีการเลื่อนใดๆทั้งสิ้น เมื่อประกาศแล้วก็จะมีกรรมวิธีของการเลือกตั้ง คือนับไปอีก 150 วัน ตามกฎหมายหลังจากประกาศ ยืนยันว่าจะมีการเลือกตั้งปีหน้าแน่นอน,เป็นอันชัดเจนว่า ปีหน้าคนไทยได้เลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่แน่นอน แม้จะเป็น ประชาธิปไตยแค่ครึ่งใบ แต่อย่างน้อย ประชาชนก็ได้สิทธิเสรีภาพกลับคืนมา,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การประกาศให้มีการเลือกตั้งปีหน้า ประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่ได้ถามเรื่องการเลือกตั้ง แต่ตนเองได้แสดงความเชื่อมั่นออกไป เพราะไม่ได้ปกปิดใคร ไม่ได้บิดเบือนอย่างที่หลายคนกล่าวอ้าง โดยพูดเช่นนี้มาโดยตลอด,สิ้นเสียง พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ กรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ ก็ส่งเสียงขานรับทันที คุณสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. ออกมาแถลงยืนยันทันทีว่า สนช.จะเดินหน้าตามโรดแม็ปพิจารณากฎหมายลูกทุกฉบับ ที่ผ่านมา กฎหมายลูก 7 ฉบับ สนช.พิจารณาเสร็จก่อนกำหนด 60 วันทุกฉบับ เหลืออีก 3 ฉบับ พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.,คุณสุรชัย กล่าวว่า กฎหมายลูก 3 ฉบับ สนช.ตระหนักดีและมีความรับผิดชอบ ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษากฎหมายล่วงหน้า และ ทำงานคู่ขนานไปกับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ทุกอย่างน่าจะเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ,คุณมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานร่างรัฐธรรมนูญ ก็ออกมาส่งเสียงว่า จะทำงานตามกรอบเวลา เรื่องที่ห่วงว่าจะมีการคว่ำกฎหมายลูกในสภาฯคิดว่าไม่น่าเกิด เพราะท่าทีนายกรัฐมนตรีในขณะนี้ก็เหนื่อยล้าเต็มทีแล้ว,แค่ บิ๊กตู่ ดีดนิ้วเป๊าะเดียว ทุกอย่างก็เดินหน้าตามโรดแม็ป สั่งได้ของจริง,การเยือนสหรัฐฯครั้งนี้ ดูเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ จะตกหลุมรัก ประธานาธิบดี ทรัมป์ เข้าแล้ว หลังจากเจอคำหวานสารพัด ตั้งแต่การเรียกขานประเทศไทยว่า Stronger Thailand และให้ความสำคัญกับประเทศไทยในฐานะ ประเทศคู่ค้า โดยไม่พูดถึงเรื่อง การปฏิวัติรัฐประหาร ไม่พูดถึงเรื่อง ไทยได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ เพื่อหวังโอ้โลมผู้นำไทย เทใจให้กับสหรัฐฯ บ้าง ในเรื่อง ความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก แทนที่จะ เทใจไปให้จีนฝ่ายเดียว เพื่อบาลานซ์อิทธิพลของจีนในภูมิภาคนี้ ตามยุทธศาสตร์ อินโด-แปซิฟิก ของสหรัฐฯ,นายกฯตู่ กล่าวชื่นชม ประธานาธิบดี ทรัมป์ ในงานเลี้ยงอาหารคํ่า โดย สภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน ว่า ท่านเป็นคนจริงใจ พูดจาสุภาพกับผม ครั้งแรกที่พบท่าน คือ ตอนที่พูดคุยโทรศัพท์กัน ท่านพูดด้วยวาจาที่ไพเราะ ทำให้ผมรู้สึกว่าผมจะได้พบเพื่อนของผมอีกคน และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ,ผมมาครั้งนี้ เพราะท่านได้แสดงให้เห็นถึงความจริงใจ มีอะไรท่านก็พูดกับผม ก่อนหน้าที่จะได้พบกัน ได้ส่งรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯมาพบกับผมก่อนที่ประเทศไทย ท่านมาพบด้วยรอยยิ้ม และคำพูดที่ฟังดูแล้วน่าชื่นใจ เมื่อท่านกลับไปแล้วมีคนบอกว่า รัฐมนตรีพาณิชย์เริ่มรักประเทศไทยแล้ว แสดงว่าก่อนมาประเทศไทย ยังสงสัย ยังไม่แน่ใจ แต่วันนี้ต้องแน่ใจ เพราะผมรักคนไทย รักอเมริกา,คนไทยเองก็เซอร์ไพรส์ เพิ่งได้ยิน นายกฯตู่ พูดจาไพเราะน่ารักแบบนี้เป็นครั้งแรก,การไปเยือนสหรัฐฯครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ มีท่าทีและการพูดที่ เข้าใจการทูตระหว่างประเทศมากขึ้นจนเห็นได้ชัด เช่น พูดว่า วันนี้อากาศที่สหรัฐฯเย็น อากาศที่เมืองไทยร้อน แต่เป็นอากาศเดียวกัน เพราะเราอยู่โลกใบเดียวกัน ไม่ว่าใครจะทุกข์เราก็ทุกข์ด้วย ใครจะสุขก็สุขด้วย ผมอยากเห็น นายกฯตู่ พูดจาอย่างนี้ไปนานๆครับ.,ลม เปลี่ยนทิศ
วันนี้ผมต้องขอบคุณ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่มีส่วนทำให้ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ไปประกาศ พันธสัญญากรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
null
เลือกตั้ง,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,โดนัลด์ ทรัมป์,หมายเหตุประเทศไทย,ลม เปลี่ยนทิศ
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1090272
ทหารหนุ่มร่วมโครงการ แก้วตาใจ บริจาคไตให้ภรรยา 14 ก.พ. นี้
ส.อ.ประวิทย์ ใจบุญ อายุ 28 ปี สังกัดกองพันทหารสื่อสารที่ 4 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จังหวัดพิษณุโลก และ บุตรชายวัน 5 ขวบ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจ น.ส.บุษรา ธานี ภรรยาอายุ 45 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคไตระยะสุดท้าย ก่อนที่ ส.อ.ประวิทย์ จะเข้าผ่าตัด เพื่อนำไตข้างหนึ่ง เปลี่ยนให้กับภรรยา ในวันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพมหานครส.อ.ประวิทย์ เปิดเผยว่าอยู่กินกับภรรยา มานานเกือบ 10 ปี ก่อนที่ภรรยาจะประสบอุบัติเหตุล้มอย่างรุนแรง จนทำให้ไตมีอาการผิดปกติ และต้องรับการรักษาด้วยการฟอกไตมากว่า 2 ปี และด้วยความรักที่มีต่อภรรยา จึงสมัครเข้าร่วม โครงการ แก้วตาใจ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์สภานายิกา สภากาชาดไทย เพื่อผ่าตัดปลูกถ่ายไตให้กับผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้าย โดยไม่เสียค่าบริการพิเศษใดๆ ถวายเป็นพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถขณะที่ น.ส.บุษรา บอกว่ารู้สึกภูมิใจในตัวสามี แม้ว่าการบริจาคไต ทำให้การใช้ชีวิตของสามี ต้องมีความระมัดระวังไม่เหมือนคนปกติทั่วไป แต่สามีก็มีเหตุผลที่ต้องการอยู่ดูแลครอบครัว โดยหวังว่าจะไม่มีผลกระทบข้างเคียงเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด
ทหารค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จังหวัดพิษณุโลก เสียสละไต ให้ภรรยาที่ป่วยเป็นโรคไตระยะสุดท้ายซึ่งเข้าร่วมโครงการผ่าตัดโดยไม่เสียค่าใช้ จ่ายเพื่อเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้
สังคม
14 ก.พ.,ทหาร,บริจาคไต,ภรรยา,วาเลนไทน์,แก้วตาใจ
https://news.thaipbs.or.th/content/146062
ตำรวจตาไวรวบ 2 โจรตัดสายไฟ
บนสะพานลอย ไทย-เบลเยียมพบ 2 หนุ่มเดินแบกม้วนสายไฟสะพายกระเป๋าเครื่องมือลงมา สอบถามอ้างเป็นช่างซ่อมไฟฟ้าบนสะพาน ซักไปซักมาเริ่มมีพิรุธไม่มีเอกสารว่ามาจากหน่วยงานไหน ก่อนใส่ตีนหมาวิ่งหนีแต่ไม่รอด สารภาพตระเวนลักตัดสายไฟนำตัวส่งพนักงานสอบสวนขยายผลดำเนินคดีรวบ 2 หนุ่มแก๊งตระเวนลักตัดสายไฟกลางกรุงครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 28 มี.ค. พ.ต.ท.วิษณุเทพ สังข์กาจ รอง ผกก.จร.สน.ทุ่งมหาเมฆ พ.ต.ท.จักรี ศรีนะวงศ์ สว.จร.สน.ทุ่งมหาเมฆ และ ร.ต.ต.ชายกรณ์เกียรติ วรเดชชาญชัย รอง สว.จร.สน.ทุ่งมหาเมฆ นำกำลังจับกุมนายสินชัย คุณสุข อายุ 37 ปี และนายศรายุทธ พึ่งพา อายุ 31 ปี 2 ผู้ต้องหาแก๊งตระเวนลักสายไฟ พร้อมของกลางคีมตัดสายไฟ 1 อัน กรรไกร 1 อัน มีดคัตเตอร์ 1 อัน ไขควง 1 อัน และสายไฟสีดำ ความยาวประมาณ 30 เมตร จับกุมได้ที่ใต้สะพานไทย-เบลเยียม ถนนพระราม 4 ตัดถนนสาทร แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯเบื้องหลังการจับกุมครั้งนี้ ขณะที่ พ.ต.ท.จักรี พร้อมกำลังปฏิบัติหน้าที่อำนวยการจราจรอยู่บริเวณแยกวิทยุ ถนนพระราม 4 ตัดถนนสาทร แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ตามปกติ เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าไฟส่องสว่างบนสะพานไทย-เบลเยียม ข้ามแยกถนนวิทยุตัดพระราม 4 ดับลงทั้งสะพานซึ่งก่อนหน้านั้นยังเห็นใช้การได้ตามปกติ นำกำลังไปตรวจสอบพบชายต้องสงสัย 2 คนท่าทีมีพิรุธ อยู่บนสะพานไทย-เบลเยียม เดินแบกม้วนสายไฟและสะพายกระเป๋าเครื่องมือลงมาจากสะพานจากการสอบถาม ทั้ง 2 อ้างว่าเป็นช่างซ่อมไฟฟ้าที่สะพานแห่งนี้ ตำรวจได้ขอดูเอกสารว่ามาจากหน่วยงานใดมีเอกสารประจำตัวหรือไม่ แต่ผู้ต้องหาไม่มีเอกสารใดๆออกมาแสดง และมีท่าทีมีพิรุธ ลุกลี้ลุกลนตอบคำถามเจ้าหน้าที่ไม่ได้ ก่อนโยนของพากันวิ่งหลบหนีข้ามถนน 8 เลน แต่ตำรวจวิทยุประสานให้กำลังอีกส่วนหนึ่งช่วยกันดักจับกุมทั้งคู่ไว้ได้ เบื้องต้นรับสารภาพก่อเหตุลักตัดสายไฟจริง ประสานให้ตำรวจสายตรวจมารับตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ขยายผลดำเนินคดี
ตำรวจจราจร สน.ทุ่งมหาเมฆ ดูวงจรปิดตรวจการจราจรในพื้นที่ สงสัยไฟส่องสว่างบนสะพานไทย-เบลเยียมดับ ทั้งที่ก่อนหน้ายังส่องสว่าง นำกำลังตรวจสอบ
ข่าว,ทั่วไทย
ข่าวหน้า1,ลักสายไฟฟ้า,ตำรวจจราจร,สน.ทุ่งมหาเมฆ,สายไฟ,สะพานไทย-เบลเยียม,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1806774
พบอีก 2 ที่ชั้น 5 ซากช้างป่าตกเหวนรก ติดคาเนินหิน เตรียมเผาทำลาย
ก ,เมื่อวันนี้ 18 ต.ค.62 หลังจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้เดินทางไปที่คลองต้นไทร เพื่อติดตั้งกล้องดักถ่ายอัตโนมัติ (Camera trap) จำนวน 4 ตัว ที่บริเวณชั้น 5 ของน้ำตกเหวนรก เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ติดตั้งกล้องเสร็จเรียบร้อย พร้อมเดินสำรวจไปที่บริเวณชั้นบน ซึ่งเป็นเส้นทางที่ต้องไต่เขาและข้ามลำห้วยฝ่ากระแสน้ำ ทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้เชือกโรยตัว พร้อมเดินอ้อมขึ้นไปดู โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง พบ,ซากช้าง,จำนวน 2 ตัว ตัวแรกเป็นลูกช้างเพศเมีย อายุไม่ถึง 1 ปี ติดอยู่บนหินห่างกันไปเล็กน้อย พบซากช้างเพศเมีย น้ำหนักประมาณ 1 ตัน ติดคาอยู่บนเนินหินเช่นกัน จากการตรวจสอบพบว่า ซากช้างทั้ง 2 ตัวเริ่มเน่าเปื่อยแล้ว เนื่องจากถูกแสงแดดเผาไหม้ ทำให้อวัยวะบางส่วน อาทิ งวง หู หาง ถูกย่อยสลาย ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกภาพและเดินทางกลับ เพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป,ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางกลับไปยังหน่วยพิทักษ์เขาใหญ่ 21 (เขื่อนขุนด่านปราการชล) ได้ส่งภาพให้ นายวิชัย พรลีแสงสุวรรณ์ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 1 (ปราจีนบุรี) เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูงพิจารณาสั่งการ ให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และศูนย์กู้ภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 25 นาย เดินทางเข้าไปปฏิบัติภารกิจทำลายซากช้างทั้ง 2 ตัว โดยการเผาซากที่บริเวณจุดพบซากช้าง,โดย นายวิชัย พรลีแสงสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือช้างป่าตกน้ำตกเหวนรก เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) ฝ่ายวิชาการของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อเดินทางไปติดตั้งกล้องดักถ่าย เพื่อศึกษาดูว่าซากช้างสามารถจะไหลมาได้หรือไม่ หรือมีการย่อยสลายตามธรรมชาติ โดยสัตว์กินซากมากินหรือไม่อย่างไร พร้อมทั้งให้สำรวจหาเส้นทางที่จะสามารถขึ้นไปถึงตัวช้างได้ เนื่องจากวันก่อนไม่สามารถเข้าถึงได้ เมื่อวานทางทีมงานก็ได้ตัดเส้นทางลัดเลาะไป มีบ้างช่วงที่ค่อนข้างลำบาก แต่ก็เดินทางถึงซากช้างทั้งสองตัวได้ พบติดอยู่บนโขดหิน เราได้ติดตั้งกล้องดักถ่ายไว้เพื่อศึกษา แล้วได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาระดับสูง จากนั้นได้สั่งยกเลิกภารกิจเดิม ที่จะนำทีมเสือไฟกับชุดกู้ภัยภาคตะวันตกมา ตรงจุดนี้เจ้าหน้าที่ของเรามีกำลังหมุนเวียนกัน ก็สามารถที่จะปฏิบัติงานได้ ท่านก็อนุญาตให้ทำการเผาซากช้าง เพราอยู่บนโขดหินที่แห้ง เพื่อที่จะได้ตัดเรื่องมลภาวะทางน้ำไป เพราะเราได้ทำการเผาเชื้อโรคก็จะได้หมดไป ทางเราก็จะได้ดำเนินการ การเดินขึ้นไปทางที่ลำบากก็กำชับให้เจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวัง เพื่อที่จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ส่วนอีก 6 ตัว ช่วงนี้อย่างไรก็ขึ้นไม่ได้ เพราะอยู่ในหน้าผาสูงชัน ประมาณกว่า 200 เมตร เราก็จะเฝ้าระวัง ถ้าน้ำเริ่มลดจะมีชุดสมาร์ท พาโทรล (Smart patrol) สามารถเดินได้ตามปกติ สามารถเดินไปได้ ถ้าน้ำลดเราก็จะดำเนินการถ้าสามารถเดินเข้าถึงพื้นที่ได้ เราจะเร่งรีบดำเนินการต่อไปทันที
จนท.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พบซากช้างป่าอีก 2 ตัว ตกเหวนรก ติดคาเนินหิน บริเวณชั้น 5 สภาพเริ่มเน่าเปื่อย เตรียมเผาทำลายกำจัดซาก
ข่าว,ทั่วไทย
ช้างป่า,ช้างตกเหวนรก,ช้างตกเหว,ช้าง,นำ้ตกเหวนรก,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1684898
มือปืนอายุ 19 ปี กราดยิงกลางงานเทศกาลอาหารในสหรัฐฯ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ารัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยชื่อผู้ก่อเหตุกราดยิงกลางงานเทศกาลอาหารประจำปี กิลรอย การ์ลิค เฟสติวัล คือ นายซานติโน วิลเลียม เลแกน อายุ 19 ปี ซึ่งบุกเข้าไปในงานและใช้ปืนไรเฟิลกราดยิงคน ก่อนจะถูกตำรวจที่รักษาความปลอดภัยในงานวิสามัญฆาตกรรมในที่เกิดเหตุเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว มีผู้เสียชีวิต 3 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 2 คน อายุ 6 ปี กับ 13 ปี นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 15 คน ตำรวจยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุ ขณะที่มีรายงานที่ไม่ยืนยันว่ามีพยายานเห็นว่าเลแกนอาจมีผู้สมรู้ร่วมคิด ส่วนปืนไรเฟิลที่ใช้ก่อเหตุ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นปืนที่เลแกนซื้อมาอย่างถูกกฎหมายในรัฐเนวาดา เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมาเหตุกราดยิงในเมืองกิลรอยนับเป็นเหตุสะเทือนขวัญจากอาวุธปืนที่เกิดขึ้นล่าสุดในสหรัฐฯ ท่ามกลางข้อถกเถียงเกี่ยวกับกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่ยังไม่มีความเข้มงวดเพียงพอ
เกิดเหตุกราดยิงในงานเทศกาลอาหาร ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บอีก 15 คน ล่าสุดตำรวจเผยชื่อผู้ก่อเหตุเป็นเด็กวัยรุ่นชายอายุ 19 ปี
ต่างประเทศ
กราดยิง,สหรัฐฯ,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/282158
เผาแล้ว ศพพลทหารทรงธรรม พิธีเรียบง่าย ท่ามกลางความโศกเศร้า
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 9 เม.ย. ที่บริเวณศาลาการเปรียญ วัดคงคาวดี (เสาเภา) หมู่ 2 ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พ.อ.อุทิศ อนันตนานนท์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 152 เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ พลทหารทรงธรรม หมุดหมัด อายุ 25 ปี โดยมี พ.ท.สมคิด คงแข็ง ผบ.ร.152 พัน1, พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้ ผบ.ค่ายฝึกการรบพิเศษอำเภอสิชล, นายธีระพงศ์ ช่วยชู ป้องกันจังหวัดนครศรีธรรมราช, นางอำพัน คิดดี กำนัน ต.เสาเภา, นายนิตินัย เอี่ยมชลวิเลิศ นายก อบต.เสาเภา,นอกจากนี้ยังมีบรรดาเพื่อนๆ ทหารจาก ร.152 พัน1 ชาวบ้านและญาติๆ จำนวนมาก และนายอภิชาต หมุดหมัด อายุ 46 ปี และนางจิตตรา ช่อมณี อายุ 46 ปี พ่อและแม่ของพลทหารทรงธรรม เข้าร่วมในพิธีฌาปนกิจศพพลทหารทรงธรรมในครั้งด้วยบรรยากาศเศร้าโศกตลอดเวลา และกองทหารเกียรติยศมาร่วมในพิธีด้วย,โดยมีพระครูสุเมธมงคลญาณ เจ้าอาวาสวัดคงคาวดีหรือวัดเสาเภา เป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ โดยได้เทศนาให้กับผู้เข้าร่วมพิธีฌาปนกิจเป็นเวลานาน 15 นาที ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเกิดจากกรรมของแต่ละคนจึงขอให้ทุกเร่งทำความดี และบ้านเมืองจำเป็นต้องมีทหารไว้เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศชาติ ขออย่าให้ใครเกลียดทหารกันเลย เพราะทหารมีความสำคัญของบ้านเมืองมาก,หลังเสร็จพิธีสงฆ์ พ.อ.อุทิศ อนันตนานนท์ ผบ.ร.152 ได้เป็นประธานในพิธีทอดผ้าบังสุกุลและวางดอกไม้จันทน์ ก่อนที่จะให้พระสงฆ์ พ่อแม่ญาติพี่น้องและชาวบ้านจำนวนมากร่วมพิธีวางดอกไม้จันทน์ด้วยบรรยากาศโศกเศร้าตลอดเวลา ซึ่งนางจิตตรา แม่พลทหารทรงธรรม ได้นั่งร่ำไห้ตลอดเวลาขณะทำพิธี,จากนั้นได้มีกำลังพลทหารได้ทำการเคลื่อนโลงศพพลทหารทรงธรรม จากบริเวณศาลาการเปรียญไปยังเมรุเผาศพซึ่งอยู่ห่างประมาณ 100 เมตร โดยมีพ่อแม่และญาติถือภาพพลทหารทรงธรรม และมีพระสงฆ์เดินนำหน้าขบวนโลงศพไปจนถึงเมรุเผาศพ โดยมีชาวบ้านและเพื่อนๆ ทหารเดินตามไปส่งศพด้วยความอาลัย จนเสร็จพิธีเผาศพ โดยนางจิตตรา ผู้เป็นแม่และญาติๆ ถึงกับร่ำไห้ตลอดเวลาที่ยืนดูเมรุเผาศพที่กำลังเผาร่างลูกชายของตนเองด้วยความอาลัย จนญาติๆ ต้องเข้าประคองร่างนางจิตตราตลอดเวลาจนร่างของพลทหารทรงธรรมมอดไหม้เป็นกองเถ้าในที่สุด ซึ่งบรรยากาศการเผาศพพลทหารเสร็จสิ้นไปด้วยความเรียบร้อยและเรียบง่ายไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ก่อนที่ญาติๆ และผู้บังคับบัญชาและเพื่อนทหารจะเดินกลับไปในที่สุด
เผาแล้วศพพลทหารทรงธรรม ทำพิธีเรียบง่ายท่ามกลางความโศกเศร้าของบรรดาญาติๆ ชาวบ้าน ผู้บังคับบัญชา และเพื่อนๆ ทหาร โดยมีพระครูสุเมธมงคลญาณ เจ้าอาวาสวัดคงคาวดีหรือวัดเสาเภา เป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์
null
เผาศพพลธหาร,ทรงธรรม หมุดหมัด,พิธีฌาปนกิจศพ,ศาลาการเปรียญ,วัดคงคาวดี,นครศรีธรรมราช,ทหารถูกซ้อม,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/content/603668
ชักธงรบ : งิ้วตอนประหารเตียวเสี้ยน
ว่ากันด้วยเรื่องนิยาย ที่มีคนแต่งเอาไปให้งิ้วเล่น เตียวเสี้ยน เป็นนักร้องสาวในบ้านอ้องอุ้น นายกรัฐบาลพระเจ้าเหี้ยนเต้ ช่วงเวลาที่ตั๋งโต๊ะขุนทหาร เรืองอำนาจล้ำเส้นราชสำนัก,อ้องอุ้นวางแผนกลหญิงงาม ใช้เตียวเสี้ยนให้ผูกสมัครรักใคร่ กับลิโป้ บุตรบุญธรรม แล้วก็ไปออกปากยกเตียวเสี้ยนให้ตั๋งโต๊ะ เรื่องก็จบลงตรงลิโป้แค้นฆ่าตั๋งโต๊ะ,ในนิยายสามก๊ก เตียวหุยเคยด่าลิโป้ว่า ไอ้ลูกสามพ่อ ตั๋งโต๊ะเป็นพ่อคนที่สาม,แต่ในหนังสือ 101 คำถามสามก๊ก, (หลี่ฉวนจวิน เขียน ถาวร สิกขโกศล แปล สำนักพิมพ์มติชน พ.ศ.2556), บอกว่า ประวัติศาสตร์ทางการ ทั้งโฮ่วฮั่นซู หรือสามก๊กจี่ ไม่มีเรื่องเตียวเสี้ยนเลย,แต่ก็ยังมีสาวงาม อีกอย่างน้อยสองคน ที่อยู่ในข่ายถูกตีความว่า เป็นเตียวเสี้ยน,พงศาวดารสามก๊ก บทประวัติลิโป้ กล่าวว่า เมื่อลิโป้เจอเล่าปี่ มีความเคารพมาก เชิญเข้าไปนั่งเตียงของภรรยา เรียกภรรยามาคารวะแล้วรินสุราให้ดื่ม,ต่อมาระหว่างลิโป้รบกับโจโฉ ถูกหลันเป้งลูกน้องหักหลัง ต้องหนีไปซุ่มอยู่กับโกซุ่น ลูกน้องอีกคน พอตั้งหลักได้ก็สั่งให้ตันก๋งกับโกซุ่น ดูแลค่าย ตัวเองจะยกออกไปตัดเสบียงโจโฉ,ตอนนี้ภรรยาลิโป้ก็มีบทบาท ออกมาเตือนว่า ตันก๋งและโกซุ่นไม่ถูกกัน หากลิโป้ทิ้งเมืองออกไปก็จะเสียเมือง ลิโป้ลังเล เลิกแผน,ภรรยาลิโป้คนนี้ เป็นสมมติฐาน เธอก็คือ เตียวเสี้ยน,เรื่องที่สอง ในพงศาวดารสามก๊ก บทประวัติกวนอู เล่าเหตุการณ์ตอน โจโฉกับเล่าปี่ ร่วมกันล้อมลิโป้ไว้ในเมืองแห้ฝือ,กวนอูสังกัดพรรคเล่าปี่ บอกโจโฉหัวหน้าพรรคพันธมิตรว่า ลิโป้ส่งฉินอี๋ลู่ไปขอให้อ้วนสุดช่วย หากรบชนะลิโป้ กวนอูขอเมียฉินอี๋ลู่,โจโฉพยักหน้าให้ แต่ระหว่างรบติดพันกวนอูออกปากย้ำขอเมียฉินอี๋ลู่อีก โจโฉสะดุดใจ เมื่อรบชนะลิโป้ ก็ดูตัว เห็นว่าสวยมาก เลยทำลืมคำที่รับปากกับกวนอู เอาเมียฉินอี๋ลู่ไว้เสียเอง,กวนอูโทสะกล้า แค้นมากจึงหักหาญโจโฉ ชิงเมียฉินอี๋ลู่ แต่เหตุผลกลใดไม่รู้ กวนอูกลับฆ่าเมียฉินอี๋ลู่ตาย,งิ้วจ๋าจี้ว์ โด่งดังสมัยราชวงศ์หยวน มีคนที่คนดูติดใจ ,กวนอูประหารเตียวเสี้ยนกลางแสงจันทร์, เมียฉินอี๋ลู่ ได้ชื่อ,เตียวเสี้ยน, ก็ตอนนี้เอง,จนถึงบัดนี้ยังไม่มีหลักฐานใหม่ชี้ให้เชื่อว่า ในสมัยสามก๊กเตียวเสี้ยนคือใครกันแน่,ผมตั้งใจอ่านเรื่องเตียวเสี้ยน เพราะเห็นว่าเป็นความรู้ใหม่ ไม่อยากเอาไปเปรียบกับหญิงงามยุคสมัยใหม่ คนที่ทั้งมีความสวย และมีทั้งฝีปากกล้าเป็นอาวุธคนใดเลย,การเมืองในคณะกรรมาธิการใหญ่ ที่เด็กผู้ใหญ่หญิงและชาย ตีฝีปากกันนัวเนีย จนชาวบ้านเอือมระอา เปรียบเป็นกลหญิงงาม ไม่ถนัด หากจะเปรียบก็ต้องเปรียบกับกลหมากรุก,ธรรมดาหมากรุกระดับเซียน เขาไม่แลกหมากสำคัญอย่าง เรือ ม้า กับหมากเล็กอย่างเม็ดหรือเบี้ย ใครขืนไปแลก ถือว่าเป็นหมากคนละชั้น เล่นหมากรุกไม่เป็น,แต่ผลจากการแลกหมากคนละชั้น หมากเล็กกำลังส่อเค้าเสียท่าจะถูกกิน นึกถึงงิ้ว ตอน กวนอูประหารเตียวเสี้ยนกลางแสงจันทร์ ผมสงสารเตียวเสี้ยนยุคใหม่จับใจ,ระเบิดพลีชีพทางการเมืองที่ไม่เคยมี ก็มีได้เหมือนกัน ไม่น่าเลย.,กิเลน ประลองเชิง
อ่านสามก๊กต่อๆไป ยอดหญิงงาม ระดับสยบบุบผาจันทราหลบ ที่ชื่อ เตียวเสี้ยน นั้น ไม่แน่เสียแล้วว่า จะเป็นภรรยาลิโป้
null
ชักธงรบ,กิเลน ประลองเชิง,เตียวเสี้ยน,งิ้ว,ประหารเตียวเสี้ยน,ลิโป้ บุตรบุญธรรม,พงศาวดารสามก๊ก
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1712955
ตร.ไขปม พยายามฆ่า ข้อหาหมอ
ทำจำลองเหตุ จุดขยี้ลากร่าง เป็นหลักฐาน ชนแล้วไม่ช่วย,ตำรวจนำรถเก๋ง หมอยอร์น จำลองเหตุการณ์ซิ่งชน รปภ.สาหัส ยืนยันแสงสว่างเพียงพอ หลังชนแล้วยังสามารถมองเห็นร่าง รปภ.จากประตูด้านคนขับ เตรียมตรวจสอบถุงลมนิรภัยทำให้มองไม่เห็นคนเจ็บตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ ขณะที่พนักงานสอบสวนระบุที่แจ้งข้อหาพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะ หมอยอร์น หยุดรถนานกว่า 25 วินาที แต่ไม่ลงมาดู ผิดวิสัยวิญญูชน แต่กลับขับรถทับ รปภ.เคราะห์ร้ายแล้วยังไม่ลงมาดู จนมีคนตะโกนบอก ส่วนอาการ รปภ. แพทย์ระบุดีขึ้น แต่ยังไม่พ้นภาวะวิกฤติเพราะต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่,ยังเป็นที่จับตามองของสังคมกรณี นพ.ยอร์น จิระนคร สาธารณสุขนิเทศก์ เขต 12 กระทรวงสาธารณสุข ซิ่งรถเก๋งชนนายสมชาย ยามดี รปภ. ขณะกำลังปิดประตูทางเข้าออกกระทรวงสาธารณสุข ฝั่งสถาบันบำราศนราดูร ถนนติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี ทำให้รถทับร่างนายสมชายลากครูดไปกับพื้นได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดค่ำวันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และดื่มสุราในขณะขับขี่รถยนต์ ต่อมา พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ร่วม สอบปากคำ นพ.ยอร์น ก่อนจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานกรณีไม่ยอมให้เป่าแอลกอฮอล์ และพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดย นพ.ยอร์นให้การรับสารภาพในข้อหาขับรถโดยประมาทฯ เพียงข้อหาเดียว,ความคืบหน้าการสอบสวนคดีเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 พ.ย. ที่ประตู 2 กระทรวงสาธารณสุข จุดเกิดเหตุ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.อ.ศุภชัย ไตรสมบูรณ์ ผกก.พิสูจน์หลักฐานจังหวัดนนทบุรี พร้อมนำรถเก๋งฮอนด้าบริโอ้ อเมซ สีขาว ทะเบียน 2 กฒ 7552 กรุงเทพมหานคร ที่ นพ.ยอร์นขับในวันเกิดเหตุ อยู่ในสภาพหน้ารถยุบไม่สามารถขับได้ มาจำลองเหตุการณ์เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนการสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานใช้น้ำยาเคมีตรวจหาคราบเลือดบนผิวถนน และบริเวณรอบตัวรถพบคราบเลือดบนผิวถนนและตัวถังด้านหน้ารถหลายจุด,จากนั้นได้ใช้รถคันดังกล่าวจำลองเหตุการณ์ เริ่มที่จุดชนด้านหน้าประตู ขณะประตูปิดทั้ง 2 บาน ซึ่งบานด้านขวาล้อเลื่อนด้านล่างหลุดจากบานประตู จากนั้นได้เริ่มลากรถคันเกิดเหตุเข้าเทียบด้านหน้าประตูเหล็ก จุดที่ 2 เป็นจุดชน นายสมชาย ยามดี รปภ.ล้มคาอยู่ที่ล้อหน้า และทับไปบนส่วนขาลากร่างนายสมชายครูดถนนระยะทางราว 20 เมตร จนร่างไปติดกับล้อหลัง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบการมองเห็นจากภายในรถไม่สามารถมองเห็นร่างนายสมชาย แต่หากมองจากประตูข้างคนขับสามารถมองเห็นได้ ประกอบกับการจำลองสถานการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่าบริเวณเกิดเหตุมีแสงสว่างเพียงพอที่จะมองเห็นภาพรอบข้างได้ ส่วนเรื่องที่ นพ.ยอร์น อ้างว่าถุงลมนิรภัยทำงานเป็นเหตุให้มองไม่เห็นนั้น จะมีทีมผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอีกครั้งว่าบดบังการมองเห็นหรือไม่ สำหรับกล่องควบคุมสมองกลจะให้เจ้าหน้าที่บริษัทฮอนด้าเข้าตรวจสอบด้วย,พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า ได้ให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้ผู้ที่มีชื่อเป็นผู้ครอบครองรถยนต์คันเกิดเหตุมาให้ปากคำ ในส่วนของสำนวนการสอบสวนได้สอบปากคำพยานที่เกิดเหตุรวมถึงวัตถุพยานต่างๆไว้หมดแล้ว รอเพียงผลตรวจรถของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และความเห็นของแพทย์เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของคนเจ็บ ก็สามารถนำสำนวนส่งให้อัยการได้,พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า มีคำสั่งให้ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เชิญผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสภาพรถเก๋งฮอนด้าของหมอยอร์นในลักษณะของการขับเคลื่อนรถขณะเกิดเหตุเป็นอย่างไร และตรวจสอบว่ารถมีกล่องดำหรือไม่ เพื่อจะนำข้อมูลพฤติกรรมการขับรถ ให้กองพิสูจน์หลักฐาน เก็บร่องรอยพยานหลักฐานต่างๆ รวมทั้งเชิญผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทรถยนต์มาสอบปากคำเป็นพยาน เพื่อทราบธรรมชาติของรถว่าเป็นอย่างไร,รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ส่วนการจำลองเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ยืนยันชัดเจนว่าขณะเกิดเหตุแม้ไม่มีแสงสว่างจากไฟหน้ารถก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนถึงกำแพง รั้ว รวมถึงตัวเจ้าหน้าที่รปภ.ที่แต่งกายด้วยชุดเสื้อสะท้อนแสง เห็นได้ชัดเจนระยะ 150 เมตร ที่ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่เห็นเป็นไปไม่ได้ ส่วนการขอตรวจระดับแอลกอฮอล์ ตามกฎหมายกำหนดไว้ว่าผู้ใดขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ไม่ยินยอมให้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ให้ถือว่าผู้นั้นมึนเมาในขณะขับรถ เว้นแต่ว่าผู้ต้องหาจะสามารถพิสูจน์ได้อย่างแน่ชัดว่าไม่ได้เมา ซึ่งการนำพิสูจน์นั้นก็ยากแต่จะรวบรวมพยานหลักฐานที่เป็นประจักษ์พยานและวัตถุพยาน เพื่อยืนยันว่าผู้ต้องหาเมาหรือไม่,ร.ต.ท.สุวัฒน์ เสน่ห์หา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า ได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เนื่องจากตำรวจเชื่อว่า นพ.ยอร์นได้หยุดรถแล้วเป็นเวลาร่วม 25 วินาที แต่ไม่ได้ลงมาจากรถเพื่อที่จะลงมาดูในการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ตามวิสัยวิญญูชนทั่วไป แต่กลับขับรถทับตัวคนเจ็บ และหลังจากที่ขับรถทับร่างคนเจ็บไปแล้วต้องรู้สึกรับรู้ได้ว่ามีการทับวัตถุสิ่งใดแต่ก็ยังไม่ลงมาดูและยังขับรถไปต่อ จนมีประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ตะโกนให้หยุดรถถึงได้จอดรถมาดู,ด้านนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า ที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนนั้น โดยความเห็นแล้วพนักงานสอบสวนสามารถแจ้งข้อหาดังกล่าวได้เนื่องจากตำรวจเชื่อว่า นพ.ยอร์นต้องเห็น รปภ.ที่กำลังยืนปิดประตูอยู่ ส่วนที่ นพ.ยอร์นให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่เห็นคนเจ็บ ก็เป็นสิทธิ์ที่จะปฏิเสธได้แต่ต้องไปให้การกับศาลและทำให้ศาลเชื่อว่ามองไม่เห็นคนเจ็บจึงได้ขับชน,นพ.สกล สุขพรหม รอง ผอ.รพ.พระนั่งเกล้า ในฐานะศัลยแพทย์ระบบประสาทเจ้าของไข้ รปภ.ถูกรถชน กล่าวถึงอาการของนายสมชายว่า เบื้องต้นจากการประเมินอาการพบว่าผู้ป่วยมีสัญญาณชีพที่ปกติขึ้น เริ่มรู้สึกตัวตื่นลืมตาได้มากขึ้น ทั้งยังสามารถทำตามคำสั่งได้ดี และจากการนำผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการทดลองถอดเครื่องช่วยหายใจ พบว่าผู้ป่วยหายใจเองได้บางส่วน แต่ส่วนใหญ่ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ ดังนั้นขณะนี้ยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ ส่วนแขนซ้ายที่มีอาการอ่อนแรงพบว่าเริ่มมีแรงมากขึ้น ยังพบว่ามีอาการไข้อยู่แพทย์ยังต้องให้ยาปฏิชีวนะ และต้องรอผลเพาะเชื้ออีกประมาณ 3-5 วัน เพื่อหาสาเหตุของอาการไข้ว่าเกิดจากสาเหตุใด โดยในเรื่องของอาการไข้จะมีแพทย์ด้านอายุรกรรมเข้ามาช่วยดูแลร่วมด้วย ส่วนการประเมินภาวะของผู้ป่วยว่าจะพ้นภาวะวิกฤติหรือไม่ ต้องดูว่าหากยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เท่ากับว่าผู้ป่วยยังไม่พ้นภาวะวิกฤติ แต่โดยภาพรวมผู้ป่วยมีสัญญาณชีพที่ดีขึ้นตามลำดับ
ตำรวจนำรถเก๋ง หมอยอร์น จำลองเหตุการณ์ซิ่งชน รปภ.สาหัส ยืนยันแสงสว่างเพียงพอ หลังชนแล้วยังสามารถมองเห็นร่าง รปภ.จากประตูด้านคนขับ เตรียมตรวจสอบถุงลมนิรภัยทำให้มองไม่เห็นคนเจ็บตามที่กล่าวอ้างหรือไม่
ข่าว,ทั่วไทย
หมอยอร์น,กระทรวงสาธารณสุข,ขับรถชนรปภ.,สอบปากคำ,ข่าวหน้า 1,ข่าวเหตุ
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1127915
บทความอัลจาซีราห์: จับตาท่าทีบราซิลต่อนโยบายตะวันออกกลางของสหรัฐฯ
Greg Grandin อาจารย์วิชาประวัติศาสตร์มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เขียนบทความในอัลจาซีราห์ กล่าวถึงท่าทีของบราซิลที่มีต่อนโยบายสหรัฐฯ โดยเฉพาะนโยบายตะวันออกกลาง การบุกโจมตีลิเบีย หลังจากที่ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของบราซิลให้การต้อนรับการมาเยือนประเทศของ โอบามาอย่างดีเนื้อหาบทความมีดังนี้หลังจากที่บารัค โอบามา เพิ่งเสร็จสิ้นการเดินทางเยือนละตินอเมริกา ซึ่งรวมถึงการไปเยือนบราซิล ชิลี และเอล ซัลวาดอร์ สื่อของสหรัฐฯ นำเสนอข่าวการเดินทางเยือนประเทศต่างๆ ในครั้งนี้โดยเน้นไปที่ ดิลมา รุสเซฟฟ์ ประธานาธิบดีของบราซิลวอชิงตันโพสต์ นิวยอร์กไทมส์ สถานีวิทยุของรัฐบาล รวมถึงหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นๆ นักวิจารณ์สถานการณ์ตามช่องเคเบิลทีวี และเว็บล็อก ต่างทำนายว่าโอบามาซึ่งเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรก และ รุสเซฟฟ์ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของบราซิล ต่างก็มีความเห็นที่ลงรอยกันได้ ซึ่งเป็นการพลิกโฉมความสัมพันธ์ทางการทูตตั้งแต่สมัยของ ลูอิซ อิกนาซิโอ ลุลา ดา ซิลวาความไม่ลงรอยกันเกิดขึ้นเมื่อลุลาปฏิเสธที่จะรับฟังรัฐบาลของจอร์จ ดับเบิลยู บุช และโดดเดี่ยวฮูโก้ ชาเวซ ผู้นำประชานิยมของเวเนซุเอล่า ไม่นานนัก บราซิลแสดงท่าทีต่อต้าน หรือเลวร้ายกว่านั้นคือเสนอทางเลือกให้สหรัฐฯ ในจุดยืนประเด็นต่างๆ ทั้งเรื่องโลกร้อน การต่อต้านการทำรัฐประหารในฮอนดูรัส เรื่องคิวบา การค้า และเรื่องภาษีลุลา ไม่ยอมวิพากษ์วิจารณ์อิหร่าน และเปิดช่องทางในการเจรจาแยกออกมา ซึ่งเป็นช่องทางที่อยู่ห่างไกลจากอิทธิพลของสหรัฐฯ และทำให้พวกเขาไม่ชอบใจ ในการเปิดช่องเจรจากับอิหร่านในเรื่องนิวเคลียร์อดีตประธานาธิบดีบราซิลยังได้ให้การต้อนรับมาห์มูห์ อับบาส์ ผู้นำทางการปาเลสไตน์มาเยือนบราซิล โน้มนำให้ละตินอเมริกาทั้งหมดยอมรับรัฐปาเลสไตน์และเรียกร้องให้มีการเจรจา ระหว่างกลุ่มฮามาส กับเฮซโบลาห์สื่อสหรัฐฯ ให้คำอธิบายมากมายเกี่ยวกับพฤติกรรมของลุลา ซึ่งสำหรับผู้นำละตินอเมริกาแล้ว เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อพิจารณาจากประวัติศาสตร์ที่ละตินอเม ริกามีบทบาทเป็นผู้รับใช้รัฐบาลสหรัฐฯ ในช่วงที่ลุลาแข็งข้อต่อสหรัฐฯ นั้นมีการอธิบายว่าเป็นอาการโรคบุคลิกภาพบกพร่อง มีอาการชอบเรียกร้องความสนใจในเวทีโลก แต่ในเวลาต่อมาก็มีการอธิบายว่าลุลาจำเป็นต้องเล่นบทบาทผู้นำของพรรคซึ่งมัก จะคอยดึงจมูกสหรัฐฯ เล่นมาโดยเสมอไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตามการที่โอบามาไปเยือนบราซิลภายหลังการเลือกตั้งของ ดิลมาทันทีนั้นเป็นโอกาสในการคืนบทบาทเดิม จากรายงานเปิดเผยว่ารุสเซฟฟ์ก็ต้องการใช้การมาเยือนครั้งนี้ในการผลักตัว เองออกห่างจากผู้อุปถัมภ์ทางการเมืองอย่างลุลา แม้ในช่วงทศวรรษ 1970 ที่เธอยังเป็นคนหนุ่มสาว เธอจะเคยเป็นสมาชิกองค์กรมาร์กซิสท์-เลนินนิสท์ ที่ต่อต้านเผด็จการซึ่งมีสหรัฐฯหนุนหลังอยู่ก็ตามประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์โกลด์แมน แซส บอกว่าดิลมามีบุคลิกและสไตล์ที่แตกต่างออกไปเธอเป็นคนที่ อบอุ่น และจะต้อนรับโอบามาอย่างเป็นมิตร (หรือว่านี่จะถึงระดับที่สหรัฐฯ ซึ่งเมื่อก่อนเคยทำตัวเป็นผู้ครอบงำประชาสังคมนานาชาติ แต่ในตอนนี้แค่ผู้นำต่างชาติไม่หยาบคายใส่เมื่อประธานาธิบดีไปเยี่ยมก็ดีใจ แล้ว) สื่อใหญ่และแหล่งความเห็นหลายแหล่งคาดว่าเธอจะเล่นบทตามสหรัฐฯ มากกว่าผู้นำก่อนหน้านี้ในละตินอเมริกา โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องตะวันออกกลางเป็นที่น่าเสียดายสำหรับสหรัฐฯ ที่ความจริงไปเป็นไปตามเนื้อเรื่องแบบที่คาดไว้ บราซิลภายใต้การนำของรุสเซฟฟ์ยังคงเดินตามหลักการเดิมในด้านการต่างประเทศแม้กระทั่งก่อนหน้าที่โอบามาจะมาถึงบราซิลในฐานะสมาชิกชั่วคราวของคณะมนตรี ความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ บราซิลได้ร่วมกับจีนและเยอรมนีงดลงคะแนนเสียงในการลงมติ การใช้มาตรการทุกอย่างที่เป็นไปได้ กับมุมมาร์ กัดดาฟี ของลิเบียตั้งแต่นั้นมา การต่อต้านการทิ้งระเบิดก็เข้มข้นขึ้น จากการรายงานของสำนักข่าวไอพีเอส รัฐมนตรีต่างประเทศของบราซิลโดยส่วนใหญ่แล้วยังเป็นนักการทูตจากยุคของลุลา ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ก็ออกแถลงการณ์ประณามการสูญเสียชีวิตของพลเรือนและ เรียกร้องให้มีการเจรจาสองฝ่ายตัวลุลาเองก็สนับสนุนจุดยืนของดิลมาในกรณีของลิเบีย โดยการกล่าวประณามการแทรกแซงของสหรัฐฯ การรุกรานเหล่านี้เกิดขึ้นเพียงเพราะสหประชาชาติอ่อนแอ เขากล่าว ถ้าหากพวกเรามีตัวแทนของศตวรรษที่ 21 (ในคณะมนตรีความมั่นคง) แทนการส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิด ทางสหประชาชาติก็จะส่งเลขาธิการไปเจรจาแทนการประกาศกร้าวนี้ถูกตีความว่าหากบราซิลเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความ มั่นคงซึ่งเป็นตำแหน่งที่บราซิลอยากได้มานานแล้ว บราซิลก็คงโหวตคัดค้านการสั่งทิ้งระเบิดแทนที่จะเพียงแค่งดเว้นการออกเสียงความเห็นเหล่านี้เป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่าอดีตประธานาธิบดีผู้ยังคงมี อิทธิพลและความนิยมสูงในบราซิล จะเดินหน้าชี้นำนโยบายต่างประเทศให้กับประธานาธิบดีชุดปัจจุบันต่อไปทั้งอาร์เจนตินาและอุรุกวัยเองก็แข็งขันแสดงความไม่เห็นด้วยกับการแทรก แซงของสหรัฐฯ ในระดับหนึ่ง การโต้แย้งนี้สะท้อนถึงของแนวคิดยึดมั่นของละตินอเมริกาในเรื่องการไม่แทรก แซงและเอกาธิปไตย แต่ในอีกระดับหนึ่งซึ่งเป็นระดับที่ดูใกล้กับสามัญสำนึกทั่วไปมากกว่า คือมันได้สะท้อนความเชื่อว่ากลุ่มการทูตควรจะกลับไปสู่มาตรฐานว่าสงครามควร เป็นมาตรการสุดท้ายแทนที่จะเป็นวิธีการจัดการปัญหาเป็นอย่างแรกการโจมตี (ลิเบีย) แสดงให้เห็นการเสื่อมถอยของระเบียบนานาชาติ ประธานาธิบดีอุรุกวัย โฮเซ มูจิกา กล่าว การเยียวยากลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายกว่าตัวโรคภัยเองเสียแล้ว การปฏิบัติการช่วยชีวิตคนด้วยการทิ้งระเบิดช่างฟังดูขัดแย้งกันในตัว เองอย่างบอกไม่ถูกไม่เพียงแค่เรื่องตะวันออกกลางเท่านั้น บราซิลยังได้ผลักไสสหรัฐฯ ในประเด็นสำคัญอื่นๆ เช่นประเด็นด้านการเงิน ซึ่งแม้ไอเอ็มเอฟจะพยายามให้บราซิลรักษา วินัยทางการเงิน แต่บราซิลซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเจริญเติบโตมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก็แสดงความเป็นอิสระจากสหรัฐฯ มาก อีกทั้งบราซิลยังเรียกร้องให้สหรัฐฯ และยุโรปลดภาษีสินค้าจากประเทศที่เจริญแล้ว และแม้รุสเซฟฟ์จะต้อนรับประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นอย่างดี แต่ก็วิจารณ์รัฐบาลสหรัฐฯ อย่างหนักว่าแม้จะพร่ำพูดถึงเรื่องการค้าเสรี แต่ก็ทำตัวเป็นลัทธิกีดกันการค้า (Protectionism) เสียเอง และเรียกร้องให้สหรัฐฯ เปิดตลาดสินค้านำเข้าของบราซิลเช่น เอธานอล เหล็ก และน้ำส้มแม้ดิลมาจะ อบอุ่น ปฏิบัตินิยม และ นอบน้อม แต่ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของบราซิล ก็ไม่ใช่ใครที่จะกินกันได้ง่ายๆ หากเป็นเรื่องของสงคราม สันติภาพ และเศรษฐกิจ Greg Grandin 30-3-2554
Greg Grandin อาจารย์วิชาประวัติศาสตร์มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เขียนบทความในอัลจาซีราห์ กล่าวถึงท่าทีของบราซิลที่มีต่อนโยบายสหรัฐฯ โดยเฉพาะนโยบายตะวันออกกลาง การบุกโจมตีลิเบีย
การเมือง,ต่างประเทศ
การประท้วงในตะวันออกกลาง,บราซิล,บารัก โอบามา,ลิเบีย,สหรัฐอเมริกา
https://prachatai.com/journal/2011/03/33814
สื่อนอก เริ่มรายงานข่าว 2 นศ.ไทยขับรถตกเหวครั้งแรก เผยภาพซากเก๋งระยะใกล้
เมื่อ 9 ส.คต.60 สำนักข่าวเอพี สื่อในสหรัฐฯหันมาเริ่มรายงานข่าว กรณี นายภคพล หรือกอล์ฟ ชัยรัตนทรงพร อายุ 27 ปี และน.ส.ทิวาดี หรือ มิน แสงสุริยฤทธิ์ อายุ 24ปี สองนักศึกษาชาวไทย ประสบอุบัติเหตุ ,ขับรถตกหน้าผา ,บริเวณถนน Freeway 180 ในเมืองเฟรสโน รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานอำเภอและสำนักงานตำรวจเมืองเฟรสโนได้พยายามจะกู้ซากรถ ขึ้นมาตั้งแต่26 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ต้องประสบปัญหาน้ำไหลเชี่ยวแรง และบริเวณดังกล่าวเป็นหุบเขา,เอพี เผยเมื่อ 8 ส.ค.ว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังพยายามหาทางกู้ศพผู้ประสบเหตุ ออกมาจากซากรถเก๋ง หลังจากได้ประสบอุบัติเหตุมานานกว่า 2 สัปดาห์ และ ทำให้ซากรถเก๋งได้ถูกกระแสน้ำพัดไปติดแก่งหินบริเวณกลางแม่น้ำคิงส์แล้ว โดยขณะนี้กระแสน้ำกำลังไหลเชี่ยวรุนแรงเนื่องจากหิมะละลาย,ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอพี ยังได้เผยแพร่ภาพซากรถเก๋งสีแดงในระยะใกล้ พร้อมระบุว่า ภาพดังกล่าวได้มาจากสำนักงานอำเภอเมืองเฟรสโน ที่ถ่ายไว้เมื่อ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยจากการเปิดเผยของนายโทนี บอตตี โฆษกประจำสำนักงานอำเภอเมืองเฟรสโน ระบุว่า ในขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันระบุตัวตนของผู้เสียชีวิต แต่กำลังทำงานประสานกับตำรวจทางหลวงไฮเวย์ และเจ้าหน้าที่ทางการไทยเพื่อกู้ซากรถขึ้นมา รวมทั้งกู้ร่างผู้ประสบอุบัติเหตุ,นายบอตตี ยังเผยด้วยว่า ขณะนี้ การค้นหาศพผู้ประสบอุบัติเหตุของสำนักงานอำเภอเมืองเฟรสโน ซึ่งได้รับความร่วมมือช่วยเหลือจากทีมกู้ภัยกำลังมีการประเมินกันถึงสภาพอากาศ และระดับน้ำในแม่น้ำคิงส์กันทุกวัน เพื่อวางแผนในการกู้ศพผู้เสียชีวิตได้อย่างปลอดภัย
เอพี หันมาเริ่มลงข่าว 2นักศึกษาไทยขับรถตกเหวลึกที่แคลิฟอร์เนียเป็นครั้งแรก พร้อมเผยภาพถ่ายซากรถเก๋งระยะใกล้ติดกลางแก่งหินแม่น้ำคิงส์ ชี้ทีมกู้ภัยกำลังหาทางลงไปช่วยกู้ร่างผู้ประสบเหตุ แต่ยังติดปัญหาน้ำไหลเชี่ยวรุนแรง
ข่าว,ต่างประเทศ
นักศึกษาไทยขับรถตกเหว,นศ.ไทยขับรถตกเหว,นศ.ไทยขับรถตกเหว แคลิฟอร์เนีย,สหรัฐฯ,นศ.ไทยประสบอุบัติเหตุ
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1032530
กามา ลั่น หวังเก็บสามแต้มจาก กัมบะ ในศึกเอซีแอล
ในบ้าน ศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2015 กลุ่มเอฟ นัดที่ 3,เมื่อช่วงเช้า วันที่ 17 มี.ค. ที่ห้องแถลงข่าวภายในสนามโอซากา เอ็กซ์โป70 รังเหย้าของทีมกัมบะ โอซากา โดยมีตัวแทนจากเอเอฟซี พร้อมด้วย เคนตะ ฮาเซงาวา และ ไดกิ นิวะ ผู้จัดการทีมและผู้เล่นของทีมเจ้าบ้าน รวมไปถึง อเล็กซานเดอร์ กามา กุนซือใหญ่ทีมปราสาทสายฟ้า และ สุเชาว์ นุชนุ่ม กองกลางกัปตันทีม ร่วมงานแถลงความพร้อม ก่อนเกมที่จะมีขึ้นในวันพุธนี้,อเล็กซานเดอร์ กามา นายใหญ่ของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เผยว่า การมาเยือนญี่ปุ่นในครั้งนี้ ถึงแม้จะเป็นงานที่ยาก แต่นักเตะทุกคนต่างมุ่งหวังที่จะเก็บ 3 แต้ม กลับบ้านให้ได้,เกมนี้เป็นเกมที่สำคัญและเป็นเกมที่ยาก แต่บุรีรัมย์อยากจะเก็บแต้มกลับไทยให้ได้ เพื่อเป้าหมายในการเข้ารอบต่อไป ที่จริงผมต้องการเห็นลูกทีมชนะทุกเกม ซึ่งแนวทางโค้ชทุกคนต้องการให้ลูกทีมลงเล่นเพื่อเป็นผู้ชนะ หากลงเล่นด้วยผลต้องการมาเยือนเพื่อเสมอ คงเป็นการเล่นที่ยากพอควรสำหรับเกมฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นการลงเล่นเหย้าหรือเยือน แน่นอนผมต้องการ 3 คะแนน เรามาด้วยความเคารพและให้เกียรติ กัมบะ โอซากา พวกเขาคือทีมแชมป์เจลีก แต่เราจะไม่โฟกัสนักเตะ หรือระวังคนใดเป็นพิเศษสำหรับเกมนี้,ด้าน สุเชาว์ นุชนุ่ม กัปตันทีม เผยว่า ทีมเจ้าถิ่นถือเป็นอีกหนึ่งทีมที่มีคุณภาพและยากที่จะเก็บแต้มออกไปได้ง่ายๆ แต่ด้วยสภาพความพร้อมที่เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี อีกทั้งได้ปรับตัวก่อนการแข่งขันถึง 2 วัน ที่มีความมั่นใจเป็นอย่างมาก และเชื่อว่าเกมจะออกมาสนุกอย่างแน่นอน,ขณะที่ เคนตะ ฮาเซงาวา ผู้จัดการทีมกัมบะ โอซากา ยอมรับว่า จากการที่ทีมทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ ด้วยการพ่ายมาก่อนใน 2 นัดแรก ทำให้ในนัดนี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเอาชนะทีมผู้มาเยือนจากประเทศไทยให้ได้สถานเดียว นอกจากนี้ ยังได้ชื่นชมทีมจ่าฝูงไทยลีกด้วยว่า เป็นทีมที่มีความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง โดยเฉพาะคู่กองหน้าชาวบราซิล ที่ลูกทีมจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่นาทีเดียว,ส่วน ไดกิ นิวะ ปราการหลังประสบการณ์สูงของทีมเจ้าถิ่น ยอมรับว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ให้ได้ เพราะฤดูกาลที่แล้ว สามารถคว้าได้ถึงสามแชมป์ และปีนี้ก็อยากจะทำให้ได้แบบนั้นอีกครั้ง ถึงแม้จะเป็นเรื่องยาก แต่การเล่นในบ้าน เป้าหมายคือต้องชนะสถานเดียวเท่านั้น ,สำหรับสถานการณ์ล่าสุดในกล่มเอฟ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำเป็นอันดับ 1 มีอยู่ 6 แต้มเต็ม จากการชนะทั้งสองนัด ขณะที่ กัมบะ โอซากา ทริปเปิลแชมป์จากญี่ปุ่น แพ้รวดมาทั้งสองนัดก่อนหน้านี้ จมอยู่ในอันดับสุดท้าย ยังไม่มีแต้มแต่อย่างใด,ทั้งนี้ ศึกฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2015 ระหว่าง กัมบะ โอซากา พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะแข่งขันวันพุธที่ 18 มีนาคมนี้ เวลา 17.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่องฟ็อกซ์ สปอร์ต เอชดี ทรูวิชั่น 680 
อเล็กซานเดอร์ กามา กุนซือทีมปราสาทสายฟ้า ประกาศลั่นกลางงานแถลงข่าว มั่นใจลูกทีมจะมาเก็บ 3 แต้ม ในบ้านของ กัมบะ โอซากา ได้อย่างแน่นอน ขณะที่ เคนตะ ฮาเซงาวา นายใหญ่ทีมเจ้าบ้านหลังพิงฝา พร้อมสู้อย่างเต้มที่เพื่อเก็บชัยนัดแรก
null
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด,ปราสาทสายฟ้า,กัมบะ โอซากา,แชมป์เจลีก,เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2015,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์,เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก
https://www.thairath.co.th/content/487417
เต้ย จรินทร์พร เคลียร์ชัด อาเล็ก-อเล็กซ์ ไม่มองหน้ากัน?
ก่อนหน้าก็ยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่าง ,อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ, และ ,อเล็กซ์ เรนเดลล์, ยังเป็นเพื่อนกันดีไม่มีปัญหาอะไร แม้ฝ่ายอาเล็กจะคบกับนางเอกหน้าใส ,เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ, ซึ่งเคยเป็นอดีตคนรักของอเล็กซ์ แต่ล่าสุดมีกระแสว่าในงานฟุตบอลช่อง 3 อาเล็ก-อเล็กซ์ ไม่มองหน้ากันซะงั้น ได้เจอ เต้ย มารับรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ Die Tomorrow ในงานประกาศรางวัลภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยม ชมรมวิจารณ์บันเทิง ครั้งที่ 26 ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก เลยถามถึงเรื่องนี้ รวมถึงแพลนเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ด้วยกันทั้งสองครอบครัวในช่วงสงกรานต์ด้วย,เห็นว่าหนังเรื่อง Die Tomorrow เล่น 7 นาที แล้วได้รางวัล?,เรื่องนี้แบ่งเป็นตอนๆ แต่ละคนก็เล่น 7 นาที 10 นาที แล้วมันเป็นลองเทค เจตนาอยากเป็นกำลังใจให้นักแสดงทุกๆ คน อยากให้ทุกคนพัฒนาฝีมือ ถ้าเราตั้งใจทำอะไรจริงๆ 7 นาทีเรายังมีคนเห็นความตั้งใจตรงนี้ ก็อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนพัฒนาฝีมือตัวเองไปเรื่อยๆ ซึ่งเต้ยก็ขอบคุณคณะกรรมการที่เห็น สำหรับเต้ยรู้สึกว่ายากและท้าทายมากๆ ด้วยบีบของพี่เต๋อ ด้วยให้เล่นเสียใจแบบที่เราไม่เสียใจ,เราคิดว่าต้องมาถึงการได้รับรางวัลมั้ย?,ไม่คิดเลยค่ะ เล่นแค่ 7 นาที ก็ไม่คิดถึงตรงนี้ ซึ่งก็ดีใจที่ได้รางวัล ซึ่งรางวัลนี้ก็มอบให้ Die Tomorrow ค่ะ ทุกคนเล่นเท่าๆ กันหมดเลย ให้รางวัลนี้กับ Die Tomorrow ค่ะ,มีคนจับผิดชอตที่ อาเล็ก กับ อเล็กซ์ เรนเดลล์ ไม่มองหน้ากันในงานฟุตบอล?,ไม่จริงๆ ค่ะ ไม่อยากให้ตีความแบบนั้น รูปบางทีที่เห็น เต้ยก็เห็นรูปนั้นเนอะ มันก็เป็นจังหวะที่ต่างคนต่างหันไปทำอะไร แต่ไม่ได้มองหน้ากัน เต้ยก็มีคุยกับเรนเดลล์ และอาเล็กเหมือนกัน ทั้งสองคนก็โอเค ไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ซึ่งเต้ยก็มั่นใจมากว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย แต่ก็ไม่ได้ไปดูรูปเพื่อหาว่าเค้าทำอะไรกันอยู่ เรารู้อยู่แล้วว่า อเล็กซ์ เรนเดลล์ ไม่ได้มีเจตนาอะไรที่ไม่ดีกับอาเล็กอยู่แล้ว มันไม่ได้มีอะไรจริงๆ อยากให้เลิกโฟกัสที่ประเด็นนี้ได้แล้วค่ะ เพราะว่ามันไม่ได้มีอะไร ก็ไม่รู้จะพูดยังไง,ทำให้เราอึดอัดมั้ย กับสถานการณ์แบบนี้ที่คนจับจ้องเราสามคน?,คงรู้สึกกับคนข้างนอกมากกว่าค่ะ แต่ในความเป็นจริงของทั้งสามคนมันไม่ได้มีอะไรจริงๆ ค่ะ ก็ยังเจอกัน เค้าก็ยังคุยกัน มันไม่ได้มีอะไร ก็ไม่รู้จะพูดยังไงให้ทุกคนเข้าใจ อย่างรูปที่ถ่ายมา มันก็เป็นธรรมดาที่คนนึงกำลังผูกเชือกรองเท้า อีกคนหันไปทางอื่น ทำให้ตีความไปอย่างนั้น แต่เต้ยว่าไปถามเค้าเองดีกว่า เต้ยมั่นใจว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น ไม่มีอะไรจริงๆ,ตอนนี้คนมองว่าอาเล็กดูอ่อนโยนขึ้น มีถักผมเปียให้น้องอลินด้วย?,เค้าก็มีมุมอ่อนโยนของเค้า ก็มีหลายมุม มีความอ่อนโยน แต่คนอาจจะไม่ได้เห็น,คบเต้ยแล้วดูซอฟต์ขึ้น ลดความทะเล้นลง?,เค้าก็มีมุมนี้ของเค้าอยู่แล้ว แต่ว่าอาจจะไม่ได้มีใครรู้ เค้าก็ไม่จำเป็นต้องบอกใครว่าเราเป็นอย่างนี้นะ,สงกรานต์นี้มีแพลนไปไหนมั้ย?,มีค่ะ ไปสวิตเซอร์แลนด์ ก็ไปเที่ยวกับครอบครัวค่ะ ของเต้ยก็มีคุณแม่กับเพื่อนคุณแม่ไปด้วย ส่วนทางอาเล็กก็มีคุณพ่อคุณแม่แล้วก็พี่ชายน้องสาวเค้าไปด้วยค่ะ,เที่ยวกระชับมิตรรึเปล่า?,ไม่ได้คิดไปถึงตรงนั้นค่ะ แค่คิดว่าอยากไปเที่ยว แล้วสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่อยากไปอยู่แล้วค่ะ,ใครเริ่มต้นชวนไปยกครอบครัว?,น่าจะเป็นอาเล็กส่งทัวร์มาให้ดู ว่ามันประมาณนี้ เราก็อยากไปอยู่แล้ว และช่วงสงกรานต์เป็นช่วงหยุดยาวก็เลยไปค่ะ คุณแม่เต้ยก็อยากไปค่ะ,คิดว่าจะมีโมเมนต์โรแมนติกมั้ย?,ก็มีครอบครัวไปด้วย อีกอย่างไม่ได้ไปโฟกัสความโรแมนติกของเมืองเลยค่ะ ชอบไปเที่ยว ชอบไปเห็นอะไรใหม่ๆ เขียวๆ,เป็นการทำความรู้จักของทั้งสองครอบครัวมากขึ้นระหว่างสองครอบครัวมั้ย?,มันคงเป็นช่วงที่เราได้เจอกัน อยู่ด้วยกัน แต่ไม่ได้คิดว่าเป็นการทำความรู้จักกันมากขึ้นค่ะ เป็นแค่ไปเที่ยวกัน คิดแค่นี้ ไม่ได้คิดไปไกลกว่านั้น,หลายคนก็ลุ้นภาพคู่?,ถ้ามีจังหวะ หรือถ้าสวยก็จะลงค่ะ ถามว่าเขินที่จะลงรูปคู่มั้ย ไม่ได้เขินค่ะ ตอนแรกที่จะไม่ลงเพราะไม่อยากให้มันเป็นประเด็น แต่กลายเป็นว่าการไม่ลงก็เป็นสิ่งที่ถูกถามเหมือนกัน,คนรอลุ้นภาพหวาน?,ก็เห็นมีคอมเมนต์เหมือนกัน ก็ดีใจที่มีคนคอยลุ้นคอยเชียร์ สนับสนุน,พัฒนาการความรักตอนนี้ไปถึงขั้นไหนแล้ว?,ก็รู้จักกันไปเรื่อยๆ ค่ะ เต้ยว่าคนเรามันมีเรื่องให้รู้จักกันอีกเยอะ เท่าที่รู้จักตอนนี้ เค้าเป็นคนน่ารักดี ไม่ได้มีแต่มุมกวนๆ ที่ทุกคนเห็น เค้าก็มีมุมซอฟต์ของเค้าบ้าง ต่อหน้าทุกคนอาจจะดูซ่า พลังเยอะ,หลังเจอมรสุม และตอนนี้ก็ดูมีคนเชียร์ ทำให้ความสัมพันธ์ราบรื่นขึ้นมั้ย?,พอมันมีกระแสบางอย่างก็ทำให้เราได้เห็นมุมมองของกันมากขึ้น ก็โชคดี เต้ยรู้สึกว่าถ้าจะได้เห็นหรือรู้จักกันก็จะเป็นในมุมที่แย่ ซึ่งเค้าก็โอเคค่ะ ตอนนี้ก็ชิลๆ แล้ว,เตรียมใจมั้ยถ้าลงรูปคู่คนจะแซวเยอะ?,ถ้าทุกคนแฮปปี้เต้ยก็ดีใจค่ะ.
เต้ย จรินทร์พร เปิดใจหลังมีกระแส อาเล็ก ธีรเดช กับอเล็กซ์ ไม่มองหน้ากันในงานฟุตบอลช่อง 3 พร้อมทั้งเผยถึงทริปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ทั้งครอบครัวด้วย
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
เต้ย จรินทร์พร,อาเล็ก ธีรเดช,อาเล็ก เต้ย,อเล็กซ์ เรนเดล,อาเล็ก อเล็กซ์ เกาเหลา,กอสซิป
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1242497
ตะลึง เสี่ยไพโรจน์ นักธุรกิจไทย บรรลุเทคโอเวอร์ทีมดังยุโรป
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 5 พ.ค. ว่า protothema สื่อดังประเทศกรีซ ตีข่าวว่าพานาธิไนกอส ทีมดังในศึกซุปเปอร์ลีก กรีซ บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นขายสโมสรให้กับ แพน เอเชีย ฟันด์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มี นายไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์สานต์เป็นเจ้าของ,สืบเนื่องมาจากเมื่อวานนี้ที่ เสี่ยไพโรจน์ เดินทางถึงกรุงเอเธนส์ เพื่อเจรจาเบื้องต้นถึงความเป็นไปได้ที่จะเข้ามาเทคโอเวอร์พานาธิไนกอสกับทาง จิอันนิส อลาฟูซอส เจ้าของทีมคนปัจจุบัน,ล่าสุดจากสื่อดังกล่าวก็ตีข่าวว่าทาง พานาธิไนกอส ได้บรรลุข้อตกลงกับทาง แพน เอเชีย ฟันด์ เป็นที่เรียบร้อยซึ่งทั้งสองฝ่ายก็ได้แถลงการณ์ร่วมกันยืนยันถึงข้อตกลงและรายละเอียด รวมถึงกรอบเวลาที่ผู้ถือหุ้นหลักจะเปลี่ยนมืออย่างเป็นทางการซึ่งจะเสร็จสิ้นคาดว่าภายในวันที่ 30 มิถุนายนนี้,ตามรายงานระบุว่า การตรวจสอบบัญชีทางการเงินของสโมสรจะเริ่มขึ้นในเร็วๆนี้ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นในวันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่เจ้าของทีมคนปัจจุบันส่งมอบหุ้นให้เจ้าของใหม่อย่างเป็นทางการ และการตัดสินใจใดๆเกี่ยวกับสโมสรจะมีบรรลุร่วมกันโดยมีผลในทันทีตามที่แถลงการณ์ได้ว่าไว้,ปัจจุบัน พานาธิไนกอส รั้งอันดับที่ 13 ของตารางซุปเปอร์ลีกกรีซ โดยอดีตแชมป์ลีกสูงสุด 20 สมัยกำลังเจอกับปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ซึ่งพวกเขาเกือบจะถูกตัด 3 แต้มเป็นครั้งที่สามหลังและอาจถูกปรับตกชั้นหลังจากไปติดเงิน เยนส์ เวมเมอร์ อดีตกองหลังชาวเยอรมันจำนวน 45,000 ยูโร แต่เมื่อพวกเขาเคลียร์เงินก้อนนี้ได้ ปัญหาทุกอย่างก็คลี่คลาย รวมถึงสโมสรในซุปเปอร์ลีกก็ช่วยกันโหวต ทำให้พวกเขารอดจากการตกชั้นในทันที,ภาพจาก http://en.protothema.gr/panathinaikos-football-club-sold-to-pan-asia-fund/
สื่อดังแดนเทพนิยายตีข่าวว่า เสี่ยไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์สานต์ เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แพน เอเชีย ฟันด์ ได้บรรลุข้อตกลงเข้าไปเทคโอเวอร์ทีมดังในลีกกรีซ อย่าง พานาธิไนกอส เป็นที่เรียบร้อย
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
ไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์สานต์,พานาธิไนกอส,ซุปเปอร์ลีก กรีซ
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/1274091
รวบ บิ๊ก วังยาง เอเย่นต์ยาสุพรรณฯ เปิดโรงแรมอยู่กับโคโยตี้ รอส่งของ
วันที่ 24 ต.ค. พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รรท.ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ได้รับรายงานจากสายลับว่า จะมีเอเย่นต์ค้ายาเสพติดมาเปิดโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง ริมถนนสาย 340 ต.ท่าระหัด อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เพื่อส่งยาเสพติดให้กับลูกค้า โดยใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นสกู๊ปปี้ไอ สีแดง ทะเบียนจังหวัดกาญจนบุรี จึงได้สั่งการ พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ เฉลียวศิลป์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิจ ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี ร.ต.อ.สนิทพงษ์ อินทรกำแหง รอง สว.สส. นำกำลังไปตรวจสอบเพื่อทำการจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ได้ปลอมตัวเป็นพนักงานโรงแรม เคาะประตูเรียก,สามารถจับกุม นายคมสัน พุ่มโพธิ์งาม ฉายา บิ๊ก วังยาง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 6 ต.วังยาง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี พร้อม น.ส.เจ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ชาว อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี แฟนสาว ซึ่งเป็นโคโยตี้ระดับดาวดังในผับชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี,จากการตรวจค้น พบของกลางย้าบ้าในกระเป๋าสะพาย ยาบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน จำนวน 3,420 เม็ด ไอซ์บรรจุในถุงพลาสติกใส หนัก 8.23 กรัม เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ VIVO 1 เครื่อง สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มาเปิดโรงแรมกับแฟนสาวเพื่อเสพยาและแบ่งสินค้า เตรียมจำหน่ายให้ลูกค้ารายย่อย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่เที่ยวกลางคืน,สำหรับ นายคมสัน หรือ บิ๊ก วังยาง เพิ่งพ้นโทษคดีค้ายาเสพติดมาได้ไม่นาน แต่กลับมาค้ายาอีกครั้ง จนกระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว. ,(ภาพจากชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี)  
ชุดสืบสวนจังหวัด บุกรวบเอเย่นต์ยาเสพติด บิ๊ก วังยาง คาโรงแรมกลางเมืองสุพรรณฯ พร้อมแฟนสาวคนสวยโคโยตี้ระดับดาวดังผับ ของกลางทั้งยาบ้า-ไอซ์ เผยเปิดห้องเสพ และรอส่งของให้ลูกค้า พบประวัติแสบ เพิ่งพ้นโทษคดีค้ามาได้ไม่นาน
null
จับเอเยนต์,จับยาบ้า,จับบิ๊ก วังยาง,พ่อค้ายาบ้า,จับคาโรงแรม,จับโคโยตี้,สุพรรณบุรี
https://www.thairath.co.th/content/763156
คุมเข้มทีวีต้องเป็นกลาง กสทช.ห้ามชี้นําการเมือง สั่งเคร่งครัดช่วงเลือกตั้ง
กกต.ยันยื่นภาษีย้อน 3 ปี เพื่อไทยเคาะส่ง 249 ส.ส.เขต,เลขา กกต.ขึงขังไม่มีผ่อนผันกฎเกณฑ์ ใครจะลง ส.ส.ต้องทำตามกฎหมาย ยื่นภาษีย้อนหลัง 3 ปี ไม่ต้องลบแอ็กเคานต์ไลน์-เฟซบุ๊ก แต่ต้องแจ้ง อ้อมแอ้ม เรื่องป้ายหาเสียงกำลังเร่งประสาน วิษณุ สำทับให้ศึกษาระเบียบดีๆ กสทช.เตือนสื่อวิทยุ-โทรทัศน์เป็นกลาง กอบศักดิ์ ยักท่าจะออก-ไม่ออก บิ๊กตู่ ยังนิ่งอนาคตการเมือง พปชร.รื้อบัญชีอีกรอบก่อนเคาะครั้งสุดท้าย สลับ ลูกบุญทรง ลงแทน เดือนเต็มดวง กระแสแผ่ว ปชป. ฉะ กกต.ตัวทำลายบรรยากาศ พท.เคาะแล้วส่งผู้สมัคร ส.ส. 249 เขต สับหลีกพื้นที่ทับซ้อนกับ ทษช. ตู่ ลั่นถ้าเพื่อชาติชนะไม่ยอมให้ปล้นแน่ ศึกสุพรรณฯยังเรื้อรัง จองชัย ไม่ยอมจบ เสมอกัน ปวดหัวให้ผู้ใหญ่ไปว่ากัน ลุงตู่ คืนความสุขหั่นเวลาจ้อวันศุกร์,กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนักถึงการออกระเบียบข้อบังคับของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้พรรคการเมืองยึดปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในการเลือกตั้ง ส.ส. แต่หลายข้อกลับไม่มีความชัดเจน โดยเฉพาะการต้องยื่นข้อมูลการเสียภาษีย้อนหลังไป 3 ปี รวมถึงการกำหนดพื้นที่ติดป้ายหาเสียง,กกต.ชู ศส.ปชต.กองหนุนที่ดี,เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 ม.ค. ที่โรงแรม มิราเคิล แกรนด์ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยดีเด่น (ศส.ปชต.) ว่า นับจากนี้ประเทศจะมีวาระสำคัญ 2 เรื่องคือ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของในหลวงรัชกาลที่ 10 และการเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 24 มี.ค. เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน จึงมั่นใจว่า ศส.ปชต.จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้สิทธิลงคะแนน,ไม่ผ่อนผันยื่นภาษีย้อนหลัง 3 ปี,พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณี กกต.ให้ใช้หลักฐานการยื่นแสดงภาษีย้อนหลัง 3 ปี (2559-2561) ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ว่า กฎหมายกำหนดให้ใช้หลักฐานการเสียภาษีถึงปีที่รับสมัคร กกต.จึงมีมติให้ใช้หลักฐานการยื่นภาษีย้อนหลัง 3 ปี คือปี 2559-2561 โดยของปี 2561 กรมสรรพากรให้เสียภาษีตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 31 มี.ค.2562 ดังนั้น สามารถยื่นเสียภาษีได้แล้ว และขอหลักฐานการเสียภาษีจากกรมสรรพากรนำมายื่นสมัคร ส่วนบางคนอาจมีปัญหาการรวบรวมหลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้ไปยื่นเสียภาษีประจำปีกับกรมสรรพากรก่อน เพื่อให้ได้หลักฐานใบเสร็จการเสียภาษีมายื่นสมัครต่อ กกต. แล้วค่อยไปยื่นหลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่าย ภายหลัง ข้อเสนอให้ กกต.ผ่อนผันเกณฑ์ดังกล่าวจึงไม่สามารถทำได้ เพราะกำหนดอยู่ในกฎหมาย,ไม่ต้องลบไลน์-เฟซบุ๊กแต่ต้องแจ้ง,เลขาธิการ กกต.กล่าวถึงการหาเสียงทางโซเชียลมีเดียว่า ใครที่มีเฟซบุ๊ก ไลน์ ไม่ต้องลบแอ็กเคานต์ สามารถแจ้งล่วงหน้าต่อ ผอ.ประจำเขตเลือกตั้งได้เลย แม้ขณะนี้ยังไม่เปิดรับสมัคร แต่เมื่อมี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.แล้ว การหาเสียงต่างๆสามารถดำเนินการได้ตามปกติ ระเบียบ กกต.ที่ออกมาเพื่อปกป้องตัวผู้สมัคร ให้ไม่ถูกผู้อื่นปลอมแอ็กเคานต์ใส่ร้ายป้ายสี และเพื่อ กกต.จะคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียง ยืนยันว่า กกต.ให้อิสระเสรีภาพในการหาเสียงเต็มที่ ทุกพรรคสามารถทำได้ตามปกติ เพียงแต่อย่าทำผิดกฎหมาย ตอนนี้ กกต.ได้ประสานกับทุกสื่อ สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ไปหารือกับผู้บริหารกูเกิลเรื่องการคำนวณค่าใช้จ่าย และสัปดาห์หน้าจะไปคุยกับผู้บริหารไลน์ประจำประเทศไทย เพื่อให้ความรู้ไม่ให้มีการเผยแพร่ข้อความที่ผิดในกฎหมาย,ไปน้ำขุ่นๆปมป้ายหาเสียง,พ.ต.อ.จรุงวิทย์ยังกล่าวถึงกรณีถูกตำหนิเรื่องความล่าช้าในการกำหนดสถานที่ติดป้ายหาเสียง ว่า กกต.กำลังเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ยังไม่มีการรับสมัครจึงไม่ทราบตัวเลขที่ชัดเจน ว่าแต่ละพรรคจะส่งผู้สมัครกี่เขต รายละเอียดเหล่านี้ผูกกับการคำนวณจำนวนป้าย และผู้ช่วยหาเสียง เช่น กำหนดให้มีได้ไม่เกิน 10% ของจำนวนเขตที่ส่งสมัคร ส่วนการจัดทำบัตรเลือกตั้งมีการจัดงบประมาณสำหรับการพิมพ์บัตรเลือกตั้งแล้ว ขอให้มั่นใจว่ารูปแบบของบัตรจะมีหมายเลขผู้สมัคร ชื่อ และโลโก้พรรค,เปิดยอดสมาชิก ปชป.นำโด่ง,ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงาน กกต. เผยแพร่ข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองล่าสุด ณ วันที่ 21 ม.ค. พบว่าพรรคการเมืองเก่าหลายพรรคมียอดสมาชิกพรรคเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยแจ้งยอดไว้ก่อนหน้านี้ รวมทั้งพรรคการเมืองใหม่ได้แจ้งยอดสมาชิกเบื้องต้นเช่นกัน มีพรรคการเมืองที่ดำเนินการอยู่รวม 104 พรรค มีสมาชิกรวมทุกพรรค 702,843 คน พรรคที่มีสมาชิกพรรคมากที่สุด 5 อันดับแรก คือพรรคประชาธิปัตย์ 129,392 คน พรรคไทรักธรรม 49,721 คน พรรคอนาคตใหม่ 43,201 คน พรรคพลังท้องถิ่นไท 30,072 คน และพรรคภูมิใจไทย 30,031 คน ส่วนพรรคเพื่อไทย 20,334 คน พรรคไทยรักษาชาติ 12,272 คน พรรคเพื่อชาติ 16,453 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 20,587 คน พรรคชาติพัฒนา 15,048 คน พรรครวมพลังประชาชาติไทย 14,749 คน พรรคพลังประชารัฐ 4,206 คน มีพรรคที่สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองจำนวน 9 พรรค,วิษณุ แนะศึกษากฎ กกต.ให้ดี,ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พรรคการเมืองสามารถหาเสียงได้ทุกช่องทาง ตามที่ กกต.กำหนด โดยเริ่มหาเสียงได้ตั้งแต่ประกาศ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไป ซึ่ง กกต.กำหนดการหาเสียงทั้งการติดตั้งป้าย การใช้รถหาเสียง และการหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดีย ขอให้ศึกษาจากระเบียบ กกต. ที่ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาและปฏิบัติตาม ขอให้เตรียมเอกสารในการลงสมัครรับเลือกตั้งระหว่างวันที่ 4-8 ก.พ. ให้พร้อม ทั้งรูปถ่าย ใบสมัคร ค่าสมัคร ใบรับรองการแสดงหลักฐานการเสียภาษีย้อนหลัง 3 ปี ใครจะโอดครวญว่าเตรียมตัวไม่ทันคงไม่ได้ เพราะทุกอย่างเป็นข่าวมาระยะหนึ่งแล้ว,กสทช.เตือนสื่อวิทยุ-โทรทัศน์,นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า สำนักงานกสทช.ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ประกอบการวิทยุและโทรทัศน์ให้ระมัดระวังการนำเสนอข่าวและการออกอากาศเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ขอให้ใช้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์กับประชาชน หากมีการนำเสนอเนื้อหาที่เป็นการชี้นำทางความคิด และไม่เป็นกลางทางการเมือง อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมได้ ทั้งนี้ ให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ เงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาต กฎหมายด้านความมั่นคง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด และต้องไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมาย ประกาศ ระเบียบ หลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่เกี่ยวกับการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ กฎหมายความมั่นคง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง,กอบศักดิ์ ยักท่าลาออก-ไม่ออก,ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายฮิโรกิ มิทสึมะตะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น เข้าพบเพื่อเตรียมการก่อนคณะของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะไปโรดโชว์ประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 30 ม.ค.-2 ก.พ. ว่า เราเตรียมข้อมูลไปชี้แจงอยู่แล้วว่าสถานการณ์การเมืองไทยขณะนี้ชัดเจนขึ้น ตอนนี้ทุกคนมุ่งหน้าสู่การเลือกตั้งจึงทำให้นักลงทุนสบายใจ เมื่อถามว่าต้องร่วมเดินทางไปกับคณะนายสมคิดด้วย การลาออกจากตำแหน่งน่าจะเป็นหลังจากนั้นใช่หรือไม่ นายกอบศักดิ์ตอบว่า ต้องรอดู 4 รัฐมนตรีว่าจะลาออกก่อนที่ตนจะไปหรือเปล่า ถ้าลาออกก่อนไปก็คงไม่ได้ไปแน่ ตอนนี้จะทำหน้าที่เท่าที่ทำได้ และยืนยันว่ายังไม่มีการเก็บของตามที่เป็นข่าว,ฟุ้งผลงานเพียบเวลาแถลงไม่พอ,นายกอบศักดิ์ยังกล่าวถึงการแถลงผลงานรัฐบาลว่า มีผลงานที่รัฐบาลทำออกมามากมาย ปีสุดท้ายเป็นปีที่รัฐบาลพยายามเก็บงานหลายเรื่อง เหมือนการตัดชุดวิวาห์ต้องใช้เวลาตัดเย็บ สุดท้ายจะเห็นผลในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนแต่งงาน หลายนโยบายทำมา 4 ปี ตนมีส่วนเกี่ยวข้องตลอด มีหลายนโยบายที่เปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศจำนวนมาก แม้แต่เรื่องตำรวจที่หลายคนเรียกร้อง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ก็ผ่านเรียบร้อย ช่วงปีสุดท้ายเป็นปีที่มีสีสันที่สุด เป็นปีที่ทุกอย่างเห็นผลและเกิดการเปลี่ยนแปลง รู้สึกพอใจและสบายใจ นายกฯคงมีหลายเรื่องที่จะ บอกกับประชาชนในวันแถลงข่าว เวลาอาจไม่พอด้วยซ้ำ ก่อนการเลือกตั้งเราต้องพยายามปิดงานให้ได้ นายกฯสั่งอยู่ตลอดเวลาเร่งให้ทุกคนปิดงาน พยายามเดินหน้าทุกโครงการให้เห็นผล,สามมิตรโวยปล่อยข่าวดิสเครดิต,ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์หาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ แกนนำกลุ่มสามมิตร กล่าวว่า มีการเผยแพร่ในทำนองว่าไปปราศรัยโจมตีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ จ.มหาสารคาม ชาวบ้านจึงเดินทางกลับ ถือเป็นการดิสเครดิตพรรคพลังประชารัฐที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ถ่ายเก้าอี้โล่งๆตอนคนยังไม่มา แล้วนำไปโจมตีว่าไม่มีคนมา ยืนยันว่าช่วงปราศรัยประชาชนไม่ได้ลุกหนี มีคนไม่ต่ำกว่า 5,000 คนรับฟังกลุ่มใต้ดินเหล่านี้ยังไม่หยุด คงเพราะกลัวที่คะแนนนิยมพลังประชารัฐเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เรื่องแบบนี้จับมือใครดมไม่ได้ แต่อยากให้ประชาชนรู้ว่าขบวนการเหล่านี้เขาก้าวข้ามความขัดแย้งไม่ได้,รื้อบัญชีอีกรอบก่อนเคาะผู้สมัคร,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พรรคพลังประชารัฐใกล้วางตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 350 เขตเสร็จแล้ว และเตรียมเปิดตัวเป็นทางการช่วงวันที่ 2-4 ก.พ. โดยจะทยอยเปิดตัวในแต่ละภาค เริ่มที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. 30 เขตเป็นชุดแรก ในวันที่ 2 ก.พ. โดยเมื่อวันที่ 24 ม.ค. แกนนำพรรคนำโดย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจในการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคกลาง ประชุมสรุปภาพรวมหลังแกนนำลงพื้นที่หาเสียง และประเมินความนิยมของว่าที่ผู้สมัครแต่ละภาค พบบางพื้นที่ต้องปรับเปลี่ยนวางตัวใหม่,สลับ ลูกบุญทรง-เดือนเต็มดวง,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยพื้นที่เลือกตั้งเขต 5 จ.เชียงใหม่ เดิม ร.อ.ธรรมนัสวางตัว ร.อ.หญิง เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ แต่หลังเปิดตัวพบกระแสนิยมไม่แรงอย่างที่คาดไว้ ทำให้พรรคต้องปรับแผนใหม่ ขณะนี้มีแนวโน้มสูงว่าจะเปลี่ยนเป็นส่งนายเดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ บุตรชายนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ มาลงแทน จากเดิมวางตัวไว้ในส่วนของ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และให้ ร.อ.หญิง เดือนเต็มดวง ไปอยู่ในบัญชีรายชื่อแทนหรือไปเบียดลงเขตอื่น ส่วน กทม.พบบางเขตมีผู้แสดงความประสงค์ลงสมัครมากกว่า 1 คน พรรคจะใช้วิธีวัดจาก ส.ก.และ ส.ข.ที่มาจากพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ และจากที่พรรคทำโพล เบื้องต้นตั้งเป้า กทม.ไว้ 2-3 ที่นั่ง,ปชป.ฉะ กกต.ทำลายบรรยากาศ,ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การออกระเบียบข้อปฏิบัติเลือกตั้งที่ไม่ชัดเจนของ กกต.มีหลายเรื่อง เช่น 1.การหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลกระทบต่อผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ 2.เรื่องยานพาหนะ 3.กรณีมีผู้ไปช่วยหาเสียง ต้องแจ้งให้ กกต.จังหวัดทราบ ทั้งที่พฤติกรรมและวิถีชีวิตคนไทย เรามีสมาชิกพรรค มีเครือญาติ เวลาลงพื้นที่ตามหมู่บ้าน ต้องมีสมาชิก ประชาชน และญาติพี่น้องในพื้นที่มาสนับสนุนเดินกับผู้สมัคร ถือเป็นปกติทั่วไป ถามว่าจะให้ผู้สมัครแจ้งอย่างไร อยากให้ กกต.พิจารณาให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม และตามความจริง และ กกต.กำหนดเรื่องค่าใช้จ่ายเลือกตั้งมาแล้วน่าจะใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวในการเลือกตั้ง ระเบียบบางเรื่องเขียนดูดีแต่ทำได้ยาก จึงขอให้ กกต.มีหน่วยงานที่สามารถตอบข้อสงสัย ไม่ต้องเสียเวลาทำหนังสือสอบถามอีก ขอเรียกร้องให้ กกต.กำหนดระเบียบให้ชัดเจน เพราะจะทำลายบรรยากาศในการหาเสียง,เอือมระอา 4 รมต. ให้สังคมตัดสิน,นายธนากล่าวว่า ส่วนกรณี 4 รัฐมนตรีจะลาออกเมื่อไร อย่างไร เราคงไม่เรียกร้องอีกแล้ว ถือเป็นเรื่องจริยธรรมทางการเมืองของแต่ละบุคคล ต้องมีความรับผิดชอบและแสดงออกต่อสังคม เมื่อท่านไม่ลาออกและคิดว่ายังสามารถอยู่จนกระทั่งที่คิดว่าสมควรจะลาออก ก็เป็นเรื่องที่ท่านและสังคมไทยต้องไปคิดและตัดสินต่อเองว่ามีจริยธรรมทาง การเมืองที่เหมาะสมหรือไม่ เมื่อถามถึงปัญหาการติดป้ายหาเสียง ที่ กกต.และ กทม.ขอเวลาหารือก่อน นายธนาตอบว่า หากนับห้วงเวลาหาเสียงตั้งแต่วันรับสมัครเลือกตั้งจะมีเวลา 45 วัน หากประกาศพื้นที่ติดป้ายหาเสียงช้าไป 5 วัน ผู้สมัครก็เหลือเวลาหาเสียงแค่ 40 วัน ทำให้มีเวลาน้อยลง,ฝันหวานกวาดอีสาน 15 ที่นั่ง,นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการกิจกรรมพิเศษภาคอีสาน พรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการเลือกตั้งโซน 3 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ และเลย กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวมีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับผิดชอบ มั่นใจว่าพรรคเข้าใจ เข้าถึงปัญหา มีความพร้อมที่จะดูแลปัญหาประชาชน ภาคอีสานจะเป็นตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล มั่นใจว่าจะลงโทษพวกที่ซื้อเสียงดูถูกคนอีสานมาตลอด วันที่ 27 ม.ค.นี้ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค คุณหญิงกัลยา นายสุทัศน์ เงินหมื่น และนายอิสสระ สมชัย รองหัวหน้าพรรค จะลงพื้นที่ จ.เลย คาดว่าภาคอีสานจะได้ ส.ส.รวม 15 คน,พท.เคาะแล้วส่ง ส.ส.249 เขต,ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่มี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ได้ประชุมสรุปจำนวนผู้สมัคร ส.ส.ที่พรรคจะส่งในการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. โดยจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตทั้งสิ้น 249 เขต ใน กทม. ส่งผู้สมัครทั้งสิ้น 22 เขต ส่วนผู้เสนอตัวลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ มีทั้งสิ้น 131 คน ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คณะทำงานฝ่ายเศรษฐกิจ แสดงความประสงค์ลงในส่วนนี้ด้วย โดยรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ทางคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครจะประชุมพิจารณากันอีกครั้งในวันที่ 30 ม.ค.,สับหลีกพื้นที่ทับซ้อนกับ ทษช.,ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคไทยรักษาชาติว่า สำหรับพรรคไทยรักษาชาติ เบื้องต้นคาดว่าจะส่งผู้สมัคร ส.ส. 150 เขต โดยใน กทม.จะส่งเพียง 8 เขตเท่านั้น โดยภายหลังมีชื่อนายชัชชาติเข้ามาเป็น 1 ในแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย ทำให้กระแสของพรรคเพื่อไทยใน กทม.ดีดตัวขึ้นแรงมาก จนพรรคไทยรักษาชาติจำเป็นต้องหลีกทางให้ในหลายเขต จากเดิมที่คาดว่าจะส่งผู้สมัคร ส.ส.กทม. 10-15 เขต,ตู่ ลั่นถ้าชนะไม่ยอมให้ปล้นอีก,ที่เทศบาลศีขรภูมิ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ในฐานะผู้สนับสนุนพรรคเพื่อชาติ ร่วมเปิดสถาบันพัฒนาการเมืองพรรคเพื่อชาติ นายจตุพรกล่าวว่า 12 ปีที่เราต่อสู้กันมา ได้เลือกตั้ง 2 ครั้ง โมฆะทั้ง 2 ครั้ง ถูกยึดอำนาจ 2 ครั้ง รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของเราชนะทุกครั้ง แต่เราก็ถูกปล้นทุกครั้ง การเลือกตั้งครั้งนี้ถ้าพรรคเพื่อชาติได้รับชัยชนะจากประชาชน ขอประกาศตรงนี้ว่าชัยชนะที่พี่น้องประชาชนมอบให้ จะไม่ยอมให้มีการปล้นอำนาจอย่างที่ผ่านมาอีกแล้ว ช่วงโค้งสุดท้ายจะมาปักหลักนอนอยู่อีสาน จะตระเวนช่วยหาเสียงทุกอำเภอ ยืนยันจะซื่อสัตย์ต่อประชาชน และพรรคนี้จะไม่ยอมให้เผด็จการเข้ามายึดอำนาจอีกเด็ดขาด,ชทพ.บุกเมืองรถม้าเปิดผู้สมัคร,ที่ จ.ลำปาง น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะทำงานด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค นายนิกร จำนง ผอ.พรรค ลงพื้นที่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง ทั้ง 4 เขต ได้แก่ นายชานนท์ สิทธิไพศาล นายวัชระ กาวิละนันท์ นายณัฐวุฒิ ไชยถาวรสิทธิ์ นางอธิกัญญ์ ทิชัย โดยทั้งหมดร่วมสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ อ.เกาะคา น.ส.กัญจนากล่าวว่า พวกเรามาด้วยความจริงใจ พรรคชาติไทยพัฒนาไม่มีปัญหากับใคร ไม่มีประเด็นกับใคร เราไม่ใช่พรรคการเมืองที่ดีแต่พูด ผู้หญิงคนนี้พูดคำไหนคำนั้น จะแก้ไขทุกข์สุข ดูแลแก้ปัญหาให้อย่างเต็มที่,ศึกสุพรรณฯ เรื้อรัง จองชัย ไม่จบ,ด้านนายจองชัย เที่ยงธรรม สมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวว่าพรรคชาติไทยพัฒนาสามารถคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งเรื่องการส่งผู้สมัคร ส.ส.สุพรรณบุรีได้แล้ว ว่า ยืนยันยังคงลงสมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี ในนามพรรคภูมิใจไทย ที่ น.ส.กัญจนาระบุว่าแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงแล้วนั้น ยืนยันว่าที่ผ่านมา น.ส.กัญจนา รวมถึงคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา ไม่เคยเรียกพูดคุยถึงประเด็นที่เป็นปัญหา เจอทั้งคู่ 2 ครั้งในเดือน ม.ค. แต่เขาไม่พูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยผมไม่ทราบถึงเหตุผล แต่เชื่อว่าเขาต้องรักษาเลขาธิการพรรคไว้ ดังนั้นผมขอประกาศจะลงเลือกตั้งเขต 3 จ.สุพรรณบุรี ของพรรคภูมิใจไทย และพร้อมสู้กับนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา กรณีที่เป็นปัญหาเพราะนายยุทธนา โพธสุธน หลานชายนายประภัตร จะลงชิงเขต 4 ในนามพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นเขตเดียวกับนายเสมอกัน เที่ยงธรรม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี ทราบมีการแก้ปัญหาโดยพรรคพลังประชารัฐจะส่งอดีตนายอำเภอด่านช้างลง แต่ข้อเท็จจริงพบว่านายยุทธนายังลงพื้นที่หาเสียงอยู่ ทำให้ไม่มั่นใจว่ามีการแก้ปัญหาตามที่ น.ส.กัญจนาระบุจริงหรือไม่,เสมอกัน ปวดหัวให้ผู้ใหญ่ว่ากัน,นายเสมอกัน เที่ยงธรรม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี บุตรชายนายจองชัย กล่าวถึงปัญหาระหว่างนายจองชัยกับนายประภัตรว่าเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ไม่ขอยุ่ง และไม่ค่อยได้รับทราบปัญหา เป็นเรื่องที่ปวดหัว แล้วแต่พ่อเลยว่าจะเอาอย่างไร สุดท้ายผลออกมาอย่างไรก็ตามนั้น ส่วนตัวเคารพในการตัดสินใจของพ่อ ส่วนตัวยังยืนยันว่าลงสมัครในนามพรรคชาติไทยพัฒนาเหมือนเดิม เพราะได้พูดคุยกับนายวราวุธ ศิลปอาชา ยืนยันจะให้ลงสมัครเขต 4 เหมือนเดิม โดยไม่มีความขัดแย้งกัน,เสี่ยหนู ดีใจคน กทม.ต้อนรับ,ช่วงเช้าวันเดียวกันที่สวนธนบุรีรมย์ กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษา พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรค และทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. และจังหวัดใกล้เคียง ลงพื้นที่เขตราษฎร์บูรณะ ทุ่งครุ พบปะประชาชนที่มาออกกำลังกาย ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดีเข้ามาทักทายและขอถ่ายรูปจำนวนมาก นายอนุทินกล่าวว่า สมัยก่อนเวลาเดินใน กทม.ไม่มีใครรู้จักพรรคภูมิใจไทย แต่วันนี้มีคนเชื่อมั่นและให้กำลังใจ เราตั้งใจทำงานไม่ได้มาชิงไหวชิงพริบทางการเมือง หรือสร้างความขัดแย้ง เที่ยวนี้ขอทำอย่างเดียวคือทำงานเพื่อปากท้อง ไม่ทำอย่างอื่น เมื่อถามว่าหลายพรรคเรียกร้องให้ กกต. กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการหาเสียงให้ชัดเจน เช่น การโพสต์เฟซบุ๊ก นายอนุทินตอบว่า พรรคเราไม่มีปัญหา ระเบียบเขียนชัดเจนว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ เราก็ทำตามนั้น ดีที่สุดคือไม่ต้องโพสต์ แต่ลงไปหาชาวบ้าน ตอนนี้เลิกโพสต์แล้ว ต้องขยันเดินเคาะทุกประตูบ้าน เอานโยบายพรรคไปนำเสนอ ไม่ใช่อยู่บ้าน พิมพ์อะไรแล้วเอากล้องมือถือมาถ่ายคลิปตัวเอง แล้วก็มาบอกให้คนเลือกตัวเอง ไม่มีใครเขาเลือกหรอก,ปลัดฯพัทลุงลาออกซบภูมิใจไทย,ที่ศาลากลางจังหวัดพัทลุง นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ปลัดจังหวัดพัทลุง เข้ายื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งต่อนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง เพื่อไปลงสมัคร ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย นายฉลองกล่าวว่า ชื่นชอบนโยบายที่จะแก้ปัญหาปากท้อง ประชาชน ไม่เคยขัดแย้งหรือสร้างศัตรูกับพรรคใด จึงตัดสินใจลาออกจากราชการมาลงสมัคร ส.ส.เขต 2 ส่วนเรื่องที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พาดพิงเรื่องการเก็บบัตรประชาชนนั้น เขาไม่ได้ระบุว่าเป็นใคร เลยไม่อยากไปโต้ตอบสร้างความขัดแย้งกับนักการเมืองคนไหน ขอเดินหน้าพบปะประชาชนชี้แจงนโยบายพรรคอย่างเดียว ใครจะสาดโคลนใส่ก็เชิญตามสบาย,ธนาธร ลงพื้นที่ชุมชนคลองเตย,ที่ชุมชนคลองเตย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ลงพื้นที่พบปะชาวชุมชนคลองเตย รับฟังปัญหาความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิต นายธนาธรกล่าวว่า หากพรรคอนาคตใหม่มีโอกาสเข้าไปทำงานในสภา จะเดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชนทุกชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นความตั้งใจแรกที่ลงมาทำงานการเมือง สิ่งที่น่าเศร้ามากเมื่อได้มาเยือนชุมชนคลองเตย คือที่นี่แทบไม่เปลี่ยนไปคุณภาพชีวิตยังไม่ได้รับการพัฒนา จาก 20 ปีที่แล้วที่เคยมาทำงาน มาเยือนชุมชนตอนทำกิจกรรมนักศึกษา กับปัจจุบัน ชาวคลองเตยยังคงเป็นภาพสะท้อนความ เหลื่อมล้ำของกรุงเทพฯ และประเทศไทย นี่คือสาเหตุที่พรรคอนาคตใหม่ต้องเกิดขึ้น ชาวอนาคตใหม่ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคม แก้ไขประเทศ สร้างสังคมที่คนไทยเท่าเทียมกัน นำประเทศไทยเท่าทันโลก,เสรีพิศุทธ์ เฉ่ง กกต.ปล่อยข่าวมั่ว,ที่ จ.พิษณุโลก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวขณะเป็นประธานอบรมสัมมนาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือ ว่ายืนยัน จะส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบ 350 เขต ขอให้ผู้สมัคร ส.ส.เตรียมเอกสารหลักฐานให้พร้อม และขอให้ผู้สมัครทำความเข้าใจกฎระเบียบการเลือกตั้งให้เข้าใจ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง ส่วนที่ กกต.ระบุว่ามีเพียงพรรคการเมืองเดียวที่สามารถส่งผู้สมัคร ส.ส.ได้ ขอให้ความมั่นใจว่าพรรคเสรีรวมไทยปฏิบัติตามระเบียบ กกต.ทุกประการ การที่เจ้าหน้าที่ กกต.ให้ข่าวเช่นนี้สร้างความสับสนให้กับว่าที่ผู้สมัครมาก อยากฝาก กกต.ว่าควรตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนออกมาให้ข่าว,บิ๊กตู่ ตบเท้าฉลอง 61 ปีเตรียมทหาร,วันเดียวกันที่โรงเรียนเตรียมทหาร จ.นครนายก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เป็นประธานงานวันสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหารครบรอบ 61 ปี โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และรัฐมนตรีที่เป็นอดีตนายทหารเข้าร่วมงาน โดยปีนี้มีศิษย์เก่าเตรียม ทหารดีเด่นได้รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว 17 นาย อาทิ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. และ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผบ.ทอ. พล.อ.อักษรา เกิดผล อดีตหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ เป็นต้น,ให้ทหารช่วยรัฐบาลในวิถีที่ถูกต้อง,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวสดุดีและยกย่องผู้ที่ได้รับรางวัลจักรดาวตอนหนึ่งว่า เชื่อมั่นว่าทุกคนจะดำรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีเกียรติภูมิของกองทัพไทย จงรักภักดีต่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์เพื่อดำรงรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของบ้านเมือง ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าทหาร-ตำรวจเป็นที่พึ่งได้ทุกโอกาส น้อมนำแนวทางจิตอาสาพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบูรณาการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลสัมฤทธิ์มุ่งมั่นดำรงตนในคุณธรรมจริยธรรม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งว่า ขอให้ทุกคนทำหน้าที่ให้ดีที่สุดให้ประชาชนมีความสุข มีระเบียบวินัย มีความเจริญยั่งยืนพวกเราทุกคนต้องช่วยรัฐบาลเดินหน้าประเทศในวิถีทางที่ถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นพวกเราจะทำหน้าทีี่่นำพาประเทศไปสู่ความสุขสันติยั่งยืนในทุกมิติทุกรูปแบบ ศักดิ์ศรีเกียรติยศอยู่ที่ประชาชนจะมอบให้เราไม่สามารถไปบังคับให้ใครเคารพนับถือได้ หากทำดีจะมีความสุขใจมีเกียรติยศหากทำไม่ดีก็จะเสื่อมเสีย,ปัดตอบอนาคตทางการเมือง,ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงการตัดสินใจอนาคตทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์เพียงแต่ยิ้มก่อนตอบสั้นๆว่า ไปดูข้อกฎหมาย และเดินทางกลับไปเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลจะจัดงานมหกรรมการสร้าง การรับรู้ต่อยุทธศาสตร์ชาติ (Big Bang อนาคตไทย อนาคตเรา) ในวันที่ 30 ม.ค. ให้ประชาชนรับรู้ มองยุทธศาสตร์ชาติเป็นกรอบสำคัญในการปฏิรูปประเทศ และให้ทุกรัฐบาลทำตามกรอบนี้ไปพร้อมกับนโยบายของทุกพรรคการเมือง,เล็งเป้าใหญ่ค้าขายไทย-เวียดนาม,ต่อมาเวลา 16.00 น. นายฝ่าม บิ่งห์ มิงห์ รองนายกฯและ รมว.การต่างประเทศเวียดนาม เข้าเยี่ยมคารวะนายกฯ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯหวังว่าไทย-เวียดนามจะเพิ่มมูลค่าการค้าถึง 20,000 ล้านดอลลาร์ฯได้ในปี 63 และขอให้เวียดนามช่วย ผลักดันการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ไทย เช่น การส่งออก รถยนต์และผลไม้ ขณะที่รองนายกฯเวียดนามชื่นชมกับ ความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (ไอยูยู) ของไทย,28 ม.ค.ลุยสระบุรีมอบที่ ส.ป.ก.,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 28 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์มีกำหนดการไปตรวจเยี่ยมสวนพฤกษศาสตร์พุแควนพฤกษศาสตร์แห่งแรกของประเทศในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ใกล้ชุมชน ตามโครงการป่าในเมือง สวนป่าประชารัฐเพื่อความสุขของคนไทย ที่ ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี และเป็นสักขีพยานมอบ ที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ให้เกษตรกร 10 ราย มอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายแปลงรวมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติตามโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) อีก 10 ราย ก่อนจะไปพบปะประชาชนเยี่ยมชมศูนย์โอทอปคอมเพล็กซ์พุแค และศูนย์การท่องเที่ยวโอทอปนวัตวิถีตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน ที่ตลาดหัวปลี,คืนความสุขหั่นเวลาจ้อวันศุกร์,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งออกมา ทีมงานนายกฯจะปรับรูปแบบ รายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยทุกวันศุกร์ให้สั้นกระชับลง ใช้เวลามากสุดไม่เกิน 25 นาที โดยเมื่อเวลา 20.15 น.วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ใช้เวลาพูดเนื้อหาในรายการดังกล่าวประมาณ 10 นาที อาทิ เรื่องธนาคารโลก โดยเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตแข็งแรงต่อเนื่อง ชักชวนให้ประชาชนโหลดดูผลการงานรัฐบาลปีที่ 4 จากเว็บไซต์ ,https://www.nesdb.go.th/download/document/GovSum4.pdf, งานมหกรรมสร้างการตระหนักรู้ยุทธศาสตร์ชาติที่จะจัดในวันที่ 30 ม.ค.-1 ก.พ. ที่ลานด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ การบริหารจัดการทรัพยากรที่ดินที่จะมีหน่วยงานใหม่เข้ามารับผิดชอบ และการควบคุมสินค้าเวชภัณฑ์และบริการรักษาพยาบาลใหม่ ก่อนจะเปิดวีดิทัศน์ผลงานรัฐบาลปิดท้ายรายการอีก 7 นาที,วิษณุ กระตุ้น ป.ป.ท.ปราบโกง,ที่โรงแรมเบสท์เวสเทิร์นพลัสแวนด้าแกรนด์ ถนนแจ้งวัฒนะ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงานและมอบนโยบายการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ โดยนายวิษณุกล่าวตอนหนึ่งว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) มีมา 11 ปี มาช่วยแบ่งเบาทำคดีเล็กที่สำคัญให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีผลงานชัดเจนโดยเฉพาะคดีทุจริตจำนำข้าว คดีทุจริตเงินทอนวัด คดีทุจริตคนไร้ที่พึ่ง และคดีทุจริตนักเรียนผี ปีนี้รัฐบาลอยากให้ ป.ป.ท.เข้มงวดเรื่องการสร้างเครือข่ายกับองค์กรภาครัฐ ภาคประชาชนและองค์กรนานาชาติให้มากขึ้น บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ ให้ความรู้และเตือนสติประชาชนให้เกิดความตระหนักในเรื่องทุจริต,เปิดวิชั่นเศรษฐกิจพรรคการเมือง,ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สภาธุรกิจ ตลาดทุนไทย จัดสัมมนานโยบายเศรษฐกิจและตลาดทุนไทยภายใต้รัฐบาลหลังเลือกตั้ง โดยมีแกนนำ 7 พรรคการเมืองด้านเศรษฐกิจร่วมแสดงวิสัยทัศน์ โดยนายกรณ์ จาติกวณิช ประธานกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เน้นใน 3 นโยบายหลัก คือ แก้จน สร้างคน และสร้างชาติ ดูแลผู้มีรายได้น้อยโดยใช้หลักการรับประกันรายได้ให้เกษตรกร และผู้ใช้แรงงาน กำหนดเงินเดือนหรือรายได้ขั้นต่ำคนไทยไว้ที่ปีละ 120,000 บาท การสร้างคน คือ ให้ความสำคัญกับการศึกษา ส่วนนโยบายสร้างชาติ จะกระจาย อำนาจการปกครอง โดยการเลือกตั้งผู้ว่าฯทั่วประเทศ,ไทยรักษาชาติดันเอไอเปลี่ยนโครงสร้าง,ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ ประธานคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า พรรคให้ความสำคัญ 3 ด้าน 1.อยากเห็นไทยรับมือการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่เข้ามาเร็ว ให้ก้าวทันโลก และนำโลก 2.รับมือปัญหาเศรษฐกิจโตต่ำ ต้องรับมือ การว่างงานจากเทคโนโลยี AI การรับมือกับคนสูงอายุให้มีรายได้ใช้จ่าย และ 3.ทำให้ไทยกลับเป็นศูนย์กลางอาเซียน อยากเห็นตลาดหลักทรัพย์เป็นแหล่งรายได้ของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่แหล่งของคนรวยอย่างเดียว ประชาชนส่วนใหญ่ต้องได้ประโยชน์ นำเทคโนโลยีเอไอมาพัฒนาตลาดทุน และอยากเห็นการเปลี่ยนโครงสร้างประเทศ,ชาติพัฒนายึดโมเดลอีสานอินเตอร์,นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า ต้องให้ประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะคนรากหญ้า และธุรกิจเอสเอ็มอี ได้ประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง เท่าเทียม ขณะเดียวกันต้องยึด 2 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก คือ ภาคการเกษตร และการท่องเที่ยว เร่งขยายตลาดการส่งออก ดูแลวินัยการเงินการคลัง และปัญหาหนี้ ตลอดจนการนำเทคโนโลยีเอไอ หุ่นยนต์ บิ๊กดาต้ามาใช้เพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพ ใช้ความเป็นเมืองอินเตอร์ของอีสาน เชื่อมโยงกับเพื่อนบ้านสู่อินโดจีน,พปชร.ดันตลาดทุนให้คนตัวเล็ก,นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า อยากให้ตลาดทุนมีบทบาทต่อประเทศชาติโดยรวม มากกว่าบทบาทต่อเศรษฐกิจเท่านั้น โดยเฉพาะการสนับสนุนเอสเอ็มอี ปลดล็อกให้เงินทุนและความมั่งคั่งกระจายสู่ผู้ประกอบการรายเล็ก เศรษฐกิจยุคปัจจุบันความเข้มแข็งต้องมาจากฐานราก ไม่ใช่จากอุตสาหกรรมเช่นยุคก่อน ต้องการนำเทคโนโลยีให้เข้าถึงคนวงกว้าง ช่วยสร้างโอกาสให้คนอีกจำนวนมาก เพราะเทคโนโลยีคือเครื่องมือของคนตัวเล็ก และเป็นปัจจัยกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค ลดความเหลื่อมล้ำ,เพื่อไทยปิ๊งไอเดียปลูกไม้มีค่า,นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นโยบายเศรษฐกิจยึดหลัก 4 ล้อ เพื่อให้รถวิ่งไปได้เข้มแข็ง 1.การท่องเที่ยว 2.การลงทุนของเอกชน 3.การอุปโภคบริโภค ต้องทำให้ค่าแรงเงินเดือนเพิ่มขึ้น ให้ประชาชนมีอำนาจจับจ่าย และ 4.การใช้จ่ายภาครัฐ เก็บภาษีให้พอดีๆ ส่วนการรับมือกับการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย มีไอเดียอยากให้มีการลงทุนผ่านการปลูกไม้มีค่า เป็นการลงทุนระยะยาวผ่านกองทุนซื้อขายได้ เปรียบเหมือนการออมที่ให้ผลตอบแทนสูง,อนุทิน หนุนผู้สูงวัยขับแกร็บ,ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า อยากให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่เฉพาะแต่เกษตรกร และคนใช้แรงงาน ผู้ประกอบการก็ต้องดูแล ส่งเสริมให้ลงทุนได้ดี ต้องลดบทบาทภาครัฐลง เมื่อประเทศกลับคืนสู่ประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง เงินที่ใช้ซื้ออาวุธก็ต้องลดลงด้วย โครงการภาครัฐต้องกระจายให้ทั่วถึง เช่น โครงการอีอีซี ไม่ควรเอาไปลงเป็นจุดๆ ทำให้เกิดความเคลือบแคลง ส่วนการรองรับสังคมผู้สูงวัย ควรทำให้บริการอย่างแกร็บคาร์ถูกกฎหมาย ผู้สูงวัยสามารถขับรถรับจ้างเพื่อหารายได้โดยถูกต้อง
เลขา กกต.ขึงขังไม่มีผ่อนผันกฎเกณฑ์ ใครจะลง ส.ส.ต้องทำตามกฎหมาย ยื่นภาษีย้อนหลัง 3 ปี ไม่ต้องลบแอ็กเคานต์ไลน์-เฟซบุ๊ก แต่ต้องแจ้ง อ้อมแอ้ม เรื่องป้ายหาเสียงกำลังเร่งประสาน
เลือกตั้ง
เลือกตั้ง62,กกต.,หาเสียง,เลือกตั้ง ส.ส.,ข่าวหน้า1,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1479966
พบกระสุนเอ็ม 16 เกือบ 2000 นัด ใส่ถุงทิ้งข้างถนนย่านลำลูกกา
พบกระสุนเอ็ม 16 เกือบ 2,000 นัด สภาพใหม่ ยังไม่ได้ใช้งาน ใส่ถุงทิ้งข้างถนนย่านลำลูกกา ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี สั่งชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง เพื่อหาต้นตอกระสุน ,เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 11 ม.ค. 58 พ.ต.ท.เสนาะ ทาบุญ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบลูกกระสุนปืนเอ็ม16 ถูกนำมาทิ้งไว้ที่บริเวณ ถนนเลียบคลองสิบเอ็ดฝั่งตะวันตก หมู่ 16 ต.บึงทองหลาง อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ผจญ ขำเจริญ พงส.ผทค.สภ.ลำลูกกา และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ลำลูกกา ,ที่เกิดเหตุบริเวณข้างทางใต้ต้นไม้ เจ้าหน้าที่พบกระสอบสีขาว ผูกด้วยเชือกปอสีแดงวางพิงต้นไม่อยู่ โดยจากการตรวจสอบภายในพบกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 1,910 นัด สภาพใหม่ ยังไม่ได้ใช้งาน,สอบสวนนายมาโนช ด้วงนิ่ม อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 21/9 หมู่ 12 ต.บึงคอไห อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนมีเวลาว่างจากงานประจำจึงได้ขี่รถตระเวนหาเก็บของเก่าไปขาย ซึ่งในวันนี้ก็เช่นกัน จนกระทั่งได้ขับรถมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ได้พบกับถุงดังกล่าว จึงได้จอดรถแล้วเดินลงไปขยับถุงดู มีเสียงดังคล้ายเหล็ก ตนจึงได้เปิดออกดูก็พบว่าเป็นลูกปืนเอ็ม 16 จำนวนมาก จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้มาตรวจสอบดังกล่าว,ต่อมาเวลา 17.45 น. พล.ต.ต.ถาวร ขาวสะอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ได้เดินทางมาตรวจสอบ ณ จุดเกิดเหตุก่อนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บลูกปืนทั้งหมดไปตรวจสอบที่โรงพัก พร้อมเปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบ ยังไม่ทราบแน่ชัดของแหล่งที่มาและที่ไป ซึ่งจากการสอบพยานที่พบก็ทราบว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่ใช้งานตามปกติทุกวัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเพิ่งนำมาวางไว้ และได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางทั้งหมด และอาจจะเรียกผู้ใช้รถที่ต้องสงสัยมาสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อหาต้นตอของกระสุนทั้งหมด อย่างไรก็ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกระสุนปืนที่พบทำบันทึกตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานก่อนนำไปตรวจสอบหาที่มาต่อไป.
พบกระสุนเอ็ม 16 เกือบ 2,000 นัด สภาพใหม่ ยังไม่ได้ใช้งาน ใส่ถุงทิ้งข้างถนนย่านลำลูกกา ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี สั่งชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง เพื่อหาต้นตอกระสุน
null
กระสุนปืน,ใส่ถุง,ทิ้งข้างทาง,ลำลูกกา,ปทุมธานี,กระสุนเอ็ม 16,M16,เก็บของเก่า,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/561276
หงส์ จัดแมตซ์ สั่งลา กัปตันเจิด สตาร์โม่แข้งเพียบ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 5 มี.ค. ว่า หงส์แดง ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่ลีกอังกฤษ ประกาศยืนยันว่าได้จัดแมตซ์การกุศลที่สนามแอนด์ฟิลด์ปลายเดือนนี้ และเป็นเกมเทสติโมเนียลแมตช์ อำลา สตีเวน เจอร์ราร์ด ยอดกัปตันทีมที่รับใช้เดอะค็อปมาอย่างยาวนานถึง 17 ปี ,เกมนัดการกุศลครั้งนี้จะมีขึ้นวันที่ 29 มีนาคมนี้ โดยทั้งสองทีมจะถูกคัดเลือกนักเตะจาก สตีเวน เจอร์ราร์ด และ เจมี คาร์ราเกอร์ ซึ่งเป็น 2 แม่ทัพในการแข่งครั้งนี้  โดยล่าสุดนักเตะที่ยืนยันว่าจะมาร่วมบรรเลงเพลงแข้งประกอบไปด้วย หลุยส์ ซัวเรซ อดีตหอกดาวซัลโวของทีมที่ย้ายไปเล่นให้กับ บาร์เซโลนาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว , เฟอร์นันโด ตอร์เรส อดีตกองหน้าขวัญใจเดอะค็อป , ซาบี อลองโซ กองกลางเชิงสูงที่ปัจจุบันค้าแข้งให้กับ บาเยิร์น มิวนิก รวมไปถึง จอห์น เทอร์รี และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา  2 แข้งดังจากเชลซี ก็ตอบรับมาร่วมด้วยเช่นกัน ส่วนแข้งดังรายอื่นจะทำการยืนยันอีกครั้งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า,สำหรับเกมนี้ รายได้ทั้งหมดจะมอบให้กับมูลนิธิรอบเมืองเมอร์ซีย์ไซด์ อีกทั้งยังเป็นเกมอำลา สตีเฟน เจอร์ราร์ด ยอดกัปตันทีม ที่รับใช้หงส์แดงมาอย่างยาวนานถึง 17 ปี ที่จะโบกมือลาจากถิ่นแอนด์ฟิลด์ไปเล่นให้กับ แอลเอ กาแล็คซี ทีมดังจากเมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกา หลังจบฤดูกาลนี้
หงส์แดง ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่ลีกผู้ดี ประกาศจัดแมตซ์สั่งลาให้กับ สตีเวน เจอร์ราร์ด ยอดกัปตันทีม อย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มี.ค. นี้ โดยเหล่าแข้งดังต่างตอบรับกันอย่างคับคั่ง
null
พรีเมียร์ลีก,ลิเวอร์พูล,เทสติโมเนียลแมตช์,สตีเวน เจอร์ราร์ด,ข่าวกีฬา
https://www.thairath.co.th/content/485168
ตร.หลังสวน รวบครูอัตราจ้างอาชีวะ ลอบขายยาไอซ์ให้นักศึกษา
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.59 พ.ต.ท.สุทธิชัย เทียนโพธิ์ รอง ผกก.ป สภ.หลังสวน จ.ชุมพร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้เข้าตรวจค้นห้องเช่าแห่งหนึ่งบนถนนเขาเงิน ต.ขันเงิน ซึ่งเป็นห้องเช่าของนางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ครูอัตราจ้างวิทยาลัยอาชีวะแห่งหนึ่ง พร้อมแฟนหนุ่มคือนายแมว (นามสมมติ) อายุ 27 ปี โดยทั้งคู่แอบขายยาเสพติดให้กับนักศึกษา,จากการตรวจค้นภายในห้องนอนพบยาไอซ์ บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสขนาดเล็ก จำนวน 7 ถุง น้ำหนักรวมทั้งหมด 1.60 กรัม พร้อมอายัดรถเก๋ง ฮอนด้าซิตี้ สีขาว ทะเบียน  ชุมพร และรถกระบะวีโก้ ตอนเดียว สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน สุราษฎร์ธานี โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องและสมุดบัญชีธนาคารมาตรวจสอบและควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผล,นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจับกุมนายบี (นามสมมติ) สาวประเภทสอง อายุ 26 ปี ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน อ.หลังสวน จากการตรวจค้นพบยาไอซ์บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสขนาดเล็ก น้ำหนักรวม 0.48 กรัมอยู่ในกระเป๋าลายชมพู-ขาว อยู่ในตะกร้าสีชมพู ภายในห้องนอน,ขณะเดียวกัน ตำรวจและทหารอีกชุดได้เข้าทำการตรวจค้นร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งใน อ.หลังสวน พร้อมจับกุมนางสาวไก่ (นามสมมติ) อายุ 32 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 5 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสขนาดเล็ก อยู่ในกระเป๋าผ้าแบบผู้หญิง และยังพบถุงเปล่าที่ใช้ใส่ยาบ้าอีกจำนวน 6 ถุง ต่อมาได้ขยายผลการจับกุมนางสาวหมี (นามสมมติ) อายุ 35 ปี และนายเข้ม (นามสมมติ) อายุ 37 ปี ได้ที่หมู่บ้านจัดสรรหรูแห่งหนึ่ง พบยาบ้า 618 เม็ด ยาไอซ์อีก 1.8 กรัมซุกอยู่ในกระถางดอกไม้ พร้อมอายัดรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด สีขาว หมายเลขทะเบียน 4กอ9674 กทม. โทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง ไว้ตรวจสอบ พร้อมนำตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ตร. สภ.หลังสวน จ.ชุมพร รวบครูอัตราจ้างวิทยาลัยอาชีวะหารายได้พิเศษ ขายยาให้นักศึกษา พบยาไอซ์อื้อ พร้อมขยายผลจับกุมเครือข่ายได้อีก 4 ราย เจอของกลางทั้งยาบ้า ยาไอซ์ ซุกในกระถางต้นไม้เพียบ
null
กวาดล้างยาบ้า,กวาดล้างยาไอซ์,สุทธิชัย เทียนโพธิ์,สภ.หลังสวน,ชุมพร
https://www.thairath.co.th/content/800106
ลีโอนาร์โด บริจาคเงินกว่า 153 ล้านบาท ช่วยไฟป่าแอมะซอน
วันนี้ (26 ส.ค.2562) ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ดาราฮอลลีวู้ดชื่อดังได้โพสต์ภาพไฟป่า พร้อมข้อความผ่านอินสตาแกรม ระบุว่า ลีโอนาร์โด ได้บริจาคเงินผ่านมูลนิธิ Earth Alliance ที่ก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือกับ ลอรีน พาวเวลล์ จ็อบส์ และ เบรน เชธ เป็นจำนวน 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 153 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือองค์กรท้องถิ่นในการสู้ไฟป่าแอมะซอนที่รุนแรงที่สุดในรอบ 5 ปี และเพื่อปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพที่ยั่งยืนของทุกชีวิตในป่าแอมะซอนลีโอนาร์โด ระบุว่า มูลนิธิ Earth Alliance นั้นมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยปกป้องธรรมชาติ และมีความกังวลอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวิกฤตไฟป่าที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในป่าแอมะซอนซึ่งเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ มีความสมดุลของสภาพภูมิอากาศ และความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงความเป็นอยู่ที่ดีของชนพื้นเมือง เมื่อ ผืนป่าแอมะซอนในบราซิล เป็นป่าฝนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเปรียบเสมือนกับปอดของโลกซึ่งทำหน้าที่ช่วยดูดซับคาร์บอน โดยไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เกิดควันจำนวนมากลอยเข้าปกคลุมหลายพื้นที่โดยรอบ ซึ่งจากอิทธิพลของกระแสลม ทำให้กลุ่มควันขนาดใหญ่ลอยไปไกลมากกว่า 2700 กิโลเมตร เข้าปกคลุมท้องฟ้านครเซา เปาโล จนตกอยู่ในความมืดมิด เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมาอ่าน
ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ดาราฮอลลีวู้ดชื่อดัง บริจาคเงิน 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 153 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือองค์กรท้องถิ่นสู้วิกฤตไฟป่าแอมะซอน
สิ่งแวดล้อม
ป่าแอมะซอน,ไฟป่า,บราซิล,ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ
https://news.thaipbs.or.th/content/283390
ศศิ ทุ่มล้านอัพอึ๋ม หมอลักษณ์ เบรกรักต้องซ่อน
เป็นข่าวฮอตกับพระเอก ป.ตั้งแต่ยังไม่ได้มง ล่าสุด ศศิ สินทวี มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ 2015 ยังแซบไม่หยุดยอมรับว่า ควักเงินล้านอัพอึ๋ม แถมเปิดใจซุ่มคบหนุ่มนอกวงการที่เพื่อนแนะนำมาได้ 4 เดือนแล้ว แต่กลับโดน พ่อหมอลักษณ์ ฟันธงเปรี้ยงว่า ตามดวงอย่าคิดจะเปิด เรื่องความรัก มีรักได้แต่อย่าเอิกเกริกต้องแอบซ่อนลับๆ ที่สำคัญห้ามแต่งงานเร็วเด็ดขาด เพราะจะต้องหย่าร้างพลัดพรากพังไปทั้งชีวิตต้องรอคู่แท้จริงๆ สักอายุ 30–40 ปีค่อยมีและคู่จะต้องแก่กว่ามาก หัวเถิกหน้าผากกว้าง แต่วันนี้มีโอกาสในวงการบันเทิงแล้วรักต้องปล่อยวาง เดี๋ยวผู้ใหญ่ที่เอ็นดูที่อยากอุปถัมภ์ค้ำชูเราจะไม่ปลื้ม ถ้าอยากดังเปรี้ยง ต้องทำแบบป่าล้อมเมืองไปดังไกลจากต่างประเทศเข้ามา หรือไม่ต้องเป็นข่าวฉาว ยิ่งฉาวยิ่งดียิ่งดัง,แต่อย่าเอาตัวเองเข้าไปอิงแอบแนบชิด เพราะตั้งแต่ปลายปี 58 จนถึงปี62 ชีวิตจะรุ่งโรจน์มากยิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้น จะไม่ใช่มาจากมงกุฎแต่จะมาจากหน้าที่การงาน ทำอะไรก็จะประสบความสำเร็จดวงเงินทองไหลมาเทมาได้เงินเป็นกอบเป็นกำ แล้วต้องหานะดีมาติดตัวไว้ ไม่ก็ตะกรุดหรือปลัดขิกเสียบไว้ในผมเหมือนนางงามรุ่นพี่กบ-ปภัสรา ไม่เท่านั้น ศศิ ยังเม้าท์แซบถึงพระเอกคู่กรณีที่เป็นข่าวร้อนฉ่าให้ฟังสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ตามชมได้ใน ทอล์คทะลุดาว พฤหัสฯนี้ 21.45 น. ทาง ไทยรัฐทีวี ช่อง 32.
เป็นข่าวฮอตกับพระเอก ป.ตั้งแต่ยังไม่ได้มง ล่าสุด ศศิ สินทวี มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ 2015 ยังแซบไม่หยุดยอมรับว่า ควักเงินล้านอัพอึ๋ม!! แถมเปิดใจซุ่มคบหนุ่มนอกวงการที่เพื่อนแนะนำมาได้ 4 เดือนแล้ว
null
ศศิ สินทวี,มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ 2015,อัพอึ๋ม,หมอลักษณ์ ฟันธง,ทอล์คทะลุดาว,ไทยรัฐทีวี,ข่าวบันเทิง,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/content/553164
จวก เพนกวิน บุกกราบนายกฯ ป่วนเวทีแรงงาน ผิดกาลเทศะ
วันที่ 2 พ.ค. นายพนัส ไทยล้วน ประธานสภาลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ที่ลานคนเมือง เมื่อวันที่ 1 พ.ค. กล่าวถึงกรณี นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แนวร่วมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง แฝงตัวเข้ามาในงานด้วยการสวมเสื้อสีน้ำเงินของสำนักงานประกันสังคมที่แจกให้กับผู้ใช้แรงงานใส่ร่วมกิจกรรม บุกประชิดเข้าหานายกรัฐมนตรี แล้วนั่งก้มกราบบอกว่า อยากเลือกตั้ง จนทีมรักษาความปลอดภัยต้องเข้าล็อกตัวออกไป เป็นการมาผิดที่ผิดทาง ผิดกาลเทศะ เพราะเวทีวันแรงงานแห่งชาติ เป็นเวทีเรียกร้องสิทธิประโยชน์เพื่อผู้ใช้แรงงาน ไม่ใช่เวทีการเมือง ,นายพนัส กล่าวว่า ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการไปขอเสื้อมาจากคนที่เคยอยู่ในองค์กรแรงงาน เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่เข้าร่วมงาน ซึ่งตอนนี้รู้แล้วว่าเอามาจากไหน แต่หลังเกิดเหตุ นายกฯ และทีม รปภ.ไม่ได้ตำหนิอะไร เพราะเจ้าหน้าที่ มีการดูแลความปลอดภัยเข้มงวดอยู่แล้ว คนมาหลายพันคน แต่เปิดให้เฉพาะคนใส่เสื้อและมีบัตรที่คณะกรรมการจัดงานออกให้เข้าร่วมพิธีตอนนายกฯ เปิดงานเท่านั้น เนื่องจากสถานที่แคบ ตนยังถูกผู้ใช้แรงงานต่อว่าต่อขานไม่จบ เพราะมากันมากแต่เข้าไม่ได้ ,นายพนัส กล่าวอีกว่า ข้อเรียกร้อง 10 ข้อที่ยื่นไป นายกฯ บอกว่าทำไปแล้ว 6 ข้อ ที่จริงเป็นการทำในบางส่วนเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมด เช่น การขยายอายุเกษียณเป็น 60 ปี เป็นการขยายเฉพาะกลุ่มที่นายจ้างไม่มีการกำหนดอายุไว้เท่านั้น ส่วนกลุ่มที่นายจ้างมีการกำหนดอายุไว้ที่ 45 ปี 55 ปี หรือ 60 ปี เป็นกลุ่มใหญ่มีมากเป็น 10 ล้านคน ยังไม่ได้มีการดำเนินการแต่อย่างไร รวมทั้งการให้ประกันสังคมปรับฐานบำนาญ เริ่มต้นที่ 5 พันบาท ให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นภาคบังคับที่นายจ้างต้องจัดให้มีขึ้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการ,ส่วนเรื่องที่นายกฯ พูดบนเวทีว่าต้องคุมสัดส่วนต่างด้าว และมีร้องเรียนนายจ้างบีบคนไทยออก ใช้ต่างด้าวทำงานแทน เป็นเรื่องจริงทั้งนั้น ทุกวันนี้ต่างด้าวเข้ามาอยู่เยอะแยะ ที่บอกว่ามีผ่อนผันทำงานกว่า 1 ล้านคน จริงๆ มันมีกว่า 4 ล้านคน ผิดกฎหมายมีมากกว่าถูก เพราะใน 100 คน มาจดทะเบียนแค่ 40 คน ที่เหลือ 60 คน ไม่มา ,พอกำหนดอัตราโทษสูง นายจ้างก็โอดครวญ ลูกจ้างหนีกลับบ้าน วุ่นวายไปหมด พอแก้กฎหมายให้อ่อนลง ก็ยิ่งไม่กลัว มันเลยต้องอยู่กันแบบนี้ เจ้าหน้าที่ทำงานลูบหน้าปะจมูก แรงไปก็ยุ่ง เบาไปก็หย่อน มันจึงต้องกำหนดให้ชัดว่ามีต่างด้าวในประเทศเท่าไรกันแน่ และจริงๆ มีความต้องการใช้มากน้อยแค่ไหน นายพนัส กล่าว  ,ด้าน นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า หลังจากครบกำหนดทำทะเบียนประวัติแรงงานต่างด้าวในวันที่ 30 มิ.ย. จะมีการพิจารณากำหนดสัดส่วนแรงงานต่างด้าวในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ในประเทศมีต่างด้าวทำงาน 3.5 ล้านคน ส่วน ลาว กัมพูชา เมียนมา เดิมมีประมาณ 2 ล้านคน แต่เหลืออยู่ 1.3 ล้านคน การกำหนดสัดส่วนไม่ใช่มโนเอง แต่จะมีคณะกรรมการเป็นผู้พิจารณา กำหนดรายละเอียด ว่าเพียงพอไหม ต้องใช้แค่ไหน และอยู่ที่ไหนบ้าง และมีการส่งเสริมให้คนไทยทำงานก่อนใช้ต่างด้าว สำหรับสถานประกอบการที่บีบคนไทยออกแล้วให้ต่างด้าวทำแทน ก็ต้องมีการตรวจสอบต่อไป ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนายจ้างที่ยังใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งจะมีความผิดที่จ้างต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต  
ผู้นำแรงงาน จวกคนอยากเลือกตั้งป่วนวันแรงงานแห่งชาติ ย้ำเวทีนี้เพื่อคนทำงาน ไม่ใช่การเมือง กระทรวงแรงงาน ขานรับ บิ๊กตู่ คุมสัดส่วนต่างด้าว ไม่ให้แย่งงานคนไทย
ข่าว,ทั่วไทย
บุกเวทีแรงงาน,กราบนายก,เพนกวิน,คนอยากเลือกตั้ง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1271357
โทรห้ามขับ หนุ่มขี่ จยย.คุยมือถือซิ่งฝ่าไฟแดงตัดหน้ากระบะ โดนชนดับ
เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 58 ร.ต.ท.ชนะชัย ภูราช พงส.สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ตรวจสอบเหตุรถชนกันเมื่อคืนที่ผ่านมา บริเวณสี่แยกไฟจราจรท่าสะอ้าน ถนนสิริโสธร ขาเข้า ฉะเชิงเทรา หมู่ 6 ต.ท่าสะอ้าน พบรถกระบะมิตซูบิซิ ไทรทัน สีขาว ทะเบียน บย 2768 ฉะเชิงเทรา จอดอยู่กลางถนน สภาพด้านหน้าพังยับเยิน มีชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์คาอยู่ใต้ท้องรถ นายโชคโชน โพธิ์กิ่ง อายุ 45 ปี คนขับ ยืนรออยู่ในที่เกิดเหตุ ห่างไปเล็กน้อยพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีโอ สีฟ้า ทะเบียน ถมค 606 ฉะเชิงเทรา สภาพพังเป็นเศษเหล็กพลิกคว่ำอยู่ โดยบริเวณทางโค้งเข้าถนนสิริโสธร พบร่าง นายนรุตม์ชัย แสงทอง อายุ 22 ปี ผู้ขับขี่ นอนเสียชีวิตอยู่ข้างฟุตปาท,สอบสวน นายโชคโชน ให้การว่า ขณะที่กำลังขับรถกลับบ้าน มาถึงที่เกิดเหตุเป็นสัญญาณไฟเขียว แต่จู่ๆ ก็มีรถจักรยานยนต์ของผู้ตายขี่ตัดหน้าทำให้ชนเข้าเต็มแรงจนเสียชีวิตทันที,ด้านเพื่อนสาวของ นายนรุตม์ชัย กล่าวว่า มานั่งกินข้าวที่หน้าอำเภอบางปะกง ขากลับ นายนรุตม์ชัย ขี่รถจักรยานยนต์ไปคุยโทรศัพท์ไปด้วยความเร็ว และก่อนถึงสี่แยกไฟจราจร ซึ่งเป็นสัญญาณไฟแดงอยู่ นายนรุมต์ชัย หันมาโบกมือลา ก่อนจะเร่งพุ่งฝ่าไฟแดงขณะที่ยังคุยโทรศัพท์ และถูกรถกระบะที่มาทางตรงชนกระเด็น.
หนุ่ม 22 ซิ่งจักรยานยนต์พร้อมคุยโทรศัพท์ ฝ่าไฟแดง ประสานงากับรถกระบะที่มาทางตรง กระเด็นตกเสียชีวิตคาที่ข้างฟุตปาท รถพังยับเป็นเศษเหล็ก เพื่อนสาวเผย ผู้ตายหันมาโบกมือให้ก่อนเกิดเหตุ
ข่าว,ทั่วไทย
รถชน,ขี่รถคุยโทรศัพท์,จยย.ชนกระบะ,ชนะชัย ภูราช,ขี่รถตัดหน้า,รถชนตาย,อุบัติเหตุ,บางปะกง,ฉะเชิงเทรา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,รถก
https://www.thairath.co.th/news/local/530804
ไล่ออก ข้าราชการสำนักพระราชวังถ่ายรูปเสื้อแดงชุมนุม
ประพฤติไม่เหมาะสมทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติ จึงมีพระราชบัณฑูรให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ25 มี.ค.53 รายงานว่า ได้มีหนังสือจากสำนักพระราชวัง มีคำสั่งเกี่ยวกับการไล่ออกข้าราชการ ที่ไปถ่ายรูปบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 23 มีงนาคม 2553 ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อความดังนี้ด้วยเรืออากาศเอกสมาน อ้นชนะ ข้าราชการพลเรือนในพระองค์ ตำแหน่งหัวหน้าแผนกงานบริหารและธุรการ ฝ่ายราชสำนักงานบริหารนโยบายและวิทยาการราชสำนัก กองงานพระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ตำแหน่งเลขที่ 2423 รับเงินเดือนอันดับ ท.5 ชั้น 22220 บาท ได้กระทำผิดวินัยฐานกระทำการอันได้ชื่อว่า เป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง โดยมีกรณีความผิดกล่าวคือ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2553 ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่เข้าเวรประจำวัน เรืออากาศเอกสมานได้ละทิ้งหน้าที่ไปเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองที่บริเวณแยกผ่านฟ้าลีลาศ กรุงเทพมหานคร โดยแต่งกายเครื่องแบบข้าราชการพลเรือนในพระองค์ อันเป็นการประพฤติไม่เหมาะสม ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา และกระทำการโดยพลการ ทำให้เสื่อมเสียต่อพระเกียรติของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร และหน่วยงานราชการในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ในการนี้ จึงมีพระราชบัณฑูรให้ลงโทษไล่ออก จากราชการ สำนักพระราชวังพิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าวของเรืออากาศเอกสมาน อ้นชนะ เป็นความผิดวินัยฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 85 (4) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 จึงลงโทษไล่ออกจากราชการ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 97 และมาตรา 131 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 11 และมาตรา 16 แห่งพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในพระองค์ พ.ศ. 2552 จึงให้ลงโทษเรืออากาศเอกสมาน อ้นชนะ ออกจากราชการ
หนังสือสำนักพระราชวังระบุ หัวหน้าแผนกงานบริหารและธุรการ ฯ กองงานพระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ กระทำผิดวินัยร้ายแรง เข้าร่วมการชุมนุมระหว่างปฏิบัติหน้าที่โดยแต่งกายข้าราชการพลเรือนในพระองค์
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
พระบรมโอรสาธิราช,พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน,สำนักพระราชวัง,เรืออากาศเอกสมาน อ้นชนะ
https://prachatai.com/journal/2010/03/28477
คณะก้าวหน้า เปิดเผยตัว ทำคนติดแฮชแท็ก #ตามหาความจริง เกิน 1 ล้านครั้ง
ภายหลังแฟนเพจเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ของ คณะก้าวหน้า ออกมาเปิดเผยกรณีการยิงเลเซอร์ข้อความ ตามหาความจริง ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร โดยมีการโพสต์คลิปขณะที่ดำเนินการ พร้อมระบุถึงเหตุการณ์ทางการเมืองสำคัญในประเทศไทย เช่น เหตุการณ์ทางการเมืองในเดือนพฤษภาคม 2535 และ 2553 เหตุการณ์ทางการเมือง 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 อีกทั้งยังชวนร่วมตามหาความจริงไปพร้อมกันที่เพจคณะก้าวหน้า 12-20 พ.ค. ด้วยทั้งนี้ ทำให้มีผู้ทวีตข้อความโดยติดแฮชแท็ก #ตามหาความจริง ผ่านทางทวิตเตอร์มากกว่า 1 ล้านครั้งแล้ว และยังมีผู้ใช้ทวิตเตอร์โพสต์ข้อความและติดแฮชแท็กดังกล่าวอย่างต่อเนื่องทางด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็ตอบคำถามในเรื่องนี้ว่ากำลังให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอยู่ ส่วน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ได้ระบุว่า หนึ่งในสถานที่ที่ถูกยิงเลเซอร์คือ กระทรวงกลาโหม ไม่ทราบวัตถุประสงค์ของผู้ดำเนินการว่าทำเพื่ออะไร แต่คาดว่าน่าจะทำกันเป็นขบวนการ มีนัยทางการเมืองแอบแฝง มุ่งหวังให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสถาบัน และองค์กรซึ่งฝ่ายความมั่นคงกำลังติดตามพิจารณาทางกฎหมายอย่างไรก็ตาม ล่าสุด ทวิตเตอร์ คณะก้าวหน้า ได้รีทวีตคลิปพร้อมเมนชั่นถึงทวิตเตอร์ กองทัพบก โดยระบุข้อความว่า สรุปว่าหาคนทำเจอหรือยัง ใบ้ให้ขนาดนี้แล้ว
ผู้ใช้ทวิตเตอร์พร้อมทวีตข้อความติดแฮชแท็ก #ตามหาความจริง เกิน 1 ล้านครั้ง หลัง คณะก้าวหน้า เชิญชวนประชาชนผ่านโซเชียล พร้อมภาพยิงเลเซอร์ตามสถานที่ต่างๆ แถมเมนชั่นถึงกองทัพบก
ข่าว,การเมือง
ตามหาความจริง,คณะก้าวหน้า,ยิงเลเซอร์,กระทรวงกลาโหม,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1842143
กรมส่งเสริมการเกษตร หนุนชาวสวนผลไม้ บริหารจัดการน้ำ รองรับภัยแล้ง
กรมส่งเสริมการเกษตร ติดตามสถานการณ์ไม้ผลภาคตะวันออกเตรียมขยายผลสร้างแหล่งน้ำในแปลงปลูกรับมือภัยแล้ง พร้อมหนุนเกษตรกรน้อมนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ ในหลวง ร.9 มาประยุกต์ใช้ในแปลงปลูกตัวเองเมื่อวันที่ 5 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาตรี บุญนาค รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมรับฟังการบรรยายสรุปถึงสถานการณ์ผลผลิตผลไม้ภาคตะวันออก และการบริหารจัดการน้ำในช่วงที่ผลไม้กำลังผลิดอก โดยมี นายดำรงฤทธิ์ หลอดคำ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง เกษตรจังหวัดจันทบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ และร่วมประชุม ณ สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรีโดย นายชาตรี บุญนาค รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยภายหลังการรับฟังบรรยายสรุปว่า ข้อมูลจากคณะทำงานสำรวจข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจภาคตะวันออก ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมาพบว่าในปี 63 มีพื้นที่ปลูกไม้ผลประกอบด้วยทุเรียน มังคุด และเงาะ รวม 1038126 ไร่ และคาดการณ์ผลผลิตทุเรียนประมาณ 417344 ตัน จากพื้นที่ปลูก 238932 ไร่ มังคุดพื้นที่ปลูก 131344 ไร่ คาดการณ์ให้ผลผลิต 139561 ตัน ส่วนเงาะมีพื้นที่ปลูก 55191 ไร่ ผลผลิตประมาณ 109475 ตัน และลำไยซึ่งเริ่มมีการปลูกในพื้นที่ภาคตะวันออกเพิ่มขึ้นและที่จะออกผลผลิตในปี 2563 นี้ประมาณ 218759 ตัน จากพื้นที่ปลูก 211955 ไร่ โดยรวมปริมาณผลผลิตของผลไม้ภาคตะวันออกปี 2563 มีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกชนิด ประมาณ 18%ในปี 63 มีแนวโน้มน้ำจะน้อยเพราะเกิดความแห้งแล้ง อาจจะมีบางพื้นที่ที่ประสบกับภาวะขาดแคลนน้ำ ในช่วงที่ผลไม้ออกดอกและติดผล แต่พื้นที่จังหวัดจันทบุรีอาจจะกระทบน้อยกว่าพื้นที่อื่นๆ ด้วยมีแหล่งน้ำถึง 5 แหล่ง ปริมาณน้ำมีเพียงพอสำหรับความต้องการของไม้ผล ซึ่งมีความต้องการมากในช่วง ม.ค.-เม.ย.63 ที่สำคัญเกษตรกรที่ปลูกไม้ผลกว่า 70% มีการเก็บกักและสำรองน้ำไว้ในพื้นที่ของตนเองสามารถใช้ได้จนถึงช่วงเดือน มิ.ย.63นายชาตรี กล่าวนายชาตรีกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ต่อจากนี้ทางกรมส่งเสริมการเกษตรจะส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรชาวสวนผลไม้ บริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกด้วยการน้อมนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ มาประยุกต์ใช้ในแปลงปลูกของตนเอง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการประกอบอาชีพการเกษตร เนื่องจากแนวพระราชดำริเกษตรทฤษฏีใหม่ของในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้น จะมีการบริหารจัดการน้ำในแปลงเพาะปลูกด้วยการขุดสระที่มีขนาดเพียงพอกับความต้องการใช้น้ำ ซึ่งเป็นการเก็บกักน้ำในช่วงหน้าฝนไว้ เพื่อนำมาใช้ในช่วงไม้ผลออกดอกและติดผลตลอดถึงช่วงหน้าแล้ง ที่สำคัญจะช่วยให้ระดับน้ำใต้ดินไม่ลึกมากนัก ต้นไม้สามารถดูดขึ้นมาใช้บำรุงต้นดอกและผลได้ง่ายยิ่งขึ้นในส่วนของการตรวจรับรองแปลง GAP ในไม้ผลประกอบด้วย ทุเรียน มังคุด เงาะ และลำไยนั้น ขณะนี้ผ่านการตรวจแล้ว 5663 แปลง รอตรวจ 10410 แปลง โดยมังคุดตรวจแล้ว 4753 แปลง รอตรวจ 7460 แปลง และลำไย ตรวจผ่านแล้ว 10644 แปลง รอตรวจ 98 แปลง สำหรับด้านการตลาดได้มีการเตรียมแผนเพื่อกระจายผลผลิตออกสู่ตลาดภายในประเทศให้มากขึ้น โดยจะมีการบริหารจัดการร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งผลผลิตจะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคม และจะออกกระจุกตัวสูงสุดในช่วงเดือน พ.ค.63นายชาตรี กล่าวพร้อมกันนี้ นายชาตรีและคณะได้ลงพื้นตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการสวนและน้ำทุเรียนในช่วงออกดอก ของนายภักดี ไข่แก้ว ประธานแปลงใหญ่ทุเรียน หมู่ที่ 10 ต.บ่อ อ.ขลุง จ.จันทบุรี โดยปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง กระดุม และพวงมณี บนพื้นที่ 40 ไร่ คาดว่าจะสามารถเก็บผลผลิตได้ในช่วงเดือน มี.ค.63 นี้สำหรับการบริหารจัดการสวนทุเรียนแปลงนี้ นายภักดี ไข่แก้ว บอกว่า จะเน้นการบริหารจัดการตามธรรมชาติของทุเรียนในการเจริญเติบโต ไม่มุ่งเน้นการใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือฮอร์โมนต่างๆ ที่ชาวสวนทุเรียนทั่วไปนิยมใช้กัน มีการให้น้ำตามความต้องการของพืชไม่มากและน้อยเกินไป สำหรับการทำทุเรียนคุณภาพจะเก็บกักน้ำไว้ใช้ในแปลง โดยขุดบ่อเก็บกักน้ำไว้แล้วต่อระบบสปริงเกลอร์ให้น้ำในช่วงฤดูแล้ง ในระยะติดผลแบบวันเว้นวันประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ต่อวัน ใช้การตัดหญ้าเพื่อให้พื้นที่สวนโล่งเพื่อลดแหล่งอยู่อาศัยของแมลงศัตรูพืช และไม่เผาวัชพืชแต่นำมาคลุมดินสร้างความชุ่มชื้นแก่ไม้ผลการไว้ผลจะตัดแต่งให้เหลือประมาณต้นละ 30 ลูก ในต้นที่มีอายุประมาณ 5 ปี ช่วงดอกบานให้น้ำวันเว้นวันและให้พอประมาณไม่ชุ่มมากเกินไป จะติดผลดี ทุเรียนที่ได้ก็จะสมบูรณ์ ลูกโตได้ขนาด ให้รสชาติดีหวานกรอบตามความนิยมของผู้บริโภค ส่วนแหล่งน้ำไม่มีปัญหา ในกลุ่มแปลงใหญ่จะใช้ร่วมกันมีการบริหารจัดการให้ทุกสวนได้รับน้ำอย่างเพียงพอและเท่าเทียมกัน นายภักดี กล่าว
กรมส่งเสริมการเกษตร ติดตามสถานการณ์ไม้ผลในพื้นที่ภาคตะวันออก เตรียมขยายผลสร้างแหล่งน้ำในแปลงปลูกรับมือภัยแล้ง พร้อมหนุนเกษตรกรน้อมนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ ในหลวง ร.9 มาประยุกต์ใช้ในแปลงปลูกตัว
ข่าว,ทั่วไทย
กรมส่งเสริมการเกษตร,ภัยแล้ง,น้ำ,บริหารจัดการน้ำ,สวนผลไม้,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1765093
พม.เตรียมตั้ง พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาบทบาสตรีเน้น สร้างอาชีพ-ปลดหนี้นอกระบบ
น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แถลงผลรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีใน 4 ภูมิภาคและกรุงเทพมหานคร โดยเห็นด้วยกับจัดตั้งกองทุนดังกล่าวและมีข้อเสนอต่อรัฐบาลโดยให้เน้นความสำคัญและให้โอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของกองทุนโดยเฉพาะค่าครองชีพ ปัญหาหนี้นอกระบบ และปัญหาศักยภาพของแรงงาน ให้มีการฝึกอบรมด้านการพัฒนาอาชีพ เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ส่งเสริมความรู้ให้กับสตรีในการมีส่วนร่วมสร้างความสามัคคีในชุมชนและการพัฒนาประเทศพร้อมกันนี้ยังเสนอให้มีตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์การให้สวัสดิการ การให้ทุนการศึกษา ช่วยเหลือสตรีที่ได้รับความเดือดร้อนหรืออยู่ในสภาวะอยากลำบาก นอกจากนี้ยังต้องการให้มีการพัฒนากองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอนาคต ด้วยการขอให้รัฐบาลสนับสนุนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นธนาคารสตรีมีการออก พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้เป็นนิติบุคคลและประกาศเป็นวาระแห่งชาติ รวมทั้งให้เป็นนโยบายรัฐบาลเพื่อความต่อเนื่อง ขณะเดียวกันปัญหาภาพรวมของกองทุนฯ ที่ได้จากการรับฟังความเห็น รวมถึงมูลนิธิและองค์การด้านสตรีทั่วประเทศ ปัญหาหลักๆ คือปัญหาด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านการศึกษา ด้านสุขภาพและด้านสิ่งแวดล้อมเลขานุการรัฐมนตรีฯ ยืนยันว่า การรับฟังควาเมห็นเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุน เป็นไปอย่างทั่วถึงและเปิดกว้างให้ทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมเสนอแนะข้อคิดเห็น ส่วนการเปิดรับสมาชิกทั่วไป ยังเปิดรับอย่างต่อเนื่องไม่มีกำหนดเวลา เพียงแต่การปิดรับสมาชิกไปเมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมาเป็นการปิดรับสมัครเพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุนในระดับตำบล ที่จะมีการทำประชาคมในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ ก่อนที่จะมีการเลือกคณะกรรมการระดับจังหวัดต่อไป และคาดว่าความชัดเจนและรายละเอียดเกี่ยวกับกองทุนจะเป็นรูปธรรมมากขึ้นหลังจากมีคณะกรรมการชุดนี้และจะสามารถกำหนดเป็น พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีภายในปลายปี 2555
ผลการรับฟังความเห็นกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีใน 4 ภูมิภาค ได้ข้อสรุปว่าควรให้โอกาสสตรีได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนของกองทุน และการพัฒนาอาชีพและสร้างรายได้ที่ยั่งยืน โดยเสนอให้รัฐบาลผลักดันให้เป็นพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในอนาคต เพื่อความยั่งยืนในอนาคต
การเมือง
กองทุนพัฒนาสตรี,ข้อสรุป,ความเห็น,พ.ร.บ.พม.,หนี้,อาชีพ
https://news.thaipbs.or.th/content/79588
ไม่สำนึก? แฉแชตหนุ่มเกรียนวิ่งเหยียบรถ ไม่ลบคลิป ปัดขอโทษ บอกเรื่องเล็ก
จากกรณีกลุ่มวัยรุ่นทำคลิปวิดีโอเกรียนก่อวีรกรรมแปลกๆ เรียกยอดไลค์และทำให้ตัวเองเจ็บปวด เช่น วิ่งบนราวจับบันไดเลื่อนสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) นอนบนบันไดเลื่อน กระโดดตัดหน้าคนเดินถนน วิ่งเหยียบหลังคารถยนต์ที่จอดติดไฟแดง คล้ายกับพยายามเลียนแบบยูทูบเบอร์ชื่อดังของต่างประเทศ จนกระแสตีกลับในทางลบและกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการกระทำที่ไม่สร้างสรรค์นั้น,ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Note Phakhin หนึ่งในสมาชิกที่ร่วมทำคลิป ได้มีการเปิดเผยแชตการพูดคุยชายอีกคนผู้ที่วิ่งเหยียบหลังคารถ พร้อมแคปชั่นว่า ,ไม่มีความรู้สึกอะไรเลย? ไม่ฟังอะไรเลย? 
#นี่หรอครับที่บอกว่าเป็นเพื่อนพวกผม ไม่คิดจะยอมขอโทษเลย เลยให้พวกกูรับแทนทั้งนั้น,ทั้งนี้ ข้อความในแชตมีการขอให้อีกฝ่ายไปลบโพสต์และขอโทษสังคมต่อการกระทำเพราะไม่สนุกด้วย แต่อีกฝ่ายกลับบอกว่าเป็นเรื่องเล็ก ไม่มีท่าทีสำนึก ขณะที่ชาวเน็ตก็ยังคงเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อการกระทำของคนกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง.,(,โพสต์ต้นฉบับ,),ข่าวที่เกี่ยวข้อง,- ,ไม่สร้างสรรค์ ซัดยูทูบเบอร์เกรียน วิ่งเหยียบหลังคารถ-ทำลายของสาธารณะ (คลิป),- ,ดังสมใจ แฉหนุ่มวิ่งเหยียบรถโพสต์ขายยาเสียสาว ชาวเน็ตตาไวแคปภาพส่ง ตร.,Note Phakhin
หนึ่งในสมาชิกกลุ่มทำคลิปเกรียนก่อวีรกรรมจนกลายเป็นกระแสในทางลบ เผยแชตคุยกับชายวิ่งเหยียบรถ ไร้สำนึก ไม่ยอมขอโทษและไม่ลบคลิป บอกเป็นเรื่องสนุก
ข่าว,สังคม
เหยียบรถ,เกรียน,คลิปเกรียน,ยูทูบเบอร์,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1307351
สงกรานต์นี้คนไทยจ่ายลืมจน
ด้านกรมการท่องเที่ยวชวนเที่ยวประเพณีเทศกาลสงกรานต์เชิงวัฒนธรรมใน 15 จังหวัด หวังช่วยกระจายรายได้ให้ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล,นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้คาดว่าจะมีการใช้จ่ายเงิน อยู่ที่ 127,693 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.53% สูงสุดในรอบ 12 ปีนับตั้งแต่ทำการสำรวจมา แต่อัตราการขยายตัวไม่สูงมากนัก เพราะประชาชนยังมีความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่ไม่สอดคล้องกับรายได้ จึงทำให้ระมัดระวังการใช้จ่ายอยู่บ้าง,ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่า มูลค่าการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้เมื่อเทียบกับปีก่อนนั้น ผู้ตอบส่วนใหญ่ 65.2% ตอบว่า มีการใช้เงินเพิ่มขึ้น จากปีก่อนที่มีคนตอบใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพียง 40.1% โดยให้เหตุผลของการใช้เงินเพิ่มขึ้นว่าเป็นช่วงวันหยุดยาว รายได้เพิ่มขึ้น สินค้าและบริการมีราคาแพงขึ้นจึงต้องใช้เงินมากขึ้น, ส่วนอีก 22.1% ตอบว่า ใช้จ่ายลดลง เพราะต้องการประหยัด สินค้าและบริการมีราคาแพงขึ้นจึงเข้มงวดเรื่องการใช้จ่าย และมีรายได้ลดลง โดยบรรยากาศภาพรวมเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ส่วนใหญ่ 53.1% ยังบอกว่า สนุกสนานเหมือนเดิม,นอกจากนี้ ผู้ตอบ 71.6% ระบุว่า มีแผนการใช้จ่ายในเรื่องการท่องเที่ยวอยู่ ซึ่งผู้ตอบ 90.1% มีแผนจะท่องเที่ยวในประเทศ โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 3,951.76 บาท/คน ส่วนอีก 9.9% มีแผนเที่ยวต่างประเทศ เช่น เกาหลีใต้ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และยุโรป โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 75,300 บาท/คน ขณะที่ที่มาของเงินที่ใช้ในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ส่วนใหญ่ 67.4% ตอบว่า มาจากเงินเดือน, 14.3% มาจากเงินออม, 10.8% มาจากโบนัส และ 3% มาจากเงินกู้ ซึ่งโครงสร้างของที่มาของเงินที่ใช้จ่ายในปีนี้ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยพบว่ามีการใช้เงินเดือนเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีก่อนที่มีผู้ตอบว่าใช้เงินเดือนอยู่ที่ 34% ขณะที่ผู้ตอบว่าใช้เงินออมในปีนี้ลดลงจากปีก่อนที่มีผู้ตอบ 34.4%,ปีนี้ที่มาของเงินที่นำมาใช้จ่ายเปลี่ยนแปลงไป โดยประชาชนที่ตอบว่านำเงินเดือนมาใช้มากขึ้น จนอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2550 ที่เศรษฐกิจไทยโต 5% สะท้อนว่า คนเริ่มมีรายได้ มีเงินในกระเป๋ามากขึ้น พอที่จะใช้เป็นฐานการใช้จ่ายได้ จึงพอตีความได้ว่า เศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้น นายธนวรรธน์กล่าว,ส่วนกรณีการเข้มงวดความปลอดภัยในการเดินทางด้วยการให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรัดเข็มขัดนิรภัย หรือห้ามบรรทุกผู้โดยสารหลังรถกระบะนั้น นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ปีนี้มากนักเพราะรัฐผ่อนคลายกฎระเบียบให้แล้ว ต้องรอดูว่าปีหน้าจะดำเนินการอย่างไร ขณะนี้จึงยังเร็วเกินไปที่จะประเมิน,ขณะที่นางสาววรรณสิริ โมรากุล อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า กรมการท่องเที่ยวได้สนับสนุนการจัดกิจกรรมประเพณีสงกรานต์ใน 15 จังหวัด โดยเน้นกิจกรรมส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงขอเชิญชวนประชาชนให้ท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์ให้สนุก ปลอดภัย และได้สืบสานประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่น และเป็นการท่องเที่ยววิถีไทย ตามนโยบายของรัฐบาล,ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมสงกรานต์ที่กรมการท่องเที่ยวเข้าไปสนับสนุนใน 15 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน พะเยา ลำปาง ลำพูน มหาสารคาม นครราชสีมา มุกดาหาร สกลนคร ระยอง และยะลา แต่ละโครงการใน 15 จังหวัด ที่กรมการท่องเที่ยวเข้าไปสนับสนุน ล้วนแล้วแต่ยังยึดถือประเพณีวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม จึงขอเชิญชวนคนไทยเที่ยวงานเทศกาลสงกรานต์เชิงวัฒนธรรม ซึ่งจะได้ประสบการณ์ในรูปแบบที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนด้วย,สำหรับการจัดงานที่สะท้อนวัฒนธรรมของแต่ละแห่ง เช่น งานประเพณีสงกรานต์ของเทศบาลเมืองป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 11-13 เม.ย. 2560 มีการแสดงนาฏศิลป์ รำวงย้อนยุค ดนตรีไทย และวงดนตรีลูกทุ่ง, ประเพณีสงกรานต์นุ่งผ้าเมือง ปลอดเหล้าเบียร์ จังหวัดน่าน ระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย.2560 ภายในงานมีขบวนแห่นางสงกรานต์ของชุมชน มีการแข่งขันบั้งไฟ การเล่นน้ำตามวัฒนธรรม รวมทั้งพิธีบวงสรวงเสาหลักเมืองน่าน และโครงการประเพณีสงกรานต์ (ปี๋ใหม่เมืองลำปาง) วันที่ 9-13 เม.ย.2560 ภายในงานมีจัดขบวนแห่สลุงหลวง การอัญเชิญองค์พระคู่บ้านคู่เมือง เป็นต้น.
ม.หอการค้าไทย คาดสงกรานต์ปีนี้เงินสะพัด 1.27 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.53% ชี้คนนำเงินเดือนมาใช้จ่ายมากขึ้น จากที่ผ่านมาใช้เงินออม สะท้อนผู้บริโภคเริ่มรับรู้การมีเงินในกระเป๋าเพิ่ม ส่งสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว
ข่าว
ธนวรรธน์ พลวิชัย,การท่องเที่ยว,เทศกาลสงกรานต์2560,เศรษฐกิจไทย,วรรณสิริ โมรากุล
https://www.thairath.co.th/news/908072
ลูกสาวยัน แม่ถูกน้ำร้อนราดทั่วร่างกว่า 80% หวั่นติดเชื้อ-คู่กรณีมอบตัว
ลูกสาวแม่ค้าเมืองคอน แหม่ม ชาไข่มุก ที่ถูก 2 แม่ลูกแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวรุมทำร้ายราดด้วยน้ำร้อนบาดเจ็บสาหัส เผยร่างกายแม่ถูกน้ำร้อนราดใส่กว่า 80% เป็นแผลเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ผ่านไป 16 วัน ตร.ยังไม่มาสอบ ขณะที่คู่กรณีมาพบ พงส.ตามหมายเรียก อ้างป้องกันตัว ,บ่ายวันที่ 26 มิ.ย. ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้มี นางสมศรี โชจรูญเดช อายุ 53 ปี และ น.ส.สุวรา โชจรูญเดช อายุ 31 ปี สองแม่ลูก แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวแผงลอยริมถนนราชดำเนิน หน้าสนามกีฬากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ถูกกล่าวหาในคดีทำร้าย นางรัตนา บุญพา อายุ 43 ปี หรือ แหม่ม ,แม่ค้าชาไข่มุก, ซึ่งเป็นแม่ค้าขายของอยู่ใกล้กัน เดินทางไปพบ ร.ต.อ.อภินันท์ พลศร รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พนักงานสอบสวน ตามหมายเรียก,ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายสาหัส และสอบปากคำนางสมศรีและ น.ส.สุวรา ซึ่งให้การภาคเสธ โดยระบุว่าเป็นการป้องกันตัว เนื่องจากคู่กรณีจะไปเอามีดมาทำร้าย หลังสอบปากคำได้ปล่อยตัวไปชั่วคราว เนื่องจากผู้ต้องหามาพบตามหมายเรียก ไม่มีเจตนาจะหลบหนี โดยแจ้งให้มาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งในปลายสัปดาห์นี้ ซึ่ง น.ส.สุวราให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่มารอทำข่าว ยืนยันว่ากระทำไปเพราะป้องกันตัว และบาดหมางกันมาก่อน,ขณะที่ น.ส.สุดารัตน์ เทียนชัย บุตรสาวของนางรัตนา บุญพา แม่ค้าชาไข่มุก ผู้เสียหาย และเป็นผู้โพสต์ภาพลงเฟซบุ๊ก กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ตำรวจยังไม่มีการสอบสวนมารดาของตน แม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านมาถึง 16 วันแล้วก็ตาม ขณะที่สภาพอาการของมารดานั้นอยู่ในขั้นบาดเจ็บสาหัส ผิวหนังเปื่อยพุพองจากน้ำร้อนที่ถูกราดใส่ร่างกายมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ แพทย์ต้องให้ยาแก้ปวดผ่านทางเส้นเลือดทุก 3 ชั่วโมง และหวั่นจะเกิดการติดเชื้อ ต้องนอนพักในห้องปลอดเชื้อของโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช พร้อมยืนยันว่าคู่กรณีแม่ลูกร่วมกันทำร้ายมารดาด้วยการทุบตี เหยียบคอ และราดด้วยน้ำร้อน,น.ส.สุดารัตน์ ระบุด้วยว่า อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนดำเนินคดี เนื่องจาก 16 วันแล้วที่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ขณะที่มารดาต้องทนทุกข์ทรมาน หลังจากนั้น น.ส.สุดารัตน์ ได้นำผู้สื่อข่าวไปดูจุดเกิดเหตุ บริเวณที่ตั้งแผงลอยริมถนนราชดำเนิน หน้าสนามกีฬากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยมีนางทิพย์วัลย์ พุฒแก้ว อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นลูกจ้างของร้านชาไข่มุก เล่าเหตุการณ์วันเกิดเหตุให้ฟัง,ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนของผู้ถูกกล่าวหาสองแม่ลูกร้านขายก๋วยเตี๋ยวในวันนี้ ทางตำรวจไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพการสอบปากคำ หรือการแจ้งข้อกล่าวหา ต้องดักรอถ่ายภาพอยู่ด้านนอกสถานีตำรวจ และคอยซูมภาพเข้าไปบนโรงพัก.
ลูกสาวแม่ค้าเมืองคอน แหม่ม ชาไข่มุกที่ถูก2แม่ลูกแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวรุมทำร้ายราดด้วยน้ำร้อนบาดเจ็บสาหัสเผยร่างกายแม่ถูกน้ำร้อนราดใส่กว่า80% เป็นแผลเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ผ่านไป16วันตร.ยังไม่มาสอบ ขณะที่คู่กรณีมาพบพงส.ตามหมายเรียก
ข่าว,ทั่วไทย
ราดน้ำร้อน,แม่ค้าชาไข่มุก,แม่ค้าก๋วยเตี๋ยว,แม่ลูกมอบตัว,นครศรีธรรมราช,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/984737
จีนขู่ฟ่อ ปล่อยเรือพิฆาตสร้างเอง ลงทะเลอีกแล้ว ติดตั้งอาวุธอื้อ
เมื่อ 28 มิ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน กองทัพเรือจีนโชว์แสนยานุภาพทางทะเลอีกแล้ว ทำพิธีปล่อยเรือพิฆาตลำใหม่เอี่ยมที่สร้างขึ้นเองในประเทศ ที่อู่ต่อเรือในนครเซี่ยงไฮ้ โดยเรือพิฆาตลำใหม่ของจีนลำนี้ ยังได้ติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศรุ่นใหม่ครบครัน โดยสามารถยิงต่อต้านขีปนาวุธจากฝ่ายข้าศึก รวมทั้งยิงต่อต้านเรือและต่อต้านอาวุธจากเรือดำน้ำ,สำนักข่าวซินหัว กระบอกเสียงของทางการจีน รายงานว่า การเดินหน้าสร้างเรือรบของจีน เป็นความพยายามในการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย ในขณะที่ โกลบอล ไทมส์ สื่อทางการจีนเช่นกัน เผยว่า เรือพิฆาตลำใหม่ของจีนลำนี้ เป็นเรือพิฆาต รุ่น 055 ซึ่งถูกสร้างขึ้นเป็นลำแรก และมีระวางขับน้ำ 10,000 ตัน โดยเป็นการพัฒนาต่อยอดความสำเร็จของเรือพิฆาตรุ่นเล็กกว่า คือ รุ่น 052D,ทั้งนี้ การเดินหน้าพัฒนาสร้างเรือรบของจีนมีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในทะเลจีนใต้ที่ทวีมากขึ้น โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กองทัพเรือจีนเพิ่งทำพิธีปล่อย,เรือบรรทุกเครื่องบิน ,ซึ่งสร้างขึ้นเองในประเทศทั้งหมดเป็นลำแรกและยังไม่ได้ตั้งชื่อ หลังจากจีนมีเรือบรรทุกเครื่องบิน เหลียวหนิงเป็นลำแรก แต่เป็นเรือของรัสเซียที่ได้รับการซ่อมแซมแล้ว และจีนซื้อมาจากยูเครนอีกที.
กองทัพจีน โชว์แสนยานุภาพทางทะเลไม่หยุด ทำพิธีปล่อยเรือพิฆาตลำใหม่ สร้างเองในประเทศทั้งหมด อย่างยิ่งใหญ่ หลังจากไม่กี่เดือนก่อน เพิ่งปล่อยเรือบรรทุกเครื่องบินต่อเองมาหมาดๆ
ข่าว,ต่างประเทศ
เรือพิฆาตจีน,จีนปล่อยเรือพิฆาต,เรือพิฆาต,จีน,เรือบรรทุกเครื่องบิน เหลียวหนิง
https://www.thairath.co.th/news/foreign/986920
สั่งปิดอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด เร่งกำจัดคราบน้ำมัน
ด้านนายพรเทพ บุตรนิพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) ระบุว่า น้ำมันที่อ่าวพร้าวเป็นเพียงร้อยละ 5 ของน้ำมันทั้งหมดที่รั่วออกมาในครั้งนี้ ซึ่งมีอยู่กว่า 50000 ลิตร โดยลอดผ่านใต้ทุ่นที่ปิดกั้นไว้ ทั้งนี้ แนวทางแก้ไขที่มีได้การเตรียมการไว้ก็คือ การวางทุ่นปิดกั้นคราบน้ำมันมิให้ลอยเข้าฝั่งเพิ่มเติม การใช้เรือดูดคราบน้ำมันออก และให้เจ้าหน้าที่ตักทรายที่ปนเปื้อนคราบน้ำมันบริเวณชายฝั่งออก รวมถึงยังมีเรือในการฉีดพ่นเพื่อดันมิให้น้ำมันลอยเข้าสู่เกาะเพิ่มเติมโดยทหารและเจ้าหน้าที่ยังคงรอดูสถานการณ์และปฏิบัติตามคำสั่ง เนื่องจากยังมิได้มีคำสั่งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด โดยขณะนี้จะเร่งแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าก่อนจะมีการหารือเพื่อเตรียมการรับมือหรือแก้ไขปัญหาในระยายาวต่อไปนอกจากนี้ ยังมีความกังวลจากสภาพอากาศที่มีแนวโน้มว่าจะมีฝนตกในบริเวณดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลให้การดำเนินการกำจัดคราบน้ำมันเป็นไปด้วยความยากลำบากมากยิ่งขึ้นอย่างไรก็ตาม ประชาชนและนักท่องเที่ยวกังวลอย่างมากถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อมและสัตว์ในพื้นที่ โดยเชื่อว่า ปตท.จะไม่สามารถเก็บคราบน้ำมันได้หมดภายในวันนี้ตามที่ได้กล่าววไ้ว้ ขณะที่นักท่องเที่ยวยังคงเล่นน้ำในบริเวณหาดอื่น ๆ บนเกาะเสม็ด
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด สั่งปิดอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด พร้อมห้ามนักท่องเที่ยวเข้าจนกว่าจะเก็บกู้คราบน้ำมันเสร็จ ขณะเดียวกันได้ให้นักวิชาการจากกรมควบคุมมลพิษประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อยื่นฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
สังคม
อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า,อ่าวพร้าว,เกาะเสม็ด,เสม็ด
https://news.thaipbs.or.th/content/186723
ถึงฤดูกาลล่างูเห่า?
ขณะที่แกนนำพรรคฝ่ายค้านคือพรรคเพื่อไทย มีการร้องเรียนให้สอบสวน 3 ส.ส.จังหวัดสุรินทร์ ที่แสดงท่าทีเอาอกเอาใจนายกรัฐมนตรี และมีเสียงร้อง งูเห่าภาคสอง,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พี่ใหญ่ของ คสช. ถูกส่งมาเป็นประธานกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปัญหาแรกที่จะต้องแก้ไขคือเรื่องเสียงปริ่มน้ำ รัฐบาลมีเสียงอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร 253 เสียง เกินกึ่งหนึ่งแค่ 3 เสี่ยงต่อการแพ้มติในสภา และเคยแพ้มาแล้วแต่บังเอิญไม่ใช่เรื่องสำคัญ,เรื่องแรก ประธานยุทธศาสตร์ส่งสัญญาณถึง 5 รัฐมนตรีพรรค พปชร.ให้พิจารณาตัวเอง การควบสองตำแหน่งจะเป็นอุปสรรคในการทำงานหรือไม่ ควรลาออกให้คนอื่นเป็น ส.ส.แทนหรือไม่ และมีการปล่อยข่าวว่าฝ่ายรัฐบาลต้องการให้มี ส.ส.ถึง 270 คน จึงจะเป็นรัฐบาลที่มั่นคง บริหารประเทศจนครบ 4 ปี แต่จะเอา ส.ส.มาจากไหน,หากรัฐบาลตั้งเป้าต้องมี ส.ส. 270 คน จะต้องหามาเพิ่มอีกถึง 17 จะหามาจากไหน เพราะฤดูการเลือกตั้งต้องรอ อีก 4 ปี มีวิธีเดียวแบบที่ชาวบ้านเรียกว่า จับปลาในบ่อเพื่อนบ้าน การจับปลาส่วนใหญ่จะต้องใช้เหยื่อล่อ หรือใช้เครื่องมือจับปลา ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางคนจึงร้อง กระแส งูเห่า กลับมาอีกแล้ว,ในหมู่พรรคฝ่ายค้านเองก็เกิดอาการกระเพื่อม เช่น มีการออกข่าวว่า 4 ส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจใหม่ จะทิ้งฝ่ายค้านไปซบอกฝ่ายรัฐบาล แต่อีกไม่กี่วันต่อมาทั้ง 6 ส.ส.ออกมายืนยันจะเป็นฝ่ายค้านต่อไป ส่วนพรรคเพื่อไทยต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณี 3 ส.ส.เอาอกเอาใจนายกรัฐมนตรีจนเกินงาม จะสนับสนุนให้อยู่ในอำนาจถึง 4 ปี,มีการปล่อยข่าวด้วยว่า ส.ส.ฝ่ายค้าน 20 คน พร้อมที่จะยกมือให้รัฐบาลเมื่อมีความจำเป็น เรื่องนี้แกนนำพรรครัฐบาลปฏิเสธว่าไม่จริง แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง แสดงว่าปฏิบัติการล่างูเห่าได้กลับมาอีกครั้ง โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง ไม่คำนึงถึงสัญญาที่จะปฏิรูปประเทศทุกด้าน รวมทั้งการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยที่ใสสะอาด,ถ้างูเห่ากลับมาจริงแสดงว่านักการเมืองไทยมีความยินดีที่จะจมปลักอยู่ในน้ำเน่าต่อไป โดยไม่สนใจว่าจะทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง หรือรัฐธรรมนูญหรือไม่ จะถูกกล่าวหากระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย หรือจงใจทำผิดรัฐธรรม-นูญ หรือฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ ขอแต่เพียงให้มีอำนาจอย่างเดียว.
สถานการณ์การเมืองในขณะนี้ ไม่นิ่งทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลต้องส่งประธานกรรมการยุทธศาสตร์คนใหม่มากำกับดูแล เนื่องจากรัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ
null
สถานการณ์การเมือง,ฤดูกาลล่างูเห่า,รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ,ดูด ส.ส.,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,งูเห่า,บทบรรณาธิการ
https://www.thairath.co.th/news/politic/1645995
หล่อเซอร์กระชากใจ เปิดธุรกิจไฮเอนด์ ดอนนี่ คาร์ลสัน ลูกครึ่งไทย-สวีเดน
พอดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน ไม่ต้องมาเขินฉันพูดจริงๆ เสน่ห์ดึงดูดเว่อร์จนเผลอฮัมเพลงออกมาไม่รู้ตัว เมื่อได้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเซเลบฯ นักธุรกิจหนุ่มมาดเซอร์คนล่าสุด ดอนนี่ คาร์ลสัน ที่ ไทยรัฐออนไลน์ จับตัวมาล้วงธุรกิจแบรนด์ไฮเอนด์ให้ได้อ่านกัน,เรานัดแนะเจอกับ ดอนนี่ ในคอนโดสุดหรูของเขาย่านสุขุมวิท เชื่อหรือไม่ว่า ครั้งแรกที่ได้สบตาเป็นประกายแบบเด็กๆ ที่แฝงด้วยความขี้อายของเขา ก็ทำให้เรามองเคลิ้มจดจ้องอยู่นาน พลางคิดในใจว่าใบหน้าได้รูปที่ฉายความลูกครึ่งไทย-สวีเดน คงทำให้สาวๆ หลายคนหวั่นไหวไม่มากก็น้อย หลังจากทำความรู้จักกันสักพัก ดอนนี่ ก็พาเราเดินดูรอบๆ คอนโด และห้องสุดหรูที่เขาอยู่ ถึงมันจะเป็นคอนโดที่อยู่ในตัวเมือง ทว่าบรรยากาศที่นี่น่าอยู่ และไม่รู้สึกถึงความวุ่นวาย-เสียงดังเลยแม้แต่น้อย,เมื่อขึ้นลิฟต์ไปยังห้องของเขา ที่ถูกตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น เราก็ไม่พลาดหย่อนก้นลงบนโซฟาหนังนุ่มๆ พร้อมเปิดประเด็นคำถามหลังจากนั้น ทั้งท่าทาง และน้ำเสียงการตอบของเขา ใครฟังก็ต้องบอกเซ็กซี่สุดๆ เลยล่ะ, ,พาร์ท 1 : จุดเริ่มต้นธุรกิจสุดเลิฟแต่งมอเตอร์ไซค์ ?,Q : เล่าชีวิตตอนเด็กๆ วัยเรียนให้ฟังหน่อย,บอกก่อนว่าเราเป็นลูกครึ่งไทย-สวีเดน เกิดที่สวีเดนเลย (ได้ 2 สัญชาติ) คุณพ่อเป็นคนไทย และคุณแม่เป็นสวีเดน ตั้งแต่เด็กๆ เราเป็นคนขี้อายมาก เวลาว่างๆ ก็จะชอบวาดรูป เล่นกลอง เล่นกีตาร์ จำได้ว่า ตอนเด็กๆ เราย้ายประเทศบ่อยมาก เราอยู่ที่สวีเดนประมาณ 8 ปีก็ย้ายไปอยู่เกาหลี เพราะคุณพ่อไปเปิดธุรกิจที่นั่น เกี่ยวกับ Logistic จากนั้นก็ย้ายมาอยู่เมืองไทยตอนเราอายุได้ 13 ปี มาเรียนที่เมืองไทย 3 ปี แล้วก็กลับไปอยู่สวีเดนเรียนจบไฮสกูลที่นั่น หลังจากนั้นเราไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ Aston University, Birmingham ที่อังกฤษ เกี่ยวกับ Economic และ Psychology แล้วก็เรียนดนตรีที่ Institute of Contemporary music, London พอเรียนจบแล้วก็กลับมาไทยทำธุรกิจเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ที่เราชอบ เพราะตอนนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็อยู่ที่เมืองไทยด้วย,Q : จุดเริ่มต้นธุรกิจมอเตอร์ไซค์นี้เป็นมายังไง,ธุรกิจนี้ชื่อ ,Halfcastecreation, เอาจริงๆ เราเริ่มทำตั้งแต่อายุ 16 ปีแล้วนะ ตอนนั้นยังอยู่เมืองไทย แต่เรายังไม่ได้ทำจริงจังอะไร ตอนแรกเราตั้งใจจะแต่งมอเตอร์ไซค์เพื่อจะขี่เอง แต่ไปๆ มาๆ เริ่มมีคนถามเยอะว่าเราซื้อมาจากที่ไหน สวยแปลกดี และมาขอซื้อต่อได้ไหม เราก็เลยบอกเขาไปว่าเป็นรถที่แต่งขึ้นมาเอง ทว่าพอมีคนถามเยอะขึ้นเรื่อยๆ ตอนนั้นเราก็เลยเริ่มลงทุนแต่งขึ้นมา 2 คัน แล้วก็ขายไป จากนั้นก็ซื้อมาอีก 4 คันแล้วแต่งใหม่ เราก็ทำเล่นๆ ขายไปอยู่แบบนั้น ตอนนั้นเรารู้สึกดีมากที่มีคนชอบ-สนใจ แล้วมันขายได้ จนพอเรียนจบมหาลัย ด้วยความที่ตอนนั้นเรายังไม่รู้จะทำอะไรดี ก็เลยคิดว่ากลับมาทำมอเตอร์ไซค์ต่อดีกว่า เพราะมันเป็นอะไรที่เรารัก และมี Passion กับมันจริงๆ คราวนี้เราก็เลยเปิดเป็นบริษัทเลย เปิดมาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว,Q : สนใจเรื่องการประกอบรถมาตั้งแต่เด็กๆ เลยรึเปล่า เอาความรู้ด้านนี้มาจากไหน,มันเป็นความชอบตั้งแต่เด็กๆ แล้วเราก็เริ่มศึกษา-ลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ คนเดียว ตอนแรกที่ทำมันผิดพลาดเยอะมาก แต่พอแก้มาเรื่อยๆ เราก็รู้ว่ามันควรจะเป็นอะไร ต้องทำยังไงบ้าง จนตอนนี้เรายังมีทีมที่เก่งมากคอยซัพพอร์ต (ตอนนี้มีทีมอยู่ 3 คน) ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการซ่อมเครื่อง การจูนเครื่องอะไรต่างๆ หรือมีคนหนึ่งในทีมที่ตีถังให้ แต่ก่อนเขาทำมอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์ยุค 70 แต่เราคิดว่ามันไม่โมเดิร์นเหมือนเจนเนอเรชั่นเรา เราก็ออกแบบวาดให้เขาดู ทำแพตเทิร์นด้วยกันจนแบบที่เขาทำออกมาเป็นคอนเซปต์เดียวกับเรา (หัวเราะร่า),Q : อินสไปเรชั่นในการออกแบบ,ค่อนข้างตอบยากเหมือนกันนะ มันมาจากความชอบส่วนตัวล้วนๆ เลย เราคิดอยากให้มันออกมาหน้าตาเป็นยังไง ให้ความรู้สึกอารมณ์ไหน เราก็ลองดีไซน์ดู เครื่องที่เราใช้อาจมีซ้ำกันบ้าง แต่ดีไซน์แต่ละคันจะไม่เหมือนกันเลย บางคันก็มาจาก Shape ของปลาบ้าง บางคันก็มาจากนกบ้าง ทุกอย่างที่เราออกแบบจะเป็น Shape ที่เราชอบหมดเลย,Q : ราคาต่อคันตั้งอยู่ประมาณเท่าไร,เราขายราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 350,000-3,000,000 บาท ซึ่งความแตกต่างของราคาก็อยู่ที่ตัวเครื่อง บางคันตัวเครื่องหาได้ยากมาก หรือไม่มีแล้ว มันก็ทำให้ราคาสูงขึ้น อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับทุนด้วยว่า เราแต่งรถไปเท่าไร ถ้าคันใหม่เราทำเฟรมใหม่ ทำชุดหน้าใหม่ แน่นอนว่าราคาก็จะอัพขึ้น หรือแอคเซสเซอรี่ที่ใช้ ถ้าเป็นจากปี 30 หรือ 50 ราคามันก็ต้องแพงอยู่แล้ว,Q : คิดว่าอะไรเป็นลูกเล่นน่าสนใจที่ทำให้คนซื้อ,เรามั่นใจว่าส่วนใหญ่คนซื้อเพราะดีไซน์ของเรา เราขายทั้งดีไซน์เลย ซึ่งมันมีคันเดียวในโลก และไม่มีคันไหนที่เหมือนแบบนั้น ทุกอย่างทุกขั้นตอนที่ทำเป็น Handmade ทั้งหมด ลูกค้าสามารถรีเควสให้เราออกแบบ-แต่งรถให้ได้ เพียงแค่บอกว่าชอบสไตล์ประมาณนี้ อยากให้มีลูกเล่นตรงนี้ๆ หน่อย เราก็จะออกแบบให้ตามสไตล์ที่คุณต้องการ ทุกคันเป็นงานละเอียดที่ต้องใช้เวลา และเป็นดีไซน์เฉพาะที่ไม่มีคันไหนเหมือน นับตั้งแต่เปิดบริษัทมา เราทำมอเตอร์ไซค์มาแล้วประมาณ 25 คัน ซึ่งแต่ละคันก็จะมีสไตล์โดดเด่นกันไปเป็นเสน่ห์เฉพาะตัว,Q : กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบ และมาสั่งทำบ่อยๆ,เรารับลูกค้าเรื่อยๆ นะ ก็จะมีทั้งลูกค้าเก่า และใหม่ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าใหม่ซะมากกว่า ลูกค้าเก่าจะมีอยู่แค่ 3-4 คน ที่บ้ามอเตอร์ไซค์จริงๆ แล้วก็จะมาสั่งซ้ำเรื่อยๆ เป็น Repeat Customer หลักๆ แล้วลูกค้าร้านเราจะเป็นผู้ชายอายุ 17-55 ปี มีทั้งคนไทย และต่างชาติ ถ้าเด็กหน่อยก็จะเป็นเด็กผู้ชายที่เริ่มอยากขี่มอเตอร์ไซค์ หรือถ้าโตหน่อยบางคนเคยขี่แล้ว พอเขาเห็นดีไซน์เราก็ทำให้อยากกลับมาขี่อีก เพราะมันสวยเท่ดี,Q : มีไอดอลนักแต่งมอเตอร์ไซค์คนไหนบ้าง,ส่วนตัวที่เราชอบ และเอาไอเดียเขามาเป็นแรงบันดาลใจบ่อยๆ เลยก็คือ ,Maxwell Hazan, เป็นคนอเมริกัน และ ,Shinya Kimura, เป็นคนญี่ปุ่น เราคิดว่างานซ่อม-งานแต่งมอเตอร์ไซค์ เดิมจริงๆ แล้วมันมาจากญี่ปุ่น และคนนี้ก็เป็นคนที่เก่งที่สุด เราเห็นผลงานเขาสุดยอดมาก สักวันหนึ่งเราก็อยากจะเก่งให้ได้แบบเขาบ้าง,Q : ในคันต่อๆ ไปที่จะทำคิดว่าจะนำลูกเล่นอะไรมาทำให้น่าสนใจมากขึ้นบ้าง,จริงๆ ลูกเล่นก็คือตัวดีไซน์ที่ไม่ซ้ำกันเลยนั่นแหละ แต่ในอนาคตเราคิดว่าอาจจะเอารถใหม่มาทำเลย หมายถึงเราจะไม่ใช้เครื่องเก่าแล้ว เพราะมันมีปัญหาเยอะ เสียบ่อยบ้าง หรือบางทีเจอเครื่องแต่จดทะเบียนไม่ได้ ตีทะเบียนไม่ได้บ้าง มันก็เฟล ถ้าเป็นรถรุ่นใหม่ก็อาจจะทำแบบให้ลูกค้าเลือกสีเองได้ เลือกแอคเซสเซอรี่แต่งรถได้ตามใจ,Q : ถ้าใครสนใจอยากให้แต่งรถให้ สามารถติดต่อได้ทางไหนบ้าง,สามารถเข้าไปดูสไตล์ หรือไอเทมแต่งรถได้ที่ ,www.halfcastecreations.com, ,หรือติดต่อเข้ามาทางอีเมลได้เลยที่ ,[email protected], สำหรับถ้าใครจะสั่งมอเตอร์ไซต์ผ่าน Process ที่ใช้เวลาหน่อย เราก็จะต้องมีการคุยกับลูกค้าใหม่ก่อนว่าเขาชอบสไตล์แบบไหน,พาร์ท 2 : ธุรกิจที่สอง โอกาสทองต้องคว้าไว้ ,อันนี้เป็นธุรกิจเสื้อผ้าออนไลน์ที่ทำร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน ชื่อแบรนด์ The Basic Right ด้วยความที่ตอนนั้นเพื่อนพาร์ทเนอร์คนหนึ่งชื่อ Freddie Cowan มาเล่นคอนเสิร์ตที่เมืองไทย และเห็นว่าคนกรุงเทพฯ แต่งตัวเก่งกันมากๆ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เต็มไปด้วยแฟชั่นเลยก็ว่าได้ เลยคิดอยากจะเปิดแบรนด์เสื้อผ้าขึ้นมา โดยชวนเราและเพื่อนอีกคนหนึ่งชื่อ Brianna Lance มาทำด้วยกัน, หนุ่มหล่อมาดเซอร์ ดอนนี่ พูดพร้อมกับยิ้มด้วยความภูมิใจเล็กๆ,Q : ทำไมถึงเลือกทำเป็นธุรกิจออนไลน์,เรากับเพื่อนคิดกันว่าไม่อยากขายตามห้างฯ หรือในร้าน เพราะมันมีการลงทุนค่อนข้างเยอะ เราก็เลยตัดสินใจจะขายทางออนไลน์ดีกว่า,Q : ทำไมถึงชื่อแบรนด์ The Basic Right,มีคนถามเข้ามาเยอะมากๆ ซึ่งจริงๆ มันก็แปลตรงตัวเลยคือ เสื้อผ้าแบบเบสิกที่ทำอย่างถูกต้อง อันนี้เรากับเพื่อนช่วยกันคิดนานอยู่ (หัวเราะ),Q : คิดว่าเสื้อผ้าของเรามีความโดดเด่น-แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ยังไง,เสื้อผ้าของเราเป็นสไตล์ยุค 50 ซึ่งเราเอาสิ่งที่ดีที่สุดจากยุคนั้นมาทำใหม่ เปลี่ยนให้มันมีฟีลใหม่ ทันสมัยขึ้น อย่าง Trousers ก็ทำให้มันมีเอกลักษณ์เฉพาะขึ้น เอาจริงๆ เราหาเสื้อ หรือกางเกงสไตล์แบบนี้มานานแล้วนะ แต่ไม่ค่อยมีคนทำขึ้น เราก็ได้ไอเดียจากสิ่งที่เราชอบตรงนี้ล่ะ มาทำให้เกิดเป็นแบรนด์ Basic Right,เหนือสิ่งอื่นใด เราอยากจะให้แบรนด์เราเป็นอะไรที่หาซื้อได้ง่าย และสามารถซื้อได้ในที่เดียว เราสังเกตว่าผู้ชายหลายคนขี้เกียจเดินหาซื้อข้างนอก หรือไม่อยากเดินเลือกซื้อนานๆ เราก็อยากจะให้แบรนด์เราช่วยซัพพอร์ตความสะดวกสบายตรงนั้น คือเพียงแค่เข้าไปในเว็บไซต์ก็สามารถเลือกซื้อได้ทุกชิ้นในราคาไม่แพง อีกทั้งดีไซน์ยังสามารถใส่แมตช์กันได้ง่าย ทั้งกางเกงยีนส์ ทีเชิ้ต แจ็กเกต กางเกงขายาวสบายๆ ก็มีโทนสีไปในทิศทางเดียวกัน,Q : ทำการตลาดยังไงให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก,เนื่องจากขายในออนไลน์ แน่นอนว่าหลายคนอาจยังไม่รู้จักแบรนด์ของเรา ซึ่งตรงนี้เราก็มี Pr ที่นิวยอร์ก และเมืองไทย คอยช่วยกันโปรโมตลงสื่อต่างๆ ทั้งออนไลน์ หนังสือพิมพ์ รวมถึงนิตยสารอยู่ตลอด อย่างเช่น VOQUE หรือ GQ ช่วงที่มันพีคหรือบูมมากสุด คือตอนที่แบรนด์ได้ลงนิตยสาร GQ ที่อเมริกา จำได้ว่า ตอนนั้นเราขายได้ประมาณ 1,000,000 กว่าบาทในสต๊อก จากนั้นก็มีออเดอร์เข้ามาอีกเยอะมากมาย รวมถึงดารา นางแบบ นักดนตรีหลายคนที่นั่นก็หยิบแบรนด์ของเรามาใส่,เราว่ามันเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งที่เพื่อนพาร์ทเนอร์ของเราทั้งสองคน (Freddie และ Brianna) เขาดังอยู่แล้วในนิวยอร์ก และรู้จักคนดังๆ เยอะ ฉะนั้นมันก็เลยเป็นเรื่องง่ายขึ้น เหมือนเราได้คนดังๆ มาช่วยซัพพอร์ตให้แบรนด์ดังขึ้นไปอีก ตอนที่หลายคนได้ยินว่าเพื่อนพาร์ทเนอร์สองคนทำเสื้อผ้าของผู้ชาย พวกเขาก็สนใจ และให้การตอบรับที่ดี ถึงขั้นเอาเสื้อผ้าของแบรนด์เราไปช่วยโปรโมตให้-ซัพพอร์ตให้แบรนด์ดังขึ้นไปอีก ซึ่งฟีดแบ็กหลังจากนั้นก็ดีเว่อร์ มีคนอยากซื้อเสื้อผ้าของเรามากขึ้น,Q : กับแบรนด์นี้แบ่งหน้าที่กับเพื่อนดูแลยังไงบ้าง,เอาจริงๆ เราไม่ได้แบ่งชัดเจนอะไรขนาดนั้น เรียกว่าเราช่วยกันคิดครีเอต ช่วยกันทำดีกว่า เราคุยกันว่ามันน่าจะออกมาเป็นยังไง ต้องการผ้าแบบไหนถึงจะดี ตั้งแต่แรกเราไม่รู้เลยว่าต้องใช้ผ้าแบบไหน ต้องขายออกครั้งละกี่ตัว หรือในราคาเท่าไร เราก็มานั่งจับกลุ่มระดมสมองคุยกันเกือบทุกวัน โดยเริ่มแรกตอนทำธุรกิจ เราก็ Search หาผ้าว่ามันควรจะเป็นผ้าแบบไหน แล้วก็ไปลงได้เป็นผ้าของญี่ปุ่น เพราะเราจับแล้วเนื้อผ้ามันดี-สวย จากนั้นเราก็ไปหาโรงงานที่เมืองไทยเพื่อทำตัวอย่างออกมาดูก่อนว่า ผ้าตัวนี้เอามาใช้แล้วมันเวิร์กจริงๆ ไหม ก่อนจะดีไซน์ และสั่งผ้าทั้งหมดผลิตจริงออกมาเป็นคอลเลกชั่น คือทำแล้วรู้เลยว่าสเตปขั้นตอนเยอะมากจริงๆ,Q : ทำคอลเลกชั่นหนึ่งยากไหม-ใช้เวลาทำนานแค่ไหน,ไม่นานเลย แต่มันมีดีเทลที่ต้องเก็บเยอะ ตอนนี้เรากำลังทำซีซั่นที่ 3 อยู่ ตอนออกซีซั่น 1 กับ 2 ขายดีมากๆ ทว่าพวกเราก็ยังไม่แฮปปี้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ ว่ามันสมบูรณ์อย่างที่ควรจะเป็น ซีซั่นนี้เราเลยส่งทุกอย่างไปอังกฤษให้ช่าง Taylor ดูว่าอาจจะต้องมีการปรับแก้ตรงไหน ยังไงบ้าง เพราะสำหรับเราฟิตติ้งทุกอย่างที่ออกไปต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ ท้ายสุดแล้วเราเชื่อว่า เนื้อผ้าดี ฟิตติ้งดี ดีไซน์สวย ใส่แล้วไม่เบื่อ ทุกอย่างออกมายังไงมันต้อง Work อยู่แล้ว,คิดว่าผลตอบรับจะออกมาเป็นไง คนจะชอบไหม ?, กับซีซั่น 3 เราคิดว่าคนน่าจะชอบนะ ความพิเศษเด่นๆ ของซีซั่นนี้เลยจะเป็นสูท 2 ตัว 2 แบบ แบบแรกจะมี 2 กระดุม และแบบที่สองจะมี 1 กระดุม อีกทั้งซีซั่นนี้เราจะเริ่มทำเป็นกางเกงแคชเมียร์ จะมีขายเฉพาะในนิวยอร์กเท่านั้น เพราะว่าที่นั่นหนาวมากก,Q : แต่ละซีซั่นที่ทำมีความแตกต่างกันยังไงบ้าง รวมถึงอินสไปเรชั่น,ต้องบอกก่อนว่า เสื้อผ้าผู้ชายไม่เหมือนเสื้อผ้าผู้หญิงนะ ที่จะมีหลายแบบหลายดีไซน์ สามารถเปลี่ยนทรงได้เยอะขนาดนั้น ของเราที่ทำจะเป็น Core Collection เบสิกสไตล์ และมันไม่ใช่แฟชั่นที่ตามกระแส อย่าง Trousers, T-Shirt เราจะมีขายทุกซีซั่น ฉะนั้นถ้าถามถึงความต่าง มันก็คงเป็นการที่เรานำตัวคลาสสิกชิ้นหนึ่ง มาทำให้ซีซั่นนั้นน่าสนใจขึ้น อย่างไรก็ดี เราคิดที่จะทำไซส์สูงขึ้นด้วย เพราะอยากให้ผู้หญิงใส่ได้เหมือนกัน ก็ต้องดูว่าจะออกมาเป็นยังไง (หัวเราะนิดๆ) ,คิดว่าสไตล์ของแบรนด์เป็นแบบไหน ?, สไตล์โดยรวมของแบรนด์เรามองว่าเป็นเสื้อผ้าคลาสสิกที่พอดีตัว ใส่แล้วไม่รู้สึกแน่นเกินไป และด้วยเนื้อผ้าจากญี่ปุ่นทำให้เวลาใส่จะได้ฟีลอารมณ์ญี่ปุ่นนิดหนึ่ง,Q : คิดเปิด Store ขายไหม,ตอนแรกเราว่าจะไม่เปิดนะ เพราะว่าเงินลงทุนมันสูง แต่ตอนนี้พอเห็นฟีดแบ็ก เสื้อผ้าเริ่มขายดีขึ้น แบรนด์เริ่มโอเคเป็นที่รู้จักมากขึ้น เราว่าก็จะลองเปิดขายดู คิดไว้ว่าถ้าจะเปิดก็ต้องเปิดที่ New York ก่อน เพราะมันเป็นแบรนด์ของ New York เลย ถ้ามันไปได้สวยก็ค่อยขยายมาเอเชีย คิดว่าน่าจะเป็นญี่ปุ่น โตเกียว หรือ โอซาก้า ก็ว่ากันไป เพราะว่ามีแฟนคลับหลายคนที่โน่นติดตามอยู่ เทียบกับที่ไทยแล้ว ญี่ปุ่นจะรู้จักแบรนด์ของเรามากกว่า อีกทั้งผ้าที่เราเอามาก็จากญี่ปุ่นด้วย ส่วนที่เมืองไทยก็อาจจะค่อยขยายสาขามาทีหลัง,Q : จุดอ่อนของแบรนด์ที่ยังอยากจะแก้ไข,ภาพรวมของแบรนด์ตอนนี้โอเคเลย เราเปิดธุรกิจนี้กับเพื่อนมายังไม่ถึงปี แต่แบรนด์มีการพัฒนา-เริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ดี ส่วนตัวคิดว่าบริษัทเรายังเด็กอยู่มาก และมันอยู่ในช่วงกำลังวางระบบว่าทุกอย่างต้องดำเนินไปในทิศทางไหน ดูฟีดแบ็ก ความชอบ หรือไม่ชอบตรงไหนเพื่อมาปรับปุรง อย่างที่เราบอกตั้งแต่แรกว่า ทุกคนมีหลายไอเดีย ฉะนั้นมันก็ต้องเกิดการคุยกัน ตอนนี้เรากำลังจับวางระบบให้ทุกอย่างไม่มีข้อผิดพลาด หรือใช้เวลานานเกินไปในการทำแต่ละซีซั่น เพราะซีซั่นแรกค่อนข้างใช้เวลาทำนานไปนิด,Q : ตอนนี้คิดอยากทำธุรกิจอะไรเพิ่มอีกไหม,ไม่แล้วนะ ตอนนี้ทั้ง 2 ธุรกิจของเรามันเพิ่งเริ่มต้น เราคิดว่าอีกนิดประมาณ 3-4 ปี The Basic Right ก็น่าจะอยู่ได้ ส่วน Halfcastecreation ณ ตอนนี้ ฟีดแบ็กดีมาก ดังทั่วโลกแล้ว เราแฮปปี้เลย ต่อไปก็รอให้ธุรกิจเติบโตอีกหน่อยจะจ้างให้คนอื่นทำ ส่วนเราก็จะแค่ปรับปรุง-ดีไซน์ หาไอเดียใหม่ๆ แล้วเราจะกลับไปเล่นดนตรีเหมือนเดิม มันเป็นอีกอย่างหนึ่งที่เราชอบตั้งแต่เด็ก มีวงดนตรีของตัวเอง ซึ่งจริงๆ เราเคยมีวงดนตรีของตัวเองนะ แต่งเพลงเอง แต่พอต่างคนต่างไปเรียนต่อก็แยกย้ายกันไป ถามว่าเราชอบดนตรีสไตล์ไหน ถึงจะไม่เข้ากับเสื้อผ้า และบุคลิก แต่ต้องบอกว่า แนวร็อก นี่แหละชอบสุด เป็นสไตล์ของเราเลย เพลงที่แต่งก็แนวร็อกทั้งนั้น (หัวเราะร่าปนทำหน้าทะเล้น),Q : สำหรับเสื้อผ้า The Basic Right ถ้าใครสนใจสั่งซื้อได้ทางไหนบ้าง,สั่งซื้อได้ทางเว็บไซต์เราอย่างเดียวเลย ที่ ,www.basicrights.com, รับรองว่าคุณจะแมตช์ชุดไม่มีวันเบื่อ ,พาร์ท 3 : ไลฟ์สไตล์สุดชิลที่ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เว่อร์ ,Q : ทำงานหนักขนาดนี้มีการบริหารเวลายังไง,จริงๆ เป็นประจำทุกวัน ทุกเช้าเราจะตื่นไปต่อยมวย ออกกำลังกายก่อน แล้วค่อยกลับมาทำอีเมลตอนเช้าให้ที่นิวยอร์ก และลอนดอน ตอนบ่ายๆ เราก็จะเข้าช็อปทำมอเตอร์ไซค์เลยไปถึงดึกๆ ประมาณ 2-3 ทุ่ม เราก็จะมีประชุมกันกับเพื่อนๆ เพราะว่าที่นิวยอร์กกับเมืองไทยไม่เหมือนกัน ที่โน่นเป็นเวลาที่เขาเพิ่งตื่นกันประมาณ 7 โมงเช้า,เอาจริงๆ ทุกวันก็ผ่านไปแบบนี้แหละ ทำงานตลอด ยิ่งกับ 2 ธุรกิจนี้เราอยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานได้ มันก็เลยเหมือนกับพอว่างๆ เราก็มานั่งจับคอมฯ ทำงาน วาดรูปหาดีไซน์ใหม่ๆ ทว่าแบรนด์ The Basic Right ด้วยความที่เราเป็น Production เวลาจะออกซีซั่นใหม่ เราก็จะต้องอยู่ QC ทุกอย่างนะ เช็กทุกอย่างว่ามันถูกต้อง ช่วงนั้นจะไปไหนไกลๆ ไม่ได้เลย,Q : ไลฟ์สไตล์ยามว่างทำอะไรบ้าง,เราทำงานอาทิตย์ละ 6 วันนะ แต่ถ้าวันไหนว่างๆ หรืองานน้อยหน่อย เราจะพักผ่อนอยู่บ้านนี่แหละ วาดรูปเล่นบ้าง แต่งเพลงบ้าง ออกไปหาโลเคชั่นสวยๆ ถ่ายรูปบ้าง หรือดึกๆ หน่อยก็อาจจะมีออกไปดริงค์กับเพื่อน เมื่อก่อนชอบเที่ยวมากนะ ทว่าเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ไปแล้ว ไม่ไหวๆ พอตื่นมาแฮงค์ทำงานไม่ได้เลย (หัวเราะร่า),Q : ปกติชอบแต่งตัวสไตล์ไหน,ง่ายมากเลย เพราะเราจะแต่งตัวแบบเดิมๆ ตลอด (หัวเราะ) เราชอบใส่ทีเชิ้ตกับกางเกงยีนส์ หรือเป็น Trousers บ้าง ส่วนตัวคิดว่ามันสบายดีนะ แล้วเราก็จะใส่เป็นแบรนด์ของเราเองนี่แหละ ซึ่งแบรนด์ของเราจะเป็นเสื้อผ้าสไตล์ยุค 50 เราชอบแนวนั้น ไม่รู้ทำไม ออกแนวเนิร์ดๆ หน่อย หลายคนอาจไม่ค่อยชอบแนวนี้ แต่สำหรับเราคิดว่ามันเป็นลุคที่เท่มาก ถามว่าส่วนตัวเป็นคนติดแบรนด์ไหม ตอบตรงๆ เราไม่ติดเลยนะ อะไรที่ใส่สบาย ดีไซน์สวย เราชอบหมดเลย จริงๆ เราไม่ค่อยชอบแบรนด์อะไรเลยด้วยซ้ำ,Q : สถานะหัวใจกับแฟนสุดเลิฟ,(หัวเราะกลบเกลื่อน) ดีนะ กำลังไปได้สวยเลย ตอนนี้เรากับแฟนก็คบกันมา 3-4 ปีแล้ว เราคิดว่ามันเป็นแมตช์ที่ดีมากเลย ย้อนถามว่ารู้จักกันได้ยังไง จริงๆ แล้วตอนแรกเราอยู่กลุ่มแก๊งเพื่อนเดียวกัน ซึ่งเราแก่กว่าเขาหนึ่งปี แรกๆ เราก็มองเขาเป็นเพื่อนมากกว่า ทีนี้สมัยมหาวิทยาลัยพอเขาไปเรียนนิวยอร์ก แล้วเราไปเรียนต่อลอนดอนก็ทำให้ห่างๆ ไม่ได้เจอกัน 3-4 ปี จนพอเราทั้งคู่กลับมาเมืองไทย เรามาเจอเขาอีกทีก็เห็นว่าเขาโตขึ้น น่ารักขึ้น (หัวเราะ) จากนั้นเราก็เลยเริ่มคุยกัน ตอนนั้นรู้สึกว่าเราทั้งคู่มีไลฟ์สไตล์อะไรคล้ายๆ กัน ชอบถ่ายรูป-ชอบงานอาร์ตเหมือนกัน เข้าใจกันมาก แทบจะไม่ทะเลาะกันเลย พอคุยกันไปเรื่อยๆ อย่างที่บอกมันเลยกลายเป็นแมตช์ที่ดีมาก ,เมื่อไหร่จะมีแพลนแต่งงาน ?, เราก็อยากแต่งนะ แต่ตอนนี้กำลังเก็บตังค์อยู่ (ยิ้มหน้าทะเล้น),Q : จับธุรกิจถึง 2 ตัว ไม่คิดสนใจทำ Logistic เหมือนคุณพ่อคุณแม่บ้างหรอ,ไม่เลย ส่วนตัวเราคิดว่ามันเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก ถึงเงินดีก็จริง แต่สำหรับเราเงินไม่สำคัญขนาดนั้น จริงๆ ช่วงแรกก่อนมาจับธุรกิจเสื้อผ้า เราก็เคยทำงานในออฟฟิศได้เงินดีมากเหมือนกัน เจ้านายก็ใจดี ทว่าเรารู้สึกไม่โอเค ทำไปทำมาเรารู้ตัวว่า เราไม่ได้มี Passion ที่อยากจะทำมันขนาดนั้น เราก็เลยออกมา จนพอเรามาเปิดธุรกิจกับเพื่อน เราว่างานที่ทำอยู่ตอนนี้มันแฮปปี้มาก ได้ดีไซน์งานที่เราชอบในแบบของเรา เวลาที่ออกแบบในกระดาษแล้วมาทำเป็นสิ่งที่ใช้ได้จริง คนชื่นชอบ และติดตามผลงานจนมันดังขึ้นมาเป็นที่รู้จักมากขึ้น เราว่ามันเป็นความรู้สึกแบบว้าว อเมซิ่งจริงๆ มันเกิดขึ้นจากฝีมือของเราล้วนๆ,Q : สุดท้ายสิ่งที่คาดหวังในอนาคต สเตปต่อๆ ไปที่จะทำ,แน่นอนว่า เราจะทำธุรกิจที่เกี่ยวกับอาร์ตไปเรื่อยๆ ตอนนี้มี The Basic Right และ Halfcastecreation หลังจากนี้ก็อาจจะทำขึ้นมาอีกหนึ่งแบรนด์ คิดอยู่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ หรือที่เขี่ยบุหรี่ (หัวเราะร่า) อีกอย่างที่ตั้งใจอยากทำคือ, Landscape Design, แบบตกแต่งสวน หรือต้นไม้,เอาจริงๆ ตอนนี้มีหลายอย่างมากที่อยากทำ แต่ยังไม่ได้ทำ เช่น ในเรื่องของวงดนตรี การทำเพลง ทำสวน แต่งรถยนต์ อันหลังนี้เราแต่งเล่นๆ นะ ไม่ได้จะมาทำธุรกิจจริงจัง เราเห็นว่าในตลาดคู่แข่งค่อนข้างเยอะเลย เราก็ไม่รู้จะไปสู้กับเขาทำไม แล้วก็ที่คิดไว้คือ เราอยากจะเดินทางไปเมืองนอกหาประสบการณ์ให้มากที่สุด หรืออ่านหนังสือให้เยอะที่สุดเพื่อทำให้เรามีแรงบันดาลใจใหม่ๆ เราอยากจะเห็นสถานที่ใหม่ๆ หรือเห็นอะไรที่ยังไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะมันจะทำให้เราตื่นเต้น และเกิดเป็นไอเดียใหม่ๆ ขึ้นมา,*** ล้อมกรอบ ***,ถ้าใครอยากติดตามความเคลื่อนไหว หรือคอลเลกชั่นใหม่ๆ ของแบรนด์เสื้อผ้า The Basic Right ก็สามารถเข้าไปกดฟอลโลว์ได้ที่อินสตาแกรม ,www.instagram.com/basicrightsnyc, ,หรือถ้าใครสนใจอยากจะได้มอเตอร์ไซค์คันใหม่-ดีไซน์เก๋ ก็สามารถเข้าไปชมแบบ และผลงานของเขาก่อนได้ที่อินสตาแกรม ,www.instagram.com/halfcastecreations
พอดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน ไม่ต้องมาเขินฉันพูดจริงๆ !! เสน่ห์ดึงดูดเว่อร์จนเผลอฮัมเพลงออกมาไม่รู้ตัว เมื่อได้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเซเลบฯ นักธุรกิจหนุ่มมาดเซอร์คนล่าสุด ดอนนี่ คาร์ลสัน ที่ ไทยรัฐออนไลน์ จับตัวมาล้วง
null
ดอนนี่ คาร์ลสัน,Donny Karlsson,แต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น,The Basic Right,แบรนด์ The Basic Right,เสื้อผ้า The Basic Right,The Basic Right เสื้อผ้าออนไลน์,แต่งรถ,แต่งมอเตอร์ไซค์,Logistic,ธุรกิจ Logistic,ธุรกิจ Logistic คืออะไร,Logistic คืออะไร,Aston University,Aston University Birmingham,Institute of Contemporary music,Halfcastecreation,ประกอบมอเตอร์ไซค์,การซ่อมเครื่อง,การจูนเครื่องมอเตอร์ไซค์,ฮาร์เลย์,ฮาร์เลย์ยุค 70,ไอเท็มแต่งรถ,Maxwell Hazan,Maxwell Hazan อเมริกัน,Shinya Kimura,Shinya Kimura นักแต่งรถ,ธุรกิจออนไลน์,เสื้อผ้าสไตล์ยุค 50,The Basic Right ยุค 50,นิตยสาร VOQUE,VOQUE อเมริกา,นิตยสาร GQ,สูท 1 กระดุม,สูท 2 กระดุม,ขั้นตอนทำเสื้อผ้า,Landscape Design,ทำเพลง,ตลาดแต่งรถ,แหล่งขายไอเท็มแต่งรถ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์
https://www.thairath.co.th/content/721465