title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
เอ๊ะยังไง โอซิล เผยแข้งปืนถามหา คล็อปป์
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 58 เมซุต โอซิล ยอดกองกลางของทีม ปืนใหญ่ อาร์เซนอล สโมสรดังประจำพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เผยกับสื่อบ้านเกิดว่าเรื่องของ เจอร์เกน คล็อปป์ อดีตเทรนเนอร์ เสือเหลือง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมในบุนเดสลีกา เยอรมัน เป็นสิ่งที่ถูกเพื่อนร่วมทีมยกมาคุยกันบ่อยที่สุดในตอนนี้,นายใหญ่ชาวเยอรมันได้ประกาศอำลาถิ่น ซิกนัล อิดูนา พาร์ค ไปหลังจบฤดูกาลที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวลือกับหลายทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมถึง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แต่ คล็อปป์ เองก็ได้ยืนยันที่จะหยุดพักงานไปสักพัก และจะกลับมาเมื่อพร้อม,ล่าสุด โอซิล ก็ได้พูดถึงเรื่องนี้กับ บิลด์ สื่อดังของเยอรมัน ว่า คล็อปป์ เป็นคนที่ถูกพูดถึงบ่อยมาก ไม่ใช่แค่บนหน้าหนังสือพิมพ์ แต่ยังเป็นในบรรดานักเตะด้วยกันเอง เพื่อนร่วมทีมก็ถามผมเกี่ยวกับ คล็อปป์ ว่าเป็นคนหรือเป็นโค้ชแบบไหน,ผมไม่เคยร่วมงานกับเขา แต่จากความสำเร็จของเขาก็ยืนยันได้ว่าเขาเป็นโค้ชที่ยอดเยี่ยม, เขามีบุคลิกภาพที่ดี ผมชอบวิธีการที่เขาปฏิบัติกับนักเตะ เขาดูผ่อนคลาย แต่มีความเป็นมืออาชีพสูง สิ่งที่เขาทำกับดอร์ทมุนด์ มันบอกทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเขาไว้หมดแล้ว.
|
เมซุต โอซิล ดาวเตะทีม ปืนใหญ่ อาร์เซนอล เผยว่าประเด็นของ เจอร์เกน คล็อปป์ อดีตเทรนเนอร์ เสือเหลือง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นสิ่งที่ถูกเพื่อนร่วมทีมพูดถึงบ่อยที่สุดในตอนนี้…
| null |
พรีเมียร์ลีก,อังกฤษ,เมซุต โอซิล,ปืนใหญ่,อาร์เซนอล,เจอร์เกน คล็อปป์,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/505073
|
ตร.รู้เบาะแสจี้ชิงเงิน 5 ล้านบาทธนาคารกรุงไทย
|
ความคืบหน้าเหตุการณ์ ชายบุกเดี่ยวใช้ปืนพกยิงขู่ และจี้พนักงานขนเงินธนาคารกรุงไทย ขณะกำลังนำเงินสดกว่า 5 ล้าน ไปใส่ตู้เอทีเอ็มภายในปั้มน้ำมัน ปตท. สองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ก่อนจะนำเงิน ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปได้ เมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 พ.ย.2559) พลตำรวจเอก สุวีระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ.10 ได้เรียกหัวหน้าชุดทำงานทั้งหมดมาหารือ ขณะที่การสืบหาเบาะแส โดยเฉพาะข้อมูลโทร ศัพท์ของผู้ก่อเหตุที่ทำหล่นไว้ จากเบอร์โทรศัพท์กว่า 10 เบอร์เบื้องต้นทราบว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ ที่รู้จักันในนามแก๊ง แฝดนรก มีสองพี่น้องชื่อ นายหนึ่ง และนายสอง เป็นหัวหน้า มีสมาชิกอยู่ในหลายตำบล ในอำเภอสองพี่น้องจากการสอบ ถามพบว่า หนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่โทรติดต่อกันถึง 16 ครั้ง ก่อนเกิดเหตุ ทราบชื่อคือนายฉุย และ นายโบ้ เป็นชาวตำบลดอนมะนาว จึงนำตัวทั้งคู่มาสอบปากคำเมื่อกลางดึก แต่นายสอง หนึ่งในหัวหน้าแก๊ง หายตัวไปไม่สามารถติดตามตัวมาสอบปากคำได้ จึงคาดว่าน่าจะมีส่วนรู้เห็น กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องสงสัยแล้ว และเชื่อว่าเงินยังคงซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่ โดยในพลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง
|
เร่งล่าแก๊ง แฝดนรก โยงเบาะแสชิงเงินสด 5 ล้านบาทกลางปั้มน้ำมัน ปตท.สองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี รองผบ.ตร.ลงพื้นที่วันนี้
|
อาชญากรรม
|
ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน,รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ,ปล้น,อาชญากรรม,สุพรรณบุรี
|
https://news.thaipbs.or.th/content/257986
|
วงจรปิด นาทีแม่ค้ายิงลูกค้า ฉุนด่าขายส้มเน่า ตามไปเตะ-ตบซ้ำด้วยปืน (คลิป)
|
จากกรณี นางสาวทิพท์ ราศีเมือง อายุ 38 ปี เจ้าของแผงค้าส่งผลไม้ชื่อ ทรัพย์จินดา ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิง นางสาวศรัญญา ศักดิ์แสง อายุ 30 ปี แม่ค้าขายผลไม้ในตลาดไอยรา เข้าที่หน้าอกและหน้าท้องจำนวน 3 นัด เจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านขายส้มชื่อศรีวิไล ผลไม้ ภายในตลาดไอยรา ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี,เนื่องจากผู้ก่อเหตุอ้างว่า ผู้ตายมาต่อว่าที่ร้าน ว่าซื้อส้มไปแล้วส้มเสีย ขณะที่เมื่อวานก็นำส้มมาเทที่หน้าร้าน จนเช้าวันนี้ก็ยังมาต่อว่าอีก เมื่อบอกให้ผู้ตายถ่ายรูปมาให้ดู เพราะจะเอาไปคืนเจ้าของสวนส้มได้ แต่ผู้ตายกลับพูดว่า เงินแค่นี้ไม่เอาคืนพร้อมต่อว่าอีก จึงเกิดบันดาลโทสะ หยิบปืนที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะ ตบเข้าที่ใบหน้าผู้ตาย 1 ครั้ง และยิงใส่จนหมดแม็กกาซีน จากนั้นสามีจึงได้เข้ามาแย่งปืนออกจากมือ และรอเจ้าหน้าที่อยู่ที่เกิดเหตุ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น,ล่าสุด มีภาพจากวงจรปิด พบว่า ผู้ตายเดินไปหาผู้ก่อเหตุที่ร้าน ก่อนจะมีการพูดคุยอะไรกันบางอย่าง จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ได้หยิบปืนออกมายิง ทำให้ผู้ตายต้องวิ่งหนี ก่อนจะมาล้มฟุบที่หน้าร้าน แต่ผู้ก่อเหตุยังตามมาใช้ปืนตีซ้ำ และเตะผู้ตายอีกหลายครั้ง โดยมีสามีของผู้ก่อเหตุมาห้ามปรามเอาไว้.
|
เผยภาพจากวงจรปิด นาทีแม่ค้าตลาดไอยรา ยิงลูกค้าดับ โมโหด่าขายส้มเน่า พอบอกให้เอาสินค้ามาคืนกลับพูดจาดูหมิ่น ตามไปเตะ-ตบซ้ำด้วยปืน
|
ข่าว,สังคม
|
แม่ค้าผลไม้,ยิงแม่ค้า,แม่ค้าฉุน,ส้มเน่า,ตลาดไอยรา,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/society/1423901
|
น้องโพธิ์ ลูกชาคริต ทำแม่สุดหลอน เหตุติดตุ๊กแกหนักมาก
|
เป็นความน่ารักปนความน่ากลัวนิดๆ สำหรับ น้องโพธิ์ ลูกชายสุดที่รักของคุณแม่ แอน ภัททิรา และคุณพ่อ ชาคริต แย้มนาม ซึ่งตอนนี้แม่แอนถึงกับกลุ้มใจมาก เมื่อลูกชายสุดที่รักติดตุ๊กตาตุ๊กแกที่เหมือนจริงหนักมาก โดยแม่แอนได้โพสต์เล่าถึงเรื่องนี้ผ่านทางอินสตาแกรมของตัวเองว่าก็พอเข้าใจอ่ะนะ ว่าลูกเป็นคนรักสัตว์ แต่บางทีลูกจะพกไปด้วยทุกที่ไม่ได้ แม้กระทั่งเวลานอน เอาไปนอนข้างๆ แม่ตื่นมาตกใจไง เมื่อก่อนแม่เป็นคนกลัวตุ๊กแกขึ้นสมอง แต่ตั้งแต่มีลูก แม่ต้องจ้องตา มองลายในตัวของมัน เพราะลูกชอบและ อัปเดตว่าตอนนี้แม่เตรียมเอาตุ๊กแกไปซ่อนแล้วหลังจากที่ลูกรักมาก และเอาไปด้วยทุกที่ วันนี้ไปว่ายน้ำบอกว่าขอพาตุ๊กแกไปว่ายด้วยนะครับ ตุ๊กแกหายไม่ได้ร้องไห้หนักมาก เพื่อนๆ ก็กลัวนะลูก พยายามหาสัตว์อย่างอื่นมาทดแทนแล้วค่ะ ขออภัยผู้พบเห็นนะคะ ปล. ตุ๊กแกแม่เช็ดแอลกอฮอล์ ให้ตลอดนะคะ ตุ๊กแกลอยน้ำ โอยยยยย ชั้นก็รักของชั้นเข้าใจบ้างมั๊ย.
|
น้องโพธิ์ ลูกชาย ชาคริต ติดตุ๊กตาตุ๊กแกหนักมาก ต้องพกติดตัวพาไปด้วยทุกที่ตลอดเวลา
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
ชาคริต แย้มนาม,ชาคริต ลูก,น้องโพธิ์ ลูกชาคริต,ชาคริต แอน ลูก,ข่าวบันเทิง,ดารา,อินสตาแกรมดารา
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1781820
|
ผบ.ตร.มอบเงินสด 3 ล้าน รางวัลนำจับระเบิดราชประสงค์ให้ชุดสืบสวน ชี้ ฝีมือตำรวจล้วนๆ
|
วันนี้ (31 ส.ค.2558) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงมอบเงินรางวัลนำจับในนามส่วนตัวจำนวน 1 ล้านบาท และเพื่อนนักธุรกิจที่ไม่ประสงค์ออกนามอีก 2 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 3 ล้านบาท มอบให้แก่ทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สืบสวนสอบสวนจนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องสงสัยก่อเหตุวางระเบิดแยกราชประสงค์ได้เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่อพาร์ทเมนต์ย่านหนองจอก โดยระบุว่าเบาะแสที่นำมาสู่การจับกุมตัวและการได้มาซึ่งหลักฐานของผู้ต้องสงสัยเป็นฝีมือของตำรวจทั้งสิ้น การจับกุมคนร้ายในครั้งนี้ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าเป็นผลงานของเจ้าหน้าที่โดยแท้ เป็นฝีมือ ความสามารถของเจ้าหน้าที่ที่สามารถสืบสวนสอบสวนจนนำมาสู่การจับกุมคนร้ายในครั้งนี้ได้ ชัดเจนว่าเป็นความสามารถของเจ้าหน้าที่โดยลำพัง จะสืบสวนด้วยวิธีอะไรก็แล้วแต่ จะใช้เทคโนโลยีอย่างไรก็แล้วแต่ แต่เป็นความสามารถของเจ้าหน้าที่ไทยจนสามารถจับกุม เพราะฉะนั้นเงิน 1 ล้านของผม 2 ล้านเป็นเงินเพื่อนผมที่เป็นนักธุรกิจให้มาแต่ไม่ประสงค์เอ่ยนาม เงินจำนวนนี้คงต้องมอบให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ส่วนกรณีที่มีข่าวบอกว่ามีคนนั้นคนนี้โทรมาบอกข่าวว่าสงสัยที่นั่นที่นี่ไม่มีครับ ตำรวจล้วนๆ ผบ.ตร.กล่าว ผบ.ตร.ยังบอกอีกว่าเงินจำนวนนี้เตรียมไว้มอบให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจว่าผู้บังคับบัญชาได้มอบให้จริง ซึ่งเกิดจากการทำงานร่วมกันของทีมสอบสวนหลายทีม ทั้งทีมชุดสืบสวนของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ทีมของผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลพล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ทีมกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. และผู้บังคับการกองปราบฯ กองบัญชาการตำรวจนครบาลของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล สำหรับความคืบหน้าในการออกหมายจับและการติดตามตัวผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับเหตุวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ ขณะนี้ตำรวจได้ขออนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการ 4 คน คือ ชายเสื้อเหลืองที่ปรากฏตามภาพวงจรปิดและภาพสเก็ตซ์ ชายเสื้อฟ้าตามภาพวงจรปิด ที่ปรากฏตัวที่บริเวณท่าเรือสาทร นางวรรณา สวนสัน และชายไม่ทราบสัญชาติตามภาพสเก็ตซ์หลังจากศาลอนุมัติหมายจับนางวรรณา วันนี้ (31 ส.ค.) ตำรวจภูธรจังหวัดพังงานำหมายจับและหมายค้นไปตรวจสอบที่บ้านนางสาววรรณาและญาติ ที่ อ.คุระบุรี จ.พังงา โดยได้รับการชี้แจงว่านางวรรณาได้เดินทางไปประเทศตุรกีตั้งแต่เมื่อ 3 เดือนก่อน ขณะที่การตรวจสอบภายในบ้านไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ
|
พล.ต.อ.สมยศ ผบ.ตร.แถลงมอบเงินรางวัลนำจับ 3 ล้านบาทให้ตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาที่สามารถสืบคดีจนนำมาสู่การจับกุมผู้ต้องสงสัยก่อเหตุวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ได้เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ยันเป็นฝีมือตำรวจล้วนๆ ไม่มีใครแจ้งเบาะแส
|
อาชญากรรม
|
3 ล้านบาท,ข่าวไทยพีบีเอส,ผบ.ตร.,พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง,ระเบิดราชประสงค์,รางวัลนำจับ,หนองจอก
|
https://news.thaipbs.or.th/content/5008
|
ป๋อง-กอล์ฟ-เชา ถ่ายMV รูหนู ปล่อยแก่เต้นยับลมแทบจับ
|
หลังจากแอบซุ่มปล่อยเพลง รูหนู ออกมากันได้ ไม่นาน แฟนๆก็เริ่มเรียกร้องอยากเห็น 3 หนุ่ม (อายุมาก) ป๋อง กพล, กอล์ฟ เบญจพล และ ดีเจเชาเชา ชวลิต โชว์ลีลาแดนซ์พร้อมท่าเต้นประจำเพลงรูหนูให้ดูกันสักที 3 หนุ่มจัดเอ็มวี ชุดใหญ่ไฟกะพริบตามคำเรียกร้อง เพื่อขาแดนซ์สายโยกให้สาแก่ใจในปีนี้ งานนี้ 3 หนุ่มยอมทุ่มสุดตัว ซ้อมเต้นท่า ไม่ได้เจ้าชู้ และ ท่าขอดูหน่อย กันอย่างเต็มที่ แรกๆถ่ายฉากเต้นเดี่ยวไปคนละ 2-3 เทกกัน 3 หนุ่มก็เริ่มมีอาการหอบ ขอพักเป็นระยะ ทีมงานเลยเซอร์ไพรส์ทั้ง 3 คน นำแดนเซอร์สาวสวย 4 คนมาร่วมเต้นด้วย เท่านั้นแหละ 3 หนุ่มก็กระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันที เต้นกันลืมตาย,ชมความซ่าส์บ้าเกรียนจาก 3 หนุ่ม (มาก) ได้แล้ว วันนี้ ทาง youtube ช่อง talalatv เท่านั้นยังไม่พอ กอล์ฟ เผยว่า ใครกลัวเรื่องลิขสิทธิ์ในการนำไปใช้ ไม่ต้องกังวล เพลงนี้พวกเราตั้งใจมอบความสุขให้ทุกคนจริงๆ เพราะฉะนั้นถ้าไม่ใช่เพื่อการค้าอนุญาตให้นำเพลงไปใช้กันได้อย่างเต็มที่ จะ cover จะเล่นตามผับบาร์ จะนำไปเต้น จะใช้ทำอะไรก็ทำไปโลด อย่านำไปใช้เพื่อการค้าเป็นพอจ้า.
|
ลังจากแอบซุ่มปล่อยเพลง รูหนู ออกมากันได้ ไม่นาน แฟนๆก็เริ่มเรียกร้องอยากเห็น 3 หนุ่ม (อายุมาก) ป๋อง กพล, กอล์ฟ เบญจพล และ ดีเจเชาเชา ชวลิต โชว์ลีลาแดนซ์พร้อมท่าเต้น
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
เพลงใหม่,รูหนู,ป๋อง กพล,กอล์ฟ เบญจพล,ดีเจเชาเชา,นักร้อง
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1260421
|
คู่มือสอนใจตุ๊ด คุย ช่า บันทึกของตุ๊ด สิทธิการเลือกเพศ LGBT
|
นี่เป็นสิ่งที่เราได้คำตอบหลังจากได้พูดคุยกับ ,ธีร์ธวิต เศรฐไชย, หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม ,ช่า บันทึกของตุ๊ด , ,ถ้าใครได้ติดตามแฟนเพจ ,บันทึกของตุ๊ด, ได้รู้จักเขาผ่านตัวหนังสือที่หลายคนอ่านแล้วจะต้องมี รอยยิ้ม และหลุดขำออกมาเป็นระยะๆ จนทำให้เรื่องราวในแฟนเพจได้กลายมาเป็นหนังสือ และเป็นซีรีส์ที่หลายคนชื่นชอบ อาจจะคิดว่าเขาเป็นคนสนุกสนานตลอดเวลา,แต่เมื่อ ,Thairath Talk Fresh ,ได้พูดคุยอย่างจริงจัง กับตัวตน ชีวิต ประเด็น LGBT วินาทีบอกครอบครัว ความภูมิใจในเพศสภาพตัวเอง การบูลลี่เพศที่สาม และฝากถึงคนที่ยังไม่กล้าเปิดเผยตัวตนของตัวเอง ช่า บันทึกของตุ๊ด จะสอนน้องๆ อย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เรามีคำตอบ ,ช่า บันทึกของตุ๊ด ครั้งหนึ่งกับการเป็นตัวแทน LGBT ในงานระดับโลก,Thairath Talk Fresh : งาน Life Ball คืออะไร ที่ไปมาแล้วในโลกโซเชียลฮือฮา,Life Ball เป็นมหกรรมการกุศลที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป จะระดมทุนให้ผู้ป่วยที่เป็น HIV มีแบบซื้อบัตรไป คนปกติก็สามารถซื้อบัตรได้ มีบัตรตั้งแต่ 90 เหรียญจนถึง 2-3 พันยูโร แล้วก็มีคนที่ถูกเชิญมาเป็นเซเลบจากประเทศต่างๆ แล้วพอดีปีนี้ Austrian Airlines เป็นปีแรกที่เขาอยากจะเชิญคนทางเอเชียไป ปกติเขาจะไม่เชิญ ปกติเขาจะเชิญแค่ฝั่งยุโรปหรือว่าฝั่งอเมริกาไป ปีนี้เป็นปีแรกที่เขาอยากจะเชิญฝั่งเอเชียไป มีไทย ญี่ปุ่น ฮ่องกง ที่เขาเชิญไป มี 3 คนที่เขาเชิญไปเป็นทางการนะ (ช่าเป็นคนไทยคนเดียวที่ได้ไป?) ใช่ เป็นคนไทยคนเดียวที่ได้ไป,Thairath Talk Fresh : ทำไมเขาถึงเลือก ช่า บันทึกของตุ๊ด,เราคิดว่าหนึ่งด้วยเพศสภาพเราด้วย แล้วอีกอันนึงก็คือว่าเราเป็นคนที่พูดถึงเรื่อง HIV บ่อยในเพจเรา เรามักจะรณรงค์เรื่องนี้อยู่บ่อยๆ มันก็เลยกลายเป็นว่ามันน่าจะเข้ากับงานนี้ เขาก็เลยมาเชิญเราไป,Thairath Talk Fresh : งานนี้ไม่ได้มีแค่เพศที่สาม ใช่ไหม,มีทุกเพศไป จริงๆ ใครไปก็ได้ แต่ว่าด้วยหลักมันเป็นที่รู้กันว่า Life Ball เป็นงานแฟนซีด้วย เพราะฉะนั้นตุ๊ด กะเทย ในงานก็จะเยอะมาก,Thairath Talk Fresh : งานนี้เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ขนาดไหนสำหรับบ้านเขา,ถ้าฝั่งยุโรปคือเป็นที่พูดถึงมากนะ ถึงขั้นที่ว่าในปฏิทินท่องเที่ยวของเวียนนา ก็มีระบุวันนี้ไว้เลยว่า งานนี้เป็นงานประจำปีของเขา เขาจัดทุกปี คือสำหรับคนที่นู่นงานนี้มันคืองานที่ใหญ่มาก ฝั่งอเมริกา ฝั่งยุโรป เขาจะอินกับงานนี้มาก เป็นงานที่คนเวียนนาตั้งตารอคอยที่จะไป เพราะเป็นงานใหญ่ของที่นู่น,Thairath Talk Fresh : รู้สึกยังไงที่เขาเลือกเราไปงานนี้,ดีใจค่ะ ตอนแรกประหลาดใจนิดนึงว่าทำไมเขาเลือกเรา ก็คุยกับเขาแล้วเขาก็มีเหตุผลของเขาว่าทำไมถึงเลือก เราก็รู้สึกว่าโอเคเราก็จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้,Thairath Talk Fresh : ไปงานนี้ได้ทำอะไรบ้าง แค่ไปเดินพรมแดงเหรอ,คือหนึ่งเราต้องไปพูดประชาสัมพันธ์ ในงานนี้ว่างานนี้มันคืออะไร ปกติคนไทยก็จะไม่ค่อยรู้จักงานนี้ อย่างตัวเราเองก่อนที่เราจะไป งานอะไรวะ Life Ball แต่พอเราไปอ่านมันเป็นงานที่จัดมา 25 ปีแล้วติดต่อกันนะ เพราะฉะนั้นคนที่นั้นเขารู้จักงานนี้กันมาก แต่ฝั่งเอเชียก็ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักงานนี้เท่าไหร่ พอเราไปอ่านเออมันเป็นงานที่มีประโยชน์ คือหนึ่งเราก็ต้องประชาสัมพันธ์เรื่องของงานนี้ สองเราก็ต้องเหมือนว่าไปงานนี้แล้วมันเกี่ยวกับ HIV ทุกคำพูดของเราเวลาเราเขียนคอนเทนต์เกี่ยวกับงาน Life Ball เราก็จะพูดถึง HIV ด้วยให้ความรู้ความเข้าใจที่พ่วงขึ้นมา แล้วก็ไปเดินพรมแดงแต่งตัวสวยงาม,Thairath Talk Fresh : แต่ละลุคสวยมากโดยเฉพาะตอนเดินพรมแดงใครซัพพอร์ตตรงนี้ ,มีพี่แต่งหน้าที่แต่งหน้าทุกครั้งที่ออกงานก็คือพี่ข้าวตู ก็ไปด้วยกันแต่พี่เขากลับก่อน ทีมชุดก็เป็น POEM แล้วก็มีพี่คนนึงที่เป็นคนตัดชุดเดินพรมแดงให้ เรื่องชุดเรื่องวิกเรื่องอะไรมันเตรียมกันก่อนที่จะไปอยู่แล้ว แต่พอไปถึงหน้างานจริงคนที่ไปอยู่กับเราคือพี่ข้าวตู แล้วก็แฟนเราที่เป็นคนจัดแจงเรื่องชุด และเป็นธุระเรื่องต่างๆ ไปกัน 3 คน,Thairath Talk Fresh : รู้สึกยังไงกับผลตอบรับในเมืองไทย,หนึ่งคืออยากให้คนรู้จักงานนี้มากขึ้น สองคือได้แต่งตัวสวยแล้วก็อยากให้คนเห็นมากขึ้น จริงๆ เราก็ไม่คิดว่าคนจะแชร์ ข่าวจะทำเยอะ ปรากฏว่าหลายๆ สำนักเขาก็ทำกัน ก็ขอบคุณไว้ในโอกาสนี้ด้วยนะคะอุตส่าห์ทำข่าวเรา ก็เป็นที่น่าดีใจ,Thairath Talk Fresh : คนเวียนนาเขาเห็นเราแล้วเขาเป็นยังไง,นี่พูดไปไม่ได้มั่นนะเนี่ย เขาเข้าใจว่าเราเป็นผู้หญิงมากกว่าอีก คือต้องเข้าใจลักษณะของกะเทยที่นู่น ตุ๊ดที่นู่นว่าเขาไม่เหมือนบ้านเรา (ต่างกันยังไง) บ้านเราฟิชชี่มาก ฟิชชี่มันคือคำเปรียบเทียบกะเทยที่ดูแบบผู้หญิง บ้านเขาคือแต่ง DRAG (DRAG คือ แต่งตัวเหมือนผู้หญิง) ก็คือ DRAG เลย แบบเล่นใหญ่ของใหญ่ คือเราไปใหญ่แบบไทยๆ แบบสวยงาม เขาก็มองอีผู้หญิงคนนี้สวยดี ก็เป็นการชมเชยกันว่าเรางดงามอะไรประมาณนี้ แต่มันจะตลกมากเวลาเขาได้ยินเสียงเราพูด อ้าวนี่ตุ๊ดหรอ (หัวเราะ) โดยกายภาพของเรามันตัวเล็กกว่าฝั่งนู่นอยู่แล้ว เราก็ดูเดินๆ ไป มันก็ดูเนียนๆ เหมือนผู้หญิง เขาก็คิดว่าเราเป็นผู้หญิงแต่งตัวสวยมากกว่า แต่พอรู้ว่าเราเป็นตุ๊ดอะไรๆ มันก็จะว้าวหน่อย,Thairath Talk Fresh : รู้สึกยังไงหลายคนมองเพศที่ 3 เป็นตัวตลก แล้วฝั่งยุโรปเขามองยังไง,เราว่าฝั่งนู่นกะเทยหรือว่า DRAG QUEEN เขาจะมองเป็นงานศิลปะมากกว่า งานศิลปะแขนงหนึ่ง DRAG QUEEN ของเขา กะเทยของเขามันก็คือการแต่งตัวเลียนแบบผู้หญิง ซึ่งวิธีการแต่งตัวเขาจะเป็นคอนเซปต์หมดเลย วิธีการแต่งหน้าหรือว่าอะไรประมาณนี้เขาจะเป็นคอนเซปต์หมดเลย เราก็เลยคิดว่าที่นั้นเขามองเป็นงานศิลปะ เป็นงานโชว์ งานเต้น คือศิลปะหมดเลย แล้วเขาจะค่อนข้างเคารพในอาชีพของอันนี้มาก พูดได้ว่ามันเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง แต่ว่ามันก็จะมีรายการทีวี หรือว่ารายการโชว์ก็อีกอย่างนึงนะ,อย่างบ้านเราส่วนใหญ่มันไม่ได้เข้าถึงวัฒนธรรม DRAG QUEEN ในแง่ของศิลปะมากเท่ากับที่นู่น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการที่บอกว่ากะเทยในสื่อบันเทิงเป็นแบบไหน ถูกฝังภาพมาว่าต้องเป็นแบบคนตลก เป็นตลก ซึ่งเราก็เข้าใจในแง่งานบันเทิงมันสามารถที่จะบอกตัวตนได้มากกว่า แต่จริงๆ แล้วมันก็เป็นเรื่องน่าดีใจว่ายุคหลังๆ เราก็ถูกนำเสนอ LGBT ในรูปแบบอื่นๆ บ้าง ถึงจะไม่มากเท่าตลก แต่ก็เริ่มมีแบบอื่นบ้าง ดราม่าชีวิตอะไรซึ่งแน่นอนว่าปกติแล้วเราก็ไม่ตลกตลอดเวลา คือโอเคเราเป็นคนสนุกสนานน่ะมันใช่ แต่อีดอกเราไม่ได้เป็นคนแบบว่าจะต้องตลกตลอด พูดจาเสียงดัง หยาบคายตลอดเวลามันไม่ใช่ แต่ละคนก็มีบุคลิกต่างกัน คือตอนนี้คนมันมองว่าเพศหญิง เพศชาย เพศ LGBT แต่จริงๆ แล้วมันถ้ามองพื้นฐานว่าทุกคนเป็นคนเท่ากันหมด ทุกคนก็มีทุกอารมณ์,ตัวตน ช่า บันทึกของตุ๊ด ,Thairath Talk Fresh : ช่า บันทึกของตุ๊ด ชื่อนี้มาจากไหน,ช่าก็มาจาก มาช่า นี่แหละค่ะ เราเป็นคนที่ชอบพี่มาช่า เป็นไอดอล ก็น่าจะเป็นไอดอลของใครหลายๆ คน ที่เราชอบเพราะว่ามีวันนึงเราบอกกูชอบพี่มาช่าจังเลย ยิ่งมีอายุแล้วก็ยิ่งสวย คือเป็นไอดอลในด้านของการยิ่งมีอายุแล้วเอาชนะความแก่ได้ เราก็ชอบแทนตัวเองว่าช่าเหมือนที่พี่ช่าชอบใช้แทนตัวเองบ่อยๆ เวลาสื่อ แล้วมันประกอบกับว่าเป็นช่วงที่เพจเริ่มดังพอดี แล้วคนก็จำชื่อนั้นไปชื่อช่า จนตอนนี้ก็เลยเรียกกันว่าช่า,Thairath Talk Fresh : เริ่มทำเพจตั้งแต่ตอนไหน,ตั้งแต่ปี 54 ตอนน้ำท่วมใหญ่ เหมือนแบบว่าไม่มีอะไรทำอยู่บ้าน ก็เลยเขียนไดอารี่รอน้ำ ชื่อ บันทึกของกะเทยกลัวน้ำ เขียนเล่าบรรยายเกี่ยวกับว่าแบบเรารอน้ำมันเครียดประมาณไหน แต่เขียนตลกนะ กระสอบทรายที่เตรียมไว้ อาหารที่เตรียมไว้ คือตอนนั้นเรารู้สึกว่าคนมันเครียดกันเยอะ เราเลยรู้สึกว่าเราอยากจะเล่าผ่านมุมมองของเราให้มันดูตลกบ้าง แล้วปรากฏว่าตอนนั้นคนมันก็เครียดจริงๆ พอมันได้อ่านสนุกๆ ที่มันผ่อนคลายกับชีวิตเขามันก็ทำให้แบบคนมานิยม ตอนนั้นเราก็เลยเปิดเพจ ตอนแรกกะใช้ชื่อเพจบันทึกของกะเทยกลัวน้ำ ดีไม่ตั้ง (หัวเราะ) ดีนะตั้งแค่ บันทึกของตุ๊ด,แล้วตอนนั้นก็เขียนไปมีคนไลค์อยู่ประมาณหมื่นเจ็ด เราว่ามันเยอะมากแล้วนะ หมื่นเจ็ดอะตอนนั้นคือแบบที่สุดแล้ว อุ๊ยตายแล้ว ฉันมีเพจคนไลค์หมื่นเจ็ด คือแบบแฮปปี้แล้ว แต่ปรากฏว่าเพจก็ร้างไป 2 ปี พอประมาณปี 56-57 เราก็เริ่มรู้สึกว่าชีวิตเรามันก็มีหลายมุมมอง ที่เราอยากจะเล่า อยากจะพูดถึง เราก็เลยเริ่มเขียนอุทาหรณ์สอนใจหญิงฉบับที่ 1 ขึ้นมา นั้นแหละก็เป็นช่วงจุดเปลี่ยนของเพจเลย จนตอนนี้ยอดไลค์ 1.6 ล้าน ก็ไม่ได้คิดว่าจะมาขนาดนี้เลยจริงๆ อันนี้ก็เกินไป,Thairath Talk Fresh : ตัวตนของช่าเป็นใครมาจากไหน,ตอนแรกเราเรียนนิเทศโฆษณามา จบมาแล้วก็มาเป็นกราฟิกดีไซน์อยู่ 2-3 ปี แต่จริงๆ แล้วเราเป็นคนชอบเขียนหนังสืออยู่แล้วตั้งแต่เด็กๆ ประมาณสัก ป.3-4 เราก็เริ่มเขียนการ์ตูน โดยที่จะเอาเพื่อนในห้องมาเป็นตัวละคร แล้วพอ ม.1-2 เราก็เริ่มเขียนงานประกวด คือมันอยู่ในเลือดเนื้ออยู่แล้วแหละ เราก็เลยชอบงานเขียนมาตั้งแต่เด็ก แต่เราก็ไม่รู้พอโตขึ้นมันสามารถหาเลี้ยงชีพได้รึเปล่า ติดภาพนักเขียนจะต้องจนๆ หน่อย ภาพในเด็กๆ เราคิดแบบนั้น เราก็ไม่ได้คิดว่างานเขียนของเรามันจะสามารถทำมาหากินได้ แล้วในที่สุดคือตอนโตเราก็พบว่าสิ่งที่เราชอบที่สุดคือการเขียน แล้วมันก็สามารถทำเป็นอาชีพได้มาจนถึงตอนนี้ ตอนแรกที่เขียนยังไม่ได้ลาออกจากงาน หลังๆ โอหังรู้สึกว่าน่าจะแบบทำเป็นอาชีพได้ ก็เลยออก ออกมาหลายปีแล้ว,Thairath Talk Fresh : คิดว่าทำไมคนถึงชอบเรา ติดตามเราเยอะขนาดนี้ ,เราพยายามเข้าใจว่าที่คนติดตามเราบ่อยๆ เพราะหนึ่งเรื่องเรามันอ่านแล้วมันสนุก มันอ่านได้เรื่อยๆ สองก็คือเราพยายามที่จะให้คนที่เข้ามาในเพจเรารู้สึกว่าสบายใจ เราว่าตอนนี้เพจมันเกิดขึ้นจำนวนมากในประเทศไทย เอาเป็นว่าแค่ในประเทศไทยเป็นหมื่นเป็นแสนเพจแล้ว เราเป็นคนที่ติดตามหลายๆ เพจ บางทีเราเข้าไปเรารู้สึกไม่สบายใจ เขาไปแล้วก็ โอ๊ย ทำไมต้องด่ากันเยอะแยะขนาดนี้ เราก็เลือกที่จะไม่เข้า เรารู้สึกว่าเพจที่เข้าไปแล้วสบายใจจริงๆ มันไม่มี มันหายากมาก เพจที่เข้าไปแล้วอ่านอะไรก็ได้ ฟังอะไรที่คุณพิมพ์ก็ได้ อ่านอะไรที่คุณเขียนแล้วสบายใจมันหาได้ยาก,อย่างพี่นิ้วกลมที่เข้าไปอ่านแล้วมันได้อะไรกลับมา เราก็รู้สึกสบายใจ เราก็อยากดำรงเพจบันทึกของตุ๊ดให้เป็นแบบนั้น ก็คือว่าคนเข้าไปอ่านอะไรแล้วก็สนุกดี สบายใจ มีความสุข สนุกกลับไป เราพยายามจะไม่ก่อให้เกิดดราม่าอะไรทั้งสิ้น จะไม่พูดถึงประเด็นสังคมอะไร บางทีอยากพูดปากแทบแหก เหมือนแบบเรื่องการเมือง รัฐประหาร คือเราก็มีทัศนคติของเรา แต่พอเรามายืนจุดที่มีคนมาติดตามเรา บางเรื่องบางอย่างเราก็ต้องเลือกที่จะไม่พูด แต่มันเป็นเรื่องความอึดอัดของเราบางอย่างเหมือนกัน แต่เราเลือกทางนี้ดีกว่าทางที่คนฟอลโลว์เราสบายใจกับเพจเรา ดีกว่ามีเรื่องดราม่าอะไรในเพจ,ทำเพจ นักเขียน นักธุรกิจ 24 ชม. ชีวิต ช่า บันทึกของตุ๊ด ,Thairath Talk Fresh : ทุกวันนี้ชีวิต ทำอะไรบ้าง,ส่วนใหญ่ก็เขียนเพจนะคะ แล้วก็มีธุรกิจเป็นของตัวเองตอนนี้ทำธุรกิจมันก็จะวุ่นวายหน่อย ตอนนี้ทำสบู่รักษาสิวที่หลังที่ตัว อันนี้ตั้งใจกับมันมากมันก็จะเป็นเรื่องของการดีลงาน ไปประชุมที่นู่นที่นี่ ของเราเองเลย เพราะฉะนั้นมันก็เป็นช่วงของการที่เราต้องดีลงานขายตามคอมมิวนิตี้มอลล์ต่างๆ แล้วก็ต้องไปประชุมแล้วก็นอกเหนือจากนั้นก็เป็นการเขียนหนังสือ,Thairath Talk Fresh : ทำอะไรเป็นหลักที่สุด,ถ้าตอนนี้พยายามที่จะให้เป็นหลักที่สุดคือ การเขียนหนังสือ เพราะเราอยากให้มันเสร็จตรงตามกำหนดที่สำนักพิมพ์เขาวางไว้ คืองานพวกนี้มันก็ยากลำบากหน่อยถ้าเราไม่มีอารมณ์ที่จะเขียนหรือว่ามันไม่อยากเขียนหัวมันก็ไม่แล่น บางคนอาจจะคิดว่าคนเขียนหนังสือมันติสต์แตกหรืออะไร มันไม่ได้มันไม่ใช่ว่าจะทำเมื่อไหร่ก็ได้ อย่างกลางวันแสกๆ เราไม่ทำเลยนะ มันร้อนมันแสงแดดจ้า มันทำไม่รู้เรื่อง เราก็ทำกลางคืนหน่อยหัวมันจะแล่น ก็ไปนั่งพิมพ์ตอนกลางคืน เราก็จะกลายเป็นคนนอนดึกแล้วก็เป็นคนตื่นสาย,Thairath Talk Fresh : ทำหนังสือมากี่เล่มแล้ว,ตอนนี้ 3 เล่ม เป็นบันทึกของตุ๊ดทั้ง 3 เล่ม แต่ว่าเล่มใหม่ที่จะทำมันไม่ได้เกี่ยวกับบันทึกของตุ๊ดแล้ว มันเป็นเล่มที่ออกไปจากเพจเลยไม่มีตัวละครในเพจเลย ไม่มีเรื่องราวเกี่ยวกับเพจเลย คือหนังสือเล่มใหม่ไปเลย คือมันก็เป็นเรื่องที่เราพยายามเขียนให้มันต่างกันไป เรามีความตั้งใจอย่างนึงคือว่าเราเขียนบันทึกของตุ๊ดมาปีนี้เข้าปีที่ 7 แล้ว แล้วมันได้ไปเป็นหนังสือ ได้ไปเป็นซีรีส์ มันก็ประสบความสำเร็จในส่วนของบันทึกของตุ๊ดเต็มที่แล้ว,หนังสือเล่มใหม่เราอยากจะท้าทายตัวเองว่าฉันสามารถที่จะเขียนอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นบันทึกของตุ๊ดอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องราวตลกอย่างเดียว คือเราเขียนอะไรก็สนุก เราตั้งใจที่จะให้คนรู้ว่ากูไม่ได้ฟลุกที่บันทึกของตุ๊ดมันดังขึ้นมา คือฉันจะเขียนหนังสืออีกเล่มซึ่งมันจะเป็นหนังสือที่ดีเหมือนกัน คือมันเป็นการพิสูจน์ความสามารถตัวเองอย่างนึงด้วยแหละ ว่าเราเขียนหนังสืออีกเล่มนึงก็ประสบความสำเร็จได้ โดยไม่ต้องอิงมาถึงบันทึกของตุ๊ดเลย,Thairath Talk Fresh : หลายคนอยากรู้เขียนหนังสือหรือเขียนในเพจให้สนุกต้องทำยังไง,มันเกิดจากการฝึกฝน คือเราเคยมองแนวทางการเขียนของเราตอนนี้กับสมัยเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว ก็ไม่เหมือนกัน มันเกิดจากว่าการเรียนรู้ อายุมากขึ้น อะไรแบบนี้ เราจะบอกว่าอ่านหนังสือเยอะมันก็ไม่ใช่ เพราะเราก็ไม่ใช่คนอ่านหนังสือเยอะ ของแบบนี้มันอยู่ที่ว่าถ้าชอบเขียน มันจะเขียนได้เป็นสไตล์ของตัวเอง,Thairath Talk Fresh : เรื่องที่เขียนมีการแต่งเติมไหมในเพจ ,แต่งอยู่แล้วบ้าป่าว คือสมมติว่าเรามีเรื่องอย่าง 100% ทุกเรื่องมันต้องมาจาก base on true story อยู่แล้ว แต่ขึ้นอยู่ที่ว่าเรื่องไหนจริงมาก เรื่องไหนจริงน้อย บางเรื่องมันก็จริงมากหน่อย 80-90% ก็มี บางเรื่องมันจริงน้อยหน่อย 20-30% มันก็มี แต่ที่เหลือคือหน้าที่ของนักเขียนมันก็คือว่าเราต้องเขียนเรื่องยังไงให้คนอ่านจาก A ไปถึง Z อ่านจนจบแล้วเขาได้สารที่เราจะสื่อออกไป บางทีเรามีในใจอยู่แล้วว่าเราอยากบอกคนเรื่องนี้ เพื่อนเราไปทำเรื่องแบบนี้มา อย่างเรื่องมือที่สาม พอเรารับสารนี้เราจะเล่ายังไงให้คนรู้สึกว่ามันอ่านได้จบ รู้สึกว่ามันได้ อ่านแล้วมันเกี่ยวข้องกับชีวิตเขา นั้นคือสิ่งที่เราแบบว่าอยากจะบอก,เรื่องจริง 100% มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ด้วยความที่เราเป็นนักเขียนเราก็เป็นคนที่เติมแต่งเรื่องเก่ง พอเรารับสารมาก้อนนึงเราก็สามารถเล่าได้หลายๆ แบบของเรา เราก็คิดว่าเล่าทางนี้ๆ ดีกว่า เพราะทางนู้นก็เป็นแบบปกติ สำหรับเราเรายอมรับเสมอว่า จะบ้าหรอ เรื่องจริงอะไรมันจะมันขนาดนั้นว่ะ แต่ทุกอย่างมันเป็น base on true story หมดเลย มันคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้จริง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ อาจจะของเพื่อนเราบ้าง เพื่อนของเพื่อนเราบ้าง วันนี้รุ่นพี่เล่าเรื่องนี้ให้ฟังหนูขอเอาไปเขียนได้ไหม แต่ด้วยความที่ตัวละครในเพจเรามันมีอยู่แค่นั้น กอล์ฟ คิม ช่า แนตตี้ พอเราได้ยินเรื่องของรุ่นพี่เราก็เอามาปรับให้เป็นเรื่องของเพื่อนเรา ซึ่งเราว่ามันเป็นสไตล์การเขียนของเพจเรา,Thairath Talk Fresh : ชีวิตจริงตลกเหมือนในแฟนเพจไหม,ไม่หรอก อย่างเรื่องในเพจมันตลกไม่ใช่เพราะเราตลกนะ มันตลกเพราะเรื่องมันตลก แต่โดยตัวตนจริงๆ แล้วเราว่าเราไม่ใช่คนตลกขนาดนั้น เราแอบจะเป็นคนซีเรียสในชีวิตด้วยซ้ำ ยิ่งพอยิ่งโตมันมีความรับผิดชอบมากขึ้น เราก็เริ่มคิดเรื่องชีวิตมากขึ้น เรื่องเงิน เรื่องธุรกิจ เรื่องบ้าน เรื่องครอบครัว เรื่องงาน มันก็จะเป็นแนวนั้นมากกว่า แต่ถามว่าแต่ก่อนเราตลกไหม เราก็เป็นคนตลกประมาณนึง ไม่ได้ตลกตลอดเวลา ไม่ใช่คนบ้าตลกตลอดเวลาไม่ได้,Thairath Talk Fresh : เรื่องที่เขียนเรื่องไหนกระแสตอบรับดีที่สุด,เรื่องขี้เลย เรื่องแนตตี้ที่ขี้บนรถ เรื่องนั้นได้รับการตอบรับอย่างดีมากจริงๆ คือคาดไม่ถึงตอนเป็นงานเขียนก็ว่าดีแล้วนะ พอมาเป็นซีรีส์ก็ยิ่งหนัก เราว่าตอนนี้เป็นตอนที่พลิกความนิยมของไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ซีซั่นแรกเลย ตอน1-3 มันก็มาแบบปกติ แต่พอมันผ่านตอนนี้ไปแบบมันขึ้นพีคเลย คนแม่งดูกันเป็นล้านๆ ไม่น่าเชื่อ เจอประสบการณ์ละเราก็ทำช่องในยูทูบด้วยชื่อรายการดูเหอะ กับ รายการพาเธอกลับบ้าน เป็นรายการที่ทำกับเพื่อน เราก็สัมผัสได้ว่าเวลาเราคุยกับแขกบนรถอะเรื่องที่สนุกที่สุดก็คือเรื่องขี้ ไม่รู้ทำไม (หัวเราะ) เวลาคุยเรื่องขี้ เรื่องอึแล้วมันตลกอะ แล้วมันสถานการณ์ที่พออยู่หน้างานมันทรมานแล้วมันไม่ได้โอเคเลย พอมาเล่าแล้วมันเลยกลายเป็นเรื่องตลกไปหมด,,ฉันยังไปได้ไกลกว่านี้,,Thairath Talk Fresh : กว่าจะมาเป็นช่าในทุกวันนี้อะไรคือสิ่งที่ยากที่สุด,แรกๆ สมัยที่เราเพิ่งเริ่มจะสร้างชื่อเสียง สิ่งที่ยากคือการจัดการคน การสร้างชื่อเสียงให้เพจของเราให้คนติดตามเรื่อยๆ ตอนนี้เราอยู่ตัวในระดับนึงสิ่งที่ยากของเราตอนนี้คือจัดการกับคำวิจารณ์ของคนอื่นมากกว่า ไม่ใช่แค่คำวิจารณ์ที่แย่อย่างเดียวด้วยนะ คำวิจารณ์ที่ดีเราก็ต้องจัดการ อย่างพอเราได้ยินคำวิจารณ์ที่ดีเราก็ต้องบอกตัวเราว่าอย่างเหลิงคำอวยมากเกินไป,แต่พอเราได้ยินคำวิจารณ์แย่ๆ ก็ต้องแยกอีกว่าคำวิจารณ์ที่แย่บางอย่างถ้าเขาพูดด้วยเจตนาอยากให้เราปรังปรุง เก็บมาใช้ได้ เราก็เก็บมา แต่บางเรื่องถ้าคนด่า ด่าด้วยอารมณ์ เราไม่ด่าตอบ เราก็ปล่อยคอมเมนต์พวกนั้นไป ยากที่สุดของเราตอนนี้ก็คือว่าการพยายามจัดการกับคำวิจารณ์ทั้งหมดไม่ว่าจะดีหรือแย่ให้มาอยู่ตรงกลาง ให้สมดุล ให้สามารถที่จะเอามาใช้กับชีวิตได้ เราว่าอันนี้ยากในความเป็นช่าตอนนี้,Thairath Talk Fresh : ทุกวันนี้คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จหรือยัง,ไม่เลยยังห่างไกล ในระดับนึงในแง่ของงานเขียนมาเป็นหนังสือ มาเป็นซีรีส์ ในตอนนั้นคือเป็นสิ่งที่ภูมิใจในระดับนึง แต่ถามว่าชีวิตเราประสบความสำเร็จไหม เรามีความเชื่ออย่างนึงว่า เราจะไม่คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จสูงสุด เพราะมันจะทำให้เราไม่พัฒนา งั้นเราจะเป็นคนแบบว่าฉันยังไปได้อีก พอเสร็จตรงนี้ก็จะเขียนหนังสือเล่มใหม่ ก็อยากให้หนังสือเล่มใหม่ดัง อยากได้รางวัล อยากให้มันเป็นหนัง,คือเป้าหมายในชีวิตมันต้องมีเรื่อยๆ เพื่อที่จะให้เราจะได้แอคทีฟตัวเอง ไม่งั้นเราจะกลายเป็นคนที่แบบโอเคประสบความสำเร็จแล้ว ปล่อย ลอยไป ลอยมา เป็นคนที่มันแบบไม่ได้มีคุณค่าอะไร ในความรู้สึกเรา ถ้าถามว่าประสบความสำเร็จไหม เราพูดแค่ว่าในระดับนึง ในระดับนึงของชีวิตมันมีเรื่องแบบนี้เข้ามาเราก็ดีใจ แต่ถามว่าไปได้อีกไหม เราว่ามันไปได้อีก,Thairath Talk Fresh : อีก 5 ปีมองภาพตัวเองไว้ยังไง,สัก 5 ปี ก็ประมาณ 40 ก็เกษียณตัวเอง เพราะตอนนี้เราทำงานเยอะมาก เพื่อที่จะเหมือนแบบโอเคหนึ่งก็เรื่องเงิน เรื่องชื่อเสียง เรื่องการเขียน การเป็นนักเขียนของเรา เราก็พยายามที่จะสะสมบารมีช่วงนี้ให้ได้ในระดับนึง แต่พอประมาณสัก 40-45 ก็คงแบบปล่อยวาง กลับบ้านอกไปเที่ยว เราว่าชีวิตเรามันสั้นมาก ถ้าเรามาเริ่มเที่ยวตอน 60 เราว่าเราไม่ไหว เราว่าเราต้องเริ่มใช้ชีวิตตอน 40 น่าจะโอเคสุด,Thairath Talk Fresh : ถ้าย้อนเวลากลับไปอยากแก้ไขอะไร ,ถ้าอยากแก้ไขก็คงเรื่องไม่กินยาลดความอ้วนตอนเด็กมั้ง ตอนประมาณ ม.4-ม.5 ก็เริ่มกินแล้ว เราเคยอ้วนมาก เสร็จแล้วเราก็กินยาลดความอ้วน เราก็ผอมมาก แต่เราว่าช่วงที่เราเริ่มกินยาลดความอ้วนมันทำให้ระบบเผาผลาญเราพัง แล้วมันพังหนักมาถึงทุกวันนี้มันแก้ยากมาก ตอนนี้มันทำให้เราเป็นคนที่อ้วนง่าย ผอมง่ายอยู่เงี่ย แล้วเราเป็นคนออกกำลังกายแล้วกล้ามไม่ขึ้น ขึ้นยากมาก เพราะระบบเผาผลาญเราไม่ดี เราว่าสิ่งนี้มันส่งผลกับสุขภาพเราตอนนี้มาก เราเป็นคนที่กินนิดกินหน่อยก็อ้วนอีกละ แต่พออยากจะลดไม่กินข้าวเย็น 3-4 วันน้ำหนักก็ลงแล้ว ซึ่งมันไม่ดีต่อสุขภาพ ถ้าย้อนกลับไปได้เรื่องที่ควรดูแลคือเรื่องสุขภาพ,ช่า บันทึกของตุ๊ด กับความภูมิใจในเพศสภาพตัวเอง, ,Thairath Talk Fresh : คิดว่าตัวเองเป็นเพศไหน ตุ๊ด กะเทย เกย์ เพศที่สาม อยากให้คนเรียกว่าอะไร,ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายแน่ๆ อยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิง เราพอใจ เราภูมิใจกับการที่อยู่กึ่งๆ ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย เป็นเพศของตัวเองแบบนี้เราโอเคแล้ว เราไม่ได้ให้คำนิยามว่าเราต้องเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย,Thairath Talk Fresh : ครอบครัวรู้ว่าเป็นตุ๊ดตั้งแต่ตอนไหน,ครั้งแรกที่พ่อรู้คือตอน ม.2 ตอนนั้นเริ่มเป็นตุ๊ดแล้วแหละ เขาก็ช็อกแหละ เขาเห็นตลับแป้งของเรา ตอนนั้นก็เกิดการคุยกันว่ารู้ไหมมันไม่ใช่ของที่ผู้ชายใช้ แต่จริงๆ เรารู้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่าเราเป็นอะไร เราก็บอกพ่อบอกแม่ว่าเราไม่ได้ชอบผู้หญิง คือเราเป็นตุ๊ดเป็นอะไรแบบนี้ แล้วคือแกก็คิดว่าเดี๋ยวก็คงหายเอง แม่ก็เฮิร์ตๆ แต่มันก็เป็นดราม่าครอบครัวที่ทุกคนจะต้องผ่าน เหมือนเป็นดราม่าช่วงที่เหมือนว่าพ่อยังงงๆ เขาเป็นผู้ชาย เขาก็รับไม่ได้,Thairath Talk Fresh : ตอนนั้นดราม่าขนาดไหน,ดราม่าเลยแหละถึงขั้นย้ายโรงเรียน คือความคิดของเขา เขาก็ไม่เก็ตคือมันไม่ใช่โรคไม่ใช่อะไรที่รักษาได้โดยการย้ายที่ กินยาหาหมอแล้วหาย คือมันไม่หายไง แต่พอโตขึ้นเข้ามหาลัย เราก็เหมือนแบบว่าทำอะไรหลายๆ อย่างให้เขาเข้าใจว่าไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ยังทำงานได้ สุดท้ายแล้วเขาก็แค่เป็นห่วงว่าเราจะใช้ชีวิตแบบไหน แล้วตอนนี้เราก็สามารถบอกพ่อเราได้ว่าเราสามารถใช้ชีวิตได้โดยที่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเพศเรา เรามีชีวิตที่ดีได้ เราเลี้ยงครอบครัวได้ เขาก็เลิกเป็นห่วงเรา,Thairath Talk Fresh : คุณเคยโดนเหยียดเพศไหม,มันก็พูดยากหน่อยเพราะว่าหนึ่งคือความ ช่า ของเราอ่ะ มันก็ไม่โดนอยู่แล้วไง มันก็ยากหน่อยที่เราจะโดนคนนู่นคนนี้บูลลี่ เพราะเราอยู่ในที่ที่เหมือนแบบว่าเราไม่ได้เอาตัวเองเข้าไปใกล้กับคนที่จะต้องบูลลี่เราด้วย แล้วเราก็ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่คนจะเข้ามาบูลลี่เราได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่ได้ว่ามันไม่มีเกิดขึ้นเลยในประเทศไทย มันมีอยู่แล้ว แล้วมันมีเยอะด้วย เราคิดว่าการบูลลี่เพศที่ 3 มันเกิดจากว่าเขายังยึดติดกับเพศที่ 3 ที่เขาเข้าใจมาตั้งแตสมัยเด็กๆ เอาง่ายๆ สมัยเด็กๆ สัก ม.3-ม.4 ม.ต้น ม.ปลายก็ตาม มันจะมีเพื่อนกลุ่มนึงที่ชอบล้อกะเทย ล้อตุ๊ดล้อกะเทย ชอบมาจิ้ม มาแกล้ง ด่าทอ,แต่พอมันผ่านไปสัก 10 ปี พองานรวมรุ่นอีกทีนึงอ่ะ อีพวกนี้มันจะเกิดความเข้าใจว่าเพศที่ 3 มันเป็นแบบไหน อยู่ร่วมกันได้ไหม มันก็จะปฏิบัติกับเราเหมือนคนปกติ คือมันต้องผ่านการเรียนรู้ความเข้าใจในระดับนึงว่าเพศที่ 3 มันเป็นแบบไหน อาจจะต้องเกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเองด้วยมันถึงจะเข้าใจว่าสุดท้ายเราจะอยู่ร่วมกันกับเขาได้ แต่ก็ต้องยอมรับอีกอยู่ดีว่าอีกลุ่มนั้นที่เคยล้อเราตอนเด็กอ่ะ มันก็จะมีอีกกลุ่มเล็กๆ ที่ตอนนี้มันยังล้อเราอยู่ เพราะเขาแม่งไม่ได้เกิดความเข้าใจในเพศที่ 3 ระหว่างทางเลย,Thairath Talk Fresh : อยากจะบอกอะไรกับคนที่มองว่าคุณเป็นพวกแปลกแยก,ตลกอ่ะ คือตอนนี้หลายๆ คนก็เข้าใจไปแล้ว แต่หลายคนก็มัวแต่คิดอยู่กับว่าถ้าเรามองคนเป็นคนเท่ากัน ไม่ใช่เป็นเพศหนึ่ง เพศสอง เพศสาม เพศสี่ ถ้าทุกคนมีพื้นฐานเป็นคนเท่ากันทุกอย่างคือจบ ไม่ได้มีอะไรเลย แต่ทุกวันนี้ทุกคนมองว่าเพศชาย เพศหญิง ผู้ชายบางคนก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นเพศผู้นำ แล้วก็จะมามองเพศอื่นว่าต้องอยู่รอตัวเอง ซึ่งเราก็รู้สึกว่ามันควรหมดยุคนั้นไปได้แล้ว ทุกคนควรเข้าใจว่าทุกคนเป็นคนเหมือนกัน แต่งตัวแบบไหน คุณจะมีพฤติกรรมแบบไหนก็ตาม คุณก็มีอารมณ์โกรธ มีความดี ความไม่ดี เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราจะไม่เคยมองว่าเพศชายจะต้องเหี้ยกว่าเพศหญิง หรือเพศหญิงจะต้องริษยามากกว่าเพศชาย ทุกคนมันจะต้องมีอารมณ์แบบพื้นฐานเหมือนกันหมด ทุกคนมันเกิดจากว่าพื้นฐานเป็นคนเท่ากัน บางคนควรจะมีความคิดแบบนี้ได้แล้ว,Thairath Talk Fresh : ฝากถึงหลายคนที่ไม่กล้าเปิดเผยตัวตนของตัวเอง,อันนี้ก็มีหลายคนมาปรึกษาเหมือนกัน เราก็จะแค่พูดว่า แล้วแต่ความสะดวกของคุณนะ ถ้าคุณอยากเปิดเมื่อไหร่ คุณพร้อมเมื่อไหร่ คือการเปิดตัวเองว่าเป็นเพศที่ 3 มันไม่ได้มีแค่ว่าฉันเปิดแล้วจบ มันมีผลกระทบรอบๆ ตัวเยอะแยะมากมาย เช่น คุณพ่อคุณแม่เข้าใจไหม สังคมรอบข้างมีท่าทางยังไงกับเพศที่ 3 หรือว่าตัวเองสามารถตั้งรับกับปฏิกิริยาของคนที่บอกได้ไหม ถ้าคุณพร้อมทุกอย่างแล้ว สังคมรอบๆ ตัวคุณไม่มีปัญหาแน่นอน คุณพ่อคุณแม่น่าจะคุยกันได้ หรือว่าคุณพร้อมที่จะตั้งรับกับอะไรบางอย่างที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะจริงๆ แล้วเราก็ต้องยอมรับแหละว่าสังคมไทยบางทีบางบ้านบางสถานที่ก็เหมือนจะยอมรับ แต่จริงๆ ก็ไม่ยอมรับมันก็มี ถ้าคุณพร้อมทุกอย่างแล้ว แล้วคุณสะดวกใจที่จะเปิด เปิดเลย แต่ถ้าคุณยังไม่พร้อมหรือว่ายังไม่แน่ใจ ทำดีไม่ทำดี ก็รอเวลาพร้อมก่อนแล้วค่อยเปิดก็ได้.
|
ช่า บันทึกของตุ๊ด เปิดเรื่องราว Thairath Talk Fresh รู้จักตัวตน ช่า บันทึกของตุ๊ด คุยเรื่องเพศที่สาม LGBT ด้านในมีคำตอบ
|
บันเทิง
|
ช่า บันทึกของตุ๊ด,บันทึกของตุ๊ด,เพศที่สาม,Thairath Talk,Thairath Talk Fresh
|
https://www.thairath.co.th/entertain/1503740
|
ประกันสังคม เพิ่มช่องทางให้บริการรับชำระเงินสมทบ ผ่านตู้บุญเติม
|
วานนี้ (1 พ.ย.60) ที่กระทรวงแรงงาน นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการให้บริการรับชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ระหว่างสำนักงานประกันสังคม และธนาคารที่ให้บริการรับชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคม และผู้ให้บริการตู้บุญเติม,โดย นายจรินทร์ กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2558 เห็นชอบในหลักการแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e – Payment Master Plan) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาระบบการชำระเงินของประเทศไทย เข้าสู่ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร แทนการใช้เงินสดหรือเช็ค และการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) ของธนาคารโลก ในตัวชี้วัดที่ 7 ด้านการชำระภาษี (Paying Taxes) เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการภาครัฐ เข้าสู่ Thailand 4.0 ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี, ,ด้าน นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคม ได้พัฒนารูปแบบการส่งข้อมูลการชำระเงินสมทบและการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e – Payment) แทนการยื่นแบบแสดงรายการที่เป็นเอกสารและลดการใช้เงินสดหรือเช็ค ซึ่งจะทำให้นายจ้างได้รับความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย และได้พัฒนารูปแบบวิธีการต่างๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงระบบของนายจ้างที่มีความหลากหลาย รวมทั้งเพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้นายจ้างชำระเงินสมทบเพิ่มมากขึ้น โดยออกประกาศกระทรวงแรงงานขยายเวลายื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e - Payment) ออกไปอีก 7 วันทำการ โดยไม่เสียเงินเพิ่มตามกฎหมาย และในวันนี้สำนักงานประกันสังคมโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคมจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมการชำระเงินสมทบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e – Payment) แทนนายจ้าง,เรามีธนาคารที่ปรับปรุงระบบเรียบร้อย พร้อมให้บริการตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.60 รวม 7 ธนาคาร คือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), ธนาคารมิซูโฮ จำกัด สาขากรุงเทพมหานคร, ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น และได้พัฒนาช่องทางการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบระบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ National Single Windows (NSW) โดยมี ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ด้วย นายสุรเดช กล่าว, ,เลขาฯประกันสังคม กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังได้เพิ่มช่องทางการให้บริการรับชำระเงินสมทบแก่ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 โดยร่วมกับบริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เปิดให้บริการรับชำระเงินสมทบผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ผ่านตู้บุญเติม เพื่อรองรับการให้บริการผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ที่อยู่ตามตำบล หมู่บ้านที่ไม่มีสาขาธนาคาร และหน่วยบริการที่ให้บริการตั้งอยู่ ด้วยจำนวนตู้ที่ให้บริการชำระเงินมากกว่า 100,000 ตู้ทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สามารถเลือกใช้บริการชำระเงินสมทบเพิ่มมากขึ้นอีกหนึ่งทางเลือกอีกด้วย.
|
ประกันสังคม ลุยเพิ่มช่องทางชำระเงินสมทบผ่าน e-Payment 8 ธนาคาร-ตู้บุญเติม เริ่ม 1 พ.ย.60
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ประกันสังคม,e-Payment,ตู้บุญเติม,ชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์,ชำระเงิน,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1115344
|
11 ปี คดี สมชาย นีละไพจิตร 2 องค์กรสิทธิเรียกร้องรัฐไทยให้ความเป็นธรรม-เยียวยาครอบครัว
|
เพื่อให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้นต่อเหยื่อ และมีการเยียวยาชดเชยครอบครัวของทนายสมชาย13 มี.ค. 2558 สมาพันธ์สิทธิมนุษยชนสากล (International Federation for Human Rights: FIDH) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ร่วมกับองค์กรสหภาพเพื่อเสรีภาพพลเมือง (Union for Civil Liberty: UCL) ภายในประเทศไทย ระบุถึงกรณีการหายตัวไปของ สมชาย นีละไพจิตร ทนายความสิทธิมนุษยชน ผ่านแถลงการณ์ร่วมหัวข้อ 11 ปีผ่านไป ยังไม่มีความยุติธรรมกรณีสมชาย นีละไพจิตรทั้งนี้ FIDH และ UCL เรียกร้องให้ประเทศไทยต้องให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาการป้องกันบุคคลจากการบังคับให้สูญหาย (International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance หรือ ICPPED) โดยทันที และควรเพิ่มความพยายามสืบสวนการบังคับให้สูญหายในคดีการหายตัวไปของสมชาย นีละไพจิตร โดยทั้งสององค์กรเรียกร้องในเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 12 มี.ค. ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 11 ปีการหายตัวไปของสมชาย นีละไพจิตร พอดีสมชาย นีละไพจิตร เป็นทนายความผู้ปกป้องสิทธิของสมาชิกชุมชุนชาวมุสลิมในจังหวัดที่มีความไม่สงบของประเทศไทย คือจังหวัด สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เขาถูกลักพาตัวและอุ้มหายในวันที่ 12 มี.ค. 2547 พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่ามีกลุ่มคนบังคับให้เขาขึ้นรถที่ถนนรามคำแหงในกรุงเทพฯ แม้ว่าจะมีหลักฐานชัดเจนมากเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเขา แต่ก็ไม่มีใครพบร่างของทนายสมชายเลยการบังคับทนายสมชายให้หายตัวไปยังคงถือเป็นอาชญากรรมในทุกวันนี้มากพอๆ กับที่เคยเป็นเมื่อ 11 ปีที่แล้ว และจะยังคงเป็นอาชญากรรมต่อไปจนกว่ารัฐบาลไทยจะเผยแพร่รายละเอียดเกี่ยวกับคดีและนำตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี คาริม ลาฮิดจิ ประธาน FIDH กล่าว ประเทศไทยจะต้องให้สัตยาบันต่ออนุสัญญา ICPPED โดยทันทีและมีมติรับร่างกฎหมายให้การบังคับให้หายตัวไปเป็นอาชญากรรมที่ต้องมีการลงโทษตามความเหมาะสมประเทศไทยเซ็นสัญญา ICPPED เมื่อเดือน ม.ค. 2555 แต่ก็ยังไม่ได้ให้สัตยาบันต่ออนุสัญญานี้ หลังจากการให้สัตยาบันแล้ว ประเทศไทยจะมีพันธะผูกมัดให้สืบสวนการถูกบังคับให้หายตัวไปและนำผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในฐานะคดีความที่เกิดขึ้นก่อนหน้าการให้สัตยาบัน เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2557 ในการประชุมครั้งที่ 52 ของคณะกรรมการต่อต้านการทารุณกรรมของสหประชาชาติ (CAT) ประเทศไทยกล่าวให้สัญญาอย่างกำกวมว่าจะให้สัตยาบันต่อ ICPPED ภายในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยไม่ยอมให้ความยุติธรรมแก่ครอบครัวของสมชายมาเป็นเวลานานเกินไปแล้ว ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลไทยจะชดเชยและเยียวยาอังคณา นีละไพจิตร และลูกๆ ของเธอ ตามสิทธิที่เธอควรจะได้รับตามพันธะทางกฎหมายที่ไทยมีต่อกฎหมายนานาชาติ จตุรงค์ บุณยรัตนสุนทร ประธานกลุ่ม UCL กล่าวตามมาตรา 2 ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ที่ไทยร่วมเป็นรัฐภาคีระบุถึงสิทธิในการได้รับการเยียวยาอย่างได้ผลและได้รับการชดเชยอย่างเต็มที่สำหรับสมาชิกครอบครัวของเหยื่อที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนตามที่ถูกระบุไว้ในกติกานี้ศาลอาญากรุงเทพฯ เคยตัดสินให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีการหายตัวไปของทนายสมชายพ้นผิด หลังจากที่พวกเขาถูกดำเนินคดีในข้อหาบังคับขู่เข็ญและร่วมกันปล้นทรัพย์ และมีการดำเนินคดีกับ พ.ต.ต.เงิน ทองสุก ในข้อหาบังคับขู่เข็ญ เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2549ในวันที่ 11 มี.ค. 2554 ศาลอุทธรณ์ยังคงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 นายพ้นผิดจากจากข้อหาบังคับขู่เข็ญและร่วมกันปล้นทรัพย์ อีกทั้งยังยกเลิกการคำพิพากษาต่อ พ.ต.ต.เงิน ทองสุก ด้วยในวันที่ 21 พ.ค. 2557 ศาลฎีกาปฏิเสธไม่ยอมรับหลักฐานสำคัญอย่างโทรศัพท์ที่จะพิสูจน์ความผิดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 5 คนผู้ที่แต่เดิมถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของทนายสมชาย อ้างจากคำปราศรัยของ ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม หัวหน้าตัวแทนประเทศไทยในการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทารุณกรรมของสหประชาชาติ ครั้งที่ 52 วันที่ 30 เม.ย. 2557
|
11 ปี หลังเกิดคดีอุ้มหาย ทนายสมชาย นีละไพจิตร สมาพันธ์สิทธิมนุษยชนสากล และองค์กรสหภาพเสรีภาพเพื่อพลเมืองประเทศไทย เรียกร้องให้ทางการไทยให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาการป้องกันบุคคลจากการบังคับให้สูญหาย
|
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
|
FIDH,UCL,สมชาย นีละไพจิตร
|
https://prachatai.com/journal/2015/03/58378
|
พ่อแม่ทิ้งตั้งแต่เกิด รื้อประวัติรันทด นางงามสวยพุ่งระดับชาติ
|
อย่างดีเลย บางคนเกิดมาก็โชคร้าย พิการมาตั้งแต่กำเนิดไม่ครบ 32 บางคนเกิดมาก็อาภัพมาก พ่อแม่ใจร้ายทิ้งไปตั้งแต่เด็กเล็ก ,วันนี้บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปคุ้ยประวัติของนางงามสวยเด่นระดับชาติ ตังเม เมธาวี ธีรลีกุล มิสแกรนด์สระแก้ว 2018 สวยพุ่งไปคว้ารองอันดับ 4 บนเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ Miss Grand Thailand 2018 และยังได้รับตำแหน่งพิเศษต่างๆ อีกถึง 4 รางวัลดังนี้คือ,- รองอันดับ 3 ขวัญใจภูเก็ต,- รางวัลขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชน,- รางวัลมิสแกรนด์ไรซิ่งสตาร์ Miss Grand Rising Star 2018 ได้เซ็นสัญญาเป็นดาราช่อง 7,- รางวัลมิสป๊อปปูลาร์โหวต Miss Popular Vote ชนะสาวงามทั้ง 76 จังหวัดจากการโหวตของแฟนนางงามทั่วประเทศ,เบื้องหน้าสวยสดงดงาม แต่เบื้องหลังชีวิตของ ตังเม เมธาวี ไม่น่าเชื่อแต่ต้องเชื่อ ยิ่งกว่าละครน้ำเน่าหลังข่าว แต่ไม่ต้องรันทดไม่ต้องเสียใจเศร้าโศก ไม่ต้องเสียน้ำตาอะไรมากมายนะ เพราะชีวิตคนเราต้องอยู่กับปัจจุบัน ชีวิตต้องก้าวไปข้างหน้า ชีวิตของตังเมในวันนี้มีแววรุ่งน่าจะสดใสแล้ว,จริงเหรอตั้งแต่เกิดมา ตังแมยังไม่เคยเห็นหน้าพ่อแม่ที่แท้จริงเลย ไม่เคยเจอเลยแม้สักครั้งเดียว? จริงค่ะ พ่อแม่ที่แท้ๆ ไม่เคยเจอ มีคุณแม่บุญธรรมรับมาเลี้ยง ตั้งแต่เพิ่งเกิดได้ไม่กี่เดือน เป็นคุณยายทั้งสองท่านคือสุนีย์กับสุเนตร ซึ่งเป็นพี่น้องกันยังไม่ได้แต่งงาน หนูเรียกท่านว่าคุณแม่ค่ะ,สถานที่รับตังเมมาเลี้ยงที่ไหนอะไรยังไง? เหมือนคุ้นๆ รับมาจากโรงพยาบาลเลยค่ะ ไม่แน่ใจรายละเอียดค่ะ ตังเมเรียนที่อุบลราชธานี? ใช่ค่ะ เรียนอยู่ที่อุบลราชธานีมาตลอด ม.ต้น เรียนที่โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช (โรงเรียนดังมากๆ ได้รับพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนใช้จ่ายในการเรียนการสอน จากรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,(คลิกอ่านประวัติโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช) ,ส่วน ม.ปลาย หนูย้ายมาเรียนที่โรงเรียนมัธยมตระการพืชผล เพราะนั่งรถไปกลับไกลมากค่ะ เลยย้ายมาเรียนที่นี่แทนค่ะ,คุณแม่หรือคุณยายที่เลี้ยงตังเมมา ท่านสอนสั่งปลูกฝังเรื่องอะไรบ้าง? คุณยายเนี้ยบมาก ตอนเด็กๆ ก็สอนทุกอย่าง เรื่องงานบ้านทุกอย่าง แม้กระทั่งการเคี้ยวการกินตั้งแต่เด็กเลยต้องกินให้เรียบร้อย เรื่องเย็บปักถักร้อย เย็บเสื้อผ้าก็สอนค่ะ ฯลฯ คุณยายสอนให้หมดเลยค่ะ,เคยถามคุณยายมั้ย ว่าทำไมพ่อแม่ถึงได้ทิ้งเราไป? ไม่ได้ถามเลยค่ะ ตังเมก็ไม่อยากจะรู้ด้วย? ใช่ค่ะ น่าจะเป็นเหตุผลของผู้ใหญ่ เคยคิดมั้ยว่าเราขาดพ่อแม่? ,หนูไม่เคยคิดว่าขาดพ่อแม่ค่ะ หนูคิดเสมอว่า ยังมีคนที่แย่กว่าเราอีก เราสามารถทำให้ตัวเองให้ดีได้ โตขึ้นมาเป็นคนที่ดีสมบูรณ์ได้ แม้เราจะไม่มีพ่อแม่,ที่ผ่านมาทำอะไรให้คุณยายเสียใจบ้างมั้ย? ก็มีดื้อบ้าง ทำให้ท่านเสียใจบ้างค่ะ เช่น ท่านให้ทำอย่างนี้ แต่เราไปทำอย่างนั้นแทนค่ะ อย่างเรื่องเรียนภาษาอังกฤษ แม่อยากให้หนูเรียนเก่งๆ แต่หนูไม่อยากเรียน ถ้าเราตั้งใจเรียนมากกว่านี้ ก็จะเก่งขึ้นค่ะ,คุณแม่ทำงานอะไรตอนที่เลี้ยงตังเม? คุณแม่เป็นชาวนา ค้าขาย เปิดร้านขายของชำ แล้วก็มาเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้า แม่กลับมาอยู่อุบลฯ พอมีเงินเก็บ แม่เป็นคนประหยัด ก็สอนหนูตลอดเวลาเรื่องประหยัดจนหนูติดเป็นนิสัย การประหยัดเป็นสิ่งสำคัญมาก,อย่างของที่เราอยากจะได้สักอย่าง ต้องคิดเป็นเกือบเดือน ว่าเราสมควรจะซื้อมั้ย เราเหลือเงินพอซื้อพอใช้มั้ย ช่วงเรียนมหาลัยอุบล แม่ให้มาเดือนละ 7,000 รวมทุกๆ อย่างนะคะ ก็เคยไปกู้เงิน กยศ. มาเรียนด้วย เพราะเงินไม่ค่อยพอใช้ หนูเลยไปทำงานพาร์ทไทม์ ไปขอเขาทำที่ร้านกาแฟ เป็นพนักงานเสิร์ฟชงกาแฟได้ชั่วโมงละ 30 บาท และได้ 1 บาทต่อแก้วด้วย ทำอยู่ประมาณเทอมหนึ่ง ช่วงเรียนปี 4 และขายของออนไลน์ด้วย ทำอยู่ประมาณ 8 เดือนได้ ถ้าเราขยันโพสต์ก็จะได้เงินเยอะหน่อย,เคยเห็นรูปภาพของพ่อแม่จริงๆ มั้ย? เป็นรูปภาพเหมือนไม่ชัด ไม่แน่ใจว่าใช่มั้ยหรือไม่ใช่ แต่หนูคิดว่าน่าจะมี ตอนนี้อยากเจอหน้าพ่อแม่ที่แท้จริง หรือว่าไม่อยากจะเจอแล้ว? ,ถ้าเห็นก็ดีใจค่ะ อนาคตจะเป็นอย่างไรไม่รู้ค่ะ ไม่เห็นก็ไม่เป็นไร หนูแบบโอเค มีความสุขแล้วที่คุณยายเลี้ยงดูหนูมาตั้งแต่เด็ก รู้สึกว่าเป็นแม่ที่แม่แท้ๆ ของหนูตั้งแต่เด็กๆ แล้วค่ะ,ตอนนี้ก็เป็นนางงามระดับประเทศแล้ว คุณแม่ห่วงตังเมเรื่องอะไรบ้าง? เรื่องการใช้ชีวิตค่ะ ห้ามไปไหนมาไหนคนเดียวค่ะ เพราะข่าวทุกวันนี้มันก็น่ากลัว ตอนนี้หนูพักอยู่แถวทาว์นอินทาว์นกับพี่มอส (น้ำอ้อย ชนะพาล มิสแกรนด์ไทยแลนด์ Miss Grand Thailand 2018),สนิทกับมอส น้ำอ้อย มิสแกรนด์ไทยแลนด์ เม้าท์ๆ ให้ฟังหน่อย? เป็นพี่น้องกัน แกน่ารัก นิสัยไม่ต่างกับหนูมาก อะไรก็ได้ง่ายๆ ตังเมพี่อยากกินส้มตำร้านนี้ ก็ไปกินกันเลยค่ะ เป็นพี่ที่รักน้อง ดูแลหนูดี อย่างวันไหนหนูใส่เสื้อยับๆ เค้าจะบอกว่าถอดเสื้อมา เดี๋ยวรีดให้,แฟนมีแล้วหรือยัง? ไม่มีค่ะ จริงเหรอ? จริงค่ะ โอ๊ย ไม่มีค่ะ ดูแลตัวเองยังไงให้สวยเด่นเสมอ? หนูพูดตรงๆ นะ ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองเลย พอมาประกวดนางงาม เพิ่งเริ่มมาดูแลตัวเองมากหน่อย เริ่มทาครีมบำรุงผิวค่ะ ชอบกินผักผลไม้และดื่มน้ำเยอะๆ,ตังเมก็เป็นสาวอุบลคนสวย อยากจะแนะนำอะไรเด็ดๆ ให้คนที่อื่นๆ มาเที่ยวอุบลบ้านเรา? งานแห่เทียนเข้าพรรษา หนูเลิฟมากเลิฟงานแห่เทียนเลิฟมากค่ะ เพราะเป็นงานบุญ เป็นงานที่คนทั้งชุมชนมาร่วมแรงร่วมใจกันทำขึ้นมาค่ะ ปีที่แล้วตอนเรียนปี 4 ที่มหาลัยอุบล หนูก็ไปถ่ายงานวิดีโอแนะนำเกี่ยวกับงานแห่เทียน,อยากจะแนะนำอะไรเพิ่มเติม เกี่ยวกับงานแห่เทียนอุบลราชธานีอีกมั้ย? เรื่องสายไฟค่ะ อยากให้เจ้าหน้าที่คิดและทำจริงจัง นำสายไฟลงใต้ดินได้แล้วค่ะ จะดูสวยงามและที่สำคัญคือ ปลอดภัยต่อผู้คน ทุกปีเวลาแห่เทียนเข้าพรรษา จะมีพนักงานหลายคนช่วยดันๆ สายไฟที่รกรุงห้อยลงมา เพื่อไม่ให้มาเกี่ยวกับต้นเทียนพรรษาที่สูงๆ หนูมองว่าถ้าจัดการบริหารเรื่องสายไฟลงใต้ดินให้หมด งานแห่เทียนและตัวเมืองอุบลจะดูสวยงามยิ่งใหญ่อลังการยิ่งขึ้นแน่นอนค่ะ,ปีที่แล้วตังเมเคยมาประกวด มิสแกรนด์อุบลราชธานี 2017 ด้วยแต่ตกรอบ? ใช่ค่ะ ก็ตั้งใจมาลงประกวดมิสแกรนด์อุบล เป็นเวทีที่บ้านเราเองด้วย แต่ไม่ได้ตำแหน่งอะไร เป็นเวทีแรกที่ประกวดเลย พอปีนี้เลยลองไปประกวด มิสแกรนด์สระแก้วแทนค่ะ,ประเด็นนี้บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปที่ นน นนทัช นิธิพานิช พีดีอุบลราชธานี (Provincial Director) หรือผู้อำนวยการกองประกวดอุบลราชธานี Miss Grand Ubonratchathani และได้รองพีดียอดเยี่ยม 2018,เสียดายมั้ยปีที่แล้ว ไม่ได้เลือกตังเม ให้เป็นมิสแกรนด์อุบลราชธานี 2017 มองไม่เห็นเพชรไม่ได้เอามาเจียระไนต่อ? ก็เสียดาย (หัวเราะ) แต่ทำไงได้ล่ะ ปีนี้ตังเมสวยขึ้นแจ่มขึ้น หุ่นดีขึ้นเยอะจริงๆ ต้องยอม อย่างน้อยๆ น้องตังเมก็เป็นเด็กอุบลราชธานี สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดอุบลราชธานีของเราเหมือนกันครับ,ยินดีด้วยมากๆ ครับกับความสำเร็จของน้องตังเม น้องสวยจริงสมมง เห็นน้องไปดูด้วยตั้งแต่ช่วงเก็บตัวที่ภูเก็ต ไม่เกินคาดนะ เพราะจริงๆ เก็งไว้แล้วว่าคิดว่าน้องต้องติด 1 ใน 5 เข้ารอบลึกๆ แน่นอน และน้องก็ทำได้จริงๆ.
|
ชีวิตคนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน แล้วแต่บุญกรรมวาสนาจะนำพา บางคนเกิดมาพร้อมสุขพ่อแม่รวยหมื่นแสนล้านเลี้ยงดูมา
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
ตังเม เมธาวี ธีรลีกุล มิสแกรนด์สระแก้ว 2018,ตังเม เมธาวี รอง4มิสแกรนด์ไทยแลนด์2018,ตังเมพ่อแม่ทิ้งตั้งแต่เกิด,ตังเม มอส น้ำอ้อย ณวัฒน์,กอสซิป
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1353273
|
อะไรดลใจให้ชาวเยอรมันคนหนึ่งเปิดฮอตไลน์ รับฟังกลุ่มขวาจัด
|
จึงจัดตั้งฮอตไลน์สายด่วนรับฟังปัญหาคาใจ ทำให้เขาได้รับรู้จิตใจของมนุษย์ได้มากกว่าแค่การตัดสินความคิดทางการเมืองแบบขาว-ดำ26 ธ.ค. 2560 สื่ออัลจาซีรานำเสนอเรื่องที่ชายชาวเยอรมันคนหนึ่งเปิดสายด่วนรับฟังกลุ่มขวาจัดในเยอรมนี หลังจากที่เขาพบว่ากระแสต่อต้านผู้ลี้ภัยในประเทศตัวเองเป็นปัญหาเยอรมนีเป็นหนึ่งในประเทศที่มีนโยบายส่งเสริมการรับผู้ลี้ภัยเข้าสู่ประเทศตน โดยในปี 2558 มีการรับผู้อพยพและลี้ภัยมากราว 900000 ราย อย่างไรก็ตามก็มีเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการต่อต้านคนนอกในเยอรมนีหลายเหตุการณ์ แต่ก็มีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่กระตุกใจอาลี แคน ชายอายุ 24 ปี ผู้ที่ครอบครัวของเขาเป็นผู้ลี้ภัยมาจากตุรกีตั้งแต่อายุ 2 ขวบเหตุการณ์ที่ว่าเกิดขึ้นในปี 2559 ที่มีผู้ลี้ภัย 20 คน นั่งรถบัสเข้ามาที่เมืองเคลาส์นิตซ์ เมืองทางตะวันออกของเยอรมนี แต่พวกเขาก็ต้องเผชิญกับกลุ่มม็อบที่มาปิดถนนและตะโกนใส่ผู้ลี้ภัยที่กำลังประสบปัญหา มีการนำเสนอภาพเหตุการณ์นี้ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กของกลุ่มต่อต้านผู้ลี้ภัย วิดีโอนี้ทำให้เคนรู้สึกไม่สบายใจ อาจจะเป็นผมที่อยู่บนรถบัสนี้ก็ได้ เคนกล่าวเคนอยากจะรู้ว่าความเกลียดชังนี้มาจากอะไร และทำไมคนถึงไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา ทำให้เคนเริ่มออกเดินทางทัวร์เยอรมนีตะวันออกตั้งแต่เดือน มี.ค. 2559 เขาไปเยือนแหล่งของกลุ่มต่อต้านผู้อพยพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพกิดาในเมืองเดรสเดนที่ต่อต้านอิสลามโดยมีการเดินขบวนต่อต้านสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นการทำให้ตะวันตกกลายเป็นอิสลาม หรือในการประท้วงอื่นๆ ด้วยความอยากรู้เคนไปพูดคุยกับพวกนีโอนาซีและกลุ่มต่อต้านผู้อพยพเหล่านี้เพราะอยากรู้ว่าพวกเขามีแรงจูงใจอะไรแต่นั่นก็ทำให้เกิดเรื่องน่าแปลกใจเมื่อหญิงขวาจัดคนหนึ่งที่เขาพบเจอในที่ประท้วงโทรศัพท์หาเขาบอกว่าเธอเคยเจอผู้ลี้ภัยที่ทำให้เธอรู้สึกดีอย่างไร ทำให้แคนมองว่าเธอน่าจะไม่มีใครที่สามารถคุยเรื่องนี้ด้วยได้ ข้อสรุปของแคนคือผู้คนต้องได้พูดออกมา ผู้คนส่วนใหญ่มักจะมีอคติและกลัวในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้จัก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเหยียดเชื้อชาติเสมอไปนั่นทำให้แคนโพสต์เบอร์โทรศัพท์ของตัวเองลงไปในคลิปวิดีโอประท้วงต่อต้านผู้ลี้ภัยในเคลาส์นิตซ์ระบุว่า คุณสามารถติดต่อผมได้ด้วยเบอร์นี้ถ้าหากพวกคุณกังวลใจ โกรธ หรือมีคำถามเกี่ยวกับจำนวนผู้ลี้ภัยที่เพิ่มมากขึ้นในเยอรมนี หลังจากนั้นเขาก็ได้รับโทรศัพท์รวมแล้วประมาณ 200 สาย โดยเขาเปิดสายด่วนรับฟัง 2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ละครั้งเป็นเวลา 2 ชั่วโมง เขาบอกว่าบางครั้งก็มีคนโทรเข้ามามากกว่าปกติและผู้ที่โทรหาเขาก็แสดงความก้าวร้าวออกมามากขึ้นแคนเคยเป็นคนที่เปิดประชุมเชิงปฏิบัติการในการสอนผู้คนเกี่ยวกับผู้อพยพมาก่อน เรื่องที่คนโทรหาเขามักจะขอปรึกษากับเขาบ่อยๆ คือเรื่องการหลอมรวมผู้ลี้ภัยเข้ากับเยอรมนีทำให้ชาวเยอรมันหลายคนกลัวว่าเยอรมนีจะปลอดภัยน้อยลงเพราะมองว่าวัฒนธรรมของเยอรมนีไม่เข้ากับวัฒนธรรมของอิสลาม แคนสรุปได้ว่า การเหยียดเชื้อชาติและอคติมักจะมีรากฐานมาจากความกลัวว่าจะสูญเสียการควบคุมให้กับสิ่งที่พวกเขาไม่รู้จัก รวมถึงโครงสร้างความคิดแบบเก่า จึงควรมีการสำรวจศึกษาความกลัวของผู้คนเหล่านั้นตัวแคนเองกำลังศึกษาเพื่อเป็นครูสอนภาษาเยอรมัน เขาเองเคยเป็นผู้ลี้ภัยมาก่อนจึงอยู่ในสถานะที่เหมาะสมกับการขจัดความหวาดกลัวของผู้คนโดยยกตัวอย่างตนเอง ผมเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าการหลอมรวมทางวัฒนธรรมสามารถสำเร็จได้ แคนกล่าวในการเลือกตั้งระดับประเทศเมื่อต้นปีที่ผ่านมาพรรคฝ่ายขวาจัดอย่างเอเอฟดีได้รับคะแนนเสียงมากเป็นอันดับที่ 3 ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ทำให้แคนอยากเข้าถึงกลุ่มคนพวกนี้ งานหลักๆ ของเขาคือการฟังและพยายามมองว่าเขาจะเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ผู้โทรมาปรึกษาได้หรือไม่ โดยไม่ได้เน้นการพยายามหักล้างข้อเท็จจริงของผู้ที่โทรหาเขา แต่พยายามมองว่ามีอะไรที่พวกเขามองคล้ายกันบ้าง เช่น ถ้ามีคนโทรหาเขาเพื่อบอกว่าอยากลดจำนวนการรับผู้ลี้ภัยเพราะคิดว่ามันจะทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัย แคนก็จะบอกว่าเขาเองรู้สึกอยากให้ประเทศปลอดภัยเหมือนกันแคนมองว่าบทสนทนาเหล่านี้เน้นการสะท้อนตัวองในแบบที่มีวิจารณญาณ ไม่ใช่การพยายามสั่งสอนหรือทำให้พวกเขาเชื่อตาม แคนยังเชื่อว่าการที่ผู้คนได้พูดเกี่ยวกับความหวาดกลัวของตัวเองจะทำให้พวกเขามีโอกาสหันไปหาพวกฝ่ายขวาลดลงโฮลเกอร์ เลงเฟลด์ นักสังคมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยไลพ์ซิกผู้ศึกษาวิจัยคนที่โหวตให้พรรคเอเอฟดีกล่าวว่า ฮอตไลน์ของแคนเป็นสิ่งที่ดี การที่ผู้คนได้พูดคุยกันเป็นเรื่องดีเสมอ คนที่มีมุมมองต่างกันควรจะได้แลกเปลี่ยนกัน หนึ่งในรากฐานของประชาธิปไตยคือการที่คุณจะต้องรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นแม้ว่าคุณจะไม่ชอบมันก็ตาม เลงเฟลด์กล่าวอย่างไรก็ตามเลงเฟลด์ก็รับรู้ว่าไม่ใช่ทุกคนจะเปิดกว้างกับการพูดคุยแลกเปลี่ยน นั่นทำให้เกิดภาวะหนีเสือปะจระเข้เพราะคุณจะพูดคุยกับคนที่พร้อมจะเต็มใจพูดคุยเท่านั้นในตอนนี้แคนกำลังเขียนหนังสือเกี่ยวกับฮอตไลน์สายด่วนที่เขาทำ นอกจากโทรศัพท์แล้วบางครั้งเขาก็ได้รับอีเมลหรือมีคนไปพบปะเขาเป็นการส่วนตัว เช่น มีผู้โหวตให้พรรคเอเอฟดีไปที่ร้านอาหารของพ่อแม่เขาเพื่อไปเจอกับแคนและครอบครัวหรือบางครั้งก็ไปซื้ออาหารในร้านพวกเขาแคนบอกว่าเขาต้องการสร้างพื้นที่สีเทาๆ ให้กับสิ่งที่ถูกทำให้ดูเป็นขาว-ดำ และถึงแม้จะฟังดู ไร้เดียงสา แต่เขาก็เชื่อว่า ความรักจะเข้มแข็งกว่าความเกลียดชัง และแคนก็มองไม่ออกว่าจะมีหนทางอื่นที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้เรียบเรียงจากWhy this German man opened a hotline for the far right Aljazeera 25-12-2017
|
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ชาวเยอรมนีหวาดหวั่นในปีนี้คือการที่พรรคฝ่ายขวาจัดได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นมาก อาลี แคน ชาวเยอรมันเชื้อสายตุรกีอยากศึกษาทำความเข้าใจว่าเหตุใดคนถึงกลัวผู้ลี้ภัย
|
ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน,วัฒนธรรม
|
การเหยียดเชื้อชาติ,ขวาจัด,บริการให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์,ผู้ลี้ภัย,ผู้อพยพ,สายด่วน,อาลี แคน,เยอรมนี,เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
|
https://prachatai.com/journal/2017/12/74728
|
ภาคภูมิ แสงกนกกุล: เมดิคัลฮับและความไม่เท่าเทียม(1)
|
นโยบายนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปลี่ยนประเทศไทยไปสู่ศูนย์กลางความเป็นเลิศทางการบริการทางการแพทย์ในภูมิภาคเพื่อรองรับผู้ป่วยจากประเทศพัฒนาแล้ว ผู้ป่วยในภูมิภาคอาเซียนและในประเทศที่มีกำลังซื้อมากพอ และเนื่องจากเป็นการโยกย้ายผู้ป่วยจากภูมิภาคอื่นเข้าสู่ประเทศทำให้นโยบายเมดิคัลฮับมีความเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (medical tourism) ไปโดยปริยายโดยปกติแล้วผู้ป่วยย่อมอยากจะเลือกการรักษากับโรงพยาบาลใกล้บ้านหรือสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยมากกว่าการเสียค่าเดินทางไปรักษาสถานที่ไกลๆ และสิ่งแวดล้อมที่แปลกแยก อย่างไรก็ตามในประเทศพัฒนาแล้ว เช่นอเมริกา ค่ารักษาแพงหูฉี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาในระดับ tertiary care (การดูแลสุขภาพขั้นตติยภูมิ: คือรูปแบบของบริการดูแลสุขภาพ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ) และประกันสุขภาพของรัฐไม่ได้ครอบคลุมประชาชนทุกคน การบินมารักษาในต่างประเทศกลับมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าในประเทศ นอกจากนั้นสาเหตุจากการรอรับบริการจากรัฐที่ยาวนาน เช่น การรอผ่าตัดเปลี่ยนไตในประเทศที่ประกันภาครัฐครอบคลุมทุกคนในอังกฤษ หรือกฎหมายข้อห้ามในการรักษาการแพทย์บางประการ เช่นการผ่าตัดแปลงเพศ ก็เป็นสาเหตุให้ชาวต่างประเทศบินข้ามน้ำข้ามทะเลมารักษาในประเทศกำลังพัฒนานโยบายเมดิคัลฮับส่งผลดีในการนำเม็ดเงินเข้าประเทศและพัฒนาการแพทย์ไทยไปสู่มาตรฐานสากล และสร้างรายได้ให้ธุรกิจภาคอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้แก่ การบิน การคมนาคมขนส่ง การท่องเที่ยวและโรงแรม การบริการ มีการประมาณการว่าเมดิคัลฮับจะสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศกว่า 4 แสนล้านบาทถ้านโยบายประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตามทุกนโยบายย่อมมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย อัมมาร สยามวาลา กล่าวว่า นโยบายเมดิคัลฮับเป็นนโยบายที่เลวที่สุดซึ่งจะดึงหมอออกจากระบบสุขภาพภาครัฐและทำลายระบบสุขภาพภาครัฐจากการต้องนำเงินเข้าไปเพิ่มเงินเดือนให้บุคลากรสาธารณสุขภาครัฐ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลชนบทหรือท้องถิ่นที่ประสบปัญหาด้านการเงินในการเพิ่มเงินเดือนให้บุคลากรสาธารณสุข นโยบายเมดิคัลฮับจึงเป็นนโยบายที่มีความขัดแย้ง สามารถนำเม็ดเงินเข้าประเทศและการพัฒนาเข้าสู่ประเทศแต่ก็อาจจะสร้างความเสียหายในระบบสุขภาพภาครัฐ และสร้างความไม่เท่าเทียมกันในระบบสาธารณสุข1. ความไม่เท่าเทียมกันในระบบสาธารณสุขไทยคืออะไร มีอยู่จริงหรือไม่2. สาเหตุของความไม่เท่าเทียมกันในระบบสาธารณสุขไทย3. เมดิคัลฮับส่งผลต่อความไม่เท่าเทียมกันในระบบสาธารณสุขไทยหรือไม่อย่างไร4. เมดิคัลฮับและความเท่าเทียมกันสามารถไปด้วยกันได้หรือไม่สิทธิทางสุขภาพเป็นสิทธิที่เพิ่งเกิดใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่สองในฐานะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ทุกคนมีสิทธิในการมีมาตรฐานชีวิตที่เพียงพอต่อสุขภาพความเป็นอยู่ของเขาและครอบครัว มนุษย์ควรมีโอกาสได้รับการรักษาไม่ว่าจะเกิดมาอยู่ในสถานะใดๆ ดังนั้นความไม่เท่าเทียมกันในระบบสาธารณสุขจึงเป็นประเด็นที่สำคัญ1. ความเท่าเทียมกันด้านการเงิน ซึ่งแบ่งเป็นความเท่าเทียมกันในแนวตั้ง(Vertical equity) คือ คนที่มีความสามารถในการจ่ายเงินมากกว่าต้องจ่ายมากกว่า และ ความเท่าเทียมกันในแนวราบ(Horizontal equity) คือคนที่มีความสามารถในการจ่ายเท่ากันต้องจ่ายค่ารักษาเท่ากัน2. ความเท่าเทียมกันด้านการใช้บริการสาธารณสุข ซึ่งแบ่งเป็นความเท่าเทียมกันในแนวตั้งคือ การรักษามีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความจำเป็นของแต่ละคน และความเท่าเทียมกันในแนวนอนคือ คนที่มีความจำเป็นในการรักาเหมือนกันควรได้รับการรักษาที่เหมือนกัน3. ความไม่เท่าเทียมกันด้านสุขภาพ คือความไม่เท่าเทียมกันด้านสุขภาพของกลุ่มประชากรต่างๆที่ขึ้นอยุ่กับปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม1. ความไม่เท่าเทียมกันระหว่างสามกลุ่มประกันสุขภาพของรัฐ ได้แก่สามสิบบาทรักษาทุกโรค ประกันสังคม และสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ซึ่งมีความไม่เท่าเทียมกันทั้งทางด้านการเงินและการใช้บริการสุขภาพ โดยสิทธิประโยชน์ของสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการดีกว่าระบบอื่นๆ ไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกัน แต่นำเงินภาษีของประชากรทั้งประเทศมาอุดหนุนและมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวมากกว่าระบบอื่นๆ2. ความไม่เท่าเทียมกันระหว่างกรุงเทพฯและต่างจังหวัด กรุงเทพฯซึ่งมีความเจริญมากกว่า มีจำนวนโรงพยาบาลต่อคนไข้ จำนวนเตียงต่อคนไข้และบุคลากรสาธารณสุขต่อคนไข้มากกว่าจังหวัดอื่นๆ มีโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย และเครื่องมือในการรักษามากกว่าจังหวัดอื่นๆ นอกจากนี้มีโรงพยาบาลเอกชนเป็นทางเลือกให้ประชาชนเลือกใช้ได้มากกว่า และมีระบบสาธารณูปโภคขนส่งมวลชนที่ทำให้การเข้าถึงง่ายกว่า3. ความไม่เท่าเทียมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน โรงพยาบาลเอกชนมีอุปทานทางการแพทย์มากกว่าโรงพยาบาลรัฐและมีการบริการด้านควบคู่การรักษาที่ดีกว่า เช่น มีห้องพักที่ดีกว่า เป็นต้น และใช้เวลาในการรอคอยการรักษาที่สั้นกว่าโรงพยาบาลรัฐ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยต้องจ่ายเงินแพงกว่าเพื่อแลกกับความสะดวกสบายดังกล่าวในส่วนต่อไปจะเป็นการวิเคราะห์สาเหตุของความไม่เท่าเทียมกันในแต่ละกลุ่มข้างต้น (ซึ่งเป็นข้อคิดเห็นส่วนตัวและต้องมีการทำวิจัยเพิ่มเติม)ในกลุ่มความไม่เท่าเทียมกันระหว่างประกันภาครัฐ สิทธิประโยชน์ของสวัสดิการรักษาข้าราชการเป็นระบบประกันภาครัฐที่มีมานานที่สุดโดยสงวนเอาไว้เฉพาะข้าราชการและครอบครัวแต่กลับใช้ภาษีของคนทั้งประเทศแบกรับซึ่งถ้าต้องการให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้นข้าราชการควรแบกรับค่ารักษาบางส่วนและมีนโยบายการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีกว่านี้ อย่างไรก็ตามการออกนโยบายลดสวัสดิการรักษาเป็นไปได้ยากทุกรัฐบาลเพราะข้าราชการเป็นกลุ่มที่มีอำนาจต่อรองทางการเมืองสูงเมื่อเทียบกับระบบอื่น คือสหภาพแรงงานจากประกันสังคม และประชาชนจากระบบสามสิบบาทในระบบประกันสังคมรายได้ของระบบมาจากการหักสัดส่วนของเงินเดือนและเงินอุดหนุนจำนวนเท่ากันจากรัฐและผู้ประกอบการ ปัญหาที่จำกัดสิทธิประโยชน์ของระบบประกันสังคมไม่ทัดเทียมกับสวัสดิการข้าราชการคือปัญหาด้านงบกองทุน รายรับของกองทุนเพิ่มขึ้นไม่ทันราคาค่ารักษาพยาบาลที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ระบบประกันสังคมให้สิทธิเฉพาะลูกจ้างที่มีเงินเดือนเท่านั้น ลูกจ้างที่ไม่มีเงินเดือน เช่นเกษตรกร เจ้าของร้านค้าเล็กๆหรือ อาชีพอิสระไม่สามารถร่วมด้วยได้ โดยที่ประเทศไทยมีแรงงานที่อยู่ในรูปเงินเดือนและมีเศรษฐกิจที่เก็บภาษีได้ประมาณครึ่งหนึ่ง ทำให้จำนวนของคนที่จ่ายเบี้ยประกันน้อยลงมานอกจากนี้นโยบายภาครัฐที่กดค่าแรงมาหลายทศวรรษเพื่อดึงดูดนักลงทุนและสร้างผลกำไรให้เจ้าของ ส่งผลให้ฐานเงินเดือนน้อยและเบี้ยประกันสังคมก็น้อยตามมา และเมื่อฐานเงินเดือนน้อยก็ส่งผลให้ไม่สามารถหักเบี้ยประกันเป็นสัดส่วนที่สูงได้ ระบบประกันสังคมไทยหัก5%ของเงินเดือน ในขณะที่เบี้ยประกันประกันสังคมฝรั่งเศสประมาณ 20% ของเงินเดือน นอกจากนี้เบี้ยประกันสังคมก็ไม่เป็นอัตราก้าวหน้าคือไม่เก็บคนที่มีเงินเดือนสูงกว่าในอัตรามากกว่า ลูกจ้างที่มีเงินเดือน 1650-15000 บาทจ่ายเบี้ยประกัน 5%ของเงินเดือน และถ้าเงินเดือนสูงกว่า 15000 บาทจ่ายเบี้ยประกันอัตราคงที่ 750 บาทต่อเดือนเนื่องจากไทยมีแรงงานที่ไม่อยู่ในระบบเงินเดือนเป็นจำนวนมาก ทำให้ก่อนมีนโยบายสามสิบบาท ประชากรกว่า 30% ของประเทศไม่มีประกันสุขภาพทั้งจากรัฐและเอกชน นโยบายสามสิบบาทเข้ามาอุดช่องว่างตรงนี้โดยนำภาษีของประชาชนทั้งประเทศเข้ามาเป็นค่าใช้จ่าย สาเหตุด้านการเงินทำให้จำกัดสิทธิประโยชน์ของระบบสามสิบบาท และสร้างความกังวลว่าระบบรักษาพยาบาลภาครัฐจะล้มละลายเพื่อให้ระบบสามสิบบาทมีสิทธิประโยชน์เท่าสวัสดิการข้าราชการ รัฐจำเป็นต้องอัดฉีดเงินภาษีเข้าระบบสามสิบบาทเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งรัฐบาลมีศักยภาพที่ทำได้โดยการหั่นงบประมาณกระทรวงอื่นที่ไม่จำเป็นและเพิ่มให้ระบบสามสิบบาท หรือเปลี่ยนระบบเก็บภาษีใหม่เพิ่มรายได้เข้าคลัง โดยที่ปัจจุบันรัฐเก็บภาษีแค่ 50% ของที่ควรจะได้ และไม่มีการเก็บภาษีเพื่อกระจายความมั่งคั่งให้เท่าเทียมกัน เช่นไม่มีภาษีมรดกและที่ดินกล่าวโดยสรุปความไม่เท่าเทียมกันในระบบประกันสุขภาพภาครัฐ มีสาเหตุมาจากความไม่เท่าเทียมกันในชนชั้นสังคม และความไม่เท่าเทียมกันด้านกระจายความมั่งคั่ง
|
นโยบายเมดิคัลฮับเป็นนโยบายที่ริเริ่มในสมัยรัฐบาลทักษิณเมื่อปี 2546
|
คุณภาพชีวิต,เศรษฐกิจ
|
ความไม่เท่าเทียม,ประกันสังคม,ประกันสุขภาพ,ภาคภูมิ แสงกนกกุล,ระบบบริการสุขภาพ,เมดิคัลฮับ,เศรษฐศาสตร์,โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค
|
https://prachatai.com/journal/2012/09/42797
|
สลด จนท.ป่าไม้ขับรถไถเหยียบกับระเบิดทำลายรถถังเสียชีวิตแล้ว
|
เวลา 16.30 น. วันที่ 6 ก.ย. 58 ที่บ้านเลขที่ 13/3 หมู่ 3 ต.เมืองน้อย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นายชัชวาล อินทุมาร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พนมดงรัก จ.ศรีสะเกษ พร้อมเจ้าหน้าที่ และญาติ ได้นำร่างของนายอนุชา เชียงเครือ อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่ ทีมสื่อความหมายทางธรรมชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดังรัก ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการขับรถไถปรับผืนดิน เพื่อปลูกหญ้าไว้ให้สัตว์ป่ากิน แต่รถไถเกิดไปเหยียบทับกับระเบิด ทำลายรถถังซึ่งเป็นกับระเบิดชนิดที่รุนแรงมาก จึงเป็นเหตุให้รถไถพังยับเยิน,ซึ่งนายอนุชา ได้รับบาดสาหัส แพทย์ต้องตัดขาซ้ายออกไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2558 ที่บริเวณ ป่าทุ่งกะบานกะใบ เขตท้องที่ ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พื้นที่ดังกล่าว อยู่ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 3 กม. ถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี และได้เสียชีวิตลงเมื่อเวลา 10.15 น.วันนี้ (6 ก.ย.58) อายุได้ 27 ปีเต็ม ซึ่งการเคลื่อนขบวนศพมาได้มีการนำธงชาติไทย คลุมหีบบรรจุศพอย่างสมเกียรติ,นายอนุชา เชียงเครือ เกิดวันที่ 6 กันยายน 2531 ที่บ้านเลขที่ 13/3 หมู่ 3 ตำบลเมืองน้อย อำเภอกันทรารมย์ เป็นบุตรของ คุณพ่อบุญล้ำ คุณแม่สวรรณี เชียงเครือ เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 2 คน ปัจจุบัน นายอนุชา ได้สมรสกับ นางสาวสมใจ น้ำกรอง อายุ 27 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ ตำบลบักดอง อำเภอขุนหาญ กำลังตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน,นายชัชวาล อินทุมาร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก กล่าวว่า นายอนุชา ได้เข้าทำงานที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรักตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2557 ในตำแหน่งพนักงานจ้างเหมาบุคคลภายนอก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พนมดงรัก ได้เสียชีวิตลงระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ขณะขับรถไถเข้าไปเตรียมพื้นที่สำหรับ เป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่า ในด้านการช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิต ทางราชการ จะช่วยเหลือบุตรของผู้เสียชีวิตโดยส่งให้เรียนหนังสือจนจบการศึกษา ระดับปริญญาตรี,นายวิชิต จิรมงคลการ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี กล่าวว่า การช่วยเหลือในด้านครอบครัวของผู้เสียชีวิต ในเบื้องต้น กองทุนช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ซึ่งประสบเหตุจากการปฏิบัติหน้าที่ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบเงินช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต 50,000 บาท กองทุนช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ซึ่งประสบเหตุจากการปฏิบัติหน้าที่ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มอบเงินช่วยเหลือ 100,000 บาท กองทุนช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ซึ่งประสบเหตุจากการปฏิบัติหน้าที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี และนอกจากนั้น ก็จะมีมูลนิธิต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร มูลนิธิเขาใหญ่ ที่จะให้ความช่วยเหลือ,นอกจากนั้น พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ส่งพวงหรีดมาร่วมแสดงความเสียใจด้วย,ด้านนางสาวสมใจ น้ำกรอง ภรรยาของนายอนุชา กล่าวว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่า สามีประสบเหตุ ตนตกใจมาก แต่ก็คิดว่า คงแค่บาดเจ็บ คงไม่ถึงกับเสียชีวิต แต่พอถึงเวลา 10.15 น. วันนี้ พี่เขาก็สิ้นลม ตนเสียใจมาก ซึ่งมีลูกด้วยกันยังอยู่ในท้องได้ 7 เดือน ทั้งลูกทั้งพ่อ ไม่ได้เห็นหน้ากัน ลูกกำพร้าพ่อ ตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง ตนมีอาชีพค้าขาย พ่อของลูกทำงานตรงนี้ ซึ่งตนยังไม่รู้ว่าจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร.
|
แพทย์ช่วยยื้อชีวิตสุดกำลัง เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก จ.ศรีสะเกษ เสียชีวิตแล้ว หลังจากขับรถไถปรับดิน เหยียบกับระเบิดในป่าใกล้ ชายแดนไทย-กัมพูชา
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
กับระเบิด,รถไถ,เหยียบกับระเบิด,เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก,ศรีสะเกษ,เสียชีวิต,รถไถปรับดิน,จนท.ป่าไม้,ชัชวาล อินทุมาร,ร่างไร้วิญญาณ,อนุชา เชียงเครือ,บาดเจ็บ,ทำลายรถถัง,ขุนหาญ,ชายแดน,ไทย-กัมพูชา,สรรพสิทธิประสงค์,อุบลราชธานี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ภูมิภาค,ทั่วไทย,เจ้าหน้าที่ป่าไม้,กรมป่าไม้,กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
|
https://www.thairath.co.th/news/local/523385
|
โตโน่ บริสุทธิ์ใจลงรูปคู่ แพท แม่เชียร์ให้คบแต่ยังไม่พร้อม
|
ปลื้มฝ่ายหญิงหัดเล่นกีตาร์โปร่งจนนิ้วด้าน เพื่อมาร้องเพลงด้วยกันในงาน,เพราะลงรูปคู่กันในอินสตาแกรม งานนี้เลยทำให้หลายคนสงสัยความสัมพันธ์ของ โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ และแพท ณปภา ตันตระกูล ว่าสรุปแล้วคบกันหรือยัง เมื่อหนุ่มโตโน่มาร่วมงานนิทรรศการภาพถ่าย คิดถึงปอ รวมภาพประทับใจของพระเอก ปอ-ทฤษฎี ที่เซ็นทรัลเอ็มบาสซี หนุ่มโตโน่จึงเผยถึงเรื่องนี้ว่า,ล่าสุดโตโน่โพสต์รูปในไอจีคู่แพท แคปชั่นหวาน? เราไปถ่ายรายการตีสิบ แล้วผมอยากให้ทุกคนเห็นว่าผมบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มีอะไรที่เราจะพูดถึงกันไม่ได้ในแคปชั่นผมก็บอกว่าเราเป็นเพื่อนที่ดี ทุกอย่างยังเป็นเหมือนเดิม อย่างที่ผมเคยบอกว่าในเรื่องของหัวใจเรื่องของความรักผมขอพักก่อนแต่แพทก็เป็นอีกกำลังใจหนึ่งของผม ความหวังดีที่เรามีให้กัน ความปรารถนาดีผมคิดว่าเป็นสิ่งที่เราควรเก็บไว้ ส่วนในเรื่องที่จะให้เป็นแฟนกันเลยมันเป็นไปไม่ได้หรอก อย่างในรายการผมเพิ่งมาทราบว่าเค้าไปหัดเล่นกีตาร์โปร่งจนมือด้าน เพื่อที่จะได้ร้องเพลงที่อยากจะร้องกับเรา เราก็เลยรู้สึกว่าเราขอบคุณมาก ทุกๆ อย่างรวมทั้งการกระทำ แพทจริงใจกับตัวเองมากๆ และจริงใจกับเรามากๆ ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะดูฟอร์ม วางฟอร์มฉันก้อดัง แต่กับแพท ผมยอมรับในน้ำใจที่เค้ามีให้ผม ได้เห็นที่แพทโพสต์บ้างไหม? อ่านครับ ก็รู้สึกดี ผมว่าผมกับแพทเข้าใจกันนะว่าเราอยากจะขอบคุณหลายๆ คนที่รักเรา ชีวิตผมมันก็ล้มลุกคลุกคลาน ตัวแพทเองก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอปัญหา วันนึงเรามีคนมารักเราทั้งสองคนมากขนาดนี้ มันก็เป็นเรื่องดีเป็นเรื่องที่ชื่นใจ เราก็ลงรูปใครอยากให้แฟนๆ มีความสุข ส่วนตัวเราเองจะลงรูปหรือไม่ลงรูปเราก็มีความปรารถนาดีให้กันอยู่แล้ว เราโตกันแล้วมีอะไรคุยกันได้หมดแล้วก็บริสุทธ์ใจทั้งสองคน,เรียกว่าโอกาสพัฒนาเป็นศูนย์เลยเหรอ? ในเรื่องของอนาคตมันไม่มีใครรู้ได้ มันยังตอบไม่ได้ ผมตอบได้แค่ว่าตอนนี้งานผมหนักมาก เรื่องความรักเลยไม่ต้องการจะมากำหนดว่าต้องมีหรือไม่มีถ้ามันจะเจอหรือถ้ามันจะรักหรือถ้าวันหนึ่งเปลี่ยนสถานะ ผมบอกแต่ว่าตอนนี้มันยังไม่ใช่ คนแซวว่ารูปหวานเหมือนเป็นแฟนกันเลย? คนแซวเค้ารักเขาก็มีความสุขที่เขาได้เห็นภาพเพราะเค้ารอมานาน เป็นรูปแรกที่ลงแล้วมีหลายกระแสข่าวเข้ามามาก ว่างานจ้างเรายากมาก ค่าตัวสูงมาก ผมก็เลยรู้สึกว่างั้นผมตอบรับไปรายการตีสิบ ผมไปให้ไม่เอาค่าตัวเลย เพราะว่าผมบริสุทธิ์ใจ เราทำงานด้วยกันก็ไม่เห็นจะแปลกที่จะลงภาพคู่ด้วยกัน และที่สำคัญเราไม่ได้เป็นศัตรู เราเป็นมิตร และเป็นมิตรแท้ด้วย ก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าต้องห่วงอะไร คอมเมนต์ก็มีแต่คอมเมนต์ดีๆ อาจจะกดดันหน่อยที่คนรักเราเยอะมาก หมายถึงคนอยากให้เราเป็นแฟนกัน แบบนี้ผมก็เป็นห่วงว่าถ้าวันหนึ่งแพทมีแฟนหรือผมมีแฟน เราจะไม่เละเหรอ อยากจะถามทุกคนกลับไปเหมือนกันว่า จะยังรักเราสองคนอยู่ไหม ถ้าเราไม่ได้เป็นแฟนกัน นี่คือคำถามในใจ,เหมือนแม่ก็สนับสนุนให้มีแฟน?,จริงๆ แม่ไม่ได้สนับสนุนอะไรหรอกครับ แต่ผมโตแล้ว แม่ไม่ห้ามเรื่องนี้หรอก แม่เค้าแล้วแต่ผมเพราะผมโตแล้ว ถามว่าจะขัดขวางมั้ยก็ ไม่ขัดขวาง แม่เห็นว่าคนรักเราเยอะ แม่ก็เชียร์แพทหมายถึงเชียร์อยากให้เค้ามีงานเยอะๆ เพราะแม่ผมก็รู้ว่าแพทกตัญญูกับแม่ของเค้า เป็นกำลังใจให้กันแบบนี้ดีแล้วครับ,แล้วแม่เชียร์แพทให้โน่มั้ย? ไม่หรอกครับ แม่แล้วแต่ผม แต่ก็มีพูดว่าถ้าคบเค้าก็อย่าทำให้เค้าเสียใจเด้อ ผมก็บอกแม่ว่าใจเย็นๆ หาเงินก่อนแม่ก็เอ็นดูแพทเพราะก็ตลกดีครับ ส่วนตัวผมถามว่าเปิดใจมั้ยอันนี้ยังไม่ทราบเลย ตอนนี้มีแต่ทัวร์คอนเสิร์ตเดือนหน้าละครก็จะออนแล้ว ปลายเดือนก็ต้องเริ่มถ่ายละครช่องสาม จะเข้ามาตอนไหนก็ค่อยว่ากัน,ถามถึงเรื่องร้องเพลงให้แฟนเก่า? บอกว่าให้แฟนเก่าทุกๆ คน แต่ด้วยความเป็นธรรมชาติถ้าเราลงข่าวแบบนั้นมันก็ไม่มีอะไรตื่นเต้น ก็ต้องมีบ้างที่จะลงข่าวว่าผมมอบให้แฟนเก่าของผม คนดูตั้งหลายคนและแฟนเก่าผมก็มีตั้งกี่คน แฟนเก่าผมมีตั้งหลายคน ถ้าจะโยงอย่าโยงมั่ว แต่แฟนเก่าคนล่าสุดบอกว่ารับทราบแล้วขอบคุณนะ?เหรอครับ ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะแฟนเก่าผมอีกคนก็มาเมนต์ เพราะผมไม่ได้เจาะจงใครเป็นพิเศษ เราโตกันหมดแล้ว เรารู้ว่าการเล่นคอนเสิร์ตเราต้องอินไปกับคนดู อย่าเอามาเป็นประเด็นเลย,เรามีข่าวกับแพทเยอะเกรงใจคนที่แพทคุยอยู่มั้ย? ผมให้เกียรติคนทุกคน แต่ผมคิดว่าการวางตัวของผมและแพทคนที่โตแล้วทุกคนเข้าใจได้นะ ถามว่ารู้มั้ยว่าแพทมีคนคุยอยู่ ผมว่าคนเราโตแล้วแน่นอนต้องมีคนมาคุยมาจีบ แต่ถ้าจะมาหึงมาหวงผมบอกเลยว่าไม่ต้องห่วง ถ้าผมจีบผมก็บอกว่าจีบ แต่นี่ยังครับ.
|
โตโน่ ภาคิน เผยลงรูปคู่ แพท ณปภา เพราะบริสุทธิ์ใจ บอกเป็นกำลังใจให้กัน ส่วนความสัมพันธ์จะพัฒนาเป็นแฟนหรือไม่ ณ ตอนนี้ยังเป็นไปไม่ได้ บอกแม่เชียร์ถ้าหากจะคบห้ามทำให้เค้าเสียใจ แต่ตนยังไม่พร้อม
| null |
โตโน่,โน่แพท,แพทโน่,โตโน่ เดอะสตาร์,โตโน่ ภาคิน,แพท ณปภา,ณปภา ตันตระกูล,คิดถึงปอ,โตโน่ถ่ายรูปคู่แพท,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/611541
|
ปฏิรูป ตร.จัดเต็มชงยกเครื่องใหญ่โรงพักทั่วประเทศ สร้างมาตรฐานบริการ ปชช.
|
สอบ,เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 61 นายมานิจ สุขสมจิตร ประธานอนุกรรมการด้านสื่อสารกับสังคม กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ซึ่งมี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธาน ได้มีการพิจารณาข้อเสนอของคณะอนุกรรมการ ด้านอำนาจหน้าที่และภารกิจตำรวจในหัวข้อ การเพิ่มประสิทธิภาพ สถานีตำรวจ โดยมีเป้าหมายสำคัญ ๕ ประการ คือ (๑) ทำให้มั่นใจว่าสถานีตำรวจมีทรัพยากรเพียงพอ มีความพร้อมต่อการปฏิบัติงาน ในระดับพื้นที่ มีความทันสมัยรองรับกับโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง และสามารถรับมือกับอาชญากรรมใหม่ๆ ได้ (๒) วางมาตรฐานการปฏิบัติงานในกระบวนการต่างๆ ที่ชัดเจน เพื่อให้การปฏิบัติงานในระดับสถานีตำรวจมีความเป็นมืออาชีพ (๓) มีระบบควบคุมคุณภาพภายในโดยผ่านกลไกเจรตำรวจที่ได้รับการออกแบบใหม่ (๔) ให้สามารถทำงานเป็นเครือข่าย และเปิดให้ภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานของตำรวจ ตามแนวทางประชารัฐ โดยเฉพาะการสมทบทรัพยากร และ (๕) สามารถวัดผลงานและผลสัมฤทธิ์ได้อย่างเปิดเผย โปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล,ทั้งนี้ในการนำเสนอนั้น นายมนุชย์ วัฒนโกเมร ประธานอนุกรรมการด้านอำนาจหน้าที่และภารกิจตำรวจ และ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ อนุกรรมการได้แสดงให้เห็นถึงกระบวนการในการเพิ่มประสิทธิภาพสถานีตำรวจทั่วประเทศ ๑,๔๐๐ สถานี มีทั้งหมด ๗ ประการคือ (๑) พัฒนามาตรฐานการปฏิบัติงานสำหรับสถานีตำรวจโดยจัดทำเป็นคู่มือการปฏิบัติงาน โดยต้องสามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ เช่น การแจ้งเอกสารหาย การเปรียบเทียบปรับตามใบสั่งให้เสร็จภายใน ๓๐ นาฑี การขอสำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดีให้เสร็จภายใน ๒ ชั่วโมง เป็นต้น (๒) ปรับปรุงพันธสัญญาการให้บริการให้เป็นระบบ และเป็นมาตรฐานเดียวกันในทุกสถานี และให้มีสำนักงานเจรตำรวจเป็นหน่วยงานติดตาม และจัดทำระบบการติดตามตรวจสอบการปฏิบัติงาน (๓) พัฒนาระบบควบคุมภายในโดยเฉพาะการตรวจสอบการดำเนินงานของสถานีตำรวจ ซึ่งจะแบ่งเป็น ๓ ขนาดคือ ขนาดเล็ก (S) มีกำลังพล ๕๐-๗๐ นาย ขนาดกลาง (M) มีกำลังพล ๑๐๐-๑๒๐ นาย และขนาดใหญ่ (L) มีกำลังพล ๑๘๐-๒๐๐ นาย ให้เป็นไปตามนโยบายและระเบียบปฏิบัติ ทั้งนี้ เพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการจัดทำงบประมาณของ สถานีตำรวจ ให้กองบัญชาการที่ได้รับการกระจายอำนาจแบบบูรณาการไม่ให้เป็นภาระของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตัองไปแสวงหาทรัพยาการจากบุคคลภายนอก ทำให้เกิดระบบอุปถัมภ์ติดตามมา (๔) ควรปรับปรุงและพัฒนาระบบการตรวจสอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้สำนักงานจเรตำรวจเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติราชการของสถานีตำรวจทั้ง ๑,๔๐๐ สถานีทั่วประเทศ (๕) การพัฒนาสถานีตำรวจ ให้เป็นสถานีทันสมัย โดยนำเอาเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ เช่น ระบบสายตรวจ GPS (การตรวจสอบพิกัดด้วยดาวเทียม) และการนำโดรนมาใช้ในการแก้ปัญหาจราจร และการตามจับผู้ต้องหา (๖) จัดตั้ง คณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนกิจการตำรวจระดับสถานี เพื่อสร้างความร่วมมือและเครือข่ายตำรวจในระดับพื้นที่ตามโมเดล ประชารัฐ เป็นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม รวมทั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการรักษาความปลอดภัยในเขตรับผิดชอบของสถานี (๗) ยกเลิก กต. ตร.ประจำสถานีตำรวจ โดยให้มี คณะกรรมการติดตามตรวจสอบและส่งเสริมการบริหารกิจการที่ดีของตำรวจประจำจังหวัด เพื่อให้สอบทาน และกำกับดูแลการปฏิบัติราชการของสถานีตำรวจ,นอกจากนี้ ที่ประชุมได้อภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในเรื่องหน่วยงานที่จะทำหน้าที่ในการวางแผนพัฒนาองค์การตามหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีอย่างเป็นระบบ เกิดความต่อเนื่องความยั่งยืน รวมทั้งทำหน้าที่ในการปรับปรุงระบบบริหารงานและการบริการประชาชนให้มีความทันสมัยนั้น ที่ประชุมเห็นว่าไม่ควรตั้งหน่วยงานขึ้นมาใหม่เพื่อทำหน้าที่ดังกล่าว และประธานอนุกรรมการด้านอำนาจหน้าที่และภารกิจตำรวจรับเอาความเห็นเหล่านั้นไปปรับปรุง เช่น อาจให้สำนักยุทธศาสตร์การตำรวจทำหน้าที่ดังกล่าวก็ได้ แล้วนำมาเสนอในการประชุมคราวหน้า
|
กก.ปฏิรูปตำรวจชง ยกเครื่อง โรงพักทั่วประเทศ แบ่ง 3 ขนาด สร้างมาตรฐานบริการประชาชน ทำคู่มือปฏิบัติหน้าที่ในสถานีตำรวจ กำหนดเวลาคดีต้องเสร็จ นำเทคโนโลยีใช้เพิ่มประสิทธิภาพ เสนอยกเลิก กต.ตร.แต่ดึง ปชช.-เอกชน-ท้องถิ่น ร่วมตรวจ
|
ข่าว,การเมือง
|
มานิจ สุขสมจิตร,กก.ปฏิรูปตำรวจ,ปฏิรูปตำรวจ,ตำรวจ,ตร.,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1198783
|
ไม่เอาเพิ่มโทษใบขับขี่ นายกฯ สั่งศึกษาใหม่ เชื่อไม่ได้ช่วยลดอุบัติเหตุ
|
เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2561 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกรมการขนส่งทางบก เสนอปรับแก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 และพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 เพิ่มโทษบุคคลที่ไม่พกใบอนุญาตขับขี่ ว่า เป็นข้อเสนอของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยรัฐบาลจะต้องนำไปศึกษาว่าเหมาะสมหรือไม่ แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะผลของกฎหมายฉบับดังกล่าวมีประโยชน์เพียงเรื่องเดียวคือให้คนมีความรับผิดชอบมากขึ้น แต่ไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องของการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุ ดังนั้นที่โซเชียลมีเดียนำคลิปอุบัติเหตุมาเผยแพร่และอ้างว่าเป็นผลจากการไม่พกใบอนุญาตขับขี่เป็นคนละเรื่องกัน จึงขออย่าสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน ไม่อย่างนั้นวันข้างหน้าก็จะแก้ไขปัญหาไม่ได้ ทุกอย่างต้องอาศัยกฎหมายและดูความเหมาะสมจึงไม่เห็นด้วยกับประเด็นนี้และต้องหารือกันต่อไป พร้อมขออย่าขัดแย้งกันในเรื่องนี้อีกเพราะรัฐบาลยังไม่ได้มีการอนุมัติกฎหมายดังกล่าว,นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การเพิ่มโทษปรับสำหรับผู้ที่ไม่พกพาใบขับขี่ ที่มีค่าปรับสูง จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์นั้น เป็นแนวคิดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งรัฐบาลต้องนำมาพิจารณาว่ามีความเหมาะสม ถูกต้องหรือไม่อย่างไร ส่วนตัวยังไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว เพราะจะต้องนำประเด็นอื่นๆ มาพิจารณาด้วย ดังนั้นประเด็นนี้ บอกได้ว่าผู้ขับขี่ ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น เช่นเดียวกับการต่อทะเบียนรถ ทั้งนี้ไม่อยากให้นำข้อมูลไปเปรียบเทียบและขยายความจนเกิดความเข้าใจผิดในโลกโซเชียล ซึ่งจะส่งผลต่อการแก้ปัญหาในอนาคต ยืนยันว่าวันนี้ยังไม่มีการอนุมัติ ออกกฎหมายหรือข้อกำหนดใดๆ ทั้งสิ้น.
|
นายกรัฐมนตรี ไม่เห็นด้วยปรับ 5 หมื่นคนไม่มีใบขับขี่สั่งศึกษาใหม่ วันนี้ไม่อนุมัติเชื่อไม่ช่วยลดปัญหาอุบัติเหตุ ขออย่าเอาข้อมูลไปขยายผลสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชนจนเกิดความขัดแย้ง
|
ข่าว,การเมือง
|
ใบขับขี่,นายกรัฐมนตรี,เพิ่มโทษปรับ,ไม่พกใบขับขี่,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1363877
|
โรมัน เปลี่ยนโค้ชทำมวยแพ้ 4 คนรวด เสี่ยฮุย มั่นศรีสะเกษจะย้ำแค้น
|
โรมัน กอนซาเลซ ผู้ท้าชิงเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นซุปเปอร์ฟลายเวทชาวนิคารากัว เปลี่ยนโค้ชอีกครั้งเป็นชาวญี่ปุ่นที่ทำมวยแพ้มา 4 คนรวดซึ่ง เสี่ยฮุย สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ผู้จัดการทีมของ เจ้าแหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น มั่นใจจะย้ำแค้นได้แน่.,,ความเคลื่อนไหวศึกป้องกันแชมป์โลกรุ่นซุปเปอร์ฟลายเวทสภามวยโลกของ เจ้าแหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น เจ้าของเข็มขัดชาวไทย ที่จะป้องกันแชมป์โลกกับคู่ปรับเก่า ไอ้ช็อกโกแล็ต โรมัน กอนซาเลซ อดีตแชมป์โลก 4 รุ่นจากนิการากัว ในคืนวันที่ 9 ก.ย. (ตรงกับเช้าวันที่ 10 ก.ย. ตามเวลาเมืองไทย) ที่สตับฮับ เซ็นเตอร์เตอร์ เมืองคาร์สัน ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ช่อง 3 HD (33) ถ่ายทอดสดเวลา 10.00 น.เป็นต้นไป,ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่น การฟิตซ้อมยังมี 2 มื้อตามปกติ โดยรอบเช้าเวลา 10.00 น. ส่วนรอบค่ำเวลา 19.00 น. กับเทรนเนอร์คู่ใจ โค้ชป๊อบ โชคชัย พิสิฐวุฒินันท์ ซึ่งมี เสี่ยฮุย สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ผู้จัดการ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด หลังการซ้อม โค้ชป๊อบ กล่าวว่า ถึงวันนี้ต้องยอมรับว่าศรีสะเกษปรับตัวเข้ากับเวลาท้องถิ่นรวมถึงสภาพแวดล้อมของสหรัฐฯได้อย่างหมดจด ไม่มีอาการอ่อนเพลียหรือง่วงนอนแต่อย่างใด ซ้อมทุกมื้อเต็มที่ตลอดและไม่มีอาการอ่อนแรงหรือโหยแต่อย่างใด แถมยังออกหมัดได้อย่างไหลลื่น มีพลังหมัดที่หนักหน่วง แม่นยำ โดยเฉพาะแผนเด็ด หมัดเด็ดต่างๆ ที่เตรียมฝึกมาใช้ในไฟต์นี้ เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบและพร้อมกว่าเมื่อคราวที่มาได้แชมป์จากโรมัน กอนซาเลสเสียอีก,ขณะที่ เสี่ยฮุย สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ เปิดเผยว่า ยิ่งใกล้วันชก ตนก็ยิ่งมั่นใจว่าศรีสะเกษจะย้ำแค้น โรมันได้อีกหน เพราะศรีสะเกษซ้อมดีมาก มีความฮึกเหิม และความมุ่งมั่นสูง สภาพร่างกายสมบูรณ์กว่าไฟต์แรก อีกทั้งตนยังเชื่อว่า โรมัน กอนซาเลซ อดีตแชมป์โลก 4 รุ่น ที่เป็นแชมป์โลกมาตั้งแต่รุ่นมินิมัมเวทมีปัญหาในการขยับมาชกในรุ่นซุปเปอร์ ฟลายเวท เพราะต้องทำน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก ทำให้ร่างกายดูฉุ ไม่รวดเร็วเหมือนก่อน ตนเห็นว่าโรมันควรต่อยอยู่ในรุ่น 112 ปอนด์ จะเหมาะสมที่สุด ขณะที่ศรีสะเกษเป็นนักมวยรุ่น 115 ปอนด์ โดยธรรมชาติอยู่แล้ว,โปรโมเตอร์นครหลวง กล่าวอีกว่า โรมัน มีปัญหาเปลี่ยนเทรนเนอร์บ่อย เดิมทีมีพ่อเป็นเทรนเนอร์ แต่หลังไฟต์ชนะคาร์ลอส คูเอดราส จากเม็กซิโก พ่อมาเสียชีวิต จึงให้ผู้ช่วยเทรนเนอร์ ชาวนิการากัวมาเป็นโค้ช แต่มาพ่ายศรีสะเกษจึงปลดโค้ชออกอีก แล้วมาใช้โค้ชญี่ปุ่นของไทเก้น โปรโมชั่น เซ็นได ทานากะ เป็นเทรนเนอร์ ซึ่งแม้เซ็นไดเคยเป็นเทรนเนอร์ของแชมป์โลกดังมาหลายคน แต่ช่วงหลังฝีมือตก ทำมวยญี่ปุ่นแพ้ในไฟต์ชิงแชมป์โลกมา 4 คนรวด และตนมั่นในว่าจะทำมวยแพ้เป็นคนที่ 5 อีก คือทำโรมันพ่าย ศรีสะเกษในไฟต์นี้,ส่วนความคืบหน้าไฟต์ตัดเชือกรุ่นฟลายเวทสหพันธ์มวยนานาชาติ ระหว่าง เจ้าโต้ เอกตะวัน BTU เรือไวกิ้ง กับฮวน คาร์ลอส เรเวโค นักชกเจ้าถิ่น วันเสาร์ที่ 9 ก.ย. ที่เมืองเมนโดซา อาร์เจนตินา ล่าสุด เอกตะวันยังคงซ้อมเข้มอยู่ในโรงแรมที่พัก ภายใต้การดูแลของ มร.ไรอัน แมนตัน เทรนเนอร์ชาวอังกฤษ หลังจากทดสอบน้ำหนัก ปรากฏว่าชั่งได้ 114 ปอนด์ ยังเกินอยู่ 2 ปอนด์ แต่ ดร.จิมมี่ เอกรัฐ ไชยโชติช่วง ผู้จัดการ ยืนยันไม่เป็นปัญหา เพราะใช้หลักโภชนาคอยควบคุม อีกทั้งสภาพอากาศที่เมืองเมนโดซา ไม่เย็นมากนักสามารถทำน้ำหนักได้ไม่ยาก มั่นใจถึงชกผ่านฉลุย
|
โรมัน กอนซาเลซ ผู้ท้าชิงเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นซุปเปอร์ฟลายเวทชาวนิคารากัว เปลี่ยนโค้ชอีกครั้งเป็นชาวญี่ปุ่นที่ทำมวยแพ้มา 4 คนรวดซึ่ง เสี่ยฮุย สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ผู้จัดการทีมของ เจ้าแหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น มั่นใจ
|
กีฬา,มวย/MMA
|
ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น,สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์,โรมัน กอนซาเลซ,โชคชัย พิสิฐวุฒินันท์,ซุปเปอร์ฟลายเวทสภามวยโลก
|
https://www.thairath.co.th/sport/boxing-mma/1062294
|
เจอเศษหนังนิ้วโป้งระบุตัวตน ศพ สาวเล็บแดง (คลิป)
|
ท้องที่ทำงานรอบคอบ นำส่งนิติเวชตรวจสอบ พบว่าเป็นชาวสระแก้ว,เผยสาวเล็บแดงเหยื่อฆาตกร,ฆ่าหั่นศพ,เป็นสาวใหญ่จังหวัดสระแก้วเคยอยู่กินกับอดีตทหารเกณฑ์มีลูกด้วยกัน 3 คน แต่ภายหลังเลิกรากัน ผู้ตายเลยออกจากบ้านไปตั้งแต่ปี 2560 เพื่อทำงานหาเงินใช้หนี้ เนื่องจากเป็นหนี้กองทุนหมู่บ้านและหนี้นอกระบบก้อนใหญ่แต่ไปแล้วไม่เคยกลับมาบ้านจนกลายเป็นเหยื่อฆ่าหั่นศพ เผยหลังมาอยู่เมืองกรุงเก่าได้สามีเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ตำรวจกำลังตามตัวสอบสวน,กรณีพบศพสาวเล็บแดงถูกฆ่าหั่นศพจนเหลือแต่โครงกระดูกยัดใส่ถุงพลาสติก 2 ใบลอยในคลองโคกมะยม หมู่ 6 ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เบื้องต้นคาดเหยื่อถูกฆ่าหั่นศพจากที่อื่นนำมาทิ้งไว้นานไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์และถูกตัวเงินตัวทองกับสัตว์เลื้อยคลานแทะกินเนื้อจนเหลือแต่กระดูกกับเล็บที่ทาสีแดงแต่ไม่มีหลักฐานว่าเป็นใครมาจากไหน,ต่อมาเวลา 10.30 น. วันที่ 27 เม.ย. พ.ต.อ.สมิทธิ สารอต ผกก.สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยาได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์พร้อมชุดประดาน้ำลงงมหาชิ้นส่วนเพิ่มเติมในคลองโคกมะยมรวมทั้งหาหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งแต่จากการค้นหาไม่พบหลักฐานอื่นใดเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.พีรพัสส์ ชูช่วย รอง ผกก. (สส.) สภ.อุทัย พร้อมชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่กระจายกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกที่พบโครงกระดูก และออกหาข่าวในพื้นที่ ตามแคมป์คนงานและพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อหาข้อมูลคนหายแต่ไม่มีวี่แววใดๆ,อย่างไรก็ตาม จากการชันสูตรเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบส่วนผิวหนังนิ้วโป้งซ้ายซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นเดียวที่ชัดเจนที่สุดจึงได้ส่งผิวหนังลายนิ้วมือส่งไปสแกนทางวิทยาศาสตร์ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อเชื่อมโยงว่าผู้ตายเป็นใคร ส่วนถุงใส่โครงกระดูกที่พบนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าซื้อมาจากที่ไหนเป็นถุงลักษณะค่อนข้างเก่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนหาแหล่งที่มารวมทั้งจุดที่ลงมือฆ่าหั่นศพยังไม่ชัดเจนว่าก่อเหตุจากพื้นที่ใดก่อนนำศพมาทิ้งในบริเวณดังกล่าว,หลังจากการตรวจสอบลายนิ้วมือไปสแกนตรวจสอบแล้วทราบผู้ตายชื่อนางจำปี หอมชวน อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 3 ต.หนองแวง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าวพบถูกปิดไว้ สอบถามนายธนากร หอมชวน อายุ 23 ปี หลานของนางจำปี เปิดเผยว่า นางจำปีเคยมีสามีเป็นอดีตทหารเกณฑ์มีลูกด้วยกัน 3 คน แต่ภายหลังได้เลิกกับสามีไปและหายออกจากบ้านไปตั้งแต่ปี 2560 ไม่เคยกลับมาเยี่ยมบ้าน ส่วนลูกทั้ง 3 คนอยู่กับอดีตสามีอีกแห่งหนึ่ง,ขณะที่นายวันชัย เพชรสิน ประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้าน หมู่ 3 ต.หนองแวง กล่าวว่า ก่อนออกจากบ้านไปทราบว่านางจำปีเป็นหนี้กองทุนหมู่บ้าน 100,000 บาทกับหนี้นอกระบบอีก 80,000 บาท โดยบอกว่าจะไปหางานทำเพื่อหาเงินมาใช้หนี้โดยบอกว่าจะไปทำงานแถว อ.อุทัย จ.พระนคร-ศรีอยุธยา หลังจากนั้นก็หายไปเลยและเพิ่งมาทราบว่าถูกฆ่าหั่นศพ และรายงานข่าวแจ้งว่า หลังผู้ตายมาอยู่ จ.พระนครศรีอยุธยาได้คบหากับผู้รับเหมา ก่อสร้างคนหนึ่งซึ่งชุดสืบสวนกำลังตามตัวมาสอบปากคำว่าเกี่ยวข้องในการตายของนางจำปีหรือไม่
|
เผยสาวเล็บแดงเหยื่อฆาตกรฆ่าหั่นศพเป็นสาวใหญ่จังหวัดสระแก้วเคยอยู่กินกับอดีตทหารเกณฑ์มีลูกด้วยกัน 3 คน แต่ภายหลังเลิกรากัน
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ฆ่าหั่นศพ,สาวเล็บแดง,ฆ่าสาวเล็บแดง,ฆ่าหั่นศพสาวเล็บแดง,ฆ่ายัดถุง,อยุธยา,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1554916
|
ฮุนเซ็นแรง บอกทักษิณไม่ต่างกับอองซาน ซูจี
|
ทำไมไม่พูดเรื่องทักษิณเป็นเหยื่อการเมืองบ้างทั้งนี้ สมเด็จฮุน เซ็น เดินทางถึงโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อเวลาประมาณ 16.45 น.และเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ผ่านล่ามภาษาอังกฤษ โดยสมเด็จฮุนเซ็นพูดเป็นภาษากัมพูชา สมเด็จฮุนเซ็นกล่าวยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงที่เชิญพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจ และขอแนะนำให้ผู้ที่เรียกร้องให้ส่งพ.ต.ท.ทักษิณกลับในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนว่า ให้ไปอ่านสนธิสัญญาว่าด้วยการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไทย-กัมพูชา ข้อ 3 (ซึ่งระบุว่าการร้องขอให้ส่งตัวผู้ต้องหากลับนั้น จะทำไม่ได้ในกรณีที่เป็นคดีการเมือง หรือเป็นกรณีที่บุคคลนั้นถูกประเทศผู้ร้องขอลงโทษจากการแสดงความเห็นเกี่ยวกับเชื้อชาติ ศาสนา ชาติพันธุ์ หรือการเมือง) สมเด็จฮุนเซ็นกล่าวด้วยว่า มีคนจำนวนมากพูดถึงนางออง ซาน ซูจี แต่กลับไม่พูดถึงทักษิณซึ่งเป็นเหยื่อเช่นกันกัน และว่าการตัดสินใจให้พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจนั้น เป็นอำนาจอธิปไตยของกัมพูชา และไม่ถือเป็นการแทรกแซงทางการเมืองไทย โดยระบุว่าะก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์ นายสม รังสี ผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ก็ได้รับเชิญมาไทยและยังออกแถลงการณ์ต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา โดยที่สถานีโทรทัศน์ในไทยก็มีการแสดงความเห็นกดดันเขาเช่นกันสมเด็จฮุนเซ็นยังกล่าวด้วยว่า ในประเทศไทยเองก็มีคนเสื้อแดงที่สนับสนุนทักษิณอยู่เป็นล้านคน แล้วทำไมเขาจะสนับสนุนทักษิณไม่ได้ ท้ายที่สุด สมเด็จฮุนเซ็นกล่าวว่า การเมืองภายในประเทศไทยก็ป็นเรื่องที่ต้องจัดการกันภายในของไทยเอง และเขาไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย และอย่ากล่าวหาว่าเขาเป็นพวกสนับสนุนทักษิณ หรือสนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดง
|
สมเด็จฮุน เซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเดินทางถึงชะอำ แถลงยืนยันเชิญทักษิณเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจให้กัมพูชาเป็นอำนาจอธิปไตยของกัมพูชา ไม่ใช่เรื่องแทรกแซงการเมืองไทย ตอกกลับพูดกันแต่เรื่องนางอองซาน ซูจี
|
การเมือง
|
ต่างประเทศ,ทักษิณ ชินวัตร,รัฐบาลกัมพูชา,สมเด็จฮุนเซ็น
|
https://prachatai.com/journal/2009/10/26319
|
กองทัพ ยันเซลล์โตในหัวใจน้องเมย หมอรับเก็บสมอง-หัวใจ-ตับ ไปตรวจ
|
จากข่าวครึกโครม กรณีนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิต ซึ่งทางนายพิเชษฐ และนางสุกัลยา ตัญกาญจน์ พ่อและแม่ สงสัยในการเสียชีวิต ซึ่งน่าจะมีเงื่อนงำ และจากการนำศพไปชันสูตรพบอวัยวะภายในหายไปทั้งหมด ส่วนกะโหลกศีรษะมีกระดาษทิชชูยัดไว้ สมองหายไป นอกจากนี้ยังพบกระดูกซี่โครงหัก,ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 21 พ.ย. ทางกองทัพไทย ได้แถลงชี้แจงในเรื่องดังกล่าว โดยพันโทนรุฏฐ์ ทองสอน ทีมแพทย์ผู้ชันสูตรศพ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ยืนยันซี่โครงหักจริง ซึ่งไม่ชี้ชัดว่าเกิดจากการทำซีพีอาร์หรือไม่ แต่ระบุไม่ได้ถูกทำร้ายอย่างแน่นอน โดยสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน พบเซลล์บางตัวโตในหัวใจ ซึ่งคนอายุ 19 ไม่น่ามี,ทั้งนี้ได้เก็บสมอง หัวใจใส่ฟอร์มาลีน ไม่ให้เนื้อเน่า รวมทั้งตับเพื่อทำสไลด์ตรวจหา โดยที่ผ่านมาได้ประสานพี่สาวผู้ตายให้ทำเรื่องขออวัยวะคืนซึ่งต้องประสานตำรวจ แต่ที่ผ่านมาไม่ได้รับการประสาน กระทั่งวันนี้ (21 พ.ย.) ได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวนแล้ว,พล.ต.กนกพงษ์ จันทร์นวล ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร ยืนยันไม่มีการทำโทษ หรือโดนทำร้าย และก่อนปล่อยกลับบ้านได้มีการตรวจร่างกายพบแข็งแรง และช่วงวันที่ 17 ต.ค.ที่กลับมา จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบได้มีการแต่งชุด พูดคุยกับเพื่อน และโทรคุยกับแม่ ก่อนถูกส่งตัวเข้ากองแแพทย์ จนมีการส่งต่อ รพ.นักเรียนนายร้อย พบชีพจรอ่อนมาก อีกทั้งช่วงเป็นลมล้มลงในตอนเที่ยงยังสามารถกินข้าวได้ จนมาช่วงบ่าย 3 ถึงบ่าย 4 มีการคุยโทรศัพท์กับครอบครัวและวูบลงไป พร้อมย้ำไม่ได้ถูกทำร้าย หากมีการซ่อมจะเป็นไปตามระเบียบในการลงโทษที่ปฏิบัติในโรงเรียน.
|
กองทัพตั้งโต๊ะแถลง หมอยัน ไม่พบ นร.เตรียมทหาร โดนทำร้าย รับเก็บสมอง-หัวใจ-ตับเพื่อตรวจพิสูจน์ ญาติสามารถทำเรื่องผ่านตำรวจขอคืนได้ แจงเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน พบเซลล์บางตัวโต
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
นักเรียนเตรียมทหารเสียชีวิต,นักเรียนเตรียมทหารเสียชีวิตมีเงื่อนงำ,น้องเมย,อวัยวะหาย,ตัญกาญจน์,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1132603
|
เกิดเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านทองใน จ.ปทุมธานี
|
กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยว จี้ชิงทรัพย์ภายในร้านทองห้างเพชรทองออโรร่า สาขาห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขานวนคร ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาสอบสวนพนักงานของร้านเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุคาดว่าน่าจะเป็นผู้หญิง สูงประมาณ 160 เซนติเมตร สวมหมวกไหมพรมปิดบังหน้าตา สวมเสื้อแขนยาวสีดำถุงมือสีขาว ใช้ปืนไม่ทราบชนิด และขนาดจี้พนักงานของร้านบังคับให้นำทองใส่กระเป๋าสีดำ รวมน้ำหนักทองที่ได้ไปประมาณ 130 บาท มูลค่ากว่า 2400000 บาท โดยใช้เวลาไม่ถึงนาทีก่อนคนร้ายจะหลบหนีออกจากร้านอย่างใจเย็นตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่าคนร้ายที่ลงมือไม่น่าต่ำกว่า 2 คน รู้พฤติกรรมการทำงานของที่ร้านทอง เนื่องจากทางร้านเพิ่งเปิดร้านได้เพียงไม่กี่นาที จึงกล้าลงมือก่อเหตุ พร้อมทั้งตั้งรางวัลนำจับเป็นเงิน 50000 บาท สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุ
|
เกิดเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านทองในห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส จ.ปทุมธานี หลังเปิดร้านได้เพียงไม่กี่นาที ก่อนจะได้ทองรูปพรรณ มูลค่ากว่า 2400000 บาท หลบหนีไปได้
|
อาชญากรรม
|
จี้,ชิงทรัพย์,ทอง,ทองรูปพรรณ,ปทุมธานี,ร้านทอง,เทสโก้โลตัส
|
https://news.thaipbs.or.th/content/213196
|
ทีเอชนิค-ตลาดหลักทรัพย์ฯ เชิญร่วมเสวนาอัพเดต Blockchain-เงินดิจิตอล
|
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (ทีเอชนิค) ร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จัดเสวนา Living with disruption: Impact of Blockchain on Businesses เชิญร่วมฟังการอัพเดตสถานการณ์ Blockchain ในปัจจุบันของทั้งไทยและต่างประเทศ ตลอดจนพัฒนาการของสกุลเงินดิจิตอล (Cryptocurrency) จาก ดร.ภูมิ ภูมิรัตน ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสมาคมฟินเทค ประเทศไทย ในหัวข้อ Understanding: Blockchain Technology & Rise of Cryptocurrency พร้อมแนะนำการปรับตัวและประยุกต์ใช้ Blockchain ในยุคดิจิตอล เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทยในหัวข้อ Using: Blockchain Technology to Innovate Your Business โดย ดร.รอม หิรัญพฤกษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์) ในคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) และกรรมการ (ผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีสารสนเทศ) ในคณะกรรมการระบบชำระเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย รท.ดร.เจษฎา ศิวรักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจดิจิทัล และ ผศ.ดร.ภูมินทร์ บุตรอินทร์ ผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายวิชาการและวิจัย ศูนย์ลำปาง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,นอกจากนั้นยังจะมีการให้ความเข้าใจและเห็นพัฒนาการของการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในธุรกิจการเงินการลงทุน ในหัวข้อ Blockchain: The Impact of Technology on Financial & Investment Services โดย คุณพราวพร เสนาณรงค์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์, คุณพงศ์ปิติ เอกเธียรชัย ผู้อำนวยการ บริษัท ไลฟ์ ฟินคอร์ป จำกัด และ คุณปรมินทร์ อินโสม Founder of Zcoin, ,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า งานดังกล่าวกำหนดจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 26 เม.ย.2561 เวลา 13.30 – 17.00 น. (เริ่มลงทะเบียนเวลา 12.30 น.) ณ หอประชุม ศ.สังเวียนฯ ชั้น 7 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ,www.thnic.or.th/blockchain2018
|
ทีเอชนิคจับมือตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดเสวนาอัพเดตสถานการณ์ Blockchain และพัฒนาการของสกุลเงินดิจิตอล โดยเชิญเข้าร่วมฟรี
|
ข่าว,เศรษฐกิจ
|
ทีเอชนิค,ตลาดหลักทรัพย์ฯ,เงินดิจิตอล,Blockchain,หุ้น,Fin-tech
|
https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/1263771
|
จับแล้ว 4 แก๊งโจ๋ตามแฟน ชักปืนยิงใส่ ป้าวัย 57 โดนลูกหลงดับ
|
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ก.พ. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.น.3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สาโรช ขวัญบุญจันทร์ ผกก.สน.ลาดกระบัง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายปรีชา หรือฟี้ ทัพมาก อายุ 20 ปี และนายหอย (นามสมมติ) อายุ 19 ปี สามารถจับกุมได้ที่บริเวณวัดตะนุ ม.5 ต.หันสัง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา หลังก่อเหตุยิง น.ส.กาญจนา พุ่มจิ๋ว อายุ 57 ปี เสียชีวิต และ น.ส.พิมพ์ภัค เป้าประสิทธิ์ อายุ 26 ปี ได้รับบาดเจ็บ โดยก่อนหน้านี้มีผู้ร่วมก่อเหตุเข้ามอบตัวแล้ว 2 คน คือนายอิสระพงศ์ หรือตี๋ ยืนสุข อายุ 21 ปี และนายจตุรงค์ หรือแจ๊ป หงส์ทอง อายุ 21 ปี,ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 ก.พ. เวลา 23.00 น. บริเวณหน้าบ้านพักไม่มีเลขที่ ท้ายซอยมณี 2 ถ.พัฒนาชนบท 3 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. นายอิสระพงศ์ หรือตี๋ ทราบว่าแฟนสาวอายุ 21 ปี ได้หลบหนีมาหานายก็อป (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ที่บ้านพักหลังดังกล่าว นายอิสระพงศ์ จึงตามพวกมาเพื่อสะสางปัญหา แต่ไม่พบตัวแฟนสาวและนายก็อป ก่อนที่จะมีปากเสียงกับคนที่อยู่ในบ้านพักซึ่งเป็นญาติของนายก็อป,ขณะเกิดเหตุ นายปรีชา ซึ่งเป็นหนึ่งในพวกของนายอิสระพงศ์ อ้างว่าถูกพวกของนายก็อปยิงใส่กลุ่มของตน ตนจึงชักปืนจากเอว เพื่อยิงตอบโต้ ขณะเดียวกัน น.ส.กาญจนา ผู้เสียชีวิต และ น.ส.พิมพ์ภัค ได้เดินออกมาดูเหตุการณ์ จึงทำให้โดนลูกหลง หลังจากนั้นพวกของนายอิสระพงศ์จึงหลบหนีไป และทางญาติของ น.ส.กาญจนา ได้เข้าช่วยเหลือ ทราบว่า น.ส.กาญจนา ถูกยิงด้านหลังขวาทะลุใต้ราวนมด้านซ้าย เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน น.ส.พิมพ์ภัค ถูกยิงที่บริเวณขาซ้าย นำตัวส่ง รพ.สิรินธร,จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ โดยมีญาติและชาวบ้านมุงดูเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด,พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาได้มีปัญหากับฝ่ายคู่กรณีเรื่องในเรื่องเชิงชู้สาว และมีการท้าทายกัน ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิง จนทำให้เกิดเหตุขึ้นและมีผู้เสียชีวิต เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือยิงจริง แต่ไม่ได้ตั้งใจยิงผู้เสียชีวิต ส่วนอาวุธปืนสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ต ในราคา 6,500 บาท โดยซื้อมานานแล้ว หลังจากนี้จะทำการสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป.
|
ศานิตย์ คุมแถลงข่าว จับเพิ่มอีก 2 คน รวมเป็น 4 แก๊งโจ๋ตามแฟน แล้วเกิดยิงกันขึ้นที่ลาดกระบัง กระสุนไปถูกหญิงวัย 57 ปีกับ 26ปีเสียชีวิตและบาดเจ็บ สารภาพลงมือยิงจริง แต่ไม่ได้ตั้งใจยิงผู้ตาย เจอข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
| null |
ตามแฟน,โจ๋ตามแฟน,โดนลูกหลง,กาญจนา พุ่มจิ๋ว,ถูกลูกหลง,จับ4คน,ตามหาแฟน,ศานิตย์ มหถาวร,สน.ลาดกระบัง,กทม.,อาชญากรรม,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/576067
|
ตัดไม่ขาด ส่อง 3 เพื่อนซี้เคยทะเลาะหนัก แต่สุดท้ายก็ดีกัน
|
ก่อนหน้านี้ก็จะได้ยินข่าวเพื่อนซี้ดาราทะเลาะกันจนถึงขั้นไม่ขอเผาผี แต่วันดีคืนดี เวลาผ่านไป อะไรๆ ก็ช่วยเยียวยา จากที่ไม่เคยมองหน้า ไม่ขอพูดถึงกันและกัน ก็กลับมาดีกัน ลืมเรื่องราวเมื่อวันเก่าก่อนเหมือนไม่เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้น ซึ่งจะมีดาราคู่ไหนกันบ้าง ไปดูกันเลย,เริ่มต้นกันที่คู่ของเพื่อนซี้แห่งแก๊งนางฟ้า เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ และ วุ้นเส้น วิริฒิพา สาเหตุที่ทำให้ 2 เพื่อนซี้ต้องหมางใจกันไปพักใหญ่ นั่นเป็นเพราะเรื่องราวของไฮโซหนุ่ม กึ้ง เฉลิมชัย คนเคยรักของสาวเจนี่ ที่แหล่งข่าวเม้าท์กันว่า สาวเจนี่น้อยอกน้อยใจที่เพื่อนรักอย่างสาววุ้นเส้น ไม่ยอมบอกความลับเรื่องผู้หญิงอีกคนที่เป็นเพื่อนอีกกลุ่มนึงของสาววุ้นเส้น จนทำให้ต้องพักความสัมพันธ์กับเพื่อนเคยซี้ไปพักใหญ่,แต่เพราะมีกาวใจดี อย่างสาว นานา ไรบีน่า ที่เข้ามาเชื่อมต่อควาสัมพันธ์ให้ 2 สาว เลยทำให้เจนี่ และวุ้นเส้นกลับมาเป็นเพื่อนรักเพื่อนเลิฟกันอีกครั้งนึงที่งานแต่งงานของสาวมาร์กี้และหนุ่มป๊อก ท่ามกลางความยินดีของแฟนๆ และแฟนคลับที่อยากจะเห็นทั้ง 2 คนกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้งนึง,มาต่อกันที่คู่ของ คิม คิมเบอร์ลี่ และ มิ้นต์ ชาลิดา ที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่สนิทสนมเพราะเล่นละครเรื่อง 4 หัวใจแห่งขุนเขา ด้วยกันจึงทำให้ได้อยู่แก๊งล่มโดย 4 สาวในแก๊งอย่าง คิม, มิ้นต์, ญาญ่า และ มาร์กี้ มักจะชวนกันไปกินข้าวด้วยกันบ่อยๆ จนกระทั่งมีเรื่องให้ มิ้นต์และคิมต้องหมางใจกัน สืบเนื่องมากจาก สาวคิมสนิทสนมกับหนุ่มหมาก ปริญ คู่กรณีของสาวมิ้นต์ ที่เคยมีไลน์หลุดหนุ่มหมากด่าแม่ของสาวมิ้นต์กลางไลน์กลุ่มมาแล้วนั่นเอง,เพราะเหตุนี้จึงทำให้ความสัมพันธ์ของ คิม และ มิ้นต์ ห่างกันออกไป แต่เมื่อเวลาผ่านมาหลายปี และในช่วงต้นปี 2560 คิมได้สูญเสียคุณพ่อไป และมิ้นต์ก็ได้ไปร่วมงานศพของคุณพ่อสาวคิม และก็มีการถ่ายรูปคู่กันขึ้นอีกครั้งที่งานนั้น และมาตอกย้ำว่าทั้งคิมและมิ้นต์กลับมาเป็นเพื่อนกัน ลืมความบาดหมางในอดีตก็ที่งานปาร์ตี้สละโสดของสาวมาร์กี้นั่นเอง ทำเอาแฟนเพื่อนๆ หลายคน รวมถึงแฟนคลับของ 2 สาว ต่างดีอกดีใจที่ทั้งคู่กลับมาเลิฟๆ กันอีกรอบ,ปิดท้ายที่คู่ของรุ่นพี่ใหญ่อย่าง นุ่น วรนุช และ หนิง ปณิตา ที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เป็นเพื่อนซี้ปึ้ก ไปไหนไปกัน อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่จู่ๆ วันนึง สาวหนิงกลับหายหน้าหายตาไปจากลุ่มเพื่อน จนหลายคนสงสัยว่าจะต้องมีปัญหากันอย่างแน่นอน แต่เมื่อไปสัมภาษณ์ทั้งคู่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนเท่ากับการกระทำ เพราะหนิงได้ไปโผล่อยู่ในปาร์ตี้ของกลุ่มนางเอกสาว อั้ม พัชราภา แทน ยิ่งตอกย้ำว่านุ่นและหนิงเพื่อนสุดซี้แตกคอกัน,หลังจากเวลาผ่านมาหลายปี เวลาได้ทำการเยียวยาทุกอย่าง หนิง และนุ่นได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง พร้อมมีภาพคู่ออกมาครั้งแรกในรอบหลายปีที่ห่างกันไป ทำเอาคนรอบข้างของทั้งคู่รวมไปถึงแฟนคลับต่างพากันดีอกดีใจไม่น้อยที่ 2 เพื่อนซี้กลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้งนึง แม้จะนานๆ เจอกันที แต่ก็ยังดีที่ทั้งคู่กลับมาพูดคุยกัน,แต่ก็ยังเหลือเพื่อนซี้ที่แตกคอกันไปอีกหลายคู่ที่ยังไม่กลับมาคืนดีกันอีกหลายคน งานนี้เราคงต้องลุ้นกันต่อไปว่า เพื่อนซี้ดาราคนไหนที่เคยทะเลาะกัน จะกลับมาจูบปากคืนดีเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
|
ส่องคู่ซี้คนบันเทิง เคยทะเลาะหนัก ไม่มองหน้าไม่ขอเผาผี แต่มาวันนี้จูบปากคืนดีกันแล้ว
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
เจนี่ วุ้นเส้น คืนดี,หนิง นุ่น คืนดี,คิม มิ้นต์ คืนดี,ดาราทะเลาะกัน,เพื่อนทะเลาะกัน,ดารา
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1175827
|
วัดความกล้า ท้าความเสียว ที่ เขาช้างเผือก
|
แต่หมายถึงกว่าจะจองแล้วได้ขึ้นเนี่ยยากมาก ทั้งนี้เพราะพื้นที่มีจำกัดและคนสนใจจะไปกันเยอะครับ ซึ่งเขาที่ว่าก็คือ, เขาช้างเผือก, นั่นเอง,เขาช้างเผือก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี บนยอดเขามีลักษณะเป็นภูเขาหญ้า มีหินบ้างตามสันเขา การเดินทางไปยังยอดเขาช้างเผือกนั้น จะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เพื่อลงทะเบียนรายชื่อคนที่ขึ้นเขา ในแต่ละวันทางอุทยานฯ มีการจำกัดคนบนเขาไว้ที่ 60 คน เพราะพื้นที่กางเต็นท์บริเวณยอดเขามีพื้นที่จำกัด ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะนิยมมาแบบ 2 วัน 1 คืน ปกติช่วงที่เปิดให้ขึ้นจะอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงมกราคม ซึ่งปีนี้ยังไม่รู้ว่าจะเปิดหรือไม่ต้องลุ้นกันครับ,การเดินขึ้นสู่เขาช้างเผือกจะเริ่มจากบริเวณหลังหมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ เป็นระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมงในการเดินขึ้นไปจนถึงจุดกางเต็นท์ เดินช่วงแรกจะผ่านป่าโปร่งๆ เป็นเนินเขาเตี้ยบ้าง สูงบ้าง เป็นเนินทุ่งหญ้าที่มีวิวสวยๆ เป็นจุดที่เหมาะกับการถ่ายรูปมาก จากนั้นก็จะเป็นการเดินตามเชิงเขาบ้าง สันเขาบ้าง ช่วงนี้จะเป็นทุ่งหญ้าความสูงพอท่วมหัว แล้วจึงจะถึงจุดตั้งแคมป์,การเดินทางให้ถึงบริเวณยอดเขาช้างเผือก จะต้องเดินไปจากจุดตั้งแคมป์อีกประมาณ 500-600 เมตร และจะต้องผ่านจุดที่ถือเป็นไฮไลท์ของเขาช้างเผือก คือช่วงที่เรียกว่า ,สันคมมีด, หรือ, สันวัดใจ, ที่ท้าทายผู้กล้าทั้งหลาย เพราะจะเป็นช่วงสันเขาบางๆ แคบๆ ช่วงนี้สันเขาจะมีก้อนหินใหญ่บ้างเล็กบ้าง ต้องเดินแถวเรียงเดี่ยวปีนผาหินขึ้นไป ถึงจะเป็นผาไม่สูงมาก แต่ก็ทำเอาหลายคนใจสั่น หน้ามืด ถึงกับก้าวขากันไม่ออก หรือบางคนถึงกับยอมถอดใจไม่ขึ้นไปเลยทีเดียว เพราะเป็นการปีนอยู่บนยอดสันเขาเปิดโล่ง ทั้งสองข้างเป็นไหล่เขาลาดลึกลงไปเป็นเหว ทางเดินสอบแคบขนาดไม่เกินเมตร ทำให้รู้สึกเหมือนเดินอยู่บนคมมีด ที่น่าหวาดเสียว เรียกได้ว่าพลาดไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว แม้จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ใกล้ๆ และมีเชือกให้คอยจับพยุงตัวขึ้นไปยังยอดเขา บางคนถึงกับเสียน้ำตา และอีกหลายคนยอมที่จะคลานไปตามพื้นสันเขาที่กว้างไม่ถึงเมตรนี้ เพื่อไม่ให้มองเห็นความลึกของเหวสองข้างทาง,อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ การปีนสันคมมีด ทำได้ง่ายขึ้นมากแล้ว เพราะว่าทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการขึงเชือกให้นักท่องเที่ยวสามารถปีนขึ้นไปได้ง่ายขึ้น,เมื่อพ้นช่วงสันคมมีด จะเป็นเนินเขาที่ให้เดินต่อไปจนถึงจุดสูงสุดของเขาช้างเผือก ที่ความสูง 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเล จุดนี้จะเป็นจุดที่สามารถเห็นวิวได้รอบตัวแบบ 360 องศา ไม่มีต้นไม้ใหญ่บดบังทิวทัศน์ ใครที่ได้มาถึงจุดนี้แล้วล่ะก็ อย่าลืมถ่ายรูปคู่กับป้ายพิชิตยอดเขา เพื่อเป็นที่ระลึกว่าได้ผ่านการทดสอบการเดินทางสู่เขาช้างเผือก สันคมมีด มาแล้ว,การเดินทางขึ้นเขาช้างเผือก ต้องใช้เวลาเกือบครึ่งวัน จึงไม่สามารถเดินทางแบบเช้าไปเย็นกลับได้ บนเขาไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร หรือที่พัก นักท่องเที่ยวต้องนำเสบียงอาหารไปทำกินเอง โดยจ้างลูกหาบขนสัมภาระขึ้นไปตั้งแคมป์ค้างคืนบนยอดเขา และควรเตรียมอาหารระหว่างทาง และน้ำดื่มให้เพียงพอด้วย นอกจากนี้ บนเขายังไม่มีแหล่งน้ำดื่มน้ำใช้ด้วย,ค่าใช้จ่าย,1. ค่าลูกหาบอยู่ที่ 700-900 บาทต่อคน จำกัดน้ำหนักที่ 30 กิโลกรัม ต่อลูกหาบ 1 คน,2. ค่าที่พัก หนึ่งคืนจะตกอยู่ไม่เกิน 700 บาทครับ ค่าเต็นท์และถุงนอน ถ้าไม่ได้เตรียมมาก็ไปเช่าเอาได้ รวมกันไม่เกิน 300 บาท ,3. ค่ารถ บขส.ประมาณ 200 บาท,รวมค่าใช้จ่ายต่อหัวในการมาเที่ยวเขาช้างเผือก 3 คืน 2 วัน จะตกหัวละประมาณ 1,500-2,000 บาท,อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม,1. เต็นท์ ถุงนอน แผ่นปูนอน ,2. เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว(ยีนส์) เพราะเดินฝ่าดงหญ้าจะได้ไม่คันและบาดตัว ยังมีหมวกปิดหัวคอ รองเท้าผ้าใบ รองเท้าแตะ (ไม่ค่อยได้ใช้),ที่มา - แบกกล้องเที่ยว,www.baagklong.com,www.facebook.com/baagklong
|
สวัสดีท่านผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์ทุกท่านครับ สัปดาห์นี้ แบกกล้องเที่ยวจะพาเพื่อนๆ ไปขึ้นเขาที่ขึ้นยากอันดับต้นๆ แห่งหนึ่งในประเทศไทย ไม่ได้หมายความว่าทางขึ้นเขาลำบาก หรือยากนะครับ
|
ไลฟ์สไตล์,ท่องเที่ยว
|
เขาช้างเผือก,อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ,กาญจนบุรี,ภูเขาหญ้า,การเดินทาง,ค่าใช้จ่าย,สถานที่ท่องเที่ยว,แหล่งท่องเที่ยว,ยอดเขาช้างเผือก,ปีนเขา,นักท่องเที่ยว,แบกกล้องเที่ยว
|
https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/744476
|
เมืองทอง ชนะ ซัปโปโร 1-0 พร้อมฉลองเเชมป์ไทยลีก 2016
|
วานนี้ (22 ก.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฟุตบอลอุ่นเครื่องนัดพิเศษ ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ คอนซาโดเล่ ซับโปโร ทีมเจลีกจาก ญี่ปุ่น โดยเกมนี้ เมสซี่เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ลงเล่นให้ทั้ง 2 ทีม เเละเป็น เมสซี่เจ ที่โชว์ฟอร์มเยี่ยม จ่ายบอลให้ เฮเเบร์ตี้ เฟอร์นานเดซ ทำประตูชัยในนาที 76 ให้ เมืองทอง เฉือนชนะ ซัปโปโร หวุดหวิด 1-0 ประตูจากนั้นได้มีพิธีมอบถ้วยแชมป์ไทยลีกฤดูกาล 2016 ย้อนหลังให้กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด โดยมีนักเตะเก่าอย่าง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ มาริโอ อบรานเต้ มาร่วมแสดงความยินดีด้วย ก่อนที่เมสซี่ จะเดินทางไปญี่ปุ่นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานัดต่อไป เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบ บางกอกกล๊าส เอฟซี ในฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย วันที่ 26 ก.ค.นี้ เวลา 19.00 น.
|
เมสซี่เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ โชว์ฟอร์มเยี่ยม ในเกมอุ่นเครื่อง ระหว่าง เอสซีจีเมืองทอง พบ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร 1-0 ประตู ค่ำวานนี้ พร้อมฉลองแชมป์ไทยลีก 2016
|
กีฬา
|
เมสซี่ เจ,ชนาธิป,สรงกระสินธ์,เอสซีจี เมืองทอง,คอนซาโดเล่ ซัปโปโร,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS
|
https://news.thaipbs.or.th/content/264600
|
แนะเผยข้อมูลเก็บค่าเรียน นศ.ต่างชาติ
|
บริษัทแนะแนวเรียนต่อต่างประเทศเก็บค่าเล่าเรียนสูงเกินจริง และอาจารย์สอนไม่เต็มเวลา ไม่เอาใจใส่ในการสอน ว่าจากการสอบถามมหาวิทยาลัยแห่งแรกรับนักศึกษาจีนระดับปริญญาตรี สอนหลักสูตรนานาชาติ ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก โดยยอมรับว่ารับนักศึกษาผ่านบริษัทแนะแนวเรียนต่อต่างประเทศ แต่ยืนยันว่าไม่ได้เรียกเก็บเงินเกินจำนวน แต่หากบริษัทแนะแนวเก็บเงินเกินนั้น ซึ่งอาจเป็นเรื่องการดำเนินการอื่นๆ แต่มหาวิทยาลัยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง สำหรับมหาวิทยาลัยแห่งที่สองรับนักศึกษาผ่านบริษัทแนะแนวเรียนต่อต่างประเทศเช่นกัน และยอมรับว่าที่ผ่านมาตรวจพบบริษัท 1 แห่งเรียกเก็บค่าเล่าเรียนเกินจำนวน จึงเลิกรับนักศึกษาจากบริษัทดังกล่าว ส่วนการสอนนั้น สอนทั้งภาษาไทย จีน และอังกฤษ แต่เน้นภาษาไทยเป็นหลัก พบว่านักศึกษาจีนลาออกมากกว่าที่อื่น ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยปูพื้นฐานภาษาไทยให้ก่อนที่จะเข้ามาเรียนแต่อาจไม่เพียงพอ โดยทางมหาวิทยาลัยได้ขอที่จะจัดการเรียนการสอนแบบแบ่งกลุ่ม คือกลุ่มนักเรียนไทยเรียนภาษาไทย และกลุ่มนักเรียนจีนสอนเป็นภาษาจีน แต่ สกอ.ขอให้มหาวิทยาลัยชี้แจงว่าจะวัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาให้ตรงกันได้อย่างไร และในกรณีที่นักศึกษาลาออก ทางมหาวิทยาลัยก็ทำการคืนเงินให้ตามขั้นตอน,ดร.สุภัทรกล่าวต่อไปว่า สำหรับมหาวิทยาลัยแห่งที่สามรับนักศึกษาจีนระดับปริญญาโทและเอก สอนเป็นภาษาจีน โดยมหาวิทยาลัยจะส่งทีมงานไปแนะแนวสถานศึกษาที่ประเทศจีน จึงไม่มีปัญหาเก็บค่าเรียนเกินจำนวน แต่ปัญหาที่พบคืออาจารย์ที่สอนระดับปริญญาเอกอยู่ไม่ครบจนจบปีการศึกษา โดยอยู่สอนเฉพาะเวลาที่สอนเท่านั้น ซึ่ง สกอ.คงต้องไปตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมว่าถูกต้องตามมาตรฐานหลักสูตรหรือไม่ สำหรับแนวทางแก้ไขเบื้องต้นนั้น เท่าที่ดูการดำเนินการยังมีช่องว่าง สกอ.ได้แนะนำมหาวิทยาลัยทั้ง 3 แห่งว่า ขอให้เปิดเผยรายการค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียน และอื่นๆให้ชัดเจนต่อสาธารณะผ่านทางเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย ทั้ง 3 ภาษา คือ ไทย จีน อังกฤษ และทำความเข้าใจระหว่างมหาวิทยาลัยและผู้เรียน โดยหลังจากนี้ สกอ.จะลงพื้นที่สำรวจความเห็นจากนักศึกษาที่เรียนอยู่ทั้ง 3 สถาบัน เพื่อที่จะให้ได้ข้อมูลครบทุกด้านก่อนสรุปเสนอปลัดกระทรวงศึกษาธิการและ รมว.ศึกษาธิการต่อไป.
|
ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวภายหลังเชิญตัวแทนมหาวิทยาลัย 3 แห่ง ซึ่งมีนักศึกษาจีนร้องเรียนถึงปัญหาการจัดการศึกษา อาทิ ปัญหาเรื่องการจัดการเรียนการสอนในเชิงคุณภาพ
| null |
สุภัทร จำปาทอง,นักศึกษาจีน,หลักสูตรนานาชาติ,เก็บค่าเล่าเรียนสูงเกินจริง,เปิดเผยค่าใช้จ่าย
|
https://www.thairath.co.th/content/795446
|
อุทยานฯธารเสด็จ-เกาะพะงัน ชะลอประกาศ หลังชาวบ้านร้องขอสอบแนวเขตใหม่
|
กรณีความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านกับอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวบ้านยื่นหนังสือขอให้ชะลอการประกาศเขตอุทยานฯ เนื่องจากไม่มั่นใจกับการตรวจสอบแนวเขตที่เตรียมการประกาศ โดยชาวบ้านเกรงว่าที่ดินทำกินดั้งเดิมของชาวบ้าน จะถูกประกาศทับโดยแนวเขตอุทยานฯ และเกรงว่าที่ดินป่าอีกบางส่วนถูกกันออกไปให้กับกลุ่มนายทุนบางกลุ่ม ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (,อช.จ่อประกาศอุทยานฯธารเสด็จ-เกาะพะงัน เมินเสียงค้านชาวบ้านในพื้นที่, , ,ล่าชื่อค้านประกาศเขตอุทยานฯ เกาะพะงัน หลังพบแนวทับที่ทำกินชาวบ้าน,),ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.59 กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่กว่า 100 คนโดยการนำของนายพิพิธ รัตนรักษ์ ส.อบจ.เขต อ.เกาะพะงัน และผู้ที่เกี่ยวข้องเดินทางไปยังหน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน เพื่อเรียกร้องให้ทางอุทยานฯ ชะลอการประกาศไว้ก่อน,นายพิพิธ กล่าวว่า การรวมตัวกันคัดค้านในครั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ต้องการเรียกร้องให้ทางกรมอุทยานฯ ชะลอการประกาศเอาไว้ก่อน แต่พวกตนไม่ได้ต้องการคัดค้าน พวกตนยินดีและพร้อมให้ความร่วมมือหากมีการประกาศเป็นเขตอุทยานฯ เพราะจะเป็นการรักษาผืนป่าของเกาะพะงันไว้ แต่ที่ขอให้ชะลอไว้ก่อน เนื่องจากที่ผ่านมา การกำหนดแนวเขตของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ดำเนินการกันไม่โปร่งใส ชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยได้รับรู้ หรือมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ที่ดินทำกินของชาวบ้านที่ทำกินกันก่อนที่อุทยานฯ จะมาอยู่บนเกาะพะงัน บางส่วนตกสำรวจ ไม่ได้ถูกกันออกให้ถูกต้อง หากปล่อยให้มีการประกาศไปตอนนี้ จะทำให้ชาวบ้านบางส่วนไม่สามารถทำกินในที่ดินของตัวเองได้,นายกีรติ เพชรทอง ผช.อุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน กล่าวกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ทางอุทยานฯ ยินดีที่จะรับฟังความเดือดร้อนของชาวบ้าน โดยวันเดียวกันนี้ที่กรมอุทยานฯ กำลังประชุมเรื่องดังกล่าวอยู่ ตนได้ประสานไปยังกรมอุทยานฯ แล้ว และยืนยันว่าเราได้ดำเนินการตามที่ชาวบ้านเรียกร้องอย่างแน่นอน โดยเตรียมเสนอให้ทางอำเภอแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแนวเขตร่วมกัน โดยมีตัวแทนภาคประชาชนเข้ามาร่วมตรวจสอบ,ในส่วนของการชะลอการดำเนินการเตรียมประกาศนั้น ขั้นต้นได้ประสานไปยังส่วนกลาง เพื่อขอให้ชะลอเรื่องไว้ก่อน และจะเร่งดำเนินการตรวจสอบแนวเขตกันอีกครั้งให้เร็วที่สุด ทั้งที่ทำกินชาวบ้าน และพื้นที่ต้องสงสัยว่าถูกกันออกให้กลุ่มนายทุน เราจะดำเนินการตรวจสอบทั้งหมดร่วมกับชุมชน โดยจะเร่งทำหนังสือตั้งคณะกรรมการอำนวยการชุดใหญ่ขึ้นมา 1 ชุด มีผู้นำชุมชน ตัวแทนชาวบ้าน และชาวบ้านบางส่วน เข้ามาเป็นคณะกรรมการ จากนั้นจะตั้งกรรมการย่อยในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งกำหนดวันเดินสำรวจตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.60 จะเริ่มดำเนินการตรวจสอบเรื่องแนวเขตใหม่,ทั้งนี้จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะ 2-3 เดือนหลังจากนี้ ทั้งนี้แกนนำชาวบ้านที่ออกมาเรียกร้องเชื่อว่า หากมีการตรวจสอบแนวเขตกันใหม่จริง นอกจากชาวบ้านแท้จริงจะได้ทำกินต่อไปในที่ดินที่อยู่กันมาก่อน ทางอุทยานฯ อาจจะได้พื้นที่เพิ่มจากแนวเขตที่เตรียมการไว้ 26,000 ไร่เศษ เพราะจากข้อมูลในพื้นที่พบว่ามีพื้นที่ป่าสมบูรณ์หลายจุดที่ถูกกันออกไปก่อนหน้านี้ และเป็นที่ดินที่กลุ่มนายทุนอ้างสิทธิครอบครองอยู่ในขณะนี้.
|
อุทยานฯชะลอประกาศอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี หลังชาวบ้านร้องขอสอบแนวเขตใหม่ พร้อมให้ตัวแทนชาวบ้านและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าร่วมและกำหนดวัดเริ่มสำรวจพื้นที่เริ่ม 5 ม.ค.60 นี้
| null |
อุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน,ธารเสด็จ-เกาะพะงัน,สุราษฎร์ธานี,ประกาศเขตอุทยาน,ชาวบ้านคัดค้าน
|
https://www.thairath.co.th/content/821813
|
กอ.รมน.แถลงเหตุปะทะที่ปัตตานี ระบุเจรจาไม่เป็นผลนำสู่การวิสามัญ 7 ราย
|
กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงเหตุการณ์ปะทะกลุ่มผู้ก่อเหตุในพื้น อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ตลอด 3 วันที่ผ่านมา (14-16 ส.ค. 2563) เจรจาไม่เป็นผล จนนำไปสู่การวิสามัญ 7 ราย16 ส.ค. 2563 (กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า) รายงานว่าจากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าพิสูจน์ทราบและบังคับใช้กฏหมายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงพื้นที่ หมู่ที่ 2 ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ตรวจยึดที่พักชั่วคราวและอุปกรณ์ยังชีพได้หลายรายการ และได้เกิดการปะทะกับกลุ่มคนร้ายหลายระลอก ทำให้คนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิต 2 ราย และมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2563 ที่ผ่านมานั้น โดยเจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังเข้าบังคับใช้กฎหมายบริเวณโดยรอบ เพื่อกระชับพื้นที่ควบคู่การเจรจา เพื่อให้คนร้ายมอบตัว จนกระทั่งวันที่ 15 ส.ค. 2563 เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบความเคลื่อนไหวคนร้าย 3 คน หลบอยู่ในทุ่งนาและเกิดการปะทะขึ้นอีกหลายระลอก กระทั่งเมื่อช่วงเย็นพบคนร้ายถูกวิสามัญเพิ่มอีก 2 ราย รวม 4 รายล่าสุด เช้าวันนี้ (16 ส.ค. 2563) พลตำรวจโท รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมด้วย พลตรีเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พลตรีปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พลตรีปิยะพงษ์ วงศ์จันทร์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พันเอกคมกฤช รัตนฉายา ผู้บังคับกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินทางเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุปะทะ หลังได้รับรายงานว่า พบศพคนร้ายรายที่ 5 นอนเสียชีวิตในทุ่งนา พร้อมพบอาวุธปืนสงครามข้างกาย จำนวน 1 กระบอก โดยขณะเจ้าหน้าได้จัดเข้าเคลียร์พื้นที่ พร้อมเข้าตรวจสอบบริเวณสถานที่พบในวันแรกโดยละเอียด พบคนร้ายเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าน่าจะได้รับบาดเจ็บจากการปะทะและตลอดหลายวันต้องอยู่ในทุ่งนามีน้ำขังประกอบกับขาดอาหารและน้ำ จึงเป็นเหตุให้ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต รวม 3 วัน คนร้ายเสียชีวิต 7 รายพลตรีปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เปิดเผยว่าภารกิจตลอด 3 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รัฐมีความพยายามปฏิบัติตามแนวทางของแม่ทัพภาคที่ 4 ด้วยการเชิญผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น มาเจรจาเกลี้ยกล่อมโดยตลอด เพื่อให้คนร้ายออกมามอบตัว แต่ก็ไม่เป็นผล คนร้ายได้ใช้ความรุนแรงในการตอบโต้ จนนำไปสู่การวิสามัญ ซึ่งจากการเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (16 ส.ค. 2563) พบคนร้ายเสียชีวิตจากการวิสามัญจำนวนทั้งสิ้น 7 ราย ทราบชื่อ ยืนยันแล้ว 3 รายคือ นายอันวา กอแล นายมะซูกี สารูเม๊าะ และนายมาสุวัน กะจิ ส่วนอีก 4 ราย อยู่ระหว่างการยืนยันตัวบุคคล นอกจากนี้ยังตรวจยึดอาวุธได้จำนวน 9 กระบอก ประกอบด้วย อาวุธปืนสงคราม จำนวน 5 กระบอก และอาวุธปืนพกอีก จำนวน 4 กระบอกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ต้องขอแสดงความเสียใจมายังญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 7 ราย และไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ทั้งนี้ตลอดทั้ง 3 วัน เจ้าหน้าที่ได้พยายามบังคับใช้กฎหมายตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนักมาโดยตลอด แต่คนร้ายเลือกใช้ความรุนแรงในการตอบโต้จนทำเกิดความสูญเสียดังกล่าว โดยพลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดทั้ง 3 วัน พร้อมสั่งการให้หน่วยปรับแผน พร้อมบูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ให้ปฏิบัติทุกขั้นตอนด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง จนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พร้อมทั้งชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกคน โดยเฉพาะผู้ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้ทั้ง 3 นาย ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ เสียสละ เพื่อรักษาสงบสุขให้กับพื้นที่นอกจากนี้แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้สั่งให้งานมวลชนเร่งเข้าไปสร้างความเข้าใจกับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ โดยรอบบริเวณที่มีการปะทะ พร้อมให้อำเภอยะรัง ตั้งโต๊ะรับสำรวจความเสียหายของทรัพย์สินที่เกิดจากการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การดูแลเยียวยาต่อไปอย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเข้าเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัย โดยได้เข้าตรวจสอบยังฐานปฏิบัติการที่ตรวจยึดไว้ตั้งแต่วันแรกที่มีการปะทะโดยละเอียด เบื้องต้นพบเป็นฐานปฏิบัติการที่ใช้งานมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน และเป็นที่ประชุมวางแผนเตรียมก่อเหตุขนาดใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานของตำรวจ พนักงานอัยการ ตลอดจนทีมแพทย์ ได้เข้าไปเก็บรวบรวมวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ พร้อมชันสูตรพลิกศพ นำส่งโรงพยาบาล เพื่อเตรียมส่งต่อให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
|
กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงเหตุการณ์ปะทะกลุ่มผู้ก่อเหตุในพื้น อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ตลอด 3 วันที่ผ่านมา (14-16 ส.ค. 2563) เจรจาไม่เป็นผล จนนำไปสู่การวิสามัญ 7 รายที่มาภาพ:
|
การเมือง,สังคม,คุณภาพชีวิต,ความมั่นคง
|
กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า,ชายแดนใต้,ยะรัง,ปัตตานี
|
https://prachatai.com/journal/2020/08/89083
|
จบดราม่า เหมย กลับบ้าน เทพ โพสต์สวีตรักกันดี แม่ยายฝากเตือนใช้สติ
|
ทางเก่า แต่ปล่อยให้ลูกเลือกทางเดินตัวเอง พร้อมขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือในยามลำบาก ฝากบอกลูกเขย ใช้สติให้มาก อย่าให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีกจากกรณีข่าวสาวแม่ลูกอ่อนเพิ่งคลอด ถูกสามีซ้อมจนอาการสาหัส ฝ่ายภรรยาต้องหอบลูกน้อยวัยเดือนเศษ วิ่งซมซานออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน โดยเหตุเกิดภายในหมู่บ้าน ต.ไฮหย่อง อ.พังโคน จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสาวเคราะห์ร้ายดังกล่าวถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยมีบาดแผลถูกทำร้ายตามร่างกายหลายแห่ง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พังโคน ได้ควบคุมตัวสามีที่ทำร้ายร่างกายไปสอบสวนพร้อมแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว การใช้ความรุนแรงในครอบครัว เสพสารเสพติด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นล่าสุดเมื่อวานนี้ (16 ก.พ.) นายเทพ สามี ได้โพสต์ภาพคู่กับภรรยาและลูกน้อยขณะไปเที่ยวด้วยกัน พร้อมเขียนข้อความตัดพ้อสังคม โดยระบุว่า #ครอบครัวสำคัญที่สุด #พอเกิดเรื่อง สังคม หน่วยงานต่างๆ แหล่งข่าวทุกชนิด ยื่นมือมาเพื่อช่วย(ช่วยปั่น) และใช้ความรู้สึกกับภาพที่เห็น ตัดสินเรา ตัดสินครอบครัวเรา โดยที่ไม่เคยถามหรือปรึกษาเราหรือครอบครัวเรา และเรื่องจริงยังไม่เคยถามเราสองคนมาก่อน ศีลธรรม จริยธรรม ความถูกต้อง คุณ คุณ และคุณ ตัดสินกันเองหมด #พอจบเรื่อง เราสามคนพ่อแม่ลูก จะใช้ชีวิตอยู่ยังไง ถามใจพวกคุณดู นี่หรือ คุณเรียกว่าความยุติธรรม โดยรับรู้เรื่องราวมาจากไหนไม่รู้ แต่มีใครสักคนมั้ย ที่มาถามมาสัมผัส ความจริงว่าเรารักกันแค่ไหน ลงท้าย ปล.อย่าตัดสินคนอื่น บนจุดที่คุณยืน โดยยังไม่รับรู้ความจริง จากใจเราสองคน ไม่ขอยืนบนใจใครทั้งโลกหรอก ขอแค่ยืนในใจของเหมยอิง ก็พอต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้าน นางนิภาพร เวยสาร อายุ 50 ปี แม่ของเหมย ภรรยายนายเทพ อายุ 26 ปี ที่ถูกทุบตีจนสาหัสและตกเป็นข่าว มีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ โดยที่บ้านดังกล่าวกำลังมีการทำกับข้าวอาหารคาวหวานเลี้ยงขอบคุณเพื่อนบ้านที่เข้ามาช่วยเหลือในช่วงที่ครอบครัวตกอยู่ในความลำบาก รวมถึงเพื่อนบ้านพี่เลี้ยงจำเป็นที่คอยดูแลลูกของเหมยระหว่างที่เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานเกือบ 2 อาทิตย์โดย นางนิภาพร กล่าวว่า ภาพที่โพสต์ในเฟซบุ๊กเป็นความจริง หลังจากที่ลูกสาวตนออกจากโรงพยาบาล ได้ไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวที่ จ.สกลนคร เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ 2 วัน จากนั้นลูกสาวก็ไม่ได้กลับมาหาตน จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเชิญตนไปเพื่อไกล่เกลี่ยด้านคดีความ โดยนายเทพลูกเขยกล่าวสำนึกผิด พร้อมจะขอรับเหมยและลูกกลับไปดูแลที่บ้าน เมื่อตนถามลูกสาวก็ได้รับคำตอบว่า จะขอกลับไปอยู่กับนายเทพ เพื่อชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ให้ลูกได้มีพ่อรู้เสียใจมาก เพราะที่ผ่านมาสภาพจิตใจเป็นอย่างไร ครอบครัวลำบากแค่ไหน ช่วงที่ลำบากกลับมีคนที่ไม่รู้จักหน้า หน่วยงานต่างๆ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แต่ลูกสาวกลับไม่คิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา แต่เลือกที่จะหันหลังเดินกลับไปทางเก่า หัวอกของคนเป็นแม่แม้จะรู้สึกเสียใจ แต่ก็ต้องปล่อยให้ลูกได้เลือกทางของตัวเอง และยังได้กล่าวฝากกับนายเทพว่า จะทำอะไรก็ให้ใช้สติให้มาก อย่าใช้อารมณ์ และอย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นเดิมอีก ถ้าไม่เลี้ยงดูลูกเมียแล้วให้เอามาคืนแม่ แต่อย่าทำแบบเดิมอีกนางนิภาพร กล่าวน้ำตาคลอนอกจากนี้ นางนิภาพร ยังกล่าวอีกว่า จากนี้ตนก็จะทุ่มเทเวลาให้กับการขายส้มตำ เพราะเป็นรายได้หลักให้กับครอบครัว เพราะยังมีอีกหลายชีวิตที่ต้องดูแล และขอขอบคุณทุกคน หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ตนไม่สามารถจะอธิบายความรู้สึกได้ แต่ก็ซึ้งในน้ำใจของทุกคนมาก.
|
เทพ ผัวโหด โพสต์ภาพหวาน พา เมีย-ลูกน้อย ไปเที่ยววันหยุด ระบุตัดพ้อสังคม ตัดสินคนอื่น-ไม่รับรู้ความจริง ยืนยันรักกันดี ด้าน แม่เหมย ยอมรับเสียใจที่ลูกสาวไม่ทบทวน-เลือกหันหลังกลับไป
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ผัวโหด,ผัวซ้อมเมีย,เมียถูกผัวซ้อม,เหมย,เทพ ผัวโหด,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1773978
|
ภาคประชาสังคมเดินหน้าโรดแมปสันติภาพใต้
|
ผศ.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการสถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวถึงการเสวนาในวันที่ 10 มิถุนายนนี้ว่าเป็นการพูดคุยต่อเนื่องจากการประชุมครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อปลายเดือนที่แล้ว เพื่อกำหนดท่าที และวางแผนจัดทำโรดแมป หรือแผนที่เดินทางสู่สันติภาพของของภาคประชาสังคม ซึ่งจะมีทั้งระยะสั้น และระยะยาวเพื่อช่วยหนุนเสริมการพุดคุยสันติภาพระหว่างตัวแทนรัฐบาล และขบวนการบีอาร์เอ็นผศ.ศรีสมภพ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำงานพูดคุยสันติภาพเห็นว่าแม้การพูดคุยที่ดำเนินการอยู่จะยังไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้ต่อข้อเสนอของทั้ง 2 ฝ่าย แต่เชื่อว่าจะหาข้อยุติร่วมกันได้เพื่อให้การพูดคุยสันติภาพเดินหน้าต่อได้การเสวนาในวันที่ 10 มิถุนายนนี้ นอกจากตัวแทนภาคประชาสังคมจากในพื้นที่แล้ว จะมีนายนอร์เบอร์ต โรเปอรส์ นักวิจัยด้านสันติภาพอาวุโส ซึ่งมีประสบการณ์ทำงานด้านสันติภาพในภูมิภาคร่วมในการทำโรดแมป ซึ่งจะมีการนำเสนอให้ทางเลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ และตัวแทนบีอาร์เอ็น เพื่อใช้เป็นกรอบในการสร้างสันติภาพ ซึ่งการพูดคุยครั้งที่ 3 จะมีขึ้นในวันที่13 มิถุนายนนี้
|
สภาประชาสังคมชายแดนใต้ร่วมมือกับสถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นัดคนทำงานสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้หารือร่วมกันในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ เพื่อจัดทำโรดแมป หรือแผนที่เดินทางสู่สันติภาพ ก่อนเสนอให้ตัวแทนรัฐบาล และขบวนการบีอาร์เอ็นใช้เป็นกรอบทำงานสร้างสันติภาพในพื้นที่
|
ภูมิภาค
|
บีอาร์เอ็น,ภาคประชาสังคม,ภาคใต้,สมช.,สันติภาพ,โรดแมป
|
https://news.thaipbs.or.th/content/175657
|
โอกาสกับชีวิตที่เปลี่ยนไปของนักร้องไอดอล BNK48
|
สำหรับการแถลงสิ้นสุดการเป็นสมาชิก BNK 48 หรือที่เหล่าโอตะ เรียกว่า ประกาศจบการศึกษาแบบกะทันหัน ของหนึ่งในดาวเด่นอย่าง แจน เจตสุภา เนื่องจากได้รับเลือกให้ไปโกอินเตอร์ ทำงานในแดนปลาดิบ ด้วยความน่ารัก ทำให้รัฐบาลฮอกไกโด เลือกเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ของเสื้อผ้าและเครื่องสำอางค์ พร้อมมีงานเดินแบบแฟชั่น Faco รออยู่ การโตไปอีกก้าวของสมาชิกวัย 23 ปี ทำให้เหล่าโอตะ โดยเฉพาะในทวิตเตอร์ ให้ความสนใจกับประเด็นร้อนนี้ จนทำให้แฮชแท็ก JANBNK48 ขึ้นเป็นเทรนด์ อันดับ 2 บนทวิตเตอร์ไม่แปลกที่ผู้คนต้องการจะก้าวเข้ามาจุดนี้ เพราะเต็มไปด้วยโอกาส แม้การเป็นสมาชิกวงเฟรนไชน์ของญี่ปุ่นจะเต็มไปด้วยกฏเหล็ก และวินัย ทั้งการห้ามเซลฟี่กับแฟนคลับ ถ้าอยากถ่ายภาพต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 3 คน การห้ามถ่ายภาพแนวกราเวีย หรือเซ็กซี่ ส่วนชุดกระโปรงต้นสังกัดประเทศไทยก็ปรับให้ยาวกว่าวงพี่สาวที่ญี่ปุ่น 1 นิ้ว เพื่อให้ดูน่ารักเรียบร้อยขณะที่สนามแข่งขันที่มีสมาชิกถึง 27 คนไม่ง่ายที่จะยึดพื้นที่ในใจเหล่าโอตะ โดยต้องแข่งกันสร้างคาแรคเตอร์ ยิ่งโดดเด่นก็ยิ่งมีโอกาสได้รับงาน อย่าง มิวสิค สมาชิกที่ใช้เสียงออดิชั่นเป็นตัวการ์ตูนยอดฮิต ปิ๊กกะจู จนประทับใจกรรมการผ่านรอบออดิชั่นมาได้ ก็ยังได้งานต่อเนื่องเกี่ยวกับการใช้เสียงล่าสุด ได้รับหน้าที่ร้องเพลงประกอบการ์ตูน โกโกทามะ แต่กลับมีการระบายความในใจลงบนสื่อสังคมออนไลน์ ถึงงานออกสื่อหน้าจอ ที่บอกว่าได้รับน้อยกว่าเพื่อนสมาชิกคนอื่น ไม่เพียงต้องทำตามกฏอย่างเคร่งครัด บริหารโซเชียลมีเดียทุกวันเพื่อใกล้ชิดแฟนคลับ แต่การวางภาพลักษณ์ในวัยเพียง 10 - 20 ปีต้น ๆ ก็เป็นเรื่องใหญ่ ให้ปรับตัวกัน นับเป็นบททดสอบของเหล่าไอดอลที่ต้องก้าวผ่านไปให้ได้
|
จากเหตุการณ์ หนึ่งในสมาชิกหลักวง BNK48 ประกาศจบการศึกษา เพื่อโกอินเตอร์ที่ญี่ปุ่น ทำให้ผู้คนให้ความสนใจกับเบื้องหลังที่เต็มไปด้วยการแข่งขันของไอดอล หลายคนต้องเปลี่ยนตัวเอง พัฒนาภาพลักษณ์ให้เป็นที่จดจำ เพื่อครองใจแฟนคลับในระยะยาว และโอกาสในการทำงาน
|
ศิลปะ-บันเทิง
|
BNK48,JANBNK48,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS
|
https://news.thaipbs.or.th/content/269774
|
เสือโคร่งห้วยขาแข้ง อาการโคม่า กระสุนลูกซองฝัง 7 เม็ด-ตาบอด เตรียมส่งเข้ารพ.ไนท์ซาฟารี
|
ความคืบหน้ากรณีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จับเสือโคร่งได้รับบาดเจ็บที่ ต. แม่ถอด อ.เถิน จ.ลำปาง และมีการยืนยันว่าเป็นเสือที่อยู่ภายใต้โครงการวิจัยของ ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ซิ้มเจริญ และคณะโดยอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี มีรหัส HKT178 เป็นเสือตัวผู้วันนี้ (17 ม.ค.2560) นายสิทธิชัย นุชัยเหล็ก หัวหน้ากลุ่มงานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช บอกว่า ขณะนี้อาการของเสือโคร่ง ที่เจ้าหน้าที่นำมาดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยยางปาน อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมามีอาการหนัก เนื่องจากเริ่มมีการอักเสบของแผลที่บริเวณสะโพกด้านหลัง และมีการเอ็กซเรย์ พบเสือตัวนี้มีกระสุนลูกซองกระจายในลำตัวหลายจุดรวม 7 เม็ด โดยกระสุนเม็ดนึงที่ไปโดนขาหน้า แต่กระดูกไม่หักนอกจากนี้พบว่าที่สะโพกขวาด้านหลังมีแผลลึก จนเกิดการอักเสบทำให้เสือลุกเดินไม่ได้ และเริ่มมีหนอง สัตวแพทย์ได้ทำแผลและล้างแผลตามอาการ ขณะเดียวกันยังสังเกตว่าเสืออาจจะเสียตาข้างขวาไป เพราะไม่มีการตอบสนองต่อแสงไฟนายสิทธิชัย บอกว่า ได้มีการประเมินอาการและพูดคุยกับดร.ศักดิ์สิทธิ์ แล้วว่าเสือโคร่งตัวนี้อาการน่าเป็นห่วงมาก จึงได้ประสานไปทางโรงพยาบาลสัตว์ไนท์ซาฟารี จ.เชียงใหม่ เพื่อส่งตัวเข้ารักษาอาการแล้วผู้สื่อถามว่าทำไมถึงประเมินอาการช้า นายสิทธิชัย บอกว่า เนื่องจากเสือตัวนี้เป็นเสือจากป่าห้วยขาแข้ง และช่วงแรกๆที่ พบเสือนอนอยู่ในป่าต.แม่ถอด และนำมาสู่การตัดสินใจ ยิงยาสลบและเคลื่อนย้ายมาที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยยางปาน เป็นจุดที่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุดแล้ว และไม่อยากให้เสิือมีอาการบอบช้ำ และตลอดเวลาทีมสัตวแพทย์และทีมวิจัยได้พยายามในการดูแลรักษาอาการอย่างเต็มที่ แต่เสือตัวนี้อาการหนัก คาดว่าก่อนที่จะไปเจอตัวน่าจะนอนเจ็บอยู่เป็นสัปดาห์แล้ว เพราะปกติสัญชาติญาณของเสือโคร่ง ต่อให้ใกล้ตายก็จะมีความดุร้าย
|
กรมอุทยานฯ ยอมรับเสือโคร่ง ที่จับได้จาก อ.เถิน จ.ลำปาง อาการโคม่า พบกระสุนลูกซอง 7 เม็ดฝังในร่างกายจนมีอาการแผลอักเสบลุกลาม จนห่วงอาการติดเชื้อในกระแสเลือด พบตาข้างขวาบอด เตรียมส่งเจ้ารักษาที่ไนท์ซาฟารี
|
สิ่งแวดล้อม
|
ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,เสือโคร่ง,ห้วยขาแข้ง,ลำปาง,กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช,ไนท์ซาฟารี,เชียงใหม่
|
https://news.thaipbs.or.th/content/259573
|
ลิเวอร์พูล รอดโทษตกรอบกรณีส่งนักเตะผิดกฎลงสนาม
|
วันนี้ (3 ต.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกคัพ ของประเทศ อังกฤษ หรือ อีเอฟแอล ออกแถลงการณ์บทลงโทษสโมสรลิเวอร์พูล จากกรณีที่ส่ง เปโดร ชีรีเบย่า ที่ยังไม่ได้ถูกลงทะเบียนระบุสัญชาติลงสนามเป็นตัวสำรอง นัดที่ หงส์แดง บุกไปชนะ เอ็มเค ดอนส์ 2-0 ในฟุตบอล ลีกคัพ รอบ 3 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรอดพ้นการลงโทษถูกปรับแพ้ โดนแค่ปรับเงินทันที 1 แสนปอนด์ และคาดโทษต้องต่ออีก 1 แสนปอนด์ หากส่งนักเตะผิดกฎลงสนามอีกครั้ง ก่อนจบฤดูกาล2020 ทำให้ ลิเวอร์พูล สามารถทำการแข่งขันต่อในรอบที่ 4 ที่จะพบกับ อาร์เซน่อล ในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ได้อย่างไม่มีปัญหาทั้งนี้ในปี 2014 สโมสรซันเดอร์แลนด์ เคยถูกปรับเงินในกรณีเดียวกันมาแล้ว กรณีที่ส่ง จี ดอง-วอน ลงสนามแบบผิดกฎถึง 5 นัด
|
ลิเวอร์พูล รับบทลงโทษจากกรณีส่งนักเตะลงสนามแบบผิดกฎ ในเกมลีกคัพนัดบุกชนะ เอ็มเค ดอนส์ 2-0 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยถูกปรับเงินจำนวน 1 แสนปอนด์ แต่รอดพ้นการถูกปรับตกรอบ
|
กีฬา
|
ลิเวอร์พูล,ลีกคัพ,ตกรอบ
|
https://news.thaipbs.or.th/content/284838
|
สวอนซี ชนะ เรดดิ้ง 4-2 เลื่อนชั้นเล่นพรีเมียร์ลีก
|
การแข่งขันฟุตบอลเพลย์ออฟเดอะ แชมเปี้ยนชิพ รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ สวอนซี พบ เรดดิ้ง เกมผ่านมา 21 นาที สวอนซีได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการยิงจุดโทษของสกอตต์ ซินแคลร์ ถัดจากนั้นนาทีเดียว สวอนซีหนีไปเป็น 2-0 จากการทำประตูที่สองในนัดนี้ของซินแคลร์ ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที สวอนซีนำห่างเป็น 3-0 จากการยิงของสตีเฟ่น ดอบบี้เริ่มครึ่งหลังมา 4 นาที เรดดิ้งไล่มา 3-1 จากการสกัดบอลเข้าประตูตัวเองของโจ อัลเลน กองหลังสวอนซี นาทีที่ 57 เรดดิ้งตีตื้นขึ้นมา 3-2 จากการโหม่งของแมตต์ มิลล์ แต่ก่อนหมดเวลา 10 นาที สวอนซีก็มาได้จุดโทษอีกครั้ง และเป็นซินแคลร์ที่สังหารเข้าไป และเป็นแฮททริคของเขาในนัดนี้ จบเกมสวอนซี ชนะ เรดดิ้ง 4-2 กลายเป็นทีมแรกจากเวลส์ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ
|
สวอนซีเลื่อนชั้นขึ้นเล่นฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้า หลังจากเอาชนะเรดดิ้ง 4-2 ในรอบชิงชนะเลิศ เพลย์ออฟ
|
กีฬา
|
พรีเมียร์,พรีเมียร์ลีก,สวอนซี
|
https://news.thaipbs.or.th/content/13311
|
รวบสาวแสบอ้างชื่อ ท่านผู้หญิง ตุ๋นเงินเหยื่อ 1.5 แสน
|
ที่ สน.หัวหมาก เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 16 มีนาคม พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รองผบก.น.4 พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นางกิ่งกาญจน์ สร้อยศรี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ม.8 ต.ท่าขอนยาง อ.กัทรวิชัย จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนงในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง,สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา น.ส.นิตยาพร ชุมคง ผู้เสียหาย ซึ่งเปิดบริษัทรับจ้างจัดทำกระเช้าของขวัญ ได้รับการสั่งทำกระเช้าของขวัญจากคนร้ายที่อ้างชื่อ มุก ผ่านทางโทรศัพท์ โดยแอบอ้างตัวเป็นผู้ช่วยของท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ ก่อนสั่งให้จัดกระเช้าเพื่อต้อนรับแขกต่างประเทศที่มาประชุมสภากาชาด ซึ่งกระเช้าของขวัญต้องเป็นสินค้าไทยที่มีคุณภาพดี และต้องมีผ้าไหมไทยประกอบอยู่ในกระเช้าด้วย,โดย นางมุก แจ้งว่าต้องสั่งซื้อผ้าไหมจาก นายประยูร ชานันโท เท่านั้น ผู้เสียหายจึงได้ติดต่อสั่งซื้อผ้าไหมดังกล่าว เป็นจำนวนเงิน 158,400 บาท ก่อนโอนเงินเข้าบัญชีของนายประยูร จำนวน 4 ครั้ง ในราคา 158,400 บาท จากนั้นผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อ นายประยูร และ นางมุกได้ จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก,ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บช.น.4 ได้สืบสวนจนทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้คือ นางกิ่งกาญจน์ สร้อยศรี พร้อมพวก จึงขออนุมัติหมายจับ ก่อนจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ โรงพยาบาลพิษณุเวช จ.พิษณุโลก และทำการสืบสวนขยายผลจนทราบว่า คนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้คือ นางวันทนา หรือ จอย (ไม่ทราบนามสกุล) อายุประมาณ 50 ปี นางภัทรา หรือ หมวย (ไม่ทราบนามสกุลจริง) อายุประมาณ 30 ปี และ นางนิตยา หรือ นิต (ไม่ทราบนามสกุลจริง) อายุประมาณ 40 ปี,ทั้งนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ พบว่า นางกิ่งกาญจน์ เคยก่อเหตุคดีฉ้อโกงในพื้นที่ต่างๆ รวม 8 หมายจับ โดยนางกิ่งกาญจน์รับว่าก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วประมาณ 18 ครั้ง มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท โดยจะทำทีออกอุบายต่างๆ พร้อมทั้งศึกษาข้อมูลของผู้เสียหายที่จะทำการหลอก ก่อนที่จะติดต่อไปหาผู้เสียหายเพื่อทำทีให้จัดกระเช้าบ้าง หลอกซื้อน้ำบ้าง,ด้านนางกิ่งกาญจน์ รับสารภาพว่า ตนเป็นผู้กระทำเองทั้งหมด ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ซึ่งอ้างว่าได้รับค่าจ้างประมาน 20,000 บาท,นอกจากนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ ยังได้ฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนที่เคยถูกกลุ่มผู้ต้องหาฉ้อโกงหลอกลวง สามารถเข้าแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,- ,แจ้งความถูกมิจฉาชีพอ้างทีมงาน ท่านผู้หญิง หลอกโอนเงิน 1.5 แสนบาท
|
รรท.ผบช.น. พร้อมตร.นครบาลภาค 4 แถลงจับ สาวใหญ่อ้างเป็นผู้ช่วย ท่านผู้หญิง จ้างทำกระเช้าของขวัญงานประชุมสภากาชาด เน้นสินค้าแพง หลอกโอนเงิน 1.5 แสนบาท ตรวจสอบพบมีหมายจับคดีฉ้อโกง 8 คดี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท
| null |
อ้างชื่อท่านผู้หญิงจรุงจิตต์,แอบอ้างรองราชเลขา,ต้มตุ๋น,หลอกลวง,แอบอ้าง,กระเช้าของขวัญงานประชุมสภากาชาด,ฉ้อโกง,กิ่งกาญจน์ สร้อยศรี,18 มงกุฎ,หลอกโอนเงิน,มิจฉาชีพ,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/591947
|
ตรวจสอบเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล
|
นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะอนุกรรมการกฎหมายสิทธิประโยชน์ด้านกีฬา วุฒิสภา ที่จับตามองการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลอย่างใกล้ชิด ออกมาตั้งคำถามถึงสมาคมฟุตบอลอย่างเผ็ดร้อนถึงสาเหตุที่สมาคมฟุตบอลต้องเลื่อนการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลออกไป ซึ่งแย้งว่าฟีฟ่ายังไม่ได้มีการประกาศใช้ธรรมนูญเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งกดดันให้การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ใช้กฎหมาย พ.ร.บ.กีฬา 2528 ลงโทษสมาคมฟุตบอลทันทีการประชุมที่ฟีฟ่าเดินทางมาประชุมร่วมกับสมาคมฟุตบอล และ กกท. นายวีระพงษ์ บางท่าไม้ ผู้อำนวยการกองนิติการสำนักผู้ว่าการของ การกีฬาแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นตัวแทนของ กกท. เดินทางไปประชุมร่วม ให้ความเห็นที่แตกต่างออกไปว่าการเลือกตั้งตามธรรมนูญของฟีฟ่าไม่ผิด พ.ร.บ.กีฬา 2528 เพราะได้มีการปรับวาระการดำรงตำแหน่งจาก 4 ปี เป็น 2 ปี ส่วนสิทธิ์ของสโมสรสมาชิกที่จะมีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งต้องไปตกลงกันในที่ประชุมใหญ่ของแต่ละสมาคมเพื่อเป็นข้อบังคับสำหรับอำนาจของ กกท. ในการลงโทษสมาคมกีฬาตาม พ.ร.บ.กีฬา 2528 สามารถทำโดยการถอดคำว่าแห่งประเทศไทยออกไป เหมือนกับที่สมาคมมวยสากลเคยโดนลงโทษจาก กกท. ในกรณีที่ไม่ยอมจัดการเลือกตั้งนายกสมาคม และสมาคมบาสเกตบอลเคยโดนลงโทษในลักษณะเดียวกัน ด้วยความผิดที่ให้สโมสรสมาชิกที่ขาดสมาชิกภาพมาเลือกตั้งนายกสมาคม
|
ประธานคณะอนุกรรมการกฎหมายสิทธิประโยชน์ด้านกีฬา วุฒิสภา ออกมาตั้งคำถามถึงสมาคมฟุตบอลอย่างเผ็ดร้อนถึงสาเหตุที่สมาคมฟุตบอลต้องเลื่อนการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลออกไป ซึ่งแย้งว่าฟีฟ่ายังไม่ได้มีการประกาศใช้ธรรมนูญเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ
|
กีฬา
|
กกท.,ตรวจสอบ,นายกสมาคม,ฟุตบอล,เลือกตั้ง
|
https://news.thaipbs.or.th/content/170223
|
โลกาภิวัตน์ 26/02/58
|
ตื่นจากฝันกลางวัน,เฮลิคอปเตอร์ของบริษัทนอร์สก์ เฮลิคอปเตอร์ ของนอร์เวย์ ลงจอดบนเรือวางท่อน้ำมัน โซลิแตร์ ของสวิสในบริเวณทะเลเหนือ หลังจากที่เสวยโชคลาภจากการพบน้ำมันในเขตทะเลเหนือมาเป็นเวลานานร่วมทศวรรษ ทำให้ เศรษฐกิจอู้ฟู่ ชาวนอร์เวย์พบกับความสุขสันต์ มีโอกาสไปพักผ่อนตลอดช่วงฤดูร้อนอันยาวนาน ลดชั่วโมงการทำงานให้สั้นลง แต่บัดนี้เหตุการณ์จะเปลี่ยนไป เนื่องจากราคาน้ำมันตกต่ำลง.,พนักงานศุลกากรฟิลิปปินส์ ช่วยกันตรวจทำลายสินค้าเถื่อน ซึ่งล้วนเป็นของก๊อบ ได้แก่พวกกระเป๋าถือสตรี และรองเท้าของแบรนด์ดังๆ อย่างไนกี้ อาดิดาส คอนเวิร์ส สเกตเชอร์ส นอร์ธ เฟซ เป็นต้น จากจีน คิดเป็น มูลค่ารวมกันถึง 3,729 ล้านบาท.,ฝูงบินผาดโผนของออสเตรเลีย แสดงลวดลายพร้อมกับปล่อยควันสี ในงานแสดงการบิน ที่ท่าอากาศยานอวาลอน เมืองลารา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของนครเมลเบิร์น.,หุ่นยนต์หมีที่มีชื่อว่า โรแบร์ แสดงการอุ้มคนไข้สตรี ที่เมืองนา-โกยา ภาคกลางญี่ปุ่น หุ่นยนต์สร้างโดยสถาบันไรเกน แอนด์ ซุมิโตโม ริโกะ มีหัวเป็นหมีขั้วโลก แต่ตากวาง สามารถอุ้มคนไข้หญิงผอมบางจากเก้าอี้รถเข็นไปขึ้นเตียง หรืออาบน้ำ ญี่ปุ่นจำเป็นต้องพึ่งแรงงานอื่นมาทดแทนมาก เนื่องจากสังคมญี่ปุ่นกำลังมีจำนวนผู้สูงอายุมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันจำนวนคนหนุ่มคนสาวที่จะมาคอยดูแลกลับลดน้อยลง.
|
เฮลิคอปเตอร์ของบริษัทนอร์สก์ เฮลิคอปเตอร์ ของนอร์เวย์ ลงจอดบนเรือวางท่อน้ำมัน โซลิแตร์ ของสวิสในบริเวณทะเลเหนือ หลังจากที่เสวยโชคลาภจากการพบน้ำมันในเขตทะเลเหนือมาเป็นเวลานานร่วมทศวรรษ
|
ข่าว,ไอที
|
โลกาภิวัตน์,เฮลิคอปเตอร์,นอร์เวย์,โซลิแตร์,น้ำมัน,ของก๊อบ,สินค้าเถื่อน,ฝูงบินผาดโผน,ออสเตรเลีย,หุ่นยนต์หมี,โรแบร์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไอที
|
https://www.thairath.co.th/news/tech/483453
|
สุรพงษ์ ยืนยันรัฐบาลพร้อมต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารทุกรูปแบบ
|
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันไม่ได้เพิกเฉยต่อเรื่องดังกล่าวแต่ได้เตรียมข้อมูลพร้อมต่อสู้คดีจากคณะทำงานด้านกฎหมายแล้ว ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และมีการเจรจากับประเทศกัมพูชามาโดยตลอด ทั้งนี้ประเมินผลการตัดสินว่าประเทศไทยจะมี 2 แนวทาง คือ แพ้ และเสมอตัว ต่อคดีนี้ เนื่องจากพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ทับซ้อน มีปัญหามาโดยตลอด ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร รัฐบาลต้องชี้แจงต่อประชาชนต่อไปประเทศกัมพูชายื่นให้ศาลโลกพิจารณาคำตัดสินกรณีปราสาทเขาพระวิหาร พ.ศ.2505 ซึ่งศาลนัดให้ฝ่ายไทยและกัมพูชาไปที่ศาล ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 15 - 19 เมษายนนี้ เพื่อให้ 2 ฝ่ายได้แถลง และ โต้แย้งคดีด้วยวาจา ก่อนให้ทั้ง 2 ฝ่ายแถลงปิดแถลง ระหว่างวันที่ 18 -19 เม.ย. จากนั้นศาลจะนัดฟังคำพิพากษาในช่วงเดือน ต.ค. - ธ.ค.2556ด้าน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุยิ่งใกล้เวลาที่ศาลโลกจะตัดสิน การดำเนินการควรทำด้วยความรอบคอบ และไม่ควรมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ดังนั้นจึงต้องจัดตั้งคณะทำงาน เพื่อนำข้อมูลข่าวสารจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมากลั่นกรอง เพื่อให้มีความถูกต้องอย่างไรก็ตาม วันนี้ (4 ม.ค.) แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 เตรียมความพร้อมรับมือคดีเขาพระวิหาร พร้อมโจมตีการทำงานของรัฐบาลที่มีท่าทีเพิกเฉย และยอมรับความพ่ายแพ้ ซึ่งอาจส่งผลทำให้เสียดินแดน จึงเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงจุดยืนที่ชัดเจนที่จะไม่ยอมรับคำตัดสิน และอำนาจของศาลโลก ซึ่งในวันที่ 8 ม.ค.นี้ แกนนำพันธมิตร จะเข้ายื่นข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการต่อไป
|
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หารือผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมเป็นคณะดำเนินคดีปราสาทพระวิหาร ที่ประเทศกัมพูชายื่นให้ศาลโลกพิจารณาคำตัดสินกรณีปราสาทเขาพระวิหาร พ.ศ.2505 ยืนยันรัฐบาลพร้อมต่อสู้คดีทุกรูปแบบ
|
การเมือง
|
พระวิหาร,พันธมิตรฯ,พื้นที่ทับซ้อน,ศาลโลก,สุรพงษ์
|
https://news.thaipbs.or.th/content/137430
|
พายุไซโคลนอำพันถล่ม อินเดีย-บังกลาเทศ เสียชีวิตแล้ว 14 คน
|
วันนี้ (21 พ.ค.2563) รายงานว่ารัฐเบงกอลตะวันตกของอินเดียที่มีประชากรหนาแน่นได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนอำพันซึ่งพัดออกจากอ่าวเบงกอลด้วยลมกระโชกแรงสูงถึง 185 กม.ต่อชั่วโมงมามาทา บาเนอร์จี มุขมนตรีรัฐเบงกอลตะวันตกกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน หลายพื้นที่ในรัฐเบงกอลได้รับความเสียหายจากพายุที่รุนแรงที่สุดสายหนึ่งที่พัดถล่มอินเดียในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหลังพายุพัดถล่มบางพื้นที่ในรัฐเบงกอลมีปัญหาสัญญาณการสื่อสารหยุดชะงัก แม้ประชาชนกว่า 500000 คน จะอพยพออกจากพื้นที่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของพายุไซโคลนอำพันที่อาจจะรุนแรงมากกว่านี้ด้วยฝนที่ตกต่อเนื่อง ยิ่งเพิ่มอุปสรรคให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่ได้ยากมากยิ่งขึ้นนอกจากนี้ ในเมืองหลวงของรัฐเบงกอลตะวันตกยังมีลมกระโชกแรงส่งผลให้รถยนต์ประชาชนคว่ำ ต้นไม้และเสาไฟฟ้าล้ม บางส่วนของเมืองถูกปกคลุมด้วยความมืด เจ้าหน้าที่ ระบุว่า บ้านเรือนนับพันหลังได้รับความเสียหายจากพายุที่พัดกระหน่ำอย่างต่อเนื่องบังกลาเทศเสียชีวิตแล้ว 4 คน เจ้าหน้าที่ตัดไฟบางพื้นที่ในบังกลาเทศที่อยู่ใกล้เคียงกับอินเดีย มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน แม้เจ้าหน้าที่ได้อพยพประชาชนประมาณ 2.4 ล้านคน ไปยังศูนย์พักพิงมากกว่า 15000 แห่งในสัปดาห์นี้ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการตัดไฟฟ้าในพื้นที่บางส่วนแล้วเจ้าหน้าที่ของบังกลาเทศ ยังกล่าวอีกว่า พวกเขาช่วยอพยพผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาหลายร้อยคนออกจากเมียนมาซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะที่เสี่ยงต่อการได้รับผลกระทบจากพายุในอ่าวเบงกอลเพื่อไปยังศูนย์พักพิงภาพ : AFP PHOTO / DISTRICT ADMINISTRATION OF BHOLAเจ้าหน้าที่อาวุโสในกระทรวงเกษตรบังกลาเทศ ระบุว่า ประชาชนมีความกังวลเกี่ยวกับพืชยืนต้นที่อาจได้รับความเสียหาย แต่โชคดีที่การเก็บเกี่ยวข้าวได้เสร็จสิ้นลงแล้วพายุไซโคลนมักถล่มส่วนหนึ่งของอินเดียตะวันออกและบังกลาเทศในช่วงเดือน เม.ย.และ ธ.ค.ส่งผลให้ประชาชนต้องอพยพบ่อยครั้งและทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง
|
พายุไซโคลนอำพันพัดถล่มบ้านเรือนนับพันหลังในอินเดียตะวันออกและบังกลาเทศเมื่อคืนวานนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 14 คน
|
ต่างประเทศ
|
พายุไซโคลนอำพัน,อินเดีย,บังกลาเทศ,รัฐเบงกอล,cyclone Amphan
|
https://news.thaipbs.or.th/content/292723
|
ผอ.ฉาวปัดชำเรานักเรียน ม.2 อ้างแชตไลน์ถูกตัดต่อ พ้อขัดสน หลังถูกพักงาน
|
จากกรณี นายณฐาภพ บุญทองโท อายุ 51 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา มีข้อความหลุดทางไลน์กับนักเรียนชั้น ม.2 ในลักษณะชู้สาว,ช่วงบ่าย วันที่ 4 ก.พ. นายณฐาภพ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นถือเป็นมรสุมครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต ตอนนี้ชีวิตไม่มีความสุขเลย ถูกกระแสสังคมโจมตีอย่างหนัก แต่ก็ได้กำลังใจจากลูกที่เกิดกับภรรยาเก่า รวมทั้งพ่อแม่ญาติพี่น้อง โดยตนพร้อมที่จะเดินหน้าต่อสู้กับคดีที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ตนยังคงมีอาการไม่สบาย และมีอาการไออยู่ตลอดเวลา ไปพบแพทย์ตรวจรักษารักษาที่โรงพยาบาลแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นวัณโรค และต้องไปให้แพทย์ตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง,นายณฐาภพ กล่าวต่อว่า ช่วงเวลานี้ชีวิตของตนค่อนข้างขัดสน ไม่มีเงิน เพราะเงินเดือนถูกระงับจากคำสั่งที่ถูกให้พักราชการ โดยในเรื่องคดีความขณะนี้ตนกำลังปรึกษาเพื่อน เพื่อเตรียมหาหลักทรัพย์ใช้ประกันตัวต่อสู้คดี ในข้อหาที่ถูกแม่ของเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 วัย 14 ปี เข้าแจ้งความเอาผิดในข้อหาพรากผู้เยาว์ฯ และกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี โดยตนจะขอให้การปฏิเสธ และจะขอต่อสู้คดีในชั้นศาลตามกระบวนการยุติธรรม,ส่วนหลักฐานข้อความแชตทางไลน์ หรือรูปภาพถ่ายที่ตนโอบไหล่เด็กนักเรียนหญิงนั้น น่าจะมีการใส่ร้ายป้ายสีกัน ซึ่งรูปถ่ายนั้นอาจจะเป็นภาพที่นักเรียนมาถ่ายเซลฟี่กับตน ซึ่งก็มีเด็กนักเรียนหลายคนมาถ่ายรูปกับตนในลักษณะนี้ ส่วนข้อความทางไลน์ที่เรียก ที่รัก หรือเมียที่รักนั้น ก็อาจจะมีการตัดต่อดัดแปลงแก้ไข,ทั้งนี้ เรื่องราวที่เกิดขึ้น อาจมีต้นเหตุมาจากความขัดแย้งภายในโรงเรียน หลังตนเข้ามารับตำแหน่งได้ 3 เดือน ตนทำงานเต็มที่ปฏิรูปการทำงานในโรงเรียนใหม่ อาจกระทบต่อระบบงานเดิมๆ จึงเกิดเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นตามมาภายหลัง ซึ่งหลังจากนี้ตนพร้อมต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม และอยากให้สังคม หรือสื่อมวลชนเป็นกลาง ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย,ขณะที่ในส่วนความผิดทางอาญา นายณฐาภพ ถูกแจ้งความดำเนินคดี 3 ข้อหาหนัก คือ หมิ่นประมาท พรากผู้เยาว์เพื่ออนาจาร และกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี หลังจากแม่ของเด็กหญิง ม.2 กลับลำแจ้งความเอาผิด ผอ. กล่าวหาลูกสาวถูก ผอ.ข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้งตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว รวมทั้งแจ้งความเอาผิดกับนักเรียนชาย ม.3 ซึ่งเป็นแฟนเก่า ในฐานความผิดเดียวกันกับ ผอ.ด้วย,พ.ต.อ.คารม บุญสด ผกก.สภ.บัวใหญ่ เปิดเผยว่า คดีนี้ทีมสหวิชาชีพสอบปากคำเด็กหญิง ม.2 อายุ 14 ปี พร้อมมารดา ให้การกล่าวหา ผอ.ณฐาภพ ในความผิด 2 ข้อหา คือ พรากผู้เยาว์เพื่ออนาจาร และกระทำชำเรา และกล่าวหานักเรียนชาย ม.3 แฟนเก่าซึ่งทั้งคู่มีพฤติกรรมอยู่กินฉันสามีภรรยามานานหลายเดือน ในข้อหาเดียวกับ ผอ. เป็นการดำเนินคดีตามบทบัญญัติของกฎหมาย,ทั้งนี้ กรณีเอาผิดกับนักเรียนชาย ม.3 แฟนเก่านั้น ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเยาวชนอายุ 15 ปี จะมีกฎหมายให้การคุ้มครอง การสอบปากคำจะต้องมีสหวิชาชีพมาร่วมด้วย ส่วนกรณี ผอ. จะแยกดำเนินคดีคนละส่วนกัน ทั้งนี้ ฐานความผิดของทั้ง ผอ.และนักเรียนชาย ม.3 เป็นคดีอาญาที่มีบทลงโทษรุนแรง จึงต้องยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว โดยนัดหมายให้ทั้ง 2 คน มอบตัวในวันพุธที่ 7 ก.พ.นี้,ด้าน น.ส.วัน (นามสมมติ) แม่ของนักเรียนชาย ม.3 กล่าวว่า ข้อเท็จจริงแล้วเด็กทั้ง 2 คน คบหาเป็นแฟนกัน เริ่มคบกันตั้งแต่ต้นปี 2560 ตอนอายุ 13 และ 14 ปี พอคบกันได้ 2 เดือน ฝ่ายแม่ของผู้หญิงมาฝากฝังขอให้ลูกสาวย้ายบ้านมาอยู่กับลูกชาย อ้างว่าลูกสาวเข้ากันไม่ได้กับพ่อเลี้ยง ขอให้ช่วยเลี้ยงดู เมื่อเรียนจบ ม.6 จะให้แต่งงานกัน จากนั้นก็ขนเสื้อผ้ามาอยู่กินกับลูกชาย เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2560,ตอนอยู่ด้วยกันได้เลี้ยงดูน้อง ม.2 เสมือนสมาชิกครอบครัว ส่งเสียให้เรียนหนังสือ กระทั่งมาเกิดเรื่องกับ ผอ.โรงเรียน เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2560 น้องผู้หญิงเปลี่ยนใจไปคบหากับ ผอ. และย้ายกลับไปอยู่บ้านของพ่อเลี้ยง พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการสมยอมกันของเด็กทั้ง 2 คน เมื่อถูกแม่ของเด็ก ม.2 แจ้งความดำเนินคดีกับลูกชายด้วย จึงรู้สึกเจ็บปวดใจ พร้อมพาลูกชายเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย และขอต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด.
|
คืบหน้า ผอ.โรงเรียนฉาวเปิดใจผ่านทางโทรศัพท์ เตรียมปฏิเสธข้อหากระทำชำเราเด็กนักเรียนหญิง ม.2 เชื่อตัวเองถูกใส่ร้ายป้ายสี เผยรูปภาพในไลน์เป็นการถ่ายเซลฟี่กันตามปกติ ส่วนข้อความในไลน์มีการดัดแปลงแก้ไข
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ผอ.ฉาว,นครราชสีมา,นักเรียนม.2,แชตไลน์,กระทำชำเรา,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1195203
|
สลด พี่น้องดับ 2 ศพ หนุ่มใหญ่เมาขับ พุ่งชน จยย.ตกข้างทาง
|
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 มิถุนายน 2562 พ.ต.ท.เกริกศิลป์ บูรณ์เจริญ สารวัตรสอบสวน สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักแหกโค้งพุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขับสวนทางมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ราย บริเวณโค้งสนามเจ้าเงาะเส้นทางหนองเลง-โค้งดารา หมู่ 8 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังรับแจ้ง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา,ที่เกิดเหตุ บริเวณป่าริมข้างทางพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 100 สีขาวแดง หมายเลขทะเบียน 1กด 2256 ชลบุรี อยู่ในสภาพเสียหายพังยับเยิน ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำหมายเลขทะเบียน กพ 9483 ชลบุรี อยู่ในสภาพด้านหน้าพุ่งชนกับกองดินในป่าหญ้า จนได้รับความเสียหาย หน้ารถพังยับ,โดยในที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายยุทธศักดิ์ ประดิษสาน สภาพคอหัก อีกรายเป็นหญิงอายุประมาณ 19-20 ปี เสียชีวิตสภาพกระดูกหลายจุด ตามร่างกายมีบาดแผลทั่ว,ในที่เกิดเหตุพบ นายพนม มรกต อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะ อยู่ในสภาพเมาไม่ได้สติ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัว นายพนม เอาไว้ ,จากการสอบถาม นายพนม ที่เมาไม่ได้สติ ทราบว่า ตนขับรถออกมาจากบ้าน โดยนำบุตรสาววัย 2 ปี มาด้วย และกำลังจะไปหาเพื่อนที่สวนเสือ โดยตนยอมรับว่าดื่มสุรามาเยอะมาก แต่มาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงทางโค้ง รถจักรยานยนต์ของทางคู่กรณี เสียหลักพุ่งมาชนรถของตนเอง หลังจากนั้นก็ไม่ทราบแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การของ นายพนม จากนั้นนำตัวไปวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ได้ 206 เกินกว่ากฎหมายกำหนด ในส่วนของร่างผู้เสียชีวิตได้ให้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชานำส่งไปที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตร และจะได้เร่งสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.
|
หนุ่มใหญ่เมาขับรถกระบะ หลุดโค้งชนประสานงารถจักรยานยนต์ พุ่งลงข้างทางเสียชีวิตคาที่ 2 ศพ เป็นพี่น้อง คุมสอบสภาพเมาแอ๋ ให้การไม่รู้เรื่อง
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
เมาแล้วขับ,กระบะชน จยย.,หลุดโค้ง,ชลบุรี,สาวท้อง,เมาแอ๋,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1582466
|
พญานาคน้อยหนีจากคำชะโนด สถิตด่านขุนทด ให้เลขเด็ด 3 ชุด
|
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 มี.ค. นายสุทธิ ดุนขุนทด อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 5 ต.สระจรเข้ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในที่นาของตน เนื้อที่ 9 ไร่ ท้องที่ หมู่ 8 ตำบลเดียวกัน ตรงบริเวณริมลำห้วย ปรากฏว่ามีต้นสามสิบงอกขึ้นมาสุดแปลกประหลาด โดยมีต้นแบนขนาดประมาณ 2 นิ้ว เลื้อยคดเคี้ยวยาวประมาณ 3 ม. และตรงลำต้นโผล่ขึ้นเหนือพื้นดิน ประมาณ 5 นิ้ว สีเขียวเข้ม ทำให้มองเห็นคล้ายพญานาค ซึ่งตนได้พบเห็นโดยบังเอิญเมื่อ 2-3 วันก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดข่าวลือไปทั่ว จนมีชาวบ้านนำพวงมาลัย ดอกไม้ ธูปเทียน และน้ำหวาน ไปกราบไหว้บูชาขอโชคลาภ ,จนกระทั่งเมื่อค่ำวานนี้ ได้มีชาวบ้านหลายราย นำร่างทรงมาทรงดู โดยร่างทรงรายหนึ่ง สื่อสารบอกว่าเป็นพญานาคศรีสุทโธน้อย หนีมาจากเกาะคำชะโนด บ้านโนนเมือง หมู่ 11 ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เพราะว่าที่โน่นมีคนมากเกินไป โดยบอกเลขเสี่ยงโชคด้วยว่า งวดนี้จะมี 195 และร่างทรงอีกรายมาทำการทรงเช้ามืดวันนี้ ได้โชว์นิ้วมือ 4 นิ้วกับ 3 นิ้ว ชาวบ้านจึงตีเป็นเลข 43 นอกจากนี้ พญานาคน้อยยังบอกผ่านร่างทรงว่า ได้มาอยู่ที่นี่ 3 ปีแล้ว ขอให้เจ้าของที่นาทำร่มให้ด้วย เพราะว่าร้อนมาก ,นายสุทธิ เปิดเผยด้วยว่า ตนไม่เคยไปขอโชคลาภที่เกาะคำชะโนดแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบเสี่ยงโชค แต่หลายคนที่มาขอโชคลาภที่นี่ ต่างก็ได้เลขที่แตกต่างกันออกไป ตามความเชื่อของตน แต่ไม่มีใครยอมบอกใคร ว่าตัวเองได้เลขอะไร ยกเว้นนายวิก (ขอสงวนชื่อ-สกุลจริง) ที่ขอดูภาพถ่ายจากนายสุทธิแล้ว บอกว่าเห็นเลข 036 ชัดเจน ซึ่งผู้สื่อข่าวได้รวมเลขดู พบว่ามีจำนวน 3 ชุด คือ 195, 43 และ 036 ส่วนจะแม่นยำหรือไม่ ไม่มีใครทราบได้ จนกว่ากองสลากฯ จะออกรางวัลในช่วงบ่ายวันนี้.
|
โค้งสุดท้ายก่อนเป๋าตุง แห่ขอโชคต้นสามสิบแผ่ลำต้นคล้ายพังพานพญานาค เข้าทรงบอกเป็น พญานาคศรีสุทโธน้อย หนีมาจากเกาะคำชะโนด เพราะที่นั่นคนเยอะเกินไป ให้เลขเด็ด เจ๋งๆ 3 ตัว
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
หวย,เลขเด็ด,เลขดัง,หวยพญานาค,คำชะโนด,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1229851
|
#BoycottIndiana ชาวสหรัฐฯ ร่วมต่อต้านกฎหมายศาสนารัฐอินเดียนา หวั่นใช้กีดกันทางเพศสภาพ
|
อย่างเช่นการไม่ต้อนรับหรือให้บริการคนรักเพศเดียวกัน30 มี.ค. 2558 หลังจากที่ ไมค์ เพนซ์ ผู้ว่าการรัฐอินเดียน่าจากพรรครีพับรีกันลงนามอนุญาตใช้กฎหมายกีดกันกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศก็ทำให้เกิดกระแสต่อต้านทั้งจากนักกิจกรรม ศิลปิน เจ้าของธุรกิจ และนักกีฬา จากทั่วประเทศสหรัฐฯ ที่ประกาศบอยคอตต์ทางเศรษฐกิจต่อรัฐอินเดียน่าในนามการเคลื่อนไหวจนทำให้ ส.ส. รัฐอินเดียน่าเริ่มคำนึงว่าควรย้อนกลับมาพิจารณากฎหมายใหม่อีกครั้งหรือไม่กฎหมายกีดกันทางเพศฉบับดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า กฎหมายฟื้นฟูเสรีภาพทางศาสนา ที่มีการลงนามอนุญาตใช้เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งในเนื้อความกฎหมายนี้ระบุห้ามไม่ให้มีกฎหมายของรัฐใดๆ ที่เป็นการ สร้างภาระอย่างหนัก ต่อการปฏิบัติตามความเชื่อทางศาสนาของประชาชนทั่วไป สถาบันทางศาสนา สมาคม หรือธุรกิจนักวิจารณ์กล่าวว่ามาตรการนี้จะกลายเป็นการสนับสนุนให้บุคคลหรือธุรกิจกระทำสิ่งที่ล่วงละเมิดกฎหมายห้ามการกีดกันซึ่งมีอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว โดยมีกลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิความเท่าเทียมกังวลว่ากฎหมายที่อ้างถึงเสรีภาพทางศาสนานี้จะถูกนำมาใช้เหยียดหรือกีดกันกลุ่มคนรักเพศเดียวกันโดยเจ้าของธุรกิจที่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของคนรักเพศเดียวกันอย่างไรก็ตามมีการประท้วงจากหลายฝ่าย โดยมีการติดสติ๊กเกอร์ตามหน้าร้านค้าทั่วรัฐอินเดียนาซึ่งระบุข้อความว่า ธุรกิจแห่งนี้เปิดรับทุกคน และเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมานักกิจกรรมหลายร้อยคนก็พากันเดินขบวนนอกที่ว่าการรัฐเพื่อเรียกร้องให้เพนซ์ลาออกจากตำแหน่งนอกจากนี้สมาคมนักกีฬามหาวิทยาลัยแห่งชาติสหรัฐฯ (N.C.A.A.) ยังแสดงความกังวลว่ากฎหมายดังกล่าวจะกระทบนักกีฬาและผู้เข้าชมกีฬาของตน ซึ่งนักกีฬาซูเปอร์สตาร์เอ็นบีเอชื่อ ชาร์ลส บาร์ตลีย์ ประท้วงด้วยการเรียกร้องให้การจัดแข่งบาสเก็ตบอลรอบสุดท้ายของ N.C.A.A. ในรัฐอินเดียน่าไปจัดในรัฐอื่น เจสัน คอลินส์ นักกีฬาเอ็นบีเออีกคนหนึ่งวึ่งเปิดเผยตัวเองว่าเป็นคนรักเพศเดียวกันยังโพสต์แสดงความกังวลถึงกฎหมายนี้ในทวิตเตอร์ของเขาด้วยอย่างไรก็ตามเพนซ์กล่าวปกป้องกฎหมายฉบับนี้อ้างว่าเป็นการคุ้มครองย้อนหลังให้กับผู้ที่รู้สึกว่าเสรีภาพในการนับถือศาสนาของตนกำลังถูกโจมตีโดยการกระทำของรัฐบาล เขากล่าวให้สัมภาษณ์ต่อสื่ออีกว่าแม้จะมีผู้ประท้วงแต่เขาก็จะไม่เปลี่ยนแปลงกฎหมายนี้ เพนซ์ยังปฏิเสธอีกว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เจตนาทำให้เกิดการเหยียดหรือการกีดกันทางด้านผู้อำนวยการด้านกฎหมายของกลุ่มสิทธิคนรักเพศเดียวกัน ซาราห์ วอร์บิโลว์ กล่าวว่ากฎหมายฉบับนี้สะท้อนถึงความอดกลั้นต่อกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ และเธอคิดว่ากฎหมายฉบับนี้สามารถส่งผลให้เกิดการกีดกันกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศได้จริงนอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนในวงการไอทีอย่างทิม คุก หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหารของแอปเปิ้ล และเจเรมี สต็อปเปลแมน ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Yelp ต่างก็แสดงความไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ รวมถึงผู้นำคนอื่นๆ อย่าง ฮิลลารี่ คลินตันรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ และ เกรก บัลลาด นายกเทศมนตรีเมืองอินเดียนาโปลิสสังกัดพรรครีพับรีกัน ก็พากันต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ New York Times 27-03-2015 CommonDreams 29-03-2015
|
ชาวสหรัฐฯ รวมถึงนักกิจกรรมเพื่อสิทธิความหลากหลายทางเพศต่างพากันต่อต้านกฎหมาย ฟื้นฟูเสรีภาพทางศาสนา ซึ่งกลัวว่าจะถูกนำมาอ้างใช้เพื่อกีดกันทางเพศสภาพ
|
คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน
|
#BoycottIndiana,ความหลากหลายทางเพศ,เสรีภาพทางเพศ
|
https://prachatai.com/journal/2015/03/58634
|
ประมงภูเก็ตรับดูแลทูน่าของกลาง หลังเจ้าของเรือโอดจ่ายไปแล้วกว่า10 ล้าน
|
เมื่อ 3ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ท่าเรือเทียบเรือน้ำลึกภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ตและประมงอำเภอเมืองภูเก็ต ได้นำคนงานพร้อมรถเครนขนาดใหญ่เข้าขนย้ายปลาทูน่า ซึ่งเป็นของกลางกว่า 2,700 ตัน ออกจากเรือประมงมุกอันดามัน 018 และเรือประมงมุกอันดามัน 028 ซึ่งเป็นเรือที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ในข้อหาทำประมงโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.ก.ประมง พ.ศ.2558 ขัดคำสั่ง หน.คสช.ที่ 10/2558 ที่กำหนดให้มารายงานตัวและไม่ได้นำเรือมารายงานตัวตามกำหนด โดยจะขนย้ายของกลางทั้งหมดไปเก็บไว้ที่ห้องเย็นที่ท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลาภูเก็ต ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต,ทั้งนี้ การขนย้ายของกลางดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่นายทนงศักดิ์ รักษาวงศ์ กรรมการบริษัท สยามทูน่าฟิชเชอรรี่ จำกัด และบริษัทเจ้าของเรือประมงทูน่ามุกอันดามัน 018 และมุกอันดามัน 028 ได้ร้องไปยังกรมประมง เพื่อขอให้ดำเนินการรับของกลางดังกล่าวไปดูแลแทน หลังได้รับความเดือดร้อนหลังถูกจับกุมดำเนินคดียาวนานกว่า 7 เดือน ต้องแบกรับค่าใช้จ่าย ทั้งค่าใช้จ่ายลูกเรือและน้ำมันเรือที่ใช้สตาร์ตเครื่องเรือ เพื่อทำความเย็นไม่ให้ทูน่าที่อยู่ในเรือเน่าเสีย โดยเฉพาะเรื่องน้ำมันเรือที่ต้องสตาร์ตเครื่องไว้สำหรับเครื่องทำความเย็นให้ปลาทูน่าที่มีอยู่กว่า 278,033 กิโลกรัม หรือประมาณ 270 กว่าตันให้อยู่ในความเย็นกว่าลบ 50 องศาฟาเรนไฮต์ ทำให้ต้องใช้ค่าน้ำมันที่สูงเฉลี่ยวันละ 50,000 บาท เสียค่าใช้จ่ายไปแล้วกว่า 11,070,000 บาท หลังจากแบกภาระต่อไปไม่ไหว จึงหยุดเดินเครื่องทำความเย็นเรือ หลังน้ำมันเรือถังสุดท้ายหมดลงเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา,จาการสอบถามเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทราบว่า การขนย้ายดังกล่าวน่าจะใช้เวลา 3-4 วัน กว่าการขนย้ายของกลางทั้งหมดจะแล้วเสร็จ ซึ่งขณะนี้ภายในเรือทั้ง 2 ลำถึงแม้จะมีการดับเครื่องไประยะเวลาหนึ่ง แต่ภายในเรือยังมีอุณหภูมิลบ 30 องศาฟาเรนไฮต์ ปลาของกลางจึงยังไม่เน่าเสีย เมื่อนำขึ้นมาใส่รถบรรทุกจะต้องเร่งนำเข้าส่งห้องเย็นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามสำหรับของกลางดังกล่าว กรมประมงจะเป็นผู้รับไปดูแลต่อ โดยจะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องค่าเช่าห้องเย็นสำหรับจัดเก็บไปจนกว่าคดีจะสิ้นสุด.
|
ประมงจังหวัดขนย้ายปลาทูน่าของกลาง 2.7 พันตัน จากเรือประมงผิดกฎหมายไอยูยูไปเก็บห้องเย็นแล้ว หลัง 2 ผู้ประกอบการโอด ถูกจับกุมดำเนินคดีกว่า 7 เดือน รับภาระค่าน้ำมันเรือปั่นเครื่องทำความเย็นรักษาของกลางไปกว่าสิบล้าน จนแทบหมดตัว
| null |
ประมงผิดกฎหมาย,ประมงผิด ก.ม.,สยามทูน่าฟิชเชอรรี่,ปลาทูน่า,ภูเก็ต
|
https://www.thairath.co.th/content/711230
|
ชาวเกาหลีใต้ ตั้งความหวังผลการประชุมสุดยอด 2 เกาหลี
|
ชาวเกาหลีใต้จาก 4 สาขาอาชีพพากันตั้งความหวังว่าผลการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีมุน แจ อิน ผู้นำเกาหลีใต้ กับนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ในวันพรุ่งนี้ (27 เม.ย.) จะเป็นไปในทางที่ดีคิม ฮานา ผู้บริหารงานลูกค้าวัย 35 ปี แม้จะไม่ค่อยติดตามข่าวสารบ้านเมืองมากนัก แต่เธอก็ตั้งความหวังว่าการประชุมสุดยอดดังกล่าวจะทำให้เธอมีชีวิตที่มั่นคงมากขึ้นขณะที่ยู จอง ฮุน คนขับรถแท็กซี่วัย 59 ปี ตั้งความหวังว่าการเจรจาจะทำให้เกิดความมั่นไปยังรุ่นลูกของเขาส่วนคิม ยอง ซุล ทหารผ่านศึกสมัยสงครามเกาหลีวัย 89 ปี แสดงควาวหวังว่าจะไม่มีสงครามความขัดแย้งเกิดขึ้่นอีกบนคาบสมุทรเกาหลีขณะที่จี ซง โฮ ชาวเกาหลีเหนือแปรพักษ์ ต้องการให้มีการนำเรื่องสิทธิมนุษยชนไปเป็นประเด็นในการหารือระหว่างการประชุมยอดสองเกาหลีในวันพรุ่งนี้การประชุมสุดยอดระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้จะมีขึ้นที่เขตปลอดทหารในหมู่บ้านปันมุนจอมบนพรมแดนระหว่างทั้งสองประเทศโดยจะมีการหารือกันในหลายประเด็น รวมทั้งเรื่องโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ท่ามกลางความหวังของนานาชาติว่าการเจรจาจะปูทางไปสู่สันติภาพที่ถาวรบนคาบสมุทรเกาหลี
|
ชาวเกาหลีใต้ต่างหวังผลการประชุมสุดยอดระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้จะเป็นไปในทางที่ดี และปูทางไปสู่ความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลี
|
ต่างประเทศ
|
เกาหลีใต้,สิทธิมนุษยชน,ประชุมสุดยอดผู้นำ,เกาหลีเหนือ,คิม จองอึน,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews
|
https://news.thaipbs.or.th/content/271861
|
ต่อมรับรสเราไม่เท่ากัน ชาวเน็ตลงความเห็นมีจริงไหม ไม่อร่อยยินดีคืนเงิน
|
สมาชิกพันทิป หมายเลข 2778269 ตั้งกระทู้ ,ใครเคยได้เงินจากร้าน ไม่อร่อยยินดีคืนเงิน บ้างครับ ?, ซึ่งระบุว่า ,อยากรู้ว่ามีใครเคยเจอร้านแบบนี้แล้วขอเงินคืนบ้าง ช่วยเล่าประสบการณ์ให้หน่อยครับ, ทั้งนี้ สมาชิกพันทิปจำนวนมากได้เข้ามาตอบกระทู้ดังนี้,สมาชิกล็อกอิน ปลูกถั่ว, : ร้านข้าวขาหมูร้านนึงในซอยลาดพร้าวร้อยต้นๆ เราเคยไปกินเมื่อนานมาแล้ว สักห้าหกปีได้ เรากินไปคำแรกแล้วรู้สึกเหม็นหืน เลยกระซิบคนขายบอกว่าหมูมันไม่ค่อยโอเคหรือเปล่าคะ มีกลิ่นหืนนิด แล้วก็นั่งต่อนิดหน่อย แต่ไม่กินต่อ พอจะจ่ายเงิน ร้านไม่รับเงินค่ะ เขาบอกขอโทษจริงๆ แล้วก็เอาขาหมูขาที่มีปัญหายกไปทิ้งทั้งขาเลย,อาจไม่ค่อยตรงประเด็นนะ เพราะมันไม่ไช่ไม่อร่อย แต่มันมีปัญหาเรื่องความสดสะอาด แต่ร้านไม่รีรอที่จะขอโทษและแก้ปัญหาค่ะ สุดท้ายก็ได้กลับไปกินอีกครั้ง ครั้งนี้อร่อย เนื้อนุ่มมาก,สมาชิกล็อกอิน ฟ้าไม่ไกลถ้าเราก้าวเดิน, : ถึงไม่อร่อยก็ไม่กล้าขอเงินคืนอยู่ดี 555,สมาชิกล็อกอิน rabbit full armor, : เจอประจำ อร่อยที่สุดในโลก ไม่อร่อยไม่คิดตังค์ มั่นอะไรขนาดนี้,สมาชิกล็อกอิน pongto, : ซื้อกุยช่ายเจ้าประจำที่สีลม ปกติก็จะเก็บกลับไปกินที่บ้านตอนเย็น มีวันนึงซื้อเที่ยงยังไม่ได้กิน เก็บไว้ถึงเย็นจะมากิน ปรากฏว่าบูดซะแล้ว เป็นยางเหนียว ไปซื้ออีกครั้งก็เลยเลยบอกคนขายเล่าสู่กันฟังไม่ได้คิดอะไร ว่าคราวที่แล้วเก็บถึงเย็นบูดเลย ทุกครั้งไม่เป็นนะ คนขายรีบบอกขอบคุณที่มาบอก แล้วก็ไม่ยอมคิดเงินของที่ซื้อวันนี้ บอกว่าชดเชยให้ที่เสีย ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของร้านเลย แบบนี้ได้เป็นขาประจำกันเลย,สมาชิกล็อกอิน มะขามดอง, : ของบางความเห็นยังถือว่าโชคดีที่ยังรู้ว่าอะไรคือปัญหา อาทิตย์ที่แล้วไปทานก๋วยเตี๋ยวเรือมา บอกเช่นกันว่าไม่อร่อยคืนตังค์ คือว่า คุณรู้ไหมครับ มันไม่อร่อยจนหาจุดจับว่าไม่อร่อยตรงไหนไม่ได้เลย ไม่อร่อยไปหมด พูดแล้วน้ำตาจะไหล มันห่วยหมาไม่แหลก ห่วยแบบว่าก๋วยเตี๋ยวชามเล็กๆ ยังกินไม่หมดชาม ห่วยชนิดที่ว่าหาแหลกที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในชาตินี้ โอยพูดแล้วไมเกรนขึ้น,สมาชิกล็อกอิน หนอนแบกเป้, : เมื่อสองเดือนก่อน ขับรถลงใต้กับเพื่อน เลยแวะไปกินมื้อกลางวันริมทะเลที่ร้านครัวชมวาฬ บ่อนอก ประจวบฯ (เคยไปกินหลายครั้ง และเคยไปพักที่บ้านพักริมทะเลของเขาหลายครั้งแล้วค่ะ ) มีอาหารจานหนึ่งคือ หมึกแดดเดียว ที่วันนั้นเราและเพื่อนรู้สึกว่าเค็มมาก,ทั้งนี้ เลยคุยกับทางร้านว่าวันนี้ ปลาหมึกเค็มไปนิดนะคะ ตอนจ่ายเงิน ทางร้านไม่คิดเงินค่ะ ทั้งที่เราหม่ำไปราวครึ่งจาน ก็เกรงใจเขานะ บอกว่าเรากินไปเยอะ ขอจ่ายเถอะ ทางร้านไม่ยอมค่ะ บอกว่าพอเราทักก็เลยไปชิม บอกวันนี้เค็มไปหน่อยจริง ไม่อร่อยเหมือนเคย ขอไม่คิดเงินนะคะ
|
ต่อมรับรสคนเราไม่เท่ากัน! ชาวพันทิปร่วมกันแชร์ประสบการณ์ จริงหรือไม่ ที่ร้านเขาว่า ไม่อร่อยยินดีคืนเงิน
|
ข่าว,สังคม
|
กระทู้พันทิป,ไม่อร่อยเปลี่ยนได้,ไม่อร่อยยินดีคืนเงิน,ยินดีคืนเงิน,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/society/1361397
|
พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมตรวจเยี่ยม ทบ.เหล่าทัพแรก 9 ต.ค.นี้
|
วันนี้ (1ต.ค.2562) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการตรวจเยี่ยมเหล่าทัพทุกเหล่าทัพ โดยในวันที่ 9 ต.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์จะมาตรวจเยี่ยมกองทัพบกเป็นที่แรกพร้อมทั้งรับฟังบรรยายการสรุปงานของกองทัพบก และทำพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์กองทัพเฉลิมพระเกียรติ ภายหลังจากที่ดำเนินการปรับปรุงใหม่แล้วเสร็จ ซึ่งถือเป็นการสายต่อเจตนารมณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารบกพล.อ.อภิรัชต์ ระบุว่า ได้สั่งการให้ปรับปรุงห้องศูนย์ท่องเที่ยวกองทัพบกเป็นศูนย์คอมพิวเตอร์และศูนย์เรียนรู้ E-Learning เพื่อเป็นเซ็นเตอร์หรือศูนย์รวมให้บุตรหลานของกำลังพลได้มีพื้นที่เรียนรู้ในเวลาหลังเลิกเรียน และสามารถมารอคอยผู้ปกครองเลิกงานได้ คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดทำการได้ภายในเดือน เม.ย.2563ทั้งนี้ พล.อ.อภิรัชต์ ยังไม่ระบุถึงความคืบหน้าการจัดทำบทความเชิงวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในทางการเมืองและความมั่นคง แต่เตรียมบรรยายเรื่องสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งอาจจะเป็นวันที่ 8 ต.ค. หรือหลังจากวันที่ 9 ต.ค.ไปแล้ว ในประเด็นการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยย้ำว่าใครจะเข้าใจปัญหาภาคใต้ได้ดีกว่าคนที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาเคยอยู่ในพื้นที่เป็นอดีตผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลามาก่อน เคยกิน เคยนอน และทำงานเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมข้อมูล
|
พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ยังไม่เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำบทความเชิงวิทยานิพนธ์เรื่องการเมือง - ความมั่นคง แต่ได้เตรียมบรรยายสถานการณ์ชายแดนใต้ด้วยตัวเอง พร้อมระบุว่า นายกรัฐมนตรีจะตรวจเยี่ยมกองทัพบกในวันที่ 9 ตุลาคมนี้
|
การเมือง
|
ผู้บัญชาการทหารบก,นายกรัฐมนตรี,กองทัพบก,อภิรัชต์,ประยุทธ์
|
https://news.thaipbs.or.th/content/284738
|
จักรทิพย์ ไม่หนักใจคดี ม.112 เผย 8 ตร. ให้ความร่วมมือดี
|
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เผยสั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินการขยายผล เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดใน คดีหมิ่นสถาบันฯ ขั้นเด็ดขาด หลังสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวได้แล้ว 3 ราย,เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผล ว่ามีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนว่าเชื่อมโยงถึงใคร รวมถึงคำให้การของผู้ต้องหา พาดพิงถึงบุคคลใดก็จำเป็นต้องมีการตรวจสอบให้แน่ชัด และหากมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งตนไม่รู้สึกหนักใจในการทำคดีนี้ เพราะมีประสบการณ์ในการทำคดีลักษณะนี้มาแล้ว พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าว,สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง และ นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรือ อาร์ต คนสนิทของหมอหยอง,ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาบางส่วน ที่ตรวจพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี อาทิ อาวุธปืน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ส่วนพฤติการณ์การแอบอ้างสถาบันเพื่อเรียกรับผลประโยชน์นั้น ก็มีความคล้ายคลึงกับคดีหมิ่นสถาบันฯ ก่อนหน้านี้,สำหรับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัดกองบัญชาการสอบสวนกลาง 8 นาย ที่มีคำสั่งโยกย้ายให้มาช่วยราชการก่อนหน้านี้นั้น ได้ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลในการสอบสวน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนว่า ทั้ง 8 นายมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง และจะรู้จักกับตำรวจกองบังคับการปราบปราม ทั้ง 5 นาย ที่ถูกสั่งย้ายล่าสุดหรือไม่นั้น เป็นเรื่องส่วนตัวที่ตนเองไม่อยากก้าวก่าย ขณะที่การแจ้งข้อหากับตำรวจทั้ง 8 นายนั้นอยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน ซึ่งตนเองจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายอย่างแน่นอน ส่วนการส่งสำนวนฟ้องต่ออัยการ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ทำการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดรอบคอบก่อน.
|
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน การสอบสวนตำรวจ 8 นาย สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ย้ำไม่หนักใจในคดี หากหลักฐานโยงถึงใครดำเนินตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
หมิ่นเบื้องสูง,ม.112,ออกหมายจับ,แอบอ้างเบื้องสูง,หมิ่นสถาบัน,คดีอาญา,มาตรา 112,ตำรวจ 8 นาย,จักรทิพย์ ชัยจินดา,บิ๊กแป๊ะ,ผบ.ตร.,สุริยัน สุจริตพลวงศ์,หมอหยอง,กองบัญชาการสอบสวนกลาง,กทม.,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/news/local/534137
|
หัวเว่ยปลดพนักงาน หลังถูกจับในโปแลนด์ข้อหาเป็นสายลับ
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 12 ม.ค. ว่า บริษัท หัวเว่ย ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของประเทศจีน ดำเนินการปลดลูกจ้างชายชาวจีนคนหนึ่งนามว่า หวัง เว่ยจิง ออกจากตำแหน่งแล้ว หลังจากชายคนนี้ถูกจับกุมในประเทศโปแลนด์ ในฐานะผู้ต้องสงสัยเป็นสายลับ,หัวเว่ยออกแถลงการณ์ยืนยันด้วยว่า พวกเขาปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับของทุกประเทศที่พวกเขาทำธุรกิจ การกระทำของนายหวังไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท และที่ปลดนายหวังก็เพราะเขาทำให้หัวเว่ยเสื่อมเสียชื่อเสียง,นายหวัง กับอดีตสมาชิกหน่วยข่าวกรองโปแลนด์คนหนึ่ง ถูกจับกุมเมื่อวันอังคารที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหาเป็นสายลับ หลังมีการสืบสวนเป็นระยะเวลานาน ก่อนที่ศาลกรุงวอร์ซอ จะเห็นชอบตามคำขอของอัยการให้ควบคุมตายทั้ง 2 คนเอาไว้เป็นเวลา 3 เดือน และหากพบว่าพวกเขามีความผิดจริง พวกเขาก็ต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี,ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัท หัวเว่ย เข้าไปมีส่วนพัวพันกับปัญหาทางการทูตหลายครั้ง โดยส่วนใหญ่มีสาเหตุจากความกังวลด้านความมั่นคง เนื่องจากตามกฎหมายของจีน บริษัทต่างๆ ต้องให้การสนับสนุน, ร่วมมือ และประสานงานในกิจการข่าวกรองแห่งชาติ นอกจากนี้ ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยคือ เหริน เจิ้งเฟย อดีตวิศวกรกองทัพจีนและสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน ยิ่งทำให้หัวเว่ยถูกครหาว่า แฮกระบบ, ดังฟังการสื่อสาร หรือเข้าถึงเครือข่ายอ่อนไหวในประเทศต่าง,จากความกังวลดังกล่าวทำให้ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และสหรัฐฯ ห้ามหัวเว่ยเข้าร่วมเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 5จี ในประเทศของพวกเขา
|
หัวเว่ยปลดพนักงานชาวจีนผู้ถูกจับกุมในโปแลนด์ฐานเป็นสายลับ โดยยืนยันว่า การกระทำของชายคนนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท
|
ข่าว,ต่างประเทศ
|
สายลับ,หัวเว่ย,ปลดพนักงาน,โปแลนด์,จีน
|
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1468419
|
สมชาย ระบุบางพรรคทำนิติกรรมอำพรางกู้เงิน ชี้อย่าตะแบง
|
วันนี้ (17 ม.ค.2563) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.มีมติเสียงข้างมากส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคอนาคตใหม่คดีกู้ยืมเงิน 191 ล้านบาทเศษที่เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.พรรคการเมือง ปี 2560 มาตรา 62มาตรา 66 และมาตรา 72นายสมชายระบุว่า ทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงนั้น ยังคงเป็นเช่นนั้นและเปลี่ยนแปลงความยุติธรรมไม่ได้ เพราะชัดเจนว่าพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญพรรคการเมืองปี 2560 กับพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญปี 2550 แตกต่างกันในส่วนสำคัญมาก ในการที่ผู้ยกร่างและผู้พิจารณากฎหมายตัด (7) ของมาตรา 53 ซึ่งเป็นเรื่องรายได้อื่นๆของพรรคการเมือง ที่เคยแอบใช้วิธีนิติกรรมอำพราง การจ่ายเงินลงขันธุรกิจการเมืองของบรรดานายทุนพรรคในรูปแบบเงินกู้มาตลอด เรื่องนี้ทั้ง.กกต.และศาลรัฐธรรมนูญมีพยานเอกสารบันทึกไว้ครบถ้วน ไม่ต้องไต่สวนเพิ่มเติมอีกในระหว่างการพิจารณาร่างกฎหมายนั้น กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ.เห็นตรงกันในประเด็นนี้ว่า พรรคการเมืองและนายทุนนักธุรกิจการเมืองมักสร้างปัญหานิติกรรมอำพรางแบบนี้ จึงตัดออกจากร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญพรรคการเมืองที่กกต.เสนอร่างมา มีการหารือในประเด็นนี้ชัดเจน ไม่ต้องสงสัยนอกจากนั้น ในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณากฎหมายดังกล่าว มิได้ปรับปรุงตัดทอนเพิ่มเติมมาตรานี้แต่ประการใดอีก และยังได้มีการบันทึกการสอบถามความเป็นมาของการตัดอนุมาตรานี้ในที่ประชุมโดยผู้บริหารกกต.และตัวแทนกรธ.ชี้แจงไว้ชัดเจนเช่นกันว่า ตัดอนุมาตรานี้เพราะไม่ให้พรรคการเมืองไปแอบทำนิติกรรมอำพรางในรูปแบบเงินกู้เช่นเดิมอีกส่วนกรณีที่อ้างว่าบางพรรคการเมืองมีการกู้เงินหลายสิบพรรคมากมายนั้น หาก กกต.ทำการตรวจสอบแล้วก็จะพบว่าพรรคการเมืองส่วนใหญ่ที่ว่านั้นเป็นการกู้เงินตามพ.ร.บ.พรรคการเมืองเก่าปี 2550 การแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองในปี 2561 จึงยังคงจะต้องแจ้งเช่นนั้นกรณีทำนองเดียวกันนี้ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยในกรณี ส.ส.และส.ว.ถือหุ้นสื่อและหุ้นสัมปทานเมื่อปี 2554 ว่ามีมาก่อนและไม่มีการซื้อหุ้นเพิ่มนั้น ไม่มีความผิด กรณีนี้เทียบเคียงเช่นเดียวกัน และเป็นการกู้ยืมก่อนแก้ไขกฎหมายชัดเจนส่วนถ้าพรรคการเมืองใดมีการกู้เงินทำนิติกรรมอำพรางหลังจากมีกฎหมายพรรคการเมืองปี 2560 มาตรา 62 ที่ตัดอนุมาตราเรื่องรายได้อื่นๆออกแล้ว และเข้าข่ายทำสัญญาเงินกู้แบบนิติกรรมอำพราง ก็ย่อมมีความผิดกกต.ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยให้ยุบพรรคเช่นเดียวกันกับพรรคอนาคตใหม่ เรื่องนี้ทำให้ชัดเจนก็เท่านั้น ใครถูกว่าไปตามถูกใครทำผิดก็ต้องรับผิด อย่าตะแบงตีความกฎหมายกัน
|
สมาชิกวุฒิสภา แจงเหตุตามการพิจารณากฎหมายพรรคการเมืองยุค กรธ. เรื่องที่มารายได้ของพรรคการเมือง กรธ.ตัดอนุมาตราเรื่องรายได้อื่นๆออก เพราะอดีตพรรคการเมืองทำนิติกรรมอำพรางด้วย เงินกู้
|
การเมือง
|
กกต.,สมชาย แสวงการ
|
https://news.thaipbs.or.th/content/288070
|
ทหารเร่งล่ากำลังติดอาวุธ หลังปะทะบนเขาที่รือเสาะ นำศพมาให้ญาติยืนยัน
|
กรณีเมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 2 มี.ค. 62 เหตุชุดปฏิบัติการของทหารพรานที่ 46 ปะทะกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธเป็นเวลานาน 30 นาที บนเชิงเขาหลังหมู่บ้านลาโล๊ะ ม.5 ต.ลาโละ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส โดยกลุ่มคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิต 1 ศพ ถูกยิงพรุนไปทั้งร่าง โดยข้างศพมีอาวุธปืนเอ็ม 16 แบบ A2 จำนวน 1 กระบอก ตกอยู่ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่โดยได้นำภาพในหมายจับมาเปรียบเทียบ แต่ต้องรอการยืนยันอย่างแน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าเป็น นายอิสมาแอ วาแมง อายุ 29 ปี ชาวบ้าน ม.4 ต.ลาโละ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และบริเวณรายล้อมจุดปะทะ เจ้าหน้าที่พบคราบรอยเลือดของกลุ่มคนร้ายตกอยู่บนพื้นกระจัดกระจาย ซึ่งคาดว่ากลุ่มคนร้ายจำนวนหนึ่งที่สามารถอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ ถูกเจ้าหน้าที่ยิงได้รับบาดเจ็บ ,นอกจากนี้ ยังยึดที่พักชั่วคราว 1 หลัง อุปกรณ์ประกอบอาหาร ข้าวสาร อาหารสำเร็จรูป เสื้อผ้าและยารักษาโรค เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส มาตรวจสอบเพื่อเก็บรวบรวมหลักฐาน รวมทั้งคราบลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับแฟ้มประวัติบุคคลที่ก่อคดีความมั่นคงว่าตรงกับผู้ใด ส่วนอาวุธปืนเจ้าหน้าที่จะนำไปตรวจสอบ ว่าอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวเป็นของหน่วยใด ที่คนร้ายได้ขโมยมาหลังจากก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่เสียชีวิต,ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.จตุพร กลัมพสุต รองแม่ทัพภาค 4 พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม จ.นราธิวาส พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนหนึ่ง ได้เดินเท้าขึ้นเทือกเขาไปยังจุดเกิดเหตุ โดย พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม จ.นราธิวาส ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ในการไล่ล่ากดดันกลุ่มคนร้ายที่หลบหนี โดยตามร่องรอยคราบเลือดที่หยดตามรายทาง โดยกลุ่มคนร้ายมุ่งหน้าไปยังเทือกเขาเขตรอยต่อ ระหว่าง อ.ระแงะ และอ.ศรีสาคร พร้อมได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่กรมทหารพรานที่ 45 และ 49 ที่ปฏิบัติหน้าที่ภาคพื้นดิน จัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่ในการลาดตระเวนเส้นทางที่คาดว่า กลุ่มคนร้ายจะใช้หลบหนี เพื่อนำตัวคนเจ็บไปรักษาตัวที่บ้านของสมาชิกแนวร่วมหลังใดหลังหนึ่งในเขตรอยต่อของ 2 อำเภอ,ส่วนศพของนายอิสมาแอ วาแมง ที่เจ้าหน้าที่ยังไม่ยืนยันในเบื้องต้นนั้น เจ้าหน้าที่จะนำศพลงมาส่งโรงพยาบาลรือเสาะ เพื่อให้แพทย์ชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งให้ญาติยืนยัน หากเป็นนายอิสมาแอ เจ้าหน้าที่ก็จะมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
|
ทหารพราน นราธิวาส เร่งติดตามกลุ่มคนร้ายที่ยังหลบหนีตามรอยต่อ อ.ระแงะ และอ.ศรีสาคร หลังปะทะกับ จนท.บนเขาที่ อ.รือเสาะ ขณะที่ศพคนร้ายที่ตายได้นำลงมาจากเขาเพื่อให้ญาติยืนยันตัวอีกครั้ง
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ทหารพราน,นราธิวาส,ปะทะโจรใต้,กองกำลังติดอาวุธ,อ.รือเสาะ,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1509158
|
กวีประชาไท: การเริ่มต้นของลมหนาว
|
ลมหนาวหวนคืนอีกคราขณะข้าพร่ำความงามของความเศร้าเสียงกระซิบยินแว่วเพียงแผ่วเบาสายลมบอกเล่า กาลเวลาฤดู พบพาน เพื่อผ่านเลยลมหนาวเฉลย ปริศนาความรู้สึกแห่งหัวใจในน้ำตาช่างเหว่ว้า ยับเยิน จนเกินทนลมหนาวหวนคืนอีกครั้งแล้วเสียงแว่ว ของท้องฟ้า หลังซาฝนเสียงกระซิบอันอ้างว้างจากใครบางคนใครได้ยินความหมองหม่นหมุนวนไปในมุมมองอีกมุมของหนุ่มสาวลมหนาวเอยลมหนาวเจ้ารู้บ้างไหมหนทางสู้ ช่างหนาวเย็นยะเยียบใจใครต่อสู้เพื่อใคร ใครไม่รู้ลมหนาว-หนุ่มสาว และกองไฟเขยื้อน ยุคสมัยเพื่อไปสู่การข้ามพ้นฤดูกาลเพื่อหว่านฤดูแล้วพรั่งพรู เล่า-แชร์ ให้แก่กันหนุ่มสาวลมหนาว ที่พัดมา หอบพาความฝันที่เราร่วมแต่งเติมในคืนวันเป็นสัมพันธ์ แห่งพันธะ ระหว่างเราเขียนเนื่องในโอกาสที่อัยการได้ทำการส่งฟ้อง 7 นักกิจกรรมทางสังคมต่อศาลทหารในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรัฐประหาร คสช.3/58 จากการจัดกิจกรรมพูดเพื่อเสรีภาพ ที่ศาลาจตุรมุข ม.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2559
|
ลมหนาวหวนคืนอีกคราขณะข้าพร่ำความงามของความเศร้าเสียงกระซิบยินแว่วเพียงแผ่วเบาสายลมบอกเล่า กาลเวลา ฤดู พบพาน เพื่อผ่านเลยลมหนาวเฉลย ปริศนาความรู้สึกแห่งหัวใจในน้ำตาช่างเหว่ว้า ยับเยิน จนเกินทน
|
การเมือง,สิทธิมนุษยชน,วัฒนธรรม
|
กวีประชาไท,พูดเพื่อเสรีภาพ,โจรสลัดพเนจร
|
https://prachatai.com/journal/2017/10/73728
|
แหล่งนิวตรอนช่วยมองเข้าไปในไข่ไดโนเสาร์
|
ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการพัฒนาในไข่ไดโนเสาร์ แต่การจะมองเข้าไปในซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลไข่ไดโนเสาร์ได้นั้น นักบรรพชีวินวิทยาจากมหาวิทยาลัยบอนน์ ในเยอรมนี เผยว่า ต้องใช้แหล่งกำเนิดนิวตรอนจากมหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งมิวนิกเข้ามาช่วยจากการตรวจสอบพัฒนาการของตัวอ่อนในซากฟอสซิลไข่โอวิแร็ปเตอร์อายุราว 67 ล้านปีที่พบในลุ่มแม่น้ำเมืองก้านโจวของมณฑลเจียงซี ประเทศจีน ทีมเผยว่าวิธีการใช้นิวตรอนทำให้ประเมินได้ว่า ตัวอ่อนไดโนเสาร์จะฟักตัวในเวลาเดียวกันหรือในช่วงเวลาที่ต่างกันนั้น ขึ้นอยู่กับระยะการพัฒนาของตัวอ่อนในไข่ และความยาวของกระดูกในไข่ สิ่งเหล่านี้มีบทบาทสำคัญ เพราะตัวอ่อนที่มีกระดูกค่อนข้างยาวกว่าจะพัฒนาได้มากกว่า สิ่งบ่งชี้อีกอย่างก็คือขนาดของกระดูกเชื่อมต่อถึงกัน โครงกระดูกที่เชื่อมต่อกันมากขึ้นแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการขั้นสูงของตัวอ่อนไดโนเสาร์ ซึ่งบ้างก็บอกว่าโอวิแร็ปเตอร์ มีพัฒนาการด้วยความเร็วที่แตกต่างกันในไข่คล้ายคลึงกับนกยุคใหม่ทั้งนี้ นักวิจัยสันนิษฐานว่าโอวิแร็ปเตอร์ ซึ่งเป็นไดโนเสาร์ที่เดินด้วย 2 ขา อาศัยอยู่ในเอเชียกลางช่วงยุคครีเตเชียส ประมาณ 88-66 ล้านปีก่อน น่าจะเป็นสายพันธุ์ที่อยู่ระหว่างจระเข้และนกยุคใหม่ เพราะจระเข้จะฝังไข่และฟักลูกในเวลาเดียวกัน แต่กับนกนั้นการฟักไข่ในรังมักเกิดขึ้นในเวลาต่างกัน.
|
หนึ่งในข้อสงสัยที่ว่าลูกไดโนเสาร์กลุ่มโอวิแร็ปเตอร์ (oviraptorid) ฟักออกจากไข่ในเวลาเดียวกันหรือไม่ คำตอบอาจมาจากช่วงระยะเวลาและการจัดเรียงของกระดูกตัวอ่อน
|
ข่าว,สังคม
|
ไดโนเสาร์,oviraptorid,ไข่ไดโนเสาร์,ลูกไดโนเสาร์,แหล่งกำเนิดนิวตรอน,นักวิจัย,การศึกษา
|
https://www.thairath.co.th/news/society/1762136
|
ธรรมนัส ตั้งหลักโต้ภาพตัดต่อคลิปหน้ากาก (คลิป)
|
โยงวาระการเมือง แต่สอบ คนสนิท ตำรวจคว้านํ้าเหลวไม่พบมีลอตใหญ่เพจแหม่มฉะกลับพร้อมระบุเรื่องนี้มีวาระทางการเมือง พบการตัดต่อภาพยังพูดมากไม่ได้ ขณะที่หลายภาคส่วนเริ่มขยับตรวจสอบความโปร่งใส บิ๊กตู่ บอกให้เป็นไปตามระบบ ตำรวจ บก.ปอท.เผยสอบ ศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศวัชรี มาราธอน 5 ชม. ก่อนปล่อยชั่วคราว จ่อเรียกคนบันเทิงผู้เกี่ยวข้องมาสอบอีก ด้าน แหม่มโพธิ์ดำ เปิดเพจแจงเดือดอาจเดินหน้าต่อคลิปขายหน้ากากอนามัยมีขายไม่อั้น พ่นพิษเขย่าความชอบธรรมของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ทำเอา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ต้องแถลงชี้แจงสองรอบในวันเดียวกัน ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแม้มีข้อมูลนายพิตตินันท์ รักเอียด 1 ในคณะทำงานไปเกี่ยวข้อง ต่อมานายศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศวัชรี ชายต้นเรื่องที่ปรากฏในคลิปเชิญชวนซื้อหน้ากากในโกดังแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าพบตำรวจบช.ภ.2 ก่อนนำตัวส่งให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. สอบปากคำด้วยตนเอง เจ้าตัวเปิดปากอ้างเป็นเพียงนายหน้าคนกลาง หน้ากากอนามัยลอตยักษ์ไม่มีจริง ก่อนถูกคุมตัวไปแจ้งข้อหาความผิด พ.ร.บ.คอมฯ ขณะที่หน่วยงานต่างๆเริ่มขยับ ตรวจสอบความโปร่งใสของผู้เกี่ยวข้องในรัฐบาลบิ๊กตู่ ชี้ไม่จบว่าไปตามระบบที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า จากที่คณะทำงานลงไปตรวจสอบโรงงานทุกจุดที่เกี่ยวข้อง ยังไม่พบความผิดปกติ ผู้ที่ถูกกล่าวอ้างได้รับสารภาพกับตำรวจแล้วว่าทำอะไรอย่างไร ทุกอย่างให้ว่าไปตามขั้นตอน ต้องสอบสวนกันต่อไป การทำงานในเรื่องนี้ของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดยังไม่จบ ขอให้สื่อคิดถึงขั้นตอนกระบวนการ ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ปฏิเสธตอบคำถามผู้สื่อข่าวจุรินทร์ สั่งฟันอีก 3 ข้อหาขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า มี 3 ข้อหาที่กระทรวงพาณิชย์ต้องเข้าไปร่วมสอบสวนนายศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศวัชรี คือ 1.หากครอบครองหน้ากาก 200 ล้านชิ้นจริงหรือจำนวนเท่าไหร่ตามที่กฎหมายห้าม ต้องแจ้งการครอบครองหากไม่แจ้งถือว่าผิด 2.จำหน่ายเกินราคาและ 3.ค้ากำไรเกินควร ต้องดำเนินการไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายให้ส่งออก จึงถือเป็นการลักลอบ สั่งการปลัดกระทรวงพาณิชย์ไปแล้ว ให้ไปร่วมในทุกขั้นตอนของการดำเนินคดีและสาวไปถึงใครก็ต้องดำเนินการ ยังไม่มีข้อมูลการแอบอ้างใกล้ชิดกับคณะทำงานของ รมช.เกษตรฯ แต่ปัญหาจริงๆคือตอนนี้เรามีหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอที่จะส่งออกเสรีพิศุทธ์ ยันเรื่องนี้ต้องกระจ่างพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีมีบุคคลใกล้ชิดรัฐมนตรีในรัฐบาลไปร่วมกระบวนการกักตุนหน้ากากอนามัยนำไปจำหน่ายในราคาแพงว่า ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องแสดงความรับผิดชอบเช่นกัน เพราะรัฐบาลไม่สามารถบริหารจัดการเรื่องหน้ากากอนามัยให้เพียงพอต่อความ ต้องการของประชาชนได้ เบื้องต้นพบความพยายามเบี่ยงประเด็นเป็นการกระทำความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพื่อไม่ให้ตรวจสอบลงลึกไปถึงกระบวนการกักตุนหน้ากากอนามัยเชื่อมโยงไปถึงผู้เกี่ยวข้องอีกหลายคนในรัฐบาล ดูเหมือนพยายามช่วยเหลือปกปิดข้อเท็จจริงบางเรื่อง อาทิ การไม่ตรวจสอบบัญชีธนาคารเพราะสามารถเห็นเส้นทางการเงินได้ชัดเจนอย่าปล่อยคนผิดลอยนวลพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวด้วยว่า การลักลอบเอาหน้ากากออกมาจากหน่วยงานรัฐได้ ต้องมีบุคคลหลายฝ่ายเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้อนุมัติและผู้จัดส่งสินค้า เรื่องเหล่านี้ตรวจสอบได้ไม่ยาก แม้ดูเหมือนจะมีความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นและทำลายพยานหลักฐานก็ตาม ทั้งหมดนี้จึงเป็นประเด็นที่ กมธ.ป.ป.ช.จะเข้าไปตรวจสอบ เพื่อให้ได้คำตอบว่าหน้ากากอนามัยหายไปไหน ใครเกี่ยวข้องกับการกักตุน เรื่องนี้คือการกักตุนสินค้าซึ่งเป็นเครื่องมือป้องกันชีวิตคนไทยจากเชื้อไวรัส นายกฯจะทำเป็นเรื่องล้อเล่น ปล่อยให้คนกักตุนลอยนวลไปเฉยๆไม่ได้ชวน หนุนให้จัดการเด็ดขาดนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีอาจมีคณะทำงานของรัฐมนตรีรายหนึ่ง ไปเกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากากอนามัย อาจเป็นหน้าที่ของกรรมการจริยธรรมสภาฯที่เพิ่งเกิดขึ้นเข้าไปตรวจสอบ กรณีนี้ต้องดูข้อเท็จจริงด้วย หากมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องจริง ไม่เพียงแต่เรื่องจริยธรรมเท่านั้น ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เชื่อว่ากระทรวงพาณิชย์คงไม่ปล่อยเอาไว้ อย่าเพิ่งไปเชื่ออะไรโดยยังไม่ไตร่ตรอง จริงๆอาจเป็นคนละเรื่องก็ได้ สมมติถ้ามีข่าวออกมาว่ามีการกักตุนจริง เป็นเรื่องร้ายแรงในสถานการณ์อย่างนี้ต้องดำเนินการเด็ดขาดธรรมนัส ชี้เรื่องนี้โยงการเมืองอีกด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์กรณีคณะทำงานถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับบุคคลที่มีการกักตุนหน้ากากอนามัยดังกล่าวว่า ตอนนี้ความจริงปรากฏออกมาแล้ว ตำรวจขยายผลแล้ว เดี๋ยวจะรู้ว่าใบออเดอร์สินค้ามีจริงหรือไม่และอยู่กับใคร รอติดตามผลพิสูจน์ความจริงดีกว่า ตอนนี้ผมรู้แล้ว ภายในสัปดาห์นี้จะกระจ่าง คาดไม่เกินวันที่ 13 ธ.ค. เชื่อเรื่องนี้มาจากการเมือง ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายพิตตินันท์ รักเอียด จะทราบผลสรุปวันเดียวกัน เบื้องต้นสั่งปลดออกจากคณะทำงานไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ชี้มีตัดต่อภาพ-ยังพูดไม่ได้ร.อ.ธรรมนัสกล่าวด้วยว่า ตอนนี้เริ่มรู้แล้วมีการตัดต่อภาพ สื่อก็รู้ บอกได้เลยว่ามีการตัดต่อ รู้เยอะกว่านี้แต่พูดไม่ได้ อยากเรียนสื่อมวลชนว่าการนำเสนอข่าว อะไรที่เป็นความจริงทำให้สังคมเห็น ควรจะนำเสนอโดยเฉพาะในเวลานี้ บ้านเมืองกำลังวิกฤติ ควรนำข้อเท็จจริงมาเสนอ ต้องช่วยกันกระชากหน้ากากว่าจริงๆแล้วใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กันแน่ ตอนนี้ผมรู้เยอะแล้ว ขอให้สื่อมวลชนเปิดเผยความจริงให้กระจ่าง อย่าไปอยู่ในเกมของการเมืองและโซเชียล เชื่อว่าสื่อรู้กันอยู่แล้ว ว่าอะไรคืออะไรในโลกโซเชียลภาครัฐเริ่มขยับเช็กย้อนหลังเย็นวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนี้อีกครั้งว่า ถ้าเขาทำผิดต้องลงโทษ เท่าที่ทราบมีการแจ้งดำเนินคดีไปหลายข้อกล่าวหาแล้ว สั่งการให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ไปดำเนินการทางกฎหมายกวาดล้างหลอกฉ้อโกงขายหน้ากากอนามัยทางออนไลน์และดำเนินคดีอาญาอีกเยอะแยะ วันนี้ทหารไปช่วยตำรวจ กระทรวงพาณิชย์ สืบข่าวตรวจสอบย้อนกลับทั้งหมดในทุกโรงงาน จนไปถึงช่องทางการจำหน่าย ไปตรวจสอบ 5-6 โรงงานยังไม่พบความผิดปกติ ไม่ได้เป็นการช่วยใครทั้งนั้น อย่างกรณีการขายทางออนไลน์มีของหรือเปล่าก็ไม่รู้ สื่อต้องช่วยตรวจสอบด้วย บางคนยอมจ่ายเงินล่วงหน้าต้องสูญเงินตกเป็นเหยื่อ ขอให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสมา รัฐบาลพร้อมจัดการตั้งคณะตรวจสอบคนตัวเองเวลาไล่เลี่ยกัน มีรายงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหม–เผ่า รมช.เกษตรฯ ลงนามในคำสั่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ 373/2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง ใจความสรุปว่า จากที่มีการเผยแพร่ของเพจแหม่มโพธิ์ดำว่า มีการกักตุนหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น เพื่อขายต่อให้กับนายทุนจีนและผู้อื่น มีนายพิตตินันท์ รักเอียด คณะทำงานของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เข้าไปเกี่ยวข้องตามภาพถ่ายที่ปรากฏในเฟซบุ๊ก เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณา พร้อมทั้งดำเนินการกับผู้กักตุนและขายสินค้าเกินราคาและให้ความเป็นธรรมกับผู้เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จึงแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้นายรัตนะ สวามี-ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน มีคณะทำงานประกอบด้วย จ.อ. ชัยพล ภูต้องลม นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการพิเศษ นายศิลา ละเภท นิติกรชำนาญการพิเศษ นายกิตติพงศ์ คงรักษ์ นิติกรชำนาญการ มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง รวบรวมข้อมูล พยานหลักฐานและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปผลพร้อมเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวบิ๊กปั๊ด สั่งทีมงานเช็กข้อมูลที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.เรียกคณะทำงาน มาสอบถามความคืบหน้าผลการเข้าตรวจค้น 6 จุดเป้าหมายในพื้นที่ กทม. จ.สมุทรปราการ และ จ.ชลบุรี ทำให้สังคมตื่นตระหนกมีการกักตุนสินค้าจำนวนมาก เพื่อรอส่งขายต่างประเทศ สำหรับแนวทางการดำเนินคดี เบื้องต้น บก.ปอท.แจ้งข้อหากับนายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี ฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ รวมทั้งอยู่ระหว่างตรวจสอบประวัติของนายศรสุวีร์อย่างละเอียด เรื่องสถานะทางการเงิน ทรัพย์สิน หนี้สิน ข้อมูลการพูดคุยและถ่ายภาพกับบุคคลอื่น รวมถึงดารานักแสดงต้องถูกเรียกมาสอบปากคำทั้งหมดที่ บก.ปอท.พบซื้อขายกันเพียงสองแสนชิ้นสำหรับการเข้าค้นเป้าหมาย ที่อาคารไทยเฮลท์ เลขที่ 6/32 ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงหนองแขมและเขตหนองแขม กทม. ที่นายศรสุวีร์ อ้างว่าเป็นที่ใช้กักตุนสินค้ากว่า 200 ล้านชิ้นนั้น จากการตรวจสอบพบว่ามีหน้ากากอนามัยอยู่เพียง 12500 ชิ้น หน้ากากอนามัยดังกล่าวนายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ เจ้าของในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพ เป็นผู้สั่งทำจากโรงงานแห่งหนึ่ง นำมาใส่โลโก้ของตัวเอง พบข้อมูลนายพันธ์ยศติดต่อซื้อขายหน้ากากอนามัยกับนายศรสุวีร์จริง นายศรสุวีร์รับว่าซื้อขายหน้ากากอนามัยจากนายพันธ์ยศ เพียง 2 แสนชิ้นเท่านั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบเป็นการซื้อขายก่อนหรือหลังประกาศควบคุม ส่วนการเข้าตรวจสอบที่โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยแห่งหนึ่งในซอยรามอินทรา 86 โรงงานชี้แจงว่าส่งข้อมูลให้กรมการค้าภายในแล้ว ซึ่งกรมการค้าภายในระบุว่าเป็นความลับสอบ ศรสุวีร์ มาราธอน 5 ชม.ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. เปิดเผยว่า หลังจากที่ พ.ต.ท.กฤช เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา รอง ผกก. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. นำกำลังไปรับตัวนายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี มาสอบสวนต่อที่ บก.ปอท.เมื่อเวลา 20.00 น.ของวันที่ 9 มี.ค. พนักงานสอบสวนใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 5 ชม. แจ้งข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ ก่อนปล่อยตัวนายศรสุวีร์ไปชั่วคราว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานหากขาดในจุดใดก็จะเรียกมาสสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อส่งฟ้องตามขั้นตอน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดมาขออายัดตัวไปแจ้งข้อหาเพิ่มเติมพีท ทองเจือ ลง ปจว.ไม่เกี่ยวส่วนการเคลื่อนไหวของดาราที่เข้าไปเกี่ยวข้องโดยมีภาพถ่ายคู่กับนายศรสุวีร์ไปปรากฏตามสื่อนั้น ที่ สน.ปทุมวัน เวลา 13.00 น. พีท ทองเจือ นักแสดงคนดังเดินทางมาพร้อมครอบครัวเข้าพบกับ พ.ต.ต.เวียงแก้ว สุภาการณ์ สว. (สอบสวน) สน.ปทุมวัน นำคลิปวิดีโอภาพของตัวเองปรากฏในคลิปของ นายศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศวัชรี ที่แอบอ้างว่ามีหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น และยังบอกว่ารู้จักกับคนสนิทของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ พีท ทองเจือ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน สำหรับคลิปดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือน ก.พ. ขณะที่ถ่ายละครอยู่ที่พัทยา มีนายศรสุวีร์เดินทางมาที่กองละคร ถ่ายคลิปแล้วติดตนไปด้วย ยืนยันว่าไม่เคยพบพูดคุยกัน ตนไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมลักษณะนี้ คลิปนี้สร้างความเสียหายกับผม อาจมีคนมาด่าโจมตีว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ ผมเห็นคลิปนี้ในพื้นที่ สน.ปทุมวัน ตัดสินใจมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ในอนาคตหากมีการดำเนินคดีกับนายศรสุวีร์ แล้วผมโดนเรียกไปสอบ ก็จะมีหลักฐานว่าได้ลงบันทึกประจำวันไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้ว พีทกล่าวทิ้งท้ายบช.น.ออกโรงปรามกักตุนแมสก์ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มีการเผยแพร่เอกสาร กรณีอาจมีผู้ประกอบการบางราย อาศัยโอกาสแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย สร้างความเดือดร้อน ด้วยการกักตุนสินค้าหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและอื่นๆเพื่อจำหน่ายในราคาที่สูงเกินควร หรือจำหน่ายสินค้าไม่มีคุณภาพ โดยให้ ผกก.ทุก สน.เป็นผู้ควบคุมกำกับการสอบสวนคดี การกระทำผิดฐานกักตุนสินค้าควบคุมโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ม.30 ประกอบ ม.41 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ การจำหน่ายสินค้าและบริการที่ควบคุมเกินราคา เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ม.39 ประกอบ ม.26 วรรคสอง ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่ 100000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ การจำหน่ายสินค้าด้อยคุณภาพเป็นความผิดตาม ป.อาญา ม.271 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หลอกลวงขายสินค้าซึ่งไม่มีอยู่จริงให้แก่ประชาชน อาจเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ตาม ป.อาญา ม.341 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน ตาม ป.อาญา ม. 343 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับปลด ศรสุวีร์ พ้น กต.ตร.ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี นายไพโรจน์ ประวัติเลิศอุดม ประธาน กต.ตร.สภ.หนองปรือ เรียกประชุมด่วน กต.ตร.สภ.หนองปรือและที่ปรึกษา ในวาระสำคัญเรื่องขอมติในที่ประชุมเพื่อโหวตกรณีนายศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศวัชร อดีตคณะทำงาน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ออกจากการเป็น กต.ตร.สภ.หนองปรือ ฐานทำให้องค์กรเสื่อมเสียชื่อเสียง หลังการประชุม นายไพโรจน์เปิดเผยว่า ในที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบให้ปลดนายศรสุวีร์พ้นจากตำแหน่ง กต.ตร.สภ.หนองปรือ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ในฐานความผิดนำตำแหน่งไปใช้อ้างทำให้องค์องค์กรเสื่อมเสียชื่อเสียง การกระทำทั้งหมดของนายศรสุวีร์ เป็นการกระทำส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับ กต.ตร.สภ.หนองปรือแต่อย่างใดแหม่มโพธิ์ดำ เปิดแจงเดือดมีรายงานว่ากรณีเฟซบุ๊กเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ประกาศปิดเพจเฟซบุ๊กในช่วงค่ำวันที่ 9 มี.ค. หลังออกมาแฉประเด็นคนใกล้ชิดรัฐมนตรีสต๊อกหน้ากากอนามัยไว้เป็นจำนวนมากนั้น จนถูกผู้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ข่มขู่จะจัดการทางกฎหมายกับเพจดังกล่าว ล่าสุด แหม่มโพธิ์ดำ เปิดเพจประกาศชี้แจงตอบโต้อีกครั้งใจความสรุปว่า จะพักสักเดือน ไม่กี่ชั่วโมงเจอใส่ร้ายหนักมาก กะแล้วว่าถ้าออกมาเปิดโปงเรื่องหน้ากากต้องโดนแบบนี้ คิดสิมันไวรัลขนาดนี้ก็เพราะมันจริง มีคลิปเสียง ภาพถ่าย บอกภาพตัดต่อ คลิปตัดต่อ และโยนขี้ใส่หาว่ารับเงินจากพรรคการเมืองฝั่งตรงข้าม ถ้าต้องแลกกับโรงพยาบาลมีหน้ากากใช้ก็คุ้มอะ เลิกใส่ร้ายป้ายสี แล้วหาหลักฐานมาดิ หาว่าเพจไปรับเงินฝั่งตรงข้าม .สู้กับคนที่เขาทิ้งชีวิตแล้วไหวปะล่ะ
|
ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ เซ็นคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคลิปตุนแมสก์ที่มี พิตตินันท์ รักเอียด อดีตทีมงานเข้าไปเกี่ยวข้อง
|
ข่าว,การเมือง
|
ธรรมนัส พรหมเผ่า,ข่าวหน้า1,กักตุนหน้ากากอนามัย,ไม่ลาออก,ศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี,หน้ากากอนามัย,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1791881
|
มาดามแป้ง เฮลั่น แข้งสาวไทยได้ชิงแชมป์อาเซียน
|
วันที่ 2 ส.ค. 59 มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ออกอาการดีใจ หลังจากทีมสาวไทยยิงแซงชนะทีมออสเตรเลีย ยู 20 ไปได้ 2-1 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน 2016 ได้สำเร็จ,วันนี้แป้งดีใจมากๆ ที่ทีมเราเรียกฟอร์มกลับมาได้ ไทยกลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างสมศักดิ์ศรี แป้งและทีมโค้ชช่วยกันระดมความคิดเห็น ทำงานกันหนักมากก่อนเกมนี้ แชร์ประสบการณ์และช่วยกันวางระบบ เพื่อรับมือเกมนี้ให้ดีที่สุด วันนี้นักกีฬาช่วยกันไล่บอล ช่วยกันเล่นอย่างมีทีมเวิร์ก แม้จะรู้ว่าเราเป็นรองด้านรูปร่าง และระยะเวลาการเตรียมทีมที่น้อยกว่ามาก เพียง 2 เดือนกว่าก็ตาม การเอาชนะออสเตรเลียครั้งนี้ มีความหมายกับทีมมาก ในรอบหลายปีที่เราไม่เคยชนะออสเตรเลียเลยสักครั้ง ในครั้งก่อนชิงแชมป์อาเซียนที่เวียดนาม เราก็เป็นฝ่ายแพ้ แมตช์นี้จึงสำคัญกับทุกคนมากๆ ทำให้เราก้าวมาอีกขั้นหนึ่ง ทำให้ทีมมีขวัญกำลังใจมากขึ้น มาดามแป้ง กล่าว,นอกจากนี้ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ยังกล่าวอีกว่า วันนี้แป้งขอมอบรางวัลให้กับทุกคนอีก 5 แสนบาท ซึ่งรวมกับสองนัดที่ผ่านมาแล้ว น้องๆ จะมีรางวัลจนถึงตอนนี้เป็น 1 ล้านบาท ขอบคุณนักเตะและทีมงานทุกคนมากๆ ในนัดชิงชนะเลิศนั้น ไม่ว่าจะเจอกับเจ้าภาพ เมียนมา หรือ เวียดนาม แป้งเชื่อว่า น้องๆ ทุกคนจะสู้เพื่อทีม สู้เพื่อชาติไทย และคนไทยอย่างสุดความสามารถ เช่นเดียวกับวันนี้ ขอบคุณแฟนบอลชาวไทยที่ร่วมเชียร์ และเชื่อมั่นในทีมฟุตบอลหญิง ขอบคุณจากใจจริงๆ ค่ะ
|
มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมแข้งสาวไทย ออกอาการดีใจสุดขีด หลังทีมชาติไทยเอาชนะสาวออสซี่ 2-1 ผ่านเข้าไปเล่นรอบชิงชนะเลิศ 4 ส.ค.นี้ พร้อมชมลูกทีมสู้สมศักดิ์ศรีทีมชาติไทย
| null |
มาดามแป้ง,นวลพรรณ ล่ำซำ,ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย,ทีมสาวไทย,ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/679872
|
หมายจับมือยิงถล่ม ปิกอัพ นร.ตาย-เจ็บ
|
มีกลุ่มนักเรียนพาณิชย์แห่งหนึ่งพร้อมญาติได้รับบาดเจ็บ 4 คน สาหัส 3 คน เหตุเกิดตีสองวันที่ 6 ก.ย.2558 ที่ผ่านมา ริมถนนสายพัฒนาการ–คูขวาง ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ต่อมานายจักรณรินทร์ เพชรนุ้ย อายุ 20 ปี ที่ถูกยิงเข้าที่เบ้าตาขวาทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตที่ รพ. มหาราชนครศรีธรรมราช วันที่ 8 ก.ย. ทางญาติผู้ตายจะแห่ศพประท้วงร้องขอความเป็นธรรมในวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจชี้แจงว่าเตรียมจับกุมคนร้าย ทางญาติผู้เสียหายจึงยุติการแห่ศพประท้วง โดยเช้าวันที่18 ก.ย. พ.ต.ท.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน สว.กก.สส.ภ.จ.นครศรีธรรมราช นำกำลังพร้อมหมายศาลไปตรวจค้นบ้านเลขที่ 24/7 หมู่ 4 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช พบรถเก๋ง BMW สีดำ ทะเบียน กต 2062 นครศรีธรรมราช รถคันที่ก่อเหตุยิงปืนถล่ม จึงตรวจยึดไปตรวจสอบ ขณะที่เจ้าของรถได้ไหวตัวหลบหนีไปได้,พ.ต.ท.สุทัศน์ สงสยม รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ขณะนี้ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชได้อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้แล้ว 2 คน มีนายสันติ สุทธิกานต์ อายุ 29 ปี หรือ บ่าวขาเป๋ และนายณัฐวุฒิ หรือแพน มูลสริอายุ 30 ปี แก๊งวัยรุ่นขาใหญ่ในพื้นที่ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช พยานและหลักฐานระบุชัดว่าทั้งสองเป็นคนใช้ปืน 9 มม.ยิงกลุ่มนักเรียนพาณิชย์ดังกล่าว สาเหตุเกิดจากกลุ่มคนร้ายที่นั่งในรถเก๋ง BMW เข้าไปเที่ยวในผับชื่อดังกลางเมืองแห่งหนึ่ง และเข้าใจผิดว่ากลุ่มผู้ตายและผู้บาดเจ็บไปขว้างรถกระบะของเพื่อนคนร้าย ทำให้กลุ่มคนร้ายไม่พอใจตามไล่ยิงผิดคัน จนมีคนตายและบาดเจ็บดังกล่าว ขณะนี้ได้สั่งตำรวจชุดสืบสวนออกติดตามไล่ล่าคนร้ายแล้ว คาดว่าจะได้ตัวในเร็วๆนี้ ล่าสุดตำรวจชุดสืบสวนเผยว่าคนร้ายทั้งสองได้หนีออกจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปหลบซ่อนตัวที่บ้านญาติทางภาคอีสาน ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามจับกุม.
|
จากกรณีมีคนร้ายใช้รถเก๋ง BMW สีดำไม่ทราบทะเบียน ใช้ปืน 9 มม. 2 กระบอกยิงถล่มรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บห 5100 นครศรีธรรมราช จนรถพรุน
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ยิงถล่มรถ,ยิงเบ้าตา,ทนพิษบาดแผลไม่ไหว,เสียชีวิต,ยิงกลุ่มนักเรียนพาณิชย์,อนุมัติออกหมายจับ,แห่ศพประท้วง,ขอความเป็นธรรม,นครศรีธรรมราช,ข่าว,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
|
https://www.thairath.co.th/news/local/530249
|
ชำนาญ จันทร์เรือง: มองมาเลย์กับอินโดจับมือกัน แล้วหันมาดูไทยกับกัมพูชา
|
โดยผู้นำทั้งสองต่างให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกันขจัดข้อพิพาทที่เป็นอุปสรรคต่อความสัมพันธ์ที่มีอยู่ระหว่างกันให้ลุล่วงไป ซึ่งปัญหาหลักได้แก่ปัญหาพิพาทเขตแดนและการกดขี่ทารุณแรงงานมาเลเซียและอินโดนีเซียมีหลายอย่างที่เหมือนกัน อาทิ ภาษา ศาสนาและวัฒนธรรม ฯลฯแต่ความสัมพันธ์ของสองประเทศต้องตกอยู่ในภาวะสั่นคลอนบ่อยครั้ง เนื่องจากความไม่ลงรอยกันในหลายเรื่อง โดยความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศได้เสื่อมถอยลงอย่างมากนับแต่เดือนมิถุนายนปี 2551 ที่ผ่านมาเมื่ออินโดนีเซียกล่าวหาว่าเรือรบของมาเลเซียรุกล้ำเข้าไปยังเขตพิพาททางทะเลอัมบาลัด ซึ่งอุดมไปด้วยน้ำมันนอกชายฝั่งสุลาเวสี ของเกาะบอร์เนียว อินโดนีเซีย ทำให้อินโดนีเซียส่งเรือรบออกมายิงขับไล่เรือของมาเลเซียในทันทีความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศยิ่งทวีความตึงเครียดหนักขึ้นเมื่อมีกรณีที่แรงงานสาวใช้ชาวอินโดนีเซียถูกนายจ้างชาวมาเลเซียกระทำการทารุณด้วยความโหดร้าย จนเป็นผลให้รัฐบาลอินโดนีเซียตอบโต้ด้วยการออกคำสั่งห้ามส่งแรงงานอินโดนีเซียไปมาเลเซียเป็นการชั่วคราวซึ่งในกรณีนี้ประธานาธิบดียุดโยโนเรียกร้องให้มาเลเซียนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีโดยเร็วและยุติธรรม โดยนายกรัฐมนตรีราซัคได้ให้ความเชื่อมั่นว่าแรงงานอินโดนีเซียจะได้รับการคุ้มครองผลประโยชน์ และหากมีการกระทำการอันใดที่เป็นการละเมิดกฎหมายต่อแรงงานเหล่านั้นก็จะถูกจัดการอย่างเด็ดขาดในการแถลงข่าวร่วมกันในครั้งนี้นอกจากจะได้เห็นวุฒิภาวะของทั้งสองผู้นำแล้ว ยังเป็นเสมือนการตบหน้าผู้นำของไทยและกัมพูชาที่กำลังใช้อารมณ์ในการแก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างกันอยู่ในเวลานี้โดยประธานาธิบดียุดโยโนได้กล่าวว่า แน่นอนว่าบางครั้งเราอาจมีความเห็นต่าง แต่เราในฐานะผู้นำก็ควรต้องจัดการความเห็นที่แตกต่างนั้นอย่างรอบคอบ และไม่ปล่อยให้ปัญหานั้นมาบั่นทอนหรือกระทบต่อสิ่งที่เรามีอยู่ส่วนนายกฯ ราซัค กล่าวว่า เราจะต้องพยายามอย่างหนักในการปรับปรุงความสัมพันธ์พื้นฐานที่มีต่อกันกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยผ่านความร่วมมืออันดีระหว่างสังคมจากถ้อยคำของทั้งสองผู้นำนั้นแสดงให้ว่าทั้งสองฝ่ายต่างใช้เหตุผลอยู่เหนืออารมณ์ และความโกรธหรือความเกลียดชังกัน ซึ่งตรงกันข้ามกับกรณีของผู้นำไทยกับกัมพูชาเป็นอย่างมากสิ่งที่ทำให้ตะกอนนอนก้นของความบาดหมางระหว่างไทยกับกัมพูชาในอดีตฟุ้งขึ้นมาอีกก็เนื่องมาจากการที่ นายฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาไม่พอใจในเรื่องการที่ไทยคัดค้านการขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก สมทบด้วยการที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์แต่งนายกษิต ภิรมย์ ผู้เคยปราศรัยด่านายฮุนเซ็นว่าเป็น กุ๊ยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศโดยที่ผ่านมานายฮุนเซ็นใช้อารมณ์อย่างเต็มที่ในการกล่าวหารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ว่าไม่มีความชอบธรรมในการเข้าสู่ตำแหน่ง อีกทั้งยังตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาและมีการแถลงหักหน้าในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่หัวหิน ส่วนฝ่ายนายอภิสิทธิ์และนายกษิตก็ใช้อารมณ์ต่อการแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาด้วยการเรียกทูตกลับในทันที ขณะที่นายฮุนเซ็นก็ตอบโต้ด้วยวิธีการเรียกทูตกลับเช่นกันมิหนำซ้ำนายอภิสิทธิ์ยังตักเตือนนายฮุน เซ็น ใหรู้จักเลือกเอาระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ของประเทศ อันเป็นการปรามาสนายฮุน เซ็น อย่างซึ่งหน้าแบบเด็กสอนผู้ใหญ่ กอปรกับนายกษิตในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแทนที่จะช่วยกล่าวแก้ตามแบบภาษาของนักการทูตในนานาอารยประเทศ แต่กลับมากล่าวย้ำในทำนองท้าตีท้าต่อยเข้าไปอีก จึงย่อมเท่ากับเป็นการประกาศศึกหรือประกาศตัวเป็นศัตรูกับผู้นำกัมพูชาความบานปลายจากการใช้อารมณ์ติดตามมาเรื่อยๆ ด้วยการที่นายอภิสิทธิ์ประกาศรื้อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกัมพูชาด้วยการลดการให้ความช่วยเหลือเงินกู้ กวดขันคนไทยที่เดินทางไปเล่นการพนันที่กาสิโนฝั่งกัมพูชา(ซึ่งเกือบทั้งหมดมีเจ้าของเป็นคนไทย) ติดตามมาด้วยการขับเลขานุการเอกของสถานทูตทั้งสองกลับประเทศที่น่าตกใจก็คือการพิจารณายกเลิกบันทึกความเข้าใจหรือ เอ็ม โอ ยู ว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกันที่ลงนามตั้งแต่สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยกระบวนการพิจารณาให้ยกเลิกเอ็ม โอ ยู นั้นเป็นไปอย่างรวบรัดและรวดเร็ว ทั้งๆที่การคงอยู่ของเอ็ม โอ ยู ฉบับดังกล่าวไว้จะมีประโยชน์ต่อไทยมากกว่าเป็นโทษความหายนะที่เกิดขึ้นจากการใช้อารมณ์ยังตามมาด้วยการปลุกกระแสชาตินิยมที่นำไปสู่การสิ้นชาติ เพราะเป็นการสร้างกระแสปลุกระดมบิดเบือนเพื่อให้เกิดความคลั่งชาติในหมู่ประชาชนให้เกลียดชังเพื่อนร่วมภูมิภาคบ้านใกล้เรือนเคียง โดยให้เหตุผลอย่างข้างๆคูๆว่า คลั่งชาติดีกว่าขายชาติ ทั้งๆที่ ไม่ว่าจะคลั่งชาติหรือขายชาติต่างก็มีผลเหมือนกัน คือการนำไปสู่การสิ้นชาติด้วยกันทั้งคู่ผลจากการแก้ไขปัญหาด้วยอารมณ์นำความเสียหายมาสู่ทั้งสองประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในด้านเศรษฐกิจหรือสังคมทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยทั้งผู้นำไทยกับกัมพูชาต่างกลายเป็น ตัวตลกในสายตานานาชาติและเป็นผู้ร้ายในสายตาของอาเซียน เพราะที่ไหนในโลกมีแต่พยายามหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งกับประเทศเพื่อนบ้าน ผัวเมียทะเลาะกันยังมีโอกาสที่จะแยกทางกันได้แต่ประเทศเพื่อนบ้านไม่สามารถที่จะยกแผ่นดินหนีกันไปได้ จึงต้องอยู่ร่วมกันด้วยการถ้อยทีถ้อยอาศัย และหมดยุคของการเมืองระหว่างประเทศสมัยใหม่ที่จะใช้กำลังอาวุธของยึดครองดินแดนของประเทศอื่นผู้นำไทยกับกัมพูชาเป็นผู้ทำลายความเป็นเอกภาพและโอกาสในการต่อรองในด้านเศรษฐกิจการเมืองระหว่างประเทศของอาเซียนที่เป็นกลุ่มที่มีอำนาจต่อรองเป็นกลุ่มต้นๆของโลก มาเป็นกลุ่มที่แทบจะไม่มีพลังต่อรองเพราะเหตุแห่งการขัดแย้งส่วนบุคคลระหว่างนายอภิสิทธิ์และนายกษิตกับนายฮุนเซ็นและ พ.ต.ท.ทักษิณถึงเวลาแล้วที่ประชาชนของทั้งสองประเทศจะต้องทบทวนบทของผู้นำของตนว่าสมควรที่ขับเคลื่อนรัฐนาวาต่อไปหรือไม่ ก่อนที่จะนำพาประชาชนทั้งไทยและกัมพูชาไปสู่ความทุกข์ยากเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส อันเนื่องมาจาการใช้อารมณ์มาแก้ไขปัญหาอย่างไร้สติเช่นนี้---------------------เผยแพร่ครั้งแรกในกรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน 2552
|
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมามีการแถลงข่าวร่วมกันระหว่างนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุดโยโน แห่งอินโดนีเซียที่เยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ
|
การเมือง
|
กรณีพิพาทไทย-กัมพูชา,ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ,ต่างประเทศ,มาเลเซีย,อินโดนีเซีย
|
https://prachatai.com/journal/2009/11/26658
|
เรื่องขี้จุ๊ หลานตัดแปะภาพถูกหวย 30 ล้าน ย่าความดันขึ้น คนแห่มาบ้าน
|
เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 60 ผู้สื่อข่าว และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 236 หมู่ 1 ตำบลบ้านมาง อ.เชียงม่วน จ.พะเยา ซึ่งได้พบกับนายประยงค์ ทะนันชัย อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นสามีของนางหลวน ทะนันชัย ที่ถูกหวยรางวัลที่ 1 จำนวน 30 ล้านบาท,นายประยงค์ ระบุว่า นางหลวน กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากเกิดอาการความดันโลหิตสูง หลังพบว่ากระแสข่าวเรื่องที่ถูกหวย สะพัดออกไปได้มีผู้คนเดินทางมาที่บ้านเป็นจำนวนมาก ความเป็นจริงแล้ว นางหลวนไม่ได้ถูกลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ซึ่งเป็นเพียงแค่การล้อเล่นของหลานชายอายุ 12 ขวบ ที่อยากได้รถจักรยานยนต์ และได้พูดคุยกับย่าว่าถ้าถูกรางวัลที่ 1 ย่าจะซื้อรถให้,จากนั้น หลานชายจึงนำลอตเตอรี่มาตัดแปะตัวเลข และให้ย่าเป็นคนถือพร้อมถ่ายรูป และส่งไปล้อเล่นกับน้าสาว ซึ่งน้าสาว คิดว่าเป็นเรื่องจริง จึงโพสต์รูปดังกล่าว และส่งต่อให้กับเพื่อนรวมทั้งญาติพี่น้อง จนข่าวแพร่สะพัดออกไปเป็นวงกว้าง และเป็นเหตุให้เพื่อนบ้านที่ทราบข่าวรวมทั้งเจ้าหน้าที่ต่างๆ ก็เดินทางมายังที่บ้านของนางหลวนเป็นจำนวนมากในช่วงเย็นวานที่ผ่านมา,นายประยงค์ กล่าวอีกว่า ข่าวการถูกลอตเตอรี่ดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นความจริง ซึ่งเป็นเหตุให้นางหลวนถึงกับนอนไม่หลับและเกิดอาการเครียด และเน้นย้ำว่าไม่ได้ถูกรางวัลลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ตามที่เป็นข่าวและเป็นการล้อเล่นในกลุ่มเครือญาติเท่านั้น แต่ข่าวได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงขอชี้แจงว่าข่าวดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริงแต่ประการใด
|
ย่าถึงกับความดันขึ้น หลังหลานชายตัดแปะลอตเตอรี่ ว่าถูกรางวัลที่ 1 ได้เงิน 30 ล้านบาท ส่งไปล้อเล่นกับญาติๆ ส่งต่อกันจนหลุดไปโลกโซเชียล ผลปรากฏคนเชื่อว่าจริงแห่มาบ้าน
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ถูกหวย 30 ล้าน,ตัดแปะสลาก,ตัดแปะลอตเตอรี่,ถูกหวยไม่จริง,พะเยา,ข่าวแปลก
|
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1057945
|
กมธ.ยุติธรรมรับตรวจสอบล่าแม่มดชาว รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส
|
และให้เรียกเจ้าหน้าที่รัฐเข้าชี้แจ้งต่อกรรมาธิการกฎหมายฯ พร้อมกับตรวจสอบหาแอดมินเพจการเมืองที่มีพฤติกรรมคุกคามดังกล่าว13.30 น. อานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบกรณีมีประชาชนที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในกลุ่ม รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส ถูกล่าแม่มดหรือการคุกคามทางออนไลน์ทนายอานนท์กล่าวต่อว่านอกจากการคุกคามทางออนไลน์แล้วยังมีการกดดันสถานที่ทำงานให้เลิกจ้างและการปลุกระดมคนไปแจ้งความในพื้นที่ห่างไกลจากผู้ที่ถูกละเมิด แม้ว่ากระบวนการนี้จะเป็นกระบวนการตามกฎหมายก็จริงแต่ถ้าใช้สิทธิทางกฎหมายโดยไม่สุจริตเป็นการกลั่นแกล้งกันก็อยากให้กรรมาธิการตรวจสอบทนายอานนท์ได้กล่าวถึงรายงานของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนว่าในรายงานยังกล่าวถึงกรณีมีบุคคลไปคุกคามเด็กนักเรียนมัธยมในต่างจังหวัดอีกด้วยนอกจากนั้นในหนังสือที่ทนายอานนท์ยื่นได้ระบุจำนวนบุคคลที่คุกคามในลักษณะดังกล่าวมีถึง 25 คน แล้วเป็นอย่างน้อยโดยถูกเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคลในโซเชียลมีเดีย เช่น ชื่อ-สกุล รูปถ่าย สถาบันการศึกษา และสถานที่ทำงาน และยังมีกรณีที่ถูกตำรวจคุกคามอีก 2 คน ส่วนบุคคลที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีใขณะนี้มีแล้ว 12 คน ด้วยข้อหาตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และข้อหาหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112ในหนังสือ ระบุข้อเรียกร้องให้ทางคณะกรรมาธิการฯ เรียกเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อประชาชนเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ ตลอดจนตรวจสอบหาตัวบุคคลผู้ดูแลบัญชีเฟสบุ๊คซึ่งกระทำการคุกคามและละเมิดสิทธิมนุษยชน ได้แก่ The Mettad อึ้งเอี๋ยะซือ เทื้อเอี้ยวเกียv10 ขุนนาค เสธPlay และพรรคกระยาจกรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล และเป็นกรรมธิการฯ ซึ่งเป็นตัวแทนรับหนังสือระบุว่าจะนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาในคณะกรรมาธิการฯ ต่อไป ซึ่งเรื่องนี้เป็นการใช้กระบวนการยุติธรรมกลั่นแกล้งกัน ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในขอบเขตการทำงานของกรรมาธิการฯ อยู่แล้วและก็จะศึกษาทำเป็นรายงานเสนอถึงสภาและคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาว่าจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีนำไปปรับใช้และปฏิรูปกระบวนการทางกฎหมายหรือไม่กลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส ตั้งขึ้นโดยปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการและเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.2563 และมีสมาชิกมากถึง 493291 บัญชีแล้วในเวลาเพียงเดือนครึ่ง(ข้อมูล ณ วันที่ 4 มิ.ย.63) แม้จะเป็นกลุ่มปิดก็ตาม ซึ่งเนื้อหาในกลุ่มดังกล่าวเป็นการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลักกลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลสกลายเป็นประเด็นข่าว พิธีกรอ้างว่า เมื่อ 25 พ.ค.2563 มีบุคคลใน เครือข่ายประชาชนปกป้องสถาบันกษัตริย์ (คปส.) แจ้งความกับสถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่อให้มีการพิจารณาดำเนินคดีในส่วนบุคคลทั้งที่เปิดชื่อและปิดชื่อ หรือใช้อวตาร ที่เป็นสมาชิกกลุ่ม รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส จำนวนเกือบ 10 คน ในข้อหากระทำความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 มาตรา 14 ในการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยเจ้าหน้าที่รับแจ้งความแล้ว และคาดว่าเจ้าหน้าที่จะออกหมายเรียกบุคคลดังกล่าวภายในสัปดาห์หน้านี้
|
ทนายอานนท์เรียกร้องให้กรรมาธิการกฎหมายฯ ตรวจสอบกรณีประชาชนถูกคุกคามทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์จากการแสดงความคิดเห็นต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ในกลุ่ม รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส
|
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
|
อานนท์ นำภา,รังสิมันต์ โรม,กรรมาธิการ กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน,The METTAD,รัฐสภา เกียกกาย
|
https://prachatai.com/journal/2020/06/87956
|
โนเลมุ่งเรียกฟอร์มเก่ง ลบฝันร้ายใน เฟรนช์ โอเพ่น
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 8 มิ.ย.ว่า โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสมือวางอันดับ 1 ของโลก ชาวเซอร์เบีย พร้อมลบฝันร้ายในการพลาดแชมป์ เฟรนช์ โอเพ่น 2015 ด้วยการมุ่งมั่นกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิมต่อไปนี้ และตั้งเป้ากวาดแชมป์แกรนด์ สแลม ให้ได้ในอีก 2 รายการที่เหลือของปี,นักหวดลูกสักหลาด วัย 28 ปี ยังคงไม่สามารถล้างอาถรรพณ์ได้สำเร็จ เมื่อต้องเป็นฝ่ายพลาดท่าพ่ายให้กับ สตานิสลาฟ วาวรินกา ไป 1-3 เซต ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกเทนนิสเฟรนช์ โอเพ่น 2015 อกหักเป็นครั้งที่ 3 ในการเข้ารอบชิงดำรายการนี้ และเป็น แกรนด์ สแลม รายการเดียวที่เจ้าตัวยังไม่เคยคว้าแชมป์ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว,หลังจบเกม นักหวดอารมณ์ดีชาวเซอร์เบีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีว่า จะพยายามลืมความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ เพื่อกลับมาเข้มแข็งกว่าเดิมในการแข่งขันรายการต่อไป พร้อมทั้งต้องการคว้าแชมป์เทนนิสแกรนด์ สแลม ให้ได้ในอีก 2 รายการที่เหลือในฤดูกาลแข่งขัน 2015,ก่อนอื่นผมต้องขอแสดงความยินดีกับ สแตน ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบชิงชนะเลิศ มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผมที่จะพูดอะไรออกมาในตอนนี้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าชัยชนะ คือการให้ความเคารพแก่เพื่อนร่วมอาชีพที่สามารถคว้าแชมป์ได้,ผมอยากจะขอบคุณทีมงาน ภรรยา และแฟนเทนนิสชาวฝรั่งเศส สำหรับกำลังใจ ผมจะกลับมาอีกครั้งในปีหน้าด้วยเป้าหมายเดิมคือการคว้าแชมป์ให้ได้ และในการแข่งขันรายการต่อไปเป้าหมายเดียวของผม คือการกลับมาเข้มแข็งกว่าเดิมทั้งในด้านของสภาพร่างกายและจิตใจ รวมถึงกวาดแชมป์แกรนด์ สแลมในอีก 2 รายการที่เหลือของปีด้วยเช่นกัน โนเล กล่าว,ทั้งนี้ โนวัค ยอโควิช คว้าแชมป์แกรนด์ สแลม มาได้แล้วก่อนหน้านี้ 10 รายการ แต่กลับไม่เคยคว้าแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น ได้เลยสักครั้ง ทำได้ดีที่สุดเพียงการเข้าชิงชนะเลิศ ในปี 2012, 2014 และ 2015
|
นักเทนนิสหมายเลขหนึ่งของโลก ตั้งเป้าลบฝันร้ายจากการพลาดแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น ด้วยการกลับมามุ่งมั่นคว้าแชมป์แกรนด์ สแลม ที่เหลือของปีอีก 2 รายการ พร้อมทั้งพยายามกลับมาเข้มแข็งกว่าเดิมทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ
| null |
โนวัค ยอโควิช,นักเทนนิสมือวางอันดับ 1 ของโลก,เทนนิส,เฟรนช์ โอเพ่น 2015,สตานิสลาฟ วาวรินกา,เทนนิสแกรนด์ สแลม,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/503685
|
กรีซมันน์ ปลุกเร้าหมี โค่นราชัน เข้ารอบรอง ชปล.ให้ได้
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 21 เม.ย. ว่า อองตวน กรีซมันน์ ดาวซัลโวของ ตราหมี แอตเลติโก มาดริด กระตุ้นเพื่อนร่วมทีมให้พยายามอย่างเต็มที่พร้อมโค่น ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด คู่ปรับร่วมเมือง ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกวันพรุ่งนี้ให้ได้,เลกแรก ตราหมี เปิดบ้าน ยันเสมอ เรอัล มาดริด มาได้ 0-0 โดยนัดนี้หาก ตราหมี สามารถเสมอแบบมีสกอร์ หรือเอาชนะแชมป์เก่าได้ จะตีตั๋วตาม บาร์เซโลนา และ บาเยิร์น มิวนิก 2 เต็งแชมป์ทันที เข้ารอบต่อไปทันที,โดย กรีซมันน์ หัวใจสำคัญในแนวรุกของตราหมี ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่าน อีเอฟอี สื่อชื่อดังว่า นี่คือจุดชี้ขาดสำหรับเรา เราตระหนักถึงการเล่นที่บ้านของพวกเขาแต่เราสามารถยิงประตูตอนไหนก็ได้ซึ่งนั่นจะเสริมความมั่นใจให้กับเรา และเราต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างอีกทั้งพยายามเข้ารอบรองชนะเลิศอย่างเต็มที่ สำหรับผมนี่คือแชมเปียนส์ลีกครั้งแรกที่ผ่านเข้ามาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย มันเยี่ยมมากและผมเพลิดเพลินไปกับมัน ,สำหรับ ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้ ย้ายจาก เรอัล โซเซียดาด มายังถิ่น บิเซนเต กัลดิรอน เมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว ก่อนจะก้าวมาเป็นขวัญใจแฟนบอลตราหมีแบบรวดเร็ว โดยปัจจุบันเจ้าตัวขึ้นนำเป็นดาวซัลโวของทีม โดยกระหน่ำไปแล้ว 23 ประตูจาก 47 เกมที่ลงสนามรวมทุกรายการ.
|
อองตวน กรีซมันน์ ดาวยิงตัวเก่งของ ตราหมี แอตเลติโก มาดริด ปลุกเร้าเพื่อนร่วมทีมสู้สุดใจโค่นเอาชนะ ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด แชมป์เก่าพร้อมตีตั๋วเข้ารอบตัดเชือกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกให้ได้
| null |
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก,แอตเลติโก มาดริด,เรอัล มาดริด,อองตวน กรีซมันน์,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/494376
|
เร็วเกินคาด ทอฟฟี่เผยข่าวดี โกเมส อาจคัมแบ็กภายในซีซั่นนี้
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 8 พ.ย.ว่า มาร์โก ซิลวา ผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตัน แสดงความหวังว่า อังเดร โกเมส จะกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ก่อนจบฤดูกาลนี้,ดาวเตะชาวโปรตุกีสได้รับบาดเจ็บข้อเท้าหัก ในเกมที่เปิดบ้านเสมอทอตแนม ฮอตสเปอร์ 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งถึงแม้ผลการผ่าตัดจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่ยังไม่มีการยืนยันว่า โกเมส จะกลับมาลงสนามได้อีกครั้งเมื่อไหร่,ซึ่งล่าสุด กุนซือใหญ่ของทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินออกมายอมรับ ทีมแพทย์ประจำสโมสรได้ส่งสัญญาญที่ดีว่า แข้งดังวัย 26 ปีรายนี้ อาจกลับมาลงเล่นได้เร็วกว่าที่หลายคนคาดการณ์เอาไว้,มันไม่ง่ายเลยที่จะบอกวันเวลาที่แน่นอนว่า เขาจะกลับมาเมื่อไหร่ แต่ข้อมูลจากทีมแพทย์ของสโมสร บอกว่าเราอาจได้เห็นเขากลับมาลงเล่นอีกครั้ง ในฤดูกาลนี้,มันดูเหมือนอาการบาดเจ็บที่ค่อนข้างรุนแรง แต่ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี และเราหวังว่าจะเห็นเขากลับมาได้อีกครั้งในปีนี้ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่แน่นอนนักหรอก เราต้องรอดูกันต่อไป
|
นายใหญ่ของทีมทอฟฟี่เผยว่า ได้รับสัญญาที่ดีจากทีมแพทย์สโมสร และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็น อังเดร โกเมส กลับมาลงเล่นอีกครั้งในซีซั่นนี้
|
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
|
มาร์โก ซิลวา,เอฟเวอร์ตัน,อังเดร โกเมส,พรีเมียร์ลีก
|
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1699481
|
6ล้อบรรทุกเวทีหมอลำซิ่ง ยางระเบิดพลิกคว่ำ ดับ 3 เจ็บอื้อ
|
วันที่ 28 ตุลาคม 2558 เวลา 16.45 น. พ.ต.ท.จำเนียร คำวิเศษ รองผกก.สส.สภ.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถหกล้อพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย จึงพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลหล่มเก่าและหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูหล่มสัก รุดไปตรวจสอบบริเวณถนนสาย กกกะทอน-น้ำหนาว หมู่ 3 ต.ตาดกลอย อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์,ที่เกิดเหตุบริเวณกลางถนนพบรถหกล้อยี่ห้ออีซูซุสีขาว หมายเลขทะเบียน 81-7578 เลย ด้านข้างเป็นคอกเหล็กบรรทุกเวทีคอนเสิร์ตพลิกคว่ำตะแคงขวากับพื้นขวางถนน คอกรถหักพร้อมอุปกรณ์ประกอบเวทีกระเด็นไปทั่วไหล่ทางและถนน บริเวณยางล้อหลังข้างขวาระเบิด ริมไหล่ทางพบคนเจ็บนอนเกลื่อนพื้นถนนจึงรีบช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า,พบผู้เสียชีวิต 3 รายทราบชื่อ นายสวาท หล้าทู อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247 หมู่ 2 ต.โคกม่วง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู นายปัญจะ คำอิ่ม อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161 หมู่ 2 ต.โคกม่วง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู และนายธีระยุทธ คามนา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 9 ต.ท่าศาลา อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น,ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อ 1. นายมงคล ยอดจันนุย อายุ 16 ปี 2. นายสุนทร พิมพ์จำปี อายุ 35 ปี 3.นายคำภีรี สาทู อายุ 20 ปี 4.นายนิรันดร จูมพลล่า อายุ 27 ปี 5.นายพัชรพล พงษ์ทอง อายุ 15 ปี 6.นายอาทิตย์ แสนคำพา อายุ 15 ปี 7.นายณัฐพงษ์ สอนลา อายุ 16 ปี 8.นายนพพร ตรีวิเศษ อายุ 18 ปี 9.นายศุภชัย ฮาดชัย อายุ 24 ปี 10.นายจักรกฤษ แสนคำพา อายุ 16 ปี และ 11.ชายไทยไม่ทราบชื่อ ซึ่งทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดหนองบัวลำภู อุดร และขอนแก่น,สอบสวนนายพลรัก สสิพิมล เป็นผู้จัดการวงหมอลำซิ่งคณะน้องใหม่ท็อปไลน์น้อมเกล้าลูกอิสาน เปิดเผยว่า ได้เดินทางมาด้วยรถอีกคัน ส่วนรถหกล้อคันเกิดเหตุนั้นทราบเพียงชื่อทอง ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริงและอายุ มีภูมิลำเนาอยู่อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นคนขับรถหกล้อคันดังกล่าว บรรทุกเวทีหมอลำซิ่งเดินทางมาจากอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น มุ่งหน้ามาร่วมงานประเพณีแข่งขันเรือยาวประจำปีของอำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ หลังเกิดเหตุจึงได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่ารถหกล้อประสบอุบัติเหตุจึงรีบเดินทางมาดู,ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ที่เกิดเหตุเป็นทางลงเขาและถนนบางช่วงชำรุดมีหลุมลึก จึงอาจทำให้ล้อรถกระแทกหลุมจนเกิดยางระเบิดและเสียหลักจนเป็นเหตุให้พลิกคว่ำจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก หลังเกิดเหตุนายทองได้อาศัยช่วงชุลมุนวิ่งหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อสอบสวนว่าใครเป็นคนขับรถและหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
|
หกล้อบรรทุกเวทีหมอลำซิ่งคณะน้องใหม่ท็อปไลน์น้อมเกล้าลูกอิสาน พลิกคว่ำยนถนนสาย กกกะทอน-น้ำหนาว อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ลูกคณะเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 11 ราย คาดตกหลุม ยางระเบิดก่อนเสียหลัก คนขับชิ่งหนี
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
อุบัติเหตุ,รถบรรทุก6ล้อพลิกคว่ำ,หมอลำซิ่ง,หล่มเก่า,เพชรบูรณ์,ตาดกลอย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,น้องใหม่ท็อปไลน์
|
https://www.thairath.co.th/news/local/535478
|
เครือข่ายผู้ติดเชื้อฯลั่นต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไข พรบ.สิทธิบัตร
|
คนได้มาร่วมประชุมเพื่อกำหนดท่าที พ.ร.บ.สิทธิบัตรการแก้ไขใคร (ควร) ได้ประโยชน์? (ปล่อยผีสิทธิบัตร ผูกขาดไม่สิ้นสุด ใครตายก่อน) จากนั้นได้ร่วมกันแถลงข่าว นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพัฒนากฎหมายสิทธิบัตร แต่ไม่มีตัวแทนของผู้ป่วยหรือผู้บริโภคเลย ขณะที่มีตัวแทนของผู้ทรงสิทธิเป็นส่วนใหญ่ และยังมีนักกฎหมายที่ปรึกษาบริษัทยาข้ามชาติอยู่ถึง 3 บริษัท จากการเจรจาภายใน กรมทรัพย์สินทางปัญญารับปากที่จะแต่งตั้งตัวแทนเครือข่ายผู้ป่วยเข้าไปเพิ่มเติม ซึ่งทางเราได้เสนอชื่อ นายอนันต์ เมืองมูลไชย กรรมการมูลนิธิเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ อย่างไรก็ตาม เราต้องการให้คณะอนุกรรมการฯนำเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.สิทธิบัตร ฉบับภาคประชาชนเป็นตัวตั้งในการพิจารณาแก้ไขด้วย เพราะเนื้อหาที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาเคยหยิบยกขึ้นมานั้น ส่วนใหญ่เป็นการแก้ไขกฎหมายที่เกินไปกว่าความตกลงทริปส์ซึ่งจะสร้างภาระกับประเทศและส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงยาของประชาชน โดยเฉพาะการตัดสิทธิการคัดค้านก่อนการออกสิทธิบัตร (Pre-grant Opposition) ที่จะยิ่งทำให้สิทธิบัตรด้อยคุณภาพได้ผูกขาดทำกำไรเกินควร นายเฉลิมศักดิ์ กิตติตระกูล มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า วันนี้ ทางเครือข่ายคนทำงานด้านเอดส์และเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯได้เชิญนักวิจัยมานำเสนอเรื่องสิทธิบัตรที่ไม่มีที่สิ้นสุด (Evergreening Patent) แล้ว ค่อนข้างตกใจกับข้อค้นพบที่ว่า มีคำขอรับสิทธิบัตรในรอบ 10 ที่ผ่านเข้าข่ายสิทธิบัตรไม่มีที่สิ้นสุดถึง 96% ยิ่งรวมกับความพยายามของกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่จะตัดกลไกคัดค้านก่อนการออกสิทธิบัตรออกไป นั่นเท่ากับว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการผูกขาดของอุตสาหกรรมยาข้ามชาติที่หนักหน่วงที่สุด ดังนั้น ในการหารือกับอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาในวันพรุ่งนี้ (13) เราจะขอให้ทางกรมฯ รับคู่มือที่นักวิจัยพัฒนาขึ้นไปปฏิบัติเพื่อป้องกันสิทธิบัตรที่ไม่มีที่สิ้นสุด ในการแก้ พ.ร.บ.จะต้องขยายเวลาการคัดค้านไปเป็น 1 ปีจาก 90 วันแทนกฎหมายเดิม ต้องมีตัวแทน อย. หรือ สปสช.เข้าไปอยู่ในคณะอนุกรรมการเคมี ในคณะกรรมการสิทธิบัตรเพื่อช่วยพิจารณาการให้สิทธิบัตร และที่สำคัญคือ การพัฒนาฐานข้อมูลสิทธิบัตรเพื่อให้สามารถสืบค้นได้ง่าย ขณะนี้มีงานวิชาการยืนยันชัดเจนถึงปัญหาของสิทธิบัตรที่ไม่มีที่สิ้นสุด กรมทรัพย์สินฯต้องตอบให้ได้ว่า คู่มือที่กำลังจะประกาศใช้จะแก้ปัญหา evergreening เช่นนี้อย่างไร มีประสิทธิภาพแค่ไหนโดยเฉพาะคำขอเรื่องการใช้และข้อบ่งใช้ที่ 2 สูตรตำรับและส่วนประกอบ ตำรับยาสูตรผสม และขนาด/ปริมาณการใช้ หากทางกรมฯให้คำตอบที่ชัดเจนไม่ได้ หรือยังยืนยันจะปล่อยให้เป็นวินิจฉัยของผู้ตรวจสอบเช่นที่ผ่านมา เราคงต้องขอหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้ ข้อมูลจากงานวิจัยสิทธิบัตรยาที่จัดเป็นสิทธิบัตรไม่มีที่สิ้นสุด ในประเทศไทยและการคาดประมาณผลกระทบที่เกิดขึ้น คณะผู้วิจัยได้ทำการตรวจสอบคำขอรับสิทธิบัตรที่เกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ทางยา ในระหว่าง ปี พ.ศ. 2543-2553 จำนวน 2034 ฉบับ พบว่า มีคำขอรับสิทธิบัตร ร้อยละ96 ที่มีลักษณะอยู่ในเงื่อนไขที่เป็น evergreening patent โดยพบว่าปัญหาส่วนใหญ่คือ คำขอรับสิทธิบัตร \ข้อบ่งใช้/การใช้\ ร้อยละ 73.7 สูตรตำรับและส่วนประกอบ ร้อยละ 36.4 และ Markush Claim ร้อยละ 34.7 ซึ่งทางสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขได้ทำหนังสือถึงกรมทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อนำเสนอผลการวิจัยในฐานะที่เป้นองค์กรร่วมสนับสนุนการวิจัย และมีข้อเสนอแนะให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาควรจะพิจารณาคู่มือที่คณะผู้วิจัยพัฒนาขึ้นนำไปใช้ในการปรับปรุงระบบการตรวจสอบคำขอรับสิทธิบัตรซึ่งกรมฯกำลังดำเนินการพัฒนาระบบอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งการพัฒนาแก้ไข พรบ.สิทธิบัตรให้มีความเป็นธรรมมากขึ้นตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ
|
จี้กรมทรัพย์สินทางปัญญาใช้คู่มือตรวจสอบสิทธิบัตรสกัด evergreening หรือสิทธิบัตรที่ไม่มีที่สิ้นสุด (12 ก.ย.54/กรุงเทพฯ) ตัวแทนเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีเอดส์ ประเทศไทยจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศกว่า 50
|
คุณภาพชีวิต,เศรษฐกิจ
|
กรมทรัพย์สินทางปัญญา,พ.ร.บ.สิทธิบัตร,มูลนิธิเข้าถึงเอดส์,มูลนิธิเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ,ยา,ระบบยา,สิทธิบัตร
|
https://prachatai.com/journal/2011/09/36896
|
รอง ผบ.ตร.สั่งขยายผลคดี เมจิกสกิน กวาดล้างสินค้าด้อยคุณภาพ
|
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 26 เม.ย.61 ที่ห้องประชุมปราศจากศัตรู กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. เรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบคดีการดำเนินการเอาผิดผลิตภัณฑ์ในเครือเมจิกสกิน ทั้งในส่วนของบก.ป. บก.ปคบ.และบก.ปอท. โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง,ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.วิระชัย เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เรียกประชุมเพื่อหารือวางแนวทางการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานการดำเนินคดี ในที่ประชุมได้ลงความเห็นในการดำเนินคดีให้แยกชนิดของแต่ละผลิตภัณฑ์ในเครือเมจิกสกิน ที่มีด้วยกัน 7 ผลิตภัณฑ์ และมีหลายผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มผู้ต้องหาได้ไปจดทะเบียน และ อย.ได้เพิกถอนไปประมาณ 226 รายการ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ในวันพรุ่งนี้จะเห็นภาพรวมว่าแต่ละผลิตภัณฑ์มีใครบ้างเข้าไปเกี่ยวข้อง
,พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่อว่า แต่เดิมเราทำในภาพรวมเป็นคดีใหญ่ แต่ขณะนี้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความมากกว่า 500 ราย และไม่ได้มีเพียงผลิตภัณฑ์ในเครือเมจิกสกินเท่านั้น ยังมีผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ เข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ในส่วนนี้ตนได้สั่งการให้ดำเนินการสืบสวนขยายผลหากพบว่ามีการกระทำความผิด ทั้งในส่วนผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพ เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน จะดำเนินคดีในลักษณะเดียวกัน
,รองผบ.ตร.กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ในที่ประชุมได้วางแนวทางการสืบสวนขยายผลในทุกองค์ประกอบความผิด ร่วมทั้งผู้ร่วมขบวนการซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทุกกระบวนการขั้นตอนในการที่จะออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ ถือว่าเข้าข่ายความผิด และหากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการออกหมายจับเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามในส่วนการออกหมายเรียกกลุ่มดารานักแสดงลอตแรก จำนวน 9 ราย ที่มีการรีวิวสินค้า พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้ดำเนินการออกหมายเรียกไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าดารานักแสดงคนใดจะเดินทางเข้ามาให้ปากคำ เนื่องจากยังไม่ได้รับการประสานมา โดยคาดว่าหลังจากที่ได้รับหมายเรียกภายใน 7 วันจะมีความชัดเจน ทั้งนี้หากไม่มาตามกำหนดจะออกหมายเรียกเป็นครั้งที่สอง หากไม่มาตามหมายเรียกอีกจะดำเนินการออกหมายจับทันที
,พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่ออีกว่า ปัจจุบันนี้มีคดีฉ้อโกงประชาชน จำนวนมาก รัฐบาลได้ให้ความสนใจโดยเฉพาะกรณีเมจิกสกิน และการหลอกลงทุนในรูปแบบต่างๆ ทั้งคริปโตเคอเรนซี บล็อกเชนและการลงทุนสกุลเงิน หรือทองในออนไลน์ รวมทั้งลงทุนผลิตภัณฑ์ในลักษณะแชร์ลูกโซ่ วันพรุ่งนี้จะเข้าหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทยถึงแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยยกกรณีการเอาผิดกับกลุ่มผู้ต้องหาในคดียูฟันมาเป็นต้นแบบ เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป.
|
พล.ต.อ.วิระชัย สั่งเจ้าหน้าที่ขยายผลคดี เมจิกสกิน กวาดล้างสินค้าไม่ได้คุณภาพ เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน หลังเหยื่อกว่า 500 รายตบเท้าเข้าแจ้งความ
|
ข่าว,อาชญากรรม
|
เมจิกสกิน,คดีเมจิกสกิน,ขยายผล,สินค้าไม่ได้คุณภาพ,วิระชัย ทรงเมตตา,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/crime/1266334
|
ดูตัวอย่าง 8 ประเทศ รัฐบาลช่วยคนเล็กคนน้อยในวิกฤตโควิด-19 อย่างไร
|
สวัสดิการโควิด-19 ส่งกล่องยังชีพให้กักตัว ช่วยหางานผ่านทางออนไลน์ ฯลฯกระแสความกังวลของสังคมต่อโรคจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ขยายตัวไปตามจำนวนผู้ป่วยยืนยันที่พบมากขึ้น มติ ครม. ที่มีขึ้นในวันอังคารที่ผ่านมา (17 มี.ค.) ที่ให้สถานศึกษา สถานบริการ สถานบันเทิงต่างๆ ปิดตัวลงเป็นเวลา 14 วัน ถือเป็นการทิ้งไพ่เศรษฐกิจเพื่อแลกมากับโอกาสในการควบคุมโรค และแน่นอน เมื่อนายจ้างเจ็บ ลูกจ้างก็ต้องเจ็บเช่นกันมาตรการการควบคุมโรคแบบเดียวกันถูกใช้ในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้แรงงานในประเทศเหล่านั้นเจอเงื่อนไขคล้ายๆ แรงงานไทย เช่น จะหาเงินจากไหนมาใช้หากต้องกักตัวเองอยู่ในบ้าน 14 วัน นายจ้างจะทนได้หรือไม่ เศรษฐกิจปัจจุบันก็แย่พออยู่แล้ว จะเอารายได้จากไหนมาใช้จ่ายหนี้สิน ฯลฯประชาไทยกตัวอย่างมาตรการของประเทศต่างๆ ในการอุดหนุน ช่วยเหลือลูกจ้างและนายจ้างให้ผ่านพ้นช่วงการระบาดของโควิด-19 ให้เห็นภาพคร่าวๆ ว่าเขาทำอะไรกันบ้างแม้ปัจจุบันสถานการณ์การระบาดในจีนดูเหมือนจะควบคุมได้แล้ว แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นก่อนหน้าใครในฐานะศูนย์กลางการแพร่ระบาดแห่งแรกก็ใหญ่หลวง มีการประเมินจากสำนักข่าว CNBC ว่ามีประชาชนราว 5 ล้านคนที่ตกงานในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2563 รัฐบาลจีนได้ขอให้ธนาคารยืดกำหนดชำระหนี้สินของธุรกิจ และให้ธุรกิจที่ดินให้เช่าลดค่าเช่าลงรัฐบาลจีนออกมาตรการลดหย่อนและงดเว้นภาษีและการจ่ายเบี้ยประกันสังคม เพื่อให้บริษัทยังพอดำเนินการไปต่อในช่วงที่มีการระบาดได้ โดยคาดว่ารัฐจะต้องใช้งบประมาณถึง 5 แสนล้านหยวน (2.305 ล้านล้านบาท) ในการอุดหนุนดังกล่าว มีการจ่ายเงินอุดหนุนการจ้างงานใหกับบริษัทต่างๆ ภาครัฐและเอกชนจัดให้มีการฝึกอาชีพออนไลน์ มีบางแห่งจ่ายเงินให้กับแรงงานที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว กระทรวงศึกษาธิการจัดให้มหาวิทยาลัยมีบริการจัดหางานผ่านระบบออนไลน์ให้กับนักศึกษาจบใหม่ด้วยสำหรับแรงงาน รัฐบาลจีนจัดให้มีรถและเครื่องบินไปรับพวกเขาให้เดินทางกลับมาทำงานฟรี เพราะในช่วงที่มีการระบาดนั้นคาบเกี่ยวกับวันหยุดตรุษจีนที่มีการหยุดไปเป็นเวลานาน และยิ่งนานไปอีกในช่วงที่มีการระบาด รัฐบาลท้องถิ่นมีการเปิดตำแหน่งงานเพิ่มในโรงงานต่างๆ รวมถึงจ่ายเงินอุดหนุนการจ้างงาน ให้แรงงานที่กลับบ้านได้ทำงานในพื้นที่ไปเลยที่มณฑลหูเป่ย ศูนย์กลางการระบาดแห่งแรก ธุรกิจต่างๆ มีมาตรการจูงใจให้คนกลับมาทำงาน โดยเพิ่มเงินชดเชยให้วันละ 100 หยวน (ราว 461 บาท) ให้กับแรงงานในช่วงที่มีการระบาด ส่งผลให้แรงงานร้อยละ 80 กลับมาทำงาน และมีการจ้างงานอีก 32 ตำแหน่งเพิ่มชั่วคราว (ที่มา: )ประเทศที่เมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมามียอดผู้ป่วยสะสมสูงเป็นอันดับสองรองจากจีน รัฐบาลเกาหลีใต้มีการจัดการกับการกักตัวของผู้คนที่บ้านด้วยการจัดส่งสิ่งของที่จำเป็นต่อการดำรงชีพเป็นเวลา 2 สัปดาห์ให้กับผู้ที่ต้องกักตัวที่บ้าน โดยมีทั้งอาหาร ชุดยา เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย น้ำดื่ม เทอร์โมมิเตอร์ และถุงทิ้งกระดาษชำระที่ปนเปื้อนนอกจากนั้นเกาหลีใต้ยังประกาศทุ่มงบประมาณ 9.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่ออุดหนุนค่าจ้างให้กับลูกจ้างในธุรกิจขนาดเล็กและกลาง มีการช่วยเงินอุดหนุนค่าเลี้ยงดูบุตร และจัดให้มีโครงการฝึกฝนอาชีพให้ผู้ที่ตกงาน (ที่มา: )เมื่อ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา ครม. เนเธอร์แลนด์มีมติออกมาตรการบรรเทาผลระทบให้กับนายจ้างที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยจะช่วยนายจ้างจ่ายเงินเดือนให้กับลูกจ้างที่ถูกลดเวลาทำงานร้อยละ 75 ของเงินที่ถูกลดลงไปนอกจากนั้น หากบริษัทไม่สามารถจ่ายเงินคืนโครงการเงินกู้เพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง รัฐบาลจะชำระหนี้ให้สูงสุดร้อยละ 90 นอกจากนั้น ทางรัฐบาลกำลังวางแผนว่าจะมีมาตรการเยียวยาผู้ทำงานที่ทำงานอาชีพอิสระ (self-employed) ที่มีจำนวนมากกว่าหนึ่งล้านคนอีกด้วย (ที่มา:)ที่อังกฤษ เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุขแจ้งเตือนประชาชนว่าให้สังเกตอาการตนเอง หากพบว่ามีอาการพื้นฐานของโควิด-19 ให้กักตัวเองเพื่อดูอาการ 7 วัน หากถูกตรวจพบว่าเป็นเชื้อโควิด-19 คนในครัวเรือนจะต้องกักตัวดูอาการอีก 14 วันนับจากวันที่มีการตรวจพบโรค ในส่วนนี้ รัฐบาลอังกฤษมีมาตรการช่วยเหลือคนที่ต้องลาป่วย โดยเปลี่ยนให้ได้รับเงินชดเชยการป่วยตามกฎหมาย (Statutory Sick Pay-SSP) ตั้งแต่วันแรกที่มีการลาป่วยซึ่งจากเดิมจะจ่ายในวันที่ 4 ของการลา โดยธุรกิจที่มีลูกจ้างน้อยกว่า 250 คน สามารถเบิกค่า SSP ได้หากเป็นการลาป่วยด้วยสาเหตุว่าได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในส่วนคนทำงานอาชีพอิสระ สามารถสมัครรับเงินอุดหนุนรายเดือนสองประเภท ได้แก่ Universal Credit หรือ Employment and Support Allowance (ESA) ได้ตามเกณฑ์สำหรับภาคธุรกิจ รัฐบาลให้ความช่วยเหลือด้วยการลดภาษี และให้เงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า ธุรกิจขนาดเล้กสามารถยื่นคำร้องขอรับเงินสดได้ถึง 25000 ปอนด์ (9.77 แสนบาท) ธนาคารแห่งอังกฤษ (Bank of England)ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลในราคา 228 ดอลลาร์สหรัฐฯ และลดอกเบี้ยบรรษัทลงจากร้อยละ 0.15 เหลือ 0.1 และลดหย่อนภาษีให้กับผู้ประกอบการในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบหนักสุด เช่นภาคส่วนธุรกิจค้าปลีกและโรงแรม (ที่มา: Gov.uk )ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเข้าถึงเงินกู้หลายขนาด แบ่งตามประเภทของธุรกิจ มีทั้งเงินกู้ที่จะช่วยให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ง่ายขึ้น ข้อเสนอจากฝ่ายบริหารที่เสนอสภาคองเกรสในตอนนี้คือการจ่ายเงินค่าจ้างในวันลาป่วยและการแจกเช็คเงินสดให้ประชาชน โดยกระทรวงการคลังระบุว่าจะการจ่ายให้ 2 รอบ คือวันที่ 6 เม.ย. และ 18 พ.ค. โดยมีการจัดขั้นลำดับปริมาณเงินตามขนาดครอบครัวและรายได้ปกติ นอกจากนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังจะให้รัฐบาลไม่คิดค่าดอกเบี้ยของเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษากระนั้นก็มีข้อสงสัยว่า การอุดหนุนค่าจ้างในวันลาป่วยสามารถเบิกได้เฉพาะสถานประกอบการที่มีลูกจ้างมากกว่า 50 คนขึ้นไป แต่ไม่เกิน 500 คน ข้อยกเว้นเช่นนี้จะทำให้มีแรงงานหลักล้านคนที่เข้าไม่ถึงเงินช่วยเหลือดังกล่าว (ที่มา: )ไอร์แลนด์มีมาตรการควบคุมโรคเหมือนกับที่ไทยทำ คือปิดสถานศึกษา สถานบันเทิง ที่ชุมนุมคนตั้งแต่ 100 คนในที่ปิดและ 500 คนในที่เปิด และสถานที่ด้านวัฒนธรรมของรัฐเป็นเวลา 14 วัน และขอความร่วมมือประชาชนไม่ให้จัดปาร์ตี้กันที่บ้าน สถานทำงานถูกแนะนำให้เปลี่ยนการทำงานไปทำงานทางไกลในช่วงที่มีการระบาด ไอร์แลนด์มีสวัสดิการใหม่ให้กับผู้ที่ว่างงานจากผลกระทบโควิด-19 (COVID-19 Pandemic Unemployment Payment) โดยผู้ที่เสียงาน ถูกลดเวลาการทำงานหรือเปลี่ยนการจ้างงานเป็นแบบพาร์ทไทม์จากการถูกกักตัว ตั้งแต่อายุ 18-66 ปี ทั้งที่ประกอบอาชีพปกติและอาชีพอิสระ สามารถสมัครเพื่อรับเงินก้อนนี้ นักเรียนก็สามารถสมัครได้ ส่วนประชาชนที่ได้รับการตรวจแล้วว่าติดเชื้อโควิด-19 และต้องกักตัวนั้นให้ไปสมัครสวัสดิการผู้ป่วยแทนรัฐจะจ่ายสวัสดิการผู้ว่างงานให้กับผู้ลงทะเบียนเป็นเวลาสูงสุด 6 สัปดาห์ ระหว่างนั้นก็มีการแนะนำให้ผู้ว่างงานไปลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนให้ผุ้กำลังหางาน หากแรงงานถูกลดชั่วโมงทำหงานเหลือน้อยกว่า 3 วันต่อสัปดาห์ ก็มีการแนะนำให้ไปลงทะเบียนรับเงินสนับสนุนผู้ทำงานระยะสั้น ซึ่งเป็นเงินทุนลักษณะคล้ายกับเงินอุดหนุนผู้กำลังหางานชาวต่างชาติที่ทำงานในไอร์แลนด์จะได้รับเงินอุดหนุนสูงสุด 203 ยูโรต่อสัปดาห์เป็นเวลา 6 สัปดาห์จากนายจ้าง ซึ่งนายจ้างสามารถนำไปเบิกกับรัฐได้ภายหลัง ส่วนแรงงานที่มีครอบครัวที่ได้รับเงินอุดหนุนช่วยครอบครัวที่ทำงาน (Working Famliy Payment) แล้วตกงานจากโควิด-19 สามารถสมัครสวัสดิการผู้ว่างงานจากโควิด-19 ได้เช่นกัน ผู้ที่ได้รับทั้งสวัสดิการด้านการจ้างงานและระบบรัฐสวัสดิการ เช่น เงินอุดหนุนครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวหรือเบี้ยผู้พิการ แล้วตกงานเพราะโควิด-19 จะไม่สามารถลงทะเบียนรับเงินกับสวัสดิการโควิด-19 ที่มีใหม่ได้ แต่ให้ไปแจ้งกรมการจ้างงานและการคุ้มครองสังคม (DEASP) เพื่อขอเพิ่มจำนวนเงินสวัสดิการ เพราะเดิมทีเงินสวัสดิการเหล่านั้นจะลดลงเมื่อประชาชนผู้ประกันตนมีงานทำ (ที่มา: citizeninformation.ie )รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้เตรียมงบประมาณกว่า 12000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 3.9 แสนล้านบาท) เพื่อรับมือกับโควิด-19 ผ่านการลงทุนด้านสาธารณสุขและสนับสนุนความมั่นคงภาคธุรกิจและผู้ประกอบการ ในส่วนเศรษฐกิจนั้น รัฐบาลมีแผนที่จะมีการอุดหนุนการจ่ายเงินค่าจ้างให้ในวันลาป่วย รวมถึงการช่วยจ่ายค่าจ้างพนักงาน ส่วนลูกจ้างที่ถูกลดชั่วโมงการทำงานสำหรับการช่วยจ่ายค่าจ้าง รัฐบาลจะอุดหนุนค่าจ้างให้แรงงานเต็มเวลา (ทำงาน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) เป็นเงิน 585.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อสัปดาห์ และ 350 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อสัปดาห์สำหรับแรงงานพาร์ทไทม์ (ทำงานน้อยกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) โดยนายจ้างจะได้รับเงินก้อนนี้เป็นก้อนเดียวเพื่อช่วยแรงงานเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ทั้งนี้ นายจ้างหนึ่งคนสามารถรับเงินอุดหนุนได้ไม่เกิน 150000 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยนายจ้างทั้งที่เป็นธุรกิจส่วนตัว ผู้รับเหมา หรืออาชีพอิสระในทุกภาคส่วนสามารถลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนนี้ได้เงินส่วนข้างต้นจะถูกนำไปจ่ายให้กับลูกจ้างที่ต้องกักตัวเองที่บ้านในอัตราส่วนที่ระบุเอาไว้ตามประเภทแรงงาน โดยจะจ่ายให้ลูกจ้างเป็นเวลา 14 วัน ตามระยะเวลากักตัวมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยนายจ้างไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินให้มากกว่าจำนวนที่ลูกจ้างจะได้รับในเวลาทำงานปกติ ผู้ประกอบอาชีพอิสระสามารถไปลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนนี้ในกรณีที่ต้องกักตัวเอง คนที่จำเป็นต้องถูกกักตัวซ้ำอีกครั้งก็ให้นายจ้างจ่ายเงินให้ด้วยแนวทางเดียวกันซ้ำอีกครั้ง (ที่มา: )รัฐบาลญี่ปุ่นใช้งบประมาณราว 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ช่วยเหลือประชาชนด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายภาคส่วน รวมถึงเพิ่มกำลังการผลิตหน้ากากอนามัย ช่วยเหลือการป้องกันการระบาดของโรคเข้าไปในสถานเลี้ยงดูคนชรา นอกจากนั้นยังมีเงินช่วยเหลือให้กับผู้ปกครองที่ต้องอยู่บ้านเพื่อดูแลลูกอันเป็นผลจากการประกาศปิดโรงเรียนทั่วประเทศด้วย (ที่มา: )
|
ดูมาตรการรัฐบาลในจีน เกาหลีใต้ ไอร์แลนด์ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ จีน ว่าดูแลคนเล็กคนน้อยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างไร หลายประเทศมีการช่วยนายจ้างจ่ายค่าแรง ลดหย่อนภาษี จ่าย
|
การเมือง,เศรษฐกิจ,แรงงาน,คุณภาพชีวิต
|
จีน,เกาหลีใต้,ไอร์แลนด์,ญี่ปุ่น,สหรัฐอเมริกา,อังกฤษ,เนเธอร์แลนด์,โควิด-19,COVID-19
|
https://prachatai.com/journal/2020/03/86860
|
ทหาร SSA และภรรยาถูกทหารพม่ายิงเสียชีวิตขณะจ่ายตลาด
|
ที่ตั้งเมืองจ็อกแม รัฐฉาน ซึ่งเกิดเหตุยิงทหารไทใหญ่เสียชีวิตภายหลังทำสัญญาหยุดยิงกับรัฐบาลพม่า (ที่มา: Googlemap) แหล่งข่าวในพื้นที่ของสำนักข่าวฉาน (S.H.A.N.) รายงานว่า ร.ท.จายต๊ะโหลง เจ้าหน้าที่ประสานงานกองทัพรัฐฉาน SSA (กองกำลังไทใหญ่) ประจำเมืองสี่ป้อ รัฐฉานภาคเหนือ พร้อมภรรยาถูกทหารพม่ายิงเสียชีวิตขณะเดินซื้อของในตลาด ในเขตฮายกุ๋ย เมืองจ๊อกแม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา แหล่งข่าวเผยว่า ระหว่างที่ ร.ท.จายต๊ะโหลง ซึ่งสวมเครื่องแบบทหารกองกำลังไทใหญ่ SSA กำลังเดินซื้อของอยู่ในตลาดพร้อมด้วยภรรยา ได้มีทหารพม่าสังกัดกองพันทหารราบที่ 23 มีฐานประจำการอยู่ที่เมืองสี่ป้อ ได้ไปทำการโอบล้อมและยิงเสียชีวิต ท่ามกลางสายตาชาวบ้านพบเห็นเป็นจำนวนมาก ขณะที่ภรรยาของเขาถูกจ่อยิงเข้าที่หน้าผากเสียชีวิตคาที่ขณะที่เธอกำลังนั่งร้องไห้กอดศพสามีอยู่ พ.ต.หลาวแสง โฆษก SSA กล่าวว่า ร.ท.จายต๊ะโหลง เป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานของ SSA ประจำเมืองสี่ป้อ เขาถูกยิงเสียชีวิตทั้งๆ ที่ทหารพม่าก็รู้ดีว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของ SSA นี่เป็นการจงใจของทหารพม่า ซึ่งผิดข้อสัญญาหยุดยิงของสองฝ่าย โดยหลังจากเขาถูกยิงเสียชีวิตทหารพม่ายังได้ตรวจยึดเอาปืนพกและทรัพย์สินติดตัวพวกเขาไปทั้งหมด \หากทหารพม่ายังคงโจมตีทหาร SSA อยู่อย่างนี้ ทาง SSA ก็พร้อมจะปกป้องตัวเอง การกระทำของพม่าเช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อข้อสัญญาหยุดยิงสองฝ่าย ขณะนี้ SSA ได้แจ้งเลื่อนกำหนดการเจรจาสันติภาพระดับสหภาพครั้งที่ 2 ที่มีกำหนดจัดขึ้นที่กรุงเนปิดอว์ ออกไปอย่างไม่มีกำหนดแล้ว\ พ.ต.หลาวแสง กล่าว รัฐบาลพม่าภายใต้การนำของประธานาธิบดีเต็งเส่ง และกองกำลังไทใหญ่ SSA ได้ลงนามหยุดยิงสร้างสันติภาพระหว่างกันเมื่อ 2 ธ.ค. 54 โดยประธานาธิบดีเต็งเส่ง ได้ประกาศให้มีการหยุดยิงทั่วประเทศ และเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ตรงกับวันสหภาพพม่าครบรอบ 65 ปี อูอ่องมิน รตม.กระทรวงการขนส่งทางรถไฟ ประธานคณะเจรจาสันติภาพกล่าวกำหนดเป็นวันเริ่มการหยุดยิงทั่วประเทศ และว่าทางการจะสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นทั่วประเทศภายใน 3 เดือน แต่จนถึงขณะนี้ทหารพม่ายังคงมีการโจมตีกองกำลัง SSA อยู่อย่างต่อเนื่อง () ชมภาพ / อ่านข่าวย้อนหลังได้ที่ http://www.khonkhurtai.org/ \คนเครือไท\ เป็นศูนย์ข่าวภาคภาษาไทยเครือข่ายสำนักข่าวอิสระไทใหญ่ หรือ สำนักข่าวฉาน (SHAN – Shan Herald Agency for News) มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในรัฐฉาน สหภาพพม่า ตลอดจนตามแนวชายแดนไทย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรการเมือง / การทหารกลุ่มใด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ [email protected] หรือ ติดตามอ่านข่าวสารภาคภาษาอังกฤษได้ที่ www.shanland.org ภาคภาษาไทใหญ่ที่ www.mongloi.org และภาคภาษาไทยที่ www.khonkhurtai.org
|
เจ้าหน้าที่ประสานงานของกองทัพรัฐฉาน ถูกทหารพม่ายิงเสียชีวิตพร้อมภรรยาขณะจ่ายตลาด ท่ามกลางสายตาชาวบ้านจำนวนมาก ด้านโฆษกกองทัพรัฐฉานระบุ ทหารพม่าจงใจยิง และเรื่องนี้อาจส่งผลต่อสัญญาหยุดยิงสองฝ่าย
|
ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน,ความมั่นคง
|
Shan State Army,กองทัพรัฐฉาน,การปฏิรูปในพม่า,การหยุดยิง,จ็อกแม,ทหาร SSA,พม่า,รัฐฉาน
|
https://prachatai.com/journal/2012/02/39363
|
รวมคำเบิกความทหาร เผยฉากยิงโต้ ชายชุดดำ ใกล้วัดปทุมฯ ยันกระสุนไม่โดนใคร
|
เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 56 ห้อง 402 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดไต่สวนการเสียชีวิตของ อัฐชัย ชุมจันทร์ มงคล เข็มทอง รพ สุขสถิต น.ส.กมลเกด ฮัคอาด และ อัครเดช ขันแก้ว ซึ่งเสียชีวิตภายในวัดปทุร.ท.พิษณุ ทัสแก้ว พยานคนแรกให้การว่า เป็นทหารสังกัดกองพัร.ท.พิษณุ ให้การต่อว่า เวลาประมาณ 17.30 น. พยานเคลื่อนกำลังไปยัอย่างไรก็ตาม ผู้บังคับบัญชากำชับให้เขากล่าวว่า ระหว่างนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ร.ท.พิษณุ เบิกความต่อว่า วันที่ 20 พ.ค. 53 เวลา 20.00 น. กองกำลังของพยานจึงได้เข้ทนายความของญาติผู้เสียชีวิตได้ซักถามพยานเพิ่มเติมได้ความว่า ในวันดังกล่าวพื้นที่สี่นอกจากนี้กฎการใช้อาวุธมีพยานยืนยันว่า พยานยิงปืน 10 นัดและไม่มีผู้ใดยิงปืนไปที่ภายหลังการไต่สวน โชคชัย อ่างแก้ว ทนายฝ่ายผู้เสียชีวิตให้สัมภาษณ์ว่า ทหารพยายามให้การในแนวทางว่า มีคนติดอาวุธอยู่ในวัดปทุส่วนวันที่ 28 ก.พ. 56 ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีการไต่สวนการเสียชีวิตของผู้เสียชีวิต 6 รายที่วัดปทุมเช่นเดียวกัน ได้แก่ อัฐชัย ชุมจันทร์ มงคล เข็มทอง รพ สุขสถิต กมลเกด ฮัคอาด และ อัครเดช ขันแก้ว ซึ่งเสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 53ช่วงเช้า พ.ท.ยอดอาวุธ พึ่งพักตร์ ให้การว่า เดือน เม.ย. 53 พยานได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชากรมทหารราบที่ 31 กองพันทหารราบที่ 2 กองพลทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ เพื่อดูแลรักษาความสงบการชุมนุมของ นปช. ที่สี่แยกราชประสงค์ ในวันที่ 19 พ.ค. 53 ได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการให้ปฏิบัติการกระชับพื้นที่ โดยกองร้อยของพยานและกองร้อยตำรวจจาก จ.ชลบุรี จ.จันทบุรี และ จ.ตราด รวมตัวกันที่แยกปทุมวัน เมื่อเวลา 3.00 น. เพื่อรอคำสั่ง ต่อมาจึงใช้รถขยายเสียงประกาศให้ผู้ชุมนุมออกมาจากสี่แยกราชประสงค์และสยามสแควร์เพื่อมาขึ้นรถโดยสารที่จัดเตรียมไว้ที่สนามกีฬาแห่งชาติ แต่ไม่มีผู้ชุมนุมคนใดออกมา พยานคิดว่าอาจเป็นเพราะเวลานั้นผู้ชุมนุมยังไม่เลิกชุมนุม หรือเพราะความกลัวของผู้ชุมนุมต่อทหารเขาเบิกความว่า เวลา 13.30 น. หลังแกนนำ นปช. ประกาศยุติการชุมนุมจึงมีผู้ชุมนุม 300-400 คนมาขึ้นรถโดยสาร พยานสงสัยสาเหตุที่มีผู้ชุมนุมเดินทางมาขึ้นรถโดยสารน้อยอาจเป็นเพราะผู้ชุมนุมกลัวถูกทหารทำร้ายหรือถูกจับกุม เมื่อพยานตรวจค้นผู้ชุมนุมก็พบว่า มีผู้ชุมนุมบางส่วนขโมยเครื่องเพชรออกมาจึงจับกุมผู้ชุมนุมเหล่านั้นส่งให้ สน.ปทุมวัน ดำเนินคดี เวลา 15.00 น. พยานเห็นเพลิงไหม้ที่เซ็นทรัลเวิลด์ จึงสั่งให้ทหารใต้บังคับบัญชาของพยานไปดู ต่อมาพยานได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้าไปดับเพลิงในโรงภาพยนตร์สยามถูกผู้ชุมนุม นปช. ยิง จึงรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาของพยาน ผู้บัญชาการจึงมีคำสั่งให้พยานจัดชุดทหารเพื่อคุ้มครองรถดับเพลิงที่จะเข้าไปดับเพลิงโรงภาพยนตร์สยาม ซึ่งอยู่ในบริเวณสยามสแควร์ พยานจึงจัดชุดรบพิเศษ 1 ชุดเพื่อคุ้มครองรถดับเพลิงเมื่อชุดรบพิเศษเดินทางเข้าไปตาม ถ.พระราม 1 จึงพบกองยางรถยนต์วางเป็นแนว มีลักษณะสูง มีไม้ไผ่แหลมปักโดยรอบขวางถนน 3 แนว ขณะที่ 2 ข้างถนนมีเต็นท์หลายหลัง โดยในแต่ละเต็นท์มีสิ่งของ เช่น อาหารอยู่ด้วย พยานรับทราบข่าวมาก่อนหน้านี้ว่า อาจมีการวางกับระเบิดในกองยางรถยนต์ จึงสั่งให้ทหารใต้บังคับบัญชาระวังตัว เมื่อชุดรบพิเศษของพยานเดินผ่านกองยางรถยนต์กองที่ 1 พวกเขาถูกกลุ่มชายติดอาวุธยิงในระยะประมาณ 50 เมตร โดยกลุ่มชายดังกล่าวหลบอยู่หลังตอหม้อใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ พวกเขาจึงยิงตอบโต้ไปที่ตอหม้อของรถไฟฟ้า BTS จนทำให้กลุ่มชายดังกล่าวหลบหนีไป เมื่อพยานได้รับรายงานจากพวกเขาจึงสั่งให้ถอนกำลังออกมา สาเหตุที่ทหารใต้บังคับบัญชายิงที่ตอหม้อของรถไฟฟ้า BTS เพราะพยานและทหารใต้บังคับบัญชาของพยานได้รับการฝึกไม่ให้ใช้ความรุนแรงต่อประชาชน หากทหารใต้บังคับบัญชาของพยานยิงกลุ่มชายติดอาวุธดังกล่าวจนเสียชีวิต พวกเราก็จะถูกกล่าวหาว่า สังหารประชาชน นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ทหารใต้บังคับบัญชาปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด หลังจากที่สั่งให้พวกเขาถอนกำลังออกมาประมาณ 10 นาทีก็ยังไม่ออกมา พยานจึงเข้าไปดูและพบพวกเขากำลังเดินสวนออกมา เมื่อสอบถามถึงสาเหตุที่พวกเขาออกมาช้าก็ได้รับคำชี้แจงว่า ทหารใต้บังคับบัญชาของพยานบางคนทำปืนตกลงไปในท่อระบายน้ำ แต่ไม่สามารถเก็บกู้ได้ จึงทำให้เสียเวลา ปืนกระบอกดังกล่าวได้รับการเก็บกู้คืนจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในเวลาต่อมาพ.ท.ยอดอาวุธ เบิกความต่อว่า หลังจากการถอนกำลังออกมา พยานได้จัดกองร้อยใหม่ โดยแบ่งออกเป็น 2 กองร้อย และเคลื่อนกำลังเข้าไปอีกครั้ง ทหารใต้บังคับบัญชาของพยานบางคนมีอาวุธปืนเล็กยาว 50 ทราโว ส่วนบางคนมีปืนลูกซอง พยานสั่งให้ทหารใต้บังคับบัญชาของพยานอย่ายิงใครพร่ำเพรื่อ ให้ยิงได้เฉพาะผู้ชุมนุมที่มีอาวุธและยิงให้บุคคลนั้นล้มลงเท่านั้น ทหารใต้บังคับบัญชาของพยานบางส่วนขึ้นไปบนรางรถไฟฟ้า BTS เพื่อคุ้มกันทหารที่อยู่ด้านล่าง เมื่อพยานเดินเข้าไปใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีสยามก็ได้รับแจ้งว่า มีการยิงจากแยกเฉลิมเผ่ามาที่แยกปทุมวัน พยานได้ยินเสียงปืนดังขึ้นและได้รับแจ้งว่ามีชายติดอาวุธหลบอยู่ตามเต็นท์และตอหม้อรถไฟฟ้า BTS นอกจากนี้ยังมีการขว้างระเบิดด้วยพยานเบิกความอีกว่า เวลาเกือบ 18.00 น. มีผู้ยิงปืนจากด้านล่างกระทบคานของรถไฟฟ้า BTS ทหารใต้บังคับบัญชาของพยานจึงยิงตอบโต้ไปที่ตอหม้อบริเวณแยกเฉลิมเผ่า ต่อมาพยานเดินข้ามถนนไปฝั่ง ธ.กรุงเทพ สาขาสยามสแควร์ และเห็นว่ามีรถบรรทุก 3 คันจอดอยู่ริมถนน รถบรรทุกบางคันมีถังก๊าซ NGV และมีถังก๊าซปิคนิควางอยู่ใกล้ๆ ทราบข่าวมาก่อนหน้านี้ว่า อาจมีคาร์บอมบ์ จึงวิทยุไปรายงานกับผู้บังคับบัญชา ระหว่างนั้นทหารใต้บังคับบัญชาควบคุมตัวผู้ชาย 2 คนและเด็กผู้ชาย 1 คน เมื่อตรวจค้นย่ามพบระเบิดขว้างจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบผู้ต้องสงสัยอีก 2 คนจึงส่งตัวไป สน.ปทุมวันสำหรับชายติดอาวุธหลบอยู่ในโรงภาพยนตร์สยาม และหลบหนีไปทาง ถ.อังรรีดูนัง พยานเห็นว่า ชายติดอาวุธเหล่านั้นอาจใช้ยุทธวิธีรบไปถอยไปเพื่อหลอกให้พวกเราเข้าไปติดกับ อีกทั้งเวลานั้นก็มืดและไม่มีแสงไฟฟ้า พยานจึงสั่งให้ทหารใต้บังคับบัญชาถอนตัวมาที่รถไฟฟ้า BTS สถานีสยาม การปฏิบัติการในครั้งนี้มีนักข่าวฝรั่งเศสร่วมติดตามไปด้วยหลังจากนั้นพยานได้รับคำสั่งให้จัดรถพยาบาลทหารเข้าไปรับผู้บาดเจ็บในวัดปทุมวนาราม แต่พยานเกรงผู้ชุมนุมกลัว จึงไม่ได้ส่งรถพยาบาลทหารเข้าไป เวลา 22.00 น. จึงมีรถพยาบาลของ รพ.ตำรวจ เข้าไปรับผู้ได้รับบาดเจ็บแทน โดย 1 ในผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นนักข่าวแคนาดาพ.ท.ยอดอาวุธ กล่าวต่อว่า วันรุ่งขึ้น (20 พ.ค. 53) เวลา 6.00 น. พยานได้รับคำสั่งให้นำทหารใต้บังคับบัญชาเข้าไปในวัดปทุมวนารามเพื่อเคลียร์พื้นที่ให้ปลอดภัยก่อนส่งมอบให้กรุงเทพมหานคร แต่ยังไม่ทันจะได้เข้าไปก็ได้รับแจ้งให้ตำรวจเข้าไปเคลียร์พื้นที่ก่อน เพราะยังมีผู้ชุมนุมจำนวนมากอยู่ภายในวัดปทุมวนาราม พยานและทหารใต้บังคับบัญชาของพยานยืนรออยู่ที่แยกเฉลิมเผ่า เมื่อตรวจค้นพื้นที่แยกเฉลิมเผ่าก็พบระเบิด กระสุนปืน น้ำมัน และระเบิดปิงปองซ่อนอยู่ใต้ตอหม้อรถไฟฟ้า BTS ส่วนรถบรรทุกต้องสงสัย 3 คันยังคงจอดอยู่ พยานจึงเรียกหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้ามาตรวจสอบ ระหว่างนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งอายุราว 25 ปี เดินออกจากวัดปทุมวนารามเข้ามาหาพยาน และร้องขอให้พยานถอนกองกำลังออกจากรางรถไฟฟ้า BTS ผู้ชายคนดังกล่าวอ้างว่า เขาเป็นแกนนำผู้ชุมนุมภายในวัดปทุมวนาราม แต่เมื่อพยานขอดูบัตรประชาชนผู้ชายคนดังกล่าวกลับวิ่งหลบหนีเข้าไปภายในวัดปทุมวนาราม หลังจากนั้นก็มีเสียงปืนดังออกมาจากวัดปทุมวนาราม ทหารใต้บังคับบัญชาของพยานจึงยิงปืนไปที่ตอหม้อรถไฟฟ้า BTS เพื่อข่มขู่เวลาประมาณ 13.00 น. พยานขออนุมัติจากผู้บังคับบัญชาเพื่อเข้าไปในวัดปทุมวนาราม แต่เวลานั้นมีผู้ชุมนุมและรถยนต์จำนวนมากกำลังออกจากวัดปทุมวนาราม พยานจึงเดินขึ้นไปทางเซ็นทรัลเวิลด์ และเห็นรถยนต์จำนวนมากอยู่ริมถนน เวลาประมาณ 15.00 น. พยานและทหารใต้บังคับบัญชาของพยานเข้าไปในวัดปทุมวนาราม พยานเดินเข้าไปหาเจ้าอาวาสที่ห้องพักแต่ไม่พบ ทหารเข้าตรวจพื้นที่รอบวัดปทุมวนารามพบกระเป๋า 3 ใบใต้พุ่มไม้ข้างที่จอดรถใกล้กับกุฏิของเจ้าอาวาส ภายในพบกระสุนปืน M79 ระเบิดขว้าง และเครื่องยิงลูกกระสุน เมื่อได้พบกับเจ้าอาวาสจึงขออนุญาตตรวจค้นภายในวัด เมื่อตรวจค้นรถยนต์ที่ยังคงจอดอยู่ภายในวัดปทุมวนารามก็พบเครื่องเพชรและปืนอยู่ในรถยนต์หลายคัน การตรวจค้นครั้งนี้มีสื่อมวลชน ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นและพระสงฆ์ร่วมสังเกตการณ์พ.ท.ยอดอาวุธ กล่าวว่า วันรุ่งขึ้น 21 พ.ค. 53 พยานและทหารใต้บังคับบัญชาของพยานเข้าตรวจค้นรถยนต์ภายในวัดปทุมวนารามที่เหลืออยู่และพบระเบิดเพลิง ระเบิดปิงปอง นอกจากนี้ยังพบถุงหลายใบฝังอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้กุฏิพระสงฆ์ ภายในพบปืน M16 2 กระบอก กระสุนปืน M16 กว่า 100 นัด และระเบิดขว้าง 2 ลูกอีกด้วย อาวุธที่พบทั้งหมดถูกรวบรวมไว้เพื่อส่งให้ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ .) ในเวลาต่อมา ต่อมาทหารใต้บังคับบัญชาของพยานพบผู้ชุมนุม 3 คนหลบอยู่ภายในกุฏิพระหลังหนึ่งจึงเรียกมาคุย โดยพยานเสนอให้พวกเขางมบ่อน้ำภายในวัดปทุมวนารามเพื่อค้นหาอาวุธที่ถูกซุกซ่อนอยู่ในบ่อน้ำ เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี เมื่อพวกเขางมบ่อน้ำก็พบกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง ก่อนที่พยานจะปล่อยตัวผู้ชุมนุมทั้ง 3 คน นักข่าวคนหนึ่งแจ้งกับพยานว่า ผู้ชุมนุม 1 ใน 3 คนนี้เป็นผู้ที่บุกรุกเข้าไปใน รพ.จุฬาลงกรณ์ เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 53 พยานจึงควบคุมตัวผู้ชุมนุมคนดังกล่าวส่ง สน.ปทุมวัน และวันรุ่งขึ้น (22 พ.ค. 53) พยานและทหารใต้บังคับบัญชาของพยานตรวจค้นพื้นที่สยามสแควร์ และพบระเบิดจำนวนมากทนายความญาติผู้เสียชีวิตซักถามพยานต่อ โดยพยานชี้แจงว่า พยานเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของ พล.ต.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ซึ่งขึ้นตรงต่อ ศอฉ. พยานควบคุมกองกำลัง 3 กองร้อย โดยในช่วงแรกกองกำลังของพยานมีเพียงโล่/กระบอง ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นปืนลูกซอง/ปืน เล็กยาว 50 ทราโว่ กองกำลังของพยานมีปืนเล็กยาว 50 ทราโว่อยู่ 40-50 กระบอก ซึ่งใช้กระสุนแบบ M855 สามารถยิงได้ไกลสูงสุด 1000 เมตร ในวันที่ 19 พ.ค. 53 พยานได้รับคำสั่งให้กระชับพื้นที่สี่แยกราชประสงค์ แต่ไม่ทราบแผนปฏิบัติการณ์ทั้งหมดของ ศอฉ. และไม่ทราบว่าเหตุใด ศอฉ. จึงต้องกระชับพื้นที่ในวันนั้น ในส่วนของผู้ชุมนุมนั้นเริ่มทยอยออกจากสี่แยกราชประสงค์ภายหลังจากแกนนำ นปช. ประกาศยุติการชุมนุม ซึ่งขณะนั้นกองกำลังของพยานยังคงอยู่ที่แยกปทุมวัน ผู้ชุมนุมบางส่วนเดินผ่านกองยางรถยนต์มาขึ้นรถโดยสาร ขณะนั้นทหารใต้บังคับบัญชาแจ้งพยานว่า ยังมีผู้ชุมนุมหลบอยู่ภายในวัดปทุมวนารามจำนวนมาก พยานทราบข่าวการเสียชีวิตของผู้ชุมนุมก่อนวันที่ 19 พ.ค. 53 จำนวนหนึ่ง และทราบข่าวมีการปะทะกันระหว่างคนติดอาวุธและเจ้าหน้ารัฐจนมีผู้เสียชีวิตเขาระบุด้วยว่า ในวันที่ 19 พ.ค. 53 พยานจัดกองกำลังเข้าไป ถ.พระราม 1 ภายหลังจากที่ทราบว่า เกิดเพลิงไหม้เซ็นทรัลเวิลด์ นอกจากนี้พยานยอมรับว่ามีทหารใต้บังคับบัญชาของพยานบางส่วนขึ้นไปอยู่บนรางรถไฟฟ้า BTS แต่ขณะนั้นพยานอยู่ด้านล่าง พยานแบ่งกองกำลังออกเป็น 2 ส่วนโดยเดินเลียบไปตาม 2 ฟาก ถ.พระราม 1 เมื่อทหารใต้บังคับบัญชาของพยานพบคนติดอาวุธที่แยกเฉลิมเผ่า พวกเขายิงปืนเป็นแนวราบไปที่ตอหม้อของรถไฟฟ้า BTS หลังจากนั้นพวกเขาเข้าไปตรวจสอบว่า มีบุคคลใดซ่อนตัวอยู่ในบริเวณนั้นอีกหรือไม่ ทหารใต้บังคับบัญชาของพยานไม่ได้เก็บปอกกระสุนที่ยิงออกไปแต่อย่างใด การยิงปะทะกันเกิดขึ้นเป็นช่วงๆ กินระยะเวลาประมาณ 40 นาที ตั้งแต่ 17.30-18.30 น. มีคนติดอาวุธ 3 คน โดยแต่ละคนมีปืนคนละ 1 กระบอก และมีการขว้างระเบิดออกมาด้วย ในที่เกิดเหตุไม่พบกองเลือดแต่อย่างใด สาเหตุที่พวกเขาไม่สามารถจับกุมคนติดอาวุธเหล่านั้นได้ เพราะพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยและมีรถยนต์จอดกีดขวางเป็นจำนวนมาก พยานได้วิทยุคุยกับทหารใต้บังคับบัญชาของพยานที่อยู่บนรางรถไฟฟ้า BTS ซึ่งแจ้งว่า เห็นคนติดอาวุธหลบอยู่ใต้ตอหม้อรถไฟฟ้า BTS ขณะนั้นพยานไม่ทราบว่าทหารที่อยู่บนรางรถไฟฟ้า BTS กำลังทำอะไร และไม่ทราบว่า มีทหารจากหน่วยอื่นเข้ามาในพื้นที่หรือไม่ ส่วนในวันที่ 19-22 พ.ค. 53 ทหารควบคุมพื้นที่แยกราชประสงค์ทั้งหมด ผู้ใดที่ต้องการเข้า/ออกพื้นที่ต้องขออนุญาตจากทหาร แม้แต่ตำรวจก็ต้องขออนุญาต แต่ประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นสามารถเข้า/ออกได้ตามปกติ กระสุนที่งมพบในบ่อน้ำภายในวัดปทุมวนารามเป็นกระสุนปืน M60 ทั้งหมดเป็นของใหม่พร้อมใช้งาน ส่วนปืน M60 เป็นปืนที่มีใช้ในราชการทหารเขาตอบคำถามด้วยว่า วันที่ 19 พ.ค. 53 ตำรวจและพยาบาลเข้าไปช่วยพาผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บออกมาจากวัดปทุมวนาราม พยานไม่ทราบจำนวนผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุที่พยานไม่ส่งรถพยาบาลทหารเข้าไปรับผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บนั้นเพราะพยานเกรงจะถูกใส่ร้าย และไม่ทราบว่า มีคนร้ายซ่อนตัวอยู่ภายในวัดปทุมวนารามหรือไม่ แม้ว่าทหารจะไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือ แต่พยานก็ไม่ได้ห้ามการช่วยเหลือแต่อย่างใดส่วนการปฏิบัติการณ์ในวันนั้นทหารใต้บังคับบัญชาของพยานมีกระสุนปืนคนละ 20-30 นัด กระสุนปืนดังกล่าวไม่ได้มาจาก ศอฉ. แต่มาจากกองพลทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ หลังปฏิบัติการณ์ที่สี่แยกราชประสงค์ปืนเหล่านั้นก็ถูกนำไปฝึกต่อ ส่วนกองกำลังยังคงอยู่บนรางรถไฟฟ้า BTS และถอนออกมาในวันที่ 20 พ.ค. 53 หลังวันที่ 20 พ.ย. 53 ไม่มีการยิงปืนใดๆ ส่วนพยานและทหารใต้บังคับบัญชาของพยานถอนออกจากการตรวจค้นพื้นที่วัดปทุมวนารามในวันที่ 23 พ.ค. 53พ.ท.ยอดอาวุธระบุด้วยว่า การเคลื่อนที่ของทหารใต้บังคับบัญชาของพยานทั้งที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าและถนนด้านล่างสอดประสานกัน โดยทหารใต้บังคับบัญชาของพยานที่อยู่ด้านบนจะคอยระวังด้านล่าง มีการยิงปืนลงมาด้านล่างเพื่อระวังด้านล่างเท่านั้น พยานได้ยินเสียงปืนเป็นช่วงๆ โดยเป็นการยิงปืนไปที่ตอหม้อและคานของรถไฟฟ้า BTS คนติดอาวุธเหล่านั้นพยานไม่ทราบว่ามาจากทางไหน แต่พวกเขาไม่ได้วิ่งหลบหนีเข้าในวัดปทุมวนาราม พยานยอมรับว่า หน่วยรบพิเศษยังมีปืนพกอื่นอีกนอกจากปืนที่พวกเขาใช้กันอยู่ ทหารใต้บังคับบัญชาของพยานยิงปืนที่แยกเฉลิมเผ่าห่างจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติประมาณ 200-300 เมตร ซึ่งระยะดังกล่าวกระสุนปืนสามารถเข้าไปในวัดปทุมวนารามได้ ปืนเล็กยาว 50 ทราโว่หากยิงจากบนรางรถไฟฟ้า BTS ลงมาที่พื้นมีโอกาสที่จะแฉลบไปทิศทางอื่นได้หลังการไต่สวนช่วงเช้าเสร็จ พ.ท.ยอดอาวุธ เดินทางกลับพร้อมกับทหารที่เข้าร่วมฟังการไต่สวนจำนวนหนึ่ง ระหว่างเดินออกจากศาลอาญากรุงเทพใต้ พ.ท.ยอดอาวุธ ได้พบกับ พะเยาว์ อัคฮาด ที่รออยู่ด้านล่าง ทั้งสองจึงพูดคุยกันพ.ท.ยอดอาวุธ แสดงความเสียใจต่อผู้ชุมนุมที่เสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม แต่เขาเองก็ไม่เห็นด้วยที่ทหารถูกเพ็งเล็งจากกรณีนี้ และไม่อาจยืนยันว่าเป็นฝีมือของใคร แต่ควรจะมองบุคคลอื่นด้วย เพื่อไม่ให้ผู้กระทำผิดที่แท้จริงลอยนวล ด้านนางพะเยาว์แสดงความเชื่อมั่นว่า กระบวนการยุติธรรมจะพิสูจน์กรณีนี้ตามพยานหลักฐาน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต่างนำเสนอพยานหลักฐานของตนเอง ตนเองก็ต้องการพิสูจน์กรณีนี้ เพราะไม่เชื่อกรณีที่มีบางคนกล่าวหาว่า การเสียชีวิตภายในวัดปทุมวนารามเกิดจากการยิงกันเองของผู้ชุมนุมช่วงบ่าย จ.ส.ท.วิทูรย์ อินทำ เบิกความว่าวันที่ 19 พ.ค. 53 เวลา 00.00 น. พยานได้เข้ามาประจำการณ์อยู่ในรถไฟฟ้า BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ โดยเป็นทหารในกรมทหารราบที่ 31 กองพันทหารราบที่ 2 กองพลทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ จนเวลา 11.00 น. มีการประกาศทางเครื่องกระจายเสียงเรียกให้ผู้ชุมนุมมาที่สนามกีฬาแห่งชาติ แต่ไม่มีผู้ชุมนุมคนใดมาเวลา 15.00 น. พยานได้รับคำสั่งให้เข้าไปคุ้มกันการเคลียร์กองยางรถยนต์ที่ ถ.พระราม 1 เพื่อให้รถดับเพลิงสามารถเข้าไปดับเพลิงที่โรงภาพยนตร์สยาม พยานขึ้นไปบนรางรถไฟฟ้า BTS และพบมีถังบรรจุน้ำมัน ขวดบรรจุน้ำมันซึ่งปากขวดมีผ้าชุบน้ำมันอุดอยู่วางอยู่บนพื้นชานชาลา ต่อมาได้ยินเสียงปืนจากแยกเฉลิมเผ่าห่างจากพยานประมาณ 60 เมตร โดยเสียงปืนดังกล่าวมีทิศทางมาหาพยาน พ.ท.ยอดอาวุธ จึงสั่งให้พยานถอนกำลังกลับไปที่รถไฟฟ้า BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ หลังจากนั้น พ.ท.ยอดอาวุธ สั่งให้ปรับกำลังออกเป็น 2 กองร้อย เวลา 17.30 น. มีคำสั่งให้เฝ้าระวังรถดับเพลิงที่จะขับเข้าไปในพื้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ โดยพยานเดินอยู่บนรางรถไฟฟ้า BTS ชั้น 1 พยานมีปืนเล็กยาว M16 A2 พร้อมกระสุนกว่า 100 นัด เวลา 18.00 น. พยานเห็นกองยางรถยนต์ และตาข่ายเขียวอยู่บนพื้น ถ.พระราม 1 ส่วนบนรางรถไฟฟ้าพยานพบขวดบรรจุน้ำมัน และกล่องข้าวที่ทานเสร็จแล้ววางทิ้งไว้บนสถานีรถไฟฟ้า BTSจ.ส.ท.วิทูรย์ กล่าวว่า พยานได้ยินเสียงปืนดังมาจากด้านล่าง ซึ่งมีทิศทางมาจากแยกเฉลิมเผ่า และได้ยินทหารร้องขอความช่วยเหลือ พ.ท.ยอดอาวุธ จึงสั่งให้พยานเคลื่อนที่ไปด้านหน้า พยานพบเห็นชายชุดดำอยู่บริเวณตอหม้อของรถไฟฟ้า BTS แยกเฉลิมเผ่า ซึ่งกำลังยิงปืนไปที่ทหารที่อยู่ทั้งด้านบนและด้านล่าง พยานยิงปืนไปที่ตอหม้อของรถไฟฟ้า BTS โดยไม่โดนผู้ใด หลังจากนั้นชายชุดดำก็หลบหนีไป การยิงปืนดังกล่าวเป็นการใช้ดุลยพินิจตามกฎการใช้กำลัง ซึ่งเริ่มจากเบาไปหาหนัก พยานไม่ได้ติดตามชายชุดดำเหล่านั้นไป เพราะพยานมีหน้าที่เฝ้าระวังทหารที่อยู่ด้านล่าง จากนั้นได้เคลื่อนที่ต่อไปจนถึงริมสระน้ำข้างวัดปทุมวนาราม และพบชายชุดดำ 4-5 คนหลบอยู่หลังรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กับต้นไหม้ใหญ่ โดย 1 ในชายชุดดำนั้นยิงปืนมาที่พยาน พยานจึงก้มลงหลบอยู่ด้านหลังกำแพงของรางรถไฟฟ้า BTS พยานยิงปืนตอบโต้ไปที่ท้ายรถยนต์ 2 นัด โดยไม่โดนผู้ใด ชายชุดดำทั้งหมดวิ่งหลบหนีเข้าไปในวัดปทุมวนารามเขากล่าวต่อว่า ที่หน้าวัดปทุมวนารามมีรถยนต์จอดอยู่เป็นจำนวนมาก พยานเห็นผู้ชุมนุมหลบซ่อนอยู่ใต้รถยนต์ดังกล่าวประมาณ 20 คน พยานตะโกนเรียกคนเหล่านั้นให้ออกมาจากใต้ท้องรถยนต์ แต่ไม่มีใครยอมออกมา ระหว่างนั้นมีชายชุดดำ 1 คนเล็งปืน M16 มาที่พยาน พยานจึงยิงปืนไปที่พื้นถนนด้านนอกวัดปทุมวนาราม ห่างจากชายชุดดำคนนั้นประมาณ 1 เมตร ชายชุดดำคนดังกล่าวจึงวิ่งเลียบกำแพงหลบเข้าไปในวัดปทุมวนาราม แต่พยานไม่ได้ติดตามไป และตะโกนเรียกผู้ชุมนุมที่อยู่ใต้ท้องรถออกมาอีก ทหารบางคนยิงปืนขึ้นฟ้า 4 นัด โดยหันหัวปืนไปทางด้านเซ็นทรัลเวิลด์ หลังจากนั้นมีผู้ชุมนุม 4-5 คน ทั้งหมดเป็นผู้ชายคลานออกมาจากใต้ท้องรถยนต์ พยานจึงสั่งให้พวกเขาถอดเสื้อเพื่อตรวจค้น ทหารที่อยู่ด้านล่างตรวจค้นไม่พบอาวุธใดๆ แต่สังเกตเห็นผู้ชุมนุมคนหนึ่งมีรอยคล้ายเลือดที่เอว จึงเรียกให้ผู้ชุมนุมคนดังกล่าวไปรักษา แต่ผู้ชุมนุมคนดังกล่าววิ่งเข้าไปในวัดปทุมวนารามหลังจากถอนกำลังกลับไปรถไฟฟ้า BTS สถานีสยาม พยานได้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบว่า พยานยิงปืน 5 นัดไปที่ใดบ้าง แต่ยืนยันว่า ไม่โดนผู้ใด ระหว่างวันที่ 20-21 พ.ค. 53 พยานอยู่บนรางรถไฟฟ้า BTS เพื่อรักษาความปลอดภัย และถอนกำลังออกจากพื้นที่เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 53ทนายความผู้ ร้องซักถามพยานต่อ โดยพยานยืนยันว่า พยานเป็นผู้ชำนาญการใช้อาวุธ ซึ่งปืน M16 A2 มีระยะการยิง 400-500 เมตร บริเวณที่พยานอยู่บนรางรถไฟฟ้า เป็นพื้นที่สูงข่ม สูงจากพื้นประมาณ 10 เมตร มุมที่พยานยืนอยู่มีต้นไม้ขนาดใหญ่บังอยู่จึงทำให้มองไม่เห็นภายในวัดปทุมวนาราม พยานยิงลงไปที่พื้นถนน ซึ่งเป็นพื้นคอนกรีตในลักษณะทำมุมก้มยิงมากกว่า 45 องศา กระสุนปืนเมื่อกระแทกพื้นจะแตกออก โดยพยานยิงปืนเข้าไปในวัดปทุมวนารามเพียง 2 นัด และไม่ทราบว่ามีผู้ใดยิงปืนเข้าไปในวัดปทุมวนารามหรือไม่ พยานเห็นมีทหารบนรางรถไฟฟ้า BTS vอีก 5 คนยิงปืนอยู่ พยานไม่ทราบชายชุดดำยิงโดนผู้ใดหรือไม่ แต่พยานได้ยินเสียงปืนอยู่ห่างจากพยานประมาณ 20-30 เมตร วันรุ่งขึ้น (20 พ.ค. 53) ไม่มีการยิงปืนเข้าไปในวัดปทุมวนารามอีกจ.ส.ท.วิทูรย์ กล่าวว่า อยู่บนรางรถไฟฟ้า BTS ตลอดจึงไม่รู้ว่า ด้านล่างมีทหารควบคุมพื้นที่หรือไม่ หากตั้งใจจะยิงผู้ชุมนุมในวัดปทุมวนารามสามารถยิงได้โดยง่าย เพราะอยู่ในระยะ 15-30 เมตรเท่านั้น แต่พยานก็ไม่ได้ยิงผู้ใด พยานยืนอยู่ในมุมที่มีต้นไม้ใหญ่บังอยู่จึงมองไม่เห็นผู้ชุมนุม/เต็นท์ที่อยู่ด้านหน้าของวัดปทุมวนาราม พยานเห็นแต่รถยนต์ที่จอดอยู่ด้านหน้าวัดปทุมวนารามเท่านั้น พยานไม่ได้เก็บปอกกระสุน เพราะไม่มีความจำเป็นต้องเก็บ การเคลื่อนที่ของพยานจะเป็นลักษณะคู่ขนานกันระหว่างทหารที่อยู่บนรางรถไฟฟ้า BTS และทหารที่อยู่ด้านล่าง ตลอดเวลามีการสื่อสารกันเพื่อขอความช่วยเหลือ 1 ครั้งที่บริเวณรถไฟฟ้า BTS สถานีสยาม พยานได้ยิงเสียงปืนจากแยกเฉลิมเผ่ามายังทหารโดยได้ยินประปราย
|
เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 56 ห้อง 402 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดไต่สวนการเสียชีวิตของ อัฐชัย ชุมจันทร์ มงคล เข็มทอง รพ สุขสถิต น.ส.กมลเกด ฮัคอาด และ อัครเดช ขันแก้ว ซึ่งเสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม
|
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
|
19 พฤษภาคม 2553,ทหาร,สลายการชุมนุม,ุ6 ศพวัดปทุม,ไต่สวนการตาย
|
https://prachatai.com/journal/2013/03/45700
|
ไลน์หลุด อ้างของเพื่อนครูฉาว ร.ร.ที่ชัยนาท กล่อม นร. ไม่ให้แจ้งความ
|
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 14 ก.พ. 2560 ความคืบหน้า กรณี นายเอก (นามสมมติ) ครูประจำชั้น ป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง จ.ชัยนาท กระทำอนาจารนักเรียนหญิงจำนวนกว่า 10 คน และถูกผู้ปกครองของนักเรียนผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองชัยนาท จนนำมาซึ่งการออกหมายจับ และโรงเรียนต้นสังกัดสั่งพักราชการ ขณะที่ฝ่ายเจ้าตัวเองย่องเข้ามอบตัว ในข้อหากระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไม่ว่าเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม เจ้าหน้าที่นำฝากขังไว้ที่ศาลยุติธรรมจังหวัดชัยนาท โดยทางอาจารย์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ก่อนใช้เงินสด 120,000 บาท ประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีไปแล้วนั้น,ล่าสุด บนโลกออนไลน์ มีการนำภาพของการพูดคุยผ่านโปรแกรมแชตไลน์ ที่ยืนยันว่าเป็นของครูหญิงรายหนึ่งของโรงเรียนเดียวกัน ไลน์คุยกับนักเรียนผู้เสียหายรายหนึ่ง ซึ่งยังไม่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ โดยหว่านล้อมไม่ให้เข้าแจ้งความเพิ่ม ซึ่งถือว่าเป็นความพยายามช่วยเหลือ นายเอก เพื่อนครูร่วมโรงเรียน ทำให้ชาวชัยนาท และคนบนโลกออนไลน์ต่างวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความไม่พอใจ ,ทางทีมข่าวติดต่อไปยัง ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว ถึงกรณีนี้ โดย ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า ยังไม่เห็นภาพไลน์หลุดดังกล่าว แต่หากเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง จะได้เรียกครูสาวให้เข้ามาพูดคุยทำความเข้าใจและดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีกระบวนการปกป้องคนผิดโดยเด็ดขาด และหน่วยงานต้นสังกัดได้มีคำสั่งให้ นายเอก ออกจากราชการแล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา
|
ไลน์หลุด อ้างเป็นบทสนทนาครูสาวโรงเรียนดังเมืองชัยนาท ขอร้องนักเรียนหญิง ไม่ให้แจ้งความเอาผิดครูผู้ชายร่วมโรงเรียน ที่มีพฤติกรรมทำอนาจารทางเพศนักเรียนหญิงนับ 10 ราย เพิ่ม หลังถูกสั่งให้ออกจากราชการ และอยู่ระหว่างดำเนินคดี
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ไลน์หลุด,อนาจารเด็ก,ช่วยเพื่อนครูร่วมโรงเรียน,ชัยนาท
|
https://www.thairath.co.th/news/local/858605
|
ฟานกัล วอน สื่ออย่ากดดัน แรชฟอร์ด ชี้มันไม่เกิดประโยชน์
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 1 มี.ค. ว่า หลุยส์ ฟานกัล กุนซือจอมปรัชญาของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แนะนำสื่ออย่าไปยุ่งกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวยิงวัย 18 ปีของทีมมากเพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรกับการพัฒนาฝีเท้าของตัวเด็กเลย,เจ้าหนูดาวโรจน์แจ้งเกิดกับปิศาจแดงอย่างเต็มตัวใน 2 เกมล่าสุดหลังได้รับโอกาสเป็นหัวหอกตัวจริงแทน อองโธนีย์ มาร์เชียล ก่อนจะตะบันตาข่ายไป 4 เมล็ดจาก 2 นัด ส่งผลให้แข้งรายนี้ถูกสื่อจากทั่วโลกต่างจับตามองถึงความยอดเยี่ยมทันที,อย่างไรก็ตาม หลุยส์ ฟานกัล นายใหญ่ของทีมก็ออกโรงเตือนสื่อปล่อยให้ลูกทีมของเขารายนี้อยู่ในความสงบบ้างอย่างไปตอแยอะไรมากมาย ซึ่งมันไม่เกิดผลประโยชน์อะไรแก่ตัวนักเตะเลย,อย่างแรกผมคิดว่าสื่อต้องปล่อยให้เขาอยู่เงียบๆ คุณเล่นอยู่หน้าบ้านเขาและนั่นไม่ได้ทำอะไรให้ออกมาพิเศษเลย ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นประโยชน์อะไรกับเด็กหนุ่มอายุ 18 หรอกนะ คุณต้องให้เวลากับเด็กอายุ 18 สิ เราควรแนะนำเขาไปในทางที่ถูกต้อง,ผมคิดว่าเขาเป็นคนถ่อมตัวมาก ดังนั้นผมไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาอะไร เมื่อคุณได้รับความสนใจจากสื่อจำนวนมาก มันสามารถนำคุณไปยังทิศทางอื่นได้เลย แต่ผมรู้สึกว่าเขาจะรักษาฝีเท้าบนสนามต่อไปได้
|
หลุยส์ ฟานกัล นายใหญ่จอมปรัชญาของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วอนสื่ออย่าไปกดดัน มาร์คัส แรชฟอร์ด หัวหอกดาวรุ่งของทีมมากปล่อยให้เด็กได้เรียนรู้และเติบโตไปด้วยตัวเอง
| null |
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,หลุยส์ ฟานกัล,มาร์คัส แรชฟอร์ด,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/584785
|
ดัชนีเชื่อมั่นทองคำ ก.พ. ร่วง 5.64 จุด วิตกวิกฤติกรีซ-ราคาน้ำมัน
|
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือน ก.พ. 2558 ว่า อยู่ที่ระดับ 52.69 จุด ปรับตัวลดลง 5.64 จุด จากเดือน ม.ค.โดยยังเคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุด สะท้อนทัศนคติในเชิงบวกต่อราคาทองคำในประเทศเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 จุดเพียงเล็กน้อย ได้รับแรงหนุนจากเทศกาลสำคัญ และความเสี่ยงในยูโรโซน หลังการเจรจาเงื่อนไขรับเงินของกรีซอาจจะมีปัญหา จากแนวทางการยกเลิกมาตรการรัดเข็มขัดทางการคลัง ซึ่งเป็นมุมมองที่สอดคล้องกันทั้งกลุ่มผู้ลงทุนทองคำและกลุ่มผู้ค้าทองคำ,ขณะที่แนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นปัจจัยลบที่ส่งผลต่อความวิตกการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังคงปรับตัวแข็งค่าและแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง,ด้านนายทรรศนะ บุญขวัญ ประธานคณะทำงานศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวถึงบทสรุปความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ จากผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ ผู้ค้าส่งทองคำ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 10 ตัวอย่างพบว่า ผู้ค้าส่วนใหญ่มีมุมมองต่อราคาทองคำในช่วงเดือน ก.พ. 2558 ในเชิงบวก โดยมีผู้ค้า 4 รายมองทองคำเฉลี่ยจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 รายมองราคาทองเฉลี่ยจะใกล้เคียงกับเดือน ม.ค. ขณะที่อีก 1 รายเชื่อว่าราคาทองคำเฉลี่ยจะปรับตัวลดลงระหว่างเดือน,ส่วนกรอบราคาทองคำในตลาดโลก ผู้ค้ามองว่าราคาน่าจะมีสูงสุดอยู่ระหว่าง 1,340-1,360 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวของราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1,230-1,250 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ สำหรับราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 95.5%) กลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักราคาสูงสุดที่ 20,500-21,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดอยู่ที่ 18,500-19,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ,นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ยอดการนำเข้าทองคำในปี 2557 มีเพียง 159 ตัน ลดลงจากปี 2556 ที่มียอดการนำเข้า 318 ตัน หรือลดลงกว่า 50% โดยตลาดทองคำในปี 2557 ที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ซบเซาอย่างเห็นได้ชัด และน้อยที่สุดตลอด 4 ปีที่ผ่านมาที่ประเทศไทยมีการนำเข้ามากกว่า 300 ตัน เช่นเดียวกับยอดการส่งออกที่ลดลงเหลือ 93 ตันจากส่งออกในปี 2556 ที่ 111 ตัน ขณะที่ตลาดทองคำปี 2557 ยังมีความผันผวนปรับเปลี่ยนราคาต่อวันสูงสุด 9 ครั้งต่อวัน ราคาสูงสุดของปี 21,150 บาทต่อบาททองคำ ต่ำสุด 17,750 บาทต่อบาททองคำ.
|
ดัชนีเชื่อมั่นทองคำเดือน ก.พ. ร่วงลง 5.64 จุด ที่ระดับ 52.69 จุด กังวลวิกฤติกรีซ การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ แรงกดน้ำมันราคาลด และดอลลาร์แข็งค่า ผู้ค้า 4 รายจาก 10 มองราคาทองจะปรับขึ้น
| null |
ราคาทอง,ทองคำ,ดัชนีเชื่อมั่นทองคำ,แนวโน้มราคาทอง,ทองปรับขึ้น,ทองร่วง,ดัชนีเชื่อมั่นทองก.พ.,ศูนย์วิจัยทองคำ,ดอลลาร์แข็ง,วิกฤติกรีซ,กมลธัญ พรไพศาลวิจิต,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/480513
|
วิษณุ ชี้ยึดทรัพย์ ปู ทำพอควร ปัดเอาตาย แย้มช่องยื่นทุเลายึดทรัพย์
|
เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 61 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรี หลังศาลปกครองยกคำร้องขอทุเลาคำสั่งยึดทรัพย์ในคดีจำนำข้าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ สามารถมอบหมายให้ทนายยื่นขอทุเลาคำสั่งได้อยู่ ส่วนการยึดบ้านต้องดูว่าเอกสารสิทธิ โฉนด น.ส.3 ส.ค.1 เป็นชื่อใคร ถ้าเป็นสินสมรสสามารถยึดได้เฉพาะส่วนหนึ่ง,เมื่อถามว่า ตามคำสั่งมาตรา 44 ยึดทรัพย์แล้ว สามารถขายทอดตลาดได้เลยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าทำได้ก็ทำเลย แต่ถ้าเป็นสินสมรสก็ไม่ควรทำ หรือถ้าเห็นว่ายังไม่ควรขายทอดตลาด เพราะอาจมีเรื่องคดีตามมาก็อย่าเพิ่งทำ ซึ่งกรมบังคับคดีพิจารณาแล้วเห็นว่ายังไม่ควรขาย เพราะอาจจะมีการร้องขอให้ทุเลาคำสั่งยึดทรัพย์อีก ยืนยันทุกฝ่ายทำอย่างพอสมควร ไม่ใช่จะเอาเป็นเอาตาย เพราะขณะนี้ก็มีคนอยู่อาศัย แต่อย่างน้อยที่ยึดคือไม่สามารถที่จะนำไปขายได้ แต่เมื่อใดที่เห็นว่าทำแล้วจะไม่มีปัญหากรมบังคับคดีก็จะพิจารณาขายทอดตลาด,เมื่อถามว่า เมื่อกรมบังคับคดีอายัดบ้านแล้ว คนในครอบครัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ สามารถอยู่อาศัยต่อไปได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เข้าไปอยู่อาศัยได้ แต่ต้องขออนุญาตหรือเสียค่าเช่า เพราะมีหลายกรณีที่หลังจากรัฐยึดบ้านแล้ว ก็อนุญาตให้เข้าไปอยู่อาศัยได้ แต่เป็นการอยู่ในฐานะที่ได้รับการอนุญาตไม่ใช่เจ้าของ แต่จะไปตกแต่ง ทาสี ดัดแปลง รื้อถอนไม่ได้,เมื่อถามว่า หากพบว่ามีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน จะมีการรายงานเข้ามาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ผู้ที่จะรู้ว่ามีการยักย้าย ถ่ายเท ทรัพย์สินหรือไม่คือ เจ้าหนี้ หรือกระทรวงการคลัง เพราะกรมบังคับคดีมีหน้าที่เพียงเข้าไปยึด โดยการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินนี้ มีกฎหมายไว้สำหรับติดตามอยู่แล้ว แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจจะมีการขายบ้านไปก่อน ตั้งแต่ยังไม่รู้คดี ก็ไม่สามารถดำเนินการได้,ด้าน นายนพดล หลาวทอง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวกรณี นายวิษณุ ระบุว่าสามารถยื่นคำร้องขอทุเลาการยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เรื่อยๆ ว่า ในส่วนบ้านนวมินทร์ 111 ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้น ได้ถูกยึดแล้วตามที่กรมบังคับคดีได้ชี้แจงต่อศาล ซึ่งทางกรมบังคับคดีทำหนังสือชี้แจงไปเมื่อเดือน ส.ค. 60 โดยแจ้งให้ทางเจ้าของบ้าน หรือผู้ครอบครองได้รับทราบว่า บ้านนี้อยู่ในความดูแลของกรมบังคับคดี ซึ่งคนในบ้านก็ยังอยู่ได้ จนกว่าจะมีการขายทอดตลาด ตอนนี้ทรัพย์สินยังไม่ได้เปลี่ยนมือ ยังถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของเราอยู่ เพียงแต่อยู่ภายใต้การยึดของกรมบังคับคดี จึงเป็นเหตุให้ทีมทนายต้องไปยื่นคำร้องในวันที่ 8 ก.ย. 60 เพื่อขอความคุ้มครองจากศาล ซึ่งศาลได้พิจารณาเรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ที่ศาลปกครองระบุยังไม่เห็นชอบที่จะให้ความคุ้มครองในเรื่องนี้ ซึ่งหลังจากนี้ทีมทนายก็จะยื่นคำร้องขอทุเลาต่อศาลปกครองใหม่อีกครั้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการทำคำร้อง แต่ยังกำหนดวันชัดเจนที่จะยื่นศาลอีกครั้งไม่ได้ แต่จะยื่นแน่นอนเพราะกฎหมายและระเบียบเปิดช่อง ซึ่งจะยื่นคำร้องไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม เพราะกระบวนการก็ยังอยู่ในขั้นของการพิจารณาเพิกถอนคำสั่งที่ให้ชดเชยเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งทางศาลไม่ได้พิจารณาในเรื่องนี้ รวมถึงจะมีการร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ถูกอายัดและยึด และห้ามขายทรัพย์ด้วย ,ในเมื่อเนื้อหาหลักของคดียังไม่ได้พิจารณา และระหว่างที่ศาลยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่า จะเพิกถอนการชดใช้เงิน 3.5 หมื่นล้านบาทหรือไม่ ในกระบวนการต่างๆ ควรชะลอไว้ก่อน เพราะไม่เคยมีการบังคับคดีในระหว่างการพิจารณา ซึ่งยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ในส่วนของทางปกครองเองตั้งแต่มีกฎหมายวิธีปฏิบัติราชการปกครองตั้งแต่ปี 39 ก็ไม่เคยปฏิบัติต่อรายอื่นในลักษณะนี้ ส่วนใหญ่จะรอฟังคำวินิจฉัยของศาลให้เสร็จสิ้นก่อน แต่เนื่องจากกระบวนการนี้มาโดยกระบวนการพิเศษ ตัวนายกฯ ตั้งคณะกรรมการเร่งรัดรวมถึงหน่วยงานต่างๆ โดยอาศัยอำนาจมาตรา 44 เลยทำให้กระบวนการผิดเพี้ยนไปจากที่ควรจะเป็น ดังนั้นเพื่อความเป็นธรรม ไม่ควรจะจับตัวคนไปประหารก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา นายนพดล กล่าว,เมื่อถามถึงทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ถูกยึดอายัดไปแล้วขณะนี้มีอะไรบ้าง นายนพดล กล่าวว่า มีหลายรายการ แต่จำไม่ได้ทั้งหมด เท่าที่ทราบคือบัญชีเงินฝาก คอนโด และที่ดินประมาณ 30 รายการ ซึ่งบัญชีเงินฝากก็นำไปแล้วกว่า 10 รายการ ซึ่งขณะนี้ทรัพย์สินที่ถูกยึดหรืออายัด ยังไม่มีการขายทอดตลาดหรือนำเข้าคลัง อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่จำเป็นต้องมายื่นคำร้องด้วยตัวเอง เพราะไม่ใช่คดีอาญา แต่เป็นคดีทางปกครอง โดยตัวผู้รับมอบอำนาจสามารถดำเนินการแทนได้ ซึ่งตนก็ต้องดูแลต่อตามหน้าที่ไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะอยู่หรือไม่อยู่ก็ตาม
|
วิษณุ ชี้ยึดทรัพย์ ยิ่งลักษณ์ ทำพอสมควร ไม่เอาถึงตาย บอกอายัดแล้ว อยู่ต่อได้ ห้ามดัดแปลง-รื้อถอน ชี้ช่องส่งทนายยื่นทุเลายึดทรัพย์ ด้าน ทนายปู ลุยยื่นคำร้องทุเลายึดทรัพย์ต่อ เผยทรัพย์สินถูกอายัดแล้วกว่า 30 รายการ
|
ข่าว,การเมือง
|
วิษณุ เครืองาม,จำนำข้าว,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,ยึดทรัพย์ ยิ่งลักษณ์,ยึดทรัพย์ ปู,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1193050
|
เกิดอุบัติเหตุรถตู้ชนรถกระบะที่สมุทรปราการ
|
เกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสารชนรถกระบะบนทางด่วนบูรพาวิถี ขาออก มุ่งหน้าจังหวัดชลบุรี กิโลเมตรที่ 30 ตำบลบ้านระกาศ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำตัวผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตออกจากซากรถที่เกิดเหตุอยู่ช่องจราจรขวาสุด พบรถตู้สีขาว ทะเบียน ฮท 3417 กรุงเทพมหานคร สภาพหน้ารถพังยุบติดกับเบาะคนขับ ทำให้นายกมล มูลพรม อายุ 31 ปี คนขับรถตู้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งต้องนำเครื่องมือมาตัดถ่างเพื่อนำศพออกมาสำหรับผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 12 คน เป็นผู้โดยสารรถตู้ 11 คน ในจำนวนนี้มีเด็กชายวัย 9 ปี รวมอยู่ด้วย ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 คน มากับ รถกระบะของผู้รับเหมาทาสีเสาไฟฟ้าของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ในสภาพเสียหายทั้งคันนายวิชัย รักษาทรัพย์ ผู้รับเหมา กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ขับรถมากับเพื่อนคนงานรวม 6 คน เพื่อทาสีเสาไฟบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยจอดรถอยู่ช่องจราจรด้านขวาสุด พร้อมเปิดสัญญานไฟ เพื่อแจ้งเตือนบนหลังคา ก่อนจะนำกรวยยางไปวาง และยืนให้สัญญานรถที่ลานช่องขวา ให้ชะลอความเร็ว เพื่อเบี่ยงไปทางซ้ายระหว่างนั้น รถตู้คู่กรณีที่ขับมาด้วยความเร็วสูง ก็วิ่งตรงเข้ามาโดยไม่ชะลอความเร็ว ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุจึงพยายามกระโดดหลบ ก่อนรถตู้จะพุ่งชนรถกระบะอย่างแรง ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ พร้อมนำผู้บาดเจ็บออกจากรถตู้ส่งโรงพยาบาลผู้โดยสารที่บาดเจ็บ กล่าวว่า รถตู้ที่นั่งมา เป็นรถที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารระหว่างสถานีขนส่งหมอชิต-ชลบุรี โดยนั่งมาจาก หมอชิต เพื่อไปจังหวัดชลบุรี ระหว่างที่นั่งมาในรถที่วิ่งด้วยความเร็วสูง สังเกตเห็นคนขับมีอาการคล้ายหลับใน ผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยกัน จึงบอกให้ลดความเร็ว แต่คนขับกลับเร่งความเร็วขึ้นอีก ผู้โดยสารจึงพากันเงียบ จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุขึ้นเบื้องต้น สันนิษฐานว่าคนขับรถตู้น่าจะเกิดอาการหลับใน ขณะนี้ ตำรวจภูธรบางบ่อ อยู่ระหว่างสอบสวนผู้โดยสารที่บาดเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
|
เกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสาร ชนรถกระบะที่จังหวัดสมุทรปราการ เป็นเหตุให้คนขับรถตู้เสียชีวิต ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหลายราย ขณะที่ ผู้โดยสารเชื่อว่าสาเหตุมาจากคนขับรถตู้หลับใน
|
อาชญากรรม
|
ชน,รถกระบะ,รถตู้,สมุทรปราการ,อุบัติเหตุ
|
https://news.thaipbs.or.th/content/75304
|
ทหารแจ้งเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ ไปฝึกที่ จ.ลพบุรี 30 มี.ค.
|
วันนี้ (29 มี.ค.62) ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพบก Army PR Center แจ้งว่า กองพลทหารม้าที่ 3 ขอแจ้งการเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์ออกทำการฝึกและตรวจสอบเป็นหน่วยกองพันทหารม้าเฉพาะกิจที่ 606 ประจำปี 2562 ห้วงวันที่ 30 มี.ค. – 10 เม.ย.62 ณ สนามยิงปืน ศป. จ.ลพบุรีหน่วยการเดินทางที่ 1 กอ.ฝึก พล.ม.3หน่วยการเดินทางที่ 2 ทก.ฝึก ม.6หน่วยการเดินทางที่ 3 ม.6 พัน.6หน่วยการเดินทางที่ 4 ร้อย.ม.(ก) ม.7 พัน.14เส้นทางการเคลื่อนย้ายไป วันที่ 30 มี.ค.- 2 เม.ย.62 จาก จ.ขอนแก่น - จ.นครราชสีมา - บ.ดีลัง ต.โคกตูม อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรีเส้นทางการเคลื่อนย้ายกลับ วันที่ 9 เม.ย.- 11 เม.ย.62 จาก บ.ดีลัง ต.โคกตูม อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี – จ.นครราชสีมา - จ.ขอนแก่น
|
กองพลทหารม้าที่ 3 แจ้งเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อฝึกที่ จ.ลพบุรี วันที่ 30 มี.ค. – 10 เม.ย.62 นี้
|
การเมือง
|
ทหารบก,ยุทโธปกรณ์,ลพบุรี,ขอนแก่น,นครราชสีมา
|
https://news.thaipbs.or.th/content/278834
|
จีนแซงหน้าอเมริกา ขึ้นแท่นสตาร์ทอัพ ยูนิคอร์น มากที่สุดในโลก
|
รายงานจากสถาบันวิจัยหูหรัน (Hurun Institute) ระบุว่า ประเทศจีนขึ้นแท่นประเทศมี,สตาร์ทอัพ,ระดับยูนิคอร์นมากที่สุดเหนือสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว โดยจีนมีสตาร์ทอัพยูนิคอร์นมากถึง 206 บริษัท ส่วนสหรัฐอเมริกาตามหลังที่ 203 บริษัท,ทั้งนี้ สตาร์ทอัพ ยูนิคอร์น จากประเทศจีน ที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ แอนต์ ไฟแนนเชียล (Ant Financial) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอาลีบาบา กรุ๊ป โดยมีมูลค่า 150 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับผลิตภัณฑ์สำคัญของแอนต์ ไฟแนนเชียล ที่รู้จักกันดีก็คือ อาลีเพย์ (Alipay) นั่นเอง,สำหรับยูนิคอร์นที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับสอง และอันดับสาม ล้วนมาจากประเทศจีน นั่นก็คือ ไบต์แดนซ์ (Bytedance) เจ้าของแพลตฟอร์มวิดีโอแชร์ริงชื่อดัง ติ๊กต๊อก (TikTok) โดยมีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อันดับสามได้แก่ ดีดี้ (Didi) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มไรด์-แชร์ริง เหมือนกับอูเบอร์ (Uber),อันดับสี่เป็นแอร์บีเอ็นบี (AirBNB) บริการให้เช่าที่พักชื่อดัง และถือว่าเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย,ประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา ถือได้ว่าเป็นสองประเทศที่มีสตาร์ทอัพยูนิคอร์นรวมกันมากที่สุดในโลก คิดเป็นส่วนแบ่งถึง 80% จากบริษัทสตาร์ทอัพยูนิคอร์นของโลกใบนี้.
|
จีนปาดหน้าขึ้นแท่นเป็นบริษัทสตาร์ทอัพมากกว่าสหรัฐอเมริกา โดยสตาร์ทอัพยูนิคอร์นส่วนใหญ่กระจุกตัวในจีนและสหรัฐอเมริกา
|
ข่าว,ไอที
|
สตาร์ทอัพ,ยูนิคอร์น,จีน,สหรัฐอเมริกา,อาลีบาบา,startup,alibaba
|
https://www.thairath.co.th/news/tech/1689353
|
บิ๊กป๊อก สั่งดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วมใต้ เตือนรับมือมรสุม 15-16 ม.ค.
|
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 ม.ค. 60 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งสำคัญขณะนี้คือต้องช่วยดูแลความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในหลายจังหวัดภาคใต้ แม้ช่วงนี้ฝนจะเบาบางลง แต่การพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่า วันที่ 15-16 ม.ค. 60 จะมีมรสุมเข้ามาเต็มพื้นที่ของภาคใต้และบางส่วนของภาคกลาง กระทรวงมหาดไทยต้องเตรียมรับสถานการณ์นั้น โดยขณะนี้ภาคกลางตอนล่างได้เตรียมรับมือกับมรสุมไว้แล้ว โดยนำเครื่องใช้ที่จำเป็นไว้รับมือกับสาธารณภัย พร้อมกำชับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครให้เตรียมรับมือระบายน้ำให้เร็วที่สุด,สำหรับการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ขั้นต้นให้ช่วยเหลือตามกฎหมาย และภายหลังการสำรวจความเสียหายค่อยพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อสำรวจความเสียหายในพื้นที่ก่อน โดยจะแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด และไม่ผิดพลาด ไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ เพราะถ้าเร่งทำแล้วผิดพลาด เจ้าหน้าที่ก็จะมีโทษ,เมื่อถามว่า กรณีสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะสามารถย้ายโรงพยาบาลไปอยู่ที่สูงเพื่อป้องกันน้ำท่วมได้หรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามกรอบของสหประชาชาติเรื่องแนวทางการบรรเทาสาธารณภัย มีกรอบเซนได คือ เมื่อเกิดภัยหากพื้นที่ใดมีปัญหาอย่าก่อสร้างอาคารที่เดิมอีก แต่ขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายรองรับ ซึ่งนายกรัฐมนตรีสั่งการแล้วว่า หากมีแนวทางทำได้ก็ให้เร่งทำกฎหมาย ทั้งกฎหมายผังเมือง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และกฎหมายที่ดิน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจากน้ำท่วมอีก.,เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ,คลิกที่นี่
|
เจ้ากระทรวงมหาดไทย สั่งช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมมอบหมายรับมือมรสุมเข้าเต็มพื้นที่ภาคใต้และกลางบางส่วน 15-16 ม.ค.นี้ ส่วนการย้าย รพ.บางสะพาน ขึ้นที่สูง ยังไร้กฎหมายรองรับ
| null |
น้ำท่วม,น้ำท่วมภาคใต้,รพ.บางสะพาน,อนุพงษ์ เผ่าจินดา,ช่วยผู้ประสบภัย
|
https://www.thairath.co.th/content/833569
|
วงเสวนา Fake News เตือน ข่าวลวง เป็นหายนะที่ต้องร่วมป้องกัน
|
ผยแพร่ข่าวลวง,เมื่อวันที่ 20 ส.ค.61 สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน ร่วมกับสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศ ไทย และสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งอาเซียน ได้ร่วมจัดงานเสวนาระดับภูมิภาคในหัวข้อ The Rise of Fake News and How to Handle It ที่โรงแรมเดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ โดยเชิญวิทยากรจากประเทศในอาเซียน รวมทั้งจีนและอินเดียมาร่วมแลกเปลี่ยนปัญหา เกี่ยวกับผลกระทบและการตั้งรับข่าวปลอมหรือข่าวลวง(Fake News) ที่สร้างความปั่นป่วนและความเสียหายท่ัวโลก รวมทั้งในภูมิอาเซียนและเอเชีย มีตัวแทนองค์กรสื่อมวลชนในอาเซียน และในประเทศไทย รวมทั้งสื่อมวลชนไทย เข้าร่วมฟังการเสวนา ตัวแทนองค์กรสื่อประเทศต่างๆ ได้กล่าวถึงผลกระทบของข่าวลวงที่สร้างผลกระทบแตกต่างกันทางการเมืองการปกครอง และความเจริญของเทคโนโลยี ดังนั้นสื่อกระแสหลักต้องตรวจสอบอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของข่าวลวง จะทำให้เกิดวิกฤตศรัทธาจากผู้บริโภคสื่อ ขณะที่บางประเทศป้องกันโดยลงไปให้ความรู้แก่นักเรียน และสื่อมวลชนโดยตรง เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข่าวลวง,นายก้าวโรจน์ สุดาภักดี นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ กล่าวว่า การจัดเสวนาระดับภูมิภาคครั้งนี้ เพื่อระดมความรู้และวิธีการตั้งลับข่าวลวง ไม่ให้สร้างความเสียหายต่อผู้บริโภคสื่อ สำหรับประเทศไทยทางสมาคมฯได้พยายามสร้างเครือข่าย ในการตรวจสอบข่าวลวงก่อนเผยแพร่ ถือเป็นการป้องกันในระดับหนึ่งสำหรับสื่อกระแสหลัก ส่วนสื่อโซเชียลคงต้องให้ความรู้กันต่อไป,ด้าน นายเทพชัย หย่อง ประธานสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งอาเซียน กล่าวว่า องค์กรสื่อในอาเซียและในประเทศไทยต้องให้ความสำคัญเรื่องข่าวลวง และร่วมกันให้ความรู้และป้องกัน ไม่เผยแพร่ให้เกิดความเสียหายหรือแตกตื่นเข้าใจผิด ฟังตัวแทนสื่อมาเลเซียเล่าว่าช่วงการเลือกตั้งในมาเลเซียที่ผ่านมา มีการปลอมเว็บไซต์และเพจข่าวเพื่อเสนอข่าวลวง จึงเป็นเรื่องที่สื่อในประเทศไทยต้องให้ความสำคัญและระมัดระวัง เตรียมตัวรับมือในช่วงการเลือกตั้งที่จะมาถึงด้วย,ส่วน นายปราเมศ เหล็กเพ็ชร์ ประธานสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวสรุปในช่วงประชุมโต๊ะกลมหัวข้อ ความสำคัญของการรู้เท่าทันสื่อ และการให้การศึกษาแก่สังคม ว่า ปัญหาข่าวลวง ข่าวหลอกนั้นถือเป็นหนึ่งในหายนะของมวลมนุษยชาติ ซึ่งการแพร่กระจายของข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว และกว้างขวาง อันเป็นผลมาจากพัฒนาการทางด้านเทคโนโลยี ตนมองว่าไม่สามารถที่จะแก้ไขโดยทำให้หายไปทั้งหมดได้ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ 3 ส่วน คือ เป็นเรื่องของอำนาจ เรื่องของผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และเรื่องความสนุก สนานส่วนบุคคล อย่างไรก็ตามปัญหานี้สามารถบรรเทาความรุนแรงลงได้ การเสวนาในวันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะได้มีการแสวงหาความร่วมมือระดับภูมิภาค เพราะปัญหานี้ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้เองลำพังได้ ขอเรียกร้องให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน จำเป็นอย่างยิ่งจะต้องมีความรู้เท่าทันสื่อด้วยกันเอง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ไม่เป็นความจริงทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ,สื่อมวลชนจะต้องเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน องค์กรสื่อต้องมีการให้การศึกษา พัฒนาศักยภาพของตัวเอง ไม่เช่นนั้นรัฐบาลจะใช้เป็นข้ออ้างในการควบคุมสื่อได้ นายปราเมศ กล่าว,สำหรับการเสวนาครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (เอสซีจี) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัด (มหาชน) และบริษัทบีซีพีจี จำกัด (มหาชน).
|
สื่ออาเซียน ร่วมวงเสวนาผลกระทบและการต้ังรับ Fake News ข่าวลวงหรือข่าวปลอม แฉเป็นหายนะของมวลมนุษยชาติ ที่องค์กรสื่อมวลชนต้องร่วมกันป้องกัน และให้ความรู้แก่สื่อมวลชน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเ
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
เสวนาสื่อ,สื่อมวลชน,ข่าวลวง,ข่าวปลอม,Fake News,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1358821
|
เยี่ยม อานนท์ เผยตนพุ่งสมาธิที่การฝึกซ้อมมากกว่าคิดถึงเรื่องตัดตัว
|
วันที่ 2 พ.ย.61 อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ กองกลางตัวรุกของทีมชาติไทย ยืนยันว่าระหว่างนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือพุ่งสมาธิไปที่การฝึกซ้อม ก่อนคิดถึงเรื่องการมีชื่อลุ้นติดเป็น 23 คนสุดท้าย สำหรับลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน 2018 ระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน - 15 ธันวาคม 2561,ดาวรุ่งป้ายแดงจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ประเดิมติดทีมช้างศึกชุดใหญ่ครั้งแรก ในเกมกระชับมิตร 2 นัดล่าสุด ที่บุกชนะ ฮ่องกง และเปิดบ้านชนะ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ด้วยสกอร์เดียวกัน 1-0 ก่อนถูก มิโลวาน ราเยวัช เรียกเข้ามาอยู่ในทีมต่อเนื่อง เช่นเดียวกับผู้เล่นอนาคตไกลคนอื่นๆ อย่าง ศุภชัย ใจเด็ด และ ศศลักษณ์ ไหประโคน,ตอนนี้รู้สึกว่าปรับตัวเข้ากับพี่ๆ ได้ดีขึ้นครับ เพราะอย่างครั้งแรกที่มา ก็ยังไม่รู้จักใครเป็นการส่วนตัว พอมีโอกาสเข้ามาต่อเนื่อง ก็มีเวลาทำความรู้จักกันมากขึ้น ถือว่าบรรยากาศโดยรวมในทีมโอเคเลยครับ อานนท์ กล่าวเริ่ม,สำหรับผม ตั้งแต่เด็กๆ หรือตั้งแต่เล่นฟุตบอลมา นี่เป็นรายการใหญ่สุด ที่ผมเคยมีส่วนร่วม ดังนั้นในเมื่อโอกาสผ่านเข้ามาแล้ว ผมจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ,อานนท์ ที่เคยคว้าแชมป์อาเซียน เมื่อปี 2015 ร่วมกับ ช้างศึก U19 กล่าวต่อว่า ผมเคยเจอทีมในอาเซียนมาบ้าง อย่างแรกเราไม่ควรประมาท แต่สิ่งสำคัญผมมองว่า มันขึ้นอยู่ที่ตัวเรา และทีมเรามากกว่า ซึ่งถ้าเราเล่นได้ตามมาตรฐานของเรา หรือเล่นได้ตามแท็กติกของโค้ช (มิโลวาน ราเยวัช) ผมว่าเรามีศักยภาพที่จะเอาชนะทุกๆ ทีมได้ครับ,ขณะที่ตอนนี้ ผมยังไม่ได้คิดถึงเรื่องการตัดตัวครับ เพราะผมอยากพุ่งสมาธิไปที่การฝึกซ้อมก่อน ในทุกๆ วันผมตั้งเป้าไว้ว่า ผมต้องพยามทำให้เต็มที่และดีที่สุด ท้ายที่สุดแล้ว ผมจะมีชื่อติดเป็น 23 คนหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของโค้ชครับ,เหนือสิ่งอื่นใด การที่ผมมีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีม มันก็เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและภูมิใจมากแล้วครับ อานนท์ ปิดท้ายด้วยทัศนคติที่ดี,ทั้งนี้ มิโลวาน ราเยวัช เรียกผู้เล่น เข้ามาทั้งหมด 27 ราย จากนั้นจะทำการตัดให้เหลือ 23 ราย ก่อนเข้าทัวร์นาเมนต์ ชิงแชมป์อาเซียน 2018 โดย ทีมชาติไทย ในฐานะแชมป์เก่า อยู่ในกลุ่มบี ร่วมกับ อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และ ติมอร์ เลสเต,โปรแกรมการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม,วันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 ติมอร์ เลสเต พบ ไทย เวลา 19.00 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน,วันที่ 17 พฤศจิกายน 2561 ไทย พบ อินโดนีเซีย เวลา 18.30 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน,วันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ฟิลิปปินส์ พบ ไทย เวลา 18.30 น. ณ สนามปานาอัด สเตเดียม,วันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 ไทย พบ สิงคโปร์ เวลา 19.00 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน
|
อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ แนวรุกวัย 20 ปี ยังไม่คิดถึงเรื่องการตัดตัว และชี้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการพุ่งสมาธิไปที่การฝึกซ้อม
|
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
|
อานนท์ อมรเลิศศักดิ์,ช้างศึก,ทีมชาติไทย,ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
|
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1409780
|
หลายพื้นที่ใน จ.ตากน้ำท่วมสูง
|
บ้านและร้านอาหารหลายแห่ง ในพื้นที่ตำบลไม้งาม ตำบลบัวเหนือ ตำบลบัวใต้ และตำบลวังหิน เขตอำเภอเมือง จังหวัดตาก ถูกน้ำจากแม่น้ำปิงไหลเข้าท่วม หลังเขื่อนภูมิพล ปล่อยน้ำวันละ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร ประกอบกับมีน้ำจากแม่น้ำวังไหลมาสมทบ วันละประมาณ 80 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนที่ตำบลตากออก ตำบลตากตก และตำบลสมอโคน อำเภอบ้านตาก น้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร โดยเจ้าหน้าที่ คาดว่า น้ำจะท่วมต่อไปอีกประมาณ 2 -3 วัน หากเขื่อนภูมิพลลดการปล่อยน้ำ ระดับน้ำที่ท่วมขังจะลดลงส่วนที่เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 7 จังหวัดอุบลราชธานี นำเรือลากจูง 7 ลำ เร่งผันน้ำจากแม่น้ำมูล บริเวณสะพาน 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ ข้ามแม่น้ำมูลระหว่างอำเภอเมือง กับอำเภอวารินชำราบ โดยใช้ใบพัดไปกระตุ้นน้ำที่ชะลอตัว ให้ไหลผ่านชุมชนพื้นที่ราบลุ่มได้เร็วขึ้น และเพื่อเตรียมรับมวลน้ำเหนือจากจังหวัดขอนแก่นปริมาณมาก คาดว่าจะไหลไปสมทบอีกประมาณ 2 สัปดาห์ทั้งนี้ ฝนที่ตกต่อเนื่อง ประกอบกับน้ำที่ไหลจากจังหวัดชัยภูมิ ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำ 9 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม มีปริมาณน้ำเกินระดับกักเก็บ ทำให้ต้องเร่งระบายน้ำเต็มพิกัด ลงสู่แม่น้ำชี ส่งผลกระทบให้นาข้าวในอำเภอเมือง โกสุมพิสัย และอำเภอกันทรวิชัย ถูกน้ำท่วมเสียหายประมาณ 60000 ไร่
|
น้ำที่ถูกปล่อยมาจากเขื่อนภูมิพล ประกอบกับน้ำที่ไหลจากแม่น้ำวัง ทำให้หลายพื้นที่ของอำเภอบ้านตาก และอำเภอเมือง จังหวัดตาก ถูกน้ำท่วมสูง
|
ภูมิภาค
|
ตาก,น้ำท่วม,เขื่อนภูมิพล
|
https://news.thaipbs.or.th/content/38099
|
ข้าวกำลังยืนต้นตาย กลุ่มชาวนาพรานกระต่าย ดิ้นรนสูบน้ำเข้านา
|
เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวนาจากตำบลถ้ำกระต่ายทอง และตำบลเขาคีริส อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ได้ช่วยกันนำเครื่องสูบน้ำทั้งขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก ติดตั้งบริเวณริมคลองสนามวัว หมู่ที่ 17 ตำบลเขาคิริส อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นคลองสาขาที่รับน้ำมาจากคลองวังพาน รับน้ำจากโครงการชลประทานท่อทองแดงที่รับน้ำจากแม่น้ำปิงมาอีกทอดหนึ่ง เพื่อสูบน้ำเข้านาข้าวที่กำลังตั้งท้อง แต่ขาดน้ำใกล้ยืนต้นตาย แม้ว่ารัฐบาลจะขอความร่วมมือในการงดสูบน้ำก็ตาม,โดยการสูบน้ำครั้งนี้ต้องสูบน้ำจากคลองวังพานขึ้นมาใส่คลองสนามวัว จากนั้นก็ต้องใช้เครื่องดันน้ำที่ไหลมาถึงกลางคลองสนามวัวไปให้ถึงปลายคลองอีกทอดหนึ่ง เพราะถ้าไม่ทำกันทอดๆ แบบนี้ จะไม่มีน้ำไหลเข้าคลอง และถ้าไม่ใช้เครื่องดันน้ำที่กลางคลอง น้ำก็จะไหลไม่ถึงปลายคลอง ซึ่งกว่าที่น้ำจะไหลไปถึงปลายคลองก็ทุลักทุเล,นายร่ำ หอมรื่น ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ตำบลถ้ำกระต่ายทอง ระบุว่า ชาวนาทั้ง 2 ตำบล ได้รวมตัวกันเพื่อที่จะช่วยกันเร่งสูบน้ำเข้าพื้นที่ทำการเกษตร เพราะนาข้าวเริ่มตั้งท้องแล้ว หากไม่มีน้ำก็จะทำให้ต้นข้าวตายหมด และจะทำให้ขาดทุนอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลจะให้งดสูบน้ำก็ตาม แต่เมื่อได้ลงทุนไปแล้ว ก็ไม่อยากให้ขาดทุน และเป็นหนี้สิน ถ้าไม่ทำแบบนี้นาข้าวกว่า 1,000 ไร่ ที่อยู่ปลายน้ำที่มีระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร ต้องตายแน่ๆ อีกทั้งชาวนาก็ต้องอดตายเหมือนกัน จึงอยากขอให้หน่วยงานราชการเห็นใจประชาชนด้วย เพราะว่ามีอาชีพทำนา ซึ่งในขณะนี้สูบน้ำมาได้ 3 วันแล้ว โดยจะทำการสูบน้ำไปอีก 4 วัน ในแต่ละวันต้องใช้น้ำมันกว่า 500 ลิตร กว่าจะสูบน้ำเสร็จคาดว่าน่าจะเสียค่าน้ำมันประมาณ 70,000 บาท เพื่อให้มีน้ำเข้านาไปต่อลมหายใจเกษตรกร.
|
ชาวนาพรานกระต่ายดิ้นรนสูบน้ำเข้านา เพื่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังจะออกรวง เหตุฝนไม่ตกในพื้นที่ จึงทนดูข้าวตายไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะต้องสูบน้ำต่อกันเป็นทอดๆ แม้จะต้องเสียค่าน้ำมัน 7 หมื่น ดีกว่าทนเห็นข้าวแห้งตายเสียหายหมด
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ภัยแล้ง,น้ำแล้ง,แห้งแล้ง,ชลประทาน,แก้ภัยแล้ง,ขุดบ่อบาดาล,ทั่วประเทศ,ชาวนา อ.พรานกระต่าย,คลองสนามวัว,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคมทั่วไทย
|
https://www.thairath.co.th/news/local/513143
|
หญิง 67 ปีนต้นไม้ร้องนายกฯ ด้าน สุภรณ์ ขึ้นกระเช้าเจรจาลงมาปลอดภัย
|
แรมโบ้อีสาน ขึ้นกระเช้าเจรจา หลังหญิงสูงวัยปีนต้นมะขามตรงข้ามทำเนียบฯ ซ้ำเตรียมเชือกหวังผูกคอ โอดร้องเรียนหลายครั้งเรื่องไม่คืบ สุดท้ายลงมาอย่างปลอดภัยวันที่ 12 มิ.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังมีหญิงอายุ 67 ปี ปีนต้นมะขามฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล หลังร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการถูกทำร้ายร่างกาย การบุกรุกที่ดิน และลูกชายเสียชีวิตอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งเจ้าตัวตะโกนบอกว่าร้องมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีความคืบหน้าจึงเตรียมเชือกจะมาผูกคอเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับรู้และช่วยเหลือ โดยขณะนั้นเจ้าหน้าที่เตรียมรถกระเช้าและกางเบาะลมด้านล่างเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิดขณะเดียวกัน นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมเจรจา โดย นายสุภรณ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ส่งผมมา เดี๋ยวจะจัดการให้หมดเลย ทางด้านหญิงสูงวัยตะโกนจากต้นไม้ลงมาว่า ร้องเรียนมานานแล้ว จากนั้น นายสุภรณ์ ขึ้นกระเช้าไปเจรจา โดยหญิงสูงวัยค่อยๆ พาตัวลงมาจากต้นไม้ได้อย่างปลอดภัยในเวลาต่อมาได้พาหญิงสูงวัยไปยังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อรับเรื่องและพูดคุยกัน โดย นายสุภรณ์ รับปากว่าจะรายงานถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ปัญหาในเรื่องที่ร้องเรียน.
|
แรมโบ้อีสาน ขึ้นกระเช้าเจรจา หลังหญิงสูงวัยปีนต้นมะขามตรงข้ามทำเนียบฯ ซ้ำเตรียมเชือกหวังผูกคอ โอดร้องเรียนหลายครั้งเรื่องไม่คืบ สุดท้ายลงมาอย่างปลอดภัย
|
ข่าว,การเมือง
|
ปีนต้นไม้,ทำเนียบรัฐบาล,ปีนต้นมะขาม,สุภรณ์ อัตถาวงศ์,แรมโบ้อีสาน,ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล,ร้องนายกฯ
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1867165
|
หนาวนี้ชวนเที่ยวสะเมิง ดูชุมชนชาวปกาเกอะญอ เก็บสตรอว์เบอร์รี่สดๆจากสวน
|
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่จังหวัดเชียงใหม่เริ่มมีอากาศหนาวเข้ามาหลายสัปดาห์แล้ว ทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างพากันมาสัมผัสความหนาวเย็นและแสงแดดยามเช้า ไม่ว่าจะเป็นอุทยาน สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตต่างๆ เช่น ที่ดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ดอยอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ แม้กระทั่ง ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวหนาแน่นทุกวัน โดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์,นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่สวยงาม อีกทั้งยังได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอ หรือชาวกะเหรี่ยง บ้านบ่อแก้ว อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ สถานที่แห่งนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่จะรวมตัวกันปลูกสตรอว์เบอร์รี่ เพื่อส่งขายตามท้องตลาดทั่วไป ซึ่งผลผลิตขณะนี้เริ่มออกขายแล้ว และจะมีสตรอว์เบอร์รี่มากที่สุดช่วงเดือนมกราคมของทุกปี,นายสหภูมิ เรืองกิติเศษรฐ อายุ 33 ปี ชาวบ้าน หมู่ 1 ต.บ่อแก้ว อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ เจ้าของไร่สหภูมิ สตรอว์เบอร์รี่ บ้านบ่อแก้ว กล่าวว่า พื้นที่ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ซึ่งรวมชนเผ่ารวมกันหลายชนเผ่าทั้ง ไทลื้อ กะเหรี่ยง ม้ง และคนเมือง มีอาชีพเกษตรกรรมแทบทั้งหมด จะปลูกสตรอว์เบอร์รี่เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น เหมาะแก่การปลูกผลไม้ประเภทนี้ ทุกๆ ปีที่ อ.สะเมิง จะมีการจัดงานของดีอำเภอสะเมิงด้วย ซึ่งชาวสวนจะนำผลผลิตจากสตรอว์เบอร์รี่มาวางขาย มีทั้งสตรอว์เบอร์รี่สด แปรรูป มีทั้งไวน์ น้ำสตรอว์เบอร์รี่,ในส่วนของไร่ของตนเองนั้น ขณะนี้เริ่มมีผผลิตออกมาบ้างแล้วและจะเยอะสุดๆ ประมาณเดือนมกราคมเป็นต้นไป จนถึงเดือนมีนาคม ปีนี้ก็อยากจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาเที่ยวบนดอย อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ สามารถแวะมาเที่ยวที่สวนของตน จากหน้าโรงเรียนสะเมิงพิทยาคม เลี้ยวขวามาตามถนนระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ก็จะถึง บ้านบ่อแก้ว ซึ่งสวนของตนก็จะอยู่ติดถนน สามารถที่จะเข้าชมสวน ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก และเก็บสตรอว์เบอร์รี่สดๆ จากสวนได้ ตอนนี้รสชาติเริ่มหวานอร่อยแล้ว สามารถเข้ามาได้ทุกวัน.
|
เชียงใหม่กลับมาหนาวอีกแล้ว ชวนนักท่องเที่ยวสัมผัสลมหนาว ดูวิถีชีวิตชุมชนชาวปกาเกอะญอ ที่บ้านบ่อแก้ว อ.สะเมิง ชมสวนเก็บสตรอว์เบอร์รี่สดๆ รสชาติอร่อย เป็นของฝากกลับบ้าน
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
สตรอว์เบอร์รี่,บ้านบ่อแก้ว,อ.สะเมิง,เชียงใหม่,เก็บสตรอว์เบอร์รี่,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1429926
|
แข้งเทพ ไล่บด บีจี สุดมัน 4-2 ขยับรั้งฝูงไทยลีกชั่วคราว
|
การแข่งขันศึกฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก 2016 นัดที่ 26 คู่บิ๊กแมตช์ประจำวันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม 2559 ซึ่งเป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง แข้งเทพ แบงค็อก ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง เปิดบ้านที่สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต รับมือขุนพล กระต่ายแก้ว บางกอก กล๊าส เอฟซี อันดับที่ 3 ของตาราง ,เปิดฉากครึ่งแรกมาได้เพียงแค่ 4 นาที เจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว มาริโอ ยูรอฟสกี จ่ายตามช่องมาให้กับ โจโจ้ สลัดหนีการประกบของแนวรับกระต่ายแก้ว ก่อนแตะหลบ นริศ ทวีกุล เข้าไปยิงง่าย ๆ ,ถัดมาในนาที 15 ทีมเยือนได้ลุ้นบ้างจากการวางบอลยาวของ จักรพันธ์ พรใส ให้กับ ชาตรี ฉิมทะเล ดูดบอลลงก่อนยิงยัดมุมแคบ แต่นายทวารแบงค็อกยังทุบทิ้งออกไปได้ ,จนในนาที 29 นริศ ทวีกุล เจตนาทำฟาวล์ กิลแบร์โต มาเชนา ในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ไปที่จุดโทษในทันที ก่อนที่ ดราแกน บอสโควิช จะสังหารเข้าไปไม่พลาด แบงค็อก ยูไนเต็ด หนีห่าง 2-0 ,ในช่วงท้ายครึ่งแรกนาที 43 กองเชียร์แข้งเทพได้เสียวอีกครั้ง จากจังหวะบรรจงปั่นฟรีคิกของ ดราแกน บอสโควิช แต่บอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียวเท่านั้น ทำให้จบครึ่งแรก แบงค็อก ยูไนเต็ด นำอยู่ 2-0 ,เกมในครึ่งหลังกลับกลายเป็น บางกอก กล๊าส ทีมเยือนที่ทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน และไล่ตีไข่แตกเป็น 2-1 ได้สำเร็จในนาที 54 จากจังหวะการลากบอลขึ้นมาทางกราบขวาของ โรแมง กัสมี ก่อนโยนเข้าไปหน้าประตูให้กับ ชาตรี ฉิมทะเล โขกระยะเผาขนเข้าไปง่าย ๆ ,จากนั้นอีกเพียง 9 นาที สาวกกระต่ายแก้วก็ได้เฮอีกครั้ง เมื่อ ดาเนียล โตติ ล็อกบอลหลบแนวรับเจ้าถิ่น ก่อนไหลใส่พานให้กับ จักรพันธ์ พรใส ยิงเข้าไป บางกอก กล๊าส เอฟซี ตีเสมอเป็น 2-2 ,แต่นาที 75 เจ้าถิ่นพลิกขึ้นนำอีกครั้งเป็น 3-2 จากจังหวะที่ เอกชัย สำเร เปิดบอลไปแฉลบตัวกองหลังบีจีมาเข้าทาง กิลแบร์โต มาเชนา ตะบันเต็มข้อเข้าไปไม่พลาด,กระทั่งช่วงทดเวลาเจ็บนาที 93 แบงค็อก ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะเป็น 4-2 ดราแกน บอสโควิช จับบอลลั่นมาเข้าทาง มาริโอ ยูรอฟสกี กระดกบอลข้ามหัวนายทวารบีจีเข้าไปอย่างเหนือชั้น,ทำให้จบเกม แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ บางกอก กล๊าส เอฟซี ไปได้อย่างสนุกสุดมัน 4-2 เก็บสามแต้มสำคัญพร้อมกับขยับแซง เมืองทองฯ กลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราวอีกครั้ง ขณะที่พลพรรคกระต่ายแก้ว ถึงแม้จะแพ้ในเกมนี้แต่ก็ยังอยู่ในอันดับที่ 3 ต่อไปเช่นเดิม.,11 รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม,แบงค็อก ยูไนเต็ด : กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก, กิลแบร์โต มาเชนา, มาริโอ ยูรอฟสกี, เจย์ซี จอห์น, เอกชัย สำเร, พุทธินันท์ วรรณศรี, แอนโธนี อำไพพิทักษ์วงศ์, ดราแกน บอสโควิช, เออร์เนสโต ภูมิภา, มิกา ชูนวลศรี, สรรวัชญ์,บางกอก กล๊าส เอฟซี : นริศ ทวีกุล, ดาเนียล โตติ, แมตต์ สมิธ, จักรพันธ์ พรใส, อภิวิชฐ์ ภู่เล็ก, โรแมง กัสมี, คาลิฟา ซิสเซ, ชาตรี ฉิมทะเล, ปิยะชนก ดาฤทธิ์, สุวรรณภัทร์ กิ่งแก้ว, ศราวุฒิ มาสุข,ผลการแข่งขันคู่อื่น ,บีบีซียู เอฟซี แพ้ สุโขทัย เอฟซี 0-3,อาร์มี ยูไนเต็ด แพ้ สุพรรณบุรี เอฟซี 0-1,ซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ ชนะ พัทยา ยูไนเต็ด 2-1,บีอีซี เทโรศาสน แพ้ ชลบุรี เอฟซี 1-3
|
แบงค็อก ยูไนเต็ด ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งในบ้านของตัวเอง เมื่อเป็นฝ่ายไล่บดเอาชนะ บางกอก กล๊าส เอฟซี ไปอย่างสนุก 4-2 แซงขึ้นนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราวอีกครั้งได้สำเร็จ
| null |
ผลบอล,โตโยต้า ไทยลีก 2016,นัดที่ 26,แบงค็อก ยูไนเต็ด,บางกอก กลาส เอฟซี,บีจี,แข้งเทพ,กระต่ายแก้ว,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/683446
|
หญิง อินเนอร์แม่แรง งัดประสบการณ์ตอนเด็กมาใช้ ไฟสิ้นเชื้อ
|
รวมความเผ็ดไว้ในละครเรื่องนี้เลย ไฟสิ้นเชื้อ ทุกคืนวันพุธ-พฤหัสฯ ทางช่อง GMM 25 หนึ่งสาวที่มากับความร้อนแรงคือ หญิง รฐา โพธิ์งาม ในบท วิชุดา ที่เจ้าตัวทำการบ้านอย่างหนัก อีกทั้งยังงัดเอาประสบการณ์จริงในชีวิตมาใช้อีกด้วย โดย หญิง เผยว่า สิ่งที่ยากคือเราต้องทำให้ ตัวละครมีมากกว่ามิติเดียว ไม่อยากให้เป็นแค่ละครแย่งผัวแย่งเมียกันเท่านั้น อยากให้มีสายสัมพันธ์ของความเป็นพี่น้องกันอยู่ ซึ่งเวลาเล่นกับหยาดเราก็เชื่อจริงๆนะว่าเขาเป็นน้องเรา แล้วหยาดเขาเล่นลึก อินเนอร์ส่งมาถึงเราเต็มๆ ส่วนบทบาทความเป็นแม่จริงๆ หญิงรับบทแม่มาเยอะนะคะ>> อ่านเรื่องย่อนิยายทุกเรื่อง คลิกที่นี่ <<ซึ่งทั้งที่เราก็ยังไม่ได้มีประสบการณ์จริงตรงนี้ เพียงแต่ว่าเราใกล้ชิดกับแม่ ฉะนั้นเวลาเข้าฉากกับน้องพลอย (ภัชธร ธนวัฒน์) ที่เล่นเป็นลูกสาว เราก็ยิ่งเข้าใจตัวละครมากขึ้น เฮ้ยเราเคยเป็นแบบนี้นะ เบื่อจัง อยากไปกับเพื่อน อยากประชดไปเลย เราก็เลยค่อนข้างเข้าใจตัวละครที่เราเล่นด้วย เพราะเราก็เคยมีช่วงทะเลาะกับแม่ ไม่เข้าใจกัน หญิงผ่านโมเมนต์แม่ลูกมาเยอะมาก ความรู้สึกตอนที่เราอยู่มัธยมไปดูหนัง แล้วแม่โทร.มา 20 มิสคอล ตอนนั้นเรารู้สึกว่า อะไรของแม่เนี่ย แค่ออกมาดูหนังเองแต่ในขณะเดียวกัน แม่ก็รู้สึกว่า เออ หายไปไหนนานเป็นชั่วโมง โทร.ไปก็ไม่รับสาย โดนอุ้มไปไหนหรือเปล่า คือเราผ่านมาแล้วในมุมของการเป็นลูก แต่ในฐานะของการเป็นแม่จริงๆในมุมแบบนี้เราไม่เคยมี แต่เราเข้าใจ มันก็เป็นแฟลชแบ็กที่เอามาใช้ในละครได้ค่ะ บวกกับน้องพลอยที่มาเล่นเป็นลูกเราเขาเล่นดีมาก หญิงจะรู้สึกว่า เฮ้ยนี่มันเราตอนมัธยมนี่นา (หัวเราะ) คือเรารู้สึกว่าเราเห็นตัวเองในเขา เชื่อว่าเขาเป็นลูกเรา ถ้าเรามีลูกวันหนึ่ง ถ้าลูกเราโต ลูกเราก็คงประมาณนี้แหละ.
|
รวมความเผ็ดไว้ในละครเรื่องนี้เลย ไฟสิ้นเชื้อ ทุกคืนวันพุธ-พฤหัสฯ ทางช่อง GMM 25 หนึ่งสาวที่มากับความร้อนแรงคือ หญิง รฐา โพธิ์งาม ในบท วิชุดา ที่เจ้าตัวทำการบ้านอย่างหนัก
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
ไฟสิ้นเชื้อ,หญิง รฐา,หยาด หยาดทิพย์,ช่อง GMM 25,นิยาย,ข่าววันนี้,ฟลุค เกริกพล,ละคร
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1894487
|
เศรษฐีมะกันค้ากามตายในคุก
|
เจฟฟรีย์ เอปสตีน มหาเศรษฐีนักการเงินชื่อดังชาวอเมริกัน อายุ 66 ปี ซึ่งเคยสนิทสนมกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมทั้งอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน เจ้าชายแอนดรูว์ แห่งราชวงศ์อังกฤษ แต่กำลังถูกดำเนินคดีทางเพศหลายกระทง รวมตั้งแก๊งค้าประเวณีเด็กสาว ที่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวและอาจถูกตัดสินจำคุกสูงสุด 45 ปี ถูกพบเป็นศพเสียชีวิตด้วยการแขวนคอภายในห้องขังเรือนจำย่านแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ทั้งที่เจ้าหน้าที่เรือนจำเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดหวั่นฆ่าตัวตายหนีคดี หลังเมื่อ 23 ก.ค. พบเอปสตีนหมดสติอยู่ในห้องขังโดยมีรอยแผลบริเวณคอ,นายริค สก็อตต์ ส.ว.พรรครีพับลิกัน รัฐฟลอริดา รวมถึงนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ตั้งประเด็นว่าเป็นความตายที่มีความน่าสงสัย และมีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นการฆาตกรรม จึงขอให้ภาครัฐตรวจสอบ ซึ่งทางรัฐบาลและสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ระบุจะเร่งสอบสวนทันที ทั้งนี้ การเสียชีวิตของเอปสตีน เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังศาลนครนิวยอร์กเผยเอกสารทางคดีที่อัยการกล่าวโทษคดีค้ากามของเอปสตีน ส่วนผู้นำทรัมป์ของสหรัฐฯ ในอดีตเคยให้สัมภาษณ์ชื่นชมเอปสตีน ว่าเป็นคนที่ชื่นชอบสาวๆเหมือนกับตัวเอง.
|
เจฟฟรีย์ เอปสตีน มหาเศรษฐีนักการเงินชื่อดังชาวอเมริกัน ซึ่งเคยสนิทสนมกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ แต่กำลังถูกดำเนินคดีทางเพศหลายกระทง ถูกพบเป็นศพแขวนคอเสียชีวิตในห้องขัง
|
ข่าว,ต่างประเทศ
|
เจฟฟรีย์ เอปสตีน,ค้าประเวณี,ฆ่าตัวตาย,ตายในคุก,สหรัฐ
|
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1635620
|
ราคาสินค้าขยับรับตรุษจีน พาณิชย์ผนึกเอกชนจัดเซตเครื่องเซ่นไหว้
|
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ อาจทำให้ผลผลิตสินค้าเกษตรบางส่วนเสียหาย และราคาอาจสูงขึ้นได้ เช่น เนื้อสัตว์ อย่างหมู และประชาชนในพื้นที่อาจได้รับผลกระทบ จึงได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเร่งหารือร่วมกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับสินค้าในเทศกาลตรุษจีน ดำเนินการจัดทำสินค้าเซ่นไหว้เป็นชุดขายในราคาประหยัดเพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน โดยเบื้องต้นอาจจัดทำเป็นชุดขนาดเล็กแต่มีสินค้าเซ่นไหว้ที่จำเป็นอย่างครบครัน นอกจากนี้ยังสั่งการให้พาณิชย์จังหวัด การค้าภายในจังหวัด รายงานสถานการณ์ราคาสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนมายังกระทรวง ผ่านห้องปฏิบัติ การติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า (วอร์รูม) ของกระทรวงทุกวันด้วย,ตอนนี้ได้กำชับให้กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์ทุกวัน โดยจะดูราคาเป็ด ไก่เป็นพิเศษในช่วงตรุษจีน ก่อนที่จะสรุปสถานการณ์ราคา อีกครั้งในช่วงสัปดาห์หน้าว่าสินค้าประเภทใดบ้าง ที่ปรับขึ้น ส่วนวันที่ 25-26 ม.ค.นี้ จะเดินทางไป ตรวจสอบราคาสินค้าที่ตลาดเยาวราช ตลาดยิ่งเจริญ และโมเดิร์นเทรด,ด้านนางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตรุษจีนปีนี้หลายจังหวัดในภาคใต้อาจไม่คึกคักเท่าปีที่ผ่านมาเนื่องจากเหตุการณ์อุทกภัย อีกทั้งการเดินทางสัญจรไปมาในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญไม่สะดวกมากนัก แม้ว่าระดับราคาสินค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในภาวะทรงตัวเป็นไปตามฤดูกาลผลิต และการตลาด แต่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปีพบว่าสินค้าประเภทผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นบ้างตามความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น แต่สถานการณ์น้ำท่วมที่ส่งผลให้พื้นที่เกษตรหลายแห่งได้รับผลกระทบ จึงอาจทำให้ผลผลิตสินค้าเกษตรบางอย่างลดลง และเมื่อผ่านพ้นเทศกาลตรุษจีนไปแล้ว ราคาสินค้าจะเข้าสู่ภาวะปกติ,นอกจากนี้ กระทรวงยังได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดดูแล และช่วยเหลือด้านการกระจายสินค้าในแต่ละพื้นที่อย่างทั่วถึง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสินค้าขาดแคลน หรือการกักตุนสินค้า โดยขอให้ประชาชนจับจ่ายอย่างระมัดระวัง ควรหาข้อมูลสินค้าเปรียบเทียบราคาและคุณภาพก่อนตัดสินใจซื้อ ตามแคมเปญ ฉลาดซื้อประหยัดใช้ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการใช้จ่าย และประหยัดค่าครองชีพได้ หากพบเห็นการไม่ปิดป้ายแสดงราคาที่ชัดเจน หรือการค้ากำไรเกินควร ให้ร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กระทรวงจะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ หากพบผิดจริงจะดำเนินการตามกฎหมาย,ด้านนายนิธิ ภัทรโชค ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ตลาดในประเทศ กลุ่มธุรกิจ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เปิดเผยว่า เอสซีจีได้ร่วมกับผู้แทนจำหน่าย ลดราคาสินค้าวัสดุก่อสร้างราคาพิเศษ สูงสุดถึง 30% ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 28 ก.พ.นี้ ครอบคลุม 10 จังหวัดในภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ตรัง พัทลุง กระบี่ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส,ทั้งนี้ สินค้าหลักที่อยู่ในโปรแกรมช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้แก่ ปูนซีเมนต์ คอนกรีตผสมเสร็จ กระเบื้องหลังคา ฝา ฝ้า เป็นต้น โดยสามารถนำคูปองส่วนลดมาแสดงที่ร้านผู้แทนจำหน่าย และร้านค้าวัสดุก่อสร้างทั่วไปที่ร่วมรายการ เพื่อซื้อสินค้าราคาพิเศษได้ทันที ซึ่งผู้ประสบภัยสามารถไปรับคูปองดังกล่าวได้ที่ศูนย์ราชการ 400 แห่ง เช่น ที่ว่าการอำเภอ และเทศบาลตำบล ครอบคลุม 10 จังหวัดในภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบ.
|
พาณิชย์ รับราคาสินค้าช่วงตรุษจีนอาจปรับขึ้นเล็กน้อยหลังได้รับผลกระทบน้ำท่วมภาคใต้ เล็งหารือผู้ประกอบการจัดเซตเครื่องเซ่นไหว้สินค้าราคาประหยัด เพิ่มทางเลือกประชาชน พร้อมตั้งวอร์รูม ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด
| null |
ราคาสินค้าตรุษจีน,เครื่องเซ่นไหว้ตรุษจีน,สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์,พิมพ์ชนก วอนขอพร,นิธิ ภัทรโชค
|
https://www.thairath.co.th/content/841680
|
ความไม่สมเหตุสมผลของการยึดอำนาจรัฐของ กปปส. และการใช้ตรรกะด้อยอารยะเพื่อรัฐบาล ม.7
|
ที่กำลังรักษาการตามรัฐธรรมนูญในขณะนี้ มิใช่ว่าเพราะไม่ได้รักชาติบ้านเมือง ไม่ใช่เพราะไม่เห็นความบริสุทธิ์ใจของประชาชนบางส่วนที่ร่วมประท้วง ไม่ใช่เพราะไม่เห็นอกเห็นใจในความเหนื่อยยากลำบากของผู้ชุมนุม ไม่ใช่เพราะไม่ให้เกียรติพลังบริสุทธิ์ที่ปะปนในการเคลื่อนไหว ไม่ใช่เพราะไม่เชื่อว่ารัฐบาลนี้ไม่มีโกงกินเหมือนรัฐบาลอื่นๆ ไม่ใช่เพราะรัฐบาลปัจจุบันทำอะไรๆ ก็ดีไปหมด ไม่ใช่เพราะยอมจำนนให้กับข้อด้อยของระบอบทักษิณ (ที่ว่ามีอยู่) ไม่ใช่เพราะไม่สนใจข้อเสนอที่ดีๆ บางข้อของ กปปส. ไม่ใช่เพราะข้าพเจ้าด้อยสติปัญญาทางการเมืองหรือการสร้างสรรค์การเมือง แต่ด้วยเหตุผลต่อไปนี้1. คณะปฏิวัติประชาชนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นหัวหน้ามากว่าหนึ่งเดือน กำลังดูถูกดูแคลนจิตสำนึกประชาธิปไตยของข้าพเจ้าและประชาชนอื่นๆ ที่ไม่ได้เข้าร่วม และกำลังทำในสิ่งที่ไม่ต่างอะไรกับ ความวิกลจริต ปฏิบัติการลวงโลกประชาธิปไตย การเล่นจำอวด หรือ การทำลายตนเองของผู้ประท้วง การเป็นวีรชนประชาธิปไตยอาจพอมีให้เห็นจากความกล้าหาญของแกนนำ แต่ไม่ได้ทุ่มเทไปในทางที่จะประกันความมั่นคงของระบอบประชาธิปไตย หากวันหนึ่งข้างหน้ามีมวลอภิมหาประชาชนจำนวนมากกว่าที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นหัวหน้า มาทำในตรรกะแบบที่ กปปส. กำลังทำ ก็แสดงว่าใช้ได้ใช่ไหม หรือ ยอมไม่ได้เพราะนอกจากคนที่ประท้วงรัฐบาลในขณะนี้แล้ว คนที่เหลือไม่รักชาติหรือเลวหมดไม่ใช่ประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่ต้องฟังเสียงแต่อย่างใด2. วิกฤตการเมืองในขณะนี้ไม่ได้เป็นไปโดยธรรมชาติ แต่เป็นการจงใจสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดช่องว่างทางการเมือง แล้วยืมพระหัตถ์ของพระมหากษัตริย์เพื่อแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7 นั้น เป็นการสร้างประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ขาดความสง่างาม และพระมหากษัตริย์เคยมีพระราชดำรัสเมื่อปี 2549 แล้วว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้เปิดช่องให้พระมหากษัตริย์ทำเช่นนั้นได้ พระมหากษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ หากยังมีผู้พยายามทำเช่นนั้นก็แสดงว่าใหญ่กว่าพระมหากษัตริย์ แต่มวลมหาประชาชนที่เป็นสมาชิกและผู้นิยมพรรคและเครือข่ายของพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ การเข้าร่วมของอดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประชาชนส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่คนทั้งประเทศผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง ตามนัยการตัดสินใจทางการเมืองที่รัฐธรรมนูญรับรอง คือ ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง3. ข้าพเจ้าเชื่อว่า หากพลพรรคเพื่อไทยหรือคนเสื้อแดงเข้าชื่อกันหรือนัดรวมตัวกันในทุกจังหวัดทั่วประเทศพร้อมกันเพื่อแสดงพลังการรวมตัวเป็นมวลอภิมหาประชาชนเพื่อร่วมตัดสินใจทางการเมืองอย่างสันติกว่า และอย่างตรงกันข้ามกับการกระทำของมวลมหาประชาชนที่กำลังไล่รัฐบาล โดยให้ได้คนมากกว่าสักสาม-สี่ล้านคน หรือ เฉลี่ยจังหวัดละประมาณสี่ถึงห้าหมื่นคน (แม้ในบางจังหวัดในภาคใต้อาจไม่ถึง) ก็คงทำได้ แล้วเมื่อถึงตอนนั้น คณะปฏิวัติที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นหัวหน้าก็พึงยอมรับโดยดุษฎีต่อจำนวนเสียงของผู้แสดงออกเหล่านั้น4. การยึดอำนาจรัฐบาลของ กปปส. ในขณะนี้ มวลชนกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือมากกว่าการเป็นอิสระจากการครอบงำความคิด เป็นการได้อำนาจมาโดยไม่ชอบด้วยวิถีทางแห่งรัฐธรรมนูญ และเป็นรัฐธรรมนูญที่หัวหน้าคณะปฏิวัติเรียกร้องให้ ส.ส. พรรคเพื่อไทยเคารพ ฉะนั้นการคัดค้านการยึดอำนาจรัฐของประชาชนใดๆ ย่อมเป็นการใช้สิทธิ์พิทักษ์รัฐธรรมนูญโดยปริยาย5. การไม่ยึดอำนาจ แต่ใช้อารยะขัดขืนเป็นหนทางที่มีพลังมากกว่าและทำให้รัฐบาลขาดความชอบธรรมในการบริหาร แต่การกระทำแบบปฏิวัติโดยประชาชนบางส่วนที่อ้างว่าเป็นอำนาจอธิปไตยตามมาตรา 3 ของรัฐธรรมนูญแทนประชาชนทั้งประเทศนั้น ใครมอบให้ท่านตั้งแต่เมื่อใด แต่ในปัจจุบันวิถีทางเช่นนี้กำลังทำลายความชอบธรรมของผู้ประท้วงในที่สุด และการจะรักษาอำนาจรัฐเอาไว้ต่อไปก็ต้องบังคับประชาชน ซึ่งเมื่อทำเช่นนั้นยิ่งขึ้นๆ ก็ยิ่งแสดงว่าไม่ใช่นักประชาธิปไตยมากขึ้นทุกทีๆ แล้ว และแกนนำกำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงไปสู่ลักษณะของฟาสซิสต์คืออำนาจนิยมและปลุกเร้าความรุนแรงของคณะบุคคลที่ต้องการบังคับสังคม หากคนฆ่ากันตายจริงๆ ใครรับผิดชอบ แกนนำทั้ง 13 คน แถลงออกมาให้ชัดเจนเถอะว่าถ้าคนของฝ่ายใดเสียชีวิตจะมากจะน้อยเท่าใดพวกท่านจะรับผิดชอบอย่างไร6. รัฐบาลต่างหากที่ดูเหมือนดำเนินอารยขัดขืนต่อความต้องการของ กปปส. ได้ดีกว่าการยั่วยุของแกนนำ เช่น การไม่ยอมใช้ความรุนแรงโต้ตอบ กปปส. การยอมแพ้ด้วยการประกาศยุบสภาของนายกรัฐมนตรี แต่รัฐบาลที่ไม่ต้องการให้บ้านเมืองแตกแยกและต้องการรักษาประชาธิปไตยกลับถูกขับไล่7. หากมีรัฐบาลอื่นที่มิใช่ชุดปัจจุบันมารักษาการ การกระทำของรัฐบาลนั้นก็เป็นโมฆะเพราะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 181 ที่บัญญัติให้คณะรัฐมนตรีที่นายกยุบสภายังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าทำหน้าที่ และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ก็ต้องมาจากการแต่งตั้งของนายกรัฐมนตรีที่ ส.ส. ในสภาชุดใหม่ลงคะแนนเสียงให้เป็นนายกรัฐมนตรี นั่นคือต้องรอหลังเลือกตั้งนั่นเอง8. หากเคารพพระมหากษัตริย์อย่างแท้จริง กปปส. ก็ต้องหยุดการเคลื่อนไหวในทันที เนื่องจากพระมหากษัตริย์ทรงประกาศใช้ประราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใหม่แล้ว เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 อันเป็นการคืนอำนาจให้กับอภิมหาประชาชนทั้งประเทศ และมากกว่ามวลมหาประชาชนของ กปปส. และครอบคลุมการตัดสินใจอย่างมีสติมากกว่าที่ กปปส. เรียกร้อง หากท่านยังคงชุมนุมต่อไปก็เท่ากับละเมิดพระราชอำนาจใช่หรือไม่ (การหาทางลงของม็อบจะยากขึ้นๆ ทั้งๆ ที่ยุบสภาก็ลงได้แล้ว)9. การโค่นล้มระบอบทักษิณที่ท่านว่ามีอยู่ และกลายเป็นปีศาจประชาธิปไตยที่ถูกสร้างขึ้นมาหลอกหลอนเท่านั้น สามารถกระทำได้โดยวิถีทางในระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญไทย การกระทำนอกระบอบประชาธิปไตยหรือระบบรัฐสภาที่มีในปัจจุบัน ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญและให้ประชาชนลงประชามติเห็นชอบต่อรัฐธรรมนูญที่แก้ไขก่อน การขับไล่ที่กำลังทำอยู่จะสำเร็จได้ยาก เพราะทำได้เพียงการมุ่งขจัดตัวบุคคล เช่น คนในตระกูลชินวัตร แบบเลือกปฏิบัติอันเป็นการขัดต่อเสรีภาพของปวงชนชาวไทยที่รัฐธรรมนูญรับรอง10. การจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงการเมืองของประเทศโดย กปปส. ขาดความชัดเจนในเนื้อหาสาระ ขาดความชัดเจนในช่วงเวลา ขาดความชัดเจนในอำนาจรองรับ ขาดความชัดเจนในองค์ประกอบและภารกิจของ สภาประชาชน ที่จะใช้แทน สภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ขาดความชัดเจนในการให้ประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยทั้งประเทศเห็นพ้องด้วย ขาดความเที่ยงธรรมในการส่งเสริมการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญที่จะแก้ไขวิกฤต ขาดความชัดเจนว่าแกนนำผู้กำลังกระทำอนันตริยกรรมต่อประชาธิปไตยของประเทศจะกระทำประการใดบ้างเพื่อชดเชยความเสียหายของชาติบ้านเมือง ภายใต้ความไม่ชัดเจนเหล่านี้ มีแนวโน้มตีความเข้าข้างตนเอง โทษผู้อื่นแลเห็นเป็นภูเขา โทษของเราแลเห็นเท่าเส้นขน และภายใต้การบงการของ กปปส. ย่อมเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการสอดแทรกจากผู้ไม่หวังดีต่อประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบ การเล่นแร่แปรธาตุประชาธิปไตยอย่างที่ไม่คาดคิดเช่นที่เคยเกิดหลังการรัฐประหาร 19 กันยายน พ.ศ. 2549 อันทำให้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ถูกแก้ไขไปในทางที่หลายคน (รวมทั้งข้าพเจ้าเอง) เคยเข้าใจว่าจะสร้างประชาธิปไตยของประเทศอย่างก้าวหน้า แต่ในทางที่เป็นจริงกลับมิใช่
|
ข้าพเจ้าขอเป็นขบถไม่ยอมรับการอยู่ใต้อำนาจการกบฏของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือการจะจัดตั้งรัฐบาลอื่นมารักษาการแทนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ (รัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)
|
การเมือง
|
กปปส.,มาตรา 7,สภาประชาชน,โชคชัย สุทธาเวศ
|
https://prachatai.com/journal/2013/12/50324
|
คุยกับทูตอังกฤษ : 800 ปีแมคนา คาร์ตา รากนิติรัฐอังกฤษ-วิเคราะห์สังคมไทย
|
วันที่ 15 มิถุนายน 2558 เป็นวันครบรอบ 800 ปี กฎบัตรแมคนา คาร์ตา (Magna Carta)800 ปีที่แล้วตามหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ไทยน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ย้อนไปไกลกว่ากรุงสุโขทัย แต่ที่อังกฤษเริ่มมีการลุกฮือของเหล่าขุนนางเพื่อต่อรองกับกษัตริย์แมคนา คาร์ตา เป็นเอกสารข้อตกลงทางการเมืองฉบับแรกๆ ของอังกฤษ มันถูกนับให้เป็นจุดตั้งต้นของความเปลี่ยนแปลงใหญ่อันหนึ่งในสังคม เป็นการสร้างโครงร่างคร่าวๆ ของระบบนิติรัฐ เป็นข้อตกลงที่ บีบ ให้กษัตริย์ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย อันที่จริงถ้าพูดให้ตรงกว่า มันคือการที่บารอนทั้งหลายอยู่ภายใต้ระบบกฎหมายที่สร้างความอุ่นใจมั่นใจให้ชีวิตได้ ไม่ใช่ทุกอย่างขึ้นตามอำเภอใจกษัตริย์ ทั้งการเรียกทรัพย์สินต่างๆ หรือการลงโทษแม้มันจะไม่ใช่ สิทธิ สำหรับทุกคน มีไว้แต่บารอนเท่านั้น (ไม่รวมทาสของบารอนหรือประชาชนสามัญ) แต่มันก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่ผ่านมาแมคนา คาร์ตา อาจไม่ได้รับการพูดถึงมากนักในสังคมอังกฤษ แต่ปลายปีที่แล้วจนถึงปีนี้ รัฐบาลอังกฤษโปรโมตการเฉลิมฉลองครบรอบ 800 ปีของแมคนา คาร์ตา อย่างจริงจัง เอกสารฉบับจริงที่ยังหลงเหลือถูกนำออกมาจัดแสดงในศูนย์ศึกษาใกล้ปราสาทลินคอล์นและบริติชไลบารี่เอกสารเก่าแก่นี้ถูกเขียนขึ้นในภาษาลาติน มีความยาว 63 ประโยค มีการปรับแก้กันอยู่หลายครั้ง ผ่านมาหลายร้อยปี ทุกวันนี้ยังหลงเหลือ 3-4 ประโยคอยู่ในกฎหมายของอังกฤษก่อนจะเดินทางสู่ประวัติศาสตร์ของแมคนา คาร์ตา ประชาไท พูดคุยกับ มาร์ค เคนท์ (Mark Kent) เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ถึงความสำคัญของกฎบัตรหรือความตกลงนี้ ความเกี่ยวพันกับโลกสมัยใหม่ จนกระทั่งเชื่อมโยงกับประเทศไทยซึ่งมีระบอบการปกครองแบบเดียวกัน ลักษณะเฉพาะของสังคมไทย ไปจนถึงร่างรัฐธรรมนูญของไทย ซึ่งในขณะพูดคุยนั้น(1 พ.ค.) เริ่มมีการเปิดเผยร่างแรกแล้วแม้จะกระแสวิพากษ์วิจารณ์ยังไม่มีมากนักก็ตามมันเป็นเอกสารที่แสดงให้เห็นจริยธรรมของสังคมช่วงหนึ่งและมีหลายเรื่องที่ยังอยู่เป็นพื้นฐานของระบบกฎหมาย ระบบยุติธรรมของอังกฤษ เป็นพื้นฐานของหลักนิติธรรม ทำให้ไม่มีใครในประเทศอังกฤษที่อยู่เหนือระบบกฎหมายเรื่องอื่นที่สำคัญมากคือ สิทธิบุคคล ทำให้ทุกคนมีสิทธิถ้าถูกฟ้อง ถ้าไปศาลก็มีสิทธิมีเสียงในระบบกฎหมาย และสุดท้ายกฎบัตรแมคนา คาร์ตา เป็นรากฐานระบบประชาธิปไตยของประเทศอังกฤษคนที่ประเทศอังกฤษที่สนับสนุนสถาบันกษัตริย์ส่วนใหญ่มาก แต่ว่าคนที่อาจจะไม่เห็นด้วย ก็แสดงความคิดเห็นได้ โดยทั่วไปคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่ประเทศอังกฤษและประเทศที่มีระบบการปกครองอย่างเป็นประชาธิปไตย ทำให้ประเทศพัฒนาต่อไปได้โดยที่ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นอย่างสันติได้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยสันติได้ เราอาจจะไม่เห็นด้วย แต่ว่ามีความอดทนอดกลั้นเพื่อทำให้ทุกฝ่ายทุกส่วนพูดคุยกันได้โดยสันติ เราอาจจะไม่เห็นด้วยกัน แต่ว่าเราเคารพกันและกัน ถ้าเรามีระบบประชาธิปไตยส่วนรัฐบาลมาจากประชาชนส่วนใหญ่ เป็นตัวแทนของประชาชนส่วนใหญ่ แต่ว่าประชาชนที่อาจจะอยู่ส่วนน้อยทุกคนก็เคารพความคิดเห็นด้วยเป็นหลักการของระบบประชาธิปไตย เป็นหลักการของนิติธรรมนิติรัฐ เพราะฉะนั้นเราพูดคุยกัน เรามีการอภิปรายในรัฐสภาแต่ว่าถ้าเรามีสังคมที่ประสบความสำเร็จต้องทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ
|
มาร์ค เคนท์ (Mark Kent) เอกอัครราชทูตอังกฤษให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแมคนา คาร์ตา และการเมืองไทย ( 1 พ.ค.2558) วันที่ 15 มิถุนายน 2558 เป็นวันครบรอบ 800 ปี กฎบัตรแมคนา คาร์ตา (Magna Carta) 800
|
การเมือง,ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน
|
กฎบัตรแมคนา คาร์ตา,กษัตริย์,ความอดทนอดกลั้น,ประชาธิปไตย,มัลติมีเดีย,มาร์ก เคนท์,ระบบนิติรัฐ,อังกฤษ
|
https://prachatai.com/journal/2015/06/59785
|
มาริโอ้ สุดอึ้ง คนเดินเข้ามาทักด้วยการจับก้น เปลี่ยนเป็นเรียกชื่อจะดีกว่า
|
เป็นพระเอกอารมณ์ดีที่ใครๆ หลายคนต่างชื่นชอบในความหล่อและความฮาของหนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ แต่ล่าสุดเหมือนกับว่าหนุ่มคนนี้จะฮาไม่ออกซะแล้ว เมื่อเจอคนเดินเข้ามาทักทายแบบแปลกๆ ด้วยการจับก้นจนทีมงานต้องกันออกไป ถึงกับออกมาพูดขอวอนทุกคนหรือแฟนคลับที่เจอ ให้ทักทายโดยการเรียกชื่อกันดีๆ จะดีกว่าโดยเจ้าตัวได้เปิดเผยเรื่องนี้กับทางไนน์เอ็นเตอร์เทน ว่า ไม่เคยโดนทักทายด้วยการจับก้นมาก่อน ตนเองนั้นรู้สึกว่าแปลกๆ และประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยเจอมาก่อน อาจจะเป็นการทักทายในรูปแบบใหม่ แต่ถ้าแบบนี้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ และเจ้าตัวยังได้ฝากถึงแฟนคลับ และคนที่พบเจอตนเองตามที่ต่างๆ ว่า ให้ทักทายกันดีๆ ด้วยการเรียกชื่อกันจะดีกว่า อย่าบีบก้นกันเลย.ชมคลิป
|
มาริโอ้ สุดเหวอ หลังเจอคนเดินมาจับก้น จนโดนทีมงานกันออกไป วอนทักทายกันดีๆ ก็ได้
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
มาริโอ้,มาริโอ้ เมาเร่อ,มาริโอ้ โดนจับก้น,ข่าวบันเทิง,ดารา
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1749951
|
ร้องกองปราบช่วยด้วย พ่อมวยหญิงดัง หงส์ขาว เชื่อลูกสาวโดนฆาตกรรม
|
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ธ.ค.61 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พา นายสุริยันต์ ศรีไสล อายุ 51 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด บิดาของ น.ส.นิติยาภรณ์ ศรีไสล หรือ แนน เจ้าของฉายา หงส์ขาว ม.ราชภัฏจอมบึง อายุ 22 ปี นักมวยหญิงชื่อดัง และนักศึกษาเอกมวยไทยศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง เสียชีวิตด้วยการถูกแขวนคอที่ห้องเช่าในพื้นที่ อ.เมืองราชบุรี เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา เข้าพบ พ.ต.ท.อดิศักดิ์ ละม่อม สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ป.เพื่อร้องทุกข์กรณีการเสียชีวิตของ น.ส.นิติยาภรณ์ เนื่องจากยังคงติดใจสาเหตุว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรม ไม่ใช่ฆ่าตัวตาย โดยนำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องมามอบให้พนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา,นายสุริยันต์ กล่าวว่า เหตุที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่กองปราบปรามครั้งนี้ เพื่อขอให้ช่วยคลี่คลายคดีนี้ให้เร็วขึ้น เนื่องจากตนและญาติ ยังติดใจการเสียชีวิตของลูกสาว เนื่องจากสภาพศพไม่ได้มีเพียงร่องรอยที่ลำคอ ไม่ได้มีการเสียดสีกัน มีรอยพาดของเชือก 2 เส้น และเก้าอี้ที่เกิดเหตุดูเหมือนเป็นการจัดฉาก ไม่ได้อยู่ชิดติดกับศพ นอกจากนี้ไอแพดของลูกสาวก็หายไป จึงอยากรู้ว่าหายไปได้อย่างไร และช่วงที่เพื่อนของลูกสาวตนกลับออกไป ประตูก็ไม่ได้ล็อก จึงสงสัยว่าอาจเป็นเหตุฆาตกรรม โดยอาจจะมีคนเข้าไปทำร้ายลูก จึงติดใจและไม่เชื่อว่าจะเป็นการผูกคอฆ่าตัวตาย,นายสุริยันต์ กล่าวต่อว่า ยังไม่มีอะไรที่เป็นแรงจูงใจให้ลูกคิดจะฆ่าตัวตาย เนื่องจากลูกสาวไม่ได้มีแฟนแค่คนนี้คนเดียว เคยมีคนรักมาก่อนแล้ว แต่มีนิสัยที่เป็นคนตรงๆ เวลาพูดอะไรจะพูดตรงๆ ที่ผ่านมาเคยมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องความรัก เคยกินยาแก้ปวดเกินขนาด แต่พออาการหนักจะรีบโทรศัพท์เรียกพี่ ให้ช่วยพาไปล้างท้อง ถ้าคิดจะฆ่าตัวตายจริงๆ ตั้งแต่ครั้งนั้นคงจะกินยาฆ่าแมลงตายไปแล้ว,ส่วนที่ผมเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม เพราะมีคน 2 คนที่น่าสงสัย โดยช่วงหนึ่งมีคนมาติดตามเกาะแกะลูก อย่างที่ผมเคยให้ข่าวไปว่าเป็นหมอดู แต่ตำรวจยังติดตามตัวมาสอบสวนไม่ได้ ขนาดว่ารู้ชื่อแล้ว เวลาผ่านมาหลายวันตำรวจบอกเพียงว่าถ้าได้ตัวมาแล้วจะรีบบอกผม แต่ถึงขณะนี้ยังหาตัวไม่เจอ ส่วนอีกประเด็นเป็นเรื่องส่วนตัวยังไม่ขอให้รายละเอียดกับสื่อมวลชนในขณะนี้ แต่ได้ให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนไปแล้ว นายสุริยันต์ กล่าว,นายสุริยันต์ กล่าวอีกว่า ลูกสาวไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังนอกเหนือจากเรื่องเคยบอกว่ามีปัญหากับครอบครัวของฝ่ายแฟน แต่ไม่เคยพบว่ามีปัญหาขัดแย้งอะไรกับใคร โดยกับแฟนเขาทะเลาะกันจากเรื่องแฟนเก่าเพราะเคยเปิดรูปเก่าๆ ดู แต่ก่อนหน้านั้นเขาทะเลาะมีปากเสียงกันจนถึงขั้นทำร้ายร่างกาย และแจ้งความมาแล้ว เมื่อตนรู้เรื่องก็รู้สึกตกใจมาก,ด้าน พ.ต.ท.อดิศักดิ์ ระบุว่าในเบื้องต้นได้รับเรื่องและสอบปากคำนายสุริยันต์ ไว้ก่อน จากนั้นจะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป.
|
ทนายรณรงค์ พร้อมพ่อมวยไทยหญิงชื่อดัง หงส์ขาว ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง เข้าร้องกองปราบ ช่วยสางคดีลูกสาวแขวนคอดับสยองคาหอพัก เชื่อถูกฆาตกรรม ไม่ใช่ฆ่าตัวตาย
|
ข่าว,อาชญากรรม
|
หงส์ขาว,หงส์ขาว ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง,นักมวยผูกคอตาย,กองปราบ,ฆาตกรรม,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/crime/1455093
|
เจ้าหน้าที่อุทยานหมู่เกาะสิมิลัน ยันไม่ได้แกล้งจับชาวเล
|
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสิมิลัน ยึดเรือประมงขนาดใหญ่สองลำ เครื่องปั๊มอากาศ 2 เครื่อง ชุดดำน้ำลึก หน้ากากดำน้ำ ปลิงทะเลสีดำและสีแดงและสัตว์น้ำหายากน้ำหนักรวมกว่า 300 กิโลกรัม ระหว่างเข้าจับกุมนายวิชิต ช้างน้ำ พร้อมพวก 8 คน ขณะนำเรือประมงสองลำออกหาปลาในเขตอนุรักษ์เต่าทะเล หมู่เกาะหูยง ซึ่งเป็นเขตห้ามล่าสัตว์น้ำอย่างเด็ดขาดภายในพื้นที่อุทยานหมู่เกาะสิมิลัน หลังจากทั้งหมดได้ลักลอบเข้ามาจับสัตว์น้ำในพื้นที่ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสิมิลัน เปิดเผยว่า หลักฐานทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันตรวจสอบยึดได้ และการจับกุมในคร้ังนี้ไม่ได้กลั่นแกล้งชาวเลชุมชนราไวย์ เนื่องจากชาวเลกลุ่มนี้มีพฤติกรรมเข้ามาจับสัตว์น้ำในพื้นที่ห้ามล่าสัตว์น้ำในแนวเขตดูแลพิเศษ เพราะพื้นที่บริเวณนี้มีความสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำ และยังได้ใช้เครื่องมือที่ทันสมัย ซึ่งไม่ใช่การประมงดั่งเดิมเพื่อยังชีพตามที่ชาวเลได้กล่าวอ้างแต่อย่างใด
|
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เตรียมนำของกลางเรือประมงขนาดใหญ่และสัตว์น้ำหายากน้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม ไปแสดงต่อศาลจังหวัดตะกั่วป่า เพื่อยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้ง ชาวเลชุมชนราไวย์ จังหวัดภูเก็ต ที่ถูกจับ 9 คน ที่เข้าไปทำประมงในพื้นที่อนุรักษ์เต่าทะเล เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา
|
ภูมิภาค
| null |
https://news.thaipbs.or.th/content/118979
|
ขอเป็นพระเอกนอกจอ ณเดชน์ ร่วมร้องเต้นเล่นสนุกกับเยาวชนที่ขอนแก่น
|
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 ธ.ค. 2561 ที่ศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนเขต 4 ขอนแก่น นายสันทัด สุจริต อธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ เติมฝัน ปันรัก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งศาลเยาวชนและครอบครัว จ.ขอนแก่น ได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้น โดยมีเยาวชน และครอบครัวของเยาวชนที่เข้ารับการฝึกอบรม ในศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนเขต 4 จังหวัดขอนแก่น เข้าร่วมกันกิจกรรมอย่างคับคั่ง,ในช่วงของการดำเนินกิจกรรม ได้มีดารานักแสดงชื่อดัง นายณเดชน์ คูกิมิยะ เดินทางมาร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย เพื่อสร้างความบันเทิง และเสียงหัวเราะ รวมทั้งการร่วมร้อง เล่น เต้นรำ และพูดคุยให้กำลังใจกับเยาวชน ที่อยู่ภายในศูนย์ฯ ดังกล่าวด้วย สร้างเสียงกรี๊ดและเสียงหัวเราะ และรอยยิ้ม ให้กับเด็กและเยาวชน อย่างมาก,นายณเดชน์ คูกิมิยะ ดารานักแสดงชื่อดัง กล่าวว่า ขอให้ทุกคนท่องให้ขึ้นใจว่า จะไม่เข้ามาที่ที่นี้อีก เพราะขณะที่ทุกคนอยู่ข้างในนี้ไม่สามารถถ่ายรูปคู่กับทุกคนได้ แต่ขอสัญญาว่า หากพบเจอกันข้างนอก บอกเพียงว่า เคยทำกิจกรรมร่วมกันที่ศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนเขต 4 ขอนแก่นก็จะยินดีเป็นอย่างยิ่ง และจะถ่ายรูปคู่กับทุกคนที่พบเจอกัน,ผมดีใจที่ได้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ได้นำประสบการณ์จากชีวิตจริงของตัวเองมาเล่าสู่เยาวชนในศูนย์ฝึกอบรมฟัง เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจว่า เรามีโอกาสผิดพลาดพลั้งเผลอ แต่เมื่อเข้ามารับการอบรมภายในศูนย์ดังกล่าวแล้วก็เป็นโอกาสดีที่จะได้ฝึกฝนในเรื่องของความอดทนในตัวเอง เยาวชนทุกคนเป็นคนดีของครอบครัวและสังคม ขอเพียงให้ทุกคนมีความอดทน และตั้งใจ มุ่งมั่นทำแต่สิ่งดีๆ ก็จะประสบความสำเร็จได้ พระเอกหนุ่ม กล่าว,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตลอดทั้งช่วงของการจัดกิจกรรม นั้น นายณเดชน์ คูกิมิยะ ดารานักแสดงชื่อดัง ได้สร้างความสุข และความประทับใจให้กับเยาวชนและครอบครัวที่มาร่วมกิจกรรมเป็นอย่างมาก โดยได้มีการแจกเสื้อให้เยาวชนเสียงดี การมอบอาหารกลางวันให้กับเยาวชนนำไปรับประทานกับครอบครัว รวมจำนวน 700 กล่อง.
|
ณเดชน์ ร่วมร้อง เล่น เต้น สร้างความสุขและรอยยิ้ม ให้กำลังใจแก่เด็กและเยาวชนในศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนเขต4 ที่ขอนแก่น ย้ำขอให้น้องมุ่งทำดี อย่าได้หลงทำผิดกลับมาอีก พร้อมยินดีถ่ายรูปกับทุกคน.
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ณเดชน์ คูกิมิยะ,ขอนแก่น,ศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนเขต 4,ร้องเล่น,เยาวชนหลงผิด,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1437066
|
วัยรุ่นชายกราดยิงในโรงเรียนมัธยมที่สหรัฐฯ เสียชีวิต 2 คน
|
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุสะเทือนขวัญที่โรงเรียนเซากัส ไฮสกูล ในเมืองซานตา แคลริตา ทางตอนเหนือของนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเหตุเกิดในช่วงเช้าก่อนเข้าชั้นเรียน ผู้ก่อเหตุเป็นวัยรุ่นชายอายุ 16 ปี ใช้อาวุธปืนที่ซ่อนมาในเป้กราดยิงเพื่อนนักเรียน เสียงปืนสร้างความตื่นตกใจทำให้เด็กนักเรียนต่างพากันวิ่งหนีหาที่กำบังมีรายงานว่า ตำรวจนำกำลังมาปิดล้อมโรงเรียนทันทีหลังได้รับแจ้งเหตุ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเด็กนักเรียนถูกยิงทั้งหมด 6 คน ในจำนวนนี้ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิต 2 คน ส่วนอีก 4 คนที่ได้รับบาดเจ็บมีผู้ก่อเหตุร่วมอยู่ด้วยเบื้องต้น ตำรวจเปิดเผยว่าวัยรุ่นชายที่ก่อเหตุมีเชื้อสายเอเชียและลงมือเพียงลำพัง ซึ่งหลังก่อเหตุกราดยิงนักเรียนแล้ว วัยรุ่นชายคนดังกล่าวได้ใช้ปืนยิงตัวเองจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยปืนที่ใช้เป็นปืนพกกึ่งอัตโนมันขนาด .45 ตำรวจยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุเหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นเหตุสะเทือนขวัญจากอาวุธในโรงเรียนสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นล่าสุด แม้ว่าที่ผ่านมาโรงเรียนหลายแห่งจะซ้อมรับมือความรุนแรงจากอาวุธปืน แต่ก็ยังมีเหตุร้ายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
|
วัยรุ่นชายวัย 16 ปีก่อเหตุกราดยิงที่โรงเรียนมัธยมในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีนักเรียนเสียชีวิต 2 คน ตำรวจยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุ
|
ต่างประเทศ
|
กราดยิง,กราดยิงในโรงเรียน,รัฐแคลิฟอร์เนีย,สหรัฐอเมริกา,ปืน
|
https://news.thaipbs.or.th/content/286110
|
Why Dont We สร้างปรากฏการณ์ความมันส์ กับคอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองไทย
|
ผู้จัดไฟแรง บริษัท Teenage Dream Corporation สร้างปรากฏการณ์คอนเสิร์ตบอยแบนด์สุดฮอตจากอเมริกา เอาใจแฟนชาวไทยกับ Why Dont We The Invitation Tour Live in Bangkok 2018 powered by GET 102.5 กับการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกที่เมืองไทย ที่หนุ่มๆ พกความน่ารักและจัดเต็มความสนุกมาแบบไม่ยั้งท่ามกลางแฟนเพลงที่ตามมาให้กำลังใจกันอย่างคับคั่ง ณ GMM Live House - Central World , , เป็นการปิดท้ายเอเชียทัวร์ของ 5 หนุ่ม Why Dont We อย่าง Jonah Marais, Corbyn Besson, Daniel Seavey, Jack Avery และ Zach Herron ได้อย่างสวยงามและการตอบรับจากชาวเอเชียอย่างอบอุ่น กับการมาเยือนไทยเป็นครั้งแรก เรียกได้ว่าสมการรอคอยจริงๆ เพราะนอกจากความน่ารักและขี้เล่นที่ทำเอาเรียกเสียงกรี๊ดได้แบบทั้งฮอลล์แล้ว โปรดักชั่นทั้ง แสง สี เสียง ก็จัดเต็มมาพร้อมกับเพลงฮิตจากทุกอัลบั้ม ไม่ว่าจะเป็น On my way, Invitation, These girls, Trust fund baby, Hooked และเพลงฮิตอื่นๆ อีกมากมาย,นอกจากนี้หนุ่มๆ ยังเซอร์ไพรส์แฟนชาวไทยด้วยการใส่ชุดลายช้างแบบไทยๆ ขึ้นมาร้องมาเต้นบนเวทีอีกด้วย ต้องยอมรับว่าพวกเขาไม่ได้มีดีแค่หน้าตาแน่นอนเพราะเสียงของพวกเขาโชว์ดีไม่มีตกกันแบบฟังเพลินโยกตามได้ตลอดทั้งโชว์ จัดว่าเป็นคอนเสิร์ตที่ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม และไม่ทำให้แฟนเพลงผิดหวังเลยจริงๆ
|
Why Dont We The Invitation Tour Live in Bangkok 2018 powered by GET 102.5 ทางผู้จัด Teenage Dream Corporation จัดโปรดักชั่นสุดอลัง ให้สมการรอคอยของแฟนชาวไทย
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
คอนเสิร์ต,Why Don’t We,นักร้อง
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1366675
|
ชาวบ้านต้านท่าทราย ฝุ่นทำนักเรียนป่วย
|
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 มี.ค. หัวหน้าฝ่ายอำนวยความเป็นธรรม ร.อ.โกมินทร์ บุญภา ผบ.ร้อยทหารพราน 3103 ตัวแทนกรมเจ้าท่า ตัวแทนเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเชียงราย สาขาเชียงแสน นายคำมี ท่าทิพย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 และนายชาติชาย ทาลังกา เจ้าของท่าทรายศรีลังกา มาพบชาวบ้าน เพื่อร่วมทำประชาคมกับชาวบ้านสันธาตุ ซึ่งมีชาวบ้านบ้านสันธาตุประมาณ 200 คน นั่งถือป้ายต่อต้านอยู่ในศาลาวัด,นางนวลจันทร์ได้เปิดโอกาสให้ชาวบ้านที่มาชุมนุมแสดงความคิดเห็น ซึ่งชาวบ้านต่างลงความเห็นว่า จะไม่ยอมให้มีการเปิดท่าดูดทรายเด็ดขาด เพราะที่ผ่านมามีปัญหามากกับชาวบ้าน โดยนายถาวร แก้วพิช ประธานประชาคมบ้านสันธาตุ ได้ลุกขึ้นกล่าวว่าชาวบ้านไม่เห็นด้วยที่จะให้มีท่าทรายในหมู่บ้านสันธาตุ เพราะจะมีรถบรรทุกทรายวิ่งเข้า-ออกตลอดเวลา ซึ่งทำให้เกิดฝุ่นละออง เป็นสาเหตุให้นักเรียนที่โรงเรียนอยู่ริมถนนมีอาการไม่สบาย ถนนในหมู่บ้านพังเสียหาย ถึงแม้จะเรียกมาทำประชาคม ชาวบ้านก็ล้วนแต่ไม่เห็นด้วยและไม่ยินยอมให้มีการต่อใบอนุญาตให้กับท่าทราย นายถาวรกล่าว,ทางด้านนายชาติชาย ทาลังกา เจ้าของท่าทราย กล่าวว่า ท่าทรายของตนดำเนินกิจการดูดทรายในแม่น้ำกกมาประมาณ 20 กว่าปีแล้ว เมื่อปี 2556 โดนประท้วงจากชาวบ้านและต้องปิดดำเนินการมาประมาณ 2 ปีเศษแล้ว ซึ่งตนก็อยากจะขอความเห็นใจจากชาวบ้านให้ตนได้เปิดท่าทราย เพื่อต่อธุรกิจที่ทำมานานกว่า 20 ปี แต่ถ้าหากชาวบ้านยังยืนกรานไม่ให้ตนเปิดท่าทราย ตนก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปเพื่อให้ท่าทรายสามารถเปิดได้.
|
ที่ศาลาวัดสันธาตุ หมู่ 4 ต.โยนก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มีการทำประชาคมเรื่องการต่อใบอนุญาตให้กับท่าทรายศรีลังกา มีนางนวลจันทร์ โพธิ์วิจิตร ปลัดอำเภอเชียงแสน
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
เชียงราย,เชียงแสน,ชาวบ้านต้านท่าทราย,นวลจันทร์ โพธิ์วิจิตร,ชาติชาย ทาลังกา,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
|
https://www.thairath.co.th/news/local/591561
|
ต๊ะ พิภู เปิดใจครั้งแรก เพราะอะไรถูกเด้งจากเรื่องเล่าเช้านี้ (คลิป)
|
กลายเป็นเรื่องฮือฮาในวงการข่าวไม่น้อย เมื่อผู้ประกาศข่าวหนุ่มจากวิก 3 ต๊ะ พิภู พุ่มแก้ว ตัดสินใจออกจากการเป็นผู้ประกาศข่าวรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 และมาทำหน้าที่ผู้ประกาศข่าวในรายการ เช้าวันนี้ GMM News เวลา 6.00-8.00 น. ทางช่อง GMM25 ตามคำชักชวนของดีเจ-พิธีกรหนุ่ม อั๋น ภูวนาท คุนผลิน ที่ทำหน้าที่ผู้ประกาศข่าวเช้าของที่นี่,และเมื่อช่วงสายของวันที่ 19 ธ.ค. 2560 ที่ผ่านมา ต๊ะ ได้เปิดใจถึงการมาร่วมงานกับช่อง GMM25 เป็นครั้งแรก โดยมี อั๋น มาร่วมให้ข้อมูลด้วย,พูดถึงการมาร่วมงานของต๊ะในช่อง GMM25?,อั๋น : ก็ถือว่าใหม่แกะกล่องสำหรับเราแต่ไม่ใช่สำหรับคนไทยและวงการข่าวเพราะเขาเป็นคนข่าวอยู่แล้ว แต่เป็นครั้งแรกที่เราได้ร่วมงานกันในปี 2018 ที่จะถึงนี้ คุณต๊ะก็จะมาอยู่ข่าวเช้าด้วยกันครับ ดีใจและตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับต๊ะครับ แต่ก็รู้จักกันมาอยู่แล้วแต่ยังไม่เคยร่วมงานจริงจัง ส่วนเรื่องฝีมือหรือผลงานต่างๆ มันก็เห็นกันอยู่แล้ว เกือบจะไม่มีคำถามตรงนั้น มันอยู่ที่ว่าเราคุยกันแล้วมีความลงตัวในแนวทางของทั้งข่าวและของส่วนตัวด้วย ของนโยบายช่อง ทิศทางช่องด้วย คุยกันตรงๆ เปิดใจทุกอย่าง,ตอนที่ผมคุยกับต๊ะตอนนั้น ผมบอกจุดอ่อนจุดด้อยก่อนจุดดีด้วยซ้ำ ให้เขารู้ก่อนเพื่ออยากให้เขาสบายใจก่อนว่าทุกที่มีจุดแข็งจุดอ่อนของเรา เราคิดว่าต๊ะจะเข้ามาช่วยเราตรงจุดไหนได้บ้าง เรายังอ่อนตรงนี้ ภายในหน้าหลังเราอะไรยังไงบ้าง,คิดว่าต๊ะจะมาเติมเต็มยังไงบ้าง?,อั๋น : หลักๆ แล้วข่าวเช้าที่ผ่านมาผู้ประกาศหลักมีแค่ 2 คน แต่ปีหน้าจะเป็น 3 คนเลย เขาจะมาเป็นผู้ประกาศข่าวหลักที่เข้มแข็งในทีมหลักในช่วงเช้า ปีหน้าเราจะเพิ่มเวลาเป็น 2 ชม.เต็ม ชัดขึ้น ลึกขึ้น เต็มขึ้น แข็งแรงขึ้น รอบด้านขึ้น ซึ่งผมว่าสำคัญเลยก็คือไม่ใช่แค่คนที่อ่านได้ อ่านชัด แต่สิ่งที่ผมว่าน่าสนใจคือเรื่องของมุมมอง ทัศนคติ ความรู้รอบตัว ผมว่าในยุคปัจจุบันมันเป็นหน้าที่ของสื่อแล้ว,เมื่อก่อนคนจะบอกว่าไม่ใช่หน้าที่ของผู้ประกาศข่าวที่จะแสดงความคิดเห็น แต่ในยุคปัจจุบันนี้มันเป็นยุคที่ผมมองว่าทุกคนพร้อมจะคลิกคอมเมนต์และตอบ อาจจะดูทีวีแต่ไปคอมเมนต์ที่อื่น เราไม่ได้จะบอกว่าเราเป็นผู้ชี้นำสังคมนะ แต่ผมว่าในมุมนึงเราก็ต้องช่วยขยาย หรือต้องชี้ให้เห็นว่ามันมีข้อมูลอื่นอีกนะที่อาจจะยังไม่ถูกนำเสนอ ใจเย็นๆ นะ เดี๋ยวเราเอาตรงนี้มาเติมให้นะ,ตอนชวนต๊ะมานี่ยากไหม?,อั๋น : ถามต๊ะดีกว่าครับ (หัวเราะ),ทำไมตัดสินใจมาร่วมงานกับ GMM25?,ต๊ะ : ผมใช้หลายๆ เหตุผล ถ้าจะไล่เรียงก็จะยาว ผมไล่มาตั้งแต่เรื่องคุณธรรม ความจริงใจ ความเหมาะสม เวลา รวมถึงเรื่องเงินด้วย เพราะชีวิตในวงการข่าวของผมปีหน้าเดินทางมาปีที่ 10 ก็ผ่านอะไรมาพอสมควร หลังจากทบทวนตัวเองดูแล้วก็ถามตัวเองว่าต้องการอะไร,เหมือนที่พี่อั๋นพูดว่าโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว มันอยู่ในยุคดิจิตอล ทุกคนเป็นผู้สื่อข่าวได้หมดครับ แต่คนที่จะเป็นผู้ประกาศข่าวให้คนสนใจหรืออยากอยู่กับเรา อยากดูเราทุกวัน ผมว่าเป็นความแตกต่างที่เราต้องสร้างขึ้นครับ,ทุกคนเป็นผู้สื่อข่าวได้ อยากเสนออะไรก็เสนอ มีสื่ออยู่ในมือ แต่คนที่สามารถคิดวิเคราะห์ อาศัยประสบการณ์ชีวิต หรือมีจรรยาบรรณการข่าวที่จะนำสิ่งนั้นมากลั่นกรองนำเสนอออกมาและทำให้ผู้คนเชื่อหรือสนใจ อันนี้มันก็แคบลงมาแล้ว จะต้องเป็นบุคคลที่ทำงานในศาสตร์นี้จริงๆ ครับ หลังจากคิดทบทวนตัวเองสักพักนึง จริงๆ มีข้อเสนอหลายที่ แต่ด้วยเหตุผลหลายๆ ข้อ,อั๋น : เท่าที่ผมทราบเกือบทุกช่องครับ,ต๊ะ : ไม่ถึงขนาดนั้น เราไม่คิดว่าจะมีคนสนใจขนาดนั้น ก็มีพอสมควรครับ แล้วพี่อั๋นเป็นคนแรก อาจจะเพราะเขารู้ก่อนด้วย คือผมจะต่างจากคนอื่น ผมอาจจะซื่อไปหน่อย ปกติก่อนจะเปลี่ยนงานจะหาทางหนีทีไล่ก่อน เราจะออกจากที่เก่าเพราะเราได้ที่ใหม่แล้ว,แต่ผมอยากพักผ่อน อยากมีเวลาหยุดชีวิตที่เดินเร็วๆ อยากทบทวนตัวเองหลายอย่าง เพราะฉะนั้นผมก็หยุดก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ ผมเพิ่งตัดสินใจมาที่นี่ไม่ถึง 10 วันมั้ง,อย่างที่บอกไปผมใช้คำว่าความจริงใจ ผมรู้สึกว่าเออ พี่อั๋นเปิดอกกับผมตั้งแต่แรก และคุณธรรมคือการเดินทางในงานสายของผมที่ไปมาหลายที่ ทุกครั้งที่ผมไปลงที่ไหนก็ตามแต่จะต้องมีคนได้รับผลกระทบ คือมันไม่ได้ผิดที่ผม แต่ทำให้เขากระเด็นไปจุดอื่น ซึ่งผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเพราะผมรู้ว่าวงการนี้อยู่ยากพอสมควร ไม่อยากให้กระทบกับใครครับ,และความเหมาะสมคือเรื่องของเวลา การแบ่งพาร์ตในชีวิตของผม มันมีข้อเสนอที่อื่นจริง แต่ว่าบางที่ช่วงเวลาผมไม่อยากอยู่ตรงนั้นในเวลานั้น ผมอยากอยู่เช้าเพราะผมตื่นเช้าและผมได้อยู่กับพี่อั๋นด้วย พี่อั๋นเป็นเหมือนอาจารย์ของผมไปในตัวเพราะว่าย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ตอนผมสอบผู้ประกาศ พี่อั๋นก็เป็นกรรมการอยู่ในนั้น วันนึงได้นั่งกับอาจารย์อีกครั้งก็เป็นอะไรที่ดีครับ,อั๋น : แต่จะพูดเรื่องเงินนิดนึงแล้วกัน เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าไปซื้อมา ยืนยันว่าเขาไม่ได้มาเพราะเราให้เงินเยอะกว่าที่อื่น,ต๊ะ : เกือบจะน้อยที่สุดแล้วด้วยครับ,อั๋น : คือน้อยที่สุดรึเปล่าผมไม่ได้ถามนะว่าที่อื่นให้ยังไงเท่าไร แต่ที่แน่ๆ เราไม่ใช่คนที่มากที่สุดครับ,ต๊ะ : ไม่ใช่เรื่องเงินครับ แต่ว่ามันเป็นเรื่องเหตุผลหลายอย่าง เงินเนี่ยมาท้ายๆ เลย เอาพออยู่ได้ครับ,ขอถามถึงกระแสที่มองว่าที่ต๊ะออกมาเป็นเพราะรายการเรื่องเล่าเช้านี้เรตติ้งไม่ดีเท่าไร?,ต๊ะ : ผมก็ยอมรับนะครับ มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมไม่ได้โทษตัวเองทั้งหมด แต่ผมมองว่าผมก็มีส่วนที่ผมต้องรับผิดชอบอยู่ด้วย การทำงานทุกอย่างมันเป็นทีม ไม่ขึ้นอยู่กับใครคนใดคนหนึ่งครับ แต่ถ้าผู้ใหญ่หรือว่าคนที่วางแผนทั้งหมดมองว่ามันจะต้องมีคนรับผิดชอบ ผมพร้อมจะเป็นคนรับผิดชอบในจุดนั้น,แต่ผมแค่บอกว่าในที่เก่าก่อนจะก้าวเข้ามา สถานการณ์ก็ไม่ดีครับ และผมไม่มีความสามารถมากพอที่จะฉุดหรือดึงขึ้นมาให้ดีกว่าเดิมได้ ผมก็ยอมรับตรงนี้อย่างลูกผู้ชาย ซึ่งทุกอย่างมันอยู่ในการเจรจาการคุยตั้งแต่ต้นแล้วว่าถ้าผมทำไม่ได้ ผมพร้อมจะเดินออกมาเอง,เสียใจไหมที่คนมองในแง่นั้น?,ต๊ะ : แล้วแต่เลยครับ ผมไม่เสียใจ เพราะผมรู้ว่าอะไรมันเกิดขึ้น ผมรู้ว่าผมทำได้แค่ไหน ผมรู้ว่าหน้าที่หรือกรอบที่ถูกวางไว้มันแค่ไหน เพราะผมทำเต็มที่ ผมไม่มีอะไรเสียใจ ผมห้ามความคิดคนไม่ได้ ผมห้ามคนอื่นวิเคราะห์ไม่ได้ แต่คนที่รู้ความจริงมันอาจจะมีอยู่ไม่กี่คน แล้วเดี๋ยวเวลามันพิสูจน์เองว่าสุดท้ายเป็นเพราะผมรึเปล่า มันเป็นเพราะอะไรกันแน่ แต่อย่างที่บอกว่าถ้าต้องรับผิดชอบ ผมเป็นลูกผู้ชายพอ ผมพร้อมรับผิดชอบเสมอ,พอออกมาแล้วสบายใจกว่าเดิมไหม?,ต๊ะ : พูดกันตรงๆ ตอนออกมาสบายใจกว่าตอนอยู่ครับ ตอนอยู่กดดันกว่า แต่มาที่นี่ก็พร้อมจะแบกรับความกดดันเหมือนกัน (ยิ้ม) ซึ่งผมก็บอกกับพี่อั๋นว่าดูกันปีต่อปีว่าถ้ามาแล้วมันไม่เวิร์ก ผมพร้อมจะไปเองเหมือนกันครับ,ต๊ะตั้งเป้ากับที่นี่ยังไงบ้าง?,ต๊ะ : ผมจะค่อยๆ พยายาม คือตอนนี้ผมจะไม่ก้าวก่ายอะไรครับ ผมทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก่อน แต่เมื่อเป็นส่วนผสมนึงที่เริ่มอยู่ไปเรื่อยๆ จะค่อยๆ อยากช่วยเพิ่มบทบาท ช่วยคิดวิเคราะห์ ช่วยสร้างทีมแต่ละอย่าง,ผมมาจุดนี้เพราะผมอยากทำหลายๆ อย่าง อยากเริ่มเติบโตและสร้างไปด้วยกัน จีเอ็มเอ็มมีจุดแข็งเยอะนะครับ แต่ผมคิดว่ายังไม่ใช่ข่าว แต่ถ้าผมช่วยสร้างตรงนี้ได้ผมก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับนึงครับ,ผมก็ทำการบ้านมาพอสมควร ผมถึงขั้นค้นหาตัวเลขเก่าๆ ว่าทุกเช้าที่ผมจะมาอยู่ มีคนดูประมาณกี่คน ตั้งเป้า 3 เดือนแรกอยากเพิ่มเท่าไร ผมก็มีการทำการบ้านของผมเอง แต่คงไม่ชี้แจงตรงนี้ว่าตัวเลขอะไรยังไงนะครับ,เตรียมอะไรมาบ้างกับการมาอยู่ที่นี่?,ต๊ะ : เอาตรงๆ ผมเตรียมแค่ตัวกับหัวใจ ที่เหลือเดี๋ยวก็มาลุยกันหน้างานตรงนี้ครับ เพราะงานข่าวเป็นงานที่ปัจจุบันอยู่แล้ว มันเป็นวันต่อวัน ส่วนใหญ่อยู่ที่ประสบการณ์ที่เราเตรียมมากับความตั้งใจ แค่นั้นผมก็ว่ามากเกินพอแล้วครับ,รายการข่าวเช้ามีคู่แข่งค่อนข้างเยอะ เตรียมรับกับตรงนี้ยังไงบ้าง?,ต๊ะ : ต้องยอมรับว่าเราต้องทำให้ทุกคนเปิดโอกาสให้เราก่อนครับ มันก็มีเจ้าใหญ่ๆ อยู่ในตลาดตอนข่าวเช้าอยู่แล้ว เพราะเป็นสนามแข่งที่โหดที่สุดตอนนี้ อย่างที่เราทราบกันดีว่าเจ้าพ่อวงการสื่อท่านนึงเกิดอุบัติเหตุบางอย่าง ทำให้ไม่สามารถอยู่ตรงนี้ได้ เพราะฉะนั้นเรตติ้งก็กระจายออกไป มันเลยกลายเป็นสงครามที่ทุกคนทุ่มกำลังเพื่อแข่งขันดึงเรตติ้งตอนเช้า,ถ้าใครที่ทำการบ้านแล้วเช็กมาบ้าง ตอนนี้จะมีอยู่ 3 ที่ที่ครองส่วนแบ่งเรตติ้งเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผมตั้งเป้าหมายไว้ในใจเองและมีโอกาสคุยกับพี่อั๋นตรงๆ ว่าถ้าเราสามารถดึงและแบ่งเข้ามาได้ทีละนิดหน่อย ด้วยความเป็นเราที่ไม่ใช่แค่ผม เราก็ประสบความสำเร็จในระดับนึงแล้วครับ,แสดงว่าอั๋นค่อนข้างเปิดโอกาสให้ต๊ะมีส่วนร่วมในการทำรายการข่าวเช้า?,อั๋น : นั่นคือความตั้งใจ แต่ว่ามันยังไม่ถึงขนาดว่าเปิดมาแล้ว ตอนนี้ยังครับ ตอนนี้เราก็อยู่ในระหว่างปรับกัน เราต้องเข้ากันให้ได้ก่อน ตอนแรกก็กำลังคิดว่าเราจะเข้ากันยังไงดี เพราะแน่นอนว่าผมก็เป็นผม เขาก็เป็นเขา หมอเอิงก็เป็นหมอเอิง เราจะหาส่วนผสมใหม่ยังไงให้เป็นส่วนผสมที่ลงตัว ทุกคนต้องปรับหมดเลย มันเป็นธรรมชาตินะ,วันนี้เป็นวันแรกที่เมื่อสักครู่ตอนเช้าพอจบปุ๊บ เราลองเอาข่าวมาแล้วลองเล่าในแบบของเรา แล้วลองดูซิว่าหน้าจอเป็นยังไง ก็หารือกันว่าเราจะแบ่งกันยังไง ถนัดแบบไหน แต่ผมลองเสร็จปุ๊บ เขาลงไปทานข้าว หมอเอิงยังพูดเลยว่าพี่อั๋น เอิงว่ามันจะต้องดีมากเลย แล้วเราก็บอกว่าใช่ พี่รู้สึกว่ามันจะต้องดีมาก,ตอนแรกผมแอบกังวลนิดหน่อยว่าคุณต๊ะจะมาแบบแนวรายงานอย่างจริงจังขนาดไหนนะ เราจะปรับมายังไงกัน เกือบจะไม่ได้บรีฟด้วยนะว่าพี่ไม่อยากได้ยังงั้นยังงี้ เพราะผมอยากให้เขาเป็นเขา แต่ว่าเป็นเขาในเวอร์ชั่นที่มีการปรับเปลี่ยน แต่พอมานั่งปุ๊บ ลองปุ๊บ พี่แทบไม่ได้บอกอะไรเลย ผมก็สบายละ ผมคิดว่าวันที่ 1 ก็เริ่มได้เลย,เรียกว่าราบรื่นเลยไหม?,อั๋น : เรียกว่าการซ้อมดีกว่า,ต๊ะ : มันเร็วเกินไปที่จะสรุปแบบนั้นครับ บางสิ่งบางอย่างต้องให้เวลา เคมีต้องค่อยๆ ใช้เวลาในการปรับ แต่เท่าที่ลองดูวันนี้ผมรู้สึกว่าผมโอเค คือดูแล้วมันน่าสนุกและมีความสุขที่ได้ทำงานร่วมกัน มันไม่ได้คนนี้นำ คนนี้ตาม ทุกอย่างมันไปด้วยกัน เราก็สลับๆ กันไปครับ,อั๋น : ผมว่ามันอยู่ในระหว่างการที่เราต้องแบ่งกันเท่านั้นเอง ผมว่าเขายังเกร็งนิดนึงด้วยซ้ำ ผมว่าเขายังนำได้อีกเยอะมาก วันนี้เขายังไม่ได้ปล่อยของเลย ผมคิดว่าเขาปล่อยให้ผมกับคุณเอิงก่อนเป็นเรื่องปกติ วันนี้เป็นวันแรก ซึ่งผมไม่ได้บอกว่ายังใส่เข้ามาได้อีก แต่ผมคิดว่าถึงเวลาปุ๊บเขาก็จะได้เอง ผมว่าเขามีศักยภาพอยู่แล้ว ไม่มีอะไรห่วงเลย,ตั้งเป้าไว้กับทีมงานคนใหม่คนนี้ยังไงบ้าง?,อั๋น : คือจริงๆ ผมว่าก็ไม่เชิงแบกความกดดันอะไร ถ้าจะมองว่ากดดัน ผมว่ามันกดดันทั้งอุตสาหกรรมในเรื่องของสื่อ ผมว่าไม่ใช่แค่สื่อดิจิตอลด้วย ผมว่าทุกสื่อแม้แต่สื่อออนไลน์ที่กำลังมา แล้วมาที่ใครล่ะ (ยิ้ม) วันนี้อยู่กับฉัน พรุ่งนี้อยู่กับเธอ วันนี้ล้านวิว อีกวันอยู่หลักพัน มันไม่มีอะไรมั่นคงเลย มันเป็นการคาดเดาไม่ได้ครับ ฉะนั้นมันอยู่ในระหว่างการจับกัน,ในโลกการไขว่คว้าตรงนี้ ทุกคนพยายามที่จะหาหลักเกาะให้ได้ไง ผมว่ายังไงซะทีวียังคงเป็นสื่อหลัก บางคนบอกว่าเดี๋ยวนี้รับสื่อผ่านสารพัดช่องทาง นั่งอยู่เฉยๆ ยังมีข่าวมาบอกเลย แต่สิ่งที่แตกต่างคือสื่อที่มาจากทีวีคือข่าวที่กรองแล้ว อาจจะช้ากว่าโซเชียล แต่เราน่าจะมีประสบการณ์กันเยอะแล้วว่าข่าวนั้นมันผิดมันพลาด มันไม่ครบ ไม่ได้มาพร้อมการกลั่นกรองหรือสติ,ไม่ใช่ทั้งหมด ในนั้นก็มีจริงอยู่ ผมว่ามีจริงซะส่วนใหญ่ แต่ผิดก็ไม่ใช่น้อย ฉะนั้นอย่างน้อยสิ่งที่ชัดเจนคือกลับมาที่สื่อหลัก ผมมั่นใจว่าสื่อทีวีมีการตรวจสอบเยอะมาก นี่คือหัวใจที่ทีวีทุกช่องพยายามทำ รวมถึงเราด้วยครับ,ซึ่งตรงกับจุดประสงค์ที่ต๊ะตัดสินใจมาร่วมงานครั้งนี้ใช่ไหม?,ต๊ะ : ครับ ผมว่าหัวใจของข่าวและความน่าเชื่อถือของสื่อทีวีที่ทำให้อยู่ได้ ความถูกต้องในการกลั่นกรอง ความเหมาะสม มันจะไม่มีอะไรหลุดไปแบบลวกๆ มันจะเป็นงานที่ผ่านการกรองแล้วเพราะมีระบบเซ็นเซอร์ ทีมงานที่ทำส่วนใหญ่เป็นมืออาชีพ มีจรรยาบรรณ เรียนรู้เรื่องสื่อพอสมควร,ไม่เหมือนสื่อโซเชียลที่ทุกคนเป็นสื่อได้หมด เพราะฉะนั้นอยู่ที่วิจารณญาณแต่ละคน ดังนั้นผมเชื่อว่าทีวียังเป็นสื่อหลักที่อยู่คู่กับคนไทยไปนานพอสมควรเลยทีเดียว ดังนั้นวิธีการคือต้องทำให้ดีขึ้นทุกวัน เพราะตอนนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ และอาจเกิดขึ้นเร็วจนปรับตัวไม่ทันครับ,ต้องยอมรับว่าการมีตัวเลือกมากก็ทำให้คนหลายใจได้ง่ายขึ้น ดังนั้นตอนนี้ทุกคนมีสิทธิ์จะเลือก วันนึงเขาเบื่อเขาก็เปลี่ยนแล้ว ถ้าเขาเปลี่ยนมาดูแล้วชอบเรา เขาอาจจะอยากดูเราไปนานๆ ก็ได้ครับ นั่นคือสิ่งที่เราพยายามจะทำครับ,แฟนคลับที่ติดตามต๊ะจากรายการเก่า เขาเซอร์ไพรส์ไหมที่เรามาที่นี่?,ต๊ะ : เดี๋ยวคงจะต้องเซอร์ไพรส์แน่เพราะผมยังไม่ได้บอกใครเลยครับ และผมคงจะอธิบายสั้นๆ เหมือนที่อธิบายพี่ๆ ว่าผมตัดสินใจเลือกที่นี่เพราะที่นี่เลือกผมก่อน และผมเลือกเพราะอะไร เพราะทุกอย่างมีเหตุและมีผลซ่อนอยู่,อั๋น : นี่เป็นการบอกอย่างเป็นทางการครั้งแรกครับ,ต๊ะ : บางคนยังคิดว่าผมไปที่อื่นอยู่เลยครับ,จุดแข็งที่เรานำมาเสริมกับทีมข่าวจีเอ็มเอ็มมีอะไรบ้าง?,ต๊ะ : ผมไม่กล้าพูดอะไรที่เป็นการอวยตัวเองมากนักนะครับ แต่สำหรับผมจะมีภาพลักษณ์ของความขึงขัง จริงจัง ด้วยความที่ผมไม่เคยเล่นละคร ไม่เคยอยู่ช่องทางบันเทิงอื่นๆ มากนัก ยกเว้นการเป็นพิธีกร ประสบการณ์ที่สั่งสมมาตรงนี้ 9 ปีเต็มๆ น่าจะเป็นจุดนึงที่ทำให้คนรู้สึกว่าดูแล้วเชื่อมากขึ้น,คนไทยจะมี preception บางอย่าง บางคนจะดูที่ตัวคนก่อน คนบางคนลุคดูดีแต่จริงๆ แล้วพูดมั่วไปหมด แต่คนดันเชื่อ ในขณะที่คนบางคนอาจจะดูทะเล้น ไม่น่าเชื่อถือ แต่สิ่งที่เขาพูดเชื่อได้ทุกคำ แต่ปัญหาคือคนอาจไม่เชื่อเขาเพราะไม่เชื่อที่ตัวตนเขา ผมโชคดีที่จุดแข็งของผมมีตัวตนที่คนน่าจะเชื่อถือพอสมควรครับ,พอมาร่วมงานกับอั๋น ต้องปรับตัวเองเยอะไหม?,ต๊ะ : ผมคิดว่าไม่ต้องปรับมากครับ ผมคิดว่าพี่อั๋นเป็นคนเปิดใจและเปิดโอกาสให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเอง อย่างที่ผมบอกว่าตอนทดสอบก็รู้ว่าหมอเอิงมีเสน่ห์ของหมอเอิง พี่อั๋นก็เป็นพี่อั๋น ผมก็มีความเป็นผม,ถ้าเราทำให้มันลงตัวกันได้ เราก็จะไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีคาแรกเตอร์ของแต่ละคนช่วยพยุงกันไป ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ต้องปรับอะไรมากครับ,ผมทำมาหลายที่มากๆ แล้ว ปรับตัวเองมาเยอะหลายรูปแบบแล้ว มาอยู่รายการนี้ผมคิดว่าจะเอาสิ่งที่เคยทำมาในอดีตมาดูว่าตรงไหนต้องใช้ยังไงเลยดีกว่า ผมคิดว่ายุคนี้ทุกคนมีความสามารถหมดครับ มันอยู่ที่ว่าใครจะดึงจุดไหนออกมา ถ้าเราไปด้วยกันผมว่าจะน่ารักกว่า,บรรยากาศบ้านหลังนี้เป็นยังไงบ้าง?,ต๊ะ : เอาแค่เบื้องต้นแล้วกันนะครับ เพราะผมยังไม่ได้สัมผัสแบบจริงจัง ก็แค่มาถ่ายภาพโปรโมต มาลองซ้อมครั้งนึง เข้ามา 2-3 ครั้งเองครับ ผมรู้สึกว่าที่นี่ก็เป็นที่ที่ผู้คนเข้ามาอยู่กันเยอะอยู่แล้ว ผมมองว่าหลายคนเติบโตจากที่นี่ ถ้าที่นี่ไม่ดีคงไม่สามารถปั้นคนมากมายให้กับวงการบันเทิงในบ้านเรา ผมเชื่อว่าเต็มไปด้วยคนเก่งๆ อยู่แล้ว,ที่นี่ก็ต้อนรับผมอย่างอบอุ่นมากๆ ครับ ผมอาจจะยังจำชื่อทีมงานได้ไม่หมด แต่ทุกคนน่ารักกับผมมากครับ แต่จริงๆ ผมโชคดีอย่างนึงผมทำงานที่ไหนก็เจอคนน่ารักๆ ครับ ไม่ว่าที่ที่ผมจากมาที่ไหนก็ตามแต่ ผมก็ไม่ค่อยเจอคนที่ไม่ดีหรือใจร้ายกับผม ผมก็คาดหวังจากที่นี่แบบนั้นเหมือนกันครับ,สุดท้ายฝากถึงแฟนๆ ของต๊ะ?,ต๊ะ : ผมอยู่ที่รายการ เช้าวันนี้ GMM News 6-8 โมงเช้านะครับ ผมชอบมากเลยครับ ตอนแรกคุยกับพี่อั๋นว่าข่าวเช้าเรามีแค่ ชม.เดียวเอง พอผมตอบเซย์เยสปุ๊บ อีกวันเพิ่มเป็น 2 ชม.เลย ผมชอบมาก (ยิ้ม) เพราะฉะนั้นเราจะอยู่ด้วยกันทุกวันจันทร์-ศุกร์ 2 ชม. เต็มๆ ช่วงเช้า ให้โอกาสกับ GMM25 ดูบ้าง คุณอาจจะมีความคิดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ก็ฝากด้วยนะครับ
|
ต๊ะ พิภู ยอมรับเรตติ้งรายการเรื่องเล่าฯ ไม่ดี เลยขอเป็นคนรับผิดชอบออกมาเอง บอกก่อนจะก้าวเข้ามาที่นั่นสถานการณ์ไม่ดีอยู่แล้ว และตนไม่มีความสามารถพอที่จะดึงให้เรตติ้งดีขึ้น
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
ต๊ะ พิภู พุ่มแก้ว,ต๊ะ พิภู เรื่องเล่าเช้านี้,ต๊ะ พิภู ออกจากช่อง 3,ต๊ะ พิภู GMM25,อั๋น ภูวนาท คุนผลิน,ดารา
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1157302
|
โพล เผยร้อยละ 85 ครอบครัวชอบมีปากเสียงทำเด็กเครียดอยากประชดพ่อแม่
|
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 58 มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมรณรงค์ เนื่องในวันยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กประจำปี 2558 ภายใต้แนวคิด เปิด ปรับ เปลี่ยน : หยุดความรุนแรง ในงานมีการแสดงละครสั้นสะท้อนความรุนแรงมุมต่างๆ และการเสวนา,นายสิทธิศักดิ์ พนไธสงค์ ฝ่ายส่งเสริมภาคีเครือข่าย มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า เดือน พ.ย.เป็นเดือนแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก มูลนิธิฯ จึงลงพื้นที่สำรวจปัญหาความรุนแรงในครอบครัวกับนักเรียนชั้น ป.4-6 จาก 26 โรงเรียน พบว่า ร้อยละ 85.1 ยอมรับว่า คนในครอบครัวเคยมีปากเสียงทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นกิจวัตร ประจำวัน ที่น่าห่วงคือ มีสูงถึงร้อยละ 70.6 ที่ติดมือถือเล่นไลน์เฟซบุ๊ก ขณะที่ร้อยละ 63.4 โต้เถียงด่าทอพูดจาหยาบคาย ร้อยละ 62.8 พ่อแม่ทำงานหนักไม่มีเวลาให้ลูก ร้อยละ 57 คนในครอบครัวดื่มเหล้า เบียร์ เล่นการพนันอบายมุข,ฝ่ายส่งเสริมภาคีเครือข่าย มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวต่อว่า เมื่อถามถึงความรู้สึกที่พ่อแม่ทะเลาะกัน เด็กๆ ส่วนใหญ่ระบุ รู้สึกเสียใจ ร้องไห้ กลัวกังวล เครียด เบื่อเซ็ง หมดกำลังใจ โดยร้อยละ 23.4 เลือกที่จะเข้าไปห้าม ร้อยละ 14.4 เลือกที่จะอยู่เฉยๆ ร้อยละ 10 ขอเก็บปัญหาไว้คนเดียวไม่บอกใคร ที่น่าห่วงร้อยละ 6.7 อยากจะประชดพ่อแม่,นายสิทธิศักดิ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างต่างต้องการให้ครอบครัวกลับมามีความสุข สนิทสนมกัน พูดคุยกันทุกเรื่อง มีเวลาให้ครอบครัว มีกิจกรรมที่ทำร่วมกัน ตลอดจนขอให้ใช้เหตุผลมากกว่าการทำโทษ พูดคุยกันให้มากขึ้น ที่สำคัญคือ อยากให้พ่อแม่เลิกดื่ม เลิกพนัน และอบายมุข,ด้าน นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผอ.สำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยง สสส. กล่าวว่า จากสถิติดังกล่าวจะเห็นว่าเด็กจำนวนมากเติบโตในครอบครัวที่มีความขัดแย้ง สภาพแบบนี้ทำร้ายจิตใจเด็ก และเสมือนโรคติดเชื้อกระโดดจากพ่อแม่ไปสู่ลูกและไปสู่รุ่นต่อๆ ไปไม่สิ้นสุด เพราะเด็กจะรู้สึกเจ็บปวด จนชาชิน มองเห็นความรุนแรงเป็นเรื่องธรรมดา และใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาเมื่อเติบโตขึ้น.
|
มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับ สสส.จัดกิจกรรมรณรงค์ความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กปี 58 เผย โพลร้อยละ 85 ครอบครัวมักจะมีปากเสียงกันประจำ สร้างความเครียด-หมดกำลังใจ อยากประชดพ่อแม่
| null |
สสส.,เด็กมีปัญหา,มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล,ครอบครัวมีปากเสียง,ทะเลาะเบาะแว้ง,เด็กเครียด,เบื่อ,ประชดพ่อแม่,พ่อแม่ดื่มเหล้า,เล่นพนัน,อบายมุข,พูดคุยในครอบครัว,ใช้เหตุผล,ติดโทรศัพท์มือถือ,ด่าทอ,พูดจาหยาบคาย,ข่าว,ข่าวสังคม,ข่าวการศึกษา,ไทยรัฐออนไลน์,โพล
|
https://www.thairath.co.th/content/540559
|
ลุย จับบ่อนกลางเมืองพัทยา นักพนันวิ่งหนีกระเจิง รวบได้กว่า 17 คน
|
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 1 เม.ย. นายนริส นิรามัยวงค์ นายอำเภอบางละมุง ร่วมกับ พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง และกำลังทหาร มทบ.14 เข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ เลขที่ 247/37-38 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่า เปิดให้มีการเล่นพนันแบบบ่อนการพนัน,ในที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 2 ห้องต่อกัน เจ้าหน้าที่จึงกระจายเข้าตรวจค้นชั้นล่าง และชั้น 2 แต่นักพนันเห็นเจ้าหน้าที่ต่างวิ่งหลบหนีไปทางดาดฟ้า แล้วหนีออกไปทางด้านตึกอื่น เจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตาม สามารถจับกุมนักพนัน รวม 17 คน เป็นชาย 9 คน หญิง 8 คน โดยมี นายพงษ์เดช หิรัญวศิษฐ์ อายุ 37 ปี ยอมรับเป็นเจ้ามือ พร้อมของกลางเงินสดจำนวนหนึ่ง ลูกเต๋า ชุดถ้วยเขย่า และโต๊ะที่มีแผ่นแทงไฮโล,โดยสถานที่ดังกล่าว ชั้นล่างจัดทำเป็นห้องไฮโล ส่วนชั้นที่ 2 ทำเป็นโต๊ะแทงเสือมังกร ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบไม่พบนักพนัน พบเพียงโต๊ะใช้สำหรับเล่นเสือมังกร จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง จึงควบคุมตัวนักพนันทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
|
ตำรวจพัทยา พร้อม ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง ทหาร สนธิกำลังลุยจับบ่อนกลางเมืองพัทยา นักพนันวิ่งหนีกระเจิง แต่สุดท้ายรวบได้กว่า 17 คน พร้อมของกลาง
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ตำรวจพัทยา,รวบนักพนัน,เล่นการพนัน,กลางเมืองพัทยา,เล่นเสือมังกร,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1244671
|
เดินหน้าสร้างช่างเกษตรท้องถิ่น ติวสอนจักรกล หวังช่วย ปชช.ในพื้นที่
|
เกษตร หวังให้บริการเกษตรกรในท้องถิ่นได้นายอาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ได้เดินหน้าพัฒนาเกษตรกรผู้ใช้เครื่องยนต์เกษตรอย่างต่อเนื่อง สู่การเป็น ช่างเกษตรท้องถิ่น ภายใต้โครงการส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร กิจกรรมสร้างช่างเกษตรท้องถิ่น ปี 2563 เพื่อพัฒนาความรู้ด้านเทคนิคการใช้ การซ่อมแซมและบำรุงรักษาเครื่องจักรกลการเกษตร การสร้างช่างเกษตรประจำท้องถิ่นสำหรับรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร โดยร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหน่วยงานด้านพัฒนาฝีมือแรงงานและภาคเอกชน ซึ่งปัจจุบันมีการถือครองเครื่องยนต์เกษตรอยู่ประมาณ 2.9 ล้านเครื่องสำหรับในปี 2563 มีเป้าหมายสร้าง ช่างเกษตรท้องถิ่น จำนวน 3500 ราย โดยคัดเลือกเกษตรกรในพื้นที่ส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่ หรือศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ที่มีเครื่องยนต์เกษตรหนาแน่นใน 72 จังหวัดครอบคลุมทุกภาคทั่วประเทศ ผ่านการฝึกอบรม 3 หลักสูตร ใน 3 ระดับ ประกอบด้วย ช่างเกษตรท้องถิ่นระดับ 1 มีทักษะในการใช้และบำรุงรักษาเครื่องยนต์เกษตรได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และสามารถถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกรในท้องถิ่นได้ ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอย่างน้อย 500 บาทต่อเครื่องต่อปี ช่างเกษตรท้องถิ่นระดับ 2 จะคัดเลือกผู้ผ่านการฝึกอบรมช่างเกษตรท้องถิ่นระดับ 1 มาเพื่อพัฒนาทักษะช่างในการซ่อมแซมบำรุงรักษาเครื่องยนต์เกษตรเพิ่มเติม ให้สามารถบริการตรวจเช็ก ซ่อมแซมเครื่องยนต์เกษตรเบื้องต้นให้แก่เกษตรกรข้างเคียงในท้องถิ่นได้ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอย่างน้อย 1000 บาทต่อปีต่อเครื่อง และช่างเกษตรท้องถิ่นระดับ 3 จะคัดเลือกจากผู้ผ่านการฝึกอบรมช่างเกษตรท้องถิ่นระดับ 2 เพื่อพัฒนาทักษะช่างและเทคนิคการซ่อมแซมบำรุงรักษาเครื่องยนต์เกษตร ให้สามารถบริการตรวจเช็กซ่อมแซมใหญ่ เครื่องยนต์เกษตร (Overhaul) ให้แก่เกษตรกรข้างเคียงในท้องถิ่นได้ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอย่างน้อย 1500 บาทต่อเครื่องต่อปี ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินการจัดฝึกอบรมเกษตรกร เพื่อให้มีทักษะสู่การเป็นช่างเกษตรท้องถิ่นในทุกปี ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการอบรมกรมส่งเสริมการเกษตรจะจัดงานบริการซ่อมแซมเครื่องยนต์เกษตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยนำช่างเกษตรท้องถิ่นระดับ 3 ที่ผ่านการอบรมแล้วออกให้บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษาเครื่องยนต์เกษตรแก่เกษตรกรทั่วไป รวม 2 ครั้งด้าน นายพีระ ช้างเยาว์ หัวหน้าฝ่ายบริการงานช่างเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า สำหรับการอบรมช่างเกษตรท้องถิ่นระดับ 3 ในปี 2563 นี้ จัดขึ้นระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ณ ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านวิศวกรรมเกษตรตามช่วงเวลาที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ โดยจะมีการถ่ายทอดความรู้ในเรื่องต่างๆ เช่น ทบทวนหลักการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซล การถอดประกอบเครื่องยนต์ ซ่อมแซมระบบกำลังอัด ได้แก่ เปลี่ยนลูกปืน แบริ่งเพลาข้อเหวี่ยง แบริ่งก้านสูบ แหวนลูกสูบ ลูกสูบ ปรับตั้งมาร์คเฟือง บดวาล์ว และตั้งวาล์ว เพื่อแก้ไขข้อขัดข้องของเครื่องยนต์ การซ่อมแซมระบบน้ำมันเชื้อเพลิง ได้แก่ ชุดไส้กรอง ชุดลูกปั๊ม กระบอกปั๊ม ชุดหัวฉีด ปรับตั้งปั๊มและแรงดันหัวฉีด รวมถึงเทคนิคการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาการผิดปกติการทำงานของเครื่องยนต์ ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรสามารถนำความรู้ไปปฏิบัติเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเครื่องจักรกลของตนเองได้ และให้บริการตรวจเช็ก ซ่อมแซมใหญ่เครื่องยนต์เกษตร (Overhaul) ให้แก่เกษตรกรข้างเคียงได้ โดยมีระยะเวลาการอบรม 3 วัน เป้าหมายจำนวน 200 ราย อบรมรุ่นละ 25 ราย จำนวน 8 รุ่นปัจจุบันกรมส่งเสริมการเกษตรสามารถสร้างช่างเกษตรท้องถิ่นได้กว่า 10000 ราย เกษตรกรสามารถนำความรู้ไปปฏิบัติเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเครื่องจักรกลของตนเองได้ 1000 - 1500 บาทต่อเครื่องต่อปี และยังให้บริการตรวจเช็ก ซ่อมแซมเครื่องยนต์เกษตรเบื้องต้นให้แก่เกษตรกรข้างเคียงได้อย่างน้อย 20 ราย.
|
กรมส่งเสริมการเกษตร เดินหน้าสร้างช่างเกษตรท้องถิ่นระดับ 3 สอนการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาการผิดปกติของการทำงานของเครื่องยนต์และชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ ให้บริการตรวจเช็ก ซ่อมแซมใหญ่เครื่องยนต์
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ช่างเกษตรท้องถิ่น,เกษตรท้องถิ่น,เครื่องยนต์,กรมส่งเสริมเกษตร,อบรมช่างเกษตร,ข่าววันนี้,เกษตร
|
https://www.thairath.co.th/news/local/1902192
|
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.