title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
อัยการแจง คดี ธัมมชโย อยู่ระหว่างสอบพระวัดธรรมกาย
|
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 9 ส.ค. นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 สำนักงานการสอบสวน กล่าวว่า ผู้ต้องหามีหมายจับกุมแล้ว ตามหลักกฎหมายยังไงก็ต้องจับ แต่จะจับกุมด้วยวิธีการไหน และวันไหน ยังไม่ได้ประชุมร่วมกับคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอ อีกทั้ง ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเรียกสอบปากคำพระวัดพระธรรมกายเพิ่มเติม ซึ่งหากพนักงานสอบสวนดีเอสไอสอบปากคำเสร็จ ก็จะทยอยส่งสำนวนการสอบปากคำให้อัยการพิจารณา นอกจากนี้ ทราบว่ามีพระบางรูป ขอเลื่อนการให้ปากคำออกไปเป็นวันที่ 25 ส.ค.นี้อีก ,คาดว่าวันที่ 11 ส.ค.นี้ จะมีความคืบหน้า ทั้งนี้ เป็นไปได้ว่าถ้าอัยการเห็นว่ายังมีประเด็นที่จำเป็นอาจจะขยายเวลาออกไปอีก เพื่อให้ดีเอสไอสอบสวนเพิ่มเติ่มอีก แต่ก็ไม่แน่อัยการอาจจะเห็นว่าหลักฐานเพียงพอที่จะสั่งฟ้องแล้วก็ได้ มันเป็นอำนาจของพนักงานอัยการที่จะสั่งฟ้องหรือไม่ สำหรับการทำคดีจะเร่งร้อนไม่ได้เพราะคดีจะไม่สมบูรณ์ นายขจรศักดิ์ กล่าว,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงาน ปปง. จะรีบดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดธรรมกายให้เสร็จโดยเร็ว หากจะพบว่ามีทรัพย์สินอะไรที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ปปง. จะทำการอายัด โดยไม่มีข้อยกเว้น
|
อัยการ แจงคดี ธัมมชโย อยู่ระหว่างสอบปากคำพระวัดธรรมกายเพิ่มเติม คาดมีความคืบหน้าชัด 11 ส.ค.นี้ จะสั่งฟ้องหรือไม่ อยู่ที่หลักฐาน
| null |
ธัมมชโย,ดีเอสไอ,ธรรมกาย,เส้นทางการเงิน,คดีฟอกเงิน,หลักฐาน,สั่งฟ้อง,พนักงานอัยการ,ขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ,สอบปากคำ,ปปง.,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/686143
|
เผยมุมรัก มิว นิษฐา-ไฮโซเซนต์ ที่ไม่เคยรู้ กว่าจะได้แต่งงานกัน
|
เป็นว่าที่เจ้าสาวที่มีออร่าเปล่งประกายมาก สำหรับสาว มิว นิษฐา ที่เพิ่งถูกแฟนหนุ่ม ไฮโซเซนต์ ธราภุช ทายาทธุรกิจค้าทองคำ ตระกูลเศรษฐีหมื่นล้าน คุกเข่าขอแต่งงานเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และมีแพลนจะจัดงานวิวาห์ในช่วงต้นเดือนมกราคม 2563 แม้หลายคนจะมองว่า ทั้ง มิวและเซนต์ เพิ่งคบกันได้ไม่นาน แต่ล่าสุดในรายการ สามแซ่บ ทางช่อง 3HD มิว นิษฐา ก็ได้เปิดใจเล่าเรื่องราวความรักของตนกับแฟนหนุ่ม โดยบอกว่า ที่ไม่ค่อยได้ลงรูปคู่เท่าไหร่ ก็เพราะว่าอยากรอก่อน เผื่อจะมีภาพที่ดีกว่านี้ จนมารู้ตัวอีกทีก็วันที่ถูกขอแต่งงานแล้ว เลยได้ลงภาพ จนทำเอาหลายคนเซอร์ไพรส์ ,นอกจากนี้ ไฮโซเซนต์ ยังได้ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการออกมารายการคู่กันเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นเทปที่หวานกันหนักมาก เพราะตลอดทั้งรายการ มิวและเซนต์ จับมือกันและกันตลอด และเล่าเรื่องราวด้วยความรักและความสุขที่กว่าจะมีวันนี้,เซนต์ เป็นผู้ชายที่น่ารักกว่าที่เห็น อย่างคนภายนอกมองว่าเค้าเป็นนักธุรกิจต้องนิ่งๆ เรียบร้อย สุขุม ไม่มีเล่นมุก ไม่มีหยอด แต่จริงๆ ทุกอย่างมีในตัวเค้าหมดเลย ส่วนหนึ่งในนี้ทำให้มัดใจเราได้ มองว่าเค้าไม่ได้เป็นคนอย่างที่เราคาดเดาไว้เลย เหมือนตอนแรกเค้าเข้ามาจีบๆ ก็คือเราไม่ได้ชอบเลย ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยเลย เพิ่งมารู้สึกตอนได้คุยกัน ได้ออกไปทานข้าวด้วยกัน เหมือนได้พูดคุยกัน,เลยรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เป็นมากกว่าที่เราคิด เค้าก็เซอร์ไพรส์เราทุกวันเทศกาล ทั้งวันเกิด วาเลนไทน์ ครบรอบที่เจอกัน เค้าก็จะมีการ์ดส่งให้เราเป็นการ์ดเขียนเอง และเขียนเยอะด้วย มีติดสติกเกอร์ให้ด้วย เค้าเป็นคนมุ้งมิ้งมาก จนเราต้องทำให้เค้าบ้าง เพราะเค้าให้เราทุกเทศกาลเลย,ส่วนที่ไม่ค่อยลงรูปคู่นั้น มิว บอกว่า มีหลายครั้งที่ไปเที่ยวด้วยกัน มีรูปคู่สวยๆ ก็อยากจะลงเหมือนกัน แต่เรารู้สึกว่าอีกนิดละกัน ไปๆ มาๆ วันที่คิดว่าอีกนิดจะลงก็คือวันที่เค้าขอแต่งงานแล้ว ก็เลยรู้สึกว่ามันไม่มีอีกนิดแล้ว ก็เลยต้องโพสต์วันนั้น กลายเป็นว่าเป็นวันที่ลงรูปคู่รูปแรก,ณ วันที่ขอแต่งงานเป็นวันที่เราลงรูปคู่รูปแรกพอดี แล้วตอนกลางคืนต้องบินไปอิตาลีกับที่บ้าน เซนต์เค้าขอเราแต่งงานกลางวัน แล้วกลางคืนเราต้องบินไปเที่ยวกับที่บ้าน เราก็ไม่มีเวลาดูรูปลงรูปเลย พอถึงสนามบิน เช็กอินแล้วเราก็ว่างเลยโทรคุยกับพี่เซนต์ว่าจะลงรูป เลยได้เห็นภาพนั้น,ถ้าย้อนกลับไปเลย คือเค้าเคยจะไปขอพ่อกับแม่ คุยกันเรียบร้อยแล้ว เค้ากะว่าจะขอพ่อกับแม่เสร็จแล้วมาเซอร์ไพรส์เราขอแต่งงาน พ่อกับแม่ก็ตกใจว่าจะมาขอลูกสาวแล้ว เค้ากลับมาบ้านก็เลยรีบมาคุยกับเราเลย ว่า เซนต์เค้ามาขอแต่งแล้วนะ เราชัวร์รึยัง คุยเป็นเรื่องเป็นราวมาก แต่คือ เซนต์ เค้าก็บอกว่าพร้อมที่จะแต่งแล้ว แต่เราก็ยังไม่คิดว่าจะมาเร็วขนาดนี้ พ่อกับแม่ของ เซนต์ กับเราก็มาคุยกัน แต่เรายังไม่รู้ว่าวันไหน,จากนั้นทางรายการก็ได้ทำเซอร์ไพรส์ด้วยชวน เซนต์ มาออกรายการด้วยกันเป็นครั้งแรก ซึ่ง มิว บอกว่า เป็นรายการแรกเลยที่ เซนต์ ยอมออกมาออกด้วย เพราะเค้าเป็นคนที่พูดไม่เก่งและไม่รู้ว่าจะพูดอะไร โดย เซนต์ เล่าให้ฟังว่า ได้ไปทำเซอร์ไพรส์ขอ มิว แต่งงานที่ร้านอาหารของเพื่อนที่ตึกมหานคร ก็ขอเค้าแต่งงานพร้อมกับให้น้องหมา หลังขอเสร็จก็มีเดินไปถามย้ำอีกว่า ตกลงแต่งจริงๆ นะ,เซนต์ เป็นผู้ชายกุ๊กกิ๊กมาก มีทำไดอารี่ไว้ให้ มิว มีเก็บตั๋วคอนเสิร์ต ตั๋วหนังตั้งแต่วันแรกๆ ที่ได้ไปด้วยกัน โดย เซนต์ เล่าว่า ในตอนแรกรู้จักแค่ว่า มิว เป็นเพื่อนกับ คิด เบญจรงคกุล ไม่ได้รู้จักกันส่วนตัวไม่ค่อยได้เจอกัน เจอกันครั้งแรกในงานแต่งของ ป๊อก-มาร์กี้ ถึงขั้นที่เขียนไดอารี่เก็บรายละเอียดทุกอย่างว่าใส่ชุดแบบไหน แต่งหน้าโทนไหน พอได้มาคุยกัน รู้สึกว่า มิว เป็นคนน่ารัก จริงใจกับทุกคน ก็รู้สึกประทับใจแล้วกลับมาเขียนไดอารี่,ด้าน มิว บอกว่า ตอนที่เจอครั้งแรกไม่ได้รู้สึกปิ๊งหรืออยากเข้าไปคุยขนาดนั้น พี่คิด เป็นคนพาพี่เซนต์เดินเข้ามาแล้วก็แนะนำให้รู้จัก เราก็ไม่ได้อะไร เราก็เดินลงมาจะกลับบ้านเค้าก็เดินตามเรามา เราก็คิดแล้วว่าสนใจเราแน่เลย ตอนนั้นก็ไม่ได้คุยขึ้นรถแยกย้ายไป,และ เซนต์ ก็เล่าต่อว่า เริ่มจากที่ซื้อแวกซ์ใส่ผมที่ญี่ปุ่นมาให้ คิด แล้วนัดกันว่าจะเอามาให้ ด้าน คิด บอกว่าวันไหนเจอ มิว เดี๋ยวบอกเดี๋ยวให้ติดแวกซ์มาด้วย ซึ่งทำเป็นลืม 3 ครั้ง เพื่อจะได้นัดเจอกันเรื่อยๆ,นอกจากนี้ เซนต์ ได้เขียนขอเบอร์ มิว ใส่กระดาษทิชชู ซึ่งในตอนนั้นมีแค่ไลน์ แต่ยังไม่มีเบอร์โทรศัพท์ จึงได้เขียนใส่กระดาษทิชชูเพื่อขอเบอร์ แม้ว่า ณ ตอนนั้นจะนั่งอยู่ข้างกัน แต่อยากมีโมเมนต์นี้ อีกทั้ง เซนต์ ยังได้บีนทึกลงในไดอารี่ในวันที่ มิว มาฟอลโลว์อินสตาแกรมเป็นครั้งแรกอีกด้วย,แม้กระทั่งเค้กที่ส่งไปให้ มิว และ มิว ส่งกลับมาให้ตนเอง เซนต์ ก็ยังเก็บฝากล่องเค้กไว้ด้วย ซึ่งเป็นของชึ้นแรกที่ มิว ส่งมาให้ หรือแม้กระทั่งบัตรคอนเสิร์ตที่ไปดูด้วยกัน เซนต์ ก็เก็บไว้ หรือแม้กระทั่ง มิว หลับในโรงหนังก็ยังเขียนบันทึกไว้,ซึ่ง มิว ยอมรับว่า ตอนที่ไปดูคอนเสิร์ตด้วยกันนั้นก็เริ่มมีใจให้ เซนต์ แล้ว เพราะตนเองรู้สึกดี ที่ได้คุยได้ทานข้าวด้วยกัน และ มิว บอกว่า ในตอนแรกไม่ได้ซึ้งอะไร แม้กระทั่งตอนขอแต่งงานก็ไม่ได้ซึ้ง แต่มาซึ้งตอนที่เค้าส่งไดอารี่ให้เราอ่าน เค้าเก็บทุกอย่าง เราไม่เคยรู้เลยว่าเค้าเก็บอะไรแบบนี้เลย เพิ่งมารู้ว่าเค้าเป็นคนใส่ใจรายละเอียดเก็บการ์ดให้เราทุกเทศกาล,และเมื่อพิธีกรถาม เซนต์ ว่า มิว จีบยากมั้ย ฝ่ายชายบอกว่า ยากมาก เพราะตอนนั้นคนจีบเยอะ ซึ่ง มิว ก็บอกหมดว่ามีคนอื่นจีบอยู่ เพราะไม่อยากแอบคุย,เมื่อถามว่าอะไรคือคนที่ใช่สำหรับแต่ละฝ่าย เซนต์ บอกว่า มิว เป็นคนจิตใจดี เพราะว่าที่ผ่านมาเวลาอยู่ด้วยกัน มีหลายครั้งที่เค้าจะไม่พอใจกับการกระทำหลายๆ คน แต่ก็ไม่เก็บมาคิด และไม่เคยว่าร้ายหรือมองใครในทางลบ เป็นคนน่ารักในนิสัยของเค้า และชอบรอยยิ้มของ มิว เพราะเป็นคนยิ้มเก่ง น่ารักเลยชอบแกล้งให้หัวเราะ,ด้าน มิว ชอบ เซนต์ ตรงที่ว่าเป็นคนรักครอบครัวมาก เพราะสัมผัสได้ว่าคนที่รักครอบครัว ถ้ามีครอบครัวเป็นของตัวเองก็จะรักเหมือนกัน เป็นคนมีน้ำใจ จิตใจดี ไม่ว่าคนรอบข้างจะมีปัญหาก็จะยื่นมือไปช่วย ไม่ว่าจะมากหรือน้อย และมีอะไรบางอย่างที่เราต้องการ ซึ่งไม่รู้ว่ามันจะดีกับตัวเราจนได้มาเจอ เราก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเหมือนกันที่เค้าให้เรามา
|
มิว นิษฐา ควงคู่ ไฮโซเซนต์ ออกรายการด้วยกันครั้งแรก เผยมุมความรักที่ไม่มีใครได้รู้ ด้านฝ่ายชายบอกอย่างเขินๆ เก็บของทุกอย่างตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ทำเอาฝ่ายหญิงเซอร์ไพรส์หนักมาก
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
มิว นิษฐา,มิว ไฮโซเซนต์,มิว เซนต์ แต่งงาน,มิว เซนต์,ไฮโซเซนต์ ธราภุช,ไฮโซเซนต์,ดารา
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1667716
|
กปน. โต้ #สิวน้ำประปา ยันผลิตได้มาตรฐาน จี้โชว์ข้อมูลการแพทย์ ขู่ฟ้องเอาผิด
|
การประปานครหลวง ได้ทวีตข้อความ ผ่านทวิตเตอร์ ,@MWAthailand, เกี่ยวกับกรณี #สิวน้ำประปา ในทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นการโปรโมตผลิตภัณฑ์เช็ดหน้ายี่ห้อหนึ่ง ที่ระบุว่า เป็นสิวซ้ำซาก ทั้งที่หน้าและหลัง อาจเพราะแบคทีเรียในน้ำประปา ท่อ ก๊อกน้ำที่ใช้มานาน เช็ดโทนเนอร์หลังล้างหน้า ขจัดแบคทีเรียสาเหตุสิว ,โดยระบุว่า กปน.ขออนุญาตให้ข้อมูลดังนี้ กระบวนการผลิตน้ำประปาตามมาตรฐานน้ำประปาปลอดภัยของ WHO ตรวจสอบคุณภาพน้ำที่มีประสิทธิภาพทุกขั้นตอน ขอยืนยันว่าไม่มีเชื้อแบคทีเรียในระบบการผลิตสูบส่งสูบจ่ายน้ำ ตลอดจนในท่อประปาอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ควรหมั่นดูแลระบบประปาภายในบ้าน อาคาร ด้วย,นอกจากนี้ การประปาขอผลทดสอบทางการแพทย์ ที่ระบุว่า ในน้ำประปา มีแบคทีเรีย และเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว หากไม่มีผลทดสอบทางการแพทย์อย่างเป็นทางการ การประปานครหลวง จะขอดำเนินการทางกฎหมายต่อไป,จากนั้นทางแบรนด์ ได้ออกหนังสือชี้แจง ผ่านทวิตเตอร์ วัยมันส์หน้าไม่มัน ,@foamforteens, โดยระบุว่า ขอบคุณการประปานครหลวง สำหรับข้อความชี้แจง เกี่ยวกับคุณภาพการผลิตน้ำประปา และวิธีการดูแลรักษาคุณภาพน้ำ,พร้อมขอชี้แจงเกี่ยวกับ #สิวน้ำประปา ว่า ทางแบรนด์ไม่ได้มีเจตนาที่จะกล่าวโทษคุณภาพน้ำประปาที่ผลิตด้วยคุณภาพมาตรฐาน และจัดส่งโดยการประปานครหลวงแต่อย่างใด,เพียงชี้แจงถึงข้อควรระวังที่อาจก่อให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว ที่อาจเกิดจากก๊อกน้ำ หรือท่อน้ำตามที่พักอาศัย ซึ่งใช้มาเป็นเวลานาน และไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี, ,ทั้งนี้ แบรนด์อาจมีการสื่อข้อความ และเนื้อหาที่อธิบายไม่ครบถ้วน และไม่ชัดเจน จนอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดถึงคุณภาพน้ำประปาที่ถูกผลิตและจัดส่งโดยการประปานครหลวงในแง่ลบ ทางแบรนด์ได้ทำการปรับเนื้อหา ข้อความโฆษณาให้เหมาะสมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว,ขณะที่ แพทย์หญิง มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะมีสาเหตุมาจากน้ำประปา เพราะน้ำประปาปกติ มีมาตรฐานที่ดีสามารถใช้ได้อยู่แล้ว การที่จะสรุปว่า เป็นสิวจากการแพ้น้ำประปานั้น จึงไม่น่าจะใช่ และไม่น่าจะเกี่ยวกัน,โดย สิว เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมัน ดังนั้น สิวเกิดจากน้ำประปา หรือท่อประปา ที่มีเชื้อแบคทีเรียจริงหรือไม่ ยังไม่แน่ชัด ดังนั้น จึงต้องไปหาสาเหตุก่อนว่า เกิดจากอะไรกันแน่ หรือเป็นสิวจริงหรือไม่ ทั้งนี้ หากไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นอะไร แนะนำว่าให้ไปพบแพทย์ทันที.
|
การประปานครหลวง ทวีตข้อความโต้ #สิวน้ำประปา ยันการผลิตได้มาตรฐาน จี้แสดงหลักฐานทางการแพทย์ หากไม่มี ขู่ดำเนินการทางกฎหมาย ขณะที่แบรนด์ ออกหนังสือชี้แจง
|
ข่าว,สังคม
|
การประปานครหลวง,#สิวน้ำประปา,ทวิตเตอร์,โฆษณา,ขอโทษ,ข้อมูลการแพทย์,ดำเนินคดี,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/society/1563438
|
กล้าได้กล้าเสีย : กระบวนท่าชิงการนำ
|
ก่อนจะเริ่มเสนอชื่อ กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญ ทุกพรรคการเมืองต้องเตรียมบุคคลเพื่อเข้ารับตำแหน่งเพื่อให้สภาผู้แทนฯรับรอง,โควตาของฝ่ายรัฐบาลจำนวน 19 เก้าอี้ก็จะต้องแบ่งสันปันส่วนให้พรรคร่วมรัฐบาลไปแบ่งกันฝ่ายค้าน 18 คน ก็ไม่ต่างกัน,คณะรัฐมนตรีได้สัดส่วนมา 12 คน ซึ่งมีการแบ่งให้ ครม. 6 คน อีก 6 คนยกให้พลังประชารัฐไปเลือกกันเอง ซึ่งในส่วนนี้จะมีคนนอกและ ส.ว.ร่วมด้วย,คอยดูหน้าตากันอีกทีว่าใครเป็นใครบ้าง?,แต่ดูเหมือนว่าตำแหน่งประธาน กมธ.กลับได้รับความสนใจกันมากกว่า เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่จะต้องทำหน้าที่ควบคุม กมธ.ให้อยู่ในร่องในรอยไม่แตกฝูง ล้ำเส้นจนเกิดปัญหา,อย่างน้อยก็มีบารมี มีมนุษยสัมพันธ์ เพื่อให้ทำงานร่วมกันได้ อีกปัจจัยสำคัญก็คือต้องมีความรู้กฎหมายรัฐธรรมนูญอย่างที่ต้องพึงรู้และมีหลักคิดที่จะทำให้ทุกฝ่ายเห็นด้วย,ถามว่ามีบุคคลประเภทนี้หรือไม่มีแน่ แต่จะเหมาะสมหรือไม่แค่นั้น และจะได้รับเลือกให้เป็นประธาน กมธ.หรือเปล่า?,แน่นอนว่าแต่ละคน แต่ละพรรค ต่างก็มี ,ธง, อยู่แล้วว่าต้องการแก้ไขตรงไหน อย่างไร ดังนั้นเสียงใน กมธ.ข้างมากย่อมมีความได้เปรียบอยู่แล้ว,ใครจะเป็นตัวชิงเก้าอี้ประธานจึงต้องเป็นเรื่องของพรรคที่เสนอชื่อใคร จะเป็น ,คนนอก-คนใน, อีกเรื่องหนึ่ง,แต่ต้องมีบทบาทเพื่อพรรคสังกัดด้วย,ไม่ว่าใครจะเป็น กมธ.และประธาน จึงต้องได้รับการรับรองจากสภาและ กมธ.ชุดนี้ที่จะต้องมีการลงมติเลือกประธาน,ประชาธิปัตย์ ชิงการนำด้วยการลงมติให้ ,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, อดีตหัวหน้าพรรคซึ่งได้ลาออกจาก ส.ส.และพยายามที่จะให้พลังประชารัฐเปิดทางสนับสนุนด้วยเหตุผลต่างๆนานา,ทว่า พลังประชารัฐหัวชนฝาบอกว่าต้องเป็นโควตาของพรรคแกนนำรัฐบาล ไม่ใช่ประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นแค่พรรคร่วมเท่านั้น,ถือเป็น หอกข้างแคร่ ก็ว่าได้,เพราะฟังเสียงจากพรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะเพื่อไทยนั้นประกาศชัดเจนว่าสนับสนุน,นายอภิสิทธิ์, เพราะเห็นว่ามีความเหมาะสม,เหตุผลของฝ่ายค้านนั้นนอกจากรู้ว่าเสนอชื่อใครก็คงสู้ฝ่ายรัฐบาลไม่ได้ อีกทั้งเพื่อหวังหาแนวร่วมมุ่งหวังให้การแก้ไขประสบผลสำเร็จ,อภิสิทธิ์, นั้นมีความชัดเจนในหลักการคือ ต้องการแก้ไข,การประกาศไม่เอา ,บิ๊กตู่, ในการหาเสียงเลือกตั้ง จนทำให้ประชาธิปัตย์พ่ายแพ้การเลือกตั้งอย่างแทบจะไม่เหลืออะไร,ด้วยท่าทีทางการเมืองของ ,อภิสิทธิ์, นั้นย่อมทำให้พลังประชารัฐย่อมรู้สึกไม่พอใจ แม้ประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาลด้วยก็ตาม,เป็น ,แค้นลึก, ที่สะสมเอาไว้มาตลอด,การที่ประชาธิปัตย์เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์เป็นประธาน กมธ. จึงได้รับการปฏิเสธจากแกนนำพลังประชารัฐ และพร้อมจะให้บุคคลที่พรรคเสนอรับตำแหน่งนี้,จะเป็น คนใน หรือ คนนอก เป็นอีกเรื่องหนึ่ง,จึงมองเกมนี้ขาดเพราะมีเสียงข้างมากใน กมธ. อยู่แล้ว และยังต้องการให้นายอภิสิทธิ์ไม่มีบทบาทการเมืองมากไปกว่านี้ เนื่องจากรู้ดีว่ามีความพยายามที่จะชูบทบาทขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง,ไม่เกรงจะ หักหน้า กัน เนื่องจากรู้ดีว่าไม่มีพรรคไหนต้องการออกจากรัฐบาล.,สายล่อฟ้า
|
เริ่มต้นให้ดีก่อนเดินหน้า ก่อนจะเริ่มเสนอชื่อ กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญ ทุกพรรคการเมืองต้องเตรียมบุคคลเพื่อเข้ารับตำแหน่งเพื่อให้สภาผู้แทนฯรับรอง
| null |
กล้าได้กล้าเสีย,สายล่อฟ้า,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,พรรคฝ่ายค้าน,ประชาธิปัตย์,คนใน,คนนอก
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1700995
|
เต้ย จรินทร์พร เขิน อาเล็ก แซวแต่งตัวโป๊ คบกันปีครึ่งยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ
|
มีเพียงรัก, ของผู้จัด หน่อย-บุษกร ค่ายซิติเซ่นเคน ทางช่อง 3 ประกบ ลุง เอ๊ย เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ พระเอกรุ่นพี่จนกลายเป็น เคมีรักต่างวัย ที่ลงตัวได้อย่างกลมกล่อม งานนี้เลยต้องคว้าสาวเต้ย มาพูดถึงการทำงานสนุกๆ ลุกขึ้นมาปลอมตัวไม่ซ้ำแบบใคร แม้แต่หนุ่มคนสนิทอย่าง อาเล็ก-ธีรเดช ถึงกับฮาตาม ส่วนเรื่องหัวใจกำลังแฮปปี้ ใน คนดังนั่งคุย,อ่านเรื่องย่อนิยายเรื่อง มีเพียงรัก ได้ที่นี่,มีเพียงรัก เล่นเรื่องนี้เต้ยสนุกสนานเลย,ใช่ค่ะ เรียกได้ว่าเล่นหลายบทบาท ปลอมตัวเยอะค่ะเรื่องนี้ มันท้าทายในการปลอมตัว,ชอบลุคไหนที่สุดเลยที่ปลอมตัว ,มีสองลุคที่ชอบมากเป็นพิเศษ ลุคอื่นรู้สึกตื่นเต้นหมด เราต้องทำแก่นะ การปลอมตัวเป็นสิ่งที่ใช้เวลานานมาก เรื่องนี้ไม่ได้เป็นการปลอมตัวแบบเล่นๆ ใส่วิก ติดหนวด แต่เป็นการปลอมตัวขั้นแอดวานซ์ ทางกองจ้างช่างเอฟเฟกต์มาเลย ปลอมจริงๆ เป็นเมสเซนเจอร์ เป็นผู้ชายติดหนวด ทาตัวดำ อันที่ชอบที่สุด เป็นคุณป้าทำความสะอาด ต้องทำเป็นคนอ้วน เต้ยดูตัวเองยังจำตัวเองไม่ได้เลยว่าเป็นตัวเองอีกหนึ่งอัน เป็นโคโยตี้ ต้องปลอมตัวเป็นโคโยตี้ รู้สึกมันช่างไกลสิ่งที่เราเป็นมากๆ ในตัวละครต้องทำเพื่อไปสืบเรื่องยาเสพติด ต้องอินกับโคโยตี้ให้ได้ ต้องเต้นเพื่ออุดมการณ์ของเรา,ทักษะการเต้นของเต้ยเป็นยังไง,วันนั้นเครียดมากเลยค่ะ แค่เราต้องทำเซ็กซี่ด้วย จำท่าเต้นด้วย วันนั้นลุ้นตัวเองมาก พี่เคนก็ยืนให้กำลังใจตลอด,เต้ยก็กล้าเล่นใหญ่อยู่นะ,อายเหมือนกัน พยายามเต็มที่ให้ได้ที่สุด,เล่นกับพี่เคนเรียกเค้าลุงชินปากหรือยัง,บางทีไม่กล้าเรียกเค้าว่าลุง พี่เคนไม่ลุงหรอก ยังหล่ออยู่เลย ยังดูดี ไม่ลุง แต่ด้วยบทมาแบบนี้ และในเรื่องเหมือนเราหมั่นไส้เค้าไม่รู้จะว่าอะไรเค้าเพราะภาพลักษณ์ภายนอกไม่มีที่ติ จะบอกเค้าว่าไม่หล่อก็ไม่ได้ เตี้ยก็ไม่เตี้ย ทุกอย่างเพอร์เฟกต์หมดเลย เราเลยใช้อายุนี่แหละ เรียกเค้าว่าลุงเสียเลย รู้สึกเกรงใจ ด้วยความพี่เคนเป็นพี่เคน เป็นพระเอกตลอดกาล เป็นพระเอกที่เราชอบด้วย อยู่ดีๆไปเรียกเค้าลุง เวลาถ่ายรูปแล้วเต้ยต้องเอาหัวไปวางบนหัวพี่เคน เต้ยจะรู้สึกไม่ได้ ทำอย่างนี้ไม่ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตอนที่เล่นก็ต้องทำ เป็นตัวละคร,ด้วยความเจอละครรีเมกอีกแล้วหวั่นใจในเรื่องการเปรียบเทียบเวอร์ชันเก่า,ไม่หวั่นค่ะ เพราะไม่เคยดูเวอร์ชันเก่า เต้ยก็เลยไม่ได้ไปคิดอะไร น่าจะเป็นผู้จัดหรือเปล่าที่จะต้องคิดตรงนี้ เต้ยทำหน้าที่ของเต้ยให้ดีที่สุด เป็นนักแสดงก็เล่นบทเจ้าขาให้ดีที่สุดเท่าที่เต้ยจะทำได้ เรื่องเปรียบเทียบอยู่นอกเหนือการคอนโทรลของเรา ถ้าเค้าจะเปรียบเทียบก็ไม่ผิดนะ เต้ยมองว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไป เมื่อก่อนมันไม่มีออนไลน์ ไม่มีไลน์ ไม่มีเพจอย่างทุกวันนี้ ดังนั้นการบิดเรื่องให้เข้ากับยุคสมัยมันก็เมกเซ้นส์ เต้ยเชื่อว่าถ้าทำเหมือนเดิมคนมาดูก็คงไม่เชื่อ ทุกวันนี้มีมือถือ มีอินเตอร์เน็ต อยากให้เปิดใจมองว่า มันเป็นมีเพียงรัก 2018 แล้วกัน,การปลอมตัวแต่ละครั้งเต้ยส่งรูปให้ตี๋อาเล็ก เค้าว่ายังไงบ้าง,ส่งรูปให้ดูในกรุ๊ปที่บ้านและส่งให้เล็กดู เค้าก็ขำ อย่างวันที่ปลอมตัวเป็นคุณป้า หน้าดำๆ เล็กก็อยู่ค่ะ วันนั้นเค้าแวะมาที่กองพอดี เพราะเค้าก็รู้จักพี่หน่อย พี่เคนด้วย เล็กก็ไม่ได้แซวอะไรเราหรอก แต่เต้ยรู้สึกอาย ฉันอยู่ในสภาพนี้ แต่เค้าก็ขำๆนะ ไม่ได้รู้สึกอะไร,ถ้าวันนึงเต้ยลุกขึ้นมาเปลี่ยนลุคเซ็กซี่เป็นสาวโคโยตี้เหมือนในละคร อาเล็กโอเคมั้ยล่ะ,ตอนที่เค้าเห็นทีเซอร์ มีช็อตเป็นโคโยตี้ เค้าจะมีร้องโวยวายโป๊ๆ ไม่โอเคนิดนึง แต่เรื่องงานเค้าเข้าใจ ไม่ได้หวง แต่ตกใจ,ก่อนหน้านี้ รายการตีท้ายครัว ไปบ้านอาเล็ก ซึ่งแม่อาเล็กได้ชมเต้ยด้วยนะ,เต้ยได้ดูตอนท้ายๆ ไม่ได้เห็นพาร์ตนั้นว่า พูดว่าอะไร,แม่ชมเต้ยว่าน่ารัก เป็นเด็กดี โลกสวยให้ 10 คะแนนเต็ม,โอ้โห ขอบคุณ (พนมมือไหว้) แม่ก็น่ารักค่ะ ด้วยความที่เคยไปเที่ยวด้วยกัน ก็ขอบคุณที่ชม (ยิ้ม) ยังไม่ได้ดูเต็มๆ เพราะตอนนั้นเต้ยทำงานอยู่ พอช่วงพักเบรก เล็กบอกรายการออนอยู่นะ ดูปุ๊บมันอยู่ช่วงท้ายแล้ว ยังไม่ได้เปิดย้อนดู ก็ต้องขอบคุณแม่เล็กที่ชมค่ะ ไม่รู้สิ เต้ยรู้สึกว่า การที่เต้ยจะคุยหรือคบกับใคร สนิทกับใคร อยากให้พากันไปในทางที่ดี เราช่วยกันแนะนำ ส่งเสริมกันในทางที่ดี กับคุณพ่อคุณแม่น่ารักดีค่ะ เป็นบ้านที่สบายๆ อาจจะมีสายความเป็นจีนๆเหมือนกัน ก็เลยชิลๆ สบายค่ะ,คุณแม่ทำกับข้าวกินหรือเป็นฝีมืออาเล็ก,ส่วนใหญ่จะได้กินฝีมือเล็กค่ะ เล็กชอบทำอาหาร แต่ก็เคยได้ชิมฝีมือแม่ก็อร่อยอยู่ค่ะ รู้สึกแฮปปี้ เพราะว่าเต้ยทำอาหารไม่เป็น (หัวเราะ) เอาอะไรมาเต้ยกินได้หมดทุกอย่าง เราแฮปปี้,บ้านอาเล็ก เรามีโอกาสได้แวะเวียนไปบ่อยมั้ย,ไปบ้าง ด้วยความที่ทำงาน ถ่ายละคร ถ้าวันไหนว่างๆ มีไปบ้าง แวะไปบ้าน มีพี่ชาย ไปเล่นกับหมา ไปเลี้ยงด็อป แต่ส่วนใหญ่อาเล็ก จะมาส่งเต้ยที่บ้าน เจอครอบครัวเต้ยมากกว่า,เวลาอาเล็กแวะมาบ้านเราแล้วยึดครัวทำอาหารด้วยมั้ย,ยึดค่ะ เค้าพรีเซนต์ตัวเองว่าทำสเต๊กแกะอร่อย นางเลยยึดครัวมาทำอาหารให้ชิม, เราเป็นสายกิน สายชิม,จริงๆ เต้ยไม่ได้กินเก่งขนาดนี้นะคะ แต่อยู่กับเล็ก เค้าเป็นคนที่กินเยอะมากจนบางทีเต้ยก็กินของเต้ยไม่ได้เยอะมาก แต่เค้าถามอิ่มแล้วเหรอ? เอาอีกมั้ย? เนี่ยกินแค่นี้จะอิ่มได้ยังไง? เค้าก็สั่งอาหารมาให้อีกจนไปๆมาๆ เต้ยกลายเป็นคนกินเยอะไปแล้วทุกวันนี้, จะบอกว่าที่เหนียงออกทุกวันนี้เป็นเพราะอาเล็กชวนกินใช่มั้ย,ถ้าจะโทษใครต้องโทษตัวเองค่ะ เพราะหยุดไม่ได้เลย เอนจอยค่ะ (หัวเราะ),เวลาอาเล็กลงครัวทำอาหารมีชวนเต้ยลงครัวมาฝึกด้วยกันบ้างมั้ย,ไม่ค่อยค่ะ เค้าชอบทำอะไรด้วยตัวของเค้าเอง เต้ยจะเสนอตัวเอง เดี๋ยวเต้ยทำให้ เค้าจะปฏิเสธ ไม่เป็นไร ให้เต้ยนั่งเฉยๆ เค้าคง รู้มั้งคะ สกิลการเป็นแม่บ้านแม่เรือนของเต้ยมีน้อย สลับกันๆ,ดูๆ อาเล็กความเก่งรอบตัวมากจริงๆ,หลายแง่มุมที่คนไม่เคยเห็นจากเค้า ทำอาหารเก่ง และเป็นคนไม่เคยว่าร้ายใครเลย เป็นคนแฮปปี้แมน เล่นกีฬา เล่นดนตรี เป็นคนชอบทำกิจกรรม ส่วนเต้ยนี่ไม่ได้อะไรเลย เล็กจะเป็นสายกิจกรรม ของเต้ยจะเป็นสายความคิด จะเป็นคนคิดไตร่ตรองอย่างละเอียด มันก็เลยเหมือนช่วยๆกัน บางเรื่อง อันนี้อย่างนี้นะ ก็ช่วยๆ กัน, มีความต่างกันของเต้ยกับอาเล็กแต่ก็เหมือนมาเติมเต็มซึ่งกันและกัน,อาจจะอย่างนั้นมั้งคะ อันนี้เราคุยกันมาปีครึ่ง เต้ยยังรู้สึกว่ามันยังน้อย ยังต้องเรียนรู้กันไปอีก,ดูสนิ้ทสนิทเหมือนคบกันมานานกว่านี้เลย,ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะเราได้ผ่านช่วงทดสอบอะไรในรีเลชันชิป (ความสัมพันธ์) อะไรมาค่อนข้างเยอะมั้งคะ ช่วงแรกๆที่คนรู้ที่เราคุยกัน จะมีกระแสโน่นนี่ ไม่เหมาะกัน ซึ่งตอนนั้นค่อนข้างหนักสำหรับตัวเต้ยเอง เต้ยก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ก็เหวอ ตัวเล็กเอง เราก็ได้เห็นความน่ารักของเค้า ใครจะว่าอะไรเค้าไม่สนใจแต่เค้าไม่อยากให้เต้ยโดนว่า ทั้งๆ ที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด ก็เลยงง แต่เข้าใจทุกอย่าง ต้องขอบคุณเหตุการณ์นั้น เป็นหนึ่งบททดสอบในชีวิต เราจะรับมือกับสิ่งสิ่งนั้นแบบไหน จริงๆ มีหลายอย่างนะที่เราอยากจะไปบอกทุกคน เดี๋ยวๆ ในความเป็นจริงเค้า (อาเล็ก-ธีรเดช กับ อเล็กซ์ เรนเดล) ไม่ได้สนิทกันแบบนั้น เป็นเพื่อนรู้จักกัน แต่ไม่ได้สนิทกันถึงขั้นนัดเจอกัน หรือไปเตะบอลด้วยกัน ปีนึงเจอกันแค่ครั้งสองครั้งเองมั้ง แต่เข้าใจได้ในฐานะคนทั่วไปที่จะมองว่าคงเป็นเพื่อนกัน อยู่กลุ่มเดียวกัน ณ เวลานั้นเราไม่สามารถออกมาพูดอะไรได้ เดี๋ยวก่อนๆ เค้าไม่ได้สนิทกันนะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด มันไม่ได้ ตอนนั้นเต้ยเลยรู้สึกว่าเราอยู่เงียบๆของเต้ยไปดีกว่า มันเข้าใจได้หมด เต้ยเป็นคนไม่ได้มองแค่มุมตัวเอง มองในมุมของคนที่วิจารณ์ด้วย เข้าใจเค้า อีกชื่อก็มีความคล้ายกัน รู้สึกเป็นเรื่องตลก แต่ตอนนั้นไม่ได้ตลกเท่าไหร่,ปีครึ่งที่เราทำความรู้จักกันถือว่าแฮปปี้,ต้องดูไปเรื่อยๆ ทุกอย่างสำหรับตัวเต้ยมันต้องใช้เวลา ไม่ใช่ว่าเราเห็นเค้า เค้ามาทำดีกับเรา เราไม่รู้ว่าเค้าจะทำดีอย่างนี้ไปตลอดหรือเปล่า เพราะฉะนั้นเต้ยต้องดูเค้าไปก่อน อย่ามาแบบว่าทำเพื่อที่จะ ไม่รู้สิ เต้ยว่าความจริงใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เต้ยก็เลยลองดูเค้าไปเรื่อยๆ จนตอนนี้ประมาณปีครึ่งเค้าก็ยังเป็นแบบนี้อยู่ ต้องใช้เวลาพิสูจน์กันอีก ปีครึ่งเต้ยไม่สามารถตอบอะไรได้อีก ต้องดูไปเรื่อยๆ แต่ ณ วันนี้ก็แฮปปี้ดี,มีแพลนเที่ยวด้วยกันรึยัง,มีค่ะ จะไปญี่ปุ่น เจมส์จิ, พี่แต้ว-ณฐพรไปด้วย มกราคม ปีหน้า, เจมส์จิมาเที่ยวกับกลุ่มเราได้ยังไง ,เต้ยสนิทกับจิอยู่แล้ว เราเคยเล่นหนังด้วยกัน จิสนิทพี่แต้ว และเต้ยก็สนิทกับพี่แต้วอยู่แล้ว มันก็เหมือนไปเที่ยวกันค่ะ.,ทีมข่าวบันเทิง
|
สกิลการปลอมตัวของ เจ้าขา ต้องเรียกว่าขนลูกบ้า ความโก๊ะ สายเปิ่น มาแจกไม่ยั้ง สำหรับ สาวเต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ นางเอกไซส์มินิ จากละคร มีเพียงรัก ของผู้จัด หน่อย-บุษกร ค่ายซิติเซ่นเคน
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
เต้ย จรินทร์พร,เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ,มีเพียงรัก,ทีมข่าวบันเทิง,คนดังนั่งคุย,ดารา
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1403925
|
ประกาศ สภาทนายความ ขอชาวเมียนมาเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมไทย
|
วันที่ 26 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาทนายความได้ออกประกาศ สำนักงานคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ 1/2558 เรื่อง การสื่อสารและทำความเข้าใจกับชาวเมียนมาต่อกระบวนการยุติธรรมของไทย,ตามที่มีพี่น้องชาวเมียนมาได้แสดงการประท้วงต่อคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดีจำเลยชาวเมียนมา 2 คน ที่ต้องหาว่าทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษจนถึงแก่ความตาย รวมถึงความผิดอีกหลายกรรม ตามคำพิพากษาที่ได้มีการเผยแพร่ไปแล้วนั้น คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายแห่งสภาทนายความ ขอแจ้งให้ทราบเป็นการทั่วไป โดยเฉพาะพี่น้องชาวเมียนมาทราบว่า,1. คดียังไม่ถึงที่สุด คณะทำงานซึ่งได้ตกลงรับให้ความช่วยเหลือตามคำขอของเอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาตั้งแต่ต้น ขอให้พี่น้องชาวเมียนมามั่นในในกระบวนการยุติธรรมของไทย เชื่อว่าในการพิจารณาข้อเท็จจริงต่างๆ ที่ผ่านมาของศาลชั้นต้น เมื่อสู่กระบวนการพิจารณาของศาลอุทธรณ์หรือแม้แต่ศาลฎีกา คณะทำงานเชื่อมั่นว่าความกระจ่างในข้อเท็จจริงจะได้รับการพิจารณาและวินิจฉัยจากศาลสูงโดยชอบด้วยหลักนิติธรรม,2. คณะทำงาน ขอให้ความมั่นใจกับทางท่านเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ญาติของจำเลย และประชาชนเมียนมาทุกหมู่เหล่า ว่าทนายความอาสาของสภาทนายความจะทำหน้าที่ตรงนี้อย่างดีที่สุด เพื่อให้การอุทธรณ์ในศาลสูงในคดีนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและทันการณ์,อนึ่งขอประกาศให้ทางประชาชนชาวเมียนมาทราบว่า ท่านทูตเมียนมา บิดา มารดา ของจำเลยทั้ง 2 นัดหมายคณะทำงาน และนายกสภาทนายความว่าจะมาพบในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ เวลา 13.30 น. ซึ่งในวันดังกล่าว คณะทำงานจะได้ชี้แจงรายละเอียด ประเด็นข้อต่อสู้ที่จะหยิบยกมาอุทธรณ์ในชั้นพิจารณาอุทธรณ์ ให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ จึงใคร่ขอให้ผู้เกี่ยวข้อง และประชาชนชาวเมียนมาพร้อมที่จะรับฟังขั้นตอนการดำเนินคดี เพราะจนถึงขณะนี้จำเลยทั้งสองก็ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด แต่ในกระบวนการยุติธรรมของไทยยังมีอีก 2 ชั้นศาล ที่จะพิจารณาข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายต่อไป ขอมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม และการทำหน้าที่ของทนายความอาสาอาวุโสของสภาทนายความ,3. สภาทนายความจะได้มอบประกาศฉบับนี้ให้กับทางสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อจัดทำคำแปลเป็นภาษาเมียนมา ในการสื่อสาร และทำความเข้าใจกับชาวเมียนมา ต่อกระบวนการยุติธรรมไทยโดยเร็ว,ประธานคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย และนายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์,26 ธันวาคม 2558
|
ประกาศ สภาทนายความ ขอชาวเมียนมาเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมไทย และการทำหน้าที่ของทนายความอาสาอาวุโส ในคดีฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า ขณะที่ 30 ธ.ค. เตรียมแจงแนวทางสู้คดีให้ บิดา-มารดา 2 จำเลย และทูตเมียนมาทราบ
| null |
สภาทนายความ,เมียนมา,เชื่อมั่น,กระบวนการยุติธรรมไทย,ฆ่า2นักท่องเที่ยว,อังกฤษ,เกาะเต่า,2จำเลย,ศาลชั้นต้น,คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย,เอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
|
https://www.thairath.co.th/content/554781
|
ธนาพล: เมื่อ กงจักรปีศาจ เป็นหนังสือต้องห้าม หลัง จับคนขายหนังสือ
|
ว่าด้วยการห้ามหนังสือ The Devils Discus by Rayne Kruger และฉบับแปล กงจักรปีศาจ โดย ร.อ.ชลิต ชัยสิทธิเวชหนังสือ กงจักรปีศาจ กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง เมื่อมีข่าวจำคุกคนขายหนังเสือเล่มดังกล่าว 2 ปีศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ จำคุกลุงขายหนังสือกงจักรปีศาจ 2 ปีทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 2 พฤษภาคม 2549 เวลา 19.00 น. ที่บริเวณพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) นำโดยสนธิ ลิ้มทองกุล ในสมัยรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตรจากข้อเขียนของสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล หนังสือ The Devils Discus เขียนโดย Rayne Kruger พิมพ์ครั้งแรกและครั้งเดียวโดยสำนักพิมพ์ Cassell ลอนดอนเมื่อปี 2507 (1964) แทบจะทันที่ที่หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ออกมา ก็มีการสั่งห้ามโดยรัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร ทันที (ดูภาพประกอบ)กว่าหนังสือเล่มดังกล่าวจะมาสู่โลกภาษาไทย ก็รอจนหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ตามที่สมศักดิ์ ได้บรรยายว่าหนังสือกรณีสวรรคตที่ ร้อน เป็นที่ต้องการมากที่สุดในแวดวงนักกิจกรรมการเมืองกลับเป็นอีกเล่มหนึ่งที่น้อยคนนักจะเคยได้เห็นตัวจริง อย่าว่าแต่อ่าน: กงจักรปีศาจหนังสือมีสถานะเป็น ตำนาน ในหมู่ผู้สนใจการเมืองว่าเป็นงานที่เขียนโดยฝรั่ง ที่เปิดเผย ความลับดำมืด กรณีสวรรคตในหลวงอานันท์ฯชนิดที่หนังสือที่เขียนโดยคนไทยทำไม่ได้ จนกลายเป็นหนังสือ ต้องห้าม ผิดกฎหมาย ไม่สามารถมีไว้ในครอบครองได้ ซึ่งแน่นอนยิ่งทำให้เป็นที่ต้องการกันมากขึ้น ในท่ามกลางภาวะที่กระแสสูงของหนังสือกรณีสวรรคตท่วมตลาดกรุงเทพกลางปี 2517 นั้นเอง ก็มีข่าวลือแพร่สะพัดว่าได้มีผู้ถือโอกาสพิมพ์ กงจักรปีศาจ ฉบับภาษาไทยออกเผยแพร่อย่างลับๆกงจักรปีศาจ ฉบับภาษาไทยที่ขายกัน ใต้ดิน ในปี 2517 ในราคาเล่มละ 25 บาทนี้ เป็นหนังสือขนาด 16 หน้ายก (5 นิ้วคูณ 7 นิ้วครึ่ง) หนา 622 หน้า ปกพิมพ์เป็นสีดำสนิททั้งหน้าหลัง กลางปกหน้ามีพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงอานันท์ฯวัยเยาว์ในกรอบรูปไข่ บนสุดของปกหน้ามีข้อความพิมพ์เป็นตัวอักษรสีขาว 3 บรรทัดว่าด้านล่างเป็นชื่อหนังสือ พิมพ์ด้วยอักษรสีแดง กงจักรปีศาจ ตามด้วยอีก 2 บรรทัดพิมพ์ด้วยตัวอักษรสีขาวที่มุมล่างซ้ายของปกหลังมีข้อความพิมพ์เป็นตัวอักษรเล็กๆสีขาว 4 บันทัดว่าดู สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล กงจักรปีศาจ และหนังสือเกี่ยวกับกรณีสวรรคตหลังจากนั้น วิวาทะว่าด้วยกรณีสวรรคตก็เกิดขึ้นและจบลงด้วยเวลาไม่นานต่อมาก็เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งนำมาสู่การ ห้าม หนังสือหลายร้อยเล่มดู1 ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดชื่อเอกสารและสิ่งพิมพ์ที่ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครอง ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 94 ตอนที่ 18 ง ฉบับพิเศษ วันที่ประกาศ 11 มีนาคม พ.ศ.25202 ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดชื่อเอกสารและสิ่งพิมพ์ที่ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครอง ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 94 ตอนที่ 97 ง ฉบับพิเศษ วันที่ประกาศ 19 ตุลาคม พ.ศ.25203 ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดชื่อเอกสารและสิ่งพิมพ์ที่ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครอง ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 97 ตอนที่ 95 ง วันที่ประกาศ 24 มิถุนายน พ.ศ.2523.4 ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดชื่อเอกสารและสิ่งพิมพ์ที่ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 97 ตอนที่ 180 ง วันที่ประกาศ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2523แต่ปรากฏว่าหนังสือ กงจักรปีศาจ กลับไม่อยู่ในรายชื่อของคำสั่งห้ามทั้ง 4 ฉบับ แต่อย่างใดต่อมาประกาศหนังสือต้องห้ามทั้ง 4 ฉบับก็ได้รับการยกเลิก แต่หนังสือ กงจักรปีศาจ ฉบับภาษาไทยที่แปลโดย ชลิต ชัยสิทธิเวช กลับถูกห้ามในวันที่ 31 พฤษภาคม 2549 ในสมัยทักษิณ ชินวัตร หลังการจับกุมคนขายหนังสือเล่มดังกล่าว (น่าสนใจว่าการออกคำสั่งย้อนหลังนี่ถือว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เพราะเหตุเกิดวันที่ 2 พฤษภาคม 2549)
|
ว่าด้วยการห้ามหนังสือ The Devils Discus by Rayne Kruger และฉบับแปล กงจักรปีศาจ โดย ร.อ.ชลิต ชัยสิทธิเวช หนังสือ กงจักรปีศาจ กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง
|
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
|
กงจักรปีศาจ,ธนาพล อิ๋วสกุล,หนังสือต้องห้าม
|
https://prachatai.com/journal/2015/04/58960
|
ผู้ว่าฯตราด สั่ง หาที่ดินสาธารณประโยชน์ 25 ไร่ ที่หายไปบนเกาะช้าง
|
,เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 29 ธ.ค.59 นายอำเภอเกาะช้างได้มอบหมายให้ นายคณัสชนม์ ศรีเจริญ ปลัดอาวุโส อ.เกาะช้าง จ.ตราดนำเจ้าหน้าที่ฝ่ายรังวัดสำนักงานที่ดิน จ.ตราดส่วนแยก อ.แหลมงอบ ลงพื้นที่หมู่บ้านเจ็กแบ้ หมู่ 3 ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง เป้าหมายเพื่อทำการลากเส้นรังวัดในพื้นที่แนวเขตข้างเคียง จุดที่ถูกระบุว่า เคยเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ของหมู่บ้านมาก่อน โดยมีมาตั้งแต่ในอดีต เมื่อ พ.ศ.2488 แต่ในปัจจุบันได้หายไป จำนวน 25 ไร่ ซึ่งในช่วงระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ภาครัฐก็พยายามหาแต่ยังหาไม่เจอ ซึ่งจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่พบว่า ที่ดินสาธารณะประโยชน์ของหมู่บ้านดังกล่าว ได้ถูกครอบครองทำประโยชน์บางส่วนออกเอกสารสิทธิ์ทับไปแล้ว ที่ผ่านมาทางผู้ว่าราชการ จ.ตราด จึงได้สั่งการให้ทางนายอำเภอเกาะช้าง เดินหน้าทวงคืนกลับมา เพราะที่ดินสาธารณประโยชน์จะหายไปไหนไม่ได้ โดยมี นายจักรกฤษณ์ สลักเพชร อบต.เกาะช้างใต้ -นายสมคิด สายสังข์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.เกาะช้างใต้ ร่วมลงพื้นที่ ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 6 ในรอบ 8 ปี ส่วนมากที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ที่ดิน พยายามจะรังวัดแต่ไม่สำเร็จ เพราะเจอมวลชนขัดขวาง,ครั้งล่าสุดก็เหมือนกับครั้งก่อนๆ เมื่อคณะของเจ้าหน้าที่ไปถึง ก็ได้มีจากชาวบ้านซึ่งเป็นญาติพี่น้องของผู้ครอบครองที่ดินจุดที่ต้องถูกรังวัดกว่า 20 คน มารวมตัวกัน พร้อมมีทนายความถือเอกสารเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ พยายามอธิบายว่า ที่ดินที่ชาวบ้านครอบครองอยู่นั้น ได้มาอย่างถูกต้องไม่ได้เป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์ของหมู่บ้านตามที่มีข้อสงสัย พร้อมกันนี้ ชาวบ้านที่เป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าว ยังแสดงจุดยืนพูดตรงกันว่า จะไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการรังวัดในที่ดินของตนเอง โดยมี ทหารจากกองร้อย รส.ทร.ที่ 4 - ตำรวจ สภ.เกาะช้าง-อุทยานฯ-อาสาสมัครรักษาดินแดน รวมกว่า 30 นาย คอยดูแลความเรียบร้อย ด้านเจ้าหน้าที่เมื่อเจอมวลชนมาต้อนรับก็คิดว่าคงจะเข้ารังวัดไม่ได้ แต่เปลี่ยนแผนเป็นการขอเข้าไปเดินดูแนวเขตที่ดินเปรียบเทียบกับเอกสาร เพื่อนำไปประกอบเอกสารในการหาที่ดินสาธารณะที่หายไป ขอให้ชาวบ้านผู้ครอบครองที่ดินอยู่ไม่ต้องวิตกกังวล สุดท้ายชาวบ้านก็ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ เข้าไปเดินดู พร้อมกับมีการใช้มือถือบันทึกภาพนิ่ง-วีดีโอเจ้าหน้าที่ทุกคนอย่างละเอียด สรุปก็คือเจ้าหน้าที่ได้แค่เดินสำรวจพื้นที่นำข้อมูลไปวิเคราะห์ในที่ประชุมอีกเหมือนครั้งก่อนๆ,ด้านนายสมคิด สายสังข์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.เกาะช้างใต้ กล่าวว่าในช่วงระยะ 10 ปี ก็ได้มีชาวบ้านในพื้นที่กลุ่มหนึ่งได้รับความเดือดร้อน เพราะไม่สามารถจะยื่นขอออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่รับมรดกตกทอดมาได้ สาเหตุเพราะยังหาที่ดินสาธารณะของหมู่บ้านไม่เจอนั่นเอง จึงได้มีการร้องเรียนไปยังผ่านศูนย์ดำรงธรรม และหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เมื่อช่วงปี 2550-2552 ทางจังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเอกสารหลักฐาน พร้อมลงพื้นที่รับฟังคำบอกเล่า ของอดีตผู้นำชุมชน-ผู้สูงอายุหลายราย จนได้ข้อสรุป เชื่อได้ว่า ที่ดินสาธารณะดังกล่าวได้ถูกครอบครองมีเจ้าของจนหมดแล้ว พร้อมกับได้ระบุในที่ประชุมว่า ที่ดินสาธารณะที่หายไปน่าจะอยู่ถัดจากที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 28 ของนางเล็ก เครือนุช ไปทางด้านทิศตะวันออก ติดกับเชิงเขา สอดคล้องกับคำบอกเล่าของ นายตุ๋ย เมฆฉาย อายุ 85 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน และนายตุ๋ย เครือนุช อายุ 85 ปี ผู้สูงวัย ที่ได้ให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ ,ทั้งนี้จากข้อมูลของผู้สื่อข่าวพบว่า ในช่วงที่ผ่านมา อดีตนายอำเภอเกาะช้างบางคน ที่พยายามจะเดินหน้าทวงคืนที่ดินสาธารณประโยชน์ของหมู่บ้านคืนมาก็ได้เจอกลุ่มมวลชนจากหมู่บ้านดังกล่าว ออกมาถือป้ายขับไล่ให้ออกจากพื้นที่อีกด้วย.
|
ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด สั่งนายอำเภอเกาะช้าง เดินหน้าหาที่ดินสาธารณประโยชน์ของหมู่บ้าน เจ๊กแบ้ เกาะช้างใต้ ที่หายไป 25 ไร่ เป็นเวลานับ 10 ปี เผย ที่ผ่านมามีความพยายามเข้าไปตรวจสอบ แต่ก็เจอชาวบ้านเจ้าของที่ดินประท้วง ขับไล่
| null |
ที่ดินเกาะช้าง,หาย25 ไร่,ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด,นายอำเภอเกาะช้าง,ที่ดินสาธารณประโยชน์
|
https://www.thairath.co.th/content/824570
|
น้ำท่วมบ้านริมชายฝั่งทะเล จ.พัทลุง เพิ่มสูงขึ้น
|
ชาวต.นาตาล่วง ต.หนองตรุด ต.บางรัก ต.ควนปริง ต.นาท่วมใต้ ต.นาท่วมเหนือ อ.เมือง จ.ตรัง ยังใช้เรือสัญจรเข้าออกหมู่บ้านเกือบสัปดาห์ หลังน้ำที่เข้าท่วมหมู่บ้านเริ่มมีปริมาณสูงขึ้นจากฝนตก ทำให้ระดับบางพื้นที่ระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร บางครอบครัวไม่สามารถเดินทางไปรับของบริจาคที่หน่วยงานต่างๆ นำมาแจกจ่ายเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนได้ส่วนที่จ.พัทลุง ฝนตกอีกครั้ง ส่งผลให้น้ำที่ท่วมขังบ้านในพื้นที่ริมชายฝั่งทะเลสาบสงขลา คือ อ.บางแก้ว อ.เขาชัยสน อ.ปากพะยูน อ.ควนขนุน และอ.เมือง ที่กำลังทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง กลับเพิ่มระดับขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่บ้านลำปำที่หมู่ 8 และบ้านปากประ หมู่ที่ 11 อำเภอเมือง บ้านชายคลอง หมู่ 4 บ้านปากคลองเก่า หมู่ 9 ต.นางตุง และหมู่ 2 ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีกระลอกบวกกับน้ำทะเลหนุน ทำให้ระดับน้ำอยู่ที่ประมาณ 1 เมตร ชาวบ้านต้องนำสัตว์เลี้ยงไปอาศัยบนถนน พร้อมเร่งสำรองอาหารสัตว์ เนื่องจากเกรงน้ำท่วมกว่ารอบที่ผ่านมา
|
ฝนตกมาอีกครั้งส่งผลให้น้ำที่ท่วมบ้านริมชายฝั่งทะเลที่จ.พัทลุง มีระดับเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ชาวบ้านต้องนำสัตว์เลี้ยงมาอาศัยอยู่บนถนน ขณะที่ชาวบ้าน 6 ตำบล อำเภอเมือง ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมสูงเมื่อหลายวันก่อน ยังได้รับความเดือนร้อน หลังฝนตกลงมา ทำให้พื้นที่ถูกน้ำท่วมมีน้ำท่วมสูง
|
ภูมิภาค
|
ทะเล,น้ำท่วม,ฝนตก,พัทลุง,ใต้
|
https://news.thaipbs.or.th/content/209464
|
หนุ่มเสพยา พาสาวนั่งดริงก์ ซิ่งเก๋งแหกด่าน ตำรวจตามรวบ
|
เมื่อเวลา 22.40 น. วันที่ 3 ต.ค. 58 พ.ต.ท.สุริยงค์ โพธิจันทร์ รอง ผกก.(ป.) สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังสายตรวจ และจราจร ได้ขับรถไล่ล่ารถยนต์เก๋ง ฮอนด้า รุ่นซีวิค สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กพ 4160 พระนครศรีอยุธยา หลังจากที่ได้ขับแหกด่านตรวจสกัดบริเวณแยกคลังบางจาก ถนน 347 ต.เชียงราก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยรถเก๋งคันดังกล่าว ได้มุ่งหน้าเข้าพื้นที่จังหวัดปทุมธานี จึงประสานวิทยุแจ้งมายังศูนย์วิทยุกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดปทุมธานี เพื่อช่วยสกัดจับ,กระทั่ง ไล่ตามมาจนถึงบริเวณภายในนิคมอุตสาหกรรมบางกะดี หมู่ 5 ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงสามารถจับกุมคนร้ายได้ 2 คน เป็นชาย 1 คน ทราบชื่อ นายพงษ์พันธ์ เจิมจุล หรือ เก่ง อายุ 33 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ และหญิง 1 คน ชื่อ แป้ง ตรวจค้นภายในรถ ที่ช่องเก็บของฝั่งคนนั่งหน้าซ้าย พบกระเป๋าสีขาว ภายในพบยาบ้าจำนวนหนึ่ง ยาไอซ์ 2 ถุงเล็ก และอุปกรณ์การเสพยา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางประอิน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำตัวกลับไป สภ.บางปะอิน เพื่อตรวจสอบและขยายผล,พ.ต.ท.สิริยงค์ โพธิจันท์ รอง ผกก.ป. สภ.บางปะอิน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และจราจร จำนวนหนึ่งได้ตั้งด่านตรวจความเรียบร้อยในพื้นที่ ถนน 347 ต.เชียงราก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีรถเก๋งคันดังกล่าว ขับมา เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้เรียกเพื่อตรวจสอบ แต่รถเก๋งคันดังกล่าวไม่ยอมจอดรถและกลับแหกด่านไปอย่างรวดเร็ว ตนและเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้รีบขับรถติดตามไล่ล่า สกัดจับ กระทั่งเข้าเขตพื้นที่ จ.ปทุมธานี คนร้ายได้ขับรถหลบหนีเข้าไปในนิคมอุตสาหกรรมบางกะดี และสามารถจับกุมได้ดังกล่าว,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถตรวจสอบและระบุได้ว่า กลุ่มผู้ต้องหารายนี้ เป็นกลุ่มค้ายาบ้าจากกลุ่มใด แต่สอบถาม น.ส.แป้ง ให้การว่าเป็นสาวนั่งดริงก์ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา และนายพงษ์พันธ์ มาเที่ยวก่อนชวนออกมานั่งรถเล่น แต่ขับมาเจอด่านและขับหนี จนกระทั่งมาถูกตำรวจไล่จับ โดยไม่ทราบว่ามียาเสพติด เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้นำผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลางไปสอบสวนเพื่อขยายผล และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พ.ต.ท.สิริยงค์ กล่าว.
|
สาวนั่งดริงก์ปัด ไม่เคยรู้จักมาก่อน เจอกันที่คาราโอเกะเลยเถิดชวนเที่ยวต่อ ตำรวจตั้งจุดตรวจ หนุ่ม 33 ซิ่งเก๋งหนี เจ้าหน้าที่ไล่ล่าสกัดจับ ตรวจค้นในรถพบทั้งยาบ้า ยาไอซ์ ก่อนควบคุมตัวขยายผลดำเนินคดีต่อไป
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ยาบ้า,ยาไอซ์,รวบหนุ่มอยุธยาเสพยาไอซ์,พระนครศรีอยุธยา,บางปะอิน,สุริยงค์ โพธิจันทร์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ขับรถแหกด่าน,ซิ่งหนีตำรวจ,ค้ายาบ้า,เสพยาบ้า,มียาบ้าในครอบครอง,ขายยาบ้า,สาวนั่งดริงก์
|
https://www.thairath.co.th/news/local/529798
|
ซือแป๋ ปัดเปิดศึกศาลรธน. ปชป.ฉะมท.คุมล.ต. เต้นสับพวกเพ้อเจ้อ
|
ชี้ไม่ใช่หน้าที่ เล็งจัดสัมมนาเชิญนักการเมืองร่วมถกจุดบอดเลือกตั้ง นายกฯไม่ห่วงศาล รธน.ตีกลับเอกสารกรธ. 2 รอบ เชื่อเป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้น เดี๋ยวก็คุยกันรู้เรื่อง วิษณุ ไม่สบายใจ ห่วงสังคมมองเล่นเกมสุมหัวยื้อโรดแม็ป แนะ กรธ.-ศาล รธน.อะลุ่มอล่วย เพื่อให้เดินไปตามโรดแม็ปโดยเร็ว มองข้อเสนอคสช.คุมเลือกตั้งสุ่มเสี่ยงถูกครหา ขณะที่ กกต.ค้านยุบ กกต.จังหวัด ด้าน บิ๊กป้อม ฉุนจะให้ คสช.ทำทุกสิ่ง สปท.ยังสับกันเอง ย้อนยุคให้ มท.จัดเลือกตั้ง ยิ่งทำให้โลกมองไทยประชาธิปไตยเหลือ จิ๊บจ๊อย ปชป.อัดซ้ำข้อเสนอเจาะเวลาหาอดีต อัปยศ-จ้องเชลียร์ นปช.ร่วมวงสับพวกเพ้อเจ้อ ควรไปพบแพทย์,หลายฝ่ายจับตาว่าจะกลายเป็นศึกงัดข้อกันหรือไม่ หลังจากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ปรับปรุงแก้ไขบทเฉพาะกาลตามคำถามพ่วงให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา แต่กลับถูกตีกลับมาถึง 2 ครั้ง จนนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.ออกอาการไม่สบอารมณ์ ระบุว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอาจกระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญชั่วคราวนั้น,เมื่อวันที่ 2 ก.ย. เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญรับเอกสารเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญที่แก้ไขตามผลการออกเสียงประชามติที่ กรธ.ส่งไปแล้ว ส่วนจะเริ่มนับ 1 เมื่อไหร่ก็เป็นกระบวนการของศาล เมื่อถามว่า กรธ.อาจจะมีการปรับเปลี่ยนแก้เรื่องการดำเนินการของศาลรัฐธรรมนูญในช่วงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ตรงนี้จะกลายเป็นการเปิดศึกกับทางศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายมีชัยตอบว่า ไม่ เพราะศาลเขามีความมั่นคงอยู่แล้วเวลาปฏิบัติหน้าที่ ไม่ต้องไปกังวลเขาเชื่อถือได้,เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มีข้อเสนอเกี่ยวกับการร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ คสช.เข้ามาคุมการเลือกตั้ง นายมีชัยตอบว่า คสช.คงไม่ได้มีหน้าที่แบบนั้นข้อเสนอที่ให้กระทรวงมหาดไทยเข้ามาจัดการเลือกตั้งนั้น คิดว่าต้องดูเหตุผลที่เขาเสนอ ต้องฟังหลายๆฝ่าย เมื่อถึงเวลาอาจต้องจัดสัมมนาให้ทุกฝ่ายมาพูดคุยว่าเจอปัญหาอะไร และจะแก้อย่างไร เราต้องรับฟังผู้มีประสบการณ์ทั้งหลายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนักการเมืองด้วย เพราะจะรู้ดีว่าจุดอ่อนอยู่ตรงไหน ขณะนี้คณะอนุกรรมการของ กรธ.กำลังดูอยู่,เมื่อเวลา 14.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความเห็นต่างระหว่าง กรธ. ศาลรัฐธรรมนูญ และ กกต. กรณีศาลรัฐธรรมนูญตีกลับเอกสารร่างรัฐธรรมนูญที่มีการปรับแก้ไขบทเฉพาะกาลถึง 2 ครั้งของ กรธ.ว่า เรื่องนี้ไม่ห่วง เดี๋ยวก็ต้องหาข้อยุติจนได้ ต่างก็เป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทั้งนั้น เอาประเด็นวัตถุประสงค์ที่ต้องการว่าสุดท้ายคืออะไร ประเทศชาติจะได้อะไร เดี๋ยวเขาก็ตกลงกันได้เพราะเป็นผู้ใหญ่กันทั้งนั้น เมื่อถามว่า ไม่จำเป็นถึงขั้นที่นายกฯต้องเข้าไปสั่งการใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า จะไปยุ่งอะไรกับเขา ทำไมผมต้องเข้าไปเคลียร์หรือ ผมไม่ใช่เจ้ามือ ไม่ใช่กรรมการ ชอบเอาไปพันกัน ทุกอย่างเลยกลับมาที่ผมทั้งหมด เอาให้สุดท้ายก่อนแล้วค่อยมาถึงผม วันนี้ให้เขาทำกันก่อน,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ที่เปิดโอกาสให้ซักถามเพราะเดี๋ยวจะไม่อยู่หลายวัน จะได้คิดถึงกัน จะไม่อยู่ 4-5 วัน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะฝากอะไรช่วงที่ไม่อยู่ประเทศไทยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบสั้นๆว่า ฝากประเทศชาติไว้กับพวกคุณ เมื่อถามอีกว่า ช่วงนี้เหนื่อยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่มีเหนื่อย แข็งแรง เดินทางไปต่างประเทศไม่ใช่ไปเที่ยว แต่ไปทำงาน หนักกว่าอยู่ประเทศไทยเสียอีก,ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการตีกลับร่างรัฐธรรมนูญที่ กรธ. ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า อย่าไปทำให้มันยุ่งยากขัดแย้ง กรธ.ส่งไปแล้วถือว่าจบ ไม่มีอะไร เป็นปัญหาเรื่องเทคนิค ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวระบุว่าการส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญเป็นภาคบังคับ ไม่ได้ส่งไปเพื่อตีความ ไม่ส่งไม่ได้ ต่อให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ กรธ.เห็นตรงกันเกี่ยวกับคำถามพ่วง ก็ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญและต้องรับเรื่องอยู่ดี ไม่รับไม่ได้ มาผิดหรือถูกก็ต้องรับ ถ้าไม่รับส่งกลับไปกลับมา แล้วเมื่อไรจะมีคนวินิจฉัย ทั้งนี้อาจมีข้อท้วงติงอะไรกันอยู่บ้างว่าทำไมเรื่องนี้ต้องมาปฏิบัติเหมือนเรื่องอื่นๆ หนักนิดเบาหน่อย ก็ควรทำให้มันอยู่ในขั้นตอนที่เดินได้โดยรวดเร็ว เดี๋ยวจะถูกสังคมตำหนิว่ายื้อเวลา ทำให้เวลาที่กำหนดไว้มันล่าช้า เมื่อถามว่า ต่อไปอาจต้องมีการแก้ไขอะไรหรือไม่ เพราะขนาด กรธ.ส่งเรื่องไปยังทำผิดเลย นายวิษณุตอบว่า นั่นเป็นการตัดพ้อ ต่อว่า เป็นเรื่องธรรมดา เพราะตัดพ้อเป็นดีกรีที่เบาที่สุด หนักกว่านั้นคือด่า เพราะเรื่องนี้ข่าวออกไปตามสื่อว่ายื้อกัน เหมือนสมคบกันยื้อเวลา เพื่อไม่ให้เป็นไปตามโรดแม็ป ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคำชี้แจงเป็นเอกสารออกมา,นายวิษณุยังกล่าวถึงข้อเสนอของ กมธ.ปฏิรูปด้านการเมือง สปท. ในการร่างกฎหมายลูกเกี่ยวกับพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง ส.ส.ว่า การจัดทำกฎหมายลูกเป็นอำนาจของ กรธ. จะทำอย่างไรก็แล้วแต่ คนอื่นจะผสมโรงช่วยเสนอแนะไม่เป็นไร วันหนึ่งรัฐบาลอาจเสนอแนะไปก็ได้ แต่ท้ายสุด กรธ.จะเป็นคนเคาะ คำเสนอแนะมีได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำ แค่พูดให้ฟัง ส่วนตัวมองว่าหลักการบางเรื่องสมัยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญปี 58 ดูเข้าท่า ไม่มีใครติ อาจนำมาประกอบการพิจารณาได้ด้วย สำหรับข้อเสนอให้ คสช.ลงพื้นที่ดูแลความเรียบร้อยในช่วงเลือกตั้งนั้น การใช้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และพลเรือน อาจทำให้เกิดการครหาได้ มีจุดล่อแหลมที่เสี่ยงอยู่เหมือนกัน,เมื่อถามว่า ก่อนมีการเลือกตั้งปี 60 ระหว่างทางจะมีการผ่อนปรนให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นได้หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่เคยมีการพูดกันตรงๆ ถึงกำหนดเวลา แต่เคยนำมาประกอบการพิจารณาว่าจังหวะใดถึงจะเหมาะสม ถ้าเพราะเปิดให้มีการ เลือกตั้งท้องถิ่นแปลว่าต้องเปิดทางให้หาเสียง จะทำให้เกิดสิ่งแทรกซ้อนอะไรหรือไม่ เป็นปัจจัยที่คสช.ต้องเอาไปคิด ลำพังจะเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อไหร่ไม่เป็นไร มันคือมาตรการประชาธิปไตยทั้งนั้น แต่จะเลือกตั้งโดยไม่หาเสียงได้อย่างไร เพราะตอนนี้ไม่ได้เปิดโอกาส ยังห้ามชุมนุมเกิน 5 คนอยู่ จึงต้องคิดหน่อย เลยยังไม่มีคำตอบตรงนี้ แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาและมีข้อมูลทั้งหมดแล้วว่าถ้าเลือกตั้งท้องถิ่นเดือนใดจะเกิดผลอะไร,ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลรัฐธรรมนูญว่า สำหรับการพิจารณาคำร้อง กรธ.เรื่องร่างรัฐธรรมนูญซึ่งแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับผลการออกเสียงประชามติประเด็นคำถามพ่วง เพื่อให้พิจารณาว่าเป็นการชอบด้วยกับผลการออกเสียงประชามติแล้วหรือไม่ โดยสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับคำร้องดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย จึงเป็นไปได้ว่า การประชุมในวันที่ 7 ก.ย. หากที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้รับคำร้องไว้พิจารณา ตุลาการก็สามารถเริ่มอภิปรายได้ทันที อาจจะตั้งตุลาการประจำคดีที่อาจเป็นองค์คณะ 4 คน หรือทั้งองค์คณะ แต่คาดว่าการพิจารณาคำร้องดังกล่าวน่าจะเป็นการพิจารณาทั้งองค์คณะ อาจมีการประชุมเพื่ออภิปรายอย่างต่อเนื่อง เพราะถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ใช้เวลาการพิจารณาไม่ถึง 30 วัน หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยหรือให้ความเห็นออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง กรธ.ก็ต้องดำเนินการตาม เพราะเป็นสิ่งที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดไว้,เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีการจัดสัมมนาหัวข้อ นโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง : ข้อเท็จจริง ปัญหา และแนวทางแก้ไข ให้กับนักศึกษาหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูงรุ่นที่ 7 (พตส.7) นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง กล่าวว่า การร่างรัฐธรรมนูญมีการพูดว่าจำเป็นต้องใช้กฎหมายเข้ามาควบคุมการเสนอนโยบายของพรรค เพื่อไม่ให้มาสร้างปัญหาให้กับประเทศ แต่ตนกลับเห็นว่าการที่จะทำให้พรรคเสนอนโยบายที่ดีต้องมาจากการกดดันของประชาชน สื่อต้องติดตามอย่างเข้มข้น ควรจะมีหน่วยงานวิเคราะห์งบประมาณของฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อมาวิเคราะห์นโยบายของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ว่า นโยบายดังกล่าวจะใช้งบประมาณในการดำเนินการเท่าใด และจะสร้างความเสียหายเกิดขึ้นอย่างไร,นายเจษฎ์ โทณะวณิก ที่ปรึกษา กรธ. กล่าวว่า แนวทางร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ในเรื่องพรรคการเมืองมีเสรีภาพในระดับที่เหมาะสม มีขื่อแปที่จะดำเนินงานร่วมกัน ทำให้พรรคต้องมีความรับผิดชอบในการเสนอนโยบายที่เป็นสัญญาประชาคม และมีการกำหนดว่าเมื่อเป็นรัฐบาลแล้วนโยบายสร้างความเสียหาย คณะรัฐมนตรีที่ร่วมเห็นชอบจะต้องรับผิดชอบร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย ยืนยันว่า ร่างรัฐธรรมนูญของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ไม่ได้มีความคิดที่จะออกแบบให้พรรคการเมือง หรือรัฐบาลอ่อนแอ ความเข้มแข็งของรัฐบาลหรือพรรคการเมืองไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ว่ามีพรรคมากหรือน้อย แต่อยู่ที่นโยบายของพรรคว่าดีกับประชาชนหรือไม่ ซึ่งต้องทำให้ประชาชนมองนโยบายพรรคสำคัญ ถ้าจะเรียกร้องให้พรรค การเมืองเปลี่ยน ประชาชนก็ต้องเปลี่ยนด้วย,ช่วงบ่าย ที่สำนักงาน กกต. นายธนิศร์ ศรีประเทศ รองเลขาธิการ กกต. แถลงว่า ที่ประชุม กกต.ได้พิจารณากรณีที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. เร่งรัดให้ กกต.ส่งร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวการเลือกตั้ง 4 ฉบับให้ กรธ.ภายใน 2 สัปดาห์ โดยรับทราบการยกร่างกฎหมายทั้ง 4 ฉบับเสร็จสิ้นแล้ว แต่ กกต.เห็นว่าจำเป็นต้องพิจารณาร่างกฎหมายให้รอบคอบและสอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร โดยที่ประชุมจะนำร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาอีกครั้ง สำหรับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จะเสนอที่ประชุมพิจารณาในวันที่ 6 ก.ย. ส่งให้ กรธ.ได้ภายใน 15 ก.ย. ส่วนร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. จะเสนอที่ประชุมพิจารณาในวันที่ 20 ก.ย. และจะส่งให้ กรธ.ได้ในสิ้นเดือน ก.ย. ส่วนร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. จะเสนอที่ประชุมพิจารณา 27 ก.ย. และเสนอ กรธ.ได้ไม่เกินสัปดาห์แรกของต้นเดือน ต.ค. ยืนยันว่า กกต.ไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งพิจารณาให้เสร็จโดยเร็ว เมื่อถามว่า ในร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. มีการยกเลิก กกต.จังหวัด ตามข้อเสนอของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศด้านการเมือง สปท.หรือไม่ นายธนิศร์ตอบว่า กกต.ยกร่างฯเป็นไปตามข้อเสนอของ กกต. ไม่มีเรื่องการยุบ กกต.ประจำจังหวัด แต่การจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรเป็นสิทธิ์ของ กรธ.ที่จะพิจารณา,ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึง ข้อเสนอของนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิก สปท. ที่เสนอให้กระทรวงมหาดไทยเข้ามาจัดการเลือกตั้งว่า เรื่องนี้อย่ามาถามตน เพราะยังไม่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของรัฐบาลชุดใหม่ ถ้าอยากจะคิดก็ให้คิดไป ส่วนที่จะให้ คสช.ดูแลความปลอดภัยช่วงการเลือกตั้งนั้น คสช.มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของทั้งประเทศให้มีการเลือกตั้งได้อยู่แล้ว และ กกต.ต้องดูแลการเลือกตั้ง หลังจากเลือกตั้งเสร็จแล้ว คสช.ก็จะปล่อยเป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดใหม่เป็นผู้ดูแล ข้อเสนอดังกล่าว ในที่ประชุม คสช.ไม่มีใครพูดถึงประเด็นนี้เลย แต่ถ้าอยากทราบรายละเอียดในประเด็นนี้ก็ต้องไปถามคนที่เสนอมาเอง ตนไม่รู้ และต่อไปนี้ห้ามถามแบบนี้ เพราะไม่ใช่เรื่องที่เอาเรื่องคนนั้นมาถามคนนี้ คิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับความมั่นคง ถ้ามีอะไรเกี่ยวกับความมั่นคง แล้วเกิดความไม่สงบค่อยมาถามตน,ด้านนายวันชัย สอนศิริ โฆษก กมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท. กล่าวถึงข้อเสนอในบทเฉพาะกาล ให้ คสช.เข้ามาร่วมกับ กกต. จัดการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า ข้อเสนอนี้มาจากการตกผลึกที่เห็นร่วมกันใน กมธ. ที่ประกอบไปด้วยบุคลากรจากทุกพรรค ทุกสี ที่อยากเห็นการเลือกตั้งที่สุจริต เที่ยงธรรม อยากให้การเลือกตั้งในปี 60 เป็นตัวอย่างให้การเลือกตั้งครั้งต่อๆไปในอนาคต ข้อเสนอนี้ไม่จำเป็นต้องไปเดินสายถาม หรือคุยกับนักการเมืองอีกแล้ว เพราะเป็นข้อเสนอที่ดี ประชาชนต้องการ นักการเมืองก็ต้องการ เว้นไว้แต่นักการเมืองที่ต้องการเข้าไปซื้อเสียง ทุจริตเลือกตั้งที่อาจไม่ชอบ ส่วนกรณีที่ กรธ.บอกว่าต้องไปรับฟังความคิดเห็นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนักการเมืองก่อนนั้นข้อเสนอนี้ของ กมธ.การเมือง ไม่ค่อยจะเกี่ยวกับกฎหมายลูกที่ กรธ.กำลังทำสักเท่าไหร่ กรธ.จะเอาหรือเปล่า เขียนเป็นกฎหมายหรือไม่ แต่ กมธ.ต้องการส่งข้อเสนอตรงไปยัง คสช. เพื่อให้เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ คสช.จะได้มีผลงานเป็นที่ยอมรับ,นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธาน กมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท. กล่าวว่า ใน กมธ.มีตัวแทนจากฝ่ายการเมืองอยู่แล้วหลายคน ข้อเสนอของเราว่ากันด้วยเหตุผล ที่ต้องการจะแก้ปัญหาการเมืองแบบเดิมๆ วันนี้ต้องกล้าตัดสินใจว่าอะไรจะทำให้ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นหมดไป กมธ.ไม่กลัวกระแสต่อต้านจากภายนอก ถ้าไปกลัววังวนแบบเดิมๆจะกลับมาอีก ทั้งนี้ถ้าหากใครมีข้อเสนอที่ดีก็เสนอไป แต่คนที่จะจัดทำคือ กรธ. และยังต้องส่งต่อให้ สนช.พิจารณาอีก ต่อจากนี้ใครมีข้อเสนอก็ต้องทำตามกระบวนการ จะปรับแก้รับข้อเสนอหรือไม่รับ ก็เป็นเรื่องของ กรธ.,นายสมพงษ์ สระกวี กมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท.กล่าวว่า พรรคการเมืองไม่ค่อยสนใจเนื้อหารายละเอียด ไปสนใจแต่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.จะตั้งพรรคหรือไม่เท่านั้น ข้อเสนอของ กมธ.ที่เสนอไป หัวใจต้องการปฏิรูปพรรคการเมือง อยากให้เป็นพรรคการเมืองของประชาชนไม่ใช่ของนายทุน ทางเราพร้อมลุยไฟไม่กลัว เพราะเราตอบเหตุผลได้,นายนิกร จำนง กมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท.กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอให้กระทรวงมหาดไทยมีส่วนร่วมจัดการเลือกตั้ง เหตุผลของข้อเสนอนี้มาจากการที่ กกต.จัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 57 ไม่สำเร็จ จึงมีผู้เสนอให้กระทรวงมหาดไทยมาช่วยเพราะมีกำลังคนพร้อม แต่ประสบการณ์ทางการเมืองกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ตนสัมผัสมาแล้วว่า รมว.มหาดไทย ที่มีสังกัดพรรคการเมือง จะมีอำนาจและอิทธิพลสูง จะกดดันบุคลากรในพื้นที่จนทำให้การเลือกตั้งไม่ชอบธรรมได้ ข้อเสนอนี้จะทำให้เสียมากกว่าได้ เราพัฒนาประชาธิปไตยมาแล้ว จะกลับไปแบบเดิมไม่ได้ และไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะเขียนในบทเฉพาะกาล ให้ คสช.เข้ามามีบทบาทควบคุมจัดการเลือกตั้งร่วมกับ กกต.ในปี 2560 จะทำให้ทุกอย่างเสียไปทั้งระบบ เราจะตอบสังคมโลกอย่างไร ลำพังตอนนี้เรามีประชาธิปไตยเพียงครึ่งใบ หากให้ คสช.มาช่วยจัดเลือกตั้งอีก ประชาธิปไตยจะเหลือเพียงแค่เสี้ยวใบ,นายนิกรกล่าวอีกว่า ข้อเสนอของ กมธ.ขับ เคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท. ใช้มติเสียงข้างมากในการรับรองข้อเสนอ แต่ตัวแทนฝ่ายการเมืองมีน้อย จึงทำให้บางประเด็นเสียงสู้ไม่ได้แต่ข้อเสนอในบทเฉพาะกาลตนยืนยันว่า ไม่มีการนำมาพิจารณาในที่ประชุม กมธ.เพื่อขอมติ เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของสมาชิก สปท.บางคนเท่านั้น รายงานข้อเสนอแนะการร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.ที่ออกไปจึงมีหลายระดับ ไม่ใช่ทุกประเด็นที่เห็นชอบร่วมกันทั้งหมด และรายงานฉบับดังกล่าวยังไม่สะเด็ดน้ำ ต้องรอการพิจารณารอบสุดท้ายร่วมกับรายงานข้อเสนอแนะเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมืองอีก ในการประชุม กมธ.การเมือง วันที่ 6 ก.ย.นี้อีกครั้งก่อนจะนำเข้าสู่การอภิปรายของที่ประชุมใหญ่ สปท.ต่อไป,ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณี กมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท. เสนอให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้จัดการเลือกตั้ง โดยมี กกต.คุมอีกชั้นนั้น ตามเจตนารมณ์ที่กำหนดให้องค์กรอิสระอย่าง กกต.มาจัดการเลือกตั้ง ก็เพราะมีความอิสระ เป็นกลาง แต่ถ้าเป็นกระทรวงมหาดไทยจัด เกรงว่า ความเป็นกลางทางการเมืองจะสู้องค์กรอิสระไม่ได้ เช่น ถ้าเกิดมีพรรคการเมืองหนึ่งกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย เขาก็จะใช้อำนาจแฝงสั่งผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้ และอาจมีผลต่อการเลือกตั้ง ข้อเสนอนี้จึงถอยหลังไปมาก หาก กรธ. จะว่าตาม สปท. ก็ไม่มีปัญหา แต่ที่ผ่านมาเราเปลี่ยนผู้จัดเลือกตั้งจากกระทรวงมหาดไทย เป็นองค์กรอิสระเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องความเป็นกลาง ให้มีความเที่ยงธรรมในการเลือกตั้ง จึงเห็นว่าให้ กกต. จัดการเลือกตั้งเหมือนเดิมจะดีกว่า,นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถ้าให้กระทรวงมหาดไทยจัดการเลือกตั้งแล้วจะมี กกต.ไว้ทำไม หรือ กกต.ที่มีอยู่ทำหน้าที่ล้มเหลวมากจนถึงต้องให้มหาดไทยกลับมาทำหน้าที่นี้แทน และจะเป็นการย้อนยุคไปสู่มาเฟียคลองหลอดในอดีต ที่มีโกงการเลือกตั้งอย่างโจ๋งครึ่มอีกหรือไม่ และเชื่อหรือว่าการเลือกตั้งจะบริสุทธิ์ เที่ยงธรรมถามตรงๆว่านายเสรีรับงานใครมาหรือไม่ ส่วนข้อเสนอที่อัปยศที่สุดของ สปท. คือให้ คสช.ควบคุมและดำเนินการเลือกตั้งร่วมกับ กกต. เป็นข้อเสนอที่เชลียร์คณะรัฐประหารจนเกินพอดี ควรให้ กกต.เป็นผู้ดำเนินการก็เฉียบขาดพอแล้ว ส่วนบรรดา สปท. สนช.และคณะทำงานที่อยู่เบื้องหลัง ที่เอาใจ คสช.ในขณะนี้ คสช.ควรทำบัญชีล่วงหน้าให้เป็น ส.ว.กันทุกคนหากครบจำนวน 250 คนแล้ว ควรทำอีกบัญชีหนึ่งเตรียมให้คณะรัฐประหารชุดต่อไปแต่งตั้งเป็นสภาที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งชุดต่อไปได้เลย เพื่อป้องกันการวิ่งเต้นในอนาคต,นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ข้อเสนอของ กมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท. ให้ยกเลิก กกต.จังหวัด เพื่อให้ กกต.กลางมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการมีอำนาจสั่งให้ฝ่ายทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองกระทรวงมหาดไทยมาเป็นผู้ช่วยเหลือจัดการเลือกตั้ง ว่าปัญหาจริงๆไม่ได้อยู่ กกต.จังหวัด แต่อยู่ฝ่ายสืบสวนสอบสวนของ กกต.ที่ทุจริตเรียกรับเงิน จึงไม่เห็นด้วยที่จะยุบ กกต.จังหวัด แต่ต้องไปแก้ข้อพกพร่องคือต้องตัดชุดสืบสวนของ กกต.ที่ทุจริต ส่วนข้อเสนอใช้ฝ่ายปกครอง ครู ตำรวจ ทหารมาช่วยงานนั้นปกติก็ใช้หน่วยราชการเหล่านี้อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ตัวหลัก หากทำตามข้อเสนอสังคมจะสงสัยในความเป็นกลาง,นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่าข้อเสนอของ สปท.กับนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสปช.นั้นไม่ใช่เรื่องญี่ปุ่นโมเดล แต่คือประชามติโมเดล เพราะการห้ามเปิดเวทีปราศรัย เคลื่อนไหวรณรงค์ การให้กระทรวงมหาดไทย ตำรวจ ทหาร จัดการเลือกตั้ง หมายถึงยึดอำนาจนี้กลับไปเป็นของ คสช.ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วในการลงประชามติ และบรรดาหางเครื่องทั้งหลายคิดว่าผลคะแนนคือชัยชนะครั้งใหญ่ ข้อเสนอแบบนี้เกิดจากความเชื่อว่าวิธีการดังกล่าวจะทำให้ได้ผลการเลือกตั้งตามที่ต้องการ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าผู้มีอำนาจจะไม่ขานรับ เพราะยิ่งกว่าเปิดถ้วยแทงว่าโรดแม็ปของจริงคือการสืบทอดอำนาจ เชื่อว่าคงมีวิธีการที่โฉ่งฉ่างน้อยกว่านี้ ทั้งนี้ไม่ได้พูดเพื่อผลประโยชน์ของนักการเมือง แต่ต้องสร้างเวทีที่เป็นมาตรฐานสากล แล้วให้กระบวนการประชาธิปไตยคัดกรองคุณภาพตัวแทนประชาชน ไม่ใช่ให้คนที่ไม่เคยขึ้นเวทีมาชี้ว่าประชาชนไม่มีคุณภาพ จริงๆถ้าคนพวกนี้รู้สึกไม่สบายก็ควรไปปรึกษาแพทย์ ไม่ควรปล่อยให้พิษไข้ทำให้เพ้อได้ขนาดนี้,นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า ตามที่ศาลฎีกามีคำตัดสินให้ผู้บริหารขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) มีความผิด เอื้อประโยชน์ให้ผู้ที่ประมูลได้ โดยให้ผู้ประมูลได้ นำกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นใหม่มาเซ็นสัญญาแทนชื่อผู้ที่ประมูลได้จริง ทั้งๆ ที่เลยกำหนดวันเซ็นสัญญาไปแล้ว เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้จากกำไรมหาศาลนี้ ทั้งนี้รัฐบาลในขณะนั้นได้มีการออกกฎหมายใหม่เพื่ออนุญาตให้ละเว้นภาษีเงิน ได้แก่กองทุนรวมเหล่านี้ แต่ขณะนั้นกฎหมายยังออกไม่เสร็จในช่วงที่มีการประมูล จึงมีการอนุญาตให้นำกองทุนรวมที่ตั้งใหม่นี้มาเซ็นสัญญาแทนได้ ทั้งที่เลยกำหนดเวลาไปแล้ว เป็นการเอื้อประโยชน์อย่างชัดเจน เชื่อได้ว่าน่าจะมีผู้ไดัรับประโยชน์อย่างมหาศาล โดยเฉพาะนักการเมืองในรัฐบาลขณะนั้น ดังนั้นในเมื่อผู้บริหารของ ปรส. มีความผิดที่ทำรัฐเสียหาย แล้วรัฐบาลที่ออกกฎหมายใหม่ให้เว้นภาษีเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกองทุนรวมเหล่านี้ จะมีความผิดด้วยหรือไม่ อยากให้สืบสวนว่าใครได้ประโยชน์จากการนำซากประเทศที่กำลังย่ำแย่มาขายถูกๆแล้วยังไม่ต้องเสียภาษีในขณะนั้น นอกจากนี้ยังอยากให้เร่งดำเนินคดีโครงการสวนปาล์มในประเทศอินโดนีเซียที่มีข้อกล่าวหาว่าทุจริตกันอย่างมาก ซึ่งเรื่องยังค้างอยู่ที่ ป.ป.ช.,วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) เป็นประธานการประชุม คตช. โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการ ศอตช.แถลงว่า ที่ประชุมศตช.เห็นชอบแนวทางที่ ศอตช.เสนอเพิ่มศักยภาพศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต (ศปท.) ในวงราชการ ให้ ศปท.ทำหน้าที่ตรวจสอบเปรียบเทียบการดำเนินการทางวินัย กรณีประชาชนหรือ ศอตช.เกิดความสงสัย หากผลสอบไม่ตรงกันต้องปรับแก้คำสั่งและคนที่มีหน้าที่ตรวจสอบต้องชี้แจง ทั้งนี้การตรวจสอบทุจริตจะขับเคลื่อนบน 3 แนวทางคือ ถ้าไม่ปรากฏตามที่ร้องเรียนให้ยุติเรื่อง ถ้ากระทำผิดจริงต้องแก้ไขให้เรียบร้อย ส่วนเจ้าหน้าที่กระทำผิด ทาง ป.ป.ท.จะดำเนินการตามกฎหมาย ถ้าระดับสูงส่ง ป.ป.ช.และตั้งเป้า 3 ประการ คือคนโกงรายเก่าต้องหมดไป คนโกงรายใหม่ต้องไม่เกิด และไม่เปิดให้โกงได้ง่าย,ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใน 1-2 วันนี้ จะมีคำสั่งหัวหน้า คสช.ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 7 ประมาณ 20 กว่ารายชื่อ ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการระดับ 8-9 ที่ต้องสอบวินัยร้ายแรง ส่วนคำสั่งหัวหน้า คสช.ครั้งที่ 1-6 ก่อนหน้านี้ รวม 237 รายชื่อ มีการรายงานผลดำเนินการทางวินัยของต้นสังกัด มีคดีเสร็จแล้ว 62 รายชื่อ มีผลทางวินัยขั้นไล่ออกทันที 8 รายชื่อ พ้นจากตำแหน่ง 25 รายชื่อ ตัดเงินเดือน 2 รายชื่อ ภาคทัณฑ์ 2 รายชื่อ ตักเตือน 1 รายชื่อ ยุติเรื่อง 16 รายชื่อ และ ป.ป.ช.ชี้มูล 8 รายชื่อ ทั้งนี้กรณีที่ไม่ใช่ไล่ออกยังสามารถอุทธรณ์ได้ และอยู่ระหว่างดำเนินการ 105 รายชื่อ และติดตามดำเนินการ 63 รายชื่อ หากสามารถฟ้องแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายได้จะฟ้องต่อไป,ค่ำวันเดียวกัน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา แพร่คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 52/2559 เรื่องประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 7 อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว มีคำสั่งให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) แจ้งให้ต้นสังกัดทราบ เพื่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ภายใน 30 วัน หากไม่แล้วเสร็จให้รายงานรัฐมนตรีเจ้าสังกัดทราบเพื่อขยายเวลาแล้วแต่ความจำเป็น ถ้ามีความผิดตามที่ได้รับแจ้ง ให้ดำเนินการทางวินัยและกฎหมายต่อไป ถ้าไม่พบการกระทำผิดให้เยียวยาโดยรับ ตำแหน่งเดิมตามความเหมาะสม แต่ให้ออกจากพื้นที่เดิม ก่อนเข้าสู่กระบวนการแต่งตั้งโยกย้ายคราวต่อไป และสรุปผลแจ้งให้ ศอตช.ทราบ และให้ประธาน ศอตช. ตั้งคณะบุคคล 3-5 คน ตรวจสอบเปรียบเทียบให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ถ้าผลสอบไม่ตรงกัน ให้หารือกับผู้บังคับบัญชาและให้ดำเนินการตามผลการหารือนั้น โดยถือว่าการดําเนินการตามคําสั่งนี้ทุกขั้นตอน เป็นการดําเนินการทางวินัย แต่ไม่ตัดสิทธิการอุทธรณ์ต่อไปตามกฎหมาย หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความผิดอาญาให้ผู้บังคับบัญชาดําเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยรายชื่อข้าราชการในคำสั่งนี้มีข้าราชการพลเรือน 13 คน ข้าราชการตำรวจ 6 คน ผู้บริหารและผู้มีตำแหน่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1 คน ข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1 คน รวมทั้งสิ้น 21 คน,นายวิษณุกล่าวถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) อนุมัติแก้ไขสัญญากิจการดาวเทียมให้บริษัท ชินแซทฯ ลดสัดส่วนผู้ถือหุ้นบุคคลสัญชาติไทย ต้องมีความรับผิดทางแพ่งด้วยหรือไม่ว่า มีความผิดทางแพ่ง เพราะเมื่อได้คำพิพากษาของศาลฎีกาฯมาแล้ว สามารถนำไปดำเนินการต่อได้ โดยไม่มีปัญหาเรื่องอายุความ แต่ถ้าเร็วได้ถือว่าดี อีกทั้งจากคำตัดสินดังกล่าวจะมีฐานช่วงเวลาทำผิด สามารถหยิบตรงนั้นมาคำนวณค่าเสียหายได้ ส่วนจะเกี่ยวกับใครบ้างไม่ทราบ ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อหาผู้รับผิดชอบ คนเกี่ยวข้อง คนที่ต้องรับผิด และหาวงเงินต่อไป ส่วนเจ้าภาพที่ต้องดำเนินการต้องเป็นผู้เสียหายจากเรื่องนี้อาจจะเป็นกระทรวงการคลัง,ที่กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ผบ.ทหารสูงสุด เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยมี ผบ.เหล่าทัพเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งถือเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ พล.อ.สมหมายแถลงว่าเป็นการประชุมสรุปผลงานในรอบ 11 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งทุกคนได้ช่วยกันทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน พูดคุยยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และยุทธศาสตร์กองทัพ ส่วนเรื่องความมั่นคงและความสัมพันธ์ที่ดีกับมิตรประเทศเป็นเรื่องที่น่ายินดี โดยตามแนว ชายแดนไม่มีการกระทบกระทั่งกับประเทศเพื่อนบ้านแม้แต่เหตุการณ์เดียว ทั้งนี้ กองทัพมั่นใจว่ารัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดเพื่อประเทศชาติ พร้อมทั้งอยากฝากอนาคตประเทศไว้กับรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี พวกเราเชื่อมั่นเกิน 100 เปอร์เซนต์ว่ารัฐบาลจะสามารถทำหน้าที่ได้,พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. ซึ่งมีรายชื่อ รมว.แรงงานติดอยู่ในโผถูกปรับออกด้วย ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะยังไม่มีการปรับ ครม. เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับนายกฯ หากจะมีการปรับ ครม.จริงตามที่เป็นข่าว ก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ หากตนจะหลุดไปตามข่าวก็พร้อมจะยอมรับ และไม่ได้รู้สึกน้อยใจแต่อย่างใด,นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวว่า จากข้อมูลภายในของคณะกรรมการพิจารณารับผิดทางแพ่ง มีแนวโน้มจะยืนยันตัวเลขเดิม คือลดค่าเสียหายให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯจาก 2.86 แสนล้านบาท มาเหลือ 3.57 หมื่นล้านบาท แม้นายกรัฐมนตรีได้ให้คณะกรรมการชุดนี้ไปทบทวนแล้ว การที่คณะกรรมการฯยืนยันจะคิดราคาค่าเสียหายเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เช่นเดิมฟังไม่ขึ้น ที่สำคัญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลยเพียงคนเดียว และคนที่จะต้องมารับผิดชอบร่วมอีก 80 เปอร์เซ็นต์ยังไม่มีตัวตน เท่ากับว่าคณะกรรมการฯชุดนี้จะโยนความเสียหายอีก 80 เปอร์เซ็นต์ให้หายไปในอากาศ จึงขอเตือนคณะกรรมการฯว่าอย่ามีทิฐิ และต้องชี้แจงสังคม จะคิดจะทำอะไรต้องเกรงใจประชาชนบ้าง หากยังดื้อดึงก็เตรียมตัวไป ป.ป.ช. และขอฝากนายกฯเพราะประชาชนยังเชื่อมั่นว่าจะดำเนินการอย่างโปร่งใส,เย็นวันเดียวกัน ที่บ้านแม่ทัพ เลขที่ 1885 ปากซอยสืบศิริ 32 ถนนสืบศิริ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้เปิดบ้านพักให้ พล.ท.วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข รอง ผบช.ภ. 3 คณะนายทหาร นายตำรวจ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมา เหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา และพ่อค้านักธุรกิจคนใกล้ชิดเข้ามอบแจกันดอกไม้อวยพรเนื่องในโอกาสวันเกิดครบรอบ 96 ปี วันที่ 26 สิงหาคม 2559 โดย พล.อ.เปรมกล่าวให้โอวาทกับผู้ที่เข้าร่วมอวยพรวันเกิดว่า อยากให้ทุกคนช่วยกันทำให้ประชาชนในภาคอีสานมีความรักความสามัคคี และความเข้าใจกัน หากยังทำไม่สำเร็จก็ขอให้ช่วยกันพยายามทำให้สำเร็จเพื่อประเทศชาติ ขอให้ทุกคนเข้าใจคำว่าเกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ทุกวันนี้ตนได้ถอยห่างออกจากการเมืองนานแล้ว และจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกแล้ว แต่สิ่งที่พูดคือเรื่องที่เกี่ยวกับชาติบ้านเมือง ไม่ใช่การเมือง
|
มีชัย ปัดเปิดศึกงัดข้อศาล รธน. แม้จะต้องแก้ไข ก.ม.ลูกว่าด้วยศาล รธน.ก็คงไม่มีผลสะท้านสะเทือน เพราะมีความมั่นคงอยู่แล้ว ไม่โอเคข้อเสนอ สปท.ให้ คสช.คุมเลือกตั้ง
|
เลือกตั้ง
|
ข่าวหน้า 1,มีชัย ฤชุพันธุ์,ศาล รธน.,เลือกตั้ง,วิษณุ เครืองาม,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,คำถามพ่วง,เจษฎ์ โทณะวณิก,วันชัย สอนศิริ,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,สมพงษ์ สระกวี,นิกร จำนง,นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ,วัชระ เพชรทอง,ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ,นปช.,วิรัตน์ กัลยาศิริ,พิชัย นริพทะพันธุ์,วรงค์ เดชกิจวิกรม,รับจำนำข้าว,ศิริชัย ดิษฐกุล,ข่าวฉบับพิมพ์
|
https://www.thairath.co.th/content/711048
|
ปล่อยน้ำเขื่อนกระเสียวไล่น้ำเสียโรงงานทะลักหมู่บ้าน จ.สุพรรณบุรี
|
วันนี้ (2 ต.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุสร ภู่พงศ์สกุล อุตสาหกรรมจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกับฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบน้ำเสียที่ปนมากับน้ำฝนไหลลงสระน้ำสาธารณะ บริเวณหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสระบัวก่ำ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี โดยมีคำสั่งห้ามสูบน้ำเสียออกจากบ่อน้ำแล้ว เนื่องจากน้ำเสียไหลไปท่วมอีกชุมชน ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างนายอนุสร กล่าวเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นจะแก้ปัญหาด้วยการใช้รถบรรทุกสูบน้ำเสียเข้าไปกำจัดในโรงงาน ส่วนน้ำเสียที่ไหลลงสู่ลำห้วยกระเสียวซึ่งมีความเข้มสูง ทางคณะกรรมการจัดสรรน้ำได้ประสานขอน้ำดีจากเขื่อนกระเสียวมาเติมให้เจือจาง ก่อนปล่อยลงสู่ลำคลองธรรมชาติ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบผู้ใช้น้ำในหมู่บ้านหนองกระทุ่ม บ้านบ่อกรุ อ.เดิมบางนางบวช ที่อยู่บริเวณท้ายน้ำขณะที่นายพินิต พลวัฒนะ รองประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำในพื้นที่ เปิดเผยว่า ได้ประสานขอให้เขื่อนกระเสียวปล่อยน้ำดีลงมาเติม เพื่อลดความเข้มก่อนปล่อยลงลำห้วยล่าสุด ชลประทานได้ปล่อยน้ำดีจากเขื่อนกระเสียวลงมาผสมกับน้ำเสียที่มีสภาพไม่มีกรด และค่าของความเค็มลดลงจนสามารถปล่อยลงสู่ลำคลองสาธารณะ เพื่อลดความเสียหายเป็นวงกว้าง
|
ชลประทาน ปล่อยน้ำจากเขื่อนกระเสียว ลดความเสียหายเหตุน้ำเสียในโรงงานทะลักเข้าหมู่บ้าน อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
|
สิ่งแวดล้อม
|
ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,โรงงาน,น้ำเสีย,สุพรรณบุรี,กรมควบคุมมลพิษ
|
https://news.thaipbs.or.th/content/266603
|
โทรอนโต จ่อเพลย์ออฟ ไล่ต้อน นิกส์ 106-89
|
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 23 มี.ค. ว่า การแข่งขันบาสเกตบอล เอ็นบีเอ สหรัฐอเมริกา ฤดูกาล 2014-15 ประจำวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม (ตามเวลาท้องถิ่น) คู่ที่น่าสนใจ เป็นการพบกันของสองทีมต่างขั้วในสายตะวันออก โทรอนโต แร็ปเตอร์ส ทีมจ่าฝูงจากสายอีสต์เทิร์น แอตแลนติก เปิดบ้านที่สนามแอร์ แคนาดา เซนเตอร์ รับการมาเยือนของทีมบ๊วยร่วมสาย นิวยอร์ก นิกส์ ,เริ่มเกมในควอเตอร์แรก เกมสนุกสูสี แต่เป็นเจ้าถิ่นที่ทำได้ดีกว่าออกนำไปก่อน 27-23 ถัดมาในควอเตอร์ที่สอง ก็ยังคงเป็นโทรอนโต ที่โชว์ศักยภาพในเกมรุกได้อย่างดุดัน หนีห่างออกไปเป็น 56-41,จากนั้นในควอเตอร์ที่สาม กลับเป็นนิวยอร์ก นิกส์ ทีมเยือนที่พยายามเร่งเครื่องหวังฮึดสู้ ทำแต้มไล่มาที่ 74-66 แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นการแหย่รังแตนให้ตื่น เมื่อในควอเตอร์ที่สี่ เจ้าบ้านบุกกระหน่ำทวงแต้มคืน 32 คะแนน,จบเกม โทรอนโต แร็ปเตอร์ส เปิดบ้านถล่มเอาชนะ นิวยอร์ก นิกส์ ไปอย่างขาดลอย 106- 89 นำเป็นจ่าฝูงในสายต่อไป โอกาสเข้ารอบเพลย์ออฟค่อนข้างสดใส ขณะที่ นิวยอร์ก นิกส์ แพ้เป็นนัดที่ 8 จาก 10 นัดหลังสุด จมอยู่ท้ายตารางต่อไป,สำหรับผู้ที่ทำคะแนนสูงสุดของทั้งสองทีม โทรอนโต แร็ปเตอร์ส ได้แก่ เดอมาร์ เดอโรซาน ทำไป 23 คะแนน 7 รีบาวด์ และ 5 แอสซิสต์ ส่วน นิวยอร์ก นิกส์ ได้แก่ แลนซ์ โธมัส ทำได้ 24 คะแนน 2 รีบาวด์ และ 1 แอสซิสต์,ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส ชนะ แอตแลนตา ฮอว์กส์ 114-95,คลิฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ชนะ มิลวอกี บัคส์ 108-90,ไมอามี ฮีท แพ้ โอกลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์ส 75-93,นิวออร์ลีนส์ เพลิแกนส์ แพ้ แอลเอ คลิปเปอร์ส 100-107,ดีทรอยต์ พิสตันส์ ชนะ บอสตัน เซลติกส์ 105-97,เดนเวอร์ นักเกตส์ ชนะ ออร์แลนด์โด เมจิค 119-100,วอชิงตัน วิซาร์ดส์ แพ้ ซาคราเมนโต คิงส์ 86-109,ชาร์ลอตต์ ฮอร์เนตส์ ชนะ มินเนโซตา ทิมเบอร์วูลฟ์ส 109-98,ดัลลัส แมฟเวอริคส์ แพ้ ฟีนีกส์ ซันส์ 92-98,ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตี้ซิกเซอร์ส แพ้ แอลเอ เลเกอร์ส 87-101
|
โทรอนโต แร็ปเตอร์ส ยังคงร้อนแรงไม่เลิก เมื่อเปิดบ้านถล่มเอาชนะ นิวยอร์ก นิกส์ ทีมร่วมสายจากท้ายตารางไปอย่างขาดลอย 106-89 ทำให้โอกาสในการเข้ารอบเพลย์ออฟ เปิดกว้างมากขึ้น
| null |
โทรอนโต แร็ปเตอร์ส,บาสเกตบอล,บาสเกตบอลเอ็นบีเอ,ผลการแข่งขัน,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์,นิวยอร์ก นิกส์
|
https://www.thairath.co.th/content/488553
|
เหนือ-อีสาน ฝนตกหนัก กลางตอนล่าง-กทม.และปริมณฑล ตกปรอยๆ
|
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ทีมข่าวไทยรัฐ ร่วมกับ The Weather Company ของสหรัฐอเมริกา รายงานสภาพอากาศเช้านี้ พบการก่อตัวของกลุ่มเมฆฝนฟ้าคะนองบริเวณภาคอีสานตอนล่าง และภาคตะวันออก มีกระแสลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้าประเทศไทยในฝั่งตะวันตก ภาคใต้ฝั่งอันดามัน รวมถึงภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก โดยจะเริ่มแรงตั้งแต่ช่วง 15.00 น.เป็นต้นไป และจะปะทะกับกระแสลมตะวันออกเฉียงใต้ที่หอบเอาความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมในพื้นที่ภาคอีสาน และภาคเหนือ ทำให้มีการก่อตัวของกลุ่มเมฆฝนในบริเวณดังกล่าว, ,ส่วนกลุ่มฝนที่ก่อตัวในอ่าวเมาะตะมะ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดฝนในฝั่งตะวันตกของประเทศ พบว่าค่อยๆ เคลื่อนตัวออก จากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำหย่อมใหญ่กำลังแรงที่ก่อตัวในทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ที่ดูดเอากลุ่มฝนส่วนใหญ่ไปตกบริเวณอ่าวเบงกอลแทน ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ก่อตัวในทะเลจีนใต้ ได้ดูดเอาฝนในฝั่งตะวันออกของไทยกลับคืนไปเช่นกัน,นอกจากนี้ ยังพบว่าปัจจัยจากอุณหภูมิที่ลดต่ำลงในหลายพื้นที่ ทำให้ไอน้ำในชั้นบรรยากาศไม่สามารถยกตัวลอยขึ้นไปก่อตัวกลายเป็นกลุ่มเมฆฝนได้มากนัก ดังนั้น ภาพรวมฝนในวันนี้จึงลดลงกว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่าน โดยกลุ่มฝนตกหนักในภาคอีสาน และภาคเหนือเป็นส่วนใหญ่, ,สำหรับการคาดการณ์สถานการณ์ฝนทางตอนบนถึงตอนกลางของประเทศวันนี้ พบว่ากลุ่มฝนเริ่มมีการก่อตัวในช่วงสายบริเวณภาคอีสานฝั่งตะวันออก แถวจังหวัดหนองคาย นครพนม สกลนคร มุกดาหาร ช่วงเที่ยงจะมีการกระจายตัวเป็นหย่อมๆ บริเวณภาคอีสาน ส่วนภาคตะวันออก ฝนจะตกที่ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา และจันทบุรี นอกจากนี้ ยังพบกลุ่มฝนบริเวณฝั่งตะวันตกของประเทศ ตั้งแต่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก ไล่ยาวลงมาถึงจังหวัดราชบุรี รวมถึงมีตกปรอยๆ บริเวณภาคกลางตอนล่าง และพื้นที่กรุงเทพมหานครบางส่วน,ส่วนช่วงบ่ายฝนจะตกบริเวณภาคเหนือ แถวจังหวัดลำปาง ลำพูน ตาก สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร นครสวรรค์ ผ่านชัยนาท สิงห์บุรี สุพรรณบุรี ออกไปยังฝั่งตะวันตกที่กาญจนบุรี ราชบุรี และเพชรบุรี ส่วนอีกหนึ่งจุดจะตกบริเวณภาคอีสานตอนล่างที่อุบลราชธานี ศรีสะเกษ รวมถึงภาคตะวันออก ก่อนช่วงเย็นกลุ่มฝนจะตกในบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และบางส่วนในภาคอีสานที่ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ และช่วงค่ำกลุ่มฝนจะตกมากขึ้นในภาคอีสาน ตั้งแต่บริเวณจังหวัดขอนแก่น ยาวลงมาที่มหาสารคาม ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ, ,ส่วนภาพรวมฝนภาคใต้วันนี้ค่อนข้างบางตา ส่วนใหญ่จะตกทางตอนบนของภาค โดยเริ่มพบกลุ่มฝนในช่วงบ่ายที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และระนอง ส่วนช่วงเย็นจะเลื่อนมาตกที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและซาลงในช่วงค่ำ อย่างไรก็ตาม แม้มีฝนไม่มาก แต่เนื่องจากกระแสลมที่แรงในระยะนี้ จึงต้องระวังคลื่นสูงบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามัน ควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันที่ 18-21 มิ.ย. , ,ทั้งนี้ จากฝนที่คาดว่าจะลดลงในวันนี้ ทำให้อุณหภูมิบางพื้นที่โดยเฉพาะในภาคอีสาน และภาคกลาง ไต่ระดับสูงขึ้นในช่วงกลางวัน คาดว่า อุณหภูมิความร้อนจะแตะที่ 41 องศาเซลเซียส ในพื้นที่ภาคกลาง ส่วนภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออก อุณหภูมิยังคงสบายๆ , ,สภาพอากาศแยกตามภูมิภาค,ภาคเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร ตาก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย บริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส,ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส,ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร,ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร,ภาคใต้ฝั่งอันดามัน มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดระนอง พังงา กระบี่ และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร,กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป วันนี้มีโอกาสเกิดฝนร้อยละ 12 อุณหภูมิต่ำสุด 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส.
|
ฝนยังคงตกหนักในภาคเหนือ-อีสาน ส่วนภาคกลางตอนล่าง กทม.-ปริมณฑล มีฝนปรอยๆ ขณะที่ฝนภาคใต้น้อยลง แต่ยังมีลมแรง คลื่นสูง ควรระมัดระวังในการเดินเรือ ขณะที่ภาคกลาง อุณหภูมิความร้อนสูงขึ้น บางพื้นที่อาจแตะที่ 41 องศา…
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
สภาพอากาศ,พยากรณ์อากาศวันที่ 19 มิถุนายน,อากาศวันนี้,ฝนตก,มรสุม,อุณหภูมิ,พยากรณ์อากาศ,อากาศ,The Weather Company,สถานการณ์ฝน,ฝนภาคใต้,อันดามัน,คลื่นแรง,ลมแรง,ข่าวพยากรณ์อากาศ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/news/local/506093
|
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ1ปี วันสวรรคตในหลวงร.9
|
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 13 ต.ค.2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไป ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยทรงวางพวงมาลาของส่วนพระองค์ และพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย และเครื่องราชสักการะกราบถวายบังคมพระบรมศพ ชาวพนักงานประโคมโหระทึก สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ ปี่พาทย์ ทหารกองเกียรติยศพระบรมศพถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี,จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียน เครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูป สวดพระพุทธมนต์ และสวดคาถาพิเศษ ปรมินทมหาภูมิพละอตุลยะเตชะมหาราชัสสะ ปัตติทานคาถา จบ พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ออกจากพระที่นั่ง,เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ที่จะถวายพระธรรมเทศนา และสวดพระธรรมคาถาขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม พระราชาคณะถวายศีล และถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบ พระสงฆ์ 4 รูปสวดธรรมคาถา แล้วทรงประเคนเครื่องไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ และทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ทั้งนั้นสดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนที่แท่นเตียงพระสวดพระอภิธรรม จากนั้น จึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ.
|
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ครบรอบ 1 ปี วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
|
ข่าว,พระราชสำนัก
|
รัชกาลที่9,ในหลวง ร.9,สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว,ส่งใจสู่ฟ้าอาลัยพ่อ,พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล,ข่าวรัชกาลที่9
|
https://www.thairath.co.th/news/royal/1098072
|
ทอท.ยันคุมราคาสินค้าในสนามบินไม่ให้สูงกว่าท้องตลาด 20-25%
|
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ยืนยันว่ามีการกำหนดเงื่อนไข ผู้ประกอบการต้องควบคุมราคาสินค้าและบริการ ไม่ให้สูงเกินกว่าท้องตลาดเกินร้อยละ 20-25 ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่ท่าอากาศยานแต่ละแห่งตั้งอยู่ รวมทั้งได้ขอความร่วมมือให้จำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นให้สอดคล้องกับราคาของตลาด พร้อมทั้งติดป้ายแสดงราคาด้วยซึ่งกรณีที่มีการเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก โดยนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นที่ระบุว่าน้ำดื่มขวดละ 40 บาทนั้น มีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากร้านค้าภายในท่าอากาศยานจำหน่ายน้ำเปล่าที่บรรจุขวดขนาด 500 มล.ในราคาขวดละไม่เกิน 10 บาท ส่วนราคาน้ำแร่จะอยู่ระหว่างขวดละ 25-50 บาท ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตสินค้าแต่ละราย นอกจากนี้ ทอท.ได้จัดบริการตู้น้ำดื่มกดฟรี และร้านอาหารสวัสดิการราคาประหยัด เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้โดยสาร ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส สำรวจราคาอาหารและน้ำดื่ม บริเวณอาคารผู้โดยสาร 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง พบว่าเฉพาะที่ร้านค้าสะดวกซื้อ น้ำดื่มขนาด 750 มิลลิลิตร ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 10 บาท ส่วนชาเขียวราคาอยู่ที่ 30 บาท และพบว่าราคาสินค้าโดยเฉลี่ยจะมีราคาแตกต่างกับภายนอกประมาณ 10-20 บาทส่วนอาหารบริเวณศูนย์อาหารชั้น 4 ภายในสนามบิน ราคาข้าวราดแกง 1 อย่างและข้าวมันไก่ มีราคาเริ่มต้นเท่ากันที่ 80 บาท แต่ร้านค้าที่อยู่ในศูนย์อาหารชั้น 2 ข้าวราดแกง 1 อย่าง ราคาเริ่มต้นที่ 30 บาท ส่วนข้าวมันไก่มีราคาเริ่มต้นที่ 50 บาท นอกจากนี้ยังมีศูนย์อาหารบริเวณลานจอดรถชั้น 1 ซึ่งเป็นทางเลือกของผู้โดยสาร มีราคาใกล้เคียงกับท้องตลาดที่ 35-100 บาทขณะที่ผู้โดยสาร กล่าวว่า ราคาอาหารสูงกว่าท้องตลาดและบางประเภทปริมาณก็ไม่สอดคล้องกับราคา แม้จะเข้าใจได้ว่าร้านค้ามีต้นทุนสูงจากค่าเช่าที่ จึงต้องการให้ควบคุมราคาด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของกระทรวง โดยสั่งการในที่ประชุมมอบหมายให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือเจ้าของสนามบินทั้ง 6 แห่ง ตรวจสอบควบคุมไม่ให้ร้านค้าภายในท่าอากาศยานจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในราคาแพง ก่อนหน้านี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินและกรมการค้าภายในเคยตรวจสอบราคาสินค้าและบริการในสนามบิน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เนื่องจากสัญญาการเช่าพื้นที่ภายในสนามบินมีความแตกต่างจากพื้นที่เช่าติดแอร์ประเภทอื่น เช่น ห้างสรรพสินค้า ทั้งค่าดูแลความสะอาด และการดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งพื้นที่เช่าเปิดให้บริการเกือบ 24 ชั่วโมง
|
กรณีมีข้อร้องเรียนเรื่องราคาอาหารและเครื่องดื่มในท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีราคาแพง ล่าสุดบริษัทท่าอากาศยานไทย ชี้แจงว่ามีการควบคุมราคาสินค้าและบริการในสนามบินไม่ให้สูงเกินกว่าท้องตลาดร้อยละ 20-25
|
เศรษฐกิจ
|
บริษัท ท่าอากาศยานไทย,ทอท.,อาหารแพง,ราคาอาหารในสนามบิน,ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ,ท่าอากาศยานดอนเมือง,ราคาอาหารและน้ำดื่ม,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS
|
https://news.thaipbs.or.th/content/269266
|
เพลิงไหม้กุฏิพระวัดบางสมัคร อายุนับ 100 ปี เหตุไฟฟ้าลัดวงจร
|
เมื่อเวลา 00.00 น. วันที่ 8 พ.ย.62 พ.ต.ต.สมศักดิ์ ปวงสุข สว(สอบสวน) สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมรถดับเพลิงเทศบาลตำบลบางสมัครและพื้นที่ข้างเคียงกว่า 10 คัน หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้กุฏิพระภายในวัดบางสมัคร หมู่ 6 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง พบจุดเกิดเหตุเป็นศาลาครึ่งปูนครึ่งไม้แบบสองชั้น โดยชั้นบนเป็นไม้เก่าทั้งหมด รวมทั้งพื้นกุฏิ ไฟไหม้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วและจะลามไปยังกุฎิข้างเคียง เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำ และยังมีเสียงแก๊สที่เก็บอยู่ในห้องเก็บของชั้นล่างระเบิดถึงสองครั้ง เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามเกือบ1 ชั่วโมงในการควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ทั้งหมด โดยพบว่ากุฏิเสียหายทั้งหมด ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ เนื่องจากกุฏิดังกล่าวสร้างขึ้นมานับ100ปีและมีการบูรณะซ่อมแซมเมื่อปีพ.ศ.2524,สอบสวนพระปี่ ทีปธัมโม อายุ 87 ปี พระลูกวัด ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้จำวัดอยู่ชั้นล่างของกุฏิดังกล่าว แล้วต้องสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงกลองดังแล้วมีคนตะโกนบอกว่าไฟไหม้จึงรีบคว้ามีดดาบออกมาได้เพียง1เล่มเท่านั้นส่วนทรัพย์สินอื่นถูกไฟไหม้ไปทั้งหมด โดยเบื้องต้นไฟได้ไหม้มาจากจั่วของกฎิชั้นสองแล้วลุกลามอย่างรวดเร็วซึ่งพระลูกวัดพยายามใช้น้ำสาดแต่เอาไม่อยู่เนื่องจากเป็นไม้เก่าทำให้เป็นเชื้อไฟอย่างดี ทางตำรวจประสานกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบจุดเกิดเหตุต่อไป.
|
เกิดเหตุเพลิงไหม้กุฏิพระอายุนับ100 ปี ภายในวัดบางสมัครโดยใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงในการควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ เสียหายทั้งหลังสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
เพลิงไหม้กุฏิพระ,กุฏิพระ100ปี,ไฟไหม้,เพลิงไหม้,วัดบางสมัคร,ฉะเชิงเทรา,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1699498
|
ธนกร ผิดหวัง พิธา ชี้ 10 ข้อเสนอ นศ. เชื่อ คนไทยไม่มีใครรับได้
|
มีจุดจบไม่ดีแน่นอนวันที่ 12 ส.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า 10 ข้อเรียกร้องของนักศึกษาที่ออกมาชุมนุม ไม่เท่ากับการหมิ่นสถาบันเสมอไปว่า ตนผิดหวังกับนายพิธาเป็นอย่างมากที่คิดเช่นนี้ ถ้าเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า หรือนายปิยะบุตร แสงกนกกุล นั้นยังพอจะเข้าใจได้ นายพิธา เป็นคนไทย ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ ยืนยันว่า 10 ข้อเรียกร้องนั้น จาบจ้วง ล่วงละเมิดสถาบันอย่างร้ายแรงที่สุด ตั้งแต่ตนเกิดมาตนยังไม่เคยเห็นใครกล้าทำแบบนี้ การกระทำดังกล่าวสร้างความเศร้าใจให้กับพี่น้องคนไทยอย่างมาก เพราะสถาบันเป็นสิ่งที่คนไทยรักและศรัทธา การแสดงออกเป็นสิทธิเสรีภาพ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมายด้วย ทั้งนี้ ตนพูดมาตลอดว่า ตนเคารพพลังที่บริสุทธิ์ของนักศึกษา ไม่เคยมองนักศึกษาในแง่ร้าย แต่ไม่เข้าใจว่าแกนนำหลายคนหมิ่นสถาบันได้อย่างไร อยากให้น้องๆ นักศึกษามีสติ ตนเชื่อมั่นพลังบริสุทธิ์ของนักศึกษาบางส่วน แต่ก็มีพลังที่ไม่บริสุทธิ์เข้ามาจำนวนมากเช่นกันนายธนกร กล่าวอีกว่า ความเห็นต่างทางการเมืองเป็นเรื่องปกติตามระบอบประชาธิปไตย การเรียกร้องของนักศึกษา 3 ข้อ ไม่ว่าจะเป็น หยุดคุกคามประชาชน ยุบสภา และแก้รัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ข้อเรียกร้อง 10 ข้อนั้น ถ้าเป็นคนไทยเชื่อว่าไม่มีใครรับได้ ตนเชื่อมั่นและศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ขอให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าว คนไทยทั่วประเทศคงไม่ยอม ที่สำคัญ บ้านเมืองกำลังสงบ อย่าทำให้เกิดความแตกแยกเลย คนไทยด้วยกัน อย่านำบ้านเมืองไปสู่ความรุนแรงอีก ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกัน อย่าปล่อยให้ประเทศชาติเสียหายอีกเลย วันนี้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เรายังจะซ้ำเติมประเทศอีกทำไม ทั้งนี้ ประเทศไทยมีพระสยามเทวาธิราชปกปักษ์รักษา ใครคิดร้ายกับประเทศต้องมีจุดจบที่ไม่ดีแน่นอน อยากให้ทุกฝ่ายทำความเข้าใจกันก่อนที่จะสายเกินไป.
|
ธนกร สวน พิธา 10 ข้อเสนอ นักศึกษาหมิ่นสถาบัน ชัดเจน เชื่อ ถ้าเป็นคนไทยไม่มีใครรับได้ เตือน นักศึกษา ระวังคนแอบแฝงพลังบริสุทธิ์ วอน ทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกัน ชี้ ใครคิดร้ายกับประเทศ
|
ข่าว,การเมือง
|
ธรรมศาสตร์จะไม่ทน,ไม่ทนธรรมศาสตร์,ธนกร วังบุญคงชนะ,พิธา ลิ้มเจริญรัตน์,ก้าวไกล,พลังประชารัฐ,10ข้อเสนอนักศึกษา,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1908832
|
ทร.ส่งอากาศยาน เรือตรวจการณ์ ค้นหา 8 ลูกเรือประมง กลางอ่าวชุมพร
|
เมื่อเวลา 17.30 น. วันนี้ 25 ม.ค.59 พล.ร.ท.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 1 (ผอ.ศรชล.เขต 1) ได้รับแจ้งจาก น.อ.บัณฑิต ชื่นอิ่ม หัวหน้าศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมง (PIPO) ชุมพร อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ว่า ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากนางโชติกา สมุทรผ่อง ภรรยาของนายชัชวาลย์ สมุทรผ่อง ไต๋เรือประจำเรือประมงโชคเจริญรัตน์ ซึ่งเป็นเรือประมงลอบปูขนาดเล็ก เกิดเหตุอับปางขณะออกทำการประมงบริเวณระหว่างเกาะกะโหลก และเกาะงาม พิกัต แลต 10 องศา 30 ลิปดาเหนือ ลอง 99 องศา 25 ลิปดาตะวันออก หน้าอ่าวจังหวัด จ.ชุมพร ห่างจากชายฝั่งประมาณ 20 ไมล์ทะเล โดยมีลูกเรือพร้อมไต๋เรือ 8 คน สูญหายในทะเล ,หลังรับแจ้งได้สั่งการให้ช่วยเหลือชาวประมงอย่างเร่งด่วน โดยจัดหมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาค ที่1 โดยเครื่องบินลาดตระเวนดอร์เนีย พร้อมเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ผิวน้ำขึ้นบินตรวจสอบค้นหาทางอากาศ จาก สนามบินอู่ตะเภา กองการบินทหารเรือ ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง และให้เรือตรวจการณ์ 111 (ต.111) ซึ่งลาดตระเวนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเข้าค้นหาช่วยเหลือทางทะเลในบริเวณที่รับแจ้งเรือประมงอับปางแต่ด้วยทัศนวิสัยไม่ดี และสภาพคลื่นลมแรงมาก เบื้องต้นยังไม่พบลูกเรือที่สูญหายแต่อย่างใด,ล่าสุดได้รับแจ้งจากเรือประมงใกล้เคียงที่ติดต่อได้แจ้งว่า ลูกเรือ 6 คน สามารถขึ้น เกาะมาตรา ได้อย่างปลอดภัย ส่วนไต๋เรือ กับ ลูกเรืออีก 1 คน ยังสูญหายไม่ทราบชะตากรรม และในรุ่งเข้าของวันนี้ (26 ม.ค.) จะส่งอากาศยานและเรือตรวจการณ์ เข้าลาดตระเวนตรวจสอบค้นหาอีกครั้ง.
|
ช่วยเหลือ!! ทัพเรือภาค1 ส่งเครื่องบินลาดตระเวน พร้อมเรือตรวจการณ์ ออกระดมค้นหาและช่วยเหลือ 8ลูกเรือประมงโชคเจริญรัตน์ ที่อับปางบริเวณอ่าวชุมพร โดยล่าสุดได้รับแจ้งสามารถช่วยได้ 6 ส่วนอีก 2รายยังไม่ทราบชะตากรรม
| null |
เรือประมงโชคเจริญรัตน์,เรือประมงอัปรางอ่าวชุมพร,โชติกา สมุทรผ่อง,ชัชวาลย์ สมุทรผ่อง,ไต๋เรือประมงโชคเจริญพร,อับปางเกาะกะโหลก,เกาะงาม,หมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาค ที่1,เครื่องบินลาดตระเวนดอร์เนีย,รือตรวจการณ์ 111,รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล,ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1,ผอ.ศรชล.เขต 1,บัณฑิต ชื่นอิ่ม,หัวหน้าศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมงชุมพร,PIPO ชุมพร,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
|
https://www.thairath.co.th/content/568019
|
จับหญิงไทย บงการชักใย อุ้มรีด สาวจีน 10 ล้าน ยังโวยวายปฏิเสธลั่น
|
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แถลงจับกุม นางสาววรรษิการ เติมธนาภัทร หรือ แอนนา ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหาร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย และร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ตามหมายศาลจังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนี้ยังได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 6 คน โดยทั้งหมดร่วมกันก่อเหตุอุ้มเรียกค่าไถ่นักธุรกิจสาวชาวจีนเป็นเงิน 15 ล้านบาท ภายในท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา,พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาที่จับกุมได้ให้การซัดทอดว่า นางสาววรรษิการ ว่า เป็นผู้สั่งการทั้งหมด ขณะที่จากคำให้การของเหยื่อ ระบุว่า รู้จักกับ 1 ในคนจีนที่ลักพาตัวมา เนื่องจากทำธุรกิจร่วมกัน และขณะที่ถูกคุมขังอยู่ได้ถูกนางสาววรรษิการ ทำร้ายร่างกาย ,อย่างไรก็ตามคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 11 คน ถูกจับกุมแล้ว 6 คน ได้แก่ นายประสิทธิ์ ดิษฐจินดา, นายสมบัติ กาเพ็ชร, นายนิพนธ์ วีระศร, ว่าที่ ร.ต.สำรวย ทิมแก้ว, เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และนางสาววรรษิการ เติมธนาภัทร ส่วนชาวจีนอีก 4 คน คือ นายซุน ดองเหลียง (Mr.Dongliang Sun), นายซุน เหวินฉี (Mr.Wenqu Sun), นางสาวไค เมยเลิง (MissMeiling Kai), นายซอง หมิง (Mr.Ming Song) หลบหนีออกนอกประเทศไปก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ และยังมีอีก 2 คนไทย คือนางสาวอุทัย อินทร์ศรี, นายณัฐพล แก้วไซเกิด ที่อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม,ขณะที่ นางสาววรรษิการ ระบุว่า ตนเองถูกกลั่นแกล้งจากกลุ่มของเหยื่อ พร้อมร้องขอความเป็นธรรม และปฏิเสธไม่ได้เป็นผู้สั่งการให้จับเหยื่อ ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย แต่ต้องการนำมาตกลงการเรื่องหนี้สินทางธุรกิจ ขณะนี้กำลังรอเอกสารเกี่ยวกับการทำธุรกิจร่วมกับชาวจีน.
|
จับแล้วหญิงไทย ตัวชักใยบงการอุ้มนักธุรกิจสาวชาวจีน เรียกค่าไถ่ 10 ล้านบาท พร้อมทำร้ายร่างกายสาวจีนระหว่างกักขัง เจ้าตัวยังปฏิเสธ อ้าง ถูกกลั่นแกล้ง พาตัวมาแค่ต้องการตกลงหนี้สินธุรกิจ
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
อุ้มรีด,เรียกค่าไถ่,นักธุรกิจชาวจีน,แก๊งอุ้มรีด,เรียกค่าไถ่ 10 ล้าน,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1289781
|
รำลึกครูเนรมิตผู้สร้างตำนานผู้ชนะสิบทิศ
|
บทรำพึงรำพัน สัญญารักไม่มีหน่าย แม้ต้องห่างไปออกศึกของจะเด็ด ทหารรูปงามคารมดี กับตะละแม่จันทรา อีกฉากหนึ่งในภาพยนตร์ผู้ชนะสิบทิศที่หาชมได้ยาก เพราะออกฉายตั้งแต่ 40 ปีก่อน โดยได้นักแสดงฝีมือดี อย่าง ไชยา สุริยัน กรุณา ยุวกร และพิศมัย วิไลศักดิ์ มาสวมบทบาท บทประพันธ์ชั้นเยี่ยมของยาขอบ นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ ถูกนำไปผลิตหลายต่อหลายครั้งในรูปแบบละคร และละครเวที โดยเฉพาะภาพยนตร์ที่ได้ครูเนรมิตกำกับทั้ง 3 ภาคอย่างพิถีพิถันส่วนหนึ่งของความอลังการ และสมจริงทั้งฉากหลัง นักแสดง และบทบาทบู๊ทะลุจอเงินมาจากผู้กำกับอำนวย กลัสนิมิ ที่มีอุปนิสัยหนักเอาเบาสู้ เรียนรู้การกำกับหนังด้วยตัวเอง จนสามารถกำกับทุกฉากได้ลุล่วงดั่งใจราวกับเสกสรรค์จนได้รับฉายาเนรมิตแม้ครูจากไป 7 ปีแล้ว แต่ฝีไม้ลายมือของศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ผู้สร้าง และกำกับภาพยนตร์ปี ประจำปี 2538 คงพอบอกได้ถึงคุณูปการที่สร้างไว้ทั้งการบุกเบิกภาพยนตร์ไทยขนาด 16 มม. วางรากฐานภาพยนตร์ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ขาดแคลนทั้งอุปกรณ์ และเงินทุน รวมถึงการปั้นเพชรเม็ดงามขึ้นในวงการบันเทิง เช่น ส.อาสจินดา สุพรรณ บูรณพิมพ์ ดอกดิน กัญญามาลย์ จุรี โอศิริ และสองศิลปินแห่งชาติ พิศมัย วิไลศักดิ์ และ สุประวัติ ปัทมสูตการจัดฉายผู้ชนะสิบทิศทั้ง 3 ตอนทั้งยอดขุนพล บุเรงนองลั่นกลองรบ และถล่มหงสาวดี จึงไม่เพียงนำภาพยนตร์เก่าที่มีคุณค่าออกสู่สายตาประชาชนอีกครั้ง แต่การจัดกิจกรรมจัดงาน ก้าวสู่ 10 ทศวรรษ ครูเนรมิต ผู้ชนะสิบทิศ มีทั้งการเสวนา พร้อมนิทรรศการให้ความรู้ของนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการสื่อสารการตลาด มหาวิทยาลัยนเรศวร ครั้งนี้ ยังสะท้อนว่าคนรุ่นหลังพร้อมเรียนรู้แนวทางจากผู้บุกเบิก ศิลปินแห่งชาติผู้สร้างตำนานผู้ชนะสิบทิศ
|
แค่เอ่ยชื่อทั้ง โบตั๋น เรือนแพ และรอยไถ ก็ล้วนเป็นที่จดจำของผู้ชมภาพยนตร์ตัวจริง นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความสำเร็จในงานกำกับภาพยนตร์ของครูเนรมิต ที่ในโอกาสครบรอบ 10 ทศวรรษ ยังมีมุมมองจากลูกศิษย์ถึงศิลปินแห่งชาติท่านนี้ในฐานะครู และผู้สร้างตำนานผู้ชนะสิบทิศทั้ง 3 ภาคด้วย
|
ศิลปะ-บันเทิง
|
ครูเนรมิต,ผู้ชนะสิบทิศ,ภาพยนตร์,ศิลปินแห่งชาติ
|
https://news.thaipbs.or.th/content/86801
|
บาส พีระพัฒน์ กองหลังทีมชาติไทย ยื่นผ่อนผันเกณฑ์ทหารที่ ลพบุรี
|
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 เม.ย. 60 บาส พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา นักฟุตบอลกองหลังทีมชาติไทย เดินทางมายังหอประชุมอำเภอเมืองลพบุรี เพื่อยื่นเรื่องขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร อีกครั้ง หลังจากที่ได้ขอผ่อนผันมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่ง บาสก็ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ในขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ และเก็บตัวอยู่กับทีมสโมสร คือ ทีมเอสซีจี เมืองทองยูไนเต็ด และ ทีมชาติไทย อยู่เช่นกัน และในปีหน้าจะยื่นเรื่องขอผ่อนผันอีกครั้ง เป็นครั้งที่ 4 ก็จะครบกำหนดก็จะเกณฑ์ทหาร ส่วนที่จะสมัครหรือไม่ก็ต้องดูกันต่อไป และในวันนี้ หลังจากเสร็จสิ้นการยื่นเรื่องขอผ่อนผันแล้ว ก็จะเดินทางไปเก็บตัว และฝึกซ้อมกับทีมสโมสรที่สังกัดต่อไป,สำหรับบาส พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี,ส่วนบรรยากาศการเกณฑ์ทหารใน จ.ลพบุรี ใช้สถานที่หอประชุม อ.เมืองลพบุรี วันนี้เป็นวันที่ 2 มีชายที่ครบอายุเป็นทหารกองเกิน เพื่อเกณฑ์เข้าเป็นทหารกองหนุน ในวันนี้ จำนวน 5 ตำบล และรับทหารจำนวน 108 คน ซึ่งส่วนใหญ่ จะมีผู้ร้องขอเข้ารับการเป็นทหารกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และ พล.ต.อิทธิพล สุวรรณรัฐ ผบ.มทบ.13 พร้อมคณะ ก็ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วยคัดเลือกทหาร ณ ที่แห่งนี้อีกด้วย.
|
บาส พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา กองหลังทีมชาติไทย เดินทางมาที่หอประชุม อ.เมืองลพบุรี ยื่นเรื่องขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร หลังจากที่ได้ขอผ่อนผันมาแล้ว 2 ครั้ง เนื่องจากกำลังศึกษา คาดว่าจะผ่อนผันจนครบ ส่วนจะสมัครหรือไม่ก็ต้องดูต่อไป
|
ข่าว
|
เกณฑ์ทหาร2560,ทีมชาติไทย,พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา,ลพบุรี,ผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร
|
https://www.thairath.co.th/news/902830
|
เอิร์ธ ลูกป๋ากิ๊กใบ้เลขตรงเผง แต่ไม่ได้ซื้อ ปักหมุดรอตามงวดต่อไป
|
หลังจากที่รอบที่แล้ว ป๋ากิ๊ก เกียรติ กิจเจริญ พร้อมด้วยลูกชาย เอิร์ธ กานต์ กับลูกสะใภ้ เปา เปาวลี ได้จัดรายการ หลานกลมกิ๊ก ด้วยกันทางยูทูบพร้อมกับใบ้เลขเด็ดงวดของวันที่ 1 ก.ค. 2563 เพราะก่อนหน้า ป๋ากิ๊ก เคยบอกเลขเด็ด จนทำเอาแฟนคลับไปซื้อตามและถูกกันทั่วหน้างวดนี้เลยจัดให้อีกครั้งตามคำขอ ซึ่ง ป๋ากิ๊ก ได้บอกใบ้เลข 3 ตัว 381 ข้างล่าง 2 ตัว 51-15 และ เอิร์ธ ลูกชายก็ได้พูดขึ้นมาว่า งวดนี้ 38ล่าสุดในอินสตาแกรมของ เอิร์ธ ลูกชายป๋ากิ๊กก็ได้โพสต์ภาพตัวเองที่กำลังนั่งเหงาๆ หลังผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลออก พร้อมเขียนแคปชั่นว่า ถูกทุกคน ยกเว้นกูมาหาจารย์ด้วย จารย์เหงา อยู่ร้านนะ หลานกลมกิ๊ก #saveจารย์เอิร์ธงานนี้คนที่ติดตามต่างเข้ามาคอมเมนต์เอ็นดูในความไม่ได้ซื้อเลขของอาจารย์เอิร์ธ พร้อมบอกว่า งวดหน้าผ้าสามสีต้องมาแล้ว.
|
แฟนคลับเฮ เอิร์ธ ลูกป๋ากิ๊กให้เลขเด็ดถูก 2 งวดติด แต่ตนเองไม่ได้ซื้อ นั่งเหงาหลังหวยออก ทุกคนบอกปักหมุดรองวดต่อไป
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
ป๋ากิ๊ก,ป๋ากิ๊ก เกียรติ กิจเจริญ,ป๋ากิ๊ก เอิร์ธ เปา,เปาวลี,เอิร์ธ กานต์ กิจเจริญ,เปา เอิร์ธ,ข่าวบันเทิง,ดารา
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1881008
|
เครือข่ายผู้หญิงนักปกป้องสิทธิจี้รัฐไทยยุติการคุกคามนักปกป้องสิทธิฯ หลังพบถูกคุกคามอย่างต่อเนื่อง
|
ปัญหาท้าทายใหม่ แนวทางการดำเนินงานใหม่ เอเชียและแปซิฟิก จี้รัฐไทยยุติการคุกคามนักปกป้องสิทธิฯ โดยเฉพาะผู้หญิงนักปกป้องสิทธิฯ หลังพบถูกคุกคามอย่างต่อเนื่อง สถิติฟ้องผู้หญิงนักปกป้องสิทธิจากชุมชน 6 ปีอย่างน้อย 440 คดี ระบุเป็นยุทธศาสตร์ของบริษัทเอกชน ตั้งใจฟ้องผู้หญิงนักปกป้องสิทธิ หวังสร้างปัญหาให้เกิดในครอบครัว-ชุมชน ด้านทนายความชี้ดำเนินคดีเพื่อให้ปิดปาก ใช้โทษแรงแค่แชร์ทวิตเตอร์ให้กำลังใจ7 มิ.ย. 2563 เครือข่ายผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย มูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน โพรเทคชั่นอินเตอร์เนชันเเนล (พีไอ) และภาคีเครือข่ายอีก 53 หลากหลายองค์กรอาทิเครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ประเทศไทย สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม กรีนพีซ ประเทศไทย ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงคณะผู้จัดการประชุมสหประชาชาติผ่านอินเตอร์เน็ต เรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน: ปัญหาท้าทายใหม่ แนวทางการดำเนินงานใหม่ เอเชียและแปซิฟิก ซึ่งจะมีการประชุมระหว่างวันที่ 9-11 มิ.ย. นี้ เพื่อเรียกร้องให้ผู้จัดการประชุมมีการอภิปรายในประเด็นการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิที่ถูกคุกคามด้วยกระบวนการยุติธรรมซึ่งเกิดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และให้เป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอจากเวทีนี้น.ส.ปรานม สมวงศ์ องค์กรโพรเทคชั่น อินเตอร์เนชันเเนล (พีไอ) กล่าวว่าการคุกคามด้วยกระบวนการยุติธรรมโดยรัฐ หรือหน่วยงานธุรกิจ ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการทำงานของผู้หญิงและผู้ชายนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และยังเป็นการละเมิดหลักการชี้นำแห่งสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชน ที่กำหนดว่า เมื่อมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยบริษัท รัฐบาลต้องดำเนินการให้เกิดการเยียวยาที่เข้มแข็งและเหมาะสมต่อผู้เสียหาย ดังนั้นการพิจารณาของเวทีนี้ ควรมีประเด็นสำคัญอย่างการคุกคามด้วยกระบวนการยุติธรรมและการดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อปิดกั้นการมีส่วนร่วมสาธารณะ (SLAPP) ของภาคธุรกิจในทุกเวทีอภิปรายด้วย โดยสถานการณ์ในประเทศไทยขณะนี้ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนตกเป็นเป้าหมายการฟ้องคดีเพื่อขัดขวางการดำเนินงานเพื่อปกป้องสิทธิในที่ดิน ที่อยู่อาศัย สิ่งแวดล้อม และทรัพยากรในท้องถิ่นตัวแทนจากองค์กรโพรเทคชั่น อินเตอร์เนชันเเนล (พีไอ) กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2557 พบว่ามีผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างน้อย 440 คนถูกดำเนินคดี ซึ่งผู้ที่ตกเป็นจำเลยในคดีเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงยากจนในเขตเมืองที่ถูกไล่รื้อจากที่อยู่อาศัย ตามมาด้วยจำเลยที่เป็นผู้หญิงซึ่งทำงานปกป้องที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติในชุมชนของตนเอง โดยผู้ที่เป็นคนฟ้องคดี คือ บริษัทเหมืองแร่ บริษัทปาล์มน้ำมัน และหน่วยงานของรัฐบางแห่ง ทั้งที่รัฐควรจะสนับสนุนและคุ้มครองผู้หญิงและผู้ชายนักปกป้องสิทธิมนุษยชน แต่กลับกลายเป็นว่ารัฐบาลไทยมีท่าทีเพิกเฉยในการที่บริษัทสามารถคุกคามและข่มขู่โดยผ่านกระบวนการยุติธรรมและรูปแบบอื่น ๆ เช่น บริษัทเหมืองทองคำ มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง รวมทั้งมีการทำร้ายร่างกายสมาชิกกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด องค์กรชุมชนที่มีแกนนำเป็นผู้หญิงในจังหวัดเลยในปี 2557 ซึ่งบริษัทเหมืองทองคำและหน่วยงานรัฐ ได้ฟ้องดำเนินคดีถึง22 คดีต่อนักปกป้องสิทธิมนุษยชนน.ส.ปรานม กล่าวเพิ่มเติมว่านอกจากนี้ยังพบด้วยว่ามีอีกในหลายพื้นที่ที่มีการดำเนินคดีกับผู้นำชุมชน ในข้อหาละเมิด พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ จากการรวมตัวประท้วงอย่างสงบเพื่อต่อต้านโครงการที่สร้างความเสียหายในพื้นที่ของตนเอง โดยคดีที่มักมีการฟ้องผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนได้แก่ คดีหมิ่นประมาท ซึ่งถือเป็นความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา ในลักษณะความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพและชื่อเสียง ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ของบริษัทในการดำเนินคดีกับผู้หญิง เพราะจะส่งผลกระทบต่อทั้งครอบครัว และรวมถึงทั้งชุมชนผู้หญิงเป็นผู้รับผิดชอบดูแลครอบครัว เมื่อต้องใช้เวลาต่อสู้คดี ย่อมมีเวลาน้อยลงในการทำงานดูแลครอบครัว นอกจากเป็นการแทรกแซงต่อความจำเป็นในการดูแลครอบครัวแล้ว การที่ผู้หญิงต้องออกไปต่อสู้คดีทำให้ถูกมองว่าเพิกเฉยต่อหน้าที่ของตนเอง กลายเป็นตราบาปอันเป็นเหตุให้มีการมองว่าผู้หญิงไม่ได้ดูแลครอบครัวของตนเองอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่พบในชุมชนชนบทน.ส.ปรานม กล่าวด้านนางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เจ้าของรางวัลแมกไซไซ ปี 2562 กล่าวถึงปัญหาในกระบวนการพิจารณาคดีในชั้นศาลของนักปกป้องสิทธิที่ถูกคุกคาม ว่า การพิจารณาคดีมักเกิดขึ้นที่ศาลระดับจังหวัด ซึ่งตั้งอยู่ห่างไกล ทำให้ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิที่ถูกฟ้องมีภาระที่เพิ่มขึ้น ทั้งการดูแลบุตร การเดินทาง และค่าใช้จ่ายในการสู้คดี ทำให้เกิดความเครียดและความยากลำบากในชีวิตมากขึ้น กลายเป็นความเสี่ยงที่จะเป็นการปิดปากให้ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิฯไม่สามารถแสดงความเห็นที่สำคัญ อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าดีใจที่ประเทศไทยมีแผนปฏิบัติการชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน โดยให้ความสำคัญกับ นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และป้องกันการดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อปกป้องการมีส่วนร่วมสาธารณะ (SLAPP) แต่แผนดังกล่าวกลับไม่ได้นำสู่การปฏิบัติ ทำให้นักปกป้องสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะผู้หญิงยังคงมีชีวิตอยู่กับความกลัว ความไม่ปลอดภัย และการถูกคุกคามโดยเฉพาะการคุกคามทางเพศ และการคุกคามทางโซเซียลมีเดีย (Cyber Bullying)ในขณะที่การเยียวยาเป็นสิ่งที่แทบไม่เคยเกิดขึ้น เมื่อรู้สึกไม่ปลอดภัย การขอความคุ้มครองจากรัฐมักเป็นไปโดยยากลำบาก เพราะแทนที่จะให้ความคุ้มครอง ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมักได้รับคำแนะนำให้หยุดแสดงความคิดเห็นหรือหยุดเคลื่อนไหว แผนปฏิบัติการชาติ (NAPs) ด้านนักปกป้องสิทธิมนุษยชน จึงเป็นเพียงสิ่งที่เขียนไว้ในกระดาษ แต่ไม่มีผลทางปฏิบัติขณะที่ น.ส. ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความ และผู้ประสานงานมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน กล่าวว่า การคุกคามด้วยกระบวนการยุติธรรม ยังเกิดขึ้นกับผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนอื่น ๆ ที่ทำงานสนับสนุนผู้หญิงและชุมชนระดับรากหญ้า อย่างคุณอังคณาก็เป็น1ใน 22 คน รวมถึง น.ส.พุทธณี กางกั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชน น.ส.ธนภรณ์ สาลีผล อดีตเจ้าหน้าที่ องค์กรฟอร์ทิไฟท์ ไรทส์ น.ส.สุธารี วรรณศิริดีต นักวิจัยประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน นางสุชาณี คลัวเทรอ ผู้สื่อข่าว น.ส.สุธาสีนี แก้วเหล็กไหล นักสหภาพแรงงาน น.ส.งามศุกร์ รัตนเสถียร อาจารย์ประจำศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี ม.มหิดล ที่ถูกฟ้องร้องจากบริษัทแห่งเดียวกันนี้ คดีหมิ่นประมาทต่อบุคคลเหล่านี้มีโทษจำคุกระหว่าง 8-42 ปี และมีค่าปรับระหว่าง 8แสน ถึง 4.2 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการกระทำเพียงเล็กน้อย รวมทั้งการแชร์ทวีตให้กำลังใจแรงงานข้ามชาติ ที่ต่อสู้เรียกร้องสิทธิด้านแรงงานของตน การถูกดำเนินคดีเช่นนี้ เป็นการโจมตีอย่างจงใจและมียุทธศาสตร์ เมื่อนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญถูกฟ้อง ย่อมส่งผลให้ผู้หญิงและผู้ชายนักปกป้องสิทธิมนุษยชนคนอื่น ๆ เกิดความหวาดกลัว ถือเป็นฟ้องคดีฟ้องปิดปากด้าน น.ส.พุทธณี กางกั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชน องค์กร Fority Rights ระบุว่า ในระหว่างการระบาดของโรคโควิด-19 และหลังจากนี้ หน่วยงานธุรกิจย่อมมองหาแนวทางที่จะฟื้นฟูกิจการจากภาวะขาดทุน และมุ่งทำกำไรให้เร็วสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การทำงานของผู้หญิงและผู้ชายนักปกป้องสิทธิมนุษยชน จะยิ่งมีความสำคัญ เพราะเป็นบุคคลที่มีบทบาทมากสุดที่จะเน้นให้เห็นปัญหาการละเมิด หรือการคุกคามต่อสิทธิมนุษยชน เพื่อประกันว่าหน่วยงานธุรกิจจะปฏิบัติตามหลักการและพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชน แต่การที่รัฐบาลปล่อยให้เกิดการคุกคามด้วยกระบวนการยุติธรรมต่อไป ย่อมส่งผลให้การทำงานที่สำคัญเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนมีความเสี่ยงอันตราย และดำเนินการได้ยากขึ้น สุดท้ายแล้วย่อมส่งผลกระทบต่อทั้งธุรกิจและสิทธิมนุษยชนจดหมายเปิดผนึกของกว่า 40 องค์กรจากเครือข่ายภาคประชาชนจากชุมชนองค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งภายในและต่างประเทศและผู้ลงนามบุคคลหลายท่าน กล่าวถึงข้อเสนอว่า ขอให้คณะทำงานแห่งสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (UNWG) ใช้โอกาสนี้แสดงจุดยืนที่เข้มแข็ง เพื่อสนับสนุนการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ให้ปลอดจากการคุกคามด้วยกระบวนการยุติธรรมและการฟ้องคดีปิดปาก ด้วยการหยิบยกประเด็นเหล่านี้ไปนี้เพื่อพูดคุยกับรัฐบาลไทย ดังนี้1. ขอให้ผู้จัดประชุมถามความคืบหน้าจากรัฐบาลไทยในการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของคณะทำงานสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชนในปี 2561 เกี่ยวกับการแก้ปัญหาการดำเนินคดีเพื่อขัดขวางการปกป้องสิทธิมนุษยชนของนักปกป้องสิทธิทั้งหญิงและชาย2. ที่ผ่านมายังไม่มีการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้การคุ้มครองหรือรับรองการทำงานของผู้หญิงและผู้ชายนักปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นผล แผนปฏิบัติการแห่งชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน และมติที่ให้ความคุ้มครองในกระบวนการยุติธรรม ยังไม่มีสถานะเป็นกฎหมาย แต่มีสถานะเป็นเพียงกฎ ตามมาตรา 3 ของพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 เท่านั้น จึงไม่มีน้ำหนักในแง่กระบวนการยุติธรรมหรือไม่สามารถบังคับใช้ได้3. แม้จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมให้ศาลสามารถยกฟ้องคดี หรือห้ามบุคคลเอกชนฟ้องคดีใหม่ กรณีที่เห็นว่าเป็นการฟ้องคดี โดยไม่สุจริตหรือโดยบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อกลั่นแกล้งหรือเอาเปรียบจำเลย แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการใช้บทบัญญัติตามมาตรา 161/1 และ 165/2 ของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญานี้ให้เป็นผล อีกทั้งในกฎหมายไม่มีการให้นิยามคำว่า โดยไม่สุจริต ส่งผลให้ตกเป็นดุลพินิจของศาล ซึ่งจนถึงปัจจุบัน การร้องขอต่อศาลให้ใช้อำนาจตามมาตรา 161/1 ในคดีต่อผู้หญิงและผู้ชายนักปกป้องสิทธิมนุษยชน มักถูกปฏิเสธ4. ตามมาตรา 21 ของพ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553 พนักงานอัยการมีอำนาจสั่งไม่ฟ้องคดีในลักษณะที่เป็นการคุกคาม ข่มขู่ หรือตอบโต้นักปกป้องสิทธิมนุษยชนหรืออื่น ๆ แต่ข้อเท็จจริงพบว่าการสั่งไม่ฟ้องคดีไม่ได้เป็นอำนาจเฉพาะของอัยการสูงสุด หากมีขั้นตอนปฏิบัติที่ยาวนาน และไม่เป็นที่ชัดเจนว่าที่ผ่านมามีการให้ทรัพยากรและความช่วยเหลืออย่างเพียงพอต่อสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้ใช้อำนาจของตนได้อย่างเป็นผลและมีประสิทธิภาพหรือไม่5. นอกจากนี้ยังไม่มีการกำหนดขั้นตอนปฏิบัติ หรือข้อบทที่ชัดเจนเกี่ยวกับการสั่งปรับ หรือการลงโทษหน่วยงานธุรกิจที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด ฐานคุกคามด้วยกระบวนการยุติธรรมต่อผู้หญิงและผู้ชายนักปกป้องสิทธิมนุษยชน6. ความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งแม้พิสูจน์ว่าเป็นจริง แต่ไม่ได้เป็นความผิดที่สร้างอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สิน จึงไม่ควรถือเป็นความผิดทางอาญา ซึ่งมีบทลงโทษจำคุก และมีค่าปรับจำนวนมาก การลงโทษเช่นนี้ควรมาใช้เฉพาะกับอาชญากรรมร้ายแรง จึงขอเรียกร้องให้คณะทำงานแห่งสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน และหน่วยงานอื่น ๆ สนับสนุนให้รัฐบาลไทยลดการเอาผิดทางอาญากับความผิดฐานหมิ่นประมาท และให้ยกเลิกบทลงโทษทางอาญาใด ๆ กับความผิดฐานหมิ่นประมาทและ 7. เรียกร้องให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ทำงานในประเด็นธุรกิจและสิทธิมนุษยชน ให้ใช้ทรัพยากรและอำนาจที่มีอยู่เพื่อประกันว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งหลายจะยุติการคุกคามด้วยกระบวนการยุติธรรมต่อนักปกป้องสิทธิมนุษยชนโดยทันที โดยเฉพาะต่อผู้หญิง และให้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อส่งเสริมการทำธุรกิจที่ดีและมีการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนอย่างจริงใจ โดยเครือข่ายหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยและหน่วยงานสหประชาชาติที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกันให้มีการคุ้มครองหลักการธุรกิจและสิทธิมนุษยชนสำหรับทุกคน
|
เครือข่ายผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและองค์กรสิทธิมนุษยชน ยื่นหนังสือเปิดผนึก 7 ข้อถึงคณะผู้จัดการประชุมสหประชาชาติผ่านอินเตอร์เน็ต เรื่อง ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนเรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน:
|
สังคม,สิทธิมนุษยชน,คุณภาพชีวิต
|
เครือข่ายผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย,มูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ,มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน,โพรเทคชั่นอินเตอร์เนชันเเนล,ปรานม สมวงศ์,สิทธิสตรี
|
https://prachatai.com/journal/2020/06/88012
|
นิชิโนะ ชี้ตั้งมินิแคมป์ หวังรักษาสภาพความฟิตนักเตะช้างศึก
|
วันนี้ (31 ต.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 17.00 น. อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย นำทัพช้างศึกประเดิมฝึกซ้อม เพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนมีโปรแกรมพบกับ ทีมชาติมาเลเซีย และทีมชาติเวียดนาม ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 4 และนัดที่ 5กุนซือวัย 64 ปี วางโปรแกรมการเก็บตัวฝึกซ้อมออกเป็น 2 ช่วง เริ่มจากในรูปแบบมินิแคมป์ ระหว่างวันที่ 31 ต.ค.- 4 พ.ย.นี้ ก่อนปล่อยผู้เล่นพักผ่อน 4 วัน จากนั้น เข้ามาเก็บตัวยาวพร้อมกันอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.เป็นต้นไป ส่วน 4 แข้งต่างแดนอย่าง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ธีราทร บุญมาทัน ชนาธิป สรงกระสินธ์ และฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ จะตามเข้ามาสมทบ วันที่ 11 พ.ย.ไม่อยากให้ว่างเว้นนานไปจนร่างกายนักเตะไม่เหมือนเดิมอากิระ นิชิโนะ เปิดเผยว่า หลังจากนี้ยังมีช่วงทับซ้อนของทีมชาติชุดใหญ่กับทีมชุด U23 และอีกเรื่องคือเราเพิ่งจบไทยลีกมาหมาดๆ จึงไม่อยากให้เกิดเวลาเว้นว่างนานเกินไปจนสภาพร่างกายนักเตะไม่เหมือนเดิม จึงมีการจัดมินิแคมป์ขึ้น แล้วเดี๋ยวจะวางแผนอีกทีว่าจะทำอย่างไรต่อจากที่ไทยลีกได้สิ้นสุดลงไป และกว่าจะมีการแข่งขันอีกทีก็คือวันที่ 14 พ.ย. ที่จะไปเยือนมาเลเซีย ช่วงระหว่างนั้นมันมีเวลานานพอสมควร จึงมีไอเดีย 2 อย่างคือตอนแรกจะให้นักเตะพักยาวและมาเรียกใกล้ๆ ก่อนจะไปมาเลเซียแล้วค่อยซ้อมหนักทีเดียว แต่มาเปลี่ยนใจที่จะมารักษาสภาพความฟิตนักเตะ จึงจัดมินิแคมป์ขึ้นมา เพื่อให้ได้ทั้งพักและซ้อมไปในตัวนิชิโนะ กล่าวว่า ตอนนี้ค่อนข้างที่จะได้ทำความรู้จักนักเตะที่มีแนวโน้มจะเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมในอนาคต แต่ก็ยังต้องหาเพชรเม็ดงามใหม่ ๆ เข้ามา ก็เลยพยายามที่จะเรียกนักเตะที่มีแววที่จะทำผลงานได้ มาทดลองไปในตัว ก็ต้องพิจารณาในตอนซ้อมอีกที เพราะช่วงที่ผ่านมาใน 2 นัดหลังสุด ในไทยลีกแต่ละคนก็ทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมยืนยันโฟกัสทีละนัด เน้นต่อยอดผลงานให้ดีขึ้นต่อไปจากที่ผ่านมา เราโฟกัสทีละนัด ตั้งแต่เวียดนาม ยูเออี รวมไปถึงแมตช์อุ่นเครื่องกับคองโก ตอนนี้เราสามารถรวมพลังแสดงความสามารถออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ของเดือนหน้าก็จะมีสถานการณ์ที่แตกต่างออกไป นั่นคือการที่เราต้องออกไปเยือนทั้ง 2 นัด แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องพยายามรวมนักเตะให้เป็นหนึ่งเดียว และต่อยอดที่เราทำมาให้ดีขึ้นต่อไปหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า เนื่องจากเรามีนักเตะที่ไปค้าแข้งที่เจลีกเป็นทุนเดิม ทำให้ญี่ปุ่นสนใจนักเตะไทยเป็นพิเศษและยิ่งเราทำผลงานได้ค่อนข้างดี มีนักเตะอายุน้อยหลายคนก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลัก ทำให้ได้รับความสนใจยิ่งขึ้น แต่ยังไม่ขอพูดอะไรมากกว่านี้ แต่คิดว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้ที่เจลีกจะให้ความสนใจนักเตะของเรานิชิโนะ แสดงความยินดี เชียงราย คว้าแชมป์ไทยลีกนิชิโนะ กล่าวว่า จริงๆ วันนี้ที่เจอกับนักเตะก็ยังไม่ได้คุยอะไรมาก ก็แสดงความยินดีกับทีมสิงห์ เชียงราย และทีมอื่น ๆ ก็ขอบคุณทุกคนที่เหนื่อยกันมาทั้งฤดูกาลซึ่งมันจบลงแล้ว และได้ขอบคุณพวกเขาอีกอย่างนั่นคือการแข่งขันในฤดูกาลนี้จบลงแล้ว จะได้พักแล้วแต่พวกเขาก็ยังสละเวลามาช่วยทีมชาติอยู่ ก็ตั้งเป้าหมายในมินิแคมป์ไปว่าจะเน้นรักษาสภาพร่างกายเป็นหลักสำหรับทีมชาติไทย เตรียมบุกไปเยือน ทีมชาติมาเลเซีย ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 4 กลุ่มจี วันที่ 14 พ.ย.2562 ต่อด้วย บุกไปเยือนทีมชาติเวียดนาม ในเกมนัดที่ 5 วันที่ 19 พ.ย.2562
|
หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชี้จัดตั้งมินิแคมป์ เพื่อรักษาความฟิตของนักฟุตบอลและเตรียมความพร้อม ก่อนพบกับมาเลเซียและเวียดนามในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2
|
กีฬา
|
ช้างศึก,ทีมชาติไทย,มินิแคมป์,อากิระ นิชิโนะ,นิชิโนะ
|
https://news.thaipbs.or.th/content/285713
|
ถังเดียวเที่ยว 1000 กิโลเมตร MERCEDES BENZ E220d AMG DYNAMIC
|
ด้วยเรือนร่างที่ดูคล้ายกันของรถทั้งสามรุ่นทำให้แฟนคลับ Mercedes Benz ออกอาการงงงวยเมื่อพบเจอตัวเป็นๆ ของ New E-Class W213 คุณจะพบกับความไม่แน่ใจในด้านของมุมมอง จากความเหมือนที่แตกต่างของ C-Class / E-Class และ S-Class ใหม่ที่มีรูปลักษณ์คล้ายคลึงกันราวกับแกะในทุ่งหญ้า Mercedes Benz New E-Class รุ่นใหม่รหัสตัวถัง W213 มาพร้อมกับเรือนร่างที่อวบอ้วนขึ้นแต่ยังคงความปราดเปรียวด้วยเส้นสายที่โค้งมนกลมกลืนทั่วทั้งคัน ความพยายามในการเอาชนะรถคู่แข่งอย่าง BMW Series-5 F10 ทำให้ New E-Class เป็นรถที่อัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก แพ็กเกจอัจฉริยะและออปชั่นเสริมราคาแพงมหาโหด นอกเหนือไปจากนี้ W213 คันล่าสุดยังมีประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับ E-Class รุ่นที่ผ่านมา แชสซีใหม่ปรุงแต่งมาเพื่อการขับที่ดีขึ้น เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นที่ขายในประเทศไทยมีค่าบำรุงรักษาต่ำลงแถมยังมาพร้อมกับเกียร์ลูกใหม่ซึ่งมีการพัฒนาขึ้นมาโดย Mercedes Benz เป็นชุดส่งกำลังที่มีอัตราทดมากถึง 9 สปีด ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ ขณะเดียวกันเกียร์ใหม่ก็ยังมีส่วนช่วยให้อัตราการปล่อย Co2 ลดลงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรถเครื่องยนต์ดีเซล ด้วยค่าการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์แค่ 102 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร,หลังจากเดินทางไปขับทดสอบ Mercedes Benz New E-Class W213 ในรอบสื่อมวลชนทั่วโลกที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตามด้วยการเปิดตัว The New E-Class ในประเทศไทยภายในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ผมต้องรอถึง 3 เดือนกว่าจะได้พบกับ New E-Class ตัวเป็นๆ ซึ่ง Mercedes Benz Thailand ส่งมาให้ทดลองขับนาน 1 อาทิตย์ เป็นการรื้อฟื้นความทรงจำและสัมผัสที่เปลี่ยนแปลงไปของ New E-Class เมื่อได้มาลองขับในประเทศไทย ในส่วนของราคาค่าตัว บริษัท Mercedes Benz Thailand เปิดราคาของ New E-Class รุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทยดังต่อไปนี้ คือ Mercedes Benz E220d Exclusive Line ราคา 3,990,000 บาท กับรุ่นที่แพงกว่าซึ่งเป็นรถทดสอบอย่าง E220d AMG Dynamic เวอร์ชั่นตกแต่งด้วยอุปกรณ์ทั้งภายนอกและภายในจาก AMG ทำให้ราคาของมันทะยานขึ้นไปถึง 4,790,000 บาท,เจ้า New E-Class ซาลูนหรูหรามีระดับที่มีขนาดตัวถังน้องๆ S-Class คันนี้มีความสลับซับซ้อนจากระบบที่คอยประคับประคองผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยเทคโนโลยีสุดทันสมัยเสริมความมั่นใจด้วยโปรแกรมการขับเคลื่อนแบบไดนามิก เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน New E-Class มีระยะฐานล้อยาวขึ้นเล็กน้อย โดยมีความยาวฐานล้อเพิ่มขึ้น 65 มิลลิเมตร จาก E-Class รุ่นที่แล้วที่มีความยาวฐานล้อ 2,874 มิลลิเมตร มาเป็น 2,939 มิลลิเมตรในรถรุ่นใหม่ ความยาวตัวถังโดยรวมเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยที่ 43 มิลลิเมตร (4,880 มิลลิเมตรในรุ่นที่แล้ว ยาวขึ้นเป็น 4,923 มิลลิเมตรใน E-Class รุ่นใหม่) สัดส่วนของความยาวที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้พื้นที่ประโยชน์ใช้สอยของผู้โดยสารทั้งหมดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ในส่วนของการวางเท้า พื้นที่ความกว้างเพิ่มขึ้นอีก 20 มิลลิเมตรที่ด้านหน้าและ 7 มิลลิเมตรที่ด้านหลัง ระยะโอเวอร์แฮงค์ที่สั้นลง ฝากระโปรงหน้าที่ยื่นยาวและการวางเส้นสายของแนวหลังคาที่โค้งมนสไตล์รถคูเป้ (คล้ายกับรุ่น CLS) ทอดตัวเป็นเส้นโค้งของผืนหลังคาลากจากเสาหน้าไปจนถึงเสาท้าย,Mercedes Benz New E-Class รุ่นที่ขายในประเทศไทยเริ่มจากรุ่น E220d เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ล่าสุด รหัส OM654 ขนาด 2 ลิตร เป็นเครื่องยนต์แบบดีเซลคอมมอลเรลไดเรคอินเจคชั่นเทอร์โบเดี่ยวลูกเดียวโดดๆ เครื่องดีเซลตัวล่าสุดจากค่ายตราดาวยังคงเป็นแบบแถวเรียง 4 กระบอกสูบ อัดอากาศด้วยเทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ เครื่องยนต์รุ่นใหม่ตัวนี้ถูกปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพสูงมากยิ่งขึ้นทั้งในด้านของแรงบิด ความแข็งแกร่งทนทาน และการใช้เชื้อเพลิงที่มีอัตราส่วนลดลง พร้อมกับโหมดการขับเคลื่อนที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับได้ถึง 5 รูปแบบ เช่น ECO/ Comfort/ Sport/ Sport+/ Individual พร้อมฟังก์ชั่น Auto Start/ Stop,ค่าการปล่อย Co2 ต่ำ แค่ 102 กรัม ต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร มาตรฐานมลพิษของเครื่องยนต์ OM654 อยู่ในระดับ Euro 6 เป็นเครื่องดีเซลเทอร์โบที่ใช้ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบยิงตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้หรือที่เรียกกันว่า ไดเรคอินเจคชั่น พัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งบล็อก ไล่เรียงจากฝาสูบ กระบอกสูบและก้านสูบใหม่ ตัวลดอุณหภูมิไอดีแบบใหม่ ชุดหัวฉีดพร้อมหน่วยควบคุมไฟฟ้าแบบใหม่ แคตตาไลติก คอนเวอร์เตอร์ที่ปรับลดค่า Co2 ได้ต่ำมากแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน,ชุดส่งกำลังแบบใหม่ล่าสุด พัฒนาขึ้นโดยวิศวกรของ Mercedes Benz เป็นเกียร์อัตโนมัติแบบ 9 สปีด 9G-Tronic With Paddle Shift เกียร์ขับหลัง Mercedes-Benz 9G-Tronic เป็นเกียร์อัตโนมัติแบบใหม่ ซึ่งเป็นชุดส่งกำลังมาตรฐานสำหรับ New E-Class ทุกรุ่นทุกเวอร์ชั่น (ยกเว้น E63 AMG) อัตราส่วนการทดกำลังถูกปรับให้มีความครอบคลุมทุกรอบเครื่องยนต์ และแพร่กระจายในวงกว้าง (9.15) ,สำหรับเกียร์ 1-9 ช่วยทำให้รอบเครื่องยนต์ลดต่ำลงในย่านความเร็วเดินทางด้วยเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์ที่ตำแหน่งเกียร์ 8-9 ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เข้ามาช่วยให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีขึ้น เมื่อไม่ต้องใช้รอบสูงในการวิ่งบนไฮเวย์ เกียร์ 9G-Tronic ยังช่วยให้การถ่ายเทแรงบิดมีความสมบูรณ์แบบและเต็มไปด้วยความนุ่มนวล ไหลลื่นต่อเนื่อง ระยะของการเปลี่ยนเกียร์สั้นลง โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในด้านวิศวกรรมระบบส่งกำลังยุคใหม่และมีการตอบสนองที่ฉับไว,ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น น้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลในถังขนาดความจุ 50 ลิตรสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 1,000 กิโลเมตร เกิดขึ้นจากกลไกการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์ เกียร์ 9 สปีดผสานรูปลักษณ์ที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศที่ต่ำกว่ารถซาลูนขนาดกลางทั่วไปบวกกับน้ำหนักรถทั้งคันที่เบาลงแม้จะมีการประดังอุปกรณ์ใหม่นับร้อยรายการก็ไม่ทำให้มันมีน้ำหนักตัวที่บานเบอะแต่อย่างใดทั้งสิ้น โครงสร้างหลักประกอบด้วยโลหะพวกเหล็กทนแรงเค้นสูงกับอะลูมินั่มอัลลอยในจุดที่ต้องการทั้งความเหนียวแน่นแข็งแกร่งและเบาไปพร้อมๆ กัน,รูปทรงที่ถูกต้องตามหลักอากาศพลศาสตร์ทำให้ Mercedes-Benz New E-Class เป็นรถยนต์ที่มีค่าสัมประสิทธิ์ต่ำสุดในกลุ่มซาลูนขนาดกลาง วิศวกรด้านอากาศพลศาสตร์ได้ลดเสียงลมปะทะกับตัวถังในขั้นตอนของการวิจัยและพัฒนา ทำให้ New E-Class เป็นรถที่เงียบสุดในกลุ่มของยานยนต์ผู้บริหาร การลดค่าต้านทานของอากาศยังมีส่วนทำให้ลดการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงและการปล่อย CO2 ด้วยหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีทำให้การขับที่ความเร็วสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขับอยู่บนมอเตอร์เวย์ ทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงประมาณ 0.3 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร,ตัวเลขของค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศของ New E-Class อยู่ที่ 0.23 (cd 0.23) ลดลงเกือบร้อยละ 7 เมื่อเปรียบเทียบกับ E-Class รุ่นก่อนหน้านี้ เพื่อทำให้ New E-Class สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ วิศวกรของ Mercedes Benz ที่รับผิดชอบด้านระบบอากาศพลศาสตร์ได้ดำเนินการปรับปรุงรายละเอียดรวมถึงการวิจัยและพัฒนาอย่างเข้มข้นระหว่างคอมพิวเตอร์ที่ใช้จำลองการไหลของอากาศและ optimisations ในอุโมงค์ลม ยกตัวอย่างเช่น ระบบควบคุมอากาศ AIRPANEL ของ E-Class E220d รุ่น Exclusive ที่นำมาจาก New C-Class (กระจังหน้าอัตโนมัติที่สามารถเปิดและปิดในขณะที่ขับขี่) โดยมีหลักการทำงานของ AIRPANEL ที่ขึ้นตรงกับการระบายความร้อน ยางขอบประตูและกระจกมีการซีลผนึกที่คล้ายกับรุ่น S-Class เพื่อลดเสียงความถี่สูงของกระแสลมและเสียงการทำงานของยาง เพิ่มฉนวนกันความร้อนและฉนวนป้องกันเสียงแปลกปลอมที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น กระจกนิรภัยแบบลามิเนตในแพ็กเกจ Acoustic Comfort สามารถลดเสียงลมได้ดียิ่งขึ้น,งานตกแต่งภายในที่โดดเด่นของ New E-Class W213 รุ่น E220d AMG Dynamic คันทดสอบเต็มไปด้วยความไฮเทคที่ช่วยเสริมการขับใช้งานหรือนั่งโดยสารให้มีความสบายและความปลอดภัยควบคู่กันไป ท่ามกลางวัสดุหรูหราราคาแพงที่ประดับประดาอยู่ทั่วทั้งห้องโดยสารของเจ้า E รุ่นล่าสุด เป็นการสื่อให้เห็นถึงปรัชญาการออกแบบตกแต่งภายในของ Mercedes-Benz โดยมีการกำหนดรูปแบบที่มีความแตกต่างกันออกไประหว่างโมเดลในแต่ละรุ่น หน้าจอแสดงผลแบบใหม่ที่มีขนาดความกว้างมากถึง 12.3 นิ้ว นับเป็นครั้งแรกในส่วนนี้ที่มาตรวัดถูกปรับจากมาตรวัดแบบอนาล็อกมาเป็นมาตรวัดแบบดิจิตอลผ่านการแสดงผลด้วยจอ TFT LCD หรือ Thin film transistor คล้ายกับมาตรวัดของ Mercedes Benz New S-Class ซึ่งแสดงผลด้วยภาพกราฟิกที่มีความคมชัดสูง,การสร้างองค์ประกอบหลักที่เน้นลักษณะของการใช้งาน ด้วยการออกแบบแดชบอร์ดขนาดใหญ่ กลายเป็นแนวทางหลักของการออกแบบตกแต่งภายในสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ไซส์กลางของแบรนด์ตราดาว แผงหน้าปัดของหน้าจอกว้างมากจนรู้สึกแปลก โดยมีจอแสดงผลขนาดใหญ่เช่นเดียวกับจอแสดงผลส่วนกลางเหนือคอนโซล ผู้ขับขี่สามารถเลือกรูปแบบของหน้าปัดมาตรวัดได้สามรูปแบบ เช่น Classic / Sport และ Progressive การตกแต่งในสไตล์เดียวกับ New S-Class ยิ่งทำให้ New E-Class W213 มีห้องโดยสารที่ทันสมัยเหนือกว่าคู่แข่งอย่าง BMW Series-5 / Audi A6 หรือแม้แต่ Lexus New GS อย่างชัดเจน,แผงหน้าปัด Widescreen Display เชื่อมโยงระบบ COMAND CONTROL ด้วยรูปแบบกราฟิกที่ชัดเจนของคลัสเตอร์จอสี (1,000 x 600 พิกเซล) กับจอแสดงผลกลางขนาด 21.3 ซม. ในแนวทแยง (ความละเอียด 960 x 540 พิกเซล) การแสดงผลกลางมีการติดตั้งอยู่ภายใต้กรอบเดียว ชิ้นงานของจอภาพทำออกมาในลักษณะมันวาวโทนเดียวกับสีเปียโนแล็กเกอร์ ผู้ขับสามารถปรับเนื้อหาของจอแสดงผลกลางให้มีความเหมาะสมกับความชอบส่วนตัวหรืออารมณ์ของการขับในขณะนั้น จอแสดงผลกลางยังเชื่อมโยงการทำงานกับระบบนำทางและกำหนดพิกัดด้วยดาวเทียมเวอร์ชั่นล่าสุด ระบบแผนที่นำทางสามารถเติมพื้นที่การแสดงผลที่สมบูรณ์แบบผสานกับมาตรวัดแบบดิจิตอล,จอแสดงผลกลางของระบบ COMAND CONTROL จะแบ่งพื้นที่หลักสำหรับแสดงข้อมูลเชิงกราฟิกและภาพเคลื่อนไหว (2/3 บนด้านขวาของจอแสดงผล พื้นที่เสริม (1/3 ที่ด้านซ้ายของจอแสดงผล) เป็นนวัตกรรมล่าสุดที่ควบคุมสั่งงานด้วยระบบสัมผัสในก้านวงของพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นออกแบบการใช้งานคล้ายกับพื้นผิวสัมผัสของสมาร์ทโฟน การสั่งงานผ่านปุ่มควบคุมที่พวงมาลัยหรือสั่งงานผ่านแป้นควบคุมในระบบ COMAND CONTROL จึงตอบสนองได้อย่างแม่นยำทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ช่วยให้ผู้ขับสามารถควบคุมการทำงานของระบบ Infotainment ในลักษณะที่เรียบง่ายและสมบูรณ์แบบตามหลักสรีรศาสตร์โดยไม่ต้องละมือออกจากพวงมาลัย,ตัวเลือกการป้อนข้อมูลเพิ่มเติมหรือโปรแกรมการใช้งานนั้นถูกยกมาทั้งยวงจาก New S-Class อุปกรณ์ทัชแพดที่ติดตั้งอยู่บนตำแหน่งของซุ้มเกียร์ของ New E-Class ช่วยให้การทำงานทั้งหมดถูกควบคุมโดยท่าทางเดียวหรือนิ้วมือ โดยสั่งงานแบบ multi-touch ทัชแพดยังอนุญาตให้พิมพ์ตัวอักษรหรือตัวเลขและตัวอักษรพิเศษที่เขียนด้วยลายมือ ระบบอ่านข้อมูลจะสามารถตรวจพบโดยการป้อนข้อมูลที่เขียนด้วยลายมือเพื่อให้คนขับรถไม่จำเป็นต้องละสายตาจากการควบคุม คุณลักษณะการตรวจสอบ handrest ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยในการดำเนินงาน นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้ระบบควบคุม COMAND Online และการควบคุมด้วยเสียง LINGUATRONIC เพื่อใช้สำหรับการควบคุมระบบ Infotainment ส่วนตำแหน่งของคันเกียร์ถูกย้ายไปอยู่ที่ก้านด้านขวาของพวงมาลัยคล้ายกับก้านคันเกียร์ของ E-Class รุ่นที่แล้ว,นักออกแบบของ Mercedes-Benz รุ่น New S-Class พยายามควบรวมเอาความสง่างามและบรรยากาศแบบสปอร์ตที่ทันสมัยในซาลูนรุ่นเรือธงมาใส่ใน New E-Class ด้วยการนำรูปแบบของห้องโดยสารในรถรุ่นเก่ามาทำการออกแบบและปรับปรุงใหม่หมด ความกว้างและครอบคลุมลักษณะของการใช้งานในห้องโดยสารก่อให้เกิดความโดดเด่นทั้งในด้านความคมชัด สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาการออกแบบของแบรนด์ตราดาว การตกแต่งภายในด้วยวัสดุคุณภาพสูงเป็นความแตกต่างระหว่างการผลิตยานยนต์ยุคใหม่ของเยอรมนี ด้วยสำนวนการออกแบบทางอารมณ์จากสถาปัตยกรรมภายในที่ชาญฉลาด เช่นเดียวกับการควบคุมและการแสดงผลขั้นสูง องค์ประกอบที่ทันสมัยของห้องโดยสารมีคุณภาพสูงปรี๊ดจากวัสดุแบบใหม่ที่กำหนดรูปแบบทั้งสปอร์ตและความสง่างามของการตกแต่งภายใน เบาะนั่งทุกตำแหน่งหุ้มด้วยวัสดุหนังแท้คุณภาพสูง ลายไม้โทนสีดำด้านที่แปลกตาและมีผิวสัมผัสที่แตกต่างออกไปจากลายไม้แบบเก่า ผ้าเนื้อดีที่ใช้บุภายใน และโลหะพวกอะลูมินั่มอัลลอย การใช้วัสดุอัลลอยสีเงินหุ้มในส่วนของคอนโซลและแผงประตูเป็นรูปลักษณ์ที่แสดงออกถึงความมีคุณภาพ งานประกอบภายในของ New E-Class ยังเต็มไปด้วยความพิถีพิถันใส่ใจในรายละเอียดและงานตัดเย็บที่ประณีตบรรจง,หลอดไฟ LED ภายในห้องโดยสารของ New E-Class ควบคุมด้วยโปรแกรมการใช้งานหรือฟังก์ชั่นที่มีชื่อเรียกว่า Ambient Light ออกแบบมาเพื่อทำให้การปรับโทนสีของแสงในห้องโดยสารเข้ากับบรรยากาศและอารมณ์ของผู้ขับขี่ หลอด LED ยังทนทานและประหยัดพลังงาน เทคโนโลยี LED ของ New E-Class สามารถเลือกเฉดสีเพื่อทำให้แสงสว่างสร้างบรรยากาศและมุมมองแปลกใหม่มากถึง 64 เฉดสี หลอด LED เทคโนโลยีล่าสุดจะเพิ่มสัมผัสของแสงในโทนสีต่างๆ โดยใช้หลอด LED คาดแบ่งครึ่งในส่วนของจอแสดงผลกลาง ด้านหน้าคอนโซลกลาง, แผงประตูทั้งสี่บาน การส่องสว่างของช่องประตูด้านหน้าและพื้นที่วางเท้า,อุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ภายในห้องโดยสารของ E220d AMG Dynamic ด้วยระบบเสียงรอบทิศทางแบบ 3D จากแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำระดับโลก Burmester® ไฮไลต์ของ Mercedes-Benz New E-Class E220d เวอร์ชั่น AMG Dynamic ห้องโดยสารติดตั้งลำโพงคุณภาพสูงจำนวน 13 ดอก พร้อมแอมป์แบบ 9-channel amplifier กำลังขับ 590 วัตต์ สนั่นสั่นสะเทือนมากมายเมื่อเปิดเพลง Rock หรือกังวานไพเราะเสนาะหูด้วยมิติของเพลง Jazz แนวไฮโซที่ถูกขับออกมาจากลำโพงชั้นยอด ความคมชัดกรุ๊งกริ๊ง ความใสของเสียงและความลึกของเบสทำให้ Burmester® คือเครื่องเสียงราคาแพงคุณภาพเยี่ยมของ E220d AMG Dynamic ที่ใช้สำหรับฟังเพลงในระหว่างการเดินทางได้เนียนหูเอามากๆ,เบาะที่นั่งแบบใหม่ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อความสบายเหมาะกับการเดินทางไกล ด้วยรูปลักษณ์ของตัวเบาะคู่หน้าสไตล์สปอร์ต เบาะที่นั่งได้รับการออกแบบที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับออปชั่นและรุ่น เบาะที่นั่งที่พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับเวอร์ชั่น AMG สร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสารด้วยพนักพิงศีรษะแบบสปอร์ตควบคุมการปรับตั้งด้วยไฟฟ้าที่ตัวพนักพิงศีรษะ เบาะหุ้มหนังแท้โทนสีน้ำตาลมีการออกแบบส่วนไหล่ให้กว้างมากยิ่งขึ้น เบาะที่นั่งด้านหลังใน New Mercedes-Benz E-Class Saloon มาพร้อมกับตัวเลือกของพนักพิงแบบสามชิ้น,ได้เวลาออกไปขับทดสอบทางไกลกับ New E-Class รุ่นแพงสุดที่ขายในประเทศไทยอย่าง E220d AMG Dynamic ห้องโดยสารที่หรูหราสง่างามให้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ใน S-Class แต่ป้ายชื่อรุ่น E220d ที่ฝากระโปรงท้ายนั้นบ่งบอกว่าเจ้านี่เป็นรถในตระกูล E-Class วางเครื่องดีเซลเทอร์โบรุ่นใหม่ล่าสุด เบาะสีน้ำตาลปรับไฟฟ้าทรงสปอร์ตกดลงจนเตี้ยสุดแบบได้ใจ พวงมาลัย AMG ทรงสามก้านฐานตัดแนวรถสปอร์ตทั้งๆ ที่ทำตัวเป็นซาลูนหรู แป้นเปลี่ยนเกียร์และสวิตช์สั่งงานจัดวางมาเป็นอย่างดี กลิ่นหนังใหม่ๆ ปะปนกับแสงสีภายในที่คุณสามารถปรับได้ถึง 64 เฉดสี ผ้าหุ้มหลังคาสีดำกับหลังคาแบบพาโนรามิกซันรูฟที่ใช้กระจกเปิดปิดด้วยไฟฟ้าคลุมอยู่ถึงครึ่งหนึ่งของผืนหลังคา สไตล์และกลิ่นอายของ S-Class ปรากฏอยู่บนคอนโซลแดชบอร์ดโดยเฉพาะขนาดอันมโหฬารของจอแสดงผลและมาตรวัดที่เชื่อมต่อกัน,คนของ Mercedes Benz พยายามอธิบายถึงแนวทางในการพัฒนาเครื่องดีเซลตัวใหม่ที่มีแรงม้าพอประมาณแค่ไม่ถึง 200 ตัว แต่มีแรงบิดที่กลายเป็นแรงดึงต่อเนื่องเมื่อต้องการไปให้เร็วขึ้นมากถึง 400 นิวตันเมตรจากเครื่องยนต์ดีเซลความจุแค่ 1,950 ซีซี พร้อมตัวอัดอากาศเทอร์โบเดี่ยวลูกเดียวโดดๆ กับชุดส่งกำลังใหม่เอี่ยมอ่อง Mercedes Benz 9-G Tronic ซึ่งมีอัตราทดให้สับเล่นมากถึง 9 สปีด เกียร์ออโต้ลูกใหม่ที่มีประสิทธิภาพ มีอัตราทดครอบคลุมทุกย่านของรอบเครื่องยนต์ แถมด้วยราคาค่าตัวของเกียร์ใหม่ทั้งลูกที่ฟังแล้วคุณอาจสะดุ้ง,เครื่องยนต์ เกียร์ 9 สปีดและพวงมาลัยไฟฟ้า ทำงานต่อเชื่อมกับโหมดของการขับเคลื่อนมากถึง 5 รูปแบบ เริ่มจากโหมดต่ำสุด ECO ตามด้วยโหมดมาตรฐานเมื่อทำการสตาร์ตเครื่องยนต์หรือโหมด Comfort ต่อด้วยโหมด Sport ที่แรงขึ้นมาอีกนิด หลังจากนั้นก็จะเป็นโหมดท้ารบกับชาวบ้านด้วยโหมด Sport + และโหมดสูงสุดที่ไม่ได้มีอยู่แค่ในรถ E63 AMG อีกต่อไปด้วยโหมด Individual ทุกโหมดนั้นคุณสามารถเข้าไปล้วงแคะแกะเกาเข้าไปปรับตั้งค่าของพวงมาลัย การทำงานของเครื่องยนต์ การเปิดใช้งานหรือปิดการทำงานของ Auto Start/Stop ไล่จากโหมดจ่ายกับข้าวอย่าง ECO Mode ไปจนถึง Individual โหมดที่มีการเตรียมความพร้อมสูงสุดสำหรับการขับเร็วๆ,จุดเด่นของเจ้า E220d นอกจากเรือนร่างใหม่ ภายในใหม่ เครื่องใหม่ เกียร์ใหม่และแชสซีใหม่เอี่ยมแล้ว น้ำหนักที่ตกลงไปบนเพลาหน้าจะเบาขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากใช้เครื่องยนต์ที่มีขนาดกะทัดรัดแค่ 4 กระบอกสูบ เครื่องยนต์ Daimler-Benz OM 654 DE 20 วางแบบ front mid engine rear wheel drive โดยใช้การร่นแท่นเครื่องขยับเข้าไปอยู่ติดกับห้องโดยสารเพื่อตัวเลขในการกระจายน้ำหนักที่ดีในลักษณะที่มีการปรับให้น้ำหนักของเครื่องยนต์และเกียร์ตกอยู่ที่บริเวณกึ่งกลางรถมากที่สุด ซุ่มเสียงการทำงานในรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ดีเซลตัวใหม่นั้นเงียบขึ้นมากแต่ก็ยังมีเสียงการทำงานของวาล์วดังพอให้รู้ว่าเจ้านี่ยัดหัวใจใหม่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ผมข้ามโหมด ECO ซึ่งเป็นโหมดประหยัดมาใช้โหมดมาตรฐาน Comfort นับเป็นการผสมผสานที่ค่อนข้างลงตัวเมื่อโหมดนี้ถูกใช้สำหรับการขับในเมืองรวมถึงการขับออกทางไกล,คันเร่งไฟฟ้า Drive by Wire ในโหมด Comfort ออกมาในแบบสองแนวสองความรู้สึก กดเบาๆ ก็ไหลไปเรื่อยๆ ให้ความยืดหยุ่นสูง หรือจะเร่งแซงรถขับช้าแบบฉับพลันทันทีก็ยังมีการตอบสนองที่ว่องไวกดคันเร่งเร็วๆ รถจะไปเร็วขึ้นตามน้ำหนักของฝ่าเท้า การทำงานของเกียร์ 9 สปีดมีความฉลาดหลักแหลมเอาเรื่อง หมดห่วงเมื่อแรงบิด 400 นิวตันเมตร ถูกส่งออกมาจากเกียร์ไปยังเพลากลางก่อนที่จะถ่ายลงไปยังเฟืองท้าย สมองกลไฟฟ้าหรือ ECU ของเกียร์ที่เรียกกันว่า electronic control unit คอยปรับอัตราทดให้มีความเหมาะสมกับความเร็ว ขับในเมืองคุณจะไม่มีโอกาสได้ใช้งานเกียร์สุดท้ายกันบ่อยครั้งนักเนื่องจากเกียร์ 9 นั้นเป็นเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์ที่ใช้ขับออกทางไกลในย่านความเร็วเดินทางบนทางหลวงแบบไฮเวย์มากกว่าที่จะมาไหลอยู่ในเมือง,เกียร์ 9G-Tronic ฉลาดปราดเปรื่องมากพอเมื่อผมคาอยู่ในตำแหน่ง D-Full Auto มันจะทำการเลือกเกียร์ที่ถูกต้องกับความเร็วและส่งถ่ายความนิ่มนวลไหลลื่นต่อเนื่องเมื่ออัตราทดถูกปรับขึ้นๆ ลงๆ อยู่ตลอดเวลาโดยไม่มีอาการกระตุกกระชากโผล่มาให้สัมผัสแม้แต่นิดเดียว เท่าที่สังเกตดูด้วยตาที่จอมาตรวัด เกียร์ 9 สปีดลูกใหม่มักจะคาอยู่ในตำแหน่งเกียร์ 6-7 และจะเปลี่ยนเป็นเกียร์ 8 เมื่อถนนข้างหน้าโล่งขึ้นพร้อมกับการใช้ความเร็วที่เพิ่มขึ้น หลังจากความเร็วทะยานผ่าน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เจ้าเกียร์สุดท้ายหรือเกียร์ 9 จะเริ่มต้นรับหน้าที่เข้ามาลดรอบเครื่องยนต์ซึ่งเกิดผลดีในด้านอัตราสิ้นเปลือง ทำให้การวิ่งด้วยเชื้อเพลิงหนึ่งถังความจุ 50 ลิตรหากขับแบบไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนแต่ก็ไม่ได้ช้าเป็นเต่า คุณจะห้อหมอนี่ได้ไกลถึง 1,000 กิโลเมตร,ชุดบังคับเลี้ยวแบบใหม่ Direct-Steer speed sensitive steering ผสานการทำงานกับโหมดขับเคลื่อน DYNAMIC SELECT with a choice of driving modes: ECO, Comfort, Sport, Sport+ and Individual ส่งมอบความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเปไปบนโหมดการขับเคลื่อน 5 รูปแบบ โหมด Comfort พวงมาลัยไฟฟ้าปรับน้ำหนักไปตามความเร็วของรถโดยพยายามทำตัวเองให้เบาเข้าไว้ในย่านความเร็วต่ำ ไม่ว่าจะถอยออกจากที่จอดอันคับแคบหรือหักเลี้ยวไปตามตรอกซอกซอยแถบเยาวราชคุณจะควบคุมทิศทางของเจ้า E-Class ใหม่ด้วยความมั่นใจ เมื่อผมลองขับให้เร็วขึ้น พวงมาลัยไฟฟ้าชื่อยาวเหยียด Direct-Steer speed sensitive steering ผ่องถ่ายน้ำหนักไปตามความเร็วทันทีโดยปรับน้ำหนักของพวงมาลัยให้หนักขึ้นอีกนิดเพื่อความกระชับรัดกุมเมื่อใช้ความเร็ว,ผมเริ่มต้นการทดลองอะไรบางอย่างใน New E-Class รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลด้วยการปรับโหมดไปที่ Sport เพื่อดูการตอบสนองของเครื่องยนต์และเกียร์รวมถึงพวงมาลัยไฟฟ้าจอมฉลาด โหมด Sport ออกแบบมาเพื่อการขับขี่ที่ว่องไว มันไม่ได้ไวปานพายุเหมือน E63 AMG แต่คันเร่งก็ปรับตัวเองจากความยืดหยุ่นมาเป็นความกระชับและโต้ตอบออกมาเป็นแรงพุ่งทะยานทันทีที่ถูกกดแรงๆ ตัวเลขอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ 7.3 วินาที แสดงให้เห็นว่าเจ้านี่มีอัตราเร่งพอฟัดพอเหวี่ยงกับ Series-5 525d ไม่ได้เร็วจนทำให้เสียวสันหลังแต่ก็พุ่งลิ่วๆ ไปข้างหน้าแบบไม่ลดราวาศอก เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างกำลังในรูปของแรงบิด 400 นิวตันเมตร และการขับขี่ที่เร่าร้อนแต่มีความผ่อนคลายแฝงอยู่ในตัวตนของรถคันนี้ ไม่ถึงกับสมบูรณ์แบบเหมือน E63 AMG แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานโดยเฉพาะเจ้าของ E-Class ที่ชอบขับเร็วๆ,เกียร์ 9G-Tronic ใน Sport Mode ส่งถ่ายอัตราทดจากเกียร์ต่ำขึ้นไปยังเกียร์ 4-5 โดยคาเกียร์ 4 หรือ 5 นานมากขึ้นอีกนิดสำหรับการเรียกแรงบิดโดยไม่เสียเวลาในช่วงรอยต่อของเกียร์แม้แต่น้อย ช่วงของแรงบิดกับการทำงานของเครื่องยนต์ที่ราบเรียบคือคุณสมบัติแบบผู้ดีทุกกระเบียดนิ้วใน E220d มันไม่มีอาการกระโชกโฮกฮากหรือกระตุกชะงักงันเมื่อโหมดของการขับเคลื่อนถูกปรับขึ้นไปยังตำแหน่งที่ช่วยรีดสมรรถนะออกมาได้อย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋แบบนี้ ความนิ่งของช่วงล่างผ่านการทำงานของแชสซีใหม่ทำให้คุณไม่รู้สึกถึงความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากไม่สังเกตมาตรวัดความเร็วให้ดีๆ มีหวังโดนคุณตำรวจทางหลวงจับปรับข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดอย่างแน่นอน E220d สามารถทะยานไปถึงความเร็วสูงสุดที่ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้อย่างสบายๆ หากถนนข้างหน้าโล่งมากพอ อัตราสิ้นเปลืองสำหรับการขับออกทางไกลนอกเมืองขึ้น-ลงอยู่ที่ 23-26 กิโลเมตรต่อลิตร อาจดูธรรมดาเกินไปเพราะ Mazda 2 SkyActiv-D เครื่องดีเซลเทอร์โบ 1.5 ลิตร ก็สามารถทำได้ดีกว่าที่ 28 กิโลเมตรต่อลิตร แต่อย่าลืมว่าน้ำหนักตัวของเจ้า E220d นั้นมากถึง 1,605 กิโลกรัม ตัวหนักมากกว่า Mazda 2 ดีเซลเกือบๆ 600 กิโลกรัม อัตราสิ้นเปลืองที่หรูหราของซาลูนขนาดกลางจากแบรนด์ตราดาวคันนี้ทำให้คุณไม่ต้องแวะปั๊มน้ำมันกันบ่อยเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป,บนทางหลวงชนบทหมายเลข 2052 ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากแยกบายพาสมุ่งหน้าไปยังน้ำตกป่าละอู เจ้า E220d AMG Dynamic แสดงตัวตนของมันออกมาอย่างหมดเปลือก จุดแข็งของหมอนี่อยู่ที่แชสซีซึ่งผ่องถ่ายความเป็นไดนามิกที่โอนอ่อนผ่อนคลายมากกว่า BMW Series-5 ระบบรองรับด้านหน้าแบบดับเบิ้ลวิชโบนด้านหลังแบบมัลติลิงค์พร้อมชิ้นส่วนหลักๆ ทำจากอะลูมินั่มอัลลอยทำให้น้ำหนักใต้สปริงของมันลดลงเมื่อเทียบกับ E-Class รุ่นพี่ ความสนุกที่แท้จริงปะปนกันไปตลอดเส้นทางไม่ว่าจะเป็นทางตรงยาว โค้งที่วกวนรอบเนินเขา ด้วยความที่ E220d ไม่ใช่รถสปอร์ตผมจึงไม่มีความจำเป็นที่จะดอดเข้าไปปิดระบบช่วยทรงตัว ปล่อยให้มันทำหน้าที่เฝ้าระวังดีกว่าพยายามผลักดันรถให้เข้าไปใกล้กับขอบเขตข้อจำกัดด้วยฝีมือของตัวเองโดยปราศจากการช่วยเหลือของระบบรักษาเสถียรภาพและระบบช่วยทรงตัว ทำแบบนั้นก็เท่ากับเริ่มเปิดประตูสู่ความประมาทที่อาจตามมาด้วยอุบัติเหตุเอาได้ง่ายๆ,ไม่จำเป็นต้องลงแส้เจ้า E-Class จนสุดมันก็วิ่งใจขาดอยู่แล้ว นี่คือการขับ New E-Class เร็วๆ ท่ามกลางตัวช่วยอิเล็กทรอนิกส์บานตะไทที่พยายามประคับประคองรถให้อยู่กับร่องกับรอย พวงมาลัยในโหมด Sport ยังคงมาดมั่นและนิ่ง มาครบทั้งความเที่ยงตรงแม่นยำพร้อมน้ำหนักที่จะทำให้คุณมั่นใจใส่หนักๆ ในโค้ง คันเร่งทำงานตามเท้า เบรกดีเยี่ยมเอาอยู่ในทุกสถาณการณ์หากไม่ใส่ลูกบ้าจนเกินงาม มันคือการทำงานร่วมกันระหว่างจักรกลและมนุษย์ ช่วงล่างแบบถุงลมหรือ Air Body Control คือออปชั่นเสริมราคาแพงที่ถูก Mercedes Benz Thailand ตัดออกไป ทำให้ลูกค้าขาประจำของ E-Class ถึงกับออกอาการไม่พอใจ แต่การได้เห็นบิลค่าซ่อมหรือค่าเปลี่ยนโช้คอัพแบบถุงลมด้วยเงินจำนวนมากพอที่จะซื้อรถอีโคคาร์ป้ายแดงได้อีกคันจะทำให้คนเหล่านั้นเข้าใจได้ ช่วงล่างแบบ Air Suspension ของ Mercedes นั้นนิ่มหนึบนั่งสบายก้นเอามากๆ แต่ไม่เหมาะสมกับสภาพถนนในประเทศไทย รวมถึงราคาค่าตัวของ E220d ที่ยัดออปชั่นพิเศษด้วยช่วงล่างแบบถุงลมนั้นคงจะไม่ใช่ตัวเลข 4.7 ล้านบาทอย่างแน่นอน,อย่างที่บอกว่าพวงมาลัยไฟฟ้า Direct-Steer speed sensitive steering นั้นมีศักยภาพมากพอที่คุณจะวางใจได้เมื่อใช้ความเร็ว ด้วยแกนของแรคที่แข็งแรงทำจากโลหะสเตนเลสพร้อมมอเตอร์ควบคุมที่คอยปรับน้ำหนักให้ไม่เบาหรือหนักเกินไป ระยะฟรีตรงกึ่งกลางลดลงเมื่อใช้โหมด Sport + รวมถึงการตอบสนองอย่างตรงไปตรงมาคล้ายการทำงานของนักการบัญชีในธนาคารอันเก่าแก่ พวงมาลัยให้ความรู้สึกคล้ายกับ New C-Class แต่หนักแน่นกว่าเล็กน้อยเนื่องจากน้ำหนักตัวที่มากกว่าของ New E-Class เหนือกว่าพวงมาลัยของ New S-Class ที่ทำออกมาเบาสบายมือมากเกินไปนิด ผมเริ่มต้นอัดเจ้า E220d หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเหลือเวลาอีกไม่มากในช่วงเย็นก่อนที่แสงจะหมดลงซึ่งจะสร้างความลำบากให้กับการบันทึกภาพรถทดสอบมากยิ่งขึ้น ถนนลาดยางที่ไม่เรียบนั้น เจ้า E220d พร้อมด้วยแชสซีและช่วงล่างแบบใหม่ทำให้ขับได้สบายเนื้อสบายตัวแม้จะขับเร็วไปตลอดทาง แรงยึดเกาะที่ดีคือการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากขึ้นเทียบเคียงเข้าใกล้ Series-5 เข้าไปทุกทีแบบแลกคนละหมัดซัดกันคนละที ช่วงล่างของทั้งคู่จึงมีอารมณ์และสไตล์ที่แตกต่างทั้งๆ ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน,แม้จะหนึบแน่นแต่บางจังหวะช่วงล่างของมันก็ยังมีความโอนอ่อนผ่อนคลายโผล่ออกมาให้เห็นเนื่องจากการทำตัวเป็นซาลูนหรูหราของผู้บริหารที่ต้องนั่งขับหรือนั่งโดยสารได้สบายก้น แป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัยหรือ Paddle Shift คุณสามารถกดเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ขึ้นหรือลงได้ทันทีโดยไม่ต้องดันเกียร์เข้าสู่โหมดสปอร์ต เมื่อกด Paddle Shift เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ ชุดเกียร์ 9 สปีดจะเข้าสู่โหมดแมนนวลโดยอัตโนมัติ หากไม่มีการกดแป้นเพื่อเปลี่ยนเกียร์อีกครั้ง แค่ 10 วินาที เกียร์ 9G Tronic จะกลับมาเข้าสู่โหมด Full Auto อีกครั้ง นับเป็นการออกแบบการใช้งานที่ง่ายๆ ของเกียร์รุ่นใหม่ในแบรนด์ตราดาว แค่แตะแป้นเปลี่ยนเกียร์อีกครั้ง มันก็จะกลับเข้าสู่โหมดแมนนวลอย่างรวดเร็วเหมือนเดิม ช่วยป้องกันการขับแบบลากรอบได้ดีรวมถึงยังช่วยยืดอายุการทำงานของเกียร์อีกด้วย,ยกยอปอปั้นกันยาวเหยียด มาถึงบทสรุปสุดท้ายจากการได้ลองขับ New E-Class E220d AMG Dynamic ที่เมืองลิสบอนและบนทางหลวงข้ามจังหวัดแถบภาคใต้ฝั่งตะวันออกในประเทศไทย ตามความคิดเห็นส่วนตัวของผมซึ่งอาจตรงหรือไม่ตรงกับใจของคุณคนอ่านที่มีความสนใจอยากได้รถรุ่นนี้ เจ้านี่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ เกียร์ แชสซี อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยตลอดจนตัวถังที่เป็นของใหม่หมดจดทั่วทั้งคัน ล้อ AMG ขอบ 19 นิ้ว ยัดยางแบบหน้าเล็กหลังใหญ่ซึ่งเป็นยางสปอร์ตคุณภาพดีจาก Goodyear รุ่น Eagle F1หน้า 245/40R19 หลัง 275/35R19 ให้ความมั่นอกมั่นใจได้ดีทั้งทางแห้งและทางเปียก ไฟหน้า LED สว่าง มองเห็นได้ทั่วแถมยังมีระบบ Adaptive ปรับแสงและมุมของไฟไม่ให้ไปรบกวนสายตาของรถคันอื่น เครื่องยนต์ใหม่ดีเซลเทอร์โบ 2 ลิตรเหลือเฟือสำหรับการขับใช้งานด้วยแรงบิด 400 นิวตันเมตรที่เหมาะสมกับขนาดและน้ำหนัก เกียร์ใหม่ 9-G Tronic มีอัตราทดมากจนคุณใช้ไม่หมดหากไม่ลากกันบนทางยาวๆ คุณจะไม่มีทางดันไปจนถึงเกียร์สุดท้ายได้อย่างแน่นอน ช่วงล่างผสมปนเปกันระหว่างความหนึบกับความนิ่มนวล แปลกแยกแตกต่างไปจาก BMW Series-5 ที่กำลังจะเปลี่ยนโฉมอีกไม่นานนับต่อจากนี้เมื่อเทียบกับสัมผัสของช่วงล่างในรถทั้งสองยี่ห้อซึ่งถือเป็นคู่แข่งโดยตรงออกมาในแบบกินกันไม่ลง แต่ E220d เหนือกว่าด้วยความสดใหม่และเป้าหมายในการเอาชนะรถอย่าง Series-5 F10,รูปลักษณ์ใหม่สวยถูกใจนักเลงรถเบนซ์แต่ดันไปเหมือนกับ New C-Class และ New S-Class มากเกินไปจนแยกแทบไม่ออก ห้องโดยสารสวยงามราวกับความฝันโดยเฉพาะเมื่อปรับโทนสีของหลอด LED ด้วยฟังก์ชั่น Ambient Ligh หนังแท้สีน้ำตาลที่แพงมากของเบาะให้สัมผัสที่อ่อนโยนและมีกลิ่นหนังแบบผู้ดีติดตัวมาจากโรงงาน คุณภาพของงานประกอบไม่ต้องพูดถึงเนื่องจาก E-Class อยู่แถวหน้าของซาลูนหรูขนาดกลางที่ขายดีเป็นพิเศษในประเทศไทย การเน้นหนักในด้านความละเอียดประณีตถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญในลำดับต้นๆของ Mercedes Benz ระบบ COMAND online เชื่อมต่อกับโลกภายนอกด้วยการทำงานในระบบดิจิตอลพร้อมภาพกราฟิกที่งดงามน่าใช้งาน,ชุดแต่ง AMG ไล่จากสปอยเลอร์หน้า/หลัง ล้อ กาบบันได พรมรองพื้น เบาะและพวงมาลัยฐานตัดแจ่มเอามากๆ เมื่อรวมทั้งหมดเข้ากับอัตราสิ้นเปลืองในระดับถังเดียวเที่ยวไกล 1,000 กิโลเมตร ทำให้ Mercedes Benz E220d AMG Dynamic เป็นยานยนต์ขนาดกลางที่มีความน่าใช้งานมากอยู่เหมือนกัน ติดอยู่แค่ราคาค่าตัวของมันที่ทะยานไปไกลหย่อน 5 ล้านบาทไปแค่ 2 แสนเท่านั้นทำให้ผู้บริหารที่อยากได้ถึงกับน้ำลายเหนียวคอ หากชอบความประหยัดมากกว่านี้ก็ต้องรอพบกับ E350e PLUG IN HYBRID ที่จะมาพบกับท่านในเร็ววันนี้ แต่ถ้าทนรอไม่ไหวอยากได้มาขับเร็วๆ E220d Exclusive Line รุ่นรองราคา 3,990,000 บาท และ E220d AMG Dynamic คันทดสอบรุ่นท็อปสุดในไทยราคา 4,790,000 บาท จอดรอให้คุณไปลองขับในโชว์รูมของ Mercedes Benz เลือกสักคันเอาไว้เป็นพาหนะในการแสดงความสำเร็จจากหน้าที่การงานของคุณก็จะดีไม่น้อย การวางตัวเองอยู่ด้านบนโดยยกระดับการขับให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วยโมเดล E-Class คนที่ได้ประโยชน์ในเรื่องเหล่านี้ก็คือกลุ่มลูกค้าที่จงรักภักดีต่อแบรนด์ตราดาวนั่นเอง.,ราคา,Mercedes Benz E220d Exclusive Line ราคา 3,990,000 บาท,Mercedes Benz E220d AMG Dynamic ราคา 4,790,000 บาท,Identification data,Mercedes-Benz E 220 d AMG Dynamic,as offered for the year 2016 since April 2016 in Europe,Production/sales period of cars with this particular specs:April 2016,Model years:-2016,Country of origin :D Germany,Make:Mercedes-Benz,Model:E-Class W213 series 2016-2016,Submodel:E-Class Sedan W213 2016,Optional equipment:,EEC segmentation:E (executive cars),Subsegment:E-1 (executive sedans),Class:mid-size luxury / executive car,Body style: sedan,Doors:4,Traction:RWD (rear- wheel drive),Engine specifications,Engine manufacturer:Daimler-Benz OM 654 DE 20,Engine type:diesel,Fuel type:diesel fuel,Fuel system: common rail,Charge system:turbocharger,Valves per cylinder:4,Valves timing:,Additional features:variable turbo, intercooler DOHC Start-Stop system,Emission control:DPF, oxi-cat, NOx cat,Emission standard:Euro 6,Cylinders alignment:Line 4,Displacement:1950 cm3 / 119 cuiWhat power?,Horsepower net:143 kW / 194 PS / 192 hp (ECE),Torque net:400 Nm / 295 ft-lb,Horsepower gross:,Torque gross:,Car power to weight ratio net: 89.1 watt/kg / 40.4 watt/lb,Car weight to power ratio net: 11.2 kg/kW / 8.3 kg/PS / 18.4 lbs/hp,suspension,front suspensiondouble wishbone,rear suspensionmultilink,wheel & tyres,wheel size front8.5J x 19,wheel size rear9 J x 19,tyres front245/40 R 19 98Y Goodyear Eagle F1,tyres rear275/35 R 19 100Y Goodyear Eagle F1,Transmission specifications,Gearbox: Daimler-Benz 9G-TRONIC,Transmission type : automatic with Paddle shift in steering wheel,Number of gears: 9,Gear ratios (overall),I 5.35 (13.21),II 3.24 (8),III 2.25 (5.56),IV 1.64 (4.05),V 1.21 (2.99),V I1 (2.47),V II0.86 (2.12),V III0.72 (1.78),R 4.8,Speed range,(max speed on gears,,top gear value theor.):(km/h/mph),I : 46 / 29,II : 75 / 47,III : 108 / 67I,V : 149 / 93,V : 202 / 126,VI : 244 / 152,VII : 284 / 177,VIII : 339 / 211,Accelerations,Top speed : 240 km/h / 149 mph,0-60 mph (sec) : 6.9,0-100 km/h (sec) : 7.3,0-80 km/h (sec):5.1,0-100 km/h (sec):7.3,0-160 km/h (sec):19.6,0-200 km/h (sec):38.1,0-50 mph (sec):5.1,0-60 mph (sec):6.9,0-100 mph (sec):19.9,Fuel consumption:,ECE 90/120/city (comb.):,EU/ADR82 urban/extra-urban/comb.:4.3 / 3.6 / 3.9 l/100km 65.7 / 78.5 / 72.4 mpg (imp.) 54.7 / 65.3 / 60.3 mpg (U.S.) 23.3 / 27.8 / 25.6 km/l,Emission:102 g CO2/1 km EU/ADR82,Basic dimensions,Length:4,923 mm / 193.8 in,Width:1,852 mm / 72.9 in,Wheelbase:2,939 mm / 115.7 in,Fuel capacity : 50 liter / 13.2 U.S. gal / 11 imp. galDrag coefficient (Cw-Wert):,Cd claimed : 0.26,Weights,Curb weight (without a driver) :1,605 kg / 3,538 lbs,Weight distribution f/r (%):,Dry weight:,Shipping weight:,Curb weight estimated:,Gross vehicle weight rating GVWR : 2,320 kg / 5,115 lbs,Payload: 715 kg / 1576 lbs,Payload estimated:,Towing weight unbraked:,Towing weight braked : 2,100 kg / 4,630 lbs,ระบบความปลอดภัย,ระบบความปลอดภัย E 220 d AMG Dynamic,ระบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ (PRE - SAFE® system),ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร,ถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าผู้ขับขี่,ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า,ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ป้องกันศีรษะ 4 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร,เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 5 ที่นั่ง,โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program),ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti - lock braking system),ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill - Start Assist,ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน (adaptive brake light),ระบบรักษาความเร็ว (cruise control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC),ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST Service interval indicator),ระบบเตือนแรงดันลมยาง (tyre pressure loss warning system),ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist),กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง,อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก,อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก MERCEDES BENZ W213 E 220 d AMG Dynamic,ใบปัดน้ำฝนทำงานโดยอัตโนมัติ พร้อมเซ็นเซอร์วัดปริมาณน้ำฝน,ไฟหน้าแบบ LED High Performance,ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED,ระบบส่องสว่างอัจฉริยะ (ILS-Intelligent Light System),ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (ALS - Active Light System),ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (cornering light),ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist),ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน แบบ LED fibre - optic,ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ไฟเบรกและไฟท้าย แบบ LED,หลังคาพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด - ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า (Electric panoramic sliding glass sunroof),กันชนหน้า-หลัง และสเกิร์ตข้างดีไซน์สปอร์ตจาก AMG,กระจกมองข้างปรับระดับและพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า,กระจกมองข้างด้านผู้ขับขี่และกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ,กุญแจรีโมทคอนโทรล,กระจังหน้า แบบคลาสสิก พร้อมตราสัญลักษณ์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ติดอยู่เหนือฝากระโปรงหน้า,กระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมียม พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์,ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ,ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน,สัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า,ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว,ยางรถยนต์แบบ Run - flat,อุปกรณ์มาตรฐานภายใน,อุปกรณ์มาตรฐานภายใน MERCEDES BENZ W213 E 220 d AMG Dynamic,ฟังก์ชัน ECO start / stop,ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2 - ZONE,เบาะนั่งหุมหนัง nappa,เบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำสำหรับตำแหน่งที่นั่ง พวงมาลัย และกระจกมองข้าง,เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังพับได้แบบ 1/3 และ 2/3,ม่านบังแดดประตูหลังซ้าย - ขวา,ม่านบังแดดหลัง เลื่อนขึ้น - ลงด้วยระบบไฟฟ้า,พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตท้ายตัด หุ้มหนัง nappa,พวงมาลัยนิรภัยพร้อมเพาเวอร์ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า และปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ,ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ (Push Start),ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO,ระบบปิด/เปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติ (HAND-FREE ACCESS),ระบบปิด/เปิดฝากระโปรงท้ายด้วยระบบไฟฟ้า,ด้านบนของคอนโซลหน้า และด้านบนของแผงประตูหุ้มด้วยหนัง,ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 3 สี (ambient lighting),หน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบ widescreen cockpit,ระบบ COMAND Online พร้อม controller,ระบบสั่งการด้วยเสียง (LINGUATRONIC) เฉพาะภาษาอังกฤษ,ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester®,ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpad,ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Bluetooth),ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (wireless charging),ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS (Apple Carplay TM),ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ Android (Android Auto),ระบบแผนที่นำทาง,กาบบันไดสเตนเลส พร้อมสัญลักษณ์ Mercedes-Benz แบบเรืองแสง,ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,[email protected],Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
|
ทดสอบประสิทธิภาพซาลูนขนาดกลางจากแบรนด์ตราดาว Mercedes Benz E220d AMG Dynamic ราคา 4.7 ล้านบาท เครื่องดีเซลเทอร์โบ 2 ลิตร เกียร์ใหม่ 9 สปีด เชื้อเพลิง 1 ถังไปไกล 1,000 กิโลเมตร!!
| null |
Mercedes Benz E220d AMG Dynamic,New E-Class,E-Class W213,อีคลาสใหม่,อีคลาส 2016,Mercedes Benz Thailand,รถยนต์,อาคม รวมสุวรรณ,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/656124
|
ผอ.ไทยพีบีเอส ยื่นลาออก ปมซื้อหุ้นกู้ซีพีเอฟ
|
ถูกยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านแล้วเป็นคนละเรื่อง ชี้รีดเก็บจากส่วนต่างหุ้น 1 บาท แต่ขาย 49 บาท เผยคณะทำงานคดีหุ้นชินคอร์ป คลำหาช่องเอาผิดฐานฟอกเงินไม่ต้องมีอายุความ เลขา ปปง.เช็กยิบเข้าข่ายไซฟอน หรือไม่ สตง.ไล่ล่า จนท.ละเว้นหน้าที่ดองคดีใกล้หมดอายุความ นพดล งัดกฎกระทรวงคลังฉบับที่ 126 ข้อ 23 ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้รับยกเว้นภาษี เสรี โร่เคลียร์ บิ๊กป้อม เข้าใจผิดยัดไส้นิรโทษ นปช.เหน็บปรองดองได้ด้วยการสร้างประชาธิปไตย วีระ สมความคิด มอบตัวผิด พ.ร.บ.คอมฯ ยื่น 1 แสนได้ประกันตัว,หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สั่งการให้กรมสรรพากรไปประเมินภาษีเพื่อเรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น ก่อนหมดอายุความในวันที่ 31 มี.ค. ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ได้เรียกประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) เพื่อเร่งรัดการบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายกับคดีสำคัญอย่างเคร่งครัด,เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 15 มี.ค.ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ครั้งที่ 5/2560 โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กรรมการ คตช.และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยก่อนการประชุม นายกฯกล่าวว่า การตรวจสอบและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันในทุกภาคส่วน จะต้องบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายของกระบวนการยุติธรรมอย่างเคร่งครัด เช่นเดียวกันกับรัฐบาลและ คสช.ที่พยายามใช้มาตรการดังกล่าวดำเนินการอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด ขณะนี้มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงว่ามีการใช้มาตรา 44 อย่างพร่ำเพรื่อ ทั้งที่ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย สำหรับคดีใหญ่ๆอย่าให้เกิดขึ้นอีก ไม่ใช่ปล่อยให้เรื้อรัง ต้องแก้กันไป หลักคือต้องแก้ของเก่าอย่าให้เกิดปัญหาใหม่,นายประยงค์ แถลงผลการประชุม ศอตช.ว่า ที่ประชุมได้แจ้งความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว เพื่อเรียกปรับค่าเสียหาย 80 เปอร์เซ็นต์ต่อที่ประชุม ขณะนี้คืบหน้า 30-40 เปอร์เซ็นต์แล้ว มีทั้งหมด 987 คดี และได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อไต่สวนทั้งหมดแล้ว คาดว่าภายในเดือน มิ.ย.จะสรุปสำนวนคดีทางแพ่งและอาญาส่งอัยการฟ้องศาลได้ อีกส่วนหนึ่งจะส่งให้หน่วยงานต้นสังกัดของผู้กระทำความผิดพิจารณาลงโทษ และยังได้หารือการดำเนินการกับคดีการรับสินบนข้ามชาติ ที่ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาศึกษาข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ขณะนี้มีองค์กรอิสระเข้ามาประเมินประเทศไทยประเด็นเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินด้วย ที่ประชุมสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลเต็มที่ เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเสียโอกาสจากการประเมิน รวมถึงองค์กรความโปร่งใสนานาชาติที่เยอรมนี ได้ประเมินมาตราวัดด้านการคอร์รัปชัน ระบุว่า การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลดีขึ้น โดยถามจากประชาชนทั้งภูมิภาคอาเซียนกว่า 20,000 คน ก่อนหน้านี้มีการประเมินเมื่อปี 2013 พบว่าคนไทยร้อยละ 66 บอกว่าสถานการณ์การทุจริตรุนแรงขึ้น แต่ในปี 2017 มีเพียงร้อยละ 14 ที่บอกว่าการทุจริตรุนแรงขึ้น การทุจริตในประเทศไทยมีตัวชี้วัดที่ดีขึ้น นายกฯเน้นย้ำที่ประชุมให้สร้างการรับรู้และความเข้าใจต่อประชาชนเกี่ยวกับการต่อต้านการทุจริต,นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงการเรียกเก็บภาษีการขายหุ้นชินคอร์ปกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า กรมสรรพากรมารายงานเตรียมการเรียกเก็บภาษีตามที่ได้รับมอบหมาย แต่มีปัญหาอยู่ 2-3 เรื่อง เลยอยากรู้ว่าวิธีการแก้ของเขาถูกหรือผิด แต่ถึงอย่างไรการประเมินภาษีจะทำภายในวันที่ 31 มี.ค. กรมสรรพากรมีฐานตัวเลขอยู่แล้ว จากนั้นจะส่งการประเมินภาษีไปยังนายทักษิณอย่างถูกต้องตามกฎหมายว่าอายุความ 10 ปีจะหยุดลงแล้วเริ่มนับหนึ่งใหม่อีก 10 ปี เป็นกระบวนการปกติในคดีทางแพ่ง นายทักษิณมีสิทธิอุทธรณ์ใน 30 วัน ส่วนข้อกังวลของกรมสรรพากรว่าจะถูกฟ้องกลับนั้น การถูกฟ้องคงห้ามไม่ได้ แต่จะแพ้หรือชนะเป็นสิ่งที่ให้ความมั่นใจกันได้ ไม่ต้องมีมาตรการพิเศษคุ้มครองเจ้าหน้าที่ เพราะรัฐบาลดำเนินการไปตามกฎหมายปกติ ส่วนที่อธิบายว่าเป็นอภินิหารทางกฎหมาย (Miracle Of Law) เพราะเราเจอช่องทางที่สมควรจะเสี่ยงดูในเรื่องที่คิดว่าไปไม่ได้,เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะเก็บภาษีได้นายวิษณุกล่าวว่า เราไม่ใช้คำว่ามั่นใจ แต่เราต้องทำตามกระบวนการได้หรือไม่ ว่าไปตามกระบวนการ ได้อธิบายต่อที่ประชุม ครม.วันที่ 14 มี.ค.ว่า ถ้าเรื่องนี้เป็นสีดำกับขาว เราจะไม่ทำที่เป็นสีดำ แต่เรื่องนี้เป็นสีเทา กรมสรรพากรตอบคำถามไม่ได้ว่าสิ่งที่ไม่เคยทำเพราะปิดเรื่องถูกหรือผิด ถ้ายืนยันว่าถูกและทุกคนเห็นด้วยก็จบปิดเรื่อง สังคมจะด่าอย่างไรก็ช่าง แต่เมื่อไม่มั่นใจอาจจะตีความได้ก็ให้ศาลดำเนินการ จะได้เป็นมาตรฐานต่อไป,เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่านายทักษิณ ถูกคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านแล้ว จึงไม่ต้องเสียภาษีส่วนนี้ นายวิษณุกล่าวว่า มันเป็นคนละเรื่องกัน จำนวนเงินดังกล่าวไม่ใช่ภาษี แต่ถูกยึดตามคดีอาญาเรื่องทุจริต ภาษีเป็นอีกเรื่องหนึ่ง บางอาชีพที่ผิดกฎหมายยังต้องเสียภาษี ภาษีที่จะเรียกเก็บคือส่วนต่างราคาหุ้นที่รับมา 1 บาท แต่ไปขาย 49 บาท ในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนที่ระบุว่าการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไม่ต้องเสียภาษี มันเป็นเทคนิคหนึ่งที่เอาไว้ไปพูดในศาล สตง.ยืนยันว่าต้องเสีย รัฐบาลบอกกับกรมสรรพากรไปพิจารณาที่มีช่องทางให้ไปแปลความกันในศาลแล้วกันว่าต้องเสียหรือไม่ บางคนบอกว่ากฎหมายระบุชัดอยู่แล้วว่าไม่ต้องเสีย แต่กฎหมายอย่างนี้มันแปลได้หลายอย่างในบางกรณี ไม่ใช่สองมาตรฐาน แต่เป็นเจตนาซึ่งไม่อยากไปเปรียบเทียบ กรมสรรพากรไม่เคยคิดว่าเป็นอย่างนี้มาก่อน จึงต้องไปตีความกันในศาล อย่าคิดเองว่าถูกหรือผิด อย่าเพิ่งไปเดาใจว่าเขาจะฟ้องกันอย่างไร ทุกอย่างไปพูดกันในศาลให้หมดจะได้จบ,เมื่อถามว่า กรมสรรพากรได้ชี้แจงหรือไม่ว่าเหตุใดถึงไม่ดำเนินการในช่วงเวลาที่ผ่านมา นายวิษณุกล่าวว่า มีการชี้แจงแล้ว ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่อธิบายสั้นๆกับสื่อไม่ได้ เขามีเหตุผลไม่ดำเนินการอยู่ กระทรวงการคลังได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่ปี 50-55 แต่อาจจะใช้เวลา เพราะต้องรอฟังข้อเท็จจริงที่เพิ่งปรากฏ หากมีมูลจะดำเนินการสอบวินัย ส่วนผู้ที่เกษียณไปแล้วดำเนินการทางวินัยไม่ได้ แต่ถ้ามีมูลทางอาญามันมีอายุความอยู่,ขณะที่ พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า นายกฯให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสรรพากร สตง.และ ปปง.หารือถึงแนวทางตามกระบวนการกฎหมาย ในส่วนของ ปปง.มีหน้าที่สนับสนุนให้ข้อมูลในการติดตามทรัพย์สินของนายทักษิณตามกฎหมายการฟอกเงิน หากคดีนี้กลายเป็นคดีฟอกเงินด้วย คดีจะไม่มีหมดอายุความ สามารถสืบและยึดทรัพย์ย้อนหลังไปได้ ต่อให้เวลาผ่านไปแล้วหลายปีก็ตาม ตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่ง 8 เดือน ยึดและอายัดทรัพย์ในคดีสำคัญไปมากกว่า 5 หมื่นล้านบาทแล้ว และยังมีคดีใหญ่ที่มีมูลค่าสูง คาดว่าจะยึดและอายัดทรัพย์ได้อีกจำนวนมาก,นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุตัวเลขที่จะเรียกเก็บอย่างชัดเจน ที่มีกระแสข่าวว่าต้องเรียกเก็บเงินภาษีนายทักษิณ 12,000-16,000 ล้านบาท เป็นเพียงข้อสังเกตจากสื่อมวลชน กรมสรรพากรยังไม่ได้ยืนยันตัวเลขที่แน่ชัด ต้องประเมินภาษีที่จะมีรายละเอียดค่าเสียหาย ฐานความผิดที่เกิดขึ้น รวมกับดอกเบี้ยและเงินเพิ่มเบี้ยปรับอีก ทั้งหมดจะให้แล้วเสร็จก่อนคดีสิ้นสุดอายุความในวันที่ 31 มี.ค.นายกฯ มอบหมายภารกิจให้แต่ละหน่วยงานปฏิบัติอย่างชัดเจนแล้ว สตง.จะตรวจสอบบุคลากรภาครัฐที่ทำให้การเรียกเก็บภาษีล่าช้าจนใกล้หมดอายุความ กรมสรรพากรเองยอมรับในที่ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีเจ้าหน้าที่ละเลยหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่เรียกเก็บภาษีจากนายทักษิณ ตั้งแต่ศาลมีคำพิพากษาในคดีดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2555,มีรายงานข่าวจากที่ประชุมคณะทำงานหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องการเรียกเก็บภาษีคดีหุ้นชินคอร์ป ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯเป็นประธาน เมื่อวันที่ 13 มี.ค. เปิดเผยว่า นอกจากการมอบหมายภารกิจให้กับกรมสรรพากรและ สตง.แล้ว ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กลับไปศึกษาคำพิพากษาในคดีเรียกเก็บภาษีของนายพานทองแท้ ชินวัตร และนางสาวพินทองทา ชินวัตร บุตร นายทักษิณ ว่ามีส่วนไหนในคำพิพากษาที่สามารถนำมาดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการฟอกเงินได้อีกบ้าง เนื่องจากฐานความผิดเกี่ยวกับการเลี่ยงภาษี ยังไม่สามารถดำเนินการเป็นคดีเกี่ยวกับการฟอกเงิน ความผิดนี้ไม่มีวันสิ้นสุดของอายุความ,นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เมื่อต้นเดือน มี.ค.กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งนายยุทธนา หยิมการุณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลังเป็นประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีกรมสรรพากรไม่เก็บภาษีจาก น.ส.พินทองทาและนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯขายหุ้นโดยไม่เสียภาษี 16,000 ล้านบาท นอกจากนี้ จากการหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมายได้เรียกนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร มาพบที่ตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาล สรุปว่ากรมสรรพากรจะใช้มาตรา 61 แห่งประมวลรัษฎากรตั้งคณะกรรมการประเมินภาษี เพื่อเรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้นของนายทักษิณ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการนับอายุความ การออกหมายเรียกไม่เกิน 5 ปี หรือไม่เกิน 10 ปี,นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวสั้นๆว่า ขณะนี้กรมสรรพากรอยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสาร เพื่อเรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้นของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ส่วนวิธีการและจำนวนเงินที่จะเรียกเก็บภาษีเป็นเท่าไหร่นั้น ขอปิดเป็นความลับ เพราะอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล แต่สามารถยืนยันได้ว่าข้าราชการกรมสรรพากรทำงานตามกรอบของกฎหมาย และจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือน มี.ค.แน่นอน,นายยุทธนา หยิมการุณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง จะเรียกข้าราชการกรมสรรพากรปากสุดท้ายมาให้ข้อมูลเพื่อสรุปข้อเท็จจริง โดยคณะกรรมการฯ ชุดนี้มีอำนาจพิจารณาหรือเสนอแนะข้อคิดเห็นให้ปลัดกระทรวงการคลังเพื่อดำเนินการต่อไปโดยเฉพาะข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน,ด้านนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศกล่าวว่า ตามที่ผู้นำในรัฐบาลให้สัมภาษณ์ว่าจะมีการประเมินเรียกเก็บภาษีจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจากการขายหุ้นชิน คอร์ป คงหมายถึงหุ้น 329.2 ล้านหุ้น ที่รวมขายให้แก่กลุ่มเทมาเส็กในปี 2549 นั้น ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะประเมินภาษีจากเงินได้ส่วนใด จากธุรกรรมตอนใด และจะอาศัยกฎหมายข้อใด เบื้องต้นเห็นว่า 1.เคยมีคำพิพากษาว่าหุ้นชินคอร์ปจำนวนดังกล่าวที่รวมขายให้กลุ่มเทมาเส็กในปี 2549 นายทักษิณเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ บุคคลอื่นเป็นเพียงผู้ถือหุ้นแทน ไม่ใช่เจ้าของหุ้น 2.การขายหุ้นดังกล่าวให้กลุ่มเทมาเส็กได้ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ไม่ได้ขายนอกตลาด 3.ตามกฎหมายไทย เงินได้จากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นั้นได้รับยกเว้นภาษีตามกฎกระทรวงฉบับที่ 126 ข้อ 23 ที่ออกตามประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร กฎกระทรวงนี้ใช้มานานแล้ว และใช้บังคับเป็นการทั่วไปกับทุกคน ไม่มีข้อยกเว้น การขายหุ้นชินคอร์ป อยู่ภายใต้กฎกระทรวงฉบับเดียวกันนี้,นายนพดลกล่าวว่า 4.นอกจากเงินได้จากการขายหุ้นในตลาดจะได้รับยกเว้นภาษีแล้ว เงินได้จากการขายหุ้นชินคอร์ปและเงินปันผลจากหุ้นประมาณ 46,000 ล้านบาท ถูกยึดตกเป็นของแผ่นดินไปตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว การขายหุ้นชินคอร์ปเกิดขึ้นมาสิบปีแล้ว ผ่านมาหลายรัฐบาล แม้แต่รองนายกฯยังให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้ยังไม่แน่ชัดว่าใครผิดใครถูก เพราะกรมสรรพากรระบุอาจดำเนินการไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องอายุความว่าจะขาดหรือไม่ แต่ประเด็นหลักคือการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้รับยกเว้นภาษีตามกฎหมาย จึงไม่เข้าใจว่าจะประเมินภาษีบนพื้นฐานข้อกฎหมายใด กรมสรรพากรหน่วยงานจัดเก็บภาษีของประเทศเป็นผู้มีความรู้เรื่องกฎหมายภาษีเป็นอย่างดี หวังว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะปฏิบัติหน้าที่โดยชอบและดำเนินการตามกฎหมายและหลักนิติธรรม ยึดหลักความเท่าเทียมเสมอภาคกับทุกคน ถ้าทุกฝ่ายทำเช่นนั้นจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับการค้าและการลงทุนในประเทศได้,อีกเรื่องที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.กล่าวถึงกรณีองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ลงทุนซื้อหุ้น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟว่า กรณีดังกล่าวได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอยู่ ไม่ใช่นายกฯต้องทำเองหรือชี้ผิดถูกใครส่งเดชได้,นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯกล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียดว่าในระเบียบของทีวีสาธารณะ สามารถนำงบประมาณที่รัฐให้ไปซื้อหุ้นเอกชนได้หรือไม่ แต่จะทำหนังสือสอบถามไปยังสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสในเร็ววันนี้ ทั้งนี้ ตนทำหน้าที่กำกับนโยบายก็จริง แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้ เพราะไทยพีบีเอสถือเป็นอิสระ และการซื้อหุ้นก็ไม่ต้องรายงานต่อรัฐบาล เป็นการปฏิบัติตามปกติ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 มี.ค. นายกฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการ ส.ส.ท.เพื่อขอแสดงความรับผิดชอบหลังการซื้อตราสารหนี้ของบริษัทเอกชนจนนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์จากหลายภาคส่วน โดยนายกฤษดาให้สัมภาษณ์ว่า แม้ว่าการดำเนินงานจะถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อองค์กร แต่กระทบต่อความรู้สึกของประชาชนอย่างมาก รวมทั้งเครือข่ายที่เคยทำงานร่วมกับไทยพีบีเอส ซึ่งตนเองได้รับฟังข้อกังวลจากทุกฝ่ายและน้อมรับคำแนะนำ จึงขออภัยต่อการดำเนินการที่กระทบความรู้สึกของทุกคนเป็นอย่างมากและขอแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากผู้อำนวยการไทยพีบีเอส,ขณะที่ก่อนหน้านี้ ไทยพีบีเอสได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีการซื้อตราสารหนี้ดังกล่าว ยืนยันไม่กระทบต่อการทำหน้าที่และเตรียมยุติการลงทุนในตราสารหนี้ ที่อาจส่งผลกระทบให้ภาคประชาชนและสังคมโดยรวมเกิดข้อสงสัยและความคลางแคลงใจ,ต่อมาเวลา 21.20 น. คณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท.ได้ออกคำแถลงชี้แจงกรณีการซื้อตราสารหนี้บริษัทซีพีเอฟว่า จากกรณีที่ ส.ส.ท.ได้นำเงินไปซื้อตราสารหนี้ที่บริษัทเอกชนเป็นผู้ออก เพื่อให้เกิดดอกผล ซึ่งนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมและสื่อมวลชนอย่างกว้างขวางนั้น คณะกรรมการนโยบายได้ประชุมนัดพิเศษร่วมกับฝ่ายบริหาร ในวันที่ 15 มี.ค.โดยมีมติดังนี้ 1. การบริหารเงินให้เกิดประโยชน์ด้วยการนำเงินไปซื้อตราสารหนี้ เพื่อให้เกิดดอกผลนำไปพัฒนาตามเป้าหมายเพื่อประโยชน์สาธารณะนั้น คณะกรรมการนโยบายขอยืนยันว่า สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย และระเบียบ ส.ส.ท. 2.แม้ว่าการดำเนินการจะถูกต้องตามกฎหมาย แต่เนื่องจาก ส.ส.ท.เป็นสื่อสาธารณะ จึงพร้อมที่จะรับฟังเสียงท้วงติงของสังคม ซึ่งมีความเห็นว่า การซื้อตราสารหนี้ของบริษัทซีพีเอฟเป็นการไม่เหมาะสม และคณะกรรมการเห็นพ้องกับความเห็นดังกล่าว,3. คณะกรรมการนโยบายได้พิจารณาเรื่องขั้นตอนการดำเนินการ และมีมติว่าฝ่ายบริหารต้องนำแผนบริหารการเงินขออนุมัติอีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้รับความเห็นชอบเรื่องกรอบนโยบายการบริหารการเงิน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่กำหนดไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2555 ซึ่งผู้อำนวยการ ส.ส.ท.ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว เพราะเข้าใจว่าได้รับความเห็นชอบดำเนินตามมติคณะกรรมการนโยบายแล้ว ดังนั้น ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.จึงแสดงความรับผิดชอบต่อการดำเนินการครั้งนี้ และคณะกรรมการนโยบายขอแสดงความชื่นชมต่อการตัดสินใจของผู้อำนวยการและฝ่ายบริหาร ว่าเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อองค์กร แม้กรณีนี้ไม่ใช่เรื่องทุจริตแต่อย่างใด และ 4.คณะ กรรมการนโยบายมีมติให้ขายตราสารหนี้ดังกล่าวตามความเหมาะสมต่อไป,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ เป็นอย่างมากถึงความไม่เหมาะสมการซื้อตราสารหนี้ซีพีเอฟ ทำให้เมื่อวันที่ 14 มี.ค. นายกฤษดาได้ส่งข้อความ (เอสเอ็มเอส) แจ้งไปยังพนักงานไทยพีบีเอสทุกคนว่า ฟัง ผอ.ส.ส.ท.ตอบทุกข้อสงสัย กรณีตราสารหนี้ซีพีเอฟ พรุ่งนี้ (15 มี.ค.) 2 รอบ 10.30 น. และ 14.00 น. ณ ห้องสัมมนา 3 อาคารดี ชั้น 3 โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการชี้แจง นายกฤษดายังยืนยันว่า ได้ทำถูกต้องตามกฎหมาย แต่เมื่อมีการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม ก็ขอแสดงความรับผิดชอบ พร้อมกับกล่าวว่า ขอโทษทุกคนที่ทำให้เกิดข้อครหา และทำให้เสียชื่อเสียง,ด้านนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวถึง กรณีการเปิดเผยข้อมูลวิทยาลัยเสนาธิการทหาร (วสท.) จัดทริปนำนักศึกษาและคณาจารย์หลักสูตรเสนาธิการร่วม รุ่น 57 จำนวน 107 คน เดินทางไปดูงานต่างประเทศที่ทวีปยุโรป ช่วงเดือน มี.ค.59 จำนวน 13 วัน แต่กลับมีภาพไปช็อปปิ้ง ดูบอลและล่องเรือว่า สตง.จะไปตรวจสอบทุกกรณีที่ปรากฏเป็นข่าว โดยคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มีนโยบายชัดเจนเรื่องการตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดินเดินทางไปดูงานต่างประเทศ จะต้องชัดเจนเพื่อการศึกษาดูงานให้คุ้มค่าและเหมาะสม ไม่มีการแอบแฝงนำงบฯแผ่นดินไปท่องเที่ยว ดูภูมิทัศน์ที่ไม่เกี่ยวกับการไปศึกษาหรือดูงาน โดยเน้นย้ำว่าการไปดูงานจะต้องติดต่อและได้รับการตอบรับจากหน่วยงานต่างประเทศที่จะไปดูงาน ตลอดจนจัดทำเนื้อหาหลักสูตร ตารางการเดินทางให้ชัดเจน ที่ผ่านมา สตง.ได้รับข้อมูลว่าหลายหน่วยงานใช้การเดินทางไปดูงานแอบแฝงการไปท่องเที่ยว หาก สตง.ตรวจพบนอกจากหน่วยงานดังกล่าวจะต้องชดใช้งบประมาณคืนแล้ว ผู้รับผิดชอบจะต้องถูกดำเนิน คดีข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้งบประมาณแผ่นดินเสียหายอีกด้วย,วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอกระบวนการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง เชิญคณะกรรมการหารือในรายละเอียดเพื่อเตรียมความพร้อมการดำเนินงานหลังจากพรรคการเมือง 46 พรรค ได้เข้าให้ข้อคิดเห็นเพื่อสร้างความปรองดอง ต่อคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ตามกรอบ 10 ประเด็น ครอบคลุมเรื่องการเมือง สังคม เศรษฐกิจ การปฏิรูปต่างๆ เป็นต้น รวมระยะเวลา 1 เดือน หลังจากนี้จะเปิดโอกาสให้กลุ่มการเมืองเข้าให้ข้อคิดเห็น,พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า เป็นการประชุมครั้งแรก ในฐานะกองทัพบกรับผิดชอบการดำเนินการของอนุกรรมการชุดที่ 3 ยอมรับว่ารู้สึกหนักใจ เพราะมีประสบการณ์น้อย แต่เห็นรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิแล้วสบายใจมากขึ้น เป็นผู้มีประสบการณ์ เชื่อว่าผลผลิตที่ออกมาจะมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากสังคม,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ทรงคุณวุฒิคณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอกระบวนการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง อาทิ ดร. สมคิด เลิศไพฑูรย์ ศ.ดร.นันทวัฒน์ บรมานันท์ เป็นที่ปรึกษา มีนักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ ศ.ดร.ศุภชัย ยาวะประภาษะ ศ.ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ รศ.ดร.จุฑารัตน์ เอื้ออำนวย ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ศ.ดร.จรัล มะลูลีม ศ.กิตติคุณ ดร.อมรา พงศาพิชญ์ นายสุรินทร์ จิรวิศิษฏ์ และ ศ.ดร.ปาริชาต สถาปิตานนท์,พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. กล่าวว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.และเลขาธิการ คสช.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอกระบวนการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ได้เชิญคณะอนุกรรมการ 30 คนร่วมหารือถึงกรอบการทำงาน อำนาจหน้าที่และเตรียมความพร้อมในการทำงาน นอกจากนี้ ยังได้ชี้แจงกรอบแนวทางการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอฯเพื่อเป็นพื้นฐานในการนำไปพิจารณาตามบทบาทหน้าที่ ผบ.ทบ.ได้กล่าวแสดงความเชื่อมั่นในความรู้ความสามารถของคณะอนุกรรมการ ที่จะร่วมกันวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประมวลผลข้อมูลและข้อเสนอแนะที่จะทำให้ทุกภาคส่วนเห็นชอบตามที่ทุกคนคาดหวัง ขอให้การทำงานยึดความต้องการของประชาชนเป็นสำคัญเพื่อความสามัคคีปรองดองและนำข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายไปจัดทำร่างสัญญาประชาคมความเห็นร่วม เพื่อความสามัคคีปรองดองผ่านการจัดเวทีสาธารณะก่อนนำข้อสรุปเสนอต่อคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง,เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กระทรวงกลาโหมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) 10 คน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นางธิดา ถาวรเศรษฐ นพ.เหวง โตจิราการ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง เดินทางมาเสนอแนวทางปรองดองต่อคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองในชุดคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ทั้งนี้กลุ่ม นปช.นำเสนอความคิดเห็น แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ คำตอบสำหรับกรอบคำถาม 10 ข้อ และมุมมองเรื่องการสร้างความปรองดองโดยยึดโยงกับข้อเท็จจริงที่ผ่านมา ภายใต้หลักการความปรองดองจะเกิดได้ด้วยการสร้างประชาธิปไตย นอกจากนี้ นปช.ได้จัดทำเอกสาร ข้อเสนอแนะแนวทางปรองดองความยาว จำนวน 16 หน้า มาเสนอคณะอนุกรรมการฯด้วย,พล.อ.ต.รังสรรค์ เยาวรัตน์ ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวหลังการรับฟังว่า กลุ่ม นปช.เสนอความคิดเห็นส่วนใหญ่อยู่ในกรอบของ 10 ประเด็นหลัก พร้อมทำเอกสารมอบให้ทางคณะกรรมการ และไม่มีเรื่องของการนิรโทษกรรม การยกเลิกมาตรา 44 และคำสั่งของ คสช. ยืนยัน นปช.ก็มีความจริงใจและมุ่งมั่นเสนอความคิดเห็นและเขาก็เข้าใจว่าอะไรที่เสนอได้และอะไรที่เสนอไม่ได้ ส่วนกลุ่มพรรคการเมืองอื่นๆที่ยังไม่สะดวกเข้ามาเสนอความคิดเห็นในช่วงนี้ สามารถติดต่อเข้ามาได้หากมีความพร้อม แต่หากไม่มาจะจบที่ 46 พรรคการเมืองกับ 2 กลุ่มการเมือง และในวันที่ 17 มี.ค. กลุ่ม กปปส.จะเข้ามาเสนอความคิดเห็นหลังจากนั้นอนุกรรมการจะเชิญภาคประชาสังคมเข้ามาให้ความคิดเห็นต่อไป,เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กระทรวงกลาโหมประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่จะเสนอให้ยกเลิกมาตรา 44 และคำสั่ง คสช.ต่อคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองในชุดคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองว่า เราคงดำเนินการให้ไม่ได้ คำสั่งก็คือคำสั่ง เมื่อบังคับใช้ไปแล้วก็เหมือนกับกฎหมายและตนได้เน้นย้ำมาหลายครั้งแล้วว่าสิ่งที่ คสช.และรัฐบาลทำไปก็เพื่ออนาคตว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างไรเพื่อให้เกิดความสงบสุข อะไรที่เป็นกฎหมายคงยกเลิกไม่ได้เพราะถือว่าบังคับใช้ไปแล้ว ต่อไปเมื่อเกิดความสงบมีความปรองดองประชาชนสามารถทำมาหากิน นักธุรกิจต่างๆที่จะทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้าถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและอยู่ร่วมกันอย่างสันติโดยใช้กฎหมายที่ผ่านมา ส่วนเรื่องก่อนหน้านี้ก็ต้องไปว่ากันในกระบวนการยุติธรรม ยืนยันว่าคงยกเลิก ม.44 และคำสั่งต่างๆของ คสช.ไม่ได้,นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ขอให้หยุดพูดข้อเสนอในรายงานแก้ปัญหาความขัดแย้งและการสร้างความปรองดองทางการเมือง เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดเรื่องการนิรโทษกรรมว่า ได้คุยและชี้แจงทำความเข้าใจกับ พล.อ.ประวิตรแล้วว่า รายงานของ สปท.การเมือง ไม่มีเรื่องการนิรโทษกรรมเป็นแนวทางสร้างความปรองดอง แต่จะใช้กระบวนการทางกฎหมายเป็นหลัก หลังจากที่ พล.อ.ประวิตรได้ฟังก็เข้าใจและไม่ติดใจอะไร ยืนยันว่าข้อเสนอของ สปท.การเมืองไม่ได้เสนอให้ใช้กฎหมายนิรโทษกรรม หรือการอภัยโทษสร้างความปรองดอง เป็นจุดยืนที่ยืนยันมาตั้งแต่แรก แต่ สปท.การเมืองเสนอให้ใช้กระบวนการทางกฎหมายในหลายแง่มุม,ใส่เกียร์ถอยตัดปมเสี่ยงขัดแย้ง,นายเสรีกล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมเรียบเรียงข้อเสนอ ยังไม่ได้ข้อยุติ เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุม สปท.การเมืองให้ความเห็นชอบในสัปดาห์หน้า หากข้อเสนอประเด็นใดที่สุ่มเสี่ยงต่อความขัดแย้ง อาจต้องตัดทิ้ง แต่หลักการสำคัญที่คงไว้คือ การยึดหลักกระบวนการทางกฎหมายในการสร้างความปรองดอง ขณะนี้ข้อเสนอของ สปท.การเมืองถูกฝ่ายพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองตีความในแง่ลบ ไม่ตรงกับสิ่งที่ สปท.การเมืองนำเสนอ จึงต้องชี้แจงทำความเข้าใจให้ถูกต้องตรงกัน ถือเป็นธรรมดาที่ต้องมีทั้งความเห็นที่ตรงกันและไม่ตรงกันเป็นปกติ,นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯออกมาตำหนินายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิก สปท.ให้หยุดพูดเรื่องปรองดองว่า พล.อ.ประวิตร ออกมาเบรก ตนให้คะแนนเต็มร้อย แบบนี้ถึงเรียกพัฒนาการของผู้มีอำนาจที่รู้เท่าทัน ต้องดูว่าในแม่น้ำ 5 สายใครเป็นสายล่อฟ้า พูดจาเป็นอุปสรรคต่อความสามัคคี ทำให้ช่องว่างความปรองดองในสังคมถ่างออก การให้สัมภาษณ์ของบุคลากรเครือข่ายแม่น้ำ 5 สาย มีผลต่อเวทีปรองดองที่รัฐบาลตั้งใจริเริ่มจริงจัง ที่ผ่านมาคุมการพูดของคนในแม่น้ำ 5 สายไม่ได้เพราะต่างคนเป็นผู้ใหญ่โตๆกันแล้ว แต่ผู้มีอำนาจต้องฉลาด ต้องไม่โง่ อย่าตกเป็นเหยื่อ ต้องรู้ทันเจตนาผู้ให้สัมภาษณ์ที่พูดเพราะอยากให้ถูกใจ เอาใจเพื่อผลในอนาคต ต้องฉลาดใช้คน ตัวอย่างในอดีตมีให้เห็นแล้วว่า ผู้มีอำนาจต้องพังพาบเพราะปากคนใกล้ชิด ต้องระวังการใช้กัลยาณมิตรไม่ถูกทาง,นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหมได้แสดงวุฒิภาวะความเป็นผู้นำในสถานการณ์เปลี่ยนผ่านได้อย่างน่าชื่นชมสมกับเป็นพี่ใหญ่แห่งการปรองดอง ที่ตักเตือนนายเสรีแล้วว่า เมื่อไม่ได้เป็นกรรมการด้านปรองดองควรจะหยุดพูด ไม่รู้ว่าได้ยินเสียงของ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ นายเสรีตอบโต้เรื่องนิรโทษกรรม แต่กลับไม่พูดเรื่องกลุ่ม นปช.ยึดอาวุธสงครามทหารไปจำนวนมากและนิ่งเงียบเรื่อง สปท.ในคณะที่เตรียมเงิน 300-400 ล้านบาทไปยึดบางพรรคการเมือง เท่ากับยอมรับว่ามีมูลความจริง เป็นหน้าที่ของ สปท.ด้านการเมืองหรือไม่ หรือเป็นนโยบายของแม่น้ำ 5 สาย หรือไร้ปัญญาตั้งพรรคการเมือง ส่วนที่รัฐบาลอนุมัติงบฯ 300 ล้านบาท ต่ออายุไปถึงเดือน ก.ย.60 แล้ว สปท.มาเสนอเรื่องนิรโทษปรองดองไม่เข้าท่า ลาประชุม เตรียมยึดพรรคการเมือง ตบเด็กเสิร์ฟ กินเงินเดือน 2-3 ทาง สิ้นเปลืองเงินหลวง ทางออกที่ดีคือ คสช. ต้องกล้ายุบ สปท.ทิ้ง อยู่ไปก็รังแต่สร้างความเสียหายให้แม่น้ำ 5 สาย เปรียบ สปท.ไส้ติ่งของ คสช.เกิดอักเสบเรื้อรังแล้ว ที่สำคัญจะตัดงบรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือยทิ้งไป 300 ล้านบาท รัฐบาลนำเงินมาช่วยเหลือคนจนได้อีกเป็นจำนวนมาก,เมื่อเวลา 13.00 น. นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) เดินทางมายังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พบ พ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร หนูทอง รอง ผกก. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับ ข้อหานำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 โดยนายวีระกล่าวว่า มารายงานตัวตามหมายเรียก แต่ติติงตำรวจ บก.ปอท. ทำไมถึงไม่ออกหมายเรียกมาสอบสวนก่อน แต่ออกหมายจับเลย ทั้งที่ตนไม่เคยมีพฤติกรรมหลบหนี ส่วนที่ตนโพสต์เรื่องโพลสำรวจความนิยมของรัฐบาล ซูเปอร์โพลก็เคยทำเรื่องนี้ 2 ครั้ง และมีคนเข้ามาถามในเฟซบุ๊กตน ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กสาธารณะใครๆก็เข้าดูได้ และตั้งคำถามว่าทำไมวีระถึงไม่ทำโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเอง ส่วนคำถามที่ไปโพสต์ถามประชาชน เอามาจาก 7 ข้อคำขวัญตามเพลงคืนความสุขให้ประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการสอบสวน พนักงาน สอบสวนให้นายวีระประกันตัวด้วยเงินสด 100,000 บาท และไม่มีเงื่อนไขใดๆ โดยหลังสงกรานต์ พนักงานสอบสวนจะเรียกนายวีระมาสอบปากคำเพิ่มเติม,นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีศาลออกหมายจับนายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่ม คปต.ข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯหลังเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวในทำนองว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เชื่อมั่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ว่าขอให้รัฐบาลอดทนต่อคำวิจารณ์มากกว่านี้ เพราะการทำงานเชิงการเมืองจะมีทั้งคนชมและคนติ อย่ารับเฉพาะแต่คำชมอย่างเดียว ต้องรับคำติไว้ด้วยเผื่อว่าเป็นเรื่องจริง จะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงการทำงาน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯฉบับใหม่ จะมีผลบังคับใช้ในอีกไม่กี่วัน แยกเรื่องหมิ่นประมาทกับการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบ ระหว่างที่นายวีระเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เรื่องนี้ต้องถูกจำหน่ายคดีอยู่แล้ว ถ้าเจ้าหน้าที่คุยกับนายวีระได้น่าจะดีกว่าดำเนินคดีกัน ก่อนหน้านี้อาจมีหมายเรียก แต่นายวีระไม่ได้รับหมาย น่าจะผิดพลาดที่ขั้นตอนส่งหมายเรียกมากกว่า เป็นไปไม่ได้ที่ศาลจะลัดขั้นตอนออกหมายจับเลยโดยไม่มีหมายเรียก,นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า วีระผิดตรงไหน การโพสต์ข้อความของนายวีระ สมความคิด ไม่ใช่โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมหรือข้อมูลเท็จ ตามที่พนักงานสอบสวนนำไปขอให้ศาลอาญาออกหมายจับ แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เรื่องที่วิจารณ์คือการทำงานของนายกฯ บุคคลสาธารณะที่กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน ถือเป็นการติชมโดยสุจริต จึงได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ แต่เผด็จการกลัวความจริง จึงเอาข้อหานี้มาปิดปากนายวีระเหมือนกับที่เคยทำกับตน จึงขอให้กำลังใจนายวีระและขอบอกไปยังทุกคนโดยเฉพาะบุคคลในกระบวนการยุติธรรมว่า เผด็จการอยู่ไม่นานก็ต้องไป อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวรับใช้เผด็จการจนเกินงาม หัดมีความละอายประชาชนบ้าง ส่วนนายกฯหากทนการวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ กรุณาลาออกแล้วกลับไปอยู่บ้าน,นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ออกมาพูดสับสนเรื่องการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งที่พูดเองแต่กลับไปโทษสื่อ อีกทั้งรัฐบาลมีการใช้จ่ายเงินอย่างไม่มีประสิทธิภาพและมีข้อครหาการทุจริตมากมาย จึงอยากให้ผู้ให้ข้อมูล พล.อ.ประยุทธ์ได้เตรียมและศึกษาข้อมูลให้ดี อย่าให้ออกมาพูดผิดพลาดบ่อยๆ เพราะจะทำให้ความน่าเชื่อถือของรัฐบาลและความมั่นใจนักลงทุนยิ่งลดลงไปอีก และการเรียกเก็บภาษีต้องยุติธรรม หากทำเพื่อกลั่นแกล้งหรือทำเพื่อสร้างกระแสกลบปัญหาของรัฐบาลที่กำลังเผชิญอยู่หลายทาง,ที่ศาลปกครอง ศาลปกครองกลางนัดพิจารณาคดี ที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ฟ้องกระทรวงการต่างประเทศ กรมการกงสุล รมว.ต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อธิบดีกรมการกงสุล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กรณีกระทรวงการต่างประเทศมีคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทาง โดยอ้างว่านายจาตุรนต์เป็นบุคคลที่มีหมายจับและอยู่ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งนี้ นายจาตุรนต์แถลงปิดคดีด้วยวาจาต่อศาลว่า คำสั่งยกเลิกหนังสือ เดินทางดังกล่าวออกโดยไม่ชอบ เพราะขณะนั้นตนไม่ได้เป็นผู้ที่ถูกออกหมายจับหรืออยู่ระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศตามที่ สตช. ยกเป็นข้ออ้างขอยกเลิกหนังสือเดินทาง การดำเนินการเช่นนี้ถือเป็นการบั่นทอนความน่าเชื่อถือของประเทศในสายตาต่างประเทศ เพราะกระทรวงการต่างประเทศซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่ต้องทำตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศและชี้แจงการปฏิบัติถูกต้องต่ออารยประเทศ แต่กลับทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องเสียเอง ทั้งนี้ ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 31 มี.ค. เวลา 10.00 น.,ที่ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาที่พนักงานอัยการฝ่ายคดี นายจอน อึ๊งภากรณ์ อายุ 67 ปี ผู้อำนวยการโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) พร้อมพวกอีก 9 คน ในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุม ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง กรณีเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2550 จำเลยกับพวกหลายร้อยคน ได้มั่วสุมบริเวณ ถ.อู่ทองใน หน้าอาคารรัฐสภา ใช้โซ่ล่ามประตูเข้าออกและยุยงส่งเสริมให้ผู้ชุมนุมบุกเข้าไปในรัฐสภา ขัดขวางสมาชิก สนช. ไม่ให้พิจารณาร่างกฎหมาย รวมทั้งใช้กำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจนบาดเจ็บ คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกคนละ 2 ปี แต่ศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้อง อัยการโจทก์ยื่นฎีกา ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมหารือกันแล้วเห็นตามศาลชั้นต้น จึงพิพากษาว่าการกระทำของจำเลยทั้ง 10 เป็นความผิด แต่เมื่อพิจารณาจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุก เหตุผลและวัตถุประสงค์เป็นพฤติการณ์ไม่ร้ายแรง จึงให้รอการกำหนดโทษคนละ 2 ปี,เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.เป็นประธานประชุมเตรียมการต้อนรับนายโรดริโก โรอา ดูเตร์เต ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ที่จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 21-22 มี.ค. โดย พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์มาเพื่อกระชับความสัมพันธ์ในหลายด้าน โดยจะหารือข้อราชการร่วมกัน และร่วมกันเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ ข้อปฏิบัติและความตกลง 3 ฉบับ คือ 1. ความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ว่าด้วย ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2.การดำเนินงานตามโครงการความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวปี 2017-2022 ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทย และ 3. ข้อปฏิบัติว่าด้วยความร่วมมือในสาขาเฉพาะระหว่างศูนย์กระบือนม ประเทศฟิลิปปินส์และกรมปศุสัตว์ เกี่ยวกับการเลี้ยงกระบือปลักและกระบือนม,เมื่อเวลา 18.30 น. ที่ศาลา 10 วัดโสมนัสราชวรวิหาร ในพิธีสวดพระอภิธรรมนางยุวดี ธัญญสิริ อดีตนักข่าวอาวุโสประจำทำเนียบรัฐบาล ภริยา พล.อ. สิริชัย ธัญญสิริ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ในวันนี้เป็นวันสวดพระอภิธรรมคืนที่ 5 มีนายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ม.ล. ปนัดดา ดิศกุล รมช.ศึกษาธิการ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และนายธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้าและต่างกล่าวถึงคุณงามความดีและการปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีของนางยุวดี
|
ประยุทธ์ นั่งหัวโต๊ะถก ศอตช. ขันนอต ลุยคดีทุจริตสำคัญ กำชับบังคับใช้มาตรการกฎหมายเคร่งครัด อย่าปล่อยเรื้อรัง วิษณุ แจงอภินิหารข้อ ก.ม.พบทางสมควรเสี่ยง ปลดล็อกประเมินภาษีเริ่มต้นนับอายุความใหม่ 10 ปี โต้ ทักษิณ
| null |
กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์,ลาออก,ซีพีเอฟ,ทักษิณ ชินวัตร,ข่าวหน้า1
|
https://www.thairath.co.th/content/886227
|
เครือข่ายปชช. สับหน่วยงานจัดการน้ำแห่งชาติปลุกผีดันเขื่อนแม่น้ำโขง ร่อนจดหมายจี้ให้แจงใน30วัน
|
เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน ยื่นจดหมายถึง เลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ร้องให้ชี้แจงถึงบทบาทและหน้าที่ของหน่วยงาน ในกรณีการผลักดันการสร้างเขื่อนปากชม และโครงการโขงเลยชีมูล22 มิ.ย.2563 ศูนย์สื่อชุมชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ศสธ.) รายงานว่า วันนี้ (22มิ.ย.63)เวลา13.30น. สุวิทย์ กุหลาบวงษ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน ได้ส่งหนังสือถึง เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สนทช. เพื่อให้ชี้แจงถึงบทบาทและหน้าที่ของหน่วยงานในกรณีการผลักดันการสร้างเขื่อนปากชมและโครงการโขงเลยชีมูล ซึ่ง สนทช. เป็นหน่วยงานหลักที่ได้รับผิดชอบโครงการโดยเมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สนทช. ได้มีการเผยแพร่ข้อมูล เกี่ยวกับการบันทึกผลการประชุมร่วมกับคณะกรรมการลุ่มน้ำ ทั้ง 25 ลุ่มน้ำ โดยมีการอ้างถึงการทบทวน โครงการเขื่อนปากชม เพื่อทดระดับน้ำโขงให้สูงขึ้นและช่วยผันน้ำโขงมาใช้แก้ปัญหาภัยแล้งในภาคอีสานเกี่ยวกับ เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำปากชม อ.ปากชม จ.เลย บนแม่น้ำโขงพรมแดนไทย-ลาว นั้น ศสธ.ระบุว่า เป็น 1 ใน 11 เขื่อนที่อยู่ในแผนกาสร้างเขื่อนแบบขั้นบันไดตามลำน้ำโขง เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งผ่านการศึกษารายงานก่อนรายงานความเหมาะสมและสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น เมื่อปี 2551 แต่ได้รับการคัดค้านจากภาคประชาชนและภาคประชาสังคมมาโดยตลอดสุวิทย์ กล่าวว่า มีการจัดฉากให้ประชาชนจาก อ.เชียงคาน และอ.ปากชม จ.เลย มายื่นหนังสือเพื่อแสดงให้เห็นว่า ประชาชนมีความต้องการน้ำ ซึ่ง สนทช. จะนำเหตุผลความต้องการของกลุ่มที่ถูกจัดฉากมาเพื่อสนับสนุนความคิดในการผลักดันเขื่อนปากชมไม่ได้จากการที่เครือข่ายฯ ได้ติดตาม บทบาทการทำงานของ สนทช. ในการบริหารจัดการน้ำ มีแต่การทำงานที่ล้มเหลว ไม่ตรงไปตามแผน และเคยเสนอไปแล้วว่า สนทช. ควรถูกยุบเพราะไม่เกิดประโยชน์ในการจัดการน้ำของประเทศไทย สุวิทย์ กล่าวผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน กล่าวต่อว่าการที่เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน ส่งหนังสือถึงสนทช. ครั้งนี้ ก็เพราะ สนทช. มีความพยายามผลักดันที่จะให้มีการสร้างเขื่อนปากชม ซึ่งจะส่งผลทำให้มีความขัดแย้งเกิดขึ้น ดังนั้นจะต้องเปิดให้เกิดพื้นที่การมีส่วนร่วมเสียก่อนการสร้างเขื่อนปากชม จะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อระบบนิเวศและวิถีชีวิตของประชาชนไทยที่อยู่ในพื้นที่ รวมถึงปัญหาเขตแดนระหว่างประเทศที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ดังนั้นเราจึงทำหนังสือส่งให้สนทช. ชี้แจง ตอบกลับมาเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน30วันสุวิทย์ กล่าวสันติภาพ ศิริวัฒนไพบูลย์ อาจารย์สาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีให้ความเห็นว่า เป็นแนวคิดโบราณในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งกรมชลประทาน คณะกรรมการน้ำแห่งชาติเดิม พยายามผลักดันมาโดยตลอด ประเทศไทยไม่เคยมีแนวคิดใหม่ ซึ่งทำให้ไม่ว่ารัฐบาลยุคไหน ก็จะพยายามปัดฝุ่นโครงการพวกนี้มาทำ แต่มันมีบทเรียนในการจัดการน้ำแบบนี้มาแล้วทั่วโลกไม่ใช่แค่ในประเทศไทย เช่น เขื่อนแตก เขื่อนต้องรื้อทิ้ง ทำให้สูญเสียงบประมาณมหาศาลโดยเปล่าประโยชน์ และตอนนี้แม่น้ำโขงแทบจะตายแล้ว แต่ยังจะผลักดันเขื่อนปากชม ไม่ได้มองถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแท้จริงแล้ว ควรจะจัดการน้ำในพื้นที่เฉพาะ ระบบลุ่มน้ำย่อยที่ไหนควรจัดการอย่างไรมองที่สิ่งแวดล้อมระบบนิเวศ และคุณค่าการใช้ประโยชน์จากชุมชน แบบนี้จะมีความยั่งยืนกว่าแนวคิดเดิมที่โบราณแล้ว และผลกระทบก็เกิดแล้ว เช่น เขื่อนปากมูลที่ทำให้ปลาหายไป สันติภาพ กล่าวขณะที่ หาญณรงค์ เยาวเลิศประธานมูลนิธิเพื่อการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์ว่าเขื่อนปากชมนั้นชาวบ้านค้านกันมานาน และปัจจุบันก็ยังคงค้านอยู่ ส่วนสนทช.นั้นพึ่งมีบทบาทใหม่ในการจัดการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง(MRC) ซึ่งเดิมแต่ก่อนอยู่ภายในกรมทรัพยากรน้ำ แต่โยกย้ายมาอยู่ภายใต้ สนทช. จึงอาจจะคิดผลักดันเขื่อนปากชมสนทช. จะใช้การที่เรียกว่า การสะกิดของเครือข่ายที่อยากให้เกิดการสร้างเขื่อนปากชม แล้วจะนำมาเป็นเหตุผลให้การผลักดันโครงการไม่ได้ และจากที่อดีตเคยร่วมการประชุมเรื่องทางเลือกในการจัดการน้ำในแม่น้ำโขง องค์กรรัฐในไทยเองเห็นตรงว่าไม่จำเป็นต้องทำเขื่อนปากชมหาญณรงค์ กล่าวนิวัฒน์ ร้อยแก้วหรือครูตี๋กลุ่มรักษ์เชียงของ จังหวัดเชียงรายเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ใช่ว่า สนทช. จะผลักดันการสร้างเขื่อนปากชม แต่ สนทช. ควรไปศึกษา ผลกระทบที่เกิดขึ้นในแม่น้ำโขง ตอนนี้แม่น้ำโขงป่วยอย่างหนัก จากเขื่อนต่างๆ ที่สร้างขึ้น ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ น้ำสีคราม สีฟ้า หรือแม้แต่ระดับน้ำโขงที่ผิดแปลกไปจากเดิม ซึ่งเกิดจากการสร้างเขื่อนในจีน เขื่อนไชยบุรี และเขื่อนอื่นๆ เพราะผลกระทบตอนนี้มันชัดเจนแล้ว เพียงแต่ว่ายังขาดการศึกษาทางวิชาการที่จริงจัง สนทช. ควรไปปรึกษาการจัดการน้ำร่วมกันในแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืนในระดับระหว่างประเทศ เพราะผลกระทบชัดเจนแล้ว รวมทั้งเรื่องการผลิตพลังงานจากเขื่อนมันเป็นเรื่องล้าหลังแล้ว ตอนนี้มีพลังงานทางเลือกมากขึ้น เช่น พลังงานจากแสงพระอาทิตย์ พลังงานลม เป็นต้นนิวัฒน์ กล่าวชาญณรงค์ วงศ์ลากลุ่มฮักเชียงคาน ได้ให้ความเห็นว่าถ้าสนทช. คิดอยากผลักดันเขื่อนปากชม ต้องพูดความจริงก่อนว่า ปัจจุบันเขื่อนในแม่น้ำโขง ทำให้เกิดผลกระทบอยู่แล้ว ถ้าอยากทำ สนทช. ต้องไปศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นในแม่น้ำโขงปัจจุบันก่อน พร้อมทั้งต้องไปดูความจำเป็นที่ต้องสร้างเขื่อนปากชม เพราะตอนนี้ยังไม่เห็นความจำเป็นเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพลังงานไฟฟ้า ที่มีพลังงานทางเลือกเยอะแล้ว หรือ การดันน้ำโขงให้สูงในการทำโครงการโขงเลยชีมูล มันมีปัญหาอยู่แล้ว สนทช. ควรเลิกความคิดการทำโครงการนี้ได้แล้ว ควรไปจัดการน้ำตามความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่ ว่าต้องการอย่างไรเป็นหลักชาญณรงค์กล่าว
|
เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน ยื่นจดหมายถึง เลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ร้องให้ชี้แจงถึงบทบาทและหน้าที่ของหน่วยงาน ในกรณีการผลักดันการสร้างเขื่อนปากชม และโครงการโขงเลยชีมูล22 มิ.ย.2563
|
เศรษฐกิจ,สิ่งแวดล้อม
|
ศูนย์สื่อชุมชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม,แม่น้ำโขง,เขื่อน,เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน,สุวิทย์ กุหลาบวงษ์,สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ,เขื่อนปากชม,โครงการโขงเลยชีมูล
|
https://prachatai.com/journal/2020/06/88273
|
เคฮิลล์ ส่อชิ่งสิงห์เหตุหลุดสำรอง หวั่นชวดลุยยูโร 2016
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 28 ม.ค.ว่า แกรี เคฮิลล์ ตกเป็นข่าวเตรียมย้ายออกจากถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ถึงแม้จะเพิ่งจรดปากกาเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับทีมออกไปอีก 4 ปี เพราะเกิดความหวั่นใจว่าจะชวดติดทัพสิงโตคำรามไปลุยศึกฟุตบอลยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส เนื่องจากตกเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้งในฤดูกาลนี้,ปราการหลังพันธุ์แกร่งวัย 30 ปี ต้องถูกจับนั่งเป็นตัวสำรองเป็นส่วนใหญ่ ในฤดูกาล 2015-16 หลังจาก จอห์น เทอร์รี และ เคิร์ท ซูมา จับคู่ทำผลงานได้อย่างลงตัวในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวหลัก,ซึ่งล่าสุด สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า แนวรับชาวผู้ดีรายนี้ กำลังกังวลอย่างหนักเกี่ยวกับสถานการณ์ของตัวเองในทีมชาติอังกฤษ และหวังย้ายออกจากทีมในช่วงเปิดตลาดซื้อขายรอบสอง เดือนมกราคมนี้ เพื่อโอกาสในการลงเล่นที่สม่ำเสมอ หวังอยู่ในสายตาของ รอย ฮอดจ์สัน กุนซือใหญ่ทัพสิงโตคำรามให้มากขึ้น เพื่อโอกาสในการเป็นหนึ่งใน 23 ขุนพล ลุยศึกฟุตบอลยูโร 2016 รอบสุดท้าย,สำหรับ แกรี เคฮิลล์ ลงสนามรับใช้ต้นสังกัดไปเพียง 12 เกมเท่านั้นจากทุกรายการในซีซั่นนี้.
|
แกรี เคฮิลล์ แนวรับจอมแกร่งของทีมเชลซี ตกเป็นข่าวเตรียมย้ายออกจากทีมในช่วงปีใหม่ หลังต้องตกเป็นตัวสำรองในฤดูกาลนี้ และหวั่นใจว่าอาจหลุดจากทีมชาติอังกฤษ ในการสู้ศึกฟุตบอลยูโร 2016 รอบสุดท้าย
| null |
แกรี เคฮิลล์,เชลซี,พรีเมียร์ลีก,ทีมชาติอังกฤษ,ยูโร 2016 รอบสุดท้าย,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/569105
|
เฟลไลนีฮีโร่ยิง 90+1 ผีแดง ลิ้นห้อยบดสมันหืดจับ 1-0 ฉลุย UCL
|
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018/19 วันที่ 27 พ.ย. แมตช์ไฮไลต์อยู่ที่กลุ่มเอชนัดที่ 5 ที่สนามโอลด์แทรฟเฟิร์ด ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าบ้านพบกับ ยัง บอยส์,เปิดฉากมา 5 นาที ผีแดงเกือบขึ้นนำ มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดเดี่ยวแต่ดันยกบอลข้ามคานซะอย่างงั้น,ผีแดง มาเป็นชุดอีกนาทีต่อมา เฟร็ด ได้ยิงบอลเฉี่ยวคาน นาทีที่ 15 มาร์คัส แรชฟอร์ด อีกรอบคราวนี้เข้าซองนายด่านทีมเยือน,มาร์คัส แรชฟอร์ด สากจริงๆแต่ยิงอีกครั้งแต่ก็ยังหลุดกรอบออกไปและครึ่งแรกก็จบลงด้วยผลเสมอ 0-0,เข้าสู่ครึ่งหลังนาทีที่ 56 ผีแดง ได้โอกาสทอง มาร์เชียล ยิงติดบล็อก บอลย้อยเข้าเขตโทษ นายด่านทีมเยือนรับบอลหวุดปลิ้นมาเข้าทาง เฟลไลนี กดเหน่งๆข้ามคานเหลือเชื่อ,เกมทำท่าจะเสมอกันแล้ว แต่ทว่าช่วงทดเจ็บนาทีแรก ผีแดง มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ 1-0 ลุค ชอว์ เปิดจากฝั่งซ้าย ลูกากู โขกชงให้ เฟลไลนี พักบอลลงก่อนยิงด้วยขวาหักข้อเสียบเสาเข้าไปเลย,เวลาที่เหลือก็ไม่มีประตูเพิ่มจบเกมการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉือนเอาชนะ ยัง บอยส์ 1-0 ควง ยูเวนตุส ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์สำเร็จ,ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่น,กลุ่มอี : เออีเค เอเธนส์ แพ้ อาแจกซ์ 0-2,กลุ่มอี : บาเยิร์น มิวนิก ชนะ เบนฟิกา 5-1,กลุ่มเอฟ : ฮอฟเฟนไฮม์ แพ้ ชัคเตอร์ โดเนตส์ก 2-3,กลุ่มเอฟ : ลียง เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2,กลุ่มจี : ซีเอสเคเอ มอสโก แพ้ วิคตอเรีย เพียร์เซน 1-2,กลุ่มจี : โรมา แพ้ เรอัล มาดริด 0-2,กลุ่มเอช : ยูเวนตุส ชนะ บาเลนเซีย 1-0
|
มารูยาน เฟลไลนี สวมบทฮีโร่ยิงประตูชัยพา ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ยัง บอยส์ หืดจับ 1-0 ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เป็นที่เรียบร้อย
|
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
|
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ยัง บอยส์,ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
|
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/eufa/1431558
|
ภาพเก่า เทศกิจบางรัก ยัน ไม่มีแม่ค้าจอดขวางที่จอดจักรยานแล้ว
|
นักปั่นสุดทน แม่ค้าตั้งร้านค้ากีดขวางที่จอดจักรยาน ใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี ก่อนถูกปรับและสั่งย้าย ชาวเน็ตนำภาพมาแชร์ พบยังพฤติกรรมเหมือนเดิม ด้านเทศกิจบางรัก ยืนยันไม่มีการจอดขวางแล้ว ชี้เป็นภาพเก่า,กลายเป็นดราม่าที่เหมือนจะไม่เล็ก เมื่อนักปั่นรายหนึ่งได้แชร์เรื่องราวที่จอดจักรยานบริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี ไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากถูกกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าตั้งร้านค้ากีดขวางจุดจอด โดยอ้างว่าได้รับอนุญาตจากทางเจ้าหน้าที่เทศกิจ ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา,ต่อมาเฟซบุ๊กแฟนเพจทีมอาสา ผู้ว่าฯ กทม ได้รายงานความคืบหน้าว่า เจ้าหน้าที่เทศกิจ ชุดสายตรวจ 252 ได้ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุร้องเรียนแล้ว พบผู้ค้ารถเข็น 1 ราย เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมผู้ฝ่าฝืนและนำตัวส่งสำนักงานเขตบางรัก เพื่อดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย พร้อมกำชับผู้ค้ามิให้ไปจอดรถเข็นในลักษณะกีดขวางการเข้าจอดรถจักรยานของประชาชนอีก,ส่วนเรื่องกรณีผู้ค้ามีการไล่ประชาชนไม่ให้เข้าจอดรถจักรยานและแอบอ้างเจ้าหน้าที่ ได้สอบถามผู้ค้ารายนี้แล้ว ยืนยันว่าตนไม่เคยพูดหรือมีพฤติกรรรมดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งกรณีนี้ ชุดสายตรวจ 252 จักได้จัดเจ้าหน้าที่ไปกวดขันผู้ค้าบริเวณดังกล่าวให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่กีดขวางการจอดรถจักรยานของประชาชนอย่างต่อเนื่องต่อไป,แต่ล่าสุดชาวเน็ตรายหนึ่งได้โพสต์ภาพบริเวณจุดดังกล่าว อ้างว่าวานนี้ (10 พ.ย.) ช่วงเวลาประมาณ 8.30 น. กลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ได้กลับมาอีกครั้ง แถมยังมีร้านค้าจำนวนที่มากกว่าเดิม ทำเอาเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์สนั่นในสังคมออนไลน์,งานนี้ขออยู่ข้างเทศกิจฮะแม่งอย่างโหด โดนจับแล้วไม่เข็ดไปพาพวกมาขายอีกเพียบ คิดจะเอาพวกมากๆมากดดันละสิ,SPDZ,Monday, November 9, 2015,ล่าสุด สายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ ได้รับการเปิดเผยจาก นายภูวนาถ น่วมทนงค์ หัวหน้าชุดตรวจ 252 ฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตบางรัก ทราบว่าภาพที่ถูกอ้างว่าถ่ายเมื่อวานนี้ (10 พ.ย.) เป็นภาพเก่า ขณะนี้บริเวณจุดจอดจักรยานได้กำชับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าห้ามทำการค้าขายบริเวณดังกล่าวอีก ส่วนที่มีการระบุว่าเทศกิจอนุญาตให้ขายตั้งขายบริเวณจุดจอดจักรยาน ขอยืนยันว่าไม่จริง เป็นเพียงคำกล่าวอ้างจากทางกลุ่มผู้ค้าเท่านั้น,ขอบคุณภาพจาก ,Rider.in.th กิจกรรมปั่นจักรยานและข่าวสารชาวจักรยาน, / ทีมอาสา ผู้ว่าฯ กทม.,แท็กที่เกี่ยวข้อง,ร้านค้า,พ่อค้า,แม่ค้า,จอดขวาง,ที่จอดจักรยาน,สถานีรถไฟฟ้า,บีทีเอส,ช่องนนทรี,เทศกิจ,สำนักงานเขตบางรัก,สายตรวจโซเชียล,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,Thairath,ข่าวแนะนำ,Most Viewed
|
นักปั่นสุดทน! แม่ค้าตั้งร้านค้ากีดขวางที่จอดจักรยาน ใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี ก่อนถูกปรับและสั่งย้าย ชาวเน็ตนำภาพมาแชร์ พบ
| null |
ร้านค้า,พ่อค้า,แม่ค้า,จอดขวาง,ที่จอดจักรยาน,สถานีรถไฟฟ้า,บีทีเอส,ช่องนนทรี,เทศกิจ,สำนักงานเขตบางรัก,สายตรวจโซเชียล,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,Thairath
|
https://www.thairath.co.th/content/538722
|
น้ำป่าทะลักหมู่บ้าน จ.แพร่ ไร่นาบ้านเรือนเสียหายกว่า 300 ครอบครัว
|
เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดน้ำป่าจากห้วยบ้านกลาง และห้วยปงไหลมาสบทบกันที่สะพานบ้านห้วยอ้อ อ.ลอง หมู่ที่ 2 ต.ห้วยอ้อ และหมู่ที่ ต.หัวทุ่ง น้ำป่าเข้าท่วมพื้นที่ไร่นาหลายร้อยไร่ และถนนในหมู่บ้าน น้ำสูงเกือบเมตร ต้องปิดการสัญจร ในขณะที่สะพานเจ้าแม่จามเทวี มีผักตบชวาจำนวนมากไหลมารวมกันใต้สะพาน จนทำให้ปิดการไหลของน้ำบ้านห้วยอ้อ จึงทะลักออกไปท่วมบ้านเรือนไร่นานับร้อยหลังคาเรือน,นายดำรงค์ สิริวิชย อิ่มวิเศษ ปลัดจังหวัดแพร่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยชาวบ้านขนย้ายข้าวของ และซ่อมแซมล้างบ้านให้กับชาวบ้านที่ถูกน้ำป่าไหลเข้าท่วม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำเอาผักตบชวา และเศษไม้กิ่งไม้ที่ติดสะพานบ้านห้วยอ้อออก โดยมีรถแบ็กโฮของ อบจ.แพร่ มาช่วยตักเอาผักตบออก จนทำให้น้ำในลำห้วยไหลได้สะดวก ในขณะเดียวกันถนนสายลอง-บ้านปิน ทางไปสถานีรถไฟบ้านปิน น้ำท่วมถนนสายดังกล่าวยาวกว่า 500 เมตร ต้องปิดการสัญจร,สำหรับบ้านเรือนที่ได้รับความเดือดร้อน นายประกอบ ค้าไม้ ปลัดอำเภอลอง เผยว่า จากการสำรวจเบื้องต้นขณะนี้ มีบ้านเค็มหมู่ที่ 5 ต.หัวทุ่ง 78 หลังคาเรือน คอสะพานเสียหาย ถนนสายในหมู่บ้านเสียหาย ไร่นา คาดว่าจะเกิน 200 ไร่ บ้านไผ่ล้อม หมู่ที่ 1-2 ตำบลหัวทุ่ง น้ำป่าได้ทะลักเข้าวัดไผ่ล้อม สะพาน ถนนเสียหายบ้านเรือนในหมู่ 2 65 หลังคาเรือน และที่บ้านแม่จองไฟ หมู่ที่ 4 ต.หัวทุ่ง มีไร่นา ฝายถูกน้ำพัดเสียหาย อย่างไรก็ตาม ยังสำรวจไม่หมดเนื่องจากน้ำยังไม่ลดลง และคาดว่าในค่ำวันนี้ก็ยังจะมีน้ำระลอก 2 เข้ามาอีก ทั้งนี้ ทางผู้ใหญ่บ้านกำนันเร่งสำรวจความเสียหาย และในช่วงบ่ายวันนี้จะระดมเอาข้าวกล่องไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านจำนวน 500 กล่อง
|
น้ำป่าทะลักอำเภอลอง หลายหมู่บ้านอ่วม พื้นที่ไร่นาเสียหาย ถนนสะพานปิด ผักตบทะลักอัดแน่นสะพาน ทำให้น้ำไหลไม่สะดวกทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนไร่นา เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือชาวบ้าน ซึ่งได้รับความเดือดร้อนกว่า 300 ครอบครัว
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
น้ำป่าทะลัก,น้ำป่าท่วมบ้าน,น้ำท่วมหมู่บ้าน,จ.แพร่,ไร่นาเสียหาย,บ้านเรือนเสียหาย,เส้นทางจราจร,น้ำท่วม,น้ำป่าไหลท่วม
|
https://www.thairath.co.th/news/local/726523
|
ตีทะเบียนตูบ ทำพระผวา หวั่นทำวัดเป็นชุมชนแออัดหมา
|
กรณีที่มีข่าวว่ามติ ครม.จะออกกฎหมายเก็บเงินค่าขึ้นทะเบียนสุนัข และแมวตัวละ 450 บาท นั้น ทำให้มีคนออกมาวิจารณ์ ถึงเรื่องที่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใจบุญที่รักสัตว์ และในที่สุดสัตว์เหล่านี้จะถูกนำทิ้งไว้ในวัด ให้เป็นภาระกับพระเณร,ต่อมา วันที่ 11 ต.ค. ภายในวัดอรัญญิกาวาส (วัดป่า) เขตเทศบาลเมืองบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี พระลูกวัดได้พาผู้สื่อข่าวเดินดูสุนัขที่มีอยู่ภายในวัดจำนวนกว่า 20 ตัว ซึ่งแบ่งกันอยู่เป็นโซนๆ ไป เช่น อยู่ในกุฏิพระที่มีพระเลี้ยงไว้ อยู่ตามป่าภายในวัดหน้าเมรุเผาศพ และอยู่ตามป่าข้างวัดอีก ที่เรียกว่าหมาจรจัด โดยจะมีคนใจบุญนำอาหารมาเลี้ยงทุกวันในช่วงช้าและเย็น แต่ตอนกลางวัน สุนัขจะหลบแดดนอนในป่าที่ดินรกร้าง,พระลูกวัดอรัญญิกาวาส (วัดป่า) ขอสงวนนาม เผยว่า ก็เกรงว่าถ้ากฎหมายออกมาวัดคงได้รับความเดือดร้อนโดยตรงแน่ๆ เพราะทุกวันนี้พระก็เลี้ยงสุนัขที่กระจายอยู่รอบวัด ก็หวัง และอาจจะมีคนมาช่วยจ่ายค่าขึ้นทะเบียนสุนัขเหล่านี้,แต่หากว่ากฎหมายออกมาจริงๆ เกรงว่าชาวบ้านที่เลี้ยงสุนัขไว้หลายตัวแต่ฐานะยากจนไม่มีปัญญาจ่ายเงินค่าขึ้นทะเบียน คงจะแอบเอามาปล่อยให้เป็นภาระกับพระอีก ซึ่งทางโยมที่ได้เห็นความเดือดร้อนของพระ ได้ทำป้ายมาปิดไว้มีใจความว่า ห้ามนำสุนัขและแมวมาปล่อยในวัด วัดไม่ใช่ที่รับเลี้ยงนะโยม
|
กฎหมาย ทะเบียนสุนัข ถูกวิจารณ์หนัก แม้แต่พระก็เกรงว่าจะเดือดร้อนไปด้วย 1.สุนัขในวัดใครจะออกค่าขึ้นทะเบียน 2.ญาติโยมที่ยากจนแต่เลี้ยงสุนัขหลายตัว คงแอบเอามาปล่อยให้พระเลี้ยงเป็นแน่
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ทะเบียนสุนัข,ตีทะเบียนหมา,ขึ้นทะเบียนสุนัข,ปล่อยหมาในวัด,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1394980
|
ป็อกยิง+จ่าย อิบราคัมแบ็ก ผีกินตับสาลิกา 4-1 หนีหงส์ยึดรองฝูง
|
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2017/18 ประจำวันที่ 18 พ.ย. เป็นการพบกันในคู่ระหว่าง ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์แทรฟเฟิร์ดพบกับ สาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด,เปิดฉากเกมขึ้นมาผีแดงได้โอกาสทองหนแรกนาทีที่ 7 วาเลนเซีย ทำชิ่งกับ แรชฟอร์ด ก่อนเปิดยัดเข้าใน ลูกากู ยิงเผาขนบอลเหินข้ามคานออกไป,แต่ทว่านาทีที่ 13 นิวคาสเซิล ทำเซอไพรส์ได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 เยดลิน สปีดหนียังก่อน เปิดไปหน้าประตู ลินเดเลิฟ ลื่นบอลมาเข้าทาง ดไวท์ เกล ยิงเข้าไปเลย,นาทีที่ 19 แมนยูเกือบโดนอีกแล้ว เชลวีย์ แทงให้กับ เมอร์ฟีย์ กดด้วยขวาบอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น,แมนยูยังไม่ได้ประตูตีเสมอนาทีที่ 26 ลินเดเลิฟ แก้ตัวตักบอลให้กับ ลูกากู โขกบอลข้ามคานออกไป,นาทีที่ 37 ผีแดง ได้ประตูตีเสมอแล้ว 1-1 ป็อกบา โชว์ลากหลบถึงเส้นหลังก่อนเปิดตักไปเสาสองให้กับ มาร์เชียล โขกตุงตาข่าย,ในช่วงทดเจ็บครึ่งแรก ผีแดง พลิกขึ้นนำ 2-1 แอชลีย์ ยัง เปิดไปให้กับ คริส สมอลลิง ขวิดเสียบเสาแรกเข้าไปเลย และครึ่งแรกก็จบลงที่สกอร์นี้,เข้าสู่ครึ่งหลังนาทีที่ 54 ผีแดง หนีห่าง 3-1 ยัง จ่ายให้กับ มาตา แทงให้กับ ลูกากู เปิดตักให้ แรชฟอร์ด โขกชงให้ ป็อกบา ยิงง่ายๆเข้าไปพร้อมกับท่าเต้นสุดกวนโอ๊ย,ไปกันใหญ่แล้ว นาทีที่ 71 ผีแดง นำโด่ง 4-1 ลูกากู ทำชิ่งกับ มาตา ก่อนหลุดเดี่ยวซัดเต็มข้อตาข่ายแทบขาด,อีก 6 นาทีต่อมา ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ได้โอกาสถูกเปลี่ยนตัวลงสนามเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือนพร้อมกับเสียงปรบมือของแฟนบอลเจ้าถิ่นกึกก้องทั้งสนาม,เวลาที่เหลือ ผีแดง คุมสถานการณ์ไว้ได้หมด ก่อนจะจบเกมการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 4-1 ทวงรองจ่าฝูงคืนกลับมาจากเชลซีได้อีกครั้ง
|
พอล ป็อกบา คัมแบ็กโหดยิง 1 จ่าย 1 พา ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ สาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 4-1 ทวงรองจ่าฝูงจากเชลซีคืนกลับมาได้อีกครั้ง
|
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
|
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ผีแดง,นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด,สาลิกาดง
|
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1130415
|
บนบันทึกหน้าสุดท้ายของเมสซีและโรนัลโดในฟุตบอลโลก
|
เวลาเหลือน้อยลงทุกที สถานการณ์ในเวลานั้นของอาร์เจนตินาเข้าขั้นวิกฤต เมื่อคีเลียน เอ็มบัปเป้ ได้โอกาส 2 ครั้งและสามารถเปลี่ยนมันเป็นประตูได้ทั้ง 2 ครั้ง ทำให้จากตามหลัง 1-2 ฝรั่งเศสกลับมานำอีกครั้งด้วยสกอร์ 4-2สีหน้า แววตา และอารมณ์ของลิโอเนล เมสซี ไม่แตกต่างจากในสองเกมแรกที่น่าผิดหวังกับไอซ์แลนด์และโครเอเชีย มันบ่งบอกว่าเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรแล้วในสถานการณ์นี้มันอาจจะดูไม่ดีนักสำหรับคนที่เป็นเจ้าของปลอกแขนกัปตันทีม ผู้ที่ควรจะไม่ยอมถอดใจอะไรง่ายๆ และควรเป็นคนแรกที่ปลุกเร้าให้ทีมกลับมาให้ได้ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่แต่สำหรับเมสซี เขาอาจจะแบกรับทุกอย่างมานานเกินไปจนแทบไม่เหลือแรงใจจะต่อสู้แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมาคือการตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้เล่นสำรองลงสนามของฮอร์เก ซามเปาลี และมันเป็นการตัดสินใจที่แทบไม่มีใครอยากเชื่อสายตาเมื่อคนที่ได้ลงสนามไม่ใช่กอนซาโล อิกวาอิน ศูนย์หน้าผู้มากประสบการณ์ และยิ่งไม่ใช่เปาโล ดีบาลา นักเตะดาวรุ่งพรสวรรค์สูงสุดของกลุ่มสายเลือดใหม่ แต่กลับเป็นมักซิมิลิอาโน เมซา นักเตะที่ทำผลงานได้เลวร้ายที่สุดในทีมอาร์เจนตินาชุดนี้ในความเห็นใจต่อเมซา เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เมื่อโค้ชส่งให้ลงสนามย่อมไม่สามารถปฏิเสธได้ แล้วก็ไม่ใช่ความผิดของเขาอีกเช่นกันที่จะเล่นไม่ได้เรื่อง เพราะตลอดชีวิตเขาเล่นให้กับเพียงแค่สองสโมสรคือยิมนาเซียและอินดิเพนเดียนเตในบ้านเกิด และไม่เคยมีประสบการณ์ในการเล่นฟุตบอลยุโรปมาก่อนเมซา กองกลางวัย 26 ปี เพิ่งจะได้รับการเรียกตัวติดทีมชาติเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม และเกมประเดิมสนามของเขานั้นเลวร้ายเหนือจินตนาการเมื่อพ่ายแพ้ต่อสเปนขาดลอยถึง 6-1แต่ในเกมนั้น ฮอร์เก วัลดาโน อดีตขุนพลในชุดแชมป์โลกปี 1986 กลับประทับใจกับฟอร์มการเล่นของเมซา โดยกล่าวหลังจบเกมว่า ผมประทับใจมาก เด็กคนนี้พร้อมจะเล่นให้กับสโมสรใหญ่ๆ ในสเปนได้ทุกทีมถ้าเมซาสามารถรักษาระดับการเล่นเอาไว้ได้ นี่จะถือเป็นการค้นพบครั้งสำคัญของอาร์เจนตินาเลยขณะที่ฮอร์เก บูร์รูชากา ขุนพลข้างกายเทพเจ้าลูกหนัง ดิเอโก มาราโดนา และเป็นคนสำคัญในสมาคมฟุตบอลอาร์เจนตินา พูดถึงเมซาว่า เขาได้แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจเกมการเล่นในระดับที่สูงขึ้น นี่คือนักเตะที่ผ่านช่วงเวลาที่ดีมามีความสร้างสรรค์ เฉียบขาด และสารพัดประโยชน์ คือ 3 คุณสมบัติที่ The Guardian เขียนแนะนำเมซาไว้ในการพรีวิวก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้นน่าเสียดายที่มันผิดทั้งหมด เขาไม่ดีพอ ไม่เก่งพอ ไม่มีประสบการณ์มากพอ และช่วยอะไรใครไม่ได้เลยบ้างก็พูดกันหนักข้อว่าเมซาไม่มีหน้าที่อะไรในสนามมากไปกว่าการลงไปยืนให้ครบ 11 คน และทุ่มลูกเข้าสนามในบางครั้งอย่างไรก็ดี เขาไม่ใช่คนที่ขอลงสนาม หากแต่เป็นซามเปาลีต่างหากที่เลือกเขาลงและเมซาก็ไม่ใช่การตัดสินใจเดียวที่ขัดความรู้สึกของแฟนบอลอาร์เจนไตน์ หากแต่ยังมีการตัดสินใจอีกมากมายที่ไม่มีใครเข้าใจว่าอดีตโค้ชผู้เคยพาชิลีเป็นแชมป์โคปา อเมริกา ด้วยการพิชิตอาร์เจนตินานั้นคิดอะไรอยู่หลังความพ่ายแพ้ต่อฝรั่งเศส ทีมที่ดีกว่า หนุ่มกว่า และเหนือกว่าในทุกด้าน ซามเปาลีกล่าวถึงผลงานของตัวเองโดยหยิบเอาลิโอเนล เมสซี มาเป็นเกราะกำบังด้วยการบอกว่า เขาได้พยายามทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อทำให้เมสซีเล่นได้ดีที่สุดแล้วเราได้มีการทดลองแท็กติกการเล่นที่หลากหลายอยู่รอบกายเขา สร้างพื้นที่ให้เขา เราพยายามทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้วเพื่อที่จะทำให้เขาทำในสิ่งที่เขาทำได้คำพูดนี้ไม่ต่างอะไรจากการโยนความผิดให้กับ เมสซีที่ไม่สามารถทำในสิ่งที่เขาควรทำได้และมันเป็นคำพูดที่แฟนบอลอาร์เจนตินารับไม่ได้กระแสโต้ตอบกลับคำพูดของซามเปาลีในโลกออนไลน์นั้นเต็มไปด้วยความดุเดือด หลักใหญ่ใจความที่ทุกคนตอบโต้คือซามเปาลีไม่ได้ทำในสิ่งที่เขาพูดเลยแม้แต่น้อย และเขาก็ไม่ได้ทำในสิ่งที่สมควรทำที่สุดอย่างการส่งผู้เล่นที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่เพื่อช่วยเหลือกัปตันทีม – คนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นรองเพียงแต่มาราโดนาคนเดียวเท่านั้นสิ่งที่แฟนบอลได้เห็นคือเมสซีที่ถูกทอดทิ้งอย่างโดดเดี่ยว พยายามที่จะคิดและทำทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว แต่มันยากและเหนื่อยใจเกินไปเหนืออื่นใดคือ ซามเปาลีกลัดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรกที่ไปฝากทุกอย่างไว้กับเมสซีเพียงคนเดียวเพราะฟุตบอลคือกีฬาที่เล่นเป็นทีม และโดยธรรมชาติแล้ว เมสซีไม่ใช่ผู้เล่นในแบบ one-man show แต่เป็นผู้เล่นในแบบ team player ที่จะเปล่งประกายออกมาต่อเมื่อมีเพื่อนร่วมทีมที่ดีพอคอยสนับสนุนอยู่เคียงข้างเรื่องนี้เป็นบทเรียนจากเกมลูกหนังที่สอนเราทุกคนได้เป็นอย่างดีว่า เรื่องของวิสัยทัศน์ ความสามารถในการบริหารจัดการ และความเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองมีของ ผู้นำ นั้นสำคัญขนาดไหนถ้ามีผู้นำที่ดี ต่อให้ทรัพยากรไม่ดี อย่างน้อยก็ยังสามารถหาทางใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในมือให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้แต่ถ้าผู้นำไม่ดี ก็ ซามเปาลี อย่างที่เห็นครับสำหรับเมสซี สิ่งที่ดีที่สุดที่เขาทำได้และได้ทำในเกมกับฝรั่งเศสคือการเปิดบอลด้วยน้ำหนักที่สมบูรณ์แบบให้เซร์คิโอ อเกวโร โหม่งทำประตูตีตื้นขึ้นมาเป็น 4-3 ไม่มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้นที่เหลือคือการส่งต่อวันเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ให้แก่ Un Phénomène คีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่วันนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีความสามารถพอที่จะแบกรับยุคสมัยของเกมลูกหนังต่อจากเมสซีและคริสเตียโน โรนัลโด ขณะที่แม้โรนัลโดจะต้องกระเด็นตกรอบไปในวันเดียวกันกับคู่ปรับตลอดชีวิตของเขา โดยที่ตลอดทั้งเกมก็แทบไม่ได้ทำอะไรมากมายนัก เพราะอุรุกวัยนั้นวางแผนมาเป็นอย่างดี สามารถหยุดไม่ให้เขาสร้างสิ่งมหัศจรรย์ในสนามได้อีก พร้อมกับมีทีเด็ดทีขาดจากสองตัวรุกระดับเวิลด์คลาสอย่างหลุยส์ ซัวเรซ และเอดินสัน คาวานี แต่สิ่งสุดท้ายที่โรนัลโดได้ทิ้งไว้ในฟุตบอลโลกหนนี้คือสัญลักษณ์ของ น้ำใจนักกีฬา ที่งดงามภาพการประคองคาวานี คู่แข่งที่เกิดบาดเจ็บหลังเพิ่งจะทำประตูสำคัญให้อุรุกวัยขึ้นนำโปรตุเกสอีกครั้งไปส่งที่ข้างสนามนั้นสร้างความประทับใจให้แก่แฟนฟุตบอลทั่วโลกอีโก้และความอหังการของ CR7 อาจทำให้ใครหลายคนหมั่นไส้แต่น้ำใจและจิตใจที่ดีงามของโรนัลโดไม่ใช่สิ่งที่เราควรมองข้าม เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาแสดงให้เห็นถึงอีกด้านที่อ่อนโยน ก่อนนี้เราเคยได้เห็นโรนัลโดเดินลงจากรถบัสมาเพื่อถ่ายรูปและสวมกอดกับเด็กน้อยที่มาเฝ้ารอเขาอยู่หลายครั้ง และยังอีกหลายเรื่องราวที่ความจริงก็น่าจะรวบรวมเอาไว้ว่า นอกจากความยิ่งใหญ่ของเส้นทางชีวิตลูกหนังแล้ว เขาคือหนึ่งในตัวแทนของนักกีฬาที่ดีของยุคสมัยอาจจะน่าเสียดายที่ฟุตบอลโลกครั้งนี้ของเมสซีและโรนัลโดได้จบลงแล้วแบบไม่สมหวัง และมันมีความเป็นไปได้ที่อาจจะเป็นฟุตบอลโลกสมัยสุดท้ายของทั้งสองคน โดยเฉพาะกับเมสซีที่แบกรับทุกอย่างมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานจนเกินไปแต่ฟุตบอลโลกนั้นยังอยู่และจะดำเนินต่อไป เพราะจะมีดวงตะวันดวงใหม่ปรากฏตัวขึ้นที่ขอบฟ้าในทุกอรุณรุ่งเสมอ โดยที่เราย่อมไม่มีวันลืมยอดนักเตะทั้งสอง ต่อให้พวกเขาจะไม่ได้สัมผัสแชมป์โลกแม้เพียงสักครั้งก็ตามPhoto:Reuters
|
สีหน้า แววตา และอารมณ์ของลิโอเนล เมสซี ไม่แตกต่างจากในสองเกมแรกที่น่าผิดหวังกับไอซ์แลนด์และโครเอเชีย มันบ่งบอกว่าเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรแล้วในสถานการณ์นี้ซามเปาลีกล่าวถึงผลงานของตัวเองโดยหยิบเอาลิโอเนล เมสซี มาเป็นเกราะกำบังด้วยการบอกว่า เขาได้พยายามทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อทำให้เมสซีเล่นได้ดีที่สุดแล้วสิ่งสุดท้ายที่โรนัลโดได้ทิ้งไว้ในฟุตบอลโลกหนนี้คือสัญลักษณ์ของ น้ำใจนักกีฬา ที่งดงามก่อนนี้เราเคยได้เห็นโรนัลโดเดินลงจากรถบัสมาเพื่อถ่ายรูปและสวมกอดกับเด็กน้อยที่มาเฝ้ารอเขาอยู่หลายครั้ง และยังอีกหลายเรื่องราวที่ความจริงก็น่าจะรวบรวมเอาไว้ว่า นอกจากความยิ่งใหญ่ของเส้นทางชีวิตลูกหนังแล้ว เขาคือหนึ่งในตัวแทนของนักกีฬาที่ดีของยุคสมัย
| null | null |
https://thestandard.co/fifa18worldcup-last-chapter-of-messi-ronaldo/
|
ต่อคิวแน่น คนโคราชตีตั๋วกลับกรุงฯ หลังฉลองปีใหม่
|
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 3 ม.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ที่สถานีขนส่งนครราชสีมา แห่งที่ 1 และแห่งที่ 2 คลาคล่ำไปด้วยประชาชนที่ทยอยมาซื้อตั๋วขึ้นรถโดยสารกันอย่างคึกคักล้นหลาม ที่ช่องจำหน่ายตั๋วมีคนเข้าแถวยาวเหยียดจนล้นออกมานอกชานชาลา ต้องยอมทนยืนตากแดดเพื่อที่จะซื้อตั๋วให้ได้,ทั้งนี้ บรรยากาศทั่วไปโดยรอบ มีประชาชนส่วนหนึ่งนั่งใช้โทรศัพท์เล่นไลน์และเฟซบุ๊กเพื่อรอเวลาเดินทาง ส่วนหนึ่งแบกสัมภาระ ข้าวสาร ข้าวเหนียว อาหารแห้ง ปลาร้า ปลาจ่อม ปลาร้าบอง พริกแห้ง เพื่อนำไปตุนไว้เป็นเสบียงรับประทานได้นาน 1-2 เดือน สามารถแบ่งเบาค่าใช้จ่ายได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่ได้จะขึ้นรถในช่วงบ่ายเนื่องจากรถหมด ต้องรอรถกลับจากกทม.,ทางด้านนายศิระ บุญธรรมกุล ขนส่งจังหวัดนครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกับทางจังหวัด ตั้งโต๊ะทำการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และตรวจหาสารเสพติดพนักงานขับรถโดยสารทุกคนไม่มีเว้น พร้อมกับเตรียมรถสายนครราชสีมา-กรุงเทพฯ ไว้กว่า 450 เที่ยว ใช้รถเสริมกว่า 100 คัน เพื่อให้บริการอย่างเต็มที่ โดยมั่นใจว่าจะไม่มีผู้โดยสารตกค้าง,ขณะเดียวกันการเดินทางบนถนนมิตรภาพช่วงบายพาสนครราชสีมา ปริมาณรถมีจำนวนมากขึ้นแต่ยังไหลลื่นไปได้เรื่อยๆ สามารถทำความเร็วได้ 80-90 กม./ชม.โดยมีการชะลอตัวบ้างในจุดที่มีทางร่วมทางแยก เช่น สี่แยก อ.สีดา สามแยกบ้านวัด อ.คง แยกตลาดแค อ.โนนสูง แยกบ้านดอนชมพู อ.โนนสูง แยกบ้านโพธิ์ ต.บ้านโพธิ์ สะพานข้ามทางรถไฟบ้านหนองกระดังงา เป็นต้น,อย่างไรก็ตาม ช่วงจุดปั๊มน้ำมันปตท. ที่มีรถจอดแวะจำนวนมาก รวมทั้งร้านจำหน่ายของฝาก และมุ่งหน้าต่างระดับ อ.สีคิ้ว ปริมาณรถจากอีสานเหนือ และอีสานตอนล่างมาบรรจบสมทบกัน ทำให้มีการชะลอตัวช่วงทางขึ้นเนิน ลงเนิน และริมอ่างเก็บน้ำลำตะคองไปยังทางเลี่ยงเมืองปากช่องจุดฟาร์มโชคชัย ต.กลางดง พบปัญหารถเฉี่ยวชนและชนท้ายกันหลายจุด มีการสะสมของปริมาณรถ แต่ก็สามารถไหลไปได้เรื่อยๆ จนพ้นเขต จ.นครราชสีมา.
|
โคราช คนทยอยกลับเข้ากรุงฯ สถานีขนส่งแห่งที่ 1 และ 2 เนืองแน่น ต้องเข้าแถวรอซื้อตั๋วยาวเหยียดจนล้นออกมานอกตัวอาคาร ขนส่งตรวจเข้มคนขับ ทั้งปริมาณแอลกอฮอล์ และยาเสพติด ขณะที่ถนนมิตรภาพปริมาณรถมาก แต่ยังไหลลื่นไปได้
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ปีใหม่,เทศกาลปีใหม่,คนโคราช,โคราช,นครราชสีมา,สถานีขนส่งนครราชสีมา,ถนนมิตรภาพ,ข่าวภูมิภาค,เดินทางกลับ,กลับกรุงเทพฯ
|
https://www.thairath.co.th/news/local/472577
|
ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี-สุเทพ แถลง เตรียมจัดงาน สมุยเฟสติวัล 2017
|
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 28 ส.ค. ที่ชายหาดเฉวง นายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี แถลงข่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมงานสมุยเฟสติวัล 2017 ว่า สำหรับการจัดงานมีการดำเนินการไปแล้วกว่า ร้อยละ 80 ทั้งในเรื่องสถานที่จัดงาน และการออกแบบตกแต่ง โดยในวันที่ 7 ก.ย. จะมีการจัดขบวนคาร์นิวาล และรถบุปผชาติ จำนวน 12 คัน โดยจะเริ่มขบวนแห่ในเวลา 14.00 น. และ 17.00 น. นอกจากนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน โดยงานสมุยเฟสติวัล จะมีศิลปินมาร่วมจำนวนมาก อาทิ วงโปเตโต้, บอดี้สแลม, โจอี้บอย, เป็นต้น,นอกจากนี้ ยังมีการออกร้านค้าของหน่วยราชการต่างๆ เช่น ธนาคารออมสิน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมถึงมีกิจกรรมบุพเฟต์ ริมชายหาด จากผู้ประกอบการโรงแรม และร้านค้าในพื้นที่ชุมชน โดยมุ่งเป้าให้เป็นบุพเฟต์ที่ยาวที่สุดในโลก 2,600 เมตร ในส่วนงานวันที่ 9 ก.ย. ช่วงเช้าจะเป็นการจัดงานวิ่งสมุย เฟสติวัล มาราธอน ชิงถ้วยรางวัลชนะเลิศ จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.,ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) ได้เดินทางมาร่วมงานแถลงข่าวในวันนี้ด้วย โดยนายสุเทพ กล่าวว่า การจัดงานนี้ทางจังหวัดมีความพร้อม เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว โดยส่วนตัวเห็นว่า จะมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติมาร่วมงานประมาณ 1 แสนคน และทำรายได้เข้าจังหวัด ประมาณ 50 ล้านบาท.
|
ผู้ว่าฯ สุราษร์ธานี-สุเทพ แถลงจัดงานสมุย เฟสติวัล 2017 จัดเต็มคอนเสิร์ต ศิลปิน และบุฟเฟต์ ระยะทาง 2.6 กม. ด้าน สุเทพ มั่นใจ รายได้เข้าจังหวัด 50 ล้านบาท
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
สมุยเฟสติวัล 2017,สุเทพ เทือกสุบรรณ,บุพเฟต์ ริมชายหาด,สุราษฎร์ธานี,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1052650
|
กษิต พูดถึงเรื่องสถาบันกษัตริย์ที่สหรัฐอเมริกา
|
นิวยอร์คไทม์ส-เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รัฐบาลไทยกันตัวเองให้มีระยะห่างจากคำพูดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งบรรยายถึงภาพความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ของประเทศในปัจจุบัน ในฐานะที่สังคมกำลังก้าวไปข้างหน้าจากสิ่งต่างๆ และยังนำมาซึ่งการเริ่มถกเถียงถึงสิ่งที่เขาเรียกว่า เรื่องต้องห้าม เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงต่อสถาบันกษัตริย์ของประเทศไทยรัฐบาลไม่มีความเห็นต่อคำพูดดังกล่าว ปณิธาน วัฒนายากร โฆษกรัฐบาลกล่าว มันไม่ใช่นโยบายทางการ มันเป็นคำพูดส่วนบุคคลกษิต ภิรมย์ กล่าวในการปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอบกิ้นส์ ในกรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐเมริกา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยกล่าวถึง การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในปัจจุบันในประเทศไทยว่าเป็น ประสบการณ์ที่เจ็บปวด ซึ่งเป็น ส่วนหนึ่งของกระบวนการเปลี่ยนแปลงให้เป็นสังคมที่เปิดกว้างและเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นเขากล่าวอีกด้วยว่า เราควรจะมีความกล้าหาญพอที่จะก้าวผ่านเรื่องต่างๆ ทั้งหมดแม้แต่การพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์อันเป็นเรื่องต้องห้ามก็ตาม เขาเพิ่มเติมอีกว่า ผมคิดว่าเราต้องพูดเรื่องเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ และเรื่องที่ว่าสถาบันกษัตริย์อาจจะต้องปฏิรูปตัวเองอย่างไรในโลกโลกาภิวัตน์สมัยใหม่จากการบรรยายของเขาในสถาบันวิชาการของสหรัฐ กล่าวได้ว่า มันเป็นมุมมองเกี่ยวกับโครงสร้างอำนาจของไทยซึ่งได้ถูกฉุดให้จมดิ่งจากปัญหาการเมืองและการแข่งขันกันกำหนดวาระต่างๆ ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยตกอยู่ในการเผชิญหน้ากันเป็นระลอก อันเป็นการเปิดให้เห็นความขัดแย้งทางเศรษฐกิจและสังคมระหว่างชนชั้นนำที่รักษาสถานะของตัวเองอย่างเหนียวแน่นกับคนธรรมดาส่วนใหญ่ที่เป็นคนจนมากไปกว่านั้น การถกเถียงเรื่องสถาบันกษัตริย์ในประเทศไทยถูกจำกัดโดยกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปีในปี 1932 ประเทศไทยสถาปนาระบอบประชาธิปไตยอันพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยพระมหากษัตริย์ไม่มีบทบาททางการเมือง ในขณะเดียวกันพระมหากษัตริย์ของไทยซึ่งมีพระชนมายุ 82 พรรษา ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก และเป็นที่เคารพนับถือโดยคนไทย และทรงมีอำนาจในทางศีลธรรมอย่างสูงต่อสาธารณะ อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เดือนกันยายน ท่านทรงพระประชวร ซึ่งอาการพระประชวรดังกล่าวได้เพิ่มความรูสึกกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในการกำหนดทิศทางของประเทศในระยะต่อไปกลุ่มคนเสื้อแดงผู้ประท้วงซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจนได้ชุมนุมกันเต็มถนนในกรุงเทพในระยะเวลากว่า 1 เดือน เรียกร้องให้รัฐบาลลาออกและจัดการเลือกตั้งใหม่ และส่วนใหญ่ปรารถนาให้อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร กลับมานายกษิต อยู่ที่วอชิงตัน ดี.ซี. เข้าร่วมการประชุมความมั่นคงทางนิวเคลียร์ โดยนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ยกเลิกการเดินทางเนื่องจากปัญหาทางการเมืองในประเทศในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศไทยเกิดความรุนแรงทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี เมื่อทหารและผู้ชุมนุมปะทะกันทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 คนและเกือบ 900 คนได้รับบาดเจ็บในวันพุธ คนเสื้อแดงได้ย้ายการชุมนุมจากพื้นที่ที่ปะทะกันกลับมารวมกันที่ใจการย่านการค้าของกรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน มีผลให้ห้างร้านและธนาคารปิดลงและกระทบต่อธุรกิจโรงแรมหลายแห่งในเวลาเดียวกัน ก็มีการให้สัญญาณฝ่ายตรงข้ามกับคนเสื้อแดงออกมารวมตัวกัน ซึ่งกลุ่มคนเสื้อเหลืองประกาศว่าจะเดินขบวนประท้วงในประเด็นปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองข้างต้น นายกษิต ภิรมย์ กล่าวว่า ผมไม่รู้ถึงผลลัพท์ แต่ผมยังมองโลกแง่ดีว่า เราจะสามารถมีฝ่ายเสื้อเหลือ เสื้อแดง เสื้อน้ำเงิน เสื้อชมพู สีเขียว สีขาว และเสื้อสีอื่นๆ เข้าร่วมอยู่บนโต๊ะเจรจาในระยะเวลาอันใกล้นี้ และมีการพูดคุยกัน และเขาเพิ่มเติมอีกว่า ประเทศไทยไม่สามารถจะเป็นแบบนี้ได้ต่อไป และจะกลายเป็นเด็กมีปัญหาในภูมิภาคเมื่อถามเกี่ยวกับทักษิณว่าเขาจะมีบทบาทในรัฐบาลในอนาคตหรือไม่ นายกษิต ตอบว่า เขาต้องกลับมาและรับโทษจำคุก หลังจากนั้นเราสามารถเริ่มกระบวนการนิรโทษกรรมได้
|
รายงานจาก นิวยอร์กไทมส์ เกี่ยวกับเรื่องความเปลี่ยนแปลงของไทยในประเด็น บทบาทสถาบันกษัตริย์ จากคำกล่าวของ กษิต ภิรมย์รมว.ต่างประเทศของไทย ที่มหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอบกิ้นส์ สหรัฐเมริกา
|
การเมือง,ต่างประเทศ
|
กษิต ภิรมย์,นิวยอร์คไทม์
|
https://prachatai.com/journal/2010/04/28942
|
โฆษก ทส.ระบุ ใช้เทคนิค ฟิงเกอร์ จอยท์ อัดประสานขึ้นรูปไม้พะยูงของกลางขนาดเล็กที่เสื่อมสภาพ
|
จากกรณี รัฐบาลมอบหมายให้ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ทำหน้าที่แปรรูปไม้พะยูงของกลางที่คดีสิ้นสุดแล้ว จากกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมศุลกากร จำนวน 56826 ท่อน/แผ่น ปริมาตรไม้รวม 1831.02 ลูกบาศก์เมตร แปรรูปเพื่อนำไปก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติไม้มีค่าที่เทเวศร์ โดยทำการแปรรูปที่โรงเลื่อยอู่บกพหลโยธิน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยาวันนี้ (10 มี.ค. 2559) นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ และโฆษกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เผยความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เบื้องต้น อ.อ.ป.ได้ดำเนินการคัดเลือกเฉพาะไม้ที่มีคุณภาพ มีขนาดที่เหมาะสม ขึ้นทำการแปรรูปแล้วจำนวน 2804 ท่อน ปริมาตรไม้รวม 289.339 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งผลการแปรรูปไม้พะยูงของกลางชุดนี้ ได้ไม้ทั้งสิ้น 8734 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 132.001 ลูกบาศก์เมตร ได้ปีกไม้-ปลายไม้จำนวน 77 กอง ปริมาตร 120.240 ลูกบาศก์เมตร ได้เศษหัวไม้ตัดจำนวน 3 กอง ปริมาตร 4.350 ลูกบาศก์เมตร และได้ขี้เลื่อยปริมาตร 24.020 ลูกบาศก์เมตรนายสุพจน์ กล่าวอีกว่า คงเหลือไม้พะยูงอีกจำนวน 54022 ท่อน/แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 1541.681 ลูกบาศก์เมตร ที่ยังไม่ได้ดำเนินการแปรรูป เนื่องจากเป็นไม้ที่มีขนาดเล็ก คด งอ โพรง เป็นไม้ที่มีคุณภาพต่ำ ซึ่งในจำนวนไม้ขนาดเล็กนี้ ยังปรากฏว่าเป็นไม้ที่มีขนาดเล็กมาก เรียกว่าไม้ตะเกียบอยู่เป็นจำนวน 25860 ชิ้น ปริมาตร 0.65 ลูกบาศก์เมตร ไม่สามารถนำมาใช้งานตามวัตถุประสงค์การก่อสร้างฯ ในครั้งนี้ได้เพื่อให้การแปรรูปไม้พะยูงที่คงเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทางคณะกรรมการบริหารจัดการไม้มีค่าฯ ให้ความเห็นชอบต่อการใช้เทคโนโลยีทางไม้มาตัดต่อไม้ให้เป็นแผ่นยาว มีความหนาและกว้างขึ้นแบบอัดประสานขึ้นรูป หรือฟิงเกอร์ จอยท์ (Finger Joint) เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการก่อสร้างตกแต่งอาคารพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่าได้มากยิ่งขึ้น อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำระบุด้าน นายพิพัฒน์ ชนินทยุทธวงศ์ ผอ.อ.อ.ป. กล่าวว่า ขณะนี้ อ.อ.ป. ได้เร่งดำเนินการแปรรูปไม้พะยูงขนาดเล็กในส่วนที่เหลือ รวมถึงได้เตรียมความพร้อมในเรื่องเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการประสานขึ้นรูปฟิงเกอร์ จอยท์แล้วนอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารจัดการไม้มีค่าฯ ยังมีมติเห็นชอบให้ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมศุลกากร ส่งไม้มีค่าชนิดอื่นๆ ที่คดีสิ้นสุดแล้ว มอบให้ อ.อ.ป. แปรรูปเพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ฯ เพิ่มเติมอีกภายหลัง ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2559 ทั้ง 3 หน่วยงาน จะสามารถจัดส่งไม้สักและไม้พะยูงให้กับ อ.อ.ป. เพื่อแปรรูปอีกจำนวน 3077 ลูกบาศก์เมตร และในปี 2560-2561 จะจัดส่งไม้สักและไม้พะยูงรวมถึงไม้ดีมีค่าเนื้อแข็งอีก 5 ชนิด ได้แก่ ไม้แดง ไม้ประดู่ ไม้ตะเคียนทอง ไม้มะค่าโมง และไม้ชิงชัน เพื่อใช้ในการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ฯ ในส่วนของโครงสร้างต่อไปในปี 2560 อ.อ.ป. มีแผนงานก่อสร้างศูนย์การเรียนรู้ไม้ดีมีค่า (ไม้พะยูง) ที่สวนป่าท่ากุ่ม โนโบรุอุเมดะ จ.ตราด ซึ่งเป็นสวนป่าที่ปลูกไม้พะยูงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พื้นที่กว่า 700 ไร่ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศ ป่าปลูกไม้พะยูง โดยเน้นการเรียนรู้ การศึกษาและวิจัย ด้วยกระบวนการสิ่งแวดล้อม กิจกรรมนันทนาการ แสดงนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับไม้พะยูงและตัวอย่างสิ่งที่มีชีวิตในพื้นที่สวนป่า ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ สามารถสร้างงานและรายได้ให้กับชุมชน และที่สำคัญยังเป็นการป้องกันการลักลอบตัดไม้พะยูงจากป่าธรรมชาติให้กับประเทศอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้แผนดังกล่าวอยู่ระหว่างการนำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อของบประมาณสนับสนุน 8 ล้านบาท ซึ่งหากได้รับอนุมัติจะแล้วเสร็จปี 2562 นายพิพัฒน์ กล่าว
|
โฆษก ทส. เผยใช้เทคนิค ฟิงเกอร์ จอยท์ เพิ่มประสิทธิภาพการแปรรูปไม้พะยูงของกลางขนาดเล็ก ใช้ก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติไม้มีค่า ด้าน ผอ.อ.อ.ป.เผย เล็งสร้างศูนย์การเรียนรู้ไม้พะยูง 700 ไร่ ที่สวนป่าท่ากุ่มฯ จ.ตราด ป้องกันลักลอบตัดจากป่าธรรมชาติ
|
สังคม
|
เทคนิคฟิงเกอร์จอยท์,โฆษก ทส.,ไม้พะยูง,องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้,เพิ่มประสิทธิภาพแปรรูปไม้พะยูง,ไม้มีค่า,Finger Joint,ไม้พะยูงเสื่อมสภาพ,สุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล,อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ,กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,อาคารพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติไม้มีค่า,ไม้พะยูงของกลาง,ThiaPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส
|
https://news.thaipbs.or.th/content/250834
|
จ๋า เกิดใหม่ ใช้ชีวิตคุ้ม ทำปริญญาเอก
|
เว้นวรรคงานเซ็กซี่ เพราะไปมีความรัก จ๋า-ณัฐฐาวีรนุช ทองมี เลยไม่ได้ถ่ายแบบเซ็กซี่ซะนาน ปล่อยให้หนุ่มๆคิดถึงแทบแย่ คราวนี้ จ๋า ประกาศตัวเป็น สาวโสดแล้วแซ่บ กลับมาทวงบัลลังก์ ความเซ็กซี่ สไตล์ หมวย สวย แซ่บ ใน นิตยสาร MAXIM ในเมื่อรักมันแย่ เดินหน้าลุยงานเรียกเรตติ้งเห็นทีจะดีกว่าเยอะ,ใครที่คิดถึง จ๋า เธอมาแล้ว หน้าสวย หุ่นเซียะพร้อมโชว์ลุคผู้หญิงที่มีความเปรี้ยว และแก่นนิดๆ ดูเพลินๆ ขนาด จ๋า เห็นภาพตัวเองยัง กรี๊ดด ไม่ผิดหวัง ที่เธอยอมเผยเนินอกเนียนของวัยเต็มสาวให้ช่างภาพบันทึกภาพเซ็กซี่สวยๆไว้ดูเล่น วันนี้ จ๋า จะ รับงานเซ็กซี่ ถ่ายอะไร ก็ไม่ต้อง เกรงใจใคร ในเมื่อ รักจบไป จ๋าก็มีชีวิตเป็นของเธอ,เรื่องราว ความรัก ที่เพิ่งผ่านพ้นไปใครๆก็รู้ว่า จ๋า มีรักแบบลับๆ กับ ไฮโซกึ้ง-เฉลิมชัย ถึงไม่ได้ปิด แต่ก็ไม่สามารถ เปิดอย่างเต็มปาก ด้วยเหตุผลนานัปการ จ๋า-กึ้ง ถึงจะรู้ดี คนนอกที่มองเข้ามาก็คิดไปต่างๆนานา หาว่า จ๋า เป็น คนที่ถูกรัก แต่ ไม่ใช่คนที่ถูกเลือก หรือแม้กระทั่ง แฟนเก็บ งอนเมื่อไหร่ก็ง้อ ให้รู้สึกว่าสำคัญ แต่ก็ไปมีข่าวกับสาวๆอื่นอีก ทั้ง อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ, แตงโม-ภัทรธิดา, โบวี่-อัฐมา สุดท้ายรักที่ไม่ใช่ มันก็จบด้วยการเลิกรา จ๋า ให้เหตุผลว่า มีหลายเรื่องที่ทำให้ไปด้วยกันไม่ได้ จนวันนี้ กึ้ง ไปมีข่าวกับ นางเอก เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ,ฟาก จ๋า เธอชอบขีดๆเขียนๆ เผลอระบายอารมณ์ลงในไอจี ด้วยวลีเด็ด บาดลึก การพบเจอคนบางคน ทำให้พบว่า ที่ผ่านมา เราอยู่ในกะลา โอ้วมายก๊อด ข้อความแบบนี้ของ จ๋า ถูกโยงไปเอี่ยวเกี่ยวข้องกับอดีตคนรักอย่าง ไฮโซกึ้ง-เฉลิมชัย แบบเต็มๆ จ๋า เองก็หาทางลงให้กับตัวเองไว้แล้วว่า ที่โพสต์ไม่ได้ต้องการเหน็บใคร แต่เป็นข้อคิดที่ได้จากการทำธีสิสเท่านั้น ก็เพราะ จ๋า มักชอบอุทานดังๆในพื้นที่ส่วนตัว ที่เรียกว่าคือ ไอจี แต่มันเป็นโลกที่เปิดกว้าง คนภายนอกจึงมักเห็นการโพสต์ที่ทำให้คิดไปได้ว่าเป็นการ ตีชิ่งกระทบแฟนเก่า เธอเลยถูกมองเป็นสาวที่ รักจบคนไม่จบ มีจังหวะเมื่อไหร่ ก็ขอสอยคืน,เวลานี้ จ๋า ทุ่มเททั้งตัวและหัวใจให้กับการ เขียนวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอก ในสาขา Political Science (International Program) ที่สถาบันการศึกษานานาชาติ มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาวเรียนสูง เรียนเก่ง ถึงยังไงเธอก็คือผู้หญิง ที่พลาดท่าเรื่อง ความรัก ได้เช่นกัน เพราะคนเรียนสูง ใบปริญญา ไม่ได้การันตีว่าคนที่มีจะไม่ อกหัก,ทุ่มเทแล้วผิดหวัง สำหรับรักครั้งหน้า จ๋า บอกเลย ถ้ามีแล้วไม่ดีเหมือนที่เคย ก็ไม่เอา ถ้ามีเราต้องดีขึ้น ต้องเป็นความรักที่ทำให้เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน และไม่เหนื่อย เปิดใจกับรักครั้งใหม่หรือยัง? เฉยๆค่ะ ถ้ามีเจอ แล้วดีก็มีได้ แต่ถ้าเกิดยังเจอแล้วไม่โดนก็ยังไม่ต้องมี,ตั้งแต่เป็นโสดมา ดูเหมือนสาว จ๋า จะมีข่าวกับหนุ่มๆอยู่บ่อยครั้ง ทั้งหนุ่มในวงการและก็นอกวงการ ตอนมีคนแชะภาพ จ๋า ไปดื่มกาแฟกับหนุ่ม โบ๊ท–นิธิศ วารายานนท์ หรือ โบ๊ท เดอะเยอร์ส หนุ่มนักแสดง นักดนตรีมาดเซอร์ ลือกันหึ่ง ซุ่มปลูกต้นรักกัน แต่ไม่ใช่ เพราะ โบ๊ท ยืนยันตรงกับ จ๋า เป็นเพื่อนกัน และ โบ๊ท มีแฟนอยู่แล้ว จ๋า บอกชีวิตตอนนี้จะไม่ยอมเสียเวลากับใครแล้ว ถ้าเจอคนที่ใช่ก็คือใช่,สรุป หัวใจจ๋า ปิดตาย ไร้รัก ยังไม่เปิดใจ ให้ใครง่ายๆ เธอยืนยันว่า ตอนนี้ความรักเป็น เลขศูนย์ จ๋า เป็นคนที่อินกับความรักมาก จะชอบ คนใจดีมันทำให้เรารู้สึกอบอุ่นไม่กดดัน อยู่ด้วย แล้วสบายใจ ไม่ได้วางไว้สูง แต่ถ้าถามว่าเลือกไหม ก็ต้องเลือกค่ะ ภาวนาให้ จ๋า กลับมาเป็น คาส- โนวีคนเดิม จะดีกว่า หัวใจจะได้สดใส กลับมาเป็นสาวที่มีหนุ่มๆ เข้ามาเติมความสุขอยู่เรื่อยๆ ตอนนี้ จ๋า คงแค่พักใจ แต่อย่าพักนาน,ทุกวันนี้ จ๋า เน้นหนักไปที่ รักงาน เธอมีความสุข ได้ลองอะไรใหม่ๆ ได้เรียนรู้ และทำให้คนที่เรารัก และรักเรามีความสุข เช่นพ่อแม่มีความสุข ภูมิใจในตัวเธอ เธอพยายามสั่งสมประสบการณ์ต่างๆ ทั้งด้านชีวิตและการงานให้มากขึ้นเรื่อยๆ รอเวลา จ๋า ลุกมาสะสม แฟน เอามาควงแขนเหมือนแต่ก่อน รอดูใจ แม่เสือสาว จ๋า สาวสุดแซ่บ จะถูกปลุกให้มีรักที่ลุกโชนอีก เพราะ สาวฮอต ก็คือสาวฮอต เปลี่ยนกันไม่ได้ จ๋า แค่รักสงบ รอเวลาพบรักเท่านั้นเอง,ภาพ : MAXIM
|
เว้นวรรคงานเซ็กซี่!! เพราะไปมีความรัก จ๋า-ณัฐฐาวีรนุช ทองมี เลยไม่ได้ถ่ายแบบเซ็กซี่ซะนาน ปล่อยให้หนุ่มๆคิดถึงแทบแย่ คราวนี้ จ๋า ประกาศตัวเป็น สาวโสดแล้วแซ่บ!! กลับมาทวงบัลลังก์ ความเซ็กซี่
| null |
มาลัยไทยรัฐ,จ๋า ณัฐฐาวีรนุช,ณัฐฐาวีรนุช ทองมี,จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี,ถ่ายแบบเซ็กซี่,นิตยสาร MAXIM,MAXIM,กึ้ง เฉลิมชัย,โบ๊ท นิธิศ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวบันเทิง
|
https://www.thairath.co.th/content/523154
|
บิ๊กป้อม ถก จีบีซี ไทย-กัมพูชา พัฒนาชายแดน ความมั่นคง 2 ประเทศ
|
เมื่อวันที่ 30 มี.ค.60 พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เมื่อ 30 มี.ค. 60. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนรม.และรมว.กห. ได้นำคณะ ประกอบด้วย ผบ.หน่วยขึ้นตรง กห. ผบ.เหล่าทัพ และผบ.ตร. เข้าพบและหารือกับ พล.อ.เตียบันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชา พร้อมคณะ ณ โรงแรมสุขขา แองกอร์ จังหวัดเสียมราฐ ด้วยบรรยากาศการพูดคุยที่อบอุ่นและมีมิตรไมตรี,ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวยืนยันถึงความตั้งใจและความปรารถนาดีของไทยที่จะร่วมพัฒนาชายแดนของทั้งสองประเทศ ให้มีความสงบ มั่นคง และอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข โดยร่วมพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กันไป เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศอย่างเท่าเทียมกัน และย้ำว่าไทยพร้อมสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการศึกษา รวมทั้งกิจกรรมระหว่างกันในทุกระดับที่สามารถทำได้ พร้อมทั้งเสนอให้มีฮอทไลน์ ในการติดต่อประสานงานกันระดับต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทันทีและลดความเข้าใจที่อาจคลาดเคลื่อนระหว่างกัน,ขณะเดียวกัน พล.อ.เตียบันห์ ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทย ที่สนับสนุนช่วยเหลือแก้ปัญหาและดูแลการจัดระเบียบแรงงานกัมพูชาที่อยู่ในไทย ให้ได้รับความสะดวกและได้รับความคุ้มครองสวัสดิภาพแรงงาน สำหรับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนระดับต่างๆ ขอให้มีการประสานงานกันโดยตรงอย่างใกล้ชิด พร้อมกล่าวย้ำว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ในปัจจุบันถือว่าอยู่ในจุดที่ดีที่สุดที่ผ่านมา และขอให้ร่วมกันรักษาความสัมพันธ์ที่ดีเช่นนี้ตลอดไป หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายได้ร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 12 โดยมี พล.อ.ประวิตร และพล.อ.เตียบันห์ เป็นประธานร่วมทั้งสองฝ่าย เพื่อร่วมแสดงความยินดีต่อพัฒนาการความสัมพันธ์และความร่วมมือของหน่วยงานความมั่นคง และกองทัพทั้งสองประเทศที่มีความแน่นแฟ้นใกล้ชิดกัน รวมทั้งความก้าวหน้าของการปฏิบัติงานในการรักษาความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงปลอดภัยพื้นที่ชายแดนร่วมกัน ในด้านต่างๆ เช่น จุดผ่านแดนและการสัญจรข้ามแดน ความร่วมมือด้านแรงงาน ความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานความมั่นคงของไทย กับหน่วยทหารและตำรวจของกัมพูชาในพื้นที่ชายแดน ความร่วมมือด้านการเกษตร ความร่วมมือด้านสาธารณสุขและความร่วมมือด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต การศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ซึ่งภาพรวมมีพัฒนาการร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น,พร้อมทั้งเห็นชอบร่วมกันให้มีการแลกเปลี่ยน ศิลปวัฒนธรรมและกีฬาระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง ร่วมกันฝึกบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ชายแดน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ศึกษาดูงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและหลักปรัชญาพอเพียง รวมทั้งเพิ่มความร่วมมือโครงการหมู่บ้านสีขาว เพื่อสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน ทั้งสองฝ่ายเสนอให้จัดการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (Border Peacekeeping Committee) โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดของทั้งสองประเทศ เป็นประธานร่วม และฝ่ายกัมพูชาเสนอให้มีการติดต่อประสานงานระหว่าง สำนักงานประสานงานทางทะเล กัมพูชา-ไทย ผ่านกรมกิจการชายแดนของทั้งสองประเทศ,ทั้งนี้ ในภาพรวมของการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ เป็นการยืนยันถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของรัฐบาลทั้งสองประเทศในปัจจุบัน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นใกล้ชิดกัน และจริงใจระหว่างหน่วยงานความมั่นคงและกองทัพของทั้งสองประเทศ ที่ดำรงความมุ่งมั่นเปลี่ยนพื้นที่ชายแดนให้เป็นพื้นที่แห่งสันติภาพ ที่มีเสถียรภาพความมั่นคงและสงบสุขร่วมกันอย่างเท่าเทียม
|
บิ๊กป้อม ถก จีบีซี ไทย-กัมพูชา ร่วมพัฒนาชายแดนสองประเทศ ให้มีความสงบ-มั่นคง ย้ำไทยพร้อมสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการศึกษา
|
ข่าว,การเมือง
|
จีบีซี,ไทย-กัมพูชา,ความมั่นคง,ชายแดน,ประวิตร วงษ์สุวรรณ
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/899976
|
แอร์พอร์ต ลิงก์ เผย 6ปี มีผู้โดยสารกว่า 108 ล้านคน อุบัติเหตุเป็นศูนย์
|
เมื่อวันที่ 23 ก.พ.60 นายวิสุทธิ์ จันมณี กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือ ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ กล่าวว่า อัตราการใช้บริการของผู้โดยสารที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เริ่มให้บริการเดินรถในปี 2553 โดยปีดังกล่าวมีผู้โดยสาร 4,740,764 คน,ทั้งนี้ในปี 2554 ซึ่งเป็นปีแรกที่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการนั้นมีผู้โดยสารเพิ่มเป็น 12,421,636 คน ปี 2555 มีผู้โดยสาร 14,932,015 คน ปี 2556 มียอดผู้โดยสาร 15,613,034 คน ปี 2557 ยอดผู้โดยสาร 17,064,149 คน ปี 2558 ยอดผู้โดยสาร 19,308,361 คน และในปี 2559 ที่ผ่านมา มียอดผู้โดยสารจำนวน 21,167,348 คน ทำให้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จนถึงปัจจุบันมีผู้โดยสารรวม 108,385,817 คน,ทั้งนี้อัตราการเกิดอุบัติเหตุของรถไฟฟ้าเป็นศูนย์ ซึ่งหมายถึงไม่เกิดอุบัติเหตุเลยนับตั้งแต่เปิดให้บริการมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนั้นบริษัท ยังมีนโยบายด้านการให้บริการ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่มาใช้บริการอีกด้วย,สำหรับนโยบายที่สำคัญในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ การปรับเปลี่ยนภายในขบวนรถไฟฟ้าด่วน 4 ขบวน และการปรับเปลี่ยน ตารางเดินรถทั้งวันจันทร์ – ศุกร์ และวันเสาร์ – อาทิตย์ ให้มีความถี่มากขึ้น สังเกตได้จากยอดจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้นจนทำลายสถิติยอดผู้โดยสารสูงสุด (New High) ไปเมื่อวันที่ 10 ก.พ.60 ที่จำนวน 80,706 คน,ทั้งนี้ในอนาคตบริษัทยังคงเน้นย้ำนโยบายด้านความปลอดภัย และการให้บริการแก่ผู้โดยสาร เพื่อให้ผู้โดยสารมีความมั่นใจ และสะดวกสบายในการใช้บริการ ซึ่งบริษัทฯ ได้ทำการสำรวจและจะดำเนินการย้ายเครื่องจำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติทั้ง 8 สถานีให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารในการใช้บริการอีกด้วย
|
แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ โชว์ตัวเลขผู้โดยสารหลังเปิดดำเนินการมาครบ 6 ปี มีประชาชนใช้บริการกว่า 108 ล้านคน เผยอุบัติเหตุเป็นศูนย์ เร่งดำเนินงานตามนโยบายระยะสั้นและระยะยาวเน้นให้บริการผู้โดยสารเต็มที่
| null |
รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงก์,วิสุทธิ์ จันมณี,แอร์พอร์ต ลิงก์,แอร์พอร์ต เรล ลิงก์,รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท
|
https://www.thairath.co.th/content/865187
|
ไอ้ไข่ ให้โชค ถูกตรงๆ รับเต็มๆ ชาวบ้านแห่แก้บน กราบไหว้ขอเลขเด็ด
|
เมื่อวันที่ 13 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กุฏิเจ้าอาวาสวัดโปรยฝน คลอง 11 ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี บรรยากาศตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นต้นมา บรรดาคอหวยทั้งใน จ.ปทุมธานี และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงชาวต่างชาติ ต่างแห่เดินทางมากราบไหว้ขอพร ขอโชคลาภแก่ ไอ้ไข่วัดโปรยฝน อย่างเนื่องแน่น ขณะที่คอหวยบางส่วนก็นำประทัดมาจุดถวายแก้บน ที่ขอโชคลาภสำเร็จ จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ,ด้าน น.ส.พิชสิณี วิมลเขมรัตน์ อายุ 42 ปี ชาวบ้าน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ตนเดินทางมากราบไหว้ขอพรโชคลาภกับ ไอ้ไข่วัดโปรยฝนอีกครั้ง เนื่องจากก่อนหวยออกเมื่องวดประจำวันที่ 1 ก.ย.62 ที่ผ่านมา ไอ้ไข่วัดโปรยฝนได้ให้โชคแก่ตน ถูกหวยได้เงินรางวัลแต่ไม่มาก วันนี้จึงได้เดินทางนำน้ำแดงและประทัดจำนวน 2,000 นัดมาจุดแก้บน และจะนำเลขท้ายประทัดที่จุด นำไปเล่นหวยในงวดที่จะถึงนี้,ด้าน หนุ่ม 19 ปี ชาว จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ตนได้เดินทางมากราบไหว้ขอพรไอ้ไข่วัดโปรยฝน ซึ่งหลังจากกลับแล้ว ไอ้ไข่วัดโปรยฝนได้มาเข้าฝันแล้วได้บอกเลขแก่ตนคือ 87 ตนจึงนำไปซื้อก็ปรากฏว่าถูกรางวัล จึงได้เดินทางกลับมาจุดประทัดแก้บนจำนวน 1,000 นัด,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเลขปลายประทัด ที่คนทำการจุดแก้บน คือ 5,7,6,2,และ 8
|
คึกคักเหมือนเดิม ใกล้วันหวยออก ชาวบ้านแห่กราบไหว้ขอโชค ไอ้ไข่วัดโปรยฝน จ.ปทุมธานี เนื่องแน่น จุดประทัดแก้บนดังสนั่น หลังได้เลขเด็ดลุ้นงวดที่แล้ว รับทรัพย์กันถ้วนหน้า
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
หวย,เลขเด็ด,ไอ้ไข่,ขอพรโชคลาภ,ไอ้ไข่วัดโปรยฝน,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1660211
|
สนช.แจงผลเวิร์กช็อป ปรับงานเชิงรุกเป็นรับสอดคล้อง ป.ย.ป.
|
เมื่อวันที่ 1 ก.พ.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงผลการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ว่า การประชุมดังกล่าว เพื่อทำความเข้าใจการทำงานของคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) สำหรับ สนช.มีภารกิจในช่วงที่เหลือตามโรดแม็ป คือ งานนิติบัญญัติที่ต้องพิจารณากฎหมาย 3 แหล่ง คือ 1. กฎหมายที่รัฐธรรมนูญฉบับประชามติกำหนด จำนวน 10 ฉบับต้องทำให้เสร็จภายใน 8 เดือน โดยกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญมี 4 ฉบับที่จำเป็นที่จะต้องใช้ในการเลือกตั้ง นอกจากนี้ สนช.ยังต้องพิจารณากฎหมายสำคัญ 2 ฉบับคือ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยุทธศาสตร์ชาติที่จะต้องทำให้เสร็จภายใน 4 เดือน และ 2. ร่าง พ.ร.บ.ปฏิรูปประเทศที่จะต้องทำให้เสร็จภายใน 4 เดือนเช่นกัน รวมถึงร่างกฎหมายอื่นๆ ประมาณ 5-6 ฉบับ ที่จะต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ปี และยังมีกฎหมายปกติของรัฐบาลที่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินซึ่งอยู่ในวาระเร่งด่วนของรัฐบาล เหลืออยู่ประมาณ 30 ฉบับที่จะต้องทำตามโรดแม็ป,นายพรเพชร ยังกล่าวถึงการคัดค้าน พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิเสรีภาพส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน ที่จะมีการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสนช.ในวาระเร่งด่วน ว่า กฎหมายฉบับดังกล่าวจะต้องผ่านคณะกรรมการ ป.ย.ป.ก่อนว่าจะมีการจัดลำดับความสำคัญไว้อย่างไร แต่ขณะนี้ยืนยันว่ายังไม่เป็นกฎหมายและ สนช.ยังไม่ได้ทำอะไร รวมถึงกฎหมายฉบับดังกล่าวยังไม่มีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม สนช.แต่อย่างใด ดังนั้นจากภารกิจดังกล่าวทำให้ สนช.ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์การทำงานจากที่เคยตั้งรับ จะต้องเปลี่ยนเป็นฝ่ายรุก เข้าไปดูว่ากฎหมายแต่ละฉบับมีหลักการ มีความคิดเห็นอย่างไร เพื่อจะได้รู้ล่วงหน้า และทำให้การพิจารณารวดเร็วขึ้น,ด้าน ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติว่าจะมีวาระเร่งด่วนสำหรับการปฏิรูป 27 วาระ โดยเป็นการจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศทั้ง 12 ด้าน ทั้งนี้ที่ประชุมยังรับวาระเพิ่มเติมจากประธาน กมธ.โดยที่ประชุมจะนำเข้ามาอยู่ในวาระเร่งด่วนของ ป.ย.ป.ต่อไป
|
สนช.แจงผลถกเวิร์กช็อป ชี้ปรับการทำงานจากรุกเป็นรับ สอดคล้อง ป.ย.ป. ยัน ก.ม.คุมสื่อยังไม่เข้าที่ประชุมวาระเร่งด่วน ด้าน สปท.เผยมีมติปฏิรูปประเทศ 27 วาระเร่งด่วน
| null |
ป.ย.ป.,สนช.,พรเพชร วิชิตชลชัย,สปท.,ปรองดอง
|
https://www.thairath.co.th/content/848781
|
พัทลุง ผัวหึงโหดใช้มีดแทงเมีย ก่อนแทงตัวเองหวังตายตาม สาหัสทั้งคู่
|
แม่ยาย ,เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2560 ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ฉัตรชัย สงคง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุสามีใช้มีดปลายแหลมกระหน่ำแทงภรรยาของตนเอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส และสามีได้เกิดอาการคลุ้มคลั่งใช้มีดปลายแหลมเล่มเดียวกันแทงตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัส เพื่อหลบหนีความผิดที่ตนเองได้ก่อไว้ โดยเหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.บ้านพร้าว อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายตลิ่งชั้น-หน้าป่า,จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.อธิสันต์ เศรษฐ์ธรรมธัช รอง ผกก.(สส.) สภ.บางแก้ว รรท.ผกก.สภ.ป่าพะยอม พ.ต.ท.ชำนาญ เจริญมาก รอง ผกก.(สส.)ฯ พ.ต.ท.วิโรจน์ สุวรรณรัตน์ รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ต.สมศักดิ์ ฤทธิ์ศักดิ์ สวป.ฯ พ.ต.ท.วิชัย สระน้อย สว.สส.ฯ นายตำรวจที่เกี่ยวข้อง จนท.หน่วยกู้ภัย อปพร.ป่าพะยอม,ที่เกิดเหตุในบ้านชั้นเดียวแบบก่ออิฐถือปูนหลังดังกล่าว ตร.พบร่าง นางลัดดาวัลย์ ช่วยปลอด อายุ 27 ปี นอนจมกองเลือดในลักษณะนอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณข้างบ้านด้านทิศตะวันตก ในชุดสวมเสื้อแขนสั้นสีดำ กางเกงขายาวสีดำ สภาพร่างกายถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลมเข้าที่บริเวณใต้รักแร้ด้านขวา 1 แผล จนอาการสาหัส ใกล้กัน ตร. พบนายวีระศักดิ์ จันทร์ภัย อายุ 25 ปี ผู้เป็นสามี สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ที่เกิดอาการคลุ้มคลั่งยืนถือมีดส่ายไปมา เพื่อมิให้ผู้ใดเข้าไปช่วยเหลือตนเองและภรรยา แต่ก็ถูก พ.ต.ท.อธิสันต์ รอง ผกก.ฯ พร้อมพวก เข้ารวบตัวได้ในเวลาต่อมา พร้อมมีดปลายแหลมเปื้อนเลือดยาวประมาณ 6 นิ้ว ที่ใช้ก่อเหตุ ต่อมา จนท.หน่วยกู้ภัย อปพร.ป่าพะยอมฯ ได้นำร่างโชกเลือดทั้ง 2 คน ส่ง รพ.ป่าพะยอม โดยนายวีระศักดิ์ใช้มีดปลายแหลมแทงตัวเองเข้าที่บริเวณใต้ราวนมซ้าย 1 แผล และบริเวณเหนือนมซ้าย 2 แผล ส่วนนางลัดดาวัลย์ ได้นำส่ง รพ.พัทลุง ในเวลาต่อมา,จากการสอบสวนในขั้นต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายวีระศักดิ์ได้ขี่รถ จยย.ไปรับตัวนางลัดดาวัลย์ ผู้เป็นภรรยา พร้อมลูก 2 คน จากบ้านมารดาของนางลัดดาวัลย์ ในท้องที่ ต.เขาย่า อ.ศรีบรรพต เมื่อมาถึงบ้านทั้ง 2 คน ได้มีปากเสียงกัน ซึ่งในเบื้องต้น ตร.คาดว่า น่าจะมาจากสาเหตุจากความหึงหวง จนทำให้นายวีระศักดิ์ใช้มีดแทงภรรยาตัวเอง จนภรรยาต้องวิ่งหนีไปนอนจมกองเลือดอยู่ข้างบ้าน ซึ่งนายวีระศักดิ์ คาดว่าภรรยาตัวเองตายแล้ว จึงใช้อาวุธมีดเล่มเดียวกันแทงตัวเองหวังฆ่าตัวเองตายตามภรรยาเพื่อหลบหนีความผิด จนได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมตะโกนไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งกับตนและภรรยา แต่ก็ถูก ตร.รวบตัวได้ในเวลาต่อมา ซึ่งทาง ตร.จะได้เร่งสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนนายวีระศักดิ์และภรรยานั้น ในขณะนี้ ตร.ยังไม่สามารถสอบปากคำได้ ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.
|
ผัวหึงโหดใช้มีดแทงเมียก่อนที่จะใช้มีดเล่มเดียวกันแทงตัวเอง เพราะนึกว่าฝ่ายหญิงตายแล้ว และเพื่อหวังหนีความผิด จนได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ เบื้องต้น ทราบเพียงว่าทั้งคู่ทะเลาะมีปากเสียงกัน และตัวสามีเพิ่งไปรับภรรยากลับจากบ้าน
| null |
ผัวหึงโหด,ใช้มีดแทงเมีย,พัทลุง,สภ.ป่าพะยอม,ทะเลาะกันรุนแรง
|
https://www.thairath.co.th/content/854962
|
กระบะยักษ์จอมพลัง FORD F150 RAPTOR 2017
|
ใหญ่ยักษ์คับถนน Ford F150 Raptor ปี 2017 เป็นปิกอัพมะกันแบบฟูลไซส์ เวอร์ชั่นพิเศษของรถกระบะสายโหด ถือเป็นการกลับมาอีกครั้งในคราบของชุดแต่งเพิ่มประสิทธิภาพรุ่น Raptor สำหรับเวอร์ชั่นพิเศษในตระกูล F-Series รถกระบะรุ่นนี้ยังคงใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Ford F-150 เวอร์ชั่นมาตรฐานในเจเนอเรชั่นที่ 13 โดยนำมายัดชุดแต่งเพื่อสร้างความแตกต่าง รวมถึงการปรับปรุงสมรรถนะของช่วงล่างเพื่อการลุยแบบเต็มสูบ น่าเสียดายที่กระบะช้างยักษ์รุ่นนี้มีจำหน่ายเฉพาะในอเมริกาเหนือเท่านั้น สายฝุ่นบ้านเราหากอยากได้จนตัวสั่นก็ต้องใช้การนำเข้าสถานเดียวเท่านั้นถึงจะได้ขับ,Ford F-150 รุ่นพิเศษที่นำเอาชื่อของไดโนเสาร์นักล่าเจ้าความเร็วในยุคจูราสสิก หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Raptor มาตกแต่งอัดอุปกรณ์เสริมความโหดทั้งภายนอกและภายในให้ดูแข็งแกร่งดุดัน ไฟหน้ากับกระจังหน้าเข้ากันอย่างยิ่งด้วยกระจังขนาดใหญ่ยักษ์ลายรังผึ้งแปะตราสัญลักษณ์ FORD เพื่อข่มขู่รถคู่แข่งอย่าง Toyota Tundra TRD PRO สปอยเลอร์หน้าเชื่อมโยงกับความดิบของไฟและกระจังได้อย่างลงตัว กลายเป็นหน้าตาของปิกอัพที่คนไทยอยากได้อยากมี ใต้ห้องเครื่องยนต์ติดแผ่นกันกระแทกทำจากโลหะสีเงิน บังโคลนหน้าขยายเพิ่มความใหญ่โตให้สมกับการเป็นตัวลุย,โป่งล้อปรับใหม่ให้มีสีเดียวกับกระจังหน้าและสปอยเลอร์หน้า บังโคลนหลังก็ยังขยายออกเพื่อรองรับยางออฟโรดสายลุย ล้ออัลลอยลายใหม่เฉพาะรุ่น Raptor ขนาด 17 นิ้ว เล็กไปนิดแต่ใช้งานได้ดีเนื่องจากไม่ได้ใหญ่โตจนไปกินกำลังเครื่องยนต์แล้วทำให้วิ่งไม่ออก ล้ออัลลอยลายใหม่ของ F150 Raptor ขอบ 17 นิ้วแบบ high-gloss machined face and Magnetic-painted pockets ยางออฟโรดแบบจัดเต็มสำหรับการลุย ไซส์ 315/70 R17 เป็นยางแบรนด์ BFGoodrich® รุ่น All-Terrain T/A® ยางเพื่อการลุยเน้นดอกใหญ่สำหรับบุกป่าฝ่าโคลน ส่วนมือจับที่เปิดกระบะหลังกับสปอยเลอร์หลังสีเทาดำเช่นเดียวกับสปอยเลอร์หน้า,มิติตัวถังของ F150 Raptor รุ่น 4 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ มีความยาว 5,765 มิลลิเมตร กว้าง 2,029 มิลลิเมตร สูง 1,953 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,581 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หน้า 1,703 มิลลิเมตร หลัง 1,703 มิลลิเมตร ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้อง 238 มิลลิเมตร ,ภายในแม้จะแข็งทื่อและอุดมไปด้วยพลาสติกเกรดต่ำแต่ดูโหดสมกับตัวตนของปิกอัพสมรรถนะสูงภายในของ Ford F-150 Raptor Super Crew 2017 ตกแต่งสไตล์มะกันที่ยังดูโบราณบานบุรี เอาเข้าจริงๆ ภายในของ Ranger รุ่นใหม่ยังทำออกมาดูดีกว่าเห็นๆ Ford ยกระดับความกว้างของห้องโดยสารรองรับคนอเมริกันที่ส่วนใหญ่ตัวอ้วนยังกับหมี โดยลงมือปรับปรุงบานประตูและตำแหน่งเบาะนั่งหลังใหม่ให้มีขนาดที่ใหญ่และกว้างมากขึ้น,Ford F-150 Raptor 2017 ใช้เครื่องยนต์ตัวใหม่ล่าสุดโดยถูกปรับให้มีขนาดเล็กลง ปล่อยมลพิษต่ำและประหยัดเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น เครื่องยนต์ใหม่ Ecoboost แบบ V6 ขนาด 3.5 ลิตร Biturbo กำลัง 411 แรงม้า แรงบิด 588 นิวตันเมตร มาประจำการแทนเครื่องยนต์ V8 ที่ซดเชื้อเพลิงและปล่อย Co2 เยอะมากเกินไป ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติรุ่นใหม่ที่มีอัตราทดให้สับเล่นมากถึง 10 สปีด ต่อพ่วงกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการทดกำลังลงไปที่ล้อแต่ละล้อสำหรับเอาตัวรอดบนทางวิบาก ระบบรองรับปรับแต่งใหม่หมด เป็นชุดกันสะเทือนชั้นดี โช้คอัพจาก FOX Racing ปรับตั้งค่ายืดและยุบใหม่เหมาะสำหรับขาลุยที่ชอบใส่แบบไม่มียั้ง,ราคาขาย Ford F150 Raptor คิดเป็นเงินไทยยังไม่รวมอัตราภาษีนำเข้าอยู่ที่ 1.7-1.9 ล้านบาท ขายแล้วปลายปีนี้เป็นต้นไปเฉพาะในอเมริกาเท่านั้นละค่ะ.,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,[email protected],Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358
|
กระบะไซส์ช้าง FORD F150 RAPTOR เครื่องยนต์ใหม่ Ecoboost V6 3.5 ลิตร Biturbo กำลัง 411 แรงม้า แรงบิด 588 นิวตันเมตร เกียร์ขับสี่ 10 สปีด!
|
ข่าว,ยานยนต์
|
ยานยนต์,รถยนต์,ฟอร์ด,Ford F150 Raptor,อาคม รวมสุวรรณ
|
https://www.thairath.co.th/news/auto/review/1335407
|
วัฒนา ขยันกระทุ้ง คสช. ยกรัฐปรหารล้มเหลวในตุรกี ตอกย้ำ
|
วันที่ 21 ก.ค. นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พาณิชย์และแกนนำพรรคเพื่อไทย แสดงความเห็นทางการเมืองเปรียบเทียบการเมืองตุรกีกับสถานการณ์ในไทยโดยระบุว่า อย่ามองข้ามเหตุการณ์ที่ตุรกี การที่หลายฝ่ายยกย่องประชาชนชาวตุรกีที่ใช้มือเปล่าต่อสู้กับทหาร ก็เพื่อเป็นการเตือนสติ คสช. ว่า ต้องใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมและต้องฟังประชาชน แต่กลับกล่าวหาว่า เป็นการจุดกระแสแถมร้อนรนแก้ตัวว่าประชาชนเป็นคนเรียกร้องให้ทหารออกมายึดอำนาจ ประชาชนที่ว่า คือกลุ่ม กปปส. ที่เป็นพวกเดียวกันโดยหัวหน้ากลุ่มอ้างเองว่า มีการส่งไลน์แลกเปลี่ยนข้อมูลกันทุกวัน ส่วนที่อ้างว่า มีการคอร์รัปชันนั้น ผู้ถูกกล่าวหาได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหมดแล้ว จึงเหลือเพียงเมื่อไร คสช. จะคืนอำนาจให้กับประชาชนเท่านั้น ,ขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าเพราะปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาลนี้แก้ไขไม่ได้ คนกำลังตกงานและไม่มีจะกิน แต่รัฐบาลไม่ได้สนใจยังคงใช้อำนาจตามอำเภอใจ ละเมิดสิทธิมนุษยชน ปิดกั้นการตรวจสอบและความเห็นต่าง แต่ออกมาแก้ตัวแบบไม่มียางอายว่า เป็นการปฏิรูปเพื่อวางรากฐานประเทศไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ แม้แต่ในการออกเสียงประชามติรัฐบาลก็ยังเอาเปรียบฝ่ายที่เห็นต่างทุกวิธีจนนานาชาติต้องออกมาแสดงความกังวล ,ดังนั้น หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ คือ ประชาชนต้องการประชาธิปไตย คสช. จึงควรที่จะหาลู่ทางคืนอำนาจให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชน มากกว่าจะออกมาแสดงโวหารว่าประชาชนไม่เห็นชอบเพราะอยากให้ คสช. อยู่ต่อ เพราะนั่นคือการตลกบนหัวประชาชน ผมจึงขอเตือนด้วยความหวังดีว่า จงอย่าได้ดูแคลนประชาชนมือเปล่า ความชอบธรรมเท่านั้นที่จะปกป้องอำนาจไว้ได้ หากหมดความชอบธรรมอำนาจก็หมดไปเมื่อนั้น ต่อให้ทหารทั้งประเทศและอาวุธที่มีทั้งหมดก็ปกป้องอำนาจไว้ไม่ได้ เหตุการณ์ที่ตุรกีได้พิสูจน์ให้คนไทยเชื่อเช่นนั้นแล้ว
|
นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พาณิชย์ และแกนนำพรรคเพื่อไทย ตอก เหตุการณ์รัฐประหารล้มเหลวในตุรกี คือ คำเตือน คสช. ต้องใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมและต้องฟังปชช. ย้ำ คืนอำนาจหากร่างฯไม่ผ่านประชามติ
| null |
วัฒนา,รัฐประหาร,ตุรกี,ตอกย้ำ,ล้มเหลว,คสช.,วัฒนา เมืองสุข,รมว.พาณิชย์,แกนนำพรรคเพื่อไทย,กปปส.,ยึดอำนาจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
|
https://www.thairath.co.th/content/668626
|
ไปรษณีย์เตือนส่งสิ่งมีชีวิต-ยาเสพติด-วัตถุอันตราย ผิด พ.ร.บ.ไปรษณีย์
|
พร้อมขอร้องผู้ส่งให้หุ้มห่อสิ่งของแน่นหนา ใช้กล่องซองแข็งแรง ส่วนซื้อสินค้าออนไลน์ให้ระวังมิจฉาชีพ22 ก.ค. 2557 - รายงานว่า บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ชี้แจงกรณีมีผู้ใช้บริการฝากส่งสิ่งมีชีวิตผ่านบริการไปรษณีย์ อาทิ เต่า งู ปลากัด โดยตามระเบียบไปรษณีย์การฝากส่ง สิ่งมีชีวิตและสิ่งเสพติด วัตถุลามกอนาจาร วัตถุระเบิด วัตถุไวไฟ วัตถุมีคมที่ปราศจากสิ่งหุ้มห่อ และธนบัตรเป็นสิ่งของต้องห้ามฝากส่งทางไปรษณีย์ เนื่องจากผิดพระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ.2477 หากไปรษณีย์ตรวจสอบพบผู้กระทำผิดจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมติดตามตรวจสอบผ่านการใช้บริการต่อเนื่องขณะเดียวกันไปรษณีย์ยังประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ใช้บริการเกี่ยวกับสิ่งของต้องห้ามฝากส่งทางไปรษณีย์ในทุกที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ พร้อมขอความร่วมมือผู้ใช้บริการในการหุ้มห่อสิ่งของอย่างแน่นหนา ใช้กล่องหรือซองที่แข็งแรง เลือกใช้บริการที่เหมาะสมกับมูลค่าสิ่งของที่ฝากส่ง และทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการรับฝากหน้าเคาน์เตอร์ และย้ำเตือนผู้ใช้บริการที่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ขอให้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขายก่อนการตัดสินใจทำธุรกรรม เนื่องจากพบว่ามีมิจฉาชีพเลือกใช้ช่องทางนี้และเส้นทางไปรษณีย์หลอกลวงผู้ซื้อเป็นจำนวนมากก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า มีผู้ส่งสัตว์มีชีวิต เช่น เต่าและกระเล็นทางพัสดุไปรษณีย์ โดยกรณีกระเล็น เสียชีวิตเนื่องจากทนต่อสภาพการส่งไม่ได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีมิจฉาชีพส่งก้อนหินแทนการส่งโทรศัพท์ไอโฟนที่มีการตกลงซื้อขายกันออนไลน์ด้วย
|
กรณีมีผู้ส่งเต่า ส่งกระเล็นทางพัสดุ - ล่าสุดบริษัท ไปรษณีย์ไทย ชี้แจงส่งสิ่งมีชีวิต-สิ่งเสพติด-วัตถุลามก-วัตถุระเบิด-ธนบัตร ผิด พ.ร.บ.ไปรษณีย์ ตรวจพบจะดำเนินคดี
|
คุณภาพชีวิต,สิ่งแวดล้อม
|
พัสดุ,สัตว์เลี้ยง,ไปรษณีย์,ไปรษณีย์ไทย
|
https://prachatai.com/journal/2014/07/54703
|
ขวัญ งดพูดถึงรักร้าว กอล์ฟ แจงปมดราม่าภาษาธุรกิจลิปสติก (คลิป)
|
กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาสำหรับกรณีเลิกราของอดีตคู่หวาน ,กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล, และ ,ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์, และดูเหมือนจะบานปลายเพราะฝ่ายคุณแม่ของขวัญก็ออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าวและพาดพิงถึงฝ่ายหนุ่มกอล์ฟด้วย ได้เจอ ขวัญ ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ DO-ME FIRST SERUM by โดม ปกรณ์ ลัม @ทัวร์รีสเลาจน์ Show DC เลยถามถึงเรื่องดังกล่าว รวมถึงเรื่องดราม่าคนจับผิดเรื่องการใช้ภาษาในการทำธุรกิจลิปสติกของเจ้าตัวด้วย,สภาพจิตใจหลังจากออกมาพูดวันนั้น?,ขวัญขอไม่แตะเรื่องของวันไหนแล้วกันค่ะ ทุกวันนี้เราก็เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น มีความสุขแฮปปี้ ช่วยพี่โดมทำงาน ช่วยเพื่อนทำงาน,ยังเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่มั้ย?,ไม่แล้วค่ะ,คนชมว่าเราเป็นสาวสตรอง?,ก็ขอบคุณนะคะ แต่สิ่งที่ขวัญพูดไปเราไม่ได้ต้องการให้ใครให้กำลังใจขวัญ เข้าใจหรือไม่เข้าใจยังไง แต่เราพูดในสิ่งที่เราควรจะพูดไป ไม่ต้องแสดงความรู้สึกบอกขวัญก็ได้ว่ายังไง ขวัญโอเคค่ะ (ยิ้ม),พูดถึงกลุ่มคนที่ให้กำลังใจเราหน่อย?,ขอบคุณทุกคนค่ะ รักทุกคนค่ะ (ยื้ม),เรื่องของคุณแม่ที่พูดไปวันนั้นแล้ว หลังจากวันนั้นเป็นยังไงบ้าง?,ไม่ขอพูดแล้วค่ะ,เราอยากหยุดเรื่องนี้แล้ว?,ขวัญหยุดตั้งแต่วันที่ลงไอจีแล้วค่ะ,ถ้าฝั่งนั้นยังพูดอยู่จะทำยังไง?,ขวัญทำในสิ่งที่ถูกต้องไปแล้ว ส่วนตอนหลังจะเป็นยังไงขวัญขออยู่ในเส้นทางที่มันถูกต้องแล้วกันค่ะ,ต่อไปนี้เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้ว?,ใช่ค่ะ,เราอยากเดินหน้าต่อแล้ว?,ใช่ค่ะ ขวัญใช้ชีวิตเหมือนเดิมค่ะ,โสดแล้วเซ็กซี่ขึ้นด้วย?,(ยิ้ม) ก็เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ชุดไม่ได้มาจากไอเดียขวัญค่ะ มาจากไอเดียเพื่อนที่เป็นสไตลิสต์ค่ะ ผู้หญิงก็ต้องเรียนรู้ตัวเองค่ะ (หัวเราะ),เราทำอะไรได้มากขึ้นใช่มั้ย?,เรามีความสุขกับตัวเอง กับเพื่อนรอบข้างที่จับเราแต่งตัว ได้เรียนรู้ตัวเองว่าตรงไหนทำแล้วสวย ทำแล้วดี ผู้หญิงทุกคนก็อยากสวย แต่แบบนี้ก็แล้วแต่งานค่ะ อย่างงานวันนี้ก็มาช่วยพี่โดม เป็นงานผิวก็โชว์ผิวค่ะ มาตามคอนเซ็ปต์งาน (ยิ้ม),ชีวิตแกร่งขึ้นมั้ย?,พยักหน้า (ยิ้ม),ประสบการณ์สอนเราเยอะ?,(ยิ้ม),โดนดราม่าเรื่องลิปสติกอีก?,ก็ต้องขอโทษทุกคนนะคะ อันไหนที่มันพลาดไป อาจจะมีบางอย่างที่ขาดตกบกพร่องในสิ่งที่ขวัญอาจจะไม่รัดกุมในสิ่งที่ขวัญควบคุมทีมงาน เราได้มีการปรับปรุงเรื่องภาษาแล้ว แต่อย่างนึงที่ขวัญอยากจะชี้แจงเรื่องภาพ คือเราเป็นบริษัทหนึ่งแล้วไปร่วมกับอีกบริษัทหนึ่ง ซึ่งมันเป็นแอดเวอร์ไทซิ่งค่ะ เรามีการซื้อกันกันโดยมีลิขสิทธิ์ มีเปเปอร์กันอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลว่าขวัญจะโดนฟ้องร้องหรืออะไร เพราะมันเป็นการทำงานแบบบีทูบีค่ะ บริษัทกับบริษัทค่ะ,มีผลกระทบอะไรบ้าง คนจับผิดเรื่องภาษา?,นับว่าเป็นสิ่งที่ดีนะคะ เราไม่จำเป็นต้องไปจ้างเอ้าท์ซอทมาค้นข้อมูลในสิ่งที่เราผิดพลาด เราก็พยายามเอาคำของทุกคนไม่ว่าจะทั้งหวังดีหรือหวังไม่ดีก็แล้วแต่ ขวัญก็เอามาปรับปรุงพัฒนาในธุรกิจของขวัญ เพราะทุกวันเราต้องเรียนรู้และแก้ไขสถานการณ์ ทำทุกอย่างให้เป็นโอกาสของเราค่ะ,ต่อไปเราต้องลงไปดูเองเลยมั้ย?,ถ้าขวัญลงไปทำเองทุกอย่างมันอาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าสิ่งที่เราทำได้ก็คือเราต้องควบคุมทีมงาน และคัดเลือกคนที่เป็นมืออาชีพในด้านนั้นๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาขวัญก็ได้มีการปรับปรุงทีมงานของขวัญให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น เป็นเอ้าท์ซอทที่เป็นมืออาชีพด้านนี้จริงๆ ก็ไม่เป็นไรเราก็เรียนรู้ในธุรกิจของเราไปเรื่อยๆ หลากหลายสาขา,ทีมงานต้องปรับเรื่องภาษามากขึ้นมั้ย?,ทุกอย่างค่ะ มันก็เป็นการบูรณาการกันไปเรื่อยๆ แล้วขวัญก็มีอีกธุรกิจหนึ่งที่ขวัญจับมาใหม่ด้วย เราต้องให้คนทำงานน่ะค่ะ ไม่ใช่ว่าให้ขวัญไปหยิบไปจับทุกสิ่งทุกอย่างเลยในการที่เราจะเป็นบอสคนเขา (ยิ้ม),ต้องหาคนที่ไว้ใจได้มาเป็นเลขาเราสักคนมั้ย?,เราพยายามแบ่งหน้าที่ตามความรับผิดชอบให้มันชัดเจน ให้มันเป็นสัดเป็นส่วน ตรงไหนทำผิดพลาดอะไรขวัญไม่ว่า ถ้าคนทำผิดพลาดในปัจจุบัน ขวัญรู้สึกว่าเราต้องให้โอกาสคน และเราเรียนรู้ในสิ่งที่เราผิดพลาดได้ เพียงแต่ว่าเราจะไม่กลับซ้ำและผิดพลาดแบบเดิมอีก,ตอนนี้เวลามีปัญหาเราปรึกษาใคร?,ชีวิตขวัญมีผู้ใหญ่หลายท่านเลยค่ะ (หัวเราะ) ผู้ใหญ่แต่ละท่านเขาก็จะมีความรู้ ความเชี่ยวชาญแต่ละเรื่องแตกต่างกัน ซึ่งอย่างที่ขวัญทำคอสเมติก และเมื่อ 2-3 เดือนที่ขวัญทำอีกธุรกิจนึงเกี่ยวกับ security and cleaning service thailand ก็จะเป็นอีกอาชีพนึงที่ทุกคนค่อนข้างจะช็อกและงงว่าทำไมเรามาคลุกอยู่ในวงการแบบนี้ ซึ่งจริงๆ ธุรกิจนี้เราทำตามความต้องการของตลาดในสังคมปัจจุบัน และเป็นอีกโอกาสนึงที่ขวัญรู้สึกว่าเราสามารถก้าวไปอีกสเต็ปนึงนอกเหนือจากการเป็นนักแสดงค่ะ,ความรักครั้งใหม่พร้อมหรือยัง?,อยู่กับเพื่อนค่ะตอนนี้ ทำงานต่อไป พยายามเรียนรุ้ชีวิตในทุกๆ.วันค่ะ,มีใครเข้ามาดามหัวใจหรือยัง?,เดี๋ยวถ้าชัวร์แน่นอน ขวัญขอกลับไปใช้ชีวิตก่อนแล้วกัน ขอให้สัมภาษณ์เฉพาะเรื่องงาน เรื่องหัวใจขวัญขอกลับไปอยู่จุดเดิมที่ขวัญใช้ชีวิตค่ะ ถ้าชัวร์จริงๆ แล้วขวัญค่อยพูด ขวัญขออนุญาตพี่ๆ สื่อมวลชนว่าเรากลับไปใช้ชีวิตขวัญ อุษามณี คนเก่าดีกว่า,เข็ดกับความรักเหรอ?,ไม่ใช่เข็ดแบบนั้นหรอกค่ะ เพียงแต่ขวัญก็เห็นใจพี่ๆ นักข่าวทุกคน วันนั้นทุกคนก็ไปกันแต่เช้าตรู่ (ยิ้ม) เข้าใจว่าทุกคนให้ความสนใจเรื่องหัวใจของขวัญ แต่ขวัญจะบอกว่าหลังจากนี้ขวัญจะไม่ขอพูดแล้ว นอกจากวันใดวันนึงที่ขวัญจะแต่งงาน หรือขวัญรู้สึกว่าคนนี้ชัวร์แล้วจริงๆ ขวัญจะเป็นคนบอกเอง,ถ้าเกิดมีคนโยงคนนั้นคนนี้มาหาเราล่ะ?,อย่าถามเลยค่ะ (ยิ้ม) ถ้าขวัญชัวร์แล้วขวัญจะมาบอกเอง ไม่เข็ดหรอกค่ะ ยังไงขวัญก็เชื่อว่าความรักเป็นสิ่งที่สวยงามค่ะ.
|
ขวัญ อุษามณี งดพูดกรณีรักร้าวกอล์ฟ พิชญะ ไม่เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ย้ำไม่เข็ดเรื่องรัก ถ้าชัวร์แล้วจะบอกเอง ขอโทษกรณีดราม่าการใช้ภาษาธุรกิจลิปสติกจนเกิดความผิดพลาด เผยเตรียมทำธุรกิจเพิ่มอีก
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
ขวัญ อุษามณี,กอล์ฟ พิชญะ,กอล์ฟ พิชญะ เลิกขวัญ,ขวัญ อุษามณี ดราม่าลิปสติก,ขวัญ อุษามณี ความรัก,กอสซิป
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1190378
|
เชือดคอผัว ฆ่าเปลือยเมียชาวเมียนมา หมกพงหญ้าในไร่มันที่เมืองกาญจน์
|
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 ม.ค.61 ร.ต.อ.อดิเรก กลางพิมาย รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจาก นายณรงค์ สุขสมัย อายุ 35 ปี ชาวบ้าน หมู่ 10 ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ว่า เกิดเหตุคนงานตัดอ้อย 2 ผัวเมียชาวเมียนมาหายไป จึงออกค้นหาไปพบว่า ถูกฆ่าหมกพงหญ้าในไร่มันสำปะหลัง ในพื้นที่บ้านทุ่งกระเพาทอง หมู่ 10 ต.หนองกุ่ม,หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สรวัชร์ ศรีบุตตะ ผกก.สภ.บ่อพลอย พ.ต.ท.เวช พิสูตร์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.กาจภณ ปฐมัง รอง ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ต.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.นิธิศ ศรีพรหมคำ รอง ผกก.สส.สภ.บ่อพลอย พ.ต.ท.ประวิตร เที่ยงน่วม พงส.สบ.3 หน.พงส.ผู้ชำนาญการฯ ร่วมกับแพทย์เวร รพ.บ่อพลอย และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดฯ มูลนิธิกู้ภัยบ่อพลอย ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพ ,ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตศพแรก เป็นผู้หญิงนอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ในพงหญ้าบริเวณเชิงเขาด้านหลังไร่อ้อย สภาพศพร่างกายช่วงบนและช่วงล่างเปลือยเปล่า เสื้อยืดแขนสั้นและเสื้อยืดแขนยาวถูกรั้งขึ้นไปถึงต้นคอจนแลเห็นเต้านมและอวัยวะเพศ กางเกงที่ผู้ตายสวมหายไป ตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้,ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับแพทย์เวรและมูลนิธิฯ กำลังร่วมกันชันสูตรพลิกศพ ก็ได้รับแจ้งว่า ห่างจากจุดที่พบศพหญิงสาวไปประมาณ 800 เมตร พบศพผู้ชายนอนหงายจมกองเลือดอยู่ในไร่มันสำปะหลัง พบสภาพศพผู้ชายนอนหงายเสียชีวิตในสภาพที่มีบาดแผลถูกทุบตีด้วยของแข็งเข้าที่บริเวณกะโหลกศีรษะด้านหลังจนกะโหลกแตก ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ มีเพียงร่องรอยการลากศพเป็นรอยยาวจากทางเดินในร่องมันไปถึงที่ทิ้งศพ,จากการสอบสวนปากคำ นายณรงค์ สุขสมัย อายุ 35 ปี อาชีพทำไร่อ้อย และเป็นนายจ้างของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ทราบว่า หญิงสาวที่ตายคนแรกชื่อ นางดา (ไม่มีนามสกุล) อายุ 28 ปี ส่วนผู้ตายซึ่งเป็นผู้ชายชื่อ นายสมศักดิ์ (ไม่มีนาสกุล) อายุ 38 ปี คนทั้ง 2 เป็นผัวเมียกันและแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่มีบัตร 10 ปี พักอาศัยอยู่ที่บ้านของตน ทำงานอยู่กับตนมานานเกือบ 10 ปี ,โดยก่อนหน้าที่จะพบศพ นายสมศักดิ์และนางดา ได้มาทำงานตัดอ้อยอยู่ในบริเวณที่พบศพตั้งแต่เวลาประมาณ 3 ทุ่ม โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า สปาร์ค รุ่น 110 ซีซี จำสีและหมวดอักษรไม่ได้ จำได้แต่เพียงหมายเลขทะเบียน 5288 กาญจนบุรี เท่านั้น ตนเอาข้าวและน้ำมาส่งให้คนงาน แต่ไไหน,จนกระทั่งเวลา 09.00 น. ตนพร้อมด้วยคนงานจึงช่วยกันแยกย้ายเดินตามหา จนกระทั่งไปพบศพของนางดาอยู่ในพงหญ้า ส่วนศพของนายสมศักดิ์ เจออยู่ในไร่มันสำปะหลัง จึงโทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้านประสานแจ้งตำรวจ หลังพบว่า 2 ผัวเมียถูกฆ่าตาย ตนได้ตรวจสอบทรัพย์สินซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ของผู้ตายนั้นหายไป และมีคนงานต่างด้าวหายไป 1 คนชื่อนายชาย (ไม่มีนามสกุล) อายุประมาณ 36-38 ปี ซึ่งคาดว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของลูกน้องของตนทั้ง 2 คนอย่างแน่นอน,ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า รถจักรยานยนต์ของนายชาย แรงงานต่างด้าวต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้าย ซึ่งเป็นรถสามล้อพ่วงข้าง ได้ถูกนำไปจอดทั้งไว้ ตรวจสอบภายในบ้านพัก หนังสือเดินทางของนายชาย และทรัพย์สินของมีค่าอื่นๆ ก็หายไปด้วย,หลังทราบเบาะแสของผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุแจ้งประสานไปตาม สภ.ต่างๆ ในและนอกพื้นที่ โดยเฉพาะด่านตรวจ ตม.ทุกแห่ง เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยรายนี้ เพื่อนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย,ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งปมสังหารไว้ 2 ประเด็น คือ ฆ่าเพื่อชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ หรือไม่ก็แค้นส่วนตัว ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้มอบให้มูลนิธิฯ นำศพส่ง รพ.ศูนย์นครปฐม เพื่อให้แพทย์ทำการผ่าพิสูจน์ และตรวจสอบหาร่องรอยว่านางดามีร่องรอยการถูกข่มขืนหรือไม่ต่อไป.
|
ฆ่าโหดเชือดคอทุบหัว 2 ผัวเมียคนงานตัดอ้อยชาวเมียนมาที่กาญจน์ พบร่างหญิงสาวเปลือยเห็นเต้านมและอวัยวะเพศ กางเกงหายไป ลำคอถูกเชือดด้วยของมีคมเหวอะหวะ ศพผัวถูกลากไปทิ้งกลางไร่มันสำปะหลัง
|
ข่าว,อาชญากรรม
|
ฆ่าปาดคอ,ฆ่าทุบหัว,คนงานตัดอ้อย,ผัวเมียเมียนมา,กาญจนบุรี,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/crime/1179075
|
โล่งใจ หญิงผู้สัมผัสใกล้ชิดชาวมาเลเซียปลอด COVID-19
|
วันนี้ (18 ส.ค.2563) นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า กรณีมีรายงานว่ามีผู้สัมผัสและชาวมาเลเซียติดเชื้อ COVID-19 เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจ.เชียงใหม่ จากการตรวจสอบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นหญิงชาวลพบุรี ที่สัมผัสผู้ติดเชื้อชาวมาเลเซียที่กรุงเทพฯ และหญิงคนดังกล่าวเดินทางมาเชียงใหม่ พร้อมกลุ่มเพื่อนรวม 5 คนเมื่อวันที่ 7 ส.ค.นี้ โดยเดินทางไปวัดพระธาตุดอยสุเทพ และเข้าพักที่ดอยม่อนแจ่ม จากนั้นจังหวัดได้รับแจ้งจากกรมควบคุมโรค ให้เชิญมาตรวจเชื้อ COVID-19 ซึ่งเป็นวันที่ 13 ของระยะการสัมผัส พบว่าผลเป็นลบ และพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) จะครบกำหนด 14 วัน แต่จะตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ส่วนเพื่อน ๆ ให้กักตัวในที่พัก 14 วันนพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกรณีชายชาวมาเลเซีย ได้ติดตามตัวมาตรวจหาเชื้อ รวมทั้งเก็บข้อมูลทั้งหมด เช่น ไทม์ไลน์การเดินทาง เพื่อน สายการบิน โดยวันนี้เป็นวันที่ 13 ของการสัมผัสเสี่ยงสูง และตรวจไม่พบเชื้อ หากพรุ่งนี้ไม่มีอาการใด ๆ จะถือว่าปลอดภัยส่วนกรณีของแรงงานต่างด้าว 43 คน ที่หลบหนีเข้าเมือง จากการตรวจผลแล็บครั้งแรกเป็นลบทั้งหมด เตรียมจะตรวจครั้งที่ 2 หากครบ 14 วันแล้วไม่มีอาการผิดปกติจะถือว่าปลอดเชื้อชายชาวมาเลเซียเคยพักคอนโดย่านลาดพร้าวนพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีควบคุมโรค ระบุว่า ชายชาวมาเลเซียขณะอยู่ในประเทศไทยได้เข้าพักที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ว่า หน่วยปฏิบัติการควบคุมโรค และสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่เพื่อค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดและการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว หากมีผลความคืบหน้าจะมีการรายงานให้ประชาชนรับทราบทันที ขณะนี้ยังไม่มีข้อยืนยันว่าชายมาเลเซียติดเชื้อจากที่ใด เนื่องจากเดินทางไปมาเลเซียแล้วเข้าสถานกักกันโรคนานแล้ว และยังไม่ทราบประวัติการเดินทางที่ชัดเจนจึงยังไม่มีข้อสรุปด้าน นพ.ชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. เปิดเผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบพิกัดที่ชายชาวมาเลเซียเคยพักอาศัยอยู่แล้วเป็นย่านลาดพร้าว พื้นที่เขตวังทองหลาง แต่ยังไม่ได้รับรายงานว่าเป็นคอนโดฯแห่งใด เบื้องต้นทราบว่าชายรายดังกล่าวพักอยู่ในคอนโดฯ คนเดียวตั้งแต่เดือน ก.ค. ส่วนแฟนเดินทางกลับไปต่างจังหวัด ต่อมาเดือน ส.ค. ชายดังกล่าวเดินทางกลับมาเลเซียจากนี้เจ้าหน้าที่ทั้งของ กทม. และ สธ.จะต้องทวนสอบทั้งในส่วนของชายชาวมาเลเซียและของแฟนสาว ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลอย่างเต็มที่ และหากทราบข้อมูลจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
|
ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เผยผลตรวจหญิงชาวลพบุรี ผู้สัมผัสใกล้ชิดชายชาวมาเลเซียติดเชื้อ COVID-19 หลังเดินทางกลับจากไทย ผลตรวจเป็นลบ ส่วนกลุ่มเพื่อนให้กักตัว 14 วัน ด้านหมอ สันนิษฐานชายชาวมาเลเซียติดเชื้อนอกประเทศไทย
|
สังคม
|
COVID-19,โควิด19,ชายชาวมาเลเซีย
|
https://news.thaipbs.or.th/content/295584
|
ส.ว.มีไว้ทำไม : ศรีสุวรรณ จ่อยื่นผู้ตรวจฯ ส่งศาลวินิจฉัย ปม ส.ว.โหวตให้ อดีต สนช. เป็น ป.ป.ช.ชอบด้วย กม.หรือไม่
|
ศรีสุวรรณ จ่อยื่นผู้ตรวจฯ ส่งศาลวินิจฉัย ปม ส.ว.โหวตให้ สุชาติ ตระกูลเกษมสุข อดีต สนช. เป็น ป.ป.ช.ชอบด้วย กม.หรือไม่ ด้านเลขาวุฒิฯ แจงยิบ สนช. แค่ตำแหน่งเฉพาะกิจ ไม่ใช่ ส.ส.-ส.ว.4 มิ.ย.2563 จากกรณี สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ลงมติเห็นชอบให้ สุชาติ ตระกูลเกษมสุข เป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ในการประชุมลับเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมากำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจจะขัดรัฐธรรมนูญ 2560 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) 2561 เนื่องจาก สุชาติ เคยได้รับการแต่งตั้งจาก คสช. ให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2559 และพ้นจากตำแหน่ง สนช.เมื่อ พ.ค. 62 นับถึงปัจจุบันพ้นตำแหน่งมาเพียง 1 ปี เท่ากับพ้นตำแหน่งไม่เกิน 10 ปี อันเป็นการขัดต่อลักษณะต้องห้ามที่กฎหมายบัญญัตินั้น3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจะต้องหาข้อยุติดังกล่าวโดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 231 ในการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองว่า การที่ ส.ว.ให้ความเห็นชอบบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช.2561 มาตรา11 (18)เป็นการกระทำโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายหรือไม่ และหากศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองวินิจฉัยว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย สมาคมฯจะดำเนินการร้องเอาผิด 219 ส.ว. ที่โหวตให้นายสุชาติเป็น ป.ป.ช.ตามครรลองของกฎหมายต่อไป เพราะไม่ว่าจะใหญ่มาจากไหนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน โดยสมาคมฯจะไปยื่นเรื่องในวันพฤหัสที่ 4 มิ.ย.63 เวลา 9.00 น. ที่ สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน ห้อง 903 ศูนย์ราชการ อาคารBทั้งนี้พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช.2561 มาตรา11 (18)บัญญัติไว้ว่ากรรมการ ป.ป.ช.ต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้ เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการการเมือง หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นในระยะสิบปีก่อนเข้ารับการสรรหาประกอบกับคณะกรรมการ ป.ป.ช.เคยมีความเห็นว่า สนช.ถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามมาตรา6แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว2557ที่บัญญัติให้ สนช.ทำหน้าที่สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา จึงมีหน้าที่ยื่นแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยังระบุด้วยว่ารัฐธรรมนูญ2560มาตรา263ได้บัญญัติว่า ในระหว่างที่ยังไม่มีสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ตามรัฐธรรมนูญนี้ ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557ยังคงทำหน้าที่รัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาต่อไป และให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกวุฒิสภา ตามลำดับตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ และให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติสิ้นสุดลงในวันก่อนวันเรียกประชุมรัฐสภาครั้งแรกภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นตามรัฐธรรมนูญนี้ ดังนั้นเมื่อ สุชาติ เคยได้รับการแต่งตั้งจาก คสช.ให้เป็น สนช. และพ้นตำแหน่งไม่เกิน10ปี จึงน่าจะเป็นการขัดต่อลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายบัญญัติดังกล่าวรายงานความเห็นของเลขาธิการสำนักงานวุฒิสภา คือนัฑ ผาสุข ในฐานะอดีตเลขานุการ ป.ป.ช.กล่าวว่า กรณีคุณสมบัติของ สุชาติ ตระกูลเกษมสุข อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ที่ถูกมองว่าไม่สามารถเป็นกรรมการ ป.ป.ช.ได้ เนื่องจากพ้นจากตำแหน่ง สนช.มาไม่ถึง 10 ปีนั้น เรื่องดังกล่าวคณะกรรมการสรรหา ป.ป.ช.ที่มีประธานศาลฎีกาเป็นประธาน ได้มีมติชัดเจนว่าตำแหน่ง สนช. ไม่ใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในลักษณะ ส.ส.หรือ ส.ว. เพราะรัฐธรรมนูญเพียงกำหนดให้ สนช.ในขณะนั้น ทำหน้าที่เป็น ส.ส. และ ส.ว.เท่านั้น เป็นเพียงตำแหน่งเฉพาะกิจ แต่ไม่ถือเป็นตำแหน่ง ส.ส.หรือ ส.ว. อีกทั้งตาม พ.ร.บ.กองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภาระบุชัดเจนว่า สนช.ไม่อยู่ในข่ายที่จะเข้ามาอยู่ในกองทุนดังกล่าวได้ส่วนกรณี เจษฎ์ โทณวณิก อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2560(กรธ.) ระบุตำแหน่ง สนช. เข้าข่ายเป็น ส.ส.และ ส.ว.นั้นเลขาธิการสำนักงานวุฒิสภา มองว่า ถือเป็นดุลยพินิจของแต่ละคน แต่ประเด็นดังกล่าวคณะกรรมการสรรหา ป.ป.ช. มีมติชัดเจนแล้วว่า สนช.ไม่ใช่ตำแหน่งผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
|
ศรีสุวรรณ จ่อยื่นผู้ตรวจฯ ส่งศาลวินิจฉัย ปม ส.ว.โหวตให้ สุชาติ ตระกูลเกษมสุข อดีต สนช. เป็น ป.ป.ช.ชอบด้วย กม.หรือไม่ ด้านเลขาวุฒิฯ แจงยิบ สนช. แค่ตำแหน่งเฉพาะกิจ ไม่ใช่ ส.ส.-ส.ว.ที่มาภาพ
|
การเมือง
|
ป.ป.ช.,ส.ว.,สนช.,ศรีสุวรรณ จรรยา,สุชาติ ตระกูลเกษมสุข,ส.ว. มีไว้ทำไม
|
https://prachatai.com/journal/2020/06/87952
|
ดูดดื่ม วิวาห์ใต้น้ำทะเลตรัง รับวาเลนไทน์ ปีนี้ 15 คู่ เงินสะพัดเพียบ
|
หวานชื่น คู่วิวาห์ใต้สมุทรตรัง หนึ่งเดียวในโลก ดำดิ่งลงจดทะเบียนสมรสใต้ท้องทะเล หน้าถ้ำมรกต หนึ่งอันซีนไทยแลนด์ เผยบรรยากาศใต้น้ำ เห็นทรายใต้น้ำ ปลาหลายชนิดแหวกว่ายกันทั่ว เตรียมจัดงานเลี้ยงฉลองต่อที่หาดวิวาห์ ด้านหอการค้าฯ ระบุเม็ดเงินสะพัด,
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 13 ก.พ. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศพิธีวิวาห์ใต้สมุทร 2018 ในวันที่ 2 ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 22 ระหว่างวันที่ 12-14 ก.พ. 61 ภายใต้แนวคิด The Moment of Love Trang Thailang คู่บ่าวสาวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จำนวน 15 คู่ ได้เดินทางไปยังท่าเรือปากเมง อ.สิเกา จ.ตรัง พร้อมทั้งนั่งเรือเพื่อมุ่งหน้าไปยังบริเวณหน้าถ้ำมรกต เขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง หนึ่งอันซีนไทยแลนด์ โดยใช้เวลาแล่นเรือประมาณ 20 นาที โดยคู่บ่าวสาว จำนวน 8 คู่ ได้ดำลงไปใต้น้ำที่มีการจัดสถานที่เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับใช้จดทะเบียนสมรส โดยมีความลึกกว่า 6-7 เมตร ส่วนคู่บ่าวสาวที่ไม่ได้ลงไปจดทะเบียนใต้น้ำ ก็จะลงไปลอยตัวถ่ายภาพอยู่ในท้องทะเล เช่นเดียวกัน ท่ามกลางบรรยากาศที่ดีไม่มีเมฆฝนปกคลุม และเต็มไปด้วยไอกรุ่นของความรักทั่วทั้งท้องทะเล บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขสดใส
,โดยมีนายทะเบียนทำหน้าที่จดทะเบียนสมรส ร่วมดำน้ำสลับกันลงไปเป็นสักขีพยานให้แก่คู่บ่าวสาวทั้งหมด จำนวน 12 คน ได้แก่ นายศิริพัฒ พัฒกุล ผวจ.ตรัง, นายชัยพร พัฒนรักษ์ หัวหน้าสำนักงาน จ.ตรัง, นายพิชัย มานะสุทธิ์ ประธานหอการค้า จ.ตรัง, นายมานะ เทือกสุบรรณ นายอำเภอสิเกา, นายประชา งามรัตนกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ตรัง และ นายบรรจง นฤพรเมธี นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรม จ.ตรัง เป็นต้น โดยคู่บ่าวสาวได้แต่งกายด้วยชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวแบบสากล และ 1 ใน 15 คู่ดังกล่าวนี้ เป็นชาวต่างชาติ จำนวน 2 คู่ โดยมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา และเบลเยียม และเมื่อหลังจากเสร็จพิธีแล้ว ในช่วงเย็นจะมีการจัดงานเลี้ยงฉลองอย่างยิ่งใหญ่ บริเวณหาดวิวาห์ใต้สมุทร ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง
,คู่บ่าวสาวส่วนหนึ่งหลังขึ้นมาจากใต้น้ำ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า บรรยากาศใต้น้ำทะเลตรัง ไม่เหมือนกับที่อื่น ที่นี่น้ำใสมาก เห็นทรายใต้น้ำ ปลาหลายชนิดแหวกว่ายกันทั่ว จึงอยากฝากให้ผู้ที่สนใจมาเข้าร่วมกิจกรรมวิวาห์ใต้สมุทรให้เยอะๆ ในปีหน้า 2019,
นายพิชัย มานะสุทธิ์ ประธานหอการค้า จ.ตรัง กล่าวว่า จากกรณีคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวเนื่องตามโปรแกรมเดิมในช่วงค่ำของวันนี้ (13 ก.พ. 61) งานเลี้ยงต้อนรับคู่วิวาห์ สถานที่เดิมจัดงานที่โรงแรมอนันตรา สิเกา รีสอร์ต แอนด์ สปา ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่เพื่อให้ถูกต้องและเหมาะสม สำหรับสถานที่จัดเลี้ยงในครั้งนี้ จะย้ายไปที่หาดวิวาห์ใต้สมุทร ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ซึ่งในอดีตเคยใช้จัดงานวิวาห์ใต้สมุทรมาโดยตลอด ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนไปจัดงานที่โรงแรมอนันตรา ก็เพราะความเหมาะสม ความสะดวก เพราะคู่บ่าวสาวทั้งหมดพักอยู่ที่โรงแรมอนันตรา เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ก็ต้องแก้ไขปัญหาไปก่อน
,นายพิชัย กล่าวอีกว่า เม็ดเงินสะพัดในช่วงวิวาห์ใต้สมุทรครั้งนี้ มองว่าดีขึ้นมากจากเดิมพอสมควร และคิดว่ากิจกรรมครั้งนี้จะทำให้ จ.ตรัง มีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลฝั่งอันดามัน ไม่ว่าจะเป็นถ้ำมรกต เกาะกระดาน หรือสถานที่ท่องเที่ยวบนบกที่มีชื่อเสียง สถานที่ท่องเที่ยวชุมชน หรือในตัวเมือง สินค้าโอทอป ของฝากที่ระลึก ซึ่งจะพาคู่บ่าวสาวไปแวะในหลายจุดเมื่อวานนี้ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในระยะยาวและในอนาคต.
|
หวานชื่น! คู่วิวาห์ใต้สมุทรตรัง หนึ่งเดียวในโลก ดำดิ่งลงจดทะเบียนสมรสใต้ท้องทะเล หน้าถ้ำมรกต หนึ่งอันซีนไทยแลนด์ เผยบรรยากาศใต้น้ำ เห็นทรายใต้น้ำ ปลาหลายชนิดแหวกว่ายกันทั่ว เตรียมจัดงานเลี้ยงฉลองต่อที่หาดวิวาห์
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
วิวาห์ใต้สมุทร,วิวาห์ทะเลตรัง,วันวาเลนไทน์,จดทะเบียนใต้นำ้,ตรัง,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1203328
|
แพทยสภาเตรียมตรวจสอบคดีหมอล่วงละเมิดคนไข้
|
วันนี้ (22 พ.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีมีหญิงสาวร้องเรียนว่าถูกสูตินรีแพทย์ของคลินิกแห่งหนึ่งใน จ.นครสวรรค์ ข่มขืนขณะเข้ารับการตรวจภายใน พร้อมเปิดเผยหลักฐานว่า แพทย์ได้โอนเงิน 300000 บาท เพื่อให้ยุติการดำเนินคดี นอกจากนี้ ยังอ้างว่ามีผู้ที่ถูกแพทย์คนดังกล่าว ล่วงละเมิดทางเพศอีกจำนวนมากศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา นายกแพทยสภา เปิดเผยว่า ทันทีที่มีข่าวเรื่องนี้ออกมา แพทยสภาไม่ได้รอให้มีการร้องเรียน แต่ได้ส่งทีมแพทยสภาลงไปหาข้อมูลของทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งข้อมูลอื่น ๆ มาประกอบด้วย ซึ่งเรื่องนี้จะถูกนำมาพิจารณาอย่างรวดเร็ว โดยจะเข้าที่ประชุมในต้นเดือนธันวาคมนี้ เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาพิจารณาตัดสินคู่ขนานไปกับการดำเนินการของตำรวจสำหรับการตรวจสอบครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมาพิจารณา เพราะการทำงานของแพทยสภา มีคณะกรรมการที่ดูแลเรื่องจริยธรรมอยู่แล้วด้าน นพ.อดิสรณ์ วรรธนะศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.นครสวรรค์ กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนและตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยคาดว่าจะสามารถสรุปผลได้เร็วๆ นี้ส่วนความคืบหน้าทางคดี เมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) มีหญิงอายุ 35 ปี อ้างว่าเคยถูกแพทย์รายเดียวกัน ล่วงละเมิดทางเพศ โดยก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้แจ้งความ และไม่ได้ออกมาร้องเรียน เพราะคิดว่าเป็นขั้นตอนการตรวจ โดยยืนยันว่า แม้ตัวเองจะไม่สามารถดำเนินคดีกับแพทย์คนดังกล่าวได้แล้ว แต่พร้อมจะเป็นพยานให้กับผู้เสียหายรายอื่นๆส่วนกรณีที่ทีมทนายความและผู้เสียหาย ยื่นเรื่องขอให้ทางกองบังคับการปรามปราม เป็นผู้รับคดีนี้ไปดำเนินการ ในทางปฏิบัติยังไม่มีคำสั่งใดๆ ทำให้ขณะนี้คดียังอยู่ในความดูแลของตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ซึ่งตำรวจยังคงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ โดยจะพิจารณาตรวจสอบข้อสงสัยของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่ตั้งข้อสังเกตในประเด็นของการข่มขืนว่าเกิดขึ้นจริงหรือไม่ด้านนางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กแสดงความห่วงใย กรณีมีหลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นและจัดการว่า รับทราบข่าวนี้ด้วยความกังวลใจอย่างยิ่งเนื่องจากปัญหา การคุกคามทางเพศ การล่วงละเมิดทางเพศ เป็นปัญหาที่มีความเปราะบางและต้องการผู้มีความรู้ความเข้าใจในมิติความอ่อนไหวทางเพศสภาพ ในการรับฟังการให้ความเห็นรวมถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งนี้ การที่บุคคลที่ไม่มีหน้าที่และอำนาจในการบวนการยุติธรรมจะเข้าไปดูบาดแผลหรือหลักฐานทางคดีย่อมไม่สามารถกระทำได้ โดยเฉพาะการก้าวล่วงในเนื้อตัวร่างกายของผู้หญิง และที่สำคัญคือในพื้นที่ซ่อนเร้น แม้จะเป็นภาพถ่าย ก็ย่อมไม่อาจกระทำได้สำหรับเรื่องนี้คงต้องให้กระบวนการยุติธรรมทำหน้าที่ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยรับฟังข้อมูลพยานหลักฐานจากทุกฝ่ายด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง บนพื้นฐานความเคารพต่อความอ่อนไหวทางเพศสภาพ การออกมาให้ความเห็นเชิงด่วนสรุปหรือชี้นำ รวมถึงการใช้ถ้อยคำเหยียดเพศของบุคคลที่ไม่มีหน้าที่และอำนาจนอกจากเป็นการก้าวล่วงและแทรกแซงการทำหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมแล้ว ยังอาจส่งผลให้ผู้ร้องเรียนและครอบครัวเกิดความหวาดกลัวและอับอาย ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการพิสูจน์ความจริง
|
นายกแพทยสภา สั่งตรวจสอบกรณีร้องเรียนว่าสูตินรีแพทย์ใน จ.นครสวรรค์ ล่วงละเมิดทางเพศผู้ป่วย โดยหลังส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เก็บข้อมูลแล้ว จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของแพทยสภาในต้นเดือนธันวาคมนี้
|
สังคม
|
นครสวรรค์,สูตินรีแพทย์,ล่วงละเมิด,ล่วงละเมิดทางเพศ,แพทย์อนาจาร,อนาจาร,ตรวจภายใน,แพทยสภา,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส
|
https://news.thaipbs.or.th/content/275851
|
ปฐมศึก ดวลหมัดอิเหนา กรุยทางชิงเข็มขัด IBF ไทยรัฐทีวี ยิงสด 26 ก.พ.นี้
|
ทั่วประเทศ 26 ก.พ.นี้,วันที่ 3 ก.พ. ที่ศูนย์การค้า เดอะ แจ๊ส รามอินทรา ได้มีการแถลงข่าวศึกมวยสากลรายการ ศึกกำปั้นสะท้านโลก ตลาดนัดเจไนท์ ในวันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ โดยมี ปฐมศึก เกษตรพัฒนา ขึ้นชิงแชมป์ที่ว่าง รุ่นจูเนียร์เวลเตอร์เวท IBF แพนแปซิฟิก กับ สตีเวน เฟอร์ดินันดัส นักชกชาวอินโดนีเซีย ที่บริเวณตลาดนัดเจไนท์ ย่านลาดปลาเค้า เพื่อกรุยทางสู่การชิงแชมป์สถาบัน IBF รุ่นจูเนียร์ เวลเตอร์เวท ขณะที่อดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิกทีมชาติไทยอย่าง มนัส บุญจำนงค์ศักดิ์กรีรินทร์ จะได้ขึ้นอุ่นเครื่องครั้งที่ 5 ก่อนเตรียมขึ้นชกชิงแชมป์โลกในปีนี้,ในการแถลงข่าวดังกล่าว ได้รับเกียรติจาก นายสุพจน์ วรรณา CEO บริษัทเจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) ประธานจัดการแข่งขัน, พล.ต.ท.ดร.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผู้บัญชาการจเรตำรวจ, คุณสุปรีชา อังธีระนุวงศ์ รองประธานจัดการแข่งขัน, นายทวี นาคอุไร ประธานฝ่ายประสานงาน, ดร.ประภาส ฤกษ์พิบูลย์, นายสมพงษ์ อัชฌานุเคราะห์, น.ต.เชาว์ เกตุสุวรรณ์, นายประวัติ สุทธิประภา, นายกิตติศักดิ์ หยกอุบล กรรมการผู้จัดการ บริษัทเกษตรพัฒนา และ ดร.เอกรัฐ ไชยโชติช่วง โปรโมเตอร์เกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น ร่วมกันแถลงยืนยันความพร้อมในครั้งนี้,นายสุพจน์ วรรณา ประธานจัดการแข่งขันเผยว่า ศูนย์การค้า เดอะแจ๊ส รามอินทรา และ ตลาดนัดเจไนท์ ลาดปลาเค้า มีความยินดีที่ให้การสนับสนุน ศึกกำปั้นสะท้านโลก ตลาดนัดเจไนท์ ซึ่งจะได้รับเกียรติจาก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นประธานอำนวยการแข่งขัน โดยมีวัตถุประสงค์หาทุนสนับสนุนการศึกษาของโรงเรียนลาดปลาเค้าพิทยาคม โรงเรียนวัดลาดปลาเค้า รวมทั้งประชาสัมพันธ์งานยกช่อฟ้า ผูกพัทธสีมา ปิดทองฝังลูกนิมิต อุโบสถหลังใหม่วัดลาดปลาเค้า นอกจากนั้นยังเป็นการส่งเสริมสนับสนุนนักชกไทยให้ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์โลกอีกด้วย,ส่วน พล.ต.ท.ดร.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ในประธานที่ปรึกษาการจัดงานเผยว่า กีฬามีส่วนสำคัญที่จะสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีเป็นกิจกรรมให้เกิดความสามัคคีชักจูงให้เยาวชนหันมาออกกำลังกายห่างไกลยาเสพติดใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และยังช่วยส่งเสริมกีฬามวยของไทยสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ,ขณะที่ จิมมี่ ดร.เอกรัฐ ไชยโชติช่วง โปรโมเตอร์ เกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น กล่าวว่า ปฐมศึกเป็นอดีตนักชก 2 รุ่น 2 สถาบันคนแรกของไทยที่ได้คิวขึ้นชิงแชมป์ ที่ว่าง รุ่นและสถาบันนี้ เพื่อกลับมาสู่รุ่นจูเนียร์เวลเตอร์เวทอีกครั้ง,สำหรับคู่อื่นๆ นักชกไทยยกทีมปะทะนักชกจากแดนอิเหนา นำโดย มนัส บุญจำนงค์ศักดิ์กรีรินทร์ ฮีโร่เหรียญโอลิมปิกสองสมัย ขึ้นชกมวยสากลอาชีพไฟต์ที่ 5 กับ ไมเคิล เซียกาลี (กำหนด 8 ยก), เอกตะวัน ม.กรุงเทพธนบุรี แชมป์รุ่นฟลายเวท IBF เอเชีย พบ บอย ตันโต้ และ อัจฉริยะ ท.จันทรโรจน์ พบ โซเอล ฟิดัล ซึ่งแฟนมวยทั่วไทยติดตามชมการถ่ายสดได้ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ในวันที่ศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ ตั้งแต่เวลา 16.30-18.00 น.
|
ปฐมศึก เตรียมขึ้นชิงแชมป์ที่ว่าง IBF รุ่นจูเนียร์เวลเตอร์เวท พบนักชกจากแดนอิเหนา ก่อนไต่บันไดสู่การชิงแชมป์โลก ขณะที่ เจ้าเติ้ล มนัส ตะบันหมัดมวยสากลอาชีพครั้งที่ 5 ในกำหนด 8 ยก โดย ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ถ่ายทอดสดให้ชม
| null |
ศึกกำปั้นสะท้านโลก ตลาดนัดเจไนท์,ปฐมศึก เกษตรพัฒนา,IBF แพนแปซิฟิก,รุ่นจูเนียร์เวลเตอร์เวท,มนัส บุญจำนงค์ศักดิ์กรีรินทร์,เกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น,ดร.เอกรัฐ ไชยโชติช่วง,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/572281
|
จุรินทร์ ไม่กดดัน พลังประชารัฐ ยังไม่ตอบรับข้อเสนอ
|
วันนี้ (3 มิ.ย.62) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคครั้งแรก ว่า คณะกรรมการชุดนี้มีคำสำคัญต่อการขับเคลื่อนการดำเนินงานของพรรคกำหนดเป้าหมาย และแนวทางของพรรคในอนาคตรวมไปถึงเตรียมแผนและยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้งวางไว้ด้วยนายจุรินทร์ ระบุด้วยว่า พร้อมรับฟังผลสำรวจความเห็นของนิด้าโพล ที่สำรวจเกี่ยวกับเหตุความพ่ายแพ้การเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยจะนำไปเป็นฐานข้อมูลกำหนดทิศทางเดินหน้าพรรคต่อไปความคืบหน้าการเจรจากับพรรคพลังประชารัฐนั้น นายจุรินทร์ ระบุว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบตกลงข้อเสนอจากพรรคพลังประชารัฐซึ่งพรรคยังคงรอคำตอบอยู่และไม่ประสงค์จะกดดันพรรคพลังประชารัฐ แม้พรรคจะมี 53 เสียงนายจุรินทร์ ยังตอบคำถามถึงการโหวตนายกรัฐมนตรี ว่า จะให้อิสระ ส.ส.หรือไม่ ว่า ในวันพรุ่งนี้ (4 มิ.ย.) จะมีการประชุม ส.ส.ของพรรค โดยวิปพรรคจะเป็นผู้มารายงานรายละเอียดต่างๆให้ที่ประชุมรับทราบทิศทางที่ควรจะเป็นให้ที่ประชุมมีมติส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเข้าชิงด้วยหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดต้องรอมติที่ประชุม ส.ส.ในวันพรุ่งนี้ (4 มิ.ย.)อภิปรายคุณสมบัติ ประยุทธ์ สามารถทำได้ส่วนนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ระบุว่า ในการประชุมร่วมรัฐสภาวาระการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ อาจใช้เวลายาวนานกว่าปกติ เนื่องจากต้องเปิดให้สมาชิกได้อภิปราย และหากจะอภิปรายคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก็สามารถทำได้ ถือเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกส่วนการโหวตจะเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับเท่านั้น คือ การลงมติโดยเปิดเผยเรียงลำดับตามตัวอักษรทั้ง 2 สภานายพรเพชร ระบุว่า ไม่มีการเชิญประชุม ส.ว.ก่อนวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะการลงมติถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ว.ทุกคน ไม่สามารถบล็อกโหวตได้ และเชื่อว่าจะไม่มี ส.ว. อภิปรายเพื่อเป็นองครักษ์พิทักษ์ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะเป็นหน้าที่ของพรรคพลังประชารัฐทั้งนี้ หากมีกรณีที่พาดพิงถึงที่มาของ ส.ว. ก็จำเป็นที่ ส.ว.จะต้องลุกขึ้นชี้แจง เพราะประเด็นนี้ผ่านพ้นแล้ว ซึ่งหากจะเปลี่ยนแปลงที่มาก็ให้ไปแก้รัฐธรรมนูญ
|
จุรินทร์ ระบุ พลังประชารัฐ ยังไม่ตอบรับข้อเสนอ เตรียมประชุมคณะกรรมการบริหาร และ ส.ส.ของพรรค ประชาธิปัตย์ 4 มิ.ย.นี้ รอมติพรรคเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ด้วยหรือไม่
|
การเมือง
|
ประชาธิปัตย์,ประชุมพรรค,ตั้งรัฐบาล,พลังประชารัฐ,โหวตนายกฯ,ThaiPBSnews
|
https://news.thaipbs.or.th/content/280565
|
คนร้องเรียนเยอะ นายกเล็กฝรั่งเศสออกกฎห้ามหมาเห่าดัง ฝ่าฝืนปรับเจ้าของ
|
สำนักข่าวต่างประเทศ,รายงานว่า กฎหมายห้ามสุนัขเห่าเสียงดังของนายฌอง-ปิแอร์ เอสเตียน นายกเทศมนตรีเมืองโฟกีแอร์ (Feuquières) ในฝรั่งเศส เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วในวันจันทร์ที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงต่อต้านจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์,นายเอสเตียนกล่าวว่า คำสั่งแบนนี้มีขึ้นเพื่อตอบโต้กรณีที่มีสุนัขเห่าเสียงดังทั้งวันทั้งคืน จนส่วนสถานการณ์ที่ชาวบ้านไม่อาจรับได้ เป้าหมายของกฎนี้ไม่ใช่เพื่อห้ามเลี้ยงสุนัข และเราก็ไม่ได้ปรับทันทีที่ได้ยินสุนัขเห่าเพียงเล็กน้อย เมืองนี้ไม่ได้ต่อต้านสุนัข แต่ในเมื่อคุณตัดสินใจที่จะเลี้ยงพวกมัน คุณก็ต้องให้การศึกษามันด้วย,หน่วยงานปกครองท้องถิ่นผ่านกฎหมายฉบับนี้เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยห้ามไม่ให้สุนัขอยู่ในพื้นที่เลี้ยงโดยที่ไม่มีเจ้าของอยู่ใกล้ๆ เพื่อคอยห้ามไม่ให้พวกมันเห่าเป็นเวลานาน หรือเห่าอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ และสุนัขที่ชอบเห่าต้องถูกเลี้ยงไว้ในบ้าน หากพฤติกรรมของพวกมันรบกวนผู้อาศัยคนอื่นๆ กว่า 1,400 คนในเมืองโฟกีแอร์,ผู้กระทำผิด หรือก็คือเจ้าของสุนัข จะถูกปรับเงินจำนวน 68 ยูโร (ราว 2,410 บาท) แยกไปตามกรณีที่ถูกร้องเรียน,ทั้งนี้ ทางการเมืองโฟกีแอร์ ออกกฎหมายดังกล่าวหลังจากชาวบ้านยื่นหนังสือร้องเรียน ว่าสุนัขของหญิงคนหนึ่งเห่าเสียงดังรบกวน เธอมีสุนัขหลายตัว บางตัวมีขนาดใหญ่ด้วย นายเอสเตียนกล่าว เราพยายามพูดคุยกับเธอหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล ที่ผมออกคำสั่งนี้ ก็เพราะว่าผมไม่เจอทางออกอื่นๆ แล้ว และผมก็ไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆ ได้,ขณะที่ นายสเตฟาน ลามาร์ ประธานสมาคมเพื่อปกป้องสิทธิสัตว์ ออกมาประณามกฎหมายนี้ คุณควรจะห้ามการลั่นระฆังโบสถ์ในวันอาทิตย์ด้วยนะ ในเมื่อสุนัขมีปาก พวกมันก็เห่าได้ นายลามาร์บอกด้วยว่า เขาจะยื่นอุทธรณ์เรื่องนี้ต่อศาล และว่า ผมไม่เคยเห็นสุนัขเห่าตั้งแต่เช้ายันเย็นมาก่อนเลย.
|
นายกเทศมนตรีเมืองในฝรั่งเศสเริ่มใช้กฎห้ามสุนัขเห่าเสียงดัง และหลังมีคนร้องเรียนว่าหมาเห่ารบกวนทั้งวันทั้งคืน และจะปรับเงินเจ้าของหากมีคนแจ้งความ
|
ข่าว,ต่างประเทศ
|
ห้ามหมาเห่าเสียงดัง,ฝรั่งเศส,นายกเทศมนตรี,เห่าเสียงดัง,ปรับ
|
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1494950
|
อย่าจำผมหลานอภิสิทธิ์ เปลือยใจไอติม ทิ้งเงินเดือน 3 แสน มาพลิกโฉม ปชป. (คลิป)
|
เป็นอีก 1 บุคคลที่ถูกจับตา ในฐานะ ,นักการเมืองหน้าใหม่, ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่สาวๆ หลายคนกำลังกรี๊ด เพราะท่าทาง ลีลา แม้แต่หน้าตาละม้าย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคเป็นอย่างยิ่ง,ใช่แล้ว เขาคนนั้นคือ ,ไอติม นายพริษฐ์ วัชรสินธุ, ผู้ก่อตั้งกลุ่ม NEW DEM ของพรรคเก่าแก่ที่สุดในประเทศ และวันนี้ ,การเมือง The Series, จะเข้ามาเจาะลึกแก่นความคิดของเด็กหนุ่มวัย 25 ปี ผู้กล้าเสนอนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร,หนุ่มนักเรียนนอก แต่นอนร้องไห้คิดถึงบ้าน โชคดีสอบชิงทุนได้ ไม่งั้นคงไม่ได้เรียนที่อังกฤษ,ก่อนจะเข้าเรื่องการเมืองอย่างเต็มตัว เราจะพาไปรู้จักเด็กหนุ่มวัย 25 ปี ที่ชื่อ พริษฐ์ วัชรสินธุ กันก่อน โดยหนุ่มไอติม ได้ย้อนเล่าเรื่องราวชีวิตในวัยเด็ก และจุดหักเหในชีวิตที่ทำให้สนใจเรื่องการเมืองว่า,พ่อแม่ผมเป็นหมอจุฬาฯ จึงให้เราเรียนที่สาธิตจุฬาฯ ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะต้องไปเรียนต่างประเทศ แต่ช่วงปิดเทอมใหญ่ พ่อแม่ส่งไปเรียนซัมเมอร์ที่อังกฤษ ผมร้องไห้มาก คิดถึงบ้าน ภาษาก็ไม่ได้ ภาษาเดียวที่คุยกันรู้เรื่องคือภาษาบอล ต่อมาก็ได้รับคำแนะนำให้ไปลองสอบชิงทุนดู ผมก็ลองไปไม่เคยคิดว่าจะได้ เพราะหลักสูตรที่เรียนต่างกัน เพราะคนอื่นๆ มาจากโรงเรียนในอังกฤษหมด เขาเรียนทั้งอังกฤษ ละติน ฝรั่งเศส แต่ที่น่าสนใจคือ เขาให้ทุน 15 คน/ปี,หนุ่มไอติม เล่าต่อว่า ต่อมาเราไปเรียน ด้านปรัชญาและเศรษฐศาสตร์ (มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด) ส่วนตัวชอบวิชานี้ เพราะวันหนึ่งอาจจะเรียนปรัชญา เช่นรู้ได้ยังไงว่าคุณไม่ได้ฝัน หรือยกตัวอย่าง เช่น คุณไปขโมยเงินคนรวยเพื่อช่วยคนจน คุณทำสิ่งที่ถูกหรือผิด เป็นต้น แต่พออีกวัน ก็มาเรียนเศรษฐศาสตร์,อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวแล้วมีความชอบด้านนี้ และสนใจในบ้านเมืองตั้งแต่อายุ 13 ปี ตอนนั้นเรียนที่อังกฤษ เราเห็นว่าประเทศไทยกับอังกฤษมีความคล้ายกันมาก ทั้งประชากร พื้นที่ ประวัติศาสตร์ ระบบการปกครองเหมือนกันเลย แต่สิ่งที่แตกต่างมากคือ ,ความเหลื่อมล้ำ,หากถามคนในอังกฤษ ว่าจะเรียนที่ไหน คำตอบคือ เรียนโรงเรียนใกล้บ้าน แต่ในประเทศไทย พอโรงเรียนมีชื่อเสียงเปิดรับสมัคร คนแห่มาจำนวนมาก เวลาไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ทำงานในโรงพยาบาลรัฐ จะพบคนจำนวนมากที่ยอมเสียเงินเพื่อมารักษาที่โรงพยาบาลนี้,เราจะเห็นว่า โอกาสทางการศึกษาของ 2 ประเทศนี้แตกต่างกันมาก หากคุณเกิดในครอบครัวร่ำรวย หรือในกรุงเทพฯ โอกาสในชีวิตคุณอาจจะมากกว่าคนอื่น,ทิ้งเงินเดือน 3 แสน มาทำงานการเมือง เผยปรัชญาชีวิตคือคำถามว่า ทำไม?,หนุ่มนักเรียนนอก ดีกรีปริญญาโท สาขาปรัชญาการเมืองและเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ กล่าวถึงช่วงชีวิตหลังเรียนจบว่า ,ที่ผ่านมา เคยไปทำงานบริษัทที่ปรึกษาแห่งหนึ่ง ในต่างประเทศ และมีโอกาสได้ไปทำงานหลายประเทศ โดยเราไปช่วยเขาคิดนโยบายแก้ปัญหาให้ประเทศต่างๆ เช่น บางประเทศช่วยเขาคิดเรื่องการรณรงค์ทำยังไงให้คนขึ้นรถเมล์ บางประเทศช่วยเขาคิดเรื่องการท่องเที่ยว ดังนั้น ทุก 2 เดือน ผมจะเปลี่ยนโปรเจกต์ เราก็มาคิดว่าทำไมเราไม่กลับมาช่วยพัฒนาประเทศ ตรงนี้แหละที่ทำให้ผมกลับมาโดยเงินเดือนสุดท้ายที่ได้คือ 3 แสนบาท อย่างไรก็ตาม ชีวิตผมไม่เคยตัดสินใจอะไรเพราะเรื่องค่าตอบแทน,เมื่อกลับมาเมืองไทย สิ่งแรกที่ทำคือ การไปทำรายการทีวี ซึ่งเป็นรายการเจาะอาชีพคนในสังคม ซึ่งทำให้เราทราบถึงปัญหาของอาชีพต่างๆ เช่น คนขายลอตเตอรี่ คนขับวินมอเตอร์ไซค์ แม่ค้า อดีตนักโทษ ซึ่งก็เป็นพรหมลิขิตของผม ที่ได้ไปเกณฑ์ทหาร ทำให้เราไปเจอกับเพื่อนหลายๆ คนจากหลายภูมิภาคทำให้เราได้เรียนรู้ปัญหา,คำที่สำคัญที่สุดในปรัชญาชีวิตผมคือ คำว่า ทำไม อะไรที่ไม่เข้าใจต้องถาม เช่น ทำไมต้องมีการเกณฑ์ทหาร ทำไมชายไทยต้องเกณฑ์ทหาร แต่คนที่ไปเป็นทหารกลับไปตกกับคนที่มีโอกาสทางสังคมน้อย ทำไมฝึกทหารต้องรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ทำไมต้องดึงเยาวชนออกไป 2 ปี ทำให้เขาเสียรายได้หรือเปล่า เราต้องการกำลังพลเยอะขนาดนั้นจริงหรือเปล่า ส่วนหนึ่งทำไมถูกดึงไปเป็นทหารรับใช้ซึ่งไม่เกี่ยวกับความมั่นคง,การที่ผมกล้าถามว่า ทำไมกับทุกเรื่อง ซึ่งเรื่องเกณฑ์ทหาร หากเราปรับมาในระบบสมัครใจร้อยเปอร์เซ็นต์ก็จะไม่กระทบความมั่นคง ทหารก็ไม่ได้เสีย เพราะผมเสนอเพิ่มสวัสดิการ ลดความรุนแรงออกจากค่าย ประชาชนที่ไม่อยากเป็นทหารก็ไม่ได้เสีย คืน 2 ปีให้เขาไปอยู่กับคนที่รัก,ชงรีดไขมันกองทัพ เผยตัวเลขทหารเกณฑ์ไม่ควรเกิน 7 หมื่นคน ทหารรับใช้ ความรุนแรงในค่ายต้องไม่มี,คนหนุ่มไฟแรง จากพรรคประชาธิปัตย์ เน้นย้ำว่า แม้จะบอกว่า หน้าที่ชายไทยต้องเกณฑ์ทหาร คนรวยคนจนต้องเกณฑ์ทหารจริงหรือไม่ ผมตอบได้เลยว่า ไม่จริง บางคนได้เรียน รด. บางคนได้ใบดำ ไม่ใช่เพราะ โชค ด้วยเหตุนี้ภาระรับราชการทหารจึงไปตกกับคนที่มีโอกาสน้อยว่า,ปัจจุบันทหารรับสมัครปีละมากกว่า 100,000 ราย จริงๆ แล้ว แต่จากที่ได้ศึกษาตัวเลข โดยนับอัตราทหารคำนวณกับจำนวนประชากร ซึ่งประเทศเรามีตัวเลขทหารสูงเทียบเท่ากับเกาหลีใต้ แต่เกาหลีใต้เขามีเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคาม เทียบเท่ากับสิงคโปร์ สิงคโปร์เป็นประเทศเล็ก ดังนั้น อัตราทหารจึงจำเป็นต้องมีมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับประเทศที่มีอัตราใกล้เคียงกับไทยที่มีภัยคุกคามไม่มาก เราพบว่าประเทศไทยมีอัตราทหารสูงกว่าความเป็นจริง 30-40%,ดังนั้นตัวเลขความเป็นจริงของทหารในประเทศเราควรจะอยู่ที่ 60,000 - 70,000 คน หากจะลดเราก็ควรเอาสิ่งที่ไม่จำเป็นออก เช่น พลทหารรับใช้ พบว่ามีอยู่จริง ผมไม่รู้ว่ามีตัวเลขเท่าไร ซึ่งในความเป็นจริงแล้วในอนาคตภัยคุกคาม อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นในสนามรบเป็นส่วนใหญ่อีกแล้ว มันจะเกิดในรูปแบบการเมือง เศรษฐกิจ,ไอติม เปรยว่า ,ตอนเป็นทหารมีผู้กองคนหนึ่งพูดกับผมว่า ไม่รู้จะฝึกวิ่งถือปืนไปทำไม เดี๋ยวนี้ผมกดปุ่มเดียวพวกคุณก็ตายหมดแล้ว ซึ่งมันก็จริง การสร้างสัมพันธไมตรีกับประเทศเพื่อนบ้าน การสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคง ซึ่งตรงนี้สำคัญกว่าเรื่องเกณฑ์ หรือไม่เกณฑ์ทหารอีก อาจจะทำให้ประเทศชาติมั่นคงกว่าการมีทหารเยอะ ซึ่งตอนนี้ก็ถือว่ายังไม่เพียงพอ เพราะมีทหารที่สมัครใจกว่า 50,000 คน ซึ่งก็ยังไม่พอ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือการพัฒนาคุณภาพชีวิตพลทหาร,ทายาททางการเมือง กับ คำนำหน้า หลานนายอภิสิทธิ์,การเป็นหลานคุณอภิสิทธิ์ เป็นทายาททางการเมือง สร้างความกดดันให้กับนายไอติม บางไหม นายพริษฐ์ กล่าวว่า การที่ตนเป็นหลานคุณอภิสิทธิ์ ไม่เคยมีผลกระทบกับชีวิตในอดีตที่ผ่านมา ไปเรียนที่อังกฤษ ทำงานที่บริษัทต่างประเทศ ไม่เคยมีใครรู้ว่าเป็นลูกหรือหลานใคร, พริษฐ์ วัชรสินธุ,แต่ไม่ว่าวิธีการพูด หรือแม้กระทั่งหน้าตา ก็คล้ายคุณอภิสิทธิ์ มากเลย นายพริษฐ์ (อมยิ้ม) พร้อมบอกว่า ผมเปลี่ยนหน้าตาตัวเองไม่ได้,หนุ่มไอติม เล่าพลางใบหน้าเปื้อนยิ้มก่อนบอกว่า ผมจะเล่าเรื่องตลกให้ฟังเรื่องหนึ่ง ผมเป็นคนสายตาสั้นมาก มีวันหนึ่งมีอาการเคืองตามากก็เลยใส่แว่น บังเอิญไปเจอคุณอภิสิทธิ์ ก็ทัก ,อ่าวสายตาสั้นเหรอ ,อ๋อครับ สายตาสั้นมานานแล้ว ,น่าจะใส่แว่นตั้งนานแล้วนะ จะได้ไม่โดนหาว่าหน้าเหมือน ,นายพริษฐ์ เล่าพลางหัวเราะ,มันไม่กดดันหรอก จะขอเวลาพิสูจน์ บางคนชอบผมเร็วไปแต่ผลงานที่ทำไม่ดี เขาก็หยุดชอบ หรือคนที่ไม่ชอบผมเพราะไม่ชอบคุณอภิสิทธิ์ แต่เห็นผลงานผมดี เขาอาจจะหันกลับมาชอบเราก็ได้ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ อยากให้คนจำผมในสิ่งที่ผมจะทำ,ประชาชนจะได้อะไร จากที่เขาเป็นลูกหลานใคร ไม่ได้นะครับ สิ่งที่เขาจะได้คือ เราจะเสนอนโยบายอะไร จะสู้เพื่อคุณยังไงต่างหาก,ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ แก้เศรษฐกิจ ลดเหลื่อมล้ำ เพิ่มหลากหลาย,เมื่อถามหนุ่มนักการเมืองหน้าใหม่ ค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผมว่า สิ่งที่เป็นปัญหาของประเทศในขณะนี้ควรแก้เรื่องใดก่อน เขาจำแนกออกเป็นข้อๆ คือ 3 ข้อ คือ 1. ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ 2. แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ และ 3. เพิ่มความหลากหลายในสังคม,ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ,ที่ผ่านมาเราไม่เคยไปถึง มีอยู่กลุ่มหนึ่งที่ไม่เคยฟังสิทธิ์และเสียงของประชาชน แทนที่จะเปิดให้มีการเลือกตั้ง ถึงแม้ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบจะเริ่มต้นที่การเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม แต่มันไม่ได้จบลงแค่นั้น แต่เราต้องเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานด้วย สิ่งที่ประชาชนขัดข้องใจ คือ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้เลือกตั้ง แต่เขาไม่พอใจอะไรเขายังแสดงออกอย่างเสรีไม่ได้เลย,อำนาจกระจุกอยู่ที่ศูนย์รวม หากมีประเด็นอะไรที่ขัดข้องใจ อาจจะไม่ต้องพูดว่าคดีอะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนาฬิกาก็ว่าไป คนรู้สึกว่าระบบการตรวจสอบไม่เพียงพอ ดังนั้น ควรจะกลับไปที่ประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่แค่มีการเลือกตั้ง ต้องเคารพเสียงข้างมาก รักษาสิทธิมนุษยชนของทุกคนและมีกลไกการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชัน,แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ,ต้องยอมรับว่า นอกจากที่เราเสียประชาธิปไตยไปแล้ว รัฐบาลนี้ยังล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ อย่างแรกคือ เกษตร เราต้องกลับไปประกันรายได้ให้แก่เกษตรกร โดยที่ไม่ได้ประกันราคาหรือเป็นการทำลายกลไกตลาด,แนวคิดของรัฐบาลนี้มีการแก้ปัญหาคนจนที่แปลกอยู่ อย่างบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผมถามง่ายๆ ถ้าคุณแคร์คนที่ยากจนจริงๆ คุณจะออกแบบโครงการที่บังคับให้เขาซื้อบางร้านทำไม ถ้าใช้ไม่หมดเก็บออมไม่ได้ทำไม คุณออกแบบโครงการที่ต้องเสียงบประมาณ เช่นการสร้างบัตร เสียเงินไปกับเครื่องอ่านบัตรทำไม,การลดความเหลื่อมล้ำนอกจากโครงการระยะสั้นแล้ว จำเป็นต้องปรับโครงสร้างในอนาคต โดยโครงสร้างที่สำคัญตัวหนึ่งที่ฟังดูไกลตัว แต่จริงๆ แล้วใกล้มาก คือ ตัวชี้วัดที่เรียกว่า GDP พูดง่ายๆ คือ การบวกรายได้ของคนในประเทศมารวมกัน รัฐบาลภูมิใจมาก GDP ขึ้น 3-4% แต่เมื่อลงไปคุยกับคนทั่วไป บอกว่าขายไม่ค่อยดี เงียบกว่าหลายปีที่ผ่านมา แบบนี้เรียกว่าต้องมีอะไรผิดปกติสักอย่าง,นายพริษฐ์ ได้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพว่า สมมติว่า คนรวยที่สุดในประเทศไปขโมยเงินคยจนที่สุดในประเทศ 1,000 บาท ซึ่ง GDP จะยังคงเหมือนเดิม เพราะ GDP ไม่สะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำ หรือ มลพิษทางอากาศแย่มาก จนต้องไปซื้อหน้ากากมาปิดหน้า แบบนี้ GDP ดีขึ้นนะ เพราะมีการใช้จ่าย แต่คุณภาพชีวิตผมจะเป็นอย่างไร,GDP ไม่ใช่ตัวชี้วัดคุณภาพชีวิตของคน ตราบใดที่รัฐบาลที่เลือกจะอนุมัติหรือไม่อนุมัติโครงการตาม GDP เราก็จะไปเป้าหมายผิดตลอดเวลา,แพ้มาตลอด ประชาธิปัตย์ ถูกปรามาส นักการเมืองรุ่นใหม่วิเคราะห์พรรคเก่าแก่,ในฐานะของคนรุ่นใหม่ จะมีส่วนช่วยยังไงในการปรับภาพลักษณ์ ที่ผ่านมามักถูกมองว่าแพ้ไม่ได้ หรือแพ้เลือกตั้งมาตลอด ไอติม เด็กหนุ่มไฟแรง ตอบว่า เราต้องวิเคราะห์ตัวเอง ไม่มีใครปฏิเสธว่าผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา เราคาดหวังเกินกว่าสิ่งที่เราได้รับ,ทุกพรรคการเมืองต่างก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่า อยากจะได้รับคะแนนเสียงข้างมาก หรือเป็นรัฐบาลพรรคเดียว แต่เมื่อเราไม่ไปถึงจุดนั้น เราก็ต้องย้อนมองดูตัวเองเพื่อจะปรับปรุง การที่ตนเข้ามาใช่ว่าจะมาซึมซับสิ่งที่เคยเป็นอยู่แล้วดำเนินการต่อไป แต่เราต้องการมาช่วยทั้งตัวเอง คนรุ่นใหม่ และคนที่เคยอยู่มาก่อน มาช่วยกันปรับ ประชาธิปัตย์เข้าสู่ยุคใหม่,1. ต้องหนักแน่นเรื่องเสรีนิยมประชาธิปไตย, คือ ประชาธิปไตยที่มาจากเสรีที่เป็นธรรม เคารพเสียงข้างมาก โดยมีกระบวนการตรวจสอบทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจัง,2. สมาชิกพรรคต้องมีส่วนร่วม, ก้าวแรกที่สำคัญมากของ ประชาธิปัตย์ เปิดให้สมาชิกทั่วประเทศ เลือกหัวหน้าพรรคโดยตรง ตอนนี้เป็นพรรคแรกในประวัติศาสตร์และพรรคเดียวที่ทำแบบนี้ได้,หัวหน้าพรรคคนเก่า ประชาธิปัตย์จะแตกต่างจากเดิมจริงหรือ?,ที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์มีการเลือกหัวหน้าพรรค แต่คนที่ได้ก็ยังเป็นคุณอภิสิทธิ์ ซึ่งก็เป็นคนเดิม แบบนี้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในพรรคได้แค่ไหน, ,ผู้ก่อตั้งกลุ่ม NEW DEM กล่าวว่า หากคุณเป็นนักประชาธิปไตย คุณก็ต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง ที่ได้นายอภิสิทธิ์กลับเข้ามา ต้องเคารพเสียงสมาชิกที่สะท้อนมาแล้ว,ถามว่าใหม่ยังไง เชื่อว่าคุณอภิสิทธิ์ ที่ผ่านกระบวนการเลือกหัวหน้า แตกต่างจากสมัยก่อน เพราะสมาชิกเลือกให้เขามาทำหน้าที่หัวหน้าพรรค ฉะนั้น เขาต้องมีการพบปะพูดคุยกับสมาชิก ซึ่งมีการแสดงวิสัยทัศน์ซึ่งมีความแตกต่างจากสมาชิกคนอื่น ซึ่งถือว่ามีความชอบธรรมที่วาระที่เขานำเสนอมา เป็นวาระหลักของพรรคในทิศทางที่เขาอยากจะพาพรรคไป,ที่ผ่านมา มีคนปรามาสหรือไม่ที่มีการนำเสนอนโยบาย เช่น ยกเลิกการเกณฑ์ หรือกัญชา นักการเมืองหนุ่ม หน้าใส ตอบอย่างหนักแน่นว่า ถ้าผมพูดแค่ว่า อยากยกเลิกการเกณฑ์ทหาร แล้วจบแค่นั้น เชื่อว่าคนในพรรคก็ไม่เอา,แต่ถ้าบอกว่ายกเลิกเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ แล้วนำเสนอตัวเลขที่ชัดเจน เสนอรายละเอียดว่ามันจะเป็นจริงได้อย่างไร ใครจะได้ ใครจะเสีย ผมเชื่อว่าคณะกรรมการนโยบายพรรคจะเอาไปพิจารณาอย่างจริงจัง เพื่อผลักดันไปเป็นนโยบายหลักของพรรค การนำเสนอ นโยบายหนึ่ง ถึงแม้จะพูดเหมือนกัน พาดหัวเหมือนกัน แต่สิ่งสำคัญมันอยู่ที่รายละเอียด,สำหรับตน ตนใช้ 2 เกณฑ์ในการวัดนโยบาย คือ ,1. ส่งผลกระทบกับประชาชนอย่างไรบ้าง 2. ทำได้จริงหรือไม่,ทุกครั้งที่จะร่างนโยบาย เราจะคิด 2 เรื่องนี้ก่อน ทุกนโยบาย ไม่ว่าเรื่องเกณฑ์ทหาร สิทธิสตรี หรือกัญชา ถ้าผมไม่มีคำตอบ ในหลักเกณฑ์การวัดนโยบาย ตนจะไม่กล้าไปนำเสนอต่อหน้าคณะกรรมการนโยบายแน่นอน เพราะผมรู้ว่างานทางการเมือง เป็นงานที่มีความรับผิดชอบสูง เราแบกรับภาระของชีวิต 60-70 ล้านคน มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มาพูดอะไรเกาะกระแสเพียงอย่างเดียวมันไม่ได้ แบบนี้มันเป็นการไม่รับผิดชอบ,เราจะตอบคนที่เข้ามาคอมเมนต์อย่างไร ว่า อย่าดีแต่พูด นายพริษฐ์ ตอบว่า ผมจะทำให้ดู การร่างนโยบายขึ้นมาก็คือการทำ แต่ถ้ามีโอกาสรับเลือกเข้าไปก็จะทำให้เป็นจริง, คุณยังเด็กอยู่เลย คุณพูดขึ้นมาจะทำจริงได้หรือ, ,ความฝันของผม คือ อยากเห็นเด็ก 2 คน ที่เกิดในประเทศเรามีโอกาสเท่าเทียมกัน นี่คือแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมเข้ามาทำงานการเมืองตั้งแต่ต้น ถ้าเด็กคนไหนจะเก่งกว่า ต้องมาจากปัจจัยที่เขาควบคุมได้ เช่น ความสามารถ ความขยันขันแข็ง ไม่ใช่ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ คือ เกิดมาครอบครัวไหน จังหวัดไหน,ส่วนตัวผมเห็นว่า นักการเมืองที่ดี ควรจะต้องมีความคิดเห็นเกี่ยวกับทุกด้าน หรือสงสัย หรือต้องการเรียนรู้เพื่อเข้าไปแก้ไขในทุกๆ ด้าน ผมว่ามันยากที่นักการเมืองจะดูแค่เรื่องเดียว เพราะปัญหาแต่ละอย่างในแต่ละประเทศมันเชื่อมโยงกัน,ประชาชนเป็นเจ้านายผม ประชาชนมาก่อนพรรคการเมือง,มีคำพูดว่า อำนาจ ทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเอง ทีมข่าวฯ ถามนักการเมืองหน้าใหม่อย่างไอติม ว่า อะไรที่จะทำให้เรายืนหยัดในหลักการของตัวเองได้ นายพริษฐ์ ตอบทันทีว่า ประชาชน เพราะประชาชนจะเป็นคนตัดสินว่าคุณควรจะทำหน้าที่ต่อหรือไม่ เพราะประชาชนเป็นเจ้านายผม ถ้าผมสัญญากับประชาชนว่าผมจะทำนโยบายหนึ่ง ถ้าประชาชนเลือกผม ผมก็ต้องทำนโยบายนั้นให้เป็นจริงให้ได้,ถึงแม้มติพรรคจะไปอีกทางหรือ? นายพริษฐ์ ตอบว่า แม้จะสังกัดพรรคการเมือง แต่เจ้านายใหญ่ของผมคือ ประชาชน,ถึงแม้มีเรื่องอะไรที่มติพรรคขัดแย้งก็พร้อมจะยืนเคียงข้างหรือ นักการเมืองหนุ่มตอบว่า ประชาชนต้องมาก่อนพรรคการเมือง,ในอนาคต ประชาธิปัตย์จะทำงานกับเพื่อไทยได้ไหม นายพริษฐ์ กล่าวว่า มันขึ้นอยู่ที่นโยบาย มีหลายคนชอบตีความว่าประชาธิปัตย์จะไปกับนู้นนี่ แต่ประชาธิปัตย์เรามีนโยบายเสรีนิยมประชาธิปไตย ดังนั้น เราต้องดูที่ตัวตั้ง เราต้องดูแนวทางการทำงานที่ผ่านมา ของเพื่อไทย หรือ พลังประชารัฐ หรือ คสช. ทั้ง 2 ด้านนั้นแตกต่าง เราก็หวังว่าแนวทางที่เราจะเสนอตอบโจทย์,คำถามเบาๆ ทิ้งท้าย ไอติม ยังโสด ชีวิตรักเปลี่ยนแปลงทุก 4 ปี ,หลังจากถามเรื่องหนักๆ ความเข้มข้นเรื่องการเมืองไปแล้ว ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ก็ไม่พลาดที่จะเก็บเรื่องหัวใจของหนุ่มนักการเมืองสุดฮอตคนนี้มาฝาก แค่เริ่มเอ่ยถาม เขาก็ตอบติดตลกทันที,ส่วนตัวเชื่อในพรหมลิขิต ความรักของผมเหมือนประชาธิปไตย อย่างแรกคือ ความเสมอภาค เราจะไม่ทำอะไรกับเขา ในสิ่งที่เขาไม่อยากทำกับเรา คุณอยากจะทำอาชีพอะไร พบปะกับเพื่อนกลุ่มไหน ถือว่าเป็นสิทธิ แต่ที่ผ่านมาก็เหมือนประชาธิปไตยเกินไป ที่มีการเปลี่ยนแปลงทุก 4 ปีบางทีคิดว่ามีมาตรา 44 คงสบายกว่านี้ (หัวเราะ),เมื่อถามสเปกสาว ไอติมถึงกับครุ่นคิด อึกอัก ตอบว่า มันพูดยากมากเลย ต้องดูภาพรวม ส่วนตัวแล้วเชื่อในพรหมลิขิต ถ้าหากเจอคนที่ใช่เดี๋ยวมันจะมาเอง,หากจะจีบผู้หญิงสักคนจะพูดยังไง นายไอติม ตอบว่า ผมเป็นคนพูดตรงนะ ฉะนั้น (หัวเราะ) ก่อนตอบว่าไม่รู้ว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดของเขาหรือเปล่า,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
|
เปิดชีวิตทุกมุม ไอติม นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้ก่อตั้งกลุ่ม NEW DEM พรรคประชาธิปัตย์ การเมือง การเรียน ธุรกิจ ยอมทิ้งเงินเดือน 3 แสนกลับมาทำงานการเมือง
|
เลือกตั้ง
|
ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ,ไอติม หลานอภิสิทธิ์,การเมือง The Series,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,เลือกตั้ง
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1444308
|
สิทธิในการฟ้องร้องบุคลากรทางการแพทย์
|
และมีการออกมาประท้วงต่อต้านจากกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์มีการแต่งดำเผา ดอกไม้จันทน์ ฯลฯถามว่าร่างกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้เสียหายจากการให้บริการทางการ แพทย์ทั้ง 6 ฉบับ จะส่งผลเสียหรือส่งผลดีต่อประชาชน ประเด็นนี้ก็คงไปถกเถียงกันได้ต่อไป แต่ประเด็นที่ถูกหยิบยกหรือนำมาเป็น ข้ออ้าง หนึ่งในการต่อต้านของกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์คือ ประเด็นในเรื่องของสิทธิในการฟ้องคดีทั้งในส่วนของคดีอาญา และคดีแพ่ง(ทั้งนี้ไม่รวมแนวความคิดเห็นแบบสุดโต่งของคุณหมอบางกลุ่มบางคน ที่ออกมาเขียนบทความต่อต้านร่างกฎหมายดังกล่าว ถึงขนาดที่ผู้เขียนในฐานะประชาชนคนหนึ่งได้อ่านแล้วมีความผิดหวังอย่างมาก ไม่นึกว่าความคิดแบบเด็กๆ ยืนยันกระต่ายขาเดียว และประชดประชันแบบสุดโต่งจะเป็นความคิดของคนที่ร่ำเรียนมาห้าหกปี)ดังนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องของสิทธิในการฟ้องคดีของผู้เสียหายที่เกิด จากการให้บริการทางการแพทย์และไม่เกิดความสับสน จึงจำเป็นที่จะต้องขอเรียนต่อเพื่อนประชาชนให้ทราบถึงสิทธิตามกฎหมาย ปัจจุบันที่ใช้บังคับอยู่ตามลำดับดังนี้1. หากท่านเห็นว่าท่านได้รับความเสียหายจากการให้บริการทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายที่เกิดจากแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ จักษุแพทย์ โรงพยาบาล ฯลฯ ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายที่เกิดจากการให้บริการทางการแพทย์ที่ภาครัฐหรือภาค เอกชนเป็นผู้ดำเนินการท่านในฐานะผู้เสียหาย มีสิทธิที่จะดำเนินการฟ้องร้องให้มีการรับ ผิดได้ตามฐานของกฎหมายที่มีอยู่ทั้งในส่วนของ คดีแพ่งในส่วนของเรื่องละเมิดตามมาตรา 420 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และคดีอาญาตามประมวลกฎหมายกฎหมายอาญา(ซึ่งมีบทกำหนดฐานความผิดไว้หลายมาตรา โดยเฉพาะในลักษณะ 10 ของประมวลกฎหมายอาญา ที่กำหนดฐานความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกายเอาไว้ในมาตรา 288 – 309)ดังนั้น หากท่านได้รับความเสียหายจากการให้บริการทางการแพทย์ ท่านสามารถดำเนินการฟ้องร้องได้ตามสิทธิของท่านไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการเรียก ร้องในกฎหมายแพ่ง และกฎหมายอาญาได้ ทั้งนี้สิทธิในการฟ้องร้องดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบรรดาร่างกฎหมาย เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้เสียหายฯ ที่เป็นประเด็นในหน้าหนังสือพิมพ์แต่ประการใดทั้งนี้ หากความเสียหายเกิดขึ้นจากบริการทางการแพทย์หรือโรงพยาบาลของรัฐ ในการฟ้องคดีแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนนั้น จะมีความพิเศษตรงที่ท่านจะฟ้องหมอ พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ โดยตรงไม่ได้ ท่านจะต้องฟ้องนิติบุคคลหรือหน่วยงานที่บุคคลนั้นๆ สังกัดอยู่ ทั้งนี้ตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ปี 2539 (ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้สิทธิในการฟ้องคดีทางแพ่งของท่านเปลี่ยนแลงไปแต่ประการใด นั่นคือยังฟ้องได้อยู่แต่ต้องฟ้องให้ถูกคนเท่านั้นเอง)ดังนั้นสรุปได้ว่า ถ้าท่านได้รับความเสียหายจากการให้บริการทางการแพทย์ ท่านสามารถดำเนินคดีฟ้องร้องเอาผิดต่อบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นคนกระทำความ ผิดนั้นได้ทั้งในคดีแพ่งและคดีอาญา การที่จะมีกฎหมายคุ้มครองผู้เสียหายฯ หรือไม่นั้น ไม่ได้ทำให้สิทธิในการฟ้องคดีแพ่งและคดีอาญาของท่านเปลี่ยนแปลงไปแต่ประการ ใด2. ในส่วนของประเด็นความโต้แย้งไม่พึงใจของพวกคุณหมอ ทั้งหลายที่ออกมาคัดค้านต่อต้าน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลว่า2.1 กฎหมายที่จะออกมาจะทำให้คนฟ้องบุคลากรทางการแพทย์มากขึ้นซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่จริงประการใด เพราะไม่ว่าจะมีกฎหมายนี้หรือไม่ ประชาชนผู้รับบริการก็สามารถฟ้องได้อยู่แล้วตามกฎหมายปัจจุบันที่มีอยู่ตาม ที่กล่าวไว้ใน ข้อ 1. ซึ่งหากจะพิจารณาดูแล้วก็จะเห็นว่าการฟ้องบุคคลากรทางการแพทย์จะเพิ่มขึ้น หรือลดลงไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางด้านตัวบทกฎหมายแต่ประการใด หากขึ้นอยู่กับความรู้ความเข้าใจในเรื่องของสิทธิในการฟ้องคดีของผู้ได้รับ ความเสียหายมากกว่า2.2 กฎหมายที่จะออกมากำหนดภาระให้บุคลากรทางการแพทย์มากขึ้นซึ่งในส่วนนี้ก็จะมีการอ้างถึงความสัมพันธ์อันดีของคนไข้กับ บุคลากรทางการแพทย์ ฯลฯ แต่เหตุผลสำคัญอันหนี่งที่ไม่ค่อยหยิบยกมาอ้างเท่าไหร่นัก ทั้งๆที่เป็นเหตุผลสำคัญอันหนึ่งในการคัดค้านคือการกำหนดให้มีการส่งเงิน เข้ากองทุน พูดง่ายๆ ตามประสาชาวบ้านคือ หมอไม่อยากจ่ายเงินเข้ากองทุน นั่นเอง และหมอบางคนก็อาจคิดต่อไปว่า ถ้าจ่ายเงินเข้ากองทุนแล้ว ทำไมหมอจะต้องโดนฟ้องในดคีแพ่งคดีอาญาอีกล่ะ ก็จ่ายเงินไปแล้วจะเอาอะไรอีก แม้ว่าบางคนจะออกมาพูดว่าเรื่องเงินไม่เกี่ยวหรอกเพราะถ้าทำงานให้รัฐก็ไม่ ได้เสียเองอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าส่วนใหญ่บุคลากรทางการแพทย์ทั้งหลายก็จะมีไปเปิดคลี นิก ร้านขายยา ฯลฯ ส่วนตัวอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนนี้จะต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนต่างหากเพราะถือเป็นสถานพยาบาลที่มี หน้าที่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนนั่นเองการต่อต้านของหมอจะไม่มีเกิดขึ้นเลยถ้ามีกฎหมายที่เขียนว่า หากผู้เสียหายได้รับเงินตามกฎหมายคุ้มครองผู้เสียหายฯ แล้ว ผู้เสียหายไม่สามารถไปดำเนินการฟ้องร้องเอาผิดต่อหมอได้อีกทั้งในคดีแพ่งและ คดีอาญา ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยเพราะสิทธิในการฟ้องร้องเป็นสิทธิ ที่ถูกรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญไม่มีกฎหมายไหนที่จะมาตัดสิทธิดังกล่าวได้ทั้งๆ ที่หากพิจารณาถึงเนื้อหาของร่างกฎหมายต่างๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ การฟ้องคดีอาญานั้นโดยเฉพาะในร่างฯ ที่เสนอโดยผู้เสียหายนั้น บุคลากรทางการแพทย์จะได้รับประโยชน์ในการที่จะมีกฎหมายดังกล่าว เพราะ ร่างพ.ร.บ.ฯ ได้กำหนดระบุถึงการพิจารณาการกำหนดโทษโดยศาล โดยในมาตรา 45 กำหนดให้ศาลในคดีอาญาฐานกระทำการโดยประมาทที่เกี่ยวเนื่องกับการให้บริการ สาธารณสุข หากศาลเห็นว่าจำเลยกระทำผิด ให้ศาลนำข้อเท็จจริงต่างๆของจำเลยเกี่ยวกับประวัติ พฤติการณ์แห่งคดี มาตรฐานวิชาชีพ การบรรเทาผลร้ายแห่งคดี การรู้สำนึกในความผิด การที่ได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความตามมาตรา ๓๓ หรือมาตรา ๓๔ การชดใช้เยียวยาความเสียหาย และการที่ผู้เสียหายไม่ติดใจให้จำเลยได้ รับโทษ ตลอดจนเหตุผลอื่นอันสมควร มาพิจารณา ประกอบด้วยในการนี้ ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใด หรือจะไม่ลงโทษเลยก็ได้ นอกจากนั้นในมาตรา 46 ได้กำหนดโทษของการฝ่าฝืนคำสั่งของคณะกรรมการ คณะกรรมการอุทธรณ์ หรือคณะอนุกรรมการ ตามมาตรา 18 ซึ่งการฝ่าฝืนดังกล่าวมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับประเด็นสำคัญที่คุณหมอจะต้องทำความเข้าใจคือหากผู้เสียหายเห็นว่าคุณหมอ ทำผิดกฎหมายอาญา ผู้เสียหายก็ย่อมใช้สิทธิในการฟ้องให้รับผิดทางอาญาได้อยู่แล้วตามประมวล กฎหมายอาญาและประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และหากพิจารณาเนื้อหาของร่างพ.ร.บ.ฯ ดังกล่าวแล้วจะเห็นได้ว่าไม่มีบทมาตราไหนเลยที่กล่าวถึงสิทธิในการฟ้องศาล อาญาโดยอาศัยบทบัญญัติตามร่างพ.ร.บ.ฯ นี้ จะมีก็เพียงแต่บทบัญญัติมาตรา 45 ที่กำหนดบังคับให้ศาลกรณีที่ผู้ให้บริการสาธารณสุขถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดี อาญาฐานกระทำโดยประมาทที่เกี่ยวเนื่องกับการให้บริการสาธารณสุข(ซึ่งเป็น สิทธิของผู้เสียหายที่จะฟ้องคดีได้ตามประมวลกฎหมายอาญาได้อยู่แล้วตามที่ได้ ชี้แจงไว้ใน ข้อ 1.) และหากศาลเห็นว่าจำเลย(คุณหมอทั้งหลาย/บุคลากรทางการแพทย์ทั้งหลายที่โดน ฟ้องคดีอาญา)กระทำผิด และในการกำหนดโทษในส่วนของการกำหนดโทษ ร่างพ.ร.บ.ฯ นี้ได้กำหนดให้ศาลคำนึงถึงข้อเท็จจริงต่างๆ ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 45 เพื่อที่จะนำมาเป็นเหตุลดโทษเพื่อที่จะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมาย(ประมวลกฎหมาย อาญา)กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น หรือจะไม่ลงโทษเลยก็ได้หากอ่านมาตรานี้แล้วเห็นว่ามาตราดังกล่าวเป็นโทษต่อจำเลย(คุณหมอทั้ง หลาย)แล้วนั้นก็ไม่อาจหาคำอธิบายใดๆ มาเพิ่มเติมได้แต่ประการใด เพราะมาตราดังกล่าวเป็นคุณอย่างยิ่งต่อคุณหมอทั้งหลาย เช่น คุณหมอ ก. ถูกฟ้องคดีอาญาฐานกระทำโดยประมาทอันเป็นเหตุทำให้ผุ้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองหมื่นบาท(มาตรา 291 ประมวลกฎหมายอาญา) ด้วยผลของมาตรา 45 ของร่างพ.ร.บ.ฯ นี้แล้วนั้น ศาลมีทางเลือกสองทางคือลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด(ในกรณีของมาตรา 291 ประมวลกฎหมายอาญานี้โดยตัวของมาตราดังกล่าวกำหนดแต่โทษขั้นสูงเอาไว้เท่า นั้น นั่นหมายความว่าศาลสามารถใช้ดุลพินิจลงโทษได้ไม่เกินจำนวนโทษสูงสุดที่กำหนด ไว้ได้อยู่แล้ว) และอีกทางเลือกหนึ่งคือศาลจะไม่ลงโทษเลยก็ได้นั่นคือศาลสามารถตัดสินแต่ไม่ กำหนดโทษไม่ว่าจะเป็นโทษจำคุกหรือโทษปรับแต่อย่างใดนั่นเองบทบัญญัติในร่างพ.ร.บ.ฯ ที่กล่าวถึงโทษทางอาญาเอาไว้อีกมาตราหนึ่งคือในมาตรา 46 ซึ่งเป็นกรณีของการฝ่าฝืนคำสั่งของคณะกรรมการ/คณะอนุกรรมการในเรื่องของการ ให้แสดงเอกสารพยานหลักฐานหรือการให้ถ้อยคำตามมาตรา 18 นั่นเอง ซึ่งก็มีความเห็นบางความเห็นที่เห็นว่าคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการมีอำนาจ ถึงขนาดสั่งให้คนที่ฝ่าฝืนคำสั่งเข้าคุกได้เอง ซึ่งกรณีนี้เป็นความเข้าใจผิดอย่างยิ่ง เพราะหากมีการฝ่าฝืนคำสั่งตามมาตราดังกล่าวจริง คณะกรรมการจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพื่อดำเนินคดีต่อผู้ที่ฝ่าฝืนต่อไป คณะกรรมการไม่ใช่ศาลที่จะสั่งขังได้ทันทีแต่ประการใดดังนั้น เพื่อนประชาชนทั้งหลาย อย่าได้สับสนและตระหนกถึงท่าทีของบุคลากรทางการแพทย์ที่ออกมาแต่งดำประท้วง ขัดค้านกฎหมายดังกล่าว ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในสังคมประชาธิปไตยอย่างไรก็ตามหากท่านในฐานะผู้ได้รับความเสียหายจากการให้บริการ ทางการแพทย์ ท่านสามารถใช้สิทธิในการฟ้องร้องได้ทั้งในส่วนของคดีแพ่งและคดีอาญา ตามกฎหมายปัจจุบันที่ใช้บังคับอยู่ การที่จะมีกฎหมายคุ้มครองผู้เสียหายฯ ออกมาหรือไม่นั้นไม่ได้มีผลกระทบต่อ สิทธิ ในการฟ้องร้องดังกล่าวของท่านแต่ประการใด
|
ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมามีประเด็นข่าวเกี่ยวกับการออกมาเรียกร้องให้มี การออกกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้เสียหายจากการให้บริการทางการแพทย์
|
คุณภาพชีวิต
|
ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ. ...
|
https://prachatai.com/journal/2010/07/30511
|
นักปั่นไทย ยอมรับเบียดมาเลย์คว้าแชมป์อาเซียน เป็นเรื่องยาก
|
เดินทางถึงสเตจที่ 5 แล้ว สำหรับการแข่งขันเมื่อวานนี้ (4เม.ย.56) แม้ว่า ธุรกิจ บุญรัตนธนากร นักปั่นทีมชาติไทย จะอาศัยจังหวะปั่นสปริ้นเบียดคู่แข่งเข้าเส้นชัย คว้าแชมป์ในสเตจที่มีระยะทางไกลและโหดที่สุดมาได้ ด้วยเวลา 5 ชั่วโมง 5 นาที 06 วินาที และเป็นครั้งรแรกที่นักปั่นไทยทำผลงานได้ดีได้ไปยืนแท่นรับรางวัลหลังชัยชนะมีคุณป้าที่มาให้กำลังใจนักปั่นไทย ได้มอบพระให้กับ ธุรกิจ เป็นของขวัญกับชัยชนะที่ทำได้ หลังจากคว้าแชมป์ได้ ธุรกิจ ยอมรับว่า ขณะนี้สถานะการณ์ของทีมไทย ค่อนข้างยากลำบากกับการเบียดเอาชนะแย่งแชมป์อาเซียนกับทีมมาเลเซีย ทั้งประเภทบุคคลและทีม เพราะเวลายังตามค่อนข้างเยอะ ขณะที่เหลือเพียงแค่ 2 สเตจขณะนี้ในประเภทบุคคลภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์ มีเวลาตามหลังนักปั่นจากมาเลเซีย 1 นาที 16 วินาที ด้านประเภททีม นักปั่นไทย มีเวลารวมตามหลังมาเลเซียอยู่ 35 วินาที และขณะนี้กำลังแข่งขันกันในสเตจที่ 5 เป็นสเตจรองสุดท้าย เส้นทางจากตัวเมืองจังหวัดระนอง ไปเข้าเส้นชัยที่เขาหลัก รวมระยะทางกว่า 190 กิโลเมตร
|
จักรยานทัวร์ ออฟไทยแลนด์ ในช่วง 2 สเตจสุดท้าย นักปั่นไทยยอมรับว่า จะเบียดชนะมาเลเซีย คว้าแชมป์อาเซียนเป็นงานยาก เนื่องจากเวลารวมทั้งบุคคลและทีมตามค่อนข้างเยอะ
|
กีฬา
|
จักรยาน,จักรยานทัวร์ ออฟไทยแลนด์,นักปั่น,มาเลเซีย
|
https://news.thaipbs.or.th/content/159914
|
หนึ่งเสียงเปลี่ยนชีวิต ช่วยยุติความรุนแรงต่อเด็ก
|
ภาพ : นางสุภัชชา สุทธิพล รองปลัดและโฆษก พม. และนายแกรี ริสเซอร์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองเด็ก องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ร่วมกันในแคมเปญ หนึ่งเสียงเปลี่ยนชีวิต ยุติความรุนแรงต่อเด็ก.,แคมเปญกระตุ้นสังคมปกป้องอนาคตของชาติ,องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดตัวโครงการ หนึ่งเสียงเปลี่ยนชีวิต เพื่อรณรงค์ให้สาธารณชนเข้ามามีส่วนร่วมในการยุติความรุนแรงต่อเด็กในประเทศไทย ผ่านแจ้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ณ ห้องโถง ชั้น1 กระทรวงการพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์,นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุขในปี 2560 ซึ่งเก็บข้อมูลจากโรงพยาบาล 622 แห่งในประเทศไทยพบว่า มีเด็กเกือบ 9,000 คน ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากถูกทำร้ายร่างกายและถูกล่วงละเมิดทางเพศ ขณะเดียวกัน ผลสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทยปี 2558-2559 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า มีเด็กอายุระหว่าง 1-14 ปี จำนวนร้อยละ 4 หรือ ประมาณ 470,000 คน เคยถูกลงโทษทางร่างกายอย่างรุนแรงมากที่บ้าน ในขณะที่แต่ละปีกลับมีผู้แจ้งเหตุรุนแรงต่อเด็กผ่านสายด่วน 1300 เพียงแค่ 3,266 ราย ความรุนแรงต่อเด็กเป็นประเด็นที่มีผลกระทบทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว การจะยุติความรุนแรงต่อเด็กได้ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกๆคนในสังคม ในการที่จะไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉยต่อความรุนแรงทุกรูปแบบ สิ่งหนึ่งที่ทุกคนสามารถทำได้คือการแจ้งเหตุเมื่อพบเห็นหรือสงสัยว่ามีเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงต่อเด็ก ทั้งนี้เด็กไม่สามารถปกป้องคุ้มครองตนเองได้ และต้องอาศัยทุกคนในสังคมช่วยกันดูแล แคมเปญนี้ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ตลอดจนบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์ของผู้ที่เคยแจ้งเหตุ และเสียงของเด็กที่เคยถูกทำร้าย โดยมีศิลปินชื่อดัง แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล แห่งวง Got 7 มาร่วมเป็นกระบอกเสียง นอกจากนี้ยังเสนอกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความตื่นตัวในชุมชน ทั้งนี้ กระทรวง พม. ได้ให้บริการสายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับแจ้งปัญหาสังคมต่างๆ รวมถึงการใช้ความรุนแรงต่อเด็ก การทอดทิ้งเด็กและการแสวงประโยชน์จากเด็ก โดยศูนย์ฯจะรับแจ้งและให้การช่วยเหลือเด็กในรูปแบบต่างๆ เช่น การจัดหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือเด็กในภาวะวิกฤติ การประสานส่งต่อเด็กไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การให้คำปรึกษาแนะนำแก่เด็กและครอบครัวและการติดตามผล,ด้าน นายโธมัส ดาวิน ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า ความรุนแรงส่งผลให้เด็กจำนวนมากต้องมีชีวิตอยู่กับฝันร้ายวันแล้ววันเล่า แต่ฝันร้ายเหล่านั้นหยุดได้ ถ้าประชาชนที่สงสัยหรือพบเห็นเด็กถูกกระทำรุนแรงเข้าไปขัดขวางหรือยกหูโทรศัพท์เพื่อแจ้งเหตุ การศึกษาทั่วโลกของยูนิเซฟ ชี้ให้เห็นว่า ความรุนแรงต่อเด็กเกิดขึ้นในทุกช่วงอายุของเด็กและเกิดในทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน โรงเรียน ชุมชน หรือสถานที่ที่เด็กๆ ควรได้เรียนรู้ โดยมักกระทำโดยบุคคลที่ใกล้ชิดกับเด็ก ซึ่งเหตุการณ์ส่วนใหญ่มักไม่เป็นที่รับรู้หรือไม่มีการรายงาน โดยความรุนแรงสามารถส่งผลกระทบต่อเด็กทั้งทางร่างกายและจิตใจไปตลอดชีวิต บั่นทอนความสามารถในการเรียนรู้ และอาจส่งผลให้เด็กเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้ความรุนแรง นอกจากนี้ ยังเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล การทำร้ายตัวเอง เด็กทุกคนต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองเพื่อให้มีวัยเด็กที่ปลอดภัยและเป็นสุข โดยไม่ควรมีเด็กคนใดต้องใช้ชีวิตอยู่กับความหวาดกลัว เราอยากเรียกร้องให้ทุกคนตื่นตัวในการปกป้องคุ้มครองเด็กก่อนที่จะสายเกินไป เพราะทุกคนต่างมีส่วนสำคัญในการยุติความรุนแรงต่อเด็กในสังคม.
|
องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดตัวโครงการ หนึ่งเสียงเปลี่ยนชีวิต เพื่อรณรงค์ให้สาธารณชนเข้ามามีส่วนร่วมในการยุติความรุนแรงต่อเด็ก
|
ข่าว,สังคม
|
หนึ่งเสียงเปลี่ยนชีวิต,องค์การยูนิเซฟ,ยูนิเซฟ ประเทศไทย,กระทรวง พม.,ความรุนแรงต่อเด็ก,ล่วงละเมิดทางเพศ,ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก
|
https://www.thairath.co.th/news/society/1571628
|
แนะนำหนังสือทรงคุณค่า พระราชนิพนธ์ ร.2 ครบชุด
|
ถุงผ้าสีเขียวที่ตัดเย็บสวยงาม ประทับตรา อุทยาน ร.2 ไว้ด้านหน้า เห็นถนัดชัดเจน,ต้องขอขอบพระคุณ ,ท่านผู้หญิงวิลาวัณย์ วีรานุวัตติ์, กรรมการในคณะกรรมการดำเนินงานมูลนิธิ พระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่กรุณาส่งหนังสือชุดนี้มาให้ผม ซึ่งผมจะได้มอบต่อแก่ห้องสมุด ของศูนย์ข้อมูลไทยรัฐ เพื่อเก็บไว้ให้พวกเราชาวไทยรัฐได้ใช้ประโยชน์ต่อไป,เป็นหนังสือรวม บทพระราชนิพนธ์ ของในหลวงรัชกาลที่ 2 ถึง 5 ชุดด้วยกัน ได้แก่ บทละครเรื่อง อิเหนา รวม 3 เล่ม, บทละครเรื่อง รามเกียรติ์ 2 เล่ม, บทละครนอก 5 เรื่อง ได้แก่ สังข์ทอง, ไชยเชษฐ์, ไกรทอง, มณีพิชัย และ คาวี รวม 1 เล่ม,พร้อมด้วยบทละครเรื่อง อุณรุท 1 เล่ม และรวมเรื่องเบ็ดเตล็ดได้แก่ เห่บทชม เครื่องคาวหวาน บทพากย์ รามเกียรติ์ และ เสภาขุนช้างขุนแผน รวม 1 เล่ม,ทั้งหมดนี้จัดพิมพ์ขึ้นจากต้นฉบับเดิม ที่เป็นสมุดข่อยบ้าง สมุดโบราณบ้าง แต่มีการชำระโดยผู้สันทัดกรณีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว,หรืออย่างบทละครนอก 5 เรื่อง แต่เป็นเรื่องสั้นๆ อันได้แก่ สังข์ทอง, ไชยเชษฐ์, ไกรทอง, มณีพิชัย และ คาวี ก็นำมาพิมพ์ไว้เป็นเล่มเดียว อ่านรวดเดียวได้ครบทั้ง 5 เรื่อง,ผมเปิดเรื่อง สังข์ทอง อ่านก่อนเล่มไหนทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ตอน กำเนิดพระสังข์, ถ่วงพระสังข์, นางพันธุรัตเลี้ยงพระสังข์, พระสังข์หนีนางพันธุรัต ฯลฯ ไปจนถึง พระสังข์ตีคลี ที่เคยเรียนสมัยมัธยมต้น,ที่ขึ้นกลอนบทแรกว่า, มาจะกล่าวบทไปถึงท้าวสหัสนัยน์ ตรัยตรึงศา ทิพอาสน์เคยอ่อนแต่ก่อนมา กระด้างดั่งศิลาประหลาดใจ, นั่นแหละครับ,แม้ผมจะไม่สามารถอ่านได้จนจบทุกเล่มในระยะเวลาอันสั้น แต่ก็ได้เปิดอ่านคำนำของทุกเล่ม ซึ่งจะบ่งบอกถึงเรื่องราวความเป็นมา และประวัติต่างๆของบทละครเอาไว้ให้ทราบพอสังเขป,บางเรื่องอย่างเช่น ไกรทอง ซึ่งเป็น ,นิทานพื้นบ้าน, ก็จะมีการเล่าเรื่องย่อของนิทานนั้นๆไว้ด้วย,ส่วนภาพประกอบเรื่องของทุกเล่มได้มีการนำภาพที่บรรจงวาดไว้ทั้งโดยจิตรกรรุ่นเก่าและรุ่นใหม่มาลงพิมพ์ไว้ด้วย ทำให้การอ่านบทกลอนต่างๆมีอรรถรสเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าทีเดียว,ทำให้ผมมีความเห็นเพิ่มเติมว่า น่าจะมีการเผยแพร่หนังสืออันทรงคุณค่ายิ่งชุดนี้ไปตามสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั้งในระดับโรงเรียนมัธยม ศึกษา และระดับอุดมศึกษา เพื่อให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสสัมผัส และเรียนรู้ วรรณคดีไทยจากพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 ฉบับเต็มรูปอย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น,จะเป็นทางหนึ่งในการเสริมสร้างให้เยาวชนไทย มีความรักความนิยมและเห็นถึงคุณค่าของบทพระราชนิพนธ์ ที่มีอายุยืนยาวมาเกือบเท่าๆกับอายุของกรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อประโยชน์ในการที่จะอนุรักษ์ไว้และสืบทอดต่อ เมื่อเยาวชนเหล่านั้นเติบใหญ่ขึ้น โดยไม่สิ้นสุด,ปรากฏว่า เมื่อพลิกดูเอกสารประกอบที่ทางมูลนิธิฯแนบมาด้วย ก็พบว่าใจตรงกันเป๊ะเลย เพราะทางมูลนิธิฯก็มีความประสงค์จะเผยแพร่หนังสือชุดนี้ไปสู่สถาบันการศึกษาอยู่แล้ว จัดตั้งเป็นโครงการสมทบทุนซื้อหนังสือพระราชนิพนธ์ เพื่อมอบให้แก่สถานศึกษาทั่วประเทศ พร้อมกับเชิญชวนให้ร่วมสมทบด้วยวิธีการต่างๆ,ขอเชิญท่านที่มีจิตศรัทธาสอบถามรายละเอียดได้ที่มูลนิธิ ร.2 หมายเลขโทรศัพท์ 0-2281-7435,0-2282-1442, 0-2282-0681 หรือ Add Line ID : august_st หรือ Inbox facebook : อุทยาน ร.2 ได้ตั้งแต่บัดนี้,สำหรับท่านที่ประสงค์จะซื้อเก็บไว้เองเป็นสมบัติประจำบ้าน โปรดติดต่อตามช่องทางที่ผมคัดลอกมาไว้ข้างต้นเช่นเดียวกัน ในราคาชุดละ 3,000 บาท ซึ่งไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับคุณค่าของหนังสือชุดนี้ แล้วยังนำไปลดหย่อนภาษีได้อีก,ส่วนผมนั้นเมื่อส่งมอบให้แก่ห้องสมุดไทยรัฐเรียบร้อยแล้ว จะพยายาม ตามไปอ่านให้ครบทุกเรื่องให้จงได้ โดยเฉพาะเรื่อง ,อิเหนา, ที่ผมชอบมาตั้งแต่เด็ก แต่มีโอกาสได้อ่านเพียงกระท่อนกระแท่น ไม่ครบทุกตอน,ครั้งนี้มูลนิธิฯจัดรวมพิมพ์มาให้ 1 ชุด 3 เล่ม ครบถ้วนบริบูรณ์ได้อ่านจบเรื่องกันเสียทีตอนแก่ตัวนี่แหละครับ.,ซูม
|
ผมได้รับหนังสือชุดหนึ่ง เป็นหนังสือปกแข็ง จัดพิมพ์อย่างดี บรรจุอยู่ในกล่องแบ่งเป็นชุดเรียบร้อยหลายๆกล่อง โดยมีถุงผ้าสีเขียวที่ตัดเย็บสวยงาม ประทับตรา อุทยาน ร.2 ไว้ด้านหน้า เห็นถนัดชัดเจน
| null |
เหะหะพาที,ซูม,แนะนำหนังสือ,พระราขนิพนธ์,นิทานพื้นบ้าน,สังข์ทอง,อิเหนา
|
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1676483
|
ก็มาดิค้าบ พญาหงส์ อำมหิตบุกหักคอเสือใต้ 3-1 ผงาดเข้ารอบ 8 ทีม UCL
|
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายเลกสองประจำวันที่ 13 มี.ค. ที่สนามอัลลีอันซ์ อารีนา เป็นการพบกันระหว่าง บาเยิร์น มิวนิก พบกับ ลิเวอร์พูล,นาทีที่ 9 เป็นโอกาสทองของ เสือใต้ ติอาโก อัลคันทารา เก็บตกแถวสองก่อนปั่นโค้งบอลเหินข้ามคานออกไป,อีกสามนาทีต่อมา หงส์แดง เสียโควต้าอย่างไว จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เล่นต่อไม่ไหว คลอปป์ ต้องแก้เกมอย่างไวส่ง ฟาบินโญ ลงสนามมาแทน,กระทั่งนาทีที่ 26 ลิเวอร์พูล ก็ได้ประตูขึ้นนำจนได้ 1-0 จากลูกวางบอลยาวของ ฟานไดค์ บอลมาถึง มาเน จับบอลลง นอยเออร์ วิ่งมาหาบอลไม่เจอ โดน มาเน พลิกหลบก่อนยิงเข้าไปเลย,นาทีที่ 39 เสือใต้ มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากลูกวางบอลยาวบอลหลุดถึง แซร์จ กนาบรี ตบเข้ากลาง โจเอล มาติป สกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองและครึ่งแรกก็จบลงที่สกอร์นี้,ครึ่งหลังเป็นไปอย่างสูสีกระทั่งนาทีที่ 69 หงส์แดง มาได้ประตูออกนำอีกครั้ง 2-1 จากลูกเตะมุม เจมส์ มิลเนอร์ เปิดให้กับ เวอร์จิล ฟานไดค์ ขวิดเข้าไป,นาทีที่ 84 หงส์แดง ได้ประตูตอกฝาโลง 3-1 โอริกี ที่เพิ่งลงมาพาบอลตัดในก่อนไหลให้กับ ซาลาห์ ก่อนบรรจงตักไปแถวสองให้กับ มาเน โขกตุงตาข่าย,เวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่ม หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทำได้บุกไปเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิก 3-1 รวมผลสองนัดเอาชนะ 3-1 ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศต่อไป,รายชื่อตัวจริงของทั้งสองทีม,บาเยิร์น มิวนิก : 4-2-3-1 : มานูเอล นอยเออร์, ราฟินญา, นิคลาส ซูเล, มัตส์ ฮุมเมิลส์, ดาวิด อลาบา, ฆาเบียร์ มาร์ติเนซ, ติอาโก อัลคันทารา, แซร์จ กนาบรี, ฮาเมส โรดริเกซ, ฟรองค์ ริเบรี : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี,ลิเวอร์พูล : 4-3-3 : อลิสสัน เบกเกอร์ : เทรนด์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์,โจเอล มาติป, เวอร์จิล ฟานไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน : เจมส์ มิลเนอร์ ,จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน : ซาดิโอ มาเน, โม ซาลาห์, โรแบร์โต เฟอร์มิโน
|
หงส์แดง ลิเวอร์พูล สวมบทโหดบุกไปยำใหญ่ เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิก 3-1 ผงาดเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกต่อไป
|
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
|
ลิเวอร์พูล,บาเยิร์น มิวนิก,ผลบอล,ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
|
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/eufa/1518736
|
สูงตึก 8 ชั้น หวาดเสียวยันตาตุ่ม ZipLine เที่ยวโดนใจสายแอดเวนเจอร์
|
ไทยรัฐออนไลน์, ชวนขาเที่ยวสายแอดเวนเจอร์ ไปสนุกสุดเหวี่ยงกับกิจกรรมโหนสลิงกลางอากาศ หรือที่เรียกันว่า Zip Line ซึ่งตอนนี้ในเมืองไทยมีอยู่หลายแห่ง เช่น Flight of the Gibbon เชียงใหม่,Zip Line Singha Park เชียงราย,Flying Hanuman ภูเก็ต,Flying Squirrels Zip Line เชียงใหม่,Tree Top Adventure Park กาญจนบุรี,Sarika Adventure point นครนายก ,แต่ในครั้งนี้เราจะพาไปเที่ยวที่ Zip Line Singha Park จ.เชียงราย กันก่อน ไปดูซิว่าที่นี่มีทีเด็ดยังไง,1. Singha Park เชียงราย มีอะไรน่าเที่ยว?,สิงห์ปาร์ค (Singha Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรของ จ.เชียงราย ภายในประกอบไปด้วย ไร่ชา ไร่ผลไม้ แปลงผัก สวนดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ สวนสัตว์ ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลผลิตในไร่ มีบริการรถฟาร์มทัวร์ ชมบรรยากาศโดยรอบ เก็บชาและถ่ายรูปสวยๆ ในพื้นที่กว่า 600 ไร่ รวมถึงมีกิจกรรมแอดเวนเจอร์สนุกๆ ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย เช่น Zipline ปั่นจักรยาน ปีนหน้าผาจำลอง ,2. สูงเท่าตึก 8 ชั้น ระยะทาง 1,400 เมตร,หนึ่งในกิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่ต้องไปลองสักครั้งในชีวิต ก็คือ Zipline Tower (หอคอยซิปไลน์) เป็นกิจกรรมโหนตัวกลางอากาศด้วยสลิง ปล่อยตัวให้บินไปกับสลิงระยะทางกว่า 1,400 เมตร โดยต้องกระโดดออกจากหอสูงเท่าตึก 8 ชั้น ,กิจกรรม zipline มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ฐาน เช่น ฐานชมวิวไร่ชาแบบ 360 กว้างสุดลูกลูกตา, ฐานหอคอย Zipline ซึ่งระดับความสูงของแต่ละเนิน ประมาณ 430-450 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล จากมุมที่เราห้อยโหนตัวอยู่นี้ ทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ของไร่ชา ทุ่งดอกไม้ บึงน้ำ และธรรมชาติอันสวยงามได้แบบ 360 องศาแบบเบิร์ดอายวิวเลยทีเดียว,3. ไม่ถนัดบิน ไปปั่นแทนก็ได้ ,หากใครไม่ชอบความสูงและความหวาดเสียวเบอร์นี้ล่ะก็แนะนำให้ลดความสะพรึงลงมา แล้วไปสนุกกับกิจกรรมปั่นจักรยานในเส้นทางสวยงามรอบๆ ไร่ชาและทุ่งดอกไม้ เขามีบริการให้เช่าจักรยานด้วย ราคาประมาณ 150 บาทต่อคัน ปั่นชมวิวระดับภาคพื้นดิน ก็สวยไม่แพ้วิวจากบนฟ้าเลยนะ แถมระหว่างปั่นก็ได้รับลมเย็นๆ ปะทะใบหน้า สดชื่นมากๆ,นอกจากกิจกรรมยอดฮิตอย่าง ปั่นจักรยาน และ Zipline แล้ว ยังมีกิจกรรมที่อยากชวนมาวัดใจกับความสูง และทดสอบกำลังขาของตัวเอง แนะนำนี่เลย ปีนหน้าผาจำลอง ใครชอบท้าทายเป้าหมายของตัวเอง ต้องลอง,4. มีสวนสัตว์ด้วยนะ,เล่นกิจกรรมแอดเวนเจอร์แล้ว ถ้าอยากพักเหนื่อย ก็สามารถไปเที่ยวชมสวนสัตว์ของที่นี่ได้ มีทั้งยีราฟ ม้าลาย นกแก้ว วัววาตูซี่ เป็นต้น,5. ไร่ชาและทุ่งดอกคอสมอส,ปิดท้ายกับวิวไร่ชาเขียวขจี และทุ่งดอกคอสมอสแสนสวย บรรยากาศดี ลมเย็นสบาย แถมมีมุมให้แชะภาพสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึกอีกเพียบ,ที่ตั้ง :, อ.เมือง จ.เชียงราย จากสนามบินแม่ฟ้าหลวง หรือถนนเส้นแม่สาย-แม่จัน จากสามแยกวัดร่องขุ่น เลี้ยวขวาแล้วตรงไปอีก 5 กิโลเมตร จะเจอสามแยก แล้วเลี้ยวขวาอีกครั้ง ตรงไปอีก 2 กิโลเมตร สิงค์ปาร์คจะอยู่ทางซ้ายมือ เปิดบริการทุกวัน 08.00-17.00 น., ร้านอาหาร 11.00-22.00 น.,ติดต่อสอบถาม :, 091-890-7394,ที่มาภาพบางส่วน : ,SinghaparkChiangrai
|
ไม่ใช่ว่าจะเที่ยวสโลว์ไลฟ์อย่างเดียวนะ แต่รู้มั้ย? เที่ยวหน้าหนาวแบบนี้ ยังมีกิจกรรมแอดเวนเจอร์สนุกๆ ท้าทายขาเที่ยวที่ชื่นชอบความตื่นเต้นอย่าง Zip Line โหนสลิงจากความสูงหลายร้อยเมตรอยู่กลางอากาศ!
|
ไลฟ์สไตล์,ท่องเที่ยว
|
เที่ยวแอดเวนเจอร์,เที่ยวโหนสลิง ที่ไหนบ้าง,เที่ยว ZipLine สิงห์ปาร์ค,กิจกรรมท่องเที่ยว Zip Line,ซิปไลน์ สิงห์ปาร์คเชียงราย
|
https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/thaitravel/1123357
|
ฮามันน์ แนะ ผี-หงส์-ปืน ทุ่มซื้อ เลวาน เสริมคม
|
อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล ทุ่มเงินจำนวนมหาศาล เพื่อคว้า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ดาวยิงของทีมบาเยิร์น มิวนิก ไปเสริมแนวรุก,สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 18 ก.พ. ว่า ดีทมาร์ ฮามันน์ อดีตกองกลางทีมชาติเยอรมัน ออกมาแนะแนะนำให้ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ปืนใหญ่ อาร์เซนอล และ หงส์แดง ลิเวอร์พูล สามสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทุบคลังสโมสรทุ่มเงินคว้า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี กองหน้าทีมชาติโปแลนด์ ของ เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิก ทีมแกร่งแห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ไปร่วมทัพ เพราะเชื่อว่าเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก,สำหรับ เลวานดอฟสกี ย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิก เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้วแบบไม่มีค่าตัว อย่างไรก็ตาม ในเกมแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เจ้าตัวตกเป็นเพียงตัวสำรอง และต้องรอถึงนาทีที่ 75 ของเกม กว่าจะได้ลงสนาม โดย ฮามันน์ เชื่อว่า เลวานดอฟสกี ไม่ได้ลงเป็นตัวจริงเท่าที่ควร จึงออกมากระตุ้นให้ 3 ทีมดังในอังกฤษดึงไปร่วมทีม,หากคุณมองไปยัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมคิดว่าพวกเขาอาจสนใจ เลวานดอฟสกีก็ได้นะ ในตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล และรวมไปถึง อาร์เซนอล เลวานดอฟสกี เหมือนกับกองหน้าที่ในแบบที่พวกเขาต้องการนะ เขาย้ายมา บาเยิร์น มิวนิก ในปีที่ผ่านมา แบบไม่มีค่าตัว แต่หากว่ามีโอกาสที่จะได้เขาไปร่วมทัพ ผมคงจะไปทุบคลังเพื่อคว้าเขามาให้ได้ เพราะสำหรับผม ผมคิดว่าเขาคือกองหน้าเบอร์ 9 ที่ดีที่สุดในโลก,ทั้งนี้ เลวานดอฟสกี ซัดไปแล้ว 11 ประตูให้กับ บาเยิร์น มิวนิก ในฤดูกาลนี้
|
ดีทมาร์ ฮามันน์ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน แนะนำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล ทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อคว้า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ดาวยิงของทีมบาเยิร์น มิวนิก ไปเสริมแนวรุก
| null |
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ลิเวอร์พูล,อาร์เซนอล,บาเยิร์น มิวนิก,โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/482060
|
ชัย ศิษย์อาจารย์บี้ ฟันธงทีเด็ดศึกยอดมวยไทยรัฐ 13 ส.ค.
|
ศึกยอดมวยไทยรัฐ สัปดาห์ที่ 48 ประจำวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2559 ชัย ศิษย์อาจารย์บี้ จากคอลัมน์ชี้มวยเด็ด หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ กลับมาประจำหน้าที่ฟันธงมวยเด็ดสัปดาห์นี้เช่นเคย,แสงตะวัน เกียรติกำธร มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงฉลาดกว่า จะชนะ เจนรบ ซูจีบะหมี่เกี๊ยว ชนิดสนุกอีกครั้ง 110ป.,สลาตัน โตโยต้าระยอง มวยทรหดเตะขาต่อยหมัดแทงเข่าศอกรุนแรงจิตใจสู้มีฮึดตลอด จะชนะ มังกรเพชร สก.สุไหงยิมส์ มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงแต่ปะทะยืดเยื้อมียุบท้ายๆ 108 ป.,ดอกไม้เงิน ป.พงษ์สว่าง มวยเก่าจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกรุนแรงเก๋าเกมคู่บารมี จ่าตุ๊ ทรงพล พงษ์สว่าง แต่สภาพสังขารไม่อำนวย จะแพ้ จรวดศึก ก.กัมปนาท มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกรุนแรงถ้าไม่เกรงศักดิ์ศรีรุ่นน้ามีลุ้น 122 ป.,คู่เอก อินทราชัย ช.ห้าพยัคฆ์ มวยทรหดเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดแต่รูปร่างช่วงชกเป็นรอง จะแพ้ ก้องนครบาล ส.กิจรุ่งโรจน์ มวยสูงยาวจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดชนิดสนุก 142 ต่อ 144 ป.,สิงห์ดำ รถบ้านสมเกียรติตรัง มวยแข็งแกร่งเตะแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงกว่าจะชนะ หนุ่มพิบูลย์ ราชานนท์ 111 ป.,คลังอาวุธสก. สุไหงยิม จะชนะ ดีเซลเล็ก สิงห์มาวิน 116 ป.,สำหรับศึกยอดมวยไทยรัฐ ประจำวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคมนี้ สถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ถ่ายทอดสดให้ชมกันตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป
|
ชัย ศิษย์อาจารย์บี้ วิเคราะห์วิจารณ์ฟันธง ศึกยอดมวยไทยรัฐ สัปดาห์ที่ 48 คู่เอกเป็นการพบกันระหว่าง อินทราชัย ช.ห้าพยัคฆ์ กับ ก้องนครบาล ส.กิจรุ่งโรจน์ ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 14.00 น. วันเสาร์ที่ 13 ส.ค.นี้
| null |
ศึกยอดมวยไทยรัฐ,ไทยรัฐทีวี,ชัย ศิษย์อาจารย์บี้,ชี้มวยเด็ด,อินทราชัย ช.ห้าพยัคฆ์,ก้องนครบาล ส.กิจรุ่งโรจน์
|
https://www.thairath.co.th/content/688087
|
แฉอุตสาหกรรมยาข้ามชาติ ดันกลุ่มผู้ป่วยเสนอ พ.ร.บ.ยา ตัดทางอย.ต่อรองราคายา
|
อุตสาหกรรมยาล่ารายชื่อผู้ป่วย 10000 รายชื่อ เพื่อสนับสนุนร่างกฎหมายที่จัดทำโดยบริษัทยา ห้าม อย.ต่อรองราคายา ประธานกลุ่มศึกษาปัญหายา เรียกร้องบริษัทยาข้ามชาติยุติการใช้ผู้ป่วยเป็นเครื่องมือ(3 ก.ค.56) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ชมรมสายใยความหวังผู้ป่วย ซึ่งสนับสนุนโดยสมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์ (พรีม่า) สมาคมบริษัทยาข้ามชาติที่ทำธุรกิจในประเทศไทย ได้ออกจดหมายเชิญชวนให้สมาชิกร่วมลงรายชื่อเสนอร่าง พรบ.ยา พ.ศ(ฉบับเครือข่ายประชาชนรักษ์สุขภาพ) โดยมีสาระสำคัญไม่ให้ อย.ทำหน้าที่ต่อรองราคายานิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เห็นว่า วิธีนี้อุตสาหกรรมยาข้ามชาติใช้มาแล้วทั่วโลกเพื่อแบ่งแยกให้ผู้ป่วยทะเลาะกันเอง โดยใช้เงินเป็นตัวล่อสนับสนุนกลุ่มผู้ป่วยบางกลุ่มเพื่อพูดแทนบริษัทยาข้ามชาติ หากจำกันได้เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว มีความพยายามที่จะยุบคณะอนุกรรมการกำหนดราคากลางยาและพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ เมื่อไม่สำเร็จสมาคมพรีม่าก็ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีขอให้ยกเลิกการต่อรองราคายา แต่ขณะนี้ เขากำลังหลอกใช้ผู้ป่วยกลุ่มหนึ่งและสถาปนาคนของตัวเองในนามผู้ป่วยเข้าไปเป็นตัวแทนเพื่อรักษาประโยชน์ของบริษัทยาต้องตั้งคำถามในเชิงจริยธรรม ล้วงเงินจากกระเป๋าซ้าย แล้วก็ทำทีเป็นเทวดา มาสนับสนุนการทำงานผู้ป่วย เงินมาจากการฉกฉวยเอาประโยชน์จากผู้ป่วย น่าตั้งคำถามกับกระบวนการสนับสนุนว่า ทำเพื่ออะไร เพื่อรักษาราคาแพงเอาไว้ ไม่ให้รัฐต่อรองราคายา ล้างสมองว่า ยาต้องลงทุนวิจัย ห้ามต่อรอง แพงๆ นั่นแหละเหมาะสมแล้ว ที่ผ่านมา คนทำงานด้านเอดส์ถูกยื่นข้อเสนอจากบริษัทยามาตลอด ให้เงิน ให้ทำกิจกรรม เสนอให้ไปดูงานต่างประเทศ เสนอ ความร่วมมือวิชาการ เพื่อให้ข้อมูลโดยตรงกับผู้ป่วย ซึ่งเราพร้อมทำงานกับทุกฝ่าย แต่เราไม่รับเงินบริษัทยา เพราะเงินเหล่านั้นคือเงินของเราที่เขาขโมยไปในรูปของราคายาแพงๆ มีบทเรียนช่วงแรกๆ ที่บางองค์กรรับ แต่พบว่า เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาความเอารัดเอาเปรียบของบริษัทยา เรื่องราคายา คุณพูดได้อย่างไม่เต็มปากเต็มคำ ฉะนั้น 20 ปีของการทำงานเอดส์ในประเทศไทย แทบไม่มีการรับเงินบริษัทยาเรื่องสำคัญคือ ในระบบสุขภาพของประเทศ ต้องได้ยาที่ดีในราคาที่เหมาะสม การได้ยาในราคาที่เหมาะสม ไม่เคยได้มาจากการสำนึกรู้เองของบริษัทยาแต่ได้มาด้วยการต่อรอง มีกลไกสำคัญที่รู้โครงสร้างราคา เจรจาต่อรองให้มีการลดราคา มีกลไกบัญชียาหลักที่คำนึงถึงประสิทธิภาพ และราคา กลไกแบบนี้สำคัญ แต่บริษัทยาข้ามชาติกำลังจะยื่นกฎหมายในนามผู้ป่วยเพื่อทำลายกลไกสำคัญในการต่อรองราคายาเหล่านี้ เท่ากับการฆ่าผู้ป่วย และที่สำคัญจงใจจะแบ่งแยกให้ผู้ป่วยทะเลาะกันเอง ซึ่งทำสำเร็จมาแล้วทั่วโลกนอกจากนี้ผู้อำนวยมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ยังตั้งข้อสังเกตเรื่องการจัดการเด็ดขาดกับผู้ผลิต-นำเข้ายาปลอมว่า หากเป็นยาปลอมตาม พ.ร.บ.ก็ต้องสนับสนุน แต่เกรงว่า จะพยายามขยายนิยามยาปลอมให้ครอบคลุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาตามที่พรีม่าผลักดันมาตลอด และยังเห็นว่า มีความพยายามสอดแทรก ระบบที่เรียกว่า Patent Linkage ให้ อย.ทำหน้าที่เป็นตำรวจทรัพย์สินทางปัญญาตามความต้องการของสหรัฐฯด้วยทางด้าน ผศ.ภญ.สุนทรี ท.ชัยสัมฤทธิ์โชค ประธานกลุ่มศึกษาปัญหายา ได้ชี้ให้เห็นว่าการส่งเสริมการขายยาสู่บุคลากรสุขภาพเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพราะมีผลกระทบต่อการสั่งจ่ายยา หรือจัดหายาทำให้เกิดการใช้ยาไม่สมเหตุผล และยังทำให้ยาราคาแพงขึ้นจากต้นทุนการส่งเสริมการขายยา ดังนั้น ร่าง พ.ร.บ.ยา ที่เสนอโดยบริษัทยาข้ามชาติครั้งนี้ จึงเป็นการดิ้นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของธุรกิจตนเองโดยแท้ ที่ผ่านมาได้เห็นความพยายามของภาคธุรกิจที่ให้ตัดส่วนของการควบคุมการส่งเสริมการขายยาออกไปจากร่าง พ.ร.บ.ยา ในหลายกรรมหลายวาระ ที่ชัดเจนที่สุดคือร่างกฎหมาย ฉบับของภาคธุรกิจ ที่ไปอ้างใช้ชื่อกลุ่มผู้ป่วยมาเป็นเจ้าของ ทั้งที่กลุ่มอุตสาหกรรมยาเป็นผู้ยกร่างและให้การสนับสนุนงบประมาณในการจัดตั้งให้แก่กลุ่มนี้มาอย่างต่อเนื่องมีงานวิจัยหลายชิ้นจากต่างประเทศ ที่แสดงความห่วงใยเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของผู้ประกอบวิชาชีพ แม้แต่สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส ยังประกาศกฎหมาย ให้เปิดเผยมูลค่าการสนับสนุนเงินแก่แพทย์เพื่อทำให้เกิดความโปร่งใสในการทำงานระหว่างบริษัทยา เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ จึงขอเสนอว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันจัดกระบวนการ จัดการระบบธรรมาภิบาล ให้มีความโปร่งใส ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนเรื่องแรกที่ต้องทำ หากอุตสาหกรรมยาจริงใจ คือ การประกาศจุดยืนด้านจริยธรรม ยุติการส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรม ยอมรับและนำเกณฑ์จริยธรรมว่าด้วยการส่งเสริมการขายยาของประเทศไทยมาปฏิบัติ ไม่ปล่อยให้เป็นเกณฑ์ที่ไม่ส่งผลในทางปฏิบัติอย่างทุกวันนี้ ทั้งที่ผ่านมติของคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2555ส่วนประเด็นเรื่องผู้ป่วยที่ได้รับการสนับสนุนจากอุตสาหกรรมยา ปัจจุบันพบมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นเรื่องละเอียดอ่อนกว่า หากให้การสนับสนุน จะต้องกระทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ เปิดเผย ไม่มีผลประโยชน์ใด ๆ แอบแฝง มิฉะนั้นแล้ว เป็นการกระทำที่ขาดจริยธรรมอย่างยิ่ง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในกลุ่มผู้ป่วยในเรื่องยาหลายประเด็นประธานกลุ่มศึกษาปัญหายากล่าวว่า ยาในประเทศไทยที่เป็นยาผูกขาด (มีสิทธิบัตร) จำนวนมาก มีราคาแพงมากกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว ทั้งนี้กลไกการควบคุมราคายาตามกฎหมายแบบหลวมๆ ที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการให้แสดงราคาที่จำหน่ายเท่านั้น จึงเป็นที่ชื่นชอบของธุรกิจยา เพราะเป็นการเปิดอิสระในการกำหนดราคายา โดยภาคอุตสาหกรรม และไม่มีกระบวนการควบคุมราคาใดๆ เลยไม่มีการประชุมคณะอนุกรรมการใดๆ ดังนั้น จึงเป็นความพยายามที่จะยังยืนยันมาตรการที่ไม่มีประสิทธิภาพนี้ ในร่างกฎหมาย ฉบับประชาชนปลอมๆ ทั้งที่ในประเทศผู้ผลิตยาทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสหราชอาณาจักร ล้วนมีระบบการควบคุมราคายาที่เข้มแข็งทั้งสิ้น แม้จะเป็นประเทศผู้ผลิตยาก็ตาม ดังนั้น การมาพยายามทำให้กระบวนการควบคุมราคายาของไทยอ่อนแอลง ยิ่งจะความสร้างเสียหายให้กับทั้งประเทศไทยและคนไทย ส่วนหลักเกณฑ์และวิธีการในการขึ้นทะเบียนตำรับยาชื่อสามัญใหม่ที่ อย. ดูแลอยู่ในปัจจุบันนั้นก็เป็นระบบที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว และก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการมียาชื่อสามัญใหม่เข้าสู่ท้องตลาดนั้น เป็นผลดีกับผู้ป่วยเพราะมีโอกาสเข้าถึงยามากขึ้น ส่วนผู้ที่เสียประโยชน์มีเพียงบริษัทยาต้นแบบที่ต้องลดราคายา ลดกำไรของตนเองลงมาแข่งขัน ข้อเสนอนี้จึงไม่ใช่ความต้องการของผู้ป่วยอย่างแน่นอนทั้งนี้ สาระสำคัญในเอกสารของชมรมสายใยความหวังผู้ป่วยระบุว่า 1.ไม่ให้มีการลดโทษแก่ผู้ผลิต นำเข้า ขายยาปลอมต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด 2.ให้ควบคุมการโฆษณาและส่งเสริมการขายยาเพื่อคุ้มครองประชาชน แต่ยกเว้นการให้ข้อมูลแก่ผู้ประกอบวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการให้ความรู้ใหม่ๆ 3.จำแนกบทบาทของ อย.กับกรมการค้าภายในให้ชัดเจน โดยให้ อย.เน้นบทบาทประเมิน ประสิทธิภาพ ความปลอดภัยของยา ส่วนกรมการค้าภายในรับผิดชอบเรื่องราคายาเพื่อให้งานมีประสิทธิภาพและมีความรวดเร็วในการรักษาใหม่ๆ 4.กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการขึ้นทะเบียนตำรับยาชื่อสามัญใหม่ เพื่อป้องกันกรณีพิพาทในการละเมิดสิทธิบัตร 5.เพิ่มกรรมการในคณะกรรมการยาแห่งชาติโดยเฉพาะจากองค์กรผู้ป่วยที่มีประสบการณ์การรักษา
|
อุตสาหกรรมยาล่ารายชื่อผู้ป่วย 10000 รายชื่อ เพื่อสนับสนุนร่างกฎหมายที่จัดทำโดยบริษัทยา ห้าม อย.ต่อรองราคายา ประธานกลุ่มศึกษาปัญหายา เรียกร้องบริษัทยาข้ามชาติยุติการใช้ผู้ป่วยเป็นเครื่องมือ (3
|
คุณภาพชีวิต
|
นิมิตร์ เทียนอุดม,ผู้ป่วย,ยา,สิทธิบัตรยา,อุตสาหกรรมยา
|
https://prachatai.com/journal/2013/07/47513
|
แล้งหนักสุดรอบ 40 ปี สวนผลไม้สาหัสกว่าข้าว
|
ภัยแล้งปีนี้ ถือว่าหนักสุดในรอบ 40 ปี ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำมีเพียง 55% เป็นน้ำใช้การแค่ 22% และยังคาดการณ์ว่าอาจจะเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง มิ.ย.-ก.ค.63 จึงต้องมีการติดตามเฝ้าระวังในการใช้น้ำอย่างใกล้ชิด รวมทั้งป้องกันแก้ไขปัญหาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นนายอาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร (กสก.) เผยว่า พื้นที่ปลูกพืชที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ พื้นที่ปลูกไม้ผลนอกเขตชลประทาน 3.7 แสนไร่ เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ 30 จังหวัดที่หนักสุดมี 18 จังหวัด ภาคเหนือ แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมา หนองบัวลำภู บุรีรัมย์ มหาสารคาม ขอนแก่น และร้อยเอ็ด ภาคตะวันออก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และจันทบุรี ภาคใต้ สุราษฎร์ธานี พังงา และภูเก็ตโดยเฉพาะทุเรียน มังคุด ลองกอง ลำไย มะม่วง ฯลฯ เพราะไม้ผล ขาดน้ำจะทำให้ผลผลิตเสียหายทั้งหมด ทั้งยังจะต้องใช้น้ำในการบำรุงรักษาต้น ถ้าไม่มีน้ำไม้ผลจะยืนต้นตาย ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะปลูกแล้วได้ผลผลิตกลับมารวมถึงไม้ดอกไม้ประดับ กล้วยไม้ 57000 ไร่ ใน 9 จังหวัด นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครนายก ปราจีนบุรี และเพชรบุรี จะได้รับผลกระทบเช่นกันสำหรับ ข้าวนาปรัง ในรอบที่ผ่านมา มีการปลูกมากถึง 6.5 ล้านไร่ เกินกว่าที่กำหนด 144% แต่ยังโชคดีที่มีน้ำฝนตกลงมาพอเลี้ยงให้ออกรวง จนสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตไปได้แล้วกว่า 37% แต่ในรอบต่อไปไม่ควรจะปลูกเพราะจะไม่มีน้ำให้ต้นข้าวแน่นอนส่วนข้าวนาปีต้องรอดูปริมาณน้ำฝนในช่วง มี.ค.-พ.ค. เพราะคาดว่าจะมีฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ย 12% ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติมีน้อยตามไปด้วยทางกรมส่งเสริมการเกษตรจึงเห็นควรจัดตั้งศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยแล้งด้านการเกษตร ปี 2563 ทั้งในระดับกรม เขต และจังหวัด เพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง การสร้างการรับรู้ในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ รวมทั้งการปฏิบัติดูแลรักษาพืชอย่างถูกวิธี การเฝ้าระวังและรวบรวมข้อมูลพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและสรุปผลการรายงาน เพื่อแก้ไขปัญหาและเตรียมความพร้อมช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วนโครงสร้างของศูนย์ ประกอบด้วย ผู้บริหารแต่ละระดับ เป็นประธานคณะทำงาน และนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรที่เกี่ยวข้องในแต่ละด้าน เป็นคณะทำงาน ทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์ภูมิอากาศ สถานการณ์น้ำ ผลกระทบและความเสียหายด้านเกษตร รวบรวม วิเคราะห์ ประมวลผล และสรุปรายงานสถานการณ์การเพาะปลูก และรายงานกรมรับทราบ รายงานข้อมูลพื้นที่ปลูกพืชที่มีความเสี่ยงขาดแคลนน้ำโดยเฉพาะการเฝ้าระวังพื้นที่ไม้ผล ออกพื้นที่ให้คำแนะนำ และสร้างการรับรู้ให้แก่กลุ่มเป้าหมายทั้งระดับเจ้าหน้าที่ เกษตรกร และประชาชนทั่วไปรองอาชว์ชัยชาญบอกอีกว่า ที่ผ่านมากรมได้มีการดำเนินงานเกี่ยวกับมาตรการเตรียมพร้อมรับมือภัยแล้งมาระยะหนึ่งแล้ว ทั้งการติดตามสถานการณ์ภูมิอากาศ น้ำ การแจ้งเตือนภัยสถานการณ์ให้เกษตรกรทราบล่วงหน้า เพื่อเตรียมพร้อมสำรองแหล่งน้ำในพื้นที่เพาะปลูก การจัดทำข้อมูลสถานการณ์พื้นที่เพาะปลูก พื้นที่เสียหาย ผ่านระบบสารสนเทศการผลิตทางด้านการเกษตร การให้บริการปรับปรุง การขึ้นทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน และการออกมาตรการรองรับสถานการณ์ภัยแล้งมาตรการของกรมจะเริ่มตั้งแต่การเฝ้าระวังน้ำเค็มรุกพื้นที่สวน รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรร่วมใจรับมือภัยแล้ง ปี 63 ส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา ส่งเสริมปลูกพืชหลากหลายฤดูนาปรัง บูรณาการความร่วมมือในพื้นที่เพื่อส่งเสริมการสร้างรายได้แก่เกษตรกร การจัดกิจกรรมงานวันสาธิตและถ่ายทอดเทคโนโลยี และการให้บริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่สำหรับในพื้นที่หากเกิดภัยแล้งรุนแรง เจ้าหน้าที่จะต้องรีบประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาน้ำเพื่อการเกษตร โดยผ่านกลไกคณะกรรมการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญ และการแก้ไขปัญหาภาคเกษตรระดับจังหวัด Chief of Operation (COO) และคณะทํางานปฏิบัติการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญ และการแก้ไขปัญหาการเกษตรระดับอำเภอ Operation Team (OT) ให้ความช่วยเหลือเกษตรกร แนะนำเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเกษตรกร กรณีประสบทั้งภัยแล้งและภัยพิบัติอีกด้วยแต่มาตรการนี้จะช่วยให้เกษตรกรปลดเปลื้องภัยแล้งได้ยั่งยืนแค่ไหนอีกไม่กี่เดือนคงได้เห็นผล คุ้มค่า คุ้มทุนหรือไม่.ไชยรัตน์ ส้มฉุน
|
จากการติดตามสถานการณ์มาตั้งแต่ปี 2523 คำนวณสถิติปริมาณน้ำฝน น้ำท่า ของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน และข้อมูลเรื่องน้ำของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ไชยรัตน์ ส้มฉุน,ภัยแล้ง,เกษตรกร,สวนผลไม้,อาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร,ไม้ดอกไม้ประดับ,ข้าวนาปรัง,เกษตร
|
https://www.thairath.co.th/news/local/1809034
|
ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส คว้าเเชมป์บาสเก็ตบอลเอ็นบีเอ สายตะวันตก สมัยที่ 5
|
บาสเก็ตบอลเอ็นบีเอ รอบเพลออฟ นัดชิงชนะเลิศ เกมที่ 4 ของสายตะวันตก ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส บุกชนะเม็มฟิส กริซลี่ย์ ถึงถิ่น เฟดเอ็กซ์ ฟอรั่ม 93-86 คะแนน โดยเกมนี้ โทนี่ ปาร์คเกอร์ พอยท์การ์ดชาวฝรั่งเศส ที่เหมาคนเดียวสูงสุดถึง 37 เเต้ม กับ 4 รีบาวด์ รั้งสถิติทำคะแนนสูงสุดต่อเกมในรอบเพลย์ออฟประจำปีนี้ ส่งผลให้ สเปอร์ส ชนะ เม็มฟิสไป 4-0 เกมซีรี่ย์ คว้าเเชมป์สายตะวันตกมาครองได้เป็นสมัยที่ 5 เเละเป็นเเชมป์เเรกในรอบ 5 ปีของสโมสร นอกจากนั้น สเปอร์ส เดินหน้าเก็บชัยเกมที่ 6 ติดต่อกันในรอบเพลออฟ ส่วน เม็มฟิส ถือว่าทำผลงานดีสุดในประวัติศาสตร์สโมสร ตั้งเเต่เคยผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟครั้งเเรกในปี 2004สเปอร์ส อดีตเเชมป์เอ็นบีเอ 4 สมัย สามารถผ่านเข้าไปชิงเเชมป์ได้อีกครั้งในฤดูกาลนี้ หลังเคยคว้าเเชมป์ครั้งสุดท้ายในปี 2007 โดยปีนี้ สเปอร์ส ผ่านเข้าไปรอพบเเชมป์สายตะวันออกระหว่าง ไมอามี่ ฮีทเเชมป์เก่า กับ อินเดียน่า เพย์เซอร์ ซึ่งล่าสุด ฮีทนำอยู่ 2-1 เกมซีรี่ย์ สำหรับเกมรอบชิงเเชมป์เอ็นบีเอปีนี้ จะเล่นนัดเเรกในวันที่ 20 มิ.ย.2556 เเข่งในระบบ 4 ใน 7 เกมซีรี่ย์การเเข่งขันอาเซี่ยนบาสเก็ตบอลลีก หรือ เอบีเเอล นัดเพลออฟ เกมที่ 3 ของรอบรองชนะเลิศ ไทยเเลนด์ สเเลมเมอร์ เปิดสนามในอาคารนิมิบุตร เเพ้ ซาน มิเกล เบียร์เมน จากฟิลิปปินส์ไป 62-70 คะแนน ส่งผลให้ ซานมิเกล ชนะ ไทยเเลนด์เเสลมเมอร์ 2-1 เกม ซึ่งนัดต่อไทยเเลนด์ สเเลมเมอร์ จะเล่นในบ้าน โดยรอบนี้เเข่งในระบบ 3 ใน 5 เกมซีรี่ย์ สำหรับเกมอีกคู่ อินโดนีเซีย วอริเออร์ส ผ่านเข้าไปรอชิงชนะเลิศ หลังชนะ มาเลเซีย ดราก้อนส์ไปขาดลอย 3-0 เกมซีรี่ย์
|
โทนี่ ปาร์คเกอร์ สวมบทฮีโร่ ทำคะแนนคนเดียว 37 เเต้ม ทำให้ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส คว้าเเชมป์บาสเก็ตบอลเอ็นบีเอ สายตะวันตกเป็นสมัยที่ 5 พร้อมพาทีมเข้าชิงเเชมป์เอ็นบีเอได้สำเร็จ
|
กีฬา
|
ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส,บาสเก็ตบอล,เอ็นบีเอ,แชมป์,โทนี่ ปาร์คเกอร์
|
https://news.thaipbs.or.th/content/172805
|
รวบมือยิงช้างป่ากุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
|
วันนี้ (28 มิ.ย.63) นายอานนท์ พร้อมเพรียง นายอำเภอกุยบุรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทีมสัตว์แพทย์ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุช้างป่าถูกยิงตายในสวนยางของชาวบ้านและได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีด้วยผลการตรวจสอบพบร่องรอยการถูกยิงจากอาวุธปืนลูกซองฝังบริเวณขมับซ้ายและบริเวณใบหูทะลุหลังหูและพบว่า ลูกกระสุนทะลุฝังกะโหลก ด้านในคาดว่าน่าจะเป็นเหตุทำให้ช้างตายจากนั้นได้ฝ่าซากช้างเพื่อนำชิ้นเนื้อส่งตรวจสอบหาสาเหตุการตายที่ชัดเจนอีกครั้งพนักงานสอบสวน จึงแจ้ง 4 ข้อหากับผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุควร และกระทำความผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองจากการสอบถามชาวบ้าน อ้างว่าผู้ก่อเหตุอาจป้องกันตัวเนื่องจากก่อนหน้านี้มีช้างป่ามาทำร้ายชาวบ้านจนเสียชีวิต จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาอ่าน
|
หลังจากที่ช้างป่ากุยบุรี ถูกยิงจนล้ม คณะสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุ และสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว พร้อมตั้ง 4 ข้อหา
|
สิ่งแวดล้อม
|
ช้าง,ช้างป่า,กุยบุรี,ประจวบคีรีขันธ์,อุทยานแห่งชาติกุยบุรี
|
https://news.thaipbs.or.th/content/294070
|
ผวาแหล่งก๊าซเจดีเอหยุด 5 วัน กฟผ.วางแผนรับมือไฟไม่ดับ
|
นายสุธน บุญประสงค์ รองผู้ว่าการระบบส่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งแผนการหยุดซ่อมแหล่งก๊าซพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ) ระหว่างวันที่ 19-23 ก.ค.นี้ รวม 5 วัน เป็นน้ำมันดีเซล,ทั้งนี้ กฟผ.ได้เตรียมแผนการรองรับทั้งด้านผลิตไฟฟ้า ระบบส่งไฟฟ้าและเชื้อเพลิง พร้อมขอความร่วมมือประชาชน โรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดสงขลาให้ลดการใช้ไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วย 1.การผลิตไฟฟ้าโดยโรงไฟฟ้าจะนะชุดที่ 1 พร้อมเดินเครื่องด้วยน้ำมันดีเซลตรวจสอบโรงไฟฟ้าภาคใต้ทั้งหมดให้พร้อมใช้งาน งดการหยุดเครื่องบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าภาคใต้ในช่วงหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติและประสานงานกับการไฟฟ้ามาเลเซียขอซื้อไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉิน,2.ด้านระบบส่ง จะทำการตรวจสอบสายส่งและอุปกรณ์สำคัญในภาคใต้ให้พร้อมใช้งานก่อนเริ่มหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ และหยุดการบำรุงรักษาระบบส่งภาคใต้ช่วงหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ และ 3.ด้านเชื้อเพลิง ได้สำรองน้ำมันให้เพียงพอเต็มความสามารถจัดเก็บก่อนเริ่มหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ โดยโรงไฟฟ้ากระบี่ ได้จัดเก็บน้ำมันเตา 25 ล้านลิตร และโรงไฟฟ้าจะนะ ได้จัดเก็บน้ำมันดีเซล 20 ล้านลิตร จึงมั่นใจได้ว่าไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าในภาคใต้.
|
เพื่อทำการติดตั้งทางเชื่อมระหว่างแท่นผลิตก๊าซธรรมชาติจะส่งผลให้โรงไฟฟ้าจะนะชุดที่ 2 จังหวัดสงขลาไม่สามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้ รวมทั้งต้องเปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิง สำหรับเดินเครื่องโรงไฟฟ้าจะนะชุดที่ 1 จากก๊าซธรรมชาติ
| null |
ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าว,สุธน บุญประสงค์,กฟผ.,ปตท.,แผนการหยุดซ่อม,แหล่งก๊าซพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย,เจดีเอ,โรงไฟฟ้า,แผนการรองรับ,ระบบส่งไฟฟ้า,แหล่งก๊าซเจดีเอ,วางแผนรับมือไฟไม่ดับ
|
https://www.thairath.co.th/content/508844
|
ปอท. สั่งสอบ ตัดแปะหวยถูก 30 ล้าน ชี้อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมฯ
|
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 2 ก.ย.60 พ.ต.อ.โอฬาร สุขเกษม ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ถึงกรณี นางหลวน ทะนันชัย ชาว จ.พะเยา ถูกหวยรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 ก.ย.60 จำนวน 5 ใบ 30 ล้านบาท ซึ่งมีการแชร์ต่อกันอย่างมากในโลกออนไลน์ แต่สุดท้ายพบว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด เนื่องจากหลานชายวัย 12 ขวบ ได้นำ,ลอตเตอรี่เก่ามาตัดแปะ, ว่า ตนทราบเรื่องแล้วและได้สั่งให้เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูล ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการอะไร เพราะเรื่องดังกล่าวเกิดในพื้นที่ จ.พะเยา ซึ่งหน้าที่รับผิดชอบของตำรวจท้องที่,เมื่อถามว่า หากผู้กระทำความผิดอายุ 12 ขวบ จะมีความผิดทางกฎหมายหรือไม่ พ.ต.อ.โอฬาร กล่าวว่า ต้องดูในเรื่องการรับโทษตาม ป.วิ.อาญา ว่าเด็กเข้าข่ายต้องรับโทษหรือไม่ มีพฤติการณ์ทำไปเพื่ออะไร หากทำไปโดยไร้วุฒิภาวะเนื่องจากอายุยังน้อยก็เป็นข้อที่ต้องนำมาพิจารณา ซึ่งตนยังไม่ได้รายละเอียดตรงนั้น และต้องดูกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย,ในเรื่องการรับโทษ ยังบอกไม่ได้เพราะต้องรอหลักฐานหลายๆ อย่างก่อน ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร มีเรื่องของผลประโยชน์ไหม หรือเป็นการกลั่นแกล้งรังแกใครหรือไม่ ส่วนคนที่นำเรื่องไปแชร์ต่อต้องดูว่านำไปแชร์ในมุมมองไหน หากทำเพื่อไปหลอกต้มคนอื่น มีเจตนาทุจริตก็อาจเข้าข่ายเป็นความผิด แต่หากแชร์ในเรื่องข้อมูลข่าวสาร ทางกฎหมายก็รองรับสิทธิเสรีภาพไว้ ก็ต้องพิจารณาดูว่าการกระทำของเขาเข้าข่ายไหน,ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากมีคนตั้งใจดัดแปลงแก้ไขลอตเตอรี่ และโพสต์ลงในโซเชียลจนเกิดความเข้าใจผิด เกิดความวุ่นวาย จะมีวิธีดำเนินการอย่างไร พ.ต.อ.โอฬาร กล่าวว่า เบื้องต้นถือว่าเป็นการกระทำเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และต้องดูกฎหมายอื่นควบคู่ไปด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินคดีตามความผิดทุกข้อหา
|
ปอท. สั่ง ตร.ท้องที่ตรวจสอบกรณี หลานตัดแปะภาพลอตเตอรี่ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 30 ล้าน เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมฯ หรือไม่ เตือนชาวเน็ตโพสต์ข้อมูลเท็จมีโทษนอนคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสน
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ถูกหวย 30 ล้าน,ถูกหวยรางวัลที่ 1,หวย,ปอท.,พะเยา,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/1058090
|
เด็กชวน ชงรัฐเร่งแก้ปาล์มน้ำมันตก ทุ่มงบพันล้าน หนุนกฟผ.ผลิตไฟฟ้า
|
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.60 นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำเหลือกิโลกรัมละ 2.90-2.50 บาท ว่า ตนขอเรียกร้องถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ขอให้เร่งแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันตกต่ำลงอย่างต่อเนื่องโดยด่วน เพราะเป็นอีกพืชหลักเศรษฐกิจอีกตัวที่น่าเป็นห่วง ซึ่งราคาที่ตกลงนี้ไม่คุ้มทุนการปลูก เกษตรกรสวนปาล์มไม่สามารถแบกรับการขาดทุนเดือดร้อนมาก จึงขอเสนอทางออกที่ได้ผล และรัฐบาลสามารถทำได้ในทันที เพราะทุกอย่างพร้อมปฏิบัติได้ทันที คือ การให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ใช้โรงไฟฟ้าที่ จ.กระบี่ นำน้ำมันปาล์มดิบไปผลิตกระแสไฟฟ้า โดยรัฐบาลให้งบประมาณอุดหนุนแก่ กฟผ.จำนวน 1,000 ล้านบาท ซึ่งอาจใช้งบกลางในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้านี้ได้ทันที เพราะเรื่องนี้เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่กำลังเดือดร้อน จากราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ,นพ.สุกิจ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้โรงไฟฟ้า จ.กระบี่ ได้รับการปรับปรุงโดยใช้งบประมาณ 49 ล้านบาท เมื่อปี 2558 ให้สามารถใช้น้ำมันปาล์มผลิตกระแสไฟฟ้าได้ กำลังผลิต 432 ตันต่อวัน แต่ที่ผ่านมา กฟผ.ไม่ได้ใช้ผลิต เพราะอ้างว่าต้นทุนสูงกว่าน้ำมันเตาเท่าตัว แต่ในภาวะที่ราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำมาก และกระทรวงพาณิชย์อ้างว่า เพราะมีน้ำมันในสต็อกถึง 4 แสนตัน ถึงจะเร่งการใช้ไปในทางการผลิตไบโอดีเซล หรือเร่งส่งออกก็คงไม่ช่วยอะไรได้มาก เพราะปัจจุบันก็เห็นทำกันเต็มที่แล้ว แต่ราคาปาล์มก็ยิ่งแย่ลงทุกวัน ตนจึงเห็นว่าวิธีเดียวที่จะช่วยได้ คือ กฟผ.ต้องรีบนำน้ำมันปาล์มดิบมาผลิตกระแสไฟฟ้า และเพื่อไม่ให้ กฟผ.ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น รัฐบาลควรสนับสนุนงบฯ ดังกล่าว เพื่อเป็นค่าส่วนต่างการผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้นนั้น ราคาปัจจุบันน้ำมันปาล์มดิบอยู่ราวๆ กก.ละ 19 บาท เงิน 1,000 ล้านบาท จะสามารถดูดซับน้ำมันปาล์มจากระบบได้มากกว่า 5 หมื่นตัน ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ราคาปาล์มน้ำมันในตลาดสูงขึ้นทันที ทั้งยังเป็นการช่วยเกษตรกรสวนปาล์ม และยังเป็นการนำพลังงานทางเลือกมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าอีกด้วย,ขณะที่ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ครั้งที่ 10/2560 ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ เพราะขณะนี้ทั่วโลกมีการผลิตปาล์มน้ำมันจำนวนมาก ทำให้ราคาปาล์มในตลาดโลกต่ำ ในประเทศไทยมีการสต็อกน้ำมันปาล์มดิบไว้ถึง 5 แสนตัน ทั้งที่ปกติจะสต็อกไว้ 2.5 แสนตัน โดยรัฐบาลได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ พิจารณาช่วงเวลาการส่งออกปาล์มน้ำมันที่เหมาะสม พร้อมทั้งผลักดันให้หน่วยงานต่างๆ นำน้ำมันปาล์มไปผลิตเป็นไบโอดีเซลเพื่อใช้เป็นพลังงาน เช่น ให้กระทรวงคมนาคมนำไปใช้ในรถขนส่งมวลชน ให้โรงไฟฟ้ากระบี่ นำไบโอดีเซลไปใช้เป็นพลังงานผลิตไฟฟ้า รวมถึงกวดขันการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้มอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) หารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ในการหาทางแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำต่อไป
|
อดีต ส.ส.ตรัง ปชป.เสนอ รบ.เร่งแก้ปัญหาปมปาล์มน้ำมันตกต่ำต่อเนื่อง แนะใช้งบฯ 1,000 ล้านบาท หนุน กฟผ.นำปาล์มดิบผลิตกระแสไฟฟ้าได้ผลทันที ด้าน รบ.ลั่นเร่งแก้ปัญหาราคาปาล์ม
|
ข่าว,การเมือง
|
สุกิจ อัถโถปกรณ์,ส.ส.ตรัง,ปาล์มน้ำมัน,ราคาปาล์มน้ำมัน,ปัญหาปาล์มน้ำมัน,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1155982
|
รวบนักร้องตกอับ จูงมือลูก 2 ขวบ วิ่งราวทรัพย์ วงจรปิดมัดดิ้นไม่หลุด
|
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมตำรวจชุดสืบสวน ได้เข้าจับกุม นางรัชดาพร แสงจันทร์ อายุ 35 ปี อยู่ที่ 260 ม.9 บ.หมูม่น ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ในข้อหา วิ่งราวทรัพย์ พร้อมของกลางรถ จยย.ยามาฮ่า มีโอ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อวีโว่ สีทอง 1 เครื่อง โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณสี่แยกไฟแดง ถ.โพศรี ข้างทุ่งศรีเมือง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ขณะที่นางรัชดาพร กำลังตระเวนหาเหยื่อเตรียมที่จะก่อเหตุ,หลังจากตำรวจจับกุมตัวได้ มีผู้เสียหาย คือ นางบัวพันธ์ สมสุด อายุ 56 ปี ชาวอุดรธานี ต่อมาเจ้าของร้านขายของชำแห่งหนึ่ง ได้มาชี้ตัว โดยการจับกุมครั้งนี้ ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ฝั่งตรงข้ามร้านขายของชำ บันทึกภาพขณะคนร้ายก่อเหตุ จนทราบรูปพรรณของหญิงคนร้าย และ รถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุ จนเป็นหลักฐานมัดแน่น หลังจากจับกุมตัว นางรัชดาพร ผู้ต้องหาไว้ได้ ซึ่งตอนแรกนางรัชดาพร ปฏิเสธเสียงแข็ง ทำทีร้องไห้ หลังจากผู้เสียหายมาชี้ตัวยืนยันเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ จึงยอมสารภาพ เป็นผู้ลงมือก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สินผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ไปจริง,นางบัวพันธ์ สมสุด ผู้เสียหาย เจ้าของร้านขายของชำ เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตนขายของอยู่ที่ร้านตามลำพัง มี นางรัชดาพร คนร้ายเดินเข้ามาในร้าน พร้อมกับเด็กอายุ 2 ขวบ มาเลือกซื้อขนม พร้อมถามราคาสุรายี่ห้อต่างๆ และบอกว่าเป็นนักร้อง แขกจะให้เงินมาซื้อเหล้า ซึ่งคนร้ายได้ขี่รถ จยย.ออกไป ประมาณ 1 ชั่วโมง และได้ขี่รถกลับมาสั่งซื้อสุรา 5 ขวด เป็นเงิน 2,000 บาท,ขณะตนนำสุราใส่ถุงส่งให้ คนร้ายออกอุบายสั่งโซดาเพิ่มอีก 24 ขวด ตนจึงไปหยิบโซดาในร้าน จังหวะนั้นคนร้ายได้ขี่รถ จยย.หลบหนีพร้อมสุรา 5 ขวด ตนวิ่งไล่ตามขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้ช่วยจับตัวแต่ก็ไม่ทัน พอรู้ว่าตำรวจจับตัวคนร้ายได้จึงมาดู โดยขอยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวสุราที่ร้านตนไป เพราะจำใบหน้าและ รถ จยย.คันที่ใช้ก่อเหตุได้อย่างแม่นยำ,ด้าน นางรัชดาพร แสงจันทร์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นนักร้องอยู่ที่ร้านอาหารหลายแห่ง ในพื้นที่ อ.เมืองอุดรธานี รวมเวลาประมาณ 10 ปี ล่าสุดไปร้องเพลงที่ร้านอาหารมีชื่อแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี แต่ระยะหลังไม่มีแขกมาเที่ยว ทำให้ตนขาดรายได้ ไม่มีเงิน รวมทั้งสามีก็ตกงาน ทำให้ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน และไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกได้ดื่มกิน จึงใช้อุบายตระเวนก่อเหตุ วิ่งราวทรัพย์ สุราของผู้เสียหาย โดยนำไปขายต่อให้กับร้านขายของชำ ในราคาขวดละ 150-200 บาท เพื่อเอาเงินมาจ่ายค่าเช่าบ้าน และค่านมลูก,พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก. สส.สภ.เมืองอุดรธานี กล่าวว่า ที่ผ่านมามีคนร้ายเป็นชายและหญิง ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ในลักษณะที่ใช้อุบายหลอกเหยื่อก่อนวิ่งราวทรัพย์มากกว่า 10 ครั้ง ซึ่งนางรัชดาพร ผู้ต้องหา ยอมรับสารภาพว่า ตนเองก่อเหตุคนเดียว 2 ครั้ง และร่วมกับสามีวิ่งราวทรัพย์ 1 ครั้ง ที่บริเวณหน้าโรงเรียนเทศบาล 3 ได้เงินสดไป 1 หมื่นบาท ซึ่งผู้เสียหายรายนี้เป็นถึง แม่และน้าของ รอง ผกก.สส.สภ.บ้านผือ อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะเร่งขยายผลว่า คนร้ายรายนี้ก่อเหตุที่ใดบ้าง และจะติดตามจับกุมสามีของคนร้ายหญิงรายนี้ มาดำเนินคดีต่อไป
|
นักร้องตกอับ จูงมือลูก 2 ขวบก่อเหตุชิงทรัพย์ อ้างขาดรายได้จุนเจือครอบครัว เคยฉกของร้านชำ ฉกเงินนับหมื่น ทำมาแล้ว 10 กว่าครั้ง บางเหตุการณ์ชวนสามีร่วมด้วย
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
อดีตนักร้อง,วิ่งราวทรัพย์,ขโมยของร้านชำ,ตกอับ,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1337202
|
อดีต ส.ส.อนาคตใหม่ เปิดคลิปเสียง ถูกติดต่อซื้อตัว 23 ล้าน
|
อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีมีอดีต ส.ส. ถูกติดต่อขอซื้อตัวไปร่วมงานกับพรรคร่วมรัฐบาล โดย น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เปิดเผยว่า มีการติดต่อขอซื้อตัวย้ายพรรคตั้งแต่แรก และหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ปรากฎว่าพวกเรายิ่งมีค่ามากขึ้น คือ ค่าตัว สูงขึ้นกว่าเดิม และตลาดซื้อขายในสภาฯ เสรีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ใต้ถุน ที่จอดรถ หรือแม้แต่ในสภาฯดังนั้นจึงขอส่งเสียงไปยังพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าคุณจะจ่ายเรากี่หมื่นล้าน ซื้ออุดมการณ์เราไม่ได้ และเรายังจะเดินไปด้วยกันน.ส.เบญจา กล่าวอีกว่า การที่ออกมาบอกกับสื่อ เนื่องจากการติดต่อซื้อตัวแบบนี้ทำให้หลายคนไม่สบายใจและว้าวุ่นใจ ซึ่ง ส.ส.ที่ร่วมกันยืนแถลงข่าวอยู่นี้ล้วนเป็น ส.ส.หน้าใหม่ เมื่อเจอแบบนี้ในสภาฯ ยอมรับว่าหมดศรัทธา แต่สิ่งที่จะทำนับจากนี้คือการกู้ศรัทธา และเรียกร้องขอให้มีสภาฯที่มีศักดิ์ศรีโดยอดีต ส.ส.อนาคตใหม่ เปิดคลิปเสียงยาวประมาณ 3 นาที ช่วงแรกเป็นเสียงรอสาย และการทักทายตามปกติ โดยเสียงที่โทรเข้ามาเป็นผู้ชาย (ผู้สื่อข่าวใช้อักษรย่อ ช.) และผู้รับสายเป็นผู้หญิง (ผู้สื่อข่าวใช้อักษรย่อ ญ.) ถูกฝ่าย ช. ถามว่า ญ. อยู่ ณ ที่ใดของสภาฯ ซึ่ง ญ. ตอบว่าอยู่ชั้น 4 นอกห้องประชุมสภาฯ และกำลังจะไปวอร์รูม ต่อจากนั้นมีการสอบถามกันไปมาถึงประเด็นหารือ ดังนี้ช : คุยได้ไหมญ : คุยได้ค่ะ คุยเรื่องะไรคะ คุยกับพี่หงะเหรอ ช : คุยกับผมง่ะ ญ : พี่จะคุยเรื่องอะไรคะญ : ถ้าเราตกลงแล้ว ต้องย้ายเหรอคะ จะได้ช : เออ (เสียงไม่ชัดเจน) ถ้าคุยกันถ้าโอเค วันอังคารก็ขนเข้าไปเลยจบญ : แล้วคือข้อตกยังไงช : ก็ไปคุยๆ ไม่มีอะไรเลย ก็ตามนั้นญ : ก็อยู่ในทีมของพี่(สัญญาณตัดเสียง)ทั้งหมดเหรอช : ใช่ๆญ : พี่ไม่ได้ทิ้งพวกเราใช่ไหมช : ไม่ทิ้งๆ พี่ต้องการพวกเราจริงญ : เออถึงวันจันทร์ใช่ไหมคะช : ถ้าโอเคก็ไปคุยกันวันจันทร์ญ : ตัดสินใจยากเนาะช : ลองคุยดูดิ คุยๆดูก่อน คืออะไรยังไงคุยกว้างๆไว้ ญ : ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวมีอะไรติดต่อกันค่ะโดยภายหลังการเปิดคลิปเสียง น.ส.เบญจา ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าถูกติดต่อในลักษณะนี้แล้ว 3 ครั้ง ที่ผ่านมาอาจมีการคุยกันตามปกติของเพื่อนสมาชิก ไม่ได้ซื้อขาย แต่หลายครั้งมีการชักชวน เสนอผลประโยชน์ทั้งที่เคยปฏิเสธไปแล้ว และหลังการยุบพรรคมีติดต่อเข้ามามากขึ้นนอกจากนี้อดีต ส.ส.อนาคตใหม่ ยังตอบคำถามสื่อมวลชนถึงการไม่เปิดเผยชื่อ โดยเชื่อว่าสื่อคาดเดาเองได้ เพราะเป็น ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเน้ยย้ำว่าการไม่เปิดเผยชื่อบุคคลต้นสาย เพราะยังให้เกียรติในความเป็น ส.ส. แต่นับจากนี้จะพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกันเมื่อสอบถามถึงจุดยืนในการร่วมงานกับอดีต ส.ส.อนาคตใหม่ ผู้แถลงข่าวทุกคนยืนยันว่าไม่ย้ายพรรค แต่ไม่ขอยืนยันกรณีมีรายชื่อ ส.ส. 9 คน เตรียมย้ายเข้าสังกัดพรรคร่วมรัฐบาล โดยให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินการกระทำของ ส.ส.เหล่านั้นในครั้งต่อไป
|
อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เปิดคลิปเสียงบันทึกการสนทนาโทรศัพท์ อ้างมี ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ติดต่อขอซื้อตัวอดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ให้ค่าตัว 23 ล้านบาทต่อคน รับได้ 8-9 คน หากได้ครบตามข้อตกลง มีโอกาสต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย
|
การเมือง
|
อนาคตใหม่,ซื้อตัว,ย้ายพรรค
|
https://news.thaipbs.or.th/content/289251
|
คนงานข้ามชาติที่เชียงใหม่เรียกร้องเข้าถึงสิทธิ-สวัสดิการโดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติ
|
มีการจัดงาน แรงงาน การต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และแสดงความคิดเห็นและเสนอทางออก ร่วมจัดสหพันธ์คนงานข้ามชาติ กลุ่มผู้ใช้แรงงานภาคเหนือ นายอุ้ม เครือตัวแทนสหพันธ์คนงานข้ามชาติ กล่าวว่า คนงานข้ามชาติต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม สิทธิเท่าเทียมทุกชนชั้นมาหลายสิบปี มีการรวมกันในนามสหพันธ์คนงานข้ามชาติเพื่อเรียกร้องค่าจ้างขั้นต่ำ สิทธิซื้อยานพาหนะ โดยข้อเสนอ 5 ข้อในวันแรงงานข้ามชาติคือ 1.ขอให้ยกเลิกนโยบายการเก็บเงินเข้ากองทุนส่งกลับแรงงานข้ามชาติ ทั้งสามสัญชาติ พม่า กัมพูชา และลาว 2. ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนสถานที่ทำงาน หรือเพิ่มสถานที่ทำงานของลูกจ้างที่ยังคงทำงานอยู่กับนายจ้างคนเดิม หรือบริษัทเดิม ขอให้เป็นภาระของนายจ้าง 3.ให้ลูกจ้าง ซึ่งเป็นแรงงานข้ามชาติสามารถ ขอใบแจ้งออกได้โดยตรงจากสำนักงานจัดหางานในพื้นที่ตนเองทำงานอยู่ 4.ยกเลิกเงื่อนไข ที่เป็นอุปสรรค ในการเข้าถึงสิทธิทางประกันสังคมของแรงงานข้ามชาติ เช่น ระเบียบของจัดหางานที่ระบุให้แรงงานข้ามชาติต้องหานายจ้างใหม่ ภายใน 7 วัน หรือไม่เกิน 15 เมื่อต้องออกจากงานที่เดิม 5.ให้แรงงานข้ามชาติสามารถเข้าถึงสิทธิต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด อย่างเท่าเทียม และไม่เลือกปฏิบัติ เช่น เรื่องค่าจ้าง และสวัสดิการ เป็นต้น อัครเดช ชอบดี ประธานสหภาพแรงงานอิเลคทรอนิคส์ และอุปกรณ์ไฟฟ้าสัมพันธ์ กล่าวว่า มีข่าวใหญ่ที่สุด ข่าวดัง เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา บริษัทโฮย่า กลาสดิสค์ ประกาศเลิกจ้างพนักงาน เกือบ 2000 ชีวิต อ้างคำสั่งประกาศจากสาเหตุขาดทุนตั้งแต่เมษายนปีนี้และน้ำท่วม ทั้งนี้เห็นว่าการเลิกจ้างดังกล่าวไม่มีความเป็นธรรม เป็นการพยายามทำลายสหภาพแรงงาน โดยเลือกเลิกจ้างพนักงานเฉพาะพนักงานโรงงานที่สอง ซึ่งโรงงานดังกล่าวมีกรรมการสหภาพแรงงาน และมีสมาชิกสหภาพแรงงาน 60-70% โดยเริ่มหยุดออร์เดอร์ตั้งแต่ 17 พฤศจิกายน และยังไม่ถึงวันที่ 1 ธันวาคม ก็ได้รับจดหมายเลิกจ้าง ถึงบ้านเลย เนื้อความในจดหมายมีแต่ยินยอมให้เลิกจ้าง และวางแผนไว้ก่อนตอนพนักงานกระจายตัวกลับบ้าน ทำให้คนงานรวมตัวกันไม่ติด อัครเดช ชอบดี กล่าวว่า สิ่งที่นายจ้างอ้างเป็นเรื่องของโรงงานที่สองไม่สามารถรองรับการผลิตได้ แต่ทำไมหาวิธีการจัดการ ทำไมเลือกใช้วิธีให้คนงานออก เราได้เสนอว่าให้ยกเลิกประกาศเลิกจ้างไปก่อน แล้วเปิดให้มีการลาออกแบบสมัครใจ ทั้งโรงงานแห่งที่หนึ่งและสอง นอกจากนี้ได้ยื่นหนังสือต่อราชการ ทั้งนี้คนงานยังคงมีความตั้งใจ และจะต่อสู้อย่างถึงที่สุด รศ.ดร.อรรถจักร สัตยานุรักษ์ ภาคประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กล่าวว่า สิ่งที่เราจะต้องคิดกันคือ ประเทศเราไม่ใช่ประเทศเกษตรกรรม ทั้งประเทศเราถูกเลี้ยงโดยคนนอกภาคเกษตร คนชั้นนำคิดว่าเป็นประเทศเกษตร และคนทำงานก็คิดอีกแบบ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องคิดสำคัญกว่านั้น คือ จัดตั้งทางสังคม และการทำงานในโรงงานจะถูกทำให้ไม่มั่นคงมากขึ้น กรณีโฮย่า มีวิธีผลิตชิ้นส่วนแล้วนำไปประกอบอีกส่วน และตัวระบบโรงงาน ที่หล่อเลี้ยงได้อยู่สองด้านคือ ด้านหนึ่ง คนงานหวาดกลัวตกงาน เลิกจ้าง อีกด้านหนึ่งมันให้ความหวังจากพนักงาน เป็นหัวหน้าแผนกเล็กๆ ถ้าตั้งสหภาพฯ เกิดความเสี่ยง แต่ถ้าประจบนาย ทำให้ก้าวหน้า ทั้งหมดทำให้ความจงรักภักดีจริงๆ ไม่มีแล้ว รศ.ดร.อรรถจักร สัตยานุรักษ์ กล่าวต่อว่า ในระบบเราจะทำอย่างไร ไม่ได้ปฏิเสธว่าจัดตั้งสหภาพ ถ้าเกิดเราคิดกันใหม่ เป้าหมาย เคลื่อนที่มากขึ้น และผมอยากเสนอให้สังคมไทยรู้สึกถึงความอยุติธรรม นอกเหนือเหตุผลทางเศรษฐกิจ ถูกทำให้เป็นทาส ในระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ กรณีแรงงานนอกระบบ แรงงานข้ามชาติพูดถึงทาส เพื่อให้ทำลายมายาคติของคนไทยเรื่องไม่เสมอภาค ที่เชื่อว่าถ้าลูกจ้างขยันก็ประสบความสำเร็จ ถ้าทลายตรงนี้ไม่ได้ สิ่งที่พูดกันเรื่องสหภาพฯ เครือข่าย ยุทธศาสตร์ เปลี่ยนไม่ได้ก็เดินสู่เหว ในวันเดียวกัน ประชาธรรม รายงานว่า มูลนิธิเพื่อสุขภาพและการเรียนรู้ของแรงงานกลุ่มชาติพันธุ์ (MAP Foundation) ชุมชนแรงงานข้ามชาติ และเครือข่ายแรงงานไทย ร่วมจัดเวทีเสวนาเรื่อง แรงงานข้ามชาติกับโอกาสในการเข้าถึงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำปี 2555 และการบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ณ โรงแรมฮอลิเดย์การ์เด้น อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นางหาญนวล ตัวแทนแรงงานข้ามชาติ กล่าวถึงสถานการณ์การได้รับค่าจ้างของแรงงานว่า \ตน และเพื่อนแรงงานได้ค่าจ้างวันละ 180 บาทต่อวัน แต่ละวันเสียค่าใช้จ่ายส่วนตัวมากกว่ารายรับที่ได้มา เพราะต้องจ่ายค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากิน รวมถึงค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บไข้ ซึ่งค่าแรงที่ได้ไม่พอกับค่าใช้จ่ายที่จะต้องดำรงชีพ ทั้งนี้ตนรู้สึกดีใจที่มีนโยบายขึ้นค่าแรง 300 บาท และแรงงานข้ามชาติทุกคนมีความคาดหวังสูงมากสำหรับนโยบายดังกล่าว อย่างน้อยก็สามารถทำให้แรงงานข้ามชาติอย่างเรา พอที่จะดำรงชีพอยู่ได้\ตัวแทนแรงงานข้ามชาติกล่าว ด้านนางสาวนิลวรรณ ระพีพงษ์ สำนักงานสวัสดิการคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า \ปัจจุบัน มีสถิตินายจ้างเอาเปรียบลูกจ้างเพิ่มสูงขึ้น ส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างในภาคการก่อสร้าง กรณีดังกล่าวมักจะมีเรื่องร้องเรียนมากที่สุด เช่น นายจ้างไม่ยอมจ่ายค่าจ้างหลังจากก่อสร้างงานเสร็จ หรือนายจ้างไม่ยอมจ่ายค่าชดเชย กรณี เลิกจ้าง เป็นต้น ดังนั้นลูกจ้างที่ประสบปัญหาดังกล่าว จะต้องมีข้อมูลพื้นฐานของนายจ้าง เช่น ชื่อ ที่อยู่ เพื่อความรวดเร็วในการแก้ปัญหา แต่หลายครั้งที่ลูกจ้างมักจะไม่ทราบข้อมูลพื้นฐานของนายจ้าง จึงเป็นเหตุให้เกิดความยาก และล่าช้าในการแก้ปัญหา\ เจ้าหน้าที่สำนักงานสวัสดิการคุ้มครองแรงงานกล่าวอีกว่า \กรณี การประกาศบังคับใช้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำขึ้นมาแล้ว กลุ่มนายจ้างจะต้องปฏิบัติตาม หากลูกจ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือไม่ได้รับค่าจ้างตามกำหนด ถือว่านายจ้างกระทำผิด อย่างไรก็ตามในวันที่ 1 เมษายน 2555 เป็นต้นไป บังคับใช้อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ โดยให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้น 79 บาท จากอัตราวันละ 221 บาท เป็น 300 บาท ส่วนกรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม ให้ปรับค่าจ้างเพิ่มขึ้น 85 บาท จากอัตราวันละ 215 บาท เป็น 300 บาท สำหรับจังหวัดที่เหลือ 70 จังหวัด ให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.5 ของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดในปี 2554 โดยให้ปรับค่าจ้างอีกครั้งเป็นวันละ 300 บาท โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 อย่างไรก็ตามในพื้นที่จังหวัด เชียงใหม่เอง ค่าจ้างขั้นต่ำจาก 180 บาท จะปรับขึ้นเป็น 251 บาท บังคับใช้วันที่ 1 เมษายน 2555 เป็นต้นไป\
|
จัดเวทีเสวนาเนื่องในวันแรงงานข้ามชาติสากลที่ จ.เชียงใหม่ แลกเปลี่ยนทั้งเรื่องแรงงานข้ามชาติ จนถึงวิกฤตเลิกจ้างคนงานในโรงงาน เนื่องในวันแรงงานข้ามชาติสากลวันที่ 18 ธ.ค.54 ที่ร้านหนังสือ Book Re:public
|
แรงงาน
|
การเลิกจ้าง,วันแรงงานข้ามชาติสากล,สหพันธ์คนงานข้ามชาติ,เสวนา,แรงงานข้ามชาติ,โฮย่า
|
https://prachatai.com/journal/2011/12/38400
|
ประยุทธ์ แจงประชุมร่วม ครม.-คสช. อัญเชิญพระรัชทายาททรงขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10
|
29 พ.ย. 2559 ภายหลังการประชุมร่วมระหว่าง คณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ไป้แถลงข่าวว่า วันนี้มีเรื่องสำคัญเรียนให้ทราบ อย่างที่ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่ามีการประชุมร่วม ครม. คสช. ในส่วนของการประชุมที่เป็นวาระพิเศษ มีกระบวนการของการอัญเชิญรัชทายาทซึ่งเป็นผู้สืบสันตติวงศ์ขึ้นครองราชย์ เพราะฉะนั้นขั้นตอนกำหนดไว้ตามกฎหมายตามรัฐธรรมนูญไว้แล้วพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้มีการแต่งตั้งรัชทายาทไว้แล้ว เพราะฉะนั้นก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ครม.ก็ได้มีการประชุมเพื่อรับทราบในการเริ่มต้นของกระบวนการดังกล่าว เพื่อทำหนังสือแจ้งไปยังประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แจ้งไปตามหลักการ เพราะฉะนั้นก็เป็นตามพระราชประเพณีและรัฐธรรมนูญถูกต้องทุกประการ เพราะฉะนั้นก็จะได้อัญเชิญพระรัชทายาททรงขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 ต่อไป เป็นไปตาม มาตรา 20 วรรค 1 ในรัฐธรรมนูญ 2550นี่ก็เป็นเรื่องเรียนให้ทราบ ก็เป็นไปตามขั้นตอนนั่นล่ะ เป็นเรื่องที่น่ายินดีนะครับพล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
|
ที่มาภาพ เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล 29 พ.ย. 2559 ภายหลังการประชุมร่วมระหว่าง คณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ไป้แถลงข่าวว่า
|
การเมือง,วัฒนธรรม
|
ครองราชย์,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10,ร.10,รัชทายาท
|
https://prachatai.com/journal/2016/11/69045
|
เกาเหลาบันเทิง 2018 ย้อน 8 ศึกสาดน้ำลายผ่านสื่อแซ่บลืมไม่ลง
|
ยังเป็นประเด็นร้อนแรงที่ใครๆ ก็ให้ความสนใจอยู่ตลอดสำหรับ ศึกเกาเหลาดารา ที่พอเปิดศึกสาดน้ำลายผ่านสื่อทีไร ทำเอาขาเม้าท์ต่อมเผือกทำงานกันเป็นแถว และเกิดทีมคนนั้นคนนี้บนโลกโซเชียลฯ เต็มไปหมด บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ขอส่งท้ายปีด้วย 8 ศึกเกาเหลาคนดังแห่งปีเปิดศึกฉะกันผ่านสื่อที่บอกเลยว่าแซ่บมาก บางคู่ดูแล้วแรงถึงขั้นไม่เผาผีกันเลยทีเดียว,กัปตัน-มิ้ง,จบกันไม่สวยแถมเกือบจะกลายเป็นคดีความในชั้นศาลเลยทีเดียวสำหรับอดีตคู่หวานอย่างพระเอกหน้าใส กัปตัน ชลธร คงยิ่งยง และเน็ตไอดอลสาว มิ้ง ศวภัทร สุนทรนันท หลายคนยังจำกันได้ดีกับประเด็นร้อนที่มิ้งออกมาบอกว่ากำลังตั้งครรภ์กับกัปตัน แถมยังโชว์ผลตรวจอีกด้วย จากนั้นทั้งคู่ก็ออกมาแถลงข่าวพร้อมกับครอบครัวทั้งสองฝ่ายเพื่อหาทางออกกับเรื่องที่เกิดขึ้น,แต่หลังจากนั้นก็มีชาวเน็ตเริ่มขุดหลักฐานเพื่อจับผิดว่าฝ่ายหญิงโกหก จนแฮชแท็ก #มิ้งโป๊ะแตก กลายเป็นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ในเวลานั้น ก่อนที่ทางฝ่ายครอบครัวกัปตันตัดสินใจนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการศาล แต่สุดท้ายทั้งคู่ได้เข้ามาไกล่เกลี่ยจนเรื่องจบลงด้วยดี โดยเป็นฝ่ายสาวมิ้งที่ออกมายอมรับแล้วว่าไม่ได้ท้องจริง แต่ที่ทำไปเพราะยังรักกัปตันมาก,กอล์ฟ-ขวัญ,อีกหนึ่งอดีตคู่รักที่จบแบบไม่สวย แถมยังฉะกันผ่านสื่อไปมาจนเป็นประเด็นร้อนให้ขาเผือกมุงกันไม่ทัน สำหรับ กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล และ ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ ซึ่งหลังจากที่เลิกรากันไป กอล์ฟได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่าเคยคุยกันเรื่องสินสอด ซึ่งอีกฝ่ายเรียกสินสอดสูงถึง 80 ล้านบาท ซึ่งเขาพยายามทำธุรกิจเพื่อสร้างตัวอย่างเต็มที่แล้ว อีกทั้งรู้สึกว่าคนรอบข้างของขวัญพยายามเช็กทรัพย์สินของตน และทำให้กอล์ฟเอ่ยปากว่าอย่าให้รู้สึกว่าที่ผ่านมาไม่ใช่ความรักแต่เป็นเรื่องเงิน,ส่วนขวัญได้พูดถึงประเด็นสุดจี๊ดว่าคุณแม่ของฝ่ายชายบอกว่าไม่มีสินสอดให้ นอกจากรอเขาตายก่อนแล้วค่อยเอามรดกมาเป็นสินสอด ถ้าไม่มีสินสอดและแม่ของตนไม่ให้แต่งก็ให้ท้องก่อนแต่ง ถ้าแต่งไม่ได้ก็หมั้นและเอาแหวนปลอมๆ ไปให้แม่ของตนก่อน กับเรื่องสินสอด 80 ล้านบาทนั้นจริงๆ แม่ของตนแค่พูดเล่นกับกอล์ฟ และไม่ใช่หน้าที่ของคุณแม่ตนที่จะมาเรียกร้องตรงนี้ด้วย,ไอซ์-คุกกี้,อยู่ดีๆ ก็เกิดดราม่าเพราะผู้ชายคนเดียวสำหรับนางเอกสาวหน้าใส ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร และเน็ตไอดอลสาว คุกกี้ อรนลิน ชัยพร โดยเรื่องร้อนๆ เกิดขึ้นหลังจากที่คุกกี้ได้เข้าไปคอมเมนต์ไอจีไอซ์ว่าให้อ่านไดเร็กไอจีด้วย จากนั้นก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์บอกว่าไอซ์กำลังถูกหลอก เพราะ ไฟท์ ชิตพล มั่งพร้อม หนุ่มนักธุรกิจที่สาวไอซ์คุยอยู่นั้นเป็นแฟนกับคุกกี้อยู่ และคุกกี้ได้โพสต์ไอจีสตอรี่ถึงแชตไลน์ที่ไอซ์คุยกับไฟท์ จนกลายเป็นประเด็นร้อน,ก่อนที่ไอซ์จะให้สัมภาษณ์ว่าตนรู้จักกับไฟท์จริงแต่ไม่มีสถานะอะไร และตนก็ไม่ทราบว่าอีกฝ่ายคบกับคุกกี้อยู่แล้ว ซึ่งตนก็เสียความรู้สึกที่เจอแบบนี้ แต่หลังจากนั้นก็มีภาพแชตไลน์หลุดแฉความสัมพันธ์ของ ไอซ์-ไฟท์ อีกระลอก และมีแชตไลน์ระหว่างไฟท์และคุกกี้หลุดออกมาเช่นกัน โดยมีข้อความค่อนข้างรุนแรง และฝ่ายเพื่อนของสาวไอซ์ก็จัดหนักโพสต์ไอจีสตอรี่ตอบโต้คุกกี้ด้วย ก่อนที่หนุ่มไฟท์จะร่อนจดหมายชี้แจงว่าแชตไลน์ในส่วนของตนที่ออกมานั้นเป็นของปลอม ก่อนที่ไฟท์และคุกกี้กลับมาคืนดีกันเหมือนเดิม,ไอซ์-กัญ,นอกจากจะเจอศึกเกาเหลาเรื่องหัวใจแล้ว ไอซ์ ปรีชญา ก็เจอดราม่าไม่คืนเสื้อแจ๊กเกตแบรนด์ดังให้กับนายแบบไฮโซหนุ่ม กัญ ชลัช ปุณยาฤทธิ์ โดยกัญได้โพสต์ภาพไอซ์กับเสื้อแบรนด์ดังและโพสต์ข้อความทวงคืน ก่อนที่ไอซ์จะให้สัมภาษณ์ว่าเสื้อตัวดังกล่าวกัญเป็นคนให้ยืมเอง ตนไม่ได้เป็นคนขอยืม ก่อนที่จะบอกว่าที่ผ่านมาอีกฝ่ายให้เลขาฯ ติดต่อมาเพื่อขอคืนเสื้อ แต่ตนก็ไม่ชัวร์ว่าเป็นเลขาฯ ของอีกฝ่ายจริงหรือเปล่า พร้อมทั้งบอกว่าตนยินดีที่จะคืนอยู่แล้ว แต่ไม่รู้จะคืนได้ที่ไหน เพราะติดต่ออีกฝ่ายไม่ได้เนื่องจากถูกบล็อกไอจี,แต่แล้วหลังจากนั้นกัญแฉกลับว่าไอซ์มาเอาเสื้อแจ๊กเกตเองที่คอนโด ส่วนเสื้อที่ให้ใส่โปรโมตนั้นเป็นเสื้อแบบสตรีทแวร์ แถมไอซ์เองก็บล็อกไอจีตน จนต้องให้เลขาฯ ไปทวง ตนไลน์ไปก็ไม่ตอบ สุดท้ายไอซ์ไดเร็กไอจีกลับมา แต่ตนเสียความรู้สึกไปแล้ว เลยอยากคุยผ่านตัวแทนมากกว่า จากนั้นไอซ์ก็ได้โพสต์ไอจีสตอรี่แฉข้อความไดเร็กไอจีที่คุยกับกัญ พร้อมทั้งถามกลับว่าใครกันแน่ที่บล็อกไอจี และไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทักไลน์มาตอนไหน พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่คิดจะฮุบเสื้อไว้อยู่แล้ว ไม่งั้นคงไม่โพสต์ออกสื่อ ก่อนที่จะมีบรรดาเพื่อนซี้ของอั้ม พัชราภา ที่เคยมีปัญหากับกัญ ร่วมวงเกาเหลาโพสต์ไอจีสตอรี่เหน็บกัญด้วย จากนั้นกัญก็ได้โพสต์ว่าตอนนี้ได้เสื้อคืนแล้ว,เจนี่-ใหม่ รัชดา,ก่อนหน้านี้ก็เคยมีปัญหากับเพื่อนแก๊งนางฟ้าจนเป็นประเด็นร้อนมาแล้ว ปีนี้นางเอกหน้าแบ๊ว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ก็เจอดราม่าเกาเหลากับ ใหม่ รัชดา พ่วงพวงงาม แฮร์สไตลิสต์ชื่อดังของไทย ซึ่งเคยสนิทสนมกัน และเป็นช่างผมคู่ใจของเจนี่มาตลอด โดยใหม่ได้ลบภาพคู่กับเจนี่ออกจากไอจีหมดเกลี้ยงและอันฟอลโลว์ไอจี พอมีคนบอกว่าอยากให้ทั้งคู่คืนดี งานนี้ใหม่ก็ยืนยันว่าไม่มีวัน สายไปแล้ว แถมใหม่ยังโพสต์ข้อความแรงๆ จนหลายคนแอบโยงว่าเกี่ยวข้องกับเจนี่รึเปล่า,ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ทั้งคู่มองหน้ากันไม่ติดคืออะไร แต่ก็มีบางกระแสเม้าท์ว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว เพราะบางคนเดาว่าเมื่อก่อนใหม่ทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้จัดการส่วนตัวคอยรับงานให้เจนี่ แต่ตอนนี้คุณแม่ของมิกกี้ สามีของเจนี่ มารับงานให้ทั้ง มิกกี้-เจนี่ เลยเทช่างทำผมคนดัง และเมื่อไปถามสาวเจนี่ เจ้าตัวก็ไม่ขอพูดถึงเรื่องดังกล่าว และไม่รู้สึกนอยด์เพราะชีวิตต้องเดินไปข้างหน้าและมีอะไรหลายอย่างที่ต้องทำ,ดิว-ซีแนม,เป็นอีกหนึ่งคู่เกาเหลาที่ขัดแย้งเพราะเรื่องเงินๆ ทองๆ จนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลสำหรับนางร้ายสาวร่างเล็ก ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์ กับนักร้องสาวแซ่บ ซีแนม สุนทร โดยทั้งคู่รวมถึงเพื่อนๆ เคยร่วมกันหุ้นทำธุรกิจร้านทำเล็บร่วมกัน รวมเป็นเงินแล้วนับล้าน แต่เกิดปัญหาและตัดสินใจไม่เปิดร้านแล้ว จึงต้องเคลียร์เรื่องเงินที่จะต้องคืนหุ้นส่วน แต่เวลาผ่านไปครึ่งปีสาวดิวก็ไม่ยอมคืนเงินให้,จากนั้นเรื่องดังกล่าวจึงกลายเป็นคดีความและมีการนัดไกล่เกลี่ยกัน งานนี้ทั้งคู่ก็ได้ให้สัมภาษณ์แบบหนังคนละม้วน ซึ่งดิวได้บอกว่าตนไม่ได้เลี่ยงที่จะคืนเงิน แถมยังบอกว่าตอนที่มีปัญหา อีกฝ่ายชี้หน้าด่าและขู่ตนว่าจะทำลายชื่อเสียง และตนไม่เคยส่งใครไปข่มขู่คู่กรณีด้วย พร้อมทั้งพูดถึงหนูนา หนึ่งธิดา หนึ่งในหุ้นส่วนว่าอีกฝ่ายเข้าใจตนเป็นอย่างดีและไม่ติดใจอะไรกับเรื่องนี้ ซึ่งหลังจากนั้นได้มีการเคลียร์อีกครั้งและทุกอย่างจบลงด้วยดี ส่วนจะกลับมาเป็นเพื่อนกันได้รึเปล่า ดิวบอกว่าไม่ซีเรียสเพราะไม่ได้สนิทสนมเป็นเพื่อนแก๊งเดียวกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว,จ๋า-ปอ,กลายเป็นมหากาพย์ดราม่าอยู่พักใหญ่สำหรับเรื่องรักสามเส้าระหว่างวีเจ-นักแสดงสาว จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี ที่มีข่าวพัวพันกับนักธุรกิจหนุ่ม ตุ๊ ธนานันต์ เอื้ออารักษ์ โดยที่ตุ๊ยังไม่ได้หย่าขาดจาก ปอ วรพรรณ ภรรยาสาว ซึ่งเป็นฝ่ายตุ๊ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าตนเองมีปัญหากับภรรยาและแยกกันอยู่มา 2 ปีแล้ว และกำลังดำเนินการเรื่องหย่า พร้อมทั้งปกป้องวีเจคนดังว่าไม่ได้เป็นมือที่ 3 แน่นอน แต่หลังจากนั้นปอ วรพรรณ กลับให้สัมภาษณ์ชนิดหนังคนละม้วน และมีคลิปเสียงสนทนาที่ถูกโยงว่าเกี่ยวข้องกับดราม่าเรื่องนี้,ด้านจ๋าเองก็ยืนยันว่าตนไม่ใช่มือที่ 3 แน่นอน พร้อมทั้งบอกว่าเคยได้คุยกับปอ วรพรรณ ซึ่งอีกฝ่ายยังบอกว่าแยกกันอยู่กับตุ๊จริง และยืนยันให้คบกันได้ และหลังจากนั้นก็มีไลน์แชตหลุด ซึ่งมีเนื้อหาอ้างว่าฝ่ายภรรยาอ้างว่าถ้าเลิกกันจะทำให้พ่อขายหน้าและจะตัดขาดความเป็นพ่อลูก แล้วฝ่ายหญิงกลับเป็นคนขอเงินฝ่ายชายใช้มากกว่า งานการไม่ทำ ขอเงินพ่อใช้ 40-50 ล้าน แถมยังยื่นข้อต่อรองขอเงินไปทำหน้าให้เสร็จก่อน อีก 6 เดือน ถึงจะยอมให้บอกพ่อเรื่องหย่าด้วย ซึ่งหลังจากที่เกิดดราม่าดังกล่าวตุ๊และปอก็ได้หย่าขาดเรียบร้อยแล้ว,เสก-กานต์-อีฟ,ปิดท้ายด้วยดราม่าที่พักหลังมาเป็นประจำทุกปีสำหรับร็อกเกอร์ดัง เสก โสโซ กับ อีฟ อภิสร์ญา พัฒนวรทรัพย์ หรือ อีฟ แม็กซิม แฟนคนปัจจุบันของเสก และ กานต์ วิภากร อดีตภรรยา แม้ในช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา กานต์-อีฟ จะร่วมมือกันพาเสกไป รพ. เพื่อรักษาอาการป่วยโรคไบโพลาร์ได้สำเร็จ แต่ล่าสุดเมื่อกลางเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา กานต์บุกบ้านของเสกเพื่อทวงเสกคืนจากอีฟ และไล่อีฟออกจากบ้าน พร้อมทั้งพูดว่าอีฟดูดเงินของเสก เป็นงูเหลือมเหมือนที่ชาวบ้านบอก ก่อนจะเกิดปากเสียงระหว่าง กานต์-อีฟ ชุดใหญ่,จากนั้นกานต์โพสต์ดราม่าตัดพ้อมีแต่คนทำร้ายและไลฟ์สดตอนที่ตำรวจมาที่บ้าน ก่อนจะโพสต์ด่าอีฟอีกครั้ง แต่แล้วคดีพลิกเมื่ออีฟกลับเข้ามาบ้านอีกรอบและรีบเข้าห้องนอนของเสก และเสกได้แจ้งความให้ตำรวจมาจับกุมกานต์ในข้อหาบุกรุก และจากเรื่องดังกล่าวทำให้ลีน่า จัง ไลฟ์สดด่าเสกและอีฟ ซึ่งกานต์ได้แชร์คลิปไลฟ์ดังกล่าวและขอบคุณลีน่าจัง พร้อมทั้งบอกว่าจะบุกบ้านเสกอีกรอบ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์วุ่นวายดังกล่าว ล่าสุดอีฟออกจากบ้านเสกไปเรียบร้อยแล้ว.
|
ยังเป็นประเด็นร้อนแรงที่ใครๆ ก็ให้ความสนใจอยู่ตลอดสำหรับ ศึกเกาเหลาดารา งานนี้ บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ส่งท้ายปีด้วย 8 ศึกเกาเหลาคนดังเปิดศึกฉะกันผ่านสื่อที่บอกเลยว่าแซ่บมาก
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
เกาเหลาดารา,ดาราเกาเหลา,ดาราทะเลาะกัน,ดราม่าดารา,ดารา
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1455391
|
บิ๊กแป๊ะ แจง ปค.บุกทลายอาบอบนวด นาตารี ไม่กระทบภาพลักษณ์องค์กร
|
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 59 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่พบบัญชีรายชื่อ และชื่อหน่วยงานของรัฐหลายหน่วย ที่มีลักษณะการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้สถานบริการอาบอบนวด นาตารี ว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบขยายผลว่า บุคคลที่มีรายชื่อปรากฏอยู่ในบัญชีการรับส่วย เป็นของจริงหรือไม่ ซึ่งอยู่ในอำนาจของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่จะต้องตรวจสอบให้ได้ความชัดเจน ก่อนจะมีการนำเสนอขึ้นมายังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ภายใน 30 วัน ,ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบรายชื่ออักษรย่อตำรวจในหน่วยงานต่างๆ ในบัญชีรับส่วยด้วยเช่นกัน ,ส่วนการโยกย้ายนายตำรวจประจำสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุ ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกระบวนการหลังจากนี้ จำเป็นจะต้องมีมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบสถานบันเทิงในรูปแบบใกล้เคียงกันหรือไม่นั้น เป็นไปตามนโยบายที่เคยมอบให้แต่ละกองบัญชาการไปดำเนินการแล้ว,พร้อมยืนยันว่าการที่หน่วยงานอื่นเข้ามาจับกุมสถานบันเทิง แทนตำรวจ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรตำรวจ แต่กลับเป็นประโยชน์ในการปราบปรามสถานบันเทิงในลักษณะนี้มากกว่า และมองว่าการที่สื่อนำเสนอข่าวนี้ จะไม่กระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ ในการปราบปรามการค้ามนุษย์ ,ขณะเดียวกัน ปฏิเสธว่าการเข้าจับกุมที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้มีการประสานงานกับตำรวจนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับช่วงการโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ที่ทำให้หลายพื้นที่เกิดสุญญากาศ ,นอกจากนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังกล่าวอีกว่า ได้มีการรายงานเรื่องดังกล่าวแก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ ให้ทำตามกระบวนการของกฎหมาย,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,รองโฆษก ตร.เผยเร่งสอบปมส่วย นาตารี หากพบ จนท.เอี่ยวฟันไม่เลี้ยง ,ย้ายเข้ากรุ 4 เสือ โรงพักห้วยขวาง เซ่นอาบอบนวด นาตารี รัชดาฯ,จับอาบอบนวด นาตารี รัชดาฯ ค้ากามต่างด้าว เจอบัญชีส่วย
|
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน การที่หน่วยงานอื่นเข้าจับสถานบริการอาบอบนวด นาตารี ย่านรัชดาฯ แทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ขององค์กร ขณะที่ การตรวจสอบบัญชีส่วยอยู่ในอำนาจของนครบาล
| null |
นาตารี อาบอบนวด,บุกทลายอาบอบนวด,ภาพลักษณ์องค์กรตำรวจ,ส่วยนาตารี,อาบอบนวด ย่านรัชดาฯ,ลักลอบค้ากาม,ค้ามนุษย์,ค้าประเวณี,นาตารีเอ็นเตอร์เทนเมนท์ อาบอบนวด,จ่ายส่วย,ขบวนการค้าน้ำกาม,องค์กรสีกากี,ผบ.ตร.,จักรทิพย์ ชัยจินดา,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/634788
|
เตรียมประมูลบำบัดน้ำเสีย จากริมคลองแสนแสบเข้าดินแดง-จากห้วยขวางเข้าดินแดง 2 พันล้าน
|
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. นายณรงค์ เรืองศรี ผอ.สำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. เปิดเผยว่า สนน.อยู่ระหว่างดำเนินการหาผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสียเพิ่มเติม ริมคลองแสนแสบ ช่วงถนนวิทยุ-คลองตัน เข้าโรงควบคุมคุณภาพน้ำดินแดง ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยมีราคากลาง 582.5 ล้านบาท คาดว่าจะได้ผู้รับจ้างประมาณเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2563 กำหนดเวลาก่อสร้าง 2 ปี เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถรับน้ำเสียเข้าสู่ระบบได้ประมาณ 24000 ลบ.ม./วัน พร้อมกันนี้ สนน.อยู่ระหว่างหาผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสียเพิ่มเติมพื้นที่เขตห้วยขวาง เข้าโรงควบคุมคุณภาพน้ำดินแดง งบประมาณ 1600 ล้านบาท คาดว่าจะได้ผู้รับจ้างมาดำเนินการภายในเดือนมิถุนายนนี้ กำหนดเวลาก่อสร้าง 3 ปี เมื่อสร้างแล้วเสร็จ จะสามารถรับน้ำเสียที่จะไหลลงสู่คลองลาดพร้าวและคลองแสนแสบ เข้าสู่ระบบได้ประมาณ 60000 ลบ.ม./วันนายณรงค์กล่าวว่า โรงควบคุมคุณภาพน้ำดินแดงบำบัดน้ำเสียได้ 350000 ลบ.ม./วัน ครอบคลุมพื้นที่ 37 ตร.กม. พื้นที่เขตดินแดง ปทุมวัน และบางส่วนของเขตพญาไท ดุสิต ราชเทวี ป้อมปราบฯ สัมพันธวงศ์ และเขตพระนคร เริ่มเดินระบบเมื่อปี พ.ศ.2547 ปัจจุบัน มีน้ำเสียน้ำเข้าสู่ระบบบำบัดเพียง 200000 ลบ.ม. ขณะที่พื้นที่กรุงเทพฯมีโรงควบคุมคุณภาพน้ำขนาดใหญ่ 8 แห่ง ได้แก่ โรงควบคุมคุณภาพน้ำสี่พระยา โรงควบคุมคุณภาพน้ำรัตนโกสินทร์ โรงควบคุมคุณภาพน้ำ ช่องนนทรี โรงควบคุมคุณภาพน้ำหนองแขม โรงควบคุมคุณภาพน้ำทุ่งครุ โรงควบคุมคุณภาพน้ำจตุจักร โรงควบคุมคุณภาพน้ำ ดินแดง และศูนย์การศึกษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบางซื่อ รับน้ำเสียพื้นที่รวม 212.74 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่จำนวน 21 เขต บำบัดน้ำเสียรวมทั้งสิ้น 1112000 ลบ.ม./วัน คิดเป็นประมาณร้อยละ 45 ของปริมาณน้ำใช้รวมในกรุงเทพฯ.
|
สนน.อยู่ระหว่างดำเนินการหาผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสียเพิ่มเติม ริมคลองแสนแสบ ช่วงถนนวิทยุ-คลองตัน เข้าโรงควบคุมคุณภาพน้ำดินแดง ด้วยวิธีประกวดราคา
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
สำนักการระบายน้ำ,ระบบรวบรวมน้ำเสีย,น้ำเสีย,คลองแสนแสบ,โรงควบคุมคุณภาพน้ำดินแดง,บำบัดน้ำเสีย,ณรงค์ เรืองศรี
|
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1775048
|
ผู้ปกครองตามคดี นร.3 คนถูกเก๋งชนที่ท่ามะกา ตร.ระบุรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บ
|
จากกรณีเฟซบุ๊กเพจแหม่มโพธิ์ดำ โพสข้อความ เมื่อเดือนก่อน เกิดอุบัติเหตุ ตำรวจลงว่าประมาทร่วม หลานตาย แต่ลูกชายหนูนอนรักษาตัวตั้งแต่ 3 พยจนวันนี้ 21 ธค คดีไม่คีบหน้าเอาตัวคนชนมาเซ็นรับผิดไม่ได้ คนชนเป็นถึงนักวิชาการจัดหางานตำแหน่งหน้าที่การดีแต่ไม่เคยมาดูลูกชายหนูเลยหนูอยากได้ความเป็นธรรมค่ะ อยากลงให้เป็นอุทธาหรณ์ให้ใส่หมวกกันน็อคเพื่อความปลอดภัยด้วย ถ้าใส่หมวกคงไม่หนักขนาดนี้ค่ะควีน ช่วยพวกเราด้วยนะคะ,ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 22 ธ.ค.60 นาย ปิยะ ยินดี อายุ 35 ปี ชาวบ้าน ม.7 ต.หวายเหนียว อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี พ่อของผู้เสียชีวิตคือ ด.ช.ณัฐพงษ์ ยินดี อายุ 13 ปี และเป็นญาติของ ด.ช.อนุศร จงเจริญ อายุ 10 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส พร้อมด้วยนางสาวเรนุกา มีเจริญ ชาวบ้าน หมู่7 ต.หวายเหนียว อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี แม่ของ ด.ช.ภาณุวัฒน์ เกิดมงคล อายุ 13 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ทะเบียน 1กค-9574 นครปฐม ได้รับบาดเจ็บ เดินทางไปที่ ที่ สภ.ท่ามะกา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เข้าพบ พ.ต.ท.ธนพล แสงงาม รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ท่ามะกา และ ร.ต.อ.ภูรี เถียรประภากุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.ท่ามะกา เพื่อถามถึงความคืบหน้าทางคดี กรณีน.ส.สุธิดา พึ่งรักษา อยู่บ้านชาวบ้าน หมู่1 ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งเป็นคนขับรถโตโยต้า รุ่นวีออส ทะเบียน กต-8189 สุราษฎร์ธานี เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ที่มีเยาวชน 3 คน ขับขี่จะข้ามถนน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 2 ราย เหตุเกิดบริเวณแยกวัดดงสัก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ,ด้าน นางสาวเรนุกา มีเจริญ แม่ของ ด.ช.ภาณุวัฒน์ เกิดมงคล อายุ 13 ปี ผู้ขับขี่รถจยย. ยี่ห้อยามาฮ่า เลขทะเบียน 1 กค-9574 นครปฐม ได้รับบาดเจ็บ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 3 พ.ย.60 ที่ผ่านมา ขณะที่เด็กทั้ง 3 คน ขับขี่รถจยย.จะข้ามถนนเพื่อมาหาตนที่กำลังขายของอยู่ฝั่งตรงข้าม โดยลูกได้เล่าว่า เมื่อขี่รถเตรียมที่จะข้ามถนน ได้เห็นรถเก๋งขับมาแต่อยู่ในระยะไกล คิดว่าข้ามพ้น จึงได้ตัดสินใจขี่รถออกมา เป็นเหตุให้รถเก๋งชนเข้าที่ด้านท้ายของรถจยย.ทำให้เด็กที่นั่งซ้อนท้ายสุดเสียชีวิต คนนั่งกลางอาการสาหัสนอนรักษาตัวที่รพ. และลูกชายของตนซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจยย.ขาขวาหัก กระดูกหลังแตก และใบหน้าฉีก ได้รับบาดเจ็บแต่แพทย์รักษาจนหายและอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นมาเกือบ 2 เดือน แต่คนขับรถเก๋งมาเยี่ยมแค่ครั้งเดียวและได้มอบเงินให้คนละ 5 พัน จากนั้นก็ไม่เคยโทรมา ดูแลหรือเยียวยาอีกเลย ตนขอเรียกร้องไปถึงผู้ที่ขับรถเก๋งว่า ให้สนใจรับผิดชอบเด็กที่ได้รับบาดเจ็บและเด็กที่เสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายจะถูก ขอให้มีจิตสำนึกในการดูแลเด็กบ้าง,ด้าน นายปิยะ ยินดี อายุ 35 ปี พ่อของผู้เสียชีวิตคือ ด.ช.ณัฐพงษ์ ยินดี อายุ 13 ปี และเป็นญาติของ ด.ช.อนุศร จงเจริญ อายุ 10 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส กล่าวว่า วันเกิดเหตุ เพื่อนของลูกชายได้มารับลูกของตน จนกระทั่งประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ซึ่งหลังเกิดเหตุทางคนขับรถเก๋งที่เป็นคู่กรณีไม่เคยโทรติดต่อมาแสดงความเสียใจกับตนเลย มีเพียงพวงหรีด 1 พวงและเงินจำนวน 5 พันบาท และทางคู่กรณีได้นัดไกล่เกลี่ย 3 รอบ แต่ก็ได้ผิดนัดทั้ง 3 รอบ จนตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ,พ่อของผู้เสียชีวิต กล่าวต่อว่า ทางญาติของตนจึงได้โพสลงเพจแหม่มโพธิ์ดำ ขอฝากไปถึงคู่กรณีว่า ตนอยากให้คนขับรถเก๋งวีออส โทรมาแสดงความเสียใจสักครั้งตนก็รู้สึกดีแล้ว แต่กลับเงียบหายไป อีกทั้งทางคู่กรณียังบอกให้ตนทำงานให้สบายใจเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งคำๆนี้ทำให้ตนเจ็บมากเพราะลูกของตนเสียชีวิต ซึ่งวันนี้ได้เข้ามาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทำให้ตนรู้สึกสบายใจมากขึ้น ที่ตำรวจติดตามคดีให้และไม่ได้ทำงานล่าช้า,ด้าน พ.ต.ท.ธนพล แสงงาม รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ท่ามะกา กล่าวว่า คดีนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน เบื้องต้นต้องรอเด็กที่บาดเจ็บมาให้การ ซึ่งขณะนี้เด็กที่บาดเจ็บยังไม่สามารถมาให้การได้ ต้องรอให้เด็กอาการดีขึ้นก่อน แล้วมาให้การว่าลักษณะของการเกิดเหตุตรงกับที่ทางคู่กรณีให้การไว้หรือไม่ ซึ่งทางตำรวจได้ติดต่ออธิบายกับญาติของเด็กอยู่ตลอดเวลา ถึงความล่าช้าทางคดีเนื่องจากต้องรอคู่กรณีมาให้การ รอเอกสารของแพทย์และเด็กที่บาดเจ็บยังไม่สามารถมาให้การได้ ซึ่งในวันที่ 5 ม.ค.61 พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้นัดคู่กรณีที่เป็นคนขับรถเก๋งวีออส มาแจ้งข้อกล่าวหา และนัดทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยตกลงเรื่องค่าสินไหม.
|
พ่อแม่เหยื่อรถเก๋งชน เด็ก 3 คน ขี่รถจยย.ข้ามถนนตาย 1 รายเจ็บ 2 ถามความคืบหน้าคดีที่ สภ.ท่ามะกา ตร.ระบุรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บก่อน จ่อนัดคู่กรณีมาเจรจาค่าสินไหม 5 ม.ค.61 นี้
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
รถเก๋งชนจยย.ตาย 1,เก๋งชนจยย.ดับ,อ.ท่ามะกา,กาญจนบุรี,ธนพล แสงงาม,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1160312
|
สรุปดราม่าหมวกกันน็อก ตำรวจไม่ตั้งด่าน โผล่จับปรับ ยึดกุญแจรถได้หรือ? (คลิป)
|
เกิดกระแสดราม่าในโลกโซเชียลเมื่อเฟซบุ๊ก Ai Sara GixGox โพสต์คลิปในวันที่ 17 ส.ค.60 พร้อมข้อความว่า,ล่าสุดเจ้าของโพสต์เปิดใจกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ว่าคลิปนี้ถ่ายโดยแฟนของตน ผู้หญิงที่กำลังถูกตำรวจเขียนใบสั่งนั้นก็ถูกปรับเหมือนกัน และเธอยืนยันว่าไม่มีการตั้งจุดให้รู้ว่ามีการตรวจ จู่ๆ ตำรวจก็โผล่มาดักหน้ารถในระยะกระชั้นชิดขณะเดินทางไปขายของ และตนก็ได้ชำระค่าปรับแล้ว ,ทั้งนี้ภายหลังคลิปถูกเผยแพร่ ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นโดยเสียงส่วนมากเห็นด้วยกับตำรวจที่ออกใบสั่ง เนื่องจากผู้ขับขี่ทำความผิดจริง คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย หรือหมวกกันน็อก และไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และจากกรณีดังกล่าว ยังทำให้ชาวเน็ตเกิดข้อสงสัยหลายประเด็นว่าการยึดกุญแจรถทำได้ไหม และตำรวจสามารถจับโดยไม่ตั้งด่านได้หรือไม่,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, สอบถามข้อเท็จจริงจาก ร.ต.อ.วิทยา ภูขะมา ผู้บังคับบัญชาเบื้องต้น รองสารวัตรจราจร สน.หัวหมาก กทม. ชี้แจงว่าการตรวจวินัยจราจรนี้สามารถทำได้โดยตั้งจุดตรวจ ซึ่งเรียกว่า,จุดกวดขันวินัยจราจร และต้องมีนายตำรวจควบคุม และอีกกรณีคือขณะปฏิบัติหน้าที่อำนวยการจราจร ยืนโบกรถอยู่แล้วพบเห็นว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า สามารถจับปรับได้ตลอด 24 ชม.,ด้านการยึดกุญแจรถนั้นสามารถทำได้ในกรณีที่ผู้ขับขี่มีพฤติการณ์ผิดปกติ คิดหลบหนีจริงๆ หรือไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการจอดให้ตรวจ เช่น เห็นด่านก็หักหลบขี่ย้อนศรหนีทันที หรือตำรวจให้สัญญาณจอด แต่ไม่จอดกลับขี่หนีอย่างรวดเร็ว ซึ่งเคยมีตำรวจถูกชนในกรณีนี้เช่นกัน เมื่อตรวจพบความผิดต่างๆ เช่น ไม่สวมหมวกกันน็อก ไม่มีใบขับขี่ รถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เจ้าหน้าที่จะแจ้งความผิดให้ทราบ เมื่อออกใบสั่งแล้วก็ต้องคืนกุญแจรถ หากไม่มีพฤติกรรมหลบหนีตำรวจไม่สามารถยึดกุญแจรถได้ สำหรับเอกสารที่ยึดได้อย่างเดียวคือใบขับขี่,หากได้รับใบสั่งแล้ว กฎหมายกำหนดระยะเวลาไว้ว่าต้องไปชำระเงินค่าปรับภายใน 7 วัน ซึ่งระบุไว้ในใบสั่งชัดเจน หากไม่ไปชำระทาง สน.ท้องที่จะทำหนังสือแจ้งให้มาชำระอีกภายใน 15 วัน ถ้าไม่มาก็จะสรุปเรื่องให้กรมการขนส่ง ซึ่งจะมีผลถูกอายัดทะเบียน ไม่สามารถต่อภาษีรถได้ ต้องไปชำระก่อนถึงจะต่อทะเบียนได้,ด้าน ส.ต.ท.สุรพรรณ อันสา ผบ.หมู่.อคฝ.ฯ ช่วยงานจราจร สน.หัวหมาก แนะนำว่าการขี่มอเตอไซค์ให้ถูกกฎหมาย ไม่ถูกจับปรับ ต้องใส่หมวกกันน็อกทั้งคนขี่และซ้อน พกใบขับขี่และสำเนาสมุดรถ และต้องขี่ไม่เกิน 2 คน ถ้าพบขี่เกิน คนขี่จะถูกปรับในอัตรา 400-500 บาท
|
ไม่ควรพลาด อ่านแล้วรอด คลายทุกข้อสงสัย ตำรวจเรียกตรวจ ยึดกุญแจรถได้ไหม จับโดยไม่ตั้งด่านได้จริงหรือ
|
ข่าว
|
ดราม่าหมวกกันน็อก,เฟซบุ๊ก Ai Sara GixGox,วิทยา ภูขะมา,เปี๊ยก สุรพรรณ จราจร,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/news/1045065
|
25 องค์กร-พระ ต้านกม.เขตศก.พิเศษ
|
กรุงเทพฯ-5 ก.พ.48วานนี้ ตัวแทน 25 องค์กรประชาชน นักวิชาการและสหภาพรัฐวิสาหกิจคัดค้านร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษประมาณ 50 คน นำโดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล และ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ได้เริ่มพิธีอ่านคำประกาศกรุงรัตนโกสินทร์ คัดค้านร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษ บริเวณสนามหลวง ด้านพระเทพบิดร พระบรมมหาราชวัง ส่วนในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระศรีปริยัติโมลี พร้อมด้วยสงฆ์อีก 8 รูปได้สวดปัดรังควานและไล่เสนียดจัญไร ตัวแทนกลุ่มคัดค้านได้อย่างแถลงการณ์ความว่า พวกเราเหล่าลูกหลานไทยทั้งหลาย มารวมกัน ณ ปราสาทพระเทพบิดร อันเป็นที่สถิตย์แห่งดวงพระวิญญาณของเหล่าบูรพมหากษัตราธิราชเจ้า เพื่ออาศัยพระบารมีเป็นที่พึ่งในการต่อสู้คัดค้านร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษ นับตั้งแต่บรรพชนไทยได้ดิ้นรนต่อสู้เพื่ออิสรภาพจนสร้างบ้านเมืองเป็นปึกแผ่นผ่านมาหลายยุคหลายสมัย กระทั่งถึงยุครัตนโกสินทร์ ทั้งนี้ก็เพราะจิตวิญญาณที่รักอธิปไตยและความเป็นไทอย่างเหนียวแน่นของประชาชนชาวไทย จริงอยู่ก่อนยุครัตนโกสินทร์ เราเคยเสียบ้านเสียเมืองถึง ๒ ครั้ง ทั้งนี้ล้วนเกิดจากความอ่อนแอของสังคมไทยในยุคนั้นเอง และมีชนชั้นปกครองบางกลุ่มทำตัวเป็นไส้ศึกเปิดประตูเมืองให้ผู้รุกราน ในยุครัตนโกสินทร์เอง สยามประเทศเคยสูญเสียอธิปไตยทางศาลและทางเศรษฐกิจ ตลอดจนสูญเสียดินแดนบางส่วนให้แก่จักรวรรดินิยม แต่ก็เป็นการสูญเสียอธิปไตยที่เกิดจากการบีบบังคับด้วยนโยบายเรือปืนของชาติมหาอำนาจ ซึ่งรัฐบาลราชาธิปไตยนับตั้งแต่รัชกาลที่ ๕ รัชกาลที่ ๖ และรัชกาลที่ ๗ ได้พยายามแก้ไขสนธิสัญญาที่ไม่เสมอภาคดังกล่าวตลอดมา จนสามารถได้เอกราชอย่างสมบูรณ์กลับคืนมาในรัฐบาลประชาธิปไตยในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๘ มาบัดนี้ รัฐบาลรักษาการชุดปัจจุบันได้ผ่านมติคณะรัฐมนตรีรับหลักการร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษอย่างเงียบเชียบ เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2548 ร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นวาระซ่อนเร้นท่ามกลางความเศร้าโศกของสังคมต่อกรณีภัยพิบัติสึนามิ และไม่ได้อยู่ในนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองนั้น ซึ่งจะถูกผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ภายหลังการเลือกตั้ง แน่นอนว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว จะผ่านรัฐสภาอย่างง่ายดายด้วยเสียงข้างมากของฝ่ายรัฐบาล ร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษเป็นกฎหมายที่เป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนโดยสังเขปดังนี้ 1. ร่างกฎหมายฉบับนี้ ให้อำนาจแก่กลุ่มบุคคลในการกำหนดพื้นที่ใดก็ได้ในพระราชอาณาจักรให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษโดยไม่ต้องเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา เขตเศรษฐกิจพิเศษมีอำนาจเหนือการปกครองส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น (มาตรา ๑๖ ๒๑๓๕) 2. เขตเศรษฐกิจพิเศษได้รับการยกเว้นไม่ขึ้นอยู่กับกฎหมายสำคัญๆ เกือบทุกฉบับ ที่ขัดขวางการแสวงหาประโยชน์ เช่น กฎหมายอุทยานแห่งชาติ กฎหมายป่าสงวนแห่งชาติ กฎหมายชลประทานราษฎร์ กฎหมายแรงงาน กฎหมายสิ่งแวดล้อม กฎหมายผังเมือง กฎหมายที่ดิน พระราชบัญญัติสงฆ์ เสมือนเป็นรัฐใหม่ครอบรัฐเดิม (มาตรา ๓๐) 3. ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ได้ยกเว้นภาษีทุกชนิดให้กับผู้ประกอบการ และยังอนุญาตให้นำเงินออกนอกประเทศโดยเสรี (มาตรา ๓๓ ๓๔ ๗๐) 4. เขตเศรษฐกิจพิเศษมีอำนาจเด็ดขาดในการเพิกถอนที่สาธารณสมบัติทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น เขตวนอนุยานแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ ที่ดินสาธารณะ ที่ธรณีสงฆ์และน่าจะรวมไปถึงที่ราชพัสดุและที่ดินส่วนพระมหากษัตริย์ให้มาเป็นที่ของเอกชน และสามารถนำไปขายหรือให้เช่ากับคนต่างด้าวในการประกอบกิจการทุกชนิด (มาตรา ๖๒) 5. ร่างกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษนำไปสู่การละเมิดพระราชอำนาจ เนื่องจากให้อำนาจแก่เขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ คณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษในการตัดสิน บังคับคดีโดยไม่ผ่านกระบวนการทางตุลาการ ด้วยเหตุที่ร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษมีอันตรายร้ายแรงต่อประเทศชาติและประชาชนดังได้กล่าวมาข้างต้น จึงควรที่พี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งมวลจะได้ร่วมใจกันคัดค้านไม่ให้ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีผลบังคับใช้ เมื่อกล่าวคำประกาศจบ พระศรีปริยัติโมลีได้นำสวดอภิธรรมอีกครั้งก่อนพรมน้ำมนต์ให้เกิดสิริมงคลแก่ตัวแทน 25 องค์กรดังกล่าว จากนั้น พระศรีปริยัติโมลี ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า คณะสงฆ์มีความห่วงใยถึงการที่รัฐบาลมีมติคณะรัฐมนตรีผ่านร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว เพราะร่างกฎหมายฉบับนี้จะเปิดโอกาสให้เอกชนยึดที่ดินสาธารณะประโยชน์ ที่ธรณีสงฆ์ไปหาประโยชน์ ไม่ต่างอะไรกับ พระราชบัญญัติที่ดินสงฆ์ ฉบับที่ 2 และยังเปิดช่องให้มีการตั้งคาสิโนมอมเมาประชาชน ซึ่งน่าห่วงใยมาก วันนี้คณะสงฆ์จึงได้สวดบทปัดรังควาญและเสนียดจัญไร เนื่องจากในปัจจุบันมีเสนียดจัญไรอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภามากเหลือเกิน เกาะกุมจิตใจผู้นำ และจากนั้นก็ได้สวดมนต์ให้เกิดความสุขสวัสดิ์แก่บ้านเมืองด้วย
|
กรุงเทพฯ-5 ก.พ.48 วานนี้ ตัวแทน 25 องค์กรประชาชน นักวิชาการและสหภาพรัฐวิสาหกิจคัดค้านร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษประมาณ 50 คน นำโดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล และ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง
|
สิ่งแวดล้อม
| null |
https://prachatai.com/journal/2005/02/2639
|
ฟัน 25 ขรก. งาบเงินเสมา มีระดับ 8-11 ถึง 7 คน
|
พส.สอบผ้าห่มแพง,สรุปผลสืบสวนข้อเท็จจริงทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตถึงมือปลัด ศธ.เผยมีข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการทั้งที่ยังรับราชการและพ้นจากหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกระทำความผิด ส่งผลให้ราชการเสียหาย 25 ราย ในจำนวนดังกล่าวเป็นบิ๊กข้าราชการระดับ 8-11 จำนวน 7 ราย ส่วนผู้เกี่ยวข้องสังกัดอื่น ป.ป.ท.อยู่ระหว่างสอบปากคำ ขณะที่เรื่องฉาวในกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ยังมีต่อเนื่อง ล่าสุด อธิบดี พส. จ่อตั้ง คกก. สอบข้อเท็จจริงศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.สิงห์บุรีซื้อผ้าห่มแพงแถมห่วยแจกชาวบ้าน,หลังใช้เวลาในการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตมาระยะหนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ว่า ได้รับการเปิดเผยจากนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ว่าขณะนี้คณะกรรมการสืบสวนฯได้สรุปผลการสืบสวนข้อเท็จจริงฯ เสนอให้นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ. ได้พิจารณาแล้ว โดยจากการสืบสวนพบว่ามีผู้ที่ควรกล่าวหาว่ากระทำความผิด ทำให้ราชการเสียหาย เป็นบุคลากรสังกัด ศธ.ทั้งหมด จำนวน 25 คน ในจำนวนดังกล่าวมีทั้งผู้ที่รับราชการอยู่และพ้นจากราชการไปแล้ว ที่สำคัญเป็นข้าราชการระดับสูงตั้งแต่ระดับ 8-11 ถึง 7 คน ซึ่งมีทั้งผู้ที่ควรถูกกล่าวหาว่าทุจริตต่อหน้าที่ราชการ, กลุ่มไม่ปฏิบัติตามแบบแผนและธรรมเนียมของทางราชการ, กลุ่มที่ทุจริตถึงแม้จะไม่ใช่หน้าที่, กลุ่มรายงานเท็จต่อ,ผู้บังคับบัญชา และกลุ่มประมาทเลินเล่อ แต่ส่วนใหญ่ผิดอยู่ในฐานประมาทเลินเล่อ ทั้งนี้ เมื่อมีการเสนอให้ ปลัด ศธ.แล้วขั้นตอนต่อไปคือ ดำเนินการรายบุคคล ตามความผิดที่พบว่าจะดำเนินการอย่างไรกับใครบ้าง อย่างบุคคลที่พ้นจากราชการแล้วก็จะใช้เอกสารหลักฐานที่ชี้มูลความผิดดำเนินการทางแพ่ง รวมถึงดำเนินการความผิดทางละเมิด ส่วนข้าราชการในสังกัดอื่นๆ ทางคณะกรรมการสืบฯ ไม่ได้ดำเนินการชี้มูลความผิดเพราะทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กำลังอยู่ระหว่างเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อสอบถามข้อมูล และพิจารณาตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน,ประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงฯ กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการสืบหาบัญชีที่ไม่ทราบเจ้าของ 68 บัญชี ขณะนี้ธนาคารกรุงไทยกำลังเร่งหาข้อมูลจากสาขากว่า 40 สาขา ซึ่งเมื่อคณะกรรมการสืบฯได้ข้อมูลในส่วนนี้แล้ว อาจจะทำให้ทราบว่ามีผู้กระทำผิดที่เป็นข้าราชการเพิ่มอีกหรือไม่ หากพบก็จะดำเนินการต่อ นอกจากนี้ทางสถานศึกษาบางแห่งก็ยังไม่ได้ส่งสเตตเมนต์หรือรายการเคลื่อนไหวทางบัญชี ฉบับสมบูรณ์มาให้ โดยอ้างว่าส่งรายการสเตตเมนต์ตามที่คณะกรรมการสืบฯขอในบางส่วน ซึ่งตนคิดว่าส่วนหนึ่งทางสถานศึกษาอาจจะไม่ต้องการให้เห็นสเตตเมนต์ เพราะที่ผ่านมาระบบการโอนเงินไม่มีความเข้มงวด ดังนั้นการโอนเงินของบางสถานศึกษาก็ถูกโอนเข้าบัญชีอื่นๆ เช่น บัญชีเงินสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ บัญชีเงินรายได้สถานศึกษา บัญชีเงินค่าสมัครสอบ เป็นต้น ทำให้คณะกรรมการสืบฯตั้งข้อสงสัยว่าเงินที่โอนไปนั้นนำไปใช้กับเด็กตามวัตถุประสงค์ของกองทุนหรือไม่ คงต้องสืบสวนต่อ อีกทั้งตนยังได้เสนอให้สำนักงานส่งเสริมกิจการการศึกษา สังกัดสำนักงานปลัด ศธ.ว่าก่อนที่จะโอนเงินงวดต่อไป จะต้องมีการเปิดบัญชีเฉพาะ เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ อีกทั้งในช่วงปี 2557-2559 คณะกรรมการสืบฯยังพบหนังสือสั่งการจากส่วนกลางให้สถานศึกษาแห่งหนึ่งโอนเงินไปให้สถานศึกษาอีกแห่งหนึ่งด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดสังเกต,จากการสืบสวนทำให้พบว่าที่ผ่านมาที่ ป.ป.ท. และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เคยทักท้วงเรื่องการโอนเงินกองทุนฯให้กับเด็กมายัง ศธ.หลายต่อหลายครั้ง แต่การตอบข้อทักท้วงต่างๆพบว่ามีการส่งเอกสารไปชี้แจงเป็นเอกสารอันเป็นเท็จ โดยเฉพาะหนังสือร้องเรียนจากศูนย์ร้องเรียนประชาชน ทำเนียบรัฐบาลที่ได้ทักท้วงความผิดปกติเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ จะได้รับหนังสือชี้แจงอันเป็นเท็จเยอะสุด และผู้ที่ชี้แจงก็คือนางรจนา สินที ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบกองทุนฯ และสารภาพว่ามีการทุจริตเงินจริง โดยการทำเป็นหนังสือภายในที่ใช้การประทับตราแทนการลงชื่อ เพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้เรื่องขึ้นไปถึงข้าราชการตำแหน่งรองปลัด ศธ.ลงนาม ซึ่งจะทำให้ผู้บังคับบัญชาไม่ได้รับรู้ เพราะผมเชื่อว่าหากปลัด ศธ. ทุกยุคได้เห็นหนังสือร้องเรียนก็คงไม่มีการปล่อยเรื่องนี้ไปแน่นอน นายอรรถพลกล่าวและว่า สำหรับข้อมูลเส้นทางการเงินที่คณะกรรมการสืบฯให้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ช่วยตรวจสอบนั้น ขณะนี้ ปปง.รายงานกลับมาแล้วส่วนหนึ่ง ในช่วงปี 2554 จนถึงปัจจุบันเท่านั้น ผลสรุปคือ เส้นทางการเงินของบุคคลที่คณะกรรมการสืบฯ ส่งให้ตรวจสอบมีทั้งที่เชื่อมโยงกับกองทุนฯ และไม่มีความเชื่อมโยง อย่างไรก็ตาม การรายงานสรุปผลการสืบสวนข้อเท็จจริงในครั้งนี้ถือว่ายังไม่ใช่ครั้งสุดท้าย แต่เป็นการรายงานครั้งแรกเท่านั้น คณะกรรมการสืบสวนฯยังต้องทำงานเพื่อตรวจสอบในอีกหลายประเด็น,สำหรับกรณีมีข่าวจัดซื้อผ้าห่มกันหนาวในราคาแพงเกินจริง ที่ จ.สิงห์บุรีนั้น วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยถึงกรณี ป.ป.ท.ตรวจพบการจัดซื้อผ้าห่มกันหนาวเพื่อแจกผู้สูงอายุของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสิงห์บุรี เมื่อเดือน ก.พ.2560 ไม่ได้มาตรฐาน และจัดซื้อในราคาแพงกว่าราคากลาง ว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตนได้สั่งการให้ผู้อำนวยการศูนย์ฯสิงห์บุรีรายงานข้อเท็จจริงและเหตุผลว่าทำไมต้องจัดซื้อแพงกว่าราคากลาง และทำไมต้องเร่งรีบจัดซื้อ ทราบว่าขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการส่งข้อชี้แจงเข้ามา จากนั้นจะนำไปประกอบการพิจารณาร่วมกับข้อมูลที่ ป.ป.ท. กำลังลงสอบเรื่องนี้ในพื้นที่ซึ่งจะทราบผลภายใน 2-3 วันนี้ เพื่อประมวลผลและพิจารณาตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวต่อไป เบื้องต้นต้องขอดูรายละเอียดทั้ง 2 ทางก่อน,อธิบดี พส.กล่าวอีกว่า การจัดซื้อผ้าห่มกันหนาวแจกราษฎรของ พส.ยึดตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่กำหนดขนาดของผ้าห่ม อาทิ ความกว้างไม่น้อยกว่า 145 เซนติเมตร ความยาว ไม่น้อยกว่า 195 เซนติเมตร เช่นเดียวกับราคากลางที่กำหนดไม่เกินผืนละ 240 บาท ส่วนจะจัดซื้อแพงกว่าราคากลางอย่างไร ก็ต้องมีเหตุผลชี้แจงเข้ามา อย่างไรก็ตาม จากนี้ตนจะกำชับหน่วยงานในสังกัดให้จัดซื้อตามความจำเป็นของราษฎร พร้อมต้องปฏิบัติตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้างของราชการอย่างเข้มงวดเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีกในอนาคต,ที่สำนักงาน ป.ป.ท.ภาค 5 จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการ ป.ป.ท. นายกฤษณ์ กระแสเวส ผอ.ป.ป.ท.ภาค 5 ร่วมกันแถลงข่าวการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ตรวจสอบคดีทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งในเขตพื้นที่ 5 ในส่วน จ.เชียงใหม่ มีความคืบหน้าการสอบสวนไปแล้วร้อยละ 50 นอกจากนี้ ป.ป.ท.ยังขยายผลตรวจสอบนิคมสร้างตนเอง นิคมชาวเขา รวมถึงศูนย์ประสานงานหมู่บ้านสหกรณ์ จะขยายผลตรวจสอบอีกที่ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดลำพูน เชียงราย แพร่ น่าน,เลขาธิการ ป.ป.ท.เผยต่อไปว่า ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดต่างๆ 67 ศูนย์ มีการตั้งอนุกรรมการไต่สวนทั้งหมด 50 ศูนย์ ไต่สวนไปแล้ว 26 ศูนย์ มีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 217 คน มีบุคคลนอกศูนย์ฯ เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เป็นผู้บริหารของกรม 3 รายและไม่ถึงระดับผู้บริหารอีก 2 ราย ป.ป.ท.จะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.เป็นผู้ตรวจสอบ ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับต่ำกว่าซี 8 ได้แจ้งให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้าไปดำเนินการทางวินัยหรือมาตรการทางปกครอง ขณะที่ ป.ป.ท.จะดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรม ส่วนที่เหลืออีก 24 ศูนย์คาดว่าจะตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ในจำนวน 50 ศูนย์ที่ตรวจพบการทุจริตเชื่อว่าจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 250 ราย โดยในเขตพื้นที่ 5 มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด 20 ราย
|
สรุปผลสืบสวนข้อเท็จจริงทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตถึงมือปลัด ศธ.เผยมีข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการทั้งที่ยังรับราชการและพ้นจากหน้าที่
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ทุจริตกองทุนเสมา,กองทุนเสมาพัฒนาชีวิต,กองทุนเสมาฯ,ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง,ผ้าห่ม,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1275697
|
ก้าวแรกรัฐสวัสดิการ: ภาคประชาสังคมเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติ ต่อสภาผู้แทนฯ
|
กับตัวแทน 7 พรรคการเมืองฝ่ายค้านนิมิตร์ เทียนอุดม ตัวแทนเครือข่ายแถลงว่า ทางเครือข่ายต้องการให้การยื่นร่าง พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติ เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างรัฐสวัสดิการ ต้องการเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎร และรัฐบาล มีเจตจำนงค์ในการทำให้ประชาชนคนไทยที่มีอายุ 60 ขึ้นไปมีหลักประกันด้านรายได้นิมิตร์ กล่าวต่อว่า ตามรัฐธรรมนูญหมวดที่ 3 กำหนดให้ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีสิทธิที่จะได้รับค่าครองชีพที่จะทำให้เขาดำรงชีวิตอยู่ได้ และในหมวดที่ 5 ระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องจัดสวัสดิการให้กับคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปสามารถดำรงชีพอยู่ได้อย่างเหมาะสม โดยเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการได้ลงไปในทุกชุมชน เพื่อรวบรวมรายชื่อจนครบ 10000 รายชื่อ ตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญที่เปิดทางให้ประชาชนสามารถเสนอกฎหมายได้ แต่ยังไม่ดำเนินการยื่นให้กับสำนักเลขาธิการสภาผูแทนราษฎรเนื่องจากต้องการผลักดันเรื่องนี้กับพรรคการเมืองต่างๆ ทั้งฝ่ายค้าน และรัฐบาล และต้องการเห็นเจตจำนงค์ของฝ่ายต่างๆ ว่าจะตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนอย่างไรคนอายุ 60 ปี ก็คือคนที่ก่อนหน้านี้ทำงานเลี้ยงประเทศประเทศไทยมีคนกลุ่มนี้อยู่ประมาณ 12 ล้านคน ซึ่งยังไม่มีหลักประกันอะไรเลย อยู่ได้ด้วยเงินของลูกหลาน หากลูกหลานไม่ช่วยก็เป็นปัญหา เราคิดว่าร่าง พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ไขปัญหาคนยากจนที่เรื้อรังมานาน โดยร่างกฎหมายฉบับนี้มีอยู่ 25 มาตรา ที่สำคัญที่สุดคือ ขอให้รัฐจัดสวัสดิการด้านรายได้ให้กับผู้สูงอายุ เรามีสโลแกนว่า เปลี่ยนเบี้ยยังชีพให้เป็นให้เป็นบำนาญพื้นฐาน นิมิตร์ กล่าวนิมิตร์ กล่าวว่า ทางกลุ่มขอเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนเบี้ยยังชีพเป็นบำนาญถ้วนหน้าที่เพียงพอ ซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 3000 บาท ต่อเดือน รวมทั้งจัดสรรงบประมาณประเทศ และจัดเก็บภาษีให้มีประสิทธิภาพ พิจารณาการลดหย่อนภาษีใหม่ โดยเฉพาะภาษีจากการค้า การลงทุน ปรับลดงบที่ไม่จำเป็นลง ตลอดจนเปลี่ยนเงินสงเคราะห์ต่างๆ ที่ซ้ำซ้อนมาพัฒนาระบบสวัสดิการถ้วนหน้าด้านสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในนามตัวแทน 7 พรรคฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนของเครือข่ายแล้ว พร้อมชี้ว่า การรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอกฎหมายโดยประชาชนตามรัฐธรรมนูญจะต้องรวมลายชื่อให้ได้ถึง 10000 รายชื่อ ซึ่งมีการกระยวนการขั้นตอนต่างๆ ในการตรวจสอบอีกมาก และอาจจะพบรายชื่อที่ตกหล่น แต่อย่างไรก็ตาม 7 พรรคฝ่ายค้านจะรับเรื่องนี้ไปขับเคลื่อนต่อ แต่จะต้องผ่านความเห็นชอบจากมติที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านก่อน อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ส.ส. ทุกคนจะช่วนเหลือดูแลพี่น้องประขาชนตามโอกาสที่จะทำได้ และหากรับทราบผลประการใดแล้วจะรีบแจ้งให้ทางกลุ่มทราบทันที
|
5 ก.ย. 2562 เวลา 09.45 น. ที่รัฐสภา เกียกกาย ตัวแทนเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการได้เดินทางเข้ายื่นเสนอร่าง พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติ พ.ศ
|
การเมือง,สิทธิมนุษยชน,คุณภาพชีวิต
|
ร่าง พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติ,เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ,นิมิตร์ เทียนอุดม,สภาผู้แทนราษฎร
|
https://prachatai.com/journal/2019/09/84185
|
ความพอเพียง สู่ พอแล้วดี The Creator แบรนด์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
|
โครงการดีๆ มีมาให้เสพอีกแล้ว กับ พอแล้วดี The Creator โครงการต้นแบบของสังคมที่สนับสนุน และส่งเสริมนักธุรกิจรุ่นใหม่ นำแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy) และแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) มาร่วมกันดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และโลกทัศน์ของคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ได้ทำธุรกิจเพียงอย่างเดียว หากนึกถึงสังคมที่อยู่ และพร้อมขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดความยั่งยืนทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ โดยที่ผ่านมา พอแล้วดี The Creator ตั้งแต่รุ่นที่ 1-3 ได้ดำเนินธุรกิจของตัวเองในโลกทัศน์ใหม่ที่เกิดจากแนวคิดหลักทั้งสอง รวมทั้งมีการเกื้อกูลกันในมิติต่างในรุ่นเดียวกัน และข้ามรุ่นอย่างต่อเนื่อง ,ในปี 2562 นับเป็นปีที่ 4 ของโครงการพอแล้วดี The Creator พร้อมจะเปิดตัว 18 แบรนด์ของนักธุรกิจรุ่นใหม่ในฐานะ พอแล้วดี The Creator รุ่นที่ 4 ซึ่งมีแรงบันดาลใจที่จะนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มาเติมเต็มแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและ บี. กริม ในวันพุธที่ 3 เมษายนนี้ ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ถนนพระราม 1, ,ดร.ศิริกุล เลากัยกุล ผู้อำนวยการพอแล้วดี The Creator เปิดเผยว่า พอแล้วดี ขยายความต่อเนื่อง ปีนี้เป็นปีที่ 4 เป็นความน่าชื่นใจมากที่เห็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่กำลังก้าวหน้า หันมาใส่ใจกับสังคมมากขึ้น ไม่เพียงแต่มีจำนวนคนที่มาสมัครเพิ่มขึ้น แต่ยังมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม น้องๆ หลายคนเป็น ไอดอล ของคนรุ่นใหม่อยู่แล้ว แต่อยากจะมาเข้าโครงการเพราะอยากจะมาเรียนรู้เรื่องความพอเพียง เพื่อที่เขาจะได้ไปช่วยสานต่อ หลายชื่อหลายแบรนด์ที่มาเข้าโครงการรุ่นที่ 4 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างดี เช่น ภูคราม FolkCharm เพนกวินชาบู มะพร้าวอ่อน Aromatic แต่อยากจะบอกว่าทุกแบรนด์ที่ได้เข้ามา ล้วนแต่น่าตื่นเต้นทั้งสิ้น พวกรุ่นก่อนๆ ที่มานั่งเชียร์ถึงกับจะขอมาร่วมเรียนอีกครั้งเพราะสนุกไปด้วย, ,ทั้งนี้ หลังจากการเปิดตัว พอแล้วดี The Creator รุ่นที่ 4 อย่างเป็นทางการ และประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน และการท่องเที่ยวก็จะจัด Workshop 5 ครั้งเพื่อเป็นการเสริมสร้างแนวทางในการพัฒนาธุรกิจให้มีความเข้มแข็งเพื่อเป็นต้นแบบ และพร้อมในการเผยแพร่องค์ความรู้ ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2562 พร้อมทั้งแบ่งปันความรู้สู่สาธารณชนผ่านโซเชียลมีเดีย ที่พอแล้วดี The Creator เฟซบุ๊กเพจและยูทูบ,ดร.ศิริกุล กล่าวในท้ายที่สุด ถึงบทบาทของ พอแล้วดี The Creator เป็นผู้เผยแพร่องค์ความรู้และเป็นแรงบันดาลใจให้นักธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจของตน สร้างเครือข่าย พอแล้วดี ที่เกื้อกูลกันและกันเพื่อการพัฒนาธุรกิจภายในท้องถิ่นตนเองและระหว่างท้องถิ่นอื่นๆ ด้วยแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เป็นคุณค่าให้กับสินค้าเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนต่อไป,ส่วนแบรนด์ที่ไม่ได้คัดเลือกเข้าร่วม ต้องบอกว่า หลายแบรนด์ไม่ใช่ไม่เก่ง ตรงกันข้ามคือ เก่งมากแล้ว จะอย่างไรก็ตาม ปีนี้เราได้เปลี่ยนกติกาใหม่ คือ ต่อให้ไม่ได้คัดเลือกให้เข้า workshop เต็มรูปแบบ แต่เราจะบอกน้องๆ ไปเลยว่า เขาต้องเติมเต็มเรื่องไหนให้พอเพียงกว่านี้ เช่นถ้าขาดเรื่อง Business Model เราก็จะเชิญมาเข้าร่วมในคลาสนี้เป็นกรณีพิเศษ พูดง่ายๆ คือ เราไม่ทิ้งใครเลย มีแต่ต้องเติมมากเติมน้อยให้พอดี
|
เมื่อนำ ความพอเพียง คือที่มาของโครงการ พอแล้วดี The Creator การสร้างแบรนด์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
|
ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์
|
ความพอเพียง,พอแล้วดี The Creator,ไลฟ์สไตล์แบรนด์,ไลฟ์
|
https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1540313
|
ภราดร มั่นใจนักเทนนิสไทยซิวทองมากกว่าซีเกมส์ครั้งก่อน
|
ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักเทนนิสมืออันดับ 9 ของโลกกลับมาลงสนามในฐานะผู้เล่นอีกครั้งในงานสปิริต ออฟ ภราดร แม้จะประกาศแขวนแร๊คเกตไปเมื่อการแข่งขันเทนนิสไทยแลนด์โอเพ่นปีที่แล้ว โดยในงานนี้ได้นำนักกีฬาเทนนิสวีลแชร์ชุดที่เคยคว้าเหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์มาร่วมประสบการ์ณแข่งขันฮาร์ดคอร์ตในร่มแบบเดียวที่ใช้กับการแข่งขันไทยแลนด์โอเพ่น โดยภราดรได้ลงแข่งขันกับสุวัชชัย เมืองพรม นักกีฬาเทนนิสวีลแชร์มือ 1 ของไทย ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นกันเองภราดร กล่าวว่า รู้สึกชื่นชมความสามารถของนักกีฬาคนพิการมานานแล้ว รวมถึงตนก็เคยลองเล่นเทนนิสบน วีลแชร์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องยากมากสำหรับผู้พิการ จึงอยากทำหน้าที่เป็นไกด์ เพื่อพาทัวร์สัมผัสบรรยากาศการแข่งขัน ซึ่งเพื่อนนักกีฬาต่างชาติ เช่น แอนดี้ เมอร์เรย์ ที่วันนี้มาทำการฝึกซ้อมอยู่ข้างๆ ก็ให้ความร่วมมือในการต้อนรับนักกีฬาคนพิการชาวไทยเป็นอย่างดีส่วนเรื่องการแข่งขันซีเกมส์ที่ต้องทำหน้าที่โค้ช คุมนักกีฬาชายลงสู้ศึกเป็นหนแรกนั้น มั่นใจว่าทีมชาติไทยน่าจะครองความเป็นเจ้าเหรียญทองได้ โดยน่าจะได้มากกว่าครั้งที่แล้วคือ 4เหรียญทอง จากการชิงชัยทั้งหมด 7 ประเภท ซึ่งตนยังวางใจให้ดนัย อุดมโชค เป็นตัวเต็งในการคว้าเหรียญทองส่วนการแข่งขันเทนนิสโอเพ่นวันนี้ยังคงเป็นการแข่งขันในรอบ 32 คนสุดท้าย โดยคู่แรกเป็นการพบกันระหว่างเกรก โจนส์ จาก ออสเตรเลีย ในชุดน้ำเงิน พบกับ แมทธิอัส บาสเซนเจอร์ จากเยอรมนี โดยเกมส์นี้ทั้งคู่เล่นได้อย่างสูสี แต่ในช่วงท้ายเกมส์ทาง บาสเซนเจอร์ อาศัยลูกเสริฟ์ที่หนักหน่วง และ การวางบอลต่ำ เอาชนะเกรก โจนส์ ไปอย่างสนุก 2 ต่อ 0 เซ็ต 7: 5 และ 6 : 4 ผ่านเข้าไปพบกับ ดนัย อุดมโชค ที่เอาชนะ ฟาบิโอ้ ฟ๊อกซินี้ จากอิตาลี มา 2:1เซ็ตขณะที่รองแชมป์เก่าปีที่แล้ว จาโค่ นิมิเน่นท์ จากฟินแลนด์ต้องออกแรงถึง 3 เซ็ตก่อนที่จะเอาชนะ โดมินิค ทีม จากออสเตรียไป 2 ต่อ 1 เซ็ต 6:1 4: 6 และ 7: 5 นิมิเน่นท์ ผ่านเข้ารอบไปพบกับมือวางอันดับ 7 โรบิน ฮาส จากฮอลแลนด์ ที่เอาชนะ กิตติพงษ์ วชิรมโนวงศ์ มา 2:0 เซ็ต
|
ภราดร ศรีชาพันธุ์ มั่นใจว่านักเทนนิสทีมชาติไทยน่าจะหยิบเหรียญทองซีเกมส์ได้มากกว่าการแข่งขันครั้งที่แล้วที่ทำได้ 4 เหรียญทอง
|
กีฬา
|
ซีเกมส์,ทอง,นักเทนนิส,ภราดร
|
https://news.thaipbs.or.th/content/36143
|
ศาลฎีกาเลื่อนไป 22 ธ.ค.อ่านคำพิพากษาคดีการ์ดพันธมิตรฯ บุก NBT ปี 51
|
เวลา 09.00 น.12 ต.ค. 2560 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก มีนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีกลุ่มนักรบศรีวิชัย ซึ่งเป็นกลุ่มการ์ดของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) บุกสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ในช่วงการชุมนุมขับไล่รัฐบาลเมื่อปี 2551 ซึ่งศาลนัดอ่านคำพิพากษาในเวลา 9.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 704 โดยคดีนี้มีการเลื่อนฟังคำพิพากษาศาลฎีกาจากเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากทนายความแจ้งว่าจำเลย 1 ราย มีอาการป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมอง ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ รวมทั้งจำเลยอีก 3 รายยังไม่ได้รับหมายเรียก จึงขอเลื่อนฟังคำพิพากษา ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้เลื่อนมาเป็นวันนี้ (12 ต.ค.60)รายงานข่าวระบุว่า วันนี้มีจำเลย เดินทางมาศาล ยกเว้นจำเลยที่ 36 37 49 เเละ 78 ศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่าจำเลยที่ 36 เเละ 37 ไม่เดินทางมาศาล โดยไม่มีเหตุอันควร ส่วนจำเลยที่ 37 อ้างว่าป่วย ศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่าอาการป่วยจำเลยที่ 37 ไม่ถึงขั้นเดินทางมาศาลไม่ได้ เห็นว่าจำเลยทั้งสองมีพฤติการณ์หลบหนี ไม่เดินทางมาศาล จึงให้ออกหมายจับจำเลยที่ 36-37 เพื่อมาฟังคำพิพากษาของศาลพร้อมปรับนายประกันตามอัตรา พร้อมนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.สำหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก ธเนศร์คำชุม จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน ส่วนจำเลยอื่นๆ พิพากษาตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปี 6 เดือน และมีการรอลงอาญาลงจำเลยบางคนเนื่องจากขณะกระทำความผิดยังเป็นเยาวชนต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาเเก้โทษให้จำเลยจำคุก ตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปี แต่จำเลยรับสารภาพเลยลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 3-8 เดือน ส่วนจำเลยที่เป็นเยาวชนให้รออาญา โดยคดีนี้จำเลยได้รับการประกันตัว หลังยื่นหลักทรัพย์วงเงินคนละ 200000 บาทที่มา : และ
|
เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีการ์ดพันธมิตรฯ บุก NBT ปี 51 ครั้งที่ 2 เหตุจำเลยมาศาลไม่ครบ พร้อมออกหมายจับ 2 จำเลยเพื่อมาฟังคำพิพากษา-ปรับนายประกันตามอัตรา นัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 22 ธ.ค.นี้
|
การเมือง
|
NBT,นักรบศรีวิชัย,บุก NBT,พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
|
https://prachatai.com/journal/2017/10/73668
|
นายกฯ มอบรางวัลชาวนาดีเด่น ย้ำ รัฐพยายามสร้างรากฐานเกษตรเข้มแข็ง
|
วันที่ 4 มิ.ย. 58 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ให้นโยบายด้านข้าวกับผู้นำและชาวนาดีเด่น เนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ วันที่ 5 มิถุนายน 2558,โดยกล่าวชื่นชมในการทำหน้าที่ของเกษตรกรทุกคน ซึ่งทุกคนต้องมีความภาคภูมิใจ ที่ได้ชื่อว่า เป็นกระดูกสันหลังของชาติ แต่เมื่อชาวนาไม่เข้มแข็ง ประเทศชาติก็อ่อนแอ ซึ่งในรัฐบาลปัจจุบัน แม้จะมีเวลาการทำงานไม่นาน แต่ก็จะพยายามสร้างรากฐานและความมั่นคงให้กับชาวนาให้มากที่สุด แต่ทุกคนต้องร่วมมือกันโดยเฉพาะการเตรียมพร้อมในการรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และใช้ชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง,นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า สิ่งที่เป็นกังวลในขณะนี้คือ ทำอย่างไรให้ทั้งผู้ผลิต และผู้ประกอบการมีรายได้ที่เพียงพอ ผู้บริโภคได้ซื้อข้าวในราคาที่เป็นธรรม ที่สำคัญคือ การที่ไทยตั้งเป้าเป็นคลังอาหารของโลก ดังนั้น เกษตรกรและชาวนาจึงต้องมีความเข้มแข็ง,ด้าน นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ได้พาผู้นำ และเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่มีผลงานดีเด่นทั่วประเทศ รวม 200 คน มาร่วมรับฟังนโยบายด้านข้าวของรัฐบาล พร้อมทั้งเชื่อว่าการให้โอวาท และความตั้งใจแก้ปัญหาของรัฐบาล จะเป็นขวัญและกำลังใจให้เกษตรกรได้ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป
|
นายกรัฐมนตรีมอบรางวัลชาวนาดีเด่น พร้อมระบุ เกษตรกรเป็นกระดูกสันหลังของชาติ เมื่อเกษตรกรไม่เข้มแข็ง ประเทศชาติก็อ่อนแอ ย้ำ รัฐบาลให้ความสำคัญและพยายามสร้างรากฐาน เพื่อให้ภาคเกษตรกรมีความเข้มแข็ง
| null |
ชาวนา,นายกรัฐมนตรี,ประยุทธ,พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา,กระดูกสันหลังของชาติ,เกษตรกร,ไม่เข้มแข็ง,ประเทศอ่อนแอ,วันข้าวไทย,ชาวนาแห่งชาติ,อำนวย ปะติเส,รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
|
https://www.thairath.co.th/content/502995
|
ยึดทรัพย์เครือข่ายอดีต ผบก.เลย ร่วมโกงตำรวจรูปแบบ แชร์ลูกโซ่
|
เพื่อเอาเงินมาใช้ในการลงทุน ,โครงการบริหารหนี้, โดยอ้างกับตำรวจที่ร่วมลงทุนจะได้รับส่วนแบ่งผลกำไรใช้หนี้สินของตำรวจ,สุดท้ายโครงการไม่มีเงินปันผล ไม่ได้เงินกลับคืนมา ทำให้หนี้สินยิ่งท่วมสูงขึ้น ตำรวจชั้นผู้น้อยที่เป็นหนี้สินเหลือเงินเดือนไม่เพียงพอใช้จ่ายดูแลครอบครัว ความเสียหายกว่า 240 ล้านบาท และยังมีคนในภาคอีสานและภาคเหนือหลงเชื่อร่วมลงทุนอีกกว่า 1,000 ล้านบาท เป็นเหตุให้นายตำรวจยศ ร.ต.อ.เครียดเส้นเลือดในสมองแตก และเสียชีวิตหลังรู้ว่าถูกหลอก นายที่ไว้ใจหลอกให้เข้าร่วมลงทุนจนเป็นหนี้เป็นสินทำให้ครอบครัวเดือดร้อน,พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร., ทนเห็นภาพความเดือดร้อนของตำรวจชั้นผู้น้อย มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช รอง ผบช.สกพ. อดีต ผบก.ภ.จ.เลย ซึ่งเป็นประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย เจ้าของโครงการรวมหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย,มีส่วนหลอกสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการว่าจะนำเงินไปลงทุนหุ้นได้รับผลตอบแทนสูง และนำเงินลงทุนไปชำระหนี้ให้กับสมาชิกได้ ทำให้สมาชิกหลงเชื่อและนำเงินไปให้อดีต ผบก.ภ.จ.เลย กับพวกนำไปลงทุน,พฤติกรรมเข้าข่ายรูปแบบ แชร์ลูกโซ่ น่าจะมีเครือข่ายเชื่อมโยงผู้ร่วมกระทำผิดคดีอื่นๆ ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 มีพี่น้องประชาชน และตำรวจเป็นผู้เสียหายจำนวนมาก,แม้ผลสอบสวนจะชี้มูลความผิด พล.ต.ต.สุทิพย์ แต่ตำรวจชั้นผู้น้อยที่ถูกหลอกยังไม่ได้รับการเยียวยา พล.ต.ต.สุทิพย์ ไม่ชดใช้เงินกองทุนคืนตามที่สัญญา ตำรวจชั้นผู้น้อยกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม และคิดว่าไม่มีใครกล้าแตะต้องนายพลตำรวจ และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องขบวนการโกงเงินกองทุนตำรวจในพื้นที่ จ.เลย,พล.ต.อ.จักรทิพย์ มอบ ,พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล, รอง ผบช.ทท. ร่วมกับ พล.ต.ท.สุรชัย ขยายผลผู้ร่วมขบวนการเพราะเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดในวงการตำรวจ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ได้ลงพื้นที่สืบสวนเครือข่ายของ พล.ต.ต.สุทิพย์ ซึ่งไม่ใช่แค่เอาผิดทางคดีอาญาแค่นั้น แต่หาทางบรรเทาความเดือดร้อนของตำรวจที่ถูกหลอกร่วมลงทุน ตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อนำมาใช้เยียวยาความเดือดร้อนของครอบครัวตำรวจ,ผู้เสียหายเห็น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ที่ทำงานชนิดตรงไปตรงมาเอาจริงเรื่องนี้ เริ่มเชื่อมั่นว่าน่าจะได้เงินคืน โดยภรรยาของ ร.ต.อ.ที่เครียดล้มป่วยเสียชีวิตมาขอบคุณ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บอกว่า สามีเชื่อใจเจ้านาย นำเงินที่กู้ยืมจากสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจเลย ไปร่วมโครงการรวมหนี้และบริหารหนี้ แต่กลับถูกเจ้านายโกง จนวันนี้หนี้สินเต็มไปหมด หลังจากที่ทราบข่าวว่าเจ้านายที่เคารพโกง สามีเครียดจนล้มป่วยเสียชีวิต รายได้ที่จะมาใช้จ่ายในครอบครัวไม่มี ขณะนี้ครอบครัวยังไม่เผาศพจนกว่าครอบครัวและตำรวจที่ถูกเจ้านายโกงจะได้เงินที่ถูกหลอกคืนมา,พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ พร้อมกำลังตำรวจ ทหาร และ ปปง. เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นยึดทรัพย์สินของขบวนการ 12 จุด ทั้งกรุงเทพฯ ขอนแก่น หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ อุดรธานี เชียงใหม่ นนทบุรี และขอนแก่น ตรวจค้นบ้านพัก 7 หลัง เครือข่าย พล.ต.ต.สุทิพย์ ยึดบ้านของ นายเกรียงไกร เกตุวิบูลย์ และ น.ส.ธิญาดา หรือนุช วิภาวรกาตย์ 2 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันนำเงินกองทุนตำรวจ จ.เลย มาลงทุน และหลอกลวงชาวบ้านอีกมาก,ตำรวจตรวจยึดได้ทรัพย์สินทั้ง 12 จุดที่ตรวจค้น มูลค่ากว่า 140 ล้านบาท พบหลักฐานต้นเหตุปัญหามาจาก น.ส.ธิญาดา หรือนุช อดีตนิติกรประจำศาล จ.เชียงใหม่ และ จ.ขอนแก่น เป็นผู้ที่นิยมเทรดหุ้น ได้รับผลกำไรมาก ทำให้ นายเกรียงไกร อดีตนิติกรประจำศาล อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และ จ.ขอนแก่น ล่าสุดเป็นนิติกรประจำศาล จ.หนองบัวลำภู ที่เห็นผลกำไรมาก ได้กู้เงินมาร่วมเทรดหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ จนทำให้มีรายได้มากขึ้น มีคนสนใจนำเงินมาร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก น.ส.ธิญาดา ได้ลาออกจากงาน เริ่มตั้งตัวเป็นนักเทรดหุ้น เริ่มชักชวนคนที่รู้จักส่วนใหญ่เป็นผู้พิพากษา พนักงานอัยการ เจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรม ตำรวจ เข้ามาร่วมลงทุนในตลาดหลักทรัพย์,จนปี 2560 ตลาดหลักทรัพย์ผันผวนติดลบหนัก ทำให้ผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ขาดทุนเป็นจำนวนมาก รวมทั้ง น.ส.ธิญาดา จนทำให้เกิดปัญหาจ่ายเงินปันผลผู้ร่วมลงทุนใน จ.เชียงใหม่ และ จ.หนองบัวลำภู ไม่ได้ จึงได้คิดหาแหล่งเงินทุนใหม่นำมาลงทุนต่อ จนมารู้จัก พล.ต.ต.สุทิพย์ ที่ชอบเล่นหุ้น และทราบข่าวการเล่นหุ้นได้กำไรมากของกลุ่ม น.ส.ธิญาดา ได้ชักชวนเพื่อนนาย และตำรวจลูกน้องใน จ.เลย มาร่วมลงทุนเป็นเงินจำนวนมาก,แต่ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้ได้ตามที่ตกลงกันไว้ เป็นเรื่องราวถูกแจ้งความดำเนินคดี,พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ที่เข้าใจหัวอกตำรวจชั้นผู้น้อยได้ลงมาช่วยเหลือเต็มที่,โดยหัวหน้าชุดทำงาน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. กล่าวกับ ทีมข่าวอาชญากรรม ว่า ตำรวจได้เข้าตรวจค้นยึดทรัพย์สินของขบวนการนี้ 12 จุด ทั้งกรุงเทพฯ ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ และนนทบุรี ซึ่งเป็นรูปแบบแชร์ลูกโซ่ แรกๆเงินที่มาร่วมลงทุนจะนำไป ลงทุนจริงและได้เงินปันผลจริง พอเหยื่อมากขึ้นไม่ได้นำเงินไปลงทุนและตัวการหลบหนีหายไป โดยทรัพย์สินที่ยึดมาได้จะนำมาเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหาย ยืนยันว่าจะทำตรงไปตรงมา และเสนอ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้ตั้งรอง ผบ.ตร. มาควบคุมในการทำสำนวนคดี ไม่หนักใจแม้จะมีผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นคนสำคัญ อยู่ระหว่างขยายผลผู้ที่ร่วมขบวนการ คาดว่าเป็นนักธุรกิจที่มีความรู้ในด้านการเทรดหุ้นที่มาชักจูงใจให้ตำรวจและประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อเป็นจำนวนมาก หากตรวจสอบเส้นทางการเงินหรือมีหลักฐานเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับบุคคลใดจะดำเนินคดีทุกราย อยากให้ตำรวจและประชาชนที่ตกเป็นผู้เสียหายเข้าแจ้งความเอาผิดขบวนการนี้เพื่อที่จะได้ทรัพย์สินที่ถูกโกงไปกลับคืนมา ยืนยันคดีนี้ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนการตรวจยึดทรัพย์สินของผู้กระทำผิดร่วมกับ ปปง.ทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย และจะเร่งรัดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของตำรวจชั้นผู้น้อยที่เป็นผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด,อีกหนึ่งคดีที่ ผบ.ตร. ที่ให้ความสำคัญกับตำรวจชั้นผู้น้อยที่เป็นกำลังหลักของตำรวจ เมื่อครอบครัวตำรวจชั้นผู้น้อยได้รับความเดือดร้อน มอบหมาย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เป็นผู้รับผิดชอบงานสืบสวนขยายผลผู้ที่ทำความเดือดร้อนให้ตำรวจและพี่น้องประชาชน และหาทางเยียวยาความเดือดร้อนตำรวจชั้นผู้น้อย,เป็นภารกิจหน้าที่ที่ไม่มีใครกล้าทำ.,ทีมข่าวอาชญากรรม
|
เป็นคดีฉ้อโกงที่ไม่ธรรมดาเป็นที่จับตาของตำรวจและพี่น้องประชาชน เพราะมีนายตำรวจใหญ่เป็นตัวการร่วมกับ คนนอก หลอกลวงตำรวจ 192 นายในพื้นที่ จ.เลย กู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
โกงเงินสหกรณ์ออมทรัพย์,กู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ,แชร์ลูกโซ่,หลอกลงทุน,แกะรอยรอบสัปดาห์,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/1376649
|
แจกรูปสเกตช์แก๊งหื่น ข่มขืนสาวเสิร์ฟพัทยา
|
ตรวจจุดเกิดเหตุช่วงกลางดึกมืดสนิท ไม่มีไฟส่องสว่าง แถมกล้องวงจรปิดเสีย เร่งประสานเมืองพัทยาซ่อมด่วนพร้อมเพิ่มไฟส่องสว่างตามจุดล่อแหลม แย้มพอรู้เบาะแสคนร้ายบ้างแล้ว เตรียมกว้านเด็กเรือสปีดโบ๊ตตรวจดีเอ็นเอรายคน ผกก.สภ.เมืองพัทยาตั้งรางวัลนำจับรายละ 2 หมื่นบาท,จากเหตุการณ์ 4 ทรชนเดนกามใช้ปืนจี้นายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 20 ปี พนักงานร้านอะโกโก้ แล้วลาก น.ส.จอย (นามสมมติ) แฟนสาว วัย 18 ปี สาวเสิร์ฟร้านบาร์เบียร์ ไปเรียงคิวข่มขืนเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณตี 2 วันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา บริเวณลานจอดเฮลิคอปเตอร์ บนเขาทัพยา หรือเขา สทร.5 พัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนอง-ปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนปล้นเอาเงินสด 3,000 บาทหลบหนีไป,ความคืบหน้าการสืบสวนแกะรอยไล่ล่าแก๊งคนร้ายเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 22 ก.พ. พล.ต.ต.นิติพงษ์ เนียมน้อย ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังฝ่ายสืบสวนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อดูสถานที่ตอนกลางคืน เริ่มจากบริเวณลานจอดเฮลิคอปเตอร์ที่คนร้ายใช้ปืนจี้ผู้เสียหาย จากนั้นลงไปตรวจสอบจุดที่กลุ่มคนร้ายลงมือข่มขืนเหยื่อบริเวณเชิงเขาห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตรเป็นป่าละเมาะและโขดหินมืดมิด ไม่มีแสงไฟส่องสว่าง ส่วนแนวทางการสืบสวนการตามล่าตัวคนร้าย ตำรวจขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของเมืองพัทยา ตามจุดต่างๆละแวกที่เกิดเหตุ แต่ ปรากฏว่าได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่ากล้องเสีย,พล.ต.ต.นิติพงษ์ เนียมน้อย ผบก.ภ.จ.ชลบุรี กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเชื่อว่าคนร้ายต้องรู้เส้นทางบนเขาทัพยา เนื่องจากจุดดังกล่าวยากมากที่จะมีคนผ่านไปพบเห็นหรือมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ อีกทั้งรอบๆบริเวณเป็นที่มืดไม่มีแสงไฟ ส่วนแนวทางการติดตามตัวคนร้ายได้สเกตช์ภาพคนร้าย 2 ใน 4 คน ที่ผู้เสียหายจดจำใบหน้าได้ชัดเจน และได้แจกภาพสเกตช์คนร้ายทั้งสองให้ตำรวจในพื้นที่เมืองพัทยาและโรงพักใกล้เคียงช่วยตรวจสอบ โดยทีมสืบสวนชุดทำงานพอจะมีเบาะแสของคนร้ายบ้างแล้ว,ผบก.ภ.จ.ชลบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า รู้สึกเป็นห่วงจุดชมวิวมุมต่างๆบนเขาทัพยา เนื่องจากมีประชาชนและนักท่องเที่ยวขึ้นมายามค่ำคืนเยอะมากในแต่ละวัน ในอนาคตจะประสานไปยังเมืองพัทยาให้ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เป็นผู้กำหนดเวลาปิดเปิดประตูทางขึ้นลานจอดเฮลิคอปเตอร์ พร้อมประสานให้ติดตั้งไฟส่องสว่างตามจุดล่อแหลม และสุดท้ายอยากให้ทางเมืองพัทยาเร่งแก้ไขกล้องวงจรปิดที่ชำรุดเสียหายหรือใช้การไม่ได้ตามจุดต่างๆในเมืองพัทยา เพื่อเป็นประโยชน์ในการสืบสวนคลี่คลายคดีอาชญากรรมต่างๆที่เกิดขึ้น,ด้าน พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา เผยว่า จากภาพสเกตช์คนร้ายอายุ 19-20 ปี รูปร่างผอม ผิวดำ สูงประมาณ 170-175 ซม. เชื่อว่าเคยต้องคดีในสถานพินิจฯ ขณะนี้อยู่ในระหว่างตรวจสอบกลุ่มคนที่เคยก่อคดีในลักษณะเดียวกันและอยู่ในพื้นที่ อ.บางละมุง ส่วนรถ จยย.ของคนร้ายจากการตรวจสอบพบว่าในพื้นที่มีมากกว่า 50 คันที่มีลักษณะตรงกัน ขณะนี้ตำรวจตั้งรางวัลนำจับรายละ 2 หมื่นบาทให้แก่ผู้แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันเมืองพัทยาพยายามผลักดันเขาทัพยาและเขาพระใหญ่ขึ้นเป็นอุทยานหลวง เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปบนเขาทั้งช่วงกลางวันและกลางคืนเป็นจำนวนมาก มีการจัดแบ่งเป็นสถานที่ชมวิว สถานที่ออกกำลังกาย และสวนสาธารณะ ส่วนลานจอดเฮลิคอปเตอร์ปกติมีประตูรั้วเปิดปิดตามเวลา และไม่มีใครขึ้นไปบริเวณดังกล่าว แต่ช่วงหลังเปิด 24 ชม. ซึ่งเมืองพัทยาเป็นผู้รับผิดชอบดูแล ถือเป็นจุดล่อแหลมเสี่ยงอันตรายที่สุดในยามค่ำคืน แต่มักมีผู้แอบขึ้นไปจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น จากการตรวจสอบสถานที่ชุมชนใกล้จุดเกิดเหตุเป็นที่จอดและเก็บเรือสปีดโบ๊ตที่แหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ มีเด็กเรือจำนวนมากพักอาศัยอยู่ ตำรวจเตรียมเรียกเด็กเรือทั้งหมดมาตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับของคนร้ายเป็นรายคนแล้ว
|
แจกภาพสเกตช์ไล่ล่า 2 ใน 4 ทรชนเดนกาม ปืนจี้หัวหนุ่มพนักงานร้านอะโกโก้ ลากแฟนสาวเด็กเสิร์ฟร้านบาร์เบียร์ไปเรียงคิวข่มขืนยับบริเวณลานจอดเฮลิคอปเตอร์บนเขาเมืองพัทยา ผบก.ภ.จ.ชลบุรี
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ข่าวหน้า1,ภาพสเกตช์,พัทยา,เรียงคิวข่มขืน,เด็กเสิร์ฟ,ร้านบาร์เบียร์,ร้านอะโกโก้,ปืนจี้,ข่มขืน
|
https://www.thairath.co.th/news/local/483160
|
กกต. ขอดูกฎหมายก่อนกรณี คืนแวตช่วงตรุษจีน ว่าเข้าข่าย ใช้ทรัพยากรรัฐหาเสียง หรือไม่
|
ต้องดูข้อกฎหมายก่อนเพราะมีความซับซ้อน จะต้องมาวิเคราะห์ว่าเข้าข้อกฎหมายหรือไม่1 ธ.ค. 2561 รายงานว่า พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 1-15 ก.พ. 2562 ด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ร้อยละ 5 ซึ่งคาบเกี่ยวกับช่วงเวลาที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งทั่วไปมีผลใช้บังคับแล้ว จนถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นการใช้ทรัพยากรของรัฐหาเสียงนั้นว่าเรื่องดังกล่าวต้องดูในข้อกฎหมายก่อนว่าเป็นเรื่องการทำนโยบายของรัฐที่กฎหมายเขียนห้ามไว้หรือไม่ หรือเป็นการทำนโยบายเพื่อดูแลประชาชนที่รัฐสามารถทำได้หรือไม่ส่วนจะถือเป็นการใช้ทรัพยากรของรัฐหรือไม่นั้น พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่าต้องดูข้อกฎหมายก่อนเพราะมีความซับซ้อนจะต้องมาวิเคราะห์ว่าเข้าข้อกฎหมายหรือไม่ อย่างไรก็ตามไม่ทราบว่า กกต.จะมีการนำเรื่องนี้ขึ้นมาหารือกันหลังจากนี้หรือไม่
|
จรุงวิทย์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปัดตอบกรณี ก.คลัง เตรียมคืนภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 5 ให้ประชาชนช่วงเทศกาลตรุษจีน 1-15 ก.พ. 2562 เข้าข่ายใช้ทรัพยากรรัฐหาเสียงหรือไม่
|
การเมือง,เศรษฐกิจ,สังคม,คุณภาพชีวิต
|
กกต.,การเลือกตั้ง,จรุงวิทย์ ภุมมา,คืนแวตช่วงตรุษจีน
|
https://prachatai.com/journal/2018/12/79872
|
ชมช็อปสินค้าน่ารัก TOYOTSU Japan ของดีจากญี่ปุ่น
|
เราเองเป็นหนึ่งคนที่สนใจในประเทศญี่ปุ่นมากๆ ทั้งวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ สิ่งของเครื่องใช้ ที่มีความน่ารักและมีความเป็นญี่ปุ่นอยู่ในตัวเค้าเอง เพราะฉะนั้นไม่ว่าเราจะไปกี่ครั้งก็ยังมีความรู้สึกอยากไปอีก แบบไม่เบื่อเลย,ล่าสุดไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ มีโอกาสได้ไปเที่ยวงาน ,TOYOTSU JAPAN FESTIVAL 2018 ,(โตโยสึ เจแปน เฟสติวัล 2018) โดยงานมีมาตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.-1 ก.ค. 2561 เวลา 10.00-21.00 น. ที่ พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 เราได้เห็นสินค้าที่ดูเหมาะกับคุณผู้หญิง ไทยรัฐออนไลน์จึงนำมาฝากกัน,เรื่องที่น่าสนใจ,7 ร้านอร่อยเด็ด TOYOTSU Japan เหลือ 2 วันสุดท้าย รีบไปกิน,3 นวัตกรรมไฮเทคจากงานโตโยสึ เจแปน เฟสติวัล 2018,และที่ต้องว้าวดูจนเพลินตา กับผลิตภัณฑ์บิวตี้ เครื่องสำอางออร์แกนิก 100% จากญี่ปุ่นที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ดีๆ จากธรรมชาติและดีต่อผิวพรรณของคุณผู้หญิงมาไว้ที่งานนี้ โดยมีสินค้ายอดนิยมมาให้เลือกสรรมากมาย อาทิ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว, สบู่ชาร์โคลทำความสะอาดผิวหน้า, ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม, ยาสีฟัน Ora2 ยาสีฟันไวท์เทนนิ่งขายดีนานเป็นอันดับ 1 ถึง 10 ปีซ้อน มาลดราคาและแลกแจกแถมกันภายในงานอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเครื่องประดับน่ารัก สร้อยข้อมือ ลายขนม เครื่องรางสิ่งนำโชคสำหรับคุณผู้หญิงด้วยนะจ๊ะ ,1. ผลิตภัณฑ์บิวตี้ เครื่องสำอางออร์แกนิก 100% ผลิตจากธรรมชาติ , ,3. ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม
|
ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่เทใจให้กับประเทศญี่ปุ่น ไปร่วมช็อปสินค้าน่ารักในงาน TOYOTSU Japan 2018 สินค้าดีมีคุณภาพน่ารักๆ เพียบ
|
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
|
ช็อปปิ้ง,แฟชั่นญี่ปุ่น,เครื่องสำอาง,Toyotsu Japan Festival,เครื่องประดับคุณผู้หญิง
|
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/shopping/1324038
|
ปภ.โคราช แจกจ่ายน้ำให้ปชช. หลังประสบภาวะขาดแคลนน้ำนานเกือบ 1 เดือน
|
เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขององค์การบริหารส่วนต.เสมา อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา นำน้ำแจกจ่ายให้โรงเรียนบ้านแก่นท้าว ต.เสมา อ.สูงเนิน หลังขาดแคลนน้ำประปานานเกือบ 1 เดือน ขณะที่จ.บุรีรัมย์ สถานการณ์ภัยแล้งขยายวงกว้าง ผู้ว่าราชการจังหวัด ประกาศให้พื้นที่ทั้ง 23 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้วเช่นเดียวกับจังหวัดเชียงใหม่ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งใน 8 อำเภอ ชาวบ้านเดือนร้อนกว่า 4 พันครอบครัว พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 20000 ไร่ ไม่แตกต่างจากจ.เชียงรายพิจิตร และน่าน ที่แหล่งน้ำธรรมชาติแห้งขอด โดยเฉพาะจ.พิจิตร ต้องมีการหารือกับชาวบ้าน เพื่อบริหารจัดการน้ำในการทำนา เนื่องจากน้ำต้นเขื่อนเหลือไม่ถึงร้อยละ 50ส่วนที่จ.อุทัยธานี อ่างเก็บน้ำทัพเสลา อ่างเก็บน้ำใหญ่ที่สุดของจังหวัด ซึ่งมีความจุอ่าง 160 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบันเหลือน้ำไม่ถึงร้อยละ 20 ทำให้ต้องหยุดจ่ายน้ำให้เกษตรกร เช่นเดียวกับอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ในอ.ห้วยคต มีความจุน้ำในอ่าง 43 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่เหลือเพียงร้อยละ 18 ต้องหยุดการจ่ายน้ำแล้วเช่นกัน
|
สถานการณ์ภัยแล้งยังคงขยายวงกว้างในหลายจังหวัดทั่วประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวเร่งเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย
|
ภูมิภาค
|
ขาดแคลนน้ำ,บุรีรัมย์,ภัยแล้ง,สูงนเน,โคราช
|
https://news.thaipbs.or.th/content/148201
|
นศ.โดดตึก 15 ชั้นดับ คาดเครียดเรียนไม่จบ เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม
|
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 28 ส.ค.62 ร.ต.อ.กัมพล จำปาศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมือง นครปฐม ได้รับแจ้งนักศึกษากระโดดอาคารเรียน 15 ชั้นเสียชีวิตภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่ง จึงพร้อมด้วย แพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐมเดินทางไปที่เกิดขึ้น,ทั้งนี้ พบศพนายเอก (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ชาวจังหวัดอุทัยธานี นักศึกษาชั้นปีที่ 5 สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์ สภาพศพเลือดไหลนองใบหน้า กะโหลกศีรษะแตก แขนขาหัก ซี่โครงหัก ไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย โดยที่ดาดฟ้าของอาคาร 15 ชั้น พบรอยรองเท้าหนังเปื้อนติดอยู่ที่กำแพงปูน ซึ่งตำรวจคาดว่าเป็นจุดที่นักศึกษากระโดด จึงให้กองวิทยาการมาตรวจสอบ,อาจารย์ในสาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์ เปิดเผยว่า ปกตินักศึกษาเป็นเด็กที่มีอุปนิสัยร่าเริง นายเอก มีผลการเรียนที่ดี แต่ชอบเล่นเกม ขณะนี้นักเรียนเป็นนักศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 5 โดยเพื่อนร่วมชั้นได้จบกันหมดแล้ว แต่นักศึกษามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการชำระค่าเทอม จึงส่งผลให้ไม่มีสิทธิ์เข้าสอบ หรือเกรดไม่ออก จึงทำให้ยังไม่จบการศึกษาพร้อมกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ จึงทำให้เป็นนักศึกษาตกค้างจบช้ากว่าเพื่อน หรืออาจจะเป็นเรื่องนี้ที่ทำให้เกิดความเครียด เพราะทางบ้านฐานะไม่ค่อยดีนัก,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ทราบสาเหตุของการฆ่าตัวตายครั้งนี้ เพราะยังไม่ทราบว่านายเอกมามหาวิทยาลัยทำไมเนื่องจากไม่มีชั่วโมงเรียน หรือมาติดต่องานอะไรในด้านการศึกษา เนื่องจากลักษณะการแต่งกายนั้น สวมใส่ชุดนักศึกษาเรียบร้อย เหมือนนักศึกษาที่เข้าใหม่ปีแรก,จากการสอบถามทราบว่าเด็กที่ตาย ได้หยุดเรียนมาตั้งแต่ปี 2561 เทอม 2 คาบเกี่ยวเข้า ปี 2562 เทอม 1 ปี 4 หยุดเรียนมาแล้ว 2 เทอม และยังไม่ได้ชำระค่าเทอม เบื้องต้นจึงสันนิษฐานว่ามูลเหตุของการโดดตึกครั้งนี้อาจมาจากภาวะเครียดที่เป็นเด็กตกค้าง เรียนไม่จบพร้อมกับเพื่อนคนอื่น ประกอบกับไม่ได้ชำระค่าเทอม หรือมีปัญหาครอบครัวหาเงินมาเรียนต่อไม่ได้ จึงตัดสินใจกระโดดตึกดังกล่าว ส่วนประเด็นอื่นๆ ต้องรอสอบญาติ ขณะนี้แจ้งให้ญาติทราบแล้ว
|
นักศึกษาชายวัย 23 ปี โดดอาคารเรียนชั้น 15 เสียชีวิต คาดเครียดเรียนไม่จบ เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม พบอาจเศร้าใจเพราะเพื่อนร่วมชั้นจบไปหมดแล้ว
|
ข่าว,สังคม
|
ฆ่าตัวตาย,ฐานะยากจน,ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม,นครปฐม,โดดตึกฆ่าตัวตาย,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/society/1647823
|
เมืองพารามัตตา ออสเตรเลีย จัดงานลอยกระทง สืบสานประเพณีไทย งดรื่นเริง
|
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.59 นายประสิทธิ์ นิเวศน์ทอง ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ ประจำซิดนีย์ รายงานข่าว สภาเมืองพารามัตตา จัดงานลอยกระทงขึ้น บริเวณริมแม่น้ำพารามัตตา ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ไปจนถึงเวลา 22.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) เพื่อสืบสานประเพณีลอยกระทงของไทย โดยได้รับการสนับสนุนจาก สถานกงสุลใหญ่ นครซิดนีย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานซิดนีย์ และสมาคมไทย-ออสเตรเลียนแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์,ทั้งนี้ประเพณีลอยกระทงของไทย ได้รับความนิยมจากชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก จนถูกบรรจุไว้ในปฏิทินของเมืองพารามัตตา ที่ให้จัดงานนี้เป็นงานประจำปี ทั้งนี้ภายในงานมีเวทีการแสดงต่างๆ มากมาย จากกลุ่มคนไทยในรัฐนิวเซาท์เวลส์ อาทิ การแสดงดนตรีไทย การฟ้อนรำ และมวยไทย,ขณะที่ ททท.สำนักงานซิดนีย์ ในปีนี้ได้งดการแสดงรื่นเริง แต่จัดให้มีบูธสาธิตจัดเครื่องแต่งกายโขน ปักชุดโขน การประดิษฐ์ชุดเครื่องประดับ พร้อมผู้สวมเครื่องแต่งกาย สาธิตเชิดหุ่นละคร เวิร์กช็อปประดิษฐ์กระทง และการสาธิตปั้นลิงจากดินเหนียว และเวิร์กชอป จาก ททท.สำนักงานลพบุรี เป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก,ต่อมาเวลา 19.30 น. ได้มีการกล่าวเปิดงานบนเวทีอย่างเป็นทางการจากสภาเมืองพารามัตตา พร้อมทั้งมีการร้องเพลงชาติออสเตรเลีย และเพลงชาติไทย จากนั้นได้มีการฉายวิดีทัศน์แสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมขอให้ทุกคนร่วมกันยืนตรงถวายความอาลัย,หลังเสร็จพิธีได้มีการเชิญชวนให้ทุกคนไปลอยกระทงที่แม่น้ำตามประเพณีของไทยพร้อมกัน ก่อนกลับมาชมการแสดงบนเวที และทำกิจกรรมอื่นๆ ต่อกระทั่งจบงาน ซึ่งในปีนี้ก็ยังคงได้รับความสนใจจากชาวไทยและชาวต่างชาติ พากันเดินทางมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมากเหมือนทุกๆ ปี
|
สถานกงสุลใหญ่ นครซิดนีย์ และททท.จัดงานลอยกระทงในเมืองพารามัตตา ออสเตรเลีย เพื่อสืบสานประเพณีไทย แต่ยังดการแสดงรื่นเริง โดยภายในงานมีการแสดงวีดิทัศน์และยืนแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
| null |
ลอยกระทง,งานลอยกระทงในต่างประเทศ,สถานกงสุลใหญ่ นครซิดนีย์,พารามัตตา,ออสเตรเลีย
|
https://www.thairath.co.th/content/781521
|
เพื่อนฟ้อง ตำรวจไล่จับ เด็ก ม.5 ซิ่งหนีสุดชีวิต ชนปิกอัพคอหักตาย
|
เมื่อเวลา 01.10 น. วันที่ 27 พ.ย. ร.ต.อ.จักรกฤษณ์ ศรีกงพาน รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนท้ายรถกระบะ ที่บริเวณสี่แยกไฟแดง ถนนศรีสุข ตัดกับ ถนนนเรศวร หน้า สภ.เมืองอุดรธานี มีผู้เสียชีวิต จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี,ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณฟุตปาทเรือนจำกลางอุดรธานี สภาพศพกะโหลกศีรษะแตก เลือดไหลนองพื้น คอหัก ขาด้านซ้ายหัก ทราบชื่อภายหลังว่า นายณัฐวัฒน์ สมบูรณ์ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/7 ถนนศรีสุข เทศบาลนครอุดรธานี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในเมืองอุดรธานี,ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า MSX สีเขียวดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ของผู้ตาย ล้มอยู่ใกล้กับศพสภาพพังยับเยิน ห่างไปเล็กน้อยหน้า สภ.เมืองอุดรธานีพบรถปิกอัพยี่ห้อฟอร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน กษ7772 อุดรธานี จอดอยู่ บริเวณกระบะด้านขวา มีรอยชนพังเสียหาย และมี นายลี้เนศ ชัยกิจมงคลกุล อายุ 38 ปี อยู่ที่ 651/351 หมู่ 1 ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี คนขับรถ รอให้การกับตำรวจ,โดย นายลี้เนศ คนขับรถปิกอัพ ให้การว่า ตนขับรถออกมาจากบ้าน เพื่อจะไปรับแฟนที่ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี โดยขับมาทางถนนศรีสุข เมื่อถึงสี่แยกไฟแดงหน้า สภ.เมืองอุดรธานี ซึ่งสัญญาณไฟกะพริบเป็นสีเหลืองตลอด เมื่อตนขับกำลังจะพ้นสี่แยกไฟแดง จู่ๆ ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจากทางถนนนเรศวร พุ่งเข้าชนรถของตนช่วงกระบะท้ายอย่างแรง จนรถปิกอัพเสียหลักหมุน ส่วนผู้ตายได้กระเด็นจากรถไปตกที่ฟุตปาท เสียชีวิตคาที่ ,ด้าน ร.ต.อ.จักรกฤษณ์ ศรีกงพาน รอง สว.สอบสวน เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเพื่อนของผู้ตาย ซึ่งเดินทางมาดูศพ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตนหลายคนมาบ้านผู้ตายเพื่อทำงานกิจกรรมของโรงเรียน กระทั่งดึกจึงขอตัวกลับบ้านหลังโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล โดยผู้ตายบอกจะขี่รถจักรยานยนต์ตามไปส่ง เมื่อออกมาถึงปากซอย มีชายขับรถเก๋งสีขาว อ้างว่าเป็นตำรวจจะมาจับรถจักรยานยนต์ ผู้ตายกลัวถูกจับและถูกยึดรถ จึงขี่รถหลบหนีมาทางถนนศรีสุข ชายอ้างเป็นตำรวจได้ขับเก๋งไล่ติดตาม และมีคนขี่รถจักรยานยนต์เป็นกลุ่มเดียวกับชายอ้างตัวเป็นตำรวจ ไล่ติดตามมาด้วย ผู้ตายขี่รถหนีด้วยความเร็ว แล้วมาชนรถกระบะเสียชีวิตดังกล่าว,อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะสอบปากคำคนขับรถกระบะ และเพื่อนผู้ตาย 2 คน อย่างละเอียด เกี่ยวกับรถเก๋งสีขาวที่ขับไล่จับผู้ตาย ว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
|
หนุ่มน้อยนักเรียน ม.5 ที่อุดรธานี ซิ่ง จยย.หนีกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ขับรถไล่จับ สุดท้าย จยย.เสียหลักพุ่งชนปิกอัพดับอนาถ เพื่อนบอกกลุ่มชายที่ไล่ตามเป็นตำรวจ จะมาจับรถ
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
หนีตำรวจ,ตำรวจไล่จับ,จยย.ชนปิกอัพ,หนีตำรวจรถชน,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1431138
|
จม. เปิดผนึกเร่งขอรัฐบาลนำ พรบ. สัญชาติ พิจารณา
|
27 ม.ค. 2554 - เครือข่ายแก้ปัญหาการคืนสัญชาติไทยได้ออกจดหมายเปิดผนึก เรื่อง ขอให้บรรจุวาระร่างพระราชบีญญัติสัญชาติ (ฉบับที่) พ.ศ. เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ตามที่เครือข่ายแก้ปัญหาการคืนสัญชาติคนไทย : ไทยพลัดถิ่น ได้จัดกิจกรรมยุติธรรมยาตรา จากด่านสิงขรถึงรัฐสภาฯ เพื่อรณรงค์และผลักดันให้รัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรเร่งรัดนำร่างพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่) พ.ศ. เข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรในสมัยการประชุมนี้นั้น เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ ได้ติดตามและศึกษาวิจัยในประเด็นปัญหาที่เกี่ยวกับคนไทยพลัดถิ่นมาอย่างต่อเนื่อง พบว่ากลุ่มคนไทยพลัดที่ตั้งถิ่นฐานในบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง ซึ่งมีมากกว่า 20000 คน ได้ถูกจำกัดสิทธิในการเข้าถึงทรัพยากรและสวัสดิการทางสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน การถูกเอารัดเอาเปรียบจากสภาวะ การเป็นบุคคลไร้รัฐ ไร้สิทธิ ไร้ตัวตน โดยเกือบจะสิ้นเชิงจึงมีข้อเรียกร้องขอให้รัฐบาลเร่งนำ พรบ. สัญชาติ เข้าพิจารณาในสมัยประชุมนี้ ส่วนในสถานการณ์ฌฉพาะหน้า ขอให้มีการผลักดันรับรองสิทธิความเป็นคนไทยให้กับคนพลัดถิ่น เพื่อให้เข้าถึงทรัพยากรและสิทธิพื้นฐาน และสุดท้ายคือมีการตั้งคณะกรรมการร่างกฏกระทรวงว่าด้วย การพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น ตามแนวทาง พรบ. สัญชาติ โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของเครือข่ายการแก้ปัญหาคืนสัญชาติคนไทย: ไทยพลัดถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเนื้อหาจดหมายเปิดผนึกฉบับเต็มมีดังนี้
|
27 ม.ค. 2554 - เครือข่ายแก้ปัญหาการคืนสัญชาติไทยได้ออกจดหมายเปิดผนึก เรื่อง ขอให้บรรจุวาระร่างพระราชบีญญัติสัญชาติ (ฉบับที่) พ.ศ. เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
|
สิทธิมนุษยชน
|
พ.ร.บ.สัญชาติ,เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้,เครือข่ายแก้ปัญหาการคืนสัญชาติคนไทย : ไทยพลัดถิ่น
|
https://prachatai.com/journal/2011/01/32838
|
รอง ผอ. แจง ดราม่า นักเรียน 5 พันคน ต่อแถวเข้าร.ร.ไหว้ครูยาวเหยียด
|
ในโลกโซเชียลมีการแชร์ภาพโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดอุดรธานี ให้นักเรียนเข้าแถวเรียงหนึ่งเข้าโรงเรียนในตอนเช้า พร้อมกับการไหว้ครูทีละคน โดยมีเสียงบ่นจากนักเรียนและผู้ปกครองว่า ทำให้เด็กเข้าโรงเรียนล่าช้า เกิดเป็นแถวยาวขึ้นมาหน้าโรงเรียน โดยมีนักเรียนคนหนึ่งได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า ,ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ได้ติดต่อไปยัง ,นายจักรพงษ์ ไชยพันธุ์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล กลุ่มบริหารงานทั่วไป, โดยนายจักรพงษ์ ยอมรับว่าภาพดังกล่าวเป็นโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ยืนยันแถวไม่ได้ยาวตามที่วิจารณ์,ทั้งนี้ นายจักรพงษ์ กล่าวต่อว่า โรงเรียนอุดรพิทยานุกูลมีประตูเข้าออกโรงเรียนอยู่ทั้งสิ้น 3 ประตู แต่ปิดใช้งานไป 1 ประตูเนื่องจากมีการก่อสร้างและไม่สะดวกให้นักเรียนเดินผ่านเกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงเหลือเพียง 2 ประตู คือ ด้านหน้า และด้านหลัง ซึ่งเพียงพอรองรับเด็กทั้งโรงเรียน และโดยปกติทุกเช้าจะมีครูเวรทำหน้าที่ต้อนรับนักเรียนอยู่ที่ประตู ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่นักเรียนเมื่อเจอคุณครูจะทำความเคารพโดยการไหว้,ส่วนที่เป็นประเด็นนั้น มองว่า ที่หน้าโรงเรียนมีทางเข้าสำหรับนักเรียนเป็นประตูเล็ก โดยไม่ถึงกับขนาดที่ว่านักเรียน 5 พันคนจะต้องเข้าประตูนี้ประตูเดียว เป็นเพียงเด็กกลุ่มเดียวที่เข้าประตูหน้า ส่วนเด็กที่เข้าประตูหลังก็มีเช่นกัน นอกจากนี้ ทางครูเวรที่อยู่หน้าโรงเรียนได้ยืนชิดกับประตูรั้วของโรงเรียนมากเกินไป ก็เลยทำให้เด็กยืนออจนล้นออกไปหน้าโรงเรียนเท่านั้น แต่เบื้องต้นทางโรงเรียนได้ให้ครูเวรเขยิบเข้ามาข้างในโรงเรียนมากขึ้น เพื่อไม่ให้นักเรียนยืนออต่อแถวจนล้นออกไปหน้าโรงเรียน, รองผอ.ร.ร.อุดรพิทยานุกูล ชี้แจงประเด็นดราม่า.
|
ดราม่านักเรียน 5,000 กว่าคน ต่อแถวเรียงหนึ่งเข้าโรงเรียนไหว้ครูทีละคน จนเข้าเรียนล่าช้าแถวยาวเหยียดหน้าโรงเรียน รองผอ.ร.ร. แจง ปัญหาใกล้เวลาเข้าแถว เด็กยืนออเต็ม ขณะที่ ครูเวรยืนชิดรั้ว ยัน แถวไม่ยาวอย่างที่วิจารณ์
|
ข่าว
|
ยืนต่อแถวไหว้ครู,นักเรียน 5000 คน,ต่อแถวเข้าโรงเรียน,อุดรธานี,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/news/994045
|
ปูลปิส ซูฮกโต๊ะเล็กไทยเจ๋งซิวตั๋วเอเชีย กุนซือติมอร์ยิ้มยิงได้ 2 ลูก
|
เตรียมส่ง กฤษดา กลับบ้าน เชื่อมั่นแข้งเด็กระเบิดฟอร์มเก่งชิงจ้าวอาเซียนได้ ขณะที่ กุนซือติมอร์ฯ รับยังห่างชั้นจากไทย แต่แฮปปี้สอยไทยได้ 2 ลูก,วันที่ 27 ต.ค. โฆเซ มาเรีย ปาซอส เมนเดส ปูลปิส หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตซอลทีมชาติไทย ออกมาเปิดใจหลังพาทีมเอาชนะ ติมอร์ เลสเต ไปขาดลอย 17-2 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศศึกฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน 2017 พร้อมคว้าตั๋วลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย 2018 รอบสุดท้ายที่ไต้หวัน,ปูลปิส กล่าวว่า เกมวันนี้ลูกทีมเล่นได้น่าพอใจเหมือนกับเกมนัดแรก แม้ครึ่งหลังเกมอาจจะผ่อนไปหน่อย แต่ทุกคนถือว่าทำหน้าที่ได้ดี และเราสามารถทำตามเป้าหมายแรกได้สำเร็จ คือ การคว้าโควตาผ่านเข้าไปแข่งขันในฟุตซอลชิงแชมป์เอเชียรอบสุดท้ายได้สำเร็จ ซึ่งเป้าหมายหลังจากนี้คือ การทำให้ผู้เล่นมีความสนุกในการเล่น เพื่อเดินหน้าคว้าแชมป์รายการนี้มาครองให้ได้ รอบต่อไปไม่ว่าเราจะเจอกับทีมใดจาก สาย เอ ก็ต้องให้เกียรติทุกทีม เพราะว่าแต่ละทีมล้วนมีความแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น อินโดนีเซีย, เวียดนาม หรือ เมียนมา โดยเกมนัดสุดท้ายของรอบแรกที่จะเจอกับ มาเลเซีย ก็ยังต้องเต็มที่เหมือนเดิม จะประมาทไม่ได้ เพราะพวกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่าแข็งแกร่งแค่ไหนในการเจอกันเมื่อครั้งกีฬาซีเกมส์,ส่วนอาการบาดเจ็บของ วรุต หวังสะมะแอล ที่มีอาการป่วย ก็เชื่อว่าน่าจะกลับมาช่วยทีมในเกมกับ มาเลเซีย ได้อีกครั้ง และจากฟอร์มล่าสุดของกลุ่มนักเตะทีมชาติไทยชุดนี้ ตนมั่นใจว่ามีศักยภาพมากพอจะประสบความสำเร็จได้ ส่วนกรณีของ กฤษดา วงษ์แก้ว แม้ผลสรุปจากฝ่ายจัดการแข่งขันว่า ตัวนักเตะจะไม่ต้องล้างโทษแบนจากศึกอินดอร์เกมส์ แต่เราก็ได้ส่งชื่อนักเตะลงแข่งขันใน 2 นัดที่ผ่านมา เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาไว้อีกสเต็ป ซึ่งหลังจากนี้ก็คงจะปล่อยให้นักเตะเดินทางกลับประเทศไทย และโฟกัสการแข่งขันไว้กับกลุ่มผู้เล่นดาวรุ่งชุดนี้ สำหรับทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์อาเซียน,ด้าน บรูโน ตอเรส กุนซือติมอร์ เลสเต เผยว่า เราเจอกับทีมที่แข็งแกร่ง มาตั้งแต่นัดแรก และเราจะต้องทำงานให้หนักขึ้น หากว่าต้องการจะขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับพวกเขา แต่ภาพรวมถือว่านักเตะทำผลงานได้น่าพอใจ จากการยิงได้ 2 ประตู กับทีมระดับชั้นนำอย่างไทย,ขอบคุณภาพจากเพจ Futsal Thailand - ฟุตซอลไทยแลนด์
|
โฆเซ มาเรีย ปาซอส เมนเดส ปูลปิส กุนซือใหญ่ทีมโต๊ะเล็กไทย ยกนิ้วหลังไทยคว้าตั๋วลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย ขณะที่กุนซือติมอร์ฯ รับยังห่างชั้นจากไทย แต่แฮปปี้สอยไทยได้ 2 ลูก
|
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
|
โฆเซ มาเรีย ปาซอส เมนเดส,ฟุตซอลทีมชาติไทย,โต๊ะเล็กไทยฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน 2017
|
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1109779
|
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.