title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
|---|---|---|---|---|---|
บิ๊กตู่แนะเสนอจัดเวทีดีเบต ปมตั้งสังฆราช หย่าศึกผ้าเหลือง
|
เปรยไม่อยากใช้อำนาจกับพระหวั่นศาสนาถูกพวกเราทำลายพุทธะอิสระรุกบีบปฏิรูปสงฆ์,บิ๊กตู่ เครียดสั่งจัดเวทีดีเบตปมตั้งสังฆราช หย่าศึกผ้าเหลือง เปรยในหลวงทรงพระประชวร อย่าให้ไปถึงพระองค์ท่านเลย ครวญไม่อยากให้ศาสนาพุทธ เสื่อมถอยด้วยพวกเรากันเอง ขณะที่ ประวิตร ชี้ฝ่ายบริหารไม่เกี่ยวเรื่องพระ ส่วน พุทธะอิสระ ยังไม่หยุด บุกสภาฯ จี้ สปท.-สนช. ปฏิรูป ก.ม.คณะสงฆ์ ชี้พระชุมนุมขัดธรรมวินัย ด้าน พระเมธีธรรมาจารย์ วอนรัฐบาลให้ความเป็นธรรม เมื่อคณะสงฆ์หยุดแล้ว อีกฝ่ายควรหยุดเช่นกัน พร้อมดักคอไม่ต้องส่งคนไปหาโยมพ่อโยมแม่ที่บ้านต่างจังหวัด เกรงว่าจะทำให้ท่านตกใจ ขณะที่ดีเอสไอจัดแถลงพร้อมให้ซักถามรายละเอียดรถโบราณของสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ,เป็นประเด็นร้อนแรงไม่มีทีท่าจะได้ข้อยุติ กรณีการทูลเกล้าฯสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ ที่มีการร้องเรียนสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช จนนำไปสู่การนัดแสดงพลังของเครือข่ายสงฆ์ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 17 ก.พ. ว่า เมื่อวันที่ 16 ก.พ. (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่เมืองแรนโช มิราจ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ที่อยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯสมัยพิเศษ ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการแต่งตั้งสมเด็จสังฆราชว่า อีกเรื่องที่กังวลคือเรื่องพระยังไม่ตัดสินอะไรให้ใครไม่ได้ เพราะตราบใดมีความขัดแย้งแบบนี้ก็เป็นปัญหา ถ้าเรื่องกฎวินัยสงฆ์ยังไม่เพียงพอก็ต้องไปว่ากันในข้อกฎหมาย ถ้าทุกคนหวังดีจริงๆ ต้องการให้ศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นศาสนาหลักของชาติเรา ให้เป็นที่เคารพนับถือก็ต้องไปหาทางแก้ปัญหากันให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น มส. รัฐบาล กลุ่มผู้เห็นต่าง อย่างไรก็แล้วแต่ ทั้งหมดต้องไปหาทางออกให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะโยนภาวะขึ้นมาและรัฐบาลก็ต้องเสนอไปตามกฎหมาย ถ้ามีผลกระทบไปถึงสถาบัน ตนต้องเคลียร์ให้จบก่อน เพราะเป็นพระราชอำนาจพระราชทานแต่งตั้งอะไรก็แล้ว ต้องอย่าให้สิ่งต่างๆ เหล่านี้ขึ้นไปถึงพระองค์ท่านเลย พระองค์ท่านก็ทรงประชวรในขณะนี้ ตนรับไว้เองก็แล้วกัน สั่งการไว้แล้วหาทางเอาพระสองฝ่ายมาดีเบตกัน ในเมื่อเป็นพระแล้วแก้กันไม่ได้ ก็เอาสองฝั่งมาดีเบตให้ประชาชนฟังดูเหตุผลเป็นอย่างไร ขอความร่วมมือกับท่านด้วยแล้วกัน,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า กับบรรดาพระสงฆ์ผมนับถือพระสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผมเป็นชาวพุทธ ไม่อยากให้ศาสนาเสื่อมถอย และการบังคับมากๆก็เป็นปัญหา เรามันเป็นความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน พูดจริงๆก็คือ ไม่ว่าใครจะมากจะน้อย แต่ก็คือพระ ส่วนหนึ่งฆราวาสส่วนหนึ่ง แล้วฆราวาสมีเยอะกว่านะ แต่ละฝ่ายเป็นล้านๆ เพราะฉะนั้นคิดว่านี่คือปัญหาใหญ่ที่จะเกิดต่อไปผมอยากให้ยุติ วันนี้ให้ได้ ถ้าคุยในทางสงฆ์ไม่ได้ต้องไปคุยในข้อกฎหมาย กลับไปจะรีบดำเนินการทันที ขออย่าเคลื่อนไหวมาเลย ไม่อยากไปใช้อำนาจอะไรกับพระ แม้กระทั่งกับฆราวาส แล้วศาสนาพุทธก็จะถูกทำลายด้วยพวกเรากันเองนี่แหละ,วันเดียวกัน ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่พระพุทธะอิสระแจ้งความเอาผิดเครือข่ายสงฆ์ที่มีการชุมนุมที่พุทธมณฑล ว่าเป็นเรื่องของพระ ซึ่งต้องว่าไปตามกฎหมาย ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีจะเตรียมเชิญผู้เห็นต่างทางพุทธศาสนา และให้ทั้งสองฝ่ายออกมาดีเบตเพื่อหาคำตอบนั้น ถูกของนายกฯ ฝ่ายสงฆ์มีสองฝ่าย ไม่มีปัญหาอะไร ฝ่ายบริหารไม่เกี่ยว ซึ่งในส่วนของฝ่ายความมั่นคงนั้นสถานการณ์เรียบร้อยดี,ส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็กล่าวถึงกรณีพระพุทธะอิสระแจ้งความเอาผิดเครือข่ายสงฆ์ว่า พนักงานสอบสวน บช.ภ.7 เตรียมออกหมายเรียกกลุ่มพระสงฆ์และฆราวาสที่ไปเคลื่อนไหวชุมนุมที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา มาให้ถ้อยคำ โดยเบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา แต่เนื่องจากมีพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีบุคคลใดเป็นแกนนำ หรือ ผู้เกี่ยวข้องในการชุมนุมครั้งนั้นบ้าง โดยเฉพาะพระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้จัดงานสัมมนาในวันดังกล่าว ส่วนการชุมนุมจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย หรือขัดคำสั่ง คสช.หรือไม่ ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงอีกครั้ง โดยเชื่อว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจน ว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลใดหรือไม่,ขณะที่ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่รัฐสภา พระพุทธะอิสระ แห่งวัดอ้อน้อย เข้ายื่นหนังสือต่อสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านนายวีระยุทธ เจริญกูล ผอ.สำนักประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายพงศ์กิตติ์ อรุณภักดีสกุล รองเลขาธิการวุฒิสภา เรียกร้องให้มีการปฏิรูปกฎหมายคณะสงฆ์ การปกครองคณะสงฆ์ และกิจการพระพุทธศาสนา เนื่องจากวิกฤติศรัทธาที่เกิดขึ้นแก่มหาเถรสมาคมที่เป็นองค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ที่แสดงออกด้วยการรับใช้นักการเมือง นักการเมืองอวยประโยชน์ให้แก่คณะสงฆ์พฤติกรรมชุมนุมของพระสงฆ์จีวรแดงผู้ฝักใฝ่อำนาจรัฐและสนับสนุนพรรคการเมือง ยิ่งกรณีล่าสุดที่พระเมธีธรรมาจารย์ และพระมหาโชว์ ทัสสนีโย และนักศึกษาต่างด้าวที่อยู่ในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยและมหามกุฏราชวิทยาลัย ร่วมมือกับเครือข่ายธรรมกาย เข้าร่วมชุมนุมอย่างผิดกฎหมายเพื่อกดดันให้รัฐบาลนำชื่อพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นสังฆราชและมีภิกษุเขาไปล็อกคอทำร้ายเจ้าหน้าที่และขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเชื่อว่าขัดต่อพระธรรมวินัย แต่อย่าเหมาว่าพระสงฆ์ที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องทั้งหมดทำผิดพระธรรมวินัย แต่ต้องดูนัยสำคัญของการเคลื่อนไหว,ด้านพระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวในวันเดียวกันว่า ตามที่คณะสงฆ์ได้ยุติการเคลื่อนไหวตามที่รัฐบาลต้องการแล้ว แต่กลับพบว่ากลุ่มผู้คัดค้านการเสนอรายชื่อสมเด็จพระราชาคณะเพื่อทูลเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช ยังคงออกมาเคลื่อนไหวยื่นเรื่องคัดค้านต่อหน่วยงานต่างๆ แล้วนำไปอ้างว่าเกิดข้อขัดแย้ง จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลดูแลให้กลุ่มผู้คัดค้านยุติการเคลื่อนไหวเช่นกัน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อคณะสงฆ์ ไม่ใช่ขอให้คณะสงฆ์ยุติการเคลื่อนไหว แต่รัฐบาลกลับปล่อยให้กลุ่มผู้คัดค้านยังเคลื่อนไหวได้ ทั้งนี้เห็นว่าควรปล่อยให้กระบวนการเสนอรายชื่อสมเด็จพระราชาคณะเพื่อทูลเกล้าฯสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช และการพิจารณาสอบสวนคดีต่างๆเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการตามกฎหมายอย่างปกติ โดยไม่มีการเมืองและฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเข้ามาแทรกแซง หากรัฐบาลยังคงปล่อยให้กลุ่มผู้คัดค้านเคลื่อนไหวอยู่ คณะสงฆ์จะออกมาเคลื่อนไหวกันอีกรอบก็คงจะไปห้ามไม่ได้ เพราะรัฐบาลยังไม่ให้ความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้คงรอดูท่าทีของรัฐบาลจะดำเนินการเช่นไร เพราะการเสนอรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช เป็นเรื่องที่มีกระบวนการขั้นตอนอยู่ คณะสงฆ์รู้ว่าควรใช้เวลาแค่ไหนถือว่าเป็นปกติและนานแค่ไหนถือ ว่าไม่ปกติ,พระเมธีธรรมาจารย์กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่าจะจัดสัมมนาแบบโต้วาทีระหว่างพระสงฆ์ทั้งสองฝ่ายแล้วให้ประชาชนตัดสินนั้น ไม่ว่าจะให้พูดเรื่องอะไรก็ตาม ทั้งเรื่องการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช หรือเรื่องศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ก็พร้อมที่จะไปพูดชี้แจงให้พุทธศาสนิกชนเข้าใจถึงเหตุผลในการออกมาเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตาม อยากขอความเห็นใจจากรัฐบาล และ คสช. ว่าการออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ ทางบ้านโยมพ่อ โยมแม่ไม่มีส่วนรู้เห็น ไม่ทราบเรื่อง ไม่ต้องส่งคนไปที่บ้านในต่างจังหวัด เพราะเกรงว่าจะทำให้ท่านตกใจ เนื่องจากท่านทั้งสองอายุมากแล้ว,สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบรถยนต์โบราณของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ตามที่มีผู้ร้องเรียนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นั้น พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว. ยุติธรรม กล่าวที่กระทรวงยุติธรรม ว่า ในวันที่ 18 ก.พ.ดีเอสไอจะแถลงผลการตรวจสอบรถยนต์โบราณ เมอร์เซเดสเบนซ์ ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ โดยอธิบดีดีเอสไอ จะแถลงรายละเอียดที่มาที่ไปของรถยนต์คันดังกล่าวทั้งหมด สำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ หากต้องการข้อมูลตรงนี้ก็ประสานมา จะส่งข้อมูลไปให้ ส่วนใครที่สนใจและเห็นว่ามีเรื่องราวที่จะสอบถามอธิบดีดีเอสไอก็จะเปิดให้ซักถามทุกขั้นตอน,ต่อมานายศุภภัทร์พจน์ นิติศธร ฝ่ายกฎหมายวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กล่าวตอบโต้เรื่องรถโบราณของวัดปากน้ำนำเข้าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยขอชี้แจงว่ากระบวนการนำเข้าอะไหล่รถคันดังกล่าว เป็นเรื่องของอู่วิชาญ และผู้นำเข้าดำเนินการเองทั้งหมด ซึ่งได้ยืนยันมาโดยตลอดว่าไม่เกี่ยวข้องกับผู้บริจาครถให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หากการนำเข้ารถไม่ถูกต้องตามกฎหมายจริง ก็เป็นเรื่องที่ดีเอสไอจะต้องตรวจสอบและดำเนินการเอาผิดกับผู้นำเข้า กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และกรมการขนส่งทางบก โดยเฉพาะกรมสรรพสามิตและกรมศุลกากร เป็นหน่วยงานที่ต้องตรวจสอบและประเมิน รวมถึงเรียกเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้า,วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีการตรวจสอบเส้นทางการเงินจากเช็ค 878 ฉบับ ที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธาน สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด เป็นผู้สั่งจ่ายให้กับ 7 กลุ่ม ซึ่งอาจเชื่อมโยงถึงวัดธรรมกายหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า การประชุมดังกล่าว คณะทำงานได้ประชุมร่วมกับพนักงานอัยการฝ่ายสอบสวน โดยพิจารณาเห็นว่าในจำนวน 7 กลุ่ม ก็พิจารณากลุ่มที่ไม่ได้มีมูลหนี้ต่อกันจริง มีการรับเช็คสหกรณ์ฯคลองจั่นไป ก็จะเข้าข่ายความผิดอาจจะเป็นรับของโจรหรือฟอกเงินก็แล้วแต่กรณีไป ส่วนจะเริ่มเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาได้เมื่อไหร่นั้น ปัจจุบันพนักงานสอบสวนเริ่มเรียกมาสอบบ้างแล้ว ไม่ได้มองเฉพาะพระหรือวัด จะมองทุกกลุ่ม กลุ่มไหนที่รับเช็คของสหกรณ์ฯ คลองจั่นไป โดยผู้รับเช็คจะรู้หรือไม่ว่าเงินที่บริจาคหรือรับเช็คมาโดยไม่ถูกไม่ชอบก็จะเข้าข่าย,ทั้งนี้ เราจะต้องดูแต่ละรายมันจะไม่เหมือนกัน เพราะเช็ค 878 ฉบับที่ออกไปนั้นต่างกรรมต่างวาระกัน ดังนั้น ก็ต้องพิจารณาแต่ละกลุ่มรับเช็คไว้โดยมีมูลหนี้หรือไม่ ในส่วนของวัดพระธรรมกายอยู่ในกลุ่มที่พนักงานสอบสวนต้องดูอย่างละเอียด โดยดีเอสไอต้องตรวจสอบพิจารณาทุกกลุ่มให้ชัดเจน ขอให้พนักงานสอบสวนได้สรุปกันอีกครั้ง ก่อนจะมี การชี้แจงให้ทราบในสัปดาห์ต่อไป พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าว,จากนั้น ช่วงเย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานได้รับการเปิดเผยจากนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ถึงกรณีดีเอสไอ พบรถยนต์โบราณยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ ขม 99 ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ นำเข้าผิดกฎหมายว่าต้องรอดูรายละเอียดการแถลงของดีเอสไอ ทั้งเรื่องของรถและผู้ครอบครอง ส่วนเรื่องการนำชื่อสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ ขึ้นทูลเกล้าฯนั้น เราต้องพิจารณาทั้งเรื่องของกฎหมาย สังคม และความเป็นไปในคณะสงฆ์ ซึ่งตอนนี้ตนเห็นว่ายังไม่สมควรส่งเรื่องต่อให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ขอรอดูเรื่องให้สิ้นข้อสงสัยก่อน ส่วนที่นายกฯ ให้เปิดเวทีดีเบตของทั้งสองฝ่าย ต้องรอนายกฯกลับมาก่อน เชื่อนายกฯเจตนาดี อยากให้ทุกอย่างมันหยุด ดังนั้น ทุกฝ่ายหยุดคิดสักครู่ พุทธศาสนิกชนควรวางบทบาทต่อพุทธศาสนาไว้ตรงไหน ที่ทำให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืน พระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่และพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นหมื่นเป็นแสนรูป ขณะนี้อาจกำลังเศร้าเรื่องของพระบนหน้าสื่อ แต่หากเรายึดหลักกฎหมายและพระวินัยอย่างตรงไปตรงมา จะเป็นการดีต่อสังคม การชุมนุมวันที่ 15 ก.พ. ทุกฝ่ายคงได้บทเรียนที่สำคัญ วิธีแก้ปัญหา ถ้าแก้อย่างสร้างสรรค์จะมีทางออก และปัญหายุติ แต่ถ้าแก้ปัญหาเชิงทำลาย อาจทำให้ปัญหาขยายตัวและยากที่จะผ่านพ้นไปได้,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,- ,พุทธะอิสระแจ้งความ ม็อบพระ-ฝืนก.ม. บิ๊กป้อม ไม่ทูลเกล้าตั้งสังฆราช,- ,บิ๊กตู่ ห่วงศึกพระ จ่อดีเบตหาทางออก วอนอย่าเคลื่อนไหว,- ,พระฮือถูกขวาง สังฆามติ หวิดปะทะทหาร
|
บิ๊กตู่ เครียดสั่งจัดเวทีดีเบตปมตั้งสังฆราช หย่าศึกผ้าเหลือง เปรยในหลวงทรงพระประชวร อย่าให้ไปถึงพระองค์ท่านเลย ครวญไม่อยากให้ศาสนาพุทธ เสื่อมถอยด้วยพวกเรากันเอง
| null |
ข่าวหน้า1,ม็อบพระ,พุทธะอิสระ,สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์,สมเด็จพระสังฆราช,สมเด็จช่วง,วัดปากน้ำภาษีเจริญ,เวทีดีเบต,เครือข่ายสงฆ์,ชุมนุม,พุทธมณฑล,พระเมธีธรรมาจารย์,สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ,สปท.,รถยนต์โบราณ,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
|
https://www.thairath.co.th/content/578986
|
ไข่มดแดง เมนูเด็ดจากป่าปีหนึ่งเปิบครั้งเดียว
|
คนภาคเหนือมักจะระมัดระวังไฟป่า ดังคำกล่าวของผู้เฒ่าผู้แก่ที่พูดต่อๆกันมาว่า ไฟมาป่าเป่ง ไข่มดส้มเต้ง ผักหวานโป่ง นั่นหมายความว่าเข้าฤดูกาลที่ไข่มดแดงจะออกแล้ว เป็นไข่ใหญ่และผักหวานแตกยอดอ่อน,โดยไข่มดแดงจะออก ไข่เต้ง ตามภาษาชาวเหนือหรือใหญ่เต็มที่ นำมาบริโภครสชาติจะอร่อยเต็มคำ,ที่ ตลาดกาดห้วยลึก ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ริมถนนเส้นทางสาย 107 เส้นทางหลักผ่านตัวเมืองเชียงดาว เพื่อเชื่อมต่อไปยัง อ.ไชยปราการ และ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่,ช่วงนี้มีพ่อค้าแม่ค้านำไข่มดแดงหรือไข่มดส้มวางขายข้างทางจำนวนมาก มีประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาแวะซื้อกันไม่ขาดสาย,ชาวบ้านขายในราคาไม่แพง เพียงใส่ถ้วยน้ำจิ้มขายถ้วยละ 20บาท 3 ถ้วย 50 บาท,สำหรับชาวเหนือเป็นที่ทราบกันดีว่าไข่มดส้มหรือไข่มดแดงจะออกมาให้บริโภคกันช่วงเดียวในช่วงนี้เท่านั้น คือปีหนึ่งจะได้ทานเพียงครั้งเดียวเมื่อถึงฤดูชาวบ้านพากันเดินเท้าเข้าไปสอยตามต้นไม้ในป่าบนยอดดอย,โดยนำตะกร้าสำหรับสอยไข่มดแดงมามัดติดกับไม้สำหรับสอยให้แน่น จากนั้นนำถุงพลาสติกสวมไว้ด้านในตะกร้าแล้วนำแป้งมัน 1 ส่วน โรยให้ทั่วถุงพลาสติกแล้วนำไปสอยไข่มดแดง,เมื่อได้มดแดงมาแล้วก็นำไปใส่น้ำที่เตรียมไว้ได้เลยชาวบ้านนิยมซื้อไข่มดแดงไปทำอาหารจะอร่อยมากรสชาติหวานมันเปรี้ยวนิดๆ,ส่วนเมนูที่นิยมนำไปทำกันก็มีเมนูง่ายๆเช่น ไข่เจียวใส่ไข่มดแดง หวานมันอร่อย หรืออีกเมนูยอดฮิตคือ แกงผักหวานไข่มดส้ม เพราะผักหวานป่าจะออกช่วงนี้พร้อมกับไข่มดแดงพอดี,ส่งผลให้ไข่มดแดงหรือไข่มดส้มกับผักหวานป่ามีราคาดีทุกปี,เจตน์ตนา เมืองลือ
|
ไข่มดแดงหรือไข่มดส้มมาพร้อมกับฤดูร้อน ฤดูแห่งความแห้งแล้ง ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายนทุกปี อากาศก็จะเริ่มร้อนถึงร้อนจัด
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ไข่มดแดง,ไข่มดส้ม,ไข่เต้ง,ตลาดกาดห้วยลึก,เชียงใหม่,มองทั่วทิศเมืองไทย,เจตน์ตนา เมืองลือ,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1520160
|
แพทย์เฝ้าดูอาการผู้บาดเจ็บ จากเหตุระเบิดในงานพระธาตุนาดูนใกล้ชิด
|
ผู้บาดเจ็บจำนวน 51 คน จากเหตุวัยรุ่นทะเลาะวิวาท และปาระเบิดในงานนมัสการพระธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม เมื่อคืนที่ผ่านมา (24 ก.พ.) ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนาดูนและโรงพยาบาลวาปีปทุม ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 21 คน แพทย์ยังคงให้การดูแลอย่างใกล้ชิดส่วนผู้เสียชีวิต 4 คน คือ ด.ต.วีระยุทธ คงประโคม จ.ส.ต.เผด็จ สิงห์สนั่น ด.ช.ธีรกาน ปะนามะทัง และนายสนธิชัย ทินบุราณ ญาติได้รับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลแล้ว เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการแสดงดนตรี ในงานนมัสการพระธาตุนาดูน กลุ่มวัยรุ่นได้ก่อเหตุวิวาท ตำรวจจึงเข้าระงับสถานการณ์ พบนายวินัย เจ็กนาม พยายามปาระเบิดเอ็ม 67 เข้าบริเวณงาน จึงพยายามเกลี่ยกล่อม ก่อนเข้าแย่งระเบิด แต่ระเบิดตกพื้น ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วน นายวินัย บาดเจ็บสาหัสพล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ระบุว่าจากการสอบประวัติ นายวินัย เป็นอดีตทหารเกณฑ์ และเคยต้องโทษคดีทะเลาะวิวาท และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง ซึ่งตำรวจได้ควบคุมตัวไว้สอบปากคำสำหรับตำรวจทั้ง 2 นายที่เสียชีวิตขณะเข้าระงับเหตุ เตรียมขอพระราชทานเพลิงศพ พร้อมให้การช่วยเหลือครอบครัวตามระเบียบ
|
ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดในงานนมัสการพระธาตุนาดูน จ.มหาสารคาม เดินทางรับศพเพื่อบำเพ็ญกุศล ขณะที่ผู้บาดเจ็บกว่า 50 คน ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ในจำนวนนี้มีอาการสาหัส 21 คน ซึ่งแพทย์เฝ้าดูแลอาการอย่างใกล้ชิด
|
ภูมิภาค
|
นาดูน,พระธาตุนาดูน,มหาสารคาม,ระเบิด
|
https://news.thaipbs.or.th/content/149525
|
เช็กสิทธิ์ เยียวยาเกษตรกร ธ.ก.ส. โอนเงินรอบ 2 วันหวยออก เพิ่มอีก 1 ล้านราย
|
ความคืบหน้า โครงการมาตรการเยียวยาเกษตรกร ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทยอยโอนเงินเยียวยารายละ 5000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2563 ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์นั้นจะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการ ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกันล่าสุด นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.พร้อมจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือนที่ 2 ในเดือน มิ.ย.นี้ คนละ 5000 บาท ตั้งแต่วันที่ 15-21 มิ.ย. 2563 ให้แก่เกษตรกรที่รับเงินรอบแรกไปแล้วกว่า 7 ล้านรายทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.63 จ่ายเงินให้เกษตรกรรอบ 2 วันแรกไปแล้ว 999984 ราย วงเงิน 4999.92 ล้านบาท หลังจากนี้ ธ.ก.ส.จะโอนเงินให้กับเกษตรกรผ่านบัญชีธนาคารต่อเนื่องวันละ 1 ล้านราย ไม่เว้นวันหยุดราชการ ส่วนเกษตรกรที่อยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งเรื่องสถานะและเลขที่บัญชี เมื่อได้รับข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบจากกระทรวงเกษตรฯ แล้ว ธ.ก.ส.จะดำเนินการโอนเงินต่อเนื่องทันทีขณะที่ ธ.ก.ส. โอนเงินเยียวยาให้เกษตรกรรอบแรกไปแล้ว 7.23 ราย วงเงิน 36178.38 ล้านบาท เมื่อรวมกับเงินโอนรอบ 2 เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.63 ทำให้มีเกษตรกรรับเงินไปแล้ว 8.23 ล้านราย วงเงิน 41178 ล้านบาทอย่างไรก็ตาม ธ.ก.ส.จะโอนเงินให้กับเกษตรกรผ่านบัญชีธนาคารต่อเนื่อง ไม่เว้นวันหยุดราชการ ส่วนเกษตรกรที่อยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งเรื่องสถานะและเลขที่บัญชี เมื่อได้รับข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบจากกระทรวงเกษตรฯ แล้ว ธ.ก.ส.จะดำเนินการโอนเงินต่อเนื่องทันที.
|
ธ.ก.ส. จ่ายเงินเยียวยาเกษตรกร 5000 บาท เดือนที่ 2 แล้ว ยอดวันแรก 9.9 แสนราย วงเงิน 4999 ล้านบาท พร้อมเตรียมโอนเงินให้เกษตรกรต่อเนื่องวันละ 1 ล้านราย ไม่เว้นวันหยุดราชการ
|
ข่าว,เศรษฐกิจ
|
เยียวยาเกษตรกร,www.เยียวยาเกษตรกร.com เช็คสิทธิ์,www.เยียวยาเกษตรกร.com,เยียวยาเกษตรกรตรวจสอบสิทธิ์,ลงทะเบียนเยียวยาเกษตรกร,เงินเยียวยาเกษตรกร,ตรวจสอบสิทธิ์เกษตรกรรับเงินเยียวยา
|
https://www.thairath.co.th/news/business/1869627
|
บาร์เซโลน่า หวังชนะเอซี มิลาน เพื่อเข้ารอบฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก
|
นักเตะของเอซี มิลาน เดินทางถึงประเทศสเปน ลงฝึกซ้อมทันที โดย มัตซิมิเลียโน่ อัลเรกรี โค้ชของมิลาน ให้สัมภาษณ์ว่า เกมนี้ บาร์ซ่า ต้องเร่งเปิดเกมรุกเข้าใส่เพื่อหวังประตูคืนแต่ต้นเกมแน่นอน ดังนั้นสิ่งที่ มิลาน ต้องทำให้ดีที่สุดคือ มีสมาธิกับเกม และต้องรับให้เหนียวแน่นสำหรับ มิลาน จะไม่มี มาริโอ บาร์โลเตลี่ ที่ลงสนามไม่ได้เนื่องจากเคยเล่นถ้วยนี้กับ แมนฯซิตี้แล้ว รวมถึง จัมเปาโล ปาซซินี่ ที่มีอาการบาดเจ็บจากเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้ต้องหวังพึ่ง สเตฟาน เอล ชาราวี กองหน้าวัย 20 ปี ที่ยิงไปแล้ว 16 ประตูในกัลโชเซเรียอาฤดูกาลนี้ นอกจากนี้ มิลาน ซึ่งต้องลุ้นว่า ฟิลิป แม็กเซส กองหล้งจะฟิตพร้อมลงสนามได้ทัน แต่แผงกองกลางของมิลาน พร้อมสำหรับเกมนี้ ไม่ว่าจะเป็น เควิน ปริ้น บัวเต็ง และ ซัลลี่ มุนตารี่ ที่ยิงคนละ 1 ประตูในนัดแรกส่วน บาร์เซโลน่า ไม่แพ้ที่บ้านของตัวเองในฟุตบอลยุโรปมา 19 นัดแล้ว และนัดนี้ต้องชนะมิลาน 3 ลูกขึ้นไป และลีโอแนล เมสซี่ เป็นตัวแปรสำคัญในเกมนี้ หลังเพิ่งทำสถิติยิงประตูในลีกได้ 17 นัดติดต่อกัน เคราร์ด ปิเก้ กองหลังของบาร์เซโลน่าคิดในแง่ดีว่าทีมของเขามีโอกาสพลิกสถานการณ์ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป ส่วน ฆอดี้ รูร่า ผู้ช่วยผู้จัดการทีมบอกว่าผลการแข่งขันในเกมแรก ทำให้บาร์เซโลน่า ไม่มีทางเลือกนอกจากพยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่ทันที แต่ว่าคงเป็นงานที่ยากเพราะมิลานเตรียมตัวมาตั้งรับเต็มที่ส่วนคู่ชาลเก้ เปิดบ้านพบกับ กาลาตาซาราย นัดแรกที่อิสตันบูล เสมอกันมา 1-1 ชาลเก้ ซึ่งกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีหลังเพิ่งเอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในเกมลีกมา 2-1 อย่างไรก็ตามนัดนี้ เยนส์ เคลเลอร์ กุนซือของทีมค่อนข้างมีปัญหาในการจัดตัวผู้เล่นเพราะ คลาส แยน ฮุนเตลาร์ มีอาการบาดเจ็บจากเกมลีกกับดอร์ทมุนด์ รวมถึง เจอร์เมน โจนส์ คนยิงประตูในนัดแรกก็จะหมดสิทธิ์ลงสนามเพราะติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองสำหรับชาลเก้ไม่เคยแพ้ทีมจากตุรกีที่บ้านของตัวเองเลย ทางฝั่งของกาลาตาซารายภายใต้การคุมทีมของ ฟาติห์ เตริม เชื่อมั่นว่า ทีมชุดนี้เต็มไปด้วยนักเตะที่มีประสบการณ์ในยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก นำทีมโดย ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ที่เพิ่งฉลองวันเกิดครบ 35 ปี ไปเมื่อวานนี้ รวมถึง เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ขณะเดียวกันสื่อที่ตุรกีรายงานด้วยว่านัดนี้ กาลาตาซาราย จะสวมเสื้อที่มีโลโก้ข้อความ อิสตันบูล 2020 ลงสนาม เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ หลังจากที่ตุรกีเสนอตัวเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกปี 2020 แข่งกับ มาดริด และ โตเกียว
|
บาร์เซโลน่าต้องเปิดเกมบุกเพื่อเอาชนะ เอซี มิลาน ให้ได้อย่างน้อย 3 ประตู เพื่อหวังผ่านเข้ารอบฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก ขณะที่ มิลาน ก็เตรียมตั้งรับเต็มที่ในนัดนี้
|
กีฬา
|
บาร์เซโลน่า,ฟุตบอล,ยูฟ่า,เข้ารอบ,เอซี มิลาน
|
https://news.thaipbs.or.th/content/153435
|
สมชัย ชี้จับเบอร์รายเขต ทำสับสน เสี่ยงบัตรปลอม อัดทำเลือกตั้งถอยหลัง
|
เมื่อวันที่ 2 พ.ย.60 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารกลาง กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ว่า การกำหนดเรื่องหมายเลขผู้สมัครของพรรคการเมือง จะแตกต่างกันไปในแต่ละเขตเลือกตั้ง จะทำให้เกิดความสับสนอลหม่าน เพราะข้ามเขต เบอร์พรรคก็เปลี่ยนไป ทำให้ผู้มีสิทธิต้องจดจำหน้าผู้สมัครแทน หัวหน้าพรรคการเมืองเวลาหาเสียงทางทีวี คงบอกได้แค่ชื่อพรรค ไม่สามารถบอกว่าให้เลือกเบอร์ใดได้ บัตรเลือกตั้งหากมีชื่อพรรคอยู่ในบัตรต้องพิมพ์แตกต่างกัน 350 แบบ การรักษาความปลอดภัยในการจัดพิมพ์บัตรทำได้ยากขึ้น โอกาสปลอมบัตรมีมากขึ้น,ทั้งนี้แม้ว่าการนับคะแนนที่หน่วยไม่มีปัญหา แต่การรวมคะแนนพรรคการเมืองทั้งประเทศด้วยเบอร์ที่แตกต่างกันของแต่ละพรรคในแต่ละเขต คงวุ่นวายใช้เวลามากขึ้นหลายเท่า และมีโอกาสผิดพลาดในการประกาศผล การติดตามตรวจสอบจากพรรคการเมืองและองค์กรเอกชนสังเกตการณ์เลือกตั้งทำได้ยาก ยิ่ง กรรมการการเลือกตั้งไทย ได้พัฒนาระบบการใช้เครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ และเตรียมนำร่องให้คนไทยในต่างประเทศบางประเทศสามารถใช้สิทธิ์ทางอินเทอร์เน็ตได้ หลังจากที่ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วย ส.ส.ออกมา คงต้องถอยหลังไปใช้บัตรเลือกตั้งต่อไปอีกนาน เพราะ กกต.คงไม่เสี่ยงไปอยากพิสูจน์อะไรทำแบบเดิมต่อไปไม่ผิดดีกว่า.
|
สมชัย ชี้ช่องโหว่กฎหมายลูกว่าด้วย ส.ส.ฉบับ มีชัย ทำถอยหลังเข้าคลอง สับสน-หาเสียงยาก เสี่ยงบัตรปลอม และรวมคะแนนวุ่น
|
ข่าว,การเมือง
|
สมชัย ศรีสุทธิยากร,กกต.,การเลือกตั้ง,ระบบเลือกตั้ง,พ.ร.บ.ส.ส.,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1114775
|
หนุ่ม ศรราม เห่อลูกหนักมาก ลูบท้อง ติ๊ก ทุกวัน ภูมิใจได้เป็นพ่อคน
|
กำลังแฮปปี้สุดๆ กับชีวิต สำหรับ หนุ่ม ศรราม ที่ตอนนี้สมบูรณ์แบบในทุกด้านแล้ว ทั้งหน้าที่การงาน รวมครอบครัวที่เพิ่งแต่งงานกับ ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ และกำลังจะมีโซ่ทองคล้องใจตัวน้อยๆ ตอนนี้เจ้าตัวกำลังเตรียมตัวกับการเป็นว่าที่คุณพ่อป้ายแดง ดูแลภรรยาดีมาก จนทำเอาสาวๆ หลายคนอิจฉา อยากสามีน่ารักๆ แบบนี้บ้าง ,โดย หนุ่ม ศรราม บอกว่า เพิ่งจะไปตรวจครรภ์มา ก็เริ่มจะเห็นแขน เห็นขาแล้ว คุณหมอบอกว่าแข็งแรงดี ตนเองเห่อมาก อยากเห็นหน้าลูกทุกวันเลย เอามือไปลูบท้องทุกวัน แล้วบอกว่าเป็นเด็กดีนะ ซึ่งติ๊กก็จะคอยเปิดนิทาน เปิดเพลงเป็นภาษาอังกฤษให้ลูกฟัง ส่วนลูกจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงนั้นตอนนี้ยังไม่รู้ ถ้ารู้ก็บอกแล้ว จะเป็นชายหรือหญิงก็ได้ รักหมด,ตอนนี้รู้สึกหน้าที่พ่อ เป็นหน้าที่ใหม่ที่เรารู้สึกภูมิใจมาก พอมาถึงวินาทีนี้เรารู้เลยว่าวันที่ ป๋ามีเรา ป๋าทำอะไรบ้างในวันที่มีเรา ซึ่งตอนนี้ชีวิตเปลี่ยนไปมากครับ ความรู้สึกแตกต่างกันทุกวัน แต่ทุกวันก็จะพยายามทำให้มีความสุข,ส่วนเรื่องแพ้ท้องแทนภรรยามั้ยนั้น หนุ่ม ศรราม บอกว่า ไม่รู้ว่าเรียกว่าแพ้ท้องแทนหรือเปล่า แต่เขาทานและพักผ่อนหลายมื้อ และชอบทานอะไรที่ไม่ซ้ำกัน ทานอย่างละคำสองคำ ที่เหลือผมก็ทานด้วย แต่ไม่มีแพ้แทน,ผมอ่านหนังสือและรู้สึกว่าผมพยายามใจเย็นขึ้น เพราะว่าคุณแม่อาจจะมีภาวะฮอร์โมนที่ทำให้หงุดหงิด มีแพ้ท้อง เราเองอยากทำให้บรรยากาศมันดีที่สุด และเรื่องปรับตัวเข้าหากันก็ไม่ต้องขนาดนั้น ทุกอย่างต้องดำเนินไปด้วยความรักและความจริงใจ
|
หนุ่ม ศรราม รับชีวิตเปลี่ยนหลังเป็นคุณพ่อเต็มตัว ลั่นจะดูแลลูกให้ดีที่สุด รับเห่อลูกมากอยากเห็นหน้าทุกวัน
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
หนุ่ม ศรราม,หนุ่ม ติ๊ก,ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์,หนุ่ม ศรราม ลูก,หนุ่ม ติ๊ก ลูก,ดารา
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1392024
|
อ้าวหนุ่มเมาหนัก เช้าเจอตัวเองนอนอยู่ในท่อ งงไม่รู้ลงไปได้ไง (คลิป)
|
เช้าวันที่ 8 ส.ค. พ.ต.อ.ปิติพงษ์ บุตรเปี่ยม ผกก. สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีคนตกท่อระบายน้ำ บริเวณถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 9 ในตัวเมืองเชียงใหม่ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ นำกำลังไปตรวจสอบ แต่ก็ไม่พบ กระทั่งต่อมามีชาวบ้านชี้ให้ดูว่า มีเสียงคนร้องออกมาจากท่อระบายน้ำ จึงตะโกนให้คลานตามท่อมารอที่ฝาตะแกรงก่อนประสานมูลนิธิรวมใจ อป.พร อ.เมือง เชียงใหม่มาช่วยงัดฝาท่อระบายน้ำออก แล้วให้ชายดังกล่าวปีนขึ้นมา พบว่ายังอยู่ในอาการเมา มีกลิ่นสุราคลุ้ง,จากการสอบถามทราบชื่อว่า นายจะสือ จะฟู อายุ 29 ปี ชาวไทใหญ่ทำงานเป็นพนักงานล้างจานอยู่ห้องครัวโรงแรมแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองเชียงใหม่ และเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังเลิกงานได้ไปนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนร่วมงานบริเวณร้านอาหารในกาดเชิงดอย ใกล้ๆ กับจุดเกิดเหตุ และตนเมาหนักมากไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไปบ้าง มารู้สึกตัวอีกทีตอนเช้าวันนี้ พบว่าตัวเองนอนอยู่ในท่อระบายน้ำ พยายามตะโกนให้คนช่วย จนกระทั่งเช้าจึงได้รับความช่วยเหลือ,อย่างไรก็ตาม นายจะสือ ซึ่งยังไม่สร่างเมา บอกกับตำรวจว่าสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 สลึง พร้อมกับเหรียญ ร.5 และกระเป๋าเงิน หายไป ทางเจ้าหน้าที่จึงให้เพื่อนพานายจะสือ กลับที่พักไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ ก่อนไปแจ้งความที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เกี่ยวกับทรัพย์สินที่หาย.
|
คนนะไม่ใช่แมว หนุ่มชาวไทใหญ่มาทำงานล้างจานอยู่ในเมืองเชียงใหม่ดื่มเหล้ากับเพื่อนจนเมาหนักเช้าตื่นมาเจอตัวเองนอนอยู่ในท่อระบายน้ำริมถนน มีตะแกรงปิดอย่างดีหาทางออกไม่มี ต้องตะโกนให้ช่วย บอกเมาหนักจำอะไรไม่ได้ไม่รู้มุดลงไปได้ไง
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ติดท่อ,นอนในท่อ,เมานอนในท่อ,เชียงใหม่,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1031184
|
J.K. Rowling เผย หายจากโควิด-19 ได้เอง โดยไม่ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาล
|
J.K. Rowling นักเขียนคนดัง เผยผ่านทวิตเตอร์ว่า ป่วยเป็นโรคโควิด-19 แล้วสามารถหายได้เอง โดยไม่ต้องเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาลเจ.เค. โรว์ลิง นักเขียนนวนิยายแฟนตาซีชื่อดังอย่าง Harry Potter และ Fantastic Beasts ได้ออกมาเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า ตัวเองป่วยเป็นโควิด-19 แต่ตอนนี้หายดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้เธอจะไม่ได้เข้าไปตรวจอาการที่โรงพยาบาล แต่ตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา เธอรู้สึกได้ว่าตนเองมีอาการเข้าข่ายโรคโควิด-19 ซึ่งรวมถึงปัญหาระบบทางเดินหายใจเหตุผลที่เธอไม่ได้ไปตรวจโควิด-19 ที่โรงพยาบาล เพราะ นายนีล เมอร์เรย์ สามีของเธอเป็นคุณหมอ และบอกให้เฝ้าดูอาการ กักตัวอยู่บ้าน นอกจากนี้เธอก็ยังได้แชร์วิดีโอจากยูทูบของคุณหมอที่โรงพยาบาล Queens Hospital ในประเทศอังกฤษ ที่มาสอนเทคนิควิธีการหายใจ ซึ่งทำตามแล้วได้ผล ให้คนอื่นได้นำไปปฏิบัติตาม เพราะเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยาก และไม่มีค่าใช้จ่ายแต่สำหรับหนังเรื่อง Fantastic Beasts ภาคสาม ที่เธอเป็นคนเขียนบท และเป็นโปรดิวเซอร์ด้วยก็ต้องหยุดชะงัก และเลื่อนการถ่ายทำออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะการระบาดของโควิด-19 ซึ่งก็ต้องติดตามว่าจะส่งผลกระทบต่อวันเข้าฉายที่วางไว้วันที่ 21 พฤศจิกายน 2021 หรือไม่.
|
J.K. Rowling นักเขียนคนดัง เผยผ่านทวิตเตอร์ว่า ป่วยเป็นโรคโควิด-19 แล้วสามารถหายได้เอง โดยไม่ต้องเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาล
|
ข่าว,ต่างประเทศ
|
โควิด-19,COVID-19,โควิด อังกฤษ,J.K. Rowling
|
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1814058
|
ชวนรู้ 8 วิธีการหนีไฟบนอาคารสูงอย่างถูกต้อง
|
วันนี้ (6 ก.พ. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถิติสถานการณ์อัคคีภัยของประเทศไทยในช่วง 22 ปีที่ผ่านมา (2532-2554) ของศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบว่า เกิดไฟไหม้ทั่วประเทศ 50413 ครั้ง มูลค่าความเสียหายคิดเป็นเงิน 30313327962 บาท เสียชีวิต 1710 คน และบาดเจ็บ 4007 คนโดยเป็นเหตุอัคคีภัยในอาคารพาณิชย์ทั้งหลัง 1251 หลัง โรงแรม 141 แห่ง ห้างสรรพสินค้าและอาคารสูง 135 แห่ง แม้ว่าจำนวนที่ปรากฏนั้น น้อยกว่าเหตุเพลิงไหม้ในบ้านเรือน วัด โรงเรียน และสถานที่ราชการ รวมแล้วกว่า 72000 หลัง/แห่ง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเปลวเพลิงสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินไม่น้อยทางศูนย์วิจัยและพัฒนาการป้องกันและจัดการภัยพิบัติ สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยแพร่บทความระบุถึง โดยพบว่า1.ส่วนมากสภาพพื้นที่ปฏิบัติการไม่เอื้ออำนวย2.การอพยพผู้ประสบเหตุไม่รวดเร็วพอ3.ระบบรักษาความปลอดภัยจากเพลิงไหม้ ไม่สามารถรองรับเปลวเพลิงรุนแรงได้4.ผู้อยู่อาศัยในตึกไม่จำหลักการในการหนีไฟที่ถูกต้องบทความดังกล่าวยังให้ความรู้ถึง จากการศึกษาพบว่าในภาพรวม ไฟจะติดตามผนังอย่างรวดเร็วเป็นอันดับแรก และค่อยลามขึ้นยังชั้นถัดไปเรื่อยๆ โดยยังไม่เข้าไปถึงในตัวอาคาร เมื่อไปลุกถึงผนังตึกชั้นบนสุดแล้วเปลวไฟถึงจะลามเข้าไปในตัวอาคาร พร้อมกันกับไฟลุกไหม้จากชั้นด้านล่างจะลามเข้าสู่ตัวอาคารเช่นกัน และลามไปสู่ชั้นบนผ่านปล่องลิฟท์และทางเดินต่างๆ ภายในอาคาร จนกระทั่งลุกท่วมทั้งตัวอาคารขณะที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการป้องกันและจัดการภัยพิบัติระบุว่า ตัวแปรที่จะเพิ่มหรือลดความรวดเร็วในการหนีไฟมี 3 ส่วนด้วยกันคือ 1.พฤติกรรมการหนีไฟในบันไดหนีไฟ 2.ความแข็งแรงของผู้หนีไฟ และ 3.การมองเห็นเมื่อหนีไฟอยู่ในบันไดหนีไฟส่วนวิธีการหนีไฟในอาคารสูงที่ถูกต้อง มีดังนี้1.ผู้ที่อยู่บนชั้นสูงไม่ควรหนีขึ้นไปบนดาดฟ้าหรือหลังคา เพราะไม่สามารถทราบได้ว่าจะมีเฮลิคอปเตอร์มาช่วยเหลือหรือไม่ หรือเฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถทนต่อความร้อนได้ เป็นที่มาของแผนหนีไฟที่ให้คนอพยพลงสู่ด้านล่างอาคารเสมอ2.ไม่ควรอยู่ในลิฟท์ขณะไฟไหม้ เนื่องจากในลิฟท์จะมีควันไฟ อีกทั้งลิฟท์อาจไปค้างที่ชั้นเกิดเพลิงไหม้3.สำหรับผู้พิการ อาคารสูงจำเป็นต้องสร้างพื้นที่หลบภัยในแต่ละชั้น เพื่อให้ผู้พิการสามารถเข้าไปหลบระหว่างรอเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ4.ผู้ประสบภัยต้องพยายามปิดประตูเพื่อกันไม่ให้ควันเข้ามาภายใน และใช้โทรศัพท์โทรติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อบอกตำแหน่งของตนเอง5.ขณะรอเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ ให้พยายามทำสัญลักษณ์ให้ผู้อื่นทราบตำแหน่งที่ตนเองอยู่ และไม่แนะนำให้ทุบกระจก แต่หากเป็นกระจกแบบเปิดได้สามารถเปิดเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ แต่หากมีควันลอยเข้ามาให้ปิดทันที และการทุบกระจกอาจทำให้เจ้าหน้าที่ที่เข้ามาช่วยเหลือได้รับบาดเจ็บ หรือทำให้สายดับเพลิงขาด6.การกระโดดออกจากหน้าต่างเพื่อหนีไฟไหม้ จะเกิดอันตรายแก่ผู้ประสบภัยหากอยู่สูงกว่าชั้น 27.แนะนำให้อยู่ในชั้นเดิมหรือชั้นที่ต่ำกว่าชั้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้จะปลอดภัยกว่า8.เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ผู้ประสบภัยควรทำตามแผนหนีไฟฉุกเฉินและรีบออกจากตัวตึกทันที
|
ศูนย์วิจัยและพัฒนาการป้องกันและจัดการภัยพิบัติ นิด้า เผยแพร่บทความให้ความรู้เรื่องวิธีการหนีไฟและวิถีการลุกลามของเพลิงไฟในอาคารสูง ระบุไฟมักลามติดผนังขึ้นสู่ชั้นที่สูงกว่า แนะให้ผู้ประสบเหตุรีบลงจากอาคารหรืออยู่ในชั้นที่ต่ำกว่าชั้นเกิดเหตุ
|
อาชญากรรม
|
วิธีการหนีไฟอย่างถูกต้องบนอาคารสูง,เหตุเพลิงไหม้อาคารสูงนราธิวาส18,วิธีการเอาตัวรอดจากไฟไหม้อาคาร,สาเหตุการดับไฟไหม้ไม่มีประสิทธิภาพ,สถิติการเกิดไฟไหม้ในประเทศไทย,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส
|
https://news.thaipbs.or.th/content/7801
|
ศาลล้มละลายสั่งพิทักษ์ทรัพย์ สมรักษ์ คำสิงห์ นักชกเหรียญทองโอลิมปิก (คลิป)
|
เผยหนี้งอกเงยจากปั๊ม-บ้าน รับได้ถ้าถูกปลดจากทัพเรือ,,สมรักษ์ คำสิงห์, นักมวยเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย เจ้าของวาทะ ไม่ได้โม้ ที่ถูกศาลล้มละลายกลางสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดพร้อมเมีย เปิดใจกับไทยรัฐยอมรับเรื่องหนี้สิน ยินดีให้ฟ้อง เพราะหนี้สินพอกพูนจากการเปิดปั๊มน้ำมันให้พ่อตาแม่ยาย หนี้บ้านจาก 7 ล้านบาท เป็น 9 ล้านบาท แถมยังมีภาษีย้อนหลังตามมาอีก เลยตัดสินใจยอมล้มละลายดีกว่า ส่วนเรื่องรับราชการยศ เรือเอก สังกัดกองทัพเรือ ให้เป็นไปตามระเบียบ ฝากขอบคุณคนที่เป็นห่วง ชีวิตตอนนี้ยังสบายดี กินอิ่มนอนหลับ โฆษกกองทัพเรือ แถลง ให้ทหารพระธรรมนูญตรวจสอบข้อกฎหมายก่อน แต่เบื้องต้น สมรักษ์ ต้องทำเรื่องชี้แจงมาที่ต้นสังกัด ขณะที่ ว่าที่ พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง โฆษกสภาทนายความ เปิดข้อกฎหมาย ศาลพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ยังไม่สั่งเป็นบุคคลล้มละลาย จึงยังไม่พ้นคุณสมบัติให้ออกจากราชการ,กรณีราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่องคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด คดีหมายเลขแดงที่ ล.3053/2561 ศาลล้มละลายกลาง ด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์มหานคร จำกัด โจทก์ ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลาง ขอให้จำเลยทั้งสองล้มละลาย และศาลมีคำสั่งลงวันที่ 9 ส.ค.2561 ให้พิทักษ์ทรัพย์นางเสาวนีย์ คำสิงห์ จำเลยที่ 1 นายสมรักษ์ คำสิงห์ จำเลยที่ 2 เด็ดขาด ดังนั้นนับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียว มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของจำเลย อนึ่ง เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ในคดีนี้จะเป็นโจทก์หรือไม่ก็ตาม ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ฝ่ายคำคู่ความ สำนักงานเลขานุการกรม กรมบังคับคดี หรือสำนักงานบังคับคดีซึ่งจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ภายใน 2 เดือน นับแต่วันที่โฆษณาคำสั่งนี้ ประกาศ ณ วันที่ 21 ก.ย.2561,ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 22 ก.ย. ไม่ได้โม้ สมรักษ์ คำสิงห์ นักชกเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 1996 แอตแลนตา คนแรกของไทย เผยถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า หลังจากโดนฟ้องล้มละลายก็ยังสบายดี ใช้ชีวิตตามปกติกับครอบครัวอย่างอบอุ่น ที่ยินยอมให้ฟ้องเพราะหนี้สินพอกพูน จากเคยลงทุนทำปั๊มน้ำมันให้พ่อตาแม่ยายในชื่อ หจก.สมรักษ์ คำสิงห์ และยังมีเหตุขัดข้องเรื่องบ้านจากราคา 7 ล้านบาทกลายเป็น 9 ล้านบาท แถมยังมีเรื่องภาษีย้อนหลังตามมาอีก เลยตัดสินใจยอมล้มละลายดีกว่า ส่วนเรื่องจะถูกปลดจากการเป็นนายทหารเรือ (ยศเรือเอก) ก็ดำเนินการไปตามกฎระเบียบ ถ้าจะปลดก็ได้ ไม่มีปัญหา เพราะไม่ได้ไปฆ่าใครตาย ไม่ได้ค้ายาเสพติดอะไรสักหน่อย,ฝากขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงสมรักษ์ ยังสบายดี กินอิ่ม นอนหลับ ดูบอล ดูมวยตู้ เลี้ยงไก่ชนมีงานตลอด ลูก 2 คนเบสต์กับโบ๊ตมีรายได้จาก ยูทูบเดือนละแสนห้า สมรักษ์กล่าว,ด้าน พล.ร.ต.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงกรณี ร.อ.สมรักษ์ คำสิงห์ ตำแหน่งนายทหารประจำกรมกิจการพลเรือนทหารเรือ กองทัพเรือ ถูกศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดว่า หลังศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งดังกล่าวลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว ร.อ.สมรักษ์ต้องทำเอกสารรายงานผู้บังคับบัญชารับทราบตามลำดับชั้นว่า ตนเองถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ถึงต้นสังกัดคือ กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ กองทัพเรือ และกระทรวงกลาโหม ตามข้อบังคับทหารว่าด้วยการแบ่งประเภทนายทหารสัญญาบัตร บังคับใช้เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2482 มาตรา 8,เรื่องการรายงานเมื่อต้องคดีโดยกำหนดว่า นายทหารสัญญาบัตรทุกประเภทเมื่อต้องหาคดีอาญา คดีแพ่ง หรือคดีล้มละลาย ให้รายงานผู้บังคับบัญชารับทราบตามลำดับชั้นจนถึง รมว.กลาโหมโดยเร็ว เพื่อเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงให้รับทราบตามข้อบังคับทางทหาร โดย พล.ร.ท.บรรพต เกิดภู่ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ จะลงนามเอกสารดังกล่าวในสัปดาห์หน้าเพื่อเสนอไปยังกองทัพเรือและส่งให้ รมว.กลาโหมรับทราบ โฆษกกองทัพเรือกล่าว,พล.ร.ต.เชษฐากล่าวด้วยว่า ทางกรมกำลังพลทหารเรือจะประสานงานกับสำนักงานพระธรรมนูญทหารเรือ พิจารณารายละเอียดข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงว่า เข้าเกณฑ์การปฏิบัติระเบียบข้อบังคับใดบ้าง ผลจะเป็นอย่างไรต้องรอกรมกำลังพลทหารเรือและสำนักงานพระธรรมนูญทหารเรือเป็นผู้พิจารณาว่า ถึงขั้นให้ออกจากราชการหรือไม่,ส่วนว่าที่ พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง โฆษกสภาทนายความ เผยว่า เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้วจะมีการประกาศราชกิจจานุเบกษา ให้เจ้าหนี้ทุกคนของนายสมรักษ์ที่ถูกพิทักษ์ทรัพย์มาขอรับชำระหนี้ภายใน 2 เดือน เมื่อครบกำหนดแล้ว เจ้าหนี้ที่ไม่มาขอรับชำระหนี้จะหมดสิทธิ์บังคับหนี้ มีเจ้าหนี้มาขอรับชำระหนี้ทั้งหมดเท่าไหร่ จะเปิดโอกาสให้นายสมรักษ์ลูกหนี้ขอประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ได้ หากประนอมหนี้สำเร็จก็ให้ปฏิบัติตามเงื่อนไข ศาลจะไม่สั่งเป็นบุคคลล้มละลายอีกต่อไป การที่นายสมรักษ์ รับราชการอยู่ด้วย เมื่อศาลยังไม่สั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย จึงยังไม่พ้นคุณสมบัติ ดังนั้นนายสมรักษ์จึงรับราชการต่อไปได้,ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยแหล่งข่าวไม่ขอเผยชื่อว่า สำหรับรายละเอียดคดีนี้เกิดขึ้นนานแล้ว จำเลยทั้งสองเป็นหนี้ตามคำพิพากษา โดยจำเลยที่ 1 นางเสาวณีย์ คำสิงห์ จำเลยที่ 2 นายสมรักษ์ คำสิงห์ โจทก์ บบส. มหานคร รับโอนสิทธิเรียกร้องมาจากธนาคารแห่งหนึ่งเจ้าหนี้เดิม โดยฟ้องเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 จำเลยทั้งสองได้รับหมายเรียกแล้วไม่ต่อสู้คดี และขอเลื่อนนัดฟังคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เหมือนคดีล้มละลายทั่วไป คดีนี้เพียงถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ยังไม่ตกเป็นบุคคลล้มละลาย ดังนั้นยังรับราชการต่อไปได้ แต่การถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดนั้น จะทำธุรกรรมไม่ได้และถูกอายัดทรัพย์สินจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
|
สมรักษ์ คำสิงห์ นักมวยเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย เจ้าของวาทะ ไม่ได้โม้ ที่ถูกศาลล้มละลายกลางสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดพร้อมเมีย เปิดใจกับไทยรัฐยอมรับเรื่องหนี้สิน ยินดีให้ฟ้อง
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ข่าวหน้า 1,สมรักษ์ คำสิงห์,สมรักษ์ คำสิงห์ ล้มละลาย,ไม่ได้โม้,สมรักษ์ ล้มละลาย,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1381929
|
เทพไท ชี้ รบ.ชนะศึกแต่แพ้สงคราม ฝ่ายค้านจ่อสอบคำสั่ง ม.44 ใน กมธ.ยธ.แทน
|
วันที่ 7 ธ.ค., นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์, กล่าวผ่านเฟซบุ๊ก ไลฟ์ ถึงการลงมติญัตติ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบการใช้มาตรา 44 ที่ผ่านมา ว่า ถ้ามองผิวเผินอาจจะเป็นชัยชนะของฝ่ายรัฐบาล ที่สามารถทำให้องค์ประชุมครบได้ การโหวตครั้งที่ 3 และโหวตชนะฝ่ายค้านล้มญัตตินี้ได้ แต่เป็นชัยชนะเฉพาะหน้า ซึ่งในระยะยาวรัฐบาลจะหนีการตรวจสอบการใช้อำนาจของ คสช.ในการออกคำสั่งมาตรา 44 ไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะที่เป็นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อตัดสินใจไม่ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาเรื่องนี้ ก็จะต้องถูกตรวจสอบจากคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 35 คณะ แต่คณะกรรมาธิการที่มีบทบาทหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้ มาตรา 44 มากที่สุด น่าจะเป็นคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ที่มี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นประธาน และมี น.ส.พรรณิการ์ วานิช นายรังสิมันต์ โรม ร่วมเป็นกรรมาธิการ รอยู่ด้วย ซึ่งจะต้องถูกตรวจสอบ ซักถามจากทีมที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และเลขานุการประจำคณะกรรมาธิการอีกหลายคนอย่างเข้มข้นแน่นอน,สำหรับเรื่องนี้ ถ้าหากผู้มีอำนาจในรัฐบาลเปิดไฟเขียวให้วิปรัฐบาล มีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบการใช้มาตรา 44 ได้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้มีอำนาจในรัฐบาลชุดนี้มากกว่า เพราะตัวประธาน และเสียงข้างมากในคณะกรรมาธิการวิสามัญ จะเป็นของฝ่ายรัฐบาล ซึ่งสามารถกำหนดกรอบการทำงานและกำหนดการเชิญบุคคลเข้าชี้แจงในที่ประชุมได้ แต่เมื่อได้ตัดสินใจไม่ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาผลกระทบการใช้มาตรา 44 แล้ว ก็ต้องกลับไปสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการหนีเสือปะจระเข้ ถ้าจะนำเรื่องตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบการใช้มาตรา 44 ครั้งนี้มาเป็นเกมการต่อสู้ของฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลในสภา ผลก็คือรัฐบาลชนะศึก แต่แพ้สงคราม เพราะในระยะยาวรัฐบาล จะต้องเจอปัญหาอุปสรรค และขวากหนามทางการเมืองอีกมากมาย เพราะรัฐบาลชุดนี้ขาดกุนซือ นักวางแผนหรือเกมการเมืองมือชั้นเซียน ที่เข้าใจสภาพการเมืองไทยอย่างแท้จริง ส่วนใหญ่จะถูกแวดล้อมด้วยนายทหาร มักจะใช้นายทหารเป็นเสนาธิการในการวางแผนเกมการเมือง ซึ่งทำให้เหลี่ยมคูทางการเมืองหรือชั้นเชิงทางการเมือง สู้นักการเมืองมืออาชีพไม่ได้ จะต้องจับตามองเรื่องการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ อีกครั้งหนึ่งว่า กุนซือของรัฐบาลจะกำหนดเกมนี้อย่างไร จะส่งใครนั่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการชุดนี้ ถ้าหากเกมนี้พลาดพลั้งอีกครั้ง ก็เหมือนการเล่นหมากฮอส ถ้ารัฐบาลถูกกินฮอสไป 2 ตัวติดๆ กัน แล้วโดนเข้าฮอสด้วย จะทำให้รัฐบาลเสียเปรียบและเหนื่อยกับเกมการเมืองในอนาคตมากยิ่งขึ้น นายเทพไท กล่าว
|
เทพไท ชี้ ฝ่ายค้านจ่อสอบคำสั่ง ม.44 ในกมธ.ยุติธรรม แทน เปรียบรัฐบาล ชนะศึกแต่แพ้สงคราม หรือ หนีเสือปะจระเข้ เหตุ สุดท้ายก็หนีการตรวจสอบ กมธ.ไม่พ้น ฟันธงเพราะขาดกุนซือวางเกมการเมือง
|
ข่าว,การเมือง
|
เทพไท เสนพงศ์,สอบคำสั่งม.44,กมธ.ยุติธรรม,ฝ่ายค้าน,ปชป.,ประชาธิปัตย์,ชนะศึกแพ้สงคราม,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1721053
|
ผบ.ตร.เผยเซ็นใบลาออกพล.ต.อ.ประวุฒิ รองโฆษกตร.ไม่รู้พ.อ.โอน200ล.-หนีไปตปท.
|
วันนี้ (4 พ.ย.2558) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ได้ลงนามอนุมัติหนังสือลาออกของ พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษาสบ.10 แล้ว ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา ตามที่พล.ต.อ.ประวุฒิ ได้ยื่นหนังสือลาออก ผ่านสำนักงานกำลังพล ตามขั้นตอน โดยขณะนี้ เรื่องอยู่ระหว่างการทูลเกล้าฯ เพื่อกราบบังคมทูล เนื่องจากเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พร้อมยืนยันว่า พล.ต.อ.ประวุฒิมีเจตนาต้องการลาออกจากราชการมาก่อนหน้านี้ จึงเชื่อว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงส่วนตำแหน่งที่ปรึกษาสบ.10 ของพล.ต.อ.ประวุฒิต้องพิจารณาว่า เป็นตำแหน่งเฉพาะตัวและหมดไป เมื่อพล.ต.อ.ประวุฒิลาออกหรือไม่ ส่วนงานปั่นเพื่อพ่อ หรือ bike for dad ที่พล.ต.อ.ประวุฒิ รับผิดชอบนั้น ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษาสบ.10 รับผิดชอบแทนส่วนการสืบสวนคดีหมิ่นสถาบัน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า มีนายทหารยศพันเอกและพลตรี ร่วมเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามที่เป็นข่าวด้วยหรือไม่ และด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สอด จ.ตาก ยังไม่ได้รายงานว่า มีนายทหารยศพันเอก เดินทางออกนอกประเทศ และยังไม่ยืนยันว่า มีการโอนเงินจำนวน 20 ล้านบาท จากพันเอกคนดังกล่าว ไปให้ผู้หญิงคนหนึ่งในจ.เชียงใหม่จริงหรือไม่ สำหรับสำนวนคดีหมิ่นสถาบัน คาดว่า คณะพนักงานสอบสวน จะสามารถสรุปสำนวนคดี ได้ภายในสัปดาห์นี้ โดยขณะนี้ เหลือเพียงการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์อีกเพียงบางส่วนส่วนกรณีที่มีข่าวว่า มีนายทหารประมาณ 40-50 เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ด้วยเช่นกัน ยังไม่มีพยานหลักฐาน โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งยังไม่มีการประสานกับกองทัพ เพื่อขอข้อมูล เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และอยู่ในสำนวนคดี
|
ผบ.ตร.ระบุเซ็นหนังสือลาออกของพล.ต.อ.ประวุฒิแล้ว ตั้งแต่ 29 ต.ค. ส่วนตำแหน่งที่ปรึกษาสบ.10 หมดไป เพราะเป็นตำแหน่งเฉพาะตัว ส่วนคดีหมิ่นเบื้องสูงรองโฆษกตร. อ้างยังไม่รู้เรื่องทหารโอนเงิน 200 ล้านบาท และเรื่องพ.อ.หลบหนีออกนอกประเทศ
|
อาชญากรรม
|
คดีหมิ่นเบื้องสูง,ผบ.ตร.,พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา,พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ,โฆษกตร.
|
https://news.thaipbs.or.th/content/5819
|
เคอร์รีย์ ยิง 23 แต้ม วอร์ริเออร์ส บุกทุบ คิงส์ 121-96
|
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 4 ก.พ. ว่า การแข่งขันบาสเกตบอล เอ็นบีเอ ฤดูกาล 2014-15 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) คู่ที่น่าสนใจ ซาคราเมนโต คิงส์ ทีมในกลุ่มเวสต์เทิร์น แปซิฟิก เปิดรัง สลีป เทรน อารีนา รับการมาเยือนของ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ทีมในกลุ่มเดียวกัน,เริ่มเกมควอเตอร์แรก วอร์ริเออร์ส ออกสตาร์ตได้อย่างร้อนแรง ทำแต้มนำไปก่อน 29-22 จากนั้นควอเตอร์ที่สอง วอร์ริเออร์ส ยังเครื่องร้อนกระหน่ำทำแต้มหนีไปเป็น 63-42,ควอเตอร์ที่สาม คิงส์ แก้เกมมาดี ทำแต้มไล่มาเป็น 80-94 ก่อนที่ในควอเตอร์สุดท้าย วอร์ริเออร์ส จะเดินหน้าทำแต้มได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้จบเกม โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส บุกไปชนะ ซาคราเมนโต คิงส์ 121-96 เก็บสถิติเป็นชนะ 38 แพ้ 8 ส่วน ซาคราเมนโต คิงส์ ชนะ 17 แพ้ 30,สำหรับคนทำแต้มสูงสุดในเกมนี้ ได้แก่ เดมาคัส คูซินส์ ของ ซาคราเมนโต คิงส์ ที่ทำไป 26 แต้ม 11 รีบาวด์ 4 แอสซิสต์ ส่วนของ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส เป็น สตีเฟน เคอร์รีย์ ทำ 23 แต้ม 5 รีบาวด์ 9 แอสซิสต์,ส่วนผลคู่อื่น ดังนี้,ยูทาห์ แจซซ์ แพ้ ปอร์ตแลนด์ เทรลเบลเซอร์ 102-103,เดนเวอร์ นักเกตส์ แพ้ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส 98-105,ไมอามี ฮีท แพ้ ดีทรอยต์ พิสตันส์ 91-108,บอสตัน เซลติกส์ ชนะ นิวยอร์ก นิคส์ 108-97
|
สตีเฟน เคอร์รีย์ ทำ 23 แต้ม พา โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส บุกไปชนะ ซาคราเมนโต คิงส์ ถึงถิ่น 121-96 ในศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ สหรัฐฯ
| null |
บาสเกตบอลเอ็นบีเอ,โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส,ซาคราเมนโต คิงส์,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/479038
|
รุ่งเรือง รอด ยันลาออก กก.บห.ไทยรักษาชาติ ตั้งแต่4ก.พ.
|
วันที่ 11 ก.พ. นายรุ่งเรือง พิทยศิริ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อเช็กสถานภาพและความเป็นสมาชิกของพรรคไทยรักษาชาติ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ได้ยื่นใบลาออกต่อหัวหน้าพรรคและนายทะเบียนพรรคแล้ว,นายรุ่งเรือง กล่าวว่า ได้ตัดสินใจร่วมกับครอบครัวมานานแล้วว่าจะเลิกเล่นการเมืองตั้งแต่เดือนมกราคม เนื่องจากอยากดูแลบุตรที่ยังอายุน้อยให้เต็มที่ แต่ยังไม่มีจังหวะเวลาจนกระทั่งหลังจากการเดินทางกลับจากการหาเสียงที่จังหวัดชัยนาท ซึ่งคิดว่าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วจึงได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกของพรรคไทยรักษาชาติในช่วงเช้าของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ โดยขณะนั้นไม่ทราบว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณากันในวาระใด เพราะหลังจากยื่นใบลาออกก็ได้เดินทางออกจากพรรคในทันที ไม่ได้ร่วมประชุมกรรมการบริหารพรรคในวันดังกล่าว อีกทั้งที่ผ่านมาช่วยงานพรรคในด้านวิชาการเท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการคัดสรรผู้สมัครส.ส. หรือบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรค เป็นเรื่องที่ตัวเองไม่มีอำนาจในการพิจารณา,นายรุ่งเรือง ย้ำว่า ในเรื่องนี้อย่าเรียกว่า เป็นการชิงลาออก เพราะตัวเองและครอบครัวตัดสินใจยุติงานทางการเมืองมาตั้งแต่เดือนมกราคมแล้วเพียงแต่รอจังหวะที่เหมาะสมเท่านั้น ส่วนหัวหน้าพรรคและนายทะเบียนพรรคได้พูดคุยกับตัวเองอย่างไรหลังจากยื่นใบลาออกนั้น ขอให้เป็นเรื่องภายใน,พร้อมกันนี้ ยังปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าสบายใจหรือไม่ ที่ได้ลาออกก่อนการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 4 ก.พ.
|
รุ่งเรือง พิทยศิริ ยันลาออกจากกรรมการบริหารพรรค ไทยรักษาชาติ ตั้งแต่4ก.พ. ก่อนประชุมเคาะบัญชีนายกฯ ย้ำเหตุผล อยากดูแลลูกให้เต็มที่ เผย ตัดสินใจมาตั้งแต่เดือนมกราคมแล้ว
|
เลือกตั้ง
|
เลือกตั้ง62,ไทยรักษาชาติ,ชิงลาออก,รุ่งเรือง พิทยศิริ,เลือกตั้ง
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1493388
|
ตำรวจนำตัว สุทธิพงษ์ ทำแผนฆ่า เอกยุทธ
|
เมื่อคืนนี้ ตำรวจนำตัวนายสุทธิพงษ์ พิมพิสาร ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตามจุดที่ร่วมก่อเหตุในคืนวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา รวม 6 จุด เป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมงโดยจุดแรกร้านอาหารครัวกระแต ซอยประดิพัทธ์ 20 และซอยประดิพัทธ์ 12 จุดที่ 2 คือป้ายจอดรถแท็กซี่ ระหว่างลาดพร้าวซอย 3 และลาดพร้าวซอย 5 เป็นจุดที่ผู้ต้องหานำกุญแจมือออกมาล็อกข้อเท้านายเอกยุทธ จุดที่ 3 บ้านพักนายเอกยุทธ ย่านทาวน์อินทาวน์ นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ได้เข้ามาถอดฮาร์ดดิสบันทึกภาพกล้องวงจรปิดไปจุดที่ 4 คือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นจุดที่มีการทำธุรกรรมทางการเงิน จำนวน 5 ล้านบาท ส่วนจุดที่ 5 คือบ้านพี่สาวนายสันติภาพ หมู่บ้านราชพฤกษ์ ย่านซอยฉลองกรุง 61 เป็นสถานที่ที่นำตัวนายเอกยุทธ เข้ามาพักก่อนจะออกเดินทางไปจังหวัดพัทลุงและจุดสุดท้ายบริเวณเชิงสะพานข้ามคลองลำมะขาม ถนนฉลองกรุง นายสุทธิพงษ์ ระบุว่า จุดนี้คือที่กำลังจะหยุดรถเพื่อตรวจสอบว่าล็อกกุญแจมือนายเอกยุทธไว้แน่นหนาแล้วหรือไม่ และนายเอกยุทธก็ได้กระโดดออกจากรถตู้ โดยนายสันติภาพวิ่งตามจนถึงตัวนายเอกยุทธ และมีการต่อสู้กัน ต่อมานายสันติภาพมาบอกว่า ได้ฆ่านายเอกยุทธแล้ว ซึ่งเมื่อตัวเองลงไปถึงจุดที่นายเอกยุทธนอนอยู่ในป่าหญ้าริมทาง ก็พบว่านายเอกยุทธได้เสียชีวิตไปแล้วจริงจากนั้นได้ช่วยกันนำร่างนายเอกยุทธขึ้นรถตู้ และนายสันติภาพ ยังได้สั่งให้ตัวเองใช้เชือกผูกรองเท้ารัดคอนายเอกยุทธ ก่อนจะขับรถมุ่งหน้าสู่จังหวัดพัทลุง เพื่อนำศพไปฝังอำพราง ภายหลังการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้น ตำรวจได้ควบคุมตัวนายสุทธิพงษ์ กลับ สน. วังทองหลาง เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม และในวันนี้จะคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา
|
ตำรวจเตรียมนำตัวนายสุทธิพงษ์ พิมพิสาร หรือ นายเบิ้ม ผู้ต้องหาคดีฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร ไปขออำนาจศาลฝากขังในวันนี้ (15 มิ.ย.) หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจได้นำตัวนายสุทธิพงษ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดสำคัญในการก่อเหตุ
|
อาชญากรรม
|
ฆ่า,ตำรวจ,ทำแผน,ฝากขัง,สันติภาพ,สุทธิพงษ์,เอกยุทธ
|
https://news.thaipbs.or.th/content/177035
|
He has trespassed on my preserves.
|
ity. ผู้อ่านท่านครับ trespass เป็นคำนามหรือคำกริยาก็ได้ ถ้าเป็นคำนามหมายถึง การล่วงเกิน ถ้าเป็นกริยา สื่อถึง ล่วงเกินหรือบุกรุก,ประโยคที่ฝรั่งพูดก็คือ ผมขอโทษที่ล่วงเกินความเอื้ออารีของคุณ ท่านจะเห็นว่า ประโยคแรกใช้ for trespassing พอประโยคที่ 2 ใช้ for the trespass,จอห์นด่าปีเตอร์ว่า You are trespassing upon my land. แกบุกรุกเข้ามาในที่ดินของข้า จะเห็นว่า บุกรุกเข้าไปที่ไหน ใช้ trespass + upon/ on เช่น trespass upon my room บุกรุกเข้ามาในห้องของฉัน,ปีเตอร์เกี้ยวพาราสีอิสเมย์ (Ismay) ทั้งๆ ที่รู้ว่าอิสเมย์เป็นภรรยาของประสาท (Prasad) การไปยุ่งกับบุคคลของคนอื่นก็ใช้ trespass นอกจากนั้น การเข้าไปยุ่งในเรื่องส่วนของคนอื่น กิจการของคนอื่น เขียนหนังสือหรือภาพยนตร์สารคดีในเรื่องที่คนอื่นทำไว้แล้วก็ใช้คำนี้ครับ,ประสาทฟ้องผู้อำนวยการถึงพฤติกรรมของปีเตอร์ว่า He has trespassed on my preserves. ปีเตอร์มาล่วงล้ำสิทธิที่สงวนของผม,ผู้อ่านท่านที่เดินตามถนนจะเห็นป้ายที่ติดอยู่ริมรั้ว ถ้าเป็นภาษาไทยก็เขียนว่า ผู้รุกล้ำหรือบุกรุกจะถูกฟ้องร้อง ในภาษาอังกฤษเราจะเจอป้ายที่สื่อความหมายเดียวกันว่า Trespassers will be prosecuted. เจอป้ายเหล่านี้ที่ไหน ท่านอย่าเข้าไปยุ่งนะครับ.,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย,[email protected],
|
มีอยู่คำหนึ่งที่ฝรั่งใช้กันแล้วนักเรียนไทยของผมงง I must apologize for trespassing on your hospitality. เมื่อนักเรียนงง ฝรั่งก็พูดใหม่ว่า I must apologize for the trespass on your hospital
| null |
ภาษาอังกฤษ,ปีเตอร์,กริยา,เปิดฟ้าภาษาโลก,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
|
https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1400604
|
ไม่ได้ถูกงัด แผ่นเหล็กตู้ ATM เมืองระยอง หลุดกระเด็น คาดตัวยึดชำรุด
|
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ต.ค. 59 ร.ต.อ.ชนุตร์ ปานทอง รอง สว.สส.สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ถูกงัด ตั้งอยู่บริเวณหน้าร้านบ้านตะวันผับ ถ.ราษฎร์บำรุง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองระยอง รุดไปตรวจสอบพบว่าสภาพตู้เอทีเอ็มหน้าจอใช้งานได้ตามปกติ แต่แผ่นเหล็กที่วางอยู่ใต้ช่องเสียบบัตรได้ถูกงัดออก แผ่นเหล็กตกอยู่บนพื้นหน้าตู้เอทีเอ็ม และพบสลิปสีขาววางอยู่หน้าตู้ระบุว่ามีผู้มากดเงินสดไปเมื่อเวลา 08.20 น. ของวันนี้ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน,จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ติดต่อไปยังธนาคารกรุงไทย สาขาระยอง ทางธนาคารได้แจ้งว่าตู้ดังกล่าวเป็นของบริษัท KGS ดูแลรับผิดชอบ ต้องดูจากกล้องวงจรปิดที่อยู่หน้าตู้เอทีเอ็มว่าเป็นใครจะมีเจตนาเอาเงินไปหรือไม่ หรือจะเป็นพวกคนเมา หรืออาจจะเป็นคนที่มากดเงินและถูกดูดบัตรไปเกิดความโมโหทุบตู้,ล่าสุด เจ้าหน้าที่บริษัท KGS เข้าตรวจสอบแล้วชี้แจงกับตำรวจชุดสืบสวนว่า ตู้เอทีเอ็มหลายท้องที่เคยเกิดเหตุลักษณะเช่นนี้ โดยเฉพาะที่พัทยา จ.ชลบุรี ก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน คาดว่าเกิดจากผู้ใช้ตู้เอามือไปวาง หรือกดแรงๆ ทำให้หลุดออกมา เนื่องจากตัวยึดไม่แข็งแรง ตรวจสอบแล้วไม่ได้ถูกงัดแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ของบริษัทได้ทำการซ่อมให้อยู่ในสภาพดีใช้การได้ดังเดิมแล้ว.
|
แผ่นเหล็กตู้เอทีเอ็มเมืองระยอง หลุดกระเด็นคล้ายถูกงัด จนท.รุดตรวจสอบ พบตัวยึดไม่แข็งแรง เคยเป็นหลายพื้นที่ ยัน เงินไม่หาย
| null |
ตู้เอทีเอ็ม,ตู้ ATM,ระยอง,งัดตู้เอทีเอ็ม,ธนาคารกรุงไทย,สภ.เมืองระยอง,ถ.ราษฎร์บำรุง,ต.เนินพระ,อ.เมืองระยอง
|
https://www.thairath.co.th/content/756461
|
ชาวบ้านเกาะราชสามัคคี จี้ผู้ว่าฯสอบ ผ่อนบ้านผ่านสหกรณ์ฯ หลายปีหนี้ไม่ลด
|
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 31 ส.ค. นายอนุกูล ภาษาฐิติ อายุ 49 ปี อดีตประธานสหกรณ์ชุมชนเกาะราชสามัคคี พร้อมชาวบ้านชุมชนเกาะราชสามัคคี ที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์เคหสถานชุมชนเกาะราชสามัคคี จำกัด จ.นครราชสีมา กว่า 60 คน รวมตัวมาประท้วงที่หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อยื่นหนังสือถึงนายธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.นครราชสีมา หลังได้รับความเดือดร้อน ผ่อนค่าบ้าน ค่าที่ดินมานานหลายปี แต่ยอดเงินไม่ลด แถมมีค่าดอกเบี้ย ค่าปรับล่าช้าเพิ่มขึ้น บางรายเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า คาดเกิดจากการบริหารไม่โปร่งใสของกรรมการสหกรณ์ โดยมีนายอมรศักดิ์ พันธุรักษ์ สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา เป็นตัวแทนผู้ว่าฯ พร้อมเจ้าหน้าที่จากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา ก่อนพากลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดเข้าห้องประชุมหารือ เพื่อหาทางออกร่วมกันที่ห้องประชุมอำเภอเมืองนครราชสีมา ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ,จากนั้นนายอมรศักดิ์ ได้ชี้แจงถึงกฎระเบียบในการปฏิบัติและควบคุมดูแลสหกรณ์ในสังกัด ให้ชาวบ้านเข้าใจ ส่วนชาวบ้านที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์เคหะสถานชุมชนเกาะราชสามัคคี ที่มาประชุมได้มีข้อเรียกร้อง ให้สหกรณ์ ช่วยทำบัญชีสรุปเงินต้นรายรับ รายจ่าย และยอดหนี้ค้างชำระ โดยทางสหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา ชี้แจงว่า ต้องนำหลักฐานทั้งหมดที่ชาวบ้านถือครองตั้งแต่ปี 2554 มายื่นต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นข้อสรุป ว่าลูกหนี้แต่ละรายมีปัญหาส่วนใด หากได้หลักฐานจากชาวบ้าน ก็จะได้รวบรวมบางส่วน และลงพื้นที่ตรวจสอบสหกรณ์เคหสถานเกาะราชสามัคคี จำกัด ต่อไป ที่ผ่านมาทางสหกรณ์จังหวัด แจ้งว่าได้พบข้อบกพร่องบางจุดที่สหกรณ์ไม่สามารถนำส่งเงินให้ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน หรือ พอช. ในแต่ละปีได้ครบตามจำนวน,นายอมรศักดิ์ ระบุว่าหลังจากการประชุมดังกล่าว ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ทางสหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา จะเริ่มทำการตรวจทานหนี้ 100% คือการตรวจสอบหนี้จากสมาชิกทั้งหมด โดยมีหลักฐานและไม่มีหลักฐานเอกสาร พร้อมทั้งได้สั่งการเป็นหนังสือให้สหกรณ์เคหะชุมชนเกาะราชสามัคคี สรุปยอดเงินทั้งหมด เพื่อนำมาหักล้างกับข้อมูลของสหกรณ์ ว่าแต่ละรายมีหนี้ค้างจริงเท่าไร หากพบความผิด ก็จะนำเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายให้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อไป นอกจากนี้วันจันทร์ที่ 7 ก.ย. เจ้าหน้าที่สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา จะเชิญชาวบ้านที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ มาให้ปากคำอีกครั้งโดยแบ่งเป็นวันละ 10 คน จากสมาชิก ทั้งหมด 103 คน ที่ได้รับความเดือดร้อน เพื่อทำการสรุปหนี้แต่ละประเภท ให้แล้วเสร็จ คาดว่าใช้เวลาเพียงไม่นานในการดำเนินการ และยังได้เตรียมลงพื้นที่ พร้อมกับกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในเร็วๆนี้ เพื่อตรวจสอบหลักฐาน เอกสาร ในการดำเนินการของสหกรณ์เคหสถานชุมชนเกาะราชสามัคคีอีกด้วย,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรื่องดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจากเมื่อปี 2538 ทางเทศบาลได้เวนคืนที่ทำให้มีประชาชนจาก ชุมชนเกษตรสามัคคี หลัง รพ.มหาราช นครราชสีมา ชุมชนเกาะลอย หลังวัดสามัคคี ชุมชน ราชนิกูล หลังตลาดประตูผี มารวมกันอยู่ที่นี่ โดยการจัดสรรทีให้โดยให้ชาวบ้านทำการผ่อนที่กับทางการเคหะฯ และทำการกู้ยืมสร้างสิ่งปลูกสร้างกับทางสหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา โดยผ่านการจัดตั้งสหกรณ์ชุมชนเกาะราชสามัคคี จำกัด ทำให้ชาวบ้านเป็นหนี้ 2 ส่วน คือ หนี้ที่ดิน กับหนี้บ้าน ซึ่งก็มีการผ่อนชำระกันมา มีช้าบ้าง บางราย จากนั้นในปี 2548 ทาง คณะกรรมการสหกรณ์ เห็นว่า มีความยุ่งยาก ในการจ่ายเงิน เนื่องจาก ต้องจ่ายสองที่ ประกอบกับมีทาง สำนักงานสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน พอช. มีโครงการบ้านมั่นคง ทางสหกรณ์ จึงได้ดำเนินการกู้ทาง พอช. มาปิดหนี้ ทั้ง 2 แห่ง คือ ที่ สหกรณ์ และ การเคหะฯ ให้เป็นหนี้ทางเดียวคือ พอช. โดยต้องนำที่ดิน และบ้านเป็นประกัน ซึ่งมีสหกรณ์ชุมชนเกาะราชสามัคคี เป็นผู้บริหาร แต่หลังจากที่มีการผ่อนจ่ายมานานหลายปี ก็มีปัญหาตามมา บางรายจ่ายทุกเดือน ก็มีเบี้ยปรับล่าช้า มีดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ในปีต่อไป ก็มีการยกยอดเบี้ยปรับล่าช้า ดอกเบี้ย ไปรวมกับเงินต้น ทำให้เงินต้นเพิ่มมากขึ้นอย่างนี้จะทำให้ ชาวบ้านไม่มีกำลังใจที่จะจ่าย เพราะไม่รู้ว่าจ่ายไปเมื่อไหร่จะหมด จนทำให้มีการร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน และรวมตัวประท้วงดังกล่าว .
|
ชาวชุมชนเกาะราชสามัคคี นครราสีมา รวมตัวยื่นหนังสือผู้ว่าฯ ร้องผ่อนบ้านผ่านสหกรณ์ฯ นานหลายปี แต่ยอดเงินกลับไม่ลด แถมบางรายมีหนี้เพิ่ม
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ชุมชนเกาะราชสามัคคี,อนุกูล ภาษาฐิติ,อดีตประธานสหกรณ์ชุมชน,ประท้วงศาลากลางนครราชสีมา,ผ่อนค่าเช่าบ้านเงินไม่ลด,ธงชัย ลืออดุลย์,ผวจ.นครราชสีมา,อมรศักดิ์ พันธุรักษ์,สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
|
https://www.thairath.co.th/news/local/522055
|
สุดยอด ไทย พลิกแซง ไต้หวัน 3-2 ศึกลูกยางเอเชีย ยู-17
|
วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ไล่ตบเอาชนะ ทีมชาติไต้หวัน 3-2 เซต ในศึกวอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี,วันที่ 22 พ.ค.61 การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปี ณ ยิมเนเซียมเทศบาลนครปฐม จังหวัดนครปฐม คู่ที่แฟนๆ ให้ความสนใจย่อมหนีไม่พ้น ตบลูกยางสาว วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ภายใต้การนำทัพของ ชำนาญ ดอกไม้ ที่อยู่ในสายบี ลงสนามเป็นนัดที่สองด้วยการพบกับ ทีมชาติไต้หวัน,เปิดฉากเซตแรก เป็นทางฝั่งของ ทีมชาติไต้หวัน ที่ออกมาตัวแรงด้วยการออกนำ ตบสาวไทย ห่างไปก่อนถึง 8-0 ก่อนที่จะปิดดีลซิวเซตนี้ไปได้ก่อนด้วยคะแนน 25-19 (นำ 1-0 เซต) จากนั้นในเซตที่สอง ตบสาวไทย ยกระดับฟอร์มการเล่นได้ดี ก่อนที่จะเอาชนะคืนไปได้ในเซตที่สอง 25-19 เหมือนกัน (เสมอ 1-1 เซต),เข้าสู่เซตที่สาม เกมค่อนข้างคู่คี่สูสีสุดๆ ก่อนที่จะเป็น ทีมชาติไต้หวัน เบียดเอาชนะไปได้ 25-21 (ขึ้นนำ 2-1 เซต) เซตที่สี่ ตบสาวไทย เร่งเครื่องเดินหน้าเก็บแต้ม ก่อนเอาชนะไปได้ 25-20 (เสมอกัน 2-2 เซต),และในเซตที่ 5 ตบสาวไทย ไล่บี้มาที่ 11-13 ก่อนที่จะพลิกกลับมีชัย 17-15 ,ส่งผลให้จบการแข่งขัน ตบลูกยางสาว วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เอาชนะ ทีมชาติไต้หวัน 3-2 เซต ด้วยคะแนน 19-25, 25-19, 21-25, 25-20 และ 17-15 ในศึกลูกยางเอเชียได้สำเร็จ.
|
วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ไล่ตบเอาชนะ ทีมชาติไต้หวัน 3-2 ในศึกวอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี
|
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
|
วอลเลย์บอล,วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย,ทีมชาติไต้หวัน,วอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์เอเชีย
|
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1288436
|
นำตัวผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพทำแผนประกอบคำรับสารภาพ-จ่อออกหมายจับอีก 1
|
วันนี้ ( 31 พ.ค.2560 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น นำตัว นายวศิน นามพรม และน.ส.จิดารัตน์ พรมคุณ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ในข้อหาร่วมกันฆ่าผูอื่นโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย ชาว จ.ชัยนาท พนักงานร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในจ.ขอนแก่น สอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากนำมาฝากขังไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเขาสวนกวาง ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาพ.ต.ท.ศุภฤกษ์ สุวรรณราษฎร์ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเขาสวนกวาง เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาในคดีนี้มีทั้งหมด 5 คน คือนาย นายวศิน นามพรม ทำหน้าที่ขับรถ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย ผู้ลงมือก่อเหตุและเพื่อนของ น.ส.ปรียานุช อีก 2 คน คือ น.ส.กวิตา ราชดา และนายวศิน ให้การซัดทอดว่าในรถยังมี น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ ส่วน น.ส.จิดารัตน์ พรมบุญ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับหมายจับก่อนหน้านี้ ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ยอมรับว่านายวสินให้นำทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตไปขาย ขณะที่ น.ส.อภิวันทน์พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรบรวมกลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับรองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเขาสวนกวาง ยังระบุ อีกว่าคดีนี้เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นสืบเนื่องจาก น.ส.จิดารัตน์ พรมบุญ หรือ เบนซ์ ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับตำรวจ และให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีจนนำไปสู่การจับกุม นายวศิน นามพรม ได้ที่เกสต์เฮ้าส์แห่งหนึ่ง ในนครหลวงเวียงจันทร์ ประเทศลาว เมื่อวานนี้ ( 30 พ.ค.) ก่อนจะนำตัวไปทำแผนรับสารตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณรีสอร์ท ที่ก่อเหตุแยกชิ้นส่วนศพก่อนนำตัวมาฝังอำพรางคดี ส่วนมูลจูงใจเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัวระหว่าง น.ส.ปรียานุช และน.ส.วริศรา ผู้เสียชีวิต เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิต ได้ให้เบาะแสกับตำรวจว่า น.ส.ปรียานุช มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ต้องหา ล่าสุด 3 คน ยังคงหลบหนีในประเทศเมียนมา โดยทางไทยได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ทางการเมียนมา ติดตามจับกุม เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีขณะที่ วันนี้ (31 พ.ค.) เวลา 11.50 น. ตำรวจคุมตัว นายวศิน นามพรมผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าหั่นศพ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณจุดฝังอำพรางศพ ในเขตอ.เขาสวนกวาง ก่อนจะนำตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่น โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว
|
ตำรวจคุมตัว นายวศิน นามพรม ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าหั่นศพทำแผนจุดฝังอำพรางศพพนักงานหญิงร้านคาราโอเกะในจ.ขอนแก่น จ่อออกหมายจับเพิ่มอีก 1 รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 5 คน
|
อาชญากรรม
|
ฆ่าหั่นศพ,ขอนแก่น,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS
|
https://news.thaipbs.or.th/content/262997
|
พ่อค้าหัวใส ใช้ พระ ทำเสื้อกั๊ก สร้างจุดขายเรียกลูกค้า
|
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ผู้สื่อข่าว จ.อ่างทอง ได้พบกับพ่อค้าผลไม้ดอง ที่มีจุดขายเรียกลูกค้าแบบแปลกแหวกแนว แขวนพระรอบตัวทำเป็นเสื้อกั๊กขี่รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง ติดเครื่องเสียงร้องเพลงลูกทุ่ง บริเวณถนนแสวงหา-สีบัวทอง ต.แสวงหา อ.แสวงหา จ.อ่างทอง โดยได้ไปจอดรถอยู่ที่เทศบาลตำบลเพชรเมืองทอง ร้องเพลงเรียกลูกค้าให้ออกมาซื้อผลไม้,จากการสอบถามทราบว่า ชื่อนายสนม จันทราภิรมย์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 7 ต.แสวงหา อ.แสวงหา จ.อ่างทอง โดยนายสนมเปิดเผยว่า ในตอนแรกนั้นตนเองขายไอศกรีมอยู่สักระยะหนึ่ง แล้วเปลี่ยนมาลงทุนซื้อรถพ่วงข้างออกขายผลไม้ดอง วิ่งขายตามหมู่บ้านพร้อมติดเครื่องเสียงร้องเพลงเรียกลูกค้าไปตลอดทาง เป็นสัญญาณว่าพ่อค้าผลไม้มาแล้ว โดยทีแรกร้องเป็นเพลงลูกทุ่งแล้วเกิดสนุกขึ้นมา จึงแต่งเพลงเองได้กว่า 40 เพลง ใช้ร้องอ้อนลูกค้าให้ซื้อผลไม้ และถ้ามีค่ายเทปสนใจก็เชิญมาติดต่อได้ ถ้าให้ราคาดีก็จะขายเพลงให้,ส่วนที่แขวนพระรอบตัวนั้นเนื่องด้วยตนเองเป็นคนที่ชอบสะสมพระเครื่องมาตั้งแต่เด็ก และมีแนวคิดว่าจะนำมาห้อยติดตัว โดยร้อยพระต่อกันเป็นเสื้อกั๊ก เริ่มจากนำพระเครื่องไปเลี่ยมทำกรอบแล้วเจาะรู นำห่วงมาร้อยติดกันจนเป็นเสื้อกั๊กที่เป็นพระเครื่องรอบตัว ทำไว้สองตัว อีกตัวหนึ่งจะใส่ตอนออกปฏิบัติหน้าที่ อปพร.,ในตอนแรกๆ นั้น ชาวบ้านเขาจะมองเราแปลกๆ แต่ปัจจุบันนี้เมื่อเห็นขี่รถผ่านมาก็จะเรียกซื้อของ แถมส่องพระไปด้วย และบางรายก็ขอเพลงที่แต่ง ขอให้ร้องสดๆ ให้ฟัง บางคนขอเพลงลูกทุ่งให้ร้องก่อนจะซื้อผลไม้ ตอนนี้รู้สึกภูมิใจที่ตัวเองได้แขวนพระเครื่องและร้องเพลงขายของ ทำให้ขายดีมีรายได้เพิ่มขึ้นมาก นายสนม พ่อค้าอารมณ์ดีกล่าว,ด้าน นายกชเดชา กลุ่มไหม นายกเทศมนตรีตำบลเพชรเมืองทอง กล่าวว่า ลุงสนม เป็นพ่อค้าที่มีจุดขายเป็นของตนเอง และเป็นคนร่าเริงแจ่มใส ชอบร้องเพลงและแขวนพระเครื่องจำนวนมาก เป็นบุคคลที่น่าชมเชยในการใช้ชีวิตที่ชอบร้องเพลงและเป็นนักสะสมพระเครื่อง นำมาประยุกต์เข้ากัน และสร้างเสริมอาชีพ จนเป็นเอกลักษณ์ของตนเองในการหารายได้เลี้ยงครอบครัว
|
พ่อค้าผลไม้ดองที่อ่างทอง ใช้ความถนัดและความชอบส่วนตัวมาประยุกต์สร้างเสริมอาชีพหารายได้เลี้ยงครอบครัว โดยนำพระเครื่องที่สะสมมาร้อยทำเป็นเสื้อกั๊กสร้างจุดขาย กับร้องเพลงลูกทุ่งและเพลงที่แต่งเองเรียกลูกค้ามาซื้อของ
| null |
เสื้อพระ,เสื้อกั๊กพระ,ใช้พระทำเสื้อ,พ่อค้าผลไม้,พ่อค้าหัวใส,พ่อค้าที่อ่างทอง,สนม จันทราภิรมย์,ลุงสนม,แสวงหา,อ่างทอง,ข่าวแปลก,ทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค
|
https://www.thairath.co.th/content/461179
|
จีน ทดสอบระบบรางไทย ประเดิมขนยางพาราทางรถไฟไปแหลมฉบัง
|
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 มิ.ย. 58 ที่สถานีรถไฟหนองคาย นายลิน ซิ่ง หย่ง ผู้จัดการใหญ่บริษัทกวางเขิ่นกรุ๊ป ประเทศไทย พร้อมด้วย น.ส.ณัฎฐวี ทองรอด กรรมการผู้จัดการบริษัท 888 อินเตอร์เนชั่นแนล บิซิเนส แอนด์ ริโค่ จำกัด และบริษัทพาวเวอร์ริช จำกัด ได้ตรวจสอบการนำตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นขบวนรถไฟ หัวลาก ยู 20 ขบวน 5102 ซึ่งเป็นหัวจักรใหม่ใช้ขนส่งสินค้าทางราง จากสถานีรถไฟหนองคายถึงสถานีรถไฟแหลมฉบัง,นายลิน ซิ่ง หย่ง ผู้จัดการใหญ่บริษัทกวางเขิ่น กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทตั้งโรงงานรับซื้อยางพาราจากเกษตรกรในหลายพื้นที่มาทำเป็นยางพาราอัดแท่ง ก่อนจะส่งออกไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เมืองชิงเต่า ประเทศจีน ผ่านทางท่าเรือแหลมฉบัง โดยมีโรงงานที่ จ.อุดรธานี, สตูล, ตรัง, ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ในส่วนของโรงงานในจังหวัดอุดรธานีนั้น ดำเนินการมา 4 ปี ในการขนส่งยางพาราอัดแท่งต้องใช้รถเทรลเลอร์ขนยางพาราอัดแท่ง ประมาณ 200-500 ตันต่อวัน ค่าขนส่งสูง และอยากให้จะมีการปรับรูปแบบการขนส่งจากรถยนต์เป็นรถไฟแทน,ที่ผ่านมายังไม่มีความพร้อม จนกระทั่งบริษัท 888 ที่ทำงานร่วมกันมานานมีความพร้อมในการปรับรูปแบบการขนส่งก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะมั่นใจว่าการขนส่งสินค้าทางรถไฟจะประหยัดค่าขนส่งและสามารถลดต้นทุนลงได้มากเป็นเท่าตัว เช่น จากเดิมที่ต้องจ่ายค่าขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ละ 1,000 บาท ก็จะเหลือตู้ละ 500 บาท,ด้าน น.ส.ณัฎฐวี ทองรอด กรรมการผู้จัดการบริษัท 888 อินเตอร์เนชั่นแนล บิซิเนส แอนด์ ริโค่ จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ได้เจรจาข้อตกลงร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)ในการขนส่งสินค้าจาก สถานีรถไฟหนองคายไปยังสถานีรถไฟแหลมฉบัง ในครั้งนี้จึงเป็นการทดสอบการขนส่งเป็นขบวนแรก โดยนำยางพาราอัดแท่งจำนวน 20 ตู้ หรือประมาณ 400 ตัน ใช้เวลาขนส่ง 18 ชั่วโมง มาใช้บริการ ก่อนสรุปผลการขนส่งทางรางและประเมินภาพรวม ซึ่งเป็นการสนับสนุนการพัฒนาระบบรางของการรถไฟตามแผนฟื้นฟูการรถไฟ,นอกจากนี้ จ.หนองคาย เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ในเฟสที่ 2 ทำให้มีศักยภาพในการรองรับการท่องเที่ยว การขนส่งโลจิสติกส์ อีกทั้งยังมีโรงงานในจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านรายรอบ การใช้บริการรถไฟจะเป็นการช่วยลดต้นทุนการขนส่ง ที่ผ่านมาบริษัทถูกโจมตีว่าเป็นบริษัทใหญ่มาทำลายระบบการแข่งขันทางธุรกิจ รถยนต์ขนส่ง ซึ่งไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าการขนส่งแบบนี้เป็นทางเลือกสำหรับการขนส่งสินค้า,สำหรับขบวนรถไฟ หัวจักร ยู 20 แบบใหม่ มีโบกี้บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ได้ทั้ง 30 ตู้ เมื่อทางบริษัทประเมินผลภาพรวมแล้ว จะเริ่มใช้บริการอย่างเต็มระบบ ในช่วงต้นเดือน ส.ค. 2558 และถือเป็นการลงทุนของภาคเอกชนรายแรก หลังจากที่ จ.หนองคาย ได้รับการพิจารณาให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เฟส 2.
|
บริษัทจีน ประเดิมเขต ศก.พิเศษหนองคาย ทดสอบระบบรางไทย ขนยางพาราอัดแท่งจากโรงงานในอุดรธานี ขึ้นขบวนรถไฟจากสถานีหนองคายไปท่าเรือแหลมฉบัง หนุนระบบโลจิสติกส์ภูมิภาค ลดต้นทุนขนส่ง
| null |
เขตเศรษฐกิจพิเศษ,หนองคาย,ระบบราง,จีนขนส่งยางพารา,แหลมฉบัง,ขนส่งสินค้าทางราง,สถานีรถไฟหนองคาย,กวางเขิ่น กรุ๊ป,ขนส่งทางราง,ขนส่งยางพาราทางรถไฟ,ณัฎฐวี ทองรอด,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/508066
|
ศรีสุวรรณ ยื่น ป.ป.ช. สอบ มท.1 เอื้อประโยชน์เอกชนใช้ที่ดินป่าชุมชน
|
เมื่อวันที่ 11 ก.ย.60 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย นายประทีป กีรติเรขา อธิบดีกรมที่ดิน นายโชติ เชื้อโชติ ผอ.สำนักกฎหมาย สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย นายกำธร ถาวรสถิตย์ อดีตผวจ.ขอนแก่น และ จ.ส.อ.อดุลย์ศักดิ์ เล่ห์กัน อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น กรณีใช้อำนาจอนุมัติให้บริษัทเอกชนได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์ป่าชุมชนโคกห้วยแม็ก ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น จำนวน 31 ไร่,โดย นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อหากำไรสูงสุดมาแบ่งปันกันเฉพาะในกลุ่มผู้ถือหุ้น ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ ที่สำคัญพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นป่าชุมชนที่มีสภาพสมบูรณ์ ที่ราษฎรยังใช้ประโยชน์อยู่ เพียงแต่สภาพป่าอาจไม่หนาแน่นเท่าป่าดงดิบ เพราะเป็นป่าเต็งรัง ยืนยันว่าไม่ใช่ป่าแห้งแล้งที่ชาวบ้านไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้วตามที่นายประทีป กีรติเรขา อธิบดีกรมที่ดินชี้แจงมา ตนมีภาพถ่ายยืนยันเรื่องสภาพป่าชัดเจน,นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตกฎหมายที่ดิน ยังระบุชัดเจนว่า การอนุญาตให้เอกชนใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะทำได้ไม่เกิน 10 ไร่ ยกเว้นแต่จะมีเหตุผลจำเป็น แต่กรณีดังกล่าวอนุมัติให้ใช้ประโยชน์ถึง 31 ไร่ อยากถามว่ามีเหตุผลอื่นอย่างไร เพราะเอกชนได้รับประโยชน์ ไม่ได้มีเหตุผลอื่นรองรับ และชาวบ้านที่เป็นองค์กรสภาชุมชนคัดค้าน การอนุญาตใช้พื้นที่มาตลอด แต่ไม่รู้ทางจังหวัดไปอ้างชาวบ้านกี่คนว่า ยินยอมให้ความเห็นชอบให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินได้ ขอรอดูท่าที ป.ป.ช.และ พล.อ.อนุพงษ์ ก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร หากยังเพิกเฉย จะไปยื่นเรื่องต่อศาลปกครองเพื่อให้เพิกถอนการใช้ที่ดินดังกล่าวต่อไป.
|
ศรีสุวรรณ ยื่น ป.ป.ช.สอบ รมว.มหาดไทยกับพวก เอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชนใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชุมชน สวนหมัดอธิบดีกรมที่ดิน งัดภาพถ่ายยืนกรานยังมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ ไม่ใช่ป่าแห้งแล้ง ขู่ยื่นเรื่องให้ศาลปกครองเพิกถอนการใช้ที่ดิน
|
ข่าว,การเมือง
|
ศรีสุวรรณ จรรยา,ป.ป.ช.,ที่ดิน,มท.,ป่าชุมชน,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1066439
|
รัฐเร่งแก้โจทย์ความต้องการภาคเอกชน ดันวิจัยหนุนอุตสาหกรรม
|
นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) เร่งทำโจทย์งานวิจัยให้ชัดเจนเพื่อให้งานวิจัยสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมได้ตรงกับความต้องการ เพราะไม่อย่างนั้นจะเป็นการวิจัยแบบกว้างๆ และไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งเท่าที่ได้วางกรอบไว้เบื้องต้น งานวิจัยต้องแบ่งเป็นกลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ กลุ่มเพื่อความมั่นคง กลุ่มการพัฒนาที่ยั่งยืน กลุ่มองค์ความรู้ กลุ่มโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากร และลักษณะการวิจัยจะต้องเป็นรูปแบบการกำหนดนโยบายจากบนลงล่างให้มากขึ้น จากเดิมเป็นแบบล่างขึ้นบน โดยนักวิจัยเป็นผู้เสนอเรื่องที่ตนอยากทำวิจัยขึ้นมา,ต่อไปนี้ต้องกำหนดเป้าหมายงานวิจัยที่ประเทศต้องการมากยิ่งขึ้น และการกำหนดงบประมาณเพื่อการวิจัยและพัฒนาจะต้องมีความต่อเนื่องเช่น 2-3 ปี จากปัจจุบันที่มีการพิจารณางบประมาณเป็นปีต่อปีซึ่งทำให้ได้งานวิจัยที่ไม่มีความต่อเนื่อง ทำให้งานวิจัยที่ต้องใช้เวลาในการศึกษาทำได้ยาก นางอรรชกากล่าว,สำหรับในวันนี้ (27 ก.พ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในการประชุมสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติครั้งแรกหลังจากที่ได้มีการปรับโครงสร้างโดยยุบรวมคณะกรรมการด้านการวิจัยและพัฒนา 3 คณะรวมเป็นคณะเดียว โดยครั้งนี้จะหารือถึงแนวทางการปฏิรูประบบการวิจัยและพัฒนาของประเทศ รวมถึงการกำหนดกลไกการขับเคลื่อนด้านต่างๆออกมา ทั้งด้านยุทธศาสตร์ งบประมาณ บุคลากร และกฎหมาย นอกจากนี้ ยังจะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านต่างๆมาดูแลและทำการวิจัยเพื่อสนองกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี รวมทั้งสอดรับกับอุตสาหกรรมเป้าหมาย,ขณะเดียวกันกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียังได้รับมอบหมายให้ร่วมผลักดันภารกิจสำคัญของรัฐบาลในด้านอื่นอีก โดยเฉพาะโครงการการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยเตรียมเสนอรายละเอียดของแผนงานการลงทุนเพื่อยกระดับและพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม (อีอีซีไอ) ให้กับคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ หรือ คนพ. พิจารณาเร็วๆ นี้ ซึ่งจะประกอบไปด้วยแผนการดำเนินงาน งบประมาณ รวมทั้งการจัดหาพื้นที่ เพื่อจัดตั้งเป็นห้องปฏิบัติการวิจัยทั้งภาครัฐและเอกชน ห้องทดลองภาคสนาม และศูนย์ทดสอบชั้นนำ ซึ่งล่าสุดกำลังพิจารณาพื้นที่ที่เหมาะสมไว้แล้วประมาณ 2-3 แห่ง คาดว่าเร็วๆนี้จะได้ข้อสรุป.
|
อรรชกา เร่งทำโจทย์งานวิจัยสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม วางเป้าหมายผลิตงานวิจัยให้ตรงความต้องการของประเทศมากขึ้น บิ๊กตู่ นั่งหัวโต๊ะประชุมสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติครั้งแรกวันนี้
| null |
อรรชกา สีบุญเรือง,ภาคอุตสาหกรรม,พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก,นวัตกรรม,เขตเศรษฐกิจพิเศษ
|
https://www.thairath.co.th/content/868296
|
โสมชบาจ๊ะจ๋า 06/04/61
|
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า อทิตยาทรกิติคุณ ทรงเปิดอนุสาวรีย์พระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) และหลวงพิพิธ (ม่วง สิงหเสนี) ที่ อบต.ค่ายบกหวาน อ.เมือง หนองคาย วันที่ 10 เม.ย. เวลา 15.00 น. ,ใครเจอ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ซึ่งกระฉับกระเฉงแข็งแรง เดินเก่งกว่าคนวัย 80 อื่นๆ ก็อยากรู้วิธีดูแลสุขภาพ แล้วทราบว่าคุณหมอได้ตัว โปรเฟสเซอร์ Jiri Dvorak อดีต ผอ.การแพทย์ 23 ปีของ FIFA ผู้เชี่ยวชาญระดับโลก มาก่อตั้งแผนก Wellness ให้ BDMS แบบครบวงจร ,ดารณี ตันชัยสวัสดิ์ ได้คนรถมาใหม่ แต่เวลาไปไหน ชอบขอนั่งไปกับเพื่อน เพราะคนขับเป็นอดีตทหารเพิ่งมาจากต่างจังหวัด เลยไม่รู้ที่ทางในกรุงเทพฯพอๆกับ คุณดา เลยไม่อยากเสี่ยง,ถ่ายทอดฝีมือด้านออกแบบตัดเย็บให้ลูกสาว จนมั่นใจไม่ต้องห่วง พิจิตรา บุณยรัตพันธุ์ ก็เริ่มวางมือจากเข็มด้าย เตรียมทำโรงเรียนสอนตัดเสื้อ พิจิตรา ซึ่งจะเป็นยุคที่ผนวกตำนานห้องเสื้อไทยระพี ที่มารดา อ.ลำยงค์ ก่อตั้ง เข้ากับวิชาที่ คุณเจี๊ยบ–พิจิตรา ไปร่ำเรียนที่ฝรั่งเศส,ยิงปืนแม่น เพราะจับปืนมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ สุวรรณา เลาหเพียงศักดิ์ แห่งร้านปืนเก่าแก่ ปืนรัตนา กะบันไดไม่แม่น เลยตกลงมา 5 ขั้นจนซี่โครงซ้ายหักสองซี่พร้อมแขนซ้าย เพิ่งถอดเฝือก,โครงการหลายพันล้านของสยามนุวัตร ยอดจองกว่า 70% แล้ว ช่วงสงกรานต์ ธารธร อักษรานุวัตร ก็จะพามารดา เสาวณีย์ ไปอังกฤษ เพื่อหาซื้อบ้านเพิ่ม เพราะหลังแรกที่ซื้อปีก่อน พอรีโนเวทเสร็จ ก็ถูกขอเช่าตลอดปี ก็เลยยังไม่มีบ้านลอนดอนตามที่ตั้งใจไว้จนได้,ตามไปดู น้องมาย ลูกสาวคนเก่งแชมป์โรงเรียน ไปแข่งแบดที่มาเลเซียกับเพื่อนๆ นุชรินทร์ โกวิทคณิต เห็นอาหารเลี้ยงนักกีฬาแล้วสงสารเลยพาเด็กๆไปเลี้ยงอย่างดี ผลคือเด็กๆถูกโรงเรียนตัดคะแนนเพราะผิดกฎ คุณหมี–นุชรินทร์ จึงให้ลูกลาออกจากทีมเพื่อแสดงความรับผิดชอบตอนนี้เลยต้องมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวลูกแทน.,โสมชบา
|
โครงการหลายพันล้านของสยามนุวัตร ยอดจองกว่า 70% แล้ว ช่วงสงกรานต์ ธารธร อักษรานุวัตร ก็จะพามารดา เสาวณีย์ ไปอังกฤษ เพื่อหาซื้อบ้านเพิ่ม
| null |
โสมชบาจ๊ะจ๋า,โสมชบา,เสาวณีย์ อักษรานุวัตร,ธารธร อักษรานุวัตร
|
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/hisoceleb/1249014
|
โฆษก กห. ยัน ประวิตร ไม่ลาออก หลัง ทิชา ล่ารายชื่อกดดัน
|
เมื่อวันที่ 17 ก.พ.61 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นางทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและเยาวชน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ยื่นรายชื่อที่รวบรวมผ่านทางเว็บไซต์ Change.org จำนวน 80,018 ชื่อส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แสดงสปิริตด้วยการลาออกจากตำแหน่งว่า ตนยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร ตั้งใจทำงานเต็มร้อย เพื่อทำงานดูแลความมั่นคงให้ประเทศต่อไป โดยที่ไม่หวั่นไหวต่อกระแสกดดันให้ลาออก เพราะยังมีประชาชนยอมรับในการทำงานด้านความมั่นคงของท่านอยู่
,พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ส่วนคนที่ออกมากดดันให้ท่านลาออกจากตำแหน่งนั้น เราก็ต้องรับฟังข้อมูลของพวกเขา เพราะพวกเขาก็มีสิทธิเห็นต่างโดยที่เราไม่ปิดกลั้นเสรีภาพในการแสดงออก แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมายของบ้านเมือง ไม่ก้าวล่วงกฎหมาย และกติกาของบ้านเมือง ถ้าเป็นแบบนี้ไม่ได้สังคมก็จะไม่สงบสุข
,ผมมั่นใจว่า พล.อ.ประวิตร มีสุขภาพแข็งแรง พร้อมที่จะทำงานให้ประเทศชาติต่อไป โดยจะไม่ลาออก ซึ่งการที่คุณทิชา ที่ออกมาล่ารายชื่อนั้น ผมไม่เข้าใจเจตนาของเขาว่าต้องการอะไร โฆษกฯกลาโหมกล่าว.
|
โฆษก กห. ยัน ประวิตร ไม่ลาออกหลัง ทิชา ล่ารายชื่อให้แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่ง ระบุ รมว.กห.ยังแข็งแรง พร้อมทำงานให้ ปท.ชาติ พร้อมย้อนถาม ต้องการอะไร?
|
ข่าว,การเมือง
|
คงชีพ ตันตระวาณิชย์,โฆษก กลาโหม,ทิชา ณ นคร,ล่าชื่อ,ประวิตรลาออก,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1206768
|
หนุ่มตราดซีอาร์วีแหกโค้งชนต้นไม้ยับ เครื่องกระเด็น บาดเจ็บติดคาซาก
|
เมื่อวันที่ 29 กันยายน 61 พ.ต.ท.วิเชียร ปั่นสุข สว.(สอบสวน)สภ.เขาสมิง อ.เขาสมิง จ.ตราด ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซีอาร์วี เสียหลักลงข้างทางชนกับต้นไม้จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในรถยนต์ เหตุเกิดบนถนนสุขุมวิทสาย 3 ขาออกเมืองตราด ช่วงบริเวณบ้านชุมแสง หมู่ 6 ต.เขาสมิง อ.เขาสมิง จ.ตราด หลังรับแจ้งจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราด นำอุปกรณ์ออกให้การช่วยเหลือพร้อมรถกู้ชีพของโรงพยาบาลกรุงเทพตราด,ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น CRV สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กต 542 จันทบุรี จอดอยู่ข้างทางในสภาพด้านหน้ารถพังยับ เครื่องยนต์กระเด็นหลุดออกไปจากตัวรถยนต์ไปตกอยู่ภายในร่องน้ำข้างทาง ภายในรถยนต์พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นชาย ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาซ้ายถูกอัดติดอยู่กับช่วงบริเวณคอนโซลรถยนต์จนทำให้ขาซ้ายหัก ประตูรถยนต์ไม่สามารถเปิดออกได้ เจ้าหน้าที่ต้องงัดประตูรถยนต์ก่อนจะปฐมพยาบาล และพยายามงัดร่างผู้ได้รับบาดเจ็บโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที จึงสามารถนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาได้ก่อนจะรีบนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลตราด ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บต่อมาคือ นายธนธรณ์ นาทศรีทา อายุ 28 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.เขาสมิง อ.เขาสมิง จ.ตราด ,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้ง โดยคาดว่ารถยนต์คันที่เกิดเหตุได้ขับมาจากตัวเมืองตราดมุ่งหน้าไปทาง อ.เขาสมิง ด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุที่เป็นทางโค้งคาดว่าคนขับน่าจะเกิดอาการหลับในเนื่องจากในที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยของการเบรก ก่อนที่รถจะวิ่งลงข้างทางไปชนกับต้นประดู่ที่อยู่ริมถนนอย่างจัง จนเครื่องยนต์กระเด็นหลุดจากตัวรถยนต์จนพังยับ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในรถยนต์ดังกล่าว,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบันทึกภาพถ่ายในที่เกิดเหตุพร้อมทั้งมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำรถยนต์คันที่เกิดเหตุไปทำการเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เขาสมิง จากนั้นจะเดินทางไปทำการสอบสวนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกครั้งที่โรงพยาบาลเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป.
|
หนุ่มตราดซิ่งซีอาร์วีหลุดโค้ง ลงข้างทางอัดชนต้นไม้เต็มแรง เครื่องยนต์กระเด็นหลุดมากองรถพังยับ ส่วนคนขับบาดเจ็บโดนอัดก๊อบปี้คาซากรถยนต์ กู้ภัยฯช่วยงัดร่างส่ง รพ.ปลอดภัย
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
หนุ่มตราด,ซีอาร์วี,เก๋งแหกโค้ง,ชนต้นไม้,ตราด,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1386713
|
อาถรรพณ์ต้นหว้าที่หนองขาม หนุ่มกัมพูชาผูกคอตาย เพื่อมาเป็นตัวตายตัวแทน
|
จากกรณีที่ นายวุท นามสกุล วอน อายุ 36 ปี สัญชาติกัมพูชา ได้ผูกคอตายใต้ต้นหว้าที่มีความสูงประมาณ 3-4 เมตร ภายในป่าหญ้ารกร้าง ฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านเจริญสินธานี หมู่ 9 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี สร้างความหวาดผวาให้ชาวบ้านในพื้นที่ รวมถึงกู้ภัยที่เข้าไปช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ เนื่องจากที่ต้นหว้าดังกล่าว เกิดมีชาวกัมพูชา มาผูกคอตายก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าในกรณีดังกล่าว พบนายสนธยา ชาฎก อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัย จุดปิ่นทอง 01 กล่าวว่า สำหรับต้นหว้าต้นนี้ เคยมีคนสัญชาติกัมพูชา มาผูกคอตายเช่นเดียวกันเมื่อช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งถ้าเป็นความเชื่อ ก็จะเป็นการตายแบบตัวตายตัวแทน อย่างไรก็ตามในบริเวณดังกล่าว ก็อยากจะให้พระเข้ามาทำพิธี ซึ่งถ้าหากปล่อยไว้อย่างนี้ ก็อาจจะมีคนมาผูกคอตาย อีกทั้งในพื้นที่เขตรับผิดชอบของหน่วยกู้ภัย พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากการผูกคอตายเมื่อช่วง 2 เดือน ที่ผ่านมา 5 ศพแล้ว ,ด้าน พ.ต.อ.จิราวัฒน์ ศักดิศรีวัฒนา ผกก. สภ.หนองขาม กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายมีแฟนสาวสัญชาติเดียวกัน และก่อนเกิดเหตุทั้งคู่ได้เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ส่งผลให้แฟนสาวตีตัวออกห่าง จนผู้ตายต้องเศร้าเสียชีวิต และหาทางออกด้วยการผูกคอตายใต้ต้นหว้า และสำหรับผู้ที่คิดจะฆ่าตัวตายหรือผูกคอตาย ก็ขอให้หนักแน่น บางทีเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมาก เพียงแค่ค่อยๆ คุยกัน ก็น่าจะเข้าใจกันได้.
|
คืบหน้าหนุ่มกัมพูชา ผูกคอลาโลกปริศนา ล่าสุด ผกก.หนองขาม เผยสาเหตุทะเลาะกับแฟนสาว ในขณะที่กู้ภัยฯคาดเพราะอาถรรพณ์ต้นหว้า วิญญาณอยากได้ตัวตายตัวแทน เผยเขตนี้ช่วง 2 เดือนเจอผูกคอตาย 5 ศพแล้ว
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ต้นหว้า,หนุ่มกัมพูชา,ผูกคอตาย,ตัวตายตัวแทน,สภ.หนองขาม,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1408366
|
ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง สนธิ - สโรชา หมิ่นทักษิณจาบจ้วงสถาบัน
|
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนางสโรชา พรอุดมศักดิ์ ที่ถูกฟ้องเดินทางมาฟ้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้ทนายเป็นโจทก์ฟ้อง ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาเมื่อศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนประชุมพร้อมปรึกษา หารือกันแล้วเห็นว่า จากคำเบิกความของพยานที่ระบุว่า กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ หรือ นปก. ได้ชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เนื่องจากไม่พอใจการทำหน้าที่ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เห็นว่าเป็นการกระทำที่ทำให้ระคายเบื้องพระยุคลบาท ซึ่งเป็นผู้แต่งตั้งประธานองคมนตรีเมื่อโจทก์เป็นผู้สนับสนุนกลุ่ม นปก. จึงทำให้เชื่อว่าโจทก์มีส่วนรู้เห็นในการกระทำดังกล่าว มีเหตุผลเพียงพอทำให้พสกนิกรชาวไทย และนายสนธิ เชื่อได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมไม่เคารพสถาบันเบื้องสูง การกระทำของนายสนธิ จึงเป็นการแสดงความคิดเห็นติชมด้วยความเป็นธรรม จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วยพิพากษากลับยกฟ้อง
|
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ยกฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล และนางสโรชา พรอุดมศักดิ์ ในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ฟ้องหมิ่นกรณีกล่าวหาจาบจ้วงสถาบัน เนื่องจากเห็นว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นติชมด้วยความเป็นธรรม
|
การเมือง
|
จาบจ้วงสถาบัน,ทักษิณ,ยกฟ้อง,ศาลอุทธรณ์,สนธิ,สโรชา,หมิ่น
|
https://news.thaipbs.or.th/content/189652
|
รายงานชุดพิเศษ กงล้อการไม่ต้องรับผิด: บทเรียนจากฟิลิปปินส์ ตอน 1
|
มะนิลา - ในเดือนมิถุยายน 2553 บรรณาธิการหนังสือพิมพ์คนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิตที่เมืองดิกอส ซิตี้ บ้านเกิดของเขาทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งการฆาตกรรมนั้นเกี่ยวพันกับนักการเมืองท้องถิ่น เขาเป็นหนึ่งในนักข่าวสามคนที่ถูกฆ่าภายในเดือนนั้นเดือนเดียวในเดือนสิงหาคมปีนี้ พยานหลักในการฆาตกรรมเมืองดิกอสก็ถูกฆ่าตายเช่นเดียวกัน โดยผู้ร้ายลึกลับฉันไม่ทราบจริงๆว่า ตอนนี้คดีนี้จะเป็นไปอย่างไรต่อไป หลังจากพยานปากสำคัญเสียชีวิต ภรรยาของนายเนสเตอร์ เบโดลิโด นักข่าวที่ถูกฆ่าตายกล่าวกับนักข่าวหนังสือพิมพ์ในเมืองดาเวาในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเช่นเดียวกับคดีฆาตกรรมสื่ออีกหลายต่อหลายคดี คดีฆาตกรรมที่ยังไขไม่ได้ของนายเบโดลิโด ผู้ซึ่งเคยทำงานให้กับหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์คาสติกาดอร์ และคดีฆาตกรรมล่าสุดของประจักษ์พยานนายริชชี่ มานาปอล แสดงตัวอย่างของวงจรความรุนแรง และการไม่ต้องรับผิด ซึ่งได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของระบบยุติกรรมของประเทศนี้เสียแล้วนายมานาปอลถูกปิดปากด้วยลูกกระสุน ซึ่งมาดหมายที่จะหยุดเขาในการให้การในคดีต่อต้านอดีตผู้ว่าราชการจังหวัด และนักการเมืองท้องถิ่นคนอื่นๆ การตายของเขาเกิดขึ้นเพียงไม่นานหลังจากที่เขาถูกปลดจากโปรแกรมคุ้มครองพยาน (WPP) ของรัฐบาลเพียงไม่กี่วันก่อนวันครบรอบ 5 ปีของการสังหารหมู่ที่มากินดาเนา พยานโจทก์ปากสำคัญในการไต่สวนที่กำลังดำเนินถูกฆาตกรรมจากการซุ่มโจมตี ขณะที่อีกคนบาดเจ็บจากการโจมตีในเมืองหลวงของจังหวัดชาริฟ อากวกชายทั้งสองกำลังเดินทางไปพบทนาย ขณะที่พวกเขาถูกสาดด้วยกระสุน ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมากินดาเนา นายเอสมาเอ็ล โตโต้ มังกุดาดาตูกล่าวพวกเขาเป็นพยานเพิ่มเติมที่สำคัญของพวกเราต่อการสังหารหมู่ แต่น่าเสียดายพวกเขาโดนสังหาร เขาบอกผู้สื่อข่าว ผมไม่เห็นเหตุผลอื่นว่าทำไมพวกเขาจึงถูกฆ่า หากไม่ใช่เพราะพวกเขาต้องการเป็นพยานให้รัฐในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2552 คน 58 คนซึ่งเดินทางในรถคุ้มกันสำหรับการเลือกตั้งถูกหยุดและถูกลักพาตัวโดยชายติดอาวุธจำนวนประมาณ 100 คนนอกชานเมืองอัมปาตวน ในจังหวัดมากินดาเนา ชายและหญิง รวมทั้งนักข่าวและคนทำงานสื่อ 32 คน ถูกต้อนไป และถูกสังหารภายหลัง และเอาไปฝังกลบในสุสานสาธารณะบนเนินเขาหญ้า ไม่กี่กิโลเมตรจากที่ที่พวกเขาถูกพาตัวไปยานพาหนะ ซึ่งบรรจุภรรยาและน้องสาวสองคนของนายมังกุดาดาตู รองนายกเทศมนตรีของเมืองบูลวนในสมัยนั้น กำลังเดินทางไปยังเมืองหลวง เพื่อยื่นเอกสารใบสมัครเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสำหรับจังหวัดมากินดาเนาให้กับนายมังกูดาดาตุ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เขาชนะหลังจากนั้นพยานการสังหารหมู่ประมาณครึ่งโหลรวมทั้งญาติของพวกเขาถูกฆ่าตายในช่วงระยะเวลาหนึ่งในสถานที่ต่างๆกันในจังหวัดมากินดาเนา ซึ่งเป็นการตักเตือนที่ชัดเจน จากผู้อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมอำมหิตซึ่งไม่มีความสำนักผิด ในการที่จะกำจัดใครก็ตามที่เข้ามาพัวพันกับพวกเขาพยานสำคัญปากหนึ่ง ซึ่งได้บอกว่า เขาเป็นคนขับรถพามือปืนไปยังสถานที่สังหารถูกพบเป็นชิ้นส่วนในเมืองหนึ่งในจังหวัดมากินดาเนาในปี 2012 ร่างกายที่ถูกตัดเป็นท่อนๆของเขาถูกใส่ไว้ในกระสอบในระบบยุติธรรมที่ต้องพึ่งพาคำให้การของพยานเป็นหลักนั้น การฆาตกรรมพยานได้กลายเป็นทางออกที่ง่ายสำหรับผู้ต้องสงสัย ผู้ถูกกล่าวหา และผู้อยู่เบื้องหลัง นักรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนกล่าวคนที่ตายทุกคนล้วนเป็นพยานปากสำคัญในคดีสังการหมู่ทั้งสิ้น และการฆาตกรรมแสดงให้เห็นว่าผู้อยู่เบื้องหลัง - ตระกูลอัมปาตวน - ยังมีอำนาจในการทำสิ่งที่เขาต้องการ พริมา กินซายาส ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ Freedom Fund for Filipino Journalists ซึ่งเป็นการรวมตัวขององค์กรสื่อท้องถิ่นหกองค์กร และถูกตั้งขึ้นเพื่อให้การสนับสนุนด้านการเงินและกฎหมายแก่ครอบครัวของนักข่าวที่ถูกฆ่าตระกูลอัมปาตวนอันทรงพลังมีอำนาจครอบงำการเมืองในจังหวัดมากินดาเนา จังหวัดยากจนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตปกครองตนเองมุสลิมมินดาเนา มานานหลายต่อหลายปี พวกเขามีเงินมหาศาล และเป็นที่รู้กันว่าเขามีการใช้กองกำลังของตนเอง และยังมีการใช้อิทธิพลแม้แต่ขณะถูกควบคุมตัวผู้เฒ่าอันดาล อัมปาตวน ซีเนียร์ ลูกชายของเขา นายอัลดาล จูเนียร์ และซาลดี้ เป็นผู้ต้องสงสัยหลักในการนองเลือดห้าปีที่แล้ว ซึ่งก่อให้เกิดการประณามทั้งในและนอกประเทศ ปัจจุบัน พวกเขาถูกกักขังอยู่ในคุกในเมืองหลวง และต้องเผชิญกับข้อหาฆ่าคนตายหลายกระทง ร่วมกับผู้ถูกกล่าวหาอีกหลายคนกินซายาสได้กล่าวกับกลุ่มนักข่าวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มาเยี่ยมว่า พยานจะถูกให้สินบนหรือฆ่า เพื่อหยุดพวกเขาไม่ให้ปรากฎตัวในศาลการหาความยุติธรรมที่นี่เป็นอะไรที่มีราคาแพงมาก คุณอาจจะต้องเสี่ยงชีวิตหากคุณไม่รับสินบน (จากผู้อยู่เบื้องหลัง) และคุณต้องการเห็นความยุติธรรมสมบูรณ์เกิดขึ้นในอาชญากรรมที่คุณได้เห็นหากปราศจากคำให้การของพยานที่สำคัญแล้ว คดีจะมีอันตรายเนื่องจากกระบวนการสืบสวนทางกฎหมายที่ไม่มีคุณภาพในประเทศนี้ เช่นที่คดีมากินดาเนาได้แสดงให้เห็นคุณไม่อาจจะจินตนาการได้ว่าการค้นหาหลักฐานและพยานนั้นอ่อนแอเพียงใด ดูสิ ตำรวจให้รถแบ็คโฮในการขุดร่างของคนตายขึ้นมาจากสถานที่สังหาร กินซายาสกล่าว เขายังเป็นโจทก์เอกชนให้กับหลายครอบครัวของเหยื่อที่เมืองเจเนอรัลซานโตสซิตี้ ในมินดาเนา ในละแวกที่เป็นที่ัตั้งของสำนักงานใหญ่ตำรวจประจำเขต มียานพาหนะจำนวนหนึ่งอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าจะถูกใช้เป็นหลักฐานในคดีนี้ยานพาหนะเหล่านี้ถูกล้อมโดยรั่วเหล็กเท่านั้น ซึ่งต้องสัมผัสสภาพอากาศต่างๆตลอดเวลา ชิ้นส่วนหลักฐานประกอบด้วยรถตู้ที่มีรอยบุบทั่วคัน ซึ่งถูกใช้ในการขนเหยื่อที่ถูกสังหารและกลบที่สุสานขนาดใหญ่ รวมถึงยานพาหนะแบบกองทัำพ ซึ่งถูกใช้ในการขนชายติดอาวุธที่หยุดรถและฆ่าเหยื่อเหล่านั้นการฆาตกรรมหมู่ของคน 58 คนในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2552 เป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่นองเลือดที่สุดในฟิลิปปินส์ และการโจมตีเดี่ยวสื่อที่รุนแรงที่สุดในโลก ตอกย้ำชื่อเสียงของประเทศในฐานะหนึ่งในประเทศที่อัตรายที่สุดสำหรับนักข่าวตามที่ Committee to Protect Journalists กลุ่มเฝ้าระวังด้านสื่อนานาชาติกล่าวคดีของการที่เจ้าหน้าที่ทำงานสื่อถูกฆ่าตายอย่างโหดร้ายในการสังหารหมู่ที่มาิกินดาเนานั้นยังไมได้รับการแก้ไข แม้ว่าจะมีการกดดันจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนในประเทศและต่างประเทศ และนักรณรงค์ด้านเสรีภาพสื่อแต่ก็ไม่ต่างจากคดีการฆาตกรรมนักข่าวคดีอื่นๆก่อนเหตุการณ์เสื่อมเสียเมื่อห้าปีที่แล้วจากข้อมูลของศูนย์สำหรับเสรีภาพและความรับผิดชอบสื่อ (Center for Media Freedom and Responsibility (CMFR)) ซึ่งติดตามการฆาตกรรมสื่อในประเทศนักข่าวชาวฟิลิปปินส์ทั่วประเทศกว่า 200 คนได้ถูกสังหารตั้งแต่ปี 2529 เมื่อระบอบประชาธิปไตยถูกรื้อฟื้น ส่วนใหญ่ถูกฆ่าตายขณะทำงานจากตัวเลขเหล่านี้ มีเพียง 14 คดีที่มีการพิพากษาลงโทษ ทางศูนย์ฯ ระบุ และเพิ่มเติมว่า เพียงมือปืนเท่านั้นที่ได้รับการลงโทษ ขณะที่ผู้อยู่เบื้องหลังไม่เคยถูกทำโทษเลยสถิติของ CMFRยังแสดงให้เห็นว่ามีนักข่าว 24 คนที่ถูกฆ่าตั้งแต่ปี 2553เมื่อเบนิกโน อากิโนขึ้นเป็นประธานาธิบดีนักปกป้องสิทธิได้วิพากษ์วิจารณ์ระบบยุติธรรมที่ล่าช้าในประเทศซึ่งเมื่อกอปรกับการสืบสวนสอบสวนทางอาญาที่ไม่มีประสิทธิภาพและการค้นหาและการคุ้มครองพยานที่แย่ช่วยสนับสนุนวัฒนธรรมการไม่ต้องรับผิดผลจากกระบวนการสืบสวนทางอาญาที่อ่อนแอ บางครั้งตำรวจก็นำเสนอประจักษ์พยานปลอม โดยเฉพาะในคดีที่ข้องเกี่ยวกับนักการเมืองที่มีำอำนาจ หรือผู้มีอิทธิพลอื่นๆ ตามที่ผู้แทน Human Rights Watch ในฟิลิปปินส์กล่าวคุณนับคดีเช่นนี้ไม่หมดหรอก แต่แน่นอนว่ามันจะมีพยานปลอมอย่างน้อยหนึ่งปาก หากมีคนใหญ่คนโตข้องเกี่ยวกับคดีดังกล่าว นายคาร์ลอส คอนเด จาก Human Rigths Watch กล่าวเราไม่สามารถเน้นย้ำถึงความสำคัญของการคุ้มครองพยานได้ แต่การที่จะทำให้คดีก้าวหน้า อีกทั้งท่ามกลางคดีฆาตกรรมที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเช่นนี้ มันจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้ความปลอดภัยแก่พยานรัฐบาลมีโปรแกรมคุ้มครองพยาน แต่เหล่าทนายบอกว่ามันมีช่องโหว่ที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขเพื่อให้มันเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการจัดการการไม่ต้องรับผิดในประเทศฟิลิปปินส์ คดีอาญาใช้เวลาหลายปี หรือแม้แต่เป็นทศวรรษในการตัดสินเนื่องจากคดีที่ค้างคาจำนวนมาก การขาดทนายฝ่ายโจทก์ ผู้พิพากษาและพยานในการฆ่าตัดตอนส่วนใหญ่ จะมีปัญหาเกี่ยวกับการขาดพยานเสมอ หรือขาดพยานที่เต็มใจและพร้อม เลขาธิการกระทรวงยุติธรรมของฟิลิปปินส์ไลลา เด ลิมายอมรับ ในคดีส่วนใหญ่ มีพยานอยู่ แต่บางคนก็กลัวเกินกว่าจะให้ความร่วมมือทนายโฆเซ่ เอ็ม ดิอ็อคโน คณะบดีของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดลาซาล เห็นด้วย กระบวนการยุติธรรมที่ล่าช้าทำให้คนลังเลที่จะเสนอตนเป็นพยานต่ออาชญากรรมบางคดีใช้เวลาเป็นสิบปี บางที 20 หรือ 25 ปีในการตัดสิน เขากล่าวในการสัมภาษณ์เขาอธิบายว่า ยิ่งคดีลากออกไปนานเท่าใดพยานก็ต้องใช้เวลาในคุก เสมือน นานเท่านั้น เนื่องจากเขาสูญเสียอิสรภาพ โดยเฉพาะหากพวกเขาอยู่ภายใต้โปรแกรมคุ้มครองพยานของรัฐบาบ (WPP)เพื่อที่จะได้รับความคุ้มครอง พยานที่อยู่ภายใต้โปรแกรมนี้ต้องยอมรับกฏเกณฑ์ที่กำหนด รวมถึงการอาศัยอยู่ในสถานที่หลบภัยชั่วคราว (TS) หรือที่ซ่อนตัวภายใต้การดูแลของตำรวจ โดยเฉพาะหากมีภัยคุกคามต่อชีวิตผมอยากจะบอกทุกสิ่งที่ผมรู้กับศาล และยังสามารถอยู่แบบคนปกติได้ นายลักมุดิน ซาเลียวประกาศ เขาเป็นพยานสำคัญในการพิจารณาคดีอัมปาตวนและได้สมัครเข้าโปรแกรม WPP ของกระทรวงยุติธรรม แต่ตอนนี้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้ว่ามังกูดาดาตุ ในมากินดาเนาเขาเข้ามาอยู่ในโปรแกรมคุ้มครองพยานของรัฐบาลในเดือนกรกฎาคม 2553 หรือแปดเดือนหลังจากการสังหารหมู่ และเป็นพยานให้กับรัฐในคดีที่ได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิดผมอยากออกจากโปรแกรม แต่ผมกลัวถูกฆ่าข้างนอก อดีตผู้ช่วยนายอัลดาล ซีเนียร์อายุ 36 ปีกล่าว เขาได้เติบโตมาเหมือนเป็นลูกบุญธรรมของตระกูลอัมปาตวนผมรู้สึกว่าพวกเขาจะฆ่าผม เพราะผมรู้ว่าเราวางแผนอะไร และได้ทำอะไร เขาเล่าให้ผู้สื่อข่าวข่าวฟังขณะที่เข้าไปเยี่ยมอาคารคอนกรีตสามชั้นที่ได้รับการป้องกันอย่างหนาแน่นในชาริฟ อากวก อัลดาล ซีเนียร์ถูกตำรวจพาไปที่นั่นสำหรับการสัมภาษณ์จากสถานที่ซ่อนตัว ซึ่งเขาอาศัยอยู่กับครอบครัวของเขาผมได้เห็นและได้ยินดาตุ อัลดาล อัมปาตวน จูเนียร์ และดาตุ อันไซ (พ่อของเขา) และผู้ติดตามของเขา เขามีการประชุมในวันที่ 17 18 และ 22 พฤศจิกายน เกี่ยวกับแผนในการหยุดรถและฆ่าคน เขากล่าวซาเลียวได้ให้ข้อมูลเดียวกันในคำให้การของเขาในช่วงเิริ่มต้นของการพิจารณาคดีการสังหารหมู่ในมะนิลาในเดือนกันยายน 2553เขาให้สัมภาษณ์ว่า ครอบครัวนั้นโกรธมังกูดาดาตุ เพราะพันธมิตรเก่าของพวกเขาท้าทายอันดาล อัมปาตวน จูเนียร์ในการชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการจังหวัด ดังนั้นจึงมีการวางแผนที่จะหยุดเขาไม่ให้ไปยื่นใบสมัครในทุกวิถีทางซาเลียวบอกว่า เขาได้รับเสนอสินบนถึง 10 ล้านเปโซโดยอัมปาตวน จูเนียร์ ไม่กี่วันหลังจากเขาตอบรับเป็นพยานรัฐ แต่เขาปฏิเสธสินบนนั้น มีบางครั้งที่เขารู้สึกว่า การตัดสินใจเป็นพยานของเขานั้นไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย เขายอมรับกับนักข่าว เขาน่าจะรับสินบนไปเสีย เขากล่าวผมได้รับแค่เดือนละ 8000 เปโซต่อเดือนจากกระทรวงยุติธรรมปีที่แล้ว และตอนนี้ 11000 เปโซต่อเดือน ผมจะเลี้ยงครอบครัวผมอย่างไร ผมทำงานไม่ได้ ซาเลียวบ่น และเพิ่มเติมว่า ความช่วยเหลือด้านการเงินมันเพียงพอต่ออาหารเท่านั้น แต่ไม่เพียงพอต่อค่าเล่าเรียนของลูกๆเขาตอนนี้ผมไม่มีทางออกเขากล่าวสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของซาเลียวสะท้อนถึงทุกคนที่ชีวิตเปลี่ยนหลังจากพวกเขามาเป็นพยาน และเน้นย้ำถึงความท้าทายที่ WPP ต้องเผชิญเลาขานุการ เด ลิมา อดีตทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ตระหนักดีถึงความยากลำบากนี้การคุ้มครองพยานไม่ใช่เรื่องง่าย มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากๆ และมันจำเป็นต้องใช้การยอมรับภาระอย่างเต็มใจ เธอกล่าวต่อกลุ่มนักข่าวที่มาเยี่ยม ในการให้สัมภาษณ์ที่ที่ทำงานของเธอในมะนิลาและมันต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจ คุณไม่สามารถบังคับพยานให้มาอยู่ภายใต้ WPP ได้ คุณไม่สามารถอยู่ดีๆเอาพยานไปซ่อนในที่ซ่อนตัว เพราะว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น มันหมายถึงต้องแยกจากครอบครัว และชุมชนของคุณมันเคยมีกรณีที่พยานออกจากโปรแกรม และถูกฆ่าภายหลัง เช่นกรณีของริชชี่ มานาปอล ซึ่งถูกกล่าวว่าเขาปฏิเสธที่จะอาศัยอยู่ในที่พักชั่วคราว จึงถูกให้ปลดออกจาก WPPนอกจากนั้นยังมีกรณีการเสียชีวิตระหว่างที่อยู่ภายใต้โปรแกรม จากที่เด ลิมากล่าว เรามีพยานปากหรือสองปากที่ถูกฆ่า นี่เป็นเพราะพยานฝ่าฝืนกฎที่กำหนด พวกเขาออกจาก(ที่ซ่อนตัว)โดยไม่ได้รับอนุญาตทนายดิอ็อคโนได้แบ่งปันความเห็นเขาต่อประเด็นนี้ เขากล่าวว่า ปัญหาของกฎหมาย WPP ก็คือมันไม่มีผลให้คำให้การมีอายุถาวร กล่าวคือพยานไม่ได้รับอนุญาตให้ให้การก่อนการพิจารณาคดีและหลักฐานดังกล่าวมีผลภายหลังกฎหมายการคุ้มครองพยานควรอนุญาตให้คำให้การมีผลต่อเนื่อง เขาเสริม เพื่อที่พยานจะสามารอยู่ในที่ซ่อนตัวในระยะเวลาจำกัด แม้ว่าคดีจะกินเวลานานก็ตามงบที่ใช้ในการช่วยเหลือพยานด้านการเงินก็จะลดลง และภัยคุกคามก็เช่นเดียวกัน หากพวกเขาได้รับอนุญาตให้ให้การต่อศาลล่วงหน้าก่อนการพิจารณาคดีจะเริ่ม เรากล่าวในฟิลิปปินส์ คดีอาญากินเวลานานกว่าจะเสร็จสิ้น พยานต้องรอจนกว่าการพิจารณคดีจะสิ้นสุด เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือทนายฝ่ายจำเลยยื้อคดี พวกเขาสามารถยื้อคดีเป็นเวลาหลายปี หลังจากการยื้อหลายปี พยานก็ไม่สามารถมีชีวิตปกติได้อีกต่อไป ดิอ็อคโนอธิบายดังนั้น หลายคนจึงเลือกที่จะลาออกจากโปรแกรม และท้ายสุดก็ไม่ได้ให้การใดๆเลยเขาเสริมว่า พวกเขาหลายคนตระหนักว่า เนื่องจากคดีใช้เวลานานมาก พวกเขาจะต้องอยู่(ในที่พักชั่วคราว)เป็นเวลานานมากขณะเดียวกัน คนที่ถูกกล่าวหากลับได้อยู่ข้างนอก พวกเขาได้รับการประกันตัว บางครั้งพวกเขาไม่ถูกตั้งข้อหาด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงกลายเป็นว่าพยานเป็นฝ่ายที่ต้องอยู่ในคุก แต่ผู้ต้องหาเป็นอิสระ ดิอ็อคโนกล่าว และเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิรูป WPP โดยทำให้มันมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับผม กฎหมายการคุ้มครองพยานจะไม่มีทางมีประสิทธิภาพได้เลย หากปราศจากกลไกที่ช่วยให้พยานให้การได้ก่อนการพิจารณาคดี เขากล่าวทนายมาร์ติน เมเนซ อธิบดี WPP เห็นด้วยว่าการปฏิรูปจะช่วยให้โปรแกรมเข้มแข็งขึ้นเมื่อสองปีที่แล้ว จากรายงานข่าว เขาเสนอแนะให้เพิ่มบทบัญญัติเกี่ยวกับการเปลี่ยนอัตลักษณ์และย้ายที่อยู่ของพยาน รายงานข่าวกว่าวว่า เขาได้ยกระดับความจำเป็นในการแก้ไขกฎหมาย หลังจาก WPP ถูกโทษว่าทำให้เกิดการฆาตกรรมของพยานสำคัญในคดีฆาตกรรมขณะที่อยู่ภายใต้โปรแกรมเพื่อปกป้องโปรแกรมจากข้อกล่าวหา เขากล่าวว่าพยานที่ถูกฆ่าปฏิเสธที่จะอยู่ในที่ซ่อนตัว และได้เซ็นข้อตกลงสละสิทธิ์จากผลที่อาจเกิดขึ้นแล้วในช่วงขณะใดๆก็ตาม เรามีพยานมากกว่า 500 ปากภายใต้การดูแลของพวกเรา ซึ่งอยู่ในที่พักชั่วคราว หรือที่ซ่อนตัว เลขานุการเด ลิมากล่าวเมื่อคุณสมัครใจมาอยู่ใต้ WPP คุณต้องยอมทำตามพันธของคุณเอง คุณต้องทำตามกฎเกณฑ์ของโปรแกรม เธออธิบาย และเสริมว่า หากพวกเขาปฏิเสธที่จะย้ายที่อยู่ไปยังที่ซ่อนตัว เราจะต้องยุติการคุ้มครองเราจะคุ้มครองพวกเขาได้อย่างไร เราจะให้ความปลอดภัยพวกเขาได้อย่างไร หากพวกเขาปฏิเสธที่จะมาอยู่ในที่ซ่อนตัว เราไม่อยากถูกกล่าวหา (หากเกิดอะไรขึ้น)แม้ว่าจะมีคำวิจารณ์ต่างๆต่อโปรแกรม เมเนซแห่ง WPP ก็ภูมิใจในสิ่งที่มันได้บรรลุ ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลมีอัตราการพิพากษาลงโทษ96 เปอร์เซ็นต์ในปี 2555 สำหรับคดีที่มีพยานขึ้นทะเบียนภายใต้ WPP 87 เปอร์เซ็นในปี 2556 และ 87 เปอร์เซ็นในปีนี้หากคุณตัดสินโดยดูที่อัตราการพิพากษาลงโทษในคดีเหล่านั้น ผมว่าคุณจะบอกได้ว่า WPP ของฟิลิปปินส์มีบทบาทที่ยั่งยืนและสำคัญ เขากล่าวแม้ว่าจะมีข่าวดีจากเมเนซ แต่สิ่งที่คนหลายคนเรียกร้องอยากเห็นก็คือ การกระทำของรัฐบาลในการพิจารณาคดีการสังหารหมู่ในมากินดาเนา ซึ่งจะแสดงถึงความมุ่งมั่นของพวกเขาในการยุติการไม่ต้องรับผิดผู้ช่วยประธานาธิบดีได้อธิบายว่าคดีนี้เป็นการพิจารณาคดีเแห่งศตวรรษ ขณะที่เลขานุการเด ลิมา เรียกมันว่าเป็นการทดสอบความเป็นกรดเป็นด่างของระบบยุติธรรมของประเทศเธอได้สัญญาที่จะลงโทษผู้ต้องหาหลักอย่างน้อยหนึ่งรายภายในปี 2559 หรือก่อนที่ประธานาธิบดีอากีโนจะลงจากตำแหน่ง หากเป็นไปได้ เราอยากเห็นการตัดสินเอาผิดก่อนปี 2016 เธอกล่าว และเสริมว่ามันเป็นความปรารถนาของท่านประธานาธิบดีมีผู้ต้องหาจำนวน 194 ราย 70 รายจากนี้ได้ยื่นประกันตัว การพิจารณาการประกันตัวยังคงดำเนินต่อไปอากีโนได้ให้สัญญาที่จะยืนความยุติธรรมต่อเหยื่อและครอบครัวของเขา และหวังว่าคดีจะถูกแก้ไขอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ตระหนักดีถึงขนาดของการพิจารณาคดี เนื่องด้วยจำนวนของผู้ถูกกล่าวหาที่มาก ซึ่งเขากล่าวว่าจะได้รับกระบวนการที่เป็นธรรมเด ลิมายังคงหวังที่จะเห็นการตัดสินลงโทษผู้ที่ทำผิดมากที่สุดภายใน 2016 ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม เราไม่รู้ เพราะว่ามันอยู่เหนือความควบคุมของเรา เธอประกาศ
|
ตอนที่ 1: การคุ้มครองพยาน กุญแจสำคัญในการต่อสู้การไม่ต้องรับผิดมะนิลา - ในเดือนมิถุยายน 2553 บรรณาธิการหนังสือพิมพ์คนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิตที่เมืองดิกอส ซิตี้ บ้านเกิดของเขาทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์
|
คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน
|
Ampatuan Massacre,impunity,SEAPA,การสังหารหมู่นักข่าว,การไม่ต้องรับผิด,สมาพันธ์ผู้สื่อข่าวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้,เหตุการณ์อัมปาตวน
|
https://prachatai.com/journal/2015/01/57492
|
หนีสายสีเขียวไปติดทางลัด ถนนเลียบคลองสองป่วน-ตำรวจแนะใช้พหลฯเช้าขึ้นดีกว่า
|
พ.ต.ท.วสุ เชื่อพุทธ สว.จร.สน.สายไหม เปิดเผยว่า พื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ในเขตความรับผิดชอบ สน.สายไหม อยู่ในช่วงสัญญาที่ 2 จากสะพานใหม่-คูคต โดยมีบริษัทยูนิค เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ขณะนี้ได้เข้าพื้นที่ก่อสร้างบนถนนพหลโยธินแล้ว 2 จุดใหญ่ ได้แก่ 1.ถนนพหลฯ ฝั่งขาเข้า จากแยก คปอ.-พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ ปิดครึ่งช่องทางชิดเกาะกลาง และจากแยกท่าดินแดง-แยกแยกกรมพลาฯ (ซอยพหลฯ54/1) จำนวน 1 ช่องขวาชิดเกาะกลาง 2.ถนนพหลฯฝั่งขาออก จากแยกพารา-ท่าดินแดง จำนวน 1 ช่องขวาชิดเกาะกลางและจากพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ-แยก คปอ. จำนวน 1 ช่องขวาชิดเกาะกลาง ภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ จะปิดเต็มรูปแบบจากสะพานใหม่-แยก คปอ. ตลอดแนวทั้งสองฝั่ง โดยจะเว้นช่องสำหรับกลับรถไว้ แต่บางจุดจำเป็นต้องปิดเพื่อลดการตัดกระแสจราจร ซึ่งขณะนี้รถยังใช้ถนนพหลโยธินตามปกติ แต่มีบางส่วนเริ่มเลี่ยงไปใช้เส้นทางลัดเพื่อหลบจุดก่อสร้างบ้างแล้ว,พ.ต.ท.วสุกล่าวว่า สำหรับทางเลี่ยงที่คนนิยมใช้ ได้แก่ ถนนเลียบคลองสอง โดยรถที่มาจากดอนเมือง มุ่งหน้าถนนรามอินทราจะเลี้ยวเข้าแยก คปอ.ใช้ถนนเลียบคลองสอง ลัดไปออกถนนเพิ่มสิน ถนนออเงิน ถนนสายไหม ถนนวัชรพล เข้าถนนรามอินทราได้ โดยเลี่ยงพื้นที่ก่อสร้างช่วงแยก คปอ. ถึงวงเวียนหลักสี่ได้ หลังจากมีการประชาสัมพันธ์ให้คนเลี่ยงผ่านพื้นที่ก่อสร้าง ทำให้คนเข้าไปใช้ถนนเลียบคลองสองมากขึ้น การจราจรจึงเริ่มติดขัด เนื่องจากถนนเลียบคลองสองคับแคบ รถใช้ความเร็วไม่ได้ ทั้งนี้ เฉพาะรถที่ใช้ประจำภายในพื้นที่ก็มีมาก และถ้าเป็นคนนอกพื้นที่เข้าไปแล้วอาจจะสับสน เพราะไม่คุ้นเคย ประกอบกับมีถนนแยกย่อยหลายเส้น จึงไม่อยากแนะนำให้เข้าไปใช้ ขณะเดียวกันถนนพหลโยธินถึงแม้รถมากแต่ก็ยังสามารถเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆ ไม่ถึงขั้นวิกฤติ สภาพการจราจรไม่ค่อยแน่นอน บางวันรถติด บางวันรถไม่ติด อยากให้ผู้ขับขี่ติดตามข่าวสารข้อมูลการรายงานจราจรอย่างต่อเนื่อง และออกจากบ้านเร็วขึ้นจะช่วยเดินทางสะดวกขึ้น.
|
คนดอนเมือง แห่ใช้ถนนเลียบคลองสอง ออกรามอินทรา หนีก่อสร้างรถไฟฟ้าสะพานใหม่ แต่ตำรวจติงถนนแคบ ทำให้รถติด แถมคนไม่คุ้นอาจหลงทาง แนะออกเช้าขึ้นเลี่ยงรถดีกว่า
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ไฟฟ้าสายสีเขียว,วสุ เชื่อพุทธ,ถนนเลียบคลองสอง,ถนนพหลโยธิน,ดอนเมือง,รามอินทรา,แยก คปอ.,รถติด,ข่าว,ทีมข่าวกทม.,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
|
https://www.thairath.co.th/news/local/524420
|
ทรัมป์สั่งมา เจฟฟ์ เซสชั่นส์ รมต.ยุติธรรมสหรัฐฯ ร่อนจม.ลาออก
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจฟฟ์ เซสชั่นส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นจดหมายลาออกจากตำแหน่งแล้ว ในวันพุธที่ 7 พ.ย. โดยระบุชัดในจดหมายว่า ทำตามคำขอของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ ขอบคุณการทำงานของนายเซสชั่นส์ และขอให้เขาโชคดี,ในจดหมายลาออกของนายเซสชั่นส์ระบุอย่างชัดเจนว่านี่ไม่ใช่การตัดสินใจของตัวเขาเอง ท่านประธานาธิบดีที่รัก ผมยื่นจดหมายลาออกตามคำขอของคุณแล้ว จดหมายยังระบุด้วยว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ในช่วงเวลาที่ผมอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผมได้ฟื้นฟูและค้ำจุนกฎหมาย,ขณะที่ตามการเปิดเผยของทำเนียบขาวสหรัฐฯ นายจอห์น เคลลี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของนายทรัมป์ โทรศัพท์หานายเซสชั่นส์ในวันพุธก่อนที่นายทรัมป์จะจัดการแถลงข่าวเพื่อหารือเรื่องผลการเลือกตั้งกลางเทอม,ทั้งนี้ นายทรัมป์กับนายเซสชั่นส์มีเรื่องผิดใจกันมานานแล้ว โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจมตีรัฐมนตรียุติธรรมของเขามาตลอดนับตั้งแต่นายเซสชั่นส์ลาออกจากคณะกรรมการสืบสวนข้อกล่าวหาแทรกแซงเลือกตั้งของรัสเซียเมื่อเดือน มี.ค. 2560 หลังจากถูกฝ่ายเดโมแครตกล่าวหาว่า เขาไม่ยอมเปิดเผยเรื่องที่เขาติดต่อกับทูตรัสเซียก่อนที่เขาจะรับตำแหน่งรมว.ยุติธรรม,เรื่องดังกล่าวทำให้นายโรเบิร์ด มุลเลอร์ ที่ปรึกษาพิเศษรับช่วงการสืบสวนต่อ แล้วไล่ล่าหาหลักฐานความเชื่อมโยงระหว่างทีมหาเสียงของนายทรัมป์กับรัสเซีย และขยายขอบเขตการสืบสวนออกไปจนนำไปสู่การตั้งข้อหาอาชญากรรมแก่ผู้ช่วยของนายทรัมป์หลายคน,นายทรัมป์เคยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ นิวยอร์ก ไทมส์ เมื่อ ก.ค. 2560 ว่า เซสชั่นส์ไม่ควรถอนตัว ถ้าเขาจะถอนตัวเขาก็ควรบอกกับผมก่อนที่เขาจะรับงาน ผมจะได้เลือกคนอื่นแทน,อนึ่ง นายทรัมป์ระบุว่า นายแมตทิว วิตเทคเกอร์ ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์การสืบสวนกรณีรัสเซีย จะเป็นรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
|
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นจดหมายขอลาออกจากตำแหน่งแล้ว โดยระบุอย่างชัดเจนว่า ทำตามคำขอของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
|
ข่าว,ต่างประเทศ
|
โดนัลด์ ทรัมป์,ไล่ออก,รัฐมนตรียุติธรรม,เจฟฟ์ เซสชั่นส์,รัสเซีย
|
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1415326
|
สระสุวรรณชาด พระมหากรุณาธิคุณต่อสัตว์
|
การใช้รอกพยุงตัวสุนัขว่ายน้ำครั้งละ 5 นาที จำนวน 4 ครั้ง เป็นวิธีการกายภาพบำบัด หรือการรักษาสุนัขด้วยธาราบำบัด ซึ่งเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งในการรักษาโรคสุนัขในกลุ่มเวชศาสตร์ฟื้นฟูวิธีรักษานี้ส่งผลให้กระดูก กล้ามเนื้อ และข้อต่อของสุนัขเคลื่อนไหวได้เต็มที่ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ซึ่งช่วยลดการบวมของเนื้อเยื่อสุนัขที่บาดเจ็บ หรือการฟกช้ำของกล้ามเนื้อหลังฝ่าตัด รวมถึงสุนัขที่ป่วยเป็นโรคกระดูกและข้อต่อ และโรคระบบประสาทคณะสัตวแพทย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับพระราชทานคำแนะนำจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการออกแบบสระตามหลักวิชาการ และได้ใช้สระว่ายน้ำของสุนัขทรงเลี้ยงมาเป็นต้นแบบ พร้อมทั้งพระราชทานเงินรายได้จากการจำหน่วยเสื้อคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยง ในการจัดสร้างสระแห่งนี้และพระราชทานชื่อสระว่า สระสุวรรณชาด ตามชื่อของคุณทองแดง โดยเริ่มเปิดรักษาสุนัขด้วยธาราบำบัดตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งสะท้อนถึงพระเมตตาที่มีต่อทุกชีวิตในผืนแผ่นดินไทย สร้างความซาบซึ้งให้กับประชาชนผู้เลี้ยงสุนัขพระองค์ยังพระราชทานเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เงินในการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือสัตว์ป่วยอนาถาและโครงการเพื่อช่วยเหลือสัตว์ต่างๆอีกนานับประการ พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีให้ต่อทุกชีวิตเป็นแบบอย่างสำคัญในการน้อมนำมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนของเหล่าสัตวแพทย์ปัจจุบันมีสุนัขที่ป่วยเป็นโรคกระดูกและข้อต่อ และโรคระบบประสาท รวมถึงสุนัขที่ต้องออกกำลังกายด้วยธาราบำบัดที่สระสุวรรณชาด ปีละเกือบ 8000 ตัว ไม่เพียงช่วยรักษาชีวิตสุนัขให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น แต่ยังคลายความทุกข์ใจให้ผู้เลี้ยงสุนัข ด้วยทรงโปรดเลี้ยงสุนัขทำให้ทรงเข้าพระราชหฤทัยผู้เลี้ยงสุนัข นำมาซึ่งโครงการอันมีคุณูปการต่อสัตว์น้อยใหญ่
|
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อสัตว์ เมื่อครั้งพระราชทานเงินรายได้จากการจำหน่ายเสื้อคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยง ไปสร้างสระสุวรรณชาด สำหรับการรักษาแบบธาราบำบัดให้สุนัขที่ป่วยด้วยโรคกระดูกและข้อต่อและโรคระบบประสาท
|
สังคม
|
ในหลวง,แสงจากพ่อ,สรุสุวรรณชาด,ธาราบำบัด,พระมหากรุณาธิคุณ,คุณทองแดง,โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews
|
https://news.thaipbs.or.th/content/256863
|
วัฒนา ขู่ ลิ่วล้อ คสช.ใช้ ก.ม.ทำลายฝ่ายตรงข้าม ระวังตายยกแก๊ง
|
เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 61 นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า เตรียมกวาดบ้าน ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในอำนาจ นอกจากการทำลายประชาธิปไตยแล้ว สิ่งที่ คสช.ได้ทำให้ประเทศเสียหายอย่างใหญ่หลวงคือการทำลายหลักนิติธรรม รวมถึงการใช้กฎหมาย และเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเครื่องมือจัดการฝ่ายที่อยู่ตรงข้าม โดยทุกครั้งของการยึดอำนาจจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ เสนอตัวรับใช้เผด็จการ เพื่อแลกกับความก้าวหน้าในอาชีพเสมอ ที่เลวคือจำพวกที่เอาสิทธิและเสรีภาพของประชาชนมาเป็นบันไดก้าวขึ้นสู่อำนาจ ตัวอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นคือ การใช้กฎหมายคอมพิวเตอร์ดำเนินคดีกับ นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่นำข้อความการวิพากษ์วิจารณ์การใช้กระเป๋าถือของภริยานายกรัฐมนตรีในคราวเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ มาแชร์ต่อ ทั้งที่ภริยานายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ กับสามี โดยเบิกค่าเดินทางจากงบประมาณแผ่นดิน อันถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะคู่สมรสของนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ และเป็นผู้จ่ายภาษี จึงย่อมมีสิทธิจะวิจารณ์ถึงความเหมาะสมของการแต่งกาย การวางตัว รวมถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ การวิจารณ์ดังกล่าวไม่ถือเป็นเรื่องส่วนตัว และไม่เป็นความผิดฐานนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพราะไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน
,นายวัฒนา ระบุว่า หากภริยานายกรัฐมนตรีเห็นว่าการวิจารณ์ดังกล่าวทำให้ตนได้รับความเสียหาย ก็ขอดำเนินคดีในข้อหาดูหมิ่น หรือหมิ่นประมาทแล้วแต่กรณี แต่จะใช้กฎหมายคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือไม่ได้ ขอเตือนมายังเจ้าหน้าที่รัฐที่กำลังรับใช้เผด็จการอย่างไม่ลืมหูลืมตา วันที่บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยเมื่อไร ประชาชนจะไม่ปล่อยท่าน เพราะนอกจากเผด็จการแล้ว บรรดาลิ่วล้อที่รับใช้เผด็จการ โดยเหยียบหัวประชาชนขึ้นสู่อำนาจ ก็มีความเลวไม่แพ้กัน กำลังจะถูกนาฬิกาทับตายยกแก๊งแล้ว อีกไม่นานเกินรอได้เจอกัน.
|
วัฒนา ฉะ คสช.ใช้อำนาจ กฎหมาย เจ้าหน้าที่ ทำลายฝ่ายตรงข้าม นอกจากทำลาย ปชต. ประเทศชาติยังเสียหาย เตือนลิ่วล้อเผด็จการระวังตายยกแก๊ง
|
ข่าว,การเมือง
|
วัฒนา เมืองสุข,วัฒนาโพสต์เฟซ,เตรียมกวาดบ้าน,กระเป๋าเมียนายกฯ,ชาญวิทย์ เกษตรศิริ,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1181455
|
เปิดเวทีเล็กลากเกม?
|
จะปล่อยของขู่ หรือเอาจริง แต่ข่าวลอยลมที่ว่า อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มี ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายเป็นแบ็กอัพ นอกจากเดินเกมขอสถานะ ลี้ภัย อาจเลยไปไกลถึงการจัดตั้ง รัฐบาลพลัดถิ่น,รายงานข่าวที่น่าจะปล่อยออกมาสวนทางสถานการณ์จริง,เพราะคิวร้อน ตั้งรัฐบาลซ้อนจะต้องลงล็อกเข้าเงื่อนไขอีกหลายประเด็น โดยเฉพาะหากรัฐบาลภายในประเทศไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ การเดินแผนนี้จะต้องมีประเทศบิ๊กๆหนุนหลัง,กับสถานการณ์ อำนาจพิเศษ ที่มี บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ประคองสถานการณ์ และเริ่มเห็นทิศทางไปในทางที่ดี หลังไปเยือนประเทศสหรัฐอเมริกา,ผู้นำมหาอำนาจเพิ่งเล่นบทหวานใส่ผู้นำไทย กระเตงเข้าเอวกันหมาดๆ,ช่วยฟื้นเครดิต ผู้นำนอกระบบ จากไทยแลนด์ได้บาน,แผน โลกล้อมประเทศ สถาปนาอำนาจนอกราชอาณาจักร ถ้าจะเอาจริงจังตามกระแสข่าว นอกจากประเมินน้ำหนักเทียบกับสถานะอำนาจพิเศษฝ่ายท็อปบูตที่กระเตื้องขึ้นตามลำดับ,และที่สำคัญ กับสถานการณ์บ้านเมืองในห้วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ,ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ลุยถั่ว ก็คง หน้ามืดแปดด้าน เต็มทีแล้ว,แล้วเอาเข้าจริง กระแสข่าวที่อ้างมาจากบทวิเคราะห์อ้างอิงแหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย ก็ถูกคนในเครือข่ายนายใหญ่ปฏิเสธไปแล้วว่าเป็นข่าวเท็จ,แต่อีกทางหนึ่งก็ยังมีเสียงคนการเมืองกระตุกรัฐบาล คสช.เร่งโรดแม็ปคืนอำนาจ,มัดคอ บิ๊กตู่ ให้ประกาศดีเดย์เลือกตั้ง,หลังจากที่ผู้นำอำนาจพิเศษจากไทยแลนด์ ไปยืนยันกำหนดการคืนอำนาจที่ประเทศสหรัฐอเมริกา,แต่กลายเป็นรายการตีขลุม ล็อกโปรแกรมผู้นำ สัญญาเลือกตั้งปี 2561,กระทั่งล่าสุด บิ๊กตู่ ต้องเอ่ยปากย้ำกับคนไทยที่พำนักอาศัยอยู่กรุงวอชิงตัน และที่เดินทางมาจากเมืองอื่นๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนเดินทางกลับ ชนิดที่เคลียร์โรดแม็ปประชาธิปไตยให้ชัดอีกรอบ,ปีหน้าได้ประกาศเลือกตั้งแน่นอน,แจงรายละเอียดโปรแกรมคืนอำนาจ ตามรัฐธรรมนูญกำหนด ด้วยเงื่อนไขกรณีกฎหมายลูกเสร็จ ต้องมีกระบวนการทูลเกล้าฯถวาย 90 วัน จากนั้นใช้เวลาอีก 5 เดือน เตรียมการ,เลือกตั้ง ก็ประมาณเดือน พ.ย.2561,สอดคล้องกับคิวที่ กรธ.-สนช. แจงปฏิทินคลอดกฎหมายลูก สะเด็ดน้ำปลายปี 2561,เช่นเดียวกับที่ถูกจับจ้อง บิ๊กตู่ ตอบคำถามเรื่องลงเลือกตั้งแบบทีเล่นทีจริง ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ รวมทั้งขมวดปมตอบคำถาม จะอยู่ในตำแหน่งผู้นำช็อตต่อไปหรือไม่ อยู่ที่ประชาชนยังยอมรับหรือเปล่า,ถ้าภาคประชาชนอยากให้ผมเข้าไป มันมีอย่างเดียว กฎหมายมันก็มีอยู่ ถ้าถามว่าอยากได้หรือสืบทอดอำนาจหรือไม่ ไม่อยากเลย,ออกลูกอิดออด แต่ แง้มช่อง ให้กองเชียร์หนุน อยู่ต่อ กันเสร็จสรรพ,ตามรูปเกม อ่านสัญญาณแล้วอะไรๆน่าจะเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ เพียงแต่ว่าก็มีประเด็นที่อาจประเมินกันได้ คิวเลือกตั้งอาจมาไม่ไวอย่างที่คิด นอกจากเงื่อนไขตัวแปรพิเศษในห้วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ,ยังน่าจะต้องอ่านทางจากปม แฝง ในโปรแกรมหลัก ที่ บิ๊กตู่ พูดกับคนไทยในสหรัฐอเมริกา,แพลมไต๋ น่าจะจัดคิวเช็กระบบ เลือกตั้งท้องถิ่น นำร่อง,ยังมีการเลือกตั้งท้องถิ่นอีก ที่กระทรวงมหาดไทยต้องดำเนินการ ที่เราหยุดไว้ เพราะถ้าเลือกตั้งตอนนี้เละไปอีก แต่ก็อยากให้ลองเลือกตั้งดู จะได้ดูว่าออกมาอย่างไร,ไม่แน่ใจว่าจะเดินเข้าสูตร ขยับโปรแกรมใหญ่อีกหรือเปล่า.,ทีมข่าวการเมือง
|
ส่อ แป้ก สูง จะปล่อยของขู่ หรือเอาจริง แต่ข่าวลอยลมที่ว่า อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มี ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายเป็นแบ็กอัพ นอกจากเดินเกมขอสถานะ ลี้ภัย อาจเลยไปไกลถึงการจัดตั้ง รัฐบาลพลัดถิ่น
|
เลือกตั้ง
|
ข่าวการเมือง,สกู๊ปการเมือง,เลือกตั้ง,ทีมข่าวการเมือง,วิเคราะห์การเมือง
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1091049
|
เขื่อนกับ พระราชอำนาจ
|
หรือที่ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา บรรดาเขื่อนที่มีสร้อยต่อท้ายชื่อว่า โครงการตามพระราชดำริ เท่านั้นสามารถก่อสร้างได้ แต่โครงการอื่นที่คล้ายคลึงกันกลับถูกต่อต้าน? ผมไม่ได้ท้าทายต่อพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้าอยู่หัวในการริเริ่มโครงการเหล่านี้ แต่บางคนเข้ามาเถียงว่าการมีพระราชดำรัสไม่ได้มีผลอะไรต่อโอกาสที่จะสร้างเขื่อนได้ ก็ต้องเถียงว่าไม่จริง ซึ่งผมได้ยกตัวอย่างสามเขื่อนเป็นอย่างน้อย ตั้งแต่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนคลองท่าด่าน และเขื่อนห้วยโสมง ซึ่งล้วนเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ทั้งสิ้น ส่งผลกระทบตั้งแต่การโยกย้ายประชาชนหลายหมื่นคน ไปจนถึงผลกระทบต่ออุทยานแห่งชาติซึ่งมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าป่าที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ แต่สามารถก่อสร้างได้ถามว่าพระราชดำรัสได้ถูกเปลี่ยนเป็นผลในเชิงปฏิบัติหรือไม่? มีแน่นอน นอกจากสร้อยต่อท้ายโครงการแล้ว ยังมีการจัดตั้งหน่วยงานต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อรองรับและปฏิบัติให้พระราชดำรัสดังกล่าวเป็นผล อย่างเช่น สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ (กปร.) เป็นต้นที่สำคัญกว่านั้นคือ ผมไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่อยากเสนอว่าว่าเป็นประเด็นที่สังคมควรถกเถียงกันส่วนกรณี สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างเขื่อนและโครงการจัดการน้ำขนาดใหญ่ในไทยและในภูมิภาค เป็นไปตามหลักฐานที่ผมแสดง อย่าง โครงการจัดทำกรอบและประสานการบริหารจัดการและทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา (โครงการ ธ ประสงค์ใด) ที่สำนักงานทรัพย์สินฯ เป็นผู้จัดทำ และเป็นที่มาของโครงการเขื่อนใหญ่อย่างแม่วงก์ โครงการผันน้ำ (เขื่อนแก่งเสือเต้น) ฯลฯ และทำไมครม.ต้องอนุมัติเมื่อ 30 ตุลาคม 2544 ให้สำนักงานทรัพย์สินฯ? เป็นผู้จัดทำโครงการนี้ หน่วยงานนี้เข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างไร?และผมบอกว่าสำนักงานทรัพย์สินฯ ไม่ได้สนับสนุนการสร้างเขื่อนเฉพาะเมืองไทย แต่เคยมีหุ้นถึง 10% อยู่ในบริษัท MDX มีคนแย้งว่า แค่ถือหุ้นไม่ได้หมายถึงว่ามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการบริษัท อันนั้นผมเข้าใจ แต่ข้อความที่ว่า บริษัท จี เอ็ม เอส เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ได้ก่อตั้งบริษัท เอ็ม ดี เอ็กซ์ ลาว จำกัด ขึ้นในปี 2537 โดยร่วมทุนกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อลงทุนพัฒนาโครงการผลิตพลังงานไฟฟ้าเอกชนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (ลาว) มาจากรายงานประจำปีของบริษัท MDX เองMDX มีส่วนในการพัฒนาและก่อสร้างโครงการเขื่อนขนาดใหญ่หลายแห่งในลาว อย่างโครงการเทิน-หินบูน (210 เมกะวัตต์) โครงการน้ำงึม 3 (400 เมกะวัตต์) และในจีน อย่างโครงการจินหง (3000 เมกะวัตต์) รวมทั้ง MDX ยังเกี่ยวข้องกับโครงการเขื่อนในไทยหลายโครงการ (ดูรายงานที่อ้างแล้ว หน้า 7-10)ส่วน (คงไม่ต้องพูดถึงการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทขายปูนด้วยกระมัง)การที่หน่วยงานใหญ่ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในกิจการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเขื่อน ไม่ว่าจะเป็นภาคการธนาคาร ปูนซีเมนต์ ประกันภัย และอื่น ๆ ทำหน้าที่เสนอและกำหนดนโยบายในกิจการที่ตนเข้าไปมีส่วนร่วมในการลงทุน อย่างเช่น
|
เสียดายกรณีค้านเขื่อนแม่วงก์ทำท่าจะจบลงง่ายดายไปหน่อย แต่ที่ยังคาใจผมอยู่เช่นเดิมคือ ทำไมค้านแค่บางเขื่อน? ทำไมเขื่อนบางเขื่อนมีการตรวจสอบจากภาคประชาสังคมน้อยกว่าปรกติ? เป็นเรื่อง บังเอิญ
|
การเมือง,เศรษฐกิจ,สิ่งแวดล้อม,ขีดเส้นใต้
|
Constitutional Monarchy,MDX,กัมพูชา,การสร้างเขื่อนในกัมพูชา,การสร้างเขื่อนในลาว,นครนายก,นครสวรรค์,บริษัท จี เอ็ม เอส เพาเวอร์ จำกัด,ปราจีนบุรี,พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พุทธศักราช 2479,พิภพ อุดมอิทธิพงศ์,ลพบุรี,ลาว,สถาบันกษัตริย์,สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ (กปร.),สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์,เขื่อนคลองท่าด่าน,เขื่อนป่าสัก,เขื่อนห้วยโสมง,เขื่อนเทินหุนบุน,เขื่อนแม่วงก์,เอ็ม ดี เอ็กซ์ ลาว จำกัด,โครงการตามพระราชดำริ,โครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสักอันเนื่องมาจากพระราชดำริ,โครงการห้วยโสมงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ,โครงการเขื่อนคลองท่าด่านอันเนื่องมาจากพระราชดำริ,โครงการเขื่อนแม่วงก์
|
https://prachatai.com/journal/2013/09/48955
|
อุตุฯ ฉบับ 17 เตือน 19 จว. ยังโดนอิทธิพล หว่ามก๋อ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก
|
อุตุฯ ออกประกาศฉบับ 17 เตือน หว่ามก๋อ ยังคงปกคลุมตอนกลางของประเทศ เตือนอีสานตอนล่าง ภาคกลาง ตะวันออก และใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมาก และ 19 จว. ต้องระวังอันตรายจากปริมาณฝนตกสะสม อันดามันและอ่าวไทย คลื่นสูง 2-3 เมตร , เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 17 ก.ย. 2558 กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัย ฉบับที่ 14 เรื่อง พายุหมุนเขตร้อนบริเวณทะเลจีนใต้ ระบุ หย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังจากพายุดีเปรสชัน หว่ามก๋อ (VAMCO) ยังคงปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และประเทศกัมพูชา ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ยังคงมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ,จึงขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา และภูเก็ต ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักถึงหนักมาก รวมถึงฝนที่ตกสะสม สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงวันที่ 17-18 กันยายน 2558 ไว้ด้วย
|
อุตุฯ ออกประกาศฉบับ 17 เตือน หว่ามก๋อ ยังคงปกคลุมตอนกลางของประเทศ เตือนอีสานตอนล่าง ภาคกลาง ตะวันออก และใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมาก และ 19 จว. ต้องระวังอันตรายจากปริมาณฝนตกสะสม อันดามันและอ่าวไทย คลื่นสูง 2-3 เมตร
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
หว่ามก๋อ,ฝนตก,น้ำท่วม,ประกาศ,กรมอุตุนิยมวิทยา,เตือนภัย,อิทธิพล,หย่อมความกดอากาศต่ำ,ปริมาณน้ำฝนสะสม,ทะเล,อันดามัน,อ่าวไทย,คลื่นลมแรง,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/news/local/525830
|
เมอร์เรย์ พลิกล็อกตกรอบ 3 เทนนิสเวสเทิร์นฯ
|
การแข่งขันเทนนิสเวสเทิร์น แอนด์ เซาเธิร์น โอเพ่น ที่เมืองซินซินเนติ ประเทศสหรัฐอเมริกา ชายเดี่ยว รอบ 3 แอนดี้ เมอร์เรย์ นักเทนนิสสหราชอาณาจักร ซึ่งเพิ่งคว้าเหรียญทองเทนนิสโอลิมปิก ลงพบกับเฌเรมี่ ชาร์ดี้ นักเทนนิสฝรั่งเศสที่ผ่านมาจากรอบคัดเลือก ปรากฏว่านัดนี้เป็นเป็นชาร์ดี้ที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม เบรกเกมเสิร์ฟของเมอร์เรย์ได้ในเกมที่ 7 ก่อนจะเอาชนะไปได้ก่อนในเซตแรก 6-4 เซตที่ 2 ยังเป็นชาร์ดี้ที่สร้างผลงานได้อย่างไม่มีที่ติ ก่อนจะเอาชนะเมอร์เรย์ไปได้อีก 6-4 ทำให้ชาร์ดี้ พลิกล็อกเขี่ยเมอร์เรย์ตกรอบขณะที่โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ มือ 1 ของโลก และเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกไม่พลาดเมื่อเอาชนะเบอร์นาร์ด โทมิช จากออสเตรเลีย 6-2 6-4 เช่นเดียวกับมาร์ติน เดล ปอโตร มือ 6 ของรายการจากอาร์เจนติน่าที่เอาชนะวิคเตอร์ โทรอิคกี้ จากเซอร์เบีย 7-6 ไทเบรก 7-2 2-6 6-1ส่วนมาร์ดี้ ฟิช นักเทนนิสเจ้าถิ่นมือ 10 ของรายการเอาชนะราเด็ก สเตปาเน็ก นักเทนนิสสาธารณัฐเช็ก 6-3 ทั้ง 2 เซต ขณะที่มาริน ซิลิซ มือวางอันดับ 12 ของรายการจากโครเอเชียเอาชนะพาโบล อันดูจาร์ นักเทนนิสสเปน 7-6 ไทเบรก 7-4 6-2 และการแข่งขันในประเภทหญิง วีนัส วิลเลี่ยมส์ ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายได้สำเร็จด้วยการเอนะซาร่า เออรานี่ นักเทนนิสอิตาลี 6-3 6-0
|
แอนดี้ เมอร์เรย์ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกคนล่าสุด พลิกล็อกแพ้ให้กับเฌเรมี่ ชาร์ดี้ 2 เซตรวด ตกรอบ 3 เทนนิสเวสเทิร์น แอนด์ เซาเธิร์น โอเพ่น
|
กีฬา
|
Olympic,ตกรอบ,พลิกล็อก,เทนนิส,เมอร์เรย์,โอลิมปิก
|
https://news.thaipbs.or.th/content/105432
|
กำแพงเพชร เสียชีวิตแล้ว 6 ราย ก่อนหมด 7 วันอันตราย
|
เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 15 เมษายน พ.ต.ท.สุวิชา เตชะวรรณวุฒิ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธร เมืองกำแพงเพชร ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถชนกันที่บนถนนสายกำแพงเพชร พิจิตร ม.11 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพ นายวินัย โคสอน อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112/2 ม.10 ต.นิคมทุ่งโพธิ์ทะเล อ.เมือง จ.กำแพงเพชร นอนเสียชีวิตสภาพศพกระดูกหักทั้งตัว ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน บธ4262 กำแพงเพชร พลิกตะแคงอัดกับต้นไม้สภาพยับเยินเป็นเศษเหล็ก,ห่างออกไปอีกประมาณ 20 เมตร พบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน ฆฬ1845 กรุงเทพมหานคร ตกอยู่ข้างถนนแถบด้านคนขับ พังเสียหาย มีนายสำเริง ทองนิยม อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 441 ม.6 ต.นิคมทุ่งโพธิ์ทะเล อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ,สอบสวนเบื้องต้น นายสำเริง เปิดเผยว่า ตนกำลังขับรถออกจากตัวเมืองจะกลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีรถกระบะขับสวนกินเลนเข้ามาอย่างเร็ว จากนั้นก็พุ่งเข้าชนตนอย่างแรง จนรถของตนตกลงไปข้างถนน ส่วนรถกระบะก็พุ่งเลยไปชนอัดกับต้นไม้ และคนขับกระเด็นออกมาเสียชีวิตนอกรถดังกล่าว,หลังดูที่เกิดเหตุแล้ว ได้ให้อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน นำศพส่งโรงพยาบาลกำแพงเพชร ให้แพทย์ชันสูตรพลิกศพอีกครั้ง และจะได้ติดต่อญาติผู้ตายมารับศพต่อไป ส่วนนายสำเริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำตัวมาสอบสวนในรายละเอียดอีกครั้ง สำหรับอุบัติเหตุรายนี้เสียชีวิตเป็นรายที่ 6 ของช่วง 7 วันอันตรายในเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งถือว่า มากกว่าปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าทางจังหวัดจะระดมเจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจจุดสกัดอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม.
|
กำแพงเพชร เสียชีวิตแล้ว6 ราย ก่อนหมด 7 วันอันตราย ล่าสุด รถกระบะ ปะทะเก๋ง คนขับรถกระบะ กระเด็นมาตายนอกรถสยอง! ส่วนคนขับรถเก๋งบาดเจ็บเล็กน้อย ยัน รถกระบะขับกินเลนมาชนเต็มที่
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
กำแพงเพชร,เสียชีวิต 6 ราย,รถกระบะ,กระเด็น,กินเลน,ปะทะ,เก๋ง,มาตายนอกรถ,คนขับ,วินัย โคสอน,สำเริง ทองนิยม,สถานีตำรวจภูธร เมืองกำแพงเพชร,พนักงานสอบสวน,สุวิชา เตชะวรรณวุฒิ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ภูมิภาค,7วันอันตราย,อุบัติเหตุ,ตาย6ศพ,สงกรานต์
|
https://www.thairath.co.th/news/local/493232
|
ตร.ภาค 5 รวบอดีตนายก อบจ.ลำพูน โยงคดีทุจริตลำไยปี 47
|
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 24 มี.ค.นี้ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบก.สส.ภ.5 ได้ร่วมกันแถลงข่าว การจับกุมตัว นายประเสริฐ หรือ โกเก๊า ภู่พิสิฐ อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 91 หมู่ 5 ต.เวียงยอง อ.เมือง จ.ลำพูน อดีตนายก อบจ.ลำพูน และอดีตประธานหอการค้า จังหวัดลำพูน ตามหมายจับของศาลจังหวัดลำพูน ที่ 176/2557 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2557 โดยจับกุมนายประเสริฐ หรือโกเก๊า ขณะขับรถยนต์ ออกจากบ้าน จะไปยังโรงงานในเขตอุตสาหกรรมลำพูน จากการตรวจค้นในรถพบอาวุธปืนสั้น ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และกระสุนปืน 25 นัด,พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ เผยว่า นายประเสริฐ หรือโกเก๊า มีคดีฉ้อโกงเรื่องการทุจริตการซื้อขายลำไย เมื่อปี 2547 ที่ไปให้เกษตรกร อ.ลี้ จ.ลำพูน จำนวนถึง 2,200 คน มาดำเนินการร่วมกันปลอมเอกสารโดยนำสำเนาทะเบียนบ้านสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนไปให้เกษตกรตำบลในสมัยนั้น ไปเพื่อดำเนินการในเรื่องของการกรอกเอกสารไป ลย.1 ด้วยตนเอง และนำไปเบิกเงินกับ อ.ต.ก.ได้เงินถึงรายละ 2 แสนกว่าบาท รวมเป็นเงิน 250 ล้านบาทที่ อ.ต.ก.สูญเสียเงินไป และไม่มีการรับซื้อลำไย แต่อย่างใด จึงการแจ้งความดำเนินคดี กระทั่งศาลออกหมายจับ และมีการติดตามจับกุมตัวได้,นายประเสริฐ หรือ โกเก๊า ได้ให้การปฏิเสธ จะไปขอสู้ในชั้นศาล โดยยืนยันไม่เกี่ยวอะไรกับคดีปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งที่ผ่านมาตนไม่มีสิทธิอะไร ที่จะไปสั่งเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะไม่ใช่คู่สัญญาของรัฐ หากผิดจริง ตนยินดีจ่าย 200 กว่าล้าน หากไม่ผิดคนที่ฟ้องเตรียมตัวเลย เพราะตนเป็นที่รู้จักของสังคม และวันนี้ถูกตัดสินไปแล้วว่าเป็นผู้ต้องหา อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาไม่เคยหลบหนีไปไหน หรือไม่เคยทราบว่ามีหมายจับ,ขณะที่พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภ.5 ได้กล่าวเสริมว่า ผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ แต่คดีนี้เป็นคดีประวัติศาสตร์ เกิดเมื่อปี 2547 ลักษณะเหมือนโครงการรับจำนำข้าวในช่วงนั้น ใครเป็นรัฐบาลก็ให้ไปไล่ดู โกเก๊า มีความสัมพันธ์กับนักการเมืองใหญ่ใน จ.ลำพูน ทั้งในอดีตและปัจจุบัน และเคยเป็นอดีตนายก อบจ.ลำพูน และมูลค่าความเสียหายในโครงการนี้ประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยวิธีการเหมือนโครงการรับจำนำข้าวทุกอย่าง มีการให้เกษตกรมาลงทะเบียน เหมือนกรมส่งเสริมการเกษตรแล้ว มีการเอาเงินงบประมาณมารับซื้อลำไยในราคาประกัน กิโลกรัมละ 5-15 บาท มีเจ้าหน้าที่ อ.ต.ก.มาเป็นเจ้าภาพ และมีเอกชนมารับช่วง,มีการระบายมีการนำเกษตรกรมีตัวบ้าง ไม่มีตัวบ้างมาใช้ชื่อนำลำไยมาขายและมีโกดังเก็บที่เรียกว่า สต๊อกลม มีการนำลำไยเกรดเอ ไปขายและแทงบัญชีเป็นเกรดบี มีส่วนต่างมาก ซึ่งมีข้อเท็จจริงที่จะต้องไปพิสูจน์กันในชั้นศาลต่อไปพล.ต.ต.ปชา กล่าวในที่สุด
|
ตร.ภาค5 รวบ โกเก๊า ผู้กว้างขวางลำพูน อดีตนายก อบจ.ลำพูน คดีทุจริตลำไยปี 47 ตามหมายจับ เจ้าตัวลั่นไม่ผิด ขอสู้ในชั้นศาล พร้อมจ่าย 200 กว่าล้าน หากผิดจริง แต่หากไม่ผิดจ่อฟ้องหมด
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
โกเก๊า,ผบช.ภ.5,สั่งจับ,โกงลำไย,ลำพูน,ทุจริต,ผู้กว้างขวาง,อดีตนายก อบจ.ลำพูน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวภูมิภาค,กว่า200ล้าน,ประเสริฐ ภู่พิสิฐ
|
https://www.thairath.co.th/news/local/488826
|
โปรดเกล้าฯ เจ้าคุณพระสินีนาฏ รองประธานที่ปรึกษา โครงการราชทัณฑ์ ปันสุขฯ
|
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ แต่งตั้งคณะกรรมการโครงการราชทัณฑ์ปันสุขทำความ ดี ด้วยหัวใจ ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า โดยที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ต้องให้บริการแก่ผู้ต้องขัง ในกรณีเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นจำนวนมาก ยังขาดแคลนบุคลากร เครื่องมือแพทย์ และเวชภัณฑ์ การดูแลสุขภาพของผู้ต้องขังถือเป็นหน้าที่สำคัญของกรมราชทัณฑ์ ในการที่จะให้ผู้ป่วย เข้าถึงการรับการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมตามหลักมนุษยธรรม,ทั้งนี้ ผู้ต้องขังเมื่อพ้นโทษจะได้มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและใจ เพื่อออกมาสู่สังคมภายนอกและประกอบอาชีพสุจริตได้อย่างมีคุณภาพ จึงทรงมีพระราชดำริที่จะพระราชทานความช่วยเหลือในเรื่องการจัดหาอุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ ตลอดจนการให้จิตอาสาพระราชทาน ๙๐๔ วปร. ได้เข้าไปมีบทบาทในการช่วยเหลือ ทั้งทางด้านการแพทย์,การพยาบาล การอบรมให้ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ เช่น การปฐมพยาบาลเบื้องต้น,จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้แต่งตั้งคณะกรรมการโครงการราชทัณฑ์ปันสุขทำความ ดี ด้วยหัวใจ ดังนี้,องค์ประธานที่ปรึกษา,พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว,รองประธานที่ปรึกษา,เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี,องค์ประธานกรรมการ,สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา,พร้อมด้วยคณะกรรมการอีก ๓๖ คน ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เป็นปีที่ ๔ ในรัชกาลปัจจุบัน,(อ่านประกาศฉบับเต็ม ,ที่นี่,),ข่าวในพระราชสำนักที่เกี่ยวข้อง,ประกาศราชกิจจาฯ ถอดฐานันดรศักดิ์ และยศทหาร เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี,ในหลวง โปรดเกล้าฯ ให้จัดทำประวัติ เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี,ในหลวง โปรดเกล้าฯ เจ้าคุณพระสินีนาฏฯ เป็นประธานที่ปรึกษา งานอุ่นไอรัก
|
ในหลวง โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะกรรมการโครงการราชทัณฑ์ปันสุขทำความดี ด้วยหัวใจ เจ้าคุณพระสินีนาฏ รองประธานที่ปรึกษา
|
ข่าว,พระราชสำนัก
|
ราชกิจจานุเบกษา,เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี,คณะกรรมการ,โครงการราชทัณฑ์ปันสุขทำความ ดี ด้วยหัวใจ,ผู้ต้องขัง,สุขภาพ,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/royal/1649215
|
นราธิวาส จัดงานวาเลนไทน์ จัดสมรส 45 คู่ เปิดที่ท่องเที่ยวใหม่
|
วันที่ 9 ก.พ.60 นายธรรมรงค์ คงวัดใหม่ รอง ผวจ.นราธิวาส พันจ่าโทอนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอสุคิริน พ.ท.ชัยวิชิต กิจนำชัย รอง ผบ.กรมทหารพรานที่ 11 และนายดอแม บินซา ผู้ใหญ่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนาที่ 12 ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานจดทะเบียนสมรสนอกสถานที่ เนื่องในวันแห่งความรัก ภายใต้ชื่อ รักนี้ที่สุคิริน ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 14 ก.พ.60 ที่จะถึงนี้ ที่บริเวณสวนไม้ดอกกลางหุบเขา ซึ่งตั้งอยู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา ที่ 12 ม.13 ต.สุคิริน อ.สุคิริน บนเนื้อที่ 2 ไร่ ที่มีลักษณะลาดชันปกคลุมไปด้วยสันเขาที่สลับซับซ้อน ซึ่งอยู่ในระหว่างกำลังตกแต่งสถานที่สวนไม้ดอกนานาชนิด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ อ.สุคิริน,โดยกิจกรรมการแถลงข่าวในครั้งนี้ ได้มีการนำคู่สมรส 3 คู่ จากจำนวน 45 คู่ ที่จะจดทะเบียนสมรสกันในวันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรัก ซึ่งตรงกับวันที่ 14 ก.พ. 60 ที่จะถึงนี้ โดยคู่แรกเป็นคู่สมรสที่มีอายุมากที่สุด คือ นายรวม ปักนอก อายุ 74 ปี กับนางศรีฟอง บัญชานุชิต อายุ 64 ปี คู่ที่ 2 เป็นคู่สมรสที่อายุน้อยที่สุด คือ นายมาหะมะสกรี ลอแม อายุ 19 ปี กับ น.ส.สุอารี อาแซ อายุ 20 ปี และคู่ที่ 3 เป็นคู่สมรสที่อายุห่างกันมากที่สุด คือ นายกอเซ็ง ซูดิง อายุ 62 ปี กับ น.ส.รีดา มะรีเป็ง อายุ 41 ปี ซึ่งในช่วงแถลงข่าวทั้ง 3 คู่ ได้แสดงออกความรักด้วยการผลัดหอมแก้มซึ่งกันและกัน รวมทั้งการจูบมือแบบหลักศาสนาอิสลาม ซึ่งในวันแห่งความรัก คู่สมรสทั้ง 45 คู่ จะได้นั่งหลังช้างล่องแก่งที่คดเคี้ยวไปตามลำธาร ด้านหน้าของสวนไม้ดอก เพื่อชมธรรมชาติความร่มเย็น และความสมบูรณ์ของผืนป่า ที่มีสัตว์ป่านานาชนิดกระโดดโลดเต้นไปตามกิ่งไม้ เพื่อได้บันทึกภาพความทรงจำ และนำไปประชาสัมพันธ์ถึงสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ คือ สวนไม้ดอกกลางหุบเขา ที่มีบรรยากาศสวยงาม และร่มเย็นไม่แพ้ภูมิภาคอื่นๆ,แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การจัดงานวันแห่งความรักกลางหุบเขาสวนไม้ดอกที่สุคิริน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่จะเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ก.พ. 60 ที่จะถึงนี้ มีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่รักธรรมชาติ ทราบข่าวได้นำเต็นต์มากางพักค้างแรมบริเวณเนินข้างหุบเขา เพื่อที่จะมีส่วนร่วมในการเปิดงานจดทะเบียนสมรสคู่รักในวันแห่งความรักที่จะถึงนี้แล้ว
|
14 ก.พ.วันแห่งความรัก วาเลนไทน์ รักนี้ที่สุคิริน จัดสมรส 45 คู่ กลางหุบเขาไม้ดอกที่สวยงาม เพื่อเป็นการโปรโมต เปิดสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ของ จ.นราธิวาส
| null |
จัดสมรส 45 คู่,นราธิวาส,วันวาเลนไทน์,หุบเขาไม้ดอก,รักนี้ที่สุคิริน
|
https://www.thairath.co.th/content/855206
|
นายกฯ ส่งมินิฮาร์ท บอกรัก นร.เบญจมราชูทิศ บอกไม่ต้องหยุดเรียน
|
นายกฯ ส่งมินิฮาร์ท บอกรัก นร.เบญจมราชูทิศ บอกไม่ต้องหยุดเรียน ฝาก กำนัน-ผญบ. คิดเหมือนนายกฯ ทำให้ปชช. มีความสุข โว ได้รับคำชมจากอาเซียน ลั่น เป็น Thailand First แนะ ส.ส.ปรับบทบาทรับเรื่องร้องเรียน,วันที่ 11 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรีและรมว.กลาโหม เดินทางตรวจราชการ จ.ราชบุรี-กาญจนบุรี และประชุมครม.สัญจร 11-12 พ.ย. 2562 โดย นายกฯเดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน กน 1122 ราชบุรี ถึงโรงยิมเนเซี่ยม องค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี เพื่อพบปะประชาชน ที่มาต้อนรับกว่า 4,500 คน จาก 10 อำเภอ โดยมี ส.ว.ให้การต้อนรับ อาทิ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช นายเฉลา พวงมาลัย นางเบญจรัตน์ จริยธาราสิทธิ์ และมี ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้แก่ นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา น.ส.กุลวลี นพอมรบดี และน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ รวมถึง นายบุญลือ ประเสริฐโสภา ส.ส.ราชบุรี พรรคภูมิใจไทย ร่วมให้การต้อนรับ,นายกฯ กล่าวว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ท้องถิ่นต้องช่วยคิด ทุกคนต้องทำหน้าที่แบบผมทำ คิดแบบผม เพราะท่านอยู่กับประชาชนทั้งหมด ประชาชนมีหลายฝ่ายหลายกลุ่ม หลายอาชีพ ท่านต้องคิดว่าจะทำให้คนเหล่านี้ความสุขได้อย่างไร ตนคิดอย่างนี้ทุกวัน ไม่เคยหยุดคิดเรื่องเหล่านี้ มันเป็นหน้าที่ที่ตนต้องทำ นั่นเขาเรียกว่าทำหน้าที่และความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งใดก็ตามจะต้องคิดแบบนี้ ในเมื่อเราสัญญาแล้วว่าจะทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติด้วยกัน,นายกฯ กล่าวอีกว่า สถานการณ์วันนี้อย่าคิดว่ามีปัญหา ถ้าคิดว่ามีปัญหาก็มีปัญหา ไม่มีที่ไหนไม่มีปัญหา แต่ปัญหาเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับเรามากน้อยเพียงใด ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับตัวเราเองหรือครอบครัว ก็อย่าไปยุ่งกับเขามากนัก เดี๋ยวมันก็สงบเรียบร้อยเอง ถ้าทุกคนช่วยกันขยายกระพือไปเรื่อยๆ สิ่งที่ไม่ควรเป็นปัญหาก็จะเกิดปัญหาขึ้นมาเรื่อยๆสิ่งที่ตนพูดจะสำเร็จหรือไม่ เพราะทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่อย่างนี้ ทั้งๆ ที่บางเรื่องไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่นิสัยคนไทยเหมือนชอบเชียร์มวย ใครชนะแพ้ไม่รู้ สนุกไปด้วย อย่าลืมว่าสิ่งเหล่านั้นทำให้เวลาการคิดของเราหายไป เวลาการเอาใจใส่เรื่องเป็นประโยชน์หายไป ขอฝากไว้ด้วย,นายกฯ กล่าวยังถึงโครงการชิม ช้อป ใช้ ว่า มีทั้งคนชม คนชอบ คนไม่ชอบ ที่จังหวัดราชบุรีมีคนรับไปทั้งหมด 163,551 คน มีร้านค้าเข้าร่วม 1,802 คน ยอดการใช้จ่ายทั้งสิ้น 120 กว่าล้านบาท ซึ่งโครงการนี้กระจายไปทุกจังหวัดทุกพื้นที่ รัฐบาลต้องการให้มีการหมุนเวียนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่การไปอุดหนุนคนรวย ไม่ได้เอื้อประโยชน์กับใคร เป็นสิทธิ์ของประชาชนจะไปเลือกซื้อที่ไหน ทุกคนแฮปปี้กันหมด ขนาดร้านส้มตำในทำเนียบรัฐบาลยังขอบคุณนายกฯ ที่ปกติขายไม่ได้เท่าไร แต่ตอนนี้ขายได้วันละเป็นพันๆ บาท เพราะชิมช้อปใช้ นี่คือการดูแลเป็นขั้นเป็นตอนเท่าที่รัฐบาลจะทำได้ในงบประมาณที่มีอยู่ เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำไม่ว่ารัฐบาลไหนเข้ามา และไม่ได้เลือกว่าเป็นพื้นที่ของใคร ทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ต้องทำให้กับคนไทย รัฐบาลจะพยายามทำงานอย่างเต็มที่เพื่อประชาชนชาวราชบุรีและทุกคนทั่วประเทศ ประชาชนทุกภาคเป็นคนของเรา,นายกฯ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเราปฏิรูปมาเยอะ ความขัดแย้งก็เกิดเยอะ ถ้าปฏิรูปแล้วไม่มีความขัดแย้ง อย่างนั้นไม่ได้เรียกว่าปฏิรูป การปฏิรูปมันต้องมีปัญหา มันอยู่ที่การจะแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไร การแก้ปัญหาต้องใช้สติปัญญาในการแก้ สอนให้คนเรียนรู้ในสิ่งที่ถูกต้อง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้รับเลือกมาแล้ว แม้ว่าจะเงินเดือนน้อยแต่ท่านอาสาสมัครเข้ามา ก็ต้องภูมิใจในการเป็นข้าราชการ คนไทยต้องภูมิใจในความเป็นคนไทย ประเทศไทยจะต้องเป็นหนึ่งเสมอ Thailand First ถ้าคิดแบบนี้ทำได้หมดทุกอย่าง ไม่ต้องไปทะเลาะกับใครเขา ทุกคนมาประเทศไทยชื่นชมมากในเวทีอาเซียน 10 ประเทศ บวก 8 เขาพอใจการประชุม แต่มีคนบางคนที่ไม่พอใจ ตนก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร ทุกอย่างเอามาพันกันหมด,นายกฯยังกล่าวในตอนท้ายด้วยว่า ส.ส.ในพื้นที่มีอะไรจะถามหรือไม่ ตนพูดมากเจ็บท้องเลย วันนี้พูดเยอะเพราะเสาร์อาทิตย์ไม่ได้พูด ตั้งใจมาพูดกับพวกเรา จากนั้นนายกฯถามส.ส.ที่มาร่วมงานว่า ว่าไงส.ส. มีอะไรจะร้องเรียนไหม ร้องเรียนผ่านรัฐมนตรีขึ้นมา แต่ถ้ารับฟังความเดือดร้อนมาอย่างเดียวแล้วมาเสนอให้ผมทำ ส.ส.ต้องเปลี่ยนบทบาทใหม่ รับฟังมาอย่างเดิมโอเค เพื่อจะเข้ามาสู่การทำงาน แต่ต้องแนะนำการเรียนรู้ว่าสิ่งที่รัฐบาลทำแบบนี้เพราะอะไร และจะแก้ปัญหาตรงไหน ถ้าเราไปรับฟังอย่างเดียวมันก็จะเจอปัญหาแบบเดิมๆ สิ่งที่เราต้องแนะนำก็คือการขับเคลื่อนของกำนันผู้ใหญ่บ้าน อบต. ท้องถิ่นร่วมกัน ต้องมาคิดร่วมกันว่าแบบนี้ถูกไหม ถ้าเป็นแบบนี้การปรองดองมันจะเกิดขึ้นทันทีในประเทศไทย ขอฝากทุกคนไว้ด้วย ขอบคุณมากๆ วันนี้เราก็มีรัฐบาลแบบนี้มาแล้ว อย่าต้องถอยกลับไปอะไรอีกเลย ผมว่าเดินหน้าไปข้างหน้าดีกว่า,จากนั้นนายกฯ ได้ลงจากเวทีทักทายประชาชนพร้อมทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยู ซึ่งประชาชนได้ตะโกนให้กำลังใจนายกฯว่า ลุงตู่สู้ๆ ทั้งนี้ นายกฯยังได้เดินลงมาทักทายประชาชนที่อยู่บริเวณนอกโรงยิมเนเซี่ยม ซึ่งช่วงหนึ่งได้มีครูและนักเรียนโรงเรียนเบญจมราชูทิศ ได้ตะโกนเรียกพร้อมโบกมือให้กำลังใจ นายกฯ บริเวณขอบหน้าต่างห้องเรียน ซึ่งนายกฯ ได้หันไปเห็นพร้อมกล่าวว่า วันนี้เรียนหนังสือ ไม่ต้องหยุดเรียน เพราะเวลาเรียนน้อยอยู่แล้ว เข้าไปเรียน ต้องเรียนให้เยอะๆ เรียนให้เก่ง ๆ,ทั้งนี้นักเรียนได้ทำสัญลักษณ์ว่า ไม่ได้ยินที่นายกฯ พูด ทำให้นายกฯขึ้นบนอัฒจันทร์ โดยชูมือทำสัญลักษณ์ไอเลิฟยูและมินิฮาร์ท พร้อมกล่าวกับนักเรียนว่า เรียนหนังสือให้เก่งๆ นะ และตั้งใจเรียน ในสาขาที่มีงานทำ อย่าไปเรียนเอาสบาย อย่าไปเรียนที่ง่ายๆ ไปเปิดดูว่าเขาต้องการแรงงานประเภทไหนบ้าง จะได้ไม่ตกงาน ขอให้รักพ่อแม่ รักครูบาอาจารย์ด้วย จากนั้นนายกฯ ได้ถ่ายเซลฟี่กับประชาชนและข้าราชการ
|
นายกฯ ส่งมินิฮาร์ท บอกรัก นร.เบญจมราชูทิศ บอกไม่ต้องหยุดเรียน ฝาก กำนัน-ผญบ. คิดเหมือนนายกฯ ทำให้ ปชช. มีความสุข โว ได้รับคำชมจากอาเซียน ลั่น เป็น Thailand First แนะ ส.ส.ปรับบทบาท
|
ข่าว,การเมือง
|
นายกฯ,ครม.สัญจร,นายกฯส่งมินิฮาร์ท,เบญจมราชูทิศ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกฯบอกรักนร.,ราชบุรี,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1701788
|
ขยายผลอดีตนักร้องปุ๊กกี้ โยงดาราชายร่วมแก๊ง (คลิป)
|
ซุกที่เขี่ยบุหรี่ใส่กล่องพัสดุเตรียมส่งกลับประเทศ บิ๊ก ปส.เผยฉี่ม่วงทั้งผัวทั้งเมีย อ้างเพิ่งทำครั้งแรก ปัดไม่ได้ผลิต แต่รับจากนักค้าย่านโชคชัย 4 มาบรรจุส่งให้ จับตาดาราชายเข้าออกบ้านปุ๊กกี้ รอพยานยืนยัน อีกคดี ปส.เปิดปฏิบัติการ END GAME ภาค 2 จุดจบซาตานแดนอีสาน ล็อกอดีตรองนายก อบต.ระวิง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ยึดทรัพย์ 56 ล้านบาท,เป็นข่าวสะเทือนวงการบันเทิงอีกครั้ง เมื่อตำรวจปราบปรามยาเสพติดและเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ร่วมกันจับกุมชาวไต้หวัน ลักลอบนำยาเสพติดออกนอกประเทศ ก่อนขยายผลนำกำลังหน่วยสยบไพรี เข้าจู่โจมจับ 2 สามีชาวไทย โดยฝ่ายหญิงคืออดีตนักร้องชื่อดัง ปุ๊กกี้ ชาลาล่า หรือปริศนา พรายแสง หรือ น.ส.พริสซิลลา จิวเมลลี่ พร้อมยาเสพติดของกลางจำนวนมาก โดยปฏิบัติการจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เย็นวันที่ 17 มิ.ย. ต่อเนื่องถึงช่วงเช้าวันที่ 18 มิ.ย. ท่ามกลางการรายงานข่าวเกาะติดในกระแสโซเชียล รวมทั้งสื่อออนไลน์โพสต์ภาพขณะอดีตนักร้องและสามี รวมทั้งนักค้ายาชาวไต้หวันขณะถูกจับกุม,ต่อมาเวลา 09.30 น. วันที่ 18 มิ.ย. ที่ ป.ป.ส.ดินแดง พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยรายละเอียดเรื่องนี้ว่า ชุดสืบสวนพิเศษ สำนักปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ บก.ปส.3 บช.ปส. (นปส.สุวรรณภูมิ) เจ้าหน้าที่ส่วนสืบสวนปราบปราม สำนักสืบสวนปราบปราม กรมศุลกากร และเจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย (ศรภ.) ร่วมปฏิบัติการโครงการสกัดกั้นยาเสพติด ท่าอากาศยานสากลในอาเซียน (Airport Interdiction Task Force หรือ AITF) ได้สืบสวนรวบรวมข้อมูลการข่าวนักค้ารายสำคัญ เครือข่ายชาวไต้หวันที่เข้ามาเคลื่อนไหวในประเทศไทยเพื่อส่งยาเสพติดกลับไปยังไต้หวัน จนพบว่าเมื่อช่วงต้น มิ.ย.62 มีเครือข่ายชาวไต้หวันเดินทางเข้าประเทศไทย เพื่อติดต่อซื้อยาเสพติดลักลอบนำกลับไปที่ไต้หวัน,พ.ต.ต.สุริยากล่าวต่อว่า กระทั่งเย็นวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.พร้อมตำรวจ บช.ปส.เข้าจับกุมนายหง เชง ยี ชาวไต้หวัน อายุ 28 ปี บุคคลในเครือข่าย (มีหน้าที่สั่งการและจัดการลำเลียงผ่านบริษัทพัสดุ) ก่อนค้นที่ห้อง 318 โรงแรมโกล แอร์พอร์ต สูท เลขที่ 1288/9 แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กทม.พบของกลางเป็นที่เขี่ยบุหรี่ 39 อัน ลักษณะเป็นเหล็กหล่อกลมๆสามารถหมุนฐานออก และยัดยาเคตามีนในถุงพลาสติกใสก่อนปิดฝาได้ พบยาเคตามีนทั้งหมดที่ซุกซ่อน 5,170 กรัม อยู่ในลังกระดาษ 4 ลัง เตรียมส่งออกนอกประเทศ สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพ รับยาเสพติดมาจาก 2 สามีภรรยาคนไทย,จากนั้นเจ้าหน้าที่ขยายผลตรวจค้นบ้านเลขที่ 18/118 หมู่บ้านเดอะเทอเรส ซอยรามอินทรา 65 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. จับกุมนายชลวิทย์ คีตะตระกูล อายุ 49 ปี (มีหน้าที่จัดหาและผลิตยาเสพติด) น.ส.พริสซิลลา จิวเมลลี่ หรือปุ๊กกี้ มีหน้าที่จัดหายาเสพติด และร่วมกันผลิตยาเสพติด 2 สามีภรรยา พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 98.3 กรัม ยาบ้า 8 เม็ด ยาอี 10 เม็ด เคตามีน 4 กรัม กัญชาแห้ง 40 กรัม และสารเคมีหลายชนิด อุปกรณ์ที่เชื่อว่าใช้ผลิตยาเสพติด ตรวจยึดทรัพย์สิน 9 รายการ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำและทำบันทึกจับกุม จากนี้จะส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน พร้อมของกลาง ให้พนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย,เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.นำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ขึ้นรถตู้มาส่งที่ บช.ปส. ถนนวิภาวดีรังสิต และถูกนำตัวเข้าห้องสอบสวนชั้น 2 ทันที ทั้ง 3 คนใช้หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า มี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.อก.บช.บส. รอสอบสวนปากคำ ท่ามกลางช่างภาพจากหลายสำนักรุมถ่ายภาพจนชุลมุนวุ่นวาย ส่วนของกลางยาเสพติดและอื่นๆที่ยึดได้มูลค่า 10 ล้านบาท ถูกนำมาตั้งไว้ที่โต๊ะแถลงข่าวหน้าอาคาร บช.ปส. ก่อนที่ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติและคณะนายตำรวจ บช.ปส.จะลงมาร่วมแถลงถึงการจับกุมครั้งนี้ โดยไม่ได้นำผู้ต้องหาลงมาด้วย,พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. กล่าวว่า เบื้องต้นตรวจปัสสาวะผู้ต้องหาทั้งปุ๊กกี้และสามี พบปัสสาวะสีม่วง สอบถามรับสารภาพอ้างเพิ่งทำกันเป็นครั้งแรก นำยาเสพติดดังกล่าวมาจากผู้ค้าในย่านโชคชัย 4 มาบรรจุที่บ้าน ไม่ได้ผลิตเอง แต่นำส่งไปยังโรงแรมที่นายหงเข้าพักเท่านั้น ส่วนกรณีมีดาราอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่นั้น เบื้องต้นไม่พบ แต่จะสอบสวนเพิ่มเติมว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุมาก่อนหรือไม่ รวมทั้งหากพบมีผู้ร่วมกระทำผิดด้วย จะดำเนินการตามกฎหมาย สำหรับนายชลวิทย์พบว่าเคยถูกจำคุกคดีค้ายาอี และพ้นโทษเมื่อปี 49 ก่อนออกมาก่อเหตุซ้ำอีก ขณะที่ปุ๊กกี้พบว่าเคยมีประวัติยักยอกทรัพย์ ทั้งนี้ ปุ๊กกี้รับกับตำรวจว่าติดยาเสพติดมานาน พยายามเลิกแต่ทำไม่ได้ ในที่สุดก็เอาชนะไม่ได้,อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบว่ามีญาติ หรือทนายติดต่อเข้ามาเพื่อขอประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เจ้าหน้าที่นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปส.3 แจ้งข้อหา ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ ยังกล่าวหานายหง เจิ้ง อี้ ว่า มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และกล่าวหานายชลวิทย์และปุ๊กกี้ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์ ยาบ้า และเอ็กซ์ตาซี) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวฝากขังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ในวันที่ 20 มิ.ย.นี้,มีรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสอบปากคำพยานของตำรวจ บช.ปส. พบว่า มีการยืนยันว่ามีดาราชายเข้าออกบ้านปุ๊กกี้อยู่บ่อยครั้ง อยู่ระหว่างการนำภาพให้พยานดูว่าตรงกันหรือไม่ หากยืนยันตัวบุคคลจะตรวจสอบต่อไปว่ามีพฤติกรรมพัวพันยาเสพติด รวมทั้งจะแยกสอบปากคำ 2 ผัวเมียเพื่อจับคำให้การว่าตรงกันหรือไม่ต่อไป,ส่วนความเคลื่อนไหวของคนในวงการบันเทิง หลังทราบข่าวว่า ปุ๊กกี้-ปริศนา พรายแสง ถูกจับฐานค้ายาเสพติด เมื่อเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน ที่ล็อบบี้อาคารจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ มีงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต J Adrenaline 360 Concert เจ-เจตริน วรรธนะสิน โดยเจเผยว่า ในฐานะที่รู้จักและเคยร่วมงานกับปุ๊กกี้ เคยขึ้นคอนเสิร์ตด้วยกันในคอนเสิร์ตตนครั้งที่แล้ว เมื่อเดือน ก.ค.60 พอเห็นข่าวแล้วรู้สึกตกใจที่ปุ๊กกี้เป็นข่าวเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะจากการได้ร่วมงานกัน เขาเป็นคนในวงการบันเทิงที่นิสัยดี เป็นคนสุภาพ จนมาเห็นข่าวนี้ รู้สึกเสียใจแม้จะไม่ใช่เพื่อนสนิท และไม่ใช่แค่ตนคนเดียวที่รู้สึก แต่คิดว่าเพื่อนๆทั้งวงการคงจะรู้สึกเสียใจ และเสียดายไม่อยากเห็นเขาเป็นแบบนี้แต่ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย,สำหรับประวัติ ปุ๊กกี้-ปริศนา พรายแสง อดีตนักร้องดังยุค 90 เป็นลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย วัย 40 ปี เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการแสดงมิวสิกซีรีส์ในอัลบั้มแรกของศรราม เทพพิทักษ์ โดยปุ๊กกี้เป็นศิลปินในสังกัดอาร์เอส โปรโมชั่น เมื่อปี 38 มีผลงานเพลงอัลบั้มแรกในชื่ออัลบั้ม Pookie มีเพลงฮิต เช่น แข็งใจ และ Z เลย อัลบั้มชุดนี้มียอดขายทะลุหนึ่งล้านตลับ ปี 40 โด่งดังสุดขีดกับเพลง ชา-ลา-ล่า ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ ล่องจุ๊น ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน ในเพลง พรุ่งนี้ จนได้รับรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากงานประกาศผลตุ๊กตาทอง ในปี 2539,ส่วนชีวิตครอบครัว แต่งงานครั้งแรกกับต๋อง วงทู หรือ สุรพันธ์ จำลองกุล ตกเป็นข่าวฮือฮาเพราะอายุยังน้อย แม่ไม่ปลื้มและไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานสายฟ้าแลบ มีพยานรัก 2 คน แต่ต่อมาได้หย่าร้างกัน ได้แต่งงานใหม่อีกครั้งกับปาณสาร จันทร์หอม โดยไปตั้งรกรากอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ใช้ชีวิตคู่ได้เพียงปีเศษๆ ก็หย่าขาดกับสามีคนที่สองอีก ก่อนจะย้ายกลับมาเมืองไทยจนได้พบรักใหม่อีกครั้งกับสามีนักธุรกิจส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป ก่อนหน้านี้ ปุ๊กกี้-ปริศนาเคยมีข่าวฉาวโดนแฉมีส่วนเกี่ยวข้องในคดียาเสพติด รวมทั้งคดีฟอกเงินและปั่นหุ้น ตอนนั้นอดีตนักร้องดังได้ออกมาปฏิเสธโดยยืนยันความบริสุทธิ์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด,อีกราย ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 11.00 น. หน้าบ้านเลขที่ 299/25 หมู่บ้านหน้าค่าย ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. ร่วมแถลงผลปฏิบัติการตามยุทธการสยบไพรี 62/14 END GAME ภาค 2 จุดจบซาตานแดนอีสาน โดยตำรวจ บช.ปส. ร่วมกับทหาร พล.ม.1 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ปปง. และฝ่ายปกครอง เข้าปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 10 จุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จับกุมนายสมบัติ เลือดทหาร อายุ 49 ปี อดีตรองนายก อบต.ระวิง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ตามหมายจับศาลอาญาลงวันที่ 1 มิ.ย.2561 ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดยาบ้าและยาไอซ์ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และครอบครองกัญชาไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมยึดทรัพย์ ประกอบด้วย บ้าน 2 หลัง ที่ดิน 7 แปลง รถยนต์ 6 คัน รถ จยย. 1 คัน และทองรูปพรรณฯลฯ รวมมูลค่ากว่า 56,500,000 บาท,รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า นายสมบัติ เป็นหัวโจกเครือข่ายตระกูล เลือดทหาร ร่วมกับนายไพรัตน์ เลือดทหาร น้องชาย เจ้าของบ้านเลขที่ 299/25 หมู่บ้านหน้าค่าย ประสานงานกับพ่อค้ายาเสพติดชาวลาว และเชื่อมโยงพ่อค้ายานรกชาวไทย มาเลเซีย และพม่า จัดหายาเสพติดลอตใหญ่ๆและจัดทีมลำเลียงยาเสพติดสู่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งนายไพรัตน์ได้หลบหนีไปได้ สอบสวนนายสมบัติให้การปฏิเสธ นอกจากนี้ยังได้จับกุม น.ส.วิไลวรรณ กว้างขวาง อายุ 31 ปี นายมนัส เข็มทิศ อายุ 40 ปี และ น.ส.เพ็ญนภา กันยาประสิทธิ์ อายุ 29 ปี ของกลางยาบ้า 5,458 เม็ด ยาไอซ์ 162 กรัม พร้อมยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1,000,000 บาท คดีที่3 จับกุมนายศาตราวุฒิ ตุลา อายุ 25 ปี ของกลางยาบ้า 5,461 เม็ด ยาไอซ์ 162 กรัม พร้อมรถกระบะ 1 คัน
|
วงการบันเทิงช็อก ปุ๊กกี้-ปริศนา พรายแสง อดีตนักร้องดัง โดนรวบพร้อมสามีคาบ้านย่านรามอินทรา หลัง ป.ป.ส.ร่วมกับตำรวจ ปส. จับกุมชาวไต้หวัน เครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ พร้อมยาเค 5 กก.
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ปุ๊กกี้,จับปุ๊กกี้,ปริศนา พรายแสง,ปุ๊กกี้ค้ายา,ยาเค,ปุ๊กกี้ ปริศนา,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1594910
|
ชาวหนองคายกว่า 2 หมื่นคน รำบรมราชาภิเษกมหากษัตรา บูชาศาลหลักเมือง
|
เวลา 18.00 น. วันที่ 8 ก.ค. ที่บริเวณศาลหลักเมือง และบริเวณถนนโดยรอบศาลหลักเมืองหนองคาย ชาวหนองคายกว่า 2 หมื่นคน ร่วมกัน รำบรมราชาภิเษกมหากษัตรา บูชาศาลหลักเมืองจังหวัดหนองคาย โดยมีนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดงาน,ศาลหลักเมืองจังหวัดหนองคาย ก่อสร้างขึ้นด้วยความร่วมมือร่วมใจของข้าราชการ พ่อค้า แม่ค้า คหบดี และประชาชนชาวหนองคาย เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นอนุสรณ์แห่งความสามัคคี โดยเริ่มทำพิธีพลีไม้ เสาหลักเมือง เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2542 ตรงกับวันแรม 11 ค่ำ เดือน 8 ปีเถาะ ฤกษ์เวลา 9 นาฬิกา 39 นาที และเริ่มก่อสร้างอาคารศาลหลักเมืองประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2543 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนอ้าย ปีมะโรง ฤกษ์เวลา 9 นาฬิกา 19 นาที แล้วเสร็จบริบูรณ์,และมีพระราชพิธีสมโภช เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2547 ตรงกับวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 4 ปีมะแม โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งในครั้งนั้นยังดำรงพระอิสริยยศ เป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จฯ มาในพิธีเปิด และทรงเจิมศาลหลักเมืองจังหวัดหนองคาย นำมาซึ่งความปลื้มปีติให้กับพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ที่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด,เนื่องในโอกาสที่ศาลหลักเมืองจังหวัดหนองคายครบรอบ 20 ปี ของการทำพิธีพลีไม้เสาหลักเมือง ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2562 และเนื่องในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ ทรงเสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทยในเดือนพฤษภาคม 2562 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ,ชาวจังหวัดหนองคายจึงได้ร่วมใจกันจัดกิจกรรม รำบรมราชาภิเษกมหากษัตรา บูชาศาลหลักเมืองจังหวัดหนองคาย ในครั้งนี้ขึ้น โดยมีประชาชนจากทุกหมู่บ้าน ชุมชนในจังหวัดหนองคาย ข้าราชการ เหล่ากาชาด นักเรียน นักศึกษา นักธุรกิจ ในจังหวัดหนองคายร่วมพิธีจำนวนกว่า 2 หมื่นคน.
|
สุดงดงาม ชาวจังหวัดหนองคายกว่า 2 หมื่นคน ร่วมรำบรมราชาภิเษกมหากษัตรา บูชาศาลหลักเมือง ครบรอบ 20 ปี ของการทำพิธีพลีไม้
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
หนองคาย,รำ,บูชาศาลหลักเมือง,รำบรมราชาภิเษกมหากษัตรา,ครบรอบ 20 ปี,ศาลหลักเมือง,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1610320
|
มท. เผย 47 ผู้ว่าฯ สั่ง ช่วงสงกรานต์ห้ามขายเหล้า สกัดแพร่ระบาดโควิด-19
|
มหาดไทย เผย ผู้ว่าราชการ 47 จังหวัด สั่งปิดร้านค้า-สถานประกอบการจำหน่ายสุรา เป็นการชั่วคราว สกัดการแพร่ระบาดโควิด-19 ปลัดมท. เน้นย้ำ ให้ผู้ว่าฯ สร้างความรับรู้กับประชาชนในพื้นที่ด้วยวันที่ 11 เม.ย. ศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) ระบุว่า ได้รับรายงานการพิจารณาออกคำสั่งปิดร้านค้าและสถานประกอบการจำหน่ายสุราเป็นการชั่วคราว รวม 47 จังหวัด เพื่อลดความเสี่ยงของประชาชนในการสัมผัสเชื้อโรคในช่วงการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 มีรายละเอียด ดังนี้ 1. ปิดจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง 2 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี และพิษณุโลก 2. ปิดถึงวันที่ 15 เม.ย. 2 จังหวัด ได้แก่ ระยอง และระนอง 3. ปิดถึงวันที่ 16 เม.ย.5 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร ยะลา พิจิตร ลพบุรี และเชียงราย 4. ปิดถึงวันที่ 17 เม.ย. 4 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ กาฬสินธุ์ ยโสธร และสุราษฎร์ธานี 5. ปิดถึงวันที่ 18 เม.ย. 2 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา และเพชรบูรณ์ 6. ปิดถึงวันที่ 19 เม.ย. 5 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปทุมธานี ตราด และราชบุรี 7. ปิดถึงวันที่ 20 เม.ย. 13 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ สมุทรสาคร กำแพงเพชร แพร่ ชัยภูมิ สมุทรปราการ อ่างทอง ลำปาง สุโขทัย อุทัยธานี นราธิวาส หนองคาย และนนทบุรี 8. ปิดถึงวันที่ 30 เม.ย. 14 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน บุรีรัมย์ สุรินทร์ นครปฐม สมุทรสงคราม ร้อยเอ็ด ชัยนาท สุพรรณบุรี มุกดาหาร ประจวบคีรีขันธ์ อุบลราชธานี กาญจนบุรี ปราจีนบุรี และเพชรบุรีทั้งนี้ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินมาตรการเพื่อสกัดและลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง รวมทั้งสร้างการรับรู้กับประชาชนในพื้นที่ ในการปฏิบัติตามคำแนะนำของ ศบค. อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชนทุกคน
|
มหาดไทย เผย ผู้ว่าราชการ 47 จังหวัด สั่งปิดร้านค้า-สถานประกอบการจำหน่ายสุรา เป็นการชั่วคราว สกัดการแพร่ระบาดโควิด-19 ปลัดมท. เน้นย้ำ ให้ผู้ว่าฯ สร้างความรับรู้กับประชาชนในพื้นที่ด้วย
|
ข่าว,การเมือง
|
โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรนา,มหาดไทย,ห้ามขายสุรา,ปลัดมหาดไทย,ห้ามขายเหล้า,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1818141
|
ไทยพุทธ-ไทยมุสลิม ความต่างที่เราจำเป็นต้องอยู่ร่วมกัน (1)
|
อับดุรเราะฮหมาน มูเก็ม พาเราเดินทางพูดคุยกับความต่างและความหลากหลายทางความเชื่อที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติแล้วนำย้อนกลับมามองความขัดแย้งในบ้านของเรา*****ผมเริ่มออกจากห้องพักแบกกระเป๋าไปยังเมืองอักรา ในช่วงเช้าตรู่ของวันหยุดสุดสัปดาห์ ผมใช้เวลาว่างไปทำธุระและพบเจอเพื่อนที่ผมรู้จักมักคุ้นคนหนึ่งในช่วงสมัยที่เราเรียนด้วยกันที่ R.B.S. COLLEGE BHIM RAO DR. AMBEDKAR UNIVERSITY เมืองอักรา SANJIVNEE เธอเป็นหญิงสาวชาวฮินดู เป็นเพื่อนร่วมห้องของผมและเป็นเพื่อนอินเดียคนเดียวที่ผมสนิทผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมบ้านของเธอที่อยู่ไม่ไกลจากคิวรถประจำทางระหว่างรอรถกลับห้องพักที่เมืองอาลีกัรคำถามแรกที่หญิงสาวผู้นี้ถามผม ว่าทานอะไรได้บ้าง ?ผมเริ่มเข้าใจคำถามเหล่านั้นดี เพราะเธอก็รู้ว่าเราต่างไม่เหมือนกันในด้านหลักการศรัทธาโลกเราดำรงท่ามกลางความหลากหลาย จึงไม่แปลกที่หญิงสาวผู้นั้น ถามผมและเพื่อนอีกสองสามคนที่ไปด้วยว่าเราทานอะไรได้บ้าง ?มันเป็นคำถามปลายเปิดเพื่อให้เราได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีพลังเราไม่มีคำตอบอย่างอื่น นอกจากมังสวิรัติหรืออาหารเจเพราะเป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุดสำหรับเราที่เป็นมุสลิมในการกินและเป็นเรื่องที่สะดวกที่สุดสำหรับครอบครัวฮินดูที่ไม่เคยเนื้อสัตว์ หรือ ที่เขามักเรียกกันจนเราติดปากว่าNon-Vegetarianเราได้เจอกับครอบครัวที่เป็นชาวฮินดู ครอบครัวของหล่อนไม่เคยทานเนื้อสัตว์และมันก็เป็นเรื่องไม่ง่ายสำหรับเราที่จะไปทานเนื้อในชุมชนที่ไม่ใช่มุสลิม เพราะการรับประทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ทั้งหมดในมุมของอิสลาม นั่นก็หมายความว่า ต้องผ่านการเชือดตามหลักการอิสลามเท่านั้น มุสลิมอย่างเราจึงจะรับประทานได้ (ยกเว้นอาหารทะเล เช่น จำพวกปลา กุ้ง หมึก ไม่ต้องเชือด)ขณะเรานั่งไปพูดคุยแลกเปลี่ยนกับครอบครัวของหญิงสาวผู้นี้ ทุกอย่างก็ลงเอยไปด้วยดี ญาติบางคนของหล่อนทำงานอยู่ในประเทศไทย บ้างก็เรียนหนังสือ และที่สำคัญกว่านั้น พี่ชายของหล่อนเคยไปทำงานที่ประเทศไทยมาแล้ว ระยะหนึ่ง จึงเป็นเรื่องง่าย ที่เราจะเข้าใจกัน หลังจากเราละหมาดมักริบในช่วงพลบค่ำแถบชุมชนบ้านฮินดู (หล่อนจัดสถานที่พิเศษไว้ให้มุสลิมอย่างเราได้ละหมาด แยกจากห้องที่เราทานข้าว เพราะหล่อนให้เหตุผลว่า ห้องนอนอาจไม่สะอาด และอาจรบกวนความรู้สึกของแขกอย่างเราในการให้บริการ)เราเริ่มเดินทางออกจากบ้าน ทุกคนในบ้านเดินมาส่งที่คิวรถประจำทาง เราได้รับดอกไม้สีเหลืองคนละหนึ่งดอก มันคือดอกดาวเรืองเหตุผลก็เพราะว่าเพื่อให้พระเจ้าของหล่อน (ในศาสนาฮินดู)ได้คุ้มครองพวกเราในการเดินทางเราหันมองหน้ากัน ด้วยความรู้สึกอึ้งและมึนงง แต่ในช่วงเวลานั้นน้ำใจแห่งเพื่อนมนุษย์นับ เป็นสิ่งที่สำคัญและยิ่งใหญ่เสมอผมก็ยื่นมือไปรับและกล่าวขอบคุณ ในส่วนลึกผมก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจเล็กน้อย เพราะดาวเรือง คือ สัญลักษณ์แห่งความเป็นฮินดูในขณะความเชื่อของเราคืออิสลามแต่ ในมุมมองและความรู้สึกช่วงนั้นเราต่างเป็นมนุษย์และเพื่อนร่วมโลกสิ่งที่หยิบยื่นมา ย่อมสำคัญและจริงใจเสมอจากสหายผมจึงหยิบ แล้ว นึกในใจว่าหยิบมาก่อน เพราะยังไงเราก็ไม่ได้ศรัทธาแบบนั้นพอหยิบมาแล้ว ค่อยเอาเก็บไว้ที่ไหนสักแห่งหรือทิ้งหายไปก็ไม่เห็นจะแปลกหรือน่าเกลียด ทว่ามันจะน่าเกลียดและน่าสมเพศตัวเองมากกว่า หากการหยิบยื่นของมิตรสหายด้วยความหวังดี โดนตัดทอนด้วยความรู้สึกแห่งการชิงชังและการปฏิเสธผมคิดได้แค่เพียงว่าเราเก็บความต่างไว้เพื่อเรียนรู้ เราเก็บความรู้สึกดีไว้เพื่อบอกความชัดเจนแห่งอิสลาม เราเก็บการให้เกียรติกันเพื่อดำรงไว้ซึ่งแบบฉบับอันดีงามแห่งอิสลาม เราปรนนิบัติต่อเพื่อนมนุษย์เสมือนสหายร่วมโลก เพราะทุกอย่าง ล้วนออกมาจากความหวังดีแห่งมิตรภาพอาจจะน่าเป็นห่วงกว่า หากเรากลับทิ้งดอกไม้ดอกนั้นไง้ต่อหน้าเขาหรือเราปฏิเสธที่จะรับอาจทำให้เพื่อนร่วมโลกต้องลำบากใจเพราะเราไม่มีเวลาพอจะอธิบายอิสลามที่เราศรัทธาหรือสิ่งที่เราเชื่อให้เขาเห็นและรับรู้ ทว่า เราก็ไม่มีสิทธิจะทำร้ายความรู้สึกและความดีงามแห่งมิตรภาพด้วย หากมันไม่ร้ายแรงถึงขั้นทำลายหลักการศรัทธา(อากีดะฮ์)แห่งอิสลามผมเริ่มปริยิ้มและดีใจที่หาทางออกในชั่วโมงเร่งด่วนแบบนั้นด้วยการหยิบดอกไม้มาด้วย ทว่าการทิ้งดอกไม้ อาจหมายถึงการตัดมิตรภาพของพวกเรา ระหว่างรถเริ่มออกจากานชะลา ผมได้หวนคิดไปถึงสยามประเทศที่เรามักประสบปัญหาลักษณะนี้มามากต่อมาก และเรื่องราวแบบนี้ มันคือมิติแห่งความหลากหลายที่ในอีกมุมหนึ่งเราไม่ได้จัดการอย่างลงตัว กระทั่ง มันกลายเป็นเชื้อไฟแห่งคามชัง ความรุนแรงและการฆ่าฟันกันอย่างเลือดเย็นหลายต่อหลายครั้งที่สถานการณ์ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ถูกอธิบายแห่งการไม่เข้าใจระหว่างกัน ไม่สนใจในความเป็นพุทธ-มุสลิมไม่เปิดใจในความเป็นรัฐไทย-กลุ่มขบวนการไม่เรียนรู้ในความไม่เหมือนเรื่องความเป็นมาลายู-ซีแย(มุสลิมที่พูดมาลายูไม่ได้) ไม่คำนึงในความเป็นอิสลามสายใหม่-สายเก่ากระทั่งเราห้ำหั่นกันเมื่อความรุนแรงปรากฏกายในเงามืด เรา ต่างประสบชะตากรรมเดียวกันจากข้อมูลของศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ชายแดนใต้ที่ได้เขียน สคริปต์โดยรอมฏอน ปันจอร์และอำนวยการผลิตโดยสภาประชาสังคมชายแดนใต้ระบุว่าจากมกราคม ๒๕๔๗ ถึง พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เกือบ๘ปี มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นทั้งสิ้น๑๑๓๓๒เหตุการณ์ มีผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ความรุนแรงทั้งสิ้น๔๙๘๔ราย มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ความรุนแรงทั้งสิ้น๘๓๑๑รายเฉลี่ยแล้วในวันหนึ่ง ๆ มีผู้เสียชีวิต๑.๗คน หรือราว ๆ เกือบ๒คน / วัน ในจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นมุสลิม๕๙เปอร์เซ็น หรือประมาณเกือบ๓๐๐๐คน ผู้สูญเสียเป็นพุทธ ๓๘ เปอร์เซ็น หรือประมาณ เกือบ๒๐๐๐คนในจำนวนผู้บาดเจ็บเป็นมุสลิม๓๒เปอร์เซ็น หรือประมาณ๒๖๐๐กว่าคน ในจำนวนผู้บาดเจ็บเป็นพุทธ๖๐เปอร์เซ็น หรือกว่า๕๐๐๐คน ราษฏร – คนธรรมดาสามัญ ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงมากที่สุด หรือ ราว๕๐เปอร์เซ็นของเป้าโจมตี ในขณะที่ทหารและตำรวจมีอยู่เพียง๑๓เปอร์เซ็น เด็กกำพร้า๔๗๐๐คน หญิงหม้าย๒๒๐๐คนความจริงไทยมุสลิมกับไทยพุทธในสยามประเทศต่างก็มีบทเรียนไม่ต่างกัน นั่นก็คือ การเป็นชนกลุ่มน้อยของกันและกันในสังคมสยามประเทศ มุสลิมคือ ชนกลุ่มน้อย และในสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไทยพุทธ คือ ชนกลุ่มน้อย กระทั่ง สองอย่างนี้ คือ บทเรียนที่ต่างคนต่างได้เรียนรู้มาเท่ากันและสูญเสียมาไม่ต่างกัน ทว่าผลพวงแห่งความรุนแรงทั้งหมดเหล่านี้ กลายเป็นคำถามอย่างเดียวที่เกิดขึ้นในพื้นที่ นั่นก็คือ ความไม่เหมือนระหว่างไทยพุทธ-ไทยมุสลิมเราจะอยู่ร่วมกันได้ไหม หากได้แล้ว ได้อย่างไร (เมื่อทั้งสอง ต่างมีบทเรียนมาไม่ต่างกันและสูญเสียมาเกือบจะเท่ากัน) ?มีการย้ายถิ่นฐานทั้งภายในภูมิภาคและภายนอกภูมิภาคของชาวพุทธประมาณ๓๐เปอร์เซ็น มีการย้ายถิ่นฐานทั้งภายในภูมิภาคและนอกภูมิภาคของมุสลิม ประมาณ๑๐เปอร์เซ็นคดีความมั่นคงตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ – ตุลาคม ๒๕๕๔ ทั้งสิ้น๘๑๙๘คดี ในจำนวนนี้มีเพียง๒๔เปอร์เซ็น หรือเกือบ๒๐๐๐คดี ที่รู้ตัวผู้ก่อการคดีความมั่นคงตั้งแต่ ๒๕๔๗ - ตุลาคม ๒๕๕๔ ทั้งสิ้น๘๑๙๘คดี ในจำนวนนี้จับกุมตัวได้ประมาณ๑๗เปอร์เซ็น๑๓๘๕คดี เจ้าพนักงานสอบสวนส่งฟ้องเพียง๒๐เปอร์เซ็น หรือ๑๖๔๑คดี ศาลพิพากษาลงโทษในคดีความมั่นคงเพียง๕๕เปอร์เซ็น หรือประมาณ๒๔๓คน และคดียกฟ้อง๔๕เปอร์เซ็น หรือประมาณ๒๔๑คนเราต่างผ่านอะไรมาเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วง ๒๕๔๗ คดีปล้นปืนกองพันพัฒนาที่ ๔ คดีอุ้มหายทนายสมชาย นีละไพจิตร เหตุการณ์ยิงถล่มมัสยิดกรือเซะเหตุการณ์นองเลือดที่ ตากใบเหตุการณ์ปิดเมืองยะลา เกิดกรณีอพยพของชาวไทยมุสลิมไปยังมาเลเซียประมาณ ๑๓๑ คน สังหารครูประสาน ชูมากทำร้ายครูจูหลิงกราดยิงรถตู้ยะหา-บันนังสะตาฆ่าทหารที่ตันหยงลิมอชุมนุมประท้วงที่มัสยิดกลางปัตตานี กรณีซ้อมทรมานนักศึกษายะลา อิสมาแอ เดะ กรณียะผา กาเซ็งและอื่น ๆ อีกมากมายความรุนแรงเดินไปสู่ขั้นวิกฤติภายใต้ ๖ นายกรัฐมนตรี ๖ คน ผู้บัญชาการทหารบก ๗ คน ของแม่ทัพภาคที่ ๔ ๗ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ใต้การทำงานของหลายหน่วยงานเจ้าภาพในการดับไฟใต้ ไม่ว่าจะเป็น กอ.รมน.ภาค ๔ /พตท./ศอบต./กอ.สสส.จชต./ศบ.ชต./ศชต. ผ่านการดำเนินงานของ กฎหมายพิเศษ/กฎอัยการศึก/พรบ.ความมั่นคง/พรก.ฉุกเฉินกองกำลังของรัฐทั้งทหารและตำรวจมากกว่า๖๐๐๐๐นาย ใช้งบประมาณภาครัฐทั้งสิ้น๑๔๔๐๐๐ล้านบาทเมื่อทั้งหมดนี้ ไร้กระบวนการทำความเข้าใจ มันคือที่มาแห่งการตัดราก สะบั้นเหง้ากันเหมือนอย่างที่เห็นอัสกัร อาลี แอนจิเนีย(Asghar Ali Engineer) นักเคลื่อนไหวองค์กรพัฒนาสังคมคนสำคัญของอินเดียได้กล่าวไว้อย่างน่าสนใจในวารสารThe Nation and The Worldประจำเดือน เมษายน วันที่ ๑๖ ปี ๒๕๕๕ ในประเด็นThe Need For Inter-Religious Dialogueว่าโลกที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย มักสร้างให้มนุษย์อย่างเรามีกรอบความคิดและแนวทางกับขับเคลื่อนสังคมและการดำเนินชีวิตไปอย่างไม่หยุดยั้ง ผ่านความเป็น โลกาภิวัตน์ ความเป็นสากล ความเป็นประชาธิปไตย แม้กระทั่ง ความเป็นรัฐชาติ สิ่งเหล่านั้น มักเป็นเครื่องยืนยันถึงความสวยงามของโลก ทว่า ในมุมกลับกัน หากมนุษย์ไม่ได้ทำความเข้าใจหรือ ไดอะล็อก แน่นอน มันคือ ฉนวนแห่งสงครามกลางเมืองปริญญาตรีการเมืองการปกครองคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ปริญญาโทวิชาเอกปรัชญาการเมืองอิสลาม คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอาลีกัรมุสลิมอินเดีย ปัจจุบัน เป็นนักเดินทางและใช้ชีวิตด้วยการอ่านหนังสือ บทกวี การเขียนเรื่องสั้นลงนิตยสาร บทความเว็บไซต์ งานวิจัยและงานวิชาการตามโอกาสและวาระที่พบเห็นและเผชิญ เขียนเมื่อ 3-12-2012 ณ ห้องเช่าริมกุโบร์อินเดียดอกไม้เพื่อบูชาเทพเจ้าของศาสนาฮินดูหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก The Nation and The World(The Fortnightly Newsmagazine) Asghar Ali Engineer The Need For Inter-Religious Dialogue April ; 16Vol.19489 P.18-19
|
อับดุรเราะฮหมาน มูเก็ม พาเราเดินทางพูดคุยกับความต่างและความหลากหลายทางความเชื่อที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติแล้วนำย้อนกลับมามองความขัดแย้งในบ้านของเรา ***** ผมเริ่มออกจากห้องพักแบกกระเป๋าไปยังเมืองอักรา
|
การเมือง,ต่างประเทศ,วัฒนธรรม
|
PATANI FORUM,มุสลิม,อักรา,อับดุรเราะฮหมาน มูเก็ม,อินเดีย
|
https://prachatai.com/journal/2012/12/44193
|
กสทช.เตรียมหารือค่ายมือถือ เร่งวางแผนยุติให้บริการ 2 จี
|
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า เช่นเดียวกับประเทศรัสเซียที่ได้มาหารือกับ กสทช.เมื่อสัปดาห์ก่อน และได้สอบถามถึงแผนการยุติการให้บริการ 2 จีของประเทศไทยด้วย,ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยมีผู้ใช้บริการมือถือราว 123 ล้านเลขหมาย ส่วนใหญ่ใช้บริการ 3 จี และ 4 จี ที่เหลือมีเพียง 1.5 ล้านเลขหมายเท่านั้นที่ยังคงใช้บริการ 2 จี ดังนั้น กสทช.ควรกำหนดแผนยุติการให้บริการ เบื้องต้นจะประกาศให้ยุติการนำเข้าอุปกรณ์ 2 จีก่อน นอกจากนี้จะต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบระยะเวลาการดำเนินการก่อนที่จะยุติให้บริการ ซึ่ง กสทช.จะไม่ยุติการให้บริการ 2 จี ในทันที แต่จะยกเลิกตามพื้นที่และความพร้อมของผู้บริโภคเป็นหลัก เนื่องจากไม่ต้องการให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบ กสทช.เคยหารือกับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส อย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งเอไอเอสเห็นด้วย ส่วน ทรูมูฟ ยูนิเวอร์แซล คอมมูนิเคชั่น และดีแทคยังไม่มีการหารือกันแต่อย่างใด ดังนั้น จึงจะเรียกทั้ง 3 ค่ายมือถือมาหารือ เพื่อกำหนดระยะเวลายุติการให้บริการ 2 จีในประเทศ ซึ่งจะเป็นการทยอยการยุติให้สอดคล้องกับการเปิดให้บริการ 5 จี ในปี 63-64.
|
ในเร็วๆนี้จะหารือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมอีกครั้ง เกี่ยวกับการจัดทำแผนยกเลิกการให้บริการ 2 จี เนื่องจากมีหลายประเทศได้ทยอยยุติการให้บริการ 2 จีไปแล้ว
|
ข่าว,เศรษฐกิจ
|
กสทช.,2 จี,บริการ 2 จี,ยกเลิก 2 จี,ฐากร ตัณฑสิทธิ์,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/business/1431636
|
บิล เกตส์ ยกย่อง ภกญ.กฤษณา Heros in the field
|
Heros in the field หรือวีรสตรีในภาคสนาม คือคำจำกัดความ ที่บิล เกตส์ มหาเศรษฐีระดับโลกชาวอเมริกันยกย่อง ศาสตราจารย์พิเศษ เภสัชกรหญิง ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ ในฐานะผู้สร้างคุณูปการ อุทิศตน ทำประโยชน์เพื่อผู้ป่วยทั่วโลก โดยเฉพาะผลงาน ผลิตยาต้านเอดส์ ซึ่ง ดร.กฤษณา ท่านนี้มีประวัติที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่เพื่อช่วยคนไทยแล้วเธอยังไปใช้ชีวิตทำงานช่วยเหลือในประเทศแถบทวีปแอฟริกานานกว่า 10 ปี คลิปวิดีโอความยาว2 นาทีกว่า บิล เกตส์ ให้ทีมงานของเขา เดินทางไปพบ และติดตามการทำงานของดร.กฤษณา ถึง อ.ยะหา จ.ยะลา ต้นเดือนที่ผ่านมา บิล เกตส์ โพสต์บนเฟซบุ๊ก และบล็อกของเค้าเป็นคลิปสั้นๆ ที่แนะนำให้คนทั่วโลก รู้จัก ดร.กฤษณา ในฐานะผู้ที่อุทิศตน ทำประโยชน์เพื่อผู้ป่วยทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี เภสัชกรหญิง กฤษณา หรือ ที่หลายคนเรียกว่า เภสัชกรยิปซี คือผู้ริเริ่มวิจัย และสามารถผลิตยาสามัญชื่อ ยาเอดส์ ได้สำเร็จ ทำให้ไทย กลายเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศแรก ที่ผลิตยาต้านเอดส์คุณภาพดี และถูกกว่ายานำเข้าจากต่างประเทศถึงเกือบ 20 เท่า ซึ่งเธอได้รับแรงบันดาลใจมาจากความต้องการช่วยผู้หญิงและเด็ก ที่ติดเชื้อ ภายใต้ความเชื่อพื้นฐานว่า การเข้าถึงการรักษาคือสิทธิขั้นพื้นฐาน งานด้านการสอน เธอเคยเป็นหัวหน้าภาควิชาเภสัชเคมี ม.สงขลานครินทร์ คณบดีคณะการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต และเคยเป็นผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาองค์การเภสัชกรรม นอกจากสร้างคุณูปการ ทำประโยชน์ในประเทศไทย สิ่งที่ทำให้เธอได้รับการยกย่องในระดับโลก มาจากการอุทิศตน เดินทางไปทำงานในประเทศแถบแอฟริกายาวนานถึง 12 ปีเช่น คองโก ไลบีเรียแทนซาเนีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศยากจน ในระดับที่ส่งผลต่องานด้านการสาธารณสุขเธอผลิตยาต้านเอดส์สำเร็จในชีวิตการทำงานที่แอฟริกา และผลักดันขยายออกไปให้ถึงประเทศที่ต้อง การ เพื่อช่วยผู้ป่วยประเทศในทวีปนี้ ให้เข้าถึงยาได้ในราคาไม่แพงมากนักศ.พิเศษ ดร.กฤษณา ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์โลก รางวัลบุคคลแห่งปีของเอเซีย และเป็นเภสัชกรไทยคนแรก ที่ได้รับรางวัลแมกไซไซ สาขาบริการสาธารณะ ในปี 2552 ชีวิตปัจจุบันของ ดร.กฤษณา ในวัย 65 ปี แม้จะลาออกจากงานประจำทั้งหมด แต่เธอ ยังคงเดินหน้าทำงานที่รักอย่างมุ่งมั่น ภายใต้ มูลนิธิ กฤษณา ไกรสินธุ์ลังกาสุกะโมเดล คืองานหลักที่ตั้งใจทำ ที่ผ่านมา ทำในพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ พัฒนาคุณภาพสมุนไพรในพื้นที่ ชวนชาวบ้านปลูกสมุนไพร และนำมาแปรรูปทำผงสมุนไพร และปัจจุบัน ขยายพื้นที่ ไปทำในภาคเหนือ ร่วมกับ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธีในฐานะนักวิทยาศาสตร์ เธอมีความเชื่อ และมักจะพูดเสมอว่า ทุกอย่างมีทางออก มีความหวัง และเธอ ไม่เคยยอมแพ้
|
บิล เกตส์ มหาเศรษฐีระดับโลกชาวอเมริกัน ให้ความสนใจ และยกย่องเภสัชกรไทยศ.พิเศษ เภสัชกรหญิง ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เป็น Heros in the fieldหรือวีรสตรีในภาคสนาม ในฐานะผู้สร้างคุณูปการ อุทิศตน ทำประโยชน์เพื่อผู้ป่วยทั่วโลก
|
วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
|
ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์,ยาเอดส์,บิล เกตส์,เภสัชกร,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส
|
https://news.thaipbs.or.th/content/268687
|
นุ่งซิ่นไม่นุ่งสั้น ยังฮิต แต่งชุดไทย สร้างสีสันทั่วเมืองพญาแล
|
วันที่ 28 ก.ค. 58 ที่ จ.ชัยภูมิ ข้าราชการและนักเรียนทั้งจังหวัดได้พร้อมใจกันสวมใส่ชุดไทยมาทำงานและเรียนหนังสือ โดยผู้ชายจะนุ่งโสร่งตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดในทุกวันพระและวันสำคัญทางศาสนา สร้างสีสันให้กับหน่วยงานเป็นอย่างมาก,ขณะที่ชาวบ้านที่มาติดต่อราชการ เมื่อเห็นข้าราชการสวมชุดสวยงามต่างก็อมยิ้มกับชุดไทยหลากสีสัน บางคนบอกว่าดูเป็นกันเองดีเหมือนอยู่ในงานบุญอะไรสักอย่าง,นายชวน มณีวรรณ ผอ.กศน. อ.จัตุรัส กล่าวว่า นโยบายนี้เป็นของนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ที่ให้ นุ่งซิ่นไม่นุ่งสั้น โดยทำมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ซึ่งก็เหมาะสมดีกับสภาพอากาศบ้านเราและยังเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยด้วย,ส่วนเด็กนักเรียนโรงเรียนหนองบัวใหญ่ อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ บอกว่า ใส่ชุดไทยมาเรียนรู้ สึกเย็นสบายดี พวกตนชอบ อยากใส่มาเรียนทุกวัน,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรณรงค์ นุ่งซิ่น ไม่นุ่งสั้น ของชาวชัยภูมิ เป็นนโยบายของนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัด และนางนภา ศกุนตนาค รองผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับพระอาจารย์พินทุ มหาปัญโญ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิธรรมดีได้ดี และสภาส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะชีวิตเด็กและเยาวชน จังหวัดชัยภูมิ (สรช.) ตั้งแต่เมื่อต้นปี 2558 ที่ผ่านมา นำหัวหน้าหน่วยงานทุกภาคส่วน เข้าร่วมกิจกรรม ตามโครงการ รากเหง้าวัฒนธรรมไทย นุ่งไทย นุ่งซิ่น ส่งเสริมให้ทุกสถานศึกษาให้เยาวชน เด็กนักเรียน นุ่งซิ่น ไม่นุ่งสั้น ทุกวันพระ โดยมีเป้าหมาย 1 ปี จะเห็นเมืองพญาแล กลับมาสู่วิถีไทยได้มากขึ้น.
|
ชาวเมืองพญาแล ชัยภูมิ ทั้งเด็กผู้ใหญ่ นักเรียน ข้าราชการยังคง นุ่งซิ่นไม่นุ่งสั้น สวมชุดไทยมาทำงานและเรียนหนังสือในวันพระ และวันสำคัญทางศาสนา สร้างสีสันรอยยิ้มให้กับคนที่เห็น เป็นนโยบายผวจ.ตั้งเป้าหมายทำให้ได้ภายใน1ปี
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
นุ่งซิ่น,นุ่งซิ่นไม่นุ่งสั้น,นักเรียนแต่งชุดไทย,แต่งชุดไทย,ชัยภูมิ,เมืองพญาแล,ข่าว,ข่าวแปลก,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค
|
https://www.thairath.co.th/news/local/514670
|
วางอนาคตประเทศไทย สถาบันเพิ่มผลผลิตปรับโฉมรับนโยบายรัฐ
|
นายสันติ กนกธนาพร ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ เปิดเผยถึงแนวทางการปรับรูปแบบการทำงานตามนโยบายของรัฐบาล ว่า ขณะนี้สถาบันฯได้เตรียมที่จะปรับแนวทางการทำงานให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาล โดยจะมีการปรับบทบาทจากเดิม ที่มีหน้าที่ในภาคปฏิบัติฝึกอบรมเพิ่มประสิทธิภาพของผู้ประกอบการในภาคการผลิต ไปเป็นหน่วยงานวางแผนทิศทางของประเทศไทยระยะยาวมากขึ้น,เนื่องจากในขณะนี้แต่ละหน่วยงานภาครัฐล้วนแต่มีแผนระยะสั้น-ยาว ระยะ 3-5 ปี อยู่แล้ว แต่แผนในระยะยาวอีก 20 ปี ข้างหน้ายังไม่มีหน่วยงาน ที่รับผิดชอบในการคาดการณ์อนาคตระยะยาวอย่างจริงจัง ซึ่งในภาวการณ์ปัจจจุบัน การวางแผน ในระยะยาว เป็นสิ่งที่สำคัญเพราะจะต้องเตรียมพื้นฐานต่างๆให้สอดคล้องกับอนาคตในอีก 20 ปีข้างหน้า ซึ่งการมีเพียงแผน ระยะสั้นหรือกลาง ไม่เพียงพอต่อการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ,ถ้าเราสามารถรู้ได้ว่าในอีก 20 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องเทคโนโลยี สังคม การใช้ชีวิต การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจต่างๆ ก็จะให้ประเทศไทยเตรียมวางแผนระยะสั้น รองรับปรับเปลี่ยนประเทศให้ไปใน ทิศทางแห่งอนาคต ซึ่งการที่ปรับตัวก้าวขึ้นไปได้ก่อน ก็จะทำให้ประเทศไทยก้าวมาเป็นประเทศชั้นนำได้ในอนาคต ซึ่งประเทศสิงคโปร์ได้ตั้งศูนย์แบบนี้ตั้งแต่ปี 1996 จึงทำให้ประสบความสำเร็จดังเช่นในปัจจุบันนี้,สำหรับการวางแผนระยะยาว จะกำหนดเป้าหมายในระยะสั้น 5 ปี 10 ปี และ 20 ปี ต้องปรับตัวไปในทิศทางใดบ้าง โดยจะกำหนดว่าในระยะเวลาช่วงดังกล่าว ในด้านสังคม เทคโนโลยี การเมือง และสิ่งแวดล้อมต่างๆ จะปรับเปลี่ยนไปอย่างไร แล้วทำแผนย่อยในด้านต่างๆ เสนอแนะแนวทางการปรับปรุงแก้ไข และรับมือกับอนาคตที่เกิดขึ้น,นอกจากนี้ จะมีการตั้งศูนย์แห่งความเป็นเลิศ มีหน้าที่ศึกษาวิเคราะห์ ลงลึกถึงแนวโน้มสินค้าที่สำคัญต่างๆว่าในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด เพราะว่าจากตัวอย่างสินค้าแบรนด์ดังหลายชนิดที่ผ่านมา เช่น โนเกีย แบล็กเบอร์รี่ ที่เคยก้าวขึ้นมานำในตลาดโลก เพียงไม่นานก็กลับก้าวไม่ทัน และตกกระแสโลกไปในที่สุด เพราะติด กับดักความสำเร็จเดิมทำให้ไม่ยอมปรับเปลี่ยนให้สอดรับกับกระแสใหม่ๆของโลก ซึ่งศูนย์นี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการมองเห็นอนาคตของโลกได้อย่างชัดเจน ว่าต้องปรับตัวอย่างไร เพราะหากไปผิดทิศทาง แม้ พยายามทำดีแค่ไหน ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ,นายสันติ กล่าวว่า ในเรื่องของโครงสร้างการดำเนินงาน ก็จะมีการปรับเปลี่ยนจากเดิมที่อยู่ภายใต้อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ ไปเป็นหน่วยงานที่เป็นองค์กรมหาชน และมีรายได้ประจำจากภาครัฐเพิ่มขึ้น และมีหน้าที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น รวมทั้งยังสามารถหารายได้เสริมจากการศึกษาวางยุทธศาสตร์ ให้กับองค์กรต่างๆ ซึ่งจะช่วยลดภาระงบประมาณภาครัฐได้ส่วนหนึ่ง,ถ้าหากจะให้ประสิทธิภาพการผลิตเป็นแกนหลักของประเทศ ภาครัฐจะต้องเพิ่มบทบาท และงบประมาณให้กับสถาบันฯ เพื่อสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศให้เข้มแข็ง ซึ่งอาจจะควบรวมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือทำงานคล้ายคลึงกันเข้ามาอยู่ภายใต้ร่มเดียวกัน แล้วผลักดันให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในภาพรวมทั้งประเทศ.
|
สถาบันเพิ่มผลผลิต ปรับโฉมภารกิจ รับนโยบายรัฐบาล เล็งก้าวขึ้นเป็นหน่วยงานวางยุทธศาสตร์ระยะยาวของชาติ 20 ปี กำหนดแผนย่อย ผลักดันให้ไทยก้าวทัน กระแสโลก ยกระดับประสิทธิภาพการผลิตในทุกระดับ
| null |
สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ,ปรับรูปแบบการทำงาน,นโยบายรัฐบาล,ยุทธศาสตร์ของรัฐบาล,สันติ กนกธนาพร,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐ,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
|
https://www.thairath.co.th/content/614120
|
มอเตอร์ไซค์ซ้อน 3 ชนท้ายพ่วงจอดข้างทาง ตายเกยกัน 2 ศพ สาหัส 1
|
เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 24 ธันวาคม 2561 ร.ต.ท.เชาวรินทร์ คำเรือง รอง.สว.(สอบสวน) สภ.กบินทร์บุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย บริเวณ หลัก กม. 190 จุดกลับรถหน้าสนามกอล์ฟนนทรี ถนนสาย 33 สุวรรณศร กบินทร์บุรี-ประจันตคาม หมู่ 2 ต.นนทรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี,หลังรับแจ้งพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สภาพใหม่ สีน้ำเงินดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพพังยับทั้งคัน ชนอัดติดกับล้อหลังด้านขวาของรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ฮีโน่ ทะเบียน 80-5260 สระแก้ว ทะเบียนตัวพ่วง 81-2655 สระแก้ว มีนายเล็บ กระแสโสม อายุ 55 ปี เป็นคนขับ โดยรถจักรยานยนต์ซ้อนกันมา 3 คน มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย นอนกองกันอยู่ อีกรายเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่ง รพ.กบินทร์บุรี ,ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือ นายวรวิทย์ จูมบาน อายุ 18 ปี และ นายชัยพร บุญอ่วม อายุ 18 ปี กะโหลกแตก สมองกระจาย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทราบเพียงชื่อเล่นคือ นายอ่อง บุญนำ อายุ 18 ปี เช่นกัน ทั้งหมดเป็นชาว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ,นายเล็บ คนขับรถบรรทุกพ่วง เล่าเบื้องต้นว่า ตนได้จอดรถนอนบริเวณริมถนนตรงจุดเกิดเหตุ ตั้งแต่ 3 ทุ่ม เพื่อจะไปรับกระเบื้องที่จังหวัดสระบุรี ขณะที่กำลังนอนอยู่ในรถได้ยินเสียงโครม จึงลงจากรถมาดูพบว่ามีรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถของตนที่จอดอยู่ จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
|
วัยรุ่นซ้อน 3 ควบมอเตอร์ไซค์ชนท้ายพ่วงจอดข้างทางอย่างจัง นอนตายทับกันในที่เกิดเหตุ 2 ศพ อีกรายสาหัส เหตุเกิดที่ปราจีนบุรี
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
จยย.ชนท้ายพ่วง,ปราจีนบุรี,ซ้อน3,รถชน,ตายทับกัน,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1453143
|
นาดาล ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเศษๆ ในการคว้าชัยชนะศึกเทนนิส เวิล์ด ทัวร์ ไฟนอลนัดแรก
|
เกมเอทีพี เวิล์ด ทัวร์ ไฟนอล นัดแรกที่สนาม โอทู อารีน่า เป็นการเล่นในสาย เอ คู่ที่ 2 ราฟาเอล นาดาล มือ 1 ของโลก พบกับ ดาบิด เฟย์เรย์ ที่ได้รองแชมป์ ปารีส มาสเตอร์ มาเมื่อวันอาทิตย์ ที่ผ่านมา คู่นี้พบกันมา 24 ครั้งเป็น นาดาล ที่เป็นฝ่ายชนะไป 20 ครั้งผลเกมนี้ ปรากฏว่า เป็น นาดาล ที่เป็นฝ่ายชนะไป 2 เซตรวด คะแนน 6-36-2 ใช้เวลาในการเล่นไป 1 ชั่วโมง 14 นาทีนอกจากผลการแข่งขันที่เป็นฝ่ายชนะแล้ว นาดาล ยังได้รับรางวัล คัมแบค ยอดเยียมแห่งปี จากการประกาศของสหพันธ์เทนนิสชาย หรือ เอทีพี โดย นาดาล ที่ได้รับบาดเจ็บยาวถึง 7 เดือนเมื่อกลางปีที่แล้ว แต่หลังจากหายเจ็บกลับมา สามารถโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม ด้วยการคว้าแชมป์แกรนด์ สแลม 2 รายการ คือ เฟร้นช์ โอเพ่น และ ยูเอส โอเพ่น แถมแชมป์ เอทีพี ทัวร์ อีก 8 รายการ อีกทั้งยังทวงตำแหน่งมือ 1 ของโลก กลับมาได้สำเร็จมาร์ลิน ซิลิช อดีตนักเทนนิสมือ 9 ของโลก จากโครเอเชีย ที่เพิ่งพ้นโทษแบนจากสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ หรือ ไอทีเอฟ ออกมาให้สัมภาษณ์ ว่า มีแผนที่จะแถลงขอโทษทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว สต๊าฟโค้ช หรือ แฟนๆ ในกรณีที่เขาถูกลงโทษห้ามแข่งขัน หลังจากถูกตรวจพบสารกระตุ้น ขณะเดียวกัน ซิลิช ได้บอกว่า ตอนนี้เริ่มกลับมาเล่นเทนนิสแล้ว และคาดว่าจะลงแข่งขันรายการใหญ่ในปีหน้าซิลิส ถูก ไอทีเอฟ แบนเป็นเวลา 9 เดือน หลังตรวจพบสารกระตุ้น แต่ ซิลิช ได้ยื่นอุธรณ์ต่อศาลกีฬาโลก และได้รับการลดโทษแบนเหลือเพียงแค่ 4 เดือน และเพิ่งสิ้นสุดไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา
|
ราฟาเอล นาดาล ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมง ก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ ดาบิด เฟย์เรย์ นักกีฬาเพื่อร่วมชาติ ในการแข่งขันเทนนิส เอทีพี เวิล์ด ทัวร์ ไฟนอล นัดแรก
|
กีฬา
|
นาดาล,ราฟาเอล นาดาล,เทนนิส,เอทีพี เวิล์ด ทัวร์ ไฟนอล
|
https://news.thaipbs.or.th/content/205484
|
บินไทยวิ่งสู้ฟัดปั๊มรายได้
|
ตั้งแต่การบริการภาคพื้นจนถึงการ บริการบนเครื่องบิน การบริหารจัดการขายและการตลาด โดยเฉพาะการตลาดออนไลน์ การหารายได้เสริม และในส่วนของรายได้นอกเหนือธุรกิจการบิน (นอนคอร์) เช่น ครัวการบินและการขายสินค้า เป็นต้น รวมถึงการทำแผนบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนและราคาน้ำมัน, เพิ่มขีดความสามารถและการขยายธุรกิจ เช่น โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา การพัฒนาปรับปรุงศักยภาพบุคลากร การปรับปรุงฝูงบินให้ทันสมัย ซึ่งมีแผนจัดหาเครื่องบินลอตใหม่ 38 ลำ ขณะนี้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) อยู่ระหว่างการพิจารณา,สำหรับแผนเพิ่มรายได้ทั้งหมดนี้ คาดว่าจะสร้างรายได้ราว 3,000-4,000 ล้านบาท และในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 จะขออนุมัติโอนทุนสำรองตามกฎหมายและส่วนล้ำมูลค่าหุ้นมาตัดขาดทุนสะสมในงบการเงินเฉพาะกิจ 28,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้เหลือขาดทุนสะสม 296 ล้านบาท หากปีนี้มีกำไรมากกว่า 300 ล้านบาท ก็จะสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้, ปี 61 อุตสาหกรรมการบินมีการแข่งขันรุนแรง ราคาน้ำมันปรับตัวสูงสุดในรอบ 4 ปี ทำให้มีค่าใช้จ่ายรวม 208,558 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19,468 ล้านบาท ส่งผลให้ขาดทุน 9,058 ล้านบาท หลายคนสงสัยว่าทำไมขาดทุนมาก เหตุผลคือการบินไทยมีปัญหาที่เป็นวงจรกับดักมานาน คือ เครื่องบินเก่า ซ่อมบ่อยการบริการไม่ตรงกับความต้องการของผู้โดยสาร เครื่องไม่ทันสมัย ต้นทุนค่าบำรุงสูง หากจัดฝูงบินใหม่ไม่ได้ ก็จะกลับมาเป็นวงจรแบบเดิม,ขณะที่บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ปี 61 ขาดทุน 2,786 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.46% เป็นผลจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้ต้นทุนเชื้อเพลิงพุ่ง ขณะที่รายได้ค่าโดยสารลดลง,ตามนักท่องเที่ยวจีนที่หดตัวและราคาตั๋วลดลง ทั้งนี้ จะเดินหน้าขยายเส้นทางการบิน ปรับปรุงฝูงบิน เพื่อแก้ปัญหาขาดทุน.
|
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ปี 2562 การบินไทยจะเร่งสร้างรายได้ ด้วยการปรับปรุงการบริการครบวงจร
|
ข่าว,เศรษฐกิจ
|
สุเมธ ดำรงชัยธรรม,สร้างรายได้,การบินไทย,ประชุมผู้ถือหุ้น,อุตสาหกรรมการบิน,ต้นทุนเชื้อเพลิงพุ่ง,ต้นทุนค่าบำรุงสูง
|
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1508768
|
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยันอัดฉีดโปโลน้ำหญิงแน่นอน
|
วันนี้(1ธ.ค.62) ทีมโปโลน้ำหญิงทีมชาติไทย คว้าเหรียญทองเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน โดยก่อนหน้านี้คว้าเหรียญทองมาแล้วในซีเกมส์ที่ สิงคโปร์ และ มาเลเซีย สำหรับการแข่งขันระบบพบกันหมดในวันสุดท้ายทีมสาวไทยยังคงทำผลงานได้ยอดเยี่ยมด้วยการชนะเจ้าภาพฟิลิปปินส์ขาดลอย 19-2 คว้าชัยชนะ 4 นัดรวดในซีเกมส์ครั้งนี้ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย และ นายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ซึ่งเดินทางไปให้กำลังใจถึงขอบสระ ชื่นชมนักกีฬาว่ามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเตรียมผลักดันให้กีฬาโปโลน้ำเป็นที่นิยมในประเทศมากขึ้นเพื่อเป้าหมายระดับโลกในวันข้างหน้า และแม้จะยังไม่สามารถระบุตัวเลขการอัดฉีดนักกีฬาได้ แต่ก็ยืนยันว่ามีแน่นอนซึ่งต้องไปหารือกับสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทยด้วยอย่างไรก็ตามทีมโปโลน้ำสาวไทยจะได้รับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติตามหลักเกณฑ์คือเหรียญทองละ 3 แสนบาทสำหรับรายการต่อไปของทีมโปโลน้ำหญิงคือเตรียมตัวสู้ศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศคาซักสถานในต้นปีหน้า ซึ่งรายการนี้แชมป์เอเชียเพียงทีมเดียวเท่านั้นที่จะได้ไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น
|
โปโลน้ำหญิงทีมชาติไทย คว้าเหรียญทองเป็นสมัยที่ 3 ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประกาศสนับสนุนสู่ระดับโลก และยืนยันมีอัดฉีดแน่นอน
|
กีฬา
|
#ซีเกมส์ครั้งที่ 30,ซีเกมส์ฟิลิปปินส์,โปโลน้ำหญิง
|
https://news.thaipbs.or.th/content/286608
|
รานิเอรี ย้ำชัด จิ้งจอกสยาม ไม่กดดันเรื่องลุ้นแชมป์ลีก
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 7 มี.ค. ว่า เคลาดิโอ รานิเอรี ผู้จัดการทีม จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรจ่าฝูงศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยัน ทีมของตนไม่จำเป็นต้องรู้สึกกดดันอะไรในการลุ้นแชมป์ลีก แต่เป็นทีมอื่นต่างหากที่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจ,เลสเตอร์ ซิตี้ เก็บเพิ่มเป็น 60 คะแนน หลังบุกไปชนะ วัตฟอร์ด 1-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และทำแต้มนำห่าง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมรองจ่าฝูง ไปเป็น 5 แต้ม แล้วก็นำอาร์เซนอล อันดับ 3 อยู่ 8 แต้ม,เราไม่ได้รู้สึกกระวนกระวายอะไร เพราะงานของเราจบแล้วและงานของเราคือการอยู่รอดปลอดภัย (รอดตกชั้น) นี่เป็นฤดูกาลที่อัศจรรย์สำหรับเราและทุกสิ่งที่เราจะทำได้ก็จะถือเป็นกำไรที่เพิ่มมาจากสิ่งนั้น ทีมอื่นๆ คงมีความกระวนกระวายกันบ้างแหละ เพราะหลายทีมใช้เงินมากมายเพื่อที่จะคว้าแชมป์ เราต้องค่อยๆ สร้างไปอย่างช้าๆ ปีนี้เป็นฤดูกาลที่บ้าสำหรับเรา สำหรับทุกคนและเรามีความสุขและเราต้องรู้สึกสนุกสนาน เรารู้ดีว่านี่เป็นโอกาสที่แปลกที่เรามี แต่เราก็อยากจะต่อสู้ดู ไม่มีใครจะสามารถมาบอกเราได้ว่า เรากระวนกระวาย ไม่มี เรามีสมาธิและทุกอย่างก็อาจเกิดขึ้นได้ รานิเอรี กล่าว
|
เคลาดิโอ รานิเอรี กุนซือของทีมเลสเตอร์ ซิตี้ เล่นสงครามประสาท ยืนยัน ทีมของตนไม่จำเป็นต้องรู้สึกกดดันอะไรในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่เป็นทีมอื่นต่างหากที่ต้องร้อนใจ
| null |
พรีเมียร์ลีก,เลสเตอร์ ซิตี้,เคลาดิโอ รานิเอรี,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/587067
|
เจ้าแม่โปรเจกต์ ทับทิบ อัญรินทร์ ผุดหนังสั้น ระยะไม่ติดต่อกัน
|
ทำหน้าที่เจ๊ดัน โดม เดอะเฟซฯ ขึ้นแท่น พระเอกป้ายแดงต้องเรียกว่าเป็นเจ้าแม่ร้อยโปรเจกต์ มักมีผลงานสร้างความเซอร์ไพรส์แฟนๆได้ตลอดๆ สำหรับ ทับทิม อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ นางเอกสาวมากความสามารถ นอกจากยืนหยัดเล่นละครก้าวสู่ปีที่ 16 แล้ว ยังผันตัวลุยงานเบื้องหลัง เปิดบริษัท ทับทิม 61 จำกัด พร้อมผุดโปรเจกต์ใหม่ หนังสั้นเชิงทดลองเรื่อง ระยะไม่ติดต่อกัน The Converse พร้อมชวน โดม เดอะเฟซเมนฯ หรือ โดม เพชรธำรงชัย มารับบทพระเอกเต็มตัวเป็นครั้งแรก บอกเล่าการทำงานในรูปแบบใหม่ ใน คนดังนั่งคุยเจ้าแม่ร้อยโปรเจกต์จริงๆ ครั้งนี้มาพร้อมโปรเจกต์อะไร?ทับทิม เป็นโปรเจกต์ใหม่ของทับทิม คือทำยูทูบแชนแนล เปิดช่องทางใหม่ให้แฟนๆได้ติดตามกัน เลยคิดคอนเทนต์พิเศษเป็นของขวัญให้แฟนๆในโอกาสเราทำงานวงการบันเทิงมา 15 ปี ปีนี้ขึ้นปีที่ 16 แล้ว คิดคอนเทนต์หลายอย่างมาก มาสรุปเราทำคอนเทนต์เกี่ยวกับหนังสั้น ตอนที่เราตัดใจทำติดโควิดพอดี เลยต้องวางแผน ปรับรูปแบบการทำงานใหม่หมด เราไม่รู้สถานการณ์เป็นยังไง หนังเรื่องนี้เป็นหนังสั้นสะท้อนสังคมเชิงทดลอง ชื่อเรื่อง ระยะไม่ติดต่อกัน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสังคมออนไลน์ เป็นการทำงานรูปแบบใหม่ เรื่องนี้ทับทิมก็เล่นเอง รับบท 3 ตัวละคร 3 คาแรกเตอร์ น้องโดมมาเป็นพระเอกเรื่องนี้มารับบทพระเอกเต็มตัวโดมหนักใจมากน้อยแค่ไหน?ภาพจำคือโดมเป็นเด็กลูกครึ่งภาษาไทยไม่ชัด บทที่ได้มาก็ซ้อมหนัก ไม่ใช่แค่ซ้อมพูดได้แต่ซ้อมให้เข้าใจบท ทำไมถึงพูดแบบนี้ ในบท ชื่อแม็กต้องเรียนรู้ทำไมแม็กเป็นยังไง ก็ยากอยู่แต่สุดท้ายก็ทำได้ทับทิม เป็นโปรเจกต์เป็นอะไรที่แปลกใหม่ที่ทำมาภายใต้ข้อจำกัดหลายๆอย่าง ถ้าสถานการณ์ไม่ดีเราต้องถ่ายทำให้จนสำเร็จ เราทำงานแบบไม่เจอกัน นักแสดงทุกคนตั้งกล้องถ่ายกันเอง นี่ก็เพิ่งเจอหลังจากถ่ายทำเสร็จ เราเจอกันวันฟิตติ้งหนึ่งวันถ่ายทำก็ไม่เจอต่างคนแยกย้ายทำงาน ทุกอย่างประชุม ส่งงานผ่านออนไลน์หมดเลยเรียกว่ารูปแบบการทำงานแบบใหม่ อยากให้ทุกคนติดตามชมวิธีการทำแบบนี้ออกมายังไง ตอนที่ทำงานเราปรับตามสถานการณ์หลายๆอย่าง บอกคนเขียนบทนักแสดงห้ามเจอกัน ใช้เวลา 1 เดือน เข้าสู่พรีโปรดักชันช่วงนั้นสถานการณ์ดีขึ้นออกกองได้ 5 คน ถ่ายทำจนได้สำเร็จ ใช้เวลาถ่ายทำทั้งหมด 7 วันโดมเป็นยังไงบ้างเพราะเรามือใหม่กับการแสดงมากๆ?โดม เค้าจะบอกถ่ายยังไง เล่นฟีลได้ เราก็เล่นตามเลย ส่งงานไปมันไม่ได้ก็ต้องถ่ายใหม่ ถ่ายจนได้ เราตั้งกล้องเอง เซตเองหมด ผจก.อยากให้ผมเรียนรู้ว่าการจัดการอะไรยังไง กองถ่ายจะเป็นยังไง ให้ผมเรียนให้ทำเองหมดเลยทับทิม เค้าได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง อย่างที่บอกไปทำไมเชิงทดลอง อย่างที่บอกน้องโดมมาสายนายแบบอย่างเดียวเลย ไม่ได้มาสายการแสดง แต่สิ่งที่เค้าทำคือนักแสดงจะต้องสั่งสมประสบการณ์ บรรยากาศกองถ่ายมาขนาดนี้ ในมุมของโดมเป็นอะไรที่ท้าทายมาก หนึ่ง ภาษาของน้อง สอง การแสดงที่น้องไม่ได้มาสายนี้โดยตรงแต่ต้องมารับบทนำครั้งแรก สาม ต้องดูในเรื่องของงานเบื้องหลังเองด้วย ถามว่าโหดมั้ย ไม่นะ (หัวเราะ)โดมรู้สึกโจทย์นี้มันโหดไปสำหรับเรามั้ย เพราะภาษาเราก็ไม่ได้แข็งแรง การแสดงเราก็ยังมือใหม่?โดม มีบ้างนะครับ แต่ผมสุดท้ายหายใจเข้าลึกๆแล้วก็หายใจออก อันนี้เป็นงานเราต้องทำให้ได้ เป็นครั้งแรกที่เล่นเป็นพระเอก บทมีซีนอันนึงเราทะเลาะกันและบทยาวมาก แบบผมเล่นเกิน 50 เทกทับทิมเสริม ทำไม 50 เทก เพราะทับทิมให้โจทย์ไปว่าเรื่องนี้ทุกคนต้องถ่ายแบบลองเทก ไม่ว่าบทตอนนั้นจะต้องลองเทกเท่านั้น ผิดปุ๊บเริ่มใหม่ เรื่องนี้ถ่ายลองเทกทั้งหมด ไม่มีการคัต ทุกซีนคือถ่ายต่อเนื่องเทกไม่ได้ ไม่มีอีดิต เนื่องจากทีมงานเราพยายามทำงานง่ายที่สุดภายใต้ข้อจำกัดหลายๆอย่าง การที่เราถ่ายทำจะต้องง่ายต่อการตัดต่อด้วยโดม ผมเป็นห่วงถ้าคลิปนี้ได้ แต่ฟีลไม่ได้จะต้องถ่ายใหม่ ไม่ได้เก็บห้องเลยต้องไว้เหมือนเดิม ถ่ายใหม่ผมพร้อมเลย มีไฟเต็มเลย แต่คลิปสุดท้ายส่งไปเค้าเช็กงานเรียบร้อยผมก็ถึงเก็บห้องได้ตอนเล่นคนเดียวจินตนาการของเราฟุ้งขนาดไหน?โดม ผมก็แบบจะทำยังไง เราเป็นนักแสดง เป็นนายแบบเราก็ต้องลองดูทำอะไรใหม่ๆใช่มั้ย เราต้องอันนี้เป็นนิวนอร์มอลของผมก็ต้องทำ ผมต้องเรียนรู้ให้หมดแต่ก็ยากทับทิม แต่น้องก็ทำได้โดม ผมรอหนังออกมา ที่ผ่านมาคนเห็นมุมของโดมพูดภาษาไทยไม่ชัดทับทิม เราดึงน้องมาร่วมงานด้วยกัน พอเราได้สัมผัส เราได้พูดคุยได้รู้แล้วว่าอยากให้ทุกคนสัมผัสความเป็นตัวตนของน้องแบบนี้ ต้องรักน้องแน่นอน ก็บอกโดมเล่นตามคาแรกเตอร์ตัวเองได้เลย ตอนแรกกังวลเรื่องภาษา เราบอกไม่เป็นอะไร ไม่ซีเรียส แค่อารมณ์ได้เท่านั้นติดใจเรื่องการแสดงขนาดไหน หากเทียบกับนายแบบน่าจะเป็นงานที่ถนัดกว่าหรือเปล่า?เอาจริงๆนะ ถ้าผมอยากเข้าวงการผมอยากไปทางการแสดง ผมอยากรู้ว่าอยากลองว่าผมชอบจริงๆมั้ย ผมอยากไปการแสดงไกลมากการแสดงเป้าหมายคือไปฮอลลีวูดเลยมั้ย?ประมาณนั้น แต่ไม่อยากพูดเยอะ ผมสนใจไปทางนั้นแต่ตอนนี้ต้องเรียนรู้ทุกอย่างก่อน การแสดงจำบทยังไง มีเทคนิคอะไร เข้าคาแรกเตอร์ยังไง และภาษาไทยก็ต้องซ้อมอีก นี่ก็ยังอ่านภาษาไทยเป็นภาษาคาราโอเกะอยู่นะทับทิม ใครที่ดูน้องโดมในเรื่องนี้ก็จะเห็นอีกมุมนึงที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแน่นอน จะได้เห็นพัฒนาการของเด็กคนนึงจริงๆ เค้ามีความตั้งใจที่จะทำเรื่องภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรงทำให้โดมเจอรับน้อง โดนแกล้งโดนอำบ่อยมั้ย?โดม บางทีก็จะโดนแกล้ง บางคนแบบคุยกับผมเหมือนผมอายุ 5 ขวบ ผมได้แต่เก็บไว้ข้างใน ตอนนี้ผมเรียนภาษาไทยอยู่ แต่ก่อนผมเขียนและอ่านไม่ได้ ผมพยายามฝึกๆ และคุยกับเพื่อนเป็นภาษาไทยไปเรื่อยๆ สมัยก่อนไม่รู้เรื่องอะไรแต่ตอนนี้โอเคขึ้น มีบางคนยังไม่รู้โดมเข้าใจภาษาไทยมากขึ้น คือเรานั่งฟังเฉยๆ แต่จริงๆเรารู้เรื่องที่เค้าคุยกัน แต่ผมไม่พูดแสดงว่าตอนนี้มานินทาโดมเป็นภาษาไทยไม่ได้เพราะเราเข้าใจสิ่งที่เค้าพูด?ใช่ครับ มีหนึ่งครั้งที่ผู้จัดการคุยโทรศัพท์ คุยเรื่องงาน คุยเสร็จผมก็ถามว่าสรุปว่าไม่ได้ใช่มั้ย ผจก. ก็ช็อก อ้าว ฟังออกเหรอ (หัวเราะ) แต่ก็มาไกลอยู่ ผมก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่ง แต่มีความพยายามที่ทำให้ดีสุดแค่นั้นเองตอนนี้โดมปักหลักใช้ชีวิตอยู่เมืองไทยเลยมั้ย?ใช่ครับ อยู่เมืองไทยยาวมาก ติดโควิดเลยกลับไม่ได้ (หัวเราะ) ติดมาหลายเดือนแล้ว แม่คิดถึง อยู่ประมาณครึ่งปีแล้วครับ ส่วนแม่ผมก็อยู่เมลเบิร์น ผมกลับไม่ได้ เพราะถ้าผมกลับไปก็ต้องกักตัว 14 วัน วุ่นวายมากกลับมาเมืองไทยกักตัวอีก 14 วันอยู่ห่างกันขนาดนี้แม่ห่วงอะไรโดมมั้ย?ปัญหาของผมคือเปลืองตังค์เยอะ แม่เป็นห่วง ซื้ออะไรมาเนี่ย มีวันนึงผมมีงานแต่เช้า ผจก.ก็ชวนมาอยู่ด้วยกัน เห็นห้อง อูหู ห้องน่าอยู่มากเลย 2 เดือนผ่าน มีตู้เย็น มีโปรเจกเตอร์ มีเตียง มีไฟ มีไม้อันนึงผมติดเชือก เพราะมันเป็นทาวน์เฮาส์ ผมอยู่ชั้น 3 เวลาแกร็บมาส่งอาหารผมก็จะใช้ไม้สอยอาหารขึ้นไป ไม่ต้องลงมาชั้นล่างขนาดนั้นและห้องนั้นที่ถ่ายหนังเลยครับนอกจากแม่ห่วงเรื่องการใช้สตางค์แล้วห่วงเรื่องมีแฟนบ้างมั้ย?ไม่ห่วงครับ โตแล้ว ปล่อยแล้ว เป็นห่วงดูแลตัวเองและแม่จะห่วงถึงงานอะไร สมมติเราไปสัมภาษณ์เค้าจะบอกทำให้ดีที่สุดนะ พูดให้ชัดๆนะ ผมก็ขอบคุณครับแม่ความรักล่ะมีเข้ามาบ้างมั้ย?ขอโทษนะครับ โสดอยู่นะครับ (ทำเสียงหล่อๆแบบพระเอกเบาๆ น่าฟัง)สเปกสาวเราชอบแบบไหน?ผมอาจจะพูดหลายครั้งแล้วว่าชอบลูกครึ่งหรืออะไรแต่ใจจริง มันอยู่ที่ข้างใน อยู่จิตใจ ผมอาจจะมีแฟนเป็นคนแอฟริกาก็ได้ โอเคข้างนอกอาจจะสำคัญแต่พอคุยแล้วทุกอย่างอยู่ที่ข้างใน เรื่องของจิตใจมากกว่าหนังอันนี้เริ่มออนทางช่องทางไหน?ทับทิม หนังเรื่องนี้รับชมพร้อมกันครั้งแรก 19 ก.ค. ทาง BUGABOO.TV 1 ทุ่มตรง และชมย้อนหลัง บักกาบูทีวีเหมือนกันค่ะ และมีทางยูทูบ เซิร์ฟ Anya rinsweet (อัญรินทร์ สวีต) ได้เลยเรายังเป็นเจ้าแม่โปรเจกต์?จริงๆทับทิมอยากคิดอะไรใหม่ๆ ทำอะไรใหม่ๆ ก็เป็นการท้าทายตัวเอง เป็นประสบการณ์ใหม่ที่เราไม่เคยทำมาก่อน และสนุก ได้ลองอะไรใหม่ๆงานละครล่ะคิว 7 วันมั้ย?ตอนนี้ก็ถ่ายละครเรื่องทะเลเดือดและกำลังจะฟิตติ้งละครเรื่องใหม่อยู่ค่ะ หลงกลิ่นจันทร์งานละครก็แน่น อีเวนต์ก็แน่น?มีเรียนด้วยค่ะ ตอนนี้กำลังเรียนด็อกเตอร์ เพิ่งเปิดเทอมพอดี จริงๆต้องบินไปฟิลิปปินส์ด้วยแต่ติดโควิด ทุกอย่างทยอยเลยเรียนออนไลน์ผ่านซูม ก็เรียนมา 3 เดือนแล้วตั้งใจไว้ 3 ปีจบโดม สงสัยขอถามเองเลยว่าใช้เวลาซ้อมบทยังไง มีเรียน มีละครหรือเราเป็นมืออาชีพเลยทำได้?ทับทิม หลายคนจะถามว่าทับทิมทำหลายอย่าง เรียนได้เหรอ แล้วมีเวลาทำงานได้ด้วยเหรอ ทับทิมทำงานตั้งแต่อายุ 14 เพราะฉะนั้นทุกอย่างจัดการมาหมดแล้ว เราทำทุกอย่างให้ดีที่สุดที่เวลาวางไว้ ทับทิมบอกน้องๆเสมอ ถ้าเราอยู่วัยเรียนต้องเรียนให้จบ เพราะอันนั้นคือหน้าที่แต่อย่าปฏิเสธโอกาสที่เข้ามาในชีวิต ถ้ามีโอกาสในการทำงานเข้ามา ให้รับไว้ด้วยเพราะทับทิมทำได้ ทุกคนก็ทำได้ ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยมันไม่ได้ยากเกินไป ทำให้เรามีประสบการณ์ได้เรียนรู้ การเรียนไม่ได้อยู่แค่ในตำราเรียนในห้องเรียนอย่างเดียว มันเรียนจากประสบการณ์ มันสำคัญพอๆกันเลยโอกาสทุกอย่างคว้าไว้หมดเลยแล้วกับความรักล่ะยังไง ใกล้มีข่าวดีแล้วหรือยัง?เรื่อยๆค่ะ แฮปปี้ดีค่ะ ทับทิมก็เพิ่งเริ่มเรียนด้วยและโปรเจกต์เพิ่งเริ่มด้วยค่ะ ต้องรอก่อนนะคะ.
|
ต้องเรียกว่าเป็นเจ้าแม่ร้อยโปรเจกต์ มักมีผลงานสร้างความเซอร์ไพรส์แฟนๆได้ตลอดๆ สำหรับ ทับทิม อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ นางเอกสาวมากความสามารถ นอกจากยืนหยัดเล่นละครก้าวสู่ปีที่ 16
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
คนดังนั่งคุย,ระยะไม่ติดต่อกัน The Converse,ทับทิม อัญรินทร์,โดม เดอะเฟซเมนฯ,โดม เพชรธำรงชัย,หนังสั้น,ข่าววันนี้,ดารา
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1891679
|
หนาวนี้กว๊านพะเยายังฮิตแห่ขึ้นรับลมหนาว
|
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.พะเยา บรรยากาศทั่วไปในตอนเช้ามีหมอกลง อากาศหนาวเย็นอุณภูมิ 19 องศาเซลเซียส ทำให้บรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติพากันเดินทางมาเที่ยวชมทัศนียภาพและรับลมเย็นๆ ที่กว๊านพะเยาอย่างคึกคัก โดยในตอนเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้น และตอนเย็นดูพระอาทิตย์ตกลับขอบขุนเขาอย่างสวยงาม โดยมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาชมความงามกว๊านพะเยาตลอดทั้งวัน บางครอบครัวพากันมานั่งรับลม และเอาอาหารมารับประทานดูพระอาทิตย์ตกดินพร้อมกับถ่ายรูปเป็นที่ระลึก,ขณะที่อีกด้านของ จังหวัดพะเยายังประสบกับปัญหาภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรชาวสวนบางพื้นที่ขาดน้ำในการเกษตร อีกทั้งน้ำในลำห้วย และน้ำในสายหลักต่างๆ เกิดแห้งแล้งจนไม่มีน้ำทำการเกษตร เช่นเดียวกับน้ำในกว๊านพะเยาซึ่งเป็นที่กักเก็บน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับ3 ของประเทศ ก็ยังประสบกับปัญหาน้ำในกว๊านพะเยาแห้งแล้ง และน้ำเหลือไม่ถึง 50 % หรือมีปริมาณน้ำในกว๊านเพียง 13 ล้านลูกบาศก์เมตร และทางสถานีประมงน้ำจืดพะเยาได้ทำการปิดประตูระบายน้ำกักเก็บน้ำในกว๊านพะเยาไว้ อย่งไรก็ตาม กว๊านพะเยามีลำน้ำสายต่างถึง 18 สายที่ไหลมารวมตัวกันในกว๊านพะเยา เมื่อถึงหน้าฝนจะมีน้ำมากพอถึงฤดูแล้งน้ำในกว๊านพะเยาก็จะแห้ง แต่ไม่รุนแรงเหมือนกับปีนี้ ที่น้ำแห้งแล้ง จนเห็นเนินดิน ตามจุดต่างๆกระจายไปทั่วอย่างเห็นได้ชัด หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มระดับน้ำในกว๊านพะเยาคาดว่าน้ำจะต้องแห้งแล้งมากกว่านี้อย่างแน่นอน.
|
นักท่องเที่ยวยังแห่ชมความงามในหน้าหนาวที่กว๊านพะเยาอย่างคึกคัก เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นขอบฟ้า และลับขอบขุนเขา ขณะที่อีกด้านก็เกิดภัยแล้งเมื่อน้ำในกว๊านพะเยาแห้งขอดเหลือไม่ถึง 50% จนเห็นเนินดินตามจุดต่างๆ
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
กว๊านพะเยา,รับลมหนาวกว๊านพะเยา,อากาศในจ.พะเยา,ภัยแล้งกว๊านพะเยา,ลำน้ำกว๊านพะเยา,ข่าว,ไทยรับออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
|
https://www.thairath.co.th/news/local/555685
|
ยูพีอาร์เป็นกลไกยูเอ็น แต่ขับเคลื่อนด้วยประชาชนในประเทศ
|
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเมื่อวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม รัฐบาลไทยได้ตอบรับให้คำมั่นสัญญาว่าจะปฏิบัติตามข้อเสนอแนะ 181 ข้อ ที่รัฐบาลประเทศอื่นเสนอให้ไทยปฏิบัติตามเพื่อยกระดับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ไทยรับข้อเสนอแนะที่สำคัญ เช่น ผ่านกฎหมายเพื่อปราบปรามการทรมานและอุ้มหาย ให้สัตยาบันอนุสัญญาเลือกรับเรื่องต่อต้านการทรมาน คุ้มครองสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก การชุมนุมอย่างสงบ และเสรีภาพสื่ออย่างเต็มที่ คุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ออกแผนการระดับชาติเพื่อให้ภาคธุรกิจและบรรษัทคุ้มครองสิิทธิมนุษยชน รวมถึงการกระจายการศึกษา กำจัดความยากจน เข้าถึงสาธารณสุข และคุ้มครองกลุ่มบุคคลเปราะบางอย่างไรก็ดี ยังมีข้อเสนอแนะอีก 68 ข้อ ที่คณะผู้แทนไทยยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะรับไปทำหรือไม่ ส่วนใหญ่เป็นประเด็นเผือกร้อนและเป็นเรื่องสิทธิพลเมือง ที่น่าสนใจ เช่น การไม่นำพลเรือนขึ้นศาลทหาร การแก้ไขหรือยกเลิกคำสั่งคสช. ต่างๆ โดยเฉพาะคำสั่งที่ 3/2558 และ 13/2559 การทบทวนแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเสรีภาพการแสดงออก การยกเลิกการควบคุมตัวโดยพลการหรือมาตรการปรับทัศนคติ การยกเลิกโทษประหารชีวิต และการให้สถานะผู้ลี้ภัย รัฐบาลไทยมีเวลาเหลือน้อยกว่าสี่เดือนในการให้คำตอบก่อนจะถึงวาระการประชุมนัดหน้าที่คณะมนตรีฯ ในเดือนกันยายนผู้เขียนพอจะมีข้อสังเกตดังนี้ข้อเสนอแนะจากรัฐบาลประเทศต่างๆที่มีต่อไทย แน่นอนว่าใช้กรอบมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศเป็นตัวตั้ง แต่การสร้างข้อเสนอแนะต่างๆอยู่บนพื้นฐานของการเมืองระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์ ผลประโยชน์ และยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศของรัฐบาลต่างๆที่มีต่อไทยทั้งในทางการเมืองและเศรษฐกิจ สมดุลอำนาจ รวมถึงจุดยืนทางการเมืองระหว่างประเทศและประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศนั้นๆเอง เป็นเวทีที่น่าสนใจสำหรับศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆที่มีต่อไทยเมื่อกวาดตาในภาพรวม เราพอจะเห็นบล็อกของกลุ่มประเทศต่างๆ ต่อจุดยืนทางการเมืองและสิทธิมนุษยชนที่มีต่อความสัมพันธ์กับไทย เช่น กลุ่มประเทศตะวันตก โดยเฉพาะประเทศเครือสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ที่แน่นอนว่ามาพร้อมกับข้อเสนอแนะที่เข้มข้น โดยเฉพาะเรื่องสิทธิพลเมืองภายใต้รัฐบาลทหาร กลุ่มประเทศอาเซียนและเอเชียที่ให้ข้อเสนอแนะด้านสิทธิทางเศรษฐกิจและสังคม และไม่ก้าวก่ายเรื่องสิทธิพลเมืองมาก ยกเว้นบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ แน่นอนว่าส่วนหนึ่งมาจากความสามารถในการทำงานสร้างความสัมพันธ์ของสถานทูตไทย แต่ที่ผู้เขียนสนใจคือกลุ่มประเทศแอฟริกา เช่น คองโก เซียร์ร่าลีโอน หรือบอตสวานา และกลุ่มประเทศละตินอเมริกา เช่น คอสตาริกา ชิลี หรือโคลอมเบีย ที่ให้ข้อเสนอแนะที่เข้มข้นในเรื่องสิทธิพลเมือง โดยเฉพาะการคุ้มครองเสรีภาพการแสดงออกและเสรีภาพสื่อ แสดงถึงการที่กลุ่มประเทศเหล่านี้ให้ความสำคัญกับสถานการณ์ภายใต้รัฐบาลทหารของไทย ที่มาจากพื้นฐานทางการเมืองของประเทศเหล่านี้เอง และระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับไทยหลายประเทศในเวทีคณะมนตรีฯ อาทิ ออสเตรีย เกาหลีใต้ และสาธารณรัฐเชค แสดงความกังวลเรื่องบรรยากาศเสรีภาพการแสดงออกก่อนการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่จะมีขึ้นในเดือนสิงหาคม และการข่มขู่และคุกคามนักกิจกรรม นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และนักข่าว สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คณะผู้แทนไทยตอบรับข้อเสนอแนะที่มาจากมากกว่า 10 ประเทศ ว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิที่จะเสรีภาพในการแสดงออก การแสดงความคิดเห็น และเปิดเสรีภาพการดีเบทโต้เถียงในบรรยากาศก่อนการลงประชามติ รวมถึงในช่วงสี่ปีครึ่งนับจากนี้จนถึงยูพีอาร์รอบหน้า นับเป็นการแสดงคำมั่นสัญญาของรัฐบาลไทยต่อประชาคมระหว่างประเทศที่จะคุ้มครองเสรีภาพการแสดงออกของประชาชนไทย ซึ่งข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องทำงานกับหน่วยงานและเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย เพื่อแสดงให้เป็นที่ประจักษ์ต่อประชาคมระหว่างประเทศถึงคำมั่นสัญญาของคณะผู้แทนอย่างไรก็ดี ยังมีข้อเสนอแนะเป็นจำนวนมากในเรื่องสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออกที่ยังรอการตัดสินใจจากรัฐบาลไทย เช่น ข้อเสนอจากเยอรมัน ไอซ์แลนด์ ลัตเวีย สวีเดน หรือสเปน ในเรื่องการปรับแก้ไขกฎหมายภายในที่ยังไม่เป็นไปตามพันธกรณีสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศที่ไทยเป็นรัฐภาคี โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการหมิ่่นประมาทที่นำไปสู่โทษอาญา เช่น มาตรา112 (หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ) 116 (ยุยงปลุกปั่น) 326 และ 328ของประมวลกฎหมายอาญา และพรบ. อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ เนื่องจากกฎหมายเหล่านี้มีความเสี่ยงที่อาจถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อคุกคามหรือหยุดยั้งนักกิจกรรม นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และกลุ่มบุคคลที่เห็นต่างจากรัฐบาล แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนลเองเรียกร้องให้ไทยยกเลิกหรือแก้ไขกฎหมายที่ว่าด้วยการหมิ่นประมาทดังกล่าวที่ไม่ควรเป็นโทษอาญาเป็นที่แน่นอนว่า หากไทยประกาศไม่รับข้อเสนอแนะที่ยังเหลือว่าด้วยการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวที่ไม่เป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก ย่อมทำให้ข้อเสนอแนะที่ไทยประกาศรับไปแล้วในเรื่องการคุ้มครองเสรีภาพการแสดงออกและเสรีภาพสื่อก่อนหน้า ไม่สอดคล้องและไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างไรก็ดี การที่เจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรมได้กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมคณะมนตรีฯ ว่าไทยตั้งใจที่จะผ่านร่างพรบ.ปราบปรามการทรมานและอุ้มหาย เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างสมดุลในทางสร้างสรรค์แก่คณะผู้แทนไทย และเป็นไปตามข้อเสนอแนะจากหลายประเทศในเรื่องการปราบปรามการทรมาน อย่างไรก็ดี ร่าง พรบ.ฉบับดังกล่าวในปัจจุบันขณะที่บทความนี้กำลังร่าง (15 พฤษภาคม) ยังไม่ผ่านการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และองค์ประกอบของคณะกรรมการฯที่ร่าง พรบ.นี้จัดตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบและสอบสวนการทรมาน ยังไม่มีความเป็นกลางและเป็นอิสระตามที่อนุสัญญาต่อต้านการทรมานระบุข้อกำหนดไว้แน่นอนว่า ยูพีอาร์เป็นกลไกทางการเมืองที่ใช้แรงกดดันจากรัฐสมาชิกยูเอ็นในการให้ข้อเสนอแนะต่างๆแก่รัฐบาลไทย ซึ่งไม่มีผลผูกมัดทางกฎหมายระหว่างประเทศ การที่กลไกที่มีลักษณะการทูตเช่นนี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางรูปธรรมได้ เป็นที่แน่นอนอย่างน้อยสำหรับผู้เขียนว่า ยูพีอาร์ต้องขับเคลื่อนด้วยประชาชนในประเทศเป็นสำคัญ ความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดที่ผู้เขียนสังเกตได้ระหว่างยูพีอาร์รอบที่แล้วเมื่อปี 2555 กับรอบนี้ นอกจากสถานการณ์ทางสิทธิมนุษยชนในไทยที่เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว ในรอบนี้มีคนหลายกลุ่มในประเทศไทยที่ให้ความสนใจยูพีอาร์ อาทิ มีกลุ่มหรือองค์กรในประเทศจัดงานถ่ายทอดสดเวทีคณะมนตรีฯ ในจังหวัดต่างๆ เช่น ปัตตานี เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ สื่อมวลชนให้ความสนใจและรายงานความเคลื่อนไหวจากเวทีดังกล่าว ผู้ใช้โซเชียลมีเดียแชร์เรื่องราวให้เพื่อนในโลกออนไลน์อ่าน ปรากฎการณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเด่นชัดในยูพีอาร์รอบแรก การดึงกลไกยูเอ็นระดับเจนีวาลงมาสู่ประเทศไทย เป็นกุญแจสำคัญในการทำให้กลไกการทูตเช่นนี้สร้างผลกระทบในทางรูปธรรมได้สิ่งที่ประชาชนอย่างผู้เขียนและคุณผู้อ่านทำได้ก่อนคือ ติดตามในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกันยายนที่จะถึงว่า รัฐบาลไทยจะรับข้อเสนอแนะเพื่มเติมอีก 68 ข้อหรือไม่ ถ้าไม่รับข้อใด รัฐบาลไทยต้องมีคำอธิบายชี้แจงอย่างละเอียดว่าเหตุใดถึงรับไม่ได้ และกำหนดกรอบระยะเวลาในการลงมือปฏิบัติตามข้อเสนอแนะแต่ละข้อ ที่น่าสนใจคือ ข้อเสนอแนะว่าด้วยสิทธิพลเมืองหลายข้อที่ยังเหลือค้างอยู่นั้น หลายข้อไม่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรทางการเงินเพิ่มเติมอย่างสำคัญ แต่ใช้ความเป็นผู้นำทางการเมืองที่ดีในการตัดสินใจ และใช้ความตั้งใจของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายที่จะคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแก่ประชาชนไทย
|
ผ่านไปแล้วสำหรับเวทีการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนหรือยูพีอาร์ (UPR – Universal Periodic Review) รอบประเทศไทย โดยรัฐสมาชิกยูเอ็นมากกว่า 100 ประเทศ ที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชน กรุงเจนีวา
|
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
|
UPR,ยูพีอาร์,อกนิษฐ์ หอรัตนคุณ,แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
|
https://prachatai.com/journal/2016/05/65910
|
สาธารณะ VS ความเป็นส่วนตัว สถานการณ์โลกออนไลน์ไทย ครึ่งปี 56
|
นักมานุษยวิทยาระบุสังคมไทยไม่มีพื้นที่ส่วนตัวให้คนสาธารณะ นักกฎหมายชี้ไทยยังไม่มี กม.คุ้มครองความเป็นส่วนตัว คนถูกถ่ายภาพกลับไม่มีสิทธิเรียกร้อง ซ้ำยังคุ้มครองลิขสิทธิ์ภาพอีก(21 ส.ค.56) ฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ คณะสังคมวิทยาและมานุษวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ร่วมกับเครือข่ายพลเมืองเน็ต จัดการสัมมนา เรื่อง คน อินเทอร์เน็ต และความเป็นส่วนตัว: สำรวจสถานการณ์การละเมิดความเป็นส่วนตัวออนไลน์ไทย ครึ่งปีแรก พ.ศ.2556 ที่ห้องบรรยายโครงการปริญญาเอก คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา อาคารคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มธ.ในการสัมมนา มีการเสนอความคืบหน้างานวิจัยและสำรวจการละเมิดความเป็นส่วนตัวในสังคมออนไลน์ ระหว่าง ม.ค.-มิ.ย.56 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Thai Online Services Privacy Policy and Security Measures: Evalution and Public Understanding ซึ่งจะสำรวจนโยบายความเป็นส่วนตัว มาตรการรักษาความปลอดภัย และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริการออนไลน์ในประเทศไทย และนำเสนอข้อค้นพบ เพื่อให้ผู้บริโภคใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกใช้บริการ โดยงานวิจัยมีระยะเวลา 2 ปี ระหว่างปี 56-58ในการเก็บข้อมูล จะสุ่มสำรวจตามเว็บไซต์ต่างๆ ดูเว็บบอร์ดว่ามีการพูดถึงการละเมิดความเป็นส่วนตัวอย่างไรบ้าง เช่น เว็บพันทิป ซึ่งคนมักเข้ามาระบายปัญหา รวมถึงปรากฏการณ์ในสังคมออนไลน์ เช่น เพจเฟซบุ๊ก CMU cute ยามโดยแบ่งปัญหาที่พบจากการสำรวจออกเป็น 3 แบบคือ การละเมิดความเป็นส่วนตัวของธุรกิจเอกชน การละเมิดความเป็นส่วนตัวของหน่วยงานรัฐ และการละเมิดความเป็นส่วนตัวระหว่างผู้ใช้บริการออนไลน์ด้วยกันเอง1. การละเมิดจากธุรกิจเอกชน ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการจัดเก็บและจัดการข้อมูลส่วนตัวจำนวมากของผู้ใช้บริการ แบ่งเป็น- การเผยแพร่อีเมลของลูกค้าโดยไม่ได้ตั้งใจ ยกตัวอย่างกรณีบริการเพย์สบาย ส่งอีเมลประชาสัมพันธ์ถึงลูกค้า โดยใส่ในช่อง to ทำให้ผู้รับทุกคนเห็นอีเมลของคนอื่นๆ ไปด้วย เวลาที่อีเมลผิดและตอบกลับอัตโนมัติ ทุกคนในกลุ่มก็จะได้รับอีเมลพร้อมๆ กัน ซึ่งลูกค้าถูกรบกวนมาก- การส่งต่อข้อมูลให้บุคคลที่สาม เช่น ห้างสรรพสินค้านำเอาข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าที่เป็นสมาชิกให้บริษัทประกัน โดยเมื่อมีการสอบถาม ทางห้างก็รับว่า มีการทำแคมเปญร่วมกับบริษัทประกันอื่น กรณี้นี้พบในบริการออนไลน์จำนวนมากคำถามคือ-ตกลงแล้วข้อมูลส่วนตัวเป็นของใคร ผู้ให้บริการหรือผู้ใช้บริการ-เราควรมีสิทธิรู้ไหมว่าข้อมูลของเราจะเคลื่อนที่ไปอย่างไร-ผู้ใช้บริการไม่เข้าใจระบบการจัดเก็บข้อมูลของผู้ให้บริการ หรือ ผู้ให้บริการไม่เคยอธิบายการนำไปใช้2.การถูกละเมิดจากรัฐ ขณะนี้ยังหากรณีที่ชัดเจนไม่ได้ เท่าที่พบ มีกรณีที่เว็บสำนักทะเบียนของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเข้าถึงฐานข้อมูลได้ง่าย เพียงรู้รหัสนิสิตนักศึกษาก็สามารถเข้าไปในฐานข้อมูลเพื่อเอารูปถ่ายออกมาได้ โดยการจะหารหัสนิสิตก็ไม่ยาก เพียงแค่พิมพ์ชื่อ-นามสกุล ก็เจอแล้ว กรณีนี้ทำให้เห็นความอ่อนแอของระบบฐานข้อมูลของสำนักทะเบียนฯ ซึ่งนำมาสู่คำถามถึงความปลอดภัยของระบบฐานข้อมูลของรัฐด้วย3. การถูกละเมิดโดยผู้ใช้บริการด้วยกันเอง เช่น การถ่ายภาพบุคคลอื่น แล้วนำมาโพสต์โดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น กรณีการถ่ายรูป รปภ. มช. มาลงในเฟซบุ๊ก ขณะที่คนอื่นไม่รู้สึกว่าได้ทำอะไรให้เสียหาย แต่ผลออกมาว่า รปภ.คนดังกล่าวระบุว่า กระทบกับความสัมพันธ์ของเขากับแฟน นอกจากนี้ ยังมีการใช้ข้อมูลส่วนตัวเพื่อกลั่นแกล้ง จากความขัดแย้งส่วนตัว หรือความขัดแย้งทางการเมือง เช่น กรณีเพจยุทธการณ์ลงทัณฑ์ทางสังคม ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อ 2-3 ปีก่อน มักนำข้อมูลส่วนตัวของคนมาประจานบนเฟซบุ๊กและเกิดการส่งต่อ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ เพจดังกล่าวลงข้อมูลส่วนตัว คือ ชื่อและตำแหน่งของหมอคนหนึ่งซึ่งทางเพจเห็นว่าทำสิ่งที่ไม่สมควร แต่ลงรูปผิดคน ทำให้เจ้าของรูปได้รับความเสียหายและไปแจ้งความ ซึ่งต่อมา เพจดังกล่าวประกาศปิดตัวเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ขณะที่เจ้าของรูปก็ถูกสังคมตำหนิไปแล้วโดยสรุป ข้อมูลส่วนตัวที่พบในออนไลน์มีตั้งแต่ ชื่อ-นามสกุล ภาพถ่าย บัญชีธนาคาร รหัสผ่าน ประวัติการศึกษา เบอร์โทร อีเมล ที่อยู่ ข้อความสนทนา คุกกี้ไอพีแอดเดรส สถานที่ที่เคยอยู่ ซึ่งหลายครั้ง ผู้ใช้ก็เป็นผู้นำเข้าด้วยตัวเอง ส่วนผลจากการละเมิด มีทั้งที่เกิดกับทรัพย์สิน อาชีพ ความสัมพันธ์ ความปลอดภัยของร่างกาย และชื่อเสียงจากการสำรวจ ทำให้เกิดคำถามต่อความเป็นส่วนตัว ดังนี้-ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล การศึกษา เป็นปัญหาอย่างไร มันยังคงมีความเป็นส่วนตัวหรือไม่ และข้อมูลใดบ้างที่ควรจะเป็นข้อมูลส่วนตัว เพราะแม้เป็นเรื่องที่รู้กันทั่วไป แต่เมื่อมีอะไรเกิดขึ้น ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้กลั่นแกล้งได้ โดยเมื่อเอาข้อมูลต่างๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ในออนไลน์มารวบรวม ก็อาจหาตัวและทำร้ายกันได้-การคุ้มครองข้อมูลส่วนตัว ผู้ใช้เว็บเครือข่ายสังคมออนไลน์รู้ตัวมากแค่ไหนว่ากำลังทำอะไรอยู่ เช่น รู้ไหมว่าเฟซบุ๊กเอาข้อมูลไปใช้ได้ ด้วยเหตุผลว่าเพื่อการโฆษณา หรือทวิตเตอร์ มีปุ่มที่อนุญาตให้บอกตำแหน่งที่โพสต์ได้-โลกออนไลน์เป็นพื้นที่ส่วนตัวหรือพื้นที่สาธารณะกันแน่ ความหมายของความเป็นส่วนตัวนั้นไม่แน่นอนขึ้นกับหลายปัจจัยและบริบท เช่น คนต่างวัฒนธรรม ต่างอาชีพ ต่างสถานะทางสังคม อาจมีความเห็นต่อเรื่องความเป็นส่วนตัวไม่เหมือนกัน-ความเป็นส่วนตัวสำคัญไหม และควรคุ้มครองหรือไม่-ทุกวันนี้ ผู้ใช้บริการเข้าใจกระบวนการไหลเวียนของข้อมูลข่าวสารในเน็ตแค่ไหน มีผู้ให้บริการที่เปิดเผย-โปร่งใสแค่ไหน ทั้งนี้ ขึ้นกับกฎหมายของแต่ละประเทศ ซึ่งจะบังคับเรื่องนี้ เช่น เว็บสายการบินแห่งชาติ อาจหาเนื้อหาเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวไม่เจอ ขณะที่เว็บของสายการบินโลว์คอสของต่างชาติ กลับเขียนเนื้อหาละเอียดมาก ยาว 10 หน้า กระดาษเอสี่ เพราะกฎหมายของประเทศนั้นๆ เข้มงวดเรื่องนี้อ่านงานวิจัยได้ที่เมื่อพูดถึงความเป็นส่วนตัว สนใจใน 3 ประเด็นคือ 1.ความเข้าใจเรื่องความเป็นส่วนตัวกับความเป็นสาธารณะ 2.ระเบียบสังคมของความเป็นส่วนตัว และ 3.ระดับของความเป็นส่วนตัว1.ความเข้าใจเรื่องความเป็นส่วนตัวกับความเป็นสาธารณะจากตัวอย่างงานวิจัย จะพบว่ามีคนสองแบบคือ คนสาธารณะ ซึ่งแทบไม่มีความเป็นส่วนตัวหรือมีน้อยมาก พวกเขาถูกคาดหวังจากสังคมให้เปิดเผยหมด แง่นี้น่ากลัว เหมือนวัฒนธรรมไทยเห็นว่า ถ้าเป็นคนสาธารณะต้องถูกตรวจสอบตลอดเวลา หมดจด ควบคุมตัวเอง วางระเบียบให้กับตัวเอง ไม่มีพื้นที่ไหนที่ไม่ถูกสังคมควบคุม ขณะที่คนทั่วไปมีพื้นที่ส่วนตัวสังคมไทยไม่ให้พื้นที่ส่วนตัวกับคนสาธารณะ ขณะที่ในตะวันตก การรุกล้ำบางพื้นที่เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว และในทางกลับกัน ในไทยก็มีคนสาธารณะบางกลุ่มได้รับการพิทักษ์ความเป็นส่วนตัวมากกว่าคนอื่น แม้คนจะเห็นเรื่องส่วนตัวแล้วก็พูดไม่ได้ เปิดเผยแล้วผิดได้ เพราะได้รับการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวเป็นพิเศษ เป็นการคุ้มครองทางวัฒนธรรม นั่นคือ กรณีกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่คุ้มครองคน 4 คน และถูกใช้ในลักษณะพิเศษคือไม่ใช่แค่การดูหมิ่น แต่รวมถึงการเปิดเผยความเป็นส่วนตัวของคนเหล่านี้นอกจากคนสาธารณะที่สังคมไทยยอมให้เปิดเผยมากในระดับหนึ่งแล้ว ยังมีคนที่มีผลต่อสาธารณะ ที่จะถูกละเมิดได้ สองแบบ แบบหนึ่งคือ คนที่มีผลในทางเสียหาย จะถูกประณาม ประจาน เช่น การถ่ายคลิปเจ้าหน้าที่ที่ทำไม่ดี เหมือนกับว่าสังคมไทยยอมให้มีการเปิดโปง เปิดเผยเรื่องส่วนตัวกรณีที่คนๆ นั้นรบกวนระเบียบของสังคม เมื่อนั้นจะมี social sanction ขึ้น ขณะที่ทางหนึ่งมี social favour ให้รางวัลทางสังคมกับคนที่ดูดี ทำความดี ภาพของเด็กที่ดูแลพ่อแม่แก่ชรา จะถูกฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เท่ากับเด็กจะถูกรบกวนความเป็นส่วนตัวในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตหรืออาจจะตลอดไป น่าสนใจว่าทำไมสังคมไทยถึงคิดถึงความเป็นสาธารณะมากกว่าความเป็นส่วนตัว และยอมให้มีการคุกคามความเป็นส่วนตัวได้ในบางลักษณะอีกกลุ่มคือ กลุ่มที่ไม่มีอำนาจต่อรองในสังคม บางครั้งถูกละเมิดได้โดยง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสื่่อ เช่น ผู้ทุพพลภาพทางจิตใจหรือสมอง ภาพของคนบาดเจ็บ เสียชีวิต หรือคนที่อยู่ในสถานะที่ต่ำในสังคมนอกจากนี้แล้ว แง่หนึ่ง ความเป็นส่วนตัวยังดูลึกลับ เซ็กซี่ สร้างอำนาจให้กับผู้ใช้ได้ หากเลือกใช้เป็น ในทางกลับกัน หากใช้ไม่เป็น ก็อาจคล้ายการเดินล่อนจ้อนตลอดเวลา และที่สุดจะไม่มีคนสนใจโดยสรุป มองว่า เรื่องความเป็นส่วนตัวมีอะไรที่ยอกย้อนซับซ้อน มากกว่าการละเมิดทางกฎหมาย2.ระเบียบสังคมของความเป็นส่วนตัวหากเข้าใจระเบียบสังคมของความเป็นส่วนตัว อาจช่วยขยายความเข้าใจนอกเหนือกฎหมาย หรือเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมคนมีแนวโน้มละเมิดกฎหมาย หรืออาจทำให้ไม่ต้องใช้กฎหมายบางลักษณะ เพราะสังคมอินเทอร์เน็ตมีระเบียบสังคม จัดการกันเองได้ เป็นการตีขอบวงปริมณฑลของการที่สังคมจะดูแลกันเองหรือการที่รัฐจะเข้ามายุ่งกับสังคม ทั้งนี้ที่ผ่านมา เราเห็นแนวโน้มที่รัฐตื่นตระหนกและร่างกฎหมายละเมิดสิทธิเอกชน สิทธิส่วนตัว สิทธิชุมชน หรือสิทธิของประชาสังคมมากขึ้นสำหรับกฎหมายนั้น แม้ว่าจะใช้กับทุกคนเสมอกัน แต่ด้านกลับ กฎหมายก็อาจละเมิดทุกคนอย่างเสมอกัน หรือเปิดโอกาสให้รัฐละเมิดปัจเจกทุกคนอย่างเสมอกันได้ นอกจากนี้ กฎหมายยังอาจอยู่ในมือคนที่ใช้อย่างคับแคบ หรือใช้ในช่วงสถานการณ์คับแคบได้มีงานวิจัยของต่างประเทศที่ทำให้เห็นว่าระเบียบสังคมของสังคมออนไลน์แต่ละปริมณฑลไม่ได้มีหน้าตาเหมือนกัน อาจมีบางสังคมเป็นแบบปิด โดยแอดมิน 1-2 คน มีอำนาจเด็ดขาด หรือมีแอดมินที่นั่งดูเฉยๆ ให้มากที่สุด ปล่อยให้ควบคุมกันเอง เช่น ชุมชนวิกิพีเดียแง่นี้ พื้นที่เหล่านั้นมันรวมพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ส่วนตัว เช่น เฟซบุ๊ก มีคำถามว่าการโพสต์แบบ public คืออะไร เป็นสาธารณะขนาดไหน บางครั้งเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยอ้างว่าข้อมูลนั้นๆ เป็นสาธารณะแล้ว ใครก็เอาไปเผยแพร่ได้ อย่างไรก็ตาม มองว่าความเป็นสาธารณะ บางครั้งถูกสร้างโดยมีบริบทของมัน ไม่ได้เป็นสาธารณะอย่างแท้จริงหรือเป็นสากล และอาจกลายเป็นเครื่องมือทำให้ถูกละเมิดได้ เช่น ถูกเอาไปหากิน ใช้ในสื่อ เช่น นสพ.ออนไลน์ ซึ่งมีรายได้จากโฆษณา เป็นการเปลี่ยนพื้นที่สาธารณะเป็นสมบัติส่วนตัวของบางพื้นที่ จึงน่าสนใจว่าระเบียบสังคมในโลกออนไลน์ไม่ได้รัดกุมและเปิดให้ละเมิดได้ง่าย แล้วกฎหมายจะเข้ามาอย่างไร หรือเราต้องนั่งอ่านนโยบายหลายพันตัวอักษร3.ระดับของความเป็นส่วนตัว ไม่ได้จำกัดหน่วยการละเมิดแค่ระดับปัจเจก แต่รวมถึงชุมชนและสังคมด้วย เช่น นักข่าวพลเมือง ที่แม้จะเขียนข่าวด้วยความปรารถนาดี แต่แง่หนึ่งอาจละเมิดความเป็นส่วนตัวของชุมชนหรือสังคมนั้น กรณีนี้จะเห็นว่ามีความเป็นส่วนตัวในระดับชุมชนอยู่สังคมไทยบอกว่าเรื่องบางคนควรถูกเปิดเผยเพราะกระทบสาธารณะ ถามว่าเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ว่าการกระทำของคนๆ นี้มีผลเสียต่อสังคม และบนบรรทัดฐานของใคร สังคมไทยซับซ้อนมากขึ้น ไม่สามารถบอกได้ว่า ดี เลว มีแบบเดียว ทำให้ต้องคิดต่อว่า ในการควบคุมการละเมิด การควบคุมการบุกรุกความเป็นส่วนตัว แม้กฎหมายจะมีประโยชน์ แต่ทำอย่างไรให้กฎหมายไม่แข็งเกินไป หรือเปิดให้ละเมิดปัจเจกและภาคประสังคมเข้าไปอีกความเป็นส่วนตัว พิจารณาจากศาสตร์เดียวไม่ได้ แต่ต้องใช้หลายศาสตร์ประกอบกัน มีนักวิชาการบอกว่า ความเป็นส่วนตัวมันสัมพัทธ์และมีพลวัต โดยต้องดูเทียบกับสิทธิอื่นในทางตรงข้าม เช่น สิทธิความเป็นส่วนตัว กับสิทธิที่จะรู้ และสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งกฎหมายต้องพยายามหาจุดสมดุลการทำความเข้าใจความเป็นส่วนตัวต้องเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งาน ซึ่งมีความขัดแย้งในตัวเอง คือ อยากมีความเป็นส่วนตัว ขณะที่ก็อยากแชท แชร์ แฉ ขึ้นอยู่กับว่าเขาต้องการอะไรปัญหาของกฎหมายไทยต่อประเด็นความเป็นส่วนตัว-ด้านเนื้อหา ไม่มีกฎหมายโดยตรงมาบังคับใช้ ต้องปรับใช้กับกฎหมายที่มีอยู่ โดยยกตัวอย่างหากถูกรบกวนทุกช่องทางจากการขายตรง ทั้งสแปมเมล หน้าเฟซบุ๊ก โทรศัพท์ เอสเอ็มเอส เมื่อไปแจ้งความ ตำรวจก็อาจไม่รับแจ้งได้ เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ อีกตัวอย่างคือ การถ่ายรูป ไม่มีกฎหมายไทยสักฉบับที่บอกว่าการถ่ายรูปผู้อื่นผิด ตำรวจจะรับแจ้งความเพียงกรณีถ่ายภาพลามกอนาจารเท่านั้น ภาพในลักษณะอื่นไม่คุ้มครอง หรือไม่ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเสียชื่อเสียงอย่างไร กรณีนี้ เคยมีชาวต่างชาติถ่ายภาพคนนั่งหลับบนรถไฟฟ้า แล้วไปขายได้เป็นพันดอลลาร์ แต่ประชาชนกลับไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไร ขณะที่คนถ่ายรูปได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ภาพถ่ายอยากให้มี social sanction โดยช่วยกันดูแล ในต่างประเทศ มีความพยายามให้เกิดการกำกับกันเอง เช่น ในสหรัฐฯ อัยการเรียกเฟซบุ๊กมาพูดคุย และทำข้อตกลงกัน ให้คุ้มครองความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้-ด้านการบังคับใช้ ยกตัวอย่างกรณีผู้หญิงคนหนึ่งเคยถูกนำภาพและข้อมูลในเฟซบุ๊กไปเปิดบัญชีชื่อใหม่ ทำให้เจ้าตัวเสียหาย ปรากฏว่า เมื่อไปแจ้งตำรวจ ตำรวจบอกให้ไปที่กระทรวงไอซีที ทั้งที่ตำรวจมีกฎหมายอาญาอยู่แล้ว เมื่อไปถึงไอซีที ไอซีทีก็ประสานเฟซบุ๊กให้เอาออก ผลคือแม้จะประสานงานให้เอาออกได้ แต่อาชญากรยังลอยนวลอยู่ ถ้าเป็นอย่างนี้คนทำก็ยังสามารถนำข้อมูลและภาพถ่ายไปใช้สร้างเพจได้อีก ถามว่า ก็ต้องทำไปเรื่อยๆ อย่างนี้ทุกครั้งหรือเสนอให้มีการวิจัยเพิ่มเติมในประเด็น-cybey stalking การเฝ้าติดตามคุกคามออนไลน์ กฎหมายไทยยังไม่มีเรื่องนี้ มาให้ความสนใจตอนที่ถูกฆ่าไปแล้ว-cybey harassment การคุกคามออนไลน์ ส่วนใหญ่มีมูลเหตุจากเรื่องเพศ-cyber bullying การกลั่นแกล้งออนไลน์ ในต่างประเทศ พบกรณีเด็กนักเรียนฆ่าตัวตายเพราะถูกกลั่นแกล้งออนไลน์จำนวนมาก ขณะที่ของไทยยังไม่มีการสำรวจเรื่องนี้กฎหมายไทยยังไม่มีคอนเซ็ปท์เรื่องคนสาธารณะบัญญัติชัดเจน ในสหรัฐฯ พัฒนาจากคำพิพากษา แบ่งได้เป็น บุคคลสาธารณะแบบสมัครใจ ไม่สมัครใจ และสถานการณ์บังคับ ขณะที่ของไทย ศาลก็พยายามพัฒนาจากกฎหมายอาญาเรื่องการหมิ่นประมาท โดยคนสองกลุ่ม คือ นักการเมือง และนักแสดง ให้แฉได้ หากเป็นประโยชน์สาธารณะ อย่างไรก็ตาม คอนเซ็ปท์นี้ก็ยังไม่ชัดเจน ขึ้นกับแต่ละคดีไป
|
เครือข่ายพลเมืองเน็ตเปิดผลสำรวจการละเมิดความเป็นส่วนตัวออนไลน์ สังคมไทยเข้าใจเรื่องนี้แค่ไหน?
|
วัฒนธรรม,ไอซีที,การศึกษา
|
คณาธิป ทองรวีวงศ์,ความเป็นส่วนตัว,ธิติมา อุรพีพัฒนพงศ์,ยุกติ มุกดาวิจิตร,เครือข่ายพลเมืองเน็ต,โลกออนไลน์
|
https://prachatai.com/journal/2013/08/48332
|
เมย์เวทเธอร์ มั่นใจชนะ ค็อตโต้ ชิงแชมป์ซูเปอร์เวลเตอร์เวท
|
ฟลอยด์เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ นักชกชาวอเมริกันเจ้าของแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวทของ WBC เตรียมขึ้นชกชิงเข็มขัดแชมป์รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวทของ WBA กับมิเกล ค็อตโต้ เจ้าของเข็มขัดชาวเปอร์โตริโก้ โดยเมย์เวทเธอร์ยอมรับว่า ค็อตโต้เป็นนักชกที่อันตรายและแข็งแกร่ง แต่ก็มั่นใจว่าจะชนะได้แน่นอน เช่นเดียวกับค็อตโต้ที่บอกว่าเขามาที่นี่เพื่อชัยชนะหลังจากที่ฝึกซ้อมอย่างหนักตลอดเวลาที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้เมย์เวทเธอร์พลาดโอกาสขึ้นชกไฟต์ประวัติศาสตร์กับแมนนี่ ปาเกียว ซึ่งเมย์เวทเธอร์ต้องการให้ปาเกียวตรวจสารกระตุ้นทุกรูปแบบตามกฏของโอลิมปิก แต่ปาเกียวก็ได้เปิดเผยว่า สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ไฟต์นี้ไม่เกิดขึ้น เนื่องจากเมย์เวทเธอร์ต้องการเงินค่าเพย์เพอร์วิวถึง 160 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับไฟต์ระหว่างเมย์เวทเธอร์ กับ ค็อตโต้ จะชกกันที่สังเวียนเอ็มจีเอ็ม แกรนด์ วันที่ 5 พ.ค. เทนนิสเอสโตริล โอเพ่น ที่ประเทศโปรตุเกส รอบแรก เฟเดริโก กิล นักเทนนิสเจ้าถิ่น รองแชมป์เมื่อปีที่แล้วพลาดท่าตกรอบหลังแพ้ให้กับ บียอร์น เพา นักเทนนิสเยอรมนี 2 เซตรวด 4-62-6 เพา ผ่านเข้ารอบ 2 ไปพบกับอัลเบิร์ต รอมอสจากสเปนอีกคู่เป็นการพบกันของ 2 นักเทนนิสเจ้าถิ่น ซึ่งปรากฎว่า รุย มาเคด้า เอาชนะเปโดร ซูซ่า ที่ผ่านมาจากรอบคัดเลือก 6-7 ไทเบรก 3-76-16-2 มาเคด้าผ่านเข้ารอบ 2 ไปพบกับศึกหนัก ฮวน มาร์ติน เดล ปอโตร แชมป์เก่าจากอาร์เจนติน่า
|
ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ และ มิเกล ค็อตโต้ ต่างก็มั่นใจจะเป็นฝ่ายชนะในการชกชิงแชมป์รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท
|
กีฬา
|
ซูเปอร์เวลเตอร์เวท,ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์,มิเกล ค็อตโต้,แชมป์
|
https://news.thaipbs.or.th/content/82450
|
ถอดโม่ง ใครฉวยจังหวะแบน 3 สาร ดันจุลินทรีย์
|
เป็นเรื่องการเมืองจนได้ เมื่อ พี่จ้อน อลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ ลงพื้นที่ตรวจไร่อ้อย 600 ไร่ จ.สุพรรณบุรี เขาว่าเป็นเกษตรอินทรีย์ 100% ใช้ ที่ถืออยู่ในมือนั่นแหละสาวดูก็พบว่า PICO ยี่ห้อนี้เป็นของ ที่ตั้งอยู่ใน จ.บุรีรัมย์ กระทั่งถูกโยงไปยังพ่อเลี้ยงใหญ่ จ.เชียงใหม่ ตามที่ไทยพีเอสเคยเปิดประเด็นไปก่อนหน้านี้อ่านเพิ่ม พี่จ้อน ก็รีบแจงทันที (เฟซบุ๊ก อลงกรณ์ พลบุตร วันที่ 16 พ.ย.2562) ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับทุนการเมือง เพราะจุลินทรีย์ยี่ห้อดังกล่าว ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย แต่ดันใช้กันถ้วนทั่ว และประกาศว่าเป็นจุลินทรีย์ 100%ส่วนตัวอลงกรณ์เอง ก็อ้างว่ามาตามข้อเสนอ ผอ.กองนโยบายเทคโนโลยีฯ (กนท.) ไม่มีกลุ่มการเมืองใดพามาไม่จบเท่านั้น ก็โร่แจงกับสื่อ ยืนยันหนักแน่นว่าไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทพ่อเลี้ยงเชียงใหม่ –พ่อตานักการเมืองบุรีรัมย์อ่านเพิ่ม ปรากฎว่าภาพที่ออกมาผ่านสื่อมวลชนก็เห็นชัด ว่ามีเจ้าของบริษัทจุลินทรีย์ฆ่าหญ้าร่วมคณะไปด้วยและเขาคนนี้ก็ให้สัมภาษณ์เสียดิบดีอย่างกับเป็นเจ้าของ PICO คนนี้คือ อ่านเพิ่ม รูปภาพจากไอเอ็นเอ็น ฐปนรมย์ แจ่มใส คือคนในวงกลมสีแดงรูปภาพจากไอเอ็นเอ็น ฐปนรมย์ แจ่มใส คือคนในวงกลมสีแดงที่ยังน่าสงสัยคือ ฐปนรมย์ มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับ PICO เพราะนายฐปนรมย์ มีชื่อเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท วอน ซิสเต็มส์ฯแต่วันลงพื้นที่จุลินทรีย์ที่ยัดใส่มือ พี่จ้อน เป็นยี่ห้อ PICO ไม่ใช่ ไบโอกรีนเสทเรื่องของผลตรวจ ถ้า PICO เป็นจุลินทรีย์แท้ ปลอดภัยจริง ก็ถือเป็นโชคดีของเกษตกรที่จะมีทางเลือกเพิ่มข้อพิสูจน์เรื่องนี้ไม่ยาก รอเพียงผลตรวจแล็บจากกระทรวงเกษตรฯ อย่างที่บอกแต่แรกว่า แต่ถ้าเจอของยัดไส้ก็ถึงเวลาที่จะต้อง กันเสียที
|
เปิดเบื้องหลังเอกชนดันจุลินทรีย์ใช้แทน 3 สารอันตราย พาทีมงานกระทรวงเกษตรฯ ดูไร่อ้อย จ.สุพรรณบุรี
|
ไทยพีบีเอส อินไซส์
|
เบื้องหลังแบน3สาร,จุลินทรีย์ฆ่าหญ้า
|
https://news.thaipbs.or.th/content/286480
|
สื่อดังอัปเดต 3 ดีลยักษ์ผีแดง แม็คไกวร์-ดีบาลา-เฟอร์นันเดส
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 2 ส.ค. ว่า ความเคลื่อนไหวในตลาดซื้อขายนักเตะของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ล่าสุดมีอัปเดตในเรื่องของการที่จะคว้าตัว แฮร์รี แม็คไกวร์ กองหลังของเลสเตอร์ ซิตี้, บรูโน เฟอร์นันเดส กองกลางของสปอร์ติง ลิสบอน และ เปาโล ดีบาลา แนวรุกของยูเวนตุส,เริ่มกันที่ สกายสปอร์ต สื่อดังของอังกฤษ ระบุว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมยื่นข้อเสนอครั้งที่ 3 จำนวน 80 ล้านปอนด์ เพื่อขอซื้อตัว แม็คไกวร์ มาร่วมทัพ และถ้าข้อเสนอนี้ยังถูก เลสเตอร์ ซิตี้ ปฏิเสธ ทางปิศาจแดงจะเบนเป้าหมายไปล่ากองหลังรายอื่นแทนทันที,ส่วนดีลการย้ายสลับขั้วระหว่าง โรเมลู ลูกากู กับ เปาโล ดีบาลา กองหน้ายูเวนตุส ล่าสุดมีรายงานเผยว่า ลูกากู ตกลงเงื่อนไขส่วนตัวกับ ยูเวนตุส ได้แล้ว เหลือเพียงให้ ดีบาลา ตัดสินใจโยกมาค้าแข้งกับยูไนเต็ดเท่านั้น,ขณะที่ อาร์ทีพี สื่อชื่อก้องในโปรตุเกส ระบุว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่อแววชวดได้ตัว บรูโน เฟอร์นันเดส กองกลางทีมชาติโปรตุเกสของ สปอร์ติง ลิสบอน หลังล่าสุดทีมคู่แข่งร่วมพรีเมียร์ลีกอย่าง ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ส่งตัวแทนเดินทางไปที่กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เพื่อเปิดฉากการเจรจาคว้าตัว เฟอร์นันเดส คาดว่าค่าตัวอยู่ที่ 56 ล้านปอนด์
|
สื่อนอกอัปเดตความคืบหน้า ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการไล่ล่าตัว 3 แข้งเป้าหมายสำคัญมาเสริมทัพ
|
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
|
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,แฮร์รี แม็คไกวร์,บรูโน เฟอร์นันเดส,เปาโล ดีบาลา,โรเมลู ลูกากู
|
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1628365
|
แฟนคลับเฮ นาย ณภัทร พร้อมเกรียน เข้าร่วม แก๊งคนดีที่ไหน เรียบร้อยแล้ว
|
หลังจากที่โดนทาบทามมาเนิ่นนาน นาย ณภัทร เสียงสมบุญ ก็กลายเป็นอีกหนึ่งสมาชิกของ แก๊งคนดีที่ไหน ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่มีสมาชิก อาทิ บอย ปกรณ์, เจมส์ จิรายุ, เกรท วรินทร, อาเล็ก ธีรเดช และ เป็ก เปรมณัช รุ่นใหญ่สายฮานำทีม,โดย นาย ได้บอกว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมแก๊ง ซึ่งตนยินดีเข้าร่วมแน่นอน ส่วนแม่หมู พิมพ์ผกา ไม่ได้ว่าอะไร เพราะแม่ก็ติดตามพี่ๆ เขาอยู่,เห็นว่าถูกเชิญให้เข้าร่วมแก๊งคนดี?,พวกพี่ๆ มีเชิญให้เข้าแก๊งทางไอจีครับ แล้วก็เจอกันตามงาน รู้สึกเป็นเกียรติมาก เข้าแน่นอน ผมทำทุกอย่างเพื่อความบันเทิง เพื่อเอนเตอร์เทนแฟนคลับ,เหมือนเราได้ปลดล็อกตัวเองในอีกมุมหนึ่ง?,ใช่ครับ พวกพี่ๆ ก็น่ารัก เหมือนปลดล็อกก่อนเล่นภาพยนตร์ด้วยซ้ำ มันก็สบายขึ้น พวกพี่ๆ เขาก็สอนแต่เรื่องดีๆ เข้ากับชื่อเลยแก๊งคนดี (ยิ้ม),แม่หมูโอเคไหม?,คุณแม่โอเค ถ้าใครติดตามแม่ จะเห็นว่าแม่ตามติดไอจีพี่ๆ ตลอด แม่เขาชื่นชอบและไว้ใจพวกพี่ๆ ส่วนจะมีโปรเจ็กต์ร่วมกันไหม ต้องรอทางช่องอีกทีครับ เวลาเจอกันเราก็จะรวมตัวกันในงานของช่อง 3,เข้าแก๊งพวกพี่ต้องเอวดีด้วย?,ดียังไงก็สู้เอวพวกพี่เขาไม่ได้ อย่างงานล่าสุดเต้น เพลงห่อหมกฮวก แต่ละคนยอมมาก พี่เจมส์จินี่สุดยอดมาก ผมสู้ไม่ไหว,ปีหน้าเห็นบอกว่าจะลองเอานายขึ้น?,ถ้าลองผมยินดีครับ เป็นเรื่องสนุกๆ ปีหนึ่งได้ทำครั้งหนึ่งเพื่อแฟนคลับที่ติดตาม,ซ้อมปั้นเอวหรือยัง?,ซ้อมเป็นเดือน งานปีนี้เด้งหน้าใช่ไหม ปีหน้าน่าจะเด้งหลัง (หัวเราะ),เห็นช่วงนี้ต้องเดินสายโปรโมทหนังต่างประเทศด้วย?,เดี๋ยวมีคิวเดินทางไปโปรโมทครับ ตอนนี้ก็มี 13 ประเทศแล้วที่เริ่มออน รู้สึกว่ามี 4-5 ประเทศที่เริ่มฉายแล้ว มีเวียดนาม ลาว เมียนมา คัมโบเดีย ผมรู้สึกดีใจมาก เหมือนเขาดูเสร็จแล้ว แล้วเขามาทักไอจีผม ผมพยายามพิมพ์ให้ได้หลายภาษา อย่างล่าสุดเพิ่งลงของเวียดนามไป เพิ่งเข้าฉายไปวันแรก ดีใจมากที่เขาชื่นชมผลงานเรา,ถือว่าประสบความสำเร็จไหม เล่นหนังเรื่องแรก?,ประสบความสำเร็จในการพัฒนาตัวเองดีกว่า เรารู้สึกถึงความผิดพลาดนำมาแก้ได้ เรารู้สึกแฮปปี้ เรื่องหน้าติดต่อได้นะครับ (ยิ้ม),รู้สึกยังกับการเป็นพระเอกเรื่องแรกแล้วประสบความสำเร็จ?,เราดีใจมาก เราตั้งใจทำผลงานต้องขอบคุณจีดีเอช พี่หมู ใบเฟิร์น คอยช่วยเหลือกัน นี่ก็มาถึง 200 ล้านแล้ว ผมไม่ได้คาดหวังตัวเลข มันเป็นผลตอบรับที่คนไปดู ที่ผมรู้มามีคนดูถึง 23 รอบ ตัวเลขมันบ่งบอกว่ามีคนสนใจอยากดูหนังเรามากแค่ไหน ก็แฮปปี้มาก ก็ขอบคุณมากๆ มันคุ้มมากที่เราอดหลับอดนอนถ่ายต่างประเทศ โหนสลิง ถ่ายกับสัตว์,มีผลกับการแสดงของเรา?,ผมว่ามันแล้วแต่บทบาท ในแต่ละเรื่องผมพยายามพัฒนาบทบาท เพราะแม่ผมสอนมาตลอดเราทำงาน เราโตขึ้นเราต้องพัฒนาด้วยไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่,อยากเล่นกับคุณแม่บ้างไหม?,โห ผมก็แอบถามแม่นะว่าถ้าเราเล่นด้วยกัน แม่บอกคงเล่นด้วยกันไม่ได้ คงขำกันมากกว่า คุณแม่ไม่รับงานในวงการแล้ว ก็มีรับเชิญแสดงเรื่องลิขิตรักข้ามดวงดาว,หรือเพราะเราอยากให้คุณแม่พัก?,เคยถามเขานะ เขาก็บอกเหนื่อยนะแต่เหมือนได้เที่ยวมาในตัว มากินข้าวนอกบ้าน แม่ก็ยังแฮปปี้อยู่ เขาห่วงสุขภาพผมมากกว่า เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาของครอบครัวผมเลย แม่อยากมาดูแลผมมากกว่า คงไม่มีใครรู้ใจผม ดูแลผมเท่าเขาแล้ว,เรียกว่าเป็นเสาหลักของครอบครัวเลยเปล่า?,เรียกแบบนั้นก็ได้ แต่ผมทำงานเป็นทีม เวลาออกมาก็ปรึกษากันเป็นทีม.
|
นาย ณภัทร ตอบรับเข้าแก๊งคนดีที่ไหนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อไปอาจจะได้เห็นความบันเทิงกับพี่ๆ ในแก๊งมากขึ้น แม่หมู พิมพ์ผกา ไม่ว่า เพราะแม่ก็ติดตามอยู่เรื่อยๆ
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
นายณภัทร,แก๊งคนดีที่ไหน,ณภัทร เสียงสมบุญ,คนดีที่ไหน,ดารา
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1521508
|
แรงงานต่างด้าว กทม. 3 แสน
|
กัมพูชาแชมป์แสนสี่หมื่น-เขตบางขุนเทียนมากสุดหมื่นเจ็ด,เมื่อวันที่ 12 ก.พ.58 นางสาวนภาภรณ์ สวัสดิมงคล ผู้อำนวยการสำนักปกครองและทะเบียน กทม. เปิดเผยว่า ได้สรุปการรับจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวของศูนย์บริการการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ จำนวน 6 แห่งตามกลุ่มเขต ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.-31 ต.ค.57 พบว่า มีต่างด้าวเดินทางมาลงทะเบียน รวมทั้งสิ้น 311,179 คน แบ่งเป็นสัญชาติกัมพูชา จำนวน 142,125 คน สัญชาติเมียนมาร์ จำนวน 101,134 คน และสัญชาติลาว จำนวน 67,920 คน โดยเขตที่มีต่างด้าวมาลงทะเบียนมากที่สุด,อันดับ 1 ได้แก่ เขตบางขุนเทียน จำนวน 17,949 คน รองลงมา เขตบางกะปิ จำนวน 14,414 คน เขตคลองสามวา จำนวน 14,128 คน เขตประเวศ จำนวน 13,769 คน และเขตบางบอน จำนวน 12,630 คน ส่วนเขตที่มีต่างด้าวมาลงทะเบียนน้อยที่สุดอันดับ 1 ได้แก่ เขตบางรักและเขตบางกอกใหญ่ จำนวน 1,621 คน เขตสัมพันธวงศ์ จำนวน 1,804 คน เขตปทุมวัน จำนวน 2,196คน และเขตบางพลัด จำนวน 2,286 คน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนระหว่างการตรวจสอบพิสูจน์สัญชาติ ซึ่งจะสิ้นสุดการพิสูจน์สัญชาติ ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ ขณะเดียวกัน กรมการปกครองได้เปิดศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 1 กทม. ที่ตั้งวังไชยา (นางเลิ้ง) ถนนนครสวรรค์ แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กทม. โทรศัพท์ 0-2629-8306-14 เพื่อให้ต่างด้าวทำบัตรประจำตัวบุคคลต่างด้าว ในกรณีที่บัตรหาย เพื่อทำงานในประเทศไทยโดยไม่ผิดกฎหมาย,ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ใน กทม.มีประชากรแฝงอยู่ประมาณ 10 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นประชากรต่างด้าว จาก 3 สัญชาติ คือ เมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา ดังนั้น กทม.จะดูแลประชาชนที่อาศัยในกรุงเทพฯทุกคนตามอำนาจหน้าที่ โดยให้บริการต่างๆ อาทิ การจ้างงาน การสาธารณสุข รวมถึงด้านการศึกษาที่เปิดโอกาสให้บุตรของแรงงานต่างด้าวสามารถเข้าศึกษาในสถานศึกษาของ กทม.ได้ โดยขอจัดทำหลักฐานทางทะเบียนราษฎรตามสถานะบุคคล เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการแสดงตนในการแจ้งเรื่องต่างๆ.
|
เมื่อวันที่ 12 ก.พ.58 นางสาวนภาภรณ์ สวัสดิมงคล ผู้อำนวยการสำนักปกครองและทะเบียน กทม. เปิดเผยว่า ได้สรุปการรับจด ทะเบียนแรงงานต่างด้าวของศูนย์บริการการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
จดทะเบียน,แรงงานต่างด้าว,ขึ้นทะเบียนต่างด้าว,ศูนย์บริการการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ,ชาวกัมพูชา,นภาภรณ์ สวัสดิมงคล,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวภูมิภาค
|
https://www.thairath.co.th/news/local/480912
|
พ่อบ้านรวมตัวนินทา ทุกครั้งที่ขับรถ เมีย จะช่วยบอกทาง แม้รำคาญแต่รักนะ
|
สมาชิกพันทิปล็อกอิน RoninP ตั้งกระทู้ ,เวลาขับรถไปกับแม่บ้าน หงุดหงิดกับแม่บ้านเวลาช่วยขับรถกันไหมครับ, พร้อมระบุว่า เวลาขับรถไปกับภรรยา หงุดหงิดกับภรรยาเวลาช่วยขับรถกันไหมครับ เช่น ข้างหน้ามีมอเตอร์ไซค์นะ ทั้งๆ ที่เราก็มองเห็นอยู่ (บอกตลอดทาง) ขับเร็วไปหน่อยแล้วนะ จังหวะนี้แซงไม่ได้นะ (เราก็ดูแล้วน่าจะแซงได้) ข้างหน้าเป็นไฟแดงแล้วนะ ไฟเขียวแล้วนะ รถข้างหน้าเบรกแล้วนะ แบบนี้ไปตลอดทางเวลาขับรถไปด้วยกัน หงุดหงิดกันไหมครับ หรือผมเป็นของผมคนเดียว,ทั้งนี้ มีเหล่าพ่อบ้าน และแม่บ้าน ในเว็บไซต์พันทิปเข้ามาตอบกระทู้เป็นจำนวนมาก เช่น,สมาชิกพันทิปล็อกอิน เสือจิต, : บ่อยเลย เมียผมขับรถเป็นนะ ขับกลับนครศรีธรรมราชคนเดียวก็เคย แต่กะระยะหน้ารถไม่ได้ รถผมเป็น Honda Jazz หน้ามันสั้น นางมองไม่เห็นกะไม่เคยถูก บ่นหลายทีโดนนางสวนบอกเรื่องของนาง,วีรกรรมเรื่องนี้ก็มากมี เช่น เวลาจะเลี้ยวตีโค้งออกจากที่จอดที่ไหนก็ตาม ถ้ามีรถจอดบังข้างหน้า นางจะกรี๊ดเสียงสูงว่า ไม่พ้น ซึ่งมันก็พ้นทุกที คือ นางก็ไม่ได้ชะเง้อมองนะ เอาตัวเอนพิงเบาะ แล้วก็กรี๊ดใส่ หาว่าเราขับไม่ระวัง คือ มันพ้นนะ เฮ้อ พอพ้นนางก็เงียบ เล่นโทรศัพท์ต่อทำไม่รู้ไม่ชี้ เวลาขับรถติด ก็ต้องเว้นระยะห่างๆตามใจนาง นางชอบหาว่าขับจี้ ทั้งๆ ที่เว้นซะห่าง ห่างขนาดไหน,เคยมีแบบนางบอก ผมจอดชิดคันหน้า แล้วก็มีมอเตอร์ไซค์ PCX คันใหญ่ มาเลี้ยวเลาะผ่านหน้ารถชนิดคนขับมันไปได้แบบสบายๆ ไม่ต้องชะลอรถด้วยซ้ำ ไปกับคุณเธอนี่นะ ต้องจอดแบบเห็นล้อหลังคันหน้าทั้งล้อครับนางถึงสบายใจ เคยมีบ่นแบบผมทนไม่ไหว จอดเข้าปั๊มให้นางขับ เอาที่สบายใจเลย นางก็ขับแบบเงียบๆ ตลอดทาง แล้วผมก็ด่ามั่ง พอใกล้จะถึงบ้าน นางก็จอดบอกให้ผมขับเสียงอ่อยๆ เพราะนางถอยรถเข้าบ้านไม่ได้ 555 ทุกวันนี้ไปไหนไม่อยากเอาไปด้วยเล้ยยย แต่ก็ต้องเอาไป ทำใจอย่างเดียว,สมาชิกหมายเลข 1226968, : คิดว่าเป็นระบบช่วยขับที่ตั้งค่าไม่ได้ ปิดก็ไม่ได้ ปล่อยระบบมันทำงานไปครับ,สมาชิกหมายเลข 3990406, : แรกๆ ก็อย่างงี้แหละ สักพัก สมองคุณจะหยุดการทำงานได้ เห็นปากมันขยับ แต่สมองเราไม่สั่งงาน ไม่รู้มันพูดอะไรอยู่,สมาชิกพันทิปล็อกอิน Phalanx, : ไม่เลยครับ ชอบด้วย แฟนผมขับรถเองไม่เป็นครับ แต่คงเพราะนั่งรถกับผมมานานจนนางรู้สไตล์การขับของผมแล้ว มองไลน์ อ่านไลน์ในการขับการแซงเหมือนผมมองเองเลย,พอเค้ามานั่งด้วยเลยกลายเป็นเหมือนเรามีมุมมองกว้างขึ้นกว่าเดิม เพราะบางทีเรามองไลน์ซ้ายไม่เห็นเค้าจะบอกเองเลยว่าไปได้นะ มีรถนะ ขับง่ายกว่าขับคนเดียวอีก แต่ตอนหลัง พอมีลูกแล้วลูกนั่งไปด้วยเค้าก็มีเบรกๆ เราเหมือนกัน ว่าเร็วไปแล้วนะ เร็วแค่นี้พอแล้วนะ อะไรแบบนี้ ซึ่งจริงๆ ก็ดีครับ ไม่ได้รำคาญอะไร,สมาชิกหมายเลข 2253560 :, ระวังมอไซค์ทางซ้าย หน้าเบรกนะ ซ้ายว่างเข้าได้เลย เป็นเหมือนกัน ก็ได้แต่ตอบ จ้ะ จ้า ถามว่ารำคาญไหม ก็นิดหน่อย มันเสียสมาธิ เช่น ผมจะลงซ้าย เปิดไฟ เห็นมอไซค์ละ รอให้มันไปก่อนแล้วถึงจะลง เธอก็โพล่งขึ้นมาระวังมอไซค์ เราก็ตกใจคิดว่ามีคันอื่นที่เราไม่เห็น สุดท้ายก็เป็นคันที่เรารอให้มันแซงไปนั่นแหละ,แต่ผมก็ไม่เคยบอกหรอกว่ารำคาญบางทีคำพูดมันทำให้เสียความรู้สึกกัน เขาพูดเพราะเขาเป็นห่วง นั่งไปครึ่งทางสักพักก็เหนื่อยหลับไปเอง มีครั้งหนึ่ง ผมขับรถ เธอป้อนไอติม ทิ่มเข้าไปจมูก บอกเห้ย อะไร ก็อ้าปากอยู่ นางมัวแต่มองทาง ไม่มองปาก บอกคนขับเขามองทางแล้ว มองปากดิเห้ย จะมาช่วงมองทางทำไม ก็หัวเราะเฮฮากันไป,สมาชิกพันทิปล็อกอิน KHoMPHiiNG ,: อยากมีโมเม้นนั้นจังค่ะ แต่สำหรับเรา เราขับเอง ไม่ไว้ใจสามี ไปกลับกรุงเทพ-อุบลฯ,(อ่านเนื้อหาฉบับเต็มได้ ,ที่นี่,)
|
วันใดขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก ภรรยาพูดอยู่ในใจ เหล่าคุณพ่อบ้านรวมตัวนินทา บอกทุกครั้งที่ขับรถ เมีย จะช่วยบอกทาง ระวังซ้ายขวา แม้รำคาญ แต่รักนะ ไม่โกรธ
|
ข่าว,สังคม
|
นินทาเมีย,ผัวนินทาเมีย,กระทู้พันทิป,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/society/1512058
|
นายกฯ ย้ำ ยังไม่มีการหารือ ค้ำประกันเงินกู้ให้ การบินไทย
|
และลดผลกระทบจ้างงานวันที่ 13 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวย้ำถึงแผนการฟื้นฟูบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า ยังไม่มีการหารือกันเรื่องการค้ำประกันเงินกู้ เพื่อนำมาฟื้นฟูตามที่เป็นข่าว ขอประชาชนอย่าเป็นกังวลในเรื่องดังกล่าว สำหรับแผนการฟื้นฟูจะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายหลายฉบับ โดยมอบหมายให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และกระทรวงคมนาคมพิจารณาร่วมกัน ซึ่งต้องดำเนินการอีกหลายขั้นตอน ก่อนที่จะมีการเห็นชอบในหลักการ เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบนายกฯ ยืนยัน แผนการฟื้นฟูฯ ใหม่ จะต้องครบถ้วนและสมบูรณ์ เกิดผลกระทบน้อยที่สุด ทั้งนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งบุคลากรภายในและภายนอกองค์กร รวมถึงสหภาพแรงงาน ต้องช่วยเหลือให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สามารถให้บริการต่อไปได้ เพื่อลดผลกระทบต่อการจ้างงาน ด้วย.
|
นายกฯ ย้ำ ยังไม่มีการหารือเรื่องค้ำประกันเงินกู้เพื่อนำมาฟื้นฟู การบินไทย ขอประชาชนอย่าเป็นกังวล ยัน จะพิจารณาอย่างรอบคอบ วอน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมมือเพื่อให้การบินไทยบริหารต่อไปได้
|
ข่าว,การเมือง
|
การบินไทย,แผนฟื้นฟูการบินไทย,ค้ำประกันเงินกู้,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,สหภาพแรงงานการบินไทย,นายกรัฐมนตรี,ไม่กระทบจ้างงาน,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1843353
|
มาเอาเงิน?? แฉ 2 จังหวะต้นเหตุทำให้ ผี ล็อกถล่มบุกพ่ายสาลิกา
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 11 ก.พ. ว่า แฟนบอลบนโลกทวีตเตอร์เผย 2 ต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปราชัยต่อ สาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เป็นเพราะพลาดโอกาสทองแบบไม่น่าอภัยถึงสองครั้ง,ผีแดง มีโอกาสได้ประตูขึ้นนำไปก่อนโดยเฉพาะครึ่งแรกจังหวะที่ เนมันยา มาติช แทงทะลุช่องให้กับ อองโตนี มาร์เชียล ได้ไปดวลเดี่ยวตัวต่อตัวกับนายด่านเจ้าบ้านแต่ดันยิงไปติดขา มาร์ติน ดูบราฟกา อย่างน่าผิดหวัง,จังหวะต่อมาเกิดขึ้นในช่วงต้นครึ่งหลัง อเล็กซิส ซานเชซ แตะหลบ ดูบราฟกา ได้แล้วเหลือแค่ตาข่ายแต่เจ้าตัวดันยึกยักไม่ยอมยิงจังหวะแรก ก่อนจะมายิงจังหวะสองคราวนี้กองหลังของนิวคาสเซิลวิ่งมาบล็อกไว้ได้ทัน,สุดท้ายพอไม่ได้ประตูกลายเป็น แมตต์ ริทชี มายิงประตูชัยทำให้ สาลิกาดง นิวคาสเซิล พลิกล็อกเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมนี้ไปเลย 1-0 และเป็นการพ่ายในเกมลีกเป็นนัดที่ 5 ของผีแดงในฤดูกาลนี้ด้วย,จังหวะของ มาร์เชียล,จังหวะของอเล็กซิส ซานเชซ
|
เปิด 2 จังหวะสำคัญของ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำให้พวกเขาบุกพ่าย สาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 0-1 ในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนที่ผ่านมา
|
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
|
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,อองโตนี มาร์เชียล,อเล็กซิส ซานเชซ
|
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1201692
|
ทูตไทยเผยแผนดูแลนักเตะ-แฟนบอล เกมคัดบอลโลกเยือนอินโดฯ
|
วันที่ 9 ก.ย.62 นายทรงพล สุขจันทร์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ยืนยันว่า มีแผนดูแลความปลอดภัยคณะนักฟุตบอลทีมชาติไทย และแฟนบอลที่เดินทางมาเต็มที่ ในเกมที่เตรียมพบกับทีมชาติอินโดนีเซีย ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย นัดที่สอง,โดยเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา เพิ่งถือโอกาสเปิดบ้านเลี้ยงอาหารมื้อค่ำให้แก่คณะนักฟุตบอลทีมชาติไทย เมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง ก่อนให้สัมภาษณ์ถึงแผนดูแลความปลอดภัยว่า,รู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่มีโอกาสเลี้ยงต้อนรับช้างศึก ทีมชาติไทย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของสถานทูตในจาการ์ตา ส่วนตัวก็เป็นกำลังใจให้ทีมชาติไทย และขออวยพรให้ชนะอินโดนีเซีย ในวันที่ 10 กันยายนนี้,เรามี 2 ส่วนที่จะช่วยเหลือครับ ส่วนแรกเราทำหนังสือถึงรัฐมนตรีกระทรวงกีฬาของอินโดนีเซียว่า ขอให้เขาดูแลความปลอดภัยให้กับนักกีฬาไทยและกองเชียร์ไทยที่มาเต็มที่ อย่าให้เกิดเหตุการณ์เหมือนในเกมกับมาเลเซีย,อีกส่วนก็จะเป็นแผนสำรอง สถานทูตจะเตรียมรถบัสเผื่อไว้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้น ก็จะได้รวบรวมกองเชียร์ของไทยขึ้นรถบัสออกจากบริเวณสนามกีฬา ก็เป็นอีกส่วนที่เราจะทำ นอกเหนือจากการขอความร่วมมือจากอินโดนีเซีย เพื่อให้นักกีฬาและกองเชียร์ของเรามีความปลอดภัยที่สุด,ผมคิดว่าอินโดนีเซีย คงได้บทเรียนจากเหตุการณ์ในเกมกับมาเลเซียแล้ว ซึ่งสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซียคงต้องยกระดับและมีมาตรการรักษาความปลอดภัย ให้เป็นไปตามกฎระเบียบของฟีฟ่า ไม่อย่างนั้นก็มีโอกาสที่จะถูกลงโทษ หรือมีผลกระทบกับการยื่นเป็นเจ้าภาพฟุตบอลในรายการต่างๆ,ส่วนตัวถ้ามีโอกาสก็จะไปเชียร์และให้กำลังใจทีมชาติไทยที่สนาม ก็เชื่อว่าถ้านักฟุตบอลเล่นตามแท็กติกที่โค้ชนิชิโนะวางไว้ ก็น่าจะมีโอกาสดี ที่จะคว้า 3 คะแนนกลับไปได้ ,สำหรับเกมระหว่างทีมชาติไทยพบกับอินโดนีเซีย ในวันที่ 10 กันยายนนี้ เวลา 19.30 น. ที่สนามเกโลรา บุง การ์โน (เสนายัน) ถ่ายทอดสดทาง,ไทยรัฐทีวี ช่อง 32,โคตรเดือด เปิดสถิติ 5 นัดหลังสุด ไทย-อินโดฯ ก่อนดวลกัน คัดบอลโลก,สุภโชค เผยก่อนนำ ไทย ดวล อินโดฯ โยงถึงจังหวะสำคัญเกมเจ๊าเหงียน,ช้างศึกไม่ถูกใจสิ่งนี้ เผยสถิติผู้ตัดสินคู่ ไทย-อินโดฯ คัดบอลโลก
|
เอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ยืนยัน มีแผนดูแลความปลอดภัยทั้งคณะนักฟุตบอลและแฟนบอลไทยอย่างเต็มที่ ในเกมที่จะพบกับอินโดนีเซีย วันอังคารนี้
|
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
|
ทรงพล สุขจันทร์,เอกอัครราชทูตไทย,ช้างศึก,ทีมชาติไทย,อินโดนีเซีย
|
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1656395
|
แฟนลูกยางเศร้า ไทยชวดจัด เวิลด์ กรังปรีซ์ 2016
|
แฟนลูกยางไทยต้องพบกับข่าวร้าย เมื่อ เอฟไอวีบี ประกาศผลการจับจิ้วแบ่งกลุ่มศึก เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2016 โดยไร้ชื่อของประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเหมือนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งสมาคมวอลเลย์บอลฯ เตรียมตั้งโต๊ะแถลงข่าวไขข้อข้องใจ 20 ส.ค.นี้,สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 19 ส.ค. ว่า ที่สำนักงานใหญ่สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ หรือ เอฟไอวีบี เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้มีการประชุมจัดสายการแข่งขันศึกวอลเลย์บอลหญิง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2016 กลุ่ม 1, 2 และ 3 พร้อมทั้งกำหนดเมืองที่จะใช้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันของแต่ละสัปดาห์,ผลปรากฏว่า ในกลุ่ม 1 ซึ่งประกอบไปด้วย 12 ทีมชั้นนำของโลก ถูกแบ่งออกเป็น 9 กลุ่ม กลุ่มล่ะ 4 ทีม กำหนดการแข่งขันทั้งสิ้น 3 สัปดาห์ ซึ่งในปีหน้าแฟนวอลเลย์บอลไทยต้องพบกับข่าวร้าย เมื่อในปฏิทินของ เอฟไอวีบี ได้กำหนดเจ้าภาพในการจัดทั้ง 9 สนาม โดยไม่มีรายชื่อของประเทศไทย เป็นเจ้าภาพเหมือนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ,สำหรับทีมนักวอลเลย์บอลสาวไทย ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม เอ ให้สัปดาห์แรก ลงแข่งขันที่ประเทศจีน ส่วนในสัปดาห์ที่ 2 จัดอยู่ในกลุ่ม เอฟ และลงแข่งขันที่ประเทศอิตาลี และสนามสุดท้าย จัดอยู่ในกลุ่ม ไอ ลงแข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น,การแข่งขันในกลุ่ม 1 จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 10-26 มิถุนายน และในรอบไฟนอล จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 6-10 กรกฎาคม 2016 ,ทั้งนี้ ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย ได้รับสิทธิ์ลงแข่งขันในศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์มาแล้ว 13 ปีติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 2002 จนถึงปี 2014 โดยสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย จะจัดงานแถลงข่าวเพื่อชี้แจงถึงสาเหตุของการพลาดเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ปี 2016 ในวันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคมนี้,ตารางการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2016,สัปดาห์ที่ 1 แข่งขันวันที่ 10-12 มิถุนายน 2016,กลุ่มเอ : สหรัญอเมริกา, ไทย, เยอรมนี, จีน (เจ้าภาพ),กลุ่ม บี : บราซิล (เจ้าภาพ), อิตาลี, ญี่ปุ่น, เซอร์เบีย,กลุ่ม ซี : รัสเซีย (เจ้าภาพ), เนเธอร์แลนด์, ตุรกี, เบลเยียม,สัปดาห์ที่ 2 แข่งขันวันที่ 17-19 มิถุนายน 2016,กลุ่ม ดี : บราซิล, เบลเยียม, เซอร์เบีย, จีน (เจ้าภาพ),กลุ่ม อี : สหรัฐอเมริกา (เจ้าภาพ), เยอรมนี, ญี่ปุ่น, ตุรกี,กลุ่ม เอฟ : รัสเซีย, เนเธอร์แลนด์, อิตาลี (เจ้าภาพ), ไทย,สัปดาห์ที่ 3 แข่งขันวันที่ 24-26 มิถุนายน 2016,กลุ่ม จี : บราซิล, อิตาลี, ตุรกี (เจ้าภาพ), เบลเยียม,กลุ่ม เอช : สหรัฐอเมริกา, เนเธอร์แลนด์, เยอรมนี, จีน (เจ้าภาพ) ,กลุ่ม ไอ : รัสเซีย, ไทย, ญี่ปุ่น (เจ้าภาพ), เซอร์เบีย
|
แฟนลูกยางไทยต้องพบกับข่าวร้าย เมื่อ เอฟไอวีบี ประกาศผลการจับจิ้วแบ่งกลุ่มศึก เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2016 โดยไร้ชื่อของประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเหมือนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งสมาคมวอลเลย์บอลฯ เตรียมตั้งโต๊ะแถลงข่าวไขข้อข้องใจ
| null |
วอลเลย์บอล,ลูกยางสาว,วอลเลย์บอลเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2016,เอฟไอวีบี,สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ,ทีมชาติไทย,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/519428
|
พิษโควิด-19 ธนาคารกลางสหรัฐฯ หั่นดอกเบี้ยฉุกเฉินครั้งแรกในรอบ 12 ปี
|
สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลง 0.5% ในวันอังคารที่ 3 มี.ค. 2563 ท่ามกลางความกังวลว่า การแพร่กระจายของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ หรือ โควิด-19 อาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯนี่ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินเมื่อปี 2551 ที่เฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยวาระฉุกเฉิน โดยไม่มีการวางกำหนดการไว้ล่วงหน้า และยังถือเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยมากที่สุดในคราวเดียวนับตั้งแต่วิกฤติการณ์ดังกล่าวด้วยว่า ทำให้อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานสหรัฐฯ ตอนนี้อยู่ที่ 1-1.25%เฟดระบุเกี่ยวกับเรื่องนี้ในแถลงการณ์ว่า ในขณะที่รากฐานเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ไวรัสโคโรนาแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่มากขึ้นเรื่อยๆ ต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเฟดเกิดขึ้นในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศอื่นๆ นอกจากนี้ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน ขณะที่ในสหรัฐฯ จำนวนผู้ติดเชื้อก็เพิ่มเป็นมากกว่า 100 ราย และมีผู้เสียชีวิตรวดเดียวถึง 5 รายในรัฐวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ ล่าสุดอยู่ที่ 6 รายการลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินของเฟดยังเป็นการส่งสัญญาณว่า แนวโน้มในอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเสี่ยงอันตรายมากกว่าที่คาดเอาไว้ด้วย
|
ธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงครึ่งเปอร์เซ็นต์ เพื่อรับมือความเสียหายต่อเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจากการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19
|
ข่าว,ต่างประเทศ
|
โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสอู่ฮั่น,ลดดอกเบี้ย,ธนาคารกลางสหรัฐ
|
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1786006
|
องอาจ ชี้ ควรอภิปรายฯเปิดเผย ปมถวายสัตย์ฯไม่ครบ เชื่อ นายกฯ แจงได้
|
วันที่ 2 ก.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธาน สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ควรเป็นการประชุมลับหรือไม่ว่า โดยทั่วไปการประชุมในสภาผู้แทนราษฎร เป็นการประชุมโดยเปิดเผย เว้นแต่คณะรัฐมนตรี หรือสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภา ร้องขอให้ประชุมลับก็ให้ประชุม และเรื่องที่มักประชุมลับก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ ความมั่นคง และสถาบัน สำหรับกรณีฝ่ายค้านขอเปิดอภิปรายทั่วไป,กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม นำ ครม.กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนนั้น ก็เป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านนำเสนอข้อมูลผ่านสาธารณะเป็นระยะมาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่รับรู้กันทั่วไปว่า ฝ่ายค้านจะพูดอะไร การอภิปรายทั่วไปครั้งนี้ จึงควรเป็นการประชุมเปิดเผยตามปกติเหมือนที่เคยปฏิบัติกันมา ยกเว้นฝ่ายค้านมีข้อมูลเด็ด ที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อนเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคงและสถาบัน ฝ่ายค้าน ก็อาจขอให้ประชุมลับเสียเองเลยก็ได้ เพราะเท่าที่ดูรายชื่อผู้อภิปรายที่เปิดเผยออกมา ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีคุณวุฒิ วัยวุฒิ มีวุฒิภาวะสูงพอที่จะพิจารณาได้ว่า ควรประชุมลับหรือไม่ จะประชุมลับหรือไม่ลับจึงอยู่ที่ข้อมูลที่นำมาอภิปราย ถ้าเป็นข้อมูลที่พูดๆ กันอยู่ทุกวันนี้ ก็ควรประชุมเปิดเผยตามปกติ,นายองอาจ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่รัฐบาลไม่แจกแจงที่มาของรายได้ในนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลนั้น ไม่น่าจะต้องประชุมลับแต่อย่างใด ควรประชุมเปิดเผยเพื่อให้ประชาชนรับทราบการใช้จ่ายเงินงบประมาณตามนโยบายต่างๆ ว่า มีที่มาที่ไปอย่างไร ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า นายกรัฐมนตรี สามารถชี้แจงตอบข้อซักถามของการอภิปรายทั่วไปครั้งนี้ได้โดยไม่มีปัญหาอะไร และไม่น่ามีผลกระทบอะไรต่อการบริหารราชการแผ่นดิน หรือมีผลกระทบทางการเมืองต่อรัฐบาลแต่อย่างใด การอภิปรายทั่วไปเป็นเพียงการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ซึ่งทุกอย่างน่าจะผ่านไปได้ด้วยดี
|
องอาจ ชี้ ควรอภิปรายฯเปิดเผย ตรวจสอบได้ เชื่อมั่น นายกฯประยุทธ์ ชี้แจงได้ ส่วนกรณีรัฐบาลไม่แจกแจงที่มารายได้ ก็ไม่ควรประชุมลับ บอกทุกอย่างน่าจะผ่านด้วยดี
|
ข่าว,การเมือง
|
ถวายสัตย์ฯไม่ครบ,ประชุมลับ,ประชุมเปิดเผย,ประชาธิปัตย์,องอาจ คล้ามไพบูลย์,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกฯ,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/politic/1651166
|
ทช.ทวงคืนป่าชายเลน 100 ไร่ จ.กระบี่ เล็งยึดแปลงใหญ่เดือนหน้า
|
วันนี้ ( 9 ส.ค.2560) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินหน้าทวงคืนผืนป่าชายเลนกว่า 36000 ไร่ และฟื้นฟูป่าชายเลนที่ยึดคืนมาได้ภายใต้กิจกรรมประชารัฐ 14000 ไร่ ล่าสุด ชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้เปิดยุทธการทวงคืนผืนป่าชายเลนในพื้นที่ อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ จำนวน 2 แปลงรวมกว่า 100 ไร่ ซึ่งสภาพเป็นสวนปาล์มน้ำมันและนากุ้ง โดยกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตร 14 และ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484นายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่ายังมีแปลงใหญ่กว่านี้ ที่เตรียมตรวจยีดแปลงใหญ่ โดยเป็นนายทุนจากกรุงเทพฯและผลิตยารายใหญ่โดยคาดว่าเดือนกันยายนนี้ ซึ่งในการตรวจสอบการบุกรุกป่าชายเลนในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแผนที่ดาวเทียม และตรวจสอบจากกรมที่ดิน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ พร้อมติดป้ายแจ้งก็ไม่มีบุคตลใดเข้าติดต่อยืนยันสิทธิ์ โดยขั้นตอนต่อไปเตรียมร้องทุกข์กล่าวโทษเมื่อทราบตัวบุคคลที่ชัดเจนในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดพื้นที่ 2 แปลว รวมกว่า 100 ไร่ โดยแปลงแรกเป็นสวนปาล์มพื้นที่กว่า 60 ไร่ ขณะที่อีกแปลงเป็นนากุ้ง พื้นที่ กว่า 30 ไร่นาววุฒิพงศ์ ภริงคาร หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลน กล่าวว่า ได้ตรวจค้นพื้นที่ 2 แปลง จากแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศปี 2545 พบว่าสภาพป่ายังสมบูรณ์ แต่พบว่าบางพื้นที่มีการบุกรุกแล้ว โดยบุคคลที่ครอบครองมีการเปลี่ยนมือโดยขายให้กับคนนอกพื้นที่เข้าครอบครองเพื่อทำประโยชน์
|
ทช.ทวงคืนผืนป่าชายเลน 100 ไร่ จากนายทุนบุกรุกทำสวนปาล์ม และนากุ้ง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เล็งยึดแปลงใหญ่จากนายทุนรายใหญ่จากกรุงเทพฯ ช่วงเดือนกันยายนนี้
|
สิ่งแวดล้อม
|
ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ป่าชายเลน,ป่า,กีมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง,โสภณ ทองดี,กระบี่
|
https://news.thaipbs.or.th/content/265081
|
สลด ภารโรง โรงเรียนเมืองกาฬสินธุ์ นอนหนาวตาย คาดหัวใจล้มเหลว
|
เมื่อเวลา 04.45 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 ร.ต.อ.สาคร สาระหรณ์ ผช.สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่า พบคนนอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องประชุมโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสัย ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จึงเข้าตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพและหน่วยกู้ภัยพร้อมทีมแพทย์จากโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ในที่เกิดเหตุพบร่างของ นายกมล ภูทองกลม อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 76 หมู่ 21 ตำบลบัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ตำแหน่งนักการภารโรงโรงเรียนดังกล่าว นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอน สภาพนอนหงายไม่ห่มผ้า เปิดพัดลมทิ้งไว้ จากผลชันสูตรแพทย์ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายใดๆ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง,จากการสอบถามภรรยาผู้ตาย เบื้องต้นทราบว่า สามีตน (ผู้ตาย) มีโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ก่อนวันเกิดเหตุ ผู้ตายมีอาการไอเจ็บคอ จึงได้ไปหาหมอที่คลินิก จากนั้นจึงมาเข้าเวรต่อตั้งแต่เวลา 18.00 น. ภรรยาผู้ตายไม่เห็นผู้ตายลุกขึ้นมาเปิดประตูหอประชุม เพราะปกติผู้ตายจะตื่นมาเปิดประตูหน้าต่างเวลา 03.00 น. เกือบทุกวัน ผิดสังเกตจึงได้เดินมาดู และได้ปลุกผู้ตาย ก็พบว่าตัวผู้ตายแข็งและไม่หายใจแล้ว เจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุของการเสียชีวิตจะเกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพัน ประกอบกับช่วงนี้สภาพอากาศที่กลับมาหนาวเย็นกลางดึกอาจทำให้เสียชีวิต ญาติๆ ไม่ติดใจการเสียชีวิต จึงมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศานา ต่อไป.
|
สลด! ภารโรงโรงเรียนวัย 53 เมืองกาฬสินธุ์ นอนหนาวตายในห้องประชุม คาด สาเหตุหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ภรรยาเห็นผิดสังเกต ไม่ตื่นมาเปิดประตูหอประชุมเหมือนทุกวัน ไปปลุกพบตัวแข็งทื่อ ไม่หายใจแล้ว
| null |
ภารโรง,นอนหนาวตาย,หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน,สภ.เมืองกาฬสินธุ์,โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสัย
|
https://www.thairath.co.th/content/853333
|
5 นักฟุตบอลไทย แถลงข่าวก่อนสู้ศึกเจลีก 2018
|
เมื่อวานนี้ (15 ก.พ.2561) ชนาธิป สรงกระสินธ์ ธีรศิลป์ แดงดา ธีราทร บุญมาทัน จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ และเชาว์วัตน์ วีระชาติ ร่วมงานแถลงข่าวก่อนเปิดฤดูกาลศึกเจลีก 2018 ซึ่งนักเตะทั้ง 5 คน ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ไฮไลท์เกมนัดเปิดสนามอยู่ที่ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ของชนาธิป จะบุกไปเยือน ซานเฟรชเช่ ฮิโรชิมา ของ ธีรศิลป์ ในวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์นี้นอกจากนี้ เมสซี่เจ ยังพูดถึงความแตกต่างระหว่างฟุตบอลไทยกับญี่ปุ่นว่า เจลีก มีความเข้มข้นมากกว่าทั้งในเรื่องของรูปแบบการเล่น แท็คติก และที่สำคัญในเรื่องของระเบียบวินัยเมื่ออยู่นอกสนาม ซึ่งเป้าหมายกับทีมในปีนี้ เมสซี่เจ พร้อมพิสูจน์ตัวเอง เพื่อยึดตำแหน่ง 11 ผู้เล่นตัวจริงต่อเนื่องขณะที่ ธีราทร ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีม วิสเซล โกเบ ยอมรับว่าการปรับตัวกับเมืองนี้เป็นไปได้ด้วยดี ทั้งในเรื่องของผู้คนในเมือง รวมถึงอาหารการกิน ส่วนการปรับตัวกับทีมไม่มีปัญหา และจะพยายามซึบซับระบบการเล่นกับทีมให้เร็วที่สุดขณะที่อีก 2 ดาวรุ่ง อย่าง จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ จาก เอฟซี โตเกียว และเชาว์วัตน์ วีระชาติ จาก เซเรโซ โอซากา ตั้งเป้าจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และพัฒนาฝีเท้าให้ได้มากที่สุด เพื่อโอกาสในการสอดแทรกขึ้นไปสู่ทีมชุดใหญ่ในอนาคตนอกจากนี้ นักเตะทั้ง 5 คน ยังได้เข้าพบกับ นายบรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว เพื่อร่วมรับประทานอาหาร และรับฟังโอวาทที่เน้นย้ำให้นักเตะไทยประสบความสำเร็จในการค้าแข้งที่ญี่ปุ่น
|
5 นักเตะทีมชาติไทยที่เดินทางไปค้าแข้งอยู่ในศึกเจลีก ประเทศญี่ปุ่น ร่วมแถลงข่าวก่อนเปิดฤดูกาล โดย เมสซี่เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ แนวรุกของคอนซาโดเล่ ซัปโปโร มั่นใจแม้ทีมจะมีการเปลี่ยงแปลงเฮดโค้ช ก็จะสามารถยึดตำแหน่ง 11 ผู้เล่นตัวจริงได้
|
กีฬา
|
เจลีก,ฟุตบอล,ญี่ปุ่น,ชนาธิป สรงกระสินธ์,ธีรศิลป์ แดงดา,ธีราทร บุญมาทัน,จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์,เชาว์วัตน์ วีระชาติ,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส
|
https://news.thaipbs.or.th/content/270289
|
ตามรอยพระบาท ร.10 EP.2 ยุทธภูมิสยบคอมมิวนิสต์ พระเจ้าอยู่หัวรบเคียงบ่าทหารกล้า
|
มาถึงตอนที่สองแล้ว สำหรับ รายงานพิเศษชุด ตามรอยพระบาท ร.10 ซึ่งในตอนแรก ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้ลงพื้นที่บ้านนาจาน อ.นครไทย จ.พิษณุโลก (,ตามรอยพระบาท ร.10 EP.1 จากสนามรบสู่ความสงบสุข ณ พิษณุโลกสองแคว,), ,ซึ่งถือเป็นการเดินตามรอยพระบาท ,สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร, หรือ ,สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10, ซึ่งเคยเสด็จพระราชดำเนินมาค้างแรม ณ ฐานปฏิบัติการนาจาน บ้านนาจาน ในการนั้น พระองค์ยังทรงแนะนำวิธีการตั้งรับปรับค่ายให้กับเจ้าหน้าที่รวมถึงกล่าวให้กำลังใจกับเหล่าทหารหาญ เจ้าหน้าที่ อส.และราษฎรในพื้นที่นำความปลาบปลื้มใจมาสู่พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ,เมื่อสำรวจอดีตฐานปฏิบัติการบ้านนาจานเสร็จสิ้น ทีมข่าวฯ มุ่งหน้าไปอีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่อยู่รอยต่อ จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และ จ.เลย นั่นก็คือ ,อุทยานภูหินร่องกล้า,ที่แห่งนี้มีเรื่องเล่ามากมาย เนื่องจากเป็นฐานที่มั่นใหญ่ของกลุ่มคอมมิวนิสต์ และมีกำลังกล้าแกร่งที่สุด แต่เมื่อความสงบสุขมาเยือน ดินแดนแห่งนี้แปรเปลี่ยนเป็นสถานที่ที่ใครหลายคนใฝ่ฝันอยากจะมาเที่ยว,แค่เพียงชั่วโมงเศษ เราเดินทางออกจากบ้านนาจาน อ.นครไทย จ.พิษณุโลก มาถึงจุดหมาย ณ ภูหินร่องกล้า การเดินทางครั้งนี้ สะดวก ราบรื่น และรวดเร็ว ต้องยกความดีความชอบให้กับ พี่ยุทธ์ คนเดิม นักข่าวไทยรัฐประจำจังหวัดพิษณุโลก ที่เป็นไกด์นำทางให้จนถึงที่หมายอย่างทันใจ แม้หนทางจะคดเคี้ยวเลี้ยวลดดั่งงูเลื้อย ขึ้นเขาลงผา ก็ไม่หวาดหวั่น โดยมีน้าเยา โชเฟอร์ที่ตะลุยมาแล้วทุกสารทิศพาเราไป ,แค่เพียงอึดใจเราก็ถึงที่หมาย, ภูหินร่องกล้า,ก้าวแรกที่ลงจากรถ สัมผัสได้ทันทีคืออากาศบริสุทธิ์ สูดเข้าไปเต็มปอดแบบที่เราหาไม่ได้จากกรุงเทพฯ ไอเย็นผ่านลมหายใจรู้สึกชื้นใจจริง ๆ,วันที่เราไปนั้น คือสัปดาห์ก่อนจะถึงวันสิ้นปี บรรยากาศผู้คนจึงไม่ขวักไขว่นัก อากาศที่สัมผัสตอนนั้นไม่เย็นมาก ประมาณ 25-26 กว่าองศา (คาดว่าตอนนี้น่าจะหนาวกันแล้ว),สิ่งที่สะดุดตาสิ่งแรกที่เห็นก็คือ ป้าย,ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวภูหินร่องกล้า, เมื่อเดินไปนิด ก็จะเห็นคล้ายซากอะไรบางอย่าง เมื่อเดินไปดูใกล้ๆ จึงพบว่าเป็นซากเฮลิคอปเตอร์และกระสุนปืนใหญ่ที่เหลือจากการสู้รบกันในอดีต,เมื่อเดินเข้าไปยังจุดบริการนักท่องเที่ยว เราก็เจอ ,พี่เสือ, หรือ ,มนัส สีเสือ, เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ยืนยิ้มแฉ่ง ฟันขาวเห็นแต่ไกล ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว แต่เราไม่ได้มาเที่ยวจึงเข้าสอบถามพูดคุยเรื่องราวในอดีตซึ่งเขานี่แหละรู้ดีที่สุด,พี่เสือ ของเรา เล่าว่า, อดีตเคยเป็นทหารพรานเคยเข้ามาควบคุมดูแลในพื้นที่ภูหินร่องกล้า โดยเกิดในพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด คือ พิษณุโลก เลย และ เพชรบูรณ์ ซึ่งถือเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มคอมมิวนิสต์ในสมัยก่อน ตอนเด็กๆ ก็เห็นเหตุการณ์การสู้รบโดยตลอด โดยเริ่มต้นจากกลุ่มคอมมิวนิสต์เข้ามาปลุกระดมชาวเขา ประชาชน ตั้งแต่ปี 2507 โดยยกประเด็นเรื่องความเหลื่อมล้ำ ด้วยเหตุนี้ จึงมีชาวเขา ซึ่งเดิมก็ปลูกฝิ่น ชาวบ้านบางส่วนเข้าร่วม ทำให้มีกำลังกล้าแข็ง รวมกัน ณ ที่อุทยานภูหินร่องกล้า กว่า 3,000-4,000 คน,ภูหินร่องกล้ามียุทธภูมิที่ดีมาก มีภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน หน้าผาเป็นแนวยาว นอกจากนี้ยังมีถ้ำตามธรรมชาติ ซึ่งสามารถอยู่ได้หลายร้อยคน นอกจากนี้ พื้นที่ยังสามารถเชื่อมโยงไปสู่ประเทศลาวได้ ด้วยประการฉะนี้ ภูหินร่องกล้า จึงเป็นยุทธภูมิสำคัญในสมัยก่อน,การช่วงปะทะหนักหน่วง ตั้งแต่ 2511-2516 รวม 5 ปี มียุทธการใหญ่ 2 ยุทธการ คือ ยุทธการภูขวาง และยุทธการสามชัย ซึ่งทั้ง 2 ยุทธการมีการสู้รบกันอย่างหนัก ใช้อาวุธหนักเข้าโจมตีกันและกัน แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถยึดภูหินร่องกล้าได้,ต่อมา การสู้รบได้ยืดเยื้อยาวนานนับ 10 ปี กระทั่งมีคำสั่ง 66/2523 ที่มีการนิรโทษกรรมผู้กระทำความผิดหรือเคยเข้าร่วมกับคอมมิวนิสต์ อีกทั้งมีการแตกคอกันภายใน ทำให้ลัทธิคอมมิวนิสต์เริ่มเสื่อมถอยในที่สุด,พระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และ รัชกาลที่ 10 นั้น แผ่ไพศาล ในช่วงที่มีการสู้รบกัน ทั้งสองพระองค์ทรงห่วงใยในราษฎรและทหารกล้า โดยในหลวงรัชกาลที่ 10 พระองค์ท่านทรงเสด็จมาทรงเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตามค่ายทหารตำรวจ โดยเฉพาะที่บ้านหมากแข้ง จ.เลย ซึ่งเปรียบเสมือนว่าพระองค์ท่านเสด็จมาที่นี่อยู่แล้ว เพราะแถบนี้เป็นเขตอิทธิพลของคอมมิวนิสต์ทั้งหมด เพียงแต่พระองค์ไม่ได้เสด็จมาที่ภูหินร่องกล้าเท่านั้น,แต่หลังจากสงบ รัฐบาลได้มีการสำรวจแหล่งธรรมชาติ ซึ่งดูแล้วเหมาะที่จะเป็นอุทยานแห่งชาติ,ฟังพี่เสือเล่าถึงประวัติศาสตร์ภูหินร่องกล้าแล้ว จะไม่ขึ้นชมเก็บภาพความงามมาฝากก็ดูเหมือนจะเดินทางมาไม่ถึง ด้วยเหตุนี้ ทีมข่าวฯ จึงเดินขึ้นชมธรรมชาติ ณ ภูหินร่องกล้ากันเลย,โดย 2 จุดแลนด์มาร์กที่สำคัญที่เราเก็บภาพมาฝากก็คือ ,ลานหินปุ่ม, กับ, ผาชูธง , ,เป็นไงบ้างครับสวยน่าเที่ยวไหมแต่ขอบอกว่า งานนี้เล่นเอาทีมข่าวไทยรัฐเหงื่อตกเหมือนกัน แต่รับรองว่าเมื่อถึงที่หมายแล้ว ทุกคนต้องร้องเป็นเสียงเดียวกัน ,มันงดงามและคุ้มค่ามากๆ,ทั้งนี้ ในวันแรกนี้ของการเดินทางของเราจบลงที่ ภูหินร่องกล้า แต่รายงานพิเศษชิ้นนี้ยังไม่จบ เพราะเราจะมุ่งหน้าหาอดีตฐานปฏิบัติการที่ จ.เพชรบูรณ์ กันต่อ,สำรวจเขาค้อ ยุทธภูมิประวัติศาสตร์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่ทหาร ,เรื่องเล่าก่อนเดินทางเพชรบูรณ์ อีกแหล่งฐานที่มั่นคอมมิวนิสต์ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์,ทำไมเราถึงมาที่เพชรบูรณ์คำตอบคือ เพราะ จ.เพชรบูรณ์ คืออีก 1 ฐานที่มั่นของกลุ่มคอมมิวนิสต์ ด้วยเหตุนี้ เราจึงเดินทางมาถึงที่แห่งนี้,ฐานสำคัญที่เราจะเดินทางไป คือ ฐานปืนใหญ่เขาค้อ และฐานปฏิบัติการสมเด็จ,จากพระราชประวัติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เคยเดินทางมาคือ,หลังจาก พระองค์เสด็จออกจากบ้านนาจาน จากนั้น ได้เดินทางมาที่ฐานปืนใหญ่เขาค้อ และ เสด็จฯ ไปยังฐานปฏิบัติการ สมเด็จ ระหว่างเดินทางได้มีกลุ่มคนร้ายซุ่มโจมตี พระองค์ท่านได้ทรงจับปืนสู้รบด้วยพระองค์เองอย่างห้าวหาญ กระทั่งขับไล่กลุ่มที่เข้ามาโจมตีไปได้ แม้เฮลิคอปเตอร์คุ้มกันจะได้รับความเสียหาย แต่ก็สามารถลงจอดได้, (อ่านรายละเอียดจากเนื้อหาฉบับเต็ม ,พระปรีชา ร.10 ผู้ทรงกล้าหาญ ปกป้องประชาจากภัยคุกคาม,),จุดหมายแรกที่จะไปคือ การไปดูสิ่งที่ยังหลงเหลือจากอดีต นั่นก็คือ, พิพิธภัณฑ์อาวุธ (ฐานอิทธิ), ซึ่งเดิมที ณ ที่แห่งนี้คือฐานปืนใหญ่เขาค้อ ที่เคยมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการสู้รบกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ แต่ปัจจุบัน กลายเป็นพิพิธภัณฑ์,ประวัติความเป็นมาของ ฐานอิทธิ เนื่องจากรัฐบาลกับกลุ่มคอมมิวนิสต์มีการสู้รบกันมาอย่างยาวนานในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ พิษณุโลก เลย และเพชรบูรณ์ สูญเสียกำลังและไพร่พล รวมถึงมีคนล้มตายจำนวนมาก ดังนั้น กองทัพภาคที่ 3 จึงต้องการ เผด็จศึก ให้ได้ ด้วยการเปิด ยุทธการผาเมืองเผด็จศึก 1 โดยขับไล่กลุ่มคอมมิวนิสต์ออกจากเขาค้อได้ ภายใต้การยิงสนับสนุนจากฐานสมเด็จ (ฐานสมเด็จเป็นฐานยิงของ พัน.ป.3404 ) จากนั้นได้มีฐานปืนใหญ่ย้ายขึ้นมาบนเขาค้อ (ฐานยิงสนับสนุนอิทธิในปัจจุบัน) โดยได้ทำการเคลื่อนย้ายปืนใหญ่จากฐานสมเด็จขึ้นเขาค้อ โดยมีการ เปิด ยุทธการผาเมืองเผด็จศึก 2 โดยทำการเคลื่อนย้ายปืนใหญ่ 155 มม. จำนวน 1 กระบอก และอาวุธอื่น ๆ ไปตั้งยิงเมื่อวันที่ 17 ก.พ.24,ฐานยิงเขาค้อแห่งนี้ สามารถยิงสนับสนุนและส่งผลให้กลุ่มคอมมิวนิสต์ถึงกับพ่ายแพ้ เนื่องจากชัยภูมิที่อยู่สูง มองเห็นรอบเมืองจึงทำให้ได้เปรียบในการรบ อย่างไรก็ดี ฐานแห่งนี้ถูกเปลี่ยนชื่อจาก ฐานยิงปืนใหญ่เขาค้อ มาเป็น ฐานยิงสนับสนุนอิทธิ เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ พ.อ.อิทธิ สิมารักษ์ ผช.ผอ.พตท. 1617 ซึ่งเสียชีวิตจากการบัญชาการที่เขาค้อ เมื่อวันที่ 17 พ.ย.23 ก่อนที่การสู้รบจะจบลงอย่างสิ้นเชิงในปี 2525,อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวเฉพาะกิจยังได้เยี่ยมชมฐานแห่งนี้ ซึ่งถือเป็น พิพิธภัณฑ์อาวุธที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากอยู่บนภูเขาสูง เราได้สัมผัสอากาศหนาวเย็นอีกด้วย โดยเราจะได้เห็นอาวุธที่ปลดประจำการ รวมถึงร่องรอยการต่อสู้จากอาวุธต่างๆ โดยเฉพาะเครื่องบิน บข.8 (F-5) ที่ขับโดย น.ต.พงษ์ณรงค์ เกษรศุกร์ ออกโจมตีทางอากาศในการปราบปรามกลุ่มคอมมิวนิสต์ ก่อนจะถูกยิงตกที่บริเวณเขาปู่ พิกัด QU 046-402 จ.เพชรบูรณ์,ทั้งนี้ เมื่อไปถึง ฐานอิทธิ เราได้เยี่ยมชมอาวุธเสร็จ เราได้เจอพี่ๆ ทหารประจำการอยู่ เราจึงสอบถามหา ฐานสมเด็จ ,ปรากฏว่า ไม่มีทหารคนใดรู้จักแต่ก็ยังโชคดี ที่พี่ทหารใจดีท่านหนึ่งได้โทรศัพท์ถามคนเก่าคนแก่ ที่อยู่ในพื้นที่ และเราก็ได้คำตอบ,ฐานสมเด็จนี้อาจจะอยู่ห่างจากฐานอิทธิ ประมาณ 7 กิโลเมตร ปัจจุบันไม่ทราบว่ากลายเป็นอะไร,เมื่อได้ยินดังนั้น มีหรือที่เราจะไม่ไปดู ซึ่งก่อนจะลงจากเขาค้อ เราได้แวะชม อนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อ ซึ่งก็ไม่ลืมที่จะเก็บภาพมาฝากกัน ,เราค่อยๆ เดินทางย้อนกลับมาทางเดิม เพื่อหาอดีตฐานปฏิบัติการสมเด็จ เมื่อขับรถได้สักพัก เราก็เข้าแวะถามที่ เรือนร่มเกล้า เราเข้าไปเจอทหาร 2 คน ก็ลงไปถามทันที ,แต่ไม่ได้คำตอบ เพราะทหารทั้ง 2 คน เพิ่งมาประจำการที่ จ.เพชรบูรณ์ จึงไม่รู้จัก ,แต่เมื่อขับรถออกมาจากเรือนร่มเกล้า ได้เพียงไม่กี่เมตร เราจึงตัดสินใจถามชาวบ้านในพื้นที่ เพราะหันมาเห็นเนินทางขึ้นไป สำนักสงฆ์ปานสุขุม เมื่อถามชาวบ้าน ชาวเพชรบูรณ์ผู้ใจดีก็ชี้ไปทางขึ้นดังกล่าว บอกนี่แหละ ฐานสมเด็จ เราไม่รอช้า ขับรถขึ้นเนินดังกล่าวไปทันที ซึ่งสูงจากพื้นประมาณ 5-6 เมตร ,เมื่อขึ้นไปถึง เราเห็นพระอยู่รูปหนึ่งนั่งอยู่ และก็มีกลุ่มชายหญิงกำลังขะมักเขม้นกำลังทำอาหารกัน เราจึงเข้าไปสอบถาม,ทีมข่าวฯ ได้รับคำยืนยันดีใจลิงโลด ในที่สุดก็หาเจอ (เนื่องจากกำลังลุ้นอยู่ว่าเราจะหาเจอหรือไม่),เราจึงได้พูดคุยกับชาวบ้าน ชาวบ้านจึงชี้ไปยังชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่หลังรถ ,นายนิพนธ์ คงดอนทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ปานสุขุม, กล่าวว่า ผมยืนยันว่าตรงนี้ คืออดีตฐานสมเด็จเก่า หลังจากทหารออกจากพื้นที่ไป ก็กลายเป็นที่รกร้าง ส่วนกระสุนปืน อาวุธยุทโธปกรณ์ ต่างๆ ทั้งหมดถูกนำไปไว้บนฐานปืนใหญ่บนเขาค้อ,ต่อมาที่นี่เกิดไฟป่าที่บริเวณนี้เป็นประจำ กระทั่ง พระอาจารย์ธีระ จิตกุศโล มาปักกรด พระอาจารย์ท่านก็บอกว่าน่าจะสร้างวัดนะ ผมจึงทำเรื่องเสนอจังหวัดทหารบกไปเมื่อปี 2552 เนื่องจากที่ดังกล่าวเป็นที่ของทหาร (เรือนร่มเกล้า) จากนั้นตนจึงทำเรื่องขอเนื้อที่ตรงนี้เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ เพื่อมาทำสำนักสงฆ์,ขณะที่ พระอาจารย์ธีระ จิตกุศโล พระธุดงค์มาจากอุบลราชธานี และมาเจอพื้นที่ดังกล่าว และขอสร้างเป็นสำนักสงฆ์ บอกว่า หลังจากธุดงค์มาเรื่อยๆ ก็มาพบเนินแห่งนี้ ความรู้สึกว่าที่แรง เพราะทราบว่าเมื่อก่อนแถบนี้มีคนตายเยอะ เราจึงมาสร้างสำนักสงฆ์เผื่อแผ่บุญแผ่กุศลให้ ต่อมา มีการขุดอ่างเก็บน้ำพระราชทานจาก ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทำให้ชาวบ้านในแถบนี้มีน้ำกินน้ำใช้,หลายสิบปีที่ผ่านมา ประเทศไทย ประสบปัญหานานัปการ แต่ทุกครั้งประเทศไทยจะรอดพ้นจากภยันตรายมาได้ ส่วนหนึ่งเพราะเรามีพระมหากษัตริย์ที่ทรงห่วงใยปวงราษฎร์,ถึงแม้ในยามที่ต้องออกรบ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ก็ทรงห่วงใย พระราชทานคำแนะนำ หรือ นำหน้าทหาร ตำรวจ อส. ออกรบด้วยพระองค์เอง ด้วยน้ำพระทัยอันห้าวหาญสมชายชาตินักรบ,ปัจจุบัน บ้านนาจาน มีความสงบร่มเย็น ภูหินร่องกล้า เขาค้อ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แลนด์มาร์กของจังหวัดที่ผู้คนจะมาหาความสุข ด้วยพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นของเหนือหัว 2 พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
|
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้เขียนรายงานพิเศษ ตามรอยพระบาท ร.10 EP.1 จากสนามรบสู่ความสงบสุข ณ พิษณุโลกสองแคว (ชมคลิป) โดยได้เดินทางถึง บ้านนาจาน อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งถือเป็นการเดินตามรอยพระบาท
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร,ในหลวง รัชกาลที่ 10,เขาค้อ,ภูหินร่องกล้า,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/news/local/833457
|
เคน ยี้ น้ำตาล อ้วกพุ่งคาอก คู่กัดแห่ง กามเทพออนไลน์
|
เคน–ภูภูมิ, และ ,น้ำตาล–พิจักขณา, จากละคร ,กามเทพออนไลน์, หนึ่งในซีรีส์, The cupids บริษัทรักอุตลุด, เจอหน้ากันแต่ละทีไม่มีโรแมนติกเลยสักนิด แถมคราวนี้ยังฝากรักชนิดร้องอี๋ เป็นตอนที่ ,แพรวพราว (น้ำตาล–พิจักขณา), เสียใจที่มีคนรู้เรื่องที่ตัวเองเคยมีฟันจอบหน้าตาเหมือนแก้วหน้าม้ามาก่อน จึงชวน ,หอมหมื่นลี้ (คริส–หอวัง), มาปรับทุกข์และดื่มเหล้าด้วยกัน ,พราว, เมาหนัก ,หอมหมื่นลี้, จึงให้ ,ปีมงคล (ปั้นจั่น–ปรมะ), มาช่วยพา ,พราว, กลับบ้าน แต่เจอ ,โรม (เคน–ภูภูมิ), ทำให้, พราว, โวยวายใส่ ,โรม, ชุดใหญ่,ฉากนี้ถ่ายทำที่ The Walk เลียบทางด่วน รามอินทรา ,หนึ่ง–ชัชวาล, ผู้กำกับ เรียก, เคน–น้ำตาล–คริส–ปั้นจั่น, มาซ้อมคิว ,น้ำตาล, แอบหนักใจเพราะเห็นวิธีทำอ้วกของทีมงาน เอาโยเกิร์ต ไข่กุ้ง เนื้อย่าง นมมาผสมกัน เหมือนจริงมาก ทุกคนพร้อม ,น้ำตาล, เดินเซไปมาคล้ายคนเมา ,คริส, คอยประคอง ประจวบเหมาะ ,เคน, โผล่มา เมื่อ ,น้ำตาล, คิดไปเอง ,เคน, มาตามตื๊อ ด้วยความเมา ,น้ำตาล, จึงต่อว่า, เคน, ชุดใหญ่ จนเริ่มมีอาการพะอืดพะอม ,เคน, เห็นท่าไม่ดีพยายามปิดปากน้ำตาล แต่ไม่ทัน ,น้ำตาล, อ้วกใส่อกเคนแบบแม่นเว่อร์, เคน, ร้องอี๋เสียงหลง มีอาการขยะแขยงสุดฤทธิ์ พอสั่งคัต ทุกคนปรบมือให้,น้ำตาล,อ้วกได้เป็นศิลปะมากๆ แถมเทกเดียวผ่าน ,เคน, ได้แต่ร้องฮึๆ ฝากไว้ก่อน ติดตามชมฉากสนุกๆ คืนวันศุกร์ 14 เม.ย.นี้ ทางช่อง 3.,ติดตามอ่านนิยายเรื่อง กามเทพออนไลน์ ได้ที่นี่
|
เพิ่งเรียกน้ำจิ้มไปตอนแรก ส่อแววเป็นคู่กัดมากกว่าคู่จิ้น สำหรับพระนาง เคน–ภูภูมิ และ น้ำตาล–พิจักขณา จากละคร กามเทพออนไลน์ หนึ่งในซีรีส์ The cupids บริษัทรักอุตลุด เจอหน้ากันแต่ละทีไม่มีโรแมนติกเลยสักนิด แถมคราวนี้ยังฝาก
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
กามเทพออนไลน์,เคน ภูภูมิ พงศ์ภาณุ,น้ำตาล พิจักขณา,เคน ภูภูมิ
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/912231
|
แรงชัดได้ใจ เอกชัย ศรีวิชัย พูดตรง หลังถูกมองเปิดฮาเร็มเลี้ยงเด็ก (คลิป)
|
ถึงกับยิ้มไม่ออกกันเลยทีเดียว สำหรับ เอกชัย ศรีวิชัย ที่ตอนนี้คุณแม่สุดที่รักนอนป่วยอยู่ห้อง ICU ทำเอาเจ้าตัวเดินสายทำบุญตลอดเพื่อหวังให้คุณแม่กลับมาหายดีในเร็ววัน ล่าสุดเจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31 ,พักหลังๆ ไม่ค่อยเห็นพี่เอกจัดโชว์แล้ว?,ก็หยุดวงไปประมาณ 3 ปีกว่าๆ คือปิดตายตัวปิดตำนานไปเลย เพราะมีความรู้สึกว่ามันถึงเวลาต้องหยุดแล้ว เดินทางมา 20 ปีพี่ว่ามันเป็นระยะเวลาที่นานมาก,แล้วเรารู้สึกว่าวันข้างหน้ากับเศรษฐกิจที่มันเป็นแบบนี้กับสถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นแบบนี้มันจะรอดต่อไปได้ไหม ก็เลยคิดว่าหยุดวันนี้เราจะเป็นอมตะ แต่ถ้าเราหยุดตอนไม่มีคนดูเราจะเจ๊ง,น้อยใจแฟนๆ ด้วยไหม ที่เสียงตอบรับไม่เหมือนสมัยก่อน?,ไม่ๆ เพราะว่าแฟนคลับศรีวิชัยโชว์ แฟนคลับลูกทุ่งมันจะต่างจากสตริง ต่างกับวัยรุ่น ต่างกับทาร์เก็ตอื่นๆ มาก เราไม่ได้รักกันเพราะเราเป็นแฟนคลับไปคลั่งศิลปิน แต่เรารักกันเพราะว่ามันเป็นความสุขที่เราได้ดู เป็นความสุขของคนในครอบครัว เหมือนเราครอบครัวเดียวกัน,จริงๆ แฟนคลับของพี่สัมผัสได้ว่าอยู่ในวงการมานานจะมีการพัฒนาเรื่องรูปร่างหน้าตาอยู่เรื่อยๆ เวอร์ชั่นนี้ดีที่สุด เป๊ะที่สุดแล้วหรือยัง?,หลายคนถามตลอดในเรื่องของศัลยกรรม คือจริงๆ พี่เอกบอกได้เลยว่า ทำศัลยกรรมครั้งเดียวที่เปลี่ยนตั้งแต่ยุคเพลงหมากัดดัง เคยทำครั้งนั้นครั้งเดียว แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เคยทำศัลยกรรมอะไรเลย,แต่มีโบท็อกซ์อะไรแบบนี้มันเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าถามว่าทำไมปัจจุบันถึงเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน เมื่อก่อนอายุเท่าไหร่ แล้วตอนนี้อายุเท่าไหร่ คนเราถ้ามันอ้วนขึ้น หน้ามันก็เปลี่ยนมันก็เปลี่ยนไปทุกอย่าง โดยวัยของเรามันก็จะเปลี่ยนไปทุกอย่าง,เอาจริงๆ พี่บอกตรงๆ พี่ทำศัลยกรรมมาครั้งเดียว ครั้งนั้นฉีดหน้า ฉีดในยุคแรกๆ ที่ไม่มีอะไรรับรอง ตอนนั้นฉีดทุกอย่าง แต่ตอนที่เราทำมาใหม่ๆ มันยังกระชับ พี่ว่ามันด้วยวัยด้วยแหละ แต่ถามว่าพอหรือยัง คือไม่ได้ไปทำอะไรเพิ่ม,ในเรื่องของความรัก พี่มีหัวใจไหม?,พี่ว่าเรื่องความรักเราข้ามไปเถอะ คนอายุ 56 แล้วเนี่ยมันควรจะถามทำอะไรให้ประเทศชาติบ้าง ทำอะไรให้เด็กรุ่นหลังได้ซึมซับบ้าง เรื่องแบบนี้ไม่ต้องถามหรอก สนใจแค่วันนี้ เอกชัย ศรีวิชัย ทำอะไรให้ประเทศ ทำงานอะไรให้กับวงการ แล้วเราทำงานไรให้กับสังคม นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด,แต่มันมีข่าวลือว่าพี่เปิดฮาเร็ม เลี้ยงเด็กจริงหรือเปล่า?,ก็ไปดูได้ที่บ้าน ถ้าอยากรู้ขนาดนั้นก็ไปดู เพราะถ้าสมมติพี่เลี้ยง แล้วพี่ไม่ได้เลี้ยง คือพี่จะพูดยังไงออกสื่อก็ได้ เพราะฉะนั้นถ้าเสือกขนาดนั้นก็ไปดูที่บ้าน,แต่เด็กในที่นี่หมายความว่าพี่ส่งเด็กเรียน รับลูกบุญธรรมมากี่คน?,70 กว่าทุนในภาคใต้ที่พี่ส่งเรียนหนังสือ แต่พี่ไม่ได้ทำมา 2 ปีแล้ว ซึ่งเด็กที่เรียนทุนของพี่ต้องเป็นนายหนังตะลุง ต้องเป็นโนราห์ ต้องเล่นเครื่องดนตรีพื้นบ้านได้,แม้กระทั่งว่าคุณจะเรียนต่อในระดับปริญญาตรี คุณก็มาเบิกทุนที่พี่ได้แต่อย่าทิ้งการรำมโนราห์ อย่าทิ้งการเล่นหนังตะลุง อย่าทิ้งการเล่นดนตรีพื้นบ้าน อันนี้เป็นสิ่งที่พี่ทำมาตลอดเกือบ 20 ปี,ปีนึงเท่าไหร่?,หลายบาทอยู่ ทุนนึงก็หมื่นกว่าบาท,ว่าด้วยเรื่องโซเชียล มีอีกคนที่พี่รับอุปการะคือ โค้ชเอก?,คือตอนนั้นเด็กคนนี้ตอนที่มีข่าวเยอะๆ เราเห็นเค้า แล้วเราสงสาร แล้วตอนนี้บวชอยู่ ท่านเป็นคนรับผิดชอบมาก มีความเป็นผู้นำสูง พี่ก็เลยบอกว่าถ้าเค้าออกมาแล้วไม่มีคนดูแลเดี๋ยวผมอาสาเป็นพ่อบุญธรรม พ่อทูนหัวให้,แต่ไม่ได้หมายความว่าเอาเค้ามาอยู่บ้าน หรือมาดูแล มันไม่ใช่ คือเวลาขาดอะไร บางครั้งไม่ใช่เรื่องเงิน เพราะเงินมันแก้ปัญาทุกอย่างไม่ได้ แต่เรื่องของโค้ชเอกพี่ไม่ได้ตามเรื่องต่อ,เพราะมันบังเอิญกับเหตุการณ์ของคุณแม่ผม ก่อนหน้าที่เค้าออกจากถ้ำ พอบอกผมจะรับเด็กคนนี้เป็นลูกบุญธรรม ประมาณวันสองวัน คุณแม่ผมป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล,คุณแม่อาการเป็นยังไงบ้าง?,ตอนนี้คุณแม่ฟื้นแล้ว แล้วก็กำลังเตรียมตัวกลับบ้านเพื่อมาทำกายภาพ ซึ่งคุณแม่เป็นโรคหลอดเลือดในสมองตีบ ซึ่งโรงนี้อันตรายมากแล้วก็คนไทยเป็นโรคนี้ หนึ่งนาที 4 คน,เกิดจากอะไร?,เกิดจากหลายปัจจัย ไขมันหลอดเลือด แล้วก็ความดัน แล้วก็เบาหวาน การเต้นของหัวใจ มันเป็นผลพวงกันหมดเลย ซึ่งพี่ไปตระเวนทำบุญทุกที่ เพราะอยู่ตรงนั้นไม่มีประโยชน์อะไร เพราะมีหมอดูแลอยู่แล้ว,พี่ทำทุกอย่าง จนกระทั่งเอาหลานชายมาบวชก่อนเข้าพรรษา แล้วแม่ก็ฟื้นลืมตาได้หลังจากพระเดินลงจากอุโบสถ เพราะฉะนั้นขอให้เชื่อเถอะครับ บาป บุญ คุณ โทษมีอยู่จริง แล้วผมไปบนทุกที่ สุดท้ายแม่ก็ฟื้น.
|
เอกชัย ศรีวินัย กุมขมับแม่ป่วยหนัก จนต้องนอน ICU พร้อมตอบทุกเรื่องหลังมีคนมองเปิดฮาเร็มเลี้ยงเด็ก!
|
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
|
เอกชัย ศรีวิชัย,เอกชัย ศรีวิชัย เลี้ยงเด็ก,นักร้องลูกทุ่ง,เอกชัย ศรีวิชัย แฟน,ดารา
|
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1371907
|
สุดมั่น ฟลอเรนซี ชี้ทุกทีมต่างสะพรึง อิตาลี
|
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 2 ก.ค. ว่า อเลสซานโดร ฟลอเรนซี มิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลี ของ หมาป่าแห่งกรุงโรม อาแอส โรมา ทีมดังในกัลโชเซเรีย อา อิตาลี ออกโรงโวสนั่นลั่นทุ่ง ว่าทุกทีมในศึกยูโร 2016 ต่างมีความเกรงกลัวทีมชาติของเขาเป็นอย่างมาก หลังจากที่ทีมโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจสุดๆ ในศึกยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส,ผมคิดว่าหลายๆ ทีมเกรงต่างก็เกรงกลัวเรา (อิตาลี) ในตอนนี้ ดาวเตะวัย 25 ปี กล่าวอย่างมั่นใจผ่านเว็บไซต์ยูฟ่า ดอทคอม เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของยูฟ่า,เราได้พิสูจน์ให้ทุกทีมในการแข่งขันครั้งนี้ได้เห็นแล้วว่า เราเป็นทีมที่ดีทีมนึง ซึ่งเรามีความสุขเป็นอย่างมากเพราะเรากำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมสุดๆ,พร้อมกันนี้ผมยังคงหวังว่าเราจะคงระดับการเล่นแบบนี้ต่อไป เหมือนอย่างเกมที่เราสามารถเอาชนะทีมชาติสเปน เจ้าของแชมป์ยูโรสองสมัยซ้อนลงได้ด้วยสกอร์ 2-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย,สำหรับทีมชาติ อิตาลี เตรียมลงสนามพบกับ เยอรมัน ทีมแชมป์โลก ในเกมรอบรองชนะเลิศของศึกยูโร 2016 ในค่ำคืนนี้ เวลา 02.00 น. ตามวันและเวลาของประเทศไทย
|
อเลสซานโดร ฟลอเรนซี มิดฟิลด์แดนมะกะโรนี โวลั่น ทุกทีมต่างเกรงกลัวทีมชาติอิตาลี หลังทีมของเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจใน ยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศส
| null |
อเลสซานโดร ฟลอเรนซี,หมาป่าแห่งกรุงโรม,อาแอส โรมา,กัลโช เซเรีย อา,อิตาลี,ยูโร 2016,ฝรั่งเศส,ยูฟ่า,สเปน,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/653182
|
เร่งช่วยทีวีดิจิทัล
|
ได้ตั้งคณะทำงานเตรียมการจัดประมูลคลื่นความถี่ย่าน 700 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 2 คณะ เร็วกว่าแผนเดิมที่กำหนดไว้ช่วงต้นปีหน้า,คุณฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า คณะทำงานทั้งสองคณะประกอบด้วย 1.คณะทำงานจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 700 เมกะเฮิรตซ์ 2.คณะทำงานพิจารณาการประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ย่าน 700 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งทั้งสองคณะมีระยะเวลาดำเนินการ 30 วัน,คณะทำงานจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 700 เมกะเฮิรตซ์ มีอำนาจหน้าที่ศึกษาและจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้ความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 700 เมกะเฮิรตซ์ รวมถึงจำนวนใบอนุญาต วิธีการอนุญาต คุณสมบัติของผู้รับใบอนุญาต ราคาขั้นต่ำในการประมูล เงื่อนไขการชำระเงินค่าประมูล กระบวนการอนุญาต สิทธิ หน้าที่ เงื่อนไขของผู้รับใบอนุญาต และการออกแบบการประมูลที่เหมาะสม จัดทำแผนความถี่ จัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาต และดำเนินการอื่นๆตามที่ได้รับมอบหมายจากเลขาธิการ กสทช.,ส่วน คณะทำงานพิจารณาการประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ย่าน 700 เมกะเฮิรตซ์ มีอำนาจหน้าที่พิจารณาและให้ความเห็นชอบและข้อเสนอแนะต่อผลการศึกษาการประเมินมูลค่าคลื่น เสนอแนะมูลค่าคลื่นความถี่ที่จะใช้เป็นราคาขั้นต่ำในการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ที่เหมาะสมกับสภาพตลาดโทรศัพท์มือถือของประเทศไทย และดำเนินการอื่นๆตามที่ได้รับมอบหมายจากเลขาธิการ กสทช.,มีหลายคนสงสัยว่าการเอาคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์ไปประมูลเกี่ยวข้องอย่างไรกับการช่วยเหลือทีวีดิจิทัล? เท่าที่ผมทราบวิธีนี้เป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ.กสทช. ที่ระบุว่า เงินที่ได้จากการประมูลทีวีดิจิทัล 50,080 ล้านบาท ให้นำส่งกองทุน กทปส. เพื่อนำมาพัฒนากิจการโทรทัศน์ในช่วงการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิทัลในช่วงเริ่มต้นของการทำธุรกิจ แต่เมื่อ กสทช.นำเงินส่วนนี้ส่งเป็นรายได้แผ่นดินไปแล้ว กสทช. จึงใช้วิธีเอาทรัพย์สินที่มีอยู่ของทีวีดิจิทัล (คือคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์) มาประมูล แล้วนำเงินที่จะได้จากประมูลไปสนับสนุนคืนให้ทีวีดิจิทัล,สาเหตุที่เลือกเอาคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์มาประมูล เพราะเป็นคลื่นความถี่ย่านที่ดีที่สุดของทีวีดิจิทัล หากเอามาประมูลใช้งานโทรคมนาคมทำเป็น 5G น่าจะได้เงินหลายหมื่นล้านบาท คุ้มค่ากว่าปล่อยไว้นอนแช่กับทีวีดิจิทัล,สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาประกอบด้วย ค่าประมูลที่เหลือ 2 งวดสุดท้าย ค่าใช้จ่ายการออกอากาศผ่านโครงข่ายทีวีดิจิทัล (MUX) และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการปฏิบัติตามกฎมัสต์แครี (Must Carry),ผมขอตบมือให้ กสทช.ที่เร่งสปีดช่วยเหลือทีวีดิจิทัล ก็ขนาดอยู่ในช่วงรัฐบาล คสช.ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ กว่าจะเคาะมาตรการเยียวยาออกมาได้ยังยืดเยื้อเป็นปี ฉะนั้น หาก กสทช.ไม่เร่งมือเดินหน้าในช่วงจังหวะนี้ รอหลังเลือกตั้งไม่รู้รัฐบาลใหม่เป็นใคร จะมาสั่งแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่า,การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่รวดเร็ว Digital Disruption ส่งผลกระทบต่อทุกวงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลและอุตสาหกรรมโทรคมนาคม กระเทือนหนักสุดจนแทบกระอักเลือด,เมื่อรัฐบาลและ กสทช. ยื่นมือมาช่วยเหลือเยียวยา ไม่เพียงส่งผลดีต่อผู้ประกอบการ แต่ประชาชนและประเทศชาติก็ได้รับประโยชน์ด้วย เพราะทั้งสองอุตสาหกรรมมีผลกระทบอย่างมหาศาลต่อเศรษฐกิจภาพรวม.,ลมกรด
|
การช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลเดินหน้าไปได้รวดเร็วฉับไวดีทีเดียว สัปดาห์ที่แล้วสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
| null |
ทีวีดิจิตอล,ผู้ประกอบการ,หมายเหตุประเทศไทย,ลมกรด,กสทช.
|
https://www.thairath.co.th/newspaper/page1/1446893
|
ขอตำรวจจราจร
|
เรื่องแรก ชาวบางกอกน้อย เขียนระบายเรื่องที่ผู้ใหญ่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกข่าวมาว่า ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร 300 นาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้ใช้รถทั่วกรุงเทพมหานคร ในช่วงโรงเรียนทำการเปิดการเรียนการสอน ในช่วงเวลาเร่งด่วน เช้าและเย็น,รับมือเด็กเปิดเทอม,คนที่เขียนรู้สึกแปลกใจว่า สน.บางกอกน้อย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรอยู่ที่โรงพักหรือไม่,ทำไมไม่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรของ สน.บางกอกน้อย มาโบกรถหรืออำนวยความสะดวกให้ประชาชน ผู้ปกครองนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆที่มีปัญหาจราจรติดขัด จนเป็นปัญหาเดือดร้อนอย่างมาก,ถนนที่มีรถติดอย่างหนัก ตั้งแต่ ถนนอรุณอมรินทร์ ถนนอิสรภาพ,เพราะมีโรงเรียนอยู่หลายแห่ง,โดยเฉพาะ บริเวณถนนจรัลสนิทวงศ์ ตำรวจไม่ทราบเลยว่า ช่วงเวลาเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็น,ไม่เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทั้งใหม่และเก่ามายืนโบกเลย,แต่พอเวลา 09.30-11.30 น. เห็นตำรวจจราจรออกมายืนตั้งด่านกันพรึบ,พร้อมหน้าพร้อมตาและเข้มแข็งมาก,แต่เวลาโบกรถอำนวยการจราจรให้พี่น้องประชาชน ทำเป็นจะตาย หรือออกมายืนแค่ไม่นาน 10–15 นาที เดี๋ยวเจ้าหน้าที่ตำรวจหายหน้ากันไปเลย,ขอถาม ผบ.ตร.ที่ สน.บางกอกน้อย ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่กัน,ไว้ตั้งด่านแค่นั้นหรือไม่,เรื่องที่ 2 พนักงานขับรถบรรทุกสินค้าจากท่าเรือคลองเตย มากระจายสินค้าและนำสินค้าเข้าบรรจุสินค้าเพื่อส่งออก ต้องใช้เส้นทางถนนพระราม 3 เพื่อข้ามสะพานภูมิพลเข้าสู่เส้นทางถนนกาญจนาภิเษก,แต่ถูกตำรวจดักจับรถที่เชิงสะพานภูมิพล กักรถ เพราะติดเวลา,ทั้งที่เป็นถนนอุตสาหกรรม,น่าจะผ่อนผันรถบรรทุกป้ายเหลือง เพื่อจะได้ส่งสินค้าโดยสะดวก,ขอให้ผู้ใหญ่มีอำนาจพิจารณาด้วย.,เพลิงพยัคฆ์,[email protected]
|
เรื่องสั้นฉบับวันอาทิตย์ คนบางกอกน้อย บ่นตำรวจจราจร สน.บางกอกน้อย ไม่มายืนโบกช่วงรถติด แต่ชอบยืนตั้งด่านจับรถ และคนขับรถบรรทุกขนส่งสินค้า ขอผ่อนผันวิ่งรถย่านอุตสาหกรรม
| null |
เลขที่1 วิภาวดีฯ,เพลิงพยัคฆ์,ขอตำรวจจราจร,ตำรวจจราจร,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/1123294
|
เด็กมีของ ตำนานดัตช์ชี้ เดปาย ยังมีแววรุ่งกับผีแดง
|
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 26 พ.ค. ว่า โรนัลด์ เดอ บัวร์ อดีตดาวเตะชื่อดังชาวดัตช์ ออกโรงหนุนหลังพร้อมแสดงความมั่นใจ เมมฟิส เดปาย จะยังคงสามารถพัฒนาเป็นซุปเปอร์สตาร์คนใหม่ ในสีเสื้อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจะล้มเหลวกับทีมอย่างไม่เป็นท่าในฤดูกาลแรก ,ดาวเตะวัย 22 ปี ตัดสินใจย้ายจาก พีเอสวี ไอนด์โอเฟน ในบ้านเกิด เพื่อมาร่วมทัพปิศาจแดง พร้อมกับความหวังในการเข้ามาเติมเต็มเกมรุกขาดหายไป ให้กลับมามีชีวิตชีวามากขึ้น แต่ไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งให้กลับมาได้อีกครั้ง ภายใต้การทำทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล และถูกจับนั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่ ,อย่างไรก็ตาม เดอ บัวร์ อดีตนักเตะยุครุ่งเรืองของทีมชาติเนเธอร์แลนด์เผยว่า ดาวเตะรุ่นน้องจากแดนกังหันลมรายนี้ จะก้าวขึ้นมาฉายแสงกับต้นสังกัดได้อย่างแน่นอนในฤดูกาลหน้า หากได้รับโอกาสและเวลาที่มากพอ ,เมมฟิส ยังคงเป็นเด็กหนุ่มที่น่าจับตามอง เขาต้องการเวลาปรับตัว บางทีอาจจะต้องใช้เวลาสัก 1-2 ปี สำหรับการเปลี่ยนแปลง แต่เขาเป็นนักเตะที่มีคุณภาพมากพอ ที่จะพัฒนาตัวเองขึ้นไปเป็นซุปเปอร์สตาร์ในอนาคต และผมก็เชื่อว่าเขาจะทำมันได้ในไม่ช้า ,สำหรับ เดปาย ถูกตัดชื่อออกจาก 18 ขุนพล ชุดคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และลงสนามรับใช้ต้นสังกัดเพียงแค่ 29 นัด และทำไป 2 ประตูเท่านั้นในเกมลีก
|
ตำนานนักเตะจากแดนกังหันลม ออกมาสนับสนุนรุ่นน้องร่วมชาติอย่าง เมมฟิส เดปาย มีคุณสมบัติที่ดีในการก้าวขึ้นมาเป็นซุปเปอร์สตาร์ลูกหนังกับต้นสังกัดในอังกฤษได้ไม่ยาก หากได้รับโอกาสการปรับตัวที่มากพอ
| null |
เมมฟิส เดปาย,โรนัลด์ เดอ บัวร์,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,พรีเมียร์ลีก,ทีมชาติเนเธอร์แลนด์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวกีฬา
|
https://www.thairath.co.th/content/626148
|
ตำรวจท่องเที่ยวทวงคืนผืนป่า จับนายทุนรุกป่าพังงาทำทัวร์
|
สนธิกำลังหน่วยงานเกี่ยวข้องทวงคืนพื้นที่ป่าสงวนและป่าชายเลน จากกลุ่มนายทุนที่บุกรุกพื้นที่ใช้พื้นที่ป่าสงวนแสวงหาผลประโยชน์ในรูปแบบธุรกิจการท่องเที่ยว,ครั้งที่ 1 ดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวและท่าเรือที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติคลองทุ่งมะพร้าวอยู่ในพื้นที่ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เข้าค้น 5 จุด ตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค. จุดที่ 1 ท่าเทียบเรือบริษัท บลูด้า มารีน จำกัด ตั้งอยู่ที่ 333/28 ม.7 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน 3 ไร่ และบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนบางส่วน 1 งาน ความเสียหาย 219,348.33 บาท จุดที่ 2 ท่าเทียบเรือบริษัท หาญทะเล มารีน จำกัด ตั้งอยู่ที่ 531/73 ถ.ภูเก็ต ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน 3 งาน ความเสียหาย 52,532.64 บาท จุดที่ 3 ท่าเทียบเรือบริษัท มีเร็กซ์ แอดเวนเจอร์ส จำกัด ตั้งอยู่ที่ 20/27 ม.2 ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน 1 ไร่ ความเสียหายของพื้นที่ป่า 83,641.77 บาท,จุดที่ 1-3 ปลูกสร้างสะพานไม้และโป๊ะเป็นท่าเทียบเรือล่วงล้ำไปในคลองทุ่งมะพร้าว ได้มายื่นแบบแจ้งการปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำแม่น้ำตามคำสั่ง คสช. อยู่ระหว่างพิจารณาอนุญาตหรือไม่อนุญาต จุดที่ 4 อาคารไม่ทราบเลขที่ ตั้งอยู่ที่ ม.4 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พบบ้านหลังใหญ่ โรงรถขนาดใหญ่ สะพานไม้และโป๊ะเทียบเรือ บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน 3 ไร่ ความเสียหาย 260,692.92 บาท จุดที่ 5 ท่าเรือทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เป็นเรื่องที่มีผู้เข้ามาร้องเรียน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. ในหลายพื้นที่มีบริษัททัวร์ทำผิดกฎหมาย ทัวร์ต่ำกว่าทุน ลักลอบเปิดท่าเรือในเขตป่าสงวน ลดต้นทุนในการเดินทาง และเมื่อเป็นทัวร์ที่ผิดกฎหมายจะจัดเก็บภาษีไม่ได้ และมีผลกระทบต่อระบบนิเวศ ป่าชายเลน และพื้นที่ป่าสงวน,จากเดิมที่เคยยื่นขอให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาดำเนินการกลุ่มนายทุนที่บุกรุก แต่ไม่เคยมีหน่วยงานไหนกล้าจัดการ แต่หลังจากชาวบ้านได้เห็นตำรวจท่องเที่ยว บช.ทท. เข้ามาจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จ.ภูเก็ต อย่างต่อเนื่อง จึงกลับมาให้ข้อมูลขบวนการรุกพื้นที่ป่าสงวน จ.พังงา,พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ยึดนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ในการทวงคืนผืนป่าจากกลุ่มนายทุน ให้ บช.ทท.สืบสวนขยายผลกลุ่มทัวร์และท่าเรือที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน,จากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เชื่อมต่อ จ.พังงา รุกล้ำพื้นที่ลำน้ำและพื้นที่ป่าสงวนของบริษัทนำเที่ยวอีก 4 แห่ง ใน ต.ท้ายเหมือง จ.พังงา มีสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ยื่นเข้าไปในลักษณะอาคารและท่าเทียบเรือ เป็นการประกอบกิจการธุรกิจนำเที่ยวที่รุกล้ำพื้นที่ป่าสงวน ป่าชายเลน และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย,พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศุภเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผบก.ทท.3 พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท.1 บช.ทท. พล.ต.ต.วรวิทย์ ปานปรุง ผบก.ภ.จ.พังงา พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 บช.ทท. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว ผบก.6 บก. ทท. สนธิกำลัง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจภูธรพังงา บก.ปทส. บก.รน. กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทะเลและชายฝั่ง กรมเจ้าท่าจังหวัดพังงา การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพังงา สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคใต้ เขต 2 และสำนักงานสรรพากร เข้าตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวและท่าเรือรับส่งนักท่องเที่ยวที่บุกรุกเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติคลองทุ่งมะพร้าวทั้ง 4 จุด,ปฏิบัติการ ทวงคืนผืนป่า ครั้งที่ 2 บุกจับ 4 บริษัทนำเที่ยวรุกล้ำลำน้ำและป่าสงวนในพื้นที่อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา จุดแรก ท่าเทียบเรือ บริษัท พีเค อาร์ซี มารีน จำกัด ตั้งอยู่ที่ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ตรวจสอบบุกรุกพื้นที่ป่า 5 ไร่เศษ ความเสียหาย 3.9 แสนบาท และพบสิ่งปลูกสร้างถาวรที่ไม่ได้รับอนุญาต,จุดที่ 2 ท่าเทียบเรือ บริษัท หงษ์ฟ้า ฮอลิเดย์ จำกัด ตั้งอยู่ที่ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ตรวจสอบแล้วบุกรุกเกือบไร่ มีการปรับถมดินลงไปในคลอง จุดที่ 3 ท่าเทียบเรือ แฟนแทซทิค สิมิลัน ทราเวล จำกัด ตั้งอยู่ที่ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา บุกรุกป่ากว่า 5 ไร่เศษ และพบสิ่งปลูกสร้างถาวรที่ไม่ได้รับอนุญาต,จุดที่ 4 ท่าเทียบเรือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟันนี่ เดย์ ซาฟารี จำกัด ตั้งอยู่ที่ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา นำสำเนาสัมปทานป่าชายเลนที่อ้างว่าบิดาได้รับอนุญาต แต่ปัจจุบันสัมปทานหมด ยังอาศัยสัมปทานใช้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว นำนักท่องเที่ยวผ่านลงเรือโดยคิดค่าตอบแทน ตรวจสอบบุกรุกป่าชายเลน 4 ไร่ ความเสียหาย 4.5 แสนบาท พบสิ่งปลูกสร้างถาวรไม่ได้รับอนุญาต 34 รายการ,ผลการตรวจสอบท่าเทียบเรือทั้ง 4 จุด มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน 19 ไร่ บุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนบางส่วนเนื้อที่ 5 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายของพื้นที่ป่าทั้ง 2 ชนิด รวม 1,880,000 บาท,พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ นำตัวผู้ควบคุมอาคาร ผู้จัดการบริษัทและกรรมการบริหารของบริษัทนำเที่ยวและท่าเรือที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 แห่ง ส่งไปดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และ พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย ดำเนินคดีต่อนิติบุคคลและส่วนตัว,เป็นความชัดเจนของตำรวจท่องเที่ยวเข้ามาแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติ ทั้งบริษัททัวร์นำเที่ยวผิดกฎหมาย เอาเปรียบนักท่องเที่ยว หลอกลวงต้มตุ๋น บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งมีผลเสียหายกับภาพลักษณ์ของประเทศไทย,พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. กล่าวกับ ทีมข่าวอาชญากรรม ว่า ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ในการ ทวงคืนผืนป่า ได้มอบหมายให้ บช.ทท.ดำเนินการตรวจสอบ ปราบปรามการประกอบกิจการธุรกิจนำเที่ยวที่มีลักษณะรุกล้ำพื้นที่ป่าสงวน ป่าชายเลน และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ได้บูรณาการร่วมกับกรมป่าไม้ และกรมเจ้าท่า บุกจับ 4 บริษัทนำเที่ยวรุกล้ำลำน้ำและป่าสงวนในพื้นที่อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าบริษัทดังกล่าวมีความเกี่ยวพันกันในเรื่องของการบริหารงาน มีกลุ่มนายทุนหนุนหลังในลักษณะนอมินี โดยมีผู้บริหารของบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญ ที่ตำรวจท่องเที่ยวเคยปราบปรามอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมาก่อน ผลการตรวจสอบท่าเทียบเรือทั้ง 4 จุด มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนทั้งสิ้นจำนวน 19 ไร่ และ บุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนบางส่วนเนื้อที่ 5 ไร่ ตำรวจท่องเที่ยวจะได้ดำเนินการตามยุทธการ ปราบปรามธุรกิจท่องเที่ยวบุกรุกป่าสงวน ตรวจสอบดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด นายทุน เครือข่ายที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อื่นๆ,ถือเป็นผลงานสำคัญของรัฐบาลในการทวงคืนผืนป่าจากกลุ่มนายทุน ซึ่ง บช.ทท.เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนนโยบายสืบสวนขยายผลจับกลุ่มนายทุนที่บุกรุกอุทยานแห่งชาติ แสวงหาผลประโยชน์จากพื้นที่ป่าสงวนมาทำเป็นรีสอร์ต ท่าเรือ โรงแรม แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีหน่วยงานไหนกล้าเข้ามาตรวจ สอบดำเนินคดี,ทำกันมานาน ทำจนชิน ถ้าตำรวจท่องเที่ยวไม่ปราบปราม คงไม่มีใครคิดทำ.,ทีมข่าวอาชญากรรม
|
เป็นปฏิบัติการที่ต่อเนื่องของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องสนธิกำลังเปิดยุทธการ ปราบปรามธุรกิจท่องเที่ยวบุกรุกป่าสงวน
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ตำรวจท่องเที่ยว,นายทุนบุกรุก,ป่าสงวน,ป่าพังงา,แกะรอยรอบสัปดาห์,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1261196
|
นักแบดมินตันไทย มีแข่งอีก 2 รายการคัดโอลิมปิก
|
นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย นำโดย บุญศักดิ์ พลสนะ สุดเขต ประภากมล และสราลีย์ ทุ่งทองคำ ยังทำการฝึกซ้อมตามปกติ ที่สนาม N&K สุขุมวิทย์ 107 หลังทีมสตาฟโค้ชไม่อนุญาตให้หยุดช่วงสงกรานต์ เนื่องจากทั้งหมดจะต้องออกเดินทางไปแข่งขัน 2 รายการสำคัญ คือ ชิงแชมป์เอเชียที่จีน และอินเดีย ซุเปอร์ซีรีส์ ที่ประเทศอินเดีย ในวันอาทิตย์ที่ 15 เม.ย.นี้ ซึ่งเป็น 2 รายการสุดท้ายในการเก็บคะแนนโควต้าโอลิมปิก 2012 ขณะที่ ทีมแบดไทยกำลังประสบปัญหานักกีฬามีอาการป่วยหลายคน โดยบุญศักดิ์ และสุดเขต ป่วยเป็นไข้หวัด เนื่องจากเจอสภาพอากาศแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน ทำให้ทีมสต๊าฟโคชมีความกังวลไม่น้อยทั้งนี้ทีมแบดมินตันไทย อยู่ในข่ายที่จะคว้าโควต้าโอลิมปิกอย่างแน่นอนแล้ว 4 คน จากประเภทหญิงเดี่ยว รัชนก อินทนนท์ มือ 10 ของโลก ประเภทชายเดี่ยว บุญศักดิ์ พลสนะ มือ 30 ของโลก ประเภทคู่ผสม สุดเขต ประภากมล และสราลีย์ ทุงทองคำ คู่มือ 9 ของโลก และประเภทหญิงเดี่ยว จากพรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข ซึ่งขณะนี้เป็นมือ14 ของโลก และประเภทชายคู่ บดินทร์ อิสระ กับ มณีพงษ์ จงจิต มือ 25 ของโลก
|
นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย ทำการฝึกซ้อมตามปกติ แม้จะเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากมีลงแข่งอีก 2 รายการ เพื่อให้เก็บคะแนนในการคว้าโควต้าโอลิมปิก 2012
|
กีฬา
|
นักแบดมินตันไทย,โควต้า,โอลิมปิก
|
https://news.thaipbs.or.th/content/78827
|
เอฟทีเอวอทช์โวย ร่างพ.ร.บ.ศุลกากร สอดไส้ทริปส์พลัส กีดกันการเข้าถึงยาถูก
|
พ.ศโดยอ้างว่าเพื่อทำหลักเกณฑ์ศุลกากรการนำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำออกนอกราชอาณาจักรให้เป็นตามมาตรฐานสากลนั้น เอฟทีเอ ว็อทช์ ระบุว่า มีความพยายามสอดไส้ให้เกิดการจับยึดยาชื่อสามัญ โดยไม่ต้องมีหมายจับและไม่ต้องวางเงินประกันการขอตรวจจับ ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกาในการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ในด้านยามาโดยตลอด และถือเป็นช่องทางให้อุตสาหกรรมยาข้ามชาติใช้กลไกนี้ในการไล่จับและทำลายยาชื่อสามัญอย่างไม่ยุติธรรมนางสาวกรรณิการ์ กิจติเวชกุล ผู้ประสานงานกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ ว็อทช์) เปิดเผยว่า ทางกลุ่มฯมีความกังวลอย่างมากกับ ร่าง พ.ร.บ.ศุลกากร ที่ผ่านการพิจารณาของ สนช.วาระแรกและหมดระยะเวลาการแปรญัตติไปแล้วนั้น เป็นการที่หน่วยราชการบางส่วนร่วมกับกลุ่มทุนอุตสาหกรรมยาข้ามชาติใช้ช่วงเวลาที่ผิดปกติในการสอดไส้แก้กฎหมายเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มโดยอ้างกับ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ว่าการแก้กฎหมายดังกล่าวมีความจำเป็นต่อระบบเศรษฐกิจไทย ขณะที่ คสช.เองก็ไม่มีความรู้ความเข้าใจที่กว้างขวางมากพอ แต่กลับไม่มีการรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆร่าง พ.ร.บ.ศุลกากร ฉบับนี้ มีการเพิ่มมาตรา58/1ให้พนักงานศุลกากรมีอำนาจตรวจสอบ ตรวจค้นของที่นำเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำที่อย่ในยานพาหนะ คอนเทนเนอร์ หรือหีบห่ออย่างอื่น ตามที่อธิบดีกำหนด โดยไม่ต้องมีหมายค้น หากมีเหตุอันควรเชื่อได้ โดยมีวงเล็บ(3)กว้างๆไว้ว่า ของนั้นเป็นของที่ผิดกฎหมายคำว่า เป็นของผิดกฎหมาย กินความกว้างจนไร้ขอบเขตและไม่มีหลักประกันความเสียหายต่อการใช้สิทธิโดยมิชอบ เป็นการให้อำนาจเจ้าหน้าที่ศุลกากรโดยไม่มีข้อยกเว้นประเภทสินค้า ซึ่งตรงกับข้อเรียกร้องของสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่ต้นที่ต้องการให้มาตรการผ่านแดนเป็นอำนาจเบ็ดเสร็จของงานศุลกากรทำให้ไม่มีการถ่วงดุลโดยศาล ซึ่งถือเป็นทริปส์พลัส(TRIPS+) เพราะเกินไปกว่าความตกลงในWTOที่ไทยเป็นสมาชิกอยู่เสียอีกทั้งนี้ ทริปส์ หรือ TRIPS คือ ความตกลงว่าด้วยสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้าที่ใช้เป็นมาตรในองค์การการค้าโลก ส่วน TRIPS+ หรือทริปส์พลัส คือข้อตกลงที่ให้ความคุ้มครองมากเกินไปกว่าทริปส์ปกติ มักเจอในข้อตกลงการค้าเสรีต่างๆ โดยเฉพาะกับประเทศมหาอำนาจผู้ประสานงานเอฟทีเอ ว็อทช์ กล่าวว่า ในช่วงรัฐประหาร แทบไม่มีการพิจารณากฎหมายในกระบวนการปกติ จากเดิมที่ต้องส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเห็นก็ไม่ได้ปฏิบัติ อาศัยการวิ่งเต้นต่อ คสช.เป็นหลัก ทำให้ร่างกฎหมายที่บกพร่องเช่นนี้เข้าสู่การพิจารณาของ สนช. ในสัปดาห์นี้ ทางกลุ่มจะขอเข้าพบนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. และนายสมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณากฎหมายนี้ไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เคยให้ความเห็นเลย ทั้งที่ในทางปฏิบัติทุกวันนี้ การตรวจค้นจับยึดจะต้องเป็นการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรมทรัพย์สินทางปัญญา และจะต้องเป็นสินค้าที่สามารถแยกด้วยตาเปล่าได้ ไม่รวมถึงสินค้าที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิบัตรซึ่งต้องใช้ขั้นตอนที่ซับซ้อนในการแยกแยะ อีกทั้ง เมื่อเจ้าของสิทธิจะขอให้มีการตรวจค้น จับกุม ศาลจะสั่งให้มีการวางเงินประกันเพื่อไม่ให้เกิดการใช้สิทธิอย่างไม่เป็นธรรม แต่หากเขียนกว้างเช่นนี้ อุตสาหกรรมยายักษ์ใหญ่จะใช้กลไกนี้ในการกีดกันและรังแกอุตสาหกรรมยาชื่อสามัญทันที ดังที่เกิดขึ้นแล้วในสหภาพยุโรป ที่มีการยึดจับยารักษาโรคช่วยชีวิตที่ส่งจากอินเดียมากถึง18ครั้ง ทั้งที่ไม่ได้ละเมิดกฎหมาย โดยไม่สนใจว่าผู้ป่วยที่รอคอยยารักษาโรคที่ปลายทางจะเป็นเช่นไร ดังนั้น สนช.ต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เพราะหากออกไปเช่นนี้จะทำลายอุตสาหกรรมยาชื่อสามัญไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย แต่ทั่วโลก และทำร้ายผู้ป่วยในประเทศกำลังพัฒนาไปพร้อมๆกันกรรณิการ์กล่าวทั้งนี้ จากงานวิจัยเรื่องผลกระทบจากข้อเสนอในความตกลงการค้าเสรีระหว่างประเทศไทยและประเทศคู่ค้าต่อการสาธารณสุข:ประเด็นผลกระทบด้านมาตรการ ณ จุดผ่านแดน และการบังคับใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา(Health impact assessment of provisions in Thailand-Trade Partner Free Trade Agreements on health systems including access to medicines in Thailand: boarder measures and intellectual property law enforcement)โดย ดร.คมน์ธนงชัย ฉายไพโรจน์ และคณะ ระบุว่า สําหรับมาตรการ ณ จุดผ่านแดนเกี่ยวกับการยึดสินค้าละเมิดสิทธิบัตร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิทธิบัตรยา หรือเวชภัณฑ์ด้านสาธารณสุขนั้น ปัจจุบันในกฎหมายศุลกากรยังไม่มีบทบัญญัติหรือข้อกําหนดใดๆ ที่ให้อํานาจเจ้าหน้าที่ศุลกากรทําการยึดจับกุมยาหรือเวชภัณฑ์ที่ละเมิดหรือสงสัยว่าจะละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาได้โดยตรงและเป็นเอกเทศ หากกรมศุลกากรต้องการเสนอแก้ไขกฎหมายเพื่ออํานวยความสะดวกในการตรวจสอบสินค้าไม่ควรเกี่ยวโยงกับประเด็นสิทธิบัตร เนื่องจาก ในการที่จะพิจารณาว่าเป็นของปลอมหรือละเมิดสิทธิบัตรไม่นั้น ทําได้ยาก ไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าได้ ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญและกระบวนการพิสูจน์ที่ซับซ้อน จึงมีข้อเสนอในการปรับแก้กฎหมายศุลกากรควรยึดหลักการให้ความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา โดยมิให้มีผลกระทบต่อสิทธิในการเข้าถึงยา และไม่เป็นการบั่นทอนโอกาสในการมีสุขภาพดี และผลประโยชน์ด้านสุขอนามัยด้านอื่นๆ ของคนในประเทศกรรณิการ์กล่าวว่า ดังนั้น การยอมรับวิธีดําเนินการที่จะทําให้ผู้ทรงสิทธิที่มีเหตุอันควรให้สงสัยว่าอาจเกิดการนําเข้า การส่งออก การนําเข้ามาแล้วส่งกลับออกไป การนําเข้าหรือนําออก จากพื้นที่ของศุลกากร การให้ผ่านวิธีดําเนินการพักไว้ก่อนหรือการกําหนดให้ผ่านเขตปลอดอากรหรือคลังสินค้าปลอดอากรของสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาประเภทอื่น ควรยกเว้นสิทธิบัตรโดยสามารถยื่นคําร้องเป็นลายลักษณ์อักษรต่อเจ้าพนักงานทั้งฝ่ายปกครองและตุลาการ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรสั่งพักการปล่อยสินค้าดังกล่าวออกสู่การจัดจําหน่ายโดยเสรีหรือการเก็บเอาไว้ก่อน และให้วางประกันความเสียหายและต้องนําคดีมาฟ้องศาลเพื่อพิสูจน์การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาภายใน 30 วัน แต่ในกรณีที่กล่าวหาว่าสินค้านั้นละเมิดสิทธิบัตรจะต้องมีกระบวนการพิสูจน์หลักฐานเบื้องต้นทางศาลและมีคําสั่งศาลมาแสดง นอกจากนี้ ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการที่จะดําเนินการร่วมกัน เนื่องจากศุลกากรจะเป็นผู้ตรวจก่อนแล้วส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง(เช่น อย.) เพื่อตรวจสอบอีกทางหนึ่งไม่ว่าจะเป็นของละเมิดลิขสิทธิ์ อาหาร หรือยาปลอม อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่า กฎหมายปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนําเข้ายามาในประเทศ คณะกรรมการอาหารและยามีอํานาจอย่างเต็มที่ในจะควบคุมหรือกํากับ อาจจะมีการออกระเบียบและประสานความร่วมมือไปยังหน่วยงานศุลกากร เกี่ยวกับมาตรการ ณ จุดผ่านแดนที่เหมาะสม เพราะระเบียบเหล่านี้หน่วยงานด้านสาธารณสุขสามารถหารือกันมีอํานาจแก้ไขกฎระเบียบเมื่อใดก็ได้เพื่อประโยชน์สุงสุดของส่วนรวม
|
เมื่อวันที่ 7ก.ย.57ตามที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ผ่านร่าง พรบ.ศุลกากร (ฉบับที่)
|
คุณภาพชีวิต,เศรษฐกิจ
|
ทริปส์พลัส,ร่างพ.ร.บ.ศุลกากร,สนช.,เอฟทีเอ ว็อทช์
|
https://prachatai.com/journal/2014/09/55424
|
พล.ต.ท.ศานิตย์ ตรวจสำนวนคดี หญิงไก่ พบแจ้งความคดียักยอกทรัพย์มาแล้ว 9 คดี
|
วันนี้ (5 ก.ค.2559) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางเข้าตรวจสำนวนคดี หญิงไก่ หรือนางมณตา หยกรัตนกาญ นายจ้างที่แจ้งความดำเนินคดีกับลูกจ้าง โดยเปิดเผยว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ และมีคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของสถานีตำรวจนครบาลประชาชื่นทั้งหมด 9 คดี ตั้งแต่ปี 2555-2558 แบ่งเป็นคดียัดยอกทรัพย์ 3 คดี ทำให้เสียทรัพย์ 4 คดี ฉ้อโกงและลักทรัพย์อย่างละ 1 คดี ซึ่งพนักงานได้สรุปสำนวนจนมีความเห็นสั่งฟ้องไปแล้ว 8 คดี เหลือ 1 คดี คือ คดียักยอกทรัพย์ ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาคดีของพนักงานสอบสวนพล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการเรียกพนักงานสอบสวนมาสอบถามรายละเอียดของคดี เบื้องต้นทราบว่ามีพนักงานสอบสวนที่รับแจ้งความ 4-5 นาย หากพบว่ามีการกระทำผิดในข้อหาอื่นก็จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบร่วมด้วย ทั้งนี้ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยพร้อมที่จะประสานกับทาง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบังคับการปราบปรามในการร่วมคลี่คลายคดีขณะที่ชาวบ้านใน อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย ยืนยันว่ามีเด็กหญิงถูกนายจ้างที่รู้จักในชื่อ คุณหญิงไก่ แจ้งความดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันเบื้องต้นทราบว่ามีพนักงานสอบสวนที่รับแจ้งความ 4-5 นาย หากพบว่ามีการกระทำผิดในข้อหาอื่นก็จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบร่วมด้วยด้านนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ นำคำร้องพร้อมหลักทรัพย์กองทุนจากกระทรวงยุติธรรม ยื่นต่อศาลอาญา เพื่อขอปล่อยชั่วคราวนางสุกัญญา ศิริม่วง จำเลยในคดีลักทรัพย์เป็นเงินสดและทรัพย์สิน รวมมูลค่า กว่า 3 ล้านบาท ของนางมณตา อดีตนายจ้างนายสงกานต์เปิดเผยว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบข้อพิรุธเกี่ยวกับ นางไก่ เช่น พบผู้หญิงคล้ายนางไก่ ใช้ชื่อว่า น้ำอ้อย นำทองคำปลอม ไปจำนำและถูกดำเนินคดีที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ และพบคดีความที่มีผู้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับนางไก่ ที่ศาลล้มละลายกลาง ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังมีคลิปจากกล้องวงจรปิด ที่พบว่านางไก่ มีพฤติกรรมรุนแรงกับผู้หญิงคนหนึ่งภายในห้องพัก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภายในห้องพักของนางไก่ มีกล้องวงจรปิด โดยจะนำหลักฐานส่วนนี้มาเปิดเผยภายหลังขณะที่นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย เข้าพบชาวบ้านสุขใจ ใน ต.แม่ลาหลวง อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อขอข้อมูลนายจ้างที่มีพฤติกรรมหลอกลวงรับอุปการะเด็ก หลังจากเมื่อวานนี้ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ตรวจสอบ และรับเป็นคดีพิเศษผู้ปกครองคนหนึ่งบอกว่า เมื่อ 7 ปีก่อน มีผู้อ้างตัวเป็นคุณหญิงไก่ เสนอตัวรับอุปการะเด็กหลายคนในหมู่บ้าน หนึ่งในนั้นเป็นบุตรสาวอายุ 18 ปี ที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยบอกว่าจะส่งเสียให้เรียนด้านพยาบาล และให้ทำงานบ้านตอบแทน รวมถึงให้ค่าจ้างเดือนละ 6000 บาท และสร้อยทองคำอีกคนละ 1 เส้น จึงยอมให้บุตรสาวไปอยู่ด้วย
|
รก.ผบช.น.เข้าตรวจสำนวนคดี หญิงไก่ นายจ้างที่แจ้งความดำเนินคดีลูกจ้างยักยอกทรัพย์ ที่อยู่ในความรับผิดชอบ สน.ประชาชื่น พบมีคดียักยอกทรัพย์ 9 คดี ตั้งแต่ปี 55-58 เรียก พนง.สอบสวน สอบปากคำเพิ่ม ยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
|
อาชญากรรม
|
หญิงไก่,สน.ประชาชื่น,รื้อคดีหญิงไก่,ข่าวอาชญากรรม,ตกเขียว,แม่ฮ่องสอน,แจ้งความเด็ก,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,มณตา หยกรัต,ศานิตย์ มหถาวร,สงกานต์
|
https://news.thaipbs.or.th/content/253739
|
จีนบอกปัดคำขอไทยให้เปิดเขื่อนแก้วิกฤตน้ำโขงแล้ง
|
เผยผู้ว่าฯเชียงรายทำหนังสือให้จีนเปิดเขื่อนแก้วิกฤตน้ำโขงแห้งขอด แต่ถูกปฏิเสธจีนบอกปัดคำขอไทยให้เปิดเขื่อนแก้วิกฤตน้ำโขงแล้ง ภาคประชาสังคมเตรียมกดดันต่อในที่ประชุมเอ็มอาร์ซีรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 53 ที่ผ่านมา ชมรมผู้สื่อข่าวสิ่งแวดล้อม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับเครือข่ายแม่น้ำเพื่อชีวิต สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ลงพื้นที่สำรวจปัญหาการลดลงของแม่น้ำโขงในพื้นที่บริเวณศาลาท่าน้ำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย สุดเขตแดนประเทศไทยติดต่อสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน (สปป.) ลาว ระหว่างวันที่ 6-7 มีนาคมที่ผ่านมา พบว่าขณะนี้น้ำในแม่น้ำโขงแห้งเป็นลานดินขนาดใหญ่ในพื้นที่ฝั่งไทย เหลือเพียงร่องน้ำแคบๆ ในฝั่งลาวเท่านั้น ชาวบ้านให้ข้อมูลว่าเดือนเมษายนของทุกปี น้ำในแม่น้ำโขงจะมีระดับสูงพอที่จะจัดการแข่งขันเรือยาวประเพณีระหว่าง ประเทศไทย ลาว และพม่าได้ แต่ปีนี้ไม่สามารถจัดงานได้ เพราะน้ำแห้งมากนายมิติ ยาประสิทธิ์ ผู้ประสานงานกลุ่มรักษ์เชียงแสนกล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมา ชาวเชียงแสนกำลังคิดจะปรับตัวเพื่อรับสภาพน้ำในแม่น้ำโขงที่มักจะล้นตลิ่ง และไหลท่วมพืชผลทางการเกษตร แต่ปีนี้กลับเกิดปรากฎการณ์ที่ชาวบ้านไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน คือระดับน้ำเริ่มแห้งมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2552 จนหาปลา ทำการเกษตรไม่ได้ บางรายถึงขั้นคิดจะไปขายแรงงานในเมืองล่าสุด เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าฯเมืองยูนนาน ประเทศจีน ขอให้ปล่อยน้ำจากเขื่อนจิงหงมาช่วยเหลือพื้นที่ท้ายน้ำ แต่ได้รับแจ้งว่าไม่สามารถทำได้ เพราะต้องเก็บน้ำไว้สำหรับแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ ขณะที่รัฐบาลไทยก็ได้แต่เกรงใจจีนไม่กล้าดำเนินการใดๆ นายมิติกล่าวร.อ.ธงชัย จันทร์มิตร รน.เจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง อ.เชียงแสน กล่าวว่า จากการติดตามข้อมูลการไหลอย่างผิดปกติของน้ำในแม่น้ำโขงตั้งแต่ปี 2539 ซึ่งเริ่มมีเขื่อนแห่งแรกพบว่าปริมาณน้ำขึ้นลงไม่เป็นไปตามปริมาณฝนที่ตก และไม่เป็นไปตามสถิติที่เคยเก็บไว้ตามฤดูกาลก่อนที่จะมีการสร้างเขื่อนในจีนด้านนายชวลิต วิทยนนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านปลาน้ำจืด ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า เคยสำรวจชนิดของปลาในแม่น้ำโขงที่สบกก อ.เชียงของ พบว่ามีประมาณ 80 ชนิด แต่วิกฤตนี้จะทำให้ปลาหายไปมากกว่าครึ่ง เช่น ปลาบึก ปลาสร้อย ปลาปาก ฯลฯ ปลาชนิดแรกที่จะได้รับผลกระทบคือ ปลาบึก เพราะต้องว่ายทวนน้ำจากบริเวณน้ำตกหลี่ผี แขวงจำปาสัก สปป.ลาว ขึ้นมาวางไข่ที่แก่งคอนผีหลง อ.เชียงของ จ.เชียงราย เมื่อน้ำลดอย่างนี้โอกาสแพร่พันธุ์ก็จะหายไป 1 ปี ทั้งที่ใกล้จะสูญพันธุ์อยู่แล้วการที่แม่น้ำโขงแห้งจนวิกฤตเวลานี้มาจากหิมะบนเทือกเขาหิมาลัยละลาย มากขึ้น จากภาวะโลกร้อน และยิ่งจีนสร้างเขื่อนก็ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น นายชวลิต กล่าวนายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการที่ได้ล่องเรือสำรวจแม่น้ำโขงเห็นชัดเจนว่าปัญหาดังกล่าวขึ้นกับการ ปิดเปิดเขื่อนในจีน แต่ไม่มีใครเป็นเจ้าภาพรับผิดชอบ ดังนั้นวันที่ 8 มีนาคมนี้ จะตั้งกระทู้ในที่ประชุมวุฒิสภาขณะที่นางเตือนใจ ดีเทศน์ กล่าวว่า การใช้แม่น้ำนานาชาติในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงต้องมีกติการ่วมกัน เพราะจีนพูดเสมอว่าถ้ามีข้อมูลทางวิชาการชี้ชัดว่าน้ำท่วมน้ำแล้งเพราะ เขื่อนในจีน จีนจะยอมรับและร่วมมือ ดังนั้นรัฐสภาจะผลักดันกติการ่วมใน 6 ประเทศให้เร็วที่สุด และนายกรัฐมนตรีต้องดูแลเรื่องนี้ด้วยตัวเองด้านนายนิวัติ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ กล่าวว่า ขณะนี้สามารถสรุปผลกระทบในแม่น้ำโขงในรอบ 10 ปี ได้ 5-6 ประเด็น คือ การสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ในจีน ปัญหาการระเบิดเกาะแก่งเพื่อใช้ในการเดินเรือพาณิชย์ การใช้สารเคมี การทำประมงผิดวิธี การบุกรุกพื้นที่ชุ่มน้ำแต่เขื่อนในจีนมีผลมากที่สุด โดยหลังจากเปิดเขื่อนแห่งแรกในปี 2536 ชาวบ้านรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ กระทั่งปี 2546 ที่เขื่อนแห่งที่ 2 และ 3 เปิดใช้ทำให้ชัดเจนว่า การปิดและเปิดเขื่อนของจีนเป็นสาเหตุสำคัญ โดยปี 2551 เกิดน้ำท่วมที่เชียงของ แค่หนึ่งคืนมีน้ำสูงถึง 1 เมตร กระทั่งมีเขื่อนแห่งที่ 4 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 น้ำก็แห้งตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา เหลือเพียง 0.38 เมตร ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในการประชุมคณะกรรมาธิการลุ่มน้ำโขง (เอ็มอาร์ซี) ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในเดือนเมษายนนี้ เครือข่ายลุ่มน้ำโขงในภาคเหนือและภาคอีสานจะเคลื่อนไหวใหญ่ โดยจะเปิดเวทีคู่ขนาน รวมทั้งจะไปตั้งเวทีที่หน้าสถานทูตจีน เพื่อกดดันให้จีนแสดงสปิริต และจะทำหนังสือเชิญชวนไปยังรัฐบาลในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงให้ร่วมกันกดดัน ด้วย นายนิวัติกล่าวด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ �เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ� เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ว่า รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาผลกระทบต่อแม่น้ำโขงและยังสงสัยอยู่ว่าจะเกี่ยวข้อง กับประเทศจีนหรือไม่อย่างไร ซึ่งในวันที่ 8 มีนาคมนี้ที่จะมีโอกาสพูดคุยกับตัวแทนของจีน จะขอให้จีนร่วมมือในการบริหารจัดการน้ำไม่ให้ประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงได้รับผล กระทบรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ก็ต้องขอความร่วมมืออีกครั้งหนึ่งว่า การใช้น้ำเพื่อการเกษตร ต้องร่วมกันบริหารจัดการ เพราะเราต้องมีน้ำใช้เพียงพอสำหรับข้าวนาปีซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด นายอภิสิทธิ์กล่าว
|
เผยผู้ว่าฯเชียงรายทำหนังสือให้จีนเปิดเขื่อนแก้วิกฤตน้ำโขงแห้งขอด แต่ถูกปฏิเสธจีนบอกปัดคำขอไทยให้เปิดเขื่อนแก้วิกฤตน้ำโขงแล้ง ภาคประชาสังคมเตรียมกดดันต่อในที่ประชุมเอ็มอาร์ซี มติชนออนไลน์รายงานว่า
|
สิ่งแวดล้อม
|
แม่น้ำโขง
|
https://prachatai.com/journal/2010/03/28017
|
กสท.ประชุมบทลงโทษ พีซ ทีวี - วอยซ์ทีวี 13 มิ.ย.นี้
|
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.2559) มีวาระการประชุมน่าจับตาได้แก่ การพิจารณาโทษปรับทางปกครองสูงสุดช่องพีซ ทีวีซึ่งภายหลังสำนักงาน กสทช.ตรวจพบการออกอากาศรายการ เข้าใจตรงกันนะ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.และวันที่ 21 มี.ค.2559 รายการ เข้มข่าวดึก เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2559 และรายการ ห้องข่าวเล่าเรื่อง วันที่ 28 มี.ค.2559 ที่มีเนื้อหาต้องห้ามไม่ให้ออกอากาศตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 97/2557 และฉบับที่ 103/2557 และเป็นการขัดต่อเงื่อนไขในการออกอากาศตามบันทึกข้อตกลงที่ได้ทำร่วมกับสำนักงาน กสทช.นอกจากนี้ที่ประชุมจะมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณีการออกอากาศรายการ Wake Up News ทางช่องรายการวอยซ์ทีวี เมื่อวันที่21 เม.ย.2559 ที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ภายหลังจากที่สำนักงานได้ขอถอนวาระการประชุมไปในการประชุม กสท.ครั้งที่ 17/59 เมื่อวันที่ 30 พ.ค.25559น.ส.สุภิญญา กล่าวว่า เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่มีการเสนอโทษให้เพิกถอนใบอนุญาตช่องพีซ ทีวี เนื่องจากแสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยเฉพาะการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของร่างรัฐธรรมนูญและการลงประชามติ ซึ่งทางอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการได้วิเคราะห์เองว่าไม่สามารถเอาผิดตามฐานมาตรา 37 ตามปกติของ กสทช.ได้ จึงต้องใช้ฐานอำนาจพิเศษคือประกาศคสช. ซึ่งเสียงในอนุกรรมการฯก็ไม่เป็นเอกฉันท์ 7 ต่อ 4 โดยเฉพาะความเห็นของนักวิชาการและนักกฎหมายที่มองว่าไม่ได้ผิดมากนักโดยเฉพาะถ้าถึงขั้นจะต้องเพิกถอนใบอนุญาต ส่วนตัวก็เห็นต่างจากมติอนุเนื้อหา แต่เห็นด้วยกับอนุกรรมการเสียงข้างน้อยและคิดว่าตนเองจะเป็นเสียงข้างน้อยใน กสทช.อีกครั้งที่เห็นต่างเรื่องการจะเพิกถอนใบอนุญาติช่องพีซ ทีวี เพราะเห็นว่าในสถานการณ์ปัจจุบันฝ่ายอำนาจรัฐก็ควบคุมการแสดงความคิดเห็นของฝ่ายค้านได้ค่อนข้างเบ็ดเสร็จอยู่แล้ว หากจะปิดทีวีดาวเทียมฝ่ายค้านซึ่งขณะนี้ก็ลดโทนลงมากแล้ว จะยิ่งทำให้สถานภาพด้านสิทธิพลเมือง สิทธิทางการเมืองของไทยลดลงอีก จนเป็นที่จับตาของทุกฝ่ายและตอกย้ำบรรยากาศความหวาดกลัว ตึงเครียดในการลงประชามติที่กำลังจะมาถึงนี้ ส่วนตัวจึงเห็นว่าการสั่งปิดสถานีโทรทัศน์โดยฐานกฎหมายพิเศษจะเข้าข่ายการใช้อำนาจเกินกว่าเหตุได้ เพราะจะกระทบกับรายการอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้อง รวมถึงพนักงานและลูกจ้างทั้งหมดจะตกงานกะทันหันด้วยน.ส.สุภิญญา ยังกล่าวถึงกรณีช่องวอยซ์ทีวี ว่า ความเห็นในอนุกรรมการผู้เชี่ยวชาญเสียงก็แตก 7 ต่อ 4 เช่นกัน โดยเสียงข้างน้อยที่เป็นนักวิชาการสื่อและกฎหมายมองว่ายังไม่ขัดมาตรา 37 ซึ่งคงเป็นเพราะยังเป็นสิทธิ์ในการแสดงความเห็นและตรวจสอบตั้งคำถามการใช้อำนาจของภาครัฐตามหน้าที่ของสื่อ จะให้เชียร์อย่างเดียวก็จะฝืนความเป็นจริงมากเกินไป สังคมควรต้องมีการถ่วงดุลบ้าง การลงโทษหนักช่องโทรทัศน์ที่มีจุดยืนต่างจากฝ่ายรัฐจะทำให้ กสทช.ถูกมองว่าขาดความเป็นอิสระในการทำหน้าที่และใช้อำนาจในมิติทางการเมืองมากเกินไป ในขณะที่เรื่องอื่นๆ เช่น การคุ้มครองผู้บริโภคจากการถูกเอาเปรียบกลับยังอ่อนแอมากในการใช้อำนาจกำกับดูแล พร้อมหวังว่า บอร์ด กสท.จะพิจารณาวาระอย่างรอบคอบและมีความเป็นธรรมในการใช้อำนาจ
|
วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ประชุมบทลงโทษช่องพีซ ทีวี หลังมีรายการของช่องเผยแพร่เนื้อหาขัดประกาศ คสช.และขัดเงื่อนไข กสทช.พร้อมพิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณีช่องวอยซ์ทีวีนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับ
|
สังคม
|
สุภิญญา กลางณรงค์,กสทช.,กสท.,วอยซ์ทีวี,พีซ ทีวี,เพิกถอนใบอนุญาต,ประกาศ คสช.,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews
|
https://news.thaipbs.or.th/content/253053
|
ชื่อแบรนด์ ข้าวชาวนาไทย ทำไมถึงเป็นของ ซีพี
|
ขณะที่ ซีพี ออลล์ ระบุเป็นโครงการสนับสนุนข้าวไทยช่วยเหลือชาวนาตามนโยบายรัฐ จำหน่าย ข้าวชาวนาไทย ผ่านร้านเซเว่นฯขนาด 5 กิโลกรัม ราคา 125 บาท เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา21 พ.ย. 2559 จากกรณีวานนี้ (20 พ.ย.59) เฟซบุ๊กแฟนเพจ ได้โพสต์ภาพข้าวถุงตราข้าวชาวนาไทย แต่ระบุว่าเป็นบริษัท ข้าว ซีพี จำกัด ส่งผลให้แฟนเพจจำนวนหนึ่งวิจารณ์ว่าจะส่งผลทำให้ผู้ซื้อเข้าใจผิดคิดว่าเป็นการผลิตและขายโดยชาวนาเองหรือไม่อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้รายงานด้วยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ ผสานพลัง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย และกลุ่มธุรกิจในเครือฯ ร่วมสนับสนุนเกษตรกรชาวนาไทยเร่งระบายข้าวเปลือก โดยรับซื้อเร็วขึ้นกว่าฤดูกาลปกติและรับซื้ออย่างเต็มกำลัง และที่สำคัญซื้อในราคานำตลาด พร้อมประกาศเปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือกตรงจากชาวนา รวม 18 จุดทั่วประเทศ เชิญชวนชาวไทยซื้อข้าวหอมมะลิใหม่ภายใต้แบรนด์ ข้าวชาวนาไทย ขายในราคาต้นทุน จัดจำหน่ายตรงสู่มือผู้บริโภค ขนาด 5 กิโลกรัมราคา 125 บาท และอำนวยความสะดวกให้เลือกซื้อได้ผ่านหลากหลายช่องทางจำหน่ายในเครือฯ ทั้ง เซเว่น อีเลฟเว่น แม็คโคร ซีพีเฟรชมาร์ท ทรูช้อป ทรูคอฟฟี่ และ ทรูซีเลคท์ พร้อมเพิ่มทางเลือกให้เกษตรกรและชาวนานำข้าวสารมาวางจำหน่ายขายตรงหน้าห้างแม็คโครด้วย
|
ขณะที่ ซีพี ออลล์ ระบุเป็นโครงการสนับสนุนข้าวไทยช่วยเหลือชาวนาตามนโยบายรัฐ จำหน่าย ข้าวชาวนาไทย ผ่านร้านเซเว่นฯขนาด 5 กิโลกรัม ราคา 125 บาท เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา 21 พ.ย. 2559
|
เศรษฐกิจ
|
ข้าวชาวนาไทย,ข้าวถุง,ซีพี,ซีพี ออลล์,มิตรสหายท่านหนึ่ง
|
https://prachatai.com/journal/2016/11/68929
|
นายกนักประดิษฐ์ ผลักดัน เยาวชนอาเซียน เป็นผู้สร้างนวัตกรรมระดับโลก
|
นายกนักประดิษฐ์ เผย ผลการประชุมสมาคมฯ ชี้ โครงการ Young Creative Awards Startup Thinking คืบหน้าไปมาก ผลักดันสร้างกลุ่มAEC YOUNG SMART TECH SMEs เพื่อพัฒนาเยาวชนอาเซียน ให้เป็นผู้สร้างนวัตกรรมระดับโลกนายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะว่า เมื่อวานนี้ (18 มกราคม) ทางสมาคมฯ ได้มีการประชุม เพื่อพิจารณาในเรื่องต่างๆ เช่น การเตรียมความพร้อมในโครงการ Young Creative Awards Startup Thinkingประจำปี พ.ศ. 2563 ซึ่งจะมีการแถลงข่าวและมีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU)ในวันนักประดิษฐ์ไทย 2 กุมภาพันธ์ 2563ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ซึ่งในขณะนี้ การเตรียมการของการจัดงานดังกล่าวของทางสมาคมฯ มีความคืบหน้าไปมากทั้งนี้นอกจากจะมีการนำตัวอย่างผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมมาร่วมจัดแสดงแล้วยังจะได้มีการจัดให้มีการแนะนำหรือเสวนา เพื่อแนะนำให้ประชาชนคนไทยได้เห็นความสำคัญและปลุกฝันให้ประชาชน มีความต้องการอยากจะแปรเปลี่ยนความฝันเป็นนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ในโลกของความเป็นจริงนายภณวัชร์นันท์ กล่าวด้วยว่า ตนมีความคิดที่จะสร้างเครืออข่ายอาเซียนเชี่อมโยงการลงทุน นวัตกรรม สตาร์ทอัพ SMEs ตามโครงการ Young Cretive Awards โดยจะมีการต่อยอด ตั้งกลุ่ม AEC YOUNG SMART TECH SMEs เชื่อมโยง ระหว่าง กลุ่มประเทศ ในอาเซียน 10 ประเทศ ทั้งนี้ เนื่องจากกลุ่มประเทศอาเซียน มีความสำคัญในแง่มุมของการพัฒนาศักยภาพด้านการประดิษฐ์และนวัตกรรมเป็นอย่างมาก ท่ามกลางความแตกต่างหลากหลายของประชากรและแนวคิดในการที่จะนำพาประเทศต่างๆ ไปสู่ความเจริญภายใต้กรอบกติกาของอาเซียน ดังนั้น การส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และร่วมกันพัฒนาสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมภายในกลุ่มประเทศอาเซียน จะเป็นอีกจุดที่สำคัญ ที่จะทำให้คนทั่วโลกต้องหันมามองและสนใจในสิ่งที่เยาวชนของอาเซียนได้มีแนวคิดเพื่อแปรเปลี่ยนโลกให้ทันสมัยน่าอยู่มากขึ้นด้วย.
|
นายกนักประดิษฐ์ เผย ผลการประชุมสมาคมฯ ชี้ โครงการ Young Creative Awards Startup Thinking คืบหน้าไปมาก ผลักดันสร้างกลุ่ม AEC YOUNG SMART TECH SMEs เพื่อพัฒนาเยาวชนอาเซียน
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
นายกนักประดิษฐ์,เยาวชน 10 ประเทศอาเซียน,สร้างนวัตกรรมระดับโลก,ภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์,AEC YOUNG SMART TECH SMEs,เครืออข่ายอาเซียน,การศึกษา
|
https://www.thairath.co.th/news/local/1750993
|
บวชแล้วยังสำนึกไม่ได้ รวบโจรเมืองกรุงประวัติโชกโชน ชิงทรัพย์ สาว ททบ.5
|
กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 พ.ย. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รรท.รอง ผบช.น. พ.ต.อ.เสนิต สำราญสำรวจกิจ รรท.ผบก.น.1 พ.ต.อ.ชัยพล เอกกุล ผกก.สส.บก.น.1 แถลงจับกุมนายบรรพต โอมหรืออาร์ม ถิ่นวงษ์ม่อม อายุ 26 ปี พร้อมของกลาง กระเป๋าถือแบบสตรีแบรนด์ดัง ยี่ห้อต่างๆ 10 ใบ แหวนพลอย 1 วง หมวกกันน็อกแบบเต็มใบ สีดำ-เขียว 1 ใบ เสื้อแจ็กเกต 3 ตัว โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ประแจเบอร์ 10 และกล่องเครื่องมือ โดยจับกุมได้ที่ บริเวณชุมชนศรีบุญยืน แขวงและเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ,พ.ต.อ.เสนิต กล่าวว่า สืบเนื่องจากในห้วงเวลา 30 วัน ตั้งแต่ 1 ต.ค. ถึง 11 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์โดยใช้รถจักรยานยนต์ในลักษณะเดียวกัน มีผู้เสียหายเป็นสตรีหลายราย กว่า 11 คดี ในท้องที่ต่างๆ อาทิ ครั้งที่ เมื่อต้นเดือน ต.ค. บริเวณทางเท้า ถนนกำแพงเพชรด้านหน้าตลาดนัดจตุจักร ครั้งที่ 2 บริเวณทางเท้า ถนนพหลโยธิน ใกล้ซอยอารีย์ เรื่อยมาอีก 7 ครั้งในท้องที่ต่างๆ ตลอดทั้งเดือน ต.ค. กระทั่งได้ชิงทรัพย์เจ้าหน้าที่รายการสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 เมื่อวันที่ 3 พ.ย. บริเวณทางเท้าหน้า ททบ.5 ได้เงินสดจำนวน 2 พันบาท และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง,และครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 6 พ.ย. ได้ชิงทรัพย์ บริเวณทางเท้า ถนนลาดพร้าว หน้าซอยลาดพร้าว 20 ได้เงินสด 2 หมื่นบาท และโทรศัพท์ 2 เครื่อง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด รวบรวมพยานหลักฐานจนขออนุมัติศาลออกหมายจับคนร้ายรายดังกล่าวได้ คือนายนายบรรพต โอมหรืออาร์ม ถิ่นวงษ์ม่อม อายุ 26 ปี และจับกุมได้บริเวณชุมชนศรีบุญยืน แขวงและเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ และขยายผลไปค้นห้องพักย่านบางซื่อ ได้ของกลางเป็นกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิงยี่ห้อต่างๆ และหมวกกันน็อก เสื้อแจ็กเกต ที่ใช้ก่อเหตุ จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง,สอบสวนนายบรรพต ให้การรับสารภาพว่า ตนเพิ่งสึกจากพระภิกษุเมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากว่างงาน จึงได้ก่อเหตุดังกล่าว โดยขับรถตระเวนดูลาดเลา หาเหยื่อที่เป็นสุภาพสตรีที่สะพายกระเป๋าไม่ระมัดระวัง ก่อนลงมือก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์ขึ้นฟุตปาท กระชากทันที และขับรถหลบหนี นำทรัพย์สินไปขาย และนำเงินไปซื้อยาเสพติด ทั้งนี้ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้ว 11 ครั้ง ในพื้นที่ พหลโยธิน สุทธิสาร และลาดพร้าว จากการตรวจสอบประวัติเคยก่อคดีในท้องที่ สน.เตาปูน ตั้งแต่ปี 51, 54, 55 และ 59 ทั้งคดียาเสพติด ลักทรัพย์ และชิงทรัพย์ เบื้องต้นแจ้งข้อหานายบรรพต วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส นำตัวส่ง สน.ดินแดง ,ด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า ได้กำชับไปยังทุกสถานีตำรวจในกรุงเทพมหานคร ว่า ให้รับคำร้องทุกข์เกี่ยวกับคดีวิ่งราวทรัพย์ และชิงทรัพย์ เพื่อติดตามและขยายผลคนร้ายมาดำเนินคดี อีกทั้งมาตรการป้องกันได้สั่งการในทุกพื้นที่ให้เพิ่มกำลังสายตรวจ รถจักรยานยนต์และเดินเท้า เพื่อเฝ้าระวังป้องกันเหตุอาชญากรรม,ขณะที่ น.ส.อภิชญา ก้อนแก้ว หรือมิงค์ เจ้าหน้าที่รายการสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า รู้สึกประทับใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ของตนไป เมื่อคืนวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา เพราะตามปกติแล้ว ก็จะใช้ทางเท้าเดินทางกลับที่พักอยู่เป็นประจำกว่า 2 ปี ไม่เคยพบเหตุลักษณะนี้มาก่อน ยืนยันว่าเส้นทางที่ใช้สัญจรไม่เปลี่ยว มีแสงสว่างเพียงพอ ส่วนพื้นที่ละแวกนั้น จะเคยมีการก่อเหตุมาก่อนหรือไม่นั้น ตนเองไม่ทราบ,จนกระทั่งมาเกิดเหตุกับตัว ก็ถือว่าเป็นการฟาดเคราะห์ ก่อนจะถึงในงานมงคลสมรสของตัวเองเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดความกังวลในพิธีมงคลสมรส ซึ่งก็ถือว่าเรื่องร้ายๆ ก็ได้ผ่านไปแล้ว และช่วงเช้าก็ได้ไปทำบุญพร้อมครอบครัว โดยขอยังฝากเตือนไปยังสุภาพสตรีให้ระมัดระวังการเดินทางหรือเพิ่มความระมัดเมื่ออยู่ในที่สุ่มเสี่ยง เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง
|
รวบโจรเมืองกรุงประวัติโชกโชน ตระเวนเหตุชิงทรัพย์พื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน เหยื่อล่าสุด พนักงานสาวกองทัพบกช่อง 5 ยึดของกลาง กระเป๋าสตรีแบรนด์ดัง กว่า 10 ใบเคยต้องคดียาเสพติด ลักทรัพย์ ล่าสุดเพิ่งสึกจากเป็นพระ ก่อนลงมือก่อเหตุ
|
ข่าว,อาชญากรรม
|
ชิงทรัพย์,ลักทรัพย์,โจรเมืองกรุง,นครบาล1,ททบ. 5,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/crime/1125140
|
โฆษก กห.โว IUU พอใจการแก้ปัญหาประมง-ตั้งเป้าบินไทยเข้าสหรัฐฯ ได้ปี 60
|
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 6 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมเป็นประธานว่า หลังการหารือร่วมกับคณะกรรมาธิการด้านการประมงของยุโรป ถึงการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู) ของไทย เขาพอใจ เพราะมีความคืบหน้าเป็นลำดับ และไทยมีแนวคิดแก้ปัญหาร่วมกับประเทศอื่น จึงยินดีให้การสนับสนุน พร้อมทั้งแนะนำให้ดำเนินการควบคู่กับการแก้ไขปัญหาประมง โดยจะมีการจัดทำข้อตกลงร่วมกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) ที่จะไม่ใช้แรงงานเด็กในการผลิต รวมถึงปรับปรุงกฎหมายระเบียบสวัสดิการสังคม ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการให้กระทรวงแรงงานจัดทำ พ.ร.บ.เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเสนอ ครม.ในเดือน พ.ค.2560 และให้มีผลบังคับใช้ภายในรัฐบาลนี้,พล.ต.คงชีพ กล่าวต่อว่า เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ไทยได้รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนให้สหรัฐอเมริการับทราบ โดยองค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา หรือเอฟเอเอ แนะนำให้เราปรับมาตรฐานการบินจากประเภท 2 สู่ประเภท 1 แต่ไทยต้องแก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย และต้องมีความก้าวหน้าในการออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ จากนั้นต้องยืนยันความประสงค์ให้เอฟเอเอเข้ามาตรวจสอบ ใช้เวลาประมาณ 90 วัน แล้วมีเวลาให้เราแก้ไขข้อบกพร่องให้เสร็จภายใน 65 วัน ขณะที่สายการบินไทยที่จะบินเข้าสหรัฐฯ จะต้องมีสองเงื่อนไข คือ ใบอนุญาตในการประกอบกิจการขนส่งทางอากาศ ที่ต้องขอจากกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ และจะต้องมีมาตรฐานการบินอยู่ในประเภท 1 เท่านั้น ขณะนี้การบินไทยและกระทรวงคมนาคมกำลังดำเนินการควบคู่กัน เพื่อให้การบินไทยสามารถบินเข้าสหรัฐฯ ได้ภายในเดือน ธ.ค.2560,ขณะที่ ร.ต.หญิง พรชนก อ่ำพันธุ์ ทีมงานโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการบูรณาการปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญาว่า ได้ประสานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ทำความเข้าใจร่วมกันในการแก้ปัญหา โดยภาคเอกชนได้ให้ข้อเสนอแนะการกำหนดมาตรการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เรียกร้องผลประโยชน์ และเว็บไซต์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ โดย พล.อ.ประวิตร เน้นย้ำทุกฝ่ายหากพบเบาะแสเจ้าหน้าที่รัฐที่เรียกรับผลประโยชน์ให้ต้นสังกัด ให้ดำเนินการสอบสวนขั้นเด็ดขาด ไม่มีข้อยกเว้น เพื่อแก้ปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศไทย.
|
คงชีพ โว ไอยูยู พอใจการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายของไทย พร้อมตั้งเป้า การบินไทย สามารถเข้าสหรัฐฯ ได้ในปี 60 ย้ำต้องภายในรัฐบาลนี้
| null |
แก้ปัญหาประมง,ประมงผิดกฎหมาย,ปัญหาการบินพลเรือน,มาตรฐานการบิน,ปราบสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
|
https://www.thairath.co.th/content/803457
|
กรมการค้าภายในพบ 37 รพ.ยังปกปิดข้อมูลค่ารักษา
|
วันนี้ (9 ส.ค.2562) นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุว่า หลังจากครบกำหนดให้โรงพยาบาลเอกชน ต้องแจ้งข้อมูลราคาซื้อ ราคาจำหน่ายยา เวชภัณฑ์ และค่าบริการรักษาพยาบาลในวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น พบว่า ยังมีอีก 37 โรงพยาบาล ที่ยังไม่แจ้งข้อมูลที่ตามกำหนดทั้งนี้ จากจำนวนโรงพยาบาลทั้งหมด 353 ราย ส่วนผู้ผลิตยา มีจำนวนทั้งหมด 345 ราย พบว่า ยังแจ้งข้อมูล 81 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. โรงพยาบาลและผู้ผลิตที่ไม่แจ้งข้อมูล ได้ถูกปรับแล้ววันละ 2000 บาท และได้ทยอยเรียกให้ดำเนินการแจ้งข้อมูล เบื้องต้น กำหนดภายในสิ้นเดือนนี้ หากยังพบมีเจตนาไม่แจ้งข้อมูลมายังกรมการค้าภายใน จะดำเนินการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อสำหรับข้อมูลที่ได้ มาจัดทำคิวอาร์โคด แสดงราคายาก่อน เพื่อให้แต่ละโรงพยาบาลไปแสดงให้ประชาชนได้ตรวจสอบและเปรียบเทียบราคายาได้เพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.นี้นอกจากนี้ ประชาชน ยังสามารถตรวจสอบผ่านเว็บไซต์กรมการค้าภายใน ได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งในเบื้องต้น ระบบค้นหาและเปรียบเทียบราคายาผ่าน QR CODE สามารถรองรับผู้เข้าใช้งานพร้อมกันได้ประมาณ 100000 รายขณะเดียวกัน เตรียมจะเพิ่มรายการเวชภัณฑ์ และค่าบริการทางการแพทย์ ซึ่งยังไม่มีรหัสมาตรฐาน แต่จะคัดเลือกรายการเวชภัณฑ์และค่าบริการ ที่ประชาชนใช้ประจำของแต่ละโรงพยาบาล มาแสดงให้ประชาชนได้ทราบก่อน คาดว่า จะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน
|
กรมการค้าภายในจัดทำคิวอาร์โคด เพื่อแสดงราคายา โดยจะเปิดให้ใช้บริการตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.นี้ ส่วนกรณีที่ยังมีโรงพยาบาล 37 แห่ง ไม่เปิดเผยข้อมูลถือว่าทำผิดกฎหมาย
|
เศรษฐกิจ
|
ยา,รพ.เอกชน,ค่ารักษาพยาบาล,กรมการค้าภายใน
|
https://news.thaipbs.or.th/content/282680
|
ตร.รวบมือยิงโหด คนงานสวนยาง ดับคาขนำ อ้างถูกพูดจาเหยียดหยามภรรยา
|
จากเหตุที่มีคนร้ายยิงโหด นายฮีม หินขาว อายุ 44 ปี คนงานสวนยางพารา จนเสียชีวิตคาขนำสวนยางพารา ที่บ้านทับมะกอก หมู่ที่ 5 ต.ด่านชุมพล อ.บ่อไร่ จ.ตราด เมื่อค่ำวันที่ 23 ธันวาคม 2560 ตามที่รายงานไปนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัย จำนวน 3 ราย ไปสอบสวน และตรวจหาคราบเขม่าดินปืนตามร่างกาย พร้อมทั้งสอบพยานแวดล้อมต่างๆ ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมตัวผู้ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ได้แล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ถูกเชิญตัวไปสอบสวน คือ นายสันธร สำลี อายุ 34 ปี คนงานรับจ้างกรีดยางพารา ที่อยู่ใกล้เคียงสวนยางพาราที่เกิดเหตุ โดยพบคราบเขม่าติดตามมือ ทั้ง 2 ข้าง ซึ่งผู้ต้องหาจนต่อพยานและหลักฐาน จนให้การรับสารภาพ,ล่าสุดวันที่ 24 ธ.ค. เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. พ.ต.ท.ชัยกฤต วิชิตมาก สว.สภ.ด่านชุมพล พ.ต.ท.รชต บริสุทธิ์ สว.(สอบสวน) สภ.ด่านชุมพล ร.ต.อ.พงษ์ศิลป์ ศรีอุดม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ด่านชุมพล เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ด่านชุมพล พร้อมเจ้าหน้าที่ประดาน้ำของกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราด ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยนายสันธร สำลี ผู้ต้องหาได้พาไปชี้จุดที่นำปืนที่เป็นของกลางใช้ในการก่อเหตุ ยิงนายฮีน หินขาว จนเสียชีวิต แล้วไปโยนทิ้งในอ่างเก็บน้ำห้วยแร้ง ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ประดาน้ำ ใช้เวลาในการค้นหาประมาณ 15 นาที ก็พบอาวุธปืนดังกล่าว โดยอาวุธที่พบเป็นอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนแก๊ปยาว),พ.ต.ท.ชัยกฤต วิชิตมาก สว.สภ.ด่านชุมพล เผยว่า หลังเกิดเหตุ ได้ส่งศพผู้เสียชีวิตไปผ่าชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียด หาวิถีกระสุน และขนาด ที่โรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เชิญตัวคนงานกรีดยางพาราบริเวณใกล้เคียงมาสอบสวน พร้อมทั้งหาคราบเขม่าดินปืน และสอบพยานโดยรอบ จนทราบว่า ผู้ที่ลงมือก่อเหตุคือ นายสันธร สำลี อายุ 34 ปี คนงานกรีดยางพาราที่อยู่บริเวณใกล้เคียง จากการสอบสวนนายสันธร สำลี ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือยิงนายฮีน หินขาวเสียชีวิตจริง,ส่วนสาเหตุมาจากเกิดบันดาลโทสะ โดยก่อนเกิดเหตุ นายสันธร สำลี ได้เดินออกจากขนำที่พักมาพร้อมอาวุธปืนแก๊ป เพื่อมาหาล่าหายิงสัตว์ตามแนวชายป่าตามปกติ เมื่อเดินมาถึงขนำที่พักของผู้ตาย พบผู้ตายนั่งดื่มสุราอยู่จึงชักชวนกันดื่มสุราจนเมา และทะเลาะมีปากเสียงกัน โดยนายสันธร อ้างว่า ถูกผู้ตายพูดจาข่มขู่ และยังพูดเหยียดหยามถึงภรรยาตนเอง ตนเองจึงเกิดความหึงหวง ประกอบกับโมโห และจะเดินกลับที่พัก แต่ผู้ตายไม่ยอมให้กลับ และนำมีดปลายแหลมมาข่มขู่ ตนจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนแก๊ปที่ถือติดมาใช้ในการล่าสัตว์ยิงใส่ จนเป็นเหตุให้นายฮีน หินขาว เสียชีวิตคาที่ดังกล่าว
|
รวบแล้วมือยิงโหด คนงานสวนยางพาราดับคาขนำ ที่ จ.ตราด ที่แท้เป็นคนงานสวนใกล้เคียง อ้าง สาเหตุถูกผู้ตายพูดจาข่มขู่เหยียดหยามถึงภรรยา แถมยังชักมีด ประกอบกับดื่มสุราจนมึนเมา จึงก่อเหตุสลด
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
รวบมือยิงโหด,พูดจาเหยียดหยามภรรยา,คนงานสวนยางพารา,คาขนำ,ตราด,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1161442
|
จับตา ม็อบฮ่องกงหลายหมื่น ประท้วงใหญ่ ท้าทายทางการ ออกจากพท.อนุญาต
|
เมื่อ 18 ส.ค.62 สำนักข่าวต่างประเทศ รอยเตอร์ ,บีบีซี ,และเว็บไซต์,เซาท์ไชน่ามอร์นิ่ง,โพสต์ รายงาน ชาวฮ่องกงหลายหมื่นคนออกมารวมตัวชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ต่อต้านรัฐบาลฮ่องกงและเรียกร้องประชาธิปไตยกันอีก ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 18 ส.ค. 62 ถึงแม้ฝนตก ขณะที่ม็อบยังได้ท้าทายทางการด้วยการพยายามเดินออกมาจากสวนสาธารณะวิกตอเรีย พาร์ก ย่านคอสเวย์ เบย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ทางการอนุญาตให้ชุมนุมได้เท่านั้น มุ่งหน้าไปยังย่านเซ็นทรัล (Central) ซึ่งเป็นย่านธุรกิจและศูนย์กลางการค้าบนเกาะฮ่องกง,ด้านทางการฮ่องกงได้มีการเตรียมความพร้อม ทั้งรถดับเพลิงสำหรับฉีดน้ำสลายม็อบ รวมทั้งกำลังตำรวจปราบจลาจลที่พร้อมจะยิงแก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย หากม็อบฝ่าฝืนคำสั่งและเกิดการเผชิญหน้ากับตำรวจ หลังจากการชุมนุมเมื่อวันเสาร์ที่ 17 ส.ค. ไม่เกิดเหตุรุนแรงแต่อย่างใด โดยการชุมนุมของชาวฮ่องกงส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มคนสาวได้ออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาลและเรียกร้องประชาธิปไตยบนเกาะฮ่องกงเป็นสัปดาห์ที่ 11 ซึ่งชนวนเหตุเริ่มต้นมาจากการต่อต้านรัฐบาลฮ่องกงที่เสนอร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายไปดำเนินคดีในประเทศจีน,บีบีซี รายงานด้วยว่า กองทัพจีนได้ส่งยานหุ้มเกราะหลายสิบคัน พร้อมกำลังทหารมาประจำการที่เมืองเซินเจิ้น เมืองชายแดนริมฝั่งทะเลตรงข้ามฮ่องกง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ประท้วง หลังจากม็อบได้บุกยึดพื้นที่อาคารผู้โดยสารของสนามบินนานาชาติฮ่องกง เมื่อวันที่ 12 และ 13 ส.ค. จนทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวาย เที่ยวบินต้องยกเลิกหลายร้อยเที่ยว ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารจำนวนมาก อีกทั้งม็อบยังเกิดการปะทะกับตำรวจเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ด้วย,อ่านข่าว,สื่อจีนโชว์คลิปขู่ กองทัพส่งยานหุ้มเกราะไปเซินเจิ้น พร้อมลุยม็อบฮ่องกง
|
ชาวฮ่องกงหลายหมื่นรวมตัวชุมนุมประท้วงใหญ่ สัปดาห์ที่ 11 ท้าทายทางการ พยายามเคลื่อนขบวนออกจาก พท.อนุญาต ออกมาเดินประท้วงบนถนนหลายสาย
|
ข่าว,ต่างประเทศ
|
ม็อบฮ่องกง,ฮ่องกงชุมนุมประท้วง,ประท้วงฮ่องกง,จีน,ตำรวจปะทะม็อบ
|
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1640426
|
ทิงเกอร์แมน ซูฮกแนวรับจิ้งจอกสุดแกร่ง พาทีมขึ้นยึดจ่าฝูง
|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 16 ส.ค.ว่า เคลาดิโอ รานิเอรี ผู้จัดการทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ออกโรงชื่นชมแนวรับที่สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการปัดป้องเกมรุกของทีมคู่แข่งจนสามารถเก็บชัยชนะมาได้ถึง 2 เกมติด และสามารถขึ้นมายึดตำแหน่งจ่าฝูงอยู่ในขณะนี้,ทีมจิ้งจอกสยาม ลงสนามพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015-2016 เกมที่ 2 ด้วยการบุกไปยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้กับ ขุนค้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้ถึงถิ่น 1-2 พร้อมเก็บ 6 แต้มเต็ม แซงหน้าทีมปิศาจแดงด้วยผลประตูได้เสียที่ดีกว่า ก้าวขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งทีมนำชั่วคราว,โดยหลังจบเกม นายใหญ่ของทีมชาวอิตาเลียน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีว่า เราทำงานกันอย่างหนักในช่วงปรีซีซั่นเกี่ยวกับแผงแนวรับ ผมโชคดีที่ผู้เล่นชั้นเยี่ยมและมันเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการนำทุกคนมาทำงานร่วมกัน และมันจะเป็นปัจจัยสำคัญในการพาทีมเราก้าวสู่ความสำเร็จในฤดูกาลนี้,ท้งนี้ เลสเตอร์ ซิตี้ จะลงสนามในเกมต่อไป ด้วยการพบกับ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ในสัปดาห์หน้า.
|
นายใหญ่ของทีมจิ้งจอกสยาม ออกโรงซูฮกแนวรับว่าเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมก้าวขึ้นไปอยู่ในแถวหน้าของพรีเมียร์ลีกและยึดจ่าฝูงอยู่ในขณะนี้
| null |
เคลาดิโอ รานิเอรี,เลสเตอร์ ซิตี้,กองหลัง,แนวรับ,จ่าฝูง,พรีเมียร์ลีก,ฤดูกาล 2015-2016,เวสต์แฮม ยูไนเต็ด,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ทอตแนม ฮอตสเปอร์,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/518550
|
สั่งติวเข้ม ฟ้าลั่นจูเนียร์ ก่อนชกที่แม่ริม ไทยรัฐทีวีถ่ายสด 22 เม.ย.นี้
|
นักชกเม็กซิกัน ป้องกันแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์ฟลายเวท ครั้งแรกให้ได้ จากนั้นจะขอบินไปท้าชิงตำแหน่ง เป็นรายต่อไป ตามแผนสร้างของเกียรติกรีรินทร์,วันที่ 4 เม.ย. ความเคลื่อนไหว ศึกกำปั้นสะท้านโลก เทิดพระเกียรติพระองค์ดำ เป็นการชกชิงแชมป์ ที่ว่าง รุ่นจูเนียร์ฟลายเวท IBF แพนแปซิฟิก ระหว่าง ฟ้าลั่นจูเนียร์ เกษตรพัฒนา กับเลสเตอร์ อาร์บูตัน นักชกฟิลิปปินส์ ในวันศุกร์ที่ 22 เม.ย.นี้ ที่เวทีมวยชั่วคราวกองพลทหารราบที่ 7 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยมีมูลนิธิสหชาติ ร่วมกับ พล.ต.อุทัย ชัยชนะ ผบ.พล.รอ.7 ประธานจัดการแข่งขัน ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ถ่ายทอดสดเวลา 16.00-18.00 น.,จิมมี่ ดร.เอกรัฐ ไชยโชติช่วง โปรโมเตอร์เกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น เผยว่า ฟ้าลั่นจูเนียร์ เกษตรพัฒนา ทายาทอดีตแชมป์โลก ฟ้าลั่น ศักดิ์กรีรินทร์ จะขึ้นชกชิงแชมป์ ที่ว่าง รุ่นจูเนียร์ฟลายเวท ครั้งที่ 2 กับเลสเตอร์ อาร์บูตัน นักชกฟิลิปปินส์ โดยครั้งแรกฟ้าลั่นจูเนียร์ชนะคะแนน อาร์มัน เดลาครูส นักชกฟิลิปปินส์ เมื่อปลายปี 2557 ได้ครองเข็มขัดแชมป์เส้นนี้ ก่อนจะสละตำแหน่งเพื่อลดรุ่นลงมาชิงแชมป์โลกรุ่น 105 ปอนด์ แต่พ่ายคะแนน คัสซึนาริ ทากายามา ที่เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ต่อมาฟ้าลั่นจูเนียร์ได้สละสิทธิ์ขึ้นชกชิงรองแชมป์โลกอันดับ 1 รุ่นมินิฟลายเวท (105 ปอนด์) เพื่อขยับขึ้นมาชกในรุ่นจูเนียร์ฟลายเวท (108 ปอนด์),สำหรับเป้าหมายของฟ้าลั่นจูเนียร์ก็คือ อากิระ ยาเกอาชิ แชมป์โลก IBF ชาวญี่ปุ่น ซึ่งมีคิวป้องกันตำแหน่งครั้งแรกกับมาร์ติน เทกัวเปลา รองแชมป์อันดับ 10 ชาวเม็กซิกัน ในวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ค.นี้ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ ตนหวังว่าถ้าฟ้าลั่นจูเนียร์และยาเกอาชิคว้าชัยชนะทั้งคู่ ก็อาจมีการเจรจาจัดฟ้าลั่นจูเนียร์ขึ้นชกชิงแชมป์โลกที่ญี่ปุ่น เพราะฟ้าลั่นจูเนียร์เป็นนักชกไทยที่ชื่อเสียงในแดนปลาดิบตั้งแต่คราวที่บินไปชนะเรียว มิยาซากิ อดีตแชมป์โลก WBA ถึงถิ่น และแพ้คะแนนทากายามา มาแล้วนั่นเอง
|
ฟ้าลั่นจูเนียร์ เกษตรพัฒนา ติวเข้ม หวังผ่าน เลสเตอร์ อาร์บูตัน นักชกตากาล็อก กระชากเข็มขัดแชมป์ IBF แพนแปซิฟิก สมัยที่ 2 มาครองให้ได้ 22 เม.ย.นี้ ที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พร้อมลุ้นให้ ยาเกอิชิ จ่าฝูงแดนซามูไร เอาชนะ
| null |
ฟ้าลั่นจูเนียร์,ฟ้าลั่นจูเนียร์ เกษตรพัฒนา,จูเนียร์ฟลายเวท,IBF แพนแปซิฟิก,ศึกกำปั้นสะท้านโลก,เทิดพระเกียรติพระองค์ดำ,กองพลทหารราบที่ 7,แม่ริม,เชียงใหม่,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
|
https://www.thairath.co.th/content/600909
|
โหด หนุ่มกระหน่ำยิงเจาะหัวพี่สะใภ้ดับ คาดปมมรดก-สร้างคอนโด
|
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 7 เม.ย. 61 ร.ต.อ.ชินกฤต สวัสดิ์วงศ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ว่า เกิดเหตุผู้หญิงถูกยิงเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 2 ต.สมเด็จเจริญ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง,ที่เกิดเหตุพบ นางสาววรัญญา บัวเทศ อายุ 32 ปี ชาว กทม. เป็นศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .22 เข้าที่บริเวณศีรษะหลายนัด นอนหงายจมกองเลือดอยู่กับพื้นภายในบ้าน ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนขนาด .22 ตกอยู่ จำนวน 6 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน,สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุดังกล่าวคือ นายวัตฏะ ทองเอี่ยม อายุ 49 ปี ชาว จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นน้องชายของ นายธงชัย ทองเอี่ยม อายุ 57 ปี สามีผู้ตาย โดยหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี รวมทั้งเดินทางไปขออนุมัติหมายจับที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี,โดย นายธงชัย พี่ชายของผู้ก่อเหตุ และเป็นสามีของผู้เสียชีวิต อยู่ในอาการเศร้าโศก ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากการมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจการลงทุนก่อสร้างคอนโด หรืออาจจะขัดแย้งในเรื่องมรดก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง พร้อมติดตามตัว นายวัตฏะ มาสอบสวน และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
|
หนุ่มสุดโหด กระหน่ำยิงเจาะหัวพี่สะใภ้จมกองเลือดดับคาบ้าน ที่กาญจนบุรี คาดปมมรดก-สร้างคอนโด
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
ยิงพี่สะใภ้,กาญจนบุรี,มรดก,แค้น,ยิงเจาะหัว,ข่าวทั่วไป
|
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1250486
|
เก๋งชนเวสป้าขาด 2 ท่อน สาวนามสกุล ณ เชียงใหม่ ตายคาที่
|
เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 59 ร.ต.อ.อมรชัย ตรังวัชรกุล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถจักรยานยนต์ที่ปากทางเข้าวัดใหม่ห้วยทราย ถนนคันคลองชลประทาน ต.สุเทพ จึงพร้อมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิรวมใจ อป.พร.เชียงใหม่ รุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งโตโยต้าวีออส สีขาว ทะเบียน ขม 8952 เชียงใหม่ จอดอยู่ริมถนน หน้ารถสภาพมีรอยเฉี่ยวชน ห่างไปเล็กน้อย พบรถจักรยานยนต์เวสป้า สีเทา ทะเบียน จรพ 955 เชียงใหม่ ถูกชนจนขาด 2 ท่อน และมีศพ น.ส.สุพัตรา ณ เชียงใหม่ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 15 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ เสียชีวิตสภาพกะโหลกแตก เลือดแดงเต็มพื้นถนน,ในที่เกิดเหตุยังพบ นายกฤษฎา บุญยวง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 163 หมู่ 14 ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ คนขับรถเก๋งยืนรอมอบตัวอยู่ จากการสอบสวนทราบว่าได้ขับรถมาตามถนนคันคลองชลประทานขาเข้าเมือง จนถึงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งและมืด ได้เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์จนคนขี่กระเด็นตกจากรถเสียชีวิต ซึ่งทางตำรวจจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงต่อไปว่า ฝ่ายไหนเป็นฝ่ายประมาท ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้มอบให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งชันสูตรที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ และรอญาติมารับต่อไป.
|
เกิดอุบัติเหตุ ถนนคันคลองชลประทานเชียงใหม่ รถเก๋งเฉี่ยวชน จยย.เวสป้าจนขาดเป็น 2 ท่อน คนขับขี่เป็นหญิงสาว 28 ปี นามสกุล ณ เชียงใหม่ โชคร้ายรถล้มหัวฟาดกะโหลกแตก ตายคาที่ ตร.ยังไม่สรุปใครเป็นฝ่ายขับขี่โดยประมาท
|
ข่าว,ทั่วไทย
|
รถเก๋งชนจยย.,รถเก๋งชนเวสป้า,สาวนามสกุลดัง,ณ เชียงใหม่,สุพัตรา ณ เชียงใหม่,ชนกะโหลกแตก,อุบัติเหตุ,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวภูมิภาค
|
https://www.thairath.co.th/news/local/590130
|
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.